The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ครูพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ann milaela, 2023-05-30 01:15:13

แผนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ม1

ครูพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์

รายการตรวจสอบและกลั่นกรอง การใช้แผนจัดการเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาสังคมพื้นฐาน รหัสวิชา ส 21103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่1 จํานวน 20 ชั่วโมง/ภาคเรียน จํานวน 0.5 หน่วยกิต ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 25666 ความคิดเห็น ความคิดเห็น ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ...................................................................................................ลงชื่อ (นายธีระศักดิ์ยอดมณีย์) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ...................................................................................................ลงชื่อ (นางสาวณัฐิญา คาโส) หัวหน้าฝ่ายวิชาการ .......................................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................................................................ลงชื่อ ลงชื่อ (นางสาวณัฐชยา ถนิมกาญจน์) (นางผกา สามารถ) รองผู้อํานวยการโรงเรียน ผู้อํานวยการโรงเรียนพนมศึกษา


คําอธิบายรายวิชาพื้นฐาน วิชาประวัติศาสตร์ส21103 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 เวลา 20 ชั่วโมง จํานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาการใช้เวลา ช่วงเวลาและยุคสมัย ที่ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์ไทยความสําคัญของ เวลา และช่วงเวลาสําหรับการศึกษาประวัติศาสตร์ที่มาของศักราชที่ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์ไทย วิธีการเทียบศักราชต่าง ๆ ตัวอย่างการเทียบศักราช ตัวอย่างการใช้ศักราชต่าง ๆ ที่ปรากฏในเอกสาร ประวัติศาสตร์ไทย ความสัมพันธ์ของอดีตที่มีต่อปัจจุบันและอนาคต ความหมายและความสําคัญของ ประวัติศาสตร์และวิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีความสําคัญเชื่อมโยงกันในฐานะที่เป็นพลโลกตัวอย่าง หลักฐานในการศึกษาประวัติศาสตรไ์ทยสมัยสุโขทัย ทั้งหลักฐานชั้นต้น และหลักฐานชั้นรอง นําวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ไปใช้ศึกษาเรื่องราวของประวัติศาสตร์ไทยสมัยสุโขทัยและเหตุการณ์สําคัญสมัยธนบุรีปัจจัยทางภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ และการเมือง สังคมและวัฒนธรรมที่มีผลต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ตั้ง ความสําคัญและอิทธิพลของแหล่งอารยธรรม โบราณ ได้แก่แหล่งท่องเที่ยวหรือโบราณสถาน โบราณวัตถุในเขตธนบุรีแหล่งมาดกโลกในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีต่อพัฒนาการของสังคมไทยในปัจจุบัน โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการกลุ่ม กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีความรักชาติศาสน์กษัตริย์ภูมิใจในความเป็นไทย มีความ ซื่อสัตย์สุจริต ใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการทํางาน รหัสตัวชี้วัด ส4.1 ม1/1 , ม1/2 , ม1/3 ส 4.2 ม1/1, ม1/2 รวม 5 ตัวชี้วัด


โครงสร้างรายวิชา วิชาประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่1 ลําดับ ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระสําคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ําหนัก คะแนน 1 เวลาและการแบ่ง ยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์ส 4.1 ม.1/1 ม.1/2 เวลา ช่วงเวลา และการเทียบศักราชตาม ระบบต่างๆ มีความสําคัญต่อ การศึกษาประวัติศาสตร์ทําให้เห็น ความสัมพันธ์และความสําคัญของอดีตที่มีต่อปัจจุบันและอนาคต 6 2 วิธีการทางประวัติศาสตร์ส 4.1 ม.1/3 การนําวิธีการทางประวัติศาสตร์มาใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และประวัติศาสตร์สุโขทัย จะทําให้ได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ 7 3 สมัยก่อนสุโขทัย ในดินแดนไทย ส 4.3 ม.1/1 การศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทย จะทําให้เราเข้าใจพัฒนาการจาก ชุมชนโบราณมาสู่รัฐโบราณ ก่อนที่จะสถาปนาเป็นอาณาจักรสุโขทัย และการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของ อาณาจักรโบราณในดินแดนไทย 7


โครงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 หน่วยการเรียนรู้แผนการจัด การเรียนรู้วิธีสอน/กระบวนการ จัดการเรียนรู้ ทักษะการคิด เวลา (ชั่วโมง) หน่วยการเรียนรู้ที่1 เวลาและการแบ่ง ยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์1.ความสําคัญของ เวลาและช่วงเวลา - วิธีสอนแบบสืบเสาะหา ความรู้(Inquiry Method : 5E) 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการสรุปลง ความเห็น 4. ทักษะการสร้างความรู้ 1 2.การแบ่งยุคสมัย ทางประวัติศาสตร์- วิธีสอนแบบกระบวนการ กลุ่ม สัมพันธ์1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการสรุปลง ความเห็น 1 3.ตัวอย่างการใช้เวลา ช่วงเวลา ยุคสมัย และศักราชใน หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ - วิธีสอนโดยใช้กรณีตัวอย่าง 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการสรุปลง ความเห็น 4. ทักษะการสร้างความรู้ 1 4. ที่มาของศักราช - วิธีสอนแบบกระบวนการ กลุ่ม สัมพันธ์1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการสร้างความรู้1 5.การเปรียบเทียบ ศักราชแบบต่างๆ - วิธีสอนตามรูปแบบโมเดล ซิปปา (CIPPA Model) 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการสรุปลง ความเห็น 4. ทักษะการสร้างความรู้ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่2 วิธีการทาง ประวัติศาสตร์1.ความหมายและ ความสําคัญของ ประวัติศาสตร์ - วิธีสอนแบบกระบวนการ กลุ่ม สัมพันธ์1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการให้คําจํากัด ความ 2 2.วิธีการทาง ประวัติศาสตร์- วิธีสอนแบบสืบเสาะหา ความรู้(Inquiry Method : 5E) 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการให้คําจํากัด ความ 1 3. หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ไทย - วิธีสอนโดยการจัดการ เรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิค คู่คิดสี่สหาย 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการสร้างความรู้1


แผนการจดัการเรียนรู้วิธีสอน/กระบวนการ จดัการเรียนรู้ทกัษะการคิด เวลา (ชวั่ โมง) 4.การศึกษาประวัต-ิศาสตร์ท้องถิ่น - วิธีสอนโดยใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการตั้งสมมติฐาน 4. ทักษะการสร้างความรู้1 5. เหตุการณ์สําคัญ ในสมัยสุโขทัย - วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการเรียนความรู้ความเข้าใจ 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการตั้งสมมติฐาน 4. ทักษะการสร้างความรู้2 หน่วยการเรียนรู้ที่3 สมัยก่อนสุโขทัย ในดินแดนไทย 1. เรื่องราวสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ในดินแดนไทย - วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการตีความ 4. ทักษะการสรุปลง ความเห็น 1 2. พัฒนาการของชุมชน โบราณในภาคต่างๆ ของไทย - วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิค การต่อเรื่องราว (Jigsaw) 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการสรุปลง ความเห็น 1 3.การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนประเทศ ไทย - วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิค คู่คิดสี่สหาย 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการตีความ 1 4. พัฒนาการจากชุมชน มาสู่รัฐโบราณ - วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการตีความ 4. ทักษะการสรุปลงความเห็น1 5. รัฐโบราณและรัฐไทย ในดินแดนไทย - วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) 1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการตีความ 4. ทักษะการสรุปลงความเห็น 2 6. การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของ อาณาจักรโบราณ ก่อนสมัยสุโขทัย - วิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม สัมพันธ์1. ทักษะการสํารวจค้นหา 2. ทักษะการวิเคราะห์3. ทักษะการสรุปลงความเห็น1


แบบทดสอบก่อนเรียน- หลังเรียน ชุดที่1 คําชี้แจง: ให้นักเรียนเลือกคําตอบที่ถูกต้อง แล้วทําเครื่องหมาย X ลงในกระดาษคําตอบ 1. ข้อใดเป็นสิ่งที่จําเป็นในการศึกษาประวัติศาสตร์ก. รู้เวลาหรือช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์นั้น ข. มีหลักฐานชั้นต้นให้ค้นคว้ามากเพียงพอ ค. เป็นเหตุการณ์ที่เกิดในสมัยประวัติศาสตร์ง. ยังไม่เคยมีใครศึกษาเหตุการณ์นั้นมาก่อน 2. ทุกข้อเป็นความสัมพันธ์ของเวลาหรือ ช่วงเวลาที่มีต่อประวัติศาสตรย์กเว้นข้อใด ก. บอกให้รู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดมานานแล้วเท่าใด ข. บอกให้รู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นและสิ้นสุดเมื่อใด ค. บอกให้รู้ว่าเหตุการณ์ใดเกิดก่อนหลังเมื่อเปรียบเทียบกัน ง. บอกให้รู้ว่าเหตุการณ์ใดเป็นจริงเหตุการณ์ใดเป็นเท็จ 3. ข้อความใดต่อไปนี้ไม่อาจระบุเวลาทางประวัติศาตร์ได้ก. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ข. ก่อนสงครามเวียดนามยุติลง ค. แรกตั้งกรุงละโว้เป็นราชธานีง. สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง 4. ศักราชใดต่อไปนี้ที่มีอายุยาวนานที่สุด ก. มหาศักราช ข. คริสต์ศักราข ค. พุทธศักราช ง. ฮิจเราะห์ศักราช 5. เพราะอะไรเราจึงควรรู้จักวิธีการเทียบ ศักราช ก. ช่วยป้องกันมิให้ตีความหลักฐานผิด ข. จะได้ใช้เอกสารที่มีศักราชต่างกันได้ค. เพื่อประหยัดเวลาในการตีความ หลักฐาน ง. จะได้ใช้เอกสารที่เป็นของชนชาติอื่นได้6.“ ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอํานาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎร โดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยอม ยก อํานาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อํานาจนั้นโดย สิทธิ์ขาดและโดยไม่ฟังเสียง อันแท้จริง ของประชาราษฎร...”วันที่2 มีนาคม พ.ศ. 2477 เวลา 13 นาฬิกา 45 นาทีข้อความข้างต้นนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัตนโกสินทร์ศกที่เท่าใด ก. ร.ศ. 150 ข. ร.ศ. 157 ค. ร.ศ. 160 ง. ร.ศ. 167 7.“ ประวัติศาสตร์สมัยใหม่เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่กรุงคอนสแตนติโนเปิลแตก ในปีพ.ศ.1966 ”พ.ศ. 1966 สามารถเทียบได้ตรงกับคริสต์ศักราชใด ก. คริสต์ศักราช 1423 ข. คริสต์ศักราช 1234 ค. คริสต์ศักราช 1699 ง. คริสต์ศักราช 2509 8. ในการศึกษาประวัติศาสตร์ไทย เรา ควรกําหนดศักราชในการศึกษาเป็นอะไร เพื่อสะดวกแก่การทําความ เข้าใจ ของผู้อื่น ก. มหาศักราช เพราะเป็นศักราชที่ใช้มาแต่ครั้งสุโขทัย ข. จุลศักราช เพราะสามารถเทียบเป็นศักราชอื่นได้ง่าย ค. พุทธศักราช เพราะผู้คนสมัยปัจจุบันนิยมใช้ศักราชนี้ง. คริสต์ศักราช เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สากล


