44
เรอ่ื งที่ 1. วดั ไทรใหญ่
วดั ไทรใหญ่
กกกกกกก1. ประวัตคิ วามเป็นมาของวดั และประวตั ิเจา้ อาวาสท่สี ำคัญ
กกกกกกก1. 1.1 ประวตั ิความเป็นมาของวดั ไทรใหญ่ วดั ไทรใหญ่ สรา้ งเม่ือ พ.ศ. 2410 ช่วงสมยั
พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ ัว รัชกาลท่ี 4 โดยมี นางเง็ก แสงประภา เป็นผถู้ วายทดี่ ินและ
ดำเนนิ การสรา้ งวดั เดิมช่อื วัดมหานิโครธาราม ต่อมาชาวบา้ นพากันเรียกชื่อวดั ไทรใหญ่ เพราะแปล
ตามตวั คือ มหา แปลวา่ “ใหญ”่ นโิ คร แปลวา่ “ไทร” วดั ไทรใหญ่ เปน็ วดั ในชุมชนหนองไทร ท่ี
ชาวบา้ นเรม่ิ มาบกุ เบิกทด่ี ินชายป่ากระทุ่มมดื เม่อื มกี ารขุดคลองพระราชาพิมล ระหวา่ ง พ.ศ. 2433-
2442 ด้านหน้าวดั จงึ ติดกบั คลองพระราชาพิมล ตอ่ มามีการขดุ คลองทววี ฒั นา (คลองเจ้า) ติดด้าน
ตะวนั ตกของวัด จงึ มีราษฎรมาอาศัยอยู่ใกลว้ ัดมากยง่ิ ข้ึน
กกกกกกก1. นอกจากทตี่ ั้งวัดประมาณ 20 ไร่แลว้ นางเง็ก ยงั ได้ถวายทด่ี นิ เปน็ ที่ธรณีสงฆ์ อีกจำนวน 77 ไร่
72 ตารางวา และนางผนั คำจงจิต ได้ถวายทีด่ นิ เป็นท่ีธรณีสงฆ์ จำนวน 15 ไร่ 96 ตารางวา
วัดไทรใหญ่ ไดร้ ับพระราชทานวิสุงคามสมี า (อา่ นวา่ วิ-สุง-คา-มะ-สี-มา) เม่ือวันท่ี 10 เดือน สงิ หาคม
พ.ศ. 2491 ไดท้ ำพธิ ีผกู พัทธสมี า เมือ่ วนั ที่ 11 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498
กกกกกกก1. กล่าวโดยสรุป วัดไทรใหญ่ สร้างเมื่อ พ.ศ.2410 โดยนางเง็ก แสงประภา เป็นผู้ถวาย
ที่ดินสร้างวัดในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 4 ชื่อ“วัดมหานิโครธาราม”
แปลวา่ “ไทรต้นใหญ่” ต่อมาได้เปล่ียนเป็น “วัดไทรใหญ่” เม่ือมีการขุดคลองพระพิมลราชา ระหว่าง
45
พ.ศ. 2433-2442 และขุดคลองทวีวัฒนา (คลองเจ้า) ทางด้านทิศตะวันตกของวัด จึงมีราษฎรมาอาศัย
อยู่ใกลว้ ัด และมาทำบญุ มากข้ึน เปน็ วดั เดียวในอำเภอไทรน้อย ที่เดมิ ข้ึนอยู่กบั อำเภอบางบัวทอง
กกกกกกก1.
พระมงคลนนทเขต ปยิ งฺกโร
กกกกกกก1. ประวัตเิ จา้ อาวาสท่สี ำคญั พระมงคลนนทเขต (หลวงพอ่ วิชิต ปิยงฺกโร) เกดิ วนั ที่ 1 เดอื น
ธนั วาคม พ.ศ. 2464 บรรพชา เมื่อวนั ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2483 และอุปสมบท เม่ือวนั ท่ี 19 เดอื น
มถิ นุ ายน พ.ศ. 2485 และดำรงตำแหน่งเจา้ คณะอำเภอไทรนอ้ ยตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึง พ.ศ. 2545
ถา้ ไม่นบั รวมถึง 18 ปี ในเพศฆราวาส กอ็ าจจะเรยี กได้ว่าตลอดชีวิตของทา่ นได้ถวายตวั เป็นพทุ ธบตุ รโดย
แทจ้ ริงด้วยวยั 91 ปี กับอีก 70 พรรษา เปน็ เครื่องยืนยนั ถึงเจตนาอันแนว่ แน่ เป็นท่ปี รึกษาเจ้าคณะ
อำเภอไทรนอ้ ย และเจา้ อาวาสวัดไทรใหญ่ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอไทรน้อยองค์แรก และเป็น
พระราชาคณะชั้นสามัญ ได้สมณศักดิ์ พระมงคลนนทเขต เมื่อวันที่ 5 เดือน ธนั วาคม พ.ศ. 2544 และ
เม่ือ พ.ศ. 2538 พระมงคลนนทเขตไดบ้ รจิ าคทรัพย์สรา้ งอาคารเฉลมิ พระเกียรติพร้อมอุปกรณ์
การแพทย์ใหแ้ ก่โรงพยาบาลไทรนอ้ ย ทั้งยังได้สรา้ งถนน มอบทนุ การศกึ ษาแกน่ กั เรยี นโรงเรยี นต่าง ๆ
ในอำเภอไทรน้อย และจัดกองทุนมลู นิธสิ งเคราะหต์ า่ ง ๆ อีกจำนวนมาก ผลงานของท่านทำประโยชน์
ให้แกช่ าวไทรน้อยอย่างมหาศาล
กกกกกกก1. กล่าวโดยสรุป พระมงคลนนทเขต (วิชิต ปิยังกโร) อุปสมบท เม่ือวันท่ี 15 เดือน
มิถุนายน พ.ศ. 2483 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอไทรน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2503-2545 เป็นพระราชา
46
คณะช้ันสามัญ ฉายา พระมงคลนนทเขต ได้บริจาคทรัพย์สร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติและอุปกรณ์
การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลไทรน้อย ส่งเสริมการศึกษา สรา้ งถนน และจัดตั้งมูลนิธิสงเคราะห์ต่าง ๆ
อีกจำนวนมาก มรณภาพด้วยภาวะติดเช้ือในกระแสโลหิต ณ โรงพยาบาลพระน่ังเกล้า เม่ือวันที่ 14
เดือน กันยายน 2555 สริ อิ ายุ 90 ปี 70 พรรษา
กกกกกกก2. ท่ตี ั้ง วดั ไทรใหญ่ตง้ั อยเู่ ลขที่ 65 บา้ นไทรใหญ่ ถนนไทรน้อย-ต้นเชือก หมู่ท่ี 5 ตำบล
ไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
กกกกกกก3. ความสำคญั ของวดั ไทรใหญ่
3 วัดไทรใหญ่ เป็นวัดที่ชาวไทรน้อยถือว่าเป็นวัดสำคัญวัดหน่ึงของอำเภอไทรน้อย
เน่ืองจากเป็นท่ีประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ พระประธานในอุโบสถวัดไทรใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูป
ทชี่ าวไทรน้อยเคารพ สักการะ และเป็นวัดที่พระเถระชนั้ ผใู้ หญป่ กครองมาต้ังแตต่ ้น วดั ไทรใหญ่ต้ังอยู่
บนศูนย์กลางของพื้นท่ีอำเภอไทรน้อยท้ังอำเภอ การคมนาคมสะดวกทั้งทางน้ำ และทางบก ท่านพระ
มงคลนนทเขตจึงดำริจัดตั้งศูนย์กลางวัฒนธรรม ปี พ.ศ. 2524 มีการจัดตั้งมูลนิธิวัดไทรใหญ่ขึ้น
และยังเปน็ สถานทป่ี ฏิบตั ธิ รรมทีญ่ าตโิ ยม อบุ าสก และอบุ าสิกาเขา้ มาถือศีลปฏิบตั ธิ รรมดว้ ย
3 กล่าวโดยสรุปความสำคัญของวัดไทรใหญ่ คือ เป็นศูนย์กลางของพ้ืนท่ีอำเภอ
ไทรน้อย เป็นท่ีประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปท่ีชาวไทรน้อยเคารพ สักการะ
มีอุโมงค์ลอดโบสถ์ เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม และยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ญาติโยม อุบาสก และ
อบุ าสกิ าเข้ามาถอื ศีล ปฏบิ ตั ธิ รรม
47
กกกกกกก4. วัตถุและส่ิงก่อสร้างภายในวดั ไทรใหญ่
กกกกกกก4. 4.1 พระอโุ บสถหลงั ใหมท่ ี่วจิ ิตรสวยงาม
กกกกกกก4. พ ระอุโบ สถห ลังให ม่ สร้างเม่ือ วัน ท่ี 11 เดือน กรกฎ าคม พ .ศ. 2551
มีความสำคัญ คือ เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจทางพุทธศาสนา มีการสร้างหลวงพ่อทองคำ
ประดิษฐานเป็นพระประธาน โดยประชาชนผู้มีจิตศัทธานำทองคำมาบริจาค เพ่ือหลอมเป็นหัวใจของ
หลวงพ่อทองคำองคใ์ หม่ มีทองคำนำ้ หนกั ประมาณร้อยเจด็ สิบกวา่ บาท
48
กกกกกกก4. 4.2 หลวงพ่อทองคำ
กกกกกกก4. หลวงพอ่ ทองคำเป็นพระประธานในอุโบสถหลกั เก่า ขนาดหนา้ ตกั กว้าง1.69 เมตร
ปางมารวิชยั หล่อด้วยโลหะสมั ฤทธ์ สรา้ งขึ้นสมัยอทู่ อง ฝีมือช่างหลวง มคี วามงดงาม อลังการมาก
ชาวบา้ นทัว่ ไปเรียกขานวา่ “หลวงพอ่ ทองคำ” มกี ารบอกเล่ากนั มาวา่ ได้อัญเชญิ มาจากหวั เมอื งเหนือ
เปน็ พระพุทธรปู ท่ีมีความศักด์ิสทิ ธมิ์ าก ใครมาขอพร หรือบนบานศาลกลา่ วมกั จะ
สมหวังเสมอ ประชาชนในอำเภอไทรน้อย และอำเภออนื่ ๆ ใหค้ วามเคารพสักการะเปน็ อย่างมาก
49
กกกกกกก4. 4.3 รูปปนั้ ช้างเจ้าบญุ มา และนางกวักทแ่ี สดงทา่ ถวายสกั การะหลวงพอ่ ทองคำ
หน้าอุโบสถ วัดไทรใหญ่
กกกกกกก4. รูปป้ันช้างเจ้าบุญมา และนางกวักเป็นรูปป้ันจำลองของช้างคณะโรงลิเกที่
พระมงคลนนทเขตว่าจ้างมาแสดงประกอบเร่ืองในงานเทศน์มหาชาติทรงเคร่ือง เม่ือปี พ.ศ. 2514
โดยจัดงาน 3 วัน 3 คนื หลังจากเสร็จงานแล้วเจ้าบุญมาก็ไม่ยอมกลับ แม้ควาญช้างจะใช้ตะขอสบั มัน
จนเลือดสาด ด่าว่าสารพัด ขู่ว่าจะเอางาไปทำด้ามมดี บ้าง ด้ามปืนบ้างก็ไมย่ อมกลับ แต่ชา้ งเจ้าบุญมา
กลับเดินดุ่ม ๆ ไปท่ีหน้าโบสถ์ ช้างตัวเมียช่ือนางกวักเดินตามมาติด ๆ พอมาถึงหน้าโบสถ์ ช้างท้ัง 2
เชือก ก็ใช้งวงหักกิ่งทองกวาวแล้วน่ังคุกเข่าลงกับพื้นดิน พร้อมกับชูงวงไหว้เพ่ือลาหลวงพ่อทองคำ
ในโบสถ์
กกกกกกก4. กล่าวโดยสรุป วัตถุ และสิ่งก่อสร้างภายในวัดไทรใหญ่ ได้แก่ (1) พระอุโบสถหลังใหม่
(2) หลวงพ่อทองคำ และ (3) รูปป้นั ชา้ งเจ้าบุญมา และนางกวัก
50
5 กิจกรรมประเพณที ส่ี ำคัญของวัดไทรใหญ่
กกกกกกก4. กิจกรรมประเพณที ส่ี ำคัญของวัดไทรใหญ่คือ ประเพณีตักบาตรพระร้อย เป็นการทำบญุ
ตักบาตรข้าวสารอาหารแหง้ โดยพระสงฆจ์ ะใช้เรือไปรับบิณฑบาตจากชาวบ้านท่ีอยู่รมิ สองฝ่งั คลอง
วดั ไทรใหญ่ได้อนรุ ักษ์ประเพณตี กั บาตรพระร้อยเปน็ ประจำในวนั ลอยกระทงของทุกปี มานานกวา่ 50ปี
ระยะทางจากหน้าวัดไทรใหญ่ไปตามคลองพระพมิ ลราชาถึงหนา้ ท่ีว่าการอำเภอไทรนอ้ ย
กกกกกกก4. กลา่ วโดยสรุป กจิ กรรมประเพณีที่สำคัญของวดั ไทรใหญ่ คือ ประเพณตี ักบาตรพระร้อย
จัดขนึ้ เปน็ ประจำ ในเทศกาลวนั ออกพรรษาตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 เป็นต้นไป ของทุกปี
51
เรอ่ื ง 2. วดั ไทรนอ้ ย
กกกกกกก1. ประวัตคิ วามเป็นมา และประวัติเจา้ อาวาสท่ีสำคัญ
กกกกกกก1. 1.1 ประวัตคิ วามเป็นมาของวัดไทรน้อย
กกกกกกก1. 1.1 ประวตั ิความเป็นมาของวัดไทรน้อย วัดไทรน้อยเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2430 โดยกลุ่ม
ชาวมอญท่ีมาจากมหาชยั บ้านบางกระเจ้า บ้านไร่และบ้านแพ้ว จังหวดั สมุทรสาคร เข้ามาบุกเบิกป่า
กระทุ่มมืดซึ่งติดต่อกับป่าหนองเพรางายเพื่อทำนา พระราชาภิมณฑ์ ได้ดำเนินการขุดคลอง
พระราชาภิมณฑ์ (ปัจจบุ นั เรียกคลองพระพิมล) จากคลองบางบัวทองมาทางทิศตะวันตกจนถึง
ป่ากระทุ่มมดื จงึ มีคนมอญมาจับจองท่ีดินริมคลองพระราชาภิมณฑ์มากข้นึ จนเปน็ ชุมชนเล็ก ๆ จากนน้ั
ปี พ.ศ. 2437 ชาวมอญเหล่านี้ได้สร้างวัดในชุมชนขึ้น ช่ือวัดสาลีมุนีภิรมย์ หมายถึง บริเวณท่ีต้ังวัด
