หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ภาษาไทย
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา
โรงเรยี นบา้ นตาวร
พุทธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑
สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาสุรินทร์ เขต ๓
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา
โรงเรยี นบ้านตาวร
พทุ ธศักราช ๒๕๖๕
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑
สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสุรนิ ทร์ เขต ๓
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน
คำนำ
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยฉบับนี้ เป็นเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านตาวร พุทธศักราช ๒๕๖๕ จัดทำเพื่อเป็นกรอบและทศิ ทางในการจดั การเรียนการสอนในการ
พัฒนาคุณภาพผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ให้ตรงตามมาตรฐาน ตัวชี้วัด
และสาระการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย โดยพิจารณาตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มอี งคป์ ระกอบ ดังตอ่ ไปน้ี
- วิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ และเปา้ ประสงค์
- สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
- คณุ ภาพผเู้ รียน
- ตัวชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง
- โครงสรา้ งหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
- คำอธิบายรายวชิ า
- โครงสร้างรายวชิ า
- สือ่ /แหล่งเรยี นรู้
- การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
คณะผู้จัดทำขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาและจัดทำหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทยฉบับนี้ จนสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้
ใหก้ ับผูเ้ รยี นตอ่ ไป
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
คณะผจู้ ัดทำ
สารบญั
เร่อื ง หนา้
ก
คำนำ................................................................................................................................................. ก
สารบญั .............................................................................................................................................. ข
วิสยั ทศั น์ พันธกิจ และเปา้ ประสงค์.................................................................................................... ๑
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์............................................................... ๑
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ........................................................................................................... ๓
คุณภาพผูเ้ รียน................................................................................................................................... ๓
ตวั ชวี้ ัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง................................................................................................ ๖
โครงสรา้ งหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ............................................................................. ๓๗
คำอธิบายรายวิชา.............................................................................................................................. ๓๘
โครงสร้างรายวิชา.............................................................................................................................. ๕๘
ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้................................................................................................................................. ๑๑๒
การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้....................................................................................................... ๑๑๓
อภิธานศัพท์....................................................................................................................................... ๑๒๗
ข
๑
วสิ ัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์
วสิ ัยทศั น์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทย
ได้อย่างถูกต้อง พัฒนาทักษะสื่อสารอย่างสมวัย เรียนรู้วัฒนธรรมการใช้ภาษาไทยที่ดีงาม สร้างเจตคติที่ดี
ในการเรียนวิชาภาษาไทย ชี้ให้เห็นถึงคุณค่าของภาษาไทย และการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องตามหลักการใช้
ภาษาเพื่ออนุรกั ษภ์ าษาไทยอันเปน็ สมบตั ิของชาติ
พันธกิจ
๑. ส่งเสริมจัดการเรยี นการสอนให้สอดคลอ้ งกบั หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ึ พืน้ ฐาน
๒. ส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนพร้อมทั้งพัฒนาการใช้ภาษาให้ถูกต้องตาม
หลกั การใช้ภาษาไทย
๓. สง่ เสริมและพัฒนาทกั ษะการสือ่ สารภายใตม้ ารยาทในการสอื่ สารและคุณธรรม
๔. สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นเรยี นร้ดู ้วยวธิ กี ารทห่ี ลากหลาย เพ่ือสรา้ งเจตคตทิ ด่ี ใี นการเรียน วชิ า
ภาษาไทย
๕. ส่งเสริมให้ผู้เรียนตระหนักและเห็นคุณค่าในการธำรงอนุรักษ์ภาษาไทย อันเป็นสมบัติ
ของชาติ
เปา้ ประสงค์
๑. ผู้เรียนมที ักษะในการอา่ นและการเขียนอยู่ในเกณฑ์ท่ีดตี ามความสามารถดา้ นการเรียนภาษา
ในระดับชว่ งช้ัน โดยสอดคล้องกบั ตัวช้วี ัดตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน
๒. ผู้เรียนใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องตามหลักการเขียนและการใช้ภาษา มีทักษะการสื่อสารในการ
อ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูดอย่างเหมาะสมตามกาลเทศะภายใต้มารยาทในการสื่อสาร
และคุณธรรมอันดงี าม
๓. ผู้เรยี นเห็นคณุ ค่าและตระหนกั ในการอนุรกั ษ์ภาษาไทย พรอ้ มทั้งใชภ้ าษาในการพฒั นาตนเอง
และเปน็ สื่อในการสร้างสมั พันธอ์ ันดตี อ่ ผูอ้ น่ื เพอ่ื การอยู่รว่ มกบั ผูอ้ ืน่ ในสงั คมได้อยา่ งมีความสุข
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมใน การใช้
ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลีย่ นข้อมลู ข่าวสาร
และประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเองและสงั คม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและ
ลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง
ตลอดจน การเลือกใช้วธิ ีการสือ่ สาร ท่มี ีประสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบทมี่ ีตอ่ ตนเองและสงั คม
๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์การคิด
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศเพอื่ การตัดสนิ ใจเกย่ี วกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม
๒
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ใน
การป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจทีม่ ีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทีเ่ กิดขึน้ ต่อตนเอง
สังคมและสงิ่ แวดลอ้ ม
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน
การดำเนนิ ชวี ิตประจำวัน การเรียนรดู้ ้วยตนเอง การเรียนร้อู ยา่ งต่อเน่ือง การทำงาน และการอยรู่ ่วมกนั ใน
สังคมด้วยการสร้างเสริมความสมั พันธ์อันดรี ะหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่าง
เหมาะสม การมีเหตุผล กตัญญูกตเวที การปรับตัวให้ทันกบั การเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม
และการรจู้ กั หลีกเลยี่ งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น การรกั และภูมิใจในความ
เปน็ ไทยและรกั ษท์ อ้ งถิ่น
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง
ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร
การทำงาน การแก้ปญั หาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซอื่ สัตย์สุจริต
๓. มวี นิ ยั
๔. ใฝ่เรียนรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
๖. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
๗. รกั ความเป็นไทย
๘. มีจิตสาธารณะ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา
ในการดำเนินชวี ติ และมีนิสยั รักการอา่ น
สาระท่ี ๒ การเขียน
๓
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน
เรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี
ประสิทธภิ าพ
สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด
และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์
สาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา
และพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คณุ คา่ และนำมาประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริง
คณุ ภาพผ้เู รยี น
จบช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓
๑. อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ เรื่องสั้น ๆ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ถูกต้อง
คล่องแคล่ว เข้าใจความหมายของคำและข้อความทีอ่ ่าน ตั้งคำถามเชิงเหตผุ ล ลำดับเหตุการณ์ คาดคะเน
เหตุการณ์ สรุปความรู้ข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน ปฏิบัติตามคำสั่ง คำอธิบายจากเรื่องที่อ่านได้ เข้าใจ
ความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ อ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอ และมีมารยาทใน
การอ่าน
๒. มที ักษะในการคัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัด เขยี นบรรยาย บนั ทกึ ประจำวัน เขียนจดหมาย
ลาครู เขยี นเรอ่ื งเก่ียวกับประสบการณ์ เขียนเร่ืองตามจนิ ตนาการและมมี ารยาทในการเขยี น
๓. เล่ารายละเอียดและบอกสาระสำคัญ ตั้งคำถาม ตอบคำถาม รวมทั้งพูดแสดงความคิด
ความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู พูดสื่อสารเล่าประสบการณ์และพูดแนะนำ หรือพูดเชิญชวนให้ผู้อ่ืน
ปฏบิ ตั ิตาม และมีมารยาทในการฟงั ดู และพูด
๔. สะกดคำและเข้าใจความหมายของคำ ความแตกต่างของคำและพยางค์ หน้าที่ของคำใน
ประโยค มีทักษะการใช้พจนานุกรมในการค้นหาความหมายของคำ แต่งประโยคง่าย ๆ แต่งคำคล้องจอง
แต่งคำขวัญ และเลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่นิ ไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ
๕. เข้าใจและสามารถสรุปข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวัน แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีทีอ่ ่าน รู้จักเพลงพื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก ซึ่งเป็นวัฒนธรรม
ของท้องถ่นิ ร้องบทร้องเล่นสำหรบั เด็กในท้องถ่ิน ทอ่ งจำบทอาขยานและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความ
สนใจได้
จบชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖
๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้อง อธิบายความหมาย
โดยตรงและความหมายโดยนัยของคำ ประโยค ข้อความ สำนวนโวหาร จากเรื่องที่อ่าน เข้าใจคำแนะนำ
๔
คำอธบิ ายในคู่มือต่าง ๆ แยกแยะข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริง รวมทง้ั จับใจความสำคัญของเรื่องท่ีอ่านและนำ
ความรู้ความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิ นชีวิตได้มีมารยาทและมีนิสัยรักการอ่าน
และเหน็ คณุ ค่าส่ิงทอ่ี า่ น
๒. มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสะกดคำแต่งประโยค
และเขียนข้อความ ตลอดจนเขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคำชัดเจนเหมาะสม ใช้แผนภาพ โครงเรื่องและ
แผนภาพความคิด เพื่อพัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่าง
ๆ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น เขียนเรื่องตามจินตนาการอยา่ งสร้างสรรค์ และมีมารยาทในการ
เขียน
๓. พูดแสดงความรู้ ความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู เล่าเรื่องย่อหรือสรุปจากเรื่องที่ฟังและดู
ตั้งคำถาม ตอบคำถามจากเรื่องที่ฟังและดู รวมทั้งประเมินความน่าเชื่อถือจากการฟังและดูโฆษณาอย่างมี
เหตุผล พูดตามลำดับขั้นตอนเรื่องต่าง ๆ อย่างชัดเจน พูดรายงานหรือประเด็นค้นคว้าจากการฟัง การดู
การสนทนา และพูดโน้มนา้ วได้อย่างมเี หตุผล รวมท้ังมมี ารยาทในการดูและพูด
๔. สะกดคำและเข้าใจความหมายของคำ สำนวน คำพังเพยและสุภาษิต รู้และเข้าใจชนิดและ
หน้าที่ของคำในประโยค ชนิดของประโยค และคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้คำราชาศัพท์และคำ