9. หลักฐานในข้อใดที่มิได้นํามาใช้ในการแบ่งยุคสมัยของประวัติศาสตร์สากล ก. เทคโนโลยีที่ทําเครื่องมือเครื่องใช้ข.เหตุการณ์สําคัญที่เกิดกับมนุษยชาติค. มีหลักฐานบ่งบอกถึงการใช้ตัวอักษร ง. การประกอบพิธีกรรมด้านลัทธิความเชื่อ 10. เรื่องราวสมัยก่อนประวัติศาสตร์แรกเริ่มสุดเราจะค้นพบหลักฐานตามข้อใด ก. ใช้สีแดงวาดภาพไว้ตามฝาผนังถ้ํา ข. นําหินมากะเทาะทําเป็นขวานหิน ค. รู้จักนํากระดูกสัตว์มาทําครื่องประดับ ง. การประดิษฐ์เครื่องดนตรีประเภทกลอง 11. ในการศึกษาประวัติศาสตร์ควรเริ่มต้นที่ขั้นตอนใดเป็นลําดับแรก ก. สํารวจตนเองว่าต้องการทราบเรื่องราวใด ข. ค้นคว้าหาหลักฐานแล้วตั้งประเด็นคําถาม ค. ตรวจดูว่ามีใครศึกษาเรื่องใดมาก่อนแล้วบ้าง ง. สอบถามผู้รู้ว่าอยากให้เราศึกษาประเด็นอะไร 12. วิธีการทางประวัติศาสตร์ขั้นตอนใดที่ผู้ศึกษาจะต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ ก. การกําหนดหัวเรื่อง ข. การรวบรวมหลักฐาน ค. การวิเคราะห์หลักฐาน ง. การเรียบเรียงนําเสนอข้อมูล 13. ข้อใดถือเป็นหลักฐานชั้นต้นทางประวัติศาสตร์ก. ผลสํารวจของนักโบราณคดีข. พิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ค. คําแปลศิลาจารึกที่อยู่ในเว็บไซด์ง. คําให้การของผู้ที่อยู่ในการชุมนุม 14.“ดังนั้น พอจะสรุปได้ว่า ช่วงปีครองราชย์ของพ่อขุนรามคําแหงมหาราช จึงควรที่จะใช้ช่วงปีพ.ศ. 1822 – 1841 เนื่องจากมีข้อมูลมารองรับข้อสันนิษฐานที่สมเหตุผลมากกว่า ”ข้อความนี้ถือเป็นขั้นตอนใดของวิธีการทางประวัติศาสตร์ก. การประเมินคุณค่าของหลักฐาน ข. การเรียบเรียงนําเสนอข้อมูล ค. การวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูล ง. การกําหนดหัวเรื่องที่จะศึกษา 15. วัตถุประสงค์ของการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาประวัติศาสตร์คืออะไร ก. ให้ตระหนักในความพากเพียรของบรรพบุรุษไทย ข. เห็นคุณค่าและความสําคัญของวิชาประวัติศาสตร์ค. ได้รับทราบเรื่องราวที่เป็นจริงมีหลักฐานมายืนยัน ง. พื่อฝึกให้เรียนรู้แล้วนําไปใช้กับ การศึกษาวิชาอื่น 16. พื้นที่แถบดินแดนไทยในสมัยโบราณถูกเรียกขานว่าสุวรรณภูมิเพราะเหตุใด ก. เป็นแหล่งผลิตทองคําที่มีคุณภาพ ข. ผู้คนใช้เหรียญทองคําในการซื้อขาย ค. เรียกตามชื่ออาณาจักรที่มีความยิ่งใหญ่ง. เป็นดินแดนที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์


17. วิถีการดํารงชีวิตของมนุษย์ยุคหินเก่ามีลักษณะสอดคล้องกับข้อใด ก. เก็บของป่า ล่าสัตว์อยู่อาศัยตามเพิงผา ข. เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์อยู่ตามที่ราบริมน้ํา ค. จับปลา เลี้ยงสัตว์เร่ร่อนไปตามทุ่งกว้าง ง. ทําหัตถกรรม ค้าขาย ตั้งบ้านเรือนเป็นกลุ่ม 18. ในทางประวัติศาสตร์พัฒนาการด้านใดของมนุษย์ที่มีความสําคัญยิ่งต่อการสร้างสมและสืบทอด ทางวัฒนธรรม ก. รู้จักใช้ภาษาพูดเพื่อสื่อสาร ข. การนําดินมาทําเครื่องปั้นดินเผา ค. ทําการเพาะปลูกและตั้งบ้านเรือน ง. อยู่รวมกันเป็นกลุ่มมีหัวหน้าปกครอง 19. ชุมชนที่มีลักษณะตามข้อใด จะมีแนวโน้มพัฒนาไปเป็นเมืองหรืออาณาจักรโบราณได้รวดเร็ว ก. ปิดกั้นไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาเยือน ข. มีจํานวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ค. ผู้คนเคยอยู่อาศัยติดต่อมาตั้งแต่ครั้งยุคหิน ง. เป็นศูนย์กลางการเดินทางและการค้า 20. อะไรเป็นปัจจัยสําคัญที่สุดที่ทําให้ชุมชนหลายแห่งในสุวรรณภูมิมีความ เจริญรุ่งเรืองและพัฒนา ไปเป็นรัฐโบราณ ก. ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมอินเดีย ข. ค้นพบวิธีนําเหล็กมาหลอมใช้แทนสําริด ค. การนําระบบการปกครองแบบชนเผ่ามาใช้ง. รู้จักวิธีใช้เรือเป็นพาหนะในการติดต่อ ขนส่ง เฉลย: 1. ก 11. ก 2. ง 12. ค 3. ก 13. ง 4. ง 14. ข 5. ข 15. ค 6. ข 16. ง 7. ก 17. ก 8. ค 18. ค 9. ง 19. ง 10. ข 20. ก


แบบวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล 1. ชื่อ – สกุล……………………….…………..อาย…ุ….ปีชื่อผู้ปกครอง……………………..…………................................ 2. ผลการเรียนในปีการศึกษาที่ผ่านมา ระดับชั้น ……….……….เกรดเฉลี่ย…………………….………....................... 3. ข้อมูลด้านสุขภาพ น้ําหนัก ……….….กก. ส่วนสูง……….……ซม. โรคประจําตัว……………….…..................... 4. ปัจจุบันอาศัยอยู่กับ ………………บ้านเลขที่………หมู่ที่..…..ถนน……….……..ซอย…………..…............................ตําบล………………อําเภอ…………………จังหวัด…………….รหัสไปรษณีย์……….โทร…………................................ 5. ผลการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลวิชา………...…………..ชั้น………………ปีการศึกษา……………..........................ที่รายการวิเคราะห์ผู้เรียน ผลการประเมินวิเคราะห์ผู้เรียน ดี ปานกลาง ปรับปรุง การปรับปรุงแก้ไข 1 ความรู้ความสามารถและ ประสบการณ์(1) ความรู้พื้นฐานของวิชา……………. (2) ความสามารถในการอ่าน (3) ความสนใจและสมาธิในการเรียนรู้….. ….. ….. ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… 2 ความพร้อมด้านสติปัญญา (1) ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์(2) ความมีเหตุผล (3) ความสามารถในการเรียนรู้….. ….. ….. ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… 3 ความพร้อมด้านพฤติกรรม (1) การแสดงออก (2) การควบคุมอารมณ์(3) ความมุ่งมั่น อดทน ขยันหมั่นเพียร (4) ความรับผิดชอบ ….. ….. ….. ….. ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… ………………


ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของคร…ู………………………………………………………………………………………...................... ……………………………………………………………………………………………………………………………….................................ลงชื่อ (นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์) ครูผู้สอน 4 ความพร้อมด้านร่างกาย (1) ด้านสุขภาพร่างกายสมบูรณ์(2) การเจริญเติบโตสมวัย (3) ความสมบูรณ์ทางด้านสุขภาพจิต ….. ….. ….. ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… 5 ความพร้อมด้านสังคม (1) การปรับตัวเข้ากับผู้อื่น (2) การช่วยเหลือ เสียสละ แบ่งปัน (3) การเคารพครูกติกา และมีระเบียบ….. ….. ….. ……………… ……………… ……………… ……………… ……………… ………………


สรุปการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคล วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 21103 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 (ชั้น ม.1/1) ที่ชื่อ-สกุล เก่ง ปานกลาง อ่อน/ปรับปรุง หมายเหต1 เด็กชายเกรียงศักดิ์ทิพย์พิมล 2 เด็กชายคณพัชญ์มากแก้ว 3 เด็กชายจักริน ซุยจินา 4 เด็กชายดิชพงศ์หีตจินดา 5 เด็กชายธนพล ประหารภาพ 6 เด็กชายธนพล ศรัทธาสุข 7 เด็กชายธนวัฒน์พุ่มด้วง 8 เด็กชายธีระภัทร ล่าสกุล 9 เด็กชายนราวิชญ์พิพัฒน์ 10 เด็กชายปุณยวีร์วิเศษสมบัติ 11 เด็กชายผไทเทพ ประถิ่น 12 เด็กชายพงศ์เทพ ชุมชุ่ม 13 เด็กชายรภีภัทร ขําช่วย 14 เด็กชายวทัญญูรัตนชัย 15 เด็กชายวรวัตร วัชนะ 16 เด็กชายสิรภพ บุญทองเนียม 17 เด็กชายอธิวัฒน์โกหนด 18 เด็กชายอนุชิต อัสสาภัย 19 เด็กชายอัครชัย ช่วยผล 20 เด็กหญิงกนกวรรณ จรูญ 21 เด็กหญิงกลมวรรณ เซ่งอิ่ม 22 เด็กหญิงกันยภัค ทองทา


