The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือ “บาลีไวยากรณ์เบื้องต้น” ย่อเนื้อหามาจากคัมภีร์ปทรูปสิทธิ
แล้วเรียเรียงขึ้นใหม่ เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนภาษาบาลีเบื้องต้น ให้ผู้
ศึกษาภาษาบาลีเข้าถึงเนื้อหาในพระไตรปิฎกตรงตามพระพุทธประสงค์ เหมาะ
สำ หรับนักศึกษาใหม่ที่จะศึกษาคัมภีร์บาลีใหญ่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nueakan พรานล่าภาพ, 2020-03-07 05:51:28

บาลีไวยากรณ์เบื้องต้น

หนังสือ “บาลีไวยากรณ์เบื้องต้น” ย่อเนื้อหามาจากคัมภีร์ปทรูปสิทธิ
แล้วเรียเรียงขึ้นใหม่ เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนภาษาบาลีเบื้องต้น ให้ผู้
ศึกษาภาษาบาลีเข้าถึงเนื้อหาในพระไตรปิฎกตรงตามพระพุทธประสงค์ เหมาะ
สำ หรับนักศึกษาใหม่ที่จะศึกษาคัมภีร์บาลีใหญ่

Keywords: บาลี ไวยากรณฺ

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สทั ทปทมาลาในปงุ ลงิ ค์ ๔๑

ภควนตฺ ุ พระผู้มพี ระภาค หิมวนตฺ ุ ภเู ขาหิมาลัย
พลวนตฺ ุ ผู้มกี �ำ ลัง สลี วนตฺ ุ ผู้มศี ีล
ปญฺวนฺตุ ผมู้ ีปัญญา สติมนตฺ ุ ผู้มสี ติ
ธติ มิ นฺตุ ผมู้ ปี ญั ญา คติมนตฺ ุ ผูม้ ปี ัญญา
มตมิ นฺตุ ผมู้ ปี ญั ญา มตุ ิมนตฺ ุ ผู้มปี ญั ญา
มุตตฺ มิ นตฺ ุ ผ้มู ีความหลดุ พ้น ชตุ มิ นตฺ ุ ผูม้ รี ศั มี
สริ ิมนฺตุ ผู้มสี ิริ กลมิ นตฺ ุ ผูม้ ีโทษ
หริ มิ นตฺ ุ ผู้มีความละอาย ถตุ ิมนตฺ ุ ผ้ไู ด้รับการสรรเสรญิ
ยตมิ นฺต ุ ผมู้ คี วามเพยี ร สจุ มิ นตฺ ุ ผู้มคี วามสะอาด
พลมิ นตฺ ุ ผู้มีพลีกรรม กสมิ นตฺ ุ ชาวนา ผ้มู กี ารไถ
รุจมิ นฺตุ ผูม้ คี วามยินดี จกฺขมุ นฺตุ ผู้มีจักษุ

(๑) ปุงลิงค์ อกู ารนั ต์ อภิภู สัททปทมาลา (ผ้เู ปน็ ใหญ)่
วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา อภิภู อภภิ ู อภิภุโว
อาลปนะ อภภิ ุ อภิภู อภิภโุ ว
ทตุ ิยา อภิภํุ อภิภู อภิภุโว
ตตยิ า อภิภนุ า อภิภหู ิ อภิภภู ิ
จตตุ ถี อภภิ ุโน อภิภุสฺส อภิภูนํ
ปญั จมี อภิภนุ า อภภิ ุมหฺ า อภภิ ุสฺมา   อภภิ หู ิ อภภิ ภู ิ
ฉัฏฐี อภภิ โุ น อภิภุสฺส อภิภูนํ
สตั ตมี อภภิ มุ ฺหิ อภภิ สุ ฺมึ อภภิ สู ุ

ศพั ท์จำ�แนกตาม

สยมฺภ ู พระสยัมภ,ู ผู้ตรัสรู้เอง ปราภภิ ู ผู้ปกครองผอู้ ่นื
เวสฺสภ ู พระเวสสภพู ุทธเจา้

๔๒ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สทั ทปทมาลาในปงุ ลงิ ค์

(๒) ปงุ ลงิ ค์ อกู ารันต์ สพพฺ ญฺ ู สัททปทมาลา (ผ้รู ูท้ กุ สิง่ )
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา สพฺพญฺ ู สพฺพญฺู สพฺพญฺุโน
อาลปนะ สพพฺ ญฺ ุ สพฺพญฺู สพฺพญฺ โุ น
ทตุ ิยา สพพฺ ญฺุํ สพพฺ ญฺ ู สพพฺ ญฺุโน

ทเี่ หลือจ�ำ แนกตาม อภภิ ู ศพั ท์

ศพั ท์จำ�แนกตาม
กตญฺู  ผู้กตญั ญู  ปารคู ผู้ถึงฝัง่
ธมฺมญฺ ู ผรู้ ู้ธรรม  มคคฺ ญฺ ู ผูร้ ทู้ าง
อตถฺ ญฺ ู ผรู้ ู้ประโยชน์ กาลญฺ ู ผ้รู ู้กาลเวลา
รตตฺ ญฺู ผู้รู้ราตรี ผมู้ อี ายุยืน มตฺตญฺ ู ผู้รู้ประมาณ
วญิ ฺ ู ผ้รู ู ้ ตถญฺ ู ผูร้ ู้ความจรงิ
โลกวิทู ผู้รูแ้ จง้ โลก อนตฺ ค ู ผถู้ ึงทีส่ ดุ

ปงุ ลิงค์ โอการนั ต์ โค สัททปทมาลา  (ววั , โค)
วิภตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา โค คาโว คโว
อาลปนะ โค คาโว คโว
ทุตยิ า คาวํุ คาวํ ควํ คาโว คโว
ตติยา คาเวน คเวน โคหิ โคภิ
จตตุ ถี คาวสสฺ ควสสฺ ควํ คนุ ฺนํ โคนํ
ปญั จมี คาวา คาวมฺหา คาวสฺมา โคหิ โคภิ
ควา ควมหฺ า ควสฺมา
ฉัฏฐี คาวสฺส ควสสฺ ควํ คุนฺนํ โคนํ

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สทั ทปทมาลาในอติ ถลี ิงค์ ๔๓

สตั ตมี คาเว คาวมฺหิ คาวสมฺ ึ คาเวสุ คเวสุ โคสุ
คเว ควมฺหิ ควสฺมึ

สทั ทปทมาลาในอิตถีลงิ ค์

อติ ถีลงิ ค์ อาการันต์ กญฺา สทั ทปทมาลา (สาวนอ้ ย)
วิภตั ติ เอกวจนะ พหวุ จนะ

ปฐมา กญฺ า กญฺา กญฺ าโย

อาลปนะ กญเฺ  กญฺ า กญฺ าโย

ทุตยิ า กญฺ ํ กญฺ า กญฺาโย

ตตยิ า กญฺาย กญฺ าหิ กญฺ าภิ

จตตุ ถี กญฺาย กญฺ านํ

ปญั จมี กญฺ าย กญฺาหิ กญฺ าภิ

ฉัฏฐี กญฺาย กญฺ านํ

สัตตมี กญฺาย กญฺายํ กญฺาสุ

สทฺธา ความเชอ่ื ศัพท์จำ�แนกตาม
วิชชฺ า ความรู้
วีณา พิณ เมธา ปญั ญา ปญฺ า ปญั ญา
คงฺคา แมน่ ้ำ� จนิ ตฺ า ความคิด มนฺตา ความคิด
นาวา เรอื ภกิ ฺขา ขา้ ว ตณฺหา ตัณหา ความอยาก
คาถา คาถา มายา มารยา อจิ ฉฺ า ความปรารถนา
ควี า คอ  เมตตฺ า เมตตา มตฺตา มาตรา ประมาณ
ชิวฺหา ลิ้น เลขา รอยเขียน สิกขฺ า ข้อควรศึกษา
สาลา ศาลา สาขา ก่ิงไม้ วิสาขา นางวิสาขา ชอ่ื ดาว
ปูชา การบูชา วาจา คำ�พูด ฉายา รม่ เงา
มาลา พวงดอกไม้ เวลา เวลา
เวทนา เวทนา สญฺ า สัญญา

๔๔ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สทั ทปทมาลาในอติ ถีลงิ ค์

เจตนา เจตนา ปชา หมู่สัตว์ เทวตา เทวดา
ปรสิ า บริษัท ชฏา ชฎา ตัณหา กรณุ า กรุณา
กถา ถอ้ ยคำ� ปปา ศาลาน้�ำ ดื่ม สมี า ขอบเขต
ชายา ภรรยา ลสกิ า ไขข้อ ปภา รัศมี แสงสว่าง
ตุลา ตราช่ัง ลลี า ทา่ ทาง ขมา ความอดทน
สิลา กอ้ นหิน สุรา เหล้า สรุ า กลา สว่ น (เสย้ี ว)
วสธุ า แผน่ ดิน คุหา ถ้�ำ อจฺฉรา นางอัปสร
ชณุ ฺหา แสงจนั ทร ์ นาสา จมูก อีหา ความพยายาม
ทิสา ทศิ มญชฺ ุสา หีบ หอ่ ต ู้ ลาลา น�้ำ ลาย
มูสา เบ้า โทลา ชิงชา้ ขตฺติยา กษตั รี
สิขา ยอด วสิ ขิ า ถนน ซอย สธุ า อาหารทพิ ย์
นิทฺทา การหลบั ลตา เถาวัลย์ วาสนา วาสนา
สภา ทป่ี ระชมุ โคธา เหยี้

อติ ถลี งิ ค์ อิการันต์ รตตฺ ิ สทั ทปทมาลา (ราตรี)
วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา รตตฺ ิ รตตฺ ี รตฺติโย (รตฺโย)*
อาลปนะ รตฺติ รตฺตี รตฺติโย
ทตุ ยิ า รตตฺ ึ รตฺตี รตตฺ ิโย
ตตยิ า รตฺตยิ า รตตฺ ีหิ รตตฺ ภี ิ รตตฺ หิ ิ รตฺตภิ ิ
จตตุ ถี รตตฺ ิยา รตฺตนี ํ รตฺตินํ
ปญั จมี รตตฺ ยิ า (รตยฺ า)* รตตฺ ีหิ รตตฺ ีภิ รตฺติหิ รตฺติภิ
ฉัฏฐี รตฺติยา รตตฺ ีนํ รตตฺ นิ ํ
สตั ตมี รตฺตยิ า รตตฺ ยิ ํ รตฺตีสุ รตฺตสิ ุ
(รตยฺ ํ รตฺยา รตตฺ ึ รตโฺ ต)*

* บทในวงเลบ็ มเี ฉพาะ รตฺติ ศพั ท์

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สัททปทมาลาในอติ ถลี งิ ค ์ ๔๕

ศัพท์จำ�แนกตาม
ปตฺติ ทหารบก ยุตตฺ ิ ความสมควร วุตฺติ ค�ำ อธิบาย
กติ ฺติ เกยี รติ ชือ่ เสยี ง มตุ ตฺ ิ ความหลดุ พน้ ปีติ   ปิติ เอิมอิ่ม
ขนตฺ ิ ความอดทน กนตฺ ิ ความชอบใจ สนตฺ ิ ความสงบ
ตนฺติ แบบแผน สทิ ธฺ ิ ความสำ�เรจ็ พุทธฺ ิ ปญั ญา
สทุ ธฺ ิ ความบริสุทธ์ิ อทิ ธฺ ิ ความสำ�เรจ็ ภมู ิ  แผ่นดนิ
วุทฺธิ ความเจริญ นนฺท ิ ความเพลดิ เพลิน โพธิ โพธิญาณ
ชาต ิ ชาติ การเกิด สูติ การเกดิ   ปสูติ การเกดิ
สาณ ิ ผา้ มา่ น ทิฏฺ€ ิ ความเหน็ ปาฬิ บาลี
วุฑฒฺ ิ ความเจรญิ ตุฏฺ€ ิ ความยนิ ดี  คติ   การไป
นาฬ ิ ทะนาน กระดอง เกฬิ  กีฬา การเลน่   มติ   ความรู้
สติ    ความระลกึ จตุ ิ    ความตาย  ยุวต ิ ผหู้ ญงิ
ธิติ    ความเพยี ร รติ   ความพอใจ องฺคลุ ิ นว้ิ
รจุ ิ รัศมี รสฺมิ รัศมี อสน ิ สายฟา้ ผา่
ธูลิ    ธลุ ี ฝุ่น    วีห ิ ข้าวเปลอื ก เป็นตน้

อิตถีลิงค์ อีการันต์ อิตถฺ ี สทั ทปทมาลา (หญงิ )
วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา อติ ถฺ ี อิตถฺ ี อติ ฺถิโย
อาลปนะ อติ ฺถิ อติ ฺถี อติ ฺถิโย
ทุตยิ า อติ ฺถิยํ อติ ฺถึ อิตถฺ ี อติ ฺถิโย
ตติยา อติ ถฺ ิยา อิตถฺ ีหิ อิตฺถภี ิ
จตตุ ถี อิตถฺ ิยา อติ ฺถนี ํ
ปญั จมี อติ ฺถยิ า อติ ฺถีหิ อิตถฺ ภี ิ
ฉัฏฐี อิตถฺ ยิ า อิตถฺ นี ํ
สตั ตมี อิตถฺ ิยา อิตฺถิยํ อติ ถฺ ีสุ

๔๖ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สทั ทปทมาลา : สัททปทมาลาในอติ ถลี ิงค์

