100
สงั เขปประวตั แิ ละพระธรรมเทศนา
ในงานพิธสี วดลักขี วดั ธรรมมงคล
วนั ที่ ๘ ม.ค. ๕๙ ตอนที่ ๙
“บญุ ท่ีเหนอื กว่า”
พวกเราทง้ั หลายไดส้ วดมนต์ “อติ ปิ โิ ส” พรรณนาถงึ คณุ
ขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า คือคุณของพระพุทธเจ้า
คณุ ธรรมคำ� สั่งสอนของพระพทุ ธเจา้ คณุ ของพระอริยสาวก
ของพระพทุ ธเจา้ เปน็ สรณะเปน็ ทพ่ี งึ่ ในทางจติ ใจของพวกเรา
เราเชดิ ชไู วท้ ส่ี งู พวกสตั วน์ รกทง้ั หลายหรอื สมั ภเวสที งั้ หลาย
ใกล้จะสิน้ กรรม เร่ิมจะได้ยนิ ในขณะท่เี ราสวดพรรณนาคณุ
ของพระพทุ ธเจ้า เม่ือเร่มิ ได้ยินกเ็ กิดศรทั ธาความเชือ่ ความ
เลอ่ื มใสนี้ จนกวา่ จะเปน็ อยา่ งนก้ี ห็ ลายหมน่ื ปถี งึ ไดย้ นิ ไดฟ้ งั
แลว้ กเ็ กดิ ศรทั ธา แลว้ กอ็ ยากจะเกดิ เปน็ มนษุ ย์ เมอ่ื อยากจะ
เกดิ เปน็ มนษุ ย์ กอ็ ยากจะมาปฏบิ ตั ธิ รรมเหมอื นอยา่ งพวกเรา
เหน็ พวกเราทำ� บญุ ใหท้ านรกั ษาศลี เจรญิ เมตตาภาวนา กอ็ ยาก
มาทำ� เหมอื นอยา่ งพวกเรา เหน็ พวกเราท�ำก็อยากอนุโมทนา
ผลสุดท้ายกรรมท่ีมีอยู่ก็เบาบางลงไปถึงหมดสิ้นไป
เมอื่ หมดสน้ิ ไปกจ็ ะไปแสวงหาทเี่ กดิ ได้ เมอ่ื แสวงหาทเี่ กดิ ดว้ ย
อปุ นสิ ยั จติ ใจทเ่ี กดิ ความเชอ่ื ศรทั ธาความเลอ่ื มใส เกดิ มาเปน็
มนษุ ย์ถงึ จะเป็นมนษุ ยย์ ากจนเขญ็ ใจ กเ็ กิดศรทั ธาความเชอื่ ความเล่อื มใส มคี วามเชอื่ ในบาปในบญุ ท�ำอย่างน้ีมัน
เปน็ บาป ทำ� อยา่ งนมี้ นั เปน็ บญุ ถา้ เราไปทำ� บญุ ใหท้ านอยา่ งนเี้ รากจ็ ะไดบ้ ญุ เราไปรกั ษาศลี เรากจ็ ะไดบ้ ญุ เราไปภาวนา
เราก็จะได้บุญ ถา้ ยิง่ มาบวชในพระพทุ ธศาสนาก็ยิง่ ไดบ้ ุญมากข้นึ ไปกวา่ นนั้
นี้คอื ศรทั ธาเกดิ ขึน้ ในขณะที่เกดิ ในภพนี้ เราได้มาปฏบิ ตั ิ บางคนกเ็ กดิ ยากจนเขญ็ ใจ แตจ่ ติ ใจน่ีเต็มรอ้ ย
เหมือนกับคนที่เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เมอ่ื ได้มาปฏิบตั ริ ่วมกันแลว้ มศี ลี เสมอกนั แล้ว หรืออาจจะมศี ลี มากกว่า
คนทม่ี ฐี านะดี เมอ่ื ตายไปจากภพนไ้ี ปเกิดในภพหน้า ก็จะอยบู่ นสวรรคช์ ้นั สงู คอื สวรรคช์ น้ั ดุสติ เสวยทพิ ยส์ มบตั ิ
ชน้ั ดสุ ติ
ในงานพธิ ีสวดลักขี วัดธรรมมงคล วันท่ี ๘ ม.ค. ๕๙
101
พระครูกิตติอดุ มญาณ (หลวงปู่ไม อนิ ทสริ )ิ
ในงานพิธสี วดลักขี วดั ธรรมมงคล
ปี ๕๙ ตอนที่ ๔-๖
ภาวนามยั บญุ สำ� เรจ็ ดว้ ยการภาวนา ศลี มยั บญุ สำ� เรจ็ ดว้ ยการรกั ษาศลี เมอื่ เรามศี ลี บรสิ ทุ ธแ์ิ ลว้ กายบรสิ ทุ ธิ์
วาจาบรสิ ทุ ธิ์ ใจบรสิ ทุ ธิ์ กเ็ ปน็ ศลี ศลี นนั้ เปน็ ผบู้ รสิ ทุ ธิ์ แลว้ เรามารวมจติ ของตนเองใหเ้ ปน็ สมาธิ เมอ่ื จติ เปน็ สมาธิ
จติ มปี ญั ญา จติ มปี ญั ญาแลว้ จติ กจ็ ะสอดสอ่ งดกู ระแสอารมณจ์ ติ ของตนเองอยตู่ ลอดเวลา ในขณะนจี้ ติ ของพวกเรา
หลงไปตามกระแสของอารมณอ์ ะไรบา้ ง ถา้ มนั มกี ารหลง เรากย็ อ้ นกลบั คนื มาดลู มหายใจเขา้ ออก แลว้ ใชส้ ตปิ ญั ญา
ดูกระแสของอารมณ์ตา่ งๆ ท่เี ราก�ำลังหลงไปนน้ั มันมีโทษหรอื มคี ณุ
ในขณะทจ่ี ติ ของเรายงั ไมเ่ กดิ สตไิ มเ่ กดิ ปญั ญา เรากอ็ ยา่ ไปหลงตามกระแสของอารมณต์ า่ งๆ เราพยายามทกี่ ดขม่
อารมณจ์ ติ ของพวกเราใหม้ าสอู่ ารมณข์ องสมาธใิ หไ้ ด้ คอื เรามคี วามตง้ั ใจอยากจะนงั่ สมาธิ ๑ ชว่ั โมง กใ็ หไ้ ด้ ๑ ชว่ั โมง
อย่าให้เผลอสติหรอื อารมณต์ า่ งๆ เกดิ ขึ้นเปน็ เดด็ ขาด นถี้ า้ เราทำ� อยา่ งน้ไี ด้ชัว่ โมงหน่งึ นอกจากน้นั เราก็อยากจะ
เตมิ เวลาเขา้ ไปอีกเปน็ ๒ ช่วั โมง เม่ือได้ ๒ ช่ัวโมง เรากอ็ ยากจะเตมิ เวลาเขา้ ไปอีกให้ได้ ๓ ช่ัวโมง
แม้ว่าอะไรจะเกดิ ขน้ึ เราก็จะต้องฝ่าฟันอปุ สรรคน้นั ไปให้ได้ เพราะเวลาทเี่ ราจะยา่ งก้าวเข้าไปถงึ เสน้ ชยั นน้ั
เหลอื เวลาอยไู่ มถ่ งึ ศอก เรากจ็ ะหยดุ เสยี แลว้ หรอื ไมถ่ งึ วาเรากจ็ ะหยดุ เสยี แลว้ เมอ่ื เราหยดุ แลว้ กเ็ หมอื นกบั วา่ เราได้
ตัง้ ต้นใหม่ เรานั่งใหมก่ ็เหมือนกับเราตัง้ ตน้ ใหม่
เพราะฉะนน้ั เราตอ้ งฝา่ ฟนั สงิ่ เหลา่ นใ้ี หม้ นั ผา่ นพน้ เขา้ ไปถงึ ทสี่ ดุ อยา่ งทเ่ี รานงั่ เกดิ เวทนามากๆ ขณะทเ่ี วทนา
มากๆ นี้ ถา้ มนั เกดิ ทข่ี ากเ็ หมอื นกบั วา่ ขามนั จะขาด ขามนั จะขาดมนั จะตอ้ งมเี วทนาเกดิ ขนึ้ มกี ารเจบ็ ปวดอยา่ งสาหสั
สากรรจ์นะ ขามันแสดงปฏิกิรยิ าอย่างน้นั จติ ของเราไปสอดรสู้ อดเห็นก็เอามาเปน็ อารมณ์ เม่ือเอามาเปน็ อารมณ์
ก็เป็นทุกข์เป็นร้อนกับขา ถ้าเราไม่เป็นทุกข์เป็นร้อน ปล่อยท้ิงมันไปเลย เราต้องเด็ดขาดในขณะที่เราน่ังสมาธิ
อะไรมนั จะเกดิ ก็ใหม้ นั เกดิ ข้ึน อะไรมนั จะดบั ก็ใหม้ ันดับไป เราไม่ต้องไปสนใจกบั การเกดิ การดบั ของมนั เราดแู ต่
อารมณส์ มาธอิ ยา่ งเดยี ว เมอื่ เราดอู ารมณส์ มาธิ ความทรมานเจบ็ ปวดกย็ งิ่ หนกั เขา้ ไปเรอื่ ยๆ เมอ่ื มนั หนกั เขา้ ไปเรอ่ื ยๆ
จติ ของเรากร็ วมเขา้ ไปเรอ่ื ยๆ มนั จะแหลมคมขนาดไหน เรากท็ ำ� จติ ของเราใหแ้ หลมคมเขา้ ไปอกี ผลสดุ ทา้ ยจติ กร็ วม
เป็นสมาธิ
เมือ่ จติ รวมเข้าเปน็ สมาธิ เกิดเปน็ ดวงขึ้นมาจากสิ่งที่แหลมคม ดวงนนั่ เปน็ ดวงสว่างเกิดขน้ึ จะสวา่ งน้อย
สว่างมาก ก็ถือว่าเปน็ ท่จี บั ของจิต จิตของเราจะตอ้ งจับหรอื จดจ่ออยทู่ ต่ี รงนน้ั เม่ือเราได้ท่ีตรงน้นั แล้ว ทุกส่วนใน
รา่ งกายของเรากป็ ลอ่ ยโดยอตั โนมตั ิ เมอื่ เราปลอ่ ยวางโดยอตั โนมตั แิ ลว้ เวทนาทเ่ี คยมคี วามทกุ ขท์ เี่ คยมกี ส็ ญู หาย
ไปหมด เม่อื มนั สูญหายไปหมด กาลเวลาท่ีเราเคยก�ำหนดว่าจะนงั่ อยู่ ๑ ชว่ั โมง มันกเ็ ลยไปแลว้ หลายช่ัวโมง
โดยอตั โนมตั ิ จนกวา่ จติ ของเราจะถอนออกจากสมาธิ มนั กจ็ บไปหลายเรอ่ื งแลว้ รไู้ ปหลายเรอื่ งแลว้ สตปิ ญั ญาของ
เราก็แหลมคมมากกว่ากิเลสท้ังหลาย มากกว่าเวทนาท้งั หลาย น้คี ือเร่ืองการต่อสู้ในการปฏบิ ตั ิ เรียกว่า ขนั ติ คอื
ความอดทน วิรยิ ะ ความเพยี ร สตสิ ัมปชัญญะประคบั ประคองจติ ของตนเองใหห้ นกั แนน่ มั่นคงถาวร
ในงานพธิ สี วดลกั ขี วัดธรรมมงคล ปี ๕๙
102
สงั เขปประวัตแิ ละพระธรรมเทศนา
ในงานพิธสี วดลักขี วดั ธรรมมงคล
วันที่ ๘ ม.ค. ๕๙
เราเคยนอนในเวลา ๔ ทมุ่ ๕ ทมุ่ พอเรานง่ั สมาธเิ ลย ๔ ทมุ่ ๕ ทมุ่ ไปแลว้ จนไปถงึ ๖ ทมุ่ น้ี มนั จะเกดิ ความ
งว่ งเหงาหาวนอน นเี้ รยี กวา่ “นวิ รณ”์ เขา้ มาครอบงำ� ในจติ ของเรา แตเ่ รารแู้ ลว้ วา่ นวิ รณน์ มี้ นั อนั ตราย จะมาทำ� ลาย
สมาธขิ องเรา เราไม่ยอมแพ้
ถ้าเราไมย่ อมแพน้ วิ รณ์ เราจะท�ำยงั ไง
เรากก็ ดจติ ของเราไปดู ดูอารมณ์ของจิตทีม่ นั จะหลบั มันกำ� ลงั จะหลบั
เรากก็ ดเข้าไปดู มนั กจ็ ะด่ิงเข้าไป มดื เข้าไป จติ ของเราก็จะดตู วั มดื เขา้ ไป
แหลมคมเขา้ ไปเรื่อยๆ
103
พระครกู ติ ติอุดมญาณ (หลวงปู่ไม อนิ ทสริ ิ)
“ผลสดุ ท้ายจติ ของเราร้ทู ัน ตวั งว่ งเหงาหาวนอนกไ็ มก่ ล้าหลับไม่กล้านอน เพราะมีผรู้ อู้ ยู่ มผี ตู้ ามดอู ยู่
ถึงจะไปหลบอยู่ที่ไหนกม็ ผี ู้ตามรู้อยู่ นค้ี อื ผูร้ กู้ ค็ ือจิตของเราตามรู้ นีว้ ิธีต่อสู้”
“ถ้าเราทำ� จิตของเราอยา่ งนี้ได้ กาลเวลาทเ่ี ราจะปฏบิ ัติน้นั รับรองวา่ จะถึงจดุ หมายปลายทางแนน่ อน”
“เราตอ้ งการความสงบ ความสงบกจ็ ะเกดิ ข้ึน”
“เราต้องการปญั ญา ปัญญาก็จะเกิดข้นึ ”
เรียกว่าสมถะเกิดขึ้นแล้ว วิปัสสนา ปัญญา ก็เกิดตามข้ึนไปเร่ือยๆ น้ีคือดวงปัญญาเกิด เป็นคู่กันกับ
สมถกรรมฐาน ทีเ่ รากำ� ลงั ปฏิบัตกิ นั อยู่ ตัวนีเ้ ปน็ จดุ ทส่ี ำ� คัญ
ถา้ เรารอู้ ยา่ งนี้ เรากำ� หนดอยา่ งนี้ กาลเวลาเราเคยนง่ั มาเปน็ ปสี องปยี งั ไมเ่ คยรเู้ รอื่ งอะไร แตเ่ รามาทำ� อยา่ งท่ี
กล่าวมาน้ี ก�ำหนดจติ จดจอ่ อยู่อยา่ งนี้อยตู่ ลอดเวลา ทกุ อิรยิ าบถ ไม่ให้หลุดออกจากสมาธิ ใหม้ ีสตสิ ัมปชัญญะ
ประคับประคองอยู่อยา่ งนีต้ ลอดไป
ภายใน ๗ วนั จติ จะตอ้ งไดร้ บั ความสงบอยา่ งถาวร หรอื อาจจะมากกวา่ นน้ั ไป ๑๕ วนั เราตอ้ งไดร้ บั ความสงบ
หรือมากกวา่ น้นั ก็จะไป ๑ เดือน ไดร้ บั ความสงบ เราต้องตามอารมณ์สมาธไิ ปเรอ่ื ยๆ
ทำ� ไมมันถึงยาวนานไป
บางคนนะนงั่ วนั เดยี วกเ็ ขา้ ถงึ ดวงธรรมแลว้ บางคนนง่ั ๑ อาทติ ย์ กเ็ ขา้ ถงึ ดวงธรรมแลว้ บางคนนง่ั ถงึ ๑๕ วนั
กเ็ ข้าถงึ ดวงธรรมแล้ว แต่บางคนนั่งเปน็ ปียงั ไม่เขา้ ถึงดวงธรรมเลย ทำ� ไมถึงแตกตา่ งกันอยา่ งน้ี
เพราะจิตน้ีแหละมนั ไมไ่ ด้ความต้ังใจจดจอ่ แน่วแน่ ขาดสติสมั ปชัญญะ ขาดวริ ิยะความเพียร ขาดขันติ คือ
ความอดทนต่อสู้ ท�ำอะไรก็ท�ำไมเ่ อาจรงิ เอาจัง
ในงานพธิ ีสวดลักขี วดั ธรรมมงคล วนั ที่ ๘ ม.ค. ๕๙
104
สงั เขปประวตั แิ ละพระธรรมเทศนา
ในงานพธิ สี วดลักขี วดั ธรรมมงคล
วนั ที่ ๘ ม.ค. ๕๙
เรานงั่ สมาธิ เมอื่ เราปวดขาปวดหลงั กอ็ ยากจะเปลยี่ นอริ ยิ าบถไปอกี อยา่ งอนื่ แลว้ หลงไปตามอารมณภ์ ายนอก
ลมื ทเี่ รากำ� หนดรอู้ ยอู่ ยา่ งนี้ เรากำ� หนดรู้ ดลู มหายใจเขา้ ออกอยนู่ ก้ี ล็ มื แลว้ พอเปลยี่ นอริ ยิ าบถเสรจ็ ถงึ จะมาบรกิ รรม
พทุ โธใหม่ มนั กข็ าดวรรคขาดตอนไม่ติดตอ่ กนั ถา้ เปน็ คนเล้ยี งโค เขามีเชอื กยาวๆ ไปล่ามโค เขาตอกหลักเอาไว้
ลา่ มเอาไว้ เชอื กมนั ยาว โคมนั กห็ ากนิ หญา้ จนกวา่ จะรอบนนั้ มนั กอ็ มิ่ แลว้ แตถ่ า้ เชอื กมนั ขาดอยเู่ รอ่ื ย ขาดอยเู่ รอ่ื ย
เชอื กยาวๆ มนั ขาดเหลอื อยแู่ คศ่ อกเดยี ว จะไปมดั โคใหม้ นั กนิ หญา้ อยทู่ นี่ น้ั แลว้ โคมนั จะไปกนิ หญา้ ทไ่ี หนมนั จะอมิ่
เชอื กมันสนั้ นี่
จติ ของคนเรานกี่ ำ� ลงั ดสู มาธอิ ยกู่ เ็ หมอื นกนั ถา้ ปลอ่ ยใหจ้ ติ ของเราเผลอไปตามกระแสอารมณต์ า่ งๆ จติ มนั ก็
ขาดเป็นวรรคเป็นตอน แลว้ ผลสดุ ทา้ ยอารมณ์ทีจ่ ะเกิดขนึ้ มาครอบงำ� ลบล้างสมาธิของเราโดยงา่ ย กค็ อื กเิ ลสทจี่ ะ
ปรุงแต่งใหเ้ กิดข้นึ ในกระแสจติ พอมนั ปรงุ แตง่ เกิดขึน้ เหมือนกบั สิ่งท่ีมนั เคยมี เหมอื นกับน้ำ� มันกับไฟ ถา้ มนี ำ้� มัน
อยู่ใกล้ไฟ ไฟกจ็ ะไหม้น้�ำมนั ถา้ อยูใ่ นรถ ไฟมันกจ็ ะไหม้ทั้งรถ
นมี้ นั เปน็ อยา่ งนี้ มนั กจ็ ะถกู ลบลา้ งคณุ งามความดที มี่ อี ยใู่ นขณะทเ่ี รากำ� ลงั ปฏบิ ตั ธิ รรมอยนู่ นั้ สญู หายไปหมด
มแี ตค่ วามมดื อยเู่ หมอื นเดมิ จดุ นน้ั ควรใหร้ ะมดั ระวงั อยา่ ใหไ้ ฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ เหลา่ นมี้ าครอบงำ� ในจติ ใจ
ของพวกเรา ให้จิตใจของเรามสี ติสมั ปชัญญะอยตู่ ลอดเวลา ถ้าเราไดร้ ับความสงบ เกดิ ความรแู้ จ้งเหน็ จริงมาแล้ว
ตวั นีแ้ หละจะทำ� ให้เราหายข้อสงสัย
หายจากอะไรในขอ้ สงสัย
หายจากความมืดที่มีอยู่ หายจากความเจบ็ ปวดทรมานที่มอี ยูใ่ นร่างกายสงั ขาร มแี ตค่ วามสขุ มแี ตค่ วามอมิ่
มแี ตค่ วามเบกิ บานแจม่ ใส ถงึ เราจะนง่ั อยเู่ หมอื นปกตแิ ตไ่ มเ่ หมอื นกบั ปกติ ปกตทิ เ่ี รานงั่ ครง้ั แรกเรากำ� ลงั เจบ็ ปวด
เหมอื นกบั กำ� ลงั ถกู ทรมาน รา่ งกายของเรากห็ นกั หนว่ ง หลบั ตาลงกม็ ดื สนทิ แตพ่ อจติ ของเราเปน็ สมาธิ ไดร้ บั แสงสวา่ ง
เกดิ ข้นึ แล้ว ความหนักทีม่ อี ยู่ในร่างกายสงั ขารน้สี ูญหายไปหมด ตวั รู้ของเรากจ็ ะเบาเหมือนกับลอยอยูบ่ นอากาศ
เพราะจิตเป็นสมาธินี้มันจะพยุงร่างกายสังขารนี้ให้เบา บางท่ีจนไม่มีตัวตน มีแต่ตัวรู้อย่างเดียว มีแต่ดวงสว่าง
อยา่ งเดยี ว นแี้ หละเวทนากจ็ ะไมเ่ กดิ ขนึ้ แมแ้ ตค่ วามงว่ งเหงาหาวนอนกจ็ ะไมเ่ กดิ ขนึ้ เพราะจติ มนั ตนื่ อยตู่ ลอดเวลา
รู้อย่ตู ลอดเวลา น้ีคอื การปฏบิ ัติ
ในงานพธิ ีสวดลักขี วดั ธรรมมงคล วันที่ ๘ ม.ค. ๕๙
105
พระครกู ติ ติอดุ มญาณ (หลวงปู่ไม อินทสิริ)
ในงานพิธสี วดลักขี วดั ธรรมมงคล
วันที่ ๘ ม.ค. ๕๙
เรอ่ื งการปฏบิ ตั ใิ นอริ ยิ าบถทงั้ ๔ นเ้ี ปน็ เรอื่ งทสี่ ำ� คญั การปฏบิ ตั ใิ หอ้ ริ ยิ าบถทง้ั ๔ นเ้ี ปน็ สมาธสิ มำ�่ เสมอกนั นน้ั
เปน็ การทำ� ไดย้ าก ถา้ เราไมม่ คี วามตงั้ ใจจรงิ ๆ สว่ นมากกจ็ ะอาศยั แคก่ ารนง่ั อยใู่ นอริ ยิ าบถทสี่ งบ อยใู่ นอริ ยิ าบถทนี่ ง่ิ
จติ ถงึ จะสงบเขา้ สสู่ มาธิ และเมอ่ื จติ เขา้ สคู่ วามสงบและเปน็ สมาธใิ นอริ ยิ าบถนง่ั เราทำ� ยงั ไงในอริ ยิ าบถเดนิ เราถงึ จะ
ไดร้ ับความสงบเหมือนอย่างอิรยิ าบถนัง่ เราตอ้ งมีนโยบายท่จี ะแกไ้ ขตวั เอง คอ่ ยสังเกตดูอารมณจ์ ิตของตวั เองใน
ขณะทเ่ี รานง่ั อยู่ จติ ของเราไดร้ บั ความสงบแลว้ เราอยากจะเปลย่ี นอริ ยิ าบถ จะลกุ ขนึ้ ไปเดนิ จงกรม ในขณะทเี่ ราลกุ ขนึ้
