วันท่ี 23 กุมภาพันธ์ 2565 โรงแรมแกนด์ไชนา่ เยาวราชจ.กรงุ เทพมหานคร
วันท่ี 24 กมุ ภาพันธ์ 2565 องพจนกรโกศล ผู้ชว่ ยปลัดซา้ ยอนัมนกิ าย ,พระครวู นิ ัยธรวิเชียร
วชริ ธมโม ,องปลดั สันติ ถอ่ อาง ,พระคงศักดิ์ เถี่ยนเต๊ือง ,พระฐานนันดร ตื่อบี ,แม่ชีทองสุข นามเจด็ สี
วนั ท่ี 25 กุมภาพนั ธ์ 2565 ศาลเจ้าพ่อเสือหนองอาเสย่ี จ.นครปฐม
101
วันที่ 26 กมุ ภาพันธ์ 2565 องสรพจนสนุ ทร ผู้ชว่ ยปลัดขวาอนมั นกิ าย , องอนันตส
รนาท วดั เจรญิ บญุ ไพศาล
วนั ท่ี 27 กุมภาพนั ธ์ 2565 องสตุ บทบวร รองปลัดซา้ ยอนมั นิกาย ,เลขานุการคณะสงฆ์อนัมนิกาย
วัดเขตรน์ าบุญญาราม,วดั นพรัตน์วนาราม สำ�นักสงฆถ์ ้�ำ กลองทิพย์ ,วัดศริ ิจรรยาธรรมปัญญาญาราม
วนั ที่ 1 มนี าคม 2565 พระครปู ลัดสัมพิพัฒนธุตาจารย์ (สมประสงค์ ปญฺญาวชโิ ร) ผู้
ช่วยเจ้าอาวาสวดั ไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
102
วนั ท่ี 2 มีนาคม 2565 ลูกหลานตาโจ้ (องอนนั ตสรนาท ซือเจา ถ่อเหย่ียว) อดีตเจ้า
อาวาสวดั อุภยั ภาตกิ าราม ซ�ำ ปอกง จ.ฉะเชงิ เทรา
วันท่ี 3 มีนาคม 2565 คณะสงฆว์ ดั กนั ตมุ าราม กรุงเทพมหานคร
วันที่ 4 มีนาคม 2565 นายชยาวธุ จันทรรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ,คณะกรรมการควบคมุ ตรวจ
ตราสอดสอ่ งกิจการศาล ,เจา้ กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ,คณะผู้บรหิ ารเขตสัมพันธวงศ์
103
วนั ท่ี 6 มีนาคม 2565 คุณวรี วิชญ์ อศั วภิญโญภาส , คณุ ทัศนี กองอุดม
วันที่ 7 มนี าคม 2565 ครอบครัวโชฎึกราชเศรษฐีและครอบครัวเกษมศรี
วันที่ 8 มีนาคม 2565 คณะสงฆว์ ัดพระพิเรนทร์ โดย พระครภู ทั รกิตติสุนทร ส�ำ นกั
เรียนวัดพระพเิ รนทร์
104
วนั ที่ 9 มีนาคม 2565 องปลดั สุชาติ ตอื่ เยยี น วัดหมืน่ ปีวนาราม จ.ราชบรุ ี
วนั ที่ 10 มีนาคม 2565 พระสิรนิ ันทมุนี เจ้าอาวาสวดั นางนองวรวหิ าร ,
พระครโู สภิตบุญญาธร เจา้ คณะแขวงบางมด เจา้ อาวาสวดั ยายร่ม
วันท่ี 12 มีนาคม 2565 ส�ำ นักงานเขตการศึกษาพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา
เขต ๑๔ ,โรงเรยี นกุศลสมาครวิทยาลัย
105
วันที่ 14 มนี าคม 2565 เจา้ คณุ พระเทพปวรเมธี รองอธกิ ารบดี ฝา่ ยบรหิ าร มจร
,สมาคมชาวเวยี ดนาม
วนั ที่ 15 มนี าคม 2565 นายสยาม ศริ มิ งคล ผู้วา่ ราชการจังหวัดอดุ รธานี , พลตรี สทุ ธ์
พิชญพงษ์ สุธริ าวุธ ผูบ้ ญั ชาการมณฑลทหารบกที่ 24
วนั ที่ 16 มนี าคม 2565 คณุ เรอื งยุทธ เลือง และคณะศิษยานศุ ิษย์
106
วันท่ี 17 มนี าคม 2565 คณะกรรมการวัดสุนทรประดิษฐ์ (ชาวเวยี ดนาม)
วันที่ 18 มีนาคม 2565 ชมุ ชนชาวเวียดนาม คุ้ม 1 บา้ นจิก
วนั ที่ 19 มนี าคม 2565 สมาคมชาวเวยี ดนามแหง่ ประเทศไทย
107
วนั ที่ 20 มีนาคม 2565 ชุมชนชาวเวียดนาม คุ้ม 4 แยก
วันท่ี 21 มนี าคม 2565 ชุมชนชาวเวยี ดนามคุม้ 5 แยก
วันท่ี 22 มีนาคม 2565 ชมุ ชนชาวเวียดนาม ค้มุ 6 กุมภาวปี
108
วันที่ 23 มนี าคม 2565 คณุ สพุ ตั รา วมิ ลชัยฤกษ์ และคณะ
วันท่ี 24 มนี าคม 2565 พ.ต.ท. นิวัธน์ นามศรคี ณุ พร้อมครอบครัวและญาตมิ ติ ร
วนั ที่ 25 มนี าคม 2565 ชุมชนชาวเวยี ดนามคุ้มสร้างหลวง
109
วันที่ 26 มนี าคม 2565 สมาคมเวยี ดนาม จังหวัดหนองคาย
วันท่ี 27 มนี าคม 2565 คณะกงสุลใหญ่ สาธารณรฐั สังคมนยิ มเวียดนาม จังหวัดขอนแก่น,
สมาคมนักธรุ กิจไทยเวยี ดนามแห่งประเทศไทย และคณะทป่ี รึกษา
วันท่ี 28 มีนาคม 2565 คณะครูสอนภาษาเวยี ดนาม จงั หวัดอุดรธานี และคณะครสู อน
ภาษาเวียดนามโรงเรียนสุนทรประดษิ ฐ์
110
วนั ที่ 29 มนี าคม 2565 ทา่ นพระครูปญั ญาธรุ าทร เจ้าคณะต�ำ บลสรา้ งแป้น เจา้ อาวาส
วัดปา่ อมั พวนั จ.อดุ รธานี
วันที่ 30 มีนาคม 2565
วนั ที่ 31 มนี าคม 2565
111
วันท่ี 1 เมษายน 2565
วนั ท่ี 1 เมษายน 2565
วันท่ี 1 เมษายน 2565
112
วันที่ 1 เมษายน 2565
วันที่ 1 เมษายน 2565
วันท่ี 1 เมษายน 2565
113
วันท่ี 1 เมษายน 2565
วนั ท่ี 1 เมษายน 2565
วันท่ี 1 เมษายน 2565
114
วรพลกถา ว่าด้วยกำ�ลังอันประเสรฐิ 1
พระพรหมบณั ฑิต
(ป.ธ.๙,ศ.,ดร.,ราชบณั ฑิตกิตติมศกั ด,์ิ อัคคมหาบัณฑติ )
กรรมการมหาเถรสมาคม
ประธานสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก
เจ้าอาวาสวดั ประยรุ วงศาวาส วรวิหาร
ประธานศูนย์พระปริยตั นิ เิ ทศกแ์ ห่งคณะสงฆ์
ประธานศนู ยก์ ารเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาแห่งชาติ
อุปนายกสภามหาวทิ ยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั
ตํ พลานํ พลํ เสฏฺ อคฺคํ ปญฺ าพลํ วรํ
ปญญฺ าพเลนุปตถฺ ทฺโธ อตถฺ ํ วินฺทติ ปณฑฺ โิ ตติ
ข.ุ ชา. ๒๗/๒๔๔๔
ณ บดั นี้ จะรับพระราชทานถวายวิสัชนาพระธรรมเทศนาในวรพลกถา วา่ ด้วยกำ�ลงั
อนั ประเสริฐ ฉลองพระเดชพระคุณประดับพระปญั ญาบารมี อนรุ ูปแด่พระราชกศุ ลบญุ ราศี
ทกั ษณิ านปุ ระทานสตั ตมวารครบ ๗ วัน ท่ีสมเดจ็ บรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ผ้ทู รงพระคุณ
อันประเสริฐ ทรงพระกรณุ าโปรดพระราชทานศพพระมหาคณานมั ธรรมปัญญาธวิ ตั ร (ถนอม
เถยี่ นถกึ มหาเถร) อดตี เจา้ คณะใหญอ่ นมั นิกายและอดีตเจา้ อาวาสวดั กศุ ลสมาคร ผ้ถู ึงมรณภาพ
เมอื่ วันท่ี ๒๓ มกราคม ๒๕๖๕ โดยได้พระราชทานน�ำ้ หลวงสรงศพเม่อื วนั ที่ ๙ กมุ ภาพันธ์
๒๕๖๕
การที่สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจา้ ผ้ทู รงพระคุณอันประเสรฐิ ทรงพระ
กรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในครั้งน้ีก็ ด้วยทรงพระอนุสรณ์ถึงหติ านุหติ
ประโยชน์ท่ีพระมหาคณานัมธรรมปัญญาธิวัตรในยามที่มีชีวิตอยู่ได้บำ�เพ็ญไว้แก่ประเทศชาติ
พระศาสนาและสถาบนั พระมหากษัตรยิ เ์ ปน็ อเนกประการ ทั้งนี้ เพราะท่านเจ้าคณะใหญร่ ูปนนั้
เป็นพระมหาเถระผ้เู พยี บพร้อมดว้ ยอตั ตหติ สมบตั ิและปรหติ ปฏบิ ตั ิ
กล่าวในส่วนอัตตหิตสมบัติคือความพร้อมแห่งคุณสมบัติส่วนบุคคลที่เกิดจากการ
ศึกษาและพัฒนาตนเองให้มีความรคู้ วามสามารถพรอ้ มท่จี ะปฏบิ ัตงิ านในหนา้ ทีต่ ่างๆ พระมหา
คณานมั ธรรมปญั ญาธวิ ัตร (เถ่ยี นถึก) มีนามเดมิ ว่า ถนอม อารยี ์กลู ชยั ถอื ก�ำ เนดิ ท่ีอ�ำ เภอท่ามว่ ง
จังหวดั กาญจนบรุ ี เมื่อพุทธศกั ราช ๒๔๗๙
