1
2 รายงานวิธีการและผลการด าเนินงาน ตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งส านักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBECQA) ประจ าปี 2564 โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ต าบลตาตุม อ าเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
1. งานส านักงานบริหารงานวิชาการ 2. งานพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา 3. งานจัดระบบการเรียนการสอนและก ากับ ติดตาม 4. งานวัดผลและประเมินผล 5. งานทะเบียน 6. ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 7. งานโรงเรียนมาตรฐานสากล 8, งานวิจัยและพัฒนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยี การศึกษา 9. งานกลุ่มสาระการเรียนรู้ 10. งานนิเทศการศึกษา 11. งานแนะแนวการศึกษาและทุนการศึกษา 12. งานห้องสมุดและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ 13. งานส่งเสริมวิชาการ 14. งานกลุ่มกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 15. งานรับนักเรียนใหม่ 16. งานอาเซียนศึกษา 17. งานพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม 18. งานบริหารจัดการการทดสอบ O-NET 19. งานนักศึกษาฝึ กประสบการณ์วิชาชีพครู 1. งานจัดระเบียบบริหารและพัฒนาองค์กร 2. งานธุรการ 3. งานควบคุมภายในหน่วยงาน 4. งานเลขาคณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน 5. งานพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ 6. งานโสตทัศนศึกษา 7. งานประชาสัมพันธ์ 8. งานส่งเสริมสุขภาพ และโภชนาการ 9. งานกิจกรรมสหกรณ์ร้านค้า 10. งานสัมพันธ์ชุมชน และงานบริการสาธารณะ 11. งานดนตรี ดุริยางค์นักเรียน 12. งานพัฒนาอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม 13. งานระดมทรัพยากร 14. งานประกันอุบัติเหตุ 15. งานสภานักเรียนและประชาธิปไตยในโรงเรียน 16. งานศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่น (TO Be Number One) 17. งานจราจร 18. งานกิจการนักเรียน และงานสายชั ้นเรียน 19. งานสารเสพติด 20. งานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ผู้อำ นวยกำรกลุ่มบริหำรวิชำกำร รองผู้อำ นวยกำกลุ่มบริหำรทั่วไป ผังโครงร่างองค์กรโรงเรีย
3 1. งานส านักงานกลุ่มบริหารงบประมาณ 2. งานแผนงานและประเมินโครงการ 3. งานระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อ การศึกษา 4. งานบริหารการเงินและบัญชี 5. งานบริหารพัสดุและสินทรัพย์ 6. งานคณะกรรมการตรวจสอบการเงิน ภายในโรงเรียน 7. งานสวัสดิการ 1. งานส านักงานกลุ่มบริหารงานบุคคล 2. งานวางแผนอัตราก าลัง การจัดสรร สรรหา บรรจุ แต่งตั ้ง และ ก าหนด ต าแหน่ง 3. งานพัฒนาบุคลากรตามมาตรฐานวิชาชีพ และจรรยาบรรณวิชาชีพ 4. งานประเมินผลการปฏิบัติงาน 5. งานบ ารุงขวัญและส่งเสริมก าลังใจ 6. งานทะเบียนประวัติและสถิติข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา 7. งานจัดท าหลักฐานการปฏิบัติราชการ 8. การเลื่อนเงินเดือน การเพิ่มค่าจ้าง และ ค่าตอบแทนอื่นของข้าราชการครูและ บุคลากร 9. งานเสริมสร้ างประสิทธิภาพในการปฏิบัติ ราชการ รโรงเรียน คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน ำรโรงเรียน กลุ่มบริหำรงบประมำณ กลุ่มบริหำรงำนบุคคล ก ยนขนาดมอญพิทยาคม
ข อภิธานศัพท์ MONPIT Model โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ได้บริหารงานไปสู่ผู้ปฏิบัติด้วยการบริหารโรงเรียนด้วยหลักธรรมาภิบาล เน้นหลักการมีส่วนร่วม โดยยึดโรงเรียนเป็ นฐาน ด้วยนวัตกรรม MONPIT Model บริหารเชิงระบบ สะท้อนครบ ทุกกระบวนการ จัดการองค์ความรู้น าองค์กรสู่ความเป็ นเลิศ หลักการบริหารสถานศึกษา ประกอบ 3 องค์ประกอบ หลัก คือ 1. ปัจจัยน าเข้า (Input) ประกอบด้วย หลัก 4M คือ 1) Man = ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2) Money = งบประมาณ ในการบริหารจัดการองค์กร 3) Materials = การบริหารวัสดุอุปกรณ์ในการด าเนินงานให้เกิดความคุ้มค่าที่สุด 4) Management = การจัดการ เพื่อให้งานทั ้งหมดเป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล อย่างเต็มที่ 2. กระบวนการ (Process) คือ ยึดหลักการบริหารด้วยนวัตกรรม MONPIT Model ภายใต้วงจรคุณภาพ PDCA โดยมีรายละเอียดและขั ้นตอนการท างาน ดังนี ้ M คือ Management (การบริหารจัดการ) บริหารจัดการการศึกษาเชิงระบบ โดยใช้หลักธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วม โดยใช้โรงเรียนเป็ นฐาน O คือ Opportunity (การสร้างโอกาส) การสร้างและแสวงหาโอกาสผู้ที่มีความสามารถ มีประสบการณ์ เพื่อพัฒนาทักษะของผู้เรียนและครูผู้สอน
ค N คือ Network (การสร้ างเครื อข่ายทางการศึกษา) รวบรวมข้ อมูลและสร้ างเครื อข่ายกับ สถาบันการศึกษา เครือข่ายความร่วมมือและหน่วยงานต่างๆ ในชุมชน P คือ Prectice (การปฏิบัติที่เป็ นเลิศ) มงุ่ผลสมัฤทธิ์โดยการทบทวนนโยบาย ลงสกู่ารปฏิบตัิมีเป้าหมาย ที่ชัดเจน I คือ Integration (การบูรณาการ) บูรณาการศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติ คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" T คือ Team (การท างานเป็ นทีม) ทีมน า (คณะกรรมการสถานศึกษา/ฝ่ ายบริหาร ก าหนดนโยบาย) ทีมท า (ครูผู้สอน ด าเนินการนโยบาย ตามโครงการกิจกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน) และทีมติดตาม (สมพ.สุรินทร์ นิเทศ ก ากับ ติดตาม การด าเนินงานของสถานศึกษา) 3. ผลลัพธ์ (Output)จะเกิด 3 best ได้แก่ 1) Best Student คือ นักเรียนดี เก่ง มีความสุข นักเรียนดี: มีคุณธรรมจริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยมที่ดี รักษ์ถิ่น รักไทย ใส่ ใจ สิ่งแวดล้อม อยู่อย่างพอเพียง เก่ง : มีทักษะการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดค านวณ มีทักษะการคิดตัดสินใจ แก้ปัญหาอย่างเป็ นระบบใฝ่ เรียนรู้มีผลสมัฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึน้มีทกัษะในการใช้เทคโนโลยีผลิตนวตักรรม อย่างสร้างสรรค์ มีทักษะพื ้นฐานและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ มีความสุข : มีสุขภาวะทางร่างกาย มีจิตสาธารณะ ยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข 2) Best Teacher คือ ครูสอนดี มีจรรยาบรรณ หมั่นพัฒนา ครูสอนดี : จัดการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพ รูปแบบ Active Learning มีจรรยาบรรณ : ศรัทธาในวิชาชีพครูตั ้งใจใช้ความรู้ ความสามารถ มีความรัก ความเมตตาต่อ ศิษย์ อุทิศตนและเวลาให้นักเรียนทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ หมั่นพัฒนา : พัฒนาตนเอง ใฝ่ เรียนรู้ หาความรู้ เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพ คิดค้น ทดลองใช้วิธีการใหม่ ๆ ที่เป็ นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน 3) Best School คือ มีธรรมาภิบาล น าวิชาการ เลิศบริหาร มุ่งสานสัมพันธ์ชุมชน มีธรรมาภิบาล : มีวิสัยทัศน์ มีภาวะผู้น า ยึดหลักการบริหารตามหลักธรรมาภิบาล วิชาการดี: มีการพัฒนาวิชาการอย่างรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษาที่เน้นคุณภาพทุก กลุ่มเป้ าหมาย เลิศบริหาร : มีการบริหารด้วยระบบคุณภาพ บรรลุวิสัยทัศน์และเป้าหมายตามพันธกิจของ สถานศึกษา มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ บริบท แหล่งเรียนรู้ ที่เอื ้อต่อการบริหารจัดการ และการเรียนรู้ อย่างมี คุณภาพ บนพื ้นฐานความพอเพียง มุ่งสานสัมพันธ์ชุมชน : มีเครือข่ายร่วมพัฒนาที่หลากหลายและเข้มแข็ง เพื่อสร้ างโอกาสในการ พัฒนาทักษะ สร้างเครือข่ายทางการศึกษา
ง สารบัญ หน้า โครงสร้างการบริหาร ก อภิธานศัพท์ ข สารบัญ ง สารบัญตาราง ช สารบัญภาพ ฌ โครงร่างองค์กร (Organizational Profile) 1 1. ลักษณะองค์กร 1 ก. สภาพแวดล้อมขององค์กร 1 ข. ความสัมพันธ์ระดับองค์กร 7 2. สภาวการณ์ขององค์กร 9 ก. สภาพแวดล้อมของการแข่งขัน 9 ข. บริบทเชิงกลยุทธ์ 10 ค. ระบบการปรับปรุงผลการด าเนินงาน 11 หมวด 1 การน าองค์กร (Leadership) 12 1.1 การน าองค์กรโดยผู้น าระดับสูง 12 ก. วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม 12 ข. การสื่อสารและผลการด าเนินการของโรงเรียน 15 1.2 การก ากับดูแลองค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคม 17 ก. การก ากับดูแลโรงเรียน 17 ข. การประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและมีจริยธรรม 18 ค. ความรับผิดชอบต่อสังคม 20 หมวด 2 กลยุทธ์ (Strategy) 22 2.1 การจัดท ากลยุทธ์ 22 ก. กระบวนการจัดท ากลยุทธ์ 22 ข. วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ 24 2.2 การน ากลยุทธ์ไปปฏิบัติ 28 ก. การจัดท าแผนปฏิบัติการและการถ่ายทอดสู่การปฏิบัติ 28 ข. การปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการ 31 หมวด 3 นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Student and Stakeholder) 32 3.1 เสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 32 ก. การรับฟังนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 32
จ สารบัญ (ต่อ) หน้า ข. การประเมินความพึงพอใจและความผูกพันของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 36 3.2 ความผูกพันของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 38 ก. หลักสูตรและการสนับสนุนนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 38 ข. การสร้างความสัมพันธ์กับนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 42 หมวด 4 การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้(Measurement, Analysis 44 and Knowledge Management) 4.1 การวัด การวิเคราะห์ และการปรับปรุงผลการด าเนินการของโรงเรียน 44 ก. การวัดผลการด าเนินการ 44 ข. การวิเคราะห์และทบทวนผลการด าเนินการ 49 ค. การปรับปรุงผลการด าเนินการ 51 4.2 การจัดการความรู้ สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ 53 ก. ความรู้ขององค์กร 53 ข. ข้อมูล สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ 54 หมวด 5 บุคลากร (Workforce) 59 5.1 สภาพแวดล้อมของบุคลากร 59 ก. ขีดความสามารถและอัตราก าลัง 59 ข. บรรยากาศการท างานของบุคลากร 63 5.2 ความผูกพันของบุคลากร 65 ก. ความผูกพันและผลการปฏิบัติงานของบุคลากร 65 ข. การพัฒนาบุคลากรและผู้น า 67 หมวด 6 การปฏิบัติการ (Operations) 70 6.1 กระบวนการท างาน 70 ก. การออกแบบหลักสูตรและกระบวนการ 70 ข. การจัดการกระบวนการ 72 ค. การจัดการนวัตกรรม 75 6.2 ประสิทธิผลของการปฏิบัติการ 76 ก. ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการ 76 ข. การจัดการห่วงโซ่อุปทาน 77 ค. การเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยและภาวะฉุกเฉิน 79
ฉ สารบัญ (ต่อ) หน้า หมวด 7 ผลลัพธ์ (Results) 81 7.1 ผลลัพธ์ด้านหลักสูตรและกระบวนการ 81 ก. ผลลัพธ์ด้านหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนการสอน 81 ข. ผลลัพธ์ด้านประสิทธิผลของกระบวนการท างาน 82 ค. ผลลัพธ์ด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทาน 86 7.2 ผลลัพธ์ด้านนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 87 ก. ผลลัพธ์ด้านนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 87 7.3 ผลลัพธ์ด้านบุคลากร 91 ก. ผลลัพธ์ด้านบุคลากร 91 7.4 ผลลัพธ์ด้านการน าองค์กรและการก ากับดูแลองค์กร 93 ก. ผลลัพธ์ด้านการน าองค์กร การก ากับดูแลองค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคม 93 ข. ผลลัพธ์ด้านการน ากลยุทธ์ไปปฏิบัติ 97 7.5 ผลลัพธ์ด้านการเงินและตลาด 98 ก. ผลลัพธ์ด้านการเงินและตลาด 98
ช สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า ตารางที่ 1ก(1) หลักสูตรและการบริการส่งเสริมการเรียนรู้ 1 ตารางที่ 1ก(2) สมรรถนะหลักของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับพันธกิจของโรงเรียน 3 ตารางที่ 1ก(3) แสดงจ านวนข้าราชการครูและวุฒิทางการศึกษา 4 ตารางที่ 1ก(4) แสดงอาคารสถานที่ เทคโนโลยี และอุปกรณ์ส าคัญ 5 ตารางที่1ก(5) กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่ส าคัญและเกี่ยวข้องกับการด าเนินงานของโรงเรียน 6 ตารางที่ 1ข(2) ความคาดหวังที่ส าคัญของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 8 ตารางที่ 2ก(1) ผล O-NET ของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม กับโรงเรียนคู่เทียบ 9 ตารางที่ 2ขแสดงความท้าทายเชิงกลยุทธ์ของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม 10 ตารางที่ 1.1 ข(1)แสดงการสื่อสารผ่านช่องทางที่หลากหลาย 15 ตารางที่ 2.1 ข(1)แสดงวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ตัวชี ้วัดความส าเร็จและเป้ าหมาย ระยะ 3 ปี 22 ตารางที่ 3.1 ก(1) วิธีการรับฟังนักเรียนในปัจจุบันและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 33 ตารางที่ 3.2 ก(1) การก าหนดหลักสูตรโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมและการให้บริการ 39 ตารางที่4.1ก(1)-2 ผลการวิเคราะห์ตัวชี ้วัดระดับโรงเรียน 46 ตารางที่4.1ข แสดงข้อมูลเพื่อสนับสนุนการทบทวนผลการด าเนินงานของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม 50 ตารางที่4.2 ข(4) แสดงความเชื่อถือได้ ความปลอดภัย และใช้งานง่ายของฮาร์ดแวร์ 57 ตารางที่ 4.2ข(5) แสดงวิธีการเตรียมพร้อมในสภาวะฉุกเฉิน 58 ตารางที่5.1 ข(1)แสดงสภาพแวดล้อมของการท างาน 63 ตารางที่6.1ก(1)-1ข้อก าหนดของหลักสูตรโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม 70 ตารางที่6.1 ก(1)-2ข้อก าหนดของกระบวนการที่ส าคัญของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม 71 ตารางที่ 7.1ข(1)-1 ตารางแสดงผลสมัฤทธิ์ทางการเรียนของผ้เูรียนระดบัชาติ(O-NET) ระดับชั ้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3 เทียบเคียงกับโรงเรียนคู่เทียบ 84 ตารางที่ 7.1ข(1)-2 ตารางแสดงผลสมัฤทธิ์ทางการเรียนของผ้เูรียนระดบัชาติ(O-NET) ระดับชั ้นมัธยมศึกษาปี ที่ 6 เทียบเคียงกับโรงเรียนคู่เทียบ 84 ตารางที่ 7.1ข(1)-3แสดงร้อยละผลการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนในระดับดีขึ ้นไป 85 ตารางที่ 7.4 ก(1)-1แสดงความพึงพอใจต่อการน าองค์กรของผู้บริหาร 94 ตารางที่ 7.4 ก(4)-1แสดงตัวชี ้วัดด้านจริยธรรม 97 ตารางที่ 7.4 ก(5)แสดงร้อยละความพึงพอใจการให้บริการของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมต่อชุมชน 98 ตารางที่ 7.5 ก(1)-1 แสดงงบประมาณตามแผนปฏิบัติการ 99 ตารางที่ 7.5 ก(2)-1แสดงการใช้งบประมาณในการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ 100
ซ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า ภาพที่ 1ข(1)แผนภูมิการบริหารงาน 7 ภาพที่ 2ค การบริหารจัดการ โดยใช้ MONPIT Model 11 ภาพที่ 1.1 ก(1) แสดงขั ้นตอนการก าหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยมและการน าสู่การปฏิบัติ 12 ภาพที่ 2.1 ก. การจัดท ากลยุทธ์ 22 ภาพที่ 2.2 ก(1) การจัดท าแผนปฏิบัติการประจ าปี โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม 28 ภาพที่ 3.1 ก(1) การรับฟังเสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้เสีย 32 ภาพที่3.2 ก(1) กระบวนการก าหนดหลักสูตร 38 ภาพที่ 4.1 ก(1)-1 กระบวนการวัด วิเคราะห์ ทบทวน ปรับปรุงผลการ 44 ภาพที่ 4.1 ก(3) กระบวนการใช้ข้อมูลสารสนเทศจากนักเรียนและผู้มีส่วนได้ 48 ภาพที่ 4.2 ก(1) การจัดการความรู้ 53 ภาพที่ 4.2 ข(1) - 1 การบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 54 ภาพที่ 5.1 ก(1)ขีดความสามารถและอัตราก าลัง 60 ภาพที่ 5.1 ก(2)แสดงกระบวนการจัดบุคลากรใหม่ 61 ภาพที่ 5.1ข(1)แสดงกระบวนการจัดสภาพแวดล้อมในการท างาน 63 ภาพที่ 5.2 ก(1)แสดงกระบวนการสร้างวัฒนธรรมองค์กร 65 ภาพที่ 5.2 ก(2)แสดงกระบวนการก าหนดปัจจัยส าคัญที่ส่งผลต่อความผูกพัน 65 ภาพที่ 5.2 ข(1)แสดงกระบวนการจัดการเรียนรู้และพัฒนาให้แก่บุคลากร 67 ภาพที่ 5.2 ข(3)แสดงกระบวนการจัดการความก้าวหน้าในอาชีพ การงานและผู้น า 68 ภาพที่6.1ข(1) การน าระบบงานไปปฏิบัติ 73 ภาพที่6.1ข(2) กระบวนการสนับสนุนของโรงเรียน 74 ภาพที่ 6.2 ค- 1 การเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยและภาวะฉุกเฉิน 79 ภาพที่ 6.2 ค- 2 แบบแผนเตรียมความพร้อมต่อภาวะฉุกเฉิน 80 ภาพที่ 7.1 ก(1)–1 ร้อยละของนกัเรียนระดบัชนั้มธัยมศกึษาตอนต้น ที่มีผลสมัฤทธิ์ทางการเรียน เฉลี่ย2.5ขึ ้นไป 81 ภาพที่ 7.1 ก(1)– 2ร้อยละของนกัเรียนระดบัชนั้มธัยมศกึษาตอนปลาย ที่มีผลสมัฤทธิ์ทางการเรียน เฉลี่ย 2.5 ขึ ้นไป 81 ภาพที่ 7.1 ก(1)– 3 ผลสมัฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ย รายวิชา IS1 82 ภาพที่ 7.1 ก(1)– 4 ผลสมัฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ย รายวิชา IS2 82 ภาพที่ 7.1ข(1) - 1 แสดงค่าร้อยละของนักเรียนที่เรียนจบหลักสูตรชั ้นมัธยมศึกษาตอนต้น 83
