หากเปนเร่ืองบังเอิญ คงไมสามารถเกิดเรื่องทำนอง
เดยี วกนั ไดห ลายครง้ั หลวงพอ บอกขอ สอบขา พเจา อกี เปน ครง้ั
ท่ี ๒ ครงั้ ที่ ๓ และครง้ั ท่ี ๔ ตา งกรรมตา งวาระกนั จนผลการ
สอบของขา พเจา ออกมาไดเ กรดเอ หลายวชิ า
ขา พเจา ไดพ จิ ารณาดแู ลว คดิ วา เรอ่ื งนหี้ ลวงพอ ตอ งการ
สอนอะไรบางอยา งใหแ กข า พเจา คงมใิ ชเ พยี งแคก ารบอกขอ สอบ
และกค็ งมใิ ชเ อาไวใ หข า พเจา นำมาเลา ใหห มคู ณะฟง เทา นนั้
ปรศิ นาธรรมจากนมิ ติ ครงั้ นี้ จะจรงิ หรอื เทจ็ ประการใด
พระธาตเุ สดจ็ มาจรงิ หรอื ไม หรอื หลวงพอ บอกขอ สอบจรงิ หรอื
ไม สำหรบั ขา พเจา แลว ถอื วา เปน ปาฏหิ ารยิ ท ห่ี ลวงพอ เมตตาให
บทเรยี นบทตอ มากบั ขา พเจา
เปน บทเรยี นทนี่ ำไปสู อนสุ าสนปี าฏหิ ารยิ ใหข า พเจา
ไดม คี วามเขา ใจในธรรมมากขน้ึ และเปน สมั มาทฏิ ฐิ มากขน้ึ
ในเวลาตอ มา
151
๗๗
ตวั ประมาท
หลงั จากทห่ี ลวงพอ ไดบ อกขอ สอบใหข า พเจา ทราบ ครง้ั
แรกแลว ทา นกไ็ ดช ว ยขา พเจา ทำขอ สอบอกี เปน ครง้ั ท่ี ๒ ทที่ า น
ชว ยเหลอื ขา พเจา คราวนเ้ี ปน วชิ า พบ. ๒๘๓ วชิ าการบรหิ ารงาน
ผลิตซ่ึงมีอาจารยผูสอนหลายทาน ขอสอบมีหลายลักษณะ
ทงั้ บรรยาย เตมิ คำ ใหก ากบาทหนา ขอ ทถ่ี กู ตอ งทส่ี ดุ ฯลฯ
หลวงพอดูทานเคยสอนวิธีทำขอสอบแบบปรนัย (ให
กากบาทหนา ขอ ทถ่ี กู ตอ งทสี่ ดุ ) ใหข า พเจา วา เวลาทเี่ ราไมแ นใ จ
แทนทเี่ ราจะเดาสมุ หรอื ทเ่ี รยี กวา กาสง เดช เราจะไมท ำ อยา งนนั้
หลวงพอทานสอนใหขาพเจาหลับตาและนึกถึงหลวงพอทวด
(หลวงพอ ทวด เหยยี บนำ้ ทะเลจดื ) แลว กราบเรยี นถามทา น
ขณะทอี่ ยใู นหอ งสอบ เมอ่ื ขา พเจา ทำขอ สอบเสรจ็ แต
เวลายังไมหมด และยังมีขอสอบประเภทกากบาทเหลืออีก
ประมาณ ๑๐ ขอ ทข่ี า พเจา ไมแ นใ จ ขา พเจา ไมร อชา นกึ ถงึ ที่
หลวงพอ สอนทนั ที คอ ยๆ พจิ ารณาทลี ะขอ หากขอ ใดถกู ตอ ง
เมอ่ื ขา พเจา เอาปากกาจมิ้ ไปทต่ี วั เลอื ก จะเกดิ เปน แสงสวา งขนึ้
ทนั ที แตถ า ไมถ กู ตอ ง กจ็ ะมดื และไมม แี สงสวา ง
152
ขา พเจา ทำขอสอบสว นทีเ่ หลอื ดว ยวธิ นี จ้ี นเสร็จเรียบ
รอ ยหลงั จากประกาศผลสอบออกมา ขา พเจา ไดเ กรด A เชน เคย
เดอื นตอ มา ขา พเจา ไดม โี อกาสนำเรอ่ื งนไ้ี ปเรยี นถวายใหห ลวง
พอทราบ ในคร้ังน้ันมีเพ่ือนของขาพเจาซึ่งเรียนอยูใน
มหาวิทยาลัยอีกแหงหนึ่งมากราบหลวงพอดวยเชนกัน เพื่อน
ขาพเจาคนนี้ไดฟงเร่ืองท่ีขาพเจาเลาถวายหลวงพอ เขาจึงได
กราบเรยี นหลวงพอ วา
ผมไดทำขอสอบกากบาทแบบนี้เหมือนกัน ขอสอบมี
๑๐๐ ขอ พอเขา หอ งสอบผมกห็ ลบั ตานกึ ถงึ หลวงพอ ขอใหช ว ย
ทำขอ สอบดว ย จากนน้ั กท็ ำขอ สอบโดยใชว ธิ หี ลบั ตาเชค็ ทลี ะขอ
จนครบ ๑๐๐ ขอ ผลสอบออกมาปรากฏวา ได F คอื สอบตก
ทำไมเปน อยา งนคี้ รบั หลวงพอ เพอื่ นขา พเจา ถามหลวงพอ
หลวงพอมองหนาเพ่ือนของขาพเจาและเมตตาอบรม
เตอื นสตทิ งั้ เพอื่ นและขา พเจา วา
“แกไมพิจารณาใหดี นั่นแหละตัวประมาท จำไว
ตวั ประมาทนแี่ หละตวั ตาย”
ตรงกบั พระพทุ ธพจนท วี่ า ปมาโท มจั จโุ น ปทงั ความ
ประมาทเปน หนทางไปสคู วามตาย นน่ั เอง
153
๗๘
ของโกหก
มพี ระพทุ ธพจนว า
“บคุ คลใด เหน็ สงิ่ อนั ไมเ ปน สาระวา เปน สาระ และเหน็
สง่ิ อนั เปน สาระวา ไมเ ปน สาระ บคุ คลนนั้ มคี วามดำรผิ ดิ ประจำใจ
ยอ มไมอ าจพบสาระได
สว นบคุ คลใด เหน็ สง่ิ อนั เปน สาระวา เปน สาระ สงิ่ อนั
ไมเ ปน สาระวา ไมเ ปน สาระ บคุ คลนนั้ มคี วามดำรถิ กู ประจำใจ
ยอ มสามารถพบสง่ิ อนั เปน สาระ”
เรอ่ื งราว เหตกุ ารณ บคุ คล สตั ว สง่ิ ของตา งๆ ทผี่ า น
เขา มาในชวี ติ ของเรานน้ั
สรรพสงิ่ ลว นเปลย่ี นแปลง ไมค งที่ และไมส ามารถคงอยู
ตลอดไป
หากเรารจู กั สงั เกต ฝก หดั พจิ ารณาหาเหตหุ าผล จนใจ
คนุ เคยกบั ความเหน็ ตามความจรงิ
เราจะเหน็ ถงึ ความเปลยี่ นแปลง ทงั้ บคุ คลและสง่ิ ของ
ทกุ อยา งรอบตวั เราไดไ มย ากนกั
154
๗๙
ถึงวัดหรือยัง
ธรรมะเปน สงิ่ ทมี่ อี ยรู อบๆ ตวั เราทกุ ๆ คน เพยี งแตว า
เราจะสามารถมองเหน็ และนำมาพจิ ารณาไดแ คไ หนอยา งไร ใน
สมยั พทุ ธกาล ทา นหมอชวี กโกมารภจั จ แพทยป ระจำองคพ ระ
พทุ ธเจา ของเรา สมยั ทศี่ กึ ษาอยกู บั อาจารยท ศิ าปาโมกข กอ น
จะสำเรจ็ วชิ าการแพทย ทา นใหถ อื เสยี มไป เทยี่ วหาดวู า มสี งิ่ หนง่ึ
สง่ิ ใดทใ่ี ชเ ปน ยาไมไ ด ใหน ำมาให โดยใหไ ปเทยี่ วหา ๔ วนั วนั ละ
ทศิ ทศิ ละ ๑ โยชน รอบเมอื งตกั ศลิ า ทา นหมอชวี กรบั คำสงั่
อาจารยแลวถือเสียมไปเที่ยวหาตามคำสั่งของอาจารย ก็ไมได
พบเหน็ สงิ่ ใดทไ่ี มใ ชย าเลย เมอื่ กลบั มาแลว เขา พบอาจารย แจง
ความนนั้ ใหท ราบ อาจารยจ งึ กลา ววา เธอเรยี นวชิ าแพทยส ำเรจ็
แลว ความรเู ทา นพ้ี อเพยี งทเ่ี ธอจะใชเ ปน อาชพี ไดแ ลว
ตน ไมท กุ ชนดิ หนิ ดนิ แรต า งๆ มคี ณุ คา สามารถนำมา
เทยี บเปน ยาไดฉ นั ใด บคุ คลผมู คี วามฉลาดกฉ็ นั นน้ั รอบๆ ตวั เรา
ทุกส่ิงทุกอยางไมวาคน สัตว สิ่งของ เรื่องราวเหตุการณใดๆ
กต็ ามทเี่ กดิ ขนึ้ และผา นเขา มาในชวี ติ ประจำวนั ของเรานนั้ ไมม ี
เรอื่ งใด ทไี่ มส ามารถนำมาพจิ ารณาใหเ ปน ธรรมะไดเ ลย
155
พระพทุ ธเจา ทา นสอนใหเ รามคี วามเขา ใจในโลกธรรม
ทงั้ ๘ อยา ง ไดแ ก
ไดล าภ เสอื่ มลาภ
ไดยศ เสอื่ มยศ
ไดร บั ความสขุ ประสบกบั ความทกุ ข
มคี นสรรเสรญิ และมคี นนนิ ทา
...ถาใจเปรียบเหมือนน้ำน่ิง เมื่อใจเรากระทบกับ
โลกธรรม ๘ อยา งนแ้ี ลว กระเพอื่ มไหวไปตามอารมณ กเ็ ปน โลก
แตถ า พจิ ารณาอยา งมสี ตจิ นเทา ทนั โลกธรรม ๘ อยา งแลว ไมซ ดั
สา ยไปตามอารมณท งั้ หมดนี้ ใจกเ็ ปน ธรรมอยโู ดยตลอด
ธรรมะแทอ ยทู ใี่ จ มใิ ชท ว่ี ดั พระสงฆ หรอื คมั ภรี ใ บลาน
ทล่ี ว นเปน ศาสนสถาน ศาสนบคุ คล หรอื ศาสนวตั ถุ เทา นนั้ หาก
เราเขา ใจไดอ ยา งน้ี ศาสนธรรมอนั เปน สง่ิ สำคญั ทส่ี ดุ กจ็ ะเกดิ ขน้ึ
ทต่ี วั เรา เมอื่ นนั้ เรากจ็ ะเขา ใจคำวา พระทคี่ ลอ งใจ มใิ ช พระที่
คลอ งคอ
หลวงพอ ดู ทา นสรปุ เรอ่ื งนใ้ี หข า พเจา ฟง วา
“ถงึ แกมาวดั แตใ จยงั มโี กรธ โลภ หลง ไปตาม ๘
อยา งทวี่ า นี้ แกยงั มาไมถ งึ วดั แตถ า แกอยบู า นหรอื ทไ่ี หนๆ
แตไ ม โกรธ ไมโ ลภ ไมห ลง ไมม ี ๘ อยา งนมี่ ากวนใจ ขา วา แก
มาถงึ วดั แลว ”
156
๘๐
รางวลั ทนุ ภมู พิ ล
เม่ือป พ.ศ.๒๕๒๗ ขณะท่ีขาพเจากำลังศึกษาอยูท่ี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร มีเหตุการณหน่ึงซึ่งหลวงปูทวดได
เมตตาใหความชวยเหลือจนขาพเจาไมมีวันที่จะลืมไปไดคือวัน
หน่ึงขาพเจาไดทราบขาววา ทางมหาวิทยาลัยจะมีการจัด
ประกวดการเขยี นเรยี งความในหวั ขอ เรอื่ ง “พระบาทสมเดจ็ พระ
เจา อยหู วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดชกบั พทุ ธศาสนาในสงั คมไทย”
ขา พเจา เกดิ ความสนใจทจ่ี ะเขยี นเรยี งความดงั กลา วขน้ึ
มาทันที แตก็ไมแนใจตนเองวาจะมีความสามารถเขียนไดดีสัก
เพียงใด เมื่อขาพเจาตัดสินใจแนนอนแลววาจะเขียน จึงไดมา
กราบพระ ระลกึ ถงึ พระคณุ ครบู าอาจารย และอาราธนาหลวงปู
