หลักการทำบญุ และปฏบิ ตั ิธรรมในชวี ิตประจำวนั ๑๕๑
คงจ ะเปน ดว ยเหตนุ ้กี ระมงั คนท ่ีตัดไมทำลายปา จึงไมถกู
เทวดาหักคอ อยา วา แตห ักคอเลย แ มแตโกรธ ก ็ยังไมไดเขาสู
ท่ีประชุมของเทวดา หากถ ึงกลบั ลงมอื ห ักคอ เทวดาก ็ตอ งต กนรก
เทวดารดู ังนจ้ี ึงไดมรี ุกขธรรมท ีป่ ระพฤติรวมก นั เพื่อเปน การปอง
กันไมใ หเ ทวดาทำรา ยค นทที่ ำลายตน ไมอนั เปน วิมานของตน อ นั
จะเปน เหตใุ หต ายจากค วามเปนเทวดา ไปเกดิ ในน รก เทวดาจ ึง
ประชมุ กนั ท กุ ๆ ๑ ๕ วนั เพ่อื สอบถามรกุ ขธ รรมของก ันและก ัน
วา “ประพฤตกิ นั อ ยหู รือเปลา ”ความจ รงิ ก็คอื เพื่อเปน การ
เตือนสตกิ นั น นั่ เอง
เทวดาน้ันไดนำเร่ืองท่ีภิกษุทำลายตนไมอันเปนวิมานของ
ตน ไปกราบทลู พระพุทธเจา และไดกราบทลู ใหทราบถ ึงเร่ืองท ี่
ตนส ามารถหกั หามค วามโกรธไวได มเิ ชนน้ันตนก ็ค งไดสรา งบ าป
มหันต
พระพุทธเจาต รสั สอนเทวดาวา
“บ คุ คลใด สามารถห กั หา มความโกรธท เ่ี กิดขึน้ ไวได
เหมือนส ารถหี ยุดรถซ่ึงกำลงั แ ลนไป เราต ถาคตเรยี กบคุ คล
น้ันวา สารถี ชนนอกน เี้ ปนแ ตค นถือบงั เหียน”
พอพระพทุ ธเจา แ สดงธรรมจ บลง เทวดาน ้นั ไดบ รรลธุ รรม
เปน พ ระโสดาบัน พ ระพทุ ธองคไ ดบ อกต น ไมอันเปน วิมานแ หงใหม
๑๕๒ พระวิจิตรธรรมาภรณ์
ใหเทวดาน ัน้ ตน ไมน อี้ ยูในเขตวัดพระเชตวันน่ันเอง เปนตน ไมท เ่ี ทวดา
ผูเปน เจาของวมิ านอ งคกอ น เพิง่ ห มดบญุ จ ุตไิ ปไมนาน ตน ไมน ้นั จ ึง
วา งลง เทวดานน้ั ไดรบั ก ารค มุ ครองจากพระพทุ ธเจา ไมมีเทวดาผ ู
มีศ กั ดิใ์ หญองคใด เบียดเบยี นใหล ำบาก และไดเ ปน พ ุทธอปุ ฏ ฐายกิ า
คอยอ ปุ ฏฐากข องพระพทุ ธเจา ดว ย
วา ก นั วา เมอ่ื ท า วมหาราชท ้ัง ๔ ม าเขาเฝาพ ระพุทธเจา จ ะ
ตองม าเยี่ยมเทวดาน ั้นกอนจ งึ ไป ดวยเหตุต ามทีก่ ลาวมาน ี้ เทวดา
ในช น้ั จาตมุ หาราชิกา จงึ ม ีความใกลช ิดกับม นษุ ยม าก โดยม ที าว
มหาราช ป กครองเทพในทิศท ง้ั ๔ ช อ่ื ข องทา วม หาราชป รากฏในบท
สวดมนตทีพ่ ระสงฆส วดใหเราฟง ด ังน้ี
ปุรมิ ะทสิ ัง ธตะรัฏโฐ ทักข เิ ณน ว ิรุฬหะโก
ปจฉเิ มน ะ ว ริ ปู กโข กุเวโร อ ุตตะรงั ท ิสงั
จตั ต าโร เต ม หาราชา โลกะป าลา ย ะสัสส ิโน
เตป ต ุมเห อ ะนุรักข นั ตุ อาโรคะเยน ส ุเขนะ จะฯลฯ
ทาวธตรฐั ส ถิตอยูดา นทิศตะวนั ออก ทา วว ิรุฬหกส ถติ
อ ยดู านท ิศใต ทา ววริ ปู ก ขส ถิตอยูดา นทิศตะวันตก
ท าวกเุ วรสถติ อยดู า นทิศเหนอื ทา วมหาราชท งั้ ๔ น ้ัน
เปนผดู แู ลโลก เปนผ ูมยี ศ แมท าวม หาราชท้ัง ๔
จงค ุมครองรักษาท า นท ้ังหลาย ใหอยูดวยค วามไมม ี
โรค และจ งมแี ตค วามส ขุ ฯลฯ
หลักการทำบุญ และปฏิบัตธิ รรมในชวี ติ ประจำวนั ๑๕๓
บ ทส วดมนตบ ทน ี้ เรยี กชอื่ วา “อ าฏานาฏยิ ป ริตร”กลาวถ งึ
ชื่อทา วม หาราชทงั้ ๔ ผ ูเปนราชาของเหลาเทพในท ศิ ทั้ง ๔ ในสวรรค
ช้ันจาตุมหาราชกิ า ทา วเธอม าเฝาพ ระพุทธองค แนะนำพระองคให
สอนส าวกสวดอ าฏานาฏยิ ป ริตร เพือ่ ป องก ันอันตรายทจี่ ะเกิดจ าก
เทวดาท ไ่ีมปรารถนาดีตอพระภกิ ษ ุ ผูตงั้ ใจบ ำเพ็ญส มณธ รรม ห าก
ไดรับก ารรบกวนจ ากเทพเหลานกี้ ็จะเปน อ ุปสรรคต อ ก ารเขา ถึงธรรม
ในปรุ ิมทศิ คือ ท ศิ ตะวนั ออกมี ทา วธตรฏั ฐ เปน
พระราชาของเหลา ภตู พราย ต ลอดจนหมูเทพคนธรรพท ี่ชำนาญ
การดนตรที งั้ หลาย เมือ่ คร้ังท่ีพ ระพทุ ธเจา เสด็จลงจ ากส วรรคชั้น
ดาวดงึ ส หลงั จากแสดงพ ระอ ภิธรรมโปรดพ ระพทุ ธมารดาจบลงแ ลว
ปญจส ิขเทพบุตร ห นง่ึ ในเทพคนธรรพผชู ำนาญในการดีดพ ิณ ได
ดีดพณิ ขบั รอ งประสานเสยี งด วยค วามไพเราะ นำเสด็จม าเบ้ืองหนา
พระพทุ ธเจา
เม่ือค รั้งพระพทุ ธองคต รสั รูใหมๆ ไดประทบั ท ตี่ น อชปาล
นิโครธ ปญ จสิขเทพบตุ รองคน ้ี ไดขบั เพลงสรรเสริญพระพุทธเจา
ดวยค วามยินดีวา พ ระพทุ ธเจา อบุ ตั ขิ น้ึ ในโลกแ ลว
ในท ักขิณท ศิ ค ือ ทิศใต มีท าวว ริ ุฬหก เปนพระราชาข อง
เหลา เทพท ั้งหลาย
ในป จฉมิ ทศิ ค ือ ทิศตะวนั ตก มที า ววริ ปู ก ข เปน พ ระราชา
ของ เหลานาคท ง้ั หลาย
สวนในอ ตุ ตรท ิศ คอื ทศิ เหนอื มที า วกเุ วร เปนพระราชา
ของเหลายกั ษท ้ังหลาย
๑๕๔ พระวจิ ติ รธรรมาภรณ์
ทา วกเุ วรน้ันย งั ม ชี ือ่ อีกอยา งวา “ทา วเวสวัณ” วา
กันวา พระเจา พ มิ พสิ าร ท ถี่ วายวดั เวฬวุ นั ใหเปนวดั แหง แรก
ในพระพทุ ธศาสนา กไ็ ดมาเกดิ เปนยักษผ ใู หญ ชือ่ วา
“ชนวสภย ักษ” และไดเปนเพ่ือนของท า วกุเวร ค วามจรงิ พ ระเจา
พิมพิสารเปนถงึ พระโสดาบนั ป รารถนาจะไปเกิดบนสวรรคช ้นั
สงู กวานกี้ ไ็ ด แตเพราะพระองคเคยอ ยทู ีน่ ่มี ากอนจงึ ปรารถนาจ ะ
กลับมาอยูท ี่เดิมข องต น
นอกจากน ้ัน ทาวมหาราชทง้ั ๔ ย ังทำห นา ท่เี ปนพ ระยา
ยมราช เทพผูม หี นา ทีค่ อยต รวจด ู ผทู ำดีทำช่ัวในท ศิ ท ้ังส ่ดี วย ใน
วันพระ ๘ คำ่ ท า วม หาราชไดม อบหมายใหย มฑูต เทพอ ำมาตย
ของพระองค เปน ผูค อยต รวจตรา ในวนั ๑ ๔ ค ่ำ ทา วเธอ
มอบหมายใหบุตรข องพระองค เปนผตู รวจตรา
สวนในวันพระ ๑๕ ค ำ่ ท า วม หาราชท ้งั ๔ จะเปน ผ ู ตรวจ
เอง
ในเร่อื งพ ระมหาช นกช าดก ทพี่ ระม หาช นกรอดชวี ิตจ าก
เรือแ ตกกลางท ะเลมาได เพราะการช วยเหลอื ข องน างมณีเมขลา
เทพธิดาผ ไู ดร บั ม อบหมายใหคอยดแู ลทอ งทะเล ขณะพระมหาช นก
เดินทางไปค า ขายทางทะเล เรือเผชิญพ ายแุ ตกก ลางท ะเล นาง
มณเี มขลาม าช วยใหรอดชวี ิต น างมณีเมขลาไดร บั บ ัญชาจากทา ว
มหาราชใหเปนผดู ูแ ลมหาสมทุ ร ค อยชว ยค นดที เี่ รือแตก แตยัง
ไมถ งึ คราวตาย ใหรอดชีวิต วนั ท เ่ี รอื ม หาชนกแตกน น้ั น างม ณี
เมขลาไปเทวสมาคม ไมไ ดต รวจดมู หาสมุทรห ลายวัน ค ร้ันวนั ท ่ี ๗
เหน็ พระมหาช นกแ หวกวายอ ยูก ลางท ะเลจ ึงไดช ว ยชีวติ ไว
หลักการทำบญุ และปฏบิ ัตธิ รรมในชวี ติ ประจำวนั ๑๕๕
ตาวต งิ สภ ูมิ โลกของเทวดาช นั้ ท ่ี ๒
ตาวต งิ สภมู ิ หรือทเี่ราทราบกันโดยท ่วั ไปวา “ส วรรคช นั้
ดาวดึงส” เทวโลกช้ันน ีเ้ ปน ที่อยูข องพระอนิ ทร พ ระอนิ ทรม ชี ื่อ
เรียกหลายช อื่ “ท าวส ักกะ” ก็เรยี ก “ท าวมฆวะ” ก ็เรียก “ทา ว
วชิรหัตถ” ก ็เรียก “ทา วสหัสสนยั น” ก็เรียก “ทา วสหสั สเนตร”
กเ็ รียก “ทาววาสว ะ” กเ็ รียก แตเ ราทราบกันโดยท ่วั ไปวา “
พระอนิ ทร”
นอกจากนั้น เราย งั รจู ักพระอนิ ทร ในฐานะเทวดาผ ูเปย ม
ดว ยเมตตา ค อยช ว ยเหลอื คนดที ่ตี กทกุ ขไ ดย าก พระอินทรใน
อดีตชาติมีชอ่ื วา “ม ฆม าณพ” มบี รวิ ารทเี่ คยท ำบญุ รวมกนั ม า
๓๒ คน รวมเปน ๓ ๓ กับพระอินทรเอง ห ลังจากตายจงึ ไปเกดิ
ในสวรรคช ้ันเดยี วกันทั้ง ๓๓ คน สวรรคชน้ั นี้จ ึงไดช ่ือวา “ตาว
