คู่มือการจัดการความรู้ฉบับปรับปรุง

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๔๗ เป้าหมาย KM (Desired State) เป็นหัวเรื่องความรู้ที่จําเป็นและเกี่ยวข้องกับประเด็น ยุทธศาสตร์ตามแผนบริหารราชการแผ่นดิน โดยสอดคล้องกับขอบเขต KM (KM Focus Areas) ที่ได้เลือกมา จัดทําและต้องสามารถวัดผลได้เป็นรูปธรรม Desired State of KM Focus Areas ประเด็นยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ กระบวนงาน KM Focus Areas พันธกิจ/วิสัยทัศน์ ความรู้ทสี่า คัญต่อองคก์ร • ความรู้เกี่ยวกับลูกค้า • ความสัมพันธก์ ับผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ • ประสบการณค์วามรู้ที่องคก์รส่ังสม • ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการ • ความรู้เกยี่วกับผลิตภณัฑแ์ละบรกิาร • ความรู้ทมี่ีอยู่ในบคุลากร ปัญหา KM Action Plans ( 6-step model) กระบวนการและเครื่องมอื (Process Tools) การเรียนรู้ (Learning) การสื่อสาร (Communication) การวัดผล (Measurements) การยกยอ่งชมเชยและการใหร้างวัล (Recognition and Reward) เป้าหมาย (Desired State) การเตรียมการและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Transition and Behavior Management) World-Class KM Environment กระบวนการและเครื่องมอื (Process Tools) การเรียนรู้ (Learning) การสื่อสาร (Communication) การวัดผล (Measurements) การยกยอ่งชมเชยและการใหร้างวัล (Recognition and Reward) เป้าหมาย (Desired State) การเตรียมการและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Transition and Behavior Management) World-Class KM Environment 1 2 3 (ขอบเขต KM) (เป้าหมาย KM) (Work process) (แผนการจัดการความรู้)

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๔๘ ขั้นตอนที่ 4 : จัดท ำแผนกำรจัดกำรควำมรู้ (KM Action Plan) ตำมกระบวนกำรจัดกำรควำมรู้ (Knowledge Management Process) 2 1 KM (KM Action Plan) KM KM

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๔๙ ในปีงบประมาณ 2564 คณะกรรมการ KM สํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์จึงได้ จัดทําแผนการจัดการความรู้ (KM Action Plan) เป็นแผนงานที่แสดงถึงรายละเอียดการดําเนินงานของ กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้องค์กรบรรลุผลตามเป้าหมาย (Knowledge Management Process) ที่กําหนดดังนี้ กระบวนกำร KM วิธีกำรสู่ควำมส ำเร็จ ระยะเวลำ ตัวชี้วัด เป้ำหมำย กลุ่มเป้ำหมำย ผู้รับผิดชอบ ขั้นตอนที่ 1 การบ่งชี้ความรู้ - ประชุมคณะกรรมการ จัดการความรู้เพื่อ กําหนดประเด็นความรู้ กําหนดกลุ่มเป้าหมาย และกําหนดแผนการ จัดการความรู้ กรกฎาคม 2564 - สอดคล้องกับ อัตลักษณ์ - มีแผนการจัดการ ความรู้ประจําปี งบประมาณ 2564 - เป็นเรื่องที่สนับสนุน การดําเนินงานตาม ประเด็นยุทธศาสตร์ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ที่ เกี่ยวข้องการหารายได้ ภายใต้กิจกรรม / โครงการต่าง ๆ ซึ่งเป็น พันธกิจหลักในความ รับผิดชอบของสํานัก บริหารทรัพย์สินละสิทธิ ประโยชน์ KM Team และบุคลากร สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ คณะกรรมการ จัดการความรู้ สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและ แสวงหาความรู้ - จัดทําประเด็นความรู้ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กรกฎาคม 2564 -มีระบบยื่นคําร้อง ออนไลน์ของสํานัก บริหารทรัพย์สิน และสิทธิประโยชน์ - เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถ่ายทอดเทคนิค การบริหารจัดการ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ KM Team และบุคลากร สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ คณะกรรมการ จัดการความรู้ สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ ขั้นตอนที่ 3 การจัดความรู้ ให้เป็นระบบ การประมวล และกลั่นกรอง ความรู้ - สรุปประเด็นความรู้ให้ เป็นลายลักษณ์อักษร กรกฎาคม 2564 -ได้แนวปฏิบัติที่ดีใน การจัดการความรู้ - จับประเด็นความรู้ที่ฝัง ลึกจากตัวบุคคลและ นํามาสรุปเป็นความรู้ โดยบันทึกเป็นลาย ลักษณ์อักษร KM Team และบุคลากร สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ คณะกรรมการ จัดการความรู้ สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ ขั้นตอนที่ 4 การเข้าถึง ความรู้ - นําความรู้ที่ได้เผยแพร่ แนวปฏิบัติทางเว็บไซต์ - บุคลากรทดลองปฏิบัติ สิงหาคม 2564 - มีจํานวนช่องทางที่ เข้าถึงความรู้อย่าง น้อย 2 ช่องทาง - เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดการเอกสารของ สํานักฯ KM Team และบุคลากร สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ คณะกรรมการ จัดการความรู้ สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ ขั้นตอนที่ 5 การแบ่งปัน แลกเปลี่ยน เรียนรู้ จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยน เรียนรู้การบรรยาย/เล่า ประสบการณ์การนํา ความรู้ไปใช้ - สิงหาคม – กันยายน 2564 -ไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง - บุคลากรในหน่วยงานมี ส่วนร่วมในกระบวนการ จัดการความรู้เพื่อนํามา แลกเปลี่ยนเรียนรู้และ นํามาใช้ในการพัฒนา งานและองค์กรให้มี ประสิทธิภาพ KM Team และบุคลากร สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ คณะกรรมการ จัดการความรู้ สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ ขั้นตอนที่ 6 การประเมินผล และนําความรู้ ไปใช้ประโยชน์ - มีการติดตามและ ประเมินผลหลังจาก เสร็จสิ้นโครงการ ตุลาคม 2564 -ผลวิเคราะห์การลด จํานวนการใช้ กระดาษ - ลดการใช้ทรัพยากร เช่น กระดาษ ค่าถ่าย เอกสาร KM Team และบุคลากร สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ คณะกรรมการ จัดการความรู้ สํานักบริหาร ทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ ผู้ทบทวน........................................................ ( ) ผู้อนุมัติ........................................................ ( )

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๐ ขั้นตอนที่ 5 : กำรด ำเนินกำรตำมแผนปฏิบัติกำร กำรจัดกำรควำมรู้และติดตำมผลกำรด ำเนินงำน / 1 1/3 1. 2. 3. 4. KM 1. 2.

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๑ ขั้นตอนที่ 6 : กำรน ำผลกำรด ำเนินงำนมำใช้ในกำรปรับปรุงแผนปฏิบัติกำรกำรจัดกำรควำมรู้ เมื่อการดําเนินงานตามแผนปฏิบัติการการจัดการความรู้แล้วเสร็จ คณะกรรมการฯ นําผลการ ดําเนินงานมาทบทวน ร่วมกับหัวข้อหรือองค์ความรู้ที่เสนอโดยบุคลากรทั้งหมด เพื่อทําการคัดเลือกกําหนด ขอบเขตของ KM ในการปรับปรุงแผนการจัดการความรู้ต่อไป 1. 2. KM Improvement Plan

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๒ เทคนิคการปฏิบัติงาน ในการปฏิบัติงานการจัดการความรู้ KM (Knowledge Management) สํานักบริหารทรัพย์สิน และสิทธิประโยชน์ มีความจําเป็นต้องปฏิบัติงานตามลําดับ ขั้นตอนหลาย ๆ ด้านและเกี่ยวข้องกับการ ปฏิบัติงานตามระเบียบของทางราชการ ดังนั้น เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจสภาพการปฏิบัติงานมากขึ้น ผู้เขียน จึงขอนําเสนอเทคนิคในการปฏิบัติงาน ดังนี้ 1. การรายงานผลการดําเนินงานการจัดการความรู้ ระดับคณะ/สํานัก หน่วยงานเทียบเท่า ปีงบประมาณ 2565 รอบ 9 เดือน และรอบ 12 เดือน ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดการความรู้ ระดับ มหาวิทยาลัย ครั้งที่ 1 /2565 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 เห็นชอบแผนการดําเนินงานจัดการความรู้ มหาวิทยาลัย ปีงบประมาณ 2565 โดยกําหนดให้มีการกํากับ ติดตามผลการดําเนินงาน รอบ 9 เดือน และ รอบ 12 เดือน ดังนั้นเพื่อให้การจัดการความรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรับทราบผลการดําเนินงาน/ ปัญหา/อุปสรรคของ คณะ/สํานัก หน่วยงานเทียบเท่า เพื่อนําไปใช้ในการวางแผนและจัดทําแนวทางการ ดําเนินงานร่วมกับมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ สํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ มีองค์ประกอบและตัวบ่งชี้ที่เกี่ยวข้องกับการ ดําเนินงาน ซึ่งต้องรายงานกองแผนงาน รอบ 9 เดือน และรอบ 12 เดือน ดังนี้ ็ ค ู้ ธี จ ค ู้ ุ่ ้ ้ ผ 9 ื ธี ผ แพ ่ ค์ค ู้ที ผ่ ส ค ์ ค์ค ู้/แ ท /แ ไ ้ ์ ผู้ ผ 1 1. / / 2. , , , , 3. 4. 5. 6. / / / 1. ฐ 2. 3. / 2565 / web site 1. ฐ 2. 5 0,000 PCMO KM 2022 / / . 2. / ๓. 2565 / web site 1 6,000 ผ แผ จ ค ู้ส ท พ ์ส แ ส ทธ ์ จ ี พ.ศ.2565

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๓ 2. การเข้าถึง แหล่งรวบรวมความรู้ของสํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์เข้าไปที่เว็บไซต์ ของสํานักบริหารทรัพย์สินฯ https://www.ubu.ac.th/web/pnr คลิ้กเลือกการจัดการความรู้ รูปที่ 1 ภาพแสดงหน้าหลักเว็บไซต์ของสํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ รูปที่ 2 ภาพแสดงแหล่งรวบรวมองค์ความรู้ของสํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ คลิ้ก

