1
2
คำนำ
พรบ.การศึกษา หมวด ๔ วา่ ด้วยเรือ่ ง แนวการจดั การศึกษา มาตรา ๒๒ การ
จัดการศึกษาต้องยดึ หลักวา่ ผเู้ รยี นทกุ คนมีความสามารถเรยี นรูแ้ ละพฒั นา ตนเองได้ และถือว่า
ผู้เรยี นมคี วามสาคัญทส่ี ุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมใหผ้ ู้เรยี นสามารถพัฒนา ตาม
ธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ ซง่ึ ในกระบวนการจดั การเรียนการสอน แผนการสอนถือเป็นหัวใจ
สาคญั ทีจ่ ะเป็นเขม็ ทิศในการออกแบบกจิ กรรม ตามหลักสูตรการเรียนรอู้ ิงมาตรฐาน ซ่ึงได้ปรบั
รปู แบบแผนการสอนโดยฝ่ายจัดการศกึ ษา โรงเรยี นโคกโพธไิ์ ชยศกึ ษา จงั หวดั ขอนแกน่
แผนการจดั การเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
รายวชิ า ส 32101 สงั คมศึกษา (สาระภูมศิ าสตร์) จานวนนาหนกั 1 หน่วยกติ จัดทาขึนเพ่ือใชใ้ น
การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ในระดับชนั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
โรงเรียนโคกโพธ์ไิ ชยศกึ ษา จังหวัดขอนแก่น
นางไพจิตร บา้ นเหลา่
ผ้จู ัดทา
สำรบญั 3
เรื่อง หนำ้
ตารางวเิ คราะห์หลักสูตรหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน พุทธศักราช 2551 1
ตารางการวเิ คราะหค์ วามสอดคล้องระหวา่ งมาตรฐานการเรยี นรู้ 2
ตวั ชีวัด กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ตารางวิเคราะห์ หนว่ ยการเรียนรู้ 3
คาอธิบายรายวิชา 4
โครงสรา้ งรายวชิ า 6
กาหนดการสอนและกรอบภาระงาน 7
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 8
การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 9
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 10
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 15
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 19
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 24
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 29
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6 34
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 39
ภาคผนวก 44
4
ตำรำงวิเครำะห์หลักสตู รหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช 2551
ของกลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม
วสิ ัยทศั น์
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขันพืนฐาน มงุ่ พัฒนาผูเ้ รียนทกุ คน ซ่ึงเป็นกาลังของชาตใิ ห้เปน็ มนุษย์ทม่ี ีความสมดลุ ทงั
ด้านรา่ งกาย ความรู้ คุณธรรม มีจติ สานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข มคี วามรู้และทักษะพืนฐาน รวมทังเจตคติ
ทจี่ าเป็นตอ่ การศึกษา ต่อการประกอบอาชพี และการศกึ ษาตลอดชีวติ โดยมุง่ เน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั บนพนื ฐาน
ความเช่อื วา่ ทุกคนสามารถเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ
จุดหมำย
๑. มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มท่พี งึ ประสงค์ เหน็ คณุ ค่าของตนเอง มีวนิ ยั และปฏบิ ตั ิตนตาม
หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถอื ยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๒. มคี วามรู้อนั เปน็ สากลและมีความสามารถในการส่ือสาร การคดิ การแกป้ ญั หา การใช้เทคโนโลยีและมี
ทักษะชีวติ
๓. มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ท่ีดี มสี ขุ นสิ ัย และรักการออกกาลังกาย
๔. มคี วามรักชาติ มีจติ สานกึ ในความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ยดึ มน่ั ในวิถีชวี ติ และการปกครองใน
ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ
๕.มจี ิตสานึกในการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย การอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาส่ิงแวดล้อม
มีจิตสาธารณะท่มี ุง่ ทาประโยชน์และสรา้ งส่ิงทด่ี ีงามในสงั คม และอยู่ร่วมกนั ในสังคมอยา่ งมคี วามสุข
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ซอ่ื สัตย์สจุ ริต
๒. ความสามารถในการคดิ ๓. มีวินัย
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๖. มุง่ มน่ั ในการทางาน
๗. รักความเป็นไทย
๘. มีจิตสาธารณะ
คุณภำพของผ้เู รียนระดับกำรศกึ ษำขั้นพนื้ ฐำน
ทมี่ ำ: กระทรวงศกึ ษาธิการ. หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั พืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑. หน้า ๘
5
ตำรำงกำรวเิ ครำะหค์ วำมสอดคลอ้ งระหวำ่ งมำตรฐำนกำรเรยี นรู้
ตัวชีว้ ดั กลุ่มสำระกำรเรยี นร้สู ังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม
รำยวชิ ำ ส32101 สังคมศกึ ษำ (สำระภูมศิ ำสตร์) ช้ันมธั ยมศึกษำปที ่ี 5
สำระท่ี 5 ภมู ิศำสตร์
มำตรฐำน ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธข์ องสรรพสง่ิ ซงึ่ มผี ลต่อกนั
และกันในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนทีแ่ ละเคร่ืองมือทางภูมศิ าสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ สรปุ และ
ใชข้ อ้ มลู ภูมิสารสนเทศอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
มำตรฐำน ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ บั สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่กอ่ ใหเ้ กิดการ
สร้างสรรคว์ ฒั นธรรม มจี ติ สานกึ และมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพ่ือการ
พัฒนาที่ย่งั ยืน
มำตรฐำน ส 5.1 สำระท่ี 5 มำตรฐำน ส 5.2
ตัวช้วี ัด ตัวชีว้ ัด
1. ใชเ้ ครือ่ งมือทางภูมิศาสตรใ์ นการรวบรวม 1. วเิ คราะห์สถานการณ์และวิกฤตการณ์ด้าน
วเิ คราะห์ และนาเสนอข้อมูล ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมของประเทศ
ภูมิสารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ ไทยและโลก
2. วิเคราะห์อิทธพิ ลของสภาพภูมศิ าสตร์ ซง่ึ 2. ระบมุ าตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา
ทาให้เกิดปัญหาทางกายภาพ หรือภยั พบิ ัตทิ าง บทบาทขององค์การและการประสานความ
ธรรมชาติในประเทศไทยและภมู ิภาคต่างๆ ของ ร่วมมอื ทังในประเทศและนอกประเทศเกีย่ วกับ
โลก กฎหมายสิง่ แวดล้อม การจดั การ
3. วเิ คราะห์การเปลย่ี นแปลงของพนื ที่ซ่ึงได้รบั ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม
อทิ ธิพลจากปจั จยั ทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทย 3. ระบุแนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ
และทวีปต่างๆ และสิง่ แวดล้อมในภูมภิ าคต่างๆ ของโลก
4. ประเมินการเปลี่ยนแปลงธรรมชาตใิ นโลก 4. อธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ ากสงิ่ แวดล้อมใน
วา่ เปน็ ผลมาจากการกระทาของมนุษย์และหรือ การสรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรม อนั เปน็ เอกลกั ษณ์ของ
ธรรมชาติ ทอ้ งถิน่ ทังในประเทศไทยและโลก
5. มสี ่วนรว่ มในการแกป้ ัญหาและการดาเนนิ
ชีวิตตามแนวทางการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรและ
สิง่ แวดลอ้ ม เพื่อการพฒั นาที่ยง่ั ยนื
6
ตำรำงวิเครำะห์ หน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนและตัวชว้ี ดั
รำยวิชำ ส32101 สังคมศึกษำ (สำระภูมิศำสตร์)
ตวั ชีว้ ัด มำตรฐำน ส 5.1 มำตรฐำน ส 5.2
ตัวชีว้ ัด ตัวชวี้ ัด
หน่วยกำรเรียนรู้
1. ภมู ศิ าสตรก์ บั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ 1234 1 234 5
2. แผนที่ เคร่อื งมอื เทคโนโลยสี มัยใหมท่ าง //
ภมู ิศาสตร์
/
3.วกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ
สิง่ แวดล้อมระดับประเทศและระดบั โลก ///
4.การอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละ ///
ส่ิงแวดลอ้ มโดยภูมปิ ญั ญาไทย
7
คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน
ส32101 สงั คมศึกษำ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม
ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 5 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ศกึ ษาวเิ คราะห์ หลักเศรษฐศาสตร์ กิจกรรมพนื ฐานทางเศรษฐกจิ ปญั หาเศรษฐกิจ ระบบ
เศรษฐกจิ การคลงั การธนาคาร และการรา่ งงบประมาณ การใชเ้ ทคโนโลยีในการผลิตโดยคานึงถงึ
สิทธขิ องผูบ้ ริโภคการกาหนดค่าจา้ งและราคาในระบบเศรษฐกิจ อปุ สงค์ อุปทาน การจดั การในทาง
เศรษฐกจิ เศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศเข้าใจระบบสหกรณ์และวธิ กี ารแบบเศรษฐกิจพอเพยี ง ท่ีจา
นาไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน
ศกึ ษาวเิ คราะหล์ ักษณะทางกายภาพซ่ึงทาให้เกดิ ปัญหาและภัยพิบตั ทิ างธรรมชาตใิ นประเทศ
ไทยและภูมิภาคตา่ งๆ ของโลกใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรปุ
ขอ้ มลู ตามกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์และนาภูมสิ ารสนเทศมาใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวันวิเคราะห์
สถานการณ์ สาเหตุ และผลกระทบของการเปลยี่ นแปลงด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมของ
ประเทศไทยและภมู ิภาคตา่ งๆ ของโลกระบุมาตรการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหา กฎหมายและนโยบาย
ดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม บทบาทขององค์การท่เี กี่ยวข้องและการประสานความ
รว่ มมอื ทังในประเทศและระหว่างประเทศ
โดยใช้กระบวนการตงั คาถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ การรวบรวมข้อมูล การจัดการข้อมูล การ
วิเคราะหข์ ้อมลู
การสรุปเพ่ือตอบคาถาม
เพ่อื ให้เกิดความตระหนักและวิจารณญาณในการบริหารจดั การทรพั ยากรอยา่ งมี
ประสิทธภิ าพตระหนกั ถึงแนวทางการจัดการงบประมาณทังภาครัฐและเอกชน เกดิ ความรู้เท่าทัน
สถานการณ์ในการเลือกบรโิ ภค มีวจิ ารณญาณเกยี่ วกบั การแจกจ่ายการทางานเพ่ือสรา้ งความเป็น
ธรรมในสงั คม มีคุณธรรมรู้เท่าทันสถานการณ์ มีเหตุผล รู้จักตนเอง และมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม
รักการเรยี นรู้วิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรมมีความรกั ประเทศชาติทอ้ งถนิ่ ภมู ใิ จในความเป็น
ไทยมสี ่วนร่วมในการอนุรกั ษส์ ิ่งแวดล้อมและวฒั นธรรม ศรัทธาในศาสนาท่ีตนนบั ถือ ร้จู ักตนเอง
เขา้ ใจชีวิต ปรบั ปรุงตนเองอยู่เสมอ
รหสั ตัวช้ีวดั
ส 3.1 ม.4-6/1-4 , ส 3.2 ม.4-6/1-3
ส 5.1 ม.4-6/1/2 , 1/3 , ส 5.2 ม.4-6/1/2, 1/3
รวมทง้ั หมด 11 ตัวชี้วดั
8
โครงสรำ้ งรำยวิชำ
รำยวิชำ ส32101 สังคมศึกษำ (สำระภูมิศำสตร์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
วัฒนธรรม ชันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 จานวน 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
สัปดาห์ คาบท่ี หน่วยท่ี เรื่อง จานวน
ท่ี ชั่วโมง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 ภมู ิสารสนเทศ Geographic Information
1-2 1-5 เครื่องมือทาง System 5
ภมู ศิ าสตร์ -Remote Sensing RS
3-6 6-10 -Global Positioning System GPS 5
หน่วยที่ 1 ภูมิศาสตร์ -ประโยชน์และการประยกุ ตใ์ ชเ้ ครอื่ งมือทาง
7-8 11-15 กับปรากฏการณ์ทาง ภมู ศิ าสตร์ 5
9-10 16-20 ธรรมชาติ -ระบบสรุ ยิ ะ และโครงสรา้ งของโลก 5
-ธรณีภาค Lithosphere
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 -อทุ กภาค Hydrosphere
วิกฤตการณ์ดา้ น -บรรยากาศภาค Atmosphere
ทรพั ยากรธรรมชาติ -ชีวภาค Biosphere
และสิ่งแวดลอ้ ม -พืชพรรณธรรมชาติ และทรพั ยากร
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 -ภมู สิ ังคม , ประชากร , สงั คมและวัฒนธรรม
การอนุรักษ์ ทวั่ ทุกภมู ิภาคในโลก
ทรัพยากรธรรมชาติ -ปฏสิ มั พนั ธเ์ ชิงภมู ศิ าสตร์ในประเทศไทย
และสิ่งแวดล้อมโดยภูมิ ทงั 6 ภาค
ปัญญาไทย -ความสมั พันธ์ระหวา่ ง ภูมิศาสตร์ ภมู อิ ากาศ
พืชพรรณ ทรัพยากร ต่อการตงั ถ่นิ ที่อยแู่ ละการ
ประกอบอาชีพ
-นาเสนอปัญหาภัยธรรมชาติ และวิกฤตการณ์
ด้านสง่ิ แวดล้อม ระบถุ งึ ผลกระทบ หนว่ ยงาน
ตา่ งๆที่เกี่ยวขอ้ ง เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา
-แนวทางการจดั การและการอนรุ ักษ์สิ่งแวดล้อม
-หน่วยงานและองค์กรท่ีเกย่ี วข้อง
-การประสานความรว่ มมือด้านสงิ่ แวดลอ้ ม
-ตวั อยา่ งการจดั การและการอนรุ ักษ์ส่ิงแวดลอ้ ม
-ตัวอย่างการจัดการและการอนรุ ักษ์ส่ิงแวดลอ้ ม
ของเมืองเชียงใหม่
-การพฒั นาทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมอย่างยงั่ ยืน
9
กำหนดกำรสอนและภำระงำนทต่ี อ้ งส่ง
สัปดำห์ คำบท่ี หนว่ ยกำรเรยี น / กจิ กรรม ภำระงำน/ คะแนน
ท่ี 2
1 ช้ินงำนที่ตอ้ งสง่ 2
2 5
1-2 -แนะนารายวิชา สอบ 2
3 10
4 -สอบ Pre-test Pre-test
10
5 3-4 หนว่ ยที่ 1 ภูมศิ ำสตร์กับปรำกฏกำรณท์ ำง Quiz 1
20
6 ธรรมชำติ
7
-ระบบสุรยิ ะ และโครงสร้างของโลก
8
-ธรณภี าค Lithosphere
9
10 5-6 -อทุ กภาค Hydrosphere Quiz 2
-บรรยากาศภาค Atmosphere ใบงานหน่วยที่1
-ชีวภาค Biosphere
7-8 - ลกั ษณะภูมิอากาศ Quiz 3
-พืชพรรณธรรมชาติ และทรพั ยากร
-ภูมิสังคม , ประชากร , สังคมและวฒั นธรรม
ท่ัวทุกภูมภิ าคในโลก
-การเกดิ ภมู สิ ังคมใหม่
9-10 -ปฏิสมั พนั ธเ์ ชิงภูมิศาสตรใ์ นประเทศไทย Mind Map
ทงั 6 ภาค ปฏสิ มั พนั ธเ์ ชิง
-ความสัมพันธร์ ะหว่าง ภมู ศิ าสตร์ ภมู อิ ากาศ ภูมศิ าสตรใ์ น
พชื พรรณ ทรัพยากร ต่อการตงั ถิน่ ท่ีอยูแ่ ละ ประเทศไทย
การประกอบอาชพี
11-12 หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ 2 วกิ ฤตกำรณ์ด้ำน
ทรพั ยำกรธรรมชำตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม
ระดับประเทศและระดับโลก
13-14 -นาเสนอปัญหาภยั ธรรมชาติ และวิกฤตการณ์ นาเสนอดว้ ย
ด้านส่งิ แวดล้อม ระบุถึงผลกระทบ หน่วยงาน Multimedia
ต่างๆทเี่ กย่ี วขอ้ ง เสนอแนวทางการแก้ไข
ปญั หา
15-16 -นาเสนอปัญหาภยั ธรรมชาติ และวกิ ฤตการณ์
ด้านสิ่งแวดล้อม ระบถุ งึ ผลกระทบ หน่วยงาน
ตา่ งๆทเ่ี กีย่ วขอ้ ง เสนอแนวทางการแก้ไข
ปญั หา
17-18 -ทบทวน
19-20 สอบกลำงภำค 1/2562
10
สัปดำห์ คำบท่ี หนว่ ยกำรเรยี น / กจิ กรรม ภำระงำน/ คะแนน
ที่ 2
11 ชน้ิ งำนท่ตี ้อง 2
5
12 สง่
13 10
21-22 หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี 3 เคร่อื งมอื ทำง Quiz 4
14 20
15 ภมู ิศำสตร์
16 -แผนท่ี
17
-ลกู โลก
18
19 23-24 -รูปถ่ายทางอากาศ Quiz 5
20
-ภาพจากดาวเทยี ม
25-26 ภูมิสารสนเทศ Geographic Information ใบงานหน่วยที่
System 2
-Remote Sensing RS
-Global Positioning System GPS
27-28 -ประโยชน์และการประยกุ ต์ใชเ้ คร่ืองมือทาง
ภมู ิศาสตร์
29-30 หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 4 กำรอนรุ กั ษ์
ทรพั ยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อมโดยภมู ิ
ปญั ญำไทย
-แนวทางการจดั การและการอนุรักษ์
สง่ิ แวดล้อม
31-32 -หนว่ ยงานและองค์กรท่เี กยี่ วข้อง
-การประสานความรว่ มมอื ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม
33-34 -ตวั อย่างการจัดการและการอนุรกั ษ์ นาเสนอแนวคดิ
สง่ิ แวดลอ้ มทว่ั โลก การจดั การ
-ตวั อยา่ งการจัดการและการอนรุ ักษ์ สง่ิ แวดลอ้ มของ
ส่ิงแวดลอ้ มของเมืองเชียงใหม่ เมืองเชยี งใหม่
35-36 -การพัฒนาทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมอย่าง
ยัง่ ยืน
37-38 -ทบทวน
- สอบ Post-test
39-40 สอบปลำยภำค 1/2562
ข้อตกลงร่วมกนั : นักเรยี นตอ้ งมเี วลาเขา้ ชนั เรียนไมต่ ่ากว่า ร้อยละ 80 = 32 คาบ
การนาเสนองาน : จะวัดและประเมินผลคะแนนเป็นรายกลมุ่
คะแนน Pre-test และ Post-test ใชใ้ นการวิจัยและพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนไมน่ ามาเป็น
คะแนนตัดสินผลการเรียน
หมำยเหตุ อัตราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรยี นกบั สอบปลายภาค 70 : 30
หน่วยการ กำรวดั และประ
เรยี นรูท้ ี่ รหัสวชิ ำ ส 32101 รำยวิชำสงั คมศกึ ษำ (รำยวิชำภูมิศำสตร)์ ช้นั มธั ยม
ชื่อ ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวงั / ตวั
หนว่ ยการเรยี นรู้
1 ภมู ศิ าสตรก์ ับปรากฏการณ์ 1.วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของสภาพภมู ศิ าสตร์ ซงึ่ ทาให้เกดิ ปญั ห
ทางธรรมชาติ ธรรมชาตใิ นประเทศไทยและภมู ภิ าคต่างๆของโลก
2. วิเคราะห์การเปลย่ี นแปลงของพนื ท่ี ซงึ่ ไดร้ ับอิทธพิ ลจา
ประเทศไทยและทวีปต่างๆ
3. ประเมนิ การเปลยี่ นแปลงธรรมชาตใิ นโลกว่าเป็นผลมาจ
หรือธรรมชาติ
2 แผนท่ี เครื่องมือเทคโนโลยี 4. ใช้เครือ่ งมอื ทางภูมศิ าสตรใ์ นการรวบรวม วิเคราะห์ แล
สมัยใหมท่ างภมู ิศาสตร์ อย่างมปี ระสิทธิภาพ
3 วิกฤตการณด์ ้าน 5. วเิ คราะหส์ ถานการณ์และวิกฤตการณ์ ด้านทรัพยากรธ
ทรัพยากรธรรมชาติและ ประเทศไทยและโลก
ส่งิ แวดลอ้ มระดบั ประเทศ 6. ระบุมาตรการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหา บทบาทขององ
และระดับโลก ร่วมมือทงั ในประเทศและนอกประเทศเกี่ยวกับกฎหมายส
ทรพั ยากร ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม
7. ระบุแนวทางการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
4 อนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มโดยภมู ิ 8. อธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ ากสิง่ แวดล้อมในการสรา้ งสรร
ปญั ญาไทย ของท้องถ่นิ ทังในประเทศไทยและสงั คมโลก
9. มีส่วนรว่ มในการแกป้ ญั หาและการดาเนินชวี ิตตามแนว
สง่ิ แวดล้อม เพ่อื การพัฒนาที่ย่ังยนื
(รวมเวลาเรยี น 36 ชัว่ โมงและเวลาการประ
คะแนนการประเมินผลดา้ นความรู้ (K) : ทกั ษะกระบวนการ (P) : คณุ ลกั ษณะ (A) = 40 : 40 : 20
คะแนนการประเมินผลระหว่างเรยี น 80 คะแนน ประเมนิ ผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวัง ขอ้ ท่ี 1-
คะแนนการประเมนิ ปลายภาคเรยี น 20 คะแนน ประเมนิ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั ขอ้ ที่ 5-
11
ะเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
มศกึ ษำปที ี่ 5 จำนวน 40 ชว่ั โมง /ภำคเรยี น จำนวน 1.0 หนว่ ยกำรเรียน
วบง่ ชี เวลาเรยี น คะแนนการประเมนิ ผล
(ช่วั โมง) ระหวา่ งภาค ปลายภาค
KPAKP A
-
หาทางกายภาพหรือภยั พบิ ตั ิทาง 12 12 10 5 - -
ากปจั จยั ทางภมู ศิ าสตรใ์ น
จากการกระทาของมนษุ ย์และ/
ละนาเสนอข้อมลู ภูมสิ ารสนเทศ 8 8 10 5 - - -
ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมของ 10 - 10 5 10 - -
งคก์ รและการประสานความ
สง่ิ แวดลอ้ ม การจดั การ
ดล้อมในภมู ภิ าคตา่ งๆของโลก 10 - 10 5 10 - -