ตงึ สะ ห รือดาวดงึ ส แ ปลว า สวรรคเ ปน ท ่ีอยขู องเทวดา ๓๓
องค”เทวโลกช ั้นนี้มีเทวบ ุตรอยอู งคห นง่ึ ชอื่ “เอราวณั ” ท่เี รา
เคยเห็น รูปปน ช าง ๓ เศียร น ัน่ แหละช า งเอราวัณพาหนะข อง
พระอนิ ทร แ ละ เทวดา ๓๒ องคบ นเทวโลกช ้นั นี้
ค วามจ ริง ชางเอราวัณเปน เทพบุตรเหมือนกนั แต
เนือ่ งจากบนสวรรคไมมสี ตั วเดรจั ฉาน ด งั น ั้น เม่ือเทพบุตร ๓ ๓
องคน ั้นจะเดินทางไปไหนม าไหน เทพเอราวัณก จ็ ะอธิษฐานต นเปน
ชางใหญ ๓ เศียร เพอื่ เปนพ าหนะ วากันวา เม่อื ครัง้ พระอนิ ทร
ทำบุญอยใู นเมืองม นษุ ย ทาวเธอ ก็เคยใชช า งตวั นีเ้ ปนพาหนะ ใน
การเดนิ ทางไปทำบุญ ดว ยอ านิสงส น น้ั ชางเลยไดไปเกดิ เปนเทพ
๑๕๖ พระวิจติ รธรรมาภรณ์
มชี อ่ื วา “เอราวณั ” ม พี ละกำลังม หาศาล จ ะเปน รองก แ็ ต
พญาชางครเี มขล พ าหนะข องพญาวสวัตตมี าราธวิ าช ทีข่ ่มี า
ผจญพระพทุ ธเจา วันตรสั รเู ทาน ้ัน
วตั รบ ท ๗ ขอ ปฏิบัตเิ พือ่ ค วามเปนพ ระอินทร
เมอื่ พ ระอนิ ทรเปนม นษุ ย ไดต ัง้ ใจส มาทานขอวัตรปฏบิ ตั ิ ๗
ขอ อยางเครงครัด เรียกวา “ว ตั รบ ท ๗ ประการ”ค ือ
(๑)ม าตาเปติภาโร จะเล้ียงม ารดาบดิ าตลอดชวี ติ
(๒ ) กุล ะเชฏฐาปะจายโิ น จะใหค วามเคารพผูมอี ายุ ใน
วงศต ระกลู ตลอดชีวิต
(๓ )สณั ห ะวาโจ จะพดู คำสุภาพออนหวานต ลอดชวี ิต
(๔ )อ ะปสุณะวาโจ หรือ เปสุเณยยัปปะหายี จ ะไมพ ดู
สอ เสยี ด จ ะพดู แตค ำใหเกิดค วามรักความส ามคั คี ต ลอดชีวิต
(๕)ทาน ะสงั ว ภิ าค ะระโต หรอื ม จั เฉระวนิ ะโย จ ะยนิ ดี
ทไ่ี ดใ หท านแ บง ปนผอู ืน่ ห รือจะเปนค นปราศจากความ ต ระหนี ่
ตลอดชวี ิต
(๖) สัจจะวาโจ จ ะเปนค นมีสัจจ ะพ ูดแ ตค วามจ ริงต ลอด
ชีวิต
(๗ ) อะโกธะโน ห รอื โกธาภิกู จ ะเปน ค นไมม นี ิสยั ม ัก
โกรธ หรือห ากความโกรธเกิดขน้ึ จ ะระงับความโกรธล งใหไดท นั ท ี
ตลอดชวี ิต
หลักการทำบุญ และปฏิบตั ธิ รรมในชีวิตประจำวัน๑๕๗
ขอวัตรปฏิบัติท ั้ง ๗ ขอ น ี้เอง เม่ือค รัง้ พ ระอินทรเ กิด
เปนมนุษย ไดต ัง้ ใจสมาทานปฏบิ ตั ิ ตลอดชีวิต ท ำใหบรสิ ุทธิ์
บรบิ รู ณไ มข าดสาย ผลทำใหไปเกดิ เปนพ ระอินทร เราอ าจลอง
ต้ังใจอ ยา งพ ระอินทรด บู า งกไ็ ด เอาเฉพาะอ ยา งก ารห ักหามความ
โกรธ ค วามฉ นุ เฉยี วเกร้ยี วกราดหนุ หนั พลันแลน แ มจะท ำได
ยากเตม็ ทน แ ตถาทำได (เปน บ างครัง้ ) เราจะรสู กึ มคี วามส ขุ
ใจอ ยา งประหลาด ท ส่ี ามารถเอาชนะความโกรธได ซ่งึ ก็เทา กับวา
เปนการช นะต นเอง
นอกจากนัน้ มาก ณั ฐกะท่ีเจา ชายสทิ ธตั ถะข ีอ่ อกบวช ก็
ไปเกิดเปน เทพบตุ ร ชอื่ วา “ก ัณ ฐกเทพบตุ ร” ในเทวโลกชั้น
ดาวดึงสน ีเ้ชนก ัน เม่ือค รงั้ ทีเ่ จา ชายสิท ธัตถะอ อกบวช ไดข ่มี า
กณั ฐกะออกบวช แลวป ลอ ยใหน ายฉนั น ะน ำม า กลบั พ ระราชวงั
พอพ ระองคเดินลับตาไปเทาน น้ั ม ากัณ ฑก ะกอ็ กแตกต ายท่รี มิ ฝง
แมนำ้ เนรญั ชราน ่นั เอง แลว ไปเกิดเปน เทพบ นส วรรคชน้ั ด าวดึงส
มีช ื่อวา “ก ณั ฐกเทพบตุ ร”
ยังมเี ทพบ นส วรรคชนั้ ดาวดึงส ท่ีควรจ ะน ำมาเลา ไวใ นท่นี ี้
อีก เพราะเกี่ยวเน่ืองกบั พ ระพุทธเจา ของเรา เมือ่ มีโอกาสไปตาม
วดั ตา งๆคงเคยเหน็ พ ระพุทธรปู ปางห นง่ึ มลี กั ษณะแ ปลกก วา องค
อนื่ ค อื พ ระองคประทบั นั่งหยอนเทา มลี งิ และช า งอ ยเู บื้องหนา
คอยถวายก ารรบั ใช ลิงกำลังถวายรวงผงึ้ สว นช างถวายอ อ ย
พระพุทธรปู ปางน ้ี เราเรียกกันต ดิ ปากต ามประสาช าวบานวา “
พระป างเลไลยก” แตชือ่ จ รงิ ๆ คือ พระพุทธรูปปางปารไิ ลยกะ
เพราะปาท่ีพระพุทธเจาประทบั ในคราวค รง้ั นั้น คือ ปา ปารไิ ลยก ะ
๑๕๘ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์
มีเร่ืองเลาวา เมอ่ื พระพุทธองคเ สดจ็ อ อกจากวดั ท ี่
พระสงฆทะเลาะเบาะแ วงกนั มาจำพรรษาท ป่ี าป าริไลยก ะนี้โดย
ไมมีภกิ ษรุ ูปใดต ามมาอ ุปฏ ฐาก พญาชางป าริไลยกะไดท ำห นาท ี่
เปนพ ุทธอ ุปฏ ฐากตลอดพรรษา ในระหวา งน นั้ ลิงเห็นพญาชา ง
อปุ ฏ ฐากบำรงุ พ ระพุทธเจา ก็อยากทำบา ง จ ึงเทย่ี วไปตามปา
ไดรวงผึง้ ม าถ วาย พ อลิงเห็นพ ระพุทธองคฉนั น้ำผ้ึงท ต่ี นถ วาย ก ็
เกิดความด ใีจเปน อ ยา งมาก จนไมอ าจอ ดกลน้ั ค วามยินดไีด จ งึ
กระโดดโลดเตน ไปมาตามก ่ิงไม เผอญิ ก ง่ิ ไมท ี่จับเปนก ง่ิ ไมผ ุ จ งึ
หลน ล งมา ตอไมทิม่ ต าย ไปเกิดในสวรรคช ั้นดาวดงึ ส ด ว ยกุศล
ผลบญุ ท่ไี ดถวายน ำ้ ผึ้งพ ระพุทธเจา
สว นพญาชา งปาริไลยก ะ ไดอ ุปฏ ฐากพ ระพุทธเจา
จนออกพรรษา หลังจากอ อกพรรษา พระอานนทมารับเสดจ็
พระพทุ ธเจาเขา เมือง พญาชางก็เดินต ามหลังม า จวนจะเขา
หมูบ า น พระพทุ ธเจาบอกวา เพราะช า งปารไิ ลยก ะเปน สัตว
เดรัจฉาน จึงไมส ามารถบ รรลุธรรมข ้นั ใดข้ันหนง่ึ ได เขตแดนต ้งั
แตน ้ีต อไป เปน ท อ่ี ยูข องหมูมนษุ ย ธรรมดาวา ท่อี ยูของม นษุ ย
นั้น มีอ ันตรายม ากสำหรับสัตว
พระพทุ ธเจา บอกใหพ ญาชางก ลับไปท อ่ี ยูข องต น
หลักการทำบุญ และปฏบิ ัติธรรมในชวี ิตประจำวนั ๑๕๙
เมอ่ื พระพทุ ธเจา เสด็จต อไปน ้นั พ ญาชา งไดเอาวงสอดเขา
ปาก ย นื รองไหอยตู รงนั้น พ ญาชา งปาริไลยก ะค ดิ วา ห าก
พระพทุ ธเจาเสดจ็ กลบั ป าปาริไลยกะตามเดมิ ตนจ ะอปุ ฏฐากอยา ง
ท่เีคยท ำจนวนั ตาย พญาชา งไดยนื รองไหจ นพ ระพุทธเจา ล ับตาไป
ก็อกแ ตกต ายอยูต รงน้ัน ไปเกดิ เปน ป ารไิ ลยกะเทพบตุ ร บน
สวรรคช ัน้ ด าวดงึ สน ี้
ฟงด แู ลวน า สงส ารพญาชางป ารไิ ลยกะ ในเทวโลกช ้นั น ี้
ย งั มดี อกไมชื่อ “ป ารชิ าต”เปนดอกไมท ี่มีกลิ่นห อมมากในเทวโลก
หอมอ บอวลไปจ นถ งึ ภพของเทพอ สรู ต น ป าริชาต เกิดในเทวโลก
ช้นั ด าวดงึ ส ก็ดวยอ านิสงสที่พระอนิ ทรเมื่อค รงั้ เปน มนษุ ยไ ดปลกู
ตน ไมประดบั ศ าลา ใตต น ปาริชาตน ัน้ ม แี ทน ศ ลิ าเปน ท ่ีประทับนั่ง
ของพ ระอนิ ทร ชือ่ วา “ป ณฑกุ มั พลศิลาอาสน” แ ทน ห นิ น ี้ เวลา
พระอนิ ทรนงั่ ก ็จะย บุ ลง เวลาลุกก็จะฟขู ้นึ เอง
ปณ ฑกุ ัมพลศลิ าอ าสนน้ี มีล กั ษณะพเิ ศษอยา งหน่ึง คอื เมื่อ
เกิดเหตุการณท่คี นดีตอ งการความชว ยเหลอื อาสนห รือท่ีประทบั
นัง่ ของทาวเธอจะแขง็
เมื่อพระพุทธเจาเสดจ็ จำพรรษาท่ีเทวโลก เพ่อื แ สดงพ ระ
อภิธรรมโปรดพ ระพุทธมารดา ก็มาป ระทบั จ ำพรรษาท่เี ทวโลก
ช้ันด าวดึงส จ นก ลายเปน ประเพณตี ักบาตรเทโวโรหน ะ
หลงั วนั ออกพรรษาข องช าวพทุ ธถ ึงปจ จุบัน
๑๖๐ พระวจิ ติ รธรรมาภรณ์
การจ ำพรรษาท ี่เทวโลกค รงั้ น ัน้ พ ระองคประทบั นั่งบ น
ปณ ฑุกัมพลศ ิลาอาสนข องพระอินทรน ี้ แสดงธรรมช ื่อวา
“อภิธรรม” ซ่ึงเปนธรรมท่สี ูงยงิ่ โปรดพระพทุ ธม ารดา เน้ือความ
