The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ด้านที่ 1-การจัดการเรียนรู้62 เทอม 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bhangsaaa, 2019-09-16 04:22:11

ด้านที่ 1-การจัดการเรียนรู้62 เทอม 2

ด้านที่ 1-การจัดการเรียนรู้62 เทอม 2

22.ครกู ล่าววา่ ในตา่ งประเทศ jane เป็นชอ่ื ของผหู้ ญงิ เท่านนั้ ซง่ึ ต่างจากในประเทศไทยทบ่ี างครงั้ มกั จะไดย้ นิ ว่า
ผชู้ ายชอ่ื Jane โดยครใู หผ้ เู้ รยี นฟังและอา่ นจาก CD และถามตอบว่าเป็น Male of female

ผเู้ รยี นอา่ นเร่อื งราวตอ่ ไปน้ี

23.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนากนั เรอ่ื งวฒั นธรรมตา่ งประเทศ “People in foreign counfries greet each other by
different ways.

24.ครแู ละผเู้ รยี นแปลคาศพั ท์ “Progress Check” What did you learn in this unit?

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

25.ผเู้ รยี นอ่าน ฟัง พดู และเขยี นคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั สมาชกิ ในครอบครวั
26.ผเู้ รยี นจบั คสู่ นทนา เพ่อื ฝึกทกั ทายผอู้ น่ื และฝึกการใชภ้ าษาทา่ ทางในสมาชกิ ครอบครวั

สื่อและแหลง่ การเรียนรู้

1.หนังสอื เรยี นวชิ า 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชวี ติ จรงิ (Real Life English)
2.ส่อื คอมพวิ เตอร์ ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ และ CD
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.รปู ภาพประกอบกจิ กรรมการเรยี นการสอน

หลกั ฐาน

1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ ชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.บนั ทกึ กจิ กรรมการเรยี นการสอน

การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล

1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คลในการฝึกสนทาโตต้ อบเป็นภาษาองั กฤษ
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์

เครอ่ื งมือวดั ผล

1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนกั เรยี น

ร่วมกนั ประเมนิ

เกณฑก์ ารประเมินผล

1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง

2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ

ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ

1.แนะนาใหฝ้ ึกทกั ษะการฟัง เขยี น และการพดู จากคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั สมาชกิ ในครอบครวั
2.ฝึกสนทนาโตต้ อบ หรอื การทกั ทายผอู้ ่นื เป็นภาษาองั กฤษ
3.ฝึกการกลา่ วคาอาลา การอวยพรตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมเป็นภาษาองั กฤษ
4.ฝึกการรจู้ กั ช่อื ของบุคคลเป็นภาษาองั กฤษ
5.ฝึกการใชภ้ าษาทา่ ทาง

แบบประเมินผลการส่งเสริมคณุ ธรรมพื้นฐาน

คาชี้แจง เพ่อื ใหก้ ารขบั เคล่อื นคุณธรรมพน้ื ฐานมคี วามชดั เจน เกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ และนาไปส่กู ารปฏบิ ตั ไิ ด้

อย่างเป็นรูปธรรม จงึ มกี ารประเมนิ รายการแต่ละขอ้ แล้วเขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็น
จรงิ โดยกาหนดน้าหนักคะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้

รายการ พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ
54321

1.ความขยนั ผทู้ ม่ี คี วามขยนั คอื ผทู้ ต่ี งั้ ใจทาจรงิ จงั ต่อเน่อื งในเรอ่ื งทถ่ี กู ทค่ี วร สงู้ าน มี
ความพยายาม ไม่ทอ้ ถอย อดทน กลา้ เผชญิ อปุ สรรค

2.ประหยดั  ผทู้ ม่ี คี วามประหยดั คอื ผทู้ ด่ี าเนนิ ชวี ติ ความเป็นอยเู่ รยี บง่าย รจู้ กั ฐานะ
การเงนิ ของตน คดิ ก่อนใชค้ ดิ ก่อนซอ้ื เกบ็ ออม ถนอมใชท้ รพั ยส์ นิ สง่ิ ของอยา่ ง
คุม้ คา่ ไม่ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ รจู้ กั ทาบญั ชรี ายรบั -รายจา่ ยของตนเองเสมอ

3.ความซ่อื สตั ย์ ผทู้ ม่ี คี วามซอ่ื สตั ย์ คอื ผทู้ ม่ี คี วามประพฤตติ รงทงั้ ต่อหน้าท่ี ตอ่ วชิ าชพี ตรง
ตอ่ เวลา ไม่ใชเ้ ล่หก์ ล คดโกง รบั รหู้ นา้ ทข่ี องตนเองและปฏบิ ตั เิ ตม็ ทถ่ี ูกตอ้ ง

4.ความมวี นิ ัย ผทู้ ม่ี วี นิ ัย คอื ผทู้ ป่ี ฏบิ ตั ติ นในขอบเขต กฎ ระเบยี บสถานศกึ ษา สถาบนั /
องคก์ ร/สงั คมและประเทศ โดยทย่ี นิ ดปี ฏบิ ตั อิ ยา่ งเตม็ ใจ

5.ความสุภาพ ผทู้ ม่ี คี วามสภุ าพ คอื ผทู้ อ่ี อ่ นน้อมถ่อมตนตามสถานภาพและกาลเทศะ ไม่
กา้ วรา้ ว วางอานาจขม่ ผอู้ ่นื เรยี บรอ้ ย ออ่ นโยน ละมนุ ละม่อม มกี ริ ยิ ามารยาทดี
งาม มสี มั มาคารวะ แตใ่ นเวลาเดยี วกนั ยงั คงมคี วามมนั่ ใจในตนเอง วางตน
เหมาะสมตามวฒั นธรรมไทย

6.ความสะอาด ผทู้ ค่ี วามสะอาด คอื ผรู้ กั ษารา่ งกาย ทอ่ี ย่อู าศยั สง่ิ แวดลอ้ มถกู ตอ้ งตาม
สขุ ลกั ษณะ ปราศจากความมวั หมองทงั้ กาย ใจและสภาพแวดลอ้ ม มคี วามผอ่ ง
ใสเป็นทเ่ี จรญิ ตาแก่ผพู้ บเหน็

7.ความสามคั คี ผทู้ ม่ี คี วามสามคั คี คอื ผทู้ เ่ี ปิดใจกวา้ งรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื รบู้ ทบาท
ของตนในฐานะผนู้ าและผตู้ ามทด่ี ี ม่งุ มนั่ ต่อการรวมพลงั ชว่ ยเหลอื เก้อื กลู กนั
เพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ แกป้ ัญหาและขจดั ความขดั แยง้ ได้ มเี หตุผล ยอมรบั ความ
แตกตา่ งหลากหลายทางวฒั นธรรม ความคดิ ความเช่อื พรอ้ มทจ่ี ะปรบั ตวั เพ่อื
อยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ติ

8.ความมนี ้าใจ ผทู้ ม่ี นี ้าใจ คอื ผใู้ หแ้ ละผอู้ าสาชว่ ยเหลอื สงั คม รจู้ กั แบง่ ปัน เสยี สละความสขุ
สว่ นตน เพอ่ื ประโยชน์แก่ผอู้ ่นื เขา้ ใจ เหน็ ใจผทู้ ม่ี คี วามเดอื ดรอ้ น ลงมอื
ปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื บรรเทาปัญหา หรอื ร่วมสรา้ งสรรคส์ งิ่ ดงี ามใหเ้ กดิ ขน้ึ ในชุมชน

รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน

ขอ้ คิดเหน็ เพิ่มเติม……….…………………………………….………………….…………………………………

เกณฑก์ ารประเมินระดบั คุณภาพ ผปู้ ระเมนิ .....…………….............

28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง

25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้

20-24 คะแนน = พอใช้

แบบประเมินผลการเรยี นรู้

คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแตล่ ะขอ้ แลว้ เขยี น เครอ่ื งหมาย / ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนด
น้าหนกั คะแนน ดงั น้ี- 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
5 432 1

1.ผลการเรยี นทค่ี าดหวงั มคี วามชดั เจน ครอบคลมุ พฤตกิ รรมทกุ ดา้ น (KAP)

2.เน้อื หาสาระมคี วามถกู ตอ้ ง ครอบคลมุ และชดั เจน

3.กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

4.กจิ กรรมการเรยี นรมู้ คี วามหลากหลาย น่าสนใจและเน้นกระบวนการคดิ การฟัง การ
พดู การอ่าน การดแู ละการเขยี น

5.กจิ กรรมการเรยี นรเู้ น้นใหผ้ เู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ

6.กจิ กรรมการเรยี นรสู้ ง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นคน้ พบคาตอบดว้ ยตนเอง

7.กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พยี งพอทจ่ี ะส่งผลใหบ้ รรลุผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

8.กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ก่ี าหนดสามารถนาไปปฏบิ ตั กิ ารสอนไดจ้ รงิ

9.มสี ่อื ทส่ี อดคลอ้ งกบั กจิ กรรมและเป็นส่อื ทเ่ี น้นกระบวนการคดิ

10.มกี ารวดั ผลประเมนิ ผลทส่ี อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

11.วธิ กี ารวดั ผลสอดคลอ้ งกบั กจิ กรรมการเรยี นรู้

12.มกี ารกาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ผลไวอ้ ยา่ งชดั เจนและเหมาะสม

รวม

ข้อคิดเหน็ เพิ่มเติม

1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………….……………….………

……….……………………………………………………………………………..………................................