ทวดและหลวงพอ ดเู พอื่ ขอความชว ยเหลอื จากทา นใหง านเขยี น
ชนิ้ นส้ี ำเรจ็ ลลุ ว งไปดว ยดี ขณะทข่ี า พเจา กำลงั นกึ อธษิ ฐานอยใู น
หอ งพระเพยี งลำพงั น้ี กบ็ งั เกดิ นมิ ติ เปน หลวงปทู วดทา นเดนิ ออก
มาจากโตะหมูบูชามาหาขาพเจา ขาพเจาแลเห็นภาพตัวเอง
นั่งคุกเขา หมอบตัวลง และหงายฝามือท้ังสองย่ืนไปขางหนา
เบอื้ งหนา ขา พเจา แลเหน็ เปน ภาพหลวงปทู วดยนื สวดมนตใ หพ ร
157
พรอ มกบั เปา ลงทม่ี อื ทง้ั สองของขา พเจา ในนมิ ติ นน้ั ขา พเจา เหน็
เปน อกั ขระโบราณอยเู ตม็ สองฝา มอื ขา พเจา จงึ กราบเรยี นถาม
หลวงปทู วดวา “อะไรหรอื ขอรบั ” ทา นตอบสนั้ ๆ วา “ความรู ”
จากนนั้ ทา นกห็ นั หลงั เดนิ กลบั หายลบั เขา ไปในโตะ หมบู ชู า
ขาพเจาปล้ืมปติมาก และเกิดเปนกำลังใจอยางย่ิงใน
การเขยี นหนงั สอื ครง้ั นน้ั และไดใ ชเ วลากวา สามเดอื น จงึ เขยี น
เรยี งความแลว เสรจ็ ขณะทเี่ ขยี นหากตดิ ขดั อะไร เมอ่ื นกึ ถงึ หลวง
ปทู วด จะเหมอื นทา นชว ยดลใจใหส ามารถเขยี นตอ ได จะคน ควา
หรอื หาขอ มลู อา งองิ ใด ๆ กไ็ มต ดิ ขดั เลย เปน เรยี งความเรอื่ งยาว
ขนาดมากกวา ๓๐ หนา กระดาษพมิ พด ดี ซงึ่ นบั เปน งานเขยี นที่
ยาวที่สุดในชีวิตของขาพเจาเลยทีเดียว เมื่อทางมหาวิทยาลัย
ประกาศผลการประกวดเรยี งความ งานเขยี นของขา พเจา เปน งาน
เขยี นชนิ้ เดยี วในปน น้ั ทไ่ี ดร บั พระราชทานรางวลั ทนุ ภมู พิ ล โดยได
เขารับพระราชทานรางวัลเปนทุนการศึกษาจากพระหัตถของ
พระบาทสมเดจ็ พระเจา อยหู วั ในวนั พระราชทานปรญิ ญาบตั ร
จากคนทไี่ มเ คยเขยี นหนงั สอื จากคนทไ่ี มเ คยสนใจงาน
ดา นขดี ๆ เขยี นๆ มากอ น จนมาไดร บั พระราชทานรางวลั ทนุ
ภูมิพล ไมเปนท่ีสงสัยเลยวาขาพเจาจะยินดีและดีใจเพียงใด
ขาพเจาขอกราบแทบเบ้ืองบาทของหลวงปูทวดและหลวงพอดู
ขอนมสั การดว ยความเคารพ...ดว ยเศยี ร... และ เกลา ...ทที่ ำฝน
ของขา พเจา ใหเ ปน จรงิ
158
๘๑
หลวงปูทวดชวยชีวิต
ความไมมีโรคเปนลาภอันประเสริฐ เปนคำสอนของ
พระพุทธองคท่ีใชไดทุกยุคทุกสมัย ความทุกขของคนเรานั้นมี
มากมายหลายเร่ืองหลายอยาง การเจ็บปวยดวยโรคเรื้อรังท่ี
เพยี รพยายามรกั ษาอยา งไรกไ็ มย อมหายสกั ที นกี่ เ็ ปน ความทกุ ข
ทท่ี รมานจติ ใจมากเรอ่ื งหนงึ่ ของมนษุ ยเ รา บทความทท่ี า นจะได
อา นตอ ไปนี้ เปน เรอื่ งของคณุ รตั นาภรณ อนิ ทรกำแหง ซง่ึ เขยี น
โดยเบญจะ ชนิ ปญ ชนะ จากหนงั สอื ขวญั เรอื น ไดเ ลา ไวด งั น้ี
คณุ รตั นาภรณ อนิ ทรกำแหง เปน ศลิ ปน ดาราทเ่ี ดน
ดงั ในอดตี และยงั มผี ลงานอยถู งึ ทกุ วนั นี้ ชวี ติ จรงิ ของศลิ ปน ทา น
น้ีไดผานอุปสรรคมาแลวอยางมากมาย ต่ืนเตนเราใจยิ่งกวา
ภาพยนตท เ่ี ธอแสดง และเมอ่ื ถงึ บทเศรา แลว เศรา สลดจนตอ ง
ฆา ตวั ตาย เมอื่ หลายปก อ นคณุ รตั นาภรณ ไดเ กดิ ลม ปว ยเปน
อมั พาต ลกุ เดนิ ไมไ ด ไดไ ปรกั ษาตวั ทโ่ี รงพยาบาลมชี อ่ื แหง หนง่ึ
หมดเงนิ ไปรว ม ๒ แสนบาท แตไ มห าย และไมด ขี น้ึ เลย พอรู
ขา ววา ทไ่ี หนมหี มอเกง จะรบี ใหค นพาไป รกั ษาแลว กเ็ หมอื นเดมิ
รกั ษาไปจนทรพั ยส นิ เงนิ ทองเกอื บหมด โรครา ยทท่ี รมานเพราะ
159
ลกุ เดนิ ไมไ ดก ย็ งั ทรมานใจอยู เปน เชน นอ้ี ยนู านถงึ ๗ เดอื น
ฆาตัวตายดีกวา คนเราเมื่อหมดหนทางไมมีทางออก
กต็ อ งคดิ สน้ั คนทตี่ อ งอยใู นสภาพทช่ี ว ยตวั เองไมไ ดเ ปน ระยะ
เวลานานๆ ตอ งอยแู ตใ นหอ งทแ่ี คบๆ จะทำอะไรกต็ อ งอาศยั ผู
อนื่ มนั นา เบอื่ หนา ยคบั แคน ใจยง่ิ นกั ตายซะจะดกี วา ชาตทิ แ่ี ลว
คงทำกรรมไวม าก ขอยอมชดใชก รรมแตเ พยี งเทา น้ี
น่ันเปนคำพูดของคุณรัตนาภรณ ท่ีนอยอกนอยใจใน
ชะตากรรมของตนเอง กอ นทจ่ี ะตดั สนิ ใจไปตาย ! เมอื่ ตดั สนิ ใจ
แลว จงึ เดนิ ทางทอ งเทย่ี วแบบสงั่ ลา อยากไปทไ่ี หนกไ็ ปชอบใจ
ทไ่ี หนกอ็ ยนู านหนอ ย เมอื่ ไปถงึ ภเู กต็ เกดิ ความเบอ่ื จงึ หลบไป
ชายหาดทไี่ มม คี นสง่ั บตุ รบญุ ธรรม (เพราะคณุ รตั นาภรณ หรอื
คณุ แดง ไมม บี ตุ ร) ใหไ ปซอื้ ขา วปลาอาหารทานกนั ทช่ี ายหาด
เมอ่ื ไมม ใี ครอยแู ลว คณุ แดงจงึ ไดต งั้ จติ อธษิ ฐานตอ คณุ
พระศรรี ตั นตรยั โดยเฉพาะ หลวงพอ ทวด ทเี่ คารพนบั ถอื มาก
เพราะเคยไดป ระจกั ษใ นดา นอทิ ธฤิ ทธอิ์ ภนิ หิ ารจากการรอดตาย
มาแลว (ถงึ กบั ไดช กั ชวนคณุ สมบตั ิ เมทะนี ดารา ยอดนยิ มใน
อดตี ชว ยกนั สรา งพระเครอื่ งบชู าหลวงพอ ทวด ถวายใหว ดั ชา ง
ใหไ ปรนุ หนงึ่ ) ชว งนน้ั คณุ แดงไดต ง้ั จติ อธษิ ฐานตอ องคห ลวงพอ
ทวดไวว า
“ขณะนี้ลูกไดถูกโรครายเบียดเบียน ทนทุกขทรมาน
เปน เวลานานแลว วนั นไ้ี ดต ดั สนิ ใจขอลาตาย บญุ ใดทลี่ กู ไดท ำ
160
มาแลว ในอดตี ชาตกิ ด็ ี และในชาตนิ กี้ ด็ ี ลกู ขออทุ ศิ บญุ นน้ั ใหก บั
เจา กรรมนายเวรทไ่ี ดล ว งเกนิ กนั มา จะดว ยเจตนากด็ ี ไมเ จตนา
กด็ ี ขอใหห ลวงพอ ทวด ชว ยเปน สอื่ ไปบอกใหเ จา กรรมนายเวร
ตา ง ๆ มารบั ไปและอโหสกิ รรมใหล กู ดว ย และถา เมอ่ื ลกู ไดห มด
กรรมจรงิ แลว ขอใหห ลวงพอ ทวดไดเ มตตาสงเคราะหใ หห ายจาก
โรคภยั ในวนั นด้ี ว ย ถา ยงั ไมห าย ลกู ขอลาตายในบดั น”ี้
เมอ่ื จบคำอธษิ ฐานแลว คณุ แดงกล็ งมอื คลานกลงิ้ ตวั ลง
ทะเลไป เมอื่ เจอคลนื่ ซดั มา กก็ ลง้ิ กลบั ไปแตก ย็ งั กระเสอื กกระสน
คลานตอ ไป แลว กถ็ กู คลนื่ ซดั เขา ฝง อกี ตอ สกู บั คลน่ื เพอ่ื ทจี่ ะไป
ใหล กึ พอทจี่ ะจมน้ำแลว หายใจไมอ อก เปน เชน นอี้ ยู ครงึ่ ชวั่ โมง
จนบตุ รบญุ ธรรมกบั คนใชม าพบเหน็ ชว ยพยงุ ตวั ขน้ึ ฝง ขณะนน้ั
เหน่ือยจนไมไดสติ มาตกใจรูตัวเพราะเสียงตะโกนล่ันวา “แม
หายแลว ! แมห ายแลว !” ปาฏหิ ารยิ เ กดิ ขน้ึ แลว เพราะคณุ แดง
ยนื ไดแ ลว เดนิ ไดด ว ย หายจากโรครา ยแลว จากคณุ พระรตั น
ตรัยและหลวงพอทวดท่ีประทานให เนรมิตใหโดยใชเวลาสั้นๆ
จากการทตี่ อ งทนทรมานอยนู านถงึ ๗ เดอื น
นเี้ ปน อกี เรอ่ื งหนง่ึ ทขี่ า พเจา ขอฝากทา นผอู า นไว เปน
เครอ่ื งเจรญิ ศรทั ธา
161
๘๒
ทามากอ็ ตจิ
ทามาก็อตจิ หรือเจาสัตวเลี้ยงคอมพิวเตอรที่แสนจะ
ขอ้ี อ น ซง่ึ กำลงั แพรร ะบาดและเปน ทนี่ ยิ มเลย้ี งกนั ในหมนู กั เรยี น
นักศึกษา โดยเฉพาะอยางยิ่งที่ญ่ีปุนและในบานเรา จนทาง
โรงเรยี นตอ งหา มนกั เรยี นไมใ หน ำมาโรงเรยี น เพราะจะทำให
เสยี การเรยี น เนอื่ งจากตอ งคอยดแู ลทามากอ็ ตยงิ่ กวา ไขใ นหนิ
ตอ งคอยปอ นอาหารใหท าน พาเขา หอ งนำ้ เจบ็ ปว ยตอ งพาไป หา
หมอและอนื่ ๆ อกี จปิ าถะ มฉิ ะนนั้ ... มนั กจ็ ะตาย
จากเรอ่ื งทามากอ็ ตเจา สตั วเ ลย้ี งปลอม ทำใหข า พเจา คดิ
ถงึ วรรณกรรมทมี่ ชี อ่ื เรอื่ งหนง่ึ ในอดตี คอื ตลงิ่ สงู ซงุ หนกั ของ
นคิ ม รายยวา กวซี ไี รทเ มอ่ื หลายปก อ น ครงั้ นน้ั นคิ มไดน ำเสนอ
เรอ่ื งความเปน ของจรงิ และ ของปลอม ไดอ ยา งไพเราะกนิ ใจ
ยง่ิ นกั นคิ ม ไดใ ห คำงาย ตวั เอกของเรอื่ งเรยี นรแู ละพบคำถาม
ไดโ ดยการ “ประสบ” กบั คำตอบอนั เปน รปู ธรรมหลาย ๆ ครงั้
จนสามารถโยงเขา สปู รศิ นาในใจได
