การสร ้ างสรรคภ ์ ม ู ิปั ญญาของมน ุ ษยก ์ ่อนประวต ัิ ศาสตร ์ คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนตอบคาํถามต่อไปน้ี1. ปัจจยัใดบา้งทม่ีอีทิธพิลต่อการสรา้งสรรคภ์มูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดน ประเทศไทย 2. ภมูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดนประเทศไทยมกัเกย่ีวขอ้งกบัเรอ่ืงใด 3. ภมูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดนประเทศไทย สามารถเรยีงลาํดบัไดอ้ยา่งไร 4. ตวัอยา่งพฒันาการภมูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดนประเทศไทยในดา้นต่างๆ ไดแ้ก่อะไรบา้ง 5. ตวัอยา่งภมูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดนประเทศไทยทย่ีงัคงมอียใู่นปัจจบุนั ไดแ้ก่สงิ่ใดบา้ง
การสร ้ างสรรคภ ์ ม ู ิปั ญญาของมน ุ ษยก ์ ่อนประวต ัิ ศาสตร ์ ใบงานที่ 3 ในด ิ นแดนประเทศไทย คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนตอบคาํถามต่อไปน้ี1. ปัจจยัใดบา้งทม่ีอีทิธพิลต่อการสรา้งสรรคภ์มูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดนประเทศ ไทย 1) ความตอ้งการความมนั่คงในการดาํรงชวีติประจาํวนั2) สภาพภมูศิาสตรแ์ละสงิ่แวดลอ้ม 3) คตคิวามเชอื่2. ภมูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดนประเทศไทยมกัเกย่ีวขอ้งกบัเรอ่ืงใด ภมูปิัญญาเพอื่ความมนั่คงในการดาํรงชวีติประจาํวนัเชน่การทาํเกษตรเพอื่การบรโิภค เป็นตน้ 3. ภมูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดนประเทศไทย สามารถเรยีงลาํดบัไดอ้ยา่งไร เครอื่งมอืหนิ การสรา้งทพี่กัพงิ การปลกูขา้ว เครอื่งมอืเครอื่งใชส้าํรดิ เครอื่งมอืเครอื่งใชเ้หลก็4. ตวัอยา่งพฒันาการภมูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดนประเทศไทยในดา้นต่างๆ ไดแ้ก่อะไรบา้ง 1) พฒันาการดา้นเกษตรกรรม เชน่การทาํ ไรเ่ลอื่นลอย การทาํเครอื่งมอืเกษตร เครอื่งทุน่แรง การทดน้ํา 2) พฒันาการดา้นโลหกรรม เชน่การทาํเครอื่งมอืเครอื่งใชด้ว้ยเหลก็และสาํรดิ3) พฒันาการดา้นหตัถกรรม เชน่การทอผา้จากเสน้ ใยพชื ป่าน กญัชา เสน้ ใยจากสตัว์ไหม การยอ้มสดีว้ย เปลอืกไม้4) พฒันาการดา้นการสรา้งทอี่ยอู่าศยัเชน่อาศยัถ้าํหรอืเพงิผาป้องกนัอนัตรายจากธรรมชาติ5) พฒันาการดา้นการรกัษาโรค เชน่การเจาะกะโหลกมนุษยเ์พอื่รกัษาโรคหรอืปลดปลอ่ยผรีา้ย
5. ตวัอยา่งภมูปิัญญาของมนุษยก์ ่อนประวตัศิาสตรใ์นดนิแดนประเทศไทยทย่ีงัคงมอียใู่นปัจจบุนั ไดแ้ก่สงิ่ใดบา้ง 1) พฒันาการดา้นเกษตรกรรม เชน่การทาํเครอื่งมอืเกษตร การสรา้งอ่างเกบ็น้ํา 2) พฒันาการดา้นโลหกรรม เชน่การทาํเครอื่งมอืจากเหลก็ทไี่มเ่ ป็นสนิม 3) พฒันาการดา้นหตัถกรรม เชน่การยอ้มสจีากสงิ่ทไี่ดจ้ากธรรมชาติการทาํเครอื่งปัน้ดนิเผา 4) พฒันาการดา้นการสรา้งทอี่ยอู่าศยัเชน่การสรา้งบา้นใตถุ้นสงูป้องกนัน้ําทว่ม 5) พฒันาการดา้นการรกัษาโรค เชน่การใชส้มนุไพร การแพทยแ์ผนไทย
แผนการจัดการเรียนรู้ที่14 หน่วยการเรียนรู้ที่3 สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทย เวลาเรียน 7 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระพื้นฐาน วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 21103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง พัฒนาการจากชุมชนมาสู่รัฐโบราณ เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์1. มาตรฐานการเรียนรู้สาระที่4 ประวัติศาสตร์มาตรฐานที่ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความภูมิใจและธํารงความ เป็นไทย ตัวชี้วัด ส 4.3 ม.1/1 อธิบายเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทยโดยสังเขป 2. สาระสําคัญ ก่อนที่จะมีการตั้งรัฐไทยในดินแดนไทย ดินแดนในบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของชุมชนมีการพัฒนาเป็นแคว้น และมีการรวมจนกลายเป็นอาณาที่ความเจริญรุ่งเรืองในช่วงเวลาต่างๆ และได้ทิ้งหลักฐานไว้ให้ศึกษาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับว่าส่งผลให้ชาติไทยเจริญก้าวหน้ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 3. สาระการเรียนรู้ความรู้(K) พัฒนาการจากชุมชนเป็นบ้านเมือง ความหมายของแคว้นและอาณาจักร ทักษะ/กระบวนการ (P) ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) มุ่งมั่นในการทํางาน (Dedication and commitment to work) มีศักยภาพเป็นพลโลก (World citizenship) อนุรักษ์ความเป็นไทย (Conservation of Thailand) 4. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตามหลักสูตรสถานศึกษา 5. การบูรณาการ บูรณาการร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ทักษะการพูดในที่ชุมชน ในการวิเคราะห์สาเหตุและความสําคัญของข้อมูล 6. สมรรถนะสําคัญ (Capability) ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity) ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity) ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem solving abilities) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Ability to use life skills)
