ทา่ นสามารถตดิ ตอ่ ขอหนังสือเล่มนไี้ ด้ฟรที ี่ เวบ็ ไซตพ์ ระธรรมสงิ หบุราจารย์
http://www.jarun.org/board/
ทา่ นสามารถดาวนโ์ หลดหนังสอื เล่มน้ไี ดท้ ี่ เว็บไซต์พระธรรมสงิ หบุราจารย์
http://www.jarun.org/digitallibrary/
ทา่ นสามารถตดิ ตอ่ ขอหนังสือเล่มนไี้ ด้ฟรที ี่ เวบ็ ไซตพ์ ระธรรมสงิ หบุราจารย์
http://www.jarun.org/board/
ทา่ นสามารถดาวนโ์ หลดหนังสอื เล่มน้ไี ดท้ ี่ เว็บไซต์พระธรรมสงิ หบุราจารย์
http://www.jarun.org/digitallibrary/
ไมส่ งวนลขิ สทิ ธ์ิ
“ของดขี องเราไมต่ อ้ งสงวนลิขสทิ ธ์ิ
ใครอยากได้ก็ให้เขาไป
แตข่ องไมด่ ีของเราต้องสงวนไว้
ไม่ใหค้ นอ่นื มาใช้”
จากธรรมะเทศนาเร่อื ง ความเสื่อม โดย พระธรรมสงิ หบุราจารย์
พระเดชพระคณุ หลวงพอ่ จรัญ ท่านไดเ้ ทศนาสง่ั สอน
อยู่เสมอ ดงั นนั้ หนังสือเล่มนี้ จึงไม่สงวนลิขสทิ ธิ์
ในการเผยแผเ่ ปน็ ธรรมทาน
ทา่ นสามารถใช้วิธกี ารใดก็ได้ เชน่ ถ่ายเอกสาร
ส่งต่อทางอเี มลล์ ท�ำ สำ�เนาใส่ซดี ี โพสในเว็บบอรด์
โดยไมต่ ้องขออนุญาตจากคณะผู้จัดทำ�
เพียงแตท่ ่านควรน�ำ ไปเผยแผ่ใหค้ รบถ้วนทกุ หน้า
และถกู ตอ้ งตรงตามต้นฉบับนท้ี กุ ประการเท่าน้ัน
ผ ู้แตง่ ( ผู้เรยี บเรียง) (ณfaัฐcวeรbรoธokน.์cภoรmน/nรoาomnattawat)
คณะทำ�งาน ณฐั วรรธน์ และ ภทั รชนนั ท์ ภรนรา
รวบรวมเนอื้ หา: และทา่ นอ่ืน ๆ ท่ีมไิ ด้เอ่ยนามไว้ ณ ท่นี ้ี
สดุ ารัตน์ จนั โพธ์,ิ ณฐั วรรธน์ ภรนรา
ออกแบบศลิ ป:์ ณัฐวรรธน์ ภรนรา
จดั รูปเล่ม: วชิรพงษ์ แสงกลา้ (นธ.เอก, ปธ.๔)
พิสูจน์อักษร: รจนา ปทุมานนท์ และคณะท�ำ งาน
ส�ำ หรับธรุ กิจสิง่ พิมพ,์ โรงพมิ พ,์ ดาวนโ์ หลด
หรือองคก์ รธุรกิจอ่นื ใด หากต้องการท�ำ ซ้ำ�, เผยแผ่ ไม่วา่ กรณีใด ๆ
กรุณาขออนุญาตเปน็ ลายลักษณ์อักษร
โรคภัยไขเ้ จ็บ ถ้ามันไม่เหลือวสิ ยั กห็ ายได้
ISBN ๙๗๘-๖๑๖-๙๐๖๘๐-๔-๔ โรคภัยไข้เจ็บ
พมิ พ์ครงั้ ที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ / ๒๕,๐๐๐ เลม่
ราคา จดั พิมพเ์ พือ่ เผยแผเ่ ป็นธรรมทานเทา่ นั้น 3
ผรู้ ับผดิ ชอบการพิมพ์ ส�ำ นกั พิมพธ์ รรมน�ำ ใจ
๔๗๔ ถนนไมตรีจิต แขวงป้อมปราบฯ
เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ ๑๐๑๐๐
โทรศัพท์ ๐๒ ๒๒๒ ๐๕๙๙
ดูแลการจดั พมิ พ์โดย บริษัท แซท โฟร์ พรน้ิ ตง้ิ จ�ำ กดั
๑๙๑-๑๙๓ ซ. รามค�ำ แหง ๕๓ แขวงพลับพลา
เขตวงั ทองหลาง กรงุ เทพฯ ๑๐๓๑๐
โทรศัพท์ ๐๒ ๙๓๑ ๘๘๕๗
สร้างสรรค์ผลงาน บรษิ ัท คอนเนค็ พเี พลิ จ�ำ กดั , ปทมุ ธานี
โทรศพั ท์ ๐๒ ๙๗๔ ๑๐๐๑
เว็บไซต์ http://www.connexpeople.com
ท่านทีต่ อ้ งการร่วมแจกหนงั สือเล่มนี้ไปยังโรงพยาบาลท่วั ประเทศ ท่านสามารถรว่ มกบั ผูเ้ รยี บเรียงไดท้ ่ี ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ชื่อบญั ชี คณุ ณัฐวรรธน์ ภรนรา เพอ่ื แจกหนงั สือโรคภยั ไขเ้ จ็บ เลขทบ่ี ัญชี ๑๑๘๕ ๑๖๔ ๒๖๔ ธ. กรุงเทพฯ สาขาสลี ม
หากท่านตอ้ งการพิมพห์ นงั สือเลม่ น้ี เพอ่ื เผยแผ่เป็นธรรมทาน
หรอื ใช้ในงานบญุ งานพิธตี ่าง ๆ ท่านสามารถส่งั พิมพ์ได้ท่ี
บุค๊ ดีดอทคอม ๐๘ ๑๕๙๙ ๑๔๓๙
อีเมล์ [email protected], เว็บไซต์ http://www.book-d.com
โทรศัพท์ ๐๒ ๒๒๒ ๐๕๙๙
สารบัญ
ธรรมะส�ำ หรับผ้ปู ่วยไข้
ภาวนารักษามะเรง็ ๘
สวดพุทธคุณ ต้ังสตใิ นสตปิ ัฏฐาน ไม่ตายดว้ ยมะเร็ง ๑๑
อัมพาตหายได้ ดว้ ยการสวดพุทธคณุ ๑๕
ยาเทวดารักษาโรคลำ�ไส้เน่า ๑๘
อัมพฤกษ์ ปากเบีย้ ว แกด้ ว้ ยสวดมนตน์ ่ังสมาธ ิ ๒๔
คนเขา้ ถึงธรรมหายจากโรคได ้ ๒๕
ธรรมกถาสำ�หรับผู้ป่วย รักษาใจในยามเจ็บปว่ ยไข ้ ๓๒
โรคภัยไข้เจ็บ ธรรมะสำ�หรบั ผสู้ งู อายุ ๔๑
ผู้เจรญิ กรรมฐานจะเกิดอานิสงส์ ๕ ประการ ๔๕
มสี ติก�ำ หนดไว้ ห่างไกลโรค ๔๖
4 อย่าแพภ้ ยั ตวั เอง ๔๗
๔๘
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้ อารมณ์ร้าย ตวั การใหญข่ องโรคภัยไข้เจ็บ ๕๑
ปฏิบัติกรรมฐาน ช่วยให้สุขภาพรา่ งกายดี ๕๒
กรรมฐานไม่ใชก่ ารตดั กรรม ๕๓
กรรมฐานแกก้ รรมได้อยา่ งไร ๗๑
มสี ักวนั หนงึ่ ไหม! ในชีวติ ของท่าน?
ธรรมะส�ำ หรบั ญาตผิ ปู้ ่วย ๗๖ โรคภัยไข้เจ็บ
๘๒
ชวี ิตก่อนความตาย และการดแู ลผปู้ ่วยกอ่ นตาย ๘๕ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
อุทศิ ส่วนกศุ ลให้บคุ คลผมู้ ชี วี ิต หรือล่วงลับก็ได ้ ๘๖
พ่อแม่ป่วยไข้ ลูกท�ำ กรรมฐานชว่ ยได ้ ๘๗
ใชค้ ่าน้ำ�นมแม ่
วธิ กี ารแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศล ๙๕
๑๐๑
การปฏบิ ตั ิวปิ ัสสนากรรมฐาน
5
วธิ ีปฏิบัตวิ ิปสั สนากรรมฐานเบ้อื งต้น ๑๐๕
สรุปการก�ำ หนดต่าง ๆ ๑๑๔
๑๑๔
บทสวดมนต์ ๑๑๖
๑๑๗
บทสวดมนต ์ ๑๑๙
บทแผ่เมตตา
บทอทุ ิศส่วนกุศล (บทกรวดนำ้�)
วิธีการสวดมนต ์
การวางจติ
ลำ�ดับการสวดมนต์
“กรรมฐานนล่ี ะเอียดออ่ นมาก
ถา้ คนมีโรคนะ อาจชว่ ยให้ทเุ ลาเบาบางหรอื อาจหายได้
อาตมาขอเจริญพรด้วยใจจริง”
พระธรรมสงิ หบรุ าจารย์
๒๐ มี.ค. ๒๕๓๔
พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ท่านได้ศึกษาวิชาการมาหลากหลายสาขา
ไมว่ า่ จะเป็นไสยศาสตร์ วปิ ัสสนากรรมฐาน และการรักษาโรคด้วยสมนุ ไพร ไดร้ ับการ
ถ่ายทอดจากครูบาอาจารยห์ ลายท่านหลายสำ�นกั แต่ในท่ีสุดแล้ว ท่านกเ็ ลอื กท่จี ะสอน
ให้คนช่วยตัวเอง พึ่งตัวเอง และสอนตวั เองได้ น่ันก็ คือ การปฏบิ ตั วิ ปิ ัสสนากรรมฐาน
หนังสือ “โรคภัยไข้เจ็บ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้” เป็นหนังสือที่รวบรวม
ค�ำ สอน ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ความเขา้ ใจในเรอ่ื งของการปฏบิ ตั ธิ รรมกบั เรอ่ื งของโรคภยั ไขเ้ จบ็
การปฏิบตั ิตนอยา่ งไรทจี่ ะไม่ให้ผ้ทู เี่ จบ็ ป่วย ต้องต่อส้กู บั โรคภัยอยเู่ พียงลำ�พัง
หนังสือเล่มนี้เอง จะเป็นคู่มือที่นำ�ทางให้ท้ังคนป่วยและญาติพี่น้อง ในวันท่ี
โรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายได้มาถึง คนป่วยจะได้ทราบวิธีการปฏิบัติตนขณะเจ็บป่วย
การสวดมนต์ การทำ�กรรมฐาน(การกำ�หนด) ช่วยเราเม่ือเจ็บป่วยได้อย่างไร คนท่ี
เปน็ บตุ ร เปน็ สามภี รรยา เปน็ พอ่ แมญ่ าตพิ น่ี อ้ ง สามารถกระทำ�สง่ิ ใดไดบ้ า้ ง เมอ่ื คนทร่ี กั
ต้องพบกับสจั จะธรรมของชีวติ ในข้อนี้ ตอ้ งท�ำ บุญอย่างไร สร้างกศุ ลอยา่ งไร สวดมนต์
แผ่เมตตาอุทิศกันอยา่ งไร จงึ จะชว่ ยเหลอื เกื้อกลู กนั ได้อย่างถูกต้อง
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านที่ได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มน้ี เพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทาน
ตลอดจนบุคคลอันเป็นท่ีรักของท่าน เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปราศจาก
โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หากมีก็ขอให้หาย หากเลี่ยงไม่ได้ก็ขอให้บรรเทา
ขอให้ทกุ ทา่ นมีความเจรญิ ท้งั ทางโลกและทางธรรมดว้ ยเทอญ...
