The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อนุสรณ์งานประชุมเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่ลี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-03-07 21:46:05

อนุสรณ์งานประชุมเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่ลี

อนุสรณ์งานประชุมเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่ลี

Keywords: อนุสรณ์งานประชุมเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่ลี

ธัมโม รักขติ ธมั มจารี พู้นน่ะ เพิ่นกะมีสติเด๊ะ
ท่านพ่อลี เอ๊ เฮาคือมานอน
ทา่ นพอ่ ลเี พนิ่ เวา่ ใหฟ้ งั แตค่ ราวเพน่ิ เปน็ พระหนมุ่ สามมอ้ื สามคนื อยู่น่ี แล้วป่ิน (หนั ) หัวกะบ่ถกื
นเี่ พน่ิ บไ่ ดก้ นิ ขา้ ว บเ่ หน็ บา้ นคนเพราะหลงปา่ เมอื่ ยหลาย มอ้ื ไปฮอด คือเก่า พู้นด๊ิ สติเพิ่น อันน่ี
มนั กะคำ่� แลว้ มนั เปน็ ทางชา้ ง มนั เปน็ ทางไปจงั ซเ่ี ดะ๊ คอื ทางคนเดนิ มนั เปน็ จงั ใด๋ วาซน่ั เพนิ่ ลกุ ขน้ึ นงั่
แปน (โลง่ ) แตใ่ บไม้มันกะบ่มีล่ะทางมนั เพิ่นกะมัดเชือกใส่ตน้ ไม้ เหลยี วเบง่ิ เพน่ิ เลยเขา้ ทภี่ าวนา
ฝง่ั นน่ั ฝง่ั น่ี นอนขวางทางชา้ งไว้ นอนหลบั แหลว่ ชา้ งมนั กะมา ชา้ งใหญ่ ภาวนากะเห็นว่าช้างตัวหัวหน้า
ชา้ งหัวหนา้ หมนู่ น่ั มากอ่ น มากอ่ นหมกู่ อ่ นโขลงชา้ ง มากะชา้ งตวั นน้ั มาตรวจทาง ตรวจอนั ตรายกอ่ น
กะโจม (ยก) เพนิ่ ออกไป เอากลดไปกางไวน้ อกทาง แล้วกะกางให้ แล้วกะมาเห็นเพ่ินนอนอยู่
เพน่ิ นอน โจมเพน่ิ ไป โจมคอ่ ยๆ เพนิ่ บฮ่ เู้ มอื่ เลยแหลว่ (ไมร่ สู้ กึ ตวั เลย) มนั เลยโจมเพน่ิ ออกมา แลว้ กะ
อหิ ยงั ๆ กะเฮด็ คอื เกา่ เบด้ิ กางใหเ้ พนิ่ นอนอยหู่ น่ั มนั กะตนั ทางไว้ ตนั บ่ กางกลดให้ใหม่ วางของให้
ใหห้ มชู่ า้ งเหลยี วเหน็ เพนิ่ ชา้ งพวกหลงั กะหลงั่ กาย (เลยผา่ น) ไปเบดิ้ คือเก่า แล้วลูกน้องก็ตามมา
มันจงั ค่อยตามไปทหี ลังล่ะ มนั กะตนั ทางไว้ บใ่ หห้ มลู่ กู นอ้ ง
เบียดเบียนเพิ่น สัตว์ทุกชนิด
ตอ้ งมหี วั หนา้ ทกุ ๆ ตวั ตอ้ งเคารพ
ผูเ้ ปน็ หวั หนา้ นั่น เพิน่ เล่าใหฟ้ งั

196 ผู้ทรงไว้ซ่ึงความฉลาด

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 197

เอาจติ ออกจากกาย เจา้ ของทนั บ่ มอื้ หนงึ่ คดิ ไปเรอ่ื ง
โลกเร่ืองสงสาร หรือคิดไปทาง
กายวเิ วกเปน็ จง่ั ซนั่ ใหม้ าใสใ่ จเจา้ ของ สอนเจา้ ของเด๊ นอ้ มเขา้ มา อรรถทางธรรม สังเกตเจา้ ของ
โอปนยโิ ก นอ้ มเขา้ มาหาเจา้ ของ จง่ั สเิ กดิ ธรรมะได้ ฟงั แลว้ กะปลอ่ ย จ่ังซ่ันเด๊จั่งสิเกิดปัญญาได้
ไปจง่ั ซนั่ คอื จง่ั ฝนถกู หลงั หมากระเดน็ ออกเบดิ้ พระพทุ ธเจา้ มแี ตบ่ อก ข่ันแม่นคิดไปทางบ่ดี เฮากะ
ทางทอนั่น มีแต่เฮาเฮ็ดเอาเบิ้ด การพร่�ำการสอนมีแต่เรื่องของ กลบั มาซะ มนั ไปติดสรรเสรญิ
เฮาเบดิ้ ขั่นวาซน่ั สวิ า่ หยัง สนั ทิฏฐิโก อกาลโิ ก ปัจจัตตงั คือกัน นินทาเขาอยู่พู้น เห็นเขาเว่า
เห็นแตผ่ ูท้ ำ� ผใู้ ดเ๋ ฮด็ ให้กันบไ่ ด้ดอก คือจ่ังคนเจ็บคนปวด มแี ตถ่ าม อยู่พู้นกะไปค�ำนึงอยู่พูน้ บ่เบ่ิง
อาการทอนั่นล่ะ มาเบง่ิ บัดสสิ ้แู ม่นเฮาน้เี บด้ิ ขั่นบ่มสี ตปิ ญั ญาแล้ว ใจเจา้ ของ มนั กะเปน็ จงั่ ซนั่ แลว้
ฮอ้ งคบั บา้ นคบั เมอื งวา่ ใหม้ นั หาย มนั แฮงเพม่ิ ขนั่ มนั หายหยอ้ นครวญคราง เบง่ิ ด๊ิ มาวดั กะมาทะเลาะกนั ใน
บต่ อ้ งกนิ ยาดิ ฮอ้ งเอาครางเอาแฮงมนั สหิ ายเรว็ เปน็ จง่ั ซนั่ วัดในวา ของบ่ดีสิเอามาหยัง
ผมู้ สี ตปิ ญั ญาเพน่ิ บห่ วั ซาดอก เพนิ่ เอาจติ ออกจากกาย บใ่ หม้ กี าย มาประพฤติธรรม ศีลธรรม
บใ่ หป้ รากฏกาย ผเู้ พนิ่ รเู้ พน่ิ ฉลาดเพนิ่ มปี ญั ญา อบรมเขา้ แหม้ อบรม แทนทส่ี แิ สดงความดงี ามใหเ้ ฮา
ปญั ญา มนั สเิ หน็ ดอก มนั เกดิ อยใู่ นความฝกั ใฝ่ วนั หนง่ึ ๆ แลว้ ตามจติ น่ีมีแต่เร่ืองกิเลสตัณหามาเต็ม
วดั เต็มวา ดดั มนั อยู่จง่ั ซนั่ แลว้
บ่มีความเคารพในศาสนาจั่งซ่ี
สิให้มาหนักศาสนาหยัง วัดนี้
เป็นวัดปฏิบัติธรรมเด๊ คือกัน
กินเหล้าแล้วกะมาร้องเพลง
ออ้ มอยหู่ นั่ มนั สเิ อาเปน็ ตวั อยา่ ง
ขั่นบ่ดัด หน่อยหน่ึงกะผู้นัด
มาเฮด็ ผนู้ ม้ี าเฮด็ ...เหมอื นบแ่ มน่
ประพฤติธรรม มีแต่เรอ่ื งกิเลส
เรื่องอรรถเร่ืองธรรมบ่เกิดแล้ว
กิเลสเต็มหัวใจอยู่ ขั่นได้ช�ำระ

198 ผูท้ รงไว้ซ่ึงความฉลาด

อันน้ีล่ะ พระเพิ่นมาเว่าแปลกๆ ภาวนามนั เกิดเอง มันเป็นเอง เพนิ่ ว่า
ภาวนามยปญั ญา มนั ไหลอย่จู งั่ ซ่ัน มว้ นนั่นจบม้วนน้ีจบ ไล่อยู่ ถา้ มัน
บม่ กี าย มนั บไ่ ดย้ ดึ กายเด๊ คอื กนั กบั เฮานอนหลบั ละ่ มอ้ื นน้ี อนปานตาย
บร่ เู้ รอ่ื ง ม้อื นฝี้ นั เรอื่ งนนั้ เร่ืองนี้ นแี่ หละผทู้ ไี่ ปเกดิ ไปแก่ ไปเจบ็ ไปตาย
ธรรมพระพุทธเจ้าคือกันเบ่ิงดิ เพ่ินเว่าให้ฟัง ผู้ใด๋ตัดความกังวลบ่ได้
เทยี วเกดิ เทยี วตาย ผหู้ ญงิ คอื กนั ขนั่ ดดั จติ ใจเจา้ ของบไ่ ดบ้ อ่ อกจากสตรี
บอ่ อกจากบรุ ษุ แลว้ เทยี วเกดิ เทยี วตายอยนู่ นั่ เดย๋ี วนภี้ าวนาถงึ เรอ่ื งนน่ั แลว้
มนั จงั่ บเ่ ปน็ หยงั บเ่ กดิ หยงั ตวั ราคะนแ้ี ฮงทส่ี ดุ ไปหนั่ ละ่ เรอื่ งอดตี เคยมา
จงั ใด๋ นัง่ ภาวนากะไปหัน่ ล่ะ ขน่ั บ่มีสตปิ ญั ญาแลว้ ฮว่ ย บท่ ันมนั แล้ว
มันไปแล้ว
เรง่ ภาวนาเขา้ ไป แยกกเิ ลสกบั แยกธรรมเบง่ิ ดิ๊ ใหม้ แี ตธ่ รรม มนั กะ
สเิ หน็ ละ่ อันน้ีมนั ปนกันอยู่ห่ัน เอ้า เลิกกัน

หลวงป่ลู ี กสุ ลธโร 199

ความอัศจรรย์การปฏิบัติ ตลอดมื้อเช้า เบงิ่ ด๊ิ สเู้ บ่ิงด๊ิ ขน่ั
บส่ ซู้ ะกอ่ น บเ่ หน็ ดอกของจรงิ
พจิ ารณาสภาพรา่ งกายเจา้ ของ จติ บล่ งไดก้ ะเพราะนลี้ ะ่ มนั คา สไิ ดก้ ราบพระพทุ ธเจา้ พระธรรม
ขนั ธภ์ าวนา ขน่ั สนใจแทๆ้ ใครค่ รวญอยนู่ ำ� หมนู่ ี้ มนั กะพบโลดแลว้ พระสงฆ์ กราบครูบาอาจารย์
ตอ้ งเหน็ ความอศั จรรยข์ น้ึ นม่ี นั ปลอ่ ยไปนำ� โลก กอ้ กๆ แกก้ ๆ อยู่ อนั นแ้ี มน่ หยงั มแี ตเ่ ลน่ ผมเบงิ่ อยู่
นำ� โลก คิดน�ำดากน�ำก้นเขาพนู้ เปน็ พระยังหาทางเขา้ ดากเขา้ อยู่ ผใู้ ดบ๋ ต่ ง้ั ใจ ไป อยา่ ใหม้ นั เปอ้ื น
ขน่ั บค่ ดิ จง่ั ซน่ั มาคดิ ในอรรถในธรรม พบโลด อดตี ทล่ี ว่ งมาแลว้ เอามา ศาสนาหลาย ไปพนู้ ไปเบง่ิ โลก
เผาหวั ใจเจา้ ของแลว้ กเ็ กดิ ทกุ ข์ มนั ลำ� บากอยเู่ ด๊ หวั ใจเปน็ ไฟ ตอ้ งแก้ ขน่ั วา่ โลกดี มนั สเิ หน็ หยงั ของเลน่
ตวั นซ้ี ะกอ่ นเดจ๊ งั่ คอ่ ยเหน็ ของจรงิ ได้ เฮด็ เหลาะๆ แหละๆ คนสมยั น้ี เดนิ จงกรมเดนิ จกั เทอื บบ่ ุ๊ นง่ั สมาธิ
มีแต่เร่ืองกนิ ล่ะเปน็ ใหญ่ อยากไปเบ่ิงอันนั่นอยากไปเบิง่ อนั นี้ บม่ ี นงั่ จักเทอื บ่บุ๊ นอนปานควาย
เหตอุ หิ ยงั หาเหตผุ ลมดั เจา้ ของ ใหม้ นั จบั หลกั อยู่ หวั ใจเจา้ ของจงึ บท่ นั ขั่นจิตบ่อยู่น�ำสมาธิ กะดู
บเ่ บงิ่ เลย ขน่ั สแิ ก้ แกต้ วั นแี้ ลว้ ตายแลว้ มนั บไ่ ดแ้ กแ้ ลว้ พระพทุ ธเจา้ หนังสือละ พวกมนต์หมู่นั่น
เพน่ิ เอาจรงิ เอาจงั เอาแบบฉบบั หรอื เอาแบบพระพทุ ธเจา้ กะมี ๒ แนว สวดไดเ้ บด้ิ อยใู่ นธรรม ใหม้ นั อยู่
ผใู้ ดต๋ งั้ ใจสรา้ ง สเิ ดนิ จงกรมซอดมอ้ื เชา้ กไ็ ด้ เดอื นหงาย หรอื สนิ ง่ั สมาธิ ในธรรม เบงิ่ ดิ๊ มอื้ หนงึ่ กบั คนื หนง่ึ
อันน้ีมันแล่นน�ำโลกเขาพู้นนั่น
โลกนมี้ นั เปน็ อยจู่ ง่ั ซแ่ี ลว้ ภพใด๋
ชาตใิ ดค๋ อื เกา่ สมยั นวี้ า่ โลกเจรญิ
โอ้ย โลกฟืนโลกไฟเผากันอยู่
ในครอบครัวหนึ่งน้ีเผากันอยู่
ห่ันแล้ว แยง่ กันเป็นผู้ปกครอง
เด๊ นสิ ยั บ่ดีแฮงเข้าบ่เปน็ ตาอยู่
สงสัยอิหยังน้อ เบ่ิงพ่อเบิ่งแม่
ผดิ กนั หนอ่ ยหนงึ่ กะอยนู่ น่ั แหละ
บ่ถูกใจกะทอน่ัน อยู่น�ำกัน
บางครอบครัวกะตีโลด แย่งกนั
อยู่จั่งซ่ัน จังใด๋พิจารณาเบ่ิงดู
อนั นห้ี ยงั เฮานงั่ ภาวนาอยใู่ นมงุ้