รคว์ ฒั นธรรม อันเปน็ เอกลกั ษณ์
วทางการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรและ
ะเมินผล 4 ชว่ั โมง) 40 20 40 20 20 - -
-4
-9
กำรออกแบบ
หนว่ ยที่ 1 ช่ือหนว่ ย ภมู ศิ ำส
รำยวชิ ำ ส32101 สังคมศกึ ษำ (สำระภูมิศำสตร์) กลุ่มสำระกำรเ
มำตรฐำน/ตวั ช้ีวัด สำระกำรเรยี นรู้ สมรรถนะสำคัญ/
คุณลกั ษณะอันพงึ
ประสงค์
ส.5.1 1.วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของสภาพ สมรรถนะสาคัญ
ตวั ชวี ัดที่ 1
2. วเิ คราะห์อิทธพิ ลของ ภูมิศาสตร์ ซึ่งทาให้เกดิ ปญั หา 1.ความสามารถใน 2
สภาพภมู ศิ าสตร์ ซึ่งทาให้ 3
เกิดปัญหาทางกายภาพ ทางกายภาพหรือภยั พิบตั ิทาง การคดิ ค
หรอื ภยั พิบตั ทิ าง ธรรมชาติในประเทศไทยและ 2.ความสามารถใน 4
ธรรมชาตใิ นประเทศไทย ภมู ิภาคตา่ งๆของโลก การแก้ไขปญั หา ค
2. วเิ คราะหก์ ารเปลีย่ นแปลง 3.ความสามารถใน M
5
และภูมภิ าคต่างๆ ของ ของพืนท่ี ซงึ่ ได้รับอิทธพิ ลจาก การใช้เทคโนโลยี 6
โลก ปัจจัยทางภมู ศิ าสตร์ใน คณุ ลกั ษณะอนั พึง M
3. วเิ คราะห์การ ประเทศไทยและทวีปต่างๆ ประสงค์
เปลยี่ นแปลงของพนื ที่ซึ่ง
ได้รับอิทธิพลจากปัจจัย 3. ประเมินการเปลี่ยนแปลง 1. มีวินยั
ทางภมู ิศาสตร์ในประเทศ ธรรมชาติในโลกว่าเป็นผลมา 2. ใฝ่เรยี นรู้
ไทยและทวปี ต่างๆ จากการกระทาของมนุษยแ์ ละ/ 3. จิตสาธารณะ
หรือธรรมชาติ
12
บหน่วยกำรเรยี นรู้
สตร์กับปรำกฏกำรณท์ ำงธรรมชำติ
เรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้น ม.5 เวลำ 12 ชัว่ โมง
กิจกรรมกำรเรียนรู้ กำรวดั และ สอ่ื /แหลง่ ภำระงำน/ชิน้ งำน
ประเมนิ ผล เรียนรู้
1.กระบวนการสบื ค้น 1.Pretest – 1.Powerpoint 1.Quiz 3 ครัง
2.กระบวนการกลุ่ม Posttest จัดทาโดย 2.ใบงานสบื คน้ ความรู้
3.เทคนิคการตัง 2.Quiz ครผู สู้ อน ทางภูมิศาสตร์
คาถาม 3.Presentation 2.คลปิ ภาพยนต์ 3.Mind Mapping
4.การใช้แผนผงั 4.Worksheet สัน เรื่อปฏสิ มั พนั ธ์ทาง
ความคดิ Mind 5.แบบประเมนิ การคิด 3.ใบความรู้ ภมู ิศาสตร์ไทย
Mapping รวบรวม เวป
5.การคิดแกป้ ญั หา ไซด์ สบื ค้นทาง
6.การนาเสนอ โดยใช้ ภมู ศิ าสตร์
Multimedia 4.หนังสอื
แบบเรียน
13
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 1
กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ า ส32101 สงั คมศึกษา (สาระภูมศิ าสตร์)
ชอ่ื หน่วยการเรียน เคร่อื งมือในกำรศกึ ษำภมู ศิ ำสตร์ เวลา 1 ชัว่ โมง
เรอื่ ง เครื่องมือในกำรศึกษำภมู ิศำสตร์ เวลา 1 ชว่ั โมง
ชันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 สอนสัปดาหท์ ี่ 1 ช่วั โมง ที่ 1-2
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้
มำตรฐำน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพสง่ิ ซึ่งมีผลตอ่ กนั และกันใน
ระบบของธรรมชาติ ใช้แผนท่ีและเครื่องมือทางภมู ศิ าสตรใ์ นการคน้ หา วิเคราะห์ สรุป และใช้ขอ้ มูลภมู สิ ารสนเทศ
อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชวี้ ดั
ตัวชวี ดั ขอ้ ท่ี 4. ใช้เครอื่ งมือทางภมู ิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอขอ้ มูลภมู ิสารสนเทศอย่างมี
ประสิทธิภาพ (ส 5.1 ม. 4–6/1)
สำระสำคญั
เครือ่ งมือทางภมู ิศาสตรเ์ ป็นเคร่ืองมือที่รวบรวมขอ้ มูลทางภมู ิศาสตร์ท่ตี ้องการ โดยแตล่ ะชนิดมี
คณุ สมบัติในการให้ขอ้ มูลท่ีแตกตา่ งกัน
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
1. อธิบายประโยชน์และวธิ กี ารใช้เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ได้ (K, A)
2. เลือกใชเ้ ครือ่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ให้เหมาะสมกับความตอ้ งการในดา้ นขอ้ มูล (K, P)
3. ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวมข้อมูลทางภมู ิศาสตรไ์ ด้ (K, P)
กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
ด้ำนควำมรู้ (K) ดำ้ นคุณธรรม จริยธรรม ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P)
และค่ำนิยม (A)
1. ซกั ถามความรู้เร่อื ง เคร่อื งมือ Ÿ ประเมนิ พฤติกรรมในการ Ÿ ประเมนิ พฤติกรรมในการ
ทางภมู ิศาสตร์ ทางานเป็นรายบุคคลในดา้ น ทางานเปน็ รายบุคคลและ
2. ตรวจผลงาน/กจิ กรรมเปน็ ความมีวินัย ความใฝเ่ รยี นรู้ เปน็ กลุ่มในดา้ นการสอื่ สาร
รายบคุ คลหรอื เปน็ กลมุ่ ฯลฯ การคิด การแก้ปัญหา ฯลฯ
สำระกำรเรียนรู้
Ÿ เคร่อื งมือท่ีใช้หาข้อมลู ทางภูมศิ าสตร์
1. เคร่ืองมือทางแผนท่ี
1.1 เข็มทศิ
1.2 เครอ่ื งมอื วดั ระยะทางในแผนท่ี
14
1.3 เคร่ืองมือวดั พนื ท่ี
2. เคร่ืองมอื ทางภูมิอากาศ
2.1 บารอมเิ ตอร์
2.2 เทอร์โมมเิ ตอร์
2.3 ไซโครมเิ ตอร์
2.4 ไฮโกรมเิ ตอร์
2.5 มาตรวดั ลม
2.6 เครอ่ื งวัดฝน
แนวทำงบรู ณำกำร
ภาษาไทย ฟงั พูด อา่ น และเขียนเกีย่ วกบั เครอื่ งมอื ทางภูมิศาสตร์
ภาษาตา่ งประเทศ อา่ นและหาความหมายของคาท่ีเกี่ยวกับเครื่องมือทางภูมิศาสตร์
กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 นำเข้ำสบู่ ทเรยี น
1. ครแู จง้ ตวั ชีวดั ชว่ งชนั และจุดประสงคก์ ารเรยี นรูใ้ ห้นักเรียนทราบ
2. ครูให้นกั เรียนดูภาพเทอรโ์ มมเิ ตอร์ บอรอมิเตอร์ มาตรวดั ลม เครือ่ งวดั ฝน แล้วถามนักเรยี นวา่
นกั เรยี นรู้จักเคร่ืองมือชนดิ ใดบ้าง และให้นักเรียนอธบิ ายการใชง้ านเคร่ืองมือชนดิ นนั ตามความรูข้ องนกั เรยี น
จากนนั ครูเชอื่ มโยงการสนทนาเขา้ สบู่ ทเรยี น
ขนั้ ท่ี 2 กิจกรรมกำรเรยี นรู้
3. ครูติดบตั รคา คาวา่ compass, map measurer, planimeter,
barometer, thermometer, psychrometer, hygrometer, anemometer, rain gauge แลว้ ให้แต่ละกลุ่ม
คน้ หาความหมายภาษาไทยของคาศัพท์ภาษาองั กฤษในบัตรคา
4. ครูสมุ่ เรยี กนักเรียนบอกความหมายของคาในบัตรคาจนครบทุกคา
5. ครูให้นักเรยี นศึกษาประโยชน์และวิธกี ารใชง้ านของเครอ่ื งมอื ทางภูมิศาสตร์แตล่ ะชนิด แล้วบนั ทกึ
ขอ้ มลู ลงในแบบบนั ทึกความรู้
6. ครสู มุ่ เลอื กนกั เรียนบอกประโยชนแ์ ละวิธีการใชง้ านของเครื่องมือทางภูมิศาสตร์
ขน้ั ท่ี 3 ฝึกฝนผเู้ รยี น
7. ครใู หน้ ักเรยี นแบ่งกล่มุ กลุม่ ละ 4–6 คน
8. ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลมุ่ เลอื กเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ทน่ี กั เรียนสนใจ แลว้ เก็บข้อมลู ทางภมู ศิ าสตร์
แลว้ บันทึกผลจัดทาเปน็ รายงานนาเสนอหนา้ ชนั เรยี น
ขน้ั ที่ 4 นำไปใช้
9. ครใู หน้ ักเรียนยกตวั อย่างสถานการณใ์ นการนาความรเู้ ก่ยี วกบั เครือ่ งมอื ทางภมู ศิ าสตรไ์ ปประยุกต์ใช้
ในชวี ติ ประจาวัน
ข้ันท่ี 5 สรปุ
10. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรู้เกย่ี วกบั เครอื่ งมือทางภูมิศาสตร์เป็นแผนทค่ี วามคิดบนั ทึกลงสมุด
15
กจิ กรรมเสนอแนะ
ครใู หน้ ักเรียนจบั คู่กันศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมอื ทางภูมิศาสตร์เพม่ิ เติมจากเนอื หาในบทเรยี น แลว้ นา
ข้อมลู มาจัดทาเปน็ แผน่ พบั นามาแจกให้เพื่อนในชันเรยี น
สือ่ /แหล่งกำรเรยี นรู้
1. ภาพเทอรโ์ มมเิ ตอร์ บอรอมิเตอร์ มาตรวดั ลม เครื่องวัดฝน
2. บตั รคา คาว่า compass, map measurer, planimeter,
barometer, thermometer, psychrometer, hygrometer, anemometer, rain gauge
3. แบบบนั ทึกความรู้
4. สือ่ การเรยี นรู้ ภมู ศิ าสตร์ สมบูรณ์แบบ ม. 4–6 บริษทั สานักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จากดั
5. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพืนฐาน ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 บริษัท สานักพิมพ์วัฒนาพานิช จากัด
6. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพนื ฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 บรษิ ทั สานักพมิ พ์วัฒนาพานชิ จากัด
กำรวัดและประเมนิ ผล
1. วธิ ีการวัด
1.1 การทดสอบก่อนเรียน
2. เครอ่ื งมือวัด
2.1 แบบทดสอบก่อนเรียน
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การแปลผลคะแนนเพื่อจดั กลมุ่ นกั เรยี น
0 - 20 อ่อน 21 - 30 ปานกลาง 31 - 50 เก่ง
16
บันทึกผลหลังกำรจัดกำรเรยี นรู้
1) ข้อสรุปหลังกำรจดั กำรเรียนรู้
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2) ปัญหำที่พบ
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.............................................................................................................................................. ......................................
....................................................................................................................................................................................
3) แนวทำงแก้ปัญหำ
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................. .......................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงชอ่ื .................................................
(นางไพรจิตร บ้านเหลา่ )
ครผู ้สู อน
............./.........................../...............
17
รำยกำรตรวจสอบและอนญุ ำตให้ใช้
ควรอนุญาตใหใ้ ช้ในการสอนได้
ควรปรบั ปรงุ เกี่ยวกับ..............................................................................................................
