๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 2 “สารีปุตตะ ดูก่อนสารีบุตร ถ้อยคำ ที่ตถาคตพูดมานี่ เธอเชื่อไหม?” พระสารีบุตรได้กราบทูลว่า “ข้าพระพุทธเจ้ายังไม่เชื่อ พระพุทธเจ้าข้า” ตอนนี้ บรรดาพระทั้งหลาย พากันหาว่าพระสารีบุตรทะนง ตน ที่องค์สมเด็จพระทศพลทรงยกย่องว่า เป็นอัคร สาวกเบื้องขวา เป็นผู้มากไปด้วยปัญญา แสดงท่าเบ่ง อวดเก่งดีกว่าพระพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัม พุทธเจ้า จึงได้กล่าวว่า ”เธอทั้งหลายจงจำ คำ พระ สารีบุตรไว้” องค์สมเด็จพระจอมไตรก็ตรัสถามว่า “ทำ ไมจึงไม่เชื่อ?” พระสารีบุตรจึงตอบว่า “ข้าพระพุทธเจ้าต้องนำ ไปประพฤติปฏิบัติก่อน ถ้ามีผลจริงตามที่องค์สมเด็จพระชินวรทรง ตรัส ข้าพระพุทธเจ้าก็จะเชื่อ ถ้าไม่มีผลจริงข้า พระพุทธเจ้าก็ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าข้า” สมเด็จพระบรมศาสดาจึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสกับ บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายว่า “เธอทั้งหลายจงเอาอย่างพระสารีบุตร เมื่อตถาคต พูดอะไรไปแล้วจงอย่าเพิ่งเชื่อ ใช้ปัญญาพิจารณา เสียก่อนแล้วปฏิบัติตาม ถ้ามีผลจริงตามนั้นแล้วจึง เชื่อ”
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 3 หนังสือธรรมะเล่มนี้ ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อ เป็นธรรมทาน เท่านั้น ทางคณะผู้จัดทำขอสงวนลิขสิทธิ์ ห้ามมีการคัดลอก ห้ามมีการตัดตอน ห้ามมีการนำ ไปจำ หน่าย หรือนำ ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ใดๆทั้งสิ้น
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 4 หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต วัดป่าสุทธาวาส อำ เภอเมือง จังหวัดสกลนคร
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 5 “ สิ่งที่ล่วงไปแล้วไม่ควรไปทำ ความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งของที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง แม้จะทำ ความผูกพันและมั่นใจในสิ่งนั้น กลับมาเป็นปัจจุบันก็เป็นไปมิได้ ผู้ทำ ความสำ คัญมั่นหมายนั้น เป็นทุกข์แต่ผู้เดียว โดยความไม่สมหวังตลอดไป อนาคตที่ยังไม่มาถึง ก็เป็นสิ่งไม่ควร ยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน อดีตควรปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตก็ควรปล่อยไว้ตามกาลของมัน ปัจจุบันเท่านั้นที่จะสำ เร็จเป็นประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำ ได้ไม่สุดวิสัย ”
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 6 “ ท่านทั้งหลายจงอย่าทำ ตัวเป็น ตัวบุ้งตัวหนอน คอยกัดแทะกระดาษแห่งคัมภีร์ใบลานเปล่าๆ โดยไม่สนใจพิจารณาสัจธรรมอันประเสริฐ ที่มีอยู่กับตัว แต่มัวไปยึดธรรมที่ศึกษามาถ่ายเดียว ซึ่งเป็นสมบัติของพระะพุทธเจ้า มาเป็นสมบัติของตน ด้วยความเข้าใจผิดว่าตนเรียนรู้ และฉลาดพอตัวแล้ว ทั้งที่กิเลสยังกองเต็มหัวใจยิ่งกว่าภูเขาไฟ มิได้ลดน้อยลงบ้างเลย จงพากันมีสติคอยระวังตัว อย่าให้เป็นคนประเภทใบลานเปล่าๆ เรียนเปล่าและตายทิ้งเปล่า ไม่มีธรรมอันเป็นสมบัติของตัว อย่างแท้จริงติดตัวบ้างเลย ”
