The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Watchara Plaichaiyaphum, 2019-03-28 23:06:21

แผนการสอน

แผนการสอน

179

1 คะแนน= ผู้ฟงั น้อยกวา่ รอ้ ยละ 70 สนใจ และให้ความรว่ มมอื

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม

ชอื่ กลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………ห้อง..........................................

รายชือ่ สมาชิก

1……………………………………เลขท…ี่ ..…. 2……………………………………เลขท่ี…..….

3……………………………………เลขท…่ี ..…. 4……………………………………เลขท่ี…..….

ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ข้อคิดเหน็

321

1 การกาหนดเปา้ หมายร่วมกนั

2 การแบง่ หน้าที่รับผดิ ชอบและการเตรยี มความพร้อม

3 การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย

4 การประเมนิ ผลและปรับปรงุ งาน

รวม

ผปู้ ระเมนิ …………………………………………………
วนั ที่…………เดอื น……………………..พ.ศ…………...

เกณฑ์การให้คะแนน

1. การกาหนดเป้าหมายร่วมกัน
3 คะแนน= สมาชิกทกุ คนมีสว่ นรว่ มในการกาหนดเป้าหมายการทางานอยา่ งชัดเจน
2 คะแนน= สมาชิกสว่ นใหญม่ ีสว่ นรว่ มในการกาหนดเปา้ หมายในการทางาน
1 คะแนน= สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมสี ่วนร่วมในการกาหนดเป้าหมายในการทางาน

2. การหนา้ ทร่ี ับผดิ ชอบและการเตรยี มความพร้อม
3 คะแนน= กระจายงานไดท้ ่วั ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทกุ คน มกี ารจดั เตรียมสถานท่ี สื่อ /
อุปกรณไ์ วอ้ ย่างพร้อมเพรยี งยดึ หลักความประหยัด
2 คะแนน= กระจายงานไดท้ ่ัวถงึ แต่ไมต่ รงตามความสามารถ และมสี อ่ื / อปุ กรณไ์ ว้อยา่ งพร้อมเพรยี ง แต่ขาด

การจัดเตรยี มสถานท่ีและไมย่ ดึ หลักความประหยดั
1 คะแนน= กระจายงานไม่ทัว่ ถงึ และมสี ่ือ / อุปกรณไ์ มเ่ พียงพอ และไมย่ ดึ หลักความประหยดั

3. การปฏิบตั หิ น้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
3 คะแนน= ทางานไดส้ าเรจ็ ตามเปา้ หมาย และตามเวลาทกี่ าหนดมคี วามรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวัง
2 คะแนน= ทางานไดส้ าเรจ็ ตามเป้าหมาย แตช่ า้ กว่าเวลาที่กาหนด ไมม่ คี วามรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวงั

180

1 คะแนน= ทางานไม่สาเรจ็ ตามเป้าหมาย และไมม่ คี วามรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวัง
4. การประเมนิ ผลและปรับปรงุ งาน

3 คะแนน= สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะมีความรอบรู้ รอบคอบ
และระมดั ระวงั

2 คะแนน= สมาชกิ บางสว่ นมสี ว่ นร่วมปรกึ ษาหารือ แตไ่ ม่ปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวงั
1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง

บนั ทึกหลังการสอน
บทท่ี 9 เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั การดาเนินธุรกจิ

ผลการใช้แผนการสอน

1. แผนการสอนทีก่ าหนดไวส้ ามารถใช้สอนไดท้ ันตามเวลาที่กาหนด
2. สามารถนาไปใช้ปฏบิ ัตกิ ารสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรยี นการสอน

ผลการเรยี นของนกั เรยี น

1. นักศึกษาส่วนใหญ่มีความเข้าใจในบทเรียนร่วมกัน อภิปรายตอบคาถามในกลุ่ม และร่วมกันปฏิบัติใบ
งานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย

2. คะแนนการทดสอบหลังเรยี นดขี ึ้นเมื่อเทียบกับคะแนนการทดสอบก่อนเรียน
3. นักศึกษาบางคนไมค่ อ่ ยแสดงความคิดเหน็ ภายในกลุ่ม

ผลการสอนของครู

1. สอนเนอ้ื หาได้ครบทุกกระบวนการ
2. แผนการสอนและวธิ กี ารสอนครอบคลุมเนื้อหาการสอนทาให้ผสู้ อนสอนได้อย่างมนั่ ใจ
3. นักศึกษาบางคนท่ีไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นภายในกลุ่ม ครูผู้สอนต้องคอยกระตุ้นนักศึกษาให้แสดง

ความคดิ เห็น

181



แผนการสอน/การเรียนรู้ทฤษฎแี ละปฏิบัติ หนว่ ยท1่ี 0

ช่ือวชิ าเทคโนโลยสี ำนักงำน สอนสัปดาห์ท1ี่ 6
ชอื่ หน่วยแนวโน้มของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต คาบรวม4
ช่อื เร่อื งแนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ำรสนเทศในอนำคต จานวนคาบ 4