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๔ 3. การเข้าใช้งานระบบชุมชนนักปฏิบัติ(CoP) ตามที่งานพัฒนาคุณภาพองค์กรและสารสนเทศ ร่วมกับสํานักคอมพิวเตอร์และเครือข่าย พัฒนาระบบจัดการความรู้และบริหารจัดการชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practices CoPs) โดยมี วัตถุประสงค์ดังนี้ 3.1 เพื่อให้ส่งเสริมการและเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ประสบการณ์ การพัฒนางานและแนว ปฏิบัติที่ดีระหว่างหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย 3.2 เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและทัศนคติที่ดี (show & share) ต่อการพัฒนางาน / แนว ปฏิบัติที่ดี 3.3 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงานมีการจัดการความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นระบบ ตามบริบทของส่วนงานและเป็นประโยชน์ในการพัฒนางานและมหาวิทยาลัย 3.4 เพื่อนําความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการพัฒนาการปฏิบัติงานของหน่วยงาน รูปที่ 1 ภาพแสดงการเข้าใช้งานระบบชุมชนนักปฏิบัติ(CoP) เข้าไปที่เว็บไซต์งานพัฒนาคุณภาพองค์กรและสารสนเทศhttps://www.ubu.ac.th/web/quality เลือกเมนูการจัดการความรู้_KM >เลือกเมนูชุมชนนักปฏิบัติ สมัครเป็นสมาชิกได้ด้วยการใช้ รหัสการใช้งาน internet ของมหาวิทยาลัย> คลิ้กเข้าสู่ระบบ คลิ้ก กรอกรหัส ใช้งานเข้าระบบ

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๕ คลิ้กเลือก เขียนบทความใหม่ จากเมนู My Profile ด้านขวามือ รูปที่ 2 การเขียนบทความเพื่อเผยแพร่ในกลุ่ม ข้อกําหนดในการเผยแพร่บทความ/แนวปฏิบัติที่ดี/ข้อมูลองค์ความรู้อื่น ๆ 1. เป็นความรู้ที่เกิดจากตัวบุคคลหรือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของสมาชิกภายในกลุ่ม CoPs 2. เป็นความรู้ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติร่วมกับความรู้จากภายนอกโดย มีการอ้างอิงแหล่งที่มา 3. เป็นความรู้ที่ผ่านการสรุปประเด็นสําคัญ 4. เป็นความรู้ที่สามารถนําไปใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง วิธีสร้ำงควำมสนใจ คึกคัก ตื้นเต้น ท ำให้เรื่องกำรจัดกำรควำมรู้เป็นหัวข้อสนทนำ 1. จัดการประกวดชิงรางวัล 2. นําการกระทํา กิจกรรม หรือผลงานมาประกาศยกย่อง 3. ประกาศเป้าหมายของกิจกรรมแบบ BSC (Balanced Score Card) โดยมีผลประโยชน์ตรง ต่อพนักงานเป็นเป้าหมายหลักอย่างหนึ่ง ใช้ควำมส ำเร็จเล็ก ๆ เป็นพลังขับเคลื่อน การยกย่อง และให้คุณค่าความสําเร็จเล็ก ๆ นํามาพูดคุยหาเคล็ดลับ(ความรู้ปฏิบัติ) ที่อยู่ เบื้องหลังและนําไปขยายผลทั้งในเชิงเนื้อความรู้(วิธีการ) และในเชิงหลักการ ก็จะทําให้ภายในองค์กรมีคนคิด ริเริ่มสร้างสรรค์เล็ก ๆ เต็มไปหมด ทั้งที่ทําโดยคนเดียวและที่ทําเป็นทีม จากการจัดการความรู้ และเป็น ความสําเร็จขององค์กร เอามาประกาศหรือยกย่องให้รางวัล เล็ก ๆ น้อย ๆ และหาทางส่งเสริมให้บรรลุ ความสําเร็จที่ใหญ่ขึ้น ชัดเจนขึ้น การยกย่องอาจทําได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ลง คลิ้ก

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๖ สัมภาษณ์เรื่องราวของความสําเร็จในจดหมายข่าวขององค์กร หรือ ลงในเว็บไซต์ บล็อก ให้โอกาสออกไป นําเสนอผลงานภายนอกองค์กร ให้รางวัลไปเข้าสัมมนาอบรมเรื่องที่จะช่วยให้สร้างความสําเร็จได้ยิ่งขึ้น เป็นต้น ประเด็นสําคัญคือบุคลากรไม่รู้ว่าผลสําเร็จที่ตนหรือกลุ่มตนบรรลุนั้นเป็นความสําเร็จที่สําคัญต่อการบรรลุ “หัวปลา”ขององค์กร โดยอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่สําคัญ การที่มีคนเห็นความสําคัญจะทําให้เกิดทั้ง กําลังใจ และเข้าใจ ทําให้เกิดแรงจูงใจให้ขวนขวายดําเนินการสร้างสรรค์ในเรื่องอื่น ๆ อีกที่สําคัญคือทําให้เกิด ความมั่นใจว่าการสร้างสรรค์งานนั้นเป็นเรื่องไม่ยาก รวมทั้งช่วยสร้างเจตคติใหม่ในหมู่เพื่อนพนักงานว่าการ ทํางานสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องยากขอให้เอาใจใส่งานโดยยึด“หัวปลา”ขององค์กรเป็นหลัก แล้วกล้าทดลองวิธีการ ใหม่ ๆ ก็จะบรรลุความสําเร็จเชิงสร้างสรรค์ได้ไม่ยาก การยกย่องผลงานเล็ก ๆ นี้ต้องทําตลอดไป ไม่ใช้ยกย่อง เฉพาะตอนเริ่มต้นกิจกรรมการจัดการความรู้ การการยกย่องผลงานเล็ก ๆ นี้ จะต้องแยกจากการยกย่อง สร้างสรรค์ชื้นใหญ่ ๆ ที่มีผลกระทบต่อองค์กรสูง นั้นคือจะต้องยกย่องผลสําเร็จทุกรูปแบบตามคุณค่าของ ความสําเร็จนั้น ต้องไม่เอาสิ่งที่ต่างกันมาสับสนปนเปกัน เอำพลังภำยนอกมำขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ใช้พลังภายนอกมาขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ภายในเป็นเรื่องสําคัญมาก เป็นเรื่อง เชิงจิตวิทยาที่คําพูดของคนนอกมักมีน้ําหนักสร้างความเชื่อถือได้ดีกว่าคนในองค์กรเดียวกัน ดังนั้นการยกย่อง ความสําเร็จเล็ก ๆ อาจต้องใช้พลังภายนอกเข้ามาช่วย เช่น อาจจัด “การประชุมนําเสนอความสําเร็จเบื้องต้น” และเชิญผู้มีประสบการณ์จากองค์กรภายนอกมาให้ข้อสังเกต ก็จะช่วยสร้างกําลังใจ และช่วยสร้างความคึกคัก ให้ความสําเร็จเล็ก ๆ เป็นหัวข้อสนทนาภายในองค์กรได้ ด ำเนินกำรในบำงหน่วยงำนในลักษณะของกิจกรรมน ำร่อง ผู้บริหารสูงสุดและ “คุณเอื้อ” อาจปรึกษาหารือกันและวางยุทธศาสตร์กิจกรรมนําร่อง หรือ หน่วยงานนําร่องในการดําเนินการจัดการความรู้ เพื่อเรียนรู้และแก้ไขข้อบกพร่องก่อนที่จะกําหนดให้ ดําเนินการจัดการความรู้ทั่วทั้งองค์กร การกําหนดหน่วยงานหรือกิจกรรมนําร่องนี้ไม่ควรกําหนดแบบผู้บริหาร เป็นผู้สั่ง (top down) แต่ควรผ่านการปรึกษาหารือและเห็นพ้องกันระหว่างผู้บริหารและผู้ปฏิบัติ ซึ่งโดยทั่วไป หน่วยงานหรือกิจกรรมที่อาสาเป็นผู้นําร่องนี้มักมีความพร้อมสูงกว่าค่าเฉลี่ยขององค์กร ดังนั้นในการขยาย กิจกรรมไปทั่วทั้งองค์กรในภายหลังจะต้องคํานึงถึงประเด็นนี้ด้วย วิธีกำรให้บริกำรกับผู้รับบริกำรที่มีควำมพึงพอใจ การปฏิบัติงานการจัดการความรู้ ส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์จ าเป็นต้องมีการ ติดต่อและประสานงานกับบุคคลภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยหลายหน่วยงาน และถือเป็นประตูด่านแรก ในการให้บริการต่อผู้รับบริการ ดังนั้น จึงมีวิธีให้บริการที่สามารถท าให้ผู้รับบริการเกิดความพึงพอใจต่อการ ปฏิบัติงาน ดังนี้ ๑. สอบถามความคิดเห็นจากแบบประเมินผู้รับบริการทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยฯ ว่า มีจุดใดที่ควรแก้ไขและปรับปรุง และน าความคิดเห็นนั้นมาพัฒนางาน ๒. สอบถามบุคลากรภายในหน่วยงานว่า มีจุดใดที่ควรปรับปรุง และน าข้อเสนอแนะนั้นมา พัฒนางาน ๓. ทบทวนกระบวนการการปฏิบัติงานของตนเองเป็นประจ าทุกเดือน เพื่อลดขั้นตอนและความ รวดเร็วในการปฏิบัติงาน