ฌ สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า ภาพที่ 7.1ข(1) - 2แสดงค่าร้อยละของนักเรียนที่เรียนจบหลักสูตรชั ้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 83 ภาพที่ 7.1ข(2) แสดงค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจในการเตรียมความพร้อมต่อภาวะฉุกเฉิน 86 ภาพที่ 7.1 ค - 1แสดงค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจต่อการใช้บริการอินเทอร์เน็ต 86 ภาพที่ 7.1 ค - 2แสดงค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจในคุณภาพของสินค้าจากผู้ส่งมอบ 87 ภาพที่ 7.2 ก(1)-1 ร้อยละความพึงพอใจของนักเรียนชั ้นมัธยมศึกษาตอนต้นต่อหลักสูตร และบริการที่ส าคัญ 87 ภาพที่ 7.2 ก(1)-2 ร้อยละความพึงพอใจของนักเรียนชั ้นมัธยมศึกษาตอนปลายและผู้ปกครอง ต่อหลักสูตรและบริการที่ส าคัญ 88 ภาพที่ 7.2 ก(1)-5 ร้อยละความพึงพอใจของนักเรียนในอดีต ในปัจจุบัน ในอนาคต และผู้ปกครอง 89 ภาพที่ 7.2 ก(2)-1 ความนิยมของจ านวนนักเรียนชั ้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1และ 4 ที่สมัครเข้าศึกษาต่อ 90 ภาพที่ 7.3 ก(1)-1 แสดงจ านวนครูที่สอนตรงตามวิชาเอก 91 ภาพที่ 7.3 ก(1)-2แสดงอัตราส่วนครูต่อนักเรียนปี การศึกษา 2562 – 2564 92 ภาพที่ 7.3 ก(2)แสดงร้อยละความพึงพอใจสภาพแวดล้อมในการท างานทั ้ง 5 ด้าน 92 ภาพที่ 7.3 ก(3) แสดงระดับความผูกพันของบุคลากรในองค์กร ปี การศึกษา 2562 – 2564 93 ภาพที่ 7.4 ก(1)-1แสดงจ านวนครั ้งของการประชุมเพื่อสื่อสารและถ่ายทอดวิสัยทัศน์ พันธกิจ สู่การปฏิบัติปี การศึกษา 2562-2564 93 ภาพที่ 7.4 ก(1)-2 แสดงร้อยละของโครงการ/กิจกรรมที่ตอบสนองต่อการบรรลุวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ที่ประสบความส าเร็จในระดับดีขึ ้นไป ปี การศึกษา 2562-2564 94 ภาพที่ 7.4 ก(1)-3 แสดงร้อยละความพึงพอใจต่อการน าองค์กรของผู้บริหาร ปี การศึกษา 2562-2564 95 ภาพที่ 7.4 ก(1)-4 แสดงร้อยละความส าเร็จจากกระบวนการน าองค์กร ปี การศึกษา 2562-2564 95 ภาพที่ 7.4 ก(1)-5 แสดงจ านวนเหรียญทอง งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ 96 ภาพที่ 7.5 ก(1)แสดงร้อยละการใช้งบประมาณตามแผนปฏิบัติการที่บรรลุวัตถุประสงค์ 99
1 โครงร่างองค์กร 1. ลักษณะขององค์กร (Organizational Description) ก. สภาพแวดล้อมขององค์กร (Organizational Environment) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม เป็ นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดกลาง สังกัดส านักงานเขตพื ้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสุรินทร์ ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั ้นพื ้นฐาน ก่อตั ้งเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2536 มีเนื ้อที่ 50 ไร่ ณ หมู่ที่ 16 บ้านขนาดมอญ ต าบลตาตุม อ าเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ 32150 ห่างจากจังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 70 กิโลเมตร จากอ าเภอสังขะ ประมาณ 22 กิโลเมตร เปิ ดสอนตั ้งแต่ระดับ มัธยมศึกษาชั ้นปี ที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษา ชั ้นปี ที่ 6 โทรศัพท์ 097 341 4986 website: http//www.monpit.ac.th ตลอดระยะเวลา 28 ปี ที่ผ่านมา โรงเรียนได้รับรางวัลที่เกิดจากการจัดการศึกษาดังนี ้ ได้รับรางวัลโรงเรียน วิถีพุทธ ปี การศึกษา 2558 ได้รับรางวัลชนะเลิศวิธีการปฏิบัติที่ดี (Best practice) ของสถานศึกษา ประจ าปี 2561 ได้รับรางวัล ทรงคุณค่า (OBEC AWARDS) ระดับชาติด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเรียนการสอน ประจ าปี 2561 ปี การศึกษา 2563 และ ปี การศึกษา 2564ได้รับรางวัลสถานศึกษาสีขาว ระดับทอง ปี การศึกษา 2562 (1) หลักสูตร (Product Offerings) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั ้นพื ้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตามโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล จัดท าหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรกลุ่มสาระการ เรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ และหลักสูตรชั ้นเรียนที่เอื ้อต่อการเรียนรู้ ใช้แหล่งเรียนรู้และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ จากชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น ตารางที่ 1ก(1) หลักสูตรและการบริการส่งเสริมการเรียนรู้ หลักสูตร/โปรแกรม กลไกการส่งมอบ/การจัดการเรียนการสอน มัธยมศึกษาตอนต้น แผนการเรียนปกติ -เรียน/วิชาพื ้นฐาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ -เรียนวิชาเพิ่มเติม (คณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์) -เรียน IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ -เรียน IS2 การสื่อสารและการน าเสนอ -เรียนภาษาที่สอง (ภาษาจีน ภาษาเขมร) -กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนกิจกรรมนักเรียน มัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียน วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ เรียน/วิชาพื ้นฐาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ -เรียนวิชาเพิ่มเติม (ฟิ สิกส์, เคมี, ชีววิทยา, คณิตศาสตร์, อังกฤษเพิ่มเติม) -เรียน IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ -เรียน IS2 การสื่อสารและการน าเสนอ -กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนกิจกรรมนักเรียน
2 หลักสูตร/โปรแกรม กลไกการส่งมอบ/การจัดการเรียนการสอน มัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียนภาษา สังคม -เรียน/วิชาพื ้นฐาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ -เรียนวิชาเพิ่มเติม (ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, สังคมศึกษา) -เรียน IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ -เรียน IS2 การสื่อสารและการน าเสนอ -เรียนภาษาที่สอง (ภาษาจีน ภาษาเขมร) -กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนกิจกรรมนักเรียน มัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียนทวิศึกษา -เรียน/วิชาพื ้นฐาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ -เรียนวิชาเพิ่มเติม (การงานอาชีพ MOU วิทยาลัยการ อาชีพสังขะ) -เรียน IS1 การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ -เรียน IS2 การสื่อสารและการน าเสนอ -กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนกิจกรรมนักเรียน กลไกที่โรงเรียนใช้บริหารจัดการหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน รวมทั ้งการบริการอื่นๆ นั ้น โรงเรียน เน้น การบริหารจัดการหลักสูตร มีการปรับปรุงหลักสูตรสนองตามนโยบายส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ ้น พื ้นฐาน สอดแทรกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และจัดรายวิชาในหลักสูตรที่สอนนอกเหนือจากรายวิชา บังคับตามโครงสร้ างของหลักสูตร เช่น จัดรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้ างองค์ความรู้ (IS1) รายวิชาการ สื่อสารและน าเสนอ (IS2) และการน าองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (IS3) โดยค านึงถึงปัจจัย ที่เกี่ยวข้องทุกด้าน ความต้องการและความสนใจของผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชน มีความพร้อมด้านบุคลากร อาคารสถานที่ วัสดุ- อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ทั ้งในและนอกโรงเรียน และมีการนิเทศก ากับติดตาม ประเมินผลเพื่อพัฒนาและปรับปรุง การน าหลักสูตรไปใช้จัดการศึกษาที่มุ่งพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา (2) วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม (VISION, MISSION and VALUES) วิสัยทัศน์ (VISION) : ภายในปี 2564โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพระดับ มาตรฐานสากล ก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี นักเรียนมีคุณธรรม จิตสาธารณะ ปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงและภูมิใจในความเป็ นไทย มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 พันธกิจ (MISSION) : โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ได้ก าหนดพันธกิจส าคัญไว้ 8 ประการ คือ 1. จัดการศึกษาอย่างทั่วถึงและตรงตามศักยภาพ ตามทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 2. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของชาติและมาตรฐานสากล 3. ส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการตามระบบประกันคุณภาพ 4. ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร
3 5. ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อประโยชน์ต่อการจัด การศึกษาและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 6. ส่งเสริมพัฒนาระบบบริหารจัดการที่เน้นการมีส่วนร่วมกระจายอ านาจและความรับผิดชอบ 7. ส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิใจในความเป็ นไทย สมรรถนะหลักของโรงเรียน (Core Competencies) : การจัดการเรียนการสอนมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้ดี เก่ง มีความสุข (เน้น Active Learning ) นักเรียนมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ตารางที่ 1ก(2) สมรรถนะหลักของโรงเรียน (CORE COMPETENCIES) ที่เกี่ยวข้องกับพันธกิจของโรงเรียน ความสามารถพิเศษ Core competency พันธกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถ พิเศษกับแผนปฏิบัติการ ความสัมพันธ์ระหว่าง ความสามารถพิเศษกับ บรรยากาศการแข่งขัน M1 M2 M3 M4 M5 M6 M7 1. พัฒนาหลักสูตรที่มุ่งผล สมัฤทธิ์ในการปฏบิตัิงานด้าน คุณภาพผู้เรียน (ด้วยระบบ คุณภาพ PDCA) 1. พัฒนาหลักสูตรและกระบวนการ จัดการเรียนการสอนสู่มาตรฐานสากล 2. พัฒนาสุขนิสัย สุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี ด้านศิลปะ ดนตรี และ กีฬาของผู้เรียน 3. พัฒนาผู้เรียนให้เป็ นบุคคลแห่งการ เรียนรู้ - ครูมีภาวะผู้น าทาง วิชาการ ส่งผลให้ครู ปรับตัวได้ทันต่อความ เปลี่ยนแปลง สามารถ ปรับปรุงและพัฒนา หลักสูตรที่ตอบสนองต่อ ความต้องการและความ ถนัดของผู้เรียน 2. พัฒนาผู้เรียนตาม มาตรฐานการศึกษา และ ปลูกฝังผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม 1. พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรมจริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2. สืบสานวัฒนธรรมประเพณีและภูมิ ปัญญาไทย 3. พฒันาผลสมัฤทธิ์ทางการเรียนของ ผู้เรียน 4. การเรียนรู้สู่มืออาชีพ - เปิ ดโอกาสและส่งเสริมให้ ครูคิดค้นและสร้าง นวัตกรรมในการจัด กิจกรรมการเรียนการสอน โดยสอดแทรกการปลูกฝัง คุณธรรมและจริยธรรม 3. พัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษาให้มี ประสิทธิภาพและเกิดระสิทธิ ผลเทียบมาตรฐานระดับสากล 1. โครงการพัฒนาครูสู่ศตวรรษที่ 21 2. เสริมสร้างสมรรถนะครูและบุคลากร ทางการศึกษาทั ้งระบบสู่ความเป็ นเลิศใน ระดับสากล - ส่งเสริม สนับสนุนครู และบุคลากรให้ได้รับการ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง 4. การบริหารแบบมีส่วนร่วม 1. พัฒนาระบบบริหารจัดการคุณภาพทั่ว ทั ้งองค์กร 2. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน 3. โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อการ เรียนรู้ 4. โครงการพัฒนาระบบการนิเทศและ การประกันคุณภาพ 5. ส่งเสริมพัฒนาอาคารสถานที่และ สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 6. พัฒนาระบบบริหารจัดการพลังงาน - สร้างความเข้มแข็งใน การปฏิบัติงานของครู และภาคีเครือข่ายในการ พัฒนานักเรียนสู่ความ เป็ นเลิศ - ประกันความเสี่ยงผู้มี ส่วนได้ส่วนเสีย
4 ความสามารถพิเศษ Core competency พันธกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถ พิเศษกับแผนปฏิบัติการ ความสัมพันธ์ระหว่าง ความสามารถพิเศษกับ บรรยากาศการแข่งขัน M1 M2 M3 M4 M5 M6 M7 5. เน้นทักษะการด ารงชีวิต ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 1. พัฒนาโรงเรียนเป็ นเลิศอย่างมี ประสิทธิภาพและความยั่งยืนตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อ ยกระดับคุณภาพทั่วทั ้งองค์กร 2. สถานศึกษาพอเพียงตามรอยพ่อ 3. พัฒนาแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญา ท้องถิ่นในโรงเรียน - พัฒนาโรงเรียนเป็ น แหล่งเรียนรู้อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของ หลักเศรษฐกิจพอเพียง - สอดแทรกกิจกรรมการ เรียนรู้ตามหลักปรัชญา ของหลักเศรษฐกิจ พอเพียง ค่านิยมองค์กร (VALUES) : ท างานเป็ นระบบ มุ่งเน้นความส าเร็จ อัตลักษณ์โรงเรียน : ยิ ้ม ไหว้และให้เกียรติกัน เอกลักษณ์โรงเรียน : พัฒนาทักษะอาชีพ (3) ลักษณะโดยรวมของบุคลากร (WORKFORCE Profile) ข้อมูลลักษณะโดยรวมของโรงเรียน 1. ข้อมูลข้าราชการครู ตารางที่ 1ก(3) แสดงจ านวนข้าราชการครูและวุฒิทางการศึกษา ปี การศึกษา 2564 ประเภทของ บุคลากร อันดับ รวม วุฒิการศึกษา รวม พนักงาน ราชการ ครู ผู้ช่วย คศ.1 คศ.2 คศ.3 ต ่ากว่า ป.ตรี ป. บัณฑิต ป.โท ป.เอก ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ฝ่ ายบริหาร - - - - - - - - 2 1 3 - - - - - - 2 1 - - 3 ข้าราชการครู 2 1 1 2 5 11 3 4 6 5 40 - - 9 15 1 - 7 8 - - 40 รวมทั ้งสิ ้น 2 1 1 2 5 11 3 4 8 6 43 - - 9 15 1 - 9 9 - - 43 ร้อยละ 4.65 2.33 2.33 4.65 11.63 25.58 6.98 9.30 18.60 13.95 100.00 0.00 0.00 20.93 34.88 2.33 0.00 20.93 20.93 0.00 0.00 100.00 โรงเรียนมีการจ าแนกบุคลากรที่หลากหลายทั ้งด้านเพศ ระดับการศึกษา และวิทยฐานะ ซึ่งสะท้อนถึง ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ การบริหารจัดการรวมถึงมุมมองในการ พัฒนาวิธีคิดและทักษะการท างาน โดยมีจ านวนครู 1 คน ต่อนักเรียน 20 คน ปัจจัยส าคัญที่ท าให้ข้าราชการครูและบุคลากรมุ่งมั่นในการท างานเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์และพันธกิจของ โรงเรียน ดังนี ้