เรากค็ อ่ ยขยบั ตวั ขนึ้ แตส่ ตขิ องเรายงั อยกู่ บั อารมณใ์ นสมาธิ จดจอ่ อยกู่ บั อารมณส์ มาธิ แตก่ ายของเรานเ่ี คลอ่ื นไหว
พอเคลอื่ นไหวไมใ่ หจ้ ติ ของเรานก่ี ระเพอื่ ม ไมใ่ หอ้ ารมณอ์ ยา่ งอน่ื ขนึ้ มาแทรกในจติ ของตนเอง เมอ่ื เราลกุ ขนึ้ ยนื ตวั ตรง
มาแลว้ เรากป็ ระคองจติ ใหส้ มำ่� เสมออยนู่ น้ั สกั พกั หนงึ่ เสยี กอ่ นแลว้ คอ่ ยเดนิ กา้ วขาขวาและกก็ า้ วขาซา้ ยไปเรอื่ ยๆ
แตจ่ ติ ของเรากบ็ รกิ รรมพทุ โธๆ ไปเรอื่ ยๆ อยา่ งทเ่ี รากา้ วเทา้ ขวา เรากบ็ รกิ รรมวา่ “พทุ ” กา้ วเทา้ ซา้ ย เรากบ็ รกิ รรมวา่
“โธ” ในขณะท่ีเราก้าวเทา้ ขวา พุทโธๆ ไปเรื่อยๆ พทุ โธนถ้ี ึงจะไปตามจงั หวะกา้ วของขา แต่กอ็ ยใู่ นอารมณ์ของจิต
106
สงั เขปประวตั แิ ละพระธรรมเทศนา
เหมอื นเดมิ นก้ี ระแสจติ ของเรากจ็ ะประคองอยเู่ หมอื นเดมิ ดง่ิ อยจู่ ดุ นเี้ หมอื นเดมิ เราไมใ่ หจ้ ติ ของเรานเ้ี คลอ่ื นไหว
ไปมาตามรา่ งกายสังขาร แตเ่ พียงรใู้ นขณะทีเ่ ราเปล่ียนอริ ยิ าบถหรือเคลือ่ นไหวไปมา มีความรรู้ อบอย่ตู ลอดเวลา
แต่ไมก่ ระเพ่ือมออกไปจากอารมณ์จติ ท่ีเปน็ สมาธอิ ยู่
เมอ่ื เราประคบั ประคองจติ ของเราอยใู่ นระดบั นี้ เดนิ จงกรมจติ กส็ งบกเ็ ดนิ ไดน้ าน บางทมี นั สงบเขา้ มากๆ เดนิ ไป
จนถงึ สวา่ ง แตก่ อ่ นเราเดนิ จงกรมเรายงั ไมไ่ ดป้ ระคบั ประคอง ยงั ไมไ่ ดร้ บั ความสงบ เรากอ็ าจจะกำ� หนดการเดนิ จงกรม
จะต้องเดินสัก ๑ ช่วั โมง หรือน่ังสมาธิ เรากจ็ ะนง่ั ไปสัก ๑ ช่ัวโมง หรือเรายืนนงิ่ ๆ เรากย็ นื สกั ๑ ชวั่ โมง นีเ้ ราจะ
เปล่ยี นอยใู่ น ๓ อริ ยิ าบถน้ีไวก้ อ่ น สว่ นอิริยาบถนอนนน้ั เอาไวท้ ีหลงั ทำ� อริ ิยาบถ ๓ ประการน้ีให้จติ ของเราเขา้ สู่
ความสงบได้อยา่ งสม�่ำเสมอกนั
เมอื่ จติ สงบในขณะทเ่ี ดนิ จงกรม กม็ คี วามสงบอยกู่ บั เดนิ จงกรม เราเคยกำ� หนด ๑ ชวั่ โมง ถา้ จติ ของเราไดร้ บั
ความสงบ มคี วามเบกิ บาน มคี วามแจม่ ใส มคี วามอมิ่ มคี วามปตี ิ ในขณะทเ่ี ดนิ จงกรม กาลเวลาทเ่ี ราเคยกำ� หนดไว้
จะไม่ไดส้ นใจแล้ว เราจะดแู ต่จิตอยา่ งเดียว ผลสุดทา้ ยกาลเวลาท่เี ราเดนิ น้ันมนั ก็ผ่านไปโดยอตั โนมตั ิ จนกวา่ จิต
ของเราจะถอนออกจากสมาธจิ ดุ นกี้ ถ็ งึ สวา่ ง บางทถี งึ สวา่ งแลว้ จติ ของเรากย็ งั รวมอยอู่ ยา่ งนนั้ เมอื่ จติ ของเรารวมอยู่
อยา่ งนน้ั เรากจ็ ะยนื อยตู่ รงนนั้ ยนื อยทู่ ท่ี างจงกรม รวมอยทู่ ก่ี ารยนื นน้ั นะ่ อยนู่ ง่ิ ๆ จะรวมไปอกี หลายชว่ั โมง จติ ถงึ
จะถอนออกจากสมาธิ
เมอื่ จติ ถอนออกจากสมาธเิ รากล็ มื ตาขนึ้ เมอ่ื เราลมื ตาขนึ้ เวลาอาจจะถงึ เทย่ี งวนั หรอื อาจจะถงึ บา่ ยโมงอยา่ งนี้
กเ็ ลยเวลาทเี่ ราจะออกบณิ ฑบาตแลว้ นส้ี ำ� หรบั พระภกิ ษผุ ทู้ ที่ า่ นตงั้ ใจประพฤตปิ ฏบิ ตั ธิ รรม พอจติ ถอนออกจากสมาธิ
อยา่ งนแ้ี ลว้ กเ็ ขา้ ไปนง่ั อกี ทหี นงึ่ พอนง่ั เขา้ ไปจติ กร็ วมตอ่ ไปอกี เมอ่ื จติ รวมเขา้ ไปตอนนี้ กอ็ าจจะถงึ ตกเยน็ บา่ ยหา้ โมง
จติ กจ็ ะถอนออกมาอกี ครง้ั หนง่ึ เมอื่ จติ ถอนออกมา เรากท็ ำ� กจิ วตั ร อาจจะปดั กวาดเชด็ ถตู ามสถานทที่ เี่ ราอาศยั อยนู่ น้ั
ในขณะทีป่ ัดกวาดเช็ดถู จติ ของเรากย็ งั ส�ำรวมอยู่ เปรยี บเทียบกับส่วนท่ีเรากำ� ลงั ปฏบิ ตั ิจิตอยู่นัน้
ในงานพิธีสวดลักขี วัดธรรมมงคล วันท่ี ๘ ม.ค. ๕๙
107
พระครูกติ ติอุดมญาณ (หลวงปไู่ ม อนิ ทสิร)ิ
ในงานพธิ สี วดลักขี วดั ธรรมมงคล
วนั ที่ ๘ ม.ค. ๕๙
อยา่ งทเี่ ราเอาเอากะลามะพรา้ วไปถไู มก้ ระดานศาลาอยา่ งน้ี เรากเ็ หน็ ความสะอาดทเ่ี กดิ ขนึ้ จากไมก้ ระดานศาลา
จากไม้กระดานศาลาที่มันเศร้าหมองก็จะมีแสงสีข้ึนมาจนใสสามารถท่ีจะมองดูเงาของตัวเองท่ีอยู่ในไม้กระดาน
ศาลานนั้ ได้ เมอื่ เหน็ อยา่ งนน้ั แลว้ เรากน็ อ้ มเขา้ มาพจิ ารณาในจติ ของเราอกี “แมแ้ ตไ่ มก้ ระดานยงั สดใสยงั มเี งาได้
จติ ของมนษุ ยเ์ รายงิ่ ประเสริฐกวา่ นัน้ ท�ำไมเราจะทำ� ใหจ้ ติ ของเราใหผ้ ่องใสมากกว่านี้ไปไม่ได้เหรอ”
พอนกึ อยา่ งนกี้ เ็ กดิ กำ� ลงั ศรทั ธาแรงกลา้ ขนึ้ มาดว้ ยการปฏบิ ตั ิ กย็ งิ่ เรง่ ปฏบิ ตั เิ ขา้ ไปอกี นค้ี อื การปฏบิ ตั ิ เมอ่ื ปฏบิ ตั ิ
อย่อู ยา่ งนไ้ี ปแลว้ หลายวันหลายคืน อยูใ่ น ๓ อริ ยิ าบถ ก็คิดจะพักผ่อน การพักผ่อนไม่ใชว่ า่ เราจะพกั ผอ่ นแบบ
นอนหลับสนิท เมื่อเราล้มตัวลงนอนเอนกายลงนอนในท่าสีหไสยาสน์ จิตก็ยังประคับประคองอารมณ์สมาธิอยู่
ตลอดเวลา เมอื่ เรานอนลงไปแลว้ ก็หลบั ตาลง รวมจิตลงไป เมือ่ รวมจิตลงไป จติ ก็เปน็ สมาธใิ นขณะที่เรานอน
จติ กเ็ หมือนกับวา่ มองเห็นรา่ งกายของเราทกุ สว่ นต้ังแต่ศรี ษะจดเท้า เหมอื นกบั เราลืมตาดู เมอื่ จิตของเราเปน็ อยู่
อย่างนี้ จิตของเราก็จะตนื่ อย่ตู ลอดเวลา ไม่มคี ำ� วา่ งว่ งเหงาหาวนอน มแี ตค่ วามอมิ่ มแี ต่ปตี ิเกดิ ขึ้น
เรานอนทา่ สหี ไสยาสนอ์ ยนู่ นั้ เปน็ เวลาอาจจะนานหลายชวั่ โมงกเ็ ปน็ ได้ แตเ่ ราไมไ่ ดห้ ลบั พอเหน็ วา่ สมควรแกเ่ วลา
ทเี่ ราไดพ้ กั ผอ่ นแลว้ เราจะเปลย่ี นอริ ยิ าบถอกี เรากล็ กุ ขนึ้ จากทน่ี นั้ ดว้ ยการประคบั ประคองจติ อยเู่ หมอื นเดมิ เราก็
ลกุ ข้ึนไปเดนิ จงกรม เดนิ ไปเร่ือยๆ สำ� รวมจิตไปเรอ่ื ยๆ จติ กย็ ่งิ สะอาดไปเร่อื ยๆ จติ กย็ ง่ิ ถูกขัดเกลาอยตู่ ลอดเวลา
ความสะอาดกเ็ กิดข้ึนในขณะท่เี ราเดนิ อยอู่ ย่างน้นั
เมอื่ เดนิ ไปนานพอสมควร เรากจ็ ะยนื และทำ� อยอู่ ยา่ งนน้ั ตลอดไป เมอ่ื เรายนื หลายชว่ั โมง เรากไ็ ปนง่ั เปลย่ี น
อริ ยิ าบถแตล่ ะครง้ั นี้ เราไมย่ อมเผลอสตขิ องเรา เราจะประคบั ประคองจติ ของเราอยตู่ ลอดเวลาไมใ่ หเ้ คลอ่ื นไหวไปมา
ใหน้ งั่ อยเู่ หมอื นเดมิ ใหร้ อู้ ยเู่ หมอื นเดมิ ตวั รอู้ ยทู่ ไี่ หน กร็ อู้ ยทู่ นี่ นั้ ไมเ่ ปลย่ี นแปลงไปอยทู่ อี่ นื่ ทไี่ กล นคี้ อื การฝกึ จติ
ในขณะทเี่ ราปฏบิ ตั ธิ รรม นแ้ี หละเรยี กวา่ “วริ เิ ยนะ ทกุ ขะมจั เจต”ิ บคุ คลทจ่ี ะลว้ งความทกุ ขไ์ ด้ กค็ อื เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ิ
เป็นผมู้ ีความเพยี ร
ในงานพิธีสวดลกั ขี วดั ธรรมมงคล วันท่ี ๘ ม.ค. ๕๙
108
สังเขปประวัตแิ ละพระธรรมเทศนา
ในงานพธิ สี วดลักขี วดั ธรรมมงคล
วันที่ ๘ ม.ค. ๕๙
หลวงป่ ไู มกลา่ วถงึ หลวงป่ วู ริ ยิ งั ค์
“วิรเิ ยนะ ทุกขะมัจเจต”ิ บุลคลที่จะลว่ งความทกุ ขไ์ ด้ กค็ ือเป็นผปู้ ฏิบัติ เปน็ ผ้มู คี วามเพยี ร อย่างหลวงปู่
ของพวกเรา ในนามเดมิ ของทา่ น เรยี กวา่ “หลวงปวู่ ริ ยิ งั ค”์ วริ ยิ ะ เปน็ คำ� ตน้ ในภาษาบาลี กเ็ หมอื นกบั สภุ าษติ ทไี่ ด้
กลา่ วไว้ในเบื้องตน้ ว่า “วิริเยนะ ทุกขะมัจเจต”ิ หลวงปขู่ องพวกเราท่านเป็นผปู้ ฏิบัติดปี ฏบิ ัตชิ อบ เป็นตวั อย่าง
แบบอยา่ ง แมแ้ ตช่ อ่ื ของทา่ นกย็ งั เปน็ ชอื่ ผปู้ ฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบอยแู่ ลว้ นแ้ี หละผปู้ ฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบ แมใ้ นนามกย็ งั
เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ิ แลว้ องคท์ า่ นกเ็ ปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบ เปน็ ตวั อยา่ งแบบอยา่ งใหพ้ วกเราชาวพทุ ธทง้ั หลายไดม้ าศกึ ษา
ธรรมะทท่ี า่ นไดต้ งั้ หลกั สตู รครสู มาธิ ใหพ้ วกเราไดม้ าศกึ ษา ใหม้ ารจู้ กั ธรรมะในเบอื้ งตน้ หรอื ทา่ มกลาง หรอื ในทสี่ ดุ
นเี้ ป็นเรือ่ งทส่ี �ำคัญ
เพราะฉะนน้ั ในวนั นพ้ี วกเราไดม้ าปฏบิ ตั กิ ใ็ หพ้ ากนั ตง้ั ใจ คนื นเ้ี ปน็ คนื แรกทเี่ ราจะไดม้ าปฏบิ ตั ใิ หม้ นั เตม็ ท่ี ถอื วา่
เป็นวันแรกน้ียงั สดๆ อยู่นะ่ การที่ปฏบิ ัตใิ นวันแรก ถ้าเรามคี วามตั้งใจในวันแรก จิตของเราได้ธรรมะตง้ั แตว่ ันแรก
จิตของเรากจ็ ะฝงั ลกึ อยู่ในธรรมท่เี ราปฏิบตั ใิ ห้เกิดข้ึนในจติ ของเรา ยึดม่นั ถอื มัน่ ในอารมณ์สมาธทิ ีเ่ กดิ ขึ้นในจิต
ของเราอยา่ งหนกั แนน่ มน่ั คงถาวร แลว้ กจ็ ะเกดิ ความเชอ่ื ความศรทั ธาความเลอ่ื มใส ทำ� ใหจ้ ติ ใจเบกิ บานแจม่ ใสอยู่
ตลอดทง้ั วนั ท้งั คืน ภายใน ๓ วัน ๓ คืนน้ี นิวรณ์ทง้ั หลายกจ็ ะไมส่ ามารถเขา้ มาครอบงําจิตใจของเราได้ เพราะจิต
ของเราเปน็ ผตู้ นื่ จติ ของเราเปน็ ผเู้ บกิ บาน จติ ของเรานอ้ มอยกู่ บั ตวั รคู้ อื สมาธทิ มี่ อี ยใู่ นจติ ใจของตน นค้ี อื การปฏบิ ตั ิ
เม่ือเกดิ ขึ้นมาอย่างน้แี ล้ว เรียกวา่ ได้ผลคุ้มทีเ่ ราได้เสยี สละเวลาจากบา้ นช่องของตนเองมาประพฤตปิ ฏบิ ัติ
ไมไ่ ดเ้ สยี เวลา แลว้ กไ็ ดต้ อบแทนบญุ คณุ หลวงปขู่ องพวกเราเตม็ ๑๐๐ เตม็ ๑๐๐๐% น้ี ใหเ้ ราเปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบ
เหมอื นอยา่ งทห่ี ลวงปทู่ า่ นไดม้ เี มตตาตอ่ พวกเรา ทา่ นมเี มตตาตอ่ พวกเรา ทา่ นเสยี สละเวลาของทา่ นมาสอนใหพ้ วกเรา
แมเ้ ปน็ วนั งานอยา่ งนี้ ทา่ นยงั เปน็ ผนู้ ำ� อยตู่ ลอดเวลา ตอนเยน็ ทา่ นกพ็ าไหวพ้ ระสวดมนต์ พอตอนเชา้ ตน่ื เชา้ มดื ตี ๓
ตี ๔ ทา่ นก็มาสอนธรรมะอกี ปลุกให้พวกเราตน่ื ขึ้นมาไหว้พระสวดมนต์ทำ� วตั รเช้า
ดสู คิ วามเมตตาของทา่ น ทา่ นอยากจะใหพ้ วกเราทกุ คนนไี้ ดธ้ รรมะสมำ่� เสมอกนั ถงึ นอนไมต่ นื่ ทา่ นกป็ ลกุ ใหต้ น่ื น่ี
นคี้ ือความเมตตาของหลวงปพู่ วกเรา
เพราะฉะนน้ั พวกเรามาบวชชพี ราหมณ์ อยา่ นอนหลบั ทบั สทิ ธ์ิ ใหม้ คี วามตงั้ ใจสมทห่ี ลวงปขู่ องพวกเรามเี มตตา
ตอ่ พวกเรา เมอื่ เราไดป้ ฏบิ ตั อิ ยา่ งนเ้ี รากจ็ ะไดบ้ ญุ บญุ นนั้ เกดิ ขนึ้ กบั เรานแี้ หละนะ่ เรยี กวา่ ภาวนามยั บญุ สำ� เรจ็ ดว้ ย
การภาวนา ศลี มัย บุญส�ำเร็จดว้ ยการรักษาศลี
ในงานพธิ สี วดลักขี วัดธรรมมงคล วนั ท่ี ๘ ม.ค. ๕๙
109
พระครูกิตติอดุ มญาณ (หลวงปไู่ ม อนิ ทสริ ิ)
คนทร่ี จู้ กั ท�ำ ทาน รกั ษาศีลได้บรสิ ุทธิ์
ไม่ว่าจะเกิดมาชาตใิ ดน่ี จะเกิดมาในตระกูลท่ดี ี
ตระกลู ท่ีดี คือตระกูลท่ีมศี ีล ตระกลู ทมี่ ธี รรม
จติ ของตวั เองนท้ี เ่ี กดิ มานก่ี ม็ ศี ลี มธี รรมตง้ั แตว่ นั เกดิ เกดิ มาตวั เลก็ ๆ เหน็ มดไตม่ ากส็ งสารมดอยา่ งน้ี เหน็ คน
ยากจนเขญ็ ใจมาก็อยากให้เขาอยา่ งนี้
น้มี นั เป็นธรรมชาติของจติ ท่ีได้ส่งั สมบารมีมา นีแ้ หละมนั เป็นอย่างนี้
เพราะฉะนนั้ ใหเ้ รามสี ตสิ มั ปชญั ญะ รอู้ ยใู่ นจติ ใจของตนเอง กง็ ดเวน้ ในสง่ิ พระพทุ ธเจา้ หา้ มนนั่ แหละ ไมค่ วรทำ�
ในสง่ิ ทไี่ มค่ วรทำ� เมอื่ เรารวู้ า่ สงิ่ ทไ่ี มค่ วรทำ� เรากร็ ะงบั ไมใ่ หม้ นั เกดิ ขน้ึ บางทมี นั กจ็ ะแสดงออกมาทางใจของเรา อยา่ งที่
ความอยากไดค้ อื ความโลภอยา่ งน้ี เรามองเหน็ วา่ มนั เปน็ โทษ มนั ไมใ่ ชข่ องเรา มนั เปน็ ของคนอนื่ แตถ่ า้ เรามปี ญั ญา
เรากจ็ ะเอามาได้ คอื ตอ้ งท�ำงานดว้ ยสติปญั ญา ไมใ่ ช่วา่ ไปคดโกงขโมยเขามาเด้
เราเอาสตสิ มั ปชญั ญะพิจารณาว่า สมบตั ิอันนข้ี ้าวของเงนิ ทองตา่ งๆ ทง้ั สังหารมิ ทรัพยแ์ ละอสงั หาริมทรัพย์
มนั เปน็ ของอยใู่ นโลก ไมม่ ใี ครสงวนลขิ สทิ ธิ์ ถา้ ใครรกั ษาไดก้ เ็ ปน็ ของคนนนั้ คนทจ่ี ะมปี ญั ญาหากค็ อื คนทมี่ บี ญุ วาสนา
บารมไี ด้ท�ำบุญเอาไว้มาก่อน
ถา้ เราเคยทำ� บุญในชาตปิ างก่อนเอาไว้ ทำ� อะไรกจ็ ะส�ำเรจ็ อย่างท่ีเราเคยทำ� ทานอย่างนี้
เราเสยี สละส่งิ ทเ่ี รามีอยู่ พอเกิดมาในชาตนิ ้ีเรากไ็ มอ่ ดอยอู่ ดกนิ
110
สังเขปประวตั แิ ละพระธรรมเทศนา
เราทานอะไร เราทานขา้ วปลาอาหาร เราเกดิ ขน้ึ มาเราก็ไมเ่ คยอดอาหารตั้งแต่วันเกิดข้นึ มา
เราเคยทำ� บุญอย่างอื่นด้วยจตุปจั จยั ของเราอยา่ งน้ี เราได้สงั่ สมเอาไว้ เมอ่ื เกดิ ข้นึ มาในภพปัจจบุ นั
“เราไปทำ� งาน เรากไ็ ด้ตังค”์
“เราไปค้าขาย เรากไ็ ดต้ งั ค”์
สำ� หรบั คนทไ่ี มเ่ คยได้ทำ� อะไรไวเ้ ลยน้ัน หาได้อยู่เหมอื นกัน แต่หาได้ก็ใช้หมดเพราะไมม่ ีปัญญา
“หาไดแ้ ต่พอกินไปวันๆ ก็หมดไปเป็นวนั ๆ”
แตส่ ำ� หรับคนทมี่ ีบุญนม้ี นั เหลือ ไดม้ ามนั เหลือมอื ลน้ กระเปา๋ เลยพุ่นนะ มนั เลยกินไมห่ มด
นี้คือบุญกุศลท่ีเราได้เห็นอานิสงส์การท�ำบุญให้ทาน เราก็รักษาศีลด้วยความบริสุทธ์ิบริบูรณ์ มันเลยกิน
ไมห่ มด
“สีเลนะ สคุ ะติงยันต”ิ : บคุ คลใดทจ่ี ะมคี วามสุขไดก้ เ็ พราะศลี (พระพทุ ธเจ้าไดก้ ล่าวเอาไว้อยา่ งน้)ี
“สีเลนะ โภคะสมั ปะทา” : บคุ คลใดท่ีจะมีโภคทรัพย์กเ็ พราะศีล
“สีเลนะ นิพพตุ ิงยนั ติ” : บคุ คลใดทจี่ ะไปสู่พระนพิ พานก็เพราะศลี นีแ้ หละ
หลวงป่ไู ม อินทสิริ วัดปา่ เขาภูหลวง อ.วงั น�้ำเขยี ว จ.นครราชสีมา
111
