รายนามคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงนิ และการคลงั
วุฒสิ ภา
นายวสิ ทุ ธิ์ ศรสี พุ รรณ
ประธานคณะกรรมาธิการ
นายวฒุ ิพนั ธุ์ วิชัยรตั น์ นายสมชาย หาญหริ ัญ
รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนง่ึ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่ีสอง
นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ นายลกั ษณ์ วัจนานวชั
รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่ีส่ี
นายปยิ พนั ธ์ุ นมิ มานเหมนิ ท์ นายดสุ ิต เขมะศักดิ์ชัย
รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หา้ เลขานุการคณะกรรมาธิการ
นางสาววิบูลยล์ ักษณ์ รว่ มรกั ษ์ ศาสตราจารยส์ ม จาตุศรพี ิทักษ์
โฆษกคณะกรรมาธิการ ประธานทป่ี รึกษาคณะกรรมาธิการ
นายจริ ชยั มูลทองโร่ย นายสุรชัย ดนัยตง้ั ตระกูล นางประภาศรี สุฉนั ทบุตร
ท่ีปรึกษาคณะกรรมาธิการ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ท่ีปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ
นายสมพล เกยี รติไพบลู ย์ นายสมศักดิ์ โชตริ ัตนะศิริ
ท่ีปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ ท่ีปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ
นายกรู ดิสถ์ จนั ทร์ศรชี วาลา นางจริ ดา สงฆ์ประชา
กรรมาธิการ กรรมาธิการ
พลเอก สนธยา ศรีเจริญ นายสวุ รรณ เลศิ ปญั ญาโรจน์ นายวิรตั ิ เกสสมบูรณ์
กรรมาธิการ กรรมาธิการ กรรมาธิการ
รายนามคณะอนุกรรมาธิการดา้ นการเงนิ
ในคณะกรรมาธิการการเศรษฐกจิ การเงนิ และการคลงั
วุฒสิ ภา
นายสรุ ชัย ดนัยตัง้ ตระกลู
ประธานคณะอนุกรรมาธิการ
นายสมชาย หาญหริ ญั นายกูรดิสถ์ จันทร์ศรีชวาลา นายสวุ รรณ เลิศปญั ญาโรจน์
รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนท่ีหน่ึง รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่สอง รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนท่สี าม
นายลกั ษณ์ วจนานวชั พนั เอก ดร.เจียรนัย วงศ์สอาด พันเอก กิติเดช ศรฤทธช์ิ ิงชยั
รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทีส่ ี่ อนุกรรมาธิการและเลขานุการ อนุกรรมาธิการ
นายธวชั ชยั กิจรตั นะกุล นายเลอพงษ์ ชปู ระยูร นายนเิ วศ พนั ธ์เจรญิ วรกุล
อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ
นายวรมติ ร ครุฑโต นางสาวสภัทรพ์ ร ธรรมาภรณพ์ ลิ าศ
อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ
นางประภาศรี สุฉนั ทบุตร นางเบญจรัตน์ จรยิ ธาราสิทธ์ิ
ที่ปรกึ ษาคณะอนุกรรมาธิการ ที่ปรกึ ษาคณะอนกุ รรมาธิการ
นายอุทยั วุฒิ
ท่ปี รกึ ษาคณะอนกุ รรมาธิการ
รายงานผลการพจิ ารณาศกึ ษา
ของคณะอนกุ รรมาธิการดา้ นการเงนิ
ในคณะกรรมาธกิ ารการเศรษฐกจิ การเงนิ และการคลงั วุฒิสภา
เรอื่ ง “แนวทางการส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การเข้าถงึ แหล่งเงนิ ทนุ ของผูป้ ระกอบการวิสาหกจิ
ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)”
------------------------------------------
ด้วยในคราวประชุมคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒
เมื่อวันพุธที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๒ ที่ประชุมได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการด้านการเงิน โดยให้มีหน้าที่
ศึกษา ติดตาม และผลักดันนโยบายการเงิน โครงการ แผนงาน หรือมาตรการด้านการเงินท่ีรัฐบาล
ได้จัดทาข้ึน เพ่ือกระตุ้นหรือขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ การสนับสนุนส่งเสริมวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และการสนับสนุนส่งเสริมธุรกิจประกอบการท้องถ่ินและชุมชน
การพิจารณารวบรวมผลการดาเนินงานและจัดทารายงานสรุป ผลการดาเนินงานเพื่อเสนอต่อ
คณะกรรมาธกิ าร และปฏิบตั ิหนา้ ทอ่ี นื่ ตามท่คี ณะกรรมาธกิ ารมอบหมาย
คณะอนุกรรมาธิการด้านการเงินพิจารณาว่าการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของของผู้ประกอบการ
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นทั้งปัจจัยและอุปสรรคที่สาคัญของการดาเนินธุรกิจ
นับตั้งแต่เร่ิมต้นไปจนถึงการขยายกิจการ เน่ืองจากลักษณะท่ัวไปของธุรกิจ SMEs มักจะถูกประเมินว่า
มีความเสี่ยงสูงทางด้านการเงิน รวมทั้งยังมีปัจจัยภายในและภายนอกอ่ืน ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความ
อย่รู อดหรือความเจริญเติบโตของธุรกิจ เชน่ โครงสร้างและศกั ยภาพในการดาเนินธรุ กิจของผู้ประกอบการ
SMEs ภาวะด้านตน้ ทุนทางธุรกิจท่ีสูงและผันผวน ความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาด ไม่ว่าจะเป็น
การแข่งขันระหว่าง SMEs ด้วยกันเอง และการแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือการแข่งขันกับธุรกิจ
E-commerce เปน็ ต้น
ธุรกิจ SMEs เป็นรูปแบบธุรกิจท่ีมีข้อดี คือ การจัดตั้งไม่ยุ่งยาก ไม่มีความซับซ้อนและมีความ
อิสระคล่องตัว แต่ในทางกลับกันกม็ ีข้อเสีย คือ การเป็นธุรกจิ ท่ีมีความเส่ียงสูง มีแนวโน้มเลกิ กจิ การได้ง่าย
ไม่ย่ังยืนและอยู่รอดน้อย โดยเฉพาะด้านความน่าเช่ือถืออันนาไปสู่การพิจารณาให้สินเชื่อของสถาบัน
การเงินต่าง ๆ ซ่ึงต้ังแต่ปี ๒๕๖๒ รัฐบาลได้มีนโยบายหรือมาตรการต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายสนับสนุนส่งเสริม
และเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ให้มีอัตราการเติบโตสูงข้ึนมีความเข้มแข็ง ย่ังยืน และเป็นกลไกหลักสาหรับการขับเคล่ือนและเสริมสร้าง
ความเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจไทยในอนาคต ท้ังการสนับสนุนด้านการเงิน การค้าประกันสินเช่ือ
การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี รวมไปถึงมีการกาหนดรายละเอียดไว้ในโครงการ แผนงานหรือกิจกรรม
ในแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และแผนการปฏริ ูปประเทศ
การสนับสนุนที่สาคัญประการหนึ่ง คือ การสร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินให้แก่
ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ได้แก่ การจัดหาแหล่งเงินทุนและการพัฒนา
ช่องทางการเข้าถึงแหลง่ เงินทุนรูปแบบใหม่ ๆ การพัฒนาผลิตภณั ฑ์ทางการเงินและการบริหารความเส่ียง
การพัฒนาระบบประเมินมูลค่าทรัพย์สินในรูปแบบต่าง ๆ เพ่ือใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ การพัฒนา
ระบบการประเมินความน่าเชื่อถือทางเครดิตและระบบการรู้จักลูกค้าที่สะดวกมากข้ึน การสนับสนุนให้
ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินด้วยต้นทุนที่เหมาะสมโดยนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม
(๒)
มาช่วยเพ่ิมความสะดวกในการเข้าถึงบริการทางการเงิน รวมทั้งการพัฒนาสภาพแวดล้อมและกฎหมาย
ทเี่ อือ้ ต่อการเขา้ ถงึ แหลง่ เงินทุน
ด้วยเหตุนี้ คณะอนุกรรมาธิการด้านการเงิน จึงได้กาหนดประเด็นการพิจารณาศึกษา
และติดตามแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
รวมไปถึงการดาเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม (SMEs) ปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมา ปัญหาอุปสรรคในปัจจบุ ัน และแนวทางการแก้ไขปัญหา
อุปสรรค พร้อมทั้งจัดทารายงานการพิจารณาศึกษา เร่ือง “แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึง
แหลง่ เงนิ ทุนของผปู้ ระกอบการวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)” เพ่ือเสนอต่อคณะกรรมาธกิ าร
การเศรษฐกิจ การเงิน และการคลงั วฒุ สิ ภา ซึ่งปรากฏผลดังน้ี
๑. การดาเนนิ งาน
๑.๑ คณะกรรมาธิการการเศรษฐกจิ การเงิน และการคลงั วฒุ สิ ภา
๑.๑.๑ นายวิสทุ ธิ์ ศรีสุพรรณ ประธานคณะกรรมาธกิ าร
๑.๑.๒ นายวฒุ ิพันธุ์ วิชัยรตั น์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทหี่ นงึ่
๑.๑.๓ นายสมชาย หาญหิรญั รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทส่ี อง
๑.๑.๔ นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนทส่ี าม
๑.๑.๕ นายลกั ษณ์ วจนานวชั รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ส่ี
๑.๑.๖ นายปิยพนั ธุ์ นิมมานเหมนิ ท์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทีห่ า้
๑.๑.๗ นายดสุ ติ เขมะศกั ด์ชิ ัย เลขานุการคณะกรรมาธิการ
๑.๑.๘ นางสาววบิ ลู ยล์ กั ษณ์ ร่วมรกั ษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ
๑.๑.๙ ศาสตราจารย์พเิ ศษสม จาตศุ รีพทิ ักษ์ ประธานท่ีปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร
๑.๑.๑๐ นายจริ ชัย มลู ทองโรย่ ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร
๑.๑.๑๑ นายสุรชยั ดนยั ตงั้ ตระกูล ท่ปี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร
๑.๑.๑๒ นางประภาศรี สฉุ นั ทบตุ ร ทปี่ รกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร
๑.๑.๑๓ นายสมพล เกียรตไิ พบลู ย์ ทปี่ รึกษาคณะกรรมาธกิ าร
๑.๑.๑๔ นายกูรดสิ ถ์ จนั ทร์ศรีชวาลา กรรมาธิการ
๑.๑.๑๕ นางจิรดา สงฆป์ ระชา กรรมาธิการ
๑.๑.๑๖ นางเบญจรตั น์ จรยิ ธาราสทิ ธ์ิ กรรมาธิการ
๑.๑.๑๗ พลเอก สนธยา ศรเี จรญิ กรรมาธิการ
๑.๑.๑๘ นายสมศักด์ิ โชติรตั นะศริ ิ กรรมาธกิ าร
๑.๑.๑๙ นายสุวรรณ เลิศปญั ญาโรจน์ กรรมาธกิ าร
๑.๒ คณะอนุกรรมาธกิ ารดา้ นการเงิน
คณะกรรมาธิการได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการด้านการเงิน ตามข้อบังคับการประชุม
วุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๘๙ ซงึ่ คณะอนกุ รรมาธิการคณะนี้ ประกอบด้วย
๑.๒.๑ นายสุรชัย ดนัยตัง้ ตระกูล ประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร
๑.๒.๒ นายสมชาย หาญหิรญั รองประธานคณะอนกุ รรมาธิการ คนทหี่ น่ึง
(๓)
๑.๒.๓ นายกรู ดสิ ถ์ จนั ทร์ศรชี วาลา รองประธานคณะอนกุ รรมาธิการ คนทส่ี อง
๑.๒.๔ นายสวุ รรณ เลศิ ปญั ญาโรจน์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนท่สี าม
๑.๒.๕ นายลกั ษณ์ วจนานวชั รองประธานคณะอนกุ รรมาธิการ คนทสี่ ี่
๑.๒.๖ พันเอก ดร.เจยี รนัย วงศส์ อาด อนกุ รรมาธกิ ารและเลขานุการ
๑.๒.๗ พันเอก กติ ิเดช ศรฤทธ์ชิ งิ ชัย อนุกรรมาธิการ
๑.๒.๘ นายธวชั ชัย กิจรตั นะกุล อนุกรรมาธกิ าร
๑.๒.๙ นายเลอพงษ์ ชูประยรู อนุกรรมาธิการ
๑.๒.๑๐ นายนเิ วศ พันธเ์ จริญวรกลุ อนกุ รรมาธิการ
๑.๒.๑๑ นายวรมิตร ครฑุ โต อนกุ รรมาธกิ าร
๑.๒.๑๒ นางสาวสภทั ร์พร ธรรมาภรณพ์ ิลาศ อนุกรรมาธกิ าร
นอกจากน้ี คณะกรรมาธิการได้มีมติแต่งต้ังบุคคลเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ
ด้านการเงนิ ดังนี้
๑.๒.๑๓ นางประภาศรี สุฉนั ทบตุ ร
๑.๒.๑๔ นางเบญจรตั น์ จรยิ ธาราสิทธ์ิ
๑.๒.๑๕ นายอทุ ัย วฒุ ิ
๒. วธิ กี ารพจิ ารณาศกึ ษา
๒.๑ คณะอนุกรรมาธิการได้จัดให้มีการประชุม เพ่ือพิจารณาประเด็นแนวทางการส่งเสริม
และสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
จานวน ๖ ครง้ั ดังน้ี
๒.๑.๑ การประชุมคณะอนุกรรมาธิการ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ วันพธุ ที่ ๒ ตลุ าคม ๒๕๖๒
๒.๑.๒ การประชุมคณะอนกุ รรมาธกิ าร ครั้งที่ ๒/๒๕๖๓ วันพธุ ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๓
๒.๑.๓ การประชุมคณะอนกุ รรมาธิการ คร้งั ท่ี ๓/๒๕๖๓ วันพุธที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๓
๒.๑.๔ การประชุมคณะอนกุ รรมาธิการ คร้งั ท่ี ๔/๒๕๖๓ วันพธุ ท่ี ๒๙ มกราคม ๒๕๖๓
๒.๑.๕ การประชุมคณะอนกุ รรมาธิการ คร้งั ท่ี ๕/๒๕๖๓ วนั พุธท่ี ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓
๒.๑.๖ การประชุมคณะอนุกรรมาธิการ ครั้งที่ ๖/๒๕๖๓ วันศกุ ร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๓
