E-book การพัฒนางานพยาบาลในสถานการณ์ COVID-19(ปรับปรุง)

97

รูปภาพแสดง พัฒนาระบบบริการการนดั ผา่ ตัดคลอดและการนดั กระตุ้นคลอด
Same day C/S ,Same day Induction

รปู ภาพแสดง พฒั นาคุณภาพระบบงานการบริการและการจดั การความรูด้ ว้ ยเทคโนโลยียุคดิจิทลั
(LR 4.0) E-book

ส่วนที่ 2 แนวทางการดแู ลสตรีต้งั ครรภใ์ นหอ้ งคลอดช่วงทมี่ กี ารระบาดของ COVID-19
1. สตรีต้ังครรภท์ ย่ี งั ไมท่ ราบผลตรวจ COVID-19 แตม่ คี วามจาเป็นใหก้ ารรกั ษาพยาบาลทันที

1.1 จดั ให้อย่ใู นหอ้ งแยกความดนั ลบ (negative pressure room) หากหอ้ งไมว่ ่าง ใหเ้ ปิดใชห้ อ้ ง
ผา่ ตดั 101 อาคารศัลยกรรม ชนั้ 1

98
1.2 บคุ ลากรดูแลผูป้ ่วยจะตอ้ งใส่ชดุ และอุปกรณ์ป้องกนั เต็มท่ี (Personal Protection
Equipment, PPE) ประกอบดว้ ย หนา้ กาก N95 แว่นตา face shield เสื้อกาวน์กันน้าและถุงมือ

รูปภาพแสดง การแตง่ กายของบคุ ลากรดูแลผปู้ ว่ ย ใส่ชดุ และอปุ กรณ์ป้องกันเตม็ ท่ี (Personal Protection
Equipment, PPE)

1.3 การดูแลผู้ปว่ ยให้ใช้ทมี สหสาขาวชิ าชพี ประกอบด้วย สตู ิแพทย์ อายุรแพทยโ์ รคตดิ เช้ือ
วิสัญญแี พทย์ กุมารแพทย์ทารกแรกเกิดและพยาบาลชานาญการ

1.4 การเคล่ือนยา้ ยผปู้ ว่ ย บคุ ลากรต้องใส่ชดุ และอุปกรณ์ป้องกนั เต็มท่ี
1.5 ใหก้ ารดูแลโดยบุคลากรท่เี ชย่ี วชาญและจากดั จานวนผดู้ แู ลใหน้ อ้ ยท่ีสดุ

รูปภาพแสดง การทาคลอดสตรีตั้งครรภท์ ตี่ ิดเชอื้ COVID-19 หรอื เป็น PUI โดยบุคลากรทีเ่ ช่ยี วชาญ
และจากัดจานวนผดู้ แู ลให้น้อยท่ีสดุ

99

2. การดแู ลทารกเกิดจากสตรตี ้ังครรภ์ท่ีติดเช้อื COVID-19 หรือเปน็ PUI
สตรีตั้งครรภ์ท่ีติดเชื้อ COVID-19 หรือเป็น PUI ภาควชิ าสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

มนี โยบายผา่ ตดั คลอดทุกราย ห้องคลอดมีแนวทางปฏบิ ัติ ดงั น้ี
แนวทางปฏบิ ัติห้องคลอดเมื่อมีการผา่ ตดั คลอดสตรตี ้ังครรภท์ ่ตี ดิ เช้ือ COVID-19 หรือเป็น PUI

1. การทาผา่ ตัดคลอดสตรตี ้งั ครรภท์ ต่ี ิดเชอ้ื COVID-19 หรอื เป็น PUI ใชห้ อ้ งผ่าตัดชน้ั 1
ตึกสูตกิ รรม (OR COVID) สตู ิแพทยม์ หี นา้ ท่รี ายงาน COVID team (แพทยผ์ ทู้ าผ่าตัด),
กมุ ารแพทย์ วิสญั ญแี พทย์ ทีมพยาบาลห้องผ่าตัด ยกเว้นกรณเี ข้าข่ายสงสยั ใหป้ รกึ ษา
COVID-19 care term

2. เมื่อสูตแิ พทย์กาหนดเวลาผ่าตัด
2.1 หอ้ งคลอดจดั ตาแหนง่ พยาบาลโดย
- B1 ได้แก่พยาบาลวิชาชีพ มีหนา้ ทีป่ ระสานงาน บนั ทกึ ข้อมูล และอานวยความสะดวก
- ให้แก่ทีมงาน
- C1 ไดแ้ ก่พยาบาลวิชาชีพ มีหนา้ ทช่ี ว่ ยกมุ ารแพทย์กูช้ ีพทารกแรกเกดิ โดยใส่ PPE
- ชุด C
- C2 ไดแ้ ก่พยาบาลวิชาชพี / ผู้ชว่ ยพยาบาล มหี น้าท่นี าส่งทารกแรกเกิดไปยังหอผ้ปู ่วย
- C3 ไดแ้ ก่พนักงานทวั่ ไป มหี น้าท่มี ีหนา้ ทีน่ าส่งทารกแรกเกิดไปยังหอผปู้ ่วย
- C4 ได้แก่พยาบาลวิชาชพี มหี น้าทเ่ี ตรยี มผคู้ ลอดเพื่อทาผ่าตัด เชน่ ใหส้ ารน้า ให้ยา
- เจาะเลือด retain Foley’s cath

3. ห้องคลอด ประสานงานหออภิบาลทารกแรกเกดิ เตรยี มความพร้อมรบั ทารกแรกเกดิ และเตรียม
อปุ กรณ์ได้แก่ Ventilator mobile และ Bacteria filter

รูปภาพแสดง การเตรยี มความพรอ้ มเครื่องมือและอปุ กรณ์ชว่ ยฟน้ื คนื ชพี ทารกแรกเกิดในหอ้ งผ่าตดั Covid-19

100
4. ทีมหอ้ งคลอดทัง้ 4 ตาแหนง่ พร้อมปฏิบัติงานที่ห้องผ่าตดั เพ่อื เตรียมตวั นาเครื่องมืออปุ กรณ์

และ incubator transfer ไปพรอ้ ม เม่อื ถงึ หอ้ งผา่ ตดั ให้รายงานตัว incharge หอ้ งผา่ ตดั ทราบ
5. เมอ่ื ทีมผา่ ตดั คลอดมารายงานตัวครบทุกคน incharge หอ้ งผา่ ตัดแจง้ เวรเปลเพื่อนารถ

Negative pressure รับผูค้ ลอดจากหอผปู้ ว่ ยแยกโรค
6. เมื่อทีมผา่ ตัดแต่งตัวเรียบร้อยและพรอ้ มทาผา่ ตัดคลอด incharge ห้องผา่ ตดั โทรแจง้ หอผู้ปว่ ย

แยกโรคให้สง่ ผู้คลอดไปห้องผ่าตัด
- ในกรณที ี่สตรีตัง้ ครรภท์ ีต่ ิดเช้อื COVID-19 หรือเปน็ PUI อยู่ท่หี อ้ งคลอด C4 เตรยี มผ้คู ลอด
เพ่ือทาผ่าตัด และย้ายผคู้ ลอดเข้าในรถ Negative pressure