เป็นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารโดยเฉพาะข้าว ซึ่งมะธุ หรือ ตาธุ ได้บริจาคท่ีดินจำนวน
42 ไร่ 2 งาน เพ่ือใชเ้ ป็นท่ีสร้างวดั ชาวบา้ นได้ช่วยตดั ต้นไม้ใหญ่ทีม่ ีในพืน้ ท่ีมาเล่อื ยทำเสา ทำกระดาน
และสร้างที่พักสงฆ์ หลวงตาโจ๊กพระมอญองค์หน่ึงได้มาดำเนินการก่อสร้างจนเป็นวัด หลวงตาโจ๊กได้
อยู่จำพรรษาที่วัดนี้และช่วยเหลือในการก่อสร้างเสนาสนะ และสิ่งก่อสร้างภายในวัดอยู่นานประมาณ
30 ปี ในเวลาต่อมาชาวบ้านได้นิมนต์พระอาจารย์เกร็บ พระมอญจากวัดปรมัยยิกาวาสตำบลเกาะเกร็ด
อำเภอปากเกรด็ จังหวัดนนทบรุ ี มาเป็นเจา้ อาวาสรูปแรกของวดั ตอ่ มามีการสรา้ งวัดบึงลาดสวาย
ทต่ี ำบลภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ชาวบ้านวัดบงึ ลาดสวายนิมนตพ์ ระอาจารย์เกร็บไปเป็น
เจ้าอาวาส ท่านจงึ ย้ายไปอยู่วัดบึงลาดสวาย พระอธกิ ารเผื่อน ได้เป็นเจ้าอาวาสในเวลาต่อมา ในสมัย
พระอธิการเผ่อื น สิกขโร เจา้ อาวาสรูปที่ 2 ของวัดร่วมกับกำนันพร ประสิทธิชัย กำนันตำบลไทรน้อย
52
คนแรก และชาวบ้านได้สร้างอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนเพื่อให้พระสงฆ์ได้ทำสังฆกรรม ในปี
พ.ศ. 2495 ท่านเจ้าคุณพระศรีโพธิ์ (เสง่ียม) อดีตเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี (ต่อมาได้รับพระราชทาน
สมณศักด์ิสมเด็จพระพุฒาจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร) ขณะนั้นดำรง
ตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี ได้จัดให้มีการประชุมพระสังฆาธิการและมัคนายกของวัด ทั่วท้ัง
จังหวดั นนทบุรี ขณะนน้ั พระอธกิ ารเผื่อนเป็นเจ้าอาวาส ไดไ้ ปรว่ มประชุมพร้อมกับมัคนายกวดั ซึ่งเป็น
คนมอญ ในการประชุมคร้ังน้ันท่านเจ้าคณะจังหวดั ได้ให้เจา้ อาวาส และมัคนายกของทกุ วดั มาแจ้งช่ือ
วัด ซ่ึงท่านเจ้าคณะจังหวัดเห็นว่าชื่อวัดนั้นยาวมากประกอบกับผู้แจ้งเป็นคนมอญท่ีพูดไทยไม่คล่อง
จึงบอกช่ือวัดเป็นภาษาไทยไม่ได้ อีกท้ังชื่อวัดสาลีมุนีภิรมย์ นั้นออกเสียงยากสำหรับคนมอญสมัยน้ัน
จึงทำการเปลีย่ นชื่อ วดั จากวดั สาลมี นุ ีภริ มย์ มาเป็นวัดไทรน้อย สงั กัดคณะสงฆ์มหานกิ าย
กกกกกกก1. 1.1 กล่าวโดยสรุป ประวัตคิ วามเป็นมาของวัดไทรน้อย ประมาณ พ.ศ. 2430 ชาวมอญ
จากจังหวัดสมุทรสาคร ได้มาต้ังฐานบริเวณชายป่ากระทุ่มมืดใกล้กับป่าหนองเพรางาย ต่อมา
พระราชาภิมณฑ์ ได้ดำเนินการขุดคลองพระราชาภิมณฑ์ ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น นายมะธุ
ได้บริจาคท่ีดิน จำนวน 42 ไร่ 2 งาน เพื่อสร้างวัด และชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างวัดสาลีมุนีภิรมย์
หมายถึงวัดเป็นท่ีอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธ์ุธัญญาหาร โดยมีหลวงตาโจ๊ก พระมอญได้ร่วมดำเนินการ
และพำนักท่ีวัดนาน 30 ปี จนมรณภาพ ชาวบ้านพร้อมใจกันนิมนต์พระมอญ ช่ือพระอาจารย์เกร็บ
จากวัดปรมยั ยกิ าวาส มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัด ในปี พ.ศ. 2495 ไดเ้ ปลย่ี นชอ่ื เป็น “วดั ไทรนอ้ ย”
กกกกกกก1. 1.2 เจ้าอาวาสทส่ี ำคญั
กกกกกกก1. 1.1 พระครูนนทสิทธิการ (ประสิทธิ์ สิทธิกาโร) เป็นผู้สร้างความเจริญและพัฒนา
วัดไทรน้อยอย่างมาก เกิดวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2468 ท่ีหมู่บ้านคลองมอญ อำเภอไทรน้อย
จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตรของนายมาก พุ่มน้อย และนางทวี พุ่มน้อย เรียนจบการศึกษาชั้นประถม 4
ท่ีโรงเรียนวัดสุทธาโภชน์ เม่ืออายุ 15 ปี แล้วจึงได้บวชเป็นสามเณรที่วัดสุทธาโภชน์เป็นเวลา 3 ปี
ต่อมาอายุ 18 ปี จึงได้ลาสิกขามาช่วยบิดามารดาทำนากระท่ังอายคุ รบเกณฑ์ทหาร ได้เข้ารับราชการ
ทหาร เป็นเวลา 2 ปี หลังจากพ้นภารกิจทหารเกณฑ์ มีอายุ 23 ปี จึงได้อปุ สมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัด
สุทธาโภชน์ เม่ือเดือน เมษายน พ.ศ. 2491 เม่ือ พ.ศ.2499 พระอธิการเผื่อน เจ้าอาวาสวัดไทรน้อย
รปู ที่ 2 ในขณะนั้นได้มรณภาพลง ทางมคั นายกได้นิมนต์ใหท้ ่านมาเป็นเจ้าอาวาสรปู ที่ 3 และเม่ือเห็น
วดั ไทรน้อยอยู่ในสภาพเสือ่ มโทรมจึงได้ยา้ ยมาจำพรรษาทีว่ ดั แหง่ นี้ ตง้ั แต่เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2499
พร้อมทั้งได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดไทรน้อย เม่ือปี พ.ศ. 2500 หลวงพ่อประสิทธ์ิ ได้ทำการสร้างหอปริยัติธรรม
ศาลาการเปรียญ กุฏิ และปี พ.ศ. 2502 อุโบสถชำรุด จึงส่ังร้ือ แล้วได้สร้างอุโบสถหลังใหม่ โดยใช้เวลาสร้าง
ประมาณ 5 ปี เม่ือ พ.ศ. 2507 จึงได้จัดงานฝังลูกนิมิต ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีตัดลูกนิมิตอุโบสถหลังใหม่
53
พระครูนนทสิทธิการ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง มรณภาพด้วยโรคปอดติดเชื้อ ที่โรงพยาบาล
พระนั่งเกล้า จงั หวดั นนทบุรี ด้วยอายุ 88 ปี 65 พรรษา
กกกกกกก1. 1.1 กล่าวโดยสรุป พระครูนนทสิทธิการ (ประสิทธ์ิ สิทธิกาโร) มีความสำคัญ คือ เป็น
ผู้สร้างความเจริญและพัฒนาวัดไทรน้อย เมื่อปี พ.ศ. 2500 หลวงพ่อประสิทธิ์ ได้ทำการสร้างหอ
ปริยตั ิธรรม ศาลาการเปรียญ กุฏิ และปีพ.ศ.2502 อโุ บสถชำรุด จงึ ส่ังรื้อ แล้วได้สร้างอโุ บสถหลังใหม่
โดยใช้เวลาสร้างประมาณ 5 ปี เมื่อ พ.ศ. 2507 จึงได้จัดงานฝังลูกนิมิต ได้กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จ
พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็ มาเปน็ องคป์ ระธานในพิธีตดั ลูกนมิ ิตอุโบสถหลังใหม่
พระครูนนทสิทธิการ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง มรณภาพด้วยโรคปอดติดเช้ือ ที่โรงพยาบาล
พระนัง่ เกล้า จังหวดั นนทบรุ ี ด้วยอายุ 88 ปี 65 พรรษา
กกกกกกกกกก2 ท่ีต้ัง วัดไทรน้อย ตั้งอยู่เลขท่ี 40 หมู่ท่ี 1 บ้านไทรน้อย ถนนบางกรวย-ไทรน้อย
ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรนอ้ ย จังหวดั นนทบุรี
กกกกกกกกกก3 ความสำคัญของวัดไทรน้อย
กกกกกกก1. 1.1 ความสำคัญของวัดไทรน้อย คือ ให้การสนับสนุนการศึกษาของชาติเป็นอย่างดีย่ิง
ได้มอบท่ีดิน จำนวน 8 ไร่ สำหรับสร้างอาคารเรียนต่าง ๆ ของโรงเรียนวัดไทรน้อย และได้ให้การ
อปุ ถัมภ์แก่โรงเรียนเป็นอย่างดีตลอดมา ซึ่งเป็นประโยชน์แก่เยาวชนของชาติเป็นอย่างมาก เป็นศูนย์
รวมจิตใจของชุมชนชาวมอญ และยังเป็นสถานทป่ี ฏิบตั ิธรรมของชาวไทรนอ้ ยอีกดว้ ย
กกกกกกก1. 1.1 กล่าวโดยสรุปความสำคัญของวัดไทรน้อย คือ วัดไทรน้อยสนับสนุนการศึกษา
ในเร่ืองที่ดิน สถานที่ในการก่อสร้างอาคารเรียน และเป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนวัดไทรน้อยด้วยดีตลอด
มา เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนชาวมอญ และยังเป็นสถานท่ีปฏิบตั ธิ รรมของชาวไทรนอ้ ยอีกดว้ ย
54
กกกกกกกกกก4. วตั ถุ และส่ิงก่อสรา้ งภายในวัดไทรน้อย
กกกกกกก1. 1.1 4.1 มหาเจดยี ม์ ุนภี ิรมย์
กกกกกกก1. 1.1 มหาเจดีย์มุนีภิรมย์ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงนครปฐม มีขนาดกว้าง 40.50 เมตร
ยาว 40.50 เมตร ความสงู 49 เมตร งบประมาณการก่อสร้างประมาณ 49 ล้านบาท ประกอบพิธีวาง
ศิลาฤกษ์ เม่ือวันท่ี 22 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2555 โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร่วมวาง
ศิลาฤกษ์ เพ่ือฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็น
พระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
รัชกาลที่ 9 รวมท้ังเพือ่ เป็นสถานทปี่ ฏบิ ตั ธิ รรม
55
กกกกกกก1. 1.1 4.2 วิหารจตุรมุข
กกกกกกก1. 1.1 วิหารจตุรมุข อยู่ด้านหน้าวัด มีลักษณะเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับ
ด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบัน ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าบันคอสอง ปั้นรูปเทพ
พนมลอ้ มด้วยกนกกา้ นขด มา่ นแหวกเปน็ นาคท่ที อดลำตวั อ่อนช้อยสวยงาม
56
กกกกกกก1. 1.1 4.3 ศาลาบำเพ็ญกุศล และฌาปนสถานของวดั ไทรน้อย
กกกกกกก1. 1.1 ศาลาบำเพญ็ กุศล และฌาปนสถานของวัดไทรน้อย เป็นสถาปตั ยกรรมสวยงาม
และมีการวางผังฌาปนสถานไวเ้ ป็นสัดส่วน
กกกกกกก1. 1.1 กล่าวโดยสรปุ วัตถแุ ละสง่ิ ก่อสร้างภายในวัดไทรน้อย ไดแ้ ก่ (1) มหาเจดยี ์มุนี
ภริ มย์ (2) วิหารจตรุ มุข และ (3) ศาลาบำเพ็ญกุศล และฌาปนสถาน
57
กกกกกกกกกก5. กิจกรรมประเพณที ี่สำคญั ของวดั ไทรน้อย
กกกกกกกกกก5. กิจกรรมประเพณีที่สำคัญของวัดไทรน้อย คือ ตักบาตรดอกไม้ประเพณีตักบาตร
ดอกไม้ เป็นพิธีทางพุทธศาสนาอย่างหน่ึงของวัดมอญ จัดก่อนวันออกพรรษา 1 วัน คือ วันขึน้ 15 ค่ำ
เดือน 11 ซ่ึงเป็นวันปวารณาออกพรรษา ชาวบ้านจะเตรียมดอกไม้ธูปเทียนจำนวนมากมาใส่บาตร
เป็นการคารวะนอบน้อมขอขมาลาโทษ หากมีเหตุพลาดพล้ังกระทำล่วงเกินต่อพระพุทธศาสนา
และพระภิกษุสงฆ์ เช่ือว่าจะได้บุญ เมื่อพระภิกษุสงฆ์รับบิณฑบาตรแล้วนำไปบูชาพระพุทธรูป
และปชู นียสถานตอ่ ไป
58
เรอื่ ง 3. วดั คลองขวาง
เรอื่ ง 3. 1 ประวตั คิ วามเป็นมาของวัด และประวตั ิเจ้าอาวาสที่สำคญั
เรอื่ ง 3. 1 1.1 ประวัตคิ วามเปน็ มาของวัด
