คำนำ
• แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ประกอบรำยวชิ ำ โปรแกรม
มลั ติมีเดียเพอ่ื กำรนำเสนอ เล่มน้ี จดั ทำข้ึนเพอื่ เป็นแนวทำง
ในกำรเรียนกำรสอน สำหรับอำจำรยผ์ สู้ อนและบุคคลที่
เกี่ยวขอ้ งท่ีจะสำมำรถนำไปใชใ้ นดำ้ นกำรจดั กำรเรียนกำร
สอนไดอ้ ยำงมีประสิทธิภำพ
• แผนกำรจดั กำรเรียนรู้เลม่ น้ี แบ่งออกเป็น 11บท / หน่วย
ประกอบดว้ ย ศึกษำและปฏิบตั ิเกี่ยวกบั ควำมหมำยและ
ควำมสำคญั ของกำรนำเสนอกำรถำ่ ยทอดแนวควำมคิด
สู่ชิ้นงำนท่ีเป็นรูปธรรม กำรผลิตชิ้นงำนนำเสนอ กำรใช้
ภำษำ กำรนำเสนอขอ้ มูล
• ผจู้ ดั ทำขอขอบคุณผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ งทุกคนท่ีมีส่วนร่วมในกำร
จดั แผนกำรจดั กำรเรียนรู้เล่มน้ี หำกมีขอ้ บกพร่องประกำร
ใด ขอควำมกรุณำใหข้ อ้ คิดเห็นและคำแนะนำ เพื่อจะ
นำไปสู่กำรปรับปรุงในกำรจดั ทำแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ใน
รำยวชิ ำ โปรแกรมมลั ติมีเดียเพ่อื กำรนำเสนอใหด้ ียงิ่ ข้ึน
ต่อไป และหวงั เป็นอยำ่ งยงิ่ งวำ่ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้เลม่ น้ี
จะเป็นประโยชนต์ อ่ อำจำรย์ นกั ศึกษำตลอดจนบุคคลทวั่ ไป
สารบัญ สาระการเรียนรู้
• หน่วยที่ 1 การนาเสนอข้อมลู
• สาระการเรียนรู้
• 1. ความหมายของการนาเสนอข้อมลู
• 2. ความสาคญั ของการนาเสนอข้อมลู
• 3. วตั ถปุ ระสงค์ในการนาเสนอข้อมลู
• 4. หลกั การออกแบบการนาเสนอข้อมลู
• 5. การใช้มลั ติมีเดยี
• 6. การเตรียมงานกอ่ นการนาเสนอ
• 7. โปรแกรมการนาเสนอข้อมลู
• หน่วยท่ี 2 เร่ิมใช้งาน Microsoft Office PowerPoint
• สาระการเรียนรู้
• 1. ลกั ษณะของโปรแกรม
• 2. การเลือกใช้โปรแกรม
• 3. สว่ นประกอบของโปรแกรม
• 4. การสร้างไฟล์
• 5. การสร้างภาพนิ่ง
• 6. การเปล่ียนโครงสร้างภาพนิ่ง
• 7. เค้าคงรูปแบบ
• 8. มมุ มอง
• 9. การบนั ทกึ
• 10. การออกจากโปรแกรม
• หน่วยท่ี 3 การจดั การและปรับแต่งแผ่นสไลด์
• สาระการเรียนรู้
• 1. การจดั การแผ่นสไลด์
• 2. การปรับแต่งแผ่นสไลด์
• หน่วยที่ 4 แทรกและปรับแต่งข้อความ
• สาระการเรียนรู้
• 1. การแทรกข้อความในสไลด์
• 2. การแทรกลกั ษณะการแสดงหวั ข้อย่อยและลาดบั เลข
• 3. การจดั วางข้อความและย่อหน้า
• 4. การจดั การกบั กรอบข้อความ
• หน่วยที่ 5 การทางานของกราฟิ ก
• สาระการเรียนรู้
• 1. การแทรกไฟล์รูปภาพ (Picture)
• 2. การแทรกภาพตดั ปะ (ClipArt)
• 3. การปรับแตง่ รูปภาพ
• 4. การแทรกและปรับแต่งรูปร่างสาเร็จรูป (Shape)
• หน่วยที่ 6 การแทรกแผนภูมหิ รือกราฟ
• สาระการเรียนรู้
• 1. การเพมิ่ แผนภมู หิ รือกราฟ
• 2. การใช้แถบเครื่องมือออกแบบ (Design)
• 3. การใช้แถบเคร่ืองมือเค้าโครง (Layout)
• 4. การแต่งแผนภมู ิด้วยแถบเครื่องมือรูปแบบ (Format)
•
• หน่วยท่ี 7 การแทรกไดอะแกรมและตาราง
• สาระการเรียนรู้
• 1. การสร้างตาราง
• 2. การสร้างแผนภมู ิหรือกราฟ
• 3. การสร้างไดอะแกรม
• หน่วยท่ี 8 การกาหนดเอฟเฟกต์ให้กับสไลด์
• สาระการเรียนรู้
• 1. ความหมายของแอนิเมชนั
• 2. ประเภทของภาพเคลอื่ นไหว
• 3. ชนิดของภาพเคลือ่ นไหว
• 4. การใสเ่ อฟเฟกต์ภาพเคลอื่ นไหว
• 5. การตงั้ เวลาการเปลีย่ นสไลด์
• 6. การกาหนดการเคลอื่ นไหว
• 7. การบนั ทกึ เพือ่ นาไปใช้งาน
• 8. การทดสอบ
• หน่วยท่ี 9 สไลด์ต้นแบบและการเตรียมเอกสาร
• สาระการเรียนรู้
• 1. สไลด์ต้นแบบและเทมเพลต
• 2. การเตรียมเอกสารประกอบการนาเสนอ
• 3. สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย (Handout)
• 4. การนาเสนองาน (Presentation)
• 5. บนั ทกึ เสยี งประกอบการบรรยาย
• หน่วยที่ 10 โปรแกรม Adobe Flash Professional CS5-CS6
• สาระการเรียนรู้
• 1. ลกั ษณะของโปรแกรม
• 2. ประเภทของโปรแกรม
• 3. การเรียกใช้โปรแกรม
• 4. สว่ นที่ประกอบของโปรแกรม
• 5. กลอ่ งเคร่ืองมือ
• 6. การสร้างไฟล์
• 7. การสร้างฉาก
• 8. การสร้างวตั ถุ
• 9. การจดั การเลเยอร์
• 10. การบนั ทกึ
• 11. การออกโปรแกรม
• หน่วยที่ 11 การสร้างภาพเคล่ือนไหวและเสียง
• สาระการเรียนรู้
• 1. การสร้างภาพเคลื่อนไหว