จากใจผู้เรียบเรียง
facebook.comณ/nฐั oวoรmรธnนa์ tภtaรwนรaาt
ธรรมะส�ำ หรบั ผู้ป่วยไข้
“ธรรม” เหมอื น “ยารกั ษาโรค”
เพียงแตร่ จู้ ักยา โรคก็ไม่หาย
ตอ้ งกนิ ด้วย
ยาจึงจะชว่ ยรกั ษาโรคใหห้ ายได้
จากธรรมะเทศนาเรอื่ ง สมบตั มิ นษุ ย์
โดย พระธรรมสงิ หบรุ าจารย์
ภาวนารกั ษามะเร็ง
โดย พระธรรมสงิ หบรุ าจารย์
ขอ้ ความจากบันทึกของหลวงพ่อ
พนั เอกวิโรจน์ อนุศาสนก์ องทพั ภาค ๒ เปน็ มะเร็งทีค่ อ
โรคภัยไข้เจ็บ ภรรยาท่านก็มีสุขภาพดี น่าสงสารพันเอกวิโรจน์ มีนำ้�เหลืองไหล
ปวดมาก เปน็ โรคมะเรง็ ทค่ี อ คนอน่ื กว็ า่ หมอบอกแลว้ วา่ ตอ้ งตายปนี ้ี
8 แตพ่ นั เอกวโิ รจนท์ า่ นเปน็ ชายใจแขง็ มสี มาธภิ าวนาบา้ งตามสมควร
ไมม่ ากนัก ใจแขง็ บอก “หลวงพ่อ ผมคงต้องตายก่อนภรรยา ผมผา่
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
มา ๒ หนแล้ว” อาตมากม็ าดคู ณุ วโิ รจน์ วา่ คงจะไม่รอด แต่ดไู ปดมู า
สตบิ อกวา่ เมยี ตายกอ่ นเมยี กม็ สี ขุ ภาพดขี ายของหลายๆอยา่ งบา้ นอยู่
ปักธงชยั คดิ วา่ เมยี ต้องตายก่อนก็มาดูว่าจะจริงหรอื เปลา่
ต่อมาพันเอกวิโรจน์ปวดหนัก ก็นึกถึงอาตมาว่าเคยให้
มาช่วยบรรยาย ก็เตรียมกระเป๋ามาหน้าดำ�มาท่ีน่ี มาอบรมระดับ
อนุศาสนาจารย์ รุ่นท่ี ๑ มะเร็งนี่นำ้�เหลืองไหลเหม็นคาว บอกว่า
“ผมขอมาตายกับหลวงพ่อนะ” ก็ให้แยกไปอยู่กุฏิ อาตมาแนะนำ�
ให้กนิ เจเสยี จะจดั การให้
อาตมากใ็ หย้ าไปชง ตน้ ลกู ใตใ้ บกบั ตน้ ไมยราบ ๒ อยา่ งนี้ โรคภัยไข้เจ็บ
เทา่ นนั้ แลว้ กน็ ง่ั ชวั่ โมง เดนิ ชวั่ โมง แยกจากกลมุ่ ไปเสยี นอกจากนน้ั
อนุศาสนาจารย์ก็อยู่รวมกัน เสร็จแล้วก็ขออโหสิกรรม ญาติโยม 9
จ�ำ เทคนคิ วธิ กี ารไว้ ถา้ ไมอ่ โหสกิ รรม เมตตาไมอ่ อก จติ ใจยงั เคยี ดแคน้
เขาอยู่ พฤติกรรมแสดงออกไม่ถูกต้อง แล้วกรวดนำ้�จะไม่ค่อยถึง ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
จติ ใจเจา้ ของ บอกกบั พันเอกวิโรจนใ์ ห้กระทำ�ตาม หลงั จากนั่งเสรจ็
แลว้ ดงั น้ี
ประการแรก ขออโหสกิ รรม ไม่โกรธใคร ไมเ่ คืองใคร
ประการที่ ๒ ขออุทิศส่วนกุศลท่ีข้าพเจ้าได้บำ�เพ็ญ มา
ให้เจ้ากรรมนายเวร บิดามารดา เป็นต้น พร้อมด้วยครูบาอาจารย์
และบูรพาจารย์ของข้าพเจ้า พร้อมด้วยอนุศาสนาจารย์ท่ีล่วงลับ
ไปแลว้ อยู่สัมปรายภพ จงมาปรารภรบั ส่วนกุศลทขี่ ้าพเจ้า ณ บัดนี้
แล้วไมต่ อ้ งไปหมายว่าให้โรคหาย ตงั้ จติ อธษิ ฐานวา่ “ตายเป็นตาย”
ก็ขอตายท่ีวัดอัมพวัน
ท�ำ มาได้ ๓ วนั พรอ้ มกบั ทปี่ ระกอบยาชงกบั น�้ำ ใหก้ นิ อยู่
ตา่ งน�ำ้ ชาแลว้ ใหก้ นิ เจในทส่ี ดุ กเ็ หน็ เจา้ กรรมนายเวรขออโหสิเรอื่ งเวร
เรอื่ งกรรมกเ็ หน็ ไดช้ ดั ขออโหสกิ รรมไปตามวธิ นี ี้ ในทส่ี ดุ โรคมะเรง็
ท่ีนำ้�เหลืองเหม็นคาว กลับยุบหาย มาเกิดที่ขา ขาเกิดเป็นแผล
โรคภัยไข้เจ็บน้ำ�เหลืองไหลอย่างเหม็นคาวท่ีสุด ทีนี้หายได้พร้อมกับกินยาท่ีชง
กินต่างน้ำ�ชา จนบัดน้ีหายแล้ว พอกลับไป พันเอกวิโรจน์ก็ย้ายจาก
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้กองทัพภาคที่ ๒ มาอย่ภู าคที่ ๑
ในทส่ี ดุ ภรรยาถงึ แกก่ รรม ตามทอี่ าตมาไดล้ ว่ งรใู้ นใจวา่
ภรรยาตอ้ งตายกอ่ น สตบิ อก จดั งานศพภรรยาเรยี บรอ้ ย
ดังน้ันขอให้ญาติโยมต้ังสติ สติตัวนี้เป็นตัวปัญญา
ท่ีบอกเราทีละอย่าง แต่เราไม่สนใจกับมันเลย เราจึงไม่รู้เรื่องอะไร
กรมประชาสัมพันธ์เขาบอกเราทุกวัน แต่เราไม่ฟัง เรื่องความทุกข์
10 ความยากของชวี ติ เราจงึ พลาดผดิ ตลอดเวลาเปน็ ผลงานหลายๆอยา่ ง
วันเวลาท่ีล่วงเลยไปแล้ว ชีวิต คือ เวลานั้น มันมีค่าเหลือเกิน
ลมหายใจเข้าออกมันบอกระยะของชีวิต ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า
สิ่งที่รู้ไมไ่ ด้ ๕ ประการ แตเ่ ราทำ�แบบนร้ี ูไ้ ด้ มีสตบิ อก ทีท่ ่านแสดง
ในพระไตรปฎิ กชัด สง่ิ ทร่ี ้ไู มไ่ ด้ ๕ ประการ คือ
ประการท่ี ๑ ชีวติ ไมแ่ นน่ อน ใครจะรูไ้ ด้ชีวติ ของเรา
ประการที่ ๒ รองลงไปนั้น ทา่ นก็จะบอกชดั อกี บอกว่า
โรคภัยไข้เจ็บจะเกิดขน้ึ กับเราเม่ือไรกไ็ มร่ อู้ ีก ร้ไู ม่ได้
ประการที่ ๓ กาละ ความตายจะมาถึงแก่เราพรุ่งน้ี
หรือคืนน้ี รู้ไมไ่ ด้เลย อยา่ ประมาท ให้เจริญสตปิ ัฏฐาน ๔ ทา่ นบอก
อย่างนี้
ประการที่ ๔ สถานที่ตาย เราจะทอดร่างลงในท้องน้ำ� โรคภัยไข้เจ็บ
หรอื กลางถนนหนทาง เรารไู้ มไ่ ด้เหมือนกนั
ประการที่ ๕ ออกจากบา้ นนจ้ี ะไปบ้านใคร ตายไปแล้ว
จะไปเกิดในนรกหรือสวรรค์ จะไปเกิดบ้านใครเล่า มีความสำ�คัญ
ประการใด เราร้ไู มไ่ ด้
รีบเจริญสติเสีย พอเจริญไปเต็มที่แล้ว สติจะบอกได้
ทกุ ระยะ อาตมาจงึ รวู้ า่ ตอ้ งใชเ้ วรใชก้ รรมเขา รลู้ ว่ งหนา้ ทผี่ า่ นไปแลว้
สติย้อนกลับคืน กลับบอกกฎแห่งกรรมให้เราได้
11
สวดพทุ ธคุณ ตงั้ สติในสตปิ ฏั ฐาน ไม่ตายด้วยมะเรง็ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
โดย พระธรรมสงิ หบรุ าจารย์
คณุ นายละมา้ ย เกษแกว้ เปน็ คนอา่ นหนงั สอื ไมอ่ อก สามี
เปน็ ทหารอากาศ ชื่อ นาวาอากาศตรีวาท เกษแกว้ เปน็ ฝา่ ยการเงิน
ของกองบิน ๒ โคกกระเทียม ลพบุรี ซ่ึงเป็นยุคท่ีนาวาอากาศเอก
(พิเศษ) จรรยา สุคนธทรัพย์ เป็นผู้บังคับการ ขณะนี้ท่านมียศเป็น
พลอากาศเอกไปนานแลว้
โรคภัยไข้เจ็บ คุณนายละม้ายกับสามี มาเข้าวัดทำ�บุญที่วัดอัมพวัน
ก็ไม่ก่ีปี อาตมาก็ชี้แจงชักจูงให้คุณนายนั่งกรรมฐาน เดินจงกรม
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ เพราะว่าคุณวาทสามี แล้วแต่คุณนาย
พอลงมือปฏิบัติก็ทำ�ไม่ได้ ขวาเป็นซ้าย ซ้ายเป็นขวา พองหนอ
ยุบหนอ กก็ �ำ หนดไม่ได้
อ า ต ม า ก็ ม า คิ ด ห า อุ บ า ย ที่ จ ะ ส ง เ ค ร า ะ ห์ คุ ณ น า ย
ให้ทำ�ให้ได้ สงสารคนประเภทน้ี อยากจะทำ�นัก แต่ทำ�ไม่ได้
เดินจงกรมกเ็ ซ
12 วันหน่ึงแกก็มาที่วัดถามว่า “หลวงพ่อมีคาถาไหม
ฉันทำ�กรรมฐานไม่ได้แน่ อยากจะสวดมนต์” อาตมาก็เลยบอกว่า
“โยมจะท่องได้หรือ อ่านหนังสือไม่ออก” แกก็บอกว่า “ฉันจะให้
ลกู สอน”อาตมานกึ ไดข้ อ้ หนงึ่ ตอ้ งใหค้ ณุ นายสวดพทุ ธคณุ ธรรมคณุ
สังฆคุณเพื่อเป็นอุบาย หนักเข้าแม่ละม้ายท่องได้ ลูกสอนวันละตัว
สองตวั ทอ่ งไดห้ มด กส็ วดพทุ ธคณุ ธรรมคณุ สงั ฆคณุ พาหงุ มหากาฯ
พอจบแล้วหันมาเอาพุทธคุณอย่างเดียว ให้สวดเท่าอายุเกินกว่า ๑
เกิดยึดมั่นสติดี ก็สวดหนักเข้าทุกวัน ๆ จนสบายใจ ญาณวิถีเข้าสู่
สติสัมปชัญญะ “สติมา” มนั เกิดข้นึ โดยอตั โนมัติของแกอกี กท็ �ำ ให้
เกิดสติดีข้ึน พอสติดีขึ้น แกก็มาเล่าอะไรแปลก ๆ ให้ฟัง บอกว่า
“ฉันสวดได้หมดแล้ว แล้วมันคล่องแคล่วในใจ” พอให้เดินจงกรม โรคภัยไข้เจ็บ
กเ็ ดนิ ได้ เพราะสติดเี สียอยา่ ง แล้วบอกวา่ พองหนอ ยุบหนอได้ไหม
ก็กำ�หนดได้อีกเหมือนกัน และคล่องได้จากสวดมนต์ อันนี้ 13
เป็นไปได้เหมอื นกนั
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ในกาลตอ่ มา พอลกู เขา้ งานไดบ้ า้ ง เรยี นจบหลกั สตู รบา้ ง
ยังเข้างานไม่ได้ คุณนายละม้ายก็เกิดมามีกรรม เป็นโรคมะเร็ง
ทลี่ ำ�ไส้ อาเจียนเป็นโลหติ ถา่ ยอุจจาระเปน็ เลือดตลอดมา หมอบอก
ตายเดือนนี้แน่ ไม่ต้องผ่าตดั
ฝ่ายคุณนายตั้งใจว่าจะต้องยังกุศลให้ได้อยู่อีก ๓ ปี
ให้ลกู เขา้ งานได้ทงั้ หมดแกถงึ ค่อยตาย แต่ขอ้ เท็จจรงิ ของนายแพทย์
บอกเดือนเดียวตาย ไม่ผ่าตัดก็อาจจะตายเลย คุณนายยังอยู่เร่ือยมา
เพราะแกสวดพุทธคุณและต้ังสติในสติปัฏฐาน ๔ ไว้มั่นคง
เพราะแกเคยรู้มาแล้วญาณวิถี โดยสติบอกทุกประการ ตอนนั้น
เป็นมะเร็งหนัก ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด มะเร็งเมื่อใกล้จะตาย ก็ต้อง
ปวดรวดรา้ วทว่ั สรรพางคก์ ายแทบจะทนไมไ่ หว
คณุ นายละมา้ ยกไ็ ด้ “เวทนานปุ สั สนา” ก�ำ หนดเวทนาได้
แล้วก็บอกว่า “ลูกเอ๋ยไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอก แม่ยังไม่ตายแน่
ต้องให้เจ้าเข้างานได้ก่อน ตามแผนการของแม่” ลูกก็เช่ือแม่หมด
โรคภัยไข้เจ็บเพราะทำ�นายทายทักไว้ถูกต้อง เพราะสติดีบอกได้เป็นช่องเป็นทาง
สามีก็ยอมรบั มาปฏิบตั ิ
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
เป็นเวลานานร่วมปี อุจจาระและท่ีอาเจียนเป็นเลือด
หายไป นี่อำ�นาจของสติปัฏฐาน ๔ ทำ�ให้เกิดเมตตา ถ้าใคร
เจรญิ สตปิ ัฏฐาน ๔ ได้ขนั้ ๑ ไม่ต้องไปพูดเรอ่ื งยา ขน้ั ๑ ไดเ้ มือ่ ไร
คนนน้ั มีเมตตาสูง เมตตาเกดิ เอง ทาน ศลี และภาวนา
ไม่ต้องไปตักบาตรทำ�บุญเสียก่อน ไม่ใช่ ถ้าใครเข้าใจ
เจริญสตปิ ฏั ฐาน ๔ ได้ อันดบั ๑ มาแลว้ “ทาน” เกดิ เมตตาสงสาร
14 สตั ว์ สตั วจ์ ะไมท่ �ำ รา้ ย จะไมผ่ กู พยาบาทใครตอ่ ใครอกี แลว้ เกดิ เมตตา
มาอันดับหนงึ่ ....
ในเวลาต่อมา แม่ละม้ายก็หาย อีกปีหนึ่ง อุจจาระ
ที่เป็นเลือดหายไป อาตมาก็ไปดูไปเยี่ยม ถามความเป็นอยู่
ของแม่ละม้ายดู บอกหลวงพ่อ อะไรจะมาปวดในรอบชีวิต
ท่ีฉันเกิดมานี้ไม่มีเลย มะเร็งน่ีมันปวดอย่างน้ีปวดจนทนไม่ไหว
จนขนหัวลุกเลย ....
