The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชาสื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Witoon Yuengyang, 2022-05-14 11:42:10

แผนการสอนวิชาสื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัล

แผนการสอนวิชาสื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัล

แผนการจดั การเรียนรู้

รหัสวิชา 30204-2102 ชอ่ื วชิ า สอ่ื สรา้ งสรรคธ์ ุรกิจดจิ ทิ ัล
หลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สงู พุทธศกั ราช 2563

ประเภทวชิ าบรหิ ารธุรกิจ
สาขาวชิ าเทคโนโลยธี รุ กจิ ดิจทิ ัล

จัดทำโดย

นายวิทูล เยื่องอยา่ ง

แผนกวชิ าเทคโนโลยีธุรกจิ ดิจิทลั วทิ ยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา
สถาบนั การอาชีวศกึ ษาภาค 3 สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

กระทรวงศกึ ษาธิการ

คำนำ

แผนการสอนวชิ า “ส่ือสร้างสรรค์ธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั ” รหัสวิชา 30204-2102 จดั ทำข้ึนเพือ่ ใชเ้ ป็นแนวทาง
ในการจัดการเรยี นการสอนวชิ าสอ่ื สรา้ งสรรค์ธรุ กจิ ดิจิทัล ตามหลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ช้นั สูง (ปวส.)
พุทธศักราช 2563 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยจัดการเรียนการสอนทั้งหมด 18
สัปดาห์ สัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง เนื้อหาภายในแบ่งออกเป็น 5 บท ประกอบด้วยบทที่ 1 ความรู้เบื้องต้น
เกี่ยวกับสื่อธุรกิจดิจิทัล บทที่ 2 การสื่อสารผ่านอินเตอรเ์ น็ต บทท่ี 3 การออกแบบสือ่ บทท่ี 4 องค์ประกอบ
การออกแบบ บทท่ี 5 การออกแบบกับงานธุรกิจ

สำหรับแผนการสอนรายวิชาน้ี ผู้จัดทำได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจและเวลาในการศึกษาค้นคว้า
ทดลอง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อการเรียนการสอน และการจดั การเรยี นการสอนตามแนวทางหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจแบบพอเพียง

ท้ายที่สุดน้ี ผู้จดั ทำขอขอบคุณผ้ทู สี่ รา้ งแหล่งความรู้ และผู้ท่มี ีส่วนเกย่ี วขอ้ งตา่ ง ๆ ซง่ึ เป็นสว่ นสำคัญ
ที่ทำให้แผนการสอนวิชา โครงการ เล่มนี้เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย และหากผู้ใช้พบข้อบกพร่องหรือมี
ข้อเสนอแนะประการใด ขอได้โปรดแจ้งผู้จดั ทำทราบด้วย จกั ขอบคณุ ย่ิง

ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ผู้สอน ผู้ประสาทวิชาความรู้ เอกสาร หนังสือที่ใช้ประกอบการจัดทำ
แผนการจัดการเรียนรู้ ณ โอกาสน้ี

นายวิทลู เย่อื งอยา่ ง

สารบัญ

หนา้

ลักษณะรายวชิ า.............................................................................................................................................. 1
สมรรถนประจำหน่วย...................................................................................................................................... 2
ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สูตร ................................................................................................................................. 3
กำหนดการสอน.............................................................................................................................................. 4
กรอบแนวทางการจัดการเรยี นรแู้ ละการประเมินผลตามสภาพจรงิ ประจำหนว่ ยการเรียนรู้............................. 7
แผนการจดั การเรยี นรหู้ น่วยที่ 1 ความรเู้ บือ้ งตน้ เกย่ี วกบั สื่อธุรกจิ ดจิ ทิ ัล ......................................................... 9
แผนการจัดการเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 2 การสื่อสารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ ........................................................................ 31
แผนการจดั การเรียนรหู้ น่วยท่ี 3 การออกแบบสอื่ ......................................................................................... 50
แผนการจดั การเรยี นรหู้ นว่ ยท่ี 4 องคป์ ระกอบการออกแบบ......................................................................... 75
แผนการจดั การเรยี นรหู้ น่วยที่ 5 การออกแบบกบั งานธุรกจิ .....................................................................100
แบบประเมินผลงาน ……………………………………………………………………………………………………………………….125

ส่วนท่ี 1
การวิเคราะห์รายวชิ า

1

ลกั ษณะรายวชิ า

รหัสและช่อื วชิ า 30204-2102 สื่อสร้างสรรคธ์ ุรกจิ ดิจทิ ลั หน่วยกิต 3 เวลาเรียนตอ่ ภาค 4 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์รายวชิ า

1. เข้าใจหลกั การ กระบวนการคดิ ส่ือสรา้ งสรรค์
2. สามารถผลติ สอ่ื สร้างสรรค์ทางธรุ กจิ
3. มีเจตคตแิ ละกจิ นิสยั ทีด่ ีในการปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความรบั ผิดชอบ ซื่อสตั ย์ ละเอียดรอบคอบ

สมรรถนะรายวิชา

1. แสดงความรู้ หลักการ กระบวนการคดิ ส่ือสร้างสรรค์ทางธุรกจิ
2. ออกแบบส่ือสรา้ งสรรค์ทางธรุ กิจ
3. ผลิตส่ือสรา้ งสรรคท์ างธุรกิจ

คำอธบิ ายรายวชิ า

ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการและกระบวนการคิดสื่อสร้างสรรค์ทางธุรกิจ องค์ประกอบและ

รูปแบบของสื่อดิจิทัล เทคนิคการสร้างสรรค์สื่อข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง วีดีโอ ตามแนวคิด
กลยุทธ์ เนื้อหาและการออกแบบให้สอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ทางธุรกิจ ผลิตสื่อสร้างสรรค์ทางธุรกจิ โดยใช้

เครอ่ื งมือดิจทิ ัลใหส้ อดคลอ้ งกับกลยทุ ธข์ องธุรกิจทก่ี ำหนด

2

สมรรถนประจำหน่วย

ที่ สมรรถนะประจำหนว่ ย เวลาเรียน (ชม.)
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ รวม

1 ความรเู้ บื้องต้นเกีย่ วกับสอ่ื ธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั 4 48

2 การสอื่ สารผ่านอินเตอร์เน็ต 8 8 16

3 การออกแบบสื่อ 8 8 16
4 องค์ประกอบการออกแบบ 8 8 16
5 การออกแบบกับงานธรุ กจิ 8 8 16

รวม 36 36 72

3

ตารางวิเคราะหห์ ลกั สูตร

รหัส 30204-2102 วชิ า สอ่ื สรา้ งสรรคธ์ รุ กจิ ดจิ ิทลั หนว่ ยกิต 2 หนว่ ยกิต

ชน้ั ปวส.1 สาขาวิชา เทคโนโลยธี ุรกจิ ดจิ ทิ ัล

พฤติกรรม พทุ ธพิ ิสัย

ชอ่ื หนว่ ย ความ ู้ร
ความรู้เบอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั ส่ือธรุ กจิ ดิจทิ ลั ความเข้าใจ
นำไปใ ้ช
การสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ต ิวเคราะ ์ห
การออกแบบส่อื สังเคราะ ์ห
องค์ประกอบการออกแบบ ประเมิน ่คา
การออกแบบกบั งานธรุ กิจ ัทกษะ ิพสัย
จิต ิพสัย
รวม
ลำ ัดบ
จำนวนคาบ

11- - - - - 1348

1 1 1 1 - - 1 1 6 3 16
1 1 1 1 1 - 1 1 7 2 16
1 1 1 1 1 - 1 1 7 2 16
1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 16

รวม 5 5 4 4 3 1 4 5 31 72
ลำดบั ความสำคญั 11223421

4

กำหนดการสอน

ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ สมรรถนะประจำหน่วย เกณฑ์การปฏิบัตงิ าน สัปดาห์ ช่ัวโมง
ท่ี ท่ี
ความรเู้ บ้อื งตน้ เกี่ยวกับสื่อ แสดงความรเู้ กี่ยวกบั 1. แบบฝกึ หัด / ทดสอบ 1-2 1-8
ธรุ กจิ ดิจทิ ัล ความรูเ้ บือ้ งต้นเกี่ยวกบั ส่อื 2. คะแนนจากแบบ
ธรุ กิจดจิ ทิ ัล ประเมินผลใบงาน
3. คะแนนจากการทำ
แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ
ทางการเรียน

การสอ่ื สารผา่ น แสดงความรเู้ กยี่ วกบั การ 1. แบบฝกึ หดั / ทดสอบ 3-6 9-24
อนิ เตอรเ์ น็ต สอื่ สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็ 2. คะแนนจากแบบ

ประเมนิ ผลใบงาน
3. คะแนนจากการทำ
แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิ
ทางการเรียน

การออกแบบสอ่ื แสดงความรเู้ กย่ี วกับการ 1. แบบฝกึ หัด / ทดสอบ 7-10 25-40

ออกแบบสอ่ื 2. คะแนนจากแบบ

ประเมนิ ผลใบงาน

3. คะแนนจากการทำ

แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิ

ทางการเรียน

องคป์ ระกอบการออกแบบ แสดงความรเู้ ก่ียวกบั 1. แบบฝกึ หดั / ทดสอบ 11-14 41-56
องคป์ ระกอบการออกแบบ 2. คะแนนจากแบบ
ประเมนิ ผลใบงาน
3. คะแนนจากการทำ
แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรยี น

5

การออกแบบกับงานธรุ กิจ แสดงความรเู้ ก่ียวกับการ 1. แบบฝกึ หดั / ทดสอบ 15-18 57-72
ออกแบบกบั งานธรุ กจิ 2. คะแนนจากแบบ
ประเมินผลใบงาน
3. คะแนนจากการทำ
แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรยี น

6

ส่วนท่ี 2
แผนการจดั การเรียนร้บู ูรณาการ
และการประเมนิ ตามสภาพจริง

รายหนว่ ยการเรยี นรู้

7

กรอบแนวทางการจัดการเรยี นรูแ้ ละการประเมินผลตามสภาพจริงประจำ
หน่วยการเรยี นรู้

แนวทางการประเมนิ

หนว่ รายการสอน สมรรถนะ เกณฑ์การปฏิบัติงาน ทดสอบความ ู้ร
ยท่ี ประเมินการป ิฏบั ิตงาน
ประเมินผลงาน
ประเมินพฤ ิตกรรม
ื่อน ๆ

1 ความรูเ้ บือ้ งต้น แสดงความรู้ 1. แบบฝึกหดั / ทดสอบ

เก่ียวกบั สือ่ ธรุ กจิ เกย่ี วกับความรู้ 2. คะแนนจากแบบประเมนิ ผลใบ
ดิจทิ ลั เบอ้ื งต้นเกีย่ วกบั
งาน    
สื่อธุรกจิ ดิจทิ ัล
3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ

วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

2 การสอ่ื สารผา่ น แสดงความรู้ 1. แบบฝึกหัด / ทดสอบ

อินเตอรเ์ นต็ เกยี่ วกับการส่ือสาร 2. คะแนนจากแบบประเมินผลใบ
ผา่ นอนิ เตอร์เน็ต งาน 

3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ

วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

3 การออกแบบสอื่ แสดงความรู้ 1. แบบฝึกหดั / ทดสอบ

เก่ียวกับการ 2. คะแนนจากแบบประเมินผลใบ
ออกแบบส่ือ
งาน    

3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ

วดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น

4 องคป์ ระกอบการ แสดงความรู้ 1. แบบฝึกหัด / ทดสอบ

ออกแบบ เก่ยี วกับ 2. คะแนนจากแบบประเมนิ ผลใบ 
องคป์ ระกอบการ งาน
ออกแบบ 3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ
วัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น

5 การออกแบบกบั แสดงความรู้ 1. แบบฝึกหัด / ทดสอบ

งานธรุ กิจ เก่ียวกับการ 2. คะแนนจากแบบประเมินผลใบ
ออกแบบกบั งาน
ธรุ กจิ งาน    

3. คะแนนจากการทำแบบทดสอบ

วดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น

8

แผนการจดั การเรยี นร้แู บบบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
ตารางวเิ คราะหร์ ะดบั พทุ ธพิ สิ ัย ทกั ษะพิสยั จิตพสิ ยั

รหสั วิชา 30204-2102 ชือ่ วิชา สอ่ื สร้างสรรค์ธุรกจิ ดิจทิ ลั หนว่ ยกิต (ท-ป-น) 2-2-3

หลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้นั สงู ประเภทวิชา บริหารธรุ กิจ
สาขาวิชา เทคโนโลยธี ุรกจิ ดิจิทลั สาขางาน เทคโนโลยธี รุ กจิ ดจิ ทิ ัล
วิเคราะห์ระดบั พฤตกิ รรมทพ่ี งึ ประสงค์รายวิชา
1) พทุ ธพิ ิสยั ....................3....................ระดับ
2) ทกั ษะพสิ ัย.................3....................ระดบั
3) จิตพสิ ัย......................3....................ระดบั
การบูรณาการ รหัสวชิ า 30204-2102 ชอ่ื วชิ า สือ่ สรา้ งสรรค์ธรุ กิจดจิ ิทลั
1. น้อมนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งบรู ณาการในรายวชิ า
ความรู้ ศึกษาและปฏิบัติเกย่ี วกบั หลกั การและกระบวนการคิดส่ือสรา้ งสรรค์ทางธรุ กิจ องคป์ ระกอบและ
รปู แบบของสอื่ ดจิ ทิ ัล เทคนิคการสรา้ งสรรค์สอ่ื ข้อความ ภาพนง่ิ ภาพเคล่ือนไหว เสียง วดี ีโอ ตามแนวคิด
กลยุทธ์ เนือ้ หาและการออกแบบให้สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์ทางธรุ กิจ ผลติ ส่อื สร้างสรรค์ทางธุรกิจโดย
ใช้เครื่องมอื ดจิ ิทัลใหส้ อดคล้องกับกลยุทธ์ของธรุ กิจทีก่ ำหนด

