The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1.หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล ปรับปรุง 63 (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by d74275a, 2022-09-19 23:29:12

1.หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล ปรับปรุง 63 (1)

1.หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล ปรับปรุง 63 (1)

คาอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ รหสั วชิ า อ ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอื่ สาร ๑

ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ปี

ใช้คาสั่งท่ีใช้ในห้องเรียน ตัวอักษร เสียงตัวอักษร สระ การสะกดคา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ
ตนเอง ประโยคบอกความต้องการเก่ียวกับตนเอง ประโยค ให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง คาสั่งที่ใช้ใน
ห้องเรียน ข้อความที่ใช้ในการพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว คาศัพท์ท่ีใช้ในในท้องถิ่น
เช่น สัตว์ทะเลต่าง ๆ คาที่มีความหมายสัมพันธ์กับส่ิงต่างๆ ใกล้ตัว อาหาร เคร่ืองดื่ม วัฒนธรรม
เจ้าของภาษาแสดงกิริยา การขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนาตนเอง การใช้ภาษาในการฟัง พูด
อ่านในสถานการณ์ทเี่ กิดขึน้ ในห้องเรยี น

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูลและมีทักษะทางสังคม มีวิถีของ
ระบอบประชาธปิ ไตย บนความพอเพียง มีเหตุผล ซ่อื สัตย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน
ชีวติ ประจาวนั

ผลการเรยี นรู้

๑. ปฏิบัติตามคาสัง่ คาขอรอ้ งที่ฟงั
๒. อา่ นออกเสียงตวั อักษร คา กลมุ่ คา ประโยคงา่ ยๆ และบทพดู เขา้ จงั หวะงา่ ยๆ ถูกตอ้ งตาม

หลกั การอา่ น
๓. บอกความหมายของคาและกลุ่มคาท่ีฟงั ตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟงั หรืออ่าน

ประโยคบทสนทนาหรือนทิ านง่ายๆ

รวมทง้ั หมด ๓ ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

คาอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ รหสั วิชา อ ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร ๒

ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

ใชค้ าส่งั ที่ใช้ในห้องเรยี น ตัวอักษร เสยี งตัวอักษร สระ การสะกดคา การอา่ นออกเสยี ง คา
กลุ่มคา บทอ่าน บทสนทนา ประโยค ให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองคา ประโยคบทอ่าน บทสนทนา
ประโยค ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ข้อความท่ีใช้ในการพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว
คาศัพท์ที่ใช้ในท้องถ่นิ เช่น สัตวท์ ะเลต่าง ๆ อุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ คาที่มีความหมายสัมพันธ์
กบั ส่ิงต่างๆ ใกล้ตัว อาหาร เคร่อื งด่ืม วฒั นธรรมเจ้าของภาษาแสดงกิริยา การขอบคณุ ขอโทษ การ
พูดแนะนาตนเอง กจิ กรรมทางภาษา การร้องเพลง การใช้ภาษาในการฟงั พูด อ่านในสถานการณ์ท่ี
เกิดขึน้ ในหอ้ งเรียน

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูลและมีทักษะทางสังคม มีวิถีของ
ระบอบประชาธปิ ไตย บนความพอเพยี ง ซอื่ สตั ย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถงึ ความเปน็ ไทย

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ใน
ชีวติ ประจาวนั

ผลการเรียนรู้
๑. ปฏิบัติตามคาส่ัง คาขอร้องทฟ่ี ัง
๒. อ่านออกเสียงตวั อกั ษร คา กลุ่มคา ประโยคงา่ ยๆ และบทพูดเขา้ จังหวะง่ายๆ ถกู ต้องตาม

หลกั การอ่าน
๓. บอกความหมายของคาและกลุ่มคาทฟ่ี งั ตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟังหรืออา่ น

ประโยคบทสนทนาหรอื นิทานง่ายๆ
๔. พดู โตต้ อบด้วยคาสนั้ ๆ ง่ายๆ ในการสอ่ื สารระหว่างบุคคลตามแบบท่ีฟงั ใชค้ าสัง่ และคาขอรอ้ ง

ง่ายๆ บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของตนเอง พดู ขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกับตนเองและเพื่อนบอก
ความรสู้ ึกของตนเองเกย่ี วกับสิง่ ตา่ งๆ ใกลต้ ัวหรือกิจกรรมตา่ งๆ ตามแบบทฟ่ี ัง
๕. พดู ใหข้ ้อมูลเกยี่ วกับตนเองและเร่ืองใกล้ตวั จัดหมวดหมู่คาตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และ
สงิ่ ของตามทีฟ่ ังหรืออา่ น
๖. พูดและทาทา่ ประกอบ ตามมารยาทสงั คม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกช่ือและคาศพั ท์ง่ายๆ
เกีย่ วกบั เทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชีวติ ความเปน็ อยู่ของเจ้าของภาษา เขา้ ร่วมกิจกรร
ทางภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั

รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ รหสั วิชา อ ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร ๓

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

ใชค้ าส่ังที่ใชใ้ นห้องเรยี น ตัวอักษร เสียงตัวอักษร สระ การสะกดคา การอ่านออกเสยี ง คา
กลุ่ม คา บทอ่าน พูดเข้าจังหวะ บทสนทนา ประโยค ให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองคา เลือกระบุภาพ
ตรงความ หมาย บทสนทนา ให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง ประโยคบอกความต้องการเก่ียวกับตนเองคา
คาสั่งท่ีใช้ในห้องเรียน ข้อความที่ใช้ในการพูดให้ข้อมูลความรู้สึกเกี่ยวกับตนเอง และเรื่องใกล้ตัวใน
ท้องถิ่น เช่น การประกอบอาชีพ การรับประทานอาหารของคนในชุมชนของตนเอง วัฒนธรรม
เจา้ ของภาษาเทียบเคียงกับมารยาทสังคมวัฒนธรรมในชมุ ชนและท้องถ่ินของตนเอง แสดงกิริยา การ
ขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนาตนเอง การใช้ภาษาในการฟัง พูด อ่านในสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนใน
ห้องเรียน

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูลและมีทักษะทางสังคม มีวิถีของ
ระบอบประชาธิปไตย บนความพอเพียง มีเหตุผล ซ่ือสัตย์ ใฝเ่ รียนรู้ แสดงออกถึงความเปน็ ไทย

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ และนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ใน
ชีวติ ประจาวัน

ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏิบตั ิตามคาสัง่ คาขอร้องทฟ่ี ัง
๒. บอกความหมายของคาและกลมุ่ คาท่ฟี ังตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟังหรืออา่ น

ประโยคบทสนทนาหรือนทิ านง่ายๆ
๓. พูดโต้ตอบด้วยคาสน้ั ๆ งา่ ยๆ ในการส่อื สารระหว่างบคุ คลตามแบบทฟ่ี ัง ใช้คาส่งั และคาขอรอ้ ง

ง่ายๆ
๔. บอกความต้องการงา่ ยๆ ของตนเอง พูดขอและให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเองและเพ่ือน บอกความรู้สกึ

ของตนเองเก่ยี วกบั สิง่ ต่างๆ ใกล้ตัวหรือกิจกรรมต่างๆ ตามแบบทฟี่ ัง
๕. พดู ให้ข้อมูลเก่ยี วกับตนเองและเรือ่ งใกล้ตวั จัดหมวดหมู่คาตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และ

สิง่ ของตามที่ฟังหรอื อา่ น
๖. พดู และทาทา่ ประกอบ ตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
๗. บอกชอื่ และคาศพั ท์งา่ ยๆ เกี่ยวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยขู่ องเจ้าของ

ภาษาเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกับวยั
๘. บอกความแตกตา่ งของเสียงตวั อักษร คา กลุ่มคา และประโยคงา่ ยๆ ของภาษาองั กฤษและ

ภาษาไทย

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๙. ฟัง/พดู ในสถานการณง์ า่ ยๆ ที่ เกดิ ข้ึนในห้องเรียน
รวมทงั้ หมด ๙ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ รหสั วชิ า อ ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร ๔