หัวข้อเรือ่ ง

ดา้ นความรู้
1. อธิบำยแนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยขี ององคก์ ร
2. ควำมกำ้ วหน้ำของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต
3. วสิ ยั ทัศน์ของกำรนำประเทศไทยไปสสู่ ังคมสำรสนเทศ
4. เทคโนโลยสี ำรสนเทศในอนำคต
5. กำรปฏิบตั ติ นใหท้ ันต่อกำรเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี

ดา้ นทักษะ
6. จัดบอรด์ เชิงปฏิบตั กิ ำร “แนวโน้มของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต”

ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
7. ควำมรบั ผิดชอบควำมประหยัดควำมขยัน ควำมอดทนแบ่งปนั
8. ควำมสนใจใฝร่ ู้ ควำมรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง

สาระสาคัญ

1. แนวโนม้ กำรใช้เทคโนโลยีขององค์กร
2. ควำมก้ำวหนำ้ ของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต
3. วิสยั ทัศนข์ องกำรนำประเทศไทยไปส่สู ังคมสำรสนเทศ
4. เทคโนโลยสี ำรสนเทศในอนำคต
5. กำรปฏบิ ัตติ นใหท้ นั ตอ่ กำรเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี

สมรรถนะอาชีพประจาหนว่ ย (สง่ิ ทีต่ ้องกำรใหเ้ กิดกำรประยุกต์ใชค้ วำมรู้ ทักษะคุณธรรม เข้ำด้วยกนั )

1. อธบิ ำยแนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ำรสนเทศในอนำคตได้

จุดประสงคก์ ารสอน/การเรยี นรู้

 จดุ ประสงคท์ ่วั ไป / บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง

1. เพื่อให้มคี วำมรู้แนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยขี ององค์กรควำมกำ้ วหน้ำของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต
วิสัยทัศน์ของกำรนำประเทศไทยไปสู่สังคมสำรสนเทศเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคตกำรปฏิบัติตนให้ทันต่อกำร
เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี

187

2. เพ่อื ใหม้ ที ักษะในกำรสนทนำเชงิ ปฏบิ ัติกำร “แนวโนม้ ของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต ”

3. เพ่อื ใหม้ เี จตคติทีด่ ีต่อกำรเตรียมควำมพร้อมด้ำนกำรเตรียม วัสดุ อุปกรณ์และกำรปฏิบัติงำนอย่ำงถูกต้อง

สำเรจ็ ภำยในเวลำทกี่ ำหนด มีเหตุและผลตำมหลักปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ลักษณะ3D

 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง

1. อธบิ ำยแนวโนม้ กำรใชเ้ ทคโนโลยีขององคก์ ร(ดา้ นความร)ู้
2. ควำมกำ้ วหนำ้ ของเทคโนโลยสี ำรสนเทศในอนำคต(ด้านความร)ู้
3. วิสยั ทศั น์ของกำรนำประเทศไทยไปสู่สงั คมสำรสนเทศ(ด้านความรู้)
4. เทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต(ดา้ นความร)ู้
5. กำรปฏบิ ตั ติ นใหท้ นั ต่อกำรเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี(ดา้ นความรู้)
6. จัดบอรด์ เชงิ ปฏบิ ัตกิ ำร “แนวโน้มของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต” (ด้านทักษะ)
7. เตรยี มควำมพรอ้ มด้ำน วัสดุ อปุ กรณ์ สอดคลอ้ งกบั งำนและใช้วัสดุ อปุ กรณ์อย่ำงคุ้มค่ำ ประหยัด ได้อย่ำง
ถกู ต้องตำมหลกั ปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลกั ษณะ3D(ด้านคณุ ธรรม/ จรยิ ธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
และคณุ ลักษณะ3D)
8. ปฏิบัติงำนได้อย่ำงถูกต้อง และสำเร็จภำยในเวลำที่กำหนดอย่ำงมีเหตุและผลตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจ
พอเพยี งและคณุ ลักษณะ3D (ดา้ นคุณธรรม/จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลักษณะ3D)

การบูรณาการกบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และคุณลักษณะ 3D

• หลกั ความพอประมาณ

1. ผเู้ รียนจัดสรรเวลำในกำรฝึกปฏิบัตติ ำมใบงำนได้อย่ำงเหมำะสม
2. กำหนดเนอ้ื หำเหมำะสมกบั เกณฑก์ ำรประเมินกำรอธบิ ำยแนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยขี ององคก์ ร
3. ผเู้ รียนรจู้ ักใช้และจดั กำรวสั ดุอปุ กรณ์ต่ำงๆอยำ่ งประหยดั และค้มุ ค่ำ
4. ผู้เรียนปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้นำและผ้ตู ำมทีด่ ี
5. ผู้เรยี นเปน็ สมำชกิ ทด่ี ขี องกลุม่ เพ่อื นและสังคม

• หลกั ความมีเหตุผล

1. เหน็ ประโยชน์ของแนวโนม้ กำรใช้เทคโนโลยขี ององค์กรไดอ้ ยำ่ งชดั เจนและถูกต้อง
2. จัดแสดงเน้ือหำวิวัฒนำกำรของแนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีขององค์กรได้อย่ำงถูกต้อง มีเหตุผล และ
สำมำรถนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นกำรดำเนนิ ธรุ กจิ และในชวี ติ ประจำวันได้
3. กลำ้ แสดงควำมคิดอยำ่ งมีเหตผุ ล
4. กล้ำทักท้วงในสิ่งที่ไม่ถูกตอ้ งอยำ่ งถกู กำลเทศะ

