The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนงานเชื่อมโลหะเบื้องต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนการสอนงานเชื่อมโลหะเบื้องต้น

แผนการสอนงานเชื่อมโลหะเบื้องต้น

1

แผนการสอน/การจัดการเรียนรแู้ บบม่งุ เนน้ สมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหัสวิชา 2103-1001 วิชา งานเช่ือมโลหะเบื้องต้น
หลักสตู ร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปี พ.ศ. 2563
ประเภทวชิ า ช่างอุตสาหกรรม

จัดทาโดย
นายปราโมทย์ อุทยั วัฒน์

ตาแหน่ง ครู คศ.3
แผนกวิชา ช่างเชอ่ื มโลหะ

ภาคเรียนที่ ...1... ปกี ารศึกษา .....2563......
ฝา่ ยวชิ าการ วทิ ยาลยั เทคนคิ สว่างแดนดิน
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

2ก

คานา

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชางานเชื่อมโลหะเบื้องต้น รหัสวิชา 2103-1001 จัดทาข้ึนเพ่ือใช้เป็น
สื่อประกอบการจัดการเรียนการสอน มีเนื้อหาตรงตามจุดประสงค์และคาอธิบายรายวิชา หลักสูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2556 ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเน้นให้ครูผู้สอน จัดกิจกรรมการเรียนการสอนและบูรณาการคุณธรรม จริยธรรม
คา่ นยิ ม คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ให้ผเู้ รยี นมีคณุ ลักษณะ ดงั น้ี

1. ผเู้ รียนไดเ้ รยี นรู้จากการปฏิบัตจิ ริง
2. ผูเ้ รียนมโี อกาสเลอื กเรยี นร้ใู นส่ิงทตี่ นถนัดและสนใจ
3. ผู้เรียนได้มโี อกาสแสวงหาความรูแ้ ละสรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตวั เอง
4. ผู้เรียนไดม้ โี อกาสท่ีจะนาความรูไ้ ปปฏิบัติใช้จรงิ ในชีวิตประจาวัน
5. ผูเ้ รียนมสี ว่ นรว่ มในการประเมินผลการเรยี นรขู้ องตนเอง
เน้ือหาในแผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย มาตรฐานสมรรถนะและตัวบ่งช้ี หมวดวิชาชีพ
สาขาวิชาช่างเชื่อมโลหะ ลักษณะรายวิชา ตารางวิเคราะห์หลักสูตร กาหนดการสอนท่ีบูรณาการ คุณธรรม
จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ผู้จัดทาขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเก่ียวข้อง จนแผนการจัดการเรียนรู้เล่มน้ีเสร็จสมบูรณ์ ประโยชน์
อนั ใดท่ีไดจ้ ากแผนการจดั การเรียนรู้เล่มนี้ ขอมอบให้กบั การศกึ ษาไทยต่อไป

ลงชอ่ื ……………………………………..
( นายปราโมทย์ อุทยั วฒั น์ )

ข3

สารบญั

หน้า

คานยิ ม ................................................................................................................................. ........

คานา................................................................................................................................... ก

สารบญั ................................................................................................................................. ข

ลกั ษณะรายวชิ า.................................................................................................................... 1

ตารางวิเคราะห์สมรรถนะการเรยี นรู้.................................................................................... 2-5

ตารางวเิ คราะห์หลักสตู ร …………………………………………………........................ 6

ตารางวิเคราะหส์ มรรถนะรายวชิ าโดยบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 7

โครงการสอนหรอื โครงการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………... 8

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 ความปลอดภัยในงานเชอ่ื ม 9-27

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 ตาแหนง่ ทา่ เชอื่ มและชนิดรอยตอ่ แนวเชอ่ื ม 28-46

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 3 กระบวกการเชื่อมไฟฟาู ดว้ ยลวดเชือ่ มหมุ้ ฟลักซ์ 47-64

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 องคป์ ระกอบการเช่อื มไฟฟาู ด้วยลวดเช่อื มห้มุ ฟลักซ์ 65-82

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 ลวดเช่อื มเชอื่ มไฟฟาู ห้มุ ฟลักซ์ 83-102

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6 งานเชอ่ื มแก๊ส 103-120

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 เปลวที่ใช้ในการเชื่อมแกส๊ ลวดเชอ่ื มแก๊สและระบบการจ่ายแก๊ส 121-139

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8 งานตัดโลหะด้วยแก๊ส 140-158

1

ลักษณะรายวชิ า

รหสั วิชา ...........2103-1001............ ชื่อวิชา ..............งานเช่ือมโลหะเบื้องต้น.............
จานวนหน่วยกติ .....2......หนว่ ยกติ จานวนชั่วโมงต่อสัปดาห์.......6.......ชั่วโมง รวม ......108......ชวั่ โมงตอ่ ภาค
เรียน

จดุ ประสงคร์ ายวิชา

1. เพ่อื ใหส้ ามารถปฏิบตั งิ านเชื่อมอารก์ ลวดเชือ่ มหุม้ ฟลกั ซ์ งานเรม่ิ ตน้ อารก์ งานเชื่อมเดนิ แนว
งานตอ่ แนวเชอ่ื ม งานเช่ือมพอก งานเช่อื มรอยตอ่ ชน รอยต่อเกย รอยตอ่ ตวั ทใี นตาแหน่งท่าราบ

2. เพอ่ื ให้สามารถปฏิบตั ิงานเช่อื มแกส๊ งานปรบั เปลวไฟเชอื่ ม งานสร้างบอ่ หลอมเหลว งานเชื่อม
เดนิ แนวแบบ Forehand รอยต่อมุม รอยต่อชนในตาแหน่งท่าราบ

3. เพอ่ื ใหส้ ามารถปฏิบัติงานตัดแก๊สดว้ ยมือ และเครอ่ื งตดั อตั โนมตั ิ
4. มกี จิ นสิ ัยในการทางานทด่ี ี ปฏบิ ตั กิ ารเชือ่ ม โดยใช้อุปกรณค์ วามปลอดภยั สว่ นบุคคล

สมรรถนะรายวชิ า

1. เช่อื มอาร์กลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์แผ่นเหลก็ กล้า งานเร่ิมต้นอาร์ก งานเช่ือมเดินแนว
งานต่อแนวเชอื่ ม งานเชือ่ มพอก งานเชอ่ื มรอยตอ่ ชน รอยต่อเกย รอยตอ่ ตัวทีในตาแหน่งท่าราบ
ตามหลักการและกระบวนการ

2. เช่อื มแก๊สแผ่นเหลก็ กลา้ งานปรับเปลวไฟเช่อื ม งานสรา้ งบ่อหลอมเหลว งานเชอ่ื ม
เดินแนวแบบ Forehand รอยต่อมุม รอยตอ่ ชนในตาแหนง่ ท่าราบ ตามหลักการและ
กระบวนการ

3. ตัดแกส๊ แผ่นเหลก็ กลา้ ด้วยมอื และเครื่องตัดอัตโนมัตติ ามแบบกาหนด

คาอธบิ ายรายวิชา

ปฏิบัติเกี่ยวกับงานเช่ือมอาร์กลวดเช่ือมหุ้มฟลักซ์ เหล็กกล้าคาร์บอน งานเร่ิมต้นอาร์ก งานต่อแนว
เช่ือม งานเช่ือมพอก งานเช่ือมรอยต่อชน รอยต่อเกย รอยต่อตัวที ในตาแหน่งท่าราบ และงานเชื่อมเดินแนว
ทุกตาแหน่งท่าเช่ือม งานเช่ือมแก๊ส งานปรับเปลวไฟเช่ือม งานสร้างบ่อหลอมเหลว งานเชื่อม เดิน แนว
รอยต่อมุม รอยต่อชนแบบ Forehand ทุกตาแหน่งท่าเชื่อม งานตัดด้วยแก๊ส โดยใช้อุปกรณ์ถูกต้องตามหลัก
ความปลอดภยั และอาชวี อนามยั

2

ตารางวเิ คราะหส์ มรรถนะการเรียนรู้

รหสั วชิ า ...........2103-1001............ ชอ่ื วชิ า ..............งานเชอ่ื มโลหะเบื้องตน้ .............

จานวนหน่วยกิต .....2......หนว่ ยกิต จานวนช่ัวโมงตอ่ สัปดาห์.......6.......ชว่ั โมง รวม ......108......ชว่ั โมงต่อภาค

เรียน

หนว่ ยการสอน สมรรถนะการเรยี นรู้

หน่วยการสอนท่ี 1. 1. ด้านความรู้

ช่อื หน่วยการสอน ความปลอดภัยในงานเชือ่ ม 1. ความปลอดภัยทว่ั ไปในงานเช่อื ม

1. ความปลอดภยั ท่ัวไปในงานเชื่อม 2. ความปลอดภัยในงานเชอื่ มแก๊ส

2. ความปลอดภัยในงานเชื่อมแก๊ส 3. ความปลอดภยั ในงานเช่อื มไฟฟาู

3. ความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟาู 2. ด้านทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้

1. ปฏบิ ัตติ ามกฎของโรงงานได้อยา่ งเคร่งครดั

2. บอกวธิ ปี อู งกันอบุ ตั ิเหตุในงานเชอื่ มแกส๊ และ

เช่ือมไฟฟูาได้

3. บอกวธิ กี ารปอู งกนั อุบัตเิ หตใุ นงานโลหะแผ่นได้

3. ดา้ นคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะที่พงึ

ประสงค์และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ

พอเพียง

1. ความมีมนุษยสมั พันธ์

2. ความมวี ินัย

3. ความรับผิดชอบ

หนว่ ยการสอนท่ี 2. 1. ดา้ นความรู้

ชื่อหน่วยการสอน ตาแหนง่ ท่าเชือ่ มและชนดิ 1. ตาแหนง่ ท่าเชอ่ื ม

รอยต่อแนวเช่ือม 2. รอยตอ่ และชนดิ รอยต่อ

1. ตาแหนง่ ท่าเช่ือม 2. ดา้ นทักษะหรือการประยกุ ต์ใช้

2. รอยตอ่ และชนดิ ของรอยตอ่ 1. รูช้ นดิ และการใชง้ านแนวเชอ่ื มแบบตา่ ง ๆ

2 รูช้ นิดและการใช้งานของรอยตอ่ แบบตา่ ง ๆ ใน

งานเช่อื ม

3. จาแนกลกั ษณะตาแหนง่ ท่าเช่ือมของรอยต่อต่าง



3. ดา้ นคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคณุ ลักษณะท่ีพงึ

ประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ

พอเพียง

3

ตารางวิเคราะหส์ มรรถนะการเรยี นรู้

รหัสวิชา ...........2103-1001............ ชอ่ื วชิ า ..............งานเช่อื มโลหะเบ้ืองตน้ .............
จานวนหนว่ ยกิต .....2......หนว่ ยกิต จานวนช่วั โมงตอ่ สปั ดาห.์ ......6.......ช่วั โมง รวม ......108......ชว่ั โมงตอ่ ภาค
เรยี น

หน่วยการสอน สมรรถนะการเรยี นรู้

หน่วยการสอนที่ 3. 1. ด้านความรู้

ชือ่ หน่วยการสอน กระบวกการเชอื่ มไฟฟูาดว้ ย 1. กระบวนการเชื่อมแกส๊

ลวดเช่ือมหุ้มฟลกั ซ์ 2. ชนดิ ของแกส๊

1. หลักการเชือ่ มไฟฟาู ดว้ ยลวดเช่อื มหุ้มฟลักซ์ 3. อปุ กรณ์ในงานเชอื่ มแกส๊

2. เครอ่ื งเชือ่ มไฟฟาู ตามลักษณะพ้ืนฐาน 2. ดา้ นทักษะหรือการประยกุ ต์ใช้

3. รอบทางานของเครอื่ งเช่ือม 1. รหู้ ลักงานของการเช่ือมแก๊ส

4. อุปกรณท์ ่ีใช้กบั งานเช่ือมไฟฟูา 2. รู้ชนดิ ของแก๊สเช้ือเพลงิ ตา่ ง ๆ

5. ลาดับขน้ั ในการเตรยี มงานเช่ือมไฟฟาู 3. รู้ชนดิ และหลักการทางานของเครอ่ื งมืออุปกรณ์

เชอ่ื มออกซิ–อะเซทลิ นี

3. ดา้ นคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะที่พึง

ประสงค์และบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ

พอเพยี ง

หนว่ ยการสอนที่ 4. 1. ด้านความรู้

ช่อื หน่วยการสอน องค์ประกอบการเชื่อมไฟฟาู 1. กระบวนการเชือ่ มไฟฟูาดว้ ยลวดเชือ่ มสารพอก

