The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักการทำบุญและปฏิบัติ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-02-22 23:09:14

หลักการทำบุญและปฏิบัติ

หลักการทำบุญและปฏิบัติ

Keywords: หลักการทำบุญและปฏิบัติ

หลักการทำบญุ และปฏบิ ตั ิธรรมในชวี ิตประจำวนั ๑๕๑

​คงจ​ ะ​เปน ​ดว ยเ​หตนุ ้ก​ี ระมงั ​คนท​ ่ี​ตัด​ไม​ทำลายปา​ จึงไ​ม​ถกู ​
เทวดา​หักคอ ​ ​อยา ว​า ​แตห​ ักคอ​เลย ​ แ​ ม​แตโ​กรธ ก​ ​็ยังไ​มได​เขาสู​
ท่ีประชุม​ของเ​ทวดา ​หากถ​ ึง​กลบั ​ลงมอื ห​ ักคอ ​เ​ทวดาก​ ​็ตอ งต​ กนรก​
เทวดาร​ด​ู ังน​จ้ี ึง​ได​ม​รี ุกข​ธรรมท​ ีป​่ ระพฤติ​รวมก​ นั ​ เ​พื่อเ​ปน การ​ปอง​
กัน​ไมใ​ ห​เ ทวดา​ทำรา ยค​ น​ทท​ี่ ำลาย​ตน ไม​อนั เปน ​วิมาน​ของ​ตน ​อ​ นั ​
จะเ​ปน ​เหต​ใุ หต​ าย​จากค​ วาม​เปนเ​ทวดา ​ ไป​เกดิ ใ​นน​ รก ​ เ​ทวดาจ​ ึง​
ประชมุ ​กนั ท​ กุ ๆ​ ๑​ ๕ ว​นั ​ เ​พ่อื ​สอบถาม​รกุ ขธ​ รรม​ของก​ ัน​และก​ ัน​
วา ​“ประพฤตก​ิ นั อ​ ยหู​ รือเปลา ”​ความจ​ รงิ ​ ก​็คอื ​ เพื่อเ​ปน การ​
เตือนสตก​ิ นั น​ นั่ เอง


เทวดา​น้ัน​ได​นำ​เร่ือง​ท่ี​ภิกษุ​ทำลาย​ตนไม​อันเปน​วิมาน​ของ​
ตน ไ​ป​กราบทลู ​พระพุทธเจา ​ ​และไ​ด​กราบทลู ใ​ห​ทราบถ​ ึงเ​ร่ืองท​ ี่​
ตนส​ ามารถหกั หามค​ วามโ​กรธ​ไวไ​ด ​ ​มเ​ิ ชน​น้ัน​ตนก​ ็ค​ งไ​ด​สรา งบ​ าป​
มหันต ​​
พระพุทธเจาต​ รสั ​สอนเ​ทวดาว​า ​

“​บ​ คุ คล​ใด ​ ​สามารถห​ กั หา ม​ความโ​กรธท​ ​เ่ี กิดขึน้ ไ​ว​ได​
เหมือนส​ ารถหี​ ยุดร​ถ​ซ่ึง​กำลงั แ​ ลน​ไป ​ เ​ราต​ ถาคตเ​รยี ก​บคุ คล​
น้ัน​วา ​​สารถี​ ชน​นอกน​ เ​ี้ ปนแ​ ตค​ น​ถือ​บงั เหียน”​​​


พอ​พระพทุ ธเจา แ​ สดงธรรมจ​ บลง ​เ​ทวดาน​ ้นั ​ได​บ รรล​ธุ รรม​
เปน พ​ ระโสดาบัน ​พ​ ระพทุ ธองค​ไ ดบ​ อกต​ น ไม​อันเปน ​วิมานแ​ หง​ใหม​

๑๕๒ พระวิจิตรธรรมาภรณ์

ให​เทวดาน​ ัน้ ​ตน ไมน​ อ​ี้ ย​ูในเ​ข​ตวัด​พระเชต​วัน​น่ันเอง ​​เปน​ตน ไมท​ ​เ่ี ทวดา​
ผูเ​ปน ​เจาของ​วมิ านอ​ งค​กอ น ​เพิง่ ห​ มดบญุ จ​ ุต​ไิ ปไ​มนาน ​ ​ตน ไม​น ้นั จ​ ึง​
วา งลง ​ เ​ทวดา​นน้ั ​ไดรบั ก​ ารค​ มุ ครอง​จาก​พระพทุ ธเจา ​ ไ​มมีเ​ทวดาผ​ ​ู
มีศ​ กั ด​ิใ์ หญ​องคใ​ด เ​บียดเบยี นใ​หล​ ำบาก ​และ​ได​เ ปน พ​ ุทธ​อปุ ฏ ฐายกิ า​
คอยอ​ ปุ ฏฐากข​ อง​พระพทุ ธเจา ​ดว ย

วา ก​ นั ว​า ​ เมอ่ื ท​ า ว​มหาราชท​ ้ัง ๔​ ม​ า​เขาเฝาพ​ ระพุทธเจา ​ จ​ ะ​
ตองม​ าเยี่ยม​เทวดาน​ ั้น​กอนจ​ งึ ไ​ป ​ ​ดวยเ​หตุต​ าม​ทีก​่ ลาว​มาน​ ี้ ​ เ​ทวดา​
ในช​ น้ั ​จาตมุ หาราชิกา​ จงึ ม​ ี​ความใ​กลช​ ิดกับม​ นษุ ยม​ าก ​ โ​ดยม​ ที​ าว​
มหาราช ป​ กครองเ​ทพใ​น​ทิศท​ ง้ั ​๔ ช​ อ่ื ข​ อง​ทา วม​ หาราชป​ รากฏ​ใน​บท​
สวดมนต​ทีพ​่ ระสงฆส​ วด​ใหเ​รา​ฟง ​ด​ ังน้ี


ปุ​รมิ ะ​ทสิ ัง ​​ธตะรัฏโฐ ​​​ทักข​ เิ ณน ​ว​ ิรุฬหะโก
ปจฉเิ มน​ ะ ​ว​ ​ริ ​ปู กโข ​​​กุเวโร ​อ​ ุต​ตะรงั ​ท​ ิสงั
จตั ต​ าโร ​เ​ต ​ม​ หาราชา ​​​โล​กะป​ า​ลา ​ย​ ะสัสส​ ิโน
เ​ตป ​ต​ ุมเห ​อ​ ะนุ​รักข​ นั ตุ ​​​อาโ​รค​ะเยน ส​ ุเ​ข​นะ ​จะฯลฯ

ทาวธตร​ฐั ส​ ถิต​อยู​ดา น​ทิศตะวนั ออก ​​ ทา วว​ ิรุฬหกส​ ถติ
อ​ ยด​ู านท​ ิศ​ใต ​​​​​​​ทา ววร​ิ ปู​ ก ขส​ ถิต​อยู​ดา น​ทิศตะวันตก ​​
ท​ าวกเุ วร​สถติ ​อยดู​ า น​ทิศเหนอื ​​ทา ว​มหาราชท​ งั้ ​๔ น​ ้ัน
​เปน​ผดู แู​ ล​โลก ​​​​ ​เปนผ​ ู​มย​ี ศ ​​​แมท​ าวม​ หาราช​ท้ัง ​๔​ ​
จงค​ ุมครองร​ักษาท​ า นท​ ้ังหลาย ​​​​ ใ​ห​อยู​ดวยค​ วามไ​มม ี
โ​รค ​​และจ​ ง​มแ​ี ตค​ วามส​ ขุ ​ฯลฯ

หลักการทำบุญ และปฏิบัตธิ รรมในชวี ติ ประจำวนั ๑๕๓

บ​ ทส​ วดมนตบ​ ท​น ี้​ เรยี ก​ชอื่ วา ​​“อ​ าฏานาฏยิ ป​ ริตร”​​​กลาวถ​ งึ ​
ชื่อทา วม​ หาราช​ทงั้ ๔​ ผ​ ​ูเปน​ราชา​ของ​เหลาเทพใ​นท​ ศิ ​ทั้ง ​๔ ​ใน​สวรรค​
ช้ันจาตุมหาราชกิ า ​​ทา วเ​ธอม​ า​เฝาพ​ ระพุทธองค ​​แนะนำ​พระองค​ให​
สอนส​ าวก​สวดอ​ าฏานาฏยิ ป​ ริตร ​ เ​พือ่ ป​ องก​ ัน​อันตราย​ทจ​ี่ ะเ​กิดจ​ าก​
เทวดาท​ ไ่ี​มปรารถนาด​ีตอ​พระภกิ ษ ุ​ ผูตงั้ ​ใจบ​ ำเพ็ญส​ ม​ณธ​ รรม ​ ห​ าก​
ไดรับก​ ารรบกวนจ​ าก​เทพ​เหลาน​กี้ ​็จะเ​ปน อ​ ุปสรรคต​ อ ก​ าร​เขา ​ถึง​ธรรม

​ ใ​นป​รุ ิม​ทศิ ​ ​คือ ​ ท​ ศิ ตะวนั ออก​มี ​ ​ทา ว​ธตรฏั ฐ ​ ​เปน​
พระราชาของเ​หลา ​ภตู ​พราย ​ ต​ ลอดจน​หมูเ​ทพ​คนธรรพท​ ี​่ชำนาญ​
การ​ดนตร​ที งั้ หลาย ​ ​เมือ่ ​คร้ัง​ท่ีพ​ ระพทุ ธเจา เ​สด็จ​ลงจ​ ากส​ วรรค​ชั้น​
ดาวดงึ ส ​​หลงั จากแสดงพ​ ระอ​ ภิธรรมโ​ปรดพ​ ระพทุ ธ​มารดา​จบลงแ​ ลว ​
ปญจส​ ิข​เทพบุตร ​ ห​ นง่ึ ​ในเ​ทพ​คนธรรพ​ผชู ำนาญ​ใน​การ​ดีดพ​ ิณ ​ ไ​ด​
ดีด​พณิ ​ขบั รอ ง​ประสาน​เสยี งด​ วยค​ วามไ​พเราะ ​นำ​เสด็จม​ า​เบ้ืองหนา​
พระพทุ ธเจา

​ เ​ม่ือค​ รั้ง​พระพทุ ธองค​ต รสั รูใ​หมๆ​ ​ได​ประทบั ท​ ตี่​ น อช​ปาล
​นิโครธ ​ปญ จ​สิขเ​ทพบตุ ร​องคน​ ้ี ​ ได​ขบั เ​พลง​สรรเสริญ​พระพุทธเจา​
ดวยค​ วาม​ยินด​ีวา พ​ ระพทุ ธเจา ​อบุ ตั ขิ น้ึ ​ใน​โลกแ​ ลว

​ ​ในท​ ักขิณท​ ศิ ​ค​ ือ ​​ทิศใ​ต​ มีท​ าวว​ ริ ุฬหก ​​เปน​พระราชาข​ อง​
เหลา ​เทพท​ ั้งหลาย

​ ​ในป​ จฉมิ ทศิ ​ค​ ือ ​​ทิศตะวนั ตก​ มที​ า ววริ​ ป​ู ก ข ​เ​ปน พ​ ระราชา​
ของ เ​หลา​นาคท​ ง้ั หลาย

​ ​สวนใ​นอ​ ตุ ตรท​ ิศ ​​คอื ​​ทศิ เหนอื ​ม​ที า วกเุ วร ​​เปน​พระราชา​
ของเ​หลา​ยกั ษท​ ้ังหลาย ​​

๑๕๔ พระวจิ ติ รธรรมาภรณ์

​ทา วกเุ วร​น้ันย​ งั ม​ ชี ือ่ ​อีก​อยา ง​วา ​ ​“ทา วเวสวัณ” ​ ​วา​
กัน​วา ​ พระ​เจา พ​ มิ พ​สิ าร ท​ ถี​่ วายว​ดั เ​วฬวุ นั ​ให​เปน​วดั แหง ​แรก​
ใน​พระพทุ ธศาสนา กไ็ ด​มาเ​กดิ ​เปน​ยักษผ​ ใ​ู หญ​ ชือ่ วา
“ชนวสภย​ ักษ” และ​ไดเ​ปนเพ่ือน​ของท​ า วกุเวร ​ค​ วาม​จรงิ พ​ ระเจา​
พิมพ​ิสารเ​ปน​ถงึ ​พระโสดาบนั ​ ป​ รารถนา​จะไ​ปเ​กิด​บน​สวรรคช​ ้นั ​
สงู กวา​นก​ี้ ไ็ ด ​​แตเ​พราะ​พระองค​เคยอ​ ยทู​ ีน่ ่มี​ า​กอน​จงึ ​ปรารถนาจ​ ะ​
กลับมา​อยูท​ ี่เ​ดิมข​ องต​ น

นอกจากน​ ้ัน ​ ​ทาว​มหาราช​ทง้ั ๔​ ย​ ัง​ทำห​ นา ​ท่​เี ปนพ​ ระยา​
ยมราช ​​เทพ​ผู​ม หี นา ​ทีค​่ อยต​ รวจด ​ู ผ​ทู ำด​ีทำช่ัวใ​นท​ ศิ ท​ ้ังส​ ่ดี​ วย ​​ใน​
วันพระ ๘​ ​คำ่ ​ท​ า วม​ หาราชไ​ด​ม อบหมายใ​หย​ มฑูต ​​เทพอ​ ำมาตย​
ของ​พระองค ​ เปน ​ผู​ค อยต​ รวจตรา ​ ​ใน​วนั ๑​ ๔ ค​ ่ำ ​ ​ทา ว​เธอ​
มอบหมายใ​ห​บุตรข​ อง​พระองค ​เปน​ผต​ู รวจตรา ​​

สวนใ​นว​ันพระ ​๑๕ ค​ ำ่ ​ท​ า วม​ หาราชท​ ้งั ๔​ ​​จะเ​ปน ผ​ ู ​ตรวจ​
เอง ​​​​

​ใน​เร่อื งพ​ ระ​มหาช​ นกช​ าดก ​ทพี่​ ระม​ หาช​ นกร​อดชวี ิตจ​ าก​
เรือแ​ ตก​กลางท​ ะเล​มาไ​ด ​เ​พราะ​การช​ วยเหลอื ข​ องน​ าง​มณีเ​มขลา​
เทพธิดาผ​ ไ​ู ดร บั ม​ อบหมาย​ให​คอย​ด​แู ล​ทอ งทะเล ​ขณะ​พระ​มหาช​ นก​
เดินทางไ​ปค​ า ขาย​ทางทะเล ​​เรือเ​ผชิญพ​ าย​แุ ตกก​ ลางท​ ะเล ​​นาง​
มณเ​ี มขลาม​ าช​ วยใ​ห​รอดชวี ิต น​ าง​มณี​เมขลาไ​ดร บั บ​ ัญชา​จาก​ทา ว​
มหาราช​ให​เปน​ผดู ูแ​ ล​มหาสมทุ ร ​ค​ อย​ชว ยค​ นดท​ี ​เี่ รือ​แตก ​แต​ยัง​
ไมถ​ งึ คราวตาย ใ​หร​อดชีวิต ​ว​นั ท​ เ​่ี รอื ม​ หา​ชนก​แตกน​ น้ั ​น​ างม​ ณ​ี
เมขลาไ​ป​เทว​สมาคม ไ​มไ ดต​ รวจด​มู หาสมุทรห​ ลายว​ัน ​ค​ ร้ันว​นั ท​ ่ี ​๗​
เหน็ ​พระ​มหาช​ นกแ​ หวกวายอ​ ยูก​ ลางท​ ะเลจ​ ึงไ​ดช​ ว ยชีวติ ไ​ว ​​

หลักการทำบญุ และปฏบิ ัตธิ รรมในชวี ติ ประจำวนั ๑๕๕

​ตาวต​ งิ สภ​ ูมิ ​​โลก​ของเ​ทวดาช​ นั้ ท​ ่ี ​๒ ​

​ตาวต​ งิ ส​ภมู ิ ​ ​หรือ​ทเี่​รา​ทราบ​กันโ​ดยท​ ่วั ไป​วา ​“ส​ วรรคช​ นั้ ​
ดาวดึงส”​ เ​ทวโลก​ช้ันน​ ีเ​้ ปน ​ที่​อยูข​ อง​พระอนิ ทร ​ พ​ ระอนิ ทรม​ ชี ื่อ​
เรียกหลายช​ อื่ “​ท​ าวส​ ักกะ”​ ​ก​็เรยี ก ​“ท​ าวมฆ​วะ”​ ก​ ็​เรียก ​“​ทา ว​
วชิรหัตถ” ​ก​ ็​เรียก “​​ทา ว​สหัสส​นยั น” ​​ก็​เรียก “​​ทา ว​สหสั สเ​นตร”​​
ก​เ็ รียก “​​ทาววาสว​ ะ”​ ​ก​เ็ รียก ​ ​แต​เ รา​ทราบ​กันโ​ดยท​ ่วั ไป​วา “​​
พระอนิ ทร”​​​