• 2. การสร้างภาพเคล่ือนไหวแบบเฟรมต่อเฟรม (Frame By Frame)
• 3. การสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบทวีนแอนเิ มชนั่ (Tweened Animation)
• 4. การสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบแอคชน่ั สคริปต์ (Action Script)
• 5. การใสเ่ สียง
หน่วยที่ 1 การนาเสนอข้อมูล
1.1 ความหมายของการนาเสนอข้อมูล
ความหมายของการนาเสนอข้อมูล (Presntation)
การนาเสนอข้อมลู หมายถึงการส่ือสารเพ่อื เสนอข้อมลู ความรู้ความคิดเห็นหรือความ
ต้องการไปส่ผู ้รู ับการนาเสนอข้อมลู โดยใช้เทคนคิ หรือวธิ ีการตา่ ง ๆอนั จะทาให้บรรลผุ ลสาเร็จ
ตามจดุ ม่งุ หมายของการนาเสนอ
1.2 ความสาคญั ของการนาเสนอ
ความสาคญั ของการนาเสนอข้อมูล
ในประจบุ นั นีก้ ารนาเสนอข้อมลู มามีบทบาทสาคญั ในองค์กรทางธุรกิจทางการศกึ ษา
หรือแม้แต่หนว่ ยงานของรัฐ และเอกชนทกุ แห่งก็ต้องอาศยั วิธีการนาเสนอเพอ่ื สื่อสารข้อมลู
เสนอความเหน็ เสนอขออนมุ ตั ิหรือเสนอข้อสรุปผลการดาเนินงานตา่ ง ๆมีหน้าท่ีเก่ียวกบั การ
ประชาสมั พนั ธ์การแนะนาเพอ่ื การเย่ียมชมการฝึกอบรมการประชมุ หรือผ้ทู ่ีเป็ นหวั หน้างานทกุ
ระดบั จะต้องรู้จกั วิธีการนาเสนอเพอ่ื นาไปใช้ให้เหมาะสมกบั งานตา่ ง ๆ
1.3 วตั ถุประสงค์ในการนาเสนอ
วตั ถุประสงค์ในการนาเสนอข้อมูล
1.เพอื่ ใหผ้ รู้ ับกำรนำเสนอขอ้ มลู รับทรำบควำมคิดเห็นเพอื่ ควำมตอ้ งกำร เช่น ในกำรประชุม
คณะกรรมกำรต่ำง ๆ ประธำนในที่ประชุมจะตอ้ งช้ีแจงวำระกำรประชุมใหท้ ่ีประชุมรับทรำบ
2.เพื่อใหผ้ รู้ ับกำรนำเสนอขอ้ มูลพิจำรณำเรื่องใดเร่ืองหน่ึงเช่นในกำรประชุมคณะกรรมกำรแต่
ละคร้ังคณะกรรมกำรแต่ละฝ่ ำยต่ำง จะตอ้ งช้ีแจงขอ้ มูลหรือแสดงควำมคิดเห็นใหท้ ี่ประชุม
ไดร้ ับทรำบเพ่อื ประกอบกำรพจิ ำรณำวนิ ิจฉยั หรือลงมติที่ประชุม
3.เพือ่ ใหผ้ รู้ ับกำรนำเสนอไดร้ ับควำมรู้จำกขอ้ มูลที่นำเสนอเช่นในกำรฝึ กอบรมหรือกำร
สมั มนำวทิ ยำกรหรือผเู้ ช่ียวชำญจะตอ้ งนำเสนอขอ้ มลู ท่ีเป็นควำมรู้ และขอ้ เทจ็ จริงต่ำง ๆ
ใหแ้ ก่ฟเู ขำ้ ฝึ กอบรม หรือใชใ้ นกำรบรรยำยสรุปผลกำรดำเนินงำนต่ำง ๆเพอื่ ใหผ้ มู้ ำเยยี่ มชม
กิจกำรหรือผบู้ งั คบั บญั ชำท่ีเดินมำตรวจเยย่ี มไดร้ ับทรำบ
4. เพื่อเผยแพร่และประชำสัมพนั ธ์กิจกรรมของหน่วยงำนหรือองคก์ รใหแ้ ก่บุคคลทวั่ ไปไดร้ ับ
ทรำบ
1.4 หลกั การออกแบบการนาเสนอข้อมูล
หลกั การออกแบบการนาเสนอข้อมูล
ในกำรนำเสนอขอ้ มลู หรือบรรยำยแต่รำคำของผบู้ รรยำยหรือผนู้ ำเสนอจำเป็นอยำ่ งยง่ิ ที่จะตอ้ งใส่
ใจวธิ ีกำรนำเสนอภำยใตจ้ ำกดั รวมท้งั หำแนวทำงที่จะช่วยใหผ้ ฟู้ ังรู้ในส่ิงท่ีพดู ฉะน้นั กำรเขำ้ ใจ
หลกั กำรออกแบบและกำรใชโ้ ปรแกรมสำนกั งำนเพ่อื กำรนำเสนออยำ่ งมีประสิทธิภำพจึงเป็น
ทกั ษะที่จำเป็นซ่ึงมีหลกั กำรออกแบบและกำรใชโ้ ปรแกรมนำเสนอดงั น้ี
1. การใสเ่ นือ้ หาหรือภาพท่ีสาคญั ไมค่ วรใสไ่ ว้ตดิ ขอบหน้าจนเกินไป ควรเผื่อริมขอบจอไว้เลก็ น้อย
2. การจดั เรียงลาดบั เนือ้ หา
2.2 จดั ทาตามลาดบั ของเนือ้ หาหรือการบรรยายไมส่ ลบั ไปสลบั มา
2.3 เร่ิมแรกด้วยการแสดงชื่อเรื่อง พร้อมช่ือของผ้นู าเสนอ
2.4 ตอ่ มาความเป็นเนือ้ หาที่แสดงหวั ข้อในการ นาเสนอ
2.5 จากนนั้ เป็นเนือ้ หาที่เป็นสว่ นของเนือ้ หาท่เี รียงลาดบั จากหวั ข้อที่กาหนด
2.6 เพื่อป้ องกนั การสบั สนขว้างใสห่ วั ข้อเร่ืองทกุ เนือ้ หาและใสเ่ ครื่องหมายลาดบั เพื่อชว่ ยให้ผ้ฟู ัง
อ้างองิ ได้
3. การใช้ขนาดและสีของตวั อกั ษรและพืน้ หลงั ควรเลอื กใช้รูปแบบตวั อกั ษรที่เป็นมาตรฐานอา่ นได้
งา่ ยและมีขนาดใหญ่ตอ่ การมองเหน็ ในระยะไกล ไมเ่ ลก็ จนเกินไป รวมทงั้ เลือกสพี ืน้ หลงั และสี
ตวั อกั ษรที่ตดิ กนั เพ่ือชว่ ยให้อา่ นข้อความได้งา่ ย หรือเพ่ือนหลงั ที่ไม่มลี วดลายมากเกินไปจนทาให้
ลายตา รักการออกแบบรูปแบบ ขนาดตวั อกั ษร และส่ที ่ีเหมาะสมดงั นี ้
3.1 เลือกใช้รูปแบบตวั อกั ษรท่ีมีหวั เพ่ือให้อา่ นงา่ ย และไมค่ วรใช้ตวั อกั ษรเกิน 2 แบบ
3.2 ควรใช้ตวั อกั ษรขนาดใหญ่เพื่อให้มองเหน็ ได้งา่ ย ด้วยสว่ นของเนือ้ หาภาษาไทยควรใช้