ดว้ ยลวดเช่อื มหมุ้ ฟลักซ์ หุ้ม

1. การเลือกลวดเช่อื มใหเ้ หมาะสมกบั งาน 2. อปุ กรณ์ในงานเช่ือม

2. เทคนิควิธีการเช่ือมไฟฟูาด้วยลวดเช่ือม 2. ดา้ นทกั ษะหรือการประยุกตใ์ ช้

หุม้ ฟลักซ์ 1. รหู้ ลักการของงานเชอ่ื มอารก์ ดว้ ยลวดเชอื่ มสาร

3. การเร่ิมต้นและสิ้นสดุ รอยเช่ือม พอกหุ้ม

4. การต่อรอยเช่อื ม 2. รชู้ นดิ ของกระแสไฟและวงจรการเชื่อมอาร์กด้วย

5. การส่ายลวดเช่ือม ลวดเชือ่ มสารพอกหุ้ม

3. ร้ชู นิดและหลักการทางานของเครือ่ งมืออปุ กรณ์

เชือ่ มอาร์กดว้ ยลวดเชอื่ มสารพอกหุ้ม

3. ดา้ นคุณธรรม/ จริยธรรม/ และคณุ ลกั ษณะที่พึง

ประสงคแ์ ละบรู ณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ

พอเพียง

4

ตารางวเิ คราะหส์ มรรถนะการเรียนรู้

รหสั วิชา ...........2103-1001............ ชือ่ วชิ า ..............งานเชอ่ื มโลหะเบือ้ งต้น.............
จานวนหน่วยกติ .....2......หนว่ ยกติ จานวนชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์.......6.......ชัว่ โมง รวม ......108......ชวั่ โมงตอ่ ภาค
เรียน

หนว่ ยการสอน สมรรถนะการเรยี นรู้

หนว่ ยการสอนที่ 5. 1. ดา้ นความรู้
ชอ่ื หน่วยการสอน ลวดเชื่อมเชอื่ มไฟฟาู หมุ้ ฟลักซ์ 1. ชนิดของลวดเช่ือม
2. ส่วนผสมของสารพอกหุ้ม
1. ลวดเช่อื ม 3. การจาแนกชนิดของลวดเชอ่ื ม
2. ลวดเชือ่ มไฟฟูาหุม้ ฟลักซ์
3. มาตรฐานลวดเชื่อมไฟฟูาหุ้มฟลักซ์ 2. ดา้ นทกั ษะหรือการประยกุ ต์ใช้
4. ประเภทของฟลกั ซห์ ุม้ 1. รู้ความหมายและการจาแนกชนิดของลวดเชื่อม
5. หนา้ ทข่ี องฟลักซ์
ไฟฟาู
หนว่ ยการสอนท่ี 6. 2. รู้หน้าท่ีของสารพอกหุ้มและส่วนผสมของแกน
ช่ือหน่วยการสอน งานเชอื่ มแก๊ส
ลวดเชอ่ื มเหลก็ กล้า
1. หลักการเชื่อมแกส๊ 3. จาแนกชนดิ ลวดเชือ่ มสารพอกหุ้มตามมาตรฐาน
2. กระบวนการเช่อื มแกส๊ ออกชีอะเซทิลนี
3. แก๊สออกซิเจน ต่าง ๆ
4. แกส๊ อะเซทิลนี 3. ด้านคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะที่พงึ
5. เครอ่ื งมือละอปุ กรณ์ที่ใช้งานเช่ือมแกส๊
6. ขั้นตอนการประกอบอุปกรณ์เชื่อมแก๊ส ประสงค์และบรู ณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจ
7. ขั้นตอนการตรวจเซ็กรอยรว่ั และปรับค่า พอเพยี ง
เคร่อื งควบคมุ ความดันแก๊ส 1. ดา้ นความรู้
8. ข้นั ตอนการเกบ็ อุปกรณ์เชอื่ มแกส๊ 1. หลกั การเช่ือมแกส๊
2. กระบวนการเช่ือมแกส๊ ออกชีอะเซทลิ ีน
2. ด้านทกั ษะหรือการประยุกตใ์ ช้
1. รู้ความหมายและการจาแนกชนิดของลวดเชื่อม
แกส๊ ได้
3. ด้านคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะท่ีพงึ
ประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจ
พอเพยี ง

5

ตารางวเิ คราะหส์ มรรถนะการเรยี นรู้

รหสั วิชา ...........2103-1001............ ชอ่ื วิชา ..............งานเช่อื มโลหะเบอ้ื งตน้ .............
จานวนหน่วยกติ .....2......หนว่ ยกิต จานวนชวั่ โมงตอ่ สัปดาห์.......6.......ชว่ั โมง รวม ......108......ชัว่ โมงต่อภาค
เรยี น

หน่วยการสอน สมรรถนะการเรียนรู้

หน่วยการสอนท่ี 7. 1. ด้านความรู้

ชอื่ หน่วยการสอน เปลวทีใ่ ชใ้ นการเชอื่ มแกส๊ ลวด 1. เปลวไฟทีใ่ ช้ในการเชื่อมแก๊ส

เชอ่ื มแก๊สและระบบการจา่ ยแก๊ส 2. เทคนิคและวธิ ีการในการเชื่อมแกส๊

1. เปลวไฟทีใ่ ช้ในการเช่ือมแก๊ส 2. ดา้ นทักษะหรือการประยุกต์ใช้

2. เทคนคิ วิธใี นการเชือ่ มแก๊ส 3. ดา้ นคุณธรรม/ จริยธรรม/ และคณุ ลักษณะทพี่ ึง

3. ลวดเชือ่ มแกส๊ ประสงคแ์ ละบูรณาการตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ

พอเพยี ง

หน่วยการสอนที่ 8. 1. ด้านความรู้

ช่อื หน่วยการสอน งานตดั โลหะด้วยแก๊ส 1. อธบิ ายงานตัดโลหะดว้ ยแก๊สได้

1. งานตดั โลหะดว้ ยแกส๊ 2. อธิบายอปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นการตัดแก๊สได้

2. อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการตัดแกส๊ 2. ด้านทกั ษะหรอื การประยุกต์ใช้

3. ชนดิ ของหวั ตดั แก๊ส 3. ด้านคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลักษณะที่พึง

4. การจดุ เปลวไฟและปิดเปลวไฟทห่ี ัวตัดแกส๊ ประสงคแ์ ละบรู ณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ

5. ชนิดของการตัดโลหะด้วยแกส๊ พอเพยี ง

6. ขอ้ ดแี ละขอ้ เสียของการตดั ด้วยแกส๊

7. งานตดั เหล็กกลา้ ด้วยแกส๊

6

ตารางวิเคราะห์หลกั สตู ร

รหสั วชิ า ...........2103-1001............. วชิ า ............งานเช่อื มโลหะเบอ้ื งตน้ ............. จานวน......2......หน่วย
ชนั้ ..........ปวช1/1,2........ สาขาวชิ า/กลุ่มวชิ า/..........ชา่ งเชอ่ื มโลหะ........

ด้านพทุ ธพิ ิสัย

พฤติกรรม ความรู้ (5)
ความ ้ขาใจ(5)
การเรยี นรู้ นาไปใ ้ช(5)
ิวเคราะ ์ห(5)
ชื่อหน่วยการสอน/การเรียนรู้ ัสงเคราะห์(5)
ประเ ิมนค่า(5)
้ดานทักษะ ิพ ัสย(5)
ด้าน ิจตพิ ัสย(5)
รวม(40)
ลา ัดบความสาคัญ
จานวน ่ัชวโมง

1. ความปลอดภยั ในงานเช่ือม 5 4 - - - - - 2 11 5 4

2. ตาแหน่งทา่ เชือ่ มและชนิดรอยต่อ 4 3 2 - - - - 1 10 5 4

แนวเชอ่ื ม

3. กระบวกการเชือ่ มไฟฟูาด้วยลวด 4 4 2 - - - 3 2 15 5 20

เชอ่ื มหมุ้ ฟลกั ซ์

4. องคป์ ระกอบการเช่อื มไฟฟาู ด้วยลวด 4 4 2 - - - 3 2 15 5 4

เชื่อมหุม้ ฟลักซ์

5. ลวดเช่ือมเช่ือมไฟฟูาหุ้มฟลกั ซ์ 4 3 1 - - - 3 2 13 5 16

6. งานเชอ่ื มแกส๊ 4 3 2 - - - - 2 11 5 12

7. เปลวทใี่ ช้ในการเชื่อมแก๊ส ลวดเช่อื ม 4 3 2 - - - 2 2 13 5 8

แกส๊ และระบบการจ่ายแกส๊

8. งานตดั โลหะด้วยแกส๊ 3 4 2 - - - 2 2 13 5 4

32 28 13 - - - 13 14 100 55 72

รวมคะแนน 32 28 13 - - - 13 14 100 72

ลาดบั ความสาคญั 5555 55555 55

คาอธิบาย 5 หมายถงึ ระดับความสาคัญของแต่ละรายการมี 5 ระดับ คอื 1, 2, 3, 4, 5

7

ตารางวิเคราะห์สมรรถนะรายวิชา
โดยบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รหสั ......2103-1001........ วชิ า ................งานเชื่อมโลหะเบื้องต้น................... หนว่ ยกติ ............(....0-6-2.....)
ระดับชน้ั .....ปวช1/1,2..... สาขาวิชา ............ช่างเชอื่ มโลหะ……………..

ทางสายกลาง

3หว่ ง 2 เง่ือนไข
ความรู้ คุณธรรม

ช่ือหน่วยการสอน/ พอประมาณ(5)
สมรรถนะรายวชิ า ีมเหตุผล(5)
ีมภู ิมคุ้ม ักน(5)
รอบรู้(5)
รอบคอบ(5)
ระ ัมดระ ัวง(5)
่ืซอ ัสตย์ ุสจริต(5)
ข ัยนอดทน(5)
ีมส ิตปัญญา(5)
แบ่งปัน(5)
รวม(50)
ลา ัดบความสาคัญ

หนว่ ยการสอนที่ 1
ชื่อหน่วยการสอน 1 ความปลอดภัยใน
งานเช่อื ม
1. ความปลอดภัยท่ัวไปในงานเช่ือม - 3 - 4 5 5 1 - 2 - 20 3
2. ความปลอดภยั ในงานเชื่อมแก๊ส 1 2 1 4 4 5 1 1 3 - 22 2
3. ความปลอดภยั ในงานเช่อื มไฟฟูา - - - 5 4 5 2 4 4 - 24 1

รวม 1 5 1 13 13 15 4 5 9 - 66

ลาดับความสาคัญ 8692317 5 4 -

8

โครงการสอนหรือโครงการจัดการเรียนรู้แบบม่งุ เน้นสมรรถนะอาชพี
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหสั วชิ า ........2103-1001......... วิชา ........งานเชือ่ มโลหะเบอ้ื งต้น.........จานวน.....2.....หน่วยกติ
ช้ัน ..........ปวช 1/1,2........ สาขาวชิ า/กลุ่ม.........ชา่ งเชื่อมโลหะ................