................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................. ..................
ลงชอ่ื .................................................
(นางไพรจติ ร บา้ นเหล่า)
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ
............./.........................../...............
เห็นควรอนญุ าตให้ใช้ในการสอนได้
ควรปรับปรงุ ดงั เสนอ
อื่นๆ........................................................................................................................ .................
............................................................................................................................. ..................
.................................................................................................. .............................................
ลงช่อื .................................................
(นางพรพิรุณ แจ้งใจ)
หวั หน้ากลุ่มงานบริหารวิชาการ
............./.........................../...............
อนุญาตใหใ้ ช้ในการสอนได้
อื่นๆ........................................................................................................................ ..............
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงช่ือ.................................................
( นางลดั ดา ผาพันธ์)
ผอู้ านวยการโรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศกึ ษา
............./.........................../......
18
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 2
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ า ส32101 สังคมศึกษา (สาระภูมิศาสตร์)
ช่อื หนว่ ยการเรียน ภมู ิศาสตร์กับปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เวลา 12 ชวั่ โมง
เร่ือง ระบบสุริยะและโครงสร้างของโลก เวลา 2 ช่วั โมง
ชันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 สอนสัปดาหท์ ี่ 1 ช่วั โมง ท่ี 1-2
มำตรฐำนกำรเรียนรู้
มำตรฐำน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธข์ องสรรพส่ิงซง่ึ มผี ลตอ่ กันและกันใน
ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการค้นหา วเิ คราะห์ สรุป และใช้ข้อมูลภูมสิ ารสนเทศ
อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ชี้วดั
ตัวชีวัดขอ้ ท่ี 2. วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลของสภาพภูมศิ าสตร์ ซ่ึงทาใหเ้ กิดปัญหาทางกายภาพ หรือภัยพิบัตทิ าง
ธรรมชาตใิ นประเทศไทยและภูมภิ าคต่างๆ ของโลก
ตัวชวี ัดข้อที่ 3. วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงของพืนท่ีซ่ึงไดร้ บั อิทธิพลจากปจั จยั ทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยและทวปี
ตา่ งๆ
สำระสำคญั
ภูมศิ าสตรเ์ ป็นการศึกษาถึงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติ กับทางสงั คมปฏสิ มั พนั ธ์เชงิ ภูมิศาสตร์
ของโลกประกอบด้วยธรณีภาค อุทกภาค บรรยากาศภาค และชีวภาค มีผลต่อการเกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทาง
ธรรมชาติของโลก เปน็ ปัจจัยกาหนดรูปแบบวถิ ีชวี ิต ของมนุษยใ์ นแตล่ ะพนื ท่ี เม่ือเกดิ การเปลยี่ นแปลงทาง
ภมู ศิ าสตร์ ไมว่ ่าจากกระบวนการทางธรรมชาติ หรือจากฝีมือมนุษย์ ย่อมสง่ ผลกระทบให้ส่งิ แวดล้อม สงั คม และ
วิถีชวี ติ ของมนุษย์เปลีย่ นแปลงไป ซึ่งเปน็ ความจาเป็นอย่างยิ่งท่ตี ้องรเู้ ทา่ ทัน การเปลย่ี นแปลง เพ่อื ปรับตัวให้
สอดคลอ้ งและสามารถดารงชีวติ อย่างมีความสขุ
จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้
1. สรปุ ความรูเ้ ก่ียวกบั โลกได้
2. อธบิ ายปรากฏการณแ์ ละการเปล่ยี นแปลงของพืนที่ ในโลกอันเน่ืองมาจากอิทธิพลทางภมู ศิ าสตร์
สำระกำรเรยี นรู้
ระบบสุริยจักรวาลท่ีมีดวงอาทติ ย์เป็นศนู ย์กลาง มีสิ่งมชี ีวิตอาศยั อยู่ ปฏสิ ัมพันธเ์ ชิงภมู ิศาสตร์ของโลกประกอบด้วย
ธรณภี าค อุทกภาค บรรยากาศภาค และชีวภาคท่ีมีผลต่อการเกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทางธรรมชาติของโลก
เชน่ เดยี วกบั การโคจรของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทรม์ ีความสมั พันธ์กนั ทาใหเ้ กดิ ปรากฏการณ์ เช่น กลางวัน-
กลางคืน ฤดูกาล และส่ิงมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกมีความสัมพันธ์กับระบบธรรมชาติของโลก โดยเรยี กว่า ระบบ
วทิ ยา
19
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. จติ สาธารณะ
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแก้ไขปญั หา
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
คำบที่ 1 Introduce to Geography
- แนะนาตัว นักเรียนเป็นรายบุคคล พร้อมกับสารวจว่านักเรียน ชอบ หรือไม่ชอบวิชา
ภมู ิศาสตร์ พรอ้ มเหตผุ ลและภามประสบการณ์ ความรู้เดมิ เก่ียวกบั วิชาภูมิศาสตร์ทนี่ กั เรียน
ไดเ้ รียนมา
- ครูแจกกาหนดกจิ กรรมการเรียนการสอน ให้นกั เรยี น
- อธิบายเง่ือนไข วิธีการวัดและประเมินผลให้นักเรียนทราบ ซึ่งนักเรียนสามารถขอมติจาก
เสียงส่วนใหญ่ในหอ้ งเรียนปรับเปลยี่ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ และวธิ ีการวัดผล ร่วมกับ
ครผู สู้ อน ใหไ้ ด้ขอ้ สรุปร่วมกัน เพ่ือเป็นแนวทางปฏบิ ตั ิร่วมกันของห้อง
คำบท่ี 2 Pre-Test
- นกั เรียนทาข้อสอบ Pre-test จานวน 50 ขอ้ เวลา 40 นาที
- ครผู ้สู อนนาผลการทดสอบ Pre-test มาวเิ คราะหผ์ ู้เรียน และ ออกแบบเนือหาการสาระใน
การจดั การเรยี นการสอน ตามมาตรฐานและตวั ชีวดั
สื่ออุปกรณ์และแหล่งเรียนรู้
1. เอกสารคาอธบิ ายรายวชิ า
2. กาหนดการเรียนการสอนรายวิชาภูมิศาสตร์
3. แบบทดสอบ Pre-test
กำรวดั และประเมินผล
1. วิธีการวัด
1.1 การทดสอบก่อนเรยี น
2. เครอ่ื งมือวัด
2.1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การแปลผลคะแนนเพอื่ จดั กลุม่ นักเรียน
0 - 20 อ่อน 21 - 30 ปานกลาง 31 - 50 เกง่
20
บันทึกผลหลังกำรจัดกำรเรยี นรู้
1) ข้อสรุปหลังกำรจดั กำรเรียนรู้
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2) ปัญหำที่พบ
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.............................................................................................................................................. ......................................
....................................................................................................................................................................................
3) แนวทำงแก้ปัญหำ
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................. .......................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงชอ่ื .................................................
(นางไพรจิตร บ้านเหลา่ )
ครผู ้สู อน
............./.........................../...............
21
รำยกำรตรวจสอบและอนุญำตให้ใช้
ควรอนญุ าตใหใ้ ชใ้ นการสอนได้
ควรปรับปรงุ เกีย่ วกับ..............................................................................................................
................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................. ..................
ลงช่ือ.................................................
(นางไพรจิตร บา้ นเหลา่ )
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาฯ
............./.........................../...............
เหน็ ควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้
ควรปรับปรงุ ดงั เสนอ
อ่นื ๆ........................................................................................................................ .................
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงชอื่ .................................................
(นางพรพริ ุณ แจง้ ใจ)
หวั หนา้ กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ
............./.........................../...............
อนญุ าตให้ใช้ในการสอนได้
อน่ื ๆ......................................................................................................................................
........................................................................................................ .......................................
............................................................................................................................. ..................
ลงชื่อ.................................................
( นางลัดดา ผาพนั ธ์)
ผูอ้ านวยการโรงเรียนโคกโพธ์ไิ ชยศกึ ษา
............./.........................../......
22
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 3
กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา ส32101 สงั คมศึกษา (สาระภมู ิศาสตร์)
ชอ่ื หน่วยการเรยี น ภูมิศาสตรก์ ับปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เวลา 10 ชว่ั โมง
เร่ือง ระบบสรุ ิยะและโครงสร้างของโลก เวลา 2 ช่วั โมง
ชนั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 สอนสปั ดาหท์ ี่ 2 ชว่ั โมง ท่ี 3-4
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้
มำตรฐำน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพส่งิ ซ่งึ มีผลตอ่ กนั และกันใน
ระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ สรุป และใชข้ ้อมลู ภมู สิ ารสนเทศ
อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ชีว้ ดั
ตวั ชีวัดข้อที่ 2. วิเคราะหอ์ ิทธิพลของสภาพภูมศิ าสตร์ ซง่ึ ทาให้เกิดปัญหาทางกายภาพ หรือภัยพิบตั ิทาง
ธรรมชาตใิ นประเทศไทยและภมู ิภาคตา่ งๆ ของโลก
ตวั ชวี ัดขอ้ ท่ี 3. วิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงของพืนทซี่ ่ึงได้รับอทิ ธิพลจากปจั จยั ทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยและทวปี
ต่างๆ
สำระสำคญั
ภูมศิ าสตร์เป็นการศึกษาถึงความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งส่ิงแวดลอ้ มทางธรรมชาติ กบั ทางสังคมปฏิสัมพันธ์เชิงภมู ิศาสตร์
ของโลกประกอบด้วยธรณภี าค อุทกภาค บรรยากาศภาค และชีวภาค มีผลต่อการเกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทาง
ธรรมชาติของโลก เป็นปัจจัยกาหนดรปู แบบวิถชี วี ติ ของมนษุ ยใ์ นแต่ละพืนท่ี เม่ือเกิดการเปล่ยี นแปลงทาง
ภูมิศาสตร์ ไม่วา่ จากกระบวนการทางธรรมชาติ หรอื จากฝีมือมนุษย์ ย่อมส่งผลกระทบให้สงิ่ แวดลอ้ ม สงั คม และ
วิถีชวี ติ ของมนุษยเ์ ปลี่ยนแปลงไป ซงึ่ เป็นความจาเปน็ อยา่ งยง่ิ ทต่ี อ้ งรเู้ ทา่ ทัน การเปล่ยี นแปลง เพอ่ื ปรับตวั ให้
สอดคล้องและสามารถดารงชีวติ อย่างมคี วามสขุ
จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้
1. สรปุ ความร้เู กี่ยวกบั โลกได้
2. อธิบายปรากฏการณ์และการเปลยี่ นแปลงของพนื ท่ี ในโลกอันเนือ่ งมาจากอิทธิพลทางภมู ิศาสตร์
สำระกำรเรยี นรู้
ระบบสุริยจักรวาลท่ีมีดวงอาทติ ย์เป็นศนู ย์กลาง มีส่งิ มีชวี ิตอาศยั อยู่ ปฏสิ ัมพันธเ์ ชงิ ภมู ิศาสตรข์ องโลกประกอบดว้ ย
ธรณีภาค อุทกภาค บรรยากาศภาค และชีวภาคท่ีมีผลต่อการเกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทางธรรมชาติของโลก
เชน่ เดียวกบั การโคจรของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์มีความสมั พนั ธ์กันทาให้เกิดปรากฏการณ์ เช่น กลางวัน-
กลางคืน ฤดูกาล และส่ิงมีชีวิตท่ีอาศัยอยู่บนโลกมีความสัมพันธ์กับระบบธรรมชาติของโลก โดยเรยี กวา่ ระบบ
วทิ ยา
23
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. จติ สาธารณะ
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแก้ไขปัญหา
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กจิ กรรมกำรเรียนรู้
คำบที่ 1 ระบบสรุ ยิ ะและกำเนิดโลก
1. ครูใหน้ ักเรียนดูคลิปและภาพการกาเนดิ สุรยิ ะ Big Bang และภาพโครงสรา้ งการก่อกาเนิดโลก
2. ใช้คาถาม? แนวคิดการกาเนิดโลก ว่านักเรียนเหน็ ด้วย หรือไม่ หรอื มีข้อคิดเหน็ อย่างไร?