อันนี้ลูกเป็นพยานได้และยอมรับ และสวดพุทธคุณ
กันทุกคนตามท่ีแม่ส่ังทุกประการ น่ีคือเร่ืองจริงท่ีเกิดขึ้น
จากการปฏบิ ตั ิธรรมของแม่ละมา้ ย
อัมพาตหายได้ ด้วยการสวดพุทธคุณ
โดย พระธรรมสงิ หบุราจารย์
พธิ กี ร: อยากใหห้ ลวงพอ่ เลา่ เรอ่ื งลงุ พดั นะ่ คะ่ วา่ ลงุ พดั โรคภัยไข้เจ็บ
เขาสวดพุทธคุณ แล้วเขารักษาตัวเค้าเองได้อย่างไรคะ ลุงพัดท่ีว่า
เปน็ อมั พาตคะ่ 15
หลวงพอ่ จรญั :ขอเจรญิ พรคณุ โยมถามดมี ากเปน็ เรอ่ื งจรงิ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ทผ่ี า่ นมาในกฎแหง่ กรรม ลงุ พดั อายุ ๗๐ เศษ แตอ่ าตมาจ�ำ เศษไมไ่ ด้
แกเป็นอัมพาตแล้วต้องให้ลูกให้หลาน ต้องมาเช็ดก้นเช็ดตูด
เดินไม่ได้ นอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียง แล้วก็เสียใจ คิดกินยาตาย
กนิ ยาตายกใ็ หพ้ วกเดก็ ๆ หรอื ลกู หลานหรอื ใครกไ็ มท่ ราบละ่ ไปซอ้ื ยา
ยากะโหลกไขวน้ ะ่ ยาทก่ี นิ แลว้ ตายนะ่ เอามาจะกนิ เลยครอู อ่ นจนั ทร์
ครูโรงเรียนท้งั ผัวเมีย ก็ได้ข่าวบ้านใกล้เรือนเคียงกันก็ไปเย่ยี มลุงพัด
ไปเย่ยี มลุงพดั แล้วก็ถาม บอกลงุ ...ทำ�ไมถึงกนิ ยาตายล่ะลุง ลุงกเ็ ปน็
ทายก แล้วก็เป็นผู้เสียสละเป็นนักธรรมะธัมโม แล้วจะกินยาตาย
ดว้ ยประโยชนอ์ นั ใด ลงุ พดั กแ็ กป้ ญั หาบอกวา่ คร.ู ..ผมนะ่ กแ็ กแ่ ลว้
แลว้ กล็ กู ตอ้ งมาเอาใจใส่ หลานตอ้ งมาดแู ล จะไปโรงเรยี นกเ็ สยี เวลา
โรคภัยไข้เจ็บเขาตอ้ งมานง่ั เชด็ กน้ เชด็ ตดู แลว้ มาปอ้ นขา้ ว ผมเนย่ี เกรงใจลกู หลาน
ผมตายเสยี ดกี วา่
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
เลยครูอ่อนจันทร์ก็พูดอ้อนวอนว่า ลุง...อย่าตายเลย
ตายเป็นบาป...ลุงก็ทราบ แต่เราเกรงใจหลานเขาต้องมาน่ังดูแลเรา
กลับมาจากโรงเรียนก็ต้องมาเช็ดก้นเช็ดตูด ต้องมาปฏิบัตินะ
ต้องมาป้อนข้าว เลยก็ลุงก็อยากจะกินยาตายให้มันหมดส้ินไป
ลุงอย่าเพ่ิงกินเลย สวดมนต์เถอะ สวดมนต์อะไรเล่า สวดพุทธคุณ
ของหลวงพ่อวัดอัมพวัน ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากาฯ
ออ๋ !ลงุ ไดแ้ ลว้ แตไ่ มไ่ ดส้ วดเลยตาลงุ กเ็ อา้ หนั เหเรท่ ศิ ตามครอู อ่ นจนั ทร์
16 ทเ่ี ขาเคยมาปฏบิ ตั ธิ รรมทว่ี ดั นไ้ี ง เลยกส็ วด สวดพทุ ธคณุ ธรรมคณุ
สงั ฆคณุ พาหงุ มหากาฯ แลว้ กส็ วดพทุ ธคณุ เทา่ อายุ ๗๐ เศษ เศษเทา่ ไร
อาตมาจ�ำ ไมไ่ ด้สวดไปแลว้ หายใจยาวๆเจรญิ กรรมฐานไปดว้ ยตาลงุ น่ี
กเ็ กดิ ปฏกิ ริ ยิ าปวด ไปเรยี กครอู อ่ นจนั ทรม์ า ปวดจงั ปวดจงั
ขอเจรญิ พรคณุ โยมถา้ เปน็ อมั พาตถา้ ปวดตอ้ งหายทกุ ราย
ถ้าไม่ปวดไม่มีทางหายเลย ก็ลุงก็ปวด หนักเข้า ๆ ลุกน่ังซะแล้ว
สรปุ ใจความวา่ เดนิ ได้ เดนิ ไดถ้ บี จกั รยานไดเ้ ลย และเปน็ ตวั ตยุ๊ ไปเลย
เป็นพระเอกในเมืองหนองคายไป เลยก็ไปสอน บัดน้ีบวชแล้ว
ขจ่ี กั รยานกไ็ ดไ้ ปไหนกไ็ ด้ เลยกส็ อนเรอ่ื งพาหงุ มหากาฯ สวดกนั ใหญ่
*บทความนีถ้ อดตรงตามภาษาพดู จากบทสมั ภาษณใ์ นรายการ “ชีวติ ไมส่ ้ินหวงั ” ทางช่อง ๓
ขอ้ ความเร่อื งลงุ พดั จากบันทกึ ของหลวงพอ่ โรคภัยไข้เจ็บ
... เพียงแต่สวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
และหายใจยาว ๆ พองหนอ ยุบหนอ อัมพาตยังหายได้ 17
มะเร็งก็หายได้ ทำ�ให้มันจริง ตายให้ตาย คนที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ
ทำ�ใจแข็งไว้ กำ�หนดจิตให้เข้มแขง็ ๔๐% หายได้ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ดูซิเป็นอัมพาตมา ๓ – ๔ ปีแล้ว ทำ�ไมเดินได้ เด๋ียวนี้
เดินสับเท้าไปวัดได้เลย พวกฮือฮากันใหญ่ คนท่ีแนะนำ� คือ
ครูออ่ นจนั ทรแ์ ละครูสมพร พสิ ยั สวัสด์ิ โรงเรียนสระใครนุเคราะห์
ต�ำ บลสระใคร อ�ำ เภอเมือง จงั หวดั หนองคาย ๔๓๐๐๐
พองหนอ ยุบหนอ ได้ประโยชน์อะไร หายใจเข้าออก
ต้ังสติไว้ หายจากโรคได้ ก่อนจะหายนี่มันจะปวดจำ�ไว้ ปวดนี่
หายโรคนะ ถ้าปวดแล้วเลิกเลยไม่หายโรค ปวดหนอเลิกเลย
โรคไม่หาย ปวดใหต้ ายกก็ �ำ หนดต้งั สติไว้
คนไมป่ วดหยกิ ไมเ่ จบ็ ไมม่ ที างหาย พอก�ำ หนดจติ เขา้ ไป
ปวดเลย ปวดหนอ ปวดหนอ อยุ๊ ! กระตกุ แลว้ โอย๊ ! ปวดหนอ รอ้ งไห้
คืนยนั รงุ่ เอาให้ตาย เดนิ ได้เลย
ถา้ มนั ไมป่ วดเดนิ ไมไ่ ดน้ ะจ�ำ ไวน้ ะบางทพี วกกรรมฐาน
ปวดหนอเลกิ เลย รับรองไม่หายหรอก
โรคภัยไข้เจ็บยาเทวดารักษาโรคล�ำ ไส้เน่า
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
กรรมฐานน่ีละเอียดอ่อนมาก ถ้าคนมีโรคนะ อาจช่วย
ให้ทุเลาเบาบางหรืออาจหายได้ อาตมาขอเจริญพรด้วยใจจริง
เมื่อสมยั ก่อนอาตมาป่วยเร่ือย ๓ วนั ดี ๔ วนั ไข้ ต้องเขา้ โรงพยาบาล
ไมพ่ กั ไมม่ คี วามสขุ เลยโยมเอย๋ ตง้ั แตบ่ วชใหม่ ๆ พรรษาแรก เปน็ ลม
หนา้ มดื ยง่ิ กวา่ คนแกอ่ กี เดยี๋ วนอี้ ายมุ ากแลว้ สบายมาก โรคกายกไ็ มม่ ี
18 โรคใจกไ็ มม่ ดี ว้ ย โรคกายทม่ี อี ยเู่ ดมิ กห็ ายไปเหมอื นปลดิ ทง้ิ ออกจาก
โรงพยาบาลตง้ั แตห่ ลงั คอหกั มา๑๕ปแี ลว้ ไมเ่ คยเขา้ ไปอกี เลยปวดหวั
ตวั รอ้ นเปน็ นดิ หนอ่ ยเดย๋ี วกห็ าย ตง้ั สตสิ มั ปชญั ญะไวม้ นั กห็ ายไปเอง
อาตมาหายไดด้ ว้ ยกรรมฐาน
อาตมาเปน็ โรคล�ำ ไส้ ไปโรงพยาบาลศริ ริ าช หมอบอกวา่
พรุ่งน้ีผ่าตัด เขาบอกว่าไส้เน่าไปหลายฟุตแล้ว องค์นี้อยู่ได้อย่างไร
ต้องตายแน่ ๆ หมอเขาปรึกษากันที่หน้าห้อง แต่อาตมาได้ยิน
เอะ๊ ! เราจะตายเสียแล้วหรือ ไหน ๆ จะตายไปตายที่วดั ดีกวา่ อย่าอยู่
ที่โรงพยาบาลเลย
แหม! โยมเอย๋ ฉนั นำ้�เข้าไปหยดเดยี วกไ็ มไ่ ด้ ตกถึงทอ้ ง โรคภัยไข้เจ็บ
ดิ้นเลย ปวดจริง ๆ นะ ปวดท้องอย่างสุดซึ้ง ตอนนั้นอาตมา
นง่ั กรรมฐานยงั ไมเ่ ขา้ ขนั้ พอเปน็ พอไป พอมกี จิ กรรมกรรมฐานบา้ ง 19
ยงั ไมห่ นักแนน่ เหมือนสมัยน้ี
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
เอ! เราจะมาตาย ญาติโยมจะไม่เห็นหน้าเราแล้ว ได้ยิน
หมอเขาบอกว่าประมาณ ๙.๐๐ น. จะต้องผ่าตัด เราจะต้องหนี
ออกจากโรงพยาบาลไปตายทวี่ ดั ตอนเชา้ ๖.๐๐ น. อาตมาตงั้ ดำ�รงสติ
ใหด้ ี พอหมอพยาบาลเผลอ เรากเ็ ดินไปเดินมา เขากค็ งจะลมื ไปแล้ว
เลยขน้ึ รถสามลอ้ ตุ๊ก ๆ ไปลงเรือกลบั วดั มานอนปวดอยู่ทีว่ ดั ต่อไป
ปวดแสนจะปวด นีโ่ รคล�ำ ไส้โรคกระเพาะอกี เพราะเรา
ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาก ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก
ทรมานอย่างท่ีสุด ท่านผู้พิพากษาเป็นมหาเปรียญเก่า ได้เจริญ
กรรมฐานมาบ้าง เป็นลูกศิษย์เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต
(เฮง เขมจารี) วัดมหาธาตุ อาตมาเคยแนะแนวปฏิบัติแก่ท่าน
พอสมควร ชื่อ มหาเทียบ นองบุญนาค เปรียญธรรม ๖ ประโยค
เปน็ หวั หนา้ ศาลจงั หวดั สงิ หบ์ รุ ี เดย๋ี วนต้ี ายไปแลว้ ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๕๐๐
ยาเทวดา ใครอยากจ�ำ กจ็ �ำ เอาไป ทา่ นไปซอื้ หมอ้ ดนิ เอาเกลอื มา ๓ ก�ำ
ให้อาตมาจับเกลือกลั้นใจหยิบ ๓ จับ ไม่ได้หายใจ แล้วเทใส่หม้อ
โรคภัยไข้เจ็บทา่ นสอนใหท้ อ่ งวา่ พทุ ธงั ปจั จกั ขามิ ๑ ก�ำ ธมั มงั ปจั จกั ขามิ อกี ๑ ก�ำ
สงั ฆงั ปจั จกั ขามิ อกี ๑ ก�ำ แลว้ กใ็ ส่หม้อ แล้วท่านก็บอกวา่ ผสมกับ
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้ไขข่ าวไข่ไก่ ๕ ฟอง ไขแ่ ดงไมเ่ อา ทา่ นสตเุ กลือเรียบร้อยจนละเอียด
ไปหมดแล้ว ปลงลงมาก็เอาไข่ขาวใส่ แล้วก็คนให้เข้ากันท่องคาถา
พทุ ธัง ปัจจักขามิ ธมั มงั ปัจจกั ขามิ สังฆงั ปจั จกั ขามิ เท่านน้ั เอง
เสร็จเรียบร้อยก็นำ�มาให้อาตมาฉัน ๑ ช้อนคาว
เป็นเกลือป่นสตุ แก้โรคลำ�ไส้เน่า จะตายอยู่แล้ว พอใส่ปาก
หัวหน้าศาลรีบหนีข้ึนรถจ๊ีปบ่ึงไปเลย โอ้โฮ! โยมเอ๋ย ปวดดิ้น
อยู่ในโบสถ์ สลบไป ๓ ช่ัวโมง พอฟื้นข้ึนมาอาศัยจิตเข้มแข็ง
20 จากกรรมฐาน รู้สกึ โล่งใจ เรมิ่ ฉนั น้�ำ ได้บา้ ง
รุ่งเช้าท่านผู้พิพากษามาฟังข่าว บอกว่าท่ีผมรีบหนีไป
ไมไ่ ดน้ มสั การลา เพราะกลวั หมอ้ จะปลิวมาโดนผม อย่าลมื เชียวนะ
ชีวิตที่เกิดมาไม่มีอะไรปวดเท่านี้ แต่อาศัยกรรมฐานสู้ไว้ ตั้งแต่นั้น
หายวันหายคืนเร่ือยมาจนบัดนี้ ต่อมาหมอจากศิริราชมีจดหมาย
มาถามว่าพระองค์น้ี ช่ือน้ี ตายไปหรือยัง ทำ�ศพไปหรือยัง อาตมา
กต็ อบไปวา่ หายแลว้ หายดว้ ยยาเทวดา หมอมาถงึ ทว่ี ดั เลย ขอจดยาไป
พอดีแม่ยายหมอเป็นเสียด้วย เลยแม่ยายหมอหายไปอีก ๑ คน
ถ้าใครมีกุศลกจ็ ำ�ไป นอ่ี าตมานึกได้ก็พดู ใหโ้ ยมฟัง
ใชห้ นไ้ี ก่ โรคภัยไข้เจ็บ
ตอนนั้นเพ่ิงมาอยู่ที่วัดอัมพวันใหม่ ๆ ผู้พิพากษา
หวั หนา้ ศาลมาเยยี่ ม ทา่ นบอกวา่ ไหน ๆ จะตายแลว้ ผมจะท�ำ ยาถวาย 21
หลงั จากน้นั ตอ่ มากแ็ ผ่เมตตาอทุ ิศสว่ นกศุ ล จึงรู้วา่ เวรกรรมของเรา
มเี วรกรรมครั้งอดีต เม่ือเปน็ เด็กนี่เอง จำ�ได้แนช่ ดั กรรมฐานบอกวา่ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ขา้ พเจา้ ล�ำ ไสเ้ นา่ เปน็ เพราะเหตใุ ดหรอื นมิ ติ บอกสตบิ อกวา่ จ�ำ ไดไ้ หม
ตอนอยู่ชน้ั ประถมปที ่ี ๔ ท่านไปฆา่ ไก่ ไก่ยงั ไม่ตายแหวะท้องเอาไส้
ออกมาผูก เอาไสม้ นั มาแล้วตดั ไสม้ ัน แล้วเอาเขา้ ใสใ่ นพุงและปลอ่ ย
ไก่ไป ไกม่ นั วง่ิ หวั ซกุ หัวซุน ตายในทสี่ ดุ นี่จำ�ไดไ้ หม
อาตมากร็ �ำ ลกึ เหตกุ ารณค์ รง้ั อดตี เมอื่ เปน็ เดก็ ชนั้ ประถม
ปที ี่ ๔ ได้ น�ำ้ ตาไหลทนั ที แหม! พโิ ธเ่ อย๋ เราคดิ วา่ ไมเ่ ปน็ เวรเปน็ กรรม
แตอ่ ยา่ งใด แตก่ รรมกลบั มาซดั ตวั เราเองอยา่ งนี้ ตอ่ ไปนจี้ ะไมฉ่ นั แกง
ไกต่ อ่ ไปแลว้ ตอนเปน็ พระเลกิ ฉนั ไก่ เลกิ ฉนั เปด็ ฉนั หา่ น ไมเ่ อาแลว้
เราฆา่ สตั วไ์ หนจะไมฉ่ นั สตั วน์ น้ั นกึ ถงึ เหตกุ ารณว์ า่ เอาไสม้ นั มาแลว้
ก็รีดตัดไส้มันท้ิง สนุกดี แหม! เสียใจจนบัดนี้นะ เราก็นึกว่า เออ!