หนว่ ยท่ี สปั ดาหท์ ่ี ชื่อหน่วยการสอน/รายการสอน จานวนช่ัวโมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
1 1-2 ความปลอดภยั ในงานเชือ่ ม 1-12
2 3-4 ตาแหน่งท่าเช่ือมและชนดิ รอยตอ่ แนวเช่อื ม
3 5-6 กระบวกการเชอ่ื มไฟฟูาด้วยลวดเช่อื มหมุ้ ฟลักซ์ 13-24
4 7-8 องคป์ ระกอบการเช่ือมไฟฟูาด้วยลวดเชื่อมหุม้ ฟลกั ซ์ 25-36
5 9-10 ลวดเชอื่ มเชื่อมไฟฟาู หมุ้ ฟลกั ซ์ 37-48
6 11-12 งานเช่ือมแกส๊ 49-60
7 13-14 เปลวท่ีใช้ในการเชอ่ื มแกส๊ ลวดเชื่อมแก๊สและระบบการ 61-72
73-84
จา่ ยแกส๊
8 15-16 งานตดั โลหะด้วยแก๊สปฏบิ ัตงิ านเช่อื มไฟฟาู 85-96
97-108
17-18 ***สอบปลายภาค***

รวม 12 96
รวมท้ังสิ้น 108

9

แผนการจดั การเรยี นรู้ แบบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหัสวิชา .......2103-1001....... วิชา ....................งานเชือ่ มโลหะเบ้อื งตน้ .............................
หนว่ ยท่ี ....1...... ชอ่ื หนว่ ย .....................ความปลอดภยั ในงานเชือ่ ม..........................
ชื่อเร่ือง................1. ความปลอดภัยทวั่ ไปในงานเช่ือม.......................... จานวน ........12.....ชั่วโมง

2. ความปลอดภยั ในงานเช่ือมแกส๊
3. ความปลอดภัยในงานเชือ่ มไฟฟาู

1. สาระสาคัญ

ในงานอุตสาหกรรมส่ิงที่คานึงถึงอันดับแรกคือความปลอดภัย หรือท่ีเขียนเป็นภาษาอังกฤษ
“Safety First” เพอื่ ให้เกดิ ความปลอดภัยในขณะที่ทางานและจัดสภาพการทางานท่ีดี ซึ่งผู้ปฏิบัติงาน จะต้อง
ระลึกถึงเสมอในเรื่องความปลอดภัยในงานเช่ือมแก๊สและไฟฟูา อันตรายท่ีเกิดขึ้นในขณะปฏิบัติงาน มีมาจาก
สาเหตุทตี่ ่างๆ กนั เชน่ คน เครอื่ งมือ เคร่ืองจักร สภาพแวดล้อมจากการทางาน ซึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุ ข้ึนมาจะมี
ป๎ญหาตามมาอีกมากมาย เช่น งานผลิตจะหยุดในช่วงท่ีเกิดอุบัติเหตุตรงจุดนั้น ต้องปฐมพยาบาล เสียค่า
รกั ษาพยาบาลเพมิ่ ข้นึ อีก อุบตั เิ หตทุ ี่เกิดขึน้ สามารถปอู งกันไดโ้ ดยการศึกษาเรือ่ งความปลอดภัย ในงานเช่ือมให้
เขา้ ใจ และปฏบิ ตั ิตามอยา่ งเครง่ ครดั

2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้

1 ความปลอดภยั ท่วั ไปในงานเชื่อม
2 ความปลอดภัยในงานเช่ือมแก๊ส
3 ความปลอดภยั ในงานเชอ่ื มไฟฟูา

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 จุดประสงค์ทั่วไป
1 อธิบายวิธกี ารปูองกันอันตรายทั่วไปในงานเชื่อมได้
2 อธบิ ายวิธกี ารปูองกนั อันตรายในงานเช่อื มแกส๊ ได้
3 อธบิ ายวธิ ีการปอู งกนั อนั ตรายในงานเชอื่ มไฟฟูาได้
3.2 จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................

10

4. เนอ้ื หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ดา้ นความรู้
1. ความปลอดภัยในงานเชอื่ ม
2. ความปลอดภัยในงานเชื่อมแกส๊
3. ความปลอดภยั ในงานเชือ่ มไฟฟาู

4.2 ด้านทักษะหรือการประยุกตใ์ ช้
1. ปฏิบัตติ ามกฎของโรงงานได้อย่างเคร่งครดั
2. บอกวธิ ีปูองกนั อบุ ัตเิ หตุในงานเชื่อมแกส๊ และเช่อื มไฟฟูาได้
3. บอกวธิ กี ารปอู งกนั อุบัติเหตุในงานโลหะแผ่นได้
4. ศึกษาและเข้าใจความสาคญั ของความปลอดภัยในการปฏบิ ัติงานได้
5. นาหลักคิดของปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงใชร้ ่วมกับการปฏิบตั ิงาน

4.3 ดา้ นคณุ ธรรม/ จริยธรรม/ และคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญา
เศรษฐกจิ พอเพียง

1 ความมีมนุษยสมั พนั ธ์
2 ความมีวนิ ัย
3 ความรับผิดชอบ
4 ความซือ่ สตั ย์สุจรติ
5 ความเชือ่ ม่นั ในตนเอง
6 การประหยดั
7 ความสนใจใฝรุ ู้
8 การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนัน
9 ความรกั สามัคคี
10 ความกตัญํูกตเวที

11

5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนหรือการเรียนรู้

ขัน้ ตอนการสอนหรือกจิ กรรมครู ข้ันตอนการเรียนหรอื กจิ กรรมของผู้เรยี น

ขน้ั เตรียม(จานวน.....15....นาที) ขน้ั เตรียม

ครูผู้สอนแนะนาการเรียนการสอนเกี่ยวกับเน้ือหา ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยการสรุป

รายวิชางานเชื่อมโลหะเบ้ืองต้น จุดประสงค์การ อภปิ ราย แล้วกลา่ วนาเข้าสเู่ น้ือหาท่จี ะศกึ ษา

เรียนรู้ และร่วมกันเสนอแนะแนวทางในการวัดผล

ประเมินผลตลอดภาคเรียน เพ่ือให้ผู้เรียนใช้เป็น

แนวทางในการพฒั นาการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

ขนั้ การสอน(จานวน....30.....นาท)ี สง่ ชนิ้ งาน ประเมินผลงาน
ครผู ูส้ อนบอกจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ หนว่ ยที่ 1
ความปลอดภัยในงานเชื่อม
ครูผสู้ อนอธบิ ายเก่ยี วกับเนอื้ หาสาระ ดงั น้ี

ความปลอดภัยท่วั ไปในงานเชือ่ ม
ความปลอดภยั ในงานเชอ่ื มแก๊ส
ความปลอดภยั ในงานเช่อื มไฟฟาู
ครูเปดิ โอกาสใหผ้ ูเ้ รียนคนอ่ืนๆ แสดงความคดิ เห็น
รว่ มกันทุกคน
ทาแบบประเมนิ ผลหลังเรียนหนว่ ยท่ี 1
ร่วมกนั วิเคราะห์คาตอบ ครูเฉลยคาตอบและรว่ มกัน
อภิปรายผล

ขั้นสรุป (จานวน......15.....นาที)
ครผู ูส้ อนสรุปบทเรียน โดยการอภิปรายซกั ถามข้อ
สงสยั และอธิบายเพิม่ เติมในส่วนทีเ่ หน็ วา่ ผู้เรยี น
ส่วนมากไม่ผา่ นการประเมนิ เพือ่ แก้ข้อสงสัย และ
ความไมเ่ ข้าใจของผูเ้ รยี น
ผูเ้ รยี นรบั ใบงาน ศกึ ษา ซักถาม อภิปราย พร้อม
สาธติ แล้วปฏบิ ตั ิตามใบงานในเวลาท่กี าหนด
วเิ คราะห์ผลการปฏิบัติงาน อภปิ รายและสรุป

12

6. สอื่ การเรียนการสอน/การเรยี นรู้

6.1 ส่ือสง่ิ พิมพ์
1. หนงั สือเรยี น วชิ างานเช่ือมโลหะเบอื้ งต้น
2. ใบความรู้ ใบงาน
3. กจิ กรรรมการเรยี นการสอน

6.2 สอ่ื โสตทศั น์
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

6.3 สอ่ื ของจริง
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................ ......................
............................................................................................................. .................................................................
............................................................................................................................. .................................................

7. แหลง่ การเรยี นการสอน/การเรียนรู้

7.1 ภายในสถานศกึ ษา
หอ้ งสมุดวิทยาลยั ศนู ย์วิทยบุ รกิ าร หอ้ ง Internet

7.2 ภายนอกสถานศกึ ษา
...................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................... .......................
............................................................................................................ ..................................................................

13

8. งานทีม่ อบหมาย

8.1 กอ่ นเรียน
ตรวจสอบ/จัดทาแบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 1 และใบงานท่ี 1 ให้เสรจ็ สมบูรณ์ ส่งในครงั้ ต่อไป

8.2 ขณะเรียน
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................................................... ........
........................................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. .................................................

8.3 หลังเรยี น
คาชี้แจง จงทาเครื่องหมาย( / )หนา้ ข้อความทถ่ี ูกต้องและเครื่องหมาย ( X ) หน้าขอ้ ความที่ไม่ถูกต้อง
............ 1. การยกของหนักควรยกโดยใชก้ าลงั จากหลังเข้าชว่ ย
............ 2. เม่อื แก๊สเหลือน้อยมีความดนั ตา่ ควรนอนถงั แกส๊ เพื่อใหแ้ กส๊ ไหลไดส้ ะดวก
............ 3. ห้องเก็บแก็สควรเกบ็ ให้เกบ็ มิดชิด ไม่ควรใหผ้ ใู้ ดได้ทราบว่าห้องน้ันเป็นห้องเก็บแก๊ส
............ 4. ก่อนทาการเช่ือมควรตรวจสอบรอยรั่วของอุปกรณ์เสยี กอ่ น โดยใชเ้ ทยี นลนสารวจหารอยรวั่
............ 5. การปฏิบตั งิ านในโรงงาน รองเทา้ หัวเหล็กจะรู้สกึ หนักทาให้ไม่สะดวกในการทางาน
............. 6. ขณะทาการเช่ือมสภาพอากาศโดยรอบจะรสู้ ึกรอ้ นและอบอา้ วถา้ มีการระบายอากาศไมด่ ี

การทีฝ่ นตกลงมาจะทาใหผ้ ู้เชอ่ื มรสู้ ึกเย็นสบาย
............ 7. เครือ่ งเช่ือมไมจ่ าเปน็ ตอ้ งต่อสายลงดิน เพราะในการเชอื่ มมีสายไฟเชื่อมและสายดินอยู่แลว้
............ 8. ขณะทาการเปลี่ยนลวดเชอ่ื มใหม่ ควรใสถ่ ุงมือหรือวางลวดเชอื่ มไว้ แลว้ นาหัวเชอื่ มเขา้ ไปจบั
............ 9. ในการเช่ือมภายในถงั หรือในทแ่ี คบ ๆ ควรมกี ารระบายอากาศท่ีดี ดังนนั้ ควรปลอ่ ยออกซิเจน

บริสทุ ธ์ิเข้าไป เพ่ือช่วยใหช้ ่างเชือ่ มหายใจได้สะดวก
............ 10. ในการเชอ่ื มภายในทอ่ โลหะที่เปน็ ตวั นาไฟฟาู ควรทาตะแกรงไมห้ รือยางท่เี ปน็ ฉนวนไฟฟูา

มารองนงั่

9. ผลงาน/ช้ินงาน ท่เี กิดจากการเรยี นรูข้ องผ้เู รยี น

.................................................................................................................................................... ..........................
......................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................... ....................................

14

10. เอกสารอา้ งอิง

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

11. การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ บั รายวิชาอ่นื

............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................ ......
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. ................................................

12. หลักการประเมินผลการเรียน

12.1 ก่อนเรยี น
1. จากการสงั เกตพฤตกิ รรมและความสนใจของนักศึกษา
2. จากการตอบคาถามของนกั ศกึ ษา

12.2 ขณะเรยี น
1. จากการถามตอบระหว่างครูกบั นักศกึ ษา
2. จากการตอบคาถามของนักศึกษา
3. จากการสังเกตการจดบันทึกลงในสมุด

12.3 หลงั เรยี น
1. จากการสงั เกตการตอบคาถาม
2. จากแบบทดสอบหลงั เรียนการเรยี น

15

13. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี น

จดุ ประสงคข์ ้อที่ 1 ความปลอดภยั ในงานเชือ่ มแก๊ส
3. ความปลอดภยั ในงานโลหะแผน่
1. วธิ ีการประเมนิ : แบบประเมินผลการเรยี นรแู้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หนว่ ย

ท่ี 1
2. เครือ่ งการประเมิน : แบบประเมินใบงาน เกณฑ์ผ่าน คือ 50%
3. เกณฑ์การประเมิน : เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี ่อง

ปรับปรุง 4. เกณฑ์การผา่ น : เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)

จดุ ประสงคข์ ้อท่ี 2 ความปลอดภัยในงานเชือ่ มไฟฟูา
1. วิธีการประเมนิ : แบบประเมินผลการเรียนรู้และแบบประเมินพฤติกรรม หน่วย

ท่ี 1
2. เครอื่ งการประเมิน : แบบประเมนิ ใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50%
3. เกณฑ์การประเมนิ : เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี อ่ ง

ปรับปรงุ 4. เกณฑ์การผา่ น : เกณฑ์ผ่านการประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
คือ ปานกลาง (50 % ขึน้ ไป)

จุดประสงคข์ ้อที่ 3 ความปลอดภัยในงานโลหะแผ่น
1. วธิ ีการประเมิน : แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้และแบบประเมินพฤติกรรม หนว่ ย

