• 1. คลกิ ท่ีรูปเคร่ืองมือ Insert Chart
• 2. เลือกที่รูปแบบและชนิดของกราฟ
• 3. คลิกท่ีรูปแบบของกราฟที่ต้องการ ในที่นีเ้ลือกแบบ Column
• 4. จะปรากฏตารางมนการกรอกข้อมลู
• 5. ทาการกรอกข้อมลู ตามท่ีกาหนด
• 6. เม่ือกรอกข้อมลู รูปแบบของกราฟจะปรับเปล่ียนตามข้อมลู ท่ีกรอก
• 7.3 การสร้างไดอะแกรม
• การสร้างไดอะแกรม
• การสร้างไดอะแกรม (SmartArt Graphic) ทาให้การนาเสนอข้อมลู มีความชดั เจน
สวยงามมากย่ิงขนึ ้ และช่วยในการจดั ทางานเสนอให้งา่ ยขนึ ้ ซงึ่ รูปแบบของไดอะแกรมมี
หลายรูปแบบด้วย ดงั นี ้
• · แบบ List (รายการ) ใช้แสดงข้อมลู ที่ไมเ่ ป็นลาดบั
• · แบบ Process (กระบวนการ) ใช้แสดงขนั้ ตอน กระบวนการ ความคืบหน้าหรือเวลา
• · แบบ Cycle (วงกลม) ใช้แสดงลาดบั ขนั้ ตอนที่ต่อเน่ือง
• · แบบ Hierarchy (ลาดบั ) ใช้แสดงความสมั พนั ธ์ที่มีลาดบั ขนั้ หรือผงั องค์กร
• · แบบ Relationship (ความสมั พนั ธ์) ใช้แสดงความสมั พนั ธ์หรือเช่ือมโยง
• · แบบ Matrix (เมทริกซ์) ใช้แสดงให้รู้ว่าข้อมลู สมั พนั ธ์กนั อย่างไร
• · แบบ Pyramid (พีระมดิ ) ใช้จดั ลาดบั ความสาคญั ของงานท่ีมีอยู่ โดยงานที่อยดู่ ้านบน
จะมีความสาคญั มากที่สดุ หรือใช้จดั ลาดบั ปริมาณงานท่ีมี ซง่ึ ด้านลา่ งมีปริมาณมากที่สดุ
• · แบบ Picture (รูปภาพ) ใช้สาหรับพมิ พ์ผงั องค์กร ซง่ึ ประกอบด้วยรูปภาพและข้อความ
• · แบบ Office.com (ทางาน) จะมีรูปแบบท่ีใช้บอ่ ยๆ ในสานกั งาน
• กำรสร้ำงไดอะแกรม มีวิธีการปฏิบตั ดิ งั นี ้
• 1. คลิกท่ีรูปเคร่ืองมือ Insert a SmartArt Graphic
• 2. จะปรากฏกรอบ SmartArt Graphic ให้เลือก
• 3. เลือกรูปแบบท่ีต้องการ ในท่ีนีเ้ลือกแบบ Cycle เสร็จแล้วคลิกท่ีป่ มุ Ok
• 4. จะปรากฏกรอบ Type your text here ให้พมิ พ์ข้อความตามที่ต้องการในชอ่ งนี ้
• 5. พมิ พ์ข้อความตามที่ต้องการ
• 6. จะปรากฏรูปแบบท่ีพมิ พ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
• 7. ทาการปรับแต่งรูปแบบให้สวยงาม โดยใช้แท็บชื่อ DESIGN และ FORMAT
• 8. สามารถเลือกสีที่รูปเคร่ืองมือ Change Colors
• 9. เลือกรูปแบบของไดอะแกรม ได้ที่ SmartArt Styles
• 10. เม่ือทาการปรับแตง่ เรียบร้อยแล้วจะปรากฏ
• หน่วยที่ 8 การกาหนดเอฟเฟกต์ให้กับสไลด์
• 8.1 ความหมายของอนิเมช่ัน
• ความหมายของอนิเมชั่น
• แอนิเมชนั (Animation) หมายถึง กระบวนการท่ีเฟรมแตล่ ะเฟรมของภาพยนตร์ ถกู
ผลติ ขนึ ้ ตา่ งหากจาก กนั ทีละเฟรม แล้วนามาร้อยเรียงเข้าด้วยกนั โดยการฉายต่อเนื่องกนั
ไมว่ า่ จากวิธีการ ใช้คอมพวิ เตอร์กราฟิก ถ่ายภาพรูปวาด หรือ หรือรูปถ่ายแต่ละขณะของ
หนุ่ จาลองที่คอ่ ย ๆ ขยบั เม่ือนาภาพดงั กล่าวมาฉาย ด้วยความเร็ว ตงั้ แต่ 16 เฟรมตอ่ วนิ าที
ขนึ ้ ไป เราจะเห็นเหมือนว่าภาพดงั กลา่ วเคล่ือนไหวได้ตอ่ เน่ืองกนั ทงั้ นีเ้น่ืองจาก การเหน็ ภาพ
ติดตาในทาง คอมพิวเตอร์ การจดั เก็บภาพแบบอนิเมชนั ท่ีใช้กนั อยา่ งแพร่หลายใน
อนิ เทอร์เน็ต ได้แก่เก็บในรูปแบบ GIF MNG SVG และ แฟลช
• ชนิดของแอนิเมชนั สำมำรถแบ่งออกไดเ้ ป็นสำมชนิดคือ
• 1. Drawn Animation คือแอนิเมชนั ที่เกิดจากการวาดภาพหลายๆพนั ภาพ แต่การฉายภาพ
เหล่านนั้ ผา่ นกล้องอาจใช้เวลาไม่ก่ีนาที ข้อดีของการทาแอนเิ มชนั ชนดิ นีค้ ือ มีความเป็น
ศิลปะสวยงามน่าดชู ม แตข่ ้อเสียคือต้องใช้เวลาในการผลติ มากต้องใช้แอนเิ มเตอร์จานวน
มากและต้นทนุ ก็สงู ตามไปด้วย
• 2. Stop Motion หรือเรียกวา่ Model Animation เป็นการถ่ายภาพแตล่ ะขณะของห่นุ จาลองท่ี
คอ่ ยๆขยบั อาจจะเป็นของเล่นหรืออาจจะสร้างตวั ละครจาก Plasticine วสั ดทุ ี่คล้ายกบั ดนิ
นา้ มนั โดยโมเดลที่สร้างขนึ ้ มาสามารถใช้ได้อีกหลายครัง้ และยงั สามารถผลติ ได้หลายตวั ทา
ให้สามารถถ่ายทาได้หลายฉากในเวลาเดียวกนั แต่การทา Stop Motmotion นนั้ ต้องอาศยั
เวลาและความทมุ่ เทมาก เชน่ การผลติ ภาพยนตร์เร่ือง James and the Giant Peach สามารถ
ผลิตได้ 10 วินาที ตอ่ วนั เท่านนั้ วิธีนีเ้ป็นงานท่ีต้องอาศยั ความอดทนมาก
• 3. Computer Animation ปัจจบุ นั มีซอฟท์ที่สามารถชว่ ยให้การทาแอนิเมชนั งา่ ยขึน้ เช่น
โปรแกรม Maya, Macromediaและ 3D Studio Max เป็นต้น วธิ ีนีเ้ป็นวิธีท่ีประหยดั เวลาการ