เรื่อง 3. 1 1.1 วัดคลองขวาง บริเวณท่ีตั้งวัดคลองขวางแต่เดิมเป็นป่าต่อเนื่องจากป่ากระทุ่มมืด
ประมาณ พ.ศ. 2430 ได้มีราษฎรมาบุกเบิกถางป่าเป็นที่อยู่อาศัย และทำนา เกิดเป็นชุมชนเล็ก ๆ
ตอ่ มามีพระธุดงค์จาริกมาปักกลดอยู่ในชุมชนนี้ ชาวบ้านเกดิ ความเลอ่ื มใส จึงได้ร่วมกันสร้างท่ีพักสงฆ์
ข้นึ เม่ือประมาณปี พ.ศ. 2434 นายแดง แซ่เล้า ไดบ้ ริจาคที่ดิน จำนวน 49 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวาให้
สร้างวัด ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันสร้างเป็นวัดข้นึ ใน ระหวา่ ง พ.ศ. 2440 - 2450 และได้รับพระราชทาน
วิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 13 เดือน เมษายน พ.ศ. 2469 วัดคลองขวาง เดิมช่ือ วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม
แต่ชาวบ้านเรยี กว่าวัดคลองขวาง เพราะต้งั อยู่รมิ คลองขวาง และไดใ้ ช้ชื่อวัดคลองขวาง จนถึงปัจจุบัน
วัดคลองขวางสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นที่ประดิษฐานของอุโบสถศิลปะปูนปั้นด้วยมือ มีความ
กว้างโดยรอบ 13 เมตร ยกฐานสูงเทคอนกรีตตลอดแนวตัวอุโบสถ ลักษณะทรงไทยมีเสาหาม
สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กหลังคามุงกระเบื้องเคลือบกาบกล้วย หน้าบันช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์
คันทวย ภายนอกตกแต่งด้วยลายปูนป้ันลายไทย พื้นที่ภายในปูด้วยหินแกรนิต บานประตู หน้าต่าง
แกะสลักเป็นลวดลายก้านขด มีความสวยงาม ฐานพระตกแต่งด้วยปูนปั้นลายไทย ประดับด้วย
เบญจรงค์ท้ังหมด ภายในอุโบสถเขียนเป็นจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธประวัติที่สวยงามมาก
59
เร่ือง 3. 1 1.1 กล่าวโดยสรุป ประวัติความเป็นมาของวัดคลองขวาง พ.ศ. 2430 ชาวบ้านกลุ่มเล็ก ๆ
มาต้ังรกรากแถบป่ากระทุ่มมืดเพ่ือพักอาศัย และทำนา พระธุดงค์จาริกมาปักกลด ชาวบ้านจงึ ช่วยกัน
สร้างท่ีพักสงฆ์ ในปี พ.ศ. 2534 ได้สร้างวัด นายแดง แซ่เล้า ได้ถวายท่ีดิน จำนวน 49 ไร่เศษ เพ่ือ
สร้างวดั ราษฎร์ศรทั ธาธรรม แต่ชาวบ้านนิยมเรยี กวา่ “วัดคลองขวาง”
เรื่อง 3. 1 1.1 1.2 ประวัติเจ้าอาวาสท่ีสำคัญของวัดคลองขวาง คือ พระครูโสภิตธรรมวิสุทธ์ิ
(วิสุทธ์ิ อังสุธัมโม) เกิดเม่ือวันที่ 12 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2508 อุปสมบท วันท่ี 5 เดือน มิถุนายน
พ.ศ. 2530 พระครูโสภิตธรรมวิสุทธิ์ เป็นพระวิปัสสนาจารย์ผู้ฝึกสอนกัมมัฏฐาน ท่ีผ่านการอบรม
หลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ และมีความสามารถในการสอนกัมมัฏฐานตามหลักมหาสติปัฏฐานสูตร
เป็นอย่างดี สามารถตอบข้อซักถาม และสอบอารมณ์กัมมัฏฐานได้ และเป็นวิทยากรบรรยายธรรมท่ี
ผ่านการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ มีความสามารถในการเทศนา บรรยายธรรมให้ผู้ฟังเข้าใจ
หลักธรรม และสามารถท่ีนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี และพระครูโสภิตธรรม
วสิ ุทธิ์เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมก็มีความสนใจ และเห็นความสำคัญของการศึกษาปฏิบัติ และเผยแผ่ธรรม
อย่างแท้จริงทั้งให้การสนับสนุนการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ด้านทุน ดา้ นสถานที่ ด้านบุคคลากร
และยังอบรมพระภิกษุหรือบุคคลที่เป็นวิทยากรในสำนักมีความประพฤติดี สามารถปฏิบัติตนเป็น
แบบอย่างที่ดี และปัจจุบัน พระครูโสภิตธรรมวิสุทธ์ิ (วิสุทธิ์ อังสุธัมโม) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส
วัดคลองขวาง
เรือ่ ง 3. 1 1.1 กลา่ วโดยสรุป เจา้ อาวาสวดั คลองขวางทีส่ ำคัญ พระครโู สภติ ธรรมวสิ ทุ ธ์ิ
(วิสุทธิ์ อังสุธัมโม) เกิดเมื่อวันที่ 12 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2508 อุปสมบท 5 เดือน มิถุนายน
พ.ศ. 2530 พระวิปัสสนาจารย์ผู้ฝึกสอนกัมมัฏฐาน ท่านความสนใจ และเห็นความสำคัญของ
การศึกษาปฏิบัติ และเผยแผ่ธรรมอย่างแท้จริงท้ังให้การสนับสนุนการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน
ด้านทุน ด้านสถานที่ ด้านบุคคลากร และยังอบรมพระภิกษุ หรือบุคคลท่ีเป็นวิทยากรในสำนักมี
ความประพฤติดี สามารถปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดี และปัจจุบัน พระครูโสภิตธรรมวิสุทธ์ิ (วิสุทธิ์
อังสุธมั โม) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองขวาง
60
พระครูโสภิตวสิ ุทธ์ิ (วิสุทธ์ิ อังสุธัมโม)
เร่ือง 3. 2. ทต่ี งั้ วัดคลองขวาง ต้งั อยู่เลขที่ 10 หมู่ 6 ตำบลคลองขวาง อำเภอไทรน้อย
จงั หวัดนนทบรุ ี 11150
เรือ่ ง 3. 3. ความสำคญั ของวัดคลองขวาง
ความสำคัญของวัดคลองขวาง ให้การสนับสนุนดา้ นการศึกษา สร้างโรงเรยี นวัดคลอง
ขวาง เปน็ สถานที่อบรมสามเณร มีสามเณรเขา้ รับการอบรมเปน็ จำนวนมากในแต่ละรนุ่ ซึ่งทางวัดให้
ความสำคัญในเรื่องการศึกษาของสามเณรเปน็ อยา่ งมาก และเป็นวัดที่รวมงานศิลปะแขนงตา่ ง ๆ เช่น
ทางดา้ นสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม การป้นั การแกะสลัก เป็นงานศลิ ปะท่มี ีความงดงาม
ซง่ึ ถือได้ว่าเป็นพระอโุ บสถศิลปะปูนป้ันดว้ ยมือแห่งเดียวในประเทศไทย จติ รกรรมฝาผนังพระพุทธ
ประวตั ิทส่ี วยงามมาก
กล่าวโดยสรุป ความสำคญั ของวดั คลองขวาง เปน็ วัดที่ให้การสนบั สนุนราชการดา้ น
การศกึ ษา สร้างโรงเรยี น สถานทีอ่ บรมสามเณร เปน็ สถานที่ปฏิบัตธิ รรมประจำจงั หวัด และสนบั สนุน
อาคารสถานทส่ี ำหรับอบรมให้ความรดู้ ้านคุณธรรมกบั เด็ก และเยาวชน
เรอื่ ง 3. 4. วัตถุ และสิ่งกอ่ สร้างภายในวดั ได้แก่
34.1 อโุ บสถวัดคลองขวาง
3อุโบสถ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคาลด 3 ช้ัน มีมุขท้ังด้านหน้าและ
ด้านหลังคลุมชานชาลาทั้ง 2 ด้าน มีพ้ืนพาไลเป็นเฉลียงรอบอุโบสถ ชายคามีเสาพาไลรับชายคา
61
คลุมเฉลียง ระหว่างเสาพาไลก่อพนักทุกห้อง พนักระเบียงประดับด้วยรูปปูนปั้นทุกห้อง ตัวอุโบสถ
ตั้งอยู่บนฐานไพทสี ูงไมม่ กี ำแพงแกว้ ทำให้ตวั อโุ บสถตงั้ เด่นเป็นสงา่ สวยงาม
อุโบสถ
4.2 ลายจำหลกั ประตดู า้ นหน้า และด้านหลังอุโบสถวดั คลองขวาง
62
เรื่อง 3. 1 1.1 ลายจำหลักประตูด้านหน้า และด้านหลังอุโบสถวัดคลองขวาง บานประตูหน้า
ด้านซ้ายทั้ง 2 บาน ด้านบนจำหลักรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ ด้านล่างจำหลักรูปเทพบุตร และ
เทพธิดานั่งพนมมืออยู่บนแท่น บานประตูหน้าด้านขวาท้ัง 2 บาน ด้านบนจำหลักรูปพระอินทร์ทรง
ช้างเอราวัณ 3 เศียร ด้านล่างของบานซ้ายจำหลักรูปพระนางสุชาดา และพระนางสุจิตรา ด้านล่าง
ของบานขวาจำหลักรูปพระนางสุนันทาและพระนางสุธรรมา พระมเหสีทั้ง 4 องค์ ของพระอินทร์
ประทับบนแทน่ นั่งพนมมอื บานประตูหลังด้านขวา จำหลักเป็นรูปสัตว์หิมพานต์ ตรงกลางจำหลกั เป็น
รูปนาค ปักษี ส่วนด้านล่างจำหลักเป็นรูปอสูรวายุภักษ์ยืนอยู่บนแท่น บานประตูหลังด้านซ้ายจำหลัก
เป็นรูปสัตว์หิมพานต์ ตรงกลางจำหลักเป็นรูปครุฑยุดนาค แต่ครุฑมีหัวเป็นสิงห์ ด้านล่างจำหลักเป็น
รูปนกหัสดีลิงค์ยืนถือกระบอง บานหน้าต่างด้านนอกจำหลักเป็นลายกนกต่าง ๆ ส่วนล่างของ
บานหน้าต่างจำหลักเป็นรูปสัตว์หมิ พานต์ต่าง ๆ เช่น กนิ นร กนิ รี สิงห์ และกเิ ลน เป็นต้น ลายจำหลัก
ของบานหน้าต่างไม่ซ้ำกัน อกเลาของบานประตู และบานหน้าต่างท้ังหมด จำหลักลายไม่ซ้ำกัน
ซึ่งเปน็ การแสดงฝีมอื การออกแบบที่ดียิง่
เร่ือง 3. 1 1.1 กลา่ วโดยสรปุ วตั ถุ และส่ิงกอ่ สร้างภายในวดั คลองขวาง ได้แก่ (1) พระอโุ บสถ และ
(2) ลายจำหลกั ประตดู า้ นหน้า และดา้ นหลงั อุโบสถวดั คลองขวาง
5. กิจกรรมประเพณีที่สำคัญของวัดคลองขวาง ได้แก่ (1) ประเพณีการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน
(2) การทำบุญวนั สำคญั ทางศาสนา (3) ประเพณีลอยกระทง และ (4) ประเพณีสงกรานต์
เรื่อง 4. วัดราษฎร์นยิ ม
1. ประวัติความเปน็ มา และประวัตเิ จ้าอาวาสท่ีสำคัญ
1. 1.1 ประวตั ิความเป็นมาของวดั ราษฎร์นิยม
63
1. 1.1 วดั ราษฎร์นิยม เดิมชอ่ื วัดห้ารอ้ ย ตัง้ วัดเม่ือวนั ที่ 4 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2459 ช่ึง
ชาวบ้านคลองราษฎรน์ ิยม ตกลงรว่ มมือกันสร้างสำนักสงฆข์ ึ้นในชุมชน เพื่อให้เปน็ สถานที่บำเพ็ญกศุ ล
ในชุมชน ซ่ึงขณะนั้นมีเพียงหมู่บ้านเดียวประมาณ 50 ครอบครัว มีนายสุด ศิลาคำ เป็นผู้ใหญ่บ้าน
ชาวบ้านเห็นควรให้สร้างสำนักสงฆ์เพ่ือใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลของชาวบ้านในเทศกาลสงกรานต์ในปี
นั้นด้วย สำหรับสถานท่ีสร้างสำนักสงฆ์ได้แจ้งให้ขุนศรีราษฎร์นิยม (พร มัณยานนท์) กำนันตำบลราษฎร์นิยม
ทราบ และจัดหาท่ีดินเพ่ือใชส้ รา้ งสำนักสงฆ์ ขุนศรรี าษฎร์นิยม บรจิ าคที่ดินจำนวน 100 ไร่ เพือ่ สร้างวัด บรเิ วณ
ที่สร้างวัดเป็นบริเวณที่คณะของนายบัว ลุประสงค์ คนมอญกลุ่มแรก ได้เข้ามาบุกเบิกจับจองท่ีดินป่า
กระทมุ่ มืดที่คลองหา้ รอ้ ย หรอื คลองราษฎรน์ ิยม และไดม้ าปลกู ทพี่ ักอาศัยชว่ั คราว ตอ่ มา
พระครูประชาธรรมนาถ ได้รวบรวมเงินบริจาคจากชาวบ้านซื้อที่ดินเพ่ิมอีก 45 ไร่ และนางปรีก วิลาวรรณได้
ถวายที่ดินเพ่ิมอีก 5 ไร่ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 24 เดือน เมษายน พ.ศ. 2468