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 7 “ คนไม่สนใจธรรม ธรรมก็ไม่เข้าถึงใจคน จึงกลายเป็น คนก็สักว่าคน ธรรมก็สักว่าธรรม ไม่อาจยังประโยชน์ให้สำ เร็จได้ แม้คนจะมีจำ นวนมาก และ แสดงธรรมให้ฟังทั้งพระไตรปิฏก จึงเป็น เหมือนเทนํ้าใส่หลังหมา มันสลัดออกเกลี้ยงไม่มีเหลือ ธรรมจึงไม่มีความหมายในใจของคน เหมือนนํ้าไม่มีความหมายบนหลังหมา ฉันนั้น ”หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต วัดป่าสุทธาวาส อำ เภอเมือง จังหวัดสกลนคร
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 8
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 9 “ ผีหลอกคนหรือจะสู้คนหลอกคน คนหลอกคนหรือจะสู้คนหลอกตัวเอง หลอกว่าไอนั่นก็ของกู ไอนี่ก็ของกูหลอกว่ากูดิบกูดี กูมีความสุข กูยิ่งใหญ่ หลอกไปหลอกมา .....ถอดออกมั้ยตัวกูนี่.... “ “ บุคคลที่ทนในสิ่งที่คนอื่นทนได้ยาก ทำ ในสิ่งที่คนอื่นทำ ได้ยาก บุคคลนั้นจะเข้าถึง ความสำ เร็จของชีวิตความอดทน ความขมขื่นจะเกิดขึ้น ในเบื้องต้นของการทำ ความดี แต่จะได้รับ ความชื่นชมในบั้นปลาย ” หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 10
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 11 “ จิตที่ตั้งไว้ผิด จะย้อนกลับมาทำ ร้ายตัวเรายิ่งกว่าศัตรูคู่เวร ไม่มีใครทำ ร้ายเราได้มากเท่ากับ เราทำ ร้ายตนเอง ไม่มีใครต้มตุ๋นเท่ากับเราต้มตุ๋นตนเอง ไม่มีใครหลอกลวงเราเท่ากับ เราหลอกลวงตัวเอง ก็คือ กิเลสหลอกจิตนั่นเอง ” “ จุดที่เยี่ยมยอดของโลก คือ ใจ ได้ใจแล้ว คือได้ธรรม เห็นใจแล้ว คือเห็นธรรม รู้ใจตนแล้ว คือรู้ธรรมทั้งมวล ถึงใจตนแล้ว คือถึงพระนิพพาน ใจนี่แล คือสมบัติอันลํ้าค่า ” “ ...เท้าเปื้อนล้างง่าย แต่ใจเปื้อนล้างยาก... ” หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อำ เภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 12 หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้มากมีบุญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม(วัดป่าบ้านห้วยทราย) อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 13 เมื่อถึงวัดเจดีย์หลวงแล้วก็ถามตุ๊อินทร์ให้ตัดสิน ใจเด็ดขาดว่าจะเอาอย่างใดระหว่างการศึกษา เล่าเรียน กับการออกปฏิบัติให้เวลาไตร่ตรอง อยู่หลายวัน มาสุดท้ายตุ๊อินทร์ตกลงขอออก ปฏิบัติเพราะไปเห็นหมู่พระนักเรียนแล้วไม่ เหมือนกับแบบอย่างที่อาจารย์หล้าสอนไว้ มีแต่ ผิดมีแต่บาปเลยไม่ยอมเรียน จึงให้แจ้งจดหมาย ลงมาหาเฒ่าหูตึงผู้เป็นพ่อว่า...“ไม่เรียนจะ ออกปฏิบัติ”จากนั้นก็เอาไปส่งไว้ให้อยู่กับท่าน อาจารย์แหวน (สุจิณฺโณ) วัดดอยแม่ปั๋ง เพราะ จะได้ดูแลอุปัฏฐากท่านอาจารย์แหวนจะได้อยู่ ศึกษาอยู่ด้วย บอกตุ๊อินทร์ไว้ว่า... “อดทนเน้อ อินทร์เน้อ อยู่เอาบุญเอากุศลกับ ท่านอาจารย์แหวน ให้อดทนอยู่กับอาจารย์หนู ให้ได้ ตายเป็นตายเน้อ” เราก็อยู่อุ่นกับท่านอาจารย์แหวนสัก ๑๐ กว่า วัน ก็ลาขึ้นไปถํ้าดอกคำ ไปอยู่ผายอง ไปเจริญ ภาวนาอยู่อย่างสบายใจของตัวเอง
