4. สาระการเรียนรู้ 1. เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างหรือพัฒนาขึ้น ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งชิ้นงานหรือวิธีการ เพื่อใช้แก้ปัญหา สนองความต้องการ หรือเพิ่มความสามารถ ในการท างานของมนุษย์ 2. ระบบทางเทคโนโลยีเป็นกลุ่มของส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่สองส่วนขึ้นไปประกอบเข้าด้วยกันและ ท างานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์โดย ในการท างานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบ ไปด้วยตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ที่สัมพันธ์กัน นอกจากนี้ ระบบทางเทคโนโลยีอาจมีข้อมูล ย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุงการท างานได้ตาม วัตถุประสงค์ซึ่งการวิเคราะห์ระบบทาง เทคโนโลยีช่วยให้เข้าใจองค์ประกอบและ การท างานของเทคโนโลยีรวมถึงสามารถ ปรับปรุงให้เทคโนโลยี ท างานได้ตามต้องการ 3. เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจาก หลายด้าน เช่น ปัญหาความต้องการความก้าวหน้า ของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สังคม 5. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 2. กิจกรรมการน าเสนอใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ การออกแบบเครื่องกรองน้ าของแม่หญิงการะเกด เพื่อเป็นการกระตุ้นความ สนใจของผู้เรียน 2. เมื่อจบคลิป ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติม ว่า จากคลิป แม่การะเกดสั่งจีนฮงให้ท าอุปกรณ์ที่ใช้ส าหรับกรอง น้ าให้สะอาดขึ้น และวิธีการดังกล่าวก็ยังใช้กับเครื่องกรองน้ าในปัจจุบัน แต่มีการพัฒนาให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้นยิ่ง แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีมีการเปลียนแปลงตลอดเวลา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลายด้าน เช่น ปัญหา ความต้องการ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สังคม 3. ผู้สอนแจก ใบความรู้ที่ 4 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีพร้อมอธิบายใบความรู้ ตั้งแต่สมัยโบราณมนุษย์รู้จักประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้หรือคิดวิธีการเพื่อช่วยแก้ปัญหา หรือสนองความต้องการในการด ารงชีวิต ซึ่งสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการนั้นได้รับการพัฒนาอย่าง ต่อเนื่องให้เหมาะสมกับแต่ละยุคสมัย ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน
สาเหตุหรือปัจจัยของการเปลี่ยนทางเทคโนโลยี มี 5 ปัจจัย คือ 1. แก้ปัญหาสนองความต้องการและเพิ่มความสามารถของมนุษย์ 2. ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศตร์และคณิตศาสตร์ 3. เศรษฐกิจหรือฐานะทางการเงิน 4. สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ 5. สังคมและวัฒนธรรมความนิยมแพร่หลาย 4. ผู้สอนยกตัวอย่าง ตารางวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเตา จาก ใบความรู้ที่ 4 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 5. ผู้สอนแจกใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีพร้อมอธิบาย วิธีการท าใบงาน คือ ให้ผู้เรียนยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่มีการใช้งานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แล้วตอบค าถามลงในตารางวิเคราะห์พร้อมกับตอบค าถามในประเด็นต่อไปนี้ 1. ปัญหาหรือความต้องการที่ท าให้เกิดเทคโนโลยีในเรื่องนั้น 2. การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเป็นสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการ 6. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท าใบงาน โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน าเพิ่มเติม 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละคนน าเสนอใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พร้อมกับให้ผู้เรียนร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 2. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และตัวนักเรียนเอง อาจจะเป็น ส่วนหนึ่งที่ท าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยี ส่งผลต่อการด ารงชีวิตของมนุษย์ การศึกษาและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสิ่งของเครื่องใช้ หรือ วิธีการ จะท าให้ได้เรียนรู้ถึงสาเหตุ หรือ ปัจจัย ที่ท าให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สิ่งของ เครื่องใช้ หรือวิธีการ สามารถแก้ปัญหา หรือ สนองความต้องการ หรือ เพิ่มความสามารถในการท างาน ของมนุษย์ ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2
3. ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุปสาเหตุหรือปัจจัยของการเปลี่ยนทางเทคโนโลยี มี 5 ปัจจัย คือ 1. แก้ปัญหาสนองความต้องการและเพิ่มความสามารถของมนุษย์ 2. ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 3. เศรษฐกิจหรือฐานะทางการเงิน 4. สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ 5. สังคมและวัฒนธรรมความนิยมแพร่หลาย 4. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอ การออกแบบเครื่องกรองน้ าของแม่หญิงการะเกด 2. ใบความรู้ที่ 4 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 3. ใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 4. กิจกรรมน าเสนอใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 0 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล จากการท ากิจกรรม น าเสนอใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ขั้นสรุป
แบบบันทึกหลังแผนการสอน เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จ านวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน (…………………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหารสถานศึกษา (…………………..…………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
บันทึกหลังสอนแผนการสอน 1. ผลการสอนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก ................................................................................. 2. ผลที่เกิดกับผู้เรียน 1.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.......................................... ได้แก่ ............................................................................................................................. ............................................... 2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ......................................... ได้แก่ ..................................................................................................... ...................................................................... 3.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์เรียน โดยใช้………………………............................................. พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.............. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ....................... ได้แก่ ...................................................................................................................... ..................................................... 3. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .................................................................................................................................................... 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ............................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ......................................................................................... .............................................................................................................. ................................................ ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวรัตน์จรี จิตรนารี) วันที่......../.................../.................