3. ครอู ธิบาย Concept ของ Theme of Geography แนวคิดการศึกษาความเชอื่ มโยงของระบบสุรยิ ะ
ถงึ ระบบนิเวศวทิ ยา
4. ให้นักเรียนดูภาพโครงสร้างโลก
5. ใช้คาถาม? เกี่ยวกับลักษณะสณั ฐานของโลก , แผน่ เปลอื กโลก , แกน่ โลก , ธาตุสาคัญ , สนิ แร่
และการเปลย่ี นแปลงโครงสร้างทางธรณี
6. ครแู ละนกั เรยี นสรปุ รว่ มกนั ถงึ ความสาคัญและผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงของเปลอื กโลก
คำบที่ 2 ธรณภี ำค
1. Quiz : นกั เรยี นคิดว่าการเปล่ียนแปลงของเปลอื กโลกส่งผลกระทบอยา่ งไร ?
2. ครูให้นักเรียนดภู าพ Plate Tectonice
3. นักเรียนดู Power point ลักษณะและรูปแบบการเคลือ่ นท่ีของแผ่นเปลือกโลก
4. ดคู ลิป ภาพยนตร์สนั เกี่ยวกับ แผน่ ดินไหว ภูเขาไฟระเบดิ สึนามิ
5. ครแู จก ใบความรทู้ ่รี วบรวมเวปไซด์สารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ให้นักเรียนได้เข้าไปศกึ ษาดว้ ยตนเอง
6. นักเรยี นสืบค้น จากหนงั สือแบบเรยี น ในเวปไซด์ เกยี่ วกับผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงโครงสร้าง
ทางธรณี ในประเทศตา่ งๆ ทวั่ โลก
สื่ออุปกรณ์และแหล่งเรียนรู้
1. Power point เรอ่ื งภมู ิศาสตรก์ บั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ท่คี รูผู้สอนจัดทาขนึ
2. คลิปภาพยนตร์สนั เรื่องกาเนิดสรุ ิยะ Plate Tectonics แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สนึ ามิ
3. ชุดคาถามในการ Quiz
4. ใบความรู้ เรอ่ื ง เวปไซดใ์ นการสบื คน้
24
กำรวัดและประเมนิ ผล
1. วธิ กี ารวดั
1.1 การทา Quiz เพ่ือวดั ทกั ษะในการคดิ
1.2 การทาใบงาน
1.3 การถาม – ตอบ การมีสว่ นรว่ มในชนั เรียน
1.4 การสบื คน้ ข้อมลู สารสนเทศทางภูมิศาสตร์
2. เครอ่ื งมือวัด
2.1 ชุดคาถาม เพอื่ พฒั นาทกั ษะการคิดขนั สูง
2.2 การใชร้ ะบบการตอบกลับ การสืบคน้ ข้อมูลทางเวปไซด์ หรอื social network
2.3 แบบบันทกึ คะแนน การสง่ งาน การร่วมกิจกรรมในชัน
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 นกั เรียนมเี วลาเขา้ เรยี น รอ้ ยละ 80 ขนึ ไป
3.2 นักเรียนรอ้ ยละ 80 ขนึ ไปส่งชนิ งานที่มีคณุ ภาพตามเกณฑ์ท่กี าหนดไว้
25
บันทึกผลหลังกำรจดั กำรเรยี นรู้
1) ข้อสรุปหลังกำรจดั กำรเรียนรู้
.................................................................................................................................................... ................................
.......................................................................................................................................... ..........................................
......................................................................................... ...........................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2) ปัญหำที่พบ
................................................................................................................................................ ....................................
............................................................................................... .....................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.............................................................................................................................................. ......................................
....................................................................................................................................................................................
3) แนวทำงแก้ปญั หำ
............................................................................................... .....................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................. .......................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงชอื่ .................................................
(นางไพรจติ ร บ้านเหล่า)
ครผู ูส้ อน
............./.........................../...............
26
รำยกำรตรวจสอบและอนญุ ำตให้ใช้
ควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้
ควรปรับปรุงเก่ยี วกับ..............................................................................................................
................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................. ..................
ลงชอ่ื .................................................
(นางไพรจติ ร บ้านเหลา่ )
หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาฯ
............./.........................../...............
เห็นควรอนญุ าตให้ใช้ในการสอนได้
ควรปรบั ปรุงดงั เสนอ
อ่ืนๆ........................................................................................................................ .................
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงช่อื .................................................
(นางพรพริ ณุ แจง้ ใจ)
หวั หนา้ กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ
............./.........................../...............
อนุญาตใหใ้ ช้ในการสอนได้
อ่ืนๆ........................................................................................................................ ..............
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงชอ่ื .................................................
( นางลดั ดา ผาพันธ์)
ผู้อานวยการโรงเรยี นโคกโพธิ์ไชยศกึ ษา
............./.........................../......
27
แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี 4
กล่มุ สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ า ส32101 สังคมศึกษา (สาระภมู ศิ าสตร์)
ชอื่ หน่วยการเรียน ภูมศิ าสตร์กบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เวลา 10 ชวั่ โมง
เรอื่ ง บรรยากาศภาค อุทกภาค และชวี ภาค เวลา 2 ชั่วโมง
ชันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 สอนสปั ดาหท์ ี่ 3 ช่วั โมง ที่ 5-6
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้
มำตรฐำน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธข์ องสรรพสง่ิ ซง่ึ มีผลตอ่ กนั และกันใน
ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเคร่ืองมือทางภูมิศาสตรใ์ นการค้นหา วิเคราะห์ สรปุ และใชข้ อ้ มลู ภูมสิ ารสนเทศ
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ตวั ชี้วดั
ตัวชีวัดข้อท่ี 2. วิเคราะหอ์ ิทธิพลของสภาพภูมิศาสตร์ ซึง่ ทาใหเ้ กิดปัญหาทางกายภาพ หรือภยั พิบัติทาง
ธรรมชาตใิ นประเทศไทยและภูมิภาคตา่ งๆ ของโลก
ตวั ชวี ดั ขอ้ ท่ี 3. วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงของพืนทซ่ี ึ่งได้รบั อิทธิพลจากปัจจยั ทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยและทวีป
ตา่ งๆ
สำระสำคัญ
ภมู ิศาสตร์เปน็ การศกึ ษาถงึ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติ กบั ทางสงั คมปฏิสัมพนั ธ์เชิงภมู ิศาสตร์
ของโลกประกอบด้วยธรณภี าค อุทกภาค บรรยากาศภาค และชีวภาค มีผลต่อการเกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทาง
ธรรมชาติของโลก เป็นปจั จยั กาหนดรปู แบบวิถีชวี ิต ของมนุษยใ์ นแต่ละพนื ท่ี เม่ือเกิดการเปลย่ี นแปลงทาง
ภมู ิศาสตร์ ไม่วา่ จากกระบวนการทางธรรมชาติ หรือจากฝีมอื มนุษย์ ย่อมส่งผลกระทบใหส้ ่งิ แวดลอ้ ม สังคม และ
วถิ ชี วี ติ ของมนษุ ย์เปล่ยี นแปลงไป ซ่ึงเปน็ ความจาเป็นอยา่ งยิ่งที่ต้องรู้เทา่ ทัน การเปล่ียนแปลง เพื่อปรับตวั ให้
สอดคล้องและสามารถดารงชีวิตอยา่ งมคี วามสขุ
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. วเิ คราะห์ปรากฏการณจ์ ากบรรยากาศและท้องฟ้า
2. วิเคราะหป์ รากฏการณจ์ ากอทุ กภาค และสรุปการไหลเวียนของกระแสนาอนุ่ -กระแสนาเย็น
3. วิเคราะห์การเปลย่ี นแปลงของโลกต่อระบบชีวภาคและระบบนิเวศน์วิทยา
สำระกำรเรียนรู้
ชนั บรรยากาศภาค องค์ประกอบของแก๊สตามธรรมชาติท่ีได้เปล่ียนแปลงจากการกระทาของมนุษย์ จน
ส่งผลให้เกิดปรากฎการณ์เรือนกระจก อุณหภูมิในโลกสูงขึน ภูมิอากาสในโลกเปลี่ยนแปลงไป เกิดภัยพิบัติทาง
ธรรมชาติ เช่น การละลายของธารนาแข็ง ปรากฏการณ์ภัยแล้ง ปรากฎการณ์เอลนโิ ญ่-ลานิญ่า การเกิดพายุหมุน
ไฟปา่ และพนื ที่อับฝน ขนึ ทว่ั โลก สง่ ผลกระทบต่อมนษุ ยแ์ ละสงิ่ แวดล้อมทั่วโลก
28
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. จติ สาธารณะ
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแก้ไขปญั หา
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กิจกรรมกำรเรียนรู้
คำบที่ 1 บรรยำกำศภำค และ อุทกภำค
1. ครใู ห้นกั เรยี นดูภาพชนั บรรยากาศ และประโยชน์ทมี่ นุษย์ได้รับจากชนั บรรยากาศทห่ี ่อหุ้มโลก
2. ครอู ธบิ ายและยกตวั อย่างประโยชน์ คณุ ลักษณข์ องชันบรรยากาศแตล่ ะชนั และใชค้ าถามใหน้ กั เรยี น
ร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ถึงปรากฏการณ์และการเปลย่ี นแปลงของชนั บรรยากาศ เช่นการ
เปลีย่ นแปลงของชนั โอโซน
3. ให้นกั เรยี นดภู าพ การเปลี่ยนแปลงของโลก เชน่ ปรากฎการณ์เอลนิโญ่ – ลานญิ ่า ภาพนาแข็งขวั โลก
ละลาย การเปลีย่ นแปลง ทศิ ทางการไหลของธารกระแสนาอนุ่ – กระแสนาเยน็
4. ครแู ละนักเรียนสรปุ ร่วมกนั ถงึ ความสาคญั และผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงทางอุทกภาค และภยั
พบิ ตั ิทางธรรมชาติ
คำบที่ 2 ภยั พิบตั ิทำงธรรมชำติ และกำรเปลี่ยนแปลงของระบบชีวภำค
1. Quiz : หากชันบรรยากาศ โอโซนถูกทาลาย จะส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงสภาพอากาศและระบบ
อุทกภาคอย่างไร ?