๒.๒ เพื่อให้การพจิ ารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธกิ ารมีความสมบูรณ์และรับทราบถงึ ขอ้ มูล
ขอ้ เท็จจริงที่ถูกต้องอย่างครบถ้วนรอบด้าน คณะอนุกรรมาธิการจงึ ได้เชิญผูแ้ ทนจากหน่วยงานที่เก่ียวข้อง
เข้าร่วมประชุม เพอ่ื ให้ขอ้ มลู ข้อเทจ็ จริงเพอื่ ประกอบการพจิ ารณาศึกษา ดังนี้
๒.๒.๑ กระทรวงอุตสาหกรรม
กรมสง่ เสริมอตุ สาหกรรม
๑. นายเดชา จาตุธนานันท์ รองอธิบดกี รมส่งเสรมิ อุตสาหกรรม
๒. นางสุชาดา โพธิ์เจรญิ ผ้อู านวยการกองยทุ ธศาสตร์และแผนงาน
๓. นางสาวประเทอื ง พฤกษาพทิ ักษก์ ุล นกั วิชาการอตุ สาหกรรมชานาญการพเิ ศษ
๔. นายทนิ วัฒนแ์ กว้ สวี นกั วิชาการอุตสาหกรรมชานาญการพเิ ศษ
๕. นางสาวยุพา งานฉมงั นกั วิชาการอุตสาหกรรมปฏบิ ตั กิ าร
(๔)
๒.๒.๒ สานกั งานสง่ เสรมิ วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมแหง่ ประเทศไทย
๑. นายเวชยันต์ สนิทวงศ์ ณ อยธุ ยา ผู้อานวยการกลมุ่ งานบริหาร
๒. นายลักขณา ตัง้ จิตนบ ผอู้ านวยการฝา่ ยส่งเสรมิ ธุรกิจ SMEs
๓. นายมานติ จตจุ รยิ พงศ์ ผู้เช่ยี วชาญสานักสนับสนุนด้านการเงิน
๔. นางสาววนดิ า จรญู เพญ็ หวั หน้าส่วนทะเบยี นสมาชกิ
๕. นายสภุ าพ สุขเรอื ง นกั วิชาการ SMEsชานาญการ
๖. นายสมยศ พิกุลเงนิ นักวิเคราะห์นโยบาย SME ๖
๗. นายกรณฎั บัวสุวรรณ นกั วิเคราะห์นโยบาย SME ๔
๒.๒.๓ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ มแหง่ ประเทศไทย
๑. นางสาวนารถนารี รฐั ปัตย์ กรรมการผู้จดั การ
๒. นายพชิ ิต มิทราวงศ์ ผู้อานวยการอาวโุ ส รับผิดชอบสายงาน
การตลาดและนโยบายภาครัฐ
๓. นายณฐั วุฒิ คงทอง รองผ้อู านวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภณั ฑ์
๒.๒.๔ บรรษทั ประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
๑. นางดสุ ดิ า ทพั วงษ์ รองผู้จัดการทว่ั ไป
สายงานกลยุทธแ์ ละผลิตภณั ฑ์
๒. นายกติ ตพิ งษ์ บุรณศริ ิ ผู้อานวยการอาวโุ ส
ฝ่ายพฒั นาและบรหิ ารผลติ ภัณฑ์
๓. นางสาวศิรพิ ร เหล่าอารยะ ผอู้ านวยการฝ่ายกลยทุ ธ์องค์กร
๒.๒.๕ หอการคา้ จังหวดั เชยี งใหม่
- นายสราวฒุ ิ สินสาเนา นายกสมาคมส่งเสริมผ้ปู ระกอบการ
วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม
จงั หวัดเชียงใหม่
๒.๒.๖ ธนาคารแห่งประเทศไทย
๑. นายอานุภาพ ควู ินิชกลุ ผอู้ านวยการอาวุโส ฝา่ ยตรวจสอบ ๒
๒. นายทดั ลาภ เผ่าเหลอื งทอง ผอู้ านวยการ ฝ่ายตรวจสอบ ๒
๓. นางสาวชนานันท์ สภุ าดุล รองผูอ้ านวยการ ฝ่ายตลาดการเงนิ
๔. นายธนศทุ ธ แก้วเกตุสัมพันธ์ ผู้ช่วยผู้อานวยการ ฝ่ายตลาดการเงนิ
๒.๒.๗ สมาคมธนาคารไทย
๑. นายกอบศกั ด์ิ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย
๒. นายทฬั ห์ สิริโภคี ประธานชมรมเพอื่ พัฒนาธุรกจิ SMEs
๓. นางสาวธญั ญาพร ผดงุ การ เจา้ หนา้ ที่ด้านบรหิ าร
๒.๒.๘ สมาคมสถาบันการเงนิ ของรัฐ
๑. นางไลวรรณ ปองเสงย่ี ม เลขานกุ ารสมาคมสถาบันการเงนิ ของรัฐ
๒. นายพินจิ แดนมณี ผู้ชว่ ยผอู้ านวยการธนาคารออมสิน
บทสรปุ สำหรบั ผู้บริหำร
ควำมเป็นมำของกำรพจิ ำรณำศึกษำ
จากข้อมูลการปล่อยสินเช่ือให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) ของธนาคารพาณิชย์ จานวน ๑๕ แห่ง และ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) จานวน ๖ แห่ง
ตามการรายงานต่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า มี SMEs เพียง ๑.๒๙ ล้านราย ท่ีใช้สินเช่ือ
จากสถาบนั การเงนิ ซึ่งเม่อื เทยี บกบั ข้อมูลของสานกั งานสง่ เสริมวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
ในปี ๒๕๖๒ ที่มีจานวน SMEs อยู่ที่ ๓.๑ ล้านราย พบว่ามี SMEs ท่ียงั ไม่ได้รบั สนิ เช่ือจากสถาบันการเงิน
ในระบบอีกประมาณ ๑.๘ ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ ๕๘ นอกจากน้ี หากนับ SMEs ที่เป็นกลุ่ม
ตกสารวจตามท่ีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้วิจัยร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด
ย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.: SME Bank) ซ่ึงพบว่า มีจานวนรวมประมาณ ๕ ล้านรายแล้ว จะทาให้
สัดส่วนของ SMEs ท่ีเข้าไม่ถึงสินเช่ือสถาบันการเงินในระบบมีสูงถึง ร้อยละ ๗๔ รวมทั้งความสามารถ
ในการเขา้ ถงึ สินเช่ือในระบบยังคงกระจกุ ตวั ในพ้ืนทีก่ รงุ เทพมหานครและภาคกลางอกี ด้วย
รัฐบาลได้เข้าแทรกแซงกลไกการตลาดเงินทุนสาหรับ SMEs อย่างต่อเนื่องท้ังการจัดต้ัง
สภาบันการเงินเฉพาะกิจ บรรษัทค้าประกันสนิ เชื่อ จัดตั้งกองทุนพิเศษดา้ นสินเชื่อ/รว่ มลงทุนด้วยเงอื่ นไข
ผ่อนปรน การให้สินเชื่อ Soft Loan แบบ Two Step Loan ผ่านสถาบันการเงิน แต่ก็ยังไม่สามารถ
แก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งทุนของ SMEs ได้ โดย SMEs ส่วนใหญ่ระบุว่า มีปัญหาด้านการเงนิ ซึ่งต้องการ
ใหภ้ าครัฐช่วยด้านการเงนิ มากทสี่ ุด รวมท้งั มีการร้องเรยี น และกล่าวถึงปัญหาดงั กล่าวไว้ใน Social Media
ต่าง ๆ อย่างตอ่ เน่ือง
ปญั หาเชงิ โครงสรา้ งทีท่ าให้ SMEs เขา้ ไมถ่ งึ แหลง่ ทนุ สามารถจาแนกเปน็ ๓ ประเดน็ ดังนี้
๑) ปญั หาข้อจากัดด้านนโยบายและมาตรการด้านการเงินของรัฐ
๒) ปญั หาข้อจากัดของผปู้ ระกอบการ SMEs ท่ีสง่ ผลต่อการเข้าถงึ แหลง่ เงินทุน
๓) ปัญหาด้านโครงสร้างการส่งเสริมและสนับสนุน SMEsของประเทศไทย
อย่างไรก็ดี ปัญหาท้ัง ๓ ประเด็นดังกล่าว มีความเช่ือมโยงกันและกลายเป็นวงจรปัญหา
การเข้าถึงแหล่งทุน SMEs ที่ต้องแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน โดยจุดเริ่มต้นของวงจรมาจากสภาพของ SMEs
ท่ีอ่อนแอและไม่เข้าสู่ระบบการบัญชีท่ีเป็นมาตรฐาน ทาให้สถาบันการเงนิ ขาดข้อมูลวิเคราะห์ความเส่ียง
ด้านสินเชื่อท่ีน่าเช่ือถือ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ส่งผลให้รัฐบาลต้องเข้าไปแทรกแซงตลาดด้วยการจัดตั้งสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และมาตรการทาง
การเงนิ ต่าง ๆ เพื่อให้โอกาส SMEs เข้าถึงแหล่งทุนมากขึน้ โดยมุ่งเน้นด้านอัตราดอกเบ้ยี ตา่ หรือผ่อนปรน
หลักประกันเป็นหลัก แต่ไม่สามารถผ่อนปรนด้าน Credit Analysis ที่ต้องยึดแนวทางปฏิบัติตามเกณฑ์
ของ ธปท. ข้างต้นได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่อ่อนแอและไม่เข้าระบบ มีปัญหาติดขัดหรอื สะดุด
ด้านการชาระหนี้จนถึงเข้าไม่ถึงแหล่งทุนเช่นเดิม ในขณะท่ีลูกค้าช้ันดีที่มีความสามารถกลับได้เงินทุน
จากสถาบนั การเงินตา่ ง ๆ เกือบทกุ คร้ังที่มเี งื่อนไขผอ่ นปรน
(ข)
ด้านความพยายามท่ีจะทาให้ SMEs เข้าสู่ระบบ และมีขีดความสามารถสูงข้ึนเพื่อให้
อยู่ในเกณฑ์การบรหิ ารความเส่ยี งของสถาบนั การเงิน ยังไมป่ ระสบความสาเร็จถึงแม้มีการจัดตง้ั สานกั งาน
ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และมีการจัดทาแผนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อมของประเทศทุก ๕ ปี รวมทั้งการจัดทาแผนบูรณาการส่งเสริม SMEs ทุก ๆ ปี ตลอดจน
มีหน่วยงานของรัฐท่ีได้รับสนับสนุนงบประมาณ เพื่อพัฒนา SMEs อยู่ถึง ๒๕ หน่วยงานก็ตาม
หากแต่ในทางปฏบิ ัติยังไม่เกิดการบูรณาความรว่ มมอื ในภาพรวม หากแตเ่ ป็นการตา่ งคนต่างทาตามภารกิจ
หลักของหน่วยงานตัวเอง ส่วนงบประมาณด้านการพัฒนาก็พบว่า ยังมีน้อยมากเมื่อเทียบกับ
จานวนผูป้ ระกอบการ SMEs ทีต่ อ้ งการพัฒนาเพ่อื ใหเ้ ขา้ ระบบและมีคณุ สมบัตทิ ่สี ามารถเข้าถึงแหล่งทนุ ได้
ดังน้ัน การแก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งทุนของผู้ประกอบการ SMEs จึงไม่ใช่การมุ่งเน้น
การออกมาตรการและเม็ดเงินที่ให้แก่ SMEs เท่าน้ัน แต่ต้องแก้ไขท่ีระบบการพัฒนาและมีมาตรการ
เพอื่ สง่ เสรมิ ความสามารถของ SMEs ซงึ่ เป็นมาตรการทม่ี ใิ ช่การเงนิ ควบคู่กนั ไปกบั มาตรการทางการเงิน
กรอบแนวคดิ ของกำรพิจำรณำศกึ ษำ
คณะอนุกรรมกรรมาธิการด้านการเงิน ได้ทาการศึกษาโครงสร้างของการพัฒนา SMEs
ทั้งระบบ พร้อมท้ังจัดทาข้อเสนอแนะการแก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งทุน โดยมีกรอบแนวคิดแนวคิด
ของการมีหน่วยงานหลักท่ีทาหน้าที่กากับดูแลดูภาพรวมในเชิงนโยบายท้ังระบบและเช่ือมโยงกิจกรรม
ท้ังหมดผ่านหน่วยปฏิบัติ ตลอดจนเป็นผู้จัดสรรงบประมาณ และกิจกรรมให้หน่วยงานปฏิบัติ
ท้ังในส่วนกลางและภูมิภาค รวมท้ังกาหนดให้มีหน่วยงานปฏิบัติประจาภูมิภาค ที่มีบุคลากร
ที่มีความสามารถและความรู้ต่อการให้คาปรึกษาแก่ SMEs ในพื้นท่ี และเช่ือมโยงการดาเนินการ
เข้ากับสถาบนั การเงินในพืน้ ท่ใี นกรณีที่ SMEs ต้องการด้านเงนิ ทุน
ท้ังน้ี สสว. จะเป็นผู้บริหารภาพรวมทั้งหมด ท้ังด้านการพัฒนาความรู้และทางการเงิน
แต่ไม่ใช่หน่วยงานปฏิบัติ โดยด้านการเงินจะดาเนินการผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและทาการ
สนับสนุนการเชื่อมความต้องการของ SME ด้านเงินทุนเข้ากับแหล่งทุนอื่น ๆ เช่น Venture capital
หรือการร่วมลงทุนกับกองทนุ ต่างๆ ของเอกชน ส่วนมาตรการการพัฒนาท่ีไม่ใชท่ างการเงินให้ดาเนินการ
ผ่านหน่วยปฏิบัติต่าง ๆ ท่ีมีภารกิจตามหน้าที่ โดยจะต้องดาเนินงานในกิจกรรมที่อยู่ในแผนภาพรวม
ของ สสว. โดย สสว. จะมีหน้าที่ติดตาม ประเมินผล การดาเนินงานของกิจกรรมของหน่วยต่าง ๆ
ผ่านสานักงานในภูมิภาคของตนเอง ซ่ึงกรอบแนวคิดของข้อเสนอดังกล่าวสามารถสรุปได้ตามแผนภาพ
และตารางดังตอ่ ไปนี้
(ค)
แผนภำพกำรบรู ณำกำรสง่ เสรมิ พัฒนำ SMEs แบบ SMEs Centric
ตำรำงแนวทำงกำรดำเนนิ กำรตำมประเดน็ ยทุ ธศำสตรแ์ ละหนว่ ยงำนรบั ผิดชอบ
ประเด็นยทุ ธศำสตร์ แนวทำงดำเนินกำร หนว่ ยงำนรบั ผิดชอบ
ปรับ Model กำรส่งเสรมิ พัฒนำ SMEs ใหม้ ีเจ้ำภำพหลกั ท่ีพจิ ำรณำภำพรวมและมหี น้ำท่ี
ในกำรจัดสรรงบประมำณและตดิ ตำมประเมินผล
ปรับบทบาท สสว. เป็น Policy Body ยกเลิกการเป็นห น่วยงานป ฏิบัติงาน สสว.
และผู้จัดสรรงบประมาณส่งเสริมพัฒนา ส่งเสริม SMEs ของ สสว. ที่ใช้งบประมาณ รฐั สภา
SMEs ท่ี ย่ิ ง ใ ห ญ่ แ ท้ จ ริ ง แ ล ะ มี จัดจ้างที่ปรึกษาให้บริการ SMEs โดยตรง สานกั งบประมาณ
ประสิทธภิ าพ ให้เป็นหน่วยงานด้านนโยบาย วางแผน
ภาพรวม ดูงบ ประมาณ ด้าน SME และ
ติดตามประเมนิ ผล
จดั ทาแผนบูรณาการส่งเสรมิ SMEs ใหต้ รง
ความต้องการของ SMEs โดย สสว. เป็น
ผู้ดู แ ล ง บ ป ระม าณ แ ผ นบู รณ าก ารส่ง เสริ ม
SMEs ผ่านการจัดทาแผนส่งเสริม SMEs
ทั้งในระดับหน่วยงานในกระทรวงต่าง ๆ
และรายกล่มุ จังหวดั /จงั หวัด/รายสาขา
จัดตั้งคณะกรรมการจัดทาแผนส่งเสริม
SMEs รายจังหวัด จัดต้ังสานักงาน สสว.
ระดับ ภ าค เพ่ื อป ระส าน งาน ติดตาม
(ง)
ประเดน็ ยุทธศำสตร์ แนวทำงดำเนินกำร หน่วยงำนรับผดิ ชอบ
และเป็นแกนประสานในการพัฒนา SMEs
ในระดับจงั หวดั ของหนว่ ยปฏบิ ัติต่าง ๆ
ปรับกระบวนการวางแผนและจัดสรร
งบประมาณบูรณาการส่งเสริม SMEs ท่ีเน้น
ผลลัพธม์ ากกวา่ กิจกรรม และประสานหลาย
หน่วยงานใน ๑ โครงการ มากกว่าการ
รว บ รว ม โ ค รง ก า ร แ ต่ ล ะ ห น่ ว ย ง า น ม า ไ ว้
ในแผน นาบริการทุกโครงการมาให้บริการ
บ น Platform G2B (Government to Business)
เพ่ือความโปร่งใส และยุติธรรมในการใช้
บ ริก าร เป ลี่ ยน จากภ าค รัฐ เป็ น ผู้ ใช h
งบประมาณและจดั จ้างบริการส่งเสริม SMEs
มาจัดกิจกรรม และเชิญชวน SMEs เข้าร่วม
กิจกรรม เป็นการมอบงบประมาณโดยตรง
ให้ SMEs ผ่านระบบคูปอง เพื่ออุดหนุน
ค่าใช้จ่ายด้านบริการส่งเสริม SMEs จาก
ท่ีปรึกษาที่ข้ึนทะเบียนไว้แล้ว และ SMEs
เป็นผู้เลือก ควบคุมการจัดจ้างและการเบิก
จ่ายเงินเอง
เพิ่มหน่วยงาน และความเชี่ยวชาญ แยกหน่วยงานปฏิบัติงานส่งเสริมพัฒนา กระทรวงอุตสาหกรรม
ของผู้ให้บริการส่งเสริมพัฒนา SMEs SMEs ออกจากหน่วยงานแจกงบประมาณ กระทรวงเกษตรฯ
ในแต่ละพ้ืนท่ี หรอื คูปอง เพื่อให้มีหน่วยงานปฏิบัติมากข้ึน กระทรวงมหาดไทย
และมีการแข่งขันการให้บริการเพื่อคุณภาพ กระทรวงพาณชิ ย์
บริการทีด่ ีขึ้น สสว.
