The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by E-book สสว.10, 2021-10-18 05:35:00

การจัดการความรู้และการถ่ายทอดความรู้ (KM) สสว.10 ประจำปี 2564

Knowledge Management KM สสว.10 ประจำปี 2564

3. การประชาสัมพันธ์ช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ทำให้เกิดความร่วมมือ
กับหน่วยงานและฝ่ายบริหาร เพราะ การประชาสัมพันธ์เป็นการ
สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างฝ่ายบริหารกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ด้วยการให้
ข่าวสารข้อเท็จจริงและความถูกต้อง มิได้เป็นการจูงใจหรือการโฆษณา
ชวนเชื่อด้วยกลวาจา ย่อมทำให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกับฝ่ายบริหารขึ้น

4. การประชาสัมพันธ์ช่วยการขายและการตลาด การประชาสัมพันธ์
เป็นการปูพื้นค่านิยม ทัศนคติที่ดีให้เกิดกับหน่วยงานเมื่อประชาชนมีค่า
นิยม ความรู้สึกที่ดีแล้วก็มีใจพร้อมที่จะรับฟังข่าวสาร การโฆษณาสินค้า
หรือบริการต่างๆ ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความต้องการอยากได้และ
ตัดสินใจซื้อในที่สุด ประชาสัมพันธ์ที่มีการตรวจสอบทัศนคติ ความคิดเห็น
ค่านิยมของกลุ่มเป้าหมาย ยังช่วยให้ฝ่ายการตลาดวางแผนงาน ตั้งแต่ผลิต
สินค้า จัดจำหน่าย โฆษณา ฯลฯ ได้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพด้วย

ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ | 9

การสื่อสารเพื่อการประชาสัมพันธ์

การประชาสัมพันธ์เป็นหนึ่งในช่องทางการสื่อสารที่มีความสำคัญ
ในการสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างองค์กรกับบุคคล หรือกลุ่มที่มีส่วนได้
ส่วนเสีย รวมถึงสาธารณชนทั่วไป งานด้านการประชาสัมพันธ์จึงเป็นงาน
ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องมือในการสื่อสารซึ่งเครื่องมือที่ใช้มีวิวัฒนาการ
ตามกระแสสังคมที่เปลี่ยนไป ในอดีตใช้ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์
เป็นเครื่องมือสื่อสารหลัก แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป สื่อสังคม
ออนไลน์เข้ามามีบทบาท และมีการใช้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง

การสื่อสารเพื่อการประชาสัมพันธ์ มุ่งสร้างความเข้าใจอันดีระหว่าง
องค์กรกับกลุ่มเป้าหมายทั้งภายในและภายนอก โดยการสื่อสารในเชิงคุณภาพ
เพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กรภายใต้กระแสเครือข่ายสังคมออนไลน์จำเป็น
ต้องใช้การสื่อสารทั้งกระบวนการที่มีความเข้มข้นประกอบด้วย 4 ปัจจัยสำคัญ
ได้แก่ องค์กร (ผู้ส่งสาร) ข่าวสาร (ประเด็น/เนื้อหา) ช่องทางการสื่อสาร และ
ผู้รับสารกลุ่มเป้าหมาย :

องค์กร (ผู้ส่งสาร) องค์กรต่างมีความพยายามในการส่งสารไปยังผู้รับสาร
กลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับนโยบาย จุดมุ่งหมาย ความเป็น
เอกภาพ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ เอกชน ต่างต้องกำหนดคุณลักษณะ
เฉพาะภาพลักษณ์ขององค์กรที่ชัดเจน รู้จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค
สิ่งใดจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้มั่นคง สิ่งใดต้องกำหนดให้เป็นการสื่อสาร
เร่งด่วนในระยะสั้น หรือสิ่งใดต้องขับเคลื่อนในระยะยาว

10 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

ข่าวสาร (ประเด็น/เนื้อหา) ข่าวสารและเนื้อหาที่นำเสนอมีผลต่อ
ภาพลักษณ์ขององค์กร การกำหนดประเด็นที่จะมีผลต่อการรับรู้และ
การตลาด เช่น การบริการ การส่งเสริมการขาย และบทบาททางสังคม
ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญต่อการนำเสนอความเคลื่อนไหวในเรื่องทิศทาง
การบรหารทรัพยากร กิจกรรมขององค์กรในด้านต่างๆ การบริหาร
การติดตามการวิเคราะห์ ประเมินผลเนื้อหาข่าวสารในทุกสื่อ ทุกขั้นตอน
สื่อและช่องทางการสื่อสาร ข่าวสารและเนื้อหาที่ส่งไปถึงผู้รับสารเป็น
การสื่อสารทางตรงและทางอ้อม ข่าวสารและเนื้อหาที่นำเสนอผ่าน
สื่อมวลชน สื่อใหม่และสื่อสังคมออนไลน์ มีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างฐาน
ลูกค้าใหม่ การเพิ่มความถี่และการสร้างการยอมรับในการมีส่วนร่วมของ
สังคม และการเสริมแรงของกระบวนการสื่อสารเพื่อสร้างภาพลักษณ์
ผู้รับสารกลุ่มเป้าหมาย ผู้รับสารมีอิทธิพลต่อกระบวนการสื่อสารเพราะ
จะนำไปสู่กระบวนการตัดสินใจ ผู้รับสารสามารถจำแนกได้หลายกลุ่ม
ผู้รับสารที่เป็นลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าเป้าหมาย จะเป็นกลุ่มที่แต่ละ
องค์กรต้องการสื่อสารมากที่สุด ทั้งในด้านความเชื่อถือ ความเชื่อมั่นต่อ
ชื่อเสียงและการดำเนินงาน การให้ข้อมูลบริการ เงื่อนไขรายละเอียด
ตลอดจนการตัดสินใช้บริการและความพึงพอใจ

11ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

ทั้งนี้ กระบวนการสื่อสารประชาสัมพันธ์ทั้งกระบวนการเป็นสิ่งที่จำเป็น
ผลสะท้อนกลับจากผู้ที่รับสารจะสามารถสะท้อนถึงการเลือกใช้กลยุทธ์
การสื่อสาร ยังสามารถสะท้อนภาพลักษณ์ขององค์กรในฐานะผู้ส่งสารได้อย่าง
ชัดเจน นอกจากนี้ ผลสะท้อนกลับจากสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่อาจควบคุมได้
การนำมาซึ่งความเห็นที่ไม่อาจควบคุมได้ เป็นสิ่งจำเป็นต้องมีการบริหาร
ด้านเนื้อหาและเทคนิคควบคู่กันไป (ที่มา : อภิชัจ พูลสวัสดิ์ และกุลทิพย์
ศาสตระรุจิ “การประชาสัมพันธ์ภายใต้สื่อกระแสสังคมออนไลน์” วารสารการ
ประชาสัมพันธ์และการโฆษณา,2556) ตามแผนภาพ

เหตุการณ์ธรรมชาติ เหตุการณ์ที่สร้างขึ้น

เนื้อหาในสื่อ
สังคมออนไลน์

การรับรู้

พอใจ / ประทับใจ ขัดแย้ง / ไม่เห็นด้วย

ภาพลักษณ์องค์กร

12 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

ทำความเข้าใจ “โฆษก”

นอกจากความสามารถในการจัดการด้านธุรกิจหรือดำเนินภารกิจของ
ตนเองแล้ว บรรดาองค์กรชั้นนำที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ต่างให้ความ
สำคัญกับการสื่อสารที่ชัดเจน ถูกเวลา เหมาะสมกับสถานการณ์ สอดคล้องกับ
เป้าหมายขององค์กร การให้ความสำคัญของภาพลักษณ์และการสื่อความของ
องค์กร จะขับเคลื่อนเนื้อหา ประเด็น บ่งบอกตัวตน ความเป็นองค์กรออกมาได้
ผ่านทุกช่องทางที่บอกเล่าเรื่องราวขององค์กรรวมถึงการสื่อสารผ่านโฆษก
องค์กร ไม่เว้นแม้แต่ภาครัฐเองที่ต้องมีโฆษกรัฐบาลที่รับผิดชอบในการแถลง
ข้อมูลของรัฐบาล หรือข่าวสารต่างๆ ต่อสาธารณชน (ที่มา : ดร.พจน์ ใจชาญ
สุขกิจ Spokesperson : โฆษกองค์กรกับระบบการสื่อสารที่มีคุณภาพ)

โฆษก (Spokesman) คือ บุคคลหนึ่งที่ทำหน้าที่ประกาศข่าวสาร หรือ
ข้อมูลต่างๆ ให้แก่สาธารณชน ให้ได้รับรู้ โดยในพจนานุกรมฉบับบัณฑิตย-
สถาน พ.ศ.2552 ให้ความหมายว่า ผู้ประกาศ ผู้โฆษณา เป็นปากเสียงแทน
ผู้ประกาศโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียง ผู้ประกาศโฆษณา ผู้ป่าวร้อง
ผู้ทำเสียงกึกก้อง ผู้พูดดัง