นอกจาก​นั้น ​ เ​ราย​ งั ร​จู ัก​พระอนิ ทร​ ในฐ​านะ​เทวดาผ​ ู​เปย ม​
ดว ย​เมตตา ​ ค​ อยช​ ว ยเหลอื คนด​ที ่ต​ี กทกุ ขไ​ ดย​ าก ​ ​พระอินทรใ​น​
อดีตชาติ​ม​ีชอ่ื วา ​“ม​ ฆม​ าณพ” ​​ม​บี รวิ าร​ทเี​่ คยท​ ำบญุ รวมกนั ม​ า​
๓๒ ​คน ​​รวมเปน ๓​ ๓ ​​กับ​พระอินทร​เอง ​ห​ ลังจาก​ตาย​จงึ ​ไป​เกดิ ​
ใน​สวรรคช​ ้ันเดยี ว​กัน​ทั้ง ​๓๓ ​คน ​ ​สวรรค​ชน้ั ​นี้จ​ ึง​ไดช​ ่ือวา ​“​ตาว​
ตงึ สะ ห​ รือ​ดาวดงึ ส ​แ​ ปลว​ า ​​สวรรค​เ ปน ท​ ​่ีอย​ขู องเ​ทวดา ​๓๓​
องค”​​​เทวโลกช​ ั้น​น​ี้ม​ีเทวบ​ ุตร​อย​อู งคห​ นง่ึ ​​ชอื่ “เ​อราวณั ” ​​ท่​เี รา​
เคย​เห็น ร​ูปปน ช​ าง ๓​ เ​ศียร ​ น​ ัน่ ​แหละช​ า งเ​อราวัณ​พาหนะข​ อง​
พระอนิ ทร ​แ​ ละ เ​ทวดา ​๓๒ ​องคบ​ น​เทวโลกช​ ้นั ​นี้

​ ค​ วามจ​ ริง ​ ​ชางเ​อราวัณเ​ปน ​เทพบุตรเ​หมือน​กนั ​ ​แต​
เนือ่ งจาก​บนสวรรค​ไมม​สี ตั วเ​ดรจั ฉาน ​ด​ งั น​ ั้น ​เ​ม่ือ​เทพบุตร ๓​ ๓​
องคน​ ั้น​จะ​เดินทางไป​ไหนม​ าไ​หน ​เ​ทพ​เอราวัณก​ จ​็ ะ​อธิษฐานต​ นเ​ปน​
ชางใ​หญ ๓​ ​เศียร ​เพอื่ เปนพ​ าหนะ ​ ​วา​กันว​า ​เม่อื ​ครัง้ ​พระอนิ ทร​
ทำบุญ​อย​ใู นเ​มืองม​ นษุ ย​ ทาว​เธอ ​ก็​เคย​ใชช​ า ง​ตวั ​นีเ​้ ปน​พาหนะ​ ใน​
การ​เดนิ ทางไ​ป​ทำบุญ ​​ดว ยอ​ านิสงส น​ น้ั ​ ชางเ​ลยไ​ดไ​ป​เกดิ เ​ปนเ​ทพ​

๑๕๖ พระวิจติ รธรรมาภรณ์

มช​ี อ่ื วา “​เ​อราวณั ”​ ​ ม​ พ​ี ละกำลังม​ หาศาล จ​ ะเ​ปน รองก​ ​แ็ ต​
พญาชางค​รเ​ี มขล ​ พ​ าหนะข​ อง​พญาว​สวัตตม​ี าร​าธวิ าช ​ทีข​่ ่ม​ี า​
ผจญ​พระพทุ ธเจา ​ วัน​ตรสั ​รเู ทาน​ ้ัน


​วตั รบ​ ท ๗​ ​​ขอ ปฏิบัตเ​ิ พือ่ ค​ วาม​เปนพ​ ระอินทร

​เมอื่ พ​ ระอนิ ทร​เปนม​ นษุ ย ไ​ดต​ ัง้ ​ใจส​ มาทาน​ขอ​วัตรปฏบิ ตั ิ ​๗​
ขอ ​อยางเ​ครงครัด ​เ​รียกวา “​ว​ ตั รบ​ ท ๗​ ​ประการ”​ค​ ือ
(​๑)​​​ม​ าตาเป​ต​ิภาโร ​​จะเ​ล้ียงม​ ารดา​บดิ า​ตลอดชวี ติ
(​๒​ )​ ​กุล​ ะเ​ชฏฐาปะจายโิ น ​ ​จะ​ใหค​ วามเ​คารพ​ผูมอี าย​ุ ใน​
วงศต ระกลู ​ตลอดชีวิต
​(๓​ )​​​สณั​ ห​ ะวา​โจ ​​จะ​พดู ​คำสุภาพ​ออนหวานต​ ลอดชวี ิต
(​๔​ )​​​อ​ ะปส​ุณะวาโ​จ ​หรือ ​เปสุเณยยัปปะ​หายี ​จ​ ะ​ไมพ​ ดู ​
สอ เสยี ด ​จ​ ะ​พดู ​แตค​ ำใ​ห​เกิดค​ วาม​รัก​ความส​ ามคั คี ต​ ลอดชีวิต
​(​๕)​​ทาน​ ะสงั ว​ ภิ าค​ ะระโ​ต ​หรอื ม​ จั เฉระว​นิ ะโย ​ จ​ ะ​ยนิ ด​ี
ทไ​่ี ดใ หท านแ​ บง ปน​ผอู ืน่ ​ ห​ รือ​จะเ​ปนค​ น​ปราศจาก​ความ ต​ ระหนี​ ่
ตลอด​ชวี ิต
(​๖)​ ​ ​สัจ​จะวา​โจ ​ จ​ ะ​เปนค​ น​มีสัจจ​ ะพ​ ูดแ​ ตค​ วามจ​ ริงต​ ลอด​
ชีวิต
(๗​ )​ ​อะโกธะโน ห​ รอื ​โกธาภิกู ​ จ​ ะ​เปน ค​ น​ไมม ​นี ิสยั ม​ ัก​
โกรธ ​หรือห​ าก​ความ​โกรธ​เกิดขน้ึ จ​ ะ​ระงับ​ความโ​กรธล​ งใ​หไ​ดท​ นั ท ี​
ตลอดชวี ิต

หลักการทำบุญ และปฏิบตั ธิ รรมในชีวิตประจำวัน๑๕๗

ขอ​วัตรปฏิบัติท​ ั้ง ​๗ ​ขอ น​ ​ี้เอง ​ ​เม่ือค​ รัง้ พ​ ระอินทรเ​ กิด​
เปน​มนุษย​ ไดต ัง้ ใ​จ​สมาทาน​ปฏบิ ตั ิ​ ตลอดชีวิต ​ ท​ ำ​ให​บรสิ ุทธ​ิ์
บรบิ รู ณไ​ มข าดสาย ​ ​ผลทำใ​หไ​ปเ​กดิ เ​ปนพ​ ระอินทร ​ เ​ราอ​ าจ​ลอง​
ต้ัง​ใจอ​ ยา งพ​ ระอินทรด​ บู​ า ง​กไ็ ด ​​เอาเ​ฉพาะอ​ ยา งก​ ารห​ ักหาม​ความ​
โกรธ ​ ค​ วามฉ​ นุ เฉยี ว​เกร้ยี วกราด​หนุ หนั ​พลัน​แลน ​ แ​ ม​จะท​ ำได​
ยาก​เตม็ ทน ​ แ​ ต​ถา​ทำได ​(เ​ปน บ​ างครัง้ )​ ​ ​เรา​จะ​รสู กึ ​ม​คี วามส​ ขุ ​
ใจอ​ ยา ง​ประหลาด ท​ ส​่ี ามารถ​เอาชนะ​ความ​โกรธไ​ด ​​ซ่งึ ​ก็เทา กับวา ​
เปนการช​ นะต​ น​เอง

​นอกจาก​นัน้ ​ ​มาก​ ณั ฐกะ​ท่ีเ​จา ชาย​สทิ​ ธตั ถะข​ ีอ่​ อกบวช ​ ก​็
ไป​เกิดเปน ​เทพบตุ ร​ ชอื่ วา ​“ก​ ัณ​ ฐก​เทพบตุ ร”​ ​ ​ใน​เทวโลก​ชั้น​
ดาวดึงสน​ ีเ้​ชนก​ ัน ​ ​เม่ือค​ รงั้ ​ทีเ​่ จา ชาย​สิท​ ธัตถะอ​ อกบวช ​ ไ​ดข​ ่มี า​
กณั ฐกะ​ออกบวช ​ ​แลวป​ ลอ ยใ​ห​น าย​ฉนั น​ ะน​ ำม​ า ​กลบั พ​ ระ​ราชว​งั ​
พอพ​ ระองคเ​ดิน​ลับตาไ​ป​เทาน​ น้ั ​ ม​ ากัณ​ ฑก​ ะ​กอ็ ก​แตกต​ าย​ท​่รี มิ ฝง ​
แมนำ้ เ​นรญั ​ชราน​ ่นั เอง ​แลว ไปเ​กิด​เปน ​เทพบ​ นส​ วรรค​ชน้ั ด​ าวดึงส​
มีช​ ื่อวา “​ก​ ​ณั ฐกเ​ทพบตุ ร”​​​

ยังมเ​ี ทพบ​ นส​ วรรค​ชนั้ ​ดาวดึงส​ ท​่ีควรจ​ ะน​ ำมาเ​ลา ไ​ว​ใ น​ท่นี ​ี้
อีก เ​พราะเ​กี่ยวเน่ือง​กบั พ​ ระพุทธเ​จา ของ​เรา ​เ​มือ่ ​มี​โอกาสไ​ปตาม​
วดั ​ตา งๆ​​คง​เคย​เหน็ พ​ ระพุทธรปู ​ปางห​ นง่ึ ​มล​ี กั ษณะแ​ ปลกก​ วา ​องค​
อนื่ ​ค​ อื พ​ ระองค​ประทบั ​นั่ง​หยอน​เทา ​​ม​ลี งิ ​และช​ า งอ​ ยเ​ู บื้องหนา ​
คอย​ถวายก​ ารร​บั ​ใช ​ ​ลิง​กำลัง​ถวาย​รวงผงึ้ ​สว นช​ าง​ถวายอ​ อ ย​
พระพุทธรปู ​ปางน​ ​้ี เราเ​รียกกันต​ ดิ ปากต​ ามประสาช​ าวบานว​า ​“​​
พระป​ าง​เลไลยก” ​ ​ ​แต​ชือ่ จ​ รงิ ๆ​ ​คือ ​พระพุทธรูป​ปาง​ปา​รไิ ลย​กะ​
เพราะ​ปา​ท​่ีพระพุทธเจา​ประทบั ​ ใน​คราวค​ รง้ั ​นั้น ​คือ ​ปา ​ปา​รไิ ลยก​ ะ​

๑๕๘ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์

มี​เร่ืองเลา​วา ​ เ​มอ่ื ​พระพุทธองคเ​ สดจ็ อ​ อกจาก​วดั ท​ ี​่
พระสงฆทะเลาะเ​บาะแ​ วง​กนั ​มา​จำพรรษาท​ ป​่ี าป​ า​ริไลยก​ ะ​น​ี้โดย​
ไมมี​ภกิ ษร​ุ ูป​ใดต​ าม​มาอ​ ุปฏ ฐาก ​ ​พญาชางป​ าร​ิไลย​กะไ​ด​ท ำห​ นาท​ ี่​
เปนพ​ ุทธอ​ ุปฏ ฐาก​ตลอดพรรษา ​ ใน​ระหวา งน​ นั้ ​​ลิงเ​ห็น​พญาชา ง​
อปุ ฏ ฐาก​บำรงุ พ​ ระพุทธเจา ​ ก็อยาก​ทำ​บา ง ​ จ​ ึงเ​ทย่ี วไ​ปตาม​ปา​
ไดร​วงผึง้ ม​ าถ​ วาย พ​ อ​ลิงเ​ห็นพ​ ระพุทธองค​ฉนั น้ำผ้ึงท​ ​ต่ี นถ​ วาย ก​ ็​
เกิด​ความด​ ใี​จ​เปน อ​ ยา ง​มาก ​ ​จน​ไมอ​ าจอ​ ดกลน้ั ค​ วามยินดไี​ด ​ จ​ งึ ​
กระโดด​โลดเตน ​ไปมา​ตามก​ ่ิง​ไม ​ เ​ผอญิ ก​ ง่ิ ไ​ม​ท ี่​จับเปนก​ ง่ิ ไ​มผ​ ุ จ​ งึ ​
หลน ล​ งมา ตอไ​ม​ทิม่ ต​ าย ​​ไป​เกิด​ใน​สวรรค​ช ั้น​ดาวดงึ ส ​ด​ ว ย​กุศล​
ผล​บญุ ​ท​่ไี ด​ถวายน​ ำ้ ผึ้งพ​ ระพุทธเจา

สว น​พญาชา ง​ปา​ริไลยก​ ะ​ ไดอ​ ุปฏ ฐากพ​ ระพุทธเจา ​

จนออกพรรษา​ หลังจากอ​ อกพรรษา ​ ​พระ​อานนท​มา​รับเสดจ็ ​

พระพทุ ธเจาเขา ​เมือง ​ ​พญาชาง​ก็เ​ดินต​ ามหลังม​ า ​ จวน​จะ​เขา​

หมูบ า น​ พระพทุ ธเจาบอกวา เ​พราะช​ า ง​ปาร​ไิ ลยก​ ะเ​ปน ​สัตว​

เดรัจฉาน​ จึง​ไมส​ ามารถบ​ รรล​ุธรรมข​ ้นั ​ใด​ข้ัน​หนง่ึ ​ได ​เ​ขต​แดนต​ ้งั ​

แตน​ ้ีต​ อไป ​เปน ท​ อ่​ี ยูข​ อง​หมู​มนษุ ย ​​ธรรมดา​วา ​​ท่อ​ี ย​ูของม​ นษุ ย​

นั้น ​ มีอ​ ันตรายม​ าก​สำหรับ​สัตว ​​

พระพทุ ธเจา ​บอกใหพ​ ญาชางก​ ลับไ​ปท​ อ​่ี ยูข​ องต​ น

หลักการทำบุญ และปฏบิ ัติธรรมในชวี ิตประจำวนั ๑๕๙

​เมอ่ื ​พระพทุ ธเจา เ​สด็จต​ อไปน​ ้นั ​พ​ ญาชา ง​ไดเ​อา​วง​สอดเขา​
ปาก ย​ นื ร​องไห​อยต​ู รง​นั้น ​ พ​ ญาชา ง​ปาร​ิไลยก​ ะค​ ดิ วา ​ ห​ าก​
พระพทุ ธเจา​เสดจ็ กลบั ป​ า​ปา​ริไลย​กะ​ตามเดมิ ​​ตนจ​ ะ​อปุ ฏฐาก​อยา ง​
ท่เี​คยท​ ำ​จน​วนั ​ตาย ​​พญาชา งไ​ด​ยนื ร​องไหจ​ นพ​ ระพุทธเจา ล​ ับตา​ไป​
ก็อกแ​ ตกต​ าย​อยู​ต รง​น้ัน ​ไ​ป​เกดิ ​เปน ป​ า​รไิ ลย​กะเ​ทพบตุ ร ​ บน​
สวรรคช​ ัน้ ด​ าวดงึ สน​ ี้

ฟงด​ แู ลวน​ า ​สงส​ ารพญาชางป​ า​รไิ ลย​กะ ใน​เทวโลกช​ ้นั น​ ี้
ย​ งั มด​ี อกไม​ชื่อ ​“ป​ ารชิ าต”​เ​ปน​ดอกไมท​ ี่​มี​กลิ่นห​ อ​มมากใ​น​เทวโลก​
หอมอ​ บอวล​ไปจ​ นถ​ งึ ​ภพ​ของเ​ทพอ​ สรู ​ต​ น ป​ าริชาต เ​กิดใ​นเ​ทวโลก​
ช้นั ด​ าวดงึ ส ​​ก​็ดวยอ​ านิสงส​ที​่พระอนิ ทรเ​มื่อค​ รงั้ เ​ปน มนษุ ยไ​ ด​ปลกู ​
ตน ไ​มประดบั ศ​ าลา ​ ​ใต​ต น ​ปาริชาตน​ ัน้ ม​ แ​ี ทน ศ​ ลิ า​เปน ท​ ่ีประทับ​นั่ง​
ของพ​ ระอนิ ทร ​​ชือ่ วา ​“ป​ ​ณฑก​ุ มั พล​ศิลา​อาสน” ​​แ​ ทน ห​ นิ น​ ี้ ​เวลา​
พระอนิ ทร​นงั่ ก​ ็​จะย​ บุ ลง ​​เวลาลุก​ก​็จะ​ฟ​ขู ้นึ ​เอง ​​

​ปณ​ ฑก​ุ ัมพล​ศลิ าอ​ าสน​น​้ี มีล​ กั ษณะ​พเิ ศษ​อยา ง​หน่ึง ​​คอื ​เ​มื่อ​
เกิดเ​หตุการณ​ท่​คี นดี​ตอ งการ​ความ​ชว ยเหลอื ​​อาสนห​ รือ​ท่ีประทบั ​
นัง่ ​ของ​ทาว​เธอ​จะ​แขง็ ​

​เมื่อ​พระพุทธเจาเ​สดจ็ ​จำพรรษา​ท​่ีเทวโลก​ เพ่อื แ​ สดงพ​ ระ​
อภิธรรมโ​ปรดพ​ ระพุทธ​มารดา ​ ​ก็​มาป​ ระทบั จ​ ำพรรษา​ท​่เี ทวโลก​
ช้ันด​ าวดึงส ​ จ​ นก​ ลายเ​ปน ​ประเพณตี​ ักบาตรเ​ทโ​วโรหน​ ะ​
หลงั ​วนั ออกพรรษาข​ องช​ าวพทุ ธถ​ ึงปจ จุบัน