1 รับพระราชทานถวายพระธรรมเทศนา เร่อื ง ‘วรพลกถา’ ว่าดว้ ยก�ำ ลงั อนั ประเสริฐ ในการบ�ำ เพ็ญพระราชกศุ ลสัตตมวาร (๗ วนั )
พระราชทานศพพระมหาคณานมั ธรรมปัญญาธิวัตร (ถนอม เถี่ยนถกึ มหาเถระ) อดตี เจ้าอาวาสวัดกศุ ลสมาคร อดตี เจา้ คณะใหญ่อนมั นิกาย ณ
อาคารโรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรมวดั กศุ ลสมาคร เขต สมั พนั ธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เมอื่ วนั ที่ ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๕
115
ได้รับการอปุ สมบทเปน็ ภิกษแุ หง่ อนัมมนกิ าย ทีว่ ดั ถาวรวราราม จงั หวดั กาญจนบุรี เม่อื
พุทธศักราช ๒๕๐๒ ไดฉ้ ายาวา่ เถยี่ นถึก หลงั การอปุ สมบท ท่านเข้ารับการศกึ ษาในระบบ
ของคณะสงฆ์อนัมนิกายและยังเข้ารับการศึกษาพระปริยัติธรรมในระบบของคณะสงฆ์ไทย
จนกระทง่ั สอบไลไ่ ด้นกั ธรรมชน้ั เอก และได้รับการถวายปริญญาพุทธศาสตรดษุ ฎีบณั ฑิต
กิตติมศกั ด์ิ สาขาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย เมื่อ
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๕
ในสว่ นปรหติ ปฏิบตั คิ อื การบ�ำ เพ็ญประโยชน์เพ่ือประเทศชาติ พระพทุ ธศาสนา และ
สถาบันพระมหากษัตริย์นัน้ พระมหาคณานมั ธรรมปัญญาธิวตั รไดใ้ ชค้ วามร้คู วามสามารถใน
การสนองงานพระศาสนาอยา่ งเต็มกำ�ลัง ต้ังแตค่ รั้งดำ�รงต�ำ แหนง่ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโลกานุ
เคราะห์ กรุงเทพมหานคร เม่ือพทุ ธศักราช ๒๕๑๓ เปน็ เจ้าอาวาสวดั สุนทรประดิษฐ์ จังหวดั
อุดรธานี เมื่อพทุ ธศักราช ๒๕๒๒ ในฐานะเจา้ อาวาสไดพ้ ฒั นาวดั สุนทรประดษิ ฐจ์ นท�ำ ให้วดั นไี้ ด้
รับคดั เลือกให้เป็นวดั พัฒนาตัวอย่างจากกรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม เมอ่ื พุทธศกั ราช
๒๕๓๒ ท่านได้รับแต่งต้งั ใหเ้ ป็นผูช้ ว่ ยเจ้าคณะใหญฝ่ า่ ยซ้ายอนัมนิกาย เมือ่ พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๖
เป็นเจา้ อาวาสวัดโลกานเุ คราะห์ กรงุ เทพมหานคร เม่ือพุทธศกั ราช ๒๕๓๗ เป็นรองเจ้าคณะ
ใหญอ่ นมั นกิ าย เมอื่ พุทธศักราช ๒๕๕๓ ไดร้ ับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตงั้ ให้ด�ำ รง
ต�ำ แหนง่ คณะใหญอ่ นมั นกิ าย ลำ�ดบั ที่ ๑๒ เมอ่ื พุทธศักราช ๒๕๖๑ และเป็นเจ้าอาวาสวดั กศุ ล
สมาคร กรุงเทพมหานคร เม่ือพุทธศกั ราช ๒๕๖๒
นอกจากผลงานด้านการปกครองดังกล่าวมาแล้ว พระมหาคณานมั ธรรมปญั ญาธวิ ตั ร
ยังได้เปน็ กำ�ลังส�ำ คญั ในการจดั การศึกษาใหก้ บั คณะสงฆอ์ นมั นิกายอกี ด้วย ดังเป็นที่ปรากฏ
วา่ ท่านไดร้ ว่ มกบั เจ้าคณะใหญ่อนมั นกิ ายล�ำ ดับท่ี ๑๑ คือพระมหาคณานมั ธรรมปญั ญาธวิ ตั ร
(เจรญิ ) จัดตั้งโรงเรยี นพระปรยิ ัติธรรมแผนกสามัญศกึ ษาเป็นแห่งแรกของคณะสงฆ์อนัมนิกายท่ี
วัดกุศลสมาคร เมื่อพทุ ธศกั ราช ๒๕๓๒ โดยท่ีพระมหาคณานัมธรรมปัญญาธวิ ตั ร (เถยี่ นถกึ ) น่ี
แหละเปน็ ผผู้ ลักดันใหก้ รมการศาสนายินยอมใส่ค�ำ ว่าวิทยาลัยทา้ ยช่ือโรงเรียน จนโรงเรยี นแห่ง
นม้ี ีชอ่ื เป็นทางการวา่ “โรงเรยี นกศุ ลสมาครวิทยาลยั ” โดยที่พระมหาคณานัมธรรมปัญญาธิ
วัตร (เถีย่ นถึก) เปน็ ผูอ้ ำ�นวยการรปู แรกของโรงเรียนกศุ ลสมาครวิทยาลยั ตอ่ มา ในปี ๒๕๓๔
ท่านไดจ้ ดั ตัง้ โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรมแผนกสามญั ศึกษาแห่งที่ ๒ มีชือ่ ว่าโรงเรยี นสุนทรประดิษฐ์
วทิ ยาลัยและเป็นผู้จดั การโรงเรยี นรูปแรก ตอ่ มา ในปี ๒๕๔๕ ทา่ นไดร้ ่วมกับพระมหาคณานัม
ธรรมปัญญาธิวัตร (เจริญ) เปิดดำ�เนินการศกึ ษาระดบั อดุ มศึกษาให้แกค่ ณะสงฆ์อนมั นิกาย ที่
วัดถาวรวราราม อำ�เภอหาดใหญ่ จังหวดั สงขลา โดยจัดตั้งมหาปัญญาวิทยาลยั ใหม้ สี ถานะเป็น
สถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั
116
การที่พระมหาคณานัมธรรมปญั ญาธิวัตร (เถี่ยนถึก)ได้เอาใจใส่รบั ภารธรุ ะพระศาสนา
ในการจดั การศึกษาใหก้ ับคณะสงฆ์อนัมนิกายมาโดยตลอดเพราะท่านถอื คติธรรมวา่ “พัฒนา
ชาติใหเ้ รมิ่ ทป่ี ระชน พัฒนาคนใหเ้ รม่ิ ทก่ี ารศึกษา” การศกึ ษาสรา้ งพลงั ปญั ญาใหแ้ กส่ ังคมโดย
รวมและแก่คณะสงฆ์อนมั นิกายโดยเฉพาะ ทง้ั น้เี พราะปญั ญาเป็นกำ�ลงั อนั ประเสรฐิ สมดังพระ
บาลีนกิ เขปบทท่รี ับพระราชทานยกขน้ึ ไว้ ณ เบ้อื งตน้ ว่า “ตํ พลานํ พลํ เสฏฺ อคคฺ ํ ปญฺ าพลํ
วรํ” เปน็ ตน้ แปลความว่า “กำ�ลังปัญญาประเสรฐิ ยอดเย่ียมกวา่ ก�ำ ลังทั้งหลาย เพราะวา่
บัณฑติ ผมู้ กี ำ�ลงั ปญั ญาสนับสนุนยอ่ มไดร้ บั ความเจริญ”
ขอรับพระราชทานถวายวิสัชนาวา่ บคุ คลจะท�ำ การใหญส่ ำ�เร็จต้องอาศยั มีก�ำ ลังหา้
ประการ ดังตอ่ ไปนี้
๑) พาหาพละ คือ กำ�ลงั แขนหรอื ก�ำ ลังกาย หมายถึงมีสขุ ภาพกายแข็งแรง
สามารถใช้แขนใชม้ อื ในการทำ�งาน
๒) โภคพละ คอื ก�ำ ลงั โภคสมบตั ิ คือ มีทุนทรพั ย์บริบรู ณ์ พรอ้ มท่จี ะใชบ้ �ำ รุงเล้ียง
คนและลงทุนดำ�เนนิ กจิ การงานใดๆได้
๓) อมจั จพละ คือ ก�ำ ลังอมาตย์หรือกำ�ลงั บรวิ าร คอื มที ีมงานและคณะผบู้ ริหารท่ี
เก่งกล้าสามารถและจงรักภกั ดีคอยช่วยงาน
๔) อภิชจั จพละ คอื ก�ำ ลงั ความมีชาตติ ระกลู สูง เป็นทีน่ ยิ มยกยอ่ งของคนทว่ั ไป
และได้รบั การศึกษาอบรมมาแลว้ เป็นอยา่ งดตี ามประเพณแี ห่งชาติตระกลู น้ัน
๕) ปญั ญาพละ คือ ก�ำ ลงั ปัญญา หมายถึงความฉลาดรอบร้ทู ี่เกดิ จากการเรยี น
และการคดิ ท�ำ ใหส้ ามารถวินจิ ฉัยเหตกุ ารณต์ า่ งๆทงั้ ภายในภายนอกได้ถูกตอ้ งและแกป้ ัญหาได้
เป็นอย่างดี
บรรดากำ�ลังทง้ั หา้ ประการน้ี กำ�ลงั แขนหรอื ก�ำ ลงั กายทา่ นจดั ไว้ในอันดับท่ตี ่�ำ สุด เพราะ
กำ�ลังกายท่ีไม่มีกำ�ลังปัญญาควบคุมอาจกลายเป็นกำ�ลังมืดบอดท่ีสร้างความเดือดร้อนแก่สังคม
ได้ การใช้ก�ำ ลงั กายอยา่ งเดยี วในการท�ำ งานย่อมไดร้ ับค่าตอบแทนเป็นค่าแรงขัน้ ตำ�่ จงึ สแู้ รงงาน
มีฝมี ือทใี่ ช้ปัญญากำ�กบั ไม่ได้ ดงั น้นั กำ�ลงั ปญั ญา ทา่ นจึงจัดว่าเปน็ กำ�ลงั อนั ประเสริฐยอดเยย่ี ม
กวา่ ก�ำ ลังท้ังสปี่ ระการที่เหลอื เพราะกำ�ลังปญั ญาเปน็ เคร่อื งกำ�กบั ควบคมุ และนำ�ทางก�ำ ลงั
เหลา่ นนั้ อาทิเชน่ ก�ำ ลังปัญญายอ่ มช่วยเพิม่ พนู กำ�ลังโภคทรพั ย์ ดงั พระบาลีท่วี ่า “ปฏิรปู การี