ผลติ และประหยดั ต้นทนุ เป็นอยา่ งมาก เช่น ภาพยนตร์เรื่องToy Story ใช้แอนเิ มเตอร์เพียง
110 คนเทา่ นนั้
• 8.2 ประเภทของภาพเคล่ือนไหว
• ประเภทของภาพเคลอ่ื นไหว
• ประเภทของภาพเคลื่อนไหว แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
• 1. 2D Animation คือ ภาพเคล่ือนไหวแบบ 2 มิติ มองเหน็ ได้ทงั้ ความสงู และความกว้าง ซงึ่
จะมีความเหมือนจริงพอสมควรและการสร้างจะไม่สลบั ซบั ซ้อนมากนกั เช่น ภาพเคลื่อนไหว
ท่ีปรากฏตามเวบ็ ต่างๆ รวมทงั้ Gif Animation
• 2. 3D Animation คือ ภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ มองเหน็ ได้ทงั้ ความสงู ความกว้าง และ
ความลกึ ภาพท่ีเห็นจะมีความสมจริงมากถึงมากท่ีสดุ เช่น ภาพยนตร์การ์ตนู
เรื่อง NEMO เป็นต้น
•
• 8.3 ชนิดของภาพเคลอ่ื นไหว
• ชนิดของภาพเคลอื่ นไหว
• กำรสร้ำงภำพเคล่ือนไหวแบบน้ี เป็นกำรสร้ำงคียเ์ ฟรม หลำยๆ คียเ์ ฟรมต่อเรียงกนั แต่ละ
เฟรมจะเป็นอิสระต่อกนั กำรแกไ้ ขเฟรมใดเฟรมหน่ึง ไม่ส่งผลต่อเฟรมอ่ืนๆ ซ่ึงหลกั ๆ มีอยู่ 3
รูปแบบคือ
• 1. กำรสร้ำงขอ้ ควำมเคลื่อนไหว
• 2. กำรสร้ำงภำพเคลื่อนไหวแบบยำ้ ยตำแหน่งวตั ถุ
• 3. กำรสร้ำงภำพเคล่ือนไหวแบบยอ่ -ขยำยวตั ถุ
•
• 8.4 การใส่เอฟเฟกต์ภาพเคล่ือนไหว
• การใส่เอฟเฟกต์ภาพเคลอ่ื นไหว
• 1. เลือกข้อความหรือรูปภาพท่ตี ้องการใส่ภาพเคล่ือนไหว
• 2. คลิกท่แี ทบ็ ภาพเคล่ือนไหว
• 3. รายการลักษณะพเิ ศษเพ่มิ ตัวเลือกมี 4 กลุ่ม คือ
• - เข้า
• - ตัวเน้น
• - ออก
• - เส้นทางการเคล่ือนท่เี พ่อื ดลู ูกเล่นอ่ืนๆ
• 4. คลกิ ท่รี ูปแบบท่ตี ้องการ
• 8.5 การตัง้ เวลาการเปล่ียนแผ่นสไลด์
• การต้งั เวลาการเปลยี่ นแผ่นสไลด์
• 1. เปล่ียนแบบสไลด์เม่ือคลกิ เม้าส์
• 2. เปล่ียนแผ่นสไลด์อัตโนมัตหิ ลังจาก 3 วนิ าที
• 8.6 การกาหนดการเคลอื่ นไหว
• การสร้างภาพหรือวตั ถุให้เคลอ่ื นไหว
• กำรเปล่ียนขนำดวตั ถุใหใ้ หญ่ข้ึนหรือเลก็ ลงเป็นอีกรูปแบบหน่ึงของกำรสร้ำงภำพเคล่ือนไหว
ตวั อยำ่ งเช่นกำรทำใหว้ ตั ถุเคล่ือนที่จำกตำแหน่งที่อยไู่ กลมำใกลเ้ ป็นตน้
• ข้นั ที่ 1 สร้างวตั ถขุ นึ ้ มา 1 ชนิ ้ จะวาดเป็นภาพธรรมดาหรือ ทาเป็น ซมิ โบลก็ได้ บนเฟรมท่ี 1
• ข้นั ที่ 2 คลกิ ขวาท่ีเฟรมที่ 2 หรือ กด ป่ มุ F6 เพือ่ เพม่ิ คีย์เฟรม (Keyframe)
• ข้นั ท่ี 3 ใช้ลกู ศรสีดา (SelectionTool) คลิกแล้วย้ายตาแหน่งวตั ถขุ ยบั จากตาแหน่งเดมิ
เล็กน้อย
• ข้นั ที่ 4 ทาซา้ ขนั้ ที่ 2 คือ คลิกขวาท่ีเฟรมถดั ไปคือเฟรมที่ 3 หรือ กดป่ มุ F6 เพือ่ เพมิ่ คีย์เฟรม
จากนนั้ ใช้ลกู ศรสีดา (Selection Tool) คลกิ แล้วย้ายตาแหนง่ วตั ถอุ ีกเล็กน้อย
• ข้นั ท่ี 5 เพมิ่ คีย์เฟรมต่อไปเรื่อยๆ และ ขยบั วตั ถุ ไปเรื่อยจนกระทงั่ ได้ภาพเคลื่อนไหวตาม
ต้องการ
• จำกน้นั ตรวจสอบกำรเคลื่อนไหวโดยกำรคลิกที่หวั อ่ำน(Play Head) แล้วลากเม้าส์ซ้าย-ขวา
• ข้นั ที่ 6 กด Ctrl + Enter หรือ คลิกที่เมนู Control > Test Movie เพือ่ ชมตวั อยา่ ง
• 8.7 การบันทกึ เพอ่ื นาไปใช้งาน
• การบนั ทกึ เพอ่ื นาไปใช้งาน
• การบนั ทกึ ปกติ เป็นการนาไปสร้างหรือพฒั นาตอ่ ไฟล์จะมีนามสกลุ .fiv ซง่ึ ไม่สามารถ
นาไปใช้งานได้จงึ ต้องมีการบนั ทกึ เพ่อื นาไปใช้งาน
• 1. คลกิ ท่ีเมนู File
• 2. คลกิ ที่ Export
• 3. เลือก Export Movie
• 4. เลือกแหลง่ เก็บข้อมลู แล้วพิมพ์ช่ือไฟล์ที่ต้องการ ในที่นีก้ าหนดช่ือ Test แล้ว คลิกที่
ป่ มุ Save (จะสงั เกตได้วา่ ไฟล์จะมีนามสกลุ .swf)
•
• 8.8 การทดสอบ
• การทดสอบ
• เมื่อดำเนินกำรเสร็จเรียบร้อยแลว้ ควรจะมีกำรทดสอบกำรใชง้ ำนวำ่ ถูกตอ้ งหรือไม่
โดยกำรกดแป้ น Ctrl + Enter (ในกรณีทาการทดสอบแบบนี ้โปรแกรมจะทาการบนั ทกึ เป็ น
ไฟล์ .swf ให้อตั โนมตั ิ)
•
•
• หน่วยที่ 9 สไลด์ต้นแบบและการเตรียมเอกสาร
•
• 9.1 สไลด์ต้นแบบและเทมเพลต
• ความหมายของสไลด์ต้นแบบ
• เม่ือต้องการให้สไลด์ของคุณเพ่ือให้ประกอบด้วยฟอนต์และรูปภาพ (เช่นโล
โก้), คุณสามารถทาการเปล่ียนแปลงเหล่านัน้ ในท่ีเดยี วซ่งึ ต้นแบบสไลด์ และพวก
เขาจะถูกนาไปใช้กับสไลด์ทงั้ หมดของคุณได้ เม่ือต้องการเปิ ดมุมมองต้นแบบสไลด์
บนแทบ็ มุมมอง เลือกต้นแบบภาพน่ิง:
• ต้นแบบสไลด์คอื บนสไลด์ในบานหน้าต่างรูปขนาดย่อทางด้านซ้ายของหน้าต่าง เค้า