ประมาณ 36 - 50 พอยต์ (Point) สาหรับสว่ นของหวั เร่ืองควรใช้ประมาณ 50 - 60 พอยต์ (Point)
3.3 ควรใช้ตวั หนาหรือตวั ขีดเส้นใต้ในการเน้นข้อความ หรือจะใสเ่ งาให้ตวั อกั ษร เหงาควรเข้ม
กวา่ สีพืน้
3.4 ไม่ควรใช้ตวั อกั ษรภาษาองั กฤษแบบตวั ใหญ่ทงั้ หมดเลย เพราะจะอา่ นได้ยาก ยกเว้นคา
สนั้ ๆ ที่ เป็นหวั เร่ืองหรือต้องการเน้น
3.5 ใช้พืน้ หลงั ที่สตี ดั กบั ตวั อกั ษร เช่น พืน้ เมืองคือตวั อกั ษรสวา่ งหรือตวั อกั ษรสวา่ งพืน้ มืด
3.6 ขวญั ชยั พืน้ หลงั สเี ข้มกลบั ห้องที่มีผ้ฟู ังนงั่ ไมเ่ กนิ 20 ฟตุ หากไกลกวา่ นนั้ ขวญั ใช้สีสวา่ ง
3.7 หลีกเลย่ี งพืน้ หลงั ท่ียากตอ่ การอา่ น เชน่ เป็นภาพ ที่มีลวดลาย หรือมีสเี หมือนกบั ตวั อกั ษร
3.8 ควรใช้รูปแบบตวั อกั ษร ขนาด รวมทงั้ สีตวั อกั ษรและพืน้ หลงั แบบเดียวกนั ตลอดทกุ สไลด์
4. ควรจะบรรจขุ ้อความท่ีเป็นใจความสาคญั ซง่ึ สนั้ และกะทดั รัด
5. ควรจะแสดงหนง่ึ ประเดน็ ในแตล่ ะครัง้ เชน่ หนงึ่ หน้ามหี นงึ่ ประเดน็ แตห่ ากต้องบรรจไุ ว้หลาย
ประเดน็ ในหนง่ึ หน้า ขว้างแสดงผลทีละประเดน็ เพ่ือให้ผ้ฟู ังคงความสนใจกบั สิ่งท่ีผ้นู าเสนอกาลงั พดู
6. ไม่ควรใช้การแสดงผลพิเศษ (Effect) ท่ีมากเกินไป เพราะจะทาให้ดไู ม่นา่ เชื่อถือและน่าราคาญ
• 1.5 การใช้มลั ตมิ เี ดยี
• การใช้มลั ติมเี ดีย
• ส่ือมันตมิ ีเดีย (Multimedia) คือการใช้คอมพวิ เตอร์ร่วมกับโปรแกรม
ซอฟต์ แวร์ ในการส่ ือความหมายโดยการผสมผสานส่ ือหลายชนิดเช่ นข้ อความห้ าม
กราฟิ ก (Graphic) ภาพเคล่ือนไหว(Animation) เสียง (Sound) และวีดีโอ (Video) เป็นต้น
สื่อต่าง ๆ ที่นามารวมไว้ในสื่อมนั ตมิ ีเดีย จะช่วยให้เกิดความรักหลายในการใช้คอมพวิ เตอร์
อนั เป็นเทคโนโลยีในแนวทางใหม่ ท่ีทาให้การใช้คอมพวิ เตอร์น่าสนใจและเราความสนใจ
เพมิ่ ความสนกุ สนานในการเรียนมากย่งิ ขนึ ้
• 1.6 การเตรียมงานก่อนการนาเสนอ
• การเตรียมงานก่อนการนาเสนอ
• การเขียนสตอร่ีบอร์ดเป็นขนั้ ตอนการเตรียมการนาเสนอข้อความ ภาพ รวมทงั้ สื่อใน
รูปของมนั ติมีเดียตา่ ง ๆ ลงในกระดาษเพือ่ ให้การนาเสนอข้อความและสื่อใน ในรูปแบบต่าง
ๆเหล่านีเ้ป็ นอยา่ งเหมาะสมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตอ่ ไป ขณะที่พงั งานาเสนอลาดบั และ
ขนั้ ตอนการตดั สนิ ใจ สตอรี่บอร์ดนาเสนอเนือ้ หาและลกั ษณะของการนาเสนอขนั้ ตอนการ
สร้าง สตอร่ีบอร์ดรวมไปถึงการเขียนสคริปต์ (ซง่ึ สคริปต์ในทีนี ้ คือ เนือ้ หา) ท่ีผ้ใู ช้จะได้เหน็
บนหน้าจอ ซง่ึ ได้แก่ เนือ้ หา ข้อมลู คาถาม ผลป้ อนกลบั คาแนะนา คาชีแ้ จง ข้อความเรียก
ความสนใจ ภาพนิง่ และภาพเคลื่อนไหว ฯลฯ
• Storyboard คือ การสร้างภาพให้เห็นลาดบั ขนั้ ตอนตามเนือ้ หาท่ีต้องการ โดยเฉพาะการ
สร้ างภาพเคลื่อนไหว
• รายละเอยี ดช่ือควรมใี น Storyboard ได้แก่ คาอธิบายแตล่ ะส่ือท่ีใช่ (ข้อความ รูปภาพ
ภาพเคล่ือนไหว เสียง วิดีโอ)
• ตวั อย่างแบบฟอร์มในการจัดทา Storyboard
• 1.7 โปรแกรมนาเสนอข้อมูล
• โปรแกรมการนาเสนอข้อมูล
• โปรแกรมที่ใชใ้ นกำรสร้ำงงำนนำเสนอหรือแสดงผลของสถำบนั มหำวทิ ยำลยั คณะฯ
หน่วยงำน บริษทั โปรโหมดสินค้า แนะนาสนิ ค้า ประชมุ สมั มนา บรรยายทางวิชาการ และ
อ่ืนๆ อีกมากมาย ซง่ึ แตล่ ะโปรแกรมเหมาะกบั งานแต่ละแบบ ยกตวั อยา่ งเช่น
• 1. Microsoft PowerPoint เหมาะสาหรับ Computer Presentation ท่ีใช้งานงา่ ยท่ีสดุ
• 2. Director เหมาะสาหรับ Multimedia Computer Presentation ท่ีดีที่สดุ ใช้งายาก
กว่า PowerPoint แตเ่ หมาะสาหรับการจดั ทาสื่อการเรียนการสอน
• 3. Authorware เหมาะสาหรับ Multimedia ที่มีบททดสอบและการโต้ตอบที่ดีที่สดุ ใช้งานยาก
กว่า PowerPoint แตง่ ่ายกวา่ Director เหมาะสาหรับนิสิต นกั ศกึ ษา ครู อาจารย์
• 4. Adobe Flash เหมาะสาหรับ Multimedia CAI Games Web และอ่ืนๆ อีกมากมาย
เสถียรภาพสงู สามารถบนั ทกึ เป็นไฟล์ .exe และ .swf ได้
• 5. Swish max, Swish 3D เป็นโปรแกรมท่ีดีมากในการนาเสนอผลงาน Special
Effect เกี่ยวกบั ภาพและตวั หนงั สือ ซงึ ้ เป็นโปรแกรมที่สร้างใช้งานงา่ ย
กว่า Flash มี Effect สาเร็จรูปให้ใช้มากมาย นาไปสร้าง Effect ใช้กบั ภาพและตวั หนงั สือ