จากนิยามข้างต้นสรุปได้ว่า โฆษก คือ ผู้กล่าวแทนเพื่อประสานเชื่อมโยง
หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนกับผู้ชม ผู้ฟังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและมี
ระเบียบ กล่าวอีกนัยคือ ผู้ที่ทำหน้าที่ในการสร้างความเข้าใจ องค์กร กับ
ประชาชน โดยการให้สาระ ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อทำให้ประสบความสำเร็จ หรือ
ได้ตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็น การบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ การชี้แจงสาระ
ข้อมูลหรือข่าวสารที่เป็นประโยชน์ การเผยแพร่ข่าวสารหรือข้อมูลต่อบุคคล
ทั่วไป แก้ความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้นแล้วให้บุคคลต่าง ๆ เพื่อใช้เป็น
การสำรวจประชามติหรือความคิดเห็นต่าง ๆ ของประชาชน

13ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

ประเภทของโฆษก

1.โฆษกประเภทแถลงข่าวแก้ข่าว มีหน้าที่แถลงข่าว แก้ข่าวของหน่วยงาน
นั้น ๆ เช่น โฆษกรัฐบาล

2.โฆษกประเภทพิธีกร มีหน้าที่พูดลำดับขั้นตอนของแต่ละงาน ตั้งแต่เริ่มต้น
จนปิดงาน เช่น โฆษกในงานสมรส การประชุมสัมมนา งานพิธี เป็นต้น

3.โฆษกประเภทประกาศ มีหน้าที่ประกาศข้อความ อธิบายหรือแนะนำให้แก่
ผู้ที่มาติดต่อ เช่น โฆษกแผนกประชาสัมพันธ์

4.โฆษกประเภทโฆษณา มีหน้าที่ประกาศแจ้งความสินค้าทางวิทยุ โทรทัศน์
เป็นต้น

14 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

ลักษณะหรือคุณสมบัติของผู้เป็นโฆษก

1.มีความรอบรู้ และรู้รอบในเรื่องของโครงสร้างของงาน ทั้งหมดรวมทั้ง
ข้อมูลข่าวสาร

2.รับรู้ข้อมูลของผู้จัดงาน แขกผู้มีเกียรติต่าง ๆตลอดจนการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
3.บุคลิกภาพที่ดี แสดงถึงความกระตือรือร้น
4.มีร่างกายแข็งแรง ท่าทางคล่องแคล่ว
5.มีจิตสำนึกในการต้อนรับ และบริการที่ดี
6.ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีไมตรีจิต
7.เป็นคนช่างสังเกต มีปฏิภาณไวพริบดี แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้
8.มีเทคนิค และศิลปะในการพูด การผ่อนคลายอารมณ์ผู้อื่น
9.เก็บอารมณ์ได้ดี เป็นคนมีเหตุผล
10.สุขภาพอ่อนโยน อ้อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ
11.เป็นผู้มีสัมมาคารวะ มีความสำรวม
12.องอาจ อดทน อดกลั้น และรู้จักให้อภัย
13.การใช้น้ำเสียง ควรมีชีวิตชีวา
14.การใช้ภาษาที่ดีได้แก่ การเว้นวรรค การออกเสียงคำได้ถูกต้อง ชัดเจน

การใช้ภาษาให้กระชับ สละสลวย เข้าใจง่าย
15.ปฏิภาณไหวพริบ ได้แก่ความฉับไวที่จะแก้สถานการณ์ให้มี

15ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

การขับเคลื่อนคณะทำงานทีมโฆษก
พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี

กลไกการขับเคลื่อนในพื้นที่

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เห็นความสำคัญของ
การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ในระดับพื้นที่ จึงมีนโยบายและให้พื้นที่ดำเนินการ
สร้างกลไกในระดับจังหวัดให้มีโฆษกประจำ พม. จังหวัดขึ้น โดยหน่วยงานในสังกัด
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี (One
Home) ได้บูรณาการขับเคลื่อนงานด้านการประชาสัมพันธ์ โดยจัดตั้งคณะทำงาน
ทีมโฆษก พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 1636/2563
ลงวันที่ 13 มีนาคม 2563 ต่อมา ได้มีการปรับเปลี่ยนคณะทำงานฯ เพิ่มเติมเพื่อให้
สอดคล้องและมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงได้จัดทำคำสั่งจังหวัด
สุราษฎร์ธานี ที่ 6340/2563 เรื่อง คณะทำงานทีมโฆษก พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 โดยประกอบด้วย ที่ปรึกษาคณะทำงาน ทีมโฆษก และ
ทีมประชาสัมพันธ์ เพื่อขับเคลื่อนงานประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายและ
โครงการสำคัญของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ
โครงการ/กิจกรรมต่างๆ ที่ขับเคลื่อนโดยหน่วยงานในสังกัด พม. (One Home)
ในพื้นที่จังหวัด ตลอดจนการบูรณาการด้านข้อมูลข่าวสารที่เป็นภาพรวมเป็นไป
อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปสู่ประชาชน
ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีองค์ประกอบคณะทำงานพร้อมบทบาทหน้าที่ ดังนี้

16 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

บทบาทหน้าที่ทีมโฆษก

1. เผยแพร่ข่าวสารนโยบายและโครงการสำคัญของกระทรวงการพัฒนา
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และโครงการ/กิจกรรมต่างๆ ที่ขับเคลื่อน
โดยหน่วยงาน พม. (One Home) ในพื้นที่จังหวัด

2.แถลงข่าวสารและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ บทบาทภารกิจของ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประเด็นข่าวสาร
ที่เกี่ยวข้อง พม. ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

3. ปฏิบัติหน้าที่อื่ นที่ได้รับมอบหมาย

บทบาทหน้าที่ทีมประชาสัมพันธ์

1.กำหนดแผนและประเด็นประชาสัมพันธ์ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อ
การประชาสัมพันธ์ดำเนินการนโยบายและโครงการสำคัญของกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

2. บูรณาการด้านข้อมูลข่าวสารที่เป็นภาพรวมผลการดำเนินการโครงการ/
กิจกรรมที่ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในรูปแบบ พม.จังหวัด
สุราษฎร์ธานี (One Home)

3. รวบรวมผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรมที่ดำเนินการในพื้ นที่จังหวัด
สุราษฎร์ธานีและการบูรณาการในรูปแบบ พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
(One Home)

4.จัดทำสื่อ Vlog และสื่อประชาสัมพันธ์

17ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

คำสั่ง เรื่อง คณะทำงานทีมโฆษก พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี

18 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

19ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

20 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

CIO กับการกำกับการทำงานในพื้นที่

หากจะกล่าวถึงผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (Chief
Information Officer : CIO) เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ
ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในองค์กร รวมถึงการดูแลเกี่ยวกับ
มาตรฐาน กฎเกณฑ์ โครงสร้าง งบประมาณ กระบวนการให้ความรู้ บุคลากร
ของหน่วยงานสารสนเทศ โดย CIO เป็นผู้ให้คำแนะนำแก่ผู้บริหารสูงสุดของ
องค์กร เกี่ยวกับการพัฒนาและนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้
ให้บริการองค์กรประสบความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ และเป้าหมายรวมของ
หน่วยงานที่กำหนดไว้ เช่นเดียวกับการขับเคลื่อนงานด้านการประชาสัมพันธ์
ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นอกจากการมีกลไก
ของโฆษกและประชาสัมพันธ์ในพื้นที่แล้วนั้น นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ
และมีข้อสั่งการ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (One Home) แต่งตั้ง ผู้บริหาร
เทคโนโลยีระดับสูง (Chief Information Officer : CIO) ประจำสำนักงาน
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด โดยเป็นผู้แทนของทีม พม.
จังหวัด (One Home) จังหวัดละ 1 คน เพื่อจัดการข่าวสารที่กระทบกับ
กระทรวง พม. เช่น การตรวจสอบและแจ้งความกรณีข่าวปลอม การแก้ไขหรือ
ชี้แจงกรณีข่าวที่บิดเบือนผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และโซเชียลมีเดีย
รวมถึงการปรับปรุงระบบการสื่อสารทางรูปแบบ Top-Down และ Bottom-up
โดยได้ให้ความสำคัญและมุ่งพัฒนาศักยภาพของ CIO ผ่านการอบรมให้
มีทักษะด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นองค์ความรู้ สามารถ
นำข้อมูลมาใช้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำต่อไป

21ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10

สำหรับผู้บริหารเทคโนโลยีระดับสูง (Chief Information Officer : CIO)
ประจำสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ได้แก่ “นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการ 10” ทั้งนี้ CIO พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ตระหนักถึงความสำคัญและ
มีนโยบายให้จัดการประชุมแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของทีมโฆษก
พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ผ่านระบบประชุมทางไกล
ออนไลน์ โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย คณะงานทีมโฆษกและ
ประชาสัมพันธ์ พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อทบทวนการขับเคลื่อนการดำเนินงาน
ที่ผ่านมา รวมถึงเพื่อหาแนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของทีมโฆษก
พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป โดยมีแนวทางการขับเคลื่อน
การดำเนินงานตามข้อสั่งการของ CIO พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามประเด็นดังนี้
การปรับคำสั่งคณะทำงานโฆษก พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน
รูปแบบการนำเสนอ ช่องทางการประชาสัมพันธ์ ระบบการส่งสื่อ/ข่าว การยกระดับ
ทักษะด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล ทั้งนี้ จะมีการประชุมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงาน
ของคณะทำงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไป

22 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

Model การขับเคลื่อนงาน

คณะทำงานทีมโฆษก พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกำหนดแนวทาง
การขับเคลื่อนงานโฆษกประชาสัมพันธ์ พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อร่วม
ขับเคลื่อนงานประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมการผลิตสื่อ
พม. ช่วยเหลือแล้ว โดยมี ผู้บริหารเทคโนโลยีระดับสูง (Chief Information
Officer : CIO) ประจำสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
สุราษฎร์ธานี เป็นผู้กำกับและสนับสนุนการดำเนินงานของคณะทำงาน
ทีมโฆษก พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งประกอบด้วย 5 ทีม ได้แก่

1.ทีมการกรองข่าว โดยมี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้าชุด โดยทีมการกรองข่าวจะติดตามข่าว
สถานการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นจากสื่อช่องทางต่างๆ ดังนี้
ประชาสัมพันธ์จังหวัด
สื่อ Social Media ต่างๆ
Facebook ผู้บริหารกระทรวง
Facebook มูลนิธิปวีณา
Facebook ที่นี่สุราษฎร์ธานี
Facebook ที่นี่มันสุราษฎร์
Facebook คนสุราษฎร์ (ทันเหตุการณ์)
Facebook รวมพลคนสมุย
สายด่วน 1300
เครือข่ายในพื้นที่ เป็นต้น

23ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

2. ทีมลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ประสบปัญหาทางสังคม โดยมี สำนักงานพัฒนา
สังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี บ้านพักเด็กและ
ครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัด
สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ประสบปัญหาทางสังคม พร้อมให้
ความช่วยเหลือตามกระบวนการสังคมสงเคราะห์เฉพาะราย พร้อมส่ง
ภาพถ่าย และรายละเอียดการดำเนินงานให้ทีมผลิต

3. ทีมการผลิตสื่อ โดยมี สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
เป็นหัวหน้าชุด รวมถึงจัดตารางการดำเนินงานการผลิตสื่อให้แก่หน่วยงาน
พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี (One Home) เป็นประจำทุกเดือน โดยหน่วยงาน
พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี (One Home) ที่ได้รับมอบหมายตามตารางงาน
นำข้อมูลที่ได้จากทีมลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน (ทีม 2) มาจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์
ตามรูปแบบที่กำหนดตามตารางการปฏิบัติงานของทีมการผลิตสื่อ โดยมี
ข้อสังเกตกรณีการผลิตสื่อที่เป็นประเด็นอ่อนไหว ให้พิจารณาการนำเสนอ
อย่างถี่ถ้วน โดยใช้ข้อความที่ไม่ระบุสถานที่ที่เฉพาะเจาะจง แต่ให้ใช้
ข้อความกลางๆ

4. ทีมตรวจสอบและเผยแพร่ข้อมูล โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำข้อมูลที่ได้จากทีม
การผลิตสื่อมาตรวจสอบและเผยแพร่ข้อมูล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ
ประเด็นการจัดทำสื่อสามารถเผยแพร่และรายงานต้นสังกัดของหน่วยงาน
ดังกล่าวได้

5. ทีมเก็บรวบรวมข้อมูล สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำข้อมูลทั้งหมดเก็บรวบรวมเพื่อเป็นคลังข้อมูลของ
หน่วยงาน พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี (One Home)

24 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

ทั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการติดต่อประสานงาน การส่งข้อมูลข่าวสาร
การแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ตลอดจนการรายงานผลการดำเนินงานโดย
สังเขปของทีมผู้ปฏิบัติงานดังกล่าวข้างต้น จะใช้ช่องทางการสื่อสารผ่าน Line
Application “ทีมโฆษก พม. สุราษฎร์ธานี” เป็นช่องทางในการสื่อสารดังกล่าว
โดยภายในกลุ่ม จะประกอบด้วย CIO พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ปรึกษา
คณะทำงาน คณะทำงานทีมโฆษก และทีมประชาสัมพันธ์ อย่างครบถ้วน

25ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

26 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

ช่องทางการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของหน่วย
งาน One Home

หน่วยงาน ช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย
http://tpso10.m-
สำนักงานส่งเสริมและ society.go.th/index.php/th/
สนับสนุนวิชาการ 10 สสว สิบ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
TPSO 10_Channel
@tpso10surat
ศูนย์บริการวิชาการฯ สสว.10

สำนักงานพัฒนาสังคม http://suratthani.m-society.go.th/
และความมั่นคงของมนุษย์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ
ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของ
จังหวัดสุราษฎร์ธานี มนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี

www.baansrisurat.org

สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจาก
การค้ามนุษย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

bansri surat

อยู่ระหว่างการพัฒนาจัดทำ TIKTOK
ของหน่วยงาน

27ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

หน่วยงาน ช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย

สถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็ก สถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็กจังหวัด
จังหวัดสุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี

ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง www.surat.dsdw.go.th
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัด
สุราษฎร์ธานี

นิคมสร้างตนเองขุนทะเล นิคมสร้างตนเองขุนทะเล

นิคมสร้างตนเองพระแสง นิคมพระแสง สุราษฎร์ธานี

บ้านพักเด็กและครอบครัว บ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัด
จังหวัดสุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี

สถานธนานุเคราะห์ 37 สภาเด็ก และเยาวชนจังหวัด
สุราษฎร์ธานี

สถานธนานุเคราะห์ โรงรับจำนำของรัฐ
สาขาสุราษฏร์ธานี 37

การเคหะแห่งชาติ https://www.nha.co.th
(สุราษฎร์ธานี)

สภาองค์กรชุมชนจังหวัด https://web.codi.or.th/approve-
สุราษฎร์ธานี the-project/north-south/

เครือข่ายองค์กรชุมชนเมืองคนดี

สภาองค์กรชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี

สวัสดิการชุมชนเพื่อการพัฒนาสังคม
เมืองคนดี

28 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

การสนับสนุนการขับเคลื่อนงาน

ซึ่งแน่นอนว่าการทำงานในสายงานทางด้านสังคมของหน่วยงาน
ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยส่วนใหญ่
บุคลากรผู้ปฏิบัติงานจะดำรงตำแหน่งเป็นนักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาชุมชน
ผู้ปฏิบัติงานด้านการดูแล ผู้รับการสงเคราะห์ พี่เลี้ยง ฯลฯ ความเชี่ยวชาญหรือ
ความชำนาญในด้านการประชาสัมพันธ์องค์กร งานสื่อสารองค์กร อาจไม่ได้มี
เท่าที่ควร ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ในฐานะที่เป็น
หน่วยงานที่สนับสนุนงานด้านวิชาการและการส่งเสริมองค์ความรู้ให้แก่หน่วย
งานภาคีเครือข่าย จึงได้ดำเนินการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนา
ศักยภาพบุคลากรเพื่องานประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 19 – 20 กันยายน 2563
ณ ห้องประชุมพุทธทาสธรรมโฆษณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยมี
วัตถุประสงค์ พัฒนาบุคลากรภายในองค์กรและหน่วยงานสังกัดกระทรวงการ
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีให้มีทักษะ
และความสามารถในการสื่อสารภาพลักษณ์ขององค์กรออกสู่ภายนอก
โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วยคณะทำงานทีมโฆษก พม. จังหวัด
สุราษฎร์ธานีและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการทำงานด้านการประชาสัมพันธ์
จำนวนทั้งสิ้น 25 คน

29ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

สำหรับกิจกรรมในโครงการฯ ประกอบด้วย การรับฟังการบรรยายและ
การฝึกปฏิบัติ ในเรื่องเทคนิคการถ่ายภาพนิ่ง การถ่ายภาพเคลื่อนไหวสำหรับ
การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ โดยใช้กล้อง DSLR และโทรศัพท์มือถือ เทคนิค
การสร้างสรรค์สื่อดิจิตัล การแต่งภาพ การตัดต่อภาพ การใส่เสียงคำบรรยาย
การจัดทำ Script ข่าว และเทคนิคการเขียนข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์
พร้อมทั้งมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการอบรมโครงการฯ ดังกล่าว โดยคาดหวัง
ให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้มีโอกาสนำองค์ความรู้ไปใช้ในการพัฒนางานและ
ขับเคลื่อนงานด้านการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานต่อไป

นอกจากการจัดโครงการฯ ข้างต้นแล้ว สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการ 10 ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานทีมโฆษก พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ได้ดำเนินการจัดประชุม เรื่อง “ทีมโฆษก พม. (จังหวัดสุราษฎร์ธานี) กับ
การขับเคลื่อนงานในพื้นที่” เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 ณ ห้องประชุมสำนักงาน
ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนแนวทาง
การขับเคลื่อนงานทีมโฆษก พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งแลกเปลี่ยน
ข้อมูล ปัญหา และอุปสรรคในการขับเคลื่อนงานดังกล่าว รวมถึงเพื่อเป็นการ
สร้างสัมพันธภาพที่ดีของผู้ปฏิบัติงาน

30 กิจกรรมฝึกปฏิบัติ
| ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

ปัญหา อุปสรรค จากการขับเคลื่อนงาน

ปัญหา อุปสรรค จากการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์
ของ พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ผ่านมาสรุปได้ดังนี้