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี(Capacity for Technological Application) 7. จุดประสงค์การเรียนรู้(Objective) 1. นักเรียนสามารถอธิบายเรื่องราวพัฒนาการจากชุมชนมาสู่การเป็นรัฐโบราณได้โดยสังเขป (K) 2. นักเรียนสามารถถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวจากชุมชนมาสู่การเป็นรัฐโบราณให้กับบุคคลอื่นได้อย่างถูกต้อง (P) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าความสําคัญของการพัฒนาชุมชนการรวมกลุ่มกันพัฒนาชาติไทย (A) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แบบฝึกหัด พัฒนาการจากชุมชนมาสู่รัฐโบราณ 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Learning Process) ขั้นนํา (Introduction) 1. ครูให้นักเรียนเล่นกิจกรรมกลุ่มเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้เรื่อง หอยสลับฝา โดยมีรายละเอียดดังนี้ ครูร้องเพลงเพื่อให้นักเรียนจับกลุ่มบอกจํานวนฝาและจํานวนหอย นักเรียนปฏิบัติตามคําสั่งของครู นักเรียนที่ไม่มีกลุ่มจะต้องเต้นเพลงไก่ย่างถูกเผาก่อนที่จะเข้าไปร่วมกิจกรรมต่อ 2. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ขั้นสอน (Instruction) 3. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง พัฒนาการจากชุมชนมาสู่รัฐโบราณ โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการ อธิบาย เรียงลําดับเนื้อหา ดังนี้ พัฒนาการจากชุมชนเป็นบ้านเมือง ความหมายของแคว้นและอาณาจักร 4. ครูจะถามนักเรียนในระหว่างที่ทําการอธิบายเนื้อหาเป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ก่อนเข้าสู่เนื้อหาต่อไป โดยจะใช้วิธีจับฉลากเลขที่ถ้าจับได้เลขที่ของนักเรียนคนใด นักเรียนคนนั้นก็จะยืนขึ้นและ ตอบคําถามของครูขั้นสรุป (Conclusion) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญด้วยการตั้งคําถาม และช่วยกันตอบ 6. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง พัฒนาการจากชุมชนเป็นบ้านเมืองและความหมายของแคว้นอาณาจักร Info graphic เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลังเรียน 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Learning Materials/Resources/Local Wisdom) 1. PowerPoint ประกอบการอธิบาย เรื่อง พัฒนาการจากชุมชนมาสู่รัฐโบราณ 2. Info graphic เรื่อง พัฒนาการจากชุมชนมาสู่รัฐโบราณ 3. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1
11.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objectives) วิธีการวัด (Evaluation Methods) เครื่องมือวัด (Evaluation Instruments) เกณฑ์การประเมิน (Assessment Criteria) ด้านความรู้(K) 1.นักเรียนสามารถอธิบายเรื่องราว พัฒนาการจากชุมชนมาสู่การเป็นรัฐ โบราณได้โดยสังเขป (K) ประเมินจากแบบตรวจใบงาน ต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน เรื่องความรู้ความเข้าใจการ นําไปใช้ทักษะ และจิตพิสัย ทุกช่องเกินร้อยละ 50 -แบบฝึกหัด ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่า ผ่านเกณฑ์ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนสามารถถ่ายทอดความรู้ เกี่ยวกับเรื่องราวจากชุมชนมาสู่การ เป็นรัฐโบราณให้กับบุคคลอื่นได้อย่าง ถูกต้อง (P) การประเมินผลจากการสังเกต พฤติกรรมการทํางานกลุ่มต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมิน คือเกิน ร้อยละ 50 การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง ด้านคุณธรรมจริยธรรม (A) 1.ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) 2.มุ่งมั่นในการทํางาน (Dedication and commitment to work) 3.มีศักยภาพเป็นพลโลก (World citizenship) 4.อนุรักษ์ความเป็นไทย (Conservation of Thailand) การประเมินผลการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ นักเรียน คะแนนขึ้นอยู่กับการ ประเมินตามสภาพจริง การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง
12. ความเห็นผู้บังคับบัญชา ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................ลงชื่อ (………………………………………………) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงชื่อ (….…………………………………………..) รองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ลงชื่อ (….…………………………………………..) ผู้อํานวยการโรงเรียน…………………………