แล้ว Export เป็น .swf นาไปใช้งานได้เป็นอยา่ งดี
• 6. Tool book เป็นโปรแกรมที่ดี แต่การใช้ยากเกินไป ถงึ แม้ว่าจะมีเคร่ืองมือท่ีสามารถ
ตอบสนองความต้องการสาหรับงานนาเสนอได้ดีก็ตาม
• 7. Ulead Video Studio เป็นโปรแกรมในการนาเสนออีกโปรแกรมหนงึ่ เหมาะสมสาหรับงาน
ประชาสมั พนั ธ์หรืองานมงคลตา่ งๆ
• แตใ่ นเนือ้ หาบทเรียนเลม่ นี ้ จะใช้โปรแกรมสาหรับการนาเสนอข้อมลู 2 โปรแกรม คือ
โปรแกรม Microsoft PowerPoint ซง่ึ เป็นโปรแกรมท่ีใช้งานงา่ ยและนยิ มใช้งานมากที่สดุ และ
โปรแกรม Adobe Flash ซงึ่ เป็นโปรแกรมท่ียากกว่า Microsoft PowerPoint แต่สามารถท่ีจะ
พฒั นาการนาเสนอให้มีประสทิ ธิภาพมากย่งิ ขนึ ้ ได้
•
• หน่วยท่ี 2 เร่ิมใช้งาน Microsoft Office PowerPoint
2.1 ลกั ษณะของโปรแกรม
• ลกั ษณะของโปรแกรม
• โปรแกรม Microsoft PowerPoint เป็นโปรแกรมท่ีนยิ มใช้ในการนาเสนอข้อมลู มาก
ท่ีสดุ ไมว่ ่าจะเป็นการเรียนการสอน การบรรยายทางวชิ าการ การประชาสมั พนั ธ์กิจกรรมของ
องค์กร โปรแกรม Microsoft Point สามารถที่จะนาเสนอข้อมลู ได้หลายรูปแบบ เช่น ข้อความ
รูปภาพ ตาราง แผนภมู ิ รวมทงั้ สามารถใช้ส่ือทางด้านมนั ตมิ ีเดียคือ วดิ ีโอและเสียงประกอบ
ได้
• 2.2 การเรียกใช้โปรแกรม
• การเรียกใช้โปรแกรม
• กำรใชโ้ ปรแกรม Microsoft Point 2013 มีวิธีปฏบิ ตั ิเหมือนกบั โปรแกรมต่างๆ คือ
• 1. คลิกที่ Start
• 2. คลิกที่ช่ือโปรแกรมท่ีต้องการ ในที่นีค้ ือ Power Point 2013
• 3. จะปรากฏหน้าจอดงั นี ้
• 4. มีรูปแบบของสไลด์ให้เลือก
• 5. ในที่นีจ้ ะเลือกแบบ Blank Presentation คือ เอาสไลด์วา่ งป่ าว โดยมีดบั เบลิ ้ คลกิ
ที่ Blank Presentation
• 2.3 ส่วนประกอบของโปรแกรม
• ส่วนประกอบของโปรแกรม
• ส่วนประกอบของหนำ้ ต่ำงโปรแกรมจะประกอบดว้ ย
• 1. Menu Bar เป็นสว่ นท่ีใช้เก็บคาสงั่ ต่างๆ ท่ีใช้งานในโปรแกรม เชน่ File Home Insert
Design เป็นต้น
• 2. Ribbon เป็นแถบท่ีใช้รวบรวมเครื่องมือการใช้งานเข้าไว้ด้วยกนั เพือ่ ให้สะดวกตอ่ การ
ใช้งาน
• 3. Slide and Outline เป็นสว่ นที่ใช้แสดงแบบจาลองของภาพนงิ่ ทงั้ หมดที่มีอย่ใู นสไลด์
• 4. Slide Pane เป็นพนื ้ ที่ท่ีใช้แสดงรายละเอียดของสไลด์
• 5. Status Bar เป็นส่วนท่ีใช้รายละเอียดของสไลด์ท่ีเปิดขนึ ้ มาใช้งาน
• 6. View Bar เป็นสว่ นท่ีใช้แสดงมมุ มองในลกั ษณะต่างๆ
•
• เมนู (Menu) จะประกอบด้วยแทบ็ (Tab) ต่างๆ ดังนี้
• · Home (หน้าแรก)
• Home รวมคาสง่ั เกย่ี วกบั การสร้างเอาสไลด์ใหมแ่ ละการจดั สไลด์ (กลมุ่ คาสงั่ Slide) กาหนด
ลกั ษณะตวั อกั ษร (กลมุ่ คาสง่ั Font) การกาหนดย่อหน้า (กลมุ่ คาสงั่ Paragraph) การวาดและ
ตกแตง่ รูปร่างประกอบสไลด์ (กลมุ่ คาสง่ั Drawing) และเคร่ืองมือค้นหา/แทนท่ีข้อความ (กลมุ่
คาสง่ั Editing)
• · Insert (แทรก)
• Insert รวมคาสง่ั เกย่ี วกบั การสร้างวตั ถปุ ระเภทตา่ งๆ บนสไลด์ เชน่ ตาราง (กลมุ่
คาสง่ั Tables) ภาพ/คลปิ อาร์ต/รูปร่าง (กลมุ่ คาสง่ั Illustration) การสร้างความเช่ือมโยง (กลมุ่
คาสงั่ Links) ข้อความแบบพิเศษ (กลมุ่ คาสง่ั Text) และคลิปวิดีโอ/คลิปเสียง (กลมุ่ คาสง่ั Media)
• · Design (ออกแบบ)
• Design รวมคาสงั่ เก่ียวกบั การตงั้ คา่ หน้าสไลด์ (กลมุ่ คาสงั่ Page Sutup) การตกแตง่ สไลด์ด้วยชดุ
รูปแบบ/ชดุ ข้อความ/เอฟเฟ็กต์ (กลมุ่ คาสงั่ Themes) และการกาหนดพนื ้ หลงั สไลด์ (กลมุ่
คาสงั่ Background)
• Translations (การเปล่ียนแปลงสไลด์)
• Translations รวมคาสงั่ ในการกาหนดเอฟเฟ็กต์กาหนดการเปลย่ี นสไลด์
• Animations (การเคล่ือนไหว)
• Animations รวมคาสงั่ ในการกาหนดเอฟเฟ็กต์การเคลอื่ นไหว กาหนดการเคลือ่ นไหวของวตั ถุ
• Slide show (การนาเสนอภาพน่ิง)
• Slide show รวมคาสง่ั เกย่ี วกบั การนาเสนองาน นาเสนอสไลด์ทงั้ หมด/นาเสนอสไลด์ปัจจบุ นั /
นาเสนอเฉพาะชดุ สไลด์ (กลมุ่ คาสงั่ Start Slide Show) กาหนดคา่ ในการนาเสนอ/ซอ่ นการนาเสนอ
สไลด์/นาเสนองานโดยบนั ทกึ เสยี งการบรรยาย/นาเสนองานตามกาลเวลา (กลมุ่ คาสง่ั Set