โดยยอ ข องอ ภิธรรมเทศนา อ าตมาไดเขียนไวแ ลว ตงั้ แตจ ดหมาย
ฉบับแรก ยังไมปรากฏวา พระองคแ สดงอ ภิธรรมโปรดใคร
เปนพิเศษในโลกมนุษย น อกจากท รงนำมาแ สดงแ กพระสารี
บุตรใหจ ดจ ำไว เพอ่ื แ สดงใหพระภกิ ษุฟง ตอ ๆ ไปเทาน ้นั นบั วา
พระองคไ ดต อบแทนพ ระคณุ ข องพ ระพทุ ธมารดาอยางสูงสดุ
สิ่งส ำคญั อีกประการห นึ่งบ นดาวดงึ ส ค อื พ ระจุฬามณี
เจดีย เมื่อเจา ชายส ทิ ธตั ถะออกผนวชนัน้ ไดอ ธษิ ฐานจ ติ กอน
ปลงผมวา หากจะไดต รสั รขู ออยาใหผมตกไปบ นพืน้ ดิน ค ราว
น้นั พระอนิ ทรไ ดนำเอาผ อ บท องคำมารองรบั เอาไปไวในพระเจดีย
จฬุ ามณี
อกี คราวหนง่ึ ภายหลังจากพระพ ุทธป รินิพพาน เมอ่ื
ถวายพระเพลงิ พระบรมศ พเสร็จแ ลว โทณพราหมณไดร ับ
ฉนั ทานมุ ัติใหเปน ผ แู บงพ ระบรมสารีริกธาตุใหเ จา เมอื งต า งๆเปน
๘ สวน แตโทณ พ ราหมณแ อบเอาพระเขย้ี วแ กวขา งข วา (พ ระทันต
ธาตุ)ซอ นไวท ผี่ าโพกมวยผมเสยี เอง พระอนิ ทรท ราบเร่อื งจงึ มา
เอาไปบรรจไุ ว ในพระเจดยี จ ฬุ ามณี ใหห มูเทพท้งั หลายไดเคารพ
สักการะบชู า เร่ืองราวเกี่ยวกบั ส วรรคชน้ั ด าวดึงส ท่ีกลา วมาเปน
แตเรอื่ งโดยยอ เลาแ ตเพียงเทาน้ี ก็คงพ อจะไดเคา วา สวรรคช ้ัน
นเ้ีปนอ ยา งไร
หลักการทำบุญ และปฏิบัตธิ รรมในชีวิตประจำวนั ๑๖๑
ยาม าภ มู ิ โลกของเทวดาชัน้ ท ่ี ๓
ภ พภ มู ิ หรอื ท ีเ่ ราไดยินโดยทั่วไปวา สวรรคช นั้ ย ามา ส วรรค
ชนั้ น ้ี จะไมข อน ำมาเลา เพราะไมม ีเร่ืองเกยี่ วของก ับพ ระพุทธ
เจา ของเราโดยตรง จ ะม กี ็แตเร่อื ง ของผ ูท่ีทำบุญ รักษาศลี ใหทาน
บำเพ็ญสมาธแิ ลวไปเกิดบนส วรรคชนั้ นี้ วา กันวา อายขุ องเทพ
ชั้นนี้ม ี ๒ ,๐ ๐๐ ป ท ิพย เทากับ ๑๔ โกฏิ ๔ ลา นป ข องมนุษย เรอ่ื ง
ของส วรรคช ้นั น้จี งึ ขอผ า นไป
ตุสติ าภ มู ิ โลกข องเทวดาช้นั ที่ ๔
ต สุ ติ าภมู ิ ห รอื ท ่ีเราไดยินคุนหกู นั โดยท ่วั ไปวา “ส วรรคชน้ั
ดสุ ิต”เม่ือกอ นจะตรสั รู พระพุทธเจายังเปน พ ระโพธสิ ัตว ก็ส ถิต
อยบู นส วรรคช ้ันน ี้ มชี ือ่ วา “เสตเกตุเทพบุตร”แ ลวเสดจ็ อุบัติใน
โลกม นษุ ย เปนเจา ชายสทิ ธัตถะ ต รสั รเูปน พ ระพุทธเจาในที่สดุ
พ ระพทุ ธมารดากส็ ถติ อยทู ชี่ น้ั ดุสติ น ีเ้ ชน กัน
ม ีขอส งั เกตวา เม่ือครัง้ ท ีพ่ ระพทุ ธเจาไปจำพรรษาบนสวรรค
เพือ่ เทศนโปรดพ ระพุทธม ารดา แมพระพุทธม ารดาอ ยูช ั้นด สุ ติ แ ต
พระองคก ็เลือกท ีจ่ ะจ ำพรรษาบนสวรรคช ้นั ดาวดึงส
๑๖๒ พระวิจิตรธรรมาภรณ์
เพราะพระองคทรงมีเมตตาตอพระอินทรเหมือนสามเณรผู
อปุ ฏฐาก ยามเมือ่ พระพทุ ธองคเจ็บปวยไมสบาย พระอนิ ทรจะมา
อปุ ฏ ฐาก ห ากพ ระองคเ สด็จไปจ ำพรรษาบ นสวรรคช ั้นดสุ ติ
พระอนิ ทรต ลอดจนเทวดา ซ่งึ เปน บ ริวารของพระอินทรจะไม
สามารถข ึ้นไปฟ ง เทศน ที่ส วรรคช ั้นด สุ ติ ไดเ ปนธ รรมดาวา เทวดา
ทอี่ ยูในสวรรคช ั้นตำ่ จ ะข ึ้นไปสวรรคช ้ันสูงกวาไมได
แตหากพระองคไปจำพรรษาบนสวรรคช้ันดาวดึงส
เทวดาในส วรรคช ้นั สงู กวา กส็ ามารถลงมาฟง เทศนไ ด
หากจะเปรียบเทยี บ ก็เหมอื นพระเจา แผน ดนิ จะเสด็จ
ไปบานนอกบ านนา กย็ อมได แตชาวนาจะเขา วงั ก ็คงยาก
ต้องไดร้ บั พระบรมราชานุญาตกิ ่อน
นอกจากน ้ัน พระศ รอี ริยเมตไตรยท ีจ่ ะลงมาต รสั ร ู เปน
พระพทุ ธเจา ตอ จากพระพทุ ธเจา ของเรา ในภทั รก ับนี้ กส็ ถติ อยู
บนสวรรคช ั้นดสุ ติ น้ดี ว ย ยังมเี รือ่ งทีจ่ ะท ำความเขา ใจเกี่ยวกบั ค ำ
วา “ภ ทั รกัป”อกี เลก็ นอ ย
ในทางพระพุทธศาสนาไดกลาวถึงชวงระยะเวลาในโลก
วา มีอ ยู ๒ ช วง แ ตล ะชวงจ ะมีพ ระพทุ ธเจา ม าตรัสรมู ากน อ ย
แตกตา งก นั ไป คอื
(๑ )ชว งระยะเวลา ท ่โี ลกเสื่อม
(๒)ชวงระยะเวลาทโ่ี ลกเจริญ
หลกั การทำบุญ และปฏบิ ตั ธิ รรมในชีวติ ประจำวนั ๑๖๓
ชว งระยะเวลาเจริญ เรยี กวา “ภทั รกัป” ยคุ ท ่เี ราอ ยูใน
ปจจุบันถอื วาอ ยูใ นยุคภัทรกัป ค ือ ยคุ ขา งฝ า ยเจรญิ ในภ ัทรกปั น ้ี
จะม พี ระพทุ ธเจา ตรสั รทู ้งั หมด ๕ อ งค ค ือ
(๑)พ ระกะกสุ ันธะพ ุทธเจา ไดมาต รัสรแู ลว
(๒)พ ระโกนาคมนะพ ุทธเจา ไดมาต รสั รแู ลว
(๓ )พระกสั สปะพทุ ธเจา ไดม าต รัสรูแ ลว
(๔ ) พ ระโคตมพุทธเจา ค ือ พระพุทธเจา ของเราอ งค
ปจ จบุ ัน ท ่ีเราน ับถือพ ระพุทธศาสนา เขาวัดฟง ธรรม ทำบญุ
ใหทาน รกั ษาศลี ก ค็ อื นับถอื ค ำส อนข องพ ระโคตมพ ุทธเจา
พระองคน้ี ศ าสนาของพระองคจ ะม อี ายุประมาณ ๕ ,๐ ๐๐ ป
หลงั จากนนั้ จะเปน ยคุ มิคสญั ญี คอื ย คุ ท ่มี นุษยมองก นั เปนเพียง
สตั วชนดิ ห นง่ึ สุดแตว า ใครจะม กี ำลงั เขนฆา ทำลายลางก นั ได
ชว งนเ้ีปน ชว งวา งเวน จ ากพ ระพทุ ธเจา เมอื่ โลกก าวเขา สูภ าวะปกติ
ตอ จากน้ี จงึ จะม พี ระพทุ ธเจามาตรสั รูอ กี อ งค คอื พระศ รีอรยิ
เมตไตรยพ ทุ ธเจา
(๕)พระศ รีอรยิ เมตไตรยพทุ ธเจา พ ระพทุ ธเจาพระองค
นี้ ยังไมไ ดม าต รัสรู ป จ จุบันพ ระศรอี ริยเมตไตรยยงั สถิตอ ยูสวรรค
ชั้นดุสติ จะม าต รัสรใู นภายภ าคหนา เปน องคท่ี ๕ แ ละเปน
พระพทุ ธเจาองคส ุดทา ย ในภ ทั รกปั น ี้ ในยคุ ข องพระองค จะ
เปน ยุคท ผ่ี ูคนอ ยูเยน็ เปน สขุ ไมม โีรคภัย ไมมี โจรผูราย ผ ทู ำบุญ
ใหทานรักษาศลี เทาน ัน้ จึงจะมาเกดิ ในย คุ สมัยของพ ระองค
๑๖๔ พระวจิ ติ รธรรมาภรณ์
น มิ านรต ภิ ูมิ โลกของเทวดาช น้ั ท ่ี ๕
สวรรคช้นั น จี้ ะไมข อกลา วในรายละเอยี ด เพราะมเีร่ือง
เกีย่ วขอ งกับพระพุทธเจาของเราโดยต รงนอ ย อายขุ องเทพช นั้ น ีม้ ี
๘,๐๐๐ ป ท ิพย เทากับ ๒๓๐ โกฏิ ๔ ล า นป ข องมนุษย เรอื่ งข อง
สวรรคช นั้ นี้ ขอเลา แ ตเพียงเทานี้
ป รนมิ ม ิตว สวัตตีภมู ิ โลกของเทวดาชั้นท่ี ๖
สวรรคชนั้ ป รนมิ ม ิตวสสวตั ตีภ ูมินี้ เปน เทวโลกช ัน้ สดุ ทาย
สวรรคช น้ั น ้ีแปลกก วาช้นั อ ่ืน เพราะเปนส วรรคท ่มี ีเทพผ เูปน ใหญ
ปกครองอ ยู ๒ ฝา ย ค อื
ฝ า ยเทพยดา มีเทวาธ ริ าช
ช่อื วา “พระป รนิมมติ เทวราช” เปน ผ ูปกครองเหลา
เทพท ง้ั หลาย
ฝา ยม าร มพี ญามาราธิราช
ช่อื วา “ทา วปรนมิ มติ วสว ัตต ีมาราธิราช” เปน ผูปกครอง
เทพฝ ายม าร
หลักการทำบุญ และปฏิบตั ิธรรมในชีวติ ประจำวนั ๑๖๕
ป รนมิ มติ วสวตั ตีมาราธิราช ค นท ่วั ไปรูจ ักกนั ในนาม
พญาวสวตั ตมี าร เราทงั้ หลายลวนรูจกั มารทานน ้ีดี ในฐานะ
พญามารผูตามขัดขวางการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจามาโดย
ตลอด จากพุทธประวัตติ อนพ ระพทุ ธองคผ จญม าร ซึ่งก ลายมา
เปน พ ระพุทธรปู ป างมารวิชัยท่คี นไทยเรานิยมส รางก ัน พ ระองคมี
พญาชา งท่ีมีกำลังม หาศาลชอื่ “ค รีเมขล”เปนพ าหนะคใู จ วา กัน