ธุรวา อุฏฺ าตา วินฺทเต ธน”ํ แปลความวา่ “คนทำ�เหมาะสม ไม่ทอดธุระ เปน็ ผหู้ มน่ั ย่อม
หาทรพั ย์ได้” สมด้วยคำ�ประพันธ์ทวี่ า่ “ทรพั ยน์ ม้ี ิไกล ใครปญั ญาไว หาได้บน่ าน ท่ัวแควน้ แดน
ดิน มีส้ินทุกสถาน ผ้ใู ดเกยี จครา้ น บ่พานพบเลย” ในท�ำ นองเดียวกนั กำ�ลังปัญญาทำ�ให้สามารถ
ปกครองดูแลกำ�ลงั อมาตย์หรือกำ�ลงั บริวาร
117
อย่างพอดดี ว้ ยพระเดชและพระคุณ ดังพุทธศาสนสภุ าษติ ที่ว่า “นคิ ฺคณเฺ ห นคิ คฺ หารหํ ปคฺคณเฺ ห
ปคฺคหารหํ” แปลความว่า “ขม่ คนที่ควรขม่ ยกยอ่ งคนท่คี วรย่อง” ยิ่งไปกวา่ นนั้ ชาติตระกูลสงู
ก็ไมท่ ำ�ให้คนเป็นผนู้ �ำ ทด่ี ไี ดถ้ ้าเขาไมม่ ีกำ�ลงั ปญั ญาสนับสนนุ สมดังพระบาลีท่วี า่ “น สาธุ พลวา
พาโล ยถู สสฺ ปรหิ ารโก” แปลความว่า “คนโง่ แตม่ ีกำ�ลงั เปน็ ผู้นำ� ไม่ดีเลย” ตรงกนั ขา้ ม
คนท่ีมีปญั ญาอาจเปน็ ผนู้ ำ�ทดี สี ามาถน�ำ ความสขุ ความเจริญมาสูห่ ม่คู ณะ ดงั เรอื่ งท่ีพระพุทธเจ้า
ตรัสเล่าไว้ในสมั โมทมานชาดก ต่อไปน้ี
ในอดีตกาลนานมาแล้ว มฝี งู นกกระจาบหลายพันตวั อาศยั อยใู่ นป่า มีนายพรานคนหน่งึ
มอี าชพี จับนกกระจาบขายด้วยการทอดตาขา่ ยไปบนฝูงนกกระจาบทก่ี ำ�ลังหากินอาหาร จาก
น้ันนายพรานก็รวบที่ชายขอบตาข่ายนำ�นกกระจาบท้ังหมดมารวมกันแล้วบรรจุใส่กระสอบนำ�
ไปขายเลี้ยงชีพ
อยมู่ าวันหน่ึง นกกระจาบโพธิสัตว์ที่เปน็ จา่ ฝงู ไดก้ ล่าวแนะนำ�นกกระจาบเหลา่ น้นั ว่า
“นายพรานคนนที้ �ำ ญาตขิ องพวกเราให้ถึงความพนิ าศ เรารู้อุบายอย่างหนงึ่ ทจี่ ะช่วยให้นาย
พรานคนนัน้ จับพวกเราไมไ่ ด้ นน่ั คอื ตง้ั แตบ่ ัดนีเ้ ป็นตน้ ไป เมือ่ นายพรานคนนี้ทอดตาข่ายลงบน
ตัวพวกเรา ให้นกกระจาบแตล่ ะตัวพร้อมกันสอดหวั เข้าในตาของตาข่ายแล้วพากันบินยกตาข่าย
ขึน้ น�ำ ไปพาดลงบนพุ่มไม้มีหนาม จากน้นั พวกเราพากนั บนิ หนลี งทางด้านลา่ งของตาข่ายไปสู่
ความปลอดภยั ”
นกกระจาบทง้ั หมดท�ำ ตามคำ�แนะนำ�อันชาญฉลาดของนกโพธสิ ัตว์ เม่ือนายพราน
ทอดตาขา่ ยลงเบ้ืองบนกพ็ ากนั ยกตาข่ายขนึ้ ไปพาดไว้บนพมุ่ ไมม้ หี นามแหง่ หนงึ่ แลว้ บนิ หนไี ป
โดยปลอดภัย นกกระจาบโพธสิ ัตวใ์ นเรื่องนี้เปน็ ตวั อยา่ งของผนู้ �ำ ทีม่ ีปัญญาสามารถสรา้ งความ
สขุ ความเจริญให้กบั หมู่คณะ สมดงั พระบาลีทีว่ ่า “ธโี ร จ พลวา สาธุ ยถู สฺส ปรหิ ารโก” แปล
ความว่า “คนฉลาด มกี ำ�ลงั เป็นผู้นำ� ดีนกั ”
พระมหาคณานัมธรรมปญั ญาธิวตั ร (เถ่ยี นถกึ ) เหน็ คุณคา่ ของการศึกษาวา่ ชว่ ยพฒั นา
กำ�ลังปัญญาให้กับคณะสงฆ์อนัมนิกายจึงได้ร่วมกันจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ
ศกึ ษาและการศึกษาระดบั อุดมศึกษาในมหาปญั ญาวิทยาลัย การศกึ ษาไม่ว่าในรูปแบบใด คอื
ท้ังการศกึ ษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ย่อมเปน็ ประโยชน์แก่ผู้
เรียนทงั้ นั้น ถา้ มโี อกาสเข้ารับการศกึ ษา คนเราตอ้ งเรยี นให้มากท่สี ุดเทา่ ท่สี ตปิ ญั ญาจะอำ�นวย
สมดงั พุทธศาสนสภุ าษิตทวี่ า่ “สพฺพํ สตุ มธเี ยถ หีนมกุ กฺ ฏมชฺฌมิ ”ํ เป็นต้น แปลความว่า
“ความรคู้ วรเรยี นทกุ อย่าง ทงั้ ช้นั ตน้ ชัน้ กลาง ชนั้ สงู ควรทำ�ความเขา้ ใจความหมายของ
เรอื่ งทเี่ รียนท้งั หมด แตไ่ มใ่ ช่วา่ จะใชป้ ระโยชน์จากทุกเรอื่ งทีเ่ รยี น วันหน่ึงจะถึงเวลาทคี่ วาม
รนู้ น้ั น�ำ ประโยชน์มาให้” ซ่ึงสอดคล้องกับค�ำ ประพันธ์ทวี่ า่ “ขน้ึ ช่อื วา่ วชิ าควรศึกษาทกุ อยา่ งไป
118
ไป ศกึ ษาให้เขา้ ใจเป็นคณุ เคร่ืองเรืองปัญญา แตว่ า่ อยา่ พึงใชท้ ุกอย่างไปท่ีศกึ ษา ชวี ติ และเวลา
เปน็ ปญั หาให้จ�ำ นน จะใชว้ ิชาใดจงใส่ใจในเหตุผล ท�ำ ใดตอ้ งใจคนนัน่ คอื ผลของวชิ า”
โดยนัยดงั รับพระราชทานพรรณนามานี้ พระมหาคณานมั ธรรมปญั ญาธวิ ัตรเปน็ พระ
มหาเถระท่ีตนเองเพียบพรอ้ มด้วยกำ�ลงั ปญั ญา สมกับราชทินนามวา่ “ปัญญาธวิ ัตร” ทง้ั ยัง
ร่วมกับอดีตเจ้าคณะใหญ่อนัมนิกายรูปก่อนจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาปัญญาให้กับคณะสงฆ์อนัม
นิกาย สมดงั พระบาลีท่วี ่า “อลํ กาตงุ อลํ สวํ ิธาตุง ทำ�เองก็ได้ จดั การให้คนอนื่ ทำ�ก็ได”้ บัดนี้
แมพ้ ระมหาคณานมั ธรรมปัญญาธวิ ตั ร (เถ่ยี นถกึ ) ไดล้ ว่ งลับดับสังขารแลว้ แต่ช่อื เสียงเกยี รติคุณ
ก็ยงั ขจรขจายไป ตามนยั พระบาลที ว่ี า่ “รูปํ ชรี ติ มจจฺ านํ นามโคตตฺ ํ น ชรี ติ ร่างกายของสตั ว์
ทงั้ หลายเสื่อมสลายไป แต่ชือ่ เสียงวงศ์ตระกูลหาไดเ้ สอ่ื มสลายไปไม่” คุณงามความดีของเจ้า
คณะใหญ่อนัมนิกายรูปนี้จะคงอยู่สืบไปถ้าคณะสงฆ์อนัมนิกายรุ่นต่อมายังคงรักษามรดกของ
ท่านดว้ ยการสืบสาน รักษาและพัฒนาต่อยอดการศึกษาพระปริยตั ธิ รรมแผนกสามัญศึกษาและ
การศึกษาระดับอดุ มศกึ ษาในมหาปญั ญาวทิ ยาลัย
สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจา้ ผทู้ รงพระคุณอันประเสรฐิ กอปรดว้ ยพระราช
ศรัทธาในปฏิปทาท่ีมีกำ�ลังปัญญาอันประเสริฐสนับสนุนของพระมหาคณานัมธรรมปัญญาธิวัตร
(เถย่ี นถึก) จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์การบ�ำ เพ็ญพระราชกศุ ล
สตั ตมวาร ๗ วนั อทุ ศิ ถวายในวนั น้ี
อมิ นิ า กตปุญเญนะ ขออ�ำ นาจพระราชกุศลทท่ี รงบำ�เพ็ญใหเ้ ปน็ ไปด้วยดีในหมูส่ งฆ์ท้ัง
ปวงนี้จงสัมฤทธิ์ประสิทธิ์อิฏฐวิบากศุภผลเพ่ิมบารมีธรรมย่ิงข้ึนไปในสัมปรายภพแด่พระมหา
คณานมั ธรรมปัญญาธวิ ตั ร (เถยี่ นถึกมหาเถร) สมพระราชเจตนาปรารภทกุ ประการ
ในอวสานแหง่ พระธรรมเทศนานี้ พระสงฆจ์ ตุรวรรคจากวัดประยุรวงศาวาสวรวหิ าร
จักสวดธรรมคาถา เพือ่ เพม่ิ พนู อปั ปมาทธรรมสัมมาปฏิบตั ใิ ห้ยิ่งขนึ้ ไปในมหาสมาคมนี้
รับพระราชทานถวายวสิ ัชนาพระธรรมเทศนาในวรพลกถา ฉลองพระเดชพระคุณ
ประดบั พระปัญญาบารมี ยุติลงคงไวแ้ ต่เพียงเท่านี้
เอวํ ก็มดี ้วยประการฉะนี้
ขอถวายพระพร
119
พระราชบัญั ญัตั ิิคณะสงฆ์์ พ.ศ. ๒๕๐๕
แก้ไ้ ขเพิ่�มเติิมโดยพระราชบัญั ญััติิคณะสงฆ์์
(ฉบับั ที่� ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
120
พระราชบัญั ญััติิคณะสงฆ์์
พ.ศ. ๒๕๐๕
แก้้ไขเพิ่�มเติมิ โดยพระราชบััญญัตั ิคิ ณะสงฆ์์ (ฉบัับที่� ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
ภูมู ิิพลอดุุลยเดช ป.ร.