188

5. กลำ้ ยอมรบั ฟงั ควำมคดิ เห็นของผู้อื่น
6. ใชว้ ัสดุถกู ต้องและเหมำะสมกับงำน
7. ไม่มีเรอ่ื งทะเลำะววิ ำทกบั ผ้อู ืน่
8. คดิ ส่ิงใหม่ ๆ ทเ่ี กิดประโยชนต์ ่อตนเอง และสงั คม
9. มคี วำมคิดวเิ ครำะหใ์ นกำรแก้ปญั หำอยำ่ งเปน็ ระบบ

• หลักความมีภมู ิคุ้มกัน

1. มีทักษะทำงด้ำนกำรอธบิ ำยวสิ ยั ทัศนข์ องกำรนำประเทศไทยไปส่สู งั คมสำรสนเทศ
2. ผูเ้ รยี นไดร้ ับควำมรทู้ ีถ่ ูกต้อง พร้อมทั้งกำหนดเนื้อหำได้ครบถ้วนถูกต้องตำมสำระสำคัญท่ีสมบูรณ์
3. มกี ำรเตรียมควำมพร้อมในกำรเรยี นและกำรปฏิบัติงำน
4. กลำ้ ซักถำมปัญหำหรือข้อสงสยั ต่ำง ๆ อยำ่ งถูกกำลเทศะ
5. แกป้ ญั หำเฉพำะหนำ้ ได้ดว้ ยตนเองอยำ่ งเป็นเหตุเปน็ ผล
6. ควบคุมอำรมณ์ของตนเองได้
7. ควบคมุ กริ ิยำอำกำรในสถำนกำรณต์ ่ำง ๆไดเ้ ปน็ อย่ำงดี

การตัดสินใจและการดาเนนิ กิจกรรมต่างๆใหอ้ ยู่ในระดบั พอเพียงหรอื ตามปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงนนั้ ตอ้ งอาศยั ทั้งความรู้และคณุ ธรรมเปน็ พนื้ ฐาน ดงั น้ี

• เงือ่ นไขความรู้

1. ผู้เรียนได้ใช้กระบวนกำรคิดแนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีขององค์กร(ควำมสนใจใฝ่รู้ควำมรอบรู้ รอบคอบ
ระมดั ระวัง)

1. มคี วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในแนวโนม้ กำรใชเ้ ทคโนโลยขี ององค์กร
2. ใชว้ ัสดอุ ย่ำงประหยดั และคุ้มคำ่
3. ปฏบิ ตั งิ ำนด้วยควำมละเอยี ดรอบคอบ
4. มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกยี่ วกบั หลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง

• เง่ือนไขคณุ ธรรม

1. ปฏบิ ตั ิงำนทีไ่ ดร้ ับมอบหมำยเสรจ็ ตำมกำหนด (ควำมรับผดิ ชอบ)
2. ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์อย่ำงคุ้มค่ำ ประหยัด (ควำมประหยัด)
3. มีควำมเพียรพยำยำมและกระตือรือร้นในกำรเรยี นและกำรปฏบิ ตั ิงำน (ควำมขยนั ควำมอดทน)
4. ใหค้ วำมรว่ มมือกับกำรทำกจิ กรรมของส่วนรวม อำสำชว่ ยเหลอื งำนครูและผู้อ่ืน

189

เนอ้ื หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

• ด้านความรู้(ทฤษฎ)ี

1. แนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีขององคก์ ร
2. ควำมกำ้ วหน้ำของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต
3. วิสยั ทศั น์ของกำรนำประเทศไทยไปส่สู ังคมสำรสนเทศ
4. เทคโนโลยสี ำรสนเทศในอนำคต
5. กำรปฏิบตั ติ นให้ทันต่อกำรเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

• ดา้ นทกั ษะ(ปฏบิ ตั ิ)

1. ใบงานท่ี 10เรอื่ งจัดบอรด์ เชิงปฏิบัตกิ ำร “แนวโน้มของเทคโนโลยสี ำรสนเทศในอนำคต”

ดา้ นคณุ ธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งและคณุ ลกั ษณะ 3D

1. กำรเตรียมควำมพร้อมด้ำนกำรเตรียม วัสดุ อุปกรณ์นักศึกษำจะต้องกระจำยงำนได้ท่ัวถึง และตรง ตำม
ควำมสำมำรถของสมำชิกทุกคน มีกำรจัดเตรียมสถำนท่ี ส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ไว้อย่ำงพร้อมเพรียงและนักศึกษำทุก
คนจะต้องร้จู ักใชแ้ ละจัดกำรกับวัสดุอุปกรณเ์ หล่ำนัน้ อยำ่ งฉลำดและ รอบคอบ สำมำรถนำวัสดุอุปกรณ์ในท้องถิ่น
มำประยุกต์ใช้อย่ำงคุ้มค่ำและประหยัด งำนจะสำเร็จ ได้นักศึกษำจะต้องมีควำมขยันอดทนมีควำมเพียรพยำยำม
และกระตือรือร้นในกำรเรียนและกำรปฏิบัติงำน และรู้จักแบ่งปันให้ควำมร่วมมือกับกำรทำกิจกรรมของส่วนรวม
อำสำช่วยเหลืองำนครู และผู้อืน่ ตำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งและหลักคณุ ลักษณะ 3D