สุภาพได้อยา่ งเหมาะสม แตง่ ประโยค แต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนส่ี กลอนสภุ าพ และกาพย์ยานี ๑๑
๕. เข้าใจและเหน็ คณุ ค่าวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ น เลา่ นทิ านพนื้ บา้ น ร้องเพลงพ้ืนบ้านของ
ทอ้ งถิ่น นำข้อคดิ เห็นจากเร่ืองที่อา่ นไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ และทอ่ งจำบทอาขยานตามท่กี ำหนดได้
จบชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓
• อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้อง เข้าใจความหมาย
โดยตรงและความหมายโดยนัย จับใจความสำคัญและรายละเอยี ดของสิง่ ท่ีอ่าน แสดงความคดิ เหน็ และข้อ
โต้แย้งเกี่ยวกบั เรื่องทีอ่ ่าน และเขียนกรอบแนวคิด ผังความคดิ ย่อความ เขียนรายงานจาก สิ่งท่ีอ่าน
ได้ วิเคราะห์ วิจารณ์ อย่างมีเหตุผล ลำดับความอย่างมีขั้นตอนและความเป็นไปได้ของเรื่องที่อ่าน
รวมทง้ั ประเมนิ ความถกู ตอ้ งของข้อมลู ท่ีใช้สนบั สนนุ จากเรอื่ งท่ีอ่าน
• เขียนสื่อสารด้วยลายมอื ที่อ่านงา่ ยชัดเจน ใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องเหมาะสมตามระดับภาษาเขยี น
คำขวัญ คำคม คำอวยพรในโอกาสต่างๆ โฆษณา คติพจน์ สุนทรพจน์ ชีวประวัติ อัตชีวประวัติและ
ประสบการณ์ต่างๆ เขียนย่อความ จดหมายกิจธุระ แบบกรอกสมัครงาน เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และ
แสดงความรู้ความคิดหรือโต้แย้งอย่างมีเหตุผล ตลอดจนเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและเขียน
โครงงาน
• พูดแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินสิ่งที่ได้จากการฟังและดู นำข้อคิดไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ มีศิลปะ
ในการพูด พูดในโอกาสต่างๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และพูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผลน่าเชื่อถือ รวมทั้งมี
มารยาทในการฟัง ดู และพูด
• เข้าใจและใช้คำราชาศัพท์ คำบาลสี ันสกฤต คำภาษาต่างประเทศอนื่ ๆ คำทบั ศัพท์ และศัพท์
บญั ญตั ิในภาษาไทย วเิ คราะห์ความแตกตา่ งในภาษาพดู ภาษาเขยี น โครงสรา้ งของประโยครวม ประโยค
๕
ซ้อน ลักษณะภาษาท่ีเป็นทางการ ก่ึงทางการและไม่เป็นทางการ และแต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสภุ าพ
กาพย์ และโคลงส่ีสุภาพ
• สรปุ เนอื้ หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อา่ น วิเคราะหต์ ัวละครสำคัญ วถิ ีชวี ิตไทย และคณุ คา่ ที่
ได้รบั จากวรรณคดวี รรณกรรมและบทอาขยาน พร้อมท้งั สรุปความร้ขู ้อคดิ เพ่ือนำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ
ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ
ดำเนินชวี ติ และมีนสิ ัยรกั การอ่าน
ชัน้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
ป.๑ ๑. อา่ นออกเสียงคำ คำคล้องจอง และ การอา่ นออกเสียงและบอกความหมาย
ขอ้ ความสนั้ ๆ ของคำ คำคล้องจอง และข้อความที่
๒. บอกความหมายของคำ และข้อความ ประกอบดว้ ยคำพืน้ ฐาน คอื คำที่ใชใ้ น
ที่อา่ น ชวี ิตประจำวนั ไมน่ อ้ ยกว่า ๖๐๐ คำ รวมทั้งคำที่
ใชเ้ รียนรูใ้ นกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น
ประกอบดว้ ย
- คำที่มรี ปู วรรณยุกต์และไมม่ ีรูปวรรณยกุ ต์
- คำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตาม
มาตรา
- คำทีม่ ีพยัญชนะควบกล้ำ
- คำที่มอี ักษรนำ
๖
ชนั้ ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๓. ตอบคำถามเกยี่ วกบั เร่ืองที่อ่าน
๔. เล่าเรอ่ื งย่อจากเรื่องท่ีอ่าน การอ่านจบั ใจความจากส่อื ตา่ ง ๆ เช่น
๕. คาดคะเนเหตุการณจ์ ากเร่ืองท่ีอา่ น - นิทาน
- เร่ืองสั้นๆ
๖. อ่านหนงั สือตามความสนใจ - บทรอ้ งเล่นและบทเพลง
อย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรื่องท่ีอา่ น - เรอื่ งราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการเรยี นรู้
ภาษาไทยและกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น
การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ เช่น
- หนังสือทน่ี ักเรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วัย
- หนังสอื ที่ครูและนักเรยี นกำหนดร่วมกัน
๗. บอกความหมายของเคร่ืองหมาย การอ่านเคร่อื งหมายหรอื สัญลกั ษณ์
หรือสัญลักษณ์สำคัญที่มกั พบเห็นใน ประกอบดว้ ย
ชวี ิตประจำวนั - เครือ่ งหมายสัญลักษณต์ ่าง ๆ ท่ีพบเหน็ ใน
ชีวิตประจำวัน
- เคร่อื งหมายแสดงความปลอดภยั
และแสดงอนั ตราย
๘. มมี ารยาท ในการอา่ น มารยาทในการอา่ น เชน่
- ไม่อ่านเสียงดังรบกวนผู้อืน่
- ไม่เลน่ กันขณะท่ีอา่ น
- ไม่ทำลายหนังสอื
ป.๒ ๑. อ่านออกเสยี งคำ คำคล้องจอง ข้อความ การอ่านออกเสยี งและการบอกวามหมายของ
และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ ูกต้อง คำ คำคล้องจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรอง
๒. อธิบายความหมายของคำและข้อความ ง่ายๆ ที่ประกอบดว้ ยคำพน้ื ฐานเพ่ิมจาก
ทอี่ ่าน ป. ๑ ไม่น้อยกวา่ ๘๐๐ คำ รวมท้ังคำที่ใชเ้ รียนรใู้ น
กลุ่มสาระ การเรียนรู้อน่ื ประกอบด้วย
- คำท่มี รี ูปวรรณยุกต์และไม่มีรปู วรรณยกุ ต์
- คำท่ีมีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรงตาม
มาตรา
- คำทม่ี พี ยัญชนะควบกลำ้
- คำที่มีอักษรนำ
- คำท่มี ีตวั การันต์
- คำที่มี รร
- คำที่มพี ยัญชนะและสระท่ีไม่ออกเสียง
๓. ต้ังคำถามและตอบคำถามเกย่ี วกบั การอ่านจบั ใจความจากส่อื ต่าง ๆ เชน่
เรอ่ื งท่ีอ่าน - นทิ าน
๗
ชนั้ ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
๔. ระบใุ จความสำคัญและรายละเอียดจาก - เรอื่ งเลา่ สน้ั ๆ
เรอื่ งท่ีอ่าน - บทเพลงและบทร้อยกรองงา่ ยๆ
๕. แสดงความคดิ เหน็ และคาดคะเน - เรอื่ งราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการเรยี นรู้
เหตุการณ์จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน ภาษาไทย และกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่ืน
- ขา่ วและเหตกุ ารณป์ ระจำวัน
๖. อ่านหนงั สือตามความสนใจอยา่ ง การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ เช่น
สมำ่ เสมอและนำเสนอเรื่องท่ีอา่ น - หนงั สือท่นี ักเรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วัย
- หนังสอื ทค่ี รูและนกั เรียนกำหนดร่วมกนั
๗. อ่านขอ้ เขียนเชิงอธิบาย และปฏบิ ัตติ าม การอา่ นขอ้ เขียนเชงิ อธิบาย และปฏบิ ตั ติ าม
คำสงั่ หรือข้อแนะนำ คำสงั่ หรือข้อแนะนำ เช่นการใชส้ ถานท่ี
สาธารณะ
และคำแนะนำการใชเ้ คร่ืองใช้ที่จำเปน็ ในบา้ น
และ ในโรงเรยี น
๘. มีมารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน เช่น
- ไมอ่ ่านเสียงดังรบกวนผู้อนื่
- ไม่เล่นกนั ขณะท่อี ่าน
- ไม่ทำลายหนงั สอื
- ไม่ควรแยง่ อา่ นหรือชะโงกหนา้ ไปอ่านขณะท่ี
ผู้อ่ืนกำลงั อ่านอยู่
ป.๓ ๑. อา่ นออกเสียงคำ ขอ้ ความ เรอื่ งสน้ั ๆ การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมาย
และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้อง ของคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรอง
คล่องแคล่ว งา่ ยๆ ท่ีประกอบด้วยคำพื้นฐานเพมิ่ จาก ป.๒ ไม่
๒. อธิบายความหมายของคำและข้อความ น้อยกวา่ ๑,๒๐๐ คำ รวมทั้งคำท่ีเรยี นรู้ในกล่มุ
ที่อ่าน สาระ การเรยี นรูอ้ ่ืน ประกอบด้วย
- คำที่มีตัวการันต์
- คำทม่ี ี รร
- คำที่มีพยัญชนะและสระไมอ่ อกเสยี ง
- คำพอ้ ง
- คำพิเศษอนื่ ๆ เช่น คำท่ีใช้ ฑ ฤ ฤๅ
๓. ตง้ั คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล การอา่ นจบั ใจความจากสอ่ื ตา่ ง ๆ เช่น
เกย่ี วกบั เร่ืองท่ีอ่าน - นทิ านหรอื เรอ่ื งเกยี่ วกับท้องถ่ิน
๔. ลำดบั เหตุการณ์และคาดคะเนเหตุการณ์ - เรอ่ื งเลา่ สนั้ ๆ
จากเรือ่ งท่ีอ่านโดยระบเุ หตุผลประกอบ - บทเพลงและบทรอ้ ยกรอง
๕. สรปุ ความรู้และข้อคดิ จากเร่ืองที่อ่าน - บทเรียนในกลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่
เพือ่ นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน - ขา่ วและเหตกุ ารณ์ในชวี ติ ประจำวันในทอ้ งถน่ิ
และชุมชน
๘
ชนั้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง
๖. อ่านหนังสือตามความสนใจ การอ่านหนงั สือตามความสนใจ เชน่
อย่างสมำ่ เสมอและนำเสนอเรื่องท่ีอา่ น - หนงั สอื ที่นักเรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วยั
- หนงั สอื ท่ีครูและนกั เรยี นกำหนดรว่ มกนั
๗. อ่านข้อเขยี นเชิงอธิบายและปฏบิ ัตติ าม การอา่ นขอ้ เขียนเชิงอธิบาย และปฏบิ ัตติ าม
คำสงั่ หรือข้อแนะนำ คำส่งั หรอื ข้อแนะนำ
- คำแนะนำต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน
- ประกาศ ป้ายโฆษณา และคำขวญั
๘. อธบิ ายความหมายของข้อมูลจาก การอ่านข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และ
แผนภาพ แผนที่ และแผนภมู ิ แผนภมู ิ
๙. มีมารยาทในการอา่ น มารยาทในการอา่ น เช่น
- ไม่อา่ นเสียงดังรบกวนผูอ้ น่ื
- ไม่เล่นกันขณะทีอ่ ่าน
- ไมท่ ำลายหนังสอื
- ไม่ควรแยง่ อา่ นหรอื ชะโงกหนา้ ไปอา่ นขณะท่ี
ผูอ้ ่ืนกำลังอา่ น
ป.๔ ๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ การอ่านออกเสยี งและการบอกความหมาย
และบทร้อยกรองไดถ้ กู ต้อง ของบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองท่ีประกอบดว้ ย
๒. อธบิ ายความหมายของคำ ประโยค - คำท่มี ี ร ล เปน็ พยญั ชนะต้น
และสำนวนจากเรอื่ งที่อ่าน - คำท่ีมีพยัญชนะควบกล้ำ
- คำท่มี อี ักษรนำ
- คำประสม
- อกั ษรย่อและเครอื่ งหมายวรรคตอน
- ประโยคท่มี สี ำนวนเปน็ คำพังเพย สภุ าษิต
ปรศิ นาคำทาย และเครื่องหมายวรรคตอน
การอ่านบทรอ้ ยกรองเป็นทำนองเสนาะ
๓. อ่านเรื่องสน้ั ๆ ตามเวลาท่ีกำหนด การอ่านจบั ใจความจากสอ่ื ต่าง ๆ เชน่
และตอบคำถามจากเรอ่ื งท่ีอ่าน - เรื่องสั้น ๆ
๔. แยกข้อเทจ็ จริงและขอ้ คดิ เหน็ - เร่อื งเลา่ จากประสบการณ์
จากเรอ่ื งท่ีอา่ น - นทิ านชาดก
๕. คาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ืองที่อา่ น - บทความ
โดยระบเุ หตผุ ลประกอบ - บทโฆษณา
๖. สรปุ ความร้แู ละข้อคิดจากเรอื่ งท่ีอา่ น - งานเขียนประเภทโน้มน้าวใจ
เพ่อื นำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั - ขา่ วและเหตกุ ารณป์ ระจำวัน
- สารคดแี ละบันเทิงคดี
๙
ชน้ั ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๗. อ่านหนังสือท่มี ีคุณค่าตามความสนใจ การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ เช่น
อย่างสม่ำเสมอและแสดงความคดิ เหน็ - หนงั สือทน่ี ักเรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วัย
เกยี่ วกับเรื่องทอี่ ่าน - หนงั สอื ทค่ี รูและนักเรียนกำหนดร่วมกนั
๘. มมี ารยาทในการอา่ น
มารยาทในการอา่ น
ป.๕ ๑. อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้ว
และบทร้อยกรองได้ถูกต้อง การอ่านออกเสยี งและการบอกความหมาย
๒. อธิบายความหมายของคำ ประโยค ของบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองท่ีประกอบด้วย
และข้อความที่เปน็ การบรรยาย - คำท่มี ีพยัญชนะควบกลำ้
และการพรรณนา - คำท่ีมีอักษรนำ
๓. อธิบายความหมายโดยนยั - คำที่มตี วั การนั ต์
จากเรอ่ื งที่อ่านอย่างหลากหลาย - อกั ษรย่อและเคร่ืองหมายวรรคตอน
- ขอ้ ความท่ีเป็นการบรรยายและพรรณนา
๔. แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ - ขอ้ ความที่มีความหมายโดยนยั
จากเร่ืองท่อี ่าน การอา่ นบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะ
๕. วเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ การอา่ นจับใจความจากส่อื ต่าง ๆ เชน่
เกี่ยวกับเร่อื งทอ่ี ่านเพื่อนำไปใชใ้ นการ - วรรณคดีในบทเรยี น
ดำเนินชวี ติ - บทความ
- บทโฆษณา
๖. อ่านงานเขียนเชงิ อธิบาย คำสง่ั - งานเขยี นประเภทโน้มน้าวใจ
ข้อแนะนำ และปฏิบตั ติ าม - ขา่ วและเหตกุ ารณป์ ระจำวัน
การอา่ นงานเขยี นเชงิ อธิบาย คำสงั่ ขอ้ แนะนำ
๗. อา่ นหนงั สอื ทมี่ คี ุณค่าตามความสนใจ และปฏบิ ัติตาม เช่น
อยา่ งสม่ำเสมอและแสดงความคดิ เหน็ - การใช้พจนานุกรม
เก่ียวกบั เรอ่ื งท่อี ่าน - การใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์
๘. มมี ารยาทในการอา่ น - การอา่ นฉลากยา
- คมู่ ือและเอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ งกับนักเรียน
- ข่าวสารทางราชการ
การอา่ นหนังสือตามความสนใจ เช่น
- หนงั สอื ท่ีนกั เรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วัย
- หนังสือที่ครแู ละนักเรยี นกำหนดรว่ มกัน
มารยาทในการอ่าน
๑๐
ช้นั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป.๖ ๑. อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้ว การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมาย
และบทร้อยกรองไดถ้ กู ต้อง ของบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง
๒. อธิบายความหมายของคำ ประโยค ประกอบดว้ ย
และข้อความที่เป็นโวหาร - คำทม่ี พี ยัญชนะควบกลำ้