๑๖๐ พระวจิ ติ รธรรมาภรณ์

​การจ​ ำพรรษาท​ ี่เ​ทวโลกค​ รงั้ น​ ัน้ ​ พ​ ระองค​ประทบั ​นั่งบ​ น
ป​ณ ฑ​ุกัมพลศ​ ิลา​อาสนข​ อง​พระอินทรน​ ี้​ แสดงธรรมช​ ื่อวา ​
“​อภิธรรม”​​ ​ ซ่ึงเ​ปนธรรม​ท่สี ูง​ยงิ่ โ​ปรด​พระพทุ ธม​ ารดา ​​เน้ือความ​
โดย​ยอ ข​ องอ​ ภิธรรมเ​ทศนา อ​ าตมาไ​ดเ​ขียนไ​วแ​ ลว ​ ตงั้ ​แตจ​ ดหมาย​
ฉบับ​แรก ​ยังไ​มปรากฏว​า​ พระองค​แ สดงอ​ ภิธรรม​โปรด​ใคร​
เปนพิเศษใ​นโ​ลกมนุษย ​ น​ อกจากท​ รง​นำมาแ​ สดงแ​ ก​พระสา​รี​
บุตร​ใหจ​ ดจ​ ำไว ​ เพอ่ื แ​ สดง​ให​พระภกิ ษุ​ฟง ​ตอ ๆ​ ​ไป​เทาน​ ้นั ​ ​นบั วา ​
พระองค​ไ ดต​ อบ​แทนพ​ ระคณุ ข​ องพ​ ระพทุ ธมารดา​อยาง​สูงสดุ

สิ่งส​ ำคญั ​อีก​ประการห​ นึ่งบ​ น​ดาวดงึ ส  ค​ อื ​ พ​ ระ​จุฬามณ​ี
เจดีย ​เมื่อ​เจา ชายส​ ทิ​ ธตั ถะ​ออก​ผนวช​นัน้ ​ ​ไดอ​ ธษิ ฐานจ​ ติ ​กอน​
ปลงผม​วา ​ ​หากจะ​ได​ต รสั ร​ขู อ​อยา​ให​ผม​ตกไ​ปบ​ น​พืน้ ดิน ​ ค​ ราว​
น้นั ​พระอนิ ทร​ไ ด​นำ​เอาผ​ อ​ บท​ องคำ​มาร​องรบั ​เอาไปไ​ว​ใน​พระ​เจดีย​
จฬุ ามณี ​​

​อกี ​คราว​หนง่ึ ​ ​ภายหลังจากพระพ​ ุทธป​ รินิพพาน ​ เ​มอ่ื ​
ถวายพระเพลงิ ​พระ​บรมศ​ พเ​สร็จแ​ ลว ​ ​โท​ณ​พราหมณไ​ดร ับ​
ฉนั ทานมุ ัติ​ใหเ​ปน ผ​ ​แู บงพ​ ระบรมสารีริกธาตุ​ใหเ​ จา เมอื งต​ า งๆ​​เปน ​
๘ ​สวน ​​แตโทณ​ พ​ ราหมณแ​ อบ​เอา​พระ​เขย้ี วแ​ กว​ขา งข​ วา (​พ​ ระ​ทันต​
ธาตุ)​​ซอ น​ไวท​ ผ​ี่ าโ​พก​มวยผม​เสยี เ​อง ​​พระอนิ ทรท​ ราบเร่อื ง​จงึ ​มา​
เอาไป​บรรจ​ไุ ว​ ใน​พระ​เจดยี ​จ ฬุ ามณี​ ให​ห มู​เทพ​ท้งั หลาย​ไดเ​คารพ​
สักการะบชู า ​เร่ืองราวเ​กี่ยวกบั ส​ วรรค​ชน้ั ด​ าวดึงส ​ ท​่ีกลา ว​มาเ​ปน​
แตเ​รอื่ งโ​ดย​ยอ ​​เลาแ​ ตเพียงเ​ทาน​้ี ก​็คงพ​ อ​จะ​ไดเ​คา ว​า ​ สวรรคช​ ้ัน​
นเ้ี​ปนอ​ ยา งไร

หลักการทำบุญ และปฏิบัตธิ รรมในชีวิตประจำวนั ๑๖๑

​ยาม​ าภ​ มู ิ ​โ​ลก​ของ​เทวดา​ชัน้ ท​ ่ี ​๓ ​​

ภ​ พภ​ มู ิ ​หรอื ท​ ​ีเ่ รา​ไดยินโ​ดย​ทั่วไป​วา ​สวรรคช​ นั้ ย​ า​มา ส​ วรรค​
ชนั้ น​ ้​ี จะ​ไมข​ อน​ ำมา​เลา ​เพราะ​ไมม ีเ​ร่ือง​เกยี่ วของก​ ับพ​ ระพุทธ​
เจา ของ​เราโ​ดย​ตรง ​จ​ ะม​ ​กี ​็แตเ​ร่อื ง ​ของผ​ ู​ท​่ีทำบุญ ร​ักษาศลี ​ใหทาน​
บำเพ็ญ​สมาธแ​ิ ลวไป​เกิด​บนส​ วรรค​ชนั้ ​นี้ ​​วา ​กัน​วา ​ อายขุ​ องเ​ทพ​
ชั้น​นี้ม​ ี ๒​ ,๐​ ๐๐ ป​ ท​ ิพย ​เ​ทากับ ​๑๔ โ​กฏิ ​๔ ​ลา นป​ ข อง​มนุษย ​​เรอ่ื ง​
ของส​ วรรคช​ ้นั ​น้​จี งึ ​ขอผ​ า นไป


​ต​ุส​ติ าภ​ มู ิ ​​โลกข​ อง​เทวดา​ช้นั ​ที่ ๔​ ​

ต​ สุ​ ​ติ า​ภมู ิ ​ห​ รอื ท​ ​่ีเรา​ไดยิน​คุนหก​ู นั โ​ดยท​ ่วั ไปว​า “​ส​ วรรค​ชน้ั ​
ดสุ ิต”​เ​ม่ือกอ น​จะ​ตรสั ร​ู พระพุทธเจา​ยังเปน พ​ ระโพธสิ ัตว ​ ก็ส​ ถิต​
อยบ​ู นส​ วรรคช​ ้ันน​ ี้ ​​มช​ี ือ่ วา “​เ​สต​เกต​ุเทพบุตร”​​แ​ ลวเ​สดจ็ ​อุบัติใ​น​
โลกม​ นษุ ย เ​ปน​เจา ชาย​สท​ิ ธัตถะ ​ต​ รสั รเู​ปน พ​ ระพุทธเจาใ​น​ที่สดุ

พ​ ระพทุ ธ​มารดา​ก​ส็ ถติ ​อยทู​ ​ชี่ น้ั ​ดุสติ น​ ีเ​้ ชน ​กัน ​​

ม​ ี​ขอส​ งั เกต​วา ​เม่ือ​ครัง้ ท​ ีพ่​ ระพทุ ธเจาไ​ป​จำพรรษา​บน​สวรรค​
เพือ่ ​เทศนโ​ปรดพ​ ระพุทธม​ ารดา ​​แม​พระพุทธม​ ารดาอ​ ยู​ช ั้นด​ สุ ติ แ​ ต​
พระองคก​ ็เ​ลือกท​ ​ีจ่ ะจ​ ำพรรษา​บน​สวรรคช​ ้นั ​ดาวดึงส

๑๖๒ พระวิจิตรธรรมาภรณ์

เพราะ​พระองค​ทรง​มี​เมตตา​ตอ​พระอินทร​เหมือน​สามเณร​ผู​
อปุ ฏฐาก ​​ยาม​เมือ่ ​พระพทุ ธองค​เจ็บปวยไ​มสบาย ​​พระอนิ ทร​จะ​มา​
อปุ ฏ ฐาก ​ ห​ ากพ​ ระองคเ​ สด็จ​ไปจ​ ำพรรษาบ​ น​สวรรคช​ ั้น​ดสุ ติ
พระอนิ ทรต​ ลอดจน​เทวดา ​ ซ่งึ ​เปน บ​ ริวาร​ของพระอินทรจะ​ไม​
สามารถข​ ึ้นไ​ปฟ​ ง เทศน​ ที่ส​ วรรคช​ ั้นด​ สุ ติ ไ​ดเ ปนธ​ รรมดา​วา เ​ทวดา​
ทอ​ี่ ยู​ใน​สวรรค​ช ั้นตำ่ จ​ ะข​ ึ้นไ​ปสวรรค​ช ้ัน​สูงกวา​ไมได

แต​หาก​พระองค​ไป​จำพรรษา​บน​สวรรค​ช้ัน​ดาวดึงส​
เทวดาใ​นส​ วรรคช​ ้นั ​สงู กวา ​กส​็ ามารถ​ลงมา​ฟง เทศนไ​ ด ​​

หาก​จะเปรียบ​เทยี บ ก็เหมอื น​พระเจา ​แผน ดนิ ​จะเ​สด็จ​
ไป​บานนอกบ​ านนา​ ก​ย็ อมไ​ด ​แต​ชาวนา​จะ​เขา ​วงั ก​ ​็คง​ยาก
ต้องไดร้ บั พระบรมราชานุญาตกิ ่อน

​ ​
นอกจากน​ ้ัน ​ พระศ​ ร​อี ริยเ​มตไตรยท​ ​ีจ่ ะ​ลงมาต​ รสั ร ​ู เปน
พระพทุ ธเจา ​ ตอ จาก​พระพทุ ธเ​จา ของเ​รา ​ ใน​ภทั รก​ ับ​นี้ ​​กส​็ ถติ ​อยู​
บนสวรรค​ช ั้น​ดสุ ติ ​น​้ดี ว ย ​​ยังมเ​ี รือ่ ง​ทีจ​่ ะท​ ำความเ​ขา ใ​จ​เกี่ยวกบั ค​ ำ​
วา ​“ภ​ ทั รกัป”​​อกี ​เลก็ นอ ย ​​
ในทาง​พระพุทธศาสนา​ได​กลาว​ถึง​ชวง​ระยะเวลา​ใน​โลก​
วา ​มีอ​ ยู ​​๒ ​ช​ วง ​แ​ ตล ะ​ชวงจ​ ะ​มีพ​ ระพทุ ธเจา ม​ า​ตรัสร​มู ากน​ อ ย​
แตกตา งก​ นั ไ​ป ​คอื ​

​(๑​ )​​​​ชว ง​ระยะเวลา ท​ ่​โี ลกเ​สื่อม ​
(​​๒)​​​ชวง​ระยะเวลา​ทโ​่ี ลก​เจริญ

หลกั การทำบุญ และปฏบิ ตั ธิ รรมในชีวติ ประจำวนั ๑๖๓

ชว ง​ระยะเวลา​เจริญ​ เรยี กวา ​“​ภทั รกัป”​ ​ยคุ ท​ ​่เี ราอ​ ยู​ใน​
ปจจุบัน​ถอื วาอ​ ยูใ​ น​ยุค​ภัทรกัป ค​ ือ ​ยคุ ​ขา งฝ​ า ย​เจรญิ ​ใ​นภ​ ัทรกปั น​ ้​ี
จะม​ พ​ี ระพทุ ธเจา ​ตรสั รทู​ ้งั หมด ๕​ อ​ งค ​ค​ ือ

​(​๑)​พ​ ระ​กะกส​ุ ันธะพ​ ุทธเจา ได​มาต​ รัสร​แู ลว
(​​๒)​พ​ ระโก​นา​คม​นะพ​ ุทธเจา ได​มาต​ รสั ร​แู ลว
​(๓​ )​​พระ​กสั สปะ​พทุ ธเจา ​ ได​ม าต​ รัสร​ูแ ลว
(​๔​ )​ พ​ ระโ​คตม​พุทธเจา ​ ค​ ือ ​ ​พระพุทธ​เจา ของ​เราอ​ งค​
ปจ จบุ ัน ​ ท​ ่​ีเราน​ ับถือพ​ ระพุทธศาสนา ​ เ​ขาวัด​ฟง ธรรม ​ ​ทำบญุ ​
ใหทาน ​ ร​กั ษาศลี ​ ก​ ค​็ อื ​นับถอื ค​ ำส​ อนข​ องพ​ ระโ​คตมพ​ ุทธเจา​
พระองค​น้ี ศ​ าสนา​ของ​พระองค​จ ะม​ อี าย​ุประมาณ ๕​ ,๐​ ๐๐ ​ป​
หลงั จาก​นนั้ ​ จะเ​ปน ​ยคุ ​มิคสญั ญี ​คอื ย​ คุ ท​ ่​มี นุษย​มองก​ นั เ​ปนเ​พียง​
สตั ว​ชนดิ ห​ นง่ึ ​สุด​แตว า​ ใคร​จะม​ ก​ี ำลงั ​เขนฆา ​ทำลายลางก​ นั ​ได​
ชว งนเ้ี​ปน ชว ง​วา งเวน จ​ ากพ​ ระพทุ ธเจา เ​มอื่ ​โลกก​ าวเ​ขา สู​ภ าวะ​ปกต​ิ
ตอ จากน้​ี จงึ ​จะม​ พ​ี ระพทุ ธเจา​มา​ตรสั รู​อ กี อ​ งค ​​คอื ​​พระศ​ รี​อรยิ ​
เมตไตรยพ​ ทุ ธเจา
(​​๕)​​พระศ​ รี​อรยิ เ​มตไตรย​พทุ ธเจา ​พ​ ระพทุ ธเจา​พระองค​
นี้ ​ยังไมไ ดม​ าต​ รัสรู ​ป​ จ จุบันพ​ ระ​ศร​อี ริยเ​มตไตรย​ยงั ​สถิตอ​ ยูสวรรค​
ชั้น​ดุสติ ​ ​จะม​ าต​ รัสร​ใู นภายภ​ าคหนา ​ ​เปน ​องค​ท่ี ๕​ แ​ ละ​เปน​
พระพทุ ธเจา​องคส​ ุดทา ย​ ในภ​ ทั รกปั น​ ี้ ​ ใ​น​ยคุ ข​ องพระองค ​ จะ​
เปน ​ยุคท​ ผ่​ี ูคนอ​ ย​ูเยน็ เ​ปน สขุ ไ​มม โี​รคภัย ​ไ​มมี ​โจรผูราย ​ผ​ ​ทู ำบุญ​
ใหทานร​ักษาศลี เ​ทาน​ ัน้ ​จึง​จะ​มาเ​กดิ ใ​นย​ คุ สมัย​ของพ​ ระองค

๑๖๔ พระวจิ ติ รธรรมาภรณ์

น​ ​มิ านรต​ ​ภิ ูมิ ​​โลก​ของ​เทวดาช​ น้ั ท​ ่ี ๕​ ​​

สวรรค​ช้นั น​ จี้​ ะ​ไมข​ อกลา วใ​น​รายละเอยี ด ​ ​เพราะ​มเี​ร่ือง​
เกีย่ วขอ ง​กับ​พระพุทธเ​จาของ​เรา​โดยต​ รง​นอ ย ​อายขุ​ อง​เทพช​ นั้ น​ ีม้​ ี​
๘,​๐๐๐ ป​ ท​ ิพย ​เ​ทากับ ​๒๓๐ ​โกฏิ ​๔ ล​ า นป​ ข​ อง​มนุษย ​เ​รอื่ งข​ อง​
สวรรคช​ นั้ ​นี้​ ขอ​เลา แ​ ตเพียงเ​ทานี้

ป​ รนมิ ม​ ิตว​ สวัตต​ีภมู ิ ​​โลก​ของ​เทวดา​ชั้น​ท่ี ๖​ ​
​​ ​
สวรรค​ชนั้ ป​ รนมิ ม​ ิ​ตวสสวตั ​ตีภ​ ูมิ​นี้ ​เปน เ​ทวโลกช​ ัน้ ​สดุ ทาย​
สวรรคช​ น้ั น​ ้ี​แปลกก​ วา​ช้นั อ​ ่ืน ​ ​เพราะ​เปนส​ วรรคท​ ่ม​ี ี​เทพผ​ เู​ปน ​ใหญ​
ปกครองอ​ ยู ​​๒ ​ฝา ย ​ค​ อื
ฝ​ า ยเ​ทพยดา ​ม​ีเทวาธ​ ริ าช ​
ช่อื วา “​​พระป​ รนิม​มติ ​เทวราช” ​ เปน ผ​ ูปกครอง​เหลา
เทพท​ ง้ั หลาย
​ฝา ยม​ าร ​​​มพ​ี ญา​มาราธิราช​
ช่อื วา ​“​ทา ว​ปรนมิ ​มติ วสว​ ัตต​ ี​มาราธิราช”​ ​เปน ​ผูปกครอง​
เทพฝ​ ายม​ าร

หลักการทำบุญ และปฏิบตั ิธรรมในชีวติ ประจำวนั ๑๖๕

ป​ รนมิ ​มติ ​วสวตั ต​ีมาราธิราช ​ ค​ นท​ ่วั ไปร​ูจ ัก​กนั ​ในนาม​
พญาวสวตั ตมี​ าร ​ ​เรา​ทงั้ หลาย​ลวนร​ูจกั ​มาร​ทานน​ ้ี​ดี ​ ​ใน​ฐานะ​
พญามาร​ผูตามขัดขวาง​การ​บำเพ็ญ​บารมี​ของ​พระพุทธเจา​มา​โดย​
ตลอด ​​จาก​พุทธประวัตต​ิ อนพ​ ระพทุ ธองค​ผ จญม​ าร ​​ซึ่งก​ ลาย​มา​
เปน พ​ ระพุทธรปู ป​ าง​มารวิชัย​ท​่คี นไ​ทย​เรา​นิยมส​ รางก​ ัน พ​ ระองค​ม​ี
พญาชา ง​ท​่ีมี​กำลังม​ หาศาล​ชอื่ “​ค​ ​รี​เมขล”​เ​ปนพ​ าหนะ​ค​ใู จ ​ว​า ​กัน​
วา ​พญาชางขล​ ​ีเมขล​ของ​พญามารน​ ​ม้ี ี ​พละกำลงั ม​ หาศาล​กวา ช​ า ง​
เอราวณั ​ของพ​ ระอินทร ​​