2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรงุ คอื ……….…………………………………….…..…………………………….…..….……..

…………………………………………………………………………….……………………………………………

ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………

แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบรู ณาการท่ี 2 หน่วยท่ี 2

รหสั วิชา 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง (Real Life English) สอนครง้ั ท่ี 2 (3-
ชื่อหน่วย/เรอ่ื ง What are your hobbies? 4)

จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

งานอดเิ รก คอื กจิ กรรมทป่ี ฏบิ ตั ใิ นยามวา่ งหลงั จากภาระหน้าทใ่ี นการทางานประกอบอาชพี โดยงานอดเิ รก
ช่วยใหเ้ กดิ ความผ่อนคลายทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ตลอดจนชว่ ยใหร้ จู้ กั การเขา้ สงั คมอกี ดว้ ย

ผลการเรียนรูท้ ีค่ าดหวงั

1.อธบิ ายคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั งานอดเิ รกทส่ี ามารถทาไดง้ า่ ยและเป็นประโยชน์

2.พดู เสนอความชว่ ยเหลอื และการพดู ขอความชว่ ยเหลอื ได้

3.อ่านเน้อื หา และบอกประโยชน์ของการออกกาลงั กายดว้ ยการขจ่ี กั รยานได้

4.สรา้ งประโยคในการแสดงความรสู้ กึ ในสง่ิ ทช่ี อบและสง่ิ ทท่ี าใหร้ สู้ กึ มคี วามสขุ ได้

5.ใชค้ า และเขยี นคาเพ่อื สรา้ งประโยคทแ่ี สดงระดบั ความชอบทม่ี มี ากขน้ึ ได้

6.เขยี นประวตั ยิ อ่ สว่ นตวั และการเขยี นประวตั ยิ อ่ ส่วนตวั เป็นภาษาองั กฤษได้

7.อธบิ ายสง่ิ ทไ่ี มค่ วรทาในวฒั นธรรมตะวนั ตกได้

8.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานักงาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง

8.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 8.6 การประหยดั

8.2 ความมวี นิ ยั 8.7 ความสนใจใฝ่รู

8.3 ความรบั ผดิ ชอบ 8.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนัน

8.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 8.9 ความรกั สามคั คี

8.5 ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง 8.10 ความกตญั ญกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา

 ฟัง ดภู าษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 สนทนาโตต้ อบตามสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 อ่านขอ้ ความ กาหนดการ และป้ายประกาศภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 กรอกแบบฟอรม์ ทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 เขยี นขอ้ ความและจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกสใ์ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศพฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน

สมรรถนะรายหน่วย

ใชภ้ าษาองั กฤษสนทนาสอ่ื สารเกย่ี วกบั งานอดเิ รก

สาระการเรียนรู้

1.คาศพั ทเ์ กย่ี วกบั งานอดเิ รกทส่ี ามารถทาไดง้ า่ ยและเป็นประโยชน์
2.การพดู เสนอความช่วยเหลอื และการพดู ขอความชว่ ยเหลอื
3.ประโยชนข์ องการออกกาลงั กายดว้ ยการขจ่ี กั รยาน
4.รปู ประโยคในการแสดงความรสู้ กึ ในสง่ิ ทช่ี อบและสงิ่ ทท่ี าใหร้ สู้ กึ มคี วามสขุ
5.การใชค้ าทแ่ี สดงระดบั ความชอบทม่ี มี ากขน้ึ
6.ประวตั ยิ ่อสว่ นตวั และการเขยี นประวตั ยิ ่อสว่ นตวั
7.สง่ิ ทไ่ี มค่ วรทาในวฒั นธรรมตะวนั ตก

กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น

1.ครกู ลา่ วถงึ งานอดเิ รก (hobby) คอื สงิ่ ทท่ี ายามว่าง (Free time) ซง่ึ งานอดเิ รกจะเกดิ จากความสนใจ
และความสนุกสนานเป็นหลกั มากกวา่ ทจ่ี ะไดผ้ ลตอบแทนทางการเงนิ หรอื สง่ิ แลกเปลย่ี นอ่นื ๆ อยา่ งไรกต็ าม งาน
อดเิ รกมกั จะเพมิ่ พนู ทกั ษะ ความรแู้ ละประสบการณ์ในดา้ นต่างๆ แตจ่ ุดมงุ่ หมายของการทาคอื ความพงึ พอใจ
ตวั อยา่ งของงานอดเิ รก

2.ผเู้ รยี นยกตวั อยา่ งงานอดเิ รกทต่ี นเองรจู้ กั และคนุ้ เคยเป็นประจา

ขนั้ สอน

3.ครอู ธบิ ายคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั งานอดเิ รกทส่ี ามารถทาไดง้ า่ ยและเป็นประโยชน์ และแปลความหมายตวั อย่าง
ของงานอดเิ รก (Example of hobbies) พรอ้ มทงั้ ฝึกใหผ้ เู้ รยี นฟังการออกเสยี ง จากนนั้ กพ็ ดู ออกเสยี งใหถ้ ูกตอ้ ง และ
แสดงตวั อยา่ งเช่น

4.ครอู ธบิ ายว่าในภาษาองั กฤษ มกี ารแบง่ ประเภทของ Hobby หรอื งานอดเิ รกไวเ้ ป็น 2 ประเภท คอื Indoor
Hobby กบั Outdoor Hobby

5.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงประโยคสนทนากนั เพอ่ื เป็นการถามและตอบเกย่ี วกบั งานอดเิ รกและการใชเ้ วลาว่าง
(Asking and answering about free time and hobbies) และใหผ้ เู้ รยี นพจิ ารณาคาวา่ เป็นงานประเภทใด

Below is a list of hobbies. Which hobbies are indoor and which are outdoor?

5.ครอู ธบิ ายการพดู เสนอความชว่ ยเหลอื และการพดู ขอความชว่ ยเหลอื ซง่ึ สามารถพดู ไดห้ ลากหลายรปู แบบ
โดยยงั คงความหมายคอื “มอี ะไรให้ ผม/ฉนั ช่วยไหม?”

6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟังและการพดู (Listeng & Speaking) โดยครเู ปิด CD ใหฟ้ ัง
Listen to how these people ask to offer help.

7.ครกู ล่าวเพมิ่ เตมิ วา่ นอกจากการพดู เสนอใหค้ วามชว่ ยเหลอื แลว้ ในทางตรงกนั ขา้ มการพดู ขอความ
ช่วยเหลอื หรอื ขอใหผ้ อู้ น่ื ทาสงิ่ ทเ่ี ราตอ้ งการยงั สามารถพดู ไดห้ ลายวธิ ี ดงั ตวั อย่างตอ่ ไปนท้ี แ่ี สดงวธิ พี ดู ขอความ
ชว่ ยเหลอื หรอื ขอใหท้ าดว้ ยรปู แบบประโยคทต่ี ่างกนั

8.ผเู้ รยี นฟังประโยคการพดู เสนอใหค้ วามช่วยเหลอื และประโยคขอความชว่ ยเหลอื โดยครเู ปิด CD ใหฟ้ ัง
Listen to how these people ask for help. จากนนั้ กใ็ หฝ้ ึกเขยี นประโยค

9.ครใู หผ้ เู้ รยี นอา่ น เขยี น และแปลคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ประโยชน์ของการออกกาลงั กายดว้ ยการขจ่ี กั รยาน
Read the passage before answering the questions.

10.ผเู้ รยี นเขยี นประโยชน์ของการขจ่ี กั รยานเป็นภาษาองั กฤษ โดยสรปุ จากการอา่ นขา้ งตน้
11.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม ดงั น้ี

Discuss with your friends the meaning of “cardiovascular” from the passage.

