The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อนุสรณ์งานประชุมเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่ลี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-03-07 21:46:05

อนุสรณ์งานประชุมเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่ลี

อนุสรณ์งานประชุมเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่ลี

Keywords: อนุสรณ์งานประชุมเพลิงสรีระสังขาร หลวงปู่ลี

ประชมุ โดยมพี ระพทุ ธเจา้ ประทบั นงั่ เปน็ ประธานวา่ “พอเห็นเพิ่นทอนั้นล่ะ หัวใจเจ้าของนี้เกิด
เรามีสามเณรเป็นอาจารย์ อาจารย์ของเราคือ ความรัก ความเคารพ ความบูชา เกิดขึ้นมาในใจ
สามเณร อย่างไม่เคอะเขนิ ตลอดมา เลยละ่ หวงั สยิ อมเปน็ ยอมตายกบั เพน่ิ เดะ๊ มนั ยอม
มาถึงสมัยปัจจุบัน หลวงปู่ค�ำดี ปภาโส มาแตใ่ ดๆ๋ แลว้ บไ่ ดห้ วงั กบั องคใ์ ดละ่ หวงั แตก่ บั เพนิ่
วัดถ้�ำผาปู่ จงั หวดั เลย ท่านมอี ายพุ รรษามากกวา่ หวงั ใหเ้ พน่ิ รบั ไวส้ งั่ สอน กะเจา้ ของหวงั พน้ ทกุ ขเ์ ดะ๊
หลวงตาพระมหาบัว แต่ดว้ ยอุบายธรรมชั้นเย่ียม ชวี ิตจิตใจมอบให้เพน่ิ เบิด้ ใจของผมมนั เป็นปาน
ทห่ี ลวงตากราบเรียนถวาย ในท่ีสุดหลวงปคู่ �ำดกี ็ น้นั ละ่ ”
สามารถพ้นจากบ่วงแห่งกิเลสด้วยอุบายธรรมนั้น “พ่อแม่ครูจารย์น่ีเป็นหัวใจของผมเด๊ะ
หลวงปู่ค�ำดีมักแสดงออกถึงความเคารพในธรรม ผมเปน็ ถงึ ขนาดนนั้ ละ่ ชวี ติ จติ ใจอยกู่ บั เพน่ิ เบดิ้ เลย
ของหลวงตาอยา่ งเปดิ เผยเสมอ ทา่ นมกั จะกลา่ ววา่ เร่ืองบุญเร่ืองคุณน่ันบ่มีวันสิถอนขึ้นนะ เห็นบุญ
“อาจารย์มหาบัวเป็นอาจารย์ของอาตมา” อย่างน้ี เห็นคณุ เพนิ่ ความเคารพเลอ่ื มใสสดุ หัวใจ ความ
เป็นต้น เรยี กวา่ “ใจบชู าใจ” เหน็ บญุ เหน็ คณุ ของครบู าอาจารย์ มนั ซงึ้ จรงิ ๆ บม่ ี
ส�ำหรับหลวงปู่ลีนั้นก็เช่นเดียวกัน ท่านมี อหิ ยงั ทอ ตวั ผมน่ี สแิ มน่ ไผ ขน่ั บแ่ มน่ พอ่ แมค่ รจู ารย์
ความเคารพแบบไม่จืดจางนับแต่วันท่ีได้พบกับ แลว้ ฮว่ ย บ่ฮู้วา่ มันสจิ มไปไสฮอดไสแล้ว กะบฮ่ ู้
หลวงตาครงั้ แรกเปน็ ตน้ มา ทกุ วนั นสี้ ามารถพดู ได้ เป็นจงั ซ่ันเด๊ะ สบิ ซ่ ้ึงได้จงั ใด๋ เพ่นิ สอนวา่ อย่างใด๋
วา่ หลวงตาคอื หวั ใจของท่าน ท่านเลา่ วา่ นี่ จบั ปับ๊ ๆ คว้าม๊บั ๆ เอามาใคร่ครวญพจิ ารณาอยู่
ห่นั เลย เพราะมันเอาจริงเอาจงั เด๊ะ นิสัยของผม
เปน็ มาอยา่ งนั้น กบั ผมน่ี เพิ่นใสเ่ อาหนกั ๆ เลย
บม่ เี ลน่ ผมบม่ นี สิ ยั เลน่ เอาจรงิ เอาจงั ทกุ อยา่ งกบั เพนิ่
มันเปน็ นสิ ัยอนั หนึ่ง เปน็ มากบั เพ่นิ จังซ่นั ”

146 ผู้ทรงไว้ซงึ่ ความฉลาด

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 147

ก้าวตามธรรม
เดินตามครู

เปน็ ความเคารพของ
ทา่ นผู้บรสิ ทุ ธิ์ ท่มี ตี ่อ

พ่อแม่ครูจารย์ท่ีบริสทุ ธิ์
สุดสว่ น เปน็ ความงาม
ของพระสาวกอรหนั ต์

ลกู ศิษยข์ องสมเดจ็
พระสมั มาสัมพทุ ธเจา้

148 ผทู้ รงไว้ซง่ึ ความฉลาด

ความเจรญิ ดา้ นวตั ถนุ ยิ มนบั วนั จะเจรญิ มากขน้ึ ตามลำ� ดบั และเปน็ อปุ สรรค
ส�ำคัญส�ำหรับความเจริญก้าวหน้าทางด้านจิตใจของนักภาวนาท้ังพระและ
ฆราวาส
หลวงตาพระมหาบัวได้เน้นย�้ำให้นักภาวนาระมัดระวังตัวและเห็นภัย
อนั ตรายในเรอ่ื งน้ี และอกี เรื่องหนง่ึ ทท่ี ่านเน้นย�้ำถงึ ความสำ� คญั คือเร่ืองปฏิปทา
เครอื่ งดำ� เนนิ ทค่ี รบู าอาจารยไ์ ดป้ ฏบิ ตั สิ บื ทอดกนั มา ซงึ่ นบั วนั จะมผี รู้ กั ษาไวไ้ ดย้ าก
มากย่ิงขึน้ ท่านกลา่ ววา่
“แบบฉบบั ทค่ี รบู าอาจารยพ์ าดำ� เนนิ มานี้ มพี อ่ แมค่ รจู ารยม์ น่ั เปน็ สำ� คญั เรยี ก
วา่ ตายใจไดร้ อ้ ยเปอรเ์ ซน็ ต์ ปฏปิ ทาทท่ี า่ นพาดำ� เนนิ มาไมม่ อี ะไรละ่ ทจ่ี ะหลบหลกี
ปลีกแวะออกจากแนวทาง แม้แต่นิดหน่ึงไม่มี ตรงแน่วตามอรรถตามธรรมท่ี
พระองคท์ า่ นตรสั สอนไวเ้ ลย
นี่เราไดม้ าวิตกวิจารณ์เก่ียวกับหมูเ่ พ่อื น ในเรือ่ งปฏิปทาเป็นเครือ่ งดำ� เนิน
และความต้งั ใจน่ีสิ ที่มันได้วิตกวิจารณ์ทุกวันนี้ ใครจะสืบทอดมรดกของครูบา-
อาจารยไ์ วไ้ ดท้ งั้ ภายนอกและภายใน การปฏบิ ตั ภิ ายนอกมธี ดุ งควตั ร ขอ้ วตั รปฏบิ ตั ิ
ตา่ งๆ หนงึ่ การประกอบความพากเพียรแกก้ เิ ลสคือภายใน มีอยู่ ๒ อย่างน้ี
ถา้ จะศกึ ษาดว้ ยความตง้ั ใจจรงิ ๆ มนั กพ็ อเปน็ พอไป เพราะขอ้ วตั รปฏบิ ตั ติ า่ งๆ
กม็ คี รบู าอาจารยพ์ าดำ� เนนิ อยแู่ ลว้ เพราะเปน็ ของหยาบๆ มองเหน็ ไดช้ ดั ๆ อยนู่ ี่
พูดถึงเร่อื งภายใน ท่านก็ได้ชแ้ี จงไว้หมดแล้ว อยา่ งทกุ วนั น้มี ที งั้ เทป มีทง้ั
หนงั สอื พอทจี่ ะเปน็ แบบเปน็ ฉบบั ได้ หากสงสยั การปฏบิ ตั ขิ องตนเองนไี้ มอ่ ยใู่ น
แห่งหน่งึ กอ็ ยู่ในแหง่ หน่งึ จนได้ ท่ที า่ นสอนด้วยความถูกต้องแล้ว แน่ใจแลว้
ผู้มาศึกษาให้พากนั ตง้ั ใจจรงิ ๆ สมกับมาศึกษา ข้อวัตรปฏบิ ตั ิที่ครูอาจารย์
ได้พาด�ำเนินมาอย่างใด ให้ยึดไว้เป็นหลักเป็นเกณฑ์เพ่ือการปฏิบัติต่อไป
เมอ่ื พลดั พรากจากครจู ากอาจารยไ์ ปแลว้ ใหม้ หี ลกั เกณฑเ์ ปน็ เครอื่ งยดึ เครอื่ งอาศยั
อยา่ ให้ลม้ เหลวไปเสยี หมด และทงั้ ๆ ท่คี รูบาอาจารย์ยังมีชวี ิตอยไู่ ด้ศึกษาอยู่ก็
ลม้ เหลวไป ยง่ิ ครูบาอาจารยพ์ ลัดพรากจากไปแลว้ กย็ ่งิ หาทยี่ ดึ ที่เกาะไม่ได้เลย
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วผลที่จะพึงหวังก็ไม่มีแหละ เพราะปฏิปทาเครื่องด�ำเนินนี้

หลวงปู่ลี กุสลธโร 149

คอื ทางเดนิ เขา้ สอู่ รรถสธู่ รรมทงั้ นนั้ ตงั้ แตพ่ น้ื ๆ แหง่ ในการวางตัวกับหลวงตาน้ัน หลวงปู่ลีจะ
ธรรมจนกระท่ังถึงยอดแห่งธรรม ดังที่พ่อแม่ครู- วางตนเปน็ ผใู้ หมอ่ ยเู่ สมอ ไมเ่ คยเยอ่ หยงิ่ จองหอง
อาจารยม์ น่ั พาดำ� เนนิ มา นน่ั ละ ผทู้ ย่ี ดึ ไดเ้ ปน็ หลกั ไมเ่ คยแซงหนา้ แซงหลงั ธรรมของพอ่ แมค่ รอู าจารย์
เปน็ หลกั เกณฑก์ ม็ เี พยี งเลก็ นอ้ ย นอกจากนนั้ อยาก ท่านเป็นผู้ก้าวตามธรรมเดินตามครู ไม่เคยเอา
จะพดู วา่ ลม้ เหลวไปๆ ประหนง่ึ วา่ ไมเ่ คยไดม้ าศกึ ษา ความคดิ ของตนเขา้ ไปเทยี บกบั คำ� สง่ั สอนของทา่ น
อบรมอยกู่ บั ทา่ นเลย นล่ี ะมนั เปน็ ไปตอ่ หนา้ ตอ่ ตา ไม่เคยเอาโลกเข้ามาสอดแทรกเหยียบย�่ำใน
อยา่ งนี้ คำ� ส่งั สอนของท่าน พ่อแม่ครจู ารย์ท่านได้ส่ังสอน
หมดไปๆ ครูบาอาจารย์ เหลอื แต่พวกแซง ไว้อย่างไร หลวงปู่ก็น้อมรับไว้ด้วยความเคารพ
หนา้ แซงหลงั แซงกนั ไปเรอ่ื ย พอ่ แมค่ รจู ารยท์ า่ นวา่ เหนือเกล้าตลอดมา นับวา่ เป็นปฏปิ ทาท่ไี มจ่ ดื จาง
ผมไมล่ ืม ไดเ้ ขียนไวใ้ นประวตั ขิ องท่าน เวลาจิต ลงไปตามกาลเวลาเลย ทา่ นพดู ว่า
รวมพรบึ ลงไป ทา่ นวา่ ดพู ระดเู ณรนแ่ี หม แซงหนา้ “บอกบถ่ ูกล่ะ กับพ่อแม่ครจู ารยน์ ่ะ ใจน่ีทง้ั
แซงหลงั ลกุ ลลี้ กุ ลน ทา่ นวา่ แลว้ กำ� หนดดผู ทู้ เ่ี ดนิ นม่ิ นวล ทงั้ อบอนุ่ ซาบซงึ้ อยหู่ น่ั ละ่ ขน่ั เวา่ ถงึ ความ
ตามหลงั มี แตม่ นี อ้ ย ทา่ นวา่ เดนิ ตามหลงั ดว้ ยความ เคารพ ความรกั ความเทดิ ทนู บชู าของผมนะ่ มนั สดุ
สงบเสงยี่ มงามตามนี อ้ ยมาก ทา่ นวา่ พวกทวี่ ง่ิ แซง อยกู่ บั เพ่ินเบิ้ด บ่มเี หลือ ใจของผม บเ่ หลอื เลย”
หนา้ แซงหลงั ลกุ ลล้ี กุ ลนนนั่ มนั มากตอ่ มาก กำ� หนด เปน็ ความเคารพของทา่ นผบู้ รสิ ทุ ธทิ์ มี่ ตี อ่ พอ่
พิจารณาลง เป็นเพราะอะไรท�ำไมจึงเป็นอย่างน้ี แม่ครูจารย์ที่บริสุทธ์ิสุดส่วน เป็นความงามของ
มนั กไ็ ดค้ วามขน้ึ มาทนั ทเี ลย พวกทแ่ี ซงหนา้ แซงหลงั พระสาวกอรหันต์ลูกศิษย์ของสมเด็จพระสัมมา-
คอื พวกทอ่ี วดดอี วดเดน่ พวกขายกอ่ นซอื้ พวกที่ สมั พทุ ธเจา้ ทแี่ สดงใหโ้ ลกไดเ้ หน็ เปน็ บญุ ตาบญุ ใจ
เดินตามหลัง ก็คอื ลกู ศษิ ยท์ ี่มีครู ด�ำเนินตามครู แกพ่ วกเราชาวพทุ ธ และควรรกั ษาสบื ไวใ้ หเ้ ปน็ มรดก
ตามหลักธรรมหลักวินัย มันกง็ ามตา นม้ี นี ้อย” อันล�้ำค่าของพระกรรมฐานสายหลวงปู่ใหญ่ม่ัน
ส�ำหรับหลวงปู่ลีน้ัน ท่านมีความเคารพ สืบไป
เทิดทูนปฏิปทาครูบาอาจารย์ที่ท่านได้พาด�ำเนิน
มาไว้เหนือเกล้าเสมอมา ท่านพยายามรักษาไว้
เป็นมรดกชิ้นส�ำคัญแก่บรรดาพุทธบริษัทภายหลัง
ท้ังส่วนภายนอกและส่วนภายใน หวังให้เป็นคติ
ตวั อย่างท่ีดงี ามแกช่ าวพุทธสบื ไป

150 ผทู้ รงไวซ้ ่ึงความฉลาด

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 151

ใต้ร่มธรรม
ครบู าอาจารย์

อาตมาบ่ปะ

พ่อแม่ครูจารย์

จกั เทือนะ

หลวงปูล่ ี กุสลธโร
152 ผู้ทรงไว้ซึ่งความฉลาด

หลวงปสู่ งิ ห์ ขนั ตยาคโม ในชวี ติ ของพระปา่ กรรมฐานของหลวงปลู่ ี กสุ ลธโร
หลวงปู่อ่อน ญาณสริ ิ นอกเหนอื จากการอยศู่ กึ ษากบั พอ่ แมค่ รอู าจารย์
หลวงตาพระมหาบวั ญาณสมั ปนั โน แลว้ ศษิ ยอ์ งคส์ ำ� คญั
ของหลวงปใู่ หญม่ ั่น ภูริทัตโต รปู อืน่ ๆ ที่หลวงปลู่ ีไดม้ ี
โอกาสสมาคมดว้ ยกย็ งั มอี กี มาก ดงั ทพี่ อจะเอย่ นามได้
ดังนี้
หลวงปสู่ งิ ห์ ขันตยาคโม