คำงายเรม่ิ แกะชา งใหญเ ทา ตวั จรงิ เขาเรม่ิ ตงั้ คำถามวา
“เราเคยเดินทางไกล ไดพบเห็นอะไรหลายอยาง แตตัวเราเอง
162
เปน ของใกลท สี่ ดุ เรากลบั ไมเ คยเหน็ มนั เลย” จนเมอื่ คำงายแกะ
ชา งไดเ ปน ตวั เปน ตนแลว แตเ ขายงั หาความเปน ชา งไมไ ด
จนวนั หนงึ่ เมอ่ื เขาอยบู นหลงั พลายสดุ ยามทพี่ ลายสดุ
ตกมนั เมอื่ เขากมุ สตไิ ดเ ขาพบวา สง่ิ นเ้ี องทเ่ี ราอยากรู เขาคดิ
ขณะความอนุ และออ นละมนุ จากตวั ชา งแลน ซา นใตร า งเขา มนั
มอี ารมณม เี ลอื ดเนอ้ื มชี วี ติ และวญิ ญาณ เขาสมั ผสั ไดถ งึ ความ
มทุ ะลุ รนุ แรงทก่ี ำลงั ทะยานไปขา งหนา รสู กึ ถงึ ความหวาดกลวั
และหวนั่ ไหวชว่ั ขณะของมนั ความเศรา ความเจบ็ ปวด และความ
ตกใจ ขณะดน้ิ รนและวงิ่ พลา น ฟด เหวย่ี งอยกู บั แอง ทห่ี าทางออก
ไมไ ด สง่ิ ทคี่ ำงายคน พบนี้ ไมใ ชเ พยี งแตช วี ติ และเลอื ดเนอ้ื ของ
ชา งตวั หนง่ึ เทา นน้ั แตค อื ชวี ติ และเลอื ดเนอื้ ของมนษุ ยชาตทิ ข่ี าด
หายไปในโลกปจจุบัน โลกท่ีผูคนชมช่ืนกับชีวิตที่เปน “ซาก”
มากกวา ชวี ติ ทเ่ี ปน “จรงิ ”
ดงั นนั้ คำงายจงึ หนั กลบั มาพจิ ารณาชา งไมข องเขา อกี
ครง้ั หนงึ่ และฉงนฉงายนกั วา “คนเรานแ่ี ปลกจรงิ ๆ ไมใ หญ มนั
กใ็ หญข องมนั อยแู ลว ใครไมไ ดท ำใหร ปู ชา งใหญ แตท อ นไมม นั
ใหญข องมนั เอง ตวั มนั จรงิ ๆ คอื ตน ไมใ หญ แตค นกลบั ไมเ หน็
ความสวยและมคี า ของมนั ตอนมรี ม เงามชี วี ติ กลบั โคน มนั ลดิ กง่ิ
ใบใหเปนซากไมแลวเอามาแกะใหเหมือนซากชาง ช่ืนชมมัน
มากกวา ไดเ หน็ ชา งหรอื ตน ไมท ม่ี ชี วี ติ จรงิ ๆ เสยี อกี ทำไปทำมา
จะไมม ขี องจรงิ เลยสกั อยา ง ไมว า ชา งหรอื ไม”
163
เรอื่ งของทามากอ็ ตจิ คำงาย และพลายสดุ เปน ตวั อยา ง
อนั ดใี หข า พเจา ไดค วามเขา ใจชดั เจนแจม แจง ขนึ้ ในเรอ่ื ง ของจรงิ
ของปลอม
บทสนทนาตอนหน่ึง ท่ีหลวงพอดูทานพูดคุยกับ
ขาพเจาและเพื่อนครั้งที่ไดกราบนมัสการและถวายดอกบัวแก
ทา น กอ นทจ่ี ะถวายดอกบวั เพอ่ื นของขา พเจา ไดน ำดอกบวั มา
พบั กลบี บวั ใหด เู หมอื นเปน ดอกกหุ ลาบ อกี กลมุ กเ็ อาดอกบวั มา
พบั กลบี เขา ไปทลี ะชน้ั จนเหน็ เกษรดอกบวั ทอี่ ยดู า นใน หลวงพอ
ทา นนง่ั มองดอู ยู ในทส่ี ดุ ทา นไดฝ ากขอ คดิ ในการไปทำบญุ ครงั้
นน้ั ใหข า พเจา วา
“ดอกบวั ทพี่ บั กบั ดอกบวั ทไ่ี มไ ดพ บั อยา งไหนอยไู ด
นานกวากัน”
“อยา งทไี่ มพ บั ครบั ” ขา พเจา ตอบ
“เออ ! ก็เรามันอยากน่ีนา อยากใหเปนอยางนั้น
อยากใหเ ปน อยา งน้ี ขา ฝากแกไปคดิ ด”ู
พบั กนั ไปพบั กนั มา ในทสี่ ดุ ของจรงิ กอ็ ยไู ดท นนานตาม
ธรรมชาตกิ วา ของทถี่ กู พบั และกด็ จู รงิ ๆ แลว ดอกบวั ทถ่ี กู พบั เปน
ดอกกหุ ลาบนนั้ จะดเู ปน ดอกบวั กไ็ มใ ช จะเปน ดอกกหุ ลาบกไ็ มเ ชงิ
เอา ความเปน ดอกบวั ...ถวายทา นดกี วา ขา พเจา ตอบ
กบั ตวั เอง
164
๘๓
ไตรสรณาคมน
คณุ หมออมรา มลลิ า เปน ฆราวาสผปู ฏบิ ตั ธิ รรมไดด ี
ยง่ิ ผหู นงึ่ ทขี่ า พเจา เคารพนบั ถอื และถอื เปน แบบอยา ง วนั หนง่ึ
ขา พเจา ไดม โี อกาสสนทนาธรรมกบั ทา นทธ่ี รรมสถาน จฬุ าลงกรณ
มหาวทิ ยาลยั
บทสนทนาวันนั้น ไดพูดกันถึงพระไตรสรณาคมน
คุณหมอไดฝากขอคิดในเร่ืองที่กลาวกันวาการขอถึงพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ เปน สรณะ เปน ทพ่ี งึ่ จะสามารถกำจดั ภยั ได
จรงิ นน้ั ถงึ อยา งไร จงึ กำจดั ภยั ไดจ รงิ คณุ หมอไดอ ธบิ ายวา
การถงึ พระพทุ ธ เพอ่ื เปน สรณะนน้ั หมายถงึ การเขา
ใจถงึ ศกั ยภาพของจติ แทท เี่ ปน พทุ ธะ ผรู ู ผตู น่ื ผเู บกิ บาน ใคร
กต็ ามทเี่ ชอ่ื เชน นี้ จนพากเพยี รบากบนั่ ฝก อบรมจติ ใจของตนให
เกดิ เปน สมั มาทฏิ ฐิ ตง้ั มน่ั ในมรรค ไมย อ หยอ น ออ นแอ ทอ แท
เกยี จครา นทจ่ี ะปฏบิ ตั ใิ หย งิ่ ๆ ขนึ้ ไป
จนในทส่ี ดุ ใจนน้ั ถงึ พรอ มดว ยสติ สมาธิ ปญ ญา และ
มกี ำลงั พอทจ่ี ะขดุ รากถอนโคนกเิ ลสอาสวะทง้ั ปวงออกไปจาก จติ
165
ใจได จติ ของผนู น้ั กจ็ ะเปน อสิ ระจากสง่ิ เศรา หมอง คอื อวชิ ชา
ตณั หา อปุ าทาน ตนื่ เบกิ บาน เปน พทุ ธะ มคี วามบรสิ ทุ ธเ์ิ ทยี บ
เทากับพุทธะของพระอรหันตทั้งปวง และของพระพุทธเจาทุก
พระองค แตค วามสามารถทางอภญิ ญาอาจ ยง่ิ หยอ นกวา กนั ได
การถึงพระธรรม คือ การมีสติรักษาใจใหนอมเอา
เหตกุ ารณต า ง ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในชวี ติ มาเปน ธรรมะสอนใจแทนการ
ปลอ ยใหป รงุ คดิ เตลดิ ไปตามสญั ญา อารมณเ กดิ เปน ความทกุ ข
เกดิ เปน ความคบั ขอ งใจ หรอื เมอ่ื ใดใจคดิ ฟงุ ซา น กห็ ยดุ กำหนด
รอู ยกู บั ปจ จบุ นั คอื ขณะเดยี๋ วนี้ เฉพาะหนา แตล ะขณะ แตล ะขณะ
ใจทฝ่ี ก เชน นี้ จะเปรยี บเสมอื นมธี รรมของพระพทุ ธองคเ ทศนใ ห
ฟง อยใู นใจตลอดเวลา
เมอื่ ไมม สี งิ่ กระทบกร็ อู ยกู บั ปจ จบุ นั เมอื่ มสี ง่ิ กระทบ ไม
วา จะเปน ผสั สะจากภายนอก หรอื อารมณข องใจเอง กจ็ ะหมนุ ให
คดิ เปน มรรคทกุ ครง้ั จะเปลย่ี นจากความคดิ ทเ่ี ปน กเิ ลส ใหเ ปน
มรรคเปลยี่ นกเิ ลสเปน มรรค ดงั นเี้ รอื่ ยไป ดงั นน้ั ความคดิ คำพดู
หรอื การกระทำดว ยกายทกุ อยา งๆ จะเปน การกระทำเพอ่ื ความสนิ้
สดุ แหง ทกุ ขถ า ยเดยี ว
การถึงพระสงฆ คือ การนอมตนใหปฏิบัติดัง
“พระสงฆ” คือ เปนผูปฏิบัติดี (สุปฏิปนโน) ปฏิบัติตรง
(อชุ ปุ ฏปิ น โน) ปฏบิ ตั ถิ กู (ญายปฏปิ น โน) ปฏบิ ตั ชิ อบ (สามี
จปิ ฏปิ น โน) ตลอดเวลาทจ่ี ะระลกึ ได
166
การปฏบิ ตั ดิ งั กลา วมานค้ี อื การถงึ พระพทุ ธ พระธรรม
พระสงฆ ทจ่ี ะเปน สรณะทพ่ี งึ่ อนั แทจ รงิ สามารถกำจดั ทกุ ข กำจดั
ภยั ไดจ รงิ
ขา พเจา ฟง คณุ หมออธบิ ายจนจบไดแ ตอ มยม้ิ
ใบหนา ของหลวงพอ ดูลอยเดน พรอมกบั เสียงของทา น
ดังขึ้นมาในโสตประสาทของขาพเจาวา “น่ันแหละ พระไตร
สรณาคมน ใครเชอ่ื พระ กเ็ ปน พระ ใครละได กไ็ มใ ชค น”
167
๘๔
ไมพ อดกี นั
ขาพเจาเคยไดยินผูอำนวยการวัยหาสิบทานหน่ึง ใน
ธนาคารปรารภกบั ผใู หญอ กี ทา นวา สมยั หนมุ ๆ มเี รยี่ วแรงดี แต
เงนิ เดอื นนอ ย อยากไปเทย่ี วเมอื งนอกกไ็ ปไมไ ด เพราะไมม ี
สตางค แตท กุ วนั นมี้ เี งนิ เดอื นมาก อายกุ ม็ ากขน้ึ ตามมา มเี งนิ
ไปเทย่ี วไดอ ยา งสบาย แตไ มม แี รงไป
ขาพเจานึกถึงคำคมที่ อุดม แตพานิช หรือ “โนส”
ศลิ ปน ตลกและนกั เขยี นทโ่ี ดง ดงั สดุ ขดี จากเดย่ี วไมโครโฟน และ
งานเขยี นหนงั สอื ทข่ี ายดตี ดิ อนั ดบั ยอดขายสงู สดุ คนหนง่ึ ในบา น
เราขณะนี้ ไดเ ลา ไวใ นหนงั สอื Note Book หนา ๑๓๑ วา
มแี รง มเี วลา ไมม เี งนิ
มแี รง มเี งนิ ไมม เี วลา
มเี งนิ มเี วลา ไมม แี รง
นี้เปนขอคิดท่ีดีทีเดียว ทำใหขาพเจานึกถึงคำสอน
หลวงพอ ดทู สี่ อนขา พเจา ใหต งั้ อกตง้ั ใจภาวนาตง้ั แตอ ายไุ มม าก
ในเวลาทพ่ี อมเี รย่ี วแรง มเี วลา(จะมเี งนิ หรอื ไมม เี งนิ ชา งมนั !) วา
168
“ขอ สำคญั ทสี่ ดุ ของการปฏบิ ตั คิ อื ตอ งไมป ระมาท
ตองปฏิบัติใหเต็มที่ต้ังแตวันน้ี ใครจะรูวาความตาย
จะมาถงึ เราเมอื่ ไร ?