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา ต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………….…… ลงชื่อ................................................................ (นางสาวกนกวรรณ ทองเกตุ) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จ านวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการด ารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาสม โดยค านึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม 2. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี แบ่งได้เป็น 4 ด้าน คือ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจ ด้าน วัฒนธรรม ด้านการเมือง ซึ่งความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมีผลกระทบต่อความต้องการและการสร้าง เทคโนโลยีทั้งในทางบวก และ ทางลบ 3. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.1/1 อธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชีวิตประจ าวันและวิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัย ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จุดประสงค์ 1. วิเคราะห์ได้ว่าอะไรคือผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี(K) 2. เลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจ าวันได้(P) 3. เห็นความส าคัญของเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจ าวัน (A) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5
4. สาระการเรียนรู้ 1. เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างหรือพัฒนาขึ้น ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งชิ้นงานหรือวิธีการ เพื่อใช้แก้ปัญหา สนองความต้องการ หรือเพิ่มความสามารถ ในการท างานของมนุษย์ 2. ระบบทางเทคโนโลยีเป็นกลุ่มของส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่สองส่วนขึ้นไปประกอบเข้าด้วยกันและ ท างานร่วมกัน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์โดย ในการท างานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบ ไปด้วยตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ที่สัมพันธ์กัน นอกจากนี้ ระบบทางเทคโนโลยีอาจมีข้อมูล ย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุงการท างานได้ตาม วัตถุประสงค์ซึ่งการวิเคราะห์ระบบทาง เทคโนโลยีช่วยให้เข้าใจองค์ประกอบและ การท างานของเทคโนโลยีรวมถึงสามารถ ปรับปรุงให้เทคโนโลยี ท างานได้ตามต้องการ 3. เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจาก หลายด้าน เช่น ปัญหาความต้องการความก้าวหน้า ของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สังคม 5. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 2.2 ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ สปอยหนังเรื่อง Passengers เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=UG45AmqCGC4 2. หลังจากจบคลิปผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ เช่น “นักเรียนคิดว่าเทคโนโลยีจะมี การพัฒนาจนเหมือนกับในภาพยนต์ได้หรือไม่ และถ้าเป็นไปได้นักเรียนคิดว่าจะมีผลกระทบอะไร เกิดขึ้นบ้าง” 3. ผู้สอนแจก ใบความรู้ที่ 5 ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี พร้อมอธิบายใบความรู้ ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการด าเนินขีวิตของมนุษย์ในหลายด้าน มีการพัฒนา และ สร้างเทคโนโลยีให้เจริญก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ที่มีอยู่อย่าง ไม่จ ากัด เทคโนโลยีช่วยอ านวยความสะดวกให้กับมนุษย์ในหลายๆด้าน และเทคโนโลยีก็ส่งผลกระทบ ต่อการด ารงชีวิตของมนุษย์ในหลายๆด้านเช่นเดียวกัน ซึ่งผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี แบ่งได้ เป็น 4 ด้าน คือ ด้านสิ่งแวดล้อม มีผลในด้านบวกและด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมในธรรมชาติ ด้านเศรษฐกิจ มีผลกระทบกับระบบธุรกรรมทางการเงิน ด้านวัฒนธรรม สิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรม ได้เปลี่ยนวิถีการด ารงชีวิตและวิธีการท างาน ของมนุษย์ ด้านการเมือง จะแสดงออกมาในลักษณะสิ่งประดิษฐ์ หรือ นวัตกรรม มีอิทธิพลกับการตัดสินใจ ทางการเมือง และนโยบาย กฎเกณฑ์ หรือ ข้อบังคับของรัฐ 4. ผู้สอนยกตัวอย่าง ผลกระทบในทางบวกของการพัฒนาเทคโนโลยี คือ 1. ช่วยส่งเสริมด้านความสะดวกสบายของมนุษย์ 2. ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์ 3. ช่วยท าให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน
4. ช่วยส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยให้มีความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 5. ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น 6. ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสาร 5. ผู้สอนยกตัวอย่าง ผลกระทบในทางลบของการพัฒนาเทคโนโลยี คือ 1. ท าให้มนุษยสัมพันธ์เสื่อมถอย 2. ท าให้เสียสุขภาพ 3. เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีส่วนประกอบทางเคมีที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นอย่างรวดเร็ว 4. ท าให้เกิดอาวุธร้ายแรงชนิดใหม่ๆ 6. ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปราย ว่า ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยีในทางบวก และในทางลบ มีอะไรอีกบ้าง 1. ผู้สอนแจกใบงานที่ 2.2 ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยีพร้อมอธิบายวิธีการท าใบงาน คือ ให้ผู้เรียนยกตัวอย่างเทคโนยีที่พบเจอในชีวิตประจ าวันและท าการวิเคราะห์ ว่า เทคโนโลยีดังกล่าว ส่งผลกระทบในด้านใด ส่งผลกระทบในทางบวก และ ทางลบอย่างไร พร้อมบอกแนวทางการป้องกัน และแก้ไข 2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท าใบงาน โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน าเพิ่มเติม 3. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนสุ่มให้ผู้เรียนน าเสนอใบงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่นๆช่วยกันเสนอแนะ แสดง ความคิดเห็น 4. ผู้อธิบายเพิ่มเติมให้ผู้เรียนเข้าใจ โดยยกตัวอย่างผลกระทบที่เกิดจากโครงการแกล้งดิน ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2
5. ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป เทคโนโลยีมีความส าคัญต่อการด ารงชีวิต ซึ่งมนุษย์มีการพัฒนาคิดค้นสิ่ง อ านวยความสะดวกสบาย เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการด ารงชีวิต เทคโนโลยีมีผลกระทบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในหลายๆด้าน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจ ด้านวัฒนธรรม และด้าน การเมือง ซึ่งเป็นผลกระทบที่มีทั้งในทางที่เป็นบวก และในทางที่เป็นลบ 6. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอ สปอยหนังเรื่อง Passengers 2. ใบความรู้ที่ 5 ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี 3. ใบงานที่ 2.2 ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี 0 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 2.2 ผลกระทบของการพัฒนา เทคโนโลยี แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล จากการมีส่วนร่วม ในห้องเรียน แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ขั้นสรุป
แบบบันทึกหลังแผนการสอน เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จ านวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน (…………………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหารสถานศึกษา (…………………..…………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
บันทึกหลังสอนแผนการสอน 1. ผลการสอนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก ................................................................................. 2. ผลที่เกิดกับผู้เรียน 1.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.......................................... ได้แก่ ............................................................................................................................. ............................................... 2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ......................................... ได้แก่ ..................................................................................................... ...................................................................... 3.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์เรียน โดยใช้………………………............................................. พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.............. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ....................... ได้แก่ ...................................................................................................................... ..................................................... 3. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .................................................................................................................................................... 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ............................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ......................................................................................... .............................................................................................................. ................................................ ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวรัตน์จรี จิตรนารี) วันที่......../.................../.................
