II การประชมุ วิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สิงหาคม 2564
II
คำนำ
กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม โดยความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรด้านวิชาการ
ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม สถาบันการศึกษา และภาค
ประชาชน ได้ร่วมจัดการประชุมวิชาการธรณีไทย ประจาปี
2564 (GEOTHAI WEBINAR 2021) ภายใต้หัวข้อ “ธรณีวิถีใหม่
นวัตกรรมไทย เพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยืน” ระหว่างวันที่ 4-6
สิงหาคม 2564 ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Webinar/Meeting
เพื่อเป็นเวทีให้ผู้เช่ียวชาญและนักวิชาการที่เก่ียวข้องในสาขา
ธรณวี ทิ ยาท้ังในและต่างประเทศ ได้ร่วมนาเสนอและแลกเปลี่ยน
องค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านธรณีวิทยา การบริหารจัดการ
ทรพั ยากรธรณี การลดผลกระทบด้านธรณีวิทยาส่ิงแวดล้อมและ
ธรณีพิบัติภัย การสร้างความตระหนักให้กับสังคมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรณีของประเทศ และการรับฟัง
ปัญหาจากทกุ ภาคสว่ นเพือ่ พัฒนาวิชาการด้านธรณีวิทยา ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประเทศ ผ่านการ
นาเสนอผลงานทางวิชาการและการเสวนาทางวิชาการภายใต้แนวคดิ ฐานวถิ ชี ีวติ ใหม่ (New Normal)
การประชุมวิชาการในคร้ังน้ี มีผู้สนใจเข้าร่วมเสนอผลงานทางวิชาการภายใต้หัวข้อ “ธรณีวิถีใหม่
นวัตกรรมไทย เพ่ือการพัฒนาที่ยั่งยืน”รวมท้ังสิ้นกว่า 169 เร่ือง โดยมีกิจกรรมสาคัญภายใต้การประชุม
ประกอบด้วยการบรรยายพเิ ศษ (Keynote Papers) โดยผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญท่ีมีช่ือเสียงของประเทศรวม
6 เรื่อง การบรรยายวิชาการภายใต้หัวข้อหลักของการประชุม โดยผู้เช่ียวชาญด้านธรณีวิทยาทั้งในและ
ต่างประเทศรวม 84 เรื่อง การนาเสนอผลงานทางวิชาการผ่านโปสเตอร์รวม 72 เร่ือง และการเสวนาทาง
วิชาการ 4 เรื่อง โดยผู้เชยี่ วชาญและมีประสบการณ์ในทุกสาขารวมกว่า 27 ท่าน ท้ังนี้ มีผู้สนใจลงทะเบียนรับ
ฟงั การประชมุ วชิ าการในระบบออนไลนใ์ นครงั้ น้มี ากกว่า 850 คน
ท้ายที่สุดนี้ กรมทรัพยากรธรณี หวังเป็นอย่างย่ิงว่า การประชุมวิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564
(GEOTHAI WEBINAR 2021) ภายใต้หัวข้อ “ธรณีวิถีใหม่ นวัตกรรมไทย เพ่ือการพัฒนาที่ย่ังยืน” จะเป็น
ส่วนหน่ึงของกลไกและพลังแห่งองค์ความรู้ทางด้านธรณีวิทยา เพ่ือนาไปสู่การสารวจค้นหาแหล่งสารอง
ทรัพยากรธรณีเพื่อการพัฒนาประเทศ การบริหารจัดการทรัพยากรธรณีท่ีเหมาะสมและคุ้มค่า การวางแผน
การใช้ท่ีดินเพ่ือการใช้ประโยชน์อย่างมีคุณภาพ และการบรรเทาธรณีพิบัติภัยที่เกิดจากการเปล่ียนแปลง
สภาพอากาศ และนาไปสู่ผลสัมฤทธิ์ที่สาคัญคือการสร้างความอยู่ดีกินดีของประชาชนอย่างย่ังยืนต่อไป
นายสมหมาย เตชวาล
อธิบดกี รมทรพั ยากรธรณี
สิงหาคม 2564
ธรณีวิถใี หม่ นวัตกรรมไทย เพื่อการพฒั นาทีย่ ่ังยืน III
คณะบรรณำธิกำร
ท่ีปรกึ ษา
นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
นายนวิ ัติ มณขี ตั ิย์ รองอธบิ ดีกรมทรพั ยากรธรณี
นายมนตรี เหลอื งองิ คะสตุ รองอธบิ ดกี รมทรพั ยากรธรณี
นายนราเมศวร์ ธรี ะรังสกิ ุล ผเู้ ชย่ี วชาญเฉพาะดา้ นทป่ี รกึ ษาทางการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรณี
นางสรุ ีย์ ธรี ะรังสกิ ลุ ผู้เชยี่ วชาญเฉพาะด้านวิจัยและพัฒนาธรณวี ทิ ยา
ศ.ดร. ปญั ญา จารศุ ริ ิ ผ้เู ชี่ยวชาญเฉพาะด้านความรว่ มมือระหว่างประเทศ
กองบรรณาธิการ
นายสวุ ภาคย์ อม่ิ สมทุ ร ผอู้ านวยการกองเทคโนโลยธี รณี หวั หน้ากองบรรณาธกิ าร
นางอปั สร สอาดสดุ ผู้อานวยการกองวเิ คราะห์และตรวจสอบทรพั ยากรธรณี
นายธวัชชยั เชือ้ เหล่าวานิช นักธรณีวทิ ยาชานาญการพิเศษ
นางสาวศริ ประภา ชาตปิ ระเสริฐ นกั ธรณวี ิทยาชานาญการพเิ ศษ
นายปรชั ญา บารงุ สงฆ์ นกั ธรณีวทิ ยาชานาญการพิเศษ
นางสาวศริ พิ ร สงู ปานเขา นกั ธรณีวิทยาชานาญการพิเศษ
นายเดน่ โชค มัน่ ใจ นกั ธรณีวทิ ยาชานาญการพิเศษ
นางสาวองั ศุมาลนิ พันโท นักธรณวี ทิ ยาชานาญการพิเศษ
นายศกั ดา ขนุ ดี นกั ธรณวี ิทยาชานาญการพิเศษ
นายวรี ะชาติ วิเวกวิน นักธรณีวทิ ยาชานาญการพเิ ศษ
นายเมธา ยงั สนอง นักธรณวี ิทยาชานาญการพิเศษ
นายประดิษฐ์ นูเล นกั ธรณวี ิทยาชานาญการพเิ ศษ
นางสาวพรเพญ็ จนั ทสทิ ธิ์ นกั ธรณวี ทิ ยาชานาญการพเิ ศษ
นางสาวสิรริ ัตน์ พลู เกษม นักธรณีวิทยาปฏิบตั ิการ
ฝา่ ยเลขานุการกองบรรณาธกิ าร
นางสาวดวงฤทัย แสแสงสีรงุ้ นกั ธรณีวิทยาชานาญการพเิ ศษ
นางสาวนา้ ฝน คาพลิ งั นักธรณีวิทยาชานาญการพเิ ศษ
นายกิตติ ขาววเิ ศษ นักธรณวี ิทยาชานาญการพิเศษ
IV การประชุมวชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ท่ี 4-6 สงิ หาคม 2564
IV
สำรบญั
คานา II
คณะบรรณาธกิ าร III
สารบญั IV
กาหนดการ XVIII
บทคดั ยอ่
Keynote papers
กรุงเทพทรุด 1
โดย สุทธศิ กั ดิ์ ศรลัมพ์ 3
4
กลไกขับเคล่ือนการอนุรักษแ์ หล่งธรณวี ิทยาของประเทศ 5
โดย สุรชัย ศิริพงษ์เสถียร 8
9
การกากบั ดแู ลการสารวจและผลติ ปโิ ตรเลยี มในประเทศไทย: อดีต ปัจจุบัน อนาคต 11
โดย นเรศ สัตยารักษ์
การยกระดับการปฏิบตั ิงานด้านธรณวี ทิ ยาในประเทศไทย : วิชาชีพธรณวี ทิ ยาควบคมุ
โดย ธนู หาญพัฒนพานชิ ย์
โคก หนอง นา กบั ธรณีวทิ ยา
โดย มนตรี เหลอื งองิ คะสตุ และคณะ
ผลการดาเนนิ งานดา้ นธรณีวทิ ยากับการแกป้ ัญหาภยั แลง้ ของกรมทรัพยากรธรณี
โดย นราเมศวร์ ธีระรังสิกุล และคณะ
สถานการณ์ถา้ ประเทศไทย พ.ศ. 2564
โดย อนุกลู วงศใ์ หญ่
หลกั เกณฑก์ ารจาแนกทรัพยากรแรข่ องประเทศไทย และการกาหนดเขตแหลง่ แร่เพอื่ การทาเหมอื ง 12
โดย จักรพนั ธ์ สุทธิรตั น์, กฤตยา ปทั มาลัย, และ ธวัชชัย เชอ้ื เหล่าวานิช
CCOP towards premier intergovernmental organization cross borders and beyond history 13
By Young Joo LEE
Hydrogeochemical Features of Karst in the Western Thailand 14
By ZHANG Cheng, Mahippong Worakul, WANG Jin-liang, PU Jun-bing, LYU Yong,
ZHANG Qiang and HUANG Qi-bo
Indochina - New Palaeozoic Data, Terranes and New Tectonic Hypotheses 15
By Clive Burrett, Hathaithip Thassanapak, Mongkol Udchachon, Luke Gibson,
Khin Zaw and Sebastian Meffre
Content
ธรณีวิถีใหม่ นวตั กรรมไทย เพ่ือการพัฒนาท่ียั่งยนื V
Permian-Triassic structure and palaeogeography of the Khao Khwang Fold and Thrust belt,
Central Thailand: Implications for the development of the Indochina Terrane 17
By Christopher Keith Morley, Sukonmeth Jitmahantakul, Sopon Pongwapee and
Hathaichanok Vattanasak
Microfossils กับธรณีวทิ ยา 18
โดย ฐาสิณีย์ เจริญฐติ ริ ัตน์
Radiolarian study in Thailand: present and future subject 19
By Katsuo Sashida
Oral Presentations
กระดูกกระเบนเหน็บชนิ้ ใหม่ของไดโนเสารเ์ ทอโรพอด ยุคครเี ทเชยี สตอนตน้ จากจงั หวัดขอนแกน่ และ
อนุกรมวธิ านของไดโนเสาร์เทอโรพอดในประเทศไทย 21
โดย กฤษณุพงศ์ พนั ทานนท์, อดุลย์ สมาธิ และ สรุ เวช สุธธี ร
กว่าจะมาเป็นอทุ ยานแหง่ ชาติเขาสามร้อยยอด กับเหตุการณ์น้าทะเลถอยร่น: หลกั ฐานจากภมู ิลกั ษณ์
และการหาอายุ 22
โดย พรี สทิ ธิ์ สรุ เกยี รตชิ ยั , มนตรี ชวู งษ,์ สเุ มธ พนั ธวุ งคร์ าช, กติ ติ ขาววเิ ศษ และ ปญั ญา จารศุ ริ ิ
การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ (IT) ในงานธรณีวิทยาวศิ วกรรม 23
โดย ธนู หาญพัฒนพานชิ ย์
การเช่ือมโยงธรณีวทิ ยาและทรพั ยากรธรณีภาคใตส้ ู่การนาเสนอในพิพธิ ภณั ฑซ์ ากดึกดาบรรพ์ ธรณวี ิทยา
และธรรมชาติวิทยา จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี เพ่อื สร้างจิตสานึกการอนุรกั ษ์ 26
โดย เดน่ โชค ม่ันใจ และ สถาพร มติ รมาก
การค้นพบซากดกึ ดาบรรพแ์ ละการประเมนิ แหลง่ ซากดึกดาบรรพ์เพ่ือบรหิ ารจดั การตามกฎหมายใน
พื้นทจ่ี ังหวดั สกลนคร 27
โดย พรเพญ็ จนั ทสทิ ธ,ิ์ ณสนนท์ ขาคมเขตร,์ วนั สริ ิ บญุ หลา้ , ไปรยา จนั ตบ๊ิ และ เกษฎาภรณ์ เครอื ภกั ดี
การจดั เกบ็ ขอ้ มลู ของซากดึกดาบรรพ์เพ่ือวิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงในอนาคตสาหรับการพัฒนาแหลง่
เรียนรโู้ ดยเทคนคิ โฟโตแกรมมิตรี กรณศี ึกษาไม้กลายเปน็ หินขนาดยาวท่ีสุดในโลก ณ อุทยานแห่งชาติ
ดอยสอยมาลัย จังหวดั ตาก 28
โดย คงกระพนั ไชยทองศรี และ สรุ เวช สุธธี ร
การจดั ทาแผนทเ่ี สยี่ งอุทกภยั จังหวดั สงิ ห์บุรี 29
โดย สรุ ศกั ดิ์ บญุ ลอื , ประภาพรรณ จนั ทมาศ, พฒั นร์ ชั พงศ์ กมลยะบตุ ร, ดารกิ า ฆารสะอาด และ
วสิ ทุ ธิ์ ศริ พิ รนพคณุ
การทาแผนที่ซากดึกดาบรรพ์ และกาหนดเส้นทางท่องเท่ียวแหลง่ มรดกธรณภี ูนา้ หยด จังหวดั เพชรบูรณ์ 30
โดย จนั ทนี ดวงคาสวสั ด,ิ์ ชญั ชนา คาชา และ ทวชิ ากร ทะสี
การประเมนิ รูปแบบการวิบตั บิ รเิ วณฐานเขาตาปู 31
โดย ศกั ดา ขนุ ดี, เสาวภาพ อุทัยรตั น,์ ธนวฒั น์ รักเฮงกุล และ นภัตสร ตณั ฑ์สรุ ะ
Content
VI การประชุมวชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สงิ หาคม 2564
VI
การประยกุ ตใ์ ชร้ ะบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ เพอ่ื ศกึ ษาระดบั ความสญู เสยี เชงิ กายภาพ บรเิ วณพน้ื ทที่ ไ่ี ดร้ บั
ผลกระทบจากสนึ ามิ พื้นท่ภี าคใตฝ้ ่ังอันดามัน 33
34
โดย แพรวพรรณ คดิ อ่าน และ ภาวิณี ไมห้ อม 35
36
การพฒั นารปู แบบกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ดโนเสารเ์ พอ่ื รองรบั การเปน็ อทุ ยานธรณี : กรณีศกึ ษาแหลง่ ภเู วยี ง 38
40
ห้องเรยี นท้องถ่นิ บทเรยี นจากมรดกทางธรณีวิทยา 41
42
โดย ศักดิช์ ยั จวนงาม, ธรี ะพล อตุ ะมะชะ และ กมลลกั ษณ์ วงษ์โก 43
44
การพัฒนาแหล่งท่องเทีย่ วทางธรณีวิทยาน้าตกวังสายทอง อุทยานธรณโี ลกสตูล จังหวัดสตลู 45
46
โดย สทิ ธินนท์ กุลทักษยศ, สันต์ อศั วพชั ระ และ กฤตนนท์ แนวบุญเนียร 47
การพฒั นาแหล่งทอ่ งเที่ยวทางธรณวี ทิ ยา ถา้ เจด็ คต จงั หวัดสตลู
โดย ชาญรตั น์ เมินขุนทด
การศึกษาแบบจาลองทางคณิตศาสตรเ์ พ่ือคาดคะเนผลกระทบการเกิดดินเค็ม นา้ เค็มบริเวณพนื้ ที่
โครงการชลประทานนา้ กา่ ตอนลา่ งอันเนื่องมาจากพระราชดาริ จังหวดั นครพนม
โดย กัมปนาท ขวัญศริ ิกุล
การศึกษาการกาหนดอายุอฐิ โบราณดว้ ยเทคนิค Optically Stimulated Luminescence (OSL)
เทียบกับ Thermoluminescence (TL) ด้วยเคร่ือง TL/OSL reader
โดย เฉลิมพงษ์ โพธ์ิลี้,, วีระชาติ วิเวกวิน, นิชธิมา เอื้อพูนผล และ ศศิพนั ธุ์ คะวรี ตั น์
การศึกษาการกระจายตัวของร่องรอยดนิ ถลม่ ในพนื้ ทจี่ ังหวัดอุตรดติ ถ์ โดยการแปลความหมาย
ภาพถา่ ยดาวเทยี มโดยใช้โปรแกรม Google Earth
โดย ทศั นพร เรอื นสอน, นา้ ฝน คาพิลงั , นลินี ธะนนั ต์, ภคั พงษ์ ศรบี ัวทอง และ
ธีระชัย หน่อคาบุตร
การศกึ ษารอยเล่อื นท่าแขกในพืน้ ทภ่ี าคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ประเทศไทย
โดย สาคร แสงชมพู และ พจนป์ รชี า พรชัย
การศกึ ษาอุทกธรณวี ิทยา วนอุทยานถ้าหลวง-ขุนน้านางนอน อาเภอแม่สาย จังหวัดเชยี งราย
โดย อัคปศร อัคราช, วนชั วรรณ ฮนั เยก็ และ จรี ทปี ต์ ยศม้าว
การสรา้ งและออกแบบสื่อผสมออนไลนส์ าหรบั การเรยี นการสอนวชิ าธรณีวทิ ยาภาคสนามและ
การท่องเทีย่ วเชงิ ธรณีวทิ ยา
โดย สคุ นธ์เมธ จติ รมหนั ตกุล, ฐาสณิ ยี ์ เจริญฐติ ริ ตั น์ และ ปยิ พงษ์ เชนรา้ ย
การสารวจ ตรวจสอบ และศึกษาซากดึกดาบรรพ์นอติลอยด์ และไทรโลไบต์ บ้านท่ากระดาน
อาเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบรุ ี
โดย พงษ์พฒั น์ ประสงค์
การสารวจและจดั ทาแผนผงั ถ้าในเขตอทุ ยานแห่งชาติ ภาคใต้
โดย จริ ศกั ด์ิ เจรญิ มติ ร, อมุ าพร เจรญิ คณุ ธรรม, ประสบสขุ ศรตี งั้ วงศ,์ วภิ าวี เขยี มสนั เทยี ะ
และ พรธวชั เฉลมิ วงศ์
การสารวจขุดค้นซากดึกดาบรรพว์ าฬ จากตาบลอาแพง อาเภอบ้านแพว้ จังหวัดสมทุ รสาคร
โดย อดุลยว์ ิทย์ กาวรี ะ และ พรรณภิ า แซเ่ ทยี น
Content
ธรณีวิถใี หม่ นวตั กรรมไทย เพอื่ การพัฒนาท่ียัง่ ยืน VII
การสารวจธรณีวทิ ยาควอเทอร์นารภี ายใตโ้ ครงการพัฒนาสระบ่อดินขาว พ้นื ท่ีอาเภอตาคลี
จงั หวดั นครสวรรค์ 48
โดย ภคั พงษ์ ศรบี วั ทอง, น้าฝน คาพลิ งั , ทศั นพร เรอื นสอน, ธรี ะชยั หนอ่ คาบตุ ร และ นลนิ ี ธะนนั ต์
การศกึ ษาแนวทางการจดั การองค์ความร้เู พ่ือพฒั นาการท่องเทยี่ วชุมชน กรณีศึกษาแหล่งเรยี นร้รู อยตีน
ไดโนเสาร์ ตาบลพนอม อาเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม 49
โดย อนุชติ สิงห์สวุ รรณ และ ศรสี ดุ า ด้วงโต้ด
การศึกษาแนวทางการพัฒนากฎหมายถา้ ไทย 50
โดย พลั ลภ กฤตยานวัช
เขตรอยเล่ือนกลางแอง่ อันดามัน: ผลจากการเกิดร่องแยกหลายคร้งั 51
โดย ธนัญชัย มหทั ธนชยั , C.K. Morley, พิษณุพงศ์ กาญจนพยนต์ และ ปัญญา จารุศิริ
เครอื ข่ายการเตือนภัยสึนามิจากนานาประเทศและ การสร้างความตระหนกั ร้แู บบบูรณาการเพ่ือลด
ผลกระทบจากธรณพี บิ ัตภิ ยั สึนามิ 54
โดย วศิ รตุ า วีระสยั
ความหลากหลายของซากดกึ ดาบรรพแ์ มลงในประเทศไทย 55
โดย ประภาสริ ิ วาระเพยี ง และ อุทุมพร ดีศรี
ความหลากหลายของซากดึกดาบรรพ์สัตวม์ กี ระดกู สนั หลงั ยคุ ครเี ทเชียสตอนต้น จากแหลง่ โคกผาส้วม
จังหวดั อบุ ลราชธานี ประเทศไทย 56
โดย ศติ ะ มานติ กลุ , อทุ มุ พร ดศี รี และ พรเพ็ญ จนั ทสิทธิ์
ธรณแี ปรสณั ฐานยุคใหม่ของรอยเลื่อนพะเยาในพ้นื ทอ่ี าเภอวงั เหนอื จังหวดั ลาปาง 57
โดย ระวี พมุ่ ซ่อนกล่ิน, วีระชาติ วิเวกวิน, จุฑามาศ จนั แปงเงนิ และ ปยิ าภรณ์ หินแสง
ธรณีประวัตขิ องแหลง่ ภูนา้ หยดจากหลักฐานทางธรณีวิทยา 58
โดย ฐาสณิ ยี ์ เจริญฐิตริ ตั น,์ สคุ นธเ์ มธ จติ รมหันตกุล, พิมลภัทร์ อาจคา, วารณุ ี มณีรตั น์ และ
ศิรวัชร์ อดุ มศกั ดิ์
ธรณีวิทยาและลาดับชั้นหินบริเวณโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ
สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี พน้ื ทโี่ คกภตู ากา อาเภอเวยี งเกา่ จงั หวดั ขอนแกน่ 59
โดย ประดษิ ฐ์ นูเล และ สภุ าพร ศรีราชา
ธรณีวทิ ยากบั ทเุ รียนหลง-หลนิ ลับแล อาเภอลบั แล จังหวัดอุตรดิตถ์ 60
โดย ฉตั รพร ฉตั รทอง และ ฐาสิณีย์ เจริญฐติ ิรัตน์
ธรณวี ทิ ยาควอเทอรน์ ารี และตะกอนวทิ ยาพนื้ ทพ่ี บซากวาฬโบราณ ตาบลอาแพง อาเภอบา้ นแพว้
จังหวดั สมุทรสาคร 61
โดย วรศิ นวมนม่ิ , ภูเบศร์ สาขา และ นิรันดร์ ชัยมณี
แนวทางการแก้ปัญหาหินร่วงด้วยแบบจาลองโปรแกรมทางวิศวกรรมความลาดเอยี งมวลหนิ 65
โดย ศวิ โรฒม์ ศิริลักษณ์
แนวทางการจัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรูน้ อกห้องเรียน กรณศี กึ ษาพิพธิ ภณั ฑ์วิทยาศาสตร์แหง่ ชาติ 66
โดย สชุ าดา คาหา, อรทยั สุราฤทธิ์, สริ พี ัชร โกยโภไคยสวรรค์ และ ปพิชญา เตียวกุล
Content
VIII การประชุมวชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สิงหาคม 2564
VIII
แนวทางการบริหารจัดการพืน้ ที่ปนเปื้อนสารหนูตามธรรมชาติ อาเภอบ้านไร่ จงั หวัดอุทัยธานี และ
การพฒั นาระบบธรณวี ทิ ยาอจั ฉรยิ ะ (Smart Geology) เพอ่ื คณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ขี องประชาชนอยา่ งยง่ั ยนื 67
โดย อัปสร สอาดสุด
บรรพประสาทวิทยาของไดโนเสาร์ซอโรพอด จากหมวดหนิ เสาขัว ในประเทศไทย 70
โดย สริ ิภัทร กายแกว้ , สรุ เวช สธุ ีธร, วราวธุ สธุ ธี ร และ รัฐ สอนสุภาพ
ปรากฏการณห์ นิ ถล่มในพน้ื ที่ภาคใต้ : ธรณวี ิทยา สาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางการเฝ้าระวงั 71
โดย ปรชั ญา บารงุ สงฆ,์ รฐั จติ ตร์ ตั นะ, ประสบสขุ ศรตี งั้ วงศ,์ สถาพร มติ รมาก, ชตุ าภา โชตริ ตั น,์
วภิ าวี เขยี มสนั เทยี ะ, ภรณท์ พิ ย์ กอ่ สนิ วฒั นา, ภานชุ นารถ มติ รศรสี าย, สรุ เชษฐ์ แสงสวา่ ง
และ ประภาพรรณ จนั ทมาศ
ผ่าพภิ พไททัน 73
โดย สุรเวช สุธธี ร และ วราวธุ สุธธี ร