เคยเหน็ ไหม เพอ่ื นเรา คนทเี่ รารจู กั ทต่ี ายไปแลว นนั่
นะ เขาเตอื นเรา
ถาเราปฏิบัติไมเปนเสียแตวันนี้ เวลาจะตายมันก็ไม
เปน เหมอื นกนั
เหมือนกับคนท่ีเพ่ิงคิดหัดวายน้ำ เวลาใกลจะจมนำ้
ตายนน่ั แหละ กจ็ มตายไปเปลา ๆ
แกไมป ฏบิ ตั หิ นงึ่ วนั น่ี เสยี หายหลายแสน
วนั นงึ กม็ คี วามหมาย
ขา ฝากใหแ กไปคดิ เปน การบา น”
169
๘๕
ธรรมะจากสตั ว
เวลาพระพุทธเจาตรัสสอนเหลาพระสาวก ทานมัก
จะยกสตั วต า ง ๆ มาแสดงเปรยี บเทยี บใหไ ดแ งค ดิ ทางธรรม อยู
เสมอ นบั เปน วธิ สี อนธรรมทที่ ำใหผ ฟู ง เกดิ ความเขา ใจ และมอง
เหน็ ภาพไดอ ยา งชดั เจนทเี ดยี ว
ดงั ตวั อยา ง เชน ยกเรอ่ื งงพู ษิ เปรยี บกบั การศกึ ษา เลา
เรยี น ถา เรยี นไมด ี เรยี นไมเ ปน ไดค วามรมู าผดิ ๆ ความรู นน้ั
อาจจะเปน อนั ตรายดจุ เดยี วกบั งพู ษิ ทข่ี นดหาง ยอ มถกู งพู ษิ แวง
กดั เอาได
ยกลงิ โงอ ยากลองเอามอื จบั ตงั เอาเทา ถบี และใช ปาก
กดั ผลทส่ี ดุ ตดิ ตงั ดน้ิ ไมห ลดุ เปรยี บเหมอื นคนทไ่ี มร จู กั วธิ แี ก
ปญ หาทถี่ กู ตอ งเตม็ ไปดว ยความเหน็ ผดิ ความเขา ใจทผี่ ดิ ในท่ี
สดุ กจ็ ะตกอยใู นสถานการณท ลี่ ำบาก
ยกเตา หดหวั อยใู นกระดอง ไดย นิ เสยี งอะไรทผี่ ดิ ปกติ
ก็จะหดหัวเขากระดองปลอดภัยไวกอน เปรียบดังผูปฏิบัติท่ี
สำรวมอนิ ทรยี (คอื ตา หู จมกู ลน้ิ กาย ใจ) เหน็ อะไร ไดย นิ
170
อะไร...กม็ สี ติ ไมย นิ ดี ยนิ รา ยไปตามเสยี งเรา จากภายนอก กย็ อ ม
ปลอดภยั จากกเิ ลสได
ยกนกเขา ทร่ี อ งเสยี ง คู คู เหมอื นคนทต่ี ระหนถี่ เี่ หนยี ว
หวงแหนโภคทรพั ย ไมแ บง ปน คนอน่ื ตวั เองกไ็ มก นิ ไมใ ช บญุ
กุศลก็ไมทำ ไดแตนอนกอดทรัพยภูมิใจวาทรัพยของกู ของกู
หลงยดึ ตดิ อยอู ยา งนนั้
ในบรรดาเร่ืองท่ียกตัวอยางมานี้ เร่ืองท่ีหลวงพอดู
นำมาเลา เปน อทุ าหรณส อนใจใหศ ษิ ยไ ดฟ ง กนั บอ ย ๆ คอื เรอ่ื ง
นกเขา ทรี่ อ งเสยี ง คู คู ไดฟ ง แลว เหมอื นเปน เครอื่ งเตอื นใจ ให
ศษิ ยท ง้ั หลายอยา ไดป ระมาท และหมนั่ พจิ ารณาอยเู นอื ง ๆ วา
ตวั เรา...ตวั เขา
ไมใ ชเ รา...ไมใ ชเ ขา
ของเรา...ของเขา
ไมใ ชข องเรา...ไมใ ชข องเขา
171
๘๖
สงั คมวปิ รติ
ในหนงั สอื พทุ ธธรรมกบั สงั คมซง่ึ เขยี นโดย ศาสตราจารย
นายแพทยป ระเวศ วะสี ไดก ลา วถงึ สงั คมไทยตง้ั แต พ.ศ. ๒๕๒๘
ไวว า “ประเทศไทยมวี ดั กวา ๒๕,๐๐๐ วดั พระกวา สองแสนรปู
เณรกวาแสนรูป พุทธศาสนิกชนอีกเต็มประเทศ ไฉนเราจึงมี
ปญ หาทางสงั คมมากขนึ้ เรอื่ ยๆ”
ความเปนคนใจบุญสุนทานของผูคนไทยในอดีต และ
การท่ีมีวัดวาอารามสรางอยูทุกมุมเมือง ไมไดชวยใหปญหา
สังคมลดลงไปในปจจุบัน
สภาพเศรษฐกจิ การเมอื งและสงั คมถงึ ขนั้ วกิ ฤต ผคู น
มีความทุกขยากกันมากมาย เรามีผูนำบานเมืองที่ไมสามารถ
เอาเปนแบบอยางที่ดีได จนสื่อมวลชนตางพากันขนานนามวา
เปน ยคุ ราหคู รองเมอื ง ทงั้ ผนู ำและคนรอบขา งหมดปญ ญาแกไ ข
ปญ หาบา นเมอื งในทางทถี่ กู ทคี่ วร ถงึ ขนาดตอ งสะเดาะเคราะห
ตอ ชะตา ทำพธิ รี บั สง ราหู ดฮู วงจยุ กนั ใหว นุ วายสบั สน จนเปรอะ
กนั ไปหมด ประชาชนเดอื ดรอ น สงั คมวปิ รติ กนั ถว นหนา
172
ทา นพระพรหมคณุ าภรณ (ป.อ. ปยตุ โฺ ต) ไดฝ ากขอ คดิ
หลกั ธรรมไวใ นหนงั สอื ของทา น ชอ่ื “เมอื งไทยจะวกิ ฤต ถา คน
ไทยมศี รทั ธาวปิ รติ ” ซง่ึ ขา พเจา ขออนญุ าตคดั ลอกมา ณ ทนี่ ้ี
สรุปความวา คุณสมบัติของชาวพุทธที่ดี หรืออุบาสกธรรม ๕
ประการ ทคี่ วรปฏบิ ตั คิ อื
๑. มศี รทั ธา เชอ่ื อยา งมเี หตผุ ล มนั่ ในคณุ พระรตั นตรยั
ไมง มงาย
๒. มศี ลี มคี วามประพฤตสิ จุ รติ ดงี าม อยา งนอ ยดำรง
ตนไดในศีลหา
๓. ไมต น่ื ขา วมงคล เชอื่ กรรม มงุ หวงั ผลจากการกระทำ
มใิ ชจ ากโชคลางของขลงั พธิ กี รรม สงิ่ ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ
๔. ไมแ สวงหาทกั ขไิ ณยนอกหลกั คำสอนของพระ-
พทุ ธเจา
๕. เอาใจใส ทำนบุ ำรงุ ชว ยกจิ การพระพทุ ธศาสนา
เรมิ่ ตน ทตี่ วั เรา...เรมิ่ ทบ่ี า นเรา แลว เราจะมใิ ชต วั ปญ หา
ที่ทำสังคมใหวิปริต แตจะเปนสวนหนึ่งที่ชวยแกปญหาสังคม
วิปริต ใหเปนสวนหนึ่งท่ีลูกศิษยหลวงพอมอบเปนของขวัญ
ถวายแดใ นหลวง และมอบถวายแด. ..หลวงพอ ของเรา
173
๘๗
เชอ้ื ดอ้ื ยา
หนังสือพิมพมติชนรายวัน ฉบับวันอังคารท่ี ๗
พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ หนา ๒๐ ในคอลมั นเ มนู ขอ มลู โดย
นายดาตา ไดพูดถึงเร่ืองของหมอกับการส่ังยาใหแกคนไข
ขา พเจา ขอเลา ใหฟ ง โดยยอ ๆ เพอื่ ความเขา ใจในสง่ิ ทข่ี า พเจา ตอ ง
การสอื่ ใหท า นผอู า นไดท ราบ เรอ่ื งของเรอื่ งมวี า มคี ำถามจากชาว
บา นถงึ นาย ดาตา ขา พเจา ขอคดั ลอกมาดงั นี้
“ผมสงั เกตวา เดย๋ี วนไ้ี ปหาหมอ แลว หมอสง่ั ยามาให
มาก อยางเปนหวัดไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน คารักษา
คา ยา ๔๐๐ - ๕๐๐ บาท ทกุ ครงั้ ทงั้ ทแ่ี ตเ ดมิ นนั้ โรคหวดั น่ี
กนิ ยาแผงไมก บี่ าทกห็ ายแลว ทำไมถงึ เปน เชน นน้ั ”
จากคำถามขอ สงสยั ดงั กลา ว นายดาตา กไ็ ดต อบไปใน
ลกั ษณะทว่ี า หมอจา ยยาใหไ ปเกนิ กวา เหตุ ขา พเจา ไดน ำเรอ่ื ง
นไี้ ปสอบถามจากญาตซิ ง่ึ เปน อายรุ แพทย แพทยผ เู ชย่ี วชาญทาง
การรกั ษาดว ยยาซง่ึ กไ็ ดค วามกระจา งกลบั มาวา เราคงเคยทราบ
กันวามีเชื้อโรคมากมายมีอาการด้ือยา ทำใหรักษาหายไดยาก
โดยเฉพาะในเมืองไทย ท้ังนี้ มีสาเหตุที่สำคัญ คือการใหการ
174
รกั ษาทไ่ี มเ ตม็ ท่ี ดงั เชน คนไขไ ปซอื้ ยามาทานเองจากรา นขาย
ยา หรือไปพบแพทยตามคลีนิค โรงพยาบาล แพทยสวนใหญ
จะจดั ยาใหค นไขค รบตามจำนวนวา จะตอ งทาน ยากว่ี นั ๕ วนั ๗
วนั หรอื ๑๐ วนั กจ็ ะจดั ยาใหค รบ เชน คนไขเ ปน หวดั เนอ่ื งจาก
ตดิ เชอื้ แบคทเี รยี ซง่ึ คนไขจ ำตอ งไดย าปฏชิ วี นะหรอื ยาแกอ กั เสบ
คนไขท เ่ี ปน วณั โรค คนไขท เี่ ปน โรคกระเพาะปส สาวะอกั เสบ ฯลฯ
เมอื่ คนไขเ หลา นท้ี านยาแลว มอี าการดขี นึ้ หรอื หายไป
กจ็ ะหยดุ ยาทงั้ ๆ ทเี่ ชอ้ื โรคยงั ไมห าย เมอื่ หยดุ ยา ขณะทเี่ ชอ้ื โรค
บางสวนยังไมตายนั้น มันจะกลับฟนข้ึนมาใหม แพรพันธุใหม
ออกมา ซงึ่ เปน พนั ธทุ จ่ี ะมวี วิ ฒั นาการใหด อื้ ตอ ยาทเี่ คยใชม ากอ น
แตใ ชไ มค รบตามจำนวน จากนน้ั ไมน าน อาการเจบ็ ไขก จ็ ะเกดิ
ขน้ึ มาใหม คราวนจี้ ะรกั ษาใหห ายกจ็ ะยากกวา ครงั้ แรกแนน อน
ตอ งใชย าทแี่ รงขน้ึ กวา เกา หากคนไขใ ชย าผดิ วธิ ี เชอ้ื กจ็ ะดอื้ ยา
ขนึ้ มาอกี ทกุ วนั นจ้ี งึ มโี รคดอ้ื ยา เกดิ ขนึ้ มากมาย เพราะการใช
ยาทไี่ มศ กึ ษาใหถ กู วธิ ี
ในเรอ่ื งของการศกึ ษาปฏบิ ตั ธิ รรมกเ็ ชน เดยี วกนั
การใชยาไมถูกวิธี... ทำใหเชื้อโรคด้ือยาข้ึนฉันใด
การศกึ ษาปฏบิ ตั ธิ รรมไมถ กู วธิ .ี ..กท็ ำใหศ ษิ ยด อ้ื คำสอนของ
ครูอาจารยฉ นั น้ัน
175
๘๘
คณุ ธรรม ๖ ประการ
หลวงพอดู เคยปรารภธรรมเกี่ยวกับเร่ืองการเจริญ
โพชฌงค อันเปนคุณธรรมท่ีทำใหบุคคลผูปฏิบัติตามไดบรรลุ
มรรค ผล นพิ พาน มแี ตค วามเยน็ ใจในทกุ ทท่ี กุ สถาน ในกาล
ทกุ เมอ่ื เปน ธรรมทเ่ี ปน ประโยชนอ ยา งยงิ่ อกี ทงั้ มคี วามไพเราะ