พระครูกิตติอดุ มญาณ (หลวงปู่ไม อินทสริ )ิ
เกิดมาดีแล้วก็อย่าไปหลงเด้
นบั ตง้ั แตก่ ารใหท้ าน ตง้ั แตเ่ ชา้ มานกี้ ต็ กั อาหารมาถวายจนกวา่ จะจดั อาหารเสรจ็ น่ี “โอย้ จนสายเวย้ ” แลว้ ก็
ไดก้ นิ ไดด้ ม่ื ไดอ้ ม่ิ หนำ� สำ� ราญกนั หมด พระสงฆก์ ไ็ ดฉ้ นั อม่ิ หนำ� สำ� ราญกนั อนั นก้ี ค็ อื วา่ ใหก้ ำ� ลงั ทางรา่ งกายสงั ขารของ
เราใหอ้ ยไู่ ด้ ผทู้ ชี่ อบทำ� ทานและใหโ้ ภชนะอาหารอยา่ งน้ี กถ็ อื วา่ เกดิ มาในภพใดชาตใิ ดนน้ั กจ็ ะไมอ่ ดไมอ่ ยาก เกดิ มา
อยใู่ นกองเงินกองทองนะ่ เกดิ มาในกองเงนิ กองทองแลว้ กอ็ ยา่ ไปหลงเด้กองเงนิ กองทองน่ะ
ท�ำยังไงถงึ จะมปี ญั ญามากข้นึ ไปกว่านั้น
กต็ อ้ งมารักษาศีล ต้องมาภาวนาอกี เด้ สร้างบารมใี หม้ นั ครบวงจรเดียวว่ามาทำ� บญุ อยา่ งเดยี วได้ของเยอะๆ
แล้วไปนอนกนิ อย่างเดียว ไม่มปี ัญญาแลว้ โอย้ ภพหน้าตกกระปอ๋ งไปเด้ มันไมไ่ ด้ ต้องเอาให้มนั ครบวงจรน่ะ
เราทำ� บญุ ใหท้ านแลว้ เราตอ้ งมารกั ษาศลี แลว้ กม็ าภาวนา เรารกั ษาศลี น่ี เราเกดิ เปน็ คนมากค็ รบอาการ ๓๒ แลว้
สมบรู ณแ์ ลว้ ตอ้ งการอยากจะใหร้ ปู พรรณสณั ฐานสวยสดงดงาม ถา้ เปน็ ผชู้ ายกจ็ ะรปู หลอ่ ถา้ เปน็ ผหู้ ญงิ กจ็ ะสวยๆ
อยา่ งทพ่ี วกเทพเทวดากจ็ ะสวยๆ อยา่ งนน้ั เพราะจติ ใจของเขาถงึ จะเปน็ มนษุ ย์ กเ็ ปน็ “มนสุ สเทโว” ตวั เปน็
มนษุ ย์ แต่จติ ใจเปน็ เทพ ไมใ่ ช่วา่ “มนสุ สเปโต”
ถา้ มนุสสเปโตน่ี พวกเรามาทำ� บญุ อย่างนีเ้ ขาไม่ได้ยนิ หรอก ถา้ ไปชวนมาทำ� บุญนี่ ฮ่วย มตี งั ค์แลว้ กไ็ ปซื้อ
เหลา้ มากนิ เทย่ี วเตรเ่ รร่ ่อนอย่นู ้ันน่ะ ไปเป็นมนสุ สเปโตแล้ว จะลงนรกแลว้ ไมม่ าอยา่ งเราหรอก ถ้าไปชวนแล้ว
เขาไมม่ า ก็อย่าไปเค่ยี วเขญ็ เขาเด้ เขาจะดา่ เอาเด้ เด๋ียวจะกลับมาหนา้ หงอยเด้ (หลวงปหู่ วั เราะ)
หลวงปูไ่ ม อินทสริ ิ วัดป่าเขาภหู ลวง อ.วังน้�ำเขยี ว จ.นครราชสมี า
112
สังเขปประวัตแิ ละพระธรรมเทศนา
เวา้ กับผมี นั ได้ความรกู้ ับเขานำ�เด้
เวา้ ไปเว้ามามนั กะมว่ นเด้ละ่ เวา้ กับผมี นั ได้ความรูก้ ับเขานำ� เด้ ไดค้ วามฮู้จงั ได๋ ได้ความฮ้ตู รงท่ีมันเฮ็ดบาป
เฮด็ บญุ มาจง่ั ไดแ๋ น้ เขาจงั่ บไ่ ดไ้ ปผดุ ไปเกดิ จงั่ ซน่ี ะ่ เฮากะไดค้ วามฮวู้ า่ มนั เฮด็ บาปจงั ซนั่ จงั่ ซ่ี แลว้ จงึ ไดม้ าบอกญาติ
บอกโยมวา่ “อย่าไปเฮด็ เดอ้ ” เทศนใ์ หเ้ ขาฟงั ว่าบาปนีม้ ันบ่เบด่ิ งา่ ยเด้
อนั นข้ี นาดอยบู่ นบกนะ่ ซมุ่ อยใู่ นนรกนเี่ ปน็ ลา้ นๆ เด้ ลา้ นปพี นุ่ เดใ้ นนรกมดื นะ่ แลว้ อกี พวกหนงึ่ อยชู่ น้ั ขนึ้ มา
อกี หลายหมน่ื ปอี กี บไ่ ดไ้ ปเกดิ อยนู่ ว่ี า่ งน้ั กรรมนม่ี นั บแ่ มน่ ธรรมดาเดน้ ่ี กวา่ จะไดม้ าเปน็ ผเี จา้ ทเ่ี จา้ ทางนกี้ ส็ ญั จรไป
มาอยู่ ร่อนเร่พเนจรอยู่นั้น ลำ� บากไมม่ ที อี่ ยูท่ อ่ี าศยั ทุกขย์ ากล�ำบากไมม่ ีอยู่มกี นิ อดๆ ยากๆ ผอม ถา้ เป็นคนเฮา
กะผอมเหลอื แตก่ ระดกู พนุ่ ละ่ มนั ผอมหลาย
“นรก” เหน็ เขาเขยี นอยู่ในหนังสือว่าเขาเฮด็ กะทะน่ะ ก่อเตาขนึ้ มาแลว้ ก็เฮด็ ก่อไฟแลว้ กะเอากะทะคา้ ง
ตกนรกวา่ ซ่นั โอย้ เขยี นมาตั๋วกนั นว่ี ้า
113
พระครูกิตติอุดมญาณ (หลวงปู่ไม อินทสริ ิ)
พระอาจารย์ : แลว้ ของจริงมันเปน็ ยงั ไงครบั หลวงปู่
หลวงปู่ : โอย้ ในนรกใหญน่ มี่ นั คอื กนั กบั หนองนำ้� ใหญเ่ ฮานี่ นำ้� แดงจง่ื คงื่ มนั เปน็ นำ้� แดงๆ พวกตกนรกนน่ั นะ่
กว็ า่ ยอยนู่ น้ั ละ่ ลอยเปน็ แถวอยู่ ลอยอยใู่ นนรกนนั่ นะ่ ลอยอยนู่ นั้ มแี ตก่ ระดกู เดน้ ะ่ มแี ตโ่ ครงกระดกู หวั กห็ วั กะโหลก
คนนลี่ ่ะ แต่มันเป็นหวั กะโหลก
(แดงจง่ื คง่ื [แดง - จง่ื - คงื่ ] แปลวา่ แดงระเรอื่ คอื ลกั ษณะทว่ี ตั ถสุ แี ดงมมี ากมายละลานตา หรอื ยว้ั เยยี้ ซงึ่ มกั
แฝงความนา่ สะพรงึ กลัวเขา้ ไวด้ ว้ ย)
อนั นม้ี นั เปน็ มหานรกอเวจี นรกใหญ่ แลว้ กพ็ วกพน้ จากนรกใหญน่ ี่ มานรกนอ้ ยกเ็ ปน็ หลมุ เปน็ บอ่ คอื กนั กบั
บวกควายเฮานลี่ ะ่ แตว่ า่ ไปเปน็ สมั ภเวสสี ญั จรไปเรอ่ื ย คอื หมาจรจดั นล่ี ะ ถา้ เวลาใดทไ่ี ดเ้ สวยผลกรรมนี่ ไฟลกุ ฟๆู่
ขน้ึ ตามตวั น่ี ไหมอ้ อกรอ้ น ตาเหลอื กตาลานเปน็ ชว่ั โมงสองชว่ั โมง ตอ่ ไปแลว้ กอ็ าทติ ยล์ ะครง้ั ตอ่ ไปกเ็ ดอื นละครงั้
หลังจากนนั้ ปีละครง้ั ต่อไปกไ็ มม่ ี ผอมอยไู่ ปอย่างน้ันละ่ อดอยู่อดกนิ อยู่อย่างนนั้ ไอน้ ีพ้ วกท่พี น้ จากนรกนะ่
พวกทจี่ ะไดเ้ กดิ คอื พวกทส่ี ำ� นกึ บญุ ได้ ยามมกี ารมงี าน ยามพระเพน่ิ เทศน์ พอไดย้ นิ เพน่ิ เทศนเ์ กดิ สำ� นกึ ขนึ้ มา
“โอ้ย ข้าน้อยเกิดมาบไ่ ดท้ ำ� บุญน�ำเพน่ิ จักเท่ือ บน่ า่ ละเกดิ มาได้เป็นจังซี่ล่ะ” (จิตนั่นละ่ คดึ จังซนั่ )
พอได้คึดจัง่ ซน่ั แล้ว “โอย้ ถา้ ไดเ้ กดิ ชาติหนา้ ไปทำ� บญุ ซะดอก ใหไ้ ดเ้ ข้าวัดเข้าวา”
เปลย่ี นสภาพเด้ คอ่ ยๆ เปลยี่ นสภาพเด้ แตก่ ย็ งั บาปอยคู่ อื เกา่ นน่ั ละ่ แตว่ า่ บบ่ าปหนกั ปานนนั้ ตอ่ ไปกแ็ สวงหา
ทเี่ กดิ ได้
พวกหนึ่งก็เป็นนรกมืด พวกเฮาเห็นเตาถา่ นอยตู่ ัว๋ แต่อนั ใหญเ่ ลยเดใ้ นนรกน่ะ บกั ใหญ่เลยเด้ บม่ ีรูเข้าเด้
อยใู่ นนั้น ไฟกล้ากว่าอยู่ในนรกนอก
พวกทจี่ ะไปนคี้ อื พวกทจ่ี ะฆา่ พอ่ ฆา่ แม่ พวกอนื่ บม่ สี ทิ ธเ์ิ ขา้ ดอก ไปนห้ี า่ งจากนน้ั ประมาณ ๒ เมตร ๓ เมตรนี่
ขี้ดินแตกแยกทลายออก พอดินแตกนะ่ ไฟกฟ็ ูๆ่ ขน้ึ ดนิ กพ็ ังลงๆ มันก็ไหลมาทางน้ี ทางนีก้ ็ไหลไปตามเลย
อันนค้ี อื ในโลกมืด ไฟในนั้นนะ่ ไดไ้ ปดเู ขาหลอ่ พระบ่ ไฟทเ่ี ขาหลอมทองนะ่ มนั ฟๆู่ ขนึ้ แบบนนั่ ละ่ อันนี้
คือนรกมดื เข้าไปแล้วปดิ ป๊บั เลยเด้ น้�ำนอ้ ยน่ะปนี กนั ขึ้น ตวั ไหนใจจะขาดกต็ กลง ตวั อยู่ล่างกเ็ หยียบปีนกันข้นึ
หายใจได้กป็ ีนขน้ึ มาใหม่ ข่ีคอกนั ขนึ้
นนั่ ละมนั หลายอนั นี้ กเ็ หยยี บหวั กนั ในนนั้ “ฮอ้ งไหอ้ ยนู่ น้ั ละ” ปหี นง่ึ ฟา้ กฮ็ อ้ งตม่ึ ลงมา แสงฟา้ ลงมา จงึ เหน็ กนั
พอแว๊บๆ บ่ทันได้ฮู้จักว่าผใู้ ดเปน็ ผู้ใดดอก ไดเ้ ห็นกันแค่นน้ั ปหี น่ึง โอย้ แสนมหากปั พระเทวทัตกะไปอยนู่ ัน้
ถอดจากเทปเร่ืองเลา่ หลวงปไู่ ม อนิ ทสริ ิ ทเี่ มตตาต่อคณะพระภิกษแุ ละญาตโิ ยมทง้ั หลาย
ท่ีเดินทางมาคารวะและรว่ มทำ� บญุ กบั หลวงปูไ่ ม ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาทว่ี ดั ปา่ เขาภหู ลวง
114
สังเขปประวัติและพระธรรมเทศนา
เรอ่ ื งเล่าตอนดึก (อา่ นให้จบ)
เร่ืองผแี มท่ ัพพระเจ้าตากมาขอตอ่ รอง
ปกี ลายนไ้ี ปนอนอยตู่ ราด เขาทำ� บญุ อยตู่ ราด กเ็ ลยไปฉนั อยตู่ ราด โยมเขาถวายทหี่ ลวงปอู่ ยจู่ นั ทบรุ ี เขากเ็ ลย
อยากทำ� บญุ หลวงปกู่ เ็ ลยบอกอาจารยก์ อ่ เกยี รตไิ ปจดั สถานทใ่ี หห้ นอ่ ย ตอนเยน็ จะไดเ้ อาอาสนะไปปู เอาอะไรไปจดั
อยสู่ วนนะ่ หลวงปกู่ ย็ งั นอนอยตู่ ราดพนุ่ อยสู่ วนเขาอยู่ พรงุ่ นถ้ี งึ จะมา แตว่ นั นใี้ หอ้ าจารยก์ อ่ เกยี รตเิ พนิ่ ไปจดั สถานท่ี
ให้ก่อน
ทนี มี้ ผี แี มท่ พั ทอ่ี ยไู่ รอ่ ยสู่ วนเขานนั่ นะ่ ลกู นอ้ งพระเจา้ ตากทนี ่ี (เคยเปน็ แมท่ พั ) ตอนเขารบเขามาตดี าบลา้ ง
ดาบอยู่นั้นนะ่ อยหู่ ว้ ยน่ันน่ะ
อาจารย์ก่อเกียติเข้าไปที่น้ันตอนเย็น ตอนค่�ำๆ ถึงจะกลับออกมาวัดธรรมสถิตน่ะ เพ่ินจ�ำพรรษาอยู่กับ
อาจารยช์ นิ เด้
ผแี มท่ ัพนั่นนะ่ ก็ไปเขา้ ทรงเมียโชเฟอร์ทนี ่ี
ผแี มท่ ัพ : “สิเฮ็ดจ่งั ได๋ สมิ าท�ำบญุ จ่ังได๋ ผู้ได๋สพิ ามาทำ� ”
พระอาจารยก์ ่อเกียติ : “หลวงปู่ไมบอกให้มาเฮ็ด หลวงปไู่ มเพนิ่ สพิ าญาติโยมเขาทำ� บญุ ”
115
พระครูกิตตอิ ดุ มญาณ (หลวงปไู่ ม อนิ ทสริ ิ)
ผแี ม่ทพั : “บ่ทำ� ไดบ๋ ่”
พระอาจารย์ก่อเกยี รติ : “เอา้ บ่ท�ำจ่ังได๋ ไดม้ าจดั สถานทแี่ ล้ว”
ผแี มท่ พั : “เดยี๋ วนไ้ี ดย้ นิ วา่ หลวงปสู่ มิ าแลว้ นี่ ลกู นอ้ งบม่ ที อี่ ยแู่ ลว้ น่ี ชลุ มนุ กนั เบด่ิ แลว้ เดอื ดรอ้ นกนั เบด่ิ แลว้
สองเดอื นมาน้ีได้ยินข่าววา่ จะมาท�ำบุญ มนั ออกรอ้ นออกร้อน”
ผพี วกนแ้ี ต่ก่อนมันมีแตร่ บ บท่ ำ� บุญนนั่ น่ะ กนิ หล้าเมายาแต่กอ่ น ย่านหลายทีนี่ จนอาจารยก์ ่อเกียรตไิ ด้พา
โชเฟอรก์ ลบั คืนมาหาเจา้ ของทเ่ี ขานะ่ เขาอยไู่ ร่คนทเี่ ขาถวายน่ะ เอามาเวา้ มาตอ่ รองกนั เดท้ นี ่ี ผกี ม็ าตอ่ รองกบั
เจ้าของที่เดท้ ีนี่ (หลวงปไู่ มกล่าว)
ผแี ม่ทพั : “บ่เฮ็ดไดบ้ บ่ ญุ น่ะ บุญน่ะมันดอี ยู่ ผขู้ ้าบเ่ ปน็ หยงั แต่ว่าพวกลกู นอ้ งน่ะมันรับบุญบไ่ ด้ มันเฮ็ด
บาปหลาย”
ผีบาป บ่น่าล่ะมนั ถึงบ่ได๋ไปเกิด (หลวงป่ไู มกลา่ ว)
เจ้าของที่ : “โอย้ ท่ตี รงน้ถี วายหลวงปแู่ ลว้ เพ่ินสิเฮ็ดหยงั กะเปน็ เร่อื งของเพนิ่ ” (พอว่าอยา่ งงัน้ ผแี ม่ทพั
หนา้ งอ่ ยไปเลยเว้ย)
ผีแม่ทพั : “โอ้ย สิไปดอก” (วา่ ง้นั )
เจา้ ของทเ่ี ขากะเลยโทรมาหาหลวงปู่ หลวงปกู่ เ็ ลยวา่ “ถา้ มนั บย่ า้ ยหนี เดย๋ี วไปนสี้ ไิ ปจดั การมนั เด้ ออกจาก
อาณาเขตของเฮาเดอ้ ยา้ ยไปฟากลำ� หว้ ยออกไปทางพนุ่ อยา่ มาอย่ใู นเขตเฮา”
แตก่ ่อนเจา้ ของที่ก็เจบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ยเด้ พอพาท�ำบุญแล้วหายเบิด่ โรคภัยนะ่ แหม่ (หลวงปูข่ ำ� )
หลวงปู่ : “โห ผมี นั กะอยบู่ งั เบยี ดเขาอยู่ เขาเปน็ แมท่ พั ลกู นอ้ งพระเจา้ ตาก เขากไ็ ปตดี าบตอี ะไรอยนู่ น้ั ไปรบ
กบั พม่า”
พระอาจารย์ : “เขาอยูเ่ ป็น ๑๐๐ ปเี ลยหรอื ครบั หลวงป”ู่ (พระอาจารยท์ ี่เดนิ ทางมาคารวะเปน็ ผ้ถู าม)
หลวงปู่ : “โห พระเจา้ ตากก็บ่รู้จกั ปีแลว้ บแ่ มน่ มนั สิ ๒๐๐ ปลี ะบ่”
พระอาจารย์ : “๒๐๐ กว่าปนี ข้ี องเขานีแ้ ปป๊ เดยี วบค่ รบั หลวงปู่ แต่ของเฮามันหลายปี”
หลวงปู่ : “ของเขามนั แปป๊ เดยี ว มนั หนบี ไ่ ด้ มนั เปน็ จง่ั ซน่ั ละ เรอื่ งกรรมเรอื่ งเวร มนั เปน็ บาปเปน็ กรรม ฆา่ คนน้ี
เพอื่ ปอ้ งกนั ประเทศบา้ นเมอื ง แตม่ นั กะผดิ ศลี ผดิ ธรรมอยคู่ อื เกา่ บาปอยคู่ อื เกา่ บไ่ ดไ้ ปเกดิ (งา่ ย) บางคนก็ ๒,๐๐๐ ปี
บางคนก็ ๒๐,๐๐๐ ปี”
เร่ืองเลา่ หลวงปไู่ ม ในชว่ งเทศกาลเขา้ พรรษา
ทว่ี ดั ปา่ เขาภูหลวง อ.วงั นำ้� เขียว จ.นครราชสีมา
วันที่ ๑๒ ก.ค. ๒๕๖๓
116
สงั เขปประวตั ิและพระธรรมเทศนา
ส่ังสมบุญ
ตอนที่ ๑
โยม : รจู้ ติ รกู้ ายทงั้ วนั พอหลบั ตาจะนอนเกดิ แสงสวา่ งทเ่ี หนอื ศรี ษะ เหมอื นไฟฉายสอ่ งมาทศี่ รี ษะ ระยะหา่ ง
ประมาณ ๑ เมตร เกิดบ่อยมาก ไมท่ ราบวา่ แสงสวา่ งทีเ่ กดิ คืออะไรคะ
หลวงปู่ : บางทรี ะยะกระแสจติ ของเรามนั มที งั้ ขา้ งในมที งั้ ขา้ งนอกนะ ขา้ งในจติ ของเราเมอ่ื ไดด้ วงสวา่ งเกดิ ขนึ้
แลว้ น่ี บางทกี ย็ อ้ นออกไปขา้ งนอก ไปสวา่ งอยขู่ า้ งนอกนานๆ แตม่ นั ไมไ่ ดอ้ ยหู่ า่ งไกลนกั นะ อยใู่ กลๆ้ ประมาณวาหนงึ่
หรอื แขนหนงึ่ อยา่ งน้ี เมอื่ สวา่ งไปแลว้ สกั พกั กจ็ ะยอ้ นเขา้ มาสธู่ าตสุ ขู่ นั ธข์ องเราเหมอื นเดมิ เพราะนเ้ี ปน็ กระแสของจติ
ที่ออกไปรอบรู้ ไปรอบรูเ้ ปน็ ดวงๆ
บางทกี อ็ ยเู่ หนอื ศรี ษะสงู ขนึ้ ไปเปน็ เมตรหนง่ึ อยา่ งน้ี บางทกี อ็ ยขู่ า้ งหลงั บางทกี อ็ ยขู่ า้ งหนา้ บางทกี อ็ ยขู่ า้ งซา้ ย
ขา้ งขวาอยา่ งน้ี แลว้ แต่ แตล่ ะคนจะเกดิ ขน้ึ
อนั นหี้ ลวงปกู่ เ็ คยเปน็ มามากตอ่ มากเหมอื นกนั นะ มนั ออกไปเปน็ กระแสจติ ทฝี่ กึ มนั เปน็ ฝกึ โดยอตั โนมตั เิ ด้
อนั น้ี พอฝกึ แลว้ เรากด็ งึ เขา้ มา พอดงึ เขา้ มามนั กจ็ ะสวา่ งขา้ งในเหมอื นกบั เวลาเรามขี องเลน่ นะ ใหมๆ่ มนั กส็ นกุ ไปเด้
เล่นไปก็สนุกไป
แต่ผลสุดท้ายกส็ เู้ รามารู้ภายในไม่ได้นะ
พอมารภู้ ายใน มาดธู าตดุ ขู นั ธ์ เหน็ สว่ นหนง่ึ ทแ่ี ตกหกั พงั สลายเสอ่ื มสญู ไปในรา่ งกายสงั ขารของเราน่ี ทเ่ี ปน็
อสภุ กรรมฐาน สว่ นไหนทม่ี นั ไมส่ วยไมง่ าม เปน็ ของสกปรกโสโครกเนา่ เปอ่ื ยไป เปน็ เหมอื นซากศพตา่ งๆ ทเี่ ราเหน็
อยนู่ ะ มนั ไมไ่ ดไ้ ปเกดิ ทอี่ นื่ มนั กเ็ กดิ ในทร่ี า่ งกายของเรานแ้ี หละ พอมนั เกดิ ขน้ึ มาแลว้ น่ี ตวั นม้ี นั กจ็ ะแสดงปฏกิ ริ ยิ า
ใหเ้ ราเหน็ เมอื่ เราเหน็ แลว้ นี่ พอจติ ของเราถอนออกมา มนั กเ็ หมอื นเดมิ นแ้ี หละ เราลองคดิ ดสู ิ สกั วนั หนง่ึ เราจะตอ้ ง
เปน็ อยา่ งน้ี มันบอกอนาคตแลว้ ค�ำบอกตวั นีน้ ะเขาเรยี กว่า
“ธรรมะมันเกดิ ข้นึ มนั บอกเหตบุ อกผล”
นแี้ หละคำ� วา่ ไมเ่ ทยี่ งในสงั ขาร มนั จะมกี ารเปลยี่ นแปลงอยา่ งน้ี แตกหกั พงั สลายลงอยา่ งน้ี มนั กจ็ ะเปน็ อยา่ งนี้
แลว้ ตอ่ ไปมนั กจ็ ะเปน็ จรงิ ๆ ทนี ่ี ไมว่ า่ จะเปน็ ผหู้ ญงิ ไมว่ า่ จะเปน็ ผชู้ าย ไมว่ า่ จะเปน็ พระภกิ ษสุ ามเณร เปน็ ไดเ้ หมอื นกนั