5 ปัจจัยที่ส าคัญที่ท าให้บุคลากรมุ่งมั่นในการท างานเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์และพันธกิจของโรงเรียน ปัจจัยที่ส าคัญที่ท าให้บุคลากรมุ่งมั่นในการท างานเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์และพันธกิจของโรงเรียน โดยภาพรวม คือ ความต้องการได้รับการพัฒนาตามสายงานที่ปฏิบัติ ต้องการความมั่นคง ความก้าวหน้าในชีวิต การได้รับค่าตอบแทน ที่เหมาะสม การดูแลด้านสุขภาพและความปลอดภัย และความสมดุลระหว่างชีวิตกับงาน ซึ่งจากการประชุมจัดท า แผนปฏิบัติการประจ าปี ได้ปัจจัยที่ส าคัญโดยรวมเพิ่มเติมดังนี ้ 1) มีแผน ระยะสั ้น กลาง ยาว ที่ครอบคลุม มี time frame ที่ชัดเจนและมีการติดตามเป็ นระยะ 2) มีหลักเกณฑ์พิจารณาความดีความชอบที่ชัดเจนและเปิ ดเผย 3) มีการกระจายงานในแต่ละด้านอย่างเหมาะสมมีการก าหนดภาระงานและมีการติดตาม ประเมินผลที่ชัดเจน 4) ท างานเป็ นทีม ร่วมแรงร่วมใจ กลุ่มที่จัดตั้งเพื่อท าหน้าที่เจรจาสิทธิประโยชน์กับโรงเรียน ประกอบด้วย กลุ่มที่จัดตัง้ให้ท าหน้าที่เจรจาสิทธิ์และดูแลผลประโยชน์ของโรงเรียน ได้แก่คณะกรรมการสถานศึกษา ขั ้นพื ้นฐานของโรงเรียน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม เครือข่ายผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียน ขนาดมอญพิทยาคม คณะกรรมการสภานักเรียน สิทธิประโยชน์และข้อก าหนดพิเศษด้านสุขภาพและความปลอดภัยของบุคลากร การด าเนินการด้านสิทธิประโยชน์และข้อก าหนดพิเศษด้านสุขภาพและความปลอดภัยส าหรับบุคลากร ได้แก่ บริการตรวจสุขภาพประจ าปี โดยงานอนามัยติดต่อประสานโรงพยาบาลภาครัฐมาตรวจสุขภาพให้กับคณะครูบุคลากร จัด สวัสดิการช่วยเหลือบุคลากรครอบครัว เช่น มอบของขวัญ เข้าเยี่ยมแก่บุคลากรครู หรือคนในครอบครัวเมื่อยามเจ็บป่ วย จัดสวัสดิการช่วยเหลือครอบครัวบุคลากรที่ประสบเหตุหรือมีการเสียชีวิตจัดสวัสดิการที่จ าเป็ นต่อการปฏิบัติงาน เช่น บริการน ้าดื่ม จัดเวรยามรักษาการณ์ภายในบริเวรณโรงเรียนตลอด 24ชั่วโมง ทั ้งในวันราชการและนอกเวลาราชการ จัดให้ มีห้องพยาบาล มีครูและเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลเบื ้องต้น จัดท าประกันชีวิตอุบัติเหตุให้กับบุคลากรครูและนักเรียนทุกคน (4) สินทรัพย์ (Assets) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมมีอาคารสถานที่ เทคโนโลยี และอุปกรณ์ที่ส าคัญดังนี ้ ตารางที่ 1ก(4) แสดงอาคารสถานที่ เทคโนโลยี และอุปกรณ์ส าคัญ สินทรัพย์ จ านวน สินทรัพย์ จ านวน อาคารเรียน 4หลัง ธนาคารโรงเรียน 1ห้อง หอประชุม 1หลัง โรงฝึ กงาน 1หลัง ห้องโสตทัศนศึกษา 1หลัง โดมอเนกประสงค์ 1หลัง ห้องสมุดโรงเรียน 1ห้อง
6 เทคโนโลยี วิธีการบริหารจัดการส าคัญ - Lease Line Internet, 3BB เชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตภายนอกด้ วยวงจรเช่า โครงการ อินเตอร์เน็ต ความเร็วสูง Lease Line เครือข่าย 3BB ระบบเครือข่าย LAN เชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในหน่วยงานแต่ละอาคารเรียนด้วยสาย Fiber Optic และเชื่อมต่อระบบ LAN ผ่านห้องสืบค้น โดยใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ ระบบเครือข่ายไร้สาย Wireless มีระบบ VLAN ส าหรับให้บริการนักเรียนสืบค้นข้อมูลในบริเวณทุกจุด ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 2 ห้อง ให้บริการจัดการเรียนรู้และสืบค้นข้อมูล จ านวน 80 เครื่อง อัตราส่วนคอมพิวเตอร์/นักเรียน 1/10 กล้องวงจรปิ ด อุปกรณ์ดับเพลิง (5) กฎระเบียบข้อบังคับ (Regulatory Requirements) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมด าเนินงานภายใต้สภาพแวดล้อมด้าน กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่ส าคัญ ดังตาราง ตารางที่ 1ก(5) กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ที่ส าคัญและเกี่ยวข้องกับการด าเนินงานของโรงเรียน การด าเนินงาน กฎระเบียบ ข้อบังคับ ที่ส าคัญและเกี่ยวข้อง 1. ด้านการเรียนการสอน - พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 - ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องนโยบาย และมาตรฐานการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อการศึกษาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2550 2. ด้านการบริหาร งบประมาณ -ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548/ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2544 -ระเบียบส านักงานงบประมาณว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2545 - พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ว่าด้วยก าหนดต าแหน่งวิทย ฐานะ และการให้ได้รับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจ าต าแหน่ง -ระเบียบกระทรวงการคลัง และการประกาศของโรงเรียน ที่ว่าด้วยการเบิกจ่ายต่างๆ - พระราชบัญญัติการจัดซื ้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 3. ด้านการบริหารบุคคล -พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ว่าด้วยการบรรจุและแต่งตั ้ง -พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 -ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย ลูกจ้างประจ าของส่วนราชการ พ.ศ. 2537 และแก้ไขเพิ่มเติม 4. ด้านประกันคุณภาพ การศึกษา - พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553ว่าด้วยมาตรฐาน และการประกันคุณภาพการศึกษา - กฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2553 - ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาขั ้นพื ้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 - ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษาขั ้นพื ้นฐาน เพื่อการประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2559 5. ด้านชีวอนามัยและ ความปลอดภัย - พระราชบัญญัติเรื่องความปลอดภัย ชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการท างาน พ.ศ. 2554 - มีการจัดอบรมการป้ องกันอุบัติเหตุในการใช้รถจักรยานยนต์ - มีการติดตั ้งกล้องวงจรปิ ดภายในและรอบ ๆ โรงเรียน - มีโครงการตรวจสุขภาพประจ าปี ส าหรับบุคลากร
7 ข. ความสัมพันธ์ระดับองค์กร (Organizational Relationships) (1) โครงสร้างองค์กร (Organizational Structure) โครงสร้างการบริหารงานโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม มีองค์ประกอบที่ส าคัญคือ ผู้อ านวยการโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน คณะกรรมการบริหารโรงเรียน คณะกรรมการนิเทศ ติดตามผลการประเมิน คุณภาพ แบ่งการบริหารเป็ น 4 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มบริหารวิชาการ กลุ่มบริหารงานบุคคล กลุ่มบริหารงบประมาณ และกลุ่มบริหารทั่วไป มีรองผู้อ านวยการ หัวหน้ากลุ่มงาน คณะกรรมการแต่ละกลุ่มงาน ก ากับ ควบคุม ดูแล นิเทศ ติดตามและสนับสนุน ในแต่ละสายงานจะประกอบไปด้วยหน่วยงานย่อย ๆ ซึ่งมีทีมงานที่ประกอบด้วย ประธาน คณะกรรมการ รองประธานคณะกรรมการ กรรมการและเลขานุการ ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้วยระบบคุณภาพ PDCA ที่ตอบสนองวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ าประสงค์ และกลยุทธ์ของโรงเรียน โดยมีระบบการประกันคุณภาพ ภายใน และก ากับดูแลโดยคณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐานของโรงเรียน --------------------------- ภาพที่1ข(1)แผนภูมิการบริหารงาน หน่วยงานหรือองค์กรท่ีให้การกา กับดูแล ส่งเสริมและสนับสนุน ประกอบด้วย 1)คณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐานโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม 2)องค์การบริหารส่วนต าบลตา ตุม 3) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลตาตุม 4) เครือข่ายผู้ปกคองและครูโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม 5) สถานีต ารวจภูธรดม 6) วิทยาลัยการอาชีพสังขะ (2) นักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (STUDENTS and STAKEHOLDERS) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมมีเขตพื ้นที่ให้บริการ ครอบคลุม ต.ตาตุม 18 หมู่บ้าน ต าบลด่าน อ าเภอ กาบเชิง 4 หมู่บ้าน และต าบลเทพรักษา จ านวน 2 หมู่บ้าน ซึ่งโรงเรียนได้ส ารวจความต้องการ และความคาดหวัง ที่ส าคัญของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียความต้องการและความคาดหวังที่ส าคัญของกลุ่มนักเรียนและผู้มีส่วน ได้ส่วนเสียต่อหลักสูตรและบริการต่างๆ ผู้อ ำนวยกำรสถำนศึกษำ คณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน คณะกรรมการบริหารโรงเรียน รองผู้อ ำนวยกำรสถำนศึกษำ รองผู้อ ำนวยกำรสถำนศึกษำ ด้ำนกำรบริหำร งำนวิชำกำร ด้ำนกำรบริหำร งำนบุคคล ด้ำนกำรบริหำร งำนทั่วไป ด้ำนกำรบริหำร งำนงบประมำณ
8 ตารางที่ 1ข(2) ความคาดหวังที่ส าคัญของกลุ่มนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อหลักสูตรและบริการต่างๆ นักเรียน/ผู้ปกครอง ความต้องการ/ความคาดหวัง ม.ต้น แผนการเรียนปกติ จบม.3, ศึกษาต่อ ม.ปลาย แผนการเรียนวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ จบม.6, ศึกษาต่อ ม.ปลาย แผนการเรียนภาษาสังคม จบม.6, ศึกษาต่อ, ฝึ กทักษะด้านภาษา ม.ปลาย แผนการเรียนทวิศึกษา จบม.6, ศึกษาต่อ, มีงานท า ผู้ปกครอง นักเรียนเป็ นคนดี, มีการศึกษาต่อ, มีงานท า (3) ผู้ส่งมอบและพันธมิตร (Suppliers and PARTNERS) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม มุ่งจัดการ ศึกษาให้บรรลุตามเป้ าหมายส าคญัคือ นกัเรียนมีผลสมัฤทธิ์ทางการเรียนตามจดุมงุ่หมายของหลกัสตูรแกนกลาง การศึกษาขั ้นพื ้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรุง 2560 และตอบสนองต่อความต้องการของนักเรียนและผู้มี ส่วนได้ส่วนเสียโดยอาศัยความร่วมมือจากผู้ส่งมอบ และพันธมิตร ดังตารางที่ 1ข(3) ตารางที่ 1ข(3) แสดงผู้ส่งมอบและผู้ให้ความร่วมมือทางการศึกษา ผู้ส่งมอบและพันธมิตร กลไกการสื่อสาร กลไกการส่งมอบ บทบาทกลไกการส่งมอบ ผู้ส่งมอบ - บริษัทเช่าสัญญาณ อินเทอร์เน็ต Lease Line Internet, 3BB - โทรศัพท์,จดหมาย, สื่อออนไลน์ - ส่งมอบสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพ เพื่อใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอน - สร้ างเครือข่ายร่วมพัฒนาผู้เรียน - สนับสนุนแหล่งเรียนรู้ - ความรวดเร็ว ความคล่องตัว ในกระบวนการสืบค้นและสร้ าง ความรู้ -ครูต่างชาติ -จัดกิจกรรมการเรียน การสอน -ต้องมีความรู้ -ส่งมอบความรู้ ด้านภาษาให้แก้นักเรียนใน การจัดการเรียนการสอน -สร้ างนวัตกรรม -ให้ความรู้ พันธมิตร - รพ.สต.ตาตุม -สุขภาพ อนามัย - ส่งเสริมสนับสนุนสุขภาพอนามัยนักเรียน - สร้ างเครือข่ายร่วมพัฒนา นักเรียน - สนับสนุนแหล่งเรียนรู้ สถานีต ารวจภูธรดม - คุ้มครอง ป้ องกัน ความปลอดภัย นักเรียน - ส่งเสริมสนับสนุนให้ความร่วมมือด้านความ ปลอดภัย - สร้ างเครือข่ายร่วมพัฒนา นักเรียน - สนับสนุนแหล่งเรียนรู้ -องค์การบริหารส่วนต าบล ตาตุม -การประชุม ความ ร่วมมือ - ความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุน การจัดการศึกษา - สร้ างเครือข่ายร่วมพัฒนา นักเรียน - สนับสนุนแหล่งเรียนรู้ วิทยาลัยการอาชีพสังขะ - โทรศัพท์, จดหมาย, สื่อออนไลน์ - ส่งมอบบริการในการจัดการเรียนการสอน ด้านทักษะอาชีพ - กระบวนการจัดการเรียนการ สอนทักษะอาชีพ ข้อก าหนดที่ส าคัญของห่วงโซ่อุปทาน (Supply-chain) ของโรงเรียน คือ ปัจจัยน าเข้าที่เป็ นทรัพยากร ทางการศึกษา ได้แก่ นักเรียน บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และนโยบายจากผู้ปกครอง โรงเรียน เขตพื ้นที่
9 การศึกษา องค์กรภาครัฐ/เอกชน มีส่วนร่วมในการก าหนดนโยบาย แนวทางด าเนินการเพื่อส่งเสริมและพัฒนา คุณภาพผู้เรียนหรือผลผลิต โรงเรียนใช้กระบวนการบริหาร กระบวนการนิเทศ และกระบวนการจัดการเรียนการ สอน ให้ผู้เรียนหรือผลผลิตมีคุณภาพ เข้าสู่ตลาดแรงงาน กลุ่มโรงเรียนสายอาชีพ กลุ่มโรงเรียนสายสามัญ มหาวิทยาลัยหรือการประกอบอาชีพส่วนตัว 2. สภาวการณ์ขององค์กร : สภาวการณ์เชิงกลยุทธ์(Organizational Situation) ก. สภาพแวดล้อมของการแข่งขัน (Competitive Environment) (1) ล าดับในการแข่งขัน (Competitive Position) สภาพแวดล้อมการแข่งขันโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ได้จัดพัฒนาการศึกษา ในการแข่งขัน ผลการสอบ O-NET ปี การศึกษา 2562- 2564ของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม กับโรงเรียนที่มีการจัด หลักสูตรเดียวกัน ซึ่งโรงเรียนน ามาเป็ นคู่เทียบ คือ โรงเรียนสังขะ ตารางที่ 2ก(1) ผล O-NET ปี การศึกษา 2562 - 2564 ของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม กับโรงเรียนคู่เทียบ โรงเรียน ผลคะแนน O-net ม.3 ผลคะแนน O-net ม.6 ปี62 ปี63 ปี64 ปี62 ปี63 ปี64 โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม 33.49 49.76 34.62 29.47 29.80 29.76 โรงเรียนสังขะ 36.10 36.70 36.56 29.47 31.36 33.09 เมื่อพิจารณาจากตารางพบว่ามีพัฒนาการใกล้เคียงกับโรงเรียนคู่เทียบ โดยโรงเรียนคู่เทียบอยู่ล าดับที่ 2 โรงเรียนขนาดมอญพพิทยาคม อยู่ล าดับที่ 3 จากระดับสหวิทยาเขต 8 ศรีนครอัจจะ (2) การเปลี่ยนแปลงความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness Changes) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมมีการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร ให้มีความหลากหลายตอบสนองสภาวะ แวดล้อมทางสังคม ความต้องการของผู้เรียน และส่งเสริมทักษะของผู้เรียนให้มีคุณภาพสูงขึ ้น เช่น หลักสูตร สถานศึกษา แผนการเรียนทวิศึกษา ที่เน้นการสอนทักษะอาชีพ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เน้นการ สอนวิทยาศาสตร์และคณิศาสตร์ แผนการเรียนศิลป์ ภาษา มีการเรียนเสริมภาษาที่สอง คือภาษาจีน ภาษาเขมร และภาษาอังกฤษ ที่รองรับการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษด่านการค้าช่องจอม(ไทย-กัมพูชา) และความเป็ น มาตรฐานสากล โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมจะมีครูรุ่นใหม่เป็ นจ านวนมาก ประสบการณ์ท างานความเชี่ยวชาญเฉพาะ ด้านค่อนข้างน้อย โรงเรียนได้ส่งเสริมให้ครูอบรม ฝึ กทักษะการท างานกับบุคคลที่มีประสบการณ์ ส่งผลให้ บุลคลากรครูมีโอกาสสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการและความสามารถที่แตกต่าง มีการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกจนเกิดผลดัง ข้อที่ 7.1(ก)
10 โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมมีการสร้ างความเชื่อมั่นกับผู้เรียนและผู้ปกครองผ่านระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียน สร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ในองค์กร พัฒนาแหล่งเรียนรู้หลากหลายภายในโรงเรียน และศึกษาจาก แหล่งเรียนรู้ภายนอกโรงเรียนโดยน าวงจรคุณภาพ PDCA มาใช้ในการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ (3) แหล่งข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ (Comparative Data) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม เทียบเคียงโรงเรียนสังขะ โดยใช้ข้อมูลและสารสนเทศเชิงเปรียบเทียบและ เชิงแข่งขันในด้านการศึกษา จากแหล่งข้อมูลส าคัญ ได้แก่ ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั ้นพื ้นฐาน (สพฐ.) สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ส านักงานเขตพื ้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ข. บริบทเชิงกลยุทธ์ (Strategic Context) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ระบุความท้าทายเชิงกลยุทธ์และความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ที่ส าคัญ ด้านการ จัดการหลักสูตร ด้านปฏิบัติการ ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และด้านทรัพยากรบุคคลของโรงเรียน ดังตารางที่ 2ข ตารางที่ 2ข แสดงความท้าทายเชิงกลยุทธ์ของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ระดับ ความท้าทายเชิงกลยุทธ์ ความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ ด้านการบริหาร จัดการหลักสูตร - การพัฒนาทักษะชีพนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิ ศึกษา) -จ้างครูสอนต่างชาติ - เปิ ดห้องเรียนทวิศึกษา ร่วมมือกับการอาชีพสังขะ - ครูจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสนองความต้องการ นักเรียน ด้านการปฏิบัติการ - การพัฒนาภาษาต่างประเทศเพื่อ การสื่อสาร - ด าเนินโครงการกิจกรรมอาเซียน Soft Power แหล่งท่องเที่ยวใน ท้องถิ่น ด้านความ รับผิดชอบต่อสังคม - กระบวนการจัดการที่มี ประสิทธิภาพ ค่านิยมทางสังคม และพฤติกรรมที่พึงประสงค์เพื่อ พัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของนักเรียน - นักเรียนท าโครงการอย่างสร้างสรรค์และออกบริการให้ความรู้แก่ ชุมชน - บริการสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับหน่วยงานและบุคคลทั่วไป - ท้องถิ่นให้ความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง ด้านทรัพยากร บุคคล - กระบวนการเพิ่มพูนทักษะ บุคลากรที่มีความช านาญด้าน เทคโนโลยี - บุคลากรมีความรู้ ความสามารถตรงกับงานที่รับผิดชอบ - นิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนและปฏิบัติงานเป็ นประจ า และต่อเนื่อง - ได้รับแบบอย่างที่ดี ถูกต้องและถ่ายทอดวัฒนธรรมองค์กรจากรุ่นสู่ รุ่น - ครูต้นแบบการจัดการเรียนรู้
