96
ใบปฏบิ ตั ิงานท่ี 4 หนว่ ยที่ 4
รหัสวิชา 30204-2102 ชอ่ื วชิ า สอ่ื สรา้ งสรรคธ์ ุรกจิ ดจิ ทิ ลั ภาคเรียนท่ี 2
ช่ือหน่วย องคป์ ระกอบการออกแบบ เวลารวม 16 ชั่วโมง
ชอื่ งาน องค์ประกอบการออกแบบ จำนวน 4 ชว่ั โมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. มคี วามรูค้ วามเข้าใจองค์ประกอบการออกแบบ
2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการองคป์ ระกอบการออกแบบ
3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. ผู้เรยี นอธบิ ายความหมายองคป์ ระกอบการออกแบบได้
2. ผเู้ รียนอธบิ ายความสำคญั ขององคป์ ระกอบการออกแบบได้
3. ผู้เรยี นอธบิ ายเกย่ี วกบั ศิลปะกบั การออกแบบได้
4. ผเู้ รยี นอธิบายประเภทองคป์ ระกอบการออกแบบได้
5. ผู้เรยี นสามารถบอกคณุ สมบัตขิ ององคป์ ระกอบการออกแบบได้
6. ผ้เู รยี นสามารถจัดวางองคป์ ระกอบได้
7. ผู้เรียนสามารถใช้โปรแกรมกราฟกิ ในการออกแบบได้
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายขององคป์ ระกอบการออกแบบ
2. ศิลปะกบั การออกแบบ
3. ประเภทขององคป์ ระกอบการออกแบบ
4. คณุ สมบัตขิ ององคป์ ระกอบการออกแบบ
5. การจัดวางองค์ประกอบ
6. การใชโ้ ปรแกรมกราฟิกในการออกแบบ
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กยี่ วกบั องค์ประกอบการออกแบบ
เคร่ืองมือ วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสอื
97
ลำดบั ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
1. ผเู้ รียนค้นหาขอ้ มลู จากในอนิ เตอรเ์ น็ต ตามเร่ืองทีไ่ ดร้ บั มอบหมายมาจาครูผสู้ อน
2. เมือ่ ผเู้ รยี นไดร้ บั ข้อมลู เรยี บร้อยแลว้ ใหผ้ เู้ รยี น นำข้อมลู นัน้ มาเรยี บเรียงใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเขา้ ใจไดง้ ่าย โดยจัดทำในรูปแบบเลม่ รายงาน
ภาพประกอบ
ขอ้ ควรระวัง
ผูเ้ รยี นควรตรวจสอบข้อมลู กอ่ นใหถ้ ถ่ี ้วน ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพ่อื ปอ้ งกันความผดิ พลาดกอ่ น
การสง่ งาน
ข้อเสนอแนะ
นกั ศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธิบายเน้ือหาให้สอดคลอ้ งกบั ภาพให้
ถกู ต้อง
การประเมนิ ผล
1. สงั เกตผเู้ รียนมคี วามสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือรน้ ใน
การแสดงความคดิ เห็นและสรุปสาระการเรยี นรู้ประจำหน่วย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ทันเวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเปน็ ระเบยี บ
3. ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหัดหลงั เรียนได้ถูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อย่างตำ่
เอกสารอา้ งอิง
-
98
ใบมอมหมายงานท่ี 4 หน่วยท่ี 4
รหัสวิชา 30204-2102 ชอื่ วชิ า สื่อสรา้ งสรรคธ์ ุรกจิ ดจิ ิทลั ภาคเรียนท่ี 2
ช่ือหน่วย องคป์ ระกอบการออกแบบ เวลารวม 16 ชั่วโมง
ชอื่ งาน องคป์ ระกอบการออกแบบ จำนวน 4 ชว่ั โมง
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. มคี วามรู้ความเข้าใจองคป์ ระกอบการออกแบบ
2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการองคป์ ระกอบการออกแบบ
3. มีการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. ผู้เรียนอธบิ ายความหมายองค์ประกอบการออกแบบได้
2. ผเู้ รยี นอธบิ ายความสำคญั ขององค์ประกอบการออกแบบได้
3. ผเู้ รียนอธบิ ายเกย่ี วกบั ศลิ ปะกบั การออกแบบได้
4. ผ้เู รยี นอธิบายประเภทองค์ประกอบการออกแบบได้
5. ผเู้ รยี นสามารถบอกคุณสมบัตขิ ององคป์ ระกอบการออกแบบได้
6. ผู้เรยี นสามารถจัดวางองค์ประกอบได้
7. ผ้เู รยี นสามารถใช้โปรแกรมกราฟกิ ในการออกแบบได้
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายขององคป์ ระกอบการออกแบบ
2. ศลิ ปะกบั การออกแบบ
3. ประเภทขององคป์ ระกอบการออกแบบ
4. คณุ สมบัตขิ ององคป์ ระกอบการออกแบบ
5. การจัดวางองค์ประกอบ
6. การใชโ้ ปรแกรมกราฟิกในการออกแบบ
สมรรถนะรายหนว่ ย
แสดงความรเู้ กยี่ วกบั องค์ประกอบการออกแบบ
เคร่ืองมือ วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสือ
99
แนวทางการปฏิบตั ิงาน
1. ใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ตั งิ านตามใบงาน ใบกจิ กรรม ใบปฏิบตั งิ าน อยา่ งเคร่งครัด ตามหัวขอ้ ทีไ่ ด้รบั
มอบหมาย ให้เสรจ็ สนิ้ ตามระยะเวลาที่กำหนด พร้อมท้งั การจดั ทำรายงาน และนำเสนองานอย่าง
ถูกตอ้ ง ครบถว้ น เป็นระเบยี บเรียบร้อย
2. ใหผ้ เู้ รียนแบง่ หน้าทกี่ บั เพอื่ นในกลุ่มให้ชดั เจน และสามารถเขา้ ใจเนอ้ื หาตามหัวขอ้ ดังกล่าว ได้
อย่างถูกต้อง ครบถ้วน
ภาพประกอบ
ข้อควรระวัง
ผเู้ รยี นควรตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นใหถ้ ี่ถว้ น ละเอียด และรอบคอบก่อน เพอ่ื ปอ้ งกนั ความผดิ พลาดกอ่ น
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ
นักศกึ ษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเน้ือหาให้สอดคลอ้ งกบั ภาพให้
ถกู ต้อง
การประเมนิ ผล
1. สงั เกตผู้เรยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รือร้นใน
การแสดงความคดิ เหน็ และสรุปสาระการเรยี นรู้ประจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถูกต้อง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หัดหลงั เรียนได้ถูกต้อง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอย่างตำ่
เอกสารอ้างองิ
100
แผนการจดั การเรยี นรู้
หนว่ ยที่ 5 การออกแบบกบั งานธรุ กจิ จำนวน 16 ช่ัวโมง สปั ดาหท์ ี่ 15-18
รหัสวิชา 30204-2102 ช่อื วิชา ส่ือสร้างสรรคธ์ ุรกจิ ดจิ ิทลั
1. สาระสำคญั
การออกแบบในปัจจุบนั ไมใ่ ช่เป็นเพียงแคก่ ารกำหนดรูปแบบสวยงาม กำหนดสีสันแต่เพยี งเปลือกนอก
เท่านั้น แต่การออกแบบจะต้องคลอบคลุมถึงการออกแบบเพื่อความสำเร็จทางการตลาดด้วย การออกแบบ
กจิ กรรมเพ่ือธรุ กจิ การเขา้ ถงึ ลูกคา้ ดว้ ยความคิดสร้างสรรค์ การวางแผนภาพลักษณข์ ององค์กรในอนาคตด้วยกล
ยุทธ์ดา้ นการออกแบบอยา่ งครบวงจร ผอู้ อกแบบท่ดี จี งึ จำเปน็ ต้องรอบร้หู ลายศาสตร์ ไมใ่ ชเ่ พยี งแคร่ อบรู้ศาสตร์
ด้านศิลปะและการออกแบบเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องค้นคว้าลงลึกในแต่ละโครงการทีท่ ำการออกแบบมาก
ที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งองคป์ ระกอบดา้ นการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ ดังตัวอย่างของกระบวนการ
ออกแบบที่นำไปใช้ในการพฒั นาองคก์ รสูค่ วามสำเรจ็
2. สมรรถนะประจำหน่วย
แสดงความรเู้ ก่ียวกบั การออกแบบกบั งานธรุ กจิ
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
7. มคี วามรูค้ วามเข้าใจการออกแบบกบั งานธรุ กิจ
8. เข้าใจหลักการและกระบวนการออกแบบกบั งานธุรกจิ
9. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา
4. จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม (ความรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. ผู้เรียนอธบิ ายความหมายการออกแบบกับงานธรุ กิจได้
2. ผ้เู รยี นอธบิ ายความสำคัญของการออกแบบกับงานธุรกจิ ได้
3. ผูเ้ รยี นอธบิ ายหลักการออกแบบได้
4. ผเู้ รียนอธิบายประเภทการออกแบบได้
5. ผู้เรียนสามารถออกแบบขอ้ ความ ตวั อกั ษร และสี ได้
6. ผู้เรยี นสามารถออกแบบตราสญั ลักษณไ์ ด้
5. สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของการออกแบบกบั งานธุรกจิ
2. หลักการออกแบบ
3. ประเภทของการออกแบบ
4. การออกแบบข้อความ อกั ษร สี
5. การออกแบบตราสัญลักษณ์
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
101
กจิ กรรมครู กิจกรรมนกั เรียน
ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรยี น( 30 นาท)ี
1. ตรวจสอบรายชื่อนกั ศึกษาทเ่ี ขา้ เรียน 1. ให้ความร่วมมอื กบั ครูในการตรวจสอบ
2. ใหน้ ักศกึ ษาค้นควา้ ความรู้การออกแบบกบั งาน 2. คน้ ควา้ การสอื่ สารผา่ นอนิ เตอรเ์ น็ต
ธุรกจิ 3. รว่ มสนทนาและแสดงความคิดเห็นการ
3. รว่ มสนทนาเกยี่ วกบั เรอ่ื งการออกแบบกบั งาน ออกแบบกับงานธุรกจิ
ธุรกิจ
ขัน้ ดำเนนิ การสอน( 180 นาท)ี
1. บอกจดุ ประสงคก์ ารเรียน ฟงั ทำความเข้าใจและซกั ถาม
2. บรรยาย อธบิ าย ยกตวั อยา่ ง แสดงวิธีการ ฟัง ทำความเขา้ ใจและปฎิบัตติ าม
ปฎบิ ตั ิในแตล่ ะหวั ขอ้ การเรียนและใหน้ ักศึกษา ผู้เรียนซกั ถามข้อสงสยั และจดบันทกึ
ปฎิบัตไิ ปพร้อมกนั รับการประเมิน
3. ครูบอกวิธีการ และแนวคิดในการปฏบิ ตั ิท่ี
ถกู ตอ้ งใหแ้ กผ่ ู้เรยี น
4. ประเมินพฤตกิ รรมรายบคุ คลโดยครจู ะซกั ถาม
ในแตล่ ะคน
ขน้ั สรปุ ( 30 นาท)ี ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ สาระสำคัญ
ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ สาระสำคญั นกั เรยี นสอบถามข้อสงสัย
เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนซักถามขอ้ สงสยั ฟังและจดบันทกึ
มอบหมายให้ไปหดั ทำและศกึ ษาเพม่ิ เติม ทำแบบทดสอบทา้ ยบท
ทำแบบทดสอบ
6. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
10. เอกสารประกอบการเรยี นการสอน
11. Google Classroom
12. การสบื ค้นข้อมลู Online
102
7. หลักฐานการเรยี นรู้
7.7 หลกั ฐานความรู้
13. แผนการสอน
14. ส่อื การสอน
15. เอกสารประกอบการสอน
16. ใบความรู้
7.8 หลกั ฐานการปฏบิ ตั ิงาน
13. บนั ทึกหลงั สอน
14. การเชค็ ชือ่ นกั ศึกษาเข้าหอ้ งเรยี น ผา่ นระบบ STD online
15. แผนการสอน
16. ผลการทำแบบทดสอบของนกั ศกึ ษา
8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
8.1 เครอื่ งมอื ประเมิน
1. ใบงาน
2. แบบฝึกหัด
3. แบบประเมนิ ผลงาน
4. แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
8.2 เกณฑ์การประเมิน
เครอ่ื งมือการประเมนิ วิธีวดั และประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน
แบบฝกึ หดั ตรวจแบบฝึกหดั ไดค้ ะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ข้ึนไป
ถูก 1 คะแนน
ไมถ่ ูก 0 คะแนน
แบบฝกึ ปฏิบัติ ตรวจแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน ร้อยละ 75 ขน้ึ ไป
ถูก 1 คะแนน
ไม่ถูก 0 คะแนน
103
แบบทดสอบหลงั เรียน ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น ได้คะแนน
ขอ้ ละ 1 คะแนน รอ้ ยละ 75 ขึน้ ไป
แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม ถกู 1 คะแนน
จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ไมถ่ กู 0 คะแนน ไดค้ ะแนน
ประสงค์ สังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ 80 ขึ้นไป
ดี 2 คะแนน
พอใช้ 1 คะแนน
ปรบั ปรงุ 0 คะแนน
9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถ้ามี)
1. ผู้เรียนตอ้ งให้ความสนใจในการศึกษา เพื่อหาเทคนคิ วิธีการ หรือหลักการง่ายเพื่อให้หาคำตอบได้
อยา่ งถูกต้อง และรวดเรว็ โดยการ ตั้งใจฟังหลกั การ เทคนิควิธกี ารทีค่ รูผู้สอนสรปุ ในขณะที่ทำการสอน และนำ
ข้อสงสยั ซักถามครใู นการเรยี นทกุ ครัง้ ที่เกิดความสับสน และไมเ่ ข้าใจ
2. ผมู้ กี ารทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่ือเสริมสรา้ งความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
3. ผเู้ รียนหม่นั ทำใบงาน แบบฝกึ หัด และแก้ไขข้อทผี่ ิดให้ถกู ตอ้ งเสมอ
4. ผูเ้ รียนตอ้ งสร้างมโนภาพให้เกดิ ความคิดรวบยอดในสาระการเรยี นรแู้ ละเทคนิควิธีการพร้อมกบั ความ
จำเปน็ ในการนำไปประยกุ ต์ใช้ให้เกิดขึ้นโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอยา่ งแท้จริงไม่ใช่เกิดจาก
การท่องจำ
10. เอกสารอ้างอิง
-
104
ใบความรทู้ ี่ 5 หนว่ ยที่ 5
รหสั วชิ า 30204-2102 ชื่อวิชา สือ่ สรา้ งสรรค์ธุรกิจดจิ ทิ ลั ภาคเรียนท่ี 2
ชอื่ หน่วย การออกแบบกบั งานธรุ กจิ เวลารวม 16 ช่ัวโมง
ชอ่ื เรอ่ื ง การออกแบบกบั งานธุรกิจ เวลา 4 ชั่วโมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจการออกแบบกับงานธรุ กจิ
2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการออกแบบกบั งานธุรกจิ
3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษา
จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ)
1. ผูเ้ รียนอธบิ ายความหมายการออกแบบกบั งานธุรกิจได้
2. ผ้เู รยี นอธบิ ายความสำคญั ของการออกแบบกับงานธุรกจิ ได้
3. ผู้เรียนอธบิ ายหลกั การออกแบบได้
4. ผู้เรยี นอธบิ ายประเภทการออกแบบได้
5. ผ้เู รียนสามารถออกแบบข้อความ ตวั อกั ษร และสี ได้
6. ผ้เู รยี นสามารถออกแบบตราสัญลกั ษณ์ได้
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของการออกแบบกบั งานธุรกจิ
2. หลักการออกแบบ
3. ประเภทของการออกแบบ
4. การออกแบบขอ้ ความ อกั ษร สี
5. การออกแบบตราสญั ลกั ษณ์
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ กยี่ วกบั การออกแบบกบั งานธรุ กจิ
105
หนว่ ยที่ 5 การออกแบบกับงานธรุ กจิ
หลกั การออกแบบ
หลักการออกแบบ มีดงั นี้
1. เอกภพ ( unity)
2. ความสมดลุ ย์ ( balance)
3. การเนน้ ใหเ้ กิดจดุ เด่น ( Emphasis)
4. เส้นแย้ง ( opposition)
5. ความกลมกลืน ( Harmony )
6. จังหวะ (rhythm)
7. ความลกึ / ระยะ ( Perspective)
8. ความขัดแย้ง (Contrast)
9. การซำ้ ( Repetition)
1. ความเป็นหนว่ ย / เอกภพ ( Unity)
ในการออกแบบ ผอู้ อกแบบจะต้องคำนงึ ถึงงานทง้ั หมดให้อยใู่ นหน่วยงานเดียวกันเปน็ กลุ่มก้อน หรือมี
ความสมั พันธก์ นั ทง้ั หมดของงานนน้ั ๆ และพจิ ารณาส่วนยอ่ ยลงไปตามลำดบั ในส่วนย่อยๆ กค็ งต้องถอื หลกั การนี้
เช่นกนั
การสร้างเอกภพในทางปฎิบัตมิ ี 2 แบบคือ
- Static unity การจดั กลุ่มของ from และ shape ทแ่ี ขง็ เชน่ รูปทรงเรขาคณติ จะใหผ้ ลทรงพลงั เดด็ ขาด
แขง็ แรก และ แนน่ อน
- Dynamic unity เป็นการเน้นไปทางออ่ นไหวการเคลอื่ นไหว ซ่ึงอยู่รปู ในลกั ษณะ gradation or
harmony or contrast อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ให้แสดงออกมาจากงานชิน้ นัน้ ดว้ ยจะทำใหง้ านสมบรู ณข์ น้ึ การจดั
องคป์ ระกอบท่ดี นี น้ั ควรใหส้ ว่ นประกอบรวมตัวเป็นอันหนง่ึ อันเดียวกันไมแ่ ตกกระจาย การรวมตวั กนั จะทำให้
เกิดหน่วย หรือเอกภพ จะไดส้ ่วนประธานเปน็ จุดสนใจ และมสี ่วนประกอบตา่ งๆ ใหน้ ่าสนใจ
2. ความสมดุล ( Balance ) คือ
ความเท่ากันหรอื เท่าเทยี มกนั ทั้งสองขา้ ง แบง่ ออกเปน็
- สมดลุ แบบทั้ง 2 ขา้ งเหมอื นกนั (Symmetrical balance)
ทง้ั ซ้ายขวาเหมือนกัน การสมดลุ แบบนจี้ ะทำใหด้ ูมน่ั คงหนกั แนน่ ยุติธรรม เช่น งานราชการ ใบวุฒบิ ตั ร
ประกาศนียบตั ร การถา่ ยรูปตดิ บตั รเป็นต้น
- สมดลุ แบบ 2 ขา้ งไม่เหมอื นกัน (Asymmetrical balance )ดา้ นซ้ายและขวาจะไม่เหมอื นกัน แตม่ องดู
แล้วเท่ากนั ดว้ ยนำ้ หนกั ทางสายตา เช่น สมดลุ ดว้ ยน้ำหนกั และขนาดของรปู ทรง ดว้ ยจุดสนใจ ด้วยจำนวนดว้ ย