ทงั้ หมดนะ ถา้ ไมม่ ใี ครเอาไปเผา มนั กเ็ นา่ เปอ่ื ยลงไปเอง กระดกู มนั กจ็ ะกองลงไปทนี่ น้ั ไมม่ อี ะไรเหลอื หรอก มแี ต่
กระดกู น่นั แหละกองเหลืออยนู่ ัน้
เปน็ ช่วงตอบปญั หาธรรมจากญาติโยม หลงั จากทอ่ี งค์หลวงปไู่ ดเ้ มตตาแสดงธรรมเทศนาเสรจ็
117
พระครกู ิตตอิ ุดมญาณ (หลวงปู่ไม อนิ ทสิร)ิ
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๒
หลวงปไู่ ปตง้ั วดั ทอ่ี นิ เดยี อกี วดั หนง่ึ นะ เพงิ่ ไปตงั้ ใหมๆ่ และเอาพระเณรเขา้ ไปอยเู่ มอื่ ออกพรรษานน้ี ะ มพี ระ
และเณรตอนนก้ี ็ ๗๗ รปู ทอ่ี ยวู่ ดั ใหม่ (ทจี่ .นาคปรู )์ แลว้ กเ็ ปน็ คนอนิ เดยี เอาพวกชาวฮนิ ดเู ขา้ มาบวช และพระเณร
ของเราทอ่ี ยทู่ นี่ น้ั กพ็ ากนั ออกบณิ ฑบาตทกุ วนั ชาวบา้ นกต็ งั้ แถวตกั บาตรนะ จะไมท่ ำ� ใหม้ นั เหมอื นอยา่ งวดั ไทยทเ่ี คยไป
ต้งั อยูท่ ่ปี ระเทศอนิ เดยี หลายๆ วดั
หลวงปมู่ คี วามดำ� รอิ ยากจะเขา้ ไปรอ้ื ฟน้ื พระพทุ ธศาสนาในประเทศอนิ เดยี ใหเ้ กดิ ขน้ึ มาเหมอื นเดมิ เอาคนอนิ เดยี
เข้ามาบวช เข้ามาปฏบิ ัติธรรม แล้วก็เอาชาวบา้ นมาทำ� บญุ ตักบาตร มารักษาอุโบสถศลี มาฟังเทศน์ มานง่ั สมาธิ
ภาวนา แตต่ อนนที้ เี่ ราคดิ เอาไวก้ ม็ าเปน็ เวลายาวนาน ความคดิ นน้ั กถ็ อื วา่ สำ� เรจ็ ไปขน้ั หนงึ่ แลว้ ตอนนก้ี ม็ คี นมารกั ษา
อุโบสถศีลเป็นจำ� นวนมากนะ มานง่ั ฟงั เทศน์ฟงั ธรรมกลางแจง้ กลางทุ่งนา
โยม : อยทู่ ่พี ทุ ธคยาหรอื เปล่าครับ
หลวงปู่ : ไม่ อยทู่ ภี่ าคกลาง “เมอื งนาคปรู ”์ และเขากร็ สู้ กึ วา่ มคี วามภมู ใิ จดที มี่ พี ระสงฆเ์ ราไปอบรมสงั่ สอน
ซงึ่ บางคนนไ่ี มร่ จู้ กั ศาสนานะ เขาถอื ศาสนาพทุ ธอยเู่ ขาวา่ นะ แตเ่ ขาไมร่ ขู้ อ้ วตั รปฏบิ ตั ิ พอพระเณรเราไปบณิ ฑบาต
แจง้ เจา้ หน้าทม่ี าจับเลย พาตำ� รวจมาจบั เพราะเขาคดิ วา่ เปน็ คนขอทาน
118
สงั เขปประวัติและพระธรรมเทศนา
ทนี กี้ ม็ าชแี้ จงใหพ้ วกเจา้ หนา้ ทฟี่ งั พวกเจา้ หนา้ ทเ่ี ขากไ็ มม่ กี ารศกึ ษาในทางศาสนา และกไ็ ดอ้ บรมพวกชาวบา้ น
พวกผนู้ ำ� ของชาวบา้ นกช็ แี้ จงใหเ้ ขา้ ใจ วนั หลงั มา พวกชาวบา้ นกต็ ง้ั แถวใสบ่ าตรเปน็ แถว (หลวงปหู่ วั เราะ) เขาเปน็
ชาวพทุ ธแตย่ ังไม่รจู้ กั พุทธ ร้แู ต่ศีล ๕ ศลี ๕ ก็ไม่รู้จะครบไม่ครบนะ เพ่ิงเจอพระครั้งแรก (เดินบณิ ฑบาต) ก็แจ้ง
ตำ� รวจจับเลย (หลวงปู่หัวเราะ)
“พระพทุ ธเจ้ากไ็ ปแบบนแ้ี หละ”
ในสมัยคร้งั พุทธกาล ทไ่ี หนทไี่ ม่มีคนรจู้ กั พระพุทธเจ้าจะต้องไป ไปตรงท่คี นไม่รู้จกั ศัตรูอยู่ที่ไหนไปที่นั้น
คนยากจนอยทู่ ไี่ หนไปทน่ี น้ั ทนี พี้ ระเณรของเราไปกอ็ ยกู่ บั พนื้ ดนิ นอนอยกู่ บั พน้ื ดนิ หลวงปกู่ ส็ ง่ ปจั จยั ไปสรา้ งหอ้ งนำ้�
ได้ ๒๐ หอ้ งแลว้ เอาซะสวยงามเลย “โอย้ นา่ อศั จรรยใ์ จหอ้ งนำ�้ สวย” (คนอนิ เดยี ) บา้ นเขายงั ไมส่ วยเทา่ หอ้ งนำ้� เรา
เปน็ วดั ปา่ ชอ่ื วดั ปา่ อนิ ทสริ ิ ทนี พี้ วกเดก็ ๆ อนิ เดยี เขากม็ าสมคั รอยู่ มาขอสมคั ร แตย่ งั ไมใ่ หร้ บั หรอก ตอนนเี้ ปน็ รอ้ ยนะ
ทจี่ ะมาบวชนะ แต่ถ้าทีพ่ ักของเราเพยี งพอกจ็ ะรบั ไปเรือ่ ยๆ อยู่ เอาพระเณรมาสอนเดินจงกรม นงั่ สมาธิ ภาวนา
โยม : ตอ้ งมีลา่ มไหมครับอยูก่ บั คนอนิ เดยี
หลวงปู่ : ออ๋ มพี ระอนิ เดยี มาเรยี นมาอยใู่ นเมอื งไทยอยู่ ไดด้ อ็ กเตอร์ และเณรกม็ พี ดู ไทยได้ ตอนทห่ี ลวงปู่
ไมส่ บายอยโู่ รงพยาบาล เขากม็ าสวดมนตถ์ วายนะ ไปทว่ี ดั วงั นำ�้ เขยี วกไ็ ป (วดั ปา่ เขาภหู ลวง) พระเณรกไ็ ปสวดมนต์
ถวาย
เปน็ ช่วงตอบปัญหาธรรมจากญาติโยม หลงั จากที่องค์หลวงป่ไู ด้เมตตาแสดงธรรมเทศนา
ณ สุรัตนธรรม ๑๗ ม.ค. ๕๙
119
พระครกู ิตติอุดมญาณ (หลวงปไู่ ม อนิ ทสริ ิ)
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๓
โยม : การอยากไปแสวงบญุ ทโี่ นน้ ทน่ี ี้ เปน็ กเิ ลสหรอื เปน็ แรงบญุ
เจ้าคะ
หลวงปู่ : อนั นมี้ นั เปน็ ศรทั ธา ไมใ่ ชก่ เิ ลสนะ คำ� วา่ กเิ ลสน้ี คอื
ไปไกลอยู่ แตไ่ ปหาขโมยของคนอ่ืน ไปปล้นคนอ่ืน ไปขายยาบ้า
แตถ่ ้าไปแสวงบุญนีไ่ ม่ได้เรียกว่ากิเลสนะ ไปแสวงเพือ่ หาสถานทีท่ ี่
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นไดต้ รสั รู้ ไดแ้ สดงธรรมอยา่ งนี้ แมแ้ ตพ่ ระพทุ ธองค์
จะเสดจ็ ไปทไี่ หนนี่ พระพทุ ธองคร์ ใู้ นนมิ ติ ของพระพทุ ธองคว์ า่ ทตี่ รงนนั้
น่เี ปน็ ป่าเปน็ ท่เี ล้ียงโคของชาวบา้ น มแี ต่ขวากมีแตห่ นาม
แตว่ า่ ท่ีตรงนน้ี ี่ เมือ่ พนั ปหี รือหมื่นปี หรือแสนปหี รือลา้ นปนี ่ี
มพี ระพุทธเจ้าองค์หนง่ึ มาตรสั ร้อู ยู่ท่ีตรงน้ี พอพระพุทธเจ้าร้อู ยา่ งนี้
พระพทุ ธเจา้ ยังสง่ั พระอานนทใ์ ห้ไปท�ำความสะอาดทต่ี รงนี้ “เราจะ
ปฏิบตั ิธรรมอยู่นส้ี ัก ๗ วัน”
พระอานนทก์ ว็ า่ : “จะปฏบิ ตั ไิ ดย้ งั ไงพระเจา้ คะ่ ทต่ี รงนบ้ี า้ นคน
กไ็ มม่ ี รกกร็ ก หนามกห็ นาม”
พระพทุ ธเจา้ : “อานนท์ ทตี่ รงนมี้ พี ระพทุ ธเจา้ เมอื่ เทา่ นนั้ ปเี ทา่ นป้ี อี ยา่ งนี้ มาปรนิ พิ พานอยทู่ นี่ ้ี หรอื มาตรสั รู้
อย่ทู ต่ี รงน้ีอยา่ งนีน้ ะ เราควรทีจ่ ะมาปฏบิ ตั ิบูชาอย่างน้”ี (นม้ี ันเป็นอย่างนี้ถงึ ไดบ้ ูชาแสวงหา)
ตอบปัญหาธรรมญาติโยม
ถอดจากเทปพระธรรมเทศนา หลงั จากเทศนเ์ สร็จ
120
สงั เขปประวัตแิ ละพระธรรมเทศนา
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๔
จรงิ ๆ แลว้ ทหี่ ลวงปไู่ ดไ้ ปเทย่ี วทง้ั สวรรค์ ทงั้ นรก ทงั้ เมอื งบาดาล เมอื งพญานาค ลงไปเมอื งบาดาลมนั เปน็ ยงั ไง
เมอื งมนษุ ยข์ องเราเปน็ ยงั ไง พวกเปรตทง้ั หลายทไ่ี ดเ้ สวยกรรมอยู่ ถกู ทรมานอยใู่ นทคี่ มุ ขงั อยเู่ หมอื นคกุ นเ่ี ปน็ ยงั ไง
ลำ� บาก ไม่มีของอยขู่ องกนิ สกปรกโสมม จะกนิ น�้ำจะอาบน�ำ้ ก็ไมม่ ี เสื้อผ้าจะใส่กไ็ ม่มี พวกหนึ่งกเ็ ป็นสัมภเวสี
ลอ่ งลอยเดนิ อยอู่ ยา่ งนน้ั ไมม่ อี าหารอยอู่ าหารกนิ ผอมนะ เขาเหน็ คนทำ� บญุ นกี่ ไ็ ปแหลว่ ไปขอกนิ คนทเ่ี ขามบี ญุ
พอพระอนโุ มทนาเสร็จ เรากรวดนำ้� เสรจ็ ของกก็ องอยพู่ วกอาหาร
พวกเขามบี ญุ ทท่ี ำ� บญุ ทำ� ทานเหมอื นกบั พวกเรา กไ็ ปกนิ แบบอม่ิ หนำ� สำ� ราญ มคี วามสขุ แลว้ กอ็ นโุ มทนาบญุ
กับพระสงฆอ์ งค์เจ้า เวลาทพ่ี ระเจริญพุทธมนต์ก็นอบน้อมเขา้ ไปสู่พระธรรมค�ำสอนของพระพุทธเจ้า เวลาพระให้
ไตรสรณคมนใ์ หศ้ ลี อยา่ งน้ี เรากน็ อบนอ้ มเข้าไปเอง น่จี ติ ทเี่ ปน็ บญุ เป็นกุศล เมอ่ื เตม็ แลว้ เขากไ็ ปเกดิ บางคนกไ็ ป
สวรรค์
121
พระครกู ิตติอดุ มญาณ (หลวงป่ไู ม อนิ ทสริ ิ)
พวกทที่ กุ ขย์ ากลำ� บากทไ่ี มเ่ คยไดท้ ำ� บญุ สนุ ทาน กไ็ ปขอเขากเ็ อาไมไ่ ด้ เสอ้ื ผา้ อยา่ งนกี้ จ็ บั ไมไ่ ด้ ทง้ั ๆ ทตี่ วั เอง
กเ็ ปลือยกาย
ส่วนมากคนเป็นพนั คนน่ี จะมเี สอื้ ผ้าใสน่ ่จี ะมไี ม่เกินคนสองคนเด้ นอกน้นั เปลอื ยกายท้งั หมดนะ คนทไี่ ด้
เปน็ อยา่ งนน้ั กเ็ พราะไมเ่ คยไดท้ ำ� บญุ ใหท้ าน อยา่ งทพี่ วกเราอยา่ งน้ี ถา้ ไปเฉลย่ี ใสค่ น กลี่ า้ นคนในกรงุ เทพฯ นี่ ทำ� เปน็
อยา่ งเรานม้ี กี ่ีคน ถงึ ลา้ นคนหรือเปล่า
นแี้ หละ นอกนนั้ พวกนนั้ นไ่ี มม่ เี สอ้ื ผา้ ใสแ่ ลว้ แลว้ กนิ แตเ่ หลา้ เมายา รอ้ งรำ� ทำ� เพลง เขา้ ผบั เขา้ บาร์ ทง้ั ผหู้ ญงิ
ผชู้ าย ไมม่ ศี ลี มธี รรม ขโมยของกนั รบราฆา่ ฟนั ตกี นั ทะเลาะกนั ไมเ่ หมอื นกบั พวกเรานะ เขาทำ� อยา่ งนนั้ เขาวา่ เขามี
ความสขุ เด้
แตพ่ วกเราเหน็ รบั ไมไ่ ดน้ ะ มนั เปน็ อยา่ งนน้ั ทเ่ี ดนิ สวนกนั ในถนนขา้ วสารน่ี ทงั้ ฝรง่ั ทงั้ คนไทย โอย้ จะเหยยี บกนั
ตายในเทศกาลน่ี นแี้ หละมันเยอะๆ อย่างนั้นแหละ
นแ้ี หละคนมนั ไมร่ จู้ กั ศลี ไมร่ จู้ กั ธรรม ไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิ เวลาตายไปถงึ จะรู้ กวา่ จะมารนู้ มี่ นั แกไ้ มไ่ ดแ้ ลว้ จนกวา่ จะ
สำ� นกึ ไดน้ ่ี ตอ้ งถกู เขาบงั คบั รงั แกขม่ เหงใหร้ บั โทษอยเู่ ปน็ เวลารอ้ ยปี พนั ปี หมนื่ ปี รบั แลว้ รบั อกี ๆ วา่ จะไมท่ ำ� แตว่ า่
กย็ ังท�ำเหมอื นเดิมอย่างนี้
ทีน้ีเม่ือนานไปหลายครงั้ หลายหนถกู ทรมานมากๆ จิตมันก็จะย้อนไปถึงอดตี เม่ือคราวท่เี กดิ เป็นมนุษย์
“กไู มไ่ ดท้ ำ� บญุ จรงิ ๆ เหมอื นอยา่ งทย่ี มบาลเขาวา่ เขาถงึ ไดต้ กี ู เขาถงึ ไดล้ งโทษกู เขาถงึ เอากไู ปลงนรก กไู มไ่ ด้
ทำ� บุญจรงิ ๆ น่ี ไมเ่ หมอื นพวกน้ันเขาไดท้ �ำบญุ ”
พวกยมบาลพวกนั้นก็เลา่ ให้ฟัง พอไดย้ ินอยา่ งน้ัน
“กทู ำ� ยงั ไงถงึ จะไดบ้ ญุ กทู ำ� ยงั ไงกูถงึ จะไดไ้ ปเกดิ ”
พอคดิ อยา่ งนม้ี ามันก็ “กูอยากจะไปฟงั เทศน์ กูอยากจะไปรกั ษาศลี ถา้ กูได้ไปเกิด กูก็จะไปทำ� บุญอย่างน”้ี
เพยี งคดิ เทา่ นจ้ี ติ กเ็ รมิ่ เปน็ กศุ ลแลว้ เด้ พอจติ เรม่ิ เปน็ กศุ ลน่ี พระสวดมนตก์ ไ็ ดย้ นิ ละทนี ี้ ไดย้ นิ พระสวดมนต์
เปน็ คำ� สอนของพระพทุ ธเจา้ พระเทศนย์ งั ไงสง่ั สอนยงั ไงกไ็ ดย้ นิ เมอื่ ไดย้ นิ จติ กน็ อ้ มเอา เมอื่ จติ นอ้ มเอากเ็ ปน็ บญุ
เป็นกศุ ล กข็ ยับใกล้เข้าๆ พอใกลเ้ ข้าๆ ผลสดุ ทา้ ยนานไปๆ บาปมันก็หมดไปๆ บางไปหมดไป
พวกเราทำ� บญุ อทุ ศิ ใหพ้ วกนนั้ ไป ครง้ั แรกกจ็ ะไดก้ นิ คำ� หนง่ึ เลก็ ๆ “อรอ่ ยทสี่ ดุ ในโลก” จะไปกนิ อกี ไมม่ ี เพราะวา่
มนั หาย เพราะวา่ บญุ ยงั นอ้ ยอยู่ พอนานไปๆ กอ็ นโุ มทนาไปเรอ่ื ยๆ กไ็ ดก้ นิ เตม็ คำ� ละทนี ี่ ไดค้ ำ� หนงึ่ ใหญก่ อ็ ม่ิ ๆ พออยไู่ ปๆ
กนิ ได้หลายคำ� ผลสุดทา้ ยกินจนอ่มิ พอกนิ จนอ่มิ “โอย้ กูอยากจะไปเกิดเดๆ้ ”
ได้ยินพระสงฆส์ วดมนตก์ ็อนุโมทนาบญุ เหน็ พวกเรามารักษาศีลภาวนาอย่างน้ี
“สาธุ ถ้าข้าพเจา้ ไดไ้ ปเกิด ข้าพเจ้าจะไปบำ� เพญ็ ภาวนาอย่างน้ี จะไปไหว้พระสวดมนตเ์ หมอื นอย่างพวกเจา้
อยา่ งน้ี ขอให้ข้าพเจ้าไดไ้ ปเกดิ ดว้ ยเด้อ อนโุ มทนาดว้ ยเด้อ”
122
สังเขปประวัตแิ ละพระธรรมเทศนา
ผลสดุ ท้ายก็ไดม้ าเกดิ นะ นีแ้ หละ โอย้ กว่าจะเปน็ อยา่ งน้ี ใช้กรรมมาเปน็ หม่ืนๆ ปเี ด้ มนั ไม่ใชธ่ รรมดาเด้
ตอนน้ันก็จะหูหนวกตาบอดอยู่เหมือนอย่างคนท่ีเขาเท่ียวถนนข้าวสารนี้แหละ เราไปชวนเขามาท�ำบุญน่ี
เขาไมม่ าเดน้ ี่ เขาไปกนิ แตเ่ หลา้ เดน้ ี่ ตงั คเ์ ขาไมเ่ สยี ดายเด้ เขาไมต่ ระหนเี่ ด้ แตว่ า่ มาทำ� บญุ ๕ บาทน่ี เขากไ็ มใ่ หเ้ ด้
บาทหนง่ึ เขาไม่ให้เด้ นแี้ หละเขาว่าคนหูหนวกตาบอด แตม่ นั บอดนี่ มนั บอดทจี่ ิตวิญญาณนะ มนั ไมเ่ ห็นเลยเด้
อยา่ งพวกเรานงั่ อยา่ งนนี้ ี่ ในขณะทเ่ี สวยกรรมอยนู่ ้ี จะไมเ่ หน็ เด้ จะไมเ่ หน็ พวกเราเด้ พวกเรามศี ลี นนี้ ะ ศลี ๕
ศลี ๘ ศลี ๑๐ ศลี ๒๒๗ นเี้ ขาจะไมเ่ หน็ ถา้ เปน็ หนงั สอื อยา่ งอน่ื นเ้ี หน็ ถา้ เปน็ กระดาษเฉยๆ นเี้ หน็ เจดยี ก์ ไ็ มเ่ หน็
แตต่ น้ ไมเ้ หน็ นมี้ นั เปน็ อยา่ งนี้ มนั จะถกู ปดิ บงั หมด นคี้ อื บาป จนถกู ทรมานมานานเขา้ ๆ จนยอมรบั สภาพแลว้ จติ ถงึ
ยอ้ นไปถึงท่กี ลา่ วมานน้ั ถงึ จะค่อยบางไปๆ ถงึ จะได้ยินเสียงพระ ถึงจะเริม่ มองเหน็ คน
“โอ้ คนมนั เปน็ อยา่ งน้ี เขามคี วามสขุ อยา่ งน้ี กทู ำ� ไมทกุ ขย์ ากลำ� บากแท้ ชาตกิ อ่ นกกู ม็ อี ยเู่ หมอื นเขา แตก่ ไู มไ่ ด้
ทำ� บญุ เกดิ ชาตติ อนมาเปน็ ผนี ้ี ทำ� ไมกถู งึ ไดม้ าลำ� บากแท้ เพราะกไู มไ่ ดท้ ำ� บญุ กอู ยากจะมาทำ� บญุ มนั เปน็ อยา่ งน”ี้
เร่อื งวิบากกรรมเรอื่ งเหลา่ น้ี นต่ี อ้ งปฏบิ ัตใิ หม้ ากๆ แลว้ จะเห็นนะ
โยม : กรรมมนั บังตาเขาใช่ไหมครบั
หลวงปู่ : โอ้ มนั บังตาบงั จิต บงั ตามนั ไม่เทา่ ไหร่เด้ แต่มาบังจติ น่ี โอ้ย แก้ยาก ใครจะว่าดีเท่าไหร่ มนั ก็ไม่
ยอมรบั ดีไมด่ ีน่ี เราว่าดนี ี่ มันด่าเราเด้ มันดีตรงไหนว่ะ เห็นพระบิณฑบาตยงั ด่าเลย มันถงึ ไดไ้ ปตกนรก
เป็นช่วงตอบปัญหาธรรมจากญาติโยม
หลังจากท่ีองค์หลวงปู่ได้เมตตาแสดงธรรมเทศนาเสร็จ
123
พระครกู ติ ติอดุ มญาณ (หลวงป่ไู ม อนิ ทสิร)ิ
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๕
เปน็ เร่อื งจรงิ ทีเ่ กดิ ขน้ึ โดยมผี มี าเล่าใหท้ า่ นฟังเองถงึ กรรมทไ่ี ดเ้ คยท�ำกบั พ่อแมม่ า
กรรมทล่ี กู กบั พอ่ กบั แมน่ น้ี ะ พอ่ แมด่ า่ ลกู นดี่ า่ ได้ เพราะพอ่ แมด่ า่ ลกู นอ่ี ยากจะใหล้ กู ดนี ะ แตถ่ า้ ลกู ดา่ พอ่ แมน่ ี่
ถงึ พอ่ แมจ่ ะทำ� ผดิ เปน็ บางครง้ั ทเ่ี รามองเหน็ แตเ่ ราไปพดู คำ� เดยี วนี่ บาปแลว้ นะ บาปเลย (กรรมหนกั ) ถา้ ดา่ พอ่ คำ� เดยี ว