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๗ ๔. การติดต่อและประสานงานอย่างเสมอภาคทั้งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาและผู้ที่มาติดต่อ ราชการอื่น ๆ ๕. ไม่ปฏิเสธงานแม้ไม่ใช่งานที่รับผิดชอบ กรณีผู้มาติดต่อราชการไม่ว่า จะมาติดต่อด้วยตนเอง หรือทางโทรศัพท์ จะมีการรับเรื่องไว้ก่อนและแจ้งให้ผู้รับผิดชอบในหน่วยงานให้ด าเนินการต่อไป ๖. ในการติดต่อและประสานงานทางโทรศัพท์ จะมีการพูดด้วยค าสุภาพและลงท้ายด้วย “ค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” เสมอ ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้รับบริการเกิดความประทับใจ วิธีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน การประเมินความรู้ควรทําโดยวิธีการที่ง่าย ๆ ไม่ควรเน้นวิธีการที่ซับซ้อนสิ้นเปลือง วิธีที่ เหมาะสม น่าจะดําเนินการโดยใช้แบบสอบถามง่าย ๆ หรือประชุมแกนนํา ระดมความคิดตอบคําถามหลัก ๆ ได้แก่ 1. ความรู้ที่หน่วยงานหรือองค์กรพุ่งเป้าหรือเอาใจใส่เป็นพิเศษ (ดําเนินการจัดการความรู้) ในขณะนี้ เป็นความรู้หลัก สําหรับใช้บรรลุเป้าหมายหลักของหน่วยงานหรือองค์กร ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ อะไรคือ ความรู้หลักนั้น 2. ความรู้หลักที่ต้องการใช้งาน คืออะไรบ้าง ส่วนใดที่องค์กร มีอยู่แล้วอย่างเพียงพอ ส่วนใดที่ยัง ขาดจะดูดซับส่วนที่ขาด ได้จากที่ไหน 3. หน่วยงาน/องค์กรมีกลไกดูดซับความรู้แจ้งชัดจากทั่วโลก ที่สําคัญต่อความอยู่รอดหรืออยู่ดี ขององค์กรได้อย่างมี ประสิทธิผลหรือไม่ ถ้าไม่ จะปรับปรุงอย่างไร 4. หน่วยงาน/องค์กรมีกลไกใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของคน ทั้งองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เพียงใด มีวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพนี้ได้อย่างไร 5. องค์กรได้ใช้วิธีการพัฒนางานโดยใช้ทีมข้ามสายงาน อย่างเพียงพอหรือไม่ เพียงใด มีทางเพิ่ม วิธีพัฒนางานโดย ยุทธศาสตร์นี้อย่างไรบ้าง 6.หน่วยงาน/องค์กรได้ดูดซับความรู้ฝังลึกจากการปฏิบัติงาน ไว้ในองค์กรเพียงใด มีวิธีการใดที่จะ เพิ่มขีดความสามารถ กำรประเมินผลกำรด ำเนินกำรจัดกำรควำมรู้ ด ำเนินกำรใน 2 ลักษณะ คือ 1. การประเมินเพื่อติดตาม (monitor) กระบวนการจัดการความรู้ ว่าได้ดําเนินการอย่าง เหมาะสมหรือไม่ เป็นไปตามยุทธศาสตร์และแผนหรือไม่ 2. การประเมินผลลัพธ์และผลกระทบของการดําเนินการจัดการความรู้ โดยสรุปในการประเมินความรู้ไม่มีสูตรสําเร็จตายตัว สําหรับการประเมินความรู้ขององค์กร ทีม ดําเนินการจัดการความรู้พึงปรับใช้แนวทางดังกล่าว และคิดตัวชี้วัดใหม่ๆ ขึ้นใช้ ประเมินความรู้ของตน โดยมี เป้าหมายเพื่อใช้การประเมินความรู้ เป็นกลไกขับเคลื่อนการจัดการความรู้ของหน่วยงาน/องค์กร การปฏิบัติงานการจัดการความรู้ สํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ มีวิธีการติดตามและ ประเมินผลการปฏิบัติงาน จํานวน ๒ วิธี ดังนี้

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๘ ๑. การติดตามและประเมินผลการประเมินผลการปฏิบัติงานปกติ ๑.๑ รายงานผลการจัดการความรู้ต่อที่ประชุมประจําเดือนของสํานักบริหารทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์เมื่อสิ้นสุดโครงการ ทั้งนี้ ที่ประชุมจะมีการให้ข้อเสนอแนะและการปรับปรุงเพื่อพัฒนางานอยู่ เสมอ ๑.๒ มีการติดตามผลโดยใช้แบบสอบถามให้ผู้เข้ารับการอบรมประเมินทั้งก่อน และหลังการ อบรมเพื่อวัดระดับความรู้ความเข้าใจและนําข้อเสนอแนะที่ผู้เข้าร่วมโครงการให้ข้อคิดเห็นมาประมวลผลเพื่อ น ามาทบทวนในการจัดการความรู้ในปีต่อไป ๒. การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตามรอบการประเมินของมหาวิทยาลัย ประกาศ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการเพิ่มเงินเดือน พนักงานมหาวิทยาลัย สังกัดมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ.ศ.2559 กําหนดให้พนักงานมหาวิทยาลัย สังกัด มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ต้องได้รับการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ปีละ ๒ ครั้ง (เดือนตุลาคมและเมษายน ของทุกปี) จํานวน ๒ องค์ประกอบ ดังนี้ 1.๑ กำรประเมินผลสัมฤทธิ์ของงำน มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ ๗๐ มีการประเมินทั้งหมด ๔ ด้าน ดังนี้ - งานประจําตามที่ได้รับมอบหมาย - งานเชิงพัฒนา (การพัฒนาตนเอง การพัฒนางานและการพัฒนาหน่วยงาน) - การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงาน - งานที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติมจากผู้บังคับบัญชา 1.๒ กำรประเมินพฤติกรรมกำรปฏิบัติรำชกำร มีสัดส่วนคะแนนร้อยละ ๓๐ และให้ ประเมินสมรรถนะหลัก ๕ ด้าน ดังนี้ - การมุ่งผลสัมฤทธิ์ - การบริการที่ดี - การสั่งสมความเชี่ยวชาญในงานอาชีพ - ความยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรมและจริยธรรม - การท างานเป็นทีม ทั้งนี้ จะมีการจัดท าข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับการมอบหมายงานและการประเมินผลการปฏิบัติ ราชการ รอบครึ่งปีแรกภายในเดือนตุลาคม และครึ่งปีหลังภายในเดือนเมษายนของทุกปี แนวปฏิบัติที่ดีในการปฏิบัติงาน 1. เป้าหมาย KM ระยะสั้นและระยะยาว ต้องชัดเจนและเชื่อมโยงกับ Vision/Mission/ Values หรือ strategies ของสถาบัน/คณะ ๒. สื่อสารให้ทุกคนในสถาบัน/สํานักเข้าใจตรงกัน 3. ผู้บริหารต้องมีความมุ่งมั่นอย่างจริงจังเป็นที่ประจักษ์ รวมถึงเป็นต้นแบบและให้การสนับสนุน อย่างต่อเนื่อง 4. การดําเนินงานจัดการความรู้ควรเริ่มจาก “เล็ก” ไป “ใหญ่” 5. มีการสร้างแรงจูงใจอย่างต่อเนื่อง (บูรณาการกับระบบ HR)

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๕๙ 6. พัฒนาให้บุคลากรมีทักษะในการใช้เครื่องมือ KM (และเครื่องมือปรับปรุงคุณภาพ) 7. ผู้บริหารมีการติดตาม ประเมินผล การดําเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง 8. ใช้มุมมองเชิงระบบ แนวทำงแห่งควำมส ำเร็จ 10 ประกำร 1. สร้างวัฒนธรรมใหม่ จะต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร (Corporate culture) จากวัฒนธรรมอํานาจเป็นวัฒนธรรม ความรู้ จากการบริหารงานแบบควบคุม-สั่งการ (Command and control) เป็นบริหารงานแบบเอื้ออํานาจ (empower) ให้พนักงานทุกระดับริเริ่มสร้างสรรค์วิธีการทํางานใหม่ ๆ ได้เปลี่ยนการไหลเวียนของความรู้หรือ สารสนเทศ จากการไหลขึ้นลงตามแห่งอํานาจเป็นไหลเวียนไปทุกทิศทุกทางภายในองค์กรเปลี่ยนความหมาย ของคําว่า“ ผู้นํา” จากการหมายถึงผู้บริหารสูงสุดเป็นหมายถึงทุกคนในองค์กรเพราะในนิยามใหม่ของคําว่า “ภาวะผู้นํา” นั้น หมายถึงความสามารถในการริเริ่มวิธีการทํางานใหม่ ๆ ริเริ่มงานใหม่ ตามขอบเขตความ รับผิดชอบของตนเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ขององค์กร 2. สร้างวิสัยทัศน์ร่วม (shared vision) ดําเนินกระบวนการให้คนในองค์กรร่วมกันกําหนดวิสัยทัศน์ (Vision) หรือปณิธานความมุ่งมั่น (purpose) และเป้าหมาย (goal) โดยไม่ใช่แค่ร่วมกันกําหนดเท่านั้น แต่ต้องร่วมกันตีความทําความเข้าใจซ้ําๆ จนเข้าใจลึกลงไปถึงวิธีปฏิบัติ พฤติกรรม ความเชื่อ และคุณค่า จนเกิดสภาพความเป็นเจ้าของ (Ownership วิสัยทัศน์นั้นในสมาชิกทุกคนขององค์กรนี่คือบทแรกของการสร้างพลังรวมหมู่สร้างพลังทวีคูณ (Synergy) ในการทํางาน นอกจากสร้างวิสัยทัศน์ร่วมแล้ว ผู้บริหารและทุกคนในองค์กรจะต้องหมั่นนําวิสัยทัศน์ร่วมที่ได้ ช่วยกันเรียงถ้อยร้อยคําทําเป็นจารึกไว้นั้นออกมาตรวจสอบกับการกระทําออกมาตีความทําความเข้าใจร่วมกัน เชื่อมโยงกับการปฏิบัติเพื่อให้วิสัยทัศน์ร่วมนี้ไม่ใช่แค่“ ชัดในกระดาษ” เท่านั้น แต่“ ชัดในใจคน” และ“ ชัดใน การกระทํา” ของทุกคน ด้วยรูปธรรมของวิสัยทัศน์ร่วมอย่างน้อย 3 ประการคือ (1) เอกสารแสดงวิสัยทัศน์ (2) การกระทําที่เป็นไปเพื่อการบรรลุวิสัยทัศน์ (3) การนําเอาวิสัยทัศน์มาร่วมกันตีความในหลากหลายบริบทของการทํางานโดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานเชิงสร้างสรรค์ 3. สร้างและให้ความรู้ในการทํางานและสร้างบรรยากาศแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทุกคนสร้างและใช้ความรู้ในการทํางานและในกิจกรรมเพื่อการดํารงชีพทุกประเภท ทุกหน่วยงานสร้างและใช้ ความรู้ในการทํางานทุกภาคส่วนของสังคมสร้างและใช้ความรู้ในการทํางาน เมื่อมีการทํางานผู้ปฏิบัติงานจะมี ประสบการณ์ในประสบการณ์มี“ ความรู้ในคน” (tacit Knowledge) อยู่ ถ้าเอาความรู้จากประสบการณ์ใน ผู้ร่วมงานมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันจะเกิดการยกระดับความรู้และสามารถบันทึกออกมาเป็น“ ขุมความรู้” จาก การทํางานสําหรับนําไปใช้ในการทํางานให้มีผลสัมฤทธิ์ยิ่งขึ้นอีกวนเวียนเรื่อยไปไม่จบสิ้น เทคนิคในการ“ ถอด ความรู้”ที่เป็นความรู้ภาพรวม (holistic) จากการทํางาน ได้แก่ เรื่องเล่าเร้าพลัง (Storytelling) และ AAR (After Action Review) ความรู้ที่นํามาใช้ นอกจากนํามาจากกลุ่มผู้ปฏิบัติงานร่วมกันก็จะต้องรู้จักไขว่คว้าหา มาจากภายนอกหน่วยงานด้วยจะต้องสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยดําเนินการขจัด อุปสรรคต่อการแลกเปลี่ยนและเข้าถึงข้อมูลและสารสนเทศโดยพัฒนาระบบสารสนเทศที่มีคุณภาพและเข้าถึง ได้ง่าย สร้างวัฒนธรรมที่เปิดเผยข้อมูลต่อพนักงานและวัฒนธรรมของการถามคําถามถามสิ่งที่ตนไม่รู้จากเพื่อน ร่วมงานส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน (peer process) เพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อนช่วยตรวจสอบและ