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา ต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………….…… ลงชื่อ................................................................ (นางสาวกนกวรรณ ทองเกตุ) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน จ านวน 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 ประเภทของวัสดุ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการด ารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาสม โดยค านึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม 2. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด วัสดุมีหลายประเภท โดยวัสดุที่น ามาท าสิ่งของเครื่องใช้ที่เราพบในชีวิตประจ าวันส่วนใหญ่ ได้แก่ วัสดุ ประเภท ไม้ โลหะ พลาสติก ยาง ซึ่งแต่ละประเภทมีสมบัติและการน าไปใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น ความแข็ง ความ เหนียว สภาพยืดหยุ่น ความร้อน การน าไฟฟ้า 3. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.1/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า หรือ อิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและปลอดภัย จุดประสงค์ 1. อธิบายลักษณะของวัสดุแต่ละประเภทได้(K) 2. เลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับงาน (P) 3. เห็นความส าคัญของการเลือกใช้งานวัสดุในการสร้างสรรค์เทคโนโลยี (A) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
4. สาระการเรียนรู้ 1. วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพื่อเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน 2. การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้เรื่องกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์เช่น LED บัซเซอร์มอเตอร์วงจรไฟฟ้า 3. อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน หรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรู้จักเก็บรักษา 5. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 3.1 ประเภทของวัสดุ 2. กิจกรรมน าเสนอสมบัติของวัสดุ 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ Transformers เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=L6y3Mhnj7xM 2. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ เช่น “นักเรียนเคยสงสัยไหมว่า ท าไมหุ่นยนต์ ที่เราเห็นในภาพยนต์ส่วนใหญ่ถึงเป็นโลหะ?” 3. ผู้สอนแจก ใบความรู้ที่ 6 ประเภทของวัสดุพร้อมอธิบายใบความรู้ วัสดุ คือ สิ่งที่น ามาท าเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ซึ่งสิ่งของแต่ละอย่างท าจากวัสดุหลากหลาย ประเภท ในสมัยก่อนเราใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติ เช่น หิน กิ่งไม้ หนังสัตว์มาท า สิ่งของเครื่องใช้ เช่น อาวุธ เครื่องนุ่งห่ม ภาชนะใส่อาหาร ต่อมามีการพัฒนาวัสดุจากธรรมชาติมาใช้งานจนกระทั่ง สามารถสังเคราะห์วัสดุใหม่ขึ้นมา เช่น กระดาษ ไม้อัด เส้นใย ยาง พลาสติก โลหะ วัสดุผสม 1. ไม้ (wood) คือ วัสดุธรรมชาติที่ได้มาจากล า ต้นของต้นไม้ไม้ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ไม้ธรรมชาติไม้ธรรมชาติแบ่งเป็น ไม้เนื้อแข็งกับไม้เนื้ออ่อน ไม้ประกอบ เป็นไม้ที่ได้จากการน า ชิ้นส่วนของไม้มาต่อรวมกันด้วยกระบวนการต่าง ๆ 2.โลหะ (metals) คือ วัสดุที่ได้จากการถลุงสินแร่ต่าง ๆ โลหะส่วนใหญ่ผ่านกระบวนการ ปรับปรุงสมบัติให้ดีขึ้นก่อนน า มาใช้งาน โลหะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ โลหะที่มีเหล็กเป็นองค์ประกอบ (Ferrous Metals) เช่น เหล็กกล้า เหล็กหล่อ ใช้ท า ชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ เครื่องมือช่าง ลวด กรรไกร ชิ้นส่วนเครื่องจักร โลหะที่ไม่มีเหล็กเป็นองค์ประกอบ (Non-Ferrous Metals) ไม่ดูดติดกับแม่เหล็กและ ไม่เกิดสนิม เช่น ทองแดง อะลูมิเนียม สังกะสี ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน
3. พลาสติก (plastic) คือ วัสดุสังเคราะห์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลผลิตที่ได้จากการกลั่นน้ า มันดิบ พลาสติกแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ เทอร์โมพลาสติก (thermoplastic) เมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัวและเปลี่ยนรูปร่างได้ สามารถหลอมแล้วน า กลับมาใช้ใหม่ได้เช่น ถุงใส่ของ ช้อน ขวดน้ า กะละมัง และเทอร์โมเซตติ้ง พลาสติก (thermosetting plastic) พลาสติกทนความร้อนสูง แข็งแรง แต่ไม่สามารถหลอมแล้วน า มาใช้ใหม่ได้เช่น จานชาม สายไฟ ปลั๊กไฟ โฟมกันกระแทก รองเท้า 4. ยาง (rubber) คือ วัสดุที่มีความยืดหยุ่น เมื่อออกแรงดึงหรือกด ยางจะยืดหรือยุบ และกลับสู่สภาพเดิมได้เมื่อปล่อยให้ยางเป็นอิสระ ยางแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ยางธรรมชาติ (natural rubber) ได้มาจากต้นยาง มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการฉีกขาด และการสึกหรอ เช่น ถุงมือยาง ยางรัดของ ลูกโป่ง ยางรถยนต์ และยางสังเคราะห์ (synthetic rubber) ได้มาจากการสังเคราะห์ทางเคมีเพื่อเลียนแบบ ยางธรรมชาติ สามารถปรับปรุงสมบัติให้ดีขึ้นหลายด้าน เช่น ทนต่อเปลวไฟ สภาพอากาศ แสงแดด สารเคมีเช่น ยางรถยนต์ แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ซิลิโคน พื้นรองเท้า 5. เซรามิก (ceramic) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ท าจากวัตถุดิบในธรรมชาติเช่น ดิน หิน ทราย และแร่ธาตุต่าง ๆ น า มาผสมกัน หลังจากนั้นจึงน าไปเผาเพื่อเปลี่ยนเนื้อวัตถุให้แข็งแรง และคงรูป 4. ผู้สอนให้ผู้เรียน หยิบ สิ่งของรอบตัวมาคนละ 1 ชิ้น และให้แต่ละคน ตอบว่า สิ่งของชิ้นนั้น ท ามาจาก วัสดุประเภทใด พร้อมกับให้ผู้เรียนคนอื่นๆ ร่วมแสดงความคิดเห็น 1. ผู้สอนแจกใบงานที่ 3.1 ประเภทของวัสดุพร้อมอธิบายวิธีการท าใบงาน คือ ให้ผู้เรียนเขียนสิ่งของรอบตัว ให้ตรงกับช่องประเภทของวัสดุที่ใช้ท าสิ่งของชิ้นนั้น เช่น ลูกกุญแจ ท ามาจากวัสดุประเภทโลหะ ก็เติมลงในช่อง วัสดุประเภทโลหะ 2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท าใบงาน 10 นาที โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน า เพิ่มเติม 3. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้เรียนคนใด เขียนสิ่งของลงในช่องประเภทของวัสดุได้ถูกต้อง และจ านวนมาก ที่สุดจะได้รับรางวัลจากผู้สอน ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2
4. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพื่อท ากิจกรรมน าเสนอ สมบัติของวัสดุ โดยมอบหมายงานให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุประเภทต่างๆ โดยใช้ Google Slide เพื่อให้สมาชิกสามารถร่วมกันท างานแบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา พร้อมกับเพิ่มผู้สอนเป็นผู้ร่วมท างาน โดยผู้สอนจะคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน าเพิ่มเติมผ่าน Google Slide โดยก าหนดให้ น าเสนอผลงานในชั่วโมงถัดไป 5. ผู้สอนก าหนดหัวข้อที่ต้องมีในการน าเสนอ คือ 1. ประเภทของวัสดุที่แต่ละกลุ่มเลือกท า 2. สมบัติของวัสดุ ประกอบด้วย 2.1 สมบัติทางเคมี บอกลักษณะเฉพาะตัวที่เกี่ยวกับโครงสร้างและองค์ประกอบของธาตุต่างๆ 2.2 สมบัติทางกายภาพ อัตราการเกิดปฏิกิริยาของวัสดุนั้นกับพลังงานในรูปแบบต่างๆ กัน 2.3 สมบัติเชิงกล สมบัติเฉพาะตัวของวัสดุที่ถูกกระท าด้วยแรง เกี่ยวกับการยืดและหดตัวของ วัสดุ ความแข็ง ความสามารถในการรับน้ าหนัก 2.4 สมบัติเชิงมิติ ขนาด รูปร่าง ความคงทน 3. ข้อดี ข้อจ ากัด ของวัสดุ 4. ตัวอย่างผลงานเทคโนโลยีที่ท ามาจากวัสดุนั้นๆ 6. ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป สิ่งของเครื่องใช้รอบตัวเราสร้างมาจากวัสดุหลากหลายประเภท ซึ่งวัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติที่แตกต่างกัน มีจุดประสงค์ในการน าไปใช้งานที่แตกต่างกัน มีข้อดี และ ข้อเสียที่แตกต่างกันไป ในการสร้างสรรค์เทคโนโลยี ควรมีการวิเคราะห์สมบัติของวัสดุที่เลือกใช้ เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะของชิ้นงาน เพื่อให้ชิ้นงานออกมามีคุณภาพและเกิดประโยชน์กับผู้ใช้งาน 7. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอ Transformers 2. ใบความรู้ที่ 6 ประเภทของวัสดุ 3. ใบงานที่ 3.1 ประเภทของวัสดุ 4. กิจกรรมน าเสนอสมบัติของวัสดุ ขั้นสรุป
0 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 3.1 ประเภทของวัสดุ แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล จากการมีส่วนร่วม ในห้องเรียน แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์
แบบบันทึกหลังแผนการสอน เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน จ านวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 ประเภทของวัสดุ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน (…………………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหารสถานศึกษา (…………………..…………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
บันทึกหลังสอนแผนการสอน 1. ผลการสอนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก ................................................................................. 2. ผลที่เกิดกับผู้เรียน 1.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.......................................... ได้แก่ ............................................................................................................................. ............................................... 2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ......................................... ได้แก่ ..................................................................................................... ...................................................................... 3.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์เรียน โดยใช้………………………............................................. พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.............. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ....................... ได้แก่ ...................................................................................................................... ..................................................... 3. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .................................................................................................................................................... 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ............................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ......................................................................................... .............................................................................................................. ................................................ ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวรัตน์จรี จิตรนารี) วันที่......../.................../.................
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา ต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………….…… ลงชื่อ................................................................ (นางสาวกนกวรรณ ทองเกตุ) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน จ านวน 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 สมบัติและการเลือกใช้วัสดุ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการด ารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาสม โดยค านึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม 2. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด วัสดุมีหลายประเภท โดยวัสดุที่น ามาท าสิ่งของเครื่องใช้ที่เราพบในชีวิตประจ าวันส่วนใหญ่ ได้แก่ วัสดุ ประเภท ไม้ โลหะ พลาสติก ยาง ซึ่งแต่ละประเภทมีสมบัติและการน าไปใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น ความแข็ง ความ เหนียว สภาพยืดหยุ่น ความร้อน การน าไฟฟ้า 3. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.1/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า หรือ อิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและปลอดภัย จุดประสงค์ 1. อธิบายลักษณะของวัสดุแต่ละประเภทได้(K) 2. เลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับงาน (P) 3. เห็นความส าคัญของการเลือกใช้งานวัสดุในการสร้างสรรค์เทคโนโลยี (A) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7
4. สาระการเรียนรู้ 1. วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพื่อเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน 2. การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้เรื่องกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์เช่น LED บัซเซอร์มอเตอร์วงจรไฟฟ้า 3. อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน หรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรู้จักเก็บรักษา 5. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภาระงาน 1. กิจกรรมน าเสนอสมบัติของวัสดุ 2. ใบงานที่ 3.2 สมบัติของวัสดุ 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
1. ผู้สอนเปิดภาพเก้าอี้ พร้อมกับอธิบาย วัสดุที่น ามาใช้ในการท าเก้าอี้ ซึ่งประกอบไปด้วยวัสดุหลาย ประเภท เนื่องจากวัสดุแต่ละเภทมีสมบัติที่แตกต่างกัน และใน 1 ชิ้นงาน ประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ จึงจ าเป็นต้องเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับส่วนต่างๆเพื่อน ามาประกอบเป็นชิ้นงานที่มีคุณภาพ 2. ผู้สอนแจก ใบความรู้ที่ 7 สมบัติของวัสดุพร้อมอธิบายใบความรู้ สมบัติของวัสดุ ประกอบด้วย สมบัติทางเคมี (Chemical properties) เป็นสมบัติที่ส าคัญของวัสดุ ซึ่งจะบอกลักษณะเฉพาะตัวที่เกี่ยวกับโครงสร้าง และองค์ประกอบของธาตุต่างๆ ที่เป็นวัสดุนั้น ตามปกติสมบัตินี้จะทราบได้จากการทดลองใน ห้องปฏิบัติการเท่านั้น โดยใช้วิธีการวิเคราะห์แบบท าลาย หรือไม่ท าลายตัวอย่าง ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน
สมบัติทางกายภาพ (Physical properties) เป็นสมบัติเฉพาะของวัสดุ ที่เกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาของวัสดุนั้นกับพลังงานใน รูปแบบต่างๆ กัน เช่น ลักษณะของสี ความหนาแน่น การหลอมเหลว ปรากฎการณ์ที่เกิด เกี่ยวกับสนามแม่เหล็ก หรือสนามไฟฟ้า การทดสอบสมบัตินี้จะไม่ท าให้วัสดุนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีหรือถูกท าลาย สมบัติเชิงกล (Mechanical properties) เป็นสมบัติเฉพาะตัวของวัสดุที่ถูกกระท าด้วยแรง เกี่ยวกับการยืดและหดตัวของวัสดุ ความแข็ง ความสามารถในการรับน้ าหนัก ความสึกหรอ และการดูดกลืนพลังงาน สมบัติเชิงมิติ(Dimensional properties) เป็นสมบัติที่ส าคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องพิจารณาในการเลือกใช้วัสดุ เช่น ขนาด รูปร่าง ความคงทน ตลอดจนลักษณะของผิว ว่าหยาบ ละเอียด หรือเรียบ เป็นต้น ซึ่งสมบัติเหล่านี้ จะไม่มีก าหนดไว้ในหนังสือคู่มือ หรือในมาตรฐานแต่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะใช้เป็นข้อมูล ในการตัดสินใจด้วย 3. ผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มน าเสนอผลงาน โดยให้เวลากลุ่มละ 10 นาที โดยก าหนดให้แต่ละกลุ่ม ตั้งค าถามถามกลุ่มที่น าเสนอ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 1. เมื่อทุกกลุ่มน าเสนอเสร็จสิ้น ผู้สอนแจกใบงานที่ 3.2 สมบัติของวัสดุ โดยให้ผู้เรียนวาดภาพเทคโนโลยี ในจิตนาการ โดยไม่จ าเป็นต้องค านึงถึงการใช้งานได้จริงในปัจจุบัน พร้อมกับตั้งชื่อ และอธิบาย วิธีการใช้งาน พร้อมกับบอกว่า แต่ละส่วนจะใช้วัสดุใดในการสร้างชิ้นงาน เพราะอะไร 2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท าใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน าเพิ่มเติม 3. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยีเกิดจากปัญหา และความต้องการในชีวิตประจ าวันของมนุษย์ แต่หลายครั้ง เทคโนโลยีก็เกิดได้จากการจินตนาการ เพราะฉะนั้น นักเรียนสามารถจินตนาการ ถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เพื่อสร้างชิ้นงานเทคโนโลยีได้ ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2
4. ผู้สอนยกตัวอย่าง Smart Glasses แว่นอัจฉริยะที่สามารถถ่ายภาพและโทรได้แสดงผลได้ ซึ่งในอดีต แว่นตาอาจจะเป็นแค่เครื่องประดับ หรือช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับโรคทางสายตา แต่ในอนาคตแว่นตา สามารถเป็นได้ทั้งกล้อง และ Smartphone 5. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนสุ่มผู้เรียนเพื่อให้น าเสนอใบงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่นๆ ร่วมเสนอแนะ แสดงความคิดเห็น 6. ผู้สอน และผู้เรียนร่วมกันสรุป สมบัติของวัสดุ ประกอบด้วย สมบัติทางเคมี สมบัติทางกายภาพ สมบัติ เชิงกล สมบัติเชิงมิติในการสร้างสรรค์เทคโนโลยี ควรมีการวิเคราะห์สมบัติของวัสดุที่เลือกใช้ เพื่อให้ เหมาะสมกับลักษณะของชิ้นงาน เพื่อให้ชิ้นงานออกมามีคุณภาพและเกิดประโยชน์กับผู้ใช้งาน 7. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพเก้าอี้ 2. ใบความรู้ที่ 7 สมบัติของวัสดุ 3. กิจกรรมน าเสนอสมบัติของวัสดุ 4. ใบงานที่ 3.2 สมบัติของวัสดุ 0 ขั้นสรุป
10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 3.2 สมบัติของวัสดุ แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมกลุ่ม จากการมีส่วนร่วม ในกิจกรรมน าเสนอสมบัติของ วัสดุ แบบประเมินพฤติกรรมกลุ่ม คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์
แบบบันทึกหลังแผนการสอน เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน จ านวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 สมบัติและการเลือกใช้วัสดุ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน (…………………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหารสถานศึกษา (…………………..…………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
บันทึกหลังสอนแผนการสอน 1. ผลการสอนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก ................................................................................. 2. ผลที่เกิดกับผู้เรียน 1.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.......................................... ได้แก่ ............................................................................................................................. ............................................... 2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ......................................... ได้แก่ ..................................................................................................... ...................................................................... 3.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์เรียน โดยใช้………………………............................................. พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.............. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ....................... ได้แก่ ...................................................................................................................... ..................................................... 3. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .................................................................................................................................................... 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ............................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ......................................................................................... .............................................................................................................. ................................................ ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวรัตน์จรี จิตรนารี) วันที่......../.................../.................
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา ต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………….…… ลงชื่อ................................................................ (นางสาวกนกวรรณ ทองเกตุ) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน จ านวน 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เครื่องมือช่างพื้นฐาน เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการด ารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาสม โดยค านึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม 2. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เครื่องมือช่างมีหลายชนิด หลายประเภท แต่ละชนิดจะมีลักษณะหน้าที่ในการใช้งานแตกต่างกันไป ตามลักษณะของงานนั้น เป็นอุปกรณ์ที่จ าเป็นในการสร้างชิ้นงาน ช่วยในการผ่อนแรง จึงมีความส าคัญ ในการเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับงาน ค านึงถึงความปลอดภัย และข้อควรระวังในการใช้งาน 3. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.1/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า หรือ อิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและปลอดภัย จุดประสงค์ 1. อธิบายลักษณะของเครื่องมือแต่ละประเภทได้(K) 2. เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับงาน (P) 3. เห็นความส าคัญของการเลือกใช้งานเครื่องมือในการสร้างสรรค์เทคโนโลยี (A) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8