12.ครตู งั้ คาถามในการถามและตอบเกย่ี วกบั งานอดเิ รกทช่ี อบมากทส่ี ุดและไมช่ อบมากทส่ี ุด และครอู ธบิ ายรปู
ประโยคในการแสดงความรสู้ กึ ในสงิ่ ทช่ี อบและสงิ่ ทท่ี าใหร้ สู้ กึ มคี วามสุข ไดแ้ ก่ คากรยิ า like ซง่ึ มคี วามหมายว่า “ชอบ,
รสู้ กึ ดกี บั สงิ่ นัน้ ๆ”

13.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการเขยี นโดยดตู วั อยา่ งทค่ี รใู หป้ ระกอบ และเขยี นคาตอบลงในชอ่ งวา่ งทก่ี าหนดให้ โดยครู
แนะนาใหผ้ เู้ รยี นตงั้ คาตอบและตอบคาถามไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

Unscramble the sentences.

14.ครอู ธบิ ายคากรยิ า enjoy ซง่ึ ใชก้ บั สง่ิ ทท่ี าใหเ้ รารสู้ กึ มคี วามสขุ หรอื มคี วามสขุ ทไ่ี ดท้ า
15.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอา่ น และเขยี น โดยเตมิ ประโยคใหส้ มบรู ณ์ ดงั ตอ่ ไปน้ี

16.ครอู ธบิ ายการใชค้ าทแ่ี สดงระดบั ความชอบทม่ี มี ากขน้ึ คาว่า “love” ในความหมายวา่ “ชอบมาก/ ชอบทาอะไรมาก”

-การใชค้ าว่า love เพ่อื บอกว่า เราชอบมาก/ ชอบทาอะไรมาก

-ความหมาย like something very much/ enjoy doing something very much

-วธิ กี ารใช้

Love+something  I love lampang.

Love+doing something  Jessica loves playing the piano.

Love+to do something  They love to work here.

17.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการเขยี น Make sentences using “love” with the words given in brackets.

18.ครอู ธบิ ายประวตั ยิ ่อส่วนตวั และการเขยี นประวตั ยิ ่อสว่ นตวั (Personal Profile) คอื ประวตั สิ ว่ นตวั

โดยยอ่ จะแสดงรายละเอยี ดเฉพาะทจ่ี าเป็นของเจา้ ของประวตั ทิ ต่ี อ้ งการสอ่ื สารใหผ้ อู้ า่ นไดร้ จู้ กั เจา้ ของประวตั สิ ่วนตวั
มากขน้ึ

19.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการเขยี น โดยกรอกประวตั สิ ่วนตวั ลงในแบบฟอรม์ ประวตั สิ ่วนตวั

Fill in the table below, in cose you do not have information to fill in, write “N/A”.

20.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนากนั เรอ่ื งมารยาทในสงั คมในประเทศทางตะวนั ตกวา่ สง่ิ ทไ่ี มค่ วรทาในวฒั นธรรม
ตะวนั ตก และยกประโยคตวั อย่างภาษาองั กฤษประกอบการสนทนาโตต้ อบกนั

Bad Manners
Customs in western culture are different from ours. Some are fine to us, but not to them. Here is a list
of what we should not do.
ผเู้ รยี นฟังการสนทนาจาก CD ดงั ตอ่ ไปน้ี

21.ครเู น้นใหม้ กี ารบูรณาการกบั วชิ าอ่นื ๆ เชน่ คอมพวิ เตอร์ ภาษาไทย หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และ
อ่นื ๆ เป็นตน้ ดงั น้ี

-การใชร้ ปู แบบของการพดู การฟัง การอ่าน การเขยี น การรายงานหน้าชนั้ เรยี น และการอธบิ าย

-การวพิ ากษ์วจิ ารณ์แสดงความคดิ เหน็ และการอา่ น เป็นตน้
- การคน้ หาทางเวบ็ ไซต์ และการพมิ พง์ านทางคอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื รายงาน

สรปุ และการประยกุ ต์

22.ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ โดยใชค้ าถาม และใหผ้ เู้ รยี นเขยี นเป็นคาตอบ ดงั ต่อไปน้ี

23.ผเู้ รยี นวเิ คราะหเ์ น้อื หาการเรยี นการสอนและหาขอ้ สรปุ เป็นความคดิ รวบยอดเพ่อื นาไปประยกุ ตใ์ ชต้ ่อไป
พรอ้ มขอ้ เสนอแนะตนเอง

24.ประเมนิ ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น และวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นเป็นรายกลุ่มตามวธิ กี ารเรยี นรู้

ช่อื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
ความสนใจ สตปิ ัญญา วุฒภิ าวะ

1.

2.

3.

แบบวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นเป็นรายกลมุ่ ตามวธิ กี ารเรยี นรู้
ช่อื กล่มุ ……………..

1.
2.
3.

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้

1.หนังสอื เรยี นวชิ า 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชวี ติ จรงิ (Real Life English)
2.รปู ภาพกจิ กรรมการเรยี นการสอน
3.กจิ กรรมการฝึกทกั ษะรปู แบบต่างๆ
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ แผน่ CD, PowerPoint
5.แบบประเมนิ ผล Worksheet

หลกั ฐาน

1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ ช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ
4. ตรวจ Activity
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบประเมนิ ผล Worksheet
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น

ร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)

เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง
4. แบบประเมนิ ผล Worksheet มเี กณฑผ์ ่าน 50%
5 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ

1.แนะนาใหผ้ เู้ รยี นฟัง อ่าน พดู เขยี น และสนทนาใหม้ ากยงิ่ ขน้ึ
2.ทากจิ กรรมฝึกทกั ษะ Activity

แบบประเมินผลการส่งเสริมคณุ ธรรมพ้ืนฐาน

คาชี้แจง เพ่อื ใหก้ ารขบั เคล่อื นคุณธรรมพน้ื ฐานมคี วามชดั เจน เกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุด และนาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ไิ ด้

อย่างเป็นรูปธรรม จงึ มกี ารประเมนิ รายการแต่ละขอ้ แล้วเขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็น
จรงิ โดยกาหนดน้าหนักคะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้

รายการ พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ
54321

1.ความขยนั ผทู้ ม่ี คี วามขยนั คอื ผทู้ ต่ี งั้ ใจทาจรงิ จงั ต่อเน่อื งในเรอ่ื งทถ่ี ูกทค่ี วร สงู้ าน มี
ความพยายาม ไม่ทอ้ ถอย อดทน กลา้ เผชญิ อปุ สรรค

2.ประหยดั  ผทู้ ม่ี คี วามประหยดั คอื ผทู้ ด่ี าเนนิ ชวี ติ ความเป็นอย่เู รยี บง่าย รจู้ กั ฐานะ
การเงนิ ของตน คดิ ก่อนใชค้ ดิ ก่อนซอ้ื เกบ็ ออม ถนอมใชท้ รพั ยส์ นิ สงิ่ ของอย่าง
คุม้ คา่ ไม่ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ รจู้ กั ทาบญั ชรี ายรบั -รายจ่ายของตนเองเสมอ

3.ความซ่อื สตั ย์ ผทู้ ม่ี คี วามซอ่ื สตั ย์ คอื ผทู้ ม่ี คี วามประพฤตติ รงทงั้ ต่อหน้าท่ี ต่อวชิ าชพี ตรง
ตอ่ เวลา ไม่ใชเ้ ล่หก์ ล คดโกง รบั รหู้ นา้ ทข่ี องตนเองและปฏบิ ตั เิ ตม็ ทถ่ี ูกตอ้ ง

4.ความมวี นิ ัย ผทู้ ม่ี วี นิ ัย คอื ผทู้ ป่ี ฏบิ ตั ติ นในขอบเขต กฎ ระเบยี บสถานศกึ ษา สถาบนั /
องคก์ ร/สงั คมและประเทศ โดยทย่ี นิ ดปี ฏบิ ตั อิ ย่างเตม็ ใจ

5.ความสุภาพ ผทู้ ม่ี คี วามสภุ าพ คอื ผทู้ อ่ี ่อนน้อมถอ่ มตนตามสถานภาพและกาลเทศะ ไม่
กา้ วรา้ ว วางอานาจขม่ ผอู้ ่นื เรยี บรอ้ ย ออ่ นโยน ละมนุ ละม่อม มกี ริ ยิ ามารยาทดี
งาม มสี มั มาคารวะ แต่ในเวลาเดยี วกนั ยงั คงมคี วามมนั่ ใจในตนเอง วางตน
เหมาะสมตามวฒั นธรรมไทย