ระบบฐานข้อมลู ซากดึกดาบรรพป์ ระเทศไทยออนไลน์เพ่ือการพฒั นาทยี่ ั่งยนื 74
โดย ณฐั กติ ติ์ แสงสวุ รรณ
ลกั ษณะการกระจายตัวของธาตลุ ิเทยี มและธาตหุ ายากในหมวดหนิ มหาสารคาม บรเิ วณแหลง่ ศักยภาพ
แรโ่ พแทชนาเชอื ก จงั หวดั มหาสารคาม 76
โดย นชุ ติ ศิริทองคา และ วภิ าวี วบิ ลู ย์อัฐพล
ลกั ษณะปรากฏของหนิ ตะกอน ซากดึกดาบรรพ์ใบไม้ และสภาพแวดล้อมบรรพกาล บริเวณดอยโตน
ตาบลแมก่ าษา อาเภอแมส่ อด จงั หวัดตาก 77
โดย อติวฒุ ิ บญุ หลา, ยุพา ทาโสด, รัตนาภรณ์ ฟองเงิน และ พิทักษ์สิทธิ์ ดิษบรรจง
สภาพแวดล้อมการทับถมตะกอนบริเวณแหล่งขดุ ค้นซากดกึ ดาบรรพ์วาฬ ตาบลอาแพง อาเภอบา้ นแพว้
จังหวัดสมุทรสาคร: การแปลความจากกลุ่มออสตราคอด 78
โดย อานิสงส์ จติ นารนิ ทร์, ลลติ า วรี าชยั และ อภสิ ิฐ จนั ทร์อ่า
สมมตุ ฐิ านวิกฤตการณป์ ลายยุคไทรแอสซิกในประเทศไทย 79
โดย พทิ กั ษส์ ทิ ธ์ิ ดิษบรรจง และ พรเพ็ญ จนั ทสทิ ธ์ิ
สัตว์สะเทินนา้ สะเทนิ บกในมหายคุ มีโซโซอิกและความสาคัญทางบรรพชวี ภมู ศิ าสตร์ 80
โดย ธนศิ นนท์ศรรี าช, ศิตะ มานติ กลุ และ คมศร เลาหป์ ระเสริฐ
สายววิ ฒั นาการเชิงภูมศิ าสตร์ และสภาพแวดล้อมบรรพกาลของซากดึกดาบรรพ์หอยขมนา้ จืด
เหมืองแมเ่ มาะ จงั หวดั ลาปาง 81
โดย ยพุ า ทาโสด, ณฐั วดี นนั ตรตั น,์ เบญ็ จวรรณ รตั นเสถยี ร, มนฤดี ชยั โพธ,์ิ จริ ฏั ฐ์ แสนทน และ
ตวงทอง บญุ มาชยั
อตุ สาหกรรม S-Curve และการใช้แรเ่ ปน็ วัตถดุ บิ 83
โดย อานวย สง่ อไุ รลา้
A Review on the Sedimentology and Litostratigraphy of Setul Group Succession in
Langkawi and Perlis Area 84
By Mohamad Ezanie Abu Samah and Che Aziz Ali
Content
ธรณีวิถีใหม่ นวตั กรรมไทย เพอ่ื การพฒั นาทยี่ ่งั ยืน IX
Agathoxylon of Dinosaur Era in Thailand 85
โดย ภณฑิ ดา ศรีคาภา, สุรเวช สธุ ธี ร และ นารรี ตั น์ บญุ ไชย
AP Model and DynaSlide Model สนบั สนนุ ระบบเฝา้ ระวงั พนื้ ทอี่ อ่ นไหวตอ่ การเกดิ ดนิ ถลม่ ลว่ งหนา้
ของ กรมทรัพยากรธรณี 86
โดย เอกชัย แกว้ มาตย,์ พชิ ญาภัค บุญทอง, สทุ ธิศักด์ิ ศรลัมพ์ และ วรวชั ร์ ตอววิ ฒั น์
Co-seismic landslide at Ban Dan Pana, Nan, northern Thailand, as a record of paleoseismic
event generated by the Dan Pana segment, Pua Fault 87
By Weerachat Wiwegwin, Namphon Khamphilang, Sasiwimol Nawawitphisit,
Jutamas Junpangngern and Rawee Phumsonklin
Dye Tracer Technique in Groundwater Flow Study: Thum Luang-Khun Nam Nangnon
Karst Aquifer 88
By Vanachawan Hunyek, Occapasorn Occarach and Preawpayom Jamprasert
Geodiversity of the oil bearing island: labuan national geopark project 89
By Norbert Simon, Che Aziz Ali, Jenneth Liliana Cyril, Fatimah Tzuharah Kamaludeen,
Mison Ajum and Dana Badang
Georigination: ธรณกี าเนิด ในความสัมพนั ธข์ องถ้าและคาสตก์ บั ชีวิตมนุษย์ 90
โดย ชัยพร ศิริพรไพบลู ย์
Granite Geology of Western Thailand and The Related Mineralization 91
By Prinya Putthapiban
Kaeng Raboet Formation: A Re-Investigation of the Continental Red beds at Sai Yok,
Western Thailand 93
By Panus Hong, Prinya Putthapiban, Kantanat Trakunweerayut, Kittithas Jitsawat,
Chanwith Pakchin and Katsuo Sashida
Lithostratigraphic correlation of the Kaki Bukit Formation and Thung Song Group along
the Malaysia-Thailand border 96
By Mat Niza bin Abdul Rahman and Suvapak Imsamut
Livestocks Activities and Nitrate Contamination in the groundwater system of limestone
aquifers in Saraburi – Lopburi Karst area, Central Thailand 98
โดย นิธพิ นธ์ นอ้ ยเผ่า
Managing a New Petroleum Bidding Round in Thailand: Challenges VS Energy Supply
Requirement 100
By Kumphon Kumnerdsiri, Chanida Kaewkor, Charongporn Praipiban and
Sirichon Ponsri
Metallogeny of Cu-Au skarn deposits in SE Asia and their exploration potentials 101
By Khin Zaw
Content
X การประชมุ วิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564
X
Nan suture in Northern Thailand as seen from geophysical and remote sensing investigations 102
By Punya Charusiri, Rawiwan Rittisit and Thanop Thitimakorn
Petrochemical characteristics of mafic rocks from the Mune area, Vientiane, Lao PDR:
Implication to tectonic setting 104
By Dao Sayyavongsa, Weerapan Srichan, Phisit Limtrakun and Punya Charusiri
Phylogenetic position of an ornithomimosaur Kinnareemimus khonkaenensis from
the Early Cretaceous of Thailand 105
By Adun Samathi
PS-InSAR Cross-Heading Analysis for Measuring Land Subsidence 106
By Sawitree Luachapichatikul, Timo Balz, Sukonmeth Jitmahantakul and Pattama Phodee
Public Perception of Landslide Risk: A Case Study from West Bay, England 107
By Mallika Nillorm
Relationship between XRD data and size fractions of soil – implication for mineral hosts
for gold at the Gnaweeda Greenstone Belt, Western Australia 108
By Siriphorn Soongpankhao
Remote Sensing Geology เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแหล่งน้าในภูมิประเทศหินปูน: กรณีศึกษา
โครงการพัฒนาแหล่งน้าสระบ่อดินขาว พื้นที่เขาวง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ 109
โดย ศกั ดา ขนุ ดี, แพรวพรรณ คิดอา่ น, อมรรตั น์ โขลนกระโทก, วราลักษณ์ มาตยภ์ ูธร
และ เนตรพิมล วเิ ศษวงษา
Review of tentaculite beds, and tentaculitid diversity in the Shan-Thai Terrane 111
By Anucha Promduang, Anisong Chitnarin and Jeerasak Charoenmit
Stratigraphy, fossil assemblages and depositional environments of the mid-Palaeozoic of the
Indochina terranes 112
By Mongkol Udchachon, Hathaithip Thassanapak, Clive Burrett, Steve Kershaw
and Peter Konigshof
The boundary between the Inthanon Zone (Palaeotropics) and the Gondwana derived
Sibumasu Terrane, northwest Thailand - evidence from Permo-Triassic limestones and cherts 114
By Mongkol Udchachon, Hathaithip Thassanapak, Clive Burrett and Qinglai Feng
The Characteristic of Alkaline Granitic Suites in Tha Takiap and Mae Yan, Thailand 115
By Thanaz Watcharamai, Abhisit Salam, Tawatchai Chualaowanichand A-lin Suksawat
The Comparison of Suspected Sauropod’s Track at Bukit Panau, Kelantan and Sauropod’s Track
from Ban Nom Tum, Thailand. 116
By Atilia Bashardin, Tida Liard and Mat Niza Abdul Rahman
Content
ธรณวี ถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพื่อการพฒั นาทย่ี ัง่ ยืน XI
The Permian - Triassic Carbonate Rock Sequence at Sai Yok District, Kanchanaburi Province,
Western Thailand: A Case Study from the Area between Ban Phu Plu – Ban Khao Sam Chan 117
By Kantanat Trakunweerayut, Remizova Svetlana, Katsuo Sashida, Paiphan Paejaroen,
Panus Hong and Prinya Putthapiban
The possibility of using a geological map to search for construction material: A case study
on the Nam Maholan Massive limestone 119
By Kritika Kate Trakoolngam and Papassara Takhom
Two contrasting corundum occurrences in the eastern part of Lützow-Holm Bay, Antarctica 120
By Yada Wongpairin, Prayath Nantasin, Sotaro Baba, Tomokazu Hokada, Atsushi Kamei,
Ippei Kitano, Yoichi Motoyoshi,Nugroho Imam Setiawan and Davaa-ochir Dashbaatar
Poster Presentations
การเปลยี่ นแปลงชายฝงั่ ทะเลอา่ วไทย พน้ื ทอ่ี าเภอปราณบรุ ี และบางสว่ นของอาเภอสามรอ้ ยยอด อาเภอหวั หนิ
จังหวดั ประจวบครี ีขนั ธ์ 122
โดย วสิ ทุ ธพิ งศ์ ครี รี ตั นเสถยี ร, ศกั ดา ขนุ ด,ี เจรญิ แกว้ ประถม, วราภรณ์ จติ สวุ รรณ, นภิ าพร หงษาบาล,
อมรรตั น์ โขลนกระโทก, อาภาพร มหาวนั , เฉลมิ ชาติ เทวา, ชนิ กฤต จนั ทรค์ ง และ ณฐั กติ ต์ิ แสงสวุ รรณ
การเสรมิ สรา้ งโครงขา่ ยชมุ ชนเขม้ แขง็ ในการลดผลกระทบธรณพี บิ ตั ภิ ยั ดนิ ถลม่ ในพนื้ ทต่ี น้ แบบ จงั หวดั อตุ รดติ ถ์ 123
โดย ทพิ วรรณ สุทธสิ ุข เกศมณี นลิ ดา และจุฑาทิพย์ หงษ์มัง
การกระจายตวั ของธาตสุ ารหนใู นสงิ่ แวดลอ้ ม ตาบลหนองจอก อาเภอบ้านไร่ จังหวดั อุทัยธานี 124
โดย พีรพร นิคมชยั ประเสริฐ รงุ่ ระวี กิง่ สวัสดิ์ และจิตศิ ักดิ์ เปรมมณี
การจัดทาบญั ชแี หลง่ ซากดึกดาบรรพข์ องประเทศไทยเพ่ือใชใ้ นการบริหารจัดการตามกฎหมาย 125
โดย ปฏิพล ดลรงุ้ , ธัญญธร โทนรัตน์ และ นภาพร ตบ๊ิ ผัด
การจาแนกวิทยาหินและจดั ทาแผนท่วี ทิ ยาหนิ ในพนื้ ทจี่ ังหวดั อุตรดติ ถ์ 126
โดย ธีระชัย หน่อคาบุตร, นา้ ฝน คาพลิ ัง, ทัศนพร เรือนสอน และ นราเมศวร์ ธรี ะรงั สกิ ลุ
การประเมนิ และจดั ลาดับถ้าวิกฤตจังหวดั ขอนแกน่ และนครราชสมี า เพ่อื การพัฒนาเปน็ แหลง่ ท่องเทย่ี ว
เชิงอนรุ ักษ์ประเภทถ้า 128
โดย ญาดารักษ์ วิลุนกจิ และ ปวณี า ใจหมัน่
การประเมนิ ความเรว็ อนภุ าคสงู สดุ ทลี่ ดลงตามระยะทางเพอ่ื ออกแบบการระเบดิ หนิ ในพน้ื ทก่ี ารกอ่ สรา้ งอาคาร
ระบายนา้ ลน้ อ่างเก็บนา้ ลาน้าชอี ันเนือ่ งมาจากพระราชดาริ อาเภอบ้านเขว้า จังหวดั ชัยภูมิ 130
โดย ชฎาทพิ ย์ สุปัญญา, วมิ ล สขุ พลา, ณิศรากร บารงุ เกียรติ , เก็จบงกช บารุงเกยี รต,ิ
จริ ฏั ศวิญ สีดอนซา้ ย และ ณฐั วุฒิ ฉมารัตน์
การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีสาหรับการเก็บข้อมูลเพ่ือการอนุรักษแ์ ละการบรหิ ารจดั การแหลง่ ซากดกึ ดาบรรพ:์
กรณศี กึ ษาแหลง่ ซากดกึ ดาบรรพโ์ ครงกระดูกวาฬ อาเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร 131
โดย ภเู บศร์ สาขา
การประยกุ ตอ์ งคค์ วามรทู้ างธรณวี ทิ ยาเพอ่ื สรา้ งความเขา้ ใจกบั ประชาชนเกย่ี วกบั วตั ถแุ ปลกและปรากฏการณ์
เหนือธรรมชาติ : กรณีศกึ ษาหนิ นิ้วมือ 132
โดย ปรชั ญา บารงุ สงฆ,์ ภรณท์ พิ ย์ กอ่ สนิ วฒั นา, ภานชุ นารถ มติ รศรสี าย และ ประภาพรรณ จนั ทมาศ
Content
XII การประชมุ วิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564
XII 133
การประยุกตไ์ อโซโทปฮาฟเนยี มจากหนิ แกรนติ อยด์กบั การกระจายตวั ของแหลง่ แรโ่ ลหะในประเทศไทย 136
137
โดย อภวิ ุฒิ วีรวินันทนกุล, Ryohei Takahashi, Andrea Agangi, Marlina Elburg, 138
Henriette Ueckermann และ ปัญญา จารุศริ ิ 139
การประสานความร่วมมอื ระหว่างประเทศของกรมทรพั ยากรธรณี 140
141
โดย จันทรแ์ รม พุทธเสม, พัชรา สงั ขเ์ งิน, จรภิ าพร, ชยั เลศิ วณชิ กุล และ สิริรตั น์ พลู เกษม 142
143
การผลักดนั แหลง่ ซากไมต้ ากไปส่กู ารประกาศระดับโลก 144
145
โดย ฐิติกัญ จุลรัตนมณี, นภาพร ต๊ิบผัด และ ฐาปนีย์ เพ็งถา
146
การพัฒนาระบบฐานข้อมลู ภูมสิ ารสนเทศของกรมทรัพยากรธรณี
โดย ปยิ าอร อศั วพชั ระ, นชุ จรี เจรญิ บญุ วานนท,์ ฤทยั ชนก สายน้าทพิ ย,์ สาวติ รี ลอื ชาอภชิ าตกิ ลุ
พิมลวรรณ ทมิ แก้ว, ปรัตถกร มามวลทรพั ย์ และ อานาจ สาอางค์
การวเิ คราะห์การไหลซึมผ่านฐานรากโครงการอ่างเกบ็ น้าเขาวงศ์พระจนั ทร์ อาเภอเทพสถติ
จังหวดั ชัยภมู ิ Analysis of seepage in foundation, Khao Wong Phrachan Reservoir Project,
Thep Sathit District, Chaiyaphum province
โดย ฐิติณัฏฐ์ สุทธิวงษ์, วิมล สุขพลา, ณิศรากร บารุงเกียรติ, เก็จบงกช บารุงเกียรติ,
จิรฏั ศวิญ สีดอนซ้าย และ ณฐั วุฒิ ฉมารัตน์
การวิเคราะห์ธาตุทมี่ ปี ริมาณนอ้ ยในตัวอยา่ งดินและตะกอนธารน้าด้วยเทคนคิ Inductively couple
plasma - mass spectrometry (ICP-MS)
โดย พวงทอง พวงแก้ว, สายสวาท สลี อ และ อปั สร สอาดสุด
การวิเคราะห์องค์ประกอบของแร่โพแทชและดิน อาเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม โดยวิธี
เอกซเรย์ดิฟแฟรกชัน
โดย สรรคช์ ยั เหลือจันทร์ และ สวุ ิมล เจนวงศไ์ พศาล
การสารวจ และประเมนิ แหลง่ ซากดึกดาบรรพ์ จงั หวัดอทุ ัยธานี
โดย วีรชยั แพงแก้ว
การสารวจเสถยี รภาพเขาตาปู อทุ ยานแหง่ ชาติอ่าวพงั งา จังหวัดพังงา
โดย ศกั ดา ขุนดี และ สาราญ ประพัฒน์
การสารวจจดั ทาแผนผงั ถ้า 2 มติ ิ เพอื่ การทอ่ งเทยี่ วเชงิ ธรณี กรณศี กึ ษา : ถ้าพหุ วาย จงั หวดั อทุ ยั ธานี
โดย ณรงค์ฤทธิ์ บญุ ชัยวงค,์ ภคั พงษ์ ศรีบัวทอง, นลินี ธะนนั ต์ และ นภาภร มณเี กี๋ยง
การสารวจธรณฟี ิสกิ สเ์ พื่อจัดทาข้อมูลธรณีวิทยาใต้ผิวดนิ โครงการพัฒนาแหลง่ น้าพ้ืนท่ีสระบ่อดินขาว
อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
โดย ถนัด สร้อยซา, วันวิษา น้อมสูงเนิน, ภควัต ศรีวังพล, ภัณฑรักษ์ ชาญณรงค์,
ธญั รัตน์ วนิ ยั พานชิ , กลุ ธดิ า เศวตกลุ , พัทธพล บึงมุม และ พรชนิกา วีระจติ ต์
การสารวจธรณฟี สิ กิ สโ์ ครงการ “โคก หนอง นา สสู่ ากล”ศนู ยศ์ กึ ษาวจิ ยั และพิพธิ ภณั ฑ์ไดโนเสารภ์ เู วยี ง
อาเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น
โดย ภควัต ศรีวังพล, วันวิษา น้อมสูงเนิน, ภัณฑรักษ์ ชาญณรงค,์ ธัญรัตน์ วินัยพานิช,
กลุ ธิดา เศวตกลุ , พทั ธพล บึงมุม และ พรชนิกา วรี จิตต์
Content
ธรณวี ถิ ใี หม่ นวัตกรรมไทย เพอื่ การพฒั นาทย่ี ั่งยนื XIII
การสารวจธรณีฟิสิกส์พืน้ ที่หลุมยบุ โรงเรียนวดั ราชช้างขวญั อ.เมอื ง จ.พจิ ิตร 147
โดย ภัณฑรักษ์ ชาญณรงค์, วันวิษา น้อมสูงเนิน, ภควัต ศรีวังพล, ธัญรัตน์ วินัยพานิช,
กุลธิดา เศวตกุล, พทั ธพล บึงมมุ และ พรชนิกา วีระจติ ต์
การสารวจธรณวี ทิ ยาทางทะเล ปี 2563 “ปราณบุรี กบั ธรณที างทะเล” 148
โดย สาราญ ประพัฒน,์ อภิชยั กาญจนพนั ธ์ และ วเิ ชยี ร อินต๊ะเสน
การสารวจแหลง่ นา้ บาดาลพุ ตาบลหว้ ยกระเจา อาเภอหว้ ยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี 149
โดย จุฬารตั น์ ญาณะวงษา, วนัชวรรณ ฮันเย็ก และ อัคปศร อคั ราช
การศกึ ษาบรรพชวี นิ วทิ ยาของซากดกึ ดาบรรพเ์ รดโิ อลาเรยี ในหนิ โผลเ่ ชริ ต์ บรเิ วณบา้ นแมจ่ า ตาบลทงุ่ ขา้ วพวง
อาเภอเชยี งดาว จังหวัดเชียงใหม่ 150
โดย สาธิต กนั ทะตา และ ชณาวุฒิ สุขสบาย
การศึกษาชิ้นส่วนฟอสซิลกะโหลกศีรษะของไดโนเสาร์ซอโรพอดจากแหล่งซากดึกดาบรรพ์ภูน้อย
อ.คามว่ ง จ.กาฬสนิ ธุ์ 151
โดย อภริ ัตน์ นลิ พนาพรรณ, ศิตะ มานิตกลุ , ธนิศ นนท์ศรีราช, คมศร เลาห์ประเสริฐ และ
พรเพญ็ จนั ทสิทธ์ิ
การหาอายุและธรณเี คมขี องหินอคั นแี ทรกซอนบรเิ วณแขวงบอ่ แกว้ และ หลวงนา้ ทา ประเทศสาธารณรัฐ
ประชาธิปไตยประชาชนลาว 152
โดย เศรษฐ์ สันตธิ รางกรู , บรู พา แพจยุ้ และ Christoph Hauzenberger
การอนรุ กั ษแ์ หลง่ รอยตนี อารโ์ คซอร์ อาเภอนา้ หนาว จงั หวดั เพชรบรู ณ์ เพอ่ื การทอ่ งเทยี่ วเชงิ ธรณี 154
โดย วรรษมน มากคุณ, กมลลักษณ์ วงษ์โก และ สจุ นิ ตนา ชมภูศรี
ขอ้ เสนอแนวทางการบริหารจัดการแหล่งธรณวี ิทยาเขานยุ้ อาเภอละงู จงั หวัดสตูล 155
โดย ชัยสิทธิ์ เครอื สอน
ขอ้ มูลธรณเี คมีพื้นฐาน จงั หวัดพะเยา 156
โดย ทิวาพร พลสิทธิ์, รัศมี สมสตั ย์ และ จกั รพนั ธ์ คาบุญเรือง
โครงการพัฒนาสระบ่อดินขาว พน้ื ทเ่ี ขาวง อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์ 158
โดย นา้ ฝน คาพลิ งั , นลนิ ี ธะนนั ต,์ ภคั พงษ์ ศรบี วั ทอง, ทศั นพร เรอื นสอน, ธรี ะชยั หนอ่ คาบตุ ร
และ นราเมศวร์ ธรี ะรงั สกิ ลุ
ความก้าวหน้าการปรับปรงุ แผนท่ธี รณวี ิทยาประเทศไทย ปี 2564 159
โดย ชาญรตั น์ เมนิ ขนุ ทด, ฐานนั ตร์ สนู ยส์ าทร, กฤตภพ อคั รวนิ ทวงศ,์ สรุ ศกั ด์ิ บญุ ลอื , กติ ติ ขาววเิ ศษ,
สนั ต์ อศั วพชั ระ, ปญั ญา จารุศริ ิ และ นราเมศวร์ ธรี ะรังสิกุล