Up) และกาหนดหน้าจอในการนาเสนอ/การแสดง 2 หน้าจอ (กลมุ่ คาสง่ั Monitors)
• Review (ตรวจทาน)
• Review รวมคาสงั่ เกีย่ วกบั การตรวจสอบเอกสาร เชน่ การพิสจู น์อกั ษร (กลมุ่ คาสงั่ Proofing) การ
แปลภาษา (Language) และการแทรกข้อคดิ เหน็ บนเอกสาร (กลมุ่ คาสง่ั Comments)
• View (มุมมอง)
• View รวมคาสงั่ สาหรับเลือกมมุ มองในการทางานกบั สไลด์ (กลมุ่ คาสงั่ Presentation Views) การ
ซอ่ น/แสดงสว่ นประกอบบนหน้าตา่ งโปรแกรม(กลมุ่ คาสงั่ Show/Hide) การย่อ/ขยายเอกสาร (กลมุ่
คาสง่ั Zoom) การแสดงสไลดเ์ ป็นสี/ขาวดาจดั การหน้าจอการทางาน (Window) และการสร้าง
คาสงั่ การทางาน (Macros)
• Add - Ins (เคร่ืองมอื เพ่มิ เตมิ )
• Add - Ins ประกอบด้วยเคร่ืองมือเพิ่มเติมตา่ งๆ เชน่ การบนั ทกึ ในรูปแบบกล้อง วีดโี อ ฯลฯ
• File (แฟ้ ม)
• หนำ้ จอในส่วนของ File (แฟ้ ม) จะประกอบไปด้วย
• Info คือ รายละเอียดของโปรแกรม
• New คือ การสร้างไฟล์ใหม่
• Open คือ การเปิดไฟล์
• Save คือ การบนั ทกึ
• Save As คือ การบนั ทกึ เป็น
• Print คือ การพมิ พ์ข้อมลู
• Share คือ การแชร์ข้อมลู ไปยงั ที่ต่างๆเชน่ อีเมล์
• Export คือ การบนั ทกึ รูปแบบตา่ งๆเชน่ การบนั ทกึ ไฟล์ PDF บนั ทึกลงแผ่นซดี ีการบนั ทกึ ใน
รูปแบบวดิ ีโอ
Close คือ กำรออกจำกโปรแกรม
• 2.4 การสร้างไฟล์
• การสร้างไฟล์
• กำรสร้ำงไฟลเ์ พื่อสร้ำงงำนนำเสนอใหม่ใหป้ ฏิบตั ิดงั น้ี
• 1. คลกิ ท่ีแท็บ File (แฟ้ ม)
2. คลิกท่ี New (สร้าง)
3. เลือกรูปแบบสไลดท์ ี่ตอ้ งกำร
• 4. ใหด้ บั เบิล้ คลิกที่ชื่อรูปแบบท่ีตอ้ งกำร
5. จะปรากฏสไลด์ตามรูปแบบท่ีเลือกไว้
• 6. เร่ิมทางานตามที่ได้เตรียมการไว้
• 2.5 การสร้างภาพน่ิง
• การสร้างภาพน่ิง
• การสร้างภาพนิ่ง (New Slide) เป็นการเลือกรูปแบบ (Layout) ตามท่ีต้องการ
• 1. คลกิ ท่ีรูปเครื่องมือ New Slide
• 2. จะปรากฏรูปแบบให้เลือก
• 3. คลิกที่รูปแบบท่ีต้องการ
.6 การเปลย่ี นโครงสร้างภาพนิ่ง
• การเปลยี่ นโครงสร้างภาพนิ่ง
• เมื่อตอ้ งกำรเปล่ียนโครงสร้ำงภำพน่ิงใหค้ ลิกที่รูปเครื่องมือ Layout
จะปรำกฏโครงสร้ำงภำพนิ่งใหเ้ ลือกแลว้ ดบั เบิล้ คลิกท่ีรูปที่ตอ้ งกำรสไลดก์ จ็ ะเปล่ียนเป็น
รูปแบบท่ีเลือกไว้
• 2.7 เค้าโครงรูปแบบ
• เค้าโครงรูปแบบ
• เคำ้ โครงรูปแบบ จะมีหลายรูปแบบให้เลือกคือ
• Title Slide แบมีหวั เรื่อง
• Title and Content แบบมีหวั เร่ืองและรายการ
• Section Header แบบวางตาแหนง่ หวั ข้อ
• Two Content มีรายการ 2 ด้าน
• Comparison แบบมีรายการและหวั ข้อ 2 ด้าน
• Title Only แบบมีหวั ข้อเรื่องอย่างเดียว
• Blank แบบวา่ งเปล่า
• Content with Caption แบบมีรายการและรูปแบบ 2 ด้าน
• Picture with Caption แบบรูปภาพและรูปแบบ 2 ด้าน
• 2.8 มมุ มอง
• มมุ มอง
• · มมุ มองรูปแบบปกติ (Normal)
• เป็นมุมมองพ้นื ฐำนในกำรทำงำน ซ่ึงเม่ือเปิ ดโปรแกรมข้นึ มำ กจ็ ะแสดงมมุ มองน้ีก่อนเสมอ
ดว้ ยจะประกอบกำรทำงำนท่ีต่ำงกนั 2 แบบคือแบบ Outline (โครงร่าง) ซง่ึ จะอย่บู ริเวณ
ด้านซ้ายและแบบ Slides (ภาพนง่ิ ) ซงึ่ จะอย่บู ริเวณด้านขวา
• · มมุ มองของรูปแบบโครงร่าง (Outline View)
• จะแสดงเน้ือหำในกำรนำเสนอท่ีอยบู่ นสไลดแ์ ต่ละแผน่ ดว้ ยมีกำรจดั ลำดบั ข้นั ของเน้ือหำ
อยำ่ งเป็นระบบ ซ่ึงสำมำรถเพ่ิม/ลบเน้ือหำ หรือจดั ลำดบั ข้นั ของเน้ือหำบนสไลดไ์ ดอ้ ยำ่ ง
รวดเร็ว
• · มมุ มองรูปแบบเรียงลาดบั ภาพนิ่ง (Slides Sorter)
• เป็นมุมมองท่ีแสดงสไลดท์ ้งั หมดในงำน โดยเรียงกนั ตำมลำดบั ต้งั แต่สไลดแ์ ผน่ แรกจนถงึ
แผน่ สุดทำ้ ยทำใหส้ ำมำรถมองเห็นสไลดไ์ ดพ้ ร้อมกนั และช่วยในกำรจดั เรียงลำดบั กำรเพิม่ /
ลบแผน่ สไลด์
• · มมุ มองรูปแบบบนั ทกึ ร่าง (Notes Page)
• เป็นมุมมองท่ีสำมำรถบนั ทึกรำยละเอียดเพ่มิ เติม เพ่อื กำรทบทวนเน้ือหำ ซ่ึงในส่วนน้ีจะไม่
แสดงใหเ้ ห็นในขณะท่ีนำเสนอผลงำน
• · มมุ มองรูปแบบต้นฉบบั (Insert Slide Master)
• เป็นมุมมองที่สำมำรถกำหนดตน้ แบบ ซ่ึงจะปรำกฏในทุกๆ สไลด์ เช่น หวั ขอ้ เร่ือง ชื่อ
หน่วยงำน ชื่อผบู้ รรยำย เป็นตน้
• 2.9 การบนั ทกึ
• การบันทกึ