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๖๐ เพื่อนร่วมแลกเปลี่ยนวิธีการทํางานส่งเสริมให้พนักงานมีทักษะในการเรียนรู้เป็นทีม (team learning) และ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้ามสายงาน 4. เรียนลัด การพัฒนางานไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคุณภาพประสิทธิภาพหรือผลสัมฤทธิ์ต้องไม่ เริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มุ่งคิดค้นหาวิธีการทํางานที่แยบยลด้วยตนเอง เพราะจะทําให้เสียเวลาโดยใช่เหตุไม่เกิด economy of speed ต้องยึดแนวความคิดตามธรรมชาติว่าเป้าหมายผลงานที่เรามุ่งหมายนี้จะต้องมีคนอื่น ทดลองทํามาแล้ว และทําอย่างมีผลสัมฤทธิ์สูง ประสิทธิภาพสูงคุณภาพสูงอยู่แล้ว เราต้องเสาะหาให้พบและขอ เรียนรู้จากเขาคือใช้ยุทธศาสตร์“ เรียนลัด” แล้วต่อยอดนั่นเอง ความรู้ที่เราไปขอเรียนเป็นความรู้เพื่อการ ปฏิบัติและ“ ครู” ของเราก็ได้ความรู้เหล่านั้นมาจากการปฏิบัติจึงเท่ากับเป็นการเรียนรู้ “ความรู้ในคน” (tacit Knowledge) นั่นเองเทคนิคการเรียนรู้จากผู้มี“ วิธีการยอดเยี่ยม” (best prac tices) ได้แก่ benchmarking และ peer assist ต้องไม่ลืมว่าการเรียนลัดนี้ต้องไม่เรียนแบบคัดลอกแต่ต้องเอาความรู้ของเขามาปรับใช้ให้ เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม (บริบท-context) ของเราแล้วจึงดําเนินการ“ ต่อยอด” ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ของเราเอง 5. สร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยยุทธศาสตร์เชิงบวก ใช้วิธีคิดเชิงบวกว่าตามวิสัยทัศน์ที่ร่วมกัน กําหนดนั้นมีบางคนหรือบางหน่วยงานย่อยมีวิธีปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นอยู่แล้วให้เสาะหาตัวอย่างของ“ วิธีการยอดเยี่ยม” เหล่านั้นให้พบนํามายกย่องและจัดกระบวนการ“ แบ่งปันความรู้” เพื่อขยายผลไปยัง หน่วยงานอื่นภายในองค์กรเรื่องใดที่ไม่มี “วิธีการยอดเยี่ยม” อยู่ภายในองค์กรก็จะต้องมีอยู่ในองค์กรอื่น เราก็ ส่งเสริมให้คนของเราไปขอเรียนรู้จากเขา เมื่อเกิดการทํางานที่ประสบผลสําเร็จเป็นที่น่าภาคภูมิใจก็จัดเวทีให้มี การนําเสนอ ยกย่อง และแลกเปลี่ยนความรู้และวิธีการกันภายในองค์กรยุทธศาสตร์นี้ไม่มุ่งเน้นเสาะหาปัญหา ไม่เน้นการแก้ปัญหา แต่มุ่งเสาะหาความสําเร็จ เน้นการขยายผลสําเร็จและยกระดับผลสําเร็จซึ่งจะยิ่งสร้างเจต คติเชิงบวก วิธีคิดเชิงบวกกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรอีกอย่างหนึ่ง 6. จัด“ พื้นที่” หรือ“ เวที ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าบะ (ba) ซึ่งก็แปลว่าพื้นที่นั่นเองหมายถึงพื้นที่ สําหรับแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งอย่างไม่เป็นทางการและอย่างเป็นทางการ เช่น การมีห้องกาแฟให้ผู้คนในองค์กร (ทั้งในหน่วยงานเดียวกันและต่างหน่วยงาน) ได้พบปะไต่ถามหาวิธีแก้ปัญหาของงานในบางเรื่องหรือเล่าถึง ผลสําเร็จหรือการเรียนรู้ใหม่ๆ การจัดให้รับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันและคุยกันเรื่องเบาๆ เกี่ยวกับงานหรือ การจัดมหกรรมประจําปีนําเสนอผลงานสร้างสรรค์ภายในองค์กรเป็นต้น “พื้นที่” สําหรับแลกเปลี่ยนเรียนรู้อาจ เป็น“ พื้นที่จริงสําหรับให้คนมาพบหน้ากันโดยตรงหรืออาจเป็น “พื้นที่เสมือน” ให้คนได้พบกันผ่านเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เช่นบล็อก อินทราเน็ต เว็บบอร์ด เว็บไซต์ เป็นต้น 7. พัฒนาคน เน้นการพัฒนาคนผ่านการทํางานคือพัฒนาคน - พัฒนางานไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งก็คือ ผ่านกระบวนการจัดการความรู้นั่นเอง คนที่เกิดการพัฒนาจะเป็น“ บุคคลเรียนรู้” เป็นคนที่มีทักษะและเจตคติ ในการเรียนรู้คือมีทักษะในการสร้างความรู้จากการทํางาน มีทักษะในการ“ เรียนรู้ร่วมกันผ่านการปฏิบัติ(งาน)” (Interactive learning through action) มีทักษะในการใช้ความรู้ในการปฏิบัติงาน มีทักษะในการเรียนรู้จาก ผู้อื่น-ร่วมกับผู้อื่นมีทักษะในการแบ่งปันความรู้ และมีทักษะย่อยอื่นๆอีกมากมาย เช่น ทักษะด้าน“ สุนทรีย สนทนา” (dialogue) ทักษะในการฟังอย่างลึกซึ้ง (deep listening) ทักษะในการจัดการ mental models เป็นต้น 8. ระบบให้คุณให้รางวัล รางวัลที่สําคัญที่สุดคือความภาคภูมิใจในความมีคุณค่าของตน ความสุข จากการได้รับการยอมรับการเป็นสมาชิกที่มีคุณค่าขององค์กรการที่ผู้คนในหน่วยงานมีความรักใคร่ปรองดอง กันเป็น “สวรรค์ในที่ทํางาน” ดังนั้น รางวัลไม่จําเป็นต้องเป็นเงินหรือการเลื่อนยศ เลื่อนขั้น เลื่อนเงินเดือน

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๖๑ เสมอไป รางวัลแก่ผลงานอาจต้องให้แก่ทีมงานที่ร่วมกันสร้างผลสําเร็จนั้น ควรลดการให้รางวัลผลงานส่วน บุคคลลงไปเพื่อเป็นสัญญาณสร้างวัฒนธรรมการทํางานเป็นทีม รางวัลหรือการให้คุณนอกจากให้ตามผลงาน แล้วควรให้แก่ผู้มีพฤติกรรมแบ่งปันความรู้แก่เพื่อนร่วมงานด้วย 9. หาเพื่อนร่วมทาง ทําเป็นเครือข่าย อย่าทําองค์การเดี่ยวโดด ๆ เพราะจะขาดพลัง ขาดแรง กระตุ้น เป็นธรรมชาติของการดําเนินการสร้างสรรค์หรือเปลี่ยนแปลงพอทําไประยะหนึ่งจะล้าและอาจหมดแรง ล้มเหลวไปเลย แต่ถ้าทําเป็นเครือข่ายจะมีการกระตุ้นเสริมพลังหรือมีผลสําเร็จที่จุดเล็ก 10. จัดทํา “ขุมความรู้ (knowledge assets) “ขุมความรู้” ในที่นี้ เป็นการรวบรวมความรู้ที่ “ถอด” มา จากการทํา AAR, การทํากิจกรรม “เพื่อนช่วยเพื่อน” (peer assist), และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใน รูปแบบอื่นๆเป็นความรู้ที่เน้น “ความรู้จากการปฏิบัติ” และ “ความรู้เพื่อการปฏิบัติ” คือเป็นความรู้ฝังลึก (tacit knowledge) แต่เมื่อรวบรวมเป็น “ขุมความรู้” (knowledge assets) บันทึกไว้ก็จะทําให้ความรู้ของ บุคคลกลายเป็นความรู้ขององค์กรสามารถนํามาใช้ได้ง่าย และมีการจัดระบบให้ค้นหาง่าย รวมทั้งคอยปรับปรุง ให้ “สด” ทันสมัยอยู่เสมอจากการนําไปใช้แล้ว “ถอด” ความรู้จากการปฏิบัติหมุนเวียน เป็นวัฏจักรไม่รู้จบ ดังนั้น “ขุมความรู้” จึงมีลักษณะ “ดิน” หรือเคลื่อนไหว อยู่ตลอดเวลา จะมี “ขุมความรู้” ที่เคลื่อนไหวงอก งามอยู่ตลอดเวลา ต้องส่งเสริมการจดบันทึก คือ “คุณกิจ” จะต้องสังเกตผลการทดลองวิธีทํางานในรูปแบบ ใหม่ ๆ และนับ วัด รวมทั้งจดบันทึกไว้เป็นข้อมูลสําหรับนํามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอันนําไปสู่การยกระดับ ความรู้องค์กรเรียนรู้คือองค์กรที่ปรับตัวปรับปรุงตัวเองอยู่ ตลอดเวลา การที่จะเป็นองค์กรเรียนรู้ได้ พนักงานใน หน่วยงานต้องเป็น “บุคคลเรียนรู้” ซึ่งหมายถึงเรียนรู้จากการทํางานเรียนรู้ร่วมกันผ่านการปฏิบัติ (งาน) โดยใช้ “การจัดการความรู้” และ “หลัก 5 ประการขององค์กรเรียนรู้” (The Fifth Disciplines แต่ง โดย Peter Senge) เป็นเครื่องมือ วิถีสู่การเป็นองค์กรเรียนรู้มีวิธีเดียวคือวิถีแห่งการปฏิบัติ และที่สําคัญผู้บริหารองค์กร ต้องไม่เพียงแต่ “บริหารงาน” ต้อง “บริหารทศปฏิบัติ”ด้วย จึงจะเกิดผลสร้างสรรค์องค์กรเรียนรู้ จรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรมในการปฏิบัติงาน ปฏิบัติงานตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ว่าด้วยจรรยาบรรณของบุคลากร พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ดังนี้ จรรยาบรรณต่อตนเอง ๑. ไม่ปฏิบัติงานให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง ๒. ปฏิบัติงานโดยปราศจากอคติและไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้อื่น ๓. ไม่กล่าวอ้างและใช้ชื่อของมหาวิทยาลัยฯ หรือหน่วยงานไปแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ ๔. มีทัศนคติที่ดี รวมทั้งพัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะในการปฏิบัติงานให้มี ประสิทธิภาพและประสิทธิผล

