Content หน้า
1
เรื่อง 2
กิตติกรรมประกาศ 5
บทสรุปผู้บริหาร 8
ที่มาและความสำคัญของโครงการ 8
เป้าหมาย 9
วัตถุประสงค์ 15
การปริทัศน์วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง 17
กรอบแนวคิด 18
วิธีการดำเนินงาน 19
ผู้ให้ข้อมูล 21
เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล 24
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล 25
ระยะเวลาดำเนินการและการส่งมอบงาน 25
ตารางรายงานระยะเวลาดำเนินงาน 26
งบประมาณ 26
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 27
ข้อตกลงและเงื่อนไขของโครงการ 33
การวิเคราะห์องค์การและบริบททางธุรกิจ 36
การระบุความต้องการสารสนเทศ 55
การจัดหาสารสนเทศ
การถอดบทเรียนโครงการ 66
ภาคผนวก 134
136
สารสนเทศที่จัดหา 142
อภิปรายผลการศึกษา 151
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลความต้องการสารสนเทศของ MobiLib 157
เครื่องมือเก็บรวบรวมสารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น Digital Agency 162
เครื่องมือเก็บรวบรวมสารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์ CSR 163
แผนการดำเนินงาน (Action Plan)
หนังสือรับรองการใช้ประโยชน์จาก Capstone Project
บรรณานุกรม
กิตติกรรมประกาศ
ในการทําโครงการบูรณาการวิจัยกับการปฎิบัติ Capstone Project ฉบับนี้สําเร็จลุล่วงได้อย่าง
สมบูรณ์ด้วยความกรุณาจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วิศปัตย์ ชัยช่วย ที่ได้สละเวลาอันมีค่าให้แก่ทีม
Mobility เพื่อให้คําแนะนําและคําปรึกษา แนวคิดอย่างมากมาย ตลอดจนตรวจทานแก้ไขข้อบกพร่องปัญหา
ด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง จนโครงงานฉบับนี้สําเร็จสมบูรณ์ลุล่วงได้ด้วยดี ทางทีมงานขอขอบพระคุณ
เป็นอย่างสูง ไว้ ณ ที่นี้
ขอขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กันยารัตน์ เควียเซ่น ตำแหน่งหัวหน้าสาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์
(iSchool KKU Chair) รองศาสตราจารย์ ดร.วิศปัตย์ ชัยช่วย ตำแหน่งประธานกรรมการหลักสูตร
สารสนเทศศาสตรบัณฑิต และอาจารย์ ดร.สมเพ็ชร จุลลาบุดดี ตำแหน่งเลขานุการหลักสูตรสารสนเทศ
ศาสตรบัณฑิต คณะผู้บริหารและดูแล MobiLib ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่งในการตรวจสอบข้อมูล
สารสนเทศในการวิจัยครั้งนี้
ขอขอบคุณคณะอาจารย์คณะมนุษยศาตร์และสังคมศาสตร์และคณะสาธารณสุขศาสตร์ที่ให้ความร่วมมือ
เป็นอย่างยิ่งในการเก็บข้อมูลสารสนเทศลูกค้าและสารสนเทศทางการตลาดและนักศึกษาหลักสูตรสารสนเทศ
ศาสตรบัณฑิตที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่งในการเก็บข้อมูลสารสนเทศบุคลากรในการวิจัยครั้งนี้
""""""ขอขอบคุณคณะคุณครูและนักเรียน โรงเรียนเครือข่ายที่เปิดสอนหลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัลในภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง 20 โรงเรียน เป็นอย่างยิ่งในการเก็บข้อมูลสารสนเทศนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
และสารสนเทศความต้องการเนื้อหาด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำแนวทางการ
ศึกษาต่อ iSchool KKU ในการวิจัยครั้งนี้
สุดท้ายนี้คุณค่าและองค์ความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาโครงการบูรณาการวิจัยกับการปฎิบัติ Capstone
Project ฉบับนี้ ขอให้เป็นประโยชน์และความรู้แก่ผู้อ่านทุกท่าน
ทีม Mobility
FINAL REPORT 1
บทสรุปผู้บริหาร
(Executive Summary)
เอกสารรายงานฉบับสมบูรณ์ในการดำเนินโครงการ (Final Report) สำหรับส่งมอบงานนี้จัดทำขึ้นตาม
ข้อกำหนดขอบเขตของงาน (TOR) โครงงานบูรณาการการเรียนรู้กับการปฏิบัติ (Capstone Project)
เรื่อง โครงการจัดหาสารสนเทศสำหรับสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ MobiLib
ประกอบด้วย 3 ส่วน สำคัญดังนี้
1. ความต้องการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ของ MobiLib
1.1 ต้องการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ (Strategic information) ในการเป็นวิ
สาหกิจจำลองประเภท Digital Agency ประกอบไปด้วย สารสนเทศบุคลากร,
สารสนเทศลูกค้า, สารสนเทศทางการตลาด
1.2 สารสนเทศเชิงสนับสนุน (Support information) ในการบริการ
วิชาการเพื่อสังคม (CSR) ประกอบด้วย สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย, สารสนเทศ
นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย, สารสนเทศความต้องการเนื้อหาด้านการเผยแพร่ความรู้
ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำแนวทางการศึกษาต่อ iSchool KKU ของนักเรียน
2. การจัดหาสารสนเทศเชิกลยุทธ์ที่มีคุณภาพสำหรับการสนับสนุน
การขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ MobiLib มีดังนี้
2.1 สารสนเทศสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ ประกอบด้วย
- สารสนเทศบุคลากร พบว่า iStudent รุ่นที่ 46 และ 47 มีความสามารถด้าน Digital Agency
ที่ตรงกับความต้องการของ MobiLib จำนวน 42 คน โดยจำแนกเป็น กลุ่ม Creativity และกลุ่ม
Communication โดยมี iStudent ที่พร้อมปฏิบัติงานจำนวน 23 คน
- สารสนเทศลูกค้า พบว่า มีแนวโน้มความเห็นตรงกันว่าปัจจุบัน Digital Content ได้เข้ามามีบทบาท
อย่างมาก โดยเฉพาะทางด้านการจัดการเรียนการสอนส่วนในด้านของความต้องการด้าน Digital Content
มีผู้ตอบแบบสำรวจต้องการและเห็นด้วยว่ารูปแบบ Digital Content แบบคลิปวิดิโอมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ในแง่ของปัญหาในการว่าจ้างทำ Digital Content คือ การสื่อสารในแง่การอธิบาย รายละเอียดของงาน
ที่เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ทำให้ได้งานที่ออกมาไม่ตรงกับความต้องการ และงานที่มอบหมายอาจ
เกินความสามารถ อีกทั้งต้องการหน่วยงานที่ผลิต Digital Content ให้ครอบคลุมทุกคณะและสาขาวิชา
อีกทั้งควรมีตำแหน่ง Account Executive (AE) ที่สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ทุกศาสตร์ เพื่อเป็นคนกลาง