คณุ ธรรม ผเู้ รยี นมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ซอ่ื สัตย์ เสยี สละ อดทน กตญั ญูต่อพอ่ แม่
ผู้ปกครอง ครบู าอาจารย์ ใฝห่ าความรู้ หมั่นศึกษาเลา่ เรยี น รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย มีศีลธรรม รกั ษา
ความสัตย์ เข้าใจเรยี นรู้การเป็นประชาธปิ ไตย มีระเบียบ วนิ ยั เคารพกฎหมาย ผู้นอ้ ยรจู้ ักการเคารพผู้ใหญ่
มสี ตริ ู้ตัว รูค้ ดิ รูท้ ำ รจู้ กั ดำรงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง มีความเข้มแขง็ ทงั้ รา่ งกาย และ
จติ ใจ ไมย่ อมแพ้ตอ่ อำนาจฝ่ายต่ำ คำนงึ ถงึ ผลประโยชน์ของส่วนรวม
ความพอประมาณ พอประมาณการในการใช้ทรพั ยากรการใชข้ อ้ มูลการใช้อปุ กรณ์เครอ่ื งมอื วสั ดุ
ครภุ ณั ฑ์ เหมาะสม
ความมีเหตผุ ล ใชท้ รัพยากรตามทจ่ี ำเปน็ เพ่ือไมใ่ ห้เกดิ การขาดแคลนทรพั ยากรในอนาคตเปน็ การรกั ษา
สงิ่ แวดล้อมให้คงอยู่และเปน็ มติ รกบั สง่ิ มชี ีวิต

การมีภูมคิ ้มุ กนั เป็นการป้องกบั การใชจ้ า่ ยเงินอยา่ งฟุ่มเฟือย มีระบบการวางแผนในการทำงานได้อยา่ ง
รอบคอบ ยอมรบั เพ่อื นร่วมงานได้ไมม่ ีการกระทบกระทัง่ ภายในห้องเรยี นมคี วามเขม้ แขง็ ตอ่ สภาวะ
แวดล้อมสามารถทำงานกบั เพ่ือนรว่ มงานได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

9

แผนการจัดการเรยี นรู้

หน่วยท่ี 1 ความรู้เบือ้ งต้นเก่ียวกบั ส่ือธุรกจิ ดจิ ทิ ลั จำนวน 4 ชว่ั โมง สัปดาห์ท่ี 1-2

รหัสวชิ า 30204-2102 ชือ่ วิชา ส่อื สร้างสรรค์ธรุ กจิ ดจิ ิทลั

1. สาระสำคัญ

กอ่ นที่จะเรยี นร้ธู ุรกจิ ดิจทิ ลั ควรจะเขา้ ใจความหมายของธรุ กจิ ก่อนวา่ ธุรกิจคอื การทำกิจกรรมทางเศรษฐกจิ

ในหลาย ๆ เร่อื งท่ีเช่อื มโยงกนั โดยมกี ิจกรรมหลักคือผลติ สินค้าหรือบริการและแลกเปลย่ี นกันระหว่างผู้ผลิตกับ

ผู้บริโภคทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจขึ้น โดยธุรกิจมีเปา้ หมายคือผลตอบแทน กำไรจากการขาย

สินค้าหรอื บริการและผลประโยชน์ต่าง ๆ ส่วนธรุ กิจดิจิทัลคอื การนำเทคโนโลยีตา่ ง ๆ เขา้ มาพฒั นาธุรกจิ ที่ทำอยู่

เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ แต่

จุดประสงคห์ ลกั ๆ กค็ ือการหาทางเพม่ิ ยอดขายใหก้ ับธรุ กจิ นั่นเอง

2. สมรรถนะประจำหน่วย

แสดงความรเู้ กยี่ วกับความรู้เบอื้ งตน้ เก่ียวกบั สอ่ื ธรุ กจิ ดจิ ิทลั

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. มีความรูค้ วามเขา้ ใจความรเู้ บื้องตน้ เกีย่ วกบั สอื่ ธุรกจิ ดจิ ทิ ลั

2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการเบอ้ื งตน้ เกยี่ วกบั สอื่ ธรุ กจิ ดิจทิ ัล

3. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา
4. สาระการเรียนรู้

1. ความหมายของสือ่ ดิจทิ ลั
2. ววิ ฒั นาการการสอื่ สาร
3. ความสำคัญของธุรกจิ
4. ปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินธุรกจิ
5. ความหมายของสือ่ สงั คมออนไลน์
6. ประเภทของสอ่ื สงั คมออนไลน์

10

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ กิจกรรมนกั เรียน
กจิ กรรมครู

ขน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรียน( 30 นาท)ี

1. ตรวจสอบรายช่ือนักศกึ ษาทเ่ี ข้าเรียน 1. ใหค้ วามรว่ มมอื กับครูในการตรวจสอบ

2. ให้นักศึกษาค้นคว้าความรู้เบอื้ งต้นเกยี่ วกบั สอ่ื 2. คน้ คว้า ความรู้เบอื้ งตน้ เกี่ยวกบั สือ่ ธรุ กจิ

ธรุ กิจดิจทิ ัล ดจิ ิทัล

3. รว่ มสนทนาเกย่ี วกับเรือ่ ง ความรูเ้ บื้องตน้ 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ ความรู้

เก่ยี วกบั สอ่ื ธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล เบ้ืองตน้ เกย่ี วกบั สือ่ ธรุ กิจดจิ ทิ ลั

ขน้ั ดำเนินการสอน( 180 นาท)ี

1. บอกจดุ ประสงค์การเรยี น ฟงั ทำความเข้าใจและซกั ถาม

2. บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธกี าร ฟงั ทำความเข้าใจและปฎบิ ตั ิตาม

ปฎบิ ัตใิ นแต่ ละหัวขอ้ การเรียนและใหน้ ักศึกษา ผู้เรียนซักถามขอ้ สงสัยและจดบันทึก
ปฎิบัตไิ ปพร้อมกนั รับการประเมิน
3. ครูบอกวิธีการ และแนวคดิ ในการปฏบิ ัตทิ ี่

ถกู ตอ้ งใหแ้ กผ่ ูเ้ รยี น

4. ประเมินพฤติกรรมรายบคุ คลโดยครจู ะซกั ถาม

ในแตล่ ะคน

ขั้นสรุป( 30 นาที) ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ สาระสำคญั
นักเรียนสอบถามข้อสงสยั
ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ สาระสำคญั ฟงั และจดบันทึก
ทำแบบทดสอบท้ายบท
เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสัย

มอบหมายให้ไปหัดทำและศกึ ษาเพม่ิ เตมิ

ทำแบบทดสอบ
6. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้

1. เอกสารประกอบการเรียนการสอน
2. Google Classroom
3. การสบื คน้ ข้อมลู Online

11

7. หลกั ฐานการเรยี นรู้

7.1 หลกั ฐานความรู้

1. แผนการสอน

2. สอื่ การสอน

3. เอกสารประกอบการสอน

4. ใบความรู้

7.2 หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน

1. บันทกึ หลงั สอน

2. การเช็คชือ่ นกั ศึกษาเข้าหอ้ งเรยี น ผ่านระบบ STD online

3. แผนการสอน

4. ผลการทำแบบทดสอบของนักศึกษา

8. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

8.1 เคร่อื งมอื ประเมิน

1. ใบงาน

2. แบบฝึกหัด

3. แบบประเมินผลงาน
4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
8.2 เกณฑ์การประเมิน

เครอ่ื งมือการประเมนิ วธิ วี ดั และประเมิน เกณฑ์การประเมิน

แบบฝกึ หดั ตรวจแบบฝกึ หดั ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขึ้นไป

ถูก 1 คะแนน

ไมถ่ กู 0 คะแนน

แบบฝกึ ปฏบิ ัติ ตรวจแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขน้ึ ไป

ถูก 1 คะแนน

ไมถ่ กู 0 คะแนน

12

แบบทดสอบหลังเรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป
แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม ถูก 1 คะแนน
จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึง ไม่ถูก 0 คะแนน ได้คะแนน
ประสงค์ สังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป
ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรบั ปรงุ 0 คะแนน

9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถ้ามี)
1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนคิ วิธีการ หรือหลักการง่ายเพือ่ ให้หาคำตอบได้

อยา่ งถกู ตอ้ ง และรวดเรว็ โดยการ ตั้งใจฟงั หลกั การ เทคนิควธิ ีการทีค่ รูผ้สู อนสรปุ ในขณะที่ทำการสอน และนำ
ข้อสงสัยซกั ถามครูในการเรียนทุกครั้งทเ่ี กิดความสับสน และไม่เขา้ ใจ

2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอย่างแท้จริง
3. ผเู้ รียนหม่นั ทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขข้อทผ่ี ดิ ใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรยี นตอ้ งสรา้ งมโนภาพใหเ้ กดิ ความคิดรวบยอดในสาระการเรยี นรแู้ ละเทคนคิ วธิ ีการพรอ้ มกบั ความ
จำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพือ่ เกิดความรู้ความเข้าใจอยา่ งแทจ้ ริงไม่ใช่เกิดจาก
การท่องจำ
10. เอกสารอ้างองิ
-

13

ใบความรู้ที่ 1 หนว่ ยท่ี 1

รหัสวิชา 30204-2102 ชื่อวชิ า ส่อื สรา้ งสรรคธ์ รุ กิจดจิ ิทลั ภาคเรยี นท่ี 2

ชื่อหนว่ ย ความร้เู บื้องตน้ เกีย่ วกบั สื่อธุรกจิ ดจิ ทิ ลั เวลารวม 4 ชว่ั โมง

ชอ่ื เร่ือง ความรู้เบ้ืองตน้ เกย่ี วกบั สอ่ื ธุรกจิ ดิจิทลั เวลา 4 ชั่วโมง

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1 จุดประสงคท์ ่ัวไป

1. มีความรู้ความเข้าใจความรเู้ บ้อื งตน้ เกย่ี วกบั ส่อื ธรุ กจิ ดจิ ิทลั

2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการความรเู้ บือ้ งตน้ เกี่ยวกับสอ่ื ธุรกิจดจิ ิทลั

3. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สำเรจ็ การศึกษา

2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. ผู้เรียนอธบิ ายคุณลักษณะของส่ือดจิ ทิ ลั ท่ดี ไี ด้

2. ผ้เู รยี นอธิบายสื่อสังคมออนไลน์ได้
3. ผูเ้ รยี นอธบิ ายความรู้เบอื้ งต้นเกี่ยวกบั สื่อธรุ กิจดจิ ิทลั ได้
3 สาระการเรียนรู้

1. ความหมายของสื่อดิจทิ ัล

2. ววิ ัฒนาการการสือ่ สาร

3. ความสำคญั ของธรุ กจิ

4. ปัจจัยพน้ื ฐานในการดำเนนิ ธุรกจิ

5. ความหมายของส่อื สงั คมออนไลน์

6. ประเภทของสอ่ื สงั คมออนไลน์

สมรรถนะรายหนว่ ย

แสดงความรู้เกี่ยวกบั ความรเู้ บ้ืองต้นเก่ียวกบั สื่อธรุ กจิ ดจิ ิทลั

14

หน่วยท่ี 1 ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกับส่อื ธุรกิจดจิ ทิ ลั
สือ่ ดจิ ทิ ัล หมายถงึ ส่ือท่ีมกี ารนำเอาขอ้ ความ กราฟกิ ภาพเคล่ือนไหว เสยี ง มาจัดรปู แบบ โดยอาศัย

เทคโนโลยคี วามเจรญิ กา้ วหน้าทางดา้ นคอมพิวเตอร์ สอื่ สารทางออนไลน์
สอ่ื ผสม หมายถึง สื่อมลั ตมิ ีเดยี ท่ตี อ้ งอาศัยการใชค้ อมพวิ เตอร์แสดงผล เป็นลกั ษณะการผสมสอื่

หลายชนดิ เข้าดว้ ยกนั โดยเนน้ ทกี่ าร เปดิ โอกาสใหผ้ ู้ใชไ้ ด้เหน็ ไดเ้ ลือกก่อนนำมาใช้
ววิ ฒั นาการ การพฒั นาการเขียนในยคุ ต่างๆ ในอดตี ทำใหเ้ กดิ การเรยี นรจู้ นถึงปจั จุบันสกู่ ารใช้การ

สื่อสารทางอินเทอร์ เนต็ เปน็ สถติ ิทสี่ ูง ทำให้ตอ้ งมกี ารบรหิ ารจัดการ และกำหนดมาตรฐานสื่อดจิ ทิ ลั ข้ึนเพ่อื ให้
ผูใ้ ช้ได้เขา้ ถึงไดส้ งู สุด

ส่ือดิจติ อลเป็นรปู แบบของ ส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์ ทม่ี ขี อ้ มลู ถูกเก็บไวใ้ น ระบบดจิ ิตอล (ตรงขา้ มกบั อะ
นาล็อก ) มนั สามารถอา้ งถึงดา้ นเทคนิคของ การจดั เกบ็ และ การสง่ ผ่าน (เช่น ฮารด์ ดิสก์ไดรฟ์ หรอื
เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ ) ของข้อมลู หรอื ไปยงั "สินคา้ ท่สี นิ้ สุด"เช่น วิดีโอดิจติ อล , เตมิ ความเป็นจริง หรอื
ดจิ ิตอลศลิ ปะ
ววิ ัฒนาการการสอื่ สาร The Evolution of Communication