วา พญาชางขล ีเมขลของพญามารน ม้ี ี พละกำลงั ม หาศาลกวา ช า ง
เอราวณั ของพ ระอินทร
ก อ นตรัสร ู พระพุทธเจา ไดผจญพญาวสวตั ตมี ารน ี้ แตจ ะ
มใี ครท รี่ วู า พญามารท า นน ้ีเคยบ ำเพ็ญบุญมามาก แ ละไดต้งั ความ
ปรารถนาพ ุทธภ มู ิ ค ือ ต ้งั ความป รารถนาท จ่ี ะเปนพ ระพุทธเจา
ในอนาคตด วย
๑๖๖ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์
โพธิอำมาตย อดีตชาติพญามาร
เมือ่ ค รง้ั เกดิ เปน มนุษย พญาว สวตั ตมี าร มีชอ่ื วา
“โพธอิ ำมาตย” เปนอ ำมาตยผูใหญ ข องพ ระเจา แ ผน ดินพระองค
หนงึ่ โพธอิ ำมาตยพ รอ มทั้งช าวเมอื ง ถูกพระเจา แผนดนิ ห า มไมให
ทำบญุ กับพระก ัสสปพ ุทธเจา ถาใครข นื ทำ จะมีโทษถ งึ ถ กู ป ระหาร
ชวี ติ
โพธอิ ำมาตยนน้ั มศี รทั ธาอ ยา งแรงกลา แ มจ ะถ กู ประหาร
ชีวิตก็ยอม ขอเพยี งไดถ วายทานแ กพ ระกัสสปพุทธเจา ดว ย
มาคดิ วา การท ่ีพระพทุ ธเจา อ บุ ตั ิข้ึนในโลกน ั้นเปนเรื่องย าก
การท่จี ะพบเหน็ พระพทุ ธเจานัน้ ก็เปนเร่อื งยากย่งิ และ
บดั นพี้ ระพทุ ธองคไ ดเสด็จมาถ ึงเมอื งท ่ีตนอยแู ลว การมโี อกาส
ถวายท านแ กพ ระองคจ งึ ช ื่อวา เปนลาภอนั ป ระเสรฐิ
โพธิอ ำมาตยจ งึ ย อมส ละชวี ติ เพอ่ื ใหไดถวายทาน
ด วยความต้งั ใจแมส้ ละชวี ิตก ย็ อม ขอให้ได้ถวายทาน
แ กพ ระก ัสสปพุทธเจา โพธอิ ำมาตยไ ดป รารถนาทจี่ ะเปน
พ ระพทุ ธเจา ในอ นาคต
หลกั การทำบญุ และปฏบิ ัติธรรมในชีวติ ประจำว๑นั ๖๗
ในก ารทำบญุ ค รง้ั น้ัน โพธอิ ำมาตยมโี ทษถงึ ถ ูกต ัดสิน
ประหารชวี ติ ห ลังจากโพธิอำมาตยต ายแ ลว ไดไปเกดิ บนส วรรค
ชัน้ ปรนมิ ม ิตวสวัตตี ป กครองเทพฝ า ยมาร มชี อ่ื วา “ปรนมิ ม ติ
วสวัตตมี าราธิราช” แตเพราะค วามท่ีทานย งั เปน ปุถชุ น แมจ ะ
ไปเกิดเปนเทพบ นสวรรคช ัน้ สงู สดุ ก็ยงั มจี ิตด ีบางไมดบี างปะปน
กนั ไป
เมื่อค ร้ังพ ระพุทธเจาของเราออกบวช จ ะไดต รสั รเู ปน
พระส ัพพญั พู ทุ ธเจาก อ นพ ญาวสวตั ตมี าร จ งึ เกดิ อ จิ ฉาริษยา
ตามขัดขวางการตรสั รูของพระพุทธเจามาโดยต ลอด แตไมเ คย
ทำอนั ตรายใดๆ ตอ ช ีวิต ม ุง หวังเพยี งตองการใหพระพุทธเจา
ของเรา เปลีย่ นค วามต ้งั ใจอ ยางเดียว
ในพ ุทธประวัติ ไดก ลาวถ ึงตอนทพ่ี ระพุทธองคผ จญ
พญาวสวตั ตีมาราธิราชไวว า
พญามาราธิราชคดิ วา จกั ใหพระโพธิสตั วลุก จาก
บลั ลงั กหนไี ปด วยล ม จ ึงบันดาลมหาว าตะใหต ัง้ ข้ึน ล มน้นั
ถึงแ มว า จะสามารถพ ดั ท ำลายย อดภ ูเขาใหญน อยทัง้ หลายให
ราบคาบ สามารถถอนตนไม กอไม และพ ดั กระหนำ่ หมูบา น
ใหล ะเอียดลงรอบดา น แตเมือ่ ม าถ งึ พระโพธิสัตว กไ็ มอาจ
จะพดั ชายจวี รใหไ หวได ด ว ยอ านุภาพแหงพระบารมีของ
พระโพธิสัตว
๑๖๘ พระวิจิตรธรรมาภรณ์
พญาวสวัตตีมาราธิราชจึงบันดาลใหหาฝนใหญตั้งข้ึน
บนั ดาลหา ฝ นเคร่อื งป ระหาร บนั ดาลหาฝ นห ิน บ นั ดาลหา ฝ น
ถานเพลิง บ ันดาลหา ฝ นเถ า รงึ บันดาลหาฝนท ราย บนั ดาลหา
ฝนเปอ กตม และบ นั ดาลค วามม ืดรวมเปน เคร่ืองป ระหาร ๙
ชนิด ใหต ั้งข้นึ รอบดาน โดยมุงหวังจ ะใหพ ระโพธสิ ตั วหนีไป
แตอ ันตรายจากเครอื่ งประหารเหลา น ั้น กไ็ มส ามารถทำให
พระองคส ะดุงส ะเทือนได
สดุ ทา ย ภ ายหลังการต รัสรู ของพระพุทธองค ลกู สาว
แสนส วย ทง้ั ๓ ค นของพญามาร ค อื นางตัณหา นางราคา
และน างอรด ี ไดอ าสามาฟอนรำย่ัวยวนเบื้องพ ระพ กั ตร
หวังจ ะใหพระองคเ ลิกลม ความตง้ั ใจ แตก็ไรผล ทำใหพ ญา
มาราธิราชก ลับไป ดว ยความเศรา โศกเสียใจเปนอยางม าก
รอคอยโอกาสอ ยูในว ิมานบ นสวรรคข องต น
ขอความดงั กลา ว บ ูรพาจารย ภ ายหลังไดนำมารอยเรยี ง
เปน บทสวด ที่เราเรียกก นั วา บทถวายพรพ ระ หรือ บทพาห งุ
ดังปรากฏข อ ความ ในคาถาท อนแ รกวา
หลักการทำบญุ และปฏิบัติธรรมในชีวติ ประจำวัน๑๖๙
พ าห ุง ส ะหสั สะมะภินมิ ม ติ ะสาวุธันตงั
ครีเมขะลงั อุทิตะโฆระสะเสนะ มารัง
ทานาทธิ ัมมะวิธนิ า ช ิตะวา ม นุ ินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ช ะย ะมงั คะล านฯิ
ป างเมอ่ื พ ญามารนริ มิตแ ขนถ ืออาวุธค รบต ง้ั พ ันแ ขน ขับขี่
ชา ง ค รเีมขล ส ะพรึบพ รอ มดว ยพลเสนาม าร โหรอง
กอ งกงึ พลิ กึ สะพรงึ กลวั เขามาประจญั พระจอมมุนีทรงใชวิธี
ทางธรรม ค อื ท รงเสยี่ งพระบ ารมี ม ีทาน เปน ตน เขาผจญ
ไดช ัยชนะ ดว ยเดชแหงองคพ ระผ พู ิชิตมารน้ัน ขอชัยมงคล
จงมีแกท า น
หลงั พระพุทธเจาป รนิ ิพพานไปแลว ป ระมาณ ๓ ๐๐ ป เมอื่ ค ร้ัง
พระเจา อโศกมหาราชส รางเจดีย ๘๔,๕๐๐ องค ถวายเปน
พุทธบชู า ว สวตั ตีมาราธิราชไดม าข ัดขวางการเฉลมิ ฉลอง แต
พระอปุ คตุ มหาเถระ ผูเกิดหลงั พุทธปรินิพพานทรงอภิญญา
แกกลาไดต้ังสัตยาธิษฐานปราบพญามารดวยการเสกหมาเนา
พันคอ มิใหใครสามารถน ำออกได พ ญามารไดร บั ความอ บั อาย
ในห มูเทพจ นละพ ยศ
๑๗๐ พระวิจติ รธรรมาภรณ์
ในค ราวค รัง้ น น้ั พ ญามารคร่ำครวญวา แ มเม่อื ค รงั้
พระพทุ ธเจา ผเู ปนศาสดาของพระมหาเถระย งั มชี วี ิตอ ยู ต นได
ประทษุ ราย ตอพ ระพุทธองคเปนอันมาก แตพ ระองคกย็ ังเปย ม
ดว ยเมตตา มิเคยท ำใหต นไดร บั ค วามอ บั อายเลย แตไฉนทา น
อุปคตุ เถระ เปน แตเพียงพระสาวกของพระพทุ ธองคม ไิ ดม ีความ
เมตตาเชน น นั้ ต อต นเลย
พญายามารไดต ้งั ค วามปรารถนา ท จ่ี ะเปนพ ระพทุ ธเจาผู
เปยมด ว ยเมตตา ต อหนา พระอุปคตุ มหาเถระเจาอ กี ครัง้
สมยั กอ น พระสงฆนิยมน ำเร่อื งนมี้ าเทศน ในงานเทศน
มหาชาติ เราเรยี กเทศนาก ัณฑน วี้ า “ป ญ ญาบารม”ี ต อ จากนั้น
จงึ เทศนก ณั ฑม าลยั ห ม่ืนม าลยั แสน บ อกเลาเร่ืองราวค วามเปนไป
ของนรกสวรรค เตอื นสตชิ าวพุทธ
ปจจบุ ันเรื่องเหลา น้ีแทบจ ะหาฟ ง ไมไดแ ลว
จำไดวา เมื่อยงั เด็ก ในงานบุญมหาชาตหิ ลังแหผะเวส
(พ ระเวสสันดร) เขา เมือง ตกเยน็ พ ระทา นจ ะเทศนป ญ ญาบ ารมี
และม าลัยห มื่นมาลยั แสน วาดว ยพ ระม าลัยดบั ไฟนรก และ พ
ระอปุ คุตม หาเถระ ผเู กดิ ห ลงั พ ทุ ธกาลวา ๓๐๐ ป กลา วอา งบ ารมี
๓๐ ทัศนของพระพทุ ธองค แลว เอาชนะพ ญามารได
หลักการทำบญุ และปฏบิ ัตธิ รรมในชวี ติ ประจำวนั ๑๗๑
พ อถ ึงตอนพระอุปคุตเสกหม าเนา พ นั ค อพญามาร ก็ด เู ปน
เรอื่ งสนกุ ย งิ่ ถ งึ ตอนทพี่ ญามารถ ูกหมาเนาพันคอ เหาะไปหา
เทวดาตา งๆใหช วยก ย็ งิ่ ด นู า ขัน
แ ตตอนน ั้นกย็ ังไมรู เร่ืองอ ะไร เพราะยังเดก็ อ ยูมาก
เรือ่ งราวสวรรคต ามทก่ี ลา วมา แ มจ ะไมละเอียด แ ตก็พ อ
จะทำใหโยมแ มใ หญเ หน็ ภาพรวมไดบ า ง ต อไปนีจ้ ะพ ูดถงึ เรือ่ งราว
ของพรหมโลก
พรหมโลก
โลกข องผ เู ขา ถงึ ความเปน ห มพู รหม