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๖๒ จรรยาบรรณต่อการปฏิบัติงานและหน่วยงาน ๑. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตและไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ๒. ปฏิบัติงานโดยค านึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นส าคัญ ๓. ดูแลรักษาและใช้ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยฯ ให้ประหยัด คุ้มค่าและงดการใช้ทรัพยากร อย่างสิ้นเปลือง จรรยาบรรณต่อผู้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงาน ๑. รับฟังความคิดเห็นของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานด้วยหลักการและเหตุผลที่ถูกต้อง ๒. ปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานด้วยความสุภาพและมนุษยสัมพันธ์อันดี ๓. ช่วยเหลือและมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน แก้ไขปัญหาร่วมกันและเสนอแนะแนวทางในการ พัฒนาหน่วยงาน ๔. สนับสนุนให้เกิดความสามัคคีของเพื่อนร่วมงานในการปฏิบัติงานที่เพื่อประโยชน์ของ หน่วยงานและมหาวิทยาลัย ๕. ยกย่องและให้เกียรติเพื่อนร่วมงานทุกคน จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ ๑. ไม่เรียกรับผลประโยชน์หรือทรัพย์สินใด ๆ จากผู้รับบริการเพื่อกระท าหรือไม่กระท าการใดๆ ๒. ไม่เปิดเผยความลับของผู้รับบริการที่ได้มาจากการปฏิบัติงานหรือจากความไว้วางใจ ซึ่งอาจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานและผู้รับบริการ จรรยาบรรณต่อสังคม ๑. วางตัวเป็นกลางทางการเมือง และไม่ส่งเสริม สนับสนุน ชักจูงให้ผู้อื่นกระท าการเดียวกัน

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๖๓ บทที่ ๕ ปัญหำ อุปสรรค แนวทำงกำรแก้ไขและกำรพัฒนำงำน ในการจัดการความรู้ สํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พบปัญหา/อุปสรรคที่อาจทําให้การปฏิบัติงานล่าช้าและไม่เป็นไปตามแผนที่กําหนด ดังนั้น จากประสบการณ์ ปฏิบัติงานที่ผ่านมา ผู้เขียนจึงได้รวบรวมประเด็นปัญหา/อุปสรรคที่สําคัญ และแนวทางการแก้ไขปัญหารวมทั้ง ข้อเสนอแนะในการพัฒนางานโดยสรุป ดังนี้ ปัญหำ อุปสรรค แนวทำงแก้ไขและกำรพัฒนำงำน ล ำดับที่ ปัญหำ/อุปสรรค แนวทำงกำรแก้ไขและกำรพัฒนำงำน 1 ยังขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ การกําห นดตัวชี้วัดความสําเร็จของ องค์กร(Key Performance Indicators : KPIs) ที่ถูกต้อง ศึกษาแนวปฏิบัติจากหน่วยงานอื่น ๆ ในการกําหนด ออกแบบและระบุเป้าหมายในการปฏิบัติงาน เพื่อนํามา ป ระยุ กต์ ใช้ ใน การกําห น ด การวัด ความสํ าเร็จของ หน่วยงานที่สามารถสนับสนุนต่อเป้าหมาย วิสัยทัศน์และ วัตถุประสงค์ของสํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ 2 การมีส่วนร่วมของบุคลากรในการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ องค์กรควรกําหนดให้การมีส่วนร่วมในการจัดการความรู้ เป็นปัจจัยหนึ่งในการประเมินผลงาน การยกย่องชมเชย และการให้รางวัลบุคลากร 3 การติดตามผลการดําเนินงานไม่ได้ตาม แ ผ น ที่ ว า งไว้ เนื่ อ งจ า ก มี ภ า ร ะ ง า น ประจํา/เร่งด่วน ควรมีการดําเนินงานตามแผนโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ และมีระบบการติดตามและประเมินผล โดยเทียบกับ เป้าหมายที่กําหนดอย่างสม่ําเสมอ 4 บุคลากรส่วนใหญ่ไม่ได้นําประสบการณ์/ ความรู้ที่มีอยู่เดิมมาต่อยอด องค์กรควรกําหนดให้KM และการใช้เครื่องมือ KM เป็น ส่วนหนึ่งของการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรและมีการ วัดประสิทธิผลของการฝึกอบรม 5 -บุคลากรส่วนใหญ่ต่างคนต่างทํางาน ซึ่ง บางครั้งเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ค่อยมีการ แลกเปลี่ยนความรู้หรือประสบการณ์กัน -บุคลากรส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าวิธีการที่ ทําอยู่ดีหรือถูกต้องที่สุดหรือไม่ -องค์กรควรมีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอด ความรู้ที่สําคัญของบุคลากรทั่วทั้งองค์กร รวมทั้งผู้ที่จะ ออกจากองค์กร -องค์กรควรมีระบบในการค้นหา ถ่ายทอดและนํา Best Practices ไปใช้

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๖๔ ข้อเสนอแนะ การปฏิบัติงานการจัดการความรู้ สํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ มหาวิทยาลัย อุบลราชธานี เป็นการปฏิบัติงานที่สําคัญหรือกิจกรรมของกลุ่มหรือองค์กรเป็นหลัก ดังนั้น เพื่อให้การ ปฏิบัติงานประสบผลสําเร็จตามวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายและสําเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั้น มีข้อเสนอแนะในการ พัฒนางานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังนี้ ๑. ผู้บริหารกําหนดให้การจัดการความรู้เป็นกลยุทธ์สําคัญขององค์กร ๒. องค์กรกําหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวพร้อมตัววัดการจัดการความรู้ซึ่งเชื่อมโยงกับ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร ๓. ควรมีพัฒนาทักษะในการติดต่อและประสานงานกับภายในหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป ให้เกิดความร่วมมือในงานและแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญที่เป็นประโยชน์ ต่อการจัดการความรู้ของสํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ๔. ควรถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจในการจัดการความรู้แก่บุคลากรทุกคนในหน่วยงานเพื่อสร้าง ความเข้าในแนวทางเดียวกันเกี่ยวกับการจัดการความรู้ของสํานักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ โดย อาจเผยแพร่คู่มือการปฏิบัติงานเป็นลายลักษณ์อักษรและแจ้งเวียนให้บุคลากรทุกคนทราบ ๕. ควรรับฟังคําแนะนํา ความคิดเห็นของสมาชิกในทีม และเต็มใจเรียนรู้จากผู้อื่น ตัดสินใจ จากความคิดเห็นของเพื่อนร่วมทีมประสานและส่งเสริมสัมพันธภาพอันดีในทีมเพื่อสนับสนุนการทํางานร่วมกัน ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ๖. การเผยแพร่องค์ความรู้ควรเข้าถึงได้ง่าย และหากเผยแพร่ในวงกว้างจักเกิดประโยชน์ต่อ หน่วยงานอื่นได้ด้วย เช่น เผยแพร่องค์ความรู้ ในเว็บไซต์ของสํานักฯ ๗. ควรทดลองนําความรู้ที่ได้จากการ KM ไปใช้ในการปฏิบัติงานจริงอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อ นําไปสู่การดําเนินงานด้าน KM ให้ครบทั้งกระบวนการและเกิดประโยชน์ต่อองค์กร

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๖๕ บรรณำนุกรม เรืองชัย จรุงศิรวัฒ น์. ๒๕๓๓. เทคนิคกำรเขียนคู่มือปฏิบัติงำน. ขอนแก่น : ศูนย์ผลิตเอกสาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิจารณ์ พานิช. 2548. กำรจัดกำรควำมรู้ฉบับนักปฏิบัติ. กรุงเทพ ฯ : สํานักพิมพ์สุขภาพใจ สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ. 2548. คู่มือกำรจัดท ำ แผนกำรจัดกำรควำมรู้ : โครงการพัฒนาส่วนราชการ ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และการ จัดการความรู้ในส่วนราชการ. กรุงเทพ. “พระรำชกฤษฎีกำ ว่ำด้วยหลักเกณฑ์และวิธีกำรบริหำรกิจกำรบ้ำนเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มำตรำ ๑๑” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 120 ตอนที่ 100 ก, 9 ตุลาคม 2546. ประกาศคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ก.พ.อ. เรื่อง “มำตรฐำนก ำหนด ต ำแหน่งผู้ปฏิบัติงำนบริหำร(ช ำนำญงำน)ประเภททั่วไป, วันที่ 21 กันยายน 2553

คู่มือการปฏิบัติงานการจัดการความรู้นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทยต าแหน่ง ผู้ปฏิบัติงานบริหาร หน้า ๖๖ ภาคผนวก

ภาคผนวก ๑ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และแนวปฏิบัติต่างๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน (น าเสนอเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน) เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติปี 2563 - 2564 [ออนไลน์]เข้าถึงได้จาก : https://www.tqa.or.th/book/tqa_criteria2020-2021/ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี“รายงานผลการการประเมินคุณภาพภายใน ส านักบริหารทรัพย์สินและ สิทธิประโยชน์ปีการศึกษา 2563 วันที่ 1 – 2 พฤศจิกายน 2564” [ออนไลน์ ]เข้าถึงได้จาก : https://www.edoc.ubu.ac.th/files/1952021112210221344.pdf มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ว่าด้วยจรรยาบรรณของบุคลากร พ.ศ.2552”[ออนไลน์ ]เข้าถึงได้จาก : http://www.ubu.ac.th/web/files_up/16f2011080111112192.pdf

ภาคผนวก ๒ ตัวอย่างเอกสารและแบบฟอร์มประเภทต่าง ๆ ที่ใช้ในการปฏิบัติงาน ค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการความรู้ ค าสั่งที่ 2/2563 แผนการจัดการความรู้ประจ าปีงบประมาณ 2564 ขอความอนุเคราะห์บุคลากร ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แนวปฏิบัติที่ดีเรื่องการบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (ส านักงานไร้กระดาษ) ระยะที่ 2 รายงานผลการด าเนินงานการจัดการความรู้ประจ าปีงบประมาณ 2563 - 2564 รูปภาพการจัดการความรู้ประจ าปีงบประมาณ 2564 ค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการความรู้ ค าสั่งที่ 3/2565 แบบฟอร์มการจัดท าแผนพัฒนา (Improvement Plan) รายงานการประชุมคณะกรรมการจัดการความรู้ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ใบสรุปเรื่องเสนอที่ประชุมส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ประจ าเดือน มีนาคม 2565 เรื่องการจัดการความรู้ส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ประจ าปีงบประมาณ 2565 รายงานการประชุมการแลกเปลี่ยนการพัฒนาระบบสารสนเทศของส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิ ประโยชน์ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 ใบสรุปเรื่องเสนอที่ประชุมส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ประจ าเดือน เมษายน 2565 เรื่องประชาสัมพันธ์การใช้งานระบบยื่นค าร้องออนไลน์ของส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ โครงการประกวดผลงานเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของบุคลากรส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ (PCMO KM 2022) ค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาผลงานโครงการ (PCMO KM 2022) ขออนุมัติอัตราค่าตอบแทนกรรมการและเงินรางวัล (PCMO KM 2022) ประชาสัมพันธ์การจัดประกวดผลงาน (PCMO KM 2022) ขอเชิญเข้าร่วมโครงการ (PCMO KM 2022) ไฟล์น าเสนอผลงานบุคลากร - ผลงาน ระบบยื่นค าร้องออนไลน์ - ผลงาน ระบบการแจ้งโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่น LINE Official Account - ผลงานการใช้งาน google sheet และ google drive ในการบริหารงบประมาณรายรับ และรายจ่ายประจ าปีของส านักฯ ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงอัตราอัตราเงินรางวัล รายงานผลการคัดเลือกการประกวดผลงานโครงการ (PCMO KM 2022) รูปภาพการจัดการความรู้ประจ าปีงบประมาณ 2565 แบบฟอร์มรายงานผลการด าเนินการตามแผนการจัดการความรู้ระดับคณะ/ส านัก ส่งกองแผนงาน