ศัพทจ์ ำ�แนกตาม
มห ี แผ่นดนิ   วาปี สระนำ้�
ปาฏลี ตน้ แคฝอย กทลี ตน้ กลว้ ย
ฆฏ ี หม้อน้ำ� นาร ี ผู้หญิง
กมุ ารี เดก็ หญิง  ตรุณี หญิงสาว
พรฺ าหฺมณ ี นางพราหมณี สข ี เพือ่ นหญิง
กินนฺ ร ี กนิ นร ี นาค ี นางนาค
เทวี เทพธดิ า มเหสี  ยกฺข ี นางยักษ์
กากี อกี า กุกกฺ ฏุ ี แมไ่ ก่
ปุถวี ปถวี แผน่ ดิน คาว ี แม่โค
คณุ วต ี หญิงมคี ณุ สลี วตี หญงิ มีศีล
กลุ วตี หญิงมตี ระกลู ยสวต ี หญงิ มียศ
รูปวตี หญงิ มรี ูปงาม  สติมตี หญงิ มีสติ
โคตมี นางโคตมี ภิกขฺ ุน ี ภกิ ษุณี
คหปตาน ี แม่บา้ น ยกฺขนิ ี นางยักษ์
เมธาวนิ ี หญงิ มีปัญญา ปยิ ภาณิน ี หญงิ พูดจาไพเราะ
ธมมฺ จารนิ ี หญงิ ผปู้ ระพฤตธิ รรม ภูตวาน ี หญิงผกู้ ล่าวตามจรงิ
อตถฺ วาทินี หญิงผู้บอกประโยชน ์ ธมฺมวาทินี หญงิ ผบู้ อกธรรม

(๑) อติ ถลี ิงค์ อุการันต์ ยาคุ สทั ทปทมาลา (ขา้ วตม้ )
วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา ยาคุ ยาคู ยาคุโย
อาลปนะ ยาคุ ยาคู ยาคโุ ย
ทตุ ยิ า ยาคํุ ยาคู ยาคโุ ย
ตติยา ยาคุยา ยาคูหิ ยาคูภิ ยาคุหิ ยาคุภิ    
จตตุ ถี ยาคยุ า ยาคนู ํ ยาคุนํ

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สทั ทปทมาลาในอติ ถลี ิงค ์ ๔๗

ปัญจมี ยาคุยา ยาคหู ิ ยาคภู ิ ยาคุหิ ยาคภุ ิ
ฉัฏฐี ยาคุยา ยาคนู ํ ยาคนุ ํ
สตั ตมี ยาคยุ า ยาคุยํ ยาคูสุ ยาคสุ ุ

ศพั ทจ์ ำ�แนกตาม

กาส ุ รู ชอ่ ง หลมุ บอ่ ธาตุ ธาตุ
เธน ุ แมโ่ คนม ททฺทุ โรคกลาก
กณฺฑุ โรคเกล้อื น กเรณุ ช้างพัง
รชชฺ ุ เชอื ก สสสฺ ุ แมย่ าย แม่สามี

(๒) อติ ถลี งิ ค์ อกุ ารนั ต์ มาตุ สัททปทมาลา (มารดา)
วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา มาตา มาตโร
อาลปนะ มาต มาตา มาตโร
ทุติยา มาตรํ มาตเร มาตโร
ตตยิ า มาตรา มาตุยา (มตยฺ า)* มาตเรหิ มาตเรภิ มาตูหิ มาตูภิ
มาตหุ ิ มาตภุ ิ
จตตุ ถี มาตุ มาตสุ ฺส มาตุยา มาตรานํ มาตานํ มาตนู ํ มาตุนํ
ปญั จมี มาตรา มาตยุ า มาตเรหิ มาตเรภิ มาตหู ิ มาตภู ิ
มาตุหิ มาตภุ ิ
ฉัฏฐี มาตุ มาตุสสฺ มาตุยา มาตรานํ มาตานํ มาตูนํ มาตนุ ํ
สตั ตมี มาตริ มาตเรสุ มาตสู ุ มาตสุ ุ

* บทในวงเลบ็ มีเฉพาะ มาตุ ศพั ท์

ศัพทจ์ ำ�แนกตาม

ธีต,ุ ทหุ ิต ุ ลูกสาว

๔๘ ๒.นามกัณฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สทั ทปทมาลาในนปงุ สกลงิ ค์

อติ ถลี ิงค์ อูการนั ต์ ชมพฺ ู สัททปทมาลา (ตน้ หวา้ )
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา ชมฺพู ชมพฺ ู ชมฺพโุ ย
อาลปนะ ชมพฺ ุ ชมพฺ ู ชมพฺ ุโย
ทตุ ิยา ชมฺพํุ ชมฺพู ชมพฺ ุโย
ตตยิ า ชมฺพยุ า ชมฺพหู ิ ชมฺพูภิ
จตตุ ถี ชมฺพุยา ชมฺพนู ํ
ปัญจมี ชมพฺ ยุ า ชมพฺ หู ิ ชมพฺ ภู ิ
ฉฏั ฐี ชมพฺ ุยา ชมพฺ ูนํ
สัตตมี ชมพฺ ุยา ชมพฺ ยุ ํ ชมฺพสู ุ

ศพั ท์จำ�แนกตาม
วธู หญงิ สาว สรภู แม่นำ�้ สรภู
สรพู ตกุ๊ แก, จ้งิ จก จมู ทหารราบ
สตุ น ู หญงิ รา่ งกายงาม วามรู ู หญิงขางาม
กจฺฉู โรคหติ สภุ ู หญิงคว้ิ งาม
นาคนาสรู ู หญงิ ขาเรยี วงามดจุ งวงช้าง ภ ู แผ่นดนิ

สัททปทมาลาในนปุงสกลิงค์

(๑) นปุงสกลิงค์ อการันต์ จิตตฺ สัททปทมาลา (จติ )
วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา จิตฺตํ จติ ตฺ า จติ ตฺ านิ
อาลปนะ จิตฺต จติ ตฺ า จติ ตานิ
ทุตยิ า จิตฺตํ จิตฺเต จิตตฺ านิ
ตตยิ า จติ เฺ ตน จิตเฺ ตหิ จติ ฺเตภิ

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๘.สทั ทปทมาลา : สัททปทมาลาในนปุงสกลงิ ค ์ ๔๙

จตตุ ถี จติ ตฺ สสฺ จติ ตฺ านํ
ปญั จมี จิตตฺ า จิตฺตมหฺ า จติ ฺตสฺมา   จิตฺเตหิ จิตฺเตภิ
ฉฏั ฐี จิตฺตสสฺ จิตฺตานํ
สตั ตมี จติ เฺ ต จิตตฺ มฺหิ จติ ตฺ สมฺ ึ จิตฺเตสุ

ศพั ทจ์ ำ�แนกตาม
ปญุ ฺ บญุ กุศล บาป บาป อกศุ ล
ผล ผล ผลไม้ วบิ าก รปู รปู รูปรา่ ง
สาธน ความส�ำ เรจ็ โสต หู เครื่องฟัง กระแส
ฆาน จมกู สขุ ความสุข
ทกุ ฺข ความทกุ ข ์ การณ เหตุ
ทาน การให้ สลี ศลี
ธน ทรัพย ์ ฌาน ฌาน
มลู มลู ราก ราคา พล ก�ำ ลัง
ชาล ข่าย แห มงคฺ ล มงคล
นฬิน ดอกบวั ลิงฺค ลิงค์ ซอ่ น เพศ
มขุ หนา้ ปาก องฺค อวยั วะ องค์
อมพฺ ุช ดอกบัว ปลุ ิน ทราย
ธญฺ ขา้ วเปลือก ชล นำ�้
ปท บท นพิ พาน หริ ญฺ เงนิ
อมต นิพพาน ปทมุ ดอกบวั
ปณณฺ ใบไม,้ หนังสือ สุสาน สสุ าน
วน ปา่ อาวธุ อาวุธ
หทย หัวใจ หทัยวัตถุ จีวร ผา้ จวี ร
วตฺถ ผ้า เครอ่ื งน่งุ หม่ กุล ตระกลู ผ้า
อนิ ทฺ ฺริย อนิ ทรีย์ นยน นัยนต์ า
วทน หนา้ ยาน ยาน พาหนะ

๕๐ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สทั ทปทมาลาในนปุงสกลงิ ค์

อุทาน อุทาน ปาน น�ำ้ ดื่ม
โลห เหลก็ รตน แก้ว
ป€ี เก้าอี ้ อณฺฑ ไข่
มรณ ความตาย ภตฺต ข้าวสวย, อาหาร, ภตั ร
าณ ญาณ, ปัญญา อารมมฺ ณ อารมณ์
อรญฺ ปา่ ตาณ นพิ พาน
นคร เมือง ตรี ฝง่ั นำ�้
ฉตตฺ ฉตั ร, รม่ , เหด็ อุทก อทุ ทก ก นำ้� เปน็ ต้น

(๒) นปงุ สกลิงค์ อการนั ต์ กมฺม สัททปทมาลา (กรรม)
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา กมมฺ ํ กมฺมา กมฺมานิ
อาลปนะ กมฺม กมฺมา กมมฺ านิ
ทตุ ยิ า กมมฺ ํ กมเฺ ม กมมฺ านิ
ตตยิ า กมฺมุนา กมมฺ นา กมฺเมน       กมฺเมหิ กมฺเมภิ
จตุตถี กมฺมุโน กมฺมสสฺ กมมฺ านํ
ปญั จมี กมฺมุนา กมฺมา กมมฺ มหฺ า กมฺมสมฺ า กมฺเมหิ กมฺเมภิ
ฉฏั ฐี กมมฺ สฺส กมมฺ านํ
สตั ตมี กมมฺ นิ กมฺเม กมฺมมหฺ ิ กมมฺ สมฺ ึ กมเฺ มสุ

ถาม ก�ำ ลัง ศัพท์จำ�แนกตาม
อทธฺ ทางไกล 

นปงุ สกลิงค์ อาการนั ต์ อสสฺ ทฺธา สัททปทมาลา (ไมศ่ รัทธา)
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา อสฺสทฺธํ อสฺสทฺธา อสฺสทธฺ านิ

ท่เี หลือจำ�แนกเหมือน จิตตฺ ศพั ท์

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สทั ทปทมาลา : สทั ทปทมาลาในนปงุ สกลิงค ์ ๕๑

นปงุ สกลิงค์ อกิ ารนั ต์ อฏฺ€ิ สัททปทมาลา (กระดกู , เมล็ด)
วิภตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ

ปฐมา อฏ€ฺ ิ อฏฺ€ี อฏ€ฺ ีนิ

อาลปนะ อฏ€ฺ ิ อฏฺ€ี อฏฺ€นี ิ

ทุติยา อฏ€ฺ ึ อฏฺ€ี อฏฺ€นี ิ

ตติยา อฏฺ€ินา อฏ€ฺ ีหิ อฏ€ฺ ภี ิ อฏฺ€ิหิ อฏฺ€ิภิ

จตตุ ถี อฏฺ€ิโน อฏฺ€สิ ฺส อฏฺ€นี ํ อฏฺ€ินํ

ปัญจมี อฏ€ฺ นิ า อฏ€ฺ ิมหฺ า อฏฺ€ิสมฺ า  อฏ€ฺ หี ิ อฏฺ€ภี ิ อฏฺ€หิ ิ อฏฺ€ิภิ

ฉฏั ฐี อฏฺ€โิ น อฏฺ€ิสสฺ อฏ€ฺ ีนํ อฏ€ฺ นิ ํ

สตั ตมี อฏ€ฺ มิ หฺ ิ อฏ€ฺ สิ มฺ ึ อฏฺ€ีสุ อฏฺ€ิสุ

ศัพท์จำ�แนกตาม
สตถฺ ิ  ขาอ่อน ทธิ  นมสม้
วาริ นำ�้ สปฺปิ เนยใส
อกฺข,ิ อจฺฉ ิ นัยนต์ า อจจฺ ิ เปลวไฟ

นปุงสกลิงค์ อกี ารันต์ สุขการี สัททปทมาลา (ท�ำ ใหม้ ีความสขุ )

วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ

ปฐมา สขุ การิ สขุ การ ี สุขการีนิ

อาลปนะ สขุ การิ สุขการ ี สขุ การนี ิ

ทุติยา สุขการึ สุขการี  สขุ การีนิ

ท่ีเหลอื จำ�แนกเหมือน ทณฺฑี ศพั ท์

๕๒ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สัททปทมาลาในนปุงสกลิงค์

นปงุ สกลงิ ค์ อกุ ารันต์ อายุ สัททปทมาลา (อาย)ุ
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา อายุ อายู อายนู ิ
อาลปนะ อายุ อายู อายูนิ
ทุติยา อายุํ อายู อายนู ิ
ตตยิ า อายุสา อายนุ า อายูหิ อายูภิ อายุหิ อายภุ ิ
จตตุ ถี อายโุ น อายสุ สฺ อายูนํ อายุนํ
ปญั จมี อายุนา อายุมหฺ า อายสุ มฺ า  อายูหิ อายภู ิ อายุหิ อายุภิ
ฉฏั ฐี อายุโน อายสุ สฺ อายูนํ อายนุ ํ
สัตตมี อายุมหฺ ิ อายุสฺมึ อายสู ุ อายสุ ุ

จกขฺ ุ นัยน์ตา ศพั ท์จำ�แนกตาม
ทารุ ทอ่ นไม้
มธุ น้ำ�ผึ้ง, น้ำ�ตาล พินทฺ ุ จุด, หยดนำ้�
อมพฺ ุ น้ำ� ติปุ ดีบกุ
มตฺถุ เนยเหลว วตถฺ ุ วตั ถ,ุ เร่ือง
ชตุ ครั่ง อสสฺ ุ นำ�้ ตา

นปงุ สกลงิ ค์ อกู ารันต์  โคตรฺ ภู สทั ทปทมาลา (จิตขา้ มโคตร)
วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหวุ จนะ            
ปฐมา โคตฺรภุ โคตฺรภู โคตรฺ ภนู ิ

ท่เี หลอื จำ�แนกเหมอื น อภภิ ู ศัพท์

นปุงสกลงิ ค์ โอการันต์ จิตตฺ โค สทั ทปทมาลา (ววั ด่าง)
วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหวุ จนะ           
ปฐมา จิตตฺ คุ จิตฺตคู จติ ฺตคูนิ