ปัจจุบันเจ้าอาวาส คือท่านพระวินัยโสภณ เป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์นิยม ตำบลราษฎร์นิยม อำเภอ
ไทรนอ้ ย จังหวัดนนทบรุ ี และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจงั หวดั นนทบรุ ี (ธรรมยุตกิ นิกาย)
1. 1.1 กล่าวโดยสรุป ประวัติความเป็นมาของวัดราษฎร์นิยม เดิมชื่อ วัดห้าร้อย
ต้ังวัดเม่ือวันที่ 4 เดือน เมษายน พ.ศ. 2459 ซ่ึงก่อต้ังข้ึนเพื่อใช้เป็นสำนักสงฆ์ และให้เป็นสถานที่
บำเพ็ญกุศลของคนชุมชน ต่อมาขุนศรีราษฎร์นิยม บริจาคที่ดินจำนวน 100 ไร่ เพ่ือสร้างวัด ต่อมาพระครู
ประชาธรรมนาถ ได้รวบรวมเงินบริจาคจากชาวบ้านซื้อที่ดินเพ่ิมขึ้นอีก 45 ไร่ และนางปรีก วิลาวรรณ ได้ถวาย
ทด่ี นิ เพ่มิ อีก 5 ไร่ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมอ่ื วันท่ี 24 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2468
64
1. 1.2 ประวตั ิเจา้ อาวาสทส่ี ำคญั
1. 1.2 พระครปู ระชาธรรมนาถ (แฉ่ง ฐานังกโร) นามเดิม แฉ่ง ห้วยฤทัย เกิดเม่ือวันที่ 24
กันยายน พ.ศ. 2457 ที่ตำบลท่าข้าม อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันเป็นแขวงท่าข้าม
เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร) บรรพชาเป็นสามเณรเม่ือวนั ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ขณะมี
อายุ 14 ปี สอบได้นักธรรมเอกขณะที่ยังเป็นสามเณร อายุครบ 20 ปี พ.ศ. 2476 จึงได้อุปสมบท ณ
พัทธสีมาวัดโคก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พระมหาอินทร์ วัดโคก เป็นอุปัชฌาย์
พระมหาหยวก วัดโคก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธกิ ารพวง จุฬาโร วัดราษฎรน์ ิยม อำเภอไทรน้อย
จังหวัดนนทบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ฐานังกโร เป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์นิยม ตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2481 มรณภาพวันท่ี 9 เดอื นกันยายน พ.ศ. 2538 สริ ิอายรุ วม 81 ปี
1. 1.2 กล่าวโดยสรุป พระครูประชาธรรมนาถ (แฉ่ง ฐานังกโร) นามเดิม แฉ่ง ห้วยฤทัย
เกิดเมื่อวันที่ 24 เดือน กันยายน พ.ศ. 2457 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 1 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ขณะมีอายุ 14 ปี สอบได้นกั ธรรมเอก
ขณะทยี่ ังเปน็ สามเณร อายคุ รบ 20 ปี พ.ศ. 2476 จงึ ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโคก อำเภอเมอื ง
65
จงั หวดั ปทุมธานี พระมหาอินทร์ วัดโคก เป็นอุปชั ฌาย์ พระมหาหยวก วัดโคก เปน็ พระ
กรรมวาจาจารย์ พระอธกิ ารพวง จุฬาโร เปน็ เจ้าอาวาสวดั ราษฎร์นยิ ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481 และมรณภาพ
วันที่ 9 เดอื น กันยายน พ.ศ. 2538 สิรอิ ายรุ วม 81 ปี
2 ทต่ี ้ังวดั ราษฎร์นิยม ตง้ั อยู่ หมทู่ ี่ 6 บ้านราษฎร์นิยม ตำบลราษฎร์นิยม อำเภอไทรน้อย
จังหวดั นนทบุรี 11150
3 ความสำคัญของวดั ราษฎรน์ ิยม ไดใ้ ชเ้ ปน็ ท่สี ร้างสถานท่ีราชการ ดังน้ี คอื
(1) โรงเรียนวดั ราษฎร์นยิ ม เปิดสอนตงั้ แต่ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ถึงชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 (2) โรงเรียน
ราษฎร์นิยม สอนในระดับมัธยมศึกษา (3) วิทยาลัยการอาชีพไทรน้อย (4) สถานีอนามัยตำบล
ราษฎรน์ ิยม และ (5) ทีท่ ำการองคก์ ารบริหารส่วนตำบลราษฎรน์ ยิ ม
4 วัตถุ และสงิ่ กอ่ สร้างภายในวัดราษฎร์นยิ ม
4 4.1 พระเจดยี ศ์ รีราษฎรน์ ยิ ม
4 4.1 พระเจดียศ์ รรี าษฎรน์ ิยม เป็นท่ปี ระดิษฐานรูปหลอ่ องค์หลวงพอ่ แฉง่ ซง่ึ เป็นทเ่ี คารพ
และศรทั ธาของ บรรดาลูกศษิ ย์ และเป็นสถานท่ีปฏบิ ตั ิธรรมวปิ สั สนา และสวดมนต์ไหว้พระ
66
4 4.2 อุโบสถ
4 4.2 อุโบสถวัดราษฎร์นิยม สร้างเม่ือ พ.ศ. 2530 ในสมัยพระครูประชาธรรมนาถ
(แฉ่ง ฐานังกโร) เป็นเจ้าอาวาส มีลักษณะเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 5 ห้อง หลังคาลด 2 ชั้น
มีมุขคลุมชานชาลาท้ังด้านหน้าและด้านหลัง ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เป็นปูนประดับกระจกสีทอง
คันทวยปนู เป็นรปู หงส์
67
4 4.3 ลายหนา้ บนั อุโบสถ วัดราษฎรน์ ิยม
4 4.3 ลายหน้าบันอโุ บสถ วดั ราษฎรน์ ิยม หนา้ บันด้านหนา้ ประดิษฐาน
พระพุทธรูปปางสมาธิศิลปะมอญ มีพระรัศมีโอภาสเป็นศิระประภาประทับอยู่บนพระแท่น ล้อมด้วย
ลายกนกเปลว หน้าบันคอสองป้ันเป็นรูปหงส์กำลังโผบิน หน้าบันปีกนกเป็นรูปเทพพนม หน้าบัน
ด้านหลังประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร ล้อมด้วยลายกนกเปลว หน้าบันคอสองเป็นรูป
พญาครฑุ กำลังบนิ ผงาดทา่ ทางขงึ ขัง
68
4 4.4 ลายรวงผึ้งอโุ บสถ วดั ราษฎร์นยิ ม
4 4.4 ลายรวงผ้ึงอุโบสถ วดั ราษฎร์นิยม รวงผ้ึงเปน็ รูปเทพกำลังร่ายรำ 3 องค์ สาหร่ายท่ี
ประชิดหัวเสาเป็นรูปกินนร และกินรีกำลังร่ายรำ สาหร่ายส่วนท้ายป้ันรูปกินนรถวายอภิวาท เสามุข
ดา้ นหน้า และเสามขุ ด้านหลังเปน็ เสาเหลีย่ มยอ่ มมุ บวั หวั เสาเปน็ บวั จงกล
5. กิจกรรมประเพณีท่ีสำคัญของวัดราษฎร์นิยม ได้แก่ (1) ทำบุญในวันสำคัญทางพุทธ
ศาสนา (2) วันสงกรานต์ และ (3) บวชเณรภาคฤดรู อ้ น
69
เรอื่ งที่ 5. วดั สโมสร
1. ประวัติความเป็นมาของวัด
1. 1.1 ประวัติความเปน็ มาของวดั สโมสร
1. 1.1 วัดสโมสร เดิมชอ่ื ว่า วัดหม่อมแช่ม แต่ก่อนเป็นพื้นที่ทุ่งราบกวา้ งว่างเปลา่ ต่อมามี
ครอบครัวมอญจากปากลัด จังหวัดสมุทรปราการ และครอบครัวมอญจากจงั หวัดสมทุ รสาคร ไดม้ าจับ
จองที่บริเวณน้ี และประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก ต่อมา พ.ศ. 2455 หม่อมแช่ม กฤดากร ได้ริเรมิ่ ให้
ดำเนินการขุดคลองในพื้นที่ติดต่อระหว่างตำบลไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี กับ ตำบลบางภาษี อำเภอ
บางเลน จังหวัดนครปฐม เพ่ือให้ชาวบ้านบริเวณนี้ได้ใช้ประโยชน์ในการทำนา และติดต่อกับคนต่าง
ถิ่นได้สะดวกข้ึน ชาวบ้านเรียกว่า คลองหม่อมแช่ม เมื่อขุดคลองเสร็จแล้ว หม่อมแช่ม กฤดากร
ได้จัดถวายท่ีดินจำนวน 15 ไร่ สร้างวัดเพื่อน้อมถวายแก่พระพุทธศาสนา และเพ่ือให้ชาวบ้านได้มี
สถานที่บำเพญ็ บุญ สรา้ งกศุ ลของตน ทงั้ น้ีเน่ืองจากชาวมอญเปน็ ผทู้ ่ีเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา
อย่างแน่นแฟ้น จะเห็นได้ว่าทุกชุมชนมอญจะต้องมีวัดเป็นศูนย์รว โดยหม่อมแช่มมีเชื้อสายมอญ
จงึ ได้ดำริให้สร้างวัดแหง่ นี้ขึ้น ตอ่ มาชาวบ้านได้เรยี กวดั แห่งน้ีว่า วัดหม่อมแช่ม เมอ่ื สร้างเสรจ็ ได้นมิ นต์
พระภิกษุเนตร์ อุตตโม ซ่งึ เดินทางมาจากกรุงหงสาวดี มาจำพรรษายังวัดแห่งน้ี และได้ดำเนินการสาน
ตอ่ จนสำเร็จ เปน็ จดุ กำเนิดวดั สโมสรทกุ วันน้ี
70
1. 1.1 กล่าวโดยสรปุ ประวตั ิความเป็นมาวัดสโมสร เดมิ ช่ือว่า วดั หมอ่ มแช่ม
ซ่ึงหม่อมแชม่ กฤดากร ไดถ้ วายทดี่ นิ จำนวน 15 ไร่ สรา้ งวัดเพอ่ื น้อมถวายแก่พระพทุ ธศาสนา และ
เพอื่ ให้ชาวบา้ นได้มีสถานทีป่ ระกอบพิธกี รรมทางศาสนา
1. 1.2 เจ้าอาวาสที่สำคัญ ได้แก่ พระครูปัญญานนทคุณ หรือ หลวงปู่บาง ปัญญาทีโป
ท่านมีนามเดิมว่า บาง นามสกุล นุชสุภาพ เกิดเมื่อวันท่ี 11 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2460 ท่านถือ
กำเนิดในครอบครัวชาวมอญแห่งบ้านคลองหม่อมแชม่ ตำบลไทรใหญ่ อำเภอบางบวั ทอง (ขณะนน้ั ยัง
ไม่ได้ตั้งเป็นอำเภอไทรน้อย) จังหวดั นนทบรุ ี เปน็ บุตรของโยมพ่อคำ นชุ สุภาพ และโยมแม่กหุ ลาบ นุช
สภุ าพ ท่านมพี ี่น้องร่วมสายโลหติ 2 คน โดยท่านเป็นบตุ รชายคนโต วันท่ี 5 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2474
ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรท่ีวัดกลางสวน อ.พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พอท่านมีอายุครบ
20 ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดกลาง ตำบลบางผ้ึง อำเภอพระประแดง
จังหวัดสมทุ รปราการ เมื่อวันที่ 22 เดอื น มิถนุ ายน พ.ศ. 2482 เม่ือท่านอุปสมบทเป็นพระแล้ว ทา่ นก็
ได้มาอยู่ จำพรรษาที่วัดสโมสร ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 ท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส
วัดสโมสร เมื่อวันที่ 1 เดือน กันยายน พ.ศ. 2492 หลวงปู่บาง ปัญญาทีโป ท่านเป็นผู้มีความรู้
ความสามารถในด้านพระปริยัตธิ รรม และพระวินัย เป็นอย่างดี ท่านมีความชำนาญในดา้ นงานช่างไม้
และประเพณี วฒั นธรรม ภาษามอญ ในช่วงที่ท่านยงั ร่างกายแข็งแรงดีอยู่น้นั หลวงปู่ท่านได้สนบั สนุน
ส่งเสริมให้พระสงฆ์และชาวบ้านนั้นช่วยกันอนุรักษ์สืบทอดประเพณีวัฒนธรรมแบบมอญไว้อย่าง
เข้มแข็ง ท่านเป็นผู้ท่ีมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณเป็นเลิศ ท่านเป็นพระท่ีสมถะ มักน้อย สันโดษ
พูดน้อย มีจริยวัตรงดงามตามแบบพระสงฆ์มอญ เป็นท่ีน่าเลื่อมใสอย่างย่ิง พระครูปัญญานนทคุณ
หรือ หลวงปู่บาง ปัญญาทีโป ท่านได้มีอาการอาพาธตามวัย ท่านได้ละสังขารลงอย่างสงบ
เมือ่ วนั ท่ี 27 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2548 สริ ริ วมอายไุ ด้ 87 ปี พรรษา 66