2. นกั เรียนดู Power point สรปุ ความหมายความสัมพนั ธ์ ของระบบชีวภาค
3. นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ และยกตัวอยา่ งจากสถานการณป์ จั จุบัน
4. ดคู ลิป ภาพยนตร์สัน เก่ยี วกับ พายโุ ซนร้อน และภยั ธรรมชาติท่ีสง่ ผลต่อมนุษยแ์ ละสิง่ แวดลอ้ ม
5. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม สืบค้น ภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติที่สนใจ จากหนงั สอื แบบเรยี น ในเวปไซด์ เตรยี ม
นาเสนอหน้าชัน
ส่อื อุปกรณแ์ ละแหลง่ เรียนรู้
1. Power point เร่ืองภูมิศาสตรก์ บั ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ทค่ี รผู สู้ อนจดั ทาขนึ
2. คลิปภาพยนตร์สัน ปรากฎการณ์เอลนิโญ่ – ลานิญ่า ภาพนาแข็งขัวโลกละลาย การเปลี่ยนแปลง ทิศ
ทางการไหลของธารกระแสนาอุ่น – กระแสนาเยน็
3. ชดุ คาถามในการ Quiz
4. ใบความรู้ เร่อื ง เวปไซดใ์ นการสืบค้น
29
กำรวัดและประเมนิ ผล
1. วธิ ีการวัด
1.1 การทา Quiz เพื่อวดั ทักษะในการคิด
1.2 กระบวนการกลมุ่
1.3 การถาม – ตอบ การมีสว่ นรว่ มในชนั เรยี น
2. เคร่อื งมือวดั
2.1 ชดุ คาถาม เพ่อื พฒั นาทกั ษะการคิดขันสงู
2.2 แบประเมินการทางานกลุ่ม การมีส่วนร่วม
2.3 แบบบันทกึ คะแนน การนาเสนอผลงาน การรว่ มกิจกรรมในชนั
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 นักเรยี นมีเวลาเขา้ เรียน ร้อยละ 80 ขึนไป
3.2 นกั เรียนรอ้ ยละ 80 ขนึ ไปส่งชินงานทม่ี ีคุณภาพตามเกณฑ์ทกี่ าหนดไว้
30
บันทึกผลหลังกำรจัดกำรเรยี นรู้
1) ข้อสรุปหลังกำรจดั กำรเรียนรู้
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2) ปัญหำที่พบ
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.............................................................................................................................................. ......................................
....................................................................................................................................................................................
3) แนวทำงแก้ปัญหำ
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................. .......................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงชอ่ื .................................................
(นางไพรจิตร บ้านเหลา่ )
ครผู ้สู อน
............./.........................../...............
31
รำยกำรตรวจสอบและอนุญำตใหใ้ ช้
ควรอนุญาตใหใ้ ช้ในการสอนได้
ควรปรับปรงุ เก่ียวกับ..............................................................................................................
................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................. ..................
ลงช่ือ.................................................
(นางไพรจิตร บา้ นเหลา่ )
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ
............./.........................../...............
เหน็ ควรอนญุ าตให้ใชใ้ นการสอนได้
ควรปรับปรุงดงั เสนอ
อ่นื ๆ........................................................................................................................ .................
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงชื่อ.................................................
(นางพรพิรุณ แจ้งใจ)
หวั หนา้ กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ
............./.........................../...............
อนญุ าตใหใ้ ช้ในการสอนได้
อืน่ ๆ......................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงชอื่ .................................................
( นางลดั ดา ผาพันธ์)
ผู้อานวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ิไชยศึกษา
............./.........................../......
32
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 5
กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา ส32101 สงั คมศึกษา (สาระภูมศิ าสตร์)
ชื่อหนว่ ยการเรียน ภูมิศาสตรก์ บั ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เวลา 10 ช่ัวโมง
เรอ่ื ง ภยั พิบัตทิ างธรรมชาติ เวลา 2 ช่ัวโมง
ชันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 สอนสปั ดาหท์ ่ี 4 ชว่ั โมง ที่ 7-8
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้
มำตรฐำน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพสง่ิ ซ่งึ มผี ลต่อกนั และกนั ใน
ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเคร่ืองมือทางภูมิศาสตรใ์ นการค้นหา วิเคราะห์ สรปุ และใชข้ อ้ มลู ภูมิสารสนเทศ
อย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตวั ชวี้ ัด
ตัวชีวดั ขอ้ ท่ี 2. วเิ คราะห์อิทธพิ ลของสภาพภูมศิ าสตร์ ซ่งึ ทาให้เกดิ ปัญหาทางกายภาพ หรือภัยพิบัติทาง
ธรรมชาตใิ นประเทศไทยและภูมิภาคตา่ งๆ ของโลก
ตัวชีวัดข้อท่ี 3. วิเคราะห์การเปลย่ี นแปลงของพืนทีซ่ ่ึงไดร้ ับอิทธิพลจากปจั จยั ทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยและทวปี
ตา่ งๆ
สำระสำคญั
ภมู ศิ าสตรเ์ ป็นการศึกษาถึงความสมั พนั ธ์ระหว่างส่งิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ กับทางสงั คมปฏสิ มั พนั ธ์เชงิ ภมู ิศาสตร์
ของโลกประกอบด้วยธรณภี าค อุทกภาค บรรยากาศภาค และชีวภาค มีผลต่อการเกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทาง
ธรรมชาติของโลก เปน็ ปัจจัยกาหนดรูปแบบวถิ ีชีวิต ของมนษุ ย์ในแต่ละพนื ที่ เม่ือเกิดการเปลี่ยนแปลงทาง
ภูมิศาสตร์ ไม่ว่าจากกระบวนการทางธรรมชาติ หรือจากฝีมือมนุษย์ ยอ่ มส่งผลกระทบให้ส่ิงแวดล้อม สงั คม และ
วิถีชวี ติ ของมนุษยเ์ ปลยี่ นแปลงไป ซ่งึ เปน็ ความจาเปน็ อยา่ งยงิ่ ทีต่ ้องร้เู ท่าทัน การเปลี่ยนแปลง เพื่อปรับตวั ให้
สอดคลอ้ งและสามารถดารงชีวติ อย่างมคี วามสขุ
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
1. วเิ คราะหป์ รากฏการณ์ที่ก่อให้เกิดการเปลย่ี นแปลงทางภูมศิ าสตร์ สภาพอากาศ
2. อธบิ ายการเกดิ ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ ท่ีส่งผลต่อมนษุ ย์และสิ่งแวดล้อม
สำระกำรเรียนรู้
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในด้านบรรยากาศภาค ธรณีภาค อุทกภาคและชีวภาค ทเี่ กิดขนึ บนผิวโลกนัน
มีสาเหตุทังจากการกระทาของธรรมชาติและมนุษย์ โดยมีสาเหตุหลักคือความต้องการใช้พลังงานจากซากดึกดา
บรรพ์ เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม การใช้ประโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ งขาดความตระหนักถึงผลกระทบ
ด้านระบบนเิ วศน์ ส่งผลใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงทางภูมิศาสตร์ สภาพอากาศ และ ภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ
33
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. จิตสาธารณะ
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแก้ไขปญั หา
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กิจกรรมกำรเรียนรู้
คำบที่ 1 นำเสนองำนเรอ่ื ง ภยั พบิ ตั ิทำงธรรมชำติ
1. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอ เหตกุ ารณภ์ ัยพบิ ัติทางธรรมชาติ ที่กล่มุ สนใจ
2. ตามหัวขอ้ สาเหตกุ ารเกิด ผลกระทบ ด้านบวก ดา้ นลบ ผลกระทบทังต่อมนุษย์และสิง่ แวดล้อม
และแนวทางการป้องกัน หรือรบั มือกบั ภยั พบิ ัติทางธรรมชาตดิ งั กล่าว
3. เพือ่ น ครู รว่ มกันสักถาม และ ให้เพื่อนที่ฟังรว่ มกัน ยกมือโหวตใหค้ ะแนน โดยมรี ะดบั คุณภาพคือ
5 = ดมี าก
4 = ดี
3 = พอใช้
2 = ตอ้ งปรับปรุง
คำบที่ 2 Mind Mapping เรื่องภัยพิบัติทำงธรรมชำติ
1. ครแู จกใบงาน แผนผงั ความคิด เรอื่ งวิเคราะห์ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
2. นกั เรียนเลือกประเดน็ ทตี่ นเองสนใจ มา 1 เรอื่ ง
3. สบื ค้นจากหนังสอื แบบเรียน ในเวปไซด์ และวเิ คราะหล์ งใน mind mapping ทกี่ าหนดให้
4. สง่ ผลงานท้ายคาบเรยี น
สือ่ อุปกรณแ์ ละแหล่งเรียนรู้
1. แบบประเมินผลการนาเสนอผลงาน
2. ใบงานเรือ่ ง วเิ คราะหป์ รากฏการณ์ทางธรรมชาติ
กำรวดั และประเมินผล
1. วธิ ีการวดั
1.1 การนาเสนอผลงาน
1.2 การทาใบงาน Mind mapping
1.3 การถาม – ตอบ การมสี ว่ นร่วมในชนั เรยี น
1.4 การสบื คน้ ข้อมูลสารสนเทศทางภมู ิศาสตร์
34
2. เครอื่ งมือวัด
2.1 แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน
2.2 การตรวจ Mind mapping
2.3 แบบบนั ทึกคะแนน การสง่ งาน การร่วมกจิ กรรมในชนั
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 นกั เรียนมีเวลาเขา้ เรียน รอ้ ยละ 80 ขนึ ไป
3.2 นักเรียนร้อยละ 80 ขึนไปสง่ ชินงานทีม่ ีคณุ ภาพตามเกณฑ์ท่ีกาหนดไว้
35
บันทึกผลหลังกำรจดั กำรเรยี นรู้
1) ข้อสรปุ หลังกำรจดั กำรเรียนรู้
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2) ปัญหำท่ีพบ
................................................................................................................................................ ....................................
............................................................................................... .....................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.............................................................................................................................................. ......................................
....................................................................................................................................................................................
3) แนวทำงแกป้ ัญหำ
............................................................................................... .....................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................. .......................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงช่อื .................................................
(นางไพรจติ ร บา้ นเหล่า)
ครูผสู้ อน
............./.........................../...............
36
รำยกำรตรวจสอบและอนญุ ำตใหใ้ ช้
ควรอนญุ าตให้ใชใ้ นการสอนได้
ควรปรับปรงุ เกี่ยวกับ..............................................................................................................
................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................. ..................
ลงชอ่ื .................................................
(นางไพรจติ ร บา้ นเหลา่ )
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาฯ
............./.........................../...............
เหน็ ควรอนุญาตให้ใช้ในการสอนได้
ควรปรับปรงุ ดงั เสนอ
อนื่ ๆ........................................................................................................................ .................
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงชอ่ื .................................................
(นางพรพิรุณ แจ้งใจ)
หวั หนา้ กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ
............./.........................../...............
อนุญาตให้ใชใ้ นการสอนได้
อ่นื ๆ......................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงชือ่ .................................................
( นางลัดดา ผาพันธ์)
ผอู้ านวยการโรงเรยี นโคกโพธไิ์ ชยศึกษา
............./.........................../......