1. บุคลากรที่มีบทบาทที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการประชาสัมพันธ์ยังขาด
ความรู้เรื่องของการสื่อสารองค์กร การประชาสัมพันธ์ ประกอบกับ
บุคลากรส่วนใหญ่ปฏิบัติงานในตำแหน่งนักพัฒนาสังคม นักสังคม
สงเคราะห์ เป็นต้น

2.บุคลากรบางคนขาดความเชี่ยวชาญ ความชำนาญในการผลิตสื่อ ส่งผล
ให้การดำเนินงานในแต่ละครั้งอาจต้องใช้ระยะเวลานาน และไม่ทันต่อ
สถานการณ์

3.ทีมกรองข่าวในแต่ละหน่วยงานมีภารกิจงานของตนเอง ขาดทักษะในการ
พิจารณาข่าวในประเด็นอื่นๆ ที่นอกเหนือจากภารกิจงานของตนเอง
รวมถึงประเด็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับด้านสังคมมีจำนวนมาก

4.ผู้ปฏิบัติงานจริง (งานกรองข่าว/งานผลิตข่าว) ไม่ได้มีชื่ออยู่ในคณะทำงาน
ทีมโฆษก พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงขาดหน่วยงาน พอช. ในคณะ
ทำงานทีมโฆษกและทีมประชาสัมพันธ์

5. ประชาชนบางกลุ่ม/บางพื้ นที่ยังเข้าไม่ถึงการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน
ใน พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี อาจเนื่องจากความไม่เอื้ออำนวยในการใช้
Social Media อาจต้องมีการสื่อสารในหลายรูปแบบ

6. ขาดความต่อเนื่ องในการบูรณาการการทำงานเชิงประชาสัมพันธ์ของ
หน่วยงาน พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี

7. ข้อควรคำนึงสำหรับการทำงานด้านการสื่ อสารประชาสัมพันธ์กรณี
การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมบางกลุ่มเป้าหมายที่ไม่สามารถ
เผยแพร่ ชื่อ-สกุล ที่อยู่อาศัย รวมถึงสถานศึกษาต่างๆ เป็นต้น

31ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

แนวทางการพัฒนางานต่อไป

แนวทางการขับเคลื่อนงานโฆษกประชาสัมพันธ์ พม. จังหวัด
สุราษฎร์ธานี สรุปได้ดังนี้

1.สร้าง Brand และ Motto ที่เหมือนกัน เพื่อความเป็นอัตลักษณ์ร่วมกันของ
โฆษก พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี

2.สร้าง Page กลางของ พม. จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำหรับให้หน่วยงานใช้เป็น
พื้นที่ในการนำเสนอข่าวสารต่างๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ต่างๆ

3. สร้างแรงจูงใจโดยการแจกของรางวัลให้แก่คนที่ให้ความสนใจในการมา
กด Like หรือ กด Share เพจประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน ประกวด
ผลงานการเขียนข่าว การจัดทำภาพข่าวที่มีชีวิต

4. ขยายความร่วมมือไปยังทีมภาคประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมหรือ
มีบทบาทในการสนับสนุนการผลิตสื่อ

5.สร้างองค์ความรู้ในด้านการนำเสนอข่าวให้แก่ทุกทีม โดยเฉพาะ
ทีมตรวจสอบ จะช่วยทำให้ข่าวในการนำเสนอมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

6.มีการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพคณะทำงานทีมโฆษก พม. จังหวัด
สุราษฎร์ธานี อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการปูพื้นฐานองค์ความรู้
ด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และเป็นการพัฒนาทักษะให้แก่
ผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง

7.สนับสนุนให้มีช่องทางการประชาสัมพันธ์ในหลายรูปแบบ อาทิ ช่องทาง
Social Media รวมถึงช่องทางวิทยุ เสียงตามสาย ที่มีความเหมาะสมและ
สอดคล้องกับบริบทการดำเนินชีวิตของคนในชุมชน

32 | ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่

บรรณานุกรม

มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช.ความหมายและความสำคัญของการ
ประชาสัมพันธ์. (ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน
2564.จาก.https://www.stou.ac.th/stouonline/lom/data/sms/market/U
nit8/SUBM1/U811-1.htm
Spokesperson: โฆษกองค์กรกับระบบการสื่อสารที่มีคุณภาพ.ดร.พจน์ใจชาญ
สุขกิจ .(ออนไลน์). สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2564.จาก.
http://www.drphot.com/images/journal/2553/corporate_communicati
on/external/Article%20Spokperson%20Feb%202010.pdf
อภิชัจ พูลสวัสดิ์ และกุลทิพย์ ศาสตระรุจิ “การประชาสัมพันธ์ภายใต้สื่อ
กระแสสังคมออนไลน์” วารสารการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา,2556

33ทีมโฆษก พม. ( จังหวัดสุราษฎร์ธานี ) กับการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ |

คณะผู้จัดทำ

ที่ปรึกษา




นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล
(ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10)




นายพงษภัทร แสงพิทูร
(นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ)

คณะทำงานทีมโฆษก พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี




ผู้จัดทำ




นางสรัลชนา หงษ์วิวัฒน์ (นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ)




ผู้ออกแบบรูปเล่ม




นางสาวนิศากร หนูนวล (นักพัฒนาสังคม)




จัดพิมพ์และเผยแพร่




สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 จังหวัดสุราษฎร์ธานี
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

33 หมู่ที่ 1 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84100
โทรศัพท์ : 0-7735-5022-3
โทรสาร : 0-7735-5705

E-mail : [email protected]
Website : http://tpso-10.m-society.go.th

ปีที่ผลิต : สิงหาคม 2564
พิมพ์ที่ : สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10

ศิลปะบำบัด
ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

เรียบเรียงโดย

นางสาวฉวีวรรณ สาระโมฬี
ตำแหน่ง เจ้าพนักงานพัฒนาสังคมปฏิบัติงาน

คำนำ

การจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) เป็นการรวบรวม
องค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กร ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสารมาพัฒนา
ให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็น
ผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถ
เชิงแข่งขันสูงสุด โดยเป้าหมายที่สำคัญของการจัดการความรู้มุ่งพัฒนาใน 3 ประเด็น
ได้แก่ พัฒนางาน พัฒนาคน และการเป็นองค์กรหลักในการส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการด้านการพัฒนาสังคมแก่ภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ ศึกษา วิเคราะห์
สถานการณ์เพื่อคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบ การถ่ายทอด
ความรู้ด้านการพัฒนาสังคมในระดับพื้นที่ รวมถึงเป็นศูนย์เรียนรู้ ศูนย์บริการวิชาการ
ในระดับพื้นที่กลุ่มจังหวัด โดยมีจังหวัดพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด
สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต และจังหวัดนครศรีธรรมราช

สำหรับการดำเนินงานในปี 2564 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10
ได้ดำเนินโครงการศูนย์บริการวิชาการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคม โดยมี
กิจกรรม การจัดการความรู้และการถ่ายทอดความรู้ โดยการศึกษาเรื่องศิลปะบำบัด
ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า ซึ่งได้รับข้อมูลจากสถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

ในโอกาสนี้ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ขอขอบคุณ
นางจารุณี รัตนจินดา ผู้อำนวยการสถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็ก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ที่ให้การสนับสนุนองค์ความรู้และข้อมูลสำหรับการจัดการความรู้ในครั้งนี้ และ
ขอขอบคุณ นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการ 10 ที่ให้คำปรึกษา แนะนำและสนับสนุนการจัดการความรู้ในครั้งนี้

ทั้งนี้ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดการความรู้ในครั้งนี้จะเป็น
ประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็น
แนวทางในการฟื้ นฟูภาวะซึมเศร้าต่อไป

คณะผู้จัดทำ
สิงหาคม 2564

ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

สารบัญ 1
3
คำนำ 6
สารบัญ 9
บทนำ 11
รู้จักโรคซึมเศร้า 12
การจัดการภาวะซึมเศร้า 12
ศิลปะบำบัดคืออะไร
13
-ศิลปะบำบัดต่างกับการเรียนศิลปะทั่วไปอย่างไร 14
-ศิลปะบำบัดเหมาะกับใครบ้าง 15
-ศิลปะบำบัดส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย
19
และอารมณ์ในเด็กและวัยรุ่นอย่างไร 22
-ศิลปะบำบัดกับการฟื้ นฟูสุขภาวะแบบองค์รวม 26
-ศิลปะบำบัดแนวจิตวิเคราะห์ (Art Psychotherapy)
-ที่มาของการนำศิลปะบำบัดมาใช้ในสถานพัฒนา 27
28
และฟื้ นฟูเด็กสุราษฎร์ธานี 29
กระบวนการจัดกิจกรรมศิลปะบำบัด
ผลผลิต/ผลลัพธ์ เชิงประจักษ์

-ประโยชน์ที่ประชาชน/ผู้รับบริการได้รับจาก
กิจกรรมศิลปะบำบัด ศาสตร์ ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

-การประเมินผลของผู้ใช้บริการ
-การจัดการผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้น
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