ในการสื่อสารระหว่างลูกค้าและผู้ผลิตสื่อให้งานออกมา มีประสิทธิภาพมากที่สุด
FINAL REPORT 2
บทสรุปผู้บริหาร
(Executive Summary)
- สารสนเทศทางการตลาด พบว่า ทิศทางการของ Digital Technology ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ได้ปรับเปลี่ยนองค์กรให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ด้วยกลไกผ่านกลยุทธ์ 3 อย่างคือ
Digital Disruption, Social Concerns, Private Demand เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการเปลี่ยนเป็น
มหาวิทยาลัยดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งต้องการให้สื่อการเรียนการสอนปรับเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมให้
กลายเป็นดิจิทัลคอนเทนต์เพิ่มมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดจากทางมหาวิทยาลัยได้สนับสนุนให้มีหน่วยงานผลิตสื่อ
การเรียนออนไลน์ (Online learning production house) และสถานที่ผลิตสื่อที่ศูนย์นวัตกรรม
การเรียนการสอนนั่นคือ Production House ที่พร้อมด้วยอุปกรณ์ในการผลิตสื่อการเรียน การสอน
ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้องค์กร MobiLib ต้องผลิต Digital Content และพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อม
และศักยภาพที่เพียงต่อการผลิตสื่อ Digital เพื่อส่งต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายและเพื่อสร้างเครือข่ายได้
2.2 สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การทำ CSR ประกอบด้วย
- สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย พบว่า โรงเรียนเครือข่ายที่เปิดสอนหลักสูตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล
ภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวน 20 โรงเรียน จาก 100 โรงเรียนที่มีคุณภาพทั่วภาคตะวันออก
เฉียงเหนือ
- สารสนเทศนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย จากนักเรียนกลุ่มเป้าหมายโรงเรียนเครือข่ายที่เปิดสอนหลักสูตร
ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 10 โรงเรียน จาก 20 โรงเรียนที่เปิด
สอนในหลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัล พบว่า มีนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่สนใจและอยากเข้าศึกษาต่อในหลักสูตร
สารสนเทศศาสตรบัณฑิต (โครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่) iSchool KKU ทั้งหมด 46 คน
- สารสนเทศความต้องการเนื้อหาด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำแนวทาง
การศึกษาต่อ iSchool KKU ของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีความต้องการดิจิทัลคอนเทนต์ ด้าน Video
Content, Album Content ,Question & Opinion Content และด้าน Real Time Content
โดยมีความต้องการคอนเทนต์ในรูปแบบของการรีวิวหลักสูตร สาขา คณะ มหาวิทยาลัยจากประสบการณ์
รุ่นพี่โดยตรงมากที่สุด และในส่วนของด้าน Text Quote Content ต้องการให้จัดทำคอนเทนต์รูปแบบ
แนะนำ อธิบาย ทำความเข้าใจหลักสูตรเบื้องต้นมากที่สุด และสุดท้าย ด้าน Live Streaming & Meeting
Talking Content ต้องการคอนเทนต์ในรูปแบบเปิดพื้นที่พูดคุย ตอบคำถาม แลกเปลี่ยนความรู้ข้อสงสัย
3. การถอดบทเรียนโครงการ
พบว่าตลอดการดำเนินงานจัดหาสารสนเทศมีปัญหา อุปสรรค ข้อจำกัด ดังนี้
1. บุคลากร
ปัญหาภายในทีม คือ ไม่เข้าใจเนื้อหางาน มีความประมาทและขาดความรอบคอบ จึงต้องมีการวางแผน
การดำเนินงานที่ชัดเจน โดยการจัดทำ Action plan และยืดหยุ่นหน้าที่ในการทำงานมากยิ่งขึ้นและอุปสรรค
ในการดำเนินงาน มีการปรับเปลี่ยนการทำงานกลายเป็นห้องประชุมออนไลน์ จึงอาจทำให้การสื่อสาร
คลาดเคลื่อน ส่งผลให้ผลลัพธ์ของงานไม่ตรงตามความต้องการ จึงต้องพัฒนาทักษะการสื่อสารให้เข้าใจง่าย
อีกทั้ง APM (Assistant Project Manager) ต้องสรุปผลการสนทนาทุกครั้งที่รวมกลุ่มสนทนา เพื่อให้
สมาชิกในทีมสามารถทบทวนประเด็นได้ และอุปสรรคด้านการจัดหาข้อมูล
FINAL REPORT 3
บทสรุปผู้บริหาร
(Executive Summary)
เนื่องจากทางทีมได้รับมอบหมายให้จัดหาสารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย, นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย,
ความต้องการเนื้อหาการเผยแพร่ความรู้ และการแนะแนวการศึกษา ซึ่งต้องจัดหาสารสนเทศในช่องทาง
ออนไลน์ทั้งสิ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 อีกทั้งเว็บไซต์ของทางโรงเรียนไม่มีการอัปเดตให้เป็น
ปัจจุบัน จึงต้องสืบค้นหาช่องทางอื่น ๆ และได้ผลสรุปว่า ช่องทางติดต่อทาง Facebook Fanpage
ของโรงเรียนเป้าหมายมีช่องทางติดต่อที่ชัดเจนและที่ขาดไม่ได้คือ หนังสือขออนุญาตเก็บข้อมูลจะทำให้
สามารถติดต่อเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลได้สะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น
2. การบริหารจัดการ
ทางทีมไม่มีการกำหนดแผนงานที่ชัดเจนให้แก่สมาชิกในทีม ทำให้การทำงานไม่เป็นระบบ ข้ามขั้นตอน
อีกทั้งไม่มีการยืดหยุ่นในหน้าที่ของตน จึงทำให้ต้องมีการปรับการบริหารงานในรูปแบบที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
จึงกำหนด Action plan ที่ชัดเจน บุคคลใดรับผิดชอบส่วนใด ทำให้สร้างวินัยและมีเป้าหมายในการทำงานมาก
ยิ่งขึ้น อีกทั้งอุปสรรคในตัวบุคคลที่ไม่มีความพร้อมในการทำงาน ควรได้รับการกระตุ้นการทำงานจาก PM
(Project Manager) ที่ต้องให้สมาชิกในทีมมีเป้าหมายร่วมกันก่อนที่จะลงมือทำ และตั้งผลลัพธ์ในสิ่งที่ได้ทำ
ไปตลอดการทำงาน เช่น ร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางและวางแผนการทำงานให้มีความเข้าใจตรงกัน เล่นเกม
ผ่อนคลายหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ช่วยให้สมาชิกมีความสนิทสนมกันยิ่งขึ้น ซึ่งจะง่ายต่อการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น
3. เวลา
สมาชิกในทีมละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ไม่จัดสรรเวลาในการทำงานที่ดี จึงทำให้การทำงานมีสมาชิกไม่ครบ