รูปภาพแสดง การเคลือ่ นยา้ ยสตรีตงั้ ครรภ์ท่ีตดิ เช้ือ COVID-19 หรือเป็น PUI
เพื่อทาผ่าตัดคลอด ทห่ี ้องผา่ ตัดชั้น 1 ตึกสตู กิ รรม (OR COVID)

- ห้องคลอด B1 ส่งผูค้ ลอดไปยงั ห้องผ่าตดั เตรียมข้อมูลพิมพร์ ายงานการคลอด ป้ายข้อมือมารดา
และทารก

- ห้องคลอด C2 ตรวจสอบความเรียบร้อยรถ transfer, tube holder, ผ้ารองศีรษะทารก และเทปกาว

101
7. เม่ือทารกพรอ้ มส่งไปหอผู้ป่วย กุมารแพทยโ์ ทรศัพทแ์ จ้งขอ้ มูลทารกแรกเกิด หอ้ งคลอด B1
โทรศัพท์ส่งต่อข้อมูลทารกแรกเกดิ กับพยาบาลหอผู้ป่วย ห้องคลอด C2 และ C3 นาส่งทารกดว้ ยรถ
transport incubator

รูปภาพแสดง C1 ได้แก่พยาบาลวชิ าชีพ มหี น้าท่ีชว่ ยกุมารแพทยก์ ชู้ ีพทารกแรกเกดิ

รูปภาพแสดง C2 และ C3 ได้แกพ่ ยาบาลวิชาชีพ/ ผชู้ ่วยพยาบาล และพนักงานทวั่ ไปมีหน้าทน่ี าสง่ ทารกแรก
เกดิ ไปยงั หอผู้ป่วย

102

8. การปฏบิ ัติงานใหอ้ ยภู่ ายใต้แนวทางปฏิบตั ิของหน่วยควบคมุ การติดเช้อื ในโรงพยาบาล
แนวทางการดูแลทารกแรกเกิด

103

104

105
ผลลพั ธก์ ารพฒั นาห้องคลอด
บุคลากรผา่ นการทดสอบสมรรถนะการใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั ระดบั B และ C เกณฑ์ = 100%

บคุ ลากรมสี มรรถนะดา้ นการใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั ระดบั B และ C เพมิ่ ขน้ึ ≥ 10 %

การประเมินสมรรถนะดา้ นการใช้อปุ กรณ์ป้องกันสว่ นบุคคล ระดับ C พยาบาลวชิ าชีพ ห้องคลอด

120

100

80

60

40

20

0 พิ นพวรร วไิ ล พชั ญ์ กนกวรร
ลัยวรรณ ณ ลักษณ์ วญั ญ์ ณ
อรุณศรี ปารฉิ ัตร อไุ ร สุวมิ ล พชรษร พรพมิ ล นันทวนั สุดารัตน์ อารยี า อรอนงค์ ตริ ัตตา มานติ รา

คะแนนครัง้ ที่1 90 88 82 79 78 86 88 88 82 90 69 90 87 78 80 78 80

คะแนนครั้งท่ี2 100 98 98 100 100 96 98 98 100 100 100 100 96 100 90 86 94

คะแนนเพมิ่ ขึน้ รอ้ ยละ 11.11 11.36 19.51 26.58 28.2 11.63 11.36 11.36 21.95 11.11 44.92 11.11 10.34 28.2 12.5 10.26 17.5

คะแนนครั้งที่1 คะแนนครงั้ ท่ี2 คะแนนเพ่มิ ขึ้นร้อยละ

106
การประเมินสมรรถนะดา้ นการใชอ้ ุปกรณ์ป้องกันส่วนบคุ คล ระดบั C ผชู้ ว่ ยพยาบาล หอ้ งคลอด

Axis Title 120

100 สรุ ินดา กลั ยรัตน์ พลอยไพริน มาริสา
61 79 78 67
80 99 96 86 96
62.3 43.28
60 21.52 10.26

40

20

0
คะแนนครัง้ ท่ี 1
คะแนนครัง้ ท่ี 2
คะแนนเพิ่มขนึ ้ ร้อยละ

การประเมินสมรรถนะด้านการใชอ้ ุปกรณป์ ้องกนั สว่ นบุคคลระดบั B พนักงานทว่ั ไป หอ้ งคลอด

100

80

60

40

20

0 ปารชิ าต สมุ ลทพิ ย์ สรุ ีรัตน์ อาภา
53 80 77 76
คะแนนคร้ังท1่ี 78 89 86 85
คะแนนครั้งท2ี่ 47.17 11.25 11.69 11.84
คะแนนเพ่ิมขึ้นร้อยละ
คะแนนคร้งั ท2่ี คะแนนเพมิ่ ข้นึ รอ้ ยละ
คะแนนครง้ั ที่1

107
จานวนสตรีตง้ั ครรภ์/ผปู้ ่วยจากหนว่ ยงานอื่น เข้ารบั การตรวจ Covid-19 ท่หี ้องคลอด

108

สถิตกิ ารคลอด Covid-19

9 (11/137) (12/146)
8

7

6

5
4 (5/141)

3 (3/128) (3/128)

2 (1/142) (2/136) (1/114)
1

0

เม.ย.-64 พ.ค.-64 ม.ิ ย.-64 ก.ค.-64 ส.ค.-64 ก.ย.-64 ต.ค.-64 พ.ย.-64

เม.ย.-64 พ.ค.-64 ม.ิ ย.-64 ก.ค.-64 ส.ค.-64 ก.ย.-64 ต.ค.-64 พ.ย.-64
ผลลพั ธ์ 0.7 1.47 0.88 8.03 8.22 3.55 2.34 2.34

4.ตวั ชวี้ ัดทสี่ าคัญ เกณฑ์ ผลลัพธ์
≤ 2% 0%
ตัวชว้ี ดั
อัตราสตรตี ้งั ครรภ์ที่ติดเชื้อ COVID-19 หรอื เปน็ PUI ตกเลอื ดหลังคลอด ≥ 85% 91.43 %
ทันที 0% 0%
อตั ราความพึงพอใจผู้ปว่ ยใน 0 0
อัตราบุคลากรตดิ เชื้อจากการปฏบิ ัตงิ าน
จานวนอุบตั ิการณ์เครอื่ งมือ อปุ กรณ์ไม่เพยี งพอตอ่ การใช้งาน

109
การพัฒนางานการดแู ลสตรีตัง้ ครรภท์ ต่ี ิดเช้อื COVID-19 หรือเป็น PUI และสตรีหลังคลอด
ทต่ี ดิ เชอ้ื Covid-19 หอผู้ป่วยหลังคลอด คณะแพทยศาสตรว์ ชริ พยาบาล มหาวิทยาลยั นวมินทราธริ าช
หอผปู้ ่วยแยกโรค 1 เปดิ ทาการเมอ่ื วนั ท่ี19 สงิ หาคม 2564 ถึงวันท่ี 1 ตลุ าคม 2564
รวมระยะเวลาที่เปิดทาการ 43 วัน

ขอบเขตบรกิ ารหอผู้ป่วยแยกโรค 1
2.1 ผูป้ ว่ ยกลุ่มสตู นิ รเี วชทีต่ ดิ เชอื้ Covid-19 ระดบั ESI 3-5 จานวน 10 เตียง
3.2 ผู้ปว่ ยกลมุ่ กมุ ารเวชกรรมทีต่ ิดเชื้อ Covid-19 ระดับ ESI 1-2 จานวน 2 เตียง
ระดับ ESI 3-5 จานวน 4 เตยี ง