• เมื่อดำเนินกำรสร้ำงงำนนำเสนอไม่วำ่ จะเสร็จหรือไม่เสร็จควรที่จะตอ้ งมีกำรบนั ทึก
ท้งั น้ีเพอื่ นำไปสร้ำงงำนต่อหรือป้ องกนั กำรสูญหำยของขอ้ มูล
• 1. คลิกที่รูปเครื่องมือบนั ทกึ (Save)
• 2. จะปรากฏหน้าจอดงั นีแ้ ล้วคลิกที่ป่ มุ เครื่องมือ Browse เพ่อื เลือกแรงท่ีจะใช้ในการเก็บ
ข้อมลู
• 3. เลือกแหลง่ เก็บข้อมลู ในท่ีนีเ้ลือกแหลง่ My Documents
• 4. พมิ พ์ช่ือแฟ้ มข้อมลู ท่ีต้องการในช่อง File name ในท่ีนีพ้ มิ พ์ชื่อการนาเสนอหน่วยที่ 1 เสร็จ
แล้วให้คลกิ ที่ป่ มุ เคร่ืองมือ Save
• (บนั ทึก) ส่วนในการบนั ทกึ ครัง้ ต่อไป ให้คลิกที่รูปเครื่องมือ Save (บนั ทกึ ) ได้เลย ทงั้ นีค้ วรท่ี
จะทาการบนั ทกึ อยา่ งต่อเนื่อง เพ่อื ป้ องกนั การสญู หายของข้อมลู
• 2.10 การออกจากโปรแกรม
• การออกจากโปรแกรม
• การออกจากโปรแกรม
• เมื่อทำงำนเสร็จแลว้ หรือตอ้ งกำรที่จะออกจำกโปรแกรมมีวธิ ีปฏิบตั ิดงั น้ี
• 1. คลิกท่ีแทบ็ File (แฟ้ ม)
2. คลกิ ท่ี Close
• หน่วยท่ี 3 การจัดการและปรับแต่งแผ่นสไลด์
• 3.1 การจัดการแผ่นสไลด์
• การจดั การและปรับแต่ง
• การทางานในรูปของสไลด์ สามารถ/ย่อขยายหน้าจอ การจดั ทารูปแบบ เพมิ่ แทรก
ลบ คดั ลอก ย้ายหรือจดั ลาดบั สไลด์ใหมไ่ ด้การปรับแตง่ แผ่นสไลด์สามารถปรับสีพนื ้ ของ
สไลด์ที่กาหนดไว้แล้ว ให้เป็นสีพนื ้ ใหม่สีพนื ้ แบบลวดลาย หรือสีพนื ้ หลงั ทาด้วยรูปภาพ
สามารถเลือกพนื ้ หลงั ด้วยรูปภาพได้ตามต้องการ
การเพมิ่ แผ่นสไลด์
• การเพม่ิ แผ่นสไลด์ใหม่สามารถทาได้ 2 วธิ ีดังนี้
วธิ ีที่ 1
• 1.1 คลกิ เลือกแผ่นสไลด์ท่ี 1
• 1.2 คลกิ ท่ปี ่ มุ สไลด์ใหม่
• 1.3 จะได้แผ่นสไลด์เพ่มิ ขึน้
วธิ ที ี่ 2
2.1 คลิกท่ปี ่ มุ สไลด์ใหม่
2.2 ปรากฏเค้าโครงภาพน่ิงแบบต่างๆ คลกิ เลือกภาพน่ิงท่ตี ้องการ
• การแทรกแผ่นสไลด์
• การแทรกแผ่นสไลด์วางระหว่างแผ่นสไลด์ต่างๆในตาแหน่งทตี่ ้องการสามารถทาได้ดงั นี้
• 1. คลิกแทบ็ มุมมอง
• 2. คลิกป่ มุ ตัวเรียงลาดบั สไลด์
• 3. คลกิ วางเคอร์เซอร์ด้านหน้าแผ่นสไลด์ท่ตี ้องการแทรก
4. คลิกขวาเลือก
• 5. จะได้แผ่นสไลด์แทรกเพ่มิ ด้านหน้า
• การลบแผ่นไสลด์
• การลบแผ่นสไลด์สามารถทาได้ดงั นี้
• 1. คลกิ เลือกแผ่นสไลด์ท่ตี ้องการลบ
• 2. คลกิ ขวาเลือกลบสไลด์ หรือ กดป่ ุม Delete ท่แี ป้ นพมิ พ์
• 3.2 การปรับแต่งแผ่นสไลด์
• การใส่สีพนื้ หลงั
1. คลกิ ท่หี น้าออกแบบ
2. คลกิ ท่ี จัดรูปแบบพนื้ หลัง
• 3. จะปรากฏแถบด้านข้างขนึ้ มาเพ่อื ให้เลือกสีท่ตี ้องการ
4. เลือกสีท่ตี ้องการแล้วผลลัพธ์จะปรากฎขนึ้
• การใส่ภาพพนื้ หลงั
• 1. คลิกท่หี น้าออกแบบ
2. คลิกท่ี จดั รูปแบบพนื้ หลัง
3. คลกิ ท่ี เตมิ รูปภาพหรือพืน้ ผวิ
• 4. เลือกไฟล์ท่อี ย่ขู องรูปภาพท่ตี ้องการ
• 5. เลือกรูปภาพท่ตี ้องการ
• 6. กาหนดให้นาไปใช้กับทงั้ หมด งานนาเสนอกจ็ ะมีพนื้ หลังเป็ นรูปเดียวกนั ทกุ สไลด์
• การออกแบบ
• 1. คลกิ หน้าออกแบบ
2. เลือกรูปแบบการออกแบบท่ตี ้องการ
• หน่วยที่ 4 แทรกและปรับแต่งข้อความ
• 4.1 การแทรกข้อความในสไลด์
• การแทรกข้อความในสไลด์
• การสร้างข้อความมีวิธีสร้างและการใช้งาน 3รูปแบบ คือ การสร้าง
ข้อความด้วย เค้าโครงภาพน่ึง (Slide Layout)หรือการกรอบเค้าโครง สร้างข้อความ
ด้วยกล่องข้อความ (Text Box) และส้างข้อความด้วยอักษรศิลป์ (wordArt)โดยและ
รูปแบบมีขัน้ ตอนดังนี้
•
• 1.1 การสร้างข้อความด้วยเค้าโครงภาพน่ึงหรือกรอบเค้าโครง
• การสร้างสไลด์หรือการเพมิ่ แผ่นสไลด์ใหม่ลงในงานนาเสนอ ซ่งึ จะมีรูปแบบเป็ นกรอบ
ข้อความสาหรับพมิ พ์ข้อความลงในสไลด์ สามารถทาได้ดงั นี้
• 1. คลกิ เมาส์วางเคอร์เซอร์ภายในกรอบเค้าโครง
• 2. พมิ พ์ข้อความท่ตี ้องการ เช่นChat เป็ นบริการอย่างหน่ึงบนอินเทอร์เน็ตท่ใี ช้
ในการโต้ตอบพูดคุยกนั สดๆ (read-time และอาจมีบริการเสริมอ่ืนๆ เช่น File
sharing
• ตวั อย่างเค้าโครงแบบช่ือเรื่องและเนือ้ หา มีกรอบข้อความคลิกเพ่อื ช่ือเร่ืองและกรอบ
เพ่อื เพ่มิ ข้อความ
•
• 1.2 การสร้างข้อความด้วยกล่องข้อความ(Text Box)
• สามารถสร้างกล่องข้อความเพม่ิ เตมิ นอกเนือ้ จากกรอบเค้าโครงทเ่ี ลอื กใช้งานตรงตาแหน่งใด