สวรรคต ามทก่ี ลาวมานนั้ มที ้งั หมด ๖ ชัน้ สงู ข้นึ ไปก วา น ้ัน
เปนพรหมโลก
พรหมโลกนั้น มีท้งั หมด ๒ ๐ ชัน้ แ บงเปน พรหมท ี่มรีปู รา ง
เรียกวา “รปู พ รหม”๑๖ ช้นั และพ รหมท ไี่ มมีรปู รา ง เรียกวา “
อรปู พ รหม”อกี ๔ ช นั้ รวมเปนพ รหมโลก ๒๐ ช ้นั ผ ูท จ่ี ะไป
เกดิ ในพรหมโลกแตล ะช ั้นตอ งทำสมาธจิ นไดบ รรลฌุ าน ๔ ขน้ั เทา
น้ัน ค อื
(๑ )ป ฐมฌาน ฌานข้นั ท ่ีหนึ่ง
(๒ )ทตุ ิยฌาน ฌานขน้ั ท่ีสอง
(๓ )ต ต ยิ ฌาน ฌานข้นั ท ีส่ าม
(๔)จ ตตุ ถฌาน ฌานข ัน้ ที่ ๔
๑๗๒ พระวิจติ รธรรมาภรณ์
ฌานทั้ง ๔ ขน้ั ตำ่ สูงต ามความละเอยี ดประณีตของฌานท ่ี
ไดบ รรลุ เก่ียวกบั ฌานเปน เร่ืองค อ นขางล ะเอียด เพราะเกย่ี วกบั
สมาธิโดยตรง อ าตมาต ง้ั ใจจะเลา ใหฟง เปน เรอ่ื งห นึง่ ต า งห าก
ในทางพระพุทธศาสนาไดจ ำแนกพรหมโลกช ั้นต างๆ ตาม
ระดับจิตท่ีไดบ รรลฌุ านไว ด งั นี้
ปฐมฌาน ฌานข ัน้ ท ่ี ๑ ผ ูท ไ่ีดบ รรลฌุ านข ้ันทหี่ น่งึ แตมี
กำลังฌานอ อน ไมแ กกลา หากฌ านย งั ไมเสอื่ ม เม่อื ตายจ ะไป
บังเกดิ ในพ รหมโลกชั้นแรก ช ื่อวา พรหมป ารสิ ชั ชา พ รหมโลก
ชัน้ นม้ี ภี พภมู ิท ลี่ ะเอียด ป ระณีตสงู กวาสวรรคท ัง้ ๖ ช น้ั มีอายยุ ืน
นบั ไดหนงึ่ ในส ามข องววิ ฏั ฏฐายอี สงไขยกปั
อายุของสวรรคต ลอดจนพ รหมโลกแตล ะช ั้น จะก ลา ว
เปนการเฉพาะขางหนา
ผูท ่ีไดบ รรลปุ ฐมฌาน ท่ีมกี ำลังฌานป านกลาง เม่ือตาย
จะไปบังเกดิ ในพรหมโลกช นั้ พรหมปุโรหติ พรหมโลกช นั้ น ้ี
ประเสริฐก วา พรหมช ้นั แรก รปู รางใหญและประณตี กวาอ ายุข อง
พรหมช น้ั น้ี กย็ าวนานก วา พรหมช ้ันแ รกนบั ได ๓ ๒ อันตรกปั
ผูทไ่ี ดบ รรลปุ ฐมฌานระดบั ปณีตฌาน คือ ไดบรรลุ
ปฐมฌานท่ีม ีกำลังแกก ลา เม่อื ตายจะไปบ งั เกิดบ นพ รหมโลกช ัน้
มหาพรหม ซ่งึ ประเสรฐิ ก วาพ รหมท ั้งสอง พ รหมช้ันนม้ี อี ายุนาน
นบั ได ๑ ม หากปั
หลกั การทำบญุ และปฏิบตั ิธรรมในชวี ิตประจำวัน๑๗๓
ส ำหรับพ รหมโลกช้ันพ รหมปารสิ ัชชา พ รหมโลกช นั้
พรหมปโุ รหติ และพรหมโลกช นั้ มหาพรหม ท้ัง ๓ ช ั้นน ้ี อ ยใู น
ระดับเดยี วกนั แตม คี วามล ะเอียดป ระณีตแ ตกตา งก ัน ตามความ
ละเอียดป ระณีตข องจติ ทีเ่ กิดจ ากก ำลังฌ าน
ทุติยฌาน ฌานขน้ั ท ี่ ๒ ผทู ไี่ ดบรรลทุ ตุ ยิ ฌานมีกำลัง
ฌ านออ น เม่อื ตายไปแลว จะไปบงั เกิดอ ยูในพรหมโลกช ้นั ปริต
ตาภมู ิ ซ งึ่ ป ระเสรฐิ ก วาพรหมทัง้ สามช้ันขึน้ ไปอีก พรหมช น้ั น ี้
มอี ายุ ๒ มหากปั
ผ ูทไี่ดบ รรลทุ ุต ิยฌ านข ัน้ มัชฌิมทุตยิ ฌ าน ม กี ำลงั ฌ าน
ปานกลาง เมอื่ ต ายไปแลว จะไปบงั เกดิ อ ยูในพ รหมโลกชน้ั
อปั ปมาณาภาภูมิ พ รหมโลกช ั้นน ้ีนับวาประณตี ข ึน้ ไปอีก ม รี ัศมี
มากมายมหาศาล พรหมช น้ั น ้มี อี ายุถึง ๔ มหากปั
ผ ทู บ่ี รรลุทตุ ยิ ฌานข้ันป ณตี ทตุ ยิ ฌาน มกี ำลงั ฌ านแ ก
กลา เ ม่ือตายไปแลว จ ะไปบงั เกิดในพรหมโลกช้นั อ าภ สั สระ
ซง่ึ ป ระเสริฐกวา พรหมท ง้ั ๔ ชัน้ คอื มปี ระกายรุงเรอื ง
โรจนรุง พุงเปลง อ อกดังส ายฟาแ ลบ อายขุ องพ รหมชน้ั น มี้ ถี งึ
๘ ม ห ากปั
ต ตยิ ฌาน ฌานขัน้ ที่ ๓ ผทู ี่ไดบรรลุตตยิ ฌานมีกำลังฌาน
ออ น เมือ่ ต ายไปแลว จะไปบังเกดิ ในพ รหมโลกช ั้นป ริตตส ุภา
ภมู พิ รหม ช ้นั น้แี มจะม คี วามส งางามแ หงรัศมีนอ ยหนอย แ ตก ย็ ัง
สูงกวาพรหมท้ัง ๖ น ัน้ พ รหมชัน้ น มี้ อี ายยุ นื ถ งึ ๑๖ ม หากปั
๑๗๔ พระวิจติ รธรรมาภรณ์
ผูทไี่ ดบ รรลตุ ตยิ ฌาน มกี ำลังปานกลาง เมอ่ื ต ายไปแลว
จะไปบงั เกิดในพรหมโลกชน้ั อัปปม าณสภุ าภ ูมิ พ รหมชน้ั น ีม้ คี วาม
สงา งาม ม ีรศั มีอ นั ห าป ระมาณม ิได อ ายุของพรหมช ัน้ น ี้ ม ถี ึง
๓๒ ม หากัป ผูท ไ่ี ดบ รรลตุ ต ิยฌ านช ้ัน ปณตี ตต ยิ ฌาน
ม ีกำลังฌ านแ กก ลา เม่อื ต ายไปแลว จะไปเสวยสุขอ ยบู นพ รหม
โลกช ้ัน สภุ กิณห าภ ูมิ พ รหมชัน้ น้ีมีความรงุ เรืองสงางามแหง
รัศมีสลบั ซับซอนตลอดไปท ั่วรางกาย พ รหมชั้นน ี้มอี ายยุ นื ถ ึง ๖๔
มห ากปั
จตตุ ถฌาน ฌ านขัน้ ที่ ๔ ส วนผ ูทไ่ี ดบ รรลจุ ตุตถฌาน
เม่อื ต ายไปแลว จะไปบ งั เกิดในพรหมโลกช ้ันเวหปั ผล าภ ูมิ
พรหมช ้นั น สี้ มบรู ณบ ริบูรณก วาพรหมทง้ั ๙ ช้ัน ไมต องถ ูก
ทำลายห รอื เกิดอันตรายจากไฟบ า ง น้ำบ าง ล มบ า ง พ อถ ึง
เวลาจะถูกทำลาย กต็ อ งโดนท ำลายไปตามกาลเวลา แ ตพรหม
ชน้ั นี้พ นจากอ นั ตรายเหลา นี้ ไมต องถ ูกท ำลาย เพราะบ ญุ เดิมเต็ม
เปยม พ รหมช นั้ น ้มี อี ายุยนื ถงึ ๕ ๐๐ มห ากัป
จากน้ไี ปจะกลาวถงึ ฌานท ลี่ ะเอยี ดป ระณีตม าก จนรสู ึก
วา ตนเองไมมีรปู รา ง มีแตจติ อยางเดียว จ ึงเรียกผ ทู ่เี ขา ฌานใน
ระดบั น ้ีวา อรปู ฌ าน แปลวา ฌานไมมรี ปู ราง มี ๔ คือ
หลกั การทำบญุ และปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวนั ๑๗๕
(๑ ) อาก าสานญั จายต นฌาน ผ ูที่ไดบ รรลุฌานขัน้
น้ี นับวา แ ปลก เพราะเปน ฌ านไมม ีรปู ไมมีราง ม ีเพยี งจติ เทา
นัน้ ที่เปน เชนนี้ เพราะเมื่อป ฏบิ ตั สิ มาธบิ รรลจุ ตุตถฌ านแลว ก็
ยงั ไมพ งึ พอใจ เกิดค วามเบ่ือหนายในรา งกายจ งึ บำเพ็ญเพยี ร
ตอ โดยก ำหนดเหน็ อากาศไมมีที่สน้ิ สดุ บ ำเพญ็ เพยี รอ ยูอ ยางน้ี
จนไดบ รรลอุ กาสาน ญั จายต นฌ าน เม่อื ต ายไปแ ลว จะไปบงั เกิดใน
พรหมโลกช ้นั อ าก าสาน ญั จายตนภ ูมิ พรหมโลกชั้นท ่ี ๑๗ ไมม ีรูป
ไมม รีา ง มเี พียงจิต จงึ จดั เปนพ รหมชนั้ สงู จนไมมรี ูปรา ง อายุ
ของพวกเขาย นื ยาว นานแสนทีจ่ ะน าน ถึง ๒,๐๐๐๐ ม หากัป
(๒ ) ว ญิ ญาณญั จายต นฌาน ผทู ีไ่ ดบ รรลุฌ านขนั้ นีก้ ็
เชนกบั พวกพรหมช้นั อ ากาสานัญจายต นภ ูมิ คอื พวกพรหม
ไมม ีรปู ราง ม เีพียงจิตเสวยสขุ อยู น งิ่ เฉยเหมอื นล อยอ ยู กลาง
อากาศ พ รหมพวกน ี้ไดบ รรลจุ ตุตถฌาน แ ลวก็ไมพอใจ เกดิ
ความเบ่อื หนายในรางกายตน จึงบ ำเพ็ญเพยี ร จนไดบ รรลุอ า
กาสาณัญจายจนะ ก ็ไมพ อใจ จ งึ บำเพ็ญเพียรต อ ไป โดยกำหนด
ภาวนาถ ึงค วามละเอียดข องวิญญาณ ไมมที ี่ส้นิ สุดจนไดส ำเร็จ
วญิ ญาณัญจายต นฌ าน เมอื่ ตายแ ลว จะไปบ งั เกิดในพรหมโลกช ั้น
วิญญาณญั จาตนภ ูมิ พรหมไมมรีปู ราง ม ีเพียงจ ิตเสวยสุขอยู
โดด เดน บ นอากาศ มีอายุยนื ถ งึ ๔ ,๐ ๐๐๐ ม หากัป
๑๗๖ พระวิจิตรธรรมาภรณ์
(๓)อาก ิญจญั ญายตนฌาน ผทู ไ่ี ดบ รรลุฌานน ้ี ก็เชน เดียว
กัน ไมพอใจในวญิ ญาณณัญจายตนฌ าน บ ำเพ็ญเพยี ร ต อ ไปจน
สำเรจ็ อ าก ญิ จัญญายตนฌ าน โดยก ำหนดวา “อะไรๆก ไ็ มมีๆๆๆ”
ภาวนาอยูจ นสำเรจ็ อากิญจญั ญายตนฌาน เมอ่ื ตายไปแ ลว จะไป
บงั เกิดในอรปู พรหม คือ พรหมไมม ีรปู มีเพยี งน ามจ ติ ในชั้นอา