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 14
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 15 หมดเรื่องแม่ออก หมดห่วงใดๆ แล้ว“เรื่องของตุ๊ อินทร์ความตั้งใจของเราก็ว่าจะให้อยู่ศึกษากับ ท่านอาจารย์แหวนก่อน จนรู้จักคำ รู้จักอรรถ เข้าใจแนวทางปฏิบัติมีหลักบ้างแล้วก็จะให้ไป อยู่ศึกษาต่อกับท่านอาจารย์ตื้อ (อจลธมฺโม) หากจะให้ไปอยู่กับท่านอาจารย์ตื้อก่อน อยู่กับ ท่านอาจารย์แหวน ก็เกรงว่าจะไม่เข้าใจในคำว่า คำจา ภาษาคำ พูดนิสสัยเสวนาของท่านอาจารย์ ตื้อได้ เดี๋ยวจะไปปรามาสประมาทลบหลู่ท่าน อาจารย์ตื้อแล้วจะเป็นบาปเป็นกรรม เสียก่อน ที่จะได้อรรถจะได้ธรรม เพราะเราก็คำ นึงอยู่ว่า ตุ๊อินทร์เคยอบรมมากับอาจารย์หล้า (เขมปตฺ โต)ภูจ้อก้อ ให้เป็นคนอ่อนคนละเอียด เมื่อได้ หลักมั่นคงแล้วก็จะให้เดินธุดงค์ เข้าดงเข้าป่า กับท่านอาจารย์ชอบ (ฐานสโม) แต่พอทนอยู่ ไม่ได้ คิดถึงบ้าน คิดถึงอาจารย์หล้า (เขมปตฺโต) และที่สำคัญท่านอาจารย์แหวนบอกผู้ข้าฯ ว่า...
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 16 “ท่านจามเอ๊ย ตุ๊หนุ่มตนนี้เธอก็ดีอยู่ ตั้งใจดี มีนิสสัยอยู่บ้าง แต่ครูบาอาจารย์ของเขาอยู่ ทางอีสานปู้นเน้อ” เราก็ถือคำของท่านอาจารย์แหวนเป็นประมาณ อยู่ในใจ จึงได้ส่งคืนมาหาอาจารย์หล้า วัดภูจ้อ ก้อ อาจารย์หล้า ส่งไปหาท่านอาจารย์มหาบัว (ญาณสมฺปนฺโน) อยู่บ้านตาด” “ปีที่ตุ๊อินทร์อยู่จำ พรรษากับท่านอาจารย์ แหวนนั้น ผู้ข้าฯอยู่บ้านช่อแล ใกล้เข้าพรรษา ลงมาแต่เมืองพร้าวมาถึงวัดช่อแล ก็โห... วัด เราหนีไปได้ปีกว่า ทรุดโทรม พระที่มาอยู่จำ พรรษาเขาไม่ดูแล กุฎิก็ไม่ซ่อมแซม ฟืนหลัวก็ ไม่หามา ไม้ไผ่ด้ามไม้ตาดเราหาไว้ ฟืนไม้ลำ ไย เราหาไว้ เขาเอามาเป็นฟืนจนหมด จนที่สุดด้าม ไม้กวาด“ มันมาขี้คร้านแท้ เอาความไม่ดีไม่งาม มาอวดมาอ้างชาวบ้านเขาแท้พระเณรหมู่นี้ สู บวชเข้ามาขี้คร้าน อย่างนี้หรือ”...เราว่าให้พระ หมู่นั้น
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 17 ปีนั้นอยู่จำ พรรษาคนเดียว เมื่อออกพรรษาพ้น เขตกฐินแล้วก็ขึ้นไปแม่ปั๋ง กะว่าจะขึ้นไปถามดู ตุ๊อินทร์ว่าอยู่ได้ไหม ทนอยู่ได้ไหม พอขึ้นไปถึง แล้ว ก็มาบ่นว่า... “ให้ทนอยู่กับอาจารย์หนูไม่ได้” เราก็ว่า “ทนอยู่ต่อไม่ได้หรือ” บอกว่า “ไม่ได้ครับ” ทำ ท่าจะร้องไห้อีก ก็เลยตัดสินใจให้ออกจาก ดอยแม่ปั๋ง กราบลาท่านอาจารย์แหวนว่าจะพา ไปเที่ยวธุดงค์ ท่านอาจารย์แหวนก็อาลัย อยู่เพราะขาดผู้อยู่ ใกล้ชิด แต่ก็อนุญาตให้ไป “อยู่ป่าฮิ้นผายอง แต่เดือน ๓ เดือน ๔ เดือน ๕ เดือน ๖ เดือน ๖ เพ็ญลงชุมนุมกับหมู่เพื่อนกับ ท่านอาจารย์แหวน (สุจิณฺโณ) อยู่ดอยแม่ปั๋ง ทำ วิสาขบูชา เสร็จแล้วก็ลงไปอยู่ ช่อแลที่เดิม” “อยู่บ้านป่าฮิ้นนั้นแหละ... นั่งภาวนาอยู่ได้นิมิต เห็นตัวเองเกิดเป็นตัวตุ่นหน้าแว้ มีลูก ๕ ตัว แล้วสักพักลูก ๕ ตัวนั้นก็แสดงรูปเป็น คน ๕ คน ได้แก่...