ลงชื่อ (นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์) ครูผู้สอน ที่ชื่อ-สกุล เก่ง ปานกลาง อ่อน/ปรับปรุง หมายเหตุ23 เด็กหญิงจริญา คีรีเพ็ชร 24 เด็กหญิงญาณิศา แก้วปลอด 25 เด็กหญิงณัฐธิดา ศรีรักษา 26 เด็กหญิงนรินทิพย์มิสมร 27 เด็กหญิงนันทิกานต์จันทรศรี 28 เด็กหญิงบุษกร กองกุล 29 เด็กหญิงปาริฉัตร กิ่งเเก้ว 30 เด็กหญิงปิยดา มาดงพอง 31 เด็กหญิงภรณ์ทิพย์พลนาจร 32 เด็กหญิงรัตนาภรณ์ศรีทัพ 33 เด็กหญิงศันศนีย์ชูศิริ 34 เด็กหญิงเสาวณีย์ชูนิล 35 เด็กหญิงอรกานต์สงทอง


สรุปการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคล วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 21103 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 (ชั้น ม.1/2) ที่ชื่อ-สกุล เก่ง ปานกลาง อ่อน/ปรับปรุง หมายเหต1 เด็กชายกมลเทพ จันทบุตร 2 เด็กชายเขตโสภณ ปานจีน 3 เด็กชายชิษณุพงศ์ปิ่นเพชร 4 เด็กชายฐิติวัฒน์สวนแก้ว 5 เด็กชายธนโชติศรชนะ 6 เด็กชายธนพนน์แก้วกันทะ 7 เด็กชายธนวัฒน์พรหมแก้ว 8 เด็กชายธีกานต์พูลเงิน 9 เด็กชายธีรภัทร วิชัยดิษฐ 10 เด็กชายบอล 11 เด็กชายพลรัฐศักดิ์ทองจันทร์ 12 เด็กชายวสุพล สุปันตี 13 เด็กชายศิริโชค เหมือนขาว 14 เด็กชายสิทธิพร อําลอย 15 เด็กชายสุทธิพงศ์ทิพย์พิมล 16 เด็กชายสุทธิพจน์หลวงปลอด 17 เด็กชายอนุเทพ ศรีเทพ 18 เด็กชายอรรถพร จันทรรัตน์ 19 เด็กหญิงกรณิกา เเสนภูมี 20 เด็กหญิงกัณธิชา เส้งเซ่ง 21 เด็กหญิงฐานิดา วิเชียร 22 เด็กหญิงณัฐฏณิชา สวัสดีเมือง


ลงชื่อ (นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์) ครูผู้สอน ที่ชื่อ-สกุล เก่ง ปานกลาง อ่อน/ปรับปรุง หมายเหตุ23 เด็กหญิงนฤมล ชํานาญเพชร 24 เด็กหญิงปอปภัทร ยืนยง 25 เด็กหญิงปัณฑิตา เหล่าบุญกล่อม 26 เด็กหญิงปานตะวัน คงเนียม 27 เด็กหญิงพชิรา ทองสัมฤทธิ์ 28 เด็กหญิงศรีกานดา ศชนะ 29 เด็กหญิงศิริวรรณ สุริยา 30 เด็กหญิงสุชานนท์จันทร์คง 31 เด็กหญิงสุภัสสรา สวนแก้ว 32 เด็กหญิงสุมินตรา ชูเพชร 33 เด็กหญิงสุวารีภูวะกง 34 เด็กหญิงอติกานต์ท่าชี 35 เด็กหญิงอรปรียา พานเพ็ง


สรุปการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคล วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 21103 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 (ชั้น ม.1/3) ที่ชื่อ-สกุล เก่ง ปานกลาง อ่อน/ปรับปรุง หมายเหต1 เด็กชายกันตพงศ์แซ่ลิ้ม 2 เด็กชายกิตติกร เขียดสง 3 เด็กชายกิตติมศักดิ์ชูศรี 4 เด็กชายธนภัทร จํานงค์จิตร 5 เด็กชายธนัทเทพ ศิริชัย 6 เด็กชายธามธาวิน ศรัทธาสุข 7 เด็กชายธีรเทพ แก้ววัดปริง 8 เด็กชายพรพิพัฒน์รักกะเปา 9 เด็กชายพลกริช รัตนะ 10 เด็กชายภูมิรพีเรืองอ่อน 11 เด็กชายภูวไนย ทิพย์มณเฑียร 12 เด็กชายรัฐภูมินวลละออง 13 เด็กชายวรยศ พิมพิลา 14 เด็กชายสันฐิติสุรินราช 15 เด็กชายสุตนันท์พวงประดิษฐ์ 16 เด็กชายสุวรรณรัตน์พิษครุฑ 17 เด็กชายอภิสิทธิ์อินทรพานิช 18 เด็กชายอัมรินทร์ทองขําดี 19 เด็กหญิงณัฏฐณิชา ปานแก้ว 20 เด็กหญิงณัฐณิชา เกตุแทน 21 เด็กหญิงณัฐธิดา สัมพันธ์ 22 เด็กหญิงณัฐธิดา สุวรรณเสน


ลงชื่อ (นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์) ครูผู้สอน ที่ชื่อ-สกุล เก่ง ปานกลาง อ่อน/ปรับปรุง หมายเหตุ23 เด็กหญิงธันยนิษญ์วรรณะ 24 เด็กหญิงธิดารัตน์พินโน 25 เด็กหญิงนภสร พุ่มแย้ม 26 เด็กหญิงนภัสสร ช่วยบํารุง 27 เด็กหญิงบัณฑิตา มากชุม 28 เด็กหญิงประกายดาว อนันต์ 29 เด็กหญิงรัชฎาพร แสงชู 30 เด็กหญิงรุ่งไพลิน รักถิ่นเดิม 31 เด็กหญิงสมฤดีรักสีทอง 32 เด็กหญิงสลิลเกตน์คําเกิด 33 เด็กหญิงสุดารัตน์สีพิพิท 34 เด็กหญิงสุพิชญา สมศรี 35 เด็กหญิงอรนภา เหมมะนี


สรุปการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคล วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 21103 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 (ชั้น ม.1/4) ที่ชื่อ-สกุล เก่ง ปานกลาง อ่อน/ปรับปรุง หมายเหต1 เด็กชายกฤตกร เอ่งฉ้วน 2 เด็กชายกฤษฎา สโมสร 3 เด็กชายกิตติทุมรัตน์ 4 เด็กชายกิตติทัต สินสาคร 5 เด็กชายกิตติพงศ์ศรีกรด 6 เด็กชายเกรียงไกร วัชรศิริ 7 เด็กชายคธายุทธ หนูยก 8 เด็กชายชนกันต์จิตรภิรมย์ 9 เด็กชายณัฐนันธ์รักษ์มาศ 10 เด็กชายนพดล พินิจอักษร 11 เด็กชายพงศธร ดํามุณี 12 เด็กชายพัสกร นาคทอง 13 เด็กชายโมลี 14 เด็กชายสิทธการย์สุขเจริญ 15 เด็กชายอิทธิกร สุขอ่อน 16 เด็กหญิงกชพร สมนิล 17 เด็กหญิงกฤษติกานต์พรมมนตรี 18 เด็กหญิงกัญพัชญ์บุญลึก 19 เด็กหญิงกันต์กมล ทิมบํารุง 20 เด็กหญิงเกศรา ยวนกะเปา 21 เด็กหญิงคุณัญญา สุวรรณ์สอาด 22 เด็กหญิงจันทราภรณ์ตรีรินทร์


ลงชื่อ (นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์) ครูผู้สอน ที่ชื่อ-สกุล เก่ง ปานกลาง อ่อน/ปรับปรุง หมายเหตุ23 เด็กหญิงจิราวรรณ ชุมประเสริฐ 24 เด็กหญิงณภัชชา บัวหนุน 25 เด็กหญิงธมนวรรณ คําวอน 26 เด็กหญิงธัญรัตน์คุณสนอง 27 เด็กหญิงนันท์นภัส ชุ่มอักษร 28 เด็กหญิงนันท์นภัส ชูชาติ 29 เด็กหญิงพรพนา ท่าชี 30 เด็กหญิงพวงมณีขาวจิตต์ 31 เด็กหญิงพัชรมณฑ์เกตุขาว 32 เด็กหญิงพัณณิตา วราชัย 33 เด็กหญิงรุ่งนภา นาวีวงค์ 34 เด็กหญิงรุจิราภรณ์พูนจันทร์ 35 เด็กหญิงวรัทยา บุญชุม 36 เด็กหญิงวิชราภรณ์ศรีนาค 37 เด็กหญิงศิริศิลป์ชัยธรรม 38 เด็กหญิงศุภัทชานันร์เพชรช่วย 39 เด็กหญิงสุฑาทิพย์สุขศรี 40 เด็กหญิงอธิชนัน เภรี


สรุปการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคล วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 21103 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 (ชั้น ม.1/5) ที่ชื่อ-สกุล เก่ง ปานกลาง อ่อน/ปรับปรุง หมายเหต1 เด็กชายจิรกิตติ์นวลขาว 2 เด็กชายเจนณรงค์ไกรสิทธิ์ 3 เด็กชายชิษณุพงษ์บริสุทธิ์ 4 เด็กชายณัฐนนท์ศรีสวัสดิ์ 5 เด็กชายณัฐวุฒิคมขํา 6 เด็กชายธนดล ชูทรัพย์ 7 เด็กชายธนาวุฒิบุญชูวงค์ 8 เด็กชายบุญฤทธิ์ฤทธิกัน 9 เด็กชายศรรวริศ นพรัตน์ 10 เด็กหญิงกรกนก วิเชียรวงศ์ 11 เด็กหญิงกันยากร ช่วยบํารุง 12 เด็กหญิงจุฑามาศ ถึงเจริญ 13 เด็กหญิงชญาดา รักมาศ 14 เด็กหญิงชลธิชา เพ็ชรคงทอง 15 เด็กหญิงฐิติมา ทองสัมฤทธิ์ 16 เด็กหญิงณัชชา รัตนบุรี 17 เด็กหญิงณัฐชา สมคลองสก 18 เด็กหญิงณัฐธิกานต์พรประสิทธิ์ 19 เด็กหญิงณัฐธิดา สุขแก้ว 20 เด็กหญิงธนัญชนก ชูนิล 21 เด็กหญิงบุญยาพร คชเวช 22 เด็กหญิงปณิดา ธัญญชัยศิษฏ์


ลงชื่อ (นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์) ครูผู้สอน 23 เด็กหญิงปพิชญา ฤทธิกุล 24 เด็กหญิงปัญฐิตา สิทธิแดง 25 เด็กหญิงพิชญาภา แสงบ้านยาง 26 เด็กหญิงเพชรไพลิน ลิคูณ 27 เด็กหญิงภัทราวดีสมคลองศก 28 เด็กหญิงรุ่งไพลิน ศรีรักษา 29 เด็กหญิงวราภรณ์สิทธิเเดง 30 เด็กหญิงสุภษร โสดา 31 เด็กหญิงโสฐิดา นวลละออง 32 เด็กหญิงอาภัสรา สิทธิเชนทร์


แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เวลาและการแบ่งยุคทางประวัติศาสตร์เวลาเรียน 6 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระพื้นฐาน วิชาประวัติศาสตร์1 รหัสวิชา 21103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566เรื่อง ความสําคัญของเวลา ช่วงเวลา การนับเวลา เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์1. มาตรฐานการเรียนรู้สาระที่4 ประวัติศาสตร์มาตรฐานที่ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการ ทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ส 4.1 ม.1/1 วิเคราะห์ความสําคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ส 4.1 ม.1/2 เทียบศักราชตามระบบต่างๆ ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์2. สาระสําคัญ ความสําคัญของเวลาและช่วงเวลา การนับเวลา ที่สามารถเชื่อมโยงยุคสมัยทางประวัติศาสตร์กับการศึกษา การเทียบศักราช ที่ปรากฏในเอกสาร ประวัติศาสตร์ไทย เช่น จ.ศ./ม.ศ./ร.ศ./พ.ศ./ค.ศ. และ ฮ.ศ. การนับเวลา ในทางสุริยคติทางจันทรคติ3. สาระการเรียนรู้ความรู้(K) เวลากับประวัติศาสตร์ การนับเวลาในระบบสุริยคติ การนับเวลาในระบบจันทรคติทักษะ/กระบวนการ (P) ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) มีวินัย (The discipline) ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) 4. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตามหลักสูตรสถานศึกษา 5. การบูรณาการ บูรณาการร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ทักษะการพูดในที่ชุมชน ในการ วิเคราะห์สาเหตุและ ความสําคัญของข้อมูล 6. สมรรถนะสําคัญ (Capability) ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity) ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity) ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem solving abilities) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Ability to use life skills)


ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี(Capacity for Technological Application) 7. จุดประสงค์การเรียนรู้(Objective) 1. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความสําคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ได้(K) 2. นักเรียนเทียบศักราชตามระบบต่างๆ ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ได้(P) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าความสําคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์(A) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แบบฝึกหัด เรื่อง ความสําคัญของเวลา ช่วงเวลา การนับเวลา 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Learning Process) ขั้นนํา (Introduction) 1. ครูยกกรณีตัวอย่างและถามนักเรียนในชั้นเรียนว่า “ถ้าสมมุติว่ามีตัวแทนของนักเรียนมาบอกให้นักเรียนทุกคนทราบว่า คุณครูมอสให้ไปพบเพื่อที่จะชี้แจงรายละเอียดการทํารายงาน และคุณครูแอนก็ให้ไปพบ เช่นกันเพื่อที่จะสอนเสริมใน รายวิชาประวัติศาสตร์” คําถามก็คือ “นักเรียนจะสามารถไปพบคุณครูทั้ง 2 ท่านได้ถูกต้องตามการนัดหมายหรือไม่เพราะเหตุใด” จากนั้นครูและนักเรียนก็ร่วมกันแลกเปลี่ยนคําตอบ โดย ครูจะต้องพยายามอธิบายให้นักเรียนเห็น ความสําคัญของเวลา (แนวการตอบ เวลาถูกกําหนดขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์เข้าใจตรงกันว่าเหตุการณ์ใดควรมาก่อน-หลัง ดังนั้นการระบุเวลาที่ถูกต้องจึงมีประโยชน์ต่อการลําดับ เหตุการณ์ให้เข้าใจเรื่องราวได้อย่างถูกต้อง ไม่ผิดไปจากความจริง) 2. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน (Instruction) 3. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง ความสําคัญของเวลา ช่วงเวลา การนับเวลาโดยใช้สื่อ Prezi ประกอบการ อธิบาย เรียงลําดับเนื้อหา ดังนี้ เวลากับประวัติศาสตร์ การนับเวลาในระบบสุริยคติ การนับเวลาในระบบจันทรคติ4. ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อทบทวนความเข้าใจของนักเรียน โดยใช้เกม “คําทํานายกาลเวลา” (PowerPoint) ซึ่งมีขั้นตอนการจัดกิจกรรม ดังนี้ แบ่งนักเรียนในชั้นเรียนเป็น 3 กลุ่ม เท่าๆ กัน เพื่อทําการแข่งขันตอบคําถามสะสม คะแนนในการเล่นเกม กติกาการเล่นเกม จะให้นักเรียนแต่ละกลุ่มซึ่งเรียงตามลําดับ เปิดแผ่นป้ายหมายเลข ต่างๆ ที่ปิดคําใบ้เกี่ยวกับการนับเวลาตามระบบสุริยคติและจันทรคติครั้งละ 1 แผ่น ป้าย กล่าวคือ นักเรียนกลุ่มแรกเปิด 1 แผ่นป้าย เมื่อเปิดแล้วจะสามารถเลือกว่าจะ ตอบหรือจะยกให้กลุ่มต่อไป ถ้าเลือกที่จะตอบและตอบถูก กลุ่มนั้นก็จะได้รับคะแนน สะสม 1 คะแนน แต่ถ้าตอบผิดก็จะถูกตัดสิทธิการตอบในข้อนั้นๆ โดยเกมนี้จะมีข้อ คําถามทั้งหมด 4 ข้อ ขั้นสรุป (Conclusion) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญระหว่างการดําเนินกิจกรรมเกม ดังกล่าวข้างต้น 6. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง ความสําคัญของเวลา ช่วงเวลา การนับเวลา ในรูปแบบ Info graphic เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลังเรียน 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Learning Materials/Resources/Local Wisdom) 1. สื่อ Prezi เรื่อง ความสําคัญของเวลา ช่วงเวลา การนับเวลา 2. PowerPoint เกม “คําทํานายกาลเวลา”


3. Info graphic เรื่อง ความสําคัญของเวลา ช่วงเวลา การนับเวลา 4. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 11.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objectives) วิธีการวัด (Evaluation Methods) เครื่องมือวัด (Evaluation Instruments) เกณฑ์การประเมิน (Assessment Criteria) ด้านความรู้(K) 1.นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความสําคัญของเวลาในการศึกษา ประวัติศาสตร์ได้(K) ประเมินจากแบบตรวจใบงาน ต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน เรื่องความรู้ความเข้าใจการ นําไปใช้ทักษะ และจิตพิสัย ทุกช่องเกินร้อยละ 50 -แบบฝึกหัด เรื่อง ความสําคัญของเวลา ช่วงเวลา การนับเวลา ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่า ผ่านเกณฑ์ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนเทียบศักราชตามระบบ ต่างๆ ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ได้(P) การประเมินผลจากการสังเกต พฤติกรรมการทํางานกลุ่มต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมิน คือเกิน ร้อยละ 50 การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง ด้านคุณธรรมจริยธรรม (A) 1. มีวินัย (The discipline) 2. ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) การประเมินผลการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ นักเรียน คะแนนขึ้นอยู่กับการ ประเมินตามสภาพจริง การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง 12. ความเห็นผู้บังคับบัญชา ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................ลงชื่อ (………………………………………………) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงชื่อ (….…………………………………………..) รองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ลงชื่อ (….…………………………………………..) ผู้อํานวยการโรงเรียน…………………………


13.บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้(Post–Lesson Report) สรุปผลการจัดการเรียนรู้(Result of the Learning) K P A …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค (Problems/Obstacles) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการแก้ไข (Solutions Classroom research/ Extra teaching/ Behavior Monitoring/etc.) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ครูผู้สอน (………...…………………………………….) _______/_________/_______