200 ผู้ทรงไวซ้ ่ึงความฉลาด

เดนิ จงกรมกะเฮด็ ไป ยากคอื หยงั แลว้ แตส่ หิ าความสขุ เด๊ โลกมนษุ ยน์ ี้ แกใ้ นใจเจา้ ของออกเบงิ่ ดิ บอ่ นใดข๋ อ้ ง
ปลดออกๆ เกดิ อหิ ยงั กะโจโล บเ่ กดิ อหิ ยงั พระพทุ ธเจา้ เพนิ่ สอนใหเ้ กดิ สตกิ บั ปญั ญา สตมิ นั เกดิ เปน็ มหาสติ
มหาปญั ญาแลว้ เออ มนั สเิ หน็ ดอก อนั นบี้ เ่ ฮด็ บท่ ำ� เอา เลยบเ่ กดิ หยงั คดึ นำ� ผอู้ น่ื กะมี หวั ใจเจา้ ของบอ่ นทแี รก
เบ่งิ เรอ่ื งกิเลสมันเป็นจัง่ ซน่ั เด๊
ภาวนาเพ่นิ บ่ไดส้ นใจจั่งซ่นั ผ้เู พนิ่ หลุดพ้นไป เพิ่นเบง่ิ เร่อื งเจา้ ของ ขั่นแก้โลกธรรม ๘ ออกจากใจ
มนั บห่ วนั่ ไหวอหี ยงั ดอก มนั กะสำ� บาย ใจมนั กะทำ� งานเจา้ ของหลดุ ไปโลด อนั นม้ี นั แลน่ นำ� เกดิ หยงั เกดิ
นนิ ทาขน้ึ ขน่ั ตดั อนั นอี้ อกแลว้ ฮว่ ย มนั กะสำ� บาย อนั นมี้ นั บต่ ดั ติ แลน่ นำ� เขาจง่ั ซน่ั มาบวชในศาสนาหวั ใจ
ยงั อยนู่ ำ� โลกอยู่ ผา้ เหลอื งอดึ อยากหยงั อยรู่ า้ นตลาด ขนั่ ตายกะใหญ้ าตเิ อาผา้ เหลอื งมาปก บเ่ ปน็ จง่ั ซนั่ เด๊
พระปฏบิ ตั ิ ปฏิบัตใิ ห้มันเป็นศลี ใหม้ นั เป็นสมาธิ ใหม้ นั เปน็ ปัญญา เออ ขัน่ ได้อนั น้แี ล้ว ฮ่วย โลกอันนี้
มนั กะบอ่ ยแู่ ลว้ มนั สอิ อกเปน็ ธรรมเองดอก ใหเ้ รง่ เขา้ ความเพยี ร เอา้ แหม้ พทุ โธๆ ๒๔ ชว่ั โมง อยา่ ให้
เผลอ เบง่ิ ดิ มนั สริ แู้ ปลกๆ ขนึ้ มา สเิ กดิ ความอศั จรรยข์ นึ้ มาในศาสนา อนั นบี้ ร่ จู้ กั หยงั คอื กนั กบั ทพั พี
บ่รู้จักรสของแกง อันนี้คือกัน บวชในศาสนาแต่บ่รู้จักรสวิมุตติ มันกะซ�ำน่ันละ เรียนในต�ำรา
เรียนพระนิพพานกะเรยี น สงสยั ฮอดพระนิพพาน เรียนนรกสงสัยนรก เพราะหัวใจมันบเ่ หน็ เด๊ เห็นใน
หนงั สอื ซือๆ ข่นั พิจารณาเข้าไปดิ เรง่ เด๊ความเพยี ร ซัวสิไดข้ ้าวมาใส่เลา้ ทอใด๋ เฮ็ดไรเ่ ฮด็ นาตากแดด
ตากฝน มันกะไดจ้ ากของมีอยู่ เฮ็ดลง ศลี สมาธิ ปัญญา มนั กะอย่นู ำ� จิตน�ำใจของเฮา พระพทุ ธเจ้าเพน่ิ
พาเฮด็ พระพทุ ธเจา้ ศาสดา ผมวา่ มนั บน่ านนา้ การพจิ ารณารา่ งกายคอื กนั เอาแหมะ เฮด็ เขา้ ๆ จติ ตอ่ เขา้ ๆ
บใ่ ห้มนั ออกจากเลย
จงั่ หลวงปูบ่ วั หนองแซง เพนิ่ นั่งอยู่ ๓ ม้ือ ๓ คนื ขน่ั บ่เหน็ ความอศั จรรย์ บ่ออก มาเซาะ (ค้น
เขา้ ไป) เขา้ ๆ สภาพรา่ งกายมนั เปน็ เองดอก กลายเปน็ ชมุ่ นำ้� ไปเบด้ิ กระดกู กล็ งไปทจ่ี ติ นลี่ ะ่ พอวา่ จง่ั ซนั่
จติ พรบึ ลงเลย เกดิ แสงสวา่ งเกดิ อศั จรรย์ เออ ขนั่ เปน็ จงั่ ซนั่ ฮว่ ย ไดห้ ลกั โลด บม่ เี สอื่ ม มแี ตส่ กิ า้ วหนา้
อนั น้มี ันบ่เห็น นง่ั กะน่ังอยซู่ อื ๆ นอน พากันบม่ เี วียกมกี าร บ่มีสมาธเิ ด๊ เฮ็ดซอกๆ แซกๆ ไป แกค้ วาม
รำ� คาญ ถา้ ตง้ั ใจจรงิ ๆ เอาจง่ั ซน่ั ขน่ั บต่ ง้ั ใจ พากนั ไป สกิ กะได้ บอ่ ดึ โลกอนั นม้ี นั บแ่ คบ อยากไดล้ กู และเมยี
กอ็ อกไปเอาโลด จะเอามอ้ื ละ ๓ มื้อละคนสองคนเฮ็ดได้ เกดิ และตายอยู่จั่งซั่น ความหวังบ่มอี ยจู่ ัง่ ซน่ั
เบ่ิงอยู่น้ีมันสไิ ปทางโลกหลาย มันแล่นน�ำโลกดิ พนู้ น่ะ เอาแบบสงั คมเปน็ อาจารย์ มันบเ่ อาหลกั ธรรม
ของพระองคเ์ จา้ เด๊ ตำ� หนศิ าสนา ผมเบง่ิ อยนู่ ้ี จติ ใจบเ่ ปน็ ไปแลว้ บอ่ ดึ บอ่ นอยู่ เขา้ ไปอยนู่ ำ� โลกเขาดกี วา่
อยา่ ใหม้ นั เสอ่ื มศาสนาเป้อื นหมู่เปื้อนพวก เอา้ เลกิ กัน

หลวงปลู่ ี กุสลธโร 201

นักภาวนาทแ่ี ท้จริง ตัวเดินไปทางหนึ่ง คิดไปแล้ว
มีแตป่ รงุ แตแ่ ตง่ ปรุงเข้าๆ กะ
เป็นจงั ใด๋ ภาวนา มีแตน่ อนบ่ได้เด๊ แกเ่ ข้าๆ ความตายมันสิ ฮอ้ นแลว้ เผาเจา้ ของ หนอ่ ยหนง่ึ
มาถงึ มอ้ื ใด๋ บบี คนั้ อยู่ซมู ้อื อดทนเอา เฮด็ จงั ใดเ๋ จา้ ของ โรคเฒา่ กะโกรธให้เจ้าของเคียดให้
ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ประจักษ์หลักฐานพอแฮงแลว้ เด๊ เจ้าของ ธรรมของพระองค์เจา้
เฮด็ จงั ใดไ๋ ด้ พระพทุ ธเจา้ เพน่ิ วา่ เกดิ แก่ เจบ็ ตาย มที อนนั่ เอาไป เพิ่นบ่ให้เบียดเบียนตน บ่ให้
พจิ ารณาใครค่ รวญนะ ความจรงิ ซะแทแ้ ลว้ วปิ สั สนา รจู้ รงิ เหน็ จรงิ เบียดเบียนผู้อื่น มันบ่ตรงทาง
มนั เหน็ เจา้ ของเองดอก บไ่ ดฟ้ งั มานำ� ตำ� ราหยงั กะบไ่ ดฟ้ งั มา มนั รู้ ของพระพทุ ธเจา้ บต่ รงแลว้ กะบ่
ขึ้นเอง เพิ่นตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เพิ่นปฏิบัติบ่มีครูบ่มีอาจารย์ เหน็ แล้ว
พจิ ารณา จติ มนั บส่ งบ กะเอาพทุ โธเขา้ กำ� กบั จติ ใจเจา้ ของ อยา่ เอาทาง เฮ็ดจังใด๋มันสิสงบเฮ็ด
โลกทางสงสารมาคิดมาคำ� นงึ ใหม้ ันอยู่นำ� พุทโธ พุทธคุณ ธรรมคณุ ลงไปแล้ว ความสงบมันเป็น
เอามาทอ่ ง เรื่องคิดเล่นๆ หวั ๆ ละโอ้ย มนั บเ่ ห็นหยังแลว้ มนั บ่ต่าง ความสุข ข่ันบ่เห็นความสงบ
กับโลกเขาเด๊ นั่งเข้าไปล่ะ เอาลกู เอาเมยี เอานน่ั เอาน่ไี ป มนั กะไกล ซะกอ่ นละ่ มนั บเ่ หน็ ธรรมดอก
คำ� สอนของพระพทุ ธเจา้ คอื หยงั แลว้ มนั สเิ หน็ อหิ ยงั เพน่ิ เดนิ จงั่ หนง่ึ เขา้ สงบ บรกิ รรมพทุ โธๆ ใหม้ นั
ถเ่ี ขา้ เรอ่ื งอารมณท์ างอนื่ บม่ ดี อก
คื อ มั น ส ง บ แ ล ้ ว มั น บ ่ คิ ด ไ ป
ทางอื่น มีแต่เกิดทางธรรม
มั น สิ เ กิ ด แ ส ง ส ว ่ า ง ขึ้ น เ ด ๊
จับหลักได้ พ่อแม่ครูจารย์
เพนิ่ เว่าให้ฟัง ออกบวชแลว้ ไป
ดูพุทธประวัติว่าได้ตรัสรู้เบิ้ด
วา่ ไดต้ รสั รู้ เกดิ อยากภาวนาว่า
ภาวนาอันใด๋ เพน่ิ บอกวา่ พทุ โธ
เพ่ินว่าบริกรรมพุทโธๆ เข้า

202 ผู้ทรงไวซ้ ึง่ ความฉลาด

จติ สงบเกดิ แสงสวา่ งขน้ึ คลา้ ยกนั กบั วา่ คอื แหมนั ตาก ดงึ จอมแหหดเขา้ ๆ มนั จบั
หลกั ได้ มนั เกดิ อนั นเี้ ฮามนั บไ่ ดห้ ลกั อหิ ยงั เด๊ รวนเรอยคู่ อื จงั่ ไมป้ กั ฮวั้ นี่ ลมมา
ทางใดก๋ เ็ อยี งไปทวั่ ทปี พดั มาทางขวา กะไปทางขวา พดั มาทางซา้ ย กะไปทางซา้ ย
บ่เท่ยี ง เฮด็ บ่จรงิ แลว้ ตูศ่ าสนาบ่จริงเด๊ เฮ็ดหยงั เฮด็ จริง สจั จะมดั เจ้าของเขา้
เจ้าของเด๊ฝึกเจ้าของ ผู้อื่นฝึกแล้วเครียด ผู้อ่ืนว่าให้เครียด เจ้าของหลอก
เจ้าของเอง เป็นจังใดม๋ ันสิได้ ฝึกใหม้ ันดีมนั จ่งั คอ่ ยสเิ กิดผล คอื จ่ังเขาเรยี นมา
มาฝกึ งานซะกอ่ น เรยี นมาแลว้ มาฝกึ งานนน้ั งานนี้ ทางโลกคอื กนั บว่ า่ ทางธรรมเด๊
หมเู่ ฮานม้ี นั โลเล ขน่ั เขา้ หากนั น้ี โอย้ พอปานนกอเี อย้ี ง เอาแตท่ างโลกเดม๊ า
คยุ กนั เรอื่ งทางอรรถทางธรรมบม่ ดี อก แบบนมี้ นั สเิ หน็ หยงั หนอ่ ยหนงึ่ กะเอา
ฟนื มาใหเ้ บงิ่ เบง่ิ แลว้ มนั เปน็ จง่ั ซนั่ เด๊ โลก เรอื่ งกเิ ลสมนั เปน็ จง่ั ซนั่ ขนั่ เรอื่ งธรรม
มนั บเ่ ปน็ ทำ� งานในใจ ขนั่ ภาวนาเปน็ แลว้ ฮว่ ย มนั บอ่ ยากหวั ซากบั ผใู้ ดแ๋ ลว้ ของมนั
ทำ� งานทางใจเด๊ มนั ค้นคดิ พิจารณาอยหู่ ่ัน แล่นเขา้ ป่าหลบหลีก หลวงปู่มัน่ เรา
กะทำ� งานอยู่ เกบ็ ของไปผเู้ ดยี ว หมไู่ ปตาม เทศนใ์ หฟ้ งั กะใหไ้ ปอยบู่ อ่ นหนั่ บอ่ นนี้
เพนิ่ บใ่ หอ้ ยนู่ ำ� เพน่ิ ถงึ ปานนน้ั แลว้ เพราะเพน่ิ ทำ� งานอยู่ เบง่ิ คนภาวนาดี เอาแต่
เจา้ ของ บต่ ดิ กบั ผอู้ น่ื ปานใดด๋ อก คนภาวนาบเ่ ปน็ เอาแลว้ มแี ตส่ นกุ สนานไปแลว้
หยอกหน่อยนึงกะทะเลาะกัน คนหยอกกันทะเลาะกันคือหมา บ่ต่างกันแล้ว
กบั สัตว์ บเ่ รียกว่าพระวา่ เจ้าอหิ ยงั เด๊ เอา้ เลกิ กัน

หลวงป่ลู ี กุสลธโร 203

ครูบาอาจารย์พาดำ� เนิน เข้าบ้านเข้าเมืองหาได้ ได้เงิน
พอซ้ืออาหารแลว้ กะแก้ผา้ ออก
ä»ÀÒÇนÒ áÅèนพéÙนáÅèนพéÕ คÃÙºÒÍÒ¨ÒÃÂìàพèÔนว่าºèÍนä´ëÁั น ท�ำร้ายศาสนา บวชเข้ามามีแต่
สงบแล้ว เพน่ิ ให้อย่หู ั่น บ่ไดเ้ ที่ยวคอื สมยั ซมู อื้ มีแตย่ ่างเดแ๊ ตเ่ ก่า ท�ำลายศาสนา น่ีแหละสร้าง
บไ่ ด้มีรถมรี าคือสมยั น้ี ใจไปตามเรือ่ งกิเลสตณั หา ข่นั บ่อยู่นำ� เร่อื ง เปรต สร้างผี ราคะตัณหา
พจิ ารณา บม่ หี ลกั ใจแลว้ ฮว่ ย กะแลน่ ไปนำ� โลก มที อนนั่ ละ่ ของมนั มนั หลาย จบั เหตเุ บง่ิ ดิ คนสมยั นี้
ช�ำนาญเด๊ ภาวนาบ่ทันชำ� นาญมันก็เปน็ จง่ั ซน่ั แลว้ ช่ัวมนั สิละเอยี ด มีแต่เรื่องกิเลสตัณหา โลกสิ
มนั กะหลายเติบเด๊ การพจิ ารณาคือกนั สิบรกิ รรมพทุ โธ เอาแหม้ ฉิบหายเป็นจั่งซั่น แม่หญิงกับ
๒๔ ชว่ั โมง บใ่ หเ้ ผลอเบงิ่ ดิ๊ ขน่ั บเ่ กดิ ความอศั จรรยข์ นึ้ แมน่ แทม้ นั ไป ผู้ชายแต่งตัวเสมอกัน โลก
ทางโลกพนู้ หมด คดิ ก๊อกๆ แก๊กๆ แลว้ ว่าตัวเราภาวนามันสไิ ด้เรอื่ ง ฉิบหาย ลองพิจารณาเบ่ิงดิ
อหิ ยงั แตท่ างโลกเขาบภ่ าวนา เขากะคดิ ได้ จง่ั ซนั่ บอ่ ศั จรรยห์ ยงั ดอก กบั สูมอื้ กบั ปจั จุบันนี้ เฮด็ จังใด๋
หนอ่ ยหนง่ึ กะตศู่ าสนาบจ่ รงิ ไปแลว้ ทงิ้ บาตรแลว้ กะไปแลว้ หนอ่ ยกะ มันสิบฉ่ บิ หาย
ไปเหน็ ตวั ทกุ ขก์ ลบั มาอกี อยหู่ น่ั สมยั นเ้ี ปน็ ไปทวั่ ทปี เด๊ เฮาบเ่ คยเวา่ เดี๋ยวน้ีเฮ็ดการเฮ็ดงาน
บวชใชผ้ า้ เหลอื งไปหาขอทาน หวั บโ่ กน เอาหมวกสมุ หวั แลว้ กะไปละ่ ข้าวก็ขึ้นราคาเพราะบ่มีคนเฮ็ด
นาหลายเด๊ บค่ อื แตพ่ อ่ แตแ่ มเ่ ด๊
โอย๊ ปผี มสอิ อกบวชนน้ั ขา้ วเปลอื ก
๓ บาท ซูมือ้ เบงิ่ แหน่เปน็ หยัง
ควาย วัว เบ่งิ ดิ ตวั ๕๐ บาท
๔๐ บาท กะมี เด๋ยี วนีม้ ันข้นึ
ปานใด๋ คนมากทอใด๋ กะศาสนา
มันกะจ่องไป ธรรมมันกะบ่มี
มีแต่กิเลสตัณหานักบวชคือ
กนั ละ่ เหน็ กนั ยงิ แขว่ ใสก่ นั กะมี
เปน็ จง่ั ซนั่ เด๊ อยา่ ใหม้ ตี ามสำ� นกั