6.ความสะอาด ผทู้ ค่ี วามสะอาด คอื ผรู้ กั ษารา่ งกาย ทอ่ี ยอู่ าศยั สงิ่ แวดลอ้ มถูกตอ้ งตาม
สขุ ลกั ษณะ ปราศจากความมวั หมองทงั้ กาย ใจและสภาพแวดลอ้ ม มคี วามผอ่ ง
ใสเป็นทเ่ี จรญิ ตาแกผ่ พู้ บเหน็

7.ความสามคั คี ผทู้ ม่ี คี วามสามคั คี คอื ผทู้ เ่ี ปิดใจกวา้ งรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื รบู้ ทบาท
ของตนในฐานะผนู้ าและผตู้ ามทด่ี ี มงุ่ มนั่ ต่อการรวมพลงั ชว่ ยเหลอื เกอ้ื กูลกนั
เพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ แกป้ ัญหาและขจดั ความขดั แยง้ ได้ มเี หตผุ ล ยอมรบั ความ
แตกตา่ งหลากหลายทางวฒั นธรรม ความคดิ ความเช่อื พรอ้ มทจ่ี ะปรบั ตวั เพ่อื
อยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ติ

8.ความมนี ้าใจ ผทู้ ม่ี นี ้าใจ คอื ผใู้ หแ้ ละผอู้ าสาชว่ ยเหลอื สงั คม รจู้ กั แบ่งปัน เสยี สละความสุข
สว่ นตน เพอ่ื ประโยชน์แก่ผอู้ น่ื เขา้ ใจ เหน็ ใจผทู้ ม่ี คี วามเดอื ดรอ้ น ลงมอื
ปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื บรรเทาปัญหา หรอื ร่วมสรา้ งสรรคส์ งิ่ ดงี ามใหเ้ กดิ ขน้ึ ในชมุ ชน

รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน

ขอ้ คิดเหน็ เพิ่มเติม……….…………………………………….………………….…………………………………

เกณฑก์ ารประเมินระดบั คุณภาพ ผปู้ ระเมนิ .....……………............

28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ

25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้

20-24 คะแนน = พอใช้

แบบประเมินผลการเรยี นรู้

คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแตล่ ะขอ้ แลว้ เขยี น เคร่อื งหมาย / ลงในชอ่ งระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนด
น้าหนกั คะแนน ดงั น้ี- 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
5 432 1

1.ผลการเรยี นทค่ี าดหวงั มคี วามชดั เจน ครอบคลมุ พฤตกิ รรมทุกดา้ น (KAP)

2.เน้อื หาสาระมคี วามถกู ตอ้ ง ครอบคลุม และชดั เจน

3.กจิ กรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

4.กจิ กรรมการเรยี นรมู้ คี วามหลากหลาย น่าสนใจและเน้นกระบวนการคดิ การฟัง การ
พดู การอา่ น การดแู ละการเขยี น

5.กจิ กรรมการเรยี นรเู้ น้นใหผ้ เู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ

6.กจิ กรรมการเรยี นรสู้ ง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นคน้ พบคาตอบดว้ ยตนเอง

7.กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พยี งพอทจ่ี ะส่งผลใหบ้ รรลุผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

8.กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ก่ี าหนดสามารถนาไปปฏบิ ตั กิ ารสอนไดจ้ รงิ

9.มสี อ่ื ทส่ี อดคลอ้ งกบั กจิ กรรมและเป็นส่อื ทเ่ี น้นกระบวนการคดิ

10.มกี ารวดั ผลประเมนิ ผลทส่ี อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั

11.วธิ กี ารวดั ผลสอดคลอ้ งกบั กจิ กรรมการเรยี นรู้

12.มกี ารกาหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ผลไวอ้ ย่างชดั เจนและเหมาะสม

รวม

ขอ้ คิดเหน็ เพ่ิมเติม

1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………….……………….………

……….……………………………………………………………………………..………................................

2.สงิ่ ทค่ี วรปรบั ปรงุ คอื ……….…………………………………….…..…………………………….…..….……..

…………………………………………………………………………….……………………………………………

ผปู้ ระเมนิ …………………………………………

แผนการจดั การเรยี นรูแ้ บบบูรณาการท่ี 3 หน่วยที่ 3

รหสั วิชา 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง (Real Life English) สอนคร้งั ที่ 2 (5-
ช่ือหน่วย/เรอ่ื ง What are your hobbies? 6)

จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

การใหข้ อ้ มลู ของตนเองเกย่ี วกบั การศกึ ษาเป็นเร่อื งทม่ี กั เกดิ ขน้ึ ในชวี ติ จรงิ หลงั จากจบการศกึ ษาและเรมิ่ ตน้
เขา้ สกู่ ารสมคั รงาน ดงั นนั้ นกั เรยี นจงึ ควรมคี วามรใู้ นเร่อื งคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การศกึ ษา เชน่ สาขาวชิ าทเ่ี รยี น วฒุ ิ
การศกึ ษา การเขา้ ใจขอ้ ความสนั้ ๆ หรอื สญั ลกั ษณ์ทพ่ี บเหน็ ในสถานศกึ ษา นอกจากนนั้ ผเู้ รยี นควรมที กั ษะเกย่ี วกบั การ
ใชพ้ จนานุกรมภาษาองั กฤษ เพอ่ื ใชเ้ ป็นแหลง่ อา้ งองิ ในการคน้ ควา้ หาความหมายของคาศพั ท์

ผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวงั

1.อธบิ ายคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ระบบการศกึ ษา วชิ าเรยี น โรงเรยี น ปีการศกึ ษาได้

2.สนทนาเกย่ี วกบั ระดบั ชนั้ สาขาวชิ าได้

3.อา่ น คน้ ควา้ และใชพ้ จนานุกรมภาษาองั กฤษได้

4.อ่าน และเขยี นวฒุ กิ ารศกึ ษาในภาษาองั กฤษได้

5.อธบิ ายความหมายของขอ้ ความสนั้ ๆ หรอื สญั ลกั ษณ์ทอ่ี าจพบเหน็ ในโรงเรยี นหรอื ตามสถาบนั การศกึ ษาได้

6.อา่ น และใชพ้ จนานุกรมภาษาองั กฤษออนไลน์ (online) ในการสบื คน้ ขอ้ มลู ได้

7.อธบิ ายวฒั นธรรมและมารยาทในการตอ่ ควิ เขา้ ควิ ได้

7.แสดงความรู้เก่ียวกับปั จจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการเลือกช่องทางการจัดจาหน่ ายได้ 7.มีการพัฒนาคุณธ รรม
จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการ
อาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง

7.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 7.6 การประหยดั

7.2 ความมวี นิ ยั 7.7 ความสนใจใฝ่รู้

7.3 ความรบั ผดิ ชอบ 7.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั

7.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 7.9 ความรกั สามคั คี

7.5 ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง 7.10 ความกตญั ญกู ตเวท

สมรรถนะรายวิชา

 ฟัง ดภู าษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 สนทนาโตต้ อบตามสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 อ่านขอ้ ความ กาหนดการ และป้ายประกาศภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 กรอกแบบฟอรม์ ทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 เขยี นขอ้ ความและจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกสใ์ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศพฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน

สมรรถนะรายหน่วย

ใชภ้ าษาองั กฤษในการฟัง ดู พดู อา่ น และเขยี น เพอ่ื สอ่ื สารเกย่ี วกบั การศกึ ษา

สาระการเรยี นรู้

1.คาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ระบบการศกึ ษา วชิ าเรยี น โรงเรยี น ปีการศกึ ษา
2.การสนทนาเกย่ี วกบั ระดบั ชนั้ สาขาวชิ า
3.การใชพ้ จนานุกรมภาษาองั กฤษ
4.วุฒกิ ารศกึ ษาในภาษาองั กฤษ
5.ขอ้ ความสนั้ ๆ หรอื สญั ลกั ษณท์ อ่ี าจพบเหน็ ในโรงเรยี น หรอื ตามสถาบนั การศกึ ษา
6.การใชพ้ จนานุกรมภาษาองั กฤษออนไลน์ (online)
7.วฒั นธรรมและมารยาทในการตอ่ ควิ เขา้ ควิ

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน

1.ครผู สู้ อนชใ้ี หผ้ เู้ รยี นไดเ้ หน็ ความสาคญั ของการศกึ ษาทโ่ี รงเรยี น จะชว่ ยทาใหผ้ เู้ รยี นมที กั ษะและ
ประสบการณ์ในการใชค้ าศพั ทใ์ นเรอ่ื งของการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และสามารถตงั้ คาตอบและตอบคาถามไดอ้ ย่าง
เหมาะสมมากขน้ึ