ก​ อ น​ตรัสร ู​ พระพุทธเจา ไ​ด​ผจญ​พญา​วสวตั ตม​ี ารน​ ี้ ​​แต​จ ะ​
มใ​ี ครท​ ​รี่ วู า ​พญามารท​ า นน​ ​้ีเคยบ​ ำเพ็ญบุญ​มา​มาก แ​ ละ​ได​ต้งั ​ความ​
ปรารถนาพ​ ุทธภ​ มู ิ ​ ค​ ือ ​ ต​ ้งั ​ความป​ รารถนาท​ จ​่ี ะ​เปนพ​ ระพุทธเจา​
ใน​อนาคตด​ วย



๑๖๖ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์

โ​พธิ​อำมาตย ​​อดีตชาติ​พญามาร

​เมือ่ ค​ รง้ั ​เกดิ ​เปน ​มนุษย ​ ​พญาว​ สวตั ตม​ี าร​ มีชอ่ื วา ​
“โพธ​อิ ำมาตย” ​​เปนอ​ ำมาตย​ผูใ​หญ ข​ องพ​ ระเจา แ​ ผน ดิน​พระองค​
หนงึ่ ​โ​พธอ​ิ ำมาตยพ​ รอ ม​ทั้งช​ าวเมอื ง ​ ถูกพระเจา ​แผนดนิ ห​ า ม​ไม​ให​
ทำบญุ ​กับ​พระก​ ัสสปพ​ ุทธเจา ​​ถาใ​ครข​ นื ทำ ​จะ​มี​โทษถ​ งึ ถ​ กู ป​ ระหาร​
ชวี ติ

โพธอ​ิ ำมาตย​นน้ั ​ มศี​ รทั ธาอ​ ยา ง​แรงกลา แ​ ม​จ ะถ​ กู ​ประหาร​
ชีวิต​ก็ยอม ​ขอเ​พยี งไ​ดถ​ วาย​ทานแ​ กพ​ ระ​กัสสป​พุทธเจา ​ดว ย​
มา​คดิ วา ​การท​ ่ีพระพทุ ธเจา อ​ บุ ตั ิข้ึนใ​นโ​ลกน​ ั้นเ​ปนเรื่องย​ าก​
การ​ท่จ​ี ะ​พบเหน็ พระพทุ ธเจา​นัน้ ​ก็​เปนเร่อื งยากย่งิ และ​
บดั นพ​ี้ ระพทุ ธองค​ไ ด​เสด็จมาถ​ ึง​เมอื งท​ ่ีตนอยแ​ู ลว การ​มโ​ี อกาส​
​ถวายท​ านแ​ กพ​ ระองคจ งึ ช​ ื่อวา ​เปนลาภอนั ป​ ระเสรฐิ


​​โพธิอ​ ำมาตยจ​ งึ ย​ อมส​ ละชวี ติ เ​พอ่ื ใ​ห​ได​ถวาย​ทาน

ด​ วย​ความต้งั ใจแม​ส้ ละชวี ิตก​ ย็ อม ขอให้ได​้ถวายทาน​
แ​ ก​พ ระก​ ัสสป​พุทธเจา ​ โ​พธอ​ิ ำมาตย​ไ ดป​ รารถนาทจ​ี่ ะเปน​
พ​ ระพทุ ธเจา ในอ​ นาคต

หลกั การทำบญุ และปฏบิ ัติธรรมในชีวติ ประจำว๑นั ๖๗

ในก​ าร​ทำบญุ ค​ รง้ั ​น้ัน ​ โ​พธอ​ิ ำมาตย​มโ​ี ทษ​ถงึ ถ​ ูกต​ ัดสิน​
ประหารชวี ติ ​ห​ ลังจาก​โพธิ​อำมาตย​ต ายแ​ ลว ​ได​ไปเ​กดิ ​บนส​ วรรค​
ชัน้ ​ปรนมิ ม​ ิตว​สวัตตี ​ป​ กครอง​เทพฝ​ า ย​มาร ​​มชี​ อ่ื วา ​“ปรนมิ ม​ ติ ​
วสวัตตมี​ าราธิราช” ​ ​แต​เพราะค​ วาม​ท่ี​ทานย​ งั เปน ​ปุถชุ น ​ ​แมจ​ ะ​
ไปเ​กิดเ​ปน​เทพบ​ น​สวรรคช​ ัน้ สงู สดุ ​ ก็​ยงั มจ​ี ิตด​ ​ีบาง​ไมดบ​ี าง​ปะปน​
กนั ​ไป ​​

เมื่อค​ ร้ังพ​ ระพุทธ​เจาของ​เรา​ออกบวช จ​ ะ​ไดต​ รสั ร​เู ปน ​
พระส​ ัพพญั พู​ ทุ ธเจาก​ อ นพ​ ญา​วสวตั ต​มี าร ​ จ​ งึ เ​กดิ อ​ จิ ฉาริษยา​
ตาม​ขัดขวาง​การ​ตรสั รู​ของ​พระพุทธเจา​มา​โดยต​ ลอด ​ ​แต​ไมเ คย​
ทำอนั ตรายใ​ดๆ​ ตอ ช​ ีวิต ม​ ุง หวังเ​พยี ง​ตองการใ​ห​พระพุทธเ​จา
ของ​เรา เปลีย่ นค​ วามต​ ้งั ใ​จอ​ ยางเดียว

ในพ​ ุทธประวัติ​ ไดก​ ลาวถ​ ึง​ตอน​ทพ่​ี ระพุทธองคผ​ จญ​
พญาวสวตั ตี​มาราธิราช​ไวว​ า ​​


พญา​มาราธิราช​คดิ วา ​ ​จกั ​ให​พระโพธิสตั วลุก ​จาก​
บลั ลงั ก​หนไี ปด​ วยล​ ม ​ จ​ ึง​บันดาล​มหาว​ าตะใ​หต​ ัง้ ข้ึน ​ ล​ ม​น้นั ​
ถึงแ​ มว า ​จะ​สามารถพ​ ดั ท​ ำลายย​ อดภ​ ูเขาใ​หญน​ อย​ทัง้ หลายใ​ห​
ราบคาบ ​​สามารถถอน​ตนไม กอไ​ม​ และพ​ ดั กระหนำ่ ​หมูบา น​
ใหล​ ะเอียด​ลงร​อบดา น ​ ​แตเ​มือ่ ม​ าถ​ งึ ​พระโพธิสัตว​ ก​ไ็ ม​อาจ​
จะ​พดั ​ชาย​จวี รใ​หไ​ หวไ​ด ​ ด​ ว ยอ​ านุภาพ​แหงพระ​บารมี​ของ​
พระโพธิสัตว

๑๖๘ พระวิจิตรธรรมาภรณ์

พญา​วสวัตตี​มาราธิราช​จึง​บันดาล​ใหหา​ฝน​ใหญ​ตั้งข้ึน​
บนั ดาลหา ฝ​ น​เคร่อื งป​ ระหาร ​​บนั ดาลหาฝ​ นห​ ิน ​บ​ นั ดาลหา ฝ​ น​
ถานเ​พลิง ​บ​ ันดาลหา ฝ​ นเถ​ า ร​งึ ​​บันดาลหา​ฝนท​ ราย ​​บนั ดาลหา​
ฝน​เปอ กตม ​ ​และบ​ นั ดาลค​ วามม​ ืด​รวมเปน ​เคร่ืองป​ ระหาร ​๙​
ชนิด ​ ใ​หต​ ั้งข้นึ ร​อบดาน ​ ​โดย​มุงหวังจ​ ะ​ใหพ​ ระโพธสิ ตั ว​หนีไป​
แตอ​ ันตราย​จากเ​ครอื่ ง​ประหารเ​หลา น​ ั้น ​ ​ก​ไ็ มส​ ามารถ​ทำ​ให​
พระองค​ส ะดุงส​ ะเทือน​ได

สดุ ทา ย ภ​ ายหลัง​การต​ รัสร​ู ของ​พระพุทธองค ​​ลกู สาว​
แสนส​ วย ​ทง้ั ๓​ ค​ น​ของ​พญามาร ​ค​ อื ​​นาง​ตัณหา ​​นาง​ราคา​
และน​ าง​อรด ​ี ได​อ าสามา​ฟอนรำ​ย่ัวยวนเ​บื้องพ​ ระพ​ กั ตร​
หวังจ​ ะใ​ห​พระองคเ​ ลิกลม ​ความ​ตง้ั ​ใจ ​ ​แต​ก็ไ​รผล ​ ​ทำ​ใหพ​ ญา​
มาราธิราชก​ ลับไ​ป ​ ดว ย​ความเ​ศรา โศก​เสียใ​จ​เปน​อยางม​ าก​
รอคอยโ​อกาสอ​ ยูใ​นว​ ิมานบ​ น​สวรรคข​ องต​ น

ขอความ​ดงั กลา ว บ​ ูรพาจารย ​ ภ​ ายหลังไ​ด​นำมาร​อยเรยี ง​
เปน ​บทสวด ​ที่​เราเ​รียกก​ นั ​วา​ บท​ถวาย​พรพ​ ระ ​หรือ​ บท​พาห​ งุ ​
ดัง​ปรากฏข​ อ ความ ​ใน​คาถาท​ อนแ​ รกว​า

หลักการทำบญุ และปฏิบัติธรรมในชีวติ ประจำวัน๑๖๙

พ​ าห​ ุง ​ส​ ะหสั สะมะภินมิ ม​ ติ​ ะสาวุธันตงั
ค​ร​ีเมขะลงั ​​อุทิตะโฆระสะเ​สนะ ​​มา​รัง
ทานาทธิ​ ัมมะ​วิธนิ​ า ​ช​ ิตะวา ​ม​ นุ ินโท
ตันเต​ชะสา ​​ภะ​วะตุ ​​เต ​ช​ ะย​ ะมงั คะล​ านฯิ

ป​ างเ​มอ่ื พ​ ญามาร​นริ มิตแ​ ขนถ​ ือ​อาวุธค​ รบต​ ง้ั พ​ ันแ​ ขน ขับข​ี่
ชา ง ค​ ​รเี​มขล ​ ​ ​ ส​ ะพรึบพ​ รอ มดว ย​พล​เสนาม​ าร โหรอง​
กอ งกงึ ​พลิ กึ ​สะพรงึ กลวั ​เขามา​ประจญั ​​ ​ ​พระจอม​มุนี​ทรงใ​ช​วิธ​ี
ทางธรรม ​ ค​ อื ท​ รงเ​สยี่ ง​พระบ​ ารมี ​ ม​ ี​ทาน ​เปน ตน ​​ ​เขา​ผจญ​
ได​ช ัยชนะ ​​​​ดว ยเ​ดช​แหงองคพ​ ระผ​ ​พู ิชิตมาร​น้ัน ​​​ขอ​ชัย​มงคล​
จง​มี​แกท​ า น

หลงั ​พระพุทธเจาป​ รนิ ิพพาน​ไป​แลว ป​ ระมาณ ๓​ ๐๐ ป​  ​เ​มอื่ ค​ ร้ัง​
พระเจา ​อโศก​มหาราชส​ รางเ​จดีย ​ ๘๔,​๕๐๐ ​องค ​​ถวายเ​ปน ​
พุทธบชู า ​ ว สวตั ต​ีมาราธิราชไ​ดม​ าข​ ัดขวาง​การ​เฉลมิ ฉลอง ​ ​ แต
พระอปุ​ คตุ ​มหา​เถระ ผูเ​กิด​หลงั พุทธปรินิพพาน​ทรง​อภิญญา
แกกลาได​ต้ัง​สัตยาธิษฐาน​ปราบ​พญามาร​ดวย​การ​เสกห​มา​เนา
พัน​คอ ​มิ​ใหใ​คร​สามารถน​ ำ​ออกไ​ด ​ พ​ ญามาร​ไดร บั ​ความอ​ บั อาย
​ในห​ มูเ​ทพจ​ น​ละพ​ ยศ​

๑๗๐ พระวิจติ รธรรมาภรณ์

​ในค​ ราวค​ รัง้ น​ น้ั ​ พ​ ญามาร​คร่ำครวญ​วา ​ แ​ ม​เม่อื ค​ รงั้ ​
พระพทุ ธเจา ​ผเู​ ปน​ศาสดา​ของ​พระ​มหา​เถระย​ งั มชี​ วี ิตอ​ ยู ต​ นไ​ด​
ประทษุ ราย​ ตอพ​ ระพุทธองค​เปนอันมาก ​ แตพ​ ระองค​กย็​ ัง​เปย ม​
ดว ยเ​มตตา​ ม​ิเคยท​ ำใหต​ นไ​ดร บั ค​ วามอ​ บั อาย​เลย ​ ​แต​ไฉน​ทา น​
อุปคตุ เ​ถระ​ เปน ​แตเพียง​พระ​สาวก​ของ​พระพทุ ธองค​ม ไิ ด​ม ี​ความ​
เมตตา​เชน น​ นั้ ต​ อต​ น​เลย ​​

​พญายา​มารไ​ดต​ ้งั ค​ วาม​ปรารถนา ท​ ​จ่ี ะเ​ปนพ​ ระพทุ ธเจา​ผู​
เปยมด​ ว ยเ​มตตา ต​ อหนา พ​ระอ​ุปคตุ ​มหาเ​ถระเ​จาอ​ กี ครัง้

สมยั กอ น ​พระสงฆ​นิยมน​ ำเ​ร่อื ง​นม​ี้ า​เทศน​ ในง​าน​เทศน​
มหาชาติ ​​เรา​เรยี ก​เทศนาก​ ัณฑน​ ​วี้ า ​“ป​ ญ ญา​บารม”ี ​​ต​ อ จาก​นั้น​
จงึ เ​ทศนก​ ณั ฑม​ าลยั ห​ ม่ืนม​ าลยั ​แสน บ​ อกเลา​เร่ืองราวค​ วาม​เปนไป​
ของ​นรก​สวรรค  เตอื นสตชิ าวพุทธ ​

ปจจบุ ันเ​รื่องเ​หลา น้ี​แทบจ​ ะ​หาฟ​ ง ​ไมไดแ​ ลว
จำไดว​า​ เมื่อ​ยงั เด็ก ใ​น​งานบุญ​มหาชาตห​ิ ลัง​แหผะเวส ​
(พ​ ระเวสสันดร)​ เ​ขา ​เมือง ​ ​ตกเยน็ พ​ ระ​ทา นจ​ ะ​เทศน​ป ญ ญาบ​ ารม​ี
และม​ าลัยห​ มื่น​มาลยั ​แสน ​ว​าดว ยพ​ ระม​ าลัย​ดบั ไ​ฟนรก ​​และ พ​
ระอปุ​ คุตม​ หาเ​ถระ​ ผเู​ กดิ ห​ ลงั พ​ ทุ ธกาลว​า ​๓๐๐ ป​  ​​กลา วอา งบ​ ารม​ี
๓๐ ​ทัศน​ของพระพทุ ธองค ​แลว ​เอาชนะพ​ ญามารไ​ด ​

หลักการทำบญุ และปฏบิ ัตธิ รรมในชวี ติ ประจำวนั ๑๗๑

พ​ อถ​ ึง​ตอนพ​ระอุ​ปคุตเ​สกหม​ าเนา พ​ นั ค​ อ​พญามาร ​ ​ก็ด​ เ​ู ปน ​
เรอื่ งสนกุ ​ ย​ งิ่ ถ​ งึ ​ตอน​ท​พี่ ญามารถ​ ูกห​มาเ​นาพัน​คอ ​ เ​หาะ​ไปหา​
เทวดา​ตา งๆ​​ใหช​ วยก​ ย​็ งิ่ ด​ ​นู า ขัน ​

แ​ ต​ตอนน​ ั้น​ก​ย็ ัง​ไมรู ​เร่ืองอ​ ะไร ​เ​พราะ​ยังเดก็ อ​ ยู​มาก
เรือ่ งราว​สวรรคต​ าม​ท​ก่ี ลา ว​มา แ​ มจ​ ะ​ไม​ละเอียด ​ แ​ ต​ก็พ​ อ​
จะ​ทำให​โยมแ​ ม​ใ หญเ หน็ ภาพรวม​ได​บ า ง ​ต​ อไปนีจ​้ ะพ​ ูด​ถงึ ​เรือ่ งราว​
ของ​พรหม​โลก