เปา้ หมาย
ใหก้ ารดูแลรกั ษาและสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพสตรีตงั้ ครรภ์ สตรีหลังคลอดที่ติดเช้อื Covid-19 ตาม

มาตรฐานวชิ าชพี และแนวทางของกรมควบคุมโรคโดยคานงึ ถึงความปลอดภยั ความพึงพอใจของผู้รบั ผลงาน
และบุคลากรมีความสุข

รูปภาพแสดง การดูแลขณะต้ังครรภใ์ นหอผู้ป่วยแยกโรค 1

110

รปู ภาพแสดง การดูแลหลังคลอด
การพัฒนางานหอผู้ป่วยหลังคลอด คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล

1. กลยทุ ธ์ มีการประชมุ ปรกึ ษาหารอื เปิดทาการหอผูป้ ว่ ยแยกโรค 1 เพ่อื รองรับการดูแลกลุ่มผปู้ ่วย
Covid-19 in Pregnancy and postpartum care
1.1 ทมี นาได้จัดเตรียมสถานท่ีภายในหอผู้ป่วยให้เป็นหอ้ งแรงดนั ลบ มี Anteroom บริเวณทางเขา้

และทางออกจากห้องผูป้ ว่ ย ในส่วนของเคานเ์ ตอร์ทางานเป็นหอ้ งแรงดนั บวกเพ่ือความปลอดภัยของ
ผรู้ ับบริการและบุคลากร

รปู ภาพแสดง จดั เตรยี มสถานทภ่ี ายในหอผูป้ ว่ ยให้เป็นหอ้ งแรงดนั ลบ มี Anteroom ทางเข้า

111

1.2 การเตรียมบุคลากรใช้บุคลากรจากหอผปู้ ่วยสูตนิ รเี วชซึ่งเคยผา่ นการดูแลผ้ปู ว่ ยจาก
Cohort ward มาแล้วทาให้มีสมรรถนะเพียงพอในการดแู ลผูป้ ่วย Covid-19 in Pregnancy and
postpartum care

112

รปู ภาพแสดง การเตรียมบคุ ลากรในสถานการณต์ า่ งๆ
1.3 มสี ูตนิ รแี พทย์ อายรุ แพทย์ นักบริการสังคมรว่ มทีมในการรกั ษาดแู ลผปู้ ว่ ย

รูปภาพแสดง ทมี สหสาขาร่วมจัดทา DMS ในหอผปู้ ว่ ยแยกโรค 1

113
1.4 จดั หาอุปกรณเ์ คร่ืองมือแพทย์ เคร่ืองฟอกอากาศ ชดุ PPE ใหเ้ พยี งพอพร้อมใช้

1.5 จดั เตรียมยาสารองสาหรับหอผปู้ ่วยแยกโรค 1 จัดทาเวชภณั ฑ์สารองใหเ้ พียงพอพร้อมใช้
2. การดูแลมารดาหลังคลอด

2.1 มารดาอยหู่ ้อง negative pressure/ isolated room และแยกทารกจากมารดาช่ัวคราวจนกว่าจะ
ทราบผลตรวจ

2.2 สตรหี ลงั คลอดท่ีติดเชือ้ Covid-19 โรงพยาบาลมีแนวทางใหแ้ ยกบุตรจากมารดาจนครบ 14 วันหลงั
ตรวจพบเชือ้ แตย่ ังส่งเสริมเร่อื งการเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมโ่ ดยใหม้ ารดานวดและบบี กระตุน้ น้านมตลอด
ระยะเวลาทีต่ ้องแยกจากบุตร

2.3 บคุ ลากรหลีกเล่ยี งการเข้าไปสัมผัสผู้ป่วยใกลช้ ิด ใช้การประเมนิ ผ่านทาง video call แทน
2.4 บุคลากรทจี่ ะเข้าไปดูแลผู้ป่วยต้องใสช่ ุดและอุปกรณ์ป้องกนั เต็มท่ีจนกว่าผลการตรวจจะไม่พบเช้ือไวรัส

และใช้จานวนบคุ ลากรที่จะเข้าไปดแู ลใหน้ ้อยท่ีสดุ
2.5 ในรายท่สี งสัยตดิ เช้อื COVID-19 หรอื ยังไม่ทราบผลตรวจให้เล่ือนการทาหมนั หลงั คลอดออกไปอย่าง

น้อย 14 วัน หรือจนกวา่ ผลตรวจเช้ือไวรัสเป็นลบ

114

2.6 เฝา้ ระวังและประเมินความเครียดและอาการซึมเศร้าในผปู้ ่วย
- มารดาจะมีความเครียด วติ กกงั วลเพิ่มขน้ึ กรณที ี่มีการแยกทารกและไมใ่ ห้ทารกดูดนมจากเต้า

เน่ืองจากการขาด bonding

- ถ้าพบว่าผู้ปว่ ยมปี ญั หานอนไม่หลบั เครียด ซึมเศรา้ หรอื อยากฆ่าตวั ตาย ใหร้ ีบปรึกษาจติ แพทย์ทนั ที

สถติ ิผู้ป่วยท่ีมารบั บริการหอผูป้ ่วยแยกโรค 1 (19 สงิ หาคม 2564 – 31 ตุลาคม 2564)

ประเภทผูป้ ว่ ย จานวน สถานะการจาหนา่ ย

กลับบ้าน ย้าย ยร.2C ย้าย ยร.4A ยา้ ย ยร.5 Hospitel HI

สูตกิ รรม 24 20 1 0 2 10

กมุ ารเวชกรรม 9 6 0 0 0 21

115
แนวทางการรับผปู้ ่วยเดก็ ที่ติดเช้อื โควดิ -19

116

117

4.ตวั ช้วี ดั ท่ีสาคัญ เกณฑ์ ผลลัพธ์
≤0.5% 0%
ตัวชีว้ ัด 100%
อตั ราการตกเลือดหลังคลอดท่ีหอผปู้ ว่ ยใน 24 ชม.แรก 34.28%
0%
อตั รามารดาสามารถนวดบีบกระตนุ้ นา้ นมและน้านมไหลก่อนกลับบา้ น ≥80%
ระดับความวิตกกังวลของมารดาท่บี ตุ รแยกจากหลังได้รับการดแู ล ≤50% 100%
91.43%
จานวนอุบัตกิ ารณ์ผปู้ ว่ ยเข้าส่ภู าวะวกิ ฤตโดยไดร้ ับการประเมนิ และจดั การ 0% 0%
ท่ไี มเ่ หมาะสมผลกระทบ ≥E 100 %

อัตราของผปู้ ่วยท่ี D/C ไดต้ ามแผนการรกั ษา ≥80%

อตั ราความพึงพอใจผู้ป่วยใน ≥85%

อตั ราบคุ ลากรตดิ เชือ้ จากการปฏบิ ตั งิ าน 0%

อัตราบคุ ลากรผา่ นการทดสอบสมรรถนะการใช้อุปกรณ์ป้องกนั ระดบั B 95 %
และ C เกณฑ์ = 100%