“การสื่อสาร” เป็นปจั จัยท่ที ำใหม้ นษุ ย์มอี ารยธรรมท่สี ืบทอดกนั มาอย่างยาวนาน ต้ังแต่ครั้งที่มนุษย์
โบราณใช้การออกเสยี งและท่าทางในการสอื่ สาร ก่อนจะมาใช้ภาษาพูด ตัวอักษร และอีกหลายกา้ วสำคัญท่ีมี
ส่วนทำใหม้ นุษยเ์ ราเชื่อมโยงถงึ กนั ทำใหเ้ กดิ รูปแบบสงั คม แลกเปล่ียนองคค์ วามรู้ กอ่ กำเนิดเป็นอารยธรรม
ดำรงเผ่าพนั ธุ์มาจนถึงทกุ วันน้ี วันนีเ้ ราเลยจะมาลองแบง่ การสื่อสารของยคุ ตา่ ง ๆ แบบเข้าใจงา่ ย โดยแบ่งได้
เป็น

"Ancient Time ยคุ โบราณ" (1.9 M BC-776 BC)
มนุษย์เริ่มเรียนรูท้ ี่จะใช้การสื่อสารมานานก่อนที่จะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาแทนที่ โดยเริ่มจาก
ภาษาท่าทาง การออกเสียง และพัฒนาขึ้นมาเป็นการใช้สัญลักษณ์ สัญญาณควัน โดยมีความเป็นระบบและ
ซบั ซ้อนข้ึนตามลำดบั ดังจะเห็นได้จากร่องรอยทางประวัติศาสตรท์ ่ีถูกจารึกไวด้ ้วยวิธตี ่าง ๆ ล้วนแล้วแต่เป็น
ขอ้ บง่ ชว้ี ่ามนษุ ย์ใช้การส่ือสารเป็นเครอื่ งมอื สำคัญในการพฒั นาความอยู่รอด
Speech การพูด (1.9 M BC)

ก้าวแรกและก้าวสำคัญที่ทำให้เกิดการสื่อสารกันระหว่างมนุษย์คือการพูด พบหลักฐานว่ามนุษย์
Homo ergaster ซึ่งปรากฏตัวขึ้นบนโลกเมื่อกว่า 1.8 ล้านปีก่อน ใช้ภาษาพูดในการสื่อสารโดยอ้างอิงจาก
การขุดพบโครงกระดูกที่มีลักษณะของโพรงจมูกแบบเฉพาะ ตลอดจนทักษะในการประดิษฐ์เครื่องมือท่ี
ซบั ซ้อน
Cueniform inscription สัญลักษณร์ ูปลิ่ม (4000 BC)

เมื่อการสื่อสารในสังคมมนุษย์พฒั นาขึ้นอย่างมีแบบแผน มีการสรา้ งสัญลกั ษณ์เพือ่ ส่ือความหมาย
เห็นได้จากระบบการเขียนที่เก่าแก่ที่สุดคือ จารึกสัญลักษณ์รูปลิ่มบนแผน่ ดินเหนียวของชาวสุเมเรียน แห่ง
อาณาจักรเมโสโปเตเมยี

15

Carrier Pigeon พริ าบสื่อสาร (776 BC)
เมื่อมภี าษาทีใ่ ช้เป็นเครอ่ื งมือในการส่ือสาร กต็ ามมาด้วยการขยายขอบเขตออกไปเปน็ การติดตอ่

ถงึ กนั ในระยะทางกนั โดยอาศยั สัตว์เป็นผสู้ ่งสาร มกี ารบันทกึ ถงึ การใชน้ กพริ าบสอ่ื สารในโอลิมปกิ ส์คร้งั แรก
โดยชาวกรีก ณ กรงุ เอเธนส์
"ยคุ อนาลอ็ ก : Age of Analog" (1836 AD -1940 AD)

หลังจากมนุษยเ์ ร่ิมเรียนรู้ประโยชนม์ หาศาลของการใช้ไฟ เผ่าพันธุอ์ ันแขง็ แกรง่ นีไ้ ดก้ อ่ ร่างสร้าง
รากฐานทางภูมิปัญญาจนพฒั นาไปขา้ งหนา้ อยา่ งไม่หยุดนิง่ จนถงึ ยคุ ท่ไี ฟฟา้ เข้ามามีบทบาทสำคญั ยุคเฟ่ืองฟู
แห่งนวัตกรรมกเ็ ติบโตข้ึน พร้อมกับการเริ่มต้นของยคุ Analog ซึ่งอาศัยการส่งสัญญานผ่านอุปกรณร์ บั และ
แปลงสญั ญาณจนไดข้ ้อมูลทต่ี ้องการ สง่ ผลให้การสอ่ื สารระยะทางไกลไม่ใช่อุปสรรคของเราอีกต่อไป
1836 AD Telegraph โทรเลข

Samuel Morse ชาวสกอ็ ตแลนด์ ประดษิ ฐเ์ ครอื่ งสง่ โทรเลขสำเรจ็ เป็นครงั้ แรกโดยอาศยั หลกั การ
ทำงานของกระแสไฟฟ้า การสง่ สารในระยะทางไกลในเวลาอันสน้ั จงึ ได้เรมิ่ ขน้ึ
Fax machine โทรสาร (1843 AD)

Alexander Bain ชาวสก็อตแลนด์ ประดษิ ฐเ์ คร่ืองส่งโทรสารสำเร็จเปน็ คร้ังแรก โดยใช้การเปลี่ยน
ขอ้ มลู เอกสารเป็นสัญญาณไฟฟา้ สง่ ไปตามสายถงึ ผรู้ บั และแปลงสัญญาณกลับมาเปน็ ขอ้ มูลอกี ครัง้ โดยเหมอื น
ต้นฉบับเดมิ ทุกประการ
Telephone โทรศพั ท์ (1876 AD)

Alexander Graham Bell ประดิษฐ์เครื่องส่งโทรศัพท์สำเร็จเป็นครั้งแรกที่อเมริกา ปฏิวัติวงการ
สอื่ สารทางไกลใหเ้ ปน็ เร่ืองสะดวกสบายไปอีกระดบั โดยการแปลงคลื่นเสียงเป็นสัญญาณไฟฟา้ ส่งผ่านสายไป
ถงึ ผรู้ ับ
Radio วิทยุ (1886 AD)

Heinrich Hertz คน้ พบคลื่นวิทยทุ ่เี ยอรมัน โดยการอาศัยทฤษฎีคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า ซง่ึ กลายเป็น
ทีม่ าของการคดิ ค้นนวัตกรรมทางการสือ่ สารในภายหลงั
Television โทรทัศน์ (1929 AD )

Philo T. Fransworth ประดิษฐ์โทรทัศนส์ ำเรจ็ เปน็ ครง้ั แรกท่อี เมรกิ า โดยการสง่ สญั ญาณภาพและ
เสยี งไปยงั เครือ่ งรบั ทำใหเ้ กดิ การกระจายข้อมลู ข่าวสารออกไปอย่างแพรห่ ลายในวงกวา้ ง
Walkie Talkie วิทยสุ ่อื สาร (1940 AD )

กองทัพอเมริกนั มีการใช้วทิ ยุสือ่ สารแบบพกพา SCR-536 เป็นครัง้ แรกในสงครามโลกครั้งท่ี 2 ซึ่ง
คดิ คน้ โดย Don Mitchell และทีม ซ่งึ เปน็ การเรมิ่ ตน้ ของเครื่องมอื สอ่ื สารแบบพกพา
"ยุคดจิ ทิ ัล : Age of Digital"(1946 AD -1989 AD)

พัฒนาการครั้งสำคัญที่เปลี่ยนผ่านสู่โลกอนาคต เมื่อยุคแห่งคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท ระบบ
Digital เข้ามาแทนที่ ซึ่งสามารถรบั ส่งสญั ญาณไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพและซบั ซอ้ นมากกว่าระบบอะนาลอ็ ก ท่ี
มคี วามแมน่ ยำนอ้ ยกว่า การเปลยี่ นแปลงนมี้ ีส่วนชว่ ยใหเ้ ทคโนโลยีทง้ั หลายพัฒนาตอ่ ไปอย่างก้าวกระโดด

16

คอมพิวเตอร์ดิจิทัลอเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ เนกประสงคเ์ คร่ืองแรกของโลกถอื กำเนิดท่ีประเทศอเมรกิ า โดย
John Mauchly และ J. Presper Eckert มีจุดประสงคเ์ พ่อื ใช้ในการคำนวณทางทหาร
Internet เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (1969 AD )

ระบบ ARPAnet ถือกำเนิดขึน้ และประสบความสำเรจ็ ในการเชื่อมต่อขอ้ มลู ระหวา่ งคอมพิวเตอร์
เป็นคร้ังแรก มจี ุดประสงค์ทจี่ ะเพ่มิ ศกั ยภาพทางการทหารใหแ้ กก่ ระทรวงกลาโหม
Personal Computer คอมพิวเตอรส์ ว่ นบุคคล (1970 AD)

John Blankenbaker ประดิษฐ์ Kenbak-1 คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรกของโลกบุกเบิก
วงการคอมพิวเตอรใ์ ห้เข้าส่ยู ุคแหง่ การสรา้ งสรรค์คิดค้นอย่างไมห่ ยุดนง่ิ
Email จดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ (1971 AD)

Ray Tomlinson ชาวอเมริกัน คดิ คน้ การส่งขอ้ ความระหวา่ งคอมพวิ เตอรส์ ำเรจ็ เปน็ ครง้ั แรก ทำให้
การสง่ ข้อมลู ถึงกันทำไดอ้ ยา่ งง่ายดาย
Cellular telephone โทรศพั ทม์ ือถอื (1983 AD )

บริษัท Motorola ประดิษฐ์โทรศัพท์มือถือ DynaTAC 800x เครื่องแรกของโลกออกวางขายท่ี
อเมรกิ า ช่วยให้ผ้คู นสามารถติดตอ่ ถงึ กันได้ทกุ ที่ทกุ เวลาผ่านสัญญาณโทรศัพท์แบบไร้สาย
www เครือขา่ ยทีเ่ ชื่อมตอ่ กนั ทว่ั โลก (1989 AD)

www ถือกำเนดิ เป็นคร้ังแรกที่อเมริกา โดยTim Berners-Lee ชาวองั กฤษ ถือเปน็ การเปิดประตูสู่
โลกอินเตอร์เนต็ ท่ีมสี ่วนเช่อื มโลกท้งั ใบเขา้ ไวด้ ้วยกัน
"ยคุ เครือข่ายสงั คม : Age of Social Network" (1992 AD -2011 AD)

ยุคแห่งการเชื่อมต่อถึงกันอย่างไร้พรมแดน โดยเทคโนโลยีสื่อสารเข้ามามีบทบาทสำคัญในก าร
ดำเนนิ ชีวิต มากกวา่ การแลกเปล่ยี นข้อมลู แต่รวมไปถึงภาคธุรกิจ การแพทย์การศึกษา กอ่ ให้เกิดวัฒนธรรม
อยา่ งโลก Social Media ซึ่งกลายเปน็ วถิ ีชีวติ ยุคใหมท่ พี่ าใหม้ นษุ ยชาตกิ ้าวไปสู่อนาคตอยา่ งรวดเร็ว
Smartphone สมารท์ โฟน (1992 AD )

สมาร์ตโฟนเครื่องแรกถือกำเนดิ ขน้ึ โดย IBM ทอ่ี เมรกิ า เผยโฉมเทคโนโลยที ส่ี ามารถทำได้มากกวา่ การ
สื่อสาร ต้นแบบนวัตกรรมโทรศพั ท์เคลื่อนที่แหง่ โลกอนาคต
SMS บรกิ ารส่งข้อความ (1992 AD)

SMS ถูกส่งเป็นครั้งแรก โดย Neil Papworth ชาวอังกฤษ พื้นฐานความสำเร็จที่ถูกพัฒนาไปสู่
เทคโนโลยีการสื่อสารอกี หลายแขนง ซึ่งทำใหเ้ ราสามารถส่งขอ้ ความส้ันๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา
Chat Apps แชท (1996 AD)

กำเนิดแอปพลิเคชันแชท แรก ICQ โดย Mirabilis Company ในอิสราเอล ซึ่งได้รับความนิยมอย่าง
แพรห่ ลายไปทั่วโลก

Social Network เครือข่ายสังคม (1996 AD)

17

Sixgdegrees คือเครือข่ายสังคมชอ่ งทางแรกที่แจ้งเกดิ ในฐานะพืน้ ทีต่ ิดต่อสือ่ สารระหว่างผูค้ นบน
โลก Internet โดยผ้ปู ระกอบการสญั ชาตอิ เมรกิ นั นาม Andrew Weinreich
WiFi เครือข่ายไรส้ าย (1997 AD)

เครอื ขา่ ยไร้สาย IEEE 802.11 จดุ เรมิ่ ต้นของ WiFi ถอื ถูกพัฒนาขึ้นทอี่ เมริกาด้วยความร่วมมือของ
NCR Corporation และ AT&T Corporation พลิกโฉมอนิ เตอรเ์ นต็ ให้สะดวกสบายย่ิงขน้ึ
MSN Messenger เอม็ เอสเอน็ เมสเซนเจอร์ (1999 AD)

โปรแกรมส่งข้อความผ่าน Internetรายแรก ๆ โดย Microsoft Corp ได้รับความนิยมอย่าง
แพรห่ ลาย
Hi 5 ไฮไฟล์ (2004 AD)