ทีเ่ หลอื จ�ำ แนกเหมอื น อายุ ศัพท์

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สทั ทปทมาลา : สัททปทมาลาในสพั พนาม ๕๓

สัททปทมาลาในสัพพนาม

การจ�ำ แนกปุรสิ สพั พนาม และวเิ สสนสัพพนาม มรี ปู ตา่ งกันท้งั ๓ ลงิ ค์
สว่ น ตุมหฺ และ อมฺห ศัพท์ มีรูปเหมอื นกันท้งั ๓ ลงิ ค์ ดงั ต่อไปนี้

ปรุ ิสสพั นาม

(๑) ปงุ ลงิ ค์ อการนั ต์ ต สทั ทปทมาลา (เขา, น้นั )
วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา โส เน เต
ทุตยิ า นํ ตํ เน เต
ตติยา เนน เตน เนหิ เนภิ เตหิ เตภิ
จตุตถี อสสฺ นสฺส ตสสฺ เนสํ เนสานํ เตสํ เตสานํ
ปญั จมี อสมฺ า นมหฺ า นสมฺ า ตมหฺ า ตสมฺ า เนหิ เนภิ เตหิ เตภิ
ฉฏั ฐี อสสฺ นสฺส ตสสฺ เนสํ เนสานํ เตสํ เตสานํ
สัตตมี อสฺมึ นมฺหิ นสฺมึ ตมฺหิ ตสฺมึ เนสุ เตสุ

(๒) อิตถีลิงค์ อาการันต์ ตา สัททปทมาลา (เขา, เธอ, น้นั )
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา สา นา ตา นาโย ตาโย
ทุติยา นํ ตํ นา ตา นาโย ตาโย
ตติยา นาย ตาย นาหิ นาภิ ตาหิ ตาภิ
จตุตถี ตสิ สฺ าย ตสสฺ าย อสสฺ าย นสสฺ าย นาสํ นาสานํ ตาสํ ตาสานํ
ติสสฺ า ตสฺสา อสสฺ า นสสฺ า
นาย ตาย
ปัญจมี นาย ตาย นาหิ นาภิ ตาหิ ตาภิ

๕๔ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สทั ทปทมาลา : สัททปทมาลาในสพั พนาม

ฉฏั ฐี ตสิ ฺสาย ตสสฺ าย อสสฺ าย นสฺสาย นาสํ นาสานํ ตาสํ ตาสานํ
ติสสฺ า ตสฺสา อสสฺ า นสสฺ า
นาย ตาย

สัตตมี ตสิ สฺ ํ ตสสฺ ํ อสฺสํ นสฺสํ นายํ ตายํ นาสุ ตาสุ

(๓) นปงุ สกลิงค์ อการันต์ ต สัททปทมาลา (นน้ั )

วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหวุ จนะ

ปฐมา นํ ตํ นานิ ตานิ

ทตุ ยิ า นํ ตํ นานิ ตานิ

ทเ่ี หลอื จำ�แนกเหมือนปุงลิงค์

อลิงคสัพพนาม

อลิงค์ อการนั ต์ ตุมฺห สทั ทปทมาลา (ท่าน, เธอ, คณุ )

วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ

ปฐมา ตวฺ ํ ตุวํ ตุมเฺ ห โว

ทตุ ยิ า ตวํ ตํ ตวฺ ํ ตุวํ ตมุ หฺ ากํ ตมุ เฺ ห โว

ตตยิ า ตยา ตวฺ ยา เต ตุมเฺ หหิ ตุมฺเหภิ โว

จตุตถี ตุมฺหํ ตว ตยุ หฺ ํ เต ตมุ ฺหํ ตมุ หฺ ากํ โว

ปัญจมี ตยา ตมุ ฺเหหิ ตุมเฺ หภิ

ฉฏั ฐี ตุมหฺ ํ ตว ตุยหฺ ํ เต ตุมฺหํ ตุมฺหากํ โว

สตั ตมี ตยิ ตฺวยิ ตมุ เฺ หสุ

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๘.สทั ทปทมาลา : สทั ทปทมาลาในสพั พนาม ๕๕

อลิงค์ อการนั ต์ อมฺห สทั ทปทมาลา (ขา้ พเจ้า, เรา, ผม, ดิฉัน)

วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ

ปฐมา อหํ มยํ อมเฺ ห โน

ทุตยิ า มมํ มํ อมฺหากํ อมฺเห โน

ตติยา มยา เม อมฺเหหิ อมฺเหภิ โน

จตุตถี อมฺหํ มม มยหฺ ํ มมํ เม    อมฺหํ อมหฺ ากํ อสฺมากํ โน

ปัญจมี มยา อมฺเหหิ อมเฺ หภิ

ฉฏั ฐี อมหฺ ํ มม มยฺหํ มมํ เม อมหฺ ํ อมหฺ ากํ อสฺมากํ โน

สัตตมี มยิ อมเฺ หสุ

วเิ สสนสัพพนาม

(๑) ปงุ ลิงค์ อการนั ต์ สพฺพ สัททปทมาลา (ท้ังปวง)

วิภตั ติ เอกวจนะ พหวุ จนะ

ปฐมา สพโฺ พ สพฺเพ

อาลปนะ สพฺพ สพฺพา สพเฺ พ

ทตุ ยิ า สพพฺ ํ สพฺเพ

ตตยิ า สพฺเพน สพฺเพหิ สพฺเพภิ

จตุตถี สพฺพสสฺ สพฺเพสํ สพฺเพสานํ

ปญั จมี สพฺพมฺหา สพพฺ สมฺ า สพฺเพหิ สพฺเพภิ

ฉัฏฐี สพพฺ สสฺ สพฺเพสํ สพเฺ พสานํ
สัตตมี สพฺพมฺหิ สพพฺ สมึ สพฺเพสุ

๕๖ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สัททปทมาลาในสัพพนาม

(๒) อิตถลี งิ ค์ อาการนั ต์ สพฺพา สทั ทปทมาลา (ทั้งปวง)

วภิ ัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ

ปฐมา สพฺพา สพพฺ า สพฺพาโย

อาลปนะ สพฺเพ สพฺพา สพฺพาโย

ทตุ ยิ า สพฺพํ สพฺพา สพพฺ าโย

ตติยา สพพฺ าย สพฺพาหิ สพพฺ าภิ

จตตุ ถี สพฺพสฺสา สพฺพาย สพพฺ าสํ สพฺพาสานํ

ปัญจมี สพพฺ าย สพพฺ าหิ สพฺพาภิ

ฉฏั ฐี สพพฺ สสฺ า สพพฺ าย สพพฺ าสํ สพฺพาสานํ

สัตตมี สพฺพสสฺ ํ สพฺพายํ สพพฺ าสุ

(๓) นปงุ สกลงิ ค์ อการนั ต์ สพพฺ สัททปทมาลา (ทัง้ ปวง)

วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหวุ จนะ

ปฐมา สพฺพํ สพฺพานิ

อาลปนะ สพฺพ สพฺพานิ

ทุตยิ า สพพฺ ํ สพพฺ านิ

ที่เหลือเหมอื นปงุ ลิงค์

กตร, กตม ศัพทจ์ ำ�แนกตาม อภุ ย ท้งั สอง ทั้งคู่
ไหน อะไรบา้ ง อญฺ อืน่
อติ ร นอกน้ ี ย ใด
อญฺตร, อญฺตม คนใดคนหนงึ่

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สทั ทปทมาลา : สทั ทปทมาลาในสัพพนาม ๕๗

(๑) ปุงลิงค์ อการันต์ ปุพฺพ สัททปทมาลา (ขา้ งหนา้ , กอ่ น)
วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา ปุพฺโพ ปพุ ฺเพ ปุพฺพา
อาลปนะ ปพุ พฺ ปุพเฺ พ ปพุ พฺ า
ทตุ ยิ า ปุพฺพํ ปพุ เฺ พ
ตตยิ า ปพุ ฺเพน ปพุ เฺ พหิ ปพุ เฺ พภิ
จตุตถี ปุพพฺ สสฺ ปพุ ฺเพสํ ปุพพฺ สานํ
ปัญจมี ปุพฺพา ปพุ ฺพมฺหา ปุพฺพสมฺ า  ปุพฺเพหิ ปุพเฺ พภิ
ฉฏั ฐี ปุพพฺ สฺส ปุพเฺ พสํ ปุพฺเพสานํ
สตั ตมี ปพุ ฺเพ ปพุ ฺพมหฺ ิ ปพุ ฺพสมึ ปุพเฺ พสุ

(๒) อิตถีลงิ ค์ อาการันต์ ปพุ ฺพา สัททปทมาลา (ขา้ งหน้า, ก่อน)
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา ปุพฺพา ปพุ ฺพา ปุพฺพาโย

ทีเ่ หลือเหมือน สพฺพา ศัพท์

(๓) นปงุ สกลิงค์ อการันต์ ปุพฺพ สทั ทปทมาลา (ขา้ งหน้า, กอ่ น)
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา ปุพพํ ปุพพฺ านิ
อาลปนะ ปพุ พฺ ปุพพฺ านิ
ทตุ ิยา ปุพฺพํ ปพุ พฺ านิ

ทีเ่ หลอื จำ�แนกเหมือนปุงลิงค์

ปร อนื่ ศพั ทจ์ ำ�แนกตาม
อปร อืน่ อกี

๕๘ ๒.นามกัณฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : สัททปทมาลาในสัพพนาม

ทกฺขิณ ขา้ งขวา, ทศิ ใต้ อตุ ฺตร ข้างซา้ ย, ทิศเหนอื
อธร ขา้ งลา่ ง, ภายใต้
วเิ สสนสพั พนามตง้ั แตน่ ไ้ี ป ไม่มีอาลปนะ      

(๑) ปุงลิงค์ อการนั ต์ เอต สทั ทปทมาลา (น่ัน, น่ี)
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ

ปฐมา เอโส เอเต

ทุติยา เอตํ เอเต

ที่เหลอื เหมอื น สพฺพ ศทั พ์ ปุงลิงค์

(๒) อติ ถีลงิ ค์ อาการนั ต์ เอตา สัททปทมาลา (น่นั , น่)ี
วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ

ปฐมา เอสา เอตา เอตาโย

ทตุ ิยา เอตํ เอตา เอตาโย

ตตยิ า เอตาย เอตาหิ เอตาภิ

จตุตถี เอติสสฺ าย เอตสิ สฺ า เอตาย   เอตาสํ เอตาสานํ

ปญั จมี เอตาย เอตาหิ เอตาภิ

ฉฏั ฐี เอติสสฺ าย เอตสิ ฺสา เอตาย เอตาสํ เอตาสานํ

สัตตมี เอติสสฺ ํ เอตายํ เอตาสุ

(๓) นปุงสกลงิ ค์ อการนั ต์ เอต สัททปทมาลา (นั่น, น่)ี
วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา เอตํ เอตานิ
ทตุ ิยา เอตํ เอตานิ

ทีเ่ หลือจ�ำ แนกเหมอื นปุงลงิ ค์

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๘.สทั ทปทมาลา : สทั ทปทมาลาในสพั พนาม ๕๙

(๑) ปุงลงิ ค์ อการนั ต์ อิม สัททปทมาลา (น)้ี
วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา อยํ อเิ ม
ทุติยา อมิ ํ อิเม
ตติยา อิมินา อเนน เอหิ เอภิ อิเมหิ อเิ มภิ
จตตุ ถี อมิ สฺส อสสฺ เอสํ เอสานํ อิเมสํ อิเมสานํ
ปญั จมี อิมมหฺ า อมิ สฺมา อสฺมา  เอหิ เอภิ อิเมหิ อเิ มภิ
ฉฏั ฐี อิมสฺส อสสฺ เอสํ เอสานํ อิเมสํ อเิ มสานํ
สัตตมี อิมมฺหิ อมิ สมฺ ึ อสฺมึ เอสุ อเิ มสุ

(๒) อติ ถีลงิ ค์ อาการันต์ อิมา สทั ทปทมาลา (นี้)
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา อยํ อมิ า อมิ าโย
ทตุ ิยา อิมํ อิมา อิมาโย
ตติยา อมิ าย อิมาหิ
จตตุ ถี อสฺสาย อิมสิ ฺสาย อสฺสา อิมสิ สฺ า อิมาย อิมาสํ อมิ าสานํ
ปัญจมี อมิ าย อมิ าหิ
ฉัฏฐี อสสฺ าย อิมสิ สฺ าย อสฺสา อมิ ิสฺสา อิมาย อิมาสํ อิมาสานํ
สัตตมี อิมสิ สฺ า อิมสิ ฺสํ อสฺสํ อมิ ิสฺสา อมิ ายํ  อมิ าสุ

(๓) นปุงสกลงิ ค์ อการันต์ อิม สทั ทปทมาลา (นี้)
วภิ ัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา อทิ ํ อมิ ํ อมิ านิ
ทตุ ยิ า อทิ ํ อิมํ อิมานิ

ทเ่ี หลือจำ�แนกเหมือนปุงลงิ ค์

๖๐ ๒.นามกัณฑ์ : ๒.๘.สทั ทปทมาลา : สทั ทปทมาลาในสพั พนาม

(๑) ปงุ ลิงค์ อกุ ารันต์ อมุ สทั ทปทมาลา (โนน้ )
วิภตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา อสุ อมุ อมู
ทุติยา อมํุ อมู
ตติยา อมนุ า อมหู ิ อมูภิ อมุหิ อมุภิ
จตตุ ถี อมุสสฺ อทุสสฺ อมสู ํ อมสู านํ อมุสํ อมุสานํ
ปัญจมี อมุมฺหา อมสุ มฺ า อมูหิ อมภู ิ อมุหิ อมุภิ
ฉฏั ฐี อมสุ สฺ อทุสสฺ อมสู ํ อมสู านํ อมสุ ํ อมุสานํ
สตั ตมี อมมุ หฺ ิ อมสุ มฺ ึ อมสู ุ อมสุ ุ

(๒) อติ ถีลิงค์ อกุ ารนั ต์ อมุ สัททปทมาลา (โน้น)
วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา อสุ อมุ อมู อมุโย
ทุตยิ า อมุํ อมู อมุโย
ตติยา อมยุ า อมหู ิ อมูภิ
จตตุ ถี อมุสสฺ า อมุยา อมูสํ อมสู านํ
ปญั จมี อมยุ า อมหู ิ อมูภิ
ฉัฏฐี อมุสสฺ า อมุยา อมูสํ อมูสานํ
สตั ตมี อมุสสฺ ํ อมยุ ํ อมูสุ

(๓) นปุงสกลิงค์ อกุ ารนั ต์ อมุ สทั ทปทมาลา (โนน้ )
วิภตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา อทุํ อมู อมนู ิ
ทุติยา อทํุ อมู อมนู ิ

ทีเ่ หลอื จำ�แนกเหมือนปุงลิงค์

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๘.สัททปทมาลา : กึสัททปทมาลา ๖๑

กสึ ทั ทปทมาลา

จินโฺ ต กา โก จ กึสทฺโท อปฺปกตถฺ สฺส วาจโก
ยการยุตโฺ ต อาทิมฺห ิ สกลตถฺ สสฺ วาจโก
อจินโฺ ต จ อยาทิ จ ปุจฉฺ าวจกสมฺมโต.