2.ครเู น้นใหผ้ เู้ รยี นเหน็ วา่ การอา่ นคาศพั ทพเ์ พอ่ื ทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การศกึ ษาทโ่ี รงเรยี น ซง่ึ ระบบ
การศกึ ษาในประเทศและในตา่ งประเทศไม่ไดม้ คี วามแตกตา่ งกนั คอื มกี ารแบง่ การเรยี นตงั้ แต่ระดบั ชนั้ อนุบาล
ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษา จนไปถงึ มหาวทิ ยาลยั

ขนั้ สอน

3.ครผู สู้ อนใชเ้ ทคนคิ การอธบิ าย สาธติ แสดงรปู ภาพประกอบ พรอ้ มทงั้ จบั ค่สู นทนาฝึกฟังและพดู และใชส้ อ่ื
Power Point และเปิด CD ประกอบการเรยี นการสอนเกย่ี วกบั คาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ระบบการศกึ ษา วชิ าเรยี น โรงเรยี น ปี
การศกึ ษา

4.ครกู ล่าวเพม่ิ เตมิ วา่ ในภาษาองั กฤษแบบ British และแบบ American อาจจะมกี ารใชค้ าศพั ทข์ า้ งตน้ ท่ี
แตกต่างกนั เชน่ ในประเทศองั กฤษใชค้ าว่า kindergarten หรอื nursery school ในสหรฐั อเมรกิ านิยมใชค้ าว่า
preschool ขณะทใ่ี นองั กฤษใชค้ าว่า primary school แตใ่ นสหรฐั อเมรกิ าใชค้ าว่า elementary school

สว่ นคาวา่ college นยิ มใชใ้ นสองความหมายคอื สถานศกึ ษาทเ่ี น้นสอนในเรอ่ื งทกั ษะดา้ นอาชพี ความชานาญ
เฉพาะ ส่วนอกี ความหมายถกู ใชใ้ นสหรฐั อเมรกิ าเพ่อื พดู ถงึ university หรอื มหาวทิ ยาลยั นนั ่ เอง

5.ผเู้ รยี ฝึกทกั ษะการอ่าน แปลคาศพั ท์ และการเขยี น โดยทากจิ กรรมใน Activity
Mathch each word with its meaning.

6.ผฝู้ ึกทกั ทกั ษะการอา่ น และหาความสมั พนั ธท์ ส่ี อดคลอ้ งกนั ในกจิ กรรรม Activity
Discuss these questions with your frieds.

7.ครแู สดงรปู ภาพนกั เรยี นแต่ละระดบั ในสถานศกึ ษาแตล่ ะแหง่
How to call a student at each age grop

8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟังจาก CD ใน Activity “Listen and repeat these sentences.

9.ครแู ละผเู้ รยี นไดม้ กี ารสนทนาเกย่ี วกบั ระดบั ชนั้ สาขาวชิ า โดยผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟัง และการพดู ใน Activity:
What grade are you in?

-Listen to two parents talking about what grade their children are in. Then practice.

-Form the above conversation, fill in the blanks with correct information.

How old What grde

✓the man’s daughter ten years old

✓the woman’s son

-Act out the conversation in Activity. Take turns playing between the two parents.

10.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะ “What do you study?” โดยการฟังการถามและตอบจาก CD ซา้ หลายรอบใหเ้ ขา้ ใจ

11.ครแู นะนาคาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นการใชพ้ จนานุกรมภาษาองั กฤษ โดยฝึกทกั ษะการอ่าน และการเขยี น

12.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการเขยี นและการตอบประโยคเกย่ี กบั ขอ้ มลู พจนานุกรมใน Activity
13.ครแู ละผเู้ รยี นอา่ นและแปลความหมายคาในพจนานุกรม (A word in the dictionary) แลว้ ผเู้ รยี นทา
กจิ กรรมใน Activity

14.ครกู ล่าถงึ วฒุ กิ ารศกึ ษาในภาษาองั กฤษว่า เมอ่ื พดู ถงึ ปมู หลงั ทางการศกึ ษา หรอื educational
background สง่ิ ทค่ี วรทราบกค็ อื การเรยี กวฒุ กิ ารศกึ ษาของตวั เองเป็นภาษาองั กฤษ เชน่ ประกาศนียบตั รวชิ าชพี
ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู ปรญิ ญาตรี เป็นตน้ จากนนั้ ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟังและการพดู จาก CD เกย่ี วกบั พน้ื ฐาน
ของการศกึ ษาแต่ละระดบั

15.ครแู ละผเู้ รยี นอธบิ ายในลกั ษณะการสนทนาเรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ขอ้ ความสนั้ ๆ หรอื สญั ลกั ษณ์ทอ่ี าจพบเหน็ ใน
โรงเรยี น หรอื ตามสถาบนั การศกึ ษา ครแู สดงรปู ภาพสญั ลกั ษณ์ (Signs in the school area) ทม่ี กั พบเหน็ ในเขต
โรงเรยี น วทิ ยาลยั วา่ มอี ะไรบา้ ง จากนนั้ ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอ่านและแปลความหมายใน Activity

16.ครอู ธบิ ายการใชพ้ จนานุกรมภาษาองั กฤษออนไลน์ (online) โดย Online dictionary ในปัจจบุ นั ไดร้ บั
ความนิยมจากกลุม่ ผเู้ รยี นภาษาองั กฤษทม่ี เี คร่อื งคอมพวิ เตอรห์ รอื โทรศพั ทม์ อื ถอื เชอ่ื มตอ่ อนิ เทอรเ์ น็ตตลอดเวลา
ปัจจบุ นั มสี านกั พมิ พห์ ลากหลายคา่ ยไดจ้ ดั ทา Online Dictionary ขน้ึ มา ซง่ึ ผใู้ ชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ทวั่ ไปสามารถเขา้ ไปพมิ พ์
หาคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษตามทต่ี วั เองตอ้ งการโดยไม่ตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ า่ ย เช่น

17.ผเู้ รยี นฝึกทกั าษะการคน้ หา Online dictionary ใน Activity ดงั คาสงั ่ ต่อไปน้ี
Go to the website of Longman Dictionary of Contemparary English. The website address is

http://www.Idoceonline.com Then find the meaning of these words.
18.ครแู ละผเู้ รยี นกลา่ วถงึ วฒั นธรรมและมารยาทในการตอ่ ควิ เขา้ ควิ

Gueuing:

19.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอา่ น และแปลความหมายใน Activity

20.ครแู นะนาใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดี ช่วยเหลอื เกอ้ื กลู กนั อยา่ งสม่าเสมอ

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

21.ครแู ละผเู้ รยี นชว่ ยกนั สรุป โดยการฝึกฟังและพดู เป็นการสนทนาเกย่ี วกบั What do you study?

What did you learn in this unit? เช่น

-Write as many new words that you have learned in this unit as possible.

-What is the difference between

Vocatiibak Certufucate abd higher Vocational Certificate?

22.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี

ชอ่ื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
ความสนใจ สตปิ ัญญา วุฒภิ าวะ

1.

2.

3.

4.

5.

ช่อื ผเู้ รยี น แบบประเมนิ ประสบการณ์พน้ื ฐาน วธิ กี ารเรยี นรู้
ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้
1. ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
2.
3.
4.
5.

สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้

1.หนงั สอื เรยี นวชิ าร 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชวี ติ จรงิ (Real Life English)
2.รปู ภาพกจิ กรรม
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ แผ่น CD และ PowerPoint
5.แบบประเมนิ ผล Activity

หลกั ฐาน

1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ ช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม

3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
4. ตรวจแบบประเมนิ ผล Activity
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เครอื่ งมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบประเมนิ ผล Worksheet
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั

ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ ผล Worksheet มเี กณฑผ์ ่าน 50%
5 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ

1.ทากจิ กรรมฝึกทกั ษะจาก Activity
2.ผเู้ รยี นควรฝึกทกั ษะการฟัง การพดู การดู และการเขยี น จาก CD ประกอบการเรยี น

แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการที่ 4 หน่วยท่ี 4
สอนคร้งั ท่ี 4 (7-8)
รหสั วิชา 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง (Real Life English)
ชือ่ หนว่ ย/เรือ่ ง Stay in good shape! จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

สุขภาพเป็นเรอ่ื งสาคญั จะเหน็ ไดจ้ ากในประเทศของเจา้ ของภาษา ผคู้ นมกั ทกั ทายกนั ดว้ ยการถามเกย่ี วกบั
สุขภาพ จนกลายเป็นส่วนหน่งึ ของวฒั นธรรมการทกั ทาย ดงั นนั้ ความสามารถในการใชภ้ าษาองั กฤษเพอ่ื การสนทนา
เกย่ี วกบั สุขภาพ อาการป่วย จะทาใหก้ ารส่อื สารเกดิ ประสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ โดยเฉพาะอาชพี ทต่ี อ้ งไปเกย่ี วขอ้ งกบั ธรุ กจิ
บรกิ าร และการตดิ ต่อประสานงานกบั ชาวต่างชาติ

ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั

1.อธบิ ายคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ปัญหาสขุ ภาพ อาการป่วย โรคภยั ไขเ้ จบ็ และอาการบาดเจบ็ ได้
2.ส่อื สารเพอ่ื บอกวา่ ตนเองรสู้ กึ ไม่สบายได้
3.อ่านฉลากยาได้
4.อธบิ ายกรยิ าทใ่ี ชพ้ ดู ถงึ อาการเจบ็ ป่วยจากโรคมอี าการบาดเจบ็ ได้
5.ใชภ้ าษาองั กฤษส่อื สารกบั พยาบาลในสถานพยาบาลได้
6.อธบิ ายปัญหาสุขภาพทเ่ี กดิ จากการนงั่ อย่หู น้าจอคอมพวิ เตอรน์ านเกนิ ไปได้
7.อธบิ ายมารยาทและพฤตกิ รรมทไ่ี ม่เหมาะสมในวฒั นธรรมตะวนั ตกได้
8.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา

สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
8.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
8.2 ความมวี นิ ยั
8.3 ความรบั ผดิ ชอบ
8.4 ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
8.5 ความเชอ่ื มนั ่ ในตนเอง
8.6 การประหยดั
8.7 ความสนใจใฝ่รู้

8.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
8.9 ความรกั สามคั คี
8.10 ความกตญั ญกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา

 ฟัง ดภู าษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 สนทนาโตต้ อบตามสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 อ่านขอ้ ความ กาหนดการ และป้ายประกาศภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 กรอกแบบฟอรม์ ทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 เขยี นขอ้ ความและจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกสใ์ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศพฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน

สมรรถนะรายหน่วย

ใชภ้ าษาองั กฤษในการฟัง ดู พดู อ่าน และเขยี น ส่อื สารเกย่ี วกบั เร่อื งสุขภาพ

สาระการเรียนรู้

1.คาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ปัญหาสขุ ภาพ อาการป่วย โรคภยั ไขเ้ จบ็ และอาการบาดเจบ็
2.การส่อื สารเพ่อื บอกว่าตนเองรสู้ กึ ไมส่ บาย
3.การอ่านฉลากยา
4.คากรยิ าทใ่ี ชพ้ ดู ถงึ อาการเจบ็ ป่วยจากโรคมอี าการบาดเจบ็
5.การสอ่ื สารกบั พยาบาลในสถานพยาบาล
6.ปัญหาสขุ ภาพทเ่ี กดิ จากการนงั่ อยหู่ น้าจอคอมพวิ เตอรน์ านเกนิ ไป
7.มารยาทและพฤตกิ รรมทไ่ี มเ่ หมาะสมในวฒั นธรรมตะวนั ตก

กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน

1.ครูสนทนากบั ผูเ้ รยี นเก่ยี วกบั การดูแลสุขภาพ (Health) เป็นสง่ิ สาคญั และจาเป็นมากสาหรบั มนุษย์ ดงั นัน้
จงึ ควรทราบส่วนประกอบต่าง ๆ ของร่างกาย เม่อื เกดิ เจบ็ ป่วย จะสามารถบอกอาการไดถ้ ูกตอ้ ง ผเู้ รยี นควรทาความ
เขา้ ใจเก่ยี วกบั คาศพั ท์ คากรยิ าต่าง ๆ เพ่อื นาไปใช้ในการฟัง ดู อ่าน เขยี น และสนทนาโต้ตอบเก่ยี วกบั สุขภาพได้
ถกู ตอ้ ง

2.ครแู ละผเู้ รยี นสนทนาถงึ ส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกาย (Body part vocabulary) ว่าประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง
3.ผเู้ รยี นยกตวั อยา่ งสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย เชน่ ศรี ษะ แขน ขา ตา คว้ิ ปาก จมกู เป็นตน้

ขนั้ สอน

4.ครใู ชร้ ปู แบบการเรยี นแบบ TAI (Team Assisted Individualization) เพอ่ื เน้นผเู้ รยี นใหม้ คี วามรู้ ความ
เขา้ ใจและนาทกั ษะการเรยี นรไู้ ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ต่อการอ่านคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั คาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ปัญหาสุขภาพ อาการ
ป่วย โรคภยั ไขเ้ จบ็ และอาการบาดเจบ็ จากนนั้ ใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟัง การอา่ น แปลความหมาย และการเขยี นใน
Activity

5.ครแู ละผเู้ รยี นลกั ษณะอาการป่วยของแตล่ ะดว้ ยรปู ภาพ
Aches, Pains & Injuries

6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอา่ น และแปลความหมายของคาศพั ทใ์ น Activity
7.ผเู้ รยี นพจิ ารณารปู ภาพอบุ ตั เิ หตุแต่ละแผ่น แลว้ อ่านแตล่ ะรปู ภาพ พรอ้ มแปลความหมาย
8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟัง (Listening & Speaking) เกย่ี วกบั การสอ่ื สารเพ่อื บอกว่าตนเองรสู้ กึ ไมส่ บาย
โดยฟังจาก CD ซ้าหลายรอบในกจิ กรรม Activity ซง่ึ เป็นการสนทนาระหวา่ ง Paul และ Jane

เมอ่ื ฟัง CD เสรจ็ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นจบั คฝู่ ึกสนทนากนั

9.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอา่ นประโยคคาถาม และการเขยี นตอบ ดงั น้ี

10.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟัง อ่าน และแปลความหมายจากประโยคทก่ี าหนดให้ โดยฟังจาก CD
Listen and repeat these sentences.

11.ครอู ธบิ ายการอา่ นฉลากยา ทจ่ี าเป็นตอ้ งเขา้ ใจในการนาไปใชเ้ พอ่ื ความปลอดภยั
ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอ่าน และการเขยี นใน Activity ดงั ตอ่ ไปน้ี

12.ครอู ธบิ ายและแปลความหมายของคากรยิ าทใ่ี ชพ้ ดู ถงึ อาการเจบ็ ป่วยจากโรคมอี าการบาดเจบ็
Verbs with illness, disease, injury, pain

13.ครแู ละผเู้ รยี นแต่งประโยคเพอ่ื ฝึกฟังและพดู เกย่ี วกบั อาการเจบ็ ป่วยจากโรคมอี าการบาดเจบ็ และแปล
ความหมาย

14.ครอู ธบิ ายเร่อื งการสอ่ื สารกบั พยาบาลในสถานพยาบาล (At a hospital) โดยการไปหาหมอท่ี
โรงพยาบาลใดๆ เป็นครงั้ แรก ทางโรงพยาบาลมกั จะใหค้ นไขท้ าอะไรเป็นลาดบั แรก

15.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟัง การอ่าน และการเขยี น โดยเปิด CD ฟังซ้าหลายรอบ จากนนั้ ใหผ้ เู้ รยี นจบั คู่
สนทนากนั

16.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการเขยี น และการอา่ น โดยการแตง่ ประโยคใหส้ มบูรณ์ เน้นคาศพั ท์ Have yor are. และ
Have you go. ซง่ึ เป็นประโยคทใ่ี ชพ้ ดู เวลาสง่ ของใหผ้ อู้ น่ื

Complete the blanks with the words from the conversation.

17.ครแู ละผเู้ รยี นอา่ น และแปลความหมาย รวมทงั้ อธบิ ายปัญหาสขุ ภาพทเ่ี กดิ จากการนงั่ อยหู่ น้าจอ
คอมพวิ เตอรน์ านเกนิ ไป

Health problems caused by sitting too long

18.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอา่ น และการเขยี น โดยใหท้ า Activity “Do yo agree with the five doctors? Discuss
with your friends.
19.ครแู ละผเู้ รยี นอ่านและแปลคาศพทเ์ กย่ี วกบั มารยาทและพฤตกิ รรมทไ่ี ม่เหมาะสมในวฒั นธรรมตะวนั ตก “Is
nose-picking seen as a bad manner? จากนนั้ ใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะทากจิ กรรมใน Activity

20.ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นบรรยายการดาเนินชวี ติ ตนเองทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยเขยี นเป็น
ความเรยี งเป็นภาษาองั กฤษ

21.ครแู นะนาใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั ใชจ้ ่ายเงนิ อยา่ งประหยดั รจู้ กั เกบ็ ออม เพอ่ื ฝึกใหเ้ ป็นคนรจู้ ดั พอเพยี งและมี
ความสขุ ต่อไป

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

22.ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ โดยการสนทนาโตต้ อบภาษาองั กฤษกนั ระหวา่ งเพ่อื นในชนั้ เรยี น

23.ครสู งั เกตพฤตกิ รรมกลมุ่ และร่วมกนั สรุปเน้อื หาอกี ครงั้ จาก Power Point

24.ทา Activity เพ่อื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมนิ ตนเอง พรอ้ มทากจิ กรรมการ
จดั ประสบการณ์การเรยี นรู้

25.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี

ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน

1.