2. ควำมมีเหตุมีผลในกำรปฏิบัติงำน ตำมหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคุณลักษณะ3Dนักศึกษำ
จะต้องมีกำรใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบกำร นำเสนอท่ีน่ำสนใจ ปฏิบัติงำนด้วยควำม
ละเอียดรอบคอบ นักศึกษำจะมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีได้นักศึกษำจะต้องมีควำมสนใจใฝ่รู้ รอบรู้ รอบคอบ และ

190

ระมัดระวัง

(จะสอนเน้ือหาอะไรทเี่ ก่ียวกับการเตรยี มความพร้อมด้านการเตรียม วสั ดุ อุปกรณ์ และการ
ปฏบิ ตั งิ านอย่างมี เหตแุ ละผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและคณุ ลกั ษณะ 3D )

กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้

ขนั้ ตอนการสอนหรอื กจิ กรรมของครู ขัน้ ตอนการเรยี นรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน

ขัน้ เตรียม ข้ันเตรยี ม

1. จัดเตรียมเอกสำร สื่อกำรเรียนกำรสอนPower 1. จดั เตรยี มเอกสำร สอื่ กำรเรยี นกำรสอนPower point

pointเร่อื ง แนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีขององค์กรแนะนำ เรื่อง แนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีขององค์กร แนะนำ

รำยวิชำ วิธีกำรเรียนกำรมอบหมำยงำน และวิธีวัดผล รำยวิชำ วิธีกำรเรียน กำรมอบหมำยงำน และวิธีวัดผล

ประเมินผล ประเมินผล

2. ทดสอบก่อนเรียนเรื่องแนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีของ 2. ทดสอบก่อนเรียนเรื่องแนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีของ

องค์กรแล้วให้นักศึกษำสลับกันตรวจคำตอบและให้ องค์กร แล้วให้นักศึกษำสลับกันตรวจคำตอบและให้

191

คะแนน คะแนน
3. แจ้งจุดประสงค์กำรเรียนของหน่วยกำรเรียนรู้ที่ 10 3. แจ้งจุดประสงค์กำรเรียนของหน่วยกำรเรียนรู้ที่ 10
และกำรใหค้ วำมรว่ มมือของนักศกึ ษำในกำรทำกจิ กรรม และกำรให้ควำมรว่ มมือของนกั ศกึ ษำในกำรทำกิจกรรม

ขั้นการเรยี นการสอน ขนั้ การเรียนการสอน

1. ครูอธิบำยแนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีขององค์กร 1. นักศึกษำฟังและคิดตำมพร้อมท้ังจดบันทึกเกี่ยวกับ

อธิบำยควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยีสำรสนเทศใน แนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีขององค์กร อธิบำย

อนำคตวิสัยทัศน์ของกำรนำประเทศไทยไปสู่ ควำมก้ำวหน้ำของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต

สังคมสำรสนเทศอธิบำยเทคโนโลยีสำรสนเทศใน วิ สั ย ทั ศ น์ ข อ ง ก ำ ร น ำ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ไ ป สู่

อนำคตและกำรปฏิบัติตนให้ทันต่อกำรเปล่ียนแปลง สังคมสำรสนเทศอธิบำยเทคโนโลยีสำรสนเทศใน

ของเทคโนโลยี อนำคตและกำรปฏิบัติตนให้ทันต่อกำรเปล่ียนแปลง

2. แบ่งกลุ่มนักศึกษำ กลุ่มละ 4 คน แล้วให้นักเรียนจัด ของเทคโนโลยี

บอร์ดเชิงปฏิบัติกำร “แนวโน้มของเทคโนโลยี 2. เข้ำกลุ่มตำมท่ีครูจัดแบ่งแล้วปฏิบัติจัดบอร์ดเชิง

สำรสนเทศในอนำคต” ปฏิบัติกำร “แนวโน้มของเทคโนโลยีสำรสนเทศใน

อนำคต”

กจิ กรรมการเรียนการสอนหรอื การเรียนรู้

ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ข้ันตอนการเรียนรหู้ รือกจิ กรรมของนักเรียน

ขั้นการเรยี นการสอน ข้ันการเรยี นการสอน

จำกนั้นให้นักศึกษำร่วมกันสรุปลักษณะของ “แนวโน้ม จำกนั้นนักศึกษำร่วมกันสรุปลักษณะของ“แนวโน้มกำร

192

กำรใช้เทคโนโลยีขององค์กร” ให้บันทึกผลและรายงาน ใช้เทคโนโลยีขององค์กร” ให้บันทึกผลและรายงานหน้า

หน้าชั้นเรียนได้อย่างอิสระโดยจัดทำสื่อประกอบกำร ช้นั เรียนได้อย่างอิสระ ใหจ้ ัดทำส่อื ประกอบกำรรำยงำน