5.1.2 กล่าวโดยสรุป พระครูปัญญานนทคุณ หรือ หลวงปู่บาง ปัญญาทีโป ท่านมี
นามเดิมว่า บาง นามสกุล นุชสุภาพ เกิดเมื่อวันท่ี 11 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2460 เมื่อวันที่ 5 เดือน
มีนาคม พ.ศ. 2474 ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณรท่ีวัดกลางสวน อำเภอพระประแดง จังหวัด
สมุทรปราการ พอท่านมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดกลาง
ตำบลบางผ้ึง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันท่ี 22 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2482
เมื่อท่านอุปสมบทเป็นพระแล้ว ท่านก็ได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดสโมสร ต่อมาในปี พ.ศ. 2492 ท่านจึง
ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสโมสร เม่ือวันที่ 1 เดือน กันยายน พ.ศ. 2492 ท่านได้
ละสังขารลงอย่างสงบ เม่อื วันที่ 27 เดอื น ธนั วาคม พ.ศ. 2548 สริ ริ วมอายไุ ด้ 87 ปี พรรษา 66
2. วัดสโมสร ตั้งอยูห่ มู่ที่ 9 ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จงั หวดั นนทบุรี 11150
71
3. ความสำคญั ของวดั สโมสร
3. วัดสโมสรได้รับการยอมรับจากบุคคลท่ัวไปว่าเป็นวัดที่อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และวิถี
ชีวิตของชุมชนมอญไว้ได้ดีท่ีสุด เป็นวัดต้นแบบของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โดยเฉพาะอย่างย่ิง
พระอาจารย์บาง หรือพระครูปัญญานนทคุณ เป็นพระสงฆ์ที่เคารพนอบน้อมต่อพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง
ท่านปฏิบัติตัวเอ้ือเฟื้อต่อพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด และ
กตัญญูรู้คุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูอาจารย์ของท่าน รวมถึงวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์
ท่านเดินตามแนวทางของครูบาอาจารย์รุ่นก่อนด้วยดีตลอดมา เพ่ือรักษาความเป็นวัดต้นแบบไว้ อีก
ทัง้ ยังเป็นแหล่งอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีมอญไว้อยา่ งดี โดยวัดสโมสรให้การสนับสนุน และส่งเสริม
การรักษาศีล ปฏิบัติธรรมของชาวบ้าน เป็นศูนย์รวมการจัดงานประเพณีสงกรานต์ของชุมชนมอญใน
อำเภอไทรนอ้ ย มกี ารปลอ่ ยนก ปล่อยปลา ประเพณีสรงน้ำพระแบบมอญในเทศกาลสงกรานต์ ประเพณี
ตักบาตรดอกไม้ในเทศกาลออกพรรษา และประเพณตี ักบาตรนำ้ ผึง้ เป็นต้น
3. กล่าวโดยสรุป วัดสโมสรมีความสำคัญ คือ เป็นวัดท่ีอยู่ในชุมชนชาวไทยเช้ือสายมอญ
ในพ้ืนที่ตำบลไทรใหญ่ และพ้ืนที่ใกล้เคียง มีการจัดงานเพ่ืออนุรักษ์ประเพณีสงกรานต์ไทยรามัญ
เปน็ ประจำทกุ ปี
3. 4. วตั ถุ และสง่ิ ก่อสรา้ งภายในวดั สโมสร
3. 4. 4.1 อุโบสถวดั สโมสร
72
3. 4. 4.1 อุโบสถวดั สโมสร สรา้ งเมื่อ พ.ศ. 2460 มีขนาด 4 ห้อง กวา้ ง 6 เมตรยาว 8.50 เมตร ได้รับ
พระราชทานวสิ ุงคามสีมา เมื่อวันที่ 19 เดือนธนั วาคม พ.ศ. 2461
3. 4. 4.2 เสาหงส์
5
6
7
8
3. 4. 4.1 เสาหงส์ สัญลกั ษณ์ของชาวมอญ ตั้งอยขู่ า้ งอุโบสถ ในวันสงกรานตม์ กี ารแหห่ าง
หงส์ หรือชาวมอญเรียกว่า โน่ ชาวบ้านนำโน่ท่ีร่วมกันทำเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หมู่บ้านแห่ และ
นำมาแขวนบชู าพระรตั นตรัยท่วี ัดเปน็ ประจำทุกปี
73
3. 4. 4.3 เรือเกง๋ 4 แจว วดั สโมสร
3. 4. 4.3 เรือเก๋ง 4 แจว มีสภาพสมบูรณ์สวยงามเก็บไว้ท่ีศาลาริมคลองหน้าวัดสโมสร
ตรงบริเวณที่เปน็ ท่ีตั้งของศาลาตรมี ุขหลงั เดมิ ถอื วา่ เป็นสมบัตลิ ้ำคา่ ของวัด เนอ่ื งจากเป็นเรอื โบราณท่ี
หาชมได้ยาก และเป็นเพียงวัดเดียวในจังหวัดนนทบุรีที่ยังคงเก็บรักษาเรือประเภทน้ีไว้ได้ในสภาพที่
สมบูรณ์ และสวยงาม สันนิษฐานว่าเรือลำน้ีเป็นเรือที่เจ้านายในราชสกุลกฤดากรได้นำมาถวายแก่
เจา้ อาวาสวัดสโมสร
74
3. 4. 4.4 ศาลาการเปรียญหลงั ใหม่ วดั สโมสร
3. 4. 4.4 วัดสโมสร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ขนาด 11 ห้อง เป็นศาลาการ
เปรียญที่มีขนาดใหญ่ท่ีสุดในอำเภอไทรน้อย และอำเภอบางบัวทอง เนื่องจากชุมชนวัดสโมสร
เป็นชุมชนใหญ่ ในเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลสงกรานต์ เทศกาลออกพรรษา จะมีชาวบ้านมาทำบุญ
กันมาก ปัจจุบันเปน็ ศาลาหลังคาทรงไทย มีพาไลคลุมท้งั 4 ดา้ น หน้าบันเปน็ รูปพระอนิ ทร์
ทรงช้างเอราวณั ล้อมดว้ ยลายกนกก้านขด ดา้ นหลังต่อออกเป็นศาลาบาตรอีก 1 หลัง
75
3. 4. 4.5 ศาลเจ้าประจำวดั หรอื ตะละทาน วัดสโมสร
3. 4. 4.5 ศาลเจา้ ประจำวดั หรอื ตะละทาน วดั สโมสร อยทู่ างดา้ นทิศตะวันออกของวดั
สรา้ งขน้ึ ตามคตคิ วามเชื่อของคนมอญท่ีนับถือเจา้ ที่ประจำวัด
3. 4. 4.5 วัตถแุ ละสงิ่ กอ่ สรา้ งภายในวัดสโมสร ได้แก่ (1) อุโบสถ (2) เสาหงส์ (3) เรอื เก๋ง
4 แจว และ (4) ศาลเจา้ ประจำวัด หรอื ตะละทาน
3. 5. กิจกรรมประเพณีทีส่ ำคัญของวัด ไดแ้ ก่ (1) การแหห่ างหงส์ ธงตะขาบ (2) การเล่น
สะบา้ มอญ และ (3) การแขง่ สะบ้าทอย
76
เรอ่ื งท่ี 6 วดั เสนวี งศ์
กกกกกกก1. ประวตั ิความเป็นมา และประวตั ิเจ้าอาวาสท่ีสำคญั
กกกกกกก1. 1.1 ประวัติความเปน็ มาของวดั เสนวี งศ์
กกกกกกก1. 1.1 วัดเสนีวงศ์ เป็นวัดราษฎร์ ภายในกำแพงวัดมีเนื้อที่ จำนวน 50 ไร่ แต่เดิมก่อน
พ.ศ. 2500 ชุมชนที่อยู่ปลายคลองมะสง ใกล้คลองสาม ชาวบ้านต้องไปทำบุญท่ีวัดเพรางาย หรือวัด
มะเกลือซ่ึงอยู่ไกลจากชุมชนมาก เน่ืองจากไม่มีวัดในชุมชน วัดเสนีวงศ์สร้างเมื่อวันท่ี 11 เดือน
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 โดยคุณงาม และคุณเสง่ียม เสนีวงศ์ ณ อยุธยา เป็นผู้บริจาคท่ีดนิ ในการสร้าง
วัด จำนวน 50 ไร่ รูปแบบการสร้างวัดผสมผสานระหว่างไทย มอญ จีน พระครูธีรนนทคุณ ฐานธีโร
เป็นผู้ย่ืนขออนุญาตสร้างวัดเสนีวงศ์ โดยได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัด เมื่อวันท่ี 17 เดือน มิถุนายน
พ.ศ. 2503 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 19 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2503 วัดเสนีวงศ์ได้รับ
รางวัลเป็นวดั พฒั นาตัวอย่าง เมื่อปี พ.ศ. 2531
กกกกกกก1. 1.1 กล่าวโดยสรุป ประวัติความเป็นมาของวัดเสนีวงศ์ ตั้งอยู่ตำบลหนองเพรางาย รูปแบบ
การสร้างวัดผสมผสานระหว่างไทย มอญ จีน เดิมในชุมชนปลายคลองมะสงไม่มีวัด ต้องเดินทางไปทำบุญ
ไกลถงึ วัดเพรางาย นายงาม และนางเสงี่ยม เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ได้บริจาคที่ดิน 50 ไร่ เพ่ือสร้างวดั ใน
ชุมชน ชาวบา้ นจึงพรอ้ มใจต้งั ชอื่ วดั วา่ “วัดเสนวี งศ”์
77
กกกกกกก1. 1.2 เจา้ อาวาสทสี่ ำคัญ ได้แก่ พระครูธีรนนทคุณ ฐานธีโร นามเดมิ ชื่อ ลมูล
ร่งุ สวา่ ง เกิดเมอ่ื วันที่ 29 กรกฎาคม 2468 ณ ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี บดิ า
ชือ่ นายจนั ทร์ รงุ่ สว่าง มารดาชอื่ นางแมน้ รุ่งสวา่ ง มีพ่ีนอ้ งรว่ มมารดา จำนวน 4 คน สำเร็จ
การศกึ ษาในระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรยี นวัดบางโค จงั หวัดนนทบุรี
กกกกกกก1. 1.2 พระครูธีรนนทคุณ ฉายา ฐานธีโร บรรพชาและอุปสมบทเม่ือวันที่ 10 มิถุนายน
2498 อายุ 29 ปี ณ วัดลาดปลาดุก ตำบลบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ตลอดชีวิต
ของท่านท่ีอยู่ในสมณเพศ ท่านเป็นพระเถระท่ีอยู่ในธรรมวินัย เป็นผู้รักสันโดษ ความเป็นอยู่ที่เรียบ
ง่าย ในส่วนที่เป็นกิจของสงฆ์ท่านได้สั่งสอนให้ความรู้แก่ศิษย์ที่เป็นภิกษุ สามเณร และศิษย์ท่ีเป็น
ฆารวาส ด้วยคำสอน และประพฤติตนเป็นแบบอย่างดี ท้ังยังบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะแก่
ชาวบ้าน อาทิ ขุดบ่อบาดาล สร้างถังเก็บน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำสะดวกสบาย และทำถนนหนทางให้
ชาวบ้านได้ใช้ในหมู่บ้าน รวมท้ังลอกคลองชลประทาน นำไฟฟ้ามาสู่ความเจริญของท้องถ่ิน พระครู
ธีรนนทคุณ ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเสนีวงศ์ ท่านได้ทำการก่อสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะ
ในวัด เพ่ือประโยชน์แก่พระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านในการบำเพ็ญศาสนกิจ ได้แก่ สร้างอุโบสถ
กฏุ ิ เมรเุ ผาศพ ห้องน้ำ ห้องน้ำ ศาลาอเนกประสงค์ หอระฆัง ศาลาทา่ น้ำ เจดีย์ ศาลาการเปรียญ และ
อุทยานการศึกษา สวนป่ามหาชาติ พระครูธีรนนทคุณ เริ่มมีอาการอาพาธ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2545
เข้ารับการรักษาท่ีโรงพยาบาลศิริราช และท่านได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 27 เดือน มีนาคม
พ.ศ. 2545 รวมอายุ 77 ปี พรรษา 48 ดว้ ยโรคมะเรง็ ลำไส้ตดิ เชอ้ื
กกกกกกก1. 1.2 กล่าวโดยสรุป เจ้าอาวาสที่สำคัญ ได้แก่ พระครูธีรนนทคุณ ฐานธีโร เกิดเม่ือวันท่ี
29 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2468 บรรพชาและอุปสมบทเม่ือวันที่ 10 มิถุนายน 2498 อายุ 29 ปี
ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเสนีวงศ์ ท่านได้ทำการก่อสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะในวัด เพ่ือ