204 ผู้ทรงไว้ซ่งึ ความฉลาด

ครบู าอาจารยเ์ พนิ่ พาดำ� เนนิ บเ่ คยมี ใหร้ จู้ กั นสิ ยั ใจคอกนั หดั อยผู่ เู้ ดยี วมนั กะสำ� บาย พวกนกั ภาวนา ถำ�้ สารกิ า
บณิ ฑบาตบา้ นหนั่ เขาเอน๊ิ บา้ นนาเหลา่ โนนสะอาด ถำ้� มภี มู ิ ขนั่ บอ่ นใดม๋ ภี มู ฮิ จู้ กั ดอก เขา้ ไปมนั ตอ้ งมตี ิ
มเี กรงๆ กลัวๆ ทอน่ัน บอ่ นไปภาวนา จิตมนั บ่ฟุ้งซา่ นคิดน่ันคิดนีด่ อก มันเกรงๆ เปน็ กลวั ๆ ค�่ำมา
ทอใด๋ แฮงกลวั หลาย ขนั่ มตี เิ พราะวา่ จติ นนั้ มนั ถงึ กนั บอ่ นไดข้ คี้ รา้ นมกั งา่ ยละ่ อยุ้ อยา่ ไปอยู่ อยกู่ ะ
บไ่ ดห้ ลกั จงั่ พอ่ แมค่ รบู าอาจารยใ์ หญม่ น่ั บอ่ นใดช๋ า้ งหลายเสอื หลาย มแี ตใ่ หห้ มใู่ หไ้ ป แมน่ หลวงปตู่ อ้ื
เพนิ่ วา่ เพน่ิ สง่ ใหไ้ ปปา่ เสอื โอย้ เสอื มาหา อาจารยเ์ สอื มาหา บไ่ ดน้ อนหมดคนื นงั่ ภาวนาเทเ่ ลซ่ อดสเุ ชา้
เพน่ิ วา่ ครบู าอาจารยเ์ พนิ่ ไดก้ ำ� ลงั จติ มาไดเ้ ปน็ ครเู ปน็ อาจารยเ์ ฮาบแ่ มน่ กนิ แลว้ นอน กนิ แลว้ นอนคอื สมยั นี้
อยา่ งหลวงปพู่ รหม ๓ เดอื นไตรมาส บม่ นี อนเลยตลอด บเ่ อนหลงั เลย เฮด็ ปานนน้ั ดจิ งั่ สเิ หน็ ธรรม จงั่ สิ
เหน็ ความอศั จรรย์ สมิ ากนิ แลว้ นอนกอนละนนิ เอย้ ซำ� นน่ั แลว้ หลวงปมู่ นั่ จนสลบไสลจน ๓ เทอื ผเู้ ปน็ ครู
เป็นอาจารย์ของเฮา สูม้อื นด้ี อกเอาแตน่ อน เฮด็ จงั ใด๋มนั สิเหน็ คดิ ไปคิดมา บไ่ ด้เฮ็ดเล่น มาฝกึ หดั
เบงิ่ ซแู นวละ่ อนั ใดฝ๋ กึ เจา้ ของเอง ขนั่ บฝ่ กึ แลว้ มนั บพ่ อใจ มนั เคยี ด มนั โกรธ เฮด็ จงั ใดม๋ นั สิ ฮว่ ย ใจมนั
สหิ วั ทกุ ขไ์ ปโลดแลว้ เอามงึ เอา ฮา้ ยเจา้ ของฮา้ ยจง่ั ซนั่ ฝกึ เจา้ ของจงั่ ซนั่ ขอ่ ยอยผู่ เู้ ดยี วเอามนั อยจู่ ง่ั ซน่ั แลว้
อันน้หี ยัง มีแต่กินกบั นอน เฮ็ดจงั ใดม๋ ันสไิ ด้ หน่อยกิเลสขนึ้ จองหัวใจกะไปทางนน้ั แลว้ บเ่ ฮ็ดหยงั แลว้
มอ้ื ใดก๋ ะคอื เกา่ ขนั่ เขา้ หากนั กะเปน็ นกอเี อยี้ งแลว้ ออ๊ กแอก๊ ๆ หยอกกนั มนั เปน็ โลกไปหมด บเ่ ปน็ ธรรม
ฉนั จงั หนั แลว้ ปบุ๊ ปบ๊ั ผใู้ ดต๋ งั้ ใจไปอยไู่ ผอยมู่ นั พอ่ แมค่ รจู ารยเ์ พน่ิ พาเฮด็ จงั่ ซน่ั เด๊ โอย้ บไ่ ดอ้ ยใู่ กลเ้ ด๊ บไ่ ด้
ไปคยุ กัน อยไู่ ผอยู่มันไป ไปไผไปมนั อยจู่ ั่งซนั่
ตะกเ้ี พนิ่ ปอี ยหู่ ว้ ยทราย เพน่ิ บไ่ ดร้ บั หลายเด๊ บางปกี ะ ๘ องค์ ๕ องค์ บางปกี ะ ๑๐ องค์ บเ่ ลย ๑๐ จกั เทอื
ซูมือ้ มันหลายเด๊ ทสี่ ิไปวเิ วกกะบม่ ีแล้ว ไปตามส�ำนักบค่ ืออยา่ งแต่เก่า แตก่ อ่ นนอนขด้ี นิ ขห้ี ญ้า ลังเทือ
กะเปยี กๆ ศรทั ธามนั บค่ อื สมยั นด้ี ิ ไปบณิ ฑบาตไดแ้ ตข่ า้ วเปลา่ มา เขาบม่ าดอก เขาบส่ นใจเรอ่ื งกรรมฐาน
พระกรรมฐานดอก มันผิดกัน นั่งภาวนาปานหัวตอ กินอาหารหลายๆ ก็จะง่วงแล้ว เวทนากะทับ
มนั ผดิ กนั ขน่ั เฮาสงั เกต ขนั่ บรกิ รรมพทุ โธ กะเอาพทุ โธใหม้ นั อยู่ พจิ ารณากะตงั้ แตเ่ กสา โลมา จนถงึ พนื้ เทา้
คน้ คดิ พจิ ารณาอยหู่ นั่ บอ่ อกจากหน่ั นล่ี ะ่ ธรรมเกดิ เกดิ ทใ่ี จ เฮด็ จงั ใดม๋ นั สเิ ปน็ ไปได้ เฮด็ จรงิ สอนเจา้ ของ
ฝกึ เจา้ ของเด๊ ขนั่ สเิ หน็ อรรถเหน็ ธรรมจรงิ ๆ แลว้ ฝกึ เจา้ ของเด๊ พระพทุ ธเจา้ มแี ตบ่ อกทางทอนนั้ รกู้ จ็ ะรขู้ น้ึ
เจา้ ของเอง เฮาตอ้ งคน้ คดิ พจิ ารณาไป มนั มแี ตเ่ ฮาเฮด็ เอาเองเบด้ิ เด๊ เรอื่ งการภาวนา บค่ อื จง่ั ภาคปรยิ ตั เิ ด๊ นนั่
มนั ทอ่ งเอา ทอ่ งไปอยา่ งนกขนุ ทองกะได้ ทอ่ งคอื จงั่ ปาฏโิ มกขก์ ะเวา่ ได้ แตจ่ ติ ใจของเฮามนั ผดิ กนั เด๊ เอา้
เลกิ กันเถอะ

หลวงปลู่ ี กุสลธโร 205

ท�ำใหม้ ากเจริญให้มาก ตดั ออกเบ้ิด นกั บวชเด๊ะ เป็น
จงั ซนั่ ใหพ้ จิ ารณาอยหู่ นั่ เจรญิ
การภาวนาใหม้ หี ลกั มฐี านหนา บใ่ หป้ ะคำ� บรกิ รรม สเิ อาพทุ โธ หรอื ใหม้ าก ทำ� ให้มาก มนั จงั ค่อย
สเิ อาอฐั ๆิ กะได้ เอาใหม้ นั อยนู่ ำ� อนั เดยี วกนั เลย ใหส้ งั เกตจรติ นสิ ยั สเิ กดิ จติ สงบแลว้ มนั เกดิ เองดอก
เจา้ ของ นสิ ยั ชอบจงั ใดเ๋ ฮด็ จงั ใดจ๋ ติ มนั จะสงบ จติ สงบนนั่ คอื บม่ อี ารมณ์ ธรรมของพระองค์เจา้ เอาแหม้
แทรก ขน่ั บอ่ ยจู่ งั ซน่ั แลว้ ฮว่ ย นวิ รณ์ ๕ เอาไปกนิ เบด้ิ แหลว่ สงสยั ลงั เล ๒๔ ชัว่ โมง น่อี ยา่ เผลอ มนั สริ ู้
กงั ขาอยหู่ นั่ จงั หลวงปมู่ น่ั เพน่ิ บใ่ หป้ ะแหลว่ บม่ หี ลกั ฐาน ใหเ้ อาพทุ โธ แปลกๆ ขน้ึ ละ่ มนั สเิ กดิ ขน้ึ เอง
เข้ากนั กับจิตใจเจา้ ของ จิตสงบแลว้ มนั กะเกิดเองดอก คือกันกับ บางทมี นั เกดิ นมิ ติ ขน้ึ เอง มนั เกดิ
ชาวนาเขาบ่ได้ปรารถนารวงข้าวดอก เขารักษาแต่ล�ำต้นทอนั้น ขน้ึ ๆ อยจู่ งั ซน่ั บางทเี หน็ เจา้ ของ
หมากฮวงมันเกดิ เอง ตายนอนไคอางลาง (ขน้ึ อดื ) อยู่
ธรรมของพระองคเ์ จา้ คอื กนั ขน่ั พจิ ารณา พจิ ารณากะใหเ้ อาเกสา กะมี มันสิเปน็ ไปดอก อนั น่นั
กรรมฐาน ๕ อปุ ชั ฌายส์ อนแลว้ ใหพ้ จิ ารณาเขา้ จติ มนั สงบแลว้ เดะ๊ อาการของคน
พจิ ารณาสภาพรา่ งกาย เกสา โลมา จนฮอดพนื้ เทา้ แตพ่ น้ื เทา้ ขน้ึ มา ให้พากันท�ำความพาก
ฮอดเกสา เรอ่ื งอารมณแ์ นวอน่ื อยา่ ไปคำ� นงึ เลย เรอื่ งโลกเรอ่ื งสงสาร ความเพยี รหน่ั อยา่ อยซู่ อื ๆ เดะ๊
ได้ยินแต่ครูบาอาจารย์เพ่ินเว่า
ใจตวั บท่ นั เหน็ ละ่ เรยี นกะเรยี น
มาเถอะ สแิ กก้ เิ ลสตัณหาขาด
จากใจได้บ่มีดอก มีแต่เพิ่มล่ะ
ทำ� ใหม้ ากเจรญิ ใหม้ าก หลวงปมู่ น่ั
เพิ่นสอนจังซั่น เพิ่นบ่ได้เฮ็ด
เลน่ เดะ๊ พระพทุ ธเจา้ กวา่ เพนิ่ สิ
ไดต้ รสั รู้ หนั่ สลบไสลไปพนู้ วา่
สลบไสลไป ๓ คร้ังพู้นน่ะ
เฮ็ดเล่นบ่ได้ธรรมพระองค์เจ้า

206 ผทู้ รงไวซ้ ง่ึ ความฉลาด

พระพุทธเจ้าเพ่ินเฮ็ดมาเพิ่นจังได้ตรัสรู้ เพ่ินประกาศนั่งอยู่ใต้ต้นโพธ์ิห่ัน
อยา่ ไปเบง่ิ ทางอน่ื ยามเพน่ิ สไิ ดต้ รสั รนู้ ะ่ ยามที่ ๑ เพน่ิ กะรปู้ พุ เพฯ ขน้ึ เกดิ เปน็
สัตว์เดรัจฉานหรือเกิดเป็นมนุษย์ เปน็ พระราชาอิหยงั เพ่นิ ประมวลมาเบ้ิด
รเู้ บดิ้ ยามท่ี ๒ นก่ี ะเรอ่ื งทำ� กรรม ทำ� กรรมชว่ั ไปเกดิ จงั ซนั่ ฮอดอเวจี ทำ� ความดี
ไปฮอดพรหมโลกไปสวรรค์ ฉายภาพมาเองเบดิ้ ยามที่ ๓ นเี่ พนิ่ กะไดต้ รสั รู้
เพน่ิ กะประกาศนแี่ หละ เพน่ิ นงั่ อยตู่ น้ โพธ์ิ เพนิ่ มาประกาศศาสนาเพน่ิ กะรวู้ า่
ความเป็น ร้มู าละ่ นรกในตำ� ราบ่อดึ
ใหพ้ ากนั เรง่ ความพากความเพยี ร เอาละ่ ซำ� นลี้ ะ่ พากนั เรง่ เบง่ิ ดธ๊ิ รรม
พระองคเ์ จา้ มแี ตค่ รบู าอาจารยเ์ พนิ่ เทศน์ ตวั บเ่ ฮด็ บท่ ำ� บเ่ กดิ เดะ๊ คอื กนั กบั
เฮากนิ ขา้ วละ่ นง่ั อยวู่ งภาชนะเดยี วกนั บก่ นิ กะบฮ่ จู้ กั ฮอดรส ฮอดความอมิ่
พระพุทธเจ้ามแี ตบ่ อกทางทอนนั้ เรือ่ งการกระทำ� เป็นของเฮา เฮ็ดเอา
ความแก่ ความเจบ็ ความตาย นส่ี มิ าหายใจชว่ ยกนั บไ่ ดด้ อก มแี ตม่ าถาม
อาการทอนั้นละ่ อยูใ่ นโลกนม้ี นั ทกุ ขค์ อื หยงั เน่ีย สังขารน่ีกะกองทุกข์ โอย๊
บบี คนั้ อยจู่ งั ซน่ั ละ่ สงั เกตพจิ ารณาเขา้ ไป โอย๊ มนั หนา่ ยคอื หยงั เปน็ ตาหนา่ ย
แหล่ว มีแต่กองมูตรกองคูถอยู่ในตัวเฮา บ่อนใด๋มันมีบ่อนสวยบ่อนงาม
บม่ ดี อก หนงั หอ่ กระดกู สาระแกน่ สารมที อนนั้ นอกนน้ั มแี ตอ่ สภุ ะเบดิ้ ของปฏกิ ลู
โสโครกทงั้ นนั้ ตวั กเิ ลสนนั่ มนั ปดิ บงั มรรคผลนพิ พาน แยกกเิ ลสออกจากธรรม
เบงิ่ ด๊ิ มแี ตธ่ รรมลว้ นๆ หน่ั สอิ ศั จรรยด์ อก ทแี รกเพนิ่ กะเรม่ิ ฝกึ นล่ี ะ่ ฝกึ ความสงบ
มันตอ้ งเห็นโลด