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 18
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 19 ตุ๊อินทร์ถวาย (สนฺตุสฺสโก) หนานวงศ์ เสียงล้ำ นายสมัคร (เสียงล้ำ ) นายตุ๊แล้ว (เสียงล้ำ ) นาย สวาท (ผิวขำ ) กับนายมนตรี ดวงจิต คนบ้านช่อ แลผู้ข้าฯ เป็นพ่อ เลี้ยงลูก ๕ ตัว ตัวเป็นเมียไม่รู้ ว่าเป็นใคร เลี้ยงลูก พอลูกใกล้ใหญ่แล้วก็พวก นายพรานมาขุดแล้วเอาไป แยกย้ายกันไป จิต ถอนออกมา ก็พิจารณาตามนิมิต ก็ว่าคนพวก นี้คงเคยเป็นลูกชายของเรามาก่อนเป็นแน่นอน ในตอนนั้นเห็นแล้ว ๓ คนมาอยู่ใกล้ชิดเกี่ยวข้อง แล้ว ๓ คน ยังเหลือสองคน ถ้าหากต่อไปเมื่อ หน้าคนสองคนนี้มีจริงมาเกี่ยวข้องเราจริง จึง จะเชื่อนิมิตเรื่องนี้ทีนี้ลงมาอยู่บ้านห้วยทราย จึงได้มาเห็นนายตุ๊แล้ว นายสวาท มาบวชอยู่ ด้วย จึงเชื่อได้สนิทว่า พวกเขา ๕ คน เคยเป็น ลูกชายมาแล้วแต่ก่อนเก่าหลายภพหลายชาติ เกิดตายในโลกนี้มันเอาแน่นอนได้เสียที่ไหน เพราะโลกนี้ความไม่แน่นอนเป็นเครื่องอยู่ของ โลก เกิดตายว่ายวนไปตามเรื่อง” ธรรมะประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญโญ
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 20
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 21 “ เห็นอนิจจัง ขณะจิตเดียว ก็เห็นโลกรอบ แล้ว เพราะโลกเต็มไปด้วยอนิจจัง เห็นทุกข์ ขณะจิตเดียว ก็เห็นโลกรอบแล้ว เพราะโลกเต็มไปด้วยความทุกข์ เห็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเราเขา เพียงแต่สักว่า รูปขันธ์ นามขันธ์ เกิดขึ้นแล้ว แปรปรวนดับสลาย เป็นสักแต่ว่าสังขาร เพียงแค่ขณะจิตเดียว ก็เห็นโลกรอบแล้ว ไม่ต้องสงสัยในโลกทั้งปวง ถ้าเห็นชัด ถ้าเห็นไม่ชัดก็ไม่ตัดความสงสัย ถ้าเห็นชัดก็ตัดความสงสัย...” หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อำ เภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 22
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 23
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 24 คุณแม่ชีแก้ว เสียงลํ้า สำ นักแม่ชีปฏิบัติธรรมกรรมฐานวัดป่าวิเวกวัฒนาราม (วัดป่าบ้านห้วยทราย) บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 25 “ อย่าได้กินแล้วนอนคือหมูคือหมาเด้อ ลูกแม่ เด้อ ลูกเอ๋ยให้ฟังความแม่ ให้แน่ความหน่าย ให้อายความเกิด ให้เปิดความสุข อย่ามานั่งจุก นั่งเจ่า อย่าเฝ้าแต่กองขี้เถ้าของตน ” “ โลกอันนี้เป็นเอกนาโถ.. หาทุกข์..หาสุขก็ได้.. หาประโยชน์และมิใช่ประโยชน์..หานรก.. หาสวรรค์..หามรรค..หาผล.. หานิพพาน..หาอะไรก็ได้หมด ..โลกนี้........โลกหาได้ ” คุณแม่ชีแก้ว เสียงลํ้า