13.บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้(Post–Lesson Report) สรุปผลการจัดการเรียนรู้(Result of the Learning) K P A …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค (Problems/Obstacles) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการแก้ไข (Solutions Classroom research/ Extra teaching/ Behavior Monitoring/etc.) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ครูผู้สอน (………...…………………………………….) _______/_________/_______
ใบงานที่ 4 พฒ ั นาการจากชม ุ ชนมาส่ร ูฐ ัโบราณ คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนตอบคาํถามต่อไปน้ี1. ปัจจยัใดทท่ีาํ ใหช้มุชนสามารถพฒันามาเป็นบา้นเมอืงได้ 2. ปัจจยัใดทท่ีาํ ใหบ้า้นเมอืงสามารถพฒันาเป็นแควน้หรอืรฐัได้ 3. สภาพสงัคมของแควน้ ประกอบดว้ยชนชนั้ใดบา้ง 4. ปัจจยัใดบา้งทส่ีง่ผลใหก้ารพฒันาจากแควน้หรอืรฐัขน้ึเป็นอาณาจกัรในแต่ละแหง่มคีวามแตกต่างกนั 5. รฐัโบราณมคีวามสาํคญัต่อรฐัไทยในเวลาต่อมาอยา่งไรบา้ง
ใบงานที่ 4 พฒ ั นาการจากชม ุ ชนมาส่ร ูฐ ัโบราณ คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนตอบคาํถามต่อไปน้ี1. ปัจจยัใดทท่ีาํ ใหช้มุชนสามารถพฒันามาเป็นบา้นเมอืงได้1) การเลอืกตงั้ชมุชนในภมูปิระเทศทเี่หมาะสม 2) การตดิต่อกบัชมุชนภายนอก 2. ปัจจยัใดทท่ีาํ ใหบ้า้นเมอืงสามารถพฒันาเป็นแควน้หรอืรฐัได้1) การรวมตวัอยใู่นอาณาเขตทแี่น่นอนชดัเจน 2) การมผีคู้นจาํนวนมากพอและมผีนู้ ําหรอืผปู้กครอง 3) ผปู้กครองจดัการปกครองใหเ้ป็นระเบยีบและเกดิความสงบสขุในสงัคม 3. สภาพสงัคมของแควน้ ประกอบดว้ยชนชนั้ใดบา้ง ชนชนั้ปกครอง คอืกษตัรยิแ์ละขนุนางและชนชนั้ทถี่กูปกครอง คอืราษฏรทวั่ ไป โดยมพีระสงฆ์นกับวช พราหมณ์ทาํหน้าทปี่ระกอบพธิกีรรมทางศาสนา 4. ปัจจยัใดบา้งทส่ีง่ผลใหก้ารพฒันาจากแควน้หรอืรฐัขน้ึเป็นอาณาจกัรในแต่ละแหง่มคีวามแตกต่างกนั1)สภาพทตี่งั้ทางภมูศิาสตร์2) ความพรอ้มทางเศรษฐกจิ3) ความเขม้แขง็ทางทหาร 4) ความศกัดสิ์ทิธขิ์องผปู้กครอง 5. รฐัโบราณมคีวามสาํคญัต่อรฐัไทยในเวลาต่อมาอยา่งไรบา้ง เป็นรากฐานสาํคญัของอารยธรรมไทย
แผนการจัดการเรียนรู้ที่15 หน่วยการเรียนรู้ที่3 สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทย เวลาเรียน 7 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระพื้นฐาน วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 21103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง รัฐโบราณและรัฐไทยในดินแดนไทย เวลา 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียยรัตน์1. มาตรฐานการเรียนรู้สาระที่4 ประวัติศาสตร์มาตรฐานที่ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความภูมิใจและธํารงความ เป็นไทย ตัวชี้วัด ส 4.3 ม.1/1 อธิบายเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทยโดยสังเขป 2. สาระสําคัญ ก่อนที่จะมีการตั้งรัฐไทยในดินแดนไทย ดินแดนในบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของรัฐโบราณหลายรัฐ รัฐเหล่านี้มีความเจริญรุ่งเรืองในช่วงเวลาต่างๆ และได้ทิ้งหลักฐานไว้ให้ศึกษาจนถึงปัจจุบัน และรัฐไทยในดินแดน ไทยรัฐแรกๆ เกิดขึ้นในภาคเหนือตอนบนก่อน หลังจากนั้นจึงเกิดรัฐไทยในบริเวณภาคกลาง รัฐที่สําคัญ คือ อาณาจักรล้านนาในภาคเหนือ อาณาจักรทวารวดีในภาคกลางตอนบน 3. สาระการเรียนรู้ความรู้(K) แคว้นตามพรลิงค์(นครศรีธรรมราช) ประมาณพุทธศตวรรษที่7-9 อาณาจักรศรีวิชัย ประมาณพุทธศตวรรษที่13-18 แคว้นละโว้แคว้นหริภุญชัย แคว้นโยนกเชียงแสน แคว้นหิรัญนครเงินยาง ปลายพุทธศตวรรษที่13 - พ.ศ. 1839 อาณาจักรทวารวดีทักษะ/กระบวนการ (P) ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) มุ่งมั่นในการทํางาน (Dedication and commitment to work) มีศักยภาพเป็นพลโลก (World citizenship) อนุรักษ์ความเป็นไทย (Conservation of Thailand) 4. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตามหลักสูตรสถานศึกษา 5. การบูรณาการ บูรณาการร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ทักษะการพูดในที่ชุมชน ในการวิเคราะห์สาเหตุและความสําคัญของข้อมูล
6. สมรรถนะสําคัญ (Capability) ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity) ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity) ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem solving abilities) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Ability to use life skills) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี(Capacity for Technological Application) 7. จุดประสงค์การเรียนรู้(Objective) 1. นักเรียนสามารถอธิบายเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทยได้โดยสังเขป (K) 2. นักเรียนสามารถถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทย ให้กับบุคคลอื่นได้อย่างถูกต้อง (P) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าความสําคัญของเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทย (A 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แบบฝึกหัด รัฐโบราณและรัฐไทยในดินแดนไทย 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Learning Process) ขั้นนํา (Introduction) ชั่วโมงที่1 1. ครูทบทวนความรู้และกระตุ้นการเรียนรู้โดยการให้นักเรียนยกมือให้ตรงกันข้ามกับคําสั่งของครูผู้สอน 2. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ขั้นสอน (Instruction) 3. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง แคว้นตามพรลิงค์อาณาจักรศรีวิชัย แคว้นละโว้และแคว้นหริภุญชัย โดย ใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการอธิบาย เรียงลําดับเนื้อหา ดังนี้ แคว้นตามพรลิงค์(นครศรีธรรมราช) ประมาณพุทธศตวรรษที่7-9 อาณาจักรศรีวิชัย ประมาณพุทธศตวรรษที่13-18 แคว้นละโว้ แคว้นหริภุญชัย 4. ครูจะถามนักเรียนในระหว่างที่ทําการอธิบายเนื้อหาเป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน ก่อนเข้าสู่เนื้อหาต่อไป โดยจะใช้วิธีจับฉลากเลขที่ถ้าจับได้เลขที่ของนักเรียนคนใด นักเรียนคนนั้นก็จะยืนขึ้นและ ตอบคําถามของครูขั้นสรุป (Conclusion) 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญด้วยการตั้งคําถาม และช่วยกันตอบ 6. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง แคว้นตามพรลิงค์และอาณาจักรศรีวิชัย ในรูปแบบ Info graphic เผยแพร่ใน สื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลังเรียน ขั้นนํา (Introduction) ชั่วโมงที่2 7. ครูทบทวนความรู้และซักถามเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ในเรื่อง แคว้นตามพรลิงค์อาณาจักรศรีวิชัย แคว้น ละโว้และแคว้นหริภุญชัย 8. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ขั้นสอน (Instruction) 9. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง แคว้นโยนกเชียงแสน อาณาจักรทวารวดีและแคว้นหิรัญนครเงินยาง โดย ใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการอธิบาย เรียงลําดับเนื้อหา ดังนี้ แคว้นโยนกเชียงแสน แคว้นหิรัญนครเงินยาง ปลายพุทธศตวรรษที่13 - พ.ศ. 1839 อาณาจักรทวารวดี10. ครูจะถามนักเรียนในระหว่างที่ทําการอธิบายเนื้อหาเป็นระยะๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของ นักเรียนก่อนเข้าสู่เนื้อหาต่อไป โดยจะใช้วิธีจับฉลากเลขที่ถ้าจับได้เลขที่ของนักเรียนคนใด นักเรียนคนนั้นก็จะยืน ขึ้นและตอบคําถามของครูขั้นสรุป (Conclusion) 11. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญด้วยการตั้งคําถาม และช่วยกันตอบ 12. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง แคว้นโยนกเชียงแสนและแคว้นหิรัญนครเงินยาง ในรูปแบบ Info graphic เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลังเรียน 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Learning Materials/Resources/Local Wisdom) 1. PowerPoint ประกอบการอธิบาย เรื่อง แคว้นตามพรลิงค์อาณาจักรศรีวิชัย แคว้นละโว้และแคว้น หริภุญชัย 2. Info graphic เรื่อง แคว้นตามพรลิงค์อาณาจักรศรีวิชัย แคว้นละโว้และแคว้นหริภุญชัย 3. PowerPoint ประกอบการอธิบาย เรื่อง แคว้นโยนกเชียงแสนอาณาจักรทวารวดีและแคว้นหิรัญนครเงิน ยาง 4. Info graphic เรื่อง แคว้นโยนกเชียงแสน อาณาจักรทวารวดีและแคว้นหิรัญนครเงินยาง 5. 6. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 11.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objectives) วิธีการวัด (Evaluation Methods) เครื่องมือวัด (Evaluation Instruments) เกณฑ์การประเมิน (Assessment Criteria) ด้านความรู้(K) 1. นักเรียนสามารถอธิบายเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทยได้ โดยสังเขป (K) ประเมินจากแบบตรวจใบงานต้องผ่าน เกณฑ์การประเมินเรื่องความรู้ความ เข้าใจการนําไปใช้ทักษะ และจิตพิสัย ทุก ช่องเกินร้อยละ 50 -แบบฝึกหัด ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่าน เกณฑ์ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนสามารถถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเรื่องราว ทางประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทย ให้กับบุคคลอื่นได้อย่างถูกต้อง (P) การประเมินผลจากการสังเกตพฤติกรรม การทํางานกลุ่มต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน คือเกินร้อยละ 50 การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง ด้านคุณธรรมจริยธรรม (A) 1.ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) 2.มุ่งมั่นในการทํางาน (Dedication and commitment to work) 3.มีศักยภาพเป็นพลโลก (World citizenship) 4.อนุรักษ์ความเป็นไทย (Conservation of Thailand) การประเมินผลการสังเกตคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ของนักเรียน คะแนนขึ้นอยู่กับ การประเมินตามสภาพจริง การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง
12. ความเห็นผู้บังคับบัญชา ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................ลงชื่อ (………………………………………………) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงชื่อ (….…………………………………………..) รองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ลงชื่อ (….…………………………………………..) ผู้อํานวยการโรงเรียน…………………………
13.บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้(Post–Lesson Report) สรุปผลการจัดการเรียนรู้(Result of the Learning) K P A …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค (Problems/Obstacles) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการแก้ไข (Solutions Classroom research/ Extra teaching/ Behavior Monitoring/etc.) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ครูผู้สอน (………...…………………………………….) _______/_________/_______
ใบงานที่ 5 พฒ ั นาการของอาณาจก ั รโบราณในด ิ นแดนไทย ตอนที่1 คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนตอบคาํถามต่อไปน้ี1. ในแต่ละภมูภิาคของไทยมรีอ่งรอยของอาณาจกัรโบราณอาณาจกัรใดบา้ง 2. หลกัฐานใดบา้งทแ่ีสดงถงึความเป็นอาณาจกัรโบราณของอาณาจกัรต่างๆ ในดนิแดนไทย 3. นกัเรยีนคดิวา่ความเจรญิ ในทอ้งถนิ่ทน่ีกัเรยีนอาศยัอยมู่คีวามเกย่ีวขอ้งกบัอาณาจกัรโบราณ อาณาจกัรใดมาก่อน อธบิายเหตุผลพรอ้มยกตวัอยา่งประกอบใหช้ดัเจน
ตอนที่2 คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนสรปุความเจรญิของอาณาจกัรโบราณในดนิแดนไทย ตามประเดน็ทก่ีาํหนด 1. อาณาจกัรทวารวดี1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่จารกึหลกัที่30 เป็นตน้2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่2. อาณาจกัรละโว้1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่3. อาณาจกัรโยนกเชยีงแสน 1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่
4. อาณาจกัรหรภิุญชยั1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร ได้3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่พระ 5. อาณาจกัรลา้นนา 1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่6. อาณาจกัรลงักาสกุะ 1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร มี3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่7. อาณาจกัรตามพรลงิค์1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่
8. อาณาจกัรศรวีชิยั1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่9. อาณาจกัรโคตรบรูณ์1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่10. อาณาจกัรอศิานปรุะ 1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่
ใบงานที่ 5 พฒ ั นาการของอาณาจก ั รโบราณในด ิ นแดนไทย ตอนที่1 คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนตอบคาํถามต่อไปน้ี1. ในแต่ละภมูภิาคของไทยมรีอ่งรอยของอาณาจกัรโบราณอาณาจกัรใดบา้ง - ภาคกลาง เชน่อาณาจกัรทวารวดีอาณาจกัรละโว้ - ภาคเหนือเชน่อาณาจกัรโยนกเชยีงแสน อาณาจกัรหรภิุญชยัอาณาจกัรลา้นนา - ภาคใต้เชน่อาณาจกัรลงักาสกุะอาณาจกัรตามพรลงิค์อาณาจกัรศรวีชิยั - ภาคตะวนัออกเฉียงเหนือเชน่อาณาจกัรโคตรบรูณ์อาณาจกัรอศิานปรุะ 2. หลกัฐานใดบา้งทแ่ีสดงถงึความเป็นอาณาจกัรโบราณของอาณาจกัรต่างๆ ในดนิแดนไทย หลกัฐานทางโบราณคดตี่างๆ เชน่เหรยีญโบราณ ประตมิากรรม และสถาปัตยกรรมทางศาสนาและ หลกัฐานทเี่ป็นลายลกัษณ์อกัษรต่างๆ เชน่จารกึโบราณ บนัทกึของชาวต่างชาติและตาํนานพ้นืบา้น เป็นตน้3. นกัเรยีนคดิวา่ความเจรญิ ในทอ้งถนิ่ทน่ีกัเรยีนอาศยัอยมู่คีวามเกย่ีวขอ้งกบัอาณาจกัรโบราณ อาณาจกัรใดมาก่อน อธบิายเหตุผลพรอ้มยกตวัอยา่งประกอบใหช้ดัเจน (พจิารณาตามคาํตอบของนกัเรยีน โดยใหอ้ยใู่นดุลยพนิิจของครผูสู้อน)
ตอนที่2 คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนสรปุความเจรญิของอาณาจกัรโบราณในดนิแดนไทย ตามประเดน็ทก่ีาํหนด 1. อาณาจกัรทวารวดี1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่บนัทกึการเดนิทางของหลวงจนีอ้จีงิบนัทกึของหลวงจนีฉวนฉงัจารกึหลกัที่30 เป็นตน้2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัรสนันิษฐานวา่เป็นชาวมอญ ตงั้อาณาจกัรอยบู่รเิวณทรี่าบลุม่แมน่้ํา เจา้พระยา ปกครองโดยกษตัรยิ์มเีจา้นายปกครองดว้ย แต่มคีวามสมัพนัธใ์นลกัษณะเครอืญาติมกีารแบ่งชนชนั้นบัถอืศาสนาพราหมณ์-ฮนิดูและพระพทุธศาสนานิกายเถรวาท 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่พระพทุธรปูศลิาขาววดัพระปฐมเจดยี์จงัหวดันครปฐม ธรรมจกัรและกวาง หมอบ จารกึมอญ เป็นตน้2. อาณาจกัรละโว้1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่จดหมายเหตุจนีเรยีกละโวว้า่ “หลอห”ูจารกึหลกัที่18 ทศี่าลพระกาฬ ภาพสลกัขบวนทหารทรี่ะเบยีงปราสาทนครวดั2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัรสนันิษฐานวา่เป็นชาวมอญ ตงั้อาณาจกัรอยบู่รเิวณแมน่้ํา3สาย คอื เจา้พระยา ป่าสกัและลพบุรีปกครองโดยกษตัรยิ์มกีารนบัถอืพระพทุธศาสนานิกายเถรวาท นิกายมหายาน ศาสนา พราหมณ์-ฮนิดูและความเชอื่พ้นืเมอืง เชน่การบชูาบรรพบุรษุมกีารแบ่งชนชนั้เศรษฐกจิขน้ึกบัการเกษตร มกีาร ตดิต่อคา้ขายกบัจนีและอนิเดยี3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่พระปรางคส์ามยอด ปรางคแ์ขก จงัหวดัลพบุรีเป็นตน้3. อาณาจกัรโยนกเชยีงแสน 1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่ตาํนานสงิหนวตักิุมารและตาํนานลวจงักราช 2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร เจา้ชายจากมณฑลยนูานไดอ้พยพผคู้นมาตงั้เมอืงทเี่ชยีงแสน ขอมเขา้ยดึครองจงึมกีารอพยพสรา้งเมอืงใหมห่ลายครงั้ต่อมาอพยพจากเชยีงแสนมายงัเวยีงไชยปราการ และอพยพมายงักาํแพงเพชรจนในทสี่ดุตกเป็นสว่นหนึง่ของอาณาจกัรลา้นนา 4) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่เจดยีว์ดัป่าสกัจงัหวดัเชยีงราย เป็นตน้
4. อาณาจกัรหรภิุญชยั1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่ตาํนานจามเทววีงศ์หรอืตาํนานเมอืงหรภิุญชยั2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัรสนันิษฐานวา่เป็นชาวมอญทอี่พยพมาจากละโว้จนเมอื่พระเจา้อาทติยราชได้ เขา้มาปกครอง ไดท้รงสรา้งความเจรญิรงุ่เรอืง โดยเฉพาะการทาํนุบาํรงุพระพทุธศาสนา ต่อมาภายหลงัไดต้กเป็นสว่น หนึง่ของอาณาจกัรลา้นนา 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่พระธาตุหรภิุญชยัจงัหวดัลาํพนูเป็นตน้5. อาณาจกัรลา้นนา 1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่ตาํนานพ้นืเมอืงเชยีงใหม่พงศาวดารโยนก ตาํนานมลูศาสนา เป็นตน้2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร ผกู้ ่อตงั้อาณาจกัรลา้นนา คอืพระยามงัรายมหาราชปกครองแบบ สมบรูณาญาสทิธริาชย์ใชก้ฎหมายมงัรายศาสตร์นบัถอืพระพทุธศาสนาลทัธลิงักาวงศ์มตีวัอกัษร 3) เป็นของตนเอง เป็นไมตรกีบัสโุขทยัภายหลงัอ่อนแอ ทาํ ใหอ้ยธุยาและพมา่ผลดักนัเขา้ไปปกครองในฐานะ เมอืงประเทศราชจนถงึสมยัรชักาลที่5จงึตกเป็นสว่นหนึง่ของไทย 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่กฎหมายมงัรายศาสตร์สถาปัตยกรรมเวยีงกุมกาม วดัเจดยีห์ลวง อกัษรธรรมลา้นนา เป็นตน้6. อาณาจกัรลงักาสกุะ 1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่จดหมายเหตุหลวงจนีอ้จีงิ2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร มกีษตัรยิป์กครอง เป็นเมอืงทา่คา้ขายกบัจนี-อนิเดยีนบัถอืศาสนา พราหมณ์-ฮนิดูและพระพทุธศาสนานิกายมหายาน ต่อมาภายหลงัอยใู่ตอ้ทิธพิลอาณาจกัรศรวีชิยั3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่เมอืงโบราณยะรงัจงัหวดัปัตตานีเป็นตน้7. อาณาจกัรตามพรลงิค์1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่เอกสารอนิเดยีเรยีก “ตมลงิ” เอกสารจนีเรยีก “ถา่มเหลง่ / ตา่นหม่า ลงิ่” 2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร มกีษตัรยิป์กครอง เป็นเมอืงทา่คา้ขายกบัพอ่คา้อนิเดยี-จนีมคีวามใกลช้ดิกบัพระราชวงศพ์ระรว่งแหง่สโุขทยันบัถอืศาสนาพราหมณ์-ฮนิดูพระพทุธศาสนานิกายมหายาน พระพทุธศาสนา นิกายเถรวาท ลทัธลิงักาวงศ์
3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่เจดยีพ์ระบรมธาตุในวดัพระมหาธาตุวรวหิารจงัหวดันครศรธีรรมราช เป็น ตน้8. อาณาจกัรศรวีชิยั1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่บนัทกึของหลวงจนีอ้จีงิหนงัสอืจฟูานฉีของเกาจกูวันายดา่นศุลกากรของจนีบนัทกึสไุลมาน พอ่คา้ชาวอาหรบัจารกึหลกัที่23จารกึหลกัที่25 ทไี่ชยา เป็นตน้2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร เป็นศนูยก์ลางการคา้ทางทะเลระหวา่งจนี-อนิเดยีนบัถอืศาสนา พราหมณ์-ฮนิดูพระพทุธศาสนานิกายเถรวาท และพระพทุธศาสนานิกายลงักาวงศ์3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่เจดยีพ์ระบรมธาตุไชยา พระพทุธรปูางนาคปรกสาํรดิทวี่ดัหวัเวยีง อาํเภอไชยาจงัหวดัสรุาษฏรธ์านีเป็นตน้9. อาณาจกัรโคตรบรูณ์1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่ตาํนานอุรงัคธาตุพงศาวดารเหนือเอกสารจนี2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร มกีษตัรยิป์กครอง ไดร้บัอทิธพิลของอนิเดยีมกีารนบัถอืพระพทุธศาสนานิกาย เถรวาท มคีวามเชอื่พ้นืเมอืงเรอื่งการนบัถอืสงิ่ศกัดสิ์ทิธิ์และการบชูาพญานาค ภายหลงัต่อมาตกเป็นเมอืงขน้ึของ อาณาจกัรลา้นชา้ง 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่พระธาตุพนม จงัหวดันครพนม เป็นตน้10. อาณาจกัรอศิานปรุะ 1) หลกัฐานทป่ีรากฏเรอ่ืงราวของอาณาจกัร