The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชาสื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Witoon Yuengyang, 2022-05-14 11:42:10

แผนการสอนวิชาสื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัล

แผนการสอนวิชาสื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดิจิทัล

46

ใบปฏิบตั ิงานท่ี 2 หน่วยท่ี 2

รหสั วชิ า 30204-2102 ชือ่ วชิ า สื่อสรา้ งสรรค์ธุรกจิ ดจิ ิทลั ภาคเรียนท่ี 2

ชือ่ หน่วย การสอื่ สารผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต เวลารวม 16 ชั่วโมง

ชื่องาน การสื่อสารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต จำนวน 4 ชัว่ โมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจการสอื่ สารผา่ นอินเตอร์เน็ต

2. เข้าใจหลักการและกระบวนการการสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ต

3. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษา

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. ผ้เู รยี นอธบิ ายความหมายและววิ ฒั นาการของการสอื่ สารผ่านอินเตอรเ์ น็ต

2. ผู้เรยี นอธบิ ายความสำคัญของการสอื่ สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็ ได้

3. ผ้เู รยี นอธบิ ายวิธกี ารและช่องทางการสอ่ื สารผ่านอินเตอรเ์ น็ตได้

4. ผู้เรียนอธิบายอปุ กรณ์การสื่อสารผ่านอินเตอรเ์ น็ตได้

5. ผู้เรยี นอธบิ ายอปุ กรณก์ ารสื่อสารผา่ นอินเตอรเ์ น็ตได้

สาระการเรยี นรู้

1. ความหมายของอินเตอรเ์ นต็

2. วิวฒั นาการอินเตอร์เนต็

3. ความสำคญั ของการสือ่ สารผ่านอินเตอรเ์ น็ต

4. วิธีการและชอ่ งทางการส่อื สารผ่านอินเตอรเ์ น็ต

5. อปุ กรณก์ ารส่ือสารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต

6. ประเภทของการสอื่ สารผ่านอนิ เตอร์เนต็

สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั การสือ่ สารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต

เครื่องมือ วัสดุ – อุปกรณ์

1. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook

2. โปรเจ็คเตอร์

3. หนังสือ

ลำดบั ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน
1. ผูเ้ รียนค้นหาขอ้ มลู จากในอนิ เตอร์เน็ต ตามเรื่องท่ไี ดร้ บั มอบหมายมาจาครูผสู้ อน

47

2. เมอื่ ผเู้ รยี นไดร้ ับขอ้ มลู เรียบร้อยแลว้ ให้ผูเ้ รยี น นำขอ้ มลู นัน้ มาเรยี บเรยี งใหเ้ ปน็ ระเบียบ สวยงาม ให้
สามารถเข้าใจได้งา่ ย โดยจดั ทำในรปู แบบเลม่ รายงาน

ภาพประกอบ
ข้อควรระวงั

ผู้เรยี นควรตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นใหถ้ ี่ถว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพ่อื ป้องกันความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ข้อเสนอแนะ

นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเนอื้ หาใหส้ อดคล้องกับภาพให้
ถกู ตอ้ ง
การประเมินผล

1. สังเกตผู้เรียนมคี วามสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื ร้นใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผ้เู รียนทำแบบฝกึ หัดหลงั เรยี นไดถ้ ูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อย่างต่ำ
เอกสารอ้างองิ
-

48

ใบมอมหมายงานที่ 2 หนว่ ยที่ 2

รหสั วชิ า 30204-2102 ชอื่ วิชา ส่อื สรา้ งสรรคธ์ ุรกิจดจิ ทิ ลั ภาคเรียนที่ 2

ช่อื หนว่ ย การสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ต เวลารวม 16 ชว่ั โมง

ชือ่ งาน การสื่อสารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ต จำนวน 4 ชว่ั โมง

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. มคี วามร้คู วามเข้าใจการสอื่ สารผา่ นอินเตอร์เน็ต

2. เข้าใจหลักการและกระบวนการการสอื่ สารผ่านอินเตอรเ์ น็ต

3. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา

จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. ผเู้ รยี นอธบิ ายความหมายและวิวฒั นาการของการสื่อสารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็

2. ผเู้ รียนอธบิ ายความสำคญั ของการสอื่ สารผ่านอินเตอรเ์ นต็ ได้

3. ผู้เรียนอธบิ ายวิธีการและช่องทางการสอื่ สารผ่านอนิ เตอรเ์ น็ตได้

4. ผูเ้ รยี นอธิบายอปุ กรณก์ ารสอื่ สารผา่ นอินเตอรเ์ นต็ ได้

5. ผู้เรยี นอธบิ ายอุปกรณ์การส่อื สารผ่านอนิ เตอรเ์ นต็ ได้

สาระการเรยี นรู้

1.ความหมายของอินเตอรเ์ นต็

2.วิวฒั นาการอนิ เตอรเ์ นต็

3.ความสำคญั ของการสอ่ื สารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต

4.วิธกี ารและช่องทางการสือ่ สารผา่ นอนิ เตอรเ์ นต็

5.อุปกรณก์ ารส่อื สารผ่านอินเตอร์เนต็

6.ประเภทของการสอื่ สารผ่านอนิ เตอร์เน็ต

สมรรถนะรายหนว่ ย

แสดงความรู้เกยี่ วกบั การส่อื สารผา่ นอินเตอรเ์ น็ต

เครอ่ื งมือ วสั ดุ – อุปกรณ์

1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook

2. โปรเจค็ เตอร์

3. หนังสือ

แนวทางการปฏิบตั งิ าน

1. ให้ผ้เู รยี นปฏิบัตงิ านตามใบงาน ใบกจิ กรรม ใบปฏิบัตงิ าน อยา่ งเคร่งครดั ตามหวั ขอ้ ทไ่ี ดร้ บั

มอบหมาย ให้เสรจ็ สน้ิ ตามระยะเวลาทก่ี ำหนด พรอ้ มทัง้ การจัดทำรายงาน และนำเสนองานอยา่ ง

ถกู ต้อง ครบถ้วน เป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย

49

2. ใหผ้ เู้ รยี นแบ่งหน้าทกี่ ับเพอ่ื นในกลุ่มให้ชัดเจน และสามารถเขา้ ใจเนอ้ื หาตามหัวขอ้ ดงั กล่าว ได้
อย่างถูกตอ้ ง ครบถ้วน
ภาพประกอบ
ข้อควรระวัง
ผ้เู รียนควรตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นใหถ้ ี่ถว้ น ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพ่ือปอ้ งกนั ความผดิ พลาดกอ่ น
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ
นกั ศกึ ษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอ้ื หาให้สอดคล้องกบั ภาพให้
ถกู ตอ้ ง
การประเมนิ ผล
1. สงั เกตผูเ้ รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือร้นใน
การแสดงความคดิ เหน็ และสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผูเ้ รียนทำแบบฝกึ หัดหลังเรียนได้ถูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งอิง

50

แผนการจดั การเรยี นรู้

หนว่ ยที่ 3 การออกแบบสอ่ื จำนวน 16 ช่วั โมง สปั ดาห์ที่ 7-10

รหัสวชิ า 30204-2102 ชื่อวิชา สอ่ื สรา้ งสรรคธ์ รุ กจิ ดจิ ิทลั

1. สาระสำคญั

การออกแบบส่ือดจิ ทิ ลั เปน็ หนึง่ ในการสือ่ สารแบบ Visual Communication Arts หรอื นิเทศศลิ ป์ ซึ่ง

เป็นศิลปะท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั การสือ่ สารทางการมองเหน็ (Visual Communication) เพราะเป็นการสอื่ สารไป

ยงั ผรู้ ับสารด้วยภาพเปน็ สําคญั (Visual Image) แมจ้ ะมีบางองค์ประกอบจะมีการส่ือสารทางเสียง มาประกอบก็

ตาม แต่ส่ือหลกั กย็ งั เป็นการ สอ่ื สารด้วยภาพ โดยเสียงเปน็ ตัวเสรมิ ใหภ้ าพนั้นสมบรู ณ์ขนึ้ ทั้งนี้เพราะการรบั รู้

ของมนษุ ย์เรานน้ั รับรจู้ าก จักษปุ ระสาทมากทส่ี ดุ

2. สมรรถนะประจำหน่วย

แสดงความรเู้ ก่ียวกับการออกแบบสอื่

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจการออกแบบสื่อ

2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการออกแบบส่อื

3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา

4. จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. ผเู้ รียนอธบิ ายความหมายการออกแบบสอื่ ได้
2. ผเู้ รยี นอธบิ ายความสำคญั ของการออกแบบสอื่ ได้
3. ผู้เรียนอธบิ ายหลักการออกแบบส่ือได้
4. ผูเ้ รยี นอธบิ ายประเภทการออกแบบสือ่ ได้
5. ผเู้ รยี นสามารถการออกแบบสอ่ื ดจิ ิทลั ได้
6. ผู้เรยี นสามารถใชเ้ ทคนิคการตดั ตอ่ ภาพด้วยสื่อดจิ ิทลั ได้

5. สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของการออกแบบส่ือ
2. หลักการการออกแบบสื่อ
3. ประเภทของการออกแบบส่อื
4. การออกแบบสอื่ ดิจทิ ลั
5. เทคนคิ การตัดตอ่ ภาพดว้ ยส่อื ดจิ ทิ ลั

51

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมนกั เรียน
กิจกรรมครู
1. ให้ความร่วมมอื กับครูในการตรวจสอบ
ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น( 30 นาท)ี 2. คน้ คว้า การสอื่ สารผา่ นอินเตอร์เนต็
1. ตรวจสอบรายชื่อนักศกึ ษาทเ่ี ขา้ เรียน 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคิดเหน็ การ
2. ใหน้ กั ศกึ ษาคน้ คว้าความรู้การออกแบบสอื่ 3. ออกแบบส่ือ
ร่วมสนทนาเกีย่ วกบั เร่ืองการออกแบบส่ือ

ขน้ั ดำเนนิ การสอน( 180 นาท)ี

1. บอกจดุ ประสงคก์ ารเรยี น ฟัง ทำความเขา้ ใจและซักถาม

2. บรรยาย อธบิ าย ยกตวั อยา่ ง แสดงวธิ ีการ ฟัง ทำความเข้าใจและปฎิบตั ิตาม

ปฎบิ ตั ิในแต่ละหวั ข้อการเรียนและให้นักศึกษา ผ้เู รยี นซกั ถามขอ้ สงสยั และจดบนั ทึก
ปฎบิ ตั ิไปพร้อมกนั รบั การประเมนิ
3. ครบู อกวธิ ีการ และแนวคดิ ในการปฏบิ ัตทิ ี่

ถกู ต้องให้แกผ่ ้เู รยี น

4. ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คลโดยครจู ะซกั ถาม

ในแต่ละคน

ขน้ั สรปุ ( 30 นาท)ี ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ สาระสำคญั
ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สาระสำคัญ นกั เรียนสอบถามขอ้ สงสัย
เปดิ โอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสัย ฟังและจดบันทกึ
มอบหมายให้ไปหดั ทำและศกึ ษาเพม่ิ เติม ทำแบบทดสอบท้ายบท
ทำแบบทดสอบ

6. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้
4. เอกสารประกอบการเรยี นการสอน
5. Google Classroom
6. การสบื ค้นขอ้ มลู Online

52

7. หลักฐานการเรียนรู้

7.3 หลักฐานความรู้

5. แผนการสอน

6. สื่อการสอน

7. เอกสารประกอบการสอน

8. ใบความรู้

7.4 หลกั ฐานการปฏบิ ตั ิงาน

5. บันทกึ หลงั สอน

6. การเช็คชื่อนกั ศึกษาเขา้ หอ้ งเรียน ผ่านระบบ STD online

7. แผนการสอน

8. ผลการทำแบบทดสอบของนกั ศกึ ษา

8. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

8.1 เครอ่ื งมือประเมิน

1. ใบงาน

2. แบบฝกึ หัด

3. แบบประเมินผลงาน

4. แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

8.2 เกณฑ์การประเมิน

เครอ่ื งมอื การประเมิน วิธวี ัดและประเมิน เกณฑ์การประเมิน

แบบฝกึ หัด ตรวจแบบฝกึ หดั ได้คะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขนึ้ ไป

ถกู 1 คะแนน

ไมถ่ ูก 0 คะแนน

แบบฝกึ ปฏิบัติ ตรวจแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ข้นึ ไป

ถกู 1 คะแนน

ไมถ่ กู 0 คะแนน

53

แบบทดสอบหลงั เรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ได้คะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขน้ึ ไป
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม ถูก 1 คะแนน
จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึง ไมถ่ กู 0 คะแนน ได้คะแนน
ประสงค์ สงั เกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป
ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรับปรงุ 0 คะแนน

9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย (ถา้ ม)ี
1. ผู้เรียนตอ้ งให้ความสนใจในการศกึ ษา เพื่อหาเทคนคิ วิธีการ หรือหลักการง่ายเพื่อให้หาคำตอบได้

อยา่ งถกู ตอ้ ง และรวดเร็ว โดยการ ตง้ั ใจฟังหลกั การ เทคนิควธิ กี ารทีค่ รูผูส้ อนสรุปในขณะท่ีทำการสอน และนำ
ข้อสงสัยซกั ถามครใู นการเรยี นทกุ คร้ังทีเ่ กดิ ความสบั สน และไม่เขา้ ใจ

2. ผมู้ กี ารทบทวนบทเรียน ตลอดเพอ่ื เสริมสรา้ งความเขา้ ใจอย่างแทจ้ ริง
3. ผเู้ รียนหม่ันทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแกไ้ ขขอ้ ทผ่ี ิดใหถ้ ูกต้องเสมอ
4. ผเู้ รยี นต้องสรา้ งมโนภาพให้เกดิ ความคดิ รวบยอดในสาระการเรยี นรูแ้ ละเทคนคิ วิธกี ารพร้อมกับความ
จำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกดิ ขึ้นโดยตนเองให้ไดเ้ พื่อเกิดความรูค้ วามเข้าใจอย่างแท้จรงิ ไม่ใช่เกิดจาก
การท่องจำ
10. เอกสารอ้างอิง
-

54

ใบความรู้ท่ี 3 หน่วยท่ี 3

รหสั วิชา 30204-2102 ชื่อวิชา ส่อื สร้างสรรคธ์ รุ กจิ ดจิ ทิ ลั ภาคเรยี นท่ี 2

ชือ่ หนว่ ย การออกแบบส่อื เวลารวม 16 ชว่ั โมง

ชือ่ เร่ือง การออกแบบสื่อ เวลา 4 ชว่ั โมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจการออกแบบสอื่

2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการออกแบบส่ือ

3. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผูส้ ำเรจ็ การศกึ ษา

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. ผู้เรยี นอธบิ ายความหมายการออกแบบสือ่ ได้

2. ผเู้ รยี นอธบิ ายความสำคัญของการออกแบบสอื่ ได้

3. ผู้เรียนอธบิ ายหลกั การออกแบบสอ่ื ได้

4. ผู้เรยี นอธิบายประเภทการออกแบบสอื่ ได้

5. ผูเ้ รยี นสามารถการออกแบบสอื่ ดิจิทลั ได้

6. ผเู้ รยี นสามารถใช้เทคนคิ การตัดตอ่ ภาพดว้ ยสื่อดจิ ิทลั ได้

สาระการเรียนรู้

1. ความหมายของการออกแบบสอ่ื

2. หลักการการออกแบบส่ือ

3. ประเภทของการออกแบบส่ือ

4. การออกแบบส่ือดจิ ทิ ัล

5. เทคนิคการตดั ต่อภาพดว้ ยส่อื ดจิ ทิ ลั
สมรรถนะรายหนว่ ย

แสดงความรเู้ ก่ยี วกับการออกแบบส่อื

55

หนว่ ยที่ 3 การออกแบบสอื่
ความหมายการออกแบบ
คำว่า "การออกแบบ" (Design) มรี ากศพั ทม์ าจากภาษาละตนิ วา่ "Designare" ในประเทศอติ าลี คำวา่ การ
ออกแบบ ตรงกบั ภาษาอติ าเลยี นว่า
"ดเิ สกโน" (Desegno) ใช้แทนคำวา่ "ศิลปะ" จนถงึ ปจั จุบนั

กูด (Good : 1973) ไดใ้ หค้ ำจำกัดความของการออกแบบวา่ เปน็ การวางแผน หรือกำหนดรปู แบบ รวมทง้ั
การตกแตง่ ในโครงสร้าง รูปทรง ของงานศิลปกรรมดว้ ยตัวกลางตา่ งๆ ในการแสดงออกทางทัศนศลิ ป ดนตรี
ตลอดจนวรรณกรรม

โกฟ (Gove : 1965) กล่าวว่า การออกแบบเปน็ การจดั แตง่ องค์ประกอบ มูลฐานในการสรา้ งสรรคง์ าน
ศิลปกรรม เครอ่ื งจกั ร หรอื ประดิษฐก์ รรมของมนุษย์

วฒั นะ จฑู ะวิภาต (2527 : 10) ได้แสดงทศั นะต่อการออกแบบไวว้ ่า การออกแบบจะเก่ยี วขอ้ งกับการควบคมุ
และความร้ใู นหนา้ ท่ขี องเครอ่ื งมอื ตา่ งๆ ซ่ึงใชใ้ นการสร้างสรรค์ผลงาน แตท่ ีมากกว่าน้นั คอื การออกแบบเป็นสง่ิ
ท่เี จรญิ เตบิ โตได้ สรา้ งความหวงั ความฝนั ความต้องการ และแรงบนั ดาลใจใหก้ บั มนษุ ย์
องคป์ ระกอบและหลักการออกแบบส่ิงพมิ พ์
การออกแบบส่ิงพมิ พน์ ับเปน็ สาขาหนง่ึ ของงานออกแบบ สามารถนำองค์ประกอบและหลักการออกแบบมา
ประยกุ ตใ์ ชเ้ พมิ่ เตมิ ซง่ึ หลกั และองค์ประกอบของการออกแบบมีดงั ต่อไปน้ี
องค์ประกอบของการออกแบบ (The Elements of Design)
องค์ประกอบต่าง ๆ ของการออกแบบสามารถนำมาใชป้ ระกอบกันเม่อื เรม่ิ คิดแบบและวางเลยเ์ อาท์ เปน็ สงิ่ ที่ชว่ ย
ใหม้ ีจุดยืนในการเริ่มต้นออกแบบ และเพ่ิมความหลากหลายของงาน องคป์ ระกอบของการออกแบบไดแ้ ก่
เสน้ (Line) เส้นคอื การเชอื่ มตอ่ ของจดุ สองจุดดว้ ยจดุ หรอื เครือ่ งหมายใด ๆ อย่างต่อเน่ืองกนั เส้นมหี ลาย
ลกั ษณะ เชน่ เส้นตรง เส้นโค้ง เสน้ หนา เส้นบาง เส้นประ เป็นต้น
การใช้เสน้ ในงานออกแบบสง่ิ พมิ พ์