“เพิ่นสร้างกระดกู ให้จฟุ่ ้า วาซ่นั ”

หลวงปู่ออ่ น ญาณสิริ

“มาอยู่ หลวงปอู่ อ่ น บา้ นน่ี จำ� พรรษานำ� เพนิ่
๓ พรรษา เกยี่ วกบั แมอ่ อกอยหู่ นองบวั บาน
เน่ีย แม่ออกป่วยหลาย เลยมานอนปัว
จำ� พรรษานำ� เพน่ิ ๓ พรรษา ๒๕๐๑ แลว้ ๒๕๐๕,
๒๕๐๙ ทอน่นั ”

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

“หลวงปู่ชอบเพิน่ เว่าน่ี
จติ เพ่ิน เดนิ เบิ้ดมอื้ กะอยนู่ ำ� พุทโธเบ้ิดมื้อ”

หลวงปชู่ อบ ฐานสโม

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 153

หลวงปู่หลุย จันทสาโร หลวงปหู่ ลุย จนั ทสาโร

หลวงปู่ขาว อนาลโย “ถำ้� กลองเพล นไ่ี ปตวั้ ปี ๐๖ ปนี นั่ มนั ๑๕ บ่
ไปกะเจา้ ของบม่ กี ฏุ อิ ยแู่ ลว้ กะพอ่ แมค่ รจู ารยห์ ลยุ
หลวงปฝู่ ั้น อาจาโร ซ้อื หญา้ ให้ พากนั เฮด็ ”
154 ผู้ทรงไวซ้ งึ่ ความฉลาด
หลวงปูข่ าว อนาลโย

“จั่งหลวงปูข่ าวเพน่ิ เวา่ เดินจงกรมนี่ ฮว่ ย
เพิ่นเดินทางเพ่ิน ๓ เส้นพู้นแแหล่วมื้อหนึ่ง
เส้นพุทโธบูชาพระพุทธเจ้า เส้นหน่ึงบูชา
พระธรรม เสน้ หนง่ึ บชู าพระสงฆ์ เอาอยจู่ งั ซนั่
เพ่ินบ่ได้ย่อท้อเด๊ เอาความเพียรเผากิเลส
อยหู่ ัน่ ”

หลวงปฝู่ ั้น อาจาโร

“หลวงป่ฝู ้นั บไ่ ด้ร่วมพรรษา แต่ได้อยู่เปน็
เดอื นๆ สองเดอื นพนุ่ แลว้ อยถู่ ำ�้ เปด็ น่ี ไปอยู่
ถ้ำ� เป็ด เพิน่ เปน็ ค่สู วดตัว้ ”

ท่านพ่อลี ธัมมธโร

“เพิ่นกะมสี ติดีเด๊ เอ่ เฮาคือมานอนพ้ี แล้วป่ินหัว
(หนั หัว) บถ่ ืกคอื เก่า พูน้ ดิ๊ สตเิ พ่นิ อันน่มี ันเปน็
จงั ใด๋วาซัน่ ลุกขึ้นเหลยี วเบงิ่ เพิ่นเลยเขา้ ทภ่ี าวนา
ภาวนาวา่ ชา้ งโตหวั หนา้ มาตรวจทาง ตรวจอนั ตราย
แลว้ กะลกู นอ้ งมานำ� หลงั แลว้ มนั โจมออกมา แลว้ กะ
มาตนั ทางบใ่ หห้ มเู่ บยี ดเบยี นเพนิ่ สตั วท์ กุ ชนดิ ตอ้ ง
มีหัวหนา้ ทุกโตทกุ คน ตอ้ งเคารพผู้น่นั ”

ท่านพอ่ ลี ธัมมธโร

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมั ปันโน หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมั ปนั โน

“อาตมาบ่ปะพ่อแมค่ รจู ารยจ์ กั เทือนะ” หลวงปบู่ ัว สิริปณุ โณ
หลวงปลู่ ี กุสลธโร 155
หลวงปู่บัว สริ ิปุณโณ

“หลวงปบู่ วั เพนิ่ แฮงคกั เพน่ิ นง่ั อยู่ ๓ มอ้ื ๓ คนื
พู้นเด๊ เพนิ่ ว่า เพ่ินนั่งเตง็ ทุกข์หนกั เอา้ มึงมาเลย
เพนิ่ วา่ เพราะเหน็ กาย กำ� หนดอยหู่ น่ั บใ่ หอ้ อกจากหนั่
บังคับอยู่ห่ัน บ่ให้มันออกไปทางอ่ืน จังซั่นเด๊
ครบู าอาจารย์เพน่ิ เฮด็ มาจงั่ สิเห็นธรรม”

วัดภผู าแดง

สไิ ด้มาอยู่นก่ี ะ
ปา่ ไมเ้ กรียงแหลว่
มาเป็นปา่ ไม้อำ� เภออยู่น่ี
ไปขอพอ่ แมค่ รูจารย์
เพิ่นเลยบอกผมวา่

“เออ้ ลี แถวน้ี
สบิ ่พอมีบ่อนหลบ
บอ่ นซน้ อยบู่ อ้
ไปเบ่งิ ผาแดงให้
แหน่เดอ้ ”

หลวงป่ลู ี กสุ ลธโร

156 ผู้ทรงไว้ซงึ่ ความฉลาด

พระประธานบนศาลาวัดภูผาแดง สร้างถวายโดยคณุ ทนันชยั ตรงั คานกุ ูลกจิ และคณะศษิ ย์

หลวงปูล่ ี กุสลธโร 157

วดั ป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ ศาลาหลงั แรก วดั ภผู าแดง
หรือ วัดภูผาแดง มีชื่อใน
ทะเบยี นสำ� นกั งานพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ
วา่ วดั หนองสวรรค์ ตง้ั อยบู่ นเขาด้าน
ทิศตะวันออกของหมู่บ้านหนองอ้อ
ต�ำบลหนองอ้อ อ�ำเภอหนองวัวซอ
จงั หวัดอุดรธานี กรมป่าไม้ได้อนุญาต
ให้กรมการศาสนาใช้พื้นท่ีสร้างวัดข้ึน
จำ� นวน ๑๕ ไร่ และอนุมตั พิ น้ื ท่ีเพ่มิ
ให้วัดเข้าไปใช้ประโยชน์และรักษาป่า
ในโครงการวัดช่วยงานด้านป่าไม้เป็น
จ�ำนวน ๗,๕๐๐ ไร่ ครอบคลุมทงั้ ยอด
ภูผาแดงและภเู ม็ง

เทอื กเขาลกู นี้ ในชว่ งฤดพู รรษา โรงครัวหลังแรก วัดภูผาแดง
จะมีพระกรรมฐานเทียวไปมาพัก
ภาวนาเกือบทุกปี เชน่ หลวงปู่ลใี หญ่
และหลวงปบู่ ญุ มา กลั ยาณคตุ โต วดั ปา่
ธรรมคณุ วรจติ ร บา้ นหนองออ้ เปน็ ตน้
แตค่ วามทวี่ ดั ตง้ั อยหู่ า่ งไกลจากหมบู่ า้ น
เส้นทางสญั จรลำ� บากยากตอ่ การเทย่ี ว
บณิ ฑบาตเลย้ี งชีพ เพราะหมบู่ า้ นเดิม
ท่ีเคยอาศัยบิณฑบาต (บ้านผางาม)
ทางการไดส้ ง่ั ใหอ้ พยพออกจากพนื้ ทไี่ ป
เนื่องจากกลัวว่าชาวบ้านจะบุกรุกป่า
จึงไม่มพี ระอยปู่ ระจำ�

158 ผทู้ รงไว้ซึง่ ความฉลาด

กุฏพิ ระสมัยเริ่มสร้างวัดภูผาแดง งานทอดกฐิน ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ทว่ี ัดภูผาแดง

หลวงปู่ลี กุสลธโร และพระอาจารยว์ ันชยั วจิ ติ โต
ขณะรับบิณฑบาตทว่ี ดั ภูผาแดง

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 159

กฏุ ริ ับรองหลวงตาพระมหาบัวหลังแรก ณ วดั ภูผาแดง โรงน�ำ้ รอ้ น วัดภผู าแดง

หลวงปู่ลีได้ตั้งใจไว้ว่า หากพรรษายังไม่พ้น “นี่กะเฮ็ดไว้ต้อนรับพ่อแม่ครูจารย์มาพักนะ
๔๐ พรรษาแลว้ ทา่ นจะไมอ่ ยปู่ ระจำ� ทใ่ี ดทห่ี นงึ่ นาน เพิ่นมาเรื่อยแล้ว เพ่ินเบ้ิดบุญแล้วผมจังค่อยได้
เวน้ วดั ปา่ บา้ นตาดเสยี จะขอเทยี่ วไปตามอธั ยาศยั มาอยู่ แต่กอ่ นอยูก่ ฏุ ิพ้นู ลำ� บากหมู่เอารถไปรับ
ไมข่ อมภี าระปกครองหมพู่ ระเณร เพราะโดยนสิ ยั กะเลยย้ายมาอยู่นี่ แต่ก้ีแถวน้ีเป็นป่าเบ้ิด
ของท่านแล้วไม่ชอบความคลุกคลีวุ่นวาย ไม่ติด พวกชาวบา้ นมาเฮด็ ไฮ่ พวกปา่ ไมม้ าไลล่ ง กลวั เขา
ในถิ่นและตระกูล ยินดีในรสวิเวก ข้อน้ีก็เพ่ือ ไปทำ� ลายปา่ เลยใหอ้ อกเบด้ิ ชาวบา้ นเลยมาขอเงนิ
ทอดสะพานให้เป็นแบบอย่างแก่ลูกหลาน กบั ผมทนี ้ี ฮว่ ย อาตมาบม่ เี งนิ ปานนนั้ เด๊ เลยนำ� ไป
วงศ์พระกรรมฐานรุ่นต่อไป แต่ด้วยคุณธรรมท่ี ขอกับพ่อแม่ครูจารย์ว่า ชาวบ้านถูกป่าไม้ไล่ลงภู
สงู สง่ ภายในของทา่ น ท�ำให้มีพระเณรขอติดตาม บม่ ีเงิน
ศกึ ษาอยดู่ ว้ ย และอายพุ รรษาทมี่ ากขนึ้ การเทย่ี วไป หลายปานใด๋ ฮว่ ย หลายแหล่วขะนอ้ ย
แบบเดิมจึงสร้างความล�ำบากมากกว่าแต่ก่อน เอ้า นัน่ ไปบอกเขาเดอ้ ว่าเฮาสิซอย ใหไ้ ร่
พอดกี บั ชว่ งนนั้ ทางปา่ ไมอ้ ำ� เภอหนองววั ซอ อยาก ละพันๆ
ไดพ้ ระเขา้ มาชว่ ยเหลอื งานรกั ษาปา่ จงึ ไดเ้ ดนิ ทาง โอ้ย ชาวบา้ นกะหลาย ฮว่ ย เงนิ บแ่ ม่นฮอด
เขา้ กราบเรียนปรกึ ษาเรือ่ งนี้กบั หลวงตา หลวงตา สองลา้ นพนู้ บอ้ พอ่ แมค่ รจู ารยซ์ อยเหลอื ชาวบา้ น
ได้ให้หลวงปูเ่ ข้ามาลองพิจารณาดูว่าเหมาะสมพอ คราวนัน้
ท่ีพระจะอยู่ไดห้ รือไม่
หลวงปไู่ ดเ้ ลา่ เหตผุ ลความเปน็ มากอ่ นจะมา
สร้างวัดภูผาแดงขนึ้ วา่

160 ผู้ทรงไวซ้ งึ่ ความฉลาด

ผมพาหมู่มาอยู่นีก่ ะเพื่อให้หมูไ่ ดป้ ฏิบัติเด๊ ตามปกติผมว่าสิบ่อยู่ ปกติผมแหล่ว
ผมบไ่ ด้เพอื่ หยงั เดะ๊ ผมมาอยเู่ น่ีย ไปหมอ่ งหนั่ หมอ่ งนี่ หลบ บซ่ ำ�้ หมอ่ งเกา่ เวน้ ไว้
แต่บ้านตาด จ�ำพรรษาอยู่น�ำครูบาอาจารย์
ว่าสไิ ดม้ าอยู่นก่ี ะปา่ ไม้เกรียงแหล่ว มาเป็นป่าไม้ กะอยู่ บ้านตาดเนีย่ ๔ ฝน ๕ ฝน ผมกะ
อ�ำเภออย่นู ี่ ไปขอพอ่ แม่ครจู ารย์ เพ่นิ เลยบอกผมว่า อยู่ได้ เคยอยู่น�ำเพิ่นมาเด๊ แต่บวชมาพุ่น
“เออ้ ลี แถวนส้ี บิ พ่ อมบี อ่ นหลบบอ่ นซน้ อยบู่ อ้ ไปเบง่ิ อยบู่ ่อนอนื่ เนี่ย ฮว่ ย อยพู่ รรษาเดยี วทอน่ัน
ผาแดงใหแ้ หนเ่ ด้อ” พระเณรหลายมาศึกษาจังซ่ี จวนสิเข้า
กะเลยมาอย่นู ี่ ทีแรกว่าสิบอ่ ยู่ เพิ่นกะเลยเขยี น พรรษาแลว้ บม่ ีทอ่ี ยูใ่ ห้หมู่จงั ซี่ ออกให้หมู่
จดหมายไปเอาท่านวันชัยมา มาอยู่น่ีน�ำกัน ๒ ฝน ทานหมู่ ไดอ้ านสิ งสเ์ ด๊ ไปละ ไปถำ้� กลองเพล
(พ.ศ. ๒๕๓๓, ๒๕๓๔) บาดหลงั น่ปี า่ ไมก้ ะมาขอแบ่ง จังซ่ี หนองแซงจงั ซี่
พระไปอกี อยพู่ นู้ สพิ าไปอยเู่ สงิ เคงิ ภสู งั โฆพนู้ พอ่ แม-่ ผมพาหมู่มาอยู่นี่กะเพ่ือให้หมู่ได้
ครูจารยเ์ พ่นิ กะแตง่ บอกให้แบง่ กันไป ใหพ้ ระไปอย่ใู ห้ ปฏิบตั เิ ด๊ ผมบไ่ ด้เพ่อื หยงั เดะ๊ ผมมาอย่เู นี่ย
เขาแหน่ ทแี รกผมว่าสิไป บ่ ทา่ นวันชยั บย่ อม ว่าผม ขน่ั บม่ หี มู่ กะอยนู่ ำ� พอ่ แมค่ รจู ารยท์ อนนั่
สไิ ปเองดอก ให้ครูจารยอ์ ยู่น่ี ท่านวันชัยกะเลยไปอยู่ นอกนน้ั กะไปผเู้ ดยี ว ไปวเิ วก อยา่ งมาก ๓ องค์
ภูสังโฆฮอดคูม้อื นี่” ทอนน่ั ”
“กอ่ นมานี้ มภี มู นิ มิ นตห์ ลวงปมู่ าบผ่ ม”
พระกราบเรยี นถาม
“มอี ยู่ กะนมิ นตม์ าอยเู่ ด๊ ภมู เิ ขานมิ นตม์ า
ใหอ้ ยู่ ชอื่ วา่ ทา้ วคำ� สงิ ห์ แตผ่ มอยหู่ นองแซง
พู่นแม่นเบ้ิด น�ำหมู่เนี่ย จังซ่ันจังซ่ีมากวด
(ตรวจ) เบิง่ ” หลวงปตู่ อบ
“เทวดาท่ีนิมนต์มา ตอนน้ีเขาอยู่ไหน
ขอรบั ” พระเรยี นถาม
“เขาอยมู่ าโดนแหลว่ ปนี ี้ (พ.ศ. ๒๕๕๙)
ไปแหล่ว ไปภพภมู ทิ ่สี ูงกวา่ ” ทา่ นตอบ