โครงสไลด์ท่เี ก่ยี วข้องปรากฏขนึ้ ใต้ต้นแบบภาพน่ิง:
• เมอ่ื คุณแก้ไขต้นแบบสไลด์ สไลด์ท้งั หมดทท่ี าตามหลกั ทจ่ี ะประกอบด้วยการเปลย่ี นแปลง
เหล่าน้ัน อย่างไรกต็ าม ส่วนใหญ่ทคี่ ุณเปลย่ี นแปลงจะส่วนมากคุณจะสามารถไปเค้าโครง
สไลด์ทเ่ี กยี่ วข้องกบั ต้นแบบ
•
• เม่ือคุณทาการเปล่ียนแปลงต้นแบบภาพน่ิงในมุมมองต้นแบบสไลด์และเค้าโครง
บคุ คลอ่ืนทางานในงานนาเสนอของคุณ (ในมุมมองปกต)ิ ไม่สามารถลบไปโดย
บังเอิญ หรือแก้ไขส่งิ ท่คี ุณได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในทางกลับกนั ถ้าคุณกาลังทางาน
ในปกตดิ ู และค้นหาว่า คุณไม่สามารถแก้ไของค์ประกอบบนสไลด์ (เช่น, "ทาไมไม่
ฉันเอารูปภาพนีใ้ ช่ไหม") ปัญหาอาจเป็ นเพราะว่าส่งิ คุณกาลังพยายามเปล่ียนแปลง
จะถกู กาหนดบนต้นแบบภาพน่ิงได้ เม่ือต้องการแก้ไขส่งิ ท่ี คุณต้องสลับไปยงั
มุมมองต้นแบบสไลด์
• เคลด็ ลบั : เป็ นความคดิ ดเี ม่ือต้องการแก้ไขต้นแบบสไลด์และเค้าโครงของคุณ
ก่อนท่คี ุณเร่ิมต้นเพ่อื สร้างภาพน่ิงแต่ละรายการ วธิ ีท่ที งั้ หมดของสไลด์ท่คี ุณเพ่มิ ลง
ในงานนาเสนอของคุณยดึ ตามการแก้ไขแบบกาหนดเองของคุณ ถ้าคุณแก้ไข
ต้นแบบสไลด์หรือเค้าโครงหลังจากท่คี ุณสร้างสไลด์แต่ละ คุณจะต้องการนาเค้า
โครงมีการเปล่ียนแปลงลงในสไลด์ท่มี ีอย่ใู นงานนาเสนอของคุณในมุมมองปกติ
• ความหมายของเทมเพลต
• เทมเพลตหรือธีม ธีมมีชุดแบบสี ของสี ฟอนต์ เอฟเฟ็ กต์พเิ ศษ (เช่นเงา
สะท้อน เอฟเฟ็ กต์สามมิติ และอ่ืน ๆ) ท่เี พ่มิ อีกบุคคลหน่ึง ตวั ออกแบบท่มี ีทกั ษะ
สร้างธีมแต่ละรายการใน PowerPoint เราทาให้ชุดรูปแบบเหล่านัน้ ออกแบบไว้
ล่วงหน้าพร้อมใช้งานกบั คุณบนแทบ็ ออกแบบ ในมุมมองปกติ
• ทุกธีมทใ่ี ช้ในงานนาเสนอของคุณจะประกอบไปด้วยต้นแบบสไลด์และชุดเค้าโครงท่ี
เกย่ี วข้อง ถ้าคุณใช้ธมี มากกว่าหน่ึงธีมในงานนาเสนอของคุณ คุณจะมมี ากกว่าหนึ่งต้นแบบ
สไลด์และมหี ลายชุดเค้าโครง
• 9.2 การเตรียมเอกสารประกอบการนาเสนอ
•
• ข้นั ตอนการสร้างงานนาเสนอข้อมูล
• การสร้างงานนาเสนอข้อมูลให้ได้ดนี ัน้ ขึน้ อย่กู ับองค์ประกอบหลายส่วน เร่ิม
ตงั้ แต่ข้อมูลท่จี ะใช้บรรยาย ลาดับการนาเสนอ วธิ ีการนาเสนอ บรรยากาศในขณะ
บรรยาย ฯลฯ ปัจจยั ต่างๆเหล่านี้ บางอย่างกค็ วบคุมได้ บางอย่างกไ็ ม่สามารถ แต่
การเตรียมพร้อมในการบรรยายไว้ก่อน จะเป็ นการดที ่สี ุด เพ่อื ท่จี ะได้แก้ปัญหาท่ี
อาจจะเกดิ ขึน้ ได้ ขัน้ ตอนในการสร้างงานนาเสนอข้อมูล เพ่ือนาเสนอผลงาน มี
ดงั ต่อไปนี้
• 1. การวางแผน
• ต้องทราบก่อนว่าการนาเสนอครัง้ นีม้ ีจดุ ประสงค์หลักเพ่อื อะไร ต้องการให้
อะไรกับผู้ฟังบ้างและท่สี าคัญท่สี ุดคือผ้ฟู ังเป็ นใคร เพ่อื จะได้ใช้เตรียมการเร่ือง
ข้อมูลและรูปแบบการนาเสนอได้เหมาะสมกับผู้ฟัง
• 2. การจัดเตรียมการนาเสนอ
• ลาดบั ขัน้ ตอนการจดั ทาสไลด์ทาได้หลายแบบ บางท่านเร่ิมจากสร้างสไลด์
ก่อนแล้วค่อยเรียงลาดบั สไลด์ทหี ลัง บางท่านวางโครงร่างด้วยข้อความก่อน ดังนัน้
จะขอสรุปถงึ ขัน้ ตอนดังกล่าวได้ 8 ขัน้ ตอนดังนี้
• 2.1 เตรียมข้อมูลในสไลด์
• การหาข้อมูลท่จี ะต้องใช้สาหรับการนาเสนอ ควรเน้นเฉพาะข้อมูลท่เี หน็ ว่า
จาเป็ นจริงๆ และเหมาะกับผู้ฟังกลุ่มเป้ าหมายท่วี างไว้ วธิ ีนีจ้ ะช่วยในการวางกรอบ
ของข้อมูลท่จี ะนาเสนอ
•
• 2.2 กาหนดหวั ข้อหลักท่ใี ช้เป็ นจดุ ขายสาคัญ
• เม่ือได้ข้อมูลท่ตี ้องการครบแล้ว กก็ าหนดหวั ข้อท่สี าคัญ โดยเลือกส่งิ ท่นี ่าจะ
เป็ นต้องตาต้องใจผู้ฟัง เพราะเป็ นขัน้ ตอนแรกของความสาเร็จในงานนาเสนอ
• 2.3 วางโครงร่าง
• เรียงลาดบั หวั ข้อว่าจะนาเสนอหวั ข้อใดก่อนหลัง จะกล่าวรายละเอียดหรือ
กล่าวอย่างคร่าวๆ การวางโครงร่างเป็ นส่ิงท่สี าคัญทาให้สามารถรวมความคิด
ทงั้ หมดท่ใี ช้ในการนาเสนอและมีลาดบั การนาเสนอท่ถี กู
• 3. การซักซ้อมก่อนการนาเสนอ
• เม่ือสร้างงานนาเสนอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่ิงท่คี วรกระทาต่อไปคือการซกั ซ้อม
เตรียมการก่อนการนาเสนอ เพ่อื ให้เกดิ ความชัดเจนในข้อมูลและเข้าใจอย่างถ่อง
แท้มีลาดับการนาเสนอท่ถี ูกต้อง และยงั ทาให้เกดิ ความม่ันในมากขึน้
•
• 4. การนาเสนอจริง