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 207

ห่วงใยพระลูกพระหลาน ขอดเขา้ ๆ หนอ่ ยหนง่ึ กรรมฐานสิ
บม่ เี ลย วงปฏบิ ตั สิ บิ ม่ แี ลว้ ปรยิ ตั ิ
ใหพ้ ากนั ตงั้ อกตง้ั ใจทำ� ความพากเพยี ร สมยั ทกุ วนั นมี้ นั หมดไปๆ กลนื ไปหมด โอย๊ แตค่ ราวหลวงปู่
ฝา่ ยกรรมฐานหดเขา้ ๆ แลว้ โอย๊ มแี ตเ่ งนิ มแี ตห่ าเงนิ นา่ สลดสงั เวช มน่ั เจา้ คณุ อบุ าลฯี กรรมฐานหลาย
ปฏปิ ทาครบู าอาจารยส์ อนไว้ บม่ เี หลอื มนุ่ (แหลก) ไปๆ ฝา่ ยกรรมฐาน แทๆ้ เจา้ คณุ อบุ าลฯี เพนิ่ สง่ เสรมิ
บ่คือเกา่ มันบค่ อื สมัยหลวงปู่มั่นหลวงปูเ่ สาร์พาดำ� เนนิ มา มันอ่อน ทางนเ้ี ดะ๊ เจา้ คณุ ธรรมเจดยี น์ นั่
ไปหมด ซอมเบงิ่ (สังเกตด)ู หมู่น้ีส่งเสริมฝ่ายปฏิบัติมาก
แตเ่ กา่ ก่อนอย่บู ้านตาด บม่ ีแล้วเร่ืองไปทำ� วัตรทนี่ ่นั ทำ� วตั รที่น่ี เด๋ียวนบ้ี ่มแี ล้ว หดเข้าๆ แล้ว
โดยนสิ ยั กบ็ ม่ ี แลว้ พอ่ แมค่ รจู ารยเ์ พน่ิ บไ่ ดส้ ง่ เสรมิ ทางนี้ สง่ เสรมิ แต่ พระพทุ ธเจา้ มแี ตบ่ อกทาง
ใหเ้ ดนิ จงกรม นงั่ ภาวนา ทกุ วนั นมี้ นั เปน็ พธิ ไี ปหมดแลว้ ศาสนากลาย เท่าน้ันแล้ว สิเดินหรือบเ่ ดนิ
เปน็ พธิ เี บด้ิ ตอ่ ไปนส้ี บิ ม่ เี ดะ๊ มนั สเิ ปน็ โลกไปหมด ครบู าอาจารยก์ ะ เป็นเรื่องของเฮา เพ่ินเพียง
หมดไปๆ ทุกวันน้ีทางจงกรมกะบ่มีฮอย ยังอวดตนว่าเป็นพระ ชี้ช่องทางให้ ผู้ใดสิท�ำแทน
กรรมฐาน ไปอวดโลกเขาจังซั่น ลูกศิษย์ผู้นั่น ลูกศิษย์ผู้น่ี ให้กนั ได้ ความเจ็บ ความปว่ ย
ออกจากเพน่ิ ไปโฆษณาหาอยหู่ ากนิ เรอ่ื งกเิ ลสตณั หามนั เปน็ ไปจงั ซน่ั ความไขห้ มนู่ น่ั มแี ตเ่ ฮาเสวยเอง
หมดแหละ อาหารการอยู่
การกินหมู่นั่น หากเฮาบ่กิน
มันกบ็ ่อม่ิ บ่รจู้ กั รสชาตอิ ิหยัง
ผใู้ ดส๋ กิ นิ แทนใหก้ นั ได้ มแี ตเ่ ฮา
เสวยเอา ทำ� เอา เฮด็ เอา เบดิ้ ละ่
เฮ็ดชั่วกท็ ำ� เอา สิเป็นลกู ศษิ ย์
พระเทวทัตก็ท�ำเอา สิเป็น
ลกู ศษิ ยพ์ ระพทุ ธเจา้ กท็ ำ� เอาเดะ๊
ความจรงิ มีเทา่ น้นั ล่ะ

208 ผูท้ รงไว้ซึง่ ความฉลาด

แก้เข้าดิ บเ่ ห็นต๊ิหลวงปใู่ หญม่ ั่นเพนิ่ ว่า
แกบ้ ต่ กใสพ่ กเจา้ ไว้

แก้บ่ได้แขวนคอยามยาง

ภาษิตหลวงปู่ใหญ่มนั่ เพิ่น
มนั ภาวนาบเ่ ป็นกะเพราะอารมณ์เจ้าของนีล่ ะ่

มันออกไปนอกไปน�ำโลกนำ� สงสาร
มันบ่คิดในธรรมดิ๊

โอย้ ข่ันคดิ ในธรรม มนั บพ่ อคนื ดอก เหน็ โลด

ขนั่ เอาธรรมะพระพทุ ธเจ้าเข้าใสใ่ นใจ
มนั ช่มุ มแี ตช่ ่มุ ช่ืนไปเบิด้

สอนเจ้าของเข้าดิ๊

ผ้อู นื่ สอนมันเคยี ดมนั บ่พอใจ

โอ้ย บุญหลายทเี่ ฮาได้เกิดมาพบธรรมพระพทุ ธเจ้า

ในชาตินี้ เฮด็ ใหม้ ันหลดุ มันพ้นโลด

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร 209

210 ผู้ทรงไว้ซ่งึ ความฉลาด



ปลงสังขาร

สังขารกะรา่ งกายของอาตมาแหลว่ อาตมาปลงแลว้

เอาแตม่ ันสเิ ปน็ ไปตามสภาพของมนั ทอดธุระแล้ว

นนั่ ละ่ เรียกว่า “ปลงสังขาร” เว่าให้มนั บ่ฟงั แลว้

ปลงจงั ซั่น ร่างกายอาตมาน่ี ให้มันเป็นไปตามสภาพรา่ งกายสงั ขาร

บ่กีดบข่ วาง ไดท้ อใด๋อย่ามนั บ่ได้บงั คบั อหี ยัง

ใหม้ ันเป็นไปตามสภาพของมนั นล่ี ะ่ ว่า “ปลงสังขาร”

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร 211

ปลงสังขาร

ลูกศษิ ย์ งานภายใน คือการก�ำจัดอาสวะกิเลสน้อยใหญ่
พอ่ แมค่ รจู ารยม์ อี ยู่ ทงั้ หลายใหห้ มดไปจากใจ หลวงปลู่ ไี ดท้ ำ� สำ� เร็จ
ตง้ั แตพ่ รรษาท่ี ๑๑ งานภายนอกอนั เปน็ กจิ ธรุ ะของพอ่ แมค่ รจู ารย์
ข่นั อาตมาตาย และวงศ์หมูค่ ณะ ทา่ นก็ไดช้ ว่ ยเหลอื เต็มกำ� ลังแล้ว
กะสิมีหมู่มาเฮด็ อยู่ เมอ่ื ภาระการงานทพี่ อ่ แมค่ รจู ารยห์ ลวงตาไดก้ ระซบิ สง่ั กบั
เจดยี ์นะ่ ทา่ นไวเ้ ปน็ การเฉพาะเสร็จสน้ิ ลงทุกอยา่ งแล้ว สังขารร่างกายท่ี
เคยประคบั ประคองไวแ้ ตก่ อ่ นนัน้ บัดน้เี ร่ิมแสดงความออ่ นลา้
หลวงป่ลู ี กุสลธโร ให้บรรดาศษิ ยไ์ ด้เหน็ ชดั แลว้ ภารา หเว ปญั จักขนั ธา ภาระ
คือการประคับประคองดูแลเอาใจใส่ในขันธ์ ๕ นี้ ส�ำหรับ
พระอริยเจา้ แลว้ ช่างเปน็ สง่ิ ท่นี า่ เบ่ือหน่ายเสียเหลอื เกิน
บดั นี้ด้วยวยั ๙๑ ปี หลวงปูล่ ีจงึ ได้ปรารภให้บรรดาศษิ ย์
ได้รบั ทราบในวันจนั ทรท์ ี่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ความว่า
โยม: หลวงปคู่ รบั เมอื่ สกั ครหู่ ลวงปพู่ ดู วา่ “ปลงสงั ขาร”
หมายถึงอย่างไรขอรับ ที่บอกว่าหลวงปู่ปลงสังขารแล้วนี้
หมายถึงอยา่ งไรขอรับ
หลวงป:ู่ สงั ขารกะรา่ งกายของอาตมาแหลว่ อาตมาปลงแลว้
เอาแตม่ นั สเิ ปน็ ไปตามสภาพของมนั ทอดธรุ ะแลว้ นนั่ ละ่ เรยี กวา่
“ปลงสงั ขาร” เวา่ ให้มนั บฟ่ งั แล้ว ปลงจงั ซั่น ร่างกายอาตมาน่ี
ให้มันเป็นไปตามสภาพร่างกายสังขาร บ่กีดบ่ขวาง ได้ทอใด๋
อย่ามัน บ่ได้บังคับอิหยัง ให้มันเป็นไปตามสภาพของมัน
นี่ล่ะวา่ “ปลงสังขาร”

212 ผทู้ รงไว้ซ่ึงความฉลาด

หว่างหั่นอาตมาบังคับสังขารย่านบ่ได้ปฏิบัติ กินข้าว
มอ้ื เดยี วกะบงั คบั บงั คบั สงั ขารไว้ ตามความเทศนข์ องพอ่ แม-่
ครจู ารย์ เฮด็ ตามสงั ขาร พอเทา่ นนั้ พอเทา่ น้ี เซาๆ ไป นล่ี ะ่
ความเว่าปลงสงั ขาร หวา่ งหนั่ บงั คบั ไว้ เฮด็ ตามสังขารเลย
บไ่ ด้ฝนื กินข้าวกนิ น้ำ� บไ่ ดฝ้ ืน หวา่ งหั่นฝืน
โยม: ที่หลวงตาบอกวา่ รงั้ ไว้ๆ ทา่ นใหร้ ั้งไว้
หลวงปู:่ กะร้ังสังขารจ่ังซแ่ี ลว้ กนิ ขา้ วกนิ น้ำ� กะเผอ่ื ไว้
กินใหเ้ กินก�ำหนดความอมิ่ ของร่างกาย นี่ละ่ รง้ั ไว้ บ่ใหเ้ กิน
สังขาร ข่ันสิเพมิ่ สงั ขาร การกินข้าวหมู่นี้กะกนิ ใหม้ าก ใหม้ ี
กำ� ลงั ตา้ นทานเวทนาได้ นล่ี ะ่ เพม่ิ สงั ขาร บเ่ ฮด็ ตาม กนิ เผอ่ื ๆ ไว้
เขา้ ใจแล้วต้วั อนั น้กี ะซอยแล้ว เบ้ดิ แลว้ คำ� พูดของพ่อแม่-
ครูจารย์นะ่ อาตมาเฮ็ดไว้ใหเ้ พ่นิ หมดแลว้ ความเพิ่นสง่ั ไว้
อหิ ยงั ๆ เฮด็ ไวเ้ บด้ิ แลว้ ทองคำ� กะครบแลว้ วทิ ยกุ ะครบแลว้
เบ้ิดซแู นว
อาตมาสิปล่อยตามสังขาร สังขารพาหยุดกะได้หยุด
การกนิ การนอนคอื กนั นลี่ ะ่ “ปลงสงั ขาร” เปน็ จงั ซนั่ เฮด็ ตาม
สังขาร เบิด้ ภาระแล้วเด๊ ตะกฝี้ ืนสงั ขาร ฝืนใหม้ ันมีกำ� ลัง
ท�ำงาน อันนี้เฮ็ด เพ่ินส่ังไว้บ่อนใด๋ เฮ็ดให้เรียบเบ้ิดแล้ว
เบ้ิดสูแนวแล้ว เดี๋ยวน้ีก็ปล่อยตามสังขาร การกินการอยู่
ปลอ่ ย ใหห้ ยดุ สงั ขารพอแลว้ หยดุ บใ่ หเ้ พม่ิ “ปลงสงั ขาร”
แปลว่าจังซนั่
โยม: ถ้าหลวงปู่ไม่อยู่แล้ว ใครจะมาสร้างพระเจดีย์
ตอ่ เจ้าค่ะ
หลวงปู่: ลูกศิษย์พ่อแม่ครูจารย์มีอยู่ ข่ันอาตมาตาย
กะสมิ หี มู่มาเฮด็ อยู่เจดยี น์ ่ะ

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร 213

หลงั งานทอดกฐนิ วดั ภผู าแดง พ.ศ. ๒๕๕๙ หลวงป่ไู ด้
ปรารภกับหมู่พระเณรวา่ “ปีหนา้ ผมบร่ ับกฐนิ นะ สงั ขารรา่ งกาย
มนั บไ่ หวแลว้ ” เน่อื งจากทา่ นเรมิ่ ช่วยเหลือตวั เองไม่ได้บ้างแลว้
บางเร่ืองหมู่พระเณรต้องคอยผลัดเปล่ียนรับใช้อุปัฏฐากอย่าง
ใกล้ชดิ
ในบางครง้ั หลวงปไู่ ดพ้ ดู หยอกกบั พระเณรวา่ “โถๆ่ นานตาย
แทๆ้ โรคอนั นโี้ รคทรมาน อยู่ใหม้ ันล�ำบากหมู่เพือ่ น บ่ตายกะ
บเ่ ปน็ หยัง อยูใ่ หห้ มูช่ งั นีล่ ะ่ ”
ถึงแม้ธาตุขันธ์ร่างกายจะไม่เอ้ืออ�ำนวยดังเดิม แต่คราใด
ที่หลวงปู่พอจะมีก�ำลังออกตรวจดูความเรียบร้อยของวัดและ
การกอ่ สรา้ งองคพ์ ระเจดยี ฯ์ แลว้ หลวงปจู่ ะนง่ั รถออกไปตรวจงาน
เพอื่ ใหก้ ำ� ลงั ใจแกพ่ ระเณรและคณะศษิ ยท์ มี่ าชว่ ยงานทนั ทอี ยา่ ง
ไมเ่ ห็นแกค่ วามเหน็ดเหนอื่ ยแตอ่ ยา่ งไร
“ผมบเ่ กนิ บเ่ กนิ พอ่ แมค่ รจู ารยเ์ ด๊ เบง่ิ นิ พอ่ แมค่ รจู ารยไ์ ด้
๙๗ ๙๘ ผมบเ่ กนิ เพน่ิ ดอก” หลวงปเู่ ผยความในใหพ้ ระเณรฟงั
ความต้ังใจเดิมของหลวงปู่ คือเมื่อใกล้เวลาจวนตัวแล้ว
ให้พระเณรน�ำท่านเข้าไปยังวัดป่าบ้านตาด เมื่อละขันธ์แล้ว
ให้ถวายเพลิงทนี่ ั่น ท่านวา่ “เมรุ ทา่ นปญั ญากะเฮด็ ไว้แลว้ เด๊
พอ่ แมค่ รูจารยว์ า่ ขนั่ ผมตายแล้ว ให้เผาน่ลี ่ะ ท่านปัญญาผัดมา
ตายใสก่ อ่ น เลยไดส้ มุ ทา่ นปญั ญาใสห่ น่ั เปน็ มอ่ งสมุ ลกู นอ้ งเพนิ่
พอ่ แมค่ รูจารย์ ขั่นผมตาย กะอย่าใหเ้ ลย ๗ วนั แกไ่ ปบ้านตาด
แลว้ สุมโลด”
ต่อมาด้วยเหตุผลบางประการ หลวงปู่จึงได้เปล่ียนความ
ดำ� รใิ หม่ ทา่ นวา่ “ผมบไ่ ปแลว้ เด๊ วดั ปา่ บา้ นตาดนะ่ เอามอ่ งใด๋
กะเอาโลด”