ก ำหนดกกำ แลกเปลี่ยดเ ียด ู้เ ื่อง กำ บ ิหนำ จักกำ เอกสำ อิเล็กท อดิกส์ (ส ำดักงำดไ ้ก ะกำษ) ะยะที่ 2 วัดพุธที่ 21 ก กฎำคม 2564 ณ หน้องป ะชุมชั้ด 2 ส ำดักบ ิหนำ ท ัพย์สิดและสิทธิป ะโยชด์ เวลำ หนัวข้อ 09.25 น. - 09.30 น. ลงทะเบียน 09.30 น .- 09.45 น. แจ้งแผนการจัดการความรู้ ประจ าปีงบประมาณ 2564 รายงานผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการการจัดการความรู้ ระดับคณะ/ส านัก ประจ าปีงบประมาณ 2564 09.45 น. - 10.00 น. แจ้งวิธีการใช้งานโปรแกรมแบบฟอร์มออนไลน์ (ฝ่ายบริหารจัดการทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์) 1. แบบฟอร์มค าร้องทั่วไป 2. แบบฟอร์มขอความอนุเคราะห์บุคลากร 10.00 น.- 10.10 น. แจ้งวิธีการใช้งานโปรแกรมแบบฟอร์มออนไลน์ (ส านักงานผู้อ านวยการ) 1. แบบฟอร์ม ยืมวัสดุ – อุปกรณ์ 10.10 น.- 11.00 น. แจ้งวิธีการใช้งานโปรแกรมแบบฟอร์มออนไลน์ (ฝ่ายหอพักนักศึกษา) 1. แบบฟอร์มเช่าชุดเครื่องนอนหอพักนักศึกษา 2. แบบฟอร์มค าร้องทั่วไปอื่น ๆ 2.1 ขออนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าพัก 2.2 ขอให้ตรวจสอบค่าไฟฟ้า 2.3 ขอยกเว้นค่าหอพักงวดที่ 2 2.4 ขอดูภาพกล้วง CCTV 2.5 ขอเคลื่อนย้ายครุภัณฑ์ 3. แบบฟอร์มค าร้องขอย้ายห้องพัก 4. แบบฟอร์มค าร้องลาออกจากหอพัก 5. แบบฟอร์มขอผ่อนผันค่าหอพักงวดที่ 2 11.00 น.- 11.05 น. ก าหนดวัน การแบ่งปันความรู้/ เรื่องเล่าจากการน าความรู้ไปใช้ 11.05 น.- 11.30 น. ตอบข้อซัก-ถาม แลกเปลี่ยนความเห็น - ปัญหา/อุปสรรคการเสนอหนังสือสั่งการออนไลน์ปีงบประมาณ 2563 - ปัญหา/อุปสรรคการใช้งานระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานออนไลน์ - รับฟังข้อเสนอแนะ ระบบแบบฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ของส านักบริหารทรัพย์สินฯ ผู้พัฒดำโป แก ม คุณวิชชุภงค์ ลิมปิทีปราการ ต าแหน่ง นักวิชาการคอมพิวเตอร์ช านาญการ สังกัดคณะศิลปศาสตร์ หนมำยเหนตุ : ก าหนดการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามเหมาะสมและความจ าเป็น โดยยังคงเนื้อหาและสาระส าคัญของประเด็นแลกเปลี่ยนไว้

แนวปฏิบัติที่ดีเรื่องการบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (ส านักงานไร้กระดาษ) ระยะที่ 2 แลกเปลี่ยนเรียนรู้วันพุธที่ 21 กรกฎาคม 2564 ณ ห้องประชุมชั้น 2 ส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ 1.หลักการและเหตุผล การบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์(ส านักงานไร้กระดาษ) ระยะที่ 2 เป็นโครงการที่ต่อเนื่องจาก การบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (ส านักงานไร้กระดาษ) ปีงบประมาณ 2563 ซึ่งโครงการเป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาระบบสารสนเทศของส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ให้มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเป็นเครื่องมือใช้ในการปฏิบัติงาน จากเดิมนักศึกษาต้องมาติดต่อขอกรอกแบบฟอร์มเพื่อยื่นค าร้องที่ส านักงาน ด้วยตนเอง ซึ่งระบบรับค าร้องอิเล็กทรอนิกส์นี้สามารถรับค าร้องจากนักศึกษา ผู้ประกอบการและผู้มาติดต่อราชการ กับส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ทุกเมื่อทุกเวลา ส่งผลให้การปฏิบัติงานเป็นไป ด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกและลดภาระแก่ผู้ยื่นค าร้องในการ เตรียมเอกสาร ตลอดจนเพื่อเป็นการลดปริมาณการใช้ทรัพยากรกระดาษให้เกิดเป็นรูปธรรม ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้อง กับแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีระยะ5ปี(2563 - 2567) ยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนามหาวิทยาลัยไปสู่ การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล 2.วัตถุประสงค์ 1. เพื่อลดการใช้ทรัพยากร เช่น กระดาษ ค่าถ่ายเอกสาร 2. เพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติงานและอ านวยความสะดวกให้แก่ผู้มาติดต่อราชการ 3. เพื่อจัดท าระบบรับค าร้องทางอิเล็กทรอนิกส์ในการให้บริการแก่ผู้มาติดต่อราชการ 3. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ สามารถลดปริมาณการใช้กระดาษมากยิ่งขึ้น 2. ผู้มาติดต่อราชการได้รับความสะดวก 3. มีระบบรับค าร้องทางอิเล็กทรอนิกส์ในการให้บริการแก่ผู้มาติดต่อราชการ 4. ถ่ายทอดองค์ความรู้โดย บุคลากรส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์และคุณวิชชุภงค์ ลิมปิทีปราการ ต าแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ช านาญการ สังกัดคณะศิลปศาสตร์แลกเปลี่ยนประเด็นร่วมกัน 5. ประเด็นในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 1. แจ้งแผนการจัดการความรู้ ประจ าปีงบประมาณ 2564 2. รายงานผลการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการการจัดการความรู้ ระดับคณะ/ส านัก ประจ าปี งบประมาณ 2564 3. แจ้งวิธีการใช้งานโปรแกรมแบบฟอร์มออนไลน์ (ฝ่ายบริหารจัดการทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์) 3.1 แบบฟอร์มค าร้องทั่วไป 3.2 แบบฟอร์มขอความอนุเคราะห์บุคลากร 4. แจ้งวิธีการใช้งานโปรแกรมแบบฟอร์มออนไลน์ (ส านักงานผู้อ านวยการ) 4.1แบบฟอร์ม ยืมวัสดุ – อุปกรณ์

๒ 5. แจ้งวิธีการใช้งานโปรแกรมแบบฟอร์มออนไลน์ (ฝ่ายหอพักนักศึกษา) 5.1 แบบฟอร์มเช่าชุดเครื่องนอนหอพักนักศึกษา 5.2 แบบฟอร์มค าร้องทั่วไปอื่น ๆ 5.2.1 ขออนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าพัก 5.2.2 ขอให้ตรวจสอบค่าไฟฟ้า 5.2.3 ขอยกเว้นค่าหอพักงวดที่ 2 5.2.4 ขอดูภาพกล้วง CCTV 5.2.5 ขอเคลื่อนย้ายครุภัณฑ์ 5.3 แบบฟอร์มค าร้องขอย้ายห้องพัก 5.4 แบบฟอร์มค าร้องลาออกจากหอพัก 5.5 แบบฟอร์มขอผ่อนผันค่าหอพักงวดที่ 2 6. แนวปฏิบัติที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 6.1 ส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์จะเริ่มใช้ระบบรับค าร้องอิเล็กทรอนิกส์ใน ปีงบประมาณ 2565 ส าหรับการให้บริการแก่ผู้มาติดต่อราชการ คือ นักศึกษา ผู้ประกอบการ และผู้มาติดต่อ ราชการทั่วไปโดยสามารถเข้าใช้งานได้ที่ www.ubu.ac.th/web/pnr เลือกเมนูแบบฟอร์มออนไลน์เข้าใช้ งานระบบโดยใช้รหัสเดียวกับรหัสเข้าอินเตอร์เน็ตมหาวิทยาลัย 6.2 แบบฟอร์มค าร้องออนไลน์นี้จะได้รับการอนุมัติตามล าดับการก าหนดสิทธิ์ (เจ้าหน้าที่/หัวหน้า ฝ่าย/รองผู้อ านวยการ/ผู้อ านวยการส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์) ตามอ านาจที่ได้รับมอบหมาย 6.3 ผู้ยื่นค าร้องสามารถตรวจสถานะเอกสารได้ด้วยตนเองโดยการเข้าใช้งานในระบบ 6.4 แบบฟอร์มขอความอนุเคราะห์บุคลากรไม่ต้องใช้งานแบบฟอร์มออนไลน์แต่ให้คงเมนูไว้ใน ระบบ 6.5 แบบฟอร์มค าร้องทั่วไป ฝ่ายบริหารจัดการทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ส าหรับผู้ประกอบการ ไม่ต้องใช้รหัสล็อกอินเพื่อเข้าระบบ ช่องกรอกข้อมูลให้คงไว้ถึงช่องที่ 2 ความเห็นของเจ้าหน้าที่ จากนั้นให้ ธุรการดาวน์โหลดไฟล์เอกสารน าเสนอผู้มีอ านาจอนุมัติตามล าดับผ่านระบบ E-Document ของมหาวิทยาลัย 6.6 เอกสารสามารถส่งออกเป็นไฟล์PDF และสั่งพิมพ์ได้ 7. ข้อเสนอแนะ 7.1 นักศึกษาปีที่ 1 ยังไม่มีรหัสเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตมหาวิทยาลัย ขอให้ใช้รหัสเข้าอินเตอร์เน็ตที่ ก าหนดขึ้นมาเฉพาะ เช่น ชื่อผู้ใช้งาน PCMO รหัสผ่าน 1234 (กรณีสละสิทธิ์ไปมหาวิทยาลัยอื่น) 7.2 เปลี่ยนเลขที่แบบฟอร์มยื่นค าร้องให้เรียงล าดับติดต่อกันไปตลอดปีปฏิทิน 7.3 เพิ่มช่องให้สามารถแนบไฟล์เอกสารในแบบฟอร์มได้ 7.4 เพิ่มสัญลักษณ์แจ้งเตือนเอกสารรับเข้าระบบเมื่อมีเอกสารใหม่ ๆ หน้าเมนูแต่ละแบบฟอร์ม 7.5 เพิ่มช่องค้นหาชื่อผู้ยื่นค าร้องเพื่อให้สะดวกในการค้นหาไฟล์เอกสาร 7.6 เพิ่มบังคับให้ผู้ยื่นค าร้องจ าเป็นต้องกรอกข้อมูลนั้น ๆ ถึงจะสามารถบันทึกข้อมูลได้