องค์ประชุม อีกทั้งประมาทในการทำงานทำให้ทางทีมมีความชะล่าใจและมีการวางแผนที่ผิดพลาด ส่งผลให้ทีม
ไม่สามารถจัดส่ง Draft Final Report และ Final Report ฉบับสมบูรณ์ตามกำหนดการเดิมของ TOR ได้
4. โครงสร้าง
ทางทีมมีการแบ่งตำแหน่งหน้าที่ตามความถนัดอย่างชัดเจน ทำให้ทุกครั้งในการทำงานเฉพาะทักษะ
เช่น การตัดต่อ ขาดความยืดหยุ่นในหน้าที่ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขัดแย้งภายในทีมได้ จึงต้องมีวิธีการแก้
ปัญหาโดยมีการพูดคุย และหาข้อตกลงเพื่อให้มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น
FINAL REPORT 4
Introduction
บทนำ
ที่มาและความสำคัญของโครงการ
(Pain Point)
ภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงมากในช่วงเวลา 5 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งใน
อดีตอุตสาหกรรมไทยมีอัตราการเจริญเติบโตสูง แต่ในปัจจุบันการขยายตัวของอุตสาหกรรมได้ลดลง
ไปมาก ด้วยปัจจัยหลายอย่างทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในมีผลกระทบต่อการพัฒนา
อุตสาหกรรมไทย (สมศักดิ์ แต้มบุญเลิศชัย, 2558) Eastern Economic Corridor (EEC) จึงได้
มีการวางอุตสาหกรรมเป้าหมายซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศไทย
ให้ดำเนินได้อย่างก้าวหน้าและเข้มแข็ง
โดยอุตสาหกรรมเป้าหมายของ EEC นั้นประกอบไปด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการ
แปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์
อุตสาหกรรม การบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและ
เคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมการพัฒนาบุคลากรและ
การศึกษา
ซึ่งอุตสาหกรรมการพัฒนาบุคลากรและการศึกษามีความสำคัญในการผลิตบุคลากรเพื่อเข้าสู่ตลาด
แรงงานและการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมเพื่อให้มีทักษะที่สูงขึ้น (พลรพี ทุมมาพันธ์, 2564) ปัจจุบัน
หลาย ๆ องค์การได้เล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ จึงได้มีการเตรียมตัวเพื่อเตรียมความพร้อม
บุคลากรให้พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งจากการสำรวจความต้องการแรงงานใน 5 ปีข้างหน้าของ EEC
พบว่า มีความต้องการแรงงานมากกว่า 4.7 แสนตำแหน่ง (พลรพี ทุมมาพันธ์, 2564) โดยประเทศไทยอยู่ใน
ลำดับที่สูงเป็นอันดับ 14 จาก 82 ประเทศ จากการจัดอันดับประเทศในโลกด้านโอกาสในการทำงาน (World
Economics Forum, 2021) เพราะฉะนั้นอุตสาหกรรมการพัฒนาบุคลากรและการศึกษา จึงต้องเป็น
อุตสาหกรรมที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องการผลิตและพัฒนาบุคลากรเพื่อการขับเคลื่อนความก้าวหน้า
อุตสาหกรรมของประเทศ
MobiLib มีรากฐานมาจากโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ (Mobile Library) ภาควิชาบรรณารักษ์
ศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (iSchool KKU) เริ่มดำเนินการในปี
2524 ซึ่งมีบทบาทในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการอ่านและ
ทักษะการเรียนรู้ให้กับเด็กในชนบทและโรงเรียนเครือข่าย โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ขาดโอกาสใน
การเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนขั้นพื้นฐานที่จำเป็น (กลุ่มวิชาการจัดสารสนเทศและการสื่อสาร, 2554)
อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวได้หยุดชะงักลง เนื่องจากการเข้ามาของเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้นทำให้สื่อสิ่งพิมพ์
มีบทบาทและหน้าที่ลดน้อยลง ต่อมาในปี 2564 หลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต คณะมนุษยศาสตร์และ
สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (iSchool KKU) มีมตินำเอาโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่มาปรับภาพ
ลักษณ์ (Re-branding) โดยมีการวางกลยุทธ์ไว้ 2 เรื่อง คือ
1. การทำ CSR ส่งมอบสารสนเทศไปยังกลุ่มเป้าหมายและสร้างโรงเรียนเครือข่าย
2. เป็นวิสาหกิจจำลองให้กับนักศึกษา iSchool KKU
FINAL REPORT 5
ที่มาและความสำคัญของโครงการ
(Pain Point)
เมื่อพิจารณาตามเกณฑ์แล้ว อาจกล่าวได้ว่าการจัดการเรียน
การสอน การฝึกอบรมในสถาบันอุดมศึกษา จัดอยู่ในอุตสาหกรรม
การพัฒนาบุคลากรและการศึกษาเช่นเดียวกัน อภิชาต ทองอยู่
(2564) ได้กล่าวว่า “โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงเร็ว คนที่ทำงานอยู่
ต้อง Re-Skill ใหม่ การที่จะเปลี่ยนประเทศไทย จาก 2.5 เป็น 4.0
มันไม่ได้เปลี่ยนแค่เทคโนโลยี แต่มันหมายถึงปริมาณคนทำงานที่ลดลง
ทักษะ ประสบการณ์สูงขึ้น และที่สำคัญจะมีคนจำนวนหนึ่งต้องมา
Re-Skill เพื่อย้ายไปทำงานด้านอื่นๆ นอกจากจะช่วยยกระดับ
อุตสาหกรรมขึ้นเป็น 4.0 แล้ว ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรจะลดลงเฉลี่ย
38% ด้วย” ดังนั้นจะเห็นว่าในปัจจุบันสถาบันต่าง ๆ ได้ปรับเปลี่ยน
การเรียนการสอนไปสู่กระบวนทัศน์ใหม่ เน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต
มีหลักสูตรที่หลากหลาย เพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็นในยุคปัจจุบันและ
การพัฒนาทักษะที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม (Re Skill, Up Skill)
ทำให้สามารถก้าวเข้าสู่การแข่งขันในอุตสาหกรรมได้ แต่ในขณะ
เดียวกันที่ผู้เรียนมีอำนาจต่อรองมากขึ้นจึงส่งผลให้การแข่งขัน
จึงเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สถาบันต่าง ๆ ต้องปรับกลยุทธ์ในการแข่งขัน
ดังนั้น MobiLib ที่เป็นวิสาหกิจจำลอง ประเภท Digital Agency
ภายใต้การบริหารงานของสาขาวิชาสารสนเทศ คณะมนุษยศาสตร์
และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (iSchool KKU) จัดตั้ง
ขึ้นเพื่อเป็น Sandbox สำหรับฝึกฝนผู้เรียนตามโครงการสร้าง
บัณฑิตพันธุ์ใหม่ฯ ตามแนวทาง Work-intregrated Learning