รำยงำนดว้ ย เมือ่ รำยงำนหน้ำชั้นเรยี นแล้วให้ผู้ฟังซักถำม ดว้ ย เม่อื รำยงำนหนำ้ ช้ันเรียนแล้วให้ผูฟ้ ังซักถำมปัญหำ

ปัญหำ ข้อสงสัยเก่ียวกับ “แนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยี ข้อสงสัยเกี่ยวกับ “แนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยีของ

ขององค์กร” โดยให้ผู้ฟังแสดงความคิดเห็นภายในช้ัน องค์กร”จำกน้ันให้ผู้รำยงำนต้ังคำถำมเพ่ือถำมผู้ฟังอย่ำง

เ รี ย น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ (Democracy ด้ า น น้อย 2 คำถำมโดยใหผ้ ฟู้ ังแสดงความคิดเห็นภายในช้ัน

ประชาธปิ ไตย:3D) เรียนได้อย่างอสิ ระ (Democracy ดา้ น

ประชาธิปไตย:3D)

1. นักศึกษำรับฟังคำสรุปและข้อแนะนำจำกครูพร้อม

1. ครสู รุปจำกท่นี กั ศกึ ษำนำเสนอข้อมูลพร้อมท้ังอธิบำย ท้ังจดบันทึกข้อมูลและซักถำมหรือตอบคำถำมหรือ

เพิ่มเติม และสรุปเน้ือหำตำมจุดประสงค์เชิง แสดงควำมคิดเห็น ในหัวข้อที่ยังไม่เข้ำใจพร้อมทั้ง

พฤติกรรมตำมหัวข้อสำระสำคัญพร้อมท้ังปลูกฝังให้ รบั ฟังกำรปลูกฝังจำกท่ำนอำจำรย์เร่ืองกำรเอำใจใส่

นักศึกษำเอำใจใส่ในกำรเรียนรู้ ดูหนังสืออย่ำง ในกำรเรียนรู้ ดูหนังสืออย่ำงสม่ำเสมอ และส่งเสริม

สม่ำเสมอ และส่งเสริมให้เล่นกีฬำอยู่เสมอเพ่ือให้ ให้เล่นกีฬำอยู่เสมอเพื่อให้ร่ำงกำยแข็งแรงควำมจำ

รำ่ งกำยแข็งแรงควำมจำดี เป็นกำรใช้เวลำว่ำงให้เป็น ดี เป็นกำรใช้เวลำว่ำงให้เป็นประโยชน์ (ส่งผลทำ

ประโยชน์ (สง่ ผลทำให้ห่ำงไกลจำกยำเสพติดอย่ำง ให้ห่ำงไกลจำกยำเสพติดอย่ำงแท้จริง Drug-Free

แทจ้ ริง Drug-Free ดำ้ นภูมิคุ้มกนั ภยั จำกยำเสพติด ด้ำนภมู ิคุ้มกันภัยจำกยำเสพตดิ : 3D )

: 3D ) 2. ทำแบบทดสอบหลังเรียน

2. แจกแบบทดสอบหลังเรยี น 3. นักศึกษำนำคะแนนจำกแบบทดสอบก่อนเรียนและ

3. ครูตรวจแบบทดสอบพรอ้ มกับบันทกึ คะแนน หลังเรียนมำเปรียบเทียบกันว่ำเป็นอย่ำงไรมีผลต่ำง

4. ให้นักศึกษำทำแบบฝึกหัดทำ้ ยบทเรยี น กันอย่ำงไร เพ่อื ดูควำมกำ้ วหนำ้ ของตนเอง

4. นกั ศึกษำทำแบบฝึกหดั ท้ำยบทเรยี น

193

การบูรณาการกบั คุณลกั ษณะ 3 D แก่ผู้เรยี น

ด้านประชาธปิ ไตย (Democracy)

1. จัดบอร์ดเชิงปฏิบัติกำร “แนวโน้มของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต” รำยงำนหน้ำชั้นเรียนได้อย่ำง
อสิ ระ

2. กำรใหผ้ ฟู้ ังแสดงควำมคิดเห็นภำยในชัน้ เรียนได้อยำ่ งอิสระ

ด้านคุณธรรมจริยธรรมและความเปน็ ไทย (Decency)

1. ปฏบิ ัติงำนท่ไี ดร้ บั มอบหมำยเสรจ็ ตำมกำหนด (ควำมรับผิดชอบ)
2. ใช้วัสดอุ ปุ กรณ์อยำ่ งคุ้มคำ่ ประหยัด (ควำมประหยดั )
3. มีควำมเพียรพยำยำมและกระตอื รือรน้ ในกำรเรยี นและกำรปฏิบัตงิ ำน (ควำมขยนั ควำมอดทน)
4. ให้ควำมร่วมมือกบั กำรทำกจิ กรรมของสว่ นรวม อำสำชว่ ยเหลอื งำนครแู ละผู้อ่นื (แบง่ ปัน)

ดา้ นภูมคิ ุ้มกันภัยจากยาเสพตดิ (Drug - Free)

กำรปลูกฝังให้นักศึกษำเอำใจใส่ในกำรเรียนรู้ดูหนังสืออย่ำงสม่ำเสมอ และส่งเสริมให้เล่นกีฬำอยู่เสมอ
เพ่ือให้ร่ำงกำยแข็งแรงควำมจำดี เป็นกำรใช้เวลำว่ำงให้เป็นประโยชน์ซึ่งส่งผลทำให้ห่ำงไกลจำกยำเสพติดอย่ำง
แทจ้ รงิ