ความกา้ วหนา้ ของการสารวจธรณเี คมีเพื่อสุขภาพและส่งิ แวดลอ้ ม บริเวณรอยต่อของจงั หวดั พจิ ิตร-
เพชรบรู ณ์-พิษณโุ ลก 161
โดย อัปสร สอาดสุด และ จิติศักดิ์ เปรมมณี
ความรว่ มมอื ทางวชิ าการดา้ นธรณวี ทิ ยาและทรพั ยากรธรณี กมั พชู า-ลาว-เมยี นมา-ไทย-เวยี ดนาม 162
โดย สริ ิรตั น์ พลู เกษม
ความสาคญั ทางธรณีวทิ ยากบั การจัดตงั้ อทุ ยานธรณเี ชยี งราย 163
โดย ชัญชนา คาชา และ นภาภร มณีเกยี๋ ง
Content
XIV การประชมุ วชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สงิ หาคม 2564
XIV
ธรณีแปรสณั ฐานของขอบทรี่ าบสงู โคราชด้านตะวันตกและพื้นที่ขา้ งเคียงเมือ่ ดจู ากขอ้ มลู ธรณฟี สิ กิ ส์
ทางอากาศและข้อมลู ธรณวี ทิ ยาหินอัคนี 164
โดย ปัญญา จารุศิริ, ศุภวชิ ญ์ ยอแสงรตั น์, วนิดา ระงบั พิศม์ และ อานวย ส่งอุไรล้า
ธรณวี ทิ ยาตามแนวเสน้ ทางคมนาคมเช่ือมโยง AEC (จงั หวัดกาญจนบุรี-จังหวดั ตราด) 166
โดย วรกจิ ขาวจนั ทร,์ วารณุ ี มณรี ตั น์ และ วรนิ ทรา เทพจู
ผลการจาแนกชนิดหินต้นกาเนิดของหินไนสล์ านสางและหินคลองขลงุ จงั หวดั ตากและกาแพงเพชร
และหินไนส์บา้ นทับศลิ า จงั หวดั กาญจนบรุ ี 168
โดย สทิ ธินนท์ กลุ ทักษยศ, สันต์ อศั วพัชระ และ ชลนภิ า ฝากเซียงซา
พันธกจิ ร่วม (Joint Mission : JM) ดา้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาการกัดเซาะชายฝ่ัง กระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม 169
โดย สุวภาคย์ อมิ่ สมทุ ร และ วันเพ็ญ อว่ มใจบญุ
พ้นื ท่ีอ่อนไหวต่อการเกดิ ดินถล่มประเทศไทย 170
โดย ศศิวมิ ล นววิธไพสฐิ , นา้ ฝน คาพลิ งั , สรุ เชษฐ์ รวมธรรม และ บญุ นาค โมกศิริ
มาตรฐานการจัดทาแผนทีธ่ รณพี บิ ัติภยั แผน่ ดินถล่ม ในพ้นื ทต่ี น้ แบบ ณ ตาบลปากแจม่ อาเภอหว้ ยยอด
จงั หวดั ตรัง 171
โดย เอกชยั แก้วมาตย,์ นรรฐพร ชยั พูน และ สรุ ยี ์ เกณฑม์ า
มาตรฐานการใชป้ ระโยชน์ทรัพยากรแร่เฟลด์สปาร์ จงั หวัดตาก 172
โดย สมชาย ประทปี เทียนทอง
รอยเลื่อนแมฮ่ ่องสอนและประวัตกิ ารไหวสะเทือนในอดีต: การกลบั มาวเิ คราะห์ใหม่ 173
โดย จณสิ ตา จนั สม, สุคนธ์เมธ จิตรมหนั ตกุล, วีระชาติ วเิ วกวนิ และ ปัญญา จารศุ ิริ
ระบบการตรวจตดิ ตาม 24 ชวั่ โมง ดว้ ย สถานเี ครอ่ื งตรวจตดิ ตามการเคลอื่ นตวั ของมวลดนิ เพอ่ื สนบั สนนุ การ
ตดิ ตามสถานการณแ์ ละการเฝา้ ระวงั แจง้ เตอื นธรณพี บิ ตั ภิ ยั แผน่ ดนิ ถลม่ ของ กรมทรพั ยากรธรณี 177
โดย เอกชัย แก้วมาตย,์ สุรีย์ เกณฑ์มา, พชิ ญาภคั บญุ ทอง และ สุวฒั น์ ศรวี งษ์
ระบบฐานข้อมูลแร่อาเซียน (ASEAN Mineral Database System: AMDIS) 178
โดย สาวติ รี ลือชาอภชิ าติกุล และ นุชจรี เจรญิ บญุ วานนท์
ระบบบญั ชขี ้อมลู ของหน่วยงานกรมทรัพยากรธรณี 179
โดย นชุ จรี เจรญิ บุญวานนท์, สาวติ รี ลือชาอภิชาตกิ ุล และ ปรตั ถกร มามวลทรัพย์
ลกั ษณะเฉพาะทางศลิ าเคมีของหนิ ภูเขาไฟในพื้นท่ีลาสนธิ จงั หวดั ลพบรุ ี 180
โดย เสาวภาพ อทุ ัยรัตน์ และ อภิสิทธ์ิ ซาลา
สภาพการแปรสณั ฐานของหินตะกอนภเู ขาไฟและหนิ ตะกอนทเ่ี ก่ียวข้องในเขตจังหวัดอุทัยธานีและ
กาญจนบุร:ี หลกั ฐานจากการหาอายุ และธรณเี คมขี องหนิ 182
โดย สวุ ิจัย จตุพรฆ้องชัย, บรู พา แพจยุ้ และ ปัญญา จารศุ ิริ
แหล่งดนิ เบานา้ โจ้ ตาบลน้าโจ้ ตาบลแม่ทะ และตาบลกล้วยแพะ อาเภอแม่ทะ จงั หวดั ลาปาง 184
โดย ศรัณย์ แก้วเมอื งมลู , กนกพร พิมพศักดิ์, ภราดา เทียมพฒั น์ และ ศุภลักษณ์ มงุ่ ดี
Content
ธรณีวถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพอื่ การพัฒนาท่ยี ่งั ยืน XV
An observation note of Thamorat Conglomerate Mountain, Si Thep District,
Phetchabun Province 185
By Natcharee Vivitkul, Pitaksit Ditbanjong, Phornphen Chanthasit and
and Kamonlak Wongko
Cenozoic ray-finned fish faunas of Thailand:overview and new findings 186
By Uthumporn Deesri, Kamonlak Wongko and Bouziane Khalloufi
Classification of Newly Discovered Dinosaurs Fossils in Phuwiang National Park, Wiang Kao
District, Khon Kaen Province, Thailand 187
By Panward Inthisak, Suravech Suteethorn and Nusara Surakotra
DooHin application: First geologic map of Thailand on mobile devices 188
By Tadsuda Taksavasu , Khomchan Promneewat, Srett Santitharangkun,
Nuchit Siritongkham and Niti Mankhemthong
Field observation note of the Late Triassic Huai Konta Section, Lom Sak District,
Phetchabun Province 189
By Pattapon Pispeng, Pitaksit Ditbanjong, Phornphen Chanthasit and Kamonlak Wongko
Geochemical characteristics of granitoids in Kanchanaburi, Western Thailand 190
By Ekkachak Chandon and Patchawee Nualkhao
Geomorphological Sites: A Case Study of Selected Sandstone Landforms in Phu Wiang,
Khon Kaen Geopark 191
By Natcharee Vivitkul and Vimoltip Singtuen
Geophysical and Geological Engineering Investigations for Conservation Strategies of
Mae Moh Gastropod Fossil Site, Lampang Province 192
By Kannipa Motanated, Pisanu Wongpornchai, Suwimon Udphuay, Mingkhwan Kruachanta,
Sathit Kanthata, Adul Yawichai, Chanawut Sooksabai and Chanin Maetmueang
Geophysical survey for groundwater potential investigation; Chong Sarika Karst Aquifer 193
By Sirilack Duangsong, Jirateep Yotmaw, Natchanok Ounping and Jurarat Yanawongsa
Granitic Rocks in Bang Tha Cham area, Central Granite Belt, Thailand 194
By Sarawut Buranroma, Bussayawan Sukbunjong, Sasikarn Nuchdang,
Watta Wongkham and Ladda Tangwattananukul
Groundwater potential assessment using groundwater flow model: A case study of
Tham Luang-Khun Nam Nang Non Forest Park, Chiang Rai province, Thailand 195
By Jirapat Phetheet, Kittiya Lerdlum, Ocpasorn Occarach, Vanachawan Hunyek
and Jirateep Yotmaw
Late Triassic Foraminifera from Ban Pha Wiang, Thambon San, Wiang Sa District,
Nan Province : preliminary result 196
By Chanika Notana, Pitaksit Ditbanjong and Yupa Thasod
Content
XVI การประชมุ วิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สิงหาคม 2564
XVI
Occurrence of Monazite in Weathering Granite and Tailing, Jarin mine at Kanchanaburi
Province, Western Thailand 197
By Bussayawan Sukbunjong, Ladda Tangwattananukul, Sasikarn Nuchdang,
Sarawut Buranroma and Watta Wongkham
Occurrence of native gold in Bang Saphan gold deposit at Prachuap Khiri Khan Province,
Thailand 198
By Watta Wongkham and Ladda Tangwattananukul
Petrochemistry of Alkaline Igneous Rocks in Sisaket Mantle Plume, Southern Khorat
Plateau of Thailand 199
By Sirinthorn Phajan and Vimoltip Singtuen
REE Characteristics from Cenozoic Basalts in Thailand: an Implication for Possible
In-Situ REE Resource 200
By Tawatchai Chualaowanich, Darunee Saisuthichai and Panjai Saraphanchotwittaya
Roadside Geology of Northern Thailand 201
By Weerapan Srichan and Phisit Limtrakun
Sedimentology and petrography of ms4 formation at Phukamyao Area, Phayao Province 202
By Kannicha Chuajedton, Pitaksit Ditbanjong and Rattanaporn Fongngern
Spatial and Temporal Landscape Adjustment along Mae Tha Fault, Chiang Mai and
Lamphun Provinces 203
By Pichawut Manopkawee, Niti Mankhemthong and Chanin Pattarakamolsen
Tectonomagmatic constraints placed by zircon U-Pb age and geochemistry of Permian-
Triassic granitoids in Uttaradit Province, Thailand 205
By Phattharawadee Wacharapornpinthu, Phisit Limtrakun, Weerapan Srichan,
Kwan-Nang Pang, Chistoph Hauzenberger, Daniela Gallhofer and Punya Charusiri
Variability of residual soil properties in landslide prone areas: A case study of five
Southern provinces in Thailand 206
By Sasiwimol Nawawitphisit, Saranya Mongkhonvoravibul, Valapa Srisomsak,
and Prapapan Chantamat
บทคัดย่อ
การจดั ทาคลงั ตวั อยา่ งธรณวี ทิ ยา กรมทรัพยากรธรณี 207
โดย ทัศนา เจตนอ์ นันต์ และ กิตติ ขาววเิ ศษ
การดาเนินงานค้มุ ครองซากวาฬโบราณ ตาบลอาแพง อาเภอบา้ นแพว้ จังหวดั สมทุ รสาคร 208
โดย พรรณภิ า แซเ่ ทยี น
การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ซากดึกดาบรรพ์ ธรณีวิทยาและธรรมชาติวิทยา จังหวัดลาปาง
ภายใต้พระราชบัญญัตคิ ุ้มครองซากดึกดาบรรพ์ พ.ศ. 2551 209
โดย กมลลกั ษณ์ วงษโ์ ก วรรษมน มากคุณ และ สุจนิ ตนา ชมภูศรี
Content
ธรณีวถิ ีใหม่ นวัตกรรมไทย เพ่อื การพัฒนาทีย่ ั่งยนื XVII
210
ธรณีวทิ ยาบริเวณเขาวง อาเภอตาคลี จังหวดั นครสวรรค์ 211
โดย ธีระพล วงษป์ ระยูร, สันต์ อัศวพชั ระ และ ชลนภิ า ฝากเซยี งซา 213
215
แนวทางการบริหารจดั การซากดึกดาบรรพ์: กรณีศกึ ษาซากวาฬอาแพง 217
โดย เบ็ญจา เสกธรี ะ 218
แนวทางการเผยแพรค่ วามรู้ทางธรณีวทิ ยาผ่านระบบการศึกษา 220
โดย อนุกลู วงศ์ใหญ่
มุมมอง 360 องศากับถ้าหินทราย
โดย ชยั พร ศิริพรไพบลู ย์
รอยตะเข็บเชียงใหม่: หลกั ฐานจากธรณีวทิ ยาและศลิ าเคมีของหินอัคนีจงั หวดั เชยี งราย
โดย วรรณพร ปัญญาไว, Feng Qinglai และ ปัญญา จารุศิริ
ศลิ าเคมีและอายุหนิ แกรนติ รอยตะเขบ็ ธรณีน่านอตุ รดติ ถ์
โดย จงกลณี ขนั มณี, Qinglai Feng, Hu Jia Bo, Gan Zhengjin, ฐากรู มากคณุ ,
ภคั พงษ์ ศรบี ัวทอง, นลินี ธนันต,์ วรรณพร ปญั ญาไว และ ปัญญา จารศุ ริ ิ
Iron Khao Thab Kwai Deposit, Lop Buri Province, Thailand
By Thanaphol Chuenchoo and Ladda Tangwattananukul
Content
XVIII การประชุมวิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สิงหาคม 2564
XVIII
กาหนดการประชุมวิชาการธรณีไทย 2564 (GEOTHAI 2021) ผ่านระบบออนไลน์
“ธรณวี ถิ ีใหม่ นวัตกรรมไทย เพ่ือการพัฒนาท่ยี งั่ ยืน”
วนั พุธท่ี 4 สิงหาคม 2564
เวลา กาหนดการ
08.00-09.00 ลงทะเบียน
09.00-09.20 วดี ีทศั น์แนะนากรมทรัพยากรธรณี
พธิ เี ปิดการประชุมวิชาการธรณีไทย 2564
โดย นายวราวธุ ศลิ ปอาชา รฐั มนตรีว่าการกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม
09.20-10.15 การเสวนาวิชาการออนไลน์ กรณศี ึกษา การบันทกึ สถิติไม้กลายเปน็ หนิ ทยี่ าวที่สุดในโลก
โดย นายจตุพร บรุ ุษพฒั น์ ปลัดกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม
นายสมหมาย เตชวาล อธบิ ดีกรมทรพั ยากรธรณี
นายปิยะ สุขุมภาณเุ มศร์ รองกรรมการผ้จู ัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สผ. จากัด (มหาชน)
ดาเนินรายการโดย ดร.รพีรฐั ธัญวัฒนพ์ รกุล
10.15-10.30 Poster Session
• การพฒั นาระบบฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศของกรมทรัพยากรธรณี
• การหาอายุและธรณีเคมีของหนิ อคั นแี ทรกซอนบรเิ วณแขวงบ่อแกว้ และหลวงนา้ ทา สาธารณรฐั ประชาธิปไตย
ประชาชนลาว
• ความกา้ วหนา้ ของการสารวจธรณเี คมเี พ่ือสขุ ภาพและสิง่ แวดลอ้ มบริเวณรอยต่อของจังหวดั พิจิตร-เพชรบรู ณ์-
พิษณโุ ลก
10.30-11.00 การบรรยายพิเศษ (Keynote Paper) เรื่อง โคก หนอง นา กบั ธรณวี ทิ ยา
โดย นายมนตรี เหลอื งอิงคะสตุ รองอธบิ ดีกรมทรพั ยากรธรณี
11.00-11.30 การบรรยายพเิ ศษ (Keynote Paper) เร่ือง การยกระดับการปฏิบตั ิงานด้านธรณวี ทิ ยาในประเทศไทย :
วชิ าชพี ธรณีวิทยาควบคุม
โดย ดร.ธนู หาญพัฒนพานิชย์ ผเู้ ชยี่ วชาญสมาคมธรณวี ทิ ยาแห่งประเทศไทย
11.30-12.00 การบรรยายพิเศษ (Keynote Paper) เร่ือง การป้องกันนาทะเลหนุนสูงและลดผลกระทบของนาเค็มรุกตวั
ดว้ ยนวตั กรรมปา่ ชายเลนประดิษฐ์สลายกาลังคลืน่
โดย ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารพุ งษส์ กลุ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
12.00-13.00 Virtual Exhibition
Schedule
ธรณวี ถิ ใี หม่ นวัตกรรมไทย เพอ่ื การพัฒนาที่ย่งั ยืน XIX
เวลา กาหนดการ
Room A Room B
SESSION : การบริหารจดั การทรัพยากรธรณี SESSION : ธรณวี ทิ ยาและทรพั ยากรธรณี
Chairman : นายนิวัติ มณีขตั ยิ ์ Chairman : ดร.สรุ ีย์ ธีระรงั สกิ ุล
รองอธบิ ดีกรมทรัพยากรธรณี
ผู้เช่ยี วชาญเฉพาะดา้ นวิจยั และพฒั นาธรณวี ิทยา
13.00-13.20 หลักเกณฑก์ ารจาแนกทรัพยากรแร่ของประเทศไทย และการ Radiolarian study in Thailand; present and future
กาหนดเขตแหลง่ แรเ่ พ่อื การทาเหมอื ง Keynote speaker: Katsuo Sashida
Keynote speaker: จกั รพันธ์ สุทธิรตั น์, กฤตยา ปัทมาลยั และ
ธวัชชยั เชือ้ เหล่าวานชิ
13.20-13.35 แนวทางการบรหิ ารจดั การพนื้ ทป่ี นเปอ้ื นสารหนตู ามธรรมชาติ อาเภอ Lithostratigraphic correlation of the Kaki Bukit Formation
บา้ นไร่ จงั หวดั อทุ ยั ธานี และการพฒั นาระบบธรณวี ทิ ยาอจั ฉรยิ ะ (Smart and Thung Song Group along the Malaysia-Thailand
Geology) เพอื่ คณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ขี องประชาชนอยา่ งยง่ั ยนื border
โดย อัปสร สอาดสุด By Mat Niza bin Abdul Rahman and Suvapak Imsamut
13.35-13.50 The possibility of using a geological map to search for A Review on the Sedimentology and Litostratigraphy of
13.50-14.05 construction material: A case study on the Nam Maholan Setul Group Succession in Langkawi and Perlis Area
Massive limestone By Mohamad Ezanie Abu Samah and Che Aziz Ali
By Kritika Kate Trakoolngam and Papassara Takhom
The Permian - Triassic Carbonate Rock Sequence at Sai Yok
กวา่ จะมาเปน็ อุทยานแห่งชาติเขาสามรอ้ ยยอด กับเหตุการณ์น้า District, Kanchanaburi Province, Western Thailand: A Case Study
ทะเลถอยร่น: หลกั ฐานจากภมู ลิ กั ษณ์และการหาอายุ from the Area between Ban Phu Plu – Ban Khao Sam Chan
โดย พรี สทิ ธ์ิ สรุ เกียรตชิ ยั , มนตรี ชวู งษ,์ สุเมธ พนั ธุวงค์ราช, By Kantanat Trakunweerayut, Remizova Svetlana,
กิตติ ขาววิเศษ และ ปญั ญา จารศุ ริ ิ Katsuo Sashida, Paiphan Paejaroen, Panus Hong
and Prinya Putthapiban
14.05-14.20 การคน้ พบซากดึกดาบรรพแ์ ละการประเมินแหลง่ ซากดกึ ดาบรรพ์
เพือ่ บริหารจดั การตามกฎหมายในพืน้ ท่ีจงั หวดั สกลนคร Kaeng Raboet Formation: A Re-Investigation of the Continental
โดย พรเพญ็ จนั ทสทิ ธ์ิ, ณสนนท์ ขาคมเขตร,์ วนั สริ ิ บญุ หล้า, Red beds at Sai Yok, Western Thailand
By Panus Hong, Prinya Putthapiban, Kantanat Trakun-
ไปรยา จนั ติบ๊ และ เกษฎาภรณ์ เครือภกั ดี
weerayut, Kittithas Jitsawat, Chanwith Pakchin
and Katsuo Sashida
14.20-14.35 อตุ สาหกรรม S-Curve และการใช้แร่เปน็ วัตถุดิบ การสารวจธรณวี ทิ ยาควอเทอรน์ ารภี ายใตโ้ ครงการพฒั นาสระบอ่
โดย อานวย สง่ อไุ รล้า ดินขาว พื้นที่อาเภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์
โดย ภัคพงษ์ ศรีบวั ทอง, นา้ ฝน คาพิลงั , ทัศนพร เรอื นสอน,
14.35-14.50 การศึกษาแนวทางการพฒั นากฎหมายถ้าไทย
โดย พัลลภ กฤตยานวัช ธีระชยั หน่อคาบตุ ร และ นลินี ธะนนั ต์
Nan suture in Northern Thailand as seen from geophysi-
cal and remote sensing investigations
By Punya Charusiri, Rawiwan Rittisit and
Thanop Thitimakorn
Schedule
XX การประชุมวิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564 XX
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สิงหาคม 2564
เวลา
กิจกรรม
Room A Room B
SESSION : การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรณี SESSION : ธรณีวทิ ยาและทรัพยากรธรณี