ความแตกตา่ งของรายละเอียดดว้ ยคา่ ความเขม้ – จางของสี เปน็ ต้น
106
3. การเนน้ ใหเ้ กดิ จดุ เดน่ (Emphasis )
ในการออกแบบจะประกอบดว้ ยจดุ สำคัญหรือส่วนประธานในภาพ จดุ รองลงมาหรอื ส่วนรองประธาน
สว่ นประกอบหรอื พวกรายละเอียดปลกี ยอ่ ย ต่างๆ หลกั และวิธใี นการใช้การเนน้
- เน้นดว้ ยการใชห้ ลักเรอ่ื ง Contrast
- เนน้ ดว้ ยการประดบั
- เน้นด้วยการจดั กลมุ่ ในส่วนท่ตี อ้ งการเน้น
- เน้นดว้ ยการใช้สี
- เนน้ ด้วยขนาด
- เนน้ ดว้ ยการทำจุดรวมสายตา
4. เสน้ แย้ง ( Opposition)
เปน็ การจัดองคป์ ระกอบโดยการนำเอาเส้นในลกั ษณะแนวนอนและแนวต้ังฉากมาประกอบกนั ให้เป็น
เน้อื หาท่ตี อ้ งการ มลี กั ษณะของภาพแบบเสน้ แย้งในธรรมชาติรอบๆ ตัวเรา อยูม่ ากมาย นับว่าเปน็ รากฐานของ
การจดั องค์ประกอบ
การจดั องคป์ ระกอบใหเ้ กดิ ความแตกต่างเพื่อดงึ ดดู ความสนใจหรือใหเ้ กดิ ความสนกุ ต่นื เตน้ นา่ สนใจ
ลดความเรยี บ นา่ เบื่อ ใหค้ วามรสู้ กึ ฝนื ใจ ขัดใจ แต่ชวนมอง
5. ความกลมกลนื ( Harmony )
การจัดองคป์ ระกอบที่ใกล้เคียงกนั หรือคลา้ ยๆ กนั มาจดั ภาพทำใหเ้ กิดความนมุ่ นวลกลมกลนื กันมี 3 แบบดงั นี้
A. กลมกลืนในด้านประโยชน์ใช้สอย คือ ทำใหเ้ ป็นชดุ เดียวกัน
B. กลมกลนื ในความหมาย เชน่ การออกแบบเครอ่ื งหมายการค้า และ โลโก้
C. กลมกลืนในองคป์ ระกอบไดแ้ ก่
- กลมกลนื ดว้ ยเส้น – ทิศทาง
- กลมกลืนดว้ ยรูปทรง – รูปร่าง
- กลมกลืนดว้ ยวัสดุ – พนื้ ผวิ
- กลมกลืนด้วยสี มักใชโ้ ทนสที ีใ่ กล้กนั
- กลมกลืนด้วยขนาด – สดั สว่ น
- กลมกลืนดว้ ยน้ำหนัก
6. จังหวะ (Rhythm)
จังหวะเกดิ จากการตอ่ เนอ่ื งกนั หรอื ซำ้ ซ้อนกัน จงั หวะทด่ี ที ำให้ภาพดสู นกุ เปรียบไดก้ บั เสยี งเพลงอนั ไพเราะใน
ด้านการออกแบบ แบ่งจงั หวะ เป็น 4 แบบคือ
- จงั หวะแบบเหมอื นกนั ซ้ำๆกัน เป็นการนำเอาองคป์ ระกอบหรือรปู ทเ่ี หมอื นๆ กันมาจดั วางเรียงตอ่ กนั ทำใหด้ ู
มีระเบียบ ( order ) เป็นทางการ การออกแบบลายตอ่ เนอ่ื ง เช่น ลายเหลก็ ดัด ลายกระเบอื้ งปูพื้นหรอื ผนงั ลาย
ผา้ เป็นต้น
107
- จังหวะสลบั กันไปแบบคงท่ี เป็นการนำองคป์ ระกอบหรือรปู ทีต่ ่างกันมาวางสลบั กนั อยา่ งตอ่ เน่ือง เปน็ ชุด
เป็นชว่ ง ให้ความรสู้ ึกเป็นระบบ สม่ำเสมอ ความแนน่ อน
- จังหวะสลบั กันไปแบบไมค่ งที่ เปน็ การนำองคป์ ระกอบหรือรปู ทีต่ า่ งกนั มาวางสลบั กนั อยา่ งอสิ ระ ทั้งขนาด
ทิศทาง ระยะห่าง ให้ความรสุ้ ึกสนกุ สนาน
- จงั หวะจากเลก็ ไปใหญ่ หรอื จากใหญ่ไปเลก็ เป็นการนำรปู ทเ่ี หมือนกนั มาเรยี งต่อกันแตม่ ีขนาดตา่ งกัน โดย
เรยี งจากเลก็ ไปใหญ่ หรือ จากใหญ่ไปเลก็ อยา่ งตอ่ เน่อื ง ทำใหภ้ าพมคี วามลึก มมี ิติ
7. ความลกึ / ระยะ ( Perspective )
ใหภ้ าพดสู มจรงิ คือ ภาพวัตถุใดอยู่ใกลจั ะใหญ่ ถ้าอยุ่ไกลออกไปจะมองเหน็ เลก็ ลงตามลำดับ จนสุดสายตา ซ่งึ
มมี ุมมองหลกั ๆ อยู่ 3 ลกั ษณะ คือ วัตถุอยู่สงู กว่าระดบั ตาวตั ถอุ ยใู่ นระดบั สายตา และวัตถอุ ยตู่ ต่ำกวา่ ระดบั
สายตา
8. ความขดั แย้ง ( contrast )
ความขัดแย้ง หมายถงึ ความไม่ลงรอยกนั เขา้ กันไมไ่ ด้ ไม่ประสานสมั พันธ์กัน ขององคป์ ระกอบศลื ป์ ทำให้ขาด
ความกลมกลนื ในเรอ่ื งรปู ทรง สี ขนาดลกั ษณะผวิ ท่แี ตกตา่ งกนั ดังนั้นนักออกแบบทด่ี ี จะต้องลดความขดั แยง้
ดงั กลา่ ว ให้เป็นความกลมกลืน จึงจะทำใหง้ านออกแบบมคี ณุ ค่า ลกั ษณะของความขดั แย้ง เช่น ความขดั แยง้
ของรูปร่าง ความขดั แย้งของขนาดตา่ งๆ เป็นตน้
9. การซำ้ ( Repetition ) คอื
การปรากฎตัวของหน่วยทเ่ี หมือนกันตั้งแต่ 2 หน่วยขึน้ ไปเปน็ การรวมตวั กันของสง่ิ ที่มอี ยฝู า่ ยเดยี วเขา้ ดว้ ยกัน
เชน่ การซ้ำของนำ้ หนกั ตำ การซ้ำของเส้นต้งั การซำ้ ของนำ้ หนักเทา การซ้ำของรปู ทรงทเ่ี หมอื นกนั เป็นต้น
การซำ้ สามารถใช้ประกอบโครงสร้างส่งิ ต่างๆ ให้มคี ุณคา่ มากย่งิ ขนึ้ เชน่ กราฟฟิคบนบรรจภุ ณั ฑ์
ลวดลายผ้า เปน็ ตน้ ส่งิ สำคญั ของการซำ้ คือ สว่ นประกอบของการซ้ำและหลกั การจดั องคป์ ระกอบของการซ้ำ
เพื่อใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ในการสร้างและตอ้ งเข้าใจในหลกั การประกอบส่วนย่อยน้ันเข้าดว้ ยกัน
ซ่งึ การซ้ำสามารถแบง่ ออกเปน็ ท้ังหมด 8 รปู แบบ
- การเรียงลำดับ ( Translation in step )
- การสลับซา้ ย – ขวา (Reflection about line )
- การหมนุ รอบจุด (Rotation about a point )
- การสลับซ้าย – ขวา และหมุนรอบจดุ (Reflection and rotation)
- การสลบั ซ้ายขวา และเรยี งลำดับ ( Reflection and translation )
- การหมนุ รอบจดุ และเรยี งลำดบั (Rotation and translation)
- การเรียงลำดบั สลบั จงั หวะ (Reflection and alternate translation )
- การผสมระหวา่ งเรียงลำดบั สลบั จงั หวะและหมุนรอบจุด ( Reflection, rotation and
translation )
108
ประเภทของการออกแบบ
1. การออกแบบทางสถาปัตยกรรม (Architecture Design)
เปน็ การออกแบบเพอ่ื การกอ่ สรา้ ง ส่ิงก่อสรา้ งต่าง ๆ นกั ออกแบบสาขาน้ี เรียกวา่ สถาปนกิ (Architect) ซงึ่
โดยทัว่ ไปจะตอ้ งทำงานร่วมกบั วศิ วกรและมัณฑนากร โดยสถาปนิก รบั ผิดชอบเกย่ี ว กบั ประโยชนใ์ ช้สอยและ
ความงามของสงิ่ กอ่ สร้าง งานทางสถาปยั ตกรรมไดแ้ ก่
- สถาปัตยกรรมทั่วไป เป็นการออกแบบสง่ิ กอ่ สร้างทัว่ ไป เชน่ อาคาร บ้านเรือน รา้ นคา้ โบสถ์ วหิ าร ฯลฯ
- สถาปัตยกรรมโครงสร้าง เปน็ การออกแบบเฉพาะโครงสรา้ งหลักของอาคาร
- สถาปัตยกรรมภายใน เปน็ การออกแบบท่ตี ่อเน่อื งจากงานโครงสรา้ ง ทเี่ ป็นสว่ นประกอบของอาคาร
- งานออกแบบภมู ทิ ัศน์ เป็นการออกแบบทมี่ ีบริเวณกว้างขวาง เปน็ การจัดบรเิ วณพื้นทีต่ ่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสม
กบั ประโยชน์ใช้สอยและความสวยงาม
- งานออกแบบผงั เมือง เป็นการออกแบบท่มี ีขนาดใหญ่ และมอี งค์ประกอบซบั ซอ้ น ซง่ึ ประกอบ ไปดว้ ยกลมุ่
อาคารจำนวนมาก ระบบภมู ทิ ัศน์ ระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ
2. การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ (Product Design)
เป็นการออกแบบเพ่ือการผลิต ผลติ ภัณฑ์ ชนิดตา่ ง ๆงานออกแบบสาขาน้ี มขี อบเขตกว้างขวางมากทสี่ ุด และ
แบ่งออกได้มากมาย หลาย ๆ ลกั ษณะ นกั ออกแบบรบั ผดิ ชอบเกีย่ วกบั ประโยชนใ์ ช้สอยและความสวยงามของ
ผลติ ภัณฑ์ งานออกแบบประเภทนีไ้ ด้แก่
- งานออกแบบเฟอรน์ เิ จอร์
- งานออกแบบครภุ ณั ฑ์
- งานออกแบบเครื่องสขุ ภณั ฑ์
- งานออกแบบเครอื่ งใชส้ อยตา่ งๆ
- งานออกแบบเครอ่ื งประดับ อัญมณี
- งานออกแบบเครื่องแตง่ กาย
- งานออกแบบภาชนะบรรจผุ ลติ ภัณฑ์
- งานออกแบบผลติ เครือ่ งมือต่าง ๆ ฯลฯ
3. การออกแบบทางวิศวกรรม (Engineering Design)
เปน็ การออกแบบเพอ่ื การผลิต ผลิตภัณฑช์ นดิ ต่าง ๆ เช่นเดยี วกบั การออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึง่ มคี วามเกย่ี วข้องกัน
ตอ้ งใช้ ความรู้ความสามารถและเทคโนโลยใี นการผลติ สูง ผอู้ อกแบบคอื วิศวกร ซึ่งจะรบั ผิดชอบ ในเร่ืองของ
ประโยชน์ใช้สอย ความปลอดภัยและ กรรมวธิ ีในการผลิต บางอย่างต้องทำงาน ร่วมกันกับนกั ออกแบบสาขาต่าง
ๆ ด้วย งานอกแบบประเภทนไ้ี ดแ้ ก่
- งานออกแบบเครอ่ื งใช้ไฟฟ้า
- งานออกแบบเครื่องยนต์
- งานออกแบบเครือ่ งจักรกล
- งานออกแบบเคร่ืองมอื ส่ือสาร
109
- งานออกแบบอปุ กรณ์อิเลกทรอนิกสต์ ่าง ๆ ฯลฯ