194

งานทม่ี อบหมายหรอื กจิ กรรมการวดั ผลและประเมินผล

 ก่อนเรียน

1. จัดเตรยี มเอกสำร สื่อกำรเรียนกำรสอนตำมที่อำจำรย์ผสู้ อนและบทเรียนกำหนด
2. ทำแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องแนวโนม้ กำรใช้เทคโนโลยีขององค์กร
3. ทำควำมเข้ำใจเกี่ยวกับจุดประสงค์กำรเรียนของหน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 10และกำรให้ควำมร่วมมือในกำรทำ
กจิ กรรมในหนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ 10

 ขณะเรียน

1. จัดบอร์ดเชงิ ปฏิบตั กิ ำร “แนวโน้มของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต”
2. รำยงำนหน้ำชนั้ เรยี นเร่ือง “แนวโนม้ กำรใช้เทคโนโลยขี ององค์กร”

 หลงั เรียน

1. ทำแบบฝึกหัดทำ้ ยบทเรยี น
2. สรปุ เนื้อหำบทเรยี น

ผลงาน/ช้ินงาน/ความสาเรจ็ ของผเู้ รียน

1. บอร์ดเชงิ ปฏิบัติกำร “แนวโนม้ กำรใช้เทคโนโลยขี ององค์กร”
2. ใบงานท่ี 10เรอื่ งแนวโน้มกำรใช้เทคโนโลยขี ององค์กร

ส่อื การเรยี นการสอน/การเรยี นรู้

สื่อสงิ่ พิมพ์
1. หนงั สือเรยี นวิชำเทคโนโลยสี ำนกั งำนบรษิ ัท ซเี อ็ดยเู คช่ัน จำกดั (มหำชน)
2. แบบทดสอบก่อนเรยี น
3. แบบฝึกหดั ทำ้ ยบทเรยี น

195

4. แบบเฉลยทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรียนและแบบฝกึ หัดทำ้ ยบทเรียน ใช้ประกอบในขัน้ เตรยี มและขั้นสรุป
5. สอ่ื กำรเรียนกำรสอนจำกโปรแกรม Microsoft PowerPoint

สื่อโสตทศั น์ (ถา้ มี)
--
สือ่ ของจรงิ
--

แหลง่ การเรียนรู้

ในสถานศึกษา
1. หอ้ งสมดุ วิทยำลัยกำรอำชีพบำงสะพำน
2. ห้องปฏิบัติกำรคอมพิวเตอร์
3. ครผู สู้ อน

นอกสถานศกึ ษา
1. อนิ เทอร์เน็ต

การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กับวชิ าอ่นื

1. บูรณำกำรกับวชิ ำชีวติ และวฒั นธรรมไทย ด้ำนกำรพูด กำรอ่ำน กำรเขียนและกำรฝึกปฏิบัติตนทำงสังคม
ดำ้ นกำรเตรยี มควำมพรอ้ มควำมรบั ผดิ ชอบและควำมสนใจใฝ่รู้

2. บูรณำกำรกับวิชำกีฬำเพ่ือพัฒนำสขุ ภำพและบุคลกิ ภำพด้ำนบคุ ลิกภำพในกำรนำเสนอหน้ำช้ันเรยี น
3. บูรณำกำรกับวิชำหลักเศรษฐศำสตร์ ดำ้ นกำรเลอื กใช้ทรัพยำกรอย่ำงประหยดั

196

การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
• หลักการประเมินผลการเรียนรู้

กอ่ นเรียน.
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น
ขณะเรยี น
1. ตรวจผลงำนกำรจดั บอร์ดเชงิ ปฏิบตั ิกำร “แนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ำรสนเทศในอนำคต”
2. สังเกตกำรทำงำนกลุ่ม
3. ฝึกปฏิบตั ิ
หลงั เรียน
1. ตรวจแบบฝึกหดั ท้ำยบทเรียน
2. สรุปเนือ้ หำบทเรยี น

197

• ผลงาน/ชิน้ งาน/ผลสาเรจ็ ของผู้เรียน

1. ตรวจผลงำนบอร์ดเชิงปฏิบตั ิกำร “แนวโน้มกำรใชเ้ ทคโนโลยีขององค์กร”
2. ส่ือกำรเรยี นกำรสอนจำกโปรแกรม Microsoft PowerPoint

รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้

• จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 1 แนวโนม้ การใช้เทคโนโลยีขององคก์ ร

1. วธิ ีการประเมิน : ทดสอบ

2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : อธบิ ำยแนวโน้มกำรใชเ้ ทคโนโลยีขององค์กร จะได้

5 คะแนน

4. เกณฑ์การตดั สนิ การผ่าน : ผำ่ นระดับรอ้ ยละ 80 (ต้องได้คะแนนไมน่ ้อยกว่ำ 4 คะแนน)

198

• จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ข้อท่ี 2 ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคต

1. วธิ กี ารประเมนิ : ทดสอบ

2. เครื่องมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : ควำมกำ้ วหนำ้ ของเทคโนโลยีสำรสนเทศในอนำคต