118

5. บทเรยี นทไี่ ด้รบั

5.1 การปรบั โครงสร้างหอผปู้ ่วยได้มาตรฐานและเหมาะสมสาหรบั ดูแลสตรตี ัง้ ครรภ์ตดิ เช้ือ Covid-19 ทา
ใหผ้ ู้ปว่ ยและบคุ ลากรปลอดภัยจากการแพร่กระจายเชื้อ

5.2 การสนบั สนนุ ด้านเครอ่ื งมือ และอปุ กรณท์ างการแพทย์อย่างเพียงพอ พร้อมใช้งาน ทาใหท้ มี มี
ศักยภาพในการดูแลสงู สุด

5.3 การพฒั นาสมรรถนะบุคลากรในการดูแลสตรีต้งั ครรภ์ติดเชอ้ื Covid-19 และกล่มุ โรคสาคัญ ทาให้
บคุ ลากรมีความม่นั ใจและสามารถดูแลผู้ป่วยไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ

5.4 การจดั อัตรากาลังในการปฏบิ ัติงานให้เหมาะสมกบั ภาระงาน

สรุปข้อมูลการตดิ ตามCovid-19 in Pregnancy and post-partum (ขอ้ มลู เม.ย-พ.ย 64)

จานวน ตดิ รวม ชนดิ การ ลักษณะแผล Contraception Breast Covid-19 vaccine
สตรี ผูป้ ่วย คลอด Feed
Pill DMPA Implant TS ไม่
หลัง ตาม ติด แยก 1st 2nd ต้อง
คลอด ไม่ C/ No No
S NL ปกติ /ติด contra BF BF การ
ได้ ตาม

ได้ เช้ือ

32 7 25 26 6 25 0 6 1 2 11 5 15 10 9 6 10

หมายเหตุ

1. ไมไ่ ดค้ ุมกาเนดิ เน่ืองจากมีเพศสมั พนั ธก์ อ่ นมาตรวจตามนัด จานวน 1 ราย
2. ไมม่ าตรวจตามนดั จานวน 4 ราย
3. หญิงหลงั คลอดติดเชอ้ื HIV และงด Breast feeding จานวน 1 ราย
4. ปรมิ าณน้านมน้อย จานวน 9 ราย

119

แนวทางการใหน้ มบตุ ร

การให้นมบุตรอา้ งองิ จาก องคก์ ารอนามัยโลก และ Centers for Disease Control and
Prevention (CDC) ดังน้ี

1. องค์การอนามัยโลก สมาคมสตู ินรีแพทย์ของแคนาดา สมาคมกุมารแพทย์ของแคนาดา ราช
วทิ ยาลัยสตู ินรีแพทย์แหง่ สหราชอาณาจักร ราชวทิ ยาลัย สูตินรแี พทย์แห่งออสเตรเลยี และ
นิวซีแลนด์ รวมท้ังอิตาลีและประเทศสว่ นใหญ่ในยโุ รป แนะนาวา่ กรณีมารดาตดิ เชอ้ื หรือสงสยั จะ
ตดิ เชอ้ื ทมี่ ีอาการนอ้ ยหรือไม่มีอาการให้อยู่กับบตุ รมี skin-to-skin contact และดดู นมจากเต้าได้
เน่ืองจากประโยชนข์ องการให้นมมารดาทั้งระยะสน้ั และระยะยาวมมี ากกวา่ ความเสยี่ งที่ทารกจะ
ตดิ เชือ้ แต่มารดาจะต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ลา้ งมอื ดว้ ยสบูห่ รอื แอลกอฮอล์เจล
หลกี เลยี่ งการไอหรอื จามขณะให้นมบุตร

2. Centers for Disease Control and Prevention (CDC) แนะนาให้แยกมารดาและบุตรออกจาก
กันชั่วคราวเพ่อื ป้องกันการตดิ เชอ้ื ไปส่ทู ารกจนกวา่ ผลการตรวจเชือ้ ในมารดาจะเป็นลบ การแยกนี้
สามารถทาไดห้ ลายวธิ เี ช่น อยูค่ นละห้อง จดั เตียงมารดาห่างจากเตียงทารกตงั้ แต่ 6 ฟุตขึ้นไป การ
ให้นมบตุ ร มารดาสามารถปั๊มมนนมออกมาแล้วให้ญาติที่แข็งแรงดีนาไปเลย้ี งบุตรได้ โดยตอ้ งระวัง
เรื่องการล้างมอื การทา้ ความสะอาดอปุ กรณ์อย่างเครง่ ครัดขณะทปี่ ั๊มนม

3. ควรให้คาปรึกษาแก่มารดาถงึ ทางเลือกในการให้นมบตุ ร ข้อดี ข้อเสียและความเสย่ี งต่าง ๆ กอ่ น
ตัดสินใจวา่ จะใหน้ มบุตรแบบใด

121

การพัฒนางานการพยาบาลในสถานการณ์ COVID-19 : หอ
ผู้ปว่ ยแยกโรค 2 C

121

การพัฒนางานเตรียมเปิดหอผูป้ ว่ ยเพอื่ รบั ผู้ป่วยตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019
หอผู้ป่วยแยกโรค 2C ฝา่ ยการพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชริ พยาบาล

มหาวิทยาลัยนวมนิ ทราธริ าช
---------------------------------------------------------------------------
หอผู้ป่วยแยกโรค 2A ฝ่ายการพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
เป็นหน่วยงานที่เปิดข้ึนมาใหม่ในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 เพ่ือรองรับผู้ป่วยท่ีติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 เป็นผู้ป่วยเพศชายและเพศหญิงจานวน 11 เตียง โดยเร่ิมรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ตั้งแต่ 22
ธันวาคม พ.ศ.2563 เป็นต้นมา ต่อมาสถานการณ์ในประเทศไทยมีแนวโน้มการติดเช้ือเพ่ิมมากข้ึน
โดยเฉพาะบรเิ วณพน้ื ที่กรงุ เทพมหานครและปริมณฑล ทางผู้บริหารจึงมนี โยบายใหเ้ ปิดหอผปู้ ่วยแยกโรค 2C
ในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2564 เพื่อเป็นการรองรับผู้ป่วยท่ีติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีจานวนเพ่ิมขึ้น
อย่างรวดเร็ว เปิดรับผู้ป่วยเพศหญิงจานวน 22 เตียง เป็นการปรับเปลี่ยนหอผู้ป่วยแยกโรค 2A มาเป็นหอ
ผู้ป่วยแยกโรค 2C ส่งผลให้บุคลากรของหอผู้ป่วยมีไม่เพียงพอ จึงต้องเพ่ิมบุคลากรจากหน่วยงานอ่ืนมา
หมุนเวียนในการปฏิบัติงาน ทาให้บุคลากรบางส่วนยังขาดความรู้ ทักษะและความสามารถในการให้การ
พยาบาล รวมถึงการเฝ้าระวังและการป้องกันการแพร่กระจายเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ทางหอผู้ป่วยได้เห็น
ความสาคญั ของปัญหานี้ จึงได้มีการปรับเปล่ยี นกระบวนการปฏบิ ัติงานการพัฒนางานเตรียมเปดิ หอผปู้ ่วย ใน
ด้านบุคลากร โครงสรา้ ง ความรู้ เพ่ือการดูแลผ้ปู ่วยทีต่ ดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 อย่างมีคณุ ภาพ