ตายไปหนา้ ฝง่ั นตี้ กหมึก น้ำ� หนองไหลเยมิ้ ลง แต่ข้างนดี้ ีๆ อยู่ แต่ถา้ ด่าแมอ่ กี หมดท้งั สองหน้า หน้าสวยๆ ขาวๆ
งามๆ นปี่ ด๊ื เลย คนั ละทนี ี่ คนั แตเ่ กาไมไ่ ด้ นำ�้ เหลอื งมนั ไหล ไหลอาบลงตามแกม้ น่ี เปอ่ื ยตลอดชวี ติ จนกวา่ จะหมด
กรรมน้ี
“โอ้ย เป็น ๑๐,๐๐๐ๆ ป”ี โทษด่าพอ่ ดา่ แม่น่ีไม่ใชธ่ รรมดาเด้ เพราะฉะน้นั พระพุทธเจา้ ถงึ ไดต้ กั เตอื นไว้
“ผูม้ ีอุปการคุณน่ี ผู้ท่ีเป็นพ่อเปน็ แมเ่ ทดิ ทนู ไวท้ ีส่ ูง”
เราเปน็ ลกู นต่ี อ้ งตอบแทนบญุ คณุ ถงึ จะเรยี กวา่ เปน็ ผมู้ กี ตญั ญกู ตเวทนี ะ่ ธรรมสองอยา่ งนพ้ี ระพทุ ธเจา้ วา่ เปน็
บุคคลทีห่ าได้ยากย่งิ ในโลก ไม่ใช่ธรรมดาเด้ เปน็ บคุ คลทีห่ าไดย้ าก ทำ� ไมถึงว่าหาไดย้ ากนี่ ลูกทีจ่ ะรกั พ่อรักแม่
เท่ากนั นีก่ ็ยาก บางคนรักแต่พอ่ บางคนรักแต่แม่ใช่ไหมละ แล้วลูกๆ หลายๆ คน นีเ่ ป็น ๑๐ คนนี้ จะรักพอ่ รกั แม่
เสมอกนั น่ี มีไหม ยาก
บางครอบครวั นีม่ ีคนเดยี วรกั พ่อรักแม่ บางครอบครัวไมม่ ีสกั คนเลย ปล่อยพ่อแม่ทงิ้ เลยกม็ ี นแี้ หละมันถึง
เป็นวบิ ากกรรม มันถึงเปน็ บุคคลทห่ี าได้ยาก แล้วก็พ่อแมท่ ่จี ะรกั ลูกเสมอกันนี่ พ่อจะรักลกู คนนั้น แมจ่ ะรักลกู
คนนนั้ มงึ รกั คนนน้ั กรู กั คนนี้ บางทไี มร่ กั ทงั้ หมดเลยกม็ ี นแ้ี หละบพุ การยี งั รกั ลกู ไมเ่ ทา่ กนั ลกู ๑๐ คนนี่ อาจจะรกั
124
สังเขปประวัตแิ ละพระธรรมเทศนา
แคค่ นเดยี วกไ็ ด้ เพราะฉะนนั้ มนั เปน็ การยาก พระพทุ ธเจา้ วา่ ยาก แคส่ องคำ� นน้ี ะ บคุ คลทห่ี าไดย้ ากสองอยา่ งนน้ี ะ
บุพการบี คุ คลผู้ทำ� อุปการะแต่ก่อนนี้จะรักลูกสม�ำ่ เสมอกันนี่ ยาก
กตญั ญกู ตเวที บคุ คลคณุ ปู การะทจี่ ะตอบแทนคณุ บดิ ามารดาของตนเองสมำ่� เสมอเทา่ กนั นย้ี าก นี้ ๒ คำ� ของ
พระพุทธเจา้ น้ีถือวา่ ยากแลว้ แต่พวกเรานีอ่ ยา่ ใหม้ นั ยาก
อยา่ ใหม้ นั เปน็ เหมอื นอยา่ งพระพทุ ธเจา้ วา่ ถา้ อยา่ งทพี่ ระพทุ ธเจา้ วา่ นมี้ นั เปน็ บาปนะ มนั เปน็ บาปกบั เรา ถา้ เรา
ไมเ่ ปน็ อยา่ งทพี่ ระพทุ ธเจา้ วา่ นี้ โอย้ ทางไปพระนพิ พานอยทู่ ต่ี รงน้ี ทางทเี่ ขา้ อรยิ มรรค อรยิ ผล นอี่ ยทู่ ตี่ รงนน้ี ะ ไมไ่ ด้
ไปอยู่ที่อน่ื ทไ่ี กล
พระพทุ ธเจา้ สรา้ งบารมพี ระโพธสิ ตั วท์ จ่ี ะไดม้ าเกดิ เปน็ มหากษตั รยิ ค์ รงั้ แรกน่ี เปน็ คนขอทานเด้ เปน็ คนขอทาน
มากอ่ นเด้ แลว้ เลย้ี งดบู ดิ ามารดาของตวั เองนด่ี ว้ ยความทกุ ขย์ ากลำ� บาก ไรน่ ากไ็ มม่ ี ไปรบั จา้ งมาเลย้ี งพอ่ แมจ่ นเฒา่ แก่
ชรามา พอตายกเ็ ผาซากศพ ตวั เองกไ็ ปบวชเปน็ ดาบส รกั ษาอโุ บสถศลี ตลอดชวี ติ ตายจากภพนนั้ ไปเปน็ ทา้ วสกั กะเทวราช
เปน็ หัวหนา้ เทวดาอยู่สวรรค์ช้นั ดุสติ
พอสิ้นบุญจากบนสวรรคช์ นั้ ดุสิตลงมาเกดิ ในเมืองมนุษย์เปน็ พระราชามหากษตั รยิ ์ ไดส้ ร้างบารมีเต็มเป่ียม
มากขึน้ ไปอีกทีนี่ นแ้ี หละพระเจา้ ๑๐ ชาตอิ ยใู่ นนีน้ ะ่ ตอ่ จากน้นั ก็ได้เป็นพระราชามหากษตั รยิ ์มาถึง ๑๐ ชาติน่ะ
จนถึงเป็นพระเวสสันดร และจนถึงได้มาเป็น “พระสิทธัตถะราชกุมารนะ่ ” (เปน็ ภพๆ ชาตมิ า)
“นแ้ี หละอานสิ งสเ์ ตม็ ” แลว้ ปรารถนาเปน็ พระโพธสิ ตั วก์ ไ็ ดเ้ ปน็ พระพทุ ธเจา้ นค้ี อื ความปฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบ
ของพระพทุ ธเจา้ เป็นตวั อย่างแบบอยา่ งใหก้ ับพวกเรา ไม่ใชเ่ ป็นของว่าเล่นเด้
บางคนก็อาจจะคดิ วา่ “พ่อกไู ม่แบ่งสมบตั ใิ ห้ รักแตพ่ ี่ชาย น้องสาวไม่สนใจเลย แมก่ ็รกั แตพ่ ี่ชาย”
(บางคนโกรธ มาฟ้องหลวงปูเ่ ด้)
หลวงปู่ : “โอย้ อยา่ ไปคดิ แบบนนั้ เดยี๋ วมนั เปน็ บาป” (ทนไมไ่ ดก้ ร็ อ้ งไห้ เพราะตวั เองนเ่ี คยคดิ อยา่ งนนั้ มา)
แตห่ ลวงปไู่ มอ่ ยากใหค้ ดิ อยา่ งนนั้ เราไดส้ มบรู ณแ์ บบแลว้ ถา้ พอ่ กบั แมไ่ มร่ กั เรา นำ้� ขนั เดยี วกดหนา้ ใสน่ นั้ นะ
ตายตั้งแต่คลอดใหมๆ่ แล้ว เราไดแ้ ลว้ สมบัตขิ องพอ่ ของแม่นะ อาการ ๓๒ ได้มาแลว้ นน้ั แหละเราทำ� ตวั ใหด้ ี
ต้งั ใจเกบ็ หอมรอมริบทรพั ยส์ มบัตทิ ่มี อี ยู่สะสมไปเรื่อยๆ มนั กเ็ ป็นก้อนเป็นกำ� ข้ึนมาเอง แต่ท�ำดกี ับพอ่ กบั แมด่ ้วย
บญุ กศุ ลมนั กจ็ ะหนนุ ใหเ้ จรญิ ขนึ้ ไปเองนะ ถา้ เราไปคดิ อยา่ งนนั้ มวั แตค่ ดิ อยา่ งนน้ั มแี ตโ่ ศกเศรา้ จติ ไมด่ ี สตปิ ญั ญา
ก็ไม่เกิด ทำ� อะไรมันก็ไมเ่ จรญิ รงุ่ เรือง กจ็ ะตกต�ำ่ อยู่ตลอดเวลา
นแี้ หละไมอ่ ยากใหค้ ดิ อยา่ งนนั้ ถงึ แมม้ นั ไมม่ อี ะไร กใ็ หค้ ดิ วา่ บญุ วาสนาบารมขี องเราในชาตปิ างกอ่ น เราไมไ่ ด้
ทำ� อะไรเอาไว้ เราไมไ่ ดส้ รา้ งกศุ ลเอาไว้ ชาตนิ เี้ รามารมู้ าเหน็ ถงึ วา่ ไมม่ เี รากจ็ ะทำ� ดใี หถ้ งึ ทสี่ ดุ ตอ่ ผมู้ พี ระคณุ ของเรา
ให้คิดอย่างนี้ ไม่ได้อะไรก็ขอใหไ้ ดอ้ ปุ ฏั ฐากอปุ ถัมภ์
125
พระครกู ติ ตอิ ุดมญาณ (หลวงปูไ่ ม อนิ ทสิริ)
“ตายไปแลว้ ชาตหิ นา้ ขา้ พเจา้ กจ็ ะไมไ่ ดม้ าเกดิ ตกทกุ ขไ์ ดย้ ากอยา่ งนอ้ี กี แลว้ กป็ รารถนาถงึ ธรรมะคำ� สงั่ สอน
ของพระพทุ ธเจา้ ใหป้ ฏบิ ตั ธิ รรม รธู้ รรมเหน็ ธรรม ไดพ้ บพระศาสนา ไดพ้ บพระสงฆผ์ ปู้ ฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบ ไดเ้ ปน็
ครูอาจารย์ของเรา จะไดน้ �ำทางเราไปในทางที่ถกู ”
น้ีคือความคดิ ของหลวงปทู่ ่ีอยากจะให้เปน็ อยา่ งนท้ี กุ ๆ คน ไมอ่ ยากจะให้คิดเขา้ ขา้ งตัวเองทค่ี ิดไปในทางท่ี
เกดิ ความโลภ ไม่ให้อยากไปคดิ อยา่ งน้นั
ตายไปเป็นสมั ภเวสลี อ่ งลอยอยไู่ ม่มีบ้านทอี่ ยู่อาศัยเป็นหม่ืนๆ ปี ทุกข์ยากทรมานอยู่อย่างนั้น
นี้มันเปน็ พวกจิตวญิ ญาณทม่ี ันตกทุกข์ได้ยาก มนั เป็นอยา่ งนั้น
คนเราส่วนมากก็ไม่เห็นนะ เม่ือไม่เห็นก็ถ้าเล่าให้ฟัง ถ้าเล่าให้ฟังมันก็เหมือนกับนิทานนะ เหมือนกับ
นิยายไป
เป็นช่วงตอบปญั หาธรรมจากญาติโยม
หลังจากที่องคห์ ลวงปูไ่ ด้เมตตาแสดงธรรมเทศนาเสร็จ
126
สังเขปประวตั แิ ละพระธรรมเทศนา
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๖
โยม : ตอนน่งั สมาธิมดี วงกลมๆ วิ่งออกไปเรอ่ื ยๆ
กลบั ไปกลบั มา เปน็ การนงั่ สมาธทิ ถี่ กู ตอ้ งแลว้ หรอื ไมค่ รบั
หลวงปู่ : บางทกี ารนงั่ สมาธิ เราไมไ่ ดไ้ ปเดนิ จงกรม
แต่การท่ีเราปฏิบัติน่ีมันประสานกันมาอยู่ตั้งแต่เริ่มต้น
มบี างวนั เรากเ็ ดนิ จงกรมเสยี กอ่ น เราถงึ มานง่ั สมาธเิ สยี กอ่ น
เดินสลับกนั อยอู่ ยา่ งน้นั จนจติ สงบเป็นสมาธิ จิตของเรา
ถา้ มนั แนบแน่นอยใู่ นการปฏบิ ัติของเราน้นี ะ เราจะอย่ใู น
อริ ยิ าบถไหนกต็ าม เราจะนงั่ อยู่กต็ าม หรอื เราจะนอนอยู่
ก็ตาม ในขณะท่ีจติ ของเรานิ่งอยนู่ ้ัน จติ กจ็ ะออกแสดงให้
เราเหน็
“ทัง้ ๆ ทเ่ี รานอนอยู่นแี้ หละ ก็เหมอื นมี ๒ ร่าง”
รา่ งหนงึ่ กจ็ ะไปเดนิ จงกรมอยใู่ กลๆ้ นแ่ี หละ กลบั ไปกลบั มาอยนู่ ี้ ดแู ลว้ กเ็ ปน็ ตวั เรา ไมใ่ ชค่ นอนื่ นะ เวลาเรา
นอนอยกู่ เ็ หมอื นกนั จติ ของเรากร็ วมอยมู่ นั กร็ อู้ ยู่ แลว้ กจ็ ะมคี นหนงึ่ เดนิ อยู่ ดแู ลว้ กเ็ ปน็ ตวั ของเรา พอเรารปู้ บ๊ั กจ็ ะ
หายวบั๊ เขา้ มาสตู่ วั ของเรา มคี วามรสู้ กึ อยนู่ เี้ ตม็ รอ้ ย และกจ็ ะเปน็ อกี อยเู่ รอื่ ยๆ เกอื บจะทกุ วนั อยา่ งน้ี บางทเี ปน็ ทกุ วนั
อย่างนี้อันน้ีเป็นได้ เพราะจิตนี้มันเป็นอุปนิสัยที่เราเคยได้ฝึกทั้งเดินจงกรมท้ังนั่งสมาธิ มันก็จะต้องปฏิบัติโดย
อัตโนมตั ิของจิต นม่ี นั เปน็ อยา่ งนี้ นีแ้ หละไมต่ ้องสงสัย อนั น้เี ปน็ ได้
โยม : แต่เขาถามว่ามีดวงกลมๆ ครับ เหมือนกับเปน็ นมิ ิตนะครับ
หลวงปู่ : มี ดวงกลมๆ มี อนั น้ดี วงกลมๆ หลวงปู่เคยเปน็ เดนิ จงกรมแลว้ น่ีมีดวงพระจนั ทรส์ วมอยู่ในตวั
ของเรา เราอยใู่ นดวงเลยนะอันนนี้ ะ บางครง้ั กอ็ ยูข่ ้างนอก เมอ่ื อยูข่ ้างนอกนานๆ แล้วกม็ าสวมอย่ใู นตวั ของเรา
ถา้ เปน็ อยา่ งนน้ั เดนิ จงกรมกไ็ มไ่ ดห้ ยดุ เพราะมนั หยดุ ไมไ่ ด้ ถงึ หยดุ มนั กไ็ ปไหนไมไ่ ด้ จติ มนั กร็ วมอยนู่ น้ั ไมต่ อ้ งการ
อะไรทง้ั หมดแลว้ บางวนั น่ไี ม่ไดอ้ อกบณิ ฑบาต เดินจงกรมตงั้ แต่เมอ่ื คืน พอเชา้ มากย็ ังยนื อยอู่ ย่างนน้ั มันยนื อยู่
ความสงบ ยนื อยคู่ วามรู้ ความสวา่ งอยนู่ นั้ จนกวา่ ตวั นมี้ นั จะสลายออกไปทงั้ หมดนี่ เราลมื ตาขนึ้ มนั ไปเทยี่ งวนั แลว้
จะไปบิณฑบาตยงั ไง นน้ั ละบางครัง้ มนั ถึงขนาดนัน้ ไม่ไดฉ้ ันเลย เป็นมาแลว้ นะดวงกลมๆ น่ี เป็นหลายวธิ ีการนะ
เป็นมามากตอ่ มากแล้ว
เปน็ ชว่ งตอบปญั หาธรรมจากญาตโิ ยม
หลังจากท่อี งค์หลวงปู่ไดเ้ มตตาแสดงธรรมเทศนาเสรจ็
127
พระครูกิตตอิ ดุ มญาณ (หลวงปู่ไม อนิ ทสิริ)
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๗
โยม : การเจริญพทุ ธานุสสติ ธัมมานุสสติ สงั ฆานสุ สติ ระหว่างถวายสังฆทาน กระทำ� ไดห้ รือไหมเจา้ คะ
หลวงปู่ : กไ็ ดเ้ หมอื นกนั มนั ไมผ่ ดิ หรอก จะวา่ ไมไ่ ดน้ คี่ อื สญั ญาของเรานี่ เรากเ็ อาพระพทุ ธเจา้ นเี่ ปน็ สรณะ
เรานอ้ มไปถงึ พระพทุ ธเจา้ ถา้ เราไมม่ พี ระพทุ ธเจา้ เรากไ็ มเ่ กดิ ศรทั ธานะ เราไมม่ คี ำ� สอนของพระพทุ ธเจา้ เปน็ สรณะ
เรากไ็ มเ่ กดิ ศรทั ธา เราไมเ่ หน็ พระสงฆท์ ปี่ ฏบิ ตั ดิ ปี ฏบิ ตั ชิ อบ เรากไ็ มเ่ กดิ ศรทั ธา เราไมป่ ฏบิ ตั ิ เรากไ็ มเ่ ขา้ ใจในธรรมะ
เราก็ไม่เกิดศรัทธา ถ้าเรารู้ธรรมะ เราได้ปฏิบัติแล้วน่ี เราจะท�ำอะไรมันเป็นสติหมดนะ มันเป็นพุทธานุสสติ
ธมั มานสุ สติ สังฆานสุ สติ มันเปน็ ได้หมดนะ ถ้าจติ ของเราบรสิ ทุ ธิ์ผุดผอ่ งแลว้ นะ มนั จะเป็นอยา่ งนัน้
เปน็ ชว่ งตอบปัญหาธรรมจากญาตโิ ยม
หลงั จากทอี่ งค์หลวงปูไ่ ด้เมตตาแสดงธรรมเทศนาเสร็จ
128
สงั เขปประวตั ิและพระธรรมเทศนา
ส่ังสมบุญ
ตอนที่ ๘
“มนั ไม่ตายหรอก ไม่ไดภ้ าวนามนั ก็ตายถา้ มนั จะตายนะ”
โยม : การน่ังสมาธิ เมอื่ หายใจลึกจนถึงกลางทอ้ ง พอสกั พกั
ลมหายใจหายไป มแี ตพ่ ทุ โธกลางทอ้ ง แตส่ กั พกั พอรตู้ วั เหมอื นมนั รสู้ กึ
อัดแน่นลงลกึ เหมอื นจะตาย แบบนีผ้ ิดทางไหม
หลวงปู่ : ออ๋ อนั นก้ี ารภาวนานี่ ถา้ ยงั กลวั ตายอยู่ มนั ยงั ไมเ่ ปน็
ของจรงิ สงิ่ นเ้ี ปน็ ความวดั นะ เปน็ เครอื่ งวดั การภาวนาทจี่ ะทำ� ใหเ้ ขา้ ถงึ
ธรรมทแ่ี ทจ้ รงิ น่ี เราตอ้ งยนื อยเู่ ลข ๑ เด้ ๑ อยา่ งเดยี ว ไมต่ อ้ งหวน่ั ไหว
นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมทจ่ี ะหวงั จะเขา้ ถงึ ดวงธรรม ตอ้ งกลา้ ทจ่ี ะเสยี สละทกุ สง่ิ
ในโลกอนั น้ี จิตถึงจะหลุดออกจากส่งิ นน้ั
คำ� วา่ ความกลวั นก่ี ย็ งั กลวั ตาย คำ� วา่ แนน่ กก็ ลวั ตาย หายใจไมอ่ มิ่
กก็ ลวั ตาย ถา้ เปน็ อยา่ งนนั้ อยกู่ แ็ สดงวา่ เรานนั้ ยงั ไมก่ ลา้ ทจ่ี ะเสยี สละ ถา้ เราเสยี สละสว่ นนนั้ ออกจากจติ ใจของเราไดน้ ี่
ธรรมะก็เกิดขึน้ แล้วท่มี าแน่นมาอึดอัด เจบ็ ปวดอย่างนัน้ อยา่ งนี้เหมอื นเดิมนไ่ี ม่มนี ะ
ก่อนท่จี ะผา่ นส่ิงเหลา่ นี้ได้น่ี มนั ตอ้ งเจอหนักกวา่ นอ้ี กี หลายรอบหลายอย่าง ไม่ใชอ่ ย่างหน่ึงอยา่ งเดียวนะ
บางคนกเ็ กดิ แลว้ เกดิ อกี เกดิ แลว้ เกดิ อกี ทกุ วนั บางคนกด็ เู ขา้ ไปจนหวั ใจหยดุ เตน้ กม็ ี เหงอื่ แตกกม็ อี ยา่ งนี้ มนั สารพดั
อย่างทีจ่ ะเป็น
แตเ่ ราอยา่ ไปกลัวความตาย มนั ไมต่ ายหรอก
ไมไ่ ดภ้ าวนามนั กต็ ายถา้ มนั จะตายนะ เราตอ้ งคดิ อยา่ งน้ี ถา้ ไปคดิ ว่าภาวนามันจะตาย ผลสดุ ทา้ ยกก็ ลวั ตาย
กไ็ ม่ภาวนาเลย ไม่ได้อะไรเลย แพม้ ารไปเลยนนั่ นะ
เป็นช่วงตอบปัญหาธรรมจากญาติโยม
หลงั จากที่องค์หลวงปู่ไดเ้ มตตาแสดงธรรมเทศนาเสร็จ
129
พระครกู ิตติอดุ มญาณ (หลวงปไู่ ม อนิ ทสิริ)
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๙
โยม : การถอื ศลี สมาธิ ภาวนาเปน็ ประจำ� บญุ บารมจี ะเกดิ ขนึ้ เอง ขอถามหลวงปวู่ า่ บญุ บารมวี าสนานนั้ จะ
เกิดขึ้นไดอ้ ย่างไร ทำ� ไมการท�ำสมาธิ บญุ บารมวี าสนาถึงจะเกิดข้นึ
หลวงปู่ : การท�ำบุญให้ทาน บุญบารมีก็เกิดข้ึนมาเองนะ อันนี้พระพุทธเจ้าได้ว่าไว้ เป็นค�ำกลางเอาไว้
“ปจั จตั ตงั ธรรม” จะเกดิ ขน้ึ มาเอง รเู้ อง เหน็ เอง ถา้ เราไดท้ ำ� บญุ อานสิ งสข์ องการทำ� บญุ รา่ งกายของเรากจ็ ะแขง็ แรง
อว้ นถว้ นสมบรู ณด์ ี ไมม่ โี รคภยั ไขเ้ จบ็ เกดิ ภพใดชาตใิ ดกต็ ามหรอื ภพชาตนิ ก้ี ต็ าม กจ็ ะไมอ่ ดอยอู่ ดกนิ นะ ไปทไ่ี หน
ทำ� มาหาอยหู่ ากนิ ทีไ่ หนก็จะมอี ยมู่ ีกนิ นะ
แลว้ การรักษาศีลละ
กจ็ ะมีอานิสงส์ท�ำใหม้ ีผวิ พรรณผ่องใสดี เพราะมันเป็นคนสะอาดผอ่ งใส เป็นนโิ กรกจ็ ะผอ่ งใส มันใสในใจ