ท่ี 1
2. เครื่องการประเมิน : แบบประเมนิ ใบงาน เกณฑ์ผา่ น คือ 50%
3. เกณฑ์การประเมิน : เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มีชอ่ ง

ปรบั ปรุง
4. เกณฑ์การผา่ น : เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่

คือ ปานกลาง (50 % ขึน้ ไป)

14. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

หนว่ ยการสอนที่ ....1..... ช่อื หนว่ ยการสอน ความปลอดภัยในงานเช่ือม
วัตถุประสงค์ เพ่ือ 1. ปฏิบัติตามกฎของโรงงานได้อย่างเคร่งครดั

2. บอกวิธีปูองกันอุบัติเหตุในงานเช่ือมแก๊ส และเช่ือมไฟฟูาได้
3. บอกวธิ กี ารปูองกนั อุบตั ิเหตใุ นงานโลหะแผ่นได้
4. ศึกษาและเข้าใจความสาคัญของความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั ิงานได้
5. นาหลกั คดิ ของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงใช้รว่ มกบั การปฏบิ ตั งิ าน

16

ขอ้ คาถาม
คาชีแ้ จง จงทาเคร่อื งหมาย( / )หนา้ ขอ้ ความทีถ่ ูกตอ้ งและเครอ่ื งหมาย ( X ) หนา้ ข้อความทไี่ มถ่ ูกต้อง
............ 1. การยกของหนักควรยกโดยใช้กาลงั จากหลงั เข้าช่วย
............ 2. เมอ่ื แก๊สเหลือน้อยมคี วามดนั ต่า ควรนอนถงั แกส๊ เพอ่ื ให้แกส๊ ไหลได้สะดวก
............ 3. ห้องเก็บแก็สควรเก็บใหเ้ ก็บมิดชิด ไม่ควรใหผ้ ้ใู ดได้ทราบวา่ หอ้ งน้นั เปน็ ห้องเก็บแก๊ส
............ 4. ก่อนทาการเชื่อมควรตรวจสอบรอยรั่วของอุปกรณ์เสยี ก่อน โดยใช้เทยี นลนสารวจหารอยรัว่
............ 5. การปฏิบตั ิงานในโรงงาน รองเท้าหวั เหลก็ จะร้สู กึ หนักทาใหไ้ ม่สะดวกในการทางาน
............. 6. ขณะทาการเชื่อมสภาพอากาศโดยรอบจะร้สู กึ รอ้ นและอบอา้ วถ้ามีการระบายอากาศไมด่ ี

การท่ีฝนตกลงมาจะทาใหผ้ เู้ ชอื่ มรู้สึกเยน็ สบาย
............ 7. เคร่อื งเชื่อมไม่จาเปน็ ต้องต่อสายลงดิน เพราะในการเชื่อมมีสายไฟเชื่อมและสายดินอย่แู ลว้
............ 8. ขณะทาการเปลี่ยนลวดเชื่อมใหม่ ควรใสถ่ ุงมือหรือวางลวดเชื่อมไว้ แลว้ นาหวั เชื่อมเข้าไปจับ
............ 9. ในการเชอ่ื มภายในถังหรอื ในที่แคบ ๆ ควรมกี ารระบายอากาศทีด่ ี ดังน้นั ควรปลอ่ ยออกซิเจน

บรสิ ทุ ธเ์ิ ข้าไป เพอ่ื ช่วยใหช้ ่างเชอ่ื มหายใจได้สะดวก
............ 10. ในการเชื่อมภายในท่อโลหะที่เปน็ ตัวนาไฟฟูา ควรทาตะแกรงไม้หรือยางที่เปน็ ฉนวนไฟฟูา

มารองน่ัง

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

1. ตอบ X
2. ตอบ X
3. ตอบ X
4. ตอบ X
5. ตอบ X
6. ตอบ X
7. ตอบ X
8. ตอบ /
9. ตอบ X
10. ตอบ /

17

15. แบบทดสอบหลงั เรียน

หน่วยการสอนที่ ......... ชอื่ หนว่ ยการสอน
..............................................................................................................
วตั ถุประสงค์ เพื่อ ……………………………………………………………………………………………….
ข้อคาถาม
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................. .............
...................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................... .......................
........................................................................................................... ...................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................ ..................................
................................................................................................. .............................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................. ............................................

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................... ..........
......................................................................................................................... .....................................................
............................................................................................................................. .................................................

18

16. ใบความร้ทู ่ี ........

หน่วยการสอนท่ี ...1... ชื่อหนว่ ยการสอน ความปลอดภัยในงานเชอ่ื ม
ชือ่ หัวข้อเรอ่ื ง 1. ความปลอดภัยทั่วไปในงานเช่อื ม

2. ความปลอดภัยในงานเช่ือมแกส๊
3. ความปลอดภัยในงานเชือ่ มไฟฟูา
สาระสาคญั
ในวงการอุตสาหกรรมได้พยายามเน้นเรื่องการใช้เคร่ืองกาบัง เครื่องจักร เพ่ือให้เกิดความปลอดภัย
ในขณะทางานและได้จัดให้มีสภาพการทางานทดี่ ี เพียงเทา่ นม้ี ิไดช้ ว่ ยใหเ้ กดิ อุบัติเหตุลดลงได้เลย ถ้าหากไม่ได้
เน้นถึงตัวผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะจากสถิติของบริษัทหลาย ๆ แห่งจะแสดงให้เห็นว่าอันตรายท่ีเกิดขึ้นกับ
บุคคลนั้นส่วนมากจะเกิดจากความประมาทและการละเลยที่จะปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยของตัว
ผู้ปฏบิ ตั ิงานเอง
ป๎ญหาเร่ืองการปูองกันอุบัติเหตุในโรงงานเป็นป๎ญหาใหญ่ของเจ้าของโรงงาน เพราะการเกิดอุบัติเหตุแต่ละ
คร้ังนอกจากจะทาใหง้ านผลติ หยุดชะงักแล้ว ยังจะต้องเสียคา่ รกั ษาพยาบาลเพ่ิมอีกด้วย จึงจาเป็นอย่างยิ่ง
ที่จะต้องปอู งกนั มิใหเ้ กิดข้นึ หรอื ลดอัตราการเกดิ อุบตั ิเหตุให้นอ้ ยที่สดุ

ความปลอดภยั ในการเชื่อมไฟฟ้า
ความปลอดภัยในงานเช่ือมไฟฟูาก็เช่นกันก็คือจะต้องนึกถึงความปลอดภัยทุกครั้งในการ

ปฏบิ ัติงานเชื่อมดงั น้นั การปฏบิ ัติงานเชอ่ื มจงึ ตอ้ งปฏิบตั ิตามดังข้อ ต่อไปน้ี
1. ก่อนเชื่อมผู้เช่ือมต้องเตรียมเคร่ืองมือท่ีจาเป็นต้องใช้ในงานเชื่อม เช่น คีมจับงานร้อน ค้อน

เคาะสแลก แปรงลวด และอุปกรณ์ปูองกันอันตรายจากการเช่ือม เช่น ถุงมือ เสื้อหนัง สนับแข้ง ปลอก
แขน หน้ากากพรอ้ มดว้ ยเสนส์ปูองกนั แสง และภายในห้องเชื่อมตอ้ งมมี ่านปอู งกันแสงมีทอ่ ดูดควันทใ่ี ช้งานได้

2. ไม่ควรนาขากางใส่ไว้ในรองเท้า หรือสวมนาฬิกาขณะเชื่อม เพราะสะเก็ดเชื่อมหรือสแลก
อาจจะกระเดน็ เขา้ ไปในราองเทา้ หรือติดอย่ทู ี่นาฬิกาข้อมือได้

3. เมอื่ มกี ารเพิม่ หรอื ลดกระแสไฟฟูา ควรหยุดเช่ือมกอ่ นเสมอ
4. แคลมป์ (Clamp) จับสายดินต้องแน่น และขนาดของสายเชื่อมต้องเหมาะสมกับกระไฟฟูา
มิฉะนน้ั สายเชอ่ื มจะรอ้ นและลุกตดิ ไฟในทีส่ ดุ
5. อย่าเช่ือมงานกลางสายฝนหรือพื้นที่นองไปด้วยน้า เพราะกระแสไฟฟูาอาจลัดวงจรเป็น
อนั ตรายต่อผทู้ าการเช่อื มได้ ดังแสดงในรปู ที่ 1.4
รปู ที่ 1.4 แสดงการเกดิ อนั ตรายเม่อื ทาการเชอ่ื มบนพืน้ ทเ่ี ปียก
6. เมื่อเกดิ ไฟลุกติดโดยท่ีผู้เชื่อมไม่รู้ตัว บุคคลท่ีพบเห็นไม่ควรดับไฟด้วยน้า เพราะไฟฟูาอาจจะ
ลดั วงจรดดู ผู้เชอ่ื มได้ ควรดับด้วยน้ายาดับเพลงิ
7. อย่ามองแสงทเี กิดจาการเช่อื มด้วยตาเปล่าเพราะแสงที่สว่างมากเกินไปจะทาให้ตารับไม่ได้มอง
ไมเ่ หน็ ชั่วขณะหนึง่ แสงท่เี กิดจากการเช่ือมสามารถมองดว้ ยตาเปลา่ ได้ต้องมรี ะยะหา่ ง 40 ฟุตข้ึนไป

19

8. ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ตรวจสอบอุปกรณ์ดูดควันให้สามารถทางานได้ เม่ือทาการเช่ือม
โลหะจาพวกตะกั่ว แคดเมียม โครเมียม แมงกานีส ทองเหลือง และสังกะสี เพราะจะเกิดแก๊สพิษท่ี
อันตรายมาก

9. อย่าเช่ือมชิ้นงานที่อยู่ใกล้ถังน้ามันเช้ือเพลิง เพราะสะเก็ดไฟอาจกระเด็นไปถูกถังและลุกไหม้
ดงั แสดงในรปู ท่ี 1.5

รูปที่ 1.5 แสดงการเกดิ อันตรายเม่ือทาการเชอ่ื มใกล้ถงั นา้ มันเชื้อเพลิ
10. ไมค่ วรเช่ือมในห้องที่ปิดหมดทกุ ดา้ นควรเชอ่ื มในบริเวณที่มีอากาศถา่ ยเทได้สะดวกและมีท่อลมดดู

ควนั พิษ
11. อยา่ เชอ่ื มไฟฟาู ดว้ ยตาเปล่า ต้องใช้เลนสก์ รองแสงทกุ ครงั้ และควรเชือ่ มในหอ้ งที่จัดไว้
โดยเฉพาะ ถ้าจาเป็นต้องเชอื่ มนอกสถานที่ ควรมีฉากปอู งกันแสงเพ่ือไม่ให้เป็นอันตรายหรอื รบกวนผูข้ า้ งเคยี ง
12. อยา่ จังชนิ้ งานดว้ ยมอื เปล่าหรือใสถ่ งุ มือจับเม่อื เชื่อมชิ้นงานเสรจ็ ใหม่ ๆ ควรใชค้ มี จบั งานรอ้ น
13. การเชื่อมงานท่าเหนือศีรษะ ควรสวมหมวก ไม่เช่นนั้นความร้อนจากช้ินงานอาจลุกไหม้ติด
ศีรษะได้
14. ควรใส่แว่นตาปอู งกันเศษโลหะขณะทาการเคาะสแลก และให้เคาะออกจากตัวดว้ ยความ
ระมดั ระวงั เพราะอาจกระเดน็ ไปถกู ผ้อู ื่นได้
15. หลังจากเชือ่ มงานเสร็จใหม่ ๆ ต้องระมัดระวังไมใ่ หป้ ลายของลวดเชอื่ มไปถูกเพ่ือนขา้ งเคียง
16. อยา่ ซ่อมเครื่องเช่อื มขณะทีเ่ ครอื่ งกาลังทางานอยู่ เพราะไฟฟูาอาจจะดูดได้ขณะทาการซ่อม
17. ควรเลอื กกระกรองแสงทีเหมาะสม เพราะถ้าความเข้มกระจกน้อยเกินไปจะเป็นอันตรายกับ
สายตาได้
18. การเชื่อมในสถานที่สูง ๆ ควรใช้เข็มขัดนริ ภัยชว่ ยทกุ ครั้ง
19. การทางานเช่ือมในห้องเลก็ ๆ ในถ้า ในทอ่ ในบอ่ หรอื ในถงั ตอ้ งมีอากาศถา่ ยเทเข้าออกได้
ตลอดเวลาแต่ควรใช้อากาศในบรรยากาศ ห้ามใช้ออกซิเจนบริสุทธิ์เติมเข้าไป เพราะออกซิเจนมากเกินไป
อาจทาให้เกดิ ประกายไฟและลุกไหม้ได้ง่าย เปน็ เหตุให้ระเบิดได้
20. ขณะทาการเช่ือมไฟฟูา ไม่ควรใส่เครื่องประดับ เช่น แหวน นาฬิกา สร้อยคอ หรือพก
เครอื่ งมอื ไวต้ ามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพราะอุปกรณ์พวกนี้ถ้าไปกระทบกับช้ินงานที่มีกระแสไฟฟูาไหลผ่าน
กระไฟอาจดดู ได้
21. การเช่ือมไฟฟูาภายในท่อโลหะ อาจเกิดกระแสไฟลัดวงจรและอาจเกิดไฟซ๊อดได้ง่ายดังนั้น
เมื่อจาเปน็ ตอ้ งเชอ่ื มภายในถงั ขนาดใหญท่ เี ป็นตัวนากระแสไฟฟาู ควรใช้แผ่นไม้ หรอื ฉนวนไฟฟูารองนั่ง ชุดท่ี