ให้้ไว้้ ณ วัันที่� ๒๕ ธัันวาคม ๒๕๐๕
พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า
ใหป้ ระกาศว่า
โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ให้เหมาะสมย่ิงขึ้นจึงทรงพระ
กรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญัตไิ ว้ โดยค�ำ แนะน�ำ และยินยอมของสภาร่างรัฐธรรมนูญ
ในฐานะรัฐสภา ดงั ต่อไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชบัญญตั นิ ้ีเรียกว่า “พระราชบญั ญตั คิ ณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุ
เบกษาเปน็ ตน้ ไป
มาตรา ๓ ใหย้ กเลิกพระราชบญั ญตั ิคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔
มาตรา ๔ ภายในระยะเวลาหนงึ่ ปีนบั แต่วันท่พี ระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ ังคับ บรรดา
กฎกระทรวง สงั ฆาณัติ กติกาสงฆ์ กฎองค์การ พระบัญชาสมเดจ็ พระสังฆราชขอ้ บังคบั และ
ระเบียบเก่ยี วกับคณะสงฆ์ท่ีใชบ้ งั คับอยู่ในวนั ประกาศพระราชบัญญตั นิ ีใ้ นราชกจิ จานเุ บกษา ให้
คงใช้บงั คับตอ่ ไปเทา่ ทไี่ ม่ขัดหรอื แย้งกับพระราชบญั ญตั ิน้ี ท้งั น้ีจนกว่าจะมีกฎกระทรวง กฎมหา
เถรสมาคม พระบญั ชาสมเด็จพระสงั ฆราช ขอ้ บงั คับหรือระเบียบของมหาเถรสมาคม ยกเลกิ
หรือมคี วามอย่างเดยี วกัน หรือขดั หรอื แยง้ กนั หรือกล่าวไว้เปน็ อยา่ งอ่ืน
มาตรา ๕ เพือ่ ประโยชน์แห่งมาตรา ๔ บรรดาอ�ำ นาจหน้าทซ่ี ง่ึ กำ�หนดไว้ใน
สังฆาณตั ิ กติกาสงฆ์ กฎองคก์ าร พระบญั ชาสมเด็จพระสังฆราช ข้อบังคับและระเบียบเกยี่ วกับ
คณะสงฆ์ ใหเ้ ปน็ อำ�นาจหน้าทขี่ องพระภกิ ษุต�ำ แหน่งใดหรอื คณะกรรมการสงฆ์ใดซ่ึงไมม่ ีในพระ
ราชบัญญัตนิ ี้ ให้มหาเถรสมาคมมอี ำ�นาจกำ�หนดโดยกฎมหาเถรสมาคมให้เป็นอ�ำ นาจหนา้ ท่ีของ
พระภิกษตุ �ำ แหนง่ ใด รูปใด หรือหลายรูปรว่ มกนั เป็นคณะตามที่เหน็ สมควรได้
121
มาตรา ๕ ทวิ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี
“คณะสงฆ”์ หมายความว่า บรรดาพระภกิ ษุทไี่ ดร้ ับบรรพชาอปุ สมบทจาก
พระอุปชั ฌายต์ ามพระราชบัญญัติน้ี หรอื ตามกฎหมายท่ีใชบ้ งั คบั กอ่ นพระราชบัญญัตินีไ้ ม่วา่ จะ
ปฏิบตั ิศาสนกิจในหรือนอกราชอาณาจกั ร
“คณะสงฆอ์ น่ื ” หมายความวา่ บรรดาบรรพชติ จีนนกิ าย หรอื อนมั นกิ าย
“พระราชาคณะ” หมายความวา่ พระภิกษุทีไ่ ด้รับแต่งต้ังและสถาปนาให้มีสมณศักด์ิ
ตง้ั แตช่ ั้นสามญั จนถงึ ช้นั สมเดจ็ พระราชาคณะ
“สมเดจ็ พระราชาคณะผ้มู ีอาวโุ สสงู สดุ โดยสมณศกั ด์”ิ หมายความวา่ สมเดจ็ พระราชา
คณะท่ไี ดร้ บั สถาปนากอ่ นสมเด็จพระราชาคณะรปู อ่นื ถ้าได้รบั สถาปนาในวนั เดยี วกนั ให้ถอื รูป
ทไี่ ดร้ ับสถาปนาในล�ำ ดบั
มาตรา ๕ ตรี พระมหากษัตรยิ ์ทรงไว้ซงึ่ พระราชอำ�นาจในการแตง่ ตัง้ สถาปนาและ
ถอดถอนสมณศกั ด์ิของพระภิกษใุ นคณะสงฆ์
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัติ
นี้ และใหม้ ีอ�ำ นาจออกกฎกระทรวงเพือ่ ปฏิบตั กิ ารให้เป็นไปตามพระราชบัญญตั ิน้ี
กฎกระทรวงนน้ั เม่อื ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บงั คบั ได้
122
ดา้ นการปกครอง
การปกครองของคณะสงฆอ์ นมั นกิ ายในปจั จบุ ันนี้ เปน็ ไปตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๔
(พ.ศ. ๒๕๓๖) ออกตามความในพระราชบัญญตั คิ ณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ซึง่ แกไ้ ขเพิ่มโดยพระราช
บัญญตั ิคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อใหก้ ารปกครองเปน็ ไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย กฎ
กระทรวง ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ.๒๕๓๖) ได้กําหนดใหม้ ีบรรพชติ เปน็ ผ้ปู กครองตามตาํ แหนง่ โดยลําดับ
ดังนี้คอื
เจา้ คณะใหญ่
รองเจ้าคณะใหญ่
ผชู้ ว่ ยเจา้ คณะใหญ่ฝ่ายขวา
ผู้ชว่ ยเจ้าคณะใหญฝ่ ่ายซา้ ย
ปลัดขวา
ปลัดซ้าย
รองปลัดขวา
รองปลัดซ้าย
ผูช้ ่วยปลดั ขวา
ผู้ช่วยปลดั ซา้ ย
เจา้ อาวาส
รองเจา้ อาวาส
ผู้ช่วยเจา้ อาวาส
ดําเนนิ การปกครองใหเ้ ปน็ ไปตามพระธรรมวินยั ลทั ธิ นิกาย กฎหมาย และพระบญั ชา
ของสมเดจ็ พระสงั ฆราช
เพอ่ื การน้ี กฎกระทรวงฯ ได้กําหนดใหเ้ จา้ คณะใหญ่มอี าํ นาจวางระเบยี บและออกคําสัง่
โดยไม่ขดั หรอื แยง้ กบั พระธรรมวินัย ลทั ธิ นิกาย กฎหมาย พระบญั ชาของสมเดจ็ พระสงั ฆราช
และระเบยี บแบบแผนของทางราชการ
123
การปกครองคณะสงฆ์ฝา่ ยอนัมนกิ าย
การปกครองคณะสงฆฝ์ ่ายอนมั นกิ ายในปจั จบุ ัน เป็นไปตามพระราชบัญญตั ิ คณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๕๐๕ และมีกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบญั ญตั คิ ือ กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๓
พ.ศ. ๒๕๒๐ วา่ ด้วยการปกครองคณะสงฆ์อนื่ จดั ให้มีการดําเนนิ การปกครอง ใหเ้ ป็นไปตามพ
ระธรรมวนิ ัย ลทั ธิ นกิ าย กฎหมาย และพระบญั ชาของสมเด็จพระสังฆราชดังน้ี
สมเด็จพระสงั ฆราชฯ
สํานักงาน เจา้ คณะใหญอ่ นัมนิกาย มหาเถรสมาคม
พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ
คณะกรรมการ
วดั และสาํ นักสงฆ์อนัมนิกาย
124
โครงสร้้างและตํําแหน่่งการปกครองของ
คณะสงฆ์อ์ นัมั นิกิ าย
ผู้ชว่ ยเจ้าคณะใหญ่ฝา่ ยขวา เจ้าคณะใหญ่ ผชู้ ่วยเจา้ คณะใหญ่ฝ่ายซ้าย
ปลดั ขวา รองเจา้ คณะใหญ่ ปลดั ซา้ ย
รองปลดั ขวา คณานกุ รม รองปลดั ซา้ ย
ผชู้ ่วยปลดั ขวา ผูช้ ่วยปลดั ซา้ ย
คณานกุ รมเจา้ คณะใหญ่ ๖ รูป คณานุกรมรองเจ้าคณะใหญ่ ๕ รูป
องปลดั ธรรม องวินัยธร องธรรมธร องสงั ฆรกั ษ์ องสมหุ ์ องใบฎีกา องปลัด องวนิ ัยธร องสังฆรักษ์ องสมุห์ องใบฎกี า
ปญั ญาธวิ ัตร
คณานุกรมผู้ช่วยเจ้าคณะใหญ่
คณานุกรมผชู้ ว่ ยเจ้าคณะใหญ่ ฝา่ ยซา้ ย ๔ รปู
ฝา่ ยขวา ๔ รูป
องปลดั องสงั ฆรกั ษ์ องสมุห์ องใบฎีกา
องปลัด องสงั ฆรกั ษ์ องสมหุ ์ องใบฎีกา
คณานกุ รมปลัดซ้าย ๓ รูป
คณานกุ รมปลัดขวา ๓ รปู
องปลดั องสมหุ ์ องใบฎีกา องปลดั องสมุห์ องใบฎีกา
125
ทำเนียี บเจ้้าคณะใหญ่่อนัมั นิกิ ายแห่่งประเทศไทย