Chairman : นายนวิ ัติ มณขี ตั ยิ ์ Chairman : ดร.สรุ ีย์ ธรี ะรงั สิกุล
รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
ผูเ้ ชีย่ วชาญเฉพาะดา้ นวจิ ยั และพฒั นาธรณีวทิ ยา
14.50-15.05 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ (IT) ในงานธรณวี ทิ ยาวศิ วกรรม The boundary between the Inthanon Zone (Palaeotropics) and
โดย ธนู หาญพัฒนพานิชย์ the Gondwana derived Sibumasu Terrane, northwest Thailand -
evidence from Permo-Triassic limestones and cherts
By Mongkol Udchachon, Hathaithip Thassanapak,
Clive Burrett and Qinglai Feng
15.05-15.20 Poster Session
• มาตรฐานการจดั ทาแผนทธ่ี รณพี บิ ตั ภิ ยั แผน่ ดนิ ถลม่ ในพนื้ ทต่ี น้ แบบ ณ ตาบลปากแจม่ อาเภอหว้ ยยอด จงั หวดั ตรงั
• AP Model and DynaSlide Model สนบั สนนุ ระบบเผา้ ระวงั พนื้ ทอี่ อ่ นไหวตอ่ การเกดิ ดนิ ถลม่ ลว่ งหนา้ ของกรมทรพั ยากรธรณี
• ระบบตรวจตดิ ตาม 24 ชว่ั โมง ดว้ ยสถานเี ครอ่ื งตรวจตดิ ตามการเคลอื่ นตวั ของมวลดนิ เพอ่ื สนบั สนนุ การตดิ ตามและการเฝา้ ระวงั แจง้ เตอื นธรณี
พบิ ตั ภิ ยั แผน่ ดนิ ถลม่ ของกรมทรพั ยากรธรณี
15.20-15.40 SESSION : ธรณีวิทยาสง่ิ แวดล้อมและธรณีพิบตั ภิ ยั SESSION : ธรณีวทิ ยาและทรพั ยากรธรณี
15.40-15.55 Chairman : นายนมิ ิตร ศรคลงั Chairman : นางสาวกฤตยา ปัทมาลยั
ผอู้ านวยการกองธรณวี ทิ ยาสงิ่ แวดลอ้ ม ผ้อู านวยการกองทรพั ยากรแร่
ธรณีวทิ ยากบั การแก้ปัญหาภยั แลง้ การกากับดแู ลการสารวจและผลติ ปิโตรเลยี มในประเทศไทย :
Keynote speaker: นราเมศวร์ ธรี ะรังสิกุล อดีต ปัจจุบนั อนาคต
Keynote speaker: นเรศ สตั ยารักษ์
Remote Sensing Geology เพือ่ สนับสนุนการพฒั นาแหลง่ นา้ ใน
ภมู ิประเทศหินปูน: กรณีศึกษาโครงการพฒั นาแหล่งนา้ สระบอ่ ดิน Managing a New Petroleum Bidding Round in Thailand:
ขาว พ้นื ท่เี ขาวง อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ Challenges VS Energy Supply Requirement
โดย ศักดา ขุนด,ี แพรวพรรณ คดิ อา่ น, อมรรตั น์ โขลนกระโทก, By Kumphon Kumnerdsiri, Chanida Kaewkor,
วราลักษณ์ มาตยภ์ ูธร และ เนตรพมิ ล วิเศษวงษา Charongporn Praipiban and Sirichon Ponsri
15.55-16.10 การศึกษาการกระจายตัวของร่องรอยดนิ ถลม่ ในพนื้ ทีจ่ ังหวดั เขตรอยเลอ่ื นกลางแอง่ อนั ดามนั : ผลจากการเกดิ รอ่ งแยกหลายครงั้
อตุ รดติ ถ์ โดยการแปลความหมายภาพถา่ ยดาวเทยี มโดยใช้ โดย ธนัญชัย มหทั ธนชยั , C.K. Morley,
โปรแกรม Google Earth
โดย ทัศนพร เรอื นสอน, น้าฝน คาพลิ ัง, นลนิ ี ธะนนั ต์, พิษณุพงศ์ กาญจนพยนต์ และ ปญั ญา จารศุ ริ ิ
ภัคพงษ์ ศรบี ัวทอง และ ธีระชยั หนอ่ คาบตุ ร Metallogeny of Cu-Au skarn deposits in SE Asia and
their exploration potentials
16.10-16.25 Public Perception of Landslide Risk: A Case Study from By Khin Zaw
West Bay, England
By Mallika Nillorm
Schedule
ธรณีวถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพือ่ การพฒั นาทย่ี ่ังยนื XXI
เวลา กจิ กรรม
16.25-16.40 Room A Room B
16.40-16.55
SESSION : ธรณีวทิ ยาสง่ิ แวดล้อมและธรณีพิบัตภิ ยั SESSION : ธรณวี ิทยาและทรพั ยากรธรณี
16.55-17.10 Chairman : นายนิมิตร ศรคลัง Chairman : นางสาวกฤตยา ปัทมาลัย
17.10-17.25
17.25-17.40 ผอู้ านวยการกองธรณีวทิ ยาสิง่ แวดลอ้ ม ผอู้ านวยการกองทรพั ยากรแร่
17.40-17.55
17.55-18.10 AP_Model and DynaSlide Model สนบั สนนุ ระบบเฝา้ ระวงั พนื้ ท่ี Granite Geology of Western Thailand and The Related
ออ่ นไหวตอ่ การเกดิ ดนิ ถลม่ ลว่ งหนา้ ของ กรมทรพั ยากรธรณี Mineralization
โดย เอกชยั แกว้ มาตย,์ พชิ ญาภคั บญุ ทอง, รศ.ดร.สทุ ธศิ กั ดิ์ ศรลมั พ์ By Prinya Putthapiban
และ วรวชั ร์ ตอววิ ฒั น์
Co-seismic landslide at Ban Dan Pana, Nan, northern Two contrasting corundum occurrences in the eastern
Thailand, as a record of paleoseismic event generated part of Lützow-Holm Bay, Antarctica
by the Dan Pana segment, Pua Fault By Yada Wongpairin, Prayath Nantasin, Sotaro Baba,
By Weerachat Wiwegwin, Namphon Khamphilang,
Tomokazu Hokada, Atsushi Kamei, Ippei Kitano,
Sasiwimol Nawawitphisit, Jutamas Junpangngern Yoichi Motoyoshi, Nugroho Imam Setiawan and
and Rawee Phumsonklin Davaa-ochir Dashbaatar
การศึกษารอยเลอ่ื นท่าแขกในพนื้ ท่ภี าคตะวันออกเฉยี งเหนือ Petrochemical characteristics of mafic rocks from the Mune
ประเทศไทย area, Vientiane, Lao PDR: Implication to tectonic setting
โดย รุ่งโรจน์ อาจเวทย,์ เจษฎารัตน์ รตั นวรรณ,ี สรุ ิยฉาย ฉายสรยิ า, By Dao Sayyavongsa, Weerapan Srichan,
วินิจ ยงั มี, สาคร แสงชมพู และ พจนป์ รีชา พรชยั Phisit Limtrakun and Punya Charusiri
ธรณีแปรสณั ฐานยคุ ใหม่ของรอยเล่ือนพะเยาในพ้ืนท่ีอาเภอวงั เหนือ ลกั ษณะการกระจายตวั ของธาตลุ เิ ทยี มและธาตหุ ายากในหมวดหนิ
จังหวัดลาปาง มหาสารคามบรเิ วณแหลง่ ศกั ยภาพแรโ่ พแทชนาเชอื ก จงั หวดั มหาสารคาม
โดย ระวี พุ่มซ่อนกล่นิ , วีระชาติ วิเวกวนิ , จุฑามาศ จันแปงเงนิ โดย นชุ ิต ศริ ทิ องคา และ วิภาวี วิบลู ยอ์ ัฐพล
และ ปิยาภรณ์ หนิ แสง
การศกึ ษาการกาหนดอายุอฐิ โบราณดว้ ยเทคนคิ Optically Stimu- The Characteristic of Alkaline Granitic Suites in Tha
lated Luminescence (OSL) เทยี บกบั Thermoluminescence Takiap and Mae Yan, Thailand
(TL) ด้วยเครื่อง TL/OSL reader By Thanaz Watcharamai, Abhisit Salam, Tawatchai
โดย เฉลมิ พงษ์ โพธ์ลิ ้ี, วีรชาติ วเิ วกวิน, นชิ ธมิ า เอ้อื พูนผล
Chualaowanich and A-lin Suksawat
และ ศศิพันธ์ุ คะวรี ัตน์
การประยุกตใ์ ช้ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ เพอ่ื ศกึ ษาระดบั ความ Relationship between XRD data and size fractions of soil
สูญเสยี เชงิ กายภาพ บรเิ วณพ้นื ทท่ี ไี่ ดร้ ับผลกระทบจากสนึ ามิ พ้นื ท่ี – implication for mineral hosts for gold at the
ภาคใต้ฝงั่ อนั ดามนั Gnaweeda Greenstone Belt, Western Australia
โดย แพรวพรรณ คิดอา่ น และ ภาวณิ ี ไม้หอม By Siriphorn Soongpankhao
เครือข่ายการเตอื นภยั สนึ ามิจากนานาประเทศและการสรา้ งความ -
ตระหนักรแู้ บบบรู ณาการเพอ่ื ลดผลกระทบจากธรณพี บิ ตั ิภัยสึนามิ
โดย วศิ รตุ า วรี ะสยั
Schedule
XXII การประชมุ วิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ท่ี 4-6 สงิ หาคม 2564
วันพฤหัสบดที ี่ 5 สิงหาคม 2564 XXII
เวลา กจิ กรรม
08.00-09.00 ลงทะเบียน
09.00-09.30 การบรรยายพิเศษ (Keynote Paper) เรือ่ ง CCOP towards premier intergovernmental organization cross borders
09.30-10.00
10.00-10.30 and beyond history
10.30-10.45 By Dr. Young Joo Lee Director of CCOP Technical Secretariat
การบรรยายพเิ ศษ (Keynote Paper) เรอ่ื ง Indochina - New Palaeozoic Data, Terranes and New Tectonic Hypotheses
By Dr. Clive Burrett Expert Specialist
การบรรยายพเิ ศษ (Keynote Paper) เรอื่ ง Permian-Triassic structure and palaeogeography of the Khao Khwang Fold
and Thrust belt, Central Thailand: Implications for the development of the Indochina Terrane
By Dr. Chris Morley Expert Specialist
Poster Session
• การศกึ ษาชิน้ ส่วนฟอสซลิ กะโหลกศรี ษะของไดโนเสาร์ซอโรพอด จากแหลง่ ซากดกึ ดาบรรพภ์ นู ้อย อ.คามว่ ง จ.กาฬสินธ์ุ
• Classification of Newly Discovered Dinosaurs Fossils in Phuwiang National Park, Wiang Kao District, Khon Kaen
Province, Thailand
• ความสาคัญทางธรณีวทิ ยากบั การจดั ตงั้ อทุ ยานธรณเี ชียงราย
Room A Room B
SESSION : ธรณีวิทยาสงิ่ แวดลอ้ มและธรณีพบิ ตั ภิ ยั SESSION : ทรัพยากรนาบาดาล
Chairman : นายสวุ ภาคย์ อิม่ สมทุ ร Chairman : นายนราเมศวร์ ธีระรังสกิ ุล
ผูอ้ านวยการกองเทคโนโลยีธรณี ผู้เช่ยี วชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบรหิ ารจัดการ
ทรัพยากรธรณี
10.45-11.05 กรุงเทพฯ ทรดุ Hydrogeochemical Features of Karst in the Western
11.05-11.20 Keynote speaker: รศ.ดร. สทุ ธศิ กั ดิ์ ศรลมั พ์ Thailand
Keynote speaker: ZHANG Cheng, Mahippong
ปรากฏการณ์หนิ ถล่มในพื้นท่ภี าคใต้ : ธรณีวิทยา สาเหตุ ผลกระทบ
และแนวทางการเฝ้าระวัง Worakul, WANG Jin-liang,
โดย ชุตาภา โชตริ ตั น์ PU Jun-bing , LYU Yong , ZHANG
Qiang, HUANG Qi-bo
Dye Tracer Technique in Groundwater Flow Study:
Thum Luang-Khun Nam Nangnon Karst Aquifer
By Vanachawan Hunyek, Occapasorn Occarach
and Preawpayom Jamprasert
11.20-11.35 PS-InSAR Cross-Heading Analysis for Measuring Land Subsidence การศึกษาอทุ กธรณีวทิ ยา วนอทุ ยานถ้าหลวง-ขนุ นา้ นางนอน
By Sawitree Luachapichatikul, Timo Balz, อาเภอแมส่ าย จังหวัดเชยี งราย
โดย อคั ปศร อคั ราช, วนชั วรรณ ฮนั เยก็ และ จรี ทปี ต์ ยศมา้ ว
Sukonmeth, Jitmahantakul and Pattama Phodee
Schedule
ธรณีวิถีใหม่ นวัตกรรมไทย เพอื่ การพฒั นาทย่ี ั่งยืน XXIII
เวลา กจิ กรรม
11.35-11.50 Room A Room B
11.50-12.05
SESSION : ธรณีวิทยาส่งิ แวดล้อมและธรณีพบิ ตั ภิ ัย SESSION : ทรัพยากรนาบาดาล
Chairman : นายสวุ ภาคย์ อ่ิมสมุทร Chairman : นายนราเมศวร์ ธีระรงั สิกุล
ผอู้ านวยการกองเทคโนโลยีธรณี ผเู้ ชีย่ วชาญเฉพาะด้านทีป่ รึกษาทางการบริหารจัดการ
การประเมินรปู แบบการวบิ ตั บิ ริเวณฐานเขาตาปู ทรพั ยากรธรณี
โดย ศักดา ขนุ ด,ี เสาวภาพ อุทยั รัตน, ธนวฒั น์ รกั เฮงกลุ
Livestocks Activities and Nitrate Contamination in the
และ นภัตสร ตัณฑ์สรุ ะ groundwater system of limestone aquifers in Saraburi
– Lopburi Karst area, Central Thailand
แนวทางการแก้ปญั หาหนิ รว่ งด้วยแบบจาลองโปรแกรมทางวศิ วกรรม โดย นิธิพนธ์ น้อยเผา่
ความลาดเอยี งมวลหนิ
โดย ศวิ โรฒม์ ศริ ลิ ักษณ์ การจดั ทาแผนทีเ่ สย่ี งอุทกภัยจังหวัดสงิ หบ์ รุ ี
โดย สรุ ศกั ดิ์ บญุ ลอื , ประภาพรรณ จนั ทมาศ, พฒั นร์ ชั พงศ์ กมลยะ
บตุ ร, ดารกิ า ฆารสะอาด และ วสิ ทุ ธิ์ ศิรพิ รนพคุณ
12.05-13.00 Virtual Exhibition
SESSION : การอนุรักษแ์ ละจดั การความรู้ดา้ นธรณีวิทยา SESSION : ซากดกึ ดาบรรพ์
Chairman : นายอนุกูล วงศใ์ หญ่ Chairman: ดร. อปั สร สอาดสดุ
ผูต้ รวจราชการกรมทรัพยากรธรณี ผอู้ านวยการกองวเิ คราะหแ์ ละตรวจสอบทรพั ยากรธรณี
13.00-13.20 กลไกการขับเคล่ือนการอนุรกั ษแ์ หลง่ ธรณีวทิ ยาของประเทศ Microfossils และธรณีวิทยา
Keynote speaker: สรุ ชัย ศริ ิพงษเ์ สถยี ร Keynote speaker: ฐาสณิ ยี ์ เจรญิ ฐิตริ ตั น์
13.20-13.35 Geodiversity of the oil bearing island: Labuan national Review of tentaculite beds, and tentaculitid diversity
13.35-13.50 geopark project in the Shan-Thai Terrane
By Norbert Simon, Che Aziz Ali, Jenneth Liliana Cyril, By Anucha Promduang, Anisong Chitnarin
Fatimah Tzuharah Kamaludeen, Mison Ajum and and Jeerasak Charoenmit
Dana Badang
การสารวจ ตรวจสอบ และศกึ ษาซากดึกดาบรรพน์ อตลิ อยด์
การทาแผนท่ีซากดึกดาบรรพ์ และกาหนดเส้นทางท่องเทย่ี วแหลง่ และไทรโลไบต์ บา้ นท่ากระดาน อาเภอศรสี วสั ดิ์ จังหวัด
มรดกธรณภี นู ้าหยด จังหวัดเพชรบรู ณ์ กาญจนบุรี
โดย จันทนี ดวงคาสวสั ด,์ิ ชัญชนา คาชา และ ทวชิ ากร ทะสี โดย พงษพ์ ัฒน์ ประสงค์
13.50-14.05 การศกึ ษาแนวทางการจัดการองค์ความรเู้ พือ่ พฒั นาการทอ่ งเที่ยว สายวิวฒั นาการเชิงภมู ศิ าสตร์ และสภาพแวดล้อมบรรพกาลของ
ชุมชน กรณีศึกษาแหลง่ เรยี นรรู้ อยตีนไดโนเสาร์ ตาบลพนอม อาเภอ ซากดกึ ดาบรรพ์หอยขมนา้ จดื เหมอื งแม่เมาะ จังหวัดลาปาง
ทา่ อเุ ทน จงั หวัดนครพนม โดย ยุพา ทาโสด, ณฐั วดี นนั ตรัตน, เบญ็ จวรรณ รตั นเสถียร,
โดย อนชุ ิต สงิ หส์ ุวรรณ และ ศรสี ดุ า ดว้ งโตด้
มนฤดี ชยั โพธ,ิ์ จริ ัฏฐ์ แสนทน และ ตวงทอง บุญมาชัย
14.05-14.20 การพฒั นารปู แบบกจิ กรรมการเรยี นรูไ้ ดโนเสารเ์ พื่อรองรับการเปน็ การสารวจขดุ คน้ ซากดึกดาบรรพว์ าฬ จากตาบลอาแพง อาเภอ
อทุ ยานธรณี : กรณศี กึ ษาแหลง่ ภเู วียง หอ้ งเรียนท้องถ่นิ บทเรียนจาก บ้านแพว้ จงั หวดั สมทุ รสาคร
มรดกทางธรณีวิทยา โดย อดลุ ยว์ ทิ ย์ กาวรี ะ และ พรรณภิ า แซเ่ ทยี น
โดย ศักดิ์ชยั จวนงาม, ธีระพล อตุ ะมะชะ และ กมลลักษณ์ วงษโ์ ก
Schedule
XXIV การประชุมวชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564 XXIV
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564
เวลา
กิจกรรม
Room A Room B
14.20-14.35 SESSION : การอนุรกั ษ์และจัดการความร้ดู า้ นธรณีวิทยา SESSION : ซากดึกดาบรรพ์
Chairman : นายอนุกลู วงศใ์ หญ่ Chairman: ดร. อปั สร สอาดสดุ
ผ้ตู รวจราชการกรมทรพั ยากรธรณี ผอู้ านวยการกองวเิ คราะหแ์ ละตรวจสอบทรพั ยากรธรณี
แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้นอกหอ้ งเรยี น กรณศี ึกษา ธรณวี ทิ ยาควอเทอร์นารี และตะกอนวิทยาพน้ื ทพี่ บซากวาฬ
พพิ ิธภณั ฑ์วิทยาศาสตร์แหง่ ชาติ Guideline of outdoor learning โบราณ ตาบลอาแพง อาเภอบา้ นแพ้ว จงั หวดั สมทุ รสาคร
activities in National Science Museum โดย วรศิ นวมนม่ิ , ภูเบศร์ สาขา และ นริ ันดร์ ชยั มณี
โดย สชุ าดา คาหา, อรทยั สรุ าฤทธ,ิ์ สริ ีพชั ร โกยโภไคยสวรรค์
และ ปพิชญา เตยี วกลุ
14.35-14.50 การสรา้ งและออกแบบส่อื ผสมออนไลนส์ าหรับการเรยี นการสอนวิชา สภาพแวดลอ้ มการทับถมตะกอนบรเิ วณแหล่งขุดคน้ ซากดึกดา
ธรณวี ิทยาภาคสนามและการทอ่ งเที่ยวเชิงธรณีวิทยา บรรพว์ าฬ ตาบลอาแพง อาเภอบา้ นแพว้ จงั หวดั สมุทรสาคร:
โดย สคุ นธ์เมธ จติ รมหันตกลุ , ฐาสณิ ยี ์ เจรญิ ฐติ ริ ตั น์ การแปลความจากกลมุ่ ออสตราคอด
โดย อานสิ งส์ จติ นารนิ ทร,์ ลลติ า วรี าชัย และ อภสิ ิฐ จันทรอ์ า่
และ ปยิ พงษ์ เชนร้าย
14.50-15.05 การเชอ่ื มโยงธรณวี ทิ ยาและทรัพยากรธรณีภาคใตส้ กู่ ารนาเสนอใน สมมตุ ฐิ านวิกฤตการณป์ ลายยคุ ไทรแอสซกิ ของประเทศไทย
15.05-15.20 พิพธิ ภณั ฑซ์ ากดกึ ดาบรรพ์ ธรณีวทิ ยาและธรรมชาติวทิ ยา สุราษฎร์ โดย พิทักษ์สิทธ์ิ ดิษบรรจง และ พรเพ็ญ จันทสทิ ธ์ิ
ธานี เพ่อื สรา้ งจิตสานึกการอนรุ กั ษ์
โดย เด่นโชค มัน่ ใจ และ สถาพร มติ รมาก
Poster Session
• แหล่งดนิ เบาน้าโจ้ ตาบลนา้ โจ้ ตาบลแม่ทะ และตาบลกล้วยแพะ อาเภอแม่ทะ จงั หวดั ลาปาง
• Occurrence of Monazite in Weathering Granite and Tailing, Jarin mine at Kanchanaburi Province, Western Thailand
• Occurrence of native gold in Bang Saphan gold deposit at Prachuap Khiri Khan Province, Thailand
SESSION : การอนุรกั ษแ์ ละจดั การความรดู้ า้ นธรณีวิทยา SESSION : ซากดึกดาบรรพ์
Chairman : นายสุรชยั ศิรพิ งษ์เสถียร Chairman : นายอานนท์ นนทโส
ผูอ้ านวยการกองธรณวี ทิ ยา ผอู้ านวยการกองคุม้ ครองซากดกึ ดาบรรพ์
15.20-15.40 สถานการณ์ถาประเทศไทย พ.ศ. 2564 Stratigraphy, fossil assemblages and depositional
Keynote speaker: อนกุ ูล วงศใ์ หญ่ environments of the mid-Palaeozoic of the Indochi-
na terranes
Keynote speaker: Mongkol Udchachon, Hathaithip
Thassanapak, Clive Burrett, Steve
Kershaw and Peter Konigshof
15.40-15.55 Georigination: ธรณีกาเนดิ ในความสัมพันธข์ องถา้ และคาสตก์ บั The Comparison of Suspected Sauropod’s Track at
ชีวิตมนษุ ย์ Bukit Panau, Kelantan and Sauropod’s Track from Ban
โดย ชัยพร ศิริพรไพบูลย์ Nom Tum, Thailand.