20

สวมใส่ตอ้ งไมเ่ ปียกชื้น สายเชื่อมต้องไม่มีลวดทองแดงโผล่ออกมาและในขณะทางานต้องมีช่างคู่หู (Partner)
คอยช่วยเหลอื เมื่อมีปญ๎ หา

22. ในการเปลีย่ นลวดเชื่อมใหม่ เมื่อทาการเชอ่ื ลวดเก่าหมดไปไม่ควรใช้มือเปล่าจับลวดใส่หัวจับ
เพราะอาจจะถูกไฟฟาู ดูดได้ ควรวางลวดเช่อื มในท่ใี กลเ้ คยี ง และสะดวกในการใชห้ วั เชอื่ มจับลวดเชือ่ ม
หรือใชถ้ ุงมอื ชว่ ยในการจับ

23. เครื่องเชือ่ มทต่ี ่อสายไฟเมนเขา้ เครือ่ งตอ่ สานดนิ จากตัวโครงเครื่องลงดิน เพ่อื ปอู งกัน
กระแสไฟรัว่ ซึ่งอาจจะซอ็ ตผทู้ ไ่ี ปสัมผัสเคร่ืองเชื่อมได้

24. ถึงมอื ไม่วา่ งไมค่ วรพักหัวเช่ือม ไว้ด้วยรักแร้ เพราะรักแร้เป็นส่วนท่ีอับชื้น มีโอกาสถูกไฟดูด
ได้งา่ ย

ความปลอดภัยในงานเช่ือมแก๊ส
ป๎จจุบันการปฏิบัติงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานเช่ือมหรืองานโลหะแผ่นก็ตามต้องนึกถึงความ

ปลอดภยั เปน็ อันดับแรกดังน้ันการปฏบิ ตั ิงานเช่อื มแกส๊ จงึ มคี วามปลอดภัย ดังตอ่ ไปนี้
1. ถ้าเปน็ การเชื่อมในห้อง สิ่งท่ีต้องคานึงถึงคือ ห้องนั้นมีการระบายอากาศพอเพียงหรือไม่ ถ้า

มีควนั ทเี่ กดิ จากการเชอื่ ม มอี ากาศบรสิ ทุ ธ์หิ รือการหายใจสะดวกหรือไม่ โดยทว่ั ไปพื้นที่ของห้องท่ีเพียงพอต่อ
การ
ระบายอากาศจะมีพนื้ ที่ 10,000 ลกู บาศกฟ์ ตุ หรอื 283 ลกู บาศก์

2. กรณีเชื่อมในโรงงาน ซ่ึงอาจจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ตาม พื้นท่ีท่ีจะทาให้มีการระบาย
อากาศท่ีดีนั้นควรมีพ้ืนที่ 2,000 ลูกบาศก์ฟุต ต่อช่างเชื่อม 1 คน และต้องการมีการระบายอากาศ ซึ่งจะ
ทาให้อากาศภายในบรเิ วณเชื่อมดขี ้นึ

3. จาเป็นต้องระบายอากาศอยู่เสมอเมื่อทาการเช่ือมโลหะบางประเภท เช่น สังกะสี ตะก่ัว
เบริลเลียแคดเมียม เมอร์คิวร่ี ทองแดง หรือโลหะที่เช่ือมแล้วเกิดควันพิษ ซึ่งจะทาให้เกิดอันตรายต่อ
ร่างกาย

4. การเก็บรักษาทอ่ แกส๊ หรือการนาท่อแก๊สมาใช้งาน ควรใช้โซ่คล้องยึดติดกับผนังเพ่ือไม่ให้ท่อ
ลม้ เมื่อเกดิ อุบัติเหตุข้ึน

5. การเก็บรักษาท่อแก๊สและการใช้งานควรห่างจากสารติดไฟไม่น้อยกว่า 25 ฟุต หรือ 7.6
เมตร

6. การเก็บรักษาท่อแก๊ส และท่อออกซิเจน ควรแยกออกจากกัน โดยมีกาแพงก้ันกลางมีความ
สงู อยา่ งนอ้ ย 5 ฟตุ หรอื 1.5 เมตร

7. ห้องท่ีใช้เก็บแก๊สอะเซทิลีนต้องมีช่องระบายอากาศและที่ประตูต้องมีตาเตือน ห้ามนา
เช้ือเพลิง
หรือไฟเข้า ไปใกลด้ ังแสดงในรูปท่ี 1.1

21

รปู ท่ี 1.1 แสดงลกั ษณะของหอ้ งเกบ็ อะเซทิลีน

9. ถา้ วางท่อแก๊สอะเซทลิ นี ในตาแหน่งนอนนานๆหรอื นาท่อตงั้ ขน้ึ แล้วใชง้ านทันทีสารอะซีโตน
จะเคลื่อนตัวตัวออกมาจากท่อ สารอะซิโตนท่ีออกมาจากท่อจะทาให้เปลวไฟมีอุณหภูมิต่ากว่าปกติ และทา
ความเสียหายตอ่ มาตรวัดความดัน (Regulator) หรือบริเวณลิ้นปิดเปิด (Valve) ของกระบอกเชื่อม (Torch)
ถ้าการเคลอื่ นยา้ ยจาเปน็ ตอ้ งวางท่อลกั ษณะนอน เมื่อจะใช้งานควรนาตั้งขึ้น และมีระยะเวลาเพื่อให้สารอะซี
โตนเข้าท่ี หรอื จดั ระเบียบตวั เองระยะเวลาหนง่ึ จึงจะใชง้ านได้อยา่ งปลอดภยั

10. กอ่ นทาการเชอื่ มตอ้ งสงั เกตพื้นที่รอบข้างเสียกอ่ นวา่ มถี งั แก๊ส ถงั สี หรือกานา้ มันอยู่ในบริเวณ
เช่ือมหรือไม่เพราะถ้ามปี ระกายไฟอาจกระเด็นไปถูก ทาใหน้ ้ามนั หรือแกส๊ ลุกติดไฟได้

11. ภายในโรงงานเช่ือมต้องมีอุปกรณ์ดับไฟ สามารถท่ีจะหยิบใช้ได้อย่างง่ายเมื่อเกิดเพลิงไหม้
และควรตดิ ต้งั สงู จากพืน้ ที่ประมาณ 1-1.5 เมตร

12. ผนังกาแพงท่ีติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงควรทาสีแดงไว้รอบ ๆ อุปกรณ์ดับเพลิง และถ้าหากไม่มี
กาแพงควรทากลอ่ งตดิ ตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง และทาสพี ืน้ กลอ่ งด้วยสีแดงทกุ วัน

13. การใช้อุปกรณ์ดับเพลิงนน้ั ให้ดึงสลักบรเิ วณไก ใชม้ ือเหนี่ยวไกพร้อมท้ังพ่นน้ายาดับเพลิงไปท่ี
วสั ดุทก่ี าลังลุกไหม้ ไม่ใชพ่ ่นไปทเี่ ปลวไฟ

14. ช่างเชื่อมที่จะทาการเช่ือมพึงสังวรอยู่ตลอดเวลาว่า ชุดปฏิบัติงานท่ีสวมใส่อยู่น้ันจะต้องไม่
เปื้อนน้ามันเพราะถ้าเป้ือนนา้ มนั จะมีโอกาสตดิ ไฟได้มากกวา่ ชดุ ปฏบิ ตั งิ านท่สี ะอาด

15. อย่าทาการเชื่อมใกล้ถังแก๊ส เพราะความร้อนจากการเช่ือมจะทาให้แก๊สภายในถังขยายตัว
และอาจจะระเบิดได้

16. อยา่ หลอกลอ้ กนั ขณะทาการเชือ่ ม หรือนาเปลวไฟจากหัวเชื่อมมาหยอกล้อกัน เพราะอาจจะ
เกดิ อันตรายได้เม่อื ไมส่ ามารถควบคุมเปลวไฟได้

17. อย่าใช้ท่อแก๊สเปื้อนน้ามันหรือจาระบี โดยเฉพาะคอขวดและท่ีเปิดปิดแก๊ส เพราะน้ามันหน
ทอจาระบอี าจทาปฏกิ ริ ิยากบั แกส๊ ทร่ี ่วั ซึมออกมา ทาให้ลุกติดไฟและระเบิดได้

18. ขณะเช่ือมไม่ควรนอนท่อแก๊สอะเซทิลีน เพราะสารอะซีโตนอาจจะไม่ไหลออกมาและทาลาย
มาตรวดั และล้นิ เปิดปิด ทก่ี ระบอกเชอื่ ม

31. ควรใส่แว่นตากรองแสงขณะทาการเชื่อม และไม่ควรใช้สายแก๊สพาดไหล่ เพราะถ้าแก๊ส2ร2ั่ว
อาจถูกไฟ ไหมไ้ ด้ ดงั แสดงในรปู ที่ 1.3

รปู ท่ี 1.3 แสดงการเช่อื มไม่ถกู ต้อง
19. ไมค่ วรเชอื่ มงานบนพื้นซเี มนต์ เพราะพ้ืนซเี มนต์เมอ่ื ถกู ความร้อนจะขยายตัว และระเบิดแตก
กระเด็นออกมา อาจจะเขา้ ตาหรือทาให้แสบร้อนได้
20. ก่อนเช่ือมต้องตรวจสอบเสียก่อนว่าสายแก๊สอยู่ในสภาพดีหรือไม่ เพราะถ้าหากสายร่ัว
ประกายไฟจากการเชื่อมอาจจะกระเด็นลงไปทาให้เกิดการลุกไหม้ และลามไปยังแก๊สได้โดยที่ผู้เช่ือมมองไม่
เหน็ เน่อื งจาก กาลังเชอ่ื มและใสแ่ วน่ ตากรองแสงอยู่
21. ขณะเช่ือมงานควรงอปลายลวดเช่ือมด้านท่ีไม่ได้ใช้เสียก่อน เพื่อปูองกันมิให้ไปถูกเพ่ือน
ข้างเคียงท่ีมาดูเมอ่ื ผู้ปฏบิ ตั งิ านทาการเชื่อมเสรจ็ แล้ว และลากแนวเชื่อม
22. อย่าใช้ไม่ขีดไปจุดเปลวไฟ เพราะขณะที่เปลวแกส๊ ตดิ ไฟอยู่อาจจะไหม้มือได้
23. อยา่ จุดเปลวไฟจากโลหะทร่ี ้อนหรือใชค้ วามรอ้ นจากชิ้นงานเชื่อมจุดไฟเชื่อม เพราะแก๊สจะไป
กองรวมตวั อยูบ่ ริเวณนั้นมาก บริเวณช้ินงานร้อนทาใหเ้ กิดการะเบิดได้
24. อย่าท้งิ หัวเชอื่ มแก๊สทก่ี าลังติดไฟอยใู่ นขณะทผ่ี เู้ ชอ่ื มไปทางานอย่างอ่ืน
25. อยา่ เชือ่ มภาชนะโลหะท่ปี ดิ ฝาอยแู่ ละไมม่ ชี อ่ งระบายอากาศ เพราะอากาศหรือแก๊สภายในจะ
ขยายตวั ทาใหเ้ กิดการระเบดิ ได้
26. ไม่ควรใช้ประแจเลื่อนหรือคีมล็อก เปิดท่อแก๊สอะเซทิลีน ควรใช้ประแจเปิดถังแก๊สเฉพาะตัว
ของมนั เอง
27. ควรเปดิ ลิ้นท่อแก๊สอะเซทิลีน ประมาณ 1/2-1 รอบพร้อมท้ังปล่อยประแจเปิดลิ้นคาไว้เพราะ
ถ้าเกิดอุบตั ิเหตจุ ะไดป้ ิดได้ทนั ท่วงที
28.อยา่ นาแก๊สอะเซทิลนี ไปใช้โดยไมม่ มี าตรวดั ความดันและคอยตรวจสอบความดันขณะใชง้ าน
29. ไมค่ วรมดุ เข้าไปเชือ่ มท่อทแ่ี คบ ๆ เพราะจะหนีออกมาได้ชา้ หรอื ออกมาไม่ได้ กรณีเกิดไฟไหม้
ภายในทอ่
30. ในกรณีไม่มีเสา หรือกาแพงอยู่ในบริเวณใกล้เคียงท่ีจะล่ามท่อแก๊ส ขณะทาการเชื่อมต้อง
ตรวจสอบความยาวของเสาเช่ือมเสียก่อนวา่ มคี วามยาวเพียงพอหรือไมเ่ พราะอาจจะเผลอดึงทอ่ แก๊สลม้ ได้

23

17. ใบงานท่ี .....1...