พัฒ นาระบ บงานจัดจ้างและบริห าร สภาอุตสาหกรรม
ทป่ี รึกษารองรับระบบการแจกคูปองเชือ่ มโยง สภาหอการค้าไทย
กับระบบงบประมาณแผนบูรณาการส่งเสริม
SMEs
จัดตั้งหน่วยงานปฏิบั ติงานให้ บริการ
ปรึกษาแนะนาแก่ SMEs กระจายไป ใน
จังหวัดต่าง ๆ เพ่ือแข่งขันกันรับคูปองและ
ให้บริการที่มีคุณภาพดีขึ้น โดยมีการบริหาร
แบบเอกชน และได้รับการอุดหนุนบางส่วน
จากรัฐและชุมชนในแตล่ ะพ้นื ท่ี
เช่ือมโยงการดาเนินงานของหน่วยงาน
ที่ให้บริการส่งเสริม SME เข้าด้วยกันเป็น
เครือข่ายภายใต้การประสานงานของ สสว.
ในพ้ืนท่ี อาทิ ศูนย์สง่ เสรมิ อตุ สาหกรรม และ
(จ)
ประเด็นยุทธศำสตร์ แนวทำงดำเนินกำร หน่วยงำนรับผดิ ชอบ
Industrial Transformation Center(ICT)
ช่วยด้านเทคนิค นวัตกรรม Pilot Plant
หรือศนู ย์สนับสนุนท่ีปรึกษา SMEs แห่งชาติ
ช่ ว ย จั ด ห า ผู้ เช่ี ย ว ช า ญ เฉ พ า ะ ด้ า น
สถาบันการศกึ ษา ฯลฯ
เชื่อมระบบมำตรกำรและบริกำรทำงกำรเงินเข้ำกบั ระบบสง่ เสรมิ พัฒนำ SMEs อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ
กาหนดประเภทมาตรการทางการเงิน มำตรกำรกำรเงินเชิงรุกเพื่อยกระดับ กระทรวงการคลงั
ท่ีชัดเจน สาหรับแต่ละกลุ่มวิสาหกิจ ขีดควำมสำมำรถกำรแข่งขัน : ธนาคารเฉพาะกจิ ของรฐั
ที่มีค วามสามารถ ต่างกัน เพื่อให้ มี จัดต้ังกองทุนพิเศษ หรือ Soft Loan แบบ ธนาคารพาณิชย์
เงื่อนไข กระบวนการอนุมัติ และการ Two Step Loan ให้สถาบันการเงินท่ัวไป หนว่ ยสง่ เสรมิ ในพื้นท่ี
ชดเชยความเสียหายทเ่ี หมาะสม และเฉพาะกิจดาเนินการด้วยอัตราดอกเบี้ย ของทุกกระทรวง
ผ่อนปรน
ม ำต ร ก ำร ก ำร เงิน เพื่ อ เปิ ด โอ ก ำ ส
ให้ SMEs ที่มีศักยภำพเข้ำถึงเงินทุนเพื่อ
ปรับปรุงกิจกำร :
คล้ายกับมาตรการเชิงรุก แต่ดาเนินการ
ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจท่ีมีการผ่อน
ปรนเงือ่ นไขการอยู่ในขา่ ยใหบ้ รกิ าร และการ
ใช้ ข้ อมู ล เชิ ง คุณ ภ าพ เชิง ป ร ะจั กษ์ เพ่ิ มเติ ม
จากเอกสารในการวิเคราะห์สินเชอ่ื
มำตรกำรทำงกำรเงินเพ่ือช่วยเหลือ
SMEs ทมี่ ีปัญหำ :
ดาเนินการผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
หรือสนับสนนุ ให้สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหน้ี
ดู แ ล เอ ง โด ย ภ า ค รัฐ มี ก า รส นั บ ส นุ น
การดาเนินงานบางส่วน และหากเป็นกลุ่ม
ที่มีเจ้าหนี้หลายรายอาจจัดตั้งหรือใช้ AMC
ข อ ง รั ฐ ท่ี มี อ ยู่ แ ล้ ว ซื้ อ ห น้ี ม า รว ม ไ ว้ ท่ี เดี ย ว
และดาเนนิ การพลกิ ฟื้นกจิ การ
มำตรกำรทำงกำรเงนิ ชว่ งวิกฤต :
ต้องจัดตั้งกองทุนพิเศษ หรือ Soft Loan
แบบ Two Step Loan ให้เจ้าหน้ีเดิม และ
ส ถ าบั น ก า รเงิน ทุ ก ป ระ เภ ท เข้ า ร่ว ม
ดาเนินการ โดยมหี ลักเกณฑ์ทีผ่ ่อนปรน และ
ชดเชยความเสียหายให้กับสถาบันการเงินที่
เขา้ รว่ มโครงการ
(ฉ)
ประเดน็ ยทุ ธศำสตร์ แนวทำงดำเนินกำร หนว่ ยงำนรับผดิ ชอบ
มำตรกำรทำงกำรเงนิ สำหรบั Startup :
เป ลี่ ย น บ ท บ า ท จ า ก รั ฐ ร่ ว ม ล ง ทุ น โด ย ต ร ง
ม าเป็ น ก ารตั ด ตั้ ง VC Matching Fund
ร่วมลงทุนใน Startup ท่ีมี VCC ตัดสินใจ
ร่วมลงทุนไปแล้วในอัตรา ๑:๑ หรือตามที่
กาหนด และ Exit ในการระดมทุนคร้ังต่อไป
รวมทั้งการเพ่ิมปริมาณ Grant ท่ีให้ในช่วง
Seed Stage ต ล อ ด จ น ส นั บ ส นุ น ใ ห้ มี
Thai Angle Platform เพื่ อ ห า Strategic
Partner ให้กบั Startup ไทย
โดยท้ังนี้เงื่อนไขในการเข้าถึงสินเชื่อสาหรับ
ผู้ประกอบการแต่ละรายน้ันควรได้รับการ
สนับสนุนด้านคาปรึกษาด้านธุรกิจและอื่น ๆ
ท่ีจาเป็นกับหน่วยงานส่งเสริมเพ่ือให้ SME
แ ต่ ล ะ ร า ย มี ศั ก ย ภ า พ แ ล ะ ค ว า ม ส า ม า ร ถ
รวมท้ังความพร้อมที่จะเข้าสู่ระบบสินเช่ือ
ของสถาบันการเงินได้ตามเงื่อนไขของแต่ละ
แหลง่ ประเภทเงินทุน
การประสานงานกับกองทุนหรือระบบ พัฒนาระบบธนาคารหรือสถาบันการเงิน สสว.
ก า ร เงิ น ท่ี มี อ ยู่ ใ น ชุ ม ช น ใ ห้ ส า ม า ร ถ ชมุ ชนให้มปี ระสทิ ธภิ าพในการเป็นแหลง่ ทุน กระทรวงการคลงั
ตอบสนองความต้องการของวิสาหกิจ สาหรับวสิ าหกิจในพื้นที่ชมุ ชนน้ัน และสร้าง กองทุนหมู่บ้าน
ใ น ชุ ม ช น ไ ด้ ก ว้ า ง ข ว า ง แ ล ะ มี เงื่ อ น ไ ข ก าร ดู แ ล ผ่ า น ร ะ บ บ ก า ร ดู แ ล ท า ง
ประสิทธภิ าพมากขนึ้ สังคมระหว่างสมาชกิ ดว้ ยกนั เอง
ขยายการจัดตั้ งสถาบั นห รือธนาคาร
ประชาชนในระดับ พ้ืนที่ท่ีสมาชิกดูแล
ตรวจสอบ กากับการดูแลกันเอง โดยรัฐให้
การสนั บ ส นุนด้านค วามรู้แล ะเงินทุ น
บางส่วน
เพิ่มขีดความสามารถดาเนินการสถาบัน จัดทาระบบบริหารสินเช่ือ Policy Loan ธนาคารแหง่ ประเทศไทย
การเงินเฉพาะกิจเพื่อให้สามารถดูแล กลาง เพ่ิมความเป็น Digital Banking ให้
SMEs ด้านการเงินได้มีประสิทธิภาพ ส ถ า บั น ก า ร เงิ น เฉ พ า ะ กิ จ โ ด ย มี
มากข้ึน ธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารออมสินเป็น
แกนพัฒนาเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านการพัฒนา
โดยรวมของสถาบนั การเงนิ เฉพาะกจิ
ปรับเกณฑ์การกากับดูแลสถาบันการเงิน
เฉพาะกิจใหส้ ามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่า
ธนาคารพาณิชย์
(ช)
ประเดน็ ยทุ ธศำสตร์ แนวทำงดำเนินกำร หนว่ ยงำนรบั ผิดชอบ
เพม่ิ ทุนหรือจัดตั้งกองทนุ ให้ SFIs ทค่ี าดว่า
จะมีปญั หา BIS Ratio เช่น SME Bank
เพิ่มบทบาทธนาคารพาณิชย์ในการ กาหนดสดั สว่ นสินเชื่อใหมท่ เี่ ปน็ SMEs ต่อ ธนาคารแหง่ ประเทศไทย
สนับสนุนเงินทุนแก่ SMEs และกระจาย สนิ เช่อื ใหม่ทง้ั หมดของธนาคารพาณิชย์เปน็
สินเชอ่ื สู่ SMEs ในระดบั ภูมิภาค รายปี
กาหนดให้ธนาคารพาณิชย์มีสินเช่ือใหม่
ที่เป็น SME ในภูมิภาคและพ้ืนที่ที่ธนาคาร
มีสาขาตง้ั อยู่
สนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบัน
การเงินท่ีบริการสินเชื่อให้มีหน่วยสนับสนุน
และส่งเสริม SMEs ให้มีศักยภาพและความ
พร้อมในทุกด้านในการเข้าสู่ระบบสินเชื่อ
และธรุ กจิ โดยอาจมีการให้แรงจูงใจด้านการ
หักค่าใช้จา่ ยเพม่ิ ข้นึ ในการคานวณภาษี
บ รรจุ ม า ต รก า รท า ง ก า ร เงิน แ ล ะ กาหนดให้สถาบันการเงินเป็นหน่วยร่วม สสว.
งบประมาณที่เกี่ยวข้องไว้ในแผนบูรณา ดาเนินการในแผนบูรณาการส่งเสริม SMEs สานักงบประมาณ
การส่งเสรมิ พฒั นา SMEs ประจาปี และเป็นหน่วยงานรับ งบประมาณ ผ่าน
กระทรวงการคลัง เพ่ือรับงบประมาณด้าน
คูปองส่งเสริม SMEs การขอชดเชยดอกเบี้ย
และความเสยี หาย การเพมิ่ ทนุ เป็นตน้
ยกระดบั SMEs เขำ้ สมู่ ำตรฐำนกำรวิเครำะหส์ ินเชอ่ื ของสถำบนั กำรเงินเอกชน
สนับสนุนให้ SMEs เข้าสู่ระบบของรัฐ จัดกิจกรรม และรณ รงค์ให้ SMEs มี กระทรวงการคลัง
เพอื่ มีขอ้ มูลในการสนบั สนุนและส่งเสริม Financial / Digital Literacy ผ่ า น ก า ร กระทรวง DE
อย่างมีระบบและต่อเนื่อง อบรม ให้ความรู้ด้วยความร่วมมือกับสถาบัน กรมสรรพากร
การเงินต่าง ๆ
จัดต้ังศูนย์ดิจิทัลชุมชมเพื่อให้ SMEs ใน
พื้นท่ีสามารถเชื่อมโยงระบบความช่วยเหลือ
ของ สสว. และหนว่ ยงานอืน่ ๆ
SMEs ที่จะเข้าสู่มาตรการการช่วยเหลือ
ของรัฐต้องเข้าสู่ระบบโดยการลงทะเบียน
อย่างใดอย่างหน่ึง หรือมีช่วงเวลาที่ให้มีการ
ปรบั ตวั เพื่อเข้าระบบ
จู งใจ ให้ SMEs เข้ า ระบ บ ด้ วย ก า ร
ย ก ร ะ ดั บ ร า ย ไ ด้ ขั้ น ต่ า ที่ ต้ อ ง เสี ย ภ าษี ข อ ง
SMEs ท่ีป ระสงค์จะเข้าระบ บ ให้สู งขึ้น
อุ ด ห นุ น ค่ า ใ ช้ จ่ า ย ใ น ก า ร จั ด ท า บั ญ ชี ข อ ง
ประเดน็ ยุทธศำสตร์ (ซ) หน่วยงำนรับผิดชอบ
แนวทำงดำเนินกำร
SMEs แ ล ะส าม ารถ รับ รอง งบ ก ารเงิน
ข อ ง ต น เอ ง ได้ ใ น ร าย ย่ อ ย ต ล อ ด จ น
มีมาตรการจูงใจเพ่ือให้มีการออกและขอ
ใบกากับภาษีในการทาธุรกรรมทางการเงิน
ของผู้ ค้าแล ะลู กค้า ท้ังนี้เพื่ อให้ SMEs
มีเอกส ารป ระกอ บ ก ารท างบ การเงิน
ที่นา่ เช่ือถอื
คำนำ
ด้วยคราวประชุมคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒
เม่ือวันพุธที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๒ ท่ีประชุมได้มีมติต้ังคณะอนุกรรมาธิการด้านการเงิน โดยมีหน้าท่ีศึกษา
ติดตาม และผลักดันนโยบายการเงนิ โครงการ แผนงาน หรอื มาตรการด้านการเงินท่รี ัฐบาลไดจ้ ดั ทาขึ้น เพ่ือ
กระตุ้นหรือขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ การสนับสนุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม (SMEs) และการสนับสนุนส่งเสริมธุรกิจประกอบการท้องถ่ินและชุมชน การพิจารณา
รวบรวมผลการดาเนินงานและจัดทารายงานสรปุ ผลการดาเนนิ งานเพือ่ เสนอตอ่ คณะกรรมาธกิ าร
คณะอนุกรรมาธิการด้านการเงินพิจารณาว่า การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของของผู้ประกอบการ
วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เปน็ ท้งั ปจั จัยและอปุ สรรคทสี่ าคญั ของการดาเนินธุรกจิ นับตั้งแต่
เริ่มต้นไปจนถึงการขยายกิจการ เน่ืองจากลักษณ ะทั่วไปของธุรกิจ SMEs มักจะถูกประเมินว่า
มีความเส่ียงสูงทางด้านการเงิน รวมท้ังยังมีปัจจัยภายในและภายนอกอ่ืน ๆ ท่ีอาจส่งผลกระทบต่อ
ความอยู่รอดหรือความเจริญเติบโตของธุรกิจ ซึ่งการสนับสนุนท่ีสาคัญประการหน่ึง คือ การสร้างโอกาส
เข้าถึงบริการทางการเงินให้แก่ผ้ปู ระกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ไดแ้ ก่ การจัดหา
แหล่งเงินทุนและการพัฒนาช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนรูปแบบใหม่ ๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์
ทางการเงินและการบริหารความเสี่ยง การพัฒนาระบบประเมินมูลค่ าทรัพย์สินในรูปแบบต่าง ๆ
เพ่ือใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ การพัฒนาระบบการประเมินความน่าเชื่อถือทางเครดิตและระบบ
การรู้จักลูกค้าที่สะดวกมากขึ้น การสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินด้วยต้นทุน
ท่ีเหมาะสมโดย นาเท คโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วย เพิ่มคว ามสะดวกในการเข้าถึงบริการท างการเงิน
รวมทั้งการพัฒนาสภาพแวดลอ้ มและกฎหมายทีเ่ อ้ือตอ่ การเขา้ ถึงแหล่งเงินทุน
ดว้ ยเหตุน้ี คณะอนกุ รรมาธิการดา้ นการเงิน จึงไดก้ าหนดประเด็นการจัดทารายงานการพิจารณา
ศึกษา เร่ือง “แนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)” เพื่อเสนอต่อคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง
วุฒิสภา ซึง่ จะมขี ้อเสนอแนะเพ่ือนาไปสู่การแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหลง่ เงินทุนของผูป้ ระกอบการวสิ าหกิจ
ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมไปถึงการปรบั ปรุงแนวทางการดาเนินการของหน่วยงานท่ีเกี่ยวกับ
การส่งเสริมสนับสนุน SMEsให้มีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม อันจะนามาซ่ึงการเพ่ิมขีดความสามารถ
ในการแขง่ ขันของผปู้ ระกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้มีการเติบโตอย่างเข้มแขง็ ยัง่ ยืน
และเป็นกลไกหลกั ในการขับเคล่ือนและเสริมสรา้ งความเจรญิ เตบิ โตในระบบเศรษฐกจิ ของประเทศตอ่ ไป
คณะอนุกรรมาธกิ ารดา้ นการเงนิ
คณะกรรมาธกิ ารการเศรษฐกจิ การเงนิ และการคลัง
วุฒสิ ภา
สารบัญ