- คำทมี่ อี ักษรนำ
- คำท่มี ีตัวการนั ต์
- คำทม่ี าจากภาษาตา่ งประเทศ
- อักษรย่อและเคร่อื งหมายวรรคตอน
- วนั เดอื น ปีแบบไทย
- ขอ้ ความท่ีเปน็ โวหารต่าง ๆ
- สำนวนเปรยี บเทยี บ
การอ่านบทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ
๓. อา่ นเร่อื งสั้นๆ อย่างหลากหลาย การอ่านจบั ใจความจากส่อื ตา่ ง ๆ เชน่
โดยจับเวลาแล้วถามเก่ยี วกับเรอ่ื งท่ีอ่าน - เร่อื งสัน้ ๆ
๔. แยกขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เหน็ - นิทานและเพลงพ้ืนบา้ น
จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น - บทความ
๕. อธิบายการนำความรู้และความคดิ - พระบรมราโชวาท
จากเร่ืองท่อี า่ นไปตัดสนิ ใจแก้ปัญหา - สารคดี
ในการดำเนินชวี ิต - เรอ่ื งสั้น
- งานเขยี นประเภทโน้มนา้ ว
๖. อา่ นงานเขยี นเชิงอธิบาย คำส่งั - บทโฆษณา
ขอ้ แนะนำ และปฏิบตั ติ าม - ขา่ ว และเหตุการณส์ ำคญั
การอา่ นเรว็
๗. อธิบายความหมายของข้อมูล การอา่ นงานเขยี นเชิงอธบิ าย คำสัง่ ข้อแนะนำ
จากการอา่ นแผนผัง แผนท่ี แผนภมู ิ และปฏบิ ัติตาม
และกราฟ - การใชพ้ จนานุกรม
๘. อ่านหนงั สอื ตามความสนใจ - การปฏบิ ัตติ นในการอย่รู ่วมกันในสังคม
และอธิบายคณุ ค่าท่ไี ด้รบั - ข้อตกลงในการอยรู่ ว่ มกันในโรงเรียน และการ
ใช้สถานท่สี าธารณะในชมุ ชนและทอ้ งถิน่
การอ่านข้อมูลจากแผนผัง แผนที่ แผนภูมิ
และกราฟ
การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ เชน่
- หนังสือท่นี กั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวัย
๑๑
ช้ัน ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- หนงั สืออา่ นที่ครูและนักเรยี นกำหนดรว่ มกัน
๙. มีมารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน
ม.๑ ๑. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อย การอ่านออกเสยี ง ประกอบด้วย
กรองไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกับเรือ่ งท่ีอา่ น - บทร้อยแกว้ ทเ่ี ป็นบทบรรยาย
- บทรอ้ ยกรอง เช่น กลอนสุภาพ กลอนสักวา
กาพยย์ านี ๑๑ กาพยฉ์ บงั ๑๖ กาพย์
สรุ างคนางค์ ๒๘ และโคลงสี่สุภาพ
๒. จบั ใจความสำคญั จากเรื่องท่ีอา่ น การอ่านจบั ใจความจากสอื่ ต่างๆ เชน่
๓. ระบุเหตุและผล และข้อเทจ็ จริงกบั - เรอ่ื งเลา่ จากประสบการณ์
ข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ีอา่ น - เรื่องส้นั
๔. ระบุและอธบิ ายคำเปรียบเทยี บ และคำ - บทสนทนา
ท่ีมีหลายความหมายในบรบิ ทตา่ งๆ จาก - นิทานชาดก
การอ่าน - วรรณคดีในบทเรยี น
๕. ตีความคำยากในเอกสารวิชาการ โดย - งานเขยี นเชิงสร้างสรรค์
พิจารณาจากบริบท - บทความ
๖. ระบขุ ้อสังเกตและความสมเหตสุ มผล - สารคดี
ของงานเขยี นประเภทชกั จงู โน้มน้าวใจ - บันเทิงคดี
- เอกสารทางวิชาการท่มี คี ำ ประโยค และ
ข้อความท่ตี ้องใช้บรบิ ทชว่ ยพิจารณาความหมาย
- งานเขยี นประเภทชกั จงู โน้มน้าวใจเชิง
สรา้ งสรรค์
๗. ปฏิบตั ิตามคูม่ อื แนะนำวธิ ีการใช้งาน การอ่านและปฏิบตั ิตามเอกสารคมู่ อื
ของเครื่องมือหรือเครื่องใชใ้ นระดับทยี่ าก
ขึ้น
๘. วิเคราะหค์ ุณค่าทีไ่ ดร้ ับจากการอ่านงาน การอ่านหนังสือตามความสนใจ เช่น
เขยี นอย่างหลากหลายเพ่ือนำไปใช้ - หนังสอื ที่นกั เรยี นสนใจและเหมาะสมกับวยั
แกป้ ัญหาในชวี ิต - หนังสอื อ่านท่ีครูและนักเรียนกำหนดรว่ มกัน
๙. มีมารยาทในการอา่ น มารยาทในการอ่าน
ชน้ั ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ม.๒ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อย การอา่ นออกเสียง ประกอบด้วย
กรองไดถ้ ูกต้อง - บทรอ้ ยแกว้ ทเ่ี ป็นบทบรรยายและบทพรรณนา
- บทร้อยกรอง เชน่ กลอนบทละคร กลอน
นิทาน กลอนเพลงยาว และกาพย์หอ่ โคลง
๑๒
๒. จบั ใจความสำคัญ สรปุ ความ และ การอา่ นจับใจความจากส่ือต่างๆ เชน่
อธบิ ายรายละเอียดจากเร่ืองท่ีอา่ น - วรรณคดีในบทเรียน
๓. เขยี นผังความคดิ เพอื่ แสดงความเข้าใจ - บทความ
ในบทเรยี นต่างๆ ท่อี ่าน - บันทึกเหตุการณ์
๔. อภิปรายแสดงความคิดเห็น และขอ้ - บทสนทนา
โต้แย้งเก่ยี วกบั เร่ืองท่ีอ่าน - บทโฆษณา
๕. วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจรงิ ขอ้ มลู - งานเขียนประเภทโนม้ น้าวใจ
สนบั สนนุ และขอ้ คดิ เห็นจากบทความท่ี - งานเขยี นหรอื บทความแสดงข้อเท็จจรงิ
อ่าน - เร่ืองราวจากบทเรยี นในกลุ่มสาระการเรยี นรู้
๖. ระบุขอ้ สงั เกตการชวนเชื่อ การ โน้ม ภาษาไทย และกลุ่มสาระการเรียนรอู้ ื่น
นา้ ว หรือความสมเหตุสมผลของงานเขยี น
๗. อ่านหนังสือ บทความ หรือคำประพันธ์ การอ่านตามความสนใจ เชน่
อย่างหลากหลาย และประเมินคณุ ค่าหรือ - หนังสอื อ่านนอกเวลา
แนวคิดที่ได้จากการอ่าน เพื่อนำไปใช้ - หนงั สอื ที่นักเรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วยั
แกป้ ัญหาในชีวติ - หนงั สอื อ่านท่ีครแู ละนักเรยี นกำหนดรว่ มกัน
๘. มมี ารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน
ม.๓ ๑. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว และบทร้อย การอ่านออกเสียง ประกอบด้วย
กรองได้ถูกต้องและเหมาะสมกบั เรือ่ งท่ีอา่ น - บทรอ้ ยแก้วทเ่ี ปน็ บทความทว่ั ไปและบทความ
ปกิณกะ
- บทรอ้ ยกรอง เช่น กลอนบทละคร กลอนเสภา
กาพยย์ านี ๑๑ กาพย์ฉบัง ๑๖ และโคลงส่ี
สุภาพ
ชนั้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ม.๓ ๒. ระบุความแตกต่างของคำท่ีมคี วามหมาย การอ่านจบั ใจความจากส่อื ตา่ งๆ เช่น
โดยตรงและความหมายโดยนยั - วรรณคดใี นบทเรยี น
๓. ระบุใจความสำคญั และรายละเอยี ดของ - ข่าวและเหตุการณส์ ำคัญ
ข้อมลู ท่สี นบั สนนุ จากเรอื่ งทีอ่ ่าน - บทความ
๔. อา่ นเรอื่ งต่างๆ แลว้ เขียนกรอบแนวคดิ - บันเทงิ คดี
ผังความคิด บันทึก ย่อความและรายงาน - สารคดี
๑๓
๕. วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมนิ เร่ืองที่ - สารคดเี ชงิ ประวัติ
อา่ นโดยใชก้ ลวิธีการเปรยี บเทียบเพือ่ ให้ - ตำนาน
ผอู้ ่านเขา้ ใจได้ดีข้ึน - งานเขียนเชิงสร้างสรรค์
๖. ประเมนิ ความถูกต้องของขอ้ มูลที่ใช้ - เรอ่ื งราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการเรยี นรู้
สนบั สนุนในเรื่องที่อ่าน ภาษาไทย และกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ื่น
๗. วิจารณ์ความสมเหตุสมผล การลำดับ
ความ และความเป็นไปได้ของเรอ่ื ง
๘. วิเคราะหเ์ พือ่ แสดงความคิดเหน็ โตแ้ ย้ง
เกย่ี วกับเร่อื งท่อี ่าน
๙. ตีความและประเมินคณุ ค่า และแนวคดิ การอ่านตามความสนใจ เชน่
ทไี่ ดจ้ ากงานเขียนอย่างหลากหลายเพอื่ - หนังสืออ่านนอกเวลา
- หนงั สอื อา่ นตามความสนใจและตามวยั ของ
นำไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ติ นกั เรียน
- หนงั สอื อ่านท่ีครแู ละนักเรียนรว่ มกนั กำหนด
๑๐. มมี ารยาทในการอ่าน มารยาทในการอา่ น
สาระที่ ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว
ในรูปแบบต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมี
ประสิทธิภาพ
ชัน้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ป.๑ ๑. คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัด
การคัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั
ตามรูปแบบการเขยี นตัวอักษรไทย
๑๔
ช้ัน ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
๒. เขยี นสื่อสารดว้ ยคำและประโยคง่ายๆ
การเขียนสอื่ สาร
๓. มมี ารยาทในการเขยี น - คำที่ใช้ในชีวติ ประจำวัน
- คำพ้นื ฐานในบทเรียน
ป.๒ ๑. คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั - คำคลอ้ งจอง
๒. เขียนเรอื่ งสน้ั ๆ เกยี่ วกับประสบการณ์ - ประโยคงา่ ยๆ
๓. เขยี นเรอื่ งส้ันๆ ตามจนิ ตนาการ
๔. มมี ารยาทในการเขียน มารยาทในการเขียน เช่น
- เขียนให้อา่ นงา่ ย สะอาด ไม่ขดี ฆ่า
ป.๓ ๑. คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด - ไม่ขีดเขียนในที่สาธารณะ
๒ เขียนบรรยายเก่ยี วกับสิง่ ใดสิง่ หนึ่งได้ - ใชภ้ าษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานท่ี
อยา่ งชัดเจน และบคุ คล
๓. เขยี นบันทึกประจำวนั
๔. เขยี นจดหมายลาครู การคัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดตาม
๕. เขยี นเรือ่ งตามจนิ ตนาการ รูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย
๖. มมี ารยาทในการเขียน
การเขยี นเร่ืองสน้ั ๆ เกยี่ วกับประสบการณ์
ป.๔ ๑. คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั
และครึง่ บรรทัด การเขียนเรื่องสนั้ ๆ ตามจนิ ตนาการ
มารยาทในการเขียน เชน่
- เขยี นให้อ่านง่าย สะอาด ไม่ขีดฆา่
- ไม่ขดี เขียนในทส่ี าธารณะ
- ใช้ภาษาเขียนเหมาะสมกับเวลา สถานท่ี
และบุคคล
- ไมเ่ ขียนล้อเลียนผู้อื่นหรือทำให้ผ้อู ืน่ เสียหาย
การคดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด
ตามรูปแบบการเขยี น ตวั อักษรไทย
การเขยี นบรรยายเก่ียวกับลักษณะ
ของคน สัตว์ สงิ่ ของ สถานที่
การเขียนบนั ทึกประจำวนั
การเขียนจดหมายลาครู
การเขยี นเร่ืองตามจินตนาการจากคำ
ภาพและหัวข้อท่ีกำหนด
มารยาทในการเขยี น เชน่
- เขยี นให้อา่ นงา่ ย สะอาด ไม่ขีดฆา่
- ไมข่ ีดเขียนในทส่ี าธารณะ
- ใช้ภาษาเขยี นเหมาะสมกับเวลา สถานท่ี
และบคุ คล
- ไม่เขยี นลอ้ เลยี นผู้อ่ืนหรอื ทำใหผ้ ้อู ื่นเสยี หาย
การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครงึ่ บรรทัด
ตามรปู แบบการเขยี นตัวอักษรไทย
๑๕
ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๒. เขยี นสอ่ื สารโดยใชค้ ำได้ถูกต้องชดั เจน การเขียนสอื่ สาร เช่น
และเหมาะสม - คำขวัญ
- คำแนะนำ
๓. เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ การนำแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ
ความคิดเพ่อื ใชพ้ ฒั นางานเขยี น ความคดิ ไปพัฒนางานเขียน
๔. เขยี นย่อความจากเรอ่ื งส้นั ๆ
การเขียนย่อความจากสอ่ื ต่าง ๆ เชน่ นิทาน
๕. เขียนจดหมายถึงเพื่อนและบดิ ามารดา ความเรยี งประเภทตา่ ง ๆ ประกาศ จดหมาย
๖. เขยี นบันทกึ และเขียนรายงาน คำสอน
จากการศึกษาค้นคว้า การเขยี นจดหมายถงึ เพือ่ นและบิดามารดา
๗. เขียนเร่ืองตามจนิ ตนาการ การเขียนบันทึกและเขียนรายงานจาก
๘. มมี ารยาทในการเขียน การศึกษาคน้ คว้า
ป.๕ ๑. คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั
และครง่ึ บรรทัด การเขยี นเร่ืองตามจนิ ตนาการ
๒. เขียนส่ือสารโดยใชค้ ำไดถ้ ูกต้องชดั เจน มารยาทในการเขียน
และเหมาะสม
การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและ
๓. เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพ คร่ึงบรรทัดตามรปู แบบการเขียนตวั อักษรไทย
ความคดิ เพอ่ื ใช้พัฒนางานเขยี น การเขยี นสอ่ื สาร เชน่
๔. เขยี นย่อความจากเร่อื งท่อี ่าน - คำขวัญ
- คำอวยพร
๕. เขียนจดหมายถึงผูป้ กครองและญาติ - คำแนะนำและคำอธบิ ายแสดงขนั้ ตอน
๖. เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น การนำแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ
ไดต้ รงตามเจตนา ความคิดไปพัฒนางานเขยี น
๗. กรอกแบบรายการต่าง ๆ การเขียนย่อความจากสอ่ื ต่าง ๆ เชน่ นิทาน
ความเรียงประเภทต่าง ๆ ประกาศ แจ้งความ
๘. เขียนเร่ืองตามจินตนาการ แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท คำปราศรัย
๙. มมี ารยาทในการเขียน การเขียนจดหมายถงึ ผปู้ กครองและญาติ
การเขียนแสดงความรู้สกึ และความคดิ เห็น
การกรอกแบบรายการ
- ใบฝากเงนิ และใบถอนเงนิ
- ธนาณตั ิ
- แบบฝากสง่ พสั ดุไปรษณียภัณฑ์
การเขยี นเรื่องตามจินตนาการ
มารยาทในการเขยี น
๑๖
ชั้น ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป.๖ ๑. คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั และ
และคร่งึ บรรทัด คร่ึงบรรทดั ตามรูปแบบการเขียนตวั อักษรไทย
๒. เขียนส่ือสารโดยใช้คำได้ถูกต้องชัดเจน การเขยี นสอ่ื สาร เชน่
และเหมาะสม - คำขวญั
- คำอวยพร
- ประกาศ
๓. เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพ การเขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพ
ความคดิ เพ่ือใชพ้ ัฒนางานเขยี น ความคิด
๔. เขียนเรียงความ การเขียนเรยี งความ
๕. เขยี นยอ่ ความจากเร่ืองท่อี ่าน การเขียนย่อความจากสอ่ื ต่าง ๆ เช่น นทิ าน
ความเรียงประเภทตา่ ง ๆ ประกาศ แจง้ ความ
แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท
คำปราศรัย สนุ ทรพจน์ รายงาน ระเบยี บ คำสั่ง
๖. เขียนจดหมายสว่ นตัว การเขียนจดหมายส่วนตัว
- จดหมายขอโทษ
- จดหมายแสดงความขอบคุณ
- จดหมายแสดงความเห็นใจ
- จดหมายแสดงความยนิ ดี
๗. กรอกแบบรายการต่าง ๆ การกรอกแบบรายการ
- แบบคำร้องต่าง ๆ
- ใบสมัครศึกษาต่อ
- แบบฝากสง่ พัสดุและไปรษณียภัณฑ์
๘. เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการและ การเขียนเรื่องตามจินตนาการและสร้างสรรค์
สร้างสรรค์
๙. มมี ารยาทในการเขียน มารยาทในการเขยี น
ม.๑ ๑. คดั ลายมอื ตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด การคดั ลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทดั ตามรปู แบบ