หน่วยการสอนท่ี ....1..... ชื่อหน่วยการสอน ความปลอดภัยในงานเชือ่ ม
ช่อื หัวข้อเรื่อง 1. ความปลอดภัยในงานเชอื่ ม

2. ความปลอดภยั ในงานเช่ือมแกส๊
3. ความปลอดภัยในงานเช่ือมไฟฟูา
จุดประสงค์ เพื่อ
1. ปฏิบัตติ ามกฎของโรงงานได้อยา่ งเคร่งครดั
2. บอกวิธปี อู งกันอบุ ัตเิ หตใุ นงานเช่อื มแก๊ส และเชอ่ื มไฟฟูาได้
3. บอกวธิ กี ารปอู งกันอุบตั ิเหตุในงานโลหะแผ่นได้
4. ศึกษาและเขา้ ใจความสาคัญของความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั งิ านได้
5. นาหลักคิดของปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงใชร้ ว่ มกบั การปฏบิ ัติงาน

ลาดับกิจกรรม/ลาดับการปฏบิ ัติ

.................................................................................................................................................. ............................
....................................................................................................... .......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................ ......................................
............................................................................................. .................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.

เกณฑก์ ารพจิ ารณา

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................ ......
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

24

18. แบบประเมนิ ผล

แผนการวดั ผลและประเมินผลทงั้ รายวิชา

- พทุ ธิพสิ ัย 1) แบบฝกึ หัด 10 %

2) ทดสอบหลงั เรียน 10 %

3) วัดผลสมั ฤทธ์ิ 10 %

รวม 30 %

- ทักษะพสิ ัย 1) ใบงาน/งานท่มี อบหมาย 35 %

2) วดั ผลสมั ฤทธิ์ 15 %

รวม 50 %

- จติ พิสยั 20 %

หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรยี นไวส้ าหรับเปรยี บเทยี บกับคะแนนทดสอบหลงั เรียน)

19. แบบฝกึ หดั
ตอนท่ี 1 จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ีใหไ้ ดใ้ จความ
1. รงั สีที่เกิดจารการเช่อื มมีอะไรบา้ ง และมอี ันตรายอย่างไร

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................................... .....
อธบิ ายวธิ กี ารป้องกันอนั ตรายจากการเช่ือมถั่งน้ามนั ขนาดเลก็
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
วธิ ที ีป้องกนั อนั ตรายจากไฟดดู มีอะไรบา้ ง
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................................... .......
............................................................................................................................ ..................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................... ..........................

25

20. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรูแ้ บบมุง่ เน้นสมรรถนะอาชพี และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียง

20.1 สรุปผลการจัดการเรยี นรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1

ด้านการเตรียมการสอน

1. จดั หน่วยการเรียนรู้ไดส้ อดคล้องกับวตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมินครอบคลมุ ท้งั ดา้ นความรู้ ด้านทักษะ และด้านจติ พสิ ยั

3. เตรียมวัสด-ุ อุปกรณ์ สอ่ื นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจดั การเรียนรูก้ ่อนเข้าสอน

ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

4. มวี ธิ กี ารนาเขา้ สูบ่ ทเรยี นท่นี า่ สนใจ

5. มกี ิจกรรมท่ีหลากหลาย เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รียนเกิดการเรียนรู้ ความเขา้ ใจ

6. จดั กจิ กรรมท่สี ่งเสรมิ ให้ผเู้ รยี นค้นควา้ เพื่อหาคาตอบด้วยตนเอง

7. นักเรยี นมีสว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

8. จัดกิจกรรมท่ีเน้นกระบวนการคดิ ( คดิ วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ ู้เรยี นแสดงความคิดเหน็ อยา่ งเสรี

10. จัดกิจกรรมการเรยี นร้ทู เี่ ชื่อมโยงกบั ชวี ิตจรงิ โดยนาภมู ิปญ๎ ญา/บรู ณาการเขา้ มามีส่วนร่วม

11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม

12. มีการเสริมแรงเมอ่ื นกั เรียนปฏิบัติ หรือตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรยี น

14. เอาใจใสด่ ูแลผูเ้ รยี น อยา่ งทว่ั ถงึ

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกับเวลาท่กี าหนด

ด้านสื่อ นวัตกรรม แหลง่ การเรียนรู้

16. ใชส้ ่อื ทีเ่ หมาะสมกบั กิจกรรมและศักยภาพของผู้เรียน

17. ใชส้ ือ่ แหล่งการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บุคคล สถานท่ี ของจรงิ เอกสาร

สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ และอนิ เทอรเ์ นต็ เป็นต้น

ด้านการวดั และประเมนิ ผล

18. ผูเ้ รยี นมีส่วนร่วมในการกาหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมินผล

19. ประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลายและครบท้ังดา้ นความรู้ ทักษะ และจติ พสิ ัย

20. ครู ผ้เู รียน ผปู้ กครอง หรอื ผู้ทเ่ี กยี่ วข้องมีส่วนร่วม ในการประเมิน

หมายเหตุ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 5 = ปฏิบตั ิดีเย่ยี ม 4 = ปฏบิ ัติดี 3 = ปฏบิ ตั ิ รวม

พอใช้ 2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไมม่ กี ารปฏบิ ตั ิ ค่าเฉลี่ย

26

20.2 ปัญหาทีพ่ บ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปญั หาท่ีพบ แนวทางแกป้ ัญหา

ดา้ นการเตรียมการสอน

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

ด้านการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

ดา้ นสอ่ื นวตั กรรม แหล่งการเรยี นรู้

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

ด้านการวดั และประเมนิ ผล

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

ดา้ นอน่ื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

.................................................................................... ...................................................................................

ลงชือ่ ........................................................................ ครูผสู้ อน
(....................................................................)

ตาแหน่ง .......................................................................
............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนิเทศและตดิ ตาม 27

วัน-เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกลุ ผนู้ เิ ทศ ตาแหน่ง

28

แผนการจดั การเรยี นรู้ แบบมงุ่ เน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหสั วชิ า .......2103-1001....... วชิ า ....................งานเชอื่ มโลหะเบือ้ งต้น.............................
หน่วยที่ ....2...... ชือ่ หนว่ ย ..................... . ตาแหน่งทา่ เช่อื มและชนิดรอยต่อแนวเชื่อม..........................
ชอื่ เร่อื ง................ 1. ตาแหนง่ ทา่ เชือ่ ม.......................... จานวน ........12.....ชวั่ โมง

2. รอยตอ่ และชนดิ ของรอยตอ่

1. สาระสาคญั

งานเช่ือมโลหะนั้นโดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 สายหลัก คือสายงานผลิตและสายงานซ่อมบารุงท้ัง
สองสายงานนี้ถึงแม้จะมีความแตกต่างกันบ้างในพื้นฐานเบื้องต้นท้ังสองกระบวนการก็จะต้องมีพื้นฐาน
เหมือนกันซ่ึงส่ิงท่ีช่างเช่ือม ผู้ควบคุมงาน ตลอดจนผู้ออกแบบงานเชื่อมจะต้องเกี่ยวข้องด้วยได้แก่ ชนิดของ
แนวเช่ือมที่จะใช้งานกับงานลักษณะต่างๆ ชนิดของรอยต่อและตาแหน่งท่าเช่ือม ส่ิงต่างๆ เหล่านี้เป็น
องค์ประกอบพื้นฐานท่ีมีผลต่อคุณภาพของการเชื่อมและประสิทธิภาพของผู้ออกแบบงานเชื่อม ผู้ควบคุมงาน
เชอื่ มและช่างเช่อื ม

2. สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้

1. ร้ชู นดิ และการใช้งานแนวเชือ่ มแบบตา่ ง ๆ
2 รชู้ นิดและการใชง้ านของรอยตอ่ แบบตา่ ง ๆ ในงานเชื่อม
3. จาแนกลักษณะตาแหน่งท่าเชื่อมของรอยต่อต่าง ๆ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

3.1 จุดประสงคท์ ั่วไป
1. ร้ชู นดิ และการใช้งานแนวเชอื่ มแบบต่าง ๆ
2 ร้ชู นิดและการใชง้ านของรอยต่อแบบต่าง ๆ ในงานเชื่อม
3. จาแนกลักษณะตาแหนง่ ท่าเชอื่ มของรอยต่อต่าง ๆ
3.2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

29

4. เนอื้ หาสาระการสอน/การเรยี นรู้

4.1 ดา้ นความรู้
1. ตาแหน่งท่าเชอื่ ม
2. รอยตอ่ และชนิดรอยตอ่

4.2 ดา้ นทกั ษะหรือการประยุกต์ใช้
1. รชู้ นดิ และการใช้งานแนวเชอื่ มแบบต่าง ๆ
2 รู้ชนดิ และการใช้งานของรอยตอ่ แบบตา่ ง ๆ ในงานเชอื่ ม
3. จาแนกลักษณะตาแหนง่ ท่าเช่อื มของรอยต่อต่าง ๆ

4.3 ดา้ นคุณธรรม/ จรยิ ธรรม/ และคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญา
เศรษฐกจิ พอเพียง

1 ความมีมนุษยสัมพนั ธ์
2 ความมีวินยั
3 ความรบั ผดิ ชอบ
4 ความซอ่ื สัตยส์ จุ ริต
5 ความเชอื่ มนั่ ในตนเอง
6 การประหยดั
7 ความสนใจใฝุรู้
8 การละเว้นส่งิ เสพตดิ และการพนัน
9 ความรักสามัคคี
10 ความกตญั ํกู ตเวที

30

5. กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือการเรยี นรู้

ข้ันตอนการสอนหรอื กจิ กรรมครู ข้ันตอนการเรียนหรอื กจิ กรรมของผู้เรยี น

ขน้ั เตรียม(จานวน.....15....นาท)ี ขน้ั เตรียม

ครูผู้สอนแนะนาการเรียนการสอนเก่ียวกับเนื้อหา ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยการสรุป

รายวิชางานเช่ือมโลหะเบื้องต้น จุดประสงค์การ อภปิ ราย แล้วกลา่ วนาเข้าสเู่ น้ือหาท่จี ะศกึ ษา

เรียนรู้ และร่วมกันเสนอแนะแนวทางในการวัดผล

ประเมินผลตลอดภาคเรียน เพื่อให้ผู้เรียนใช้เป็น

แนวทางในการพฒั นาการเรียนร้ดู ้วยตนเอง

ขน้ั การสอน(จานวน....30.....นาท)ี
ครผู ูส้ อนบอกจุดประสงค์การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 2
ตาแหน่งท่าเชอื่ มและชนิดของรอยตอ่
ครูผู้สอนอธิบายเก่ียวกับเนอื้ หาสาระ ดังน้ี

1. ตาแหนง่ ทา่ เช่อื ม
2. รอยตอ่ และชนดิ รอยตอ่
ครเู ปิดโอกาสให้ผเู้ รียนคนอื่นๆ แสดงความคดิ เหน็
รว่ มกนั ทกุ คน
ทาแบบประเมินผลหลังเรียนหนว่ ยท่ี 2
รว่ มกนั วเิ คราะห์คาตอบ ครูเฉลยคาตอบและรว่ มกนั สง่ ชนิ้ งาน ประเมินผลงาน
อภปิ รายผล

ขั้นสรปุ (จานวน......15.....นาท)ี
ครผู สู้ อนสรุปบทเรยี น โดยการอภิปรายซักถามข้อ
สงสัยและอธบิ ายเพิ่มเติมในส่วนทเี่ ห็นว่าผเู้ รยี น
สว่ นมากไมผ่ า่ นการประเมนิ เพอ่ื แก้ข้อสงสยั และ
ความไมเ่ ข้าใจของผู้เรียน
ผเู้ รยี นรบั ใบงาน ศกึ ษา ซักถาม อภปิ ราย พร้อม
สาธติ แลว้ ปฏิบัติตามใบงานในเวลาทก่ี าหนด
วเิ คราะหผ์ ลการปฏิบตั งิ าน อภปิ รายและสรปุ

31

6. ส่ือการเรยี นการสอน/การเรยี นรู้

6.1 สื่อสง่ิ พิมพ์
1. หนังสือเรยี น วชิ างานเชอ่ื มโลหะเบื้องต้น
2. ใบความรู้ ใบงาน
3. กจิ กรรรมการเรยี นการสอน

6.2 ส่อื โสตทัศน์
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................. .............................................
...................................................................................... ........................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

6.3 สอ่ื ของจรงิ
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................ ..
............................................................................................................................. .................................................