ใบงานที่1 ความสําคัญของเวลาและช่วงเวลา คําชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ต่อไปนี้แล้ววิเคราะห์ตามประเด็นที่กําหนด สภาพการณ์ของกรุงศรีอยุธยาภายหลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จสวรรคต เมื่อ พ.ศ. 2148 เป็นต้นมา กําลังไพร่พลของอยุธยาขาดประสบการณ์ในการทําสงครามขนาดใหญ่มีแต่ทําสงครามขนาด ย่อมซึ่งใช้เวลาไม่นานประกอบกับพม่าได้ยกทัพใหญ่มาตีกรุงศรีอยุธยาทั้งทางเหนือและใต้และกวาดต้อนผู้คน และเสบียงอาหารมาตลอดทาง จนกระทั่งปิดล้อมกรุงศรีอยุธยาและยิงปืนใหญ่เข้าไปในพระนครอย่างต่อเนื่อง ทําให้กรุงศรีอยุธยาประสบกับภาวะขาดแคลนอาหาร ขาดกระสุนดินดําปืนใหญ่ขาดกําลังใจ และเหนื่อยล้า จนกระทั่งในที่สุดกรุงศรีอยุธยาก็ถูกทัพพม่าเข้ายึดไว้ได้ใน พ.ศ. 2310 1. ข้อความข้างต้นกล่าวถึงเหตุการณ์ใดในประวัติศาสตร์และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่2 เมื่อพ.ศ. 2310 ส่วนสาเหตุของการเสียกรุงนั้น มาจากความไร้ประสิทธิภาพในการทําสงครามของฝ่ายไทย ซึ่งว่างเว้นจากการทําศึกสงครามมานาน เกือบ 200 ปีจึง เกิดความประมาทในการป้องกัน ......อาณาจักร ขาดการฝึกฝนกําลังทัพและการป้องกันที่ดีเมื่อต้องทําศึกใหญ่กับพม่า บวกกับความขัดแย 2. เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อสังคมไทยอย่างไรบ้าง เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ไทยต้องเสียเอกราชให้กับพม่า ปราสาทพระราชวัง วัด บ้านเรือน ถูก ข้าศึกทําลายจน ไม่สามารถบูรณะให้ดีดังเดิมได้ส่วนผู้ที่รอดชีวิตต้องอพยพหลบหนีกระจัดกระจายกันไป บางส่วนถูกจับตัว ไปเป็นเชล 3. เหตุการณ์ดังกล่าวให้ข้อคิดสําคัญต่อคนไทยอย่างไรบ้าง เหตุการณ์ดังกล่าวให้ข้อคิดสําคัญต่อคนไทย คือ ให้ดํารงตนอยู่บนความไม่ประมาท หมั่น ฝึกปรือฝีมืออยู่เสมอ มีการวางแผนการรบที่ดีและที่สําคัญ ที่สุด คือ ความสามัคคีของคนในชาติซึ่งจะทําให้รักษาเอกราชของชาติบ้านเมือง ไ ว้ไ ด เหตุการณ์ดังกล่าวจึงเป็นเสมือนบทเรียนสําคัญให้คนไทยรุ่นหลังเรียนรู้ไว้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในทํานอ


ใบงานที่1 ความสําคัญของเวลาและช่วงเวลา คําชี้แจง ให้นักเรียนอ่านข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ต่อไปนี้แล้ววิเคราะห์ตามประเด็นที่กําหนด สภาพการณ์ของกรุงศรีอยุธยาภายหลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จสวรรคต เมื่อ พ.ศ. 2148 เป็นต้นมา กําลังไพร่พลของอยุธยาขาดประสบการณ์ในการทําสงครามขนาดใหญ่มีแต่ทําสงคราม ขนาดย่อมซึ่งใช้เวลาไม่นานประกอบกับพม่าได้ยกทัพใหญ่มาตีกรุงศรีอยุธยาทั้งทางเหนือและใต้และกวาดต้อน ผู้คนและเสบียงอาหารมาตลอดทาง จนกระทั่งปิดล้อมกรุงศรีอยุธยาและยิงปืนใหญ่เข้าไปในพระนครอย่าง ต่อเนื่อง ทําให้กรุงศรีอยุธยาประสบกับภาวะขาดแคลนอาหาร ขาดกระสุนดินดําปืนใหญ่ขาดกําลังใจ และ เหนื่อยล้า จนกระทั่งในที่สุดกรุงศรีอยุธยาก็ถูกทัพพม่าเข้ายึดไว้ได้ใน พ.ศ. 2310 1. ข้อความข้างต้นกล่าวถึงเหตุการณ์ใดในประวัติศาสตร์และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่2 เมื่อ พ.ศ. 2310 ส่วนสาเหตุของการเสียกรุงนั้น มาจากความไร้ประสิทธิภาพ ในการทําสงครามของฝ่ายไทย ซึ่งว่างเว้นจากการทําศึกสงครามมานานเกือบ 200 ปีจึง เกิดความประมาท ในการป้องกันอาณาจักร ขาดการฝึกฝนกําลังทัพและการป้องกันที่ดีเมื่อต้องทําศึก ใหญ่กับพม่า บวกกับความขัดแย้งแตกแยกกันเองภายในของคนไทย จึงมีผลทําให้กรุงศรีอยุธยาแตกพ่าย ในที่สุด 2. เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อสังคมไทยอย่างไรบ้าง เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ไทยต้องเสียเอกราชให้กับพม่า ปราสาทราชวัง วัด บ้านเรือน ถูกข้าศึก ทําลาย จนไม่สามารถบูรณะให้ดีดังเดิมได้ส่วนผู้ที่รอดชีวิตต้องอพยพหลบหนีกระจัดกระจายกันไป บางส่วนถูกจับตัวไปเป็นเชลย ถือเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของคนไทย 3. เหตุการณ์ดังกล่าวให้ข้อคิดสําคัญต่อคนไทยอย่างไรบ้าง เหตุการณ์ดังกล่าวให้ข้อคิดสําคัญต่อคนไทย คือ ให้ดํารงตนอยู่บนความไม่ประมาท หมั่นฝึกปรือฝีมืออยู่เสมอมีการวางแผนการรบที่ดีและที่สําคัญที่สุด คือ ความสามัคคีของคนในชาติซึ่งจะทําให้รักษาเอกราชของชาติบ้านเมืองไว้ได้เหตุการณ์ดังกล่าวจึงเป็นเสมือนบทเรียนสําคัญให้คนไทยรุ่นหลังเรียนรู้ไว้เพื่อไม่ให้เกิด เหตุการณ์ในทํานองเดียวกันนี้ขึ้นอีก


แผนการจัดการเรียนรู้ที่2 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เวลาและการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เวลาเรียน 6 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระพื้นฐาน วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา 21103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียยรัตน์1. มาตรฐานการเรียนรู้สาระที่4 ประวัติศาสตร์มาตรฐานที่ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ส 4.1 ม.1/1 วิเคราะห์ความสําคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ส 4.1 ม.1/2 เทียบศักราชตามระบบต่างๆ ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์2. สาระสําคัญ การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เป็นช่วงเวลาที่สังคมมีการเปลี่ยนแปลงจากสมัยก่อนประวัติศาสตร์มาเป็น การศึกษาจากงานเขียน เรียกว่า สมัยประวัติศาสตร์3. สาระการเรียนรู้ความรู้(K) สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยประวัติศาสตร์ทักษะ/กระบวนการ (P) ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) มุ่งมั่นในการทํางาน (Dedication and commitment to work) มีศักยภาพเป็นพลโลก (World citizenship) อนุรักษ์ความเป็นไทย (Conservation of Thailand) 4. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตามหลักสูตรสถานศึกษา 5. การบูรณาการ บูรณาการร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ทักษะการพูดในที่ชุมชน ในการวิเคราะห์สาเหตุและความสําคัญของข้อมูล 6. สมรรถนะสําคัญของผู้เรียน (Capability) ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity) ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี(Capacity for Technological Application)


7. จุดประสงค์การเรียนรู้(Objective) 1. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความสําคัญของการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ได้(K) 2. นักเรียนสามารถแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏได้(P) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าความสําคัญของการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์(A) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1.แบบฝึกหัด 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Learning Process) ขั้นนํา (Introduction) 1. ครูเ ปิด VDO เรื่อง ค น ยุค หิน (https://www.youtube.com/watch?v=RQc4NM6SAfw) เพื่อให้นักเรียนได้เห็นการดํารงชีวิตของคนในยุคดังกล่าว และครูกับนักเรียนก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดจากที่ได้ดูVDO ร่วมกัน ซึ่งครูจะเป็นผู้ชี้นําโดยการตั้งคําถามให้กับนักเรียนในชั้นเรียนได้ร่วมกันตอบ 2. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน (Instruction) 3. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการ อธิบาย เรียงลําดับเนื้อหา ดังนี้ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยประวัติศาสตร์ครูจะถามนักเรียนในระหว่างที่ทําการอธิบายเนื้อหาเป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ก่อนเข้าสู่เนื้อหาต่อไป 4. ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อทบทวนความเข้าใจของนักเรียน โดยใช้เกม “ยุคไหน....ใครบอกได้”ซึ่งมีขั้นตอนการจัดกิจกรรม ดังนี้ แบ่งนักเรียนในชั้นเรียนเป็น 5 กลุ่ม เท่าๆ กัน เพื่อทําการแข่งขันสะสมคะแนน กติกาการเล่นเกม ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มซึ่งเรียงตามลําดับ เปิดแผ่นป้ายหมายเลขต่างๆ ที่ปิดรูปภาพของหลักฐานทางประวัติศาสตร์หรือการดํารงชีวิตของมนุษย์ยุคต่างๆ (นักเรียน จะต้องตอบให้ถูกว่ารูปภาพนั้นๆ คือ ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ใด) ครั้งละ 1 แผ่นป้าย กล่าวคือ นักเรียนกลุ่มแรกเปิด 1 แผ่นป้าย เมื่อเปิดแล้วจะสามารถเลือกว่าจะตอบหรือ จะยกให้กลุ่มต่อไป ถ้าเลือกที่จะตอบและตอบถูก กลุ่มนั้นก็จะได้รับคะแนนสะสม 1 คะแนน แต่ถ้าตอบผิดก็จะถูกตัดสิทธิการตอบในข้อนั้นๆ โดยเกมนี้จะมีทั้งหมด 5 รูปภาพ ขั้นสรุป (Conclusion) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญระหว่างการดําเนินกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น 6. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ในรูปแบบ Info graphic เผยแพร่ในสื่อ สังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลังเรียน 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Learning Materials/Resources/Local Wisdom) 1. PowerPoint เรื่อง การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์2. PowerPoint เกม เรื่อง “ยุคไหน....ใครบอกได้” 3. Info graphic เรื่อง การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์4. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1


11. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objectives) วิธีการวัด (Evaluation Methods) เครื่องมือวัด (Evaluation Instruments) เกณฑ์การประเมิน (Assessment Criteria) ด้านความรู้(K) 1.นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความสําคัญของการแบ่งยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์ได้(K) ประเมินจากแบบตรวจใบงาน ต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน เรื่องความรู้ความเข้าใจการ นําไปใช้ทักษะ และจิตพิสัย ทุกช่องเกินร้อยละ 50 -แบบฝึกหัด ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่า ผ่านเกณฑ์ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนสามารถแบ่งยุคสมัยทาง ประวัติศาสตร์ตามหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ที่ปรากฏได้(P) การประเมินผลจากการสังเกต พฤติกรรมการทํางานกลุ่มต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมิน คือเกิน ร้อยละ 50 การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง ด้านคุณธรรมจริยธรรม (A) 1.ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) 2.มุ่งมั่นในการทํางาน (Dedication and commitment to work) 3.มีศักยภาพเป็นพลโลก (World citizenship) 4.อนุรักษ์ความเป็นไทย (Conservation of Thailand) การประเมินผลการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ นักเรียน คะแนนขึ้นอยู่กับการ ประเมินตามสภาพจริง การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง 12. ความเห็นผู้บังคับบัญชา ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................ลงชื่อ (………………………………………………) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงชื่อ (….…………………………………………..) รองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ลงชื่อ (….…………………………………………..) ผู้อํานวยการโรงเรียน…………………………


