139 3.4 สรุปข้อมูลจากการตอบแบบสอบถาม 3.4.1 ข้อมูลจากการตอบแบบสอบถามรายข้อ คำถามข้อที่ 1 หน่วยงานของท่านมีการปฏิบัติต่อผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็ก หญิงมีครรภ์ คนชรา ผู้เจ็บป่วย และคนพิการให้ได้รับความสะดวกสบาย เท่าเทียมกับบุคคลธรรมดาทั่วไปหรือไม่ ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 13 1 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษมีการปฏิบัติต่อผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็ก หญิงมีครรภ์ คนชรา ผู้เจ็บป่วย และคนพิการ โดยดูแลและอำนวยความสะดวกและได้ดำเนินการตามกฎหมายระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง เช่น จัดให้มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางและเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิและ สวัสดิภาพของเด็ก จัดให้มีห้องรับรองไว้สำหรับบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์และความแตกต่างทางเพศ อายุ สัญชาติ ประเพณีวัฒนธรรมของผู้เสียหาย การแจ้งสิทธิของ ผู้เสียหายที่พึงได้รับการคุ้มครองในแต่ละขั้นตอน และมีการรับฟังความเห็นของผู้เสียหาย หากผู้เสียหาย เป็นผู้พิการ ทางการได้ยิน/มองเห็น จะดำเนินการจัดหาล่าม หากผู้เสียหายเป็นหญิงมีครรภ์ผู้เจ็บป่วย จะคำนึงถึง ความปลอดภัยทางสุขภาพ หากผู้เสียหายเป็นเด็กจะดำเนินการตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา
140 คำถามข้อที่ 2 หน่วยงานของท่านมีการปฏิบัติต่อผู้เสียหายทุกเพศ ทุกวัย อย่างเสมอภาค ปราศจากการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม และดูแลให้ผู้เสียหาย หรือครอบครัวผู้เสียหายให้ปลอดภัย จากการถูกคุกคาม ข่มขู่ หรือการแก้แค้นหรือไม่ ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 12 2 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีแนวทางปฎิบัติต่อ ผู้เสียหายตามกฎหมายที่อยู่ในอำนาจหน้าที่แล้ว และให้การช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพ ผู้เสียหาย โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความแตกต่างทางเพศ อายุ สัญชาติ ประเพณี วัฒนธรรมของผู้เสียหาย การแจ้งสิทธิของผู้เสียหายที่พึงได้รับการคุ้มครองในแต่ละขั้นตอน ตลอดจน ขอบเขตระยะเวลาในการดำเนินการช่วยเหลือในแต่ละขั้นตอน และรับฟังความเห็นของผู้เสียหาย เช่น กระบวนการสอบปากคำผู้เสียหาย เก็บรักษาคำให้การ และเอกสารหลักฐานทุกอย่างให้เป็นความลับ ในสำนวน ไม่เผยแพร่ต่อบุคคลภายนอก เพื่อป้องกันภยันตรายที่จะเกิดแก่ผู้เสียหายและครอบครัว ผู้เสียหายทุกรายอย่างเสมอภาค เท่าเทียม และเป็นธรรม ดำเนินการโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ ที่ไม่เป็นธรรม และมีการคุ้มครองพยานในคดีพิเศษเพื่อให้ผู้เสียหายหรือครอบครัวผู้เสียหายให้ ปลอดภัย และปฏิบัติตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพยาน กฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลย ในคดีอาญา
141 คำถามข้อที่ 3 หน่วยงานของท่านมีการแจ้งสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย หรือ ดำเนินการเยียวยาตามกฎหมายต่อผู้เสียหายหรือไม่ ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 12 12 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีการแจ้งสิทธิให้ ผู้เสียหายทราบทุกครั้งก่อนสอบปากคำ และมีการแจ้งผู้เสียหายทราบในคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ เมื่อพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องจะมีการขอให้ผู้กระทำความผิดชดใช้หรือคืนราคาทรัพย์ ตามมาตรา 43 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยเมื่อได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาล และแนะนำการใช้สิทธิ ขอรับการเยียวยาตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลย ในคดีอาญา พ.ศ. 2544 โดยยื่นต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หรือสำนักงานยุติธรรมจังหวัด ทุกจังหวัด แต่คดีพิเศษบางกรณี (คดีเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค) ซึ่งมีความเสียหายเกิดขึ้น อาจไม่ เข้าเงื่อนไขการเยียวยาตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย แก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544
142 คำถามข้อที่ 4 หน่วยงานของท่านมีการปฏิบัติต่อผู้เสียหายโดยงดเว้นการนำตัวผู้เสียหาย มาปรากฏตัวหรือให้ข่าวต่อสื่อมวลชน อันเป็นสิทธิส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือไม่ ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 12 2 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีการดำเนินการ เรื่องดังกล่าวโดยยึดหลักปฎิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยไม่ได้มีการแจ้งภารกิจให้สื่อมวลชนทราบ และปฏิบัติตามระเบียบกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้ สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ พ.ศ. 2557 โดยไม่อนุญาต ให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ สัมภาษณ์ หรือให้ข่าวของผู้เสียหาย โดยให้การเคารพต่อสิทธิส่วนบุคคล อย่างเคร่งครัด โดยให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 ด้วย และไม่เคยมีการนำผู้เสียหายมาปรากฏตัวหรือให้ข่าวต่อสื่อมวลชน ยกเว้นผู้เสียหายจะไปให้ข่าวเอง หากมีการแถลงข่าวจะแถลงโดยผ่านโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งในการแถลงข่าวจะมีเพียง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่มีการนำผู้เสียหายเข้าร่วมด้วย และไม่เปิดเผยรายละเอียดทางคดี หรือข้อมูลของผู้เสียหายต่อสาธารณชน เพื่อความปลอดภัยของผู้เสียหาย และไม่ให้เกิดผลกระทบ ต่อการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ
143 คำถามข้อที่ 5 หน่วยงานของท่านมีการแจ้ง หรือมีช่องทางให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับการ ดำเนินการต่อทรัพย์สินของผู้เสียหายในคดีพิเศษที่ดำเนินการอยู่หรือไม่ ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 11 3 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีการแจ้งข้อมูล เกี่ยวกับการดำเนินการต่อทรัพย์สินของผู้เสียหายในคดีพิเศษ กรณีมีผู้เสียหายโทรมาสอบถาม หน่วยงานก็ได้แจ้งผลการดำเนินการให้ทราบ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการต่อทรัพย์สินของ ผู้เสียหายในคดีพิเศษที่ดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญา มาตรา 43 และแนะนำให้ผู้เสียหายทราบว่าการสืบสวน สอบสวนซึ่งในคดีพิเศษซึ่งเป็นคดีอาญาไม่ตัดสิทธิ ผู้เสียหายที่จะใช้สิทธิเรียกร้องในทางแพ่งแต่อย่างใด ผู้เสียหายสามารถใช้สิทธิเรียกร้องในทางแพ่งได้ รวมทั้งการให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางการสื่อสาร เช่น การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนผ่าน เว็บไซต์เฟซบุ๊ก line official ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือบางกรณีก็ไม่สามารถแจ้งได้เนื่องจาก ทรัพย์สินเป็นสารเคมีซึ่งเป็นวัตถุอันตราย ไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้เสียหายแต่อย่างใด