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 26 พ.ศ. ๒๔๘๘ คุณแม่ชีแก้วได้ให้ นามข้าพเจ้าว่า “อินทร์ถวาย” นับแต่ตนถือกำ เนิดขึ้นมา ท่าน ให้ความเมตตาเอ็นดูประดุจเป็น บุตรเกิดในอุทร อยู่ในสายตา ของท่านมาตลอดตั้งแต่วัยเยาว์จนเข้าเป็น สามเณร เป็นพระภิกษุ หรือเมื่อไปอยู่วัดป่า บ้านตาด กระทั่งในที่สุดไปอยู่วัดป่านาคำ น้อย ตั้งแต่ปี ๒๕๒๖ เป็นต้นมาท่านก็ยังอุตส่าห์ เมตตาอุดหนุนจุนเจือด้านจตุปัจจัยมิให้ขาดตก บกพร่องอันใดเลย ตราบจนท่านละสังขาร คุณ แม่ชีแก้ว ที่นับแต่ตนถือกำ เนิดขึ้นมาโลก คุณ แม่ก็ธำ รงอยู่ในฐานะ “มารดาในทางธรรม” ให้ความเอ็นดูเลี้ยงดูฟูมฟักทั้งทางโลกทางธรรม เป็นอเนกประการ พระคุณของท่านเหล่านี้จึง สูงตระหง่าน เสียดฟ้าเพราะกรุณาธรรมที่ไม่มี ที่สุดไม่มีประมาณนั่นเอง
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 27 พ.ศ. ๒๕๐๐ กึ่งพุทธกาล หลังจากจบการศึกษา เบื้องต้นแล้วพ่อแม่พี่ น้องก็ได้ให้เข้าบรรพชา เป็นสามเณรอยู่กับหลวง ปู่หล้า เขมปัตโตอยู่จำ พรรษาติดต่อกันจนถึงปี อุปสมบท พ.ศ. ๒๕๐๘ เป็นสามเณร ๘ ปี เป็น พระ๑ ปี รวม ๙ ปีที่อยู่ กับหลวงปู่หล้า บางปี ก็อยู่กับท่าน ๒ องค์ บางปีก็มี ๓ องค์ด้วยกัน หลวงปู่สอนทุกอย่าง ทุกประการ ประดุจปู่สอน หลาน สอนออกท่าออกทางให้เห็นภาพพจน์ หากผู้ใดทำผิด ท่านจะดุด่าว่ากล่าวอย่างไม่ ยอมหยุดเลย จนกว่าผู้นั้นจะสำ นึกเห็นโทษแล้ว รีบไปขอขมาลาโทษ ท่านจึงจะหยุด...
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 28 พ.ศ. ๒๕๐๙ และ ๒๕๑๑ ได้อยู่พำ นัก จำ พรรษากับหลวง ปู่จาม มหาปุญโญ ที่วัดป่าบ้านหว้ยทราย ผู้เป็นหลวงอา น้องชายของโยมพ่อ ในคราวแรกตอนท่านลงมาจากเมืองเหนือเพื่อ เยี่ยมโยมแม่ของท่านที่เป็นแม่ชีก็คือโยมย่าของ ข้าพเจ้านั่นเอง โดยไปขออนุญาตจากหลวงปู่ หล้าให้มาอยู่เป็นหมู่ แล้วก็พาขึ้นไปจำ พรรษาปี ๒๕๑๐ กับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่วัดดอยแม่ ปั๋งหลังจากนั้นจึงกลับลงมาจำ พรรษากับหลวง ปู่จามอีกครั้งในปีต่อมา ก่อนไปอยู่บ้านตาด
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 29 พ.ศ. ๒๕๑๒-๒๕๒๕ ได้อยู่จำ พรรษาที่วัดป่า บ้านตาดมาตลอด ไม่ได้ไปจำ พรรษา ณ ที่อื่น ใดเลย เมื่ออยู่ได้ ๗ พรรษา (ช่วงปี ๒๕๑๘- ๒๕๑๙) พ่อแม่ครูอาจารย์ก็เมตตาชี้แนะ “ธรรมอินทร์!ให้ออกวิเวกบ้างนะ จะได้กำลัง” เพราะเหตุนั้นในช่วงฤดูแล้ง เมื่อว่างจากการ งานของพ่อแม่ครูอาจารย์ และหมู่คณะแล้ว ก็ได้กราบลาออกไปแสวงหาสถานที่วิเวกสงบ สงัดเพื่อภาวนา เป็นสถานที่ห่างไกล ป่าช้า ป่า ชัฏ ภูผาเงื้อมผา เป็นต้น พ.ศ. ๒๕๑๑ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ ผู้เป็น หลวงอา พาข้าพเจ้าขึ้นไปเมืองเหนือ ให้ไปอยู่ จำ พรรษาที่วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ กับ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ และ หลวงปู่หนู สุจิตโต ในพรรษานั้นก็มีพระจำ พรรษาด้วยกัน เพียง ๓ องค์ ได้กระทำอาจริยวัตรปรนบัติวัต ถากทุกอย่างทุกประการ เหมือนสามเณรน้อย มาอยู่ที่นี่ จิตใจสงบสงัดดีมาก เพราะห่างไกล จากบ้านเกิดเมืองนอน ห่างไกลสิ่งปลิโพธิวิตก กังวล ยิ่งตนเป็นพระบวชใหม่ อยู่ใกล้บ้านไม่ดี