(หลวงปูข่ ำ� ) มนั ผ่องใส ใสในใจ
ความบรสิ ทุ ธนิ์ นั้ แหละ ไมใ่ ชว่ า่ คนขเ้ี หรอ่ ยา่ งนี้ มนั จะไปผอ่ งใสไดย้ งั ไง จรงิ ๆ แลว้ พระพทุ ธเจา้ เอาขา้ งในนะ
เอาใจนะ ไมไ่ ดเ้ อารา่ งกายสังขารอนั นี้
รา่ งกายสังขารอันนี้ ท�ำไมคนไม่สวยเหมอื นกนั ไม่หล่อเหมือนกัน
เพราะกรรม วิบากกรรมที่เคยท�ำเอาไว้ในชาติก่อนนะ อาจจะไม่ดีก็ได้ อาจจะผิดศีลก็ได้นะ นี้แหละถึง
ไมส่ มำ่� เสมออยูใ่ นปจั จุบนั นะ ถา้ บริสุทธ์ิมาต้งั แต่ชาตปิ างกอ่ นจนถึงปจั จบุ ันน้ี ชาตินก้ี ย็ งั เหมอื นเดมิ อนั นั้นก็จะ
สมบูรณแ์ บบ
แลว้ การทำ� สมาธกิ เ็ หมอื นกนั ความสขุ นกี้ จ็ ะเกดิ ขน้ึ มากกวา่ การภาวนา นเ้ี ปน็ เรอ่ื งทส่ี ำ� คญั ในเรอ่ื งของทางจติ
เมือ่ ไปถงึ ข้ันภาวนาแลว้ มนั ลงไปเป็นสมถะและวปิ ัสสนาลว้ นๆ ๒ อย่างน้ีเป็นของคู่กันไป แตล่ ะอย่างน้ีก็เมื่อเรา
ท�ำอะไรลงไป ดวงปญั ญานีก้ ็จะเหน็ ไปเรอ่ื ย เหมอื นอย่างท่ีเราทำ� ทานไปนแ้ี หละ
เม่อื เราท�ำทานไปแลว้ อานสิ งสข์ องการทำ� นีก้ ็จะท�ำให้มีความสขุ เราจะไปท�ำอะไรก็ไดส้ มปรารถนา ส่วนที่
บางคนทยี่ ังไม่ได้สมปรารถนาก็มี
ทำ� ไมถงึ ไม่ได้สมปรารถนา
เพราะการสงั่ สมบญุ อาจจะไมไ่ ดส้ งั่ สมมามากเหมอื นกบั คนทสี่ ำ� เรจ็ ในความปรารถนา คนทไี่ มไ่ ดส้ ำ� เรจ็ ตาม
ความปรารถนา กเ็ พราะวา่ ชาตปิ างกอ่ นกอ็ าจจะไมไ่ ดท้ ำ� ไวม้ าก หรอื ในปจั จบุ นั นี้ จนกวา่ จะมารจู้ กั การทำ� บญุ ใหท้ านนะ
กท็ ำ� บาปมาเสยี มากแลว้ อยา่ งน้ี มันกเ็ ลยยากนะ มันจะไมเ่ ปน็ “อมตธรรม”
130
สังเขปประวัตแิ ละพระธรรมเทศนา
แต่ส�ำหรับคนท่ีเคยได้สั่งสมมาตั้งแต่ชาติปางก่อน อย่างที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวค�ำปรารภเอาไว้นี้ อย่างท่ี
พระโสดาปตั ตมิ รรค โสดาปตั ตผิ ลนะ ถา้ จติ เขา้ ไปถงึ โสดาปตั ตมิ รรค โสดาปตั ตผิ ลน้ี ไมว่ า่ จะเกดิ มาชาตใิ ดนี่ ภายใน
๗ ชาติน้ี จะเกดิ มาในตระกลู ทด่ี เี ลย
ตระกลู ทม่ี ศี ลี ตระกลู ทมี่ ธี รรม จติ ของตวั เองนท้ี เี่ กดิ มานี่ กม็ ศี ลี มธี รรมตง้ั แตว่ นั เกดิ เกดิ มาตวั เลก็ ๆ เหน็ มด
ไตม่ ากส็ งสารมดอยา่ งนี้ เหน็ คนยากจนเขญ็ ใจมากอ็ ยากใหเ้ ขาอยา่ งน้ี นมี้ นั เปน็ ธรรมชาตขิ องจติ ทไี่ ดส้ ง่ั สมบารมมี า
นี้แหละมนั เปน็ อยา่ งนี้
เปน็ ชว่ งตอบปญั หาธรรมจากญาตโิ ยม
หลังจากทอ่ี งคห์ ลวงปู่ไดเ้ มตตาแสดงธรรมเทศนาเสรจ็
131
พระครูกติ ติอุดมญาณ (หลวงปู่ไม อนิ ทสิริ)
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๑๐
โยม : โยมภาวนาพทุ โธ ดลู มหายใจเขา้ ออก รสู้ กึ แสบจมกู หายใจไมอ่ อก บางครง้ั หายใจหอบ เลยเปลยี่ นมา
ดทู ่ที อ้ งยบุ พองยบุ แต่บางครั้งก็ยงั ไมส่ งบ เลยเปลยี่ นมาภาวนา เกสา โลมา นขา ทนั ตา ตโจ กลบั ไปกลบั มา
รู้สึกจิตสงบดี โยมขอถามวา่ ทำ� แบบนี้ได้ไหมเจา้ คะ
หลวงปู่ : คำ� วา่ ภาวนาในธรรมะคำ� สง่ั สอนของพระพทุ ธเจา้ ไดก้ ลา่ วเอาไวว้ า่ “มตี งั้ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธ”์
ไม่ใช่ว่าจะมาบังคับแต่ดูลมหายใจเข้าออกอย่างเดียวนะ เราปฏิบัติแบบไหนท่ีมันถูกจริตนิสัยของเราด้วยความ
มงุ่ มนั่ ทม่ี นั ถกู จรติ นสิ ยั ของเราทำ� ใหจ้ ติ สงบ ทำ� ไปเถอะ เมอ่ื ไดแ้ ลว้ จะเปน็ ธรรมอนั เดยี วกนั ขอแตว่ า่ มนั ไดม้ ากอ่ น
ไดอ้ นั หนงึ่ แลว้ ธรรมของพระพทุ ธเจา้ จะกระจายออกไปทกุ อยา่ งทน่ี จ่ี ะไมแ่ ตกตา่ งกนั เราไดจ้ ากพทุ โธกไ็ มแ่ ตกตา่ งกนั
เราไดจ้ ากเดนิ จงกรมกไ็ มแ่ ตกตา่ งกัน เราได้จากยุบหนอ-พองหนอ กไ็ ม่แตกต่างกัน ขอแต่วา่ ให้มนั ได้
หลวงปไู่ ม อนิ ทสิริ วดั ปา่ เขาภูหลวง อ.วังน�้ำเขียว จ.นครราชสมี า
132
สังเขปประวัตแิ ละพระธรรมเทศนา
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๑๑
โยม : ทา่ นบอกวา่ ตายแล้วเกดิ ทนั ที ทำ� ไมยงั มีกรณคี นตายแล้วฟน้ื เจ้าคะ
หลวงปู่ : ออ๋ อันน้ียังไมไ่ ดต้ ายสนทิ (หลวงปแู่ ละโยมข�ำ)
ถา้ ตายสนทิ นมี่ นั ไมค่ นื นะ อนั นย้ี งั ไมไ่ ดต้ ายเกดิ บางทคี นเรานใ้ี นขณะทม่ี นั ใชว้ บิ ากกรรมนะ เมอื่ กรรมมนั หมด
ในขณะนน้ั กรรมมนั กห็ มดไปนะ พอมนั หมดไปแลว้ สตสิ มั ปชญั ญะในขณะทรี่ า่ งกายสงั ขารมนั นงิ่ อยนู่ น้ั นะ แนบนง่ิ
สนทิ อยนู่ นั้ นะ แตต่ วั รยู้ งั รเู้ หมอื นเดมิ นะ ยงั รอู้ ยู่ ยงั ไปทอ่ งเทยี่ วอยู่ เดยี๋ วกก็ ลบั มาเหมอื นเราออกจากบา้ นไป อยา่ งท่ี
จะไปวดั ปา่ เขาภหู ลวง วงั นำ�้ เขยี วนี่ เราไปภาวนาแลว้ อยทู่ น่ี นั้ สกั คนื สองคนื คอ่ ยกลบั มากไ็ ด้ กไ็ มเ่ ปน็ ไร เพราะมนั
ยังไม่ตายนะ ถา้ ตายจริงๆ นะ มนั ไม่คนื หรอก
อนั หนง่ึ ความตายของคนเรานี้ ตายแลว้ เกดิ อนั นนี้ ะพอตายปบ๊ั จะมคี นมารบั ทนั ทนี ะ พวกนตี้ ายแลว้ ไมไ่ ดก้ ลบั
มางา่ ย พวกหนง่ึ ตายปบ๊ั เขาพาไปเสยี กอ่ น พอพาไปแลว้ ไปเหน็ เขาทำ� ดี เหน็ เขาทำ� บญุ เหน็ เขาแจกของ มขี องใช้
ของสอย มอี าหาร เราไปเห็นของใช้ก็อยากไปไดข้ องใชก้ บั เขา เราไปเห็นอาหาร เรากอ็ ยากไปรบั ประทานอาหาร
ไดก้ ลิน่ อาหาร อาหารของเขามันหอม อยากจะตามไปขอเขา
คนทไี่ ดไ้ ปอยา่ งนน้ั ทไ่ี ปขอนะ เพราะตวั เองนม่ี นั ไมม่ ี ถงึ ไดข้ อเขา ทไ่ี มม่ นี เี่ พราะคนนน้ั ไมเ่ คยไดท้ ำ� บญุ เอาไว้
เมอ่ื ไมเ่ คยทำ� บญุ เอาไวน้ ่ี ตายไปปบ๊ั นี่ ไปเหน็ อาหารนก้ี ไ็ ปขอเขาดว้ ยความหวิ ทหี่ วิ กเ็ พราะวา่ ตอนเปน็ คนนี่ มนั กก็ นิ
อยู่เป็นประจ�ำ มันตดิ อยู่ในสมมุติดว้ ยความหิว ทนี ี้พอไปขอเขานี่ เขาไมไ่ ดต้ ระหน่ีเด้ เขาก็ใหอ้ ยู่
“ถา้ อยากไดน้ ่เี อามอื มา ถา้ ไม่มีอะไรใสน่ ่ี” (ก็มีแตม่ ือเอามอื ยื่นไป เขากต็ ักใสใ่ ห)้
“มนั ไมใ่ ชข่ องเรา มันกไ็ มเ่ ปน็ ของเรา”
พอใสป่ ั๊บ ใครจะก�ำไดล้ ะ ของทีเ่ ขาให้น่มี ันร้อน เหมอื นกบั เอาไฟแดงๆ ใสม่ อื เรา เราจะก�ำไดไ้ หมละ มันก็
ทงิ้ หมด เพราะมนั ไมใ่ ชข่ องเรา อนั นคี้ อื คนท่ีไมเ่ คยไดท้ ำ� บุญเอาไว้
แต่สำ� หรับคนทีเ่ คยไดท้ ำ� บญุ เอาไว้นี่ พอตายปบั๊ นี่ ผลบญุ ทญี่ าติพน่ี อ้ งได้ทำ� เอาไว้ในขณะน้ัน มันจะไปกอ่ น
ไว้ข้างหน้าเตม็ อยู่ เลือกใชเ้ อา เลือกกินเอา ไมอ่ ดไมอ่ ยากนะ
ถา้ บญุ มากขนึ้ ไปกวา่ นั้น เกี่ยวกบั การท�ำสมาธิ ไมไ่ ดม้ าเกี่ยวกบั ของเหล่านี้ ไปเสวยผลทิพย์บนสวรรค์เลย
แล้วแตช่ ั้นสงู ชน้ั ต่ำ� นะ ถ้าต�่ำกข็ องหยาบๆ ถา้ สงู กล็ ะเอียด นมี้ ันเปน็ อยา่ งนน้ั นค่ี อื ข้อแตกตา่ งกนั นะ
เพราะฉะน้ันอานิสงส์ของการทำ� ทานน่ีก็อยทู่ ตี่ รงนีน้ ะ แล้วคนทไี่ มเ่ คยเปน็ อย่างนีก้ ็จะไม่เขา้ ใจนะ
หลวงปู่ไม อนิ ทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง อ.วังนำ้� เขยี ว จ.นครราชสีมา
133
พระครูกิตตอิ ุดมญาณ (หลวงปู่ไม อนิ ทสิร)ิ
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๑๒
โยม : เมือ่ มคี วามโกรธเกดิ ข้ึน ควรจะท�ำอยา่ งไรบ้าง
เจา้ คะ
หลวงปู่ : ใหม้ สี ตริ ะลกึ ใหไ้ ดเ้ สยี กอ่ น คนมคี วามโกรธยอ่ ม
จะท�ำในสิง่ ที่ผดิ คิดกผ็ ดิ ท�ำก็ผิด เพราะฉะนัน้ เราจะทำ� ไม่ให้
มนั ผดิ เราตอ้ งคดิ ไปหาโทษเสยี กอ่ น เราจะทำ� อยา่ งนลี้ งไป มนั จะ
มีโทษไหม นคี้ ือความคิด คดิ ใหม้ นั ดเี สยี กอ่ น คดิ แล้วคดิ อกี
คิดแล้วกน็ บั ไปด้วยนะ นบั ไปถงึ สบิ คดิ ได้แล้วหรือยัง ควรจะ
พูดไหม ควรจะแสดงออกมาไหม มนั โกรธเพราะเหตุอะไร
เอาอย่างน้ี (สมมุต)ิ
บางทีเราเลยี้ งลูก เราอยากใหล้ กู ดเี ปน็ คนดี แตล่ กู มนั
ไม่เชอื่ ฟงั มันขายหนา้ พ่อขายหน้าแม่ พ่อแมก่ เ็ ลยโกรธ ทนี ้ี
ถ้าโกรธน่ี ความโกรธของพ่อกับแม่นี่ก็โกรธจริงๆ บางคนนะ
กไ็ มไ่ ดโ้ กรธดว้ ยความจรงิ โกรธดว้ ยความเมตตา อยากจะใหล้ กู
เป็นคนดอี ยา่ งนี้ อยากจะให้มันคิดดี อยากจะใหม้ ันทำ� ดี
แล้วกจู ะท�ำยังไง
บางทกี ็ เอ่อ มนั ยงั เดก็ อยู่ ประสบการณ์มนั ยังไม่พอ เมื่อประสบการณม์ นั ยงั ไมพ่ อ มันกอ็ าจจะคดิ ว่าสงิ่ ท่ี
มันคดิ มันท�ำน้ีมนั ถูก แตท่ นี ้ีนถ่ี ้ามนั ทำ� ไปสักวันนี่ มันเจอโทษหรือมันเกดิ ถกู คนอ่ืนตำ� หนิ มนั กจ็ ะคอ่ ยระมดั ระวงั
อยา่ งนี้ แลว้ มนั กจ็ ะรตู้ วั เอง ถา้ มนั ไมร่ ู้ พอถงึ เวลาเรากจ็ ะคอ่ ยแนะนำ� สงั่ สอนทลี ะอยา่ งๆ ไปอยา่ งนี้ เราจะไปเอาแรงนี่
มาทำ� ลายนีไ่ ม่ไดเ้ ด้ พ่อตีลูกนี่ท�ำใหล้ ูกเกดิ คดิ ไม่ดีนะ มีบางคนนะอยากจะใหล้ กู ดี ดา่ ลูก ตบลูก ตลี กู
ลกู มันจะคิดยังไง
กูน่ีเป็นลูกที่เขาเก็บมาเลี้ยงเหรอ แม่คนอ่ืนพ่อคนอ่ืนไม่เห็นตี กูนี่เก็บมาจากถังขยะท่ีไหน ไม่ใช่แม่กู
กูโตขน้ึ มากจู ะตมี นั จะเอาใหม้ นั ตายเลย มันคิดอย่างนีก้ ็...
ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปูไ่ ม อินทสิริ
วัดปา่ เขาภูหลวง อ.วงั น้ำ� เขียว จ.นครราชสีมา
134
สังเขปประวัตแิ ละพระธรรมเทศนา
ส่ังสมบุญ
ตอนที่ ๑๓
โยม : ปกตทิ ำ� บญุ ทำ� ทานไหวพ้ ระ ศาลเจา้ เปน็ ประจำ� ปจั จบุ นั ไดเ้ รยี นเกย่ี วกบั สมาธิ ทกุ วนั รสู้ กึ สงบ มคี วาม
สุขมาก ขอถามหลวงปู่ว่า หากเราท�ำสมาธิเกือบทุกวัน เรายังมีความจ�ำเป็นต้องไปไหว้พระที่วัดหรือศาลเจ้า
เป็นประจ�ำเหมอื นเมอื่ กอ่ นหรอื ไม่
หลวงปู่ : ทเี่ ราไปเปน็ วดั หรอื ศาลเจา้ อนั นอ้ี าจจะมคี วามสขุ สว่ นหนงึ่ ทเ่ี รยี กวา่ ศาลเจา้ นะ แตว่ า่ มนั ไมใ่ ชส่ รณะ
ทถ่ี กู ตอ้ ง ขอคา้ นหนอ่ ยหนง่ึ นะ ทศ่ี าลเจา้ นน้ี ะ ทม่ี นั ถกู ตอ้ งจรงิ ๆ ของเราคอื สรณะ สรณะของเรากค็ อื พระพทุ ธ
พระธรรม พระสงฆ์ ท่เี รยี กว่าไตรสรณคมณ์ เห็นไหมท่เี รารับศีลน่ะว่าไง
ศาลเจา้ สรณะมีไหม
แต่กอ่ นท่ีเรารบั ศีลนะ มีแต่ “พุทธงั สรณงั คัจฉาม”ิ ครั้งที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ถึงจะทุติ, ตาต,ิ ฯลฯ นนั่ ละ
ทนี ค้ี �ำว่าอยู่บา้ นกบั อยวู่ ดั ได้ไหม ไดน้ ่ะ
อันน้พี ดู ตามกเิ ลสของพวกเรานะ ได้
แตว่ า่ กิเลสของหลวงปไู่ มไ่ ดน้ ะ
ทำ� ไมไม่ได้
ทไี่ มไ่ ด้ คนเราแมแ้ ตจ่ ะนอน ถา้ มคี นมาเลน่ มาคยุ กย็ อ่ มนอนหลบั ยาก สมาธยิ ง่ิ ละเอยี ดเขา้ ไปกวา่ นนั่ ตอ้ งการ
สถานทสี่ งบ ทส่ี งดั ทวี่ เิ วก ถงึ จะเขา้ สดู่ วงธรรมทแี่ ทจ้ รงิ นะ่ เพราะฉะนน้ั ตอ้ งปลกี ตวั แตถ่ า้ จะใชป้ ญั ญามาพจิ ารณา
ใหไ้ ดแ้ คโ่ สดาปตั ตมิ รรค โสดาปตั ตผิ ล นกี่ ย็ งั พอได้ แตต่ อ้ งพยายามเตม็ รอ้ ยนะ อยบู่ า้ นนน้ี ะถงึ จะได้ เราจะเอาอะไร
มาวดั ค�ำว่าเตม็ รอ้ ย “เอาจติ ของเรานแ้ี หละวัดธรรมะ”
กระแสทเี่ กดิ ขน้ึ ในขณะทเี่ ราอยใู่ นชมุ ชน อยา่ งทเ่ี ขาดา่ กนั ปาวๆ อยนู่ ี้ หรอื ดา่ เราอยา่ งนี้ มนั เขา้ หเู รา มนั เขา้ ไป
ถงึ หวั ใจเราไหม เขา้ ไปถึงหวั ใจ หวั ใจเราแปว่ ไหม มีกระแสอารมณ์แปบ๊ ๆ ขึ้นมาไหม หรือว่าเหงอื่ แตกโมโห
ถา้ เปน็ อยา่ งนนั้ นะ นแ้ี หละคอื ความตอ้ งการทไ่ี มอ่ ยากใหอ้ ยใู่ นชมุ ชน ถงึ แมจ้ ะอยใู่ นบา้ น ถา้ เราอยคู่ นเดยี ว
ไมม่ อี ะไรรบกวน แตเ่ สยี งภายนอกมไี หม เราอยภู่ ายในเราอยคู่ นเดยี ว กลวั คนจะมางดั ประตบู า้ นไหม กลวั คนจะขน้ึ
มาหาไหม กลวั โจรจะขึ้นมาปลน้ ขโมยของไหม ก็จะระแวงอยอู่ ย่างนี่ จติ กเ็ ลยไม่สงบนะ
แตถ่ า้ เปน็ พระไปอยใู่ นปา่ ไปตงั้ ใจปฏบิ ตั อิ ยใู่ นปา่ หรอื ไมว่ า่ จะเปน็ โยมผชู้ ายผหู้ ญงิ กด็ ี ถา้ เกดิ ไปอยู่ หลวงปู่
ครบู าอาจารยท์ ที่ า่ นพาเดนิ ธดุ งคก์ รรมฐาน ปฏบิ ตั ริ ะดบั จติ นมี้ นั จะเสมอกนั ทง้ั หมด ไมม่ ใี ครโลภเอาของใคร เพราะ
ศลี มนั เสมอกนั กจ็ ะไมข่ โมยเอาของกนั เพราะฉะนน้ั คนทอ่ี ยดู่ ว้ ยกนั มศี ลี เสมอกนั จะไมเ่ ปน็ ศตั รกู นั จติ ใจจะสบาย
135
พระครกู ิตติอดุ มญาณ (หลวงป่ไู ม อนิ ทสิร)ิ
เพราะฉะน้ันพระเณรท่ีอยูด่ ว้ ยกันเป็นรอ้ ยๆ นี่ ในครัง้ พุทธกาลน่กี ็ยังสำ� เรจ็ เป็นพระอรหนั ต์ นัน่ ละมนั เปน็
อยา่ งนน้ั ทนี ม้ี เี สยี งเกดิ มา เรากต็ ดั สนิ ใจเอาวา่ จะอยใู่ นปา่ หรอื อยบู่ า้ น อยบู่ า้ นมนั อยไู่ ดแ้ ตม่ นั ไดน้ อ้ ยนะ พระถา้ อยู่
ดว้ ยกันมากๆ กย็ งั หนีเข้าปา่ เป็นยงั ไง ถึงจะได้มาก ถงึ จะไดธ้ รรมะมากนะ มันเป็นอย่างนน้ั
ชว่ งตอบปัญหาธรรมจากญาตโิ ยม
หลงั จากที่องคห์ ลวงปู่ไดเ้ มตตาแสดงธรรมเทศนาเสรจ็
136
สังเขปประวตั แิ ละพระธรรมเทศนา
ส่ังสมบุญ
ตอนที่ ๑๔
โยม : การไหว้พระในวัดกับการนั่งสมาธิ
บญุ วาสนาบารมีมีความแตกตา่ งกันอย่างไรเจ้าคะ
หลวงปู่ : การไหวพ้ ระกบั การนงั่ สมาธิ ไหวพ้ ระ