๑. เจ้า้ คณะใหญ่อ่ นัมั นิิกายแห่ง่ ประเทศไทย รูปู ที่� ๑
พระครููคณานััมสมณาจารย์์ (องฮึึง)
วััดอุุภััยราชบำรุุง ถนนเจริิญกรุงุ แขวงตลาดน้้อย เขตสััมพัันธวงศ์์ กรุงุ เทพมหานคร
๒. เจ้า้ คณะใหญ่่อนัมั นิิกายแห่ง่ ประเทศไทย รูปู ที่� ๒
พระครูคู ณานัมั สมณาจารย์์ (เหยี่�ยวกร่่าม)
วัดั อนัมั นิกิ ายาราม ถนนประชาราษฎร์์ สาย ๑ แขวงบางซื่�อ เขตบางซื่�อ กรุงุ เทพมหานคร
๓. เจ้า้ คณะใหญ่่อนัมั นิกิ ายแห่่งประเทศไทย รููปที่� ๓
พระครููคณานััมสมณาจารย์์ (จี๊�หลัับ)
วััดสมณานััมบริิหาร ถนนลูกู หลวง แขวงสี่�แยกมหานาค เขตดุสุ ิิต กรุงุ เทพมหานคร
๔. เจ้า้ คณะใหญ่่อนััมนิิกายแห่ง่ ประเทศไทย รููปที่� ๔
พระครููคณานััมสมณาจารย์์ (ทัันเคี้�ยด)
วััดอุุภัยั ราชบำรุุง ถนนเจริญิ กรุุง แขวงตลาดน้อ้ ย เขตสัมั พัันธวงศ์์ กรุุงเทพมหานคร
๕. เจ้้าคณะใหญ่อ่ นัมั นิกิ ายแห่่งประเทศไทย รูปู ที่� ๕
พระครูคู ณานัมั สมณาจารย์์ (เหมิกิ โงน)
วััดมงคลสมาคม ถนนแปลงนาม แขวงสััมพันั ธวงศ์์ เขตสััมพัันธวงศ์์ กรุุงเทพมหานคร
๖. เจ้า้ คณะใหญ่่อนััมนิิกายแห่ง่ ประเทศไทย รูปู ที่� ๖
พระครูคู ณานััมสมณาจารย์์ (เวีียงหมาง)
วัดั กุศุ ลสมาคร ถนนราชวงศ์์ แขวงสัมั พัันธวงศ์์ เขตสัมั พันั ธวงศ์์ กรุงุ เทพมหานคร
126
๗. เจ้้าคณะใหญ่่อนััมนิิกายแห่่งประเทศไทย รููปที่� ๗
พระครูคู ณานััมสมณาจารย์์ (โผซ้้าย)
วััดอุภุ ััยราชบำรุุง ถนนเจริญิ กรุงุ แขวงตลาดน้้อย เขตสัมั พันั ธวงศ์์ กรุงุ เทพมหานคร
๘. เจ้า้ คณะใหญ่่อนััมนิิกายแห่่งประเทศไทย รููปที่� ๘
พระครูคู ณานััมสมณาจารย์์ (บิ๊�นเลือื ง)
วัดั โลกานุุเคราะห์์ ถนนราชวงศ์์ แขวงจัักรวรรดิิ เขตสัมั พัันธวงศ์์ กรุุงเทพมหานคร
๙. เจ้้าคณะใหญ่่อนัมั นิกิ ายแห่ง่ ประเทศไทย รููปที่� ๙
พระครูคู ณานััมสมณาจารย์์ (โผเรีียน)
วััดชัยั ภููมิกิ าราม ถนนเยาวพานิชิ แขวงจักั รวรรดิิ เขตสััมพัันธวงศ์์ กรุุงเทพมหานคร
๑๐. เจ้้าคณะใหญ่่อนััมนิกิ ายแห่่งประเทศไทย รููปที่� ๑๐
พระคณานัมั ธรรมสมาธิิวััตร (ย้้ากเหมิิง)
วััดมงคลสมาคม ถนนแปลงนาม แขวงสัมั พันั ธวงศ์์ เขตสัมั พันั ธวงศ์์ กรุงุ เทพมหานคร
๑๑. เจ้้าคณะใหญ่่อนััมนิิกายแห่ง่ ประเทศไทย รููปที่� ๑๑
พระมหาคณานััมธรรมปััญญาธิิวััตร (เจริิญ กิ๊�นเจี๊�ยว)
วััดกุศุ ลสมาคร ถนนราชวงศ์์ แขวงสััมพันั ธวงศ์์ เขตสัมั พัันธวงศ์์ กรุงุ เทพมหานคร
๑๒. เจ้้าคณะใหญ่อ่ นััมนิิกายแห่ง่ ประเทศไทย รููปที่� ๑๒
พระมหาคณานัมั ธรรมปัญั ญาธิิวััตร (ถนอม เถี่�ยนถึึก)
วััดกุศุ ลสมาคร ถนนราชวงศ์์ แขวงสััมพันั ธวงศ์์ เขตสััมพันั ธวงศ์์ กรุุงเทพมหานคร
127
128
129
130
131
132
133
134
ท�ำ เนยี บสมณศกั ด์บิ รรพชติ
ฝา่ ยอนัมนกิ ายแห่งประเทศไทย
๑. พระมหาคณานัมธรรมปัญญาธิวัตร (ถนอม เถ่ียนถกึ )
เจ้าคณะใหญอ่ นัมนิกายแหง่ ประเทศไทย
วดั กุศลสมาคร (โผเพ้อื กต่อื ) เขตสมั พนั ธวงศ์ กรงุ เทพมหานคร
๒. พระคณานัมธรรมเมธาจารย์ (ณรงค์ ต่นิ เรยี น)
รองเจา้ คณะใหญอ่ นัมนกิ ายแห่งประเทศไทย
วดั สมณานัมบริหาร (กั๋นเพ๊อื กตือ่ ) เขตดุสติ กรงุ เทพมหานคร
๓. พระคณานมั ธรรมวิธานาจารย์ (ยุกถอน มนิ เองิ )
ผชู้ ว่ ยเจ้าคณะใหญอ่ นัมนกิ ายฝ่ายขวา
วดั อุภยั ราชบำ�รุง (คัน้ เยิงตอื่ ) เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
๔. พระคณานัมธรรมวุฒาจารย์ (บุญชู ต่นิ ทิน)
ผชู้ ่วยเจ้าคณะใหญ่อนมั นกิ ายฝา่ ยซา้ ย
วัดชัยภมู กิ าราม (ต๋หี งา่ นตอ่ื ) เขตสมั พนั ธวงศ์ กรงุ เทพมหานคร
๕. พระสมณานัมธรี าจารย์ (เดชาธร เกวิก๊ ซัน)
ปลัดขวา
วดั ถาวรวราราม (คัน้ ถอ่ ต่อื ) อำ�เภอเมืองกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบุรี
๖. พระบริหารอนมั พรต (ชาตชิ ัย เหย่ียวคัง)
ปลดั ซ้าย
วัดมงคลสมาคม (โห่ยค้นั ตอ่ื ) เขตสัมพนั ธวงศ์ กรงุ เทพมหานคร
๗. องสรภาณมธรุ ส (พชรกรโกศล เหยย่ี วหาย)
รองปลดั ขวา
วัดกุศลสมาคร (โผเพ้ือกตื่อ) เขตสัมพนั ธวงศ์ กรงุ เทพมหานคร
135
๘. องสตุ บทบวร (ไพรัตน์ เหว่ต)ี้
รองปลดั ซ้าย
วดั เขตรน์ าบุญญาราม (เพอ้ื กเดย้ี นต่ือ) อ�ำ เภอเมืองจนั ทบรุ ี จังหวดั จนั ทบรุ ี
๙. องสรพจนสนุ ทร (ปรีชา เถยี่ นกอื )
ผชู้ ว่ ยปลดั ขวา
วัดอนมั นกิ ายเฉลมิ พระชนมพรรษากาล (หง็อกทนั ต่อื ) จังหวัดสพุ รรณบรุ ี
๑๐. องพจนกรโกศล (พสิ ษิ ฐ์ เถย่ี นบ๊าว)
ผูช้ ่วยปลัดซ้าย, เลขานุการคณะสงฆ์อนมั นกิ าย
วดั ธรรมปัญญารามบางมว่ ง (ฮงึ ถนั่ ต่ือ) อำ�เภอสามพราน จังหวดั นครปฐม
๑๑. องอนนั ตสรนาท (สมพุฒ มนิ หลบั )
วดั เจริญบุญไพศาล (ฮงึ เพื้อกต่ือ) จงั หวัดกาญจนบรุ ี
๑๒. องสุตบทอนมั บริหาร (แดง อต๊ี )ู
วดั ถาวรวราราม (คั้นถ่อตอื่ ) อ�ำ เภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวดั กาญจนบรุ ี
136
วดั อนัมนกิ ายในประเทศไทย
1. วดั กศุ ลสมาคร (โผเพอ๊ื กตือ่ )
พระมหาคณานมั ธรรมปัญญาธวิ ตั ร (ถนอม เถย่ี นถึก) เจา้ คณะใหญอ่ นมั นกิ าย, เจ้าอาวาส
97 ถนนราชวงศ์ แขวงสมั พันธวงศ์ เขตสัมพนั ธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
โทร. 0-2225-1361 โทรสาร 0-2221-7002
องสรภาณมธรุ ส รองปลดั ขวาอนมั นกิ าย, รองเจ้าอาวาส
องวินยั ธรเด่นชยั เหวม่ นิ ผชู้ ่วยเลขานุการฯ, ผูช้ ว่ ยเจ้าอาวาส โทร. 08-9214-9861
2. วัดสมณานัมบริหาร (กัน๋ เพ๊อื กต่อื )
พระคณานัมธรรมเมธาจารย์ (ณรงค์ ติน่ เรียน) รองเจา้ คณะใหญอ่ นัมนิกาย, เจา้ อาวาส
416 ถนนลูกหลวง แขวงส่ีแยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
โทร.0-2281-5235, 08-6825-5115 โทรสาร 0-2281-2326
องสังฆรกั ษจ์ กั รพนั ธ์ เถีย่ นเหว่ โทร. 09-5296-5453
องสมุห์ธนกฤต เพอื๊ กหงาย โทร. 08-8088-5327
3. วัดอภุ ยั ราชบำ�รงุ (ค้นั เยิงต่ือ)
พระคณานมั ธรรมวธิ านาจารย์ (ยุกถอน มนิ เองิ ) ผชู้ ่วยเจา้ คณะใหญ่ฝ่ายขวา, เจ้าอาวาส
864 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดนอ้ ย เขตสัมพนั ธวงศ์ กรงุ เทพมหานคร 10100