4. สาระการเรียนรู้ 1. วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพื่อเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน 2. การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้เรื่องกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์เช่น LED บัซเซอร์มอเตอร์วงจรไฟฟ้า 3. อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน หรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรู้จักเก็บรักษา 5. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภาระงาน 1. กิจกรรม หัว ท้าย ตายแน่ 2. ใบงานที่ 3.3 เครื่องมือช่าง 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
1. ผู้สอนให้ผู้เรียนน ากระดาษเปล่าขึ้นมา พร้อมกับปากกา เพื่อท ากิจกรรม หัว ท้าย ตายแน่ โดย มีวิธีการเล่น คือ ให้เวลา 1 นาที ให้ผู้เรียน เขียนรายการเครื่องมือช่างที่นักเรียนรู้จัก ใครเขียนได้น้อย ที่สุด และใครเขียนได้มากที่สุด จะต้องโดนท าโทษ ด้วยการที่เมื่อจบชั่วโมง จะต้องสรุปเนื้อหาที่ได้ เรียนรู้ให้นักเรียนคนอื่นๆฟัง 2. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน และเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม ของผู้เรียน เช่น “หากนักเรียนต้องการทราบขนาดความยาวของที่นอน เพื่อต้องการจะซื้อผ้าปูที่ นอน-ขนาดที่พอดีกัน นักเรียนจะใช้เครื่องมือใดในการวัดขนาดของที่นอน” แนวค าตอบ : ใช้ตลับเมตร ในการวัดขนาดของที่นอน 3. ผู้สอนเปิด Slide สื่อการสอนประเภทของเครื่องมือที่ใช้ในงานช่างพื้นฐาน พร้อมอธิบาย ประเภทของเครื่องมือที่ใช้ในงานช่างพื้นฐาน สามาแบ่งตามประเภทการใช้งานได้ ดังนี้ เครื่องมือวัด เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัด เพื่อบอกระยะหรือขนาดในการก าหนดต าแหน่ง ตรวจสอบระยะหรือ ขนาดความกว้าง ความยาว ความสูง หรือความหนาของวัสดุชิ้นงาน ไม้บรรทัดเหล็ก การใช้งาน เป็นเครื่องมือส าหรับวัดความยาวของวัตถุในแนวระนาบและช่วยในการขีดเส้นให้ตรง ท าจากวัสดุหลายประเภท เช่น พลาสติก ไม้อะลูมิเนียม เหล็ก และมีหลายขนาด ตั้งแต่ 14 เซนติเมตรจนถึง 100 เซนติเมตรในหนึ่งไม้บรรทัด ข้อควรระวัง ควรเลือกใช้ไมบรรทัดให้ตรงกับประเภทของงาน ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน
ตลับเมตร การใช้งาน เป็นเครื่องมือใช้ส าหรับวัดระยะทางหรือวัตถุที่มีขนาดตั้งแต่ 0-10 เมตร สายวัดท า จากแผ่นเหล็กบาง สามารถม้วนเก็บได้ปลายสายมีขอเกี่ยวส าหรับเกี่ยวให้ติดกับวัตถุที่ต้องการวัด ข้อควรระวัง การม้วนสายเข้าเก็บในตลับ ควรใช้มือจับช่วยผ่อนแรงไม่ให้สายวัดหมุนเข้าตลับ เร็วจนเกินไป เพราะอาจท าให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ได้ ไม้โพรแทรกเตอร์ การใช้งาน เป็นเครื่องมือใช้ส าหรับวัดมุมมีทั้งแบบครึ่งวงกลมและสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน่วยการวัด ขนาดของมุมเรียกว่า องศา ข้อควรระวัง ไม่ควรขีด หรอทื าเครื่องหมายลงบนไม้โพรแทรกเตอร์เพราะอาจท าให้เส้น หรือตัวเลขลบเลือนได้ เครื่องมือตัด เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตัดชิ้นงานให้แยกออกจากกัน กรรไกร การใช้งาน ใช้ส าหรับการตัดวัสดุให้เป็นเส้นตรงเส้นโค้ง หรือเส้นหยัก กรรไกรมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของงานเช่น ตัดกระดาษ ตัดผ้า ตัดเหล็ก ตัดพลาสติก ข้อควรระวัง ในปฏิบัติงานจ าเป็นต้องเลือกใช้กรรไกรให้เหมาะสมกับประเภทของวัสดุ เช่น กรรไกรตดกระดาษ ักรรไกรตัดผ้า กรรไกรตัดโลหะ คัตเตอร์ การใช้งาน เป็นเครื่องมือส าหรับตัด ปอก ขูด เหมาะส าหรับตัดกระดาษ พลาสติกลูกฟูก ไม้บัลซา ที่เป็นลักษณะของการตัดตรง ขูดลับความคมของดินสอ ข้อควรระวัง คัตเตอร์เป็นของมีคม ควรใชงานอย ้ ่างระมัดระวังหากวัสดุเป็นแผ่นหนา ไม่ควรใช้ แรงกดมากเกินไปเพื่อให้วัสดุขาดจากกันในครงเดั้ ียว ควรกรีดหรือตัดซ้ํารอยเดิม หลาย ๆ ครั้ง เพื่อความปลอดภัย เลื่อยฉลุ การใช้งาน เป็นเครื่องมือส าหรับงานไม้เหมาะส าหรับงานตัดโค้ง ท าลวดลายกับชิ้นงานไม้ ที่ไม่หนาและใหญ่มาก ข้อควรระวัง เมื่อเลิกใช้งานควรถอดใบเลื่อยออกจากโครงเลื่อยฉลุทันที เลื่อยลันดา การใช้งาน เหมาะส าหรับตัดไม้ทั่วไป ตัวเลื่อยท าจากเหล็ก ส่วนมือจับท าด้วยไม้หรือพลาสติก ข้อควรระวัง ใบเลื่อยเป็นของมีคม ดังนั้นควรใช้งานด้วยความระมัดระวัง ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
คีมตัด การใช้งาน ใช้ส าหรับงานตัด ปอกวัสดุชิ้นเล็กที่ไม่แข็งมากนัก เช่น สายไฟ เส้นลวด ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้คีมตัดโลหะที่มีขนาดใหญ่หรือหรือแข็งเกินไป เมื่อเลิกใช้งานควร ท าความสะอาดเก็บเข้าที่และหยอดน้ ามันเสมอ เครื่องมือส าหรับยึดติด เป็นเครื่องมือที่ใช้ยึดติดอุปกรณ์ กาวลาเท็กซ์ การใช้งาน เหมาะส าหรับยึดติดวัสดุประเภทไม้กระดาษผ้า กาวชนิดนี้แห้งช้า ควรทิ้งไว้ สักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะไม้ควรทิ้งไว้ข้ามคืน เมื่อกาวแห้งแล้ว จะยึดติดวัสดุได้แน่นมาก กาวชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายมาก ผู้ใช้งานที่เป็นเด็กสามารถใช้งานได้ ข้อควรระวัง ใช้งานเสร็จควรปิดฝาเพื่อป้องกันการแห้งของกาว กาวร้อน การใช้งาน ยึดติดวัสดุต่าง ๆ ได้เกือบทุกชนิด แห้งเร็วมากเหมาะส าหรับวัสดุประเภทยาง พลาสติก โลหะ เซรามิก ข้อควรระวัง ต้องระวังไม่ให้สัมผสกั ับผิวหนัง หากถูกสัมผัสให้ล้างออกโดยเร็วด้วยน้ า และไขมัน เมื่อใช้งานเสร็จควรปิดฝาเก็บให้มิดชิด กาวยาง การใช้งาน ใช้ยึดติดวัสดุต่าง ๆ ได้เกือบทุกประเภทเนื้อกาวมีลักษณะเป็นของเหลวมีทั้งที่ เป็นสีเหลืองและสีใส เมื่อทากาวแล้วควรทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง เหมาะส าหรับงานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานซ่อมแซมต่าง ๆ ข้อควรระวัง กาวชนิดนี้ละลายน้ําได้จึงไม่เหมาะกับงานที่ต้องใช้กลางแจ้งหรือที่ต้องสัมผัสกับน้ า กาวแท่ง การใช้งาน ใช้ยึดติดวัสดุประเภทกระดาษเนื้อกาวมีลักษณะเป็นของแข็งแฉะ เนื้อกาวติดเรียบ ไม่เลอะเทอะ ไม่ท าให้กระดาษย่น ข้อควรระวัง ใช้งานเสร็จ ควรปิดฝาเก็บให้เรียบร้อย ปืนกาว การใช้งาน ใช้ส าหรับงานยึดติดวัสดุประเภทกระดาษไม้ยาง พลาสติก ข้อควรระวัง การใช้งานควรระวังไม่ให้สัมผัสกับกาวเนื่องจากมีความร้อนค่อนข้างสูง