การเขียนตวั อักษรไทย
๒. เขยี นส่ือสารโดยใช้ถอ้ ยคำถูกต้องชัดเจน การเขยี นสอื่ สาร เช่น
เหมาะสม และสละสลวย - การเขยี นแนะนำตนเอง
- การเขียนแนะนำสถานที่สำคัญๆ
- การเขียนบนส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์
๓. เขียนบรรยายประสบการณโ์ ดยระบุ การบรรยายประสบการณ์
สาระสำคัญและรายละเอยี ดสนับสนนุ
๔. เขียนเรยี งความ การเขยี นเรียงความเชิงพรรณนา
๑๗
ชนั้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
๕. เขยี นย่อความจากเรื่องที่อ่าน
การเขียนย่อความจากสอ่ื ตา่ งๆ เช่น เรื่องสน้ั
๖. เขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั สาระ คำสอน โอวาท คำปราศรยั สุนทรพจน์
จากสอ่ื ที่ไดร้ ับ รายงาน ระเบียบ คำสัง่ บทสนทนาเรือ่ งเล่า
ประสบการณ์
การเขยี นแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั สาระจากสื่อ
ต่างๆ เช่น
- บทความ
- หนงั สืออ่านนอกเวลา
- ขา่ วและเหตุการณ์ประจำวัน
- เหตกุ ารณ์สำคญั ต่างๆ
ช้ัน ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ม.๑ ๗. เขียนจดหมายสว่ นตัวและจดหมาย การเขียนจดหมายส่วนตัว
กิจธุระ - จดหมายขอความชว่ ยเหลอื
- จดหมายแนะนำ
การเขียนจดหมายกจิ ธุระ
- จดหมายสอบถามขอ้ มลู
๘. เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าและ การเขียนรายงาน ไดแ้ ก่
โครงงาน - การเขียนรายงานจากการศึกษาค้นควา้
- การเขยี นรายงานโครงงาน
๙. มมี ารยาทในการเขียน มารยาทในการเขียน
ม.๒ ๑. คัดลายมอื ตัวบรรจงครึ่งบรรทดั การคัดลายมือตัวบรรจงคร่งึ บรรทดั ตาม
รปู แบบการเขียน ตัวอักษรไทย
๒. เขียนบรรยายและพรรณนา การเขียนบรรยายและพรรณนา
๓. เขยี นเรยี งความ การเขยี นเรยี งความเกยี่ วกับประสบการณ์
๔. เขยี นย่อความ การเขียนย่อความจากสอื่ ตา่ งๆ เช่น นทิ าน
คำสอน บทความทางวชิ าการ บันทึก
เหตุการณ์ เรอ่ื งราวในบทเรียนในกล่มุ สาระ
การเรียนรู้อ่ืน นิทานชาดก
๕. เขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ การเขียนรายงาน
- การเขียนรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้
- การเขยี นรายงานโครงงาน
๖. เขียนจดหมายกิจธรุ ะ การเขยี นจดหมายกิจธุระ
๑๘
ชัน้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- จดหมายเชิญวทิ ยากร
- จดหมายขอความอนุเคราะห์
๗. เขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง การเขียนวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้
ความรู้ ความคิดเหน็ หรือโต้แย้ง ความคดิ เห็นหรือโตแ้ ย้งจากสื่อตา่ งๆ เช่น
ในเรือ่ งท่ีอา่ นอย่างมีเหตุผล - บทความ
- บทเพลง
- หนงั สอื อ่านนอกเวลา
- สารคดี
- บนั เทงิ คดี
ช้ัน ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๘. มมี ารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขยี น
ม.๓ ๑. คัดลายมือตวั บรรจงครึ่งบรรทดั การคัดลายมือตวั บรรจงครงึ่ บรรทัดตาม
รปู แบบการเขยี นตวั อักษรไทย
๒. เขียนข้อความโดยใชถ้ อ้ ยคำได้ถกู ต้อง การเขยี นข้อความตามสถานการณ์และโอกาส
ตามระดบั ภาษา ต่างๆ เชน่
- คำอวยพรในโอกาสตา่ งๆ
- คำขวญั
- คำคม
- โฆษณา
- คติพจน์
- สนุ ทรพจน์
๓. เขียนชีวประวตั หิ รอื อัตชวี ประวตั ิโดย การเขียนอัตชีวประวัติหรือชีวประวัติ
เล่าเหตุการณ์ ขอ้ คดิ เห็น และทัศนคติใน
เร่ืองต่างๆ
๔. เขียนย่อความ การเขียนย่อความจากสอื่ ตา่ งๆ เช่น นิทาน
ประวตั ิ ตำนาน สารคดที างวิชาการ พระ
ราชดำรัส พระบรมราโชวาท จดหมาย
ราชการ
๕. เขียนจดหมายกิจธรุ ะ การเขียนจดหมายกจิ ธรุ ะ
- จดหมายเชญิ วทิ ยากร
- จดหมายขอความอนุเคราะห์
- จดหมายแสดงความขอบคุณ
๖. เขียนอธบิ าย ชี้แจง แสดงความคดิ เห็น การเขียนอธบิ าย ชี้แจง แสดงความคิดเห็น
และโตแ้ ย้งอย่างมีเหตผุ ล และโต้แย้งในเร่ืองตา่ งๆ
๑๙
ชั้น ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๗. เขยี นวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดง การเขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้
ความรู้ ความคดิ เห็น หรือโตแ้ ยง้ ความคิดเหน็ หรอื โตแ้ ย้งจากส่ือตา่ งๆ เช่น
ในเร่อื งตา่ งๆ - บทโฆษณา
- บทความทางวชิ าการ
๘. กรอกแบบสมัครงานพร้อมเขียน การกรอกแบบสมคั รงาน
บรรยายเก่ียวกบั ความรู้และทักษะ
ของตนเองท่เี หมาะสมกบั งาน การเขียนรายงาน ได้แก่
- การเขียนรายงานจากการศึกษาคน้ คว้า
๙. เขยี นรายงานการศึกษาค้นควา้ และ - การเขียนรายงานโครงงาน
โครงงาน
๑๐. มีมารยาทในการเขียน มารยาทในการเขียน
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ
ความรสู้ กึ ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์
ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. ฟงั คำแนะนำ คำสั่งงา่ ย ๆ การฟงั และปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำ
และปฏบิ ตั ิตาม คำส่ังง่ายๆ
๒. ตอบคำถามและเลา่ เร่ืองท่ีฟงั และดู การจับใจความและพดู แสดงความคดิ เหน็
ทั้งที่เป็นความรู้และความบันเทงิ ความรสู้ กึ จากเรื่องที่ฟังและดู ท้ังที่เปน็ ความรู้
๓. พดู แสดงความคิดเห็นและความร้สู กึ และความบนั เทิง เช่น
จากเร่อื งทฟ่ี ังและดู - เรอ่ื งเล่าและสารคดสี ำหรับเดก็
- นิทาน
- การต์ ูน
- เรือ่ งขบขนั
๔. พูดสอ่ื สารได้ตามวตั ถปุ ระสงค์ การพดู ส่ือสารในชวี ติ ประจำวนั เชน่
- การแนะนำตนเอง
- การขอความช่วยเหลอื
- การกล่าวคำขอบคุณ
- การกลา่ วคำขอโทษ
๕. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู มารยาทในการฟงั เช่น
- ต้งั ใจฟัง ตามองผู้พดู
- ไมร่ บกวนผู้อ่ืนขณะทฟี่ ัง
๒๐
ช้นั ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- ไม่ควรนำอาหารหรือเครื่องด่ืมไปรับประทาน
ขณะท่ฟี ัง
- ใหเ้ กยี รตผิ ูพ้ ูดดว้ ยการปรบมอื
- ไมพ่ ูดสอดแทรกขณะท่ฟี งั
มารยาทในการดู เชน่
- ตงั้ ใจดู
- ไมส่ ่งเสยี งดงั หรือแสดงอาการรบกวนสมาธิ
ของผู้อนื่
มารยาทในการพูด เช่น
- ใชถ้ ้อยคำและกริ ิยาท่ีสุภาพ เหมาะสมกับ
กาลเทศะ
- ใช้นำ้ เสียงนุ่มนวล
- ไม่พดู สอดแทรกในขณะทีผ่ ู้อืน่ กำลงั พูด
ป.๒ ๑. ฟงั คำแนะนำ คำสง่ั ที่ซับซ้อน การฟังและปฏิบัตติ ามคำแนะนำ คำสั่งที่
และปฏบิ ตั ิตาม ซบั ซ้อน
๒. เล่าเร่ืองท่ฟี งั และดทู ้ังทเ่ี ป็นความรู้ การจบั ใจความและพูดแสดงความคิดเหน็
และความบันเทิง ความรสู้ กึ จากเร่ืองท่ีฟังและดู ทง้ั ท่ีเปน็ ความรู้
๓. บอกสาระสำคัญของเรอ่ื งทีฟ่ งั และดู และความบนั เทิง เช่น
๔. ต้ังคำถามและตอบคำถามเกี่ยวกบั - เร่ืองเล่าและสารคดสี ำหรับเดก็
เรือ่ งที่ฟังและดู - นทิ าน การ์ตนู และเร่ืองขบขนั
๕. พดู แสดงความคิดเหน็ และความรสู้ ึก - รายการสำหรับเดก็
จากเรื่องทฟ่ี ังและดู - ขา่ วและเหตกุ ารณ์ประจำวัน
- เพลง
๖. พูดสือ่ สารไดช้ ดั เจนตรงตาม การพูดส่ือสารในชีวิตประจำวนั เชน่
วตั ถปุ ระสงค์ - การแนะนำตนเอง
- การขอความชว่ ยเหลอื
- การกลา่ วคำขอบคุณ
- การกลา่ วคำขอโทษ
- การพูดขอร้องในโอกาสตา่ ง ๆ
- การเล่าประสบการณใ์ นชวี ติ ประจำวัน
๗. มีมารยาทในการฟัง การดู และ มารยาทในการฟงั เช่น
การพดู - ต้ังใจฟัง ตามองผู้พูด
- ไมร่ บกวนผ้อู นื่ ขณะทฟ่ี ัง
- ไมค่ วรนำอาหารหรือเคร่ืองดืม่ ไปรับประทาน
ขณะท่ีฟัง
- ไม่พดู สอดแทรกขณะทฟ่ี ัง
๒๑
ช้นั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
มารยาทในการดู เช่น
- ตัง้ ใจดู
- ไมส่ ง่ เสียงดงั หรือแสดงอาการรบกวนสมาธิ
ของผู้อนื่
มารยาทในการพูด เช่น
- ใชถ้ ้อยคำและกิรยิ าทส่ี ภุ าพ เหมาะสมกบั
กาลเทศะ
- ใชน้ ้ำเสยี งน่มุ นวล
- ไม่พดู สอดแทรกในขณะท่ีผู้อนื่ กำลังพดู
- ไม่พดู ล้อเลียนใหผ้ อู้ ื่นได้รบั ความอบั อาย
หรือเสยี หาย
ป.๓ ๑. เล่ารายละเอยี ดเกี่ยวกับเรื่องที่ฟัง การจับใจความและพูดแสดงความคดิ เหน็
และดทู ัง้ ทเี่ ปน็ ความรู้และความบนั เทิง และความรู้สกึ จากเรื่องที่ฟงั และดทู งั้ ที่เป็น
๒. บอกสาระสำคัญจากการฟังและการดู ความร้แู ละความบันเทิง เชน่
๓. ตัง้ คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกับ - เร่ืองเลา่ และสารคดสี ำหรบั เด็ก
เรอ่ื งท่ีฟงั และดู - นิทาน การ์ตูน เรอื่ งขบขนั
๔. พดู แสดงความคิดเห็นและความรสู้ กึ - รายการสำหรบั เดก็
จากเรื่องทฟ่ี งั และดู - ขา่ วและเหตุการณ์ในชีวติ ประจำวัน
- เพลง
๕. พูดสอ่ื สารได้ชดั เจนตรงตาม การพูดสื่อสารในชีวิตประจำวัน เช่น
วัตถุประสงค์ - การแนะนำตนเอง
- การแนะนำสถานท่ีในโรงเรียนและในชมุ ชน
- การแนะนำ/เชิญชวนเกี่ยวกับการปฏิบัตติ น
ในดา้ นตา่ ง ๆ เช่น การรกั ษาความสะอาดของ
รา่ งกาย
- การเลา่ ประสบการณ์ในชวี ิตประจำวนั
- การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ เชน่ การพดู ขอร้อง
การพูดทกั ทาย การกล่าวขอบคณุ และขอ
โทษ การพูดปฏิเสธ และการพูดชกั ถาม
๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด มารยาทในการฟัง เชน่
- ต้ังใจฟัง ตามองผู้พดู
- ไมร่ บกวนผู้อืน่ ขณะทีฟ่ ัง
- ไม่ควรนำอาหารหรือเคร่ืองด่มื ไป
รับประทานขณะทฟี่ ัง
๒๒
ช้ัน ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- ไม่แสดงกริ ยิ าทไี่ ม่เหมาะสม เช่น โห่ ฮา หาว
- ใหเ้ กยี รตผิ ้พู ูดด้วยการปรบมือ
- ไมพ่ ูดสอดแทรกขณะที่ฟัง
มารยาทในการดู เชน่
- ต้งั ใจดู
- ไมส่ ่งเสียงดงั หรือแสดงอาการรบกวนสมาธิ
ของผู้อ่ืน
มารยาทในการพูด เช่น
- ใช้ถอ้ ยคำและกิรยิ าท่ีสภุ าพ เหมาะสมกบั
กาลเทศะ
- ใชน้ ำ้ เสยี งนุ่มนวล
- ไมพ่ ูดสอดแทรกในขณะทีผ่ ู้อื่นกำลงั พดู
- ไมพ่ ดู ล้อเลยี นให้ผู้อ่นื ไดร้ บั ความอับอายหรือ
เสียหาย
ป.๔ ๑. จำแนกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเห็น การจำแนกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเห็นจาก
จากเรื่องที่ฟังและดู เรื่องที่ฟังและดู ในชีวติ ประจำวนั
๒. พูดสรุปความจากการฟังและดู การจับใจความ และการพูดแสดงความรู้
๓. พูดแสดงความรู้ ความคดิ เห็น และ ความคดิ ในเร่ืองที่ฟังและดู จากสอ่ื ตา่ ง ๆ เช่น
ความรสู้ ึกเกีย่ วกับเรือ่ งท่ฟี งั และดู - เร่อื งเลา่
๔. ตงั้ คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตุผล - บทความสัน้ ๆ
จากเร่อื งทฟ่ี งั และดู - ข่าวและเหตกุ ารณ์ประจำวัน
- โฆษณา
- ส่อื อิเลก็ ทรอนกิ ส์
- เรือ่ งราวจากบทเรยี นกลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย และกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ืน่
๕. รายงานเรือ่ งหรือประเดน็ ท่ีศึกษา การรายงาน เช่น
คน้ คว้าจากการฟัง การดู และการ - การพูดลำดับขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน
สนทนา - การพดู ลำดับเหตุการณ์
๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด มารยาทในการฟงั การดู และการพูด
ป.๕ ๑. พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น การจับใจความ และการพูดแสดงความรู้
และความรูส้ ึกจากเรื่องท่ีฟงั และดู ความคดิ ในเรื่องที่ฟังและดู จากสื่อตา่ ง ๆ เช่น
๒. ตัง้ คำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ล - เรอื่ งเล่า
จากเรอื่ งท่ฟี งั และดู - บทความ
- ขา่ วและเหตุการณป์ ระจำวัน
๒๓
ช้ัน ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
๓. วเิ คราะห์ความนา่ เชื่อถือจากเรอ่ื งท่ฟี ัง - โฆษณา
และดูอย่างมีเหตุผล - สอื่ สือ่ อิเล็กทรอนิกส์
การวเิ คราะห์ความนา่ เชอื่ ถือจากเรื่องที่ฟงั
และดใู นชีวติ ประจำวนั
๔. พูดรายงานเรอ่ื งหรือประเดน็ ทศ่ี กึ ษา การรายงาน เชน่
ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ - การพดู ลำดบั ข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน
สนทนา - การพูดลำดับเหตุการณ์
๕. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู มารยาทในการฟัง การดู และการพูด
ป.๖ ๑. พดู แสดงความรู้ ความเข้าใจ การพูดแสดงความรู้ ความเขา้ ใจใน
จุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู จดุ ประสงค์ของเรื่องท่ีฟังและดูจากสอื่ ตา่ ง ๆ
๒. ตงั้ คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล ได้แก่
จากเรือ่ งที่ฟงั และดู - สื่อส่ิงพมิ พ์
- สอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์
๓. วเิ คราะห์ความนา่ เช่อื ถือจากการฟงั การวเิ คราะห์ความนา่ เชื่อถือจากการฟังและ
และดูสือ่ โฆษณาอย่างมีเหตุผล ดูสอื่ โฆษณา
๔. พดู รายงานเรื่องหรือประเด็นทศ่ี กึ ษา การรายงาน เช่น
ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ - การพดู ลำดับข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน
สนทนา - การพูดลำดับเหตุการณ์
๕. พดู โนม้ น้าวอยา่ งมเี หตุผล การพดู โนม้ น้าวในสถานการณ์ตา่ ง ๆ เชน่
และนา่ เชอื่ ถือ - การเลือกตัง้ กรรมการนกั เรยี น
- การรณรงค์ด้านต่าง ๆ
- การโต้วาที
๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู มารยาทในการฟัง การดู และการพดู
และการพูด