กึศพั ทท์ มี่ ี จิ อยู่ทา้ ยเป็น โกจิ กาจิ กิญจฺ ิ เปน็ ต้น มีอรรถวา่ “นอ้ ย”,

กึศพั ท์ทม่ี ี ย อยู่หนา้ และมี จิ อยทู่ า้ ยเป็น โย โกจิ, ยา กาจ,ิ ยํ กิญจฺ ิ
(ยงฺกิญจฺ )ิ เปน็ ต้น มอี รรถว่า “ท้งั หมดท้งั ส้นิ ”,

กึศพั ท์อยา่ งเดียวเปน็ โก กา กึ เปน็ ตน้ มอี รรถคำ�ถามว่า “ใคร อะไร
อย่างไร ท่ไี หน เม่อื ไร หรอื ”

ข้อสังเกต กศึ พั ท์ เมือ่ อาเทศเปน็ ก แลว้ มกี ารจ�ำ แนกวิภตั ตเิ หมือน
สพพฺ ศพั ท์ ทั้ง ๓ ลงิ ค์ ตา่ งแต่ในนปงุ สกลงิ คเ์ อกวจนะเทา่ น้ันทม่ี ีรูปเป็น กึ

(๑) ปุงลิงค์ กึสทั ท-ยปพุ พ-จอิ ันตปทมาลา (ทัง้ หมดทัง้ สิน้ )

วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ

ปฐมา โย โกจิ เย เกจิ

ทตุ ิยา ยํ กญจฺ ิ เย เกจิ

ตติยา เยน เกนจิ เยหิ เกหจิ ิ

จตุตถี ยสฺส กสฺสจิ เยสํ เกสญฺจิ

ปัญจมี ยสมฺ า กสฺมาจิ เยหิ เกหิจิ

ฉัฏฐี ยสฺส กสสฺ จิ เยสํ เกสญจฺ ิ

สตั ตมี ยสมฺ ึ กสมฺ ิญฺจิ ยสมฺ ึ กิสฺมญิ จฺ  ิ   เยสุ เกสจุ ิ

๖๒ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๙.สงั ขยา : สัททปทมาลาในสงั ขยาสพั พนาม

(๒) อติ ถลี งิ ค์ กึสทั ท-ยปุพพ-จอิ นั ตปทมาลา (ทง้ั หมดทั้งส้นิ )
วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ
ปฐมา ยา กาจิ ยา กาจิ
ทุตยิ า ยํ กญฺจิ ยา กาจิ
ตติยา ยาย กายจิ ยาหิ กาหจิ ิ
จตุตถี ยสสฺ า กสฺสาจิ ยาย กายจิ   ยาสํ กาสญจฺ ิ
ปัญจมี ยาย กายจิ ยาหิ กาหิจิ
ฉฏั ฐี ยสฺสา กสฺสาจิ ยาย กายจิ ยาสํ กาสญฺจิ
สัตตมี ยสสฺ ํ กสสฺ ญจฺ ิ ยายํ กายญฺจิ ยาสุ กาสจุ ิ

(๓) นปงุ สกลงิ ค์ กึสัทท-ยปพุ พ-จอิ นั ตปทมาลา (ทงั้ หมดท้ังส้นิ )
วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ
ปฐมา ยํ กญิ จฺ ิ ยานิ กานจิ ิ
ทุติยา ยํ กิญฺจิ ยานิ กานจิ ิ

ที่เหลอื เหมอื นปุงลิงค์

๒.๙. สงั ขยา

สังขยา ที่เปน็ สพั ​พนาม​ เป็นค�ำ ส�ำ หรับนบั จำ�นวนสทุ ธนาม มี ๕ ตัว
คือ เอก อภุ ทวฺ​ิ ติ จตุ ส่วนสังขยาท่สี งู กว่านี้สำ�หรบั นบั จ�ำ นวนทว่ั ไป มี ๒
จำ�พวก คอื ปกตสิ ังขยา และ ปรู ณสังขยา

สัททปทมาลาในสงั ขยาสัพพนาม

สังขยาส​ัพพนาม ๕ ตวั คือ เอก อภุ ทวฺ​ิ ติ จตุ มีวิธีจ�ำ แนกวภิ ตั ติ
เหมือนสพั พนามทัว่ ไป

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๙.สังขยา : สทั ทปทมาลาในสังขยาสพั พนาม ๖๓

เอก สทั ทปทมาลา (หนงึ่ , เดียว) ๓ ลิงค์แยกกนั
ปงุ ลิงค์ อิตถีลิงค์ นปุงสกลิงค์
ว.ิ เอกวจนะ เอกวจนะ เอกวจนะ
ป. เอโก เอกา เอกํ
ท.ุ เอกํ เอกํ เอกํ
ต. เอเกน เอกาย เอเกน
จตุ. เอกสสฺ เอกสสฺ า เอกสิ สฺ า เอกาย เอกสสฺ
ปญั . เอกมฺหา เอกสมฺ า เอกาย เอกมหฺ า เอกสมฺ า
ฉ. เอกสฺส เอกสสฺ า เอกสิ สฺ า เอกาย เอกสฺส
ส. เอกมฺหิ เอกสมฺ ึ เอกสฺสํ เอกิสสฺ ํ เอกายํ เอกมหฺ ิ เอกสมฺ ึ

ทวฺ ิ สัททปทมาลา (สอง) ๓ ลงิ คเ์ หมือนกัน

วิภตั ติ เอกวจนะ
ปฐมา เทฺว ทเุ ว
ทุติยา เทวฺ ทเุ ว
ตตยิ า ทฺวีหิ ทฺวีภิ
จตตุ ถี ทฺวนิ นฺ ํ ทวุ นิ นฺ ํ
ปัญจมี ทฺวหี ิ ทฺวีภิ
ฉฏั ฐี ทฺวนิ ฺนํ ทวุ นิ ฺนํ
สัตตมี ทฺวสี ุ

อภุ สทั ทปทมาลา (ทง้ั สอง) ๓ ลงิ ค์เหมอื นกนั

วิภัตติ พหวุ จนะ
ปฐมา อุโภ อุเภ
ทตุ ิยา อุโภ อุเภ

๖๔ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๙.สังขยา : สทั ทปทมาลาในสงั ขยาสพั พนาม

ตติยา อุโภหิ อโุ ภภิ อเุ ภหิ อุเภภ ิ   
จตุตถี อภุ นิ นฺ ํ
ปัญจมี อโุ ภหิ อุโภภิ อุเภหิ อเุ ภภิ
ฉัฏฐี อุภนิ นฺ ํ
สัตตมี อุโภสุ อเุ ภสุ

ติ สัททปทมาลา (สาม) ๓ ลงิ คแ์ ยกกนั
ลงิ ค์ ปุงลงิ ค์ อติ ถลี ิงค์ นปงุ สกลงิ ค์
วภิ ตั ติ พหวุ จนะ พหวุ จนะ พหุวจนะ
ปฐมา ตโย ติสฺโส ตณี ิ
ทุตยิ า ตโย ตสิ โฺ ส ตณี ิ
ตติยา ตหี ิ ตีภิ ตหี ิ ตีภิ ตหี ิ ตภี ิ
จตุตถี ตณิ ณฺ ํ ตณิ ฺณนนฺ  ํ ติสสฺ นนฺ ํ ตณิ ฺณํ ติณณฺ นฺนํ
ปญั จมี  ตีหิ ตภี ิ ตีหิ ตีภิ ตีหิ ตีภิ
ฉฏั ฐี ตณิ ฺณํ ตณิ ณฺ นนฺ ํ ตสิ สฺ นฺนํ ตณิ ณฺ ํ ติณณฺ นฺนํ
สัตตมี ตสี ุ ตีสุ ตสี ุ

จตุ สัททปทมาลา (ส่)ี ๓ ลิงค์แยกกัน
๓ ลงิ ค์ ปงุ ลงิ ค์ อิตถลี ิงค์ นปงุ สกลงิ ค์
วภิ ัตติ พหวุ จนะ พหวุ จนะ พหุวจนะ
ปฐมา จตฺตาโร จตุโร จตสฺโส จตฺตาริ
ทุตยิ า จตฺตาโร จตุโร จตสโฺ ส จตตฺ าริ
ตติยา จตหู ิ จตภู ิ จตุพฺภิ จตูหิ จตูภิ จตหู ิ จตูภิ จตุพภฺ ิ
จตุตถี จตนุ นฺ ํ จตสสฺ นนฺ ํ จตุนนฺ ํ
ปญั จมี จตูหิ จตูภิ จตพุ ภฺ ิ จตหู ิ จตูภิ จตูหิ จตภู ิ จตพุ ฺภิ

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๙.สังขยา : ปกตสิ งั ขยา ๖๕

ฉัฏฐี จตนุ ฺนํ จตสฺสนนฺ ํ จตนุ ฺนํ ๒๑
สัตตมี จตสู ุ จตูสุ จตสู ุ ๒๒
๒๓
ปกตสิ ังขยา ๒๔
๒๕
ปกตสิ ังขยา คอื ค�ำ ที่ใช้นับจ�ำ นวนตามธรรมดา ดงั นี้ ๒๖
๒๗
เอก ๑ เอกวสี ติ ๒๘
ทฺว ิ ๒ ทวฺ าวสี ติ พาวสี ติ ๒๙
ติ ๓ เตวสี ติ ๓๐
จต ุ ๔ จตุวีสต ิ ๓๑
ปญจฺ ๕ ปญจฺ วีสต ิ ๓๒
ฉ ๖ ฉพฺพีสติ ๓๓
สตตฺ ๗ สตตฺ วสี ติ ๓๙
อฏฺ€ ๘ อฏ€ฺ วสี ต ิ ๔๐
นว ๙ เอกูนตึสติ ๔๑
ทส ๑๐ ตึส ตึสติ ๔๒
เอกาทส ๑๑ เอกตฺตึส ๔๓
ทวฺ าทส พารส ๑๒ ทฺวตฺตึส พตฺตสึ ๕๐
เตรส ๑๓ เตตฺตึส ๖๐
จตุททฺ ส จทุ ฺทส โจทฺทส ๑๔ เอกูนจตฺตาฬีส
ปญจฺ ทส ปณฺณรส ๑๕ จตตฺ าฬีส ตาฬสี
โสฬส ๑๖ เอกจตฺตาฬีส
สตฺตรส ๑๗ เทวฺ จตตฺ าฬีส
อฏ€ฺ ารส ๑๘ เตจตฺตาฬสี
เอกูนวสี ติ อูนวสี ติ ๑๙ ปญฺ าส ปณณฺ าส
วีส วสี ติ ๒๐ สฏ€ฺ ี

๖๖ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๙.สงั ขยา : คณุ ิตปกตสิ ังขยา

สตตฺ ต ิ ๗๐ สหสสฺ ๑,๐๐๐
อสีต ิ ๘๐ ทสสหสสฺ นหตุ ๑๐,๐๐๐
นวตุ ิ ๙๐ สตสหสสฺ ลกขฺ ๑๐๐,๐๐๐
สต ๑๐๐ (ทสสตสหสสฺ ๑,๐๐๐,๐๐๐)

คณุ ิตปกติสงั ขยา

คณุ ิตปกติสังขยา คอื คำ�ใชน้ ับจ�ำ นวนตามปกตทิ ม่ี กี ารคูณ ดังนี้

ปกตสิ ังขยา คณู ด้วย ช่อื สงั ขยา เลข เลขศนู ย์ 
หนง่ึ (ไม่มีคูณ) เอก ๑-
สอง ถงึ เกา้ ๒-๙ -
หนงึ่ ” ทวฺ ิ ถงึ นว ๑๑
สิบ คณู สบิ ทส ๑๒
ร้อย ๑๓
พนั ” สต ๑๔
หมนื่ ” สหสสฺ ๑๕
แสน ” ทสสหสฺส, นหตุ ๑๖
แสน ” สตสหสสฺ , ลกฺข ๑๗
แสน โกฏิ ” ทสสตสหสสฺ ๑ ๑๔
แสน ปโกฏิ คูณ รอ้ ย โกฏิ ๑ ๒๑
แสน โกฏปิ ฺปโกฏิ ” ปโกฏิ ๑ ๒๘
แสน นหตุ ” โกฏปิ ฺปโกฏิ ๑ ๓๕
แสน นินนฺ หุต ” นหุต ๑ ๔๒
แสน อกฺโขภิณี ” นนิ นฺ หุต ๑ ๔๙
แสน พินฺทุ ” อกโฺ ขภิณี ๑ ๕๖
แสน อพพฺ ุท ” พินทฺ ุ ๑ ๖๓
แสน นิรพพฺ ทุ ” อพพฺ ทุ ๑ ๗๐
” นิรพฺพทุ
” อหห