วัตถุประสงค์
เพอื่ สร้างความพร้อมดา้ นสถานที่เพื่อรองรบั ผปู้ ว่ ยท่ีติดเชื้อ Covid-19
เพอื่ สร้างความพรอ้ มด้านบคุ ลากรทเ่ี พื่อรองรับผู้ป่วยทีต่ ิดเชอ้ื Covid-19
เพื่อสรา้ งความพรอ้ มด้านความรู้ ในการดูแลผ้ปู ว่ ยทต่ี ิดเชือ้ Covid-19

ข้ันตอนการพัฒนางาน
บุคลากร

1. ฝึกซ้อมการใส่และถอดชุด PPE ประเภทต่างๆ เช่น ชุด A,B และ C โดยบุคลากรท่ีผ่านการอบรม
จากหน่วยควบคมุ โรคติดเชือ้ ในโรงพยาบาล (IC) ทุกราย

2.จดั ตารางผลัดเปลีย่ นในการใหก้ ารพยาบาล เพอื่ เป็นการหมนุ เวียนบคุ ลากร
3.ความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งหลังให้การพยาบาลผู้ป่วยและหลังส้ินสุดการ
ปฏบิ ตั ิงานในแต่ละเวร เพ่อื เปน็ การป้องกนั การกระจายเชอ้ื
4.จดั ทาตารางหนา้ ท่ีความรับผิดชอบในแต่ละเวร (Job Description)
5. จัดอตั รากาลงั ใหเ้ พยี งพอ โดยเพมิ่ บุคลากรจากหอผปู้ ่วยอื่นหมุนเวียน
6.ทางานเปน็ ทมี ร่วมกบั สหสาขาวิชาชพี อ่นื เช่น แพทย์ นักกายภาพบาบัด เภสชั กร

122

โครงสรา้ ง
1.ดูแลทาความสะอาดหอผู้ป่วย จัดโซนเพื่อรองรับผู้ป่วยหญิง และห้อง Anter room (โซนสะอาด

และสกปรก) แบ่งโซนตามสี ดังน้ี
โซน 1 มี 13 เตียง ( รบั ผู้ป่วยกลุม่ สเี หลืองท่มี อี าการคงที่ )
โซน 2 มี 5 เตียง( รบั ผปู้ ่วยกลุม่ สเี หลอื งที่มอี าการผิดปกติตอ้ งเฝา้ ระวังอาการ )
โซน 3 มี 4 เตยี ง ( รบั ผปู้ ่วยกลุ่มสเี หลอื งทมี่ อี าการผดิ ปกติต้องเฝา้ ระวังอาการและกลมุ่ สีสม้ ท่ี on HFNC )

2.เตรียมถังขยะเพ่ือใชใ้ สข่ ยะติดเชื้อ เสอ้ื ผา้ ผู้ป่วย รองเท้าบูท แวน่ ตา ผา้ ไมโครไฟเบอร์ และอุปกรณ์
ทางการแพทยท์ ใ่ี ช้ในการดูแลผูป้ ่วยท่ีตดิ เช้อื Covid-19 เช่น PAPR

3.ประสานงานกับหมวดช่างเพ่ือมาตรวจเช็คระบบ Negative Pressure ระบบไฟฟ้า ระบบน้า
ระบบเคร่ืองปรับอากาศ ระบบกล้องวงจรปิด อุปกรณ์เครื่องมือส่ือสาร เช่น ไมโครโฟน-ลาโพง วิทยุสื่อสาร
IPAD เปน็ ต้น และสญั ญาณอนิ เตอร์เนต็

4.จัดเตรียมชุดเสือ้ ผ้าผู้ป่วยภายในถุงซิปลอ็ คและคาแนะนาในการใช้
5.ติด QR code (Line) และเบอร์โทร เพื่อใช้ติดต่อกับพยาบาลในบริเวณโต๊ะข้างเตียง ประตู
ทางเขา้ -ออก ทง้ั โซนผ้หู ญิงและผชู้ าย
6.ตดิ คาแนะนาการปฏิบตั ติ ัวขณะท่ีอยู่โรงพยาบาลบรเิ วณประตูทางเข้า-ออก
7.จัดโซนทางเดนิ เข้าและออกภายในหอผูป้ ว่ ย (โซนสะอาดและสกปรก)
8.จัดเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์เพ่ือใช้ในการดูแลผู้ป่วยท่ีติดเชื้อ Covid-19 โดยเฉพาะ เช่น
เคร่ือง Mornitor และปรอทวัดไข้ ไว้ประจาแต่ละเตียงเพ่ือใช้เป็นรายบุคคล จัด Set อุปกรณ์เพ่ือใช้ในการ
พยาบาล เคร่ืองกระต้นุ หัวใจ เคร่ืองตรวจคลืน่ ไฟฟา้ หัวใจ รถEmergency และรถCabin เป็นตน้
9.จัดเตรียม 70% alcohol ในแต่ละจุด เช่น เตียงผู้ป่วย ประตูทางเข้า-ออก ห้อง Anter room
และบรเิ วณอา่ งล้างมอื
10.จดั เตรยี มหอ้ งใส่ชดุ PPE โดยจัดเตรยี มอปุ กรณ์ตา่ งๆ เพอื่ ให้พรอ้ มใชอ้ ยเู่ สมอ
11.จัดเตรียมโซนสาหรบั ห้องพักพยาบาล ห้องพักพนักงานท่ัวไป ห้องทาความสะอาดเคร่ืองมือและ
อุปกรณต์ ่างๆ และห้องนา้ -หอ้ งอาบนา้ สาหรบั บุคลากรและผมู้ าติดตอ่

ความรู้
1.บุคลากรทุกรายต้องศึกษาแนวทางการปฏิบตั ิการดูแลผู้ป่วยใน (IPD) ในสถานการณ์การระบาดของโรคติด
เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมการแพทย์
2.ฝึกซ้อมและทบทวนการทาความสะอาดอุปกรณ์เคร่ืองมือทางการแพทย์ การผสมและการเลือกใช้น้ายาฆ่า
เชือ้ ข้นั ตอนการเก็บและทิง้ ขยะ การใส่-ถอดชดุ PPE ให้กบั พนกั งานทัว่ ไปท่อี ยู่ประจาหอผู้ป่วย
3.จัดระบบTraining และระบบพี่เล้ียงให้กับบุคลากรทุกรายท่ีมาหมุนเวียนก่อนเข้าไปให้การพยาบาลผู้ป่วย
ทุกครง้ั
4.อบรมเพ่ือเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วย เช่น การทา Workshop เรื่องการใส่ท่อช่วยหายใจ การใส่
ออกซเิ จนแรงดันสงู (HFNC) การใส่ C-Line, A-Line การใหย้ าFavipiravir และการให้ยาRemdesivir
5.จดั ทา Flow ในการปฏิบัตงิ านตา่ งๆ ให้เป็นระบบ
6.บุคลากรทุกคนต้องมีความรู้ตามแนวทางการปฏิบัติ เรื่องการประเมินและการดูแลผู้ป่วยวิกฤต (WI-SLT-
025 แก้ไขครงั้ ที่ 00)