• ในขณะบรรยาย ควรสร้างบรรยากาศท่ดี ีเป็ นกันเองกบั ผู้ฟัง ต้องใช้นา้ เสียง
คาพดู กริยาท่าทางให้เหมาะสมกับผู้ฟังด้วย การนาเสนอจริงเป็ นตวั พสิ ูจน์ว่าการ
เตรียมการของคุณมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ถ้าคุณเตรียมการมาพร้อม น่ันก็
ถือได้ว่าคุณประสบผลสาเร็จไปคร่ึงหน่ึงแล้ว
•
• 9.3 สร้างเอกสารประกอบการบรรยาย
• การเตรียมการก่อนกานาเสนอ
• การนาเสนองานท่ดี ีควรทาเป็ นขัน้ ตอน เร่ิมจากการวางโครงร่างความคิด
ต่อไปจดั ทารายละเอียดเนือ้ หาและจัดทาเป็ นสไลด์ ซ่งึ จะทาให้ไปได้อย่างรวดเร็ว
ซ่งึ มี ขัน้ ตอนดงั นี้
•
1. การวางโครงร่าง
ศึกษากลุ่มผู้ฟังว่ามีลักษณะอย่างไร ต้องมีความเข้าใจข้อมูลท่ตี ้องการนาเสนอ
อย่างชัดเจนเพ่อื จะได้ผลลัพธ์ตรงเป้ าหมาย
• 2. จดั ทารายละเอยี ดเนือ้ หา
กาหนดหวั ข้อต่างๆ โดยเน้นกลุ่มผู้ชมเป็ นหลักว่าสไลด์ควรมีเนือ้ หาหรือรูปแบบ
การจัดวางอย่างไร หรือควรนาเสนอแบบใด เช่น ใส่ภาพ ใส่สี และแนวการนาเสนอ
3.การใส่ข้อความ ภาพ กราฟในสไลด์
การนาส่งิ ต่างๆ ท่ตี ้องการนาเสนอมาใส่ลงในสไลด์แต่ละแผ่น
4.การปรับแต่งสไลด์ให้สวยงาม
การปรับแต่งตวั อักษร สีท่ใี ช้กบั สไลด์และรูปแบบท่แี สดงเพ่ือดูสวยงามและน่า
ตดิ ตาม
5.เพ่มิ ความน่าสนใจในการนาเสนอ
การใส่เทคนิคการเปล่ียนแผ่นสไลด์ การเคล่ือนไหวของตัวอักษรมาใช้เพ่ิมความ
น่าสนใจและใช้คอมพวิ เตอร์ในการนาเสนอสไลด์
• 6.เตรียมการนาเสนอจริง
ต้องซ้อมการพูดให้เข้ากับแผ่นสไลด์ด้วยการจับเวลา เพ่อื จะได้ทราบว่าการ
บรรยายใช้เวลาอย่างเหมาะสมหรือไม่
• 7.เตรียมเอกสารประกอบการบรรยาย
คือการพมิ พ์เอกสารประกอบการบรรยาย การจัดทาเอกสารแจกผู้เข้าฟังเพ่ือ
ไม่ให้ผู้ฟังเสียเวลาในการจดบันทกึ ให้ใช้เวลาฟังส่งิ ท่บี รรยายแทน
•
• 9.4 การนาเสนองาน (Presentation)
• การนาเสนอ
• การนาเสนอโปรแกรม Adobe Flash สามรถใช้ในการนาเสนอได้ โดยไม่จาเป็ นท่ี
จะต้องโปรแกรม Adobe Flash อย่ดู ้วย และสามารถบันทกึ ไปนาเสนอได้ในหลาย
รูปแบบด้วยกนั ในท่นี ีจ้ ะกล่าวถงึ 3 วธิ ี
• 1. การนาเสนอประกอบการบรรยาย
• 2. การนาเสนอในเว็บไซต์
• 3. การนาเสนอประกอบในรูปแบบวิดโี อ
•
• 9.5 บนั ทกึ เสียงประกอบการบรรยาย
• การบันทกึ เสียง
• สามารถประหยดั เวลาโดยใช้เคร่ืองมอื Record Narration เพราะมันไม่ใช่แค่ช่วย
ให้คุณบนั ทกึ เสียงแต่ยงั สามารถรักษาเวลาให้สาหรับแต่ละสไลด์และแสดงสไลด์
อย่างต่อเน่ืองในเวลาอันเหมาะสม ตวั อย่างเช่น คุณต้องการให้คนอ่ืนมาแสดงงา
นาเสนอแทน คุณกใ็ ช้เจ้าเคร่ืองมือนีบ้ นั ทกึ เสียงคุณไว้ในแต่ละสไลด์ และจดั การให้
ไปยังสไลด์ถัดไปด้วยเวลาท่เี หมาะสม เม่ือคุณเลือกท่จี ะเช่ือมต่อเสียงประกอบบ
สไลด์กับไฟล์ในฮาร์ทไดร์ฟของคุณ ไฟล์เสียงกจ็ ะถูกแยกไปอยู่ข้างนอกเคร่ืองซ่งึ จะ
ทาให้ลดขนาดของไฟล์ลงและยังช่วยให้การทางานดขี ึน้ ถ้าคุณไม่ต้องการเช่ือต่อ
ตวั การบันทกึ เสียงกจ็ ะอยู่ในไฟล์งานนาเสนอ หรือในบทความถัดไป กจ็ ะเป็ นการ
บันทกึ เสียงอีกวิธีหน่ึงแนะนา สร้างสไลด์โชว์แบบมเี สียงบรรยายด้วย powerpoint
• หากต้องการศึกษาเพมิ่ เติมเกย่ี วกบั บทความอนื่ ๆ สามารถเข้าไปดูได้ท่ี จดั เตม็ ด้วย
เสียงและวดี ีโอใน Powerpoint
1. คลิกท่แี ถบเมนู Slide Show
• 2. คลกิ ท่ี Record Narration
• กล่องโต้ตอบของ Record Narration ปรากฏขนึ้ เปลย่ี นเป็ น
• เพอ่ื ให้ PowerPoint ทาการบันทกึ เสียงแยกกัน
• 3. คลกิ OK
• โปรแกรม PowerPoint เปิ ดในโหมด Slide Show
• 4. ทาการนาเสนองานของคุณในขณะบันทกึ เสียงลงในสไลด์
• 5. กด Spacebar เพ่ือไปยงั สไลด์ถดั ไป
• 6. ตามขัน้ ตอนท่ี 4 และ 5 สาหรับทกุ สไลด์ท่คี ุณต้องการบนั ทกึ เสียง
• 7. กดป่ ุม Esc เม่ือคุณได้เสร็จสนิ้ การบนั ทกึ เสียง
• กล่องโต้ตอบ Miceosoft Office PowerPoint ปรากฏขนึ้
• 8. คลกิ Save
•
•
• ถ้าคุณเกดิ ทาผดิ ผลาดในระหว่างบทั กึ เสียงน้ัน คลกิ Don’t Save แทน เพ่อื ทาการบนั ทกึ
ใหม่อีกครัง้
• โปรแกรม PowerPoint สลับไปยงั รูปแบบ Slide Sorter และแสดงเวลาแต่ละสไลด์ท่ไี ด้
ทาการบนั ทกึ เสียงลงไป
• การนาเสนอประกอบการบรรยาย
• วธิ ีการเสนอประกอบการบรรยาย คือ การนาเสนอในรูปแบบไฟล์
นามสกลุ .swf
• 1. ให้คลกิ ท่เี มนู File
• 2. คลิกท่ี Export