หลวงปู่ลี กุสลธโร 161

ก่อนที่หลวงปู่จะเข้ามาพักที่วัดภูผาแดง ใน หลวงป่ลู ี กุสลธโร
ครงั้ แรกนน้ั ทา่ นไดพ้ กั อยกู่ บั หลวงพอ่ จนั ทรเ์ รยี น คณุ วโร
ทว่ี ดั ถำ�้ สหายกอ่ น จากนน้ั ทา่ นใหพ้ ระขา้ มเขามาสำ� รวจ
พนื้ ทบี่ รเิ วณภผู าแดง ภเู มง็ กอ่ น ตอ่ มาอกี ๔ วนั หลวงปู่
จงึ ไดต้ ามมา วนั แรกหลวงปพู่ าพระเณรฉนั จงั หนั บนกฏุ ิ
ขา้ งเทิบหนิ ข้างล�ำหว้ ย ถดั จากถ�้ำพระลงไปอกี จากนัน้
ท่านได้พาพระย้ายขึ้นมาอยู่บนสันเขาบริเวณท่ีตั้งวัด
ในปัจจบุ ัน เพราะท่เี ดมิ อากาศทบึ ชื้น
ในพรรษาแรก (พ.ศ. ๒๕๓๓) มพี ระเณรรว่ มจำ� พรรษา
๑๑ รปู ดังนี้
๑. หลวงป่ลู ี กสุ ลธโร
๒. พระอาจารย์วันชยั วจิ ติ โต
๓. พระอาจารยค์ ำ� บ่อ กนั ตวีโร
๔. พระอาจารย์นคิ ม (ลาสิกขา)
๕. พระอาจารยอ์ ุดร วัฑฒโน
๖. พระอาจารย์วรี ะศกั ดิ์ ติกขวีโร
๗. หลวงตาจอ่ ย
๘. พระอาจารย์จนั ทร์ดี อาจารสัมปนั โน
๙. พระอาจารย์ชาตรี นิสสโภ
๑๐. พระต้ัว (ลาสิกขา)
๑๑. สามเณรปอ้ ม บา้ นผาน้อย
โดยหลวงปู่ลีได้มอบหมายให้ท่านพระอาจารย์
วันชัย วิจิตโต เป็นเจ้าอาวาส ส่วนองค์ท่านขอเป็น
ประธานสงฆ์ดูแลหมูค่ ณะพระเณรกพ็ อ

หลวงพ่อจนั ทรเ์ รียน คณุ วโร

162 ผู้ทรงไวซ้ ึง่ ความฉลาด

พระอาจารยว์ นั ชยั วจิ ติ โต การก่อสร้างศาลา วดั ภูผาแดง

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 163

ธรรมลี เราไป
สงเคราะหโ์ ลกกัน

เพน่ิ มาเวา่ น�ำครัง้ น้ัน
ปานพอ่ กับลกู นะ
สองตอ่ สองนะ่
เพน่ิ สพิ าหาเงนิ ซอยชาตวิ ่า
“ให้กินขา้ วกับนำ�้ ปลาเด้อ
ผมบพ่ าเฮ็ดนานดอก
สิซอยเขาสองป”ี
เว่าทีแรกนะ่

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร

164 ผทู้ รงไวซ้ ่งึ ความฉลาด

ปกติทกุ ๆ คนื หลวงตาจะแผเ่ มตตาจติ แกส่ รรพสตั วท์ ง้ั มวล
อยเู่ ปน็ ประจ�ำ อ�ำนาจจิตของทา่ นแผ่ไปไมม่ ีประมาณ
ในสามแดนโลกธาตุ คืนหนึ่ง จิตของท่านย่นเข้ามาสะดุดก๊ึกอยู่ท่ี
เมอื งไทยของเรา เกดิ ความหว่ งโลกหว่ งสงสาร ประเทศชาตบิ า้ นเมอื ง
ที่ประสบกับปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจและความสับสนทางสังคม
เฉพาะอย่างยิ่งทางด้านจิตใจ ถึงข้ันบ้านเมืองจะล่มจะจม ในนิมิต
ภาวนาที่ปรากฏนั้น ปรากฏว่าชาติไทยมีแต่ความมืดด�ำปกคลุม
มืดครึ้มไปหมด ในจิตอ่อนนิ่มแผ่เมตตาไปทางใดประหน่ึงว่าจะ
หมดหวงั ทง้ั ๆ ทกี่ อ่ นนไี้ มเ่ คยมอี ะไรขวางกน้ั ทางเดนิ แหง่ จติ ทเี่ มตตา
ครอบโลกธาตุน้ีได้เลย แม้พิจารณาแผ่เมตตาออกไปคร้ังท่ีหน่ึง
ครง้ั ทส่ี อง ครง้ั ทสี่ าม ผลกย็ งั เปน็ เชน่ นนั้ เหมอื นเดมิ ทา่ นจงึ กำ� หนดจติ
พิจารณาหาผู้ใดจะมาช่วยแบ่งเบาภาระและจุดประกายให้แสงสว่าง
แก่ประเทศชาติท่ีด�ำมืดคร้ึมน้ันก็ไม่เห็นมี ประหนึ่งว่าหมดหวัง
แล้วหนอ ชาติบ้านเมืองในคราวน้ี ถึงคราวท่ีจะสูญสลายส้ินชาติ
และพระศาสนาท่ีให้ความร่มเย็นแก่โลกมาเป็นเวลานาน มองไป
ชอ่ งทางใดกม็ แี ตค่ บั แคบตบี ตนั กวา้ งกก็ วา้ งเพอื่ จะตบี ตนั เมอื่ ไมเ่ หน็
มีผู้ใดท่ีพอจะช่วยได้แล้ว ท่านจึงก�ำหนดจิตย้อนเข้ามาภายในตน
ปรากฏว่าเห็นเป็นแสงสว่างเพียงหิ่งห้อย จึงก�ำหนดจิตเข้าไปตาม
ล�ำแสงอนั น้อยนิดนนั้ แมจ้ ะเป็นช่องแคบๆ กจ็ รงิ แตเ่ มอ่ื ก�ำหนดดู
ปรากฏว่าทะลุไปได้ เม่ือท่านพิจารณาดูว่าแสงห่ิงห้อยนั้นคืออะไร
ปรากฏวา่ กค็ อื ตวั ของหลวงตาเอง ทา่ นจงึ ไดอ้ อกตวั มาเปน็ ผนู้ ำ� พนี่ อ้ ง
ประชาชนคนไทยเพ่ือที่จะพาชาติบ้านเมืองให้พ้นวิกฤติในครั้งน้ีไป
ใหไ้ ด้
นอกจากนหี้ ลวงตายงั กลา่ วดว้ ยวา่ การออกมาชว่ ยชาตใิ นคราวน้ี
ของท่านจะมีผลอยู่สองทางคือ หนึ่ง จะเป็นทางบุญน�ำประชาชน
ผเู้ ล่อื มใสศรัทธาไปสวรรค์พรหมโลกนพิ พาน สอง จะเป็นทางบาป
ไปนรกสำ� หรบั ผทู้ ไี่ มเ่ หน็ ดว้ ย ไมอ่ นโุ มทนา แตค่ ดิ จอ้ งทำ� ลาย ลบหลู่
เหยยี บยำ�่ สกดั กนั้ การชว่ ยชาตคิ ราวนี้

หลวงปู่ลี กุสลธโร 165

นิมิตภาวนาในคร้ังน้ี ถึงกับท�ำให้ท่านร้อง สองปี” เวา่ ทีแรกน่ะ อ่ันเพน่ิ พาเฮด็ น่กี ะสิบกว่า
โกก้ และประกาศเลยวา่ “ถา้ หลวงตาบวั ยงั ไมต่ าย ปแี หล่ว ฮึๆๆ ก่อนเพ่นิ สลิ ่วงไป (ละขันธ)์ กะมา
เมอื งไทยเรายงั จมไม่ได้” กระซบิ นะ หาให้มันเต็ม ๑๓ ตนั เด้อ ทองค�ำน่ะ
“อ�ำนาจแห่งความเมตตาน้ันออกมาจาก ผมลว่ งไปแลว้ กะหาใหม้ นั เตม็ แลว้ มนั กะเตม็ แลว้
ธรรมชาติท่ีบริสุทธิ์ ท่านผู้มีจิตถึงขั้นบริสุทธ์ิแล้ว เด๊ะละ่ ๑๓ ตนั นะ่ เกนิ มา ๘ กโิ ลพูน่ เพิน่ ส่งั ไว้
ย่อมมีเมตตามาก อันนี้ยังขึ้นอยู่กับนิสัยอีก เบิ้ดแหล่ว เพ่ินเว่าเฉพาะอาตมาแมะ ข่ันมีหมู่
ท่านผู้ใดจะมีนิสัยอัธยาศัยกว้างขวาง มีบุญญา มพี วกแหลว่ เพนิ่ อยากขแู่ ตอ่ าตมาโลด เพน่ิ ขใู่ สห่ มู่
ศักดานุภาพมากเทา่ ไร ก็จะกระจายออกไป ซึ่งมี ฮ้ายอาตมาใส่หมู่โลด บ่ให้ล่ึงเพิ่นเลย ขั่นสอง
ความเมตตานี้เป็นพื้นฐานที่จะให้กระจายออกไป ต่อสอง โอย๊ ปานพอ่ กบั ลกู โลด เฮ็ดน�ำพ่อแม่
ท่านผู้ไม่เป็นอย่างน้ันท่านก็มี แต่มีวงกว้างแคบ ครจู ารยน์ ี่ สุดหัวใจละ่ ”
ต่างกัน สำ� หรับความบรสิ ุทธิ์น้นั เสมอกนั ” เชา้ วนั ตอ่ มา หลวงปลู่ ไี ดเ้ รยี กใหโ้ ยมผใู้ กลช้ ดิ
ก่อนท่ีหลวงตาจะเปิดโครงการช่วยชาติข้ึน เขา้ ไปหา แลว้ สอบถามถงึ บญั ชปี จั จยั ภายในวดั วา่
อย่างเป็นทางการนั้น วนั หนึ่ง ท่านไดเ้ ดนิ ทางไป ยงั มีอยู่เทา่ ไร โยมไดก้ ราบเรยี นให้ทา่ นทราบแลว้
เย่ียมวัดภูผาแดงเพ่ืออบรมธรรมให้ก�ำลังใจแก่ จากน้ันท่านจึงสั่งว่าให้เอาปัจจัยของวัดทั้งหมดไป
พระเณรในการประพฤตปิ ฏิบัติ และก่อนจะกลบั ซอื้ ทองคำ� ถวายพอ่ แมค่ รจู ารย์ ไมต่ อ้ งเกบ็ ไว้ สว่ น
วันนั้น ท่านได้ปรารภถึงความเมตตาท่ีมีต่อ พระเณรเราใหบ้ ิณฑบาตฉันตามมตี ามได้เอา
ประเทศชาติบ้านเมืองว่าขาดผู้น�ำท่ีพอจะไว้ใจได้ จากน้ันมา โครงการผ้าป่าช่วยชาติจึงได้ถูก
มองดใู ครๆ กไ็ มล่ งใจ ไมส่ ามารถตายใจได้ สดุ ทา้ ย ประกาศข้ึนอย่างเป็นทางการ และเมื่อหลวงตา
ประเทศชาติก็จะพากันล้มเหลวลงไปด้วยกัน ออกเดินทางไปเทศนาส่ังสอนประชาชนเพ่ือรับ
ท้ังหมด ท่านจงึ ยอมเอาตัวออกมาเป็นผนู้ �ำในการ บรจิ าคทองคำ� และเงินตราสกลุ ต่างๆ ณ สถานที่
ช่วยสงเคราะหโ์ ลกในคร้งั น้ี และท่านก็หันมามอง แหง่ ใดกต็ าม จะมคี รบู าอาจารยผ์ ใู้ หญ่ เชน่ หลวงปู่
ทางหลวงปู่ลีซ่ึงน่ังอยู่ไม่ไกลนัก พร้อมกับพูดว่า เพยี ร วริ โิ ย และหลวงปลู่ ี กสุ ลธโร ตดิ ตามหลวงตา
“ไป ธรรมลี เราไปสงเคราะห์โลกดว้ ยกัน” ไปทุกหนทุกแห่ง จนเป็นภาพท่ีคุ้นเคยของเหล่า
หลวงปไู่ ดเ้ ล่าถงึ ความตอนนั้นวา่ ศิษยานุศิษย์ บรรดาครูบาอาจารย์พระกรรมฐาน
“เพ่ินมาเว่าน�ำครั้งน้ันปานพ่อกับลูกนะ สายหลวงปมู่ นั่ ภรู ทิ ตั โต กไ็ ดอ้ อกมาแบง่ เบาภาระ
สองตอ่ สองนะ่ เพนิ่ สพิ าหาเงนิ ซอยชาตวิ า่ “ใหก้ นิ ช่วยกันคนละไม้คนละมือตามก�ำลังวาสนาของ
ขา้ วกบั นำ�้ ปลาเดอ้ ผมบพ่ าเฮด็ นานดอก สซิ อยเขา ตนๆ คอยสนบั สนนุ โครงการผา้ ปา่ ชว่ ยชาติ สง่ ผล
ให้ประสบความส�ำเร็จดังที่หลวงตาต้ังปณิธานไว้

166 ผูท้ รงไว้ซึ่งความฉลาด

ทุกประการ ในส่วนตัวของหลวงปู่ลีเอง ท่าน กรรมฐานจากท่ีตา่ งๆ มารวมกัน ปีน้นั เราจำ� ไดว้ า่
พยายามรวบรวมทองค�ำและเงนิ ตราสกลุ ต่างๆ ที่ ๔๐ กว่ากิโล ทองคำ� นะ คราวนัน้ เปน็ เรมิ่ แรกของ
ได้จากศรัทธาญาติโยมน�ำมาถวายเพื่อน�ำไปมอบ พระกรรมฐานที่ช่วยรวมหัวกันมารวมในอาจารย์
ถวายต่อพ่อแม่ครูอาจารย์อยู่เสมอๆ นับว่าเป็น ซง่ึ เปน็ หวั หนา้ นอ้ี อกชว่ ยโลก ทองคำ� ไดถ้ งึ ๔๐ กวา่
จ�ำนวนมากท่ีสุดในบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ที่พึง กโิ ล ของเลน่ เมอ่ื ไร จากนนั้ มากเ็ รอ่ื ยมาอยา่ งนแี้ หละ
จะกระท�ำได้ มาเร่ือยๆ วงนลี้ ะช่วยมาก วงกรรมฐาน
พวกเรามักจะได้ยินหลวงตาท่านปรารภถึง คอื ธรรมดากรรมฐานทา่ นไมค่ อ่ ยมงั่ มอี ะไรละ
หลวงปู่ลีอยูบ่ ่อยๆ วา่ ท่านไม่ค่อยสนใจกับเงินกับทอง มีแต่มุ่งอรรถ
“หลวงปลู่ กี ราบถวายทองคำ� ๑ กโิ ล ไมใ่ ชเ่ ลน่ มงุ่ ธรรม เวลาเขามาถวายทา่ น ไวยาวจั กรหรอื ทายก
ธรรมลอี อกจากวดั ผาแดงไปนาน กลบั มาไดท้ องคำ� เขาเกบ็ ไวๆ้ เวลาทา่ นตอ้ งการ ทา่ นกม็ าถามเรอ่ื งราว
ตงั้ ๑ กโิ ลกรมั กบั ๒๖ บาท เงนิ ไทยได้ ๑๓,๕๐๐ บาท แล้วสั่งให้เขาไปซื้อเท่านั้นเอง ท่านไม่ไปยุ่งกับ
เงนิ สหรฐั ๒ ดอลลาร์ อนโุ มทนานะนี่ (สาธ)ุ ผาแดง เงินนะ พระกรรมฐานท่านไมไ่ ปยุง่ แหละ แม้เรา
นม้ี าเรอื่ ย ภสู งั โฆ ผาแดง ทางหนองกอง ทางไหน อยา่ งนก้ี ไ็ มเ่ คยยงุ่ นะกบั เงนิ วา่ ไง คอยดบู ญั ชนี ส้ี งั่ ๆ
โอ๊ย มาทุกแห่ง แต่ท่ีจ�ำนวนมากบ่อยท่ีสุดก็คือ เงนิ มนั อยทู่ ธ่ี นาคารๆ ไมไ่ ดอ้ ยกู่ บั เรา เราเปน็ แตส่ ง่ั
ผาแดง ภูสงั โฆ หนองกอง มาเรอื่ ยละตามก�ำลงั ดว้ ยกระดาษเท่านั้นแหละ
ไมใ่ ชท่ า่ นเหลา่ นตี้ ระหนถ่ี เี่ หนยี วนะ พระกรรมฐาน ธรรมลนี เ้ี อาของมา ปจั จยั เอามาเรอื่ ยๆ ไมว่ า่
ไม่มีตระหน่ีถเ่ี หนยี ว มีเทา่ ไรเหน็ หมดเลย แสดง องคไ์ หนละ่ อยแู่ ถวนน้ั เอามาเรอื่ ยๆ นะ แถวนาคณู
นำ�้ ใจอยา่ งบรสิ ทุ ธท์ิ า่ นมงุ่ ตอ่ ธรรมอยา่ งยง่ิ สงิ่ เหลา่ น้ี หนองกอง ผาแดง มาทั้งนั้นล่ะ เมื่อเร็วๆ น้ี
เป็นส่ิงที่ส่งเสริมเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นจึงไม่มี ท่านเพียรก็มา ท่านป่วย มาน่ีถวายเช็คเท่าไหร่
คำ� วา่ ตระหน่ี พระกรรมฐานไมต่ ระหนี่ กรรมฐาน เป็นล้านบาทนู่นน่ะ เมื่อสองสามวันน้ี ทา่ นเพียร
มงุ่ อรรถมงุ่ ธรรมจรงิ ๆ ทา่ นไมต่ ระหนี่ อยา่ งนน้ั ละ มาจากหนองกอง ทา่ นเหลา่ นป้ี ฏบิ ตั ดิ ี ปฏบิ ตั ชิ อบ
ตรงไปตรงมา ไดอ้ ะไรมาก็ทำ� ประโยชน์ ท้งั น้ัน เปน็ ลกู ศษิ ยเ์ รามาตั้งแต่ตน้ เลย ทา่ นเพียร
เช่นเราในฐานะว่าเป็นอาจารย์พาช่วยชาติน้ี ไปอยหู่ นองกอง ท่านบญุ มีไปอย่นู าคณู ​ ธรรมลี
บรรดาวงกรรมฐานอยู่ที่ไหนมาหมด รวมเล็ก ไปอยู่ผาแดง อันนี้ไล่ไม่ค่อยไปนะ ไล่ทางน้ี
รวมน้อยกันมา คิดดู เวลาต้งั รากฐานทแี รกช่วย หลบทางนัน้ นะ ธรรมลี อยู่กบั เรามาดง้ั เดมิ ”
ต้ัง ๔๐ กว่ากโิ ลโน่นแนะ่ ของเลน่ หรือน่ี รวม
พระกรรมฐานมานั่งเต็มหมด ท้ังญาติท้ังโยมท้ัง