11 ค. ระบบการปรับปรุงผลการด าเนินงาน (Performance Improvement System) ภาพที่ 2ค การบริหารจัดการ โดยใช้ MONPIT Model โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม บริหารจัดการคุณภาพตามวงจร PDCA ภายใต้การบริหารงานเชิง ระบบแบบมีส่วนร่วมที่เรียกว่า MONPIT Model ใช้เป็ นพื ้นฐานในการพัฒนาระบบการบริหารงานของโรงเรียน ทั ้งระบบ และระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษามาตรวจสอบและทบทวนผลการด าเนินงานอย่าง ต่อเนื่อง น าผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ไปตรวจสอบและทบทวนผลการด าเนินงาน ต่อเนื่อง น าผลจากการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน เผยแพร่ให้บุคลากร ผู้ปกครอง นักเรียนและชุมชนได้รับ ทราบ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรับทราบความเคลื่อนไหว ผลการบริหารจัดการการศึกษาของโรงเรียน และน าผล การประเมินไปค้นหาสาเหตุที่ท าให้ผลการด าเนินงานไม่เป็ นไปตามเป้ าหมายที่ก าหนด M = Management (การบริหารจัดการ) O= Opportunity (โอกาส) N= Network (เครือข่าย) P= Practice (ลงมือปฏิบัติ) I= Integration (การบูรณาการ) T= Team (ร่วมมือ)
12 หมวด 1 การน าองค์กร (Leadership) 1.1 การน าองค์กรโดยผู้น าระดับสูง (Senior Leadership) ก. วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม (Vision Mission and Values) (1) วิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม (Vision Mission and Values) ผู้น าระดับสูงได้ด าเนินการก าหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยม และน าสู่การปฏิบัติตามขั ้นตอน ภาพที่ 1.1 ก(1) ภาพที่ 1.1 ก(1) แสดงขั ้นตอนการก าหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยมและการน าสู่การปฏิบัติ วิเคราะห์ปัญหา จุดแข็ง จุดอ่อน อุปสรรค และโอกาส เพ่ือรวบรวมข้อมูลสารสนเทศ วิเคราะห์จากการรับฟัง มีปฏิสัมพันธ์และสังเกตนักเรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้ได้สารสนเทศความ ต้องการ และความคาดหวังประกอบกับการใช้นโยบายของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ สพฐ. และสพม.สุรินทร์ ก าหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่ำนิยม ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ ของโรงเรียน จัดท าแผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการ วิสัยทัศน์ (Vision) ภายในปี 2564 โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมจัดการศึกษาอย่างมี คุณภาพระดับมาตรฐานสากล ก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี นักเรียนมีคุณธรรม จิตสาธารณะ ปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิใจใน ความเป็นไทย มีทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 พันธกิจ (Mission) 1. จัดการศึกษาอย่างทั่วถึงและตรงตามศักยภาพ ตามทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 2. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของชาติและ มาตรฐานสากล 3. ส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการตามระบบประกันคุณภาพ 4. ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตาม หลักสูตร 5. ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อประโยชน์ต่อการจัด การศึกษาและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 6. ส่งเสริมพัฒนาระบบบริหารจัดการที่เน้นการมีส่วนร่วมกระจายอ านาจและความ รับผิดชอบ 7. ส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิใจในความเป็ นไทย ค่านิยม (Values) ท างานเป็ นระบบ มุ่งเน้นความส าเร็จ ด ำเนินกำรติดตำม ตรวจสอบสะท้อนผล ประเมินผล ปรับปรุง พัฒนา
13 ผู้น าระดับสูงมีการศึกษาบริบทและรูปแบบการบริหารของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม มาอย่าง ต่อเนื่อง และน าผลการปฏิบัติมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดด้อย และจุดที่ควรปรับปรุงในการบริหารงานมาบูรณาการ ในการบริหารจัดการ มีการสื่อสารสร้างความเข้าใจ และกระตุ้นให้คณะครูและบุคลากรมีความตระหนักในความ รับผิดชอบที่จะมุ่งพัฒนางานไปสู่คุณภาพที่ดีขึ ้น โดยผู้น าระดับสูงมีแนวทางในการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และ ค่านิยมสู่การปฏิบัติ ดังภาพที่ 1.1 ก(1) ดังนี ้ 1) วิเคราะห์ปัญหา ความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง และผู้มีส่วน ได้ส่วนเสียในความคาดหวังต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนดังภาพที่ 3.1 ก(1) 2) วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค ของการด าเนินงานในโรงเรียน รวมทั ้งนโยบายที่เกี่ยวข้องวิสัยทัศน์ของกระทรวง/สพฐ. และ ข้อเสนอแนะจาก สมศ. มาใช้เป็ นข้อมูล 3) ก าหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม และเป้ าประสงค์ 4) ถ่ายทอด วิสัยทัศน์ของโรงเรียนให้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน สมาคมผู้ปกครอง ครู นักเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง 5) จัดท าแผนกลยุทธ์ของโรงเรียนและแผนปฏิบัติการประจ าปี 6) นิเทศ ก ากับติดตาม ตรวจสอบ และสะท้อนผล 7) ประเมินผลการด าเนินงานเทียบกับเป้ าหมาย และน าผลมาปรับปรุงและพัฒนา หัวหน้างานทุกงาน หัวหน้ากลุ่มสาระฯ คณะครูและบุคลากรทุกคน ร่วมกันก าหนดและทบทวน วิสัยทัศน์ พันธกิจ ในช่วงก่อนปิ ดสิ ้นปี งบประมาณผ่านกระบวนการจัดท ากลยุทธ์ ข้อ 2.1 ก โดยมอบหมายให้ฝ่ าย นโยบายและแผนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลที่จ าเป็ นทั ้งสภาพภายในและสภาพภายนอก ได้จัดประชุม ปฏิบัติการบุคลากรร่วมกันทั ้งโรงเรียน เพื่อวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อโรงเรียนในอนาคต น าผลการทบทวนน าเสนอต่อคณะกรรมการบริหารโรงเรียน กลั่นกรองและให้ความเห็นชอบ ผู้อ านวยการโรงเรียน และรองผู้อ านวยการ ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม แผนกลยุทธ์ ผลการด าเนินงานที่ส าคัญด้วยตนเอง เช่น ผ่านการประชุมผู้ปกครอง และผู้ปกครองเครือข่าย การปฐมนิเทศนักเรียน เพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครองและพันธมิตร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าใจตรงกัน ผลการด าเนินงานให้บรรลุตามเป้ าหมาย ด้วยการจัดท าคู่มือปฏิบัติงานบุคลากร คู่มือประกัน คุณภาพภายใน คู่มือการจัดท าแผนกลยุทธ์ เป็ นต้น และร่วมกันก าหนดตัวชี ้วัด คือ จ านวนรางวัลที่โรงเรียนได้รับ และร้อยละของโครงการที่มีกระบวนการพัฒนาบรรลุเป้ าหมาย ดังตารางที่ 7.4ข (2) การส่งเสริมการประพฤติ ปฏิบัติตามกฎหมาย และการประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม (Promoting Legal and Ethical Behavior) 1. การปฏิบัติตนของผู้บริหารระดับสูงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการประพฤติ ปฏิบัติตามกฎหมาย และการประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม ผู้น าระดับสูงด ารงตนตามระเบียบปฏิบัติของกฎหมาย และหลักจรรยาบรรณของราชการอย่าง เคร่งครัด เป็ นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ส่งเสริมให้บุคลากรท างานอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบและหลัก จริยธรรม ดังต่อไปนี ้ 1.1 ผู้น าระดับสูงได้มีความมุ่งมั่น ทุ่มเทในการปฏิบัติงานตามกฎระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล และมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ มีการเผยแพร่กฎหมาย จรรยาบรรณครู แล ะระเบียบ ข้อบังคับอื่นๆ ให้กับคณะครูและบุคลากรทราบ และเข้าใจ ดังนี ้ 1.กฎระเบียบด้านจัดการเรียนการสอน
14 2.กฎระเบียบด้านบริหารการเงิน พัสดุ 3. กฎระเบียบด้านการบริหารบุคคล 4. กฎระเบียบด้านการประกันคุณภาพ การศึกษา 1.2 มีการถ่ายทอดวัฒนธรรมองค์กรไปสู่การปฏิบัติที่เป็ นรูปธรรม คือ “การท างานเป็ นทีม เต็มพลังความสามารถโดยยึดหลักวิชาการ” 1.3 มุ่งเน้นและให้ความส าคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของบุคลากร และผู้มีส่วนได้ส่วน เสีย เพื่อช่วยกนัขบัเคลื่อนกลยทุธ์ให้บรรลผุลสมัฤทธิ์ตามเป้าหมายที่ก าหนดไว้ โดยเน้นการสื่อสารสองทาง เพื่อ เป็ นการสร้างความเข้าใจไปในทิศทางที่สอดรับกันอย่างเป็ นระบบ รวมทั ้งสามารถเชื่อมโยงบทบาทของแต่ละส่วน งาน เพื่อสนับสนุนการด าเนินงานตามกลยุทธ์ที่ก าหนด ซึ่งมีการด าเนินการ ดังนี ้ 1. การประชุมผู้ปกครอง ภาค เรียนละ 1 ครั ้ง 2. การประชุมเครือข่ายผู้ปกครอง 3. การประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา 4. การประชุมครูและ บุคลากร ประจ าเดือน 5. การประชุมหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้างาน ทุกสัปดาห์ 6. การประชุมตาม ภารกิจ 1.4 การก ากับ ดูแลครู และบุคลากรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย จริยธรรมและมาตรฐานการ ปฏิบัติงานตามต าแหน่ง โดยก าหนดให้มีการนิเทศภายใน ภาคเรียนละอย่างน้อย 1 ครั ้ง การตรวจเยี่ยม/นิเทศกลุ่ม สาระการเรียนรู้/กลุ่มงานบริหาร โดยผู้น าระดับสูงของโรงเรียน 1.5 การประเมินผลการปฏิบัติงานของครู และบุคลากร ปี ละ 2 ครั ้ง 2. ผู้น าระดับสูงสร้ างสภาพแวดล้อมในโรงเรียน เพื่อส่งเสริมการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมาย และการประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม 2.1 สร้างความสัมพันธ์กับครูและบุคลากรอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน 2.2 ก ากับดูแลและส่งเสริมให้มีการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมาย และจรรยาบรรณ 2.3 ประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างเป็ นธรรม โปร่งใส ในรูปแบบคณะกรรมการ โดย กระจายอ านาจการตัดสินใจไปยังกลุ่มผู้น าระดับกลาง ได้แก่ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้างาน และหัวหน้า ระดับชั ้น 2.4 ผู้บริหารระดับสูงด ารงตนตามกฎหมาย และจรรยาบรรณครู อย่างเคร่งครัด เป็ น แบบอย่าง ที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ส่งเสริมครูและบุคลากรที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย และจรรยาบรรณให้ได้รับ การยกย่องเชิดชูและรับรางวัลในระดับต่าง ๆ (3) การสร้างโรงเรียนที่ประสบความส าเร็จ (Creating a Successful Organization) ผู้น าระดับสูงด าเนินการในการท าให้โรงเรียนประสบความส าเร็จในปัจจุบันและอนาคต ดังนี ้ ผู้น าระดับสูงสร้างความเข้าใจกับคณะครู บุคลากรและใช้ นวัตกรรม MONPIT Model ภายใต้ วงจรคุณภาพ PDCA และยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการขับเคลื่อน การพัฒนาคุณภาพการ บริหารงานของโรงเรียน โดยการก าหนดนโยบาย การชี ้แจงท าความเข้าใจ ให้แก่คณะครูและบุคลากรเพื่อน าไป ปฏิบัติและมอบหมายให้มีการประเมินผลการด าเนินงานในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี การศึกษา และรายงาน
15 คณะกรรมการบริหารสถานศึกษาโดยมุ่งความส าเร็จของการบริหารจัดการเป็ น 3 ด้าน คือ 1) ด้านนักเรียน 2) ด้าน บุคลากร 3) ด้านสถานศึกษา ด้านที่ 1 ด้านนักเรียน เสริมสร้ างให้นักเรียนมีความรู้ คู่คุณธรรมตามแนวทางหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนประสบความส าเร็จได้ดีขึ ้น ด้านที่ 2 ด้านบุคลากร ผู้บริหารส่งเสริมภาวะผู้น าครูโดยเปิ ดโอกาสให้ครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ บูรณาการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้ครูได้มีการพัฒนาความรู้ความสามารถอย่างต่อเนื่อง ด้านที่ 3 ด้านสถานศึกษา พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาสู่มาตรฐานสากลโดยมีการพัฒนาหลักสูตร การบริหารจัดการคุณภาพ ตามแนวทางมาตรฐานสากล ข. การสื่อสาร และผลการด าเนินการของโรงเรียน (Communication and Organizational PERFORMANCE) (1) การสื่อสาร (Communication) ผู้น าระดับสูงมีการสื่อสารเพื่อให้บุคลากรทั ้งภายในและภายนอกองค์กรได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร รวมทั ้งร่วมตัดสินใจแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารการจัดการศึกษาของโรงเรียน โดยมีการสื่อสารผ่าน ช่องทางที่หลากหลาย ดังตารางที่ 1.1 ข(1) ตารางที่ 1.1ข(1) แสดงการสื่อสารผ่านช่องทางที่หลากหลาย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ช่องทางการสื่อสาร ความถี่ 1. คณะกรรมการบริหาร 1. การประชุมปกติสามัญ ทุกภาคเรียน 2. การประชุมวิสามัญ เร่วด่วน/ไม่ปกติ 2. คณะกรรมการ สถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน 1. ประชุมปกติ ปี ละครั ้ง 2. การประชุมรายงานประจ าปี ปี ละครั ้ง 3. การประชุมพบปะไม่เป็ นทางการ โทรศัพท์ เว็บไซต์ เวลาที่เหมาะสม 3. ครูและบุคลากร 1. การประชุมก่อนเปิ ด-ปิ ดภาคเรียน พฤษภาคมและตุลาคม 2. การประชุมประจ าเดือน ทุกเดือน 3. การประชุมสาระ/งาน ก าหนดเวลาตามค าสั่ง 4. การประชุมตามโครงการ ก าหนดเวลาตามค าสั่ง 5. การร่วมกิจกรรมชุมชนท้องถิ่น เวลาที่เหมาะสม 4. ผู้ส่งมอบ 1. เว็บไซต์โรงเรียน ทุกช่วงเวลา 2. โทรศัพท์ หนังสือราชการ ทุกวันท าการ 5. ลูกค้า 1. การปฐมนิเทศก่อนเปิ ดภาคเรียน ปี การศึกษาละ 1 ครั ้ง 2. กิจกรรมเคารพธงชาติ ทุกวันท าการ 3. กิจกรรมโฮมรูม/แนะแนว ตามวันที่ก าหนดในตารางเรียน 4. การประชุมผู้ปกครอง ภาคเรียนละ 1 ครั ้ง 5. การเยี่ยมบ้านนักเรียน ปี ละ 2 ครั ้ง 6. หนังสือ/โทรศัพท์ เชิญประชุม ตามวันเวลาที่ก าหนด
16 ในปี 2564 มีการทบทวนกระบวนการ วิธีการสื่อสาร และการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ โดยผู้บริหารโรงเรียนให้ กลุ่มนักเรียน ผู้ปกครองและพันธมิตร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วย Social Media (Line) ที่สะดวกรวดเร็ว ทันต่อ เหตุการณ์ ประหยัด และน าไปจัดท าแผนปฏิบัติการประจ าปี ให้สอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียนและปฏิบัติไปใน ทิศทางเดียวกัน อีกทั ้งได้มอบหมายให้แต่ละฝ่ ายที่จัดท าโครงการต่าง ๆ ให้ก าหนดขั ้นตอนการสื่อสารนโยบาย ดังกล่าวไว้ในวิธีปฏิบัติของแต่ละโครงการ พร้อมทั ้งมีการประเมินผลการรับรู้ การตัดสินใจ เพื่อน าผลการประเมิน ไปปรับปรุงกระบวนการสื่อสาร (2) การท าให้เกิดการปฏิบัติอย่างจริงจัง (Focus on Action) ฝ่ ายบริหารมีกระบวนการสื่อสารและสร้ างสัมพันธ์ที่ดีกับบุคลากรแบบสองทาง เพื่อมุ่งเน้นการ ปฏิบัติงานของครูและบุคลากรผู้ปฏิบัติงานอย่างจริงจัง เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์การปรับปรุงผลการ ด าเนินการและบรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมของโรงเรียน เกิดการสร้างนวัตกรรม และยอมรับความเสี่ยง ที่ ผ่านการประเมินผลได้ ผลเสียอย่างรอบด้าน ท าให้เกิดความสมดุลของคุณค่าระหว่างนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วน เสียมาพิจารณา โดยมีขั ้นตอนในการด าเนินการ ดังนี ้ 1. วางแผนการด าเนินงาน ร่วมกับเครือข่ายผู้ปกครอง ชุมชน ครู และสภานักเรียน 2. ประชุมชี ้แจงให้คณะครู นักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเข้าใจในทิศทางการพัฒนาของ โรงเรียนให้เป็ นไปในทิศทางเดียวกัน และทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาร่วมกัน 3. การก ากับติดตามการปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์ของโรงเรียน และด าเนินงานทุกโครงการ ทุก กิจกรรมที่ก าหนดไว้ในแผนปฏิบัติการประจ าปี มีการทบทวน ประเมินผลอย่างสม ่าเสมอ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้ าประสงค์ของโรงเรียน 4. สอบถามความคิดเห็น หรือวัดความพึงพอใจของผู้รับบริการทุกโครงการ ทุกกิจกรรม โดย สรุปผล และรายงานผลเป็ น SAR ของโรงเรียน 5. ใช้ผลการประเมินการสื่อสารเป็ นข้อมูล ปรับปรุงและพัฒนาผลการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง 6. ทบทวนการสื่อสารของผู้บริหารในการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยมองค์กร ข้อ 1.1 ก (1) กลยุทธ์การด าเนินงาน ข้อ 2.1 ก การน ากลยุทธ์ไปปฏิบัติ ข้อ 2.2 ก การปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติ การ ข้อ 2.2 ข การยกย่องชมเชยและการสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดความผูกพัน ข้อ 5.2 ก ให้บุคลากรได้ทราบทั่ว ทั ้งองค์กรเพื่อให้เกิดผลดีต่อการด าเนินงาน ท าให้บุคลากรมีความมั่นใจและจริงจังในการปฏิบัติงาน และส่งผลต่อ ความส าเร็จในการด าเนินการเชื่อมโยงไปสู่ผลลัพธ์หมวด 7ข้อ 7.4 (1) ผลลัพธ์การท าให้ทุกคนสนใจ ลงมือปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุเป้ าหมายขององค์กรโดยผู้น าระดับสูง และตารางที่ 7.4 ก(1)-2 ร้อยละความพึงพอใจของบุคลากรที่มี ต่อการน าองค์กรของผู้บริหาร ข้อ 7.1 ก ข้อ 7.1 ข ผลลัพธ์ด้านหลักสูตรและกระบวนการ และผลลัพธ์ด้าน ประสิทธิผลของกระบวนการท างาน