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 30
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 31
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 32
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 33 คำ ปรารภ ในวาระที่ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เจริญอายุวัฒนะครบ ๗๑ ปี (๕๑ พรรษา) ในวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๙ คณะศิษยานุศิษย์จึงได้ถือ ขอโอกาศนี้ขออนุญาติท่าน จัดทำ หนังสือชื่อ ๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก เล่มนี้ขึ้่นมา เพื่อน้อมถวายเป็นเครื่อง สักการะบูชาแด่องค์ท่าน และแจกเป็นธรรมทานแก่ คณะศิษยานุศิษย์และชาวพุทธบริษัททั่วๆไป คณะศิษยานุศิษย์ขอตั้งจิตอธิษฐานถึงคุณ พระรัตนตรัย และอานิสงส์ของธรรมทานในครั้งนี้ จงเป็นเหตุปัจจัยให้ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ที่เป็นที่รักและเคารพเหนือเศียรเกล้าของ เหล่าศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย ให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ให้ ไม่มีอาพาธใดๆบังเกิดมีขึ้นแก่ท่าน เพื่อให้หลวงพ่อ อินทร์ถวาย สันตุสสโก ครองธาตุขันธ์ยาวนานสืบไป คณะศิษยานุศิษย์วัดป่านาคำ น้อย
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 34
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 35 ๗๑ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก โอวาทธรรมคำสอน วัดป่านาคำ น้อย อำ เภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 36
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 37 ๐๑ กายกับใจนี้มันเป็นคนละอันกัน เพียง อาศัยกันอยู่ เมื่อเรารู้แล้วอย่างนั้น เราก็นำ ใจ นั้นแหละ ตัวผู้รู้มาพิจารณาร่างกาย ร่างกายนี้ จะเป็นอยู่ได้นานสักเท่าใด ๐๒ ใจของเราให้ความสำ คัญกับสิ่งนั้นสิ่งนี้ ไปยึดสิ่งต่างๆเข้ามาสู่จิตใจ ใจเราเลยเป็นทุกข์ ด้วย ราคะ โทสะ โมหะ ยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด ให้พิจารณาดู...ขนาดร่างกายของตนเองแท้ๆ ยังไม่ใช่ตัวตนของเรา เราจะไปยึดเอาความ ทุกข์ความวุ่นวายเข้ามาให้จิตให้ใจอีกทำ ไม ให้ พิจารณาให้เกิดความเบื่อหน่าย สลัดทิ้งที่ใจ เบื่อหน่ายที่ใจ คลายที่ใจ หลุดพ้นที่ใจ
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 38 ๐๓ อย่าประมาทในการใช้ชีวิต ให้ระลึกถึง ความตายไว้เสมอ ความตายเป็นของไม่เที่ยงแท้ แน่นอน ไม่รู้ว่าจะจากขณะไหน เดินอยู่ก็ตาย นั่งอยู่ก็ตาย นอนอยู่ก็ตาย ความตายไม่เลือก สถานที่