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 167

ฐานะของผม

ผมเป็นลูกศิษยเ์ พ่นิ
พ่อแมค่ รจู ารยว์ า่ จังใด๋

ผมกะเฮ็ดตามเลยแหล่ว

หลวงปลู่ ี กุสลธโร
168 ผู้ทรงไว้ซงึ่ ความฉลาด

ในชว่ งทโี่ ครงการผา้ ปา่ ชว่ ยชาตเิ ปดิ ตวั ขนึ้ มาใหมๆ่ นน้ั หลวงตา
ได้เมตตารับนิมนต์เดินทางไปรับผ้าป่าช่วยชาติตามสถานที่
ตา่ งๆ ในแต่ละแห่ง ท่านจะเมตตาเทศนาส่งั สอนอบรมธรรมะเขา้ สู่
จติ ใจประชาชนญาตโิ ยมในสถานทน่ี น้ั ๆ ดว้ ยความทห่ี ลวงตามคี วาม
เมตตาสงสารอยา่ งยงิ่ ในการแสดงพระธรรมเทศนาแตล่ ะครงั้ จงึ ได้
เปิดเผยคุณธรรมช้ันสูงสุดให้แก่บรรดาพุทธบริษัทในที่ชุมนุมน้ัน
ได้ทราบเพ่ือเป็นที่ลงใจตายใจว่า ผู้น�ำของโครงการนี้เป็นผู้บริสุทธ์ิ
สดุ สว่ น ปจั จยั ทง้ั หลายทพ่ี น่ี อ้ งประชาชนบรจิ าคมา จะไมม่ ที างรว่ั ไหล
ไปทางอนื่ แน่นอน
ซึ่งแน่นอนว่า กลุ่มที่มีใจเป็นธรรมก็ย่อมเพิ่มทวีความศรัทธา
มากข้ึน ส่วนกลุ่มที่ไม่หวังดีต่อโครงการช่วยชาติก็ออกมาโจมตี
หลวงตา หาว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ข้ออวดอตุ ริมนุสสธรรมบ้าง
มกี ารยกั ยอกเงนิ บรจิ าคบา้ ง ซง่ึ กระแสของการวพิ ากษว์ จิ ารณใ์ นชว่ งนน้ั
คอ่ นขา้ งรุนแรงอยูพ่ อสมควร
คณะลกู ศษิ ยท์ งั้ ฝา่ ยพระและฆราวาสบางสว่ น ผเู้ ขา้ ไมถ่ งึ เจตนา
ทเี่ ปน็ ธรรมของหลวงตา ตา่ งกเ็ ปน็ หว่ ง จงึ ไดป้ รกึ ษาหารอื กนั มคี วาม
เหน็ ออกมาวา่ ควรกราบเรยี นใหห้ ลวงตาทา่ นทราบวา่ ไมค่ วรเปดิ เผย
คณุ ธรรมท่มี ี จะเกิดผลเสยี มากกว่าผลดี ควรเทศนาว่ากล่าวไปใน
สว่ นของเนอื้ หาธรรมะกพ็ อ เรอ่ื งนพ้ี ระเถระครบู าอาจารยบ์ างรปู กเ็ หน็
ดดี ว้ ย จงึ ไดเ้ ดนิ ทางมาขอรอ้ งหลวงปลู่ ใี หท้ า่ นชว่ ยกราบเรยี นหลวงตา
ให้ทราบ
หลวงปลู่ ไี ดต้ อบกลบั ไปวา่ “ผใู้ ดเ๋ กง่ กะไปกราบเรยี นเพน่ิ เองแหลว่
ผมบไ่ ดเ้ กง่ เดะ๊ ผมเปน็ ลกู ศษิ ยเ์ พน่ิ พอ่ แมค่ รจู ารยว์ า่ จงั ใด๋ ผมกะเฮด็
ตามเลยแหลว่ ของเพนิ่ มญี าณพอแฮงแลว้ เพน่ิ พจิ ารณาเบง่ิ ทกุ อยา่ ง
แลว้ เพนิ่ จงั พาพวกเฮาเฮด็ ขน่ั พวกทา่ นเกง่ กวา่ พอ่ แมค่ รจู ารย์ กะให้
พากันไปกราบเรียนเพิ่นเองโลด ฐานะของผมเป็นลูกศิษย์ของเพิ่น
ผมบแ่ ม่นอาจารยข์ องเพ่นิ ”

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 169

เม่ือหมู่พระเถระครูบาอาจารย์กลุ่มน้ันได้ฟังหลวงปู่ตอบออกมาเช่นน้ันแล้ว ต่างก็ไม่มีใครกล้าไป
กราบเรียนหลวงตาสักรปู เดียว เร่อื งก็เปน็ อันวา่ จบไป
ความจรงิ แลว้ ท่านผเู้ ป็นอรรถเป็นธรรมด้วยกัน ย่อมไม่มีความสงสัยในสิ่งทีผ่ ูเ้ ป็นอรรถเปน็ ธรรม
แสดงออกมา เพราะทา่ นแสดงออกมาจากความบริสุทธิใ์ นหวั ใจที่ไม่มีกิเลสเจอื ปน เฉพาะอย่างย่ิงแลว้
หลวงปลู่ ี ทา่ นไดบ้ รรลธุ รรมกด็ ว้ ยเทศนาการสงั่ สอนจากหลวงตา ทา่ นจงึ ไมส่ งสยั ในการแสดงออกตอ่ โลก
ของหลวงตา เพราะพระอรหนั ตต์ ่อพระอรหันต์ย่อมรู้เรอ่ื งของกันและกนั ดีกวา่ ปุถชุ นคนหนาอย่างเราๆ
ท่านๆ ทั้งหลาย ดังคำ� ท่หี ลวงตาไดอ้ ธบิ ายไวว้ ่า
“ธรรมะทส่ี อนโลกคราวน้ี รสู้ กึ มนั จะเปน็ อะไรกไ็ มท่ ราบเหมอื นกนั นะ เปน็ ดวงชะตาวาสนาของโลก
กอ็ าจเปน็ ได้ หรอื เปน็ อะไรกบั เรากอ็ าจเปน็ ได้ เรอื่ งความเมตตาสำ� คญั มาก ทเี่ ราจะไดไ้ หวตวั ออกมาเปน็
ผนู้ ำ� พนี่ อ้ งทงั้ หลาย แตก่ อ่ นเราไมเ่ คยคดิ วา่ ธรรมประเภทเหลา่ นที้ เี่ ราจะนำ� มาแสดงใหพ้ น่ี อ้ งชาวไทยทง้ั หลาย
เราได้ทราบนะ มนั ก็ออกมาด้วยความดลบนั ดาลดงั ทเี่ ห็นน่ีแหละ
สอนทแี รก เรากส็ อนไปเปน็ ขนั้ เปน็ ตอนธรรมดา เกย่ี วขอ้ งกบั หมกู่ บั เพอ่ื นกส็ อนธรรมดา แตเ่ ราไมไ่ ด้
บอกออกประกาศเหมอื นอยา่ งทน่ี ำ� ชาตคิ ราวนี้ วา่ เราไดร้ ไู้ ดเ้ หน็ อยา่ งน้ี คราวนไี้ ดอ้ อกแลว้ นะ ออกมาใหโ้ ลก
ทม่ี หี มู ตี าไดค้ ดิ ไดอ้ า่ นไดพ้ จิ ารณาเปน็ คตเิ ครอื่ งเตอื นใจตน ไอพ้ วกกองทพั กเิ ลสหหู นาตาทบึ นนั้ มนั กม็ แี ต่
คดั คา้ นตา้ นทาน อยา่ สนใจกบั มนั คนทด่ี ยี งั มอี ยู่ เราสอนเพอ่ื คนทจ่ี ะเปน็ สารประโยชน์ คนทหี่ มดคณุ คา่
ไรค้ ณุ ค่าแลว้ เราไมส่ นใจ ปทปรมะ ปลอ่ ยทเี ดยี วเลย
ทเ่ี รานำ� ออกมาสอนนท้ี วี่ า่ เปดิ นี่ บางทพี วกครบู าอาจารยท์ ง้ั หลายกม็ คี วามวติ กวจิ ารณว์ า่ ไมอ่ ยากให้
พดู ถงึ ขนาดนนั้ ไม่พดู ยงั ไง ว่าอยา่ งน้ันเลยนะเรา ขน้ึ ทนั ทเี ลย คือว่าพูดเชน่ ว่า สำ� เร็จอรหงอรหันตด์ ังที่
เขยี นไวน้ น้ั ถงึ จะพดู วา่ เราคอื พระอรหนั ตอ์ งคห์ นงึ่ นจ้ี ะผดิ ไปไหน แลว้ เหมอื นกบั เปน็ ความเสนยี ดจญั ไร
เสนยี ดจญั ไรของกเิ ลสนนั่ ซี ธรรมทา่ นจะเปน็ อะไร กท็ า่ นเปน็ อยา่ งนน้ั นี่ กเิ ลสเปน็ ขา้ ศกึ ของธรรมตา่ งหาก
ไมใ่ หพ้ ดู อยา่ งนนั้ นน่ั เหน็ ไหม กเิ ลสมนั วา่ อยา่ งนนั้ ทนี ค้ี รบู าอาจารยท์ ง้ั หลาย ผมกเ็ คยไดย้ นิ วา่ ไมอ่ ยากให้
ผมพดู อยา่ งนนั้
โอย๋ อย่ามาหา้ มนะ กิเลสมีสามแดนโลกธาตุใหม้ าวา่ ง้ันเลย เวลานี้หวั ใจเราเต็มด้วยธรรมครอบ
โลกธาตแุ ลว้ จะไมใ่ หเ้ ราพดู ไดย้ งั ไง พระพทุ ธเจา้ รไู้ ดเ้ หน็ ไดพ้ ดู ได้ ทำ� ไมเรารอู้ ยา่ งเดยี วกนั เหน็ อยา่ งเดยี วกนั
เราพดู ไมไ่ ด้ วา่ อยา่ งนเ้ี ลย เอา้ กเิ ลสตวั ไหนทม่ี าคดั คา้ นตา้ นทานใหม้ า โบกมอื หามนั เลย เวลานธี้ รรมเตม็
หวั ใจครอบโลกธาตแุ ลว้ กเิ ลสตวั ไหนเกง่ ให้มาวา่ งนั้ เลย จะฟาดให้มนั หงายหมดทั้งโคตรลงทะเลโน่น น่ี
เหน็ ไหม กล้าหาญไหม”

170 ผู้ทรงไวซ้ ่งึ ความฉลาด

ทา่ นเหล่านี้
เปน็ ผ้ปู ฏิบตั ดิ ี
ปฏบิ ตั ชิ อบ

(แถวบนจากซ้าย) พระอาจารยส์ งิ ห์ทอง ธมั มวโร หลวงปบู่ ญุ มี ปริปณุ โณ หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 171
(แถวล่างจากซา้ ย) หลวงปเู่ พียร วิริโย หลวงปู่ลี กุสลธโร

ภาระอันสำ� คญั

ธรรมลีอย่ไู หน

เราจะกลับไปอยู่
กบั ธรรมลี

หลวงตาพระมหาบวั ญาณสมั ปันโน
172 ผู้ทรงไวซ้ ึง่ ความฉลาด

ในบรรดาศษิ ยผ์ ทู้ รงคณุ ธรรมของหลวงตานน้ั ทา่ นพระอาจารยส์ งิ หท์ อง
ธมั มวโร ถอื วา่ เปน็ ศษิ ยท์ ท่ี า่ นมอบความไวว้ างใจมากทส่ี ดุ ซง่ึ โดย
ปกตแิ ลว้ หลวงตาจะไมม่ อบความไวว้ างใจนใ้ี หก้ บั ทา่ นผใู้ ดงา่ ยๆ แตด่ ว้ ย
คุณธรรมภายในช้ันเลิศและปฏิปทาเครื่องด�ำเนินมา บวกกับจริตนิสัยที่
ลงกันได้อย่างสนิทกับท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง หลวงตาจึงได้ไว้วางใจ
เป็นอย่างมาก หวังให้ท่านพระอาจารย์สิงห์ทองเป็นผู้น�ำของหมู่คณะ
สืบทอดพระศาสนาท�ำประโยชน์ใหโ้ ลกสบื ตอ่ ไป หลวงตาไดป้ รารภว่า
“เราก็คิดว่าจะได้อาศัยท่านสิงห์ทององค์หน่ึงนะ เพราะเราดูท่าน
เรยี บรอ้ ยแล้ว แนใ่ จว่าไม่ผิดนะ ถา้ ลงไดด้ จู ริงๆ แลว้ ร้อยเปอรเ์ ซ็นต์
ไมผ่ ดิ เลย กห็ วงั ทา่ นสงิ หท์ ององคห์ นงึ่ ทจ่ี ะเปน็ ผนู้ ำ� ของหมคู่ ณะ การแนะนำ�
สงั่ สอนจะถกู ตอ้ งแมน่ ยำ� ในการประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ และขอ้ วตั รปฏบิ ตั ขิ องทา่ น
กเ็ กง่ ดว้ ยนะ ดอู าการทกุ อยา่ ง ทา่ นสงิ หท์ องจะนำ� ศาสนาไปได้ เราไดเ้ คย
พดู แลว้ กบั ทา่ นสงิ หท์ อง พดู ออกปากพดู จรงิ ๆ นะ แตไ่ มไ่ ดบ้ อกอะไร บอก
อยา่ งนเี้ ฉยๆ หากเปน็ ความหมายในนน้ั เสรจ็ บอกวา่ สงิ หท์ อง ครน้ั เวลา
ผมตายนี้ ใหท้ า่ นมาเผาศพผมนะ เวลาทา่ นตาย ผมจะเผาศพทา่ น คอื หวงั วา่
ทา่ นจะสบื ทอดศาสนาทำ� ประโยชนใ์ หโ้ ลกไดพ้ อสมควร ไมม่ ากกพ็ อสมควร
องค์หนึ่ง เราคิดไว้แล้ว ท่านก็มาตายก่อนเราเสีย เคร่ืองบินตกตาย
เราเสียดายท่านสงิ ห์ทอง”
ในเร่ืองนี้ หลวงตาได้น�ำมาพิจารณาต่อพร้อมกับได้เล่าเปิดเผยให้
บรรดาลกู ศษิ ยล์ กู หาไดฟ้ งั ถงึ ความมวี าสนาอาภพั พอจะกลา่ วชนื่ ชมหรอื
ยกยอ่ งลูกศิษย์ของท่านเองตามความเปน็ จรงิ แล้ว มกั จะมผี ลลบตามมา
เสมอว่า
“เราเคยพดู มนั เปน็ ยงั ไงนสิ ยั ของเรา มนั อาภพั เหมอื นกนั นะ เราเคย
พดู ออกมาตรงไหน ตอ้ งมอี ะไรมา ประหนง่ึ วา่ มาขวางจนได้ เราเคยพดู มา
หลายองคด์ เู ปน็ ทแี่ นใ่ จจะทำ� ประโยชนใ์ หไ้ ดม้ ากนอ้ ยเพยี งไร ลงในความที่
วา่ เปน็ ทแี่ นใ่ จแลว้ แลว้ กพ็ ดู ออกมาตามความแนใ่ จ ผลตามหลงั มามกั จะ
เปน็ ผลลบมากระทบความแนใ่ จของเรา เชน่ อยา่ งทา่ นสงิ หท์ อง ถงึ ขนาด
ท่ีว่ามอบศพให้ท่านสิงหท์ อง เวลาผมตาย ให้ทา่ นสงิ หท์ องเผาศพผมนะ