123
การพฒั นางานโดยใชเ้ ครื่องมอื 3 C – DALI

124

ตารางตวั ชี้วดั หอผปู้ ่ วยแยกโรค 2C ปี งบประมาณ 2564

สถิติผปู้ ว่ ย COVID เม.ย.64 พ.ค.64 ปริมาณงาน ก.ย.64
มิ.ย.64 ก.ค.64 ส.ค.64
งานท่ีสาคญั 50 98 73
26 31 89 136 149 36
จำนวนผปู้ ่วยทงั้ หมด 24 47 39 83 85 16
รบั ใหม่ 42 22 36 36 44 21
รบั ยำ้ ย 24 29 21
จำหน่ำย 8 61 12
ยำ้ ยไป 0 2 41 56 95 3
เสยี ชวี ติ 6 10 10

กล่มุ โรคร่วม / หตั ถการท่ีสาคญั เม.ย.64 ปริมาณงาน ก.ค.64 ส.ค.64 ก.ย.64
50 พ.ค.64 มิ.ย.64 136 149 73
1.COVID 19 6 52
2.HT 98 89 43 34
3.DM 4 26 35 31
4.DLP 2 25 32 18
5.HFNC 0 20 20 51
6.C/S 0 2 28 12
24 24
47 14
2 29
51
01

125

126

ตัวชี้วัดทสี่ าคัญ ตวั ชี้วดั เป้ าหมาย ปี งบประมาณ
ลาดบั ≥ 80% 2564

ที่ 97.8%

1 -อตั ราของผปู้ ว่ ยทต่ี ดิ เชอ้ื โควดิ -19 ทจ่ี าหน่ายไดต้ ามแผนการรกั ษา

2 -อตั ราผปู้ ว่ ยทต่ี ดิ เชอ้ื โควดิ -19ระยะทา้ ยในหอผปู้ ว่ ยเสยี ชวี ติ อยา่ ง ≥ 80% 100%
สงบโดยไมม่ กี ารช่วยฟ้ืนคนื ชพี โดยไมจ่ าเป็น
≥ 90% 100%
3 -อตั ราบุคลากรผ่านการอบรมการป้องกนั การแพรก่ ระจายเชอ้ื โรค
ไวรสั โคโรนา 19 0% 0%
≥ 80% 90%
4 -อตั ราของบคุ ลากรทต่ี ดิ เชอ้ื โควดิ -19 จากการปฏบิ ตั งิ าน
≥ 85% 92.6%
5 -อตั ราความพงึ พอใจของบุคลากรในหน่วยงานอ่นื ทไ่ี ดร้ บั การ 100% 100%
พฒั นาดา้ นความรใู้ นการพยาบาลผูป้ ว่ ยทต่ี ดิ เชอ้ื โควดิ -19
≥ 80% 73%
6 ความพงึ พอใจของผใู้ ชบ้ รกิ ารต่อบรกิ ารพยาบาล 100% 100%

7 -อตั ราการใชแ้ บบประเมนิ NEWS Score ในผปู้ ว่ ยทต่ี ดิ เชอ้ื โควดิ - 100% 100%
19 ก่อนเขา้ สภู่ าวะวกิ ฤติ

8 อตั ราความพงึ พอใจของญาตติ ่อการดแู ลแบบประคบั ประคอง

9 -อตั ราการไดร้ บั ยาฟาวพิ ริ าเวยี รใ์ นผปู้ ว่ ยทต่ี ดิ เชอ้ื โควดิ -19 ครบ
โดส

10 -อตั ราการไดร้ บั การตดิ ตามอาการไมพ่ งึ ประสงคใ์ นผูป้ ว่ ยทต่ี ดิ เชอ้ื
โควดิ -19ทไ่ี ดร้ บั ยา Remdesivir

127
Driver diagram

128

เอกสารแนบ

แนวทางปฏบิ ัติเม่อื รบั ผูป้ ่วยเขา้ ข่ายสงสยั /ผูป้ ว่ ยติดเชอื้ โรคไวรสั โคโรนา2019 (COVID19) ในหอผู้ปว่ ยแยกโรค 2A

หอผปู้ ว่ ยแยกโรค 2A การรายงาน CODE:COVI
หัวหน้าเวร แจ้งผูเ้ กีย่ วขอ้ ง
ID/CHEST/Admission แจง้ ผอู้ านวยการ+alert ใน Line.......... 1. แพทย์ ID/CHEST ตามตารางเวรเพอื่ ตดั สินตาม
1. ประวัติตามฟอรม์ เวชระเบียนผปู้ ว่ ยในวชริ พยาบาล เกณฑ์ PUI (แพทย์ตดิ ต่อ สปคม เพื่อยนื ยัน PUI และ
2. การรับผู้ปว่ ยใหม่ (Flow การรบั ผู้ป่วย) ขอเลขส่งตรวจ)
3. Portable CXR 2. ในเวลาแจ้งหวั หนา้ กลมุ่ งานการพยาบาลผปู้ ่วยใน
4. สง่ Lab ตรวจ CBC, BUN, Cr, AST, ALT, Electrolyte (ใบ order MR10.1)
5. รายงานแพทย์ นอกเวลาแจง้ เวรตรวจการพยาบาล
6. ให้การพยาบาลตามแผนการรกั ษา (กรณมี กี ารใช้ยา Favipiravia ให้ปฏิบัตติ ามแนวทางของ รพ.) 3. ICN
7. รักษาตามมาตรฐาน ผ้ปู ว่ ยอาการดีข้นึ และแพทยอ์ นญุ าตให้กลับ บ้าน โดย 4. เวรบรหิ ารแจ้งช่างลอ๊ คลิฟต์ตัวท่ี 1 และศูนย์รักษา
ความสะอาด
7.1 ผู้ปว่ ยจาก SQ และ ASQ อย่โู รงพยาบาลครบ14วนั ให้ ประสานโรงแรมหรือสถานพยาบาลทส่ี ่งผู้ป่วยมา 5. ศนู ย์ admit ทาเวชระเบยี น
7.2 ผูป้ ว่ ยของวชริ พยาบาลครบ 10 วัน 6. แจง้ x-ray และหอ้ ง Lab

พบเช้ือไวรัสโคโรนาสายพนั ธ์ุใหม่ 2019 RN1
รักษาตามมาตรฐาน - ตดิ ตอ่ ประสานงาน
หนว่ ยต่างๆ
อาการดีขึน้ อาการเปลยี่ นแปลง แมว้ ่าใช้ High flow FiO2 = 0.8 - ซักประวตั ิ
Discharge ผ้ปู ว่ ยเม่อื อาการดขี ้นึ - แนน่ หนา้ อก หายใจไมส่ ะดวก หอบเหนอื่ ยง่าย - รายงานแพทย์
- ระดับความรสู้ ึกตวั เปลยี่ นแปลง RN2
- V/S เปล่ยี น R>25 ครงั้ /นาท,ี NEWS score≥5-6 - วดั V/S
- เจาะ Lab
คะแนน - ดูแลให้การพยาบาลเบือ้ งตน้
- SpO2 ≤92% - ใหค้ าแนะนาสถานท่ี
- CXR พบ progression of pulmonary infiltrates และการปฏบิ ตั ิตวั
- Symptoms of sepsis * RN สวม PPE (gown,
glove, mask, face shield
พิจารณาการยา้ ยเข้าหออภบิ าลผปู้ ว่ ย (ตามการพจิ ารณาของแพทย)์ หรือ ชุด C กรณีผู้ปว่ ยใช้
High flow)