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

ปฏิบัติตามคาสั่ง คาแนะนา คาขอรอ้ งท่ีใช้ในห้องเรียน พูดเข้าจังหวะ บทสนทนา ประโยค
ให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองคา เลือกระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ตรงความหมาย ตอบคาถามจากการฟังและ
อ่าน บทสนทนา พูด เขียน ให้ข้อมูลโต้ตอบเกี่ยวกับตนเอง สื่อสารระหว่างบุคคล ประโยคบอก
ความต้องการเกี่ยวกับตนเองคา คาส่ังท่ีใช้ในห้องเรียน ข้อความที่ใช้ในการพูด เขียน แสดงความ
ต้องการของตนเอง ให้ข้อมูลความรู้สึกเก่ียวกับตนเองและเร่อื งใกล้ตัว คาศัพท์ท่ีใช้ในท้องถน่ิ สิ่งแวด
ลอมในทองถิ่น วัฒนธรรมเจ้าของภาษาและวัฒนธรรมในท้องถ่ิน แสดงกิรยิ า การขอบคุณ ขอโทษ
การพูดแนะนาตนเอง คาศัพท์เกย่ี วกับเทศกาลเจา้ ของภาษา กจิ กรรมทางภาษา การร้องเพลง ศกึ ษา
การใช้ภาษาในการฟัง พูดทาท่าประกอบอย่างสุภาพ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา อ่าน พูด ใน
สถานการณ์ทเ่ี กิดขึ้นในหอ้ งเรียน

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูลและมีทักษะทางสังคม มีวิถีของ
ระบอบประชาธิปไตย มีเหตผุ ลและอยอู ยางพอเพียง ซอ่ื สัตย์ ใฝ่เรยี นรู้ แสดงออกถึงความเปน็ ไทย

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ และ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ใน
ชีวติ ประจาวัน

ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏิบตั ิตามคาสง่ั คาขอรอ้ งทฟี่ งั
๒. อา่ นออกเสยี งตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยคง่ายๆ และบทพดู เขา้ จังหวะง่ายๆ ถูกต้องตาม

หลกั การอา่ น
๓. บอกความหมายของคาและกลุ่มคาที่ฟังตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟังหรืออา่ น

ประโยค บทสนทนาหรอื นทิ านง่ายๆ
๔. พดู โต้ตอบดว้ ยคาส้นั ๆ งา่ ยๆ ในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คลตามแบบทฟี่ ัง ใช้คาสง่ั และคาขอร้อง

ง่ายๆ บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของตนเอง
๕. พดู ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเพอื่ น บอกความรูส้ ึกของตนเองเกี่ยวกบั สิ่งต่างๆ ใกล้ตัว

หรือกจิ กรรมต่างๆ ตามแบบท่ีฟัง
๖. พูดให้ข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว จัดหมวดหมคู่ าตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และ

ส่ิงของตามท่ีฟังหรอื อา่ น
๗. พูดและทาทา่ ประกอบ ตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกชอื่ และคาศัพทง์ ่ายๆ

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

เก่ยี วกบั เทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลอง และชวี ิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกจิ กรรมทาง
ภาษา และวัฒนธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั
๘. บอกความแตกตา่ งของเสียงตัวอกั ษร คา กลุ่มคา และประโยคง่ายๆ ของภาษาภาษาองั กฤษและ
ภาษาไทย
๙. ฟงั /พูดในสถานการณง์ า่ ยๆ ทเี่ กิดขน้ึ ในหอ้ งเรียน

รวมทงั้ หมด ๙ ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

คาอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ รหสั วชิ า อ ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอื่ สาร ๕
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

ปฏิบตั ติ ามคาสัง่ คาแนะนา คาขอร้อง คาแนะนาง่ายๆ ทีใ่ ช้ในหอ้ งเรียน การสะกดคา การ
อ่านออกเสียง บทสนทนา ประโยค ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองคา เลือกระบุภาพหรือสัญลักษณ์ตรง
ความหมายของประโยค ตอบคาถามจากการฟังและอ่าน บทสนทนา นิทานง่ายๆ ประโยค พูด
เขยี นให้ขอ้ มลู โต้ตอบเกยี่ วกับตนเอง แสดงความรสู้ ึก ส่ือสารระหวา่ งบุคคล ใช้ถ้อยคา นา้ เสยี ง และ
กิริยา ประโยคบอกความต้องการเกี่ยวกับตนเองคา คาสั่งที่ใช้ในห้องเรียน ข้อความที่ใช้ในการพูด
เขียน แสดงความตอ้ งการของตนเอง ใหข้ อ้ มูลความร้สู กึ เกี่ยวกับตนเอง และเรอ่ื งใกลต้ ัว คาศัพทท์ ่ีใช้
ในท้องถิ่น สิง่ แวดลอมในทองถิน่ วฒั นธรรมเจ้าของภาษาและวัฒนธรรมในทองถ่นิ บอกความเหมือน
ความแตกต่าง ระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ แสดงความคิดเห็นง่ายๆโดยใช้คาศัพท์
เหมาะสมกับวัย การใช้ภาษาในการฟัง พูดทาท่าประกอบอย่างสุภาพ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา
อ่าน พดู ในสถานการณท์ เี่ กดิ ขึน้ ในหอ้ งเรียน

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูลและมีทักษะทางสังคม มีวิถีของ
ระบอบประชาธิปไตย มีเหตุผลและอยอู ยางพอเพยี ง ซื่อสตั ย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถงึ ความเป็นไทย

เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ใน
ชวี ติ ประจาวนั

ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏบิ ตั ิตามคาสั่ง คาขอร้องท่ฟี งั
๒. อา่ นออกเสียงตัวอักษร คา กลุม่ คา ประโยคงา่ ยๆ และบทพูดเข้าจังหวะงา่ ยๆ ถูกต้องตาม

หลักการอา่ น
๓. บอกความหมายของคาและกล่มุ คาท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟังหรอื อ่าน

ประโยค บทสนทนาหรอื นิทานงา่ ยๆ
๔. พูดโต้ตอบด้วยคาสั้นๆ ง่ายๆ ในการสือ่ สารระหว่างบุคคลตามแบบทฟี่ งั ใช้คาส่งั และคาขอร้อง

ง่ายๆ บอกความตอ้ งการง่ายๆ
๕. พูดขอและให้ขอ้ มลู เกีย่ วกับตนเองและเพอ่ื น
๖. บอกความรู้สึกของตนเองเก่ยี วกับสิง่ ตา่ งๆ ใกลต้ วั หรือกจิ กรรมต่างๆ ตามแบบทีฟ่ งั
๗. พดู ใหข้ ้อมูลเกีย่ วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกล้ตวั จัดหมวดหม่คู าตามประเภทของบุคคล สัตว์ และ

สง่ิ ของตามท่ฟี ังหรอื อ่าน
๘. พดู และทาทา่ ประกอบ ตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๙. บอกชื่อและคาศัพท์ง่ายๆ เกีย่ วกบั เทศกาล/วันสาคญั /งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของ
ภาษา เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะกบั วัย

๑๐. บอกความแตกตา่ งของเสียงตัวอักษร คา กลมุ่ คา และประโยคงา่ ยๆ ของภาษาองั กฤษและ
ภาษาไทย

๑๑. ฟงั /พดู ในสถานการณง์ า่ ยๆ ทเี่ กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี น
๑๒. ใชภ้ าษาองั กฤษเพอ่ื รวบรวมคาศัพทท์ ี่เกีย่ วข้องใกล้ตัว
๑๓. มที ักษะการใช้ภาษาองั กฤษ (เน้นการฟัง-พูด) สอ่ื สารตามหวั เร่ืองเกยี่ วกบั

ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สงิ่ แวดล้อมใกลต้ ัว อาหาร เคร่ืองด่ืม และเวลาว่างและ
นนั ทนาการ ภายในวงคาศัพท์ประมาณ ๓๐๐-๔๕๐ คา (คาศพั ท์ท่ีเปน็ รูปธรรม)
๑๔. ใช้ประโยคคาเดียว (One Word Sentence) ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence) ในการ
สนทนาโต้ตอบตามสถานการณใ์ นชีวติ ประจาวนั

รวมทงั้ หมด ๑๔ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ

กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ รหสั วิชา อ ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร ๖
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ปี