เชน่จดหมายเหตุจนีบนัทกึของราชทตูจนีโจว ตา้กวน 2) พฒันาการความเจรญิของอาณาจกัร เป็นอาณาจกัรขอมตงั้อยรู่ะหวา่งอาณาจกัรทวารวดแีละอาณาจกัรจามปา ไดแ้ก่บรเิวณทเี่ป็นประเทศกมัพชูาในปัจจบุนั ปกครองในระบอบสมบรูณาญาสทิธริาชย์มขีนุนาง ใชร้ะบบ จตุสดมภ์ใชก้ฎหมายพระธรรมศาสตร์นบัถอืศาสนาพราหมณ์-ฮนิดูพระพทุธศาสนานิกายมหายาน 3) มรดกทางวฒันธรรมของอาณาจกัร เชน่ ปราสาทหนิขนาดใหญ่เชน่ ปราสาทหนิพมิาย ปราสาทหนิพนมรงุ้ปราสาทเมอืงตาํ่ปราสาทศขีรภมูิเป็นตน้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่16 หน่วยการเรียนรู้ที่3 สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทย เวลาเรียน 7 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระพื้นฐาน วิชาประวัติศาสตร์รหัสวิชา ส 21103 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายพลนิวัฒน์ โรจน์วิเชียรรัตน์1. มาตรฐานการเรียนรู้สาระที่4 ประวัติศาสตร์มาตรฐานที่ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรักความภูมิใจและธํารงความ เป็นไทย ตัวชี้วัด ส 4.3 ม.1/1 อธิบายเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทยโดยสังเขป 2. สาระสําคัญ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ทั้งในส่วนของความต้องการ ความมั่นคงในการดํารงชีวิตประจําวันในเรื่องอาหาร สภาพภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อม รวมถึงคติความเชื่อส่งผลให้ เกิด การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของชุมชน ด้านเกษตรกรรม ด้านโลหะกรรม ด้านหัตถกรรม เป็นต้น 3. สาระการเรียนรู้ความรู้(K) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของชุมชนโบราณก่อนประวัติศาสตร์ทักษะ/กระบวนการ (P) ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะการแก้ไขปัญหา ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คุณลักษณะอันพึงประสงค์(A) ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) มุ่งมั่นในการทํางาน (Dedication and commitment to work) มีศักยภาพเป็นพลโลก (World citizenship) อนุรักษ์ความเป็นไทย (Conservation of Thailand) 4. สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ตามหลักสูตรสถานศึกษา 5. การบูรณาการ บูรณาการร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้แก่ทักษะการพูดในที่ชุมชน ในการวิเคราะห์สาเหตุและความสําคัญของข้อมูล 6. สมรรถนะสําคัญ (Capability) ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity) ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity) ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem solving abilities) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Ability to use life skills)
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี(Capacity for Technological Application) 7. จุดประสงค์การเรียนรู้(Objective) 1. นักเรียนสามารถอธิบายภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัยได้ได้โดยสังเขป (K) 2. นักเรียนสามารถถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัยให้กับ บุคคลอื่นได้อย่างถูกต้อง (P) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าความสําคัญของภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย (A) 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน 1. แบบฝึกหัด การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย 9. กิจกรรมการเรียนรู้(Learning Process) ขั้นนํา (Introduction) 1. ครูเปิด VDO เรื่องการปลูกข้าวแบบฉบับดั้งเดิม จากhttps://www.youtube.com/watch?v=w 2. ครูซักถามประเด็น นักเรียนรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับวีดีโอดังกล่าว 3. ครูชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ และเข้าสู่กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ขั้นสอน (Instruction) 4. ครูทําการสอนนักเรียน เรื่อง การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการอธิบาย เรียงลําดับเนื้อหา ดังนี้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของชุมชนโบราณก่อนประวัติศาสตร์5. ครูจัดกิจกรรม ยืนยาว โดยมีลักษณะการเล่นดังนี้ นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกัน ครูแจกกระดาษบรฟู๊เพื่อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเกี่ยวกับภูมิปัญญาใดบ้างที่ยังคง หลงเหลือสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมอธิบายเหตุผล ครูสุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานําเสนอความคิดและความรู้ที่ได้รับ ขั้นสรุป (Conclusion) 6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประเด็นสําคัญด้วยการตั้งคําถาม และช่วยกันตอบ 7. ครูจัดทําสรุปเนื้อหา เรื่อง การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย ในรูปแบบ Info graphic เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้นักเรียนได้ใช้สําหรับการทบทวนหลังเรียน 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Learning Materials/Resources/Local Wisdom) 1. PowerPoint ประกอบการอธิบาย เรื่อง การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย 2. VDO เรื่องการปลูกข้าวแบบฉบับดั้งเดิม 3. Info graphic เรื่อง การสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย 4. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1