ประโยชน์แก่พระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านในการบำเพ็ญศาสนกิจ พระครูธีรนนทคุณ เร่ิมมอี าการ
อาพาธ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2545 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และท่านได้ถึงแก่มรณภาพ
เม่ือวันท่ี 27 เดือน มนี าคม 2545 รวมอายุ 77 ปี พรรษา 48 ด้วยโรคมะเร็งลำไส้ตดิ เช้อื
กกกกกกก2. ที่ต้ัง วัดเสนีวงศ์ตั้งอยู่ปลายคลองมะสง หมู่ที่ 9 ตำบลหนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย จงั หวัด
นนทบรุ ี 11150
กกกกกกก3. ความสำคัญของวัดเสนวี งศ์
กกกกกกก3. ความสำคัญของ วัดเสนวี งศ์ สังกัดมหานิกาย ได้สนับสนุนกิจกรรมของทางราชการและ
ชุมชน คือ (1) สร้างโรงเรียนวัดเสนีวงศ์ เพ่ือประโยชน์แก่เยาวชนในบ้านปลายคลองมะสง และชมุ ชน
ใกล้เคียง (2) ให้ทางราชการสร้างสถานีอนามัย ตำบลหนองเพรางาย (3) ส่งเสริมให้ราษฎรในชุมชน
สร้างฉางข้าวในวัด เพื่อให้เกษตรกรซึ่งทำนาเป็นอาชีพหลักได้ใช้ประโยชน์จากฉางข้าวนั้น และ (4) ร่วมมือกับกรม
ชลประทาน จัดสรา้ งส่ิงอำนวยความสะดวกในการทำการเกษตรของราษฎรในชมุ ชน
78
กกกกกกก3. กล่าวโดยสรปุ วดั เสนวี งศ์มีความสำคญั คือ (1) สร้างโรงเรยี นวดั เสนวี งศ์ (2) สถานี
อนามัยตำบลหนองเพรางาย (3) ส่งเสริมให้ราษฎรในชุมชนฉางขา้ วเพ่ือเกษตรกร และ (4) ร่วมกับ
กรมชลประทาน สรา้ งสิง่ อำนวยความสะดวกป็นแหลง่ นำ้ ในการเกษตร
กกกกกกก4. วตั ถุ และส่ิงก่อสรา้ งภายในวัดเสนีวงศ์
กกกกกกก4. 4.1 อโุ บสถ วดั เสนีวงศ์
กกกกกกก4. 4.1 อุโบสถ เป็นอาคารทรงโรง ขนาด 5 ห้อง มีมุขคลุมชานชาลาท้ังด้านหน้าและ
ด้านหลัง หน้าบันด้านหน้าปูนป้ันรูปพระโพธิสัตว์ทรงตัดพระเมาลีเพื่อทรงผนวช ล้อมรอบด้วยลาย
กนกกา้ นขด หนา้ บนั คอสองประดิษฐานพระพุทธรปู ปางลลี า 5 องค์ แต่ละองคอ์ ยูใ่ นซุ้มจระนำ
ซมุ้ ประตู และซมุ้ หนา้ ตา่ งเป็นซุ้มบนั แถลง กลางหนา้ บันซมุ้ ประดษิ ฐาน พระพทุ ธรปู ประทับนั่ง
79
กกกกกกก4. 4.2 เจดียส์ มปรารถนา
กกกกกกก4. 4.2 เจดีย์สมปรารถนา เป็นพระเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่ มีลักษณะศิลปะของไทย
มอญ และจนี ผสมกนั องค์เจดีย์เป็นแบบไทย ส่วนยอดเป็นแบบมอญ มีระเบียงคตแบบจีน มีมงั กรท่ี
หลังคาระเบียงคตล้อมรอบองค์เจดีย์ ภายในองค์ระฆังของเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูป
ให้ประชาชนสักการะบูชาได้ เจดียต์ ั้งอยู่บนแท่นเป็นลานประทักษิณเดินได้รอบองค์เจดีย์ เชิงบันได
ทางขึน้ องคเ์ จดยี ม์ รี ูปป้ันยักษ์ 2 ตนยนื เฝ้า
80
กกกกกกก4. 4.3 หอระฆังคู่
กกกกกกก4. 4.3 หอระฆังคู่เปน็ อาคารทรงส่ีเหลี่ยมซ้อนกัน 2 ช้นั บนสุดประดษิ ฐานพระพุทธรูป
ปางลีลาอยใู่ นซุ้ม หอระฆงั สร้างอยู่บนอาคาร 2 ชนั้ ซ่งึ รองรบั หอระฆังคู่
81
กกกกกกก4. 4.4 สวนปา่ หมิ พานต์
กกกกกกก4. 4.4 สวนปา่ หิมพานต์ บริเวณวัดมีความร่มร่ืนด้วยต้นไม้ต่าง ๆ ทางวัดได้จัดทำรูปป้ัน
ทเี่ กย่ี วกับพระเวสสนั ดรชาดก ท้ัง 13 กัณฑ์ เร่ิมต้ังแต่ทรงปรารภปฐมเหตุ ทีเ่ กดิ ฝนโบกขรณีโปรยลง
มา ขณะทพี่ ระสัมมาสัมพทุ ธเจ้าประทับยนื อยู่ท่ามกลางพระประยูรญาติ ฝนนี้มีความมหัศจรรย์ ผู้ใด
ไม่ต้องการให้เปียก ฝนจะไม่เปียกผู้น้ัน พระพุทธองค์ทรงปรารภเหตุท่ีฝนโบกขรณีตกเช่นนี้ว่า เมื่อ
พระองค์เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรโพธิสัตว์นั้น ฝนนี้ได้เคยปรากฎมาในครัง้ น้ัน พระพุทธองค์
จึงทรงเล่าเร่ืองพระเวสสันดรให้แก่พระสาวก และพระประยูรญาติได้รับฟัง โดยเร่ืองพระเวสสันดร
มี 13 ตอนหรือ 13 กณั ฑ์ จากนัน้ เป็นการดำเนินเร่อื งตามกัณฑต์ า่ ง ๆ จนครบ 13 กัณฑ์
กกกกกกก4. 4.4 กล่าวโดยสรปุ วัตถุ และส่งิ ก่อสรา้ งภายในวัดเสนวี งศ์ ได้แก่ (1) อุโบสถ
(2) เจดียส์ มปรารถนา (3) หอระฆงั คู่ และ (4) สวนป่าหิมพานต์
กกกกกกก5. กิจกรรมประเพณีที่สำคัญของวัดเสนีวงศ์ ได้แก่ (1) ทำบุญในวันสำคัญทางพุทธ
ศาสนา และ (2) วนั สงกรานต์
82
เรอื่ งท่ี 7 ตลาดนำ้ ไทรนอ้ ย
กกกกกกก1. ประวตั คิ วามเป็นมาของตลาดน้ำไทรน้อย
กกกกกกก1. ตลาดน้ำไทรน้อย เร่ิมเปิดดำเนินกิจกรรมท่ีบริเวณริมเข่ือนหน้าเทศบาลตำบลไทรน้อย
โดยดำเนินกิจกรรมอยู่เป็นเวลา 3 ปี จึงได้ย้ายมาเปิดท่ีบริเวณริมคลองพระพิมลราชา วัดไทรใหญ่
อาชีพหลักของชาวไทรน้อย คือ การทำนา ทำสวน ปลูกผัก ผลไม้ โดยเกษตรกรไทรน้อยได้มีการ
รวมกลุ่มเพ่ือนำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่ายท่ีตลาดน้ำไทรน้อยแห่งน้ี ปัจจุบันตลาดน้ำไทรน้อย
ต้ังอยู่ริมคลองพระพิมลราชา ที่วัดไทรใหญ่ ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย มีท้ังแพอาหาร ซึ่งเป็น
ศนู ย์รวมของอาหารนานาชนิด ทั้งผักปลอดสารพษิ ผลไม้หลายชนดิ และอาหารคาวหวาน ท่ีชาวบ้าน
นำมาจำหน่ายริมฝั่งคลอง เช่น น้ำมะพร้าวหอม หวานเย็นชื่นใจ เฉาก๊วย ที่มีทุกแบบ ทั้งเฉาก๊วย
โบราณ เฉากว๊ ยกำแพงเพชร เฉากว๊ ยดอนเมอื ง เกาลดั กลิน่ หอม เปด็ พะโล้ เป็นต้น อาหารเหลา่ นี้ลว้ น
แต่มีรสชาติอร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัย และราคาไม่แพง สามารถเลือกซื้อได้ตามใจชอบ มีแผงค้า
กว่า 300 แผง เม่ือทานอาหาร และซ้ือของฝากเรียบร้อยแล้ว สามารถชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตของ
ชาวนนทบุรี ท่ีอาศัยอยู่ริมฝั่งคลอง โดยยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติ และความเป็นไทยอยู่
นอกจากนี้ ในบริเวณตลาดยังมีบริการรถยนต์นำชมสวนเกษตรท่องเท่ียวชมไม้ดอก ไม้ประดับ เช่น
บอนสี กล้วยไม้ หรอื ชมสวนผลไมท้ างการเกษตร เช่น มะม่วง ทุเรียน ไดอ้ กี ดว้ ย
กกกกกกก1. กล่าวโดยสรุป ตลาดน้ำไทรน้อยเร่ิมเปิดดำเนินกิจกรรม อยู่ที่บริเวณริมคลองหน้าวัด
ไทรใหญบ่ รเิ วณแพทจ่ี อดอยู่ในคลองพระพิมลราชา จำหนา่ ยอาหารเลศิ รสต่าง ๆมากมาย ส่วนบรเิ วณ
ชายนำ้ รมิ คลองหนา้ วดั ไทรใหญ่ เปน็ แหล่งจำหนา่ ยผกั ผลไมท้ เ่ี ป็นผลผลติ ของเกษตรกร
83
ในอำเภอไทรน้อย และสินค้า OTOP จากชุมชนตา่ ง ๆ ในอำเภอไทรน้อยตลาดน้ำไทรน้อยเปิดบริการ
ในวันเสาร์ วนั อาทิตย์ และวันหยดุ นักขตั ฤกษ์
กกกกกกก2. ท่ตี ง้ั ของตลาดนำ้ ไทรน้อย ตั้งอยรู่ ิมคลองพระพิมลราชา ตดิ กบั วัดไทรใหญ่
ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จงั หวดั นนทบุรี 11150
กกกกกกก3. ความสำคญั ของตลาดน้ำไทรน้อย
กกกกกกก3. ตลาดนำ้ ไทรน้อยมคี วามสำคญั ดา้ นเศรษฐกิจของประชาชน เป็นแหลง่ ท่องเทีย่ ว
ของอำเภอไทรน้อย การเดินทางจากกรงุ เทพมหานครสะดวก มีร้านขายของขนาบลำคลอง สินค้ามที ั้ง
ของกิน ของใช้ อาหารคาวหวาน ผักผลไม้ มากมายเป็นตลาดน้ำตามแบบวิถีไทย สินค้าสดใหม่ ราคาถูก
ในอดีตมรี ถกระแทะบริการเท่ยี วชมสวนเกษตร
กกกกกกก3. กลา่ วโดยสรุป ตลาดน้ำไทรน้อยมีความสำคัญคือ เปน็ ตลาดน้ำที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร ดำเนนิ
ชีวติ ตามแบบวิถีไทย ศูนยร์ วมของอาหารคาวหวาน ผัก ผลไมห้ ลายชนดิ ท่ีชาวบา้ นนำมาจำหน่ายรมิ ฝ่ังคลอง
มรี สชาติอร่อย สะอาด ถูกหลักอนามยั และราคาถูก มีบรกิ ารรถนำเทีย่ วสวนเกษตร
กกกกกกก4. กิจกรรมภายในตลาดน้ำไทรน้อย (1) รับประทานอาหารบนเรือริมน้ำ (2) กราบพระใน
โบสถ์ (3) ไหว้หลวงพอ่ ทองคำ (4) เดินชมสนิ คา้ (5) ให้อาหารปลา และ (6) การแสดงของเยาวชน
กจิ กรรมท้ายบท
กกกกกกกกจิ กรรมท่ี 1
กกกกกกกคำชีแ้ จง ให้ผเู้ รยี นศกึ ษากิจกรรมท่ี 1 แลว้ เลือกคำตอบที่ ถูกตอ้ งทสี่ ุดเพยี งขอ้ เดยี ว เขยี น
คำตอบลงในกระดาษท่แี จกให้ หรือกระดาษเปล่าของผู้เรียน
1. วดั ไทรใหญ่ เดมิ ช่อื วัดอะไร
ก. วัดมหานิโครธาราม
ข. วัดมหานโิ ครธาสมี าราม
ค. วัดนโิ ครธามหาสีมาราม
ง. วัดนโิ ครธามหาสีมารามวรวิหาร
2. วัดคลองขวางสรา้ งขนึ้ เมื่อปี พ.ศ. ใด
ก. 2410
ข. 2424
ค. 2459
ง. 2483
84
3. วัดสาลมี นุ ีภริ มย์ ปจั จบุ นั คอื วัดใด
ก. วัดสโมสร
ข. วัดไทรน้อย
ค. วัดเสนวี งศ์
ง. วัดราษฎร์นิยม
4. วัดทสี่ รา้ งขึน้ โดยใช้ศิลปะผสมผสานแบบไทย-มอญ-จนี คอื ข้อใด
ก. วดั สโมสร
ข. วัดไทรนอ้ ย
ค. วัดเสนีวงศ์
ง. วัดราษฎร์นิยม
5. ตะละทาน คอื ข้อใด
ก. วิหารภายในวัดไทรน้อย
ข. ชาวบา้ นผถู้ วายทด่ี ินสร้างวดั ราษฎร์นยิ ม
ค. ศาลเจ้าทีป่ ระจำวดั สโมสร
ง. เจา้ อาวาสรูปแรกของวดั เสนีวงศ์
กกกกกกกกิจกรรมที่ 2
กกกกกกกคำช้แี จง ให้ผเู้ รียนเตมิ คำ หรือข้อความลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้องสมบรู ณ์ ดว้ ยการเขยี น
คำตอบลงในกระดาษท่แี จกให้ หรอื กระดาษเปลา่ ของผ้เู รยี น
กกกกกกก1. เจา้ อาวาสวัดคลองขวางรูปแรกคือ …………………………………
กกกกกกก2. หอระฆังคู่ทรงเหลีย่ ม เปน็ สงิ่ กอ่ สร้างภายในวดั .........................................
กกกกกกก3. วัดสโมสรไดร้ ับการยกย่องว่าเปน็ วัดท่ี ..................................... ของชาวมอญไดด้ ที ี่สดุ
กกกกกกก4. ผดู้ ำริในการสร้างวดั สโมสร คอื ...................................................เป็นสตรชี าวมอญ
กกกกกกก5. เจดียท์ รงนครปฐมทสี ร้างขึ้นภายในวดั ไทรนอ้ ยเพ่อื ฉลองพทุ ธชยนั ตี 2,600 ปี มีช่อื ว่า
.................................................................................