ปฏิบตั ติ ามคาสง่ั คาแนะนา คาขอร้อง คาแนะนาง่ายๆ ท่ใี ช้ในห้องเรยี น การสะกดคา การ
อา่ นออกเสียงคา กล่มุ คา บทอ่าน บทกลอนสัน้ ๆ บทสนทนา ประโยคถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน ให้
ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เลือกระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงความหมายของประโยค
ขอ้ ความสั้นๆ ตอบคาถามจากการฟังและอ่าน บทสนทนา พูด เขียนให้ข้อมูลโตต้ อบเก่ียวกับตนเอง
แสดงความรู้สึก ส่ือสารระหว่างบุคคล เขียนภาพ แผนผัง และแผนภูมิ ตารางแสดงข้อมูลต่างๆ ใช้
ถ้อยคา น้าเสียงและกิรยิ า ประโยคบอกความต้องการเกย่ี วกับตนเอง คาสง่ั ทใี่ ช้ในห้องเรียน ขอ้ ความ
ทใ่ี ช้ในการพูด เขยี น แสดงความต้องการของตนเอง ใหข้ ้อมูลความรสู้ กึ เกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว
คาศัพทท์ ีใ่ ชใ้ นท้องถิ่น ส่ิงแวดลอมในทองถ่นิ วัฒนธรรมเจ้าของภาษาและวฒั นธรรมในทองถ่นิ ใช้คาสั่ง
คาขอร้อง และให้คาแนะนา บอกความเหมือน ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ
กิจกรรมทางภาษา การรอ้ งเพลง การเล่านิทานประกอบท่าทาง พูด วาดภาพแสดงความสมั พันธ์ของ
สิ่งต่างๆ แสดงความคิดเห็นง่ายๆโดยใช้คาศัพท์เหมาะสมกับวัย การใช้ภาษาในการฟัง พูดทาท่า
ประกอบ และนาเสนอด้วยการพูด เขียนอย่างสุภาพ เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา อ่าน พูด ใน
สถานการณท์ ่เี กดิ ขึน้ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูลและมีทักษะทางสังคม มีวิถีของ
ระบอบประชาธปิ ไตย มเี หตุผลและอยอู ยางพอเพียง ซ่อื สัตย์ ใฝเ่ รยี นรู้ แสดงออกถึงความเปน็ ไทย

เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ใน
ชวี ิตประจาวนั

ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏิบตั ิตามคาส่ัง คาขอร้องที่ฟงั
๒. อ่านออกเสียงตัวอักษร คา กลุ่มคา ประโยคง่ายๆ และบทพูดเข้าจงั หวะง่ายๆ ถูกตอ้ งตาม

หลกั การอ่าน
๓. บอกความหมายของคาและกลุ่มคาทฟ่ี ังตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟงั หรอื อา่ น

ประโยค บทสนทนาหรือนทิ านงา่ ยๆ
๔. พูดโต้ตอบดว้ ยคาสนั้ ๆ ง่ายๆ ในการสือ่ สารระหวา่ งบคุ คลตามแบบที่ฟัง ใช้คาสงั่ และคาขอรอ้ ง

งา่ ยๆ บอกความตอ้ งการงา่ ยๆ
๕. พดู ขอและให้ข้อมลู เกีย่ วกับตนเองและเพอ่ื น
๖. บอกความรสู้ ึกของตนเองเกยี่ วกบั ส่งิ ต่างๆ ใกล้ตวั หรือกจิ กรรมต่างๆ ตามแบบทฟ่ี ัง

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๗. พดู ใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว จัดหมวดหมคู่ าตามประเภทของบุคคล สตั ว์ และ
ส่งิ ของตามที่ฟงั หรอื อา่ น

๘. พดู และทาท่าประกอบตามมารยาทสงั คม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
๙ . บอกชื่อและคาศัพท์ง่ายๆ เก่ียวกบั เทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลอง และชวี ติ ความเปน็ อย่ขู อง

เจา้ ของภาษา เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะกับวยั
๑๐. บอกความแตกต่างของเสียงตัวอกั ษร คา กล่มุ คา และประโยคงา่ ยๆ ของภาษาองั กฤษและ

ภาษาไทย
๑๑. ฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ท่เี กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น
๑๒. ใชภ้ าษาองั กฤษเพ่อื รวบรวมคาศัพทท์ ่ีเก่ยี วข้องใกลต้ วั
๑๓. มที กั ษะการใชภ้ าษาอังกฤษ (เน้นการฟงั -พูด) ส่ือสารตามหัวเรอื่ งเก่ียวกับ

ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น สงิ่ แวดลอ้ มใกล้ตวั อาหาร เครื่องดื่ม และเวลาว่างและ
นันทนาการ ภายในวงคาศัพทป์ ระมาณ ๓๐๐-๔๕๐ คา (คาศัพท์ที่เปน็ รูปธรรม)
๑๔. ใชป้ ระโยคคาเดยี ว (One Word Sentence) ประโยคเดย่ี ว (Simple Sentence) ในการ
สนทนาโตต้ อบตามสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวนั

รวมทง้ั หมด ๑๔ ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน เป็นกจิ กรรมท่ีมุง่ ให้ผ้เู รยี นได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพอยา่ งรอบด้าน
เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มี
ศีลธรรม จริยธรรม มีระเบยี บวนิ ัย ปลูกฝังและสร้างจติ สานึกของการทาประโยชนเ์ พื่อสงั คม สามารถ
จัดการตนเองได้ และอยู่รว่ มกบั ผูอ้ ่ืนอย่างมีความสขุ

จดุ มุ่งหมายของกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น

กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นมีจุดมุ่งหมายใหผ้ ู้เรียนได้รบั การพัฒนา ดงั น้ี
๑. พัฒนาองค์ความรู้ของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์
และสงั คม
๒. พัฒนาความสามารถของตนเองตามศักยภาพ โดยมุ่งเน้นเพิ่มเติมจากกิจกรรมท่ีได้จัดให้
ผู้เรยี นเรยี นรู้ตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ท้ัง ๘ กลมุ่ สาระ
๓. เข้าร่วมและปฏิบตั กิ ิจกรรมท่ีเลือกตามความถนัดและความสนใจของตนเอง

ขอบขา่ ยของกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แบ่งเป็น ๓ ลักษณะ คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน
และกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ซึ่งสถานศึกษาสามารถจัดแยกหรือบูรณาการไว้
ด้วยกันก็ได้ และจัดได้หลากหลายรปู แบบและวธิ กี าร โดยมีขอบข่าย ดังน้ี

๑. เปน็ กจิ กรรมท่สี ง่ เสรมิ การเรียนรู้ ๘ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ใหก้ ว้างขวาง ลกึ ซง้ึ ยง่ิ ข้ึน ใน
รูปแบบของการปฏิบตั ติ ามโครงการ / โครงงาน ในลักษณะเป็นกระบวนการ

๒. เชิงบูรณาการ โดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม เป็นพื้นฐานและเป็นกิจกรรมที่สนอง
ความสนใจ ความถนดั ความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่างระหวา่ งบุคคลในลักษณะชมรม
ชมุ นุม กลุ่มสนใจ เน้นการให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของวิชาความรู้ อาชีพ และการดาเนินชีวิตที่ดีงาม
ตลอดจนเห็นช่องทางในการประกอบอาชีพ

๓. เป็นกิจกรรมที่ปลูกฝังและสร้างจิตสานึกในการทากิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์ต่อสังคม ใน
ลกั ษณะต่างๆ ใหส้ ามารถจัดการกบั ชวี ิตและสังคมได้ มคี ณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ รักและเห็นคณุ ค่า
ในตนเองและผู้อ่ืน มีค่านิยมในความดีงาม มีวินัยในตนเอง มีคุณธรรมและจริยธรรม ตลอดจน
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๔. เป็นกิจกรรมท่ีฝึกการทางานและการให้บริการด้านต่างๆ ท่ีเป็นประโยชน์ต่อตนเอง
ส่วนรวม เพ่ือเสริมสร้างความมีน้าใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดี และรับผิดชอบต่อตนเอง
ครอบครัวและสงั คม

ลักษณะของกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน

กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น แบง่ เป็น ๓ ลกั ษณะ ดังน้ี

๑. กจิ กรรมแนะแนว

เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิด
ตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเปา้ หมาย วางแผนชีวิตท้ังด้านการเรียน และอาชพี สามารถปรับ
ตนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือ
และให้คาปรึกษาแก่ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้ เรียน ในการส่งเสริมและพัฒนา
ความสามารถของผู้เรียนให้เหมาะสมตามความแตกต่างระหว่างบุคคล สามารถค้นพบและพัฒนา
ศักยภาพของตน เสริมสร้างทักษะชีวติ วฒุ ิภาวะทางอารมณ์ การเรียนรู้ในเชงิ พหุปัญญา และการ
สร้างสัมพันธภาพที่ดี ซ่ึงผู้สอนจะต้องทาหน้าที่แนะแนวให้คาปรึกษาด้านชีวิต การศึกษาต่อและ
การพัฒนาตนเองสู่โลกอาชีพและการมีงานทา และนอกเหนือจากกิจกรรมแนะแนวในส่วนของ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแล้ว โรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล ได้จัดระบบแนะแนวให้บริการ
ชว่ ยเหลือนักเรียนทุกคน เพ่ือให้รู้จักตนเองในด้านความสนใจ ความถนัด ความสามารถ ซึ่งเป็น
ประโยชน์สาหรบั การเลอื กศึกษาต่อและเลือกอาชพี ทีเ่ หมาะสม และเสริมสร้างบุคลิกภาพ ลกั ษณะ
นิสัย การปรับตัวท่ีเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทงั้ ความสามารถในการจัดการกับปญั หาทางด้าน
อารมณ์ ปรบั ตัวใหอ้ ย่สู งั คมไดอ้ ย่างมีความสุข

๒. กจิ กรรมนกั เรยี น

เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นา ผู้ตามท่ีดี ความรับผิดชอบ
การทางานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือ
แบง่ ปนั กนั เอ้ืออาทร และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความ
สนใจของผู้เรียน ให้ผ้เู รียนไดป้ ฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทางาน เน้นการทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความ
เหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั วุฒิภาวะของผู้เรยี น บริบทของสถานศกึ ษาและท้องถิ่น กจิ กรรมนกั เรียน
ประกอบด้วย

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๒.๑ กิจกรรมลกู เสอื – เนตรนารี เป็นกจิ กรรมที่พฒั นาผ้เู รียนให้เตม็ ตามศกั ยภาพ
เพื่อเป็นพลเมืองดีของชาติ โดยมุ่งเน้นปลูกฝังความเป็นระเบียบวินัย ซื่อสัตย์ สุจริต มีความรัก
สามัคคี อยูร่ ่วมกบั ผู้อ่นื ได้และบาเพ็ญประโยชน์เพือ่ ส่วนรวม

๒.๒ กจิ กรรมชุมนุม ชมรม เปน็ กิจกรรมมงุ่ เน้นความสนใจและความถนัดท่ีส่งผล
ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ เกิดประสบการณ์ท่ีหลากหลาย และสร้างจิตสานึกท่ีดี เป็นกิจกรรมที่มี
ความหมายแก่ผู้เรียน คือ สนองความสนใจ ความถนัด ความสามารถ และความต้องการของแต่ละ
บุคคล จึงจะสามารถดึงศักยภาพ ความสามารถพิเศษที่แฝงอยู่ในตัวผู้เรียนออกมาให้เห็นเด่นชัด
สร้างความภาคภูมิใจ มจี ติ สานึกที่ดี และมีคุณลักษณะนสิ ยั เป็นไปตามเป้าหมายที่กาหนด

โรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล จึงส่งเสริมความถนัด ความสนใจ และพัฒนา
ศักยภาพของผู้เรียน โดยการจัดให้มีกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานตามกลุ่มสนใจ ในแต่ละกลุ่ม
สาระการเรยี นรู้ข้นึ ซ่ึงการใช้โครงงานสูก่ ารเรียนรู้เป็นรูปแบบการเรียนรทู้ ่ีเน้นผู้เรยี นเปน็ ศนู ย์กลาง
แบบหน่ึง นักเรยี นมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ โดยการศกึ ษาค้นคว้าเก่ียวกับสิ่งใดส่ิงหนึ่งหรือหลายๆ
ส่ิงท่ีเขาสนใจอยากรู้คาตอบให้แน่ชัด หรือต้องการเรียนรู้ในเร่ืองน้ันๆ ให้มากย่ิงขึ้น โดยใช้
กระบวนการ วิธีการศึกษาอย่างมีระบบเป็นข้ันตอน มีการวางแผนในการศึกษาอย่างละเอียด
ปฏิบัติงานตามแผนท่ีวางไว้จนได้ข้อสรุปที่เป็นคาตอบในเรื่องน้ันๆ โครงงานจึงเป็นการเรียนรู้ท่ี
ตอ้ งการหาคาตอบในเรอื่ งท่ีเป็นปญั หาหรอื สนใจใคร่รู้ โดยการไปศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง ผ่านการ
ใช้กระบวนการอย่างมีระบบ เกิดการเรียนรู้ได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าเรียนรใู้ นห้องเรียน ข้ันตอนการ
เรียนรู้โดยใช้โครงงาน คือ เลือกเร่ืองที่น่าสนใจ เตรียมไปหาแหล่งความรู้ เข้าสู่การวางแผนก่อน
ทาตามข้ันตอนอยา่ งสนุกสนาน เขยี นรายงานอย่างมัน่ ใจและนาเสนองานได้เหมาะสม

๓. กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์

เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน และ
ท้องถ่ินตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความ
เสียสละต่อสังคม มีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพัฒนาต่างๆ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม ซ่ึง
ดาเนินกิจกรรมดงั น้ี

๑. จดั กิจกรรมบูรณาการใน ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในกิจกรรม
ลกู เสือ - เนตรนารี

๒. จดั กิจกรรมร่วมกบั องค์กรอน่ื หมายถึง กิจกรรมท่นี ักเรียนอาสาสมัครเข้ารว่ มกจิ กรรมกับ
หน่วยงานหรือองค์กรอื่นๆ ในลักษณะเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ท้ังภายในหน่วยงานและนอก
หน่วยงาน

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี น

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

ระเบยี บโรงเรยี นสหกรณก์ สกิ รรมชายทะเล
วา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ – ๖

……………………………………………

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล จัดระดับการศึกษาในระดับ
ประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ – ๖) การศึกษาระดับนี้เป็นช่วงแรกของการศึกษาภาคบังคับ
มุ่งเน้นทักษะพืน้ ฐานด้านการอ่าน การเขียน การคิดคานวณ ทักษะการคิดพ้ืนฐาน การตดิ ต่อส่ือสาร
กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพื้นฐานความเปน็ มนุษย์ การพัฒนาคณุ ภาพชีวติ อย่างสมบูรณ์และ
สมดุลทั้งในด้านรา่ งกายสติปัญญา อารมณ์ สังคมและวัฒนธรรม โดยเนน้ จดั การเรยี นรู้แบบบรู ณาการ

โดยที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศให้ใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ ตามคาสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๒๙๓/๒๕๕๑ ลงวนั ท่ี ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๑
และกาหนดให้สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษาจะต้องทาหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติใน
การวัดและประเมินผลการเรียนของสถานศึกษา เพื่อให้สามารถดาเนินการได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ และ
สอดคลอ้ งกบั คาสั่งดงั กล่าว

บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกันและเป็นมาตรฐานเดียวกัน โรงเรียนจึงวาง
ระเบียบไวด้ ังต่อไปน้ี

ขอ้ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนสหกรณ์กสิกรรมชายทะเล” ว่าด้วยการวัดและ
ประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ระดับชั้น
ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ – ๖ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