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๙.สงั ขยา : คุณิตปกติสังขยา ๖๗

แสน อหห ” อพพ ๑ ๗๗
แสน อพพ ” อฏฏ ๑ ๘๔
แสน อฏฏ ” โสคนธฺ กิ ๑ ๙๑
แสน โสคนธฺ กิ ” อปุ ฺปลลฺ ๑ ๙๘
แสน อุปฺปลลฺ ” กุมทุ ๑ ๑๐๕
แสน กุมุท ” ปณุ ฑฺ รีก ๑ ๑๑๒
แสน ปณุ ฺฑรกี ” ปทุม ๑ ๑๑๙
แสน ปทมุ ” กถาน ๑ ๑๒๖
แสน กถาน ” มหากถาน ๑ ๑๓๓
แสน มหากถาน ” อสงฺเขยฺ ยยฺ ๑ ๑๔๐

อพฺพทุ าทิปทุมาวสาน ํ สีตนรกนามเธยยฺ ฏฺ€านํ. 
อพพฺ ุท ถึง ปทมุ    เป็นชอ่ื ของสีตนรกทห่ี นาวจัด
จตตฺ าลสี สตํ สุญฺ  ํ อสงฺเขยฺ ยยฺ นฺติ วุจฺจติ.
เลขศนู ย์ ๑๔๐ ตวั เรยี กว่า อสงเฺ ขฺยยฺย (อสงไขย)

คาถาจำ�แนกสงั ขยาโดยลงิ ค์ ๓ วจนะ ๒

ทฺวาทโย อฏ€ฺ ารสนตฺ า ตลิ งิ เฺ ค พหวุ าจกา
วีสตฺยาที นวุตฺยนฺตา อิตฺถลิ งิ ฺเคกวาจกา
สตาที อสงฺเขยฺ ยฺยนฺตา นปสํุ กา ทฺวิวาจกา
โกฏติ ตฺ ยมกฺโขภณิ ี อติ ถฺ ิลิงคฺ า ทฺววิ าจกา.
ทวฺ ิ (๒) ถึง อฏฺ€ารส (๑๘) เป็น ๓ ลิงค์ พหุวจนะ
เอกูนวสี ติ (๑๙) ถงึ อฏฺ€นวตุ ิ (๙๘) เป็น อิตถีลงิ ค์ เอกวจนะ
เอกนู สต (๙๙) ถงึ อสงฺเขยฺ ยฺย เปน็ นปงุ สกลงิ ค์ ๒ วจนะ
โกฏิ ปโกฏิ โกฏิปปฺ โกฏิ อกโฺ ขภิณี เป็นอติ ถลี งิ ค์ ๒ วจนะ

๖๘ ๒.นามกัณฑ์ : ๒.๙.สงั ขยา : สทั ทปทมาลาในปกตสิ งั ขยา

จำ�แนกสงั ขยาโดยนาม ๓

เอก ถงึ จต ุ เป็นสัพพนาม
ปญฺจ ถงึ อฏ€ฺ นวตุ ิ เปน็ คณุ นาม
เอกนู สต ข้ึนไป เปน็ สทุ ธนาม

สทั ทปทมาลาในปกตสิ ังขยา

ปกต​ิสงั ขยา ตงั้ แต่ ปญฺจ ถึง อส​งเ​ฺ ขยฺ ยยฺ ไม​่เปน็ ส​ัพพ​ นา​ม จึงม​ี​วิธี​
จำ�แนกต​า่ งจ​าก​สัพพ​ นา​ม ดังนี้

ปญฺจ สัททปทมาลา (หา้ ) ๓ ลิงค์เหมอื นกนั

วิภัตติ พหุวจนะ
ปฐมา ปญจฺ
ทุตยิ า ปญฺจ
ตติยา ปญจฺ หิ
จตุตถี ปญจฺ นนฺ ํ
ปัญจมี ปญจฺ หิ
ฉฏั ฐี ปญจฺ นนฺ ํ
สตั ตมี ปญฺจสุ
ฉ ถึง อฏ€ฺ ารส ให้จำ�แนกวภิ ตั ติตาม ปญฺจ

เอกนู วีส สัททปทมาลา
เป็นอิตถีลงิ ค์อยา่ งเดียว
วิภัตติ เอกวจนะ
ปฐมา เอกูนวสี ํ
ทตุ ยิ า เอกนู วีสํ
ตติยา เอกูนวสี าย

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๙.สงั ขยา : ปูรณสงั ขยา ๖๙

จตุตถี เอกูนวีสาย
ปญั จมี เอกนู วสี าย
ฉฏั ฐี เอกูนวีสาย
สตั ตมี เอกนู วีสาย

ตัง้ แต่ วีส ถงึ อฏฺ€ปญฺาส จำ�แนกวภิ ัตติตาม เอกนู วีส
เอกูนวีสติ ถงึ อฏฺ€นวุติ มี ติ อยทู่ ้ายใหจ้ ำ�แนกตาม รตตฺ ิ ฝา่ ย
เอกวจนะ, ถา้ มี ส อยู่ทา้ ยให้จ�ำ แนกตาม เอกูนวีส, ถา้ มี อี ลงท้ายให้จ�ำ แนก
ตาม อิตถฺ ี ฝา่ ยเอกวจนะ
เอกูนสต ถึง อสงเฺ ขยฺ ยยฺ ใหจ้ ำ�แนกตาม จิตตฺ ทัง้ ๒ วจนะ
โกฏิ ปโกฏิ โกฏิปปฺ โกฏิ ใหจ้ �ำ แนกตาม รตตฺ ิ ท้ัง ๒ วจนะ
อกโฺ ขภิณี ให้จ�ำ แนกตาม อติ ฺถี ท้งั ๒ วจนะ

ปูรณสังขยา

ปูรณสังขยา คือ ค�ำ ท่ใี ช้นับใหเ้ ตม็ หรอื นบั ตามลำ�ดับ ดังน้ี

ปุงลงิ ค์ อติ ถีลิงค์ นปงุ สกลิงค์ แปล
ป€โม ป€มา ป€มํ ที่ ๑
ทตุ ิโย ทตุ ิยา ทตุ ยิ ํ ที่ ๒
ตตโิ ย ตติยา ตติยํ ท่ี ๓
จตุตโฺ ถ จตตุ ฺถา จตุตถฺ ี จตตุ ฺถํ ท่ี ๔
ปญฺจโม ปญจฺ มา ปญฺจมี ปญจฺ มํ ท่ี ๕
ฉฏโฺ € ฉฏฺ€า ฉฏฺ€ี ฉฏ€ฺ ํ ที่ ๖
สตตฺ โม สตตฺ มา สตตฺ มี สตตฺ มํ ที่ ๗
อฏ€ฺ โม อฏฺ€มา อฏฺ€มี อฏฺ€มํ ท่ี ๘
นวโม นวมา นวมี นวมํ ที่ ๙
ทสโม ทสมา ทสมี ทสมํ ที่ ๑๐

๗๐ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศัพท์ : ๑.ปัจจยันตะ

เอกาทสโม เอกาทสี เอกาทสึ เอกาทสมํ ที่ ๑๑
ทฺวาทสโม พารสโม ทฺวาทสี พารสี ทวฺ าทสมํ พารสมํ ที่ ๑๒
เตรสโม เตรสี เตรสมํ ที่ ๑๓
จตุททฺ สโม จทุ ฺทสโม จตทุ ทฺ สี จาตทุ ทฺ สี จตทุ ฺทสมํ ท่ี ๑๔
ปณณฺ รสโม ปญฺจทสโม ปณณฺ รสี ปญจฺ ทสี  ปณฺณรสมํ ท่ี ๑๕
โสฬสโม โสฬสี โสฬสมํ ที่ ๑๖
สตตฺ รสโม สตตฺ ทสโม สตฺตรสี สตฺตรสมํ ที่ ๑๗
อฏ€ฺ ารสโม อฏ€ฺ าทสโม อฏฺ€ารสี อฏ€ฺ ารสมํ ที่ ๑๘
เอกนู วสี ติโม เอกนู วสี ติมา เอกูนวสี ตมิ ํ ที่ ๑๙
วสี ติโม วสี ตมิ า วีสติมํ ที่ ๒๐

ป​ูรณส​งั ขยา จดั เป็นค​ณุ นาม มี​ใชท​้ ั้ง ๓ ลงิ ค์ เปน็ เอกว​จนะอ​ยา่ งเ​ดยี ว
ให้จ​ำ�แนกต​ามส​ุทธ​นามใ​น​ลงิ คแ์​ละก​ารนั ต์​น้ันๆ

๒.๑๐. อพั ยยศัพท์

อัพย​ยศัพท์ คือ​ศัพท์ท​ ่ี​คง​รูป​เดิม​ไว้ ไม่เปลี่ยนรูปไปตามล​ิงค์ การันต์
วภิ ตั ติ​และว​จนะ มี ๓ อยา่ ง คอื ปัจจ​ยนั ต​ะ อุปส​ัค และ​นบิ าต

๑. ปัจจยนั ตะ

ปจั จย​นั ต​ะ คอื ศ​ัพท์ที​่มี​ปัจจัย ๒๒ ตัว อ​ยู่​สดุ ท้าย มี ๒ อยา่ ง คือ
วิภตั ตปิ ัจจยันตะ และ ตเวตนุ าทปิ ัจจยนั ตะ

๑.๑. วภิ ตั ติปจั จยันตะ

วิภัตติปัจจยันตะ ประกอบปัจจัย​ไ​ว้หลังสุทธ​นาม​และ​สัพ​พนา​ม​แทน​
วภิ ตั ติ ม​อ​ี รรถเ​หมอื นว​ภิ ตั ติ เมอ่ื ส�ำ เรจ็ รปู แลว้ จดั เปน็ อพั ยยศพั ท์ มี ๓ อยา่ ง คอื

๑. โตป​ ัจจัย ประกอบห​ ลงั ส​ุทธ​นาม​และส​พั ​พนาม​ มี​อรร​ถต​ติย​าว​ิภัตติ

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศพั ท์ : ๒.อุปสคั ๗๑

แปลว​ ่า “ข้าง, โดย” เชน่ ปรุ โ​ต ขา้ ง​หนา้ , ปิฏฺ€ิโต ข้างหลงั . มี​อรรถป​ ญั จม​ี
วภิ ตั ติ แปล​วา่ “แต่, จาก” เชน่ ตโต €านโ​ต แต​่ทนี​่ ้นั , จากท​ น่​ี นั้

๒. ปจั จยั ๙ ตวั คอื ตฺร ถ ห ธ ธิ หึ หํ หิญจฺ​นํ ว ประกอบห​ ลงั ​
สัพพ​ นา​ม มี​อรรถส​ัต​ตมวี​ิภัตติ แปลว​่า “ใน...” เช่น ตตฺร ตตฺถ ใน...นั้น, อหิ
อธิ ใน...น้,ี สพพฺ ธิ ใน...ทง้ั ป​ วง, กุ​หึ กหุ ํ กหุ ิญจ​ฺ นํ กว ใน...ไหน

๓. ปจั จยั ๗ ตัว คอื ทา ทา​นิ รหิ ธ​ุนา ทา​จนํ ชฺช ชฺ​ชุ ประกอบ​
หลงั ส​พั ​พนาม​ มี​อรรถ​กาลส​ตั ​ตมี แปลว​่า “ในก​าล, ใน​เวลา” เชน่ สทา ใน​
กาล​ทุก​เม่ือ, อิท​ าน​ิ เอตรหิ ในเ​วลา​นี้ บัดน,ี้ อธน​ุ า ใน​กาล​น้,ี กทุ​ า​จนํ ใน​
กาลไ​หน, อชชฺ ใน​วนั น​ี,้ ปรชฺ​ชุ ใน​วนั อ​นื่

๑.๒. ตเวตุนาทิปจั จยันตะ

 ตเวตุนาทปิ จั จ​ยันต​ะ มตี เวตนุ าทิปจั จัย ๕ ตัว คือ ตเว ตุํ ตุน ตฺ​วา
ต​วฺ าน ประกอบหลงั ธาตุ เมอ่ื ส�ำ เรจ็ แลว้ จดั เปน็ อพั ยยศพั ท์ มี ๒ อยา่ ง คอื

๑. ปจั จยั ๒ ตวั ​คอื ตเว ตุํ ลงห​ ลงั จ​ากธาตุ มอี​รร​ถจ​ตุตถี​วิภัตติ แปล​
ว่า “เพ่อื ” เช่น กาตเว กาต​ํุ เพ่อื ก​ระทำ� เป็นต้น

๒. ปัจจยั ๓ ตัว​คือ ตนุ ตฺ​วา ตวฺ​าน ล​ง​หลังจ​ากธาตุ​ใชใ้ น​อดตี กาล
แปลว​ ่า “แล้ว” เชน่ กา​ตนุ กตฺ​วา กตฺ​วาน กระท�ำ แ​ล้ว เปน็ ตน้

ส่วน อิตถิ​โชตก​ปัจจัย​ใน​นาม ปัจจัย​ในตัทธิต ปัจจัย​ใน​อาขยาต และ​
ปจั จัย​ในก​ิตก์ (เวน้ ตเวตุนาทปิ ัจจยั ) ไมจ​่ ัด​เปน็ ​อพั ยย​ศพั ท์