ลามู ยาละมันชยั นกั ศกึ ษาปริญญาตรชี าวอเมริกัน ได้รว่ มกบั เพือ่ นๆ ในมหาวทิ ยาลัยอิลลินอยส์ท่ี
เรียนปรญิ ญาตรที างด้าน Computer Science อยู่ ก่อตั้ง SponsorNet New Media ธุรกิจตัวแทนโฆษณา
บนอนิ เทอร์เนต็ ในปี 2004 โดยยาละมันชัย ได้เหน็ วา่ ระบบการโฆษณาผ่านแบนเนอร์แบบเกา่ ๆ ทอี่ าจไมต่ รง
กลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมการสรา้ งอัลบมั้ รปู แลว้ พดู คุยกัน การเกิดกลมุ่ เพือ่ นทีค่ อยอัพเดตข่าวแต่ละคน
ทางอนิ เทอรเ์ น็ต จงึ ไดเ้ กดิ เป็นเวบ็ ไซต์ไฮไฟฟ์
Facebook เฟซบ๊กุ (2004 AD)

กำเนิด Social Network ที่มีผู้ใช้มากที่สุด กว่า 2 ล้านล้าน คน ทั่วโลก โดย Mark Zuckerberg
ชาวอเมริกัน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยกระดับแพลตฟอร์มการติดต่อสื่อสารให้มีศักยภาพและเข้ามามี
บทบาทกับวิถีชีวติ ของผู้คนมากขนึ้
Youtube ยูทูป (2005 AD)

กำเนดิ เวบ็ ไซตส์ ญั ชาติอเมรกิ ัน ที่เปล่ยี นโลกบนั เทงิ ไปตลอดกาล สร้างโดย Steve Chen, Chad
Hurley, และ Jawed Karim
Twitter ทวิตเตอร์ (2006 AD)

กำเนิด กระจิบข่าวยอดนิยมของโลก ผลงานของ ทีมโปรแกรมเมอร์ชาวอเมริกันอย่าง Jack
Dorsey, Noah Glass, Biz Stone, และEvan Williams
WhatsApp วอทสแ์ อพพ์ (2009 AD )

โปรแกรมประยุกต์สำหรบั โทรศพั ท์เคล่อื นทย่ี อดนยิ มอันดบั หนึง่ ของโลก ทีใ่ ช้สง่ ข้อความได้ท้ังภาพ
และเสียงในหลาย Platform เกิดขน้ึ จากนำ้ พกั นำ้ แรงของโปรแกรมเมอร์ชาวยูเครน Jan Koum
Instagram อินสตาแกรม (2010 AD)

Mike Krieger และKevin Systrom ได้เปิดตวั Aplication ถ่ายรูปยอดนิยมทท่ี รงอิทธพิ ลทสี่ ุดแห่ง
ยคุ สมัยท่ีใครๆ ก็อยากมีตวั ตนแบบคนดงั
LINE ไลน์ (2011 AD)

18

โดยการร่วมมือของบริษัท Naver Japan Corporation และบริษัท livedoor โดยมี NHN Japan
เป็นผู้พัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ของไลน์ และในส่วนของการตลาดด้านธุรกิจนั้นยกให้บริษัทแม่ที่เกาหลี NHN
Corporation จัดการ หลังจากที่เปิดตัวได้เพียงไม่นาน ก็ได้รับการตอบรับถึงหลายสิบล้านยูสเซอร์ในญี่ปนุ่
ประเด็นแรกที่ใช้ในการสร้างโปรแกรมแชท LINE ขึ้นมาก็มีสาเหตุมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ภูมิภาค
Tohoku เม่ือตน้ ปี 2011 นน่ั เอง ในตอนนนั้ ระบบการติดต่อทางการโทรศัพทล์ ม่ อย่างไมเ่ ปน็ ท่า ทำให้ NHN
Japan ตดั สนิ ใจออกแบบ App ทสี่ ามารถใช้ไดท้ ้งั บนมือถอื บนแทบ็ เลต็ และคอมพวิ เตอรพ์ ีซี ซงึ่ จะทำงานบน
เครือข่ายขอ้ มลู ที่สามารถแชทตอบโต้ได้รวดเรว็ และตอ่ เน่อื ง
AI ปัญญาประดิษฐ์ "Future and Beyond"

ความหวังแหง่ มวลมนษุ ยชาติในการสื่อสารออกไปยังจักรวาล ไมใ่ ชแ่ ค่เรื่องเพ้อฝนั อกี ตอ่ ไปเมื่อการ
สื่อสารสมัยใหม่ทำให้เกิดการแลกเปล่ียนความรู้เป็นไปได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งมีส่วนช่วยให้การค้นคว้าและ
สร้างสรรคเ์ ทคโนโลยีพัฒนาไปได้อย่างไร้ขอบเขต ปัญญาประดิษฐจ์ ึงอาจเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ทำให้เรา
สามารถคน้ หาคำตอบของจักรวาลอนั กวา้ งใหญ่ไดใ้ นสกั วนั

มารค์ ซัคเคอร์เบริ ์ก ซอี ีโอของบริษัทเทคโนโลยี เฟสบุ๊ค (Facebook) ประกาศเปลย่ี นชือ่ บรษิ ทั เปน็
เมตา (Meta) ในความพยายามส่งเสริมเทคโนโลยคี วามเปน็ จริง เสมือน หรือ Virtual Reality แห่งอนาคต
ภายใตค้ อนเซปตท์ ีเ่ รยี กว่า เมตาเวอร์ส (metaverse)

ซัคเคอร์เบริ ์ก อธิบายว่า เมตาเวอร์ส คือ "สิ่งแวดล้อมเสมือน" ที่เชื่อมโยงชุมชนเสมือนจริงตา่ ง ๆ
เข้าดว้ ยกนั โดยผ้ใู ช้สามารถพบปะกัน ทำงาน เล่น ซอ้ื ของออนไลน์ หรอื เข้าสือ่ สังคมออนไลน์ ผา่ นเทคโนโลยี
เสมอื นจรงิ (Virtual Reality) และเทคโนโลยเี สรมิ จริง (Augmented Reality) รวมทั้งแอปในโทรศัพท์มือถือ
หรืออุปกรณอ์ ื่น ๆ
ความหมายของดจิ ทิ ัล

ดจิ ทิ ลั (องั กฤษ: digital), เฉพาะชอ่ื เฉพาะอาจสะกดเป็น ดจิ ิทอล หรอื ดิจติ อล หรือในศัพทบ์ ัญญัติ
วา่ เชงิ เลข ในทฤษฎขี ้อมลู หรือระบบขอ้ มลู เป็นวิธแี ทนความหมายของขอ้ มลู หรอื ชิ้นงานต่างๆในรูปแบบของ
ตวั เลข โดยเฉพาะเลขฐานสอง ที่ไม่ตอ่ เนื่องกนั ซึง่ ต่างจากระบบแอนะลอ็ กทใี่ ชค้ า่ ตอ่ เนื่องหรอื สญั ญาณแอ
นะล็อกซึ่งเป็นคา่ ตอ่ เนอ่ื ง หรอื แทนความหมายของข้อมลู โดยการใชฟ้ งั ชน่ั ท่ีต่อเนื่อง

ถึงแมว้ า่ การแทนความหมายเป็นดจิ ทิ ลั จะไม่ต่อเนอ่ื ง ข้อมลู ทีถ่ ูกแปลความหมายน้นั สามารถเป็นได้
ทั้งไม่ต่อเนอ่ื ง (เชน่ ตวั เลขหรือตัวหนงั สือ) หรือตอ่ เนอื่ ง (เช่นเสยี ง,ภาพและการวดั อน่ื ๆ)
ประเภทของส่ือดจิ ทิ ัล

ดิจิตอลมอี ย่4ู
ประเภทประกอบด้วย
1. CD Training
2. CD Presentation
3. VCD/DVD
4. E-book และ E-document

19

1. CD Training คือ การสร้าง สือ่ ดจิ ิตอลในลักษณะทีเ่ ป็น CD ท่ีใช้ในการสอนการใชง้ าน จะเปน็ การ
สอนการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น สอนการใช้โปรแกรม Microsoft Word เป็นต้น นอกจากนั้น CD
Training ยังครอบคลุมไปถึงเรื่องการสอนการทำงานของโปรแกรมต่างๆ จะใช้เปน็ การสาธิตการทำงานของ
โปรแกรมเป็นต้น

2. CD Presentation คอื การสร้างเป็นสือ่ ดจิ ติ อลในลกั ษณะทเี่ ป็น CD ทใ่ี ช้สำหรบั ในการนำเสนอใน
สถานทตี่ ่าง ๆ เช่น นำเสนอข้อมลู ในท่ปี ระชุม นำเสนอข้อมลู บริษทั ทเ่ี รยี กว่า Company Profile

3. VCD /DVD คือ การสรา้ งสอ่ื ดจิ ิตอลในลกั ษณะทเี่ ปน็ CD ภาพยนตร์ ทมี่ กี ารตัดตอ่ ภาพยนตร์ต่าง
ๆ ในลักษณะทเี่ ป็น Movie Clip แล้วนำมาจดั เรียงต่อกันเปน็ ภาพยนตร์ 1 เรือ่ ง เป็นตน้

4. E-book และ E-document คือ การสร้างสื่อดิจิตอลในลักษณะที่เป็น การทำเป็นหนังสือ
อิเล็กทรอนกิ ส์ ซึ่งสามารถสรา้ งโดยการแปลงไฟลเ์ อกสารต่าง ๆ ให้เปน็ Webpage หรือเปน็ PDF File เป็น
ต้น

องค์ประกอบของสื่อดจิ ติ อล
องค์ประกอบของสื่อดิจิตอลเบื้องต้นจึงน่าจะเป็นอย่างเดียวกันกับองค์ประกอบเบื้องต้นของ

มัลติมีเดียด้วย ซึ่งมักประกอบไปด้วยพ้ืนฐาน 5 ชนิดได้แก่ 1. ข้อความ (Text) 2. เสียง (Audio) 3. ภาพนิ่ง
(Still Image) 4. ภาพเคล่ือนไหว (Animation) 5. ภาพวีดโี อ (Video)

1. ขอ้ ความ เปน็ สว่ นทเ่ี ก่ยี วกบั เน้ือหาของมลั ติมีเดีย ใชแ้ สดงรายละเอยี ด หรือเน้อื หาของเรอื่ งท่ี
นาเสนอ ถือว่าเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญของมัลติมีเดีย ระบบมัลติมีเดียที่นาเสนอผา่ นจอภาพของ
เครื่องคอมพิวเตอร์ นอกจากจะมีรูปแบบและสขี องตวั อักษรใหเ้ ลือกมากมายตามความตอ้ งการแล้วยงั สามารถ

20

กาหนดลักษณะของการปฏิสัมพันธ์ (โต้ตอบ)ในระหว่างการนาเสนอได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน มีหลายรูปแบบ
ได้แก่

1.1 ขอ้ ความที่ไดจ้ ากการพิมพ์ เป็นขอ้ ความปกติทพี่ บได้ท่ัวไป ไดจ้ ากการพิมพด์ ้วย โปรแกรม
ประมวลผลงาน (Word Processor) เช่น NotePad, Text Editor, Microsoft Word โดยตัวอักษรแต่ละตัว
เกบ็ ในรหัส เช่น ASCII

1.2 ขอ้ ความจากการสแกน เป็นข้อความในลักษณะภาพ หรอื Image ไดจ้ ากการนาเอกสารที่
พมิ พไ์ วแ้ ล้ว(เอกสารตน้ ฉบบั ) มาทาการสแกน ด้วยเคร่อื งสแกนเนอร์ (Scanner) ซึ่งจะได้ผลออกมาเป็นภาพ
(Image) 1 ภาพ ปัจจบุ นั สามารถแปลงขอ้ ความภาพ เป็นข้อความปกติได้ โดยอาศัยโปรแกรม OCR ข้อความ
อิเล็กทรอนิกส์ เป็นข้อความท่ีพัฒนาใหอ้ ยู่ในรปู ของสอ่ื ทใี่ ช้ประมวลผลได้

1.3 ขอ้ ความไฮเปอรเ์ ทก็ ซ์ (HyperText) เป็นรูปแบบของข้อความ ทไี่ ดร้ ับความนิยมสูงมากใน
ปจั จบุ นั โดยเฉพาะการเผยแพร่เอกสารในรปู ของเอกสารเว็บ เน่อื งจากสามารถใช้เทคนิค การลิงก์ หรือเช่ือม
ข้อความไปยังขอ้ ความ หรอื จดุ อืน่ ๆ ได้

2. เสียง ถูกจัดเก็บอยู่ในรูปของสัญญาณดิจิตอลซึ่งสามารถเล่นซ้ำกลับไปกลับมาได้ โดยใช้
โปรแกรมที่ออกแบบ มาโดยเฉพาะสาหรบั ทางานด้านเสียง หากในงานมัลติมเี ดียมีการใช้เสียงที่เร้าใจและ
สอดคล้องกบั เนอ้ื หาใน การนาเสนอ จะช่วยให้ระบบมลั ติมีเดยี นน้ั เกดิ ความสมบรู ณ์แบบมากยงิ่ ขนึ้ นอกจากนี้
ยงั ช่วยสรา้ งความนา่ สนใจและน่าตดิ ตามในเรื่องราวตา่ งๆ ได้เป็นอยา่ งดี ทัง้ น้เี น่ืองจากเสยี งมีอิทธิพลต่อผู้ใช้
มากกวา่ ข้อความหรือภาพนงิ่ ดังนัน้ เสยี งจงึ เป็นองค์ประกอบทจ่ี าเป็นสาหรบั มลั ติมีเดยี ซึ่งสามารถนาเขา้ เสียง
ผ่านทางไมโครโฟน แผ่นซดี ดี ีวีดี เทป และวทิ ยุ เป็นต้น