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 173

ถา้ ผมตายกอ่ น แลว้ กใ็ หท้ า่ นสงิ หท์ องเผาศพผม คอื พอสมควรว่าท่านสิงห์ทองจะท�ำประโยชน์ให้โลก
ไมต่ อ้ งการยงุ่ อะไรทง้ั นน้ั ตายแบบธรรมลว้ นๆ เลย ไดพ้ อประมาณ เราคดิ แลว้ เพราะอยดู่ ว้ ยกนั กบั เรา
ถ้าทา่ นตายก่อน ผมจะเผาศพท่าน แล้วพอดีทา่ น มานาน ท่านสิงห์ทอง ต้ังแต่สมัยหลวงปู่ม่ันอยู่
ก็ตายก่อน ไปตกเครือ่ งบนิ เรากไ็ ปเผาศพจริงๆ หนองผอื ทา่ นกอ็ ยขู่ า้ งๆ ทางหา่ งกนั สองกโิ ลสามกโิ ล
ทา่ นอปุ คตุ ทา่ นสพุ ฒั นท์ วี่ ดั บา้ นตา้ ย นน่ั เรากเ็ ปน็ กม็ าฟงั เทศนฟ์ งั ธรรมตลอด เพราะภายในหนองผอื
หวั หนา้ เผาศพให้ พระมากอยไู่ มไ่ ด้ กต็ อ้ งอยตู่ ามนนั้ แลว้ กม็ าตง้ั แต่
อันนั้นก็เก่ียวกับส�ำนักพระราชวังทั้งน้ัน นนู้ ตลอด จนกระทงั่ ทา่ นลว่ งไป กต็ ดิ สอยหอ้ ยตาม
เพราะไปตกเครอ่ื งบนิ เกยี่ วกบั สำ� นกั พระราชวงั มา เรามา มาอยทู่ น่ี ่ี นอ่ี งคน์ พ้ี อจะอาศยั ไดก้ ม็ าตายเสยี
ทง้ั สองศพ เราไดไ้ ปเผาศพใหท้ งั้ สองเลย เราแนใ่ จ มันเป็นอย่างน้ีนะ

174 ผู้ทรงไวซ้ ง่ึ ความฉลาด

(ภาพซ้าย)
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปนั โน
ไดม้ อบหมายให้พระอาจารย์สงิ ห์ทอง ธัมมวโร
เป็นผดู้ �ำเนนิ การจัดงานถวายเพลงิ ศพหลวงป่บู ัว สริ ปิ ณุ โณ ทว่ี ดั ป่าหนองแซง
วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๘

(ภาพขวา)
หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร
ถวายเพลงิ ศพหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปนั โน
ที่วดั ปา่ บ้านตาด วันท่ี ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 175

เราพูดไปตรงไหน มันมผี ลลบเขา้ มารบั กนั เอ๊ วาสนาเราน้มี นั อาภัพนะ ยกยอลูกศษิ ยไ์ มค่ ่อยได้
พอยกยอชมเชยตามความจรงิ มนั กม็ สี ง่ิ ทม่ี าขวาง อยา่ งอาจารยเ์ จยี๊ ะกเ็ หมอื นกนั นสิ ยั ทา่ นตรงไปตรงมา
ภายในไมม่ อี ะไร ภายนอกเปน็ กริ ยิ าอยา่ งนนั้ ทนี เ้ี รากม็ าพดู ถงึ เรอื่ งนสิ ยั ของทา่ นความดขี องทา่ นใหบ้ รรดา
ลกู ศษิ ยล์ ูกหาฟงั คร้ันเวลาเราพูดวา่ อาจารย์เจ๊ยี ะนเี้ ปน็ ผา้ ข้รี ้วิ หอ่ ทอง ภายในของท่านดนี ะ ก็คยุ กนั มา
พอแลว้ แตก่ ริ ยิ าของทา่ นภายนอกนน้ั เอาแนไ่ มไ่ ดน้ ะ เราบอก จงึ เรยี กวา่ ผา้ ขร้ี ว้ิ หอ่ ทอง ครนั้ ไมน่ านกไ็ ดย้ นิ
เรอื่ งอะไรกบั ทา่ นอาจารยเ์ จยี๊ ะ แนะ่ มนั กม็ ผี ลลบขนึ้ มาอกี มากระทบกบั เราอกี เรอื่ งกไ็ มม่ ากอะไรแหละ
มันหากไม่ควรจะมีอย่างน้ันมันก็มี เรียกว่ามาเป็นผลลบจนได้นั่นแหละ ท่านสิงห์ทองก็เป็นอย่างน้ัน
แลว้ ทา่ นอาจารยเ์ จ๊ียะก็มผี ลลบเขา้ มา
แล้วก็เร่ือยมาจนกระทั่งถึงท่านวันชัย นี่กะว่าท่านวันชัยนี้จะท�ำประโยชน์ให้โลกได้พอประมาณ
เราคดิ แลว้ น่ีก็ไปแบกภูเขาสองสามลกู แถวน้นั จนหลังหัก เวลานก้ี �ำลังไปเยยี วยาธาตุขันธ์ นแ่ี หละมันก็
เปน็ อยา่ งนเี้ สยี ถา้ มลี กั ษณะไปชมเชยใครแลว้ มนั มกั จะมนี ะ เราจบั ไดต้ ลอด เอ๊ เรานน้ี สิ ยั อาภพั วาสนา
ถ้าชมเชยองค์ไหน เรากช็ มเชยด้วยความบริสทุ ธิ์ใจของเรา แต่มันมักมีอย่างนัน้ เขา้ มาแทรก
สำ� หรบั ทา่ นลไี มพ่ ดู อะไรมาก พดู เพยี งเลก็ นอ้ ยวา่ ธรรมลเี ศรษฐธี รรม บอกเทา่ นน้ั บอกวา่ เศรษฐธี รรม
อยู่ทนี่ ัน่ นะ ไม่ค่อยได้จับจ่ายไปไหน เราพูดเพยี งเท่านี้แหละ พูดว่าเศรษฐธี รรม แต่ไมค่ อ่ ยได้จบั จา่ ย
ไปไหนแหละ เพราะนสิ ยั ทา่ นไมช่ อบเกยี่ วขอ้ งกบั แขกกบั คนเทศนาวา่ การ จงึ เรยี กวา่ เศรษฐธี รรมอยทู่ นี่ น่ั
แต่ไม่ไดแ้ จกจ่ายไปไหน คือท่านไมเ่ ทศน์ท่ไี หน 
นที่ เ่ี ราพดู นะ เหลา่ นน้ั ทา่ นกด็ ี แตผ่ ใู้ ดเดน่ ทางไหนทพี่ อจะทำ� ประโยชนไ์ ดม้ ากนอ้ ยตา่ งกนั เรากแ็ ยบ็
ออกมาๆ เราไมไ่ ดต้ ำ� หนวิ า่ เหลา่ นนั้ ไมด่ นี ะ ดี อยา่ งพระพทุ ธเจา้ ทรงตงั้ สมณศกั ดใ์ิ หส้ าวก องคน์ น้ั เดน่ ทางนน้ั
ทางน้ี ไมใ่ ชท่ า่ นไมร่ ู้ รู้ แตผ่ นู้ ส้ี งู กวา่ เพอื่ นหนอ่ ยนงึ กย็ กกนั ขนึ้ เสยี ทงั้ ทท่ี า่ นเหลา่ นนั้ กด็ เี หมอื นกนั อนั น้ี
เรากพ็ ดู แบบเดยี วกนั แตม่ นั เปน็ ยงั ไงไมท่ ราบ นสิ ยั วาสนาของเรารสู้ กึ มนั จะอาภพั อยนู่ ะ พอแยบ็ ไปปบุ๊ ที่
ตรงไหนมกั มเี รอ่ื งเสมอ ไมม่ ากกม็ ใี หเ้ ปน็ ขอ้ รบั กนั เปน็ ผลลบจนไดน้ นั่ แหละ ทำ� ประโยชนใ์ หโ้ ลกไดต้ อ้ งเปน็
ผูท้ ำ� ประโยชน์ใหเ้ จ้าของได้ หลกั ใหญอ่ ยูต่ รงน้ี ถ้าไม่มีในนแี้ ลว้ ไปที่ไหนไมม่ ีความหมายทง้ั น้นั แหละ
ถา้ เจา้ ของไมส่ รา้ งความหมายใหเ้ ตม็ ตวั เมอื่ สรา้ งความหมายเจา้ ของใหเ้ ตม็ ตวั แลว้ ใครจะนบั ถอื ไมน่ บั ถอื
ความหมายกเ็ ตม็ ตวั ของตวั เองอยแู่ ลว้ ยง่ิ ออกแจกจา่ ยทางโลกกย็ ง่ิ ชมุ่ เยน็ กระจายไปหมด มนั ตา่ งกนั นะ
นนี่ ิสยั วาสนา มนั หากเป็นขน้ึ อย่กู บั ผูน้ น้ั เอง”
ในภายหลงั หลวงตาไดม้ อบภาระความไวว้ างใจทส่ี ำ� คญั นแ้ี กห่ ลวงปลู่ ี กลา่ วคอื เมอื่ วนั ที่ ๙ มนี าคม
พ.ศ. ๒๕๔๗ หลวงตาไดเ้ ดนิ ทางไปเยย่ี มวดั ภผู าแดงเพอื่ ใหก้ ารอบรมธรรมะเปน็ กำ� ลงั ใจแกบ่ รรดาพระเณร

176 ผทู้ รงไวซ้ ึง่ ความฉลาด

ในการประพฤตปิ ฏบิ ตั ภิ าวนา ในครงั้ นน้ั ทา่ นไดพ้ ดู ออกปากกบั หลวงปลู่ ี ซง่ึ มคี วามหมายในนนั้ พรอ้ มเสรจ็
เปน็ เชงิ สงั่ เสยี ใหห้ ลวงปลู่ เี ปน็ ผจู้ ดั การเรอ่ื งงานศพของทา่ น พรอ้ มธรุ ะภาระตา่ งๆ ทยี่ งั ไมแ่ ลว้ เสรจ็ และ
เรือ่ งราวต่างๆ ท่จี ะมตี ามมาหลงั จากทหี่ ลวงตาไดล้ ะขันธ์แลว้ และท่ีส�ำคัญคอื เป็นผูน้ �ำของหมู่คณะท�ำ
ประโยชน์ให้โลกสบื ต่อไปจากทา่ น ดังน้ีว่า
“เมอื่ วานนเ้ี รากไ็ ปดถู ำ้� ผาแดง ทเี่ ราไปดแู ลว้ ทนี เ้ี ราชอบรอ้ ยเปอรเ์ ซน็ ตเ์ ลย ไปดถู ำ้� โอเ้ หมาะเหลอื เกนิ
เวลาเราตายน่ี ไมม่ อี ะไรอน่ื ใด เราจะมาตายถำ้� น้ี เราวา่ งนั้ นะ เราไดบ้ อกกบั ธรรมลวี า่ ผมจะมาตายทนี่ นี่ ะ
ลนี ะ เวลาผมจะตาย ผมจะมาตายท่นี ล่ี ่ะ เหมาะสมที่สดุ เปน็ เอกเทศ”
และหลวงตาได้ปรารภเร่ืองนี้ขึน้ อีกครง้ั เมอ่ื วนั ที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ วันนนั้ เป็นวนั ท่ีท่าน
เดินทางกลับมายังวัดป่าบ้านตาด หลังจากเมตตารับสนองพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้า
สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๙ และทลู กระหมอ่ มฟา้ หญงิ จฬุ าภรณฯ์
ทท่ี รงนมิ นตห์ ลวงตาเขา้ รบั การรกั ษาจากคณะแพทยโ์ รงพยาบาลศริ ริ าช กรงุ เทพฯ ตงั้ แตว่ นั ท่ี ๒๗ ธนั วาคม
พ.ศ. ๒๕๕๓ ถงึ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ รวมเป็นเวลา ๑ สปั ดาห์ วันน้ันทา่ นได้ปรารภว่า “ธรรมลี
อย่ไู หน เราจะกลับไปอย่กู ับธรรมลี”
นับแต่กลับจากโรงพยาบาลศริ ิราช ธาตุขนั ธข์ องหลวงตาพระมหาบวั ไดท้ รดุ ลงเปน็ ล�ำดบั ธาตขุ ันธ์
แสดงอาการอาพาธหนกั มากขนึ้ เรอ่ื ยๆ ใหป้ รากฏแกส่ ายตาศษิ ยานศุ ษิ ย์ จนกระทง่ั ไดล้ ะขนั ธล์ าโลกเขา้ สู่
นพิ พานในเวลา ๐๓.๕๓ น. ของวนั อาทติ ยท์ ่ี ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ณ กฏุ วิ ดั ปา่ บา้ นตาด สริ ริ วมอายุ
๙๗ ปี ๕ เดอื น ๑๘ วนั ๗๗​พรรษา
พธิ พี ระราชทานถวายเพลงิ สรรี ะสงั ขาร จดั ขนึ้ ในวนั ท่ี ๕ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยมสี มเดจ็ พระนางเจา้
สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๙ เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ เปน็ องคป์ ระธาน
ในพระราชพธิ คี รงั้ นี้ ในโอกาสนี้ สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์ อคั รราชกมุ ารี และพระเจา้
หลานเธอ พระองคเ์ จา้ อทติ ยาทรกติ คิ ณุ เฝา้ รอรบั เสดจ็ ฯ พรอ้ มพนี่ อ้ งประชาชนนบั แสนคนทมี่ ารว่ มงาน
ในครงั้ นน้ั
เวลาประมาณ ๑๘.๑๐ น. หลงั จากพระเถรานเุ ถระทเี่ ปน็ ศษิ ยช์ น้ั ผใู้ หญข่ องหลวงตาขน้ึ วางไมจ้ กิ เปน็ ท่ี
เรยี บรอ้ ยแลว้ ในลำ� ดบั ตอ่ มา หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร ผเู้ ปน็ องคแ์ ทนศษิ ยานศุ ษิ ยฝ์ า่ ยบรรพชติ ไดจ้ ดุ เพลงิ บชู า
ถวายสรรี ะสงั ขารของหลวงตาบนแทน่ จติ กาธาน หลงั จากนน้ั สมเดจ็ พระเจา้ ลกู เธอ เจา้ ฟา้ จฬุ าภรณวลยั ลกั ษณ์
อคั รราชกมุ ารี เสด็จขึ้นไปถวายเพลิงจริงตามลำ� ดับ