หน้า
รายงานการพจิ ารณาศกึ ษา (๑-๕)
บทสรปุ ผู้บริหาร (ก-ซ)
คานา (ฌ)
บทท่ี ๑ บทนา ๑
๑.๑ ความเปน็ มาของการพจิ ารณาศกึ ษา ๑
๑.๒ วัตถุประสงค์ของการศกึ ษา ๒
๑.๓ ขอบเขตของการศกึ ษา ๒
๑.๔ วิธกี ารศกึ ษา ๓
๑.๕ ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะไดร้ บั ๓
บทที่ ๒ การพิจารณาศกึ ษาของคณะอนกุ รรมาธกิ าร ๕
๒.๑ นยิ ามของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ๕
๒.๒ ความสาคัญของวสิ าหกจิ ขนาดกลางขนาดย่อมในระบบเศรษฐกจิ ไทย ๗
๒.๓ การส่งเสรมิ พฒั นา SMEs ของประเทศไทย ๑๖
๒.๔ สถานะการเข้าถงึ แหลง่ ทุนของ SMEs และมาตรการสนับสนุนจากภาครฐั ๒๖
๒.๕ แนวทางการส่งเสรมิ และพัฒนา SMEs ของต่างประเทศ ๖๒
บทท่ี ๓ การวเิ คราะห์สภาพปัญหาในการเข้าถงึ แหล่งเงนิ ทนุ ของผปู้ ระกอบการ ๗๗
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
๓.๑ ปัญหาขอ้ จากัดด้านนโยบายและมาตรการดา้ นการเงนิ ของรัฐ ๗๗
๓.๒ ปัญหาข้อจากดั ของผู้ประกอบการ SMEsทส่ี ง่ ผลต่อการเขา้ ถงึ แหล่งเงินทุน ๗๙
๓.๓ ปัญหาด้านโครงสรา้ งการสง่ เสริมและสนับสนุน SMEs ของประเทศไทย ๘๐
บทท่ี ๔ ขอ้ สรุปและขอ้ เสนอแนะ ๘๓
๔.๑ ขอ้ สรปุ ๘๓
๔.๒ ข้อเสนอแนะ ๘๓
บรรณานุกรม ๙๕
สารบัญตาราง
ตารางท่ี หนา้
ตารางท่ี ๒-๑ ลกั ษณะกลมุ่ วสิ าหกจิ ของประเทศไทยตามกฎกระทรวงกาหนดจานวนการ ๕
จ้างงานและมลู ค่าทรพั ย์สินถาวรของวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม
พ.ศ. ๒๕๔๕
ตารางท่ี ๒-๒ ลักษณะกลมุ่ วิสาหกิจของประเทศไทยตามกฎกระทรวงกาหนดลกั ษณะของ ๖
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. ๒๕๖๒
ตารางท่ี ๒-๓ สัดส่วนของ GDP ในรายสาขา ในปี ๒๕๖๑ (ล้านบาท) ๗
ตารางที่ ๒-๔ สดั สว่ นของ GDP จาแนกตามประเภทกิจการในปี ๒๕๖๑ (ล้านบาท) ๘
ตารางที่ ๒-๕ กลมุ่ ประเภทวสิ าหกิจขนาดกลางขนาดยอ่ ม ปี ๒๕๖๑ ๑๑
ตารางท่ี ๒-๖ สรปุ โครงสร้างวสิ าหกิจขนาดกลางขนาดย่อม ปี ๒๕๖๑ ๑๓
ตารางท่ี ๒-๗ สรปุ จานวนผู้ประกอบการ SMEs ท่ไี ม่มีการจดนบั ๑๖
ตารางที่ ๒-๘ เปรยี บเทยี บ KPIs แผนส่งเสริม SMEs ฉบับท่ี ๑ - ๔ ๑๘
ตารางที่ ๒-๙ สรุปมาตรการทางการเงนิ ในแผนส่งเสริม SMEs ฉบบั ที่ ๑ - ๔ ๑๙
ตารางที่ ๒-๑๐ สรุปมาตรการทางภาษใี นแผนส่งเสรมิ SMEs ฉบับที่ ๑ - ๔ ๑๙
ตารางที่ ๒-๑๑ สาเหตุท่ี SMEs เข้าไมถ่ ึงแหลง่ ทนุ และความชว่ ยเหลือทอ่ี ยากได้จากภาครัฐ ๓๒
ตารางที่ ๒-๑๒ มาตรการสนบั สนุนทางการเงนิ เพอ่ื SMEs ปี ๒๕๖๓ แบง่ ตามทมี่ าของเงนิ ๓๒
หน่วยงาน และกลุ่มเป้าหมาย
ตารางที่ ๒-๑๓ มาตรการและโครงการของรัฐในการสนับสนุนการเข้าถงึ แหล่งเงนิ ทนุ ๓๖
ของ SMEs ระหว่างปี ๒๕๕๘ – ปัจจุบนั (พฤษภาคม ๒๕๖๓)
ตารางที่ ๒-๑๔ หน่วยงานสนบั สนนุ SMEs ของประเทศไทย ๕๗
ตารางท่ี ๒-๑๕ หนว่ ยงานสาคัญของรัฐท่สี ง่ เสรมิ SMEs ในญ่ีปนุ่ ๗๐
สารบัญภาพ หน้า
๙
ภาพที่ ๑๑
ภาพท่ี ๒-๑ การค้าตา่ งประเทศของวสิ าหกิจขนาดกลางขนาดยอ่ ม ในปี ๒๕๖๑ ๑๒
ภาพท่ี ๒-๒ ประเภทการจดั ต้ังของวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม ในปี ๒๕๖๑ ๑๔
ภาพที่ ๒-๓ กลมุ่ ธุรกจิ ของวสิ าหกิจขนาดกลางขนาดยอ่ ม ในปี ๒๕๖๑ ๑๔
ภาพท่ี ๒-๔ จานวน SMEs ตามนยิ ามใหม่ ในปี ๒๕๖๒ ๑๕
ภาพที่ ๒-๕ จานวนการจา้ งงานของ SMEs ตามนิยามใหม่ ในปี ๒๕๖๒ ๑๕
ภาพท่ี ๒-๖ ข้อมลู งบการเงินของ SMEs ๑๐ ปยี อ้ นหลังตามนิยามใหม่
ภาพท่ี ๒-๗ รายได้เฉล่ยี ของวสิ าหกิจขนาดย่อม(บุคคลธรรมดา) ในแตล่ ะหมวดธุรกจิ ๑๖
๑๗
ตามนิยามใหม่ ๑๘
ภาพท่ี ๒-๘ เปรยี บเทยี บผลการดาเนนิ งานของ SMEs ตามนิยามใหม่ ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑ ๒๑
ภาพที่ ๒-๙ ตัวอยา่ งการจัดทาแผนสง่ เสรมิ SMEs ทสี่ อดคล้องกับแผนของชาตดิ ้าน Startup ๒๑
ภาพท่ี ๒-๑๐ Timeline การดาเนนิ นโยบายสนบั สนุน SMEs ๒๔
ภาพที่ ๒-๑๑ กระบวนบรหิ ารแผนส่งเสรมิ SMEs ๒๕
ภาพที่ ๒-๑๒ กระบวนการสง่ เสริม SMEs แบ่งตามกลมุ่ เป้าหมาย ๒๕
ภาพท่ี ๒-๑๓ ตวั อยา่ งสรุปแผนบรู ณาการสง่ เสรมิ SMEs ปี ๒๕๖๒
ภาพที่ ๒-๑๔ บทบาทของหนว่ ยงานภายใต้แผนบรู ณาการสง่ เสรมิ SMEs ปี ๒๕๖๒ ๒๖
ภาพที่ ๒-๑๕ ผลการประเมินโครงการภายใตแ้ ผนบูรณาการ SMEs ปี ๒๕๖๑ ๒๗
๒๘
และ ๒๕๖๒ (On Going) ๒๘
ภาพท่ี ๒-๑๖ เปรยี บเทียบสดั ส่วนการเข้าถงึ สินเชื่อของ SMEs ในอาเซียน ๕ ประเทศ ๒๙
ภาพที่ ๒-๑๗ ความสมั พนั ธ์ของการกระจายสนิ เช่อื และการกระจกุ ตวั ของสาขาธนาคาร ๓๐
ภาพท่ี ๒-๑๘ การกระจกุ ตวั ของสินเชือ่ ตามวงเงิน รายได้ ประเภทกิจการ และพ้นื ที่ ๓๐
ภาพที่ ๒-๑๙ การเกดิ NPL แยกตามขนาดวงเงินกู้
ภาพท่ี ๒-๒๐ ปญั หาทธ่ี นาคารพาณิชย์มีความระมดั ระวังในการปล่อยสินเช่ือ SMEs ๖๗
ภาพที่ ๒-๒๑ ปญั หาและอปุ สรรคของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (บุคคลธรรมดา) ๗๐
ภาพท่ี ๒-๒๒ ความต้องการความชว่ ยเหลือของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (บคุ คล ๘๕
๘๖
ธรรมดา)
ภาพท่ี ๒-๒๓ โครงสรา้ งของหน่วยงานการส่งเสริม SMEs ของประเทศไต้หวัน ๘๖
ภาพท่ี ๒-๒๔ โครงสร้างของหนว่ ยงานการสง่ เสริม SMEs ของประเทศเกาหลีใต้ ๘๙
ภาพที่ ๔-๑ ขอ้ เสนอ Model การบูรณาการส่งเสรมิ SMEs ทีย่ ดึ SMEs เป็นแกน
ภาพท่ี ๔-๒ ขอ้ เสนอการปรบั กระบวนการจดั ทาแผนและจัดสรรงบประมาณ
บรู ณาการส่งเสริม SMEs
ภาพที่ ๔-๓ ข้อเสนอระบบบรหิ ารงบประมาณแผนบรู ณาการสง่ เสรมิ SMEs
ภาพท่ี ๔-๔ ข้อเสนอเชิงโครงสรา้ งเพื่อแกไ้ ขอปุ สรรคการเขา้ ถึงแหลง่ ทนุ ของ SMEs
แยกตามปัญหา
บทท่ี ๑
บทนำ
๑.๑ ควำมเปน็ มำของกำรพิจำรณำศกึ ษำ
จากกระแสความเปล่ียนแปลงของธุรกจิ ปัจจุบันพบว่า กลมุ่ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) ได้เข้ามามีบทบาทอย่างสาคัญต่อความเจริญเติบโตทางระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ทั้ ง ใน แ ง่ ข อง จ าน ว น ข อ ง ผู้ ป ร ะก อ บ กา ร ร าย เดิ ม ห รื อผู้ ป ร ะ ก อบ ก าร ร า ย ใ ห ม่ ที่ มี อยู่ เป็ น จ าน ว น มา ก
ด้านลักษณะเด่นขององค์กรธุรกิจประเภทวิสาหกิจ SMEs คือ การมีโครงสร้างธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน
มีความคล่องตัวในการปรบั สภาพให้เข้ากับสถานการณ์ทั่วไปของประเทศ เนือ่ งจากรูปแบบของผู้ประกอบ
ธุรกิจส่วนมากจะเป็นแบบกิจการส่วนบุคคลซึ่งมีเจ้าของคนเดียว แบบคณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ
ท่ีไม่ใช่นติ ิบคุ คล หรือแบบห้างหุน้ สว่ นจากดั บรษิ ทั จากดั หรอื กจิ การรว่ มค้า
นอกจากนี้ ยังมีมิติในแง่มุมของการเติบโตทางธุรกจิ ท่ีเป็นไปไดอ้ ย่างต่อเนื่องโดยสามารถใช้เงิน
ลงทนุ ในจานวนที่ต่ากวา่ เม่อื เทียบกับธรุ กิจหรอื กิจการขนาดใหญ่ จากลักษณะเบ้อื งตน้ จงึ กล่าวไดว้ ่า SMEs
มคี วามสาคัญอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ ท้ังด้านการกระตุ้นการลงทนุ ในประเทศ การรองรับแรงงานจาก
ภาคอตุ สาหกรรม การสรา้ งมูลค่าเพิ่ม การเช่อื มโยงธรุ กิจหรือกจิ การขนาดใหญ่เขา้ กบั ภาคการผลิต และการ
กอ่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจทัง้ ระดับภูมภิ าคและระดบั ประเทศอยา่ งยั่งยนื
SMEs เป็นกลุ่มธุรกจิ ที่ทาให้เกดิ ได้ยาก ตายง่าย และมีโอกาสในการเติบโตและอยรู่ อดน้อย จาก
ข้อมลู รายงานสถานการณ์ SMEsปี ๒๕๖๒ โดยสานกั งานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
พบวา่ จานวนกจิ การ SMEs จาแนกตามการจัดต้ังและยกเลกิ แบง่ เป็นการจัดต้ังใหม่ จานวน ๗๑,๘๑๕ ราย
หดตัวร้อยละ ๒.๗๓ และการยกเลิกกิจการ จานวน ๒๑,๖๗๖ ราย ขยายตัวร้อยละ ๑.๘๔ ดังน้ัน ตั้งแต่ปี
๒๕๖๒ เป็นต้นมา รัฐบาลจึงมีมาตรการและโครงการต่าง ๆ นอกจากการสนับสนุนด้านการเงิน รวมไปถึง
มีการกาหนดแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาตินโยบาย มาตรการโครงการหรือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
ท่ีมุ่งเน้นการสนับสนุนส่งเสริมและการเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาด
กลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้มีการเติบโตอย่างเข้มแข็ง ยั่งยืน และเป็นกลไกหลักในการขับเคล่ือน
และเสริมสร้างความเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจ
การสนับสนุนท่ีสาคัญประการหนึ่ง คือ การสร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินให้ แก่
ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) อันได้แก่ การจัดหาแหล่งเงินทุนและการพัฒนา
ช่องทางการเข้าถงึ แหล่งเงินทุนรูปแบบใหม่ ๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการบริหารความเส่ียง
การพฒั นาระบบประเมินมลู ค่าทรัพยส์ นิ ในรปู แบบต่าง ๆ เพื่อใช้เปน็ หลักประกันทางธุรกิจ การพฒั นาระบบ
การประเมินความน่าเช่ือถือทางเครดิตและระบบการรู้จักลูกค้าที่สะดวกมากขึ้น การสนับสนุน
ให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินด้วยต้นทุนท่ีเหมาะสมโดยนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม
มาช่วยเพ่ิมความสะดวกในการเข้าถึงบริการทางการเงิน รวมท้ังการพัฒนาสภาพแวดล้อมและกฎหมาย
ทเ่ี อื้อตอ่ การเข้าถึงแหลง่ เงนิ ทนุ
สาหรับประเทศไทย รัฐบาลได้เร่ิมดาเนินการมาตรการและโครงการสนับสนุนการเข้าถึง
แหลง่ เงินทุนของผ้ปู ระกอบการวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมตั้งแตป่ ี พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยระหว่างปี ๒๕๕๘
- ปัจจุบัน รัฐบาลให้ความเห็นชอบต่อมาตรการทางการเงินและโครงการท่ีมีความสาคัญต่าง ๆ อาทิ
-๒-
โครงการสินเช่ือดอกเบี้ยต่า (Soft loan) การค้าประกันสินเช่ือ (Portfolio Guarantee Scheme (PGS))
การร่วมลงทุน (Venture Capita) และการสนับสนุนแหล่งเงินทุนทางเลือก (Alternative financing)
การจัดทามาตรการบัญชีชุดเดียว (Single Account) รวมถึงการยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
สาหรับ SMEs หรือการปรับปรุงกฎเกณฑ์การกากับดูแลสถาบันการเงินและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
การชาระเงิน เช่น Prompt Pay หรือ QR code เพื่อลดตน้ ทุนธรุ กรรมทางการเงนิ ให้แก่ SMEs
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ยั ง ค ง ถื อเป็ น ห น่ึ ง ใน อุ ป ส ร ร ค ส าคั ญ ข อ งก าร ด าเนิ น ธุ ร กิ จ นั บ ตั้ งแ ต่ เริ่ ม ต้ น ไป จ น ถึ ง ก าร ข ย าย กิ จ ก าร
เน่ืองจากลักษณะท่ัวไปของการดาเนินธุรกิจของ SMEs ที่นอกจากจะถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงสูง
ในด้านการเงนิ แล้ว ยังมปี ัจจัยทั้งภายในและภายนอกทสี่ ่งผลกระทบตอ่ ความอยรู่ อดหรอื ความเจริญเติบโต
ของธุรกิจ เช่น โครงสร้างและศักยภาพในการดาเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs ภาวะด้านต้นทุน
ทางธุรกจิ ทีส่ ูงและผันผวน ความสามารถในการแขง่ ขนั ดา้ นการตลาด ไม่วา่ จะเปน็ การแข่งขันระหว่าง SMEs
ด้วยกนั เองการแขง่ ขนั กบั ธุรกิจขนาดใหญ่ หรือการแข่งขันกับธุรกิจ E-commerce เป็นตน้
จ ากปั ญ ห าที่ เกิ ด ขึ้ น ล้ ว น ส่ ง ผ ล กร ะท บ ใน แ ง่ล บ ต่ อ การ พั ฒ น าศั กย ภ าพ แ ล ะ การ ป รั บ ป รุ ง