144 คำถามข้อที่ 6 ปัจจุบันหน่วยงานของท่านมีแนวทางหรือหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติต่อ ผู้เสียหายในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 11 3 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ปฏิบัติต่อผู้เสียหาย ในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อมีการนัดหมายผู้เสียหาย ในการมาให้การ มีการสอบปากคำผู้เสียหายโดยให้ผู้เสียหายให้การอย่างไรก็ได้ ให้คำแนะนำผู้เสียหาย ถึงขั้นตอนในการสอบสวนโดยยึดหลักปฏิบัติต่อผู้เสียหายทุกราย อย่างเสมอภาค เท่าเทียม และ เป็นธรรม มีความสะดวก รวดเร็ว ต่อเนื่อง เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แม้ปัจจุบันหน่วยงานยังไม่มีแนวทางหรือหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในการสืบสวนสอบสวน คดีพิเศษที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ในการปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ บุคลากรทุกคน ปฏิบัติงานด้วยความเคารพต่อสิทธิของผู้เสียหาย ช่วยเหลือให้ผู้เสียหายได้เข้าถึงความยุติธรรม เช่น มีการแจ้งผลการดำเนินการตามกำหนดระยะเวลา และมีการใช้ระเบียบบริหารคดีพิเศษมาเป็น แนวทางปฏิบัติให้ผู้เสียหายได้รับบริการที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ คำนึงถึงสิทธิของบุคคล ตลอดจน ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยและผลกระทบทุกด้านที่จะเกิดขึ้นต่อผู้เสียหาย อันเนื่องมาจาก การสอบสวนคดีพิเศษ และการรับฟังข้อเท็จจริงด้วยความเป็นกลางปราศจากอคติ
145 คำถามข้อที่ 7 ปัจจุบันหน่วยงานของท่านมีปัญหาหรืออุปสรรคในการปฏิบัติต่อผู้เสียหาย ในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 5 9 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่มีปัญหาหรือ อุปสรรคในการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ แต่อาจมีบางกรณีที่ผู้เสียหาย ในคดีแชร์ลูกโซ่ที่อยู่ต่างจังหวัดห่างไกลกรุงเทพฯ และต้องเดินทางมายังที่ทำการของพนักงานสอบสวน คดีพิเศษซึ่งอยู่ไกล ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการเดินมาให้การ หรือในการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ ไม่ครอบคลุมทุกจังหวัด ซึ่งผู้เสียหายบางคนค่าเสียหายน้อยกว่าค่าเดินทางมาให้การ ทำให้ดูแล ผู้เสียหายไม่ทั่วถึง ประกอบกับด้วยภาวะเศรษฐกิจหรือระยะทางฯ ล้วนสร้างปัญหาต่อผู้เสียหาย บางกรณีผู้เสียหายอยู่ต่างประเทศก็ประสานงานยุ่งยาก หรือกรณีที่ผู้เสียหายไม่ให้ความร่วมมือ ในการสืบสวนสอบสวน บางครั้งผู้เสียหายส่วนมากกว่าจะมาให้การเวลาผ่านไปนานแล้ว จึงเตรียม เอกสารหลักฐานไม่ครบ ทำให้การช่วยเหลือให้ผู้เสียหาย เข้าถึงความยุติธรรมเป็นไปอย่างล่าช้า
146 คำถามข้อที่ 8 หน่วยงานของท่านมีข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติ ต่อผู้เสียหายในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 9 5 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีข้อเสนอแนะให้ หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะต้องเน้นย้ำในการปฏิบัติต่อผู้เสียหาย ให้เป็นไปตามกฎหมาย และให้การดูแลเป็นกรณีพิเศษ เช่น เด็ก คนชรา ผู้ป่วย คนพิการ ฯลฯ รวมถึงให้คำแนะนำผู้เสียหาย ในการเตรียมเอกสารมาประกอบคำให้การตามหลักกฎหมายโดยครบถ้วนสมบูรณ์ และให้ปฏิบัติ ด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม และเสมอภาค ในการดำเนินคดีอาญา เดิมมีการกล่าวว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยจะเป็นประธานแห่งคดีโดยได้รับ การคุ้มครองในทุกขั้นตอนกระบวนการตั้งแต่ในชั้นจับกุม สอบสวน การพิจารณาพิพากษาคดี ไปถึง การลงโทษ แต่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบ โดยตรงเท่าที่ควร โดยเห็นด้วยกับจัดทำข้อเสนอว่าด้วยการปฏิบัติงานตามปฏิญญาสากลที่เกี่ยวกับ การปฏิบัติต่อผู้เสียหายในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษแต่ทั้งนี้ จะต้องคำนึงถึงการที่จะไม่เพิ่มขั้นตอน หรือก่อให้เกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติงานเกินสมควร และควรใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการสืบสวน สอบสวนให้มากขึ้น เช่น Blockchain หรือควรมีการช่วยเหลือผู้เสียหายในการไกล่เกลี่ยเรียกคืน ค่าเสียหายในเบื้องต้น หากมีแนวทางปฏิบัติหรือระเบียบที่ใช้ดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียหายได้ ก็จะสามารถปฏิบัติกับผู้เสียหายเป็นแนวทางเดียวกัน
147 คำถามข้อที่ 9 ปัจจุบันกฎหมาย/ระเบียบ หรือแนวทางที่เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้เสียหาย ในคดีอาญาและ/หรือคดีพิเศษมีความเหมาะสม ครบถ้วนแล้วหรือไม่ ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 12 2 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ปฎิบัติหน้าที่ภายใต้ บทบัญญัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และสามารถดูแลคุ้มครองผู้เสียหายได้ และสามารถแจ้งข้อมูลการ เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามกฎหมายกำหนดให้ผู้เสียหายทราบสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบัน กฎหมาย ระเบียบ หรือแนวทางที่เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีพิเศษมีความเหมาะสมและ ครบถ้วนเท่าที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ทั้งนี้อาจกำหนดให้มีกฎหมาย ระเบียบ หรือแนวทางที่เพิ่มเติม เพื่อเป็นการยกระดับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในการสืบสวน สอบสวนคดีพิเศษให้สอดคล้องกับแนวทาง ที่เป็นสากลได้อย่างเหมาะสม แต่ถ้ามีการปรับปรุงให้ทันกับเหตุการณ์และเวลาที่เปลี่ยนไป จึงเห็นสมควรปรับปรุงให้ทันสมัยเหมาะสมกับเหตุการณ์ปัจจุบัน อย่างเช่น คดีที่เกี่ยวข้องกับ ต่างประเทศมักมีความล่าช้า ซึ่งส่งผลให้ผู้เสียหายได้รับความยุติธรรมที่ล่าช้าตามมา ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนการดำเนินการเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา หรือแม้แต่การประสานงาน ระหว่างบุคคลที่เป็นผู้เสียหาย
148 คำถามข้อที่ 10 หน่วยงานของท่านมีความต้องการให้มีการกำหนดแนวทางหรือระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ เพราะเหตุใด ลำดับ รายหน่วยงาน/รายบุคคล มี ไม่มี ไม่ตอบ แบบสอบถาม 1 กองคดีการค้ามนุษย์ √ 2 กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ผู้ตอบแบบสอบถาม 3 √ 3 กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค √ 4 กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน √ 5 กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม √ 6 กองคดีภาษีอากร √ 7 กองคดีความมั่นคง √ 8 กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ √ 9 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 √ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ผู้ตอบแบบสอบถาม 2 √ 10 กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่าง ประเทศ √ 11 กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา √ 12 กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ √ 13 กองคดียาเสพติด √ รวมทั้งสิ้น 14 ความคิดเห็น 6 8 2 คำอธิบายหรือการยกตัวอย่างประกอบ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เห็นว่ากฎหมาย ระเบียบ แนวทางการปฏิบัติงาน มีความเหมาะสมครบถ้วนแล้ว อย่างไรก็ดี เพื่อให้เกิดความชัดเจน เป็นรูปธรรม และมีมาตรฐานการปฏิบัติในระดับเดียวกันของทุกหน่วยงานภายในกรมสอบสวน คดีพิเศษ ในการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีพิเศษ ในปัจจุบัน และเป็นการปฏิบัติและดำเนินการตาม วิธีปฏิบัติในทางอาญาที่มีบทบัญญัติตามกฎหมายหลัก คือ รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดไว้ให้เป็นหน้าที่ ของรัฐ ตามมาตรา 68 จัดระบบการบริหารในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพและ เป็นธรรม ซึ่งนักวิชาการมีความเห็นตรงกันว่า รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 ไม่ได้มุ่งเขียนเรื่องสิทธิใน กระบวนการยุติธรรมในเชิงก้าวหน้า ไม่ได้ต้องการวางหลักการใหม่ ๆ ให้กับกระบวนการยุติธรรมไทย เพื่อผลักดันให้รัฐบาลต้องพัฒนาการคุ้มครองสิทธิประชาชนให้มากขึ้นมากนัก การปฏิบัติจึงเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2547 ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การคุ้มครองสิทธิ “ผู้ต้องหาหรือจำเลย” เป็นหลัก โดยมีส่วนที่มีการเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิผู้เสียหายไม่มากนัก มีเฉพาะในส่วนของผู้เสียหายที่เป็นเด็ก หรือเยาวชน ดังนั้น ปัจจุบันพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงยึดถือตามหลักที่กฎหมายมีบทบัญญัติบังคับ เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และมีกฎหมายเฉพาะที่เพิ่มบทบังคับให้พนักงาน