• เป็นเสน้ กรอบของรปู ภาพหรือขอ้ ความ
• สรา้ งกรดิ (Grid)
• จัดข้อมลู ให้เปน็ ระเบยี บ
• เนน้ ส่วนสำคัญ
• เช่อื มส่วนประกอบตา่ ง ๆ เข้าดว้ ยกัน
• สรา้ งกราฟหรอื ผงั ข้อมลู
• สร้างลวดลายดว้ ยเสน้ สายรปู แบบตา่ ง ๆ
• นำสายตาผูด้ ไู ปยงั จดุ ทตี่ ้องการ หรอื สรา้ งความรสู้ กึ ถงึ การเคลอื่ นไหว
• สรา้ งอารมณห์ รอื โน้มนำความรสู้ ึก
รูปทรง (Shape) รปู ทรงคอื สง่ิ ที่มคี วามกวา้ งและความสงู มี 3 แบบคือ
1. รปู ทรงเรขาคณิต ได้แก่ สามเหลย่ี ม ส่ีเหลย่ี ม วงกลม เป็นตน้

56

2. รูปทรงตามธรรมชาติ เชน่ ภูเขา รปู รา่ งของคนและสัตว์ต่าง ๆ
3. รูปทรงดดั แปลงซง่ึ ไดม้ าจากการนำรปู ร่างธรรมชาติมาทำให้เรยี บง่ายขน้ึ
การใช้รปู ร่างในงานออกแบบสง่ิ พิมพ์
• จัดวางข้อความอยู่ภายในกรอบทม่ี รี ูปทรงแบบตา่ ง ๆ
• สร้างรปู แบบใหม่ ๆ
• ใส่สีเปน็ รปู ทรงตา่ ง ๆ บนข้อความที่ต้องการเน้นหรือดงึ ดูดความสนใจ
• ทำรปู ทรงเฉพาะขึ้นแทนสัญลกั ษณ์ตา่ ง ๆ
• ตัดกรอบภาพเปน็ รูปทรงทีแ่ ปลกออกไปเพอื่ ให้ดนู ่าสนใจขนึ้
พ้นื ผิว (Texture) พน้ื ผิวคอื สง่ิ ท่ีมองเหน็ หรอื สมั ผสั ได้บนผวิ หนา้ ของงาน พื้นผวิ ท่ีไม่เหมือนกันทำใหง้ านออกแบบ
เดยี วกันดูแตกต่างกนั พนื้ ผวิ จะเพมิ่ มติ ิใหก้ ับงาน และผดู้ สู ามารถสมั ผสั กบั พนื้ ผวิ ท่นี กั ออกแบบใชก้ ับงานได้
การใช้พืน้ ผิวในงานออกแบบสง่ิ พมิ พ์
• เพ่ือกระตุ้นอารมณ์และความรู้สกึ
• สร้างความแตกต่างเพื่อดงึ ดูดความสนใจ
• ทำให้งานมีเอกลักษณ์
• ลวงสายตาด้วยลวดลายและแสงเงาของพ้นื ผวิ
• สร้างมิตแิ ละความลึก
ชอ่ งไฟ (Space) ช่องไฟคอื พ้ืนทว่ี า่ งที่อยรู่ ะหว่างหรือโดยรอบวัตถุ หรอื ตวั อกั ษร ช่องไฟทำใหส้ งิ่ ทีน่ ำมาใส่ไวใ้ น
หน้างานแยกออกจากกนั หรอื ดูเปน็ อันหนงึ่ อนั เดียวกนั ทำใหเ้ กดิ การเน้น และเป็นจุดพกั สายตา
การใชช้ ่องไฟในงานออกแบบส่ิงพมิ พ์
• ช่วยใหเ้ รอ่ื งราวในเลยเ์ อา้ ทง์ า่ ยตอ่ การติดตาม
• ช่วยใหแ้ ต่ละองค์ประกอบของงานดูเสมอกนั
• เป็นจดุ พักสายตา
• ช่วยเน้นส่วนประกอบทีส่ ำคญั เชน่ ปลอ่ ยใหม้ ชี อ่ งว่างรอบๆส่วนประกอบน้ันมากกวา่ ที่อนื่
• ทำให้ตวั อักษรดูเด่นชัดขึ้น
ขนาด (Size) ขนาดของวตั ถทุ ง้ั ใหญห่ รอื เลก็ เป็นส่วนประกอบกนั ทีท่ ำให้เลยเ์ อ้าท์มรี ูปแบบข้นึ มา การจดั ขนาด
สว่ นประกอบต่าง ๆ ไดด้ ีจะทำใหเ้ ลยเ์ อ้าทน์ ่าสนใจยง่ิ ขน้ึ และดเู ปน็ ระเบยี บข้ึน ขนาดจะทำให้เหน็ ความสำคญั ของ
ส่งิ ท่ตี อ้ งการเน้น ชว่ ยดึงดูดความสนใจ และช่วยใหเ้ ลยเ์ อ้าทป์ ระกอบเข้าดว้ ยกันไดอ้ ย่างเหมาะสม
การใช้ขนาดในงานออกแบบสงิ่ พิมพ์
• แสดงความสำคญั ขององคป์ ระกอบ
• ดงึ ดดู ความสนใจ เชน่ ใช้ขนาดทีต่ ่างกันเพือ่ ให้เกดิ การตดั กัน
• ทำให้มองเห็นองคป์ ระกอบแตล่ ะสว่ นได้งา่ ยข้ึน
• ทำใหง้ านดูมีความสมำ่ เสมอตลอดทงั้ หน้า

57

ค่าความดำ (Value) คา่ ความดำคอื ความมืดหรือความสวา่ งของพนื้ ทห่ี นึง่ ๆ ซงึ่ เกิดจากการไล่ค่าระดับความ
สวา่ งหรอื ความมดื ทอ่ี ยรู่ ะหวา่ งขาวไปจนถึงดำ ค่าความดำน้ีจะแสดงเฉดของสีต่าง ๆ เป็นเฉดของสีเทา เฉดสเี ทา
เหล่านจ้ี ะมคี า่ ความดำจากออ่ นทสี่ ดุ ไปถึงเข้มทสี่ ดุ ค่าความดำทำให้เกิดอารมณ์ ความหม่นมัวและความลกึ
การใชค้ ่าความดำในงานออกแบบสิ่งพิมพ์

• ทำใหส้ ง่ิ ของดูมมี ติ ิ มคี วามลกึ และมแี สงเงา
• ทำใหร้ ้สู กึ ถึงสงิ่ ของใดอยู่ดา้ น สิ่งใดอยูด่ า้ นหลงั
• ทำให้ภาพรวมเป็นภาพประเภทสวา่ ง (High Key) หรือมดื (Low Key) ตามปริมาณค่าความดำรวม
• ใชเ้ น้นสว่ นสำคัญ โดยให้คา่ ความดำของสว่ นที่ต้องการเนน้ แตกตา่ งกับส่วนท่อี ยูโ่ ดยรอบ
• ใชน้ ำสายตาไปยังจุดทต่ี อ้ งการ
การใชส้ ีในงานออกแบบสงิ่ พมิ พ์
• สามารถดึงดดู สายตาใหเ้ กิดความสนใจ
• ช่วยสรา้ งอารมณ์ ความรู้สึก
• ช่วยดึงสายตาวา่ จุดใดเป็นจุดแรกทต่ี อ้ งการใหม้ อง
• สามารถจัดองคป์ ระกอบของงานรวมกลมุ่ กัน หรือจะแยกมนั ออกจากกนั ด้วยการเลอื กใช้สที ีต่ ่างกันไป
• ช่วยผสมผสานให้ภาพรวมมีความสมดลุ
• ใช้เนน้ ข้อความสำคญั หรอื หวั เร่อื ง
ตวั อกั ษร (Typography) ตวั อักษรเป็นองค์ประกอบท่ีแตกตา่ งไปจากองคป์ ระกอบอ่ืน ตัวอกั ษรสามารถเรียงร้อย
บอกเล่าเร่อื งราวใหผ้ ้อู า่ นไดโ้ ดยตรง ไมต่ อ้ งแปลความหมายเหมอื นเช่นองคป์ ระกอบอนื่ ในขณะเดียวกนั เราก็
สามารถตกแตง่ ตวั อกั ษรโดยใชร้ ปู แบบ ขนาด และสสี ัน มาจดั วางเปน็ รปู แบบตา่ ง ๆ สรา้ งแรงดงึ ดดู ให้สนใจและ
นา่ ตดิ ตาม
การใช้ตวั อักษรในงานออกแบบสิง่ พิมพ์
• ใช้บอกกล่าวข้อความที่องคป์ ระกอบอืน่ ไมส่ ามารถส่ือออกมาได้
• ดงึ ดดู ใหเ้ กิดความสนใจด้วยขนาด สสี ันและข้อความทเี่ รา้ ใจ
• จัดลำดบั ความสำคัญและบอกเล่ารายละเอียดโดยจัดทำหัวข้อหลกั หวั ขอ้ รอง และเนอื้ หา ฯลฯ
• สามารถจดั เรียงตัวอกั ษรประกอบเป็นภาพ หรือรปู ทรงต่าง ๆ โดยใช้แบบอักษร ขนาด และสสี ัน ที่ต่าง ๆ กนั
• สามารถจดั แบง่ เป็นกลมุ่ กอ้ น จัดวางและใชช้ ่องไฟ สีสันตลอดจนองค์ประกอบอ่ืนในการแบง่ แยกใหเ้ ป็น
ระเบยี บ งา่ ยตอ่ การสอ่ื สาร และดสู วยงาม
• ใช้ขยายความ หรืออธิบายภาพประกอบต่าง ๆ
หลกั การออกแบบสงิ่ พมิ พ์ (The Principles of Design)
หลักการออกแบบสง่ิ พมิ พเ์ ปน็ หลกั ในการพจิ ารณาว่าจะใช้องคป์ ระกอบของการออกแบบอยา่ งไร และช่วยให้
สามารถผสมผสานสว่ นประกอบต่าง ๆ ของงานจนจดั วางเปน็ เลยเ์ อ้าทท์ ่ดี ไี ด้
หลกั การออกแบบฯ มี 4 ข้อดงั น้ี

58

1. ความสมดลุ (Balance) สมดุลคอื การกระจายอยา่ งท่ัวถงึ ของน้ำหนกั ในงานออกแบบสงิ่ พิมพ์ น้ำหนกั ของ
ส่วนประกอบต่าง ๆ เป็นนำ้ หนักทสี่ ายตารสู้ กึ เมื่อมองสว่ นประกอบนั้น ๆ ทกุ สว่ นบนเลยเ์ อ้าทม์ ีนำ้ หนักซ่งึ รูส้ กึ ได้
จากขนาด ความมดื หรือความสว่าง สีและความเข้มของสี ความหนาและบางของเส้น ความสมดลุ มีสองแบบ คอื
สมดุลที่กระจายเทา่ กนั ท้ังซา้ ยขวาของศูนย์กลาง (Symmetrical Balance) และความสมดลุ ทเ่ี กดิ จากการนำ
สว่ นประกอบที่มขี นาดไมเ่ ทา่ กันมาจัดวางแต่เมือ่ ดโู ดยรวมแลว้ นำ้ หนกั ทง้ั หมดสมดุลกนั (Asymmetry Balance)
องคป์ ระกอบของการออกแบบท่ีนำมาใช้เพอ่ื สรา้ งความสมดลุ ไดแ้ ก่ รปู รา่ ง ขนาด ค่าความดำ สี

Symmetrical Balance จะใหค้ วามรสู้ ึกม่ันคง แข็งแรง เหมาะสำหรบั สงิ่ พมิ พท์ ต่ี อ้ งการส่ือถงึ ความมี
ระเบยี บแบบแผน และความอนุรกั ษน์ ิยม

Asymmetrical Balance จะสื่อถงึ ความขัดแยง้ ความหลากหลาย ความไม่เป็นระเบียบ และความ
ประหลาดใจ
การสรา้ งความสมดุล

• กำหนดจุดศนู ยก์ ลางของช้นิ งาน
• สว่ นประกอบเล็กๆหลายชิน้ สามารถสมดลุ กับสว่ นประกอบใหญห่ นึ่งชน้ิ
• ใชร้ ูปร่างท่แี ปลกออกไปหนงึ่ หรอื สองชนิ้ รว่ มกับรปู รา่ งทวั่ ๆ ไป
• เว้นชอ่ งวา่ งสีขาวให้มากรอบ ๆ คอลัมนส์ เี ข้ม หรอื รูปภาพมดื ๆ
• ตวั อกั ษรทีห่ นาหนัก ควรมภี าพสสี ว่าง สดใสมาช่วยให้สวา่ งขน้ึ
• ภาพถ่ายหรอื ภาพประกอบสที ึม ควรวางตวั หนงั สอื ชิ้นเลก็ ๆหลายชนิ้ ประกอบเขา้ ไป และเวน้ ชอ่ งไฟสีขาว
โดยรอบเยอะๆ
2. จังหวะ (Rhythm) จังหวะคอื รปู แบบที่เกิดจากการซำ้ กันขององค์ประกอบต่างๆ การซำ้ กนั ขององค์ประกอบ
เดียวกันในลกั ษณะทส่ี มำ่ เสมอ และความแตกตา่ งเช่น การเปล่ียนรปู ร่าง ขนาด หรอื ตำแหนง่ ขององคป์ ระกอบ
เปน็ สงิ่ ทที่ ำใหเ้ กดิ การมองเหน็ จังหวะในงานออกแบบ การวางองคป์ ระกอบซำ้ ๆ กนั ทรี่ ะยะหา่ งเท่า ๆ กันทำให้
เกดิ ความรสู้ กึ ราบเรยี บ จงั หวะท่ีเทา่ ๆ กนั สงบและผ่อนคลาย การเปลีย่ นขนาดและช่องไฟของส่วนประกอบ
อย่างฉับพลันจะทำใหเ้ กดิ จงั หวะเรว็ และมีชวี ติ ชีวา และสรา้ งความรูส้ กึ นา่ ตืน่ เต้น
การสร้างจังหวะในงานออกแบบ
• วางองค์ประกอบเดิมซำ้ กันและใหม้ ชี อ่ งไฟเท่ากัน
• วางองค์ประกอบเดมิ ในขนาดทใ่ี หญข่ ้นึ เรือ่ ย ๆ และขยายช่องไฟข้นึ ให้รบั กนั
• มกี ารกลบั ความหนาบางของตวั อกั ษร เช่นใหม้ ตี วั อกั ษรบางเบา สลบั กบั ตวั ทบึ หนา
• วางองค์ประกอบเดมิ ในหลาย ๆ จดุ บนเลยเ์ อาท์
• ถา้ มีหลายหนา้ อาจวางองคป์ ระกอบเดมิ ทจ่ี ดุ เดยี วกันบนทุก ๆ หนา้
3. การเน้น (Emphasis) การเนน้ คอื การทำใหอ้ งคป์ ระกอบหนง่ึ เปน็ ทส่ี งั เกตเหน็ ก่อนสว่ นอ่ืน ๆ จะเกดิ ขึน้ เมื่อ
องคป์ ระกอบนัน้ แตกตา่ งจากองคป์ ระกอบอื่น บนงานออกแบบทกุ ชนิ้ ควรมจี ดุ เด่นนเี้ พ่ือดงึ ดูดสายตาของผู้ดไู ปสู่
ส่วนสำคญั ของงาน แตถ่ ้ามีจดุ เดน่ มากเกินไปก็อาจไมเ่ กดิ ผลตามทต่ี อ้ งการ
การทำใหเ้ กิดจุดสนใจ

59

• วางรปู ภาพทีต่ อ้ งการเน้นใหก้ รอบภาพมรี ปู ทรงแปลกออกไปท่ามกลางรปู ทม่ี กี รอบสเ่ี หล่ยี มและมีช่องไฟเทา่
ๆ กัน

• ใช้เสน้ โคง้ เปน็ รูปร่างของตัวอักษรทจ่ี ะเน้นทา่ มกลางตัวอักษรตรง ๆ
• ใช้ตวั อักษรสหี รอื รปู แบบตวั อักษรท่ีตา่ งออกไปเมอื่ ตอ้ งการเนน้
• ใช้ตวั อักษรขาวบนพ้ืนสีสำหรบั สงิ่ ทจ่ี ะเนน้
• ใช้ตวั หนาสำหรบั หัวข้อและตวั อักษรทบ่ี างลงสำหรบั เนอื้ หา
4. เอกภาพ (Unity) เอกภาพทำใหง้ านออกแบบดเู ป็นอนั หนึ่งอันเดยี วกัน ซง่ึ จะชว่ ยผู้อา่ นรวู้ ่าเปน็ งานชิน้
เดยี วกนั ใชก้ ริด (Grid) เพื่อวางกรอบโครงรา่ งของงาน (การเวน้ คน่ั หน้า ค่ันหลงั คอลมั น์ การเว้นช่องไฟ และ
สดั สว่ น) ใหเ้ ปน็ ระบบระเบยี บ การจดั กลมุ่ ใหอ้ งค์ประกอบเป็นอันหนงึ่ อนั เดียวให้ดเู รื่องการซ้ำกนั ของสี รปู รา่ ง
และพืน้ ผวิ เพอ่ื ทำใหผ้ อู้ า่ นเหน็ ตัวอักษร หวั เรอ่ื ง รปู ภาพ ภาพถ่าย เป็นงานเดยี วกนั
การสรา้ งเอกภาพ
• ใช้ตวั อักษรเพยี งหน่งึ หรือสองแบบตลอดชิน้ งาน ถา้ จะให้มกี ารตดั กันให้ใช้ขนาดทแี่ ตกตา่ งกนั
• ให้มีความสม่ำเสมอในเรื่องแบบตัวอักษร ขนาดของหวั ขอ้ หวั ขอ้ ย่อย และข้อความ
• เลือกภาพทม่ี ีโครงสีคล้ายคลงึ กัน
• วางรูปภาพและคอลมั นใ์ นเสน้ กริดเดยี วกัน
• เลือกใช้สจี ากชุดสเี ดียวกันตลอดท้ังงาน
• ให้มกี ารซ้ำกันของสี รปู รา่ งและพ้นื ผิวในท่ตี า่ ง ๆ ตลอดทง้ั งาน
การออกแบบส่อื ดจิ ิทลั
การออกแบบส่อื ดจิ ทิ ัล (Digital Media Design)

การออกแบบสื่อดจิ ทิ ลั เปน็ หนงึ่ ในการสอ่ื สารแบบ Visual Communication Arts หรอื นเิ ทศศลิ ป์ ซงึ่
เปน็ ศลิ ปะที่ เกี่ยวขอ้ งกบั การสือ่ สารทางการมองเหน็ (Visual Communication) เพราะเป็นการสอ่ื สารไป
ยังผรู้ ับสารด้วยภาพเปน็ สาํ คัญ (Visual Image) แม้จะมีบางองค์ประกอบจะมีการส่อื สารทางเสียง มาประกอบก็
ตาม แตส่ ื่อหลกั ก็ยงั เป็นการ สอื่ สารด้วยภาพ โดยเสยี งเปน็ ตวั เสรมิ ใหภ้ าพนั้นสมบรู ณ์ข้นึ ท้งั น้ีเพราะการรับรู้
ของมนุษย์เรานน้ั รบั รจู้ าก จกั ษปุ ระสาทมากทสี่ ุด (รบั รทู้ างตา83% หู 11%)