แผเ่ มตตาให้ไก่ทุกวัน ๆ สำ�ไสเ้ ราก็ดีขึ้นจนบัดน้ี
น่ีแหละโรคภัยไข้เจ็บ โยมนั่งกรรมฐานให้ดีเถอะ
จะรู้ได้ว่ามันเป็นกรรมอะไร มันจะมาจากไหน สาวหาเหตุ
โรคภัยไข้เจ็บมนั จะบอกเหตกุ ารณ์ ท้ัง ๆ ท่ีมันลมื ไปแลว้ เม่อื ตอนเปน็ เดก็ เล็ก ๆ
อยู่ชนั้ ประถมปที ี่ ๔
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
นี่เวรกรรมตามสนองแน่ ๆ ถ้าเราไปสร้างความดี
มากเท่าไร มักตามมาให้เราใช้มัน เหมือนพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้า
ย่ิงขายดิบขายดี เจ้าหนี้ก็มาทวง ถ้าเราขายไม่ได้เลย ไม่มีสตางค์เลย
ไมม่ ใี ครมาทวง ไมม่ ใี ครมาขอแน่ ๆ
น่ีก็สรุปใจความได้ผลออกมาว่า สร้างความดีต้องมี
อปุ สรรค ทา่ นทง้ั หลาย อยา่ นอ้ ยเนอื้ ต�่ำ ใจนะ สรา้ งความดมี ากเทา่ ไร
22 อปุ สรรคมาขดั ขวางมากเท่าน้นั ตอ้ งส้ตู อ่ ไปเพื่อใช้หนเี้ ขา
ข้อเท็จจริงเป็นประการใดขอเจริญพรว่า ถ้าเราเคร่ง
กรรมฐาน ตงั้ สตอิ ารมณไ์ ว้ อาจจะทเุ ลาเบาบางไปไดบ้ า้ ง ถงึ จ�ำ เป็น
ต้องตาย ให้มันตายเองเถอะ อย่าฆ่าตัวตายเลย จำ�เป็นจะต้องตาย
เราตายอยา่ งสบาย จะไมม่ เี วทนา จะไดเ้ ดนิ ทางไปถกู ตอ้ ง เราจะไมไ่ ป
อบายภูมิ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ฆ่าตัวตายไม่มีดีเลย
พระพทุ ธเจา้ บอกบาปอยา่ งรา้ ยแรง ทา่ นทง้ั หลายสอนลกู สอนหลาน
อยา่ ฆา่ ตวั ตายนะลกู นะหลานนะ ถงึ อยา่ งไรกต็ อ้ งตายอยแู่ ลว้ ทกุ คน
ต้องตายทัง้ น้นั ไมต่ อ้ งไปฆ่ามันหรอก
เพราะฉะนน้ั การเจรญิ วปิ สั สนากรรมฐาน จงึ เปน็ ผลงาน โรคภัยไข้เจ็บ
ของชีวิตนัน่ เอง ตัวกำ�หนดเปน็ บทบาท สติปฏั ฐาน ๔ นกี่ �ำ หนดไว้
ขอเจรญิ พร เดนิ จงกรมใหไ้ ดร้ ะเบยี บ ไมต่ อ้ งไปเอาความคดิ อน่ื มาใช้ 23
ขณะน้ีต้องตัดปลิโพธกังวลเสีย ตัดกิจกรรมเสีย พอทำ�ได้แล้ว
กลบั ไปบา้ นกก็ �ำ หนด เสยี งกก็ �ำ หนด เหน็ กก็ �ำ หนด คดิ อะไรกก็ �ำ หนด ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
คดิ กอ่ น คดิ หนอทล่ี น้ิ ปี่ ตงั้ สตเิ สยี ใหด้ ี ท�ำ ใหถ้ กู จดุ รบั รองคดิ ถกู ตอ้ ง
คิดทอ่ี อกมานน้ั ถูกตอ้ ง คดิ ที่ผ่านมาครั้งอดตี นั้นผดิ หมด มนั ออกมา
อย่างนี้นะ นี่แหละเวรกรรมตามสนองอย่างไร กฎแห่งกรรม
จะบอกชดั และการเจริญกรรมฐานมันจะแก้ได้ มนั จะล้างมลทินได้
ล้างกรรมเก่าท่ีมีมานานแล้ว จะมีแต่โชคดี มีปัญญา คนที่ไม่เคย
อุปถัมภก์ จ็ ะมาอุปถัมภ์ คนทีเ่ ปน็ ศตั รูกนั จะกลบั มาเป็นมติ ร
เราก็แผ่เมตตาด้วยความดีของเราจากกรรมฐาน ไม่มี
อะไรดกี วา่ เปน็ ความดอี นั ดบั หนง่ึ คอื บญุ ในตวั เองสรา้ งบญุ ใหต้ วั เอง
คือ กรรมฐาน ท่นี ำ�เงินไปทำ�บุญวดั โนน้ วดั น้ี น่นั บญุ ประเภทสอง
ขอความสวัสดีจงมีแต่ญาติพี่น้องท้ังหลาย และจง
งอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าทุกประการ เคราะห์อันใดท่ีมีอยู่ ขอให้หายไปด้วย
พุทธัง ปัจจักขามิ ธัมมัง ปัจจักขามิ สังฆัง ปัจจักขามิ ให้ขาด
กระเด็นไป โชครา้ ยจงหลดุ ไป ขอให้โชคดี มีปญั ญา สวัสดีมีชัย
อมั พฤกษ์ ปากเบ้ยี ว แกด้ ้วยสวดมนตน์ ่ังสมาธิ
โดย พระธรรมสงิ หบรุ าจารย์
เมอ่ื เราพบความสขุ กใ็ หจ้ �ำ ไวว้ า่ ความสขุ นเี้ ราไดจ้ ากการ
ผา่ นความทกุ ข์มากอ่ น “เปน็ สาวตอ้ งผา่ นทุกข์ มาดตี อนแก่ จะไม่แย่
ตอนตาย ถา้ ตอนตน้ ดแี ล้วมาเสยี ตอนแก่ มนั จะแยต่ อนตาย”
โรคภัยไข้เจ็บ ความสุขน้ีได้มาจากการผ่านความทุกข์ อย่างเช่น
24 โยมวนิดา จำ�นามสกุลไม่ได้ อยู่จังหวัดแพร่ เตี่ยเป็นไหหลำ�นอก
วนดิ าเปน็ อมั พฤกษ์ ปากกเ็ บย้ี ว มอื หงกิ หยบิ อะไรไมไ่ ดเ้ ลย ตอ้ งปอ้ น
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ข้าวให้ และขากเ็ กไปเกมา เมื่อวนั ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๔๓ อาตมา
ใหห้ นงั สอื สวดมนตไ์ ปและบอกวธิ นี งั่ สมาธไิ ป พอไปถงึ จงั หวดั แพร่
ก็สวดพาหุงมหากาฯ แล้วน่ังสมาธิ ปรากฏว่าอาการต่าง ๆ หายไป
หมดเวรหมดกรรม พอไปสวดมนตท์ ำ�กรรมฐานเขา้ หายวันหายคืน
ธุรกิจโรงงานท�ำ เครอ่ื งเฟอร์นเิ จอรเ์ กา้ อี้หวายกข็ ายดบิ ขายดี สง่ ออก
ได้มาก เลยสวดมนต์ทง้ั สามภี รรยา แล้วก็พมิ พ์หนงั สอื แจก ลกู สอบ
เขา้ มหาวิทยาลัยได้หมดเลย
คนเข้าถึงธรรมหายจากโรคได้
โดย พระธรรมสิงหบรุ าจารย์ (๘ พ.ค. ๒๕๓๗)
วันน้ีจะเล่าอานิสงส์แห่งความมีศรัทธา ตั้งใจแน่วแน่ โรคภัยไข้เจ็บ
ในการสวดมนตเ์ จรญิ กศุ ลภาวนา ท�ำ ใหห้ ายจากโรคได้ ทา่ นทงั้ หลาย
จ�ำ ไวอ้ ย่างหนง่ึ ว่า ถ้าคนเข้าถงึ ธรรมเมอ่ื ใด จะหายจากโรคแน่ ๆ 25
เมื่อวานได้รับจดหมายจากหนองคายฉบับหน่ึงว่า ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ถ้าคนเข้าถึงธรรมเม่ือใด จะหายจากโรคแน่ ๆ เขานั่งกรรมฐาน
สวดมนต์ช่วยตัวเอง ไม่ต้องให้คนอื่นช่วย ไม่ต้องให้พระช่วย
โรคหัวใจนี่ทำ�อะไรก็เหน่ือย หากคิดอะไรข้ึนมาละก็ตาย หรือถ้า
โกรธก็ตายเลย
เขาสวดมนต์เจริญกุศลภาวนาอยู่ ๙ เดือน ขณะน้ี
โรคหายไป ๙๐% แล้ว ยังเหลืออีก ๑๐% จึงจะเป็นปกติ หมอบอก
หายได้อยา่ งไร มแี ต่จะตายเท่าน้ัน
การสวดมนต์น้ันสวดเพ่ืออะไร สวดเพ่ือต้องการให้มี
“สต”ิ ชว่ ยตวั เองได้ คนทม่ี าทนี่ ม่ี แี ตม่ าใหพ้ ระชว่ ย ไมช่ ว่ ยตวั เองเลย
ไมส่ นใจปฏบิ ตั กิ รรมฐาน มากนั เพอื่ จะปฏบิ ตั แิ ลกเหมอื นแบบพอ่ คา้
แม่ค้า ไมไ่ ด้ผลสกั ราย
โรคภัยไข้เจ็บ โยมกุศลน่ีต้ังใจจริงโรคหายไปเลย เขาขอหนังสือ
สวดมนต์มหาเมตตาใหญ่ วันนี้ส่งไปให้เขาแล้ว ต้องช่วยตัวเอง
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้ต้องพง่ึ ตัวเอง ตอ้ งสอนตัวเอง
ท่ีจังหวัดอุทัยธานี มีลุงคนหน่ึงเป็นโรคมะเร็ง
หมอบอกว่า ถ้าผ่าแล้วจะอยู่ได้ ๓ ปี ถ้าไม่ผ่าต้องตายปีน้ี จะเอา
อย่างไรกเ็ ลือกเอา จงตดั สินใจเสยี
ลุงคนนั้นก็คิดว่า คนเรายังไงก็ตาย หมอก็ต้องตาย
ปู่ย่าตายายตายทั้งน้ัน ก็เลยบอกว่า เอาละผมยังไม่ผ่า หนีมาปฏิบัติ
26 กรรมฐานได้ ๗ วนั กก็ ลบั ไปหาหมอ หมอตรวจแลว้ มะเรง็ หายไปเลย
น่ีต้องช่วยตัวเองอย่างนี้ซิ มากันที่น่ีร้อยละ ๙๐ มาให้พระช่วย
ใหแ้ ผเ่ มตตาทง้ั นน้ั แตต่ วั เองไมช่ ว่ ยตนเองเลยหนงั สอื มหาเมตตาใหญน่ ้ี
มีมานานแล้ว ไม่มีคนสนใจ เป็นบทสวดมนต์ของเทวดาที่ต้นพิกุล
มาสอนแมช่ ีก้อนทอง ปานเณร ใหส้ วดมนตท์ ศี่ าลาหลงั เกา่
.... โยมกศุ ลท�ำ ไรไ่ วเ้ ยอะ มที ง้ั พชื ไรแ่ ละสตั วเ์ ลย้ี ง มสี ตั ว์
มากวน คนก็เบียดเบียนลักข้าวของ และมีโรคภัยไข้เจ็บ เขาบอกว่า
ตงั้ แตส่ วดมนต์ เจรญิ กศุ ลภาวนาทกุ วนั ตลอดมา โรคหวั ใจรวั่ ผมหาย
แล้ว ๙๐% คนเคยเบียดเบียนจะมาทำ�ร้ายผมกลับมาเป็นมิตรหมด
สัตวร์ ้ายที่เคยมากวนพืชไรไ่ มม่ ีกวนเลย เขาบอกมาอย่างน้ี
อาตมากข็ ออนโุ มทนากบั เขา เพราะเขาเปน็ โรครา้ ยและ โรคภัยไข้เจ็บ
หายไปไดอ้ ยา่ งนา่ อศั จรรย์ มนั หายปบ๊ั เกดิ ขนลกุ ซขู่ นึ้ มา เกดิ ปติ ยิ นิ ดี
เลยบอกให้หมอทราบว่าได้สวดมนต์เจริญกุศลภาวนา คนร้ายท่ีเคย 27
มาลักของทบี่ า้ นเขากเ็ ลิกเลย ไมม่ าลกั อีกต่อไปจนบดั น้ี นอี่ านสิ งส์
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ขอฝากใหไ้ ปคดิ นะ ไมใ่ ชฝ่ ากใหไ้ ปท�ำ คดิ ไดก้ ท็ �ำ คดิ ไมไ่ ด้
อย่าไปทำ�ให้มันเสียเวลา เพราะโยมไม่มีศรัทธาอย่าทำ� ไม่มีจิตเป็น
กศุ ลอยา่ ท�ำ นะ ไมไ่ ดผ้ ลอยา่ งแน่นอน
เวลาแผ่เมตตานะโยมนะ ถ้าเราน่ังกรรมฐานและ