หลวงป่ลู ี กสุ ลธโร 177

ค�ำสั่งของทา่ น
ผู้สิน้ กิเลส

พระเราถา้ บ่ฟงั คำ�
ครูบาอาจารย์แลว้

สิฟงั คำ� ไผ ท่ีท�ำไปท้งั หมด
ผมบ่ไดท้ ำ� ตามมติของผมนะ
พ่อแมค่ รจู ารย์
เพิน่ ได้สง่ั ก�ำชับไว้
ใหเ้ ฮ็ดอหิ ยงั ตรงใดแ๋ หน่
ให้ระวงั ไผ เพน่ิ กะบอกไว้

หลวงปลู่ ี กุสลธโร

178 ผทู้ รงไว้ซงึ่ ความฉลาด

ครัง้ ทห่ี ลวงตาพกั รกั ษาอาการอาพาธทว่ี ดั ปา่ บา้ นตาด หลวงปลู่ ไี ดก้ ลบั
เขา้ ไปพกั ทวี่ ดั ปา่ บา้ นตาดอกี ครงั้ เพอ่ื คอยเขา้ กราบเยยี่ มอาการ
อาพาธของพอ่ แมค่ รจู ารยอ์ ยเู่ สมอดว้ ยความใสใ่ จเปน็ หว่ งเปน็ ใย บางวนั ก็
อยเู่ ฝา้ ถงึ ดกึ ดน่ื หลวงตาไดพ้ ดู หยอกลอ้ แฝงดว้ ยคตธิ รรมกบั หลวงปลู่ วี า่
“ธรรมลบี อ้ มานวดเสน้ ใหแ้ หน่ ไคก่ อ่ นงั่ อยซู่ อื ๆ พระเณรทม่ี าเกยี่ วขอ้ งกบั
เรามแี ตแ่ ขง็ กระดา้ ง เราสอนใหฉ้ ลาด แตก่ ลบั โง”่ ซงึ่ บง่ บอกไดอ้ ยา่ งชดั เจน
วา่ หลวงตามคี วามไว้ใจต่อหลวงปู่ลีเป็นอย่างมาก
วนั หนง่ึ ขณะทหี่ ลวงปลู่ ไี ดน้ ง่ั เฝา้ อาการอาพาธอยนู่ น้ั หลวงตาไดป้ รารภ
เสมือนเป็นการส่ังเสียเก่ียวกับเรื่องวัดป่าบ้านตาดไว้กับหลวงปู่ลี โดยมี
ความวา่ สมยั ปัจจุบันนวี้ ัดป่ากรรมฐานทร่ี ักษาสภาพความเปน็ วดั ป่าแท้ๆ
ไวน้ นั้ อนาคตจะไมม่ ใี หเ้ หน็ นบั วนั จะคอ่ ยๆ หมดไปแลว้ ถงึ จะมี กเ็ ปน็ วดั
ทห่ี นกั ทางวตั ถนุ ยิ มเปน็ สว่ นใหญ่ ยคุ นว้ี ดั ปา่ บา้ นตาดถอื วา่ เปน็ วดั ตน้ แบบ
ของวดั ปา่ กรรมฐานทงั้ หมด เรยี กวา่ เปน็ สำ� นกั งานใหญข่ องวดั ปา่ กรรมฐาน
กไ็ ด้ ดงั นน้ั ควรสงวนรกั ษาสภาพความเปน็ วดั ปา่ และปฏปิ ทาทไ่ี ดพ้ าดำ� เนนิ
มานี้ไว้ จึงสมชื่อว่าเป็นวัดต้นแบบวัดป่ากรรมฐานแห่งยุค จึงจะเป็น
ประโยชนแ์ กก่ ลุ บตุ รสดุ ทา้ ยภายหลงั ผสู้ นใจมากทส่ี ดุ และไมอ่ ยากใหม้ เี จดยี ์
เพราะจะท�ำให้เกดิ ความวุ่นวายต่างๆ ตามมาในภายหลงั และขัดกับนิสยั
ของหลวงตาทไ่ี มช่ อบความหรหู ราทางดา้ นวตั ถแุ ตอ่ ยา่ งใด แตก่ ลบั เนน้ ยำ้�
พรำ�่ สอนบรรดาศษิ ยานุศษิ ย์เสมอมาว่า ให้พากันสร้างความหรูหราทางใจ
คือใหพ้ ากันรักษาปฏิปทาท่ีท่านพาด�ำเนินมา มกี ารรกั ษาธดุ งควัตร หม่นั
ประกอบความพากเพียรภาวนา เหลา่ น้ลี ว้ นแต่เปน็ การสร้างใจใหห้ รูหรา
ดว้ ยธรรม แลว้ จกั เกิดความสขุ ข้ึนภายในใจของทกุ ๆ คน
หลวงตาท่านได้ก�ำชับว่า “จะสร้างเจดีย์เรา เราบอกอย่ามายุ่งนะ
สิ่งเหลา่ นมี้ นั ก็จะทำ� จนได้ แลว้ ทำ� กไ็ มพ่ ้นกวนบา้ นกวนเมือง มันผดิ หรือ
คิดไวแ้ ล้วถงึ ห้าม พูดวา่ จะสร้างเจดีย์ กระทบกระเทือนคนอื่นขนาดไหน
ทไ่ี ปสรา้ งวัตถุวตั แถะอะไร สรา้ งหัวใจใหม้ นั สงา่ งามแล้วพอ

หลวงปลู่ ี กุสลธโร 179

นก่ี ม็ ผี มู้ าขอจะสรา้ งเจดยี เ์ รา เจดยี ข์ หี้ มา
อะไร เราวา่ อยา่ งนเ้ี ลย อยา่ มายงุ่ นะ เจดงเจดยี ์
อฐิ ปนู หนิ ทรายเกดิ ประโยชนอ์ ะไร ทเ่ี ราทำ� ให้
โลกได้ดูได้เห็นเป็นคติเครื่องเตือนใจมีค่า
ขนาดไหน ดอู ันนน้ั ซิ เราวา่ อย่างนนั้ อย่ามา
ยงุ่ นะเรอ่ื งเรา ระลกึ ถงึ หลวงตาบวั ตาเบยี อะไร
ระลึกถึงธรรมที่ท่านสอนท่านพาด�ำเนินน้ัน
เอาไปปฏบิ ตั จิ ะเป็นมงคลมหามงคล เราบอก
อย่างนั้นละ อยา่ มายุ่งนะ
ทเ่ี ราทำ� นี้ เราทำ� เพอื่ เปน็ ประโยชนแ์ กโ่ ลก
ทั้งน้นั เราไม่ไดท้ �ำเพอ่ื เรา ทำ� เพอ่ื ประโยชน์
แกโ่ ลก เพราะฉะนนั้ เวลาเขาปรกึ ษากนั เราตาย
แล้วจะมาก่อเจดีย์เจเดออะไรให้เรา อย่ามา
ยุง่ นะ การที่ท�ำเหลา่ นเี้ ปน็ เจดยี ์อนั ลึกซงึ้ มาก
มคี ณุ ค่ามากทส่ี ุด คือเปน็ คติตัวอย่างแก่โลก
อย่างท่ีบรรดาลูกศิษย์ลูกหามาขอสร้าง
เจดยี เ์ รา เราบอกวา่ ยงั ไมเ่ หน็ ดว้ ย ใหเ้ อาคตธิ รรม
ความเคลื่อนไหวของเราท่ีเป็นศีลเป็นธรรม
แสดงออกต่อโลกนี้ เขยี นเปน็ ประวัติศาสตร์
ไปเลยจะดกี วา่ ทำ� เจดยี ห์ ลวงตาบวั ไมเ่ หน็ ได้
เรอ่ื งอะไร ถา้ เป็นคตเิ คร่อื งเตอื นใจออกเป็น
ลายลักษณ์อักษรเขียนไว้ ก็จะเป็นที่ระลึก
ได้นานทีเดียว ถ้าจะท�ำให้ท�ำอย่างน้ันเราว่า
ถ้าเขียนกใ็ หเ้ ป็นประโยชน์แก่โลกไปเสยี คือ
เป็นคตเิ ครือ่ งเตอื นใจสอนโลกไปเสีย”

อาคารพพิ ธิ ภณั ฑ์อฐั บริขารหลวงตาพระมหาบวั ญาณสัมปนั โน
โดยหลวงปู่ลี กุสลธโร ณ วัดป่าบ้านตาด จงั หวัดอุดรธานี

180 ผู้ทรงไว้ซึง่ ความฉลาด

หากจะทำ� จรงิ ๆ แลว้ ทา่ นวา่ สรา้ งพพิ ธิ ภณั ฑฯ์ จะมปี ระโยชนก์ วา่ การสรา้ งเจดยี ์ เพราะพพิ ธิ ภณั ฑฯ์ น้ี
สามารถแสดงเรอื่ งราวคตธิ รรมความเปน็ มาตา่ งๆ ทท่ี า่ นดำ� เนนิ มา จะเปน็ ประโยชนแ์ กบ่ คุ คลผมู้ าศกึ ษามาก
เพราะทกุ อยา่ งทที่ า่ นทำ� ตอ่ โลกนนั้ ถอื วา่ เปน็ เจดยี ห์ ลงั งามทที่ า่ นไดส้ รา้ งไวบ้ นโลกเองแลว้ แตห่ ากบรรดา
ลกู ศษิ ยล์ กู หาจะสรา้ งเจดยี ข์ น้ึ เพอ่ื บชู า ณ สถานทแี่ หง่ อน่ื นน้ั กแ็ ลว้ แตผ่ มู้ จี ติ ศรทั ธา ทา่ นไมไ่ ดว้ า่ แตอ่ ยา่ งใด
เมอื่ หลวงปลู่ ไี ดฟ้ งั คำ� ปรารภของหลวงตาเชน่ นน้ั แลว้ ทา่ นกไ็ ดน้ อ้ มรบั คำ� ปรารภนน้ั ไวเ้ หนอื เกลา้ ดว้ ย
ความเคารพยงิ่ ถงึ ประมาณปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๕ หลวงปลู่ ไี ดน้ ำ� ความทห่ี ลวงตาทไ่ี ดป้ รารภไวน้ ้ี เขา้ กราบเรยี น
หลวงปบู่ ญุ มี ปรปิ ณุ โณ พชี่ ายใหญใ่ นบรรดาพระลกู ศษิ ยใ์ นหลวงตาทยี่ งั ครองขนั ธอ์ ยใู่ หร้ บั ทราบ สมยั นนั้
ทา่ นยังพำ� นักอยู่ทวี่ ัดปา่ นาคูณ หลวงปู่บุญมกี ็ไดอ้ นุโมทนาเห็นดเี ห็นงามด้วยทุกประการ
หลวงปลู่ ีพดู วา่
“โครงการเจดยี ใ์ นวดั ปา่ บา้ นตาดนบ่ี ม่ ี เพน่ิ บอกบใ่ หเ้ ฮด็ ในเขตวดั ของเพน่ิ วา่ สมิ าขอเงนิ ผมไป
สรา้ งเจดยี ์ ๕๐ ลา้ น วาซน่ั สตางคเ์ ดยี วกะบอ่ อก ผมบใ่ หเ้ ด๊ บแ่ มน่ มตพิ อ่ แมค่ รจู ารย์ ผมเฮด็ นำ� พอ่ แม-่
ครจู ารยเ์ ด๊ ขน่ั ซน่ั ผมบม่ าเฮด็ เจดยี อ์ ยวู่ ดั ผาแดงดอก ขน่ั เพนิ่ ใหส้ รา้ งอยวู่ ดั บา้ นตาดนะ่ เพนิ่ บอกให้ เอา้
ไปเฮด็ อยบู่ อ่ นอนื่ กะไดต้ วั๊ ตวั การทำ� ลายคำ� เวา่ พอ่ แมค่ รจู ารยม์ อี ยนู่ ะ่ พระเราถา้ บฟ่ งั คำ� ครบู าอาจารยแ์ ลว้
สฟิ งั คำ� ไผทที่ ำ� ไปทง้ั หมด ผมบไ่ ดท้ ำ� ตามมตขิ องผมนะ พอ่ แมค่ รจู ารยเ์ พนิ่ ไดส้ ง่ั กำ� ชบั ไว้ ใหเ้ ฮด็ อหิ ยงั
ตรงใดแ๋ หน่ ใหร้ ะวงั ไผ เพนิ่ กะบอกไว้ เพน่ิ ใหเ้ ฮด็ เหมอื นวดั สทุ ธาวาส ทเี่ พนิ่ เฮด็ ไวอ้ ยสู่ กลฯ บใ่ หเ้ ฮด็ ใหญ่
บใ่ ห้เสียกรรมฐาน บ่ใหห้ รหู รา วัดกรรมฐาน พ่อแม่ครจู ารย์บอก”
คณะศษิ ยานศุ ษิ ยไ์ ดส้ านตอ่ คำ� ปรารภดงั กลา่ วของหลวงปลู่ ี จงึ เรม่ิ ดำ� เนนิ การกอ่ สรา้ งอาคารพพิ ธิ ภณั ฑ์
อฐั บรขิ ารหลวงตาพระมหาบวั ญาณสมั ปนั โน ขน้ึ ณ วดั ปา่ บา้ นตาด ซงึ่ ตรงกบั วนั มาฆบชู า วนั ศกุ รท์ ่ี ๔ มนี าคม
พ.ศ. ๒๕๕๘ และมพี ธิ เี ทเสาเอกในวนั อาทติ ยท์ ี่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จากนน้ั ไดด้ ำ� เนนิ การกอ่ สรา้ งตาม
ข้ันตอนของงานเป็นล�ำดับมาด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของคณะศิษยานุศิษย์ทั้งฝ่ายบรรพชิตและ
ฝา่ ยฆราวาส เพอ่ื รกั ษาไวซ้ ง่ึ ปฏปิ ทารอยมอื รอยเทา้ ของพอ่ แมค่ รบู าอาจารยม์ ใิ หเ้ สอื่ มสญู ไปตามกาลเวลา
ดว้ ยคำ� นงึ ถงึ วา่ หลวงปใู่ หญเ่ สาร์ กนั ตสโี ล หลวงปใู่ หญม่ นั่ ภรู ทิ ตั โต และหลวงตาพระมหาบวั ญาณสมั ปนั โน
ทา่ นเหลา่ นไ้ี ดท้ ำ� ประโยชนใ์ หแ้ กโ่ ลกและพระพทุ ธศาสนาซงึ่ มอิ าจประมาณคา่ ได้ ครน้ั ทา่ นเหลา่ นนั้ ลว่ งจาก
ไปแลว้ พวกเราผเู้ ปน็ ศษิ ยจ์ งึ ควรรกั ษาแนวปฏปิ ทาของทา่ นไวเ้ พอ่ื ใหล้ กู หลานกลุ บตุ รสดุ ทา้ ยภายหลงั ตอ่ ไป
ได้ระลึกถึงและยึดไวเ้ ปน็ สรณะทพ่ี ่งึ ไปตราบนานเท่านาน

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 181

พทุ ธมหาเจดยี ์
หลวงตาพระมหาบัว
ญาณสัมปนั โน

เพื่อเป็นทก่ี ราบไหว้บชู า
เป็นขวัญตาขวญั ใจ
ต่อพ่นี ้องชาวพทุ ธ
ลูกหลานทง้ั หลายสบื ไป
ไม่มวี นั สิ้นสุด