By Atilia Bashardin, Tida Liard
and Mat Niza Abdul Rahman
Schedule
ธรณวี ิถีใหม่ นวัตกรรมไทย เพอื่ การพฒั นาที่ย่ังยืน XXV
เวลา กจิ กรรม
Room A Room B
15.55-16.10 ธรณีประวตั ิของแหลง่ ภูนา้ หยดจากหลักฐานทางธรณวี ิทยา Agathoxylon of Dinosaur Era in Thailand
16.10-16.25 โดย ฐาสิณยี ์ เจรญิ ฐติ ริ ัตน,์ สคุ นธ์เมธ จติ รมหนั ตกุล, โดย ภณิฑดา ศรคี าภา, สุรเวช สธุ ธี ร และ นารรี ัตน์ บญุ ไชย
พิมลภทั ร์ อาจคา, วารณุ ี มณรี ตั น์ และ ศริ วัชร์ อุดมศกั ด์ิ ลกั ษณะปรากฏของหินตะกอน ซากดึกดาบรรพใ์ บไม้ และ
สภาพแวดล้อมบรรพกาล บรเิ วณดอยโตน ตาบลแม่กาษา
การสารวจและจัดทาแผนผงั ถ้าในเขตอทุ ยานแห่งชาติ ภาคใต้ อาเภอแม่สอด จังหวดั ตาก
โดย จริ ศักด์ิ เจรญิ มติ ร, อมุ าพร เจรญิ คุณธรรม, โดย อตวิ ฒุ ิ บญุ หลา, ผศ.ดร.ยพุ า ทาโสด, ดร.รตั นาภรณ์ ฟองเงนิ
ประสบสขุ ศรีต้ังวงศ์, วิภาวี เขียมสันเทียะ และ และ ดร.พทิ ักษส์ ิทธ์ิ ดษิ บรรจง
พรธวัช เฉลิมวงศ์ ความหลากหลายของซากดึกดาบรรพแ์ มลงในประเทศไทย
โดย ประภาสริ ิ วาระเพียง และ อทุ ุมพร ดศี รี
16.25-16.40 การพัฒนาแหลง่ ท่องเทีย่ วทางธรณีวทิ ยาน้าตกวังสายทอง อุทยาน
ธรณโี ลกสตลู จงั หวดั สตลู
โดย สทิ ธนิ นท์ กลุ ทกั ษยศ, สนั ต์ อศั วพชั ระ และ กฤตนนท์ แนวบญุ เนยี ร
16.40-16.55 การพฒั นาแหลง่ ท่องเทยี่ วทางธรณีวทิ ยา ถ้าเจ็ดคต จงั หวดั สตลู สัตว์สะเทนิ นา้ สะเทนิ บกในมหายคุ มโี ซโซอิกและความสาคัญทาง
16.55-17.10 โดย ชาญรตั น์ เมนิ ขุนทด บรรพชีวภมู ศิ าสตร์
โดย ธนิศ นนท์ศรีราช, ศติ ะ มานติ กุล, และ
ระบบฐานขอ้ มลู ซากดึกดาบรรพ์ประเทศไทยออนไลนเ์ พอ่ื การพัฒนา
ทย่ี ่ังยืน คมศร เลาหป์ ระเสรฐิ
โดย ณฐั กิตต์ิ แสงสุวรรณ
ความหลากหลายของซากดกึ ดาบรรพส์ ตั วม์ กี ระดกู สนั หลงั ยคุ ครเี ทเชยี ส
ตอนตน้ จากแหลง่ โคกผาสว้ มจงั หวดั อบุ ลราชธานี ประเทศไทย
โดย ศติ ะ มานิตกลุ , อทุ มุ พร ดศี รี และ พรเพญ็ จันทสทิ ธ์ิ
17.10-17.25 การจดั เกบ็ ข้อมลู ซากดกึ ดาบรรพ์เพอ่ื วเิ คราะหก์ ารเปล่ียนแปลงใน ผา่ พิภพไททนั
17.25-17.40 อนาคตสาหรบั การพัฒนาแหล่งเรยี นรูโ้ ดยเทคนคิ โฟโตแกรมเมตรี โดย สรุ เวช สุธธี ร และ วราวุธ สธุ ธี ร
กรณศี กึ ษาไม้กลายเปน็ หนิ ขนาดยาวที่สดุ ในโลก ณ อทุ ยานแห่งชาติ
ดอยสอยมาลยั จงั หวดั ตาก บรรพประสาทวิทยาของไดโนเสาร์ซอโรพอด จากหมวดหนิ เสา
โดย คงกระพัน ไชยทองศรี และ สรุ เวช สุธธี ร ขวั ในประเทศไทย
โดย สริ ภิ ัทร กายแกว้ , สุรเวช สธุ ีธร, วราวุธ สุธธี ร
ธรณวี ิทยากับทุเรียนหลง-หลินลบั แล อาเภอลบั แล จงั หวดั อุตรดติ ถ์
โดย ฉัตรพร ฉัตรทอง และ ฐาสณิ ยี ์ เจริญฐิตริ ตั น์ และ รัฐ สอนสุภาพ
17.40-17.55 ธรณีวิทยาและลาดบั ช้ันหนิ บรเิ วณโครงการอนุรักษ์พนั ธุกรรมพืชอนั กระดกู กระเบนเหนบ็ ชน้ิ ใหมข่ องไดโนเสารเ์ ทอโรพอดยคุ ครเี ตเชยี ส
เนือ่ งมาจากพระราชดารสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราช ตอนต้นจากจงั หวัดขอนแกน่ และอนุกรมวิธานของไดโนเสารเ์ ทอ
กุมารี พ้นื ทโ่ี คกภตู ากา อาเภอเวยี งเกา่ จงั หวัดขอนแก่น โรพอดในประเทศไทย
โดย ประดษิ ฐ์ นูเล และ สภุ าพร ศรีราชา โดย กฤษณุพงศ์ พนั ทานนท,์ อดุลย์ สมาธิ และ สรุ เวช สธุ ีธร
17.55-18.10 - Phylogenetic position of an ornithomimosaur Kinnareemimus
khonkaenensis from the Early Cretaceous of Thailand
By Adun Samathi
Virtual Exhibition
Schedule
XXVI การประชุมวิชาการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สิงหาคม 2564
วนั ศุกรท์ ่ี 6 สิงหาคม 2564 XXVI
เวลา กจิ กรรม
08.00-09.00 ลงทะเบียน
09.00-10.30
การประชุมเสวนาวิชาการ เรอ่ื ง Geological Map compilation
• ข้อคิดเหน็ เกี่ยวกับแผนทธ่ี รณวี ิทยาของประเทศไทยในปัจจบุ ัน
• ขอ้ คดิ เหน็ แนวทางพฒั นาแผนทธี่ รณวี ทิ ยาของประเทศไทย เพอื่ สอดรบั กบั คาวา่ “ธรณวี ถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย
เพ่ือการพัฒนาทย่ี งั่ ยนื ”
• รบั ฟังข้อคดิ เห็นเพิม่ เติมในทปี่ ระชมุ
• สรุปอภิปรายระดมความคดิ เห็น
โดย ดร. พล เชาวด์ ารงค์
นายเลศิ สิน รักษาสกลุ วงศ์
นายนเรศ สัตยารักษ์
ศ.ดร. ปญั ญา จารุศริ ิ
ดร. อานสิ งส์ จติ นารนิ ทร์
ดาเนนิ รายการโดย นายสวุ ภาคย์ อ่มิ สมทุ ร ผู้อานวยการกองเทคโนโลยีธรณี
10.30-10.45 Poster Session
10.45-12.00 • ผลการจาแนกชนดิ หนิ ต้นกาเนิดของหินไนสล์ านสางและหนิ คลองขลุง จงั หวดั ตากและกาแพงเพชร
และหนิ ไนส์บา้ นทับศลิ า จงั หวดั กาญจนบุรี
• Granitic Rocks in Bang Tha Cham area, Central Granite Belt, Thailand
• สภาพการแปรสณั ฐานของหนิ ตะกอนภเู ขาไฟและหนิ ตะกอนทเ่ี ก่ียวข้องในเขตจังหวดั อุทัยธานี
และกาญจนบุร:ี หลักฐานจากการหาอายุและธรณเี คมขี องหิน
การประชมุ อภิปรายระดมความคดิ เหน็ เร่อื ง ธรณีไทยเพ่ือประชาชน
โดย ดร.สมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
คุณสมั ฤทธิ์ ทพิ ยม์ ณี เครอื ข่ายหรือผรู้ บั บรกิ าร อทุ ยานธรณี
รศ.ดร.มงคล อดุ ชาชน เครือขา่ ยหรอื ผรู้ บั บรกิ าร ซากดกึ ดาบรรพ์
คณุ พงษท์ ิพย์ วจิ ติ รชัยนนั ท์ เครอื ข่ายหรอื ผรู้ ับบริการ พิพธิ ภัณฑ์ธรณี
คณุ ดาเนนิ เชียงพนั ธ์ุ เครอื ข่ายหรอื ผรู้ บั บรกิ าร ธรณีพบิ ตั ภิ ยั
ดาเนนิ รายการโดย ดร.มลั ลิกา นลิ ล้อม นักธรณีวิทยาชานาญการ กรมทรพั ยากรธรณี
12.00-13.00 Virtual Exhibition
Schedule
ธรณีวิถใี หม่ นวตั กรรมไทย เพือ่ การพัฒนาที่ยง่ั ยนื XXVII
เวลา กจิ กรรม
13.00-14.00 การประชมุ อภปิ รายระดมความคดิ เห็น เรือ่ ง ธรณีไทยเพ่อื ประชาชน (ต่อ)
14.00-15.00 โดย ดร.สมหมาย เตชวาล อธิบดกี รมทรพั ยากรธรณี
ผศ.ดร.ยพุ า ทาโสด
ผศ.ดร.รงุ่ โรจน์ อาจเวทย์
คุณอนวุ ัฒน์ กาญจนะโภคนิ
คุณรฐั พงศ์ วรวรรณสงคราม
ดาเนินรายการโดย คณุ วรินทรา เทพจู นกั ธรณีวิทยาชานาญการ กรมทรัพยากรธรณี
การเสวนาวิชาการและอภปิ รายระดมความคดิ เห็น เรอื่ ง วิชาชพี ธรณีวิทยา
• สาขาธรณวี ทิ ยาปิโตรเลยี ม อธิบดกี รมทรัพยากรธรณี
• สาขาธรณวี ทิ ยาพบิ ตั ภิ ยั ประธานคณะทางานมาตรฐานวชิ าชพี สาขาธรณวี ทิ ยาปโิ ตรเลยี ม
• สาขาธรณวี ทิ ยาวศิ วกรรม ประธานคณะทางานมาตรฐานวชิ าชีพ สาขาธรณีวทิ ยาพิบตั ภิ ัย
• สาขาธรณวี ทิ ยาเหมอื งแร่ ประธานคณะทางานมาตรฐานวิชาชพี สาขาธรณวี ิทยาวิศวกรรม
โดย ดร.สมหมาย เตชวาล ประธานคณะทางานมาตรฐานวิชาชพี สาขาธรณีวิทยาเหมอื งแร่
คณุ วรานนท์ หล้าพระบาง
ดร.อดิชาติ สุรนิ ทรค์ า
ดร.ธนู หาญพัฒนพานชิ ย์
ศ.ดร.จักรพนั ธ์ สุทธิรัตน์
ดาเนนิ รายการโดย คณุ องั ศมุ าลิน พนั โท ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชพี ธรณวี ิทยา
15.00-15.15 Poster Session
• Depositional Environment of the Late Triassic Huai Konta Basin, Lom Sak district,
Phetchabun province
• Spatial and Temporal Landscape Adjustment along Mae Tha Fault, Chiang Mai and
Lamphun Provinces
• Tectonomagmatic constraints placed by zircon U-Pb age and geochemistry of Permian
-Triassic granitoids in Uttaradit Province, Thailand
15.15-16.30 การเสวนาวชิ าการและอภปิ รายระดมความคดิ เห็น เร่ือง วิชาชีพธรณีวทิ ยา (ตอ่ )
• สาขาอทุ กธรณวี ิทยา
• กฎหมายและขอ้ บงั คับ
• ตอบขอ้ ซกั ถาม
โดย ดร.สมหมาย เตชวาล อธิบดกี รมทรัพยากรธรณี
รศ.ดร.เกรยี งศกั ด์ิ ศรสี ขุ ประธานคณะทางานมาตรฐานวชิ าชีพ สาขาอทุ กธรณวี ิทยา
ผศ.ดร.นันทกิ า สนุ ทรไชยกุล เลขาธิการสภาวชิ าชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดาเนินรายการโดย คณุ อังศุมาลนิ พันโท ผู้ชว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชีพธรณีวิทยา
16.30-16.45 พิธปี ิดการประชมุ วิชาการธรณีไทย 2564
โดย ดร.สมหมาย เตชวาล อธิบดกี รมทรัพยากรธรณี
Schedule
XXVIII การประชมุ วชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สิงหาคม 2564
XXVIII
บทคัดย่อ
ABSTRACT
ธรณวี ถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพอื่ การพัฒนาท่ยี ่ังยนื 1
กรุงเทพฯ ทรดุ
สทุ ธิศักด์ิ ศรลัมพ์
ศนู ยว์ ิจยั และพัฒนาวศิ วกรรมปฐพแี ละฐานราก
มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์
E-mail: [email protected]
บทคดั ย่อ
การทรุดตัวของพ้ืนดินกรุงเทพฯนั้นเป็นทั้งเรื่องท่ีเป็นวิทยาศาสตร์และเร่ืองความรู้สึก แต่ท้ังสอง
ประการแยกไม่ออกจากความจริงว่าเราเป็นผู้ท่ีอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากพื้นที่กรุงเทพฯน้ี และ เรา
“เลือก” ที่จะใช้ประโยชน์พื้นท่ีในลักษณะท่ี “แห้ง” ตลอดเวลา ไม่ใช่มีน้าท่วมเป็นบางเวลา ความคิดน้ีต่าง
จากความคิดของชาวบางกอกที่อยู่อาศัยในพื้นท่ีกรุงเทพฯ เมื่อ 200 หรือ 100 ร้อยปีที่แล้ว ท่ีการอยู่อาศัย
การทากิน และการคมนาคมน้ัน มีน้าเป็นปัจจัยท่ีสาคัญ และเป็นเร่ืองปกติท่ีจะปรับวิถีชีวิตไปตามช่วงฤดูน้า
หลาก แต่ภายหลังปี พ.ศ. 2500 เมื่อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเอ้ืออานวยให้สามารถสร้าง “บ้านปูน” ท่ีแห้ง
ตลอดเวลา และ การสัญจรเปลี่ยนมาเป็นทางถนนทดแทนการใช้ลาน้าคูคลอง เราเองก็เลือกที่จะใช้พ้ืนที่
กรุงเทพฯ นี้แบบแห้งตลอดเวลา หากเข้าใจและยอมรับในความจริงดังกล่าวแล้ว เราก็จะสามารถสรุปได้ว่า
ปัจจุบันเราได้อยูอ่ าศยั ในพืน้ ทเ่ี ดิมที่เปน็ พ้นื ท่ลี ุ่มตา่ นา้ ท่วมถงึ มนี ้าเออ่ ลน้ แม่น้าลาคลองตามฤดูกาล มีตะกอน
จากน้าท่วมตกตะกอนทาให้เกิดสันดอนริมตล่ิง มีน้าท่วมทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา ที่ตะกอนและปุ๋ยธรรมชาติได้
เข้าไปเติมพื้นท่ีทานา และน้าก็จะลดและแห้งไปในช่วงฤดูแล้ง เพื่อให้เราได้อยู่อาศัยในพื้นท่ีท่ีแห้ง เราจึงต้อง
ทาการถมดินเพ่อื ทาถนน เพราะรถยนต์ไม่สามารถว่ิงในน้าได้และเราต้องถมดินก่อนท่ีจะก่อสร้างบ้าน การถม
ดินในทุกพ้ืนท่ี ทาให้ประสิทธิภาพการระบายน้าลดลง เจ้าของท่ีดินที่มีพื้นที่ต่าน้าก็จะท่วม ก็จะปรับปรุงโดย
การถมท่ีดินเพิ่มให้สูงขึ้น โดยท่ีไม่ทราบว่าน้าก็จะหาท่ีต่าที่อื่นไปเรื่อย ๆ และก็ไม่ทราบด้วยว่าย่ิงถมสูงมาก
การทรุดตัวก็จะยิ่งมาก เนื่องจากช้ันดินกรุงเทพฯ น้ัน ชั้นบนสุดเป็นดินเหนียวอ่อนที่ตกตะกอนในทะเล มี
ความหนาประมาณ 8-12 เมตร โดยเฉลี่ย กาเนดิ ในยุค Holocene เมอื่ ได้รับแรงกดจากดินถม ดินเหนียวอ่อน
น้ีจะทรุดตัวและ/หรือไหลตัว ทาให้เกิดการทรุดตัว ซ่ึงการทรุดตัวแบบแรกน้ีเป็นการทรุดตัวท่ีเกิดข้ึนช้าๆแต่
ทรุดตัวได้มาก (consolidation settlement) นอกจากนั้นในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2540 เราใช้น้าฝนน้อยลงและ
ใช้น้าบาดาลเป็นปริมาณมากทาให้เกิดการทรุดตัวของแผ่นดินเน่ืองจากการสูบน้าบาดาลเป็นบริเวณกว้าง
ปัจจัยท้ังสองท่ีทาให้เกิดการทรุดตัวของชั้นดินกรุงเทพฯอย่างต่อเน่ืองและส่งผลทาให้เกิดการถมพื้นที่เพิ่มไป
เร่ือยๆและทาให้เกิดความถี่และความรุนแรงของน้าท่วมมากขึ้นตามลาดับ อย่างไรก็ตาม ปัญหาการทรุดตัว
เนอ่ื งจากการสบู น้าบาดาลไดท้ เุ ลาลงและจนไมม่ กี ารทรดุ ตวั จากสาเหตนุ ใ้ี นหลายพน้ื ทใ่ี นกรงุ เทพฯ คงเหลอื แตก่ าร
ทรุดตัวเนื่องจากการถมดินบนช้ันดินเหนียวอ่อน ซ่ึงก็ไม่สามารถนามาใช้ในการกาหนดประเด็นเร่ืองของ
“กรงุ เทพฯทรดุ ” ได้ เพราะการทรุดตัวเน่ืองจากการถมดินดังกล่าว ค่าการทรุดตัวจะไม่มากไปกว่าความหนา
ของดินถม หรือจะพูดได้ว่าถมอย่างไรระดับแผ่นดินท่ีผิวการถมก็จะไม่ต่าไปกว่าระดับแผ่นดินเดิม ในทาง
กลับกัน การวัดการทรุดตัวของแผ่นดินท่ีผิวดินในพ้ืนท่ีกรุงเทพฯ หากวัดการทรุดตัวเหนือดินถมนี้ ก็จะได้ค่า
การทรุดตัวอันเน่ืองมาจากแรงกระทาของดินถม แทนที่จะได้การทรุดตัวตามธรรมชาติของพ้ืนดิน ดังน้ัน
ประเด็นสาคัญที่วงการวิชาการควรสรุปกันคือคาว่า “กรุงเทพฯทรุด” ที่เราใช้กันนั้น หมายถึงอะไร ซ่ึงผู้เขียน
ขอเสนอเป็น 2 นยิ าม คอื
2 การประชมุ วชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สิงหาคม 2564
2
1. การทรุดตัวท่ีจะส่งผลให้ระดับพ้ืนดินสุทธิต่ากว่าระดับดินเดิม หรือ มีค่าระดับท่ีผิวเทียบกับ
ระดบั นา้ ทะเลปานกลางที่ต่าลง กรณนี จี้ ะทาใหป้ ัญหาน้าท่วมทั้งจากนา้ เหนอื น้าฝน และน้าทะเล รนุ แรง
2. การทรุดตัวของระดบั พ้ืนดินท่ีระดับพ้ืนท่ีดินสุทธิยังสูงกว่าระดับดินธรรมชาติเดิม ท้ังนี้ถ้าเราจะวัด
อัตราการทรุดตัวของพ้ืนดินกรุงเทพฯ โดยวัดที่ระดับผิวดินที่รวมการถมดินเข้าไปด้วย (นิยามท่ี 2) เพื่อ
ประเมินอัตราการทรุดตัวที่เป็นตัวแทนของพื้นที่ใหญ่ของกรุงเทพฯว่าจะจมน้าหรือไม่ (นิยามที่ 1) เพ่ือเอา
ตัวเลขดังกล่าวไปคาดการณ์ว่าอีกกี่ปีเราจะทรุดไปมากน้อยแค่ไหนและจะมีโอกาสหรือไม่ที่น้าทะเลจะเข้ามา
ท่วมกรุงเทพฯ วิธนี ้จี ะเป็นวิธที ่ผี ิด เพราะการวัดการทรุดตวั ทผี่ ิวดนิ ถมจะรวมอิทธิพลของน้าหนักดินที่กดให้ดิน
เหนียวอ่อนทรุดตัว แต่การทรุดตัวนั้นก็จะไม่มากไปกว่าความหนาของตัวดินถมเอง และการทรุดตัวก็เกิด
เฉพาะพื้นที่ ไม่ได้เกิดเป็นบริเวณกว้าง เพราะการถมดินแต่ละท่ีก็มีความหนาไม่เท่ากัน แต่ถ้าการทรุดตัวน้ัน
เกิดจากการสูบน้าบาดาล การแปรธรณีสัณฐาน หรือการขยายความเครียดด้านข้างของช้ันตะกอนดินเหนียว
ริมอ่าวไทย รวมกับการเพ่ิมของระดับน้าทะเล ท้ังสี่กรณีดังกล่าวจะสามารถเป็นปัจจัยที่ทาให้กรุงเทพฯ ทรุด
และนา้ ทะเลเข้ามาท่วมได้
คาสาคญั : การทรุดตวั ของแผน่ ดนิ , การทรุดตวั เน่ืองจากการสบู น้าบาดาล, น้าทว่ ม, กรุงเทพฯ ทรุด
Keynote Session
ธรณีวิถีใหม่ นวตั กรรมไทย เพือ่ การพฒั นาทย่ี ่ังยืน 3
กลไกขับเคล่ือนการอนรุ กั ษ์แหล่งธรณีวิทยาของประเทศ
สุรชยั ศิริพงษเ์ สถียร
ผ้อู านวยการกองธรณีวิทยา กรมทรพั ยากรธรณี
E-mail: [email protected]
บทคัดย่อ
ประเทศไทยมแี หลง่ ธรณีวิทยาทส่ี าคัญและมีความโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และคุณค่าทางวิชาการอยู่เป็น
จานวนมากและกระจายตัวไปทุกภูมิภาคของประเทศไทย จึงทาให้เกิดการอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาโดยกรม
ทรัพยากรธรณีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ นับถึงปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีได้ขับเคล่ือนให้เกิดกลไกสาคัญเพื่อ
การอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาทั้งในรูปแบบของกฎหมายและคณะกรรมการแห่งชาติ กฎหมายเกี่ยวกับ
ธรณีวิทยาโดยตรงฉบับแรกของประเทศ คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดาบรรพ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งมี
วัตถุประสงค์ในการคุ้มครองแหล่งและซากดึกดาบรรพ์ท่ีสาคัญไว้ และนับเป็นกลไกท่ีสาคัญอย่างย่ิงท่ีทาให้มี
การทาลายแหล่งและซากดกึ ดาบรรพ์น้อยลง
สาหรบั กลไกสาคัญอกี ประเภทท่ีใช้ขับเคลื่อนการอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาท่ีสาคัญ คือ คณะกรรมการ
แห่งชาติจานวน ๒ คณะที่คณะรัฐมนตรีได้แต่งต้ังขึ้นมาเพื่อให้ทาหน้าท่ีในส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์แหล่ง
ธรณีวิทยาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึน ความจาเป็นท่ีต้องมีคณะกรรมการแห่งชาติเน่ืองจากภารกิจใน
การดูแลปกป้อง รักษาแหล่งธรณีวิทยาต้องได้รับการบูรณาการจากหลายภาคส่วนและยังไม่มีกฎหมายพิเศษ
เฉพาะเพื่อคุ้มครองดูแลหรือส่งเสริม คณะกรรมการแห่งชาติ ๒ คณะท่ีเกี่ยวกับการส่งเสริมการอนุรักษ์แหล่ง
ธรณีวิทยาของประเทศ คือ คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้าแห่งชาติและคณะกรรมการแห่งชาติว่า
ด้วยอุทยานธรณี และท้ังสองคณะนี้ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็น
ประธานกรรมการ กรมทรัพยากรธรณีทาหน้าท่ีเป็นเลขานุการคณะกรรมการ คณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้ง
คณะกรรมการ เมื่อวันท่ี ๒ เมษายน ๒๕๖๒ และเม่ือวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ตามลาดับ ภายใต้การ
ขับเคล่ือนงานของคณะกรรมการแห่งชาติจะมีกลไกรองคือคณะอนุกรรมการและคณะทางานท่ีแต่งต้ังข้ึนมา
เพ่ือช่วยขบั เคลอ่ื นการทางานในด้านต่าง ๆ ของคณะกรรมการ
การขบั เคล่อื นการอนุรักษ์แหล่งธรณีของประเทศโดยคณะกรรมการฯ นี้ ดาเนินการภายใต้การมีส่วน
ร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ และมุ่งเน้นให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรณีท่ีทาให้เกิดรายได้ในท้องถ่ินที่เป็นเจ้าของ
ทรัพยากรธรณี ทาให้มีการหวงแหนและอนุรักษ์ทรัพยากรธรณี นอกจากน้ี ยังทาให้เกิดความยั่งยืนในการใช้
ทรพั ยากรธรณีอกี ด้วย สร้างเสรมิ ใหป้ ระเทศมีขีดความสามารถในการแข่งขนั สงู ขน้ึ
ผลงานสาคัญท่กี รมทรพั ยากรธรณีได้ดาเนนิ การในการอนรุ ักษ์แหลง่ ธรณวี ทิ ยา คือ การประกาศขนึ้
ทะเบยี นแหล่งและซากดกึ ดาบรรพ์ การสารวจและบรหิ ารจัดการถ้า และการจดั ตั้งแหล่งมรดกธรณี อุทยาน
ธรณีซงึ่ ขณะนีม้ ีอทุ ยานธรณรี ะดับโลกของยเู นสโกหน่ึงแหง่ คอื อุทยานธรณโี ลกสตูล จังหวัดสตูล และกาลัง
ดาเนินการขอรบั การรับรองจากยูเนสโกอีกหนึ่งแห่งคอื อทุ ยานธรณโี คราช การดาเนนิ การด้วยกลไกดังกลา่ ว
ส่งผลถึงประชาชนในท้องถน่ิ ตระหนกั รับรูถ้ งึ การดูแล รกั ษาทรัพยากรธรณีและสามารถสรา้ งรายไดจ้ ากการใช้
ประโยชน์แหล่งทรัพยากรธรณี
Keynote Session
4 การประชมุ วชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สงิ หาคม 2564
4
การกากบั ดูแลการสารวจและผลติ ปิโตรเลยี มในประเทศไทย: อดีต ปัจจบุ นั อนาคต
นเรศ สัตยารกั ษ์
ทีป่ รึกษาสมาคมธรณีวทิ ยาแหง่ ประเทศไทย
E-mail: [email protected]
บทคัดยอ่
การสารวจค้นหาปิโตรเลียมอย่างเป็นทางการในประเทศไทยอย่าง เร่ิมขึ้นเม่ือปีพ.ศ. 2464 โดย
กรมรถไฟหลวงไดว้ า่ จา้ งนกั ธรณวี ทิ ยาชาวอเมรกิ นั มาสารวจศกั ยภาพแรถ่ า่ นหนิ และปโิ ตรเลยี มในประเทศสยาม
ตอ่ จากนัน้ กเ็ ป็นการสารวจน้ามนั ดิบ โดยหน่วยงานของรฐั ในแอ่งฝาง และท่ีราบลุม่ เจา้ พระยา การดาเนนิ งาน
ดังกล่าวประสบความสาเร็จพอสมควรท่ีฝาง หลังจากนั้น รัฐบาลได้พิจารณาเห็นว่า การสารวจปิโตรเลียม
เปน็ กจิ การทมี่ ขี นาดใหญ่ ตอ้ งใชค้ า่ ใชจ้ า่ ยสงู และมคี วามเสย่ี งมาก จงึ ไดเ้ ปลยี่ นนโยบาย ใหเ้ อกชนเขา้ มาลงทนุ และ
แบกรับความเส่ียงแทน โดยรัฐจะเปน็ ผู้ควบคมุ ในการสารวจดังกล่าว ระหว่างท่ีรอการออกกฎหมายฉบับใหม่
รัฐบาลได้ให้สิทธ์ิบริษัทน้ามันต่างชาติได้สิทธิครอบครองอาชญาบัตรผูกขาดในการสารวจแร่ปิโตรเลียม และ
ประทานบตั รทาเหมอื งปโิ ตรเลยี ม ภายใตก้ ฎหมายแร่ ทง้ั ในพน้ื ทบ่ี นบกและในทะเลอา่ วไทย ตอ่ มา กจิ การทงั้ หมด
กถ็ กู โอนใหไ้ ปดาเนนิ การภายใตร้ ะเบยี บขอ้ บงั คบั และการควบคมุ ของพระราชบญั ญตั ปิ โิ ตรเลยี ม พ.ศ. 2514
การควบคุมการสารวจปิโตรเลียมในช่วงแรก ๆ น้ัน ข้าราชการผู้มีหน้าท่ีควบคุมการดาเนินงานของ
บรษิ ทั ผ้รู บั สมั ปทาน และบรษิ ทั รับชว่ งการสารวจ ยังมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถโดยตรงไม่มากนัก ต้องรออีก
หลายปี จนกระท่ังเมื่อข้าราชการและนักศึกษาที่ได้รับทุน ที่มาจากผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษของสัญญา
สัมปทานปิโตรเลียม เข้ามาร่วมทางาน หลังจากจบการศึกษาจากต่างประเทศ ทาให้บุคลากรด้านเช้ือเพลิง
ธรรมชาติมีเพ่ิมมากขึ้น แต่ปริมาณงานและพ้ืนท่ีปฏิบัติงานก็เพ่ิมมากยิ่งขึ้นเช่นกัน อีกท้ังได้เริ่มมีการผลิต
ปิโตรเลียม ทั้งในพ้ืนท่ีบนบก และในอ่าวไทย จึงได้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย รวมท้ังกฎกระทรวง และ
ประกาศท่ีเกย่ี วข้อง ในหลายดา้ น และรฐั บาลได้เปล่ยี นแปลงนโยบายและบทบาท จากการควบคุมมาเป็นการ
กากบั ดูแลแทน
อยา่ งไรกต็ าม เมอ่ื ไมน่ านมานหี้ นา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบของเจา้ หนา้ ทรี่ ฐั ไดเ้ ปลย่ี นไป เชน่ กลบั ไปมบี ทบาทใน
การควบคมุ อกี ครงั้ หนง่ึ ในพนื้ ทท่ี ดี่ าเนนิ การภายใตร้ ะบบแบง่ ปนั ผลผลติ และ ระบบการจา้ งดาเนนิ งาน สว่ นผทู้ ี่
กากบั ดแู ลพน้ื ทที่ อี่ ยใู่ นระบบสมั ปทานเอง กต็ อ้ งเพม่ิ หนา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบในอกี หลากหลายดา้ น เชน่ ดา้ นมวลชน
สมั พนั ธ์ บรรษทั บรบิ าล ความปลอดภยั ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม และมลภาวะ เปน็ ตน้ แมว้ า่ แนวโนม้ การคน้ พบแหลง่
ปโิ ตรเลยี มขนาดใหญ่ หรอื แหลง่ ใหมใ่ นประเทศจะมโี อกาสนอ้ ยลง แตก่ ไ็ มไ่ ดห้ มายความวา่ จะไมพ่ บทรพั ยากร
เพม่ิ เตมิ อกี เลย การประชาสมั พนั ธแ์ ละสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหม้ กี ารลงทนุ สารวจคน้ หาปโิ ตรเลยี ม จงึ เปน็ สง่ิ ท่ี
รฐั บาลจะตอ้ งดาเนนิ การ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การศกึ ษาขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากการสารวจและผลติ ทเ่ี ปดิ เผยไดแ้ ลว้ ตาม
กฎหมาย เพอ่ื จดั ทาชดุ ขอ้ มลู และรายงานเพอ่ื จงู ใจใหม้ กี ารสารวจคน้ หาปโิ ตรเลยี มในราชอาณาจกั รไทยมาก
ยง่ิ ขนึ้
Keynote Session
ธรณีวิถีใหม่ นวัตกรรมไทย เพื่อการพฒั นาทย่ี ่งั ยืน 5
การยกระดบั การปฏิบตั ิงานด้านธรณวี ิทยาในประเทศไทย : วิชาชพี ธรณีวิทยาควบคมุ
ธนู หาญพัฒนพานิชย์1*, สมหมาย เตชวาล 1, 2, มนตรี เหลอื งอิงคะสตุ 1, 2 และ ปรชี า สายทอง 1, 2
1 สมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย
2 กรมทรัพยากรธรณี
*E-mail: [email protected]
บทคัดย่อ
ตามท่ี คณะกรรมการบริหารสมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย (ส.ธ.ท.) วาระปี พ.ศ. 2557-2561
โดย ดร.ทศพร นุชอนงค์ นายกฯ ได้กาหนดนโยบายของ ส.ธ.ท. ในการมุ่งสู่การพัฒนาวิชาชีพธรณีวิทยาเพ่ือ
ยกระดบั มาตรฐานวชิ าชพี ซง่ึ เป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับการปฏิบัติงานด้านธรณีวิทยาสู่วิชาชีพธรณีวิทยา
ควบคุม ส.ธ.ท. ได้นาเสนอข้อมูลต่อสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สชวท.) และผ่านความเห็นชอบ
จากที่ประชุมใหญ่สามัญประจาปี สชวท. พ.ศ. 2558 ต่อมา สชวท. ได้แต่งต้ังคณะทางานศึกษาหลักเกณฑ์
และมาตรฐานวชิ าชพี ด้านธรณวี ทิ ยา เพ่ือตราเปน็ พระราชกฤษฎีกาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม
สาขาธรณีวทิ ยา ส.ธ.ท. โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาวิชาชีพธรณีวิทยา ได้แต่งต้ังคณะอนุกรรมการ
จัดทารา่ งขอ้ บังคับว่าด้วยการประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมสาขาธรณีวิทยา (สาขาธรณี
วิศวกรรม ธรณีวิทยาเหมืองแร่ อุทกธรณีวิทยา ธรณีวิทยาปิโตรเลียม ธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม (ในขณะน้ัน))
ทางานคู่ขนานกับทาง สชวท. จนเกิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น การศึกษาหลักเกณฑ์ และมาตรฐาน
วิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์ธรณีวิทยา เพื่อตราเป็นพระราชกฤษฎีกาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม
สาขาธรณีวิทยา ครั้งท่ี 1 เม่อื วนั ท่ี 26 กมุ ภาพันธ์ 2561 และครง้ั ที่ 2 เมอ่ื วันท่ี 29 มีนาคม 2561
คณะทางานศึกษาหลักเกณฑ์ และมาตรฐานวิชาชีพด้านธรณีวิทยา เพื่อตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
วิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยา สชวท. รว่ มกบั ส.ธ.ท. จดั ทารายงานการศกึ ษาความ
เหมาะสมในการกาหนดวชิ าชพี สาขาธรณวี ทิ ยาเพอื่ ดาเนนิ การตราเปน็ พระราชกฤษฎกี า วชิ าชพี วทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยคี วบคมุ เพิ่มเติม เสนอในการประชุมใหญ่สามัญประจาปี พ.ศ. 2560 สชวท.เทคโนโลยี เม่ือวันท่ี
18 พฤษภาคม 2561 และในคราวการประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากาหนด
สาขาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม พ.ศ. .... เมื่อวันท่ี 10 ตุลาคม 2561 โดยให้ สชวท.