149 สอบสวนต้องแจ้งสิทธิให้ผู้เสียหายเพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือ เยียวยาเท่านั้น อาทิ พระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 หมวด 4 การช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพ ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ มาตรา 6/1 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (เพิ่มโดยพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และ ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559) เป็นต้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ไว้ชัดเจนแล้วว่า “เป็นองค์การหลักในการบังคับ ใช้กฎหมายกับอาชญากรรมพิเศษตามมาตรฐานสากล” โดยกำหนดความหมาย “มาตรฐานสากล” หมายถึง หลักเกณฑ์มาตรฐานที่เป็นไปตามเกณฑ์ตัวชี้วัดหลักนิติธรรมขององค์การสหประชาชาติ (The United Nations Rule of Law Indicators) ประกอบด้วย หลักประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน หลักความเที่ยงตรง เป็นกลาง ความรับผิดชอบและความโปร่งใส หลักการคุ้มครองบุคคลที่มีความเสี่ยง ต่อการถูกละเมิด และหลักศักยภาพ ดังนั้น เมื่อมีการกำหนดมาตรฐานสากลไว้ชัด “การปฏิบัติ ต่อผู้เสียหาย” จึงย่อมเป็นไปตามหลักของปฏิญญาว่าด้วยหลักความยุติธรรมขั้นพื้นฐานสำหรับ ผู้เสียหายจากอาชญากรรมและการใช้อำนาจโดยมิชอบ ค.ศ.1985 (Declaration of Basic Principles of Justice for Victims of Crime and Abuse of Power) ที่มีการกำหนดสิทธิของ ผู้เสียหายไว้ที่สำคัญ 2 ประการ คือ ประการที่ 1 สิทธิการเข้าถึงข้อมูล มีส่วนร่วม ได้รับการปฏิบัติ ที่เหมาะสม และ ประการที่ 2 สิทธิได้รับการชดเชยความเสียหายจากรัฐ ได้มีการนำหลักการเฉพาะ ประการที่ 2 มาไว้ในพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลย ในคดีอาญา พ.ศ. 2544 สำหรับประการที่ 1 ได้ขาดหายไป ไม่ว่าจะเป็นสิทธิการขอรับการช่วยเหลือ ในการดำเนินคดีจากรัฐ สิทธิที่จะให้มีที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือทนายความ สิทธิที่จะแสดงมุมมอง ทางกฎหมาย หรือ ให้ฝ่ายรัฐรับฟังเสียงของผู้เสียหาย (voice of victims) หรือ ขอให้ฝ่ายรัฐทบทวน ความเห็น เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ย่อมส่งผลในภาพรวมของประเทศในการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย หรือเหยื่ออาชญากรรมยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ความเสียหายย่อมเกิดซ้ำกับผู้เสียหาย หรือเหยื่ออาชญากรรมและตามมาตรฐานสากลย่อมถือว่า “เป็นการถูกกระทำซ้ำ” อย่างหลีกเลี่ยง ไม่ได้ ดังนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษควรจะต้องมีการกำหนดแนวทางการปฏิบัติของพนักงานสอบสวน คดีพิเศษหรือยกร่างระเบียบที่เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีพิเศษโดยนำหลักการของปฏิญญา ว่าด้วยหลักความยุติธรรมขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เสียหายจากอาชญากรรมและการใช้อำนาจโดยมิชอบ ค .ศ .198 5 (Declaration of Basic Principles of Justice for Victims of Crime and Abuse of Power) เกี่ยวกับบทบาทสิทธิของผู้เสียหายอันสำคัญ ทั้ง 2 ประการมาไว้ให้ครบถ้วน เหมือนกับ คดีกรณีตัวอย่าง คดีพิเศษที่ 13/2565 กรณีการฆาตกรรมนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำ ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการส่งผลการดำเนินการกรณีการคุ้มครองผู้เสียหายในคดีดังกล่าวตามหลักความยุติธรรม ขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เสียหายจากอาชญากรรมตามมาตรฐานสากลมาแล้วทำให้ได้รับรางวัล “องค์กร ต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน” ประจำปี 2564 ระดับดีเด่น จากคณะกรรมการขับเคลื่อนงานสิทธิ มนุษยชนของประเทศไทย
150 3.4.2 สรุปผลการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษที่ตอบแบบสอบถามได้ให้คำอธิบาย และยกตัวอย่างประกอบ โดยส่วนใหญ่หน่วยงานกองคดีที่มีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน คดีพิเศษตระหนักและให้ความสำคัญกับผู้เสียหาย โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ ไม่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม มีความเสมอภาคและเท่าเทียม มีการดูแลและ อำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหายอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ เด็ก หญิงมีครรภ์ คนชรา หรือผู้พิการให้ ได้รับความสะดวกเท่าเทียมบุคคลธรรมดาหรือมากกว่าตามแต่กรณีและตระหนักถึงความเสี่ยงในด้าน ความปลอดภัยของผู้เสียหาย หรือครอบครัวของผู้เสียหาย โดยมีการคุ้มครองความปลอดภัยจากการ ถูกคุกคาม ข่มขู่ หรือการแก้แค้น ในกรณีที่เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีความเสี่ยง โดยมีการดำเนินการตาม กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพยานในคดีพิเศษที่ผู้เสียหายหรือพยานที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ในชีวิต ร่างกาย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ให้ความสำคัญกับการแจ้งสิทธิของ ผู้เสียหาย ทั้งในเรื่องสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย โดยให้คำแนะนำในการที่ผู้เสียหายจะ ได้รับความช่วยเหลือในเรื่องค่าตอบแทน ผู้เสียหายตามกฎหมาย/ระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยแจ้งหรือ ประสานงานเบื้องต้นกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม หรือในกรณีอยู่ต่างจังหวัด จะแนะนำและประสานงานในเบื้องต้นกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดในพื้นที่ที่ผู้เสียหายมีภูมิลำเนา เพื่อให้คำแนะนำในการช่วยเหลือผู้เสียหาย นอกจากนี้ จะมีการแจ้งสิทธิและให้ความช่วยเหลืออื่น อาทิ การมีล่าม หรือล่ามภาษามือ ในกรณีที่ผู้เสียหายไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยหรือไม่สามารถ สื่อสารด้วยการพูดหรือการฟังได้เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ จะแจ้งขั้นตอนและวิธีการดำเนินคดีพิเศษ หรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมให้ ผู้เสียหายทราบ อาทิ ความคืบหน้าในคดี การสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ การดำเนินงานของ พนักงานอัยการ หรือวิธีการหรือขั้นตอนการพิจารณาในชั้นศาล ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิของผู้เสียหายที่จะ ทราบข้อมูลดังกล่าว สำหรับเรื่องมีการปฏิบัติต่อผู้เสียหายโดยงดเว้นการนำตัวผู้เสียหายมาปรากฏตัว หรือให้ข่าวต่อสื่อมวลชน อันเป็นสิทธิส่วนบุคคลตามกฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ความสำคัญ อย่างมาก โดยจะงดเว้นการนำตัวผู้เสียหายมาปรากฏตัวหรือให้ข่าวต่อสื่อมวลชนในทุกกรณี เพื่อรักษา ความปลอดภัย และรักษาความเป็นส่วนตัว และรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย หากกรมสอบสวน คดีพิเศษจะแถลงข่าวเกี่ยวกับคดี จะมีโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเป็น ผู้แถลงเท่านั้น และจะไม่นำเสนอรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายให้สาธารณชนรับทราบ เว้นแต่ ผู้เสียหายไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชนด้วยตัวเอง รวมไปถึงการแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวกับการดำเนินการต่อ ทรัพย์สินของผู้เสียหายในคดีพิเศษจะแจ้งกับผู้เสียหายโดยตรงเท่านั้น อีกทั้งยังมีมาตรการรักษา ความลับในสำนวน ซึ่งเป็นมาตรการที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด และยึดถือเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งองค์กร ซึ่งการรักษาความลับในสำนวน รวมถึง การรักษาคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือจำเลย หรือพยานที่เกี่ยวข้องใน คดีพิเศษจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย อาทิ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 และพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เป็นต้น