214 ผู้ทรงไวซ้ ่งึ ความฉลาด

ความเป็นจริงของสังขาร

วนั ท่ี๔ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ หลวงปลู่ เี ริ่มอาพาธและพักอยู่แต่
ภายในหอ้ งบนกฏุ ิ เมอื่ หลวงพอ่ จนั ทรเ์ รยี น คณุ วโร วดั ถำ�้ สหายฯ
ทราบขา่ ว จงึ ไดเ้ ดนิ ทางเขา้ กราบเยย่ี ม พรอ้ มไดเ้ ปน็ ตวั แทนของคณะศษิ ยฯ์
กราบนมิ นตห์ ลวงปใู่ หเ้ ขา้ รบั การรกั ษาทโ่ี รงพยาบาล หลวงปตู่ อบวา่ “อยา่ มา
กังวล อย่ามายุง่ ”

หลวงพอ่ จนั ทรเ์ รยี นเมอื่ ทราบความประสงคข์ องหลวงปเู่ ชน่ นนั้ แลว้
จึงไดบ้ อกกับพระเณรและคณะศษิ ย์วา่ “ถ้าเพิน่ บ่ไป กะอยา่ เอาเพน่ิ ไป”

หลวงปลู่ ีระหวา่ งพักรกั ษาอาการอาพาธ วนั ท่ี ๕ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ หลวงพอ่ สมศรี อตั ตสริ ิ วดั ปา่ เวฬวุ นั ฯ
ภายในกฏุ ิ วดั ภผู าแดง จังหวดั เลย ไดเ้ ดนิ ทางเขา้ กราบเยย่ี ม

วนั ที่ ๖ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ ชว่ งเชา้ หลวงพอ่ จนั ทรเ์ รยี น คณุ วโร
วดั ถำ�้ สหายฯ เขา้ กราบเยย่ี ม และชว่ งเวลาสายๆ พระอาจารยว์ นั ชยั วจิ ติ โต
วัดภูสังโฆฯ เดินทางเขา้ กราบเยีย่ ม
ในวนั นัน้ คณะแพทยจ์ ากโรงพยาบาลศนู ย์อดุ รธานี ไดจ้ ดั เวรแพทย์
พร้อมด้วยบุรุษพยาบาลมาประจ�ำที่วัดภูผาแดงเพ่ือถวายการดูแลรักษา
หลวงปูอ่ ย่างใกลช้ ดิ

ถ้าเพ่นิ บ่ไป ส�ำหรับแนวทางถวายการรักษาอาการอาพาธของหลวงปู่ลีนั้น
ทางคณะสงฆว์ ัดภผู าแดงได้ปฏิบตั ิตามอัธยาศยั ของท่าน โดยมหี ลวงพอ่
กะอยา่ เอา จนั ทรเ์ รยี น คุณวโร และพระอาจารย์วนั ชัย วิจิตโต คอยใหค้ ำ� ปรกึ ษา
ตลอดมา
เพ่นิ ไป นบั จากวนั นน้ั มา พอ่ แมค่ รบู าอาจารยฝ์ า่ ยปฏบิ ตั จิ ากสำ� นกั ตา่ งๆ และ
คณะศษิ ยฯ์ ทม่ี คี วามเคารพในหลวงปู่ เมอ่ื ไดท้ ราบขา่ วการอาพาธ ตา่ งหลงั่ ไหล
หลวงพอ่ จนั ทรเ์ รียน คณุ วโร เดินทางมายังวัดภูผาแดงเพ่ือกราบเยี่ยมอาการอาพาธของหลวงปู่ด้วย
ความเป็นหว่ ง

หลวงปลู่ ี กุสลธโร 215

หลวงปลู่ ีขณะกลับเขา้ กฏุ ิ วนั ท่ี ๘ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ หลวงปู่มี
หลังจากตรวจงานภายในวดั และองค์พระเจดยี เ์ ปน็ ครัง้ สดุ ท้าย อาการดขี น้ึ และออกจากกฏุ เิ พอ่ื ตรวจงานภายในวดั
สมเด็จพระวนั รตั และองคพ์ ระเจดยี ฯ์
(จุนท์ พรหมคุตโต) วนั ที่ ๑๖ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.​๒๕๖๑ หลวงปอู่ อก
เปน็ องคแ์ ทนสมเด็จ จากกฏุ เิ พอ่ื ตรวจงานภายในวดั และองคพ์ ระเจดยี ฯ์
พระสังฆราชฯ เข้ากราบ วนั ที่ ๑๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ หลวงปปู่ ฏเิ สธ
ทจ่ี ะฉนั ยาใดๆ ท้ังสิน้
เยย่ี มหลวงปู่ ชว่ งเยน็ วนั ที่๒๑กมุ ภาพนั ธ์พ.ศ.๒๕๖๑หลวงปู่
มีไขข้ นึ้ สูง และนบั จากน้ันเป็นต้นมา หลวงป่พู กั
รักษาอาการอาพาธอย่แู ตภ่ ายในกฏุ โิ ดยตลอด
วันที่ ๒๓ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.​๒๕๖๑ สมเด็จ-
พระอรยิ วงศาคตญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช (อมั พร
อมั พโร) วดั ราชบพธิ มพี ระบญั ชาใหส้ มเดจ็ พระวนั รตั
(จนุ ท์ พรหมคตุ โต) วดั บวรนเิ วศวหิ าร เปน็ ตวั แทน
น�ำความเมตตาเขา้ กราบเยย่ี มหลวงปู่
วันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ หลวงป่บู ญุ มี
ปริปณุ โณ วดั ปา่ ศลิ าพร (ปจั จุบนั มรณภาพแลว้ )
พระเถระผูม้ พี รรษาสงู สดุ ในลูกศิษย์องคห์ ลวงตา
พระมหาบวั ญาณสมั ปนั โน เดนิ ทางมาเยยี่ มอาการ
อาพาธของหลวงปู่

หลวงปู่บุญมี ปรปิ ุณโณ เข้าเยยี่ มหลวงปู่
216 ผู้ทรงไวซ้ งึ่ ความฉลาด

เอาปาเข้าปา่ พู้น

เราดขู องเรา บรรดาคณะศษิ ยท์ งั้ พระและฆราวาส ไดป้ รกึ ษาหารือ
วิธีการถวายการรักษาธาตุขันธ์ของหลวงปู่เพื่อให้
เราเป็นแพทยผ์ ู้หน่ึงอยนู่ ้ี อยู่เป็นร่มโพธิ์ธรรมตราบนานเท่านานเท่าท่ีสามารถจะ
ดูอันน้ี ขันธ์อยู่ใน เป็นไปได้ การถวายการรักษาน้ัน คณะศิษย์ได้ถวายการ
ความรับผิดชอบของเรา รกั ษาตามอธั ยาศัยของหลวงปู่มาโดยตลอด
มนั พอทนไดท้ นไป วนั ที่ ๑๙ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ ขณะไดเ้ วลาถวาย
อยูไ่ ด้อยูไ่ ป ยาแก่หลวงปู่ พระได้กราบเรียนว่า “ขอโอกาสข้าน้อย
ได้เวลาฉนั ยาแลว้ ข้านอ้ ย”
ยาอะไรทพ่ี อรักษาได้ หลวงปู่น่ิงสักพักและตอบว่า “เอาปาเข้าป่าพู้น
เอา้ รักษาไป อย่ามากังวลนะ” จากน้ันหลวงปู่ได้บอกพระให้ช่วย
รกั ษาไมไ่ ดป้ ัดออกๆ ประคองท่านนอนตะแคง โดยไมส่ นใจฉนั ยาเลย
การทห่ี ลวงปู่ตอบไปเชน่ นั้นอาจเปน็ เพราะวา่ ตอ่ ให้
หลวงตาพระมหาบวั ญาณสัมปันโน มียาวิเศษมาจากไหนก็ตาม เม่ือสภาพสังขารปฏิเสธ
ไม่ยอมรับยาแล้ว ยาก็ไม่สามารถช่วยร้ังสังขารที่ช�ำรุด
ทรดุ โทรมนไี้ วไ้ ด้ เหลอื แตธ่ รรมโอสถเทา่ นน้ั ทจ่ี ะพอบรรเทา
ทุกขเวทนาอันเกิดจากภัยคือโรคาพยาธิน้ี ท่านจึงส่ัง
ระงับยาต่างๆ ปล่อยให้สังขารเป็นไปตามสภาพความ
เปน็ จรงิ ของเขา โดยใจทบี่ รสิ ทุ ธกิ์ เ็ ปน็ อกี สว่ นหนง่ึ ตา่ งหาก
เหมอื นทห่ี ลวงปไู่ ดเ้ คยพดู ไวก้ อ่ นหนา้ นน้ั วา่ “ปลอ่ ย บไ่ ดก้ ดี
ได้ขวาง ให้มนั เป็นไปตามความเป็นจรงิ ของสงั ขาร ภาระ
เบดิ้ แลว้ เด”๊

หลวงปลู่ ี กุสลธโร 217

การรับผิดชอบในธาตุขันธ์เมื่อยามเจ็บป่วยน้ัน ใครจะมีความสามารถทราบได้ดีเท่าพระอรหันต์
เพราะทา่ นเรยี นจบหมดทกุ อยา่ งแลว้ ยงิ่ เปน็ เรอ่ื งธาตขุ นั ธข์ องตวั ทา่ นเองแลว้ ทา่ นกย็ ง่ิ จะทราบและเขา้ ใจ
มากกว่าคนอน่ื ๆ วา่ อะไรควร อะไรไม่ควร แก่ธาตุขันธ์ในยามนี้ ดงั ทีห่ ลวงตาพระมหาบัวไดอ้ ธิบายไว้
ความว่า

“การปฏิบัติตัวเองอยากให้เห็น
ชัดเจนก็เอาให้ถึงจิตบริสุทธ์ิ ไม่ต้อง
ไปทูลถามพระพุทธเจ้าพระองค์ใด
จะประกาศปา้ งขนึ้ เตม็ เมด็ เตม็ หนว่ ยใน
หวั ใจของผู้บริสทุ ธิน์ ั้นแล พระพุทธเจา้
แตก่ อ่ นเปน็ ยงั ไงๆ มนั วงิ่ ถงึ กนั หมดเลย
ปจั จบุ นั นเ้ี ปน็ ยงั ไง อนาคตจะเปน็ ยงั ไง
ว่ิงถึงกันหมดในจิตดวงเดียวน้ีซ่านถึง
กนั หมด ทา่ นจงึ ไมม่ อี ะไรสงสยั เรยี กวา่
เรยี นธรรมจบ เรยี นโลกกจ็ บ ไมไ่ ปพวั พนั
อะไรทง้ั นนั้ ตายกต็ ายงา่ ยมาก แลว้ ปรากฏ
ว่าไม่เห็นมีที่ไหนได้ออกประวัติว่า
พระอรหนั ตอ์ งคน์ ้นั นิพพานท่ีนนั่ ๆ ท่ีน่ี
เอิกเกริกเฮฮายุ่งเหยิงวุ่นวายอย่าง
ทกุ วนั น้ี ทกุ วนั น้ี โอย้ วา่ จะตายไมไ่ ดน้ ะ
แห่กนั เป็นบา้ ไปเลย
เราไม่อยากยุ่งกับอะไร คิดดู
เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะเอาเราเข้าไป
โรงพยาบาล เราไมไ่ ป ไปหาอะไร นนั่ เราดู
ของเรา เราเปน็ แพทยผ์ หู้ นง่ึ อยนู่ ้ี ดอู นั น้ี
ขันธ์อยู่ในความรับผิดชอบของเรา
มันพอทนได้ทนไปอยไู่ ดอ้ ยู่ไป ยาอะไร
ท่พี อรกั ษาได้ เอา้ รักษาไป รกั ษาไมไ่ ดป้ ดั ออกๆ ดดี ผึงเลย น่ันละจิตทเี่ รียนจบแล้วมนั เปน็ อย่างนน้ั
ไมก่ ังวลกับอะไร อาศัยเพยี งเล็กๆ น้อยๆ”

218 ผู้ทรงไว้ซงึ่ ความฉลาด

โอสถอนั วิเศษ

อำ� นาจจิตใจทฝี่ ึกฝนมา คุณธรรมความวิเศษพระพุทธศาสนา ท่านกล่าวไว้
ว่ามีอยู่หลายระดับ ท้ังอย่างหยาบ อย่างกลาง
อ�ำนาจความบรสิ ทุ ธิ์ อย่างละเอียด ทั้งนี้ท่านไม่ได้จ�ำกัดไว้เฉพาะแก่หมู่
ผุดผอ่ งเปน็ โอสถ พระภิกษุเท่านั้นท่ีจะสามารถเข้าถึงคุณธรรมความ
๒,๕๐๐ กวา่ ปี วิเศษนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นนักบวชหรือฆราวาสท่านใด
มาถึงเดย๋ี วนย้ี ังเปน็ จรงิ อยู่ หากสามารถประพฤติปฏิบัติตนให้ตรงกับค�ำสอนของ
สมัยกอ่ นเป็นอย่างไร องค์สมเด็จพระสมั มาสัมพุทธเจา้ ได้อย่าง ๑๐๐% แลว้
พระพุทธเจา้ เป็นอย่างไร คุณธรรมความวิเศษประเภทตา่ งๆ ก็จะปรากฏแกท่ ่าน
สมยั นี้ครบู าอาจารย์ ผนู้ ้ันเปน็ สนั ทิฏฐโิ ก ประจักษแ์ จง้ ข้ึนมาภายในใจทนั ที
เป็นอยา่ งน้นั เหมอื นกนั ในระหว่างท่ีหลวงปู่ลีพักรักษาอาการอาพาธอยู่
ไมเ่ ปลี่ยนแปลงเลย ภายในกุฏิ คณะศิษย์ได้ถวายยารักษาทั้งแผนปัจจุบัน
และแผนทางเลือกควบคู่กันมาตลอด ผลที่ออกมา
อยา่ งดกี แ็ คช่ ว่ ยทรงตวั แลว้ สกั พกั กลบั ทรดุ ลง ไมส่ ามารถ
ช่วยประคับประคองธาตุขันธ์ของท่านได้ตามความ
คาดหวงั ของแพทยไ์ ด้ และบางครงั้ คณะแพทยป์ ระเมนิ
ว่าหลวงป่จู ะละขันธใ์ นวันนน้ั วนั นี้
เมอื่ เปน็ เชน่ นน้ั คณะสงฆจ์ งึ มมี ตเิ หน็ ควรใหร้ ะงบั
ยาประเภทตา่ งๆ ไวก้ อ่ นเพอ่ื ไมใ่ ห้ยาไปกดทับธาตุขันธ์
ของหลวงปมู่ ากไปนกั แตผ่ ลปรากฏวา่ อาการของหลวงปู่
กลับดขี ้ึนและทรงตวั อยไู่ ดน้ านกวา่ ครงั้ ท่ีมกี ารถวายยา
สร้างความอัศจรรยใ์ จใหแ้ กค่ ณะศิษย์เป็นอย่างมาก