• 3. เลือก Export Movie
• 4. เลือกแหล่งเกบ็ ข้อมูล และบันทกึ ช่ือท่ที ่ตี ้องการ แล้วคลิกท่ปี ่ มุ Save
• การนาเสนอในเวบ็ ไซต์
• วธิ ีท่ี 1
• 1. ให้คลิกท่เี มนู File
• 2. คลกิ ท่ี Publish
• 3. เลือกไฟล์ท่ตี ้องการ ซ่งึ มีให้เลือกไฟล์ท่เี ป็ น
นามสกุล HTML และ Flash ซ่งึ ถ้าไม่เลือก จะเป็ นนามสกลุ HTML
• วธิ ีท่ี 2
• 1. ให้คลกิ ท่เี มนู File
• 2. คลกิ ท่ี Publish Settings
• 3. วธิ ีนีส้ ามารถท่จี ะเลือกบันทกึ เป็ นไฟล์ใดกไ็ ด้ เช่น HTML GIF JPEG
•
• หน่วยท่ี 10 โปรแกรม Adobe Flash Professional CS5-CS6
• 10.1 ลกั ษณะของโปรแกรม
• ลกั ษณะของโปรแกรม
• โปรแกรม Flash เป็นซอฟต์แวร์ท่ีชว่ ยในการสร้างส่ือมลั ติมีเดีย, ภาพเคล่ือนไหว
(Animation), ภาพกราฟิกท่ีมีความคมชดั เน่ืองจากเป็ นกราฟิกแบบเวค็ เตอร์
(Vector), สามารถเลน่ เสียงและวีดิโอ แบบสเตริโอได้, สามารถสร้างงานให้โต้ตอบกบั
• ผใู้ ช(้ Interactive Multimedia) มีฟังก์ชนั่ สาหรับการเขียนโปรแกรม (Action Script) และยงั
ทางานในลกั ษณะ CGI โดยเช่ือมตอ่ กบั
• กำรเขียนโปรแกรมภำษำอ่ืนๆ ไดม้ ำกมำย เช่น ภำษำ PHP, JSP, ASP, ASP.NET, C/C++, C#,
C#.NET, VB, VB.NET, JAVA และอื่นๆ โดยเฉพาะข้อดีของโปรแกรม Flash คือ
ความสามารถในการบีบอดั ไฟล์ให้มีขนาดเล็ก มีผลทาให้แสดงผลได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนนั้ ยงั แปลงไฟล์ไปอย่ใู นฟอร์แมตอ่ืน ได้หลากหลาย เช่น avi, mov, gif, wav,
emf,eps, ai, dxf, bmp, jpg, gif, png เป็นต้น
• โปรแกรม Flash เริ่มมีชื่อเสียงประมาณปี พ.ศ. 2539 จนถึง ปัจจบุ นั ได้ถกู นามาใช้งานอย่าง
แพร่หลาย โดยเฉพาะเทคโนโลยีเว็บ ทาให้การนาเสนอทาได้อยา่ งน่าสนใจ นอกจากนนั้
โปรแกรม Flash ยงั สามารถสร้างแอพพลิเคชน่ั (Application) เพ่ือใช้ทางานต่างๆ รองรับการ
ใช้งานกบั อปุ กรณ์ที่ เชื่อมตอ่ กบั ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และทางานได้กบั หลายๆ แฟลต
ฟอร์ม (Platform)
• 10.2 ประเภทของโปรแกรม
• ประเภทของไฟล์โปรแกรม
.s ไฟล์ .swf เป็ นไฟล์ท่ีสมบูรณ์, ถกู compiled แล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้อกี
w สามารถเล่นได้ในเคร่ืองท่ตี ดิ ตงั้ โปรแกรม Flash Player
f
.fl ไฟล์ .fla เป็ นไฟลต์ ้นฉบบั ของโปรแกรม Flash โปรแกรมท่ีใช้เขียน Flash
a สามารถแก้ไขได้ และ compile ให้เป็ นไฟล์ .swf ได้
.fl ไฟล์ .exe เป็ นไฟลท์ ีถ่ กู compiled แล้ว เป็ น Application
v ซง่ึ ได้รวมเอาโปรแกรมเสริม (Flash Player) เข้าไว้ด้วยกนั ไมส่ ามารถแก้ไขได้
สามารถเลน่ ได้กบั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เคร่ืองท่ไี มไ่ ด้ติดตงั้ โปรแกรมเสริม
• 10.3 การเรียกใช้โปรแกรม
• การเรียกใช้โปรแกรม
• กำรเรียกใชโ้ ปรแกรม Adobe Flash เพ่ือท่ีจะใช้สร้างผลงานการนาเสนอ สามารถปฏบิ ตั ิ
ได้ 2 วธิ ีคือ
• วิธีท่ี 1 คลิกที่รูปเคร่ืองมือ Adobe Flash
• วิธีท่ี 2 คลิกที่ Start แล้วเลือกโปรแกรม Adobe Flash Professional CS6 ให้คลกิ
ท่ี ActionScript 3.0
•
• 10.4 ส่วนประกอบของโปรแกรม
• ส่วนประกอบ
• 1. Menu Bar (เมนบู าร์) เป็นสว่ นสาหรับแสดงรายการคาสง่ั ต่างๆ ของโปรแกรม
• 2. Stage (สเตจ) เป็นส่วนที่เรากาหนดขอบเขตขนาดของการทางาน เป็ นพืน้ ท่ีส่วนท่ีใช้
ในการวางวตั ถตุ า่ งๆ หรืออาจจะเรียกว่า
• "เวที" เม่ือมีกำรนำเสนอผลงำนจะแสดงเฉพำะวตั ถุบน Stage นีเ้ท่านนั้
• 3. Properties (พร็อพเพอร์ตี)้ เป็นสว่ นกาหนดคณุ สมบตั ิให้กบั วตั ถตุ ่างๆ ท่ีเราใช้งาน ทงั้
การกาหนดค่าตา่ งๆ หรือการปรับปรุงเปล่ียนแปลงแก้ไขวตั ถไุ หนก็นาเมาส์ไปคลกิ ท่ีวตั ถนุ นั้
ก่อน
• 4.Timeline (ไทม์ไลน์) มีไว้สาหรับควบคมุ การทางานและกาหนดการนาเสนอผลงาน
ตลอดจนการเคลื่อนไหวตา่ งๆ
• 5. Toolbox (ทลู บ๊อกซ์) เป็นกล่มุ ของเครื่องมือในการสร้างงานและจดั การวตั ถตุ ่างๆ ซง่ึ
ประกอบด้วยป่ มุ เคร่ืองมือย่อยต่างๆ ที่ใช้ในการสร้างงาน
• 10.5 การสร้างไฟล์
• การสร้างไฟล์
• เมื่อตอ้ งกำรสร้ำงไฟลง์ ำนนำเสนอ ใหป้ ฏิบตั ิดงั น้ี
• 1. คลกิ ที่เมนู File (แฟ้ ม) แล้วคลิกที่ New
• 2. คลกิ ที่ ActionScript 3.0 แล้วคลกิ ที่ OK