โทร. 0-2233-3102, 0-2234-4432
องปลัดประวิทย์ เถย่ี นโงน โทร. 08-1313-7751
องสังฆรักษศ์ ภุ วชิ ญ์ ค้นั เยอื ง เลขานุการเจ้าอาวาส โทร. 08-7494-5832
4. วดั ชัยภูมกิ าราม (ตห๋ี ง่านตื่อ)
พระคณานมั ธรรมวุฒาจารย์ (บุญชู ติ่นทนิ ) ผ้ชู ่วยเจา้ คณะใหญฝ่ า่ ยซ้าย, เจ้าอาวาส
30 ถนนเยาวพานชิ แขวงจกั รวรรดิ เขตสัมพนั ธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
โทร. 0-2224-2218, 08-1920-7937 โทรสาร 0-2225-5286
องปลดั ธรรมโรจน์ เถ่ยี นจู้ รองเจา้ อาวาส โทร. 08-1806-7937
5. วัดถาวรวราราม (คนั้ ถ่อตื่อ)
พระสมณานัมธีราจารย์ (เดชาธร เกวิ๊กซนั ) ปลัดขวาอนมั นกิ าย, เจา้ อาวาส
3 ถนนเจ้าขนุ เณร ต�ำ บลบา้ นเหนือ อ�ำ เภอเมืองกาญจนบุรี จงั หวดั กาญจนบรุ ี 71000
โทร. 034-511-521, 034-513-226, 08-1981-2609
137
6. วดั มงคลสมาคม (โห่ยค้นั ต่ือ)
พระบรหิ ารอนมั พรต (ชาตชิ ยั เหย่ียวคงั ) ปลัดซ้ายอนัมนกิ าย, เจ้าอาวาส
48 ถนนแปลงนาม แขวงสมั พนั ธวงศ์ เขตสมั พนั ธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
โทร. 0-2222-0909
องปลัดธรรมปญั ญาธวิ ัตรธีระยทุ ธ เถยี่ นคาย โทร. 09-4663-8622
7. วัดเขตรน์ าบุญญาราม (เพอื๊ กเด้ยี นต่อื )
องสุตบทบวร (ไพรัตน์ เหวต่ )ี้ รองปลดั ซา้ ยอนัมนกิ าย, เลขานกุ ารคณะสงฆ,์ เจ้าอาวาส
28 ถนนขวาง ตำ�บลตลาด อ�ำ เภอเมืองจนั ทบุรี จังหวดั จันทบุรี 22000
โทร. 039-311-329, 09-2247-2285, 09-8430-4238
8. วดั อนมั นิกายเฉลิมพระชนมพรรษากาล (หงอ็ กทนั ตอื่ )
องสรพจนสุนทร (ปรชี า เถ่ียนกอื ดร.) ผ้ชู ว่ ยปลัดขวาอนมั นิกาย, เจ้าอาวาส
208 หมู่ 1 ต�ำ บลดอนมะนาว อ�ำ เภอสองพนี่ อ้ ง จังหวัดสพุ รรณบรุ ี 72110
โทร. 035-566-136, 08-1880-1573
องสังฆรักษห์ ทยั ดิน่ เหล่ย โทร.08-9828-8713
9. วดั ธรรมปญั ญารามบางม่วง (ฮงึ ถั่นตื่อ)
องพจนกรโกศล (พสิ ษิ ฐ์ เถ่ียนบา๊ ว ดร.) ผูช้ ว่ ยปลัดซา้ ย, ประชาสมั พนั ธค์ ณะสงฆ์อนัมนิกาย,
เจ้าอาวาส 108/8 บ้านบางมว่ ง หมู่ 8 ซอยโรงเจ ตำ�บลบางช้าง อ�ำ เภอสามพราน
จังหวัดนครปฐม 73110 โทร. 034-295-341, 08-1439-5900
องสมหุ ์ณฐั กจิ เพือ๊ กยอื เลขานุการเจ้าอาวาส โทร. 09-9713-1891
10. วัดเจริญบญุ ไพศาล (ฮึงเพอ๊ื กต่ือ)
องอนนั ตสรนาท (สมพุฒ มนิ หลับ) เจ้าอาวาส
179 บา้ นหนองแฟบ หมู่ 3 ต�ำ บลทา่ มะขาม อ�ำ เภอเมอื งกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบรุ ี
71000 โทร. 08-1949-8711
11. วัดอภุ ยั ภาติการาม (ตามบา๋ วก็องเผิกตือ่ )
องปลัดธรรมปญั ญาธวิ ัตรธรี ะยทุ ธ เถ่ียนคาย เลขานุการเจา้ คณะใหญอ่ นัมนกิ าย, เจา้ อาวาส
475/7ก ถนนศุภกจิ ต�ำ บลหน้าเมือง อ�ำ เภอเมืองฉะเชิงเทรา จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา 24000
โทร. 038-511-198, 09-4663-8622 โทรสาร 038-511-198
พระพรี ะพล เพ๊อื กเกีย๊ ด เลขานุการเจา้ อาวาส โทร. 08-6963-6056
138
12. วัดโลกานเุ คราะห์ (ตอื้ เตต๊ อ่ื )
องปลดั ธรรมปญั ญาธวิ ัตรรังสรรค์ คน้ั เตอ่ื ง เจา้ อาวาส
126 ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสมั พนั ธวงศ์ กรงุ เทพมหานคร 10100
โทร. 0-2226-2719, 0-2225-1516, 08-5111-6044
13. วัดถาวรวรารามหาดใหญ่ (ค้ันถ่อต่ือ)
องปลัดปานชยั เถ่ียนหงอื เจา้ อาวาส
33 ซอยวดั ถาวร ถนนศุภสารรังสรรค์ ตำ�บลหาดใหญ่ อำ�เภอหาดใหญ่ จงั หวัดสงขลา
90110 โทร. 08-7479-8242, 08-4194-6634
14. วดั ถ�ำ เ้ ขานอ้ ย (ลอ็ งเซงิ ต่ือ)
องปลัดวเิ ชยี ร เถยี่ นอ๊ี เจ้าอาวาส
18/1 บา้ นมว่ งชมุ หมู่ 5 ต�ำ บลมว่ งชุม อ�ำ เภอทา่ มว่ ง จงั หวดั กาญจนบุรี 71110
โทร. 034-655-233-4, 034-655-421, 08-1849-7199
15. วัดหม่ืนปีวนาราม (หย่างถ่อต่อื )
องปลัดสชุ าติ ต่อื เยียน เจ้าอาวาส
251 หมู่ 11 บ้านปากแรต ต�ำ บลปากแรต อ�ำ เภอบา้ นโปง่ จังหวดั ราชบรุ ี 70110
โทร. 034-511-521, 08-5508-2152
16. วดั ศรทั ธาย้มิ พานชิ วราราม (โผเจี๊ยวตอ่ื )
องวนิ ยั ธรเอนก เถีย่ นหลาก เจา้ อาวาส
63/66 ถนนนรราชอุทศิ ต�ำ บลท่าทราย อ�ำ เภอเมืองสมทุ รสาคร จงั หวัดสมทุ รสาคร
74000 โทร. 06-3521-3310
17. วัดสุนทรประดษิ ฐ์ (ค้นั อังต่อื )
องวนิ ยั ธรกศุ ล เถีย่ นดึก๊ เจ้าอาวาส
44/3 ถนนอดลุ ยเดช ต�ำ บลหมากแข้ง อ�ำ เภอเมอื งอุดรธานี จงั หวัดอดุ รธานี 41000
โทร. 042-221-124, 08-6638-5099
องใบฎกี าพิชัยภูษติ เหว่ถ่นั ผชู้ ว่ ยเจ้าอาวาส โทร. 08-9183-4126
18. วัดอนมั นกิ ายาราม (กว๋างเพอ๊ื กตือ่ )
องธรรมธรมานิตย์ เทียนทา่ น เจ้าอาวาส
803/1 ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซอื่ เขตบางซ่อื กรุงเทพมหานคร 10800
โทร. 0-2912-7470, 08-4121-7984
องปลัดสิทธิศักดิ์ เถยี่ นยา โทร. 09-2473-3544
139
19. วัดศิริจรรยาธรรมปญั ญาราม (ฮงึ เยงิ ต่อื )
องสงั ฆรักษก์ จิ ธบษุ ฐ์ ถั่นต่ึว เจ้าอาวาส
104/3 ถนนรังสติ -นครนายก หมู่ที่ ๓ ตำ�บลรงั สิต อำ�เภอธญั บุรี จังหวดั ปทุมธานี
2110 โทร. 09-2270-6555
20. วัดนพรตั น์วนาราม (เพื๊อกถอ่ ต่อื )
องสตุ บทบวร (ไพรตั น์ เหวต่ ี้) รองปลัดซ้ายอนมั นิกาย, เลขานุการคณะสงฆ,
ผู้รักษาการแทนเจา้ อาวาส
บ้านทงุ่ บอน หมทู่ ่ี 1 ตำ�บลปัถวี อำ�เภอมะขาม จงั หวดั จันทบุรี 22150
โทร. 09-2247-2285, 09-8430-4238
21. วดั มหายานกาญจนมาสราษฎร์บำ�รุง (คนั้ ซนั ตอื่ )
พระมหาคณานมั ธรรมปัญญาธวิ ัตร (ถนอม เถี่ยนถึก) , ผรู้ ักษาการแทนเจา้ อาวาส
9 ถนนมหาภาส ต�ำ บลสะเตง อ�ำ เภอเมอื งยะลา จังหวดั ยะลา 95000
พระคงศักดิ์ เถ่ียนเต๊ือง ผู้ปฏบิ ัติหนา้ ท่แี ทน โทร. 09-6417-4656, 06-1161-7829
22. วดั ประถมพทุ ธาราม (เผกิ กวางตือ่ )
องสรภาณมธุรส (พชรกรโกศล เหยีย่ วหาย) รองปลัดขวาอนมั นิกาย,
ผูป้ ฏิบัติหน้าทแ่ี ทนเจ้าอาวาส ,ประธานสงฆ์อนัมนิกายในสหรฐั อเมริกา
Anamnikaya Association, 1635 N.LAKE, PASADENA, CA. USA.