ท้ังอรรถและธรรม จึงขอฝากไวกับศิษยหลวงพอใหไดนำไป
พจิ ารณากนั
“ดกู อ นทา นผเู หน็ ภยั ในวฏั ฏสงสารทง้ั หลาย ผทู เ่ี หน็ ภยั
ในวฏั ฏสงสารนนั้ ถา ประกอบดว ยคณุ ธรรม ๖ ประการน้ี ยอ ม
จะไดบ รรลมุ รรค ผล นพิ พาน ถงึ ความเยอื กเยน็ อยา งยอดเยยี่ ม
คณุ ธรรม ๖ ประการนนั้ คอื
ขม จติ ในสมยั ทค่ี วรขม
ประคองจติ ในสมยั ทค่ี วรประคอง
ยงั จติ ใหร า เรงิ ในสมยั ทค่ี วรรา เรงิ
วางเฉยจติ ในสมยั ทคี่ วรวางเฉย
มจี ติ นอ มไปในมรรค ผล อนั ประณตี สงู สดุ
ยนิ ดยี ง่ิ ในพระนพิ พาน”
176
ผูปฏิบัติที่มีความชาญฉลาด ยอมจะตองศึกษาจิตใจ
และอารมณข องตนใหเ ขา ใจ และรจู กั วธิ กี ำหนด ปลอ ยวาง หรอื
ควบคุมจิตใจและอารมณใหได เปรียบเสมือนเวลาท่ีเราขับ
รถยนต จะตอ งศกึ ษาใหเ ขา ใจถงึ วธิ กี ารขบั ขท่ี ป่ี ลอดภยั บางครง้ั
ควรเรง บางคราวควรผอ น บางทกี ต็ อ งหยดุ
เรง ในเวลาทคี่ วรเรง
ผอ นในเวลาทค่ี วรผอ น
หยดุ ในเวลาทคี่ วรหยดุ
กจ็ ะสามารถถงึ ทห่ี มายไดอ ยา งปลอดภยั
เปรยี บเหมอื นการปฏบิ ตั ธิ รรมะนล่ี ะ ทำนองเดยี วกนั
ใหพ จิ ารณาอยา งนี้
177
๘๙
ลงิ ตดิ ตงั
ทา มกลางกระแสสงั คมทสี่ บั สน วนุ วาย ไมว า จะเปน กจิ
ธรุ ะสว นตวั กจิ ธรุ ะเรอื่ งครอบครวั เรอ่ื งทที่ ำงาน เรอื่ งของญาติ
สนทิ มติ รสหาย จนบอ ยครง้ั ทเ่ี รารสู กึ เหมอื นถกู พนั ธนาการดว ย
ภาระและหนา ทท่ี ตี่ อ งจดั การมากมายอยทู กุ วท่ี กุ วนั ทงั้ ตวั เราเอง
และทงั้ ผคู นรอบขา ง
หลวงพอไดเคยเปรียบลักษณะเชนนี้กับอาการของลิง
โดยทา นไดถ ามขา พเจา วา
“แกเคยรจู กั ไหม โลกตดิ ตวั เหมอื นลงิ ตดิ ตงั ””
(“ตงั ” ตามความหมายในพจนานกุ รมหมายถงึ ยาง
ไมท ผ่ี สมกบั สงิ่ อน่ื แลว ทำใหเ หนยี วใชส ำหรบั ดกั นก)
เวลาท่ีเขามาดักจับลิง เมื่อลิงมาติดกับที่มีตังติดอยู
ตงั ตดิ มอื ลงิ ขา งหนง่ึ มนั กใ็ ชม อื อกี ขา งมาแกะออก แตแ กะไม ออก
กลบั ตดิ ตงั ทงั้ สองมอื เอาเทา มาชว ยถบี ออก กไ็ มอ อกอกี เอาปาก
กดั อกี ผลทสี่ ดุ เลยตดิ ตงั ไปทงั้ ตวั ทงั้ สองมอื สองเทา และปากตดิ
ตงั ไปหมด นอนรอใหเ ขามาจบั ตวั เอาไป
178
ขา พเจา กม ลงดตู วั เอง และเหลยี วมองดรู อบตวั ไมเ หน็
ลงิ แมแ ตต วั เดยี วทต่ี ดิ ตงั เหน็ แตต วั เองและคนรอบๆ ขา ง ตดิ
ตงั เตม็ ไปหมด... ไมม ลี งิ สกั ตวั
ใครกไ็ ด ชว ยแกะทเี ถอะครบั !
179
๙๐
ปรารภธรรมเรอ่ื ง “การเกดิ ”
บา ยรม ลมเยน็ วนั หนงึ่ ในอริ ยิ าบถสบาย ๆ ของหลวง
พอ ทกี่ ฏุ ทิ า น หลวงพอ ไดป รารภธรรมเกยี่ วกบั เรอื่ ง “การเกดิ ”
ใหก บั ศษิ ยไ ดฉ กุ คดิ เปน การบา น
ทา นไดป รารภไวว า
“คนเราเกดิ มา ไมเ หน็ มอี ะไรดี มดี อี ยอู ยา งเดยี ว
สวดมนตไ หวพ ระ ปฏบิ ตั ภิ าวนา”
ขาพเจาหวนรำลึกถึงคำสอนทานพุทธทาสภิกขุจาก
หนังสือ “เลาไวเม่ือวัยสนธยา” ซึ่งสัมภาษณโดยพระประชา
ปสันนธัมโม ทานพุทธทาสภิกขุไดพูดถึงเร่ืองท่ีสำคัญท่ีสุดใน
ชวี ติ วา คอื เกดิ มาควรจะไดอ ะไร เกดิ มาทำไม
คนสว นใหญส มยั เปน เดก็ ๆ ไมม ที างรู ไมม ที างรวู า เกดิ
มาทำไม พอ แมก ไ็ มไ ดส อนวา เกดิ มาทำไม เพยี งแตไ ดร บั การ
ดแู ลวา ทำอยา งนนั้ ทำอยา งนี้ ทเี่ รยี กวา ดๆี ใหเ รยี นหนงั สอื ให
ประพฤตดิ ี กด็ แี ตไ มร วู า เกดิ มาทำไม จนกระทง่ั เปน หนมุ สาว กไ็ ม
รวู า เกดิ มาทำไม เพอื่ ประโยชนอ ะไร แตก ไ็ ดท ำทกุ ๆ อยา งตาม
180
ทผี่ หู ลกั ผใู หญส อนใหท ำ ตามขนบธรรมเนยี มประเพณี มใี ห
ทำ จงึ มกี ารศกึ ษา มอี าชพี สำหรบั ทำมาหากนิ มคี วามเปน อยทู ี่
ดขี น้ึ บางคนจนเลยวยั ผใู หญล ว งถงึ วยั ชรา กไ็ มม โี อกาส แมจ ะคดิ
หาคำตอบทสี่ ำคญั ทสี่ ดุ ในชวี ติ นี้ ขา พเจา ขออนญุ าต ขดี เสน ใต
คำวา ทสี่ ำคญั ทสี่ ดุ ในชวี ติ น้ี
ทา นพทุ ธทาสภกิ ขุ ไดเ ฉลยคำตอบนไี้ วว า ...
“เกดิ มาใหไ ดร บั สงิ่ ดที สี่ ดุ ทม่ี นษุ ยค วรจะได
คอื ใหม ชี วี ติ ทเี่ ยน็ ทไ่ี มเ ปน ทกุ ขเ ลย”
สรุปไดวา เพื่อแสวงหาความสุขท่ีไมกลับกลายเปน
ความทกุ ขอ กี
มสี ภุ าษติ จนี บทหนง่ึ ทว่ี า ...
รกู อ น แกก อ น
รหู ลงั แกห ลงั
ไมร ู ไมแ ก
รแู ลว ทำไมไมแ ก
นนั่ นะ ซิ รแู ลว ...ทำไม (ยงั ) ไมแ ก (วะ) !
ขา พเจา อทุ านกบั ตวั เอง
181
๙๑
เมด อนิ วดั สะแก
ทา นทม่ี คี วามสนใจในพระเครอื่ งพระบชู าของหลวงพอ
ดู พรหมปญ โญ จะพบวา พระเครอ่ื ง พระบชู า วตั ถมุ งคลของ
ทา นมมี ากมายหลายรนุ หลายแบบ
เทาท่ีพอจะสืบทราบ หลวงพอไดเริ่มสรางตั้งแตป
พ.ศ.๒๔๘๔ เรอื่ ยมา มที งั้ ชดุ พระบชู าทเี่ ปน พระพทุ ธรปู และที่
เปน รปู หลอ หลวงปทู วด หลวงพอ ดู ครบู าอาจารยอ งคอ นื่ ๆ
เชน หลวงพอ เกษม เขมโก ทเี่ ปน พระเครอ่ื งกไ็ ดแ ก ชดุ พระเหนอื
พรหม ชดุ ชยั มงคลคาถา (พาหงุ ฯ) ชดุ เหรยี ญรปู เหมอื นหลวง
พอ ดู รวมทง้ั เหรยี ญโลหะ อนื่ ๆ พระหยดนำ้ รปู หลอ ลอยองค
ขนาดเลก็ พระพมิ พต า ง ๆ ลอ็ กเกต และแหวน
เมอ่ื ตน ป ๒๕๔๐ ทผ่ี า นมา ขา พเจา ไดเ หน็ หนงั สอื เกย่ี ว
กบั พระเครอื่ งเลม หนง่ึ ผเู ขยี นไดเ ลา ถงึ ขา วดงั ในรอบป ๒๕๓๙
และไดจ ดั อนั ดบั ๑๐ ขา วดงั แหง วงการพระเครอ่ื งในรอบป ซงึ่
ก็วากันไปตามประสาคนในวงการพระเคร่ือง แตมีขาวหน่ึงใน
บรรดา ๑๐ ขา วดงั นท้ี สี่ ะดดุ ใจขา พเจา คอื
182
“...สบั สนทสี่ ดุ ในวงการพระเครอ่ื งคอื พระเครอ่ื งบชู า
ของหลวงปูดู พรหมปญโญ วัดสะแก อำเภออุทัย จังหวัดพระ
นครศรีอยุธยา สับสนจนบรรดาเซียนพระไมกลาจัดประกวด
เพราะไมสามารถแยกแยะไดวาอันไหนของจริง อันไหนของ
ปลอม” ขาพเจาอานแลวอดขำไมได ก็พวกทานท้ังหลาย
(บรรดาเซียนพระเคร่ือง) เลนจัดประกวดพระเครื่องดวยวัตถุ
ประสงคที่จะตีราคาพระเครื่องพระบูชาของหลวงพอออกมาใน
เชงิ พาณชิ ย เพอื่ นำมาซอื้ ๆ ขายๆ แสวงหากำรก้ี ำไรกนั ในตลาด
ซงึ่ ไมใ ชว ตั ถปุ ระสงคข องหลวงพอ
วัตถุประสงคของหลวงพอ ตองการใหพระเคร่ืองบูชา
ของทา นเปน สอื่ ..ใหเ ขา ถงึ พระแทใ นจติ ใจของผปู ระพฤตปิ ฏบิ ตั ิ
ตามธรรมคำสอนของทาน ตองการใหพระน้ีไดถึงมือบุคคลที่
สนใจศกึ ษาปฏบิ ตั จิ รงิ ๆ ดงั จะเหน็ ไดจ ากการทม่ี พี ระเครอื่ ง พระ
บชู าของหลวงพอ จำนวนมากทท่ี ำเปน พระผงผสมปนู ซเี มนตข าว
มีจำนวนมากมายนับแสนองค จนบางคนมีความรูสึกวา พระ
หลวงพอ ด.ู ..ไมม รี าคา แตข า พเจา กลบั รสู กึ ตรงกนั ขา มวา พระ
หลวงพอ ด.ู .. เมด อนิ วดั สะแกนี้
ท่ีวา...ไมมีราคาน้ัน คือ ไมมีราคาแบบที่หาคามิได
เปน Invaluable หรอื Priceless Thing สำหรบั ผรู ู คณุ คา มิใช
สำหรบั ผรู ู มลู คา ทนี่ ยิ มการซอื้ ขายแลกเปลยี่ นเปน เงนิ ทองกนั
183
๙๒
หลวงพอ ดู หลวงปทู วด
วนั หนงึ่ ในคราวทปี่ ลอดคน ขา พเจา ไดม โี อกาสอยทู กี่ ฏุ ิ
ของหลวงพอ กบั ทา นโดยลำพงั หลวงพอ ไดเ ลา ใหข า พเจา ฟง วา
มลี กู ศษิ ยน ายทหารคนหนง่ึ มาเลา ใหท า นฟง วา หลวงปทู วดทา น
ไปหลอกเขา
“หลอกยงั ไงหรอื ครบั ” ขา พเจา ถามทา น
“เขาวาเวลาท่ีเขาภาวนาอยู หลวงปูทวดไปยืนอยู
ขา งหนา เขา สกั พกั ตวั ทา นกเ็ ปลย่ี นไป หวั เปน หลวงปทู วด
ตัวเปนขา...”