151 ส่วนที่ 4 สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ 4.1 สรุปผลการศึกษา ในการศึกษานี้ ผู้ศึกษาใช้แนวทางการศึกษาจากการค้นคว้าเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี กฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ร่วมกับการสอบถามพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ซึ่งเป็นผู้แทนหน่วยงาน (กองคดี) ในสังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยการใช้ แบบสอบถาม จำนวน 10 ข้อ พร้อมให้อธิบายหรือยกตัวอย่างประกอบ ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 14 ราย จาก 13 หน่วยงาน (กองคดี) โดยนำข้อมูลที่ได้รับมาวิเคราะห์ พร้อมมีข้อเสนอแนะให้กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการสร้างมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีพิเศษ และให้สอดคล้อง ตามหลักมาตรฐานสากล กฎหมายระหว่างประเทศ หรือปฏิญญา อนุสัญญา หรือพิธีสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 4.1.1 สิทธิมนุษยชน และการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ การปฏิบัติต่อผู้เสียหายในกระบวนการยุติธรรมทางอาญามีที่มาจากแนวความคิดในเรื่อง สิทธิมนุษยชน (Human Rights) แนวความคิดดังกล่าวได้รับความสนใจขึ้นมาอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 20 เนื่องจากในช่วงนี้มีวิกฤติการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลัทธินาซี (Nazism) ฟาสซีส (Facism) การเกิดสงครามและลัทธิชาตินิยมประกอบกับความเชื่อที่ว่ามนุษย์ควรมีความเท่าเทียมกัน (Equality among Men) ดังนั้น ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง จึงได้มีการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (United Nation) ขึ้น เพื่อทำให้คำกล่าวของ Winston Churchill ที่ว่าจะเทิดทูนสิทธิของมนุษย์ (The Enthronement of Human Rights) สมบูรณ์ขึ้นเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนได้ก่อให้เกิด การร่างปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งในกฎบัตร สหประชาชาติได้กล่าวถึงสิทธิมนุษยชน ไว้หลายแห่ง อาทิ ในอารัมภบท กล่าวถึงความมุ่งหมายของ สหประชาชาติไว้ว่า “เพื่อเป็นการยืนยันความเชื่อในสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ในศักดิ์ศรี และคุณค่าของมนุษยชาติ : To Reaffirm Faith in Fundamental Human Rights, in the dignity and worth of the Human Person…” อีกทั้ง คําปรารภของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ที่ว่า “โดยที่การยอมรับนับถือเกียรติศักดิ์ประจําตัวและสิทธิเท่าเทียมกันและโอนมิได้ของบรรดา สมาชิกทั้งหลายแห่งครอบครัวมนุษยชนเป็นหลักการพื้นฐานแห่งอิสรภาพ ความยุติธรรมและสันติภาพ โลก” นั้น หมายถึง สิ่งจําเป็นสําหรับคนทุกคนที่ต้องได้รับในฐานะที่เป็นคน เพื่อทําให้คน ๆ นั้น มีชีวิต อยู่รอดได้และมีการพัฒนาสิทธิมนุษยชนจึงมี 2 ระดับ ระดับแรก คือ สิทธิที่ติดตัวคนทุกคนมาแต่เกิด ไม่สามารถถ่ายโอนให้แก่กันได้อยู่เหนือ กฎหมายและอํานาจใด ๆ ของรัฐทุกรัฐ สิทธิเหล่านี้ได้แก่ สิทธิในชีวิต ห้ามฆ่าหรือทําร้ายต่อชีวิต ห้ามการค้ามนุษย์ห้ามทรมานอย่างโหดร้าย คนทุกคนมีสิทธิในความเชื่อมโนธรรมหรือลัทธิทางศาสนา ทางการเมืองมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออกหรือการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น สิทธิมนุษยชนเหล่านี้ไม่จําเป็นต้องมีกฎหมายมารองรับ สิทธิเหล่านี้ก็ดํารงอยู่ ซึ่งอย่างน้อยอยู่ใน มโนธรรมสํานึกถึงบาปบุญคุณโทษที่อยู่ในตัวของแต่ละคน เช่น แม้ไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า การฆ่าคน เป็นความผิดตามกฎหมายแต่คนทุกคนมีสํานึกรู้ได้เองว่าการฆ่าคนนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม เป็นบาปในทาง ศาสนา เป็นต้น
152 ระดับที่สอง คือ สิทธิที่จะต้องได้รับการรับรองในรูปของกฎหมาย หรือจะต้องได้รับ การคุ้มครองโดยรัฐบาล ได้แก่ การได้รับสัญชาติการมีงานทํา การได้รับความคุ้มครองแรงงาน ความเสมอภาค ของหญิงชาย สิทธิเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุและคนพิการ การได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การประกันการว่างงานการได้รับบริการทางด้านสาธารณสุข การสามารถแสดงออกทางด้านวัฒนธรรม อย่างอิสระ สามารถได้รับความเพลิดเพลินจากศิลปะวัฒนธรรมในกลุ่มของตน เป็นต้น สิทธิมนุษยชน ระดับที่สองนี้ต้องเขียนรับรองไว้ในกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญหรือแนวนโยบายพื้นฐานของรัฐของ แต่ละประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันว่าคนทุกคนที่อยู่ในรัฐนั้นจะได้รับความคุ้มครองชีวิตความเป็นอยู่ ให้มี ความเหมาะสมแก่ความเป็นมนุษย์ “สิทธิมนุษยชน” คือ ชุดหลักการและมาตรฐานพื้นฐานซึ่งมีเป้าหมายที่จะรับประกัน ศักดิ์ศรีเสรีภาพและความเท่าเทียมให้กับมนุษย์ทุกคน ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. 1948 ระบุสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน 30 ประการ ประกอบกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights : ICESCR) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR) และพิธีสารเลือกรับ (Optional Protocol) อีกสองฉบับรวมกันเป็น “ตราสารสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” (International Bill of Human Rights) ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. 1948 ระบุสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน 30 ประการ เองยังได้นําเสนอหลักการสําคัญของสิทธิมนุษยชนไว้ด้วย หลักการนี้ถือเป็นสาระสําคัญที่ใช้อ้างอิง ความเป็นสากลของสิทธิมนุษยชน และใช้เป็นเครื่องมือชี้วัดว่าสังคมใดมีการเคารพและปฏิบัติตาม หลักการสิทธิมนุษยชนหรือไม่สําหรับหลักการสําคัญของสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วย (1) เป็นสิทธิธรรมชาติติดตัวมนุษย์มาแต่เกิด (Natural Rights) หมายความว่า มนุษย์ ทุกคนมีศักดิ์ศรีประจําตัวตั้งแต่เกิดมาเป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (Human Dignity) นี้ไม่มีใคร มอบให้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้กําหนดขึ้นในมนุษย์ทุกคน (2) สิทธิมนุษยชนเป็นสากล ไม่สามารถถ่ายโอนกันได้ (Universality & Inalienability) หมายความว่า สิทธิมนุษยชนนั้นเป็นของคนทุกคน ไม่มีพรมแดน คนทุกคนมีสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ เช่นเดียวกัน เพราะโดยหลักการแล้วถือว่า คนทุกคนย่อมถือว่าเป็นคน ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือ ศาสนาใดก็ตาม ย่อมมีสิทธิมนุษยชนประจําตัวทุกคนไป จึงเรียกได้ว่าสิทธิมนุษยชนเป็นของคนทุกคน อย่างไรก็ตาม แม้ปฏิญญาฯ จะไม่มีฐานะเป็นกฎหมายและไม่มีเครื่องมือที่ใช้ในการ คุ้มครอง แต่ปฏิญญาฯ ก็มีหลักการทำให้รัฐทั้งหลายต้องการเคารพและรับรองว่าจะนำไปบัญญัติเป็น กฎหมายภายใน รวมทั้งการบัญญัติกฎหมายระหว่างประเทศก็ต้องให้สอดคล้องกับปฏิญญาฯ ด้วย สำหรับกฎหมายภายใน ปฏิญญาฯ จึงมีผลให้นักกฎหมายไม่อาจคัดค้านกฎหมายในอนาคต ซึ่งร่างขึ้น ตามหลักการของปฏิญญาฯ เพราะหลักดังกล่าวเป็นหลักสากล และถือว่าเป็นจุดมุ่งหมายสุดท้ายที่ จะต้องทำให้สำเร็จตามกระบวนการของกฎหมาย การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพแต่เดิมจะเป็นเรื่องการคุ้มครองภายในรัฐแต่ละรัฐ เท่านั้น แต่ในปัจจุบันพัฒนาการของการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพนั้นพัฒนาและเดินไปในทิศทาง เดียวกันมากขึ้น โดยความร่วมมือระหว่างกันในแต่ละประเทศ จนกระทั่งวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 องค์การสหประชาชาติได้ประกาศปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนขึ้น ปฏิญญาฉบับนี้ได้กำหนด