37
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 6
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ า ส32101 สังคมศึกษา (สาระภมู ศิ าสตร์)
ช่ือหน่วยการเรยี น ภมู ิศาสตรก์ บั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ เวลา 12 ช่วั โมง
เรือ่ ง ภูมิสังคม และปฏสิ มั พันธท์ างสิง่ แวดล้อมของไทย เวลา 2 ชัว่ โมง
ชันมัธยมศึกษาปที ี่ 5 สอนสปั ดาห์ท่ี 5 ชัว่ โมง ที่ 9-10
มำตรฐำนกำรเรียนรู้
มำตรฐำน ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพส่งิ ซ่ึงมผี ลตอ่ กันและกันใน
ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเคร่ืองมือทางภูมศิ าสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ สรุป และใช้ข้อมูลภมู ิสารสนเทศ
อย่างมีประสทิ ธิภาพ
ตัวช้วี ัด
ตัวชวี ัดข้อที่ 2. วิเคราะห์อิทธพิ ลของสภาพภูมศิ าสตร์ ซงึ่ ทาให้เกดิ ปัญหาทางกายภาพ หรือภัยพบิ ัติทาง
ธรรมชาติในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่างๆ ของโลก
ตวั ชีวัดขอ้ ที่ 3. วเิ คราะห์การเปล่ยี นแปลงของพืนท่ีซ่ึงไดร้ ับอทิ ธิพลจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยและทวีป
ต่างๆ
สำระสำคัญ
ภูมิศาสตรเ์ ปน็ การศึกษาถงึ ความสมั พันธ์ระหว่างสิง่ แวดล้อมทางธรรมชาติ กบั ทางสังคมปฏิสมั พันธ์เชิงภูมิศาสตร์
ของโลกประกอบด้วยธรณภี าค อุทกภาค บรรยากาศภาค และชีวภาค มีผลต่อการเกิดปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทาง
ธรรมชาติของโลก เปน็ ปัจจัยกาหนดรูปแบบวถิ ชี วี ติ ของมนษุ ยใ์ นแต่ละพนื ที่ เม่ือเกดิ การเปลย่ี นแปลงทาง
ภมู ิศาสตร์ ไม่วา่ จากกระบวนการทางธรรมชาติ หรือจากฝีมือมนุษย์ ย่อมส่งผลกระทบใหส้ งิ่ แวดลอ้ ม สังคม และ
วิถีชวี ิตของมนษุ ยเ์ ปลย่ี นแปลงไป ซึง่ เป็นความจาเป็นอย่างยิ่งท่ีตอ้ งรเู้ ท่าทัน การเปลีย่ นแปลง เพื่อปรับตัวให้
สอดคลอ้ งและสามารถดารงชีวิตอย่างมีความสุข
จุดประสงค์กำรเรียนรู้
1. วเิ คราะห์ปจั จัยท่ีกอ่ ให้เกิดความแตกต่าง ของภูมสิ งั คม ในมิตติ า่ งๆ
2. อธิบายถึงความสัมพนั ธ์ ของส่งิ แวดล้อมทางภมู ศิ าสตร์ ในแตล่ ะภมู ภิ าคของประเทศไทย
3. อธบิ ายถึงปฏิสมั พันธ์ ของวิถชี วี ิตของคนไทย กบั สิง่ แวดลอ้ ม
สำระกำรเรียนรู้
พกิ ัดทแ่ี ตกตา่ งกันในแตล่ ะพืนท่ี แต่ละภูมิภาคบนโลกส่งผลใหเ้ กดิ ความแตกตา่ งทางภูมิศาสตร์ ภมู ิอากาศ
ทรัพยากรธรรมชาติ พืชพรรณธรรมชาติ ท่ีแตกต่างกัน ย่อมส่งผลต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่การดารงชีพ และ
ความผสมกลมกลืน และการปรับตัวให้เขา้ กับส่ิงแวดล้อม ซึ่งในประเทศไทยเอง จัดว่าอยใู่ นบริเวณเสน้ ศนู ย์สูตร
ได้รับอิทธพิ ล พลังงานความร้อนแสงอาทิตย์ ลักษณะภูมปิ ระเทศที่หลากหลายทังภูเขาสูง ท่รี าบลมุ่ แมน่ า บริเวณ
ชายฝ่ังทะเล ได้รับอิทธิพลจากอุทกภาค เกิดลมมรสุม พายุโซนร้อน ปฏิสัมพันธ์กับระบบนาทังแหล่งนาใต้ดิน
นาบาดาล มีความหลากหลายของชนิดพรรณพชื และความหลากหลายของระบบนเิ วศน์
38
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. จิตสาธารณะ
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแก้ไขปญั หา
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กิจกรรมกำรเรยี นรู้
คำบท่ี 1
1. ครูให้นักเรียนดูแผนที่ ประเทศไทย ในรูปแบบต่างๆ ทังแผนที่ภูมิศาสตร์ กายภาพ แผนที่ทางทหาร
แผนท่ีสภาพอากาศ แผนทเี่ พ่อื การทอ่ งเท่ยี ว
2. นกั เรียนรว่ มกนั วเิ คราะห์วา่ หากพดู ถงึ ประเทศไทยนกั เรยี นจะนึกถึงอะไรบ้าง?
3. ให้นักเรียนดูตัวอย่างแผนที่เฉพาะกิจ เช่น แผนที่เข่ือนในประเทศไทย แผนที่แหล่งปิโตเลียมและแหล่ง
พลังงานของไทย แผนท่ีโบราณสถานของไทย แล้วใช้คาถาม เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนวิเคราะห์ว่า
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ เก่ียวข้อง และส่งผลต่อ อาชีพ วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ รวมถึง การก่อให้เกิด
แหล่งทอ่ งเท่ียว ไดอ้ ย่างไร?
4. ครูและนักเรียน ร่วมกันสรุป ถึงคาว่า “ภูมิสังคม” คือ ความแตกต่าง ของแต่ละพืนท่ี ทังภูมิศาสตร์
ภมู ิอากาศ สิ่งแวดล้อม ชีวภาพ วิถชี วี ติ ขนบธรรมเนยี ม ประเพณแี ละวัฒนธรรม
5. ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ เป็น 6 กลมุ่ เพ่ือศึกษา ความเปล่ยี นแปลงของภมู ิสงั คม ของแต่ละภมู ิภาคของไทยทัง
6 ภาค
6. โดยใหร้ ูปแบบการนาเสนอสามารถทาเปน็ Multimedia หรือตามความสนในของนักเรียน
คำบที่ 2
1. นักเรยี นนาเสนอความเปล่ยี นแปลงของภูมสิ งั คม ของแตล่ ะภูมิภาคของไทยทงั 6 ภาค โดยเรม่ิ จาก
ภาคเหนอื ภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ภาคตะวันออก และภาคใต้
2. ครตู ังคาถาม จากประเด็นการนาเสนอทนี่ ่าสนใจ กลุ่มละ 1 คาถาม เพื่อกระตุ้นการคิด เพ่ือแก้ปัญหา
และการจดั การปัญหาส่ิงแวดล้อมอย่างสรา้ งสรรค์
สอ่ื อุปกรณ์และแหล่งเรียนรู้
1. Power point เรอื่ งภูมิศาสตร์กบั ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ ท่ีครูผูส้ อนจัดทาขนึ
2. ภาพตัวอย่างแผนท่ีประเทศไทยในรูปแบบต่างๆ แผนที่ภูมิศาสตร์ กายภาพ แผนที่ทางทหาร แผนท่ี
สภาพอากาศ แผนท่เี พ่อื การท่องเที่ยว
3. ชดุ คาถามในการ Quiz
4. ใบความรู้ เรอ่ื ง เวปไซดใ์ นการสืบค้น
5. สอ่ื โสตทัศนูปกรณ์ ในการใช้นาเสนอ
39
กำรวดั และประเมินผล
1. วิธกี ารวดั
1.1 การทา Quiz เพื่อวัดทกั ษะในการคิด
1.2 การนาเสนอผลงานกลุม่
1.3 การถาม – ตอบ การมีสว่ นรว่ มในชนั เรยี น
1.4 การสืบค้นข้อมลู สารสนเทศทางภูมิศาสตร์
2. เครือ่ งมือวดั
2.1 ชดุ คาถาม เพื่อพัฒนาทักษะการคดิ ขันสูง
2.2 แบบประเมนิ ผลการนาเสนอผลงาน
2.3 แบบบนั ทึกคะแนน การส่งงาน การร่วมกจิ กรรมในชนั
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 นักเรียนมเี วลาเข้าเรยี น รอ้ ยละ 80 ขนึ ไป
3.2 นกั เรยี นรอ้ ยละ 80 ขึนไปส่งชนิ งานท่มี ีคณุ ภาพตามเกณฑ์ทกี่ าหนดไว้
40
บันทึกผลหลังกำรจัดกำรเรยี นรู้
1) ข้อสรปุ หลังกำรจัดกำรเรียนรู้
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2) ปัญหำท่ีพบ
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
.............................................................................................................................................. ......................................
....................................................................................................................................................................................
3) แนวทำงแก้ปญั หำ
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................. .......................................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
ลงช่ือ.................................................
(นางไพรจติ ร บ้านเหล่า)
ครผู ู้สอน
............./.........................../...............
41
รำยกำรตรวจสอบและอนุญำตใหใ้ ช้
ควรอนุญาตใหใ้ ช้ในการสอนได้
ควรปรับปรงุ เก่ียวกับ..............................................................................................................
................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................. ..................
ลงช่ือ.................................................
(นางไพรจิตร บา้ นเหลา่ )
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ
............./.........................../...............
เหน็ ควรอนญุ าตให้ใชใ้ นการสอนได้
ควรปรับปรุงดงั เสนอ
อ่นื ๆ........................................................................................................................ .................
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงชื่อ.................................................
(นางพรพิรุณ แจ้งใจ)
หวั หนา้ กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ
............./.........................../...............
อนญุ าตใหใ้ ช้ในการสอนได้
อืน่ ๆ......................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงชอื่ .................................................
( นางลดั ดา ผาพันธ์)
ผู้อานวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ิไชยศึกษา
............./.........................../......