(WIL) ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมการพัฒนาบุคลากรและการศึกษา
ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคปัจจุบันที่ความนิยมได้เปลี่ยนแปลงไป
จากในอดีตมีผลมาจากการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
MobiLib จึงต้องปรับกลยุทธ์ในการแข่งขันในฐานะที่เป็นองค์กร
ประเภท Digital Agency ที่ต้องมีความเข้าใจเชิงลึกของกลุ่ม
เป้าหมาย (Customer Insight) โดยการนำข้อมูลมาพัฒนาให้เป็น
สารสนเทศและเผยแพร่สารสนเทศประเภทดิจิทัลเพื่อดึงดูดกลุ่ม
เป้าหมายตามบริบทของสถานการณ์ และดึงจุดเด่นขององค์กรที่มุ่ง
เน้นพัฒนานักศึกษาให้ตอบโจทย์กับกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล
Retrieved fromhttps://www.pexels.com/photo/books-on-brown-wooden-shelf-3747505/
FINAL REPORT 6
ที่มาและความสำคัญของโครงการ
(Pain Point)
Retrieved from https://unsplash.com/photos/Lks7vei-eAg
จากการสังเกตในเบื้องต้นของในฐานะทีม Mobility พบว่า MobiLib ขาดสารสนเทศสนับสนุน
ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ตามเป้าหมายที่วางไว้ กล่าวคือ การทำ CSR ส่งมอบสารสนเทศและความรู้ไป
ยังกลุ่มเป้าหมายและสร้างโรงเรียนเครือข่าย โดยการเจาะกลุ่มเป้าหมายนั้นจำเป็นต้องทราบถึง
ความต้องการทางสารสนเทศของกลุ่มเป้าหมายตามแนวคิดการจัดทำ Customer Insight ที่เป็นวิธี
การจัดหาข้อมูลแบบหนึ่งในการได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึก โดยจากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นของทีมงาน
ที่ได้ทำการสอบถามในเชิงพูดคุยกับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในหลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต
ตามหลักการตามแนวคิดความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก (Consumer Insight) โดยกลุ่มเป้าหมายที่เป็น
ผู้ติดตามใน Facebook Fanpage ของ MobiLib จำนวนหนึ่ง พบว่า กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ไม่มี
แหล่งสารสนเทศที่แน่ชัดในการสืบค้นสารสนเทศเกี่ยวกับหลักสูตร มีเพียงแค่เว็บไซต์ของหลักสูตร
ตั้งแต่ยังเป็นหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น URL : https://home.kku.ac.th/icm/bachelor/ ที่มีการอัปเดตข้อมูล
ล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2556 และ Facebook Fanpage ของ iSchool KKU ที่อัปเดตงานกิจกรรม
ทั้งหมดในหลักสูตรมีการอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับการรับสมัครนักศึกษาใหม่ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อใน
หลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิตไม่สม่ำเสมอและไม่เป็นปัจจุบัน สิ่งที่กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ต้องการคือ
สารสนเทศที่เป็นปัจจุบัน ทันสมัยและ เชื่อถือได้ รวมไปถึงการพูดคุยอย่าง ไม่เป็นทางการกับรุ่นน้อง
ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและนักศึกษาหลักสูตร BiS ทุกชั้นปี ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ
คอยให้คำปรึกษา ซึ่งถือว่าเป็นสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ (Strategic information) ที่มีความสำคัญต่อ
องค์กรและมีคุณค่าสูงสุด นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาโอกาสและหลีกเลี่ยงอุปสรรครวมไปถึง
ปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันขององค์กร
FINAL REPORT 7
ที่มาและความสำคัญของโครงการ
(Pain Point)
ดังนั้น การศึกษาและการจัดหาสารสนเทศในครั้งนี้ MobiLib จะได้รับสารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์
การเป็น Digital Agency ประกอบด้วย สารสนเทศบุคลากร คือ บุคลากรที่มีความสามารถ
(Competence) สอดคล้องกับการเป็น Digital Agency ของ MobiLib, สารสนเทศลูกค้า
คือ ลูกค้าที่มีความต้องการใช้บริการ Digital Agency และสารสนเทศทางการตลาด ทิศทางนโยบาย
มหาวิทยาลัยขอนแก่น การสนับสนุนให้ทำดิจิทัลคอนเทนต์ KKU รวมไปถึงสารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์
CSR ประกอบด้วย สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย สารสนเทศนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย สารสนเทศความ
ต้องการด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำแนวทางการศึกษาต่อ iSchool KKU
ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นสารสนเทศที่สำคัญในการสร้างกิจกรรมที่มีมูลค่าขององค์กร
(Value Chain) และสืบต่อการดำเนินการขององค์กรต่อไป
ใใใใใใใในฐานะที่ทีมงานเป็นนักศึกษาหลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต (โครงการสร้างบัณฑิตพันธุ์
ใหม่ฯ) iSchool KKU เมื่อได้รับโจทย์ปัญหาดังกล่าว จึงได้อาศัยสมรรถนะทางสารสนเทศมาใช้ใน
การทำโครงงานบูรณาการเรียนรู้กับการปฏิบัติ (Capstone Project) โดยเฉพาะความสามารถด้าน
การจัดการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ และความสามารถด้านการจัดหาสารสนเทศที่ตรงกับความต้องการ
ขององค์กร ที่ประกอบด้วยแนวคิดการจัดการสารสนเทศ (Information Management: IM)
การจัดการสารสนเทศทางธุรกิจ (Business Information Management: BIM) แนวคิด
การจัดหาและการจัดทำสารสนเทศ (Acquisition And Creation Of Information) แนวคิด
ความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก (Consumer Insight) โดยสามารถส่งมอบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ที่มี
คุณภาพให้แก่องค์กรและนำสารสนเทศเพื่อนำไปสร้างความสัมพันธ์ (Connection) กับโรงเรียนเครือ
ข่ายตามที่องค์กรได้วางเป้าหมายไว้
เป้าหมาย
เพื่อจัดหาและส่งมอบสารสนเทศที่มีคุณภาพและตรงตามความ
ต้องการให้กับ MobiLib เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ให้
บรรลุเป้าหมาย
วัตถุประสงค์
1. เพื่อระบุความต้องการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ของ MobiLib