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 39 ๐๔ พวกเราเกิดมานั้น เกิดมาจากที่ไหน เกิด มาจากพ่อจากแม่ ไม่ใช่เกิดมาจากโพรงต้นไม้ หรือจอมปลวก เพราะฉะนั้น เราควรระลึกถึง และตอบแทนพระคุณของท่าน การทดแทน บุญคุณของพ่อแม่ บุญกุศลมหาศาล ท่าน ว่า ผู้ใดปฏิบัติพ่อแม่ ผู้นั้นเหมือนได้ปฎิบัติ พระอรหันต์ เพราะฉะนั้นพวกเราอย่าพากัน ประมาท อย่ามองข้ามคุณบิดามารดา เลี้ยงบุตร สุดนี้ น้อยนับ....ไม่แทนมือ พ่อแม่ได้ เหมือนใจ หมาย....คุณไม้เท้า พ่อแม่นี้ มีมากมาย....ได้คํ้า กาย ย่างย่อง จ้องจดจุน....จะเดินทาง ไปข้าง ไหน ไกลสถาน....เมื่อพบพาน สัตว์ร้าย จะวาย วุ่น....เอาไม้เท้า ปัดเหวี่ยง ไปตามบุญ....คงมี คุณ กว่าลูก ที่ปละละเลย ๐๕ ให้พวกเราสั่งสมคุณงามความดีเข้าสู่ จิตใจไว้ตายแล้วไม่สูญ ตายแล้วเกิดอีก สิ่ง ไหนที่มันไม่ดี อย่าคิด อย่าพูด อย่าทำ
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 40
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 41 ๐๗ หลักการปฏิบัติที่ดีงามเรื่องทิศทั้ง ๖ พระองค์ทรงตรัสอธิบายเปรียบเทียบทิศต่าง ๆ อันตรงกันกับบุคคลที่แวดล้อมเรา ซึ่งเป็น ข้อปฏิบัติที่พึงปฏิบัติต่อกันและกัน เพื่อความราบรื่นอันดีในครอบครัวสังคม ว่ามารดาบิดาเป็นทิศเบื้องหน้า อาจารย์เป็นทิศเบื้องขวา บุตรภรรยาเป็นทิศเบื้องหลัง ญาติสนิทมิตรสหายเป็นทิศเบื้องซ้าย บ่าวไพร่คนทำ งานเป็นทิศเบื้องล่าง สมณพราหมณ์เป็นทิศเบื้องบน ทรงชี้ว่าคฤหัสถ์ในสกุลผู้สามารถ ควรนอบน้อมทิศทั้ง ๖ เหล่านี้ ๐๖ ถ้าหากทุกคนมีปัญญา วางตัวให้ถูก ฐานะ ไปอยู่ ณ สถานถิ่นใด ดีหมดทั้งนั้นแหละ ไม่ขัดไม่ขวางกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน รู้จัก สั้นรู้จักยาว รู้จักผ่อนปรน ตนก็มีความสุข ผู้ เกี่ยวข้องก็มีความสุข
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 42
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 43 ๐๘ ให้พวกเราทุกๆท่านฝึกสมาธิ มันเป็น ผลประโยชน์ของเราเองจนถึงเฒ่าแก่ชราจะ ตายก็ไม่กลัวตาย ไม่สะทกสะท้าน...เพราะได้ พิจารณาในธรรม ธรรมะได้เข้าสู่จิตใจแล้ว... ถ้าคนไม่ได้ศึกษาธรรมะ อยู่ไปวันๆ เดือนๆปีๆ หลวงพ่อว่า อันนี้ขาดทุน ที่ได้มาพบ พระพุทธ ศาสนา ๐๙ หมั่นทำจิตให้สงบ ทำจิตให้เป็นหนึ่ง ให้มีสติกับตนเอง บริกรรมอะไร ก็ทำ ให้จริง ทำ ให้จัง อย่าให้เผลอๆไผลๆ ถ้าหากเพลอไป ก็ให้ดึงกลับคืนมา ให้มันอยู่ที่เก่า การพยายาม อย่างนี้อย่างต่อเนื่องนี่แหละคือ การทำสมาธิ
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 44