ประสิทธภิ าพของการดาเนินธรุ กจิ โดยเฉพาะด้านความสามารถในการเขา้ ถึงแหลง่ เงินทนุ และการขอสินเช่ือ
ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs ตลอดจนเป็นอุปสรรคต่อความสามารถ
ในการจัดเก็บภาษีของรัฐเพื่อนามาพัฒนาประเทศหรือการนาข้อมูลไปประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจ
เพอื่ นาไปกาหนดแนวทางการพัฒนาประเทศได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
๑.๒ วัตถุประสงคข์ องกำรศกึ ษำ
รายงานแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (SMEs) มีวตั ถปุ ระสงค์ของการศกึ ษา ดงั นี้
๑) เพ่ือศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับนโยบาย มาตรการ โครงการ หรอื สทิ ธิประโยชน์ต่าง ๆของภาครัฐ
ในการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(SMEs) โดยมุ่งเน้นมาตรการสินเช่ือตามนโยบายของรัฐบาล เช่น กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ
โครงการสนับสนุน SMEsผา่ นกองทนุ ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
๒) เพ่ือศกึ ษาวเิ คราะหเ์ กี่ยวกบั ปัญหาอุปสรรคทผี่ ่านมา ปัญหาอุปสรรคในปัจจุบัน และแนวทาง
การแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (SMEs)
๓) เพื่อนาเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อแนะนาเกี่ยวกับการส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึง
แหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพ่ือนาไปสู่การดาเนินการ
หรอื แก้ไขปญั หาอุปสรรคของ SMEsต่อไป
๑.๓ ขอบเขตของกำรศึกษำ
ศึกษาแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อมยุคใหม่ (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐)พระราชบัญญัติสง่ เสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
พ.ศ. ๒๕๔๓ และท่แี ก้ไขเพม่ิ เติม และกฎกระทรวงกาหนดลักษณะของวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม
-๓-
พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมไปถึงมติคณะรัฐมนตรี มาตรการและโครงการของรัฐในการส่งเสริมและสนับสนุน
การเขา้ ถึงแหล่งเงนิ ทนุ ของผปู้ ระกอบการวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (SMEs)
๑.๔ วธิ ีกำรศกึ ษำ
๑) พิจารณาศึกษาเอกสาร ข้อมูล กฎหมายและระเบียบที่เก่ียวข้อง ประกอบด้วย มติ
คณะรัฐมนตรี พระราชบัญญตั ิสง่ เสรมิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. ๒๕๔๓ และท่ีแกไ้ ขเพิ่มเติม
กฎกระทรวงกาหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมไปถึงมาตรการและ
โครงการในรปู แบบตา่ ง ๆ จากหน่วยงานภาครฐั
๒) การเชิญหน่วยงานและผูท้ ี่เก่ียวข้องมาให้ข้อมูลและขอ้ คดิ เห็นในประเด็นตา่ ง ๆ ต่อท่ีประชุม
คณะอนุกรรมาธิการ อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม สานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)บรรษัทประกันสินเชื่อ
อตุ สาหกรรมขนาดยอ่ ม (บสย.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
๓) การเดินทางไปศึกษาดูงานเพ่ือติดตามผลการดาเนินงานของสถาบันการเงินของรัฐ
ตามนโยบายของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือด้านการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs
ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนภาพรวมการปล่อยสินเช่ือให้แก่ลูกค้ารายย่อยและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหรือบริการ
ทางการเงินของ SMEs รวมไปถึงปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินงาน โดยมีการประชุมร่วมกับ
คณะผู้บรหิ ารของสถาบันการเงินของรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารออมสนิ ธนาคารพฒั นาวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Development Bank) ธนาคารอสิ ลามแห่งประเทศไทย (Islamic
Bank) ธนาคารเพ่ือการส่งออกและนาเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และบรรษัทประกันสินเชื่อ
อตุ สาหกรรมขนาดยอ่ ม (บสย.)
๔) การเดนิ ทางไปศกึ ษาดูงานเพอื่ ติดตามผลการดาเนินงานและการพัฒนาศกั ยภาพของกองทุน
หม่บู า้ นและชุมชนเมืองใหเ้ ป็นผู้ประกอบการ SMEs เช่น การอบรมผู้ประกอบธุรกจิ การออกแบบผลติ ภัณฑ์
การจัดภูมิทัศน์ของตลาดหรือสถานที่ท่องเท่ียว การสนับสนุนการลงทุนโดยการจัดต้ังกองทุนร่วมลงทุน
(Matching fund) การสรา้ งแบรนดส์ นิ คา้ และผลติ ภณั ฑ์ของชมุ ชมทีเ่ ปน็ เอกลกั ษณ์ เปน็ ต้น
๑.๕ ประโยชน์ท่คี ำดว่ำจะได้รบั
๑) คณ ะอนุกรรมาธิการมีข้อมูลเก่ียวกับมาตรการและโครงการของรัฐในการส่งเสริม
และสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ท่ีจะสามารถใช้ในการผลกั ดันใหม้ ีการปรับปรุงแนวทางการดาเนินการใหผ้ ปู้ ระกอบการวิสาหกจิ ขนาดกลาง
และขนาดยอ่ ม (SMEs) เข้าถงึ แหลง่ เงนิ ทนุ มากขนึ้ ในอนาคต
๒) คณะอนุกรรมาธิการรับทราบถึงสภาพปัญหาและอุปสรรคในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จากการให้สิทธิประโยชน์จากมาตรการ
สง่ เสรมิ ตามโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ
๓) คณะอนุกรรมาธิการมีข้อแนะนาเพื่อนาไปสู่การแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมไปถึงการปรับปรุงแนวทางการ
ดาเนินการของหน่วยงานท่ีเก่ียวกับการส่งเสริมสนับสนุน SMEsให้มีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม
และมรี ะบบงานทีช่ ัดเจน
บทที่ ๒
การพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธกิ าร
๒.๑ นิยามของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม
นิยามคาว่า “วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” (Small and Medium Enterprises)
ของประเทศไทยท่ีผ่านมามีการจากัดความที่แตกต่างและหลากหลาย ซึ่งตามกฎกระทรวงกาหนดจานวน
การจ้างงานและมูลคา่ ทรัพย์สินถาวรของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. ๒๕๔๕ ออกตามความ
ในมาตรา ๔ ของพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้กาหนดให้
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมครอบคลุมกิจการ ๓ กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ กิจการการผลิต (Production
Sector) กิจการค้า (Trading Sector) และกิจการบริการ (Service Sector) โดยการพิจารณากาหนดว่า
กิจการลักษณะใดเป็นกิจการขนาดกลางหรือขนาดย่อม จะพิจารณาจากมูลค่าชั้นสูงของทรัพย์สินถาวร
สาหรบั กิจการแต่ละประเภท และจากจานวนการจา้ งงานสาหรับกิจการแต่ละประเภท
ตารางที่ ๒-๑ ลักษณะกลุ่มวิสาหกิจของประเทศไทยตามกฎกระทรวงกาหนดจานวน
การจ้างงานและมูลคา่ ทรัพยส์ นิ ถาวรของวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม พ.ศ. ๒๕๔๕
ประเภท ขนาดย่อม ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
การจ้างงาน สนิ ทรพั ยถ์ าวร การจา้ งงาน สนิ ทรพั ย์ถาวร
กจิ การผลิตสนิ คา้ การจ้างงาน สินทรพั ยถ์ าวร
กจิ การให้บรกิ าร (คน) (ล้านบาท) (คน) (ล้านบาท) (คน) (ลา้ นบาท)
ไม่เกนิ ๕๐ ไมเ่ กิน ๕๐ เกนิ กว่า ๒๐๐ เกนิ กวา่ ๒๐๐
กจิ การคา้ สง่ เกินกวา่ เกนิ กวา่
กจิ การคา้ ปลกี ไมเ่ กนิ ๕๐ ไมเ่ กิน ๕๐ ๕๐ – ๒๐๐ ๕๐ – ๒๐๐ เกนิ กว่า ๒๐๐ เกินกวา่ ๒๐๐
ไม่เกนิ ๒๕ ไม่เกิน ๕๐ เกนิ กว่า เกนิ กวา่ เกนิ กวา่ ๕๐ เกนิ กวา่ ๑๐๐
๕๐ – ๒๐๐ ๕๐ – ๒๐๐
ไมเ่ กิน ๑๕ ไม่เกิน ๓๐ เกนิ กวา่ ๓๐ เกินกวา่ ๖๐
เกนิ กว่า เกินกวา่
๒๕ – ๕๐ ๕๐ – ๑๐๐
เกนิ กว่า เกนิ กวา่
๑๕ – ๓๐ ๕๐ – ๓๐
ทม่ี า : สานกั งานส่งเสรมิ วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
อย่างไรก็ตาม เม่ือประเทศไทยได้พัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจรปู แบบใหม่ที่เน้นการขับเคลื่อนธุรกิจ
ด้วยการใช้นวัตกรรมท่ีทันสมัย ส่งผลให้ภาคธุรกิจ SMEsมีการปรับใช้เทคโนโลยีแทนการจ้างงานมากขึ้น
ซึ่งบางกิจการอาจมีการจ้างงานไม่ถึง ๑๐ คน แต่สามารถสร้างรายได้เกือบ ๑,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี
หากแต่กลุ่มธุรกิจน้ีจะไม่เข้าหลักเกณฑ์ของการเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมดังท่ีกล่าวมา เน่ืองจาก
การกาหนดคานิยามของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้พิจารณาจากจานวนการจา้ งงานและมูลค่า
สนิ ทรพั ย์ถาวรเปน็ เกณฑ์
ดังน้ัน คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเม่ือวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ เห็นชอบกฎกระทรวง
กาหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.๒๕๖๒ โดยให้มีการปรับแก้คานิยามของวิสาหกิจ
ขนาดกลางและวิสาหกิจขนาดย่อมโดยยังคงใช้เกณฑ์จานวนลูกจ้าง แต่เปลยี่ นจากเกณฑ์“มูลค่าทรัพย์สิน” มา
เป็น “เกณฑ์รายได้” ของวิสาหกิจในการกาหนดขนาดกิจการและแบ่งกิจการออกเป็นประเภทการผลิต
-๖-
สนิ ค้า ประเภทการให้บริการ ประเภทการค้าส่งและประเภทการค้าปลีก เพ่ือกาหนดกลุ่มเป้าหมายSMEs
ในการส่งเสริมและช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการได้อย่างสอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์
เศรษฐกิจในปัจจบุ นั
นิยามท่ีปรับแก้ใหม่ได้แบ่งกลุ่มวิสาหกิจออกเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ ๑) กลุ่มวิสาหกิจรายย่อย
(Micro) ๒) กลมุ่ ขนาดย่อม (Small) และ ๓) กลุ่มขนาดกลาง (Medium) โดยมีรายละเอียด ดังน้ี
๑)วิสาหกิจรายย่อย ประเภทการผลิตสินค้าและประเภทการให้บริการ การค้าส่ง
และค้าปลกี มลี ูกจ้างไมเ่ กนิ ๕ คน มรี ายได้ตอ่ ปีไมเ่ กิน ๑.๘ ล้านบาท
๒) วิสาหกิจขนาดย่อม ประเภทการผลิตสินค้า มีลูกจ้าง ๖ – ๕๐ คน มีรายได้ต่อปี
มากกว่า ๑.๘ – ๑๐๐ ล้านบาท ประเภทการให้บริการ การค้าส่งและค้าปลีก มีลูกจ้าง ๖ – ๓๐ คน
มีรายได้ตอ่ ปีมากกว่า ๑.๘ – ๕๐ล้านบาท
๓) วิสาหกิจขนาดกลางประเภทการผลิตสินค้า มีลูกจ้าง ๕๑ - ๒๐๐ คน มีรายได้ต่อปี
มากกว่า ๑๐๐ – ๕๐๐ ล้านบาท ประเภทการให้บริการ การค้าส่งและค้าปลีก มีลูกจ้าง ๓๑ – ๑๐๐ คน
มรี ายไดต้ อ่ ปีมากกวา่ ๕๐ – ๓๐๐ ลา้ นบาท
สาหรับจานวนลูกจ้างให้พิจารณาจากหลักฐานแสดงจานวนลูกจ้างที่ได้จัดทาข้ึนตาม
กฎหมาย ขณะท่จี านวนรายไดใ้ ห้พิจารณาจากรายได้รวมท่ีระบุไว้ในงบการเงินทจี่ ัดขึ้นตามกฎหมายว่าดว้ ย
การบัญชีกาหนดหรือเอกสารบัญชีแสดงรายได้ ส่วนกรณีท่ีกิจการมีจานวนลูกจ้างเข้าเกณฑ์นิยามวิสาหกิจ
ประเภทหนง่ึ แต่รายได้ไมเ่ ข้าเกณฑ์ ใหย้ ึดรายไดเ้ ป็นเกณฑใ์ นการพิจารณา
ตารางที่ ๒-๒ ลักษณะกลุ่มวสิ าหกิจของประเทศไทยตามกฎกระทรวงกาหนดลักษณะ
ของวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.๒๕๖๒
ภาคธุรกิจ วิสาหกิจขนาดยอ่ ม วิสาหกิจขนาดกลาง
การผลิต Micro Small Medium
จ้างงาน รายได้ จา้ งงาน รายได้ จา้ งงาน รายได้
การค้า ไมเ่ กิน ไมเ่ กิน ไม่เกนิ ไม่เกนิ ไมเ่ กิน ไมเ่ กิน
และบริการ ๕ คน ๑.๘ ลบ. ๕๐ คน ๑๐๐ ลบ. ๒๐๐ คน ๕๐๐ ลบ.
ไม่เกนิ ไมเ่ กนิ ไม่เกนิ ไม่เกิน ไมเ่ กิน ไมเ่ กนิ
๕ คน ๑.๘ ลบ. ๓๐ คน ๕๐ ลบ. ๑๐๐ คน ๓๐๐ ลบ.