แผ่เมตตาใหศ้ ัตรูมาเปน็ มิตร ให้ชวี ิตเราสดชื่นตอ่ ไป จะมปี ระโยชน์
เหลือเกนิ เป็นเรอ่ื งสด ๆ ร้อน ๆ ทีเ่ กดิ ข้ึน มีอะไรแปลก ๆ
ไม่มีอะไรดีเท่า พาหุงมหากาฯ คนไม่สวดกันเอง
สวดต้องการให้มีสติดี สวดต้องการให้รำ�ลึกเหตุการณ์ในชีวิตได้
สวดแล้วโรคภัยไข้เจ็บก็หาย ถ้าจำ�เป็นจะต้องตาย จะได้ไม่ต้อง
ทรมาน จะไดร้ วู้ ่าเขาเอาวอช่อฟ้ามารบั เราไปสวรรค์
เราจะได้รีบเดินทางไป ลูกเต้าจะได้ไม่กังวลกับพ่อแม่
ที่ล้มหายตายไป เร่ืองที่ถูกต้องเป็นอย่างนั้น ถ้าญาติโยมเข้าใจ
ก็ได้ผลสมคาดปรารถนาทุกประการด้วย อันนี้มีความหมาย
ใหญ้ าตโิ ยมได้เขา้ ใจด้วย
โรคภัยไข้เจ็บ วันน้ีไปทำ�บุญร้อยวันท่ีกรุงเทพฯ เขาคุ้นเคยกับอาตมา
มา ๓๐ กว่าปีแล้ว ไม่เคยนั่งกรรมฐานเลย ชวนก็ไม่เอา ตอนน้ี
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้ต้องบงั คบั แล้ว เพราะรู้ว่าเขาหมดอายแุ ล้ว จะตอ้ งตายแน่ ๆ
เขาเป็นโรคปวดหลังทรมานเหลือเกิน ปวดเวลา
บ่าย ๓ โมงเย็นไปจนถึงเที่ยงคืน เขาถามว่าเป็นเพราะอะไร
หลวงพ่อทราบไหม? อาตมาก็บอกให้มานั่งกรรมฐานเอาเอง
ลกู กม็ อื สั่นหงกิ ๆ เลย
คณุ สกุ ฤช ชนสมั พนั ธก์ ลุ เปน็ คนจนี ไมเ่ คยนงั่ กรรมฐาน
ไม่เคยช่วยตัวเอง อาตมาต้องโทรไปเรียกให้มา ต้องการจะช่วยเขา
28 โดยดว่ น เพราะลูกสาวเขาจะแตง่ งาน เขาจะตายเสียก่อน
ประเพณีจีน ถ้าพ่อแม่ตาย ต้องหยุดการแต่งงาน ๓ ปี
ปัญหาก็คือ ถ้าเขาตาย ลูกจะไม่ไดแ้ ต่งงาน ๓ ปี อาจจะเกิดแปรผัน
ไปแต่งกบั คนอน่ื ได้
ผลสดุ ทา้ ยเขากม็ าอยปู่ ฏบิ ตั ิ หายสบาย เดนิ ได้ พอถงึ เวลา
แผเ่ มตตาเสยี ปวดหลงั กห็ ายไป ปรากฏนมิ ติ ออกมาวา่ ตแี มวหลงั หกั
แถมเล้ียงนกพิราบอีกตัวละ ๔-๕ แสน เอาไว้สำ�หรับแข่งขันกัน
ไปซ้อื มาจากไต้หวัน
ตอนจะตายนบี่ อกใหเ้ ลกิ เอาไปปลอ่ ยใหห้ มด ปลอ่ ยมนั
ก็ตาย ต้องไปให้คนที่เขาเล้ียงไว้จัดการต่อไป นกแข่งราคามันแพง
เขาไม่ฆา่ กนั หรอก ปลอ่ ยตายเอง เขากจ็ ัดการ
นแ่ี หละนงั่ กรรมฐานรกู้ ฎแหง่ กรรมไดว้ า่ ตแี มวหลงั หกั โรคภัยไข้เจ็บ
ตีตอนบ่าย ๓ โมง หมอตรวจแล้วบอกไม่มีอะไร ตรวจหลาย
โรงพยาบาล แล้วมันปวดได้อย่างไร นี่โรคกรรมจำ�ไว้ หมอตรวจ 29
ไมพ่ บโรคหรอก
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
หมอตรวจไม่พบโรคแล้วรักษาไม่ได้ หมอเขาบอก
หัวใจก็ดี เลือดลมก็ดี ความดันก็ดีด้วย ไม่มีอะไรทำ�ไมถึงปวดได้
ได้แต่ฉีดยากันปวดไว้เท่าน้ันเอง พอถึง ๓ โมงเย็นก็ต้องฉีดยา
ตีแมวตอนนนั้ ตวั เองก็เลยมาปวดตอนนน้ั ชดั เจนแลว้
แมวหลังหักแล้วก็ไปสั่นกว่าจะตาย เลยติดมาถึงลูก
ลูกมือส่ันเลย เขียนหนังสือก็ไม่ค่อยได้แล้ว เลยบอกให้ลูกมาน่ัง
กรรมฐาน แผ่เมตตา จะยังเวลาให้อยู่ได้ เขาก็เลยมานั่งกรรมฐาน
กลบั ไปบา้ นแตง่ งานลกู สาวเสรจ็ เรยี บรอ้ ยกเ็ ดนิ ได้ อารมณด์ ี ใจสบาย
เพราะได้กรรมฐานไป ไดส้ ติ ได้หนทางไป ยังดกี วา่ ไม่ได้หนทางเลย
เหลืออีก ๓ วัน เขาต้องตายแน่ เพราะขอเวลาไว้ ๑๕
วันเท่านั้น ต่ออายุมาได้ ๑๕ วัน อยู่ต่อไม่ได้แล้ว เขาได้จัดการ
แบ่งสมบัติให้ลูกไปประกอบอาชีพการงาน จัดการเสร็จแล้ว
เขาก็ลาตาย มันแน่นหน้าอก และได้แผ่เมตตาให้แมว แล้วเอาไป
โรงพยาบาล ไม่ต้องมีเวทนาเลย พอถึงเวทนาก็ขอลาหลับสนิทไป
เลย เขามารับขนึ้ วอชอ่ ฟา้ ไป น่ีดมี าก
โรคภัยไข้เจ็บ ตายอย่างน้ีดีกว่าไปตายโอยอายท่ีโรงพยาบาล เอาสาย
ออกซเิ จนใสจ่ มกู ให้ยุ่งไป นเ่ี ขาไมต่ ้อง
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ท่านท้ังหลายโปรดพิจารณาอย่าประมาทในชีวิต
ของทา่ น อยา่ คดิ วา่ ไม่ตายนะ ตอ้ งตายแน่ สาวกต็ ายได้ เดก็ กต็ ายได้
บางคนไม่ทันร้อง ตายในท้องก็มากมาย ถ้าไม่คิดหรือคิดไม่ได้
ก็ตามใจโยมเถอะ ไมว่ ่ากนั หรอก
คนเรามีเวรมีกรรมด้วยกันท้ังนั้น ไม่ทราบว่าจะแก้ไข
ได้แค่ไหน ไม่มีอะไรดีเท่าการเจริญกรรมฐาน ดีที่สุด ทำ�ให้ลูกดีได้
30 แผเ่ มตตาไปอย่าวุ่นวายเลย คนที่วนุ่ วาย คอื คนขาดสตนิ ะ คนไมม่ ี
สติสัมปชัญญะท�ำ อะไรไม่ไดผ้ ล ท�ำ อะไรไม่ส�ำ เร็จ มันอยู่ตรงน้ี
คนที่ทำ�กรรมฐานได้ ดูง่าย ๆ จะมีแต่เมตตาและมีแต่
ความขยัน ไม่ขี้เกียจ อยู่บ้านท่านอย่าน่ิงดูดาย ป้ันวัวป้ันควาย
ขยันตลอดไป นี่กรรมฐาน
การเจริญกรรมฐานสามารถจะแผ่เมตตาช่วยคนอ่ืนได้
เขาสง่ ขา่ วมาจากกรงุ ปารสี ฝรง่ั เศส นายแพทยป์ ระสงค์ อายมุ ากแลว้
ภรรยาฝันว่าเทวทูตจะเอาตัวไป เทวทูตบอกให้มาน่ังกรรมฐาน
ที่วัดอัมพวัน เขาตอ้ งนง่ั เครือ่ งบินมาจากกรุงปารสี มาขออยู่ ๑๕ วัน
ต้นเดือนกรกฎาคม มาท้ังสามีภรรยาและลูก เขายังอุตส่าห์เสียค่า โรคภัยไข้เจ็บ
เคร่ืองบนิ มานงั่ กรรมฐาน วันนีจ้ ะยังไม่เลา่ ใหเ้ ขามาเลา่ เอง
31
เวลาเดนิ จงกรมท�ำ ใหไ้ ด้เวลามเี วทนาก�ำ หนดเวทนากอ่ น
ปวดตรงไหนใหก้ ำ�หนดตรงนั้น บางคนปวดศีรษะมา ๗ - ๘ ปแี ลว้ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
มานงั่ กรรมฐานก็ไม่ไดก้ �ำ หนดที่ปวดเลย ใช้ไมไ่ ด้
อรยิ สัจ ๔ มีทุกข์ สมทุ ยั นโิ รธ มรรค กแ็ กท้ ท่ี กุ ขก์ อ่ น
มันทุกข์ที่ปวดศีรษะ เราก็นึกมโนภาพ หลับตาเอาสติตั้งไว้ที่ศีรษะ
ก�ำ หนดว่า ปวดหนอ ปวดหนอ ตายให้ตาย เดี๋ยวมันจะระเบิดขึ้นไป
เกดิ ข้ึน ตั้งอยู่ ดบั ไป หายปวดศีรษะเลย
พอหายแล้วมันจะบอกว่าทำ�กรรมอะไรไว้ เดี๋ยวนิมิต
จะบอกออกมา เมอ่ื ตอนเปน็ เดก็ ๆ ทบุ หวั ปลาทง้ั นน้ั ทบุ หวั ปลาขาย
ด้วยซิ แต่ไมถ่ งึ กับเป็นโรคประสาท เพยี งแตป่ วดศีรษะไม่พัก ทำ�ให้
เสียงาน เวลาเจ็บไข้ไมส่ บายทำ�ใหเ้ สยี งาน
อโรคยา ปรมา ลาภา คนไหนไม่มีโรค คนน้ันมีลาภ
ถ้าสามวันดีส่ีวันไข้ต้องเข้าโรงพยาบาล โยมจะไปหาเงินได้หรือ
อย่างน้ีมคี วามหมายมาก
โรคภัยไข้เจ็บธรรมกถาส�ำ หรับผปู้ ว่ ย รักษาใจในยามเจ็บป่วยไข้
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้โดย พระธรรมสงิ หบรุ าจารย์
เราทั้งหลายท่ีเป็นพุทธศาสนิกชน นับถือพระรัตนตรัย
เปน็ ทเี่ คารพบชู าสงู สดุ พระรตั นตรยั นนั้ ก็คอื พระพทุ ธเจา้ พระธรรม
พระสงฆ์ ถ้ายึดเอาพระพุทธเจ้าก็เป็นผู้ได้ตรัสรู้ ค้นพบพระธรรม
เมื่อค้นพบแล้วรู้ความจริง ก็นำ�เอาธรรมน้ันมาสั่งสอนแก่ผู้อ่ืน
ผปู้ ฏิบตั ติ ามรวมกนั เขา้ กเ็ รียกว่า พระสงฆ์
32 พระพุทธเจ้าท่ีทรงค้นพบพระธรรมนั้นก็คือ ค้นพบ
ความจริงเก่ียวกับเร่ืองโลกและชีวิตว่าเป็นอย่างไร พระพุทธเจ้าน้ัน
ทรงสนพระทัยเร่ืองความสุขความทุกข์ของมนุษย์ และพระองค์
ก็ใช้เวลามากมายในการค้นคว้าเรื่องนี้ เพื่อให้รู้ชัดว่ามนุษย์น้ัน
มีความสุขความทุกข์เกิดข้ึนได้อย่างไร ถ้ามีปัญหา คือ ความทุกข์
เกิดข้ึนจะแก้ไขอย่างไร เรียกได้ว่า พระองค์เป็นผู้เช่ียวชาญ
ในเรอื่ งชวี ิต เพราะฉะน้ันพระองค์จงึ สามารถ ในการทีจ่ ะแกป้ ัญหา
ชวี ติ ของคนเรา และเราก็นบั ถือพระองค์แงน่ ้ีเป็นสำ�คัญ
ชีวิตของคนเราน้ัน ประกอบด้วย “กาย” กับ “ใจ”
มีสองส่วนเท่าน้ัน กายกับใจรวมเข้าเป็นชีวิตของเรา กายก็ตาม
ใจกต็ าม จะตอ้ งให้อยใู่ นสภาพท่ดี ี ต้องรักษาไวใ้ หม้ สี ขุ ภาพดี จงึ จะ โรคภัยไข้เจ็บ
มคี วามสขุ ชวี ติ จงึ จะด�ำ เนนิ ไปโดยราบรนื่ แตค่ นเรานนั้ จะใหเ้ ปน็ ไป
ตามท่ีปรารถนาทกุ อย่าง ก็เป็นไปไมไ่ ด้ 33
ร่างกายของเราน้ีบางครั้งก็มีความเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ซึ่งอาจจะเป็นเพราะสาเหตุเน่ืองจากการกระทบด้วยโรคภัย
ที่มาจากภายนอกหรือฤดูกาลผันแปรไป หรือถูกกระทบกระทั่ง
จากวัตถุสิ่งของท่ีแข็งกระด้าง แม้แต่หนามตำ�ทำ�ให้เกิด