2. เพื่อจัดหาสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ที่มีคุณภาพสำหรับสนับสนุน
การขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ MobiLib
FINAL REPORT 8
Retrieved from https://www.pexels.com
การปริทัศน์วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
การดำเนินโครงการครั้งนี้ ทีมได้ดำเนินการปริทัศน์วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การกำหนดกรอบ
แนวคิดของโครงการ ดังนี้ MobiLib (Mobile Library), CSR (Corporate Social Responsibility)
แนวคิดเรื่องการจัดการสารสนเทศเชิง กลยุทธ์ (Strategic Information Management: SIM), แนวคิด
เรื่องการจัดการสารสนเทศทางธุรกิจ (Business Information Management: BIM), แนวคิดการจัดหา
สารสนเทศ (Information Acquisition), แนวคิดความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก (Consumer Insight)
1. MobiLib (Mobile Library)
MobiLib มีรากฐานมาจากโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ ของภาควิชาบรรณารักษ์ศาสตร์ คณะ
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (iSchool KKU) เป็นงานบริการแก่ชุมชน เริ่มดำเนิน
การในปี 2524 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการอ่านหนังสือ ส่งเสริมการอ่าน และการรู้หนังสือในการเรียนรู้
สำหรับเด็กในชนบทของภาคอีสาน สนับสนุนการพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนเครือข่าย พัฒนาความสามารถของ
บุคลากร และในปี 2564 ทาง iSchool KKU ได้นำห้องสมุดเคลื่อนที่มา Rebranding โดยเปลี่ยนจาก
การส่งเสริมการรู้หนังสือ (Literacy) มาสู่การรู้ดิจิทัล (Digital Literacy) แต่ยังคงรักษา สืบทอดและส่ง
ต่อคุณค่าหลัก คือ การนำสารสนเทศและความรู้จากมหาวิทยาลัยไปยังกลุ่มนักเรียนเป้าหมายและโรงเรียน
เครือข่าย
MobiLib เป็นธุรกิจประเภทแสวงหาผลกำไร จัดอยู่ในอุตสาหกรรมการพัฒนาบุคคลและการศึกษา
มีเป้าประสงค์คือ สร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียนเครือข่ายกับ iSchool KKU โดยการเผยแพร่
สารสนเทศดิจิทัลสู่โรงเรียนเครือข่าย นักเรียน และผู้สนใจเข้าศึกษาต่อในหลักสูตร BiS โดยมีการนำ
สารสนเทศเชิงกลยุทธ์เข้ามาช่วยในการดำเนินการ เพื่อให้การเผยแพร่สารสนเทศดิจิทัลมีประสิทธิภาพ และ
สร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร อีกทั้งยังทำให้มหาวิทยาลัย คณะ สาขาวิชา ได้รับการยอมรับจากสังคมว่าเป็น
สถาบันที่เป็นต้นแบบ และผู้นำในการปฏิรูปการเรียนรู้แบบพลิกโฉม (Transformation Of Learning)
FINAL REPORT 9
2. CSR (Corporate Social Responsibility)
CSR คือแนวคิดที่องค์กรนำเข้ามาใช้ในการดำเนินงานขององค์กรโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อสังคม
เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการให้ความสำคัญกับหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร
ในระยะยาว และเป็นแนวปฏิบัติที่ผนวกเข้ากับการดำเนินธุรกิจ (ปกรณ์ อุดมธนะสารสกุล, 2561) ทองทิพภา
วิริยะพันธุ์ (ม.ป.ป.) ได้กล่าวถึงแนวทางในการปฏิบัติด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในกระบวนการธุรกิจ ดังนี้
1. เสริมสร้างความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมในกระบวนการทางธุรกิจ
2. สร้างค่านิยมด้านการมีความรับผิดชอบต่อสังคมให้แก่ผู้บริหาร บุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อปลูก ฝังจิตสำนึก จนกลายเป็นวัฒนธรรมขององค์กร
3. กำหนดนโยบายเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เพื่อความโปร่งใส และเพื่อแก้ไขปัญหาหรือ ผลกระทบ
ที่เกิดจากการประกอบธุรกิจอย่างรวดเร็ว
4. ส่งเสริมการสื่อสารของบุคลากรในองค์กรทุกระดับ เพื่อสร้างความร่วมมือในการทำงานร่วมกัน
5. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบุคลากร มีการบูรณาการความร่วมมือ ทั่วทั้งองค์กร ทำให้การทำงาน
. เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด
6. สร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติ
7. ส่งเสริมการปฏิบัติ CSR นอกกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างสังคมที่เป็นสุข
และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
8. ประเมินผลการปฏิบัติ เพื่อปรับปรุงในอนาคต
9. สื่อสารหรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลการปฏิบัติ CSR ในวงกว้าง เพื่อสร้างการรับรู้
และความน่าเชื่อถือแก่องค์กร
การทำ CSR อย่างมีกลยุทธ์ (Strategic Community Investment) ประกอบด้วย
Strategic – การกำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายในระยะยาวที่ต้องการให้ประสบผลสำเร็จ
Aligned – ทรัพยากรและจุดแข็งขององค์กร ต้องสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน
Engagement – การสร้างความเชื่อใจระหว่างองค์กรกับชุมชน เพื่อนำไปสู่การร่วมมืออย่างต่อเนื่อง
Resources – ทรัพยากรในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ ได้แก่ เงินทุน ทักษะความรู้ เครือข่าย ฯลฯ
Shared Benefits – การวัดผลกระทบที่ได้ ทั้งต่อชุมชนและองค์กร ซึ่งต้องอาศัยข้อมูลในการวัดผลกระทบ
ดังนี้ต่อไปนี้
วิสัยทัศน์ร่วมกัน (Shared Vision) ระหว่างชุมชน และองค์กร (Organization)
เป้าหมายระยะสั้น (Short Term Goal) และ เป้าหมายระยะยาว (Long Term Goal) ของทั้งชุมชนและ
องค์กร จุดแข็ง และการจัดสรรทรัพยากรขององค์กร เพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
(บุญเลิศ คณาธนสาร, 2017)
FINAL REPORT 10
การทำ CSR คือกลยุทธ์ที่จะสามารถทำให้องค์กรเติบโตควบคู่ไปกับสังคมได้อย่างยั่งยืน เมื่อมีการทำ
CSR แล้วต้องนำกลยุทธ์มาประกอบการดำเนินการ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้
กับองค์กรซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การบริหารทรัพยากรภายในองค์กรที่จะนำไปบริการสังคม เป็นการสร้างคุณค่าให้
กับสังคมในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและสังคม อีกทั้งองค์กรได้รับรู้
ถึงความต้องการของสังคมโดยองค์กรสามารถนำมาปรับใช้ในการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์จะช่วยพัฒนาขีด
ความสามารถทางการแข่งขันขององค์กรในระยะยาวได้
Business Process Management (BPM) เป็นแนวความคิดของการจัดการกระบวนการธุรกิจที่
ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการทำงานโดยมนุษย์ กระบวนการที่มีระบบเป็นศูนย์กลางและกระบวนการที่ระบบ
คอยสนับสนุนที่สำคัญคือ ถ้าองค์กรสามารถยกระดับให้มีความเป็นระบบได้ ก็จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่
ซ้ำซ้อน (Goodmaterial, 2564) ซึ่งประหยัดต้นทุน เป็นตัวช่วยอย่างมากในการยกระดับการแข่งขันทาง
ธุรกิจไปอีกขั้น ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรที่มีการแสวงหาผลกำไร ที่มีขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อน เป็น
ระบบเครือข่ายภายในองค์กร และมีบทบาทในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ด้วยการบริการ
วิชาการแก่ชุมชน จึงต้องอาศัยกลยุทธ์และแนวทางดังกล่าวประกอบกับ Information 3 ด้าน ได้แก่
ด้านองค์กร (ทรัพยากร, วิสัยทัศน์, จุดแข็ง, ทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ที่จะนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์
ฯลฯ) ด้านสังคม (เศรษฐกิจ, คู่แข่ง, กระแสความนิยม ฯลฯ) และด้านบุคคลหรือประชาชน (ความต้องการ
สารสนเทศ, การเข้าถึงสารสนเทศของบุคคล ฯลฯ) เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับชุมชน และทำให้
องค์กรบรรลุเป้าหมาย
ดังนั้น CSR ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้องค์กรสามารถเติบโตคู่ไปกับสังคมได้อย่างยั่งยืนและสนับสนุน
การขับเคลื่อนกลยุทธ์ขององค์กรทั้งในด้านการแข่งขันของภาคธุรกิจเอกชนด้านการปฏิบัติและการบริการ
ต่อกลุ่มเป้าหมาย CSR เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดความคุ้น
เคยและรู้จักองค์กรมากขึ้น รวมถึงการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ให้
แก่องค์กร
Retrieved from https://unsplash.com/photos/VBLHICVh-lI
FINAL REPORT 11
3. แนวคิดเรื่องการจัดการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
(Strategic Information Management: SIM)
การจัดการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ คือ การจัดการสารสนเทศที่เป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ภายใน
องค์กรซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นการพัฒนากลยุทธ์ แล้วนำระบบการควบคุมมาใช้ โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อทำการปรับปรุงด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพและสร้างคุณค่าให้กับองค์กร
กระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์แบ่งออกได้เป็น 4 กระบวนการ ได้แก่
1. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis)
2. การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy Formulation)
3. การนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ (Strategy Implementation)
4. การควบคุมกลยุทธ์ (Strategy Control)
Retrieved from https://zhort.link/GzS
สารสนเทศจึงเป็นทรัพยากรที่มีผลกระทบต่อทุกกิจกรรมขององค์กร ดังคำกล่าวที่ว่า
“Every business is an information business… information is the glue that holds
together the structure of all businesses” (Evans and Wurster, 1997) สารสนเทศ
ดังกล่าวคือสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ (Strategic Information) เป็นสารสนเทศที่มีความสำคัญต่อการทำ
ธุรกิจขององค์กรและมีคุณค่าสูงสุดในทางธุรกิจ ซึ่งมีหลักการของการจัดการสารสนเทศเช่นเดียวกับ
แนวคิดเรื่องการจัดการสารสนเทศทางธุรกิจ (Business Information Management : BIM)
เพียงแต่การจัดการสารสนเทศทางธุรกิจจะเน้นลงไปในประเด็นการจัดการสารสนเทศในกระบวนการทาง
ธุรกิจ (Business Process) ดังนั้นการจะทำให้องค์กรได้รับประโยชน์จากสารสนเทศอย่างเต็มที่จึงจำเป็น
ต้องมีการนำแนวคิดการจัดการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ที่เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาสมรรถนะขององค์กร
มาปรับประยุกต์ให้เข้ากับการทำงานและนำไปใช้พัฒนากลยุทธ์ ทำให้การจัดการขององค์กรมีประสิทธิภาพ
มากขึ้นด้วยการสร้างสารสนเทศที่มีคุณภาพและสามารถส่งมอบสารสนเทศนั้นให้แก่กลุ่มเป้าหมายหลักเพื่อ
เป็นการขับเคลื่อนกลยุทธ์ขององค์กรให้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ สารสนเทศเป็นทรัพยากรเชิงกล
ยุทธ์ที่สามารถสร้างคุณค่าและสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กรให้พัฒนาต่อไปได้มากยิ่งขึ้น
(วิศปัตย์ ชัยช่วย, 2564)
FINAL REPORT 12
4. แนวคิดเรื่องการจัดหาสารสนเทศ
(Information Acquisition)
"""""""""การจัดหาสารสนเทศ คือ การได้มาซึ่งสารสนเทศทุกรูปแบบ โดยได้มีการประยุกต์ใช้ทฤษฎีพฤติกรรม
สารสนเทศว่าด้วยพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ เกิดจากความต้องการพื้นฐานของมนุษย์
ได้แก่ ความต้องการทางกาย ทางอารมณ์ และทางสติปัญญา ซึ่งขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพอื่น ๆ
เช่น สังคม เศรษฐกิจ และการเมือง (Willson, 1999 as cited in Ruchareka, 2011)
กระบวนการจัดหาสารสนเทศ แบ่งออกเป็น 3 กระบวนการ ได้แก่
1. การสำรวจตรวจสอบสารสนเทศ (Information Audit)
2. การวิเคราะห์ช่องว่างของสารสนเทศ (Information Gap Analysis)
3. การทำแผนรวบรวมสารสนเทศ (Information Collection Plan)
โดยการจัดการสารสนเทศเป็นกระบวนการที่เกิด
ขึ้นต่อเนื่องกับการกำหนดและระบุความต้องการ
สารสนเทศ Chun Wei Choo (1995) ได้แสดง
ทรรศนะว่า “An accurate description of
information requirements is a prerequisite
for effective information management.”