17 1.2 การกา กับดูแลองค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคม (Governance and Societal Responsibilities) ก. การกา กับดูแลโรงเรียน (Organizational GOVERNANCE) (1) ระบบการกา กับดูแลโรงเรียน (GOVERNANCE System) ผู้น าระดับสูงด าเนินการก ากับดูแลโรงเรียน โดยก าหนดโครงสร้ างการบริหารงาน ตรวจสอบ ประเมินผลตามล าดับสายงาน ประกอบด้วย กลุ่มบริหารงาน 4 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มบริหารวิชาการ กลุ่ม บริหารงานบุคคล กลุ่มบริหารงบประมาณ และกลุ่มบริหารทั่วไป โดยแต่ละฝ่ ายประสานความร่วมมือในการนิเทศ ก ากับ ติดตาม ทุกงานให้เป็ นไปตามกลยุทธ์ ซึ่งมีการทบทวนข้อมูลที่ส าคัญดังนี ้ 1. วิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์ของ โรงเรียน 2. หลักการก ากับดูแลการปฏิบัติงาน 3. ความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4. ประชุมปฏิบัติการแบบมี ส่วนร่วม ฝ่าย / งานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการ เพื่อพัฒนางาน 5. น าเสนอแผนงานขอความเห็นชอบจากฝ่ ายบริหาร ของโรงเรียน 6. ผู้น าระดับสูงประกาศนโยบายการก ากับดูแลองค์กรที่ดี ต่อครูและบุคลากร เพื่อจัดท าแนวทางการ ปฏิบัติซึ่งให้เกิดผลดีต่อโรงเรียน ด้านจริยธรรมดังตาราง 7.4 ก(4)-1 ผู้น าระดับสูงมีการสรรหากรรมการในการก ากับดูแลโรงเรียนในรูปของคณะกรรมการสถานศึกษา ขั ้นพื ้นฐาน ประกอบด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกจ านวน 15 คน ที่มาจากองค์การบริหาร ปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรศาสนา องค์กรชุมชน ศิษย์เก่า ผู้ปกครอง ครู ด ารงต าแหน่งคราวละ 4 ปี ท าหน้าที่ สนับสนุน และรับรองรายงานการบริหารงานของโรงเรียนในเบื ้องต้น ผู้น าระดับสูง ทั ้ง 4 ฝ่ าย ท าการประชุม ทบทวนและติดตามภาระงานทุกภาคเรียน หรือในกรณีที่มีวาระเร่งด่วนในการบริหารงาน และส่งบันทึกการประชุม รายงานต่อผู้อ านวยการ หัวหน้ากลุ่มสาระ และหัวหน้างาน เมื่อสิ ้นปี การศึกษาครูจัดเอกสารการประเมินตนเอง (SAR) รายงานต่อผู้อ านวยการ คณะกรรมการประกันคุณภาพภายในจัดท ารายงานผลการปฏิบัติงาน (SAR) ของโรงเรียน รายงานต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน สพม.สุรินทร์และ สพฐ. ด าเนินการจัดท ารายงาน เพื่อขอรับการประเมินคุณภาพภายนอกจากส านักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) คณะกรรมการประกันคุณภาพภายใน ประชุมเพื่อชี ้แจงแนวทางและตัวชี ้วัด ใช้ระบบประกัน คุณภาพที่ครอบคลุมระบบงานทั ้งหมด โดยทุกฝ่ ายในโรงเรียนได้น าระบบควบคุมภายในไปใช้ในการเฝ้ าระวัง และ ติดตามการท างานของงาน/ฝ่ าย/กลุ่มงาน และน ามาปรับปรุง เพื่อให้ได้ระบบที่เหมาะสมในการใช้งานและผลการ ด าเนินงานภายใน ซึ่งผู้น าทุกระดับได้รับการนิเทศ ติดตาม การปฏิบัติหน้าที่ทั ้งแบบเป็ นทางการและไม่เป็ น ทางการ เช่น รองผู้อ านวยการทุกคนเดินตรวจอาคารเรียน สังเกตการสอน การมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสาระการ เรียนรู้ นิเทศบุคลากรในกลุ่มสาระการเรียนรู้ (2) การประเมินผลการด าเนินการ (PERFORMANCE Evaluation) การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้น าระดับสูง เพื่อพิจารณาค่าตอบแทนจะอยู่ภายใต้การ ประเมินของคณะกรรมการจากส านักงานเขตพื ้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์เพื่อประเมินประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลของการบริหารงานของผู้น าระดับสูง โดยใช้เครื่องมือพิจารณาเอกสารการประเมินผลการปฏิบัติงาน ตนเอง (SAR) และแผนการจัดการเรียนรู้ และการปฏิบัติงานในหน้าที่พิเศษเปรียบเทียบกับเป้ าหมาย โดย พิจารณาจากปัจจัยหลักคือ 1) ปัจจัยชี ้วัดผลการปฏิบัติงานตามนโยบายและแผนงานส าคัญ 2) ปัจจัยจากผลการ
18 บริหารจดัการคณุภาพการศกึษา โดยเฉพาะผลสมัฤทธิ์ของนกัเรียนพร้อมทงั้พิจารณาการรายงานผลปฏิบตัิงาน รายบุคคล น าผลการประเมินเสนอต่อคณะกรรมการ สพม.สุรินทร์พิจารณาและให้ ความเห็นชอบ โดย ผู้อ านวยการ จะน าผลการประเมินมาพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพของการน าองค์กร ตามภาพที่ 5.1-2 ในปี2564 งานบุคลากร ท าการส ารวจพฤติกรรมบุคลากรตามวัฒนธรรมองค์กร เพื่อใช้เป็ นข้อมูล ในการขับเคลื่อนและก าหนดตัวชี ้วัดที่ชัดเจน และน าจรรยาบรรณวิชาชีพไปใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน เชื่อมโยงกับข้อ 1.1 ก(2) ฝ่ ายบริหารสร้ างเสริมบรรยากาศในองค์กร เพื่อส่งเสริม ก ากับให้บุคลากรในองค์กรมี จริยธรรมส่งผลให้บุคลากรมีความผูกพันกับองค์กร หมวด ข้อ 5.2 ก(2) ด้วยนโยบายองค์กร เป็ นปัจจัยหนึ่งในการ ประเมินความผูกพันของบุคลากร และเชื่อมโยงกับหมวด 1ข้อ 1.1 ข(2) ผู้น าระดับสูงมีส่วนร่วมในการ ยกย่องชมเชยบุคลากร เพื่อส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติงานให้บุคลากรมีความจริงจังในการจัดการ เรียนการสอนและให้บริการนักเรียน ส่งผลต่อความส าเร็จในการด าเนินการเชื่อมโยงไปสู่ผลลัพธ์หมวด 7 ดังตาราง ที่ 7.3 ก(1)-1, 7. 3 ก(1)-2 และ 7.2 ก(1) ข. การประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและมีจริยธรรม (Legal and ETHICAL BEHAVIOR) (1) การประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ (Legal and Regulatory Behavior) ผู้น าระดับสูงน ากฎระเบียบของทางราชการและกระทรวงศึกษาธิการแจ้งคณะครู และบุคลากร รับทราบในที่ประชุมก่อนเปิ ดภาคเรียน การปฐมนิเทศบุคลากรใหม่ และกระบวนการนิเทศของโรงเรียน กรณีที่มี การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบหรือมีระเบียบใหม่ จะแจ้งผ่านสายงานของบุคลากร ทาง facebook และทาง Line และแจ้งในการประชุมประจ าเดือน เพื่อให้บุคลากรรับทราบและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมทั ้งมีการทบทวน ส่งเสริม สนับสนุนให้บุคลากรมีการประพฤติตามกฎระเบียบข้อบังคับอย่างต่อเนื่อง กระบวนการด้านการประพฤติปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ โรงเรียนได้ด าเนินการดังนี ้ 1. จัดท าคู่มือ ระเบียบและมาตรฐานการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษา เช่น หลักสูตรสถานศึกษา คู่มือมาตรฐานจรรยาบรรณวิชาชีพ คู่มือนักเรียน ระเบียบการวัดและประเมินผล 2. จัดบริการทางการศึกษาอื่นๆ ในกรณีที่หลักสูตรและการด าเนินงานของโรงเรียนมีผลกระทบ ทางลบตอ่สงัคม เช่น ผลสมัฤทธิ์ทางการเรียนไม่เป็นไปตามความต้องการ หรือผลการปฏิบตัิงานไม่ได้มาตรฐาน ตามระบบการประกันคุณภาพทางการศึกษา โดยผู้บริหารจะประชุมวิเคราะห์ผลในระดับผู้น าย่อย ระดับครูทั ้ง โรงเรียน แล้วจึงเชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาร่วมวิเคราะห์แนวทางปรับปรุง พัฒนาอย่างต่อเนื่อง 3. โรงเรียนได้คาดการณ์ล่วงหน้าถึงความกังวลของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อหลักสูตร ต่อบริการ การศึกษาของโรงเรียน ที่ส่งผลต่อความต้ องการของผู้ มีส่วนได้ส่วนเสีย ประชุมหารือผู้ เกี่ยวข้ อง ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน ทั ้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนี ้ ศึกษาสภาพปัญหาการใช้หลักสูตร บริการ ด้านการศึกษาอื่นๆ ของโรงเรียน ที่ส่งผลต่อความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประชุมหารือผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน อ านวยการ รองผู้อ านวยการทุกกลุ่มบริหารงาน และคณะกรรมการบริหาร หลักสูตร และวิชาการ วางแผนการแก้ปัญหา และด าเนินการแก้ปัญหาตามสภาพการณ์ที่เกิดขึ ้น โดยใช้หลักการ
19 ร่วมมือ ร่วมใจระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ก ากับติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง และปรับปรุง พัฒนาผลการด าเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ผลการประเมินเป็ นข้อมูลในการพัฒนา 4. ด าเนินการตามนโยบายการพัฒนาหลักสูตร กระตุ้นให้ครูผลิตนักเรียนไปสู่สังคมอย่างมี คุณภาพ การสื่อสารสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองและชุมชน โดยมีขั ้นตอนดังนี ้ ส ารวจความพร้อม ความ ต้องการของชุมชน ว่าต้องการให้เกิดผลผลิตที่เกิดจากโรงเรียนมีคุณลักษณะอย่างไร วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน และความพร้อมภายในองค์กรของตน ด าเนินงานทุกงานในรูปของคณะกรรมการ เช่น คณะกรรมการสถานศึกษา ของโรงเรียน คณะกรรมการสมาคมผู้ปกครอง ศิษย์เก่าและครูโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม คณะกรรมการ เครือข่ายหมู่บ้าน ก ากับติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง และปรับปรุง พัฒนาผลการ ด าเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ผลการประเมินเป็ นข้อมูลในการพัฒนา 5. ใช้กระบวนการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม MONPIT model ในการบริหารจัดการสถานศึกษา ส่งผลให้บุคลากรในองค์กรปฏิบัติงานและปฏิบัติตนตามกฎหมาย และส่งผลต่อความส าเร็จในการด าเนินการ เชื่อมโยงไปสู่ผลัพธ์หมวด 7ข้อ 7.4 ก(3) ผลลัพธ์ที่แสดงถึงประสิทธิผลของการปฏิบัติตามกฎหมาย (2) การประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม (ETHICAL BEHAVIOR) โรงเรียนมีกระบวนการส่งเสริมและสร้ างความมั่นใจว่าปฏิสัมพันธ์ทุกด้านของโรงเรียนมีการ ประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม ด้วยวิธีการดังนี ้ 1) โรงเรียนส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมจริยธรรมและความดีต่าง ๆ เช่น การท าบุญ การบริจาค การเข้าร่วมกิจกรรมในวันส าคัญทางศาสนาและประเพณีต่าง ๆ มีการจัดป้ ายนิเทศให้ ความรู้ในวันส าคัญทางศาสนา ประเพณีต่าง ๆ น ากรอบจรรยาบรรณของข้าราชการมาใช้ปฏิบัติงาน ผู้บริหารได้ ปฏิบัติตนเป็ นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ปฏิบัติงาน 2) โรงเรียนมีการจัดท าระเบียบแนวปฏิบัติให้กับนักเรียน มีการชี ้แจงแนวปฏิบัติต่าง ๆ ในวัน ปฐมนิเทศ และรายงานผลพฤติกรรมให้ผู้ปกครองทราบในวันประชุมผู้ปกครอง 3) ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนและบุคลากรมีจิตบริการอย่างเต็มใจ และเท่าเทียมกัน 4) ยกย่องชมเชยบุคลากรที่เป็ นแบบอย่างที่ดี โดยการให้รางวัลและเกียรติบัตร 5) มีตัวชี ้วัดในเรื่องระเบียบแนวปฏิบัติและขั ้นตอน ในการก ากับดูแลผู้ที่ประพฤติฝ่ าฝื นจริยธรรม หรือกระท าขัดต่อระเบียบข้อบังคับของทางราชการ โดยใช้ตัวชี ้วัดตามระเบียบข้อราชการครู และขั ้นตอนการ ด าเนินการทางวินัยโดยใช้คุณธรรมก่อนจึงด าเนินการทางนิติธรรม ฝ่ ายบริหารเสริมสร้ างบรรยากาศในองค์กร ส่งเสริม ก ากับให้บุคลากรในองค์กรปฏิบัติตาม กฎหมายและมีจริยธรรม ส่งผลให้บุคลากรมีความผูกพันกับองค์กร ข้อ 1.1 ข(1) ข้อ 5.2 ก ด้วยนโยบายองค์กรเป็ น ปัจจัยหนึ่งในการประเมินความผูกพันของบุคลากร และเชื่อมโยง ข้อ 1.2 ข(2) ผู้บริหารมีส่วนในการยกย่องชมเชย บุคลากร เพื่อส่งผลให้เกิดการด าเนินการที่ดี ให้บุคลากรมีความมุ่งมั่นในการจัดการเรียนการสอนและให้บริการ
20 และส่งผลต่อผลลัพธ์ความส าเร็จการด าเนินงานหมวด 7ข้อ 7.3 ก(4) และข้อ 7.4 ก ผลลัพธ์ที่แสดงถึงประสิทธิผล ของการประพฤติอย่างมีจริยธรรม ดังตารางที่ 7.4 ก(4)-1 ตัวส าคัญด้านจริยธรรม ค. ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social Responsibilities) (1) ความผาสุกของสังคม (Societal Well-Being) ผู้น าระดับสูงค านึงถึงความผาสุกของสังคม และประโยชน์ของสังคมด้วยการสร้างค่านิยม ความรับผิดชอบต่อสังคมเข้าเป็ นส่วนหนึ่งในเป้ าประสงค์ ข้อ 2และ 8 นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาสู่มาตรฐานสากล มีทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 และครูและ นักเรียนสามารถปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิใจในความเป็ นไทยและน าแผนการปฏิบัติ การบูรณาการเข้าสู่กระบวนการปฏิบัติในโครงการแผนปฏิบัติการประจ าปี ซึ่งเป็ นกระบวนการหลักที่ท าให้นักเรียน เป็ นคนดีของสังคมและพลโลก โดยในกลยุทธ์ ข้อ 1 และ 2 ยังเน้นให้พัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐาน การศึกษาสู่มาตรฐานสากล และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านคุณธรรมน้อม น าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบนพื ้นฐานความเป็ นไทย ซึ่งผู้น าระดับสูงได้ส่งเสริมให้นักเรียนมีกิจกรรมจิต อาสา ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมขององค์กรทุกภาคส่วน รวมถึงการสร้ างความสมบูรณ์ให้กับสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม โดยใช้กระบวนการส่งเสริมนักเรียนให้เป็ นคนที่มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะที่ ส าคัญตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั ้นพื ้นฐานและเป็ นพลโลกที่ดีตามหลักสูตรเทียบเคียงมาตรฐานสากล หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็ นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์และแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อน าไปสู่ แผนการปฏิบัติงานประจ าวัน คือ การจัดการเรียนการสอนในชั ้นเรียน นอกจากนี ้ยังได้จัดกิจกรรมโครงการ สนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เยาวชนและชุมชนที่ส าคัญอย่างจริงจัง เช่น โครงการค่ายส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม โครงการจิตอาสา บริหารจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ชุมชนสัมพันธ์และ ภาคีเครือข่าย (ส านึกรักษ์บ้านเกิด) สถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ข.พ. โครงการเสริมสร้ าง คุณธรรมจริยธรรมและธรรมมาภิบาลในสถานศึกษา“บริษัทสร้างการดี สาขาโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม” เป็ น ต้น (2) การสนับสนุนชุมชน (Community Support) โรงเรียนเป็ นส่วนหนึ่งของชุมชน การเข้าร่วม ในกิจกรรมที่ส าคัญต่างๆ ของชุมชน โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ได้ด าเนินการสนับสนุนอย่างสม ่าเสมอ ดังนี ้ การดูแลโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม เป็ นโรงเรียนในสหวิทยาเขต 8 ศรีนครอัจจะเป็ นโรงเรียนคู่ พัฒนากับโรงเรียนสังขะ ซึ่งมีหน้าที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับโรงเรียนอื่นในด้านการจัดการเรียนการสอนการวัดผล การ ใช้เทคโนโลยีสมยัใหม่หรือการมีกิจกรรมร่วมกนัในด้านวิชาการและอื่น ๆเชน่การพฒันาผลสมัฤทธิ์ทางการเรียน ให้ความร่วมมือทางวิชาการและด้านเทคโนโลยี โดยได้ร่วมมือกับทางเขตพื ้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ใน การอบรมขยายความรู้และเทคโนโลยีทางการศึกษาให้แก่โรงเรียนในเขตพื ้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ อย่าง ต่อเนื่อง เป็ นสถานที่บริการทางการศึกษา เป็ นแหล่งศึกษาดูงานของโรงเรียนด้านการจัดการศึกษาเพื่อการมีงาน ท าและทักษะอาชีพ (งานจักสาน) พร้อมทั ้งให้บริการ อาคารสถานที่ วัสดุ อุปกรณ์ แก่ชุมชน สม ่าเสมอ ฝ่ ายบริหาร และคณะครูเป็ นวิทยากร และคณะท างานให้กับหน่วยงานอื่น เป็ นสถานที่อบรม สัมมนา ของหน่วยงานต่างๆ ด้าน