เป็นค�ำกล่าวคารวะสักการะบูชา คุณพระพุทธเจ้า
พระธรรม พระสงฆ์ อนั น้กี ็ไดบ้ ญุ แตก่ ารนง่ั สมาธนิ ี่
จิตมันจะเข้าไปถึงขั้นละเอียดอ่อนด้วยความเงียบ
สงบ ดวงปญั ญากจ็ ะเกดิ ขึน้ จากความสงบนะ
เพราะฉะน้นั “นตั ถิ สนั ตปิ รงั สขุ ัง” สขุ อื่น
ยง่ิ กวา่ ความสงบไมม่ ใี นโลก พระพทุ ธเจา้ ไดป้ ระกาศ
เอาไว้แล้ว ไม่ใช่ว่าสวดมนต์แล้วมีความสุขท่ีสุดใน
โลกน้ี มันไมใ่ ชน่ ะ
อันน้ีมันก็ได้บุญทั้งหมด ไม่ใช่ว่าไม่ได้บุญนะ
แตผ่ ทู้ จี่ ะเขา้ ถงึ พระนพิ พานได้ กต็ อ้ งอาศยั เดนิ จงกรม
นงั่ สมาธภิ าวนา ซงึ่ เปน็ สมถกรรมฐาน แลว้ ใชส้ ตปิ ญั ญา
พจิ ารณากระแสของกเิ ลสแตล่ ะวนั ๆ พจิ ารณารา่ งกาย
สังขารธาตุขันธ์ให้เป็นอสุภกรรมฐานอยู่ตลอดเวลา
ถึงจะเกิดความเบื่อหน่ายคลายจากกิเลสตัณหา
ไมม่ คี วามยินดพี อใจในรูป ในเสยี ง ในกล่นิ ในรส
ในโผฏฐัพพะ จิตก็จะเข้าถึงความบริสุทธิ์สมบูรณ์
แบบนะ อนั นจ้ี ะได้บุญมาก
ชว่ งตอบปญั หาธรรมจากญาตโิ ยม
หลงั จากที่องคห์ ลวงป่ไู ดเ้ มตตาแสดงธรรมเทศนาเสรจ็
137
พระครูกิตตอิ ุดมญาณ (หลวงป่ไู ม อินทสิร)ิ
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๑๕
โยม : จติ ทไ่ี มม่ กี เิ ลสมลี กั ษณะอยา่ งไรคะ ถา้ ยงั เศรา้ โศกเสยี ใจ ยนิ ดยี นิ รา้ ย รอ้ งไห้ ถอื วา่ ยงั มกี เิ ลสอยใู่ ชไ่ หม
เจา้ คะ
หลวงปู่ : โอย้ เตม็ รอ้ ยอนั นี่ (หลวงปแู่ ละโยมขำ� พอใจ) เตม็ รอ้ ยนะ นแี้ หละจติ ทม่ี กี เิ ลสเตม็ รอ้ ย ถา้ จติ ไมม่ กี เิ ลส
กอ็ ย่างที่พูดให้ฟงั นัน้ ละ มนั สขุ อยู่ตลอดเวลา มันก็ละสง่ิ ที่มันเคยมมี าแต่ก่อนมันหมด มนั หายหมดนะ สมมตุ วิ า่
เรามขี องเตม็ บ้านน่มี นั รก เราขนหนี ท่บี ้านกเ็ ลยวา่ ง เดินไปไหนกไ็ มเ่ ตะอะไรว่างัน้ (หลวงปู่ขำ� )
ถา้ เกดิ มนั รกเตม็ บา้ นนี่ นง่ั กน็ ง่ั ยงั ไมถ่ นดั ใจเด้ กลวั มนั เปอ้ื นนะ นแ้ี หละอนั นกี้ เ็ หมอื นกนั ความสะอาดของจติ
ทมี่ นั มสี ตมิ ปี ญั ญาวง่ิ รอบอยตู่ ลอดเวลา มนั กจ็ ะคอ่ ยกำ� จดั รทู้ นั ตอ่ สง่ิ ทเี่ คยเกดิ เคยมมี า หรอื วา่ มนั จะเกดิ มาใหม่
อยา่ งน้ี ดวงปัญญามนั ก็จะเข้าไปตัดทันที ทม่ี ันไปตดั เพราะวา่ มันรู้โทษเด้
อย่างทีเ่ ราเกิดความโลภอยากไดข้ องเขานี่ เขาไมไ่ ด้ให้เราเด้ แต่เราจะไปขโมย เราก็รูว้ ่าไปขโมยน่มี นั จะมี
โทษแลว้ พอมโี ทษกค็ ดิ ไปถงึ โทษทจ่ี ะถกู เขาจบั เอา ถา้ เขาจบั เรา ถงึ แมเ้ ขาจะไมจ่ บั เอาไปขงั คกุ กย็ งั ขายหนา้ ตวั เอง
อยเู่ ด้ มันเป็นอย่างนั้น น้คี อื ร้โู ทษมันเป็นอยา่ งน้ี
หลวงปู่ไม อินทสิริ วดั ปา่ เขาภูหลวง อ.วงั น้�ำเขียว จ.นครราชสมี า
138
สงั เขปประวัติและพระธรรมเทศนา
ส่ังสมบุญ
ตอนที่ ๑๖
โยม : รบกวนหลวงปชู่ ว่ ยอธบิ ายหนอ่ ยคะวา่ “สตั วท์ ง้ั หลายมกี รรมเปน็ แดนเกดิ มกี รรมเปน็ เผา่ พนั ธ์ุ มกี รรม
เป็นทพ่ี ่งึ อาศัย” หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ
หลวงปู่ : กรรมที่มแี ดนเกิด กรรมทีม่ ีแดนเกิดมีทง้ั ทำ� ดนี ะ กรรรมดกี ม็ ีแดนเกิด กรรมไม่ดีก็มแี ดนเกิดนะ
แล้วสตั วโ์ ลกท้งั หลายเกดิ ขึ้นมาแล้วก็มตี าย ตายแล้วกม็ เี กิด เกดิ ตามภูมิจติ ของตัวเอง ตายทนั ทเี กดิ ทนั ทีนะ
เกิดยงั ไง
ถา้ เป็นเทวดากไ็ ปเกิดเปน็ เทวดา การเกิดเปน็ เทวดา มันเกิดเป็นกายทพิ ยน์ ะ มนั เกดิ ข้ึนมาเลยนะ ถา้ เป็น
สตั วน์ รกกเ็ ปน็ เปรต เขากน็ ำ� ไปสเู่ มอื งนรกนะ กเ็ ปน็ กายทพิ ยเ์ หมอื นกนั แตท่ พิ ยแ์ บบนรกสกปรกโสมม ไมส่ ะอาด
บรสิ ทุ ธเิ์ หมอื นเทพเทวดา
นแ้ี หละ กรรมมันไปตามการกระท�ำความชั่วความดีของตนเอง ถงึ เรียกวา่ มีแดนเกิดนะ
“ไปเกดิ ในภมู ติ ำ่� ก็เพราะว่าเคยไปทำ� กรรมชวั่ ”
“ไปเกดิ ในภมู ทิ ีด่ ี กค็ อื เคยได้ทำ� ความดี”
ย่อๆ อย่างน้ี
ชว่ งตอบปญั หาธรรมจากญาตโิ ยม
หลงั จากทอี่ งคห์ ลวงปูไ่ ดเ้ มตตาแสดงธรรมเทศนาเสร็จ
139
พระครกู ิตตอิ ุดมญาณ (หลวงป่ไู ม อินทสริ ิ)
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๑๗
“ให้อยา่ งอ่นื ก็ไมเ่ อา จะเอาแต่นิมิต”
โอ้ย ในสมัยน้ันยิง่ ไมม่ ีโทรศพั ท์ (ไปธุดงค์ภาวนาในปา่ ) อยู่หา่ งๆ กนั นี่
ถา้ ๗ วนั ๗ คืนนี่ ถึงจะได้มาหากัน ก็ถามครั้งเดยี วเท่านน้ั นะ ถา้ ถามกัน
นี่ “ไปบณิ ฑบาตไหมวนั น้”ี นเ่ี ทา่ นนั้ แหละ จะไปคุยเรอ่ื งอน่ื ก็ไม่มี ถามเร่ือง
บิณฑบาต หรือวา่
“เราจะอยู่น้ีกีว่ นั ภาวนาดไี หม”
“โอ้ ภาวนาดี ขออีกสักอาทติ ย์หนง่ึ ไดไ้ หม”
“อือ ผมกด็ ีเหมอื นกนั ”
“เออ อย่นู ้ี”
เอาธรรมะเสยี กอ่ น เดนิ มาตง้ั ไกลแลว้ อตุ สาหพ์ ยายามมาเปน็ เดอื นสอง
เดอื นแลว้ กวา่ จะมาถงึ ทนี่ ้ี มนั ไมค่ มุ้ เวย้ เอาเตม็ ที่ นแ้ี หละไมไ่ ดอ้ ยใู่ กลๆ้ กนั เด้
อยหู่ ่างกันเปน็ เกือบกโิ ลพุน่ เด้
เวลาไปอยอู่ ยา่ งนน้ั มนั ไมม่ ใี ครไปรบกวนกนั นงั่ สมาธภิ าวนา อารมณส์ มาธมิ นั ไมไ่ ดม้ อี ะไรมารบกวน เอาแต่
สติสัมปชัญญะประคับประคองจิตอยู่กับอารมณ์สมาธิอยู่ตลอดเวลานะ ขันติก็ไม่ได้ใช้ ไม่ได้ใช้หรอกขันติ
ถงึ เวลานน้ั นะไม่ไดใ้ ชเ้ ลย มนั ไม่ไดม้ ีอะไรจะไปอดทนแล้ว มนั สขุ ไปหมดแลว้ มนั อ่มิ ไปหมด ไมไ่ ด้มอี ะไรจะไป
อดทนแลว้ มนั สขุ ไปหมดแลว้ มนั อม่ิ ไปหมด ไมไ่ ดน้ อนกส็ ขุ เราไมไ่ ดไ้ ปนอน เราไปภาวนา นงั่ ตลอดทง้ั คนื จนสวา่ ง
๗ วัน ๗ คืน กย็ ังอยูอ่ ยา่ งนนั้ สุขอยูอ่ ย่างน้ัน
ย่งิ ไปอยา่ งนน้ั เอาเนสชั ชกิ ตลอดเลย ฉวยโอกาสไม่ใหม้ นั เสียเวลาแม้แต่นดิ เดยี ว เราเอาใหค้ มุ้ วา่ งั้นเถอะ
ถา้ ไดไ้ ปแลว้ นะ เพราะมนั ไมม่ อี ะไรรบกวน ถา้ เราลงจากทนี่ น้ั มาหมบู่ า้ นนะ มนั จะไปเอาเหมอื นอยา่ งทน่ี น้ั นะมนั ไมไ่ ด้
คนนัน้ ก็จะถาม คนน้กี จ็ ะถาม แล้วคนนัน้ กจ็ ะมาคยุ ดว้ ย แมอ่ อกก็จะมาคุยด้วย
“โอ้ย โปรดลกู หลานแน้ พอ่ แม่ครูบาอาจารย”์
“โปรดลกู หลานแน้ นมิ ิตดีบ่ เทศนก์ ้อมให้ฟงั แน้” (คนอสี าน)
โอย้ นแี้ หละมนั ถงึ ไมอ่ ยากเจอคนมนั อยา่ งน้ี พระพทุ ธเจา้ หลวงปคู่ รบู าอาจารยท์ า่ นสอนเอาไว้ “ไมใ่ หแ้ นะนำ�
เรอ่ื งอบายมุข คือการพนันนะ”
140
สงั เขปประวัติและพระธรรมเทศนา
ชาวบา้ นของพวกเราเอาธรรมะใหไ้ มเ่ อา จะเอาแตน่ มิ ติ ไปซอื้ หวย (หลวงปแู่ ละโยมขำ� พอใจ) นแ้ี หละความโลภ
ของคนนะ มนั เลยไม่อยากเจอคน
ทนี พ้ี อไปอยทู่ างเชยี งใหมท่ างเมอื งเหนอื นะ คนเมอื งเหนอื เขาไมเ่ ขา้ หาพระปา่ ไปสมยั กอ่ นนะไปบณิ ฑบาต
พอไดฉ้ นั ไดข้ า้ วปน้ั หนงึ่ สองปน้ั ได้ ขา้ วทพั ทสี องทพั ทสี ามทพั ทใี สน่ อ้ ยๆ ฉนั กไ็ มอ่ ม่ิ แตว่ า่ พอ ไมอ่ มิ่ แตก่ พ็ อ และกไ็ มไ่ ด้
คยุ กบั ใคร เขาก็ไม่อยากรู้เรา เรากไ็ มอ่ ยากรู้เขา มันก็ได้ภาวนาตลอดทงั้ วนั ทงั้ คนื น่ี
ถา้ ทางอสี าน โอย้ เบอ่ื หนา่ ย นมิ ติ ดหี รอื เปลา่ เฮอ้ ไปบา้ นไหนเจอบา้ นนน้ั เปน็ หมดทวั่ อสี าน เคยเหน็ ไหมละ
(หลวงปขู่ ำ� พอใจ) นแี้ หละทหี่ ลวงปไู่ ปนะ ไมไ่ ดข้ ายหนา้ อสี านตวั เองหรอก แตม่ นั คอื เรอื่ งจรงิ ถา้ ใครเปน็ คนอสี านอยนู่ ี้
คงเขา้ ใจนะ เคยขอไหมละ พวกเรามาอยูน่ ี้เคยขอไหมละ (หลวงปู่ขำ� พอใจ) “ขอโชคลาภ”
โอย้ อะไรจะเทา่ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์นอ้ เราคิดนะ ให้พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ กไ็ มเ่ อา
จะเอาแต่นมิ ติ
“ฝนั ดีไหม”
ถ้าบอกว่า “โอ้ ฝันอันน้ันอันนเ้ี ด้อแม่ออก”
“โอ้ย แปลไม่ออกหลวงพอ่ (อีกละ) แปลใหแ้ น”้
(เอ้า อีกแล้ว ไปใกล้ไมไ่ ด้เลยเรอ่ื งนิมิตเร่ืองฝนั น่)ี
“อาตมาไม่รูอ้ ะไรหรอก ไดแ้ ต่พุทโธ”
เทา่ นนั้ แหละจบ ไมต่ อ้ งไปพดู มาก รแู้ ตพ่ ทุ โธ ตอนนม้ี าหาแตพ่ ทุ โธ เอาเทา่ นน้ั ไมต่ อ้ งไปตามคำ� พดู เขา ถา้ ไปเลน่
อยู่นน้ั นะ โอย้ จบไม่เปน็ ไมไ่ ดล้ กุ ง่ายหรอก นีเ้ ปน็ อยา่ งน้ี
เราจะตอ้ งหาวธิ ที จี่ ะปลกี วเิ วกเอาตวั เองออกจากชมุ ชนและทวี่ นุ่ วายนะ แสวงหาทสี่ งบ แสวงหาแบบนนั้ บางที
ทีเ่ ราอยจู่ �ำพรรษา ที่มนั มีหนา้ เขา้ พรรษานีม้ ันมหี มู่บ้าน มนั จะไม่ไดไ้ ปไหน เขากจ็ ะไปหา บางทีฉันเช้าเสรจ็ กจ็ ะมา
เรื่องนน้ั เรอ่ื งน้ี มาคยุ ดว้ ยอยา่ งน้ี เราก็อยากจะภาวนา
อยากจะภาวนานีท่ �ำยังไง เรากห็ ลบเข้าไป ถา้ เราไม่หลบอยา่ งน้นั เรากไ็ มไ่ ด้ภาวนา อาศัยการหลบเอา
น้ีคอื การภาวนาท่ีเลา่ ให้พวกเราฟัง
ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปูไ่ ม อินทสริ ิ
วดั ปา่ เขาภูหลวง อ.วังน้�ำเขียว จ.นครราชสีมา
141
พระครกู ิตตอิ ดุ มญาณ (หลวงปไู่ ม อินทสิริ)
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๑๘
อบุ ายการสอนใจในภาวนา
การภาวนากเ็ พอื่ ใหจ้ ติ มนั สงบอยตู่ ลอดเวลา ไมว่ า่ จะเปน็ หนา้ ฤดไู หนกแ็ ลว้ แต่ ฤดรู อ้ นกไ็ มเ่ ปน็ ไร ยงั ดเี หมอื นเดมิ
“น�้ำ” มันจะรอ้ นๆ มันจะรอ้ นขนาดไหนกช็ า่ งมัน เรานัง่ อยวู่ ดั น้ี เดอื นเมษาบางปเี ขาประกาศวา่ ปนี ี้มันรอ้ นทีส่ ดุ ใน
ประเทศไทยอยา่ งงี้ ๔๐ กวา่ องศาข้ึนไปนี่ มันร้อนเด้ เราน่ังบนไม้กระดานปูพื้นน่ี ขาเราถกู พน้ื นน่ี ัง่ อยอู่ ย่างนี้
นี่น้�ำมนั จะไหลออกเด้ รกั แรเ้ รานีน่ ำ้� ก็ไหลเด้ มันเบียดเบยี นกนั ตรงไหน มันก็จะไหลออกตรงน้นั นำ�้ มันไหลออก
เราก็พจิ ารณา
“โอ้ ขนาดไม่ใชน่ รก มันยังเปน็ ยังงนี้ อ้ ”
อมื ขนาดโลกมนษุ ยน์ ะน่ี มนั ทกุ ขข์ นาดไหน เรายงั อยากจะอยอู่ กี อยเู่ หรอ เรายงั อยากไปทำ� ความชวั่ อยอู่ กี เหรอ
ถ้าเราไปท�ำความช่ัว ไปลงนรกมนั ย่ิงหนกั เข้าไปกวา่ น้ี แทนทจ่ี ะว่า โอ๋ มันร้อนตรงนี้ หนไี ปตรงใหม่ ไมใ่ ช่เด้ นง่ั ดู
น�ำ้ ไหลอย่นู น้ั ละ น�ำ้ ตกมันไหล นำ�้ ตกท่ีมันอยู่ในตวั ตนของเรานีแ่ หละ เหง่อื มนั แตกว่างั้นเถอะ น้คี อื ความรอ้ น
มนั เผา
หลวงป่ไู ม อนิ ทสิริ วดั ปา่ เขาภูหลวง อ.วังน้ำ� เขยี ว จ.นครราชสีมา
142
สังเขปประวตั แิ ละพระธรรมเทศนา
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๑๙
“หลวงปนู่ ง่ั รเู้ ห็นอยา่ งนน้ั แลว้ น่ีได้ธรรมขั้นไหน”
ถงึ ฤดหู นาวทนี ี่ มนั หนาวจนเยน็ เจยี๊ บใจเขา้ ไป รวมเขา้ ไป รวมเขา้ ไปตามความเยน็ มนั เยน็ เจยี๊ บ ถา้ เปน็ คนไข้
เหมอื นกบั มนั จะส่ันทห่ี น้าอก หนาวหน้าอก คนหนาวมากๆ มันกจ็ ะหนาวรวมเข้ามาตรงน้ี พอรวมจติ เข้ามาตรงนี้
พอรวมเขา้ ไปมนั จะเป็นก้อนเลก็ ๆ ขนาดเทา่ น้ี ใสแจว๋ จติ ของเรารวมลงมันก็จะใสแจว๋ เข้าไป มันจะเลก็ เข้าไป
เล็กเขา้ ไป แลว้ ก็ใส พอใสแล้วมนั ก็ออกแสงเหมอื นหลอดสว่างอยา่ งน้ี มันก็จะออกแสง พอมันออกแสงแลว้
จิตของเราก็ประสานงานกนั ในระบบประสาทของเรากับข้างในก็จะประสานกนั
ถา้ เราไมเ่ ขา้ ใจ เรากเ็ อาผา้ ไปกางเอาไวอ้ ยอู่ ยา่ งนี้ แลว้ กไ็ ปจดุ ไฟหรอื เอาหลอดไฟอยฝู่ ง่ั นนั้ เรามาอยฝู่ ง่ั นี้ เราก็
จะเหน็ เส้นด้ายท่ผี า้ น้นี ่ะ มนั จะสวา่ งขา้ งใน เรากำ� หนดจติ นีเ่ รากจ็ ะเหน็ โครงกระดูกของเรา เห็นเนือ้ หนังมังสา
ของเรา เห็นอยา่ งนม้ี นั ก็มีความสุขแล้วเด้ นัง่ ภาวนาน่ี
นแ้ี หละคอื มคี วามสุขท่ีสุดที่เหน็ อย่างน้ี เห็นในรา่ งกายสังขารธาตขุ ันธ์ ธาตุท้ัง ๔ ขนั ธ์ทัง้ ๕ เหน็ อยา่ งนลี้ ะ
คอื มีความสขุ มาก ภาวนาตอ้ งการใหเ้ หน็ อยา่ งนี้ เมื่อจติ สงบมนั ก็จะเห็นอย่างนแี้ ลว้ กอ็ ิ่ม พอเห็นมันก็จะเห็นไป
143
พระครูกติ ตอิ ดุ มญาณ (หลวงปไู่ ม อนิ ทสิริ)
เรอ่ื ยๆ ละ ทกุ ขณะทกุ เวลา พอรวมจติ ลงเมอ่ื ไหรก่ จ็ ะเหน็ เมอ่ื นนั้ จะทนั ทเี ลยไมไ่ ด้ นง่ั นานเด้ พวกเรานมี้ นั ไมไ่ ดท้ ำ�
ติดต่อกันนะ มันก็เลยไมร่ ู้
เราจะไปนงั่ ใหม้ นั รนู้ ่ี จนกวา่ มนั จะรนู้ ่ี มนั จะกช่ี ว่ั โมง กวี่ นั กเ่ี ดอื น กปี่ ี แตพ่ อมนั ไดแ้ ลว้ นี่ จติ มนั จะจดจอ่ อยทู่ ี่
ตรงนน้ั ถงึ แมเ้ ราจะไปทำ� อะไรในอริ ยิ าบถไหนกแ็ ลว้ แต่ จติ มนั กจ็ ะจดจอ่ ทตี่ รงนน้ั มนั กจ็ ะรอู้ ยทู่ ต่ี รงนน้ั พอเราหลบั ตา
ปั๊บ มันกจ็ ะสว่างทนั ที พอสวา่ ง จติ มนั ก็ไมห่ นกั ไม่มืด จติ มนั กจ็ ะอมิ่ ขนึ้ มา มันจะทิง้ หมดแล้วในส่วนน้ี เวทนาน้ี
มนั จะไม่มเี กดิ ขน้ึ นีค้ อื การดับเวทนาโดยอัตโนมัตินะ ถา้ ใครทำ� ไดอ้ ย่างนน้ั นะ เขา้ ใจเลยในเรอ่ื งการดบั เวทนา
บางคนกม็ าถามเด้ “โอย้ จะดับเวทนายังไง”
“โอ้ย ดบั ไมไ่ ด้หรอก ถา้ จติ มนั ไมเ่ ป็นอยา่ งน้ี อดทนไปเถอะ ไมเ่ ป็น”