(คำอธิบายความต้องการเกี่ยวกับสารสนเทศที่ถูกต้อง
เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการจัดการสารสนเทศที่มี
ประสิทธิภาพ) การระบุความต้องการสารสนเทศนั้นควรมี
ความสมบูรณ์ครบถ้วนและเพียงพอในการแสดงให้เห็น
และสามารถอธิบายความต้องการของผู้ใช้สารสนเทศได้
เนื่องจากการใช้สารสนเทศมักเกิดขึ้นในบริบทของการ
ทำงาน จึงควรตระหนักว่าความต้องการสารสนเทศ
ประกอบด้วยสองส่วนที่แยกกันไม่ออก คือ
1.ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือประเด็นที่ต้องการ
(ต้องการสารสนเทศอะไร)
2.ส่วนที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่ต้องการใช้
สารสนเทศ (สารสนเทศนี้จำเป็นและจะใช้อย่างไร)
Retrieved from https://zhort.link/GzT
การระบุความต้องการสารสนเทศจึงไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการกำหนดประเด็นเรื่องหรือหัวข้อเท่านั้นแต่ยัง
รวมถึงคุณลักษณะของสารสนเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณค่าและการนำไปใช้ประโยชน์ (วิศปัตย์ ชัยช่วย, 2564)
FINAL REPORT 13
5. แนวคิดความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก
(Consumer Insight)
ความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก (Consumer Insight) เป็นแนวคิดที่ได้มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลและ
สารสนเทศระดับลึก เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์หรือปรากฎการณ์นั้น ๆ และนำไปสู่การตัดสินใจทางธุรกิจ
(Jimmy Brown, n.d.) ซึ่งการทำความเข้าใจเชิงลึกนี้ คือ มนุษย์ ที่เป็น ลูกค้า (Customer) หรือผู้บริโภค
(Consumer) ดังนั้นจึงเป็นการศึกษาทั้งส่วนที่เป็น ความคิด/เหตุผล และ ความรู้สึก/อารมณ์ ของมนุษย์
ที่เชื่อมต่อกับแบรนด์ที่เป็นสินค้า/บริการนั้น ๆ (วิศปัตย์ ชัยช่วย, 2564) และปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีบทบาท
สำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของผู้บริโภค หรือที่เรียกว่า วิธีการได้มาของข้อมูลลูกค้าระดับลึก
ประกอบไปด้วย 3 วิธีการ ดังนี้
1.นึกถึงความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง : การเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายคิดอย่างไร ด้วยการลองคิดว่า
หากเป็นตนเองหรือนึกย้อนไปตอนที่อยู่ในสถานการณ์นั้น เพื่อจะทราบถึงความต้องการของตนเอง
ในการเป็นกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการอะไรจึงจะสามารถนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์ได้
2.ใช้ข้อมูลจากการเก็บข้อมูลมา : การทำการเก็บข้อมูลผ่านเครื่องมือต่าง ๆ และ Digital Asset
ที่เก็บผ่าน CRM หรือระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ต่าง ๆ และ Listening Platform ทั้งหลาย
เมื่อได้ข้อมูลมาจะสามารถเริ่มนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพตัวเองได้ว่าการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แล้วมาให้
ประสิทธิภาพอย่างไร และ Consumer แต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไรในการใช้บริการ
3.สอบถามตรง ๆ : การเข้าไปทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายโดยตรงและใช้วิธีการถามในรูปแบบต่าง ๆ ออกมา
เพื่อสกัดสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายคิดออกมาเป็น Consumer Insight โดยวิธีการนั้นสามารถใช้วิธีการได้หลาก
หลายรูปแบบ เช่น การสัมภาษณ์ผู้บริโภคโดยตรง หรือการสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมา (Molek, 2018)
Customer Insight คือ กุญแจสำคัญที่จะทำให้องค์การเข้าใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่าง
แท้จริง และเมื่อได้มาซึ่งข้อมูลจากการวิเคราะห์ข้อมูลและสารสนเทศเชิงลึกแล้วจะสามารถนำไปพัฒนาใช้ได้
อย่างมีประสิทธิภาพในการที่จะนำไปจัดทำสารสนเทศที่มีคุณภาพและสร้างกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนองค์การให้
บรรลุผลตามเป้าหมาย
Retrieved from https://www.pexels.com/photo/woman-in-black-and-white-striped-coat-standing-between-people-sitting-5685810/
FINAL REPORT 14
กรอบแนวคิด (Framework)
การดำเนินโครงการในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อระบุความต้องการสารสนเทศของ MobiLib และจัดหา
สารสนเทศที่มีคุณภาพสำหรับสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ MobiLib ทางทีม Mobility ได้ประยุกต์
ใช้แนวคิดทฤษฎีการจัดการสารสนเทศ การจัดการสารสนเทศทางธุรกิจ แนวคิดการจัดหาและการจัดทำ
สารสนเทศมาเป็นกรอบแนวคิดพื้นฐานในการศึกษาในประเด็นเกี่ยวกับการระบุความต้องการสารสนเทศของ
MobiLib และแนวคิดความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก (Consumer Insight) เป็นกรอบแนวคิดพื้นฐานในการ
ศึกษาในประเด็นเกี่ยวกับข้อมูลปัจจัยในการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอน
ปลาย เพื่อให้ได้สารสนเทศที่มีคุณภาพและส่งมอบสารสนเทศนั้นไปสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์
ของ MobiLib จึงได้ประยุกต์ใช้หลักการ แนวคิด ทฤษฎีทางสารสนเทศศาสตร์เพื่อนำมาใช้แก้โจทย์ปัญหา
ของสถานประกอบการ ดังนี้
แนวคิดการจัดการสารสนเทศ
(Information management: IM)
มีหลักการสำคัญ คือ การควบคุมทรัพยากรสารสนเทศ และความสามารถด้านสารสนเทศ
(Information capabilities) ขององค์การ เพื่อให้องค์การสามารถใช้สารสนเทศสำหรับ
ปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้ (Chun Wei Choo, 2020) ดังนั้นแล้วเพื่อที่จะทำให้
องค์การได้รับคุณค่าจากข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้อง จึงจำเป็นต้องนำแนวคิดการจัดการที่เรียกว่า
การจัดการสารสนเทศทางธุรกิจ (Business information management: BIM) คือ