21 สังคม น านักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่หน่วยงานอื่นๆ ขอความร่วมมือ เช่น วัด ชุมชนในเขตต าบลตาตุม องค์การบริหารส่วนต าบลตาตุม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต าบลตาตุม ส านักงานเขตพื ้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัด และหน่วยงานอื่นๆ ในระดับประเทศ จัดให้มีการเข้าร่วมกิจกรรม ทางศาสนา กิจกรรมทางสิ่งแวดล้อม กิจกรรมสาธารณประโยชน์ การเป็ นวิทยากร การจัดนิทรรศการ การเผยแพร่ ผลงาน เป็ นต้น ด้านเศรษฐกิจ โรงเรียนสนับสนุนส่งเสริม ฝึ กให้นักเรียนเป็ นผู้ประหยัดและออม อันเป็ นลักษณะที่ ดีของการใช้หลักของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจ าวัน เป็ นลักษณะของพลเมืองที่ดีในอนาคต โดยมี โครงการธนาคารโรงเรียน ธนาคารขยะ และส่งเสริมให้นักเรียนหารายได้ระหว่างเรียนจากการท ากิจกรรมการเรียน เช่น การจัดกิจกรรมตลาดนัดผัก-ปลา หน้า ข.พ. การปลูกพืชผัก การเลี ้ยงปลา การเพาะเห็ด การจักสาน การปลูก ดอกดาวเรือง การปลูกข้าว ท าให้นักเรียนมีทักษะในการประกอบอาชีพเสริมและเพิ่มรายได้จากการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนในโรงเรียน ด้านอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม โรงเรียนได้พัฒนาสภาพแวดล้อมทั ้งภายใน และภายนอกโรงเรียนตามหลักโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา จัดท าหลักสูตรบูรณาการสิ่งแวดล้อมศึกษาและส่งเสริม ให้ครู บุคลากร นักเรียน ชุมชน มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ พัฒนา สิ่งแวดล้อม เช่น กิจกรรมการปลูกป่ า จัดบริบท ของโรงเรียนให้น่าอยู่ ร่มรื่น เอื ้อต่อการเรียน เป็ นที่ยอมรับของหน่วยงานทั ้ง ภาครัฐและเอกชน
22 หมวด 2 กลยุทธ์(Strategy) 2.1 การจัดท ากลยุทธ์(Strategy Development) ก. กระบวนการจัดท ากลยุทธ์ (Strategy Development PROCESS) (1) กระบวนการวางแผนกลยุทธ์(Strategy Planning PROCESS) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมได้มีการจัดท าและปรับปรุงแผนกลยุทธ์ตามสภาพแวดล้อมที่ เปลี่ยนแปลง การจัดท าแบบแผนกลยุทธ์มีขั ้นตอนกระบวนการดังนี ้ 1) วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและ ภายนอกสถานศึกษา 2) วิเคราะห์องค์กร 3) ก าหนดวิสัยทัศน์โรงเรียน พันธกิจ เป้ าประสงค์ 4) ก าหนดกลยุทธ์ 5) ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน 6) ก าหนดแผนปฏิบัติการ 7) ขอความเห็นชอบ จากคณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน 8) น าแผนปฏิบัติการสู่การปฏิบัติ ไม่ผ่าน/ทบทวน ผ่าน/อนุมัติ ไม่ผ่าน/ทบทวน ก าหนดแผนปฏิบัติการ ขอความเห็นชอบ จากคณะกรรมการฯ ก าหนดกลยุทธ์ ขอความเห็นชอบ จากคณะกรรมการฯ ก าหนดวิสัยทัศน์โรงเรียน พันธกิจ เป้ าประสงค์ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกสถานศึกษา วิเคราะห์องค์กร น าแผนปฏิบัติการสู่การปฏิบัติ ภาพที่ 2.1 ก. การจัดท ากลยุทธ์ ผ่ำน/อนุมัติ
23 (2) นวัตกรรม (Innovation) โรงเรียนก าหนดโอกาสเชิงกลยุทธ์ (Strategy Opportunities) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ได้วิเคราะห์ข้อมูลระบบการบริหารจัดการ จุดอ่อนและจุดแข็งของ การบริหารงานในรอบปี ที่ผ่านมา จึงได้พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเป็ น “MONPIT Model” โดยใช้เป็ น นวัตกรรมในการบริหารจัดการ รวมทั ้งการใช้หลักการ SWOT Analysis เพื่อค้นหาจุดเด่น จุดด้อย โอกาสและ อุปสรรคของโรงเรียน เพื่อเป็ นข้อมูลในการก าหนดโอกาสเชิงกลยุทธ์โดยรวบรวมข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับสภาพ ภายใน และสภาพภายนอกของสถานศึกษาต่าง ๆ โอกาสเชิงกลยุทธ์ที่ส าคัญของโรงเรียน คือ ซึ่งมีหลักสูตรดังนี ้ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เปิ ดสอน 1 แผนการเรียน ได้แก่แผนการเรียนปกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เปิ ด สอน 3แผนการเรียน ได้แก่แผนการเรียนวิทย์ – คณิต แผนการเรียนสังคม – ภาษา และแผนการเรียนทวิศึกษา ได้ น าความโดดเด่น วิสัยทัศน์ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ และสมรรถนะหลักของโรงเรียนมาเป็ นตัวขับเคลื่อนในการ บริหารจัดการ (3) การวิเคราะห์และก าหนดกลยุทธ์ (Strategy Considerations) กระบวนการวิเคราะห์และก าหนดกลยุทธ์โรงเรียนมีวิธีการเพื่อให้มั่นใจว่าได้น าปัจจัยส าคัญ ได้แก่ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของโรงเรียนที่ได้มาจากการระดมความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทั ้งภายใน และภายนอกโรงเรียน มาเป็ นข้อมูลในการวิเคราะห์และก าหนดกลยุทธ์ ดังนี ้1) การรวบรวมข้อมูลส าคัญ ประกอบด้วยนโยบายของรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาติพระราชบัญญัติการศึกษา หลักสูตรสถานศึกษา และ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง น ามาจัดท าเป็ นกรอบหลักในก าหนดการทบทวน วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้ าประสงค์ของโรงเรียน 2) วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรคของโรงเรียนโดยท าการ SWOT Analysis เพื่อก าหนดความท้า ทายและความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ 3) วิเคราะห์สัญญาณบ่งชี ้การเปลี่ยนแปลงที่ส าคัญด้านเทคโนโลยีบริการทาง การศึกษา สถิติจ านวนนักเรียนประชากรในชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การวางแผนพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับ การเกษียณอายุราชการ การพัฒนาองค์กรด้านเทคโนโลยี วัฒนธรรมองค์กร มาเป็ นข้อมูลประกอบการวางแผน เพื่อพิจารณาความยั่งยืนขององค์กร 4) การประเมินความสามารถในการปฏิบัติตามกลยุทธ์ในปี การศึกษาที่ผ่าน มา จากรายงานผลด าเนินงานของโครงการต่าง ๆ ของโรงเรียน 5) การน าแนวทางไปปฏิบัติใช้กระบวนการประชุม ปรึกษาหารือหาทางเลือกกลยุทธ์ที่เป็ นโอกาสที่จะประสบความส าเร็จมากที่สุดเพื่อให้บรรลุเป้ าประสงค์ที่ก าหนด ไว้ 6) การปรับปรุงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนา ด าเนินการโดยกลุ่มงานนโยบายและแผนงานทบทวนกระบวนการ และรับฟังข้อคิดเห็นจากนักเรียนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีการตรวจสอบข้อมูลเพื่อความมั่นใจในข้อมูลที่ได้รับ (4) ระบบงานและสมรรถนะหลักของโรงเรียน (Work Systems and Core Competencies) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ได้น านวัตกรรม MONPIT Model มาใช้ในการบริหารคุณภาพ ด้วยกระบวนการ PDCA ในการตัดสินใจเรื่องระบบงาน 2 ระบบ ได้แก่ คือ ระบบหลัก ได้แก่ ระบบงานวิชาการ ระบบสนับสนุน ได้แก่ ระบบงานบริหารทั่วไป ระบบงานบริหารบุคคล และระบบงานบริหารงบประมาณ เพื่อช่วย ให้โรงเรียนบรรลุวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ โรงเรียนมีโครงสร้างการบริหารงานที่ชัดเจนภายใต้องค์กรหลักที่ให้การ
24 สนับสนุนการบริหารจัดการโรงเรียน ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน มีครูและบุคลากรสอนตรงตาม วิชาเอก ตามอัตราก าลัง มีการสรรหาบุคลากรตามความต้องการของโรงเรียนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ สนอง ตามเป้ าประสงค์ นักเรียนได้รับการพัฒนาความเป็ นเลิศทางการเรียนรู้ตามศักยภาพ โดยมีสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย มี การสร้ างเครือข่ายผู้ปกครอง มีส่วนร่วมกับชุมชนในการจัดการศึกษา มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการ แก้ปัญหา โดยยึดการท างานตามสมรรถนะหลัก ประกอบด้วย 1) การท างานร่วมกันเป็ นทีม 2) มุ่งเน้นพัฒนา ประสิทธิภาพ 3) ใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ข. วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ (1) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่ส าคัญ (KEY STRATEGIC OBJECTIVES) คณะกรรมการจัดท าแผนกลยุทธ์ได้น าความท้าทายและความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ และสมรรถนะ หลักของโรงเรียนมาก าหนดกลยุทธ์ 4 กลยุทธ์และวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ตารางที่ 2.1 ข(1) แสดงวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ ตัวชี ้วัดความส าเร็จและเป้ าหมาย ระยะ 3 ปี กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาสู่มาตรฐานสากล และทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป้ าหมายกลยุทธ์ ตัวชี้วัดความส าเร็จ เป้ าหมาย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 1.โรงเรียนมีคุณภาพการศึกษา ตามหลักสูตรมาตรฐานสากล 2.พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มี ศักยภาพเป็ นพลโลก 3.นักเรียนมีความเป็ นเลิศ ทางด้านวิชาการและอัต-ลักษณ์ ของโรงเรียน 4.พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มี ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 1.1 ระดับคุณภาพของโรงเรียนมีหลักสูตร สถานศึกษาที่เทียบเคียงหลักสูตรมาตรฐานสากล 1.2 ระดับคุณภาพที่มีหลักสูตรสถานศึกษาที่บูรณา การหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1.3 ร้อยละของนักเรียนที่มีคุณภาพตามหลักสูตร มาตรฐานสากล 1.4 ร้อยละของผ้เูรียนที่มีผลสมัฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ ในระดับดีขึ ้นไป 1.5ร้อยละของผ้เูรียนที่ผลสมัฤทธิ์ระดบัชาติ(ONET) สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับเขตพื ้นที่ 1.6 ร้อยละของผู้เรียนที่สามรถสอบเข้าศึกษาต่อใน ระดับอุดมศึกษา 1.7 ร้อยละของผลการแข่งขันและการประกวด ทางด้านวิชาการ 1.8 ร้อยละผลงานจากการเข้าร่วมกิจกรรมด้าน ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ กีฬา และนันทนาการ 1.9 ร้อยละของผู้เรียนที่มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษ ที่ 21 อยู่ในระดับดีขึ ้นไป 83 83 55 55 15 55 55 55 55 85 85 57 57 17 57 57 57 57 87 87 60 60 20 60 60 60 60
25 กลยุทธ์ที่ 2. เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านคุณธรรมน้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบนพื ้นฐานความ เป็ นไทย เป้ าหมายกลยุทธ์ ตัวชี้วัดความส าเร็จ เป้ าหมาย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 1.ปลูกฝังนักเรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม ส านึกในความเป็ นไทย 2. ส่งเสริมนักเรียนและ บุคลากร น้อมน าหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ในการ ด าเนินชีวิต 3.ส่งเสริมให้นักเรียนมี คุณลักษณะ 4.สร้างความตระหนักเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกัน ให้นักเรียนห่างไกลสิ่ง เสพติด และอบายมุข อันพึงประสงค์ตามหลักสูตร 5.สร้างความตระหนักแก่นักเรียน ให้รู้คุณค่า ร่วมอนุรักษ์และ พัฒนา สิ่งแวดล้อม 6.ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีสุขภาวะที่ดี และมีสุนทรียภาพ 2.1 ร้อยละของนักเรียนที่มีคุณธรรมจริยธรรมและ ส านึกในความเป็ นไทย 2.2 ร้อยละของนักเรียนและบุคลากรที่น้อมน าหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการด าเนิน ชีวิต 2.3 ร้อยละของนักเรียนที่มี คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตามหลักสูตร 2.4 ร้อยละของนักเรียนที่มี ความตระหนัก เสริมสร้าง ภูมิคุ้มกัน ให้ห่างไกลสิ่ง เสพติด และ อบายมุข 2.5 ร้อยละของนักเรียน ตระหนักรู้คุณค่า ร่วม อนุรักษ์และพัฒนา สิ่งแวดล้อม 2.6 ร้อยละของนักเรียนที่มีสุขภาวะและสุนทรียภาพ 2.7 ร้อยละของนักเรียนที่ป้ องกันตนเองจากสิ่งเสพ ติด อบายมุข และ หลีกเลี่ยงสภาวะที่มีความ เสี่ยง ต่อความรุนแรง โรคภัย อุบัติเหตุและ ปัญหาทางเพศ 83 83 83 85 85 85 85 85 85 85 87 87 87 87 87 87 90 90 90 90 90 กลยุทธ์ที่ 3. พัฒนาคุณภาพข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป้ าหมายกลยุทธ์ ตัวชี้วัดความส าเร็จ เป้ าหมาย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 1.โรงเรียนมีครูและบุคลากรที่ สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ อย่างมีคุณภาพ 3.1 ร้อยละของครูที่เข้ารับการอบรม สัมมนาและ ศึกษาดูงาน 3.2 ร้อยละของครูที่การจัดท าผลงานเพื่อพัฒนา ตนเอง 3.3 ร้อยละของครูที่ผลิตสื่อเทคโนโลยีที่ใช้ในการ จัดการเรียนรู้ 3.4 ร้อยละของครูที่จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน เป็ นส าคัญ และมีการบูรณาการตามหลักปรัชญาขอ เศรษฐกิจพอเพียง 90 90 90 90 95 95 95 95 100 100 100 100
26 เป้ าหมายกลยุทธ์ ตัวชี้วัดความส าเร็จ เป้ าหมาย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 3.5 ระดับคุณภาพที่มีการนิเทศ ติดตามอย่าง เป็ นระบบ และน าผลไปพัฒนาการเรียนการ สอน 3.6 ระดับคุณภาพของระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียนที่มีประสิทธิภาพ 3.7ระดับคุณภาพที่มีการ สนับสนุนและ ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามี ขวัญก าลังใจในการปฏิบัติงาน 90 87 90 95 90 95 100 95 100 กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานศึกษา เป้ าหมายกลยุทธ์ ตัวชี้วัดความส าเร็จ เป้ าหมาย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 1.โรงเรียนมีการพัฒนา องค์กรด้านการบริหาจัดการ อย่างมีประสิทธิภาพ 1.ระดับคุณภาพของโครงสร้าง การบริหาร โรงเรียน 2.ระดับคุณภาพของแผนกลยุทธ์และ แผนปฏิบัติการประจ าปี การศึกษา 3.ระดับคุณภาพของการประกัน คุณภาพ ภายในสถานศึกษา ตามที่ก าหนดใน กฎกระทรวง 4.ร้อยละของความพึงพอใจต่อ การบริหาร จัดการของโรงเรียน และการบริการผู้มีส่วนได้ เสีย 5.ร้อยละของการมีวัสดุ อุปกรณ์ส านักงานที่มี การด าเนินงานประสิทธิภาพและเพียงพอต่อ การด าเนินงาน 90 90 90 85 85 95 95 95 87 87 100 100 100 90 90
27 เป้ าหมายกลยุทธ์ ตัวชี้วัดความส าเร็จ เป้ าหมาย ปี 2562 ปี 2563 ปี 2564 2.โรงเรียนมีอาคารสถานที่ ภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมที่ สวยงามมีบรรยากาศ เหมาะสม และเอื ้อต่อการ เรียนรู้และการบริหารจัดการ 1.ระดับคุณภาพของแหล่ง เรียนรู้ในโรงเรียนที่ หลากหลาย เช่น โรงผลิตน ้าดื่ม โรงผลิตปุ๋ ย หมักจากใบไม้ เรือนเพาะช า เกษตรทฤษฎี ใหม่ ห้อง จริยธรรม ห้องคอมพิวเตอร์ 2.ระดับคุณภาพอาคารสถานที่ ภูมิทัศน์และ สภาพแวดล้อม สะอาด ร่มรื่น สวยงาม ที่เอื ้อ ต่อการเรียนรู้ได้อย่างเต็ม ศักยภาพ 3.ระดับคุณภาพของห้องปฏิบัติการพร้อม อุปกรณ์ที่ ทันสมัย เช่น ห้องเรียนมัลติมีเดีย กลุ่มสาระ ภาษาต่างประเทศ ห้องสืบค้น ข้อมูล ห้องปฏิบัติการทางคณิตศาสตร์ 85 85 85 87 87 87 90 90 90 4.ระดับคุณภาพของห้องน ้า ห้องส้วม ที่ สะอาด ปลอดภัย สวยงามและเพียงพอ 5.ระดับคุณภาพของกล้องวงจรปิ ดเพื่อความ ปลอดภัย 85 85 87 87 90 90 3.โรงเรียนมีการจัดระบบ สารสนเทศและการสื่อสารที่ เอื ้อต่อการเรียนรู้และการ บริหารจัดการ 1.ระดับคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศที่ ถูกต้อง เป็ น ปัจจุบันและเพียงพอ เพื่อการ สืบค้น การพัฒนาองค์กร การบริหารจัดการ และพัฒนาผู้เรียน 2. ร้อยละของความพึงพอในในการบริการ สารสนเทศและการสื่อสารที่เอื ้อต่อการเรียนรู้ และการบริหารจัดการ 85 85 87 87 90 90 4. โรงเรียนมีเครือข่าย พัฒนาการ เรียนรู้และ ส่งเสริมความร่วมมือ ของ ผู้ปกครอง ชุมชนและองค์กร อื่นๆในการจัดการศึกษาเพื่อ พัฒนาผู้เรียน 1.ระดับคุณภาพของเครือข่าย พัฒนาการ เรียนรู้ เช่น การท า MOU กับหน่วยงาน ต่างๆ 2.ระดับคุณภาพของความ ร่วมมือระหว่าง สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชน เช่น คณะกรรมการสถานศึกษา เครือข่าย ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และองค์กรอื่นๆในการจัด การศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียน 85 85 87 87 90 90