4. การออกแบบตกแตง่ (Decorative Design)
เปน็ การออกแบบเพื่อการตกแตง่ สงิ่ ตา่ ง ๆ ใหส้ วยงามและเหมาะสมกบั ประโยชนใ์ ช้สอยมากขน้ึ นักออกแบบ
เรยี นว่า มัณฑนากร (Decorator) ซง่ึ มกั ทำงานร่วมกับสถาปนิก งานออกแบบประเภทนีไ้ ดแ้ ก่
- งานตกแต่งภายใน (Interior Design)
- งานตกแต่งภายนอก (Exterior Design)
- งานจดั สวนและบริเวณ ( Landscape Design)
- งานตกแตง่ มุมแสดงสนิ ค้า (Display)
- การจัดนทิ รรศการ (Exhibition)
- การจดั บอร์ด
- การตกแตง่ บนผวิ หนา้ ของสงิ่ ต่าง ๆ เป็นต้น ฯลฯ
5. การออกแบบสิง่ พมิ พ์ (Printing Design)
เป็นการออกแบบเพอื่ ทางผลิตงานสิ่งพมิ พ์ ชนิดตา่ ง ๆ ได้แก่ หนงั สือ หนงั สอื พมิ พ์ โปสเตอร์ นามบตั ร บตั รตา่ ง
ๆ งานพิมพล์ วดลายผา้ งานพมิ พ์ภาพลงบนสิง่ ของเครอ่ื งใชต้ ่าง ๆ งานออกแบบรปู สญั ลกั ษณ์ เคร่ืองหมายการค้า
ฯลฯ
6. การออกแบบกราฟกิ (Graphic Design)
เปน็ การออกแบบงานดา้ นกราฟกิ อาจจะออกมาในลักษณะของ การผลติ สอื่ ท่ีใชแ้ นวคิด รปู แบบซึ่งมกี ารใช้
รปู ภาพ ตวั อกั ษร นำมาจัดองคป์ ระกอบใหน้ า่ สนใจ มีการใชส้ ี สวยงาม บางครั้งอาจสอดแทรกเทคนคิ โปรแกรม
คอมพวิ เตอร์ (effect) สามารถนำไปใชเ้ ปน็ สอื่ ในการนำเสนอ การออกแบบแผนภูมิ แผนภาพ สถติ ิ ภาพโฆษณา
การ์ตนู ลูกโลก-แผนท่ี การจัดป้ายนเิ ทศ การจัดนทิ รรศการ ส่อื มลั ติมีเดยี สอื่ กราฟิกในโทรทัศน์ สอ่ื สำหรบั
งานวิจยั ตามจดุ มงุ่ หมายของช้ินงานในแตล่ ะครง้ั
การออกแบบสลี วดลาย อกั ษร และขอ้ ความ
1. ตวั อกั ษรและขอ้ ความ
ตวั อักษรนนั้ มีมาตง้ั แต่โบราณ เริม่ ตัง้ แตก่ ารคดิ คน้ ตัวอกั ษรของชาวอียิปตโ์ บราณที่มชี อื่ ว่า
“ตัวอักษรเฮียโรกลฟิ ฟกิ (Hieroglyphs)” ลกั ษณะเดน่ คอื การใช้ภาพและสญั ลักษณ์แทนความหมาย
ต่างๆ อย่างไรกต็ ามอักษรภาพมีการใช้งานไมส่ ะดวกในการส่ือสารนกั ต่อมาจงึ ถกู ลดความสำคญั และ
หายไปในทสี่ ุด คงเหลือไวแ้ ตภ่ าษาจีนท่จี ดั ว่าเป็นอักษรภาพท่ียังมีใช้อยู่ในปจั จบุ ัน
ตวั อกั ษรในยคุ ถดั มาคอื ประกอบดว้ ยพยัญชนะ สระ และวรรณยุกตม์ ีใชใ้ นบางภาษาเท่าน้ัน
เช่น ตวั อกั ษรไทย ตวั อักษรจนี มาประกอบเป็นคำ ซง่ึ เหมาะกบั การสอ่ื สาร จดจำง่าย โดยในปัจจุบัน
ทไ่ี ด้รบั ความนิยมทส่ี ุดคือ ตวั อักษรองั กฤษ ทพี่ ฒั นามาจากตวั อกั ษรละตนิ นน่ั เอง
1.1 บทบาทของตัวอกั ษร
ตวั อกั ษรมีบทบาทอย่างมากตอ่ งานออกแบบสอื่ สารซ่งึ มวี ิวฒั นาการมาอยา่ งยาวนาน ใน
ปจั จบุ ันมกี ารเตบิ โตอยา่ งก้าวกระโดดของการพฒั นาประสทิ ธิภาพของคอมพวิ เตอร์ โปรแกรมสำหรบั
110
งานออกแบบทสี่ ูงข้ึน การพฒั นาของระบบอนิ เตอรเ์ น็ต การสร้างสรรคผ์ ลงานของนักออกแบบมี
ไอเดยี ที่หลากหลายมากข้นึ
ตวั อักษรมีความสำคัญตอ่ งานกราฟกิ อย่างย่ิง ทำหนา้ ทห่ี ลกั ในการสอ่ื สารขอ้ มลู
การออกแบบตัวอกั ษรเพอื่ การสื่อความหมายมคี วามซบั ซ้อนเน่ืองจากตวั อกั ษรต้องทำหน้าท่ี 2 ส่วน
คือการสอ่ื ข้อความในรปู ของคำและการสอื่ ความหมายดว้ ยตวั อักษร ต้องคำนึงถึงความถูกตอ้ งของ
ภาษา พร้อมทัง้ เสยี ง ตวั สะกด และการจัดเรยี บเรยี งลำดับของขอ้ มลู ดว้ ย เราสามารถเห็นตัวอกั ษร
แสดงอยใู่ นเกอื บทกุ ๆ สงิ่ ไดแ้ ก่ หนงั สือ นิตยสาร ส่ือสง่ิ พมิ พ์ บรรจภุ ณั ฑ์ เว็บไซต์ และอื่นๆ อีก
มากมาย หรอื สามารถพฒั นามาเปน็ สว่ นหน่งึ ของการสร้างแบรนด์ (Brand) เสรมิ อัตลกั ษณใ์ หก้ ับตัว
สนิ คา้ หรอื บริการ สนบั สนุนให้งานออกมาดูดมี ากยิง่ ข้ึน เพม่ิ มูลค่า ภาพลักษณ์ และเสรมิ พลังใหก้ ับ
สารทตี่ อ้ งการจะสื่อออกไป
1.2 ประเภทของตวั อักษร
1.2.1 การแบ่งประเภทของตัวอักษรภาษาอังกฤษ (ตัวโรมัน)
การแบ่งหรอื จัดจำแนกประเภทตัวอักษร มีการจดั กลุ่มตามรปู รา่ งทางกายภาพท่ี
มองเห็นของตวั อกั ษร โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุม่ และ 1 สญั ลกั ษณ์พิเศษ ดงั นี้
1) อักษรแบบมฐี าน (Serif Typefaces) เปน็ ตวั อกั ษาทม่ี สี ว่ นเปน็ ฐานหรอื
เปน็ ติง่ บางครั้งเรียกวา่ ตัวมีเชงิ สว่ นใหญ่มกั มีความหนาบางของเสน้ ตัวอักษรไมเ่ ท่ากนั ตลอดทง้ั ตวั
อักษร เชื่อว่าเป็นตวั พมิ พ์ท่ีอ่านง่ายกว่าตัวอกั ษรแบบไม่มฐี าน
สีลวดลายและเส้น
การออกแบบกราฟิกน้นั มอี งคป์ ระกอบสำคัญท่ีกระตุ้นตอ่ ความรู้สกึ ตา่ งๆของกลมุ่ เปา้ หมาย
นั่นคือสสี สี ไี ม่เพียงแตช่ ว่ ยโน้มนา้ วใจ สยี ังสามารถสอื่ สาร และสามารถเปลยี่ นแปลงอารมณไ์ ดอ้ ีก
การเลือกใชส้ ีในผลงานจงึ ควรเขา้ ใจถงึ หลกั การทางจติ วิทยาการใชส้ ี
จิตวทิ ยาแหง่ สี (Psychology of Colors)
การใชส้ ใี หส้ อดคลอ้ งกบั หลกั จติ วทิ ย จะต้องเข้าใจว่าสใี ดใหค้ วามรู้สกึ ต่อมนุษยอ์ ย่างไร จงึ จะ
ใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม ความรสู้ กึ เกีย่ วกบั สสี ามารถจำแนกออกไดด้ งั นี้
- สีแดง ใหค้ วามรสู้ ึกอันตราย เร่ารอ้ น รนุ แรง มน่ั คง อดุ มสมบูรณ์
- สีสม้ ให้ความรสู้ กึ สว่าง เรา่ ร้อน ฉูดฉาด
- สเี หลือง ให้ความรสู้ ึกสวา่ ง สดใส สดชื่น ระวัง
- สเี ขียว ใหค้ วามร้สู กึ งอกงาม พกั ผอ่ น สดช่นื
- สนี ้ำเงนิ ให้ความร้สู ึกสงบ ผ่อนคลาย สงา่ งาม ทึม
- สมี ่วง ใหค้ วามรูส้ ึกหนกั สงบ มีเลศนัย
- สีนำ้ ตาล ให้ความรู้สกึ เกา่ หนัก สงบเงียบ
- สีขาว ให้ความรู้สกึ บรสิ ุทธสิ์ ะอาด ใหมส่ ดใส
- สดี ำ ใหค้ วามรู้สึกหนกั หดหู่ เศรา้ ใจ ทบึ ตนั
111
(โสรชัย นันทวัชรวิบลู ย์, 2545, น. 85-86)
การเลือกใชส้ อี ย่างเหมาะสมจะชว่ ยสง่ เสรมิ งานออกแบบกราฟิกให้สามารถสอ่ื สารได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ในโปรแกรมอิลสั เตเตอรน์ ้นั มีวิธีการลงสหี ลายหลายรปู แบบมวี ิธีการแตกตา่ งกนั ไป และ
แสดงผลของสจี ากรปู แบบเรียบงา่ ยไปจนถึงรูปแบบทซ่ี บั ซ้อนไดอ้ ีกดว้ ย
การลงสใี นโปรแกรมสามารถใช้ได้ท้งั ภาพวาด ตวั อักษร และมวี ิธกี ารลงสที หี่ ลากหลาย ไดแ้ ก่
การลงสพี ืน้ แบบสองมติ กิ ารลงสีแบบไลโ่ ทนสกี ารลงสแี บบลวดลาย (Pattern) เปน็ ตน้ สำหรับโหมด
สีทีเ่ ลือกใชจ้ ะตอ้ งคำนงึ ถงึ วตั ถุประสงค์ในการใช้งาน ตัวอย่างเช่น เลือกใชโ้ หมดสี RGB ซึ่งเหมาะกบั
ผลงานทต่ี ้องการแสดงผลทางหนา้ จอโทรทศั น์ โทรศัพท์ หนา้ จอคอมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น หรอื เลือกใช้
โหมดสี CMYK ซง่ึ เหมาะสำหรับผลงานจำพวกงานพิมพห์ นังสอื โปสเตอรแ์ ผ่นพับ เป็นต้น เนอ่ื งจาก
โหมดสี CMYK เปน็ โหมดสที ่ีใชต้ รงกนั ในโรงพิมพใ์ นปจั จบุ นั
2.1 การใช้สีจากคัลเลอร์พิกเกอร์ (Color Picker)
คลั เลอรพ์ กิ เกอร์ (Color Picker) เปน็ หน้าตา่ งสำหรบั เลอื กสสี ามารถกำหนดโหมดสโี ทนสี
น้ำหนกั ของสไี ดก้ ารเรยี กใช้งานสามารถทำได้โดย
- ใช้เครือ่ งมอื ลูกศรสีดำ (Selection Tool) คลกิ เลือกวตั ถทุ ี่จะลงสี
- ดบั เบิลคลิกเครอื่ งมอื Fill ใน Toolbox จะปรากฏหน้าตา่ ง Color Picker
- คลกิ เลอื กสีหรอื ผสมสจี ากนนั้ คลกิ OK
การออกแบบตราสญั ลักษณ์และบรรจุภณั ฑ์
การออกแบบตราสญั ลกั ษณ์ (LOGO)
โลโก้ คือช่อื สญั ลักษณห์ รอื เคร่อื งหมายการคา้ ของบรษิ ทั หรือองค์กร อาจมลี กั ษณะเป็นตวั อักษรทีม่ รี ปู แบบ
โดดเดน่ หรอื เป็นภาพทีม่ ชี ่อื บรษิ ัทอยูด่ ว้ ย เป็นสัญลักษณห์ รือมเิ ช่นน้นั กป็ ระกอบขึ้นด้วยทุกองคป์ ระกอบท่ี
กลา่ วมารวมกนั แตไ่ ม่วา่ จะมรี ปู แบบเป็นอย่างไร วัตถุประสงคข์ องโลโก้กค็ ือ การบง่ บอกถงึ ภาพลกั ษณ์ของ