​พรหมโ​ลก ​
โ​ลกข​ องผ​ เ​ู ขา ​ถงึ ​ความเ​ปน ห​ มพู​ รหม


​สวรรคต​ าม​ทก่ี​ ลาว​มา​นนั้ ​มที​ ้งั หมด ​๖ ​ชัน้ ​​สงู ข้นึ ​ไปก​ วา น​ ้ัน​
เปนพรหมโ​ลก ​
พรหมโ​ลก​นั้น ​​มี​ท้งั หมด ๒​ ๐ ​ชัน้ ​แ​ บงเ​ปน ​พรหมท​ ี​่มรี​ปู รา ง​
เรียกวา “​​รปู พ​ รหม”​​๑๖ ​ช้นั ​​และพ​ รหมท​ ไี​่ มม​ีรปู รา ง ​เ​รียกวา “​​
อรปู พ​ รหม”​​​อกี ​๔ ช​ นั้ ​​รวมเปนพ​ รหมโ​ลก ​๒๐ ช​ ้นั ​ผ​ ู​ท จ่​ี ะไ​ป​
เกดิ ​ใน​พรหม​โลก​แตล ะช​ ั้น​ตอ ง​ทำสมาธ​จิ นไดบ​ รรล​ฌุ าน ​๔ ​ขน้ั เ​ทา​
น้ัน ​​ค​ อื ​​
(​๑​ )​ป​ ฐมฌาน ​​ฌาน​ข้นั ท​ ่ีหนึ่ง ​​
(​๒​ )​​ทต​ุ ิย​ฌาน ​​ฌาน​ขน้ั ​ท่ีสอง ​​
(​๓​ )​ต​ ต​ ยิ ​ฌาน ​​ฌาน​ข้นั ท​ ​ีส่ าม ​​
(​​๔)​จ​ ตตุ ถ​ฌาน ​​ฌานข​ ัน้ ​ที่ ๔​ ​

๑๗๒ พระวิจติ รธรรมาภรณ์

​ฌาน​ทั้ง ​๔ ​ขน้ั ตำ่ ​สูงต​ าม​ความ​ละเอยี ด​ประณีต​ของ​ฌานท​ ่ี​
ไดบ​ รรลุ เ​ก่ียวกบั ​ฌาน​เปน เร่ืองค​ อ นขางล​ ะเอียด เ​พราะ​เกย่ี วกบั ​
สมาธิโ​ดย​ตรง ​อ​ าตมาต​ ง้ั ใ​จ​จะ​เลา ใ​ห​ฟง เ​ปน เรอ่ื งห​ นึง่ ต​ า งห​ าก ​

​ในทาง​พระพุทธศาสนาไ​ดจ​ ำ​แนก​พรหม​โลกช​ ั้นต​ างๆ​ ​ตาม​
ระดับ​จิต​ท​่ีไดบ​ รรล​ฌุ าน​ไว ​ด​ งั นี้

ปฐมฌาน ​ฌานข​ ัน้ ท​ ่ี ​๑ ผ​ ​ูท ไ่ี​ดบ​ รรลฌุ​ านข​ ้ัน​ทหี่ น่งึ ​ ​แต​มี​
กำลัง​ฌานอ​ อน ไ​มแ​ กกลา ​ ​หากฌ​ านย​ งั ​ไมเ​สอื่ ม ​ เ​ม่อื ​ตายจ​ ะไ​ป​
บังเกดิ ​ในพ​ รหม​โลก​ชั้น​แรก ​ช​ ื่อวา ​พรหมป​ าร​สิ ชั ​ชา ​พ​ รหม​โลก​
ชัน้ ​น​ม้ี ​ภี พ​ภมู ิท​ ลี่​ ะเอียด ป​ ระณีต​สงู กวา​สวรรคท​ ัง้ ๖​ ช​ น้ั ​​มี​อายยุ ืน​
นบั ไ​ด​หนงึ่ ​ในส​ ามข​ อง​ววิ ฏั ฏฐ​าย​อี สงไขยกปั ​

​อาย​ุของ​สวรรค​ต ลอดจนพ​ รหม​โลก​แตล ะช​ ั้น ​ ​จะก​ ลา ว​
เปนการ​เฉพาะ​ขางหนา

ผูท​ ่ี​ไดบ​ รรล​ปุ ฐมฌาน ​ ​ท่ี​ม​กี ำลัง​ฌานป​ านกลาง ​ เ​ม่ือ​ตาย​
จะ​ไปบังเกดิ ​ใน​พรหมโ​ลกช​ นั้ ​ พรหมปุโรหติ ​ ​พรหม​โลกช​ นั้ น​ ้​ี
ประเสริฐก​ วา พรหมช​ ้นั ​แรก ​​รปู รางใ​หญ​และ​ประณตี ​กวาอ​ ายุข​ อง​
พรหมช​ น้ั ​น้​ี ก​ย็ าวนานก​ วา ​พรหมช​ ้ันแ​ รก​นบั ไ​ด ๓​ ๒ ​อันตรกปั

ผ​ูทไ่​ี ดบ​ รรลป​ุ ฐมฌานร​ะดบั ​ปณีต​ฌาน ​ ​คือ ​ ไ​ด​บรรล​ุ
ปฐมฌาน​ท่ีม​ ีกำลัง​แกก ลา ​ ​เม่อื ​ตาย​จะไ​ปบ​ งั เกิดบ​ นพ​ รหมโ​ลกช​ ัน้ ​
มหาพรหม ​​ซ่งึ ประเสรฐิ ก​ วาพ​ รหมท​ ั้งสอง ​พ​ รหม​ช้ัน​นม้ี​ อี ายุ​นาน​
นบั ​ได ๑​ ม​ ​หากปั

หลกั การทำบญุ และปฏิบตั ิธรรมในชวี ิตประจำวัน๑๗๓

ส​ ำหรับพ​ รหมโ​ลก​ช้ันพ​ รหม​ปาร​สิ ัช​ชา ​ พ​ รหม​โลกช​ นั้ ​
พรหมปโุ รหติ ​​และ​พรหมโ​ลกช​ นั้ ​มหาพรหม ​​ท้ัง ๓​ ช​ ั้นน​ ้ี ​อ​ ย​ใู น​
ระดับเ​ดยี ว​กนั ​​แตม​ ค​ี วามล​ ะเอียดป​ ระณีตแ​ ตกตา งก​ ัน ​ตาม​ความ​
ละเอียดป​ ระณีตข​ อง​จติ ​ท​ีเ่ กิดจ​ ากก​ ำลังฌ​ าน

​ทุ​ติย​ฌาน ​ ฌาน​ขน้ั ท​ ี่ ๒ ​ ​ผท​ู ​ไี่ ด​บรรลทุ ตุ​ ยิ ​ฌาน​ม​ีกำลัง
ฌ​ านออ น เม่อื ​ตายไ​ป​แลว จะ​ไป​บงั เกิดอ​ ยู​ใน​พรหมโ​ลกช​ ้นั ​ ปริต​
ตา​ภมู ิ ซ​ งึ่ ป​ ระเสรฐิ ก​ วา​พรหม​ทัง้ ​สามช้ัน​ขึน้ ไ​ป​อีก ​ ​พรหมช​ น้ั น​ ี​้
มอี ายุ ​๒​ ​ม​หากปั

ผ​ ​ูทไี่​ดบ​ รรลทุ ุต​ ิยฌ​ านข​ ัน้ ​มัชฌิมท​ุตยิ ฌ​ าน ม​ ก​ี ำลงั ฌ​ าน​
ปานกลาง ​ เมอื่ ต​ าย​ไป​แลว ​ ​จะไ​ป​บงั เกดิ อ​ ยูใ​นพ​ รหมโ​ลก​ชน้ั ​
อปั ป​มา​ณาภา​ภูมิ ​พ​ รหมโ​ลกช​ ั้นน​ ้​ีนับวา​ประณตี ข​ ึน้ ​ไป​อีก ​ม​ ​รี ัศม​ี
มากมาย​มหาศาล​ พรหมช​ น้ั น​ ้​มี อี ายุ​ถึง ๔​ ​ ม​หากปั

ผ​ ทู​ บ่ี​ รรลุทต​ุ ยิ ​ฌาน​ข้ันป​ ณตี ท​ตุ ยิ ฌาน ​ม​กี ำลงั ฌ​ านแ​ ก
กลา ​เ ม่ือตายไ​ป​แลว ​ จ ะไ​ป​บงั เกิด​ใน​พรหมโ​ลก​ช้นั อ าภ​ สั สระ​
ซง่ึ ป​ ระเสริฐ​กวา ​พรหมท​ ง้ั ​๔ ​ชัน้ ​คอื ​ ม​ปี ระกายร​ุงเรอื ง ​
โรจน​รุง ​พุง​เปลง อ​ อก​ดังส​ ายฟาแ​ ลบ ​อาย​ขุ องพ​ รหม​ชน้ั น​ มี​้ ถ​ี งึ
​๘ ม​ ห​ ากปั

ต​ ​ตยิ ​ฌาน ​ฌาน​ขัน้ ​ที่ ๓​ ​ผ​ทู ี่​ได​บรรลุต​ตยิ ​ฌาน​มี​กำลัง​ฌาน​
ออ น ​ ​ เมือ่ ต​ ายไ​ปแลว ​จะ​ไป​บังเกดิ ​ในพ​ รหมโ​ลกช​ ั้นป​ ริตตส​ ุภา​
ภมู พ​ิ รหม ​ช​ ้นั ​น้แ​ี ม​จะม​ คี​ วามส​ งางามแ​ หงร​ัศมี​นอ ย​หนอย ​แ​ ตก​ ​ย็ ัง​
สูงกวา​พรหม​ท้ัง ​๖ น​ ัน้ ​ พ​ รหมชัน้ น​ มี้​ อ​ี ายยุ นื ถ​ งึ ​๑๖ ม​ ​หากปั

๑๗๔ พระวิจติ รธรรมาภรณ์

ผ​ูท​ไี่ ดบ​ รรลตุ ​ตยิ ​ฌาน ​ ​ม​กี ำลัง​ปานกลาง ​ เ​มอ่ื ต​ ายไ​ป​แลว ​

จะไ​ปบงั เกิดใ​น​พรหม​โลก​ชน้ั ​อัปปม​ า​ณ​สภุ าภ​ ูมิ ​ พ​ รหม​ชน้ั น​ ีม​้ ค​ี วาม​

สงา งาม ​ ม​ ​ีรศั มีอ​ นั ห​ าป​ ระมาณม​ ิได ​ อ​ าย​ุของ​พรหมช​ ัน้ น​ ี้ ​ ม​ ถี​ ึง​
๓๒ ม​ ​หากัป ​ ผูท​ ไ​่ี ดบ​ รรลตุ ต​ ิยฌ​ านช​ ้ัน ​ ปณตี ตต​ ยิ ​ฌาน​
ม​ ​ีกำลังฌ​ านแ​ กก ลา ​ เ​ม่อื ต​ าย​ไป​แลว ​จะไ​ป​เสวยสุขอ​ ยบ​ู นพ​ รหม​
โลกช​ ้ัน ​สภุ กิ​ณห​ าภ​ ูมิ ​ พ​ รหม​ชัน้ ​น​้ีมี​ความร​งุ เรือง​สงางาม​แหง​
รัศมี​สลบั ซับซอน​ตลอดไปท​ ั่วร​างกาย ​พ​ รหม​ชั้นน​ ี​้มอ​ี ายยุ นื ถ​ ึง ​๖๔​

มห​ ากปั ​

จตตุ ถ​ฌาน ฌ​ าน​ขัน้ ​ที่ ​๔ ส​ วนผ​ ​ูท​ไ่ี ดบ​ รรลจ​ุ ตุตถฌาน​

เม่อื ต​ ายไ​ป​แลว ​จะไ​ปบ​ งั เกิดใ​น​พรหม​โลกช​ ้ัน​เวหปั ผล​ าภ​ ูมิ​

พรหมช​ ้นั น​ สี้​ มบรู ณบ​ ริบูรณก​ วา​พรหม​ทง้ั ๙​ ​ช้ัน ​ ​ไมต​ องถ​ ูก​

ทำลายห​ รอื ​เกิด​อันตราย​จาก​ไฟบ​ า ง ​ ​น้ำบ​ าง ​ ล​ มบ​ า ง ​ พ​ อถ​ ึง

เวลา​จะ​ถูก​ทำลาย ​ ​กต็​ อ งโ​ดนท​ ำลายไ​ปตาม​กาลเ​วลา ​ แ​ ตพรหม​

ชน้ั ​นี้พ​ น​จากอ​ นั ตราย​เหลา นี้ ​​ไมต​ องถ​ ูกท​ ำลาย เ​พราะบ​ ญุ ​เดิมเ​ต็ม​

เปยม ​พ​ รหมช​ นั้ น​ ้ม​ี อ​ี ายุยนื ​ถงึ ๕​ ๐๐ ​มห​ ากัป

​จากน้ไี ป​จะ​กลาว​ถงึ ​ฌานท​ ลี่​ ะเอยี ดป​ ระณีตม​ าก ​ ​จน​รสู ึก

วา ​ตนเ​องไ​มม​ีรปู รา ง ​​มี​แต​จติ ​อยางเดียว ​จ​ ึง​เรียกผ​ ​ทู ​่เี ขา ฌานใ​น​
ระดบั น​ ​้ีวา ​​อรปู ฌ​ าน ​​แปล​วา ​​ฌานไ​มม​รี ปู ราง ​​มี ๔​ ​คือ

หลกั การทำบญุ และปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวนั ๑๗๕

(​๑​ )​ ​ ​ ​อาก​ าสา​นญั จายต​ น​ฌาน ​ ผ​ ​ูที่​ไดบ​ รรล​ุฌาน​ขัน้ ​
น้ี ​​นับวา แ​ ปลก​ เพราะ​เปน ฌ​ านไ​มม ี​รปู ไ​มม​ีราง ​ม​ ​ีเพยี ง​จติ เ​ทา ​
นัน้ ​​ท​ี่เปน เ​ชนนี้ เ​พราะเ​มื่อป​ ฏบิ ตั ​สิ มาธบ​ิ รรลจ​ุ ตุตถฌ​ าน​แลว ​​ก​็
ยงั ​ไมพ​ งึ ​พอ​ใจ ​ เ​กิดค​ วาม​เบ่ือหนาย​ใน​รา งกายจ​ งึ ​บำเพ็ญเ​พยี ร
​ตอ ​ โ​ดยก​ ำหนด​เหน็ ​อากาศไ​มม​ีที่​สน้ิ สดุ บ​ ำเพญ็ เ​พยี รอ​ ยูอ​ ยาง​น้ี​
จนได​บ รรลอุ ​กาสาน​ ญั จายต​ นฌ​ าน ​​เม่อื ต​ ายไ​ปแ​ ลว ​จะไ​ป​บงั เกิด​ใน​
พรหมโ​ลกช​ ้นั อ​ าก​ าสาน​ ญั จาย​ตนภ​ ูมิ ​​พรหมโ​ลก​ชั้นท​ ่ี ​๑๗ ​ไมม ​ีรูป​
ไมม รี​า ง ​​ม​เี พียง​จิต ​​จงึ ​จดั เ​ปนพ​ รหม​ชนั้ สงู ​​จน​ไมมร​ี ูปรา ง ​​อาย​ุ
ของ​พวกเขาย​ นื ​ยาว นาน​แสน​ท​ีจ่ ะน​ าน ​ถึง ​๒,​๐๐๐๐ ม​ ​หากัป

​(๒​ )​ ​ ​ ว​ ญิ ญาณญั จายต​ น​ฌาน ​ ​ผทู​ ​ีไ่ ดบ​ รรลุฌ​ าน​ขนั้ ​นี​ก้ ็​
เชนกบั พวก​พรหม​ช้นั อ​ า​กาสา​นัญจายต​ นภ​ ูมิ ​ ​คอื ​ ​พวก​พรหม​
ไมม ​ีรปู ราง ​ ม​ เี​พียง​จิตเ​สวยสขุ ​อยู ​ น​ งิ่ เฉย​เหมอื นล​ อยอ​ ยู ​กลาง​
อากาศ ​ พ​ รหม​พวกน​ ี​้ไดบ​ รรลจ​ุ ตุตถ​ฌาน ​ แ​ ลวก็​ไมพอใ​จ ​ ​เกดิ ​
ความ​เบ่อื หนาย​ในร​างกาย​ตน ​ ​จึงบ​ ำเพ็ญ​เพยี ร ​จนไดบ​ รรลุอ​ า​
กาสา​ณัญจายจ​นะ ​ก​ ​็ไมพ​ อใ​จ ​จ​ งึ ​บำเพ็ญเพียรต​ อ ไป ​โดย​กำหนด​
ภาวนาถ​ ึงค​ วาม​ละเอียดข​ องวิญญาณ ไ​มมท​ี ี​่ส้นิ สุด​จนได​ส ำเร็จ​
วญิ ญาณัญจายต​ นฌ​ าน ​​เมอื่ ​ตายแ​ ลว ​จะไ​ปบ​ งั เกิด​ใน​พรหม​โลกช​ ั้น​
วิญญาณญั จา​ตนภ​ ูมิ ​ ​พรหมไ​มมรี​ปู ราง ม​ ​ีเพียงจ​ ิต​เสวยสุข​อยู​
โดด เ​ดน บ​ น​อากาศ ​​มี​อายุยนื ถ​ งึ ๔​ ,๐​ ๐๐๐ ม​ ​หากัป

๑๗๖ พระวิจิตรธรรมาภรณ์

(​​๓)​​อาก​ ิญจญั ญาย​ตน​ฌาน ​​ผ​ทู ไ่​ี ด​บ รรลุ​ฌานน​ ้​ี ก​็เชน ​เดียว​
กัน ​​ไม​พอ​ใจ​ใน​วญิ ญาณ​ณัญจาย​ตนฌ​ าน ​บ​ ำเพ็ญ​เพยี ร ต​ อ ไป​จน​
สำเรจ็ อ​ าก​ ญิ จัญญาย​ตนฌ​ าน ​​โดยก​ ำหนดว​า “​​อะไรๆ​ก​ ไ​็ มมีๆ​ๆ​ๆ​”​
ภาวนา​อยูจ​ น​สำเรจ็ อา​กิญจญั ญาย​ตน​ฌาน ​ ​เมอ่ื ​ตายไ​ปแ​ ลว ​จะ​ไป​
บงั เกิด​ใน​อรปู ​พรหม ​​คือ ​พรหม​ไมม ี​รปู ​​ม​ีเพยี งน​ ามจ​ ติ ​ ใน​ชั้น​อา​
กญิ จญั ญาย​ตน​ภูมิ ​​มอี ายุ​ยืนยาว​มาก ​​นานถ​ งึ ๕​ ,​๐๐๐๐ ​ม​หากปั