บทนำ

ปัจจุบันโรคซึมเศร้า นับเป็นโรคหนึ่งที่มีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนสูงขึ้น สาเหตุ
หลักเนื่องจากสถานการณ์ทางสังคมที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้
เกิดโรคนี้ ผู้ที่มีประสบปัญหาโรคซึมเศร้าบางรายจะมีอารมณ์ซึมเศร้าที่รุนแรง
หรือไม่รุนแรงแตกต่างกันไป ผู้ป่วยจะมีอารมณ์ไม่แจ่มใส หดหู่ เศร้าหมอง
มีทุกข์ จนถึงเบื่อหน่าย ท้อแท้ เบื่อชีวิต คิดว่าตนเองไร้ค่า คิดอยากตาย และ
อาจจะฆ่าตัวตายได้ การเบื่อสังคมหรือพบเจอสิ่งแวดล้อมที่ทำร้ายจิตใจ
อาจแสดงออกด้วยการเก็บตัว แยกตัว เซื่องซึม ขาดความมั่นใจในตนเอง
เครียดง่าย กังวลง่าย มองโลกในแง่ร้าย ไม่เห็นทางแก้ไขปัญหา หาทางออก
ไม่เจอ

จากข้อมูลปี 2562 องค์การอนามัยโลกระบุว่าปัจจุบัน 1 ใน 20 คนของ
ประชากรโลกกำลังป่วยด้วยโรคซึมเศร้า และป่วยซ้ำสูงร้อยละ 50-70 ที่น่าเป็น
ห่วง เป็นต้นเหตุให้วัยรุ่นฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้น ในประเทศไทย พบว่าวัยรุ่นอายุ
10-19 ปี มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าสูงร้อยละ 44 หรือประมาณ
3 ล้านกว่าคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับ
ต้นๆ ของวัยรุ่นในประเทศไทย ซึ่งอาจมีผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภาวะ
โรคซึมเศร้า เช่น ปัญหาการเรียน ปัญหาความสัมพันธ์กับครอบครัวและ
คนรอบข้าง และปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ

(ที่มา: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 12)

ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า 1

สถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีภารกิจในการบำบัด
รักษา การฟื้ นฟูสมรรถภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ตลอดจน การส่งเสริม
การศึกษา แนะแนว และการฝึกอาชีพแก่เด็กที่จำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์
หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเป็นกรณีพิเศษ ในเด็กหญิงอายุระหว่าง 6- 18 ปี
ในปี 2563 มีเด็กในความดูแลของหน่วยงาน จำนวน 31 ราย ซึ่งสาเหตุ
การรับเข้าของผู้ใช้บริการมีปัญหามาจากโรคซึมเศร้า พบว่าเด็กป่วยด้วย
โรคซึมเศร้ามากสูงเป็นอันดับหนึ่ง สถานพื้นฟูและพัฒนาเด็กจังหวัด
สุราษฎร์ธานีจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญและผลกระทบที่ตามมาของปัญหานี้
และได้นำกิจกรรมศิลปะบำบัดมาปรับใช้ และนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับ
กระบวนการสังคมสงเคราะห์กับผู้ใช้บริการในหน่วยงาน ที่มีภาวะโรคซึมเศร้า
โดยมีการเลือกใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดที่เหมาะสมกับวัย และภูมิหลังของเด็ก
แต่ละราย พบว่ามีประสิทธิผลในการบำบัดฟื้ นฟูเด็กที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
กล่าวได้ว่าเด็กมีทัศนคติที่ดีต่อตนเองและต่อผู้อื่น ทำให้เด็กได้รับการฟื้ นฟู
ศักยภาพในด้านต่างๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สามารถปรับตัว รับรู้อารมณ์
ความรู้สึกของตนเองได้ดีขึ้น สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้เพิ่มมากขึ้น
สดใส ร่าเริง สามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับเพื่อน ๆ ด้วยกันได้ซึ่งเป็นทิศทางที่ดี
ของการเป็นก้าวแรกสำหรับการออกสู่สังคมในอนาคตได้ต่อไป

2 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

รู้จักโรคซึมเศร้า

ใครไม่เคยเศร้าบ้าง ? เป็นคำถามที่หลายคนคงตอบว่า “ไม่มี” เพราะ
อารมณ์เศร้าเป็นอารมณ์หนึ่งที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน คงจะเป็นไปได้ยากที่มนุษย์
ทุกคนจะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา ดังเช่นพระพุทธองค์ตรัสสอนไว้ว่า “ทุกสิ่ง
ทุกอย่างที่เกิดมาในโลกนี้ไม่ว่า มนุษย์หรือสัตว์ ล้วนแล้วแต่เป็นอนิจจัง คือ
ความไม่เที่ยงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทุกขัง คือ ความทุกข์กาย ทุกข์ใจ อนัตตา
คือ ความสูญเปล่า ความดับสูญ ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน” ทุกข์สุขก็เช่นกัน ย่อมมี
ความเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ หรือสภาพเหตุการณ์ที่พบเจอ สำหรับ
ระดับอารมณ์มนุษย์คนหนึ่งก็มีหลากหลาย เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลาตาม
สิ่งเร้าที่เข้ามากระทบความรู้สึกและการรับรู้ของแต่ละบุคคล

ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า 3

“ซึมเศร้า” หรือ Clinical depression ทางการแพทย์หมายถึง ภาวะ
ซึมเศร้าที่มีมากกว่าอารมณ์เศร้า และเป็นพยาธิสภาพแบบหนึ่งที่พบได้ใน
หลายๆ โรคทางจิตเวช โดยเฉพาะโรคทางด้านอารมณ์ คือ โรคซึมเศร้า (Major
depressive disorder หรือDepressive episode)และโรคไบโพลาร์ (Bipolar
disorder) โรคทางอายุรกรรมบางโรค สารยาบางชนิดสามารถ ทำให้เกิดอาการ
ซึมเศร้าที่รุนแรงได้โรคซึมเศร้าถือเป็นโรคทางด้านจิตเวชที่พบมากเป็นอันดับ
ต้นๆ ของเมืองไทย เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ ปัจจัยทางชีวภาพหรือพันธุกรรม
และปัจจัยด้านจิตใจหรือสิ่งแวดล้อม ปัจจัยทางชีวภาพหรือพันธุกรรม
เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทในสมอง หรือความผันผวน
ของระดับฮอร์โมนที่สำคัญ ส่วนปัจจัยด้านจิตใจหรือสิ่งแวดล้อม ที่เรียกว่า
ปัจจัยทางอารมณ์ เป็นผลมาจากสถานการณ์ความตึงเครียดทางอารมณ์ เช่น
หากเป็นภาวะซึมเศร้าในวัยเด็กอาจมีสาเหตุจากความตึงเครียดในครอบครัว
เหตุการณ์สะเทือนใจอย่างรุนแรง ภาวะซึมเศร้าในโรคประสาทซึ่งอาจพบร่อง
รอยว่ามีการถูกบีบคั้นอย่างมากในวัยเด็ก แล้วปะทุออกมาในช่วงชีวิตภายหลัง
ภาวะซึมเศร้าจากความชราก็สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะความสามารถในการ
ปรับตัวลดน้อยลง มีชีวิตโดดเดี่ยว ปัญหาช่องว่างระหว่างวัย หรือปัญหา
ที่เรียกกันว่า ภาวะสะเทือนใจหลังเกษียณ (สูญเสียคุณค่าในตน ไม่มีงาน
มีความรู้สึกว่าไร้สมรรถภาพ)

4 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงภาวะซึมเศร้าจากปฏิกิริยาทางใจ เช่น อาการ
ซึมเศร้าหลังจากคู่แต่งงานเสียชีวิต ตกงาน หย่าร้าง ภาวะซึมเศร้าเพราะ
สภาพจิตใจอ่อนล้า เป็นการตอบสนองทางใจต่อสภาวะความเครียดเรื้อรัง เช่น
ชีวิตสมรสมีปัญหาขัดแย้งไม่รู้จบ ความกดดันจากงานที่ต้องรับผิดชอบ
การเปลี่ยนงาน ภาระมากเกินไป ภาวะซึมเศร้าชนิดนี้มักเกิดในหญิงซึ่งต้องรับ
ภาระทั้งในครอบครัวและทำงานนอกบ้าน และในชายที่อยู่ในช่วงอายุ 50-60 ปี
ซึ่งถูกกดดันจากการไม่อาจไปสู่จุดหมายที่ตนต้องการในอาชีพการงานได้

ในปี 2563 สถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็กสุราษฎร์ธานี มีเด็กในความดูแล
ของหน่วยงาน จำนวน 31 ราย จากสถิติสาเหตุการรับเข้า พบว่าเด็กป่วยด้วย
โรคซึมเศร้ามากถึง 15 ราย มาเป็นอับดับ 1 คิดเป็น 48.39 % ซึ่งมีแนวโน้มจะ
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเหตุการณ์ที่รุนแรงเช่น การพลัดพรากจากพ่อแม่ในวัยเด็ก
รู้สึกโดดเดี่ยวด้อยค่า วิตกกังวล สูญเสียความมั่นใจ มีปัญหาในเรื่องพัฒนาการ
ของจิตใจ มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อครอบครัวและความสัมพันธ์ระหว่างผู้อื่น มีอาการ
เงียบ ไม่ยอมพูดยอมจา ส่งผลกระทบด้านพฤติกรรมเกิดปัญหาในการปรับตัว
ด้านอารมณ์และจิตใจ เนื่องจากเด็กไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง
ไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึก ความเจ็บปวดที่อยู่ภายในจิตใจจากผลกระทบ
ที่เกิดขึ้น มีแนวคิดที่ทำให้ตนเองซึมเศร้า เช่น มองตนเองในแง่ลบ มองอดีตเห็น
แต่ความบกพร่องของตนเอง หรือ มองโลกในแง่ร้าย และในระยะยาวหากไม่ได้
รับการบำบัดฟื้ นฟูความรุนแรงของอาการก็จะมีแนวโน้มมากขึ้น เด็กที่มีอาการ
เข้ากับเกณฑ์การวินิจฉัยโรคซึมเศร้านั้น บอกถึงภาวะความผิดปกติที่จำเป็น
ต้องได้รับการช่วยเหลือ
เพื่อให้สามารถมีชีวิติและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้

ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า 5

การจัดการภาวะซึมเศร้า

สำหรับการจัดการภาวะซึมเศร้าของสถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็ก
สุราษฎร์ธานี มี 3 รูปแบบ และมีกิจกรรมหลากหลายเหมาะสมกับเด็กๆ
แต่ละวัยที่มีอาการซึมเศร้าที่แตกต่างกันไป รูปแบบการดำเนินการกับผู้ใช้
บริการที่เป็นโรคซึมเศร้า ของสถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี
มีดังนี้

1.กิจกรรมกลุ่มบำบัด โดยนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์
เป็นการดำเนินกิจกรรมให้ผู้ใช้บริการได้ผ่อนคลายความกังวล
แลกเปลี่ยนความคิดและการให้คำแนะนำกับผู้ใช้บริการ
ให้คำปรึกษารายบุคคลเพื่อปรับอารมณ์ ความรู้สึก ผ่อนคลายความ
ตึงเครียดตามสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น
เข้าใจและระบุได้ว่า ความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้น คืออะไร ส่งผลต่อ
พฤติกรรมอย่างไร รวมทั้งรู้ข้อจำกัดในการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
มีความมั่นใจและมองโลกในแง่ดี
ส่งเสริมวินัยเชิงบวกในชีวิตประจำวัน

2.กิจกรรมศิลปะบำบัด โดยผู้บำบัด นักจิตวิทยา
วางแผนการดำเนินกิจกรรมศิลปะบำบัดกับผู้ใช้บริการรายบุคคล
เสริมพลังเชิงบวก
เรียนรู้การเผชิญปัญหา และแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี
ปรับสมดุล เห็นคุณค่าในตนเอง

6 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

3. กิจกรรมอาชีวบำบัด โดยทีมสหวิชาชีพ (ครูผู้สอนแต่ละแผนก)
เสริมสวย
ตัดเย็บ
ดนตรี
ปั่ นจักรยาน
เศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผัก

4. กิจกรรมเสริมสร้างทักษะพื้นฐานในการดำเนินชีวิต 6 ด้าน
ทักษะการดูแลตนเอง
ทักษะสังคม
ทักษะการใช้ชีวิตภายในบ้าน
ทักษะการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
ทักษะการทำงาน
ทักษะการอยู่ร่วมกัน การสร้างสัมพันธภาพกับเพื่อน

ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า 7

สำหรับกิจกรรมที่เด็กในสถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็กสุราษฎร์ธานี
ต้องทำเป็นประจำทุกวัน
เวลา 05.00 – 06.00 น. ตื่นนอน / กวาดขยะ
เวลา 06.00 – 06.30 น. กายภาพบำบัด / ออกกำลังกาย
เวลา 06.30 – 07.30 น. ทำกิจวัตรประจำวัน
เวลา 07.30 – 08.30 น. รับประทานอาหารเช้า / รับประทานยาเช้า/

กิจกรรมหน้าเสาธง / รับ-ส่งเวรประจำวัน
เวลา 08.30 – 09.30 น. กิจกรรมกลุ่มบำบัด โดยนักจิตวิทยา ,

นักสังคมสงเคราะห์
เวลา 09.30 – 12.00 น. กิจกรรมเรียน กศน.
เวลา 12.00 – 13.00 น. รับประทานอาหารมื้อกลางวัน

รับประทานยาเที่ยง
เวลา 13.00 – 15.30 น. เข้าแผนก เสริมสวย / ตัดเย็บ / ดนตรี / ศิลปะ /

กิจกรรมสุขศึกษา / กิจกรรมมารยาททางสังคม /
กิจกรรมทำขนม ทำอาหาร / กิจกรรมดูหนัง
(โดยครูผู้สอนแต่ละแผนก)
เวลา 15.30 – 16.30 น. เศรษฐกิจพอเพียง / ปั่ นจักรยาน
(ครูฝึกอาชีพสงเคราะห์ชั้น 3)
เวลา 16.30 – 17.30 น. รับประทานอาหารมื้อเย็น / รับประทานยาเย็น
เวลา 17.30 – 18.30 น. ออกกำลังกาย / พักผ่อนตามอัธยาศัย
เวลา 18.30 – 19.30 น. ทำกิจวัตรประจำวัน (อาบน้ำ/เก็บเสื้อผ้าเข้าตู้)
เวลา 19.30 – 20.00 น. สวดมนต์ไหว้พระ / รับประทานยาก่อนนอน /
เข้านอน
*** สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีกิจกรรมทำความสะอาดบ้านพัก ดูแลความ
เรียบร้อย พักผ่อนตามอัธยาศัย ***

8 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

ศิลปะบำบัดคืออะไร

ศิลปะบำบัด (art therapy) คือ การบำบัดรักษาทางจิตเวชรูปแบบหนึ่ง
ที่ประยุกต์ใช้กิจกรรมทางศิลปะเพื่อค้นหาข้อบกพร่อง ความผิดปกติบางประการ
ของกระบวนการทางจิตใจของเด็กที่ประสบปัญหาซึมเศร้า โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ
การประเมินทางจิตวิทยา เพื่อเปิดประตูเข้าสู่จิตใจในระดับจิตไร้สำนึก และเลือก
ใช้กิจกรรมทางศิลปะที่เหมาะสมกับสภาพจิตใจและช่วงวัยช่วยในการบำบัดรักษา
เพื่อฟื้ นฟูสมรรถภาพให้ดีขึ้น จากแนวคิดที่ว่า ศิลปะ คือ หนทางแห่งการปลดปล่อย
อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ตามความต้องการของแต่ละคน เด็กก็เช่นกัน พวกเขา
ต้องการ สิทธิ เสรีภาพ ที่จะแสดงออกซึ่งความต้องการของเขาอย่างมีความสุข
พวกเขาต้องการโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพของตัวเขาเองในด้านการเรียน การเล่น
และการแสดงออกต่างๆ สำหรับศิลปะบำบัด มีประโยชน์ในด้านการพัฒนาอารมณ์
สติปัญญา สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และ
การประสานงานการเคลื่อนไหวของร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่
ช่วยกระตุ้นการสื่อสาร และเสริมสร้างทักษะสังคมอีกด้วย

ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า 9

ศิลปะบำบัด เป็นรูปแบบหนึ่งของการแพทย์ซึ่งเป็นทางเลือก (complementary
and alternative medicine) ที่เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม นำมาเสริมในการดูแล
รักษาแนวทางหลัก ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการประสานงานกัน
เป็นทีมระหว่างนักสังคมสงเคราะห์หรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกับแพทย์ผู้ดูแลการรักษา
ศิลปะบำบัดไม่ใช่รูปแบบการบำบัดรักษาที่สามารถแยกเป็นอิสระได้ เพื่อผลการรักษา
ที่ดีต้องทำไปควบคู่กันไปกับการรักษาหลักของทางการแพทย์ อีกทั้ง ศิลปะบำบัด
ยังนับเป็นรูปแบบหนึ่งของการทำจิตบำบัด (psychotherapy) ที่ใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือ
สำคัญ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆที่มีปัญหาด้านอารมณ์และจิตใจ ซึ่งหลักการของศิลปะบำบัด
คือใช้ศิลปะเป็นสื่อในการแสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึก ความขัดแย้งและความต้องการ
ที่ซ้อนเร้นอยู่ภายในส่วนลึกของจิตใจ การแสดงออกทางผลงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น
ลายเส้น สี รูปทรง สัญลักษณ์ อารมณ์ความหมาย ที่สื่อออกมาทั้งหมดสามารถนำมา
วิเคราะห์ให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิด หรือสภาพจิตใจที่มีปัญหาที่แอบซ่อนอยู่การประเมิน
ผลการบำบัดรักษาด้วยศิลปะบำบัด เน้นที่ กระบวนการ และกิจกรรมทางศิลปะ ไม่ได้
เน้นที่ผลงานหรือคุณค่าทางศิลปะมากนัก