ข้อ ๒ ระเบยี บนใ้ี ห้ใชต้ ้ังแต่ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ขอ้ ๓ ใหย้ กเลิก ระเบียบ ขอ้ บังคบั ท่ีขดั แยง้ กบั ระเบยี บน้ี ใหใ้ ช้ระเบยี บนีแ้ ทน
ข้อ ๔ ระเบยี บนี้ใหใ้ ช้ควบคู่กับหลกั สตู รโรงเรียนสหกรณก์ สกิ รรมชายทะเล พุทธศักราช
๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่
๑–๖
ขอ้ ๕ ใหผ้ ู้บรหิ ารสถานศึกษา รกั ษาการให้เปน็ ไปตามระเบยี บนี้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

หมวดที่ ๑
หลกั การในการวดั และประเมนิ ผลการเรยี น

ข้อ ๖ การวัดและประเมินผลการเรยี นให้เปน็ ไปตามหลักการต่อไปน้ี
๖.๑ สถานศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบวัดและประเมินผลการเรียนของผู้เรียน โดยเปิด

โอกาสให้ทุกฝา่ ยท่ีเกยี่ วข้องมีสว่ นร่วม
๖.๒ การวัดและประเมินผลการเรียนต้องสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการ

เรียนรู้ ตัวช้ีวัดตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่กาหนดในหลักสูตร และจัดให้มีการประเมินการอ่าน คิด
วเิ คราะหแ์ ละเขยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ตลอดจนกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น

๖.๓ การประเมินผู้เรียนพิจารณาจากพัฒนาการของผู้เรียน ความประพฤติ การ
สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ การร่วมกิจกรรมและการทดสอบควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอน
ตามความเหมาะสมของแต่ละระดบั และรูปแบบการศึกษา

๖.๔ การวัดและประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนการสอนต้อง
ดาเนินการด้วยเทคนิควธิ ีการทีห่ ลากหลาย เพ่ือให้สามารถวัดและประเมนิ ผูเ้ รียนไดอ้ ย่างรอบด้าน ท้ัง
ด้านความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ เหมาะสมกับส่ิงที่ต้องการวัด ธรรมชาติ
วิชาและระดบั ชนั้ ของผู้เรียน โดยตง้ั อยู่บนพนื้ ฐานความเที่ยงตรง ยตุ ธิ รรมและเช่อื ถอื ได้

๖.๕ การประเมินผลการเรียนต้องมีจดุ มุ่งหมายเพอ่ื ปรบั ปรงุ พฒั นาผู้เรยี น พฒั นาการ
จัดการเรยี นรู้ และเพ่อื ตัดสินผลการเรียน

๖.๖ เปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นและผู้มสี ่วนท่เี กยี่ วข้องตรวจสอบผลการประเมินการเรียน
๖.๗ ใหม้ กี ารเทียบโอนผลการเรียนระหว่างสถานศึกษาและรปู แบบการศึกษาต่างๆ
๖.๘ ให้สถานศึกษาจัดทาเอกสารหลักฐานการศกึ ษา เพือ่ เปน็ หลกั ฐานการประเมนิ
ผลการเรยี นรู้ รายงานผลการเรยี น แสดงวุฒกิ ารศึกษา และรบั รองผลการเรยี นของผู้เรยี น ใหม้ กี าร
ประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผู้เรยี นในแต่ละระดับชัน้
๖.๙ ใหม้ ีการประเมินคณุ ภาพผู้เรียนในเขตพ้ืนท่ีและระดับชาติ ในแต่ละระดับชน้ั
๖.๑๐ เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นตรวจสอบการประเมินผลการเรยี นได้

หมวดท่ี ๒
วธิ กี ารประเมนิ ผลการเรยี น

ข้อ ๗ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๘ กลุ่มสาระ ใหถ้ อื ปฏิบัติ ดังนี้
๗.๑ แจ้งให้ผู้เรียนทราบมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ผลการเรยี นรู้
๗.๒ วิธีการจัดการเรียนรู้ต้องครอบคลุมพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย ทักษะ

พิสัย และเน้นทกั ษะกระบวนการ
๗.๓ ประเมินผลก่อนเรียน เพ่อื หาสารสนเทศของผู้เรียน

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๗.๔ วัดและประเมินผลระหว่างเรียน เพ่ือศึกษาผลการเรียนของผู้เรียนและนาไป
ปรับปรุงแก้ไข ข้อบกพร่องของผู้เรียน และส่งเสริมผู้เรียนให้เกิดพัฒนาการสูงสุดตามศักยภาพ นา
คะแนนการวัดและประเมินผลไปรวมกบั คะแนนวัดผลปลายภาค โดยวัดและประเมินผลตามมาตรฐาน
การเรียนรู้ ตัวชว้ี ัด หรอื ผลการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลระหว่างเรยี น ประกอบด้วย

๗.๔.๑ วดั และประเมินผลเป็นระยะๆ โดยวธิ กี ารวัดและประเมินผลด้วยวิธกี ารที่
หลากหลาย ถ้าผู้เรียนไม่ผ่านตัวช้ีวัดหรือผลการเรียนรู้ ให้ผู้สอนจัดการซ่อมเสริม ปรับปรุง แก้ไข
เพือ่ ให้ผา่ นตัวชวี้ ดั หรือผลการเรียนรู้

๗.๔.๒ วัดผลกลางภาคเรียนอย่างน้อย ๑ คร้ัง โดยสถานศึกษาเป็นผู้กาหนด
มาตรฐาน การเรยี นรู้ ตัวชว้ี ดั หรือผลการเรียนรู้

๗.๕ การประเมินเพ่ือสรุปผลการเรียน เพื่อตรวจสอบความสาเร็จของผู้เรียนเมื่อ
ส้ินสดุ การเรียนรายปี ประกอบด้วย

๗.๕.๑ การประเมินหลงั เรียน เพ่อื ประเมนิ ศกั ยภาพของผู้เรียน
๗.๕.๒ การประเมินผลการเรียนปลายภาค เพ่ือตรวจสอบผลสมั ฤทธขิ์ องผ้เู รยี น
ในการเรยี นรายวชิ าต่างๆ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชวี้ ัดหรอื ผลการเรียนรู้ปลายภาค
๗.๖ การตัดสนิ ผลการเรียน
๗.๖.๑ ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา โดยนาคะแนนระหว่างเรียน รวมกับ
คะแนนปลายภาคเรยี นตามอัตราส่วนที่โรงเรยี นกาหนด แล้วนามาเปลย่ี นเป็นระดับผลการเรียน และ
ผู้เรียนต้องมเี วลาเรียนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้งั หมดในรายวชิ านัน้
๗.๖.๒ ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดของรายวิชานั้น และผ่านตาม
เกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด โดยให้สถานศึกษากาหนดเกณฑ์การผ่านในรายวิชาพ้ืนฐานและเพิ่มเติม
จากการกาหนดจานวนตวั ชีว้ ัดทต่ี ้องผา่ น ซ่งึ ต้องไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๖๐ ของแต่ละวชิ า
๗.๖.๓ ผเู้ รยี นตอ้ งได้รับการตดั สินทุกรายวชิ า
๗.๗ การให้ระดับผลการเรียน ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชาของ
กล่มุ สาระการเรียนรใู้ หใ้ ช้ตวั เลขแสดงระดับผลการเรียน ๘ ระดับ ในแต่ละรายวิชาดงั น้ี

คะแนนรอ้ ยละ ระดบั ผลการเรยี น ความหมายของการประเมนิ
๘๐ – ๑๐๐ ๔.๐ ดเี ย่ียม
๗๕ – ๗๙ ๓.๕ ดีมาก
๗๐ – ๗๔ ๓.๐ ดี
๖๕ – ๖๙ ๒.๕ คอ่ นขา้ งดี
๖๐ – ๖๔ ๒.๐ ปานกลาง
๕๕ – ๕๙ ๑.๕ พอใช้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๕๐ – ๕๔ ๑.๐ ผ่านเกณฑ์ข้ันต่า
๐ – ๔๙ ๐ ต่ากวา่ เกณฑ์

ข้อ ๘ การวดั และประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น สถานศกึ ษากาหนดแนวดาเนิน
การ ดงั นี้

๘.๑ ให้สถานศึกษาแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินการอ่านคิด วิเคราะห์และเขียน
ของสถานศึกษาเพ่ือกาหนดผลการเรียนรู้หรือความสามารถ การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขยี น จากกลุ่ม
สาระการเรยี นรู้ พรอ้ มกาหนดเกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ (ดเี ยย่ี ม ดี และผา่ น)