7. แหล่งการเรยี นการสอน/การเรยี นรู้

7.1 ภายในสถานศึกษา
ห้องสมดุ วทิ ยาลยั ศนู ยว์ ิทยุบรกิ าร ห้อง Internet

7.2 ภายนอกสถานศกึ ษา
...................................................................................................................... ........................................................
............................................................................................................................. .................................................
....................................................................................................................................................... .......................
............................................................................................................ ..................................................................
............................................................................................................................. .................................................

32

8. งานทมี่ อบหมาย

8.1 กอ่ นเรยี น
ตรวจสอบ/จดั ทาแบบฝึกหัดหนว่ ยที่ 1 และใบงานที่ 1 ใหเ้ สร็จสมบูรณ์ สง่ ในครงั้ ต่อไป

8.2 ขณะเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................................ ..

8.3 หลังเรยี น
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

9. ผลงาน/ชิน้ งาน ทเ่ี กิดจากการเรยี นร้ขู องผู้เรียน

........................................................................................... ...................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

10. เอกสารอา้ งอิง

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

33

11. การบรู ณาการ/ความสัมพันธ์กบั รายวชิ าอืน่

............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................ ......
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

12. หลกั การประเมินผลการเรียน

12.1 กอ่ นเรยี น
1. จากการสังเกตพฤติกรรมและความสนใจของนักศึกษา
2. จากการตอบคาถามของนักศกึ ษา

12.2 ขณะเรียน
1. จากการถามตอบระหวา่ งครกู ับนกั ศกึ ษา
2. จากการตอบคาถามของนักศึกษา
3. จากการสังเกตการจดบนั ทกึ ลงในสมุด

12.3 หลังเรยี น
1. จากการสงั เกตการตอบคาถาม
2. จากแบบทดสอบหลงั เรียนการเรียน

13. รายละเอียดการประเมินผลการเรยี น

จุดประสงค์ขอ้ ท่ี 1 รูช้ นดิ และการใช้งานแนวเชอ่ื มแบบตา่ ง ๆ
1. วิธกี ารประเมิน : แบบประเมนิ ผลการเรยี นร้แู ละแบบประเมินพฤติกรรม หน่วย

ท่ี 2
2. เครอื่ งการประเมิน : แบบประเมนิ ใบงาน เกณฑ์ผา่ น คอื 50%
3. เกณฑ์การประเมิน : เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มีช่อง

ปรบั ปรุง 4. เกณฑ์การผา่ น : เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
คอื ปานกลาง (50 % ข้นึ ไป)

34

จุดประสงค์ข้อท่ี 2 รูช้ นิดและการใชง้ านของรอยต่อแบบตา่ ง ๆ ในงานเชอ่ื ม
1. วิธีการประเมิน : แบบประเมนิ ผลการเรียนร้แู ละแบบประเมนิ พฤติกรรม หน่วย

ที่ 2
2. เครอ่ื งการประเมิน : แบบประเมนิ ใบงาน เกณฑผ์ ่าน คอื 50%
3. เกณฑ์การประเมนิ : เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไม่มีชอ่ ง

ปรับปรงุ 4. เกณฑ์การผ่าน : เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่
คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)

จดุ ประสงคข์ ้อที่ 3 จาแนกลักษณะตาแหนง่ ท่าเชอื่ มของรอยต่อตา่ ง ๆ
1. วิธีการประเมิน : แบบประเมนิ ผลการเรยี นรูแ้ ละแบบประเมินพฤติกรรม หนว่ ย

ท่ี 2
2. เครอ่ื งการประเมนิ : แบบประเมินใบงาน เกณฑ์ผา่ น คอื 50%
3. เกณฑ์การประเมิน : เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี อ่ ง

ปรับปรงุ
4. เกณฑ์การผ่าน : เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ

คือ ปานกลาง (50 % ข้ึนไป)

14. แบบทดสอบกอ่ นเรียน

หนว่ ยการสอนท่ี ......... ชื่อหน่วยการสอน
วตั ถุประสงค์ เพ่ือ
ข้อคาถาม
....................................................................................................................................................................... .......
............................................................................................................................ ..................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................................................. .................
.................................................................................................................. ............................................................

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

35

15. แบบทดสอบหลงั เรียน

หน่วยการสอนที่ .....2.... ช่อื หน่วยการสอน.....................ตาแหนง่ ทา่ เชอ่ื มและชนดิ รอยตอ่ ...........................
วัตถปุ ระสงค์ เพื่อ 1. รู้ชนิดและการใชง้ านแนวเชื่อมแบบตา่ ง ๆ

2 รู้ชนดิ และการใชง้ านของรอยตอ่ แบบตา่ ง ๆ ในงานเชื่อม
3. จาแนกลักษณะตาแหน่งท่าเชอ่ื มของรอยต่อตา่ ง ๆ
ขอ้ คาถาม
คาชี้แจงจงตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ ง
1. ท่าเชื่อมมีก่ที า่ อะไรบ้าง ?
..................................................................................................... .........................................................................
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................... ........................................

2. ลักษณะของรอยต่อมกี ี่อย่าง อะไรบ้าง ?
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................... ...........
........................................................................................................................ ......................................................
............................................................................................................................. .................................................
3. ทาไมต้องมีการบากร่องรอยต่อของงานเชอ่ื ม ?
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................................. ............
....................................................................................................................... .......................................................

36

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

1. มี 4 ทา่ คือ
1. การเชื่อมทา่ ราบ (Flat Position Welding)
2. การเช่อื มท่าขนานนอน (Horizontal Position Welding)
3. การเชอ่ื มทา่ ตงั้ (Vertical Position Welding)
4. การเชื่อมท่าเหนือศีรษะ (Overhead Position Welding)

2. มี 5 รอยต่อ คือ
1. รอยต่อชน (Butt Joint)
2. รอยต่อเกย (Lab Joint)
3. รอยตอ่ ขอบ (Edge Joint)
4. รอยตอ่ มุม (Corner Joint)
5. รอยต่อตัวที (T – Joint )

3.เพราะในการเชอื่ ม แนวเชื่อมจะต้องมคี วามแขง็ แรงเทา่ กับหรอื มากกว่าช้ินงานที่นามาเช่ือมน่ันคือ แนวเชื่อม
จะตอ้ งมีการหลอมละลายตลอดความหนาของงาน ถ้าช้ินงานไม่หนามากนักก็สามารถทาการเชื่อมได้ทันที แต่
ถ้าชิ้นงานมีความหนาเกินกว่า 3 มิลลิเมตรข้ึนไป จะต้องมีการบากร่องชิ้นงาน จะทาการบากร่องแบบใดน้ั น
ขนึ้ อยกู่ ับความหนาของชนิ้ งานเปน็ หลกั .

37

16. ใบความรทู้ ่ี ........

หน่วยการสอนท่ี ..2... ช่ือหนว่ ยการสอน ตาแหนง่ ทา่ เชื่อมและชนิดของรอยต่อ
ชอ่ื หัวข้อเรื่อง 1. ตาแหนง่ ท่าเชอ่ื ม

2. รอยตอ่ และชนิดของรอยต่อ

2.1 ท่าเช่ือม
ในการเช่อื มไมว่ า่ จะเปน็ การเชอ่ื มแก๊ส หรือเชือ่ มไฟฟูา ท่าเชื่อมที่สามารถทาการเชื่อมได้ง่ายและมี

ประสิทธิภาพมากทส่ี ดุ นัน่ คอื การเช่ือมท่าราบ แตส่ ภาวะจริงในการปฏิบัติงานไม่สามารถเลือกท่าเชื่อมท่ีถนัด
ได้ ซึง่ ข้ึนอยู่กับสภาพของงานท่ีทาอยู่ สาหรับท่าเช่ือมหรือตาแหน่งของการเช่ือมทั้งเช่ือมแก๊ส และเช่ือมไฟฟูา
พอจะแบง่ ลักษณะได้ดังน้ี

1. การเช่ือมท่าราบ (Flat Position Welding)เป็นท่าเช่ือมท่ีง่าย เพราะสามารถควบคุมบ่อ
หลอมละลายไดง้ า่ ยแรงดึงดูดของโลกไม่มีผลต่อน้าโลหะเหลวมากนัก เน่ืองจากบ่อหลอมละลายอยู่บนรอยต่อ
ของงาน ดังแสดงในรูป 2.1 ก.การเชอื่ มทา่ ราบ

รูปท่ี 2.1 ก. แสดงการเชื่อมท่าราบ

38

2. การเชื่อมท่าขนานนอน (Horizontal Position Welding) เป็นท่าเชื่อมท่ีเหมาะสาหรับ
การฝึกเชื่อมใหม่ ๆต่อจากการเช่ือมท่าราบ แรงดึงดูดของโลกจะทาให้น้าโลหะไหลย้อยลงมาด้านล่างซึ่งผู้ฝึก
เชอื่ มตอ้ งควบคมุ เป็นพิเศษ ดงั แสดงในรปู ท่ี 2.1 ข.การเชอ่ื มท่าขนานนอน

รูปท่ี 2.1 ข. แสดงการเชื่อมท่าขนานนอน
3. การเช่ือมท่าตั้ง (Vertical Position Welding) การเช่ือมท่านี้รอยเช่ือมจะอยู่ในแนวดิ่งซ่ึงมี
อยู่ด้วยกันสองวิธี คอื การเชือ่ มจากด้านลา่ งข้นึ ไปข้างบน เรียกว่า การเชื่อมท่าตั้งเช่ือมข้ึน (Vertical Up) และ
การเช่ือมจากข้างบนลงมาข้างล่าง เรียกว่า การเชื่อมท่าต้ังเช่ือมลง (Vertical Down) ดังแสดงในรูปที่2.1 ค.
แสดงการเชื่อมท่าต้งั

รูปที่ 2.1 ค. แสดงการเชื่อมท่าตั้ง
4. การเช่ือมท่าเหนือศีรษะ (Overhead Position Welding)เป็นการเชื่อมที่แนวเช่ือมอยู่
ด้านล่างของรอยต่อหัวเชื่อมจะอยู่ใต้ชิ้นงานท่ีจะเช่ือม เป็นท่าเชื่อมที่ยากที่สุดที่จะทาให้เกิดการซึมลึกที่ดีได้
เน่ืองจากแรงดึงดูดของโลกมีผลทาให้น้าโลหะย้อยไหลลงมา และผู้เช่ือมก็อาจจะได้รับอันตรายจากการเช่ือม
อนั เนอื่ งจากสะเกด็ ไฟและน้าโลหะทห่ี ยดลงมา ฉะน้ันผู้เช่ือมจะต้องมีการเตรียมตัวท่ีดี โดยการสวมใส่เส้ือหนัง
ถงุ มอื และหนา้ กากใหค้ รบ ดังแสดงในรูปที่ 2.1 ง.การเช่อื มทา่ เหนือศรี ษะ

39

รูปท่ี 2.1 ง. ท่าเหนอื ศรีษะ
2.2 รอยต่อและชนิดของรอยต่อ

รอยต่อ คือ การประสานหรือการทาการต่อช้ินงานสองช้ิน หรือมากกว่าน้ัน ซึ่งอาจจะกระทาได้
โดยการยดึ ด้วยสกรูนัต การบดั กรี หรอื การเชื่อมกต็ าม พอสรปุ แบบของรอยตอ่ ได้ดังน้ี