ประสานงานสานกั งานกฤษฎกี าดาเนนิ การจัดทารา่ งข้อบงั คับตอ่ ไป
คณะกรรมการบริหารสมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย วาระปี พ.ศ. 2561 -2565 โดย
ดร.สมหมาย เตชวาล นายกฯ ได้กาหนดนโยบายของ ส.ธ.ท. ในการมุ่งสู่การพัฒนาวิชาชีพธรณีวิทยาเพ่ือ
ยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ อย่างต่อเนื่อง สชวท. โดยคณะทางานจัดทาร่างข้อบังคับสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ว่าด้วยการประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยา ได้จัดเตรียม
ร่างข้อบังคับฯ จัดเตรียมร่างประกาศและร่างระเบียบท่ีเกี่ยวข้อง จนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563
คณะรฐั มนตรี มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากาหนดสาขาวิชาชพี วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยคี วบคุมสาขา
ธรณีวิทยา พ.ศ. .... เป็นวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมเพิ่มเติม ท่ีสานักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วตามท่ีกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ต่อมาได้มี
ประกาศพระราชกฤษฎกี า กาหนดสาขาวชิ าชพี วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม พ.ศ. 2563 (กาหนดสาขา
ธรณีวิทยา เป็นวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 มีผลบังคับใช้วันที่
Keynote Session
6 การประชมุ วชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สงิ หาคม 2564
6
20 ธันวาคม 2563 และประกาศข้อบังคับสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่าด้วยการประกอบวิชาชีพ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยา พ.ศ. 2563 เม่ือวันที่ 21 กันยายน 2563 มีผลบังคับใช้
วนั ที่ 20 ธนั วาคม 2563
สชวท. แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยาเพื่อ
ดาเนินการจัดทาประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้อง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือเป็นกรรมการสอบ
สัมภาษณ์ ช่วงเวลาเดียวกัน สชวท. ประกาศรับสมัครสอบเพ่ือขอรับใบอนุญาตและเทคโนโลยี ระหว่างวันที่
1-28 กุมภาพันธ์ 2564 มีผู้สมัครสอบรอบแรกประมาณ 100 คน และสอบสัมภาษณ์ระหว่างวันที่
8-16 กรกฎาคม 2564 อยูร่ ะหวา่ งการพิจารณาผล
ดังน้ัน จะเห็นได้ว่า การยกระดับการปฏิบัติงานด้านธรณีวิทยาสู่วิชาชีพธรณีวิทยาควบคุม ต้ังแต่
ปี พ.ศ. 2557 มาประสบความสาเร็จในงานธรณวี ทิ ยาปโิ ตรเลยี ม งานธรณวี ทิ ยาพบิ ตั ภิ ยั งานธรณวี ทิ ยาวศิ วกรรม
งานธรณีวทิ ยาเหมอื งแร่ และงานอทุ กธรณวี ทิ ยา เป็นรูปธรรมท่ีชัดเจนในปี พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 5 ปี ในการ
ดาเนินการ สาหรับการปฏิบัติงานของผู้สมัครสอบขอรับใบอนุญาตต้องศึกษาจากลักษณะของงานวิชาชีพ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม สาขาธรณีวิทยา มีรายละเอียดดังน้ี (1) งานวิเคราะห์ ได้แก่ การ
ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ การศึกษาค้นคว้า การวิจัยข้อมูลและสถิติต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์หรือ
ประกอบการตรวจสอบวินิจฉัย ในสาขาธรณีวิทยา (2) งานควบคุมเก่ียวกับการสร้าง การผลิต การคัดแยก
การขุดเจาะ การรื้อถอน การขนย้าย และการดัดแปลงปรับแต่ง ซ่ึงเก่ียวกับงานด้านธรณีวิทยา (3) งาน
คานวณออกแบบ ทดสอบ และตรวจวัดโดยการใช้หลักวิชาการและความชานาญในสาขาธรณีวิทยา (4) งาน
วางโครงการ ได้แก่ การศึกษา วิจัย และการวิเคราะห์ เพ่ือหาทางเลือกที่เหมาะสม หรือวางแผนโครงการใน
งานด้านธรณวี ิทยา (5) งานสารวจ งานจดั ทาแผนท่ี ตดิ ตาม และประเมินผลกระทบจากการใช้ประโยชน์ในพ้ืน
พิภพ โดยการใชห้ ลักวิชาการและความชานาญในสาขาธรณวี ิทยา และผู้สมัครสอบฯ ต้องศึกษาในรายละเอียด
ของแต่ละประเภทของงานก่อนสมัครสอบ ท้ังนี้ผู้สมัครสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ต้องเข้าใจว่าการทางานทง้ั 5 งานน้ัน เปน็ การประกอบวิชาชีพธรณีวิทยาที่ส่งผลต่อความปลอดภัย
ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนเศรษฐกิจสังคม
ของประเทศ หากให้ผู้ไม่มีความรู้ความเข้าใจ คุณธรรม และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเข้ามาทางานจะมีความ
เส่ียงสูงท่ีจะทาให้เกิดความเสียหายหรืออุบัติภัยร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อประชาชนและสังคมโดยรวมได้
วิชาชีพธรณีวิทยาอยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2551 โดย
พระราชบัญญัติส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2551 มาตรา 41 กาหนดว่า “ผู้มีความรู้
ความสามารถเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในสาขาท่ีกาหนดไว้ในข้อบังคับและได้ใบอนุญาต
ควบคุมจากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น จึงจะประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ควบคุมได้ สาหรบั ผูท้ ่ีไมไ่ ดใ้ บอนุญาตควบคุมจากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะประกอบวิชาชีพ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมไม่ได้ เว้นแต่เป็นการกระทาในอานาจหน้าที่ในฐานะข้าราชการหรือ
เจ้าหน้าที่ของรัฐ” รวมท้ังมาตรา 4 วรรค 1 กาหนดให้ “พระราชบัญญัติน้ีไม่ใช่บังคับแก่ผู้ประกอบวิชาชีพ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นสมาชิกองค์กรตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอ่ืน
และผู้ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซ่ึงปฏิบัติหน้าที่ตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่าง
ประเทศหรือระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชานัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ” ด้วย ท้ายสุดขอเชิญชวนนัก
Keynote Session
ธรณวี ถิ ีใหม่ นวัตกรรมไทย เพอ่ื การพัฒนาทีย่ ง่ั ยืน 7
ธรณีวิทยาไทย ท่ีประกอบวิชาชีพท่ีเกี่ยวข้องท้ัง 5 งาน สมัครสอบขอรับใบอนุญาตฯ สามารถศึกษา
รายละเอยี ดการสมคั ร ได้ที่ https://www.cstp.or.th
ที่กล่าวท้ังหมด เป็นการยกระดับการทางานด้านกฎหมายด้านวิชาชีพควบคุม สิ่งที่จะต้องดาเนินการ
ต่อไปคือการยกระดับการทางานที่เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ศึกษาโลกภายนอกว่า ปัจจุบันมีการทางานกัน
อยา่ งไร ที่เห็นไดอ้ ยา่ งชัดเจนคือเทคโนโลยที ่ีมกี ารเปลยี่ นแปลงอย่างรวดเร็ว การนาข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล
ทเ่ี รยี กวา่ Big-data มากยงิ่ ขนึ้ ดงั นนั้ นกั ธรณวี ทิ ยาไทยจะตอ้ งมกี ารปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั “ธรณวี ถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย
เพอ่ื การพัฒนาท่ียง่ั ยนื ” ใหไ้ ด้ เพอ่ื ยืนหนึ่งในวนั ขา้ งหน้า
Keynote Session
8 การประชมุ วิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สิงหาคม 2564
โคก หนอง นา กบั ธรณีวิทยา 8
Khok Nong Na ModelandGeology
มนตรี เหลอื งอิงคะสตุ *, ดรุณี สายสทุ ธชิ ยั , ภาสกรณ์ กณั ทาทรัพย์, ประดิษฐ์ นเู ล, พรนภา ปะวะโก,
กฤษณะ สุดชา และ ณฐั นิช พฒุ เหยี ง
ศูนยศ์ ึกษาวิจัยและพิพิธภณั ฑไ์ ดโนเสาร์ สานักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 กรมทรัพยากรธรณี
*E-mail: [email protected]
บทคดั ยอ่
โคก หนอง นา โมเดล เป็นรูปแบบของการบริหารจัดการน้าซ่ึงสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและมูลนิธิ
กสิกรรมธรรมชาติ ได้น้อมนาพระราชดารัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9
ด้านการทาเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ผสมผสานกับภูมิปัญญาพ้ืนบ้านให้สอดคล้องกัน
การออกแบบพ้ืนทีโ่ คก หนอง นา โมเดล คานึงถึง ภูมิสังคมเป็นสาคัญ ภูมิ คือ สภาพทางกายภาพ สังคม คือ
วัฒนธรรม ความเช่ือ และภมู ิปัญญาดงั้ เดิมทีอ่ ยู่ในพืน้ ท่ีนัน้
โดยท่ัวไปสภาพธรณวี ิทยา (ธรณีสณั ฐานและชั้นหนิ /ดนิ ใตด้ ิน) กาหนดวิถีชีวิตและกิจกรรมของมนุษย์
ความแตกต่างของการสร้างบ้านเรือน เกษตรกรรมและวัฒนธรรม สะท้อนและบ่งบอกสภาพธรณีวิทยาที่
แตกตา่ งของแตล่ ะพ้นื ที่ องค์ความรู้ธรณีวทิ ยาจึงสามารถนามาประยกุ ต์เพ่อื ใช้วางแผนการใช้ประโยชน์ท่ีดินให้
เหมาะสมและยง่ั ยนื
กรมทรัพยากรธรณีได้ดาเนินโครงการ โคก หนอง นา สู่สากล ในพื้นท่ี 3 ไร่ ณ ศูนย์ศึกษาวิจัยและ
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ นาองค์ความรู้ทางธรณีวิทยาเข้าไปเสริมการบริหารจัดการน้าและการใช้ประโยชน์พ้ืนท่ี
อย่างเหมาะสม เพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลบนพื้นฐานของลักษณะทางธรณีวิทยาในพื้นที่
มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นพ้ืนท่ีทดลองทางธรณีวิทยาเพื่อการเกษตร พ้ืนที่แหล่งเรียนรู้ ฝึกทักษะและจัด
กิจกรรมการเกษตรเสริมรายได้ให้กับชุมชน ในการดาเนินงานน้ัน ได้ทดลองนาองค์ความรู้ทางธรณีวิทยาเข้า
ไปเสริม (Enhance) การออกแบบภูมิ (กายภาพ ดิน น้า ลม) ให้สอดคล้องกับธรณีสัณฐาน ช้ันดินและช้ันหิน
นาองค์ความรู้ทางธรณีวิทยาประยุกต์แก้ไขปัญหาทางการเกษตรแบบการรู้รับ ปรับตัวและฟ้ืนคืนกลับ
(Resilience) ได้แก่ การเพมิ่ ความสามารถในการกักเกบ็ น้าของหนองโดยใช้วัสดุทางธรณีที่หาได้ง่ายในท้องถ่ิน
ผสมผสานภูมิปัญญาชาวบ้าน การแก้ปัญหาน้าขุ่นโดยใช้วัสดุทางธรณีร่วมกับปลูกหญ้าแฝกและพืชน้า การ
ป้องกนั การกดั เซาะพังทลายของขอบบอ่ โดยการปรับเสถยี รภาพลาดดินและการปลูกหญ้าแฝก การเพ่ิมแร่ธาตุ
ในดินด้วยวัสดุทางธรณี การห่มดิน ปลูกพืชตระกูลถั่วและหญ้าแฝก โดยผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ องค์ความรู้
ทางธรณีวิทยาที่สามารถนามาแก้ไขปัญหาทางการเกษตรอย่างเหมาะสมและยั่งยืนสอดคล้องกับสภาพพ้ืนที่
และแหลง่ เรียนร้ภู ายในศูนยศ์ ึกษาวจิ ยั และพพิ ิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ท่ีสืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวพระราชดาริ
เศรษฐกจิ พอเพียง
คาสาคญั : โคกหนองนา, ธรณวี ิทยา
Keynote Session
ธรณวี ถิ ใี หม่ นวัตกรรมไทย เพ่ือการพฒั นาทยี่ ่ังยืน 9
ผลการดาเนินงานด้านธรณวี ทิ ยากับการแกป้ ญั หาภัยแล้งของกรมทรพั ยากรธรณี
นราเมศวร์ ธรี ะรงั สกิ ลุ *, กฤตภพ อคั รวนิ ทวงศ,์ ปยิ าอร อศั วพชั ระ, เบญ็ จา เสกธรี ะ, อนกุ ลู วงศใ์ หญ,่ นวิ ตั ิ มณขี ตั ยิ ,์
สวุ ภาคย์ อม่ิ สมทุ ร, ธรี ะพล วงษป์ ระยรู , ศกั ดา ขนุ ด,ี ศภุ วชิ ญ์ ยอแสงรตั น์ และ นา้ ฝน คาพลิ งั
กรมทรพั ยากรธรณี
*E-mail: [email protected]
บทคัดย่อ
ภัยแล้งท่ีเกิดขึ้นในประเทศไทยมีผลกระทบโดยตรงกับการเกษตรและแหล่งน้า ส่งผลเสียหายต่อ
กิจกรรมทางการเกษตร เช่น พื้นดินขาดความชุ่มช้ืน พืชขาดน้า พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตท่ีได้มี
คุณภาพต่า รวมถึงปริมาณลดลง ภัยแล้งมักเกิดในฤดูฝนที่มีฝนท้ิงช่วงเป็นเวลานาน โดยแต่ละปีจะเกิดข้ึนได้
2 ช่วง ได้แก่ ช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องถึงฤดูร้อน ซึ่งจะเร่ิมจากคร่ึงหลังของเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ช่วงเวลานี้
บริเวณประเทศไทยตอนบน (ภาคเหนอื ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก) จะมีปริมาณ
ฝนลดลงเปน็ ลาดบั ยกเว้นภาคใต้ จนกว่าจะยา่ งเขา้ สู่ฤดฝู นในช่วงกลางเดอื นพฤษภาคมของปีถัดไป ซ่ึงภัยแล้ง
ลักษณะนี้ จะเกิดขึ้นเปน็ ประจาทกุ ปี และมีแนวโน้มท่ีจะทวีความรุนแรงข้ึนเป็นลาดับ ส่วนภัยแล้งอีกช่วงหนึ่ง
มักเกิดข้ึนในช่วงกลางฤดูฝน คือ ประมาณปลายเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม จะมีฝนทิ้งช่วง ซึ่งอาจเกิดขึ้น
เฉพาะทอ้ งถ่ินหรอื บางบริเวณ แต่บางครง้ั ก็อาจครอบคลมุ พน้ื ทีก่ ว้างเกือบท่ัวประเทศไทย ปัญหาภัยแล้งส่งผล
กระทบต่อภาวะขาดแคลนน้าสะอาด เพ่ือการบริโภคและอุปโภค ขาดแคลนน้าเพื่อการเกษตร ซ่ึงยังคงเป็น
อาชีพของประชากรส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในชนบท ดังน้ันจึงจาเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องทาการแก้ไข หรือ ป้องกัน
ปัญหาภัยแล้งที่เกิดข้ึนหรืออาจจะเกิดขึ้น พร้อมท้ังหามาตรการและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมในการนาพ้ืนท่ีภัย
แลง้ มาใชป้ ระโยชน์ใหม้ ากขึ้น
แนวทางการจัดการพ้ืนที่เกษตรเส่ียงภัยแล้ง เป็นแนวคิดและวิธีปฏิบัติในการลดโอกาสท่ีจะได้รับ
ผลกระทบทางลบจากภัยแล้ง โดยการบริหารจัดการปัจจัยที่เป็นสาเหตุของภัยแล้ง กรมทรัพยากรธรณีมี
แนวคดิ เพม่ิ ปรมิ าณน้าตน้ ทนุ ทจี่ ะใชท้ าการเกษตรในชว่ งฤดแู ล้ง หรอื การกักเก็บปริมาณน้าท่มี ากเกนิ ไปในฤดูฝน
แนวทางนี้จงึ นาไปสู่โครงการด้านธรณีวิทยากับการแก้ปัญหาภัยแล้งของกรมทรัพยากรธรณี โดยกิจกรรมและ
โครงการท่ีกรมทรัพยากรธรณดี าเนินการแบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะคอื
1) โครงการใช้องค์ความรู้ด้านธรณีวิทยาและโครงสร้างทางธรณีวิทยา เพื่อหาชั้นน้าในโพรงถ้าใต้ดิน
ของพื้นท่ีท่ีรองรับด้วยหินปูน ซ่ึงโครงการลักษณะเช่นน้ี ได้ใช้ข้อมูลด้านธรณีวิทยา อุปกรณ์และเครื่องมือ
สารวจธรณฟี ิสกิ ส์ และบคุ ลากรที่มีความเช่ียวชาญเฉพาะของกรมทรัพยากรธรณีในการสารวจศึกษาวิจัย เช่น
1.1) โครงการสารวจนาร่องเพอ่ื เลือกสรรพ้ืนที่ในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและลพบุรี ซ่ึงพ้ืนที่ดังกล่าวมีการกระจาย
ตัวและโครงสรา้ งหนิ ปูนเนื้อแนน่ ในยุคเพอร์เมียนที่เหมาะสมต่อการกักเก็บน้าและอุ้มน้า ซึ่งผลของการสารวจ
พบพ้ืนที่ศักยภาพในการเป็นชั้นน้าใต้ดินในหินปูนซ่ึงมีแนวแตกหรือโพรงในระดับความลึกท่ี 40 - 110 เมตร
จากระดบั ผวิ ดนิ และหนิ ปนู ในพน้ื ท่โี ครงการมแี นวแตกและโพรงถ้าเหมาะในการพัฒนาเป็นพื้นท่ีขุดเจาะใช้ช้ัน
น้าใตด้ นิ หรอื เป็นแหลง่ กักเก็บนา้ ใต้ดินไว้ใชป้ ระโยชน์ได้ 1.2) โครงการตรวจสอบธรณวี ิทยาเพ่ือหาแหล่งน้าใน
ช้ันหินสาหรับบรรเทาภยั แลง้ ในพืน้ ท่ีอทุ ยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
ซึ่งผลจากการสารวจในพ้ืนท่ีเขาชะเมา - เขาวง เสนอให้หาแหล่งน้าด้านตะวันตกของพ้ืนที่อุทยานเขาชะเมา-
เขาวง ตามแนวแตก NNW-SSW และทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นท่ีอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-
Keynote Session
10 การประชมุ วชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ท่ี 4-6 สิงหาคม 2564
10
เขาวง สาหรับพ้ืนท่ีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พบศักยภาพแหล่งน้าตามแนวรอยเลื่อน NW-SE ด้าน
ตะวันตกของเขาสอยดาว ซ่ึงเป็นพ้ืนที่ที่สัตว์มากินน้าในบริเวณนี้อีกด้วย 1.3) โครงการพัฒนาสระบ่อดินขาว
อาเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ โครงการมีเป้าหมายเพ่ือให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์สระบ่อดินขาวเพ่ือ
อุปโภคบริโภคและทาการเกษตร โดยเก็บน้าจากท้ังน้าฝนและน้าท่ีไหลตามธรรมชาติในช่วงเวลาน้าหลาก ซึ่ง
จะเเบ่งการดาเนินงานพฒั นาออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ได้แก่ ฟ้ืนฟูป่าต้นน้าเขาวง โดยการสร้างฝายชะลอน้า
และส่วนที่ 2 คือ การพัฒนาเป็นพื้นที่แก้มลิง ทาเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดาริ และขุดบ่อบาดาล
ระดับตื้น เพ่ือเป็นระบบเสริมในการบริหารจัดการน้า ทั้งนี้พื้นท่ีเขาวงเป็นเขาหินปูนที่พบโพรงถ้าเป็นจานวน
มาก กรมทรัพยากรธรณีจึงเข้ามาร่วมโครงการตามแนวคิดท่ีจะเพ่ิมระบบสารองน้าใต้ดินจากโพรงถ้าที่อยู่ลึก
ลงไปใตด้ นิ เพอ่ื นามาบรหิ ารจดั การให้เป็นแหล่งนา้ สนบั สนนุ เพิ่มเตมิ ในพื้นทโ่ี ครงการช่วงหน้าแล้ง จากผลการ
สารวจ พบลักษณะทางโครงสร้างธรณีวิทยาในพ้ืนท่ีเขาวง มีแนววางตัว 2 ทิศทาง ได้แก่ แนวหลักวางตัวใน
แนวทศิ ตะวันตกเฉียงเหนอื – ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (NW-SE) และแนวรองวางตัวในแนวศตะวันออกเฉียงเหนือ –
ตะวันตกเฉียงใต้ (NE-SW) และจากการสารวจธรณีฟิกส์ด้วยวิธีวัดค่าสภาพต้านทานไฟฟ้า (ERI) และวัดคล่ืน
แม่เหล็กไฟฟ้า (Transient ElectroMagnetic: TEM) แบบ Time Domain สามารถตรวจพบเป็นช้ันหินปูนที่
มีรอยแตกมากหรือโพรง ความหนา 40-60 เมตร ท่ีความลึกประมาณ 20-80 เมตร โดยท่ีโพรงดังกล่าวอาจมี
ตะกอนขนาดเล็กสะสมตัวและแสดงความไม่ต่อเนื่องของแนวโพรง เนื่องจากหินปูนมีอัตราการละลายท่ี
แตกตา่ งกัน บริเวณที่พบรอยแตกมากจะเกิดการละลายเป็นโพรงได้ง่ายกว่าบริเวณหินแข็ง โดยผลการสารวจ
ธรณฟี สิ กิ ส์สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์สาหรบั การกาหนดจุดเจาะน้าบาดาลท่ีเหมาะสมในบริเวณพ้ืนที่สารวจได้
โดยเป็นชนั้ น้าบาดาลจากรอยแตกหรือโพรงหินปนู ที่ระดบั ลกึ ประมาณ 25 เมตร
2) โครงการบูรณาการข้อมูลระหว่างกรมทรัพยากรธรณีและกรมทรัพยากรน้าบาดาล มีกิจกรรมท่ี