Communication Arts หรอื นเิ ทศศาสตร์ คอื ศาสตร์ทเี่ กี่ยวข้องกบั ศลิ ปะในการสอ่ื สาร โดยให้
ความสําคัญกับการ สือ่ สาร จากองคป์ ระกอบของการสอสาร กล่าวคอื ผู้สงสาร สาร สือ่ และผู้รบั สาร ซ่งึ ผสู้ งสาร
อาจเปน็ ตัวบคุ คล องค์กร หรอื บริษทั ก็ได้ ขา่ วสารจะต้องเปน็ เนือ้ หาสาระทผ่ี สู้ ่งตอ้ งการทจ่ี ะกระจายให้
ประชาชนไดรบั ทราบ สือ่ หรอื ชอ่ งทาง เปน็ การหาวธิ ีการ กระจายข่าวสารตา่ งๆ ไปสู่กลมุ่ เปา้ หมายให้ไดม้ าก และ
กวา้ งไกล ตามวัตถปุ ระสงค์ของผสู้ ่ง และผรู้ ับสาร หรือกลุม่ เปา้ หมาย จะต้องสามารถรับข่าวสารน้นั ได้ โดยผู้
สงสารจะต้องหาวิธกี ารทำให้ขา่ วสารทส่ี ่งไป ถงึ ผรู้ ับสารไดม้ ากทีส่ ุด

Visual Communication คือ การส่ือสารดว้ ยการมองเห็น เปน็ การสอื่ สารท่ี มุง่ ทจี่ ะใหค้ วามคิดความ
เข้าใจของผอู้ นื่ ใหเ้ หมอื นกบั ความคิดความเขา้ ใจของเรา หรอื ทำอยา่ งไรจึงจะเอาความรู้สกึ นึกคดิ ของผอู้ ื่นได้
โดยใหม้ คี วามรสู้ กึ นกึ คดิ เชน่ เดียวกบั เรา เพราะธรรมชาติมนุษย์ได้รบั ข่าวสารอยา่ งเดียวกันมา แตจ่ ะมคี วาม

60

เขา้ ใจและความรสู้ กึ นกึ คิด แตกต่างกัน ออกไป การสือ่ สารท่ีดีกต็ ้องมกี ารวางแผน โดยสิ่งที่ Visual
Communication เห็นนน้ั ไดส้ ือ่ สารผ่านภาพ (Image), เครอื่ งหมาย (signs), ตัวพิมพ์ (Typography), ภาพวาด
(Drawing), ออกแบบกราฟฟคิ (Graphic Design), ภาพประกอบ (Illustration), สี (Color) และทรพั ยากร
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (Electronic Resources) เปน็ ตน้

Visual Communication Arts หรอื นิเทศศลิ ป์ หมายถงึ งานศิลปะเพ่ือการนาเสนอใหป้ รากฎ ใน
รูปแบบต่างๆ ผ่าน การมองเห็นเป็นสาํ คัญ นอกจาก จะเก่ียวของกบั การสอสารแลว้ ยงั ตอ้ งเกยี่ วของ กับวชิ าการ
สาขาตา่ ง ๆ อกี กค็ ือ จติ วทิ ยา ธุรกจิ เทคโนโลยี ระบวนการสร้างสรรค์ และศลิ ปะ

Digital Media Design หรือ การออกแบบสอื่ ดจิ ิทลั จงึ หมายถึงการสรางสรรค์ผลงานในเชิงนเิ ทศศลิ ปเ์ พอ่ื
สือ่ สารสง
ตา่ งๆ ใหก้ ับผรู้ บั สาร โดยใชส้ ่ือระบบดิจทิ ลั ในกระบวนการออกแบบและการสอ่ื สาร การออกแบบด้วยสือ่ ดจิ ทิ ลั
แบ่งเป็น 2 ลกั ษณะ คอื
1. ผลงานการออกแบบส่ิงพิมพ์ด้วยสอ่ื ดิจทิ ลั
เชน่ หนงั สือ ( Book), นิตยสาร ( Magazine), วารสาร ( Periodical), ภาพโฆษณา ( Poster), เครือ่ งหมายและ
การคา้ (Trademark & Logo), ตราสญั ลกั ษณ์ (Logo), บรรจุภัณฑ์ (Packaging) เป็นต้น
2. ผลงานการออกแบบเพ่ือนำไปใชส้ อดจิ ทิ ลั โดยตรง
เช่น Web Page, Banner, Animation, E-Newsletter, Blog, E-Book, Wallpaper, VDO เปน็ ต้น
ประโยชน์
ขอ้ ดีของสอื่ ดจิ ติ อล
1. ความคงทน คณุ ภาพของสงิ่ ทอี่ ย่ใู น “ Digital Media ” การเส่ือมสภาพจะใช้เวลานานกวา่ เพราะรปู แบบ
ของข้อมูลทจ่ี ัดเกบ็ แบบ . สองระดับ ” (0 กับ 1) โอกาสทจี่ ะผดิ เพยี้ นจะเกดิ ขึน้ ไดย้ ากกวา่ ข้อมูลแบบต่อเนอื่ ง
เช่น การบนั ทกึ ภาพลงในวดี ิทัศนแ์ บบอนาลอก กับการบันทกึ ภาพลงวีดทิ ัศน์ ในระบบดิจิตอล เมื่อเสน้ เทปยืด
การอ่านขอ้ มลู กลบั มาในแบบดจิ ติ อลนั้น จะทำได้ง่ายกวา่ และสามารถทำให้ไดข้ อ้ มลู กลบั มาได้เหมอื นเดิมไดง้ า่ ย
กว่า แตส่ ำหรับอนาลอก จะให้คณุ ภาพของภาพ ทล่ี ดลงโดยทนั ที
2. รูปแบบของการนำไปใช้งานทำได้หลากหลายวธิ ี ข้อมลู ทจี่ ดั เกบ็ ในแบบดจิ ิตอล ถือไดว้ ่า เป็นขอ้ มูลกลาง ท่ี
สามารถแปลงไปสรู่ ปู แบบอ่ืนได้งา่ ยเชน่ ถา่ ยรูปด้วยกลอ้ งดจิ ติ อล เมอื่ ได้เปน็ ขอ้ มลู ภาพออกมาแล้ว จากนัน้ สา
มารพิมพภ์ าพลงบนกระดาษหรอื การแสดงภาพบนจอคอมพวิ เตอร์ หรอื แสดงภาพบนจอทวี ี ก็ได้เช่นกนั
3. การนำไปผสมผสานกบั สื่อรปู แบบอน่ื เชน่ ภาพถ่าย นำมารวมกับเสยี ง มกี ารแสดงแบบ Multi-Media
4. การปรบั แต่ง (Edit) เปน็ การปรบั แต่งสอื่ ที่เปน็ ภาพถ่าย วิดีโอ เสยี งนกร้อง … นำมาปรบั แตง่ ให้ดีขึ้นกวา่ เดิม
การสอดแทรก สงิ่ เหลา่ น้ีทำให้น่าดู นา่ ฟงั มากกว่าปกติ มีความวจิ ิตรพิสดาร
ขอ้ เสยี ของส่ือดจิ ติ อล
เป็นส่งิ ทง่ี า่ ยตอ่ การกระทำผดิ ศลิ ธรรม การละเมิดในสทิ ธิของผูอ้ ืน่ เชน่ การนำเอาภาพของบคุ คลหนง่ึ มาตัดต่อ
กบั ภาพเปลือยกายของอกี คนหนง่ึ หรือ การทำซำ้ (Copy) กับ งานส่อื ทม่ี ลี ขิ สิทธถ์ิ ูกต้อง เป็นตน้

61

ถึงอย่างไรก็ตาม จากข้อดี ท่ีมีคณุ สมบตั เิ ด่นมากมายเหล่านี้ ทำให้แนวโน้มของอปุ กรณส์ ่ือในอนาคต สามารถ
พฒั นาข้ึนเป็นสอ่ื ดจิ ติ อล (Digital Media) และมแี นวทางของการพฒั นา ใหม้ คี ณุ ภาพดีขึน้ ทุกขณะ และราคาถกู
ลงอย่างเหลอื เช่อื
หลกั เบอื้ งตน้ ของส่ือดจิ ิทลั

ส่ือดจิ ิตอล (ตรงกนั ข้ามกบั สอ่ื อนาลอ็ ก) มกั หมายถงึ สอื่ อิเลก็ ทรอนิกส์ซง่ึ ทํางานโดยใชร้ หสั ดิจิตอล ใน
ปัจจบุ ัน การเขียนโปรแกรมต้องอยบู่ นพื้นฐานของเลขฐานสอง ในกรณีน้ี ดิจติ อล หมายถงึ การแยกแยะระหวา่ ง
"0" กบั "1" ในการ แสดงข้อมลู คอมพวิ เตอร์เปน็ เครื่องจักรทม่ี กั จะแปลข้อมลู ดจิ ติ อลฐานสองแลว้ จึงแสดงชั้น
ของเคร่ืองประมวลผลชั้นของ ขอ้ มลู ดิจิตอลทเี่ หนอื กวา่ สือ่ ดิจิตอลเช่นเดียวกบั สอื่ เสยี ง วดิ ีโอ หรือเนอื้ หาดจิ ิตอล
อ่นื ๆ สามารถถูกสร้างขน้ึ อ้างอิงถงึ และได้รับการแจกจ่ายผ่านทางเคร่อื งประมวลผลขอ้ มลู ดจิ ติ อล ส่อื ดจิ ิตอลได้
นํามาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญห่ ลวง เม่อื เทียบกบั ส่ืออนาล็อก

Digital Media (สอื่ ดจิ ติ อล) และ มัลตมิ ีเดีย (Multimedia) ทง้ั สองคาํ นี้เปน็ เรอื่ งของสอื่ ท้งั หมดหรือ
อาจจะเรยี กรวมวา่ ส่อื ใหม่(New media) กพ็ อจะนับรวมไปได้ ทัง้ สอง คาํ ต่างกม็ คี วามเกีย่ วโยงกัน ถา้ ลองคิดถงึ
สื่อประเภทใดบ้างทม่ี ลี กั ษณะเป็นดจิ ิตอลหลายๆ คนคงพอนึกได้ เน่ืองด้วย ส่วนใหญล่ ว้ นเปน็ สิง่ ท่ีเราไดเ้ คยใชอ้ ยู่
แลว้ ในชีวติ ประจําวนั เช่น การพมิ พ์ข้อความเพ่ือสง่ เมล์ การเปดิ ฟงั เพลงด้วย คอมพวิ เตอร์ การชมภาพถา่ ยทเี่ กบ็
ในฮารด์ ดสิ ก์ การชมภาพเคลอ่ื นไหวผ่านจอคอมพิวเตอร์ การดูวดิ โี อ หรือการติดตอ่ ส่ือสาร ในยุคปัจจบุ ัน ทง้ั หมด
นีเ้ รารบั ขอ้ มลู ผ่านส่ือทเ่ี ป็นดจิ ติ อลทงั้ สิน้ และถา้ หากเรานาํ ส่อื ดจิ ติ อลทงั้ หมดน้มี ารวมเขา้ ด้วยกัน เราจะไดเ้ ปน็
มลั ตมิ เี ดยี (Multimedia) ซง่ึ ถือเปน็ สอื่ ใหม่ (New media) ที่กาํ ลงั มีอิทธิพลตอ่ การสอ่ื สารในยุคปจั จบุ นั
องคป์ ระกอบของสอ่ื ดิจติ อลเบอ้ื งต้น

เป็นอย่างเดยี วกนั กบั องคป์ ระกอบเบอ้ื งตน้ ของมลั ติมีเดยี ดว้ ย ประกอบไปด้วยพนื้ ฐาน 5 ชนดิ ได้แก่
1. ข้อความ เปน็ ส่วนท่ีเกีย่ วกบั เน้อื หาของมัลตมิ ีเดีย ใชแ้ สดงรายละเอียด หรือเนื้อหาของเรื่องท่ีนาํ เสนอ ถอื วา่
เป็นองค์ประกอบพนื้ ฐานทสี่ าํ คัญของมลั ตมิ ีเดยี ระบบมัลติมเี ดียทีน่ าํ เสนอผ่านจอภาพของเครอ่ื งคอมพิวเตอร์
นอกจาก จะมรี ปู แบบและสขี องตวั อกั ษรใหเ้ ลอื กมากมายตามความต้องการแลว้ ยังสามารถกาํ หนดลกั ษณะของ
การปฏิสมั พนั ธ์ (โต้ตอบ)ในระหวา่ งการนาํ เสนอไดอ้ ีกดว้ ย ซง่ึ ปจั จบุ นั มหี ลายรปู แบบ ไดแ้ ก่

1.1 ขอ้ ความทีไ่ ด้จากการพมิ พ์ เปน็ ข้อความปกตทิ ีพ่ บได้ทั่วไป ได้จากการพิมพ์ดว้ ย โปรแกรม
ประมวลผลงาน (Word Processor) เชน่ NotePad, Text Editor, Microsoft Word โดยตัวอักษรแตล่ ะตัวเกบ็
ในรหสั เช่น ASCII

1.2 ขอ้ ความจากการสแกน เปน็ ข้อความในลักษณะภาพ หรือ Image ไดจ้ ากการนําเอกสารท่พี มิ พ์ไว้
แล้ว (เอกสารต้นฉบบั ) มาทาํ การสแกน ด้วยเคร่ืองสแกนเนอร์ ( Scanner) ซึง่ จะได้ผลออกมาเปน็ ภาพ (Image)
1 ภาพ ปจั จุบันสามารถแปลงขอ้ ความภาพ เป็นข้อความปกตไิ ด้ โดยอาศัยโปรแกรม OCR ข้อความ
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เปน็ ข้อความทพ่ี ฒั นาใหอ้ ยใู่ นรปู ของสื่อ ทใี่ ชป้ ระมวลผลได้

62

1.3 ขอ้ ความไฮเปอรเ์ ทก็ ซ์ ( Hypertext) เป็นรปู แบบของขอ้ ความ ที่ไดร้ บั ความนยิ มสงู มากในปจั จุบนั
โดยเฉพาะการเผยแพรเ่ อกสารในรูปของเอกสารเว็บ เนอื่ งจากสามารถใชเ้ ทคนิค การ Link หรือเชือ่ มข้อความไป
ยงั ขอ้ ความ หรือจุดอ่นื ๆ ได้
2. เสยี ง ถูกจัดเกบ็ อยใู่ นรปู ของสญั ญาณดจิ ติ อลซึง่ สามารถเลน่ ซ้ำกลบั ไปกลบั มาได้ โดยใชโ้ ปรแกรมท่ี ออกแบบ
มาโดยเฉพาะสาํ หรับทํางานด้านเสยี ง หากในงานมลั ตมิ เี ดยี มีการใชเ้ สียงทเ่ี ร้าใจและสอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาใน การ
นาํ เสนอ จะชว่ ยให้ระบบมลั ตมิ เี ดยี นัน้ เกิดความสมบรู ณ์แบบมากย่งิ ข้ึน นอกจากนี้ยงั ชว่ ยสรา้ งความนา่ สนใจและ
น่าตดิ ตามในเรอ่ื งราวตา่ งๆ ได้เป็นอยา่ งดี ทง้ั นเ้ี นื่องจากเสียงมีอิทธพิ ลตอ่ ผใู้ ช้มากกวา่ ข้อความหรอื ภาพนงิ่ ดงั นัน้
เสียง จงึ เป็นองค์ประกอบท่ีจาํ เปน็ สาํ หรับมัลตมิ ีเดียซงึ่ สามารถนําเขา้ เสียงผ่านทางไมโครโฟน แผ่นซีดี ดีวดี ี เทป
และวิทยุ เปน็ ต้น
3. ภาพนง่ิ เปน็ ภาพทีไ่ มม่ ีการเคลอื่ นไหว เชน่ ภาพถา่ ย ภาพวาด และภาพลายเส้น เป็นตน้ ภาพนง่ิ นบั ว่ามี
บทบาทตอ่ ระบบงานมลั ตมิ ีเดียมากกวา่ ข้อความหรอื ตัวอกั ษร เนือ่ งจากภาพจะใหผ้ ลในเชงิ การเรยี นรหู้ รือรับรู้
ด้วยการ มองเห็นไดด้ ีกวา่ นอกจากนย้ี งั สามารถถา่ ยทอดความหมายไดล้ กึ ซ่ึงมากกวา่ ขอ้ ความหรือตวั อกั ษรซ่ึง
ข้อความหรือ ตัวอกั ษรจะมขี อ้ จํากดั ทางด้านความแตกต่างของแตล่ ะภาษา แต่ภาพน้ันสามารถสอื่ ความหมายได้
กบั ทกุ ชนชาติ ภาพน่งิ มักจะแสดงอยู่บนส่ือชนดิ ต่างๆ เช่น โทรทศั น์ หนงั สอื พมิ พห์ รือวารสารวิชาการ เปน็ ต้น
4. ภาพเคลือ่ นไหว ภาพกราฟิกท่ีมีการเคลอ่ื นไหวเพือ่ แสดงขนั้ ตอนหรือปรากฏ การณต์ า่ งๆ ท่ีเกดิ ขึน้ อย่าง
ตอ่ เน่ือง เชน่ การเคล่อื นทข่ี องลกู สูบของเครอื่ งยนต์ เปน็ ต้น ทงั้ นเี้ พือ่ สร้างสรรคจ์ นิ ตนาการให้เกิดแรงจูงใจจาก
ผชู้ ม การผลิตภาพเคลื่อนไหวจะตอ้ งใช้โปรแกรมทมี่ คี ุณสมบตั เิ ฉพาะทางซงึ่ อาจมปี ญั หาเกิดข้นึ อยู่บา้ งเกี่ยวกบั
ขนาดของ ไฟล์ทต่ี ้องใชพ้ ืน้ ท่ใี นการจดั เกบ็ มากกวา่ ภาพนิง่ หลายเท่า
5. วิดีโอ เปน็ องค์ประกอบของมลั ตมิ เี ดียทม่ี คี วามสําคัญเปน็ อย่างมาก เนอ่ื งจากวดิ ีโอในระบบดจิ ติ อล สามารถ
นําเสนอขอ้ ความหรอื รปู ภาพ (ภาพน่ิงหรอื ภาพเคล่ือนไหว) ประกอบกบั เสยี งไดส้ มบรู ณ์มากกว่าองคป์ ระกอบ
ชนิดอืน่ ๆ อย่างไรก็ตาม ปญั หาหลกั ของการใช้วิดีโอในระบบมัลตมิ เี ดยี ก็คอื การสิน้ เปลอื งทรพั ยากรของพ้นื ทบ่ี น
หน่วยความจาํ เปน็ จาํ นวนมาก เนือ่ งจากการนาํ เสนอวดิ โี อดว้ ยเวลาทีเ่ กิดขึ้นจรงิ ( Real-Time) จะต้อง
ประกอบด้วย จํานวนภาพไม่ตํา่ กวา่ 30 ภาพต่อวนิ าที (Frame/Second) ถา้ หากการประมวลผลภาพดงั กล่าว
ไม่ได้ผา่ นกระบวนการ บบี อัดขนาดของสญั ญาณมากอ่ น การนําเสนอภาพเพยี ง 1 นาทีอาจตอ้ งใช้หน่วยความจํา
มากกว่า 100 MB ซงึ่ จะทํา ใหไ้ ฟลม์ ีขนาดใหญเ่ กนิ ขนาดและมีประสทิ ธภิ าพในการทาํ งานทดี่ อ้ ยลง สรปุ ไดว้ า่ คํา
วา่ “มลั ติมีเดยี ” หมายถึง การนาํ องค์ประกอบของส่ือดจิ ิตอลชนดิ ตา่ งๆ มาผสมผสานเขา้ ดว้ ยกนั ซึง่
ประกอบดว้ ย ตัวอกั ษร (Text) ภาพนง่ิ (Still Image) ภาพเคลอ่ื นไหว (Animation) เสียง (Sound) และวดิ ีโอ
(Video) โดยผา่ นกระบวนการทางระบบคอมพวิ เตอร์เพอ่ื สอื่ ความหมายกบั ผใู้ ชอ้ ย่างมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ ( Interactive
Multimedia) และไดบ้ รรลผุ ลตรงตามวตั ถุประสงคก์ ารใช้งาน ในสว่ นของแต่ละองคป์ ระกอบของมลั ติมเี ดยี ทั้ง 5
ชนดิ จะมีท้ังข้อดี - ขอ้ เสียทแี่ ตกตา่ งกนั ไปตามคุณลกั ษณะและวธิ กี ารใชง้ าน สาํ หรบั ประโยชนท์ ี่จะไดร้ บั จาก
มัลตมิ เี ดียมีมากมาย นอกจากจะชว่ ยเพมิ่ ประสิทธิภาพในการดาํ เนินงานแล้ว ยังเพ่มิ ประสทิ ธิผลของความคมุ้ คา่
ในการลงทุนอีกดว้ ย ท้ังนี้ ขึน้ อยูก่ บั วธิ ีการนาํ มาประยกุ ต์ใชเ้ พอ่ื ให้เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ

63

เทคนิคการตดั ตอ่ ภาพดว้ ยส่อื ดจิ ทิ ลั
การตดั ตอ่ ภาพยนตร์ เป็นข้นั ตอนทีส่ ำคญั อีกขน้ั ตอนหน่ึงในการสรา้ งภาพยนตร์ ซง่ึ หมายถึง การลำดับ

ภาพจากภาพยนตรท์ ีถ่ า่ ย ทำไว้ โดยนำแต่ละฉากมาเรยี งรอ้ ยกันตามโครงเรอ่ื ง จากนัน้ ก็จะใชเ้ ทคนคิ การตดั ต่อให้
ภาพและเสยี งมคี วามสมั พันธ์ต่อเนือ่ งกนั เพือ่ ใหไ้ ดภ้ าพยนตรท์ ่มี ีความสมบรู ณ์เต็มรปู แบบ ก่อนท่จี ะนำไป
เผยแพร่ ต่อไป

การตดั ตอ่ ลำดับภาพ หมายถึง การเชอื่ มตอ่ กันระหว่างช็อต 2 ช็อต เพอ่ื เลา่ เรอ่ื งราวต่างๆ ด้วยภาพ ซึง่
สามารถกระทำไดท้ ัง้ ภาพนงิ่ และภาพเคล่ือนไหว โดยการนำชิน้ งานแตล่ ะชอ็ ต แตล่ ะฉากมาเรียงกัน เพือ่ ให้เกดิ
ความต่อเนอ่ื งและกลมกลนื กนั ด้วยเทคนิค วธิ ีตา่ งๆ จนกระทง่ั สามารถเลา่ เร่ืองราวได้ตามบท (Script) ทเี่ ขยี นไว้
ดงั นน้ั ผตู้ ัดต่อที่ดี ตอ้ งคดิ สรรช็อตท่ีดีและฉากที่ดมี าเรยี งตอ่ กนั โดยจะต้องคำนงึ ถงึ ความยาว จงั หวะ รวมถึง
อารมณท์ ี่ ต้องการสอื่ ใหผ้ ู้ รับสารได้ รับรู้ และทส่ี ำคญั ก็คือ ตอ้ งคำนึงถึงความเป็นเอกภาพของเรอ่ื งน้ันๆ ดว้ ย

การตัดตอ่ ภาพและเสยี ง หมายถึง กระบวนการนำภาพตา่ งๆ ทบี่ นั ทึกไวม้ าลำดบั เปน็ เรือ่ งราวโดยอาศยั
เคร่อื งมอื ตดั ตอ่ รวมถึง การซอ้ นตัวหนงั สอื หรอื การสร้างภาพพเิ ศษต่างๆ เพื่อสร้างความสมบรู ณ์ของรายการ
ในการส่ือความหมาย ตลอดจนการใสเ่ สยี ง บรรยาย เสยี งประกอบ ตามรูปแบบของรายการนนั้ ๆ
ความสำคญั
การตดั ตอ่ ลำดบั ภาพมคี วามสำคญั ในสว่ นทีท่ ำใหผ้ ู้ดเู ขา้ ใจเรอื่ งราวที่นาํ เสนอและได้อารมณ์อยา่ งต่อเน่ืองตงั้ แต่
เร่มิ จนจบเรือง
1. การดึงผู้ดูให้เข้าไปเก่ียวของและเปน็ สว่ นหนง่ึ กบั เหตกุ ารณใ์ นเรอื่ งทำใหผ้ ดู้ เู กิดสภาพอารมณ์ตามทผี่ ้ตู ดั ตอ่
ตอ้ งการ
2. การสร้างเร่ืองราวอยา่ งต่อเนอ่ื ง
3. การเชอ่ื มต่อภาพให้ดลู นื่ ไหล
4. การแก้ไขจดุ บกพร่องทอ่ี าจจะเกิดมาจากการถ่ายทำ
5. การกำหนดเวลา หรือ การกําจดั เวลา
ประเภทของการตัดต่อ
การตดั ตอ่ แบบ Linear เปน็ การตดั ต่อในรปู แบบเดมิ คือ ตัดต่อจากเทปวีดโิ อ โดยผู้ตัดตอ่ จะต้องเริม่ ตดั ต่อด้วย
การนำเทปมา เรียงตามลำดบั เรอ่ื ง ผา่ นเครือ่ งเล่นเทปอยา่ งน้อย 2 เคร่ือง และจะต้องทำการตดั ต่อไล่เรียง
ตามลำดบั ตงั้ แตต่ ้นจนจบ ไม่สามารถกระโดด ขา้ มไปมาได้ ดังนัน้ ผู้ตัดตอ่ จะต้องวางแผนการตดั ต่อภาพโดยมี
ลำดับของภาพและความยาวของแต่ละช็อต เรยี งลำดับกนั ไปตามเนือ้ เรอ่ื งตัง้ แตต่ ้นจนจบ
การตดั ตตอ่ แบบ Non-Linear เปน็ การตดั ต่อทีพ่ ฒั นามาจากการตดั ตอ่ แบบ Linear ซึ่งการตดั ต่อแบบ Non-
Linear เปน็ นการตดั ต่อ ทสี่ ามารถกระโดดขา้ มไปมาได้ และเคร่อื งมอื หลกั ท่ีใชใ้ นการตดั ต่อชนดิ นก้ี ค็ ือ เครอ่ื ง
คอมพวิ เตอร์ ซงึ่ มหี ลกั การทำงานโดยการอาศยั การแปลงสญั ญาณจากภาพวดี ทิ ศั น์ ให้เปน็ สญั ญาณทาง
คอมพวิ เตอร์ หรอื ดจิ ิทลั แล้วเกบ็ ไว้ในหน่วยความจำหรอื ฮาร์ดดสิ ก์ เพ่ือนำมา ทาการตัดต่อลำดบั ภาพ โดยทผี่ ู้
ตัดต่อไมจ่ ำเป็นจะตอ้ งตดั เรยี งลำดับช็อตกอ่ นหลงั นอกจากนผ้ี ตู้ ัดต่อยังสามารถแก้ไขภาพตา่ งๆ ได้ โดยงา่ ย

64

หลงั จากที่ทำการตัดต่อเสรจ็ สมบรู ณแ์ ลว้ ผตู้ ัดตอ่ จะตอ้ งทำการแปลงสัญญาณดิจทิ ลั นั้น ใหก้ ลับเปน็ เหมอื นเดมิ
เพ่อื บนั ทึกลง สเู่ คร่อื งเทปหรือแผน่ บันทกึ ข้อมลู อีกครง้ั หนงึ่
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกบั การตดั ต่อลำดบั ภาพดว้ ยระบบดจิ ทิ ลั (คอมพิวเตอร)์
อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
1. กล่องวีดโิ อดิจิทลั (Video Digital Camera) กลองวีดโิ อดจิ ิทลั ในปจั จบุ นั มมี ากมายหลายยี่หอ้ และหลายรุ่น
ราคาแตกตางกนั ออกไป ทง้ั นรี้ าคาของกลอ้ งวีดิโอดจิ ิทลั จะขึ้นอยกู่ บั ความละเอยี ดของภาพและความคม ชดั ของ
เสียงที่บันทึกได้ การจดั เกบ็ ข้อมลู ท่ีบนั ทกึ ได้มักนยิ มเกบ็ ไวใ้ นเทปทเ่ี รยี กว่า Mini DV เพราะเก็บขอมูลภาพวดี ิโอ
ไดม้ าก
2. สาย Fire Wire หรอื สาย I-link เป็นอปุ กรณ์เชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งกล้องและคอมพวิ เตอร์ เพ่ือถ่ายโอนขอ้ มลู
3. การ์ดจบั ภาพ (capture card) เปน็ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการนำภาพวดี โิ อออกจากกลอ้ งเพอ่ื นำเขาเคร่อื ง
คอมพวิ เตอร์
4. โปรแกรมทใ่ี ชส้ ำหรับงานตดั ตอ่ ไดแก่
• โปรแกรมที่ใชใ้ นการตดั ต่อไฟล์วดี โิ อ เชน่ Window Movie Maker, Ulead Video Studio, Adobe
Premiere,
Macromedia Director เปน็ ตน้
• โปรแกรมทีใ่ ชใ้ นการแปลงไฟล์ เชน่ ImTOO MPEG Encoder, WMA Converter, WinAVI Video
Converter, Speed
Video Converter เปน็ ตน้
• โปรแกรมท่ีใชเ้ ขยี นข้อมลู เพ่ือสรา้ งแผ่น VCD หรอ DVD เชน่ Nero Burning Rom, ultra iso ,
Alcohol 120% , IsoBurner , Smart Tip (Freeware) เปน็ ต้น

65

แบบฝกึ หัด/เฉลย

ตอนท่ี 1 จงเลอื กคําตอบทีถ่ ูกตอ้ งท่สี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว

คำสัง่ จงทำเคร่ืองหมายกากบาท () หนา้ ข้อทถี่ ูกต้องมากท่สี ดุ เพยี งข้อเดียว

1. ข้อใดคือความหมายของ Content

ก. ชอ่ งทางการทำการตลาดใหป้ ระสบความสำเรจ็

ข. การเพม่ิ โอกาสในการสรา้ งยอดขายใหก้ ับธรุ กจิ

ค. เทคนคิ หน่ึงในการทำการตลาดด้วนการสร้างเนอ้ื หาทใ่ี หค้ วามรหู้ รอื ตอบคำถามทล่ี กู ค้าสนใจ

ง. การสื่อสารข้อมูลและประสบการณถ์ งึ ลกู ค้าหรือผู้ใชง้ าน เพื่อให้ผสู้ อ่ื สารสามารถบรรลุเปา้ หมายที่ตอ้ งการ

ได้

2. ขอ้ ใดคอื ความหมายของ Content Maketing

ก. ช่องทางการทำการตลาดใหป้ ระสบความสำเร็จ

ข. การเพ่มิ โอกาสในการสรา้ งยอดขายใหก้ ับธุรกิจ

ค. เทคนิคหนึง่ ในการทำการตลาดด้วยการสร้างเนอ้ื หาทใี่ หค้ วามรหู้ รอื ตอบคำถามท่ีลกู ค้าสนใจ

ง. การสื่อสารข้อมูลและประสบการณ์ถงึ ลกู คา้ หรือผใู้ ชง้ าน เพอ่ื ให้ผสู้ ื่อสารสามารถบรรลเุ ปา้ หมายท่ีต้องการ

ได้

3. ขอ้ ใดทไี่ ม่ใชป่ ระเภทของคอนเทนต์

ก. ตัวอกั ษร ข. ภาพ ค. เสียง ง. ตวั เลข

4. ขอ้ ใดไม่ใช่เปา้ หมายในการสรา้ งคอนเทนต์

ก. คอนเทนต์ขายของ ข. คอนเทนตใ์ ห้ความรู้

ค. คอนเทนตใ์ ห้ความบันเทงิ ง. คอนเทนตใ์ หป้ ระโยชน์แกส่ งั คม

5. แพลตฟอรม์ ออนไลนท์ ี่ตรงกับกลมุ่ เปา้ หมายของธรุ กจิ ทตี่ อ้ งทำด้วยกนั คอื ขอ้ ใด

ก. การมสี ถานะบนโลกออนไลน์ ข.การขายออนไลน์

ค. มชี ่องทางออนไลนค์ รบทกุ ช่องทาง ง. ระบบรกั ษาความปลอดภยั ออนไลน์

6. ข้อใดคือเวบ็ ไซตต์ ลาดออนไลน์

ก. Facebook ข. LnwShop ค. Youtube ง. Instagram

7. ขอ้ หา้ มอะไรบา้ งในการใช้งาน YouTube หลักๆ ทเี่ ราต้องรู้

ก. ห้ามละเมดิ ลิขสิทธิแ์ ละห้ามละเมิดกฎชมุ ชน

ข.หา้ มละเมดิ ลขิ สทิ ธิแ์ ละหา้ มโพสรปู ลามกอนาจาร

ค. หา้ มลงคลปิ เกย่ี วกบั ความรุนแรงและหา้ มละเมิดกฎชุมชน

ง. หา้ มละเมดิ ลิขสทิ ธแิ์ ละหา้ มละเมิดกฎหมาย

66

8. SEO คืออะไร

ก.การทำใหเ้ วบ็ ไซตต์ ดิ หนา้ แรกบน Search Engine

ข. เคร่ืองมอื ในการคน้ หา

ค. จำนวนการคน้ หาคำ Keyword

ง. ลงิ ก์ท่ีถูกใสไ่ ปกบั คอนเทนต์ หรอื ถกู แฝงอยู่ในตำแหนง่ ต่างๆ ของเวบ็ ภายนอก

9. การใส่ Hashtags (#) เพอื่ อะไร

ก. เพือ่ ดงึ ดดู คนที่มีความสนใจและเสริ ์ชเจอเนือ้ หานนั้ ผา่ นคยี ์เวิร์ด

ข. ทำใหส้ นิ คา้ บรกิ าร และเนื้อหาบนเพจ เขา้ ถงึ กลุม่ เป้าหมายได้มากขน้ึ

ค. ดงึ ดดู ผูบ้ ริโภคใหเ้ ข้ามาติดตามเพจของคณุ

ง.เอื้อประโยชนใ์ หค้ ณุ สามารถที่จะสง่ คำเชญิ ไปใหก้ บั เพื่อนบน Facebook

10. ช่องทางใดเหมาะสำหรบั การใชค้ ลปิ วีดโี อในการสร้างความสนใจ

ก. Facebook ข. Instargram ค. Youtube ง. Twitter

เอกสารอา้ งอิง
-
ภาคผนวก (ถ้าม)ี

67

ใบงานท่ี 3 หน่วยท่ี 3

รหสั วชิ า 30204-2102 ช่อื วชิ า สอ่ื สรา้ งสรรคธ์ รุ กิจดจิ ทิ ลั ภาคเรียนท่ี 2

ชื่อหนว่ ย การออกแบบสอ่ื เวลารวม 16 ชัว่ โมง

ชื่องาน การออกแบบสอื่ จำนวน 4 ชว่ั โมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจการออกแบบสอ่ื
2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการออกแบบสอ่ื

3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา

4. จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. ผูเ้ รียนอธบิ ายความหมายการออกแบบส่อื ได้
2. ผเู้ รยี นอธบิ ายความสำคญั ของการออกแบบสอื่ ได้

3. ผเู้ รียนอธบิ ายหลักการออกแบบส่ือได้
4. ผ้เู รยี นอธิบายประเภทการออกแบบส่ือได้

5. ผเู้ รียนสามารถการออกแบบสอื่ ดิจทิ ลั ได้

6. ผู้เรียนสามารถใช้เทคนิคการตดั ตอ่ ภาพดว้ ยส่อื ดจิ ิทลั ได้

5. สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของการออกแบบสอ่ื

2. หลกั การการออกแบบสอ่ื
3. ประเภทของการออกแบบส่ือ

4. การออกแบบสอ่ื ดิจทิ ัล

5. เทคนคิ การตดั ตอ่ ภาพด้วยสื่อดจิ ทิ ลั
สมรรถนะรายหนว่ ย

แสดงความรเู้ กยี่ วกับการออกแบบส่อื

เครื่องมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เคร่อื งคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook

2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สือ

ลำดบั ข้ันตอนการปฏบิ ัตงิ าน
1. ให้นักศกึ ษาแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสม เพอื่ ศึกษาและอภปิ ราย
1.1 อธบิ ายความรูเ้ กย่ี วกับความเข้าใจการออกแบบสอื่

1.2 เขยี นรูปพรอ้ มอธบิ ายความเข้าใจการออกแบบสือ่
2. เขยี นอภปิ รายและวเิ คราะห์ใส่กระดาษ

68

3. นำผลงานส่งครูผสู้ อนเพ่ือประเมินผล
ภาพประกอบ-
ขอ้ ควรระวัง

ผู้เรียนควรตรวจสอบข้อมลู ก่อนใหถ้ ถ่ี ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพ่ือปอ้ งกนั ความผดิ พลาดก่อน
การสง่ งาน
ข้อเสนอแนะ (ถา้ มี)
นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนอื้ หาใหส้ อดคลอ้ งกบั ภาพให้ถูกตอ้ ง
การประเมนิ ผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมินใหช้ ดั เจน)

1. สงั เกตผูเ้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือร้น
ในการแสดงความคดิ เห็นและสรปุ สาระการเรยี นรปู้ ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานได้อยา่ งถูกตอ้ ง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผูเ้ รยี นทำแบบฝึกหดั หลังเรียนไดถ้ ูกต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอ้างองิ
-

69

ใบกจิ กรรมที่ 3 หนว่ ยที่ 3

รหสั วชิ า 30204-2102 ชือ่ วชิ า สื่อสร้างสรรค์ธุรกิจดจิ ิทลั ภาคเรยี นที่ 2

ชื่อหน่วย การออกแบบส่ือ เวลารวม 16 ช่วั โมง

ชือ่ งาน การออกแบบสอ่ื จำนวน 4 ชั่วโมง

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. มีความรู้ความเขา้ ใจการออกแบบสอ่ื
2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการออกแบบสื่อ

3. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศึกษา

4. จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. ผเู้ รียนอธบิ ายความหมายการออกแบบสื่อได้
2. ผู้เรียนอธบิ ายความสำคัญของการออกแบบสอ่ื ได้

3. ผเู้ รียนอธบิ ายหลกั การออกแบบสอ่ื ได้
4. ผ้เู รียนอธบิ ายประเภทการออกแบบส่อื ได้

5. ผเู้ รียนสามารถการออกแบบสอ่ื ดจิ ิทลั ได้

6. ผ้เู รยี นสามารถใช้เทคนิคการตดั ต่อภาพดว้ ยสอ่ื ดจิ ทิ ลั ได้

5. สาระการเรียนรู้

1. ความหมายของการออกแบบส่อื
2. หลกั การการออกแบบสือ่

3. ประเภทของการออกแบบสอ่ื

4. การออกแบบส่อื ดิจทิ ลั

5. เทคนิคการตดั ตอ่ ภาพด้วยส่ือดจิ ทิ ลั
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ กีย่ วกบั การออกแบบสื่อ

เครื่องมือ วสั ดุ – อปุ กรณ์

1. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสอื

ลำดบั กจิ กรรม
1. ผู้เรียนต้องใหค้ วามสนใจในการศึกษา เพอื่ หาเทคนิค วิธีการ หรอื หลักการงา่ ยเพื่อให้หาคำตอบ

ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการทีค่ รูผู้สอนสรุปในขณะที่ทำการ
สอน และนำข้อสงสัยซกั ถามครใู นการเรียนทุกครงั้ ท่ีเกดิ ความสับสน และไม่เขา้ ใจ

2. ผ้มู ีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพ่ือเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอย่างแท้จริง

70

3. ผเู้ รยี นหมน่ั ทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขข้อที่ผดิ ใหถ้ กู ต้องเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกบั
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ไดเ้ พื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
ไม่ใชเ่ กิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาท่ี
กำหนด และฝึกฝนตนเองเสมอ เมอื่ ไดร้ บั มอบหมายงานมา
การประเมินผล (ตอ้ งระบเุ กณฑ์การประเมินใหช้ ัดเจน)
1. สงั เกตผู้เรียนมคี วามสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรียนรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้นใน
การแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถกู ต้อง ทันเวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หดั หลังเรียนไดถ้ กู ตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยา่ งต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
-

71

ใบปฏิบัตงิ านท่ี 3 หน่วยท่ี 3

รหัสวชิ า 30204-2102 ชอ่ื วชิ า ส่ือสร้างสรรคธ์ รุ กจิ ดจิ ิทลั ภาคเรยี นที่ 2

ชอ่ื หน่วย การออกแบบสอ่ื เวลารวม 16 ชัว่ โมง

ช่อื งาน การออกแบบสอื่ จำนวน 4 ชว่ั โมง

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจการออกแบบสื่อ

2. เข้าใจหลกั การและกระบวนการออกแบบสอื่

3. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผูส้ ำเรจ็ การศกึ ษา

4. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี )
1. ผเู้ รียนอธบิ ายความหมายการออกแบบสอื่ ได้

2. ผเู้ รียนอธบิ ายความสำคญั ของการออกแบบสอ่ื ได้

3. ผูเ้ รยี นอธบิ ายหลกั การออกแบบส่ือได้

4. ผ้เู รยี นอธิบายประเภทการออกแบบสื่อได้

5. ผู้เรียนสามารถการออกแบบสอ่ื ดจิ ทิ ลั ได้

6. ผูเ้ รยี นสามารถใช้เทคนคิ การตัดต่อภาพดว้ ยสื่อดจิ ิทลั ได้

5. สาระการเรียนรู้

1. ความหมายของการออกแบบสอ่ื

2. หลกั การการออกแบบส่อื

3. ประเภทของการออกแบบสือ่

4. การออกแบบสื่อดิจทิ ัล

5. เทคนิคการตดั ต่อภาพด้วยสอ่ื ดจิ ทิ ลั

สมรรถนะรายหน่วย

แสดงความรเู้ กี่ยวกับการออกแบบส่ือ

เคร่ืองมือ วสั ดุ – อุปกรณ์

1. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook

2. โปรเจ็คเตอร์

3. หนงั สือ

ลำดบั ขั้นตอนการปฏบิ ัตงิ าน

1. ผู้เรยี นค้นหาขอ้ มลู จากในอนิ เตอรเ์ น็ต ตามเรอ่ื งทีไ่ ดร้ บั มอบหมายมาจาครผู สู้ อน

2. เม่อื ผเู้ รียนไดร้ ับขอ้ มลู เรียบรอ้ ยแล้ว ให้ผูเ้ รียน นำข้อมูลนัน้ มาเรียบเรียงใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้

สามารถเขา้ ใจได้ง่าย โดยจัดทำในรูปแบบเลม่ รายงาน

72

ภาพประกอบ

ขอ้ ควรระวงั
ผูเ้ รียนควรตรวจสอบขอ้ มลู ก่อนใหถ้ ่ถี ้วน ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพื่อป้องกันความผิดพลาดก่อน

การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ

นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเนือ้ หาใหส้ อดคลอ้ งกับภาพให้
ถกู ต้อง
การประเมินผล

1. สงั เกตผู้เรยี นมคี วามสนใจ เกดิ ความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรปุ สาระการเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ทันเวลาที่กำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หดั หลังเรยี นไดถ้ ูกต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งองิ
-

73

ใบมอมหมายงานท่ี 3 หน่วยที่ 3

รหสั วชิ า 30204-2102 ชอ่ื วิชา สอื่ สร้างสรรค์ธุรกิจดจิ ทิ ลั ภาคเรยี นที่ 2

ชือ่ หนว่ ย การออกแบบส่อื เวลารวม 16 ชวั่ โมง

ช่ืองาน การออกแบบสอ่ื จำนวน 4 ชั่วโมง

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. มีความร้คู วามเขา้ ใจการออกแบบส่อื
2. เข้าใจหลกั การและกระบวนการออกแบบส่อื

3. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศึกษา
4. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)

1. ผู้เรียนอธบิ ายความหมายการออกแบบสอื่ ได้
2. ผเู้ รยี นอธบิ ายความสำคัญของการออกแบบสอ่ื ได้

3. ผเู้ รียนอธบิ ายหลกั การออกแบบส่อื ได้

4. ผ้เู รยี นอธบิ ายประเภทการออกแบบส่อื ได้
5. ผเู้ รียนสามารถการออกแบบสอื่ ดิจทิ ลั ได้
6. ผูเ้ รียนสามารถใช้เทคนคิ การตดั ต่อภาพด้วยสื่อดจิ ทิ ลั ได้

5. สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของการออกแบบสือ่
2. หลกั การการออกแบบส่ือ
3. ประเภทของการออกแบบสือ่

4. การออกแบบส่ือดจิ ทิ ลั
5. เทคนคิ การตดั ตอ่ ภาพด้วยส่อื ดจิ ิทลั
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กีย่ วกับการออกแบบส่อื
เคร่อื งมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนงั สอื
แนวทางการปฏิบัตงิ าน

74

1. ใหผ้ เู้ รียนปฏิบัตงิ านตามใบงาน ใบกิจกรรม ใบปฏบิ ัตงิ าน อยา่ งเคร่งครัด ตามหัวขอ้ ทีไ่ ด้รบั
มอบหมาย ใหเ้ สรจ็ ส้ินตามระยะเวลาทีก่ ำหนด พรอ้ มท้งั การจดั ทำรายงาน และนำเสนองานอยา่ ง
ถกู ต้อง ครบถว้ น เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย
2. ให้ผ้เู รยี นแบ่งหน้าทก่ี ับเพอ่ื นในกลุ่มใหช้ ดั เจน และสามารถเข้าใจเนอื้ หาตามหัวข้อดังกลา่ ว ได้
อย่างถูกตอ้ ง ครบถ้วน
ภาพประกอบ
ข้อควรระวงั
ผู้เรยี นควรตรวจสอบขอ้ มลู ก่อนให้ถีถ่ ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพอื่ ป้องกันความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ
นักศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเน้อื หาให้สอดคลอ้ งกับภาพให้
ถูกต้อง
การประเมนิ ผล
1. สงั เกตผ้เู รียนมคี วามสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื รน้ ใน
การแสดงความคิดเห็นและสรุปสาระการเรียนรู้ประจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อย่างถูกต้อง ทนั เวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผูเ้ รียนทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ กู ตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เปน็ อย่างต่ำ
เอกสารอ้างองิ

75

แผนการจดั การเรียนรู้

หนว่ ยท่ี 4 องค์ประกอบการออกแบบ จำนวน 16 ชั่วโมง สัปดาหท์ ี่ 11-14

รหสั วชิ า 30204-2102 ชอ่ื วชิ า สอื่ สรา้ งสรรคธ์ ุรกิจดจิ ทิ ลั

1. สาระสำคญั

การออกแบบไม่ว่าสิ่งใดหรือ แม้แต่การออกแบบสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายในหรือ การ

ออกแบบเฟอร์นเิ จอร์ ก็เช่นกันองคป์ ระกอบของการออกแบบก็จะเป็นเรื่องของ รูปทรง และประโยชน์ใชส้ อย

เช่นในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ นอกจากประโยชน์ใช้สอยและดวามสวยงามแล้วควรต้องคำนึงถึงการใช้

ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า และการใช้วัสดุให้เหมาะสมความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน ความมีเอกลักษณ์โดย

องค์ประกอบของการออกแบบสง่ิ ต่างๆให้มสี ่วนประกอบทสี่ วยงาม

2. สมรรถนะประจำหนว่ ย

แสดงความรเู้ กยี่ วกบั องค์ประกอบการออกแบบ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
4. มีความรคู้ วามเข้าใจองคป์ ระกอบการออกแบบ

5. เข้าใจหลกั การและกระบวนการองคป์ ระกอบการออกแบบ

6. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผูส้ ำเรจ็ การศกึ ษา

4. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. ผู้เรียนอธบิ ายความหมายองค์ประกอบการออกแบบได้
2. ผ้เู รยี นอธบิ ายความสำคญั ขององคป์ ระกอบการออกแบบได้
3. ผู้เรียนอธบิ ายเก่ยี วกบั ศิลปะกบั การออกแบบได้
4. ผูเ้ รยี นอธบิ ายประเภทองค์ประกอบการออกแบบได้
5. ผู้เรียนสามารถบอกคณุ สมบัติขององคป์ ระกอบการออกแบบได้
6. ผเู้ รยี นสามารถจดั วางองคป์ ระกอบได้
7. ผเู้ รียนสามารถใช้โปรแกรมกราฟิกในการออกแบบได้

5. สาระการเรียนรู้
1. ความหมายขององคป์ ระกอบการออกแบบ
2. ศิลปะกบั การออกแบบ
3. ประเภทขององคป์ ระกอบการออกแบบ
4. คณุ สมบตั ขิ ององคป์ ระกอบการออกแบบ
5. การจัดวางองค์ประกอบ

76

6. การใช้โปรแกรมกราฟกิ ในการออกแบบ

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมนักเรยี น
กจิ กรรมครู

ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน( 30 นาท)ี

1. ตรวจสอบรายชื่อนักศึกษาทเ่ี ขา้ เรยี น 1. ใหค้ วามรว่ มมอื กับครูในการตรวจสอบ

2. ให้นกั ศึกษาคน้ คว้าความรู้องคป์ ระกอบการ 2. คน้ คว้า การสอ่ื สารผา่ นอนิ เตอร์เน็ต
ออกแบบ 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็
3. ร่วมสนทนาเกี่ยวกับเรื่ององคป์ ระกอบการ องค์ประกอบการออกแบบ
ออกแบบ

ข้นั ดำเนนิ การสอน( 180 นาท)ี

1. บอกจุดประสงค์การเรียน ฟงั ทำความเข้าใจและซักถาม

2. บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดงวธิ กี าร ฟงั ทำความเข้าใจและปฎิบตั ิตาม
ปฎบิ ัติในแต่ละหัวข้อการเรียนและใหน้ ักศกึ ษา ผูเ้ รียนซกั ถามขอ้ สงสัยและจดบนั ทึก
ปฎิบัติไปพรอ้ มกัน รบั การประเมิน
3. ครูบอกวธิ ีการ และแนวคิดในการปฏบิ ัตทิ ่ี
ถกู ต้องใหแ้ กผ่ ู้เรยี น

4. ประเมินพฤตกิ รรมรายบคุ คลโดยครจู ะซกั ถาม
ในแต่ละคน

ขั้นสรุป( 30 นาที) ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สาระสำคญั
ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ สาระสำคญั นักเรียนสอบถามขอ้ สงสัย
เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสยั ฟงั และจดบนั ทกึ
มอบหมายใหไ้ ปหดั ทำและศึกษาเพมิ่ เติม ทำแบบทดสอบท้ายบท
ทำแบบทดสอบ

6. สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้
7. เอกสารประกอบการเรียนการสอน
8. Google Classroom

77

9. การสบื คน้ ข้อมลู Online

7. หลักฐานการเรียนรู้

7.5 หลักฐานความรู้

9. แผนการสอน

10. ส่อื การสอน

11. เอกสารประกอบการสอน

12. ใบความรู้

7.6 หลักฐานการปฏิบัติงาน

9. บันทึกหลงั สอน

10. การเชค็ ช่ือนกั ศึกษาเข้าหอ้ งเรียน ผา่ นระบบ STD online

11. แผนการสอน

12. ผลการทำแบบทดสอบของนกั ศึกษา

8. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

8.1 เครือ่ งมือประเมนิ

1. ใบงาน

2. แบบฝกึ หัด

3. แบบประเมนิ ผลงาน

4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

8.2 เกณฑ์การประเมิน

เครื่องมอื การประเมิน วธิ ีวัดและประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน

แบบฝกึ หัด ตรวจแบบฝึกหดั ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป

ถูก 1 คะแนน

ไมถ่ กู 0 คะแนน

แบบฝกึ ปฏิบัติ ตรวจแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ข้ึนไป

ถกู 1 คะแนน

ไม่ถูก 0 คะแนน

78

แบบทดสอบหลังเรยี น ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ไดค้ ะแนน
ข้อละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขน้ึ ไป
แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม ถูก 1 คะแนน
จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึง ไม่ถูก 0 คะแนน ได้คะแนน
ประสงค์ สังเกตพฤติกรรม รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป
ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรบั ปรงุ 0 คะแนน

9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถ้ามี)
1. ผู้เรียนต้องให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนคิ วิธีการ หรือหลักการง่ายเพือ่ ให้หาคำตอบได้

อยา่ งถกู ตอ้ ง และรวดเรว็ โดยการ ตั้งใจฟงั หลกั การ เทคนิควธิ ีการทีค่ รูผ้สู อนสรปุ ในขณะที่ทำการสอน และนำ
ข้อสงสัยซกั ถามครูในการเรียนทุกครั้งทเ่ี กิดความสับสน และไม่เขา้ ใจ

2. ผมู้ ีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอย่างแท้จริง
3. ผเู้ รียนหม่นั ทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขข้อทผ่ี ดิ ใหถ้ ูกตอ้ งเสมอ
4. ผู้เรยี นตอ้ งสรา้ งมโนภาพใหเ้ กดิ ความคิดรวบยอดในสาระการเรยี นรแู้ ละเทคนคิ วธิ ีการพรอ้ มกบั ความ
จำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพือ่ เกิดความรู้ความเข้าใจอยา่ งแทจ้ ริงไม่ใช่เกิดจาก
การท่องจำ
10. เอกสารอ้างองิ
-

79

ใบความรทู้ ่ี 4 หนว่ ยที่ 4

รหัสวิชา 30204-2102 ช่ือวิชา สอ่ื สรา้ งสรรคธ์ ุรกิจดจิ ทิ ลั ภาคเรยี นที่ 2

ช่ือหนว่ ย องค์ประกอบการออกแบบ เวลารวม 16 ชัว่ โมง

ชอ่ื เรอื่ ง องค์ประกอบการออกแบบ เวลา 4 ชวั่ โมง

จุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. มคี วามรู้ความเข้าใจองคป์ ระกอบการออกแบบ

2. เข้าใจหลักการและกระบวนการองคป์ ระกอบการออกแบบ

3. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผูส้ ำเรจ็ การศกึ ษา

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. ผู้เรียนอธบิ ายความหมายองค์ประกอบการออกแบบได้

2. ผู้เรยี นอธบิ ายความสำคัญขององค์ประกอบการออกแบบได้

3. ผเู้ รยี นอธบิ ายเก่ยี วกบั ศลิ ปะกบั การออกแบบได้

4. ผ้เู รยี นอธบิ ายประเภทองคป์ ระกอบการออกแบบได้

5. ผู้เรียนสามารถบอกคุณสมบตั ิขององคป์ ระกอบการออกแบบได้

6. ผู้เรียนสามารถจัดวางองค์ประกอบได้

7. ผูเ้ รียนสามารถใช้โปรแกรมกราฟิกในการออกแบบได้

สาระการเรยี นรู้

1. ความหมายขององคป์ ระกอบการออกแบบ

2. ศลิ ปะกบั การออกแบบ

3. ประเภทขององคป์ ระกอบการออกแบบ

4. คณุ สมบัติขององค์ประกอบการออกแบบ

5. การจดั วางองค์ประกอบ

6. การใชโ้ ปรแกรมกราฟกิ ในการออกแบบ

สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ กย่ี วกับองคป์ ระกอบการออกแบบ