๒. อปุ สัค

อุปสัค คอื ศพั ทท์ ใี่ ช้ประกอบหน้านามเหมอื นเปน็ คุณนามและประกอบ
หนา้ กริ ยิ าเหมอื นเปน็ กริ ยิ าวเิ สสนะ ท�ำ ใหม้ อี รรถพเิ ศษขนึ้ วเิ คราะหว์ า่ “อเุ ปจจฺ
นามกรฺ ยิ านํ อตฺถํ สชชฺ นฺตีติ อุปสคคฺ า บทท่เี ขา้ ไปปรงุ แตง่ เน้อื ความของ
นามและกรยิ า ชอ่ื วา่ อปุ สัค” มี ๒๐ ตัว คอื

๗๒ ๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศพั ท์ : ๒.อปุ สคั

ป ปรา นิ นี อุ ทุ ส,ํ วิ อว (โอ) อนุ ปริ อธิ อภิ ปติ (ปฏิ),
สุ อา อติ อปิ อป อุป

ตารางอุปสัค อรรถ อุทาหรณ์ และคำ�แปล

อรรถ ป อปุ สคั
ปการ อทุ าหรณ์ คำ�แปล
อาทกิ มฺม ปญฺ า รู้ทั่ว
ปธาน วิปฺปกตํ ท�ำ ค้างไว้
อสิ ฺสรยิ ปณตี ํ สูงสดุ ประณตี
อนโฺ ตภาว ปภู อยํ เทสสสฺ ผู้นเี้ ปน็ ใหญ่ในประเทศ
วโิ ยเค ปกขฺ ติ ตฺ ํ ใสเ่ ขา้ ไว้
ตปฺปร ปวาสี แยกกันอยู่
ภุสตฺถ ปาจรโิ ย บรู พาจารย์
สมฺภว ปวุทธฺ กาโย ผมู้ ีรา่ งกายใหญ่โต
ติตตฺ ิ ปภวติ เร่มิ ตน้ เกดิ ขึน้
อนาวิล ปหตู มนนฺ ํ ขา้ วมากเพียงพอ
ปตฺถน ปสนนฺ มุทกํ นำ�้ ใสสะอาด
ปณหิ ติ ํ ตั้งความปรารถนา เปน็ ต้น
อรรถ
ปริหานิ ปรา อปุ สคั
ปราชย อทุ าหรณ์ ค�ำ แปล
คติ ปราภโว ความเสื่อม
วกิ ฺกม ปราชโิ ต ปราชยั แพ้
อามสน ปรายนํ การไปสภู่ พหนา้
ปรกฺกมติ ก้าวไปข้างหนา้ ก้าวหน้า
องคฺ สฺส ปรามสนํ   การลูบคล�ำ อวัยวะ เปน็ ต้น

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศัพท์ : ๒.อปุ สัค ๗๓

อรรถ น ิ อปุ สคั ค�ำ แปล
นสิ เฺ สส อทุ าหรณ์
นิคคฺ ต
นิรตุ ตฺ ิ ค�ำ ท่ีกล่าวโดยไม่เหลอื
นหิ รณ
อนฺโตปเวสน นกิ กฺ ิเลโส ปราศจากกเิ ลส
อภาว
นเิ สธ นยิ ยฺ าติ ออกไป
นิกขฺ นตฺ
ปาตภุ าว นิทฺธารณํ การถอดถอน การถอยออก
อวธารณ
วภิ ชน นิขาโต ฝังไว้ ใส่ไว้
อปุ มา
อุปธารณ นมิ มฺ กฺขิกํ (รังผึ้ง) ไมม่ ตี วั อ่อน
อวสาน
เฉก นิวาเรติ หา้ มไว้

อรรถ นพิ พฺ านํ สภาวะอันออกจากตัณหา
นหี รณ
อาวรณ นิมมฺ ติ ํ เนรมิต บนั ดาล ปรากฏ

อรรถ นิจฉฺ โย การตัดสนิ การวินิจฉยั
อุคคฺ ต
นทิ เฺ ทโส การชแี้ จง การแสดงโดยพิสดาร 

นทิ สฺสนํ อุทาหรณ์ การเปรียบเทยี บ

นิสามนํ การพิจารณา

นฏิ €ฺ ติ ํ จบ อวสาน

นปิ โุ ณ ฉลาด เปน็ ต้น

น ี อุปสัค คำ�แปล
อทุ าหรณ์
นีหรติ น�ำ ออก
นวี รณํ กีดขวาง กน้ั ไม่ใหบ้ รรลคุ วามดี

อ ุ อปุ สคั คำ�แปล
อุทาหรณ์
อุคฺคจฉฺ ติ ขึ้นไป

๗๔ ๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศัพท์ : ๒.อปุ สคั

อุทธฺ กมฺม   อาสนา อฏุ ฺ€โิ ต ลกุ ขนึ้ จากทีน่ ่งั

ปธาน อกุ เฺ ขโป ยกข้นึ

วิโยค อุตฺตโม ประเสรฐิ สูงสดุ
สมภฺ ว
อตถฺ ลาภ โลกุตฺตโร ธรรมอนั เหนือโลก
สตฺติ
สรูปกถน อพุ พฺ าสิโต ถูกแยกจากกัน

อรรถ อพุ ฺภโู ต เกดิ ข้นึ แลว้
อโสภณ
อภาว อปุ ฺปนนฺ ํ าณํ ปญั ญาเกิดขึ้นแล้ว
กุจฺฉติ
อสมิทฺธิ อุสสฺ หติ คนฺตํุ อาจ (สามารถ) เพือ่ จะไป  
กจิ ฉฺ
วริ ูปตา อทุ ฺทสิ ติ สุตตฺ ํ สวดพระสตู ร เปน็ ต้น

อรรถ ทุ อุปสคั ค�ำ แปล
สโมธาน อุทาหรณ์
สมฺมา
สม ทุคคฺ นโฺ ธ มกี ลนิ่ เหมน็
สมนฺตภาว
ทุพฺภิกฺขํ อาหารขาดแคลน ทพุ ภกิ ขภยั

ทุกกฺ ฏํ ทำ�ความเสยี หาย ทำ�ไมส่ มควร

ทุสสฺ สฺสํ ขา้ วกลา้ ไม่สมบูรณ์

ทกุ ฺกรํ ท�ำ ยาก ลำ�บาก

ทุพพฺ ณโฺ ณ ผวิ พรรณไม่งาม

ทุมฺมุโข หน้าไมส่ วย หนา้ บ้ึง เปน็ ต้น

สํ อุปสัค
อทุ าหรณ์ คำ�แปล
สนธฺ ิ การตอ่ เชือ่ มโยง
สมาธิ สมาธิ จติ ตั้งมั่น ตัง้ ไว้ดี
สมฺปยุตฺโต ประกอบอยู่เสมอ
สํกณิ ฺณา เกลื่อน กระจัดกระจาย

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศัพท์ : ๒.อปุ สคั ๗๕

สมลุ ฺลปนา พดู เลียบเคยี ง

สงคฺ ต สงฺคโม สงั คม พบปะ ไปมาหาสู่
สงเฺ ขป
ภุสตฺถ สมาโส การยอ่
สหตฺถ
อปฺปตฺถ สารตฺโต กำ�หนดั จดั ตณั หาจัด
ปภว
อภมิ ขุ ภาว สํวาโส การอยรู่ ่วมกัน
สงคฺ ห
ปิธาน สมคโฺ ฆ ราคาถกู
ปุนปฺปนุ กรณ
สมิทธฺ ิ สมภฺ โว เกิดขึ้น

อรรถ สมมฺ ขุ ํ ต่อหนา้ เฉพาะหน้า
วเิ สส   
สงฺคณหฺ าติ สงเคราะห์ รวบรวม
วิวิธ
สํวตุ ํ ปดิ ครอบ ส�ำ รว, ระวัง
วิรุทธฺ
วคิ ต สนฺธาวติ ว่ิงไปเรอ่ื ยๆ ทอ่ งเท่ียว
วโิ ยค
วิรปู ตา สมปฺ นโฺ น สมบูรณ์ เพยี บพรอ้ ม เป็นตน้

ว ิ อุปสคั

อทุ าหรณ์ ค�ำ แปล

วมิ ุตฺติ ความหลดุ พน้

วสิ ฏิ โฺ € พเิ ศษ ประเสริฐ

วิมติ ความสงสัย

วจิ ิตรฺ ํ วจิ ิตร ลาย ดา่ ง

วิวาโท การทะเลาะ ความขัดแยง้

วิมลํ ปราศจากมลทิน

วิปฺปยตุ โฺ ต แยกจากกนั ไมป่ ระกอบ

วริ ูโป รูปไม่งาม รปู แปลกตา เป็นตน้

๗๖ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศพั ท์ : ๒.อุปสคั

อว อปุ สคั

อรรถ อุทาหรณ์ คำ�แปล

อโธภาค อวกฺขติ ตฺ จกฺขุ ทอดสายตาลงต่�ำ มองตำ�่

วโิ ยค โอมุกกฺ อุปาหโน ถอดรองเทา้ แลว้

อวโกกลิ ํ วนํ ปา่ ทน่ี กดุเหว่าจากไป ป่าร้าง

ปรภิ ว อวชานนํ การดหู ม่ิน ดูถูก

อวมญฺติ ดูหมนิ่

ชานน อวคจฺฉติ ยอ่ มรู้

สทุ ธฺ ิ โวทานํ ขาวสะอาด หมดจด

นิจฉฺ ย อวธารณํ การตัดสิน

เทส อวกาโส สถานที่โลง่ แจง้

เถยยฺ อวหาโร การลกั ขโมย เป็นตน้

อนุ อุปสัค

อรรถ อทุ าหรณ์ ค�ำ แปล

อนุคต อเนฺวติ ติดตามไป ไปตาม

อนปุ จฉฺ นิ นฺ    อนสุ โย อนุสยั กเิ ลสในกน้ บ้งึ หัวใจ

ปจฉฺ าสทฺทตฺถ อนรุ ถํ ฝุน่ ทป่ี ลวิ ตามหลงั รถ

ภุสตถฺ อนรุ ตฺโต ก�ำ หนดั จดั มักยินดี

สาทสิ ฺส อนุรูปํ สมควร มสี ภาพเหมอื นกัน

หีน อนสุ ารปิ ตุ ตฺ ํ ปญฺ วนโฺ ต ผมู้ ีปญั ญาด้อยกวา่ พระสารบี ุตร

ตตยิ ตฺถ นทมิ นฺววสิตา เสนา กองทพั ต้ังเรยี งรายตามแม่นำ้�

ลกฺขณ รกุ ขฺ ํ อนุ วชิ โฺ ชตเต วชิ ชฺ ุ ฟา้ แลบสว่างทีต่ น้ ไม้

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศัพท์ : ๒.อุปสัค ๗๗

อิตฺถมภฺ ูตกฺขาน สาธุ เทวทตโฺ ต นายเทวทัตดีเฉพาะกับมารดา
มาตรํ อนุ
ภาค ยเทตถฺ มํ อนุ สิยา, ในทรัพย์ทั้งหมดน้ัน ทรัพย์ใด
ตํ ทียตุ เปน็ ส่วนของเรา จงให้ทรพั ยน์ น้ั
วจิ ฉฺ า รุกขฺ ํ รุกฺขํ อนุ ดวงจันทร์ส่องสว่าง ท่ีต้นไม้ทุก
วิชฺโชตเต จนโฺ ท ต้น เป็นต้น

ปริ อุปสคั
อรรถ อทุ าหรณ์ ค�ำ แปล
สมนฺตโตภาว ปรวิ ุโต แวดลอ้ ม ห้อมล้อม
ปรจิ ฺเฉท ปริญฺเยฺยํ ควรก�ำ หนดรู้
วชชฺ น ปริหรติ หลีก เวน้
อาลิงคฺ น ปริสฺสชติ กอด แนบชิด
นวิ าสน วตฺถํ ปริธสฺสติ นุ่งห่มผา้
ปูชา ปาริจรยิ า การรบั ใช้
โภชน ภกิ ขฺ ุํ ปริวสิ ติ องั คาสภิกษุ
อวชานน ปริภวติ ดหู ม่นิ
โทสกขฺ าน ปรภิ าสติ บรภิ าษ ตดั พ้อ ตอ่ ว่า ด่า
ลกฺขณ รกุ ขฺ ํ ปริ วชิ โฺ ชตเต วชิ ชฺ ุ ฟา้ แลบสว่างทต่ี ้นไม้ เป็นตน้

อธ ิ อปุ สคั
อรรถ อทุ าหรณ์ ค�ำ แปล
อธกิ อธิสีลํ อธิศีล ศลี ท่ยี ่ิงหรอื เคร่งครัด
อสิ สฺ ร อธปิ ติ อธบิ ดี ผูเ้ ป็นใหญ่
อุปรภิ าว อธโิ รหติ งอกข้ึน
ปถวึ อธิเสสสฺ ติ จักนอนทับแผ่นดนิ
อธิภวน อธิภวติ ครอบครอง ปกครอง ครอบงำ�

๗๘ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศัพท์ : ๒.อปุ สคั

อชฺฌายน พฺยากรณมธเี ต สวดคัมภรี ์ไวยากรณ์
อธฏิ ฺ€าน ภมู ิกมฺปาทึ อธิฏฺ€าติ อธิษฐานใหแ้ ผน่ ดินไหวเป็นตน้
นจิ ฉฺ ย อธโิ มกโฺ ข การตดั สิน
ปาปณุ น โภคกขฺ นธฺ ํ อธิคจฺฉติ ได้กองโภคทรพั ย์ เป็นต้น