3. ภาพนิ่ง เป็นภาพที่ไม่มีการเคลื่อนไหว เช่น ภาพถ่าย ภาพวาด และภาพลายเส้น เป็นต้น
ภาพนิ่งนบั วา่ มบี ทบาทตอ่ ระบบงานมลั ติมเี ดียมากกวา่ ขอ้ ความหรือตัวอกั ษร เนอ่ื งจากภาพจะให้ผลในเชิงการ
เรยี นร้หู รอื รบั รู้ด้วยการมองเหน็ ได้ดกี ว่า นอกจากนยี้ งั สามารถถา่ ยทอดความหมายได้ลกึ ซงึ่ มากกว่าข้อความ
หรอื ตวั อกั ษรซง่ึ ขอ้ ความหรือตวั อกั ษรจะมขี อ้ จากดั ทางด้านความแตกตา่ งของแตล่ ะภาษา แต่ภาพนั้นสามารถ
สื่อความหมายได้กับทุกชนชาติ ภาพนิ่งมักจะแสดงอยู่บนสื่อชนิดต่างๆ เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์หรือ
วารสารวชิ าการ เป็นต้น

4. ภาพเคล่ือนไหว ภาพกราฟิกทม่ี ีการเคลอ่ื นไหวเพอ่ื แสดงข้ันตอนหรอื ปรากฏ การณ์ตา่ งๆ ที่
เกิดขน้ึ อยา่ งต่อเน่ือง เช่น การเคลือ่ นท่ีของลกู สูบของเครอ่ื งยนต์ เปน็ ต้น ท้งั นเี้ พอื่ สร้างสรรค์จินตนาการให้
เกดิ แรงจูงใจจากผู้ชม การผลติ ภาพเคลอื่ นไหวจะต้องใช้โปรแกรมทมี่ ีคุณสมบตั ิเฉพาะทางซงึ่ อาจมปี ญั หาเกดิ
ขน้ึ อยู่บา้ งเกี่ยวกบั ขนาดของไฟล์ที่ต้องใชพ้ ้ืนท่ใี นการจดั เกบ็ มากกว่าภาพนงิ่ หลายเทา่

5. วดิ โี อ เป็นองคป์ ระกอบของมัลติมเี ดยี ทมี่ ีความสาคญั เปน็ อย่างมาก เนอ่ื งจากวดิ ีโอในระบบ
ดิจิตอล สามารถ นาเสนอข้อความหรอื รปู ภาพ (ภาพนิ่งหรอื ภาพเคล่ือนไหว) ประกอบกบั เสียงได้สมบรู ณ์
มากกว่าองค์ประกอบชนิดอ่ืนๆ อยา่ งไรกต็ าม ปญั หาหลกั ของการใชว้ ดิ ีโอในระบบมัลตมิ เี ดยี กค็ อื การ
ส้ินเปลืองทรพั ยากรของพนื้ ที่บนหนว่ ยความจาเปน็ จานวนมาก เนื่องจากการนาเสนอวิดโี อดว้ ยเวลาทเ่ี กดิ ข้นึ
จรงิ (Real-Time) จะตอ้ งประกอบด้วยจานวนภาพไมต่ ่ำกวา่ 30 ภาพตอ่ วนิ าที(Frame/Second) ถ้าหากการ

21

ประมวลผลภาพดงั กล่าวไม่ได้ผ่านกระบวนการบบี อัดขนาดของสญั ญาณมากอ่ น การนาเสนอภาพเพียง 1
นาทอี าจต้องใช้หน่วยความจามากกว่า 100 MB ซง่ึ จะทาใหไ้ ฟล์มขี นาดใหญเ่ กินขนาดและมปี ระสิทธภิ าพใน
การทางานทด่ี ้อยลงนน้ั เอง

แบบฝกึ หดั /เฉลย

ตอนท่ี 1 จงเลอื กคําตอบทถี่ กู ต้องทีส่ ุดเพียงข้อเดียว

คำสง่ั จงทำเครื่องหมายกากบาท () หนา้ ขอ้ ทถ่ี ูกตอ้ งมากทสี่ ุดเพยี งข้อเดียว

1. สือ่ ดจิ ทิ ลั คอื

ก. สอ่ื มัลตมิ เี ดีย ทต่ี อ้ งอาศยั การใชค้ อมพิวเตอรแ์ สดงผล เปน็ ลกั ษณะการผสมสือ่ หลายชนดิ เขา้ ดว้ ยกัน

โดยเน้นทีก่ าร เปดิ โอกาสให้ผู้ใชไ้ ด้เห็น ได้เลือกกอ่ นนำมาใช้

ข. สอื่ ทม่ี ีการนำเอาข้อความ กราฟิก ภาพเคล่อื นไหว เสยี ง มาจดั รปู แบบ โดยอาศยั เทคโนโลยีความ

เจริญกา้ วหนา้ ทางดา้ นคอมพวิ เตอร์ สอ่ื สารทางออนไลน์

ค. สื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ ทม่ี ีข้อมลู ถูกเกบ็ ไวใ้ น ระบบดจิ ิตอล

ง. การพฒั นาการเขียนในยคุ ตา่ งๆ ในอดีตทำใหเ้ กดิ การเรียนรจู้ นถึงปจั จบุ ันสกู่ ารใชก้ ารสอื่ สารทางอิน

เทอร์ เนต็ เป็นสถิตทิ ส่ี ูง ทำใหต้ อ้ งมกี ารบรหิ ารจดั การ และกำหนดมาตรฐานสือ่ ดจิ ิทัลข้ึนเพ่อื ใหผ้ ใู้ ช้ไดเ้ ขา้ ถงึ

ได้สูงสุด

2. กา้ วแรกและก้าวสำคญั ท่ที ำให้เกดิ การส่ือสารกนั ระหว่างมนษุ ยค์ อื

ก. การพดู ข. ภาษาท่าทาง ค. การออกเสยี ง ง. การใช้สญั ลกั ษณ์

3. สมาร์ตโฟนเครื่องแรกถอื กำเนดิ ข้นึ โดย บริษัทใด

ก. Apple ข. Sumsung ค. Motorola ง. IBM

4. ยุคใดท่เี ทคโนโลยสี ่ือสารเข้ามามีบทบาทสำคญั ในการดำเนินชวี ติ มากกวา่ การแลกเปลี่ยนขอ้ มลู

ก. ยุคเครอื ขา่ ยสงั คม ข. ยุคดจิ ทิ ัล

ค. ยุคอนาล็อก ง. ปัญญาประดษิ ฐ์

5. ยคุ ใดท่ีคอมพวิ เตอร์เขา้ มามบี ทบาท

ก. ยุคเครอื ข่ายสงั คม ข. ยคุ ดจิ ิทลั

ค. ยคุ อนาล็อก ง. ปญั ญาประดิษฐ์

6. ประเภทของสอ่ื ดิจทิ ลั มกี ีประเภท

ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท

7. ข้อใดไมใ่ ช่องค์ประกอบของสื่อดจิ ทิ ัล

ก. ขอ้ ความ ข. เสียง ค. ภาพเคล่อื นไหว ง. ตัวเลข

8. อินเทอรเ์ นต็ คอื 22

ก. ระบบเครือข่ายขนาดใหญท่ สี่ ดุ ในโลก ง. อินเทอร์เนต็
ง. Twitter
ข. ระบบคอมพิวเตอรท์ ่ีใหญท่ ี่สุดในโลก

ค. ระบบโทรคมนาคมที่ใหญท่ ี่สุดในโลก

ง. ระบบความเรว็ ท่ีใช้ในการสื่อสารขนาดใหญ่

9. ขอ้ ใดไมใ่ ชอ่ ุปกรณส์ อ่ื ดิจิทัล

ก. สมาร์ทโฟน ข. คอมพวิ เตอร์ ค. บตั รเอทเี อม็

10. แอปพลิเคช่นั ใดทคี่ นรุ่นใหมใ่ ชใ้ นชวี ติ ประจำวันมากท่สี ดุ

ก. Facebook ข. Line ค. Instargram

เอกสารอา้ งอิง
-
ภาคผนวก (ถ้ามี)

23

ใบงานที่ 1 หนว่ ยที่ 1

รหัสวชิ า 30204-2102 ชื่อวิชา ส่ือสร้างสรรคธ์ ุรกจิ ดจิ ิทลั ภาคเรยี นที่ 2

ชอ่ื หนว่ ย ความรู้เบอื้ งต้นเกี่ยวกบั สื่อธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั เวลารวม 8 ชัว่ โมง

ชือ่ งาน ความรู้เบ้อื งต้นเกี่ยวกับสอื่ ธรุ กจิ ดจิ ิทลั จำนวน 4 ชว่ั โมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1 จดุ ประสงค์ทัว่ ไป
1. มีความรู้ความเขา้ ใจความรเู้ บ้ืองต้นเกยี่ วกบั สอื่ ธรุ กจิ ดจิ ิทลั
2. เข้าใจหลกั การและกระบวนการความรเู้ บื้องตน้ เกี่ยวกับสอื่ ธรุ กิจดจิ ทิ ลั

3. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผสู้ ำเรจ็ การศึกษา

2 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. ผู้เรยี นอธบิ ายคณุ ลักษณะของสอ่ื ดจิ ิทลั ทีด่ ีได้

2. ผู้เรียนอธบิ ายสอื่ สงั คมออนไลน์ได้
3. ผเู้ รียนอธบิ ายความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั ส่อื ธรุ กจิ ดจิ ิทลั ได้
3 สาระการเรยี นรู้

1. ความหมายของสอ่ื ดจิ ทิ ลั

2. ววิ ัฒนาการการส่ือสาร

3. ความสำคญั ของธรุ กจิ
4. ปจั จยั พ้ืนฐานในการดำเนินธรุ กจิ

5. ความหมายของส่ือสงั คมออนไลน์

6. ประเภทของส่อื สังคมออนไลน์
สมรรถนะรายหน่วย

แสดงความรเู้ กีย่ วกบั ความรูเ้ บอื้ งต้นเกย่ี วกับสอื่ ธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั

เครือ่ งมอื วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครื่องคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สือ

ลำดบั ขนั้ ตอนการปฏิบัตงิ าน
1. ใหน้ กั ศึกษาแบ่งกลุม่ ตามความเหมาะสม เพอ่ื ศึกษาและอภิปราย
1.1 อธบิ ายความรเู้ กยี่ วกบั ความเข้าใจความรู้เบือ้ งตน้ เกีย่ วกบั สือ่ ธรุ กิจดจิ ทิ ลั
1.2 เขียนรูปพร้อมอธบิ ายความเข้าใจความรเู้ บ้อื งต้นเก่ยี วกบั ส่อื ธุรกจิ ดจิ ิทลั
2. เขยี นอภิปรายและวเิ คราะหใ์ ส่กระดาษ
3. นำผลงานสง่ ครูผสู้ อนเพือ่ ประเมินผล

24

ภาพประกอบ-
ขอ้ ควรระวัง

ผเู้ รยี นควรตรวจสอบข้อมลู กอ่ นให้ถี่ถว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพอ่ื ปอ้ งกนั ความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ (ถา้ มี)
นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาใหส้ อดคล้องกบั ภาพใหถ้ ูกตอ้ ง
การประเมินผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมินใหช้ ดั เจน)

1. สังเกตผู้เรยี นมคี วามสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้น
ในการแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรยี นรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานได้อย่างถกู ต้อง ทันเวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผูเ้ รียนทำแบบฝึกหดั หลังเรียนไดถ้ ูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
-

25

ใบกิจกรรมท่ี 1 หน่วยท่ี 1

รหสั วชิ า 30204-2102 ช่อื วิชา สือ่ สร้างสรรค์ธรุ กิจดจิ ทิ ลั ภาคเรียนท่ี 2

ชือ่ หน่วย ความรเู้ บอ้ื งตน้ เก่ียวกบั สอ่ื ธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั เวลารวม 8 ช่ัวโมง

ชือ่ งาน ความรู้เบื้องต้นเกีย่ วกับสอ่ื ธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั จำนวน 4 ชวั่ โมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1. มคี วามร้คู วามเข้าใจความร้เู บ้อื งตน้ เก่ียวกบั ส่ือธรุ กิจดจิ ทิ ลั
2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ยี วกับสอื่ ธรุ กิจดจิ ทิ ลั
3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผ้สู ำเรจ็ การศึกษา

2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. ผู้เรียนอธบิ ายคุณลกั ษณะของสอื่ ดจิ ทิ ลั ทด่ี ีได้

2. ผ้เู รียนอธิบายสื่อสงั คมออนไลน์ได้
3. ผูเ้ รยี นอธบิ ายความรู้เบอื้ งตน้ เกย่ี วกบั สื่อธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั ได้
3 สาระการเรยี นรู้

1. ความหมายของสอื่ ดิจทิ ลั

2. วิวฒั นาการการส่อื สาร

3. ความสำคัญของธุรกจิ

4. ปัจจัยพ้ืนฐานในการดำเนินธุรกจิ

5. ความหมายของสอ่ื สงั คมออนไลน์

6. ประเภทของส่ือสงั คมออนไลน์
สมรรถนะรายหน่วย

แสดงความร้เู กี่ยวกบั ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกบั สือ่ ธรุ กจิ ดิจิทลั

เครอ่ื งมือ วัสดุ – อุปกรณ์
1. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สือ

ลำดบั กจิ กรรม
1. ผู้เรยี นต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพือ่ หาเทคนิค วธิ ีการ หรือหลกั การงา่ ยเพื่อให้หาคำตอบ

ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควธิ ีการที่ครผู ู้สอนสรปุ ในขณะทีท่ ำการ
สอน และนำข้อสงสัยซักถามครูในการเรียนทกุ ครงั้ ทีเ่ กิดความสับสน และไม่เข้าใจ

2. ผู้มกี ารทบทวนบทเรยี น ตลอดเพอ่ื เสริมสร้างความเขา้ ใจอยา่ งแท้จริง
3. ผู้เรียนหมั่นทำใบงาน แบบฝกึ หัด และแก้ไขขอ้ ทผี่ ดิ ใหถ้ ูกต้องเสมอ

26

4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกบั
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดข้ึนโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
ไม่ใช่เกดิ จากการทอ่ งจำ