สรา้ งขึน้ โดยทา่ นผู้วิเศษ
เพือ่ บรรจุพระธาตุ
ของทา่ นผ้วู เิ ศษเลศิ เลอ

182 ผทู้ รงไวซ้ ึ่งความฉลาด

พุทธมหาเจดยี ห์ ลวงตาพระมหาบวั ญาณสมั ปนั โน เปน็ พระมหาเจดยี ์
ทถี่ กู สรา้ งขน้ึ เพอื่ เปน็ ทกี่ ราบไหวบ้ ชู าเปน็ ขวญั ตาขวญั ใจตอ่
พนี่ อ้ งชาวพทุ ธลกู หลานทง้ั หลายสบื ตอ่ ไปไมม่ วี นั สนิ้ สดุ เพราะมคี ณุ คา่ มาก
สรา้ งขนึ้ โดยทา่ นผวู้ เิ ศษเพอื่ บรรจพุ ระธาตขุ องทา่ นผวู้ เิ ศษเลศิ เลอ มพี ระบรม-
สารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
นอกจากเราจะไดก้ ราบไหวบ้ ชู าจากสงิ่ ทที่ า่ นพาสรา้ งขนึ้ ไวแ้ ลว้ นี้ ผอู้ น่ื ยงั จะ
ได้รบั บุญกุศลนต้ี ่อไปจากการกราบไหว้บชู า
พระเจดยี ต์ งั้ อยบู่ นยอดเขาภเู มง็ มคี วามสงู ๙๘ เมตร ภายในพระเจดยี ์
มีการจัดแสดงอฐั บริขาร ชวี ประวัติ และผลงานธรรมของหลวงตา
หลวงปลู่ ไี ดบ้ อกถงึ จดุ ประสงคห์ ลกั ในการกอ่ สรา้ งพระเจดยี ไ์ ว้ ดงั นี้
๑. สรา้ งขนึ้ เพื่อเปน็ หลกั ใจใหแ้ ก่กุลบตุ รกลุ ธิดาสดุ ทา้ ยภายหลังได้
กราบไหวบ้ ชู าเพอื่ ใหเ้ ปน็ สาระอนั สำ� คญั เปน็ คณุ ประโยชนแ์ กโ่ ลกไปนาน
แสนนาน เป็นพระเจดยี ์ท่คี งทนถาวรสามารถอยไู่ ดน้ านถงึ ๑,๐๐๐ ปี
๒. สรา้ งพระเจดยี ใ์ หส้ งู ตระหงา่ นโดดเดน่ สามารถมองเหน็ ไดท้ กุ มมุ
เฉกเช่นความเมตตาอันบริสุทธิ์ท่ีแผ่ออกไปอย่างไม่มีประมาณขององค์
หลวงตาพระมหาบัว และประชาชนชาวบ้านตาดกส็ ามารถมองเห็นได้
๓. การก่อสร้างพระเจดียน์ ้นั เปดิ โอกาสให้สานุศิษยผ์ ้มู จี ิตศรทั ธา
ทงั้ หลายสามารถรว่ มแรงรว่ มใจทำ� ไดเ้ พอื่ บชู าอรรถธรรมและเพอื่ เปน็ การ
เบิกทางแห่งคุณงามความดีทั้งหลาย โดยไม่ผ่านการรับเหมาจากบริษัท
จดั จ้างใดๆ ทง้ั ส้ินโดยไมจ่ �ำเป็น
หลวงปูเ่ ลา่ ว่า
“ประวตั พิ อ่ แมค่ รจู ารยเ์ ฮด็ ไวใ้ หก้ ลุ บตุ รสดุ ทา้ ยภายหลงั เฮด็ ใสเ่ จดยี ์
พนู้ เจดยี เ์ ขาสเิ หน็ ดอก ซมุ ประวตั เิ อาเขา้ ไปไวเ้ จดยี เ์ บด้ิ ละ่ หนงั สอื ธรรมะ
หมนู่ น่ั ตใู้ สก่ ะเฮด็ แลว้ เด๊ ตเู้ กบ็ หนงั สอื สเิ ขา้ เจดยี พ์ นู้ นะ แกน่ ไมพ้ นั ชาติ
เฮ็ดมาไวแ้ ลว้ อยู่ถำ�้ ไม้พนั ชาตมิ าแตพ่ ้นู บรุ รี ัมย์ อำ� เภอสะตึก เฮด็ ไว้
เบ้ิดละ่ ”

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 183

เฮ็ดไว้
พ่อแม่ครูจารยท์ ำ� ประโยชน์
แกโ่ ลกแก่ชาตบิ า้ นเมือง
อยากใหร้ ู้จกั ประวตั เิ พน่ิ
พวกสดุ ทา้ ยภายหลังเบงิ่ ”

พุทธมหาเจดียห์ ลวงตาพระมหาบวั ญาณสัมปนั โน
ขณะดำ� เนินการกอ่ สรา้ งถงึ เดอื นกมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑

มพี ธิ ีวางศลิ าฤกษ์ในวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์​พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยพระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทรศ์ รี
จนั ททโี ป) วดั โพธสิ มภรณ์ เปน็ ประธานในพธิ ี ในงานนน้ั มพี ระมหาเถระ พระเถรานเุ ถระ บรรดาศษิ ยานศุ ษิ ย์
ของหลวงตาทกุ หมเู่ หล่า เดนิ ทางมารว่ มงานบุญเป็นจ�ำนวนมาก
มกี ารจัดพธิ ีทอดผา้ ป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนสรา้ งพระเจดียข์ ้นึ ในวันท่ี ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยคณะศษิ ยานุศษิ ยใ์ นองคห์ ลวงตา มหี ลวงปู่บญุ มี ปริปณุ โณ วดั ป่าศิลาพร เป็นประธาน
จากนนั้ ไดด้ ำ� เนนิ การกอ่ สรา้ งดว้ ยแรงศรทั ธาของบรรดาศษิ ยานศุ ษิ ยท์ งั้ ฝา่ ยบรรพชติ และฆราวาส
ตามล�ำดบั ของงานสืบมาจนถึงปจั จบุ นั

184 ผู้ทรงไวซ้ งึ่ ความฉลาด

พธิ วี างศิลาฤกษพ์ ุทธมหาเจดีย์
หลวงตาพระมหาบวั ญาณสัมปันโน
วนั ที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร 185





พระธรรมเทศนา

ให้พากันเร่งความพากความเพยี ร พากนั เร่งเบงิ่ ดิธ๊ รรมพระองคเ์ จา้
มีแตค่ รบู าอาจารยเ์ พิ่นเทศน์ ตวั บ่เฮ็ดบ่ทำ� บเ่ กดิ เดะ๊
คือกันกบั เฮากนิ ข้าวละ่ น่งั อยวู่ งภาชนะเดยี วกัน
บ่กินกะบ่ฮูจ้ กั ฮอดรสฮอดความอม่ิ

พระพทุ ธเจ้ามีแตบ่ อกทางทอนน้ั เรือ่ งการกระท�ำเปน็ ของเฮา เฮ็ดเอา

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 187

พระพทุ ธเจ้า ออกจากโลกน้ี มันแน่นหนาคอื
หยงั นี่ เพ่ินบำ� เพ็ญมา
พระพทุ ธเจา้ ปรารถนาเปน็ พระพุทธเจา้ วาซนั่ พ้นู ไดร้ ับพทุ ธ- พระพุทธเจ้าเพ่ินออกทรง
ท�ำนายว่าสิได้เปน็ พระพทุ ธเจ้า องค์นัน่ ช่อื นน่ั พระพทุ ธเจ้าทปี งั กร ผนวชนะ ๖ ปีพูน้ จงั ค่อยได้
มาท�ำนายแตค่ ราวนั่น เพน่ิ เป็นดาบส มีบริวารลูกน้องตง้ั ๕๐๐ พนู้ ตรัสรู้ การทรมานทางกายเพ่ิน
ไดย้ นิ ขา่ ววา่ พระพทุ ธเจา้ ทปี งั กรบงั เกดิ แลว้ กะเลยพาลกู นอ้ งไปกราบ กะทรมาน อดอาหาร ๔๙ วนั
ลกู นอ้ ง ๕๐๐ ไดต้ รสั รเู้ ปน็ พระอรหนั ตเ์ บดิ้ ยงั แตพ่ ระพทุ ธเจา้ ของเฮา เพนิ่ กะอด ผอ่ นลมหายใจเขา้ ออก
เปน็ ดาบสนะ พระพุทธเจา้ ทปี งั กรกะเลยพิจารณาดู ลูกน้องได้เป็น เพ่ินเฮ็ดเบ้ิด บ่แม่นทางตรัสรู้
อรหนั ตเ์ บดิ้ ดาบสนเ่ี ปน็ จงั ใด๋ เพน่ิ ใครค่ รวญพจิ ารณา โอ๋ เพน่ิ ปรารถนา เพ่ินพลิกใหม่ มันบ่แม่นทาง
เปน็ พระพทุ ธเจา้ คอื เฮา วาซน่ั แตน่ ไ้ี ปทอนก้ี ปั ทอนกี่ ลั ป์ จงั ไดช้ อื่ วา่ แล้วกะเปลย่ี นใหม่ ปญั จวัคคีย์
พระโคตมะ จากนไี้ ป ๔ อสงไขย แสนมหากปั สไิ ดเ้ ปน็ พระพทุ ธเจา้ ท้งั ๕ กะออกหนจี ากเพนิ่ ว่า
ช่อื ว่าโคตมะ เพนิ่ ทำ� นายไวแ้ ลว้ เบง่ิ ติ๊ มาสร้างบารมี ๔ อสงไขย เพนิ่ ถอยความเพยี ร เวยี นมาหา
แสนมหากปั จงั คอ่ ยไดเ้ ปน็ พระพทุ ธเจา้ กอ่ นสไิ ดร้ บั ทำ� นาย ปรารถนา ความมักมาก เพิ่นกะเลยอยู่
มาตงั้ ๒๐ อสงไขยพนู้ สรา้ งบารมมี ามนั ยากปานใด๋ การสเิ อาใจเจา้ ของ องค์เดยี ว
นางสชุ าดาเอาขา้ วมาถวาย
ข้าวมธุปายาส ป้นั ได้ ๔๙ ก้อน
วาซนั่ เพน่ิ ฉนั แลว้ กอ็ ธษิ ฐานเดะ๊
เส่ียงถาดพร้อมลอยถาดเลย
กายเพน่ิ กะวเิ วก ใจเพน่ิ กะวเิ วก
อยู่องค์เดียวเด๊ ฉันอาหาร
สมบูรณ์แล้ว เพ่ินกะเข้าท่ี
เข้าใต้ต้นโพธ์ิแล้วตั้งสัจจะ
อธษิ ฐาน อตั ภาพรา่ งกายนส้ี แิ ปร

188 ผู้ทรงไวซ้ ่งึ ความฉลาด

เปน็ ดินเป็นหญา้ ไปกะซาง ขน่ั บ่ไดต้ รสั รู้ สบิ ่ยอมลกุ เพน่ิ ตงั้ สัจจะเอาถงึ ขนาดนัน้ แลว้ กำ� หนดจติ เจริญ
อานาปานสติ ขนั่ แปลเปน็ ภาษาไทยเฮา กะเบง่ิ ลมหายใจเขา้ ออก ทอนน้ั เพนิ่ บใ่ หจ้ ติ ออกจากหนั่ เลย บใ่ ห้
ออกเลย พอจติ มนั ตะลอ่ มเขา้ ๆ มนั กะเลยเอาเลย ยามที่ ๑ เพน่ิ กะรบู้ พุ เพฯ ยามที่ ๒ กะรทู้ ำ� กรรมอนั นนั่
ไปเกดิ เปน็ อันนน่ั พนู้ ไลไ่ ปเบด้ิ แหล่ว นรกอเวจีอิหยังรู้เบ้ิด ผดุ ข้ึนมาเบิ้ด ยามที่ ๓ เพน่ิ กะตรัสรู้
พระพทุ ธเจา้ มาตรสั รกู้ ะมาตรสั รเู้ รอ่ื งของเกา่ หนั่ แลว้ เรอื่ งหลงของเกา่ นแ่ี หละ องคใ์ ดม๋ าเปลยี่ นกนั
อยจู่ ังซนั่ วฏั ฏะอันน้ีตะเกียกตะกายอยู่หั่น แลน่ อยจู่ ังซนั่ กะเรือ่ งราคะแล้ว มนั พาไป ไปเกดิ บ่อนน่นั
ไปเกดิ บ่อนนี่ ตามจติ ใหม้ นั ทนั เถอะนา่ ขั่นอยากเห็นภพเหน็ ชาติแล้ว หดั สติใหเ้ ป็นมหาสติ หัดปญั ญา
ใหเ้ ปน็ มหาปญั ญา ยาก แตบ่ เ่ หลอื วสิ ยั ขนั่ ฝกึ แตช่ า้ งอยดู่ งอยปู่ า่ เขากะเอามาฝกึ ได้ ใจเจา้ ของฝกึ บไ่ ด้
มนั บม่ ดี อก ฝกึ มันแท้ๆ เบ่งิ ต้ี
วฏั วน นนั่ กะคอื ความรกั ความชงั นลี่ ะ่ วนกนั อยจู่ งั ซน่ั บม่ ตี น้ มปี ลายละ่ วนอยหู่ นั่ เกดิ ภพใดช๋ าตใิ ด๋
กะคอื เก่านี่แหละ หลงของเกา่ อย่นู ่นั ละ่ บ่มีของใหม่จ๊กั แนวละ่ ดินฟ้าอากาศกะคอื เก่านล่ี ะ่ พอสิสงสัย
อิหยัง ความแก่ ความเจ็บ ความตาย กะเป็นอยู่ เอาอยู่จงั ซน่ั วฏั ฏะอันนี่สินา่ หลงอิหยัง
แตธ่ รรมจกั รเพนิ่ กะยงั วา่ ไวอ้ ยเู่ ด๊ บใ่ หเ้ สพทางสองฝง่ั วาซนั่ ฝง่ั ใด๋ กะฝง่ั รกั ฝง่ั ชงั นแ่ี ลว้ มาพจิ ารณา
เบ่งิ ต้ี มันบ่เป็นกลางด๊ิ เพิน่ สไิ ด้ตรสั รู้ เพ่ินเป็นกลางเดะ๊ ใจของเพน่ิ เปน็ กลางเลย อัพยากตาธมั มา
หมนู่ นั่ ใจบม่ รี กั บม่ ชี งั เดะ๊ ใจเปน็ กลาง มนั จงั สเิ กดิ ธรรมอศั จรรยไ์ ด้ ขอใหท้ ำ� จติ เปน็ ปจั จบุ นั เถอะ อดตี
ลว่ งมาแล้วอย่าไปคำ� นึง อนาคตบ่ทันมาถึงอยา่ ไปค�ำนึง ทำ� ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ ันอยู่หั่น พากันเรง่ ความพาก
ความเพยี ร หนงั สอื กะมเี ทปกะมี เปดิ อา่ นเอา บงั คบั จติ ใจเจา้ ของใสห่ ลกั ธรรม อยา่ คดิ ไปทางบแ่ มน่ นนั่
มนั ทางโลกทางสงสาร ใหค้ ดิ ทางบวชเจา้ ของ เฮาบวชมาหวงั บญุ หวงั กศุ ล สง่ิ ใดเ๋ ปน็ บญุ เปน็ กศุ ลเฮด็ โลด
ท�ำโลด อย่าพากนั เล่นมาก เอ้า เลิกกัน