อรรถ อภิ อุปสคั
อภิมุขภาว อทุ าหรณ์ ค�ำ แปล
วสิ ฏิ ฺ€ อภมิ ุโข ตอ่ หน้า เฉพาะหนา้ มงุ่ ตรง
อธิก อภกิ ฺกมติ ก้าวไปขา้ งหนา้ เดนิ หนา้
อุทธฺ กมฺม อภธิ มฺโม ธรรมอันประเสรฐิ สุด
กลุ อภวิ สสฺ ติ ฝนตกหนกั
สารุปปฺ อภริ หุ ติ ขึ้นไป
วนฺทน อภิชาโต เกิดในตระกูลดี
อภริ โู ป รูปงาม หล่อ สวย
อรรถ อภิวาเทติ กราบ ไหว้ เปน็ ต้น
ปติคต
ปฏิโลม ปต ิ อุปสัค
ปตินธิ ิ อทุ าหรณ์ คำ�แปล
ปติทาน ปจจฺ กฺขํ ประจกั ษ์ ชดั เจน
นิเสธ ปตโิ สตํ ทวนกระแส
นวิ ตตฺ น อาจริยโต ปติ สิสฺโส ศิษย์เป็นตัวแทนจากอาจารย์
สาทสิ ฺส เตลตฺถกิ สฺส ฆตํ ใหเ้ ปรยี งแทน แกผ่ ตู้ อ้ งกาน�ำ้ มนั
ปติกรณ ปติททาติ

ปฏิเสธนํ การปฏเิ สธ การห้าม
ปฏิกฺกมติ กลับ เดินกลับ
ปฏิรปู กํ รูปเหมือน
ปตกิ าโร ตอบแทน ท�ำ คืน

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศัพท์ : ๒.อปุ สัค ๗๙

อาทาน ปติคฺคณหฺ าติ (ปฏ-ิ ) รบั เอา
ปติโพธ
ปฏิจจฺ ปฏเิ วโธ ปฏเิ วธ รแู้ จ้ง การแทงตลอด

อรรถ ปจฺจโย เหตุ ปัจจยั เปน็ ต้น
สฏุ ฺฐ,ุ สมฺมา
สขุ ตฺถ ส ุ อุปสคั

อรรถ อทุ าหรณ์ คำ�แปล
อภิมขุ ภาว
อุทฺธกมมฺ สุคโต ผเู้ สดจ็ ไปดี เสดจ็ ไปโดยชอบ
มริยาทา
อภวิ ิธิ สุกโร ทำ�ง่าย สะดวกสบาย เปน็ ต้น

ปตฺติ อา อปุ สคั
อิจฉฺ า
ปริสสฺ ชน อทุ าหรณ์ ค�ำ แปล
อาทกิ มมฺ
คหณ อาคจฉฺ ติ มา

นิวาส อาโรหติ ขึ้น
สมีป
อวหาน อาปพพฺ ตา เขตตฺ ํ นาจรดภูเขา

อากมุ ารํ ยโส ชื่อเสียงของพระกัจจายนะ
กจจฺ ายนสสฺ แผ่ไปถึงเด็ก

อาปตฺติมาปนฺโน ต้องอาบตั ิ

อากงขฺ า หวงั ตอ้ งการ

อาลงิ คฺ นํ การกอด

อารมฺโภ การรเิ ร่ิม การเร่มิ ต้น

อาทียติ ถกู ถือเอา

อาลมพฺ ติ ห้วิ ไป หอ้ ยไว้ รบั เอา

อาวสโถ ที่อยู่ บ้าน

อาสนฺนํ ใกล้

อามนเฺ ตมิ เรยี กมา เรยี กหา เป็นตน้

๘๐ ๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศัพท์ : ๒.อุปสคั

อรรถ อต ิ อปุ สัค ค�ำ แปล
อตกิ ฺกมน อุทาหรณ์
อตกิ กฺ นตฺ อติโรจติ อมฺเหหิ รุ่งเรืองกว่าพวกเรา
อติสย อตีโต ลว่ งเลยไปแลว้
ภสุ ตถฺ อจจฺ นฺตํ เกนิ ขอบเขต เกินประมาณ
อติกสุ โล ฉลาดย่งิ
อรรถ อติกโฺ กโธ โกรธจัด
สมภฺ าวนา อติวทุ ฺธิ เจรญิ มาก เป็นตน้
อเปกฺขา อปิ อุปสคั
สมุจฉฺ ย อุทาหรณ์ คำ�แปล
อปิ ทพิ เฺ พสุ กาเมสุ แมใ้ นกามอันเป็นทิพย์
ครห เมรมุ ปฺ ิ วนิ ิวิชฺฌติ วฺ า เจาะแม้เขาพระสุเมรไุ ป
ปญฺห คจเฺ ฉยฺย
อยมฺปิ ธมฺโม อนยิ โต แมอ้ าบตั นิ ีก้ ไ็ มแ่ นน่ อน
อรรถ อิติปิ อรหํ เพราะเหตุน้ี จงึ ทรงเปน็ พระ
อปคต อรหันต์
ครห อนตฺ มฺปิ อนตฺ คณุ มฺปิ หมายเอาทง้ั ไส้ใหญ่และไสน้ อ้ ย
อาทาย
อปิ อมฺหากํ ปณฑฺ ติ ก น่บี ณั ฑิตนา่ เกลยี ดของพวกเรา
อปิ ภนเฺ ต ภกิ ขฺ ํ ลภติ ถฺ ผเู้ จรญิ ทา่ นได้ภิกษาบ้างหรือไม่

อป อปุ สคั คำ�แปล
อุทาหรณ์
อปมาโน ผปู้ ราศจากมานะ
อเปโต หลีกไปแล้ว
อปคพโฺ ภ มคี รรภ์เลว

๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศัพท์ : ๒.อุปสัค ๘๑

วชฺชน อปสาลาย อายนฺติ พวกพ่อคา้ เดนิ อ้อมศาลามา
ปูชา วาณิชา
ปทสุ ฺสน วทุ ธฺ าปจายี มปี รกตินอบน้อมตอ่ ผใู้ หญ่
อปรชฺฌติ ประทุษร้าย, ประพฤติผดิ
อรรถ
อุปคมน อุป อปุ สคั
สมีป
อุปปตฺติ อทุ าหรณ์ ค�ำ แปล
นสิ นิ ฺนํ วา อุปนิสเี ทยยฺ เขา้ ไปนง่ั ใกล้ผนู้ ง่ั อยูแ่ ลว้ บ้าง
สาทสิ ฺส อุปนครํ ใกลเ้ มอื ง
อธกิ สคคฺ ํ โลกํ อปุ ปชฺชติ เข้าถงึ โลกสวรรค์
อปุ รภิ าว อุปปตตฺ ิโต อิกฺขตตี ิ รอดูตามสมควร ช่ือว่าอเุ บกขา
อนสน อุเปกฺขา
โทสกฺขาน อปุ มานํ อปุ มา การเปรยี บเทียบ ช่อื วา่ อปุ มา
สญฺ า อปุ ขาริยํ โทโณ (ปรมิ าณเท่ากนั ) นบั โดยทะนาน
ปุพฺพกมมฺ มากกว่าขารี
ปชู า อุปสมฺปนฺโน ผ้ถู งึ ความเป็นผู้สงู สดุ
ผไู้ ด้รบั อุปสมบท
คยหฺ การ อปุ วาโส การอยจู่ �ำ สมาทานงดอาหาร
ปรํ อปุ วทติ กลา่ วหาผูอ้ นื่
อปุ สคโฺ ค ชือ่ อปุ สคั
อุปกกฺ โม ก้าวไปขา้ งหน้า พากเพยี ร
อปุ กาโร ท�ำ กอ่ น ผู้มีอุปการคณุ
พทุ ธฺ ปุ ฏ€ฺ าโก อปุ ัฏฐากพระพทุ ธเจ้า
เขา้ เฝ้าพระพุทธเจา้
มาตุปฏ€ฺ านํ การเล้ียงดมู ารดา
โสเจยฺยปจฺจปุ ฏฺ€านํ ปรากฏโดยความเปน็ ผ้สู ะอาด

๘๒ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศพั ท์ : ๓.นิบาต : นบิ าตอรรถเดียวกัน

ภสุ ตฺถ อปุ าทานํ การยดึ ถอื การตดิ
อุปายาโส ความล�ำ บากอย่างหนกั
อุปนิสฺสโย ที่อาศัยอยู่ อุปนิสัย เปน็ ต้น

๓. นิบาต

นิบาต คือ​ ศัพท์​ที่​ตกลงระหว่าง​นาม​ศัพท์​บ้าง กิริยา​ศัพท์​บ้าง มี​รูป​
คงเ​ดมิ ในล​งิ ค์​ท้งั ๓ ในว​ิภตั ต​ิทงั้ ๗ และ​ในวจนะ​ทง้ั ​๒ แบ่งเป็น ๓ กลมุ่ คอื
นบิ าต​อรรถเ​ดยี วกัน นิบาตห​ ลาย​อรรถ และน​บิ าตใ​น​อรรถต​่างๆ

กลมุ่ ท่ี ๑ นบิ าตอรรถเดียวกนั

กลุ่ม​นิบาต​หลาย​ศัพท์​มี​อรรถ​เดียวกัน​ บาง​ตัว​มี​อรรถ​ของ​วิภัตติ​นาม​
ประกอบอ​ย​ู่ เรยี กว​า่ “วภ​ิ ตั ย​ตั ถน​บิ าต” บางต​วั ไ​มม่ อ​ี รรถข​องว​ภิ ตั ตน​ิ ามป​ระกอบ
เรียกว​่า “อว​ิ​ภัตย​ัตถน​บิ าต”

วภิ ัตยัตถนิบาต

นบิ าตมอี รรถวภิ ัตตนิ าม

นิบาตท่ีมีอรรถของวิภัตตินาม แบ่งกลุ่มตามท่ีมีอรรถวิภัตติเดียวกัน
มี ๘ อรรถ คือ

นิบาต ๑. อรรถอาลปนะ
ยคฺเฆ
ภนฺเต คำ�แปล นิยมใช้
ขอเดชะ เป็นค�ำ ที่สามญั ชนเรยี กเจ้านายช้ันสงู ,
ขอโอกาส เปน็ คำ�ที่ภกิ ษุรปู หนง่ึ ขอโอกาสตอ่ สงฆ์
ท่านผเู้ จรญิ เปน็ ค�ำ ทค่ี ฤหสั ถห์ รอื บรรพชติ ผนู้ อ้ ย เรยี กบรรพชติ

ผใู้ หญ่

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศพั ท์ : ๓.นบิ าต : นิบาตอรรถเดยี วกัน ๘๓

ภทฺทนฺเต ท่านผู้เจรญิ เปน็ ค�ำ ทค่ี ฤหสั ถห์ รอื บรรพชติ ผนู้ อ้ ย เรยี กบรรพชติ
ผใู้ หญ่

อาวุโส ผมู้ ีอายุ เป็นคำ�ทีบ่ รรพชิตผู้ใหญ่ เรยี กบรรพชติ ผู้นอ้ ย
หรอื เรยี กคฤหสั ถ์

โภ, อมโฺ ภ ผู้เจริญ เป็นคำ�เรยี กผชู้ ายดว้ ยวาจาสภุ าพ
ภทฺเท นางผู้เจริญ เป็นค�ำ เรียกผู้หญงิ ด้วยวาจาสภุ าพ

นอ้ งหญิง
เร, อเร เวย้ โว้ย เป็นคำ�เรียกคนเลว คนช้นั ต่ำ�
ภเณ พนาย เปน็ ค�ำ ท่ีเจ้านายเรยี กผู้ใต้บังคับบัญชา
เช แม่ เธอ เปน็ คำ�เรียกสาวใช้

๒. อรรถปฐมา

อตถฺ ิ มีอยู่ สกฺกา อาจ สามารถ
ลพภฺ า พงึ ได้ ควรได้ ทวิ า กลางวนั
ภยิ ฺโย ยงิ่ นโม ความนอบนอ้ ม

ทิวา ท้ังวนั ๓. อรรถทุติยา

ภิยโฺ ย ให้ย่งิ นโม ซ่ึงความนอบนอ้ ม

๔. อรรถตตยิ า

ส,ํ สย,ํ สาม ํ ดว้ ยตนเอง, เอง สมฺมา ดว้ ยด,ี โดยชอบ
กินตฺ ิ ดว้ ยเหตุไร ปทโส โดยบท
สุตตฺ โส โดยสตู ร ทุกฺขโต โดยลำ�บาก
อนจิ จฺ โต โดยไมแ่ น่นอน ทฺวธิ า โดยสองส่วน
เอกธา โดยส่วนเดยี ว

๘๔ ๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศพั ท์ : ๓.นิบาต : นบิ าตอรรถเดียวกัน

๕. อรรถจตุตถี (ตเว ตํุ ปัจจัย)

กาตเว, กาตํุ  เพอ่ื ท�ำ ทาตเว, ทาตํุ  เพ่อื ให ้         
กาเรตํุ เพ่ือให้ทำ� ทาเปตํุ เพือ่ ให้ถวาย

๖. อรรถปัญจมี (โส โต ปจั จัย)

ทฆี โส จากดา้ นยาว โอรโส จากฝั่งนี้

ราชโต จากพระราชา โจรโต จากโจร

๗. อรรถสตั ตมี

สมนตฺ า ในทุกท,่ี ในทรี่ อบๆ สามนตฺ า ในทีใ่ กล้, ในทีร่ อบๆ
ปริโต ในทรี่ อบๆ สมนฺตโต ในท่ีรอบๆ
อภโิ ต ในข้างหนา้ เอกชฌฺ ํ ในสิง่ เดยี ว
เอกมนฺตํ ในท่หี น่ึง, ณ ทสี่ มควร เหฏ€ฺ า ในภายใต้, ภายใต้
อปุ ริ ในเบือ้ งบน, เบอื้ งบน อุทธฺ ํ ในเบอ้ื งบน, เบ้อื งบน
อโธ ในภายใต้, เบือ้ งล่าง ติรยิ ํ ในทขี่ วาง, ขัดขวาง
สมมฺ ขุ า ในที่เฉพาะหน้า, ตอ่ หน้า ปรมฺมุขา ในทีล่ ับหลัง
อาวิ ในที่แจง้ รโห ในทลี่ บั
ติโร ในขา้ งหนึ่ง อจุ ฺจํ ในทีส่ งู
นจี ํ ในท่ตี ่ำ� อนโฺ ต ในภายใน
อนตฺ รา ในระหวา่ ง อชฺฌตฺตํ ในภายใน
พหทิ ธฺ า, พาหริ า, พาหิร,ํ พหิ อารา, อารกา ในทไี่ กล
ในภายนอก, ขา้ งนอก
ปารํ ในฝั่งนั้น โอรํ ในฝ่งั น้ี
ปจฉฺ า ในภายหลัง ปเุ ร ในกาลกอ่ น
หรุ ํ ในโลกอ่ืน เปจฺจ ในโลกหนา้