13.บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้(Post–Lesson Report) สรุปผลการจัดการเรียนรู้(Result of the Learning) K P A …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค (Problems/Obstacles) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการแก้ไข (Solutions Classroom research/ Extra teaching/ Behavior Monitoring/etc.) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ครูผู้สอน (………...…………………………………….) _______/_________/_______


ใบงานที่2 การแบ่งย ุ คสมัยทางประวัติศาสตร ์ คําชี้แจง ให้นักเรียนตอบคําถามต่อไปนี้1. การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์อาศัยหลักเกณฑ์ใดบ้าง 2. การแบ่งสมัยประวัติศาสตร์ตามแบบสากล มีกี่สมัย และแต่ละสมัยเริ่มต้นและสิ้นสุดลงเมื่อใด 3. การแบ่งสมัยประวัติศาสตร์ตามแบบสากลและแบบไทย เหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง


ใบงานที่2 การแบ่งย ุ คสมัยทางประวัติศาสตร ์ คําชี้แจง ให้นักเรียนตอบคําถามต่อไปนี้1. การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์อาศัยหลักเกณฑ์ใดบ้าง - สมัยก่อนประวัติศาสตร์อาจใช้หลักเกณฑ์การแบ่งตามเทคโนโลยีการทําเครื่องมือเครื่องใช้โดยแบ่งเป็นยุคหินกับยุคโลหะ หรือแบ่งตามลักษณะการดํารงชีวิตของมนุษย์โดยแบ่งเป็นยุคล่าสัตว์ที่มนุษย์รู้จักเก็บหาอาหาร ล่าสัตว์ป่า ยังไม่มีการตั้ง ถิ่นฐานที่ถาวร ยุคสังคมเกษตรกรรม มนุษย์รู้จักการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์มีการตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่รวมกัน เป็นชุมชน และ ยุคสังคมเมือง ชุมชนพัฒนาไปเป็นเมืองที่มีจํานวนประชากรมากขึ้น มีการจัดระเบียบการปกครอง เป็นต้นสมัย ประวัติศาสตร์จะใช้หลักเกณฑ์การแบ่งเมื่อมนุษย์รู้จักการประดิษฐ์ตัวอักษรเพื่อใช้บันทึกเรื่องราวต่างๆซึ่งอาจบันทึกลง บนกระดูก ไม้ไผ่แผ่นดินเหนียว ศิลา เป็นต้น 2. การแบ่งสมัยประวัติศาสตร์ตามแบบสากล มีกี่สมัย และแต่ละสมัยเริ่มต้นและสิ้นสุดลงเมื่อใด การแบ่งสมัยประวัติศาสตร์ตามแบบสากลมี4 สมัย ได้แก่1) ประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เริ่มตั้งแต่การประดิษฐ์ตัวอักษรของชาวซูเมเรียเมื่อ 3,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช จนถึงกรุงโรมของจักรวรรดิโรมันตะวันตกถูกพวกอนารยชนตีแตกใน ค.ศ. 476 2) ประวัติศาสตร์สมัยกลาง เริ่มภายหลังกรุงโรมแตก ค.ศ. 476 จนถึงพวกเติร์กตีกรุงคอนสแตนติโนเปิลของ จักรวรรดิไบแซนไทน์หรือจักรวรรดิโรมันตะวันออกแตกใน ค.ศ. 1453 3) ประวัติศาสตร์สมัยใหม่เริ่มภายหลังกรุงคอนสแตนติโนเปิลแตก จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 ใน ค.ศ.1945 4) ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เริ่มตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 จนถึงปัจจุบัน 3.การแบ่งสมัยประวัติศาสตร์ตามแบบสากลและแบบไทย เหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง การแบ่งสมัยประวัติศาสตร์ของไทยจะแตกต่างจากแบบสากลเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพสังคมไทย โดยสากลจะแบ่งออกเป็นสมัย โบราณ สมัยกลาง สมัยใหม่และสมัยปัจจุบันร่วมสมัย ส่วนไทยจะแบ่งสมัยประวัติศาสตร์ออกหลายแบบ เช่น แบ่งตามอาณาจักร เช่น สมัยทวารวดีสมัยละโว้สมัยศรีวิชัย แบ่งตามราชธานีเช่น สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา แบ่งตามราชวงศ์เช่น สมัยราชวงศ์พระร่วง สมัยราชวงศ์อู่ทอง สมัยราชวงศ์สุพรรณภูมิแบ่งตามรัชกาล เช่น สมัยพ่อขุนรามคําแหงมหาราช สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยรัชกาลที่1 แบ่งตามการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เช่น สมัย สมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นต้น


แผนการจัดการเรียนรู้ที่3 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เวลาและการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เวลาเรียน 6 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระพื้นฐาน วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา 21103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง ตัวอย่างการใช้เวลา ช่วงเวลายุคสมัยและศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์1. มาตรฐานการเรียนรู้สาระที่4 ประวัติศาสตร์มาตรฐานที่ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ส 4.1 ม.1/1 วิเคราะห์ความสําคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ส 4.1 ม.1/2 เทียบศักราชตามระบบต่างๆ ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์2. สาระสําคัญ การศึกษาช่วงเวลา ยุคสมัย และศักราชที่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย จะทําให้เข้าใจเรื่องราว ทางประวัติศาสตร์ที่มีความสําคัญต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติอีกทั้งยังสามารถเปรียบเทียบช่วงเวลาและ เหตุการณ์ของแต่ละศักราชที่ปรากฏในประเทศไทย 3. สาระการเรียนรู้ความรู้ เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ตัวอย่างศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย ทักษะ/กระบวนการ ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) มีวินัย (The discipline) ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) 4. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตามหลักสูตรสถานศึกษา 5. การบูรณาการ บูรณาการร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ทักษะการพูดในที่ชุมชน ในการวิเคราะห์สาเหตุและความสําคัญของข้อมูล 6. สมรรถนะสําคัญ (Capability) ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity) ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity) ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem solving abilities) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Ability to use life skills) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี(Capacity for Technological Application)


7. จุดประสงค์การเรียนรู้(Objective) 1. นักเรียนสามารถอธิบายเหตุการณ์สําคัญทางประวัติศาสตร์ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถยกตัวอย่างศักราชกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สอดคล้องได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าความสําคัญของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์กับช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลง (A) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แบบฝึกหัด เรื่อง ความสําคัญของเวลา ช่วงเวลา การนับเวลา 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Learning Process) ขั้นนํา (Introduction) 1. ครูทบทวนความรู้การเปรียบเทียบศักราชแบบต่างๆ โดยมีกติกาการเล่นดังนี้ แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มลุ่มละเท่าๆกัน 5 คน ครูแจกกระดาษโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการเปรียบเทียบศักราช กลุ่มไหนที่ตอบถูกกลุ่มแรกจะเป็นผู้ ได้คะแนน มีโจทย์ทั้งหมด 10 ข้อ ครูสรุปกิจกรรมและประกาศกลุ่มที่ชนะ 2. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน (Instruction) 3. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง ตัวอย่างการใช้เวลา ช่วงเวลายุคสมัยและศักราชในหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการอธิบายเพิ่มเติม 4. ครูจะถามนักเรียนในระหว่างที่ทําการอธิบายเนื้อหาเป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ก่อนเข้าสู่เนื้อหาต่อไป 5. นักเรียนสรุปความรู้และครูสุ่มนักเรียนออกมานําเสนอความรู้เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กับนักเรียนใน ห้องเรียน ขั้นสรุป (Conclusion) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญระหว่างการดําเนินกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น 6. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง ตัวอย่างการใช้เวลา ช่วงเวลายุคสมัยและศักราชในหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ในรูปแบบ Info graphic เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลัง เรียน 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Learning Materials/Resources/Local Wisdom) 1. PowerPoint เรื่อง ตัวอย่างการใช้เวลา ช่วงเวลายุคสมัยและศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์2. กระดาษโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการเปรียบเทียบศักราช 3. Info graphic เรื่อง ตัวอย่างการใช้เวลา ช่วงเวลายุคสมัยและศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์4. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1


11.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objectives) วิธีการวัด (Evaluation Methods) เครื่องมือวัด (Evaluation Instruments) เกณฑ์การประเมิน (Assessment Criteria) ด้านความรู้(K) 1.นักเรียนสามารถอธิบายเหตุการณ์สําคัญทางประวัติศาสตร์ได้ถูกต้อง (K) ประเมินจากแบบตรวจใบงาน ต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน เรื่องความรู้ความเข้าใจการ นําไปใช้ทักษะ และจิตพิสัย ทุกช่องเกินร้อยละ 50 -แบบฝึกหัด เรื่อง ตัวอย่าง การใช้เวลา ช่วงเวลายุค สมัยและศักราชใน หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่า ผ่านเกณฑ์ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนสามารถยกตัวอย่างศักราช กับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สอดคล้องได้ถูกต้อง (P) การประเมินผลจากการสังเกต พฤติกรรมการทํางานกลุ่มต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมิน คือเกิน ร้อยละ 50 การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง ด้านคุณธรรมจริยธรรม (A) 1. มีวินัย (The discipline) 2. ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) การประเมินผลการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ นักเรียน คะแนนขึ้นอยู่กับการ ประเมินตามสภาพจริง การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง 12. ความเห็นผู้บังคับบัญชา ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................ลงชื่อ (………………………………………………) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงชื่อ (….…………………………………………..) รองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ลงชื่อ (….…………………………………………..) ผู้อํานวยการโรงเรียน………………………