หลวงปูล่ ี กสุ ลธโร 189

พ่อพระกรรมฐาน ไปเทอื หนง่ึ พนู้ เด๊ เพน่ิ ไป
นอกประเทศ ไปเทยี่ วทางภาค
เจ้าคุณอุบาลีฯ เพิ่นมรณภาพแต่ปี ๒๔๗๕ พู้นน่ะ นั่นล่ะ เหนือ ฟาดข้ึนไปฮอดเชียงตุง
พอ่ พระกรรมฐาน คนอุบลฯ เดะ๊ แตก่ ๊เี พิ่นไปวิเวก ไปพู้น ฮอดนคร กลับบ่ได้ ฝนตกหนัก น่ันกะ
จำ� ปาศกั ด์ิ พนู้ นะ่ เพ่นิ เทศน์น่ี โอ๊ย เก่งแหลว่ เป็นทีเ่ ลือ่ งลอื แหลว่ จำ� พรรษาอยพู่ นู้ แหลว่ มหาดเลก็
ไปกะพอดลี ่ะ ไปจ�ำปาศักด์ิ พ้นู พระเจ้าอยู่หัวรชั กาลที่ ๕ นั่นฮกั ตามไปกะบ่ฮู้จักเลย เพิ่นออก
เพนิ่ หลาย ไปใดก๋ ต็ ามนมิ นตใ์ หเ้ พนิ่ สกิ (ลาสกิ ขา) ไปเปน็ มหาดเลก็ นอกประเทศแลว้ เดะ๊ เพน่ิ กะเลย
เพนิ่ วา โอย๊ ใหพ้ จิ ารณาสามวนั ซะกอ่ น เพนิ่ พจิ ารณาแลว้ ถงึ สามวนั จำ� พรรษาอยพู่ นู้ ออกพรรษาแลว้
ใช้มหาดเล็กไปถามแล้ว บส่ กิ ไดถ้ วายชีวิตต่อพระพทุ ธ พระธรรม คอ่ ยกลบั มา เพน่ิ เขา้ ปา่ อยจู่ งั ซน่ั
พระสงฆ์ ตลอดชวี ติ วาซน่ั ไดถ้ วายตวั แลว้ วาซน่ั เลยใหร้ บั ราชการ หลวงปู่มั่นกะไปศึกษาน�ำ
ตั้งยศให้เปน็ เจ้าคุณใหร้ กั ษา เพิ่นกะเลยรบั ให้ แตต่ ้องให้ออกวเิ วก เพน่ิ แหลว่ นล่ี ะ่ นกั ปราชญเ์ มอื ง
ไปป่าไปเขานะ พระเจา้ อยูห่ วั ฯ อนุญาต ถึงเดอื นหก ก็ให้มหาดเล็ก อบุ ลฯ หลวงป่มู นั่ หลวงปูเ่ สาร์
ไปตามกลบั ละ่ ตามเอามาละ่ เปน็ ลกู ศษิ ยเ์ พิ่นเบด้ิ เพ่ินบวช
เปน็ เณรนนั่ รชั กาลท่ี ๔ สวรรคต
แลว้ กะประกาศทว่ั ราชอาณาจกั ร
ให้คนโกนผมนุ่งขาวแล้ว โอ๊ย
พากันฮ้องไห้วาซ่ันเด๊ อันภาค
อสี านเฮา

190 ผู้ทรงไวซ้ ่ึงความฉลาด

หลวงป่มู ั่นกะไปศึกษาน�ำเพนิ่ แหลว่
น่ีล่ะนกั ปราชญ์เมอื งอบุ ลฯ

หลวงปูม่ ่นั หลวงปู่เสาร์ เปน็ ลกู ศิษยเ์ พ่นิ เบ้ดิ

เพิน่ โกนผมแล้ว แม่เลยถามลกู ว่า โกนผมแลว้ บวชไดบ้ ่
อายเุ พน่ิ ๑๒ ปี บวชได้ อดขา้ วแลงได้บ่ ได้ วา่ ไดก้ ะไปแหล่ว
ไปมอบเจ้าคุณอุบาลีฯ ไปบวช ไปบวชแล้วเพิ่นกะไปเรียน
บวชเปน็ พระแลว้ กะเดนิ ธดุ งคเ์ ขา้ ปา่ เขา้ เมอื งแหลว่ ดหู นงั สอื
หดั เดนิ ธดุ งคไ์ ปแลว้ ในปา่ ในเขา แตกฉานมาจงั ซน่ั ของปญั ญา
เพิน่ เกง่ เดะ๊ แตกฉาน เปรยี บเทยี บไดเ้ บิด้ พ่อกรรมฐานล่ะ
ฝา่ ยเรยี น เพิน่ กะไดป้ ระโยค ๔ แตห่ ั่งเพน่ิ เกง่ หลวงปเู่ สาร์
หลวงปูม่ ่ัน เคารพเพิ่นหลาย

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร 191

อุบายกล่ันกรองลูกศิษย์ ลกู ศษิ ยห์ ลวงปมู่ น่ั เกง่ องค์
ของหลวงปใู่ หญ่มน่ั ใด๋ๆ คือกนั เบด้ิ
ครูบาอาจารย์เพิ่นเอาแท้ๆ
จั่งหลวงปู่ม่ันเพ่ินปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าพู้น บ�ำเพ็ญมา เดะ๊ มาศกึ ษานำ� หลวงปมู่ น่ั จงั เพนิ่
ทอใด๋แล้ว มาภาวนาจิตรวมลง เกดิ ระลึกชาตไิ ด้ว่าเพิน่ เคยเกิดเป็น อาจารย์มหาทองสุก เพิ่นเรียน
หมามาตงั้ หมน่ื ชาติ วาซน่ั เพนิ่ เกดิ สลดสงั เวชใจ เลยปรารถนาจะเอาตวั พนู้ ๔ ประโยค ๕ ประโยค พนู้ นะ่
ใหร้ อดในชาตนิ เ้ี ลย บอ่ ยากกลบั มาเกดิ มาทกุ ขอ์ กี ขอบรรลธุ รรมใน เขา้ ศกึ ษานำ� เพน่ิ หลวงปมู่ นั่ อยปู่ า่
ชาตนิ ี้ เรอื่ งความเปน็ พระโพธสิ ตั วป์ รารถนาสเิ ปน็ พระพทุ ธเจา้ เพนิ่ กะ อยู่ดง หลวงปู่ม่ันเพ่ินสอนว่า
เลยถอนเลย พอประมวลมาแล้ว เพนิ่ จงั แตกฉาน ผ่านไปเรว็ ทา่ นมหาฯ เรยี นมานใี่ หเ้ กบ็ เขา้ ตู้
เพิ่นไปท�ำความเพยี รอยพู่ ู้น บอ่ นเพน่ิ ไดบ้ รรลอุ ยเู่ ทงิ เขาเมือง เขา้ หีบซะก่อน เรยี นพุทโธ พู้น
เชยี งใหม่ เพน่ิ ไปไดอ้ ย่ทู ีน่ ัน่ มีตน้ ไม้ตน้ เดยี วอย่ตู รงกลาง นอกนน้ั เปน็ ปสี องปพี นู้ นะ่ จติ จงึ คอ่ ยอยู่
มแี ตห่ นิ ดานเบด้ิ เพน่ิ พกั รกุ ขมลู ทนี่ นั่ เปน็ พลาญหนิ โอย๊ กวา้ งขวาง นำ� พทุ โธ เพนิ่ วา่ เพน่ิ บไ่ ดเ้ ฮด็ เลน่
เพนิ่ กะน่งั พจิ ารณาอยตู่ รงน้นั เพิ่นผ่านได้ตรงนน้ั เด๊ะ เด๊ะ ปานน้ันพู้นเด๊ะ นอนอยกู่ ะ
รสู้ กึ ตวั ใจอยนู่ ำ� พทุ โธ กนิ ขา้ วกะ
อยนู่ ำ� พทุ โธ มนั เขา้ ถงึ ใจแลว้ เปน็
จังซ่ันล่ะ คือจังเฮาเรียนหนงั สอื
ทีแรก ครูกะจับมือช่วยเขียน
เขียนตวั นน่ั ยาวตัวน้สี ้นั แบบหวั
ยาวขายาวไปล่ะ ช�ำนาญเข้าๆ
เขียนมากเข้า มันกะคล่องเข้าๆ
แหลว่ อา่ นกะอา่ นคลอ่ งเขา้ แหลว่
สระอะ สระอิ สระอี ผสมกนั เขา้

192 ผ้ทู รงไว้ซ่ึงความฉลาด

ตวั น่ันมาบวกตวั นีม่ าบวกเข้า ข่ันเฮาแตกฉานแล้ว ฮว่ ย หลบั ตาเขยี นกะได้ บย่ าก เพราะมันเขา้ ถึงใจ
แล้วเด๊ะ มนั เขา้ ในใจแล้ว
การภาวนากะคอื กนั แหลว่ มนั บไ่ ดย้ าก ใหส้ งั เกตสงั กาเจา้ ของ ตอ้ งเปน็ นกั สงั เกตเดะ๊ เอา้ การภาวนา
เวลานง่ั จิตมนั เปน็ จังใด๋ เวลานจี่ ิตมนั เปน็ จังใด๋ มนั แล่นน�ำอันใด๋ สอบถามมันอยจู่ ังซั่น เบ่ิงดี๊ คือจ่ังกับ
เฮาเดนิ ทางนลี่ ะ่ ขนั่ บถ่ ามบา้ นนน่ั บา้ นนเี่ ลย กะบร่ เู้ รอื่ ง ทางไปหน่ั ทางไปนก่ี ะบร่ ู้ อนั นกี่ ะฝกึ เจา้ ของถามดี๊
เร่ืองปัญญาจักษุคือกัน ต้องอบรมต้องฝึกต้องหัดเบิ้ดดิ๊ หัดถามหัดพูด เกิดอันใด๋ ถามลงไปในจิต
ธรรมมนั โผลข่ ึน้ มาเองดอก เอ้า รักษาคลน่ื จิตให้ได้ มันบ่ยากดอก ขนั่ คลนื่ จติ ตรงกนั กับอนั นั่นอันนี่
มนั สมิ าแสดงใหฟ้ งั ดอก จงั่ หลวงปมู่ น่ั เพน่ิ วา่ พระอรหนั ตเ์ พน่ิ มาแสดงธรรมใหฟ้ งั จงั ซน่ั จงั ซี่ ขอใหจ้ ติ รวม
ไดเ้ ถอะ สิปรากฏเองดอก มนั เป็นปัจจตั ตัง
อยนู่ ำ� หลวงปมู่ น่ั นี่ ฮว่ ย ออกไปเทย่ี ววเิ วกน่ี กลบั มา ถามภาวนาบไ่ ดเ้ รอ่ื งเนยี่ บใ่ หจ้ ำ� พรรษานำ� จอ้ ย
ไลห่ นพี นุ่ ออกไปตอ้ งมอี บุ ายมาเวา่ สเู่ พนิ่ ฟงั ขนั่ บม่ ี อยา่ คนื มาเลย คนื มากะบไ่ ดอ้ ยู่ เอาปานนนั้ ละ ผทู้ ไ่ี ด้
อยนู่ ำ� ขนั่ ไปถามแลว้ บไ่ ดอ้ หิ ยงั แหลว่ ฮว่ ย บใ่ หอ้ ยนู่ ำ� แลว้ ปานนน้ั เดะ๊ หลวงปมู่ นั่ เพน่ิ กลน่ั กรองปานนนั้ เด๊
ปฏปิ ทาเพิ่น

หลวงปลู่ ี กสุ ลธโร 193

สละชีพแลกธรรม เทือหนึ่ง เพ่ินเดินยาม
กลางคืน ไปพ้อเสือสองตัว
หลวงปชู่ อบเพนิ่ เวา่ น่ี จติ เพนิ่ เดนิ เบด้ิ มอื้ กะอยนู่ ำ� พทุ โธเบด้ิ มอ้ื ทางหลังกะฮ้องมา ทางหน้า
แตว่ าระจติ ของพวกเฮามนั บเ่ ปน็ จงั ซน่ั เด๊ พายบาตรพายหยงั นบี่ ม่ เี มอื่ ย กะฮอ้ งมา จอ้ เขา้ ๆ กะสถิ งึ เพนิ่
เพิ่นว่าบ่มีความรู้สึกเม่ือยเลย เบาตนเบาตัว ย่างไปกะคล้ายกับบ่ เบิ่งทางหน้ากะสิตะครุบ เบิ่ง
เหยยี บดนิ กะมี เพน่ิ วา่ บม่ เี มอ่ื ย ยามเพนิ่ ไปผเู้ ดยี วไปเบด้ิ คนื กะเบดิ้ คนื ทางหลังกะสิตะครุบ เพิ่นกะ
บไ่ ดน้ อนกะมี มนั เพลนิ แตว่ าระจติ นน่ั บป่ ะพทุ โธ เพนิ่ วา่ ขน่ั เวลานง่ั ย้อนจิตเข้ามาหาเจ้าของเลย
จงั ซี่ คลา้ ยกนั กบั นง่ั บถ่ กื อาสนะเลย เปน็ จงั ซน่ั วาระจติ เด๊ เรอ่ื งของกาย บ่ส่งไปหามัน เพิ่นว่าชีวิตกะ
มันบ่สมั ผสั เด๊ คงสิถึงคราวน่ีล่ะ ต้ังจิตเลย
ฮว่ ย เดนิ ไปเบด้ิ มอื้ กะเบดิ้ มอ้ื ละ่ อยใู่ นสมาธเิ ลยเพน่ิ วา่ จติ สงบ ข่ันเคยได้กระท�ำกันมาแต่ภพ
อย่จู ังซ่นั เอาพุทโธอยจู่ งั ซั่น เดินดงคล้ายกันกบั บ่เหยยี บดินไปเลย ชาตหิ นหลงั แตเ่ กา่ กะสละเสยี
คลา้ ยอยบู่ นอากาศพนู้ เพนิ่ ชอบเดนิ ยามกลางคนื เดะ๊ ไปเลยกลางคนื อตั ภาพรา่ งกายน้ี ขน่ั บไ่ ดก้ ระทำ�
บ่กลวั กนั มาแตก่ ่อน กะอโหสกิ รรม
กันไป พอแต่คิดทอน้นั ล่ะ จติ
เพนิ่ รวมพรบึ เลย เพน่ิ วา่ พอจติ
รวมพรึบ เกิดความรู้ขึ้นมา
เสอื กนิ บไ่ ดเ้ ดด็ ขาด เพน่ิ กะยนื
อยู่หั่นแล้ว จ๊ักช่ัวโมงล่ะยืน
อยู่หั่น ไฟเทียนกะใต้โคมเด๊ะ
ไฟเทียนกะดับ มือกะแบก
กลดอยู่ พายบาตรกะพายอยู่
จังซ่ัน กลดกะแบกอยู่จังซั่น
มอื กะจบั อยจู่ งั ซนั่ จติ ถอนขน้ึ มา

194 ผู้ทรงไว้ซ่ึงความฉลาด

เดนิ ไปเบิ้ดมอื้ กะเบ้ดิ มื้อล่ะ
อยูใ่ นสมาธิเลยเพนิ่ วา่ จติ สงบอยูจ่ งั ซั่น
เอาพทุ โธอยูจ่ ังซัน่ เดินดงคล้ายกันกับบ่เหยียบดินไปเลย
คลา้ ยอย่บู นอากาศพนู้ เพน่ิ ชอบเดินยามกลางคนื เดะ๊

กะหาเสือบเ่ หน็ วางของลง กะเอาเทียนใต้โคมแล้วกะยา่ ง
เบง่ิ หามนั ความยา่ นหายไปเบด้ิ มนั มแี ตค่ วามกลา้ หาญวา่ สิ
สเู้ สอื ได้ เบง่ิ ตี๊ ใจมนั กลา้ แตน่ น่ั มาคำ� นงึ ถงึ เสอื คนู่ น้ั อยตู่ ลอด
ใหไ้ ดอ้ รรถไดธ้ รรม เพน่ิ วา่ เกดิ ความฉลาด อศั จรรย์ เราไปใด๋
ไปไดเ้ ลย ไมม่ ีความวติ กวจิ ารณ์ บก่ ลวั มแี ต่ไป ไปแตใ่ ด๋
มแี ต่พ้อเสอื เดะ๊ เพ่ิน ไปอยพู่ มา่ เสือกะมานง่ั เฝ้าอยหู่ ่นั จน
ซอดเซา้ ไปบณิ ฑบาตกะผา่ นมนั ไป เบง่ิ ต๊ี เพนิ่ เฮด็ มาจงั ซน่ั เดะ๊
ครูบาอาจารย์

หลวงปู่ลี กสุ ลธโร 195


Click to View FlipBook Version