๓ 7.7 เพิ่มวันที่ยื่นค าร้องในแบบฟอร์มอัตโนมัติ และ เพิ่มวันที่ของผู้มีอ านาจอนุมัติตามล าดับ 7.8 เพิ่มชื่อ – สกุลผู้ยื่นค าร้องอัตโนมัติ 7.9 แก้ไข ชื่อเจ้าหน้าที่ จากเดิม นางสาวกมลชนก เทศนา เป็น นางสาวกมลชนก พิญพงศ์ 7.10 แก้ไข / เพิ่มเติม ข้อความแบบฟอร์ม (ตัวอย่างตามเอกสารแนบ) 7.11 แสดงเมนูรายการแบบฟอร์มในหน้าแรกไม่ต้องซ่อนลิสต์รายการ(ตัวอย่างตามเอกสารแนบ) 7.12 ก าหนดสิทธิ์ผู้มีอ านาจอนุมัติทุกแบบฟอร์ม (ตัวอย่างตามเอกสารแนบ)

แบบฟอร์มประสงค์จัดท ำระบบโปรแกรมออนไลน์ส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ฝ่ำยหอพัก 1. แบบค ำร้องทั่วไป บุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ยื่นค ำร้อง> เจ้ำหน้ำที่ส ำนักงำนลงควำมเห็น> หัวหน้ำส ำนักงำนหอพักให้ ควำมเห็น/ค ำสั่ง> ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ พิจำรณำ/ค ำสั่ง 1.1 ขอยกเว้นค่ำหอพักงวดที่ 2 1.2 ขอให้ตรวจสอบค่ำไฟฟ้ำ 1.3 ขอดูภำพจำกกล้อง CCTV 1.4 ขอเคลื่อนย้ำยครุภัณฑ์ 1.5 ขออนุญำตให้ผู้ปกครองเข้ำพักในห้องพัก 1.6 ค ำร้องทั่วไปอื่นๆ 2. แบบค ำร้องขอย้ำยห้องพัก บุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ยื่นค ำร้อง> อำจำรย์ที่ปรึกษำประจ ำหอพัก ให้ควำมเห็น > เจ้ำหน้ำที่ส ำนักงำน หอพักให้ควำมเห็น> หัวหน้ำส ำนักงำนหอพักพิจำรณำ/อนุมัติ > ผู้ยื่นค ำร้องรับทรำบผลกำรพิจำรณำ 3. แบบค ำร้องลำออกจำกหอพัก บุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ยื่นค ำร้อง> เจ้ำหน้ำที่ส ำนักงำนหอพักให้ควำมเห็น > ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำร ทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ พิจำรณำ/อนุมัติ 4. แบบค ำร้องขอรับเงินค่ำประกันทรัพย์สินเสียหำยคืน บุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ยื่นค ำร้อง> เจ้ำหน้ำที่ส ำนักงำนหอพัก, เจ้ำหน้ำที่กำรเงิน ตรวจสอบข้อมูล 5. แบบค ำร้องขอผ่อนผันกำรช ำระค่ำหอพักงวดที่ 2 บุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ยื่นค ำร้อง > เจ้ำหน้ำที่ส ำนักงำนหอพักตรวจสอบ/ให้ควำมเห็น > หัวหน้ำ ส ำนักงำนหอพักให้ควำมเห็น > ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ พิจำรณำ/ อนุมัติ 6. แบบเช่ำชุดเครื่องนอนหอพัก บุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ยื่นค ำร้อง > เจ้ำหน้ำที่ส ำนักงำนหอพักตรวจสอบ/ให้ควำมเห็น > หัวหน้ำ ส ำนักงำนหอพักให้ควำมเห็น > ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ พิจำรณำ/ อนุมัติ ฝ่ำยบริหำรจัดกำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ 1. แบบฟอร์มค ำร้องทั่วไป ผู้ประกอบกำร ผู้ยื่นค ำร้อง> หัวหน้ำฝ่ำยสิทธิประโยชน์ฯให้ควำมเห็น> รองผู้อ ำนวยกำรพิจำรณำให้ ควำมเห็นเบื้องต้น>ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ พิจำรณำ/สั่งกำร 2. แบบฟอร์มขอควำมอนุเครำะห์บุคลำกร บุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ยื่นค ำร้อง> หัวหน้ำฝ่ำยที่เกี่ยวข้องฯให้ควำมเห็น> ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำร ทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ พิจำรณำ/สั่งกำร

ส ำนักงำนผู้อ ำนวยกำร 1. แบบฟอร์ม ยืมวัสดุ – อุปกรณ์ บุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้ยื่นค ำร้อง > เจ้ำหน้ำที่พัสดุตรวจสอบ/ให้ควำมเห็น > หัวหน้ำส ำนักงำน ผู้อ ำนวยกำรให้ควำมเห็น > ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ พิจำรณำ/อนุมัติ 2. แบบฟอร์ม ขออนุมัติลำพักผ่อน/ป่วย/กิจส่วนตัว/ลำคลอด - บุคลำกร/ตัวแทนฝ่ำยที่รับผิดชอบ > ยื่นเรื่องผ่ำนจดหมำยอิเล็กทรอนิกส์ให้งำนบุคคลเพื่อคุมสถิติกำร ลำในปีงบประมำณนี้ > งำนบุคคลเสนอหัวหน้ำฝ่ำยฯ เพื่อแสดงควำมเห็นของผู้บังคับบัญชำ > หัวหน้ำฝ่ำย เสนอรองผู้อ ำนวยกำรฯ ให้มีค ำสั่งอนุญำต หรือไม่อนุญำต > รองผู้อ ำนวยกำรฯ แจ้งงำนบุคคลเพื่อแจ้งเวียน ผู้เกี่ยวข้องทรำบ และด ำเนินกำรลงทะเบียนคุมกำรลำ 3. ประเมินผลกำรปฏิบัติรำชกำรของพนักงำนมหำวิทยำลัย จ ำนวน 10 คน 3.1 กำรประเมินผลสัมฤทธิ์ของงำน (TOR) 70 คะแนน ดังนี้ 3.1.1 ประเมินตำมภำระงำนของพนักงำนมหำวิทยำลัย (ตำมจ ำนวนข้อใน TOR) 65 คะแนน 3.1.2 ตำมประเภทกำรลำ 5 คะแนน 3.2 กำรประเมินพฤติกรรมกำรปฏิบัติรำชกำร (5 ข้อ) 30 คะแนน ***********************************************

1 ฝ่ายหอพักนักศึกษา 1. แบบฟอร์มเช่าชุดเครื่องนอนหอพักนักศึกษา หมายเหตุ1.แบบฟอร์มนี้ใช้ควบคู่กับบันทึกข้อความขอความอนุเคราะห์เช่าชุดเครื่อง นอนจากคณะ/หน่วยงานของผู้ขอเช่า 2. อัตราค่าเช่า 30 บาท/ชุด/3 วัน เพิ่มส่วนที่ จนท.ต้องกรอกเพิ่มภายหลังดังนี้(สิทธิ์= นางสาวศิริลักษณ์ ทองไทย) ผู้เช่าได้รับวัสดุ/อุปกรณ์ต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว จ านวน....ชุด วันที่......(เลือกวันที่อัตโนมัติ).... ผู้เช่าได้คืนวัสดุ/อุปกรณ์ต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว จ านวน....ชุด วันที่......(เลือกวันที่อัตโนมัติ).... ผู้เช่าได้ช าระค่าเช่า เป็นเงินจ านวน..........บาท ใบเสร็จเล่มที่..........เลขที่.................วันที่.......(เลือกวันที่อัตโนมัติ)....

2 2. แบบฟอร์มค าร้องทั่วไป 2.1 ขออนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าพักในห้องพัก ท ำช่องให้กรอกข้อควำม ท ำช่องให้กรอกข้อควำม วันเดือนปี(อัตโนมัติ) นำงสำวกมลชนก พิญพงศ์ ใส่ชื่อ-สกุลผู้ยื่นค ำร้อง อัตโนมัติ (ดร.วศิน โกมุท) รองผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ปฏิบัติรำชกำรแทน ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์

3 2.2 ขอให้ตรวจสอบค่าไฟฟ้า วันเดือนปี(อัตโนมัติ) นำงสำวกมลชนก พิญพงศ์ ใส่ชื่อ-สกุลผู้ยื่นค ำร้อง อัตโนมัติ (ดร.วศิน โกมุท) รองผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ปฏิบัติรำชกำรแทน ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์

4 2.3 ขอยกเว้นค่าหอพักงวดที่ 2 วันเดือนปี(อัตโนมัติ) นำงสำวกมลชนก พิญพงศ์ ตำมที่วงไว้ วันเดือนปี ขอเป็นรูปแบบ เช่น 21 กรกฎำคม 2564 ระหว่ำงวันที่ ถึงวันที่ ภำยในวันที่ ใส่ชื่อ-สกุลผู้ยื่นค ำร้อง อัตโนมัติ (รศ.ดร.อดุลย์ จรรยำเลิศอดุลย์) ผู้อ ำนวยกำร ส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์

5 2.4 ขอดูภาพกล้อง CCTV วันเดือนปี(อัตโนมัติ) ท ำช่องให้กรอกข้อควำม นำงสำวกมลชนก พิญพงศ์ ใส่ชื่อ-สกุลผู้ยื่นค ำร้อง อัตโนมัติ (ดร.วศิน โกมุท) รองผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ปฏิบัติรำชกำรแทน ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์

6 2.5 ขอเคลื่อนย้ายครุภัณฑ์ วันเดือนปี(อัตโนมัติ) ท ำช่องให้กรอกข้อควำม ท ำช่องให้กรอกข้อควำม ท ำช่องให้กรอกข้อควำม นำงสำวกมลชนก พิญพงศ์ ใส่ชื่อ-สกุลผู้ยื่นค ำร้อง อัตโนมัติ