ความเจ็บปวดขึ้น หรือร่างกายนั้นอยู่ไปนาน ๆ เข้า ก็ทรุดโทรมไป
ตามกาลเวลา รา่ งกายก็เจบ็ ไข้ได้ป่วยอันเป็นไปตามธรรมดา เรยี กว่า
เป็นลักษณะของสังขาร คือ สิ่งที่เกิดจากปัจจัยปรุงแต่ง ซ่ึงไม่มีอยู่
โดยตัวของมันเอง แต่อาศัยสิ่งหลาย ๆ อย่าง มาประชุมกันเข้า
มารวมกนั เข้า
ร่างกายของเรานี้ก็เกิดจากปัจจัยหลายอย่างมาประกอบ
กนั เขา้ ภาษาเกา่ ๆเราเรยี กวา่ เกดิ จากธาตุดนิ -น�้ำ -ไฟ-ลมมาประชมุ กนั
ธาตเุ หลา่ นแี้ ตล่ ะอยา่ งผนั แปรไปกธ็ รรมดา ทว่ี า่ จะเกดิ การแปรปรวน
ข้ึนแก่ร่างกายที่เป็นของส่วนรวมนั้น ซ่ึงเป็นที่ประชุมของธาตุ
ทง้ั หมดรา่ งกายแปรปรวนไปกเ็ กดิ การปว่ ยไขไ้ มส่ บายนก้ี เ็ ปน็ ดา้ นหนง่ึ
ทีนี้ร่างกายน้ันก็ไม่ได้อยู่ลำ�พัง ต้องอยู่ร่วมกันกับจิตใจ
จึงจะเกิดเป็นชีวิตจิตใจน้ันก็เช่นเดียวกัน ก็มีความเปลี่ยนแปลงไป
โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ จิตใจเปลี่ยนแปลงไปมีความคิดนึกต่าง ๆ นานา บางครั้ง
เกดิ กิเลสขึ้นมา เชน่ มคี วามโลภ โกรธ ความหลง ใจก็แปรปรวนไป
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้ตามกเิ ลสเหลา่ นน้ั ยามโลภ กอ็ ยากจะไดโ้ นน่ ไดน้ ี่ ยามมโี ทสะเกดิ ขน้ึ
กโ็ กรธแคน้ ขนุ่ เคอื งใจหงดุ หงดิ กระทบกระทง่ั ตา่ งๆยามโมหะเกดิ ขนึ้
ก็มีความลุ่มหลง มีความมัวเมาด้วยประการต่าง ๆ หรือในทาง
ตรงข้ามเวลาเกิดกุศลธรรม เกิดความดีงาม จิตใจเป็นบุญขึ้นมา
กค็ ิดนึกเรื่องดี ๆ จติ ใจก็งดงามจิตใจกผ็ ่องใสเบกิ บานสดชื่น เรียกวา่
มีความสุข ในเวลานั้นก็จะมีคุณธรรม เช่น มีความเมตตา มีความ
กรุณาต่อคนอ่ืน ๆ หรือว่ามีความศรัทธา เช่น มีความศรัทธา
34 ในพระรตั นตรยั ศรทั ธาในพระศาสนา ศรัทธาในบญุ กุศล เปน็ ต้น
จติ ใจกเ็ ปลยี่ นแปลงแปรปรวนไปไดต้ า่ ง ๆ แตท่ ส่ี มั พนั ธ์
กันระหว่างกายกับใจ ก็คือว่า เม่ือร่างกายเจ็บไข้ได้ป่วย ก็มักจะ
รบกวนทำ�ให้จิตใจพลอยไม่สบายไปด้วย เพราะว่าร่างกายเจ็บปวด
จิตใจก็มีความทุกข์ หรือว่าร่างกายนั้นไม่อยู่ในอำ�นาจบังคับบัญชา
เชน่ รา่ งกายท่อี ่อนแอ เปน็ ตน้ จิตใจก็หงุดหงดิ เพราะไม่ได้อยา่ งใจ
อันน้ีเรยี กว่าจติ ใจกบั ร่างกายนน้ั อาศยั ซึ่งกนั และกัน
เมื่อร่างกายไม่สบาย จิตใจก็พลอยไม่สบายไปด้วย
หรอื เมอ่ื จติ ใจไมส่ บาย มคี วามทกุ ข์ มคี วามหวาดระแวง มคี วามกลวั
มีความกงั วลใจ มหี ว่ งหน้าพะวงหลงั ตา่ ง ๆ มีความไมส่ มปรารถนา โรคภัยไข้เจ็บ
ผดิ หวงั ทอ้ แทใ้ จตา่ งๆกท็ �ำ ใหแ้ สดงออกมาทางรา่ งกายเชน่ วา่ หนา้ ตา
ไม่สดช่ืน ผิวพรรณไม่ผ่องใส ย้ิมแย้มไม่ออก ตลอดจนกระทั่งว่า 35
เบ่ือหน่ายอาหาร เป็นต้น ไม่มีเร่ียวแรงไม่มีกำ�ลัง เพราะว่าใจ
ไม่มีกำ�ลัง อ่อนแรงกำ�ลังไปด้วย อันน้ีก็เป็นเรื่องของกายกับใจ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ท่ีต้องอาศยั ซงึ่ กันและกัน
ในบางคราวนั้น ร่างกายก็เจ็บปวด ซ่ึงเหตุการณ์สำ�คัญ
ท่วี า่ เวลานน้ั อาจจะท�ำ ให้จติ ใจน้พี ลอยไม่สบายไปด้วย ซ่ึงทางภาษา
พระท่านบอกว่า ถ้าหากว่ากายไม่สบายเจ็บไข้แล้ว จิตใจไม่สบาย
ไปด้วย ก็เรียกว่า กายป่วยทำ�ให้ใจป่วยไปด้วย จะทำ�อย่างไร
เมอ่ื รา่ งกายเจบ็ ปว่ ยแลว้ จติ ใจจะไมแ่ ปรปรวนไปตามพระพทุ ธเจา้ นน้ั
ได้ทรงค้นคว้าเร่ืองของชีวิตไว้มากมาย และหาทางที่จะช่วย
ให้คนท้ังหลายมีความสุข พระองค์เคยตรัสสอนว่า ให้ทำ�ในใจ
ต้งั ใจไว้วา่ ถึงแมร้ ่างกายของเราจะป่วย แตใ่ จของเราไมป่ ่วยไปดว้ ย
การตง้ั ใจอยา่ งนเ้ี รยี กวา่ “มสี ต”ิ ท�ำ ใหจ้ ติ ใจไมต่ กอยใู่ นอ�ำ นาจครอบง�ำ
ของความแปรปรวนในทางรา่ งกายนั้น เมอื่ มีสติอยู่กร็ กั ษาใจไว้ได้
การรักษาใจนั้นเป็นเรื่องสำ�คัญ ในยามเจ็บไข้ได้ป่วยน้ี
กายเป็นหน้าที่ของแพทย์ แพทย์ก็รักษาไป เราก็ปล่อยให้แพทย์
โรคภัยไข้เจ็บทำ�หน้าท่ีรักษากาย แต่ใจน้ันเป็นหน้าท่ีของเราเอง ตอนนี้เท่ากับ
ปลงใจบอกว่า เอาละร่างกายของเรามันป่วยไปแล้ว ก็เป็นเร่ือง
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้ของหมอเปน็ เรอ่ื งของนายแพทย์นายแพทยร์ กั ษาไปเราไดแ้ ตร่ ว่ มมอื
ไมต่ อ้ งเรา่ รอ้ นกงั วล เราจะรกั ษาแตใ่ จของเราไว้ รกั ษาใจตามค�ำ สอน
ของพระพุทธเจา้ อย่างที่พระองค์ตรัสไว้ ซงึ่ ได้ยกมาอา้ งเมอื่ สักครูน่ ี้
ให้ต้ังใจว่าถึงแม้ร่างกายของเราจะป่วย แต่ใจของเราจะไม่ป่วย
ไปด้วย ถ้ายึดไว้อย่างนี้ สติอยู่ ก็ทำ�ให้จิตใจนั้นไม่พลอยหงุดหงิด
ไมพ่ ลอยออดแอด ไม่พลอยแปรปรวนไปตามอาการทางรา่ งกาย
จรงิ อยกู่ เ็ ปน็ ธรรมดาทว่ี า่ ทกุ ขเวทนาความเจบ็ ปวดตา่ งๆ
36 ความอ่อนแรงอ่อนกำ�ลังนั้นย่อมมีผลต่อจิตใจ แต่ถ้ารักษาจิตใจ
ไวด้ แี ลว้ ความเจบ็ ปวดนนั้ กม็ แี ตน่ อ้ ย พระพทุ ธเจา้ จงึ ตรสั ไวเ้ สมอวา่
ให้รกั ษาใจของตนเอง การทีจ่ ะรักษาใจนนั้ รกั ษาด้วยอะไร กร็ ักษา
ดว้ ยสติ คอื สติก�ำ หนดดังกล่าวมาว่า ถา้ มีสตเิ อาใจยึดไว้กบั ค�ำ สอน
ของพระพุทธเจ้าว่า ถึงกายของเราจะป่วยแต่ใจของเราไม่ป่วย
เพียงแค่น้ีก็ทำ�ให้ใจหยุดย้ังมีหลักที่ยึดแล้ว จิตใจก็สบายข้ึน อาจจะ
น�ำ มาเปน็ ค�ำ ภาวนากไ็ ด้ คอื ภาวนาไวใ้ นใจตลอดเวลา บอกวา่ กายปว่ ย
ใจไมป่ ว่ ย ถึงกายจะป่วย แตใ่ จไม่ปว่ ย ทำ�นองนี้ ภาวนายดึ ไว้บอกตัว
เองอยเู่ สมอ ใจก็จะไมเ่ สื่อมลอยเควง้ คว้างไป
การรกั ษาใจดว้ ยสตนิ น้ั กค็ อื วา่ เอาจติ ของเราไปผกู มดั ไว้ โรคภัยไข้เจ็บ
กบั สง่ิ ใดสง่ิ หนง่ึ ทด่ี งี าม ทไ่ี มม่ กี ารปรงุ แตง่ จติ ของเรานชี้ อบปรงุ แตง่
เมอ่ื ร่างกายไม่สบาย จิตใจก็ปรงุ แตง่ ไปตามความไมส่ บายนน้ั ท�ำ ให้ 37
มคี วามไมส่ บายมากขนึ้ หรอื วา่ จติ ใจไมห่ ว่ งกงั วลภายนอก หว่ งกงั วล
เร่ืองทางด้านครอบครัวลูกหลาน ห่วงกังวลเร่ืองข้าวของทรัพย์สิน ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
อะไรต่าง ๆ ท่านเรียกว่าเป็นสงิ่ นอกกายไม่ใชต่ วั ของเรา
โดยเฉพาะลูกหลานนั้นก็มีหลักมีฐานของตนเอง
ก็อยสู่ บายกันแล้ว ตอนนล้ี ูก ๆ เหลา่ นนั้ มีหน้าทจ่ี ะมาเอาใจใสด่ แู ล
ผู้เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ใช่หน้าที่ของผู้เจ็บป่วย ที่จะห่วงกังวลต่อผู้ที่
ยังมีร่างกายแข็งแรงดี ท่านเหล่านั้นสามารถรับผิดชอบตนเองหรือ
ช่วยเหลือตนเองได้ดีอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวล ตัวเอง
ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเช่นเดียวกัน เพราะถ้ารักษาใจไว้ได้อย่างเดียวแล้ว
ก็เปน็ การรกั ษาแก่นของชีวติ ไว้ได้
เพราะว่าชีวิตของเรานั้น ก็เป็นดังท่ีได้กล่าวว่า มีกาย
กับใจสองอย่าง โบราณกล่าวไว้ว่าใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว กายน้ัน
รับใช้ใจ ใจเป็นแกนของชีวิต ถ้ารักษาใจไว้ได้แล้วก็นับว่าเป็นการ
รักษาส่วนประเสรฐิ ของชวี ติ ไว้ได้ เพราะฉะนนั้ ตอนนี้ กร็ ักษาแต่ใจ
ของตนอยา่ งเดยี ว ถา้ รกั ษาใจไดแ้ ลว้ กช็ อื่ วา่ รกั ษาแกนของชวี ติ ไวไ้ ด้
โรคภัยไข้เจ็บและกลา่ วมาในตอนนี้ กต็ อ้ งปลงใจไดว้ า่ กายนน้ั เปน็ เรอ่ื งของแพทย์
เพราะฉะนน้ั ไมต่ อ้ งไปกังวลเรอื่ งกาย มาพจิ ารณา แคร่ ักษาจิตไว้
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
วธิ รี กั ษาจติ นนั้ กร็ กั ษาดว้ ยสตดิ งั กลา่ วมา ทา่ นเปรยี บวา่
สตินั้นเป็นเชือกจะรักษาจิตไว้ให้อยู่กับท่ีได้ ก็เอาเชือกผูกใจไว้