5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาท่ี
กำหนด และฝกึ ฝนตนเองเสมอ เม่อื ไดร้ ับมอบหมายงานมา
การประเมินผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ัดเจน)

1. สงั เกตผเู้ รยี นมคี วามสนใจ เกิดความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้นใน
การแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อยา่ งถูกตอ้ ง ทนั เวลาที่กำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผูเ้ รียนทำแบบฝกึ หดั หลงั เรยี นไดถ้ กู ต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เปน็ อยา่ งตำ่
เอกสารอ้างอิง
-

27

ใบปฏบิ ัตงิ านที่ 1 หน่วยที่ 1

รหสั วิชา 30204-2102 ชื่อวชิ า สอ่ื สรา้ งสรรค์ธุรกจิ ดจิ ิทลั ภาคเรียนที่ 2

ช่อื หน่วย ความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั ส่ือธุรกจิ ดิจทิ ัล เวลารวม 8 ชวั่ โมง

ช่อื งาน ความรเู้ บ้อื งต้นเก่ยี วกบั สื่อธรุ กจิ ดจิ ิทลั จำนวน 4 ชว่ั โมง

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1 จดุ ประสงค์ท่วั ไป

1. มีความรู้ความเขา้ ใจความรูเ้ บือ้ งตน้ เกยี่ วกบั สื่อธรุ กิจดจิ ทิ ลั

2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการความรเู้ บ้ืองต้นเกีย่ วกับสอื่ ธุรกจิ ดจิ ทิ ลั

3. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สำเรจ็ การศึกษา

2 จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. ผู้เรยี นอธบิ ายคุณลักษณะของสอ่ื ดจิ ิทลั ที่ดีได้

2. ผู้เรยี นอธิบายส่อื สังคมออนไลน์ได้
3. ผเู้ รยี นอธบิ ายความร้เู บ้อื งต้นเก่ยี วกบั ส่อื ธรุ กจิ ดจิ ทิ ลั ได้
4 สาระการเรยี นรู้

1. ความหมายของสอ่ื ดจิ ทิ ัล

2. วิวัฒนาการการสื่อสาร

3. ความสำคัญของธุรกจิ

4. ปจั จัยพน้ื ฐานในการดำเนินธุรกจิ

5. ความหมายของสือ่ สงั คมออนไลน์

6. ประเภทของสอ่ื สังคมออนไลน์

สมรรถนะรายหนว่ ย

แสดงความรเู้ ก่ยี วกับความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกบั ส่ือธุรกจิ ดิจทิ ลั

เครื่องมือ วัสดุ – อปุ กรณ์

1. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook

2. โปรเจ็คเตอร์

3. หนงั สอื

ลำดับขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน

1. ผูเ้ รียนคน้ หาขอ้ มลู จากในอินเตอร์เนต็ ตามเรอ่ื งที่ไดร้ บั มอบหมายมาจาครผู สู้ อน

2. เมือ่ ผเู้ รยี นไดร้ ับขอ้ มลู เรยี บรอ้ ยแล้ว ใหผ้ เู้ รียน นำข้อมูลน้ัน มาเรยี บเรียงใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้

สามารถเข้าใจได้ง่าย โดยจดั ทำในรูปแบบเล่มรายงาน

ภาพประกอบ

ข้อควรระวัง

28

ผ้เู รียนควรตรวจสอบข้อมลู กอ่ นให้ถีถ่ ว้ น ละเอียด และรอบคอบก่อน เพื่อปอ้ งกนั ความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ

นกั ศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเน้อื หาให้สอดคล้องกบั ภาพให้
ถูกต้อง
การประเมินผล

1. สังเกตผ้เู รียนมคี วามสนใจ เกิดความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรุปสาระการเรยี นร้ปู ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ทันเวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝึกหดั หลงั เรียนไดถ้ กู ตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งอิง
-

29

ใบมอมหมายงานที่ 1 หนว่ ยที่ 1

รหสั วชิ า 30204-2102 ช่อื วิชา ส่อื สรา้ งสรรคธ์ รุ กจิ ดจิ ทิ ลั ภาคเรยี นที่ 2

ชอื่ หนว่ ย ความรูเ้ บ้อื งตน้ เกยี่ วกบั สอื่ ธุรกจิ ดจิ ทิ ลั เวลารวม 8 ชั่วโมง

ช่ืองาน ความรูเ้ บื้องตน้ เกยี่ วกับสอื่ ธรุ กิจดจิ ิทลั จำนวน 4 ช่วั โมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1 จุดประสงคท์ ่วั ไป

1. มีความรูค้ วามเขา้ ใจความรู้เบ้อื งต้นเก่ยี วกบั สอื่ ธรุ กิจดจิ ิทลั

2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการความรเู้ บอื้ งต้นเก่ยี วกบั สอื่ ธุรกิจดจิ ิทลั

3. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา

2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. ผู้เรียนอธบิ ายคณุ ลักษณะของสือ่ ดจิ ทิ ลั ทดี่ ไี ด้

2. ผเู้ รียนอธบิ ายสอ่ื สงั คมออนไลน์ได้
3. ผเู้ รียนอธบิ ายความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ยี วกบั สอื่ ธรุ กจิ ดจิ ิทลั ได้
5 สาระการเรยี นรู้

7. ความหมายของสื่อดิจทิ ัล

8. วิวัฒนาการการส่ือสาร

9. ความสำคญั ของธรุ กจิ

10. ปจั จยั พ้นื ฐานในการดำเนินธรุ กจิ

11. ความหมายของสอื่ สงั คมออนไลน์

12. ประเภทของส่ือสังคมออนไลน์

สมรรถนะรายหน่วย

แสดงความรเู้ ก่ยี วกับความรู้เบอ้ื งต้นเก่ยี วกับสอ่ื ธุรกจิ ดิจทิ ลั

เครอื่ งมอื วสั ดุ – อุปกรณ์

1. เครือ่ งคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook

2. โปรเจ็คเตอร์

3. หนังสือ

แนวทางการปฏบิ ตั งิ าน

1. ใหผ้ ูเ้ รยี นปฏิบตั งิ านตามใบงาน ใบกจิ กรรม ใบปฏบิ ตั งิ าน อย่างเครง่ ครดั ตามหัวข้อทไ่ี ดร้ บั

มอบหมาย ใหเ้ สรจ็ ส้ินตามระยะเวลาท่ีกำหนด พร้อมทง้ั การจดั ทำรายงาน และนำเสนองานอยา่ ง

ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน เป็นระเบียบเรียบรอ้ ย

2. ให้ผูเ้ รยี นแบง่ หน้าทกี่ บั เพื่อนในกลมุ่ ให้ชดั เจน และสามารถเข้าใจเนอ้ื หาตามหัวข้อดงั กล่าว ได้

อย่างถูกตอ้ ง ครบถ้วน

30

ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวงั

ผู้เรียนควรตรวจสอบขอ้ มลู ก่อนใหถ้ ่ถี ว้ น ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพื่อปอ้ งกนั ความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ข้อเสนอแนะ

นักศกึ ษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเนือ้ หาใหส้ อดคล้องกับภาพให้
ถกู ต้อง
การประเมนิ ผล

1. สังเกตผ้เู รยี นมีความสนใจ เกิดความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือรน้ ใน
การแสดงความคดิ เหน็ และสรปุ สาระการเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ทันเวลาทกี่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หัดหลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งอิง

31

แผนการจดั การเรยี นรู้

หนว่ ยที่ 2 การส่ือสารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต จำนวน 16 ชั่วโมง สัปดาหท์ ่ี 3-6

รหัสวิชา 30204-2102 ชื่อวชิ า ส่ือสรา้ งสรรคธ์ รุ กจิ ดจิ ทิ ลั

1. สาระสำคญั

การส่ือสารผ่านอินเทอร์เน็ตที่ใช้กนั มากมีหลายรูปแบบ เช่น การส่งไปรษณยี อ์ ิเล็กทรอนิกส์ การเขยี น

ข้อความโต้ตอบกัน ทำแบบทนั ทีทันใด และแบบทิ้งระยะเพื่อรอคำตอบ การเสนอข้อคิดเห็นจากประสบการณ์

ของตนลงกระดานเสวนา (เว็บบอร์ด) และสมุดบันทึกออนไลน์ (เว็บบล็อก) เทคโนโลยีการสื่อสารผ่าน

อินเทอร์เนต็ ในปัจจุบันทำให้นักเรียนสามารถสื่อสารกนั ดว้ ยเสียงพูดแบบเดียวกับที่พูดกันผ่านเครื่องโทรศัพท์

กระทั่งสามารถเห็นภาพคู่สนทนาขณะกำลังพูดคุยกันได้ หากเครื่องคอมพิวเตอร์ของทั้งสองฝ่ายมีอุปกรณ์

ถา่ ยภาพติดตัง้ อยู่ด้วยนกั เรยี นควรใชเ้ ครอ่ื งมอื ส่ือสารผา่ นอินเทอรเ์ น็ตใหถ้ กู ต้องและเกิดประโยชน์ท้ังต่อตนเอง

และผอู้ ืน่ โดยการใชภ้ าษาในการสอื่ สารผา่ นช่องทางดงั กล่าวอย่างเหมาะสม

2. สมรรถนะประจำหนว่ ย

แสดงความรเู้ กีย่ วกบั การสือ่ สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. มีความรู้ความเขา้ ใจการสอ่ื สารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต

2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการการส่ือสารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็

3. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผูส้ ำเรจ็ การศกึ ษา

4. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. ผูเ้ รียนอธบิ ายความหมายและวิวฒั นาการของการสื่อสารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต
2. ผเู้ รียนอธบิ ายความสำคัญของการสือ่ สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็ ได้
3. ผเู้ รียนอธบิ ายวธิ ีการและชอ่ งทางการสอ่ื สารผ่านอินเตอรเ์ น็ตได้
4. ผเู้ รยี นอธบิ ายอปุ กรณก์ ารสอ่ื สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็ ได้
5. ผเู้ รียนอธบิ ายอุปกรณ์การสอื่ สารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ ได้

5. สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของอนิ เตอรเ์ น็ต
2. ววิ ฒั นาการอินเตอร์เน็ต
3. ความสำคญั ของการสื่อสารผา่ นอินเตอรเ์ นต็
4. วิธกี ารและช่องทางการสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอรเ์ นต็
5. อปุ กรณก์ ารสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอร์เน็ต
6. ประเภทของการสอ่ื สารผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต

32

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมนักเรียน
กิจกรรมครู

ขน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรยี น( 30 นาที)

1. ตรวจสอบรายชอ่ื นกั ศกึ ษาทเ่ี ข้าเรียน 1. ให้ความรว่ มมอื กบั ครูในการตรวจสอบ

2. ให้นกั ศกึ ษาค้นควา้ ความรู้การสอ่ื สารผา่ น 2. คน้ คว้า การสอ่ื สารผ่านอินเตอร์เน็ต
อินเตอรเ์ น็ต 3. ร่วมสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ การสอ่ื สาร
3. ร่วมสนทนาเกย่ี วกบั เร่ือง การสื่อสารผา่ น ผา่ นอินเตอรเ์ น็ต
อินเตอรเ์ นต็

ขนั้ ดำเนนิ การสอน( 180 นาท)ี

1. บอกจุดประสงคก์ ารเรียน ฟัง ทำความเข้าใจและซักถาม

2. บรรยาย อธิบาย ยกตวั อยา่ ง แสดงวธิ กี าร ฟัง ทำความเข้าใจและปฎิบัติตาม
ปฎิบัตใิ นแตล่ ะหวั ข้อการเรียนและให้นักศึกษา ผู้เรียนซักถามข้อสงสัยและจดบนั ทึก
ปฎิบัตไิ ปพรอ้ มกนั รับการประเมนิ

3. ครบู อกวธิ กี าร และแนวคิดในการปฏบิ ตั ทิ ่ี
ถกู ตอ้ งให้แกผ่ เู้ รียน

4. ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคลโดยครจู ะซักถาม
ในแต่ละคน

ข้ันสรปุ ( 30 นาที) ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ สาระสำคญั
ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ สาระสำคัญ นักเรียนสอบถามข้อสงสัย
เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามข้อสงสัย ฟังและจดบนั ทึก
มอบหมายให้ไปหัดทำและศกึ ษาเพมิ่ เติม ทำแบบทดสอบทา้ ยบท
ทำแบบทดสอบ

6. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. เอกสารประกอบการเรียนการสอน
2. Google Classroom
3. การสบื คน้ ขอ้ มลู Online

33

7. หลักฐานการเรียนรู้

7.1 หลักฐานความรู้

1. แผนการสอน

2. สื่อการสอน

3. เอกสารประกอบการสอน

4. ใบความรู้

7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั ิงาน

1. บันทกึ หลงั สอน

2. การเช็คชื่อนกั ศึกษาเขา้ หอ้ งเรียน ผ่านระบบ STD online

3. แผนการสอน

4. ผลการทำแบบทดสอบของนกั ศกึ ษา

8. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

8.1 เครอ่ื งมือประเมิน

1. ใบงาน

2. แบบฝกึ หัด

3. แบบประเมินผลงาน

4. แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

8.2 เกณฑ์การประเมิน

เครอ่ื งมอื การประเมิน วิธวี ัดและประเมิน เกณฑ์การประเมิน

แบบฝกึ หัด ตรวจแบบฝกึ หดั ได้คะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขนึ้ ไป

ถกู 1 คะแนน

ไมถ่ ูก 0 คะแนน

แบบฝกึ ปฏิบัติ ตรวจแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ข้นึ ไป

ถกู 1 คะแนน

ไมถ่ กู 0 คะแนน

34

แบบทดสอบหลังเรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป
แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม ถูก 1 คะแนน
จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึง ไม่ถูก 0 คะแนน ได้คะแนน
ประสงค์ สังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป
ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรบั ปรงุ 0 คะแนน