ดาเนินการเช่น 2.1) การแกป้ ญั หาภยั แล้งและสถานการณไ์ ฟป่าในพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงตามนโยบาย
รมว.ทส. โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมมือทางวิชาการ ในการศึกษาปัญหา และแนวทางแก้ไขในพ้ืนอุทยาน
แห่งชาติภูกระดึง กรมทรัพยากรธรณีได้ดาเนินการศึกษาลักษณะทางธรณีวิทยา ลาดับชั้นหินของภูกระดึง
ธรณีวิทยาโครงสร้าง แนวแตก และรอยเล่ือน เพ่ือหาพ้ืนท่ีเหมาะสมในการขุดเจาะน้าบาดาล ผลการศึกษา
จากการสารวจวัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบ Time Domain พบว่าพื้นท่ีบนภูกระดึง เบ้ืองต้นไม่มีข้อมูลน้า
บาดาลท่ีพบในระดบั ต้นื (น้อยกวา่ 50 เมตร) ควรมีการสารวจเพ่ิมเติมในข้ันรายละเอียด และใช้วิธีการสารวจ
อื่นๆเพิ่มเติมมาประมวลผลร่วมกัน 2.2) กิจกรรมการบูรณาการข้อมูลระหว่างกรมทรัพยากรธรณีกับกรม
ทรัพยากรน้าบาดาลเพ่ือประโยชน์ในการหาแหล่งน้าบาดาลประกอบด้วย ด้านแลกเปลี่ยนข้อมูลธรณีวิทยา
ข้อมูลหลุมเจาะท้ังประเทศ ด้านบุคลากรนักวิชาการ ด้านอุปกรณ์เครื่องมือสารวจธรณีฟิสิกส์ และ
งบประมาณจากกองทนุ นา้ บาดาล เป็นตน้
ภารกิจของกรมทรัพยากรธรณี ในการใช้องค์ความรู้ธรณีวิทยากับการแก้ปัญหาภัยแล้ง ยังคงต้อง
ดาเนินการไปอย่างต่อเน่ืองเพื่อหาพ้ืนที่ศักยภาพแนวแตกหรือโพรงถ้าในหินปูนให้มากขึ้น และจัดการข้อมูล
หรอื จดั ทาแผนท่ีฐานหนิ ปนู ใตด้ ินแสดงโพรงถ้าทงั้ ประเทศ การบรู ณาการขอ้ มูลดา้ นธรณวี ิทยาอยา่ งต่อเน่อื งกบั
หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการหาแหล่งกักเก็บนา้ ทง้ั ใตด้ นิ บนดนิ เพื่อบรรเทาภยั แล้งทม่ี อี ยา่ งยาวนานให้หมดไป
คาสาคัญ: ธรณีวิทยา, ภยั แลง้ , โพรงถา้ , หนิ ปนู , สระบ่อดนิ ขาว, เขาวง
Keynote Session
ธรณีวถิ ีใหม่ นวัตกรรมไทย เพ่อื การพัฒนาที่ยัง่ ยืน 11
สถานการณถ์ าประเทศไทย พ.ศ. 2564
อนุกลู วงศ์ใหญ่
กรมทรพั ยากรธรณี 75/10 ถนนพระรามท่ี 6 เขตราชเทวี กรงุ เทพฯ 10400
E-mail: [email protected]
บทคัดยอ่
ถ้า เป็นทรัพยากรธรรมชาติท่ีสาคัญมีความเปราะบางของระบบนิเวศท้ังด้านกายภาพและชีวภาพ
ในบริบทของประเทศไทยที่ผ่านมาถ้ากระจายอยู่ในพ้ืนท่ีของภาคส่วนต่างๆ แต่ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบใน
การกากบั ดูแล ไมม่ กี ฎหมายเฉพาะ ทศิ ทางการบรหิ ารจดั การขาดความชดั เจน ในปี พ.ศ. 2562 คณะรัฐมนตรีมี
มติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้าแห่งชาติ เพื่อให้มีนโยบายการบริหารจัดการถ้า
ในระดับชาติ มีแนวทางการบริหารจัดการที่มีเอกภาพและเป็นระบบ มีความสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคมและ
ส่ิงแวดลอ้ ม เน้นการดาเนินงานท่มี กี ารบูรณาการภาคสว่ นต่าง ๆ และการมีสว่ นรว่ มของชมุ ชนท้องถิน่
มิตใิ หม่ในการบริหารจัดการ ภายใต้กรอบการดาเนินงานของคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้า
แห่งชาติมีการริเรม่ิ หลายประการ ได้แก่ การจดั ทานโยบายและแผนแม่บทการบริหารจัดการระบบถ้าแห่งชาติ
การจดั ทาแผนปฏบิ ัติการในระยะเริม่ ตน้ การประกาศมาตรการปฏิบตั ิในการเขา้ เยี่ยมชมถ้าเพื่อปกป้องดูแลขั้น
พ้ืนฐาน ตลอดจนมีการสารวจถ้าต้นแบบจานวน 11 ระบบถ้าเพื่อจัดทาแนวทางบริหารจัดการ โดยเร่ิมจาก
ระบบถา้ หลวง-ขุนน้านางนอน จังหวัดเชยี งราย
สถานการณถ์ า้ ในประเทศ สามารถสะทอ้ นออกมาในรปู ของ กจิ กรรม เหตกุ ารณ์ หรอื ประเดน็ สาคญั ดา้ น
ต่าง ๆ อาทิ วางแผนการพัฒนา การสารวจศึกษาวิจัย การบริหารจัดการการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์
การท่องเที่ยวนันทนาการ การศึกษาของเดก็ เยาวชนชุมชนท้องถ่นิ ศาสนา การจัดการส่ิงแวดล้อม การรับมือ
ความเส่ียงที่เกิดขึ้น ความร่วมมอื ระหว่างประเทศ ฐานขอ้ มลู เทคโนโลยี เครือขา่ ยชมรมและการมีส่วนรว่ มของ
ชมุ ชน โดยมวี ัตถปุ ระสงคใ์ ห้เกดิ ความรว่ มมอื ในการพฒั นา ยกระดบั การแกป้ ญั หา สรา้ งความตระหนกั และการมี
ส่วนร่วม โดยมุ่งเน้นการดารงคุณค่าให้ถ้าเป็นมรดกทางธรรมชาติของแผ่นดินควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่าง
ย่ังยืน
คาสาคญั : ถ้า, สถานการณ์, คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้าแห่งชาติ, การบริหารจดั การ, การพัฒนา
อยา่ งยงั่ ยนื
Keynote Session
12 การประชุมวชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สิงหาคม 2564
12
หลกั เกณฑก์ ารจาแนกทรพั ยากรแรข่ องประเทศไทย และการกาหนดเขตแหลง่ แรเ่ พอ่ื การทาเหมอื ง
จกั รพนั ธ์ สทุ ธิรัตน์1* , กฤตยา ปทั มาลัย2 และ ธวัชชยั เชื้อเหล่าวานิช2
1 ภาควชิ าธรณี คณะวิทยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย
2 กองทรพั ยากรแร่ กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม
*E-mail: [email protected]
บทคัดย่อ
ตาม มาตรา 17 แห่ง พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 กาหนดให้คณะกรรมการนโยบายแร่แห่งชาติ
จดั ทาแผนแม่บทการบริหารจดั การแร่ เพือ่ เป็นแนวทางในการบริหารจัดการแร่ใหเ้ หมาะสมและเกดิ ประโยชน์
สูงสุดภายใต้ดุลยภาพด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน โดยแผนแม่บทดังกล่าว
จะตอ้ งมกี ารกาหนดใหเ้ ปน็ เขตแหลง่ แรเ่ พอื่ การทาเหมอื งประกอบดว้ ย โดยแผนแมบ่ ทการบรหิ ารจดั การแรฉ่ บบั แรก
(พ.ศ. 2560 - 2564) ใช้คานิยามพนื้ ที่ท่ีมีแหลง่ แรอ่ ดุ มสมบรู ณ์และมีมูลค่าเศรษฐกจิ สงู กาหนดเป็นเขตแหล่งแร่
เพ่ือการทาเหมือง อย่างไรก็ตามการกาหนดเขตแหล่งแร่เพ่ือการทาเหมืองในแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่
ฉบับถัดไปจะต้องมีการประเมินตามหลักเกณฑ์การจาแนกทรัพยากรแร่ของประเทศไทย (Thailand Mineral
Framework Classification) หรอื TMFC และจดั ทาเปน็ แผนทเ่ี ขตแหลง่ แรเ่ พอ่ื การทาเหมือง
ในระยะท่ีผ่านมาได้มีการพัฒนาระบบ TMFC ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมท้ังจากกคณะทางานด้าน
เทคนิค ภาคราชการ ภาคเอกชน และประชาชน หลายครั้ง โดยข้ันตอนเริ่มจากนาข้อมูลผลการสารวจแร่ของ
ภาครัฐ และขอ้ มลู ผลการสารวจแร่ของภาคเอกชน มาดาเนินการพิจารณาปัจจัยด้านธรณีวิทยา เป็นหลักฐาน
บ่งชี้ว่ามีแหล่งแร่ เพื่อกาหนดเป็น พื้นที่ศักยภาพแร่ โดยพื้นที่ศักยภาพแร่ที่อยู่นอกเขตพ้ืนท่ีหวงห้ามทาง
กฎหมายจะกาหนดเปน็ พ้นื ทท่ี ม่ี ศี กั ยภาพในการทาเหมือง จากนั้นจะใช้ปัจจัยหลัก 5 ด้านคือ (1) ปัจจัยด้าน
เทคโนโลยีท่ีใช้ในการทาเหมืองและสถานภาพโครงการ (2) ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ (3) ปัจจัยด้านสังคม
(4) ปจั จยั ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม และ (5) ปจั จยั สขุ ภาพของประชาชน เพอื่ ทาการให้คะแนนในแตล่ ะปจั จยั ของพนื้ ทที่ ี่มี
ศกั ยภาพในการทาเหมอื ง พน้ื ทที่ คี่ ะแนนนผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จะกาหนดใหเ้ ปน็ เขตแหลง่ แรเ่ พอื่ การทาเหมอื ง
การดาเนนิ การกาหนดเขตแหลง่ แร่เพอ่ื การทาเหมอื งตามเกณฑ์ TMFC เพอื่ ใหท้ นั ตอ่ แผนแมบ่ ทในระยะ
ตอ่ ไป (พ.ศ. 2565 - 2569) นบั ว่าเปน็ เรอ่ื งท่ีท้าทายเปน็ อย่างย่ิงเนื่องจากเปน็ การบรหิ ารจดั การแนวใหม่ที่ยังไม่
คนุ้ เคย และมขี อ้ โตแ้ ยง้ ในหลายๆขนั้ ตอนโดยเฉพาะ การปรบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนในแตล่ ะปจั จยั และชว่ งคะแนน
ท่เี หมาะสมในการกาหนดพื้นท่ีเป็นเขตแหล่งแร่เพือ่ การทาเหมอื ง ซึ่งพบว่าในแต่ละพื้นทยี่ งั มีสภาวะแวดลอ้ มท่ี
สง่ ผลทัง้ ทางตรงและทางอ้อมตอ่ ปจั จัยแตกต่างกัน และที่สาคญั ที่สดุ คอื ระบบฐานขอ้ มูลทม่ี เี จ้าภาพหลากหลาย
และไมไ่ ดป้ รับปรงุ ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ นั เปน็ ผลใหก้ ารประเมินเชงิ พนื้ ทดี่ ว้ ยข้อมลู เหลา่ นยี้ งั มจี ดุ อ่อนอยู่บางสว่ น ดงั น้นั
การจัดทาฐานข้อมูลเชิงพ้ืนท่ีเพ่อื บรหิ ารจดั การทรัพยากรแร่ของประเทศจาเป็นทจ่ี ะต้องได้รบั ความรว่ มมอื จาก
หนว่ ยงานเจา้ ภาพในการปรบั ปรงุ ใหเ้ ปน็ ปจั จบุ นั และเปน็ ฐานขอ้ มลู กลางของประเทศตอ่ ไป
Keynote Session
ธรณีวถิ ใี หม่ นวัตกรรมไทย เพื่อการพัฒนาทีย่ ่ังยืน 13
CCOP towards premier intergovernmental organization cross borders and
beyond history
Young Joo LEE
Director of CCOP Technical Secretariat
E-mail: [email protected]
Abstract
Coordinating Committee for Geoscience Programmes in East and Southeast Asia (CCOP)
has been established since 1966 under UN and became an Intergovernmental Organization in
1987. CCOP currently comprised of 16 Member Countries, 14 Cooperating Countries and
17 Cooperating Organizations throughout the world. For more than 55 years, CCOP has
provided a strong foundation of bi-lateral and multi-lateral cooperations for its Member
Countries, the Cooperating Countries and Cooperating Organizations.
At its inception, CCOP conducted work in geological surveys, exploration, and
technological cooperation in the extraction of off-shore petroleum and mineral resources in
the region. In response to the needs of member countries, CCOP projects have become
increasingly diverse over time, especially in the areas of groundwater resources, geohazards,
global climate change, marine geology and urban geology. Also CCOP compiles, manages,
and utilizes large amounts of data collected and accumulated and increasingly focusses on
data sharing and data driven discovery among Member Countries. CCOP also strives to
improve the level of understanding and knowledge in the field of geoscience in all member
countries through capacity building, training and education.
In 2020, CCOP has set up new CCOP’s 5-year Strategic Plan for 2021-2025 with a Vision of
“To be the Leading International Geoscience Organization for Sustainable Development in East
and Southeast Asia” and a Mission “To work together on advancing geoscience for better
lives on future earth and achieving the goals of international conventions”.
CCOP will pursue sustainability in research by establishing a system to continually nurture
new Earth scientists. Furthermore, CCOP will build a cooperative network with geoscience
communities in other regions to promote a sustainable Earth.
And CCOP will keep continue to work closely with Member Countries, Cooperating
Countries and Organizations to become a global intergovernmental organization in the field
of geoscience.
Keynote Session
14 การประชุมวชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันที่ 4-6 สิงหาคม 2564
14
Hydrogeochemical Features of Karst in the Western Thailand
ZHANG Cheng1 , Mahippong Worakul2*, WANG Jin-liang1, PU Jun-bing1, LYU Yong1,
ZHANG Qiang1 and HUANG Qi-bo1
1 Institute of Karst Geology, Chinese Academy of Geological Sciences, Ministry of Land and Resources/
Guangxi Key Laboratory of Karst Dynamics, Guilin, China, 541004
2 Department of Groundwater Resources, Ministry of Natural Resources and Environment, Bangkok, Thailand 10900
*Corresponding author: Mahippong Worakul
E-mail: [email protected]
Abstract
The hydrogeochemical features of typical karst region in western Thailand were
discussed based on the high-resolution automatic hydrochemical monitor and karst springs
water quality test data. The standard dissolution tablet method was employed to calculate
dissolution rate of different lands and main characters and dynamic factors of Thailand karst
growth were analyzed. Comparing with the typical karst springs region in the southwest
China, karstic water in the western Thailand has the features of high calcium (100-120 mg/L),
high contents of bicarbonate ion (8.6-9.3 mmol/L) and high specific conductance (700-820
µs/cm); the dissolution quantity of soils in the dry season was between 28.95 mg/m2.d and
214.84 mg/m2.d; the annual dissolution quantity was twice-three times greater than that of
Jinfo Mountain in Chongqing or Guangxi Mashan County peak cluster depression, indicating
that under the condition of tropical monsoon climate, the karst process in river catchment
was significantly stronger than that of subtropical karst region of the southwest China.
Keywords: Karst development; Hydrogeochemistry; Dissolution rate; Western Thailand;
Phu Toei underground river catchment
Keynote Session
ธรณวี ถิ ใี หม่ นวตั กรรมไทย เพอ่ื การพัฒนาทีย่ ง่ั ยนื 15
Indochina - New Palaeozoic Data, Terranes and New Tectonic Hypotheses
Clive Burrett1*, Hathaithip Thassanapak1,2, Mongkol Udchachon1, Luke Gibson3, Khin Zaw3
and Sebastian Meffre3
1Palaeontological Research and Education Centre, Mahasarakham Univerity, Kamriang, Maha Sarakham 44150, Thailand
2Applied Palaeontology and Biostratigraphy Research Unit, Department of Biology, Faculty of Science, Ma-
hasarakham University, Maha Sarakham, 44150, Thailand
3CODES Centre of Ore Deposits and Earth Sciences, University of Tasmania, Box 252-79, Hobart, Tasmania
7001, Australia
*Corresponding author: [email protected]
Abstract
The number, extent, provenance and duration of mainland SE Asian terranes is
debatable and their boundaries, fusion times, and extensions into China and Cambodia are
controversial. Although derived from the pioneering work of J. Fromaget the ‘default’ idea
of a unitary, mainly Archean, Kon Tum ‘Massif’ about which Indochina accreted through the
Proterozoic-Phanerozoic is difficult to maintain. Indeed, we recognise at least 3 terranes
within geological ‘Indochina’ (Kon Tum (KT), Truong Son (TS) and Loei-Phetchabun (LP), (e.g.,
Burrett et al., 2014; Khin Zaw et al., 2014) and we have recently assembled the evidence
that they docked in the Tournaisian and late Permian and that most of the composite
Indochina Terrane did not exist until the Visean when a carbonate platform was established
across TS and LP (Burrett et al., 2021). A Llandovery subducting margin and volcanic arc
(Thassanapak et al., 2018) is found to the north of the Tam Ky Suture in Vietnam and Laos
and probably correlates with the Silurian volcanic arc in the eastern Loei Fold Belt. We
further suggest that the Loei Suture in NE Thailand and Laos correlates with the Tam Ky
Suture but its extent under the Mesozoic of the Khorat Plateau is uncertain. As shown by
Loydell et al., (2019), graptolites from this margin in Laos at the Sepon Mine are S. European
-N. African-Middle Eastern endemics and are not related to those from South China suggesting,
based on fish and gross sedimentological evidence, that TS did not dock with South China
along the Song Ma Suture until the late Silurian. The graptolites, along with detrital zircon
data from TS (Burrett et al., 2014) suggest derivation of TS from the Himalayan-Middle East
sector of Gondwana and rifting in the Late Ordovician. The discovery of numerous Ordovician
and Silurian dates on magmatic suites from Yunnan to Malaysia necessitates a re-appraisal of
tectonic models and the construction of new alternative hypotheses of terrane provenance,
rifting and amalgamation. The discovery of mafic magmatism ranging from the Ordovician to
the Permian suggests the Nan Suture in Thailand does not solely represent a late Palaeozoic
back-arc basin but may also be modelled as a long-lived ocean as originally suggested by
S. Bunopas. It is difficult to accommodate all of these new early Palaeozoic dates within
Keynote Session
16 การประชมุ วชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สงิ หาคม 2564
16
a simple model involving a major collision of a Hun Superterrane, the establishment of a
diachronous peri-Gondwana continental volcanic arc and subsequent rifting.