ใจนน้ั มนั ดนิ้ รน ชอบปรงุ แตง่ คดิ วนุ่ วายฟงุ้ ซา่ นไปกบั อารมณต์ า่ ง ๆ
เหมือนกับลิง ลิงที่อยู่ไม่อยู่สุข กระโดดไปตามกิ่งไม้ จากต้นไม้น้ี
ไปต้นไม้โน้นเรื่อยไป พระพุทธเจ้าก็เลยสอนว่า ให้จับลิงคือจิตนี้
เอาเชอื กผูกไว้กบั หลกั
38 หลักคืออะไร หลักก็คือสิ่งที่ดีงาม ท่ีไม่มีอะไรปรุง
แต่ง ท่ีเป็นคำ�สอนของพระพุทธเจ้า เป็นต้น เม่ือใจไปผูกไว้
กบั สงิ่ นนั้ แลว้ จติ กอ็ ยกู่ บั ทก่ี ไ็ มฟ่ งุ้ ซา่ นไมเ่ ลอ่ื นลอย ไมส่ บั สนวนุ่ วาย
ถา้ จติ ไมป่ รงุ แต่งแลว้ ก็จะหมดปัญหาไป
วธิ รี กั ษาใจทจี่ ะไมใ่ หป้ รงุ แตง่ กค็ อื อยกู่ บั อารมณท์ ดี่ งี าม
อยู่กับใจยึดถือ อย่างที่อาตมาได้กล่าวมา แม้แต่เอาคำ�สอน
ของพระพทุ ธเจา้ เก่ยี วกับเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยมาภาวนาวา่ ถึงกาย
ของเราจะป่วย แต่ใจไม่เจบ็ ไขด้ ว้ ย ป่วยแต่กายใจไม่ป่วย ภาวนาแคน่ ้ี
จิตกไ็ มฟ่ งุ้ ซ่าน ไม่มีการปรงุ แต่ง เมอ่ื ไม่มกี ารปรงุ แต่ง จิตก็ไมต่ ิดขดั
ไม่ถูกบีบ จิตไม่ถูกบีบค้ันก็ไม่มีความทุกข์ จะมีความปลอดโปร่ง
ผ่องใส ไม่ถกู ครอบงำ�ด้วยทุกขเวทนาท่ีเกดิ ข้ึน
นอกจากว่า จะผูกไว้กับสิ่งท่ีดีงามหรือคำ�สอน โรคภัยไข้เจ็บ
ของพระพุทธเจ้าอย่างที่กล่าวมาแล้ว ก็คือการที่ว่า ให้จิตนั้น
ไม่มีกังวลกับสิ่งต่าง ๆ ไม่ปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับความคิดนึก 39
ทั้งหลาย หรือความห่วงกังวลในภายนอก รักษาใจให้อยู่ภายใน
ถ้าไม่รักษาใจไว้คำ�สอนของพระพุทธเจ้า หรือคำ�ภาวนาอย่างท่ีว่า ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
เมอ่ื สกั ครู่ กอ็ าจจะเอาค�ำ ภาวนาอนื่ ๆ มาวา่ เชน่ เอาค�ำ วา่ “พทุ โธ” มา
คำ�ว่า “พุทโธ” น้ี เป็นคำ�ดีงาม เป็นพระนามหรือ
ช่ือของพระพุทธเจ้า เม่ือเอามาเป็นอารมณ์สำ�หรับให้จิตใจ
ยึดเหนี่ยวแล้ว จิตใจก็จะได้ไม่ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไป แล้วจิตใจน้ี
ก็จะเป็นจิตใจท่ีดีงามผ่องใส เพราะพระนามของพระพุทธเจ้าน้ัน
เป็นพระนามของผู้บริสุทธ์ิ เป็นพระนามท่ีแสดงถึงปัญญา ความรู้
ความตนื่ และความเบิกบาน
ค�ำ วา่ “พทุ โธ”นน้ั แปลวา่ รู้ตนื่ เบกิ บานพระพทุ ธเจา้ ทรงรู้
ความจรงิ ของสง่ิ ทง้ั หลายรสู้ งั ขารรโู้ ลกและชวี ติ น้ีตามความเปน็ จรงิ
มปี ญั ญาทแ่ี กท้ กุ ขใ์ หก้ บั คนทง้ั หลาย เมอื่ รแู้ ลว้ พระองคก์ ต็ นื่ ตนื่ จาก
ความหลับ ความลุ่มหลงมัวเมา ก็มีแต่ความเบิกบาน เมื่อเบิกบาน
ก็มีความสุขจติ ใจปลอดโปร่งในความสขุ จึงเปน็ แบบอยา่ งให้แก่เรา
ทั้งหลาย ว่าเราทั้งหลายจะต้องมีความรู้ เข้าใจสังขาร ตามความ
โรคภัยไข้เจ็บเป็นจรงิ จะต้องมีความตนื่ ไมห่ ลงใหลในสิง่ ตา่ ง ๆ ไมย่ ึดตดิ ถือมั่น
ในส่ิงท้ังหลาย แล้วก็มีความเบิกบานใจปลอดโปร่งใจ เอาอันนี้ไว้
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้เปน็ คตเิ ตือนใจ
แล้วต่อจากนั้น ก็ภาวนาคำ�ว่า “พุทโธ” ว่า “พุท”
แล้วก็ว่า “โธ” ถ้ากำ�หนดลมหายใจได้ ก็สามารถทำ�ให้จิต
อยู่กับลมหายใจ ทำ�สมาธิ จิตก็ไม่ฟุ้งซ่าน จิตก็อยู่เป็นหลัก เมื่อจิต
อยเู่ ปน็ หลกั มคี วามสงบมน่ั คงไมฟ่ งุ้ ซา่ นปรงุ แตง่ มคี วามสงบมนั่ คง
แนว่ แน่ กไ็ มเ่ ปน็ ทเี่ ศรา้ หมอง แตจ่ ะมคี วามเบกิ บาน จะมคี วามผอ่ งใส
ก็มีความสุข แล้วอย่างน้ีก็จะถือได้ว่า เป็นการปฏิบัติตามหลักที่ว่า
40 จิตใจไม่ปว่ ยนี้ ก็เปน็ วธี ีการต่าง ๆ ในการทจี่ ะรกั ษาจิตใจ
อาตมาไดก้ ลา่ วมาน้ีก็เปน็ ตวั อย่างเร่อื งหนงึ่ ในการทจี่ ะ
รักษาจิตด้วยสติ โดยเอาสติเป็นเชือกผูกจิตไว้กับอารมณ์ เช่นคำ�ว่า
“พทุ โธ” เปน็ ตน้ จิตใจจะได้มหี ลกั ไมฟ่ งุ้ ซ่านเล่อื นลอย มีความสงบ
เบกิ บานผ่องใส ถงึ กายจะป่วยแต่ใจไมป่ ่วย
ธรรมะสำ�หรับผู้สงู อายุ
โดย พระธรรมสงิ หบุราจารย์
ขอให้ผู้สูงอายุได้มีธรรมะ ปฏิบัติรักษาสุขภาพพ้ืนฐาน โรคภัยไข้เจ็บ
อายจุ ะไดย้ นื ตอ่ ไปรกั ษาสขุ ภาพพน้ื ฐานกค็ อื กรรมฐานทฝ่ี กึ อยนู่ แ่ี หละ
41
๑. อาหารดี โยมมีอายุมากแล้วก็ดี หรือจะอายุน้อย
ต้องจำ�กัดอาหาร อย่าทานมากหรือน้อยเกินไป ทานน้อย พูดน้อย ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ท�ำ ความเพยี รมากคนไหนทานมากนอนมากตายไวคนไหนทานนอ้ ย
นอนน้อยตายช้า อาหารนี่สำ�คัญมาก
ในด้านกรรมฐานต้องพิจารณาอาหาร และดูว่าอาหาร
ว่าเหมาะสมกับร่างกาย ไม่เป็นพิษเป็นภัย เช้ือโรคจะเกิดข้ึนกับตน
หรือไม่ แสลงแก่โรคหรือเปลา่ เคยี้ วอาหารช้า ๆ แล้วกลนื ด้วยการ
กำ�หนดกรรมฐาน ตั้งสติอารมณ์ให้ดีด้วย ท่านจะมีอายุยืน โรคภัย
ไขเ้ จบ็ ไม่เบยี ดเบยี น
๒. อากาศดี โปรดหายใจยาว ๆ เป็นการถ่าย
คารบ์ อนไดออกไซด์ หายใจยาว ๆ ไวอ้ ายยุ นื ถา้ โยมก�ำ ลงั โกรธ หายใจ
ตั้งแตจ่ มกู ถึงสะดือ ต้งั สตไิ วท้ ี่ล้นิ ปี่ โกรธหนอ หายใจยาว ๆ รบั รอง
โรคภัยไข้เจ็บอายุยืน ถ้าฝากความโกรธไว้ข้ามคืน โยมจะอายุสั้น โรคภัยไข้เจ็บ
จะมาเบียดเบยี นท�ำ ใหอ้ ายสุ ั้น
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ผสู้ งู อายตุ อ้ งรกั ษาสขุ ภาพดว้ ยการหายใจน้ี หายใจยาว ๆ
อยา่ หายใจสน้ั ก�ำ หนดจติ ถา้ เสยี ใจอยา่ ฝากความเสยี ใจไว้คอื อากาศดี
หายใจยาว ๆ ใหอ้ ากาศดี น่มี ีความหมาย
๓.อารมณด์ ีกรรมฐานพน้ื ฐานของชวี ติ อยา่ ใหอ้ ารมณเ์ สยี
ถา้ อารมณไ์ มด่ ีตลอดวนั ยังคำ�่ โยมจะอายุสั้น ตายผอ่ นส่งไปทกุ วนั
ถา้ อารมณด์ ี ดใี จกก็ �ำ หนด เสยี ใจกก็ �ำ หนด ไมส่ ขุ ไมท่ กุ ข์
42 ก็กำ�หนด เป็นอุเบกขาเวทนา จิตไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ มันก็ออกไป
ฟงุ้ ซา่ นขา้ งนอก จงึ ตอ้ งก�ำ หนดตงั้ สตไิ ว้ ลมกด็ ขี นึ้ ใจกส็ บาย ไมโ่ กรธ
ง่าย ไม่โมโหใคร จิตใจกด็ ี มีปญั ญา
ขอฝากญาติโยมไว้ ณ ที่น้ี ต่ืนเช้าแกว่งแขน ๑๐๐ คร้ัง
แกว่งท้ังสองแขน เตะขา ๑๐๐ คร้ัง เสร็จเรียบร้อยแล้วอย่าเพ่ิงไป
ล้างหน้า ดื่มนำ้�สุกสะอาดบริสุทธิ์อายุ ๔๕ แล้ว ต้มก่อน ถ้าอายุ
ยังไม่ถึง ๔๕ ไม่ต้องต้ม เพราะกำ�ลังแข็งแรงต่อต้านโรคได้
ดมื่ ๕ แกว้ รับรองอุจจาระดแี น่ หตู งึ กห็ ายได้
คนปวดศีรษะไปซกี หนงึ่ น�ำ้ ตาไหล ปวดลูกตาประสาท
ไมด่ หี ายเลยทเี ดยี ว โปรดไดด้ ม่ื นำ้� เอาของสกปรกในรา่ งกาย ขบั ถา่ ย
ออกใหห้ มด คอื ทางปัสสาวะและอุจจาระ รับรองโยมอายยุ ืนแน่
๔. อาภรณ์ดี ผู้สูงอายุต้องรักษาสุขภาพทางกาย โรคภัยไข้เจ็บ
ให้สะอาด เส้ือผ้าต้องซักให้สะอาด บางคนสกปรก อาบน้ำ�แล้ว
ยังใชต้ วั เก่าอกี 43
๕. ออกก�ำ ลงั ตี ๔ ลุกข้นึ มาเลย ก่อนเดินจงกรมและนง่ั ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
เตะขาออกไป หมุนแขนให้ได้ ๑๐๐ คร้ัง รบั รองไมเ่ ป็นโรคอะไร
บางคนเปน็ ไซนัส หายใจกก็ �ำ หนดกล่ินหนอ แกว่งแขน
ทกุ วัน เดีย๋ วนี้แขง็ แรงแลว้
นคี่ อื พนื้ ฐานของชวี ติ ถา้ ตอ้ งการเปน็ ผมู้ อี ายยุ นื ตอ้ งการ
มีความเจริญรุ่งเรือง โปรดทำ�ตามคำ�สอนพระพุทธเจ้า เรียกว่าการ
รกั ษาสุขภาพขน้ั พ้ืนฐาน
ผู้สูงอายุจะต้องรักษาตนให้เป็นปกติ คือ “ศีล” ถ้าโยม
มีกรรมฐานดี มีสติสัมปชัญญะดี รักษาตนให้เกิดความสำ�นึกว่า
สิ่งทัง้ หลายก�ำ ลงั เปลีย่ นแปลง ไม่มสี ่งิ ใดยัง่ ยนื คงที่แนน่ อน
ขอใหผ้ มู้ อี ายโุ ปรดพจิ ารณาได้ เราเกดิ มาเพอ่ื รอเวลาตาย
เราได้มาเพ่ือรอเวลาเสีย เรามีเพ่ือรอเวลาหมด เราพบกัน
เพอ่ื รอเวลาจาก เราพบเพอื่ รอเวลาพลดั พรากจากกนั ไป และเวลานน้ั
จะมาถึงเมอ่ื ใด ไม่มีใครทราบแม้แตเ่ ราเอง