10 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

ศิลปะบำบัดต่างกับการเรียนศิลปะทั่วไปอย่างไร

ศิลปะบำบัด มีเป้าหมายเพื่อการบำบัด รักษาและฟื้ นฟูอาการเจ็บป่วยทั้งทาง
ร่างกายและจิตใจ มุ่งหวังให้ผู้รับการบำบัดเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในของ
ตนเอง ซึ่งในกระบวนการแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสอนศิลปะบำบัดใน
แต่ละครั้งจะเปิดโอกาสและให้อิสระกับผู้รับการบำบัดได้สร้างสรรค์ผลงาน โดยไม่
ได้คำนึงถึงความสวยงามหรือหลักเกณฑ์องค์ประกอบทางศิลปะใด ๆ แต่มุ่งเน้นไป
ยังการสำรวจอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด การเข้าใจ และอธิบายตัวตนผ่านการ
สร้างชิ้นงานของผู้รับการบำบัด ซึ่งแตกต่างจากการเรียนศิลปะทั่วไปที่คำนึงถึง
คุณค่าทางศิลปะและสร้างผลงานให้ มีความสวยงามด้วยเทคนิคต่าง ๆ มีเป้าหมาย
เพื่อพัฒนาทักษะและฝีมือให้เก่งขึ้น โดยมีครูศิลปะหรือผู้เชี่ยวชาญในศิลปะแขนง
นั้น ๆ เป็นผู้สอน ทั้งนี้ ในกระบวนการของศิลปะบำบัด เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการ
บำบัดจะเป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษาร่วมกับจิตแพทย์และสหวิชาชีพ
อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลในการบำบัดต้องอบรมเฉพาะทางในการบำบัดรักษาอีกด้วย

ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า 11

ศิลปะบำบัดเหมาะกับใครบ้าง

เหมาะกับทุกคนทุกวัย ที่ชอบศิลปะ โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานทางศิลปะ
เพราะการบำบัดไม่ได้คำนึงถึงความสวยงามของผลงานแต่เน้นที่กระบวนการต่าง ๆ
ระหว่างการทำที่ช่วยให้ผู้รับการบำบัดได้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน เด็กและวัยรุ่น
ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ สมาธิสั้น ออทิสติก มีปัญหาการเข้าสังคม มีความ
ก้าวร้าว ทะเลาะวิวาท มีปัญหาการควบคุมอารมณ์ มีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล
ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ผู้ที่เก็บตัว ไม่เข้าสังคม หมดพลังในการดำเนินชีวิต ผู้ที่มีอาการ
กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ที่มีอาการเกร็ง ชักกระตุก มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ผู้ที่มี
ปัญหาการนอนหลับ ผู้ป่วยอัลไซเมอร์

ศิลปะบำบัดส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย
และอารมณ์ในเด็กและวัยรุ่นอย่างไร

สร้างสมาธิ สามารถอยู่นิ่งและจดจ่อได้นานขึ้น
ส่งเสริมการเห็นคุณค่าในตัวเอง
เสริมสร้างจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์
เสริมสร้างประสาทสัมผัสทางการสัมผัส การเคลื่อนไหว ความสมดุล
เสริมสร้างการใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบแบบแผน และเป็นกิจวัตร
ปลูกฝังศีลธรรม ความอ่อนโยนต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์
เสริมสร้างทักษะทางสังคม

12 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

ศิลปะบำบัดกับการฟื้ นฟู สุขภาวะแบบองค์รวม

ศิลปะบำบัดในแนวทางมนุษยปรัชญาให้ความสำคัญกับ “กระบวนการ”
ที่เกิดขึ้นระหว่างการบำบัด บทฝึกหัดการระบายสี วาดภาพ วาดลายเส้น และ
ปั้ นดินด้วยกระบวนการที่มีความงดงามปราณีตและความสงบ จะสร้างสุนทรียภาพ
ให้เกิดขึ้นในตัวของผู้รับการบำบัด จุดประสงค์เพื่อนำพาผู้รับการบำบัดไปสู่ความ
สมดุลทางร่างกายและจิตใจ ส่งเสริมและฟื้ นฟูทั้งด้านร่างกาย พลังชีวิต อารมณ์
ความรู้สึก และบุคลิกภาพของผู้รับการบำบัดอย่างเป็นองค์รวม จนถึงยกระดับ
คุณค่าทางจิตวิญญาณโดยผ่านกระบวนการทำงานด้านศิลปะ รายละเอียดทุก
อย่างที่เกิดขึ้นในห้องศิลปะบำบัด ตั้งแต่ท่าทางการนั่งที่เหมาะสม การจัดวาง
อุปกรณ์อย่างปราณีต การเลือกใช้สีโทนต่าง ๆ ขั้นตอนการระบายสี การปั้ นดิน การ
ลากเส้นรูปทรงแบบต่าง ๆ นั้นสัมพันธ์กับการสร้างสุขภาวะที่ดีตามแนวทางการ
แพทย์มนุษยปรัชญา ตัวอย่าง เช่น

การลากเส้นรูปทรง (Form Drawing)
ส่งเสริมกระบวนการทางความคิด (Thinking) และกระตุ้นการทำงาน
ของระบบประสาท (Nervous System)
การระบายสี (Painting)
ส่งเสริมการแสดงออกทางความรู้สึก (Feeling) และฟื้ นฟูระบบจังหวะ
(Rhythmic System)
การปั้ นดิน (Clay Modeling)
ส่งเสริมพลังการลงมือทำ (Willing) และกระตุ้นระบบเผาผลาญ (Metabolic
& Limbs System)

13ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

ศิลปะบำบัดแนวจิตวิเคราะห์
(Art Psychotherapy)

ศิลปะบำบัดแนวจิตวิเคราะห์ ถูกพัฒนามาจากการบำบัดแนวจิตวิเคราะห์
(Psychotherapy) มีการผสมผสานกันระหว่างจิตวิทยาและศิลปะแขนงต่าง ๆ
(Logic and Creativity) โดยช่วยในเรื่องการแสดงความรู้สึกและการสื่อสาร ทั้งยัง
เป็นพื้นที่ให้ผู้รับการบำบัดได้สำรวจจิตใต้สำนึก ประสบการณ์ในอดีตเพื่อตระหนัก
ถึงความคิด อารมณ์ ความรู้สึกข้างใน เช่น ความเครียด ความสับสน ความคับข้องใจ
และสื่อสารออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้น การทำงานของศิลปะบำบัดแนวจิตวิเคราะห์
ช่วยพัฒนาความเข้าใจในตนเอง ส่งเสริมพัฒนาการสมอง พัฒนาการด้านประสาท
สัมผัส พัฒนาการทางจิตวิญญาณภายใน และมองผู้รับการบำบัดเป็นองค์รวม ทั้ง
ทางกายภาพ พฤติกรรม บุคลิกภาพ และอารมณ์ความรู้สึกอย่างเป็นปัจเจก โดยมี
นักบำบัดเป็นผู้ประคับประคองและวิเคราะห์รูปแบบการทำกิจกรรมให้เหมาะสม
กับแต่ละบุคคลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับการบำบัด รวมถึงคอยช่วยส่งเสริม
ให้ผู้รับการบำบัดเกิดความเชื่อมั่นและรู้จักคุณค่าในตนเอง และสามารถดำเนินชีวิต
ประจำวันได้อย่างเดิม

14 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

ที่มาของการนำศิลปะบำบัดมาใช้ในสถาน
พัฒนาและฟื้ นฟู เด็กสุราษฎร์ธานี

สถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ
ในการช่วยเหลือผู้ใช้บริการเป็นหลัก จึงนำกิจกรรมศิลปะบำบัดมาปรับใช้กับ
กระบวนการสังคมสงเคราะห์ และกระบวนการทางจิตวิทยาโดยผ่านการประเมิน
จากนักจิตวิทยา ควบคู่ไปกับการดำเนินกิจกรรมศิลปะบำบัด ตั้งแต่ปีงบประมาณ
2560 โดยมีกระบวนการดำเนินกิจกรรมศิลปะบำบัดที่สามารถสื่อสารและเข้าถึง
เด็กได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดและก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน สนุกสนานต่อเด็กมี
ประสิทธิผลในการบำบัดฟื้ นฟูเด็กผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โดยไม่ต้องใช้คำอธิบาย
หรือคำพูดใด ๆ ศิลปะนอกจากจะเป็นทางออกสำหรับการบำบัดฟื้ นฟูเด็ก
ทั้งสภาวะวิกฤติ และการบำบัดฟื้ นฟูอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้ นฟูร่างกาย อารมณ์
จิตใจ และสังคมของเด็กได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านการเสริมสร้างศักยภาพในการ
แสดงออก จินตนาการโดยผ่านกิจกรรมศิลปะต่าง ๆ ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญและจำเป็น
อย่างยิ่งคือความต่อเนื่องของกิจกรรม และนอกจากนี้หากนำศิลปะบำบัดมา
ประยุกต์ให้เด็กได้สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการ
ดำรงชีวิตในอนาคตหลังจากการบำบัดฟื้ นฟู

โดยขั้นตอนแรกนักศิลปะบำบัดจะเลือกใช้กิจกรรมศิลปะบำบัดแรกรับกับ
เด็กที่เข้ามาใหม่ทุกราย ตามรายละเอียดในตารางด้านบน เป็นกิจกรรมที่ใช้ได้กับ
เด็กอายุระหว่าง 6- 18 ปี ได้ทุกคน ในการเข้าถึงตัวต้นของเด็ก

15ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

กิจกรรรมศิลปะบำบัดแรกรับ

กิจกรรม รายละเอียดกิจกรรม ประโยชน์ของกิจกรรม

Art การวาดภาพสิ่งที่อยู่ในใจ / ประเมินสภาวะ ค้นหาข้อ
assessment วาดภาพกิจกรรมในครอบครัว / เท็จจริง
การวาดภาพสัตว์ / การปั้ นตาม
จินตนาการ

Mandala การตัดกระดาษเป็นรูปวงกลม ให้ สร้างความสมดุลและสมาธิ
เด็กวาดภาพอะไรก็ได้ ภายใน ให้กับตัวเอง
วงกลม

สัตว์ เป็นการจินตนาการสัตว์ เป็นกิจกรรมที่สะท้อนให้
ประหลาด
ประหลาดของตัวเอง พร้อมปั้ น เห็นถึงพฤติกรรม ลักษณะ

และให้เด็กบอกชื่อ อายุ ลักษณะ นิสัย ของเด็ก

นิสัย อาหารที่ชอบ การดูแล ข้อ

ควรระวังของสัตว์ประหลาดตัว

นั้น

Animal การปั้ น แทนการบอกลักษณะ เสริมสร้างความสัมพันธ์
family
นิสัยของคนในครอบครัว ของคนในครอบครัว

Sand Tray การเลือกสิ่งของ ตุ๊กตา สัตว์ต่าง สะท้อนอารมณ์ ความคิด
ๆ ที่สื่อถึงอารมณ์ ความคิดมา ของเด็กผ่านการถ่ายทอด
จัดเรียง ในกระบะทราย ผ่าน ออกมาทางรูปธรรมช่วยให้
การนึกคิดถึงปัญหาหรือ เด็กเข้าใจตนเองได้อย่างลึก
สถานการณ์ ซึ้งทั้งสิ่งที่ตนชอบและไม่
ชอบ

16 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

สถานพัฒนาและฟื้ นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีการพัฒนาโดยประยุกต์
ใช้ศิลปะบำบัด โดยคัดเลือกกิจกรรมศิลปะบำบัดที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
โดยนักศิลปะบำบัดได้ทดสอบและคัดเลือกกิจกรรมที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
โดยใช้หลักการบำบัดเข้มข้นด้วยกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Learning New
Skills) มาร่วมบำบัดอย่างต่อเนื่องต่อจากศิลปะบำบัดแรกรับ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่
ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ลดอาการเศร้า ท้อแท้ สิ้นหวัง และทำให้เด็กเห็นคุณค่าในตัวเอง
มากขึ้น ด้วยกิจกรรมศิลปะบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า

17ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

กิจกรรมศิลปะบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า

กิจกรรม รายละเอียดกิจกรรม ประโยชน์ของกิจกรรม

Finger การสัมผัสฟรอยด์ เคาะ ฟังเสียง ระบายความเครียด สร้าง
paint เลือกสีโปสเตอร์หยดลงแผ่นฟ ความผ่อนคลาย ผ่านการ
รอยด์ ใช้นิ้วและฝ่ามือละเลงสี สัมผัส
แต่ละสี ลงบนแผ่นฟรอยด์จนทั่ว
ให้วาดภาพหรือเขียนข้อความ
และเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียว

Safe place ให้เด็กวาดพื้นที่ปลอดภัยและ สร้างพื้นที่ปลอดภัยและ

บอกเล่าเรื่องราว เห็นคุณค่าในตนเอง

Collage การนึกถึงเป้าหมายในชีวิตโดย การวางแผนการดำเนินชีวิต
Island มีภาพจากนิตยาสารให้เด็ก ของเด็กเพื่อให้เห็นคุณค่า
Clay เลือก แทนสิ่งที่ปรารถนา ของตนเองทำให้เกิดความ
สามารถใช้ถ้อยคำที่น่าสนใจ ภาคภูมิใจในตนเอง
ตกแต่งภาพ

เป็นการสร้างสถานการณ์ว่าเด็ก การเผชิญปัญหา การแก้ไข
กำลังติดเกาะ และให้เด็กวาด ปัญหา มีผลผลต่อการสร้าง
ภาพโดยจินตนาการว่าบนเกาะ ความเข้มแข็งทางความรู้สึก
ขาดสิ่งจำเป็นอะไรที่มีผลต่อการ
ใช้ชีวิต

เป็นการปั้ นสิ่งที่ทำให้มีความสุข สร้างสุข การสื่อสาร

พร้อมบอกเหตุผล สร้างพลังให้ตนเองและ

ผู้อื่น

18 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

กระบวนการจัดกิจกรรมศิลปะบำบัด

กิจกรรมศิลปะบำบัดจะต้องเป็นผลสะท้อนมาจากตัวเด็กหรือผู้ใช้บริการเอง
โดยผ่านการประเมิน การวางแผนรายบุคคล ของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานหรือ
ทีมสหวิชาชีพ ประกอบไปด้วย นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาสังคม
นักพัฒนาการเด็ก ครูฝึกอาชีพชั้น 3 พี่เลี้ยง ที่ถือเป็นกลไกที่สำคัญในการออกแบบ
หรือจัดรูปแบบกิจกรรมที่มีความเหมาะสมให้กับเด็กรายบุคคล เช่น เด็กที่ไม่มี
ครอบครัว หรือเด็กที่ถูกทำร้ายจากคนในครอบครัว เจ้าหน้าที่จะหลีกเลี่ยงการทำ
กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก
มีสภาวะทางจิตใจเด็กที่เข้ามาอยู่ในหน่วยงานจะมีการตรวจสภาพร่างกาย จิตใจ
พฤติกรรม มีการทดสอบระดับสติปัญญาเบื้องต้น (IQ) มีการประเมินความถนัด
ทางอารมณ์ การประเมินพฤติกรรมของเด็ก (SDQ) การประเมินพัฒนาการประเมิน
สภาวะซึมเศร้า ความเครียดของเด็ก ประเมินความภาคภูมิใจระดับสูง กลาง ต่ำ
เมื่อทราบแล้วว่าเด็กมีความถนัดด้านใด เจ้าหน้าที่จึงวัดแววความสามารถและ
ความถนัดของเด็ก โดยนักจิตวิทยาจะประเมินผล รวมถึงออกแบบกิจกรรมที่มี
ความเหมาะสมรายบุคคล และจะส่งเสริมทางด้านที่เด็กมีความถนัด โดยผ่าน
กิจกรรมเกษตรอินทรีย์วิถีแห่งความพอเพียง เช่น กิจกรรมเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี
ปลูกผักสวนครัว ปลูกไม้ผล ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ โดยให้เริ่มตั้งแต่กระบวนการ
เพาะเมล็ด ดูแล จนกระทั่งเก็บเกี่ยวผล ทำให้เด็กได้อยู่กับธรรมชาติ ใช้หลัก
ธรรมชาติบำบัด กิจกรรมอาชีวะบำบัด เช่น การฝึกตัดเย็บ เสริมสวย นวดแผนไทย
ทำให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตนเอง เมื่อได้ทำสิ่งที่ตนสนใจและ
ถนัดประสบผลสำเร็จ ควบคู่กับการบำบัดรักษาทางการแพทย์โดยใช้ยาและ
กระบวนการสังคมสงเคราะห์

19ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า

แนวทางการใช้ศิลปะบำบัดโรคซึมเศร้าร่วมกับ
กิจกรรมเกษตรอินทรีย์วิถีแห่งความพอเพียง
กิจกรรมอาชีวะบำบัด การบำบัดรักษาทางการ
แพทย์โดยใช้ยา และกระบวนการ
สังคมสงเคราะห์

ประเมินภาวะของผู้ใช้บริการ (ก่อน) ประชุมทีมสหวิชาชีพ กิจกรรมศิ ลปะบำบัด

แบบประเมินภาวะซึมเศร้า นั กจิตวิทยา แรกรับ ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
แบบประเมินความเครียด นั กสังคมสงเคราะห์ Art assessment Finger paint
นั กพัฒนาการเด็ก Safe place
พักพัฒนาสั งคม Mandala Collage
นั กศิลปะบำบัด สั ตว์ประหลาด Island
Animal family Clay

Sand Tray

นั กจิตวิทยา ดำเนิ นกิจกรรมการสร้างสัมพันธภาพ
การคึ้นหาข้อเท็จจริง
ประเมินผล/ชี้วัด (หลัง)
แบบประเมินภาวะซึมเศร้า การทบทวนประสบการณ์
แบบประเมินความเครียด การเสริมพลังใจ

สถิติการรับประทานยา โดยนักศิ ลปะบำบัด

สถิติการกลับคืนสู่ ศาสตร์ กิจกรรมตามความถนั ด
ครอบครัว/สั งคม ศิ ลป์ เสริมพลังคุณค่าในตัวเอง

สู้ ซึมเศร้า กิจกรรมเกษตรอินทรีย์
วิถีแก่งความพอเพียง
การบำบัดรักษา
ทางการแพทย์ (ปลูกพืชผัก, เลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี

โดยใช้ยา กิจกรรมอาชีวะบำบัด
การตัดเย็บ , แม่ครัวตัวน้ อย

เสริมสวย , นวดแผนไทย
โดยครูฝึกอาชีพชั้น 3 และพี่เลี้ยง

20 ศิลปะบำบัด ศาสตร์ศิลป์ สู้ซึมเศร้า


Click to View FlipBook Version