ม.๑ ๑. พูดสรปุ ใจความสำคญั ของเรือ่ งที่ฟัง -การพูดสรปุ ความ พดู แสดงความรู้ ความคดิ
และดู อยา่ งสรา้ งสรรคจ์ ากเรื่องท่ฟี ังและดู
๒. เล่าเรอื่ งย่อจากเร่ืองท่ีฟังและดู -การพดู ประเมนิ ความน่าเชื่อถือของส่ือทีม่ ี
๓. พูดแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ เนอ้ื หาโนม้ น้าว
เกยี่ วกับเรื่องท่ฟี ังและดู
๔. ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของส่ือ
ทีม่ เี นอ้ื หาโนม้ น้าวใจ
๕. พูดรายงานเรอ่ื งหรือประเด็นท่ศี ึกษา การพดู รายงานการศึกษาคน้ ควา้ จากแหลง่
คน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการ เรียนรู้ตา่ งๆ ในชุมชน และท้องถน่ิ ของตน
สนทนา
๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด
พดู
๒๔
ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ม.๒ ๑. พดู สรปุ ใจความสำคญั ของเร่ืองท่ีฟงั การพูดสรปุ ความจากเรื่องท่ีฟังและ
และดู
๒. วิเคราะหข์ อ้ เท็จจรงิ ขอ้ คิดเห็น และ การพดู วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์จากเรอื่ งที่ฟังและ
ความนา่ เชอ่ื ถือของข่าวสารจากสื่อตา่ งๆ ดู
๓. วิเคราะห์และวิจารณเ์ รือ่ งท่ีฟงั และดู
อยา่ งมีเหตุผลเพื่อนำข้อคิดมาประยุกตใ์ ช้
ในการดำเนนิ ชีวติ
๔. พดู ในโอกาสต่างๆ ไดต้ รงตาม การพดู ในโอกาสต่างๆ เชน่
วตั ถปุ ระสงค์ - การพูดอวยพร
- การพดู โนม้ น้าว
- การพูดโฆษณา
๕. พูดรายงานเรื่องหรือประเดน็ ทีศ่ กึ ษา การพูดรายงานการศึกษาค้นคว้าจากแหล่ง
ค้นควา้ เรียนรู้ตา่ งๆ
๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด
พูด
ม.๓ ๑. แสดงความคดิ เหน็ และประเมนิ เร่ือง - การพูดแสดงความคดิ เห็น และประเมินเร่ือง
จากการฟังและการดู จากการฟงั และการดู
๒. วิเคราะห์และวิจารณ์เรอ่ื งท่ฟี งั และดู - การพดู วเิ คราะหว์ จิ ารณจ์ ากเร่ืองท่ีฟงั และดู
เพื่อนำขอ้ คิดมาประยุกตใ์ ช้ในการดำเนนิ
ชวี ติ
๓. พดู รายงานเร่อื งหรือประเด็นท่ศี กึ ษา การพดู รายงานการศึกษาคน้ คว้าเกี่ยวกบั
คน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการ ภมู ิปัญญาท้องถิน่
สนทนา
๔. พูดในโอกาสต่างๆ ไดต้ รงตาม การพดู ในโอกาสต่างๆ เชน่
วัตถปุ ระสงค์ - การพดู โต้วาที
- การอภปิ ราย
- การพดู ยอวาที
๕. พดู โน้มน้าวโดยนำเสนอหลักฐาน การพดู โนม้ น้าว
ตามลำดับเนื้อหาอยา่ งมเี หตผุ ลและ
นา่ เชอ่ื ถือ
๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟัง การดู และการพดู
พดู
๒๕
สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ
ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ
ชัน้ ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ พยญั ชนะ สระ และวรรณยุกต์
และเลขไทย เลขไทย
๒. เขียนสะกดคำและบอกความหมาย การสะกดคำ การแจกลูก และการอา่ น
ของคำ เป็นคำ
มาตราตัวสะกดทีต่ รงตามมาตราและไม่ตรง
ตามมาตรา
การผนั คำ
ความหมายของคำ
๓. เรียบเรยี งคำเป็นประโยคง่าย ๆ การแตง่ ประโยค
๔. ตอ่ คำคล้องจองง่ายๆ คำคลอ้ งจอง
ป.๒ ๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์
และเลขไทย เลขไทย
๒. เขยี นสะกดคำและบอกความหมาย การสะกดคำ การแจกลูก และการอา่ น
ของคำ เปน็ คำ
มาตราตวั สะกดท่ตี รงตามมาตรา
และไม่ตรงตามมาตรา
การผันอักษรกลาง อักษรสูง และอักษรต่ำ
คำที่มีตวั การันต์
คำที่มีพยญั ชนะควบกลำ้
คำทีม่ ีอักษรนำ
คำท่ีมีความหมายตรงขา้ มกัน
คำท่มี ี รร
ความหมายของคำ
๓. เรยี บเรียงคำเปน็ ประโยคไดต้ รงตาม การแตง่ ประโยค
เจตนาของการสอ่ื สาร การเรียบเรยี งประโยคเปน็ ข้อความส้นั ๆ
๒๖
ชน้ั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
๔. บอกลักษณะคำคล้องจอง คำคลอ้ งจอง
๕. เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น ภาษาไทยมาตรฐาน
ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ภาษาถ่นิ
ป.๓ ๑. เขียนสะกดคำและบอกความหมาย การสะกดคำ การแจกลูก และการอ่าน เป็น
ของคำ คำ
มาตราตวั สะกดที่ตรงตามมาตรา และไม่ตรง
๓. ระบชุ นดิ และหนา้ ทขี่ องคำในประโยค ตามมาตรา
๔. ใชพ้ จนานกุ รมคน้ หาความหมายของคำ
๕. แต่งประโยคง่ายๆ การผันอักษรกลาง อักษรสงู และอักษรต่ำ
คำทม่ี ีพยญั ชนะควบกลำ้
๖. แต่งคำคลอ้ งจองและคำขวัญ คำท่ีมีอักษรนำ
๗. เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน คำทป่ี ระวิสรรชนีย์ และ
และภาษาถน่ิ ได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ คำท่ไี มป่ ระวสิ รรชนยี ์
คำทม่ี ี ฤ ฤๅ
คำท่ีใช้ บนั บรร
คำท่ีใช้ รร
คำที่มีตัวการันต์
ความหมายของคำ
ชนิดของคำ ไดแ้ ก่
- คำนาม
- คำสรรพนาม
- คำกรยิ า
การใชพ้ จนานุกรม
การแตง่ ประโยคเพื่อการสื่อสาร ได้แก่
- ประโยคบอกเล่า
- ประโยคปฏเิ สธ
- ประโยคคำถาม
- ประโยคขอร้อง
- ประโยคคำสง่ั
คำคล้องจอง
คำขวัญ
ภาษาไทยมาตรฐาน
ภาษาถ่นิ
ป.๔ ๑. สะกดคำและบอกความหมายของคำ คำในแม่ ก กา
ในบรบิ ทตา่ งๆ มาตราตัวสะกด
การผันอกั ษร
๒๗
ช้ัน ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
คำเปน็ คำตาย
๒. ระบชุ นดิ และหน้าท่ขี องคำในประโยค คำพ้อง
ชนิดของคำ ได้แก่
๓ ใช้พจนานกุ รมค้นหาความหมายของคำ - คำนาม
๔. แตง่ ประโยคได้ถกู ต้องตามหลักภาษา - คำสรรพนาม
- คำกริยา
๕. แต่งบทร้อยกรองและคำขวญั - คำวเิ ศษณ์
๖. บอกความหมายของสำนวน การใชพ้ จนานุกรม
๗. เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกบั ประโยคสามัญ
ภาษาถิ่นได้ - สว่ นประกอบของประโยค
ป.๕ ๑. ระบุชนิดและหนา้ ทีข่ องคำในประโยค - ประโยค ๒ สว่ น
- ประโยค ๓ สว่ น
๒. จำแนกสว่ นประกอบของประโยค กลอนส่ี
๓. เปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกับ คำขวัญ
ภาษาถน่ิ สำนวนท่ีเปน็ คำพังเพยและสภุ าษิต
๔. ใช้คำราชาศัพท์ ภาษาไทยมาตรฐาน
๕. บอกคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ภาษาถ่ิน
๖. แต่งบทรอ้ ยกรอง
๗. ใช้สำนวนไดถ้ กู ตอ้ ง ชนดิ ของคำ ได้แก่
ป.๖ ๑. วิเคราะหช์ นดิ และหน้าทข่ี องคำ - คำบพุ บท
ในประโยค - คำสนั ธาน
- คำอุทาน
ประโยคและสว่ นประกอบของประโยค
ภาษาไทยมาตรฐาน
ภาษาถิ่น
คำราชาศพั ท์
คำทม่ี าจากภาษาตา่ งประเทศ
กาพยย์ านี ๑๑
สำนวนทีเ่ ป็นคำพังเพยและสภุ าษติ
ชนิดของคำ
- คำนาม
- คำสรรพนาม
- คำกรยิ า
- คำวเิ ศษณ์
- คำบุพบท
๒๘
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- คำเช่ือม
๒. ใช้คำได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ - คำอทุ าน
และบุคคล คำราชาศพั ท์
๓. รวบรวมและบอกความหมายของคำ ระดบั ภาษา
ภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย ภาษาถ่ิน
๔. ระบลุ ักษณะของประโยค คำที่มาจากภาษาตา่ งประเทศ
๕. แตง่ บทร้อยกรอง กลุม่ คำหรือวลี
ประโยคสามญั
ประโยครวม
ประโยคซ้อน
กลอนสุภาพ
๖. วเิ คราะห์และเปรยี บเทยี บสำนวน สำนวนทเี่ ปน็ คำพังเพย และสุภาษิต
ท่เี ป็นคำพังเพย และสภุ าษติ เสยี งในภาษาไทย
ม.๑ ๑. อธบิ ายลกั ษณะของเสียงในภาษาไทย
๒. สรา้ งคำในภาษาไทย การสร้างคำ
- คำประสม คำซ้ำ คำซ้อน
- คำพอ้ ง
๓. วเิ คราะห์ชนดิ และหน้าทีข่ องคำใน ชนิดและหนา้ ท่ขี องคำ
ประโยค
๔. วิเคราะห์ความแตกตา่ งของภาษาพดู และ ภาษาพูด
ภาษาเขียน ภาษาเขียน
๕. แต่งบทรอ้ ยกรอง กาพย์ยานี ๑๑
๖. จำแนกและใชส้ ำนวนทีเ่ ป็นคำพงั เพย สำนวนทเ่ี ป็นคำพงั เพยและสุภาษิต
และสุภาษิต การสรา้ งคำสมาส
ม.๒ ๑. สรา้ งคำในภาษาไทย
๒. วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคสามญั ลกั ษณะของประโยคในภาษาไทย
ประโยครวม และประโยคซ้อน - ประโยคสามญั
- ประโยครวม
๓. แตง่ บทรอ้ ยกรอง - ประโยคซ้อน
กลอนสภุ าพ
๔. ใช้คำราชาศพั ท์ คำราชาศพั ท์
๕. รวบรวมและอธิบายความหมายของ คำ คำทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ
ภาษาต่างประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย
๒๙
ชนั้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ม.๓ ๑. จำแนกและใชค้ ำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ คำท่ีมาจากภาษาต่างประเทศ
ในภาษาไทย
๒. วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคซบั ซอ้ น ประโยคซบั ซ้อน
๓. วเิ คราะห์ระดับภาษา ระดบั ภาษา
๔. ใชค้ ำทบั ศพั ท์และศัพทบ์ ญั ญัติ คำทบั ศัพท์
คำศัพทบ์ ัญญตั ิ
๕. อธบิ ายความหมายคำศัพท์ทางวชิ าการ คำศัพทท์ างวชิ าการและวิชาชพี
และวิชาชพี
๖. แตง่ บทรอ้ ยกรอง โคลงสสี่ ภุ าพ
สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย
อยา่ งเห็นคุณคา่ และนำมาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ
๓๐
ชนั้ ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
ป.๑ ๑. บอกข้อคิดทีไ่ ดจ้ ากการอ่านหรอื การฟัง วรรณกรรมรอ้ ยแก้วและร้อยกรอง
วรรณกรรมรอ้ ยแกว้ และร้อยกรองสำหรับ สำหรบั เดก็ เชน่
เด็ก - นิทาน
- เร่อื งส้นั งา่ ย ๆ
- ปริศนาคำทาย
- บทร้องเลน่
- บทอาขยาน
- บทรอ้ ยกรอง
- วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี น
๒. ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนด และ บทอาขยานและบทร้อยกรอง
บทร้อยกรองตามความสนใจ - บทอาขยานตามที่กำหนด
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
ป.๒ ๑. ระบุข้อคิดท่ีได้จากการอ่าน วรรณกรรมร้อยแกว้ รอ้ ยกรองสำหรับเดก็
หรอื ชการฟงั วรรณกรรมสำหรับเด็ก - นทิ าน
เพอื่ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั - เร่ืองส้ันง่ายๆ
- ปริศนาคำทาย
- บทอาขยาน
- บทร้อยกรอง
- วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียน
๒. รอ้ งบทร้องเลน่ สำหรบั เด็กในทอ้ งถ่นิ บทร้องเล่นท่ีมีคณุ ค่า
- บทร้องเลน่ ในท้องถน่ิ
- บทรอ้ งเลน่ ในการละเลน่ ของเด็กไทย
๓. ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และ บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองที่มีคุณคา่
บทรอ้ ยกรองที่มคี ุณค่า - บทอาขยานตามท่ีกำหนด
ตามความสนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ
ป.๓ ๑. ระบุข้อคดิ ท่ีได้จากการอ่านวรรณกรรม วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพื้นบา้ น
เพือ่ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน - นทิ านหรือเร่อื งในท้องถนิ่
๒. รู้จกั เพลงพนื้ บา้ นและเพลงกล่อมเด็ก - เรอ่ื งส้นั งา่ ยๆ ปรศิ นาคำทาย
เพื่อปลูกฝงั ความชนื่ ชมวัฒนธรรมท้องถิน่ - บทรอ้ ยกรอง
๓. แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับวรรณคดี ที่ - เพลงพ้ืนบ้าน
อา่ น - เพลงกล่อมเดก็
- วรรณกรรมและวรรณคดีในบทเรยี น
และตามความสนใจ
๓๑
ชนั้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
๔. ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและ บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองที่มีคุณคา่
บทรอ้ ยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ - บทอาขยานตามท่ีกำหนด
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
ป.๔ ๑. ระบขุ ้อคิดจากนทิ านพ้ืนบ้าน วรรณคดแี ละวรรณกรรม เชน่
หรอื นิทานคตธิ รรม - นิทานพื้นบ้าน
๒. อธบิ ายข้อคดิ จากการอ่านเพอ่ื นำไปใช้ - นิทานคติธรรม
ในชีวิตจริง - เพลงพ้ืนบา้ น
- วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรียน และ
ตามความสนใจ
๓. ร้องเพลงพ้ืนบ้าน เพลงพืน้ บา้ น
๔. ทอ่ งจำบทอาขยานตามที่กำหนด และ บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคณุ ค่า
บทร้อยกรองที่มคี ุณคา่ ชตามความสนใจ - บทอาขยานตามท่ีกำหนด
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
ป.๕ ๑. สรปุ เรื่องจากวรรณคดีหรือวรรณกรรม วรรณคดีและวรรณกรรม เชน่
ท่อี า่ น - นทิ านพ้ืนบา้ น
๒. ระบคุ วามรแู้ ละข้อคิดจากการอ่าน - นทิ านคตธิ รรม
วรรณคดีและวรรณกรรมทส่ี ามารถนำไปใช้ - เพลงพืน้ บา้ น
ในชีวติ จรงิ - วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี น และ
๓. อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและ ตามความสนใจ
วรรณกรรม
๔. ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและ บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคุณคา่
บทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ - บทอาขยานตามที่กำหนด
- บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ
ป.๖ ๑. แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี วรรณคดีและวรรณกรรม เชน่
หรอื วรรณกรรมท่ีอา่ น - นิทานพ้ืนบา้ นท้องถนิ่ ตนเองและท้องถน่ิ อน่ื
๒. เล่านทิ านพ้นื บ้านทอ้ งถ่ินตนเอง - นิทานคติธรรม
และนิทานพ้นื บ้านของทอ้ งถิ่นอน่ื - เพลงพืน้ บ้าน
๓. อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดี - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียน
และวรรณกรรมทอี่ ่านและนำไป และตามความสนใจ
ประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง
๔. ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด และ บทอาขยานและบทร้อยกรองทม่ี ีคุณคา่