42
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี 7
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา ส32101 สงั คมศึกษา (สาระภมู ิศาสตร์)
ช่อื หน่วยการเรยี น ภมู ศิ าสตรก์ ับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เวลา 12 ชวั่ โมง
เร่ือง ภยั พบิ ตั ิทำงธรรมชำติของไทยและของโลก เวลา 2 ชวั่ โมง
ชนั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 สอนสปั ดาห์ที่ 5 ชวั่ โมง ท่ี 9-10
มำตรฐำนกำรเรียนรู้
มำตรฐำน ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพสงิ่ ซ่งึ มผี ลต่อกันและกนั ใน
ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเครื่องมือทางภมู ศิ าสตรใ์ นการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิสารสนเทศ
อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ชวี้ ัด
ตวั ชวี ดั ข้อที่ 1. วเิ คราะห์อิทธิพลของสภาพภูมศิ าสตร์ ซึ่งทาใหเ้ กิดปญั หาทางกายภาพหรอื ภยั พิบัติทาง
ธรรมชาติในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก (ส 5.1 ม. 4–6/2)
ตัวชีวดั ข้อท่ี 2. ประเมินการเปลีย่ นแปลงธรรมชาตใิ นโลกวา่ เป็นผลมาจากการกระทาของมนุษยแ์ ละ
หรือธรรมชาติ (ส 5.1 ม. 4–6/4)
สำระสำคญั
ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาตทิ ่เี กดิ ขึนบนพนื ผวิ โลกเกิดขึนไดจ้ ากสาเหตุ 2 ประการสาคญั คือ เกดิ จากการ
กระทาของมนษุ ย์และเกดิ ขนึ จากกระบวนการทางธรรมชาติ แต่ไม่ว่าจะเกิดขึนจากสาเหตใุ ด ภัยพิบตั ิดังกล่าวก็
สง่ ผลกระทบต่อการดาเนนิ ชีวิตของมนษุ ยแ์ ละสภาพแวดล้อมโดยท่ัวไป
จุดประสงค์กำรเรยี นรู้
1. วิเคราะห์ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ท่ีก่อใหเ้ กดิ ภัยพบิ ัติทางธรรมชาติของไทยและของโลกได้ (K, P)
2. สนใจใฝ่เรียนรู้เร่อื งภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาตขิ องไทยและของโลก (A)
3. นาความรไู้ ปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ (K)
กำรวดั และประเมินผลกำรเรยี นรู้
ด้ำนควำมรู้ (K) ด้ำนคุณธรรม จรยิ ธรรม ด้ำนทักษะ/กระบวนกำร (P)
1. ทดสอบหลังเรยี น และค่ำนยิ ม (A)
2. ซกั ถามความรเู้ รอื่ ง ภัยพบิ ัติ
Ÿ ประเมินพฤติกรรมในการ Ÿ ประเมนิ พฤติกรรมในการ
ทางธรรมชาตขิ องไทยและ
ของโลก ทางานเปน็ รายบุคคลในดา้ น ทางานเปน็ รายบุคคลและ
3. ตรวจผลงาน/กจิ กรรมเปน็
รายบุคคลหรอื เป็นกลุ่ม ความมวี ินยั ความใฝ่เรียนรู้ เป็น
ฯลฯ กลมุ่ ในดา้ นการส่อื สาร การ
คดิ
การแก้ปัญหา ฯลฯ
43
สำระกำรเรียนรู้
Ÿ ภยั พิบตั ทิ างธรรมชาติของไทยและของโลก
1. แผ่นดินถลม่
2. อุทกภัย
3. ภัยแลง้
4. แผ่นดนิ ไหว
5. สึนามิ
6. ภูเขาไฟ
7. พายุหมุน
แนวทำงบูรณำกำร ฟัง พดู อ่าน และเขียนเกยี่ วกับภยั พบิ ัตทิ างธรรมชาติของไทยและของโลก
ภาษาไทย วาดภาพระบายในหวั ขอ้ ภยั พิบตั ิทางธรรมชาติในเรื่องท่กี าหนดให้
ศลิ ปะ
กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 1 นำเข้ำส่บู ทเรียน
1. ครแู จง้ ตัวชีวัดช่วงชันและจดุ ประสงค์การเรยี นรูใ้ ห้นกั เรยี นทราบ
2. ครสู นทนากับนักเรียนเก่ยี วกับเหตกุ ารณ์สนึ ามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 แลว้ โยงเข้าสู่
บทเรยี น
ขน้ั ที่ 2 กจิ กรรมกำรเรียนรู้
3. ครูใหน้ ักเรียนดวู ีดิทัศนเ์ กีย่ วกบั ภัยพิบตั ิทางธรรมชาติของไทยและของโลก แล้วแบง่ กลุ่มนกั เรยี น
ออกเปน็ 7 กล่มุ ให้แต่ละกลุม่ วาดภาพระบายสีในหัวข้อภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาติในเร่ืองต่อไปนี
กลมุ่ ที่ 1 วาดภาพระบายสีเร่ือง แผน่ ดนิ ถลม่
กลมุ่ ที่ 2 วาดภาพระบายสีเร่ือง อุทกภยั
กล่มุ ท่ี 3 วาดภาพระบายสีเร่ือง ภัยแล้ง
กลมุ่ ท่ี 4 วาดภาพระบายสเี ร่ือง แผน่ ดนิ ไหว
กลมุ่ ที่ 5 วาดภาพระบายสเี รื่อง สึนามิ
กลมุ่ ท่ี 6 วาดภาพระบายสเี รื่อง ภูเขาไฟ
กลุ่มที่ 7 วาดภาพระบายสเี รื่อง พายุหมุน
4. ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงาน โดยนักเรียนวิเคราะหส์ าเหตกุ ารเกดิ ผลกระทบตอ่
สภาพแวดล้อม และการป้องกันอนั ตรายจากภยั พิบตั ิทางธรรมชาติดังกล่าวหนา้ ชนั เรียน
5. ขณะที่นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรม ครูสงั เกตพฤติกรรมในการทางานและการนาเสนอผลงานของนกั เรียน
ตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็นรายบคุ คลหรือเป็นกลุม่
44
ขัน้ ท่ี 3 ฝกึ ฝนผูเ้ รียน
6. ครใู หน้ กั เรียนทากจิ กรรมท่ีเกย่ี วกบั ภัยพิบตั ิทางธรรมชาติของไทยและของโลก และแบบ ทดสอบการ
วดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ประจาหน่วยการเรยี นรู้ จากนันครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมและแบบทดสอบ
ขนั ท่ี 4 นาไปใช้
7. ครใู หน้ ักเรยี นยกตวั อยา่ งเหตกุ ารณก์ ารนาความรเู้ ร่ือง ภยั พบิ ัติทางธรรมชาติของไทยและของโลกไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั
ขันท่ี 5 สรปุ
8. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรู้เก่ยี วกับภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติของไทยและของโลก แลว้ ใหน้ กั เรยี น
บันทกึ ลงสมุด
9. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน จากนันครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคาตอบ
กิจกรรมเสนอแนะ
ครูใหน้ กั เรียนค้นข้อมูลเกยี่ วกับผลกระทบและความเสียหายจากภยั พิบัติทางธรรมชาติของไทยหรือ
ตา่ งประเทศทีเ่ กดิ ขนึ ในอดีต 1 เหตกุ ารณ์ แล้วนาขอ้ มลู มาแลกเปลี่ยนกันในชันเรยี น
สื่อ/แหลง่ กำรเรียนรู้
1. วีดทิ ศั น์เร่ือง แผ่นดนิ ถล่ม อุทกภยั ภัยแล้ง แผ่นดนิ ไหว สนึ ามิ ภูเขาไฟ พายุหมนุ
2. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น
3. สือ่ การเรยี นรู้ ภูมิศาสตร์ สมบรู ณแ์ บบ ม. 4–6 บริษัท สานกั พิมพ์วฒั นาพานิช จากัด
4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพนื ฐาน ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 บรษิ ทั สานักพมิ พ์วฒั นาพานิช จากดั
5. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพนื ฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สานักพมิ พ์วัฒนาพานิช จากดั
กำรวัดและประเมนิ ผล
1. วิธกี ารวัด
1.1 การทา Quiz เพื่อวัดทักษะในการคิด
1.2 การนาเสนอผลงานกลุ่ม
1.3 การถาม – ตอบ การมีสว่ นร่วมในชันเรียน
1.4 การสบื คน้ ข้อมลู สารสนเทศทางภมู ิศาสตร์
2. เครือ่ งมือวัด
2.1 ชุดคาถาม เพือ่ พฒั นาทักษะการคดิ ขันสูง
2.2 แบบประเมินผลการนาเสนอผลงาน
2.3 แบบบนั ทึกคะแนน การส่งงาน การรว่ มกิจกรรมในชนั
3. เกณฑก์ ารประเมนิ
3.1 นักเรยี นมีเวลาเข้าเรียน ร้อยละ 80 ขึนไป
3.2 นักเรยี นร้อยละ 80 ขนึ ไปสง่ ชนิ งานท่ีมีคณุ ภาพตามเกณฑ์ทก่ี าหนดไว้
45
บันทึกผลหลังกำรจัดกำรเรยี นรู้
1) ข้อสรุปหลังกำรจดั กำรเรียนรู้
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2) ปัญหำที่พบ
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.............................................................................................................................................. ......................................
....................................................................................................................................................................................
3) แนวทำงแก้ปัญหำ
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................. .......................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงชอ่ื .................................................
(นางไพรจิตร บ้านเหลา่ )
ครผู ้สู อน
............./.........................../...............
46
รำยกำรตรวจสอบและอนญุ ำตให้ใช้
ควรอนุญาตใหใ้ ช้ในการสอนได้
ควรปรบั ปรงุ เกี่ยวกับ..............................................................................................................
................................................................................................................. ..............................
............................................................................................................................. ..................
ลงชอ่ื .................................................
(นางไพรจติ ร บา้ นเหล่า)
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ
............./.........................../...............
เห็นควรอนญุ าตให้ใช้ในการสอนได้
ควรปรับปรงุ ดงั เสนอ
อื่นๆ........................................................................................................................ .................
............................................................................................................................. ..................
.................................................................................................. .............................................
ลงช่อื .................................................
(นางพรพิรุณ แจ้งใจ)
หวั หน้ากลุ่มงานบริหารวิชาการ
............./.........................../...............
อนุญาตใหใ้ ช้ในการสอนได้
อื่นๆ........................................................................................................................ ..............
...............................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................
ลงช่ือ.................................................
( นางลดั ดา ผาพันธ์)
ผอู้ านวยการโรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศกึ ษา
............./.........................../......
47
ภำคผนวก
- แบบทดสอบก่อน-หลังเรยี น
- ใบควำมรู้
- ใบงำน / ใบกิจกรรม
- แบบบนั ทึกคะแนน
48
แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน รำยวชิ ำ ส32101 สังคมศกึ ษำ (สำระภูมศิ ำสตร์)
1. เพราะเหตุใดแผนทช่ี ดุ L7018 ของกรมแผนท่ีทหารจึงจัดเป็นแผนท่ีอา้ งอิง
1 เพราะเปน็ แผนท่ีที่เปน็ สากล
2 เพราะเป็นแผนที่ท่แี สดงภูมิประเทศ
3 เพราะเป็นแผนท่ีที่จัดทาขึนจากหน่วยงานทนี่ า่ เช่ือถือ
4 เพราะเปน็ แผนทที่ ีจ่ ัดทาดว้ ยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
2. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกยี่ วกับแผนทีม่ าตราส่วนขนาดใหญ่
1 แสดงเฉพาะรายละเอยี ดท่ีสาคัญ
2 เหมาะสาหรับแสดงพืนที่ขนาดเลก็
3 ไม่สามารถแสดงข้อมูลปลีกยอ่ ยได้
4 มมี าตราส่วนตงั แต่ 1:50,000 ขนึ ไป
3. องค์ประกอบของแผนทใ่ี ดเป็นองค์ประกอบแรกทบี่ อกใหเ้ รารวู้ ่าแผนท่นี ันเปน็ แผนที่อะไร
1 ทศิ 2 ชอ่ื แผนท่ี
3 มาตราส่วน 4 ช่อื ภมู ศิ าสตร์
4. ชื่อภมู ศิ าสตรใ์ นข้อใดเขยี นได้ถูกต้อง
1 Asia 2 BANGKOK
3 Mekong River 4 SIRIKIT DAM
5. ชอ่ื ภมู ิศาสตร์ภาษาองั กฤษของสงิ่ กอ่ สร้างต่าง ๆ และแหล่งอารยธรรมโบราณควรเขยี นอย่างไร
1 ใช้ตวั เอน ตวั พิมพ์ใหญ่ทังหมด
2 ใช้ตวั ตรง ตัวพมิ พ์ใหญท่ ังหมด
3 ใช้ตัวตรง ตวั พมิ พใ์ หญ่เฉพาะตัวแรก
4 ใชต้ วั เอน ตัวพมิ พใ์ หญ่ตวั แรก ตอ่ ด้วยตวั พิมพ์ เล็ก
6. ตวั อักษรใดท่ีอยู่ขา้ งบนของทิศเหนือกริดในแผนที่ประเทศไทย มาตราสว่ น 1:50,000
1 GN 2 GD
3 MN 4 MD
7. การปฏิบัติตนเพื่อการอนรุ ักษแ์ ละพัฒนาคุณภาพส่งิ แวดล้อมทาได้หลายวธิ ียกเว้นข้อใด
1 การหลกเลี ยงไม่ ใช่สินค้าท่เี ป็นอันตรายตอ่ ส่งิ แวดล้อม
2 การลา้ งรถยนตด์ ว้ ยการตักนาใสถ่ งั แทนการใชน้ าจากสายยาง
3 การเลอื กใช้ไฟฟา้ ให้เหมาะสมกับฐานะของครอบครวั
4 การใช้หนังสือพมิ พห์ อ่ เศษอาหารก่อนนาไปทิงในถังขยะสเี ขียว
8. มมุ แอซิมัทท่วี ดั จากท่ีวัดจากเส้นฐานเหนือจริงเรียกวา่ มมุ อะไร
1 มุมแอซิมัท 2 มมุ แอซมิ ัทจริง
3 มมุ แอซิมัทกริด 3 มุมแอซิมทั เหนือจริง
9. หนว่ ยความยาวใดท่นี ิยมใช้ในมาตราสว่ นเสน้ และมาตราส่วนรปู แทง่
1 เมตร 2 กิโลเมตร 3 มิลลิเมตร 4 เซนตเิ มตร