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 45 ๑๐ ถ้าทำกรรมชั่ว กรรมชั่วก็จะพาผู้กระทำ นั้นไปตามขั้นตอน ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไปเป็นช้าง ม้า วัว ควาย หมู หมา เป็ด ไก่ ไป ได้ทั้งนั้นแหละวิญญาณดวงนี้ เพราะฉะนั้น เมื่อ พิจารณาดูแล้วการเวียนว่ายตายเกิดนี้ น่ากลัวมาก วัฏวน วัฏสงสาร ๑๑ เป็นลูกของพระพุทธเจ้า ควรจะ สำ เหนียกสำ นึกตนให้เป็นคนดี สิ่งไม่ดีอย่าทำ เพราะทำ ไปแล้วก็เดือดร้อนตนและผู้อื่น ถ้าทำ ดีแล้ว มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข คิดขึ้นมา ครั้ง ใด เวลาใด ใจของเราก็ร่มเย็นเป็นสุข “ ธรรมคือความจริง ความแน่นอน ความดีความ งามเรียกว่าธรรมทั้งที่ โลกียธรรมคือ ธรรมประเพณี ความเป็นธรรมของโลก นั่น นั่นก็เป็นธรรมอย่างหนึ่ง ส่วนโลกุตรธรรมคือผู้ที่ปฏิบัติเพื่อพ้นโลก คือ มรรค ปฏิปทา มีองค์แปด มรรค มรรคมีองค์เดียว แต่มรรคมีองค์แปดประการ ” หลวงปู่บุญมี ปริปุณฺโณ (วัดป่านาคูณ)
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 46
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 47 ๑๒ ในโลกนี้ เราเอาอะไรไปด้วยไม่ได้ นอกจากบุญกับบาป...แต่สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ที่เราเสาะแสวงหา เงินคำ ทรัพทย์สมบัติ ญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง เราจะต้องละทิ้งไว้ในโลกนี้ ทั้งหมด เอาไปด้วยไม่ได้... นี่แหละหลักของ พระพุทธศาสนา ไม่ใช่ปล่อยที่อื่น ไม่ใช่วางที่ อื่น ปล่อยวางที่ใจของเรานั้นเอง ๑๓ ต้องคิดใว้เป็นภาษาใจของตนเอง ถึง ข้าพเจ้าจะรับผิดชอบขนาดไหนก็ตาม ไม่ว่าจะ รักขนาดไหน จะเกลียดขนาดไหน จะพอใจ ไม่ พอใจขนาดไหน อีกสักวัหนึ่ง...ข้าพเจ้าจะต้อง ทิ้งทั้งหมด ข้าพเจ้าจะต้องตาย จะต้องหนีจาก เขา...
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 48
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 49 ๑๔ จุดนี้สำคัญมาก พระพุทธเจ้า พระ อรหันต์สาวกท่านจึงเพ่งมองเข้ามาหาจุดนี้ คือ จุดใจนี้ละ นามธรรมตัวนี้ เป็นตัวเจ้ากี้ตัวเจ้า การ เรื่องราวต่างๆ ออกไปจากตัวนี้ทั้งหมด แต่ ไม่เป็นตัวหรอกมันเป็นพลัง พลังเหมือนกับพลัง ปรมาณูอย่างนั้น เราจับไม่ได้ว่าเป็นพลังออก มาจากไหน แต่พอมันระเบิดออกไป ฉิบหาย วายป่วงไปเป็นแถบๆ อันนี้ก็เหมือนกัน ใจของ เราดูๆแล้วมันไม่มีอะไร มองก็ไม่เห็น แต่พลัง ของมันมหาศาล คือ พลังดี พลังชั่ว ที่บังคับ กายของเราให้ทำ เรื่องต่างๆ ทำกรรมดี กรรม ชั่วต่างๆ พูดไปในทางดีทางชั่วต่างๆ ทำ ไปใน ทางดีทางชั่วต่างๆ เพราะออกมาจากใจตัวนี้ทั้ง นั้น ดังนั้นใจตัวนี้สมควรอย่างยิ่ง ที่จะต้องได้รับ ความสนใจ ความเอาใจใส่ อย่างมากหรือ เอา ธรรมะเข้ามาจับ มาดู มาดูใจของเราของทุกๆ ท่าน ฉะนั้น ใจจึงเป็นใหญ่ ใจจึงเป็นหัวหน้า อยู่ในจุดนี้
๗๑ โอวาทธรรมคำสอน หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก 50