9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถ้ามี)
1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนคิ วิธีการ หรือหลักการง่ายเพือ่ ให้หาคำตอบได้

อยา่ งถกู ตอ้ ง และรวดเรว็ โดยการ ตั้งใจฟงั หลกั การ เทคนิควธิ ีการทีค่ รูผ้สู อนสรปุ ในขณะที่ทำการสอน และนำ
ข้อสงสัยซกั ถามครูในการเรียนทุกครั้งทเ่ี กิดความสับสน และไม่เขา้ ใจ

2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอย่างแท้จริง
3. ผเู้ รียนหม่นั ทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขข้อทผ่ี ดิ ใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรยี นตอ้ งสรา้ งมโนภาพใหเ้ กดิ ความคิดรวบยอดในสาระการเรยี นรแู้ ละเทคนคิ วธิ ีการพรอ้ มกบั ความ
จำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพือ่ เกิดความรู้ความเข้าใจอยา่ งแทจ้ ริงไม่ใช่เกิดจาก
การท่องจำ
10. เอกสารอ้างองิ
-

35

ใบความร้ทู ่ี 2 หนว่ ยท่ี 2

รหสั วิชา 30204-2102 ช่อื วิชา ส่ือสรา้ งสรรคธ์ รุ กิจดจิ ทิ ลั ภาคเรยี นที่ 2

ช่อื หนว่ ย การสอ่ื สารผ่านอินเตอรเ์ น็ต เวลารวม 16 ชว่ั โมง

ชอ่ื เรอ่ื ง การส่อื สารผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต เวลา 4 ช่ัวโมง

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. มคี วามรู้ความเข้าใจการสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอร์เน็ต

2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการการสื่อสารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต

3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้สำเรจ็ การศกึ ษา

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. ผเู้ รียนอธบิ ายความหมายและววิ ฒั นาการของการส่ือสารผ่านอินเตอร์เน็ต

2. ผเู้ รียนอธบิ ายความสำคญั ของการสือ่ สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็ ได้

3. ผ้เู รยี นอธบิ ายวธิ กี ารและชอ่ งทางการส่อื สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็ ได้

4. ผ้เู รียนอธิบายอปุ กรณ์การสือ่ สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็ ได้

5. ผ้เู รยี นอธบิ ายอปุ กรณก์ ารสอื่ สารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ ได้

สาระการเรยี นรู้

1.ความหมายของอนิ เตอรเ์ นต็

2.วิวัฒนาการอินเตอรเ์ น็ต

3.ความสำคัญของการส่ือสารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต

4.วธิ ีการและชอ่ งทางการสอ่ื สารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็

5.อุปกรณก์ ารส่อื สารผา่ นอนิ เตอร์เนต็

6.ประเภทของการสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอรเ์ นต็

สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความร้เู กีย่ วกบั การส่ือสารผ่านอินเตอรเ์ นต็

36

หน่วยที่ 2 การส่อื สารผ่านอินเตอรเ์ นต็
บริการบนอนิ เทอร์เน็ต (Internet Service)

บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ หมายถึง สงิ่ ทีเ่ ราสามารถกระทำได้เมอ่ื เราเช่อื มต่อกบั อินเทอรเ์ น็ต ซ่งึ มมี ากมาย
หลายอย่าง เช่น

1. E-mail หรือไปรษณยี ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เปน็ บรกิ ารในระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ส่ี ำคญั ทมี่ ีผู้นยิ มใช้
บรกิ ารกนั มาก สามารถสง่ ตัวอกั ษร ข้อความ แฟม้ ขอ้ มูล ภาพ เสียง ผา่ นระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ ไปยังผรู้ บั
อาจจะเป็นคนเดยี ว หรอื กล่มุ คน โดยทงั้ ทผ่ี ู้สง่ และผรู้ บั เป็นผู้ใชท้ อี่ ยู่ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เดยี วกนั
ชว่ ยให้ สามารถติดตอ่ สือ่ สาร ระหวา่ งกันได้ทว่ั โลกมคี วามสะดวก รวดเรว็ และสามารถสอ่ื สารถึงกันไดต้ ลอดเวลา
โดยไมต่ อ้ งคำนึงถึงวา่ ผรู้ ับจะอยทู่ ่ไี หน จะใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์อยู่หรอื ไม่ เพราะไปรษณยี อ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สจ์ ะเก็บ
ข้อความเหลา่ น้ันไว้

2. การโอนยา้ ยแฟ้มข้อมลู (Upload, Download, FTP) การโอนยา้ ยแฟม้ ขอ้ มลู เป็นการเปลย่ี น
ไฟลข์ อ้ มูลอิเล็กทรอนกิ สร์ ะหวา่ งเครอ่ื งเซิรฟ์ เวอรท์ ่ใี ห้บริการในการโอนยา้ ยแฟม้ ข้อมลู เรียกวา่ FTP Server กบั
เครือ่ งไคลเอนตท์ ี่ใช้บริการทเ่ี รยี กวา่ FTP Client แบ่งเป็น 2 ลกั ษณะ คือ การดาวนโ์ หลด และ การอัปโหลด

2.1 การดาวนโ์ หลด ( Download ) คือ การโอนย้ายแฟ้มข้อมลู จากเครอื่ งเซริ ์ฟเวอร์ในระบบ
เครอื ข่ายอินเทอรเ์ น็ตมาบนั ทึกไว้ในคอมพิวเตอร์

2.2 การอปั โหลด ( Upload ) คือ การโอนย้ายแฟม้ ขอ้ มลู จากคอมพวิ เตอร์ไปบนั ทกึ ไว้ทีเ่ ครื่อง
เซริ ฟ์ เวอรท์ ีใ่ หบ้ รกิ ารผ่านโปรแกรมสำหรบั อปั โหลด

3. การเผยแพรส่ ารสนเทศ มหี ลายรปู แบบ ไดแ้ ก่ การจัดทำเว็บเพจฝากไว้ในเวบ็ ไซต์ กระดาน
ข้อความกระดานขา่ ว (Web Board) บนเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ นต็ มีการใหบ้ ริการในลักษณะของกระดานข่าว โดย
แบ่งออกเปน็ กลมุ่ ย่อย ๆ จำนวนหลายพนั กลมุ่ เรยี กว่าเปน็ กลมุ่ ข่าว หรอื Newsgroup ทุกๆ วนั จะมีผสู้ ง่

37

ขา่ วสารกันผา่ นระบบดงั กล่าว โดยแบง่ แยกออกตามกลมุ่ ทส่ี นใจ เช่น กลมุ่ ผูส้ นใจ ศิลปะ กล่มุ ผสู้ นใจเพลงร็อค
ฯลฯ บลอ็ ก หรอื เว็บลอก(blog or weblog) เป็นการฝากขอ้ เขียนทม่ี ลี กั ษณะคล้ายสมุดบนั ทกึ สว่ นบุคคล
เรอื่ งราวท่ขี น้ึ นั้นไมจ่ ำเป็นตอ้ งเป็นประจำวันเทา่ นัน้ แตเ่ ปน็ เรือ่ งอะไรกไ็ ด้

4. หอ้ งสนทนา (chat Room)การสนทนาแบบออนไลน์ (Chat) ผใู้ ชบ้ รกิ ารสามารถคุยโตต้ อบกับผใู้ ช้
คนอน่ื ๆ ในอนิ เตอร์เน็ตได้ในเวลาเดียวกัน (โดยการพิมพเ์ ขา้ ไปทางคีย์บอร์ด) เสมอื นกับการคยุ กนั แต่ผา่ นเครอื่ ง
คอมพวิ เตอร์ของทงั้ สองท่ี ซ่ึงกส็ นกุ และรวดเร็ว บริการสนทนาแบบออนไลนน์ ้ีเรยี กวา่ Talk เน่ืองจากใช้
โปรแกรมทชี่ ่อื วา่ Talk ตดิ ตอ่ กนั หรือจะคุยกันเป็นกลมุ่ หลาย ๆ คนในลักษณะของการ Chat (ชื่อเตม็ ๆ
ว่า Internet Relay Chat หรอื IRC กไ็ ด้) การสนทนาผา่ นเครือข่ายออนไลน์ ที่ได้รบั ความนยิ มในปจั จบุ ันมหี ลาย
โปรแกรมเช่น โปรแกรม Windows Messenger (MSN), Yahoo Messenger

5. World Wide Web (www) หรอื เครือข่ายใยแมงมมุ เปน็ บรกิ ารหนง่ึ ทอ่ี ยบู่ นอินเทอรเ์ น็ต ท่ีมี
ลกั ษณะของการแสดงผลในรปู แบบ กราฟกิ สวยงาม เตม็ ไปด้วยสีสนั เพยี บพรอ้ มทง้ั ภาพและเสียงต่างๆ
โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ เทคโนโลยีด้านมลั ติมเี ดยี ทำให้เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรท์ วีความมหศั จรรยใ์ ห้กบั การศึกษาใน
โลกไรพ้ รมแดน เหตุทเ่ี รยี กว่า ใยแมงมมุ ก็ด้วยความสามารถในการ เชื่อมโยงข้อมลู จากตำแหนง่ หนึง่ ไปยงั อกี
ตำแหนง่ หนงึ่ ได้ ดว้ ยการคลิกเมาสท์ ี่จุดเชื่อมโยง เพียงครง้ั เดยี ว ทำให้สามารถผกู เรือ่ งราวทเี่ ก่ียวขอ้ งกนั จาก
แหล่งข้อมลู ต่าง ๆ ท่ัวทุกมมุ โลก เขา้ ด้วยกันไดส้ ะดวกต่อการศกึ ษาคน้ คว้า

38

6. เครอื ขา่ ยสังคมหรอื ชมุ ชนเวบ็ (social network or web community) รปู แบบของหอ้ งสนทนา
ถกู พฒั นาต่อมา เป็นการใชง้ านเพ่อื ใหก้ ล่มุ คนท่มี คี วามสนใจด้านเดยี วกันมาติดตอ่ ส่อื สารกัน และมกี ารเรียกชื่อ
การติดต่อสอ่ื สารผา่ นเครือข่ายในลกั ษณะนว้ี ่า เครอื ข่ายสงั คม (Social network) หรือ ชมุ ชนเวบ็ (web
community) ตวั อยา่ งเวบ็ ไซตท์ ่บี รกิ ารประเภทนไี้ ด้แก่

6.1 ทวติ เตอร์ (Twitter) เปน็ บรกิ ารเครอื ข่ายสงั คมออนไลนจ์ ำพวกไมโครบลอ็ ก โดยผูใ้ ช้
สามารถส่งข้อความยาวไมเ่ กนิ 140 ตวั อักษร ว่าตวั เองกำลงั ทำอะไรอยู่ ทวิตเตอรก์ อ่ ตงั้ โดยบริษทั Obvious
Corp เมอื่ เดือนมนี าคม ค.ศ. 2006 ท่ีซานฟรานซสิ โก สหรัฐอเมรกิ า ขอ้ ความอัพเดตทส่ี ่งเข้าไปยงั ทวติ เตอรจ์ ะ
แสดงอยูบ่ นเวบ็ เพจของผใู้ ช้คนนนั้ บนเวบ็ ไซต์และผู้ใชค้ นอ่ืนสามารถเลอื กรบั ข้อความเหล่าน้ที างเวบ็ ไซตท์ วิต
เตอร์ อีเมล์ หรอื โปรแกรมเฉพาะอย่าง TweetDesk เป็นตน้ โดยการรบั ขา่ วสารข้อความจากผู้อน่ื
เรียกวา่ “Following” และสำหรบั ผอู้ ื่นทีม่ าตดิ ตามข่าวสารของเราถูกเรียกว่า “Follower” สำหรบั การสอื่ สาร
หรอื ผูค้ ยุ สนทนากนั ผ่านทางทวิตเตอร์น้นั สามารถทำได้โดยการเรยี กชอื่ เชน่ ตอ้ งการกบั ผู้ใช้ทวติ เตอร์ที่ใชช้ ือ่ ใน
ระบบว่า “Smith” สามารถทำไดโ้ ดยการพมิ พ์ @Smith แลว้ ตามด้วยข้อความท่ตี อ้ งการ เชน่ “@Smith สวสั ดี
ครับ”

39

6.2 Facebook เป็นบริการเครอื ข่ายสังคมและเวบ็ ไซต์เปดิ ใชง้ านเม่อื ปี ค.ศ. 2004 กอ่ ต้ังโดย
มาร์ก ซักเคอรเ์ บริ ก์ ผใู้ ช้สามารถสร้างข้อมูลส่วนตวั เพิ่มรายชือ่ ผใู้ ช้อืน่ ในฐานะเพ่ือน และแลกเปลีย่ นขอ้ ความ
รวมถงึ ไดร้ บั แจง้ โดยทนั ทเี มือ่ มกี ารปรบั ปรุงข้อมลู สว่ นตวั นอกจากน้ันผใู้ ช้ยังสามารถรว่ มกลมุ่ ความสนใจส่วนตวั
จดั ระบบตามสถานทที่ ำงาน โรงเรียน มหาวทิ ยาลัย หรืออนื่ ๆ Facebook อนุญาตให้ใครก็ไดเ้ ขา้ สมัคร
ลงทะเบยี นกับ Facebook โดยตอ้ งมอี ายุมากกว่า 13 ปขี ึน้ ไป

ข้อดขี อง Social Network
● สรา้ งความสมั พนั ธ์ทดี่ จี ากเพื่อนสู่เพื่อน มโี อกาสไดพ้ บเพอ่ื นเก่า หรอื เพอื่ นใหมท่ ่ีมีความสนใจในสง่ิ ท่ี