บรษิ ทั หรือองค์กรนน้ั ๆ การออกแบบโลโกก้ เ็ ปน็ สว่ นหน่งึ ทม่ี คี วามสำคัญตอ่ การสร้าง
แบรนด์ (สนิ คา้ ) เคล็ดลบั น้นั มีอยูด่ ้วยกนั 10 ขอ้ คอื
1. เนน้ ความเรยี บง่ายเปน็ หัวใจหลกั ขอใหร้ ะลกึ ไว้ว่า โลโก้เป็นบันไดเพยี งขั้นหน่งึ ทา่ นไม่อาจใหค้ ำอธบิ าย
แผนงานธรุ กจิ ของทา่ นทั้งหมดบนบันไดเพียงข้นั เดยี ว
2. ดึงดูดใจผู้พบเห็น และควรมีทว่ี า่ งใหผ้ ู้พบเห็นค้นหาความหมายท่ีตอ้ งการสอื่ ออกมา ทางโลโก้น้ันดว้ ยตนเอง
บา้ ง ท้งั น้ตี ้องดูไม่ยากเกินไปดว้ ย
3. มองไปขา้ งหนา้ คิดถงึ ความยัง่ ยนื ของโลโก้
4. ใช้ภาพแบบเวคเตอร์ นนั่ คือลายเสน้ ทส่ี ะอาดตาชัดเจน ไมใ่ ชส้ ีมาก เนื่องจากภาพแบบเวคเตอรน์ น้ั จะให้
ทัง้ ความตัดกนั ( contrast ) และความสมดลุ ( balance) ในตัว
5. มคี วามยืดหยนุ่ พรอ้ มรบั การเปล่ยี นแปลง
6. จดจำไดง้ า่ ย
112
7. สอดคลอ้ งกับผลติ ภณั ฑ์ โลโกจ้ ะตอ้ งออกมาทำใหล้ ูกค้าสามารถจินตนาการถงึ ผลิตภัณฑห์ รอื บริการของทา่ น
ไดง้ า่ ยด้วย
8. เลือกสีอยา่ งสร้างสรรค์ เลอื กสโี ลโกใ้ หเ้ หมาะกบั กลุ่มเป้าหมายของท่านอย่างไรก็ตาม ทา่ นอาจใชส้ โี ลโกต้ า่ งๆ
กนั ไปไดบ้ นวสั ดตุ ่างๆ เชน่ นามบตั ร หรือกระดาษซองจดหมาย ข้ึนอยู่กับเซ็กเมนตข์ องลูกค้าของท่าน
9. มเี อกลกั ษณ์เฉพาะตน ท่านควรทำวิจัยวงการธรุ กจิ และกล่มุ เปา้ หมายของท่านก่อนทจ่ี ะออกแบบโลโก้
เพอ่ื ใหท้ ราบถึงลกั ษณะของธรุ กจิ เพ่ือให้โลโกข้ องทา่ นไม่ไปคล้ายคลึงกบั ของผู้อ่นื
10. ใชไ้ ด้ในทุกลกั ษณะ โลโก้ทดี่ คี วรใช้ได้ในทุกรูปแบบไมว่ า่ จะเป็นบนป้ายหัวกระดาษเขียนจดหมาย นามบตั ร
ตวั สินคา้ หรือเวบ็ ไซต์ บางคร้งั โลโกส้ ามารถใช้ได้ดีบนเว็บไซต์หรอื บลิ บอรด์ แต่ไม่เหมาะท่ีจะนำมาใช้บนปากกา
หรอื ถ้วยกาแฟ เพราะฉะน้ันท่านควรคำนงึ ถงึ จุดนดี้ ว้ ย เนอื่ งจากในการสร้างความจดจำในแบรนด์นั้น ทา่ น
จะตอ้ งเผยแพร่ ท่านจะตอ้ งเผยแพรโ่ ลโก้และภาพลกั ษณ์ของท่านใหส้ มำ่ เสมอทสี่ ุดเท่าทจ่ี ะทำได้
บรรจภุ ัณฑ์ (packaging)
ความหมายของบรรจภุ ณั ฑ์
คำนิยามเกย่ี วกบั บรรจภุ ณั ฑ์ “บรรจภุ ณั ฑเ์ ป็นทงั้ ศาสตร์และศลิ ป์ ท่ีใช้ในการบรรจสุ ินค้าในการจดั
จำหน่ายเพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของผู้ซื้อ หรือผูบ้ รโิ ภค ดว้ ยตน้ ทุนทเี่ หมาะสม จะเห็นได้วา่ บรรจภุ ณั ฑม์ ี
บทบาทอย่างมากในสภาพสังคมปจั จุบนั นอกจากน้ีรปู แบบบรรจุภัณฑ์ ยังมคี วามสมั พนั ธก์ ับศลิ ปวฒั นธรรมของ
ชาตอิ กี ด้วย” องค์ประกอบสำคญั ของบรรจภุ ัณฑ์ ที่ทำให้ผบู้ รโิ ภคเกิดการรบั รู้ และเกิดความพงึ พอใจในสนิ คา้ มี
ดงั น้ี
ภาชนะบรรจุ (Pack)อาจเป็นวสั ดุชนิดต่าง ๆ เช่น หลอดแกว้ กลอ่ ง ขวด ถุง กระป๋อง หรืออาจทำด้วยพลาสตกิ
กระดาษ เหลก็ ไม้ เป็นตน้
ฉลาก (Label) คือสง่ิ ท่แี ปะตดิ ท่ขี วด กลอ่ ง หรอื พมิ พล์ งภาชนะบรรจุ
ยหี่ อ้ (Brand name) คือช่ือเรียกสนิ ค้าทว่ั ไป
เครอ่ื งหมายการคา้ ทใ่ี ชโ้ ฆษณา(Logo) จะออกแบบใหม้ ลี ักษณะเดน่ เพอ่ื ใหเ้ กิดการจดจำ
ใบบอกวิธีใช้สนิ ค้า (Literature) เปน็ สว่ นทใ่ี หร้ ายละเอียด แจ้งสรรพคุณ วิธใี ช้ บางคร้งั อาจเป็นคู่มอื สินคา้
หนา้ ท่ขี องบรรจุภณั ฑ์
บรรจุภณั ฑ์มคี วามสำคญั สำคญั สำหรบั สนิ คา้ และการตลาดอย่างมาก จะขาดสิง่ หน่งึ สิง่ ใดไมไ่ ด้
ความสำคญั หน้าท่ีของบรรจุภณั ฑ์ มดี ังตอ่ ไปนี้
1. การบรรจแุ ละการคมุ้ ครองปอ้ งกนั (Containment) บรรจภุ ณั ฑ์ จะตอ้ งออกแบบให้สามารถคุ้มครอง
ป้องกันสนิ ค้า จากความเสียเนอื่ งจากการขนสง่ ปอ้ งกนั สินคา้ ไม่ให้เน่าเสีย ไมท่ ำใหเ้ สอ่ื มสลายไว และสามารถ
เก็บรักษาไดง้ า่ ย
2. การบง่ ชผี้ ลติ ภัณฑ์ (Identification) บรรจุภัณฑจ์ ะตอ้ งแสดงใหเ้ ห็นตวั สินค้าต่อผบู้ รโิ ภคทนั ที โดยการใชช้ อื่
สนิ คา้ เคร่ืองหมายการค้า ชื่อผู้ผลิต ลกั ษณะประเภทของสนิ ค้า
3. การอำนวยความสะดวก (Convenience) ในกระบวนการผลติ และการตลาด บรรจุภณั ฑ์ ตอ้ ง
เอือ้ อำนวยความสะดวกตอ่ การขนสง่ ลการเก็บรักษาในคลังสินค้า บรรจภุ ัณฑ์ จะต้องมคี วามแข็งแรง ทนทาน
113
สามารถวางซอ้ นทบั เพื่อประหยดั พืน้ ที่ บรรจภุ ณั ฑ์ จะตอ้ งมขี นาด รูปทีล่ งตัว เพอ่ื ใหง้ ่ายและสะดวกต่อการวาง
ซอ้ นในชั้นวาง
4. การดงึ ดูดความสนใจผ้บู ริโภค (Consumer appeal) สง่ิ ที่เห็นในบรรจุภณั ฑท์ งั้ หมด เชน่ ขนาด รูปรา่ ง สี
วสั ดขุ อ้ ความ ตวั อักษร จะเป็นส่งิ นำมาซึง่ ความสนใจของผบู้ รโิ ภคซ่งึ ผอู้ อกแบบจะตอ้ งออกแบบ ให้เกดิ
ประสทิ ธภิ าพทางการสอ่ื สาร และเกดิ ผลทางจิตวทิ ยาต่อผบู้ ริโภค
5. เศรษฐกจิ (Economic) บรรจุภณั ฑม์ ีบทบาทสำคญั ในการกำหนดราคาขายของสินคา้ เพราะถือว่า
บรรจภุ ัณฑ์ เปน็ ต้นทุนการผลิตด้วยเช่นกนั
แนวคิดกับนักออกแบบงานของท่ีระลกึ
แนวคิดนกั ออกแบบงานของทรี่ ะลึกแบบบรรจุภณั ฑ์เพอ่ื ลดตน้ ทุนการผลิต
บรรจภุ ณั ฑเ์ ป็นต้นทุนทางตรงทส่ี ำคญั ตัวหนึ่งในการผลิตสนิ ค้ารองลงมาจากตวั วัตถดุ บิ ถ้าสามารถลดค่าใชจ้ า่ ย
บรรจุภณั ฑ์ใหต้ ำ่ ลงได้ กจ็ ะทำให้ต้นทนุ สนิ คา้ ตอ่ หนว่ ยต่ำลงดว้ ย หนึ่งในวิธีการท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพสงู สุดในการ
บรรลผุ ลกำไรทมี่ ากกวา่ คอื การลดตน้ ทุนของวัสดุบรรจุภณั ฑ์ แนวคิดในการลดต้นทนุ ของบรรจุภณั ฑเ์ พอ่ื เพมิ่ ผล
กำไร ได้แก่
– การลดระดบั คณุ สมบัติทางกายภาพของวสั ดบุ รรจภุ ัณฑ์ใหต้ ำ่ ลง เชน่ ลดความหนา ลดน้ำหนกั โดยจะต้อง
พิจารณาวา่ เมอื่ ลดแลว้ ยงั มคี วามเหมาะสมหรือไม่ และการประหยัดทเี่ กดิ ข้ึนจะค้มุ หรอื ไม่
– พจิ ารณาทางเลอื กอ่ืนของวสั ดบุ รรจุภัณฑ์ ควรเลือกวสั ดทุ ำบรรจุภณั ฑ์ชนิดใหม่ทร่ี าคาถกู กว่าแทนวัสดเุ ดิม เช่น
บรรจภุ ณั ฑพ์ ลาสตกิ ควรแทนท่ีบรรจุภณั ฑ์แก้ว เป็นตน้
– ใช้ประโยชน์จากวสั ดบุ รรจุภณั ฑ์ให้ไดผ้ ลคุม้ คา่ กว่าเดิม เปน็ การนำวัสดุบรรจภุ ัณฑม์ าใช้ใหค้ ุ้มค่าข้นึ จะ
ประหยดั ต้นทนุ ไดม้ ากข้นึ เชน่ การเปลี่ยนแปลง dimension เพียงเล็กนอ้ ยของกลอ่ งกระดาษ อาจจะทำให้การ
จัดวางภาพ คล่บี นกระดาษมาตรฐาน 1 แผ่น ได้จำนวนกล่องมากข้ึนโดยเสยี เศษนอ้ ยที่สุด ทำใหโ้ รงพมิ พส์ ามารถ
พมิ พก์ ลอ่ งไดจ้ ำนวนมากข้ึน
– พิจารณาทางเลอื กอ่ืนของรูปแบบบรรจุภณั ฑ์ เช่น การนำบรรจุภัณฑ์ของสินค้าเดมิ ในทอ้ งตลาดมาดัดแปลงให้
อย่ใู นรูปแบบบรรจภุ ัณฑ์ใหมท่ สี่ ามารถประหยัดคา่ ใช้จา่ ยและเพ่มิ ผลกำไรได้
– การลดส่วนประกอบของบรรจุภัณฑใ์ ห้นอ้ ยลง เชน่ กรณีของฝาปดิ แบบติดกนั เปน็ ชน้ิ เดียว ซ่ึงมตี ้นทุนการผลิต
ค่อนขา้ งสงู อาจแทนทไี่ ด้ด้วยการใชฝ้ าพลาสตกิ แยกช้นิ กนั ไดส้ ำหรบั ขวดพลาสตกิ
– การเปลีย่ นรปู ทรงจากทรงกลมมาเป็นทรงสเี่ หล่ยี ม เนอื่ งจากทรงกลมหรอื ทรงกระบอกมปี รมิ าตรนอ้ ยกว่าทรง
เหลย่ี ม (จตั รุ สั ) ประมาณ 25-27 % และทรงเหล่ยี มยังง่ายตอ่ การบรรจลุ งในกล่องขนส่งและสะดวกในการขนส่ง
และประหยดั เนื้อทใี่ นการจัดวางแสดงสินค้าดว้ ย
– การเพม่ิ ปรมิ าณบรรจุตอ่ กลอ่ งให้มากขึน้ เชน่ เคยบรรจุสนิ คา้ กล่องหนงึ่ จำนวน12 ชนิ้ เพ่ิมปริมาณบรรจเุ ป็น
กลอ่ งละ 18 ช้นิ หรอื 24 ช้นิ จะทำให้ขายสินคา้ ไดเ้ พมิ่ ขึ้น และประหยัดค่าขนส่ง
– การลดจำนวนขนาดใหน้ ้อยลง หากสนิ คา้ มขี นาดทหี่ ลากหลายจะสน้ิ เปลืองค่าใชจ้ ่ายในการบรรจมุ าก การลด