จะได้ 5 คะแนน

4. เกณฑ์การตดั สนิ การผ่าน : ผำ่ นระดบั รอ้ ยละ 80 (ตอ้ งได้คะแนนไม่น้อยกว่ำ 4 คะแนน)

• จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3วสิ ัยทัศน์ของการนาประเทศไทยไปสู่สังคมสารสนเทศ

1. วธิ ีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : วิสัยทัศน์ของกำรนำประเทศไทยไปสู่สังคมสำรสนเทศ

จะได้ 5 คะแนน

4. เกณฑก์ ารตดั สนิ การผ่าน : ผำ่ นระดับร้อยละ 80 (ตอ้ งไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่ำ 4 คะแนน)

• จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม ข้อที่ 4เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต

1. วิธีการประเมนิ : ทดสอบ

2. เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑก์ ารให้คะแนน : เทคโนโลยสี ำรสนเทศในอนำคต จะได้ 5 คะแนน

4. เกณฑก์ ารตดั สนิ การผา่ น : ผ่ำนระดับร้อยละ 80 (ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่ำ 4 คะแนน)

• จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ข้อท่ี 5การปฏบิ ัติตนใหท้ ันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

1. วธิ กี ารประเมิน : ทดสอบ

2. เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ

3. เกณฑ์การให้คะแนน : กำรปฏบิ ัตติ นใหท้ นั ต่อกำรเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จะ

ได้ 5 คะแนน

4. เกณฑ์การตัดสินการผา่ น : ผำ่ นระดับรอ้ ยละ 80 (ตอ้ งไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่ำ 4 คะแนน)

แบบประเมินผลการนาเสนอผลงาน
ช่ือกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง................................................

199

รายช่อื สมาชิก

1……………………………………เลขท…่ี ..…. 2……………………………………เลขท…ี่ ..….

3……………………………………เลขท…ี่ ..…. 4……………………………………เลขท…่ี ..….

ท่ี รำยกำรประเมิน คะแนน ข้อคดิ เหน็

32 1

1 เนื้อหำสำระครอบคลุมชัดเจน (ควำมรู้เกี่ยวกับเนื้อหำ ควำมถูกต้อง

ปฏภิ ำณในกำรตอบ และกำรแก้ไขปัญหำเฉพำะหนำ้ )

2 รปู แบบกำรนำเสนอ

3 กำรมสี ว่ นรว่ มของสมำชกิ ในกลุ่ม

4 บุคลิกลักษณะ กริ ยิ ำ ท่ำทำงในกำรพูด น้ำเสียง ซึ่งทำให้ผู้ฟังมีควำม

สนใจ

รวม

ผู้ประเมิน…………………………………………………
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
1. เน้อื หำสำระครอบคลุมชัดเจนถกู ต้อง

3 คะแนน= มีสำระสำคญั ครบถว้ นถกู ต้อง ตรงตำมจุดประสงค์
2 คะแนน= สำระสำคญั ไมค่ รบถว้ น แตต่ รงตำมจดุ ประสงค์
1 คะแนน= สำระสำคญั ไม่ถกู ตอ้ ง ไมต่ รงตำมจุดประสงค์
2.รปู แบบกำรนำเสนอ
3 คะแนน = มีรปู แบบกำรนำเสนอท่ีเหมำะสม มีกำรใชเ้ ทคนคิ ทแี่ ปลกใหม่ ใช้สือ่ และเทคโนโลยี
ประกอบกำร นำเสนอทีน่ ำ่ สนใจ นำวสั ดุในท้องถ่นิ มำประยกุ ต์ใชอ้ ย่ำงคุ้มค่ำและประหยดั
2 คะแนน = มีเทคนิคกำรนำเสนอทแ่ี ปลกใหม่ ใชส้ อ่ื และเทคโนโลยปี ระกอบกำรนำเสนอที่นำ่ สน ใจ แต่ขำด
กำรประยกุ ต์ใช้ วัสดุในทอ้ งถ่นิ
1 คะแนน= เทคนคิ กำรนำเสนอไม่เหมำะสม และไมน่ ่ำสนใจ
3. กำรมสี ว่ นร่วมของสมำชิกในกล่มุ
3 คะแนน= สมำชกิ ทุกคนมบี ทบำทและมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมกลุม่
2 คะแนน= สมำชิกสว่ นใหญม่ บี ทบำทและมสี ่วนร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
1 คะแนน= สมำชกิ สว่ นน้อยมบี ทบำทและมสี ่วนร่วมกจิ กรรมกลมุ่
4. ควำมสนใจของผ้ฟู งั
3 คะแนน= ผ้ฟู ังมำกกวำ่ รอ้ ยละ 90 สนใจ และให้ควำมรว่ มมอื
2 คะแนน= ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ควำมรว่ มมอื
1 คะแนน= ผู้ฟงั นอ้ ยกว่ำรอ้ ยละ 70 สนใจ และใหค้ วำมร่วมมือ

200

แบบประเมินกระบวนการทางานกล่มุ

ช่ือกลุ่ม……………………………………………ชนั้ ………………………หอ้ ง..........................................

รายช่ือสมาชกิ

1……………………………………เลขท…่ี ..…. 2……………………………………เลขท่ี…..….