28 2.2 การน ากลยุทธ์ไปปฏิบัติ (Strategy Implementation) ก. การจัดทา แผนปฏิบัตกิารและการถ่ายทอดสู่การปฏิบัติ(Action Plan Development and Deployment) (1) การจัดท าแผนปฏิบัติการ (Action Plan Development) โรงเรียนจัดท าแผนปฏิบัติการประจ าปี ให้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ าประสงค์ และกล ยุทธ์ของโรงเรียน ซึ่งเกิดจากกระบวนการจัดท ากลยุทธ์ของโรงเรียน (แผนระยะยาว) โดยด าเนินการจัดท า แผนปฏิบัติการประจ าปี ดังนี ้ ภาพที่ 2.2 ก(1) การจัดท าแผนปฏิบัติการประจ าปี โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม (2) การน าแผนปฏิบัติการไปปฏิบัติ (Action Plan Implementation) ภายหลังจัดท าแผนปฏิบัติการฉบับสมบูรณ์เสร็จแล้ว ผู้อ านวยการโรงเรียนได้มอบหมายให้รอง ผู้ อ านวยการโรงเรี ยนเป็ นผู้ ให้ ค าปรึ กษา เสนอแนะ ขับเคลื่อนภาระงานต่าง ๆ ผ่านหัวหน้ างา น หัวหน้ ากลุ่มสาระ งานแผนงานและงบประมาณ เผยแพร่แผนปฏิบัติการแก่กลุ่มงานทุกกลุ่มในโรงเรียน พร้ อมก าหนดกรอบการติดตาม ก ากับ และประเมินผล เพื่อให้ ทุกกลุ่มงานถือปฏิบัติและรายงานผลต่อ ผ่ำน ไม่ผ่าน คณะกรรมการ พิจารณา แผนปฏิบัติการสู่การปฏิบัติ แผนกลยุทธ์ ก าหนดผู้รับผิดชอบ ก าหนดตัวชี ้วัดและเป้ าหมาย ตัวชี ้วัด แผนปฏิบัติการประจ าปี ประเมินผลการด าเนินงาน
29 ผู้บังคับบัญชาตามสายงานโดยโรงเรียนได้ด าเนินการปรับแผนกลยุทธ์ลงสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้ าหมายด้วย แนวทางการด าเนินการ ดังนี ้ 2.1) ผู้รับผิดชอบ กิจกรรม/โครงการ/งาน ขออนุมัติในการด าเนินงานจากทางโรงเรียนตาม ขั ้นตอนที่ทางโรงเรียนก าหนดโดยผ่านกลุ่ม/ฝ่ ายที่รับผิดชอบ/เจ้าหน้าที่พัสดุ/ฝ่ ายแผนงาน/รองผู้อ านวยการและ ผู้อ านวยการพิจารณาอนุมัติให้การด าเนินงานตามงบประมาณที่อนุมัติ 2.2) ก ากับติดตามและตรวจสอบการด าเนินการตามโครงการ 2.3) ผู้รับผิดชอบ กิจกรรม/โครงการ/งาน รายงานการด าเนินงานตามโครงการที่ด าเนินงาน เรียบร้อยแล้วเมื่อสิ ้นปี งบประมาณ 2.4) ประเมินผลและสรุป การด าเนินงานโครงการ เพื่อใช้เป็ นข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาในปี ต่อไป (3) การจัดสรรทรัพยากร (Resource Allocation) โรงเรียนได้จัดท างบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามกลยุทธ์ของโรงเรียน ที่สอดคล้องกับพันธกิจ และเป้ าประสงค์ งบประมาณที่โรงเรียนได้รับจัดสรร คือ งบประมาณที่ได้รับจากภาครัฐ ได้แก่ เงินอุดหนุน และเงิน นอกงบประมาณที่ได้จากการระดมทรัพยากร โรงเรียนด าเนินการจัดสรรทรัพยากร ดังนี ้ 3.1) ประชุมคณะกรรมการจัดท าแผนปฏิบัติการ พิจารณาจัดสรรงบประมาณ และข้อสรุปใน การจัดงบประมาณ คือ ตามกลยุทธ์ ร้อยละ 70 งานประจ าร้อยละ 20 ส ารองจ่าย ร้อยละ 10 3.2) ประชุมคณะกรรมการจัดท าแผนปฏิบัติการ เพื่อจัดสรรงบประมาณ โดยพิจารณาจาก แผนงาน / โครงการ และเงินงบประมาณที่ได้รับ 3.3) ก าหนดวงเงินในการใช้จ่ายแต่ละภาคเรียน เพื่อการบริหารงบประมาณที่ได้รับ 3.4) หัวหน้าฝ่ าย หัวหน้างาน และหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ประชุมพิจารณางบประมาณที่ ได้รับจัดสรร เพื่อวางแผนการใช้จ่าย 3.5) การก ากับ ติดตามการด าเนินงานโครงการให้เป็ นไปตามแผนปฏิบัติการ และควบคุม การ จัดซื ้อ จัดจ้างให้เป็ นไปตามระเบียบของทางราชการ 3.6) เมื่อด าเนินการตามแผนงาน / โครงการเสร็จสิ ้นแล้ว ต้องมีการรายงานผลการด าเนินงาน ข้อเสนอแนะ ปัญหา อุปสรรค 3.7) สรุปผลการด าเนินงานแผนงาน / โครงการทั ้งโรงเรียน เพื่อใช้เป็ นข้อมูลในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาในปี ต่อไป (4) แผนด้านบุคลากร (Workforce Plans) โรงเรียนมีการส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรเข้าร่วมการพัฒนาตนเอง เช่น การอบรม สัมมนา ศึกษาต่อ ศึกษาดูงาน พัฒนาศักยภาพตามความต้องการของบุคลากรและพัฒนางานในหน้าที่โดยโครงการที่ โรงเรียนและหน่วยงานต่าง ๆ จัดขึ ้น โรงเรียนได้ด าเนินการโครงการพัฒนาครูและบุคลากร อย่างน้อยปี ละ 2 ครั ้ง
30 สร้างขวัญและก าลังใจครู โดยส่งเสริมให้ครูและบุคลากรได้รับการพัฒนา เพื่อเลื่อนวิทยฐานะที่สูงขึ ้น มีสวัสดิการ ช่วยเหลือครูและบุคลากร มีการคัดสรรบุคลากรเข้าสู่ภาระงานต่าง ๆ ตามความสมัครใจ ความถนัด ความรู้ ความสามารถ มีการนิเทศ ก ากับ ติดตามและการประเมินผลการท างาน ให้ขวัญก าลังใจในการปฏิบัติงาน เพื่อให้ การปฏิบัติงานบรรลุผลส าเร็จตามแผนกลยุทธ์ที่ก าหนดไว้ และมีการถ่ายโอนประสบการณ์ ความรู้ และทักษะใน งานที่รับผิดชอบให้เพื่อนร่วมงาน เพื่อให้มีผู้ที่สามารถปฏิบัติงานแทน ในด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอน จัดครูเข้าสอนตรงตามวุฒิความรู้ความสามารถ (5) ตัววัดผลการด าเนินการ (Performance Measures) โรงเรียนมีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการโดยใช้ เครื่องมือการตรวจสอบที่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถสรุปผลการด าเนินงาน ตามรายละเอียดที่ปรากฏใน รายงานประเมินตนเองประจ าปี ของโรงเรียน (SAR) มีวิธีการด าเนินการดังนี ้ 5.1) ผู้บริหารสถานศึกษาสร้ างความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการจัดการศึกษาของ โรงเรียน ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน ชุมชน ผู้ปกครอง ครู และนักเรียน 5.2) ประสานงานกับทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันสนับสนุน และระดมทรัพยากรในการจัด การศึกษาแบบมีส่วนร่วม 5.3) จัดท าแผนงาน /โครงการให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ าประสงค์ และกลยุทธ์ของ โรงเรียน โดยมีการก าหนดผู้รับผิดชอบ และระยะเวลาในการด าเนินการที่ชัดเจน 5.4) ก ากับ ติดตามความก้าวหน้า การด าเนินงาน/การใช้จ่ายงบประมาณให้เหมาะสมและมี ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการด าเนินงาน 5.5) วิเคราะห์ผลการด าเนินงานและงบประมาณ ท าให้ทราบผลความคุ้มค่าในการลงทุน 5.6) จัดท ารายงานการประเมินตนเองประจ าปี (SAR) 5.7) เสนอผลการประเมินตนเองประจ าปี (SAR) ต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั ้นพื ้นฐาน 5.8) เผยแพร่ผลการประเมินตนเองประจ าปี (SAR) โรงเรียนได้น าผลการประเมินกิจกรรม/โครงการ ตามแผนปฏิบัติการประจ าปี ของโรงเรียนไปใช้ ในการปรับปรุงพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานศึกษามีผลการด าเนินงานบรรลุเป้ าหมายโดยใช้ระบบการ บริหารตาม MONPIT Model ท าให้โรงเรียนมีการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ มีผลงานเป็ นที่ประจักษ์ได้รับการ ยอมรับจากผู้ปกครอง ชุมชน สังคม และหน่วยงานต่างๆ (6) การคาดการณ์ผลการด าเนินการ (Performance Projections) โรงเรียนได้จัดท าแผนกลยุทธ์ ระยะ 4 ปี โดยมีการก าหนดเป้ าหมายของแต่ละตัวชี ้วัดไว้อย่าง ชัดเจน และคาดการณ์ว่าจะสามารถด าเนินการได้ตามเป้าหมายที่ก าหนด เพราะมีการเตรียมการและประเมิน ความพร้อมก่อนด าเนินกิจกรรมอย่างเป็ นระบบ และมีการประเมินตัวชี ้วัดตามกรอบระยะเวลาการตรวจสอบและ
31 ประเมินระบบประกันคุณภาพปี ละ 1 ครั ้ง ส่วนการคาดการณ์ผลการด าเนินการตามกรอบของเวลาของการ วางแผนทั ้งระยะสั ้นและระยะยาว มีวิธีการคาดการณ์ ดังนี ้ 6.1) การคาดการณ์ผลก่อนการด าเนินการ ใช้วิธีศึกษาข้อมูลและสารสนเทศที่มีอยู่เดิม น ามาใช้ในการเตรียมการ และวางแผนการด าเนินงาน โดยผู้บริหารใช้วิธีพูดคุยและสอบถามบุคลากรถึงปัญหา อุปสรรค แนวทางการแก้ไขและป้ องกันปัญหาที่ยังไม่เกิด หรืออาจเกิดซ ้า 6.2) การคาดการณ์ผลขณะด าเนินการ ผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ าย รวมทั ้งผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ เป็ นผู้ด าเนินงานมีการพบปะประชุมร่วมกันเพื่อตรวจสอบการด าเนินงานเป็ นระยะ ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สามารถ คาดการณ์ความเป็ นไปได้ของผลการด าเนินงาน รวมทั ้งสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในระหว่างการด าเนินงานได้ อย่างทันท่วงที 6.3) การคาดการณ์ผลหลังการด าเนินการ ผู้บริหารและบุคลากร รวมถึงคณะท างานมีการสรุป และรายงานผลการด าเนินงานให้รับทราบ อภิปรายข้อดี-ข้อด้อย จุดอ่อน จุดแข็ง ปัญหา อุปสรรค และร่วมกันคิด หาแนวทางป้ องกัน ปรับปรุง และพัฒนาการด าเนินงานไว้ล่วงหน้า ข. การปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการ (Action Plan Modification) แผนปฏิบัติการของโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม โดยปกติจะด าเนินการโดยค านึงถึงภาวะฉุกเฉินใน กรณีที่เกิดเหตุการณ์/สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน รวมทั ้งนโยบายเร่งด่วน โดยมีแนวทางปฏิบัติในการ ด าเนินการ คือ โรงเรียนจะประชุมหารือกับคณะกรรมการบริหารโรงเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการ ด าเนินงานร่วมกัน ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติการโดยใช้งบส ารองจ่ายในการด าเนินงาน ตลอดจนบริหาร จัดการทรัพยากรบุคคลและเวลา เพื่อทุ่มเทให้กับการแก้ไขปัญหา/สถานการณ์ที่เกิดขึ ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ทันท่วงทีและมีการติดตามผลภายหลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนแผน พร้อมทั ้งรายงานผลการด าเนินงานการแก้ไข ปัญหาหรือการปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินในกรณีที่เกิดเหตุการณ์/สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนให้ผู้บริหารได้ทราบ
32 หมวด 3 นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Student and Stakeholder) 3.1 เสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (VOICE OF THE STUDENT and Stakeholder) ก. การรับฟังนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (STUDENT and Stakeholder Listening) (1) นักเรียนปัจจุบันและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Current STUDENT and Stakeholders) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมมีกระบวนการรับฟัง “เสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ด้วย นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็ นบุคคลที่ส าคัญที่สุด ดังนี ้1) ฟังความคิดเห็นเพื่อจะได้จัดกิจกรรมส่งเสริมที่ ตอบสนองความต้องการความสนใจ สอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียน 2) ก าหนดช่องทางการรับฟังเป็ นการ สื่อสารทางเดียว และช่องทางที่เหมาะกับนักเรียน กลุ่มนักเรียน และส่วนตลาดที่แตกต่างกัน 3) วิเคราะห์ความ ต้องการของนักเรียน โดยโรงเรียนมอบหมายให้กลุ่มบริหารงานบุคคล กลุ่มบริหารงานงบประมาณ และงานกิจการ นักเรียน 4) กลุ่มที่ได้รับมอบหมายจากข้อ 3 เป็ นผู้รับผิดชอบหลักในการดูแลกระบวนการรับฟังเสียงของนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 5) ติดตามผลการด าเนินงานและรายงานสรุปผล ทบทวนช่องทางการรับฟังเสียงของ นักเรียน 6) การประเมินช่องทางการรับฟังเสียงจากทุกช่องทาง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตาม 1 ข(1) เสร็จแล้วน า ข้อมูลมาปรับปรุงพัฒนาโดยใช้นวัตกรรมบริหารด้วย MONPIT Model เพื่อให้การด าเนินงานประสบผลส าเร็จได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ตามภาพ 3.1 ก(1) ภาพที่ 3.1 ก(1) การรับฟังเสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้เสีย โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม มีการรับฟังเสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านช่องทาง ต่างๆ เช่น การส ารวจ การสัมภาษณ์ Line โทรศัพท์ เป็ นต้น หลังจากนั ้นท าการวิเคราะห์จ าแนก พิจารณา ด าเนินการ รวบรวมความต้องการ รายงานผู้เกี่ยวข้องและด าเนินการทบทวน น าความต้องการและความคาดหวัง MONPIT Model -ส ารวจ -สัมภาษณ์ -สอบถาม -จดหมาย -ประชุมผู้ปกครอง -เยี่ยมบ้านนักเรียน -Line -Facebook -Google form -e-mail -โทรศัพท์ -กล่องรับฟังความคิดเห็น การรับฟังเสียง รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์จ าแนก จัดล าดับ ความส าคัญ รายงานกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องและ คณะกรมการบริหารโรงเรียน รวบรวมสารสนเทศความ ต้องการ ความคาดหวัง -พิจารณาด าเนินการ -ส่งต่อกลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง เสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้เสีย ทบทวนกระบวนการ/ช่องทาง
33 ดังกล่าวไปปรับปรุงแผนกลยุทธ์ตามภาพที่ 2.1ก(1) และน าไปใช้ในกระบวนการจัดการกับความความสัมพันธ์ โดยมีวิธีรับฟังนักเรียนในปัจจุบันและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ดังตารางที่ 3.1 ก(1) ตารางที่ 3.1 ก(1) วิธีการรับฟังนักเรียนในปัจจุบันและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประเด็นส าคัญ ในการรับฟัง วิธีการรับฟัง กระบวนการด าเนินงาน เป้ าหมายของการรับฟัง ผู้รับผิดชอบ การพัฒนา หลักสูตรและ การจัดการเรียน การสอน -ส ารวจความคิดเห็นของนักเรียน ผ่านวิธีการต่างๆ เช่นการการ สัมภาษณ์ การสอบถาม การสังเกต การประเมินความพึง พอใจ -รับฟังความคิดเห็นด้าน คุณลักษณะของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนที่มีนักเรียน อาศัยอยู่การประชุม คณะกรรมการนักเรียน -รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จากการรับฟังเสียงและน ามา จัดล าดับความส าคัญ -หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ น าไปพฒันาผลสมัฤทธิ์ทางการ เรียนรู้ คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ การอ่าน คิดวิเคราะห์ -ครูผู้สอนพัฒนาหลักสูตร -ครูผู้สอนประมวลผลตาม เป้ าหมาย -หลักสูตรตรงกับความต้องการ ของนักเรียน -ผลสมัฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียนเป็ นไปตามเกณฑ์ -กิจกรรมการเรียนการสอน เป็ นไปตามความต้องการของ นักเรียน -คุณลักษณะของนักเรียนเป็ นไป ตามเกณฑ์ กลุ่มงาน บริหารงาน วิชาการ -งานพัฒนา หลักสูตร -การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ -การพัฒนาและ ส่งเสริมทักษะ วิชาการ ระบบดูแล ช่วยเหลือ นักเรียน -รับฟังเสียงชองนักเรียนและ จัดเก็บข้อมูลผ่านกิจกรรมการคัด กรองและรู้จักนักเรียนเป็ น รายบุคคล/ กิจกรรมเยี่ยมบ้าน นักเรียน/ ผ่านแบบบันทึกการแก้ไข พฤติกรรมนักเรียน/ ผ่านช่องทาง ต่างๆ เช่น กล่องรับฟังความ คิดเห็น line ประจ าห้องเรียน แบบ ประเมินความพึงพอใจ -รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จากการรับฟังเสียงและน ามา จัดล าดับความส าคัญ -ครูประจ าชั ้นน าข้อมูลจากการ คัดกรองมาติดตามนักเรียนเป็น รายบุคคล ชี ้แจงให้ผู้ปกครองมี ส่วนร่วมพร้อมบันทึกผล -ประเมินพัฒนาการนักเรียนเป็ น รายบุคคล -เก็บรวบรวมข้อมูลเบื ้องต้นที่ ตรงกับความต้องการความ คาดหวังและข้อมูลที่เป็ นจริง ของนักเรียนและผู้ได้เสียอย่าง เป็ นระบบ -น าข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้จริง -สามารถป้ องกันไม่ให้เกิด ปัญหาและความเสี่ยงที่เกิด ขึ ้นกับนักเรียนและสามารถ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ ้นได้อย่าง ทันท่วงที กลุ่มงาน บริหารงานทั่วไป -งานกิจการ นักเรียน การสนับสนุน ด้าน สภาพแวดล้อม ที่เอื ้อต่อการ เรียนรู้ -จัดโครงการที่เกี่ยวข้องกับการ พัฒนาอาคารสถานที่ ที่ สนับสนุนการเรียนรู้เช่นป้ ายนิเทศ ห้องสมุดมีชีวิต ห้องปฏิบัติการ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ -จัดโครงการสัปดาห์วัน วิทยาศาสตร์ วันสุนทรภู่ วันคริสต์ มาศ วันงดสูบบุหรี่โลกมีการรับฟัง ความคิดเห็นด้านความพึงพอใจ และข้อเสนอแนะจากนักเรียน -ส ารวจความคิดเห็นของนักเรียน และผู้รับบริการ ผ่านวิธีการ พูดคุย สอบถาม ประเมินความพึง พอใจ การสังเกตและกล่องแสดง ความคิดเห็นข้อร้องเรียน -รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล และจัดล าดับความส าคัญ -หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงาน ทั่วไปวางแผนพัฒนา -ก าหนดผู้รับผิดชอบและ ระยะเวลาในการด าเนินการ -พัฒนาห้องปฏิบัติการต่างๆ -สอบถามความพึงพอใจ -ปรับปรุงพัฒนา -รายงานผล -รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จากการรับฟังเสียงน ามา จัดล าดับความส าคัญ -ครูผู้ด าเนินงานปรับปรุงผลการ ด าเนินงาน -เพื่อส่งเสริมคุณภาพการเรียนรู้ -เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขัน ของนักเรียนและโรงเรียน -เป็ นช่องทางการสร้าง ความสัมพันธ์และความเข้าใจ ระหว่างครู นักเรียนและผู้มีส่วน ได้เสีย กลุ่มบริหารงาน ทั่วไป -งานอาคาร สถานที่ กลุ่มบริหารงาน วิชาการ -การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ -การพัฒนาและ ส่งเสริมทักษะ วิชาการ