153 สิทธิต่าง ๆ ที่ประชาชนควรได้รับการคุ้มครอง การใช้สิทธิดังกล่าวต้องไม่ล่วงละเมิดต่อสิทธิของ บุคคลอื่น รวมทั้งการใช้อำนาจของรัฐมิให้ไปกระทบกระเทือนถึงสิทธิดังกล่าว ปฏิญญานี้จึงเป็นพื้นฐาน ในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยสิทธิที่สำคัญที่จะขอกล่าวถึง ประกอบด้วย 4 ประการ ประกอบด้วย (1) สิทธิที่จะได้รับการเยียวยาความเสียหาย (2) สิทธิในการมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม (3) สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองความปลอดภัย (4) สิทธิที่ในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ องค์การสหประชาชาติได้มีมติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่ 40/34 ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1985 ประกาศปฏิญญาสากลว่าด้วยหลักการพื้นฐาน ในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมและการใช้อำนาจโดยมิชอบ ค.ศ . 1985 (Declaration of Basic Principles of Justice for Victims of Crime and Abuse of Power 1985) โดยมีปรัชญาพื้นฐานส่งเสริมให้ผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรมในคดีอาญาได้รับ การยอมรับและได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ปฏิญญานี้ได้วางหลักการให้ ความสำคัญกับผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรมที่เกิดจากการกระทำความผิดอาญา โดยการกำหนด มาตรฐานการคุ้มครองผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรมไว้ 4 ประการ ดังนี้ (1) การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม (Access to Justice and Fair Treatment) (2) การได้รับค่าชดเชยความเสียหายโดยผู้กระทำความผิด (Restitution) (3) การได้รับการชดเชยความเสียหายแก่ผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรมในคดีอาญา โดยรัฐ (Compensation) (4) การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรม (Assistance) ปฏิญญาฯ ดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดกรอบนโยบายให้แต่ละประเทศได้นำไปปฏิบัติ ด้วยการกำหนดกฎหมายและนโยบายคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญา เพราะเห็นว่า เมื่อมีความ เสียหายอันเกิดขึ้นจากการกระทำความผิดอาญา รัฐควรมีส่วนสำคัญในการเยียวยาความเสียหาย ดังกล่าวให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ 4.1.2 การดำเนินกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เมื่อมีการกระทำความผิดกฎหมายอาญาเกิดขึ้นโดยเฉพาะการกระทำที่ฝ่าฝืน กฎหมายอาญา ผู้กระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีภายใต้ระบบการลงโทษที่เป็นทางการของรัฐ หรือที่เรียก กันทั่วไปว่า “กระบวนการยุติธรรมทางอาญา” (Criminal Justice System) ซึ่งเป็นระบบการลงโทษ และเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการใช้กฎหมายที่ว่าด้วยการสืบสวน การสอบสวน การจับกุม ผู้ต้องหาและการฟ้องร้องเพื่อให้มีการพิจารณาคดีในศาลยุติธรรม กระบวนการยุติธรรมในศาลจะ ยุติลงเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามฟ้องหรือศาลได้มี คำพิพากษาปล่อยตัวจำเลยไป หากศาลพิพากษาลงโทษเพราะปรากฏว่าจำเลยได้กระทำผิดตาม กฎหมาย จำเลยต้องถูกลงโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้(Nullum crimen, nulla poemasine lege) เช่น ถูกลงโทษประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ และริบทรัพย์สิน หรือใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัย หรือศาลอาจใช้วิธีการรอการลงโทษโดยการกำหนดเงื่อนไขคุมประพฤติจำเลยหรือไม่ก็ได้
154 กระบวนการทั้งหมดที่ได้กล่าวเป็นการบังคับใช้กฎหมายเพื่ออำนวยความยุติธรรม ซึ่งการอำนวยความยุติธรรมภายใต้แนวคิดเสรีนิยมประชาธิปไตยนั้น กระบวนการดังกล่าวจะต้อง ยึดหลักการปกครองโดยกฎหมาย (The Rule of Law) กล่าวคือ 1) รัฐธรรมนูญเป็นหลักในแง่ที่ให้ประกันสิทธิและเสรีภาพของบุคคล 2) กฎหมายอาญารวมทั้งพระราชบัญญัติต่าง ๆ ที่มีโทษทางอาญาเป็นหลักในแง่ที่ กำหนดกฎเกณฑ์ องค์ประกอบของความผิดและโทษที่จะลงแก่บุคคลที่กระทำความผิด 3) กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเป็นหลักในแง่ที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และในขณะเดียวกันก็กำหนดมาตรการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของ บุคคลตามรัฐธรรมนูญไม่ให้ถูกกระทบกระเทือนโดยไม่ชอบธรรม 4.1.3 แนวคิดเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา พัฒนาการแนวคิดของการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในคดีอาญามีความก้าวหน้าและได้รับ ความสนใจเพิ่มมากขึ้น และมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 1) ยุคโบราณ 2) ยุคการศึกษาเรื่อง เหยื่อวิทยา (Victimology) 3) ยุคการกลับมาของระบบการทดแทนความเสียหายแก่ผู้เสียหาย ในคดีอาญาโดยรัฐ และ 4) ยุคความสำคัญของผู้เสียหายในคดีอาญาระดับนานาชาติซึ่งในยุคดังกล่าว นานาชาติจึงได้หันมาสนใจเหยื่ออาชญากรรมหรือผู้เสียหายในคดีอาญามากขึ้น มีการจัดประชุม เชิงวิชาการในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสิทธิของเหยื่ออาชญากรรม หรือผู้เสียหายในคดีอาญา องค์การระหว่างประเทศเริ่มดำเนินการเพื่อรับรองสิทธิของผู้เสียหาย ในคดีอาญาหรือเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งสหประชาชาติได้มีการประชุมและออกแถลงการณ์ โดยแถลงการณ์ที่สำคัญ คือ ในปี ค.ศ. 1985 มีการประชุมคองเกรสสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรม และการบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำผิด (The United Nation Congress on the prevention of crime and the Treatment of Offenders) ครั้งที่ 7 ณ นครมิลาน ประเทศอิตาลี ในการประชุมครั้งนี้ ได้กล่าวถึงเรื่องของเหยื่ออาชญากรรมอย่างกว้างขวาง และได้มีการประกาศปฏิญญาว่าด้วยหลักการ พื้นฐานเกี่ยวกับการอำนวยความยุติธรรมแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอาชญากรรม และการใช้อำนาจ โดยไม่มิชอบ (Declaration of Basic Principle of Justice for Victims of Crime and Abuse of Power 1985) และ The European Forum for Victim Services ได้ออกแถลงการณ์ว่าด้วยสิทธิ ของเหยื่ออาชญากรรม 3 ฉบับ ดังนี้ ปี ค.ศ. 1996 ออกแถลงการณ์ว่าด้วยสิทธิของเหยื่ออาชญากรรมในกระบวนการ ยุติธรรมทางอาญา (Statement of victims’ rights in the process of criminal justice) ปี ค.ศ. 1997ออกแถลงการณ์ว่าด้วยสิทธิทางสังคมของเหยื่ออาชญากรรม (Statement of victims in social right) ปี ค.ศ. 1998 ออกแถลงการณ์ว่าด้วยสิทธิของเหยื่ออาชญากรรมว่าด้วยมาตรฐาน การให้บริการ (Statement of victims right to Standards of Service) เพื่อให้ประเทศสมาชิกนำหลักการเกี่ยวกับสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญาที่กำหนด โดยที่ประชุมองค์การระหว่างประเทศไปสู่การปฏิบัติ ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องสิทธิ ของผู้เสียหายในคดีอาญาหรือเหยื่ออาชญากรรมในนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศต่าง ๆ ในภาคพื้นยุโรป และสหรัฐอเมริกามีการตื่นตัวอย่างมาก ดังนั้น ความสำคัญของผู้เสียหายในคดีอาญา