ที่มา : สานกั งานสง่ เสรมิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
อนึ่ง จากข้อมูลการวิเคราะห์และเปรียบเทียบผลที่ได้จากนิยามเดิมและนิยามใหม่
ตามรายงานสถานการณ์ SMEs ปี ๒๕๖๒ พบว่า มีส่วนที่เปล่ียนแปลงของนิยามเดิมและนิยามใหม่ ๓ ประเด็น
ไดแ้ ก่ ประเดน็ แรก คอื การใช้รายได้แทนสินทรพั ยถ์ าวรสุทธิไมร่ วมที่ดิน ประเด็นท่ีสอง คือ การเพ่ิมขนาด
วสิ าหกิจจากเดิมท่มี ีวสิ าหกิจขนาดกลางและวสิ าหกจิ ขนาดยอ่ มเท่าน้ัน แต่ในนิยามใหม่ไดเ้ พม่ิ ให้ครอบคลุม
ถงึ วิสาหกิจรายย่อย (Micro) อีกด้วย และประเด็นท่ีสาม คือ การใช้เกณฑ์เดียวกันในการกาหนดขนาดวิสาหกิจ
ของภาคการคา้ และบรกิ าร
-๗-
จ า น ว น วิ ส าห กิ จ มี กา ร ก ร ะ จ าย ตั ว ต า ม ข น าด วิ ส าห กิ จ ท่ี แ ต กต่ าง กั น อ ย่ าง เห็ น ได้ ชั ด
โดย วิสาหกิจขนาดย่อมปี ๒๕๖๑ ตามนิ ยามเดิมมีจานวนถึง ๓,๐๖๓,๖๕๑ ราย แต่นิ ยามใหม่
มีจานวน ๓,๐๕๖,๐๐๖ รายโดยส่วนใหญ่กระจายไปเป็นวิสาหกิจขนาดย่อย (Micro) ถึง ๒,๖๔๔,๖๕๑ ราย
และพบวา่ วสิ าหกิจขนาดกลางมีจานวนเพ่ิมมากขึ้นกว่านิยามเดิม โดยจากนิยามเดิมมีจานวนวสิ าหกิจขนาดกลาง
๑๔,๑๗๑ราย แต่ในนิยามใหม่มีจานวนวิสาหกิจขนาดกลางจานวน ๔๐,๖๕๒ ราย และเป็นลักษณะเดียวกันกับ
วสิ าหกจิ ขนาดใหญ่ โดยวิสาหกจิ ขนาดใหญต่ ามนยิ ามเดิมมจี านวน ๖,๔๕๕ ราย และตามนิยามใหมม่ ีจานวน
๑๔,๑๐๒ ราย ผลรวมของวิสาหกิจขนาดย่อย ขนาดย่อม และขนาดกลาง ตามคานิยามเดิมมีจานวน
วิสาหกิจ ๓,๐๗๗,๘๒๒ ราย ตามนิยามใหม่ ๓,๐๗๐,๑๗๗ พบว่า มีจานวนวิสาหกิจแตกต่างกัน
โดยตามนิยามใหม่ลดลง ๗,๖๔๕ ราย เม่ือพิจารณาตามสัดส่วนพบว่า นิยามเดิมมีจานวนผู้ประกอบการ
วิสาหกิจขนาดย่อมร้อยละ ๙๙.๓และวิสาหกิจขนาดกลางร้อยละ ๐.๕ แต่ในส่วนของนิยามใหม่
พบว่า วิสาหกิจขนาดย่อมมีสัดส่วนร้อยละ ๑๒.๕ วิสาหกิจขนาดกลางร้อยละ ๑.๓ แต่เป็นวิสาหกิจ
ขนาดย่อยร้อยละ ๘๕.๗ โดยวิสาหกิจขนาดใหญ่มีสัดส่วนในนิยามใหม่เพ่ิมขึ้นคิดเป็นร้อยละ ๐.๕ จากร้อยละ
๐.๒ ในนิยามเดมิ
๒.๒ ความสาคัญของวสิ าหกจิ ขนาดกลางขนาดย่อมในระบบเศรษฐกิจไทย
ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศมวลรวม (Gross Domestic Product: GDP) ของวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อมของประเทศไทยในปี ๒๕๖๑ มีมูลค่า ๗,๐๑๓,๙๗๑ ล้านบาท หรือคิดเปน็ ร้อยละ ๔๓.๐ ของ
GDP ท้งั ประเทศ ซึ่งสดั ส่วนของ GDP ของ SMEs ต่อ GDP รวมของประเทศเพ่ิมข้นึ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยในปี
๒๕๖๐ มีสดั ส่วนร้อยละ ๔๒.๔ หรือเพิ่มจากร้อยละ ๓๓ เมอ่ื ทศวรรษท่ีผ่านมา
นอกจากนี้ หากพิจารณาในส่วนเฉพาะส่วนของ GDP ของ SMEs โดยแยกออกเป็น
ตามขนาดของ SMEs เป็นวิสาหกิจขนาดกลาง (Medium Enterprises: SE) และวิสาหกิจขนาดย่อม
(Small Enterprises: SE) แล้วพบวา่ มลู ค่า GDP ของวิสาหกจิ ขนาดย่อม (SE) มมี ูลค่ากว่า ๕.๐๑ ลา้ นล้านบาท
หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๑.๕ ของส่วน GDP ของ SMEs ทั้งหมด หรือร้อยละ ๓๐.๗ ของ GDP ทั้งประเทศ
ในขณะที่ GDP ของวิสาหกิจขนาดกลาง (ME) เท่ากับ ๒.๐ ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๒๘.๕
ของ GDP ของ SMEs หรอื ร้อยละ ๑๒.๐ ของ GDP รวมท้ังประเทศ ซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นความสาคัญของ SMEs
ต่อระบบเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะกลมุ่ ที่เปน็ ขนาดเล็ก
ตารางท่ี ๒-๓ สดั ส่วนของ GDP ในรายสาขา ในปี ๒๕๖๑ (ลา้ นบาท)
เกษตร ขนาดยอ่ ม ขนาด รวม ขนาด อืน่ ๆ รวม
กลาง SMEs ใหญ่
GDP (ล้านล้านบาท) ๑.๓๓ ๕.๐๑ ๒.๐๐ ๗.๐๑ ๗.๐๓ ๐.๙๕ ๑๖.๓๒
สัดส่วนตอ่ GDP ๘.๑ ๓๐.๗ ๑๒.๓ ๔๓.๐ ๔๓.๑ ๕.๘ ๑๐๐
(รอ้ ยละ)
อตั ราการขยายตัว ๕.๑ ๕.๔ ๓.๙ ๕.๐ ๔.๐ ๐.๙ ๔.๑
ทมี่ า : สานกั งานสง่ เสรมิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
-๘-
ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของ SMEs ส่วนมากจะมาจากกิจการค้าปลีกและบริการท่ีรวมกันมี
มูลค่ารวมกัน คิดเป็นร้อยละ ๗๐ ส่วนท่ีเหลือเป็นภาคการผลิตของเอกชน และส่วนท่ีเป็นการผลิต
และบริการของภาครฐั และ GDP ของ SMEs ส่วนมากมาจากวสิ าหกิจขนาดย่อม (SE) โดยเฉพาะในสาขา
การค้าปลกี และค้าส่ง อย่างไรก็ตาม ในภาคการผลิตและการบรกิ ารของภาคเอกชนน้ัน GDP ของประเทศ
กว่าครึ่งมาจากวิสาหกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในภาคการผลิตท่ีร้อยละ ๖๓.๗ ของ GDP ที่มาจาก
ภาคเอกชนน้ันมาจากวิสาหกิจขนาดใหญ่ (LE) ซ่ึงส่วนมากเป็นประเภทกิจการโรงงานอุตสาหกรรม
ขนาดใหญ่ที่มีการจ้างงานสูงและเนน้ การสง่ ออกเป็นสว่ นมาก สาหรบั ในสาขาบริการของวสิ าหกิจขนาดย่อม
ท่ีมีสัดส่วนร้อยละ ๓๘.๖ ของ GDP ในสาขานี้ ส่วนมากเป็นร้านซ่อมจักรยานยนต์ ร้านอาหารขนาดเล็ก
สว่ นมากเปน็ กจิ การสว่ นบคุ คล จา้ งงานตวั เอง ซ่ึงเป็นลกั ษณะธุรกจิ ท่มี ีจานวนมากท่ีสดุ ในกล่มุ น้ี
ตารางท่ี ๒-๔ สดั ส่วนของ GDP จาแนกตามประเภทกิจการในปี ๒๕๖๑ (ล้านบาท)
ขนาดวิสาหกิจ คา้ ปลกี /คา้ สง่ การผลติ บรกิ าร
วิสาหกจิ ขนาดใหญ่ (LE) ๓๙๙,๐๐๑ ๒,๗๘๑,๒๖๑ ๒,๙๙๔,๐๗๙
(ร้อยละ ๑๕.๓) (ร้อยละ ๖๓.๗) (ร้อยละ ๕๒.๒)
วสิ าหกจิ ขนาดกลาง (ME) ๓๒๔,๑๑๘ ๙๔๔,๓๘๒ ๕๒๙,๘๖๑
(รอ้ ยละ ๑๒.๕) (รอ้ ยละ ๒๑.๖) (รอ้ ยละ ๙.๒)
วิสาหกจิ ขนาดเล็ก (SE) ๑,๘๗๘,๗๕๐ ๖๔๒,๓๕๔ ๒,๒๑๔,๖๐๘
(รอ้ ยละ ๗๒.๒) (ร้อยละ ๑๔.๗) (รอ้ ยละ ๓๘.๖)
รวม ๒,๖๐๑,๘๖๙ ๔,๓๖๗,๙๙๗ ๕,๗๓๘,๕๔๘
ที่มา : สานกั งานสง่ เสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
• การส่งออก
รายงานสถานการณ์วิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม ประจาปี ๒๕๖๑ รายงานว่า
การส่งออกของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ๒,๓๒๕,๘๕๑.๙๘ ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน
ร้อยละ ๒๘.๗๔ ของมลู ค่าการสง่ ออกท้ังหมด และขยายตวั จากปี ๒๕๖๐ ร้อยละ ๐.๕๑ สาหรับการนาเข้า
ของ SMEs ประเทศไทย มีมูลค่าการนาเข้ารวมท้ังส้ิน ๒,๙๗๙,๖๙๙.๑๗ ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน
ร้อยละ ๓๖.๘๐ ของมูลค่าการนาเข้าท้ังหมด โดยขยายตัวจากปี ๒๕๖๐ ร้อยละ ๘.๕๑ หากพิจารณา
ในดุลการค้าระหว่างประเทศจะพบวา่ กลุม่ วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มขาดดุลการคา้ ๖๕๓,๘๔๗.๑๙
ล้านบาท ขาดดลุ มากกว่าภาพรวมมาก เพราะมีการนาเข้า มากกวา่ วิสาหกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในสินค้า
กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับรวมท้ังทองคา กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้า และส่วนประกอบ และกลุ่มเครื่องจักร
คอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์ เพ่ือใช้เป็นสนิ ค้าทนุ วตั ถดุ บิ และใช้ในประเทศ
สาหรับรายงานประจาเดือนมกราคม ๒๕๖๓ ของสานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง
ขนาดย่อมรายงานว่า มูลค่าการส่งออกของ SMEs ในปี ๒๕๖๒ น้ัน มีมูลค่า ๒,๓๓๗,๖๘๒.๑ ล้านบาท
หรอื ๗๕,๔๗๗.๑ ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสาขาที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ
-๙-
ท่มี ีมลู ค่า ๑๒,๕๙๕.๒ ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดสว่ นร้อยละ ๑๘.๕ ของการสง่ ออก SMEs ทั้งหมด
และมีอัตราการขยายตัวมากกว่าร้อยละ ๓๙.๑ ในปี ๒๕๖๒ รองลงมาได้แก่ พลาสติกและผลิตภัณฑ์
พลาสติกท่ีมีมูลค่าส่งออก ๖,๐๘๘.๔ ล้านเหรียญสหรัฐ ลาดับรองลงไปได้แก่ เคร่ืองจักร คอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์ กลุม่ อุปกรณ์ไฟฟ้า และกล่มุ ชิ้นส่วนยานยนต์ตามลาดับ โดยการส่งออกของไทยในปี ๒๕๖๒ นั้น
ตลาดสาคญั ได้แกป่ ระเทศจนี สหรฐั อเมรกิ า และสหภาพยโุ รป และตลาดอาเซียน
ภาพรวมการส่งออกของ SMEs ใน ๑๐ ประเทศคู่ค้าอันดับแรก ซ่ึงมีสัดส่วนการส่งออก
ร้อยละ ๖๑.๕๔ ของ การส่งออกทั้งหมด ขยายตัวรอ้ ยละ ๕.๑๗ ในขณะที่ภาพรวมการส่งออกของประเทศ
ใน ๑๐ ประเทศคู่ค้าอันดับแรกขยายตัวร้อยละ ๓.๖๖ เมื่อพิจารณาการส่งออกเป็นรายประเทศ จะเห็นได้
ว่าตลาดหลักท่ีสาคัญของไทยทั้งภาพรวมและ SMEs ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนการ
สง่ ออกรอ้ ยละ ๑๑.๙๕, ๙.๘๘ และ ๑๑.๑๐ ของมูลคา่ การสง่ ออกท้ังหมดในปี ๒๕๖๑ ตามลาดับ
ภาพรวมการนาเข้าของ SMEs จาก ๑๐ ประเทศอันดับแรก ซ่ึงมีสัดส่วนการนาเข้าถึง
ร้อยละ ๗๑.๘๙ ของการนาเข้าทั้งหมดขยายตัวร้อยละ ๗.๔๓ ในขณะที่ภาพรวมการนาเข้าของประเทศ
จาก ๑๐ ประเทศอันดับแรกมีการขยายตัวร้อยละ ๕.๓๑ เมื่อพิจารณาการนาเข้าเป็นรายประเทศ
จะเห็นได้ว่าตลาดนาเข้าหลักท่ีสาคัญของไทย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนการนาเข้า
ร้อยละ ๒๐.๐๕ ๑๔.๑๔ และ ๖.๐๖ ของมลู ค่าการนาเข้าทั้งหมดในปี ๒๕๖๑
ภาพท่ี ๒-๑ การค้าตา่ งประเทศของวิสาหกิจขนาดกลางขนาดยอ่ ม ในปี ๒๕๖๑
ท่ีมา : สานกั งานสง่ เสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
- ๑๐ -
เมื่อพจิ ารณาโครงสร้างการส่งออกของ SMEs ตามรายงานประจาปีของสานกั งานสง่ เสริม
วิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม ประจาปี ๒๕๖๑ พบว่าโครงสร้างการส่งออกของ SMEs น้ัน พิจารณา
ตามมูลค่าพบว่ากลุ่มประเภทสินค้าส่งออกของ SMEs ได้แก่ กลุ่มอัญมณีและเคร่ืองประดับ รองลงไป
ได้แก่ พลาสติกและของทาด้วยพลาสติก และกลุ่มเครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ซ่ึงมีสัดส่วน
ร้อยละ ๑๓.๘๑ ,ร้อยละ ๑๐.๘๔ และร้อยละ ๖.๔๐ ของการส่งออกรวมของ SMEs ตามลาาดับ
ท้ังนี้ เพราะกลุ่มอัญมณีเป็นสินค้าที่ประเทศไทยได้เปรียบเรื่องความชานาญ ฝีมือและการออกแบบ
เครือ่ งประดับมรี าคาไม่สูงมากนกั
ดา้ นการนาเข้าน้ัน เม่ือพิจารณาโครงสรา้ งการนาเขา้ ในรูปของรายการสนิ ค้าจะเห็นได้ว่า
จากรายงานประจาปลี า่ สุดของสานักงานส่งเสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางขนาดย่อม ทสี่ รปุ การนาเข้าของ SMEs
แยกตามรายกลุ่มประเภทสินค้า พบว่า ในปี ๒๕๖๑ กลุ่มสินค้าท่ี SMEs มีการนาเข้าในสัดส่วนที่สูง
คอื กลุ่มอัญมณีและเคร่ืองประดบั เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้า และสว่ นประกอบ รวมทั้งเครื่องจักร คอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์ต่าง ๆ ซ่ึงมีสัดส่วนร้อยละ ๑๖.๐๕ ๑๓.๒๖ และ ๑๑.๘๓ ของการนาเข้ารวมของ SMEs
ตามลาดบั
• จานวนธรุ กจิ ของ SMEs
จานวนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรวมท้ังประเทศ ณ ส้ินปี ๒๕๖๑ มีจานวนท้ังสิ้น