80

หนว่ ยท่ี 4 องคป์ ระกอบการออกแบบ
ความหมายของการออกแบบ

การออกแบบ หมายถึง การรจู้ กั วางแผน เพอ่ื ทจี่ ะไดล้ งมอื กระทำตามทตี่ อ้ งการและการร้จู ักเลอื กวสั ดุ
วิธีการเพอ่ื ทำตามท่ีตอ้ งการนั้น โดยใหส้ อดคลอ้ งกบั ลกั ษณะรูปแบบ และคุณสมบัติของวสั ดแุ ต่ละชนิดตาม
ความคดิ สร้างสรรค์ สำหรับการออกแบบอีกความหมายหนึ่งที่ใหไ้ ว้ หมายถึงการปรบั ปรงุ รูปแบบผลงานท่มี อี ยู่
แล้ว หรอื สงิ่ ต่าง ทม่ี ีอยู่แลว้ ใหเ้ หมาะสม ให้มคี วามแปลกความใหม่เพ่ิมขึ้น
(อารี สทุ ธิพันธ์ุ ,2527)
การออกแบบ คือ การวางแผนสร้างสรรค์รปู แบบ โดยวางแผนจัดสว่ นประกอบของการออกแบบ ใหส้ ัมพันธ์กบั
ประโยชนใ์ ชส้ อยวสั ดุ และการผลติ ของสงิ่ ท่ีต้องการออกแบบน้ัน
(วิรุณ ต้ังเจริญ ,2527)
การออกแบบ เปน็ กจิ กรรมอันสำคญั ประการหนึ่งของมนษุ ย์ ซ่งึ หมายถงึ สง่ิ ทมี่ ีอยู่ในความนึกคดิ อนั อาจจะเป็น
โครงการหรอื รูปแบบทน่ี กั ออกแบบกำหนดขน้ึ ด้วยการจัด ทา่ ทาง ถอ้ ยคำ เส้น สี แสง เสียง รปู แบบ และวสั ดุ
ต่าง ๆ โดยมีกฎเกณฑ์ทางความงาม
(สทิ ธิศักดิ์ ธญั ศรสี วัสดิ์กลุ ,2529)
องค์ประกอบการออกแบบ (Elements)
1. องค์ประกอบในความคดิ (Conceptual Elements)
2. องค์ประกอบที่มองเห็นได้ (Visual Elements)
3. องค์ประกอบทีส่ มั พันธ์ (Relational Elements)
4. องค์ประกอบทนี่ ำมาใชป้ ระโยชน์ (Practical Elements)
5. โครงสรา้ งที่ชดั เจน (Active Structure)
6. โครงสรา้ งทมี่ องไมเ่ ห็น (Invisible Structure)
7. โครงสร้างทมี่ องเหน็ ได้ (Visible Structure)
จดุ มงุ่ หมายในการออกแบบ
ในการออกแบบแตล่ ะชนิดนน้ั ผอู้ อกแบบจะตอ้ งตง้ั จุดมงุ่ หมายเอาไว้ก่อนแล้วว่าจะออกแบบไปทำไม ดงั นนั้
จดุ มุ่งหมายทก่ี ล่าวถงึ นจี้ ะต้องมีความสำคญั ซงึ่ พอจะสรปุ อยา่ งกวา้ ง ๆ ไดด้ งั น้ี
1. การออกแบบเพอ่ื ประโยชน์
ผูอ้ อกแบบโดยมากจะตอ้ งคำนงึ ถึงประโยชน์ทจี่ ะได้รบั เป็นจดุ มุ่งหมายแรกของการออกแบบ ซงึ่ ประโยชนท์ ีจ่ ะ
ไดร้ บั มที งั้ ประโยชนใ์ นการใชส้ อย และประโยชนใ์ นการตดิ ตอ่ ส่อื สาร การออกแบบเพ่อื ระโยชนใ์ นการใชส้ อยท่ี
สำคญั ได้แก่ ทอ่ี ยู่อาศัย เคร่ืองนงุ่ หม่ ยานพาหนะ เครอื่ งมอื เคร่ืองใช้ตา่ ง ๆ เช่น อปุ กรณใ์ นการประกอบอาชีพ
ทางการเกษตรมีแห อวน ไถ เป็นต้น ประโยชนเ์ หลา่ นีจ้ ะเนน้ ประโยชน์ทางกายโดยตรง
สำหรับประโยชนใ์ นการตดิ ต่อสอื่ สาร ไดแ้ ก่ การออกแบบหนังสอื โปสเตอร์ งานโฆษณา สว่ นใหญม่ กั จะเนน้ การ
ส่ือสารถึงกันด้วยภาษาและภาพ ซง่ึ สามารถรับรู้รว่ มกันได้เป็นอย่างดี ผอู้ อกแบบจำเป็นจะตอ้ งมคี วามรู้

81

ความสามารถเฉพาะด้าน ซงึ่ การออกแบบโดยมากมักจะเกยี่ วขอ้ งกับจิตวทิ ยาชุมชน ประโยชน์ด้านนี้จะเน้น
ทางด้านความศรทั ธาเชอื่ ถือ และการยอมรบั ตามสอ่ื ทไี่ ดร้ บั รู้
2. การออกแบบเพ่อื ความงาม
จดุ มุ่งหมายในการออกแบบเพ่ือใหเ้ กดิ ความงาม จะเน้นประโยชน์ทางด้านจิตใจเปน็ หลกั ซ่ึงผลจากการออกแบบ
จะทำใหผ้ ทู้ พี่ บเหน็ เกดิ ความสขุ เกดิ ความพงึ พอใจ การออกแบบประเภทนีไ้ ด้แก่ การออกแบบดา้ นจิตรกรรม
ประตมิ ากรรม ตลอดจนงานออกแบบตกแต่งต่าง ๆ เช่น งานออกแบบตกแตง่ ภายในอาคาร งานออกแบบตกแตง่
สนาม เป็นต้น
ศลิ ปะและการออกแบบ (Art & Design)
ศิลปะ มคี วามหมายแตกตา่ งแยกกนั ออกไปหลายความหมายด้วยกนั ซงึ่ แลว้ แตว่ า่ บุคคลนนั้ ๆ จะมองศลิ ปะใน
แง่มมุ ใด ภายใต้หลักการหรือทฤษฎีใด ซง่ึ มุมมองที่ตา่ งกนั นเ้ี อง ทำใหเ้ ราไดค้ ำนิยามของศลิ ปะท่แี ตกต่างกนั
ออกไป
ฮาโรลด์ เอ็ช ติตสุ (Harold H. Titus) ไดค้ ้นคว้า และรวบรวมทฤษฎีศิลปะ (Theories of Art) ไว้ซ่งึ พบว่ามี
ทงั้ หมด 7 ทฤษฎีด้วยกัน ซงึ่ การใหค้ วามหมายของศิลปะกแ็ ตกต่างกนั ไปตามแนวคดิ หลกั ของทฤษฎดี ังกล่าวน้ี ซึ่ง
ทฤษฎีศิลปะทั้ง 7 ทฤษฎี มดี งั ต่อไปนี้
1. ศลิ ปะ คอื การเลยี นแบบ (Art as Imaitation)

ทฤษฎีนเี้ ปน็ ทฤษฎเี ก่าแก่ มมี าตง้ั แตส่ มยั กรกี โบราณ โดยมีพนื้ ฐานความคดิ มาจากเพลโต (Plato) และ
อริสโตเตลิ (Aristotle) ซ่ึงถอื ว่าการเลยี นแบบวตั ถุธรรมชาตไิ ด้อยา่ งสมบูรณ์ครบถ้วน จัดว่าเปน็ ส่ิงสวยงามทสี่ ดุ
ดงั นัน้ ความคดิ แก่นของทฤษฎีน้ี การเลยี นแบบวตั ถธุ รรมชาตอิ ะไรบางอย่าง การเลียนแบบท่ปี รากฏออกมาก็คอื
ศลิ ปะ นนั่ เอง
2. ศลิ ปะ คือ ความพงึ พอใจ (Art as Pleasure)

ทศั นะนม้ี องวา่ ศลิ ปินคอื บุคคลซงึ่ พึงพอใจในความงามและใชเ้ วลาของเขาสร้างสง่ิ สวยงาม ศิลปินจึงพงึ
พอใจในงานของตวั เอง และยงั หวังให้บคุ คลอื่นพึงพอใจในผลงานของตนด้วย ดงั นัน้ ความหมายของศลิ ปะก็คือ
การใหค้ วามพงึ พอใจทางสนุ ทรยี ะ
3. ศิลปะคอื การเลน่ (Art as Play)

ความคิดท่ีว่า ศิลปะคอื รปู แบบของการเล่นนี้ เรมิ่ จากแนวคิดของ คานต์ (Kant) จากน้ันชิลเลอร์
(Schiller) นำมาปฏิบตั ิ และสเปนเซอร์ (Spencer) นำไปพฒั นาต่อไปจนกลายเป็นทฤษฎที เ่ี รยี กกนั ว่า
"Spieltrieb" หรอื เรยี กว่า ทฤษฎีแรงกระตุน้ ใหเ้ ลน่ ท้งั นี้ การเล่นนน้ั ถอื ว่าเป็นการแสดงออกทเี่ กดิ จากชีวติ จิตใจ
จรงิ ตา่ งไปจากกจิ กรรมที่เปน็ งาน (Work) ของมนษุ ย์แต่ให้ความพึงพอใจสงู

สเปนเซอร์ ถอื วา่ ศลิ ปะคือการแสดงออกของพลงั งานสว่ นเกินเชน่ เดยี วกับการเลน่ ศลิ ปะกค็ อื การ
แสดงออกซ่ึงเกิดขน้ึ เองของพลงั ท่ีสำคญั แก่ชีวิต ซงึ่ มจี ุดมุ่งหมายท่ีไมค่ ำนึงถึงประโยชน์
4. ศิลปะ คือ อันตรเพทนาการ (Art as Empathy)

82

อนั ตรเพทนาการ หมายถงึ ท่าทีของประสาทท่ีรสู้ ึกคลอ้ ยตามซง่ึ เกิดกบั ผกู้ ำลงั ชมศิลปวัตถุ ทงั้ นี้ อนั ตร
เพทนาการเปน็ การสรา้ งจนิ ตนาการของผ้ชู มใหเ้ ปน็ อนั หนงึ่ อันเดยี วกันกับศลิ ปวตั ถุ โดยการถา่ ยทอดความรสู้ ึก
และการตอบสนองของผชู้ มลงไปในศลิ ปวตั ถุ
5. ศิลปะ คือ การสือ่ สาร (Art as Communication)

นกั ปราชญจ์ ำนวนมากคดิ ว่า การส่อื สารเปน็ สิ่งทีข่ าดไม่ได้ แทจ้ ริงแล้วเปน็ หัวใจของศลิ ปะ ซงึ่ เลโอ
ตอลสตอย (Leo Tolstoy) กล่าวไว้ว่า

"...ศลิ ปะ คือการส่ือสารของอารมณ์ทเี่ กดิ ขน้ึ แกบ่ คุ คลหน่ึงให้แกบ่ ุคคลอน่ื ๆ ทม่ี อี ารมณอ์ ย่างเดยี วกนั
โดยการใชเ้ ส้น สี เสยี ง การเคลอ่ื นไหว หรอื คำพูด อารมณ์ยง่ิ รนุ แรงเพยี งใด ศิลปะกย็ ่งิ ดีเพยี งนั้น..."
6. ศลิ ปะ คอื การแสดงออก (Art as Expression)

ทฤษฎนี ้ถี อื วา่ วตั ถุประสงคข์ องศลิ ปะอยทู่ ก่ี ารแสดงอารมณ์ภายในของมนุษยอ์ อกมาให้ปรากฏ แม้วา่
ศิลปะเป็นการแสดงออกซง่ึ อารมณ์ก็ตาม แต่การแสดงอารมณ์ทุกอยา่ งกม็ ไิ ดเ้ ปน็ ศลิ ปะไปเสยี ทงั้ หมด
7. ศลิ ปะ คอื คุณลักษณะของประสบการณ์ (Art as a Quality of Experience)

จอห์น ดิวอี้ (John Dewey) กล่าววา่ ศลิ ปะคอื คณุ ลกั ษณะซ่งึ แหรกอยูก่ บั ประสบการ ซึ่งพบไดใ้ น
ประสบการณ์ท่ัวไปของเรานเ่ี อง ลกั ษณะทางสนุ ทรีมีอยใู่ นประสบการณ์ทั่วไปทัง้ หมด
การออกแบบ(Design) คอื ศาสตรแ์ หง่ ความคดิ และต้องใชศ้ ลิ ปร์ ว่ มดว้ ย เปน็ การสรา้ งสรรค์ และการแก้ไข
ปญั หาทีม่ ีอยู่ เพอ่ื สนองตอ่ จดุ ม่งุ หมาย และนำกลบั มาใช้งานได้อย่างนา่ พอใจ ความน่าพอใจน้นั แบ่งออกเปน็ 3
ขอ้ หลักๆ ไดด้ ังนี้

ความสวยงาม เปน็ ส่ิงแรกทเี่ ราไดส้ ัมผสั กอ่ น คนเราแตล่ ะคนต่างมีความรบั รูเ้ รอื่ ง ความสวยงาม กบั ความพอใจ
ในทง้ั 2 เรอ่ื งนี้ไมเ่ ทา่ กัน จึงเปน็ ส่ิงทีถ่ กเถยี งกนั อยา่ งมาก และไมม่ เี กณฑ์ ในการตดั สนิ ใดๆ เปน็ ตัวท่ีกำหนดอย่าง
ชัดเจน ดงั นั้นงานทเี่ ราได้มีการจดั องค์ประกอบทเ่ี หมาะสมนน้ั กจ็ ะมองว่าสวยงามไดเ้ หมือนกนั
มปี ระโยชนใ์ ช้สอยท่ีดี เปน็ เรือ่ งทส่ี ำคัญมากในงานออกแบบทุกประเภท เชน่ ถ้าเปน็ การออกแบบสง่ิ ของ เชน่
เกา้ อ้ี,โซฟา นั้นจะต้องออกแบบมาใหน้ ่ังสบาย ไม่ปวดเมอ่ื ย ถ้าเปน็ งานกราฟฟิค เช่น งานสอ่ื สง่ิ พมิ พน์ น้ั
ตวั หนงั สือจะต้องอา่ นงา่ ย เขา้ ใจงา่ ย ถงึ จะได้ชอื่ วา่ เปน็ งานออกแบบทม่ี ปี ระโยชนใ์ ช้สอยที่ดีได้
มแี นวความคดิ ในการออกแบบที่ดี เป็นหนทางความคดิ ที่ทำใหง้ านออกแบบสามารถตอบสนอง ต่อความรสู้ ึก
พอใจ ชน่ื ชม มคี ณุ คา่ บางคนอาจใหค้ วามสำคญั มากหรอื นอ้ ย หรืออาจไม่ให้ความสำคญั เลยก็ได้ ดงั น้ันบางคร้งั
ในการออกแบบ โดยใช้แนวความคดิ ที่ดี อาจจะทำใหผ้ ลงาน หรอื สง่ิ ทอ่ี อกแบบมคี ุณค่ามากข้นึ กไ็ ด้
ดังนนั้ นกั ออกแบบ (Designer) คอื ผูท้ พี่ ยายามคน้ หา และสรา้ งสรรคส์ ิ่งใหม่ หาวธิ แี กไ้ ข หรอื หาคำตอบใหมๆ่
สำหรบั ปญั หาต่างๆ

การออกแบบแบง่ ได้เปน็ 10 ประเภท คือ
1. การออกแบบสรา้ งสรรค์

83

เปน็ การออกแบบเพื่อ นำเสนอความงาม ความพงึ พอใจ เน้นความคิดสร้างสรรค์ แปลกๆ ใหม่ๆ ให้เกดิ
ความสะเทอื นใจ เรา้ ใจ ซงึ่ การสรา้ งสรรค์นีอ้ าจเป็นการพัฒนาจากสง่ิ ที่มอี ยเู่ ดมิ หรือสรา้ งขน้ึ ใหมก่ ไ็ ดง้ าน
ออกแบบสรา้ งสรรคน์ ้ีมี 5 ลกั ษณะ คอื

งานออกแบบจติ รกรรม (Painting)
คอื งานศิลปะ ดา้ นการวาดเส้น ระบายสี เพอื่ แสดงอารมณ์ และความรสู้ กึ ในลกั ษณะ สองมิติ จำเป็นต้องใช้
ความคิดสร้างสรรค์ ในผลงานแต่ละชนิ้ ของผู้สร้าง

งานออกแบบประตมิ ากรรม (Sculpture)
คอื งานศิลปะดา้ น การป้ัน แกะสลกั เชื่อมตอ่ ในลกั ษณะสามมิติ คอื มีทง้ั ความกว้าง ยาว และหนา

งานออกแบบภาพพมิ พ์ (Printmaking)
คอื งานศลิ ปะทีใ่ ช้กระบวนการพมิ พ์มาสร้างสรรคร์ ูปแบบด้วยเทคนิคการพมิ พ์ต่างๆ เชน่ ภาพพิมพไ์ ม้ โลหะ หนิ
และอนื่ ๆ

84

งานออกแบบสอื่ ประสม (Mixed Media)
คืองานศลิ ปะทใ่ี ช้วสั ดหุ ลากหลายชนิด เชน่ กระดาษ ไม้ โลหะ พลาสตกิ เหลก็ หรือวสั ดุอืน่ ๆ นำมาสรา้ ง ความ
ผสาน กลมกลนื ให้เกดิ ผลงานท่แี ตกต่างอย่างกว้างขวาง

งานออกแบบภาพถ่าย (Photography)
ยุคนี้เป็นยุคท่กี ารถ่ายภาพกลายเป็นเรือ่ งง่ายๆ สำหรบั ผูท้ ส่ี ร้างสรรค์งานถ่ายภาพ เพราะเทคโนโลยีการถ่ายภาพ
มีการพฒั นาไปอย่างรวดเร็ว ดว้ ยการลงทนุ สร้างสรรค์ที่ไมแ่ พงมาก การถา่ ยภาพอาจเปน็ ภาพ คน สตั ว์ สิ่งของ
ธรรมชาตทิ ่วั ๆไป โดยมงุ่ เน้นการสร้างสรรค์ เนื้อหาท่ีแปลกใหม่ เพ่อื สนองความตอ้ งการของผ้ถู า่ ยภาพ

2. การออกแบบสัญลักษณ์และเครอ่ื งหมาย (Symbol & Sign)
เปน็ การออกแบบเพอ่ื สอ่ื ความหมาย เปน็ สญั ลกั ษณ์หรือเครื่องหมายที่ ทำความเข้าใจกับผูพ้ บเห็น โดยไม่

จำเปน็ ตอ้ งมีภาษากำกบั เชน่ ไฟแดง เหลอื ง เขยี ว ตามสแี่ ยก หรอื เคร่อื งหมายจราจรอื่นๆ
เครือ่ งหมาย (Symbol) คือส่อื ความหมายทแ่ี สดงความนัยเพื่อเป็นการช้ี เตือน หรอื กำหนดใหส้ มาชกิ ในสงั คม รู้
ถึง ข้อกำหนด อันตราย
สัญลกั ษณ์ คอื สอ่ื ความหมายท่แี สดงความนัย เพอื่ บอกใหท้ ราบถงึ สง่ิ ใดสิ่งหนง่ึ ซึ่งไมม่ ผี ลในทางปฏบิ ัตเิ หมอื น
เคร่ืองหมาย แต่มผี ลทางด้านการรบั รู้ ความคดิ หรือทศั นคติ ทพ่ี ึงมตี ่อสญั ลักษณน์ ้ันๆ

85

3.การออกแบบโครงสร้าง
ออกแบบเพื่อใช้เป็นโครงยึดเหนีย่ ว ใหอ้ าคาร สงิ่ ก่อสรา้ งสามารถทรงตวั และรบั นำ้ หนัก อย่ไู ด้ อาจ

เรียกว่า การออกแบบสถาปัตยกรรม คือการออกแบบสง่ิ กอ่ สร้างประเภทตา่ ง ๆ ออก แบบอาคาร เชน่ การ
ออกแบบ ทพี่ ัก อาศัย ออกแบบเขอ่ื น ออกแบบสะพาน ออก แบบอาราม , โบสถ์ อืน่ ๆ ทคี่ งทนและถาวร นกั
ออกแบบเรียกวา่ สถาปนิก ผู้ให้ ความสำคญั กบั งานด้านนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนั้นการออกแบบโครงสรา้ งยงั
เป็น ส่วนหนง่ึ ของ งานประตมิ ากรรม ทเี่ น้นคุณภาพของการออกแบบสามมติ ิ และยงั หมายถงึ การออกแบบเครือ่ ง
เรอื น ฉากและเวที อีกดว้ ย
4.การออกแบบหุน่ จำลอง