ถา้ จติ มนั วางรา่ งกายธาตขุ นั ธเ์ มอื่ ไหรน่ น้ั หมดเวทนา ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งนี้ ถา้ ไดแ้ ลว้ อยา่ ทง้ิ นะ เดยี๋ วจะไปเพลนิ
หลงคดิ เป็นอยา่ งอ่ืน จะไปโมใ้ ห้คนอน่ื ฟังอยนู่ ้ันไมไ่ ดเ้ ด้ เราต้องดูของเราอย่ตู ลอดเวลา รักษาใหด้ ีเด้
เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้านะไม่ให้อวดอุตริมนุสธรรม กลัวว่าจิตมันจะกระเพ่ือมอย่างนี้ คือพระพุทธเจ้า
ป้องกันไม่ให้ไปโม้แล้วหลงเพลินไป ลืมดูจิตของตนเอง พอมันมืดแล้วจะมาหาใหม่ หาไฟใหม่นี่มันหายากเด้
ไฟมันหมดแลว้ นี่ตอ้ งรักษาไฟให้มันไดอ้ ยูต่ ลอดเวลาเด้ ไฟกค็ ือดวงจติ ของเราอันสะอาดน้แี หละ จดจอ่ อยู่ตรงน้ี
ถึงจะเรยี กว่าเปน็ คนมีความต้งั ใจจดจอ่
แลว้ เมอ่ื มนั เปน็ อยา่ งนน้ั นะ สตปิ ญั ญามนั กจ็ ะขยายผลออกมา อะไรมองไปทางโลกมนั ตดั ออก สงิ่ ทเ่ี ราเคย
คดิ วา่ อยากไดอ้ นั นี้ เราตอ้ งการอนั นี้ เคยอยากได้ สตปิ ญั ญามนั ไปดเู หน็ แลว้ นี่ อนั นน้ี ไี่ ดม้ าแลว้ มนั จะมโี ทษอยา่ งนนั้
จะตอ้ งมโี ทษอยา่ งน้ี ตอนนมี้ นั ดอี ยู่ ตอ่ ไปมนั จะตอ้ งเปน็ อยา่ งนน้ั จะไมเ่ อามาเปน็ ภาระ ทกุ อยา่ งมนั จะมองเหน็ โทษ
มนั ถงึ ตดั ออกไป มองเหน็ แตค่ ณุ ทวี่ า่ “คอื หน”ี จติ หนอี อกสง่ิ เหลา่ นน้ั ทง้ั หมด ทเ่ี รยี กความโลภ ความโกรธ ความหลง
กต็ ดั ออกอย่างน้ี ถา้ ทำ� ได้อย่างนน้ั ไม่ตอ้ งมาถามหรอก
บางคนมาถามวา่ “หลวงปนู่ ั่งรเู้ หน็ อยา่ งน้นั แล้วนีไ่ ดธ้ รรมขน้ั ไหน”
ทกุ วนั นถ้ี ามหาแตข่ นั้ เด้ มนั ไมเ่ ปน็ เหมอื นขน้ั บนั ไดขนึ้ บา้ นหรอก (หลวงปแู่ ละโยมขำ� พอใจ) ถอื วา่ เรารอู้ ยา่ งน้ี
เราพอใจแลว้ เราเห็นอยา่ งน้ี เราดีใจแลว้ เราเอาส่ิงทีม่ ันค้างอยูใ่ นใจของเราออกไปได้ เราดีใจแล้ว ปลงออกจาก
จิตใจของเราได้ เราดใี จแล้ว นเี่ อาแค่น้ีไมไ่ ดเ้ หรอ ท�ำไมตอ้ งไปถามหาขน้ั ขนั้ นนั้ ขน้ั น้ีอยู่ โอย้
ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปู่ไม อนิ ทสริ ิ
วดั ปา่ เขาภูหลวง อ.วงั น�้ำเขยี ว จ.นครราชสีมา
144
สงั เขปประวตั ิและพระธรรมเทศนา
สั่งสมบุญ
ตอนที่ ๒๐
“คนเยอะๆ อาหารเยอะๆ น้ำ� ออ้ ย น้ำ� ตาลเยอะๆ เปป๊ ซเ่ี ยอะๆ นะ
ไม่ใช่ ไมไ่ ด้อะไรหรอกแบบนน้ั นะ”
แต่ก่อนหลวงปกู่ ็เดนิ ธดุ งค์ ชอบเดินกลางคืนนะ เดินกลางคนื เดนิ ไปเรอ่ื ยๆ เดือนหงาย พอถงึ เทยี่ งคืน
มนั เหนอ่ื ยกน็ ง่ั นง่ั ตรงนน้ั เลยเด้ เหนอ่ื ยตรงนนั้ กต็ งั้ บาตรลงกน็ ง่ั เลย นงั่ สกั ๒-๓ ชว่ั โมง กล็ กุ ขนึ้ เดนิ ตอ่ เอาอยา่ งนน้ั
ไมไ่ ดเ้ ลือกสถานทนี่ ่งั บางทีไมต่ ้องกวาดมนั เด้ ใบไม้เยอะๆ นน่ี ง่ั มนั เลย นุ่มดีว่าง้ัน (หลวงป่ขู ำ� )
นคี้ อื พระกรรมฐาน ทนี่ งั่ ไมต่ อ้ งไปเลอื กสถานที่ จอ้ งตดิ ดนิ อยตู่ ลอดเวลา นอนอยกู่ บั ดนิ กนิ อยกู่ บั หญา้
นี้การไปแสวงหาธรรม ไมใ่ ช่วา่ จะไปมีกุฏสิ วยๆ งามๆ คอยตอ้ นรบั เรานีไ่ ม่ใช่
สมยั นนั้ นเี่ ขา้ ถำ�้ แตล่ ะถำ้� น่ี บางทตี รงทต่ี รงกลางนมี่ นั จะมกี อ้ นหนิ องคห์ ลวงปคู่ รบู าอาจารยอ์ งคไ์ หนไปกไ็ ป
ปดั ไปกวาดไปนงั่ อยทู่ ต่ี รงนน้ั เอาผา้ ปนู ง่ั ผา้ นสิ ที นะนไี่ ปปนู งั่ บนกอ้ นหนิ จนเลยี่ มนะ มแี ตพ่ ระกรรมฐานผา่ นทงั้ นน้ั เลย
เขา้ ไปในถำ้� นะ เราไปเรากไ็ ปนง่ั ทต่ี รงนน้ั ละ ไมค่ อ่ ยนอนกนั หรอก ไปนง่ั จนสวา่ ง มนั มคี วามอม่ิ แลว้ กบ็ อกขา่ วกนั เด้
145
พระครกู ติ ตอิ ดุ มญาณ (หลวงปไู่ ม อนิ ทสริ ิ)
“โอย้ ไปอยทู่ นี่ นั้ นะ ไปเจอถำ้� ตรงนน้ั นะ สงสยั ครบู าอาจารยไ์ ปเยอะ หนิ สะอาดบรสิ ทุ ธเ์ิ ลยี่ มดี ไปนงั่ อยนู่ น่ั
อากาศดี กล่ินข้ีคา้ งคาวกไ็ มม่ ี” (ต้องถามข้ีคา้ งคาวเสียก่อนเด้ จะเข้าถ�ำ้ นีม่ กี ลน่ิ ขคี้ า้ งคาวไหม)
“โอ้ย มันมีอากาศบรสิ ุทธ์ิ”
“เออ่ ผมชอบ” (ไปละ แลว้ ทนี พี้ อไดย้ นิ ขา่ วองคน์ นั้ กจ็ ะไป องคน์ กี้ จ็ ะไปเด)้ นคี้ อื การแสวงหาธรรม ไมใ่ ชว่ า่
เราจะมาสมุ่ กนั อยสู่ นกุ สนานกนั อยตู่ ามวดั ตามวา คนเยอะๆ อาหารเยอะๆ นำ�้ ออ้ ย นำ�้ ตาลเยอะๆ เปป๊ ซเี่ ยอะๆ นะ
ไม่ใช่ ไมไ่ ด้อะไรหรอกแบบน้นั นะ
ทนี ถ้ี า้ มบี า้ นคนทนี ่ี ถา้ มบี า้ นคนไปอยา่ งนน้ั นะ เราไปบา้ นคนเสยี กอ่ น บา้ นคนสมยั นน้ั นะเขาจะไปจบั จองทใ่ี หม่
เขาจะไปบางทกี ็ ๖-๗ ครอบครวั อะไรอยา่ งน้ี ไปจบั จองทป่ี า่ เขากไ็ ปหมายทป่ี า่ ตรงนถี้ างตน้ ไมจ้ ากตรงนไ้ี ปถงึ ตรงนนั้
“อันน้นั ของเจ้า อันนขี้ องข่อย” (กว็ ่าไป แลว้ ก็ถางปา่ กัน)
ทีนีม้ พี ระกรรมฐานไป ไปก็ไปเห็นควนั ไฟ “เฮย้ สงสัยมคี นเวย้ ” (ท่ีไหนได้เขากำ� ลังถางปา่ ท�ำกระทอ่ มอยู่
พอเขาเหน็ พระเท่าน้ันแหละ)
“โอย้ นมิ นตค์ รบู าอาจารยม์ าอยกู่ บั ขา้ นอ้ ยแน้ พวกขา้ นอ้ ยไมม่ คี น ไมม่ เี พอ่ื น ไมม่ คี รบู าอาจารย์ ไมม่ ที พี่ ง่ึ พา
อาศัย อดๆ อยากๆ พวกข้าน้อยก็จะพากันหาอาหารมาใส่บาตร” (เขาอยากให้อยู่เปน็ เพ่อื นนะ)
ผลสดุ ทา้ ยกไ็ ปอยกู่ บั เขาแหลว่ เขากต็ ม้ ขา้ วใสบ่ าตรบา้ ง หงุ ขา้ วนงึ่ ขา้ ว เขากไ็ มไ่ ดใ้ สม่ ากนกั หรอก กพ็ ออมิ่ นล่ี ะ
อาหารกห็ ามาเกบ็ ผกั เกบ็ อะไรเอาตามปา่ ตามเขานน่ั แหละ ทตี่ ามนำ�้ ซบั นน่ั ละ เอามาตม้ มาแกงให้ อยไู่ ปๆ พอมพี ระ
มาอยู่ กญ็ าตพิ น่ี อ้ งเขากม็ าอกี คนโนน้ กม็ าคนนก้ี ม็ า แลว้ กม็ าจบั จองทเี่ ยอะขนึ้ ๆ เปน็ บา้ นใหญซ่ ะเลย นม่ี นั ถงึ ไดเ้ ปน็
บ้านขน้ึ มาในสมยั ก่อนนะ ตามป่าตามเขานะ พอเจริญขึน้ มามที อ่ี ยทู่ ี่กนิ ก็ตัดถนนหนทางเข้ามาไปส่บู ้านนนั้ บ้านน้ี
พอไดเ้ กวียนผ่านไปไดอ้ ยา่ งน้ี
นค้ี อื การเดนิ ทางของพระกรรมฐานในสมยั กอ่ น มนั กเ็ ลยไดธ้ รรม ไปหาธรรมมนั กเ็ ลยไดธ้ รรม เดนิ ไปกพ็ ทุ โธไป
ไมไ่ ดเ้ ดนิ คยุ กนั เด้ เดนิ หา่ งๆ กนั เด้ องคห์ นงึ่ ไปโนน้ นะ หา่ งๆ กนั พายบาตรของใครของมนั กม้ หนา้ ดแู ตท่ างนแ้ี หละ
ถา้ ไม่ดูทางเดีย๋ วเท้าแตก ชนก้อนหนิ กม็ ี ตอไมก่ ็มี หนามกม็ ี ตอ้ งสำ� รวมเด้ น้คี ือการเดนิ ธดุ งค์กรรมฐาน
เพราะฉะนั้นสมยั ทุกวนั นพี้ วกเราไมไ่ ด้เหน็ อย่างน้นั กเ็ ลยเอามาเลา่ ให้ฟงั นะ
หลวงปู่ไม อินทสริ ิ วดั ป่าเขาภูหลวง อ.วังน�ำ้ เขียว จ.นครราชสมี า
146
สังเขปประวตั ิและพระธรรมเทศนา
ส่ังสมบุญ
ตอนที่ ๒๑
“โอย้ แก้วน้ีนีไ่ ด้ ๓ วัน ๔ วันเดน้ ่ี”
ประสบการณเ์ ดนิ ธุดงคอ์ ันเขม้ ขน้
กอ่ นท่ีหลวงปู่ครูบาอาจารย์ท่านจะไดธ้ รรมะสมัยกอ่ นนะเป็นยังไง กเ็ ลยมาเล่าใหฟ้ งั นะ ทีนี้การไปอยู่ในป่า
จรงิ ๆ บางครง้ั นะ ถา้ มนั อยลู่ กึ เกนิ ไป หา่ งจากบา้ นคนเปน็ ๒๐-๓๐ กโิ ลอยา่ งนี้ ไมม่ โี อกาสจะไปบณิ ฑบาตแลว้ เรากม็ ี
เดก็ วดั ทเี่ ขาจะมาเขา้ นาคนี้ กำ� ลงั จะมาเขา้ นาคจะบวช เรากบ็ วชตาผา้ ขาวใหแ้ ลว้ รกั ษาอโุ บสถศลี แลว้ อายุ ๑๙ ปี
๒๐ ปี เกณฑท์ หารแล้ว ท่จี ะเข้านาคบวชอยา่ งน้ี
“ไปๆ กจู ะพาไปเทยี่ ว” พาเขา้ ปา่ ไปธดุ งค์ ใหเ้ อาขา้ วสารไปดว้ ย เพราะมนั มเี ดก็ ผชู้ าย ใสถ่ งุ ไป เยบ็ ผา้ ถงุ ไป
เยบ็ ถงุ ผา้ ขาวสะพายไปแลว้ พวกนเ้ี อาเสบยี งอาหาร มอี ะไรทเ่ี อาไปดว้ ย พรกิ เกลอื อนั นค้ี อื คมู่ อื พวกนก้ี จ็ ะเอาไป
ข้นึ เขาไปน่ี หม้อมันไม่ได้เอาไปหรอกที่จะไปหงุ ขา้ วนะ่ ใชไ้ ม้ไผ่ โอย้ ไม้ขา้ วหลามมแี ต่ขนาดน้ี ปล้องหน่งึ ตดั มา
เอาขา้ วสารใสน่ ำ้� ลงไปเผา โอย้ ฉนั กไ็ มห่ มด แตต่ อ้ งระวงั อยา่ ใหม้ นั เหลอื มากนะ หรอื ไมใ่ หม้ นั เหลอื พอดี ตอ้ งรจู้ กั เดว้ า่
เทา่ นมี้ นั จะหมดพอดอี ยา่ งนี้ หรอื มนั จะมากเกนิ ไปกล็ ดลงมาอยา่ งน้ี เพราะวา่ ขา้ วสารมนั จะไมไ่ ดห้ ลายวนั ฉนั ทลี ะนอ้ ย
ไปอยโู่ น้นแหละเป็นเดอื น เปน็ เดือนสองเดือน ถ้าเราเอาขา้ วไปได้เยอะ
พอข้าวจะหมด มนั กำ� ลงั ภาวนาดี
ตาผา้ ขาว : “เด๋ียวผมจะกลบั ลงไปในหมู่บ้าน”
เดนิ อกี ทง้ั วนั ไปไดข้ า้ วสารถงึ ไดก้ ลบั มา แบกมาเด้ เยบ็ ถงุ ผา้ ขาวเด้ แตก่ อ่ นกระสอบปยุ๋ มนั ยงั ไมม่ เี ด้ เยบ็ ถงุ ผา้
เอาใสข่ า้ วสาร ลงไปกช็ าวบา้ นเขากใ็ หข้ า้ วสารมา บางทเี ขากต็ ำ� แจว๋ บองให้ โอย้ ประเสรฐิ ทสี่ ดุ นน้ั แหละ (หลวงปขู่ ำ� )
นล้ี ะเอาธรรม ไปหาธรรมะ ยงิ่ หลงั เขา เขาภลู งั กา ขน้ึ ไปอยู่ ๓ เดอื น ๔ เดอื น สบายเลยบนเขา ลงมาบณิ ฑบาต
ไม่ไดห้ รอก มันลงไม่ไหว ขน้ึ ไม่ไหว มนั ลงมากไ็ มไ่ ด้ขน้ึ ถ้าข้ึนกไ็ มไ่ ดล้ งนะ ตอ้ งเอาขา้ วขน้ึ ไป กาน�้ำใส่น้ำ� ขน้ึ ไป
มกี ระตกิ นำ�้ พายกระตกิ นำ้� ขนึ้ ไป ไมต่ อ้ งไปสรงนำ้� เด้ ไปอยหู่ ลายวนั น่ี จะไปสรงนำ�้ ไมไ่ ดเ้ ด้ เดยี๋ วนำ�้ มนั หมด เอาไวฉ้ นั
อยา่ งเดียวและก็ล้างหน้า ล้างหนา้ น่ี โอย้ แก้วนน้ี ไ่ี ด้ ๓ วนั ๔ วนั เดน้ ี่ ลา้ งหนา้ นะ จ่มุ นดิ เดยี วแล้วก็เช็ดตาเดน้ ั่น
(โยมขำ� ) ไมใ่ ชว่ า่ จะไปลา้ งทว่ั หนา้ เด้ ขานก่ี ไ็ มไ่ ดล้ า้ งเด้ เดนิ ปา่ นี่ ไฟไหมป้ า่ หนา้ แลง้ นี่ มนั เดนิ ผา่ นปา่ นไ่ี ฟมนั ไหมป้ า่
ใชไ่ หม ขานด่ี ำ� หมด เวลานอนนกี่ ต็ อ้ งหม่ ผา้ ถงึ แคน่ เ้ี ด้ ผา้ จวี รมาปกแคน่ ้ี ถา้ ไปถกู นกี่ ลวั มนั จะดำ� ลา้ งขากไ็ มไ่ ด้ กลวั นำ�้
มนั จะหมดในบางท่ีน่ี นคี้ อื การทรมานแต่ก็มีความสุขเด้ มคี วามสขุ
หลวงป่ไู ม อินทสิริ วดั ปา่ เขาภหู ลวง อ.วังน�ำ้ เขยี ว จ.นครราชสมี า
147
พระครูกิตติอดุ มญาณ (หลวงปู่ไม อนิ ทสริ )ิ
148
สงั เขปประวัติและพระธรรมเทศนา
ส่ังสมบุญ
ตอนที่ ๒๒
ระลกึ ถงึ ผลกรรมทีท่ ำ� กบั ควายในอดีต
การเดินธุดงค์ในป่า ถ้าเป็นหน้าฤดูฝนใหม่นี้
ฝนมนั มา พายมุ นั มานี่ โอย้ ตม้ึ ตำ�้ ๆ แดงเด้ มนั แดงมาเลย
ทง้ั แดงท้ังดำ� มา โอ้ย มันมาอย่างหนกั พอมนั มาแล้วน่ี
เราตอ้ งเกบ็ มงุ้ กลดเสยี กอ่ นเด้ ถา้ ไมง่ น้ั มนั ซดั เขา้ ปา่ หมด
เรากเ็ ก็บลง
ทนี ีก้ ลางคืนมาฝนตก เรากก็ างมุ้ง ฝนตกบางที
มนั กอ็ ยทู่ ร่ี าบ มนั เปน็ ทโ่ี คก มนั เปน็ ทร่ี าบนะ่ ฝนตกหนกั ๆ
ทง้ั คนื นท่ี ำ� ไง ยนื ละ ของผา้ มนั กจ็ ะเปยี ก ปลอ่ ยใหม้ งุ้ กลด
มนั เปยี ก แตเ่ รายนื อยนู่ น้ั นะ บาตรแขวนคอ แลว้ กเ็ อา
บริขารยัดเข้าไปในบาตร มีอะไรกพ็ ายเอาไว้ ยนื ท้ังคืนจนสว่าง ถ้าฝนตกจนถงึ สวา่ งก็ยืนจนสวา่ ง น้�ำกไ็ หลละทีนี่
ทว่ มหลงั เทา้ ครง่ึ แขง้ กม็ อี ยา่ งนี้ โอ้ ยนื กภ็ าวนาไปเด้ ทง้ั คดิ ถงึ ผลกรรมตวั เองเด้ กำ� ลงั ปวดคอมากๆ นี่ บาตรดงึ คอนี่
“นแี้ หละโทษท่เี อาควายไปใส่ไถว่างั้นนะ”
มตี อนสมยั เปน็ เดก็ กไ็ ปเลยี้ งควายไปเลยี้ งววั ควายตวั ไหนมนั ไมค่ อ่ ยอยู่ มนั จะเดนิ อยเู่ รอ่ื ยๆ ไปเรอ่ื ยๆ ไมอ่ ยู่
วา่ ง้ัน เรากเ็ อาขอนไมน้ ี้ไปมดั เชือกผกู คอมันเด้ ใหม้ นั ลาก มนั ลากไมไ่ หวมนั กไ็ มไ่ ปแหลว่ มนั ก็กนิ หญา้ อย่นู น้ั
“โอย้ เวลาไปพายบาตรยนื ทง้ั คืนนี่ รู้สึกเลย กรรม กรรมเลย”
“โอ้ย อานสิ งสก์ เู อาขอนไม้แขวนคอควาย”
(หลวงปูข่ ำ� พอใจ)
รทู้ นั ทเี ลย นแ้ี หละพอเหตกุ ารณม์ นั เกดิ ขน้ึ มนั ถงึ ยอ้ นหลงั เด้ นแี้ หละคำ� วา่ ไมร่ จู้ กั ศลี ไมร่ จู้ กั ธรรม เอาแตค่ วาม
มักง่าย ทรมานสตั ว์ ตวั เองนะไมม่ ใี ครมาทรมาน แตด่ ินฟา้ อากาศมนั ทรมานเอง นี้ละเขาเรียกวา่ กรรม
“ยืนอยนู่ ั้น ไม่ใชว่ ่าไม่มีอะไรขน้ึ นะ”
บางทีตะขาบไต่ข้ึนมานะ กัดเลยเด้ มดนะไต่ข้นึ มา มอื ก็ถอื ของอยู่ จะไปไลย่ งั ไง
“เอา้ มงึ ไตไ่ ต่ไป มันไมห่ นกั เท่าชา้ งหรอก”
ปล่อยใหม้ นั ไต่ มนั ไมม่ ที ีอ่ ยกู่ อ็ ยูน่ ี้แหละ มาอยหู่ วั กูนแี้ หละ (หลวงปู่และโยมขำ� พอใจ)
149
พระครูกิตติอุดมญาณ (หลวงปู่ไม อินทสิริ)
บางทีมันต้องปลงเด้ มันต้องปลง มันต้องไปประสบการณ์จริงๆ มันถึงจะเข้าใจ ไม่ใช่ว่าจะไปคิดพูดได้
พูดเอา มันไมไ่ ดเ้ ด้ ไปหาธรรมะน่ีมนั ไมใ่ ช่วา่ มนั จะไดง้ า่ ยๆ พอหมดจากที่น้นั ไป ช่วงมนั สนกุ ก็สนุก ช่วงมันทกุ ข์
มันกท็ กุ ข์
แต่ส�ำหรับพระกรรมฐานนี่ไมม่ คี ำ� วา่ ทุกข์ เหตุการณเ์ กิดขนึ้ มาอยา่ งน้ัน กเ็ อามาพิจารณาเร่อื งผลกรรม
“นแี้ หละกรรมทที่ ำ� เอาไวม้ นั เปน็ อยา่ งน้ี สมนำ�้ หนา้ ไหมทม่ี งึ ไปทำ� เขา” แทนทจี่ ะไปเขา้ ขา้ งตวั เอง ไมไ่ ดเ้ ด้
ไปเขา้ ข้างศัตรูพุ่นเด้ มนั เป็นอย่างน้ี นคี้ อื การภาวนา
เพราะฉะนน้ั จติ มนั ถงึ บรสิ ทุ ธิ์ มนั ไมม่ คี วามโลภ ไมม่ คี วามโกรธ ไมม่ คี วามหลง ทกุ ขณะจติ นม้ี ปี ระโยชนห์ มด
ทกุ ลมหายใจเข้าออก ทกุ ความคดิ ที่จะคิดออกนอกรีตนอกรอยนอกทางไมม่ ี
หลวงปไู่ ม อนิ ทสิริ วัดปา่ เขาภูหลวง อ.วังน้ำ� เขยี ว จ.นครราชสมี า