สกรูและนอต การใช้งาน ใช้ยึดชิ้นงานที่เป็นโลหะเข้าด้วยกัน โดยต้องเจาะรูชิ้นงานขนาดพอดีกับสกรูแล้วจึง ขัน สกรูและนอตสามารถถอดและยึดเพื่อประกอบชิ้นงานใหม่ได้ ข้อควรระวัง การขันเข้าสกรกู ับนอต ต้องวางต าแหน่งให้ตรงกันก่อนขัน เพราะอาจท าให้ เกลียวช ารุดได้ ไขควง การใช้งาน เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้ส าหรับขันหรือคลายสกรูโดยลักษณะของไขควงนั้น ประกอบด้วยด้ามจับ ล าตัวหรือก้าน และปากไขควง โดยสามารถแยกประเภทของไขควงได้ 2 ประเภท คือ ไขควงปากแบน และไขควงปากแฉก ข้อควรระวัง เลือกขนาดไขควงให้เหมาะสมกับหัวสกรู เครื่องมือส าหรับเจาะ เป็นการเครื่องมือที่ใช้ส าหรับเจาะชิ้นงาน เพื่อให่ได้รูตามที่ต้องการ ที่เจาะกระดาษ การใช้งาน เป็นเครื่องมือใช้ส าหรับในการเจาะกระดาษมีหลายขนาด ท ามาจากเหล็ก ใช้เจาะ รูขนาดเล็กเหมาะส าหรับเจาะกระดาษ ข้อควรระวัง ไม่ควรเจาะกระดาษที่หนาจนเกินไป สว่านมือ การใช้งาน เป็นเครื่องมือเจาะรูที่ใช้ร่วมกับดอกสว่านมีเฟืองเป็นเครื่องผ่อนแรงช่วยขับดอก สว่านให้หมุนเจาะรูปลายดอกสว่านจะเป็นตัวเจาะวัสดุและน าเศษวัสดุที่ถูกเจาะออกไปจากรู ใช้เจาะรูขนาดเล็ก เหมาะส าหรบงานไม้ งานโลหะ งานพลาสติก ที่มีชิ้นงานไม่หนามาก ข้อควรระวัง การใส่ดอกสว่านควรจับยึดให้ดีถ้าใส่ดอกสว่านไม่ดีจะหลุดหรือหักได้ง่าย สว่านไฟฟ้า การใช้งาน เป็นเครื่องมือเจาะที่ใช้ร่วมกับดอกสว่าน ใช้ก าลังขับจากมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้ในการเจาะ รูในงานโลหะหรืองานไม้ปัจจุบันสว่านไฟฟ้าเป็นที่นิยมใช้กันมากกว่าสว่านชนิดอื่น ๆ เพราะมีความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา ประสิทธิภาพ ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้ดอกสว่านผิดประเภท เช่น ดอกสว่านเจาะคอนกรีตไม่ควรน าไปเจาะเหล็ก 4. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับงานจะต้องใช้ความรู้เรื่องสมบัติของวัสดุ และในการลงมือสร้างชิ้นงานต้องเลือกใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องมืออย่างเหมาะสมกับประเภทของวัสดุ ใช้อย่างถูกต้อง และค านึงถึงความปลอดภัยในการใช้งาน
1. ผู้สอนแจกใบงานที่ 3.3 เครื่องมือช่าง พร้อมอธิบายวิธีการท าใบงาน คือ ให้ผู้เรียนเขียนชื่ออุปกรณ์ วิธีการใช้งาน และข้อควรระวังการใช้งานให้ตรงกับรูปภาพที่ก าหนดให้ 2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท าใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน าเพิ่มเติม 3. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของเครื่องมือช่าง คือ 1. ช่วยให้การปฏิบัติงานเกิดผลส าเร็จและมีคุณภาพ 2. ท าให้กระบวนการท างานของช่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเกิดประโยชน์สูงสุด 3. ช่วยลดแรงในการท างาน 4. ผู้สอนสุ่มผู้เรียน 3 คน ให้น าเสนอใบงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น เสนอแนะแสดงความคิดเห็น หรือ เพิ่มเติมข้อมูลในส่วนที่ขาดหายไป 5. ผู้สอนเสนอแนะเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ได้เรียนรู้งานช่างจะได้ประโยชน์คือ ได้ความรู้ความสามารถที่จะใช้ เครื่องมือเครื่องใช้ได้อย่างถูกต้อง เข้าใจคุณสมบัติของวัสดุได้ดี ช่วยให้เกิดความประหยัด ท า ให้ยืดอายุ การใช้งานของเครื่องมือเครื่องใช้ สามารถใช้ความรู้ซ่อมแซมแก้ไขข้อขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ สามารถตรวจสอบความบกพร่องของอุปกรณ์ต่างๆ ได้และถ้าหากผู้เรียนสามารถพัฒนาฝีมือความรู้ จนเกิดความช านาญก็ยังสามารถที่จะเพิ่มรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวโดยประกอบเป็นอาชีพเสริม ควบคู่กับงานประจ า ซึ่งเป็นรายได้หลัก ก็จะท าให้เกิดประโยชน์สูงสุดขึ้นได้ในอนาตค 6. ผู้สอนให้นักเรียนที่ ท ากิจกรรมหัว ท้าย ตายแน่ ในต้นชั่วโมง ออกมาสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ให้นักเรียน คนอื่นๆฟัง ขั้นสรุป ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2
7. ผู้สอนสรุปให้ผู้เรียนเข้าใจว่า ประเภทของเครื่องมือที่ใช้ในงานช่างพื้นฐาน สามาแบ่งตามประเภทการ ใช้งานได้ ดังนี้คือ เครื่องมือวัด เครื่องมือตัด เครื่องมืดยึดติด และ เครื่องมือส าหรับเจาะ ในการลงมือ สร้างชิ้นงานต้องเลือกใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องมืออย่างเหมาะสมกับประเภทของวัสดุ ใช้อย่างถูกต้อง และค านึงถึงความปลอดภัยในการใช้งาน 8. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. กิจกรรม หัว ท้าย ตายแน่ 2. Slide สื่อการสอนประเภทของเครื่องมือที่ใช้ในงานช่างพื้นฐาน 3. ใบงานที่ 3.3 เครื่องมือช่าง 0 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 3.3 เครื่องมือช่าง แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล ในการให้ความร่วมมือใน กิจกรรม ท้าย ตายแน่ แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์
แบบบันทึกหลังแผนการสอน เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วัสดุและเครื่องมือช่างพื้นฐาน จ านวน 6 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เครื่องมือช่างพื้นฐาน เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน (…………………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหารสถานศึกษา (…………………..…………………………) ต าแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
บันทึกหลังสอนแผนการสอน 1. ผลการสอนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก ................................................................................. 2. ผลที่เกิดกับผู้เรียน 1.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.......................................... ได้แก่ ............................................................................................................................. ............................................... 2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบว่านักเรียนผ่าน การประเมินคิดเป็นร้อยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ......................................... ได้แก่ ..................................................................................................... ...................................................................... 3.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์เรียน โดยใช้………………………............................................. พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ.............. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ....................... ได้แก่ ...................................................................................................................... ..................................................... 3. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ .................................................................................................................................................... 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ............................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................. แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน ......................................................................................... .............................................................................................................. ................................................ ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน (นางสาวรัตน์จรี จิตรนารี) วันที่......../.................../.................
ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนา ต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………….…… ลงชื่อ................................................................ (นางสาวกนกวรรณ ทองเกตุ) ความคิดเห็นของหัวหน้าวิชาการ …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางสาวณัฐิญา คาโส) ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………… ลงชื่อ................................................ (นางผกา สามารถ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 กลไกไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ จ านวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 กลไก เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการด ารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาสม โดยค านึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม 2. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด กลไก หมายถึง ส่วนของอุปกรณ์ที่ท าหน้าที่ส่งผ่านการเคลื่อนที่ ท าให้มีการเปลี่ยนต าแหน่งจากต้นทางไป ยังปลายทางของการเคลื่อนที่ หรือท าหน้าที่เปลี่ยนทิศทาง ความเร็ว ลักษณะการเคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อน แรงให้ท างานได้ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.1/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า หรือ อิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและปลอดภัย จุดประสงค์ 1. อธิบายได้ว่ากลไกคืออะไร (K) 2. ออกแบบสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้กลไกในการท างานได้(P) 3. เห็นประโยชน์ของการใช้กลไกในชีวิตประจ าวัน (A) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9
4. สาระการเรียนรู้ 1. วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพื่อเลือกใช้ ให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน 2. การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้เรื่องกลไก ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์เช่น LED บัซเซอร์มอเตอร์วงจรไฟฟ้า 3. อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงาน หรือพัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทั้งรู้จักเก็บรักษา 5. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 4.1 สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้กลไกในการท างาน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ ของเล่นกลไกอัตโนมัติกิ้งก่าคลายเครียด จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=bmTTY9eJMiw 2. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน และเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม ของผู้เรียน เช่น “นักเรียนคิดว่าสิ่งประดิษฐ์อะไรที่มีความส าคัญมากที่สุดในโลก” แนวค าตอบ : ตามจินตนาการของนักเรียน 3. ผู้สอนแจกใบความรู้ที่ 8 กลไก พร้อมอธิบายใบความรู้ กลไก หมายถึง ส่วนของอุปกรณ์ที่ท าหน้าที่ส่งผ่านการเคลื่อนที่ ท าให้มีการเปลี่ยนต าแหน่งจาก ต้นทางไปยังปลายทางของการเคลื่อนที่ หรือท าหน้าที่เปลี่ยนทิศทาง ความเร็ว ลักษณะการเคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนแรงให้ท างานได้ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น การท างานของกลไกต้องอาศัยอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนเป็นตัวท าให้เกิดการท างานในลักษณะต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์แต่ละประเภทจะมีหน้าที่แตกต่างกันไป และจ าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องควบคุมการท างานให้ เป็นไปตามความต้องการ ล้อและเพลา ซึ่งเป็นกลไกอย่างง่ายและสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปในชีวิตประจ าวัน เป็นกลไก ที่ช่วยผ่อนแรงในการท างาน ประกอบด้วยวัตถุทรงกระบอก 2 อันที่มีขนาดแตกต่างกันและอยู่ติดกัน โดยวัตถุที่มีขนาดใหญ่เรียกว่า “ล้อ” และวัตถุที่มีขนาดเล็กกว่าเรียกว่า “เพลา” เมื่อล้อหรือเพลา หมุน จะท าให้อีกส่วนหมุนตาม เราน าหลักการล้อและเพลามาประยุกต์ใช้ใน 2 ลักษณะ คือ 1. ออกแรงหมุนล้อ จะท าให้เพลาหมุน ซึ่งช่วยในการผ่อนแรง เช่น ลูกบิดประตู ไขควง ที่เปิด กระป๋อง สว่านมือ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน
2. ออกแรงหมุนเพลา จะท าให้ล้อหมุน เช่น พัดลม ล้อรถยนต์ สว่านไฟฟ้า 4. ผู้สอนแจกใบงานที่ 4.1 สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้กลไกในการท างาน โดยให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน เพื่อออกแบบสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้กลไกในการท างาน ให้นักเรียนวาดภาพสิ่งประดิษฐ์พร้อมเขียนอธิบาย กลไกการท างานของสิ่งประดิษฐ์นั้น 5. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท าใบงาน โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน าเพิ่มเติม 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอใบงาน โดยให้กลุ่มอื่นๆ ตั้งค าถามเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ 2. ผู้สอนยกตัวอย่าง การท างานของล้อและเพลา เพิ่มเติม โดยผู้สอนแจกใบความรู้ที่ 9 ล้อและเพลา 1. ผ่อนแรงโดยการหมุนล้อ จะท าให้เพลาหมุน เช่น ไขควง เมื่อออกแรงหมุนด้ามจับ (ล้อ) ท าให้ส่วนที่ติดกับก้านไขควง (เพลา)หมุนตาม ลูกบิดประตู กลไกการล็อคประตูอยู่ภายในลูกบิด ซึ่งเป็นการยากในการหมุนเพลาเพื่อเปิดประตู ดังนั้นการเพิ่มส่วน ของด้ามลูกบิด (ล้อ) ช่วยท าให้ง่ายในการจับและเปิดประตูตาม ขั้นสอน (ต่อ) ชั่วโมงที่ 2
ที่เปิดกระป๋อง เมื่อออกแรงหมุนด้ามจับของที่เปิดกระป๋อง (ล้อ) ซึ่งมีชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับใบมีด (เพลา) ท าให้ใบมีด เปิดกระป๋องหมุนตาม 2. เมื่อออกแรงหมุนเพลา จะท าให้ล้อหมุน เช่น พัดลม กดสวิตช์เปิดพัดลม ไฟฟ้าท าให้แกนมอเตอร์(เพลา) หมุน ส่งผลให้ใบพัด (ล้อ) ที่ติดอยู่กับแกนมอเตอร์ หมุนตาม ล้อรถยนต์ เครื่องยนต์ท าให้เพลาล้อหมุน ส่งผลท าให้ล้อรถยนต์หมุนตาม รถยนต์จึงเคลื่อนที่ได้ สว่าน เครื่องมือชนิดหนึ่ง ใช้ส าหรับเจาะรูบนวัสดุหลายประเภท เป็นเครื่องมือที่ใช้บ่อยในงานไม้และงาน โลหะ ประกอบด้วยส่วนส าคัญคือดอกสว่านที่หมุนได้ 3. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุป ว่า การท างานของกลไกต้องอาศัยอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนเป็นตัวท าให้เกิด การท างานในลักษณะต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์แต่ละประเภทจะมีหน้าที่แตกต่างกันไป และจ าเป็นอย่างยิ่งที่ ต้องควบคุมการท างานให้เป็นไปตามความต้องการ และช่วยผ่อนแรงให้ท างาน และยังช่วยให้ได้งาน ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 4. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อการเรียนรู้ 1. คลิปวิดีโอ ของเล่นกลไกอัตโนมัติกิ้งก่าคลายเครียด 2. ใบความรู้ที่ 8 กลไก 3. ใบความรู้ที่ 9 ล้อและเพลา 4. ใบงานที่ 4.1 สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้กลไกในการท างาน ขั้นสรุป
0 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 4.1 สิ่งประดิษฐ์ ที่ใช้กลไกในการท างาน แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมกลุ่ม จากการให้ความร่วมมือ ในการท าใบงานที่ 4.1 สิ่งประดิษฐ์ที่ใช้กลไก ในการท างาน แบบประเมินพฤติกรรมกลุ่ม คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์