2.

3.

4.

5.

สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้

1.วชิ า 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชวี ติ จรงิ (Real Life English)
2.รปู ภาพกจิ กรรม
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ส่อื CD และสอ่ื PowerPoint
5.แบบประเมนิ ผล Activity

หลกั ฐาน

1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ ช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล

วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ
4. ตรวจแบบประเมนิ ผล Activity
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบประเมนิ ผล Activity
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั

ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ ผล Activity มเี กณฑผ์ ่าน 50%

5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ

1.แนะนาใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะในการฟัง การพดู อย่างสม่าเสมอ
2.อา่ นและทบทวนเน้อื หา

แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบรู ณาการที่ 5 หน่วยท่ี 5
สอนครงั้ ที่ 5 (9-10)
รหสั วิชา 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง (Real Life English)
ช่ือหน่วย/เรอ่ื ง Weekend Getaways & Festivals จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

การออกไปเทย่ี ว เป็นกจิ กรรมทท่ี าใหเ้ กดิ การพกั ผ่อนหย่อนใจและความสนุกสนาน การไดค้ วามรแู้ ละ
ประสบการณ์ใหมๆ่ การเปิดโลกทศั น์จากการทอ่ งเทย่ี ว หากพดู ถงึ การทอ่ งเทย่ี ว ขอ้ มลู สาคญั ทน่ี ักทอ่ งเทย่ี วใหค้ วาม
สนใจ ไดแ้ ก่ การเดนิ ทาง สถานทท่ี ่องเทย่ี ว และเทศกาลตา่ งๆ เป็นตน้

ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั

1.อธบิ ายคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การเดนิ ทางได้
2.ฟัง และพดู เกย่ี วกบั การเชค็ อนิ ทส่ี นามบนิ ได้
3.อ่าน และเขยี นเกย่ี วกบั การวางแผนการทอ่ งเทย่ี ว กาหนดการเดนิ ทางและการเล่าเรอ่ื ง หรอื ประสบการณ์ใน
การท่องเทย่ี วได้
4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานักงาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง

4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
4.2 ความมวี นิ ยั
4.3 ความรบั ผดิ ชอบ
4.4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
4.5 ความเชอ่ื มนั ่ ในตนเอง
4.6 การประหยดั
4.7 ความสนใจใฝ่รู้
4.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนัน
4.9 ความรกั สามคั คี

4.10 ความกตญั ญกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา

 ฟัง ดภู าษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 สนทนาโตต้ อบตามสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 อ่านขอ้ ความ กาหนดการ และป้ายประกาศภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 กรอกแบบฟอรม์ ทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 เขยี นขอ้ ความและจดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศพฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน

สมรรถนะรายหน่วย

ใชภ้ าษาองั กฤษในการฟัง ดู พดู อา่ น และเขยี น เพ่อื หาขอ้ มลู ในการเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี ว

สาระการเรียนรู้

1.คาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การเดนิ ทาง
2.การเชค็ อนิ ทส่ี นามบนิ
3.การวางแผนการท่องเทย่ี ว กาหนดการเดนิ ทางและการเลา่ เรอ่ื ง หรอื ประสบการณ์ในการท่องเทย่ี ว

กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน

1.ครผู สู้ อนและผเู้ รยี นสนทนากนั คาศพั ทท์ ค่ี วรทราบในการเดนิ ทาง
2.ครแู ละผเู้ รยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งคาศพั ทท์ ค่ี วรทราบในการเดนิ ทาง เช่น tourist attractions budget
restaurants souvenir weather forecast เป็นตน้

ขนั้ สอน

3.ครผู สู้ อนใชเ้ ทคนคิ การอธบิ าย การแสดงบทบาทสมมติ โดยใชส้ ่อื CD, สอ่ื Power Point และสอ่ื
อเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ น่ื ๆ ประกอบ เพ่อื ศกึ ษาเรอ่ื งคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การเดนิ ทาง

4.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอา่ น และการเขยี นในการเดนิ ทางใน Activity
5.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอ่าน และแปลคาศพั ท์เกย่ี วกบั Modes of transportation

Here are different modes of transportation. Work with a friend and discuss which modes
you and friend like most and which you and your friend like least.

6.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะในการอา่ น และแปลความหมายของคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การชาระคา่ ใชจ้ ่ายในการเดนิ ทาง
Money paid to travel โดยเปิด CD ประกอบกาเรยี นการสอน เช่น fare ticket และคากรยิ าเกย่ี กบั การ

ท่องเทย่ี ว Verbs about travelling เชน่ get/ catch, get on/ get off, take off/ land รวมทงั้ Types of tickets โดยการ
ฟังจาก CD ซ้าหลายรอบ

7.ครเู ปิด CD ใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั การฟังและแปลคาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นการเดนิ ทาง ไดแ้ ก่ คาวา่ “Places” โดย
ใหผ้ เู้ รยี นฟังซ้าหลายรอบ เชน่

8.ครเู ปิด CD ใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั การฟังและแปลคาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นการเดนิ ทาง ไดแ้ ก่ คาวา่ “Water
vehicles” โดยใหผ้ เู้ รยี นฟังซา้ หลายรอบ เชน่

9.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟัง และพดู เกย่ี วกบั การเชค็ อนิ ทส่ี นามบนิ Checking in at the airport โดยครเู ปิด CD
ใหผ้ เู้ รยี นฟังซา้ หลายรอบ จากนนั้ ใหจ้ บั ค่สู นทนากนั

10.ครแู ละผเู้ รยี นกลา่ วถงึ การวางแผนการท่องเทย่ี ว กาหนดการเดนิ ทางและการเลา่ เร่อื ง หรอื ประสบการณ์ใน
การทอ่ งเทย่ี ว

11.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอา่ น และการเขยี น “Travel experiences” และตอบคาถาม โดยเขยี นเป็นประโยคให้
สมบูรณ์

-Read what Danies wrote about his travel experience. Then answer the questions.

-Questions about the reading: Write short answers.

12.ครเู ปิด CD ใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะเกย่ี วกบั การฟังและแปลคาศพั ท์การวางแผนการท่องเทย่ี ว กาหนดการ

เดนิ ทางและการเลา่ เร่อื ง หรอื ประสบการณ์ในการทอ่ งเทย่ี ว ไดแ้ ก่ คาวา่ “itinerary” ซง่ึ หมายถงึ แผนการเดนิ ทาง
ทอ่ งเทย่ี ว จะบอกรายละเอยี ดว่าจะมไี ปสถานทใ่ี ดบา้ ง ในวนั ท่ี เวลาทว่ี างแผนไว้ โดยใหผ้ เู้ รยี นฟังซา้ หลายรอบ เชน่
How do yor pronounce itherary?

13.A tour operator is planning an itherary for a six-day trip in Thailand. It’s a 6-da6 iinerary. Find out
what provinces are on the itinerary.

14.ครเู น้นใหผ้ เู้ รยี นเขยี นบรรยายการดาเนินชวี ติ ตนเองทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดย
เขยี นเป็นความเรยี งตามลาดบั ในการดาเนินชวี ติ ของตนเองสอดคลอ้ งกบั 3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข อยา่ งไรเกย่ี วกบั

1) ความพอประมาณ

2) รเู้ หตรุ ผู้ ล

3) ภูมคิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี

4) เงอ่ื นไขความรู้

5) เงอ่ื นไขคุณธรรม

ข้นั สรุปและการประยุกต์

15.สรปุ โดยใหผ้ เู้ รยี นจบั ค่สู นทนาเพ่อื ฟัง และพดู เพ่อื ฝึกทกั ษะในการเรยี นรู้ และทากจิ กรรม Activity

16.ผเู้ รยี นรว่ มกนั ประเมนิ โดยพจิ ารณาจากขอ้ มลู ความรู้ การใหเ้ หตุผล และความพรอ้ มในการอภปิ ราย

ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน

1.

2.

3.

4.

ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้

1.วชิ า 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชวี ติ จรงิ (Real Life English)
2.รปู ภาพกจิ กรรมต่างๆ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ แผน่ CD และ PowerPoint
5.แบบประเมนิ ผล Activity

หลกั ฐาน

1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ ช่อื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผล Activity
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบประเมนิ ผล Activity
5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั
ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ ผล Activity มเี กณฑผ์ ่าน 50%

5 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ

ครแู นะนาใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟังและการพดู จาก Listening และ Speaking

แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 6 หน่วยท่ี 5
สอนครงั้ ท่ี 6 (11-12)
รหสั วิชา 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง (Real Life English)
ช่ือหน่วย/เร่ือง Weekend Getaways & Festivals จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

การออกไปเทย่ี ว เป็นกจิ กรรมทท่ี าใหเ้ กดิ การพกั ผ่อนหย่อนใจและความสนุกสนาน การไดค้ วามรแู้ ละ
ประสบการณ์ใหมๆ่ การเปิดโลกทศั น์จากการทอ่ งเทย่ี ว หากพดู ถงึ การท่องเทย่ี ว ขอ้ มลู สาคญั ทน่ี ักทอ่ งเทย่ี วใหค้ วาม
สนใจ ไดแ้ ก่ การเดนิ ทาง สถานทท่ี อ่ งเทย่ี ว และเทศกาลตา่ งๆ เป็นตน้

ผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวงั

4.พดู ฟัง และใชภ้ าษาท่าทางเพอ่ื การส่อื สารได้
5.ใชภ้ าษาในเทศกาลดนตรไี ด้
6.ใชภ้ าษาในเทศกาลสาคญั ในประเทศตา่ งๆ ได้
7.อธบิ ายวนั ขอบคณุ พระเจา้ กจิ กรรม และอาหารสาหรบั วนั ขอบคุณพระเจา้ ได้
8.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานักงาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง

8.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
8.2 ความมวี นิ ยั
8.3 ความรบั ผดิ ชอบ
8.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
8.5 ความเชอ่ื มนั ่ ในตนเอง
8.6 การประหยดั
8.7 ความสนใจใฝ่รู้
8.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
8.9 ความรกั สามคั คี
8.10 ความกตญั ญกู ตเวที

สมรรถนะรายวิชา

 ฟัง ดภู าษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 สนทนาโตต้ อบตามสถานการณ์ในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 อา่ นขอ้ ความ กาหนดการ และป้ายประกาศภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 กรอกแบบฟอรม์ ทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 เขยี นขอ้ ความและจดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ สใ์ นชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน
 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศพฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั และในการปฏบิ ตั งิ าน

สมรรถนะรายหน่วย

ใชภ้ าษาองั กฤษในการฟัง ดู พดู อ่าน และเขยี น เพ่อื หาขอ้ มลู ในการเดนิ ทางท่องเทย่ี ว

สาระการเรยี นรู้

4.ภาษาทา่ ทางเพ่อื การสอ่ื สาร
5.เทศกาลดนตรี
6.เทศกาลสาคญั ในประเทศต่างๆ
7.วนั ขอบคณุ พระเจา้ กจิ กรรม และอาหารสาหรบั วนั ขอบคุณพระเจา้

กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1.ครอู ภปิ รายใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจรปู แบบการเขยี นและการอา่ นภาษาท่าทางเพอ่ื การสอ่ื สารในลกั ษณะตา่ งๆ
ซง่ึ เป็นสญั ลกั ษณ์ทท่ี กุ คนนยิ มใชใ้ นสงั คมแทบทกุ แหง่
2.ผเู้ รยี นยกตวั อย่างรปู แบบการแสดงท่าทางประกอบ ดงั รปู

ขนั้ สอน
3.ครผู สู้ อนใชเ้ ทคนคิ การอา่ น ฟัง เขยี น และสนทนาโตต้ อบระหวา่ งกนั โดยใชบ้ ทบาทสมมตเิ กย่ี วกบั
ภาษาทา่ ทางเพ่อื การสอ่ื สาร เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจ ดงั แสดงในรปู ภาพประกอบ

4.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอา่ น และการเขยี น โดยการจบั คปู่ ระโยคและคาศพั ทท์ ส่ี อดคลอ้ งกนั นอกจากนนั้ ยงั ฝึก
แปลคาศพั ทแ์ ละเขยี นตามทก่ี าหนด

5.ครแู ละผเู้ รยี นอธบิ ายเทศกาลดนตรี (Music Festival) และเปิด CD ใหผ้ เู้ รยี นฟัง เพ่อื ฝึกการพดู สนทนา
โตต้ อบกนั ระหวา่ ง Jack กบั Por

6.ครแู ละผเู้ รยี นอา่ นและแปลคาศพั ทใ์ นเทศกาลสาคญั ในประเทศต่างๆ (Festivals around the world)
จากนนั้ ใหผ้ เู้ รยี นคน้ หาขอ้ มลู เทศกาลดนตรใี นอนิ เทอรเ์ น็ต แลว้ ตอบคาถามทค่ี รกู าหนดให้

7.ครแู ละผเู้ รยี นอา่ น และแปลความหมายของศพั ทใ์ นวนั ขอบคุณพระเจา้ กจิ กรรม และอาหารสาหรบั
วนั ขอบคุณพระเจา้ “Thanksgiving Day”

8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการอา่ น การเขยี นและการแปลความหมายของคาศพั ทต์ ่างๆ ใน Activity

-Do you think we have a holiday similar to Thanksgiving in Thailand? If so, what holiday is it?

-Which Thai holiday do you like the most? And Why?

9.ครเู น้นใหผ้ เู้ รยี นชว่ ยกนั ประหยดั พลงั งาน ชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาดภายในหอ้ งเรยี น หอ้ งน้าและบรเิ วณอ่นื
ๆ ทเ่ี ป็นสว่ นรวม เพอ่ื ทาหน้าทเ่ี ป็นพลเมอื งดขี องสงั คมตอ่ ไป

ขนั้ สรปุ และการประยุกต์

10.สรปุ โดยผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการฟังและการพดู สนทนาโตต้ อบระหว่างกนั อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพทส่ี ามารถนาไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้

11.ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี

ชอ่ื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
ความสนใจ สตปิ ัญญา วฒุ ภิ าวะ

1.

2.

3.

ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้

1.วชิ า 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชวี ติ จรงิ (Real Life English)
2.รปู ภาพกจิ กรรม
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ แผ่น CD และส่อื PowerPoint
5.แบบประเมนิ ผล Activity

หลกั ฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ ชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่
4. ตรวจแบบประเมนิ ผล Activity
5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
เครื่องมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยคร)ู
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น)
4. แบบประเมนิ ผล Activity
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั
ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ ผล Activity มเี กณฑผ์ า่ น 50%
5 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ

ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ

1.แนะนาใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะโดยการฝึกฟังและพดู เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความชานาญ
2.อ่านทบทวนเน้อื หา

แผนการจดั การเรยี นรูแ้ บบบูรณาการท่ี 7 หน่วยท่ี 5
สอนครงั้ ที่ 7 (13-14)
รหสั วิชา 20000-1201 ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง (Real Life English)
ชื่อหน่วย/เรือ่ ง Give me directions! จานวน 2 ช.ม.

แนวคิด

การบอกทศิ ทาง การบอกตาแหน่ง เป็นทกั ษะพน้ื ฐานในการส่อื สารในชวี ติ ประจาวนั เน่อื งจากชมุ ชนมกี าร
ขยายตวั ขนาดพน้ื ทก่ี วา้ งมากขน้ึ ระบบการคมนาคมมคี วามซบั ซอ้ นตามความเจรญิ ของเมอื ง และประเทศ สถาน
ประกอบการมจี านวนเพม่ิ ขน้ึ ตามเศรษฐกจิ ของประเทศทม่ี กี ารขยายตวั

ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั

1.อธบิ ายคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การจราจรได้
2.พดู ฟัง เขยี นและสนทนาเกย่ี วกบั การบอกทศิ ทางได้
3.อา่ นแผนท่ี ทต่ี งั้ และการยกตวั อย่างได้
4.พดู ฟัง เขยี น และใชภ้ าษาทใ่ี ชใ้ นการถามทาง และบอกทศิ ทางได้
5.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเร็จการศกึ ษาสานกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง

5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
5.2 ความมวี นิ ยั
5.3 ความรบั ผดิ ชอบ
5.4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
5.5 ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง
5.6 การประหยดั
5.7 ความสนใจใฝ่รู้
5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
5.9 ความรกั สามคั คี
5.10 ความกตญั ญกู ตเวที


Click to View FlipBook Version