หลวงพอ ตอบขา พเจา ยงั ไมจ บ ขา พเจา อดถามแทรกไม
ไดว า “เขารไู ดอ ยา งไรครบั วา ตวั เปน หลวงพอ ”
ทา นตอบขา พเจา วา “เขาจำรอยสกั รปู ผเี สอ้ื ทม่ี อื ขา
ได ” หลวงพอ ไดเ ลา ตอ วา “เมอ่ื หลวงปทู วดไปหลอกเขาโดย
แสดงใหเห็น หัวเปนหลวงปูทวด ตัวเปนขาแลว สกั พกั
กเ็ ปลยี่ นใหม ทนี หี้ วั เปน ขา สว นตวั เปน หลวงปทู วดถอื ไมเ ทา
กลบั ไปกลบั มาอยา งนี้ ”
184
เรื่องที่หลวงพอไดเลาใหขาพเจาฟงนี้ ตรงกับนิมิตท่ี
ศษิ ยข องหลวงพอ หลายคนเคยมนี มิ ติ เกย่ี วกบั ทา น คอื เปน นมิ ติ
รปู พระพทุ ธเจา อยตู รงกลางดา นขวา ดา นซา ยมรี ปู หลวงปทู วด
และหลวงพอ ดู สกั พกั ภาพทง้ั สามกค็ อ ยๆ เลอ่ื นมารวมเปน ภาพ
เดยี วกนั คอื เปน ภาพพระพทุ ธเจา
หากหลวงพอดูและหลวงปูทวดมิใชพระองคเดียวกัน
แลว สมควรแลวหรือท่ีนิมิตท่ีศิษยนายทหารทานนั้นจะเห็น
ศีรษะหลวงพอดูไปวางบนลำตัวหลวงปูทวด สมควรแลวหรือท่ี
ศรี ษะหลวงปทู วดมาวางบนลำตวั หลวงพอ ดู และสมควรแลว หรอื
ทภี่ าพพระพทุ ธเจา หลวงปทู วด และหลวงพอ ดู มารวมเปน ภาพ
เดยี วกนั
ขา พเจา เชอ่ื วา หลวงพอ ดเู ปน พระโพธสิ ตั วท ปี่ รารถนา
พุทธภูมิเชนเดียวกับหลวงปูทวด สวนทานจะเปนองคเดียวกัน
หรือไมนั้น ขาพเจาไมทราบได เพราะเปนวิสัยของผูมีญาณ
เทา นน้ั ทจี่ ะพงึ ทราบ เหตทุ บ่ี นั ทกึ เรอ่ื งนไี้ วก เ็ พยี งเพอื่ เตอื นใจ
ตัวเองท่ีคร้ังหน่ึงหลวงพอไดเคยเมตตาเลาเรื่องน้ีใหขาพเจาฟง
และหากจะเปน ประโยชนก บั ใครบา ง ชว ยสรา งศรทั ธาปสาทะ ให
เกิดความพากความเพียร ที่จะกาวลวงความทุกขใหไดแลว
ขา พเจา ขออนโุ มทนาดว ยอยา งยง่ิ ครบั
185
๙๓
กรรมฐานพาลจติ เพย้ี น
เมอื่ หลายปก อ น มกี ารเสวนาทางวชิ าการเรอ่ื ง “โรคจติ
กบั กรรมฐาน” จดั โดยธรรมสถานจฬุ าลงกรณ มหาวทิ ยาลยั ใน
ครง้ั นน้ั มกี ารเชิญจิตแพทยจากโรงพยาบาล ศิริราช มาเลาถึง
ปญ หาโรคจติ ทเ่ี กดิ จากการนงั่ วปิ ส สนากรรมฐาน วา ทจ่ี รงิ แลว
การทำกรรมฐานไมไ ดเ ปน สาเหตุ ของการเกดิ โรคจติ แตป ระการ
ใด การทคี่ นทว่ั ไปนงั่ วปิ ส สนา กลบั มาแลว เกดิ อาการทางจติ ท่ี
คนอน่ื มองวา “เพย้ี น” หรอื เปน โรคประสาท เปน เพราะทำไม
ถกู วธิ ี
จติ แพทยท า นนน้ั ไดก ลา ววา การทมี่ ผี ไู ปทำวปิ ส สนา
กลับมาแลวผิดปกติมีไมมากนัก แตสิ่งที่นาเปนหวงมากก็คือ
ปจจุบันมีสำนักสอนการปฏิบัติ รวมท้ังวิปสสนา เกิดขึ้นอยาง
มากมาย จนทำใหคนคิดวาเปนแฟชั่นท่ีกำลังไดรับความนิยม
คาดวา มสี ำนกั นอ ยใหญท วั่ ประเทศเปน พนั แหง สาเหตทุ ท่ี ำให
คนมงุ เขา สสู ำนกั กรรมฐานเหลา นเี้ นอ่ื งมาจากความทกุ ข ความ
ผดิ หวงั ในชวี ติ จงึ ตอ งหาทพ่ี ง่ึ ทางใจไวเ ปน ทย่ี ดึ เหนย่ี ว
186
สรปุ ไดว า คนทเี่ พย้ี นจากการทำกรรมฐานนน้ั สว นใหญ
มคี วามออ นแอทางจติ ใจอยแู ลว และมาพบกบั แนวทาง วธิ กี าร
สอนทผ่ี ดิ ๆ เชน อา นตำราแลว นำไปตคี วามเอง เพง่ิ ฝก ใหมแ ต
คดิ คน วธิ ปี ฏบิ ตั เิ องนอกแบบของครอู าจารย ฟง จากเพอ่ื นทเ่ี ลา
ใหฟ ง ตอ ๆ กนั มา
เจา สำนกั กรรมฐานบางแหง มกั ใชว ธิ พี สิ ดารตา งๆ เพอื่
สรางความขลังใหสำนักตนดวยการฝกแบบแปลกๆ จนทำให
คนทฝี่ ก แบบทผ่ี ดิ ๆ นเี้ กดิ อาการเครง เครยี ด บา งกเ็ กดิ ความกลวั
หวาดระแวง เกดิ เปน อาการเพยี้ นตา งๆ ตามมา อาการเพยี้ นน้ี
มใิ ชเ พง่ิ เกดิ ในสมยั ปจ จบุ นั หากแตใ นครงั้ พทุ ธกาลกม็ หี ลกั ฐาน
ปรากฏในพระวนิ ยั ปฎ กภาค อาทกิ รรมกิ ะ คอื
สมยั หนง่ึ ทพ่ี ระพทุ ธเจา ทรงสอนกรรมฐานขอ ทว่ี า ดว ย
การใหพ จิ ารณารา งกายดจุ เปน ซากศพแกพ ระภกิ ษุ หลงั จากนน้ั
พระพุทธเจาเสด็จเขาผาสุกวิหารธรรม คือทรงพักผอนสวน
พระองคเ ปน เวลา ๑๕ วนั ในระหวา งน้ี จะไมเ สดจ็ ออกบณิ ฑบาต
จะมแี ตพ ระภกิ ษผุ ทู ำหนา ทค่ี อยอปุ ฏ ฐากอยู ไมท รงรบั แขกและ
งดการแสดงธรรม
พระภกิ ษทุ ไี่ ดฟ ง พระพทุ ธเจา สอนเรอ่ื ง อสภุ ะกรรมฐาน
ไดน ำคำสอนไปปฏบิ ตั โิ ดยไมม คี รอู าจารยค อยควบคมุ อยา งใกล
ชดิ กเ็ กดิ อาการวปิ รติ เหน็ รา งกายเปน ซากศพ เปน ทนี่ า ขยะแขยง
เปน ทกุ ข จงึ จา งวานคนอนื่ ใหฆ า ตวั เองบา ง ลงมอื ฆา กนั เองบา ง
187
เม่ือพระพุทธเจาทรงเสร็จจากผาสุกวิหารธรรม ทรง
ทราบเร่ืองเขา จึงทรงสอนใหภิกษุท่ีเหลืออยูใหพิจารณา
กรรมฐานในแนวใหม
อกี เรอ่ื งหนงึ่ คอื เรอ่ื งพระภกิ ษกุ ลมุ หนง่ึ เรยี นกรรมฐาน
จากพระพทุ ธเจา แลว กราบทลู ลาเขา ปา หาทสี่ งบปฏบิ ตั กิ รรมฐาน
จนไดบ รรลฌุ านเปน ความสงบแลว ไมน านกเ็ กดิ ความสำคญั ผดิ
คดิ วา ตนไดส ำเรจ็ ขนั้ อรหนั ตแ ลว จงึ ชวนกนั ออกจากปา กลบั มา
เฝา พระพทุ ธเจา และไดบ อกความประสงคเ รอ่ื งนแ้ี กพ ระอานนท
พระอานนทเขาไปกราบทูลพระพุทธเจาเพ่ือขออนุญาตเขาเฝา
พระพทุ ธเจา ไมท รงอนญุ าต แตร บั สงั่ ใหพ ระอานนทไ ปบอกพระ
ภกิ ษเุ หลา นนั้ ใหไ ปพจิ ารณาซากศพในปา ชา กอ น ซง่ึ ในขณะนน้ั
ในปา ชา มคี นทตี่ ายใหมๆ ยงั ไมไ ดเ ผา
พระภกิ ษเุ หลา นน้ั กไ็ ดไ ปดศู พในปา ชา เมอื่ ดศู พทกี่ ำลงั
ขนึ้ อดื กบ็ งั เกดิ ความเกลยี ด และเมอื่ ไปดศู พหญงิ สาวทเ่ี พงิ่ ตาย
แลเหน็ อวยั วะทกุ สว นยงั สดอยกู บ็ งั เกดิ ราคะ พระภกิ ษเุ หลา นนั้
จงึ ทราบวา พวกตนยงั ไมไ ดบ รรลธุ รรมใดๆ กเ็ กดิ ความสลดสงั เวช
ใจในความสำคญั ผดิ ของตน หลงั จากนน้ั ไดเ ขา เฝา พระพทุ ธเจา
ไดฟ ง ธรรมจงึ ไดส ำเรจ็ เปน พระ อรหนั ตใ นเวลาตอ มา
นเ้ี ปน หลกั ฐานวา การปฏบิ ตั กิ รรมฐานตามหลกั ศาสนา
พทุ ธ จำเปน ตอ งมคี รอู าจารยค อยดแู ล เชน คอยแนะนำวา ภาพ
ทเี่ หน็ และความคดิ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในขณะทเ่ี จรญิ พระกรรมฐาน หรอื
188
เวลานงั่ กรรมฐาน ตลอดจนอารมณต า งๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในระหวา งนนั้
มคี วามหมายอยา งไรและควรวางอารมณต อ สงิ่ เหลา นอี้ ยา งไร
มฉิ ะนนั้ ผทู ำกรรมฐานอาจเกดิ ความเหน็ ผดิ แลว พฒั นากลาย
เปน ความวปิ รติ หรอื ผดิ เพยี้ น ทสี่ ดุ แลว อาการอาจรนุ แรงจนควบ
คมุ ไมไ ด กลายเปน คนวกิ ลจรติ ไปกม็ ี
ผปู ฏบิ ตั จิ งึ ควรเรม่ิ ตน ศกึ ษาพทุ ธศาสนาดว ยการศกึ ษา
หาความรู ทำความเขา ใจในหลกั คำสอนของพระพทุ ธเจา ใหเ ขา
ใจกอ นทจ่ี ะลงมอื นง่ั สมาธเิ จรญิ ภาวนา เพราะการ ทำสมาธแิ ต
เพยี งอยา งเดยี วกม็ โี ทษ มใิ ชม ปี ระโยชนด า นเดยี ว
ดงั นนั้ จงึ ขอฝากผปู ฏบิ ตั ทิ ม่ี กั มนี มิ ติ ภาวนา ไมว า เปน
นมิ ติ ประเภทภาพ เสยี ง กลนิ่ หรอื สง่ิ อนื่ ใดกต็ าม หลวงพอ ทา น
เคยสอนไวว า “อยา ยนิ ดยี นิ รา ย และอยา นอ มใจเชอ่ื ในนมิ ติ
ทเี่ กดิ ขน้ึ ” ทา นสอนไมใ หป ฏเิ สธ หรอื วา ไมใ หเ ชอ่ื นมิ ติ ทนั ทที ่ี
นิมิตเกิดขึ้น แตสอนใหเชื่อหรือปฏิเสธีก็ตอเมื่อ ความจริง
ปรากฏขนึ้ เทา นนั้ หลวงปดู ลู ย อตโุ ล ทา นไดเ คยแนะนำวธิ ลี ะ
นมิ ติ กบั ศษิ ยค นหนง่ึ ในหนงั สอื “หลวงปฝู ากไว” เรยี บเรยี งโดย
พระโพธนิ นั ทมนุ ี หรอื อดตี พระครนู นั ทปญ ญาภรณว า
“...นมิ ติ บางอยา งมนั กส็ นกุ ดี นา เพลดิ เพลนิ อยหู รอก
แตถ า ตดิ อยแู คน นั้ มนั กเ็ สยี เวลาเปลา วธิ ลี ะไดง า ยๆ กค็ อื อยา
ไปดสู งิ่ ทถี่ กู เหน็ เหลา นนั้ ใหด ผู เู หน็ แลว สงิ่ ทไี่ มอ ยากเหน็ นน่ั กจ็ ะ
หายไปเอง”
189
๙๔
จะไปทางไหน
หลวงพอเคยพูดถึงความรูสึกหวงใยของทานท่ีมีกับ
บรรดาศษิ ยว า หลายคนกอ นจะมาเกดิ นี่ พวกทอี่ ยบู นสวรรค กไ็ ด
ไปรำ่ ลาพระกอ น พอลงมาแลว กม็ าเพลดิ เพลนิ หลงตดิ อยกู บั โลก