Keywords: Indochina, terranes, provenance, Ordovician, Silurian, Visean, collisions, ophiolite
References
Burrett, C., Udchachon, M. and Thassanapak, H. (2021). The Truong Son, Loei-Phetchabun
and Kontum Terranes in Indochina: provenance, rifting and collisions. Frontiers in
Earth Sci. 9:603565. doi: 10.3389/feart.2021.603565
Burrett, C., Meffre, S. Zaw, K., Lai, C-K., Khositanont, S., Chaodumrong, P., Udchachon, M.,
Ekins, S. and Halpina J. (2014). The configuration of Greater Gondwana-evidence from
LA ICPMS, U-Pb geochronology of detrital zircons from the Palaeozoic and Mesozoic
of Southeast Asia and China. Gondwana Res. 26, 31–51. doi:10.1016/j.gr.2013.05.020
Loydell, D., Udchachon, M. and Burrett, C. (2019). Llandovery (lower Silurian) graptolites
from the Sepon Mine, Truong Son Terrane, central Laos and their palaeogeograph-
ical significance. J. Asian Earth Sci. 170, 360–374. doi: 10.1016/j.jseaes.2018.11.013
Thassanapak, H., Udchachon, M. and Burrett, C. (2018). Silurian radiolarians from the Sepon Mine,
Truong Son Terrane, central Laos and their palaeogeographic and tectonic significance.
Geol. Magazine 155, 1621–1640. doi: 10.1017/S0016756817000425
Zaw, K., Meffre, S., Lai, C-K., Burrett, C., Santosh, M., Graham, I. Manaka, T. Salam, A.,
Kamvong, T., and Cromie, P. (2014). Tectonics and metallogeny of mainland Southeast
Asia A review and contribution. Gondwana Res. 26, 5–30. doi: 10.1016/j.gr.2013.10.010
Keynote Session
ธรณวี ถิ ีใหม่ นวตั กรรมไทย เพ่ือการพัฒนาท่ียง่ั ยนื 17
Permian-Triassic structure and palaeogeography of the Khao Khwang Fold
and Thrust belt, Central Thailand: Implications for the development of the
Indochina Terrane
Christopher Keith Morley1*, Sukonmeth Jitmahantakul2, Sopon Pongwapee3 and Hathaichanok Vattanasak4
1PTT Exploration and Production, ENCO, Soi 11, Vibhavadi Rangsit Road, Chatuchak, Bangkok, 10900, Thailand.
2Department of Geology, Faculty of Science, Chulalongkorn University, Phayathai Road, Bangkok, 10330, Thailand.
3Faculty of Science, Department of Earth Sciences, Kasetsart University, Bangkok, Thailand.
4Department of Mining and Materials Engineering, Faculty of Engineering, Prince of Songkhla University,
Songkhla University, Songkhla, 90112, Thailand.
*E-mail: [email protected]
Abstract
Indochina tends to be regarded as a single terrane of the Indosinian orogeny. However,
the E-W trending Khao Khwang Fold and Thrust Belt (KKFTB) suggests that for a period during
the Permian, and possibly the Late Carboniferous rifting had separated Indochina into Northern
and Southern Blocks. The extent of this period of rifting is partially known from the subsurface
data, particularly seismic reflection data from the Khorat Plateau area, where rifting resulted in
carbonate platforms on structural highs and deeperwater, more clastic-dominated deposits in
rift depocentres. New structural and sedimentary work on the Nong Pong Formation, and Khao
Khwang Formation platforms indicates the KKFTB is composed of a series of deepwater basins
(probably fault controlled) separated by small carbonate platforms. The bathyal Permian Nong
Pong Formation is crucial for understanding the deformation style, and amount of shortening
in the E-W trending, Triassic (Indosinian Orogeny) Khao Khwang Fold and Thrust Belt. The
platform carbonates are shortened by a series of dominantly north-directed thrusts. The Nong
Pong Formation is extensively affected by tight to isoclinal, predominantly chevron style fold-
ing. Five major variations in stratigraphy (ranging between carbonate-dominated and shale-
dominated) affect the deformation styles within the formation. Shortening locally is estimated
to be up to 60% in sections up to 300 m long and is concentrated into short-wavelength (10s
m) structures. The absence of proximal slope depo-belts, and juxtaposition of carbonate
platform facies with deepwater deposits suggest thrusts (some initiated as inverted normal
faults) located on the basin margins have displacements of c. 10-25 km. Estimates of
shortening from outcrops, and analogy with Zealandia, suggest the northern outcrops of the
Nong Pong Formation between the Khao Khwang and Khao Khad platforms was deposited in a
basin up to 100 km wide. The entire KKFTB is estimated to have been much wider (>300 km),
and indicates a significant E-W trending seaway that bisected the Indochina Terrane. The
trace of this seaway into northern Cambodia and Vietnam is uncertain, but possibly the suture
passed into southern Vietnam where it is covered by the Jurassic Ban Don Group.
Keynote Session
18 การประชมุ วชิ าการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วนั ที่ 4-6 สิงหาคม 2564
Microfossils กับ ธรณีวทิ ยา 18
ฐาสิณีย์ เจรญิ ฐติ ริ ตั น์
ภาควิชาธรณีวทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั กรงุ เทพ 10330
E-mail: [email protected]
บทคัดย่อ
ไมโครฟอสซิล (microfossils) คือฟอสซิลท่ีมีขนาดเล็กมากพบท้ังฟอสซิลของพืช สัตว์ โปรตีส
(protist) ฟงั ใจ (fungi) และแบคทเี รีย เปน็ ตน้ โดยปกติจะมขี นาดน้อยกว่า 1 มิลลิเมตร แต่ไมโครฟอสซิลบาง
ชนิดอาจมีขนาดใหญ่กว่านี้ การศึกษารายละเอียดและจาแนกไมโครฟอสซิลจาเป็นต้องใช้กล้องจุลทรรศน์
กาลังขยายมากหรือน้อยแตกต่างกันแล้วแต่ชนิดของฟอสซิล ไมโครฟอสซิลสามารถจาแนกได้ด้วยลักษณะ
รูปรา่ ง โครงสร้างภายใน ขนาด และองค์ประกอบของเซลหรือเปลือกที่ห่อหุ้ม ซ่ึงองค์ประกอบน้ันมีหลายชนิด
ตัวอย่างดังนี้ องค์ประกอบท่ีเป็นซิลิกาจะพบในกลุ่มของไดอะตอม เรดิโอลาเรีย องค์ประกอบประเภท
แคลเซียมคาร์บอเนต พบในกลุ่มฟิวซูลินิดและฟอแรมขนาดเล็ก ออสตราคอด องค์ประกอบประเภทฟอสเฟต
พบในกลมุ่ โคโนดอนต์ และองคป์ ระกอบทีเ่ ป็นสารอินทรีย์ พบในกลุ่มละอองเรณู เป็นต้น ไมโครฟอสซิลที่เป็น
ฟอสซิลดัชนี (index fossil) เช่น ฟิวซูลินิดและฟอแรมขนาดเล็ก เรดิโอลาเรีย โคโนดอนท์ มีประโยชน์ในการ
บอกอายุของหนิ และการเทยี บสัมพนั ธ์ของชัน้ หินทีอ่ ยูห่ า่ งกัน นอกจากนี้ไมโครฟอสซิลบางกลุ่มสามารถใช้เป็น
ดัชนีในการศึกษาสภาพแวดล้อมบรรพกาล และปัจจุบันความรู้เกี่ยวกับไมโครฟอสซิล สามารถนามา
ประยุกต์ใชใ้ นการอธิบายการเปลี่ยนแปลงและความเป็นมาของเปลือกโลกได้ ในประเทศไทยการศึกษาไมโคร
ฟอสซิลได้รับความนิยมและมีข้อมูลมากในไมโครฟอสซิลบางกลุ่ม เช่น ฟิวซูลินิด ฟอแรมขนาดเล็ก เรดิโอลา
เรีย โคโนดอนท์ ออสตราคอด ละอองเรณู ทั้งนี้ข้ึนอยู่กับการใช้ประโยชน์ ความหนาแน่นของการกระจายตัว
ความหลากหลายของชนิด และชนดิ ของหิน เป็นต้น การศกึ ษาวิจยั ไมโครฟอสซิล 3 กลุ่มหลักๆในประเทศไทย
ที่ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงและพัฒนาแนวคิดเกี่ยวกับธรณีแปรสัณฐานของประเทศไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
คือกลุ่มฟิวซูลินิดและฟอแรมขนาดเล็ก กลุ่มโคโนดอนท์ และกลุ่มเรดิโอลาเรีย สาหรับกลุ่มฟิวซูลินิดและ
ฟอแรมขนาดเล็กพบว่ามีการศึกษาทางด้านอนุกรมวิธานมากที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่ง่ายต่อการสังเกตในหิน
พบจานวนมากและมีชนิดที่หลากหลาย ปัจจุบันการวิจัยเกี่ยวกับไมโครฟอสซิลกลุ่มนี้นอกจากจะใช้เป็น
ฟอสซิลดัชนีในการหาอายุหินแล้ว สามารถท่ีจะนามาประยุกต์และเป็นข้อมูลในการอธิบายเกี่ยวกับธรณี
แปรสัณฐานของประเทศไทยและพื้นที่ข้างเคียงได้ ส่วนกลุ่มโคโนดอนต์และเรดิโอลาเรียเป็นฟอสซิลดัชนีที่มี
ความสาคัญในการหาอายเุ ช่นกัน นอกจากนี้ข้อมูลชนิดหินท่ีพบกลุ่มไมโครฟอสซิลเหล่านี้ จะเป็นข้อมูลสาคัญ
ในการบอกสภาพแวดล้อมการสะสมตัว ส่วนไมโครฟอสซิลกลุ่มอื่นๆน้ันมีแนวทางการพัฒนาและวิจัยเพ่ือใช้
ประโยชน์เพิ่มมากขน้ึ ในปัจจบุ นั
Keynote Session
ธรณีวิถีใหม่ นวตั กรรมไทย เพอ่ื การพัฒนาท่ยี ั่งยืน 19
Radiolarian study in Thailand: Present and future subject
Katsuo Sashida
Division of Geoscience, Mahidol University Kanchanaburi Campus, 199 Lum Sum, Sai Yok District, Kan-
chanaburi Province, Thailand, 71150
E-mail: [email protected]
Abstract
Radiolarians are planktonic protozoa. Living radiolarians are generally present in the
shallow to deep sea all over the world except for too much shallow and extremely low and
high salinity environment. Radiolarian fossils are often identified in the fine-grained siliceous
and calcareous sedimentary rocks which are thought have been accumulated in the pelagic
or hemipelagic environment. These sedimentary rocks generally lack the mega fossils which
are useful to determine the geologic age. Radiolarian shells are constructed by SiO2, which
have rather strong resistance to physical and chemical erosion and deformation by pressure
compared with calcareous shell-bearing fossils. Therefore, radiolarians are one of the most
important microfossils as the tool for the terrane analysis, to reconstruct tectonic,
paleogeography, paleoenvironment and tectono-stratigraphy near the region of the suture
zone and the past active margin. Since the first report of Permian and Triassic radiolarians
from fine-grained siliceous rocks in northern Thailand by Caridroit et al. (1990), a lot of
radiolarian biostratigraphy and taxonomy have been undertaken in Thailand (Sashida et al.,
1993, 2021 in press; Thassanapak et al., 2020). Based on these local micropaleontological
investigations and recently accumulated knowledge on biostratigraphy of radiolarians,
conodonts, and fusulinids, many tectonostratigraphic investigations in Southeast Asia including
Thailand have been presented (Metcalfe, 2017). The present author summarizes the study
on radiolarian fossils conducted in Thailand based on the point of views of biostratigraphy,
taxonomy, paleogeography, paleoenvironment, and tectonic analysis, and further proposes
the future subject of radiolarian study in Thailand, herein.
Keywords: Biology, Biostratigraphy, Paleotethys, Radiolarian, Taxonomy, Terrane analysis
References
Caridroit, M., Fontaine, H., Jongkanjanasoontorn, Y., Suteehorn, V., Vachard, D., 1990; First
results of a palaeontological study of northwest Thailand. In Fontaine, H. ed., Ten years
of CCOP Research on the Pre-Tertiary of East Asia. CCOP/TP, 20, p. 337-350.
Metcalfe, I., 2017; Tectonic evolution of Sundaland. Bulletin of the Geological Soceity of
Malaysia, col. 63, p. 27-60.
Sashida, K., Igo, H., Hisada, K., Nakornsri, N. and Ampornmaha, A., 1993; Occurene of Paleozoic
and early Mesozoic Radiolarian in Thailand (preliminary report). Journal of Southeast
Keynote Session
20 การประชมุ วชิ าการธรณไี ทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สงิ หาคม 2564
Asian Earth Sciences, vol. 8, p. 97-108. 20
Sashida, K., Ito, T., Salyapongse, S., and Putthapiban, P., 2021 in press. Perman and Triassic
radiolarians from chert breccia in the Nong Prue area, western Thailand: its origin and
depositional setting in the Paleotethys. Palaeoworld.
Thassanapak, H., Udchachon, M., Chareonmit, J., and Burreett, C., 2020; Early Permian radio-
larians from Southern Thailand, the deglaciation of Gondwana and the age of the basal
Ratburi Group. Palaeoworld, vol. 29, p. 552-567.
Keynote Session
ธรณีวิถใี หม่ นวตั กรรมไทย เพ่อื การพัฒนาท่ียั่งยืน 21
กระดกู กระเบนเหน็บชินใหมข่ องไดโนเสารเ์ ทอโรพอด ยคุ ครเี ทเชียสตอนต้น
จากจังหวดั ขอนแกน่ และอนุกรมวิธานของไดโนเสาร์เทอโรพอดในประเทศไทย
กฤษณพุ งศ์ พนั ทานนท์ 1*, อดุลย์ สมาธิ2 และ สรุ เวช สธุ ธี ร1
1ภาควิชาชีววทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม มหาสารคาม 44150
2หนว่ ยวจิ ยั ความหลากหลายทางชวี ภาพและการอนรุ กั ษ์ สถาบนั วจิ ยั วลยั รกุ ขเวช มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม มหาสารคาม 44150
*E-mail: [email protected]
บทคดั ยอ่
เทอโรโพดา (Theropoda) เป็นอันดับย่อยของไดโนเสาร์กลุ่มซอริสเชีย (Saurischia) ซ่ึงเป็นไดโนเสาร์
สะโพกแบบสัตว์เล้ือยคลาน ไดโนเสาร์กลุ่มนี้ค้นพบซากดึกดาบรรพ์จากท่ัวทุกมุมโลก ในประเทศไทยมีการ
ค้นพบไดโนเสาร์ในกลุ่มนี้ถึง 6 ชนิด ได้แก่ สยามโมซอรัส สุธีธรนิ (Siamosaurus suteethorni) เป็น
ไดโนเสารก์ นิ ปลา วงศส์ ไปโนซอรเิ ด (Spinosauridae) ถดั มาคอื วงศข์ องซีลโู รซอเรีย (Coelurosauria) ท่ีคน้ พบ
ในประเทศไทยส่วนใหญ่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเเบซอลซีลูโรซอร์ (Basal Coelurosaur) ได้แก่ สยามโมไทรันนัส
อิสานแอนซิส (Siamotyrannus isanensis) ภูเวียงเวนเนเตอร์ แย้มนิยมมิ (Phuwiangvenator yaemniyomi)
และ วายุแรปเตอร์ หนองบวั ลาภูเอนซิส (Vayuraptor nongbualamphuensis) นอกจากนี้ยังมีไดโนเสาร์ใน
กลุ่มของออร์นิโทมิโมซอเรีย (Ornithomimosauria) อย่าง กินนารีมิมัส ขอนแก่นเอนซิส (Kinnareemimus
khonkaenensis) อกี ดว้ ย และเมอื่ ไมน่ านมานไ้ี ดม้ กี ารคน้ พบไดโนเสารว์ งศใ์ หมเ่ พมิ่ ขนึ้ มา คอื วงศอ์ ลั โลซอรอยเดยี
(Allosauroidea) โดยจัดให้อยู่ในกลุ่มของไดโนเสาร์คาคาร์โรดอนโทซอเรีย (Carcharodontosauria) ได้แก่
สยามแรปเตอร์ สุวัจน์ติ (Siamraptor suwati) ล่าสุดไดม้ ีการค้นพบช้ินส่วนกระเบนเหน็บ (sacral vertebrae)
ของไดโนเสาร์เทโรพอดจากแหลง่ ขุดคน้ ภูเวียง จงั หวัดขอนแกน่ เมื่อเปรียบเทียบลักษณะทางสัณฐานวิทยากับ
ไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรพอดกลุ่มต่าง ๆ แล้ว อนุมานว่าสายวงศ์วานวิวัฒนาการของไดโนเสาร์ชนิดน้ีมีความ
เป็นไปได้ที่อาจถูกจัดอยู่ในกลุ่มคาคาร์โรดอนโทซอเรียหรือกลุ่มเมกาแร็พเทอรา (Megaraptora) แต่ทว่า
ข้อมลู นย้ี ังไม่ชดั เจนเน่ืองจากช้นิ ตัวอย่างท่ีศึกษามีลกั ษณะร่วมของไดโนเสาร์เทอโรพอดหลายกลุ่ม และจะต้อง
มีการศึกษาเพ่ิมเติมในอนาคต การศึกษาน้ีจะเพิ่มความหลากหลายของไดโนเสาร์กินเน้ือในประเทศไทยและ
เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใตแ้ ละจะทาให้เราเขา้ ใจวิวฒั นาการของไดโนเสารก์ ินเนื้อในภมู ภิ าคน้ีมากยิ่งขึ้น
คาสาคัญ: ซอรสิ เชีย คาคารโ์ รดอนโทซอเรีย เมกาแรพ็ เทอรา กระดกู กระเบนเหน็บ
Keynote Session
22 การประชุมวิชาการธรณีไทย ประจาปี 2564
(Geothai Webinar 2021) วันท่ี 4-6 สงิ หาคม 2564
22
กว่าจะมาเปน็ อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาสามร้อยยอด กบั เหตุการณ์นาทะเลถอยร่น:
หลักฐานจากภมู ิลักษณ์และการหาอายุ
พรี สิทธิ์ สุรเกียรตชิ ยั 1, 2*, มนตรี ชูวงษ์1, 2, สเุ มธ พันธวุ งคร์ าช1, 2, กิตติ ขาววิเศษ3 และ ปญั ญา จารศุ ริ 2ิ ,3
1 ภาควิชาธรณวี ิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย,
2 หน่วยปฏบิ ตั ิการวิจัย สณั ฐานวิทยาของพ้นื ผวิ โลกและธรณีพิบตั ภิ ยั ข้นั สูงในเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ (MESA RU) ภาควิชา
ธรณวี ทิ ยา คณะวิทยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
3 กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ถนนพระราม 6 กรงุ เทพมหานคร ประเทศไทย
*E-mail: [email protected]
บทคดั ย่อ
เราไดค้ ดั เลอื กพน้ื ทช่ี ายฝงั่ ทะเลบรเิ วณอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาสามรอ้ ยยอด จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธเ์ พอ่ื ศกึ ษา
ประวัติความเป็นมาของชายฝั่งทะเลโบราณและวิวัฒนาการชายฝั่งทะเล โดยอาศัยหลักฐานจากภูมิลักษณ์
ธรณสี ณั ฐานวิทยา และการหาอายุชายฝั่ง โดยเราได้แปลความหมายขอ้ มูลภาพจากดาวเทียมและภาพถ่ายทาง
อากาศ ควบคกู่ บั การตรวจสอบเชงิ เอกสาร การออกสนาม การเกบ็ ตวั อยา่ งตะกอนและหอย และการกาหนดอายุ
ชายหาด ผลการตรวจสอบทางภูมิลักษณพ์ บวา่ ชายฝั่งทะเลสามรอ้ ยยอดแต่เดมิ ประกอบด้วยชายหาดเกา่ เป็น
บรเิ วณกวา้ งตงั้ แต่ 1-5 กม และยาวประมาณ 30 กม เกอื บขนานกบั ชายฝงั่ ปจั จบุ นั โดยปรากฏรอ่ งรอยของแนวสนั
ทรายโบราณสลบั กบั แนวรอ่ งลมุ่ ต่าชดั เจน ผลการเดนิ สารวจและเกบ็ ตวั อยา่ งตะกอนชายหาดโบราณทเี่ กอื บตงั้ ฉาก
กบั แนวสนั ทรายโบราณ ตลอดจนการหาอายดุ ว้ ยวธิ เี ปลง่ แสงเชงิ แสงทาใหเ้ ราทราบวา่ ชายฝง่ั ทะเลโบราณนม้ี อี ายุ
เกา่ แกท่ สี่ ดุ ถงึ ประมาณ 10,000 ปมี าแลว้ และตอ่ มาระดบั ทะเลจงึ คอ่ ย ๆ ลดต่าลงเรอ่ื ย ๆ จนถงึ ระดบั ปจั จบุ นั
ผลการวิจยั ทาให้เราสร้างประวัติความเป็นมาของอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดและพ้ืนท่ใี กลเ้ คียง
ตลอดจนววิ ฒั นาการทภี่ มู ลิ กั ษณช์ ายฝงั่ ทะเลเปลยี่ นแปลงไปไดช้ ดั เจนขน้ึ ซงึ่ มคี วามสาคญั ตอ่ ภมู ศิ าสตรบ์ รรพกาล
ของอา่ วไทยเป็นอย่างมาก และทาใหเ้ ราวนิ ิจฉัยไดว้ า่ แต่เดิมอทุ ยานแห่งชาติเขาสามรอ้ ยยอดไม่ได้เปน็ เทอื กเขา
หินปูนขนาดใหญ่อย่างท่ีเห็นในปัจจุบัน แต่กลับสภาพท่ีถูกล้อมรอบด้วยทะเลโบราณของอ่าวไทยมาก่อน
นอกจากนนั้ เขาใหญน่ อ้ ยทพี่ บใกลอ้ ทุ ยานและ ทอี่ ยถู่ ดั จากเขาสามรอ้ ยยอดออกมากม็ สี ภาพเปน็ เกาะด้วยเช่นกัน
ยิ่งกวา่ นนั้ ผลการศึกษาธรณสี ณั ฐานวิทยาและการกาหนดอายจุ ากตะกอนสันทรายด้วยวธิ กี ารเปล่งแสงเชิงแสง
(OSL) จากควอตซ์ และตวั อยา่ งเปลอื กหอยนางรมดว้ ยวธิ กี มั มันตรังสคี าร์บอน (radiocarbon dating) ทาให้เรา
กาหนดอายชุ ายฝงั่ ทะเลโบราณโดยรอบอทุ ยานออกเปน็ 4 ชว่ ง ไดแ้ ก่ ชว่ งอายุ 10,000 – 6,000 ปกี อ่ น, ชว่ งอายุ
6,000- 4,000 ปกี อ่ น, ชว่ งอายุ 4,000 – 2,00 ปกี อ่ น, และ ชว่ งอายุ 2,000 ปจี นถงึ ปจั จบุ นั ผลการศกึ ษาของเรา
ทาให้สามารถสร้างแผนท่ีววิ ัฒนาการภมู ิลักษณ์ชายฝ่ังทะเลได้ และยงั สรุปได้ว่าพื้นที่โดยรอบเขาสามร้อยยอด
และเขาเล็ก ๆ ทางตะวันออกติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยมีสภาพเป็นเกาะอย่างชัดเจน และความเป็นเกาะก็เกิด
เรอ่ื ยมาจนมาถงึ ชว่ งเวลาประมาณ 6,000 ปี นอกจากนนั้ ภมู ลิ กั ษณบ์ รรพกาลดังกล่าวทาใหเ้ ราประเมนิ ไดว้ า่ เมื่อ
ประมาณ 10,000 ปที แ่ี ลว้ มา บงึ บวั อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาสามรอ้ ยยอดซงึ่ อยทู่ างตะวนั ตกของอทุ ยานกเ็ คยจมอยใู่ ต้
ทะเลมากอ่ นดว้ ยเชน่ กนั และอาจมสี ภาพเปน็ ทะเลสาบเหมอื นทะเลสาบนอ้ ยของจงั หวดั สงขลา ซงึ่ คงตอ้ งมกี ารหา
อายโุ ดยละเอยี ดสบื ไป
คาสาคัญ: วิวฒั นาการชายฝ่งั ทะเล, อุทยานแหง่ ชาตเิ ขาสามร้อยยอด, ประจวบคีรีขันธ์, การหาอายดุ ว้ ยวิธกี าร
เปลง่ แสงเชงิ แสง, ชายฝง่ั ทะเลโบราณ ชายฝง่ั ทะเลโบราณ
Oral Session