34 ตารางที่ 3.1 ก(1) วิธีการรับฟังนักเรียนในปัจจุบันและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (ต่อ) ประเด็นส าคัญ ในการรับฟัง วิธีการรับฟัง กระบวนการด าเนินงาน เป้ าหมายของการรับฟัง ผู้รับผิดชอบ -รายงานผลการด าเนินงานให้ ฝ่ ายบริหารรับทราบ -น าผลไปพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ ้น ในปี ต่อไป การสนับสนุน และการ ให้บริการด้าน อื่นๆ เช่น การขอ เอกสารทาง วิชาการ การท า ธุรกรรมอื่นๆ -ส ารวจความคิดเห็นของนักเรียน และผู้รับบริการ ผ่านวิธีพูดคุย สอบถาม ประเมินความพึงพอใจ การสังเกต และกล่องแสดงความ คิดเห็นข้อร้องเรียน -รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จากการรับฟังเสียงและน ามา จัดล าดับความส าคัญ -ครูผู้ด าเนินงานปรับปรุงผลการ ให้บริการ -รายงานผลการด าเนินงานให้ ฝ่ ายบริหารรับทราบ -น าผลไปพัฒนาให้ดีขึ ้นในครั ้ง ต่อไป -เพื่อให้เกิดความคล่องตัวใน การด าเนินงาน งานวิชาการ -การวัดผล ประเมินผล -งานทะเบียน งานงบประมาณ -งานแผนงานและ นโยบาย -งานบริหาร การเงินและบัญชี การรับฟังเสียงของนักเรียนในปัจจุบันและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่ละกลุ่มงานที่รับผิดชอบได้ใช้สื่อ สังคมออนไลน์และเทคโนโลยี เว็บไซต์ของโรงเรียน เป็ นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการจัด การศึกษารวมถึงข้อร้องเรียนเพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึก (2) นักเรียนในอนาคตและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Potential STUDENT and Stakeholders) โรงเรียนโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม มีวิธีในการรับฟังเสียงของนักเรียนในอนาคตและผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียเพื่อให้ได้ข้อมูลสารสนเทศที่น าไปสู่การปฏิบัติในปัจจุบันและเพื่อวางแผนในอนาคตเกี่ยวกับการพัฒนา ด้านหลักสูตร บริการที่ส่งเสริมการเรียนรู้และบริการศึกษาอื่นๆ โดยก าหนดประเด็นส าคัญและวิธีการในการับฟัง เสียงของนักเรียนในอนาคตและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจ าแนกตามกลุ่มต่างๆ ซึ่งสามารถน าข้อมูลสารสนเทศที่ได้ไปใช้ ในกระบวนการจัดท ากลยุทธ์ หมวด 2.1 ก(1) และ 2.1 ข(2) การก าหนดความต้องการที่ส าคัญของนักเรียนในการ ติดต่อกับโรงเรียนแต่ละช่องทาง การออกแบบหลักสูตรและกระบวนการ หมวด 6.1 ก ตามตารางที่ 3.1 ก(2) ตารางที่ 3.1 ก(2) การรับฟังเสียงนักเรียนในอนาคตและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประเด็นส าคัญ ในการรับฟัง วิธีการรับฟัง กระบวนการด าเนินงาน เป้ าหมายของการรับฟัง ผู้รับผิดชอบ นักเรียนในอดีต -สอบถาม สัมภาษณ์ ประเมินความพึงพอใจ -สอบถาม สัมภาษณ์ ผ่าน การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน -การสื่อสารออนไลน์ เว็บไซต์ Line Facebook Google form -รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จากการรับฟังเสียงนักเรียนใน อดีตและน ามาจัดล าดับ ความส าคัญ -หัวหน้ากลุ่มสาระน าข้อมูล ที่ได้มาพัฒนาหลักสูตรการ จัดการเรียนการสอน -ประเมินผล -ความพึงพอใจ/ความคาดหวัง ด้านการพัฒนาหลักสูตรและ การจัดการเรียนการสอน -ความพึงพอใจ/ความคาดหวัง ด้านการบริหารการศึกษา ความผูกพันกับโรงเรียน -ความพึงพอใจต่อพฤติกรรมที่ พึงประสงค์ กลุ่มงานบริหารงาน วิชาการ
35 ตารางที่ 3.1 ก(2) การรับฟังเสียงนักเรียนในอนาคตและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (ต่อ) ประเด็นส าคัญ ในการรับฟัง วิธีการรับฟัง กระบวนการด าเนินงาน เป้ าหมายของการรับฟัง ผู้รับผิดชอบ -กล่องรับฟังความคิดเห็น ด าเนินการตลอดปี การศึกษา -สรุปรายงานให้ฝ่ ายบริหาร รับทราบ นักเรียนในปัจจุบัน -สอบถาม สัมภาษณ์ ประเมินความพึงพอใจ -รวบรวมข้อมูล -วิเคราะห์ข้อมูล จัดท า สารสนเทศ น าเสนอผู้เกี่ยวข้อง ส่งต่อผู้เกี่ยวข้อง -ประเมินและน าไปใช้ -ความพึงพอใจต่อหลักสูตร/ การจัดกิจกรรมการเรียนการ สอน/ กลุ่มงานบริหาร วิชาการ นักเรียนในอนาคต -นักเรียนชั ้น ประถมศึกษาปี ที่ 6 ในเขตพื ้นที่ บริการ -นักเรียนชั ้น มัธยมศึกษาปี ที่ 3 ในเขตพื ้นที่บริการ -สอบถาม สัมภาษณ์ ผ่านกระบวนการแนะแนว การศึกษาต่อ -ประเมินความพึงพอใจ -รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จากการรับฟังเสียงของนักเรียน ในอนาคตและน ามาจัดล าดับ ความส าคัญ -น าข้อมูลสรุปรายงานเพื่อเป็ น สารสนเทศในการวางแผนการ ปฏิบัติงาน - ประเมินผล -สรุปรายงานให้ฝ่ ายบริหาร รับทราบ -ความต้องการด้านแผนการ เรียน/หลักสูตร -ความต้องการด้านการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนและ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน -ความต้องการด้านบริการด้าน การศึกษา -ความต้องการด้านการดูแล ช่วยเหลือนักเรียน กลุ่มงานบริหาร วิชาการ -งานแนะแนว นักเรียนคู่แข่ง -แบบสอบถามในการประชุม ผู้ปกครองนักเรียน -รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลจาก คู่เทียบและน ามาจัดล าดับ ความส าคัญ -น าข้อมูลสรุปรายงานเพื่อเป็ น สารสนเทศในการวางแผน -ประเมินผล -สรุปรายงานเสนอฝ่ ายบริหาร -ทิศทางของหลักสูตรและการ จัดการเรียนการสอน -ทิศทางของการศึกษา กลุ่มบริหารงาน วิชาการ ผู้ปกครอง -สัมภาษณ์ -ประเมินความพึงพอใจ -รวบรวมข้อมูล -ประเมินผล -สรุปและรายงานผล -ด้านหลักสูตร -การจัดการเรียนการสอน -การบริการ -กลุ่มงานบริหาร ทั่วไป โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม มีแนวทางในการรับฟังเสียงของนักเรียนอนาคตและผู้มีส่วนได้ส่วน เสีย จากนักเรียนชั ้น ป.6 และ ม. 3 ในเขตพื ้นที่บริการต าบลตาตุม รับฟังจากศิษย์เก่า ชุมชน ผู้ปกครอง โดยการ วางเเผนการรับนักเรียนชั ้น ป. 6และม.3 ในเขตพื ้นที่บริการ รวมทั ้งส ารวจนักเรียนที่จะจบการศึกษาและผู้ปกครอง ชุมชนให้ข้อเสนอแนะต่อการจัดการศึกษา และแบบสอบถามความคิดเห็นกิจกรรม OPEN HOUSE กิจกรรมวัน สุนทรภู่ กิจกรรมวันคริสต์มาส และจากการเชิญโรงเรียนในเขตพื ้นที่บริการเข้าร่วมกิจกรรม สอบถามความคิดเห็น ความต้องการศึกษาต่อของนักเรียนผ่านโครงการแนะแนวการศึกษาต่อ การรับฟังเสียงจากศิษย์เก่า ชุมชน ผู้ปกครอง โดยมีหัวข้อก าหนดให้ทุกฝ่ ายได้แสดงความคิดเห็น ทั ้งด้านจัดการเรียนการสอน ด้านวิชาการ และการ จัดท าปรับปรุงหลักสูตร ส ารวจความพึงพอใจในการบริการด้านการจัดการศึกษาของโรงเรียน จัดท าแบบสอบถาม
36 ผู้ปกครองในวันประชุมผู้ปกครอง ประเมินผลการจัดการเรียนการสอนและบริการทางการศึกษา น าข้อมูลสรุป รายงาน เพื่อเป็ นข้อมูลสารสนเทศในการวางแผนปฏิบัติงานของโรงเรียนต่อไป ข. การประเมินความพึงพอใจและความผูกพันของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Determination of STUDENT and Stakeholders Satisfaction and ENGAGEMENT) (1) ความพึงพอใจ ความไม่พึงพอใจ และความผูกพัน (Satisfaction, Dissatisfaction and ENGAGEMENT) ภาพที่ 3.1ข(1) กระบวนการประเมินความพึงพอใจ ความไม่พอใจและความผูกพัน โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม มีแนวทางในการประเมินความพึงพอใจความไม่พึงพอใจและความ ผูกพันของผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในปัจจุบัน โดยการสร้ าง Website โรงเรียน Facebook Fan page งาน แนะแนวโรงเรียน และ Line ของห้องเรียน จากนั ้นแต่งตั ้งคณะกรรมการ สอบถาม ประเมินความพึงพอใจความไม่ พึงพอใจและความผูกพันของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จ าแนกข้อมูล ส่งต่อข้อมูลประชุมวางแผนวิเคราะห์ ข้อมูล ประเมิน ทบทวน ปรับปรุง สรุปข้อมูลและส่งต่อข้อมูลย้อนกลับ สะท้อนผล รวบรวมข้อมูล สรุปและรายงาน ผลต่อผู้บริหารทุกปี การศึกษา การปรับปรุงพัฒนาโรงเรียนมีกระบวนการรวบรวมสารสนเทศ ใช้วิธีรวบรวมจาก แบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัดด าเนินการกิจกรรม โครงการต่างๆ ของโรงเรียน ได้แก่ กิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมท าความสะอาดเขตพื ้นที่รับผิดชอบ กิจกรรมวันส าคัญต่างๆ เช่น วันไหว้ครู วันสถาปนาโรงเรียน วัน เข้าพรรษา วันเฉลิมพระชนมพรรษา กิจกรรมการบริการชุมชนและสร้ างเครือข่ายทั ้งทางด้านศาสนา กิจกรรม สังฆทานร่วมใจ เทิดไทองค์ราชันย์ สานสัมพันธ์ตาตุม ผ้าป่ าการเพื่อการศึกษา กิจกรรมของดีบ้านฉัน วัฒนธรรม บ้านเรา เพื่อน าเสนอผลผลิตและสร้ างความสัมพันธ์ในชุมชน เป็ นต้น เมื่อด าเนินการแล้ว ประชุม สรุปผล ปฏิบัติงาน รายงานการปฏิบัติงานเพื่อใช้เป็ นข้อมูลเปรียบเทียบการด าเนินการในช่วงที่ผ่านมา จากนั ้นเข้าในที่ ประชุมครู กรรมการนักเรียน เครือข่ายผู้ปกครองให้ได้รับทราบในวาระที่มีการประชุม จัดท าสารสนเทศเพื่อการ พัฒนาแผนปฏิบัติการประจ าปีของโรงเรียน ติดตามสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน เปิ ด โอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็นในวาระที่มีการประชุมเนื่องในโอกาสต่างๆ งานประกันคุณภาพการศึกษา สร้างแบบสอบถามความพึงพอใจ/ ความไม่พึงพอใจและความผูกพัน ของนักเรียนและผู้มีส่วนได้เสีย ประเมินความพึงพอใจ/ความไม่พึง พอใจและความผูกพัน -ปรับปรุงพัฒนากระบวนการจัดการ -ส่ือสารให้ผู้มีส่วนได้เสียได้รับทราบ -จา แนกข้อมูล ส่งต่อข้อมูล ประชุม วางแผน วิเคราะห์ข้อมูลความพึง พอใจ/ความไม่พึงพอใจและความ ผูกพัน -ทบทวนปรับปรุง สรุปข้อมูล -สะท้อนผลส่งต่อข้อมูลย้อนกลับ รวบรวมสารสนเทศและสรุปรายงาน ผลต่อผู้บริหารทุกปีการศึกษา
37 การจัดกิจกรรมต่างๆ นักเรียนสามารถสะท้อนความพึงพอใจ และความไม่พึงพอใจได้ตามความ ต้องการและเป็ นรายบุคคล น าข้อมูลที่ได้มารวบรวมน าเข้าที่ประชุมเพื่อร่วมกันวิเคราะห์ถึงสาเหตุของความไม่พึง พอใจและหาแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาท าความเข้าใจกับนักเรียนและผู้มีส่วนใด้ส่วนเสียเพื่อลดข้อจ ากัดและ อุปสรรคในการด าเนินการและวิธีการป้ องกันไม่ให้เกิดความไม่พึงพอใจในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต น าข้อมูล ไปปรับปรุงพัฒนาในหมวด 2และท าการสื่อสารตามตารางที่ 1.1 ข(1) ให้ผู้มีส่วนได้เสียได้รับทราบซึ่งเชื่อมโยงกับ ระบบประกันคุณภาพการศึกษาตามภาพที่ 3.1 ข(1) ความผูกพันของนักเรียน คณะกรรมการบริหารโรงเรียน ร่วมกับฝ่ ายบริหารงานทั ้ง 4 กลุ่มงาน ร่วมกันศึกษาและก าหนดองค์ประกอบที่แสดงถึงความผูกพันของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและน า สารสนเทศไปด าเนินการจัดท าแผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการประจ าปี การประเมินความผูกพันที่ก่อให้เกิดความ ผูกพันกับนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยการสังเกต สัมภาษณ์ นักเรียนทุกกุล่มและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้า ร่วมท ากิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ที่ท าให้เกิดความผูกพันที่โรงเรียนจัดขึ ้น (2) ความพงึพอใจเปรียบเทียบกับคู่แข่ง (Satisfaction Relative to Competitors) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม มีวิธีการในการเสาะหาสารสนเทศด้านความพึงพอใจของนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีต่อโรงเรียนเปรียบเทียบกับโรงเรียนอื่นที่มีขนาดใกล้เคียงกันและหลักสูตรที่คล้ายคลึง กันซึ่งข้อมูลสารสนเทศของผลการประเมินความพึงพอใจ ได้มาจากการเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างโรงเรียนขนาด มอญพิทยาคมและโรงเรียนสังขะ ด้านผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) จ านวนนักเรียนที่สมัครเข้าเรียน ท า การวิเคราะห์ทั ้งองค์กรและของคู่แข่ง ท าให้สามารถส่งเสริมจุดแข็ง ปรับปรุงจุดอ่อน สร้ างโอกาสในการพัฒนา และพร้อมรับกับอุปสรรคที่จะเกิดขึ ้นในอนาคต กลุ่มบริหารวิชาการ ใช้วิธีการส ารวจข้อมูลความพึงพอใจของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทีมี ต่อการจัดการศึกษาและหลักสูตรของโรงเรียน โดยการสอบถาม การสื่อสารทาง Social Network ในรูปแบบ ต่างๆ เช่น สอบถามนักเรียนที่มาสมัครเข้าเรียน จากผู้ปกครองที่น านักเรียนมาสมัครเรียน และจากผู้ปกครองที่มา ประชุม แล้วน าข้อมูลเปรียบเทียบกับโรงเรียนคู่แข่ง ยังเป็ นประโยชน์ในการศึกษาแนวโน้ม ความเป็ นไปได้และ การบูรณาการ เพื่อตอบสนองความต้องการ ความพึงพอใจ มีการปรับกลยุทธ์การท างานเชิงรุกเพื่อให้เหนือคู่แข่ง 3.2 ความผูกพันของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Student and Stakeholder Engagement) ก. หลักสูตรและการสนับสนุนนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Product Offerings STUDENT and Stakeholder Support) (1) หลักสูตร (Product Offering) โรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม ได้พัฒนาหลักสูตรและส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อตอบสนองความ ต้องการของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและส่วนตลาด ตาม 1.ก(1) ให้สอดคล้องกับนโยบายทุกระดับ ตอบ โจทย์ปัญหาให้กับนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในด้านหลักสูตรการจัดการศึกษาและบริบททางการศึกษา โรงเรียนมีบริการดังภาพที่ 3.2 ก(1)
38 ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั ้นพื ้นฐาน ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรท้องถิ่น ศึกษาวิเคราะห์บริบทและความต้องการของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา จัดกิจกรรมการเรียนการสอน รายงานผลการเรียนรู้ ประเมินผลการใช้หลักสูตรโดยผู้บริหาร กรรมการสถานศึกษา ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ภาพที่ 3.2 ก(1) กระบวนการก าหนดหลักสูตร กระบวนการก าหนดหลักสูตร เริ่มจากการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั ้นพื ้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) วิเคราะห์หลักสูตรท้องถิ่นร่วมกับส านักงานเขตพื ้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาสุรินทร์ ศึกษาและวิเคราะห์บริบทและความต้องการของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเ สีย พัฒนา หลักสูตรตามแผนการเรียนระดับชั ้นมัธยมศึกษาตอนต้น แผนการเรียนทั่วไป จัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับ ศักยภาพของนักเรียน เน้นความรู้พื ้นฐานทุกรายวิชา ระดับชั ้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียนคณิตศาสตร์- วิทยาศาสตร์ เน้นวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ แผนการเรียนภาษา-สังคม เน้นภาษาอังกฤษ และเน้นรายวิชา เพิ่มเติมสังคมศึกษา เช่น วิชาเศรษฐศาสตร์ วิชากฎหมายในชีวิตประจ าวัน แผนการเรียนทวิศึกษา เน้นทักษะ อาชีพทางด้านไฟฟ้ า โดยเรียนในรายวิชาไฟฟ้ าก าลัง จากวิทยาลัยการอาชีพสังขะ อ าเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ควบคู่กับการเรียนสายสามัญโดยโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคมท า MOU ร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพสังขะ เมื่อ เรียนจบแล้วนักเรียนจะได้รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย แล้ว จึงจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต่อไป โรงเรียนเข้าโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากลจัดหลักสูตรเทียบเคียงโรงเรียน มาตรฐานสากล โดยเพิ่มรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study : IS) ภาษาเขมรและ ภาษาจีนทุกแผนการเรียนทั ้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย นอกจากนี ้ยังจัดกิจกรรมเสริม MONPIT Model ปรับปรุงแก้ไข/ท าวิจัย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ สรุปผลการแก้ไขปัญหา/ การพัฒนา ไม่ผ่าน ผ่าน ประเมินการเรียนรู้