13.บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้(Post–Lesson Report) สรุปผลการจัดการเรียนรู้(Result of the Learning) K P A …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค (Problems/Obstacles) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการแก้ไข (Solutions Classroom research/ Extra teaching/ Behavior Monitoring/etc.) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ครูผู้สอน (………...…………………………………….) _______/_________/_______


3 การใช ้ ศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร ์ไทย คําชี้แจง ให้นักเรียนศึกษากรณีตัวอย่าง แล้วตอบคําถาม กรณีตัวอย่างที่1 “ครั้นศักราช ๘๙๑ ปีฉลูศก ญ วันอาทิตย์ขึ้น ๕ ค่ํา เดือน ๘ ขุนวรวงศาธิราชเจ้าแผ่นดิน คิดกันกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ให้เอา พระยอดฟ้าไปประหารชีวิตเสีย ณ วัดโคกพระยา แต่พระศรีศิลป์น้องชาย พระชนม์ได้เจ็ดพรรษานั้นเลี้ยงไว้สมเด็จพระยอดฟ้าอยู่ในราช สมบัติปีกับสองเดือน”ที่มา : พงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา 1. จากกรณีตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยใด สมัยกรุงศรีอยุธยา 2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นศักราชใด จุลศักราช 3.เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด วันอาทิตย์ขึ้น ๕ ค่ํา เดือน ๘ ปีฉลูเอกศก จุลศักราช ๘๙๑ กรณีตัวอย่างที่2 “...ภายหลังมานับถอยหลังขึ้นไปในรัตนโกสินทร์ศก ๘๕ มีจีนคนหนึ่งชื่อเจ๊กฮง จัดตั้งโรงรับจํานําขึ้นโรงหนึ่งที่ริมประตูผีนี้เอง...”ที่มา : วารสารวชิรญาณวิเศษ เล่ม ๖ รัตนโกสินทร์๑๐๕ 1. จากกรณีตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยใด สมัยกรุงรัตนโกสินทร์2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นศักราชใด รัตนโกสินทร์ศก 3. เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด รัตนโกสินทร์ศก ๘๕ กรณีตัวอย่างที่3 “เมื่อก่อนลายสือไทนี้บ่มี๑๒๐๕ ศก ปีมะแม พ่อขุนรามคําแหงหาใคร่ใจในใจ แลใส่ลายสือไทนี้ลายสือไทนี้จึ่งมีเพื่อพ่อขุนผู้นั้นใส่ไว้”ที่มา : ศิลาจารึกพ่อขุนรามคําแหงมหาราช ด้านที่๔ 1. จากกรณีตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยใด สมัยสุโขทัย 2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นศักราชใด มหาศักราช 3. เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด ๑๒๐๕ ศก ปีมะแม


ใบงานที่3 การใช ้ ศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร ์ คําชี้แจง ให้นักเรียนศึกษากรณีตัวอย่าง แล้วตอบคําถาม กรณีตัวอย่างที่1 “ครั้นศักราช ๘๙๑ ปีฉลูศก ญ วันอาทิตย์ขึ้น ๕ ค่ํา เดือน ๘ ขุนวรวงศาธิราชเจ้าแผ่นดิน คิดกันกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ให้เอา พระยอดฟ้าไปประหารชีวิตเสีย ณ วัดโคกพระยา แต่พระศรีศิลป์น้องชาย พระชนม์ได้เจ็ดพรรษานั้นเลี้ยงไว้สมเด็จพระยอดฟ้าอยู่ในราช สมบัติปีกับสองเดือน”ที่มา : พงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา 1. จากกรณีตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยใด สมัยกรุงศรีอยุธยา 2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นศักราชใด จุลศักราช 3. เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด วันอาทิตย์ขึ้น ๕ ค่ํา เดือน ๘ ปีฉลูเอกศก จุลศักราช ๘๙๑ กรณีตัวอย่างที่2 “...ภายหลังมานับถอยหลังขึ้นไปในรัตนโกสินทร์ศก ๘๕ มีจีนคนหนึ่งชื่อเจ๊กฮง จัดตั้งโรงรับจํานําขึ้นโรงหนึ่งที่ริมประตูผีนี้เอง...”ที่มา : วารสารวชิรญาณวิเศษ เล่ม ๖ รัตนโกสินทร์๑๐๕ 1. จากกรณีตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยใด สมัยกรุงรัตนโกสินทร์2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นศักราชใด รัตนโกสินทร์ศก 3. เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด รัตนโกสินทร์ศก ๘๕ กรณีตัวอย่างที่3 “เมื่อก่อนลายสือไทนี้บ่มี๑๒๐๕ ศก ปีมะแม พ่อขุนรามคําแหงหาใคร่ใจในใจ แลใส่ลายสือไทนี้ลายสือไทนี้จึ่งมีเพื่อพ่อขุนผู้นั้นใส่ไว้”ที่มา : ศิลาจารึกพ่อขุนรามคําแหงมหาราช ด้านที่๔ 1. จากกรณีตัวอย่างเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยใด สมัยสุโขทัย 2. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นศักราชใด มหาศักราช 3. เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด ๑๒๐๕ ศก ปีมะแม


แผนการจัดการเรียนรู้ที่4 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เวลาและการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เวลาเรียน 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระพื้นฐาน วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา 21103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง ที่มาของศักราช เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์1. มาตรฐานการเรียนรู้สาระที่4 ประวัติศาสตร์มาตรฐานที่ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ส 4.1 ม.1/1 วิเคราะห์ความสําคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ส 4.1 ม.1/2 เทียบศักราชตามระบบต่างๆ ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์2.สาระสําคัญ ที่มาศักราชตามระบบต่างๆ ที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทย มีความแตกต่างกันซึ่งย่อมส่งผลให้มีความสําคัญต่อการศึกษา การพัฒนา และความเจริญต่อประวัติศาสตร์ไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน 3. สาระการเรียนรู้ความรู้(K) ที่มาของศักราชที่ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์ไทย ได้แก่จ.ศ./ม.ศ./ร.ศ./พ.ศ./ค.ศ. และ ฮ.ศ.ทักษะ/กระบวนการ (P) ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) มีวินัย (The discipline) ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) 4. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตามหลักสูตรสถานศึกษา 5. การบูรณาการ บูรณาการร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ทักษะการพูดในที่ชุมชน ในการวิเคราะห์สาเหตุและความสําคัญของข้อมูล 6. สมรรถนะสําคัญ (Capability) ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity) ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity) ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem solving abilities) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Ability to use life skills) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี(Capacity for Technological Application)


7. จุดประสงค์การเรียนรู้(Objective) 1. นักเรียนสามารถอธิบายที่มาของศักราชที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทยได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนสามารถระบุเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับศักราชที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทยได้ถูกต้อง (P) 3. นักเรียนความสําคัญของแต่ละศักราชที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทยอีกทั้งยังเผยแพร่ความที่ได้อย่าง เหมาะสม (A) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แบบฝึกหัด เรื่อง ความสําคัญของเวลา ช่วงเวลา การนับเวลา 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Learning Process) ขั้นนํา (Introduction) 1. ครูเปิด VDO เรื่องศักราช...คืออะไร มีที่มายังไง https://www.youtube.com/watch?v=sde 2. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน (Instruction) 3. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง ที่มาของศักราชที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการอธิบายเพิ่มเติม 4. ครูจัดกิจกรรม “my era” ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ ครูให้นักเรียนศึกษาพร้อมทั้งเลือกศักราชที่สนใจคนละ 1 ศักราช นักเรียนศึกษาคามสําคัญที่มา พร้อมทั้งบรรยายเกี่ยวกับศักราชดังกล่าวดังนี้ว่ามีความสําคัญต่อ ประวัติศาสตร์ไทยอย่างไร 5. ครูสุ่มนักเรียนออกมานําเสนอผลงาน ขั้นสรุป (Conclusion) 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญระหว่างการดําเนินกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น 7. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง ที่มาของศักราชที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบ Infographic เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลังเรียน 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Learning Materials/Resources/Local Wisdom) 1. PowerPoint เรื่อง ที่มาของศักราชที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทย 2. วีดีโอศักราช...คืออะไร มีที่มายังไง https://www.youtube.com/watch?v=sdeF9NOpyZA 3. Info graphic เรื่อง ที่มาของศักราชที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทย 4. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1


11.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objectives) วิธีการวัด (Evaluation Methods) เครื่องมือวัด (Evaluation Instruments) เกณฑ์การประเมิน (Assessment Criteria) ด้านความรู้(K) 1.นักเรียนสามารถอธิบายที่มาของ ศักราชที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทย ได้ถูกต้อง (K) ประเมินจากแบบตรวจใบงาน ต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน เรื่องความรู้ความเข้าใจการ นําไปใช้ทักษะ และจิตพิสัย ทุกช่องเกินร้อยละ 50 -แบบฝึกหัด ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่า ผ่านเกณฑ์ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนสามารถระบุเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับ ศักร าช ที่ป ร าก ฏ ใ น ประวัติศาสตร์ไทยได้ถูกต้อง (P) การประเมินผลจากการสังเกต พฤติกรรมการทํางานกลุ่มต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมิน คือเกิน ร้อยละ 50 การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง ด้านคุณธรรมจริยธรรม (A) 1. มีวินัย (The discipline) 2. ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) การประเมินผลการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ นักเรียน คะแนนขึ้นอยู่กับการ ประเมินตามสภาพจริง การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง 12. ความเห็นผู้บังคับบัญชา ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................ลงชื่อ (………………………………………………) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงชื่อ (….…………………………………………..) รองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ลงชื่อ (….…………………………………………..) ผู้อํานวยการโรงเรียน…………………………


13.บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้(Post–Lesson Report) สรุปผลการจัดการเรียนรู้(Result of the Learning) K P A …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค (Problems/Obstacles) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการแก้ไข (Solutions Classroom research/ Extra teaching/ Behavior Monitoring/etc.) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ครูผู้สอน (………...…………………………………….) _______/_________/_______