โรคภัยไข้เจ็บ จะรักษาตนให้เป็นปกติดังกล่าวนี้ ควรยึดหลัก
ทำ�กรรมฐาน เปน็ หลกั พิจารณาโดยธรรมมี ๔ ประการ คอื
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
๑. หม่ันระลึกถึงความดีของท่าน ที่ทรงคุณความดี
ระดบั สงู ไวเ้ ป็นประจ�ำ
๒. หมนั่ สรา้ งความรกั ความปรารถนาดี แกค่ นและสตั ว์
ท้งั หลายอยูเ่ ปน็ ประจ�ำ
๓. หมั่นระลึกถึงว่า ส่ิงทั้งปวงในโลกนี้ ตามสภาพ
ท่ีแท้จริงไม่มีอะไรสวยงามเลย ไม่มีอะไรน่ารักน่าใคร่หลงใหล
แต่ประการใดเลย แต่มีลักษณะท่ีพึงรังเกียจ เพราะปฏิกูลของมัน
44 ตามสภาพทีเ่ ปน็ จริง นีไ่ ดจ้ ากกรรมฐานทัง้ หมด
๔. หมั่นระลึกถึงสิ่งท่ีเป็นจริง และความจริงประการ
สดุ ทา้ ยของชวี ติ และรา่ งกาย คอื ความตายไวเ้ ปน็ ประจ�ำ เพอื่ น�ำ ความ
ส�ำ นึกให้ทศิ ทางทป่ี ระสงค์ ให้ถูกทาง
ทศิ ทางทปี่ ระสงค์คอื บารมีอารมณ์ และกรรมฐาน ใหส้ �ำ นกึ ไว้
มบี ารมี คอื ความเพียร ไม่กลวั และกล้าท�ำ งาน
อารมณด์ ี มกี รรมฐานก�ำ หนดจติ ไว้ กรรมฐานเกาะอยทู่ ฐี่ านจติ
ทกุ ประการดว้ ยการกำ�หนดจิต อย่าขาด
ทางประเสริฐของการดำ�เนินชีวิต คือ กรรมฐาน
จึงได้แก่การวางเฉยในอารมณ์ทั้งปวง อุเบกขาจะเกิดข้ึน
จากกรรมฐาน อารมณ์ท่ีน่ารัก ดีใจผ่านมาก็เฉย อารมณ์ที่น่าชัง
น่าเสียใจ ผ่านมา กำ�หนดได้ เราก็เฉย อารมณ์ที่น่าตระหนกตกใจ
ผ่านมาก�ำ หนดได้ เรากเ็ ฉย
โดยมคี วามส�ำ นกึ วา่ อะไรจะเกดิ ไมว่ า่ ดีไมด่ ีมนั กต็ อ้ งเกดิ
อะไรจะดบั จะดหี รอื ไมด่ ี มนั กต็ อ้ งดบั เราจะหา้ มไมใ่ หเ้ กดิ ไมใ่ หด้ บั
ไม่ได้เลย โยมจำ�ไวน้ ่ีกรรมฐาน
ผเู้ จริญกรรมฐานจะเกิดอานสิ งส์ ๕ ประการ โรคภัยไข้เจ็บ
โดย พระธรรมสงิ หบุราจารย์
45
ผู้เจริญกรรมฐานจะเกิดอานิสงส์ ๕ ประการดังนี้
๑. มีธรรมะ ๒. สุขภาพดี จิตใจสบาย ๓. การงานเจริญ ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
๔. การเงนิ ดี ๕. การสงั คมดีมาก
ไดเ้ หตผุ ล๕ประการสรปุ สน้ั ๆถา้ คนไหนไมม่ วี ปิ สั สนา
ไมม่ ศี ลี ธรรมรบั รองสขุ ภาพจติ เสยี พลงุ่ พลา่ นนกึ จะพดู อะไรไมม่ หี รู ดู
ถ้าคนไหนมีศีลธรรมจากกรรมฐาน แนบสนิทติดในหัวใจแล้ว
จึงสุขภาพจิตดีมาก โรคภัยก็จะน้อยลง จะไม่มีโรคกายโรคใจ
เบยี ดเบยี นบฑี าแตป่ ระการใด
โรคภัยไข้เจ็บ มีสติกำ�หนดไว้ หา่ งไกลโรค
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้ โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์
เวลาจิตจะออกไปคิดอะไร ขอยืนยันว่าโยมทุกคนคงจะ
ไมร่ วู้ า่ ออกเมอ่ื ไรขณะรบั ประทานอาหารดแู กงกอ็ รอ่ ยดขู นมกอ็ รอ่ ย
เคยี้ วไปเคย้ี วมาจติ หนง่ึ ไปคดิ โนน่ อกี จติ หนงึ่ คดิ ถงึ ความหลงั ทผ่ี า่ นมา
จติ หนง่ึ คิดเมอื่ อยเู่ ปน็ เดก็ ๆ จติ หนง่ึ คดิ เมอื่ ตอนอยโู่ รงเรยี น จติ หนง่ึ
คิดไปกับเพ่ือนท่ีโน่น น่ีขณะรับประทานอาหารเป็นอย่างนั้นนะ
46 แต่เราสำ�รวมรับประทานอาหารเค้ียวให้ละเอียด จิตมันจะอยู่ท่ีฟัน
ทเี่ คยี้ ว แลว้ กก็ ลนื ลงไป รบั รองโรคภยั ไขเ้ จบ็ ทม่ี มี นั จะหายไดเ้ หมอื น
กันในเม่ือเคี้ยวมสี ติ
จงึ บอกวา่ รบั ประทานอาหารชา้ ๆ ถา่ ยอจุ จาระปสั สาวะ
ก็ช้า มีสติไว้ รับรองโยมไม่ค่อยเป็นโรคริดสีดวงลำ�ไส้ ไม่ค่อยเป็น
รดิ สดี วงทวาร มสี ตกิ �ำ หนดเหมอื นยารกั ษาโรคไปในตวั ดว้ ย สตติ วั น้ี
เป็นตัวควบคุม เป็นตัวต้ังตัวตี เป็นตัวมีเงินมีทอง คนไร้สติ
ขาดเหตุผล คนไร้เงินไร้ทอง ไร้ความเป็นอยู่ของชีวิต น่ีอยู่ตรงที่
ไรส้ ตินี้
อย่าแพภ้ ัยตัวเอง
โดย พระธรรมสงิ หบรุ าจารย์
ท่านทั้งหลายอย่าแพ้ภัยตัวเอง ถ้าจิตเหนือธรรมชาติ โรคภัยไข้เจ็บ
ได้แล้ว เราจะชนะโรคท่ีมีอยู่ในตัวเรา โรคกายโรคใจ จะหายทันที
ตัวอย่างเช่น บางคนไม่ได้เป็นมะเร็ง พอไปหาหมอ หมอก็บอกว่า 47
ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่กลัวว่าจะเป็นเป็นโรคอุปาทาน ลมขึ้น
เอายาไปทานก่อน เปน็ ยาเจรญิ อาหารเด๋ยี วกห็ าย กไ็ มย่ อมเชือ่ ไปจจู้ ้ี ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
กบั หมอเขา หมอก�ำ ลงั ยงุ่ จะเขา้ หอ้ งผา่ ตดั กไ็ ปจจู้ ถี้ ามไมห่ ยดุ หมอเขา
กเ็ ลยประชดบอกวา่ ลงุ เปน็ โรคมะเรง็ เทา่ นน้ั แหละลงุ คนนนั้ ลม้ ลงเลย
จติ ตกไมก่ ินข้าวเป็นลมตาย นเ่ี ป็นตัวอยา่ งการแพใ้ จตวั เอง
บางคนเดินไปเหยียบกะลา แล้วกะลามันพลิก มาโขก
หลังเท้า คิดว่างูกัดนอนดิ้นอยู่ตรงนั้นนั่นเอง อาตมาก็ถามว่า
ถูกงูกัดที่ตรงไหน เขาบอกตรงตนี บนั ได อาตมาเดินไปดกู เ็ หน็ กะลา
จึงกลับมาบอกเขาว่าไม่ใช่งูกัด แต่เป็นกะลามันถูกเหยียบแล้วพลิก
กลับมาโขกเอา พอเขาได้ยินเท่านั้นก็หายเลย น่ีแหละโรคอุปาทาน
แพใ้ จตนเอง เพราะฉะนน้ั ไมม่ อี ะไรดเี ทา่ กรรมฐาน ใหช้ นะใจตนเอง
ให้ได้ อย่าไปเช่ือใครเขา นอกเหนือจากสติของเราเอง อย่าไปเชื่อ
หมอดู ผีเจ้าเขา้ ทรงกอ็ ย่าไปเชอื่
โรคภัยไข้เจ็บอารมณร์ า้ ย ตัวการใหญข่ องโรคภยั ไขเ้ จ็บ
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้โดย พระธรรมสงิ หบรุ าจารย์
บางคนบอกว่าจิตอยู่ที่สมองน้ันไม่ใช่ มันเป็นเคร่ือง
กลั่นกรอง เม่ือจิตเข้าไปแล้วมันถึงจะกลั่นกรอง แต่ถ้าเครื่อง
กลั่นกรอง คือ สมองน้ีมันเสีย เวลาคิดอะไรมันต้ือ แสดงว่าเครื่อง
มนั เสยี ไมใ่ ช่จติ ถา้ เราท�ำ จิตดี อารมณ์ดีแล้ว อวัยวะดีหมด จิตนี้ช่วย
สังขารได้บางส่วน ถ้าจิตดี สังขารก็แข็งแรง แต่ก็ช่วยไม่ได้ทั้งหมด
48 มันก็ต้องมีเสื่อมกันไป หมดสภาพไป แต่จิตไม่หมดสภาพไปด้วย
ถ้าเราไม่ฝึกจติ ใหด้ ีเมือ่ สงั ขารเสอื่ ม จิตกเ็ สื่อมตามไปด้วย
คนท่ีไม่รู้ไม่เข้าใจคิดว่าการทำ�กรรมฐานน้ันเพ่ือให้ได้
ไปสวรรค์ไปนิพพาน ความจริงแล้ววิชาพระพุทธเจ้าได้ให้เรามานี้
ตอ้ งการใหเ้ ราแกป้ ญั หาของตวั เอง ตอ้ งการจะใหพ้ น้ ทกุ ข์ ไมต่ อ้ งการ
จะให้เอาความทุกข์มาไวใ้ นใจ
.... ชวี ติ นเ้ี กดิ มาไดย้ ากมาก คนที่เกิดมารปู ร่างโสภีโสภา
ถา้ คดิ ไมด่ ี จติ ใจมนั กแ็ ปรเปลย่ี นแปลง ท�ำ ใหร้ ปู รา่ งของเราในอนาคต
ทีจ่ ะไปเกิดใหมไ่ มด่ ี ถ้าหากเราเกดิ มาชาตนิ ี้ไมส่ วยเชน่ คนอ่ืน กเ็ ปน็
เพยี งรูปธรรมนามธรรม จะคดิ ให้มันสวยแบบนั้นแบบนี้ คงเปน็ ไป โรคภัยไข้เจ็บ
ไมไ่ ด้ ท�ำ มาอย่างไรไดอ้ ย่างนัน้ กรรมฐานทำ�ให้อารมณด์ ี ท�ำ ใหม้ สี ติ
เกดิ ชาตใิ ดฉนั ใดกจ็ ะมรี ปู รา่ งสวย มที รพั ย์ นบั วชิ า มมี ารยาท ชาตผิ ดู้ ี 49
มีศีลธรรม ถา้ อารมณ์รา้ ยก็จะเปน็ ตรงกันข้าม
ถ้ามันไม่เหลือวิสัย ก็หายได้
ยักษ์ซื่อ คือ พิเภกมีอยู่ตัวเดียว และในตัวเรา
กม็ ยี ักษ์ซอ่ื คือ สติ
สติเปรียบเสมือนพิเภกในรามเกียรติ์ พระรามจึงถาม
พเิ ภกกอ่ นทจี่ ะท�ำ อะไรลงไป ไมใ่ จรอ้ น การจะท�ำ อะไรถามพเิ ภกกอ่ น
คือ คิดหนอ โกรธหนอ พิเภกคือตัวสติ ก็จะบอกว่าไปโกรธเขา
ทำ�ไม ทำ�ให้เราเป็นบาป เพราะการโกรธเป็นบาปอย่างร้ายแรง
เกลยี ดกเ็ ปน็ บาปอยา่ งรา้ ยแรง แตร่ กั ไมเ่ ปน็ บาป รกั กนั ชว่ ยเหลอื กนั
เราคบคา้ สมาคมกนั เปน็ เพอ่ื นรกั ใครเ่ หน็ อกเหน็ ใจอยา่ งนจ้ี งึ แสดงวา่
มีเมตตาต่อกัน ทำ�อะไรให้กันได้ท้ังน้ัน เวลาเจ็บป่วยก็ช่วยกัน
จนกระท่ังตายไป อย่างน้ีไม่ใช่ความรักแบบชู้สาวหรือสามีภรรยา
แต่เป็นความรักแบบเพ่ือนรัก เพ่ือนเกลอ รักแบบธรรมะ มีธรรมะ
ประจำ�ใจ
ท่านทั้งหลายกรรมซ้อนกรรม กล่าวคือ นนทุกตายไป
เกิดเปน็ ทศกัณฑ์ต้องยอ้ นไปรักนางสีดา ซง่ึ เปน็ ลูกของทศกณั ฑ์เอง