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร 219

ท่านพระอาจารย์วันชัย วิจิตโต เมตตา
อธบิ ายให้พวกเราได้เข้าใจในเรือ่ งน้ีว่า
“ช้างศึกติดหล่ม ช้างศึกเก่าแต่ติดหล่ม
ดงึ ยงั ไงกด็ งึ ไมข่ น้ึ ชว่ ยไมไ่ ด้ พวกทค่ี นุ้ เคยกนั
เขามา นเ่ี ปน็ ชา้ งศกึ เอากลองศกึ ไปตเี หมอื น
จะออกศกึ รวั ๆ กลอง คกึ ขนึ้ มา ชา้ งคกึ เลย
คกึ ขน้ึ มาจะไปทำ� ศกึ น่ี ปนี ขนึ้ เลยนะ พน้ จาก
หล่ม ฮึกหาญดว้ ยตัวเอง ความคนุ้ เคยได้
ยินเสียงกลอง นี่ไม่เอายาใส่เข้าไปเลย
สักอย่างหน่ึง สู้เอง นน่ั ดูคล้ายๆ อยา่ ง
นั้นแหละ ไม่มียาอื่นไปช่วย สู้เอง นักสู้
ยาไม่มีช่วยใช่ไหม ไม่มี สู้เอง อปุ นสิ ยั เกา่
ขน้ึ ไดไ้ หม ขน้ึ พน้ ไหม นกึ ถงึ เรอ่ื งชา้ งตดิ หลม่
ข้ึนเองไม่ไหว คนอื่นช่วยก็ไม่ได้ ได้ยิน
เสยี งกลองเขา้ เอาเลย เคยท�ำเคยช่วยเคย
ตอ่ สู้ ทา่ นดขี น้ึ ยงั ไง แบบนลี้ ะ่ นกั สู้ ใครชว่ ย
ไมไ่ ดแ้ ล้วใช่ไหม ช่วยตวั เอง ดสู ิเป็นยงั ไง
โรคภยั ไขเ้ จบ็ มนั เหนอื กวา่ เรากเ็ อาไป ถา้ เรา
เหนอื กว่ามันก็ชนะอย่”ู
“ถอดเขม็ ออกหมดดขี น้ึ เหลอื แตอ่ อกซเิ จน มอี อกซเิ จนอยา่ งเดยี ว ไมม่ ยี า ทา่ นกลบั ดขี น้ึ เหมอื น
นำ้� ทว่ มปอด เหมือนมอี ะไรอยใู่ นปอด ดขี ึ้นๆ ทา่ นทำ� ยงั ไง ทา่ นรกั ษาตวั เองยงั ไง ติดเชือ้ อะไรในปอด
ระยะนัน้ ไมม่ ียากลับดสี �ำหรบั ท่าน มยี าเข้าไปชว่ ยกลบั ทรงตัว เอาออกกลบั ดี
เห็นอยู่อันหน่ึง สักกัตîวา พุทธรตนัง โอสถัง อุตตมัง วรัง สักกัตîวา ธัมมรตนัง โอสถัง
อุตตมัง วรัง สกั กัตîวา สังฆรตนัง โอสถงั อุตตมัง วรัง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ หรือจะ
เปน็ โอสถ เหมือนจะเปน็ โอสถอนั วิเศษอยอู่ �ำนาจจิตใจทา่ น ไดช้ ั่วครงั้ ชวั่ คราว ยงั ไม่ถึงที่ไป อ�ำนาจจติ ใจ
ทฝี่ กึ ฝนมา อำ� นาจความบรสิ ุทธผ์ิ ุดผอ่ งเป็นโอสถ ๒,๕๐๐ กว่าปี มาถึงเดย๋ี วนยี้ งั เปน็ จริงอยู่ สมยั ก่อน
เปน็ อย่างไร พระพทุ ธเจา้ เป็นอย่างไร สมยั นคี้ รบู าอาจารยเ์ ป็นอย่างนั้นเหมอื นกัน ไม่เปลี่ยนแปลงเลย”

220 ผทู้ รงไวซ้ ง่ึ ความฉลาด

บูชาวสิ ทุ ธคิ ณุ

ดว้ ยเดชแห่ง ในวันวิสาขบูชา ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ.
พุทธานุภาพ ๒๕๖๑ คณะศิษย์ในองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร โดยมี
ธรรมานภุ าพ พระอาจารย์ค�ำบ่อ กันตวีโร เป็นประธานในการด�ำเนินงาน
สงั ฆานภุ าพ  ไดร้ ว่ มกนั จดั สรา้ งพระพทุ ธรปู ทองคำ� บรสิ ทุ ธ์ิ ปางมารวชิ ยั ศลิ ปะ
ขอให้องค์ท่านมีธาตุขนั ธ์ อทู่ อง หนา้ ตกั ๗ นว้ิ เพอื่ นอ้ มถวายบชู าวสิ ทุ ธคิ ณุ องคห์ ลวงปลู่ ี
แข็งแรงสมบรู ณ์ กสุ ลธโร
อยู่เป็นร่มโพธิ์รม่ ไทร การจดั งานในวนั นนั้ แลว้ เสรจ็ ภายในวนั เดยี ว ซง่ึ เปน็ ไปดว้ ย
อันเกษมแก่พุทธบรษิ ทั ความเรยี บงา่ ย มไิ ดเ้ อกิ เกรกิ วนุ่ วาย ดำ� เนนิ พธิ กี ารตา่ งๆ กระชบั
สบื ไปตราบนานเทา่ นาน เวลาใหร้ วดเรว็ ไม่ยดื เยื้อ เพอ่ื เปน็ การไม่รบกวนธาตุขันธข์ อง
ดว้ ยเทอญ หลวงปูซ่ ง่ึ กำ� ลังพกั รักษาองคท์ า่ นภายในกุฏิ  
อนงึ่ ในงานนคี้ ณะศษิ ยไ์ ดร้ บั ความเมตตาอนั วสิ ทุ ธจิ์ ากองค์
หลวงปบู่ ญุ มี ปรปิ ณุ โณ ไดเ้ ดนิ ทางมาเปน็ ประธานในพธิ ี รวมทง้ั
มีครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ที่เคารพในองค์หลวงปู่ลีได้เดินทางมา
ร่วมงาน เชน่ หลวงปเู่ สถียร คุณวโร เป็นตน้
ด้วยผลานิสงส์แห่งการสร้างพระพุทธรูปทองค�ำประจ�ำ
พทุ ธมหาเจดยี ์ วดั ภผู าแดงแหง่ น ้ี ดว้ ยเดชแหง่ มวลพทุ ธานภุ าพ
มวลธรรมานุภาพ มวลสังฆานุภาพ ด้วยเดชแห่งสามัคคีธรรม
ของปวงศิษยานุศิษย์ ด้วยเดชแห่งกตัญญูกตเวทิตธรรมของ
ปวงศษิ ยานศุ ษิ ย์ และดว้ ยเดชแหง่ ทานบารมี ศลี บารมี ภาวนาบารมี
ของปวงคณะศิษยานุศิษย์ ขอจงรวมเป็นพลานุภาพปัจจัยเป็น
ธรรมโอสถถวายแด่องค์หลวงปู่ลี กุสลธโร ขอให้องค์ท่าน
มีธาตุขันธ์แข็งแรงสมบูรณ์ อยู่เป็นร่มโพธ์ิร่มไทรอันเกษมแก่
พทุ ธบรษิ ัทสบื ไปตราบนานเท่านานดว้ ยเทอญ

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 221

กตัญญกู ตเวทิตธรรม

ความสามัคคี สืบเนื่องจากกุฏิปลอดเช้ือหลังเดิมที่องค์หลวงปู่ลีได้พัก
ของแรง รกั ษาอาการอาพาธอยนู่ น้ั เปน็ หลงั เลก็ คบั แคบ และอากาศ
กตัญญกู ตเวทธิ รรม ไหลเวยี นไมส่ ะดวก ประกอบกบั เวลานำ� อปุ กรณท์ างการแพทย์
ของปวงศิษย์ ทีจ่ �ำเป็นต่อการรกั ษาเขา้ ไปตดิ ต้ังแลว้ ยิ่งไม่สะดวกมากขึ้น
ที่ปรารถนาบูชาคณุ คณะสงฆ์วัดภูผาแดงเห็นความจ�ำเป็นและความส�ำคัญ
ของหลวงปู่โดยแท้ ในเรื่องน้ี จึงมีแนวความคิดจะสร้างกุฏิปลอดเช้ือหลังใหม่ขึ้น
เพอื่ เปน็ การถวายความสะดวกในเวลารักษาองคห์ ลวงปู่
จากน้ันคณะสงฆ์ฯ จึงได้น�ำเรื่องนี้เข้ากราบเรียนขอ
ค�ำปรึกษาจากหลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้�ำสหายฯ
เมื่อท่านทราบแล้ว ได้อนุญาตทันที พร้อมก�ำชับว่าให้รีบท�ำ
ใหเ้ สรจ็ เพือ่ หลวงปู่ 
คณะศิษยานุศิษย์ที่มีความเคารพในองค์หลวงปู่ทุก
หมเู่ หลา่ เมอื่ ไดร้ บั ทราบขา่ ว ตา่ งมคี วามยนิ ดใี นบญุ ครง้ั สำ� คญั นี้
ต่างฝ่ายต่างร่วมแรงร่วมใจช่วยกันท�ำงานออกมาให้ดีและ
รวดเร็วที่สุดเท่าท่ีจะสามารถท�ำได้ นับเป็นความสามัคคีของ
แรงกตัญญูกตเวทิตธรรมของปวงศิษย์ที่ปรารถนาบูชาคุณของ
หลวงปูโ่ ดยแท้ 
กฏุ หิ ลงั นเี้ รม่ิ กอ่ สรา้ งเมอ่ื วนั ที่ ๒๕ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑
จากน้ันได้ด�ำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย
คณะศษิ ยานศุ ษิ ยไ์ ดก้ ราบนมิ นตห์ ลวงปยู่ า้ ยเขา้ พกั ในวนั ท่ี ๒๓
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมระยะเวลาการกอ่ สรา้ งทงั้ สน้ิ ๒๘ วนั

222 ผทู้ รงไวซ้ งึ่ ความฉลาด

พระราชศรทั ธา

วนั ท่ี ๔ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เวลา ๐๘.๐๐ น.
สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพย-
วรางกรู รชั กาลที่ ๑๐ ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ พล.ต.ท.
สกลเขต จนั ทรา เปน็ ผแู้ ทนพระองค์ และนายวฒั นา พฒุ ชิ าติ
ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั อดุ รธานี พรอ้ มดว้ ยขา้ ราชการในจงั หวดั
ทุกหมู่เหล่า เดินทางไปถวายสังฆทานแด่องค์หลวงปู่ลี
กุสลธโร ณ วัดป่าเกษรศีลคณุ ธรรมเจดีย์ (วดั ภูผาแดง)
โดยการนี้ หลวงปู่บญุ มา คัมภรี ธัมโม วัดป่าสหี ์พนมฯ เปน็
ผู้รับถวายแทน
นบั เปน็ พระมหากรณุ าธคิ ณุ อยา่ งหาทส่ี ดุ มิไดท้ ท่ี รงมี
แดอ่ งคห์ ลวงปู่ลี กสุ ลธโร คณะศิษยานุศิษย์ทุกหมเู่ หลา่
ต่างส�ำนึกในพระเมตตาเป็นท่ีสุด

พระมหากรณุ าธคิ ุณ
อย่างหาท่สี ดุ มิได้
ทที่ รงมแี ด่
องคห์ ลวงป่ลู ี กสุ ลธโร

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร 223

ผ้ทู ตี่ ายอยา่ ง
แสนสบาย

ไม่ว่าพระพุทธเจา้ ความตายน้ันถือว่าเป็นเรื่องท่ีน่ากลัวส�ำหรับ
หรือพระอรหันต์องค์ใดตาย สัตว์ทุกประเภทไม่เว้นกายหยาบกายละเอียด เพราะ
สบายทั้งนนั้ เปน็ การสญู เสยี ทยี่ ง่ิ ใหญท่ ส่ี ดุ แตเ่ รอื่ งของความตายนี้
ทา่ นตายง่ายมาก กลบั เปน็ เรอ่ื งธรรมดาๆ ทไี่ มส่ ามารถสรา้ งความกระทบ
เพราะท่านหมดห่วงใยทุกอย่าง กระเทือนแม้แต่น้อยนิดให้เกิดขึ้นภายในใจของท่าน
ประคองธาตขุ นั ธ์อยูพ่ อถงึ ผ้สู ิ้นจากกเิ ลสได้
วันเวลาของมนั หลวงตาได้อธบิ ายเอาไวว้ ่า
พอมันหมดสภาพแลว้ “พากนั จำ� ขอ้ นเี้ อาไว้ ผทู้ ต่ี ายสบายคอื ผมู้ บี ญุ กศุ ล
เตม็ หวั ใจแลว้ เชน่ พระพทุ ธเจา้ พระอรหนั ต์ ตายอยา่ ง
ทิ้งป๊วั ะเลย ไปเลย แสนสบาย ไมว่ า่ พระพทุ ธเจา้ หรอื พระอรหนั ตอ์ งคใ์ ดตาย
สบายท้งั นั้น ทา่ นตายง่ายมาก เพราะทา่ นหมดห่วงใย
หลวงตาพระมหาบวั ญาณสมั ปันโน ทุกอย่าง ประคองธาตุขันธ์อยู่พอถึงวันเวลาของมัน
พอมนั หมดสภาพแลว้ ทงิ้ ปว๊ั ะเลย ไปเลย นน่ั ของทา่ น
พอเรียบร้อยแล้ว อันน้ันเป็นส่ิงที่อาศัยช่ัวกาลเวลา
กฎอนจิ จงั ทกุ ขัง อนัตตา ตดิ อยูก่ ับธาตขุ ันธ์ เวลามนั
แสดงตวั เตม็ ทก่ี ค็ อื ตายอยา่ งนนั้ แหละ ตายแลว้ สลดั ปว๊ั ะ
ออกเลย ธรรมชาตทิ พ่ี อตวั แลว้ ไมด่ ดี สบายแสนสบาย
พอขนั ธแ์ ตกสลายปบ๊ึ ดดี ผงึ ออกเลย อนปุ าทเิ สสนพิ พาน
มาทนั ที เวลายงั มชี วี ติ อยกู่ ส็ อปุ าทเิ สสนพิ พาน ใจบรสิ ทุ ธิ์
ครองขนั ธท์ ่ีสกปรกเปน็ สมมตุ ิ พอขนั ธน์ ีพ้ รากออกป๊ปั
อนั นหี้ มดคำ� พดู ไปเลย นพิ พานดบั สนทิ สมมตุ ดิ บั สนทิ
ความหมายว่าอย่างนนั้ ”