กไ็ ด้บนแผ่นสไลด์ ซ่งึ มีวธิ ีการดงั นี้
• 1. คลิกท่แี ทบ็ แทรก(lnsert)
• 2. คลกิ ท่ปี ่ มุ (text Box)
• 3. เมาส์จะเป็ นเคร่ืองหมาย
4. คลิกเมาส์วางตาแหน่งท่ตี ้องการ จะปรากฏกรอบส่ีเหล่ียม
5. พมิ พ์ช่ือของนักเรียนตรงตาแหน่งเคอร์เซอร์
• 1.3 การสร้างและเปล่ียนข้อความด้วยอักษรศิลป์ (WordArt)
• อกั ษรศิลป์ คอื การแทรกข้อความตกแต่งลงในสไลด์หรือเอกสาร เพอ่ื เพมิ่ ความน่าสนใจให้กบั
สไลด์ หรือ ใช้เป็ นหวั ข้อของสไลด์ ซ่งึ มีขัน้ ตอนดงั นี้
•
• 1. คลิกท่แี ทบ็ แทรก (lnsert)
• 2. คลกิ ท่ปี ่ มุ (wordArt)
• 3. ปรากฎหน้าต่างสไตด์อักษรศลิ ป์ คลิกเลือกสไตล์ท่ตี ้องการ
• 4. ปรากฏกรอบข้อความ ใส่ข้อความของคุณท่นี ่ี
• 5. ให้พมิ พ์ข้อความว่าCHAT คืออะไรจะปรากฏข้อความศลิ ป์ CHAT คืออะไรตาม
สไตล์ท่เี ลือก
• 6. ดับเบลิ คลิกกรอบตวั อักษรศิลป์ จะปรากฎแถบเคร่ืองมือรูปแบบ
• 7. คลิกป่ มุ เพ่มิ เตมิ (More)ปรากฏตารางรูปแบบ
• 8. คลกิ เลือกรูปแบบท่ตี ้องการเปล่ียน
•
• 1.4 การปรับแต่งสีตัวอกั ษรศิลป์
• สามารถแก้ไขและปรับสีข้อความอกั ษรศิลป์ ตามทตี่ ้องการได้ดงั นี้
• 1. คลิกท่ขี ้อความให้มีจุด Handle ล้อมรับ
• 2. คลกิ ป่ มุ สีเตมิ ข้อความ(Text Fill)
• 3. เล่ือนเมาส์วางท่ี สีของชุดรูปแบบ หรือ สีมาตรฐานหรือไม่เตมิ สีกไ็ ด้ตาม
ต้องการ
• 4. เลือกสีเตมิ ข้อความเพ่มิ เตมิ หรือการใช้สีจากการไล่ระดบั สีเพ่มิ เติม หรือการใช้
พนื้ ผวิ ท่ตี ้องเปล่ียนสีอักษรศิลป์ หรือใส่รูปภาพลงในตวั อักษรศิลป์
• 1.5 การใส่สีเส้นขอบอักษรศิลป์
• หากต้องการเปลยี่ นสีเส้นขอบอกั ษรศิลป์ เพอื่ ให้เหน็ ข้อความเด่นขนึ้ สามารถทาได้ดังนี้
• 1. คลกิ ท่ขี ้อความให้มีจุด Handle ล้อมรับ
• 2. คลกิ แทบ็ รูปแบบ (Format)
• 3. คลิกป่ มุ เส้นกรอบข้อความ(Text Outline)
• 4. เล่ือนเมาส์วางท่ี สีของชุดรูปแบบ หรือ สีมาตรฐานหรือไม่มีเส้นกรอบ หรือ
• 5. เลือกสีกรอบเพ่มิ เตมิ หรือเลือกนาหนักของ เส้นขอบหรือเส้นประ
• 6. อักษรศิลป์ จะเปล่ียนสีเส้นขอบตามท่เี ลือก
• 1.6 การใส่เอฟเฟกต์ (Effects) อักษรศลิ ป์
• หมุนสากมามริตใแสิ ่ลละักกษาณรเะปพลเิ ่ียศนษแใหป้กลับงทอศิักทษารงศขลิ อป์งตเชวั ่นอักใษส่รเงศาิลใปส์ ่กสาารมสาะรทถ้อทนาไดห้ดรืองั นใสี้ ่การ
• การใส่เงา(Shadow) อักษรศิลป์
• 1. คลกิ ท่อี ักษรศิลปื ให้มีจุด Handle ล้อมรอบ
• 2. คลิกแทบ็ รูปแบบ (Format)
• 3. คลิกป่ มุ ลักษณะพเิ ศษข้อความ(Text Effects)
• 4. คลกิ เลือกเงา (Shadow)ท่ตี ้องการและดูผลท่ไี ด้จากอักษรศิลป์
• 5. คลิกรูปแบบเงา (Shadow) ท่ตี ้องการ และดผู ลท่ไี ด้จากตวั อักษรศิลป์
• 6. คลกิ ตวั เลือกเงา
• 7. ปรับสีของเงา หรือปรับความโปร่งใสของเงาหรือมุมและระยะทางท่ตี ้องการ
• 8. คลิกป่ มุ ปิ ด (Close)
• 9. ผลลัพธ์ท่ไี ด้จากการปรับเงา
• การใส่เงาสะท้อน (Reflection)
• 1. คลิกท่อี ักษรศลิ ป์ ให้มีจดุ Handle ล้อมรอบ
• 2. คลิกแทบ็ รูปแบบ (Format)
• 3. คลิกป่ มุ ลักษณะพเิ ศษข้อความ (Text Effects)
• 4. คลกิ เลือกเงาสะท้อน (Reflection)
• 5. คลกิ เลือกเงาสะท้อนท่ตี ้องการ และดูผลท่ไี ด้จากตวั อักษรศลิ ป์
• การใส่เงาเรืองแสง(Glow)
• 1. คลกิ ท่อี ักษรศลิ ป์ ให้มีจดุ Handle ล้อมรอบ
• 2. คลิกแทบ็ รูปแบบ (Format)
• 3. คลิกป่ มุ ลักษณะพเิ ศษข้อความ (Text Effects)
• 4. คลกิ เลือกเรืองแสง (Glow)
• 5. คลิกเลือกรูปแบบเรืองแสงท่ตี ้องการ และดผู ลท่ไี ด้จากตัวอักษรศลิ ป์
• การใส่อกั ษรศิลป์ แบบยกนูน (Bevell)
• 1. คลิกท่อี ักษรศลิ ป์ ให้มจี ดุ Handle ล้อมรอบ
• 2. คลิกแทบ็ รูปแบบ (Format)
• 3. คลกิ ป่ ุม ลักษณะพเิ ศษข้อความ (Text Effects)
• 4. คลิกเลือกยกนูน (bevel)
• 5.คลิกเลือกรูปแบบยกนูนท่ตี ้องการ และดูผลท่ไี ด้จากตัวอกั ษรศิลป์
• การหมุนสามมติ ิ (3D-Rotation)
•
• 1. คลิกท่อี กั ษรศลิ ป์ ให้มีจดุ Handle ล้อมรอบ
• 2. คลกิ แทบ็ รูปแบบ (Format)
• 3. คลกิ ป่ ุม ลักษณะพเิ ศษข้อความ (Text Effects)
• 4. คลกิ เลือกรูปแบบการหมุนสามมติ ิ (3D-Rotation)