• 10.6 การสร้างฉาก
• การสร้างฉาก
• กำรสร้ำงฉำกงำนนำเสนอ สิ่งแรกท่ีจะตอ้ งปฏิบตั ิคือ กำรสร้ำงฉำก ซ่ึงเปรียบเสมือนกำรสร้ำง
ฉำกก่อนที่ตวั ละครจะออกมำนำเสนอ กำรสร้ำงฉำกมีวธิ ีกำรปฏิบตั ิดงั น้ี
• 1. คลกิ ที่เมนู Modify
• 2. คลกิ ท่ี Document
• 3. จะปรากฏกรอบ Document Settings
•
• 10.7 การสร้างวัตถุ
• การสร้างวตั ถุ
• ซิมโบล (Symbol) คือ กราฟิก ป่ มุ หรือมฟู ว่ีคลปิ ท่ีสร้างขนึ ้ เป็นต้นแบบในครัง้ แรก จากนนั้ จะ
สามารถนาไปใช้ได้อยา่ งไม่จากดั ทกุ ซมิ โบลท่ีสร้างจะถกู เก็บไว้ในไลบรารี่ของไฟล์ปัจจบุ นั ซิ
มโบลแบง่ ออกเป็น 3 ชนดิ ได้แก่
• มูฟวค่ี ลปิ (Movie Clip) คือซิมโบลสำหรับสร้ำงภำพเคลื่อนไหวเป็นมฟู วย่ี อ่ ยๆ
• ป่ มุ (Button) คือซิมโบลสำหรับสร้ำงป่ ุมที่ใชต้ อบสอนองต่อกำรทำงำนของเมำส์
• กราฟิ ก (Grahilc) คือซิมโบลสำหรับออกบเจก็ ตห์ รือรูปแบบที่เป็นภำพน่ิง
• เมื่อได้ดาเนินการสร้างฉากที่จะใช้ในการนาเสนอเสร็จแล้ว ต่อไปก็จะเป็ นการสร้าง
วตั ถุ (Symbol) หรือตวั ละครที่จะดาเนนิ การในการนาเสนอ การสร้างวตั ถทุ ีวิธีการปฏิบตั ิ
ดงั นี ้
• 1. คลกิ ท่ีเมนู Insert (แทรก) แล้วเลือก New Symbol
• 2. จะปรากฏกรอบ Create NewSymbol ให้ตงั้ ช่ือในชอ่ ง Name ในท่ีนีก้ าหนดให้
ชื่อ a แล้วชนิดในช่อง Type ให้เป็น Graphic แล้วคลิก Ok
• 3. จะปรากฏกรอบ Symbol ท่ีช่ือ a
• 4. คลิกที่เคร่ืองมือท่ีต้องการใน Tool Box ในที่เลือก Oval Tool
• 5. เลือกสีพนื ้ Fill Color
• 6. กดเมาส์ค้างไว้แล้วลากเป็นรูปวงกลมให้พอดี แล้วปลอ่ ย
• 7. ปรับขนาดให้พอดีกบั ฉาก
• 8. ให้คลกิ ท่ีรูปเคร่ืองมือ Select (ลกู ศรสีดา) แล้วคลกิ ท่ีวตั ถวุ งกลม แล้วคลกิ ที่
เคร่ืองมือ
• 9. เสร็จแล้วให้คลกิ ที่ Scene 1 เพ่อื กลบั มาท่ีฉาก
• 10. คลกิ ท่ี Panel ที่ช่ือ Library
• 11. จะปรากฏวตั ถทุ ี่สร้างไว้แสดงใน Library
• 12. ให้กดเมาส์ไว้ท่ีวตั ถทุ ่ีช่ือ a แล้วฉากมาวางไว้ในฉาก (Stage)
• 10.8 การจัดการเลเยอร์
• การจดั เลเยอร์
• เนื่องจำกกำรสร้ำงผลงำนนำเสนอ อำจมีวตั ถุหรือขอ้ มลู ที่จะตอ้ งแสดงเป็นจำนวนมำก เพอ่ื ให้
กำรจกั กำรเกี่ยวกบั วตั ถุหรือขอ้ มูลเป็นไปอยำ่ งสะดวกและถกู ตอ้ ง จึงจำเป็นที่จะตอ้ งจดั กำรเล
เยอร์
• 1. เม่ือลากวตั ถชุ นิ ้ แรกมาอาจจะอยใู่ นเลเยอร์ที่ 1 ในที่นีใ้ ห้เปล่ียนช่ือเลเยอร์
เป็น a (ทงั้ นี ้ไม่นบั รวมเลเยอร์ที่เป็น Background)
• 2. คลกิ ท่ีรูปเครื่องมือ New Layer
• 3. กาหนดช่ือเลเยอร์ใหม่ b แล้วลากวตั ถทุ ี่ชื่อ a มาวางไว้บนฉากอีก
• นี่คือกำรสร้ำงวตั ถุท่ีเป็นพ้ืนฐำนในกำรสร้ำงผลงำนกำรนำเสนอ และกำรจดั กำรเลเยอร์ให้
ถูกตอ้ ง และสะดวกในกำรสร้ำงผลงำนในกำรนำเสนอต่อไป
10.9 การบนั ทกึ
การบนั ทกึ
กำรบนั ทึกเพือ่ เกบ็ งำนที่ไดส้ ร้ำงไว้ เพอ่ื นำไปสร้ำงต่อ ใหป้ ฏิบตั ิดงั น้ี
1. คลกิ ท่ีเมนู File (แฟ้ ม)
2. คลิกที่ Save (บนั ทกึ )
3. เลือกที่แหล่งเก็บข้อมลู แล้วกาหนดชื่อในชอ่ ง File name แล้วคลกิ ท่ีป่ มุ Save (บนั ทกึ )
10.10 การออกจากโปรแกรม
ออกจากโปรแกรม
เมื่อตอ้ งกำรออกจำกโปรแกรม ใหค้ ลิกที่ เมนู File แล้วคิกท่ี Exit หรือคลกิ ที่
เคร่ืองมือ Close ท่ี Control Box
หน่วยท่ี 11 การสร้างภาพเคล่ือนไหวและเสียง
11.1 การสร้างภาพเคลอ่ื นไหว
• การสร้างภาพเคลอ่ื นไหว (Animation)
การสร้างภาพเคล่ือนไหวหรือ Animation คือ การนาภาพน่ิงหลาย ๆ ภาพมา
วางเรียงต่อกันแล้วค่อย ๆ เล่นทลี ะภาพอย่างต่อเน่ืองจะทาให้เกดิ เป็ น
ภาพเคล่ือนไหว อาจจะมีการใส่ลูกเล่นหรือ Effect ให้การเคล่ือนไหวดูน่าสนใจและ
สวยงามย่งิ ขึน้
ชนิดของภาพเคลอื่ นไหว
1. การเคล่ือนไหวแบบเฟรมต่อเฟรม (Frame By Frame Animation)
การเคล่ือนไหวแบบเฟรมต่อเฟรม (Frame By Frame Animation) คือ การสร้างคีย์
เฟรม หลาย ๆ เฟรมเรียงต่อกนั โดยแต่ละเฟรมจะมีเนือ้ หาท่เี ป็ นภาพน่ิงและค่อย ๆ
เปล่ียนแปลงไปทลี ะเฟรม เม่ือมีการแสดงจะทาให้มองเหน็ ภาพเคล่ือนไหว
2. การเคล่ือนไหวแบบทวีน (Tween Animation)
การเคล่ือนไหวแบบทวีน (Tween Animation) คือ การสร้างภาพเคล่ือนไหวแบบ
อัตโนมัติ โดยสร้างแค่เนือ้ หาในเฟรมเร่ิมต้นและเฟรมสุดท้าย ส่วนการเคล่ือนไหวท่ี