กญิ จญั ญายตนภูมิ มอี ายุยืนยาวมาก นานถ งึ ๕ ,๐๐๐๐ มหากปั
(๔ )เนวส ัญญานาส ัญญายตนฌ าน ซง่ึ เปน ฌ านขัน้ ส งู สุด
ในบ รรดาฌานโลกท้ังหลาย เปน ฌานท ่มี สี ญั ญาล ะเอียดป ระณีต
ที่สุด คือ จ ะมีสัญญากไ็ มใช ไมมสี ัญญา ก ไ็มใ ช ผทู ี่ไดบ รรลฌุ าน
ข ้นั น ้ี โดยก ำหนดภาวนาวา “ป ระณตี ๆ ๆ”ท ่กี ำหนดภ าวนา
อยูเชนนี้ ก เ็พอ่ื ห นีทกุ ขแ หงรา งกายใหไกลทีส่ ดุ คิดแ มกระท่ังวา
จิตกจ็ งห มดสน้ิ ไป จิตอยาไดม ี จ งึ เรยี กวา “มสี ญั ญากไ็ มใช ไมม ี
สญั ญญาก็ไมใ ช” เปนเพียงจติ อ นั ล ะเอียดประณีตม าก เมอื่ ต าย
แลวจะไปเสวยสุขอยูในพรหมโลกช้ันเนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ
เปนภูมิของพ รหมท ่ไี มมีรปู อายุยนื ถงึ ๘ ๔,๐๐๐ มห ากปั
นอกจากน นั้ ยงั ม ี จตตุ ถฌานอีกอ ยางห นึ่ง เรียกวา
“อสญั ญจ ตุตถฌาน” แตก จ็ ดั เขาในเนวส ัญญาน าส ัญญายตน
ฌานน้ีเชน ก ัน ไดแก ฌาน ๔ ท่ไีดบ รรลุจากบรกิ รรมวาโยก สณิ
คร้นั อ อกจากฌานแ ลว เกดิ ค วามเบอ่ื หนายจ ติ เกลียดชงั จ ติ
เปนอันมาก เมื่อ ออกจากฌานภ าวนาอยูว า “ตวั ขาอ ยาม ี
สัญญาๆๆ ๆ ” บำเพ็ญเพยี รอยเู ชนนี้ เมอ่ื ตายแ ลว จะไปเสวยสขุ
อยใู นรูปพรหม คือ ปรากฏเหมือนม เี พียงรูปเทาน ัน้
หลกั การทำบญุ และปฏบิ ตั ธิ รรมในชวี ิตประจำวัน๑๗๗
คัมภีรท างพ ระพทุ ธศาสนา แสดงข อ ท ี่นับวาแปลกข อง
พรหมชนั้ น ไี้ ววา พ รหมพ วกน ้ีต ง้ั อ ยใู นวมิ านอ ันสวยงาม แต
บางอ งคยืนน่ิง บางอ งคกน็ ั่งน่ิง ไมม หี วน่ั ไหว ไมมกี ารก ระดกิ
ทั้งนว้ิ มอื หรอื อ วัยวะอื่นใด เหมือนเทวรูปทเ่ี ขาป นต ั้งไว ยืนอ ยู
อยา งไรก ็อยูอยางน ้นั ท่เี ปน เชนน ี้ ก็เนอ่ื งม าจากผ ูท ไ่ี ดบ รรลุ
อสญั ญจ ตุตถฌานตายในอริ ยิ าบทน ่งั กจ็ ะข นึ้ ไปป รากฏน ัง่ น ง่ิ อยู
ไมขยบั ถ า ย ืนต าย กจ็ ะข น้ึ ไปป รากฏยืนไมข ยับ น่ังอ ยนู ิ่งๆย นื
อยูนิง่ ๆ เหมอื นรูปปน ในพ รหมโลกน้ัน จงึ เรียกพรหมโลกช ้นั น้ีวา
“อสัญญสัตต าพ รหม”
ต อไปน้ีจะพูดถ ึงพ รหมโลกช นั้ ตางๆ ใหโยมฟ ง ส ว นราย
ละเอยี ดประวัติค วามเปนมา จะขอก ลา วเฉพาะช้ันท สี่ ำคญั และ
เกี่ยวเน่อื งกบั พ ระพุทธเจาของเรา พ อเปน อทุ าหรณเทา น ัน้ พรหม
๒๐ ชน้ั มี ดังนี้
๑.พ รหมปารสิ ชั ชา พรหมโลกช ้นั ท ี่ ๑
๒.พรหมปุโรหิตาภ มู ิ พรหมโลกข้ันท ี่ ๒
๓.มหาพรหมภ มู ิ พรหมโลกช ั้นท ี่ ๓
๑๗๘ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์
ทไ่ี ดช อ่ื อยา งน ้ี เพราะเปน ท ่ีอยูของพ รหมผใู หญท้ังหลาย
เมอื่ วาโดยอายุก็ม ีอายุย ืนยาวม าก จนทำใหพรหมท เ่ี กดิ ในช ้นั น ้ีเขา
ใจไขวเ ขวไปตางๆก ม็ ี คอื เขาใจไปวา ต นเองไมแกแ ละไมตาย
ตวั อยางท ี่พ อจ ะเลา ใหฟงก็คอื พ กาพรหม ตามท่ีปรากฏในบ ท
ถวายพรพระ ท่พี ระสงฆทานใชส วด ในเวลาท ี่เราทำบุญในโอกาส
ตางๆข อ ความในบทถ วายพ รพระ ม ี ด งั น้ี
ทคุ คาหะหฏิ ฐภิ ชุ ะเคน ะ สุทัฏฐะหัตถงั
พ รหั มัง ว สิ ทุ ธชิ ตุ มิ ิท ธพิ ะกาภธิ าน ัง
ญาณาคะเทนะ วิธนิ า ช ติ ะวา ม นุ นิ โท
ตนั เตชะสา ภะวะตุ เต ช ะยะมังคะล านฯิ
องคสมเด็จพระส มั มาสัมพ ทุ ธเจา ไดท รงช นะพรหม
ชอ่ื พกะ ผ สู ำคัญต นวามีความบ รสิ ทุ ธ์ิ ม ีรศั มี เรอื งอำนาจ
และมีฤทธ์ิ ไมม ีใครย ิง่ กวา จงึ เกดิ ความเห็นผ ดิ ไปวา
ชวี ติ ของพ รหมเปน ช ีวติ ท่เี ปน อ มตะ จงึ โตแ ยง ค ำส อน
ของพระพุทธองค เปรยี บเหมือนค นถ ูกงกู ดั ที่มือ พ ระ
จอมมนุ ี ท รงใชว ิธแี สดงพ ระญ าณค รอบญาณ ใหก วาง
กวา ทำใหพ รหมหมดความเห็นผ ิดจ งึ ไดร ับช ัยชนะ ดวย
เดชานุภาพ แ หงองคสมเดจ็ พระสัมมาสัมพ ทุ ธเจา ผู
เปน จอมม ุนี ท่ไีดท รงชนะพรหมช อื่ พกะน้นั ข อช ยั มงคล
ทงั้ หลายจ งม แี กท าน
หลักการทำบญุ และปฏบิ ัติธรรมในชวี ิตประจำวนั ๑๗๙
พกามหาพรหม บังเกดิ ในพ รหมโลกช ัน้ มหาพ รม มี
อายยุ นื นานจนเกดิ ค วามคดิ วา ตนไมแกแ ละไมต าย ยินดกี บั คำ
ยกยอท มี่ นุษยส รรเสริญวา มหาพรหมเปนผ ปู ระเสริฐยงิ่ นัก เปน
ผมู ศี ักดานุภาพยงิ่ ใหญนัก เปนผ สู รางโลกสรา งส ัตวนอยใหญและ
สรรพสง่ิ ใหเกดิ ข้ึนในโลก เปนผูมีต บะยง่ิ นกั ม อี ำนาจเหนอื ส่ิง
ทัง้ ปวง พกาพ รหมเกดิ ทฐิ วิบิ ตั ไิ ปวา นิพพานที่พระพุทธเจาพ ดู ถงึ
กนั น้ัน เปนส ิ่งไรสาระ
องคส มเด็จพระส มั มาสมั พ ุทธเจา ท รงทราบวาระจิตของ
พกามหาพรหม จึงไดเ สด็จไปยังพ รหมโลก ท า วพกาพ รหมเห็น
เขา จงึ เกดิ ความยนิ ดี ท่จี ะไดห กั ลางคำสอนข องพระพุทธเจา ทาว
พกาพ รหมก ลาววา สิง่ ท ้ังหลายท ัง้ ปวงลวนเปน ของเท ยี่ ง ต งั้ มัน่
ยงั่ ยืนไมเปลย่ี นแปลง ค งทนถาวรไมมีท ส่ี น้ิ สุด ไมรจู กั แ ก ไมร ูจ ัก
ตาย ไมม คี วามท กุ ขเกิดแ กผ ูใด ม แี ตความส ขุ เบิกบาน ทกุ ข
เพราะการเกดิ ทกุ ขเ พราะค วามเจ็บ ทกุ ขเ พราะความแ ก แ ละ
ทกุ ขเ พราะความตายไมมี
พระพุทธองคต รสั เตอื นวา แ มทา นจะม ีเดชานภุ าพม าก
มีรศั มีสองสวางไปเปน ห มืน่ โลก แ ตหากไฟกเิ ลสยงั เผาผลาญ
จิตใจอ ยเู ชน นี ้ จะช่ือวา อยูสุขสำราญไดอ ยางไร แมท านจ ะ
ชอ่ื วา เปนผูม ีศักดานุภ าพมาก แตกไ็ มอาจล ว งรไู ปถ งึ ทีอ่ ยขู อง
พรหมช ้นั สงู ขึ้นไป ท้งั วธิ ีการท ่จี ะไปเกิดในพ รหมชนั้ สูงๆ นั้น
กไ็ มรู
๑๘๐ พระวิจิตรธรรมาภรณ์
ท า วพ กาพ รหมกลา วตอบพ ระพุทธเจาวา พ ระพุทธองค
กลาวเชน น ้ี เหมือนโออวดวา มศี กั ดานภุ าพม ากส ามารถลว งรู
พรหมโลกเบอ้ื งสงู แตผ ูเดยี ว แมต วั เองม ีศักดานุภ าพย ง่ิ ห าใคร
เสมอม ิได กย็ ังไมโ ออ วดไปวารู
พ ระพุทธเจา ตรสั วา พ กาพรหมก ลาวเหมอื นต นเองม ี
ฤทธิ์มาก ถ า เชนนน้ั ท า นจ งแสดงฤ ทธหิ์ ายตัวไป อยา ใหเ รา
เหน็ ไดเด่ยี วน ้ี ทาวพ กาพรหมคิดวา ตนเองมศี ักดานภุ าพห า
ใครเสมอมไิ ด จ งึ รับคำท า แลว หายตัวไป แตจะหายตวั ไป
ซอ นเรนทีไ่ หน พระพทุ ธเจากแ็ สดงฤทธ์ิ ส ามารถมองเหน็ ได
จนท า วมหาพรหมจ นปญ ญา เจา จกุ อ ยู ณ วมิ านข องตน แ ละ
พระพทุ ธองคก ท็ รงแ สดงฤทธิด์ วยก ารห ายตัวไป ย ังป รากฏ
อยกู ็แตเ สยี งเทศนาข องพ ระพุทธเจา ท่ดี ังกองไปทวั่ พรหมโลก
สว นตัวนนั้ ห าป รากฏไม
เมื่อคร้ังม ชี าตเิ ปนมนุษย พกาพรหมนัน้ ม าพ จิ ารณา
เหน็ วา ก ารครองเรือนม ีแตความท กุ ข จ ึงสละทรัพยส มบตั ิ
ออกบวชเปน ฤๅษี บ ำเพ็ญพรตจ นไดฌ านขั้นท่ี ๔ (จตุตถฌาน)
ตายไปเกิดในพ รหมโลกชั้นเวหัปผล า เสอ่ื มจ ากฌ านข้ันท ่ี ๔
ตายไปแ ลว ลดล งมาเกิดในพรหมโลก ชนั้ สุภกิณ หา เม่ือฌ านข น้ั ที่
๓ เสื่อม ต ายไปแ ลวลดล งมาเกิดในพรหมโลกชั้น อาภ ัสสร