บทร้อยกรองที่มคี ุณคา่ ตามความสนใจ - บทอาขยานตามท่ีกำหนด
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
ม.๑ ๑. สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ี วรรณคดีและวรรณกรรมเก่ยี วกบั
อา่ น - ศาสนา
- ประเพณี
๓๒
ชนั้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- พธิ กี รรม
- สุภาษติ คำสอน
- เหตกุ ารณ์ประวัติศาสตร์
- บันเทงิ คดี
- บนั ทึกการเดนิ ทาง
- วรรณกรรมทอ้ งถ่นิ
๒. วิเคราะหว์ รรณคดแี ละวรรณกรรม ท่ี การวเิ คราะห์คุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดีและ
อา่ นพร้อมยกเหตุผลประกอบ วรรณกรรม
๓. อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและ
วรรณกรรมท่ีอ่าน
๔. สรุปความรแู้ ละขอ้ คดิ จากการอา่ นเพ่ือ
ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริง
๕. ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและ บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคุณคา่
บทร้อยกรองที่มคี ุณค่าตามความสนใจ - บทอาขยานตามท่ีกำหนด
- บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ
ม.๒ ๑. สรปุ เนือ้ หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ี วรรณคดีและวรรณกรรมเกีย่ วกบั
อ่านในระดบั ท่ยี ากข้นึ - ศาสนา
- ประเพณี
- พิธกี รรม
- สภุ าษิต คำสอน
- เหตุการณป์ ระวัติศาสตร์
- บันเทิงคดี
- บนั ทึกการเดนิ ทาง
๒. วิเคราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดี การวิเคราะห์คณุ ค่าและข้อคิดจากวรรณคดี
วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นที่ วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถน่ิ
อา่ น พร้อมยกเหตผุ ลประกอบ
๓. อธบิ ายคุณคา่ ของวรรณคดแี ละ
วรรณกรรมที่อ่าน
๔. สรุปความรแู้ ละข้อคดิ จากการอา่ น ไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง
๕. ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและ บทอาขยานและบทร้อยกรองทมี่ ีคณุ ค่า
บทรอ้ ยกรองท่ีมคี ุณคา่ ตามความสนใจ - บทอาขยานตามที่กำหนด
- บทร้อยกรองตามความสนใจ
ม.๓ ๑. สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและ วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถนิ่
วรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ในระดับทีย่ ากยงิ่ ข้นึ เกี่ยวกับ
- ศาสนา
๓๓
ชั้น ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- ประเพณี
๒. วิเคราะห์วถิ ีไทยและคณุ ค่าจาก - พิธีกรรม
วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน - สภุ าษติ คำสอน
- เหตกุ ารณ์ในประวัติศาสตร์
- บนั เทงิ คดี
การวเิ คราะห์วถิ ีไทย และคณุ ค่าจากวรรณคดี
และวรรณกรรม
๓. สรปุ ความร้แู ละข้อคดิ จากการอา่ น
เพื่อนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จริง
๔. ท่องจำและบอกคุณคา่ บทอาขยาน บทอาขยานและบทร้อยกรองท่ีมีคุณคา่
- บทอาขยานตามที่กำหนด
ตามที่กำหนด และบทร้อยกรองท่มี ี
- บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ
คุณคา่ ตามความสนใจและนำไปใช้
อ้างอิง
โครงสรา้ งหลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓
รายวชิ าพืน้ ฐาน ภาษาไทย ๒๐๐ ชั่วโมง ๕ ชว่ั โมง/สปั ดาห์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
ภาษาไทย ๒๐๐ ชว่ั โมง ๕ ชั่วโมง/สปั ดาห์
ท๑๑๑๐๑
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ ภาษาไทย ๒๐๐ ช่วั โมง ๕ ชั่วโมง/สัปดาห์
ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐ ช่วั โมง ๔ ชัว่ โมง/สัปดาห์
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓
ภาษาไทย ๑๖๐ ชั่วโมง ๔ ชั่วโมง/สัปดาห์
ท๑๓๑๐๑
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ ภาษาไทย ๑๖๐ ชว่ั โมง ๔ ชว่ั โมง/สัปดาห์
ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๖๐ ชว่ั โมง ๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ภาษาไทยเพมิ่ เติม ๒๐ ชว่ั โมง ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์
ภาษาไทย ๖๐ ชว่ั โมง ๓ ช่ัวโมง/สัปดาห์
ท๑๕๑๐๑
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖
ท๑๖๑๐๑
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑
ท๒๑๑๐๑
ท๒๑๒๐๑
ท๒๑๑๐๒
ท๒๑๒๐๒ ภาษาไทยเพ่มิ เติม ๒๐ ชว่ั โมง ๓๔
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาษาไทย ๖๐ ชว่ั โมง ๑ ชว่ั โมง/สัปดาห์
ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทยเพม่ิ เติม ๒๐ ชวั่ โมง
ท๒๒๒๐๑ ภาษาไทย ๖๐ ชว่ั โมง ๓ ชั่วโมง/สัปดาห์
ภาษาไทยเพมิ่ เติม ๒๐ ชวั่ โมง ๑ ชว่ั โมง/สัปดาห์
ท๒๒๑๐๒ ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์
ภาษาไทย ๖๐ ชว่ั โมง ๑ ชวั่ โมง/สัปดาห์
ท๒๒๒๐๒ ภาษาไทยเพม่ิ เติม ๒๐ ชวั่ โมง
ภาษาไทย ๖๐ ชว่ั โมง ๓ ชัว่ โมง/สปั ดาห์
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาษาไทยเพิ่มเติม ๒๐ ชวั่ โมง ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์
ท๒๓๑๐๑ ๓ ชวั่ โมง/สปั ดาห์
ท๒๓๒๐๑ ๑ ชว่ั โมง/สัปดาห์
ท๒๓๑๐๒
ท๒๓๒๐๒
คำอธิบายรายวิชา
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
๓๕
คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง
ฝึกอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความสั้น ๆ บอกความหมายของคำและข้อความ
ตอบคำถาม เลา่ เร่ืองย่อ คาดคะเนเหตกุ ารณ์ เลือกอา่ นหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสมำ่ เสมอ นำเสนอเร่ือง
ที่อ่าน บอกความหมายของเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์สำคัญที่มักพบเห็นในชีวิตประจำวัน มีมารยาท
ในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนสื่อสารด้วยคำและประโยคง่าย ๆ มีมารยาทใน
การเขียน ฝึกทักษะในการฟัง ฟังคำแนะนำ คำสั่งง่ายๆและปฏิบัติตาม ตอบคำถาม เล่าเรื่อง พูดแสดง
ความคิดเห็นและความร้สู ึกจากเร่ืองท่ฟี ังและดู พดู สอื่ สารได้ตามวตั ถปุ ระสงค์ เนน้ มารยาทในการฟัง การดู
และการพูด ฝึกทกั ษะการเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคำและบอกความหมาย
ของคำ เรียบเรียงคำเป็นประโยคง่าย ๆ ต่อคำคล้องจองง่าย ๆ บอกข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟัง
วรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสำหรับเด็ก ฝึกท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองตาม
ความสนใจ
โดยใช้การเรียนรู้เชิงรุกผ่านทักษะ/กระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การพูดและการดู
การสื่อความ กระบวนการกลุ่ม การแสวงหาความรู้ การคิด การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม
ตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น การสร้างความคิดรวบยอด รวมทั้งมีการประยุกต์ความรู้ ทักษะ
เจตคตแิ ละคา่ นยิ ม ลงมอื ปฏบิ ัติจริงในสถานการณ์ทหี่ ลากหลายเพ่ือสร้างผลผลิต
เพื่อให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สื่อสารไดถ้ ูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ
การอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ความเข้าใจ ทักษะ เจตคติและค่านิยม
ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา จัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เปน็ หลกั คิดหลักปฏิบัตใิ นการเรยี นรู้
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘
ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
รวม ๕ มาตรฐาน ๒๒ ตวั ชี้วดั
๓๖
คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง
ฝึกอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ อธิบายความหมายของคำ
และข้อความที่อ่าน ตั้งคำถาม ตอบคำถาม ระบุใจความสำคัญและรายละเอียด แสดงความคิดเห็นและ
คาดคะเนเหตุการณ์ เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรื่องท่ีอ่าน อ่านข้อเขียน
เชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำ มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจง
เตม็ บรรทัด เขยี นเร่ืองสัน้ ๆ เกยี่ วกบั ประสบการณ์ เขยี นเรอ่ื งสัน้ ๆ ตามจนิ ตนาการ มมี ารยาทในการเขียน
ฝกึ ทักษะการฟงั ฟงั คำแนะนำ คำส่ังท่ซี บั ซ้อนและปฏิบัติตาม เลา่ เร่ือง บอกสาระสำคัญของเรอ่ื ง ตง้ั คำถาม
ตอบคำถาม พูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูดสื่อสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทในการ
ฟัง การดูและการพูด ฝึกทักษะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคำและบอก
ความหมายของคำ เรียบเรียงคำเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการสื่อสาร บอกลักษณะคำคล้องจอง
เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ฝึกจับใจความสำคัญจากเรื่อง ระบุ
ข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสำหรับเด็ก เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ร้องบทร้องเล่น
สำหรบั เดก็ ในทอ้ งถนิ่ ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่กี ำหนดและบทรอ้ ยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ
โดยใช้การเรียนรู้เชิงรุกผ่านทักษะ/กระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การพูดและการดู
การสื่อความ กระบวนการกลุ่ม การแสวงหาความรู้ การคิด การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม
ตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น การสร้างความคิดรวบยอด รวมทั้งมีการประยุกต์ความรู้ ทักษะ
เจตคตแิ ละค่านยิ ม ลงมือปฏิบตั จิ รงิ ในสถานการณท์ ห่ี ลากหลายเพื่อสร้างผลผลิต
เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สอื่ สารไดถ้ ูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ
การอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ความเข้าใจ ทักษะ เจตคติและค่านิยม
ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา จัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เปน็ หลักคดิ หลกั ปฏบิ ตั ใิ นการเรยี นรู้
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ป.๒/๖, ป.๒/๗
ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕
ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
รวม ๕ มาตรฐาน ๒๗ ตวั ช้วี ดั
๓๗
คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน
ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๒๐๐ ช่วั โมง
ฝกึ อา่ นออกเสียงคำ ข้อความ เรอ่ื งส้นั ๆ และบทร้อยกรองงา่ ย ๆ อธิบายความหมายของคำและ
ข้อความที่อ่าน ตั้งคำถาม ตอบคำถามเชิงเหตุผล ลำดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุปความรู้ ข้อคิด
จากเรือ่ งที่อ่าน เพือ่ นำไปใช้ในชีวิตประจำวนั เลือกอ่านหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสม่ำเสมอและนำเสนอ
เรื่องที่อ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธบิ าย และปฏิบัติตามคำสั่งหรือขอ้ แนะนำ อธิบายความหมายของข้อมูลจาก
แผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย
เขียนบันทึกประจำวัน เขียนเรื่องตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน ฝึกทักษะการฟัง การดู และ
การพูด เล่าและบอกสาระสำคัญ ตั้งคำถาม ตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก สื่อสารได้ตรงตาม
วัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคำและบอก
ความหมายของคำ ระบุชนิด หน้าที่ของคำ ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของคำ แต่งประโยคง่าย ๆ
แต่งคำคลอ้ งจองและคำขวัญ เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ระบุข้อคิด
ที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน รู้จักเพลงพื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก เพื่อปลูกฝัง
ความช่ืนชมวัฒนธรรมท้องถน่ิ แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับวรรณคดีที่อ่าน ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด
และบทรอ้ ยกรองท่ีมคี ุณคา่ ตามความสนใจ
โดยใช้การเรียนรู้เชิงรุกผ่านทักษะ/กระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การพูดและการดู
การสื่อความ กระบวนการกลุ่ม การแสวงหาความรู้ การคิด การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม
ตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น การสร้างความคิดรวบยอด รวมทั้งมีการประยุกต์ความรู้ ทักษะ
เจตคติและคา่ นยิ ม ลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ ในสถานการณท์ ่ีหลากหลายเพือ่ สร้างผลผลิต
เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ส่อื สารได้ถูกต้อง รกั การเรยี นภาษาไทย เห็นคุณค่าของ
การอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ความเข้าใจ ทักษะ เจตคติและค่านิยม
ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา จัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เป็นหลักคิดหลักปฏิบตั ใิ นการเรยี นรู้
มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙
ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๑ ตวั ชวี้ ัด
๓๘
คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง
ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยคและสำนวน
จากเรื่องที่อ่าน อ่านเรื่องสั้น ๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน แยกข้อเท็จจริงและ
ข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และ
ข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เลือกอ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจอย่าง
สม่ำเสมอและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับเร่ืองที่อา่ น มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือดว้ ยตัวบรรจงเตม็
บรรทดั และคร่งึ บรรทดั เขียนสอื่ สารโดยใช้คำได้ถกู ต้อง ชัดเจนและเหมาะสม เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและ
แผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน เขียนย่อความจากเรื่องสั้น ๆ เขียนจดหมายถึงเพื่อนและมารดา
เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า เขียนเรื่องตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน
ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด จำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นเรื่องที่ฟังและดู พูดสรุปจากการฟัง
และดู พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและดู ตั้งคำถามและตอบคำถาม
เชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดูและการ
สนทนา มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคำและบอก
ความหมายของคำในบริบทต่าง ๆ ระบุชนิดและหน้าที่ของคำในประโยค ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมาย
ของคำ แต่งประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษา แต่งบทร้อยกรองและคำขวัญ บอกความหมายของสำนวน
เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้ ระบุข้อคิดจากนิทานพื้นบ้านหรือนิทานคติธรรมอธิบาย
ข้อคิดจากการอ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริงร้องเพลงพื้นบ้านท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อย
กรองท่มี ีคณุ ค่าตามความสนใจ
โดยใชก้ ารเรยี นรเู้ ชิงรุกผา่ นทักษะ/กระบวนการอ่าน การเขยี น การฟงั การพดู และการดู การส่ือ
ความ กระบวนการกลุ่ม การแสวงหาความรู้ การคิด การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม ตอบ
คำถาม การแสดงความคิดเหน็ การสรา้ งความคดิ รวบยอด รวมทั้งมีการประยุกต์ความรู้ ทกั ษะ เจตคติและ
ค่านยิ ม ลงมอื ปฏิบัติจริงในสถานการณ์ที่หลากหลายเพอ่ื สร้างผลผลติ
เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สื่อสารไดถ้ ูกต้อง รกั การเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ
การอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ความเข้าใจ ทักษะ เจตคติและค่านิยม
ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา จัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เปน็ หลักคดิ หลกั ปฏิบัตใิ นการเรียนรู้
มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖
ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗
๓๙
ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตัวชว้ี ัด
คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง
ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความ
ท่ีเป็นการบรรยายและการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนัย แยกขอ้ เท็จจริง ขอ้ คดิ เหน็ วิเคราะห์ แสดง
ความคิดเห็น อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คำสั่ง ข้อแนะนำ และปฏิบัติตาม เลือกอ่านหนังสือที่มีคุณค่าตาม
ความสนใจ มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสาร
เขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง แผนภาพความคดิ เขยี นย่อความ เขยี นจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ เขยี นแสดง
ความรู้สึกและความคิดเห็น กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนเรื่องตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน
ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึก ตั้งคำถาม ตอบคำถาม
วิเคราะห์ความ พูดรายงาน มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด ระบุชนิดและหน้าที่ของคำในประโยค
จำแนกส่วนประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น ใช้คำราชาศัพท์ บอกคำ
ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย แต่งบทร้อยกรอง ใช้สำนวนได้ถูกต้อง สรุปเรื่องจากวรรณคดีหรือ
วรรณกรรมที่อ่าน ระบุความรู้ ข้อคิดที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ
วรรณกรรม ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้การเรียนรู้
เชงิ รุกผา่ นทักษะ/กระบวนการอา่ น การเขียน การฟงั การพูดและการดูการสอื่ ความ กระบวนการกลุ่ม การ
แสวงหาความรู้ การคิด การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม ตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น
การสร้างความคิดรวบยอด รวมทั้งมีการประยุกต์ความรู้ ทักษะ เจตคติและค่านิยม ลงมือปฏิบัติจริงใน
สถานการณ์ทห่ี ลากหลายเพื่อสรา้ งผลผลิต
เพื่อให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สื่อสารไดถ้ ูกต้อง รักการเรยี นภาษาไทย เห็นคุณค่าของ
การอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ความเข้าใจ ทักษะ เจตคติและค่านิยม
ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา จัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เปน็ หลกั คดิ หลกั ปฏิบัตใิ นการเรียนรู้
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘
ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗
ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตวั ชว้ี ดั
ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย คำอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
๔๐
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา ๑๖๐ ชว่ั โมง
ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความ
ทเ่ี ปน็ โวหาร อ่านเรือ่ งสน้ั ๆ อยา่ งหลากหลาย แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต อ่านงานเขียน เชิงอธิบาย คำสั่ง
ข้อแนะนำ และปฏิบัติตาม อธิบายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิและกราฟ
เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจและอธิบายคุณค่าที่ได้รับ มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัว
บรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้องชัดเจนและเหมาะสม เขียนแผนภาพ
โครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ เขียนย่อความจากเรื่องอ่าน
เขียนจดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนเรื่องตามจินตนาการและสร้างสรรค์ มีมารยาทใน
การเขยี น ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู
ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากเรื่องที่ฟังและดูสื่อ
โฆษณาอย่างมีเหตุผล พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดูและการสนทนา
พดู โนม้ นา้ วอยา่ งมเี หตุผลและน่าเชอื่ ถือ มมี ารยาทในการฟงั การดูและการพูด ฝกึ วเิ คราะหช์ นิดและหน้าที่
ของคำในประโยค ใช้คำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล รวบรวมและบอกความหมายของคำ
ภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยค แต่งบทร้อยกรอง วิเคราะห์เปรียบเทียบ
สำนวนที่เป็นคำพังเพยและสุภาษิต ฝึกแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทาน
พื้นบ้านท้องถิ่นตนเองและนิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอื่น อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน
และนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อย
โดยใช้การเรียนรู้เชิงรุกผ่านทักษะ/กระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การพูดและการดู
การสื่อความ กระบวนการกลุ่ม การแสวงหาความรู้ การคิด การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม
ตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็น การสร้างความคิดรวบยอด รวมทั้งมีการประยุกต์ความรู้ ทักษะ
เจตคตแิ ละค่านยิ ม ลงมือปฏิบตั จิ รงิ ในสถานการณ์ที่หลากหลายเพ่ือสรา้ งผลผลติ
เพือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ส่อื สารไดถ้ ูกต้อง รกั การเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ
การอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ความเข้าใจ ทักษะ เจตคติและค่านิยม
ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา จัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เป็นหลักคดิ หลกั ปฏิบตั ใิ นการเรียนรู้
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๔ ตวั ชี้วดั
รายวิชาภาษาไทย คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๑
๔๑
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง จับใจความสำคัญ ระบุเหตุผลและข้อคิด
เท็จจริงกับความคิดเห็น อธิบายคำเปรียบเทียบ และคำที่มีหลายความหมาย ตีความคำยากในเอกสาร
วชิ าการ ข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียนประเภทชกั จงู โน้มน้าวใจ โดยพิจารณาจากบริบท
ต่าง ๆ จากเรื่องที่อ่านปฏิบัติตามคู่มือแนะนำวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในระดับที่ยากข้ึน
วิเคราะห์คุณค่าทีไ่ ด้รับจากการอ่านงานเขยี นอย่างหลากหลาย เพื่อนำไปแก้ปัญหาชีวิต มีมารยาทในการ
อา่ น
คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคำที่ถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และ
สละสลวย เขียนบรรยายประสบการณ์ โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียดสนับสนุน เขียนเรียงความ
เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากส่วนที่ได้รับ เขียนจดหมาย
สว่ นตัวและจดหมายกิจธรุ ะ เขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ และโครงงาน มมี ารยาทในการเขียน
พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู เล่าเรื่องย่อจากเรื่องที่ฟังและดู พูดแสดงความ
คิดเห็นอย่างสรา้ งสรรคเ์ กี่ยวกับเรื่องท่ีฟังและดู ประเมินความน่าเชื่อถือของสื่อที่มีเน้ือหาโน้มน้าวใจ พูด
รายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดู
และการพดู และพูดส่ือความเกย่ี วกบั ประเทศในกลมุ่ อาเซยี น
อธิบายลักษณะของเสียงและสร้างคำในภาษาไทย วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยค
ความแตกต่างของภาษาพูดและภาษาเขียน แต่งบทร้อยกรอง จำแนกและใช้สำนวนที่เป็นคำพังเพยและ
สภุ าษติ
สรุปเนื้อหา วิเคราะห์ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน พร้อมยกเหตุผล
ประกอบ สรปุ ความร้แู ละข้อคดิ จากการอ่านเพื่อประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ ท่องจำบทอาขยานตามทก่ี ำหนด
และบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษาไทย การอา่ น การเขียน การฟัง
การดู และการพูด การสืบเสาะหาความรู้การสืบค้นข้อมูล บันทึก วิเคราะห์วิจารณ์และการอภิปราย
เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ความรูสึก เห็นคณุ คา่ และนำความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตจรงิ มีคุณธรรม
จรยิ ธรรมและค่านยิ มทเ่ี หมาะสม มีมารยาทในการใช้ภาษา การอ่าน การเขยี น การฟัง การดู และการ
พูด เห็นคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน รักความเป็นไทย นำข้อคิดจากเรื่องที่อ่านไป
ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักคิดหลักปฏิบัตใิ นการเรียนรู้
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙
ท ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙
ท ๓.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖
ท ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖
ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๕ ตัวช้วี ดั
รายวิชาภาษาไทย คําอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
รหัสวิชา ท๒๑๑๐๒
๔๒
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง จับใจความสำคัญ ระบุเหตุผลและข้อคิด
เท็จจริงกับความคิดเห็น อธิบายคำเปรียบเทียบ และคำที่มีหลายความหมาย ตีความคำยากในเอกสาร
วิชาการ ข้อสังเกตและความสมเหตุสมผลของงานเขียนประเภทชักจูงโน้มน้าวใจ โดยพจิ ารณาจากบริบท