อยู่ในเฟรมระหว่างกลาง โปรแกรมจะสร้างขนึ้ ให้อัตโนมัติ
• ตามลกั ษณะต่างๆ ทไ่ี ด้เลอื กไว้ ซ่งึ ภาพเคล่ือนไหวแบบทวีน
แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ
2.1 Motion Tween เปล่ียนแปลงแบบเคล่ือนท่ี
2.2 Shape Tween เปล่ียนแปลงรูปร่าง
3. การเคล่ือนไหวแบบแอคช่ันสคริต์ (Action Script)
• การสร้างภาพเคลอ่ื นไหวแบบนี้ เป็ นการเคลอ่ื นทข่ี องเนือ้ หาจากจุดหนึ่งไปยงั อกี จุด
หนึ่ง หรือเปล่ียนคุณสมบัตจิ ากแบบหน่ึงไปเป็ นอีกแบบหน่ึง เหมาะสาหรับการทา
ภาพเคล่ือนไหว แบบต่อเน่ืองสม่าเสมอ เช่น เมฆลอย พัดลมกาลังหมุน ยานบนิ รถ
กาลังแล่น เป็ นต้น
11.2 กำรสร้ำงภำพเคล่ือนไหวแบบเฟรมต่อเฟรม (Frame By Frame)
• การสร้างภาพเคลอ่ื นไหวแบบเฟรมต่อเฟรม
การสร้างภาพเคล่ือนไหวแบบนี้ เป็ นการสร้างคีย์เฟรม หลายๆ คีย์เฟรมต่อเรียง
กนั แต่ละเฟรมจะเป็ นอสิ ระต่อกัน การแก้ไขเฟรมใดเฟรมหน่ึง ไม่ส่งผลต่อเฟรมอ่ืนๆ
ซ่งึ หลักๆ มีอยู่ 3 รูปแบบคือ
1. การสร้างข้อความเคล่ือนไหว
2. การสร้างภาพเคล่ือนไหวแบบย้ายตาแหน่งวัตถุ
3. การสร้างภาพเคล่ือนไหวแบบย่อ-ขยายวัตถุ
• รูปแบบที่ 1 การสร้างข้อความเคล่ือนไหว
ข้นั ท่ี 1 พมิ พ์ข้อความลงบน Stage โดยเร่ิมท่คี ีย์เฟรมใดคีย์เฟรมหน่ึง
ข้นั ท่ี 2 เพม่ิ คยี ์เฟรมที่ 2 โดย กด F6 หรือ คลิกขวาท่คี ีย์เฟรมท่ี 1 แล้วคลกิ Insert
Keyframe
ข้นั ท่ี 3 คลกิ ทค่ี ยี ์เฟรมท่ี 2 พมิ พ์ตัวอักษรตวั ท่ี 2 หรือข้อความท่ตี ้องการ
ข้นั ที่ 4 ทาขัน้ ตอนท่ี 2 ต่อด้วยขัน้ ตอนท่ี 3 วนอย่างนี้ จนกว่าจะครบข้อความท่ตี ้องการ
ข้นั ท่ี 5 ทาจนครบข้อความท่ตี ้องการดงั ภาพ
ข้นั ท่ี 6 ทดสอบ Movie โดยกดCtrl+ Enter หรือ คลกิ เมนู Control > Test Movie
จะได้ไฟล์ Movie เป็ น .swf
ท่ี 2 การสร้างภาพเคล่ือนไหวแบบย้ายตาแหน่งวัตถุ
ข้นั ท่ี 1 สร้างวัตถุขนึ้ มา 1 ชนิ้ จะวาดเป็ นภาพธรรมดาหรือ ทาเป็ น ซมิ โบลกไ็ ด้ บน
เฟรมท่ี 1
ข้นั ที่ 2 คลกิ ขวาท่เี ฟรมท่ี 2 หรือ กด ป่ มุ F6 เพ่อื เพ่มิ คีย์เฟรม (Keyframe)
ข้นั ท่ี 3 ใช้ลูกศรสีดา (Selection Tool) คลิกแล้วย้ายตาแหน่งวัตถุขยบั จากตาแหน่งเดมิ
เล็กน้อย
ข้นั ท่ี 4 ทาซ้าข้นั ที่ 2 คือ คลิกขวาท่เี ฟรมถดั ไปคือเฟรมท่ี 3 หรือ กดป่ ุม F6 เพ่อื เพ่มิ คีย์
เฟรม จากนัน้ ใช้ลูกศรสีดา (Selection Tool) คลกิ แล้วย้ายตาแหน่งวัตถอุ ีกเลก็ น้อย
ข้นั ท่ี 5 เพ่มิ คีย์เฟรมต่อไปเร่ือย ๆ และ ขยับวัตถุ ไปเร่ือยจนกระท่งั ได้ภาพเคล่ือนไหว
ตามต้องการ
จากน้ันตรวจสอบการเคลอื่ นไหวโดยการคลกิ ทหี่ วั อ่าน(Play Head) แล้วลากเม้าส์ซ้าย-ขวา
ข้นั ท่ี 6 กด Ctrl + Enter หรือ คลิกท่เี มนู Control > Test Movie เพ่อื ชมตัวอย่าง
• รูปแบบที่ 3 การสร้างภาพเคล่ือนไหวแบบย่อ-ขยายวัตถุ
การเปล่ียนขนาดวัตถใุ ห้ใหญ่ขนึ้ หรือเลก็ ลงเป็ นอีกรูปแบบหน่ึงของการสร้าง
ภาพเคล่ือนไหวตวั อย่างเช่นกระทาให้วัตถเุ คล่ือนท่จี ากตาแหน่งท่อี ยู่ไกลมาใกล้เป็ น
ต้น
ข้นั ท่ี 1 วาดวัตถุขนึ้ มา 1 ชนิ้ ดังรูป
ข้นั ท่ี 2 ใช้ลูกศรสีดา (Selection Tool) ลากครอบวัตถุทงั้ หมด
ข้นั ท่ี 3 กดป่ มุ Ctrl ค้างไว้แล้วกด ตัว G เพ่อื สร้างกลุ่มของวัตถุ (Group) จะปรากฏขอบ
สีฟ้ าขึน้
ข้นั ที่ 4 คลิกเลือกเคร่ืองมือ Free Transform Control จะมีกรอบสีดาขึน้ รอบวัตถุ
ข้นั ที่ 5 นาเมาส์มาชีท้ ่กี รอบส่ีเหล่ียมสีดาเลก็ ๆ ท่มี ุมของวัตถุแล้วย่อยให้เป็ น
ภาพขนาดเลก็
ข้นั ที่ 6 คลกิ ขวาท่เี ฟรมท่ี 2 เลือก Insert Keyframeหรือ กดป่ มุ F6 เพ่มิ คีย์เฟรม แล้ว
ขยายภาพให้ใหญ่ขนึ้ เลก็ น้อย
ข้นั ท่ี 7 กดป่ มุ F6 เพ่มิ คีย์เฟรมแล้วขยายภาพขึน้ อีกเลก็ น้อย
ข้นั ที่ 8 ทาซา้ ขัน้ ตอนท่ี 7 จนได้ขนาดภาพท่ตี ้องการอาจจะต้องเพ่มิ หลายๆคีย์เฟรมก็
ได้
ข้นั ท่ี 9 กด Ctrl+ Enter เพ่อื ชมผลงาน
หากต้องการทาให้ภาพใหญ่เป็ นเลก็ ต้องทาให้ภาพในตาแหน่งเฟรมท่ี 1 เป็ นภาพขนาดใหญ่
เฟรมถดั ไปค่อยๆปรับให้เลก็ ลงเร่ือย ๆทลี ะเฟรม
11.3 การสร้างภาพเคลอื่ นไหวแบบทวนี แอนิเมช่ัน (Tweened Animation)
การสร้างภาพเคลอื่ นไหวแบบทวนี แอนิเมช่ัน
Shape Tween คือการสร้างภาพเคล่ือนไหวให้วัตถุเปล่ียนรูปร่างจากรูปหน่ึงเป็ น