เป็นการออกแบบเพอ่ื เป็นแบบสำหรบั ยอ่ ขยาย ผลงานตัวจริง หรือเพื่อศึกษารายละเอยี ดของสิง่ นนั้ ๆ เช่น
· หนุ่ จำลองบา้ น
· ห่นุ จำลองผงั เมอื ง
· หุ่นจำลองเครอื่ งจกั รกล
· หนุ่ จำลองทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ
· หนุ่ จำลองเหล่านี้อาจจะสรา้ งจากงานออกแบบ หรอื สรา้ งเลียนแบบจากส่ิงทมี่ ีอยแู่ ลว้ เพอ่ื ศกึ ษา
รายละเอยี ด หรือขอ้ มลู ต่างๆ ซงึ่ อาจจำแนกได้ ดังน้ี
· หุ่นจำลองเพอ่ื ขยาย หรอื ยอ่ แบบ เชน่ อาคาร อนสุ าวรีย์ เหรยี ญ ฯลฯ
· หุ่นจำลองยอ่ ส่วนจากสิง่ แวดล้อม เช่น ลูกโลก ภูมปิ ระเทศ ฯลฯ -หนุ่ จำลองเพอ่ื ศึกษารายละเอยี ด เชน่
ห่นุ จำลองภายในร่างกายคน เครือ่ งจกั รกล ฯลฯ
5.การออกแบบสงิ่ พมิ พ์

เปน็ การออกแบบเพ่ือการผลติ งานสง่ิ พมิ พ์ ชนิดตา่ ง ๆ
6.การออกแบบผลิตภัณฑ์

เป็นการออกแบบเพอ่ื นำมาใชส้ อยในชวี ติ ประจำวนั โดยเน้นการผลิตจำนวนมาก ในรปู สินคา้ เพอ่ื ให้ผ่าน
ไปยังผซู้ ือ้ ผบู้ ริโภคในวงกวา้ ง คอื การผลิต ผลิตภัณฑ์ ชนิดต่าง ๆ ซ่ึง มีขอบเขตกว้างขวางมากด และแบง่ ออกได้
มากมาย หลายลกั ษณะ นักออกแบบรบั ผิดชอบเกี่ยวกบั ประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามของ ผลิตภัณฑ์ งาน
ออกแบบ ประเภทน้ีได้แก่
· งานออกแบบเฟอรน์ เิ จอร์
· งานออกแบบครุภณั ฑ์
· งานออกแบบเครอื่ งสขุ ภัณฑ์
· งานออกแบบเครอื่ งใช้สอยตา่ งๆ
· งานออกแบบเคร่อื งประดับอญั มณี
· งานออกแบบเครอ่ื งแต่งกาย

86

· งานออกแบบภาชนะบรรจผุ ลิตภัณฑ์

· งานออกแบบผลติ เครอื่ งมอื ต่าง ๆ ฯลฯ
7.การออกแบบโฆษณา

เปน็ การออกแบบเพ่ือชแี้ นะและชักชวน ทางด้านผลิตภณั ฑ์ บรกิ าร และความคิด จากความคิดของคน คน
หนึ่ง ไปยงั กลุม่ ชนโดยส่วนรวม ซงึ่ การโฆษณาเป็นปจั จยั สำคญั ทจี่ ำเป็นสำหรบั การดำรงชีวติ ของประชาชน และ
ธรุ กจิ เพราะจะช่วยกระตนุ้ หรอื ผลกั ดนั อยา่ งหนง่ึ ในสงั คม เพอ่ื ใหป้ ระชาชนเกดิ ความตอ้ งการ และเปรียบเทียบ
ส่ิงทโ่ี ฆษณาแตล่ ะอยา่ ง เพอื่ เลือกซ้ือ เลอื กใชบ้ รกิ าร หรือเลอื กแนวคิด นำมาใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวันของ
เรา

การโฆษณาผลิตภณั ฑ์ เช่น โฆษณาขายอาหาร ขายส่งิ กอ่ สรา้ ง ขายเครอื่ งไฟฟ้า ขายผลติ ผลทาง เกษตรกรรม
การโฆษณาบรกิ าร เชน่ โฆษณาบรกิ ารทอ่ งเทย่ี ว บรกิ ารซอ่ มเครื่องจกั รกล บริการหางานทำ บรกิ ารของ สาย
การบนิ
การโฆษณาความคดิ เช่น โฆษณาความคิดเห็นทางวชิ าการ ข้อเขียน ขอ้ คดิ เห็นในสงั คม ความดีงามในสงั คม
นอกจากนย้ี งั มีการโฆษณาชวนเชื่อทีเ่ สนอความคดิ เหน็ เกลยี้ กลอ่ ม สร้างอทิ ธิพลทางความคิด หรอื ทศั นคติ เช่น
การโฆษณาทางศาสนา โฆษณาให้รกั ษากฎจราจร โฆษณาให้รักชาติ
การโฆษณาเหล่านม้ี ี ส่ือทจ่ี ะใชก้ ระจายสปู่ ระชาชน ไดแ้ ก่

· สื่อกระจายเสยี งและภาพ เช่น วิทยุ ทีวี โรงภาพยนตร์

· สอื่ สิง่ พมิ พ์ เช่น หนังสอื พมิ พ์ นิตยสาร วารสาร

· ส่อื บุคคล เช่นการแจกสินค้าสง่ คนไปขาย ส่งสินคา้ ไปตามบา้ น
8.การออกแบบพาณิชยศิลป์

เป็นการออกแบบเพื่อใช้ฝีมอื แสดงความงามท่ใี ชใ้ นการตกแตง่ อาจจะเปน็ สง่ิ ของเครือ่ งใชเ้ ลก็ ๆ นอ้ ยๆ ก็
ได้ สว่ นใหญ่จะเนน้ ความสวยงาม ความน่ารัก ซง่ึ เปน็ ความสวยงามทมี่ ลี กั ษณะเรา้ ใจต่อผพู้ บเหน็ ในทนั ทีทนั ใด
และแสดงความสวยงามหรือศลิ ปะเดน่ กวา่ ประโยชนใ์ ช้สอย เช่นการออกแบบท่ใี สซ่ องจดหมาย แทนทจ่ี ะมีเพียง
ที่ใส่ และท่แี ขวน ซ่ึงเปน็ หนา้ ทีห่ ลัก ก็อาจจะออกแบบเป็นรปู นกฮูก หรอื รูปสตั วต์ า่ งๆ แสดงสี สรรค์และ การ
ออกแบบ ทแี่ ปลกใหม่ เรา้ ใจ เปน็ ตน้ ลักษณะของการออกแบบพาณิชย์ศิลปย์ งั มงุ่ ออกแบบในลกั ษณะของแฟชัน่
ที่มกี ารเปลีย่ นแปลงไปเรือ่ ยๆ ตามสมัยนิยม
9.การออกแบบศลิ ปะประดิษฐ์

เปน็ การออกแบบท่แี สดงความวจิ ติ รบรรจง มีความสวยงาม เพอ่ื ใหเ้ กิดความสุขสบาย ร่นื รมย์ มากกว่าการ
แสดงออกซึง่ ความรูส้ กึ นกึ คดิ อ่นื ใด ความวิจิตรบรรจงในทนี่ ห้ี มายถึง การตกแตง่ สรา้ งสรรคล์ วดลาย หรือรปู แบบ
ดว้ ยความพยายาม เปน็ งานฝมี อื ทลี่ ะเอยี ด ประณีต เชน่

· การจดั ผกั ซ่ึงเป็นเคร่อื งจมิ้ อาหารคาวของไทย แทนท่จี ะจดั พรกิ มะเขือ แตงกวา ตน้ หอม ลงในจาน
เทา่ นั้น แมค่ รวั ระดบั ฝมี ือบางคนจะประดษิ ฐ์ตกแต่งพืช ผัก เหล่าน้ันอย่างสวยงามมาก เช่น ประดิษฐเ์ ปน็ ดอกไม้
รปู สัตว์ หรอื ลวดลายต่างๆ งานศลิ ปะประดษิ ฐม์ หี ลายประเภท เชน่

87

· งานแกะสลกั ของอ่อน เชน่ ผัก ผลไม้ สบู่ เทียน

· งานจัดดอกไมใ้ บตอง เช่น รอ้ ยมาลัย จดั พวงระย้าดอกไม้ โคมดอกไม้

· งานเยบ็ ปกั ถักรอ้ ยตกแต่ง เช่น ปักลวดลายตา่ งๆ ถักโครเชท์

· เครอื่ งตกแต่งร่างกาย เช่น แหวน กำไล ต่างหู เข็มกลัด

· งานกระดาษ เชน่ ฉลกุ ระดาษ ประดษิ ฐก์ ระดาเปน็ ดอกไม้

· งานประดิษฐ์เศษวสั ดุ เชน่ ใบไม้ เปลอื กหอย ดอกหญา้ หลอดกาแฟ

· งานแกะสลกั ของแขง็ เช่น แกะสลักหนา้ บัน คันทวย บานประตู โลหะ
10. การออกแบบตกแต่ง

เปน็ การออกแบบเพ่อื การเป็นอย่ใู นชวี ติ ประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยง่ิ การออกแบบเพือ่ เสรมิ แตง่ ความงาม
ใหก้ ับอาคารบ้านเรือน และบรเิ วณที่อย่อู าศัย เพอื่ ใหเ้ กดิ ความสวยงามนา่ อยอู่ าศยั การออกแบบตกแตง่ ในทนี่ ี้
หมายถงึ การออกแบบตกแตง่ ภายนอก และการออกแบบตกแต่งภายใน
การออกแบบตกแตง่ ภายใน หมายถงึ การออกแบบตกแตง่ ทเ่ี สริมและจดั สภาพภายในอาคาร ให้สวยงาม น่าอยู่
อาศยั ซง่ึ หมายรวมถงึ ภายในอาคารบ้านเรือน ทท่ี ำงาน ร้านค้า โรงเรยี น
สว่ นประกอบที่สำคญั ของงานออกแบบทีสำคญั น้ันประกอบดว้ ย
1. จุด [ Dot ]
2. เสน้ [ Line ]
3. รูปรา่ งและรปู ทรง [ Shape & From ]
4. สี [ Color ]
5. ลักษณะผวิ [ Texture ]
6. จงั หวะ [ Rhythm ]
7. ลวดลาย [ Pattern ]
8. ขนาดและสัดส่วน [ Proportion ]
1.จุด [ Dot ] หมายถึง รอยกด จดุ แตม้ มลี ักษณะกลมเปน็ สว่ นประกอบท่ีเล็กทสี่ ุดเป็นพืน้ ฐานท่ีสำคัญในงาน
ออกแบบทุกชนิด แมแ้ ตต่ วั อักษร และภาพจากเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ยงั ประกอบ ด้วยจุดหลายพันหลายหมื่นจุด
เมื่อนำจดุ มาเรยี งกนั ในตำแหน่งทเี่ หมาะสมกจ็ ะเกิดเปน็ รปู รา่ ง รปู ทรงระยะใกล้ ไกล ทำใหง้ านออกแบบสร้าง
ความรสู้ ึกตื่นเตน้ และดึงดดู ความสนใจ
ลกั ษณะจุดแบ่งได้ 2 ประเภทคอื
1.1 จดุ ที่เกดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ จุดในลายของสัตว์ เชน่ แมว หมา กวาง เสือดาว ปลา เปลือกหอย
จุดทพ่ี บเหน็ ทว่ั ไปในสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื เชน่ ลำตน้ ดอกไม้ ใบ ขา้ วโพด ปะการัง เมลด็ ถ่วั และจุดในแมลง
ต่างๆ เช่น ผีเสือ้ เต่าทอง เปน็ ต้น

88

1.2 จุดท่ีมนุษย์สร้างขึ้น เชน่ การแตม้ ขีด จ้มิ กด กระแทก ด้วยวัสดุ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ เชน่ ดนิ สอดำ
ปากกา พู่กัน วัสดุปลายแหลมหรือเครื่องมอื อ่ืน ๆจดุ มอี ทิ ธพิ ลกบั มนุษยม์ ากในการออกแบบ มนษุ ยอ์ อกแบบ
ลกู คิดสำหรบั คิดเลข ออกแบบร้อยลูกปัดเปน็ สรอ้ ยคอและเครื่องประดบั ต่าง ๆ สงิ่ เหลา่ น้ลี ้วนเกิดจากจดุ ทง้ั สิ้น
การนำจุดมาใชใ้ นงานออกแบบสามารถทำไดห้ ลายแบบดังนี้
1. ลักษณะการจดั ที่เรยี งกันและทำซำ้ กัน ( Repetition )
2. ลกั ษณะการจดั โดยใชช้ ่องจังหวะทซ่ี ้ำกนั ( Rhythm )
3. ลักษณะการจดั โดยใหเ้ หมอื นกบั สมดลุ กันท้งั 2 ด้าน( Symmetry Balance )
4. ลักษณะการจดั โดยใหส้ มดุลไมเ่ ทา่ กนั 2 ดา้ น ( Asymmetry Balance)
5. ลักษณะการจดั ให้เปน็ รปู แบบต่าง ๆ ( Pattern )
6 ลกั ษณะการจดั ในรปู องคป์ ระกอบศลิ ป์( Composition )
2. เสน้ ( Line)

เสน้ หมายถงึ จุดหลาย ๆ จดุ เรยี งตดิ ต่อกนั และเคลื่อนไหวไปในบรเิ วณวา่ ง บนแผน่ ระนาบ เส้นเกิดจากการ
ลาก ขูด ขีด เขียนด้วยดินสอ ปากกา พกู่ นั แปรง เมื่อนำไป ประกอบกนั กจ็ ะเกดิ เป็น รูปร่าง รปู ทรง
นอกจากนเี้ สน้ ยงั รวมถงึ ทศิ ทาง การเก่ียวโยง การเคล่ือนไหวและพลงั อกี ดว้ ย เส้นแตล่ ะชนดิ ให้ความรู้สกึ ทาง
อารมณด์ ังนี้
2.1 ลักษณะและความรู้สึกทมี่ ตี อ่ เส้น
2.1.1 เส้นตรงแนวตงั้ ( Straight Line ) คือเสน้ ทล่ี ากจากจุดใดจดุ หนง่ึ ตรงไปในทิศทางหนง่ึ ในแนวตั้งเส้นตรง
ในแนวตัง้ ให้ความรสู้ กึ แขง็ แรง แน่นอน ถกู ตอ้ ง รนุ แรง เขม้ แขง็ เดด็ เดย่ี ว
2.1.2 เสน้ แนวนอน ( Horizontal Line ) คือเส้นตรงทล่ี ากจากจดุ หนงึ่ ไปยงั อกี จุดหนงึ่ ในแนวนอน
เสน้ แนวนอนให้ความรสู้ ึก กว้าง สงบ น่ิง ราบเรยี บ ถ้าโยง เข้ากับธรรมชาติ ทำใหเ้ รานึกถงึ ทรี่ าบ ขอบ
นำ้ ตัดกับขอบฟา้ ของทะเลยามสงบให้ ความรสู้ ึกสงบปลอดภยั ในอีกมุ่มหนง่ึ อาจนกึ ถึงเกยี่ วกับความตาย
2.1.3 เส้นเฉยี ง ( Diagonal line ) คอื เสน้ ตรงทล่ี ากในแนวเฉยี ง เส้นเฉียงให้ ความรู้สกึ ไมม่ นั่ คง ไม่
แนน่ อน เคลือ่ นไหวรวดเร็ว เปรียบเส้นเฉียงมลี กั ษณะเหมือนทา่ คนวง่ิ หรอื คนลม้ ไมม่ ่นั คง
2.1.4 เสน้ ต้ังฉาก ( Vertical Line ) คือ เสน้ ตรงท่ีลากมาต้งั ฉากกบั เสน้ แนวนอน เสน้ ตั้งฉากใหค้ วามรสู้ กึ
ม่ันคงแข็งแรง สง่างาม ถ้าเราโยงความรู้สกึ ใหเ้ ข้ากบั ภาพ ในธรรมชาตเิ ปรียบเหมอื นตน้ ไม้ใหญท่ ่ีขึ้นเรียงราย
อยู่กลางท่งุ กว้าง ซงึ่ มคี วามสง่างามโดดเดน่ และเปน็ นิรนั ดร
2.1.5 เส้นซิกแซก็ ( Zigzag Line ) หรือ เรียกวา่ เส้นหยกั คอื เสน้ เฉียง ทลี่ ากสลบั กนั เสน้ ซกิ แซ็กให้
ความร้สู กึ รุนแรง กระแทกเปน็ หว้ ง ๆ ต่ืนเตน้ สบั สนวนุ่ วาย ไม่แนน่ อน ตอ่ สู้ ทำลาย ถา้ เราเขยี น
เส้นหยักในแนวเฉียง จะหมายถงึ สายฟา้ หรือรอยแตก ให้ความรสู้ กึ ไมส่ งบ
2.1.6 เสน้ โคง้ ( Curved Line ) คือ เส้นทล่ี ากในลกั ษณะโคง้ เสน้ โค้งให้ความรู้สกึ อ่อนหวานนุม่ นวล
คลายความกระดา้ ง ถ้าเปรยี บกับธรรมชาติจะใหค้ วามรสู้ กึ เคลอ่ื นไหว ไม่สงบนง่ิ เชน่ ระลอกคลืน่ บนผิวน้ำ
และใหค้ วามรสู้ ึกอดึ อัด บางครง้ั เราเรยี กเส้นโคง้ ว่าเสน้ เหลว โฮการ์ด เรยี กเสน้ โค้งแบบตัวเอส ( S ) วา่ เสน้