3……………………………………เลขท…ี่ ..…. 4……………………………………เลขที่…..….

ท่ี รำยกำรประเมิน คะแนน ขอ้ คดิ เห็น
1 กำรกำหนดเปำ้ หมำยร่วมกนั
321

2 กำรแบง่ หนำ้ ที่รับผดิ ชอบและกำรเตรียมควำมพรอ้ ม

3 กำรปฏบิ ัตหิ น้ำทท่ี ไี่ ดร้ ับมอบหมำย

4 กำรประเมนิ ผลและปรับปรุงงำน

รวม

ผปู้ ระเมนิ …………………………………………………
วนั ที่…………เดอื น……………………..พ.ศ…………...

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

1. กำรกำหนดเป้ำหมำยร่วมกนั
3 คะแนน= สมำชกิ ทกุ คนมสี ว่ นรว่ มในกำรกำหนดเป้ำหมำยกำรทำงำนอย่ำงชดั เจน
2 คะแนน= สมำชกิ สว่ นใหญ่มีส่วนร่วมในกำรกำหนดเป้ำหมำยในกำรทำงำน
1 คะแนน= สมำชกิ สว่ นน้อยมีสว่ นร่วมในกำรกำหนดเป้ำหมำยในกำรทำงำน

2. กำรหน้ำทรี่ บั ผิดชอบและกำรเตรยี มควำมพร้อม
3 คะแนน= กระจำยงำนได้ทว่ั ถงึ และตรงตำมควำมสำมำรถของสมำชกิ ทุกคน มีกำรจดั เตรียมสถำนที่ ส่อื /
อุปกรณ์ไว้อยำ่ งพร้อมเพรยี งยึดหลักควำมประหยัด
2 คะแนน= กระจำยงำนไดท้ ว่ั ถึง แต่ไมต่ รงตำมควำมสำมำรถ และมสี ่อื / อปุ กรณ์ไวอ้ ยำ่ งพรอ้ มเพรยี ง แตข่ ำด

กำรจัดเตรยี มสถำนท่ีและไม่ยดึ หลักควำมประหยัด
1 คะแนน= กระจำยงำนไม่ทวั่ ถึงและมสี ่ือ / อุปกรณไ์ ม่เพยี งพอ และไม่ยดึ หลักควำมประหยดั

3. กำรปฏิบตั ิหนำ้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมำย
3 คะแนน= ทำงำนได้สำเรจ็ ตำมเป้ำหมำย และตำมเวลำที่กำหนดมีควำมรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวงั
2 คะแนน= ทำงำนได้สำเร็จตำมเป้ำหมำย แตช่ ำ้ กว่ำเวลำท่ีกำหนด ไมม่ ีควำมรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวงั
1 คะแนน= ทำงำนไมส่ ำเร็จตำมเปำ้ หมำย และไม่มคี วำมรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวงั

4. กำรประเมนิ ผลและปรับปรงุ งำน
3 คะแนน= สมำชิกทุกคนร่วมปรึกษำหำรือ ติดตำม ตรวจสอบ และปรับปรุงงำนเป็นระยะมีควำมรอบรู้ รอบคอบ

และระมดั ระวัง
2 คะแนน= สมำชกิ บำงส่วนมีส่วนรว่ มปรึกษำหำรือ แตไ่ ม่ปรับปรุงงำน ไมม่ คี วำมรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง

201

1 คะแนน = สมำชิกบำงส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษำหำรือ และปรับปรุงงำน ไม่มีควำมรอบรู้ รอบคอบ และ
ระมัดระวัง

บนั ทึกหลังการสอน
บทที่ 10แนวโนม้ กำรใช้เทคโนโลยขี ององค์กร

ผลการใช้แผนการสอน

1. แผนกำรสอนท่กี ำหนดไว้สำมำรถใชส้ อนไดท้ นั ตำมเวลำทกี่ ำหนด
2. สำมำรถนำไปใชป้ ฏบิ ตั ิกำรสอนได้ครบตำมกระบวนกำรเรยี นกำรสอน

ผลการเรียนของนกั เรยี น

1. นักศึกษำส่วนใหญ่มีควำมเข้ำใจในบทเรียนร่วมกัน อภิปรำยตอบคำถำมในกลุ่ม และร่วมกันปฏิบัติใบ
งำนทีไ่ ด้รับมอบหมำย

2. คะแนนกำรทดสอบหลังเรยี นดขี น้ึ เมือ่ เทียบกับคะแนนกำรทดสอบก่อนเรยี น
3. นักศกึ ษำบำงคนไมค่ ่อยแสดงควำมคิดเห็นภำยในกลุ่ม

ผลการสอนของครู

1. สอนเนอ้ื หำไดค้ รบทกุ กระบวนกำร
2. แผนกำรสอนและวิธีกำรสอนครอบคลุมเน้ือหำกำรสอนทำให้ผสู้ อนสอนได้อยำ่ งมั่นใจ
3. นักศึกษำบำงคนที่ไม่ค่อยแสดงควำมคิดเห็นภำยในกลุ่ม ครูผู้สอนต้องคอยกระตุ้นนักศึกษำให้แสดง

ควำมคดิ เห็น

202


Click to View FlipBook Version