7 2.6 ค าร้องทั่วไปอื่นๆ เพิ่มล าดับที่ (5) ความเห็น/ค าสั่งรองผู้อ านวยการส านักบริหาร ทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ (ดร.วศิน โกมุท) รองผู้อ ำนวยกำร ส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ค ำสั่งผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ (รศ.ดร.อดุลย์ จรรยำเลิศอดุลย์) ผู้อ ำนวยกำร ส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์

8 3. แบบฟอร์มค าร้องขอย้ายห้องพัก ส่วนที่ (2) แก้ไขดังนี้ช่อง จนท.สามารถเลือกได้หลายช่อง (2) ความเห็นของเจ้าหน้าที่ส านักงานหอพัก แจ้งอาจารย์ที่ปรึกษาหอพักรับทราบเรียบร้อยแล้ว ใส่ชื่อ-สกุลผู้ยื่นค ำร้อง อัตโนมัติ (2) (3)

9 อาจารย์ที่ปรึกษาหอพักได้พูดคุยและให้ค าปรึกษาแก่นักศึกษาแล้ว กรณีพักห้อง 2-4 คน สมาชิกห้องใหม่รับทราบและยินยอมให้ผู้ยื่นค าร้องย้ายเข้าพักอาศัยด้วย ความเห็นอื่นๆ ดังนี้................................................................................................................... จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ลงชื่อ................................. (นางสาวกมลชนก พิญพงศ์) เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 4. แบบฟอร์มลาออกจากหอพักนักศึกษา ใส่ชื่อ-สกุลผู้ยื่นค ำร้อง อัตโนมัติ นำงสำวกมลชนก พิญพงศ์ (ดร.วศิน โกมุท) รองผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ปฏิบัติรำชกำรแทน ผู้อ ำนวยกำรส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ (4) ค าสั่งผู้อ านวยการส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ หัวหน้ำส ำนักงำนหอพัก (3) (นางสาวระพีพร ประทุมเลิศ) หัวหน้าส ำนักงำนหอพัก

10 5. แบบฟอร์มขอผ่อนผันระยะเวลาการช าระค่าหอพัก ขอผ่อนผันระยะเวลำกำรช ำระค่ำหอพัก วันเดือนปี(อัตโนมัติ) ใส่ชื่อ-สกุลผู้ยื่นค ำร้อง อัตโนมัติ นำงสำวกมลชนก พิญพงศ์ (รศ.ดร.อดุลย์ จรรยำเลิศอดุลย์) ผู้อ ำนวยกำร ส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ หัวหน้ำส ำนักงำนหอพัก

11 ส านักงานผู้อ านวยการ 1. แบบฟอร์ม ยืมวัสดุ – อุปกรณ์ ใส่ชื่อ-สกุลผู้ยืมอัตโนมัติ (2) (นำยกันตินันท์ ตำบุดดำ) นักวิชำกำรพัสดุ (3) (นำยธเนศ สีห์พิทักษ์เกียรติ) หัวหน้ำส ำนักงำนผู้อ ำนวยกำร เพิ่มส่วนที่ จนท.ต้องกรอกเพิ่มภายหลังดังนี้(สิทธิ์= นายกันตินันท์ ตาบุดดา) ผู้ยืมได้รับวัสดุ/อุปกรณ์ต่างๆ ครบถ้วนแล้ว จ านวน........ วันที่......(เลือกวันที่อัตโนมัติ).... ผู้ยืมได้คืนวัสดุ/อุปกรณ์ต่างๆ ครบถ้วนแล้ว จ านวน....... วันที่......(เลือกวันที่อัตโนมัติ)....

12 ฝ่ายบริหารจัดการทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ 1. แบบฟอร์มค ำร้องทั่วไป นำงสำวดำริกำ โทนหงสำ / นำงสำวพิมพำ ค ำมุงคุณ เจ้ำหน้ำที่

13 แบบฟอร์มออนไลน์ส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ มหำวิทยำลัยอุบลรำชธำนี หน้ำแรกให้โชว์เมนูแบบนี้เลย ไม่ต้องซ่อนลิสเมนู

16/12/65 1 รายงานผลการด าเนินงานการจัดการความรู้ส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ประจ าปีงบประมาณ 2563 - 2564 ปี งบประมาณ 2563 ส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ได้จัดโครงกำรกำรจัดกำรควำมรู้ ในหัวข้อสนับสนุนภำรกิจเรื่อง “กำรบริหำรจัดกำรเอกสำรอิเล็กทรอนิกส์ (ส ำนักงำนไร้กระดำษ)” ในวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕๖3 จำกกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันได้แนวปฏิบัติ เรื่องกำรเสนอหนังสือ เอกสำร แบบฟอร์มค ำร้องต่ำง ๆ ของส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ต่อผู้บังคับบัญชาผ่านระบบบริหารงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ แทนการเสนอ แบบเดิม คือ จัดเอกสารเสนอสั่งการผ่านแฟ้มเสนองาน ส่งผลให้มีการลดขั ้นตอนการท างาน และลดงบประมาณที่สิ ้นเปลืองไปกับกระดาษ ลดพื ้นที่จัดเก็บเอกสารในส านักงาน ปี งบประมาณ 2564 ส ำนักบริหำรทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ได้จัดโครงกำรกำรจัดกำรควำมรู้ ในหัวข้อสนับสนุนภำรกิจเรื่อง “กำรบริหำรจัดกำรเอกสำรอิเล็กทรอนิกส์ (ส ำนักงำนไร้กระดำษ) ระยะที่2” ในวันพุธที่ 21 กรกฎำคม พ.ศ. ๒๕๖4 เป็นโครงการที่ต่อเนื่องปีงบประมาณ 2563ซึ่งโครงการเป็นส่วนหนึ่งในการ พัฒนาระบบสารสนเทศของส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ให้มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นเครื่องมือใช้ในการปฏิบัติงานจากเดิม นักศึกษาต้องมาติดต่อขอกรอกแบบฟอร์มเพื่อยื่นค าร้องที่ส านักงาน ด้วยตนเอง ซึ่งระบบรับค าร้องอิเล็กทรอนิกส์นี ้สามารถรับค าร้องจากนักศึกษา ผู้ประกอบการและผู้มาติดต่อราชการกับส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ทุกเมื่อทุกเวลา ส่งผลให้การปฏิบัติงาน เป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั ้งเพื่อเป็นการอ านวยความสะดวกและลดภาระแก่ผู้ยื่นค าร้องในการเตรียมเอกสาร ตลอดจนเพื่อ เป็นการลดปริมาณการใช้ทรัพยากรกระดาษให้เกิดเป็นรูปธรรม ทั ้งนี ้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ระยะ5ปี (2563 - 2567) ยุทธศาสตร์ที่ 5 พัฒนามหาวิทยาลัยไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล

16/12/65 2 ล ำดบัรำยกำรใช้เอกสำรอเิลก็ทรอนิกส์ ปงีบประมำณ 63 (แผน่ ) ปงีบประมำณ 64 (แผน่ ) ปงีบประมำณ 63 (บำท) ปงีบประมำณ 64 (บำท) หมำยเหตุ 1 การประชุมคณะกรรมการส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ 9,842 14,574 3,936.80 5,829.60 2 การประชุมส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ 44,352 56,400 17,740.80 22,560.00 3 การเก็บเอกสารวางฎีกาดว้ยไฟล์สแกน แทน การส าเนา 3,504 15,380 1,401.60 6,152.00 4 การเสนอแบบฟอร์ม,บันทึก(ผ่านระบบE-doc) ฝ่ายส านักงานผู้อ านวยการ 340 896 74.80 197.12 5 การเสนอแบบฟอร์ม,บันทึก(ผ่านระบบE-doc) ฝ่ายบริหารจัดการทรัพย์สินฯ 239 1,184 52.58 260.48 6 การเสนอแบบฟอร์ม,บันทึก(ผ่านระบบE-doc) ฝ่ายหอพกั 325 917 71.50 201.74 7 การแจ้งเวียนเอกสารประชาสัมพนัธ์ถึงคณะ หน่วยงาน ผ่านระบบ (E-doc) 76 562 16.72 123.64 8 ระบบประเมนิผลปฏิบัตริาชการพนักงาน 3,117 6,440 685.74 1,416.80 9 ระบบลาออนไลน์ 0 95 0.00 20.90 10 การลดส าเนาคฉู่บับเอกสารฝ่ายส านักงานผู้อ านวยการ 2,603 2,674 572.66 588.28 11 การลดส าเนาคฉู่บับเอกสารฝ่ายบริหารจัดการทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ 531 675 116.82 148.50 12 การลดส าเนาคฉู่บับเอกสารฝ่ายหอพกั 338 399 74.36 87.78 รวม 65,267 100,196 24,744.38 37,586.84 รวมลดกำรใช้กระดำษทงั้สนิ้ รวมลดงบประมำณทงั้สนิ้ ค านวณคา่กระดาษ คดิจากตน้ทุน คา่ถ่ายเอกสารแผ่นละ 0.40 บาท ค านวณคา่กระดาษ คดิจากตน้ทุน คา่ซื้อกระดาษรีมละ 110 บาท คดิเป็นแผ่นละ 0.22 บาท 165,463 แผน่ 62,331.22 บำท สรุปการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้กระดาษส านักบริหารทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ ระหว่างปีงบประมาณ 2563 - 2564 ล ำดับ รำยกำร หน่วย นับ รำคำต่อ หน่วย (บำท) ปริมำณกำรใช้งำน ค่ำใช้จ่ำย (บำท) ปีงบประมำณ 63 ปีงบประมำณ 64 ปีงบประมำณ 63 ปีงบประมำ ณ 64 1 ค่าจัดซื้อกระดาษ A4 รีม 110 170 70 18,700.00 7,700.00 2 ค่าจ้างเหมาร้านถ่ายเอกสาร แผ่น 0.4 43,088 32,990 17,235.20 13,196.00 3 ค่าเช่าเครื่องถ่ายเอกสาร RICOH พร้อมหมึกพิมพ์ เดือน 4,500 12 12 54,000.00 54,000.00 รวม 89,935.20 74,896.00 ค่ำใช้จ่ำยลดลง 15,039.20 หมำยเหตุ 1.ค่าจ้างเหมาร้านถ่ายเอกสาร ตามข้อ 2 เช่น จัดท าสมุดบันทึกการปฏิบัติงานของลูกจ้าง, เล่มสัญญาจ้างโครงการต่างๆ, ถ่ายเอกสารแบบ โครงการปรับปรุง/ก่อสร้าง, เอกสารงานจ้างเหมาบริการงานพัสดุ, เอกสารแบบส ารวจ/แบบประเมินต่างๆ ที่ใช้ปริมาณมาก ฯลฯ ค่ำใช้จ่ำยด้ำนเอกสำรในกำรปฏิบัติงำนระหว่ำงปีงบประมำณ 2563 และปีงบประมำณ 2564