ต่าง ๆ จากเรื่องที่อ่านปฏิบัติตามคู่มือแนะนำวิธีการใช้งานของเครื่องมือหรือเครื่องใช้ในระดับที่ยากขึ้น
วิเคราะห์คณุ ค่าทีไ่ ดร้ บั จากการอ่านงานเขยี นอย่างหลากหลาย เพื่อนำไปแก้ปัญหาชวี ิต มีมารยาทในการ
อา่ น
คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคำที่ถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และ
สละสลวย เขียนบรรยายประสบการณ์ โดยระบุสาระสำคัญและรายละเอียดสนับสนุน เขียนเรียงความ
เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาระจากส่วนที่ได้รับ เขียนจดหมาย
สว่ นตัวและจดหมายกิจธรุ ะ เขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้าและโครงงาน มมี ารยาทในการเขยี น
พูดสรุปใจความสำคัญของเรื่องที่ฟังและดู เล่าเรื่องย่อจากเรื่องที่ฟังและดู พูดแสดงความ
คิดเห็นอย่างสร้างสรรคเ์ กีย่ วกับเรื่องที่ฟังและดู ประเมินความน่าเชื่อถือของส่ือที่มเี น้ือหาโน้มน้าวใจ พูด
รายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา มีมารยาทในการฟัง การดู
และการพดู และพูดส่ือความเกย่ี วกบั ประเทศในกล่มุ อาเซียน
อธิบายลักษณะของเสียงและสร้างคำในภาษาไทย วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำในประโยค
ความแตกต่างของภาษาพูดและภาษาเขียน แต่งบทร้อยกรอง จำแนกและใช้สำนวนที่เป็นคำพังเพยและ
สุภาษติ
สรุปเนื้อหา วิเคราะห์ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน พร้อมยกเหตุผล
ประกอบ สรุปความรู้และขอ้ คิด จากการอา่ นเพือ่ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ ทอ่ งจำบทอาขยานตามที่กำหนด
และบทร้อยกรองทม่ี ีคุณค่าตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการทางภาษาไทย การอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด การ
สบื เสาะหาความรู้การสบื ค้นข้อมลู บันทกึ วิเคราะหว์ ิจารณ์และการอภิปราย
เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ ความรสู ึก เหน็ คุณค่าและนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง
มีคุณธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม มีมารยาทในการใช้ภาษา การอา่ น การเขียน การฟงั การ
ดู และการพูด เหน็ คณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน รักความเป็นไทย นำขอ้ คดิ จากเร่ืองท่ีอ่าน
ไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั ยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นหลักคดิ หลกั ปฏบิ ตั ิในการเรยี นรู้
มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ดั
ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙
ท ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙
ท ๓.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖
ท ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖
ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕,
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๕ ตวั ช้ีวดั
๔๓
คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
รายวิชาภาษาไทยเพ่ิมเตมิ รหสั วิชา ท๒๑๒๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต
การอ่านในใจและการออกเสียงทั้งร้อยแก้ว ร้อยกรอง อ่านหนังสือนอกเวลาหรืองานเขียนต่าง ๆ
ทั้งบันเทิงและสาระคดีและเรื่องราวต่างๆ ในประเทศอาเซียน การอ่านจับใจความ การตีความ การแสดง
ความคิดเห็น การอ่านประเมินค่าการอ่านเพื่อวิเคราะห์ ผลงานต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลทั้งด้านเนื้อหาและ
สงั คมและการท่องจำบทประพนั ธ์ทม่ี ีคุณค่า เพอื่ สรา้ งความรคู้ วามคิด ไปใช้ในการตัดสนิ ใจแก้ปัญหาในการ
ดำเนนิ ชวี ิตและมนี ิสยั รกั การอา่ นและผู้อ่านควรมวี ิจารณญาณในการอ่านและการจับใจความสำคัญยึดหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นหลกั คดิ หลักปฏิบตั ิในการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้
๑. รู้หลกั การอ่านและอ่านได้อยา่ งคล่องแคลว่ ทั้งการอา่ นในใจและการอา่ นออกเสียง
๒. สามารถอา่ นคำประพนั ธง์ ่ายๆ เป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้องท้ังวรรคตอนและน้ำเสยี ง
๓. สามารถจับใจความสำคญั จากเรือ่ งทกี่ ำหนดให้ได้
๔. บอกข้อแนะนำในการอา่ นได้
๕. เลอื กอ่านหนงั สือทดี่ ีและมีประโยชนไ์ ด้
๖. มีความรู้ความเขา้ ใจในการวเิ คราะหข์ า่ วและบทความได้
รวมท้ังหมด ๖ ผลการเรียนรู้
๔๔
คาํ อธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
รายวิชาภาษาไทยเพ่ิมเติม รหัสวชิ า ท๒๑๒๐๒ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต
ฝึกการอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ รอ้ ยกรอง การอ่านในใจ เพอื่ จบั ใจความสำคัญ ระบุเหตุผล
ข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน ปฏิบัติตามคู่มือแนะนำวิธีการใช้งานของเครื่องมือเครื่องใช้ใน
ระดบั ทย่ี ากขึน้ ฝึกคดั ลายมือตัวบรรจง เขียนส่ือสารไดถ้ กู ต้อง ชัดเจน สละสลวย
โดยใช้กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเรียนรู้ กระบวนการเรียนภาษา เพื่อให้เกิดทักษะการ
อ่านการเขียนภาษาไทยและใช้ภาษาสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีมารยาทในการเขียน เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่
เรยี นเป็นผรู้ รู้ กั ษว์ ฒั นธรรมไทยยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ หลักคดิ หลักปฏบิ ตั ิในการเรยี นรู้
ผลการเรยี นรู้
๑. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเร่ืองที่อ่าน
๒. จบั ใจความสำคัญจากเรอ่ื งท่ีอ่าน
๓. ระบเุ หตุผลและข้อเทจ็ จริงกบั ขอ้ คิดเหน็ จากเรื่องที่อ่าน
๔. ปฏบิ ัติตามคู่มือแนะนำวิธกี ารใช้งานของเคร่อื งมือหรอื เครื่องใชใ้ นระดับทย่ี ากขนึ้
๕. คัดลายมือตวั บรรจงครง่ึ หน้า
๖. เขียนส่ือสารโดยใชถ้ ้อยคำถูกต้อง เขียนสะกดคำถกู ต้อง เขียนประโยคส่ือสารถูกต้อง ชัดเจน สละสลวย
๗. มมี ารยาทในการอ่านเขียน
รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้
คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
๔๕
รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ
อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ ทีเ่ ปน็ บทบรรยาย บทพรรณนา บทรอ้ ยกรอง เช่น กลอนบทละคร กลอนนิทาน
กลอนเพลงยาว และกาพย์ห่อโคลง อ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ เช่น วรรณคดี บทความ บันทึกเหตุการณ์ บท
สนทนา บทโฆษณา งานเขียนโน้มน้าวใจ บทความ เรื่องราวจากบทเรียน การอ่านตามความสนใจ มีมารยาทในการ
อ่าน
คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย การเขียนบรรยาย และพรรณนา
เขียนเรียงความเกี่ยวกับประสบการณ์ เขียนย่อความจากสื่อต่าง ๆ เช่น นิทาน คำสอนบทความทางวิชาการ
บันทึกเหตุการณ์ เรื่องราวในบทเรียน นิทานชาดก การเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้าและรายงานโครงงาน
การเขียนจดหมายกิจธุระ ได้แก่ จดหมายเชิญวิทยากรและจดหมายขอความอนุเคราะห์ เขียนวิเคราะห์วิจารณ์
จากสือ่ ต่าง ๆ เช่น บทความ บทเพลง หนงั สืออา่ นนอกเวลา สารคดีและบนั เทิงคดี มีมารยาทในการเขยี น
พูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดู พูดวิเคราะห์ พูดในโอกาสต่าง ๆ เช่น อวยพร โน้มน้าว โฆษณา
พดู รายงานการศึกษาคน้ ควา้ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด
การสร้างคำสมาส ลักษณะของประโยคในภาษาไทย ประโยคสามัญ ประโยครวม ประโยคซ้อน
แตง่ กลอนสภุ าพ คำราชาศพั ท์ คำทีม่ าจากภาษาต่างประเทศ
วรรณคดีและวรรณกรรมเก่ยี วกับศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษติ คำสอน เหตกุ ารณ์
ประวัติศาสตร์ บันเทิงคดี และบันทึกการเดนิ ทาง การวิเคราะห์คุณคา่ และข้อคิดจากวรรณกรรม วรรณคดี
และวรรณกรรมทอ้ งถ่นิ บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคุณคา่ ตามทกี่ ำหนดและตามความสนใจ
โดยการใชท้ ักษะกระบวนการอา่ น กระบวนการ ทักษะกระบวนการคดิ การรวบรวมและนำเสนอ
ข้อมลู และงาน การใชท้ ักษะกระบวนการกลมุ่ การวเิ คราะห์ การสงั เคราะห์
เพ่อื พฒั นาส่งเสริมทักษะทางภาษาอย่างเต็มตามศักยภาพ สามารถส่อื สารกับผู้อนื่ ได้ เห็นคุณค่า
ของวรรณคดี นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง มีทักษะชีวิต อนุรักษ์ภาษาไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ มี
ความซาบซึ้ง และมีสุนทรียภาพทางภาษายึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักคิดหลักปฏบิ ัติใน
การเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด
ท ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖, ม.๒/๗, ม.๒/๘
ท ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖, ม.๒/๗, ม.๒/๘
ท ๓.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖
ท ๔.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕
ท ๕.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๒ ตัวช้วี ดั
คาํ อธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน
รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๒๑๐๒ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
ฝึกทักษะการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง จับใจความสำคัญ สรุปความ
และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องที่อ่าน เขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ ที่อ่าน
๔๖
วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุนและข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่าน อ่านหนังสือบทความ
หรือคำประพันธ์อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรือแนวคิดที่ได้จาก การอ่านเพื่อนำไปใช้แก้ปัญหา
ในชีวิต ฝึกคัดลายมือตวั บรรจงครึง่ บรรทดั เขียนย่อความ เขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้า เขียนจดหมาย
กิจธุระ ฝึกวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและความน่าเชื่อถือของข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ วิเคราะห์วิจารณ์
เรอื่ งทฟี่ ังและดูอยา่ งมีเหตผุ ลเพอ่ื นำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต พูดรายงานเร่อื งหรือประเด็นท่ี
ศึกษาค้นคว้า จากการฟัง การดูและการสนทนา ศึกษาการสร้างคำในภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้าง
ประโยคสามญั ประโยคความรวมและประโยคความซอ้ น แตง่ บทร้อยกรอง รวบรวมและอธบิ ายความหมาย
ของคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดับที่ยากขึ้น
วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรมท้องถิ่นที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคุณค่าของ
วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจำบท
อาขยานตามทกี่ ำหนดและบทรอ้ ยกรองทีม่ ีคุณค่า ตามความสนใจ
โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด
กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเรียนรู้ของตนเอง กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเรียนภาษา
กระบวนการเรียนรู้ความเข้าใจ เพื่อให้เกิดความรู้ มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การพูด
และการดู มีความสามารถในการสื่อสาร ในการคิดการใช้ทักษะชีวิต ในการใช้เทคโนโลยี เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่
เรียน มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม ยึดหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักคดิ หลักปฏบิ ัตใิ นการเรยี นรู้
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
ท ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๕, ม.๒/๗, ม.๒/๘
ท ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖, ม.๒/๗
ท ๓.๑ ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๕
ท ๔.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๕
ท ๕.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕
รวม ๕ มาตรฐาน ๒๒ ตวั ช้วี ัด
คําอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม
รายวิชาภาษาไทยเพิ่มเตมิ รหสั วิชา ท๒๒๒๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ
ศึกษาหลักการเขียนเรื่องสั้น ความหมายของเรื่องสั้น วิธีการเขียนเรื่องสั้น ลักษณะของเรื่องสั้น
องค์ประกอบของเรือ่ สั้น ด้านโครงเรือ่ ง ตัวละคร แก่นของเรื่อง ฉากและสถานที่ กลวิธีในการเล่าเรื่องหรือ
มมุ มอง ลีลาการเขยี น ประเมนิ คุณค่าของเรอ่ื งส้ันในด้านการใช้ภาษา แนวคดิ ของเรอื่ ง ความบันเทิงใจ
เพื่อให้มีทักษะในการเขียน ควรใช้คำในภาษาไทยโดยการเลือกคำมาใช้ให้เหมาะสมและถูกต้อง
ใช้คำให้ตรงความหมาย ผู้เขียนต้องรู้ความหมายของคำที่ถูกต้อง ใช้คำให้ตรงกับชนิดของคำ เช่น คำนาม