155 หรือเหยื่ออาชญากรรมจึงเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ มีการออกกฎหมายทดแทนแก่เหยื่ออาชญากรรม โดยรัฐในหลายประเทศ และพัฒนาระบบการคุ้มครองเหยื่ออาชญากรรมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โปรแกรม ให้ความช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมถูกจัดขึ้น เพื่อให้บริการแก่เหยื่ออาชญากรรมระบบการคุ้มครอง สิทธิของเหยื่ออาชญากรรมได้รับการพัฒนาขึ้นตามศักยภาพของแต่ละประเทศ มีการกำหนดเกี่ยวกับสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญาซึ่งรวมไปถึงการได้รับการเยียวยา ดังต่อไปนี้ (1) ผู้เสียหายจะได้รับการดูแลด้วยความรู้สึกเมตตาและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีสิทธิเข้าสู่กลไกของกระบวนการยุติธรรมและได้รับการเยียวยาตามที่รัฐสมาชิกกำหนด เพื่อบรรเทา ความเสียหายที่ได้รับ (2) กลไกของฝ่ายตุลาการและฝ่ายบริหารควรมีกระบวนการขั้นตอนที่เอื้ออำนวยให้ ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาผ่านกระบวนการต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ (3) กระบวนการทางตุลาการควรตอบสนองความต้องการของผู้เสียหาย โดยแจ้งถึง สิทธิของผู้เสียหายรวมถึงขั้นตอนในการพิจารณาคดี เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายได้แสดงทัศนคติ เพื่อผลประโยชน์ของตนและควรจัดให้มีการช่วยเหลือตามสมควรในทุกกระบวนการทางกฎหมาย (4) หากการเยียวยาความเสียหายนั้นเห็นสมควรว่าต้องมีการไกล่เกลี่ย ให้ดำเนินการ จัดให้มีกลไกการระงับข้อพิพาทแบบไม่เป็นทางการแก่ผู้เสียหาย (5) เมื่อเห็นสมควรสั่งให้จำเลยดำเนินการใด ๆ เพื่อเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย ครอบครัว ผู้ที่อยู่ในความดูแลของผู้เสียหาย (6) รัฐต้องดำเนินการเพื่อปรับปรุงแก้ไขแนวปฏิบัติ กฎเกณฑ์ กฎหมายต่าง ๆ เพื่อจัด ให้มีการแก้ไขและเยียวยาให้แก่ผู้เสียหาย (7) ผู้เสียหายควรได้รับสิ่งของ การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูทางจิตใจและการช่วยเหลือ ทางสังคมอื่น ๆ โดยผ่านองค์กรของรัฐหรือชุมชน จากปฏิญญาดังกล่าวส่งผลให้ประเทศต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิของ ผู้เสียหาย อาทิ ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิทธิของเหยื่ออาชญากรรม มีการศึกษาวิจัยขององค์กรเหยื่ออาชญากรรม (National Center for Victim of Crime) ในเรื่อง ประสิทธิภาพของการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองสิทธิของเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งมีวัตถุประสงค์ของ การศึกษาเพื่อต้องการทราบถึงประสิทธิภาพของการให้ความคุ้มครองสิทธิของเหยื่ออาชญากรรม โดยการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องของการได้รับแจ้งเกี่ยวกับรูปคดีและสิทธิของเหยื่ออาชญากรรม ความพอเพียงของการได้รับแจ้งถึงบริการที่ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมและความพอใจของ เหยื่ออาชญากรรมต่อการดำเนินคดีของกระบวนการยุติธรรม พบว่าเหยื่ออาชญากรรมได้จัดลำดับ ความสำคัญของสิทธิเหยื่ออาชญากรรมเรียงตามลำดับ ดังนี้ (1) ได้รับการแจ้งเกี่ยวกับการจับกุมตัวผู้กระทำความผิด (2) การมีส่วนร่วมในการยกฟ้องหรือการยกเลิกคดี (3) การได้รับแจ้งเกี่ยวกับการให้ประกันตัวผู้ต้องหา (4) การได้รับแจ้งเกี่ยวกับวันพ้นโทษของผู้กระทำความผิด
156 (5) การเข้าร่วมรับฟังในการตัดสินใจให้ประกันตัวผู้กระทำความผิด (6) การร่วมวิเคราะห์พูดคุยถึงรูปคดีร่วมกับพนักงานอัยการ (7) การร่วมวิเคราะห์พูดคุยถึงความเหมาะสมในการลดโทษแก่ผู้กระทำความผิด (8) การทำคำแถลงถึงผลกระทบของผู้เสียหายระหว่างพักการลงโทษผู้ทำความผิด (9) การปรากฏตัวต่อคณะลูกขุนในระหว่างการพิจารณาคดี (10) การปรากฏตัวในระหว่างพิจารณาปลดปล่อยผู้กระทำความผิด (11) การได้รับแจ้งเกี่ยวกับการเลื่อนพิจารณาของคณะลูกขุน (12) การจัดทำคำแถลงถึงผลกระทบต่อเหยื่ออาชญากรรมก่อนการตัดสินคดี (13) การมีส่วนตัดสินใจถึงความเหมาะสมของคำพิพากษา ประเทศไทยมีบทบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของเหยื่ออาชญากรรม หรือผู้เสียหายในคดีอาญาถือว่าเป็นหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้การรับรองคุ้มครองถือว่าเป็นสิทธิในส่วนของกระบวนการ ยุติธรรมของบุคคลที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมและมีสถานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาต้องได้รับ การแก้ไขเยียวยาความเสียหายจากอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการให้ความคุ้มครองสิทธิต่าง ๆ ของเหยื่ออาชญากรรมในกระบวนการยุติธรรมในส่วนของการให้ การเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากการกระทำความผิดทางอาญา 4.1.4 การคุ้มครองผู้เสียหายในคดีอาญาของประเทศไทย ประเทศไทยมีการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนชาวไทย โดยรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เป็นกฎหมายสูงสุดที่มีหลักการรับรองคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของ บุคคล และมีกฎหมายอื่น ๆ ที่ได้ตราขึ้นเพื่อรองรับเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งเมื่อกล่าวถึงผู้เสียหายในคดีอาญาจะพบกฎหมายที่มีบทบัญญัติเพื่อการคุ้มครองและช่วยเหลือ ผู้เสียหาย ได้แก่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จากการศึกษากฎหมายของไทยพบว่า ระบบกฎหมายไทยเป็นระบบลายลักษณ์อักษร (Civil Law) มีหลักเกณฑ์หรือแนวปฏิบัติที่มีกฎหมายรองรับและคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายไว้ เพื่อให้ เป็นหลักประกันสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญา โดยให้มีความสอดคล้องกับปฏิญญาสากลและกฎหมาย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามแนวคิดเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิหลัก 4 สิทธิ ที่สำคัญ ได้แก่ (1) สิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม (2) สิทธิที่จะได้รับการเยียวยาความเสียหาย (3) สิทธิในการมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม (4) สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองความปลอดภัย แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดตามกฎหมายไทย จะพบว่ากฎหมายไทยได้ให้สิทธิแก่ผู้เสียหายตามกฎหมาย ดังนี้
157 (1) สิทธิในการร้องทุกข์และถอนคำร้องทุกข์ (2) สิทธิคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย (3) สิทธิในการเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาได้ด้วยตนเองและถอนฟ้องคดีอาญา (4) สิทธิในการเป็นโจทก์และถอนฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา (5) สิทธิในการเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ (6) สิทธิในการยอมความในคดีความผิดต่อส่วนตัว (7) สิทธิในการรับทราบสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาความเสียหาย รวมทั้งความช่วยเหลือ ตามสมควรในการดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่าตอบแทน หรือการช่วยเหลืออย่างอื่นที่จำเป็น (8) สิทธิที่จะยื่นคำร้องในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ โดยขอให้บังคับจำเลย ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ ในกรณีที่ผู้เสียหายยื่นคำร้องตามมาตรา 44/1 แล้วเมื่อศาลชั้นต้นนัดฟังคำ พิพากษาให้ส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาไปยังผู้เสียหาย และหากศาลพิพากษายกฟ้องคดีอาญาหรือ พิพากษาให้ใช้ค่าเสียหายไม่เต็มตามขอ ให้แจ้งสิทธิในการอุทธรณ์คำร้องในส่วนแพ่งด้วย (9) สิทธิที่จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้เสียหายกับจำเลย เพื่อให้ ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาความเสียหาย (10) สิทธิที่จะไม่ต้องตอบคำถามซึ่งโดยตรงหรือโดยอ้อม อาจจะทำให้ผู้เสียหายใน ฐานะพยานถูกฟ้องในคดีอาญา (11) สิทธิให้จัดหาล่าม (12) สิทธิขอให้ศาลตั้งทนายความ (13) สิทธิในการรับรู้ความคืบหน้าของคดีและผลของคำพิพากษา (14) สิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นและข้อกังวลใจต่อศาล (15) สิทธิขอให้จัดให้มีการยืนยันหรือชี้ตัวผู้กระทำผิดในสถานที่ที่เหมาะสมและมิให้ ผู้เสียหายถูกมองเห็น (16) ผู้เสียหายที่เป็นโจทก์หรือโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการมีสิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาได้ (17) สิทธิตรวจหรือคัดสำเนาคำให้การของตนในชั้นสอบสวนหรือเอกสารประกอบ คำให้การของตน เมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาลแล้ว (18) กรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ผู้เสียหายมีสิทธิในการ ได้รับคำแนะนำและช่วยเหลือในการดำเนินการเพื่อบังคับคดี (19) สิทธิในการได้รับความคุ้มครองปลอดภัย นอกจากนี้ ผู้เสียหายในบางคดี จะได้รับสิทธิอื่น ๆ เพิ่มเติมตามที่กฎหมายนั้น ๆ กำหนด อาทิ ผู้เสียหายในคดีค้ามนุษย์ซึ่งได้กล่าวไว้ในรายละเอียดด้วยแล้ว 4.1.5 การปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษตระหนักและให้ความสำคัญกับ ผู้เสียหาย โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็น ธรรม มีความเสมอภาคและเท่าเทียม มีการดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหายอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ เด็ก หญิงมีครรภ์ คนชรา หรือผู้พิการให้ได้รับความสะดวกเท่าเทียมบุคคลธรรมดาหรือ มากกว่าตามแต่กรณี และตระหนักถึงความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยของผู้เสียหาย หรือครอบครัว ของผู้เสียหาย โดยมีการคุ้มครองความปลอดภัยจากการถูกคุกคาม ข่มขู่ หรือการแก้แค้น ในกรณีที่
158 เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีความเสี่ยง โดยมีการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพยานในคดีพิเศษ ที่ผู้เสียหายหรือพยานที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย โดยให้ความสำคัญกับการแจ้ง สิทธิของผู้เสียหาย ทั้งในเรื่องสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย โดยให้คำแนะนำในการที่ ผู้เสียหายจะได้รับความช่วยเหลือในเรื่องค่าตอบแทน ผู้เสียหายตามกฎหมาย/ระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยแจ้งหรือประสานงานเบื้องต้นกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม หรือในกรณี อยู่ต่างจังหวัดจะแนะนำและประสานงานในเบื้องต้นกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดในพื้นที่ที่ผู้เสียหาย มีภูมิลำเนา นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษจะมีการแจ้งขั้นตอน และ วิธีการดำเนินคดีพิเศษ หรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมให้ผู้เสียหายทราบ อาทิ ความคืบหน้าในคดี การสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ การดำเนินงานของพักงานอัยการ หรือวิธีการ หรือขั้นตอนการพิจารณาในชั้นศาล ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิของผู้เสียหายที่จะทราบข้อมูลดังกล่าว สำหรับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายโดยงดเว้นการนำตัวผู้เสียหายมาปรากฏตัวหรือให้ ข่าวต่อสื่อมวลชน อันเป็นสิทธิส่วนบุคคลตามกฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ความสำคัญอย่างมาก โดยจะงดเว้นการนำตัวผู้เสียหายมาปรากฏตัวหรือให้ข่าวต่อสื่อมวลชนในทุกกรณี เพื่อรักษา ความปลอดภัย และรักษาความเป็นส่วนตัว และรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหาย หากกรมสอบสวน คดีพิเศษจะแถลงข่าวเกี่ยวกับคดี จะมีโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเป็นผู้แถลง เท่านั้น และจะไม่นำเสนอรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายให้สาธารณชนรับทราบ เว้นแต่ ผู้เสียหายไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชนด้วยตัวเอง รวมไปถึงการแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวกับการดำเนินการ ต่อทรัพย์สินของผู้เสียหายในคดีพิเศษจะแจ้งให้กับผู้เสียหายโดยตรงเท่านั้น อีกทั้งยังมีมาตรการรักษา ความลับในสำนวน ซึ่งเป็นมาตรการที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด และยึดถือเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งองค์กร แนวทางหรือหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมาย/ระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยยังไม่ได้มีแนวทางหรือระเบียบเป็นของตนเอง แต่จากการ ปฏิบัติงานที่ผ่านมานั้น พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษและให้คำแนะนำกับผู้เสียหาย และมีการแจ้งสิทธิตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม มีบางความเห็นที่เสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดทำแนวทางหรือกฎหมาย/ระเบียบที่เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีพิเศษ เพื่อให้มีมาตรฐาน เดียวกันทั่วทั้งองค์กร อีกทั้งจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษให้มีมาตรฐาน ที่สูงขึ้นสอดคล้องกับมาตรฐานสากล แต่ทั้งนี้จะต้องคำนึงถึงการที่จะไม่เพิ่มขั้นตอนหรือก่อให้เกิด ความยุ่งยากในการปฏิบัติงานเกินสมควร ในส่วนของกฎหมาย/ระเบียบ หรือแนวทางที่เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีอาญา มีความเหมาะสมแล้ว และมีความสอดคล้องกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ปฏิญญาว่าด้วย หลักความยุติธรรมขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เสียหายจากอาชญากรรมและการใช้อำนาจโดยมิชอบ อนุสัญญาหรือพิธีสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่หลายประเทศยึดถือและนำไปปฏิบัติเป็น กฎหมายภายในประเทศ อีกทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ได้มีบทบัญญัติเรื่อง ดังกล่าวไว้ครอบคลุม เพียงพอ และกฎหมายลำดับรองต่าง ๆ สามารถรองรับการปฏิบัติงานได้อย่าง เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ โดยในปัจจุบันการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีพิเศษอาจมีปัญหาอยู่บ้าง ในทางปฏิบัติ อาทิ ปัญหาผู้เสียหายไม่เข้าใจในเรื่องกระบวนการและขั้นตอนการดำเนินคดีปัญหาการ สื่อสาร หรือปัญหาช่องทางการติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัญหาระยะเวลาในการดำเนินคดีปัญหา
159 การสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการในบางคดี ปัญหาการไม่ได้รับความช่วยเหลือเนื่องจากไม่เข้าข่าย หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานยุติธรรมจังหวัด กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ได้มีความพยายาม ในการสร้างความรู้ความเข้าใจ ช่วยประสานความร่วมมือ สร้างช่องทางในการติดต่อสื่อสาร หรือพยายาม แจ้งข้อมูลความคืบหน้าในทางคดีผ่านช่องทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจและเข้าถึง การดำเนินกระบวนการยุติธรรมทางอาญามากยิ่งขึ้น 4.2 ข้อเสนอแนะ จากการศึกษา ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะการจัดทำข้อเสนอว่าด้วยการปฏิบัติตามปฏิญญาสากล ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีพิเศษ ดังนี้ (1) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษควรจะมีการเพิ่มเติมความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับปฏิญญาสากล แนวคิด กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีอาญา หรืออาจศึกษาจากรายงานการศึกษาฉบับนี้เพิ่มเติม (2) ในการสอบปากคำผู้เสียหายในคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ จะต้องให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องสิทธิของผู้เสียหายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และ/หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แม้ในบางคดีจะเห็นว่า ผู้เสียหายในคดีดังกล่าวไม่สามารถได้รับสิทธิบางประการตามที่กฎหมายกำหนด ก็อาจจะแจ้งให้ทราบ เพื่อเป็นความรู้ไว้ด้วย (3) ควรจัดทำแนวทางหรือแบบรายการตรวจสอบ (check list) การแจ้งสิทธิผู้เสียหายในคดีพิเศษ เพื่อเป็นเครื่องมือให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษใช้ในการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ กับผู้เสียหาย ในการสร้างความรู้ความเข้าใจ และเพื่อแจ้งสิทธิผู้เสียหายทราบอย่างเป็นรูปธรรม และเมื่อ แจ้งสิทธิดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ให้ลงลายมือชื่อ ประกอบด้วย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษหรือเจ้าหน้าที่ คดีพิเศษ (ผู้แจ้งสิทธิ) และผู้เสียหาย เพื่อรับทราบการแจ้งสิทธิดังกล่าว (4) เอกสารแนวทางหรือแบบรายการตรวจสอบ (check list) การแจ้งสิทธิผู้เสียหายในคดีพิเศษ ตามข้อ (3) ควรจัดทำเป็น 2 ฉบับ มอบให้ผู้เสียหาย 1 ฉบับ และนำใส่แฟ้มสรุปสำนวนคดี1 ฉบับ เพื่อเป็นเอกสารหลักฐานในการแจ้งสิทธิให้แก่ผู้เสียหายในคดีพิเศษ (5) การจัดทำแนวทางหรือแบบรายการตรวจสอบ (check list) อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อาจมอบหมายกองกฎหมายดำเนินการ เพื่อเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณา และแจ้งเวียน ให้หน่วยงาน (กองคดี) ทราบและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดต่อไป การดำเนินการตามข้อเสนอแนะแม้จะไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ปฏิบัติไว้เป็นการเฉพาะ แต่หาก กรมสอบสวนคดีพิเศษสามารถดำเนินการได้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้เสียหาย ในคดีพิเศษ ซึ่งสอดคล้องกับปฏิญญาสากล รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และกฎหมาย อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเหตุผลสำคัญประการหนึ่ง คือ การดำเนินการดังกล่าวจะไม่เพิ่มขั้นตอนหรือ ก่อให้เกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ เกินสมควร โดยท้ายที่สุดจะส่งผลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ที่กำหนด คือ “เป็นองค์การหลักในการบังคับใช้กฎหมายกับอาชญากรรมพิเศษตามมาตรฐานสากล”
160 บรรณานุกรม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กองคดีการค้ามนุษย์. (2562). คู่มือแจ้งสิทธิผู้เสียหาย จากการค้ามนุษย์. www.e-aht.com กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ และคณะ. (2547). มาตรฐานองค์การสหประชาชาติ ว่าด้วยกระบวนการยุติธรรม ทางอาญา, มูลนิธพัฒนากระบวนการยุติธรรม กุลพล พลวัน. (2546). การพิจารณาคดีระบกล่าวหาและระบบไต่สวนในกฎหมายไทยที่มีผลกระทบ ต่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน, วารสารศาลรัฐธรรมนูญ ชัชชัย ยุระพันธุ์. (2565) หลักการดำเนินคดีอาญาโดยรัฐกับการเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายเป็นโจทก์ ฟ้องคดี. วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ชาญณรงค์ ปราณีจิตต์. (2549). การคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญาแก้ไขใหม่. บทความวิชาการ, หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 2กุมภาพันธ์ 2549 ณรงค์ ใจหาญ. (2556). หลักกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เล่ม 1.กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ วิญญูชน. นพพร วิวัฒนาภรณ์. (2555). ปัญหาการเข้าถึงสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญา. รายงานการวิจัย ส่วนบุคคล หลักสูตร “ผู้พิพากษาผู้บริหารในศาลชั้นต้น” รุ่นที่ 10 สถาบันพัฒนาข้าราชการ ฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม, สำนักงานศาลยุติธรรม นิเมธ พรหมพยัต. (2563). มาตรการทางกฎหมายในการเยียวยาผู้เสียหายซึ่งตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม. บทความวิชาการ วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. ปีที่ 7 ฉบับที่ 11 ปัญจ กล้าแข็ง. (2563). ปัญหาการฟ้องคดีอาญาของผู้เสียหายและการไต่สวนมูลฟ้อง, เอกสารวิชาการ รายบุคคล หลักสูตร “ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล” รุ่นที่ 19 สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ศาลยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม ปิติ โพธิวิจิตร. (2563). อิทธิพลของกฎหมายต่างประเทศต่อพัฒนาการของระบบการฟ้องคดีอาญา โดยผู้เสียหายของประเทศไทย.วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ปีที่ 49 ภัทรวรรณ ทองใหญ่. (2565). มาตรการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรมในกระบวนการ ยุติธรรมทางอาญาของประเทศไทย : การจัดทำคำแถลงเกี่ยวกับผลกระทบของอาชญากรรม. บทความวิชาการ วารสารกฎหมาย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วรรณนิศา สุขสวัสดิ์, (2562). ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในคดีอาญาตาม พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559). วิทยานิพนธ์นิติศาสตร มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม วีระศักดิ์ แสงสารพันธ์. (2556). สิทิของผู้เสียหายในคดีอาญา : การศึกษาวิจัยระบบการคุ้มครองสิทธิ ของผู้เสียหายในกระบวนการดำเนินคดีอาญาของประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์. (2556). หลักนิติธรรมกับการเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา. สำนักงานศาล รัฐธรรมนูญ
161 ศรันยา สีมา. (2563). ผู้เสียหายในคดีอาญา. สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สถาบันวิจัยรพีพัฒนาศักดิ์. (2559). การคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา, รายงานวิจัย, สำนักงานศาลยุติธรรม สมคิด เลิศไพฑูรย์ และคณะ (2546). รายงานการวิจัย เรื่อง กาคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยศาลรัฐธรมมนูญ. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา. (2556). สิทธิของผู้เสียหายตาม พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544. วารสารสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 2 ฉบับ 1 สำนักงานศาลยุติธรรม. (2560). คู่มือกระบวนการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในคดีอาญา สุรวุฒิ รังไสย์. (2562). ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรม เนื่องจากคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาของพนักงานอัยการ. วิทยานิพนธ์ นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยปทุมธานี, วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี ปีที่ 11 ฉบับที่ 1 สุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล. (2549). การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของเหยื่อผู้เสียหายโดยกระบวนการยุติธรรม. เอกสารวิชาการส่วนบุคคล หลักสูตร “หลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย์” รุ่นที่ 4 วิทยาลัย รัฐธรรมนูญ, สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ อธินันท์ คันธอุลิส, (2564). อำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการในการดำเนินการตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 และมาตรา 44/1 : ศึกษาเฉพาะกรณำการเรียกค่าสินไหม ทดแทนผู้เสียหาย, วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ อริยพร โพธิใส. (2552). สิทธิในการได้รับการเยียวยาจากรัฐของผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา. วารสารจุลนิติ ปีที่ 7 ฉบับที่ 2 อวิภารัตน์ นิยมไทย. (2560). การคุ้มครองผู้เสียหายหือพยานที่เป็นเด็กในชั้นสอบสวนคดีอาญา, การปฏิรูปกฎหมาย : วารสารจุลนิติ ปีที่ 14 ฉบับที่ 1 อุทัย อาทิเวช. (2557). กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส.พิมพ์ครั้งที่2 อุทัย อาทิเวช. (2562). ผู้เสียหาย.กรุงเทพมหานคร
กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม สายด่วน 1202 www.dsi.go.th