ครน้ั เมอ่ื ตายไปแลว กไ็ ปเกดิ ในทล่ี ำบาก ในอบายภมู ิ มนี รก เปรต
อสรุ กาย สตั วเ ดรจั ฉาน ไมส ามารถกลบั ขนึ้ ไปรบั ผลบญุ บนสวรรค
ชน้ั พรหม หรอื ไปนพิ พานได
พระพทุ ธเจา เคยเปรยี บบคุ คลไว ๔ จำพวก คอื
๑. บุคคลท่ีมืดมาแลวมืดไป เปรียบไดกับบุคคลที่มา
จากภพภูมิท่ีตำ่ กวา มนุษย ไดแก นรก เปรต อสุรกาย สัตว
เดรจั ฉาน ครน้ั มาเกดิ แลว กป็ ระกอบแตก รรมชว่ั เมอื่ ตายจาก
โลกมนษุ ยก ก็ ลบั ไปสู อบายภมู อิ กี
๒. บุคคลที่มืดมาแลวสวางไป เปรียบไดกับบุคคลที่
มาจากภพภูมิท่ีต่ำกวามนุษย ไดแก นรกเปรต อสุรกาย สัตว
เดรจั ฉาน ครน้ั มาเกดิ แลว กป็ ระกอบแตก รรมดี เมอื่ ตายจาก โลก
มนษุ ย เขากส็ ามารถไปสสู คุ ตมิ สี วรรค พรหม พระนพิ พานได
190
๓. บุคคลที่สวางมาแลวมืดไป เปรียบไดกับบุคคลท่ี
มาจากภพภมู ทิ สี่ งู กวา ภมู มิ นษุ ยไ ดแ กส วรรค พรหม ครน้ั มาเกดิ
แลวก็ประกอบแตกรรมชั่ว เม่ือตายจากโลกมนุษยก็กลับไปสู
อบายภมู ิ
๔. บคุ คลทส่ี วา งมาแลว สวา งไป เปรยี บไดก บั บคุ คลที่
มาจากภพภมู ทิ สี่ งู กวา ภมู มิ นษุ ย ไดแ ก สวรรค พรหม ครน้ั มา
เกิดแลวก็ประกอบแตกรรมดี เมื่อตายจากโลกมนุษย เขาก็
สามารถไปสสู คุ ตมิ สี วรรค ..พรหม ..พระนพิ พานได
จะมืดมาหรือสวางมา ขาพเจาคิดวาไมสำคัญเทากับ
จะมดื ไปหรอื สวา งไป เพราะอยา งไรเสยี เรากไ็ ดม าเกดิ แลว แต
ขณะนเ้ี รายงั ไมไ ด. ..ไป
ในประวตั ขิ องสมเดจ็ พระพฒุ าจารยโ ต พรหมรงั สี แหง
วดั ระฆงั โฆสติ าราม เมอ่ื คราวทใ่ี นหลวงรชั กาลท่ี ๔ ทรงใหข ดุ
สระน้ำและปลกู พระตำหนกั กลางสระนำ้ อยา งสวยงาม ทา นได
ตรสั ถามสมเดจ็ โตวา “สวยไหม ขรวั โต” สมเดจ็ โตกราบทลู ตอบ
วา “สวยมากมหาบพติ ร ดจุ ราชรถอนั วจิ ติ ร”
เทาน้ีแหละ ในหลวงทรงกร้ิวไปหลายวัน เพราะทาน
เปนปราชญเชี่ยวชาญภาษาบาลี คำกราบทูลของสมเด็จโตวา
“ดจุ ราชรถอนั วจิ ติ ร” นตี้ รงกบั พทุ ธภาษติ บทหนง่ึ วา
“สทู งั้ หลายจงมาดโู ลกนี้ อนั ตระการตาดจุ ราชรถ อนั
วจิ ติ ร ทพ่ี วกคนโงห ลงตดิ อยู แตผ รู หู าตดิ ขอ งอยไู ม”
191
๙๕
ตเี หลก็ รอ นๆ
ครง้ั หนงึ่ มเี พอื่ นผปู ฏบิ ตั ธิ รรมของขา พเจา ไดฝ ากเรยี น
ถามหลวงพอ วา ในยคุ ปจ จบุ นั ผคู นกำลงั มคี วามทกุ ขก นั มากมาย
นอกจากการปฏบิ ตั ธิ รรมแลว ควรทำอยา งไรอกี ขา พเจา ไดก ราบ
เรยี นถามหลวงพอ ซงึ่ ทา นเมตตาตอบวา คำถามมนั มคี ำตอบอยู
ในตวั แลว นอกจากการปฏบิ ตั ธิ รรมแลว ไมม อี ยา งอนื่ เพราะการ
ปฏิบัติธรรมคือปฏิบัติใหถูกตอง ที่สำคัญอยางแรกคือตอง
ทำความเห็นเราใหถูกเสียกอนวาที่วา “ปฏิบัติธรรม” นั้น
“ปฏบิ ตั อิ ะไร” และ “ปฏบิ ตั อิ ยา งไร” ทา นไดแ ยกแยะใหไ วเ ปน
สองนยั คอื โลกยี ธรรม และ โลกตุ รธรรม
โลกียธรรม คือ ใหปฏิบัติหนาที่ของเราใหพรอม
สมบูรณ ไมวาจะเปนหนาที่ตอพอแม ครูบาอาจารย หัวหนา
ลกู นอ ง เพอื่ นๆ และหนา ทต่ี อ ตวั เอง
โลกุตรธรรม ก็ใชทุกขจากสภาพที่เปนอยูน้ีแหละ
เปนเครื่องกำหนดรู สำหรับผูมีปญญาแลว ยิ่งเห็นทุกขมาก
เทา ใด กย็ งิ่ อยากทจี่ ะพน ทกุ ขม ากเทา นน้ั โดยอาศยั หนทางมรรค
ทพี่ ระพทุ ธเจา สอนเปน แนวทางเดนิ
192
ไดฟงคำตอบของหลวงพอ ทำใหขาพเจาระลึกถึง
ประวตั ขิ องสมเดจ็ โต วดั ระฆงั ฯ อกี ครงั้ โดยปกตใิ นหลวงรชั กาล
ท่ี ๔ มกั นมิ นตส มเดจ็ โตเขา มาเทศนใ นวงั เสมอ วนั หนง่ึ ทที่ า น
นิมนตสมเด็จโตมาเทศน พอดีวันน้ันทานมีกิจธุระท่ีจะตองไป
ทำตอ เมอื่ สมเดจ็ โตมาเทศน ทา นทราบดวี า ในหลวงมเี รอื่ งรอ น
พระทยั อยจู ะรบี ไป ทา นกเ็ ทศนใ หใ นหลวงฟง อยเู สยี นานกวา
จะจบลงได
ครั้งตอมา ในหลวงนิมนตสมเด็จโตเขามาเทศนในวัง
อีก วันน้ันทานวางจากกิจธุระการงานดีแลว ตั้งใจจะฟงเทศน
สมเดจ็ เตม็ ที่ สมเดจ็ โตแทนทจี่ ะเทศนอ ะไรใหใ นหลวงฟง วนั
นน้ั ทา นกลบั ไมแ สดงธรรมและไมเ ทศนเ ลย เพยี งแตข นึ้ ตน วา
ธรรม ใดๆ มหาบพติ รกท็ รงทราบดอี ยแู ลว เอวงั กม็ ดี ว ยประการ
ฉะน้ี
เรอ่ื งนส้ี อนใหร วู า จะตเี หลก็ ใหต ตี อนรอ นๆ ในวนั แรก
ในหลวงทรงมีเรื่องกังวลพระทัยจิตใจไมปกติ สมเด็จโตทานจึง
ตอ งเทศนน านหนอ ย แตว นั ตอ มาทา นสบายพระทยั จติ ใจเปน
ปกตดิ ี กไ็ มม เี หตอุ นั ใดทต่ี อ งเทศนส อนอกี ฉนั ใด การพจิ ารณา
ทกุ ขใ หเ ขา ใจทกุ ข ใหผ า นทกุ ขใ หไ ด กต็ อ งพจิ ารณาในยามทเี่ ผชญิ
ทกุ ขม ากๆ ยามทป่ี ญ หาเศรษฐกจิ รมุ เรา เชน ปจ จบุ นั นี้ ฉนั นน้ั
193
๙๖
ครพู กั ลกั จำ
คุณธรรมท่ีโดดเดนของหลวงพอดูอีกประการหนึ่ง ที่
ขา พเจา ยงั จดจำไดด ี คอื หลวงพอ รจู กั เอาเหตกุ ารณเ ลก็ ๆ นอ ยๆ
ทดี่ เู หมอื นไมส ลกั สำคญั อะไร มาจดุ ประกายความคดิ แกศ ษิ ย
ดว ยวธิ คี ดิ และกศุ โลบายอนั แยบคาย จนทำให เหตกุ ารณเ ลก็ ๆ
นอยๆ กลับเปนเร่ืองราวที่มีคา กลายเปนบทเรียนอันทรงคุณ
คา ...สำหรบั ศษิ ยใ นเวลาตอ มา อยา งเชน เรอ่ื งหนง่ึ ในสี่ หลวง
พอ ไดเ คยปรารภธรรมกบั ขา พเจา วา
“ขา นง่ั ดดู ยา มองดซู องยาแลว ตง้ั ปญ หาถามตวั เอง
วา เรานปี่ ฏบิ ตั ไิ ดห นงึ่ ในสข่ี องศาสนาหรอื ยงั ถา ซองยาน้ี
แบง เปน สส่ี ว น เรานยี่ งั ไมไ ดห นงึ่ ในส่ี มนั จวนเจยี นจะไดแ ลว
กค็ ลาย เหมอื นกบั เรามดั เชอื กจนเกอื บจะแนน ไดท แี่ ลว เรา
ปลอ ย มนั กค็ ลายออก เรานย่ี งั ไมเ ชอื่ จรงิ ถา เชอ่ื จรงิ นมี่ นั
ตอ งไดห นง่ึ ในสแ่ี ลว ”
ตอ มาภายหลงั ทา นไดข ยายความใหข า พเจา ฟง วา
“ทว่ี า หนง่ึ ในสน่ี นั้ อปุ มาดงั่ การปฏบิ ตั ธิ รรมเพอ่ื ให
บรรลมุ รรคผลในพทุ ธศาสนา ทา นแบง ไวเ ปน ขนั้ โสดาบนั
194
สกทิ าคามี อนาคามี และอรหตั ตผล อยา งนอ ยเราเกดิ มา
ในชาตนิ ้ี ไดพ บพระพทุ ธศาสนา เปรยี บเหมอื นไดพ บสมบตั ิ
ลำ้ คา หากไมป ฏบิ ตั เิ อาใหไ ดอ ยา งนอ ยหนง่ึ ในสี่ ใหถ งึ ความ
เปน พระโสดาบนั ปด ประตอู บายภมู ใิ หไ ด กเ็ ทา กบั วา เราเปน
ผปู ระมาทอยมู าก”
ยงิ่ ไดศ กึ ษา ยงิ่ ไดเ รยี นรกู บั หลวงพอ ขา พเจา กย็ งิ่ บงั เกดิ
ความอศั จรรยข นึ้ ในจติ ใจ ทา นสอนใหเ ราไดห ลกั และวธิ คี ดิ ดว ย
โยนโิ สมนสกิ าร ทำใหเ ราไดเ กดิ ศรทั ธาและกอ ใหเ กดิ “ปญ ญา”
อันเปนยอดปรารถนาของทุกคน ใหเกิดความเขาใจแจมชัดใน
เรอื่ งตวั ตนของเราและทกุ ชวี ติ ทอ่ี ยรู อบขา ง
หลวงพอ ทา นเคยเลา ใหข า พเจา ฟง วา
“คนสมยั กอ นทเี่ ขาปฏบิ ตั กิ นั ไดด ี ตอ งรจู กั ลกั สงั เกต
จดจำสง่ิ ทด่ี งี ามของผอู นื่ มาปฏบิ ตั ติ ามเพอ่ื ใหเ กดิ ใหม ที ตี่ วั เรา
เหมอื นทข่ี า สอนพวกแกน่ี ไมใ ชส ำนกั ปฏบิ ตั ิ ไมใ ชส ำนกั วดั
สะแก ถา เปน สำนกั กต็ อ งตงั้ แบบใหม
ที่ขาสอนน่ีไมใชแบบใหม แตเปนแบบของพระ
พทุ ธเจา ขา กล็ กั สอนแอบสอนอยนู ี่ ใครเชอ่ื จรงิ เอาจรงิ กไ็ ดไ ป
ชว ยๆ กนั ...ชว ยเหลอื พระศาสนา”
195
๙๗
ทสี่ ดุ แหง ทกุ ขเวทนา
“ธรรมนนั้ อยฟู ากตาย ไมร อดตาย ไมเ หน็ ธรรม”
เปน คำสอนธรรมทไ่ี พเราะ กนิ ใจ และเปน ประโยชน ใน
การนำมาขบคดิ พจิ ารณาใหแ จม แจง กบั ตนเองอยา งยงิ่
วนั หนง่ึ ขณะทขี่ า พเจา นงั่ ปฏบิ ตั ภิ าวนา ใจมคี วามสงบ
ระงบั พอสมควร เวลาผา นไปไดส กั ๒ - ๓ ชว่ั โมง ทกุ ขเวทนา
อนั เนอ่ื งมาจากความปวดเมอ่ื ยตามรา งกายเรมิ่ ทวขี นึ้ เรอื่ ยๆ
ในครง้ั แรก ขา พเจา อาศยั กำลงั สมาธเิ ขา ขม ความเจบ็
ปวด โดยพยายามใหจ ติ จดจอ อยกู บั คำภาวนาใหม น่ั คงขนึ้ ความ
ปวดเมอ่ื ยกห็ ายไป แตก เ็ ปน เพยี งชวั่ ขณะไมน านนกั ความปวด
เม่ือยน้ันก็กลับคืนมาอีกและรุนแรงข้ึน ขาพเจาจึงต้ังคำถาม
ตวั เองวา ...