ดีเยย่ี ม หมายถงึ สามารถจับใจความสาคญั ไดค้ รบถ้วน เขียน
วิพากษ์วิจารณ์ เขยี นสร้างสรรค์ แสดงความ
คิดเห็นประกอบอยา่ งมเี หตผุ ลไดถ้ ูกต้องและ
สมบูรณ์ ใช้ภาษาสุภาพและเรียบเรียงได้
สละสลวย

ดี หมายถึง สามารถจับใจความสาคญั ได้ เขียนวพิ ากษ์
วิจารณ์ และเขยี นสร้างสรรค์ ได้โดยใช้ภาษา
สุภาพ

ผ่าน หมายถึง สามารถจับใจความสาคัญได้และเขียน
วพิ ากษ์วจิ ารณไ์ ด้บ้าง

๘.๒ ให้ผู้สอนแต่ละกลุ่มสาระการเรยี นรู้ออกแบบการประเมิน เพอ่ื ประเมนิ ความ
สามารถการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน ใหเ้ หมาะสมกบั ผ้เู รียนแต่ละช้นั ปแี ละการจดั การเรยี นรู้แตล่ ะ
ภาคเรียน

๘.๓ การประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์ ประเมินจากรูปแบบ ดงั น้ี
๘.๓.๑ ประเมินจากผลงานและการเข้ารว่ มกิจกรรมในแตล่ ะกลุ่มสาระ โดยใช้

วิธีการบูรณาการความสามารถ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน เข้ากับหน่วยการเรียนรู้ในแต่ละ
รายวิชา โดยมีผลการประเมินของผู้เรียนเป็นผลงานในหน่วยการเรียนรู้นั้น แล้วนาผลการประเมิน
น้นั นบั เขา้ เป็นผลการประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี น

๘.๓.๒ ประเมินจากผลงานและการเข้าร่วมกจิ กรรมระดบั โรงเรียน โดยการจัด
กิจกรรมโครงงาน/กิจกรรมเสรมิ

๘.๓.๓ ประเมินจากแบบทดสอบมาตรฐานประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และ
เขียน

๘.๔ แจ้งให้ผู้เรียนทราบผลการเรียนรู้และเกณฑ์การประเมินความสามารถอ่าน
คิดวิเคราะห์ และเขยี น

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๘.๕ ประเมินความสามารถอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ เมื่อสิ้นภาค
เรียน เพ่ือใหผ้ ้เู รียนไดท้ ราบสถานภาพของตนและทาการปรบั ปรุง แก้ไข

๘.๖ ประเมินเม่ือส้ินภาคเรียนตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนด นาเสนอต่อ
คณะกรรมการ

๘.๗ คณะกรรมการตัดสนิ ผลการประเมนิ แจ้งใหผ้ ู้เรยี นและผู้ปกครองทราบ โดย
ใชอ้ กั ษรแสดงผลการประเมนิ ดงั นี้

ดเี ยีย่ ม หมายถึง สามารถจบั ใจความสาคัญได้ครบถ้วน เขียนวิพากษว์ จิ ารณ์
เขยี นสร้างสรรค์แสดงความคดิ เห็นประกอบอย่างมเี หตผุ ล
ไดถ้ กู ตอ้ งละสมบูรณ์ใช้ภาษาสภุ าพและเรียบเรยี งได้
สละสลวย

ดี หมายถึง สามารถจบั ใจความสาคญั ได้ เขียนวิพากษ์วิจารณ์และ
เขยี นสร้างสรรค์โดยใช้ภาษาสภุ าพ

ผ่าน หมายถงึ สามารถจบั ใจความสาคญั ได้และเขียนวพิ ากษว์ ิจารณ์ได้บ้าง
ไมผ่ ่าน หมายถึง มีพฤตกิ รรมตา่ กว่าเกณฑท์ ่กี าหนด

๘.๘ ในกรณีท่ผี ู้เรียนไม่ผา่ นการประเมนิ ให้ดาเนินการซ่อมเสรมิ ปรบั ปรุง แกไ้ ข
ในสว่ นท่ไี ม่ผา่ นการประเมนิ

๘.๙ คณะกรรมการนาผลการประเมินนาเสนอคณะกรรมการบริหารหลักสูตร
สถานศึกษา เพ่ือนาเสนอใหผ้ ู้บริหารสถานศกึ ษาอนมุ ตั ิการตัดสนิ การผ่านแต่ละภาคเรยี น

ข้อ ๙ การวัดและประเมนิ การเขา้ ร่วมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน
ใหส้ ถานศึกษาดาเนินการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน โดยถือปฏิบัติ ดงั น้ี

๙.๑ แจ้งจุดประสงค์และเกณฑ์การผ่าน การเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนแต่ละ
กิจกรรม

๙.๒ ประเมินการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียน การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของ
ผเู้ รียน ตามผลการเรียนรู้เม่ือส้ินภาคเรยี นแรก / กลางภาคเรยี น เพ่ือให้ผู้เรียนได้ทราบสถานภาพ
ของตน และรายงานผลการประเมินให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อทาการปรับปรุงหรือส่งเสริมให้มี
ประสทิ ธภิ าพยงิ่ ข้ึน

๙.๓ ประเมินเม่ือส้นิ ภาคเรียน โดยนาผลการประเมินในหัวข้อ ๙.๒ ไปรวมกับผล
การประเมนิ การเขา้ ร่วมกจิ กรรมเม่ือสิ้นสุดภาคเรียนแรก / ส้ินสดุ กจิ กรรม เพ่ือตัดสนิ ผลการประเมิน
ตามเกณฑท์ ีส่ ถานศึกษากาหนด

๙.๔ ตดั สนิ ผลการประเมิน แจ้งให้ผเู้ รียนและผู้ปกครองทราบ โดยใช้อกั ษรแสดงผล

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

การประเมนิ ดังนี้

ผ หมายถงึ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน โดยผู้เรียนมีเวลา

เขา้ ร่วมกจิ กรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐

ของเวลาทั้งหมดทจี่ ดั กิจกรรมของแต่ละภาค

เรียนปฏิบตั กิ ิจกรรมและผลงานของผู้เรยี น

ตามเกณฑท์ ีส่ ถานศกึ ษากาหนด

มผ หมายถงึ ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ โดยมีเวลาเข้าร่วม

กิจกรรมไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาทั้งหมด

ท่ีจัดกิจกรรมของแตล่ ะภาคเรียนและไม่ผ่าน

การปฏิบตั กิ ิจกรรมและผลงานของผู้เรียน

ตามเกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษากาหนด

๙.๕ ในกรณที ี่ผู้เรยี นไม่ผา่ นการประเมนิ ให้ดาเนนิ การซ่อมเสรมิ ปรับปรุง แกไ้ ข ในส่วน

ทีไ่ มผ่ า่ นการประเมนิ

ขอ้ ๑๐ การวัดและประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใหถ้ ือปฏิบตั ิ ดงั น้ี

๑๐.๑ แจ้งคุณลักษณะอันพึงประสงค์เก่ียวกับคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม

ของสถานศกึ ษา และเกณฑก์ ารผา่ น

๑๐.๒ ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ท้ังในและนอกห้องเรียนอย่างต่อเน่ือง

ตลอดเวลา

๑๐.๓ ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์รายภาคนาเสนอคณะกรรมการ เพื่อ

พจิ ารณาตดั สนิ ผลการประเมนิ ตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษากาหนด

๑๐.๔ คณะกรรมการ ตดั สนิ ผลการประเมินใหค้ รูประจาชัน้ ของผู้เรียนนาไปกรอกใน

เอกสารแบบแสดงผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพ่อื แจ้งให้ผู้เรยี นและผู้ปกครองทราบ โดย