คล้ายกนั แลกเปล่ยี นขอ้ มลู ความรู้ในสงิ่ ทสี่ นใจร่วมกนั ได้
● เป็นตวั กลางในการเสนอและแสดงความคดิ เห็น แลกเปลย่ี นความรู้ หรือตง้ั คำถามในเรือ่ งตา่ งๆ

เพ่อื ใหบ้ คุ คลอื่นทสี่ นใจหรอื มคี ำตอบไดช้ ่วยกันตอบ กลายเปน็ คลงั ขอ้ มลู ความรู้ขนาดย่อมได้เลยทเี ดียว
● ประหยดั ค่าใช้จ่ายในการติดตอ่ กบั คนอื่น สะดวกและรวดเร็วไม่ว่าผ้ใู ช้งานจะอยู่ท่ีใดบนโลกน้ี
● เป็นสอื่ ในการนำเสนอผลงานของตวั เอง เช่น งานเขียน รปู ภาพ วีดิโอตา่ งๆ เพ่ือใหผ้ ูอ้ ่ืนได้เขา้ มา

รบั ชมและแสดงความคดิ เห็น
● ใช้เป็นสอ่ื ในการโฆษณา ประชาสัมพนั ธ์ หรอื บรกิ ารลกู ค้าสำหรับบรษิ ทั และองคก์ รตา่ งๆ ชว่ ยสรา้ ง

ความเชอ่ื มั่นใหล้ กู ค้า
● คลายเครียดไดส้ ำหรบั ผู้ใช้ทต่ี อ้ งการหาเพือ่ นคุยเลน่ สนกุ ๆ

ขอ้ เสียของ Social Network
● เว็บไซต์ใหบ้ รกิ ารบางแหง่ อาจจะเปดิ เผยขอ้ มูลส่วนตวั มากเกนิ ไป หากผู้ใช้บริการไม่ระมัดระวังในการ

กรอกขอ้ มูล อาจถกู ผไู้ มห่ วงั ดีนำมาใชใ้ นทางเสียหาย หรอื ละเมดิ สิทธิส่วนบคุ คลได้
● Social Network เปน็ สงั คมออนไลน์ทกี่ วา้ ง ย่อมมีบุคคลทีไ่ มห่ วงั ดีแฝงตัวอยู่ ดงั นั้นหากผู้ใช้

รเู้ ทา่ ไม่ถงึ การณห์ รือขาดวจิ ารณญาณ อาจโดนหลอกลวงผ่านอินเทอรเ์ น็ต หรือการนัดเจอกันเพื่อจดุ ประสงคร์ ้าย
ดังทเี่ ปน็ ขา่ วผา่ นๆมา

● แม้ว่า Social Network Service จะเป็นสอ่ื ในการเผยแพรผ่ ลงาน รปู ภาพตา่ งๆ ของเราให้บคุ คลอน่ื
ไดด้ แู ละแสดงความคิดเหน็ แต่กเ็ ปน็ ช่องทางในการถกู ละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ ขโมยผลงาน หรอื ถูกแอบอา้ งด้วยเชน่ กัน

● จะทำให้เสยี เวลาถา้ ผูใ้ ชใ้ ชอ้ ยา่ งไร้ประโยชน์

40

แบบฝกึ หดั /เฉลย

ตอนที่ 1 จงเลือกคําตอบทถ่ี ูกต้องท่ีสดุ เพยี งข้อเดียว

คำส่ัง จงทำเคร่ืองหมายกากบาท () หน้าขอ้ ทถ่ี ูกต้องมากท่สี ดุ เพยี งขอ้ เดียว

1. ข้อใดกล่าวถึงอนิ เตอร์เน็ต(Internet)ไดถ้ กู ตอ้ งทีส่ ุด

ก. เครือข่ายคอมพิวเตอรภ์ ายในองค์การ

ข. เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ขนาดใหญท่ เี่ ช่อื มตอ่ ถึงกันท่ัวโลก

ค. เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ภายในประเทศ

ง. ระบบการส่ือสารท่ีไมจ่ ำกดั เวลา

2. โครงการอาพารเ์ น็ตถอื กำเนิดมาจากสาเหตุใด

ก. สงครามระหวา่ งคา่ ยคอมมิวนสิ ต์และค่ายเสรปี ระชาธปิ ไตย

ข. สงครามนวิ เคลยี ร์

ค. การค้นควา้ ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ

ง. การตดั ตอ่ ทางพันธุกรรม GMO

3. การปรบั ภาษาให้เป็นภาษาไทย ใชค้ ำสง่ั ใด

ก. Encoding ข. go to ค. Favorites ง. Refresh

4. ถ้าต้องการเกบ็ เวบ็ ไซต์ทน่ี ่าสนใจไวใ้ ชง้ านคร้งั ตอ่ ไปอย่างรวดเรว็ จะปฏิบตั อิ ยา่ งไร

ก. เกบ็ เวบ็ ไซตไ์ ว้ใน History ข. เก็บเวบ็ ไซต์ไว้ใน Search

ค. เกบ็ เวบ็ ไซต์ไว้ใน Favorites ง. เกบ็ เว็บไซตไ์ วใ้ น Refresh

5. www.thnic.net เปน็ เวบ็ ไซต์ทใ่ี หบ้ รกิ ารของกลมุ่ องคก์ รใด

ก. กลมุ่ องคก์ รการคา้ ข. กลุม่ องค์กรเครอื ข่าย

ค. กลุ่มองคก์ รทหาร ง. กลุ่มองคก์ รการศกึ ษา

6. ISP หมายถึงขอ้ ใด

ก. ผุ้ใหบ้ รกิ ารทางดา้ นการเชอื่ มต่ออินเตอร์เน็ต

ข. ผ้ใู ห้บรกิ ารเนื้อที่สรา้ งโฮมเพจบนอนิ เตอรเ์ นต็

ค. ผู้ใหบ้ ริการเว็บไซตค์ น้ หาขอ้ มลู

ง. ผใู้ ห้บรกิ ารอนิ เตอร์เน็ต

7. ขอ้ ใดไม่ใชอ่ ุปกรณท์ ีจ่ ำเป็นในการเช่ือมตอ่ อนิ เตอรเ์ น็ตแบบบคุ คล

ก. โมเด็ม ข. คสู่ ายโทรศพั ท์ ค. บัญชผี ใู้ ช้งาน ง. เครื่องคอมพิวเตอร์แมข่ า่ ย

41

8. หนา้ แรกของเวบ็ เพจ็ (Web Page) เรยี กวา่ อะไร

ก.Home Site ข. Home Page ค. http ง.Web Site

9. เวบ็ เพจ็ (Web Page) เปรยี บเทียบไดก้ ับอะไร

ก. ปกหนงั สอื ข. หนา้ แตล่ ะหนา้ ของหนงั สือ ค. กระดานไวทบ์ อรด์ ง.โตะ๊ เขียนหนงั สือ

10. การเชือ่ มโยงเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ นต็ บุคคลสามารถเข้าถงึ ไดโ้ ดยใชผ้ า่ นคอมพวิ เตอร์และโทรศัพทโ์ ดยใช้

อปุ กรณต์ ่อพ่วงคือ

ก. ทีซพี ี ข. โมเดม็ ค. เราทเ์ ตอร์ ง. โปโตคอล

เอกสารอ้างองิ
-
ภาคผนวก (ถ้าม)ี

42

ใบงานที่ 2 หนว่ ยท่ี 2

รหสั วชิ า 30204-2102 ช่ือวิชา ส่ือสรา้ งสรรค์ธุรกจิ ดจิ ทิ ลั ภาคเรียนท่ี 2

ชอ่ื หนว่ ย การสอื่ สารผา่ นอนิ เตอร์เน็ต เวลารวม 16 ชัว่ โมง

ชอ่ื งาน การสื่อสารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ จำนวน 4 ชัว่ โมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
4. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจการสอ่ื สารผ่านอินเตอร์เนต็
5. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการการสื่อสารผ่านอินเตอร์เนต็

6. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษา

จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. ผเู้ รียนอธบิ ายความหมายและวิวัฒนาการของการส่ือสารผา่ นอินเตอร์เน็ต
2. ผเู้ รียนอธบิ ายความสำคญั ของการส่อื สารผ่านอินเตอรเ์ นต็ ได้

3. ผเู้ รียนอธบิ ายวธิ กี ารและชอ่ งทางการส่อื สารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ ได้
4. ผเู้ รยี นอธบิ ายอปุ กรณ์การสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ตได้

5. ผู้เรยี นอธบิ ายอปุ กรณ์การสื่อสารผ่านอินเตอรเ์ นต็ ได้

สาระการเรยี นรู้

1. ความหมายของอนิ เตอรเ์ นต็

2. ววิ ัฒนาการอินเตอรเ์ นต็

3. ความสำคญั ของการส่อื สารผ่านอินเตอรเ์ น็ต
4. วธิ กี ารและชอ่ งทางการสอ่ื สารผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต

5. อุปกรณก์ ารส่อื สารผ่านอินเตอรเ์ นต็
6. ประเภทของการสอ่ื สารผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต

สมรรถนะรายหนว่ ย

แสดงความรู้เกี่ยวกบั การสือ่ สารผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต

เคร่อื งมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook

2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สือ

ลำดับข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน
1. ให้นกั ศึกษาแบ่งกลุม่ ตามความเหมาะสม เพอ่ื ศกึ ษาและอภปิ ราย
1.1 อธบิ ายความรู้เกย่ี วกบั ความเข้าใจการสื่อสารผ่านอนิ เตอร์เน็ต

1.2 เขียนรปู พร้อมอธิบายความเขา้ ใจการส่อื สารผา่ นอนิ เตอร์เน็ต
2. เขียนอภิปรายและวเิ คราะห์ใสก่ ระดาษ

43

3. นำผลงานส่งครูผสู้ อนเพ่ือประเมินผล
ภาพประกอบ-
ขอ้ ควรระวัง

ผู้เรียนควรตรวจสอบข้อมลู ก่อนใหถ้ ถ่ี ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพ่ือปอ้ งกนั ความผดิ พลาดก่อน
การสง่ งาน
ข้อเสนอแนะ (ถา้ มี)
นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอื้ หาใหส้ อดคลอ้ งกบั ภาพให้ถูกตอ้ ง
การประเมนิ ผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมินใหช้ ดั เจน)

1. สงั เกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือร้น
ในการแสดงความคดิ เห็นและสรปุ สาระการเรยี นรปู้ ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานได้อยา่ งถูกตอ้ ง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผูเ้ รยี นทำแบบฝึกหดั หลังเรียนไดถ้ ูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอ้างองิ
-

44

ใบกิจกรรมท่ี 2 หน่วยท่ี 2

รหสั วิชา 30204-2102 ชื่อวชิ า สอื่ สร้างสรรค์ธุรกิจดจิ ิทลั ภาคเรยี นท่ี 2

ชื่อหน่วย การสอื่ สารผา่ นอนิ เตอร์เน็ต เวลารวม 16 ช่วั โมง

ช่ืองาน การสอ่ื สารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ จำนวน 4 ชั่วโมง

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. มีความรู้ความเข้าใจการสอื่ สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็
2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการการส่อื สารผ่านอินเตอร์เน็ต

3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้สำเรจ็ การศกึ ษา
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)

1. ผู้เรยี นอธบิ ายความหมายและวิวัฒนาการของการส่ือสารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ต
2. ผเู้ รยี นอธบิ ายความสำคัญของการส่ือสารผ่านอินเตอรเ์ นต็ ได้

3. ผูเ้ รยี นอธบิ ายวธิ กี ารและชอ่ งทางการส่อื สารผ่านอินเตอรเ์ น็ตได้
4. ผูเ้ รียนอธบิ ายอปุ กรณก์ ารสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอรเ์ นต็ ได้

5. ผู้เรยี นอธบิ ายอุปกรณก์ ารสือ่ สารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ตได้

สาระการเรยี นรู้

1.ความหมายของอนิ เตอรเ์ นต็

2.วิวัฒนาการอนิ เตอรเ์ นต็
3.ความสำคัญของการสอ่ื สารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต

4.วิธกี ารและช่องทางการส่ือสารผา่ นอินเตอรเ์ นต็

5.อปุ กรณก์ ารส่อื สารผา่ นอินเตอร์เน็ต

6.ประเภทของการสอ่ื สารผ่านอินเตอรเ์ น็ต

สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรู้เกยี่ วกบั การส่ือสารผ่านอนิ เตอร์เนต็

เครอื่ งมอื วสั ดุ – อุปกรณ์

1. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื

ลำดบั กิจกรรม
1. ผูเ้ รียนต้องให้ความสนใจในการศกึ ษา เพ่อื หาเทคนิค วิธกี าร หรือหลักการง่ายเพื่อให้หาคำตอบ

ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควธิ ีการที่ครผู ู้สอนสรปุ ในขณะทีท่ ำการ
สอน และนำข้อสงสัยซกั ถามครูในการเรียนทกุ ครงั้ ท่ีเกดิ ความสับสน และไม่เขา้ ใจ

2. ผ้มู ีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสริมสร้างความเข้าใจอย่างแทจ้ ริง

45

3. ผเู้ รยี นหมน่ั ทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขข้อที่ผดิ ใหถ้ กู ตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกับ
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ไดเ้ พื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
ไม่ใชเ่ กิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาท่ี
กำหนด และฝึกฝนตนเองเสมอ เมอื่ ไดร้ บั มอบหมายงานมา
การประเมินผล (ตอ้ งระบเุ กณฑ์การประเมินใหช้ ัดเจน)
1. สงั เกตผู้เรียนมคี วามสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถกู ต้อง ทันเวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หดั หลังเรียนไดถ้ กู ตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งองิ
-


Click to View FlipBook Version