จำนวนขนาดใหเ้ หลอื น้อยที่สดุ ย่อมจะลดค่าใชจ้ า่ ยดีกวา่ การมีหลาย ๆ ขนาด และขนาดที่ควรตดั ออกไปนา่ จะ
เปน็ ขนาดท่ีเล็กท่ีสุด
114
– การลดขนาดพ้นื ทดี่ า้ นกวา้ งของบรรจภุ ัณฑ์ พบว่าบรรจภุ ณั ฑท์ ี่มีดา้ นกว้างน้อยทส่ี ุดจะมตี น้ ทนุ ถกู ท่ีสุดเพราะใช้
เนือ้ ที่กระดาษน้อยกวา่ ถา้ ดา้ นกวา้ งเพิม่ มากข้นึ ก็จะสน้ิ เปลอื งกระดาษมาก นอกจากนี้ยังมคี วามสะดวกในการ
บรรจุ และบรรจุภัณฑม์ คี วามม่ันคงแขง็ แรง
– การลดจำนวนสีทีพ่ มิ พ์และเลอื กใช้คู่สที เ่ี หมาะสม การออกแบบกราฟิกมสี ่วนชว่ ยในการจำหนา่ ยสนิ ค้าและ
เสริมสรา้ งความแขง็ แกรง่ ของตราสินคา้ ในบางกรณอี าจสำคญั กว่าทางเลอื กอ่นื ๆ ทีม่ ีคา่ ใช้จ่ายสงู แต่ไดผ้ ลน้อย
กวา่ การออกแบบกราฟิกงา่ ย ๆ ใชส้ เี พยี ง 1-2 สี อาจใหผ้ ลลพั ธท์ ดี่ ี และประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยกว่าการใชส้ ีในการ
พมิ พ์ท่มี ากเกนิ ไป เช่น 4-5 สี ซง่ึ เปน็ การสิน้ เปลืองโดยเปลา่ ประโยชน์ เนือ่ งจากผบู้ รโิ ภคมักคำนงึ ถึงคุณภาพ
สนิ คา้ เปน็ หลกั มากกวา่ จำนวนสที ีพ่ มิ พล์ งบนบรรจุภัณฑ์ นกั ออกแบบทด่ี จี งึ มกั ใชส้ ีจำนวนนอ้ ย แตอ่ าจใช้เทคนิค
การพมิ พห์ รอื เทคนิคสกรีน รวมทง้ั การเลอื กใชค้ ่สู ที เี่ หมาะสมเข้าชว่ ย
แบบฝกึ หัด/เฉลย
ตอนที่ 1 จงเลอื กคาํ ตอบทีถ่ ูกต้องทีส่ ุดเพยี งข้อเดยี ว
คำส่งั จงทำเครอ่ื งหมายกากบาท () หนา้ ข้อที่ถูกต้องมากทสี่ ุดเพียงข้อเดียว
1. การจัดองค์ประกอบที่ดีนน้ั ควรใหส้ ่วนประกอบเป็นอยา่ งไร
ก. รวมตัวเปน็ อันหนง่ึ อนั เดียวกันไมแ่ ตกกระจาย
ข. รวมตัวเปน็ อนั หนงึ่ อันเดียวกัน
ค. ไมค่ วรรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดยี วกนั
ง. แยกกระจายให้ทว่ั เพอ่ื ใหน้ า่ สนใจ
2. งานท่ีออกแบบเป็นทางการเช่นงานทางราชการ สว่ นใหญ่จัดสมดุลอยา่ ไร
ก. สมดลุ แบบทง้ั 2 ข้างเหมอื นกนั
ข. สมดุลแบบ 2 ข้างไมเ่ หมือนกัน
ค. สมดลุ แบบ 2 ข้างเท่ากัน
ง. สมดุลแบบ 2 ขา้ งไมเ่ ท่ากัน
3. หลักการออกแบบใดท่ีใช้การออกแบบโดยมีสว่ นของประธานในภาพและจดุ รองประธานในภาพ
ก. การเน้นใหเ้ กดิ จดุ เดน่ ข. ความสมดุล ค. ความกลมกลืน ง. จังหวะ
4. หลกั การออกแบบใดทก่ี ารจัดองคป์ ระกอบจะใกลเ้ คยี งหรอื คล้ายๆกัน
ก. การเนน้ ใหเ้ กิดจุดเดน่ ข. ความกลมกลนื
ค. ความสมดลุ ง. จงั หวะ
5. จงั หวะความรสู้ ึกเป็นระบบ สมำ่ เสมอ ความแน่นอน
ก. จงั หวะแบบเหมอื นกันซ้ำๆกัน ข. จงั หวะสลบั ไปแบบคงท่ี
ค. จงั หวะสลบั ไปแบบไมค่ งที่ ง. จังหวะจากเลก็ ไปใหญห่ รอื ใหญไ่ ปเลก็
115
6. ข้อใดทไ่ี มใ่ ชค่ วามลึกมีมุมมองหลักๆ 3 ลกั ษณะ
ก. วัตถอุ ยูส่ ูงกว่าระดบั สายตา
ข. วัตถุอยู่ในระดบั สายตา
ค. วัตถไุ ม่อยใู่ นระดับสายตา
ง. วตั ถุอยู่ตำ่ กว่าระดบั สายตา
7. ขอ้ ใดคือความหมายของตวั อักษร
ก. เน้อื ความ ข. ประโยค ค. เรียงความ ง. ตัวหนงั สือ
8. ขอ้ ใดท่ีไม่ใช่การเลอื กใช้สตี ามทฤษฎีสี
ก.สีทม่ี เี ฉดทแ่ี ตกตา่ งกนั ข. สคี ตู่ รงข้ามกนั ค. สที ่เี รยี งเปน็ โทนเดียวกัน ง. สที มี่ ีเฉดสใี กลเ้ คยี งกนั
9. การซ้ำแบง่ ออกกร่ี ูปแบบ
ก. 4 รปู แบบ ข. 5 รปู แบบ ค. 8 รปู แบบ ง.9 รูปแบบ
10. หลักการออกแบบใดถอื วา่ เปน็ รากฐานของการจัดการองค์ประกอบ
ก. เอกภพ ข. เสน้ แยง้ ค. ความสมดลุ ย์ ง. การซ้ำ
เอกสารอา้ งอิง
-
ภาคผนวก (ถา้ ม)ี
116
ใบงานท่ี 5 หนว่ ยที่ 5
รหสั วิชา 30204-2102 ชือ่ วิชา ส่อื สรา้ งสรรคธ์ รุ กิจดจิ ิทลั ภาคเรยี นท่ี 2
ช่อื หนว่ ย การออกแบบกบั งานธรุ กจิ เวลารวม 16 ช่วั โมง
ช่ืองาน การออกแบบกบั งานธุรกจิ จำนวน 4 ชว่ั โมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. มคี วามร้คู วามเข้าใจการออกแบบกบั งานธรุ กิจ
2. เข้าใจหลักการและกระบวนการออกแบบกบั งานธุรกจิ
3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. ผู้เรียนอธบิ ายความหมายการออกแบบกบั งานธุรกิจได้
2. ผเู้ รียนอธบิ ายความสำคัญของการออกแบบกับงานธรุ กจิ ได้
3. ผู้เรยี นอธบิ ายหลักการออกแบบได้
4. ผ้เู รียนอธบิ ายประเภทการออกแบบได้
5. ผู้เรียนสามารถออกแบบข้อความ ตวั อักษร และสี ได้
6. ผูเ้ รยี นสามารถออกแบบตราสัญลกั ษณ์ได้
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของการออกแบบกบั งานธรุ กจิ
2. หลกั การออกแบบ
3. ประเภทของการออกแบบ
4. การออกแบบข้อความ อกั ษร สี
5. การออกแบบตราสญั ลักษณ์
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การออกแบบกับงานธุรกจิ
เคร่อื งมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจ็คเตอร์
3. หนังสือ
ลำดบั ขั้นตอนการปฏิบัตงิ าน
1. ให้นกั ศึกษาแบง่ กลมุ่ ตามความเหมาะสม เพอ่ื ศกึ ษาและอภิปราย
1.1 อธิบายความรูเ้ กย่ี วกับความเข้าใจการออกแบบกบั งานธรุ กจิ
1.2 เขียนรปู พรอ้ มอธิบายความเขา้ ใจการออกแบบกบั งานธรุ กจิ
2. เขยี นอภิปรายและวเิ คราะห์ใสก่ ระดาษ
117
3. นำผลงานส่งครูผสู้ อนเพ่ือประเมนิ ผล
ภาพประกอบ-
ขอ้ ควรระวงั
ผเู้ รยี นควรตรวจสอบข้อมลู กอ่ นให้ถ่ีถว้ น ละเอียด และรอบคอบก่อน เพือ่ ป้องกนั ความผิดพลาดก่อน
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ (ถา้ มี)
นักศึกษาควรมภี าพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเนอ้ื หาให้สอดคล้องกบั ภาพใหถ้ ูกตอ้ ง
การประเมนิ ผล (ตอ้ งระบเุ กณฑก์ ารประเมินใหช้ ดั เจน)
1. สังเกตผเู้ รียนมีความสนใจ เกิดความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้น
ในการแสดงความคดิ เหน็ และสรปุ สาระการเรยี นรูป้ ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ทันเวลาท่กี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหดั หลงั เรยี นได้ถกู ตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เปน็ อยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งองิ
-
118
ใบกจิ กรรมท่ี 5 หน่วยที่ 5
รหัสวชิ า 30204-2102 ช่อื วชิ า ส่ือสร้างสรรคธ์ ุรกิจดจิ ิทลั ภาคเรยี นที่ 2
ชือ่ หนว่ ย การออกแบบกบั งานธรุ กิจ เวลารวม 16 ชั่วโมง
ชื่องาน การออกแบบกบั งานธรุ กจิ จำนวน 4 ชั่วโมง
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจการออกแบบกับงานธรุ กิจ
2. เข้าใจหลักการและกระบวนการออกแบบกบั งานธุรกจิ
3. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สำเรจ็ การศกึ ษา
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพ)
1. ผูเ้ รยี นอธบิ ายความหมายการออกแบบกบั งานธรุ กิจได้
2. ผู้เรยี นอธบิ ายความสำคัญของการออกแบบกับงานธรุ กจิ ได้
3. ผ้เู รยี นอธบิ ายหลกั การออกแบบได้
4. ผู้เรยี นอธบิ ายประเภทการออกแบบได้
5. ผเู้ รียนสามารถออกแบบขอ้ ความ ตวั อักษร และสี ได้
6. ผ้เู รียนสามารถออกแบบตราสญั ลักษณไ์ ด้
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของการออกแบบกบั งานธรุ กจิ
2. หลกั การออกแบบ
3. ประเภทของการออกแบบ
4. การออกแบบข้อความ อักษร สี
5. การออกแบบตราสญั ลักษณ์
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การออกแบบกบั งานธรุ กจิ
เคร่อื งมอื วัสดุ – อปุ กรณ์
1. เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนงั สอื
ลำดับกิจกรรม
1. ผูเ้ รยี นตอ้ งให้ความสนใจในการศกึ ษา เพ่ือหาเทคนิค วธิ ีการ หรอื หลักการง่ายเพ่ือให้หาคำตอบ
ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว โดยการ ตั้งใจฟังหลักการ เทคนิควธิ ีการทีค่ รูผู้สอนสรปุ ในขณะทีท่ ำการ
สอน และนำขอ้ สงสยั ซักถามครูในการเรยี นทุกคร้ังที่เกิดความสบั สน และไมเ่ ข้าใจ
2. ผู้มีการทบทวนบทเรียน ตลอดเพื่อเสริมสรา้ งความเข้าใจอยา่ งแท้จริง
119
3. ผู้เรยี นหมั่นทำใบงาน แบบฝึกหดั และแกไ้ ขขอ้ ท่ีผดิ ใหถ้ ูกต้องเสมอ
4. ผู้เรียนต้องสร้างมโนภาพให้เกิดความคิดรวบยอดในสาระการเรียนรู้และเทคนิควิธีการพร้อมกบั
ความจำเป็นในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดข้ึนโดยตนเองให้ได้เพื่อเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จรงิ
ไม่ใชเ่ กิดจากการทอ่ งจำ
5. ผู้เรียนต้องดำเนินการตามกิจกรรมหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาท่ี
กำหนด และฝึกฝนตนเองเสมอ เมื่อไดร้ ับมอบหมายงานมา
การประเมนิ ผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมนิ ใหช้ ดั เจน)
1. สังเกตผู้เรยี นมีความสนใจ เกิดความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรือร้นใน
การแสดงความคิดเหน็ และสรปุ สาระการเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย
2. ทำใบงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ทนั เวลาทก่ี ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผเู้ รียนทำแบบฝึกหัดหลงั เรยี นได้ถูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อย่างตำ่
เอกสารอ้างองิ
-
120
ใบปฏิบัตงิ านที่ 5 หนว่ ยที่ 5
รหสั วิชา 30204-2102 ชอ่ื วชิ า ส่อื สรา้ งสรรค์ธุรกิจดจิ ิทลั ภาคเรยี นที่ 2
ชื่อหนว่ ย การออกแบบกบั งานธรุ กิจ เวลารวม 16 ชัว่ โมง
ชือ่ งาน การออกแบบกบั งานธุรกจิ จำนวน 4 ชว่ั โมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. มคี วามรคู้ วามเข้าใจการออกแบบกบั งานธรุ กจิ
2. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการออกแบบกบั งานธุรกจิ
3. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษา
จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (ความรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. ผเู้ รียนอธบิ ายความหมายการออกแบบกับงานธรุ กจิ ได้
2. ผเู้ รยี นอธบิ ายความสำคญั ของการออกแบบกับงานธุรกจิ ได้
3. ผเู้ รยี นอธบิ ายหลักการออกแบบได้
4. ผ้เู รียนอธิบายประเภทการออกแบบได้
5. ผูเ้ รียนสามารถออกแบบขอ้ ความ ตวั อกั ษร และสี ได้
6. ผูเ้ รยี นสามารถออกแบบตราสัญลักษณไ์ ด้
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของการออกแบบกบั งานธุรกจิ
2. หลักการออกแบบ
3. ประเภทของการออกแบบ
4. การออกแบบข้อความ อกั ษร สี
5. การออกแบบตราสญั ลักษณ์
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรเู้ กย่ี วกับการออกแบบกบั งานธรุ กจิ
เครอื่ งมอื วสั ดุ – อปุ กรณ์
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ PC หรือ Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนงั สือ
ลำดับขั้นตอนการปฏบิ ัตงิ าน
1. ผู้เรยี นค้นหาขอ้ มลู จากในอนิ เตอร์เน็ต ตามเร่อื งท่ีได้รบั มอบหมายมาจาครูผสู้ อน
2. เมอ่ื ผเู้ รียนไดร้ บั ข้อมลู เรยี บร้อยแลว้ ใหผ้ ู้เรยี น นำข้อมลู นน้ั มาเรียบเรยี งใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สวยงาม ให้
สามารถเข้าใจได้ง่าย โดยจัดทำในรปู แบบเล่มรายงาน
121
ภาพประกอบ
122
ขอ้ ควรระวัง
ผ้เู รยี นควรตรวจสอบขอ้ มลู ก่อนใหถ้ ีถ่ ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพอื่ ปอ้ งกันความผดิ พลาดกอ่ น
การสง่ งาน
ขอ้ เสนอแนะ
นักศกึ ษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเน้อื หาใหส้ อดคล้องกับภาพให้
ถกู ต้อง
การประเมนิ ผล
1. สังเกตผเู้ รยี นมีความสนใจ เกดิ ความเข้าใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตอื รอื ร้นใน
การแสดงความคิดเห็นและสรปุ สาระการเรยี นรู้ประจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อย่างถูกต้อง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบยี บ
3. ผ้เู รยี นทำแบบฝึกหัดหลงั เรยี นไดถ้ ูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อยา่ งต่ำ
เอกสารอา้ งองิ
-
123
ใบมอมหมายงานที่ 5 หน่วยท่ี 5
รหัสวชิ า 30204-2102 ชื่อวิชา สื่อสร้างสรรคธ์ รุ กจิ ดจิ ทิ ลั ภาคเรยี นท่ี 2
ช่ือหนว่ ย การออกแบบกบั งานธรุ กิจ เวลารวม 16 ช่วั โมง
ชอ่ื งาน การออกแบบกบั งานธุรกจิ จำนวน 4 ชว่ั โมง
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. มีความรคู้ วามเขา้ ใจการออกแบบกบั งานธรุ กจิ
2. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการออกแบบกบั งานธุรกจิ
3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผู้สำเรจ็ การศกึ ษา
จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (ความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี )
1. ผู้เรยี นอธบิ ายความหมายการออกแบบกับงานธุรกจิ ได้
2. ผ้เู รยี นอธบิ ายความสำคัญของการออกแบบกับงานธุรกจิ ได้
3. ผเู้ รยี นอธบิ ายหลกั การออกแบบได้
4. ผ้เู รียนอธิบายประเภทการออกแบบได้
5. ผเู้ รียนสามารถออกแบบขอ้ ความ ตวั อกั ษร และสี ได้
6. ผู้เรียนสามารถออกแบบตราสญั ลักษณ์ได้
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของการออกแบบกบั งานธรุ กจิ
2. หลักการออกแบบ
3. ประเภทของการออกแบบ
4. การออกแบบข้อความ อักษร สี
5. การออกแบบตราสญั ลักษณ์
สมรรถนะรายหน่วย
แสดงความรู้เก่ยี วกบั การออกแบบกบั งานธรุ กิจ
เคร่อื งมอื วัสดุ – อุปกรณ์
1. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ PC หรอื Notebook
2. โปรเจค็ เตอร์
3. หนังสือ
แนวทางการปฏบิ ตั งิ าน
1. ให้ผู้เรยี นปฏิบัตงิ านตามใบงาน ใบกจิ กรรม ใบปฏิบตั งิ าน อยา่ งเคร่งครดั ตามหัวข้อท่ไี ด้รบั
มอบหมาย ให้เสรจ็ สิ้นตามระยะเวลาที่กำหนด พร้อมท้ังการจัดทำรายงาน และนำเสนองานอยา่ ง
ถกู ต้อง ครบถว้ น เปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย
124
2. ใหผ้ เู้ รียนแบง่ หนา้ ทกี่ ับเพ่อื นในกลุม่ ใหช้ ดั เจน และสามารถเข้าใจเนอ้ื หาตามหวั ขอ้ ดังกล่าว ได้
อย่างถกู ต้อง ครบถว้ น
ภาพประกอบ
ข้อควรระวงั
ผู้เรยี นควรตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นใหถ้ ่ีถ้วน ละเอยี ด และรอบคอบกอ่ น เพ่อื ปอ้ งกนั ความผดิ พลาดกอ่ น
การสง่ งาน
ข้อเสนอแนะ
นกั ศึกษาควรมีภาพประกอบการนำเสนองาน และสามารถอธบิ ายเนอ้ื หาให้สอดคลอ้ งกบั ภาพให้
ถกู ต้อง
การประเมินผล
1. สงั เกตผเู้ รียนมคี วามสนใจ เกิดความเขา้ ใจในสาระการเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงความกระตือรอื ร้นใน
การแสดงความคดิ เหน็ และสรปุ สาระการเรยี นรปู้ ระจำหน่วย
2. ทำใบงานได้อยา่ งถูกต้อง ทันเวลาทีก่ ำหนด ใบงานสะอาดและเป็นระเบียบ
3. ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดหลังเรียนได้ถกู ต้อง โดยได้คะแนน 50% เปน็ อยา่ งตำ่
เอกสารอา้ งองิ
125
แบบประเมนิ ผลงาน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี.............................................................................................................................
ช่อื กลุม่ .........................................................................ช้นั ................................................................
รายชอ่ื สมาชิก 1...............................................................................................................................
2...............................................................................................................................
3...............................................................................................................................
ข้อที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ
321
1
2
3
4
5
รวม
ผปู้ ระเมิน..............................................
วันที่..............เดือน...............................พ.ศ...................
126
เกณฑ์การประเมิน
1. ความถูกตอ้ งของเนื้อหา
3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน สอ่ื ความหมายชดั เจนและมรี ูปภาพประกอบ
2 คะแนน = มีเนื้อหาสาระสำคญั ครบถว้ น ส่อื ความหมายและมรี ูปภาพไมต่ รงเนอื้ หา
1 คะแนน = มเี นอ้ื หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถ้วน
2. ความประณีตสวยงาม
3 คะแนน = รปู ภาพสวยงาม ตัวอักษรคมชดั สสี ันเหมาะสม การวางรปู แบบสมดุล
2 คะแนน = รปู ภาพสวยงาม ตัวอกั ษรคมชดั การวางรปู แบบสมดุล
1 คะแนน = รปู ภาพไมส่ วยงาม การวางรูปแบบสมดุล
3. ความคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์
3 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยกุ ตใ์ ช้วัสดุอปุ กรณ์ในท้องถนิ่
และประหยัด
2 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยกุ ตใ์ ชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์ในทอ้ งถิ่น
แต่ไมป่ ระหยดั
1 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไม่น่าสนใจ
4. สารประโยชน์
3 คะแนน = ให้ความคดิ รวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลุมและชดั เจน
2 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเกี่ยวกบั องค์ประกอบ ไม่ครอบคลุมแตช่ ดั เจน
1 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเกีย่ วกับองค์ประกอบ ไมค่ รอบคลุมและไม่ชัดเจน
127
แบบประเมนิ ผลงาน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี.............................................................................................................................
ชือ่ กลุ่ม.........................................................................ชน้ั ................................................................
รายชื่อสมาชิก 1...............................................................................................................................
2...............................................................................................................................
3...............................................................................................................................
ข้อที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ
321
1 ความถกู ต้องของเนื้อหา
2 ความประณีตสวยงาม
3 ความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์
4 สาระประโยชน์
5 .................................................................
รวม
ผู้ประเมิน..............................................
วันที่..............เดอื น...............................พ.ศ...................
128
เกณฑ์การประเมิน
1. ความถูกตอ้ งของเนื้อหา
3 คะแนน = มีเนอ้ื หาสาระสำคญั ครบถ้วน สอ่ื ความหมายชดั เจนและมรี ูปภาพประกอบ
2 คะแนน = มีเนื้อหาสาระสำคญั ครบถว้ น ส่อื ความหมายและมรี ูปภาพไมต่ รงเนอื้ หา
1 คะแนน = มเี นอ้ื หาสาระสำคัญไม่ชดั เจน และไม่ครบถ้วน
2. ความประณีตสวยงาม
3 คะแนน = รปู ภาพสวยงาม ตัวอักษรคมชดั สสี ันเหมาะสม การวางรปู แบบสมดุล
2 คะแนน = รปู ภาพสวยงาม ตัวอกั ษรคมชดั การวางรปู แบบสมดลุ
1 คะแนน = รปู ภาพไมส่ วยงาม การวางรูปแบบสมดุล
3. ความคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์
3 คะแนน = รปู แบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยกุ ตใ์ ช้วัสดอุ ปุ กรณ์ในท้องถนิ่
และประหยัด
2 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอแปลกใหม่ มีการประยกุ ตใ์ ชว้ ัสดุอปุ กรณ์ในท้องถิ่น
แต่ไมป่ ระหยดั
1 คะแนน = รูปแบบการนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไม่น่าสนใจ
4. สารประโยชน์
3 คะแนน = ให้ความคดิ รวบยอดเก่ียวกับองค์ประกอบ ครอบคลมุ และชดั เจน
2 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเกี่ยวกบั องค์ประกอบ ไม่ครอบคลมุ แตช่ ดั เจน
1 คะแนน = ใหค้ วามคดิ รวบยอดเกีย่ วกับองค์ประกอบ ไมค่ รอบคลมุ และไม่ชัดเจน
129
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี.............................................................................................................................
ชอ่ื กลุ่ม.........................................................................ชน้ั ................................................................
รายชื่อสมาชิก 1...............................................................................................................................
2...............................................................................................................................
3...............................................................................................................................
ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ
321
1
2
3
4
5
รวม
ผปู้ ระเมนิ ..............................................
วันที่..............เดอื น...............................พ.ศ...................
130
เกณฑก์ ารประเมิน
1. การเตรียมความพร้อม
3 คะแนน = มีการจดั เตรยี มสถานท่ี ส่อื /อุปกรณไ์ ว้อย่างพร้อมเพรยี ง
2 คะแนน = มสี ่ือ/อุปกรณ์พรอ้ ม ขาดการจัดเตรยี มสถานที่
1 คะแนน = สอ่ื /อปุ กรณ์ไมเ่ พยี งพอ ขาดการจดั เตรยี มสถานท่ี
2. เนื้อหาสาระ
3 คะแนน = สาระสำคญั ครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์
2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์
1 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ไม่ตรงตามจุดประสงค์
3. รูปแบบการนำเสนอ
3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใชเ้ ทคนิคแปลกใหม่ มสี ่ือและ
ใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ นำวสั ดใุ นท้องถิ่นมาประยุกตใ์ ช้
อยา่ งคมุ้ ค่าและประหยดั
2 คะแนน = ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มสี ือ่ และใชเ้ ทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ
ขาดการประยุกต์ใช้วัสดใุ นทอ้ งถน่ิ
1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไมเ่ หมาะสม ไม่น่าสนใจ
4. การมีสว่ นร่วมของสมาชิก
3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมีบทบาทและมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลุม่
2 คะแนน = สมาชิกสว่ นใหญม่ บี ทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่
1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลุ่ม
5. การรักษาเวลา
3 คะแนน = ดำเนินกจิ กรรมไดต้ ามเวลาท่กี ำหนด
2 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมเร็วกว่าเวลาท่กี ำหนด
1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กว่าเวลาทกี่ ำหนด
6. ความสนใจของผฟู้ ัง
3 คะแนน = ผูฟ้ ังมากกวา่ รอ้ ยละ 80 สนใจ และให้ความร่วมมอื
2 คะแนน = ผฟู้ ังร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามรว่ มมือ
1 คะแนน = ผฟู้ ังนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื
131
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
หน่วยการเรียนรู้ท่ี.............................................................................................................................
ช่อื กล่มุ .........................................................................ชั้น................................................................
รายชอื่ สมาชกิ 1...............................................................................................................................
2...............................................................................................................................
3...............................................................................................................................
ขอ้ ที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ
321
1 การเตรยี มความพร้อม
2 เน้ือหาสาระ
3 รปู แบบการนำเสนอ
4 การมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ในกลุ่ม
5 การรกั ษาเวลา
6 ความสนใจของผฟู้ งั
รวม
ผู้ประเมิน..............................................
วันท.ี่ .............เดือน...............................พ.ศ...................
132
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การเตรียมความพร้อม
3 คะแนน = มีการจดั เตรยี มสถานที่ สอ่ื /อปุ กรณ์ไว้อยา่ งพร้อมเพรยี ง
2 คะแนน = มีส่ือ/อุปกรณ์พรอ้ ม ขาดการจัดเตรียมสถานที่
1 คะแนน = สอ่ื /อปุ กรณ์ไมเ่ พยี งพอ ขาดการจดั เตรยี มสถานท่ี
2. เนื้อหาสาระ
3 คะแนน = สาระสำคญั ครบถ้วน ตรงตามจดุ ประสงค์
2 คะแนน = สาระสำคญั ไมค่ รบ ตรงตามจุดประสงค์
1 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ไม่ตรงตามจุดประสงค์
3. รูปแบบการนำเสนอ
3 คะแนน = มรี ปู แบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใชเ้ ทคนิคแปลกใหม่ มสี ่ือและ
ใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ นำวสั ดใุ นท้องถิ่นมาประยุกตใ์ ช้
อยา่ งคมุ้ ค่าและประหยดั
2 คะแนน = ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มสี ือ่ และใชเ้ ทคโนโลยปี ระกอบการนำเสนอ
ขาดการประยุกต์ใช้วัสดใุ นทอ้ งถน่ิ
1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไมเ่ หมาะสม ไมน่ ่าสนใจ
4. การมีสว่ นร่วมของสมาชิก
3 คะแนน = สมาชิกทกุ คนมีบทบาทและมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลุม่
2 คะแนน = สมาชิกสว่ นใหญม่ บี ทบาทและมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมกลมุ่
1 คะแนน = สมาชิกส่วนนอ้ ยมีบทบาทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลุ่ม
5. การรักษาเวลา
3 คะแนน = ดำเนินกจิ กรรมไดต้ ามเวลาท่กี ำหนด
2 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมเร็วกว่าเวลาท่กี ำหนด
1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชา้ กว่าเวลาทกี่ ำหนด
6. ความสนใจของผฟู้ ัง
3 คะแนน = ผูฟ้ ังมากกวา่ รอ้ ยละ 80 สนใจ และให้ความร่วมมอื
2 คะแนน = ผฟู้ ังร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วามรว่ มมือ
1 คะแนน = ผฟู้ ังนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วามรว่ มมอื
133
รายการตรวจสอบและอนญุ าตใหใ้ ช้
เห็นควรอนญุ าตใหใ้ ชก้ ารสอนได้
เห็นควรปรบั ปรงุ เกยี่ วกับ ..........................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
...................................................................................................................................
.................................................................
ลงชอื่ (...............................................................)
หัวหน้าหมวด/แผนกวิชา
............./.............../…………….
ควรอนญุ าตใหน้ ำไปใช้การสอนได้
ควรปรบั ปรุงเกีย่ วกับ .................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
อ่นื ๆ...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
...................................................................................................................................
.................................................................
ลงชอ่ื (...............................................................)
รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ
............/................./..............
อนญุ าตใหน้ ำไปใช้สอนได้
อืน่ ๆ .........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
.................................................................
ลงช่ือ (...............................................................)
ผูอ้ ำนวยการ
134
รายการตรวจสอบและอนญุ าตให้ใช้
เหน็ ควรอนญุ าตใหใ้ ชก้ ารสอนได้
เห็นควรปรบั ปรงุ เกย่ี วกบั ..........................................................................................................
........................................................................................................................... ......................................................
............................................................................................................................. ......
.................................................................
ลงช่ือ (...............................................................)
หวั หนา้ หมวด/แผนกวชิ า
............./.............../…………….
ควรอนญุ าตให้นำไปใชก้ ารสอนได้
ควรปรบั ปรงุ เก่ยี วกับ .................................................................................................................
........................................................................................................................ .................................
อืน่ ๆ...........................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......
.................................................................
ลงชอ่ื (...............................................................)
รองผู้อำนวยการฝา่ ยวชิ าการ
............/................./..............
อนุญาตให้นำไปใช้สอนได้
อืน่ ๆ .........................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
.................................................................
ลงชื่อ (...............................................................)
ผูอ้ ำนวยการ
............./.............../………….