ใชอ้ กั ษรแสดงผลการประเมินดงั น้ี

ดีเยย่ี ม หมายถงึ ผูเ้ รยี นมีคณุ ลกั ษณะในการปฏบิ ตั ิจนเปน็

นสิ ัยและนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั เพอ่ื

ประโยชน์สขุ ของตนเอง และสงั คม

ดี หมายถงึ ผเู้ รยี นมคี ุณลกั ษณะในการปฏบิ ัตติ าม

กฎเกณฑเ์ พอื่ ให้เปน็ ท่ยี อมรบั ของสังคม

ผา่ น หมายถงึ ผเู้ รียนรบั รู้และปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์และ

เง่อื นไขของสถานศกึ ษา

ไม่ผา่ น หมายถงึ มีพฤตกิ รรมไม่เปน็ ไปตามเกณฑ์ทกี่ าหนด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๑๐.๕ ในกรณีท่ีนกั เรยี นไมผ่ ่านการประเมนิ ให้ดาเนนิ การเข้ารับการอบรมและปฏิบตั ิ
คณุ ความดชี ดเชยตามแนวทางทสี่ ถานศกึ ษากาหนด

หมวดท่ี ๓
การตดั สนิ ผลการเรยี น

ขอ้ ๑๑ การตดั สนิ ผลการเรียน ให้ถอื ปฏิบัติ ดังน้ี
๑๑.๑ พิจารณาตัดสนิ ผลการเรยี นเปน็ รายวิชา
๑๑.๒ พิจารณาตัดสินว่า ผู้เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินเป็นรายวชิ าได้ระดบั ผลการ

เรยี น ๑ -๔ เท่านนั้
๑๑.๓ ผเู้ รียนไมผ่ ่านเกณฑ์ขั้นต่าทีก่ าหนดให้ ได้ระดับผลการเรยี น “๐”
๑๑.๔ ผ้เู รียนตอ้ งมเี วลาเรยี นตลอดปีการศกึ ษาไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลา

ทงั้ หมด
๑๑.๕ ผ้เู รยี นตอ้ งได้รบั การประเมินทกุ ตัวช้วี ดั ท้ังรายวชิ าพืน้ ฐานและเพม่ิ เติม และ

ต้องผ่าน ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๖๐ ของแต่ละรายวชิ า
๑๑.๖ ผเู้ รยี นทม่ี ีเวลาเขา้ ร่วมกิจกรรม การปฏิบตั ิกจิ กรรมและผลงานของผู้เรยี นตาม

เกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากาหนด โดยผ่านเกณฑ์การประเมนิ ใหไ้ ด้ผลการเรยี น “ผ” ถ้าไมผ่ ่านเกณฑ์การ
ประเมินใหไ้ ด้ผลการเรยี น “มผ”

๑๑.๗ ผเู้ รียนทไี่ ดร้ ับการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน ให้ไดผ้ ลการ
ประเมนิ เป็นผ่านและไมผ่ ่าน กรณีผ่านใหไ้ ด้ระดบั ผลการเรียนเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน

๑๑.๘ ผเู้ รียนที่ได้รบั การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ให้ไดผ้ ลการประเมิน
เป็นผ่านและไมผ่ ่าน กรณผี า่ นใหไ้ ด้ระดบั ผลการเรียนเปน็ ดเี ยี่ยม ดี และผา่ น

ขอ้ ๑๒ การเปล่ียนระดบั ผลการเรยี น ใหถ้ อื ปฏบิ ัติ ดงั น้ี
การเปลย่ี นผลการเรยี น “มผ”
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดใหผ้ ู้เรียนเข้าร่วม
กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ๓ กิจกรรม คอื
๑. กจิ กรรมแนะแนว
๒. กิจกรรมนกั เรียน ซ่ึงประกอบด้วย กจิ กรรมลูกเสือ (นกั เรียนชาย) เนตรนารี (นกั เรียน
หญงิ ) และเลือกเขา้ ร่วมกิจกรรมชมุ นุมอีก ๑ กจิ กรรม
๓. กจิ กรรมเพ่ือพฒั นาสังคมและสาธารณประโยชน์ (จิตสาธารณะ)
ในกรณีทีผ่ เู้ รยี นได้ผลการเรยี น “มผ” ใหส้ ถานศึกษาจัดซ่อมเสริมใหผ้ ู้เรียนทากจิ กรรมจนครบ
ตามเวลาท่กี าหนด หรือปฏิบัติกิจกรรมเพื่อพฒั นาคุณลักษณะทตี่ ้องปรบั ปรุง แก้ไข แล้วจึงเปลย่ี นผล

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

การเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ท้งั นีด้ าเนนิ การให้เสร็จส้ินภายในปีการศึกษานน้ั ยกเว้นมีเหตสุ ุดวิสัย
ใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของสถานศึกษา

ขอ้ ๑๓ การเล่ือนชั้นปี
ผูเ้ รียนทไ่ี ด้รับการตัดสนิ ผลการเรยี นทุกรายวิชาและได้รบั การเลื่อนชัน้ เมอื่ สน้ิ ปีการ

ศกึ ษา ต้องมีคุณสมบัติ ดงั น้ี
๑๓.๑ รายวิชาพืน้ ฐาน ไดร้ บั การตัดสนิ ผลการเรียนผ่านทกุ รายวิชา
๑๓.๒ รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ไดร้ ับการตัดสนิ ผลการเรียนผ่านตามเกณฑท์ ี่สถานศกึ ษา

กาหนด
๑๓.๓ ผู้เรียนตอ้ งไดร้ ับการประเมินและมีผลการประเมินผา่ นตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษา

กาหนดในการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
๑๓.๔ ระดบั ผลการเรยี นเฉลีย่ ในปีการศึกษานั้นควรไดไ้ ม่ต่ากว่า ๑.๐๐ รายวชิ าใดที่

ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน สถานศกึ ษาสามารถซ่อมเสรมิ ผู้เรียนให้ได้รบั การแก้ไขในภาคเรียนถัดไป
ข้อ ๑๔ การเรยี นซ้า
หากผู้เรยี นไมผ่ ่านรายวชิ าจานวนมากและมแี นวโน้มว่าจะเปน็ ปญั หาต่อการเรยี นใน

ระดับชนั้ ที่สูงข้ึน สถานศกึ ษาอาจตัง้ คณะกรรมการพิจารณาให้เรยี นซ้าชัน้ ได้ ท้ังน้ีใหค้ านึงถงึ ความรู้
ความสามารถของผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ ผู้เรยี นที่ไม่มีคุณสมบตั ติ ามเกณฑ์การอนมุ ตั ิเล่อื นชนั้ เรยี น
สถานศึกษาจะตอ้ งจดั ใหเ้ รียนซ้าชนั้ ในกรณที ผี่ เู้ รียนขาดคณุ สมบัติข้อใดข้อหนึ่ง สถานศกึ ษาอาจใช้
ดุลพินิจใหเ้ ลอ่ื นชัน้ ได้ หากพจิ ารณาเห็นว่า

๑๔.๑ ผู้เรยี นมีเวลาเรยี นไม่ถงึ ร้อยละ ๘๐ อนั เน่ืองจากสาเหตุจาเป็น หรอื เหตุ
สดุ วสิ ัย แต่มีคุณสมบัติตามขอ้ อน่ื ๆ ครบถ้วน

๑๔.๒ ผูเ้ รียนผา่ นมาตรฐานและตวั ชี้วัดไมถ่ ึงเกณฑต์ ามทีส่ ถานศกึ ษากาหนดในแต่ละ
รายวิชา และเห็นว่าสามารถสอนซ่อมเสริมได้ในปกี ารศึกษาถัดไป และมีคณุ สมบัตขิ อ้ อืน่ ๆ ครบถ้วน

๑.๔.๓ ผ้เู รียนช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ – ๒ เมือ่ ไดร้ บั การประเมินแลว้ ยังอ่านหนงั สอื
ไม่ออก เขยี นไมไ่ ด้ คิดเลขไมไ่ ด้

ข้อ ๑๕ การสอนซ่อมเสรมิ
ใหส้ ถานศกึ ษาจดั สอนซอ่ มเสรมิ ให้กบั ผู้เรยี น ดังน้ี
๑๕.๑ ผเู้ รยี นมีความรู้ ทกั ษะพ้นื ฐานไม่เพยี งพอท่จี ะศกึ ษาในแต่ละรายวิชานั้น ควร