การจาํ หนา่ ยผปู้ ว่ ยกลบั บา้ น

1. ให้คาแนะนาในการปฏิบัติตวั ตามแนวทางของกรมควบคุมโรค และ ใหเ้ อกสารตา่ งๆ
2. แนะนาการปอ้ งกนั ตัวเองเมื่อออกจากโรงพยาบาล เรอ่ื ง การใส่ หนา้ กากอนามยั การลา้ งมอื การเวน้ ระยะหา่ ง หลกี เล่ยี งสถานท่ีทมี่ กี ารรวมกลมุ่ คน
3. ไมต่ ้องกน้ั พน้ื ท่ี ผู้ปว่ ยเดนิ ได้ให้ผู้ปว่ ยเดนิ กลับเอง โดยใชบ้ ันได มี เจา้ หน้าทข่ี องหนว่ ยงานนาทาง (โดยเวน้ ระยะหา่ งหนึ่งเมตร ใสห่ นา้ กากอนามยั )
หากผ้ปู ่วยเดนิ ไม่ไดต้ ามศนู ยเ์ คลอื่ นย้าย โดยใช้ลิฟตห์ น้าหอผปู้ ว่ ยแยกโรค 2B ปฏิบัตติ าม Flow การเคล่อื นยา้ ยผปู้ ว่ ย
4. การเดนิ ทางกลับบา้ น โดยใช้รถยนตส์ ่วนตัว รถยนตท์ ท่ี างหนว่ ยงานจดั เตรียมให้ หรอื รถแทก็ ซ่ีเท่านนั้

129
เอกสารแนบ

130

131

133

การพัฒนางานการพยาบาลในสถานการณ์ COVID-19 :
โรงพยาบาลสนาม

133
หอผู้ปว่ ยแยกโรค 5

หอผูป้ ่วยแยกโรคเฉพาะกจิ พชั รกิติยาภา 5 หรือหอผู้ปว่ ยแยกโรค 5 เป็นโรงพยาบาลสนามจัดต้ังโดย

มีวัตถุประสงค์เพ่ือรองรับการระบาดของโรค COVID-19 มีภารกิจหลักในการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่มี

อาการและปัญหาเก่ียวกับโรค COVID-19 ท่ีเกินศักยภาพการจัดระบบบริการในโรงพยาบาลมีการบริหาร

จัดการระบบสิ่งแวดล้อมและสาธารณูปโภคอยา่ งเหมาะสมตามมาตรฐานเพื่อป้องกนั การแพร่กระจายของเชื้อ

โดยคานึงถึงความปลอดภัยผู้ป่วยและบุคลากร มีการจัดระบบบริการดูแลรักษาแบบ ONE STOP SERVICE

รับผู้ป่วยท้ังในและนอกเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบของโรงพยาบลวชิรพยาบาล ผู้ป่วยที่มีอายุต้ังแต่ 15 ปีข้ึนไป ทุก

เพศ ทุกเช้ือชาติ ทุกศาสนา ที่มีอาการไม่ซับซ้อน ไม่รุนแรง ระดับสีเขียวถึงสีเหลือง โดยให้บริการการดูแล

รักษาพยาบาลครอบคลุมองค์รวม ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การฟ้ืนฟูสภาพป้องกันไม่ให้เกิด

ภาวะแทรกซอ้ นจาก การรักษา ยึดหลักคานึงถึงสิทธิผู้ป่วย ภายใต้จริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพ

และเพอ่ื ใหเ้ กิดความปลอดภัยกับผู้ปว่ ยทกุ ราย d

วตั ถุประสงค์ 134

เพอ่ื รองรบั การระบาดของโรค COVID-19 ที่เกินศกั ยภาพ
การจัดระบบบรกิ ารในโรงพยาบาล

ใหก้ ารดแู ลรกั ษาผู้ปว่ ยโรค COVID-19 แบบผปู้ ่วยใน
ทีม่ อี าการน้อยหรือไม่รนุ แรง

เพอื่ ใหบ้ ริการแบบ ONE STOP SERVICE

เพ่ือให้ผปู้ ่วยไดร้ บั การดูแลตามมาตรฐานวชิ าชพี
และคานงึ ถึงความปลอดภยั ของบุคลากรทางการแพทย์

ความท้าทาย • Flow การดแู ลผปู้ ่วยตาม • การสนบั สนนุ สร้าง

• กลยุทธก์ ารบรหิ าร ระดบั ความรุนแรง การ ความผกู พนั ของผปู้ ว่ ย
• เพ่อื ใหบ้ ุคลากรมา
ประเมนิ ผปู้ ว่ ยอย่างมีระบบ จนเกิด
ปฎบิ ัตงิ านดแู ลผปู้ ่วย ภายใตอ้ งค์ความรู้ตาม • จิตอาสารว่ มในการ
โดยยดึ ค่านิยมองคก์ ร
จิตสาธารณะ มาตรฐาน IC AI สารสนเทศ ดแู ลผปู้ ่วย
• การสร้างความมั่นใจ • การ Lean ระบบ • การพทิ ักษ์สทิ ธิผปู้ ว่ ย
เพื่อความปลอดภัยให้ผู้ • การเสรมิ พลังอานาจ
ปฎบิ ัติงานทุกระดับ กระบวนการดูแลแตต่ ้อง
• การบริหารอตั รากาลงั การดูแลตนเองเพื่อ
อยา่ งเหมาะสม บรรลุ เปา้ หมาย เช่น
เพียงพอและมี ปอ้ งกันการกลับเป็น
สมรรถนะ บนั ทกึ การพยาบาล การ ซ้าและรนุ แรง
• การควบคุมการใช้ รักษา การเบิกยา • การร่วมแรง ร่วมใจ
ทรัพยากรทาง • การพฒั นาและฝึกทกั ษะ
การแพทยอ์ ย่างสม สรา้ งสง่ิ แวดล้อมท่ีดีใน
เหตผุ ลในสถานการณ์ สาคัญ เชน่ การสอ่ื สาร
การระบาด covid-19 • การบรู ณาการพยาบาล การอยู่รว่ มกัน
• การสนับสนนุ การวิจัย
Nursing process เพอ่ื
และนวตกรรม
ผลลพั ธด์ ้านความปลอดภยั

135

พน้ื ที่บรกิ าร

หอผู้ป่วยต้ังอยู่ภายในอาคารพัชรกิติยาภา โดยห้องทาการพยาบาลอยู่บริเวณช้ัน 4 ซึ่งเดิมเป็นศูนย์
การเรียนรู้สกลวรรณากร และพืน้ ทรี่ ับผู้ปว่ ยอยู่ชั้น 5 เดิมเป็นสนามกีฬาบาสเกตบอลและสนามแบตมินตนั
ระยะท่ี 1