• 5. คลกิ เลือกรูปแบบการหมุนสามมติ ทิ ่ีต้องการ และดูผลท่ีได้จากตวั อกั ษรศลิ ป์
•
การเปลยี่ นทศิ ทางตัวอกั ษร (Transform)
1. คลิกท่อี ักษรศลิ ป์ ให้มีจุด Handle ล้อมรอบ
2. คลกิ แทบ็ รูปแบบ (Format)
3. คลิกป่ ุม ลักษณะพเิ ศษข้อความ (Text Effects)
4. คลิกเลือกการแปลง (transform)
5. คลิกเลือกรูปแบบการแปลง(transform)ท่ตี ้องการ และดผู ลท่ไี ด้จากตัวอักษร
ศลิ ป์
4.2 การแทรกสัญลกั ษณ์แสดงหวั ข้อย่อยและลาดบั เลข
การใส่สัญลักษณ์แสดงหวั ข้อย่อยหรือลาดับเลขลักษณะต่างๆหน้าหวั ข้อเพ่มิ เตมิ
ซ่งึ มีวธิ ีการดงั นี้
แสดงหรือซ่อนสัญลกั ษณ์ลกั ษณะต่างๆ
สามารถแสดงหรือซ่อนสัญลกั ษณ์หน้าข้อความได้ โดยคลกิ ป่ ุม
สัญลกั ษณ์แสดงหวั ข้อย่อยและยงั สามารถเปลย่ี นและปรับสัญลกั ษณ์เพมิ่ เติมได้ดังต่อไปนี้
1. คลกิ เลือกกรอบข้อความให้มีเส้นประ
• 2. คลิกท่ลี ูกศร ป่ มุ Bullets and Numbering
• 3. เลือกสัญลักษณ์แสดงหวั ข้อย่อยลักษณะต่างๆเช่น สัญลักษณ์แสดงหวั ข้อย่อย
ส่ ีเหล่ ียมโปร่ ง
• 4. คลิกสัญลักษณ์แสดงหวั ข้อย่อยและลาดบั เลข
5. ปรากฎหน้าต่างสัญลักษณ์สัแสดงหวั ข้อย่อยและลาดับเลข
• 6. คลกิ ป่ มุ กาหนดเอง (Customize)
• 7. ปรากฎหน้าต่างสัญลักษณ์
• 8. คลิกลูกศรเลือกแบบอักษร Wingdings
• 9. เลือกสัญลักษณ์ (Symboll)
• 10. คลกิ ป่ มุ ตกลง (OK)
• 11. คลิกป่ มุ รูปภาพ(Picture)
• 12. ปรากฎหน้าต่าง รูปภาพแสดงหวั ข้อย่อย (picture Bullet)
• 13. คลิกเลือกรูปภาพท่ตี ้องการ
• แสดงหรือซ่อนตวั เลขลกั ษณะต่างๆ
• สามารถแสดงหรือซ่อนลาดับเลขหน้าข้อความได้ แสดงลาดับเลขและยังสามารถ
เปล่ียนและปรับลาดับเลขเพ่มิ เตมิ ได้ ดังขัน้ ตอนต่อไปนี้
• 1. คลิกเลือกกรอบข้อความให้มีเส้นประ
• 2. คลิกลูกศร ป่ มุ ลาดบั เลข
• 3. เลือกสัญลักษณ์แสดงหวั ข้อย่อยลักษณะต่างๆเช่นลาดบั เลขตัวเลขไทย
• 4. ข้อความท่เี ลือกจะเปล่ียนลาดับเลขเป็ นเลขไทย
• 5. คลกิ สัญลักษณ์แสดงหวั ข้อย่อยและลาดบั เลข
• 6. ปรากฎหน้าต่างสัญลักษณ์สัแสดงหวั ข้อย่อยและลาดับเลข
• 7. คลิกลูกศรปรับตวั เลขท่ตี ้องการเร่ิมต้นท่ี
• 8. เลือกสีท่ตี ้องการ
• 9. คลกิ ป่ มุ ตกลง (OK)
•
• ปรับระยะห่างสัญลกั ษณ์กบั ข้อความ
• 1. คลกิ แทบ็ มุมมอง (View)
• 2. คลิกเคร่ืองหมายถูกหน้าไม้บรรทดั
• 3. คลิกเมาส์เลือกข้อความท่ตี ้องการปรับระยะห่าง
• 4. คลกิ เล่ือนท่สี ามเหล่ียมเพ่อื ปรัยระยะห่าง
• 5. คลิกเลือกข้อความสองบรรทดั ท่ตี ้องการเล่ือก
• 6. คลกิ ส่ีเหล่ียมเลก็ เล่ือนข้อเล่ือนข้อความมาด้านหน้า
•
• 4.3 การจดั วางข้อความและย่อหน้า
• การจดั วางตาแหน่งข้อความ
• การพมิ พ์ปกตจิ ะจัดแนวข้อความอย่ชู ิดซ้ายอย่แู ล้ว หากต้องการจัดวางแนว
ข้อความในตาแหน่งต่างๆ รวมทงั้ การวางตามแนวนอนและแนวตงั้ หรือมุมด้านขวา
ด้ านซ้ ายสามารถทาได้ ดังนี ้
• 1. คลิกเลือกกรอบข้อความหรือวางเคอร์เซอร์ภายในกรอบข้อความ 2.คลกิ เลือก
รูปแบบการจดั แนวข้อความ เช่น
• - จัดแนวข้อความชิดซ้าย หรือกด (Ctrl+L)ปกตเิ ม่ือพมิ พ์ข้อความจะจัดแนวอย่ชู ดิ
ซ้าย
• - จัดข้อความไว้ก่งึ กลางหรือกด(Ctrl+E)
• - จัดแนวข้อความชดิ ขวาหรือกด(Ctrl+R)
• - เตม็ แนวจัดข้อความชิดระยะขอบทงั้ ซ้ายขวา
• - กระจ่ายแบบไทยจดั ย่อหน้าชิดทงั้ ระยะขอบซ้ายขวาด้วยการเพ่มิ ช่องว่างเพ่มิ เตมิ
ระหว่างแต่ละตวั อักษร
•
• การจดั ทศิ ทางการวางข้อความ
• การปรับทศิ ทางการวางข้อความ สามารถปรับแนวนอน แนวต้ัง และหมุนข้อความไปทางขวา
หรือทางซ้าย ซ่ึงมวี ธิ ีการดังนี้
•
• 1. คลกิ เลือกกรอบข้อความหรือวางเคอร์เซอร์ภายในกรอบข้อความ
• 2. คลกิ เลือกรูปแบบทศิ ทางการวางข้อความ
• การเพมิ่ หรือลดระดับรายการ
• สามารถลดระดับข้อความแต่ละหวั ขอด้วยการคลกิ ป่ ุม เพ่อื ลดระดบั รายการและเพ่มิ
ระดับรายการดวั ยป่ มุ ซ่งึ มีวิธีการดังนี้
• 1. คลกิ เลือกกรอบข้อความหรือวางเคอร์เซอร์ภายในกรอบข้อความ
• 2. คลกิ เลือกป่ มุ ลดระดับรายการหรือ
• 3. คลิกเลือกป่ มุ ลดระดับรายการ
การปรับระยะห่างบรรทดั
• สามารถปรับข้อความระหว่างบรรทดั ของข้อความได้ตามต้องการด้วยป่ ุม ระยะห่างบรรทดั
ซ่งึ มีวธิ ีการดังนี้
•