224 ผทู้ รงไวซ้ งึ่ ความฉลาด

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร เรม่ิ อาพาธเมอ่ื วนั ที่ ๔ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ สงั ขาร
ร่างกายเสือ่ มสภาพลงเปน็ ล�ำดบั และแลว้ ในที่สุด วนั เสารท์ ี่ ๓ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๕๖๑ ยาหรอื วธิ กี ารรกั ษาใดๆ ไมส่ ามารถทจี่ ะประคบั ประคองธาตขุ นั ธน์ ้ี
ไว้ได้อกี ตอ่ ไป นบั เวลาทีอ่ งค์ทา่ นอาพาธเปน็ เวลา ๙ เดือนเต็ม
หลวงปลู่ ปี รารภใหพ้ ระฟงั กอ่ นหนา้ นน้ั วา่ “โรคอนั เนยี่ (หมายถงึ โรคไขมนั
ทอี่ งคท์ า่ นเปน็ ) มนั สหิ ายตอนผมใกลส้ เิ บดิ้ (มรณภาพ) ชว่ ยเหลอื ตวั เจา้ ของเอง
บไ่ ด้ แลว้ คอ่ ยตาย หลวงปชู่ อบเพน่ิ วา่ ใหผ้ มฟงั ตายคอื กนั เบด้ิ นนั่ ละ่ ใผก๋ ะดาย
บเ่ วน้ จกั คนดอก บม่ ื้อใดก๋ ะม้อื หนึ่งล่ะ”
หลวงปไู่ ดล้ ะขนั ธ์ ณ กฏุ ปิ ลอดเชอื้ หลงั ใหม่ เมอ่ื เวลา ๑๕.๑๕ น. วนั เสารท์ ี่
๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ สริ อิ ายรุ วม ๙๖ ปี ๑ เดอื น ๑๑ วนั ๖๙ พรรษา
จากนน้ั คณะสงฆโ์ ดยมหี ลวงพอ่ จนั ทรเ์ รยี น คณุ วโร วดั ถำ้� สหายฯ เปน็ ประธาน
ได้เคล่อื นสรรี ะขนั ธ์ขององค์หลวงปู่ลีมายงั ศาลาใหญ่
หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ได้เมตตาน�ำคณะสงฆ์สวดมาติกาและ
ชกั ผา้ บงั สกุ ลุ เพอื่ นอ้ มบชู าองคห์ ลวงปลู่ ี พรอ้ มกบั เปดิ โอกาสใหค้ ณะพระภกิ ษุ
สามเณรและศิษยานุศิษย์ได้สรงน�้ำถวาย และท่านได้กล่าวกับคณะสงฆ์และ
คณะศษิ ยฯ์ ใหส้ ร้างเมรุชว่ั คราวถวายเพลิงสรรี ะองคห์ ลวงปลู่ ี ณ บรเิ วณหนา้
ศาลาใหญ่ วดั ภูผาแดง
จากนั้นคณะสงฆ์ได้ร่วมประชุมกันที่กุฏิห้องปลอดเชื้อของหลวงปู่
และได้ลงมติจัดงานถวายเพลิงสรีระสังขารองค์หลวงปู่ ในวันอาทิตย์ท่ี ๑๑
พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งตรงกบั ความดำ� ริเดมิ ขององคห์ ลวงปู่ลีทไ่ี มอ่ ยาก
ให้เก็บศพท่านไว้นาน จากน้ันได้มีการเปิดเผยพินัยกรรมท่ีองค์หลวงปู่ลีได้
เขยี นไวเ้ มอ่ื วนั ที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้ทป่ี ระชุมทราบ ความว่า
“เม่ืออาตมามรณภาพแล้ว มีปัจจัยที่ได้จากการร่วมบริจาคในงานศพของ
อาตมาทง้ั หมด ใหน้ ำ� ไปเขา้ บญั ชรี ว่ มสรา้ งเจดยี ห์ ลวงตามหาบวั ญาณสมั ปนั โน
ณ วัดปา่ ภูผาแดง โดยหลวงปลู่ ี กุสลธโร เพอ่ื ใช้จา่ ยในการก่อสรา้ งเจดยี ์ฯ
ณ วดั ป่าภผู าแดง เท่านนั้ ”

หลวงป่ลู ี กุสลธโร 225

226 ผู้ทรงไว้ซ่งึ ความฉลาด

ก�ำหนดการ

งานท�ำบุญบ�ำเพญ็ กศุ ล-ถวายเพลิงสรรี ะสงั ขาร
องคห์ ลวงป่ลู ี กุสลธโร ประธานสงฆ์วดั ปา่ เกษรศลี คุณธรรมเจดยี ์ (ภูผาแดง)
ณ เมรุชวั่ คราว บริเวณหน้าศาลาใหญ่ วดั ภผู าแดง ต.หนองอ้อ อ.หนองววั ซอ จ.อดุ รธานี

วันอาทติ ย์ท่ี ๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑ - วันศกุ ร์ท่ี ๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑
เวลา ๐๖.๓๐ น. พระสงฆ์ออกรับบณิ ฑบาตภายในบริเวณวดั
เวลา ๐๗.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแดพ่ ระภิกษุสงฆ์
เวลา ๑๘.๑๕ น. ร่วมกันทำ� วัตร-สวดมนต-์ แผเ่ มตตาอธิษฐานจติ โดยพร้อมเพรียงกัน
วันเสาร์ที่ ๑๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑
เวลา ๐๖.๓๐ น. พระสงฆอ์ อกรับบิณฑบาตภายในบริเวณวดั
เวลา ๐๗.๐๐ น. ถวายภตั ตาหารเชา้ แดพ่ ระภกิ ษสุ งฆ์
เวลา ๐๙.๐๐ น. ทำ� พธิ ขี อขมาสรีระสังขารองคห์ ลวงปู่
และเคลือ่ นสรรี ะสังขารสเู่ มรชุ วั่ คราวหนา้ ศาลาใหญ่
เวลา ๑๘.๑๕ น. ร่วมกันทำ� วตั ร-สวดมนต์-แผ่เมตตาอธษิ ฐานจิต โดยพร้อมเพรียงกนั
วนั อาทติ ยท์ ่ี ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑
เวลา ๐๖.๓๐ น. พระสงฆ์ออกรบั บณิ ฑบาตภายในบรเิ วณวดั
เวลา ๐๗.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภกิ ษุสงฆ์
เวลา ๑๓.๐๐ น. แสดงพระธรรมเทศนา
- พระภิกษุสงฆ์สวดมาติกา บงั สุกลุ (ประมาณ ๑๔.๐๐ น.)
- ทอดผา้ บงั สกุ ุล (ประมาณ ๑๔.๓๐ น.)
- ร่วมวางดอกไม้จนั ทน์
เวลา ๑๕.๑๕ น. ถวายเพลงิ
วนั จนั ทรท์ ่ี ๑๒ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๑
เวลา ๐๕.๐๐ น. พธิ เี กบ็ อฐั ิ (พธิ ีสามหาบ) ณ เมรุชัว่ คราว
- อัญเชญิ อัฐอิ งคห์ ลวงปมู่ ายงั ศาลาเปน็ ที่ประดิษฐานต่อไป
เวลา ๐๖.๓๐ น. พระสงฆ์ออกรบั บณิ ฑบาตภายในบรเิ วณวัด
เวลา ๐๗.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเชา้ แด่พระภิกษสุ งฆ์
เวลา ๐๙.๐๐ น. พระสงฆ์ ๑๐ รปู เจรญิ พระพทุ ธมนตฉ์ ลองอฐั ิ
เป็นเสร็จพิธี

หลวงป่ลู ี กสุ ลธโร 227

คณะสงฆ์เม่อื ได้ทราบขา่ วการละสงั ขารขององคห์ ลวงปลู่ ี กสุ ลธโร
ตา่ งไดเ้ ดินทางมากราบเคารพศพโดยไมข่ าดสาย
228 ผู้ทรงไวซ้ ่งึ ความฉลาด

คณะศษิ ยานุศษิ ย์ทัง้ ชาวไทยและชาวตา่ งชาติได้เดินทาง
มากราบเคารพศพด้วยจติ ใจท่เี ปยี่ มล้นดว้ ยศรัทธาอย่างเนอื งแนน่

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 229

หีบศพและอัฐบริขารของหลวงป่ลู ี กสุ ลธโร ภายในศาลาใหญ่ วัดป่าเกษรศลี คณุ ธรรมเจดยี ์ (ภผู าแดง)
230 ผู้ทรงไว้ซึ่งความฉลาด

เม่ือหลวงปู่ลี กุสลธโร ไดล้ ะสังขารแลว้ ทา่ นพระอาจารยว์ ันชัย วิจิตโต ได้ยน่ื หนงั สอื ขอลาออก
จากการเป็นเจา้ อาวาสวดั ภูผาแดงต่อคณะสงฆ์
ช่วงก่อนที่หลวงปู่ลีจะอาพาธหนัก พระอาจารย์วันชัยมีความประสงค์ที่อยากจะลาออกมาแล้ว
หลายคร้ัง เน่ืองจากเกรงว่าจะท�ำงานถวายหลวงปู่ลีได้ไม่เต็มที่เหมือนแต่ก่อน เพราะสุขภาพของท่าน
ไม่ดีมานานหลายปีแล้ว แต่ละวันเพียงการประคองธาตุขันธ์ให้ด�ำรงอยู่ได้น้ีก็นับว่าเป็นการยากล�ำบาก
อยมู่ าก แตอ่ งคห์ ลวงปลู่ ไี ดข้ อใหท้ า่ นอยา่ เพงิ่ ลาออก และอกี ประการหนงึ่ ปจั จบุ นั องคท์ า่ นพำ� นกั ประจำ� อยู่
ทว่ี ดั ปา่ ภสู งั โฆ เมอื่ เกดิ เหตกุ ารณท์ ค่ี ณะสงฆว์ ดั ภผู าแดงตอ้ งการขอคำ� ปรกึ ษาในเรอ่ื งตา่ งๆ อยา่ งเรง่ ดว่ น
ก็อาจจะเกิดความล่าช้าได้ ดังน้ันการท่ีท่านตัดสินใจลาออกในคร้ังน้ีก็จักช่วยให้คณะสงฆ์วัดภูผาแดง
สามารถปฏิบัติการงานบางประการไดส้ ะดวกรวดเร็วมากขึน้
และท่ีส�ำคัญในงานถวายเพลิงสรีระสังขารองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงพ่อ
จันทรเ์ รยี น คุณวโร วดั ถ้ำ� สหายฯ ทา่ นเมตตารับเป็นประธานจดั งานในครัง้ นี้ จึงไม่มอี ะไรเปน็ ที่นา่ กังวล
วาระทห่ี ลวงป่ลู ไี ด้จากไปแลว้ ภาระหนา้ ท่ีในเร่อื งน้ีก็คงมอบให้คณะสงฆ์วดั ภูผาแดงชว่ ยกันรักษา
ปฏปิ ทาของหลวงปสู่ บื ตอ่ ไป

หลวงปู่ลี กุสลธโร กับพระอาจารยว์ นั ชัย วจิ ิตโต หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร
หลวงปลู่ ี กุสลธโร 231

ธรรมเนยี มเผาศพ
พระกรรมฐาน

โอ้ ไมท่ ราบวา่ พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาเอกของโลกท้ังสาม
จะเก็บเอาไวท้ ำ� ไม พระอาการต่างๆ ที่ทรงแสดงออกมาจึงเป็นคติได้หมด
ศาสดาองค์เอก ทุกอย่าง แม้แต่เร่ืองการเก็บพระศพของพระองค์ไว้น้ัน
พทุ ธงั สรณงั คัจฉามิ พระสาวกก็มีมติเก็บไว้หลังพุทธปรินิพพานเพียง ๗ วัน
กม็ ีมาแล้ว เทา่ นนั้ เมอื่ ถงึ วนั ที่ ๘ (วนั อฐั มบี ชู า) กถ็ วายพระเพลงิ เลย
ท้ังนี้ก็เพ่ือตัดความเกล่ือนกล่นวุ่นวายต่างๆ ที่จะตามมา
พระพทุ ธเจ้า ภายหลัง ทรงทอดสะพานสอนพวกเราชาวพุทธด้วย
พระเมตตา
กเ็ พยี ง ๗ วนั เท่าน้นั แท้ทีจ่ รงิ แลว้ เรอื่ งการเกบ็ พระศพไว้นไ้ี มใ่ ชม่ ตขิ อง
กถ็ วายเพลิงเลย พระสาวก แต่เป็นมตขิ องเทวดาทีต่ ้องการให้รอพระมหา-
พิจารณาซิ กัสสปะเถระเดินทางมาถึงเสียก่อน การถวายพระเพลิง
จึงลา่ ชา้ ออกไป
หลวงตาพระมหาบวั ญาณสัมปนั โน ตวั อยา่ งการถวายเพลงิ ศพพระสาวกสมยั ครง้ั พทุ ธกาล
เชน่ พระสารบี ตุ รเถระ ไดก้ ราบทลู ลาพระพทุ ธเจา้ ไปดบั ขนั ธ์
ในหอ้ งเปน็ ทกี่ ำ� เนดิ ของตน ณ บา้ นของมารดา เมอื่ ถงึ เวลา
จวนรงุ่ ทา่ นกไ็ ดด้ บั ขนั ธน์ พิ พาน พระจนุ ทะเถระ ผเู้ ปน็ พระ
นอ้ งชาย ไดน้ ำ� พาคณะสงฆถ์ วายเพลงิ ในวนั นน้ั เลย เปน็ ตน้