85
กกกกกกกกจิ กรรมที่ 3
กกกกกกกคำชีแ้ จง ให้ผเู้ รียนศึกษากิจกรรมท่ี 3 ด้วยการจับคขู่ องข้อความหลังตัวเลขด้านซ้ายมือของ
กระดาษ และขอ้ ความหลงั ตวั อักษรขวามือของกระดาษท่ีมีความสมั พนั ธ์กัน แลว้ นำคำตอบที่ได้ไป
เขียนลงในกระดาษที่แจกให้ หรือกระดาษเปลา่ ของผเู้ รียน
..........1. พระครูนนทสทิ ธิการ ก. วดั ราษฎรน์ ยิ ม
..........2. อุโบสถปนู ปั้นแหง่ เดยี วในประเทศไทย ข. วัดสโมสร
..........3. เภี่ยะหา้ รอ้ ย ค. วัดไทรน้อย
..........4. วัดหมอ่ มแช่ม ง. วดั เสนวี งศ์
..........5. เจดยี ส์ มปรารถนา จ. วดั หนองเพรางาย
ฉ. วัดคลองเจา้
ช. วดั คลองขวาง
ซ. วัดไทรใหญ่
บทท่ี 3
เรอ่ื ง ประเพณีท่ีสำคญั
สาระสำคญั
กกกกกกก1. ประเพณีตกั บาตรดอกไม้
1.1 ประวัติความเป็นมาของประเพณีตักบาตรดอกไม้ ประเพณีตักบาตรดอกไม้เป็น
ของชาวไทยเชื้อสายมอญ (รามัญ) จดั ขึ้นในวันข้ึน 15 คำ่ ก่อนออกพรรษา 1 วัน พระสงฆม์ อญจะทำ
พิธีปวารณาออกพรรษา ในวันนี้จะมีพธิ ตี ักบาตรดอกไมท้ ่ีวัดมอญในอำเภอไทรน้อย
1.2 ความสำคญั ของประเพณีตักบาตรดอกไม้ ประเพณตี ักบาตรดอกไม้มีความสำคัญ
ถือเป็นการปฏิบัติ และแสดงความคารวะนอบน้อมอีกท้ังขอขมาลาโทษหากมีเหตุพลาดพล้ังซึ่ง
เป็นการกระทำล่วงเกินต่อพระพุทธศาสนา และพระภิกษุสงฆ์เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่
เกี่ยวข้องกับพระพุทธประวัตอิ นั เปน็ การบชู าต่อองคส์ มเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา้
1.3 กิจกรรมในประเพณีตักบาตรดอกไม้ กิจกรรมในประเพณีตักบาตรดอกไม้
เม่ือพระสงฆ์ทั้งหลายฉันภัตตาหารเพลแล้วจะเดินลงจากศาลาการเปรียญสู่พระอุโบสถ โดย
ให้ชาวบ้านน่ังอยู่ตลอดสองข้างทางพร้อมท้ังจัดเตรียมดอกไม้ธูปเทียนไว้ถวายสั กการะคร้ันถึง
พระสงฆ์ลงจากโบสถ์เพ่ือทำพิธีปวารณาออกพรรษาจะอัญเชิญพระพุทธรูปนำ หน้าพร ะส งฆ์
เม่ือพระสงฆเ์ ดินไปพระอโุ บสถชาวบ้านคอ่ ย ๆ ถวายดอกไม้ธูปเทียนแด่พระสงฆ์
กกกกกกก2. ประเพณสี งกรานตม์ อญ
2.1 ประวตั คิ วามเป็นมาของประเพณีสงกรานต์มอญ (ปจั อะห์ตะ๊ ห์) หรือชาวไทยรามญั
ประเพณสี งกรานต์มอญ เรยี กเปน็ ภาษามอญวา่ (ปัจอะห์ต๊ะห)์ เปน็ เทศกาลสำคัญประจำปขี องชาวมอญ
จะมีการทำบญุ เฉลิมฉลองกนั อยา่ งมโหฬารในทุกหมบู่ ้านของชาวมอญ โดยจัดขึ้นระหวา่ งวันท่ี 13–15
เมษายน ของทุกปี มกี จิ กรรมตา่ ง ๆก
2.2 ความสำคัญของประเพณีสงกรานต์มอญ ประเพณีสงกรานตม์ อญ เป็นประเพณีข้ึน
ศักราชใหม่ จึงจัดให้มีการเฉลิมฉลองกันอย่างย่ิงใหญ่ ด้วยการทำบุญรักษาศีล เพ่ือบูชาพระรัตนตรัย
มีการบูชาทบ่ี รรจอุ ัฐขิ องบรรพบุรษุ และพระสงฆ์มอญต้องการจะสนองศรทั ธาของชาวบ้านดว้ ยการได้
สรงนำ้ พระ
2.3 กิจกรรมในเทศกาลสงกรานตม์ อญนอกจากชาวบ้านจะมาทำบุญรักษาศลี ท่ีวัด
กจิ กรรมในประเพณสี งกรานต์มอญ เช่น การแห่หงส์ ธงตะขาบ การเลน่ สะบ้ามอญ การสรงน้ำพระ
การแหข่ า้ วแช่ แห่น้ำปลาหวาน ปลอ่ ยปลา แหส่ งกรานต์ และการทำบุญกลางบ้าน รำเจา้ ประจำปี
ของแต่ละหม่บู ้าน
87
กกกกกกก3. ประเพณีแหเ่ ตา่
3.1 ประวตั คิ วามเป็นมาประเพณีแหเ่ ต่า จดั ขนึ้ ในวันท่ี15 เดือน เมษายน ของทุกปี
ตรงกับเทศกาลสงกรานต์ ซง่ึ ชาวบา้ นมีความเช่อื ว่า การแหเ่ ต่านน้ั จะทำให้ชาวบ้านมอี ายยุ ืนสขุ ภาพ
รา่ งกายแข็งแรง มีความอดทน จงึ ทำใหช้ าวบ้านทำสืบต่อกันมา จนถงึ ปัจจุบนั น้ี
3.2 ความสำคญั ของประเพณแี หเ่ ตา่ จัดข้นึ ในวนั ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตรงกับวนั ท่ี 15
เดอื น เมษายน ของทกุ ปี การจัดประเพณแี ห่เตา่ เพอื่ เป็นการอนุรกั ษ์ประเพณีของท้องถ่ิน และเป็น
การสอดแทรกหลกั ธรรมคำสอนของพุทธศาสนา ในเรื่องของการเสียสละ รูจ้ ักการให้ และการแบ่งปนั
ประเพณแี หเ่ ตา่ จงึ ปฏิบตั สิ บื ทอดกันมาจนถึงทุกวนั นี้
3.3 กิจกรรมในประเพณแี ห่เตา่ จัดข้ึนจากชาวบา้ นตำบลคลองขวาง เพื่อให้ชาวบ้านที่
อย่ใู นพืน้ ทีอ่ อกมารว่ มบริจาคปัจจัย และนำปัจจยั ทไี่ ดร้ ับจากการบรจิ าคนำไปถวายวัดคลองขวาง
บำรงุ พระพุทธศาสนาสืบต่อไป
กกกกกกก4. ปะเพณแี ห่ธงตะขาบ
4.1 ประวตั คิ วามเป็นมาของประเพณีแห่ธงตะขาบ ประเพณีแหธ่ งตะขาบเป็นความ
เชือ่ ชวี ิตหลงั ความตาย และความกตัญญูต่อบรรพบุรษุ
4.2 ความสำคัญของประเพณแี ห่ธงตะขาบเพอ่ื บูชา และเฉลมิ ฉลองเมื่อครัง้ ที่
พระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากจากสวรรคช์ ัน้ ดาวดึงส์ ในการฉลองงานบุญการกุศล ชาวรามัญจะใช้เสา
หงส์ และธงตะขาบคู่กนั
4.3 กิจกรรมในประเพณีแห่ธงตะขาบ ใช้เชือกเป็นเส้นขอบผูกขวางค่ันด้วยซี่ไม้ไผ่เป็น
ช่วง ๆ ใช้เสื่อผืนยาวปิดทับแทนผ้าหรือกระดาษเปน็ ลำตัว ปลายไม้ท่ียื่นสองข้างทุกซ่ีประดับด้วยช้อน
ผูกห้อยแทนขา สลับกับพู่กระดาษเพื่อความสวยงาม หัว และ หางสานผูกด้วยโครงไม้ปิดกระดาษสี
แห่ไปที่วัด ขึงธงไว้กับต้นเสาในศาลา นำสายสิญจน์มาวงรอบธง ทำพิธีถวายธง นำธงไปชักข้ึนแขวน
บนเสาหงส์
กกกกกกก5. ประเพณีการจัดงานศพพระสงฆม์ อญ
5.1 ประวัตคิ วามเปน็ มาประเพณีการจดั งานศพพระสงฆม์ อญ ประเพณีการจดั งานศพ
พระสงฆม์ อญ ชาวไทยเชอื้ สายมอญจะมีพธิ ีกรรมท่ีเข้ามาเก่ียวข้องต้งั แต่เกิดจนตาย อกี ท้ังศรทั ธาใน
พทุ ธศาสนาควบคู่ไปกับการนับถอื ผีบรรพบรุ ุษ ก่อให้เกิดรากฐานของประเพณี และพธิ ีกรรมทส่ี ืบทอด
ปฏบิ ัติกนั มา ดังน้ันคนมอญจึงมีรปู แบบพิธีกรรมที่แฝงความหมาย และปริศนาธรรมตา่ ง ๆ
5.2 ความสำคัญของประเพณีการจัดงานศพพระสงฆ์มอญ เป็นการแสดงเคารพนับถือ
และบญุ คณุ ตอ่ พระสงฆ์ที่มรณภาพ
88
5.3 รายละเอียดประเพณีการจัดงานศพพระสงฆ์มอญ เมื่อพระสงฆม์ อญมรณภาพจะมี
พิธีการในการจัดงานศพพระสงฆ์อย่างสมฐานะของความเป็นสมณะ มีการสร้างปราสาทมอญสำหรับ
เป็นสถานที่ประกอบพิธีฌาปนกิจ มีการสร้างโลงบรรจุศพแบบมอญ ที่วิจิตรสวยงาม มีประเพณีการ
จดุ ลูกหนู มีการตัง้ โรงทาน
กกกกกกก6. พธิ แี ห่เจา้ พ่อจุ้ย
6.1 ประวตั คิ วามเปน็ มาของพิธแี ห่เจา้ พอ่ จุ้ย ชาวไทยเช้อื สายจีนในอำเภอไทรนอ้ ย
มีความศรัทธาในเจ้าพ่อจยุ้ เป็นอย่างมากได้สร้างศาลเจ้าพอ่ จยุ้ ไทรใหญ่อย่างสวยงามตามแบบ
สถาปตั ยกรรมจนี ในชว่ งหลงั วนั ตรษุ จีน จะมพี ธิ ีแห่เจ้าพ่อจุย้ และจัดงานประจำปเี ปน็ งานใหญง่ าน
หนึ่งของอำเภอไทรน้อย
6.2 ความสำคญั ของพิธีแหเ่ จ้าพอ่ จุ้ยความสำคญั ของประเพณีแหเ่ จ้าพ่อจุ้ยเพอ่ื เป็นการ
สืบสานประเพณี และวัฒนธรรมของชาวไทยเช้ือสายจีน ทอี่ าศยั อยู่ในพนื้ ที่อำเภอไทรน้อย\
6.3 กิจกรรมในพธิ แี ห่เจ้าพ่อจ้ยุ คือ วนั แห่เจา้ พอ่ จ้ยุ จะมีพธิ ีเลี้ยงอาหารพระ จากน้นั
มีพิธีไหว้ ปงึ เถ่ากง ไหว้ปึงเถ่ามา และเชญิ รูปเจา้ พอ่ จยุ้ แหร่ อบ อำเภอไทรน้อย ชาวตลาดจะจัดโต๊ะ
ท่ีหน้าบ้านเพื่อสกั การบูชาเจา้ พ่อจยุ้ ท่ี ผา่ นหนา้ บ้าน มีการจุดธปู เทยี น และจดุ ประทัดบชู าเจ้าพ่อจุ้ย
เพ่ือขอพร และเพื่อความเปน็ สิริมงคล
กกกกกกก7. พธิ ีแห่เจา้ แม่ทองคำ
7.1 ประวัติความเปน็ มาของพธิ ีแหเ่ จ้าแม่ทองคำ เปน็ เจา้ แม่ท่ีคนไทยเช้อื สายจนี
ในอำเภอไทรน้อย ให้ความเคารพ เปน็ ทย่ี ดึ เหน่ยี วทางด้านจติ ใจ ศาลเจ้าแม่ทองคำอย่หู ลังตลาด
ปากคลองขนุ ศรี ตำบลคลองขวาง อำเภอไทรนอ้ ย งานประจำปีศาลเจ้าแมท่ องคำ มลี ิเกฉลอง จดั ประมาณ
เดือน มนี าคม ของทุกปี
7.2 ความสำคญั ของพิธแี หเ่ จ้าแม่ทองคำ เป็นท่ียึดเหนย่ี วในทางจิตใจ เพ่ือขอพร และ
เพื่อความเป็นสิรมิ งคลในชีวิต และเปน็ การสบื สานประเพณวี ฒั นธรรมท้องถิ่นอำเภอไทรน้อย
7.3 รายละเอียดประเพณีแห่เจา้ แม่ทองคำ ทำพิธเี ซ่นไหว้เจ้าแม่ทองคำตามธรรมเนยี ม
จีนโบราณ เชิญเจ้าแม่เข้าขบวนแห่ ชาวบ้านต้ังเครื่องบูชา มีการจุดธูปเทียน จุดประทัด ชาวตลาด
ปากคลองขุนศรีจึงนับถือเจ้าแม่ทองคำ และได้สร้างศาลตามแบบสถาปัตยกรรมจีน ท่ีสวยงามกกกก
กกกกกกก8. เทศกาลสำคญั และประเพณีของชาวไทยมสุ ลมิ
8.1 ประวัติความเป็นมาของเทศกาลสำคญั และประเพณีของชาวไทยมุสลิมประวตั ิ
ความเป็นมาเทศกาลสำคญั และประเพณีของชาวไทยมสุ ลิม เปน็ หลักคำสอนทสี่ อดคลอ้ งกับธรรมชาติ
ของมนุษย์ ท้ังนี้เพื่อใหก้ ารปฏิบตั ิตนเปน็ ไปด้วยความสะดวก และเรียบง่าย โดยเรมิ่ ต้นจากการศรัทธา
89
ต่ออัลลอฮผ์ ูส้ ร้าง การปฏบิ ัติศาสนกจิ การขัดเกลาจติ ใจให้สะอาด มีศีลธรรม และสามารถครองตนอยู่