11.การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objectives) วิธีการวัด (Evaluation Methods) เครื่องมือวัด (Evaluation Instruments) เกณฑ์การประเมิน (Assessment Criteria) ด้านความรู้(K) 1. นักเรียนสามารถอธิบายภูมิปัญญา ของอาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย ได้ได้โดยสังเขป (K) ประเมินจากแบบตรวจใบงาน ต้องผ่านเกณฑ์การประเมิน เรื่องความรู้ความเข้าใจการ นําไปใช้ทักษะ และจิตพิสัย ทุกช่องเกินร้อยละ 50 -แบบฝึกหัด ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่า ผ่านเกณฑ์ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1. นักเรียนสามารถถ่ายทอดความรู้ เกี่ยวกับเรื่องราวภูมิปัญญาของ อาณาจักรโบราณก่อนสมัยสุโขทัย ให้กับบุคคลอื่นได้อย่างถูกต้อง (P) การประเมินผลจากการสังเกต พฤติกรรมการทํางานกลุ่มต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมิน คือเกิน ร้อยละ 50 การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง ด้านคุณธรรมจริยธรรม (A) 1.ใฝ่เรียนรู้(Avidity for learning) 2.มุ่งมั่นในการทํางาน (Dedication and commitment to work) 3.มีศักยภาพเป็นพลโลก (World citizenship) 4.อนุรักษ์ความเป็นไทย (Conservation of Thailand) การประเมินผลการสังเกต คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ นักเรียน คะแนนขึ้นอยู่กับการ ประเมินตามสภาพจริง การสังเกตพฤติกรรม ประเมินตามสภาพจริง 12. ความเห็นผู้บังคับบัญชา ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................ลงชื่อ (………………………………………………) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงชื่อ (….…………………………………………..) รองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ลงชื่อ (….…………………………………………..) ผู้อํานวยการโรงเรียน…………………………
13.บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้(Post–Lesson Report) สรุปผลการจัดการเรียนรู้(Result of the Learning) K P A …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค (Problems/Obstacles) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการแก้ไข (Solutions Classroom research/ Extra teaching/ Behavior Monitoring/etc.) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ครูผู้สอน (………...…………………………………….) _______/_________/_______
ใบงานที่ 6 ภม ู ิปั ญญาของอาณาจก ั รโบราณก่อนสมย ั สโ ุ ขทย ั คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนตอบคาํถามต่อไปน้ี1. ปัจจยัใดทเ่ีป็นตวักาํหนดใหม้นุษยส์รา้งสรรคภ์มูปิัญญาต่างๆ 2. ลกัษณะทางวฒันธรรมใดทค่ีนในอาณาจกัรโบราณมเีหมอืนกนั3. ปัจจยัภายนอกปัจจยัใดมผีลต่อภมูปิัญญาของคนในอาณาจกัรโบราณ 4. ภมูปิัญญาของคนในอาณาจกัรโบราณมคีวามเกย่ีวขอ้งกบัเรอ่ืงใดบา้ง 5. ภมูปิัญญาดา้นใดของคนในอาณาจกัรโบราณทน่ีกัเรยีนชน่ืชอบหรอืสนใจ อธบิายเหตุผล
ใบงานที่ 6 ภม ู ิปั ญญาของอาณาจก ั รโบราณก่อนสมย ั สโ ุ ขทย ั คาํ ชี้แจง ใหน้กัเรยีนตอบคาํถามต่อไปน้ี1. ปัจจยัใดทเ่ีป็นตวักาํหนดใหม้นุษยส์รา้งสรรคภ์มูปิัญญาต่างๆ ปัจจยัทางภมูศิาสตรแ์ละสงิ่แวดลอ้ม 2. ลกัษณะทางวฒันธรรมใดทค่ีนในอาณาจกัรโบราณมเีหมอืนกนัวฒันธรรมการกนิขา้ว 3. ปัจจยัภายนอกปัจจยัใดมผีลต่อภมูปิัญญาของคนในอาณาจกัรโบราณ ความเชอื่ศาสนาและภาษา 4. ภมูปิัญญาของคนในอาณาจกัรโบราณมคีวามเกย่ีวขอ้งกบัเรอ่ืงใดบา้ง 1) การพฒันาอาชพีเกษตรกรรม เชน่การพฒันาพนัธขุ์า้ว การใชว้วัไถนาแทนคน เป็นตน้2) การเลอืกทาํเลทตี่งั้บา้นเมอืงใหเ้หมาะสมกบัการประกอบอาชพีการปกครอง การคา้ขาย และการตดิต่อกบัอาณาจกัรอนื่ๆ เป็นตน้ 3) การประดษิฐต์วัอกัษรขน้ึใช้เชน่ดดัแปลงภาษาบาล-ีสนัสกฤตทรี่บัมาจากอนิเดยีผสมกบัภาษาพ้นืเมอืง กลายเป็นภาษามอญ เป็นตน้4) แสดงความศรทัธาในศาสนา เชน่การสรา้งงานสถาปัตยกรรม วดั ปราสาทหนิและงานประตมิากรรม พระพทุธรปูพระโพธสิตัว์เป็นตน้5. ภมูปิัญญาดา้นใดของคนในอาณาจกัรโบราณทน่ีกัเรยีนชน่ืชอบหรอืสนใจ อธบิายเหตุผล (พจิารณาตามคาํตอบของนกัเรยีน โดยใหอ้ยใู่นดุลยพนิิจของครผูสู้อน)