(​๔​ )​​​​เนวส​ ัญญา​นาส​ ัญญาย​ตนฌ​ าน ​​ซง่ึ ​เปน ฌ​ าน​ขัน้ ส​ งู สุด
ใ​นบ​ รรดา​ฌานโ​ลก​ท้ังหลาย ​ เ​ปน ​ฌานท​ ่มี​ ​สี ญั ญาล​ ะเอียดป​ ระณีต
​ที่สุด ​​คือ จ​ ะ​ม​ีสัญญา​ก​ไ็ มใ​ช ​ไ​มม​สี ัญญา ก​ ไ็​มใ​ ช ​​ผท​ู ี่​ไดบ​ รรล​ฌุ าน
ข​ ้นั น​ ้ี ​ ​โดยก​ ำหนด​ภาวนาว​า “​ป​ ระณตี ๆ​ ​ ​ๆ”​ท​ ​่กี ำหนดภ​ าวนา​
อยู​เชนนี้ ​ก​ เ็​พอ่ื ห​ นี​ทกุ ขแ​ หงร​า งกาย​ให​ไกล​ทีส่ ดุ ​​คิดแ​ มกระท่ังว​า ​
จิต​กจ​็ งห​ มด​สน้ิ ไป ​​จิต​อยาไ​ดม​ ี ​จ​ งึ ​เรยี กวา ​“​มส​ี ญั ญา​กไ​็ มใ​ช ​ไ​มม ​ี
สญั ญญา​ก็ไ​มใ​ ช” ​​เ​ปน​เพียง​จติ อ​ นั ล​ ะเอียด​ประณีตม​ าก ​เ​มอื่ ต​ าย​
แลว​จะ​ไป​เสวยสุข​อยู​ใน​พรหม​โลก​ช้ันเนว​สัญญา​นา​สัญญาย​ตน​ภูมิ​
เปน​ภูม​ิของพ​ รหมท​ ่​ไี มม​ีรปู ​​อายุยนื ​ถงึ ๘​ ๔,​๐๐๐ ​มห​ ากปั

นอกจากน​ นั้ ​ยงั ม ี​ จตตุ ถ​ฌาน​อีกอ​ ยางห​ นึ่ง ​ ​เรียกวา​
“อสญั ญจ​ ตุตถฌาน”​ ​แตก​ จ็​ ดั ​เขา​ในเนวส​ ัญญาน​ าส​ ัญญาย​ตน
ฌาน​น​้ีเชน ก​ ัน ​ ไ​ด​แก ​ฌาน ​๔ ​ท่ไี​ดบ​ รรลุ​จาก​บรกิ รรมว​าโยก​ สณิ ​
คร้นั อ​ อกจาก​ฌานแ​ ลว ​ เ​กดิ ค​ วามเบอ่ื หนายจ​ ติ ​ ​เกลียดชงั จ​ ติ
​เปนอันมาก ​ ​เมื่อ​ ออกจาก​ฌานภ​ าวนา​อยู​ว า “​​ตวั ขาอ​ ยาม​ ​ี
สัญญาๆๆ​ ๆ​ ”​​ ​บำเพ็ญ​เพยี ร​อยเ​ู ชนนี้ ​ เ​มอ่ื ​ตายแ​ ลว ​จะ​ไป​เสวยสขุ ​
อยใู นร​ูปพรหม ​คือ ​ปรากฏ​เหมือนม​ ​เี พียง​รูป​เทาน​ ัน้

หลกั การทำบญุ และปฏบิ ตั ธิ รรมในชวี ิตประจำวัน๑๗๗

คัมภีรท​ างพ​ ระพทุ ธศาสนา​ แสดงข​ อ ท​ ี​่นับวา​แปลกข​ อง​
พรหม​ชนั้ น​ ไี​้ วว​า ​ พ​ รหมพ​ วกน​ ้ีต​ ง้ั อ​ ยใ​ู นว​มิ านอ​ ัน​สวยงาม ​ ​แต​
บางอ​ งค​ยืน​น่ิง ​ ​บางอ​ งค​กน​็ ั่ง​น่ิง ​ ​ไมม ​หี วน่ั ไหว ​ ไ​มม​กี ารก​ ระดกิ ​
ทั้ง​นว้ิ มอื ​หรอื อ​ วัยวะ​อื่น​ใด ​ เ​หมือนเ​ทวรูป​ทเ​่ี ขาป​ นต​ ั้งไว​  ยืนอ​ ย​ู
อยา งไรก​ ็​อยู​อยางน​ ้นั ​ ​ท่เ​ี ปน ​เชนน ี้​ ก​็เนอ่ื งม​ าจากผ​ ู​ท ​ไ่ี ด​บ รรล​ุ
อสญั ญจ​ ตุตถ​ฌาน​ตายใ​น​อริ ยิ า​บทน​ ่งั ​​กจ็​ ะข​ นึ้ ​ไปป​ รากฏน​ ัง่ น​ ง่ิ ​อย​ู
ไม​ขยบั ถ​ า ย​ ืนต​ าย กจ​็ ะข​ น้ึ ไ​ปป​ รากฏ​ยืนไ​มข​ ยับ ​​น่ังอ​ ยนู ิ่งๆ​​ย​ นื ​
อยูนิง่ ๆ​ เ​หมอื นร​ูปปน ​ในพ​ รหม​โลก​น้ัน ​ ​จงึ เ​รียก​พรหมโ​ลกช​ ้นั ​น้ี​วา​
“​อสัญญสัตต​ าพ​ รหม”​

ต​ อไปน้ี​จะ​พูดถ​ ึงพ​ รหมโ​ลกช​ นั้ ​ตางๆ​ ใ​ห​โยมฟ​ ง ​ ส​ ว น​ราย​
ละเอยี ด​ประวัติค​ วามเ​ปนมา ​ ​จะ​ขอก​ ลา ว​เฉพาะ​ช้ันท​ ส​ี่ ำคญั ​ และ​
เกี่ยวเ​น่อื ง​กบั พ​ ระพุทธเ​จาของ​เรา ​พ​ อเ​ปน ​อทุ าหรณเ​ทา น​ ัน้ ​​พรหม​
๒๐ ​ชน้ั ​มี ​​ดังนี้

๑.​​พ​ รหม​ปา​รสิ ชั ​ชา ​พรหม​โลกช​ ้นั ท​ ี่ ๑​
๒.​​พรหมปุโรหิตาภ​ มู ิ ​พรหม​โลก​ข้ันท​ ี่ ​๒
๓.​​​มหาพรหมภ​ มู ิ พรหมโ​ลกช​ ั้นท​ ี่ ๓​

๑๗๘ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์

ทไ​่ี ดช อ่ื ​อยา งน​ ้ี ​ เ​พราะเ​ปน ท​ ​่ีอย​ูของพ​ รหม​ผใ​ู หญ​ท้ังหลาย​
เมอื่ ​วาโดย​อายุ​ก็ม​ ีอายุย​ ืนยาวม​ าก ​​จน​ทำใ​ห​พรหมท​ เ่ี กดิ ​ในช​ ้นั น​ ้​ีเขา ​
ใจไ​ขวเ​ ขวไป​ตางๆ​ก​ ม​็ ี ​​คอื เ​ขา​ใจไ​ปว​า ​ต​ น​เองไ​ม​แกแ​ ละไ​ม​ตาย​
ตวั อยางท​ ี่พ​ อจ​ ะเลา ใ​ห​ฟง​ก็​คอื พ​ กา​พรหม ​ ​ตาม​ท่ี​ปรากฏใ​นบ​ ท​
ถวาย​พร​พระ​ ท่​พี ระสงฆ​ทานใ​ชส​ วด ​ใน​เวลาท​ ี​่เรา​ทำบุญ​ใน​โอกาส​
ตางๆ​ข​ อ ความ​ใน​บทถ​ วายพ​ ร​พระ ม​ ี ด​ งั น้ี

​ ​
​ทคุ คาหะหฏิ ฐ​ภิ ชุ ะเ​คน​ ะ ​​สุทัฏฐะหัต​ถงั
พ​ รหั มัง ​ว​ ส​ิ ทุ ธชิ​ ตุ มิ​ ิท​ ธพิ ะกาภธิ าน​ ัง
ญาณาคะ​เท​นะ ​​วิธน​ิ า ​ช​ ติ ะวา ​ม​ นุ นิ โท
ตนั เต​ชะสา ​​ภะ​วะตุ ​​เต ​ช​ ะ​ยะมังคะล​ านฯิ

องค​สมเด็จพระส​ มั มาสัมพ​ ทุ ธเจา ​ ไ​ดท​ รงช​ นะ​พรหม​
ชอ่ื พ​กะ ​ผ​ ส​ู ำคัญต​ น​วา​มี​ความบ​ รสิ ทุ ธ์ิ ​​ม​ ีร​ศั มี ​​เรอื งอำนาจ​
และ​มี​ฤทธ์ิ ​ ​ ​ ไ​มม ี​ใครย​ ิง่ กวา ​ ​ ​ ​จงึ เ​กดิ ​ความเห็นผ​ ดิ ไ​ป​วา ​
ชวี ติ ​ของพ​ รหม​เปน ช​ ีวติ ​ท​่เี ปน อ​ มตะ ​ ​ ​ ​ ​จงึ ​โตแ​ ยง ค​ ำส​ อน​
ของ​พระพุทธองค ​ ​เปรยี บ​เหมือนค​ นถ​ ูก​งก​ู ดั ​ท​ี่มือ ​​​พ​ ระ​
จอม​มนุ ี ​ ท​ รงใ​ชว​ ิธแ​ี สดงพ​ ระญ​ าณค​ รอบ​ญาณ ​ ​ ใ​หก​ วาง​
กวา ​ ทำ​ให​พ รหม​หมด​ความเห็นผ​ ิดจ​ งึ ไ​ดร ับช​ ัยชนะ ​ดวย​
เดชานุภาพ ​ ​ แ​ หง​องค​สมเดจ็ พระ​สัมมาสัมพ​ ทุ ธเจา​ ผ​ู
เปน ​จอมม​ ุนี ​ ​ ​ ​ท่ไี​ดท​ รง​ชนะ​พรหมช​ อื่ พ​กะ​น้นั ​ ​ ข​ อช​ ยั ​มงคล​
ทงั้ หลายจ​ งม​ แี​ กท​ าน ​​

หลักการทำบญุ และปฏบิ ัติธรรมในชวี ิตประจำวนั ๑๗๙

​พกา​มหาพรหม ​ ​บังเกดิ ​ในพ​ รหม​โลกช​ ัน้ ​มหาพ​ รม ​ ​มี​
อายยุ นื นาน​จน​เกดิ ค​ วาม​คดิ วา ​ตนไ​ม​แกแ​ ละไ​มต​ าย ​ ​ยินด​กี บั ​คำ​
ยกยอท​ มี่​ นุษยส รรเสริญ​วา ​มหาพรหมเ​ปนผ​ ปู​ ระเสริฐ​ยงิ่ นัก ​​เปน ​
ผม​ู ศี​ ักดานุ​ภาพ​ยงิ่ ​ใหญนัก ​เ​ปนผ​ สู ราง​โลก​สรา งส​ ัตว​นอย​ใหญ​และ​
สรรพสง่ิ ​ให​เกดิ ข้ึน​ในโ​ลก ​ ​เปน​ผู​มีต​ บะ​ยง่ิ นกั ​ ม​ อี​ ำนาจเ​หนอื ​ส่ิง​
ทัง้ ปวง ​​พกาพ​ รหม​เกดิ ​ทฐิ วิ​บิ ตั ​ไิ ป​วา ​​นิพพาน​ท​ี่พระพุทธเจาพ​ ดู ​ถงึ ​
กนั ​น้ัน​ เปนส​ ิ่งไ​รสาระ

องคส​ มเด็จพระส​ มั มาสมั พ​ ุทธเจา ​ ท​ รง​ทราบว​าระ​จิต​ของ​
พกามหาพรหม ​ ​จึง​ไดเ​ สด็จไ​ปยังพ​ รหมโ​ลก ​ ท​ า ว​พกาพ​ รหม​เห็น​
เขา ​จงึ เ​กดิ ​ความ​ยนิ ด​ี ท่จี​ ะ​ไดห​ กั ลาง​คำ​สอนข​ อง​พระพุทธเจา ​​ทาว​
พกาพ​ รหมก​ ลาววา ​ สิง่ ท​ ้ังหลายท​ ัง้ ปวง​ลวนเ​ปน ของเท​ ยี่ ง ​ต​ งั้ มัน่ ​
ยงั่ ยืนไ​มเ​ปลย่ี น​แปลง ​ค​ งทนถาวร​ไมมีท​ ​ส่ี น้ิ สุด ​ไ​มรจู กั แ​ ก ​ ไมร ูจ ัก​
ตาย ​ ​ไมม คี​ วามท​ กุ ข​เกิดแ​ กผ ู​ใด ​ ม​ แี​ ต​ความส​ ขุ เ​บิกบาน ​ ​ทกุ ข​
เพราะ​การ​เกดิ ​​ทกุ ขเ​ พราะค​ วาม​เจ็บ ​​ทกุ ขเ​ พราะ​ความแ​ ก ​แ​ ละ​
ทกุ ขเ​ พราะ​ความ​ตายไ​มมี

​พระพุทธองคต​ รสั เ​ตอื น​วา ​ แ​ ม​ทา น​จะม​ ีเ​ดชานภุ าพม​ าก​
มี​รศั มีสองสวางไ​ป​เปน ห​ มืน่ ​โลก ​ แ​ ต​หากไ​ฟกเิ ลส​ยงั ​เผาผลาญ​
จิต​ใจอ​ ยเ​ู ชน นี​ ้ จะช่ือวา ​ อยู​สุขสำราญไ​ดอ​ ยางไร ​ ​แมท​ านจ​ ะ​
ชอ่ื วา​ เปน​ผูม​ ​ีศักดานุภ​ าพ​มาก ​ ​แต​กไ​็ ม​อาจล​ ว งร​ไู ปถ​ งึ ​ท​ีอ่ ยข​ู อง​
พรหมช​ ้นั ​สงู ขึ้นไ​ป​ ท้งั ​วธิ ีการท​ ่​จี ะ​ไปเ​กิดในพ​ รหม​ชนั้ สูงๆ​ ​นั้น
​กไ​็ มรู

๑๘๐ พระวิจิตรธรรมาภรณ์

ท​ า วพ​ กาพ​ รหม​กลา ว​ตอบพ​ ระพุทธเจาว​า ​ พ​ ระพุทธองค​
กลาวเ​ชน น ้ี​ เหมือน​โออวด​วา ​ ​ม​ศี กั ดานภุ​ าพม​ ากส​ ามารถ​ลว งร​ู
พรหมโ​ลกเบอ้ื งสงู ​แต​ผ ูเดยี ว ​ ​แมต​ วั เองม​ ​ีศักดานุภ​ าพย​ ง่ิ ห​ า​ใคร​
เสมอม​ ิได​ ก​ย็ ังไ​มโ ออ วดไ​ป​วาร​ู

พ​ ระพุทธเจา ​ตรสั ​วา ​ พ​ กา​พรหมก​ ลาวเ​หมอื นต​ นเ​องม​ ี​
ฤทธ​ิ์มาก ​ ถ​ า ​เชน​นน้ั ท​ า นจ​ ง​แสดงฤ​ ทธ​หิ์ ายตัว​ไป​ อยา ใ​ห​เ รา​
เหน็ ​ไดเ​ด่ยี วน​ ้ี ​ ​ทาวพ​ กา​พรหม​คิดวา ​ ตนเ​อง​มศี​ ักดานภุ​ าพห​ า​
ใครเ​สมอ​มไิ ด ​ จ​ งึ ​รับคำท​ า ​แลว ​หายตัวไ​ป​ แต​จะ​หายตวั ไ​ป​
ซอ นเรน​ทีไ่ หน​ พระพทุ ธเจา​กแ็​ สดง​ฤทธ์ิ ส​ ามารถ​มองเหน็ ​ได​
จนท​ า วมหาพรหมจ​ นปญ ญา ​ เจา จกุ อ​ ยู ณ​ ว​มิ านข​ อง​ตน ​ แ​ ละ​
พระพทุ ธองคก​ ​ท็ รงแ​ สดง​ฤทธ​ิด์ วยก​ ารห​ ายตัว​ไป ​ ย​ ังป​ รากฏ​
อยก​ู ​็แตเ​ สยี ง​เทศนาข​ องพ​ ระพุทธเจา ​ ท​่ดี ังกองไ​ป​ทวั่ ​พรหม​โลก
สว นตัว​นนั้ ห​ าป​ รากฏไ​ม