1. รอยต่อชน (Butt Joint) เป็นการนาขอบงานท้ังสองช้ินมาวางให้ขอบชนกัน ซ่ึงจะมีการเว้น
ช่องวา่ งหรอื ไม่นั้น ขึน้ อยู่กบั ความหนาของงาน ดังแสดงในรูปที่ 2.2ลักษณะของรอยต่อชน

รูปท่ี 2.2 แสดงลกั ษณะของรอยต่อชน

รูปท่ี 2.2 แสดงลกั ษณะของรอยต่อชน
2. รอยตอ่ เกย (Lab Joint) ลักษณะการต่อเป็นการนาชิน้ งานสองชน้ิ มาซอ้ นเกยกันซ่ึงมขี ้อดคี ือ
ไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมงานมาก การต่อเกยท่ดี ีนน้ั ควรให้ชิ้นงานทง้ั สองชิ้นวางซ้อนกันแนบสนิทตลอด
ความยาว ดังแสดงในรปู ที่ 2.3 ลกั ษณะของรอยตอ่ เกย

รปู ที่ 2.3 แสดงลกั ษณะของรอยตอ่ เกย

40

3. รอยต่อขอบ (Edge Joint)โดยท่ัวไปใช้ออกแบบสาหรับงานบาง ๆ และไม่นิยมเติมลวด การ
ต่องานลักษณะนส้ี ามารถกระทาได้งา่ ย รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ดังแสดงในรูปท่ี 2.4 ลักษณะของ
รอยต่อขอบ

รปู ท่ี 2.4 แสดงลักษณะของรอยตอ่ ขอบ
4. รอยต่อมมุ (Corner Joint)การต่อมมุ นี้มลี กั ษณะการตอ่ คลา้ ย ๆ กนั กับการเช่ือมรอยต่อแบบตัว
ที (T-Joint) แตกต่างกันท่ีการวางรอยต่อมุมน้ันวางตั้งฉากกันบริเวณขอบของชิ้นงานท้ังสองการเช่ือมต่อมุม
สามารถเชื่อมได้ทั้งรอยต่อมุมภายใน และรอยต่อมุมภายนอก (Inside and Outside Corner Joint Weld)
ดงั แสดงในรูปที่ 2.5ลักษณะของรอยต่อมมุ

รปู ที่ 2.5 แสดงลกั ษณะของรอยตอ่ มมุ
5. รอยต่อตัวที (T – Joint )การต่อจะวางชนิ้ งานตง้ั ฉากกนั บนความกวา้ งของงานอีกแผน่ หนึง่
การต่อลักษณะน้ีจะต้องมีการเติมลวดเชื่อม เพ่ือให้งานมีความแข็งแรง นิยมใช้กันมากในการประกอบ
โครงสร้างของการสร้างอาคาร ดงั แสดงในรปู ท่ี2.6ลกั ษณะรอยตอ่ ตัวที

41

รูปท่ี 2.6 แสดงลกั ษณะรอยต่อตวั ที
2.3 การบากร่องรอยต่อ

ในการเชอ่ื ม แนวเชอ่ื มจะต้องมีความแข็งแรงเทา่ กบั หรอื มากกว่าชน้ิ งานทน่ี ามาเชอ่ื มนน่ั คือ แนว
เชื่อมจะต้องมีการหลอมละลายตลอดความหนาของงาน ถ้าชิ้นงานไมห่ นามากนกั ก็สามารถทาการเช่ือมได้
ทันที แตถ่ ้าชนิ้ งามีความหนาเกนิ กว่า 3 มลิ ลิเมตรข้นึ ไป จะตอ้ งมีการบากร่องช้นิ งาน จะทาการบากรอ่ งแบบ
ใดน้ันขึ้นอยู่กบั ความหนาของช้นิ งานเป็นหลัก โดยทว่ั ไปได้มกี ารออกแบบลกั ษณะการบากรอ่ งรอยต่อไวด้ งั นี้

42

17. ใบงานที่ .....1...

หนว่ ยการสอนที่ ...2..... ชอ่ื หน่วยการสอน ตาแหนง่ ทา่ เช่อื มและชนดิ ของรอยต่อ
ช่อื หัวข้อเรื่อง 1. ตาแหน่งทา่ เชือ่ ม

2. รอยตอ่ และชนิดของรอยต่อ

จุดประสงค์ เพื่อ
1. รู้ชนดิ และการใชง้ านแนวเชอ่ื มแบบตา่ ง ๆ
2 รูช้ นดิ และการใช้งานของรอยต่อแบบต่าง ๆ ในงานเชื่อม
3. จาแนกลกั ษณะตาแหนง่ ท่าเชือ่ มของรอยต่อตา่ ง ๆ

ลาดบั กจิ กรรม/ลาดบั การปฏิบตั ิ

......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................... ...............................................
.................................................................................... ..........................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

เกณฑก์ ารพจิ ารณา

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

43

18. แบบประเมนิ ผล

แผนการวัดผลและประเมินผลทัง้ รายวชิ า

- พุทธพิ ิสัย 1) แบบฝกึ หัด 10 %

2) ทดสอบหลังเรียน 10 %

3) วดั ผลสมั ฤทธ์ิ 10 %

รวม 30 %

- ทกั ษะพิสัย 1) ใบงาน/งานท่ีมอบหมาย 35 %

2) วดั ผลสมั ฤทธ์ิ 15 %

รวม 50 %

- จติ พิสยั 20 %

หมายเหตุ: (คะแนนทดสอบก่อนเรียนไวส้ าหรับเปรยี บเทยี บกบั คะแนนทดสอบหลงั เรียน)

19. แบบฝกึ หัด
ตอนท่ี 1 คาชแ้ี จงจงตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ ห้ถูกต้อง

1. ท่าเชือ่ มมกี ี่ทา่ อะไรบา้ ง ?
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
2. ลกั ษณะของรอยตอ่ มกี ่ีอย่าง อะไรบา้ ง ?
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................... ...........
........................................................................................................................ ......................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................................... .....................
3. ทาไมต้องมกี ารบากรอ่ งรอยต่อของงานเช่อื ม ?
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

44

20. บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้แบบมุง่ เน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลัก

ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

20.1 สรุปผลการจัดการเรียนรู้

รายการ ระดบั การปฏบิ ตั ิ
5432 1

ด้านการเตรยี มการสอน

1. จดั หน่วยการเรียนรู้ไดส้ อดคลอ้ งกับวตั ถปุ ระสงค์การเรยี นรู้

2. กาหนดเกณฑ์การประเมนิ ครอบคลุมท้ังดา้ นความรู้ ด้านทกั ษะ และดา้ นจติ พิสัย

3. เตรียมวสั ด-ุ อุปกรณ์ สอ่ื นวัตกรรม กจิ กรรมตามแผนการจดั การเรยี นรกู้ อ่ นเข้าสอน

ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้

4. มีวธิ กี ารนาเขา้ สู่บทเรยี นทนี่ า่ สนใจ

5. มีกจิ กรรมที่หลากหลาย เพือ่ ช่วยให้ผเู้ รยี นเกดิ การเรยี นรู้ ความเขา้ ใจ

6. จดั กิจกรรมทีส่ ่งเสริมให้ผู้เรยี นค้นคว้าเพ่ือหาคาตอบดว้ ยตนเอง

7. นกั เรียนมีสว่ นร่วมในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

8. จดั กิจกรรมทเ่ี นน้ กระบวนการคิด ( คิดวิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ )

9. กระตนุ้ ใหผ้ ้เู รียนแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี

10. จดั กิจกรรมการเรียนรูท้ ่เี ชื่อมโยงกับชวี ติ จรงิ โดยนาภมู ปิ ญ๎ ญา/บรู ณาการเขา้ มามีส่วนร่วม

11. จดั กจิ กรรมโดยสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม

12. มกี ารเสริมแรงเม่ือนกั เรียนปฏบิ ัติ หรือตอบถูกต้อง

13. มอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรยี น

14. เอาใจใส่ดแู ลผู้เรียน อย่างทว่ั ถงึ

15. ใช้เวลาสอนเหมาะสมกบั เวลาทกี่ าหนด

ดา้ นส่ือ นวตั กรรม แหลง่ การเรยี นรู้

16. ใช้สื่อทีเ่ หมาะสมกับกจิ กรรมและศักยภาพของผู้เรียน

17. ใชส้ อ่ื แหลง่ การเรียนรู้อย่างหลากหลาย เชน่ บคุ คล สถานท่ี ของจริง เอกสาร

ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ และอินเทอร์เนต็ เปน็ ต้น

ดา้ นการวดั และประเมนิ ผล

18. ผเู้ รยี นมสี ว่ นร่วมในการกาหนดเกณฑก์ ารวัดและประเมินผล

19. ประเมินผลอย่างหลากหลายและครบท้ังดา้ นความรู้ ทักษะ และจิตพสิ ยั

20. ครู ผ้เู รียน ผู้ปกครอง หรือ ผทู้ ่ีเก่ียวข้องมสี ว่ นร่วม ในการประเมนิ

หมายเหตุ ระดับการปฏบิ ัติ 5 = ปฏบิ ตั ิดเี ยย่ี ม 4 = ปฏบิ ตั ิดี 3 = ปฏิบัติ รวม

พอใช้ คา่ เฉลีย่

2 = ควรปรบั ปรงุ 1 = ไม่มกี ารปฏิบัติ

45

20.2 ปญั หาท่ีพบ และแนวทางแกป้ ัญหา

ปัญหาที่พบ แนวทางแกป้ ัญหา

ด้านการเตรยี มการสอน

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

ดา้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

ดา้ นสือ่ นวตั กรรม แหลง่ การเรียนรู้

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

ดา้ นการวัดและประเมนิ ผล

.................................................................................. ....................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

.................................................................................. ...................................................................................

ด้านอน่ื ๆ (โปรดระบุเป็นข้อๆ)

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

................................................................................... ...................................................................................

ลงชอื่ ........................................................................ ครผู ู้สอน
(....................................................................)

ตาแหนง่ .......................................................................
............../.................................../....................

21. บนั ทึกการนิเทศและตดิ ตาม 46

วัน-เดือน-ปี เวลา รายการนเิ ทศและตดิ ตาม ช่ือ-สกลุ ผนู้ เิ ทศ ตาแหน่ง

47

แผนการจัดการเรียนรู้ แบบมุง่ เน้นสมรรถนะอาชีพ
และบูรณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

รหัสวิชา .......2103-1001....... วชิ า ....................งานเชอื่ มโลหะเบื้องต้น.............................
หนว่ ยที่ ....3..... ชอ่ื หนว่ ย ..........กระบวนการเชอ่ื มไฟฟูาด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลกั ซ์............
ชอื่ เร่ือง..............1. หลกั การเชือ่ มไฟฟูาด้วยลวดเชอ่ื มหุ้มฟลกั ซ์ จานวน ........12.....ชั่วโมง

2. เคร่อื งเชื่อมไฟฟูาตามลักษณะพนื้ ฐาน
3. รอบทางานของเครอื่ งเช่ือม
4. อปุ กรณ์ที่ใชก้ ับงานเชอื่ มไฟฟูา
5. ลาดับขั้นในการเตรยี มงานเชื่อมไฟฟาู

1. สาระสาคัญ

เม่ือจะเริ่มศึกษาเรื่องของการเช่ือมออกซิ-อะเซทิลีน คงจะต้องกล่าวย้อนถึงการเชื่อมแก๊สชนิดของ
แก๊สเชื้อเพลิงอ่ืนๆ เช่น ไฮโดรเจน มีเทน เป็นต้น นอกจากนั้นเรื่องเปลวไฟชนิดต่างๆ และการนาไปใช้งาน
พร้อมทง้ั เรอ่ื งเครอื่ งมืออุปกรณ์ต่างๆ และหลักการทางานของมันก็เป็นส่ิงที่จะต้องศึกษาและเรียนรู้เพ่ือการใช้
งานได้อยา่ งถูกตอ้ งและปลอดภัย

2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้

1. กระบวนการเชื่อมแก๊ส
2. ชนดิ ของแก๊ส
3. อุปกรณใ์ นงานเช่อื มแก๊ส

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

3.1 จุดประสงคท์ ั่วไป
1. รหู้ ลกั งานของการเชอ่ื มแก๊ส
2. รู้ชนิดของแก๊สเช้ือเพลงิ ตา่ ง ๆ
3. รู้ชนิดและหลักการทางานของเครื่องมืออปุ กรณ์เชื่อมออกซิ–อะเซทลิ ีน

3.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................


Click to View FlipBook Version