๓,๐๗๗,๘๒๒ ราย มีอัตราการขยายตัวร้อยละ ๑.๐๒ เมื่อเทียบกับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ในปีท่ีผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๙๙.๗๙ ของจานวนวิสาหกิจทั้งประเทศ โดยเป็นจานวนวิสาหกิจ
ขนาดเล็ก (SE) จานวนทั้งสิ้น ๓,๐๖๓,๖๕๑ ราย คิดเป็น สัดส่วนร้อยละ ๙๙.๓๓ ของจานวนวิสาหกิจ
ท้ังประเทศ หรือคิดเป็นสัดส่วนรอ้ ยละ ๙๙.๕๔ ของจานวนวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมทั้งประเทศ
เปน็ จานวนวิสาหกจิ ขนาดกลางจานวน ๑๔,๑๗๑ ราย คดิ เปน็ สดั ส่วนรอ้ ยละ ๐.๔๖
เม่ือพิจารณาถึงจานวน SMEs ที่จาแนกตามประเภทการจัดตั้ง ปี ๒๕๖๑ น้ัน สามารถ
จาแนกได้ ๓ ประเภท ได้แก่ นิติบุคคล มีจานวน ๗๐๘,๘๘๓ ราย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๒๓.๐๔
ของจานวน SMEs รวมท้ังประเทศ ส่วนบุคคล และอ่ืน ๆ มีจานวน ๒,๒๘๕,๗๓๑ ราย คิดเป็นสัดส่วน
ร้อยละ ๗๔.๒๖ ของจานวน SMEs รวมท้ังประเทศ และวิสาหกิจ ชุมชน มีจานวน ๘๓,๒๐๘ ราย
คิดเปน็ สดั ส่วนรอ้ ยละ ๒.๗๐ ของจานวน SMEs รวมท้ังประเทศ
- ๑๑ -
ภาพที่ ๒-๒ ประเภทการจดั ต้ังของวิสาหกจิ ขนาดกลางขนาดยอ่ ม ในปี ๒๕๖๑
ที่มา : สานกั งานสง่ เสริมวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
อย่างไรกต็ าม หากแยกจานวนวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมตามประเภทธุรกิจจะพบว่า
กลุม่ การค้าปลกี จะมีจานวนวสิ าหกิจมากท่สี ุด รวมท้ังส้ิน ๑,๒๗๙,๕๕๗ ราย คิดเป็นสดั ส่วนรอ้ ยละ ๔๑.๗๕
ของท้ังประเทศ โดยมีประเภทวิสาหกิจในกลุ่มบริการ ภาคการผลิต และธุรกิจการเกษตร รองลงมา
ตามลาดบั
ตารางท่ี ๒-๕ กลมุ่ ประเภทวิสาหกจิ ขนาดกลางขนาดยอ่ ม ปี ๒๕๖๑
จานวน (ราย) กลุ่มการคา้ กลุ่มบรกิ าร กลมุ่ การผลิต กลุ่มธุรกจิ เกษตร
ร้อยละ ๑,๒๗๙,๕๕๗ ๑,๒๒๔,๕๖๓ ๕๒๗,๔๘๕ ๔๖,๒๑๗
๑๗.๑๔ ๑.๕๐
๔๑.๕๗ ๓๙.๗๙
ทม่ี า : สานักงานส่งเสรมิ วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
- ๑๒ -
ภาพที่ ๒-๓ กล่มุ ธรุ กจิ ของวิสาหกิจขนาดกลางขนาดยอ่ ม ในปี ๒๕๖๑
จานวน SME จาแนกตามกล่มุ ธุรกจิ ปี ๒๕๖๑
ภาคการค้า ภาคบริการ
42% 40%
ภาคธุรกิจการเกษตร ภาคการผลติ
1% 17%
ทมี่ า : สานกั งานส่งเสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
• การจา้ งงานของวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม
ในปี ๒๕๖๑ ประเทศไทยมีการจ้างงานในกจิ การทุกขนาดรวมทั้งส้ิน ๑๖,๓๒๒,๗๔๖ คน
โดยเป็นการจ้างงานในวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (SMEs) จานวน ๑๓,๙๕๐,๒๔๑ คน หรือคดิ เป็น
สัดส่วนร้อยละ ๘๕.๔๗ ของการจ้างงานรวมทั้งหมด และเป็นการจ้างงานในวิสาหกิจขนาดใหญ่ (Large
Enterprises: LE) จานวน ๒,๓๗๒,๔๙๑ คน หรอื คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๔.๕๓
หากพิจารณาการจา้ งงานของ SMEs โดยแยกตามลักษณะของการจดทะเบียน แยกเป็น
นิตบิ ุคคล และสว่ นบุคคลและอ่นื ๆ จะพบวา่ SMEs ท่ีเปน็ นิติบุคคล การจ้างงานส่วนมากอยกู่ จิ การขายส่ง
และขายปลีก จานวน ๒,๓๕๖,๗๖๖ คน หรือคิดเป็นคดิ เปน็ สัดส่วน รอ้ ยละ ๑๕.๗๑ ของการจ้างงาน SMEs
ท่ีเป็นนิติบุคคลทั้งประเทศ ซ่ึงการจ้างงานในกลุ่มน้ีส่วนมากอยู่ในกิจการค้าปลีก โดยมีอัตราการขยายตัว
ร้อยละ ๓.๖๘ รองลงมาคือ หมวดด้านการผลิต และหมวดการก่อสร้าง ตามลาดับ และหากแยกจานวน
การจ้างงานเป็นรายจังหวัด จะพบว่ากรุงเทพมหานครจะมี การจ้างงาน SMEs ท่ีเป็นนิติบุคคล
สูงท่ีสุด มีจานวนทั้งส้ิน ๓,๕๑๐,๓๕๒ คน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๓๙.๒๙ ของการจ้างงาน SMEs
ท่ีเปน็ นิติบุคคล ท้ังประเทศ รองลงมาอยูใ่ นจงั หวดั ชลบุรี โดยจังหวดั ที่มกี ารจ้างงาน SMEs ที่เป็นนติ บิ ุคคล
น้อยที่สุด คือจังหวัด แม่ฮ่องสอน ซึ่งอาจสะท้อนถึงข้อเท็จจริงของจานวนวิสาหกิจที่จดทะเบียน
ในแตล่ ะพน้ื ที่
ส่วนจานวนการจ้างงานของ SMEs ที่มีเป็นส่วนบุคคลและอ่ืน ๆ นั้น พบว่าในปี ๒๕๖๑
มีการจ้างงานท้ังส้ิน ๕,๐๙๖,๙๓๑ คน โดยอยู่ในธุรกิจในภาคการค้ามากที่สุดที่จานวน ๒,๐๘๑,๗๙๒ คน
หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๔๑.๕๐ ของการจ้างงาน SMEs ประเภทนี้ และอยู่ในภาคการบริการ
- ๑๓ -
๑,๙๑๒,๙๘๓ คน หรือร้อยละ ๓๘.๑๔ สาหรับการจ้างงานในภาคการผลิตมีจานวน ๑,๐๒๑,๕๒๕ คน
คิดเปน็ สดั ส่วนร้อยละ ๒๐.๓๖ ของการจ้างงาน SMEs ส่วนบคุ คลและอ่ืน ๆ รวมท้ังประเทศ
ตารางท่ี ๒-๖ สรปุ โครงสรา้ งวสิ าหกิจขนาดกลางขนาดย่อม ปี ๒๕๖๑
Large Enterprises จานวน GDP การส่งออก การจา้ งงาน
SMEs (ราย) (ล้านล้านบาท) (ล้านบาท) (คน)
Total ๖,๔๗๗ ๙,๓๐๔,๐๖๒ ๕,๖๔๐,๔๘๗
(ร้อยละ ๐.๓๑) (ร้อยละ ๕๗) รอ้ ยละ (๖๙.๖๙) ๒,๓๗๒,๔๙๑
๓,๐๗๗,๘๒๒ ๗,๐๑๓,๙๗๑ ๒,๓๒๕,๘๕๒ (ร้อยละ ๑๔.๕๓)
(รอ้ ยละ ๙๙.๗๙) (รอ้ ยละ ๔๓) (ร้อยละ ๒๘.๗๔) ๑๓,๙๕๐,๒๔๑
๓,๐๘๔,๒๙๙ ๑๖,๓๑๘,๐๓๓ ๗,๙๖๖,๓๓๙ (ร้อยละ ๘๕.๔๗)
๑๖,๓๒๒,๗๔๖
ที่มา : สานักงานส่งเสริมวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
จากการกาหนดนิยาม SMEs ใหม่ในปี ๒๕๖๒ และข้อมูลจาก Web Site ของ สสว. -
Dashboard SMEs Big Data https://sme.go.th/th/page.php?modulekey=๓๔๘ พบว่า มีจานวน
SMEs เพิ่มขึ้นเป็น ๓,๑๐๕,๐๙๖ ราย และมีการจ้างงาน ๑๒,๐๖๐,๓๖๙ คน และหากนับเฉพาะ SMEs
ที่เป็นนิติบุคคลที่ส่งงบการเงินในปี ๒๕๖๑ ประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ รายแล้ว จะมียอดขายรวมกันท้ังสิ้น
๑๑,๕๘๓,๑๑๓ ล้านบาท และมีหนี้สินรวม ๑๙,๒๕๕,๑๓๙ ล้านบาท ดังรายละเอียดในภาพด้านล่าง
และจากการสามะโนธุรกิจปี ๒๕๖๐ พบว่า SMEs ท่ีเป็นกลุ่ม Micro, Small, Medium เฉลี่ยในแต่ละ Sector
ตอ่ กจิ การประมาณ ๐.๑๖-๐.๔๓ ลา้ นบาทต่อปี ๓.๒-๒๔.๙๔ ล้านบาทต่อปี และ ๑๑๒.๒๗-๓๑๒.๘๑ ล้านบาท
ต่อปี ตามลาดับ นอกจากนี้ หากนา SMEs ๓๐๓,๕๘๘ ราย มาแบ่งกลุ่มตามผลการดาเนินงานตาม Sector
ในปี ๒๕๖๑ พบว่า เป็นกลุ่ม Strong ร้อยละ ๔๒.๕๓-๔๕.๖๖ Regular ร้อยละ๒๓.๐๕-๓๓.๐๔
และ Turnaround ร้อยละ ๒๔.๔๓-๓๓.๑๓ อย่างไรก็ตาม หากแต่เมื่อนาไปเปรียบเทียบข้อมูล
ของสานักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) อย่างไรก็ตาม หากแต่เมื่อนาไปเปรียบเทียบข้อมูลของสานักงาน
สถติ ิแห่งชาติ (สสช.) จะพบวา่ ฐานข้อมูล SMEs ของ สสว. ท่มี ีจานวนผู้ประกอบการ SMEs ประมาณ ๓ ลา้ นราย
สสช. ตรวจไม่พบตัวตนผู้ประกอบการถึงจานวน ๕๐๐,๐๐๐ ราย และจากการสารวจของมหาวิทยาลัย
หอการค้าไทย รว่ มกับ SMEs Bank ทาให้ทราบว่ากลุ่มดังกล่าวน่าจะเป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่มีการ
จดนับตามตารางท่ี ๒ -๗ ทาให้ตัวเลขจานวน SMEs น่าจะมีถึงประมาณ ๕ ล้านราย ซ่ึงควรจะมีการ
ตรวจสอบจานวนท่ีแทจ้ ริงต่อไป
- ๑๔ -
ภาพท่ี ๒-๔ จานวน SMEs ตามนิยามใหม่ ในปี ๒๕๖๒
ทม่ี า : สานกั งานสง่ เสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
ภาพที่ ๒-๕ จานวนการจา้ งงานของ SMEs ตามนิยามใหม่ ในปี ๒๕๖๒
ที่มา : สานักงานส่งเสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
- ๑๕ -
ภาพที่ ๒-๖ ข้อมูลงบการเงินของ SMEs ๑๐ ปยี ้อนหลังตามนิยามใหม่
ท่ีมา : สานักงานสง่ เสริมวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
ภาพท่ี ๒-๗ รายได้เฉล่ียของวิสาหกิจขนาดยอ่ ม(บุคคลธรรมดา) ในแต่ละหมวดธุรกิจ
ตามนิยามใหม่
ท่มี า : สานักงานสง่ เสรมิ วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
- ๑๖ -
ภาพที่ ๒-๘ เปรียบเทียบผลการดาเนนิ งานของ SMEs ตามนยิ ามใหม่ ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑
ทม่ี า : สานักงานส่งเสริมวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
ตารางที่ ๒-๗ สรุปจานวนผูป้ ระกอบการ SMEsทไ่ี มม่ ีการจดนบั
รายการ จานวน (ราย)
จานวนแผงค้าในตลาด ๑,๒๘๖,๖๑๘
จานวนหาบเร่/แผงลอย ๕๖๔,๐๓๙
จานวน Food Trucks หรอื รถพุม่ พวง
รา้ นคา้ ออนไลน์ ๙๐,๔๓๗
ร้านแฟรนไชส์ ๔๑๒,๐๐๔
ผูค้ ้าสลากกนิ แบง่ รัฐบาลรายย่อย ๔,๙๐๐
ข้อมลู จานวนผูป้ ระกอบการอน่ื ๆ ๑๗๐,๙๓๘
๒๓๑,๓๑๕
รวมทั้งสนิ้ ๒,๗๖๐,๒๕๑
ที่มา : มหาวิทยาลยั หอการคา้ ไทย
๒.๓ การสง่ เสริมพฒั นา SMEs ของประเทศไทย
ประเทศไทยได้ให้ความสาคัญกับการส่งเสรมิ พัฒนา SMEs มาต้ังแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติฉบับท่ี ๑ โดยการดาเนินการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่เน้นอุตสาหกรรม
ในครวั เรอื น หรอื หัตถกรรม และอุตสาหกรรมขนาดย่อมในชนบท เพ่อื เป็นกลไกในการกระจายความเจริญ
ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ แต่หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยากุ้งได้มีการเร่ิมใช้คาว่าวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ข้ึนมา เพราะเป็นธุรกิจที่อยู่รอดได้ดีกว่าในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
- ๑๗ -
และครอบคลุมทุกภาคเศรษฐกิจท้ัง การผลิต การค้า และบริการ จากจุดนี้เอง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
จึงเสนอให้มีกฎหมายเพ่ือส่งเสริมพัฒนา SMEs ขึ้นโดยเฉพาะเหมือนกับประเทศอื่น ๆ และมีการตรา
พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ ๒๕๔๓ และต่อมาแกไ้ ขเป็นฉบับท่ี ๒ ในปี
๒๕๖๑ และมีสานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ขึ้นมาทาหน้ าท่ีเป็น Policy
Body ด้าน SMEs ของประเทศ
ปัจจุบันประเทศไทยมี แผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (แผน ๕ ปี)
มาแล้ว ๔ ฉบับ โดยฉบับที่ ๔ ครอบคลุมปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ และมีการจัดทา White Paper on SMEs
เป็นประจาทุกปีเพื่อรายงานสถานการณ์ของ SMEs นอกจากนี้ยังได้จัดทา งบบูรณาการด้านการส่งเสริม
SMEs เป็นประจาทุกปีต้ังแต่ปี ๒๕๑๙ โดยล่าสุดในปีงบประมาณ ๒๕๖๓ เรียกว่า แผนงานบูรณาการ
พฒั นาผปู้ ระกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมส่สู ากล อยา่ งไรก็ตาม แผนบูรณาการดังกลา่ ว
นี้เป็นเพียงส่วนใหนึ่งของงบประมาณด้านส่งเสริมพัฒนา SMEs ของประเทศท่ีมีการใช้งบประมาณ
ผ่านกระทรวงต่าง ๆ ที่มีงบประมาณมากกว่าแผนบูรณาการนี้หลายเท่า อย่างไรก็ตามเพื่อให้เห็น
แนวทางการส่งเสริมพัฒนา SMEs แบบบูรณาการ อนุกรรมาธิการด้านการเงิน จะพิจารณา Model
การสง่ เสรมิ พฒั นา แผนงาน/โครงการ และมาตรการต่าง ๆ จากแผนบูรณาการนีเ้ ปน็ หลกั ดงั น้ี
๒.๓.๑ การจดั ทาแผนสง่ เสริมวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ทุก ๕ ปี สสว. จะทาการประเมินสถานการณ์ของ SMEs และจัดทาแผนส่งเสริม
วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศในทุก ๆ ด้าน โดยอ้างอิงจากแผนต่าง ๆ ของชาติ เพ่ือเป็น
กรอบแกห่ นว่ ยงานต่าง ๆ ไดจ้ ัดทาแผนงาน/โครงการที่สอดคล้องของบประมาณและดาเนินการเปน็ รายปี
ไป โดยสรปุ ได้ตามแผนภาพด้านลา่ งนี้
ภาพที่ ๒-๙ ตัวอย่างการจัดทาแผนส่งเสริม SMEs ที่สอดคล้องกับแผนของชาติ
ด้าน Startup
ท่ีมา : สานักงานส่งเสรมิ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
- ๑๘ -
จากการจัดทาแผนส่งเสริม SMEs มาแล้ว ๔ แผน ประเทศไทยได้มีการกาหนด KPIs
ตามยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นแต่ละปี โดยมีบทความที่ตีพิมพ์ท่ี aBRIDGdของ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย
อ๊ึงภากรณ์ เรื่อง นโยบายส่งเสริม SMEs: เราไปถึงสิ่งที่คาดหวังหรือยัง โดย นฎา วะสี สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ
ป๋วย อ๊ึงภากรณ์ บุญธิดา เสง่ียมเนตร สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อ๊ึงภากรณ์ ชมพูนุท มนต์ชัยตระกูล
ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้วเิ คราะห์ไวต้ ามรายละเอียดด้านลา่ ง
ภาพที่ ๒.๑๐ Timeline การดาเนนิ นโยบายสนบั สนนุ SMEs
ท่ีมา: ธนาคารแห่งประเทศไทยรว่ มกบั สถาบันวจิ ยั เศรษฐกิจป๋วย อึง๊ ภากรณ์
ตารางที่ ๒-๘ เปรยี บเทียบ KPIs แผนส่งเสรมิ SMEs ฉบบั ที่ ๑ – ๔
ที่มา : สานกั งานสง่ เสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
- ๑๙ -
ตารางท่ี ๒-๙ สรปุ มาตรการทางการเงนิ ในแผนสง่ เสริม SMEs ฉบับท่ี ๑-๔
ท่มี า : สานกั งานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
ตารางที่ ๒-๑๐ สรปุ มาตรการทางภาษใี นแผนส่งเสริม SMEs ฉบบั ที่ ๑-๔
ท่ีมา : สานักงานสง่ เสรมิ วสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
- ๒๐ -
ยุทธศาสตร์การส่งเสริม SMEs ล่าสุดของประเทศไทย ถูกกาหนดไว้ในแผนส่งเสรมิ SMEs
ฉบับที่ ๔ พ.ศ ๒๕๖๐-๒๕๖๔ โดยมีวิสัยทัศน์ “SMEs ไทยเติบโต เข้มแข็ง แข่งขันได้ในระดับสากล
เพื่อเป็นพลังสาคัญใน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” จะมุ่งเน้นให้ SMEs สามารถอยู่รอดและเติบโต
ได้อย่างแข็งแกร่ง ภายใต้บริบท การแข่งขันทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว SMEs ไทยจะต้อง
มีความรู้ มีทักษะในการประกอบธุรกิจ สามารถสรรสร้างสินค้า/ บริการท่ีมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน มีมูลค่าสูง
แข่งขันได้ทั้งตลาด ในประเทศและตลาดโลก เพื่อให้SMEs ไทยก้าวข้ึนเป็นพลัง ขับเคล่ือนเศรษฐกิจท่ีสาคัญ
ของประเทศได้อย่างแท้จริง และมีพันธกิจ ๓ ด้านคือ (๑) พัฒนาระบบนิเวศให้ เอื้อต่อการดาาเนินธุรกิจ
SMEs (๒) ยกระดับขีดความสามารถใน การประกอบธุรกิจของ SMEs ให้มีประสิทธิภาพ พรอ้มเข้าสู่การ
แข่งขันอย่างมืออาชีพ (๓) เพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมของ SMEs เพ่ือสร้างมูลค่า
ตอบโจทย์ อนาคตประเทศไทย โดยมเี ป้าหมายสาคัญ ดังน้ี
เป้าหมายท่ี ๑: เพิ่มความสาคัญของ SMEs ในระบบเศรษฐกิจ และผลักดันให้ SMEs
เป็นหน่ึงในกลไกหลกั ในการสนบั สนนุ ให้ระบบเศรษฐกจิ โดยรวมของประเทศเติบโตไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ
และยัง่ ยืน
เป้าหมาย ๒: เพ่ิมศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของ SMEs โดยดูตั้งแต่
การเสรมิ สร้างโครงสร้างพ้นื ฐานและสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการดาเนนิ ธรุ กจิ การพัฒนาทกั ษะในดา้ นตา่ ง ๆ
ไปจนถึงการเร่งรัดการแกไ้ ขปญั หาหน้ที ไ่ี มก่ ่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan, NPL)
เป้าหมาย ๓: สร้างความเข้มแข็งให้กับระบบ SMEs ฐานรากและสนับสนุนให้มีการใช้
ทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น เน่ืองจากวิสาหกิจชุมชนมีบทบาทสาคัญท้ังต่อการจ้างงานและการสร้าง
รายได้
เป้าหมาย ๔: สรา้ งผู้ประกอบการ SMEs รนุ่ ใหม่และส่งเสรมิ การรวมกลุ่มทง้ั ในระดบั พน้ื ที่
และระดับอุตสาหกรรมหรือในห่วงโซ่อปุ ทานเดียวกันเพ่ือส่งเสรมิ ให้เกิดสร้างเครอื ข่ายทางธรุ กจิ อันจะชว่ ย
ให้เกดิ การเก้อื หนนุ แลกเปลีย่ นองค์ความรู้ และเพิ่มอานาจในการต่อรองมากขนึ้
ในแผนสง่ เสริม SMEs ฉบับท่ี ๔ สสว. ได้จัดจ้าง TRIS ประเมินผลโครงการสง่ เสรมิ SMEs
ภายใต้แผนบูรณาการส่งเสริม SMEs ซึ่ง TRIS ได้สรุปกระบวนการบริหารแผน กรอบแนวคิดการส่งเสริม
SMEs รายกลุ่มเป้าหมาย หน่วยงานร่วมดาเนินการ และผลการประเมินโครงการ ไว้ในรายงานประมินผล
การดาเนนิ โครงการภายใตง้ บบูรณาการปี ๒๕๖๑ และ ปี ๒๕๖๒ ท่ีเสนอต่อ สสว. โดยสรุปได้ตามแผนภาพ
ดา้ นล่าง
- ๒๑ -
ภาพที่ ๒-๑๑ กระบวนบรหิ ารแผนส่งเสรมิ SMEs
ทมี่ า : สานักงานสง่ เสริมวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
ภาพที่ ๒.๑๒ กระบวนการส่งเสริม SMEs แบ่งตามกลมุ่ เป้าหมาย
- ๒๒ -
- ๒๓ -
ทีม่ า : สานกั งานส่งเสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
๒.๓.๒ งบบรณู าการสง่ เสรมิ SMEs
ในแต่ละปี สสว. จะเป็นหน่วยงานกลางจัดทาแผน และงบประมาณบูรณาการส่งเสริม
SMEs นอกเหนือจากที่หน่วยงานจัดทาคาขอปกติผ่านสานักงบประมาณโดยตรง วงเงินงบประมาณ
ในแผนบูรณาการตั้งแต่ปี ๒๕๑๙ ถึง ๒๕๖๒ คือ ๑,๕๒๖,๔๐๐,๘๐๐ ล้านบาท/ ๓,๕๕๔,๕๘๗,๓๐๐ ล้านบาท/
๔,๒๘๐,๖๗๖,๗๐๐ล้านบาท/ ๓,๓๒๘,๓๖๘,๙๐๐ ล้านบาท ตามลาดับโดยในปีที่ผ่านมามีวงเงินงบประมาณ
ลดลง ในปีงบประมาณ ๒๕๖๒ มีหน่วยงานรับงบประมาณ ๙ กระทรวง ๒๓ หน่วยงาน ๑ รัฐวิสาหกิจ
๑ กองทุน
สาหรับงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ปี ๒๕๖๓ มีการขอรับการจัดสรรเงิน
เป็นจานวน ๑,๗๓๘ ลา้ นบาท มคี าขอรับเงินจัดสรรลดลงเมอ่ื เปรียบเทยี บกับปี ๒๕๖๒ (๓,๓๒๘ ล้านบาท)
โดยปี ๒๕๖๓ มีหน่วยงานที่ร่วมจัดทาโครงการหรือกิจกรรมตามแผนบูรณาการ จานวน ๒๓ หน่วยงาน
ซึ่งลดลงจากปี ๒๕๖๒ ที่มีหน่วยงานร่วมบูรณาการทั้งสิ้น ๒๕ หน่วยงาน การดาเนินการประจาปี
งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ซ่ึงมีกิจกรรมท่ีได้รับจัดสรรดาเนินการ จานวน ๙๔๘.๗๓๘๐ ล้านบาท
แบ่งออกเปน็ ๗ กจิ กรรม ประกอบด้วย
๑) การจัดทาแผน จานวน ๔๓๓.๙๖๔๗ ลา้ นบาท
๒) การยกระดบั ขอ้ มลู จานวน ๑๕.๐๐๐๐ ลา้ นบาท
๓) การสนับสนนุ ขอ้ มลู จานวน ๙๕.๘๒๓๔ ล้านบาท
๔) การพฒั นาระบบ จานวน ๒๑.๐๐๐๐ ล้านบาท
๕) การพฒั นาวสิ าหกิจในระยะเริ่มตน้ ใหส้ ามารถเติบโตได้ (EARLYSTAGE)
จานวน ๑๓๘.๓๖๔๐ ล้านบาท
- ๒๔ -
๖) การพัฒนาวิสาหกจิ ขนาดยอ่ มให้กา้ วสู่ธุรกิจสมัยใหม่ (SMALL)
จานวน ๒๔๕.๔๒๒๓ ลา้ นบาท
๗) การสนบั สนุนโครงการ SmallSME จานวน ๒๕๕.๑๖๓๖ ล้านบาท
นอกจากนี้ สสว. ได้จัดจ้าง TRIS มาจัดท ารายงานการติด ต ามป ระเมิน ผล
การดาเนินงานหรือโครงการภายใต้แผนบูรณาการ ส่งเสรมิวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี ๒๕๖๑
และ ๒๕๖๒ (On Going) ซ่ึงได้สรุปรายละเอียดการบริหารแผน และงบประมาณบูรณาการส่งเสริม SMEs
ไวต้ ามรายละเอียด ดังน้ี
ภาพที่ ๒.๑๓ ตวั อย่างสรปุ แผนบูรณาการส่งเสริม SMEs ปี ๒๕๖๒
ท่ีมา : สานกั งานสง่ เสริมวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
- ๒๕ -
ภาพที่ ๒.๑๔ บทบาทของหน่วยงานภายใต้แผนบูรณาการส่งเสริม SMEs ปี ๒๕๖๒
ท่มี า : สานกั งานส่งเสริมวสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
ภาพที่ ๒-๑๕ ผลการประเมินโครงการภายใต้แผนบูรณาการ SMEs ๒๕๖๑
และ ๒๕๖๒ (On Going)
๒๕๖๑ โครงการยงั ดาเนนิ การอยู่
วัดผลบางส่วน
๒๕๖๒
ที่มา : สานักงานส่งเสรมิ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม (สสว.)
- ๒๖ -
๒.๔ สถานะการเขา้ ถึงแหล่งทุนของ SMEs และมาตรการสนบั สนุนจากภาครัฐ
๒.๔.๑ สถานะการเข้าถงึ แหลง่ ทุนของ SMEs
ถึงแมภ้ าครัฐจะเขา้ แทรกแซงตลาดเงนิ ทุนสาหรบั SMEs อยา่ งมากมาเปน็ เวลานาน
โดยมีขนาดวงเงินสนับสนุนเพ่ิมมากขึ้นโดยตลอดแต่ยังมีการร้องเรียนจาก SMEs อยู่ตลอดเวลาว่ายังไม่
สามารถจัดหาเงินทุนท่ีจาเป็นต่อการลงทุนใหม่ การปรับปรุงขยายกิจการ และการเพ่ิมสภาพคล่อง และ
เสียงร้องนี้ยังมากขึ้นในช่วงวิกฤติการณ์ COVID ๑๙ นี้ คณะอนุกรรมกรรมาธิการด้านการเงิน
จึงได้ให้ความสาคัญกับเน่ืองนี้เป็นพิเศษ เพื่อจะวิเคราะห์หาสาเหตุท่ีแท้จริงที่ SMEs เข้าไม่ถึงแหล่งทุน
และแนวทางปรับปรุงเชิงโครงสรา้ งของนโยบายรัฐ และการดาเนินงานของหน่วยงานที่เก่ียวข้องเก่ียวกับ
ปญั หาการเขา้ ถงึ แหล่งทนุ ของ SMEs ดังต่อไปนี้
๒.๔.๑.๑ ขนาดความรุนแรงของปญั หา SMEs เข้าไมถ่ ึงแหล่งทนุ
จากการวจิ ัยของธนาคารแห่งประเทศไทย และมีการนาเสนอผลงานวจิ ัย
เรื่อง Gaining from Digital Disruption : The Financial Landscape in the Digital Era ในการสัมมนา Bank
of Thailand ๒ ๐ ๑ ๙ โดย ThammarakMoenjak, VorapatPraneeprachachon, TanatusBumpenboon,
PornchanokBumrungruanและ ChompoonootMonchaitrakulโดยใช้ข้อมูลจากข้อมูลสินเช่ือ SMEs
จากธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจท่ีส่งให้ ธปท. เป็นประจามาวิเคราะห์ สรุปประเด็นที่ได้
จากการวจิ ัย ดังน้ี
ทั้งน้ี เมอ่ื เปรียบเทียบกบั เพื่อบา้ นในอาเซยี นอีก ๔ ประเทศ ประเทศไทย
มปี ัญหา SMEs เขา้ ถงึ แหลง่ ทุนมากท่ีสดุ มีสดั สว่ น SMEs ไดร้ ับสนิ เชอ่ื จากสถาบนั การเงินตา่ สุด
ภาพที่ ๒-๑๖ เปรยี บเทยี บสดั ส่วนการเข้าถงึ สนิ เชอื่ ของ SMEs ในอาเซยี น ๕ ประเทศ
ทีม่ า: ธนาคารแหง่ ประเทศไทย (ธปท.)
- ๒๗ -
• จากข้อมูลสินเช่ือ SMEs ๑๕ ธนาคารพาณิชย์ และ ๖ สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รายงาน
ธปท. พบว่ามี SMEs เพียง ๑.๒๙ ล้านรายเท่านน้ั ท่ีใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงนิ อยู่ ซ่งึ เมื่อเทียบกับตวั เลขจานวน
SMEs ของ สสว. ล่าสดุ ปี ๒๕๖๒ ที่ ๓.๑ ล้านราย ยังมี SMEs ที่ยังไมไ่ ดร้ ับสินเช่ือจากสถาบันการเงินในระบบอีก
ประมาณ ๑.๘ ลา้ นราย หรือ ๕๘% แต่ถ้านับรวมจานวน SMEs กลุ่มตกสารวจที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยวิจัย
ร่วมกับ SMEs Bank รวมประมาณ ๕ ล้านรายแล้ว จะทาให้สัดส่วน SMEs ท่ีเข้าไม่ถึงสินเชื่อสถาบันการเงินใน
ระบบสงู ถงึ ๗๔% นอกจากนี้ SMEs ท่ไี ดส้ นิ เชอื่ ยังกระจกุ ตัวใน กทม. และภาคกลางด้วย
ภาพท่ี ๒-๑๗ ความสมั พันธข์ องการกระจายสนิ เช่อื และการกระจุกตวั ของสาขาธนาคาร
ทม่ี า: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
• SMEs รายย่อยและนอกเขต กทม.และปริมณฑลยังเข้าถึงสินเช่ือในสัดส่วนที่ต่ามาก
เมอ่ื เปรียบเทยี บกับรายใหญ่