23. วัดสขุ าวดีอนมั วนาราม
องปลัดสันติ ถ่ออาง เจ้าอาวาส
บ้านแมป่ ะ หมทู่ ่ี 6 ตำ�บลสะเมงิ เหนือ อ�ำ เภอสะเมิง จงั หวัดเชยี งใหม่ 50250
โทร. 08-9213-3412
24. วดั มหาโพธสิ ัตว์อนมั นิกายาราม
พระมหาคณานมั ธรรมปัญญาธิวัตร (ถนอม เถ่ียนถึก), ผู้รกั ษาการแทนเจา้ อาวาส
บา้ นชฏั ป่าหวาย หมทู่ ่ี 1 ตำ�บลท่าเคย อำ�เภอสวนผง้ึ จงั หวดั ราชบรุ ี 70180
องพจนกรโกศล (พิสษิ ฐ์ เถย่ี นบา๊ ว ดร.) ผูป้ ฏิบัตหิ น้าท่แี ทน โทร. 08-1439-5900
140
ส�ำ นกั สงฆ์ในสังกัดคณะสงฆอ์ นมั นกิ าย
1. ส�ำ นกั สงฆต์ าลเลยี นอนัมพรต
องวินยั ธรกศุ ล เถยี่ นดกึ๊ ผรู้ ักษาการแทน เจา้ สำ�นกั
บา้ นตาลเลยี น หมู่ 1 ตำ�บลตาลเลียน อำ�เภอกุดจับ จงั หวัดอดุ รธานี 41250
โทร. 08-6638-5099
2. สำ�นักสงฆ์ถ�ำ ้กลองทิพย์ (เขาแกลต)
องสตุ บทบวร (ไพรัตน์ เหว่ตี้) รองปลัดซา้ ยอนัมนิกาย, ผูร้ ักษาการแทนเจ้าสำ�นัก
บ้านสวิ้ หมู่ 1 ตำ�บลสองพ่ีนอ้ ง อ�ำ เภอทา่ ใหม่ จงั หวดั จนั ทบุรี 22120
องใบฎกี าสหพณ เพือ๊ กตั้น ดร. ผปู้ ฏบิ ัติหนา้ ท่แี ทน โทร. 06-1359-3595
3. สำ�นักสงฆแ์ ดนสขุ าวดวี ิถีเซน
พระคงศักด์ิ เถ่ยี นเตื๊อง เจ้าส�ำ นกั
302 บา้ นหนองผกั บุ้ง หมทู่ ี่ 2 ต�ำ บลสวนผึง้ อำ�เภอสวนผึง้ จงั หวัดราชบรุ ี 70180
โทร. 09-6417-4656, 06-1161-7829
4. ส�ำ นักสงฆว์ ดั แสงมณวี ชริ มงคล
พระคงศกั ด์ิ เถย่ี นเตอื๊ ง เจา้ ส�ำ นกั
บา้ นดอนมะขามเฒา่ หมทู่ ่ี 3 ตำ�บลเตาปนู อ�ำ เภอโพธาราม จังหวดั ราชบรุ ี 70120
โทร. 09-6417-4656, 06-1161-7829
๕. สำ�นักสงฆอ์ นัมงามศรสี ุขุมพฒั น์
141
142
วดั
ในคณะสงฆ์อนมั นิกาย
143
144
วัดั กุศุ ลสมาคร (โผเพื้�อกตื่�อ)
แขวงสััมพันั ธวงศ์์ เขตสัมั พัันธวงศ์์ กรุงุ เทพมหานคร
วััดกุุศลสมาคร สร้้างเมื่�อ พ.ศ. ๒๓๘๔ และได้้รัับพระราชทาน
วิิสุุงคามสีีมาเมื่�อ พ.ศ. ๒๔๐๐ ได้้รัับพระราชทานนามเป็็นภาษาอนััมว่่า
“ซักั ต๊า๊ ฮึงึ เกวิ๊�กโผเพื้�อกตื่�อ” หรือื ที่�ชาวอนััมมักั เรีียกว่า่ “จั่�วโผเพื้�อก” และ
นิยิ มเรียี กกัันเป็น็ ภาษาจีนี ว่่า “โผวฮกหยี่�” ได้้รัับพระราชทานนามว่า่ “วััด
กุศุ ลสมาคร” มีคี วามหมายว่า่ “วััดที่่�มีแี ต่ค่ วามดีี ความบริสิ ุุทธิ์� ดุุจนํ้�าใน
สาคร”
วััดกุุศลสมาครนั้�น ไม่ม่ ีหี ลักั ฐานใด ๆ ปรากฏชัดั ว่่าผู้�ใดเป็็นผู้�ถวาย
ที่่�ดินิ ให้ต้ั้�งวัดั เพราะหลักั ฐานบางส่ว่ นถูกู ไฟไหม้ท้ ำลายไปในคราวที่�เกิดิ อัคั คีี
ภััยในอดีีต ได้้แต่่เพียี งสัันนิิษฐานว่่า ตระกููลของพระเจริญิ ราชธน (เท่่ง เลา
ห เ ศ ร ษ ฐีี ) เ ป็็ น ผู้� ม อ บ ที่่�ดิิ น ใ ห้้ ตั้� ง วัั ด เ พ ร า ะ ต า ม ห ลัั ก ฐ า น
ที่�ปรากฏชัดั ในเอกสารหอจดหมายเหตุแุ ห่ง่ ชาติิ ซึ่�งได้ม้ ีกี ารบันั ทึกึ เรื่�องของ
ท่่านเจ้้าอธิิการเยีียนหมาง อดีีตเจ้้าอาวาสรููปที่�สอง วััดกุุศลสมาครได้้มีี
หนังั สือื กราบบังั คมทูลู พระกรุณุ าเพื่�อขอผูกู พัทั ธสีมี าและฉลองเป็น็ พระราช
กุศุ ล วันั ที่� ๓๐ พฤศจิกิ ายน ร.ศ.๑๑๘ สมัยั พระบาทสมเด็จ็ พระจุลุ จอมเกล้า้
เจ้้าอยู่่�หััว รััชกาลที่� ๕ ซึ่�งมีีใจความตอนหนึ่�งว่่า “ด้้วยวััดกุุศลสมาครนั้�น
อาตมภาพกับั สัปั ปุรุ ุษุ ทั้�งหลาย มีอี ุบุ าสิกิ าอิ่�ม ภรรยาพระเจริญิ ราชธน (เท่ง่ )
เป็น็ ประธาน ได้้ช่ว่ ยกัันปฏิิสัังขรณ์เ์ สร็จ็ แล้้ว และมีกี ารฉลองเมื่�อวัันที่� ๑๐
พฤศจิกิ ายน ร.ศ. ๑๑๘ ครั้�งหนึ่�งแล้ว้ แต่่ยัังหาได้ผ้ ููกพัทั ธสีีมาไม่่ อาตมภาพ
กัับอุุบาสิิกาอิ่�มขอรับั พระราชทานที่่�ผููกพััทธสีมี าโดยกว้า้ ง ๘ วา ๙ นิ้�ว ยาว
๑๒ วา ๑๑ นิ้�ว ขอเจ้า้ คุณุ ได้้อนุเุ คราะห์์นำความกราบบังั คมทูลู พระกรุณุ า
การจะควรประการใดสุดุ แล้ว้ แต่จ่ ะทรงพระกรุุณาโปรด” จากข้อ้ ความดััง
กล่า่ วข้า้ งต้น้ ทำให้ส้ ันั นิิษฐานได้ว้ ่่า ตระกูลู ของพระเจริิญราชธน (เท่่ง)
145
โดยมีีภรรยาคือื อุุบาสิกิ าอิ่�ม เป็น็ ประธานในการทำให้้ที่่�ดิินผืืนนี้�เป็็นพุทุ ธาวาส ด้้วยการ
จััดทำให้้เป็น็ วััดตามระเบีียบของทางราชการในสมัยั นั้�น
ตระกููลเลาหเศรษฐีี เป็็นจีีนฮกเกี้�ยน แซ่่เหลา ย้้ายมาจากเมืืองเจีียงจิิว พระเจริิญ
ราชธน (เท่่ง เลาหเศรษฐี)ี เข้า้ มาอยู่�ในประเทศสยามตั้�งแต่อ่ ายุไุ ด้้ ๑๕ ปีี ด้้วยเป็น็ ญาติิร่ว่ มแซ่่กับั
พระยาพิิสณฑ์์สมบััติิบริิบููรณ์์ (ยิ้�ม ต้้นสกุุล พิิศลยบุุตร) ซึ่�งมาตั้�งตััวได้้เป็็นปึึกแผ่่นมั่�นคง
ก่่อน แล้้วจึึงได้้ชวนพระเจริิญราชธน (เจ้้าสััวเท่่ง) เข้้ามาอยู่่�ด้้วย และได้้ภรรยาชื่�อ อิ่�ม
ซึ่�งภายหลัังเมื่�อสามีีสิ้�นชีีพและได้้ช่่วยราชการมีีความชอบ สมเด็็จพระพุุทธเจ้้าหลวง
ทรงพระกรุุณาโปรดเกล้้าฯ พระราชทานเครื่�องราชอิิสริิยาภรณ์์จุุลจอมเกล้้าฝ่่ายในมีียศเป็็น
คุุณหญิิง) ซึ่�งคนทั้�งหลายมักั เรียี กท่่านว่า่ “เจ้า้ สััวเท่่ง” ตั้�งเคหสถานเป็น็ หลักั แหล่่งอยู่�ที่�ริมคลอง
ผดุงุ กรุงุ เกษม
พระประธานในอุุโบสถนั้�น เดิิมเป็็นพระพุุทธรููปเก่่าแก่่อยู่่�คู่่�กัับอุุโบสถมาตั้�งแต่่เริ่�ม
สร้า้ ง มีีนามว่่า “พระศรีศี ากยมุนุ ีเี ส็็กเกีียยููไล” หรืือรู้�จักกันั ในนามว่่า พระยููไล ซึ่�งเดิมิ ทีเี ดียี วเป็็น
พระพุุทธรููปที่่�มีีขนาดองค์์ไม่่ใหญ่่นััก อยู่่�คู่่�กัับเยาวราชมาร่่วมร้้อยปีี ต่่อมาภายหลััง
พระครููบริิหารอนััมพรต (เจริิญ กิ๊�นเจี๊�ยว) หรือื พระมหาคณานััมธรรมปััญญาธิวิ ัตั ร เจ้้าคณะใหญ่่
อนััมนิิกาย เจ้้าอาวาสวััดกุุศลสมาครรููปปััจจุุบััน ได้้เป็็นผู้�นำพุุทธศาสนิิกชนบููรณะองค์์
พระพุุทธรููปใหม่่ โดยใช้้ปููนปั้้�นโบกทัับองค์์เก่่าให้้ใหญ่่ขึ้�นกว่่าองค์์เดิิม จนกระทั่�งประมาณปีี
พุทุ ธศักั ราช ๒๕๔๗ ได้้บููรณะครั้�งล่า่ สุุด มีีการลงรัักปิดิ ทอง ทำให้้องค์พ์ ระยููไลสวยและเด่น่ สง่่า