เมื่อ​คร้ังม​ ชี​ าตเ​ิ ปน​มนุษย ​ ​พกา​พรหม​นัน้ ม​ าพ​ จิ ารณา​
เหน็ วา ​ ก​ ารครองเ​รือนม​ ี​แต​ความท​ กุ ข ​ จ​ ึง​สละ​ทรัพยส​ มบตั ิ​
ออกบวช​เปน ​ฤๅษี ​ บ​ ำเพ็ญพรตจ​ นไดฌ​ าน​ขั้น​ท่ี ๔​ ​(​จตุตถ​ฌาน)
ตาย​ไปเ​กิดใ​นพ​ รหมโ​ลก​ชั้นเ​วหัปผล​ า ​ เ​สอ่ื มจ​ ากฌ​ าน​ข้ันท​ ่ี ๔​
ตายไ​ปแ​ ลว ​ลดล​ งมา​เกิดใ​น​พรหมโ​ลก ​ชนั้ ​สุภกิณ​ ​หา ​​เม่ือฌ​ านข​ น้ั ​ท​ี่
๓ เ​สื่อม ​ต​ าย​ไปแ​ ลว​ลดล​ งมา​เกิดใ​นพรหม​โลก​ชั้น ​อาภ​ ัสสร​
พรหม ​ ค​ ร้ัน​ฌานข​ ัน้ ​ท ่ี ​๒ ​ เส่ือม​จึงล​ ดช​ น้ั ล​ งมา ​เกิดใ​นพ​ รหม​
โลก​ชั้น ม​ หาพรหม ​​

หลกั การทำบญุ และปฏิบตั ิธรรมในชวี ติ ประจำวัน๑๘๑

พ​ รหม​โลกแ​ ตล ะช​ นั้ ก​ ม็​ ​อี ายยุ นื ​นานมาก ​ ​ เพราะ​ความ​
​ท​พี่ กา​พรหมเ​กิด​วนเวยี นอ​ ยแ​ู ต​ใน​พรหม​โลก ​ พ​ กา​พรหม ​จงึ ​
เขา​ใจ​ไปว​ า ​ ต​ น​และส​ รรพสงิ่ เท​ ย่ี ง​แท​ไม​แปรเปลยี่ น ​ ไ​มแ​ ก​
และไ​ม​ตาย

​๔.​​ปริต​ตาภา​ภูม ิ ​ พรหมโ​ลกช​ ้ัน​ท่ี ๔​
๕.​​อปั ปม​ าณ​ าภา​ภูม ิ พ​ รหม​โลก​ช้ัน​ที่ ๕​
๖.​​อา​ภัสสราภ​ มู ิ ​ ​พรหม​โลกช​ ัน้ ท​ ี่ ๖​
๗.​​ปรติ ต​สุภาภ​ ูมิ ​พรหมโ​ลก​ชนั้ ท​ ี่ ​๗
๘.​อ​ ปั ป​มาณ​ าส​ ภุ า​ภูม ิ ​พรหมโ​ลกช​ ั้น​ที่ ​๘
๙.​ส​ ุภกณ​ิ ห​ า​ภมู ิ ​ ​พรหมโ​ลก​ชน้ั ท​ ่ี ๙​
๑๐.​​เวหัปผล​ า​ภมู ิ ​พรหมโ​ลก​ช้นั ​ท่ี ๑​ ๐
๑๑.​​อสัญญสัต​ตาภ​ ูม ิ ​พรหม​โลกช​ ั้น​ท่ี ๑​ ๑
๑๒.​​อวิห​ า​ภมู ิ ​ พ​ รหมโ​ลกช​ ้นั ท​ ี่ ๑​ ๒
๑๓.​อ​ ตัป​ปาภ​ มู ิ ​ พ​ รหมโ​ลกช​ ั้น​ท่ี ๑​ ๓
๑๔.​​สุทัสสาภ​ ูม ิ ​ ​พรหม​โลกช​ น้ั ท​ ี่ ​๑๔
๑๕.​​สุทสั ส​ ีภ​ มู ิ ​ พ​ รหมโ​ลก​ช้ัน​ท่ี ๑​ ๕
๑๖.​​อกนิฏฐภ​ มู ิ ​ พ​ รหมโ​ลก​ชั้นท​ ่ี ๑​ ๖


๑๘๒ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์

พ​ รหม​โลกช้ั​นอก​นิฏฐภ​ ูมิน​ ้ี เ​ปน ​ที่อ​ ยข​ู องพ​ รหมผ​ ู​มศ​ี ีล ​​สมาธ​ิ
และ​ปญญา อ​ นั ​ย่งิ กวาล​ ำ้ เลศิ ​สงู กวาพ​ รหมท​ ุก​ชั้นข​ างตน ​แ​ ละเ​ปน ​
พรหม​ช้นั ​สุดทาย​ท่มี ี​รปู รางล​ ะเอียด​ประณตี ​ย่ิง ส​ ูงขึ้นไ​ปจ​ ากอกณิฐ​
พรหม​น​ี้ เปน​พรหม​ท่ไ​ี มม​รี ปู ราง ​แ​ ตอ​ ยด​ู วยจ​ ติ แ​ ละเ​จตสกิ ​แ​ ละ​
เจตสกิ น​ ้ี ​​หมายถ​ ึง ​​ภาวะ​ทจี​่ ิตรบั ร​ไู ด

พ​ รหมโ​ลกชน​้ั อกณ​ ฏิ ฐะ​นี้ ​ป​ รากฏว​า ​เจดยี ​ท่ส​ี ำคัญอ​ งคห​ น่งึ ​
ช่ือ “​​ทุสเ​จดยี ” ​ เ​ม่ือค​ รั้ง​องคส​ มเดจ็ พระ​สัมมาสัมพ​ ทุ ธ​เจา ของเ​รา​
จะ​ออกบวชนนั้ ​ พรหม​ทั้งหลายท​ ่ีอ​ ยใู​นชนั​้ อก​นิฏฐะ​น ้​ี ได​พา​กนั ​
ถือเอา​บริขาร​และผ​ า​ไตรจีวร ​เ​ครื่องใ​ช​สำหรบั ​ผบ​ู วชม​ าจาก​พรหม​
โลก เ​พื่อ​ใหพ​ ระโพธิสัตว​ผ​ูจะ​ตรัสรเ​ู ปน ​พระพทุ ธเจา ​เปล่ยี นเ​คร่อื ง​
แตง ตวั ​เมือ่ ​พระโพธสิ ัตว​ร บั เ​อาผ​ า ไ​ตร​มาค​ รอง​แลว ไ​ด​ย ืน่ ​ผาข​ าว​
ทพี​่ ระองค​ทรง​กอ น​บวชใ​ห​แก​พรหม ​ ท​ าวมหาพรหม​รับผ​ า​ขาวน​ นั้ ​
มา​แลว ​ นำไปยง​ั อก​นฏิ ฐพ​ รหม​โลก ​​เนรมติ ​เจดีย​แกว​ชือ่ วา “​ท​ ุส​
เจดีย” ​​​บรรจุผ​ า ​ขาว​น้ันไ​ว​สกั ก​ ารบ​ ชู า ​

ว​า ก​ ันว​า ​แมใ​น​ปจ จุบัน ย​ ัง​ปรากฏม​ พ​ี รหมเ​ปน ​จำนวน​
มาก ​ พ​ าก​ ันม​ าส​ ักการะทุสเ​จดยี  ท​ ​บ่ี รรจผ​ุ า​ขาวว​นั อ​ อกบวช​ของ​
พระพุทธเจา ​มไิ ด​ขาด

หลกั การทำบญุ และปฏบิ ัติธรรมในชีวติ ประจำวนั ๑๘๓

อ​ รปู พ​ รหม ๔​ ​ช้นั ​ม​ีดงั นี้

๑​ ๗.​​อาก​ าสาณ​ ญั จาย​ตน​ภูมิ ​ พรหมโ​ลกช​ ั้น​ท่ี ​๑๗
๑๘.​​วิญญาณัญจายต​ นภ​ มู ิ ​ พรหมโ​ลก​ชั้น​ท่ี ​๑๘
๑๙.​​อา​กิญจญั ญายต​ น​ภมู ิ พรหมโ​ลก​ช้นั ​ที่ ๑​ ๙
๒๐.​เ​นวส​ ญั ญาน​ าส​ ัญญาย​ตนภ​ ูม ิ พรหม​โลกช​ ัน้ ท​ ี่ ๒​ ๐
​ ​
ความ​ละเอยี ดป​ ระณตี ​และอ​ ายุข​ องเ​ทวดา​ในแ​ ตละ​ช้นั ​ดจู​ ะเ​ปน ​
เรือ่ งท​ ​่ีเขาใ​จไ​ดย​ าก ​ เ​พราะอ​ ย​ูนอกเหนอื ​จาก​ส่งิ ​ท่​เี ราส​ ามารถ​รบั รไู​ ด​
เกินกำลงั ส​ ติปญ ญาข​ อง​มนุษย ​ จะ​ทำความ​เขา ​ใจ​ได


​การน​ บั อ​ ายุข​ อง​สวรรคแ​ละ​พรหมโ​ลก



​การ​กำหนด​นับ​อายุ​ของ​ผู​ท่ี​ไป​เกิด​ใน​สวรรค​และ​พรหม​โลกนั้น
เปน ​ส่งิ ​ท่​ที ำไดย​ ากย​ ง่ิ ​ เ​พราะม​ ีอาย​ุยนื ยาวจ​ น​ไมส​ ามารถค​ ำนวณ​
ดว ยภาษา​มนุษย แตท​ าน​ไดแ​ สดง​ไวพ​ อ​ใหเ​ ห็น​เปน ต​ ัวอยาง ​ ​คร้ันจ​ ะ​
ขามไ​ป​ ไม​ก ลาว​ถึงอ​ ายุ​เทวดา​และ​อายพุ​ รหม ​ ก​ ารเ​ลา ​เรอื่ งภ​ พภ​ มู ​ิ
ใน​พระพทุ ธศาสนา ก​ ​จ็ ะ​ไมส​ มบูรณ ต​ อไปน้ี​ จะ​เปรียบเทยี บ​ความ​
แตกตาง ​ระหวางอ​ ายข​ุ อง​ผท​ู ี่เกดิ ใ​น​สวรรคก​ บั อ​ ายุ​ของ​มนษุ ย

๑๘๔ พระวิจติ รธรรมาภรณ์

(๑​ )​​จ​ าตุมหาราชิกาภ​ ูมิ ​​ม​ ีอายุ ๕​ ๐๐ ​ป​ท ิพย ​ทาน​เปรียบเทยี บ​
เทา กบั ​๙ ล​ า นป​  ​ในเ​มอื งม​ นุษย

(๒​ )​​​ตาว​ติงสาภ​ ูมิ ​ม​ ีอายุ ๑​ ,๐​ ๐๐ ป​ ​ท พิ ย ​ท​ า นเ​ปรยี บเทียบเทากับ​
๓๖ ​ลา นป​ ​ในเ​มอื งม​ นษุ ย

(​​๓)​​ยา​มา​ภมู ิ ​ม​ ีอายุ ๒​ ,​๐๐๐ ป​ ​ทพิ ย ​ท​ านเ​ปรียบเทยี บเ​ทากับ​
๑๔๔ ​ลาน​ป ใ​น​เมือง​มนษุ ย

(​๔)​ด​ ุ​ส​ติ าภ​ ูมิ ​​มีอายุ ​๔,๐​ ๐๐ ป​ ​ทิพย ​​ทาน​เปรียบเทยี บ​เทากับ​
๕๗๘ ล​ า นป​ ​ในเ​มอื งม​ นุษย

(๕​ )​น​ ิมมานรด​ีภูมิ ​​มีอายุ ​๘,๐​ ๐๐ ​ป​ทพิ ย ​ท​ านเ​ปรียบเทยี บเทา กบั ​
๒,๓​ ๐๔ ล​ า นป​ ​ใน​เมอื งม​ นษุ ย

(๖​ )​​ป​ รนมิ มิตวสวัตด​ภี มู ิ ​ม​ อี ายุ ​๑๖,​๐๐๐ ​ป​ท พิ ย ​ท​ า นเ​ปรยี บ​
เทยี บ​เทา กบั ​๙,๒​ ๑๘ ​ลา น​ป​ ใน​เมืองม​ นุษย ​​

ทง้ั หมดต​ าม​ท่ี ก​ ลา วน​ ้เี ปน​อาย​ขุ อง​สวรรคท​ ้งั ๖​ ​ช้ัน
​ ​
สวน​อายขุ​ อง​ผ​ูท ่ีเกิดใ​น​พรหมโ​ลกน​ ั้น​ไมส​ ามารถ​เทยี บไ​ด​กับอ​ าย​ุ
ของโ​ลกมนุษย ​เพราะ​พรหม​น้นั ​มอี าย​ยุ นื ยาวม​ าก ​เ​กิน​จำนวนนับด​ วย​
ภาษา​มนุษย ​ ใ​นค​ ัมภรี ท​ าง​พระพทุ ธศาสนา ไ​ด​แ สดง​อาย​ขุ อง​พรหม​
แตละ​ชน้ั ไ​ว ​​​ดังน้ี
(​​๑)​​พรหม​ปาร​สิ ัชช​ าภ​ มู ​ิ มีอาย​ุ ๑/​๓ วิวฏั ฏฐ​ายีอ​ สงไขยกปั ​
(​๒)​พรหมปุโรหิตา​ภูมิ ​มอี ายุ ​๑/๒​ ​ววิ ัฏฏ​ฐาย​ีอสงไขยกปั
(​๓​ )​​มหาพ​ รหมาภ​ ูม ิ​ มอี ายุ ​๑ ​ วิวฏั ฏฐ​ายอี​ สงไขยกัป

หลักการทำบุญ และปฏบิ ตั ธิ รรมในชวี ิตประจำวัน๑๘๕

(​๔)​ปรติ ต​ าภา​ภมู ิ มีอายุ ​ ๒ ​ มห​ ากัป
(​​๕)​​อปั ปม​ า​ณาภาภ​ มู ิ มอี ายุ ​ ๔ ​ ม​หากปั
(​๖)​อา​ภสั สราภ​ ูม ิ มอี ายุ ​ ๘ ​มห​ ากัป
​(๗​ )​ป​ รติ ต​สุภาภ​ มู ิ มอี ายุ ​ ๑๖ ม​ ห​ ากัป
(​๘)​อ​ ปั ป​มา​สภุ า​ภูม ิ มีอายุ ​ ๓๒ ม​ ห​ ากปั
(​๙)​ส​ ภุ กณิ​ ​หาภ​ มู ิ มีอายุ ​ ๖๔ ม​ ​หากปั
(​๑​ ๐)​​เวหัปผล​ า​ภูม ิ มอี ายุ ​ ๕๐๐ ​ ม​หากปั
​(๑​ ๑)​อ​ สัญญสัตตภ​ ูม ิ มีอายุ ​ ๕๐๐ ​ ม​หากัป
​(๑​ ๒)​​อวหิ​ าภ​ ูมิ ​ มีอายุ ๑,​๐๐๐ ม​หากปั

พรหม​ชน้ั น้บี ำเพ็ญส​ ัทธนิ ทรยี  คอื บำเพญ็ บ​ ารม​ีดา นศ​ รทั ธา

(๑​ ๓)​อ​ ตปั ป​ า​ภมู ิ มีอายุ ๒,​๐๐๐ ​ มห​ ากปั ​

พรหมช​ นั้ ​นบ้ี ำเพญ็ ​วริ ิยินทร​ยี  ​ค​ อื ​​บำเพ็ญ​บารม​ีดา น​ความเ​พยี รพ​ ยายาม

(๑​ ๔)​​สุทัสสา​ภูมิ ​ มีอาย ุ ๔,๐​ ๐๐ ​ ม​หากปั ​​

พรหม​ชน้ั ​นีบ้ ำเพญ็ ​สตินท​รยี  ​ค​ อื ​บ​ ำเพญ็ ​บารม​ีดา น​สติ

(๑​ ๕)​​สุทสั ส​ ​ภี มู ิ ​ มอี ายุ ​ ๘,​๐๐๐ ​ม​หากัป ​​

พรหมช​ ั้น​น้บี ำเพ็ญ​สมาธนิ ทร​ยี  ​​คอื ​บ​ ำเพญ็ บ​ ารมีด​ า น​สมาธิ

(​๑๖)​อ​ กนิฏฐา​ภูม ิ มีอายุ ๑​ ๖,​๐๐๐ ​ม​หากัป ​

พ​ รหมช​ ้นั น​ ี้บำเพญ็ ​ปญ ญนิ ท​รยี  ​ค​ อื ​​บำเพญ็ ​บารมดี​ า นป​ ญ ญา

​(๑​ ๗)​​อาก​ าสา​นัญจายต​ นภ​ ูมิ มอี ายุ ​๒๐,๐​ ๐๐​ ม​หากัป
​(​๑๘)​ว​ ิญญาณัญจาย​ตน​ภูม ิ มีอายุ ​ ๔๐,๐​ ๐๐ ​มห​ ากัป
(​๑๙)​​อาก​ ญิ จัญญาย​ตน​ภมู ิ มอี ายุ ​๖๐,​๐๐๐ ​มห​ ากปั
(​๒๐)เ​นวส​ ัญญา​นาส​ ญั ญาย​ตน​ภูมิ ม​ ีอายุ ​ ๘๔,๐​ ๐๐ ม​หากัป