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศพั ท์ : ๓.นบิ าต : นบิ าตอรรถเดียวกัน ๘๕

อรรถสตั ตมี (โต ตรฺ ถ ธิ ว หึ หํ หญิ จฺ นํ ห ธ ปจั จยั )

เอกโต ในผเู้ ดียว ปรุ โต ในข้างหน้า

ปสฺสโต ในข้าง ปจฉฺ โต ในข้างหลัง

สีสโต บนศรี ษะ ปาทโต บนเท้า, ท่ีเทา้

อคคฺ โต บนยอด มลู โต ทโ่ี คน, ทร่ี าก, ใตค้ วง

ยตรฺ , ยตฺถ ในที่ใด ตตรฺ , ตตฺถ ในทนี่ ั้น

สพพฺ ธิ ในท่ีท้งั ปวง อหิ , อิธ ในทน่ี ้ี

กุห,ึ กหุ  ํ ในทีไ่ หน กุหิญฺจน,ํ กฺว ในท่ีไหน

๘. อรรถกาลสตั ตมี

อถ ครัง้ นน้ั หยิ โฺ ย วนั วาน, เม่อื วาน  

ปาโต รุ่งเช้า, ในเวลาเชา้ ทิวา ในเวลากลางวนั

สมฺปติ เด๋ียวน,ี้ ขณะน้ี ภตู ปุพพฺ ํ, ปรุ า ในกาลก่อน 

อายต ึ ต่อไป, ขา้ งหน้า อชชฺ ในวนั นี้

สุเว, เสวฺ ในวันพร่งุ น้ี อปรชฺชุ, ปรชฺช ในวันอื่น

ปรสุเว ในวนั มะรนื ปเร ในกาลอน่ื

สชฺชุ ในขณะนน้ั สายํ ในเวลาเยน็

กาลํ ในกาล ทวิ า ในเวลากลางวนั

นตฺตํ ในเวลากลางคืน กลฺลํ ในเวลาสมควร

นิจจฺ ,ํ สตตํ ในกาลเป็นนติ ย์ อภณิ หฺ ,ํ อภิกฺขณ ํ เนอื งๆ

มหุ ุํ พลัน, พล่าม มหุ ุตฺตํ ช่วั คร,ู่ คร่เู ดียว

ยทา ในกาลใด ตทา ในกาลน้ัน

กทา ในกาลเช่นไร สทา ในกาลทกุ เมื่อ

๘๖ ๒.นามกัณฑ์ : ๒.๑๐.อัพยยศัพท์ : ๓.นิบาต : อวิภัตยัตถนิบาต

อวภิ ตั ยตั ถนบิ าต

นบิ าตไม่มอี รรถวภิ ัตตนิ าม

นบิ าตทไี่ ม่มีอรรถของวภิ ัตตนิ ามประกอบ มี ๑๔ หมวด คอื

๑. อรรถปรจิ เฉทะ (กำ�หนด)

กีว เพยี งไร ยาวตา มีประมาณเพยี งใด
ยาว เพยี งใด ตาวตา มปี ระมาณเพยี งน้นั
ตาว เพยี งนัน้ กติ ตฺ าวตา มปี ระมาณเทา่ ไร
ยาวเทว  เพียงใดน่นั เทียว เอตตฺ าวตา มีประมาณเทา่ นน้ั
ตาวเทว เพยี งน้นั นน่ั เทียว สมนฺตา โดยรอบ

๒. อรรถปฏภิ าคะ (อุปมา-อุปไมย)

ยถา ฉนั ใด ตถา, เอว ํ ฉนั น้ัน
ยเถว ฉันใดน่ันเทยี ว ตเถว ฉันน้ันนน่ั เทียว
ยถริว ฉันใดน่ันเทียว ตถริว ฉันนนั้ นนั่ เทียว
เอวเมว, เอวเมว ํ ฉนั น้นั นั่นเทียว วยิ , อิว ราวกะ, เพยี งดัง
ยถาปิ แมฉ้ นั ใด เสยฺยถาปิ แมฉ้ ันใด
ยถานาม ชือ่ ฉนั ใด ตถานาม ชอ่ื ฉนั นัน้
ยถาหิ ฉนั ใดแล ตถาหิ ฉนั นัน้ แล
ยถาจ ฉันใดแล ตถาจ ฉันนัน้ แล
เสยฺยถาปิ นาม ชอื่ แมฉ้ นั ใด

๓. อรรถปฏเิ สธะ (ปฏิเสธ, หา้ ม) 

น ไม่ เอว เท่านัน้
โน ไม่ วินา เว้น, หา้ ม
มา อย่า อญฺตร เว้น

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศพั ท์ : ๓.นิบาต : อวิภัตยัตถนิบาต ๘๗

ว เท่าน้ัน อ ไม่, ไมใ่ ช่
หลํ อยา่ อลํ พอ, อย่าเลย, สามารถ, ประดบั

๔. อรรถอนสุ สวนะ (เลา่ ลอื , ไดย้ ินมา)

กริ , ขล,ุ สทุ ํ  ไดย้ ินวา่ , เขาเลา่ วา่ , ฟังมาว่า, ทราบวา่

๕. อรรถปรกิ ปั ปะ (วิตก, กงั วล)

เจ หากวา่ อถ  ถา้ วา่      
สเจ ถ้าวา่ ยนฺนูน กระไรหนอ
ยทิ ผิว่า อปฺเปว นาม ชือ่ แมไ้ ฉน, อะไรแนน่ ะ

๖. อรรถปัญหา (คำ�ถาม)

กึ, วา หรอื นน ุ มใิ ชห่ รอื , ใชห่ รือไม่   
กถํ อย่างไร อทุ าหุ หรือวา่
กจจฺ ิ หรอื , แลหรอื อาทู หรอื วา่
นุ หรอื , หรือหนอ เสยฺยถทิ ํ อย่างไรนี้
กนิ นฺ ุ อะไรหรือ กึสุ อะไร, อยา่ งไหน

๗. อรรถสัมปฏจิ ฉนะ (รบั ค�ำ ) 

อาม, อามนฺตา เออ, ครับ, คะ่ สาธ ุ ดีแล้ว  
เอวํ อยา่ งน้ัน โอปายกิ ํ  สมควร
ปตริ ูปํ สมควร, เหมาะสม ลหุ ด,ี ตามสบาย

๘. อรรถโจทนะ (เตือน)

องิ ฺฆ เชิญเถิด หนทฺ , ตคฆฺ เอาเถิด

๘๘ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศัพท์ : ๓.นิบาต : อวภิ ตั ยัตถนบิ าต

    ๙. อรรถวากฺยารมั ภะ (ตน้ ข้อความ)

จ อน่งึ , ก,็ จริงอยู่ ปน สว่ นว่า, ก็
วา หรอื , หรือวา่ อปิ แม้
หิ ก็, จริงอยู,่ เพราะวา่ อปิจ เออก็
ตุ สว่ น, สว่ นวา่ , ก็  อถวา อกี อยา่ งหนง่ึ

๑๐. อรรถสงั สยะ (ความสงสัย)

อปเฺ ปว อยา่ งไร อปเฺ ปวนาม ชือ่ อยา่ งไร นุ หรอื ไม่

๑๑. อรรถเอกังสะ (ส่วนเดียว)

อทธฺ า, อญฺ ทตถฺ ,ุ ตคฆฺ , ชาต,ุ กาม,ํ สสกกฺ  ํ แนแ่ ท,้ จรงิ ๆ, สว่ นเดยี ว

๑๒. อรรถสีฆะ (รวดเร็ว) 

ขปิ ปฺ ,ํ อร,ํ ลห,ุ อาส,ํุ ตณุ ณฺ ,ํ อจริ ,ํ สฆี ,ํ ตรุ ติ ํ เรว็ , ดว่ น, พลนั , ไมน่ าน

๑๓. อรรถปทปรู ณะ หรือ วจนาลังการะ (เตมิ ใหเ้ ต็ม ประดับค�ำ )

นบิ าตเหล่านี้คอื อถ ขลุ วต วถ อโถ อสสฺ ุ ยคเฺ ฆ หิ จรหิ นํ
ตํ วา จ ตุ ว โว ปน หเว กวี ห ตโต ยถา นุ สุ สทุ ํ โข เว หํ เอนํ
เสยฺยถิทํ เป็นตน้ เพิ่มใส่ใหเ้ ต็มระหว่างบท เพ่อื ความสละสลวยแหง่ ถ้อยคำ�
สำ�นวน ไม่มีเนอ้ื ความพเิ ศษอะไร

๑๔. บททีม่ ี ตุน ตฺวา ตวฺ าน ปัจจยั

ปสสฺ ิตุน, ปสสฺ ยิ , ปสสฺ ติ วฺ า, ปสสฺ ิตวฺ าน, ทิสฺวา, ทสิ ฺวาน
พบแลว้ , เหน็ แลว้ , ประสบแล้ว, ชมแลว้ , เยี่ยมแล้ว
ทสเฺ สตฺวา แสดงแลว้ ทาตุน, ทตวฺ า, ทตฺวาน ให้แล้ว
อปุ าทาย ถือเอาแลว้ ทาเปตฺวา ให้ถวายแลว้

๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศพั ท์ : ๓.นิบาต : นิบาตหลายอรรถ ๘๙

วิญฺาเปตวฺ า ใหร้ ้แู ล้ว วิเจยฺย พิจารณาแล้ว
วเิ นยยฺ แนะนำ�แล้ว นหิ จจฺ เบยี ดเบียนแลว้
สเมจจฺ ถึงดีแลว้ อเปจจฺ หลกี ไปแล้ว
อารพฺภ เร่มิ แลว้ , ปรารภแล้ว อาคมฺม มาแล้ว, อาศัยแลว้

กล่มุ ที่ ๒ นิบาตหลายอรรถ

จ วา อถ ขลุ วต หิ ตุ หํ อิติ ยถา เอวํ อโห นาม สาธุ กริ นนู
ธุวํ นิบาตเหลา่ น้ี แต่ละศพั ท์มอี รรถหลายอยา่ ง

จ ศัพท์ มอี รรถ ๕ อย่าง

๑. สมจุ จฺ ย รวบรวม  มี ๓ อยา่ ง
    ก. กรฺ ยิ าสมจุ ฺจย รวบรวมกริ ิยา
        เชน่ ตวฺ ํ ปจาหิ จ ภุญชฺ าหิ จ.
               ทา่ นจงหงุ และจงกนิ
    ข. การกสมุจฺจย รวบรวมนาม
        เชน่ สาริปตุ ฺโต จ โมคฺคลลฺ าโน จ ธมมฺ ํ เทเสนฺต.ิ
               พระสารีบตุ รและพระโมคคัลลานะแสดงธรรม
    ค. วากยฺ สมจุ ฺจย รวบรวมประโยค
เช่น สารปิ ตุ โฺ ต จ ธมมฺ ํ เทเสติ,
โมคคฺ ลฺลาโน จ ธมฺมํ เทเสต.ิ
พระสารบี ุตรแสดงธรรม
พระโมคคัลลานะก็แสดงธรรม
๒. อนวฺ าจย รวบรวมวากยะหลังท่ีมกี ริ ิยาตา่ งจากวากยะหนา้
เช่น ทานํ เทห,ิ สลี ญฺจ รกขฺ าห.ิ
ท่านจงใหท้ าน และรกั ษาศีล

๙๐ ๒.นามกณั ฑ์ : ๒.๑๐.อพั ยยศัพท์ : ๓.นบิ าต : นิบาตหลายอรรถ

๓. อิตรตี รโยค รวบรวมโดยได้เนื้อความแยกกนั (อสมาหารทวฺ นทฺ )
เช่น จนฺโท จ สูริโย จ จนทฺ สรู ยิ า.
ดวงจันทร์และดวงอาทติ ย์
๔. สมาหาร รวบรวมโดยได้เนอ้ื ความรวมกัน (สมาหารทวฺ นทฺ )
เช่น มุขญฺจ นาสิกา จ มขุ นาสิก.ํ
ปากและจมูก
๕. อวธารณ ห้ามเน้ือความที่ไมไ่ ดก้ ลา่ วถึง
เชน่ พฺยญชฺ นนตฺ สฺส โจ ฉปฺปจจฺ เยสุ จ.
เพราะ ฉ ปจั จยั เทา่ น้ัน จงึ อาเทศพยญั ชนะทส่ี ุดธาตุ
เป็น จฺ

วา ศัพท์ มีอรรถ ๔ อยา่ ง

๑. วิกปปฺ น ไมแ่ นน่ อน
เชน่ เทโว วา มาโร วา.
เปน็ เทพหรอื เปน็ มาร

๒. อุปมาน เปรยี บเทยี บ
เช่น มธุ วา มญฺ ตี พาโล.
คนพาลย่อมสำ�คัญผดิ วา่ เหมอื นน�ำ้ ผึ้ง
๓. สมจุ ฺจย รวบรวมบท
เช่น ราชโต วา โจรโต วา ภย.ํ
ภัยจากพระราชาและจากโจร

๔. ววตถฺ ิตวภิ าสา กลา่ วกำ�หนดวิธี ๓ อย่าง คอื แน่ ไมแ่ น่ และไม่มี
เชน่ วา ปโร อสรปู า.
ลบสระหลงั จากสระที่มีรูปไมเ่ หมือนกนั บา้ ง


Click to View FlipBook Version