อีกรูปหน่ึงเช่น จากรูป ส่ีเหล่ียมเป็ นรูปวงกลม หรือ จากรูปเป็ นข้อความ เป็ นต้น
ข้นั ท่ี 1 คลิกท่เี ฟรมท่ี 1 แล้ววาดรูปวัตถขุ ึน้ มาหน่ึงรูป
ข้นั ที่ 2 คลิกท่เี ฟรมท่ี 1 (สาคัญมากเพราะถ้าไม่คลิกตัวเลือกจะไม่แสดงขึน้ ใน
หน้าต่าง Properties)
เลอื กคาส่ัง Shape ในช่อง Tween
ข้นั ท่ี 3 คลกิ ขวาท่เี ฟรมท่ี 20 แล้วเลือกคาส่ัง Insert Keyframe
ข้นั ที่ 4 คลกิ เฟรมท่ี 20 แล้วกดป่ ุม Delete ลบวัตถเุ ดมิ ออกตอนนีบ้ นไทม์ไลน์จะมี
แถบเส้นประสีเขียว
ข้นั ท่ี 5 วาดรูปทตี่ ้องการให้เปลยี่ นลงไปในเฟรมท่ี 20
นที่ 6 กดป่ ุม Ctrl+Enter เพ่อื ทดสอบการเปล่ียนแปลงจะเหน็ ภาพค่อยๆเปล่ียนจากรูป
หน่ึงเป็ นอีกรูปหน่ึง
การสร้างภาพเคลอื่ นไหวแบบแอคชั่นสคริปต์
การสร้างภาพเคล่ือนไหวแบบนี้ เป็ นการเคล่ือนท่ขี องเนือ้ หาจากจุดหน่งึ ไปยงั อีก
จุดหน่ึง หรือเปล่ียนคุณสมบตั จิ ากแบบหน่ึงไปเป็ นอีกแบบหน่ึง เหมาะสาหรับการทา
ภาพเคล่ือนไหว แบบต่อเน่ืองสม่าเสมอ เช่น เมฆลอย พดั ลมกาลังหมุน ยานบนิ รถ
กาลังแล่น เป็ นต้น
1. การสร้างภาพเคล่ือนไหวแบบลอยในแนวเส้นตรง
ข้นั ที่ 1 คลกิ เลอื กคยี ์เฟรมจุดเริ่มต้น
ข้นั ท่ี 2 สร้างวัตถุ หรือเนือ้ หาตามต้องการ
ข้นั ที่ 3 คลิกขวาท่คี ีย์เฟรม คลิกเลือกเมนู Create Motion Tween
ข้นั ท่ี 4 กาหนดระยะห่างจากจดุ แรกตามต้องการ เช่น ห่าง 15 เฟรม คลกิ ท่เี ฟรม
ท่ี 15 แล้วเพ่มิ คีย์เฟรม โดยกด F6 หรือคลิกเมนู Insert > Timeline > Keyframe
ข้นั ที่ 5 จบั วัตถทุ ่ี stage แล้วปรับเปล่ียนคุณลักษณะ เช่น ย้ายตาแหน่ง ย่อ-ขยาย
เปล่ียนสี หรืออ่ืน ๆ ตามต้องการ
ข้นั ท่ี 6 ทดสอบ Movie โดยกด Ctrl+ Enter หรือ คลิกเมนู Control > Test Movie จะได้
ไฟล์ Movie เป็ น .swf
เมอ่ื สร้างวตั ถุและกาหนดการเคลอื่ นไหวแล้ว ในขณะทว่ี ตั ถุเคลอ่ื นไหว สามารถปรับแต่งให้มี
คุณลกั ษณะอน่ื ๆ ไปพร้อม ๆ กนั ได้ โดยกาหนดเพมิ่ เตมิ ได้จาก หน้าต่าง Properties
11.5 การใส่เสียง
• การใส่เสียง
การใส่เสียงเป็ นอีกส่วนหน่ึงท่จี ะทาให้โปรแกรมมัลตมิ ีเดียสมบรู ณ์ย่งิ ขึน้
โปรแกรมการนาเสนอมักจะมีเสียงประกอบ อาจจะเป็ นเสียงเพลง หรือเสียงบรรยาย
ถ้าเป็ นการนาเสนอเพ่ือเผยแพร่และแนะนาองค์กร กจ็ ะมีเสียงบรรยายและเสียงเพลง
ประกอบการใส่เสียงเพลง
• การนาเข้าไฟล์เสียง
เสียงประกอบในมูฟว่ีของ Flash แบ่งออกเป็ น 2 ประเภทคือ
· Event Sound หมายถึง เสียงที่ต้องถกู ดาวน์โหลดมาครบสมบรู ณ์ก่อนจงึ จะเริ่ม
เลน่ ได้และเมื่อเล่นก็จะเลน่ อย่างต่อเนื่องจนกวา่ จะสง่ั ให้หยดุ
· Stream Sound หมายถงึ เสียงซง่ึ เริ่มเล่นทนั ทีที่ข้อมลู ของเฟรมแรกๆ ถกู ดาวน์
โหลดเข้ามามากพอท่ีจะเล่นได้
• การกาหนดจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด
กาหนดจดุ เร่ิมต้นเสียงเพลง เพื่อป้ องกนั มิให้เสียงรบกวนเสียงอ่ืน ๆ
1. คลกิ ท่ีเฟรมที่ 1 ของเลเยอร์ Sound
2. เลือก Start ในชอ่ ง Sync ของกรอบ SOUND
3. คลกิ ท่ีเฟรมสดุ ท้าย ในทีนีค้ ือเฟรมท่ี 100
4. คลิกเมาส์ข้างขวา แล้วเลือก Insert Keyframe
5. จะปรากฏรูปเล็กดงั กล่าว
6. คลิกท่ีเฟรมสดุ ท้าย ในทีนีค้ ือเฟรมที่ 100 แล้วเลือกช่ือเพลงอีกครัง้ หนง่ึ ซงึ่ ต้องเป็น
เพลงเดียวกนั
7. เลือก Stop ในช่อง Sync
8. จะปรากฏเส้นขีดเลก็ ๆ ในเฟรมที่ 100 บนจดุ เลก็ ๆ แสดงว่าได้กาหนดจดุ Stop แล้ว
การกาหนด Effect ให้กบั เสียง
สาหรับการกาหนด Effect ให้กบั เสียง ยงั สามารถที่จะกาหนด Effect เพื่อให้เสียงออกมาใน
รูปแบบต่าง ๆ ได้อีกด้วย
· None ไมใ่ ช้เอฟเฟ็กต์ใด ๆ
· Left channel/Right channel ให้เสียงออกเสียงออกลาโพงเฉพาะลาโพง ซ้ายหรือ
ขวาเทา่ นนั้
· Fade to right/Fade to left ไลเ่ สียงจากลาโพงซ้ายไปลาโพงขวา หรือไล่เลียงจาก
ขวาไปซ้าย
· Fade in ให้เสียงเริ่มต้นเบา และค่อยๆดงั ขนึ ้
· Fade out ให้เสียงเริม้ ต้นดงั และค่อยๆ เบาลง
· Custom ให้เรากาหนดเอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ ให้กบั เสียงเองโดยคลกิ ที่ป่ มุ
ถำ้ ตอ้ งกำรใหเ้ สียงเพลเล่นรอบเดียวใหเ้ ลือก Repeat แต้ถ้าต้องการให้หมนุ วนเน่ืองจาก
เสียงเพลงสนั้ ๆ ให้เลือก Loop
· Repeat กาหนดจานวนครัง้ ที่ต้องการให้เลน่ เสียงซา้ ได้
· Loop เสียงท่ีเลน่ วนซา้ เรื่อย ๆ