89

แหง่ ความอ่อนชอ้ ย ซงึ่ เกดิ จากการสงั เกตทรวดทรง ของผหู้ ญงิ และเราอาจเปรียบเสน้ โคง้ วา่ เป็นเส้นแหง่ สตรี
เพศ
2.1.7 เส้นคลืน่ ( Undulating Line ) คอื เสน้ โคง้ ท่ีสลบั ขึ้นลง เสน้ คลืน่ ให้ ความรสู้ กึ เคลอื่ น ไหวช้า ๆ
สุภาพอ่อนโยน สบายนมุ่ นวลเย้ายวน
2.1.8 เสน้ โคง้ กน้ หอย ( Spiral line ) คือ เส้นโค้งวนจากวงนอกเข้าวงใน เป็นรูปกน้ หอย ให้ความรสู้ ึก
งนุ งง เคลอ่ื นไหวหมุนเวยี นไปมา เส้นเป็นองค์ประกอบเบ้อื งต้นท่ใี ช้ลากเพ่ือเปน็ สอื่ ใหเ้ กิดภาพ เสน้ ง่าย ๆ เกิด
จากการลากโดยมอื เดก็ กับเส้นทเี่ ขียนโดยมนุษย์สมัยก่อนประวตั ศิ าสตร์ จะมีลกั ษณะเป็นสากล ที่ทุก คนเข้าใจ
ได้
ลักษณะการแสดงออกทางความรสู้ กึ การใช้เสน้ แบบตา่ ง ๆ
1 . แบบขดั แย้ง
2. แบบตอ่ เนือ่ ง จะเห็นได้ว่าถา้ เส้นมคี วามหนาบางไม่เท่ากัน จะให้ความรสู้ ึกพริว้ ออ่ นหวาน แต่ถ้าเสน้ เท่า
กนั ตลอดจะทำใหง้ านดแู ขง็ ทื่อและใหค้ วามรูส้ กึ น่าเบอื่
3. แสดงทิศทางในภาพ ทิศทางเฉยี งเพือ่ สร้างความลึกเพอ่ื เนน้ จดุ สนใจ
การจัดวางองค์ประกอบ
1. หาจุดที่เราจะโฟกสั
เร่ืองสำคญั อนั ดับต้นๆ เป็นเรื่องทไ่ี ม่ว่าจะหาอ่านหรือศกึ ษาจากตำราหรือโรงเรียนกม็ ักจะบอกวา่ คุณจะตอ้ งหา
จุดเดน่ คณุ จะตอ้ งหาจุดโฟกสั ใหก้ บั งานนะ จดุ โฟกสั จะเปน็ สิ่งทดี่ งึ ดูดคนดูของเราใหเ้ ห็นสิ่งนเี้ ป็นอันดบั แรก
เพราะฉะนนั้ อนั ดับแรกควรจะเลือกจุดโฟกสั ให้กบั งานของเราก่อนเลย วา่ จะใหส้ ่วนไหนคือองคป์ ระกอบหลกั ท่ี
เราจะโฟกสั ลองคดิ สงิ่ ทค่ี ณุ อยากจะสื่อสารออกไปใหผ้ ู้ชม เลือกอารมณ์ทต่ี ้องการ คดิ เรอื่ งราวให้กบั งานเพราะ
จะทำใหง้ านออกแบบของเราดแู ขง็ แกรง่ มที ม่ี า บางทีวธิ กี ารสรา้ งจุดโฟกัสจะมหี ลายวธิ ใี หเ้ ราได้เลอื กใชม้ ากมาย
ทั้งใชเ้ ทคนิคของเส้น ขนาด รปู ร่าง ความคมชัด หรอื แม้แตส่ สี ันทโ่ี ดดเด่นข้นึ มาจากจดุ อ่ืน
ลองดตู วั อย่างงานดา้ นล่างของ Matthew Metz เก่ียวกบั fashion จดุ โฟกสั ของภาพดา้ นลา่ งจงึ เน้นไปที่นางแบบ
และเสอื้ ผา้ ดังน้ันการวางกราฟกิ ทมี่ สี ไี วท้ กี่ ่ึงกลางเพอ่ื ไฮไลทเ์ นน้ ความสนใจไปท่ีใบหนา้ ของนางแบบและเสอ้ื ผา้
(เวลาเรามองภาพน้ีสายตาหลายคนคงถูกดงึ ดูดไปท่กี ราฟิกสๆี ) และลองสกั เกตเุ สน้ ตรงยาวสีขาวจะนำสายตาไป
ยังรายละเอียดอ่ืนๆ
2. นำสายตาดว้ ยเส้น
เสน้ ตรงเม่อื พงุ่ ไปยงั ทต่ี า่ งๆ กเ็ หมอื นคณุ ชี้นวิ้ ไปทีต่ รงไหนสกั ที เส้นตรงนำสายตาไดด้ ีเสมอการวางเสน้ ตรงลงใน
งานจะช่วยควบคมุ สายตาของผู้ชมไดเ้ ป็นอย่างดี เพียงแคใ่ ช้เสน้ ตรงช้ไี ปยังจดุ ที่คุณอยากจะโฟกสั ทเ่ี หลือก็ปลอ่ ย
ใหเ้ ปน็ หนา้ ทข่ี องเสน้ เหล่าน้นั ใหม้ นั จดั การกบั ผชู้ มเอง ลองนกึ ถึงแผนผังทม่ี เี สน้ ลากไปยังจดุ ต่างๆ ทเ่ี ราจะรบั รู้ได้
เองวา่ สายตาเราควรจะมองไปตามเส้นเหลา่ นนั้ ซง่ึ ใชง้ านได้อย่างดกี ับงานพวก flowchart หรือ present ที่มี
ขอ้ มลู เยอะแยะมากมาย
3. ขนาดและลำดับความสำคัญ

90

ขนาดและลำดบั ความสำคญั คอื ปจั จยั พืน้ ฐานของการออกแบบทสี่ ามารถสรา้ งหรอื ทำลายงานออกแบบของเราจงึ
เปน็ เรือ่ งสำคัญมากทเี่ ราควรจะใส่ใจมันสักนดิ เพ่ืองานออกแบบทดี่ ี
ลำดับความสำคัญคอื การจัดเรยี งองคป์ ระกอบในการออกแบบใหผ้ ชู้ มมองเห็นความสำคญั เพราะฉะนน่ั สง่ิ ทสี่ ำคัญ
ก็ควรจะมีขนาดทใี่ หญส่ ว่ นองคป์ ระกอบทสี่ ำคญั นอ้ ยลงมากค็ วรจะมีขนาดทเ่ี ล็กลงมา
ลำดบั ความสำคัญเป็นส่งิ ทจ่ี ำเปน็ มากโดยเฉพาะงานทเ่ี ปน็ สงิ่ พมิ พท์ เ่ี ราควรจะจัดลำดบั ของตวั หนงั สอื เป็นแบบ
ตา่ งๆ ตามตวั อย่างด้านลา่ งซ่งึ ขนาดมกั จะสือ่ ความหมายของความสำคญั ได้อย่างชัดเจน
4. สมดลุ ขององค์ประกอบ
จัดสมดลุ เปน็ อีกหน่งึ ส่งิ ที่สำคัญทีจ่ ะทำใหง้ านของเราสวยมากข้นึ ความสมดุลจะเกิดขึ้นไดด้ ้วยวตั ถุสองสิ่งข้นึ ไป
(ยกเว้นสมดุลตรงกลางท่ีมีองค์ประกอบเพียงสง่ิ เดยี ว) จะสรา้ งความสมดลุ เราตอ้ งออกแบบใหม้ สี ัดส่วนทพ่ี อดีกัน
อยา่ งเชน่ สมดลุ ซา้ ยขวา สมดลุ บนล่าง ทจี่ ะสร้างความรสู้ กึ ไดต้ า่ งกัน หลกั การสร้างสมดุลคือวัตถุทมี่ ขี นาดใหญ่ก็
จะมนี ้ำหนักทเี่ ยอะ สว่ นวตั ถุทข่ี นาดเลก็ กจ็ ะมีขนาดทเี่ บาตามไปดว้ ย
ตวั อย่างด้านล่างคืองานที่จดั สมดลุ องคป์ ระกอบไดอ้ ย่างดที ง้ั บนลา่ ง ซ้ายขวา นเ่ี ปน็ งานออกแบบของ Jennifer
Wick การจัดวางองค์ประกอบแบบนที้ ำให้งานออกมาสวยงามและดูสะอาด
5. ใช้องคป์ ระกอบเพอื่ เติมเต็ม
เราอาจจะเคยไดย้ ินคำว่าการเลอื กสีที่ดจี ะสง่ เสรมิ กันและกนั แต่องคป์ ระกอบกราฟกิ กเ็ ป็นแบบนน้ั ไปดว้ ย ถา้ เรา
เลือกใช้องคป์ ระกอบอะไรบอกอยา่ งที่ถกู ตอ้ ง มนั จะช่วยสงเสริมงานของเราให้ดดู ีขึ้นอีกเยอะ แต่กม็ ีองคป์ ระกอบ
มากมายทเ่ี ม่อื เลอื กใช้งานกลบั กลายเปน็ ทำใหง้ านยง่ิ แยล่ งเพราะฉะนน้ั การเลือกองคป์ ระกอบตอ้ งเลอื กใชง้ าน
อยา่ งระมดั ระวังและคิดใหด้ สี กั นิดนงึ ว่าจะช่วยส่งเสริมหรอื ทำใหง้ านมันแยล่ งกันแน่
6. เพิม่ Contrast ให้กบั งาน
Contrast เป็นเครื่องมือทช่ี ่วยไฮไลทห์ รอื ซ่อนองค์ประกอบของงานออกแบบของเราออกมาดูดีไดอ้ ยา่ งไมน่ ่าเช่อื
ถา้ เราเพมิ่ Contrast ใหก้ บั องคป์ ระกอบอะไรสกั อย่างองคป์ ระกอบนัน้ กจ็ ะดูเดน่ ชน้ั ขึ้นมาได้ทนั ทเี หมือนตวั อย่าง
ด้านลา่ งท่ใี ชอ้ งคป์ ระกอบสมี ว่ งท่ีดตู ัดกับพน้ื หลังและยังตดั กบั ตวั อักษรไดเ้ ป็นอยา่ งดี
7. ใชอ้ งค์ประกอบซ้ำๆ
การจดั วางแบบนเี้ ป็นการนำองคป์ ระกอบท่ีเราใชใ้ นงานออกแบบมาใช้ซ้ำในสว่ นอนื่ จากตวั อยา่ งด้านล่างเราจะ
เหน็ วา่ มกี ารใชอ้ งค์ประกอบที่คล้ายกันนำมาใชง้ านตา่ งกนั เพียงรปู ภาพ เนอื้ หาและสกี ารใช้องคป์ ระกอบซ้ำยัง
ช่วยให้ผู้อา่ นเข้าใจขอ้ มลู ไดเ้ รว็ ขนึ้ ดว้ ย

91

แบบฝกึ หดั /เฉลย

ตอนที่ 1 จงเลอื กคําตอบท่ีถกู ต้องที่สดุ เพียงขอ้ เดียว

คำสั่ง จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท () หน้าขอ้ ทถ่ี ูกตอ้ งมากทส่ี ดุ เพยี งข้อเดยี ว

1. ข้อใดไม่ใชอ่ งค์ประกอบในการออกแบบ

ก. องค์ประกอบทมี่ องไมเ่ ห็น ข. องคป์ ระกอบในความนึกคิด

ค. องค์ประกอบที่มองเห็นได้ ง. องคป์ ระกอบท่สี มั พันธก์ นั

2. ปรมิ าตรเกิดจากการเคลอ่ื นท่ขี องสิงใด

ก. ระนาบ ข. จุด ค. เส้น ง. ปรมิ าตร

3. ขอ้ ใดไม่ใช่องคป์ ระกอบทม่ี องเห็นได้

ก. เส้น ข. รูปร่าง ค. ขนาด ง. สี

4. ขอ้ ใดเกิดจากความรสู้ ึกของผู้ชม

ก. ท่วี ่าง ข. ทิศทาง ค. แรงดึงดดู ง. ตำแหน่ง

5. เสน้ ใดใหค้ วามรสู้ กึ ม่ันคงแข็งแรง

ก. เสน้ ตรงแนวนอน ข. เส้นตรงแนวต้ัง ค. เสน้ เฉยี ง ง. เส้นโค้ง

6. ขอ้ ใดให้ความรู้สึกอบอนุ่ ปอ้ งกันหอ่ หมุ้ โอบอมุ้

ก. สามเหล่ยี ม ข. สเ่ี หลี่ยม ค. วงกลม ง. หกเหลี่ยม

7. ข้อใดไมใ่ ช่การจดั วางองค์ประกอบ

ก. เอกภาพ ข. การเน้น ค. สมดุล ง. เอกภพ

8. ขอ้ ใดถือเปน็ หลกั สำคญั ในการจดั วางองคป์ ระกอบ

ก.เอกภาพ ข. การเน้น ค. สมดุล ง. ขนาดและสดั ส่วน

9. ข้อใดไมใ่ ช่การทำใหร้ สุ้ กึ ว่างานเปน็ อันหนึ่งอันเดียวกนั

ก. ความใกลช้ ดิ ข. ความซำ้ ค. ความต่อเนอื่ ง ง. ความเน้น

10. ข้อใดไมใ่ ช่การเนน้

ก. การวางตำแหน่งจุดสนใจในงาน ข. การสร้างความใกลเ้ คียงกนั ในงาน

ค. การแยกวางองคป์ ระกอบใหโ้ ดดเด่น ง. การสรา้ งความแตกตา่ ง

เอกสารอ้างอิง
-
ภาคผนวก (ถ้ามี)

92

ใบงานท่ี 4 หนว่ ยท่ี 4

รหัสวิชา 30204-2102 ชือ่ วิชา สื่อสรา้ งสรรค์ธรุ กิจดจิ ทิ ลั ภาคเรียนที่ 2

ช่ือหน่วย องค์ประกอบการออกแบบ เวลารวม 16 ชั่วโมง

ช่อื งาน องคป์ ระกอบการออกแบบ จำนวน 4 ช่วั โมง

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. มีความรคู้ วามเข้าใจองคป์ ระกอบการออกแบบ
2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการองคป์ ระกอบการออกแบบ

3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผู้สำเรจ็ การศกึ ษา

จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. ผ้เู รยี นอธบิ ายความหมายองค์ประกอบการออกแบบได้
2. ผู้เรยี นอธบิ ายความสำคญั ขององค์ประกอบการออกแบบได้

3. ผเู้ รยี นอธบิ ายเกย่ี วกบั ศิลปะกบั การออกแบบได้
4. ผเู้ รียนอธบิ ายประเภทองค์ประกอบการออกแบบได้

5. ผเู้ รียนสามารถบอกคณุ สมบัตขิ ององคป์ ระกอบการออกแบบได้

6. ผูเ้ รยี นสามารถจดั วางองคป์ ระกอบได้

7. ผเู้ รยี นสามารถใชโ้ ปรแกรมกราฟิกในการออกแบบได้

สาระการเรยี นรู้

1. ความหมายขององคป์ ระกอบการออกแบบ

2. ศลิ ปะกบั การออกแบบ

3. ประเภทขององคป์ ระกอบการออกแบบ

4. คณุ สมบตั ิขององคป์ ระกอบการออกแบบ

5. การจัดวางองคป์ ระกอบ

6. การใชโ้ ปรแกรมกราฟิกในการออกแบบ

สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กีย่ วกับองค์ประกอบการออกแบบ

เครอ่ื งมือ วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสือ

ลำดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ัตงิ าน

93

1. ใหน้ ักศกึ ษาแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม เพื่อศกึ ษาและอภปิ ราย
1.1 อธิบายความรู้เกยี่ วกับความเขา้ ใจการองคป์ ระกอบการออกแบบ
1.2 เขยี นรปู พรอ้ มอธบิ ายความเข้าใจการองคป์ ระกอบการออกแบบ

2. เขียนอภปิ รายและวเิ คราะหใ์ สก่ ระดาษ
3. นำผลงานส่งครูผสู้ อนเพือ่ ประเมินผล
ภาพประกอบ-
ข้อควรระวัง
ผเู้ รยี นควรตรวจสอบข้อมลู กอ่ นใหถ้ ่ีถว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพ่ือป้องกนั ความผดิ พลาดก่อน
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ (ถ้ามี)
นกั ศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเนอ้ื หาให้สอดคลอ้ งกับภาพให้ถูกตอ้ ง
การประเมินผล (ตอ้ งระบเุ กณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ดั เจน)
1. สังเกตผเู้ รยี นมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื รน้
ในการแสดงความคดิ เห็นและสรปุ สาระการเรียนร้ปู ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานได้อย่างถกู ต้อง ทันเวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบียบ
3. ผ้เู รียนทำแบบฝึกหัดหลงั เรียนได้ถูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เปน็ อยา่ งต่ำ
เอกสารอ้างองิ
-

94

ใบกิจกรรมท่ี 4 หนว่ ยท่ี 4

รหัสวิชา 30204-2102 ชือ่ วิชา สือ่ สร้างสรรค์ธุรกจิ ดจิ ิทลั ภาคเรียนที่ 2

ชอื่ หน่วย องค์ประกอบการออกแบบ เวลารวม 16 ช่ัวโมง

ชอื่ งาน องค์ประกอบการออกแบบ จำนวน 4 ชัว่ โมง

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. มีความรู้ความเข้าใจองคป์ ระกอบการออกแบบ
2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการองค์ประกอบการออกแบบ

3. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษา
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )

1. ผเู้ รยี นอธบิ ายความหมายองคป์ ระกอบการออกแบบได้
2. ผู้เรยี นอธบิ ายความสำคญั ขององค์ประกอบการออกแบบได้

3. ผ้เู รียนอธบิ ายเกยี่ วกบั ศิลปะกบั การออกแบบได้
4. ผู้เรียนอธิบายประเภทองค์ประกอบการออกแบบได้

5. ผเู้ รยี นสามารถบอกคณุ สมบัติขององคป์ ระกอบการออกแบบได้

6. ผู้เรยี นสามารถจัดวางองค์ประกอบได้
7. ผูเ้ รยี นสามารถใชโ้ ปรแกรมกราฟกิ ในการออกแบบได้

สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายขององคป์ ระกอบการออกแบบ

2. ศิลปะกบั การออกแบบ

3. ประเภทขององคป์ ระกอบการออกแบบ

4. คุณสมบัตขิ ององค์ประกอบการออกแบบ

5. การจดั วางองค์ประกอบ
6. การใช้โปรแกรมกราฟกิ ในการออกแบบ

สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ กย่ี วกับองคป์ ระกอบการออกแบบ

เครอื่ งมือ วสั ดุ – อุปกรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนงั สอื

95

ลำดับกิจกรรม
1. ผ้เู รียนตอ้ งให้ความสนใจในการศึกษา เพอื่ หาเทคนคิ วิธกี าร หรือหลกั การง่ายเพ่ือให้หาคำตอบ

ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควิธีการที่ครูผู้สอนสรปุ ในขณะทีท่ ำการ
สอน และนำข้อสงสัยซกั ถามครใู นการเรยี นทกุ คร้ังท่ีเกิดความสบั สน และไมเ่ ขา้ ใจ

2. ผ้มู ีการทบทวนบทเรยี น ตลอดเพื่อเสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ ริง
3. ผู้เรยี นหม่ันทำใบงาน แบบฝกึ หดั และแก้ไขขอ้ ท่ีผดิ ใหถ้ กู ต้องเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรูแ้ ละเทคนิควิธกี ารพร้อมกับ
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดข้ึนโดยตนเองให้ไดเ้ พื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง
ไมใ่ ช่เกิดจากการท่องจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาท่ี
กำหนด และฝึกฝนตนเองเสมอ เมือ่ ได้รบั มอบหมายงานมา
การประเมนิ ผล (ต้องระบุเกณฑ์การประเมินใหช้ ดั เจน)
1. สงั เกตผ้เู รียนมคี วามสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคดิ เหน็ และสรปุ สาระการเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อยา่ งถูกตอ้ ง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผู้เรยี นทำแบบฝึกหัดหลงั เรยี นไดถ้ กู ตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
-


Click to View FlipBook Version