ใบงานที่4 ท ี่มาของศักราช คําชี้แจง ให้นักเรียนตอบคําถามต่อไปนี้1. การนับศักราชที่1 ของแต่ละศักราชเริ่มนับเมื่อใดบ้าง 2. ศักราชใดบ้างที่ยังคงนิยมใช้อยู่ในปัจจุบัน 3. พุทธศักราช คริสต์ศักราช และฮิจเราะห์ศักราช 3. ประเทศไทยใช้ศักราชใดบ้างในการบันทึกประวัติศาสตร์มหาศักราช จุลศักราช และพุทธศักราช 4. เพราะเหตุใด ฮิจเราะห์ศักราชจึงมีการเปลี่ยนแปลงการนับทุกๆ 32 ปีครึ่ง 5. ศักราชมีความสําคัญอย่างไรในการศึกษาประวัติศาสตร์


ใบงานที่4 ท ี่มาของศักราช คําชี้แจง ให้นักเรียนตอบคําถามต่อไปนี้1. การนับศักราชที่1 ของแต่ละศักราชเริ่มนับเมื่อใดบ้าง - พุทธศักราช เริ่มนับจากปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 1 ปี - คริสต์ศักราช เริ่มนับจากปีประสูติของพระเยซู - ฮิจเราะห์ศักราช เริ่มนับจากปีที่นบีมูฮัมมัดอพยพจากเมืองเมกกะไปเมืองเมดินะ - มหาศักราช เริ่มนับจากปีที่พระเจ้ากนิษกะ แห่งราชวงศ์กุษาณะทรงตั้งขึ้น - จุลศักราช เริ่มนับจากปีที่โปปะสอระหัน กษัตริย์พม่าขึ้นครองแผ่นดิน - รัตนโกสินทร์ศก เริ่มนับจากปีที่รัชกาลที่1 ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์2. ศักราชใดบ้างที่ยังคงนิยมใช้อยู่ในปัจจุบัน พุทธศักราช คริสต์ศักราช และฮิจเราะห์ศักราช 3. ประเทศไทยใช้ศักราชใดบ้างในการบันทึกประวัติศาสตร์มหาศักราช จุลศักราช และพุทธศักราช 4. เพราะเหตุใด ฮิจเราะห์ศักราชจึงมีการเปลี่ยนแปลงการนับทุกๆ 32 ปีครึ่ง เพราะฮิจเราะห์ศักราช เป็นศักราชทางศาสนาอิสลามใช้ดวงจันทร์ในการกําหนดเวลา ทําให้1 ปีมี354วัน ต่างจากคริสต์ศักราชที่มี365 1/4 วัน 5. ศักราชมีความสําคัญอย่างไรในการศึกษาประวัติศาสตร์ศักราช ช่วยบอกเวลาในการเกิดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ให้ชัดเจนขึ้น ทําให้เราทราบว่า เหตุการณ์ทาง ประวัติศาสตร์ต่างๆ นั้น เกิดขึ้นเมื่อใดหรือในช่วงเวลาใด


แผนการจัดการเรียนรู้ที่5 หน่วยการเรียนรู้ที่1 เวลาและการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์เวลาเรียน 6 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระพื้นฐาน วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 21103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การเทียบศักราชแบบต่างๆ เวลา 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์1. มาตรฐานการเรียนรู้สาระที่4 ประวัติศาสตร์มาตรฐานที่ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ตัวชี้วัด ส 4.1 ม.1/1 วิเคราะห์ความสําคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ส 4.1 ม.1/2 เทียบศักราชตามระบบต่างๆ ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์2. สาระสําคัญ การเทียบศักราชที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ไทย เช่น จ.ศ./ม.ศ./ร.ศ./พ.ศ./ค.ศ. และ ฮ.ศ. การนับเวลา ในทางสุริยคติทางจันทรคติส่งผลให้สามารถศึกษาเหตุการณ์ที่สําคัญทั้งในประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์ทั่ว โลกแลยังเชื่อมโยงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของแต่ละเหตุการณ์ต่างๆได้3. สาระการเรียนรู้ความรู้(K) เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ตัวอย่างศักราชในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย ทักษะ/กระบวนการ (P) ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) มีวินัย (The discipline) ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) 4. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตามหลักสูตรสถานศึกษา 5. การบูรณาการ บูรณาการร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ทักษะการพูดในที่ชุมชน ในการวิเคราะห์สาเหตุและความสําคัญของข้อมูล 6. สมรรถนะสําคัญ (Capability) ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity) ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity) ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem solving abilities) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Ability to use life skills) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี(Capacity for Technological Application)


7. จุดประสงค์การเรียนรู้(Objective) 1. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความสําคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ได้(K) 2. นักเรียนเทียบศักราชตามระบบต่างๆ ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ได้(P) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าความสําคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์(A) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แบบฝึกหัด เรื่อง การเทียบศักราชแบบต่างๆ 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Learning Process) ขั้นนํา (Introduction) ชั่วโมง 1 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน เรื่อง ที่มาของศักราช โดยการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับนักเรียน 2. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน (Instruction) 3. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง การเทียบศักราช โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการอธิบาย เรียงลําดับ เนื้อหา ดังนี้ ศักราชระบบต่างๆ ทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ ครูจะถามนักเรียนในระหว่างที่ทําการอธิบายเนื้อหาเป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ก่อนเข้าสู่เนื้อหาต่อไป 4. ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อทบทวนความเข้าใจของนักเรียน โดยใช้เกม Kahoot เรื่อง กาลเวลาและ นานาศักราช ซึ่งนักเรียนแต่ละคนจะใช้โทรศัพท์มือถือของตนเองเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อเล่นเกมตอบคําถาม สะสมคะแนนดังกล่าว (กรณีที่นักเรียนมีโทรศัพท์มือถือเพียงบางส่วนก็จะให้นักเรียนดําเนินกิจกรรมเป็นกลุ่ม และ ถ้าอินเทอร์เน็ตไม่สามารถใช้ได้ก็จะดําเนินกิจกรรมตอบคําถามนี้ในสื่อ PowerPoint) ขั้นสรุป (Conclusion) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญระหว่างการดําเนินกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น 6. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง การเทียบศักราช ในรูปแบบ Info graphic เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลังเรียน ขั้นนํา (Introduction) ชั่วโมง 2 7. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน เรื่อง การเทียบศักราช 8. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่บทเรียน ขั้นสอน (Instruction) 9. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง การเทียบศักราช โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการอธิบาย เรียงลําดับ เนื้อหา ดังนี้ การเทียบศักราช ครูจะถามนักเรียนในระหว่างที่ทําการอธิบายเนื้อหาเป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ก่อนเข้าสู่เนื้อหาต่อไป


10. ครูจัดกิจกรรม “แล้วฉันอยู่ในศักราชใด” โดยมีรายละเอียดกิจกรรมดังนี้ ครูกําหนดโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการเปรียบเทียบศักราช ดังนี้สายรุ้งกําลังศึกษาชั้น ม. 6 ปีพ.ศ. 2555 โดยมีอายุครบ 18 ปีดังนั้นสายรุ้งที่จะต้องเกิดใน พ.ศ. ใด และตรงกับ ค.ศ. ใด “๑๒๐๕ ศก ปีมะแม พ่อขุนรามคําแหงหาใครใจในใจ แลใส่ลายสือไทยนี้” แสดงให้เห็นว่าพ่อขุน รามคําแหงมหาราชทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นใน พ.ศ. ใด และตรงกับ จ.ศ. ใด ถ้านักเรียนนับถือศาสนาอิสลาม แล้วสํานักจุฬาราชมนตรีประกาศวันออกบวชของชาวมุสลิม ให้ตรงกับ วันที่30 สิงหาคม พ.ศ. 2555 จะตรงกับฮิจเราะห์ศักราชใด ขุนเดชเข้าทํางานเป็นเจ้าหน้าที่อนุรักษ์โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเมื่อ 20 เมษายน ร.ศ. 127 แสดงว่า ขุนเดชทํางานเป็นเจ้าหน้าที่อนุรักษ์โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยในปีพ.ศ. ใด 11. นักเรียนแต่ละคนศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับศักราชเพื่อตอบคําถาม 12.นักเรียนคนใดที่สามารถตอบถูกทั้งหมดและสามารถอธิบายได้ถูกต้องจะได้รับคะแนนพิเศษ ขั้นสรุป (Conclusion) 13. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญระหว่างการดําเนินกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น 14. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง การเทียบศักราช ในรูปแบบ Info graphic เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลังเรียน 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Learning Materials/Resources/Local Wisdom) 1. PowerPoint เรื่อง การเทียบศักราช 2. Info graphic เรื่อง การเทียบศักราช 3. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 11.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objectives) วิธีการวัด (Evaluation Methods) เครื่องมือวัด (Evaluation Instruments) เกณฑ์การประเมิน (Assessment Criteria) ด้านความรู้(K) นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความสําคัญ ของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ได้ (K) ประเมินจากแบบตรวจใบงาน ต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน เรื่องความรู้ความเข้าใจการ นําไปใช้ทักษะ และจิตพิสัย ทุกช่องเกินร้อยละ 50 -แบบฝึกหัด เรื่อง ตัวอย่าง การใช้เวลา ช่วงเวลายุค สมัยและศักราชใน หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่า ผ่านเกณฑ์ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนเทียบศักราชตามระบบ ต่างๆ ที่ใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ได้(P) การประเมินผลจากการสังเกต พฤติกรรมการทํางานกลุ่มต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมิน คือเกิน ร้อยละ 50 การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง ด้านคุณธรรมจริยธรรม (A) 1. มีวินัย (The discipline) 2. ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) การประเมินผลการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ นักเรียน คะแนนขึ้นอยู่กับการ ประเมินตามสภาพจริง การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง


12. ความเห็นผู้บังคับบัญชา ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................ลงชื่อ (………………………………………………) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงชื่อ (….…………………………………………..) รองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ลงชื่อ (….…………………………………………..) ผู้อํานวยการโรงเรียน…………………………


13.บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้(Post–Lesson Report) สรุปผลการจัดการเรียนรู้(Result of the Learning) K P A …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค (Problems/Obstacles) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการแก้ไข (Solutions Classroom research/ Extra teaching/ Behavior Monitoring/etc.) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ครูผู้สอน (………...…………………………………….) _______/_________/_______


Click to View FlipBook Version