“ทว่ี า เจบ็ ปวด มนั ปวดตรงไหน ทจี่ ติ หรอื ทก่ี าย”
“เจบ็ ทก่ี าย” ขา พเจา ตอบตวั เอง
“เออ เจบ็ ทก่ี าย มนั กต็ อ งไมเ กย่ี วกบั จติ ถา เราเชอ่ื
พระพุทธเจาวาจิตกับกายเปนคนละสวนกัน เราจะตองเห็นจิต
196
เหน็ กายวา เปน คนละสว นดว ยตวั เรา และตอ งไมท รุ นทรุ าย จาก
ความเจบ็ ปวดอนั น”้ี ขา พเจา บอกกบั ตวั เองอกี
เวลาผานไปอยางชาๆ แตอนิจจาความเจ็บปวดมิได
หายไปไหนเลย กลบั ทวคี วามรนุ แรงถงึ ขนาดทข่ี าทง้ั สองขา งของ
ขา พเจา สน่ั ระรกิ และกระตกุ ดว ยความเจบ็ ปวดเอง ขณะนนั้ เกดิ
เปน ความรอ นทวั่ รา งกาย โดยเฉพาะทห่ี วั เขา ทน่ี ง่ั ขดั สมาธเิ กดิ
ความเจบ็ ปวดแสนสาหสั เหมอื นมใี ครมาบดิ ขาและดงึ ใหย ดื ออก
เปน ความทรมานทสี่ ดุ ครงั้ หนง่ึ ของการปฏบิ ตั ภิ าวนาของขา พเจา
ทเี ดยี ว
ขาพเจาบอกกับตนเองวาวันน้ีตองใหเห็นท่ีสุดของ
ทกุ ขเวทนาใหไ ด เราจะไมย อมลกุ จากทน่ี ง่ั โดยไมผ า นทกุ ข ไม
เหน็ ทส่ี ดุ ของทกุ ขเวทนา ถา เราลกุ แปลวา เราไมเ ชอ่ื พระพทุ ธเจา
ถา เราเชอ่ื พระพทุ ธเจา จรงิ เราตอ งผา นทกุ ขใ หไ ด ใหใ จเราเหน็
ใหไ ดว า จติ กบั กายนเ้ี ปน คนละสว นกนั ถา หากวนั นเี้ ราแพ
กไ็ ปหาผา ถงุ มานงุ เสยี แลว ไมต อ งมาปฏบิ ตั ิ อกี เลย ปฏบิ ตั ไิ ป
ก็ตายเปลา เพราะคนข้ีแพทำอะไรมันก็แพอยูวันยังคำ่ เวลา
จะตายมนั เจบ็ ปวดเพยี งไรจะทนไหวหรอื
เมื่อตกลงกับตัวเองดังน้ีแลว ความเจ็บปวดก็ยังมิได
หายไปไหนเลย คราวนกี้ ลบั เพมิ่ ความรนุ แรงขนึ้ จนน้ำตาขา พเจา
ไหลออกมาเปน สาย ในใจขณะนน้ั ขา พเจา ไมห วงั อะไรทง้ั สน้ิ ไม
ตอ งการแมก ระทง่ั ความสงบ นกึ เพยี งอยา งเดยี ววา ทเ่ี ราทำอยู
197
น้ีทำดวยศรัทธา ดวยความรักหลวงพอดูและขอเอาชีวิตเปน
เดิมพัน เม่ือความเจ็บปวดรุมเราขาพเจาอยางแสนสาหัส ถึง
ขนาดเจยี นอยเู จยี นไป จนขา พเจา รตู วั ดวี า ไมส ามารถทนตอ ไป
ไดอ กี แลว แตใ จกย็ งั ไมย อมแพ ไมย อมลกุ และไมย อมขยบั เขยอื้ น
ขา พเจา รสู กึ วา ตวั เองเหมอื นเดก็ ทยี่ นื กำหมดั กดั ฟน แลว วงิ่ เขา
ไปชกกบั คตู อ สทู รี่ ปู รา งสงู ใหญไ ดเ ปรยี บกวา ทกุ ประตู ขา พเจา
ทงั้ รอ งไหท ง้ั ตะโกนอยใู นใจวา “ผมทำถวายหลวงพอ ครบั ”
สนิ้ คำกลา วของขา พเจา น้ี เหมอื นกบั หลวงพอ ทา นรบั
ทราบ พลนั เกดิ เหตอุ ศั จรรยเ ปน นมิ ติ ทขี่ า พเจา จดจำไดต ลอด
ชวี ติ คอื ขา พเจา เหน็ หลวงพอ ดเู ปา พรวดลงมาทกี่ ระหมอ มของ
ขา พเจา ความรสู กึ ขณะนนั้ ดจุ มนี ำ้ ทพิ ยช โลมรดตง้ั แตศ รี ษจนจรด
ปลายเทา ทกุ ขเวทนาความปวดเมอื่ ย ทเ่ี มอ่ื สกั ครรู าวกบั ถกู กอ น
หนิ ทม่ี นี ้ำหนกั หนง่ึ รอ ยกโิ ลทบั ไว กพ็ ลนั หายไปในพรบิ ตา เกดิ
เปน ความเยน็ กายเยน็ ใจตง้ั แตศ รี ษะจนจรดปลายเทา ไมม ที ใี่ ด
ทคี่ วามเจบ็ ปวดซอ นเรน หรอื หลงเหลอื อยเู ลย
ขาพเจาเร่ิมมีความมั่นใจในการปฏิบัติมากข้ึน ความ
ลงั เลสงสยั ในวถิ ที างปฏบิ ตั เิ รมิ่ หมดไป มแี ตค วามปลาบปลมื้ ปต ิ
ในธรรมอยา งทไ่ี มเ คยเปน มากอ น สงั เกตดจู ติ กบั อารมณถ กู แยก
ออกเปน คนละสว นเหมอื นแกว ทใ่ี สน ้ำไว แกว กบั น้ำแมอ ยดู ว ย
กนั แกว กเ็ ปน แกว นำ้ กเ็ ปน น้ำ อยกู นั คนละสว น ฉนั ใด จติ กเ็ ปน
จติ ... เปน ผรู ู อารมณก เ็ ปน อารมณ ...เปน ผถู กู รู ฉนั นน้ั
198
เม่ือหยุดอยูสักพักหน่ึง จึงนอมเอาความสงบมา
พจิ ารณาธรรมารมณต า งๆ ทมี่ ากระทบใจตอ ไป
อยางนี้กระมังที่ทานหลวงตา (พระอาจารยมหาบัว
ญาณสัมปนโน) เคยสอนไววา การตอสูกับกิเลส ถาสูกับมัน
ชกกบั มนั หากสไู มไ หว ถกู มนั จบั ได จบั มอื เรามดั ไว ขาเรามี
กต็ อ งเตะถบี มนั หากถกู มนั จบั ขาไดอ กี ปากเรามกี ต็ อ งกดั ตอ ง
ดา มนั ใหส จู นยบิ ตา
ขา พเจา เรมิ่ เขา ใจบทเรยี นบทนแ้ี ลว ความเขา ใจเรมิ่ มี
มากขน้ึ พรอ มกบั ความรกั ทม่ี ตี อ หลวงพอ ดกู ม็ มี ากขน้ึ เชน กนั
199
๙๘
พทุ ธนมิ ติ
การตอบคำถามของหลวงพอ แกศิษยชางสงสัยอยาง
ขา พเจา บางครงั้ ทา นไมต อบตรง ๆ แตต อบดว ยการกระทำ การ
แสดงใหด ู และการตอบของทา นกย็ งั ความอศั จรรยใ ห เกดิ ขนึ้
แกข า พเจา และเพอื่ นๆ เปน อยา งยง่ิ ดงั เหตกุ ารณเ มอื่ ครงั้ ทเ่ี กดิ
“พทุ ธนมิ ติ ” เมอ่ื คนื วนั ขน้ึ ๑๔ ค่ำเดอื น ๖ กอ นวนั วสิ าขบชู า
ป พ.ศ.๒๕๒๘ หนงึ่ คนื ทวี่ ดั สะแก
เหตเุ รม่ิ แรกเกดิ จากเมอื่ ตอนกลางวนั ในวนั นน้ั ขา พเจา
ไดม ากราบนมสั การหลวงพอ ทว่ี ดั พรอ มกบั พกพาเอาความสงสยั
สองเรอ่ื ง คอื เวลาทห่ี ลวงพอ หลวงปทู งั้ หลาย ทา นจะไปชว ยลกู
ศิษยท่ีอยูหางกันคนละท่ีในเวลาเดียวกัน ทานไปไดอยางไร
พรอมกับเร่ืองน้ี ในวันนั้นขาพเจาไดนำรูปปาฏิหาริยของครู
อาจารยท า นอนื่ ๆ ทศ่ี ษิ ยข องทา นเหลา นน้ั ถา ยภาพ ไดร วบรวม
มาถวายใหห ลวงพอ ทา นดู มภี าพของพระอาจารยม หาปน หลวง
ปขู าว หลวงปคู รบู าชยั ยะวงศาฯ และพระอาจารยจ วน ดว ยความ
งวยงงสงสยั ขา พเจา จงึ ถามทา นวา ภาพเหลา นถ้ี า ยกนั จรงิ หรอื
วา ทำขน้ึ มา
200