วันท่ี 24 เมษายน 2564 ปรับพื้นท่ีบริเวณสนามกีฬาบาสเกตบอล รองรับผู้ป่วย จานวน 42 เตียง
ท้ังเพศชายและหญิง แบ่งโซน A-D โดยยึดหลักคานึงถึงสิทธิผู้ป่วยเป็นสาคัญ แบ่งพื้นท่ีสะอาด พ้ืนท่ีปนเป้ือน
และ Negative area

ก่อน หลัง

เตียงผ้ปู ่วย ภาพจากกล้องวงจรปดิ

136
ระยะท่ี 2

วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ปรับเพิ่มพื้นที่บริการสนามกีฬาบาสเกตบอล รองรับผู้ป่วยเพ่ิมอีก 12
เตียง รวมจานวนเตยี งท่ีรบั ไดท้ ัง้ หมด 54 เตียง

ปัญหาและอุปสรรคท่ีพบคือการวางแผนเข้าไปปรับพ้ืนท่ี ที่มีผู้ป่วยพักอยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการ
วางแผนอยา่ งรอบครอบเพื่อให้ผปู้ ฎบิ ตั งิ านปลอดภัยและไมเ่ กิดการตดิ เช้ือ

ภาพถ่ายจากกลอ้ งวงจรปิด แสดงพ้ืนท่ีภายในก่อนการปรบั เพิม่ เตยี ง

วางแผนรว่ มกนั ระหว่างทีมสหสาขา

137
เตรยี มความพรอ้ มดา้ นการใส่ชดุ PPE ใหก้ บั ทีม

ภาพถ่ายจากกลอ้ งวงจรปดิ การปฎบิ ตั งิ านของทีมชา่ งขณะไปปรบั เพิ่มเตยี ง

138
ภาพถา่ ยจากกลอ้ งวงจรปดิ ขณะปฎบิ ตั งิ านของทีมพยาบาลเตรียมความพรอ้ มพ้นื ท่ีรอรบั ผู้ป่วย

139
ระยะที่ 3

เพ่ิมพื้นทโ่ี ซน G-J สนามกีฬาแบตมนิ ตนั อีก 32 เตยี ง โดยไม่ใหเ้ กดิ ความเสียหายกบั พน้ื ของสนาม
พร้อมท้ังปรบั บรกิ ารโดยพ้ืนที่ โซน A-D รบั เพศหญิงและเด็ก จานวน 54 เตียง และโซน G-J รบั เพศ
ชายที่อายุ 12 ปขี ้นี ไป จานวน 32 เตยี ง สรุปรวมรบั ผปู้ ่วยไดท้ ั้งหมด 86 เตยี ง

ภาพสนามกฬี าแบตมินตัน

ขณะปรับ

140
การจัดเตรยี มอปุ กรณ์ ใหเ้ พียงพอและพร้อมใช้

หลงั ปรับปรุงพื้นที่ สวยงาม สะอาด ปลอดภัย พรอ้ มรับผู้ปว่ ย

141
การเตรยี มด้านระบบส่งิ แวดล้อม

แบ่งพนื้ ที่สะอาด/สกปรก เพิ่มพ้ืนท่ีแรงดันลบ และปรบั ระบบแอร์ให้การไหลเวยี นของอากาศผ่าน
HEPPA FILTER เพือ่ ให้อากาศบริสทุ ธิ์ก่อนระบายออกเป็นการรกั ษาระบบนิเวศน์ปลอดภยั ตอ่ สิ่งแวดล้อม

ห้อง VJR negative room

ทั้งอาคารใช้ระบบแอร์กรองอากาศและแผงควบคมุ ไฟฟ้าเพือ่ ความปลอดภัย

142
การแบ่งพื้นที่ใชส้ อยและสาธารณปู โภคตามมาตรฐาน ป้องกันการแพร่กระจายและติดเช้อื

น้ากรองสะอาดถกู สุขอนามัย ขยะ คดั แยก จัดเก็บ ขนส่ง ถกู ตอ้ งตามมาตรฐาน

หอ้ งน้าสะอาด

143

ด้านการบรหิ ารบุคลากร
บคุ ลากรพยาบาลท่มี าปฎิบตั ิงานจากฝ่ายการพยาบาล คณะแพทยศาสร์วชริ พยาบาล รว่ มกับหลาย

ส่วนงานภายในมหาวิทยาลัยนวมนิ ทราธริ าช ไดแ้ ก่ สานกั งานอธิการบดี คณะวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยแี ละ
สขุ ภาพ วทิ ยาลยั พัฒนาชุมชนเมอื ง และคณะพยาบาลศาสตร์เก้อื การณุ ย์ เปน็ ตน้

การบรหิ ารอัตรากา้ ลังและการเตรยี มสมรรถนะทางการพยาบาล
บุคลากรพยาบาล ใช้อัตราส่วน 20 เตียงต่อพยาบาล 1-2 คน โดยการจัดเวรผลัด 12 ชั่วโมง
ผู้ปฏิบัติงานทุกคนอาสามาทางานด้วยความเสียสละและมุ่งม่ัน ด้วยจิตสาธารณะ ทั้งน้ี ทุกคนจะได้รับการ
นิเทศในเรื่องต่างๆ เช่น ความรู้เก่ียวกับโรคอุบัติใหม่ COVID-19 การใช้ยาตา้ นไวรัส การจดั ระบบบริการ การ
สื่อสาร การคดั แยกผปู้ ว่ ย การตัดสนิ ใจแกไ้ ขปัญหาเบอื้ งต้น ตลอดจนการช่วยฟนื้ คนื ชพี ในภาวะเร่งด่วน และท่ี
สาคัญทีส่ ุดคือ การฝึกใส่ชดุ PPE (personal protective equipment) เพ่ือป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ การ
ดแู ลสุขภาพให้กับบุคลากร การได้รับวัคซีน การจัดพ้ืนที่รับประทานอาหาร และการรักษาความปลอดภัย การ
ป้องกันอัคคีภัย และการติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วย/ญาติในทุกช่องทาง เพื่อให้เกิดความไว้วางใจตลอดระยะเวลา
การรักษา

การนิเทศทางการพยาบาลในโรงพยาบาลสนาม

Management

การจัดการระบบการดูแลผปู้ ่วยอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ดา้ นการสนบั สนนุ ให้การช่วยเหลือ

การมีสว่ นรว่ มของสมาชิก

supervision

Supportive การจัดการหรอื บรรเทา Education การพฒั นาหรือปลกู ฝงั
ความเครียดที่เกิดจากการปฏิบัตงิ าน ความรู้ และทักษะต่างๆของบุคลากร

144
การพัฒนาสมรรถนะบคุ ลากร

การประชุมแนะน้าผู้ร่วมงาน และแจง้ นโยบาย แนวทางปฎบิ ัติ

ลงดูพนื้ ที่จริงและใหท้ ุกคนมีสว่ นรว่ มในการออกแบบระบบก่อนการปฏิบตั งิ าน

145
การเตรียมสมรรถนะทีส่ า้ คัญ จา้ เป็น จากพ่ีๆ หนว่ ยป้องกันและควบคมุ การติดเชือ้ (ICN)

บุคลากรทุกคน ทุกระดับ ได้รับการฝกึ ใส่และถอดชดุ PPE จนชา้ นาญและมัน่ ใจ

146
เราพร้อมปฎิบตั ิหนา้ ทต่ี ลอดเวลาด้วยความม่นั ใจ