พรหม ค ร้ันฌานข ัน้ ท ่ี ๒ เส่ือมจึงล ดช น้ั ล งมา เกิดในพ รหม
โลกชั้น ม หาพรหม
หลกั การทำบญุ และปฏิบตั ิธรรมในชวี ติ ประจำวัน๑๘๑
พ รหมโลกแ ตล ะช นั้ ก ม็ อี ายยุ นื นานมาก เพราะความ
ทพี่ กาพรหมเกิดวนเวยี นอ ยแู ตในพรหมโลก พ กาพรหม จงึ
เขาใจไปว า ต นและส รรพสงิ่ เท ย่ี งแทไมแปรเปลยี่ น ไมแ ก
และไมตาย
๔.ปริตตาภาภูม ิ พรหมโลกช ้ันท่ี ๔
๕.อปั ปม าณ าภาภูม ิ พ รหมโลกช้ันที่ ๕
๖.อาภัสสราภ มู ิ พรหมโลกช ัน้ ท ี่ ๖
๗.ปรติ ตสุภาภ ูมิ พรหมโลกชนั้ ท ี่ ๗
๘.อ ปั ปมาณ าส ภุ าภูม ิ พรหมโลกช ั้นที่ ๘
๙.ส ุภกณิ ห าภมู ิ พรหมโลกชน้ั ท ่ี ๙
๑๐.เวหัปผล าภมู ิ พรหมโลกช้นั ท่ี ๑ ๐
๑๑.อสัญญสัตตาภ ูม ิ พรหมโลกช ั้นท่ี ๑ ๑
๑๒.อวิห าภมู ิ พ รหมโลกช ้นั ท ี่ ๑ ๒
๑๓.อ ตัปปาภ มู ิ พ รหมโลกช ั้นท่ี ๑ ๓
๑๔.สุทัสสาภ ูม ิ พรหมโลกช น้ั ท ี่ ๑๔
๑๕.สุทสั ส ีภ มู ิ พ รหมโลกช้ันท่ี ๑ ๕
๑๖.อกนิฏฐภ มู ิ พ รหมโลกชั้นท ่ี ๑ ๖
๑๘๒ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์
พ รหมโลกช้ันอกนิฏฐภ ูมิน ้ี เปน ที่อ ยขู องพ รหมผ ูมศี ีล สมาธิ
และปญญา อ นั ย่งิ กวาล ำ้ เลศิ สงู กวาพ รหมท ุกชั้นข างตน แ ละเปน
พรหมช้นั สุดทายท่มี ีรปู รางล ะเอียดประณตี ย่ิง ส ูงขึ้นไปจ ากอกณิฐ
พรหมนี้ เปนพรหมท่ไี มมรี ปู ราง แ ตอ ยดู วยจ ติ แ ละเจตสกิ แ ละ
เจตสกิ น ้ี หมายถ ึง ภาวะทจี่ ิตรบั รไู ด
พ รหมโลกชน้ั อกณ ฏิ ฐะนี้ ป รากฏวา เจดยี ท่สี ำคัญอ งคห น่งึ
ช่ือ “ทุสเจดยี ” เม่ือค รั้งองคส มเดจ็ พระสัมมาสัมพ ทุ ธเจา ของเรา
จะออกบวชนนั้ พรหมทั้งหลายท ่ีอ ยใูนชนั้ อกนิฏฐะน ้ี ไดพากนั
ถือเอาบริขารและผ าไตรจีวร เครื่องใชสำหรบั ผบู วชม าจากพรหม
โลก เพื่อใหพ ระโพธิสัตวผูจะตรัสรเู ปน พระพทุ ธเจา เปล่ยี นเคร่อื ง
แตง ตวั เมือ่ พระโพธสิ ัตวร บั เอาผ า ไตรมาค รองแลว ไดย ืน่ ผาข าว
ทพี่ ระองคทรงกอ นบวชใหแกพรหม ท าวมหาพรหมรับผ าขาวน นั้
มาแลว นำไปยงั อกนฏิ ฐพ รหมโลก เนรมติ เจดียแกวชือ่ วา “ท ุส
เจดีย” บรรจุผ า ขาวน้ันไวสกั ก ารบ ชู า
วา ก ันวา แมในปจ จุบัน ย ังปรากฏม พี รหมเปน จำนวน
มาก พ าก ันม าส ักการะทุสเจดยี ท บ่ี รรจผุ าขาววนั อ อกบวชของ
พระพุทธเจา มไิ ดขาด
หลกั การทำบญุ และปฏบิ ัติธรรมในชีวติ ประจำวนั ๑๘๓
อ รปู พ รหม ๔ ช้นั มีดงั นี้
๑ ๗.อาก าสาณ ญั จายตนภูมิ พรหมโลกช ั้นท่ี ๑๗
๑๘.วิญญาณัญจายต นภ มู ิ พรหมโลกชั้นท่ี ๑๘
๑๙.อากิญจญั ญายต นภมู ิ พรหมโลกช้นั ที่ ๑ ๙
๒๐.เนวส ญั ญาน าส ัญญายตนภ ูม ิ พรหมโลกช ัน้ ท ี่ ๒ ๐
ความละเอยี ดป ระณตี และอ ายุข องเทวดาในแ ตละช้นั ดจู ะเปน
เรือ่ งท ่ีเขาใจไดย าก เพราะอ ยูนอกเหนอื จากส่งิ ท่เี ราส ามารถรบั รไู ด
เกินกำลงั ส ติปญ ญาข องมนุษย จะทำความเขา ใจได
การน บั อ ายุข องสวรรคและพรหมโลก
การกำหนดนับอายุของผูท่ีไปเกิดในสวรรคและพรหมโลกนั้น
เปน ส่งิ ท่ที ำไดย ากย ง่ิ เพราะม ีอายุยนื ยาวจ นไมส ามารถค ำนวณ
ดว ยภาษามนุษย แตท านไดแ สดงไวพ อใหเ ห็นเปน ต ัวอยาง คร้ันจ ะ
ขามไป ไมก ลาวถึงอ ายุเทวดาและอายพุ รหม ก ารเลา เรอื่ งภ พภ มู ิ
ในพระพทุ ธศาสนา ก จ็ ะไมส มบูรณ ต อไปน้ี จะเปรียบเทยี บความ
แตกตาง ระหวางอ ายขุ องผทู ี่เกดิ ในสวรรคก บั อ ายุของมนษุ ย
๑๘๔ พระวิจติ รธรรมาภรณ์
(๑ )จ าตุมหาราชิกาภ ูมิ ม ีอายุ ๕ ๐๐ ปท ิพย ทานเปรียบเทยี บ
เทา กบั ๙ ล า นป ในเมอื งม นุษย
(๒ )ตาวติงสาภ ูมิ ม ีอายุ ๑ ,๐ ๐๐ ป ท พิ ย ท า นเปรยี บเทียบเทากับ
๓๖ ลา นป ในเมอื งม นษุ ย
(๓)ยามาภมู ิ ม ีอายุ ๒ ,๐๐๐ ป ทพิ ย ท านเปรียบเทยี บเทากับ
๑๔๔ ลานป ในเมืองมนษุ ย
(๔)ด ุสติ าภ ูมิ มีอายุ ๔,๐ ๐๐ ป ทิพย ทานเปรียบเทยี บเทากับ
๕๗๘ ล า นป ในเมอื งม นุษย
(๕ )น ิมมานรดีภูมิ มีอายุ ๘,๐ ๐๐ ปทพิ ย ท านเปรียบเทยี บเทา กบั
๒,๓ ๐๔ ล า นป ในเมอื งม นษุ ย
(๖ )ป รนมิ มิตวสวัตดภี มู ิ ม อี ายุ ๑๖,๐๐๐ ปท พิ ย ท า นเปรยี บ
เทยี บเทา กบั ๙,๒ ๑๘ ลา นป ในเมืองม นุษย
ทง้ั หมดต ามท่ี ก ลา วน ้เี ปนอายขุ องสวรรคท ้งั ๖ ช้ัน
สวนอายขุ องผูท ่ีเกิดในพรหมโลกน ั้นไมส ามารถเทยี บไดกับอ ายุ
ของโลกมนุษย เพราะพรหมน้นั มอี ายยุ นื ยาวม าก เกินจำนวนนับด วย
ภาษามนุษย ในค ัมภรี ท างพระพทุ ธศาสนา ไดแ สดงอายขุ องพรหม
แตละชน้ั ไว ดังน้ี
(๑)พรหมปารสิ ัชช าภ มู ิ มีอายุ ๑/๓ วิวฏั ฏฐายีอ สงไขยกปั
(๒)พรหมปุโรหิตาภูมิ มอี ายุ ๑/๒ ววิ ัฏฏฐายีอสงไขยกปั
(๓ )มหาพ รหมาภ ูม ิ มอี ายุ ๑ วิวฏั ฏฐายอี สงไขยกัป
หลักการทำบุญ และปฏบิ ตั ธิ รรมในชวี ิตประจำวัน๑๘๕
(๔)ปรติ ต าภาภมู ิ มีอายุ ๒ มห ากัป
(๕)อปั ปม าณาภาภ มู ิ มอี ายุ ๔ มหากปั
(๖)อาภสั สราภ ูม ิ มอี ายุ ๘ มห ากัป
(๗ )ป รติ ตสุภาภ มู ิ มอี ายุ ๑๖ ม ห ากัป
(๘)อ ปั ปมาสภุ าภูม ิ มีอายุ ๓๒ ม ห ากปั
(๙)ส ภุ กณิ หาภ มู ิ มีอายุ ๖๔ ม หากปั
(๑ ๐)เวหัปผล าภูม ิ มอี ายุ ๕๐๐ มหากปั
(๑ ๑)อ สัญญสัตตภ ูม ิ มีอายุ ๕๐๐ มหากัป
(๑ ๒)อวหิ าภ ูมิ มีอายุ ๑,๐๐๐ มหากปั
พรหมชน้ั น้บี ำเพ็ญส ัทธนิ ทรยี คอื บำเพญ็ บ ารมีดา นศ รทั ธา
(๑ ๓)อ ตปั ป าภมู ิ มีอายุ ๒,๐๐๐ มห ากปั
พรหมช นั้ นบ้ี ำเพญ็ วริ ิยินทรยี ค อื บำเพ็ญบารมีดา นความเพยี รพ ยายาม
(๑ ๔)สุทัสสาภูมิ มีอาย ุ ๔,๐ ๐๐ มหากปั
พรหมชน้ั นีบ้ ำเพญ็ สตินทรยี ค อื บ ำเพญ็ บารมีดา นสติ
(๑ ๕)สุทสั ส ภี มู ิ มอี ายุ ๘,๐๐๐ มหากัป
พรหมช ั้นน้บี ำเพ็ญสมาธนิ ทรยี คอื บ ำเพญ็ บ ารมีด า นสมาธิ
(๑๖)อ กนิฏฐาภูม ิ มีอายุ ๑ ๖,๐๐๐ มหากัป
พ รหมช ้นั น ี้บำเพญ็ ปญ ญนิ ทรยี ค อื บำเพญ็ บารมดี า นป ญ ญา
(๑ ๗)อาก าสานัญจายต นภ ูมิ มอี ายุ ๒๐,๐ ๐๐ มหากัป
(๑๘)ว ิญญาณัญจายตนภูม ิ มีอายุ ๔๐,๐ ๐๐ มห ากัป
(๑๙)อาก ญิ จัญญายตนภมู ิ มอี ายุ ๖๐,๐๐๐ มห ากปั
(๒๐)เนวส ัญญานาส ญั ญายตนภูมิ ม ีอายุ ๘๔,๐ ๐๐ มหากัป
๑๘๖ พระวิจติ รธรรมาภรณ์
ตามค ำสอนข องพระพทุ ธเจา ม นุษยเราเวียนวาย ตาย
เกดิ อยใูนภพภ ูมิท ั้ง ๓ น้ี ต ามแตบุญกรรมท ี่ไดก ระทำไวแตกตา ง
กัน บ างคร้งั ต่ำลง บ างครั้งสงู ข้ึน หมุนเวียนเปล่ียนไปไมร จู ัก
จบสน้ิ จึงเรยี กวา “ส ังสารวฏั ”พระพทุ ธองคเหน็ ภ พภมู ิเหลานี้
ตามความเปน จริง ดวยญาณทเี่ กิดจ ากการบำเพญ็ ทางดานจิต
จนบรรลสุ ัมมาสมั โพธญิ าณ เหนอื การรบั รดู วยต าข องมนุษยเรา
ท้งั หลาย จึงไดแ จกแ จงสง่ั สอนไว ส ิ่งเหลานค้ี นส วนมากไมเชอ่ื
พรอมทัง้ ป ฏเิ สธ
โดยใหเ หตุผลวา เปน ส่งิ ท พ่ี สิ ูจนไ มได ไมสามารถ
มองเห็นได และเป็นเร่อื งงมงาย