ร่วมกับผ้อู น่ื ในสงั คม
8.2 ความสำคัญของเทศกาลสำคัญ และประเพณีของชาวไทยมสุ ลมิ การปฏบิ ัติตาม
และการนอบน้อมต่ออลั ลอฮ์ พระผูเ้ ป็นเจ้า พรอ้ มกันน้ีพระองค์ได้แตง่ ตง้ั มุฮมั มัด บุตรอบั ดุลลอฮ์
เป็นศาสดานำพามนุษย์สู่การให้ความเปน็ เอกะแดพ่ ระองค์ในการเปน็ พระผู้อภบิ าล และการเปน็ พระเจ้า
8.3 รายละเอียดเทศกาลสำคญั และประเพณขี องชาวไทยมุสลมิ
8.3 การถือศิลอด (ถือบวช) การทบี่ ุคคลละเว้นอาหาร และเคร่ืองด่ืม
8.3 วันฮารีรายอ (อีดิลฟิตริ) เป็นวันออกบวชเม่ือครบกำหนด 1 เดือน ของการถือ
ศลี อดในเดือนรอมฎอน
8.3 พิธแี ต่งงาน มีการประกอบพธิ ีแตง่ งาน เจา้ บา่ วเจา้ สาวรว่ มทำพธิ ลี ะหมาด และขอ
พรจากพระผเู้ ป็นเจ้า เมอื่ เสร็จพธิ ที างศาสนาแลว้ มกี ารเล้ียงอาหารผูท้ ม่ี าร่วมงาน
8.3 พิธีโกนผมไฟ เด็กมุสลมิ เม่ือแรกเกิดจะมีพธิ ีโกนผมไฟใหแ้ กเ่ ดก็ ภายใน 7 วัน
นบั ต้งั แตว่ ันท่ีเกิด
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
กกกกกกก1. บอก และอธิบายประเพณีท่สี ำคญั
กกกกกกก2. ตอบกจิ กรรมทา้ ยบทประเพณีทส่ี ำคัญ
3. เหน็ คุณคา่ ความสำคัญของประเพณที ี่สำคญั แต่ละประเภทของอำเภอไทรน้อย
ขอบขา่ ยเน้ือหา
กกกกกกกเรื่องที่ 1 ประเพณีตกั บาตรดอกไม้
กกกกกกกเรื่องที่ 2 ประเพณีสงกรานตม์ อญ
กกกกกกกเร่ืองท่ี 3 ประเพณีแหเ่ ต่า
กกกกกกกเร่ืองท่ี 4 ปะเพณีแหธ่ งตะขาบ
กกกกกกกเรื่องท่ี 5 ประเพณีการจดั งานศพพระสงฆม์ อญ
กกกกกกกเรื่องท่ี 6 พธิ ีแห่เจ้าพ่อจ้ยุ
กกกกกกกเรอ่ื งท่ี 7 พิธีแหเ่ จ้าแมท่ องคา
กกกกกกกเรอ่ื งที่ 8 เทศกาลสาคญั และประเพณีของชาวไทยมสุ ลมิ
90
ส่ือประกอบการเรยี น
1. ภมู นิ ามอำเภอไทรน้อย นายพศิ าล บญุ ผกู มีนาคม 2552 บรษิ ัท อมรนิ ทร์พรน้ิ ติ้ง
แอนต์พับลิชช่ิง จำกัด (มหาชน)
กกกกกกก2. อัตลกั ษณท์ างวัฒนธรรมเมอื งนนทบุรี โดยสำนักงานจงั หวดั นนทบุรี และสำนกั งาน
วัฒนธรรมจงั หวดั นนทบุรี 2558 ม.ป.ท
กกกกกกก3. ประวตั คิ วามเป็นมาอำเภอไทรน้อย สำนกั งานพัฒนาชมุ ชนอำเภอบางบัวทอง
จงั หวดั นนทบรุ ี กระทรวงมหาดไทย http://district.cdd.go.th/bangbuathong/aboutก
เรอ่ื งท่ี 1. ประเพณตี กั บาตรดอกไม้
กกกกกกก 1 ประวัตคิ วามเป็นมาของประเพณีตกั บาตรดอกไม้
กกกกกกก 1 ประวัติความเป็นมาของประเพณีตักบาตรดอกไม้ เป็นประเพณีของชาวไทยเช้ือสาย
มอญ (รามัญ) ชาวมอญเรียกประเพณีชอนกาว เป็นประเพณีที่จัดข้ึนในวันข้ึน 15 ค่ำ เดือน 11 ก่อน
ออกพรรษา 1 วัน พระสงฆ์มอญจะทำพิธีปวารณาออกพรรษา ในวันน้ีจะมีพิธีตักบาตรดอกไม้ท่ีวัด
มอญในอำเภอไทรนอ้ ย คือ วดั ไทรนอ้ ย วัดสโมสร
กกกกกกก 1 กล่าวโดยสรุป ประเพณีตักบาตรดอกไม้เป็นของชาวไทยเชื้อสายมอญ (รามัญ) จัดข้ึน
ในวันขึ้น 15 ค่ำ ก่อนออกพรรษา 1 วัน พระสงฆ์มอญจะทำพิธีปวารณาออกพรรษาในวนั น้ีจะมีพิธตี ัก
บาตรดอกไมท้ ี่วดั มอญในอำเภอไทรน้อย
กกกกกกก2. ความสำคัญของประเพณีตักบาตรดอกไม้
กกกกกกก 1 ประเพณีตักบาตรดอกไม้ธูป เป็นพิธีกรรมทางพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง จุดมุ่งหมายของ
ชาวมอญท่ีถือปฏิบัติ และแสดงความคารวะนอบน้อม อีกทั้งขอขมาลาโทษ หากมีเหตุพลาดพลั้งซึ่ง
เป็นการกระทำล่วงเกินต่อพระพุทธศาสนา และพระภกิ ษุสงฆ์ ขอให้อานิสงส์แห่งการถวายดอกไม้จงมี
ขึ้นเม่อื พระภกิ ษุได้รับบณิ ฑบาตแล้ว และนำไปบูชาพระพุทธรปู และปูชนียสถานในวัดตอ่ ไป
กกกกกกก 1 กล่าวโดยสรุป ประเพณีตักบาตรดอกไม้มีความสำคัญ ถือเป็นการปฏิบัติ และแสดง
ความคารวะนอบน้อม อกี ท้ังขอขมาลาโทษ หากมเี หตุพลาดพลง้ั ซ่งึ เปน็ การกระทำล่วงเกนิ ต่อพระ
พุทธศาสนา และพระภิกษุสงฆ์เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ท่ีเก่ียวข้องกับพระพุทธประวัติอันเป็นการบูชา
ตอ่ องค์สมเด็จพระสมั มาสัมพุทธเจ้า
91
กกกกกกก3. กจิ กรรมในประเพณตี ักบาตรดอกไม้
กกกกกกก 1 กิจกรรมในประเพณีตกั บาตรดอกไม้ ในวันออกพรรษา หลังจากถวายอาหารบิณฑบาต
แด่พระสงฆ์ในเวลาเพลแล้วพระสงฆ์ท้ังหมดจะไปร่วมพิธีปวารณาออกพรรษาในอุโบสถโดยให้
ชาวบ้านน่ังอยูต่ ลอดสองข้างทางพร้อมท้ังจัดเตรียมดอกไม้ธูปเทียน ไว้ถวายสักการะแต่พระสงฆ์ท่ีลง
จากพระอุโบสถ เพื่อทำพิธีปวารณาตนออกพรรษา จะอัญเชิญพระพุทธรูปนำหน้าพระสงฆ์ เมื่อ
พระสงฆ์เดินไปพระอุโบสถชาวบ้านค่อย ๆ ถวายดอกไม้ ธูปเทียนแด่พระสงฆ์ เมื่อพระสงฆ์ท้ังหลาย
ฉนั ภัตตาหารเพลแลว้ จะเดินลงจากศาลาการเปรียญสู่พระอโุ บสถ โดยมีผู้อัญเชิญพระพทุ ธรูปนำหน้า
พระสงฆ์ เมือ่ พระสงฆเ์ ดนิ ไปพระอโุ บสถชาวบา้ นค่อย ๆ ถวายดอกไม้ ธูปเทียนแด่พระสงฆ์
กกกกกกก 1 กล่าวโดยสรุป กิจกรรมในประเพณีตักบาตรดอกไม้ เม่ือพระสงฆ์ท้ังหลายฉันภัตตาหารเพลแล้ว
จะเดินลงจากศาลาการเปรียญสู่พระอุโบสถ โดยให้ชาวบ้านน่ังอยู่ตลอดสองข้างทางพร้อมท้ัง
จัดเตรียมดอกไม้ธูปเทียน ไว้ถวายสักการะเม่ือพระสงฆ์ลงจากพระอุโบสถ เพื่อทำพิธีปวารณาตน
ออกพรรษา จะอัญเชิญพระพุทธรูปนำหน้าพระสงฆ์ เม่ือพระสงฆ์เดินไปพระอุโบสถชาวบ้านค่อย ๆ
ถวายดอกไม้ ธปู เทยี นแดพ่ ระสงฆ์
ประเพณีตกั บาตรดอกไม้
92
เร่อื งที่ 2 ประเพณีสงกรานตม์ อญ
เรือ่ งที่ 2 1. ประวัติความเปน็ มาของประเพณีสงกรานตม์ อญ
เรอ่ื งที่ 2 1. ประเพณสี งกรานต์มอญหรือชาวไทยรามัญ เรียกเป็นภาษามอญวา่ (ปจั อะหต์ ะ๊ ห์) เป็น
เทศกาลสำคัญประจำปีของชาวมอญ จะมีการทำบุญเฉลิมฉลองกันอย่างมโหฬารในทุกหมู่บ้านของ
ชุมชนชาวมอญ เทศกาลน้ีใช้เวลาหลายวันโดยจะเร่ิมในวันท่ี 13 เดือน เมษายนของทุกปี ไปจนถึง
เดือนพฤษภาคม ของทุก ๆ ปี แต่ในปัจจุบันจะจัดขึ้นในระหว่างวันท่ี 13-15 เดือน เมษายน และมี
กจิ กรรมต่าง ๆ ทย่ี ดึ ถือตามประเพณีของชาวไทยเช้อื สายมอญ (รามญั ) เปน็ หลกั สำคญั ในการจัดกิจกรรม
เรอื่ งที่ 2 1. กล่าวโดยสรุป ประเพณสี งกรานตม์ อญ เรียกเป็นภาษามอญวา่ (ปัจอะหต์ ๊ะห)์ เปน็
เทศกาลสำคญั ประจำปีของชาวมอญ จะมีการทำบญุ เฉลมิ ฉลองกันอย่างมโหฬารในทุกหมบู่ ้านของ
ชุมชนชาวมอญ โดยจดั ขึ้นระหวา่ งวันที่ 13–15 เดอื น เมษายน ของทุกปี มีกิจกรรมต่าง ๆ
เรอื่ งที่ 2 2. ความสำคัญของประเพณีสงกรานต์มอญ คือ
เรอ่ื งที่ 2 1. ความสำคญั ของประเพณีสงกรานต์มอญ คือ ชาวมอญถือกันว่าประเพณีน้เี ปน็
ประเพณขี ึ้นศักราชใหม่ จึงจดั ข้นึ ใหม้ กี ารเฉลิมฉลองกันอยา่ งยิ่งใหญด่ ว้ ยการทำบญุ รกั ษาศีล เพอ่ื บชู า
พระรัตนตรัย เพ่อื บชู าทบ่ี รรจุอฐั ิของบรรพบุรุษ และพระสงฆม์ อญตอ้ งการจะสนองศรัทธาของ
ชาวบา้ นด้วยการไดส้ รงนำ้ พระ
เรอ่ื งที่ 2 1. กลา่ วโดยสรปุ ประเพณีสงกรานต์มอญ เป็นประเพณขี ึน้ ศักราชใหม่ จึงจดั ใหม้ กี าร
เฉลิมฉลองกนั อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการทำบญุ รักษาศีล เพอื่ บูชาพระรัตนตรยั มีการบชู าท่ีบรรจอุ ัฐิของ
บรรพบรุ ษุ และพระสงฆ์มอญตอ้ งการจะสนองศรัทธาของชาวบา้ นด้วยการไดส้ รงนำ้ พระ
เรื่องที่ 2 3. กิจกรรมในประเพณสี งกรานตม์ อญ คือ
เรอ่ื งท่ี 2 1. เทศกาลสงกรานต์มอญนอกจากชาวบ้านจะมาทำบุญรกั ษาศลี ท่ีวัด มีกจิ กรรมท่ีสำคัญ
เช่น การแห่หางหงส์ ธงตะขาบ การเล่นสะบ้ามอญ การสรงน้ำพระ การแห่ขา้ วแช่ แหน่ ้ำปลาหวาน
ปลอ่ ยปลา แห่สงกรานต์ และการทำบญุ กลางบา้ น รำเจ้าประจำปขี องแตล่ ะหมู่บา้ น
93
ประเพณสี งกรานต์มอญ
เร่ืองที่ 2 1. กล่าวโดยสรุป กิจกรรมในประเพณีสงกรานต์มอญ เช่น การแห่หางหงส์ ธงตะขาบ
การเล่นสะบ้ามอญ การสรงน้ำพระ การแห่ข้าวแช่ แห่น้ำปลาหวาน ปล่อยปลา แห่สงกรานต์ และ
การทำบญุ กลางบา้ น รำเจ้าประจำปขี องแต่ละหม่บู ้าน
เรอื่ งที่ 3 ประเพณแี หเ่ ต่า
กกกกกกก1. ประวัติความเปน็ มาประเพณแี ห่เตา่
ประวตั ิความเป็นมา ประเพณีแห่เต่า เป็นประเพณที ท่ี ำสบื ทอดกันมาตัง้ แตบ่ รรพบุรุษ
ในพนื้ ทต่ี ำบลคลองขวาง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบรุ ี ซ่ึงประเพณีแหเ่ ตา่ จะจดั ข้นึ ในวันท่ี 15
เดือน เมษายน ของทุกปี ซ่ึงชาวบ้านมคี วามเชอ่ื ว่า เตา่ เป็นสัตวท์ ี่นิยมนำมาบูชา เพื่อเปน็ สัญญา
ลกั ษณ์ของความมีอายยุ ืนยาว มีความแข็งแรง ความอดทน ซ่ึงการทำบญุ กบั เต่าเป็น ๆ จะทำให้ไดผ้ ลบญุ และด้วย
เหตุท่เี ต่าเป็นสัญญาลักษณ์ของการมีอายุยนื ยาว ผู้ท่มี ีความเช่อื กจ็ ะมีอายยุ นื และมสี ุขภาพที่แขง็ แรง
เหมอื นกบั เต่า