จดั การสอนซ่อมเสรมิ เพอ่ื ปรบั ความรู้และทกั ษะพ้ืนฐาน
๑๕.๒ การประเมินระหว่างเรียน ผู้เรียนไม่สามารถแสวงหาความรู้ ทักษะ

กระบวนการหรือเจตคติ คุณลกั ษณะทกี่ าหนดไว้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วัด
๑๕.๓ ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ และ/หรือต่ากว่าเกณฑ์การประเมิน โดยผู้เรียนได้

ระดบั ผลการเรียน “๐” ตอ้ งจัดสอนซอ่ มเสริมกอ่ นจะใหผ้ เู้ รยี นสอบแก้ตวั

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๑๕.๔ ผู้เรยี นทีม่ ีผลการเรยี นไม่ผ่าน สามารถจัดสอนซ่อมเสริมในภาคฤดรู ้อน ท้งั นี้
ให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของสถานศึกษา

ขอ้ ๑๖ เกณฑ์การจบระดบั ประถมศึกษา
๑๖.๑ ผเู้ รยี นเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานและเพ่ิมเตมิ ตามท่สี ถานศึกษากาหนด
๑๖.๒ ผเู้ รียนมผี ลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การ

ประเมนิ ตามทส่ี ถานศกึ ษากาหนด
๑๖.๓ ผเู้ รียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงคใ์ นระดบั ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมนิ ตามท่ีสถานศึกษากาหนด
๑๖.๔ ผเู้ รยี นเขา้ รว่ มกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นและมีผลการประเมินผา่ นเกณฑ์การ

ประเมินตามทสี่ ถานศกึ ษากาหนด

หมวดท่ี ๔
การเทยี บโอนผลการเรยี น

ขอ้ ๑๗ การเทยี บโอนผลการเรยี น
๑๗.๑ สถานศกึ ษาเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนที่เรียนจากสถานศึกษาได้ในกรณี

ต่างๆ ได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การเปลี่ยนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การละท้ิง
การศึกษาและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ
หรือเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งเรียนรู้อ่ืนๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบัน
ทางศาสนา สถาบนั การฝึกอบรมอาชพี การศกึ ษาโดยครอบครัว

๑๗.๒ การเทียบโอนให้ดาเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียน
แรก ท่ีสถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นนักเรียน ท้ังนี้ผู้เรียนท่ีได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้อง
ศึกษาต่อเนื่องในสถานศึกษาท่รี บั เทียบโอนอยา่ งน้อย ๑ ภาคเรยี น โดยสถานศกึ ษาท่รี ับการเทยี บโอน
ควรกาหนดรายวิชา จานวนหน่วยกิต ท่ีจะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม ซึง่ พิจารณาการเทยี บโอน
ดังนี้

๑๗.๒.๑ พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา ซ่ึงจะให้ข้อมูลที่แสดงความรู้ความ
สามารถของผ้เู รียนในด้านต่างๆ

๑๗.๒.๒ พจิ ารณาจากความรู้ ประสบการณ์ตรงจากการปฏิบตั ิจรงิ การทดสอบ
การสมั ภาษณ์ เป็นต้น

๑๗.๒.๓ พิจารณาจากความสามารถ และการปฏบิ ัติจรงิ
๑๗.๒.๔ กรณีมีเหตุผลจาเป็นระหว่างเรียน ผู้เรยี นสามารถแจ้งความจานงขอไป
ศึกษาบางรายวิชาในสถานศึกษา สถานประกอบการอ่ืน แล้วนามาเทียบโอนได้ โดยความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รและวชิ าการของสถานศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

๑๗.๒.๕ การเทียบโอนผลการเรียนให้ดาเนินการ ในรูปของคณะกรรมการการ
เทยี บโอนจานวนไม่นอ้ ยกว่า ๓ คน แตไ่ ม่ควรเกิน ๕ คน

๑๗.๒.๖ การเทยี บโอนให้ดาเนินการ ดังนี้
๑. กรณีผู้เทียบโอนมีผลการเรียนมาจากหลักสูตรอื่น ให้นารายวิชาหรือ

หน่วยกิตที่มีตัวช้ีวัด/มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวัง/จุดประสงค์/เนื้อหาท่ีสอดคล้องกัน
ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ มาเทียบโอนผลการเรียนและพิจารณาให้ระดับผลการเรียนให้สอดคล้องกับ
หลักสูตรท่รี บั เทียบโอน

๒. กรณกี ารเทียบโอนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ใหพ้ จิ ารณาจาก
เอกสารหลกั ฐาน (ถา้ มี) โดยให้มกี ารประเมินดว้ ยเครอ่ื งมือทหี่ ลากหลายและให้ระดบั ผลให้สอดคล้อง
กบั หลกั สูตรที่รบั เทยี บโอน

๓. กรณีการเทียบโอนท่ีผู้เรียนเข้าโครงการแลกเปล่ียนต่างประเทศ ให้
ดาเนินการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง หลักการและแนวปฏิบัติการเทียบชั้นการศึกษา
สาหรบั ผเู้ รยี นท่ีเข้าร่วมโครงการแลกเปลีย่ น

ท้ังน้ี วิธีการเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการและ
แนวปฏิบตั ิที่เก่ียวขอ้ ง

หมวดที่ ๕
หนา้ ทข่ี องโรงเรยี น

ข้อ ๑๘ ให้โรงเรียนจัดใหม้ ีเอกสารการวัดและประเมนิ ผลดงั ต่อไปนี้
๑๘.๑ ระเบียบแสดงผลการเรยี น (Transcript) (ปพ.๑)
๑๘.๒ หลักฐานแสดงวุฒกิ ารศกึ ษา (ใบประกาศนียบตั ร) (ปพ.๒)
๑๘.๓ แบบรายงานผ้สู าเร็จการศกึ ษา (ปพ.๓)
๑๘.๔ แบบแสดงผลการพฒั นาคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ปพ.๔)
๑๘.๕ เอกสารแสดงบนั ทึกผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (ปพ.๕)
๑๘.๖ เอกสารรายงานผลการพฒั นาคุณภาพผู้เรียนรายบคุ คล (ปพ.๖)
๑๘.๗ ใบรับรองผลการศกึ ษา (ปพ.๗)
๑๘.๘ เอกสารระเบยี นสะสม (ปพ.๘)
๑๘.๙ เอกสารหลกั สูตรสถานศึกษา (ปพ.๙)

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๓
(นางสุพัตรา นาวกิ )

ผอู้ านวยการโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

บรรณานุกรม

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

บรรณานกุ รม

กระทรวงศกึ ษาธิการ. ๒๕๕๑. หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑.
กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.

กระทรวงศกึ ษาธิการ. ๒๕๕๑. มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และ
วฒั นธรรม (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑.

บรษิ ัทอักษรเจริญทศั น.์ เอกสารแนวทางการจดั การเรยี นการสอนตามมาตรฐานการเรยี นรู้และ
ตวั ชว้ี ดั กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู ร
แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑.

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. ๒๕๖๐. ตวั ชว้ี ัดและสาระ
การเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร :
โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย.

สานักงานวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. ๒๕๕๑. ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย. ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่ง
ประเทศไทย จากัด.

สานักงานวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. ๒๕๕๑. ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระ
การเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร.์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด.

สานกั งานวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา. ๒๕๕๑. ตัวชวี้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระ
การเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร.์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด.

สานักงานวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. ๒๕๕๑. ตัวชวี้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระ
การเรยี นรสู้ งั คม ศาสนา และวฒั นธรรม. ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย
จากดั .

สานักงานวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. ๒๕๕๑. ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระ
การเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา. ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช
๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั .

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

สานักงานวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา. ๒๕๕๑. ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระ
การเรยี นรศู้ ลิ ปะ. ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑.
กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด.

สานักงานวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา. ๒๕๕๑. ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระ
การเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลย.ี ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย
จากดั .

สานักงานวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา. ๒๕๕๑. ตัวชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระ
การเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ. ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช
๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั .

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

ภาคผนวก

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสหกรณ์กสกิ รรมชายทะเล พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓


Click to View FlipBook Version