คู่่�กัับอุโุ บสถวัดั กุุศลสมาครเป็น็ อย่า่ งมากดัังที่�เห็น็ อยู่�ในปัจั จุุบััน
146
นอกจากนี้้�ยังั มีพี ระโพธิสิ ัตั ว์อ์ ีกี หลายองค์ใ์ น
อุุ โ บ ส ถ เช่่ น พ ร ะ อ ว โ ล กิิ เ ต ศ ว ร โ พ ธิิ สัั ต ว์์
หรืือพระแม่่กวนอิิมปางเหยีียบปลา ท้้าวมหาชมพูู
ห รืื อ พ ร ะ เ ว ท โ พ ธิิ สัั ต ว์์ ผู้� เ ป็็ น ธ ร ร ม บ า ล
พระกษิิติิครรภโพธิิสััตว์์ พระศรีีอาริิยเมตไตรยหรืือ
หนี่�เล็ก็ ฮุกุ โจ้้ว เป็็นต้น้
วัดกุศลสมาครในปจั จุบันมีองสรภาณมธรุ ส รักษา
การเจ้าอาวาส ซ่งึ ดำ�รงต�ำ แหนง่ เปน็ เจ้าอาวาสรปู ที่
6 โดยมอี ดีตเจ้าอาวาสดงั น้ี
๑. องพจนกรโกศล (เหล มหาเถระ)
๒.พระครูคณานมั สมณาจารย์ (เวยี งหมาง)
๓.พระภิกษเุ ซง่ กี่ โคมเวยี น
๔.พระมหาคณานมั ธรรมปัญญาธิวัตร (ก๊ินเจี๊ยว)
๕.พระมหาคณานัมธรรมปญั ญาธิวัตร (เถี่ยนถกึ )
๖.องสรภาณมธรุ ส (เหยีย่ วหาย) รกั ษาการเจ้าอาวาส
วัดั กุศุ ลสมาคร นอกจากจะเป็น็ ที่�พึ่�งที่่�ยึดึ เหนี่�ยวทางจิติ ใจจากอดีตี มาจนถึงึ ปัจั จุบุ ันั
แล้้ว พระมหาคณานััมธรรมปััญญาธิิวััตรได้้มองการณ์์ไกลและมีีความประสงค์์จะสร้้าง
โรงเรีียนเพื่ �อให้้เด็็กเยาวชนชาวพุุทธได้้เรีียนหนัังสืือเพื่ �อจะได้้เป็็นศาสนทายาทในภายภาค
หน้า้ ท่่านได้้ใช้เ้ วลาศึกึ ษาวิธิ ีีการและรอโอกาสเหมาะสมนานถึึง ๕๐ ปีี จึึงได้้สร้า้ งโรงเรีียน
แห่ง่ แรกของคณะสงฆ์อ์ นัมั นิกิ ายขึ้�นชื่�อว่า่ “โรงเรียี นกุศุ ลสมาครวิทิ ยาลัยั ” ภายใต้ก้ ารอนุมุ ัตั ิิ
และอุปุ ถััมภ์์ของ ฯพณฯ ศาสตราจารย์ม์ ารุตุ บุนุ นาค รััฐมนตรีีว่่าการกระทรวงศึึกษาธิิการ
เมื่�อปีี พ.ศ. ๒๕๓๒ และอยู่�ภายใต้้การอุปุ ถัมั ภ์ข์ องคณะสงฆ์์อนััมนิิกายแห่่งประเทศไทย
โรงเรียี นกุศุ ลสมาครวิทิ ยาลัยั ปัจั จุบุ ันั เปิดิ ทำการเรียี นการสอนตามพระราชบัญั ญัตั ิิ
การศึึกษาขั้�นพื้�นฐาน ช่่วงชั้�นที่� ๓ (ม.๑ - ม.๓) และช่ว่ งชั้�นที่� ๔ (ม.๔ - ม.๖) ซึ่�งเปิดิ โอกาส
ทางการศึกึ ษาสำหรับั เยาวชนที่่�ต้้องการบวชเรียี นในพระพุุทธศาสนา
147
วัดั โลกานุุเคราะห์์ (ตื่�อเต๊๊ตื่�อ)
ถนนราชวงศ์์ แขวงจักั รวรรดิิ เขตสัมั พันั ธวงศ์์ กรุงุ เทพมหานคร
วััดโลกานุุเคราะห์์ ตั้�งอยู่�เลขที่� ๑๒๖ ซอยผลิิตผล ถนนราชวงศ์์ แขวงจัักรวรรดิิ เขต
สัมั พันั ธวงศ์์ กรุงุ เทพมหานคร เป็น็ วัดั ในพระพุทุ ธศาสนาฝ่า่ ยมหายาน สังั กัดั คณะสงฆ์อ์ นัมั นิกิ าย
สร้้างในสมััยปลายรััชกาลที่� ๓ เมื่�อประมาณปีี พ.ศ. ๒๓๙๔ โดยพ่่อค้้าชาวจีีนและชาวญวน
ได้้ร่่วมกัันสร้้างเป็็นสำนัักสงฆ์์เพื่ �อใช้้เป็็นศาสนสถานประกอบศาสนกิิจตามลััทธิิพิิธีีทางฝ่่าย
พระพุทุ ธศาสนาลัทั ธิมิ หายาน และได้อ้ าราธนาพระญวนในคณะสงฆ์อ์ นัมั นิกิ ายมาจำพรรษา (จาก
พระนิิพนธ์์ของสมเด็็จพระเจ้้าบรมวงศ์์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุุภาพ เรื่�องตำนาน
พระญวนในประเทศไทย) ต่่อมาในสมัยั รัชั กาลที่� ๕ ได้ร้ ัับอนุุญาตเปลี่�ยนประเภทจากสำนัักสงฆ์์
เป็็นวััด เมื่�อ พ.ศ. ๒๔๓๐
148
เดิิมวััดโลกานุุเคราะห์์นี้้�มีีชื่�อตามอัักษรจีีนว่่า 慈濟寺
อ่า่ นเป็็นเสีียงสำเนีียงภาษาญวนว่่า ตื่�อเต๊๊ตื่�อ ในทางคณะสงฆ์์เรีียก
กันั ว่า่ วัดั ตื่�อเต๊ต๊ื่�อ ส่ว่ นพุทุ ธศาสนิกิ ชนทั่�วไปนิยิ มเรียี กกันั ว่า่ วัดั ญวน
ราชวงศ์์ หรือื เรีียกอีกี ชื่�อหนึ่�งว่า่ วัดั ญวนต้้นสน เมื่�อ ร.ศ. ๑๑๘ ตรง
กัับ พ.ศ. ๒๔๔๒ เจ้า้ อธิกิ ารวิ่�นกิมิ เจ้้าอาวาสในขณะนั้�น โดยมีีพระ
ครูคู ณานัมั สมณาจารย์์ (จี๊�หล็อ็ บ) วัดั สมณานัมั บริหิ าร เจ้า้ คณะใหญ่่
อนัมั นิกิ าย ในฐานะประมุขุ สงฆ์ค์ ณะสงฆ์ฝ์ ่า่ ยอนัมั นิกิ าย ได้ม้ ีหี นังั สือื
แจ้้งความประสงค์์ถึึงเจ้า้ พระยาภาสกรวงษ์์ ให้น้ ำความกราบบัังคม
ทูลู พระบาทสมเด็็จพระจุลุ จอมเกล้า้ เจ้า้ อยู่่�หััว รัชั กาลที่� ๕ เพื่�อขอ
พระบรมราชานุุญาตให้้พระราชทานนามวััดตื่�อเต๊๊ตื่�อ ให้้เป็็นชื่�อ
ภาษาสยาม เมื่�อความทราบฝ่่าละอองธุุลีีพระบาท จึึงได้ม้ ีีพระราช
กระแสรัับสั่ �งให้้เจ้้าพระยาภาสกรวงศ์์กลัับมาสอบถามความหมาย
ของคำว่า่ ตื่�อเต๊๊ตื่�อนั้�นแปลว่า่ อะไร พระครููคณานัมั สมณาจารย์์ (จี๊�
หล็็อบ) จึึงมีหี นังั สืือชี้�แจงไปว่่า ความหมายของคำว่่า ตื่�ออัักษรตััว
แรก แปลว่า่ เมตตา เต๊๊ อักั ษรตัวั ที่�สอง แปลว่า่ อนุเุ คราะห์์ ตื่�อ อักั ษร
ตััวสุุดท้้าย แปลว่่า วัดั พระบาทสมเด็จ็ พระจุลุ จอมเกล้้าเจ้า้ อยู่่�หัวั
รััชกาลที่� ๕ จึึงโปรดเกล้้าโปรดกระหม่่อม พระราชทานนามว่่า
วััดโลกานุุเคราะห์์ เมื่�อวันั ที่� ๒๖ สิงิ หาคม พ.ศ. ๒๔๔๒
149
วััดอนัมั นิกิ ายาราม (กว๋า๋ งเพื้�อกตื่�อ)
แขวงบางซื่�อ เขตบางซื่�อ กรุงุ เทพมหานคร
วดั อนมั นกิ ายาราม (กว๋างเพอ้ื กตื่อ) วดั ญวนบางโพ สรา้ งข้นึ ในราวปี พ.ศ. ๒๓๓๐
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเมื่อครั้งท่ีองเชียงสือได้เข้ามาพ่ึง
พระบรมโพธิสมภารในประเทศไทยและครอบครัวขององโหเดืองด๊ึกและองทงยุงยานก็ได้
ยา้ ยตามองเชียงสือเข้ามาตั้งรกรากอย่ทู ี่บา้ นบางโพตลอดมา ตามหลกั ฐานปรากฏว่าญวน
พวกขององเชยี งสอื น้ีไดร้ ว่ มกนั สรา้ งวัดญวนข้ึนในสมัยน้ันรวม ๒ วดั คือ ๑. วดั ค้ันเยงิ
ตือ่ (วัดอุภัยราชบ�ำ รุง) ๒. วดั กวา๋ งเพอ้ื กตอ่ื (วัดอนมั นกิ ายาราม) ส�ำ หรับวดั กวา๋ งเพ้ือกต่อื
หรือวัดญวนบางโพนน้ั ตามตำ�นานไม่ไดร้ ะบไุ ว้ชัดวา่ สร้างขึน้ เมอ่ื ปีใดในรัชกาลที่ ๑ แต่ก็
พอสันนิษฐานได้วา่ สรา้ งข้นึ ในราวปี พ.ศ.๒๓๓๐ คือภายหลงั จากท่ที รงพระกรุณาโปรด
เกล้าโปรดกระหม่อมให้ญวนของพวกองเชียงสืออพยพจากตำ�บลคอกกระบือไปอยู่ท่ีตำ�บล
บางโพและตอ่ มาวัดนพี้ ระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ ๔ ไดพ้ ระราชทาน
นามเสยี ใหม่วา่ “วัดอนมั นกิ ายาราม” มาจนถงึ ปัจจุบัน
150