232 ผู้ทรงไว้ซ่งึ ความฉลาด

มาถึงสมัยพระกรรมฐานสายหลวงปใู่ หญม่ ่ัน ภรู ิทตั โต ท่านยังคงรกั ษาธรรมเนยี ม
ปฏบิ ตั ใิ นเรอ่ื งการเผาศพโดยเรว็ อยา่ งสมยั ครงั้ พทุ ธกาลไว้ เพอ่ื เปน็ ตวั อยา่ งใหโ้ ลกไดเ้ หน็
เปน็ คติ ทา่ นใหเ้ หตผุ ลวา่ เพอ่ื ไมใ่ หเ้ ปน็ ภาระหนกั แกพ่ ทุ ธบรษิ ทั ผเู้ กยี่ วขอ้ งในสงั คมนน้ั ๆ
หม่พู ระภกิ ษกุ ็จะไดแ้ สวงหาทว่ี เิ วกต่อไป เว้นไว้แต่มเี หตุจ�ำเป็น เช่น พระราชาทรงมี
พระราชศรทั ธาบ�ำเพญ็ พระราชกศุ ลถวาย จงึ ได้เกบ็ ศพไว้นาน เปน็ ต้น
หลวงตาพระมหาบวั ญาณสมั ปนั โน ไดพ้ ดู เกยี่ วกบั เรอ่ื งนไ้ี วว้ า่
“ไปกราบศพครบู าอาจารยว์ นั นนั้ มนั อดคดิ ไมไ่ ดน้ ะ มนั สะดดุ กก๊ึ เลย ศพครบู าอาจารย์
ไปหมกั ไปดองเอาไว้ มนั สะทอ้ นเขา้ มาหาศพเรานแี่ หละ ผมทเุ รศมากนะ โอ้ ไมท่ ราบวา่
จะเก็บเอาไว้ทำ� ไม ศาสดาองคเ์ อก พทุ ธงั สรณงั คจั ฉามิ ก็มมี าแลว้ พระพทุ ธเจา้
ก็เพยี ง ๗ วันเทา่ นั้น กถ็ วายเพลิงเลย พิจารณาซิ นี่ก็ไม่ทราบว่าจะเกบ็ ไวเ้ พือ่ อะไร
แข่งครูแข่งอาจารย์แข่งศาสดาไปหาอะไร น่ีโลกเข้าเหยียบย่�ำท�ำลายธรรม มันก็เป็น
อย่างงัน้ ละ่ เอาตามความเห็นของโลกของสงสาร มันก็เป็นโลกไปตลอดซิ มนั จะเปน็
ธรรมไปไดอ้ ยา่ งไร ถา้ เอาตามธรรมแลว้ กเ็ ผาไปเลยซิ ฟนื กม็ ี ไฟกม็ ี แสนสบาย ไมเ่ หน็
จะตอ้ งย่งุ ยากอะไร”
หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร เปน็ พระกรรมฐานทกี่ า้ วตามธรรมเดนิ ตามครนู บั แตว่ นั ออกบวช
ฝกึ ฝนประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นตามคำ� สง่ั สอนของพอ่ แมค่ รจู ารยด์ ว้ ยความพากเพยี รเปน็ เลศิ
จนไดก้ ลายเปน็ เศรษฐธี รรมองค์หน่ึงในพระศาสนาสมกับความตงั้ ใจของท่าน
จากนั้นท่านก็ได้ท�ำประโยชน์น้อยใหญ่แก่วงศ์สกุลพระป่าและสังคมโลกตาม
แนวแถวธรรมไมเ่ กนิ ไมย่ งิ่ ยดึ ธรรมหนนุ ครเู ปน็ แบบฉบบั ตลอดมา ทง้ั นกี้ เ็ พอื่ ประโยชน์
แก่กุลบตุ รสุดทา้ ยภายหลัง
ในเร่ืองพิธีจัดงานศพของท่านก็เช่นเดียวกัน ท่านได้สั่งก�ำชับพระเณรไว้ให้รักษา
ธรรมเนยี มของพระกรรมฐานเอาไว้ อย่าให้โลกเขา้ มาเหยยี บย่ำ� ทำ� ลายธรรมได้ บรรดา
พระเณรสานศุ ิษยต์ า่ งกย็ นิ ดีพร้อมใจกันยดึ ปฏบิ ัตติ ามค�ำปรารภของหลวงปเู่ ป็นหลักใน
การจดั งานถวายเพลงิ ศพใหส้ มเกยี รตแิ กว่ งศส์ กลุ พระกรรมฐาน เพอื่ ถวายบชู าวสิ ทุ ธคิ ณุ
ของหลวงปูอ่ ยา่ งสดุ ความสามารถ

หลวงปูล่ ี กุสลธโร 233

หลวงปู่ไดใ้ ห้คติในเรอ่ื งจดั งานศพของทา่ นเอาไว้อยา่ งนีว้ า่
“ผมบย่ งั นำ� หมดู่ อก เบดิ้ แลว้ ขน่ั ผมตายกะอยา่ ใหเ้ ลย ๗ วนั
แลว้ สมุ โลด พระพุทธเจา้ บห่ ลดุ ๗ วนั ทอนนั้ ใหส้ ุม อยา่ มาใสไ่ ว้
เรอ่ื งมาตกิ าบงั สกุ ลุ อหิ ยงั ผมเฮด็ เอาไวใ้ สใ่ จผมเบด้ิ แลว้ ผมบใ่ ห้
กังวลเรือ่ งอนั นน้ั บ่ใหย้ ากน�ำกสุ ลา ผมเฮด็ เอาหมดแล้ว”
วนั ถวายเพลงิ สรรี ะสงั ขารหลวงปลู่ ี กสุ ลธโร ตรงกบั วนั อาทติ ย์
ที่ ๑๑ พฤศจกิ ายน พ.ศ.​๒๕๖๑ ณ เมรชุ วั่ คราว บรเิ วณหนา้ ศาลาใหญ่
วัดป่าเกษรศลี คณุ ธรรมเจดีย์ (ภูผาแดง) ตำ� บลหนองออ้ อำ� เภอ
หนองววั ซอ จังหวดั อดุ รธานี

เมรุช่วั คราวถวายเพลิงสรีระสังขารหลวงปลู่ ี กสุ ลธโร
234 ผู้ทรงไวซ้ งึ่ ความฉลาด



ประวัติ พรรษาที่ ๑ พ.ศ. ๒๔๙๓
การจำ� พรรษา จ�ำพรรษาที่ วัดป่าทรงคุณ อ.เมอื ง จ.ปราจีนบรุ ี
หลวงปู่ลี
กสุ ลธโร พรรษาท่ี ๒-๕ พ.ศ. ๒๔๙๔-๒๔๙๗
จ�ำพรรษาท่ี เสนาสนะปา่ บา้ นหว้ ยทราย อ.คำ� ชะอี จ.มกุ ดาหาร
ตามปกติผมวา่ สบิ ่อยู่
ปกตผิ มแหล่วไปหมอ่ งห่นั พรรษาท่ี ๖ พ.ศ. ๒๔๙๘
หมอ่ งนี่ หลบ บซ่ �้ำหมอ่ งเกา่ จ�ำพรรษาท่ี วดั ราษฎรส์ งเคราะห์ (วดั ป่าหนองแซง) อ.หนองววั ซอ จ.อุดรธานี
เวน้ ไวแ้ ตบ่ ้านตาด
จ�ำพรรษาอยนู่ ำ� พรรษาท่ี ๗ พ.ศ. ๒๔๙๙
ครูบาอาจารยก์ ะอยู่ จำ� พรรษาที่ วดั ป่าท่าสวย อ.วังสะพุง จ.เลย
บ้านตาดเนี่ย ๔ ฝน ๕ ฝน
ผมกะอยไู่ ด้ พรรษาท่ี ๘ พ.ศ. ๒๕๐๐
เคยอยูน่ ำ� เพ่ินมาเด๊ จำ� พรรษาท่ี วัดป่าบ้านนาขน้ี าก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
แตบ่ วชมาพุ่น
พรรษาท่ี ๙ พ.ศ. ๒๕๐๑
หลวงปลู่ ี กุสลธโร จำ� พรรษาที่ วดั ป่านิโครธาราม บ้านหนองบัวบาน อ.หนองววั ซอ จ.อดุ รธานี

พรรษาท่ี ๑๐ พ.ศ. ๒๕๐๒
จำ� พรรษาท่ี วัดป่าทา่ สวย อ.วังสะพงุ จ.เลย

พรรษาท่ี ๑๑ พ.ศ. ๒๕๐๓
จำ� พรรษาท่ี วดั ปรติ ตบรรพต บ้านกกกอก อ.วังสะพงุ จ.เลย

พรรษาที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๐๔
จ�ำพรรษาที่ วดั ป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อดุ รธานี

พรรษาที่ ๑๓ พ.ศ. ๒๕๐๕
จำ� พรรษาท่ี วดั ปา่ นิโครธาราม บ้านหนองบวั บาน อ.หนองววั ซอ จ.อุดรธานี

พรรษาท่ี ๑๔ พ.ศ. ๒๕๐๖
จ�ำพรรษาที่ วัดถ้�ำกลองเพล อ.เมอื ง จ.หนองบวั ลำ� ภู

พรรษาที่ ๑๕ พ.ศ. ๒๕๐๗
จ�ำพรรษาที่ วดั ถำ้� พระนาผกั หอก บา้ นกลางใหญ่ อ.บา้ นผอื จ.อุดรธานี

พรรษาที่ ๑๖ พ.ศ. ๒๕๐๘
จ�ำพรรษาที่ วัดถ�ำ้ พระตาลเลยี น อ.กดุ จบั จ.อดุ รธานี

พรรษาท่ี ๑๗ พ.ศ. ๒๕๐๙
จ�ำพรรษาที่ วดั ป่านิโครธาราม บา้ นหนองบัวบาน อ.หนองววั ซอ จ.อุดรธานี

พรรษาท่ี ๑๘ พ.ศ. ๒๕๑๐
จำ� พรรษาที่ วดั ถ้ำ� กลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำ� ภู

พรรษาที่ ๑๙ พ.ศ. ๒๕๑๑
จำ� พรรษาท่ี วดั ราษฎรส์ งเคราะห์ (วัดป่าหนองแซง) อ.หนองววั ซอ จ.อดุ รธานี

พรรษาที่ ๒๐-๒๓ พ.ศ. ๒๕๑๒-๒๕๑๕
จำ� พรรษาที่ วดั ป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อดุ รธานี

พรรษาท่ี ๒๔ พ.ศ. ๒๕๑๖
จำ� พรรษาท่ี ถ้ำ� พระนาหลวง อ.บ้านผอื จ.อดุ รธานี

236 ผูท้ รงไว้ซง่ึ ความฉลาด

พรรษาที่ ๒๕ พ.ศ. ๒๕๑๗
จำ� พรรษาท่ี วัดป่าสานตม อ.ภเู รือ จ.เลย

พรรษาที่ ๒๖ พ.ศ. ๒๕๑๘
จ�ำพรรษาท่ี วดั ปา่ ดานวิเวก (ดงสชี มพ)ู อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ

พรรษาท่ี ๒๗-๒๘ พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒๐
จ�ำพรรษาท่ี วดั ป่าบ้านตาด อ.เมอื ง จ.อุดรธานี

พรรษาที่ ๒๙ พ.ศ. ๒๕๒๑
จ�ำพรรษาท่ี ไรส่ วนของโยมพอ่ ใหญถ่ ัน บา้ นผาขาว อ.วงั สะพงุ จ.เลย

พรรษาที่ ๓๐ พ.ศ. ๒๕๒๒
จ�ำพรรษาท่ี วัดถำ�้ หบี อ.บา้ นผือ จ.อุดรธานี

พรรษาที่ ๓๑ พ.ศ. ๒๕๒๓
จำ� พรรษาท่ี วดั ปรติ ตบรรพต บ้านกกกอก อ.วงั สะพุง จ.เลย

พรรษาท่ี ๓๒​พ.ศ. ๒๕๒๔
จำ� พรรษาท่ี วัดป่าสวนกลว้ ย อ.ภูเรอื จ.เลย

พรรษาท่ี ๓๓ พ.ศ. ๒๕๒๕
จำ� พรรษาท่ี วัดดอยเทพนมิ ิต (ถ�ำ้ เกยี ) บา้ นสามขาสนั ติสุข อ.หนองวัวซอ จ.อดุ รธานี

พรรษาที่ ๓๔ พ.ศ. ๒๕๒๖
จ�ำพรรษาที่ วดั ป่าหนองไฮ อ.หนองวัวซอ จ.อดุ รธานี

พรรษาท่ี ๓๕ พ.ศ. ๒๕๒๗
จำ� พรรษาที่ วัดป่าประสทิ ธิ์สามคั คี บา้ นตา้ ย อ.สวา่ งแดนดิน จ.สกลนคร

พรรษาที่ ๓๖ พ.ศ. ๒๕๒๘
จ�ำพรรษาที่ บ้านผาขาว อ.วงั สะพงุ จ.เลย

พรรษาที่ ๓๗ พ.ศ. ๒๕๒๙
จ�ำพรรษาที่ วดั ป่าบา้ นตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

พรรษาที่ ๓๘ พ.ศ. ๒๕๓๐
จ�ำพรรษาที่ วัดปา่ ประสทิ ธิ์สามัคคี บ้านต้าย อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

พรรษาที่ ๓๙ พ.ศ. ๒๕๓๑
จ�ำพรรษาที่ วดั ป่าหว้ ยลาด อ.ภเู รอื จ.เลย

พรรษาที่ ๔๐ พ.ศ. ๒๕๓๒
จ�ำพรรษาที่ วดั ปา่ ภูทอง บ้านภดู นิ อ.บา้ นผือ จ.อดุ รธานี

พรรษาที่ ๔๑-๕๐ พ.ศ. ๒๕๓๓-๒๕๔๒
จำ� พรรษาที่ วัดภผู าแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

พรรษาท่ี ๕๑ พ.ศ. ๒๕๔๓
จำ� พรรษาที่ วัดป่านาแองญาณสัมปนั โน บา้ นนาแอง อ.เมือง จ.อุดรธานี

พรรษาที่ ๕๒-๖๙ พ.ศ. ๒๕๔๔-๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
จ�ำพรรษาที่ วดั ภผู าแดง อ.หนองววั ซอ จ.อดุ รธานี

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 237

ยาก แตว่ ่าบ่เหลือวิสยั เด๊ธรรมหมูน่ ี้
มนั สเิ ห็นไปดอก

พระพทุ ธเจา้ เพน่ิ แสดงจัง่ ใด๋
ผปู้ ฏิบตั ิตามกะสเิ ห็นตามไปเลย
พอพ้นทุกข์กะให้มันพน้ ทุกข์ไปซะชาติน้ี
มาพบธรรมของพระพทุ ธเจา้ แล้ว

หลวงปลู่ ี กลุ สธโร

238 ผทู้ รงไว้ซ่งึ ความฉลาด



ผู้ทรงไว้ซึง่ ความฉลาด

หลวงปลู่ ี กุสลธโร วัดปา่ เกษรศีลคุณธรรมเจดยี ์ (วัดภผู าแดง) จงั หวดั อุดรธานี

พมิ พ์แจกเป็นธรรมบรรณาการ
สงวนสทิ ธหิ์ า้ มจ�ำหนา่ ย

เลขมาตรฐานสากลหนงั สือ (ISBN) : ๙๗๘-๖๑๖-๗๑๗๔-๙๙-๐
พมิ พ์ครั้งที่ ๒ : พฤศจิกายน พทุ ธศักราช ๒๕๖๑
จ�ำนวนพิมพ์ : ๔,๐๐๐ เลม่
จำ� นวนหนา้ : ๒๔๔ หนา้
ผจู้ ัดพมิ พ์ : บรษิ ัท ศลิ ปส์ ยามบรรจุภัณฑแ์ ละการพมิ พ์ จ�ำกัด และคณะศษิ ยานศุ ิษย์
พมิ พ์ท่ี : บรษิ ัท ศิลป์สยามบรรจภุ ณั ฑแ์ ละการพิมพ์ จ�ำกดั
๖๑ ซอยเพชรเกษม ๖๙ ถนนเลยี บคลองภาษเี จรญิ ฝ่งั เหนอื
เขตหนองแขม กรงุ เทพฯ ๑๐๑๖๐
โทรศพั ท์ ๐-๒๔๔๔-๓๓๕๑-๙ โทรสาร ๐-๒๔๔๔-๐๐๗๘
E-mail : [email protected]
Website : www.silpasiam.com


Click to View FlipBook Version