แทจ รงิ พ ระพุทธองคไมไดสอนใหค นเชอื่ แ ตส อนความ
จรงิ ใครจ ะเช่ือความจ รงิ หรอื ไมก ต็ าม ความจ ริงก็เปนความจ รงิ
เพราะค วามจ รงิ ไมไ ดข ึน้ อ ยูกับความเชอื่ หากใครเหน็ ตามน ้นั ก็
สามารถนำความจ ริง (ธ รรมะ)ไปใชใ หเกดิ ประโยชนตอ ช วี ติ ได
เหมอื นความรอนของไฟ ถา มคี นบอกวา ไฟร อ น
เราจ ะเชือ่ หรือไมก ต็ าม กไ็ มม ผี ลอ ะไรตอค วามรอ นของไฟ
เพราะไฟยังคงรอน แ ละท ำหนาท ี่ของไฟอ ยตู ามธรรมชาติ
หากใครเหน็ ตามน ั้น ก็สามารถน ำไฟไปใชใหเกดิ ป ระโยชนต อ
ชวี ิตไดเชน กนั
นรกสวรรค์ บญุ กรรม การเวียนว่ายตายเกิดก็เชน่ เดยี ว
กัน ไมไ่ ด้ข้ึนอยูก่ บั ความเช่อื หรือไม่เช่อื ของใคร แต่นรก
สวรรคก์ ย็ งั คงดำเนินไป ตามธรรมชาติ
หลักการทำบุญ และปฏิบตั ิธรรมในชีวติ ประจำวนั ๑๘๗
อาศัยพระมหาก รณุ าธิคุณ ที่พระองคมตี อสรรพสตั ว จ งึ
ไดออกเทยี่ วส ่งั สอนผ ูคนใหร ูถกู รผู ิด ใหเหน็ ความเปน จริงของ
สรรพส่งิ ตลอดจนความเปนไปของส รรพสตั ว ท่เีวยี นวา ยต ายเกดิ
ในภ พภ มู ิตางๆเพอื่ จ ะไดต งั้ ใจทำความดี และเพยี รพ ยายามงดเวน
จากค วามช่วั ในขณะที่ยงั ต อ งเวยี นวายตายเกิด จ ะไดห ลีกเลยี่ ง
ความท ุกข ความเดือดรอน ท่จี ะเกดิ ในกาลเบอื้ งหนา และเพียร
พยายามเพ่ือกาวขา มภพชาติต อไป
ล กู หลานต างก ็ไมม ีใครรไู ดว า ส ังขารรา งกายโยมแมใหญ
จะเปนไปไดอ กี นานแ คไ หน
นับวนั ก ำลังก ็ย ิง่ โรยแรงล งไป คนวยั ๘๓ ป อายมุ ใิ ชน อย
โยมพ อ ใหญก ็จากไปแลวดวยวยั ๘ ๐ ป เปน ส ง่ิ ยนื ยนั ถึงค วาม
เปนจริง ทที่ กุ คนต อ งเผชิญอยา งหลกี เลย่ี งไมไ ด แ ตถ ึงแ ม
จะรูเชนนี้ อ าตมากย็ งั รูสึกหดหใู จ ยิง่ เห็นทองทุงก็ยงิ่ อ ดค ิดถึง
โยมพ อ ใหญไมได
โยมพอใหญ มีชวี ติ อ ยอู ยางสงบเสง่ยี มเรียบงาย ไม
ทำตนเองใหล ำบาก เดอื ดรอ น และไมท ำผ อู ืน่ ใหล ำบาก
เดือดรอน
ใครจ ะด ใี ครจะชัว่ ก ็ไมไดเ ดือดเน้ือรอ นใจ ยงั คงทำงาน
ตามห นา ท ีข่ องตน อยางเงยี บๆ จ ากว ัยหนมุ ตราบจนชรา
แ ลวก็จาก ไปอ ยางเงยี บๆ
๑๘๘ พระวิจติ รธรรมาภรณ์
เมอ่ื ต น ปท ่ีผานมา อาตมาม ีโอกาสกลบั บ า น เหน็ ทอ งนา
หมไู ม ดูมันเงยี บเหงายังไงบ อกไมถกู เหมอื นมอี ะไรส กั อ ยา งขาด
หายไป แนน อน ส งิ่ ท ่ขี าดห ายไปค งห นไี มพ นช ายชราวยั ๘๐ ป ผ ู
เปนเจาของทอ งนาแหง น้ี ชายช ราท เ่ี คยสอนใหอ าตมารจู ักท องนา
และส ายนำ้ ส อนใหรคู ุณคาของก ารดำรงชวี ิตอ ยา งสงบเสงยี่ ม
เรียบงาย ตามกำลังความสามารถแ ละค วามเพียรพยายามข องต น
ไมค ดโกง ไมเบียดเบียน ไมก ลาวราย ไมทำรา ยใครๆม ีศ รัทธา
ตงั้ มนั่ ต อพระพทุ ธศาสนา ไมค ลอนแคลน
ชายช ราค นน ี ้ ไดจ ากพวกเราไปแลว เหมอื นจะ
ยนื ยนั ค ำสอนข องพระพทุ ธองคว า ความต ายเปน ส ัจธรรม
ท ไี่มมใี ครสามารถหลกี เลยี่ งได
จำไดวา เม่ือยงั เปนเด็ก พ อถ งึ ฤ ดนู ำ้ หลาก อาตมาชอบ
นง่ั เรอื ด ูกอบัวย ดื กานห นนี ้ำ จ อกแ หนไหลต ามก ระแสน ้ำ เหมอื น
ผคู นไหลต ามกระแสของอำนาจกเิ ลส ตางแกง แยงชงิ ดชี ิงเดน
เขนฆาท ำลายลางซง่ึ กนั และกนั เพ่ือใหบรรลุตามเปา หมายก ิเลส
ทต่ี นเองตอ งการ
บางคนกก็ ล่าวรา้ ย บางคนกใ็ สร่ ้าย บางคนกท็ ำร้ายผูอ้ ่ืน
เหมอื นไม่รู้วา่ ชวี ติ นี้สัน้ นัก เพราะอำนาจ วาสนา ฐานันดรศกั ดิ์
และคำยกยอปอปน้ั ทโี่ ลกมนษุ ยส์ มมติให้
หลกั การทำบญุ และปฏิบตั ิธรรมในชีวติ ประจำวัน๑๘๙
ด อกบัวบานสระพรัง่ แทงย อดหนีนำ้ หลาก รบั แ สงอ าทติ ย
ดูงดงาม บ นส ายนำ้ แ หงน้ีเองทโ่ี ยมพ อ ใหญ เกิด เตบิ โต ท ำมา
เลย้ี งชพี ตราบจนชรา แ ลวจากไปอ ยา งเงียบๆบนทองทุง แ หงนค้ี ง
มีผคู นเกิด เตบิ โตและจากไปรนุ แลวรนุ เลา ห มนุ เวียนเปล่ยี นไป
ไมร ูจักจ บสิ้น แ นน อน โยมพ อ ใหญม ิใชคนสดุ ทา ยข องท ุง แหง นี้
อยา งนอ ยกล็ กู หลาน ท ่เี กดิ ตามโยมพอใหญมา ทเ่ี ราเหน็ กันอ ยู
ซง่ึ ก ร็ วมท ั้งอาตมาด ว ย
นกึ แ ลว เหมือนต วั เองก ำลงั แสวงหาอะไรสกั อ ยาง ที่
ตวั เองไมสามารถรไู ด แ มจ ะแ สวงหาจนแ ลวจ นเลา กย็ งั ไม
อาจค นพบ
บางครง้ั อาตมาก ็เกดิ ค วามคดิ วา ต วั เองไมรูเปน ล กู เปน
หลานประสาอะไร ไมส ามารถอ ยดู ูแ ลพ อแมป ูยา ต าย ายได
เหมอื นล กู หลานใครอ ื่นเขา อยากอ ยูใกลพอ แมป ูยา ต าย าย
อยากป รนนบิ ตั ิ อ ยากท ำเหมอื นอยา งท ่ีลูกหลานใครอ ่ืนเขาทำ
แตกเ็ ปน ไดเ พยี งความคดิ เพราะม บี างอยา งย ้ำเตอื นใหเดิน
ตามเสน ทางของต นเอง เสน ทางท จ่ี รงิ ๆ กไ็มร วู า จะทอดข นาด
ไปสูจดุ หมายใด
แต่สง่ิ หนึง่ ทไี่ มเ่ คยเลอื นหายไปจากความทรงจำ กค็ อื ควา
มอบอุน่ ทไ่ี ด้รับจากวัยเยาว์
๑๙๐ พระวจิ ิตรธรรมาภรณ์
จดหมายฉบบั นค้ี อ นขา งพ ูดยาวไปหนอย พ อเขยี นแ ลว ก็
หาท ีล่ งไมได ด ูน าเบื่อ ภาษาก อ็ อกจะฟ ง ยาก เห็นจ ะตอ งหยดุ
เสยี ที ห ากม ี เวลาอาตมาจะเขียนมาอกี ครัง้
ด ว ยอานภุ าพแหงคุณพ ระศ รรี ัตนตรยั แ ละด ว ยอานภุ าพ
แหงศีล ส มาธิ ปญญา อ ันเกดิ จ ากก ารท ่ีอาตมาไดบรรพชา
อุปสมบทในพระพทุ ธศาสนา และที่เคยไดบ ำเพ็ญม าต ้ังแ ต
อดตี ชาติ ต ลอดจนถึงช าติปจจบุ ัน ขอใหโ ยมแ มใ หญมพี ระพทุ ธเจา
มพี ระธรรมเจา และมี พระสงั ฆอริยเจา เปน ท ี่พง่ึ ที่ระลกึ อยู
เสมอ อ ยาไดป ระมาท ม ีสุขภาพกายทด่ี ีและส ุขภาพใจแชม ช่ืน
ร่ืนเริงเบกิ บานในธ รรมข องอ งคส มเดจ็ พระส มั มาสมั พ ทุ ธเจา
ตลอดไป
กรงุ เทพมหานคร,วันเร่ิมตน ปขพน้ึ ทุ ๗ธศกัครำ่ าชเด๒ือ๕น๔๒๔
ประวัติ
ผเู ขยี น
พระวิจติ รธรรมาภรณ์
(เทอ ด ญาณวชิโร, วงศชะอ ุม,ป.ธ. 6 ,พธ.ม.)
ผชู วยเจาอาวาสวดั ส ระเกศ
เกิดท บี่ า นปากนำ้ ตำบลกุดลาด
อำเภอเมือง จังหวดั อุบลราชธาน ี
เมือ่ วันท่ี 16 กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. 2514
บิดา นายเกนิ วงศชะอ มุ
มารดา นางห นูเพชร วงศชะอมุ
บรรพชา ณ วัดป ากน้ำ ตำบลกดุ ล าด
อำเภอเมอื ง จังหวัดอบุ ลราชธานี
อุปสมบท ณ วดั ส ระเกศ ราชวรมหาวิหาร
กรุงเทพมหานคร
โดยมี เจาประคุณสมเดจ็ พระพฒุ าจารย
ประธานคณะผู้ปฏิบตั ิหน้าที่สมเดจ็ พระสงั ฆราช
เปน พระอปุ ชฌาย
สำเร็จก ารศกึ ษาในระดบั ป ริญญาโท
ทางด า นปรชั ญา จากม หาจุฬาล งกรณราชวิทยาลัย
งานเขียน
-หลกั การทำบุญและป ฏิบตั ิธรรมในชวี ติ ป ระจำวัน
-พทุ ธานุภ าพ อานภุ าพของพระพทุ ธองค
-มหาส มยั ส ูตร
-การต นู แอนนเิ มชั่นเรอ่ื ง“ปาฏิหารยิ พระบรมสารีรกิ ธาต”ุ
-ทฤษฎีเบ้ืองตน แหง ปรัชญาไทย
-ประทปี ธรรมแหงแมม ลู
-ทศชาติ ปณิธานมหาบรุ ุษไมเปลี่ยนแปลง
-สมาธเิ บือ้ งตน้ สำหรบั ชาวบา้ น
-ไหวพ้ ระสวดมนต์กอ่ นนอน