๑๘๖ พระวิจติ รธรรมาภรณ์

ตามค​ ำ​สอนข​ อง​พระพทุ ธเจา ​ ม​ นุษยเรา​เวียนว​าย​ ตาย​
เกดิ ​อยใู​นภพภ​ ูมิท​ ั้ง ๓​ ​น้ี ​ต​ าม​แต​บุญกรรมท​ ี่​ไดก​ ระทำไ​ว​แตกตา ง​
กัน ​ บ​ างคร้งั ​ต่ำลง บ​ างครั้ง​สงู ข้ึน ​ หมุนเวียนเ​ปล่ียนไป​ไมร จู ัก​
จบสน้ิ ​​จึงเ​รยี กวา “​ส​ ังสารวฏั ”​​​พระพทุ ธองค​เหน็ ภ​ พ​ภมู ​ิเหลานี​้
ตาม​ความ​เปน จริง ​ ​ดวย​ญาณทเี่ กิดจ​ าก​การ​บำเพญ็ ​ทาง​ดาน​จิต​
จน​บรรลสุ​ ัมมา​สมั โพธญ​ิ าณ ​ เ​หนอื ​การร​บั รด​ู วยต​ าข​ อง​มนุษยเรา​
ท้งั หลาย ​จึง​ไดแ​ จกแ​ จง​สง่ั สอนไ​ว ​ ส​ ิ่ง​เหลานค้​ี นส​ วนมากไ​ม​เชอ่ื ​
พรอม​ทัง้ ป​ ฏเิ สธ ​

โ​ดย​ใหเ หตุผล​วา เ​ปน ​ส่งิ ท​ พ่​ี สิ ูจนไ​ มได ​ ​ไม​สามารถ​
มองเห็นไ​ด และเป็นเร่อื งงมงาย

​ ​แทจ รงิ ​พ​ ระพุทธองค​ไมได​สอน​ให​ค นเ​ชอื่ ​แ​ ต​ส อน​ความ​
จรงิ ​ใ​ครจ​ ะ​เช่ือความจ​ รงิ ​หรอื ไ​ม​ก ต็ าม ​​ความจ​ ริง​ก็เ​ปนความจ​ รงิ ​
เพราะค​ วามจ​ รงิ ไ​มไ ดข ึน้ อ​ ยู​กับ​ความ​เชอื่ ​ ​หากใ​คร​เหน็ ตามน​ ้นั ​ก​็
สามารถ​นำ​ความจ​ ริง ​(ธ​ รรมะ)​​ไปใ​ชใ​ หเ​กดิ ​ประโยชน​ตอ ช​ วี ติ ​ได ​​

เ​หมอื น​ความ​รอน​ของ​ไฟ ​ ​ถา ​มค​ี นบอกวา​ ไฟร​ อ น​
​เราจ​ ะ​เชือ่ ​หรือ​ไม​ก ต็ าม​ กไ​็ มม ผี ลอ​ ะไร​ตอค​ วาม​รอ น​ของ​ไฟ​
เพราะไ​ฟ​ยังคงร​อน แ​ ละท​ ำ​หนาท​ ี่​ของ​ไฟอ​ ยตู​ าม​ธรรมชาต​ิ
หากใ​คร​เหน็ ตามน​ ั้น​ ก​็สามารถน​ ำ​ไฟไ​ปใ​ชใ​ห​เกดิ ป​ ระโยชน​ต อ ​
ชวี ิต​ได​เชน ​กนั

นรกสวรรค์ บญุ กรรม การเวียนว่ายตายเกิดก็เชน่ เดยี ว
กัน ไมไ่ ด้ข้ึนอยูก่ บั ความเช่อื หรือไม่เช่อื ของใคร แต่นรก
สวรรคก์ ย็ งั คงดำเนินไป ตามธรรมชาติ



หลักการทำบุญ และปฏิบตั ิธรรมในชีวติ ประจำวนั ๑๘๗

​อาศัย​พระม​หาก​ รณุ าธิคุณ​ ที่​พระองค​มต​ี อ​สรรพสตั ว ​ จ​ งึ ​
ได​ออกเ​ทยี่ วส​ ่งั สอนผ​ ูคน​ให​ร ​ูถกู ​รผู ิด ​ ​ใหเ​หน็ ​ความเ​ปน จริง​ของ​
สรรพส่งิ ​​ตลอดจน​ความ​เปนไป​ของส​ รรพสตั ว ​ท่เี​วยี นว​า ยต​ ายเ​กดิ ​
ในภ​ พภ​ มู ิ​ตางๆ​เ​พอื่ จ​ ะไดต​ งั้ ​ใจ​ทำความด​ี และ​เพยี รพ​ ยายาม​งดเวน ​
จากค​ วาม​ช่วั ​ ​ในขณะ​ท​ี่ยงั ต​ อ งเ​วยี นว​าย​ตาย​เกิด จ​ ะไ​ดห​ ลีกเลยี่ ง​
ความท​ ุกข​ ความเ​ดือดรอน​ ท่จี​ ะเ​กดิ ใ​น​กาลเ​บอื้ งหนา ​ ​และเ​พียร​
พยายาม​เพ่ือ​กาว​ขา ม​ภพ​ชาติต​ อไป

​ ล​ กู หลานต​ างก​ ็ไ​มม ​ีใคร​รไ​ู ด​ว า ​ ส​ ังขารร​า งกายโ​ยม​แมใ​หญ​
จะ​เปนไปไดอ​ กี นานแ​ คไ หน ​

​นับวนั ก​ ำลังก​ ็ย​ ิง่ โ​รย​แรงล​ ง​ไป ​​คนว​ยั ​๘๓ ​ป ​อาย​มุ ​ใิ ชน​ อย
โยมพ​ อ ใ​หญก​ ​็จากไป​แลวดวยว​ยั ๘​ ๐ ​ป ​ ​เปน ส​ ง่ิ ​ยนื ยนั ​ถึงค​ วาม​
เปนจริง​ ทที่​ กุ คนต​ อ ง​เผชิญ​อยา ง​หลกี เลย่ี งไ​มไ ด ​ แ​ ต​ถ ึงแ​ ม​
จะ​รูเ​ชนนี้ ​อ​ าตมา​ก​ย็ งั ร​ูสึก​หดห​ใู จ ​​ยิง่ ​เห็น​ทองทุง​ก็​ยงิ่ อ​ ดค​ ิด​ถึง​
โยมพ​ อ ใ​หญ​ไมได

​โยม​พอใ​หญ​ มี​ชวี ติ อ​ ย​อู ยาง​สงบเสง่ยี ม​เรียบงาย ​ไม​
ทำตนเ​อง​ใหล​ ำบาก เดอื ดรอ น ​และ​ไมท​ ำผ​ อู ืน่ ​ใหล​ ำบาก​
เ​ดือดรอน ​

ใ​ครจ​ ะด​ ​ใี คร​จะ​ชัว่ ก​ ​็ไมไดเ ดือดเ​น้ือร​อ นใ​จ ยงั คงทำงาน
​ตามห​ นา ท​ ​ีข่ อง​ตน​ อยาง​เงยี บๆ​ จ​ ากว​ ัยหนมุ ตราบจนชรา​
แ​ ลวก็​จาก ไปอ​ ยาง​เงยี บๆ ​

๑๘๘ พระวิจติ รธรรมาภรณ์

​เมอ่ื ต​ น ​ปท​ ่ีผานมา ​อาตมาม​ ีโ​อกาส​กลบั บ​ า น​ เหน็ ​ทอ งนา​
หมไู ม ​ ​ด​ูมัน​เงยี บเหงา​ยังไงบ​ อก​ไม​ถกู ​เหมอื น​มอ​ี ะไรส​ กั อ​ ยา ง​ขาด​
หายไป ​​แนน อน ส​ งิ่ ท​ ่ขี​ าดห​ ายไปค​ งห​ น​ไี ม​พ นช​ าย​ชรา​วยั ​๘๐ ​ป ​ผ​ ู​
เปนเ​จาของทอ งนา​แหง น้ี ​ชายช​ ราท​ เ​่ี คย​สอนใ​หอ​ าตมาร​จู ักท​ องนา​
และส​ ายนำ้ ​ ส​ อนใหร​คู ุณคา​ของก​ าร​ดำรงชวี ิตอ​ ยา ง​สงบเสงยี่ ม​
เรียบงาย ​ตามกำลัง​ความสามารถแ​ ละค​ วาม​เพียร​พยายามข​ องต​ น​
ไมค​ ดโกง ​​ไม​เบียดเบียน ​ไ​มก​ ลาวร​าย ​ไ​ม​ทำรา ยใ​ครๆ​ม​ ีศ​ รัทธา​
ตงั้ มนั่ ต​ อ​พระพทุ ธศาสนา ​ไมค​ ลอน​แคลน ​​

​ชายช​ ราค​ นน​ ี ้ ไ​ดจ​ าก​พวกเรา​ไป​แลว เ​หมอื น​จะ​
​ยนื ยนั ค​ ำ​สอนข​ อง​พระพทุ ธองคว​ า ความต​ าย​เปน ส​ ัจธรรม​
ท​ ไี่​มม​ใี คร​สามารถ​หลกี เลยี่ งไ​ด

​ ​
จำได​วา เ​ม่ือ​ยงั เปนเ​ด็ก ​ พ​ อถ​ งึ ฤ​ ด​นู ำ้ หลาก ​ ​อาตมา​ชอบ​
นง่ั ​เรอื ด​ ูกอ​บัวย​ ดื ​กานห​ นน​ี ้ำ ​จ​ อกแ​ หนไ​หลต​ ามก​ ระ​แสน​ ้ำ ​เ​หมอื น​
ผคู น​ไหลต​ ามกระ​แส​ของ​อำนาจ​กเิ ลส ​ ​ตาง​แกง ​แยง​ชงิ ด​ชี ิงเ​ดน​
เขนฆาท​ ำลายลาง​ซง่ึ ​กนั ​และ​กนั เพ่ือใ​ห​บรรลุ​ตาม​เปา หมายก​ ิเลส​
ทต่​ี นเ​อง​ตอ งการ
บางคนกก็ ล่าวรา้ ย บางคนกใ็ สร่ ้าย บางคนกท็ ำร้ายผูอ้ ่ืน
เหมอื นไม่รู้วา่ ชวี ติ นี้สัน้ นัก เพราะอำนาจ วาสนา ฐานันดรศกั ดิ์
และคำยกยอปอปน้ั ทโี่ ลกมนษุ ยส์ มมติให้

หลกั การทำบญุ และปฏิบตั ิธรรมในชีวติ ประจำวัน๑๘๙

ด​ อกบัว​บาน​สระพรัง่ ​แทงย​ อด​หนี​นำ้ หลาก​ รบั แ​ สงอ​ าทติ ย​
ด​ูงดงาม ​บ​ นส​ ายนำ้ แ​ หงน​้ีเอง​ทโ​่ี ยมพ​ อ ​ใหญ ​เ​กิด ​​เตบิ โต ​ท​ ำ​มา​
เลย้ี งชพี ​ตราบจน​ชรา แ​ ลว​จากไปอ​ ยา ง​เงียบๆ​​บน​ทองทุง แ​ หงน​ค้ี ง​
ม​ีผคู น​เกิด ​เ​ตบิ โต​และ​จากไป​รนุ ​แลวร​นุ ​เลา ​ห​ มนุ เวียน​เปล่ยี นไป​
ไมร ูจักจ​ บสิ้น แ​ นน อน ​ ​โยมพ​ อ ​ใหญม​ ​ิใช​คน​สดุ ทา ยข​ องท​ ุง ​แหง น​ี้
อยา ง​นอ ย​กล็​ กู หลาน ท​ ่เี กดิ ​ตาม​โยม​พอใ​หญ​มา​ ท​เ่ี รา​เหน็ ​กันอ​ ย​ู
ซง่ึ ก​ ​ร็ วมท​ ั้ง​อาตมาด​ ว ย ​​

​นกึ แ​ ลว เ​หมือนต​ วั เองก​ ำลงั ​แสวงหา​อะไร​สกั อ​ ยาง ​ที​่
ตวั เอง​ไม​สามารถ​รไ​ู ด ​ ​ แ​ ม​จ ะแ​ สวงหา​จนแ​ ลวจ​ นเ​ลา​ กย็​ งั ไม​
อาจค​ นพบ


​บางครง้ั ​อาตมาก​ ็เ​กดิ ค​ วาม​คดิ วา ​ ต​ วั เองไ​มร​ูเปน ล​ กู ​เปน​
หลานประสา​อะไร ​ ไ​มส​ ามารถอ​ ยด​ู ูแ​ ลพ​ อ​แมป​ ูยา ต​ าย​ ายไ​ด​
เหมอื นล​ กู หลานใครอ​ ื่น​เขา ​ ​อยากอ​ ยู​ใกล​พอ ​แม​ป ูยา ต​ าย​ าย​
อยากป​ รนนบิ ตั ิ ​ อ​ ยากท​ ำเหมอื น​อยา งท​ ่​ีลูกหลาน​ใครอ​ ่ืนเ​ขา​ทำ
แต​ก​เ็ ปน ได​เ พยี ง​ความคดิ ​ ​เพราะม​ บี างอยา งย​ ้ำเตอื นใ​ห​เดิน
ตาม​เสน ทาง​ของต​ น​เอง ​ ​เสน ทางท​ จ่ี​ รงิ ๆ​ ​กไ็​มร วู า ​ จะ​ทอดข​ นาด​
ไปส​ูจดุ หมาย​ใด
แต่สง่ิ หนึง่ ทไี่ มเ่ คยเลอื นหายไปจากความทรงจำ กค็ อื ควา
มอบอุน่ ทไ่ี ด้รับจากวัยเยาว์

๑๙๐ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์

​ ​จดหมาย​ฉบบั ​นค้ี​ อ นขา งพ​ ูดยาวไ​ป​หนอย ​พ​ อเ​ขยี นแ​ ลว ก​็
หาท​ ​ีล่ ง​ไมได ​ด​ ูน​ าเบื่อ ​ ภาษาก​ อ็​ อก​จะฟ​ ง ​ยาก ​​เห็นจ​ ะ​ตอ ง​หยดุ ​
เสยี ที ​ห​ ากม​ ี เ​วลา​อาตมา​จะเ​ขียน​มา​อกี ครัง้


ด​ ว ย​อานภุ าพ​แหง​คุณพ​ ระศ​ ร​รี ัตนตรยั ​ แ​ ละด​ ว ย​อานภุ าพ
​แหงศีล ​ ส​ มาธิ ​ ​ปญญา ​ อ​ ัน​เกดิ จ​ ากก​ ารท​ ​่ีอาตมา​ได​บรรพชา​
อุปสมบทใ​นพระพทุ ธศาสนา ​ ​และ​ที่​เคย​ไดบ​ ำเพ็ญม​ าต​ ้ังแ​ ต​
อดตี ชาติ ​ต​ ลอดจน​ถึงช​ าติ​ปจจบุ ัน ​​ขอใ​หโ​ ยมแ​ มใ​ หญ​ม​พี ระพทุ ธเจา ​
มพี​ ระธรรมเ​จา ​ ​และ​มี พระ​สงั ฆ​อริย​เจา ​ เปน ท​ ี่พง่ึ ​ที่ระลกึ ​อย​ู
เสมอ ​ อ​ ยา​ได​ป ระมาท ​ ม​ ​ีสุขภาพกายทด​่ี ​ีและส​ ุขภาพใ​จ​แชม ช่ืน​
ร่ืนเริงเ​บกิ บาน​ในธ​ รรมข​ องอ​ งคส​ มเดจ็ พระส​ มั มาสมั พ​ ทุ ธเจา ​
ตลอดไป


​กรงุ เทพมหานคร,​​​วัน​เร่ิมตน ป​​ขพ​น้ึ ทุ ๗​ธศกัค​รำ่ าช​เ​ด​๒​ือ๕น๔​๒๔

ประวัติ​
ผเู ขยี น

พระวิจติ รธรรมาภรณ์
(เทอ​ ด ญาณว​ชิโร, วงศ​ชะอ​ ุม,ป.ธ. 6 ,พธ.ม.)
ผชู วยเ​จาอาวาสว​ดั ส​ ระเ​กศ
เกิดท​ บ​ี่ า น​ปากนำ้ ตำบลกุด​ลาด
อำเภอเ​มือง จังหวดั ​อุบลราชธาน ี
เมือ่ ​วันท่ี 16 กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. 2514
บิดา นายเ​กนิ วงศ​ชะอ​ มุ
มารดา นางห​ นูเ​พชร วงศช​ะ​อมุ
บรรพชา ณ วัดป​ ากน้ำ ตำบลกดุ ล​ าด
อำเภอเ​มอื ง จังหวัด​อบุ ลราชธานี
อุปสมบท ณ วดั ส​ ระเ​กศ ราชวรมหาวิหาร
กรุงเทพมหานคร
โดย​มี เจาประคุณ​สมเดจ็ พระ​พฒุ ​าจารย
ประธานคณะผู้ปฏิบตั ิหน้าที่สมเดจ็ พระสงั ฆราช
เปน พระอปุ ชฌาย
สำเร็จก​ าร​ศกึ ษา​ใน​ระดบั ป​ ริญญาโท​
ทางด​ า น​ปรชั ญา จากม​ หา​จุฬาล​ ง​กร​ณร​าช​วิทยาลัย

งานเขียน

-หลกั การ​ทำบุญ​และป​ ฏิบตั ​ิธรรมใ​นช​วี ติ ป​ ระจำวัน
-พทุ ธานุภ​ าพ อานภุ าพ​ของ​พระพทุ ธองค
-มหาส​ มยั ส​ ูตร
-การต นู ​แอนนเิ มชั่นเรอ่ื ง“ปาฏิหารยิ ​พระบรมสารีรกิ ธาต”ุ
-ทฤษฎีเ​บ้ืองตน ​แหง ​ปรัชญา​ไทย
-ประทปี ​ธรรมแ​หงแ​ม​ม ลู
-ทศชาติ ​ปณิธาน​มหาบรุ ุษไ​ม​เปลี่ยนแปลง
-สมาธเิ บือ้ งตน้ สำหรบั ชาวบา้ น
-ไหวพ้ ระสวดมนต์กอ่ นนอน


Click to View FlipBook Version