กระบวนการจัดการสารสนเทศในฐานะที่เป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
ขององค์กร กระบวนการดังกล่าวประกอบด้วย การพัฒนากลยุทธ์ และนำระบบการควบคุมมาใช้
เพื่อปรับปรุงคุณภาพและสร้างคุณค่าให้กับองค์การ การจะได้มาซึ่งทรัพยากรสารสนเทศที่นำไปสร้าง
ความได้เปรียบในการแข่งขั้นนั้น Chun Wei Choo (2020) เสนอว่า กิจกรรมสำคัญของ IM
นั้นเริ่มจากการระบุความต้องการสารสนเทศ (Information needs) ซึ่งต้องอาศัยทฤษฎี
พฤติกรรมสารสนเทศมาช่วย Wilson (2000) อธิบายไว้ว่าพฤติกรรมสารสนเทศ หมายถึง
พฤติกรรมทั้งมวลของบุคคลหนึ่ง ซึ่งเชื่อมโยงบุคคลผู้นั้นให้เข้าถึงแหล่งสารสนเทศต่าง ๆ โดยใช้
ช่องทางในการเผยแพร่จากสื่อในรูปแบบออนไลน์ ในการทำ Capstone project นี้ ทีมงานได้
ประยุกต์ใช้แนวคิดความต้องการสารสนเทศซึ่ง Wilson (1981) อธิบายว่า ความต้องการ
สารสนเทศไม่ใช่ความต้องการพื้นฐานแต่เป็นผลสืบเนื่องจากความต้องการพื้นฐานของมนุษย์อีก
ทอดหนึ่งโดยมีกระบวนการสำคัญ คือ
1. เริ่มต้นด้วยกลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กร
2. ระบุผู้ใช้หลักประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ
3. ทำความเข้าใจพฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้สารสนเทศเพื่อให้ได้ความต้องการสารสนเทศ
อันจะนำมาสู่การจัดหาสารสนเทศที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการของผู้ใช้สารสนเทศ
FINAL REPORT 15
รวมไปถึง แนวคิดการจัดหาและการจัดทำสารสนเทศ (Acquisition and Creation of
Information) การจัดหาสารสนเทศเป็นกระบวนการสำคัญใน Information Management (IM)
ทางทีมงานจึงได้นำแนวคิดการจัดหาสารสนเทศและการระบุความต้องการสารสนเทศทั้งสองแนวคิดนี้มาใช้
ในการจัดหาสารสนเทศ โดยการสำรวจและตรวจสอบทรัพยากรสารสนเทศที่มีอยู่ขององค์การเพื่อนำมา
วิเคราะห์ว่าทรัพยากรสารสนเทศในปัจจุบันขององค์การนั้นเพียงพอหรือไม่และเกิดช่องว่างในส่วนใด
และเมื่อวิเคราะห์ช่องว่างของทรัพยากรสารสนเทศขององค์การแล้ว จึงนำมาซึ่งเทคนิควิธีและกระบวนการ
จัดหาและรวบรวมสารสนเทศที่ตรงกับความต้องการ โดยจะจัดหาข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียนเป้าหมาย
หรือเครือข่าย และข้อมูลเชิงคุณภาพเกี่ยวกับผู้สมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต
เพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูลนั้นและนำมาวิเคราะห์ให้ได้สารสนเทศที่มีคุณภาพและส่งมอบสารสนเทศสู่องค์กรต่อไป
Retrieved from https://images.pexels.com/photos/7651937
นอกจากนี้ทีมงานยังประยุกต์ใช้ แนวคิดความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก (Consumer Insight)
คือ การทำความเข้าใจ “มนุษย์” ที่เป็น “ลูกค้า” (Customer) หรือ “ผู้บริโภค” (Consumer) ดังนั้น
จึงเป็นการศึกษาทั้งส่วนที่เป็น “ความคิด/เหตุผล” และ “ความรู้สึก/อารมณ์” ของมนุษย์ที่เชื่อมต่อกับ
แบรนด์ที่เป็นสินค้า/บริการนั้น ๆ (วิศปัตย์ ชัยช่วย, 2564) เพื่อทำความเข้าใจความต้องการด้าน
การเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำแนวทางการศึกษาต่อ iSchool KKU ของนักเรียน
ซึ่งถือเป็นสารสนเทศที่สำคัญในการสร้างกิจกรรมที่มีมูลค่าขององค์กร (Value Chain) และสืบต่อการ
ดำเนินการขององค์กรต่อไป โดยทีมงานจะจัดหารวบรวมสารสนเทศดังกล่าวเพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูลนั้นมา
วิเคราะห์เป็นสารสนเทศที่มีคุณภาพ เพื่อส่งมอบสารสนเทศนั้นไปใช้สำหรับการสร้างกลยุทธ์และเพื่อ
สนับสนุนการขับเคลื่อน MobiLib
FINAL REPORT 16
วิธีการดำเนินงาน
(Project Approach)
การดำเนินโครงการโครงการจัดหาสารสนเทศสำหรับการสร้างกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อน
องค์กร MobiLib มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุความต้องการสารสนเทศและเพื่อจัดหาสารสนเทศที่มีคุณภาพ
สำหรับสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ MobiLib จึงประยุกต์ใช้แนวทางบูรณาการการเรียนรู้กับการ
ทำงาน (Work integrated Learning: WIL) ผ่านการทำ Capstone project ตามศาสตร์การดำเนิน
การ (Implementation Science) ใช้ระเบียบวิธีแบบการวิจัยประยุกต์ (Applied research) สำหรับ
การแก้ปัญหาเฉพาะในทางปฏิบัติที่มีผลต่อบุคคลหรือองค์การเป็นแนวทางในการดำเนินงาน (iSchool KKU,
2562)
เน้นการนำความรู้และทักษะ หรือหลักฐานเชิงประจักษ์ มาสังเคราะห์ไปสู่การปฏิบัติ ทำให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลง
เน้นการหากลยุทธ์ให้เกิดการปฏิบัติที่ดีที่สุด มากกว่าเน้นการควบคุมตัวแปรรบกวนในทางปฏิบัติ
เน้นผลที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมายของโครงงานมากกว่าเน้นการนำผลไปใช้ได้ทั่วไป
(Generalizability)
แบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
เตรียมการ ประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้
ศึกษาและวิเคราะห์หา Pain point เพื่อกำหนดความต้องการ
ของ MobiLib
จัดทำแบบเสนอแนวคิดเบื้องต้น (Concept paper)
พัฒนาข้อเสนอโครงการบูรณาการวิจัยกับการปฏิบัติ
(Capstone project proposal)
จัดทำร่าง TOR
ดำเนินการ ประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้
ลงมือปฏิบัติในองค์กร/หน่วยงาน
เก็บรวบรวมข้อมูลวิจัยโดยใช้เครื่องมือที่จัดทำขึ้น
ประมวลผลข้อมูลที่ได้ให้เป็นสารสนเทศที่มีคุณภาพ
รับคำปรึกษาจากที่ปรึกษาโครงการ (Project consultant: PC)
จัดทำและส่งมอบรายงานผลตามระยะที่กำหนดใน TOR
หลังดำเนินการ ประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้
ส่งมอบสารสนเทศให้แก่ MobiLib เพื่อนำไปใช้ประโยชน์
ประเมินผลงาน
แสดงผลงาน
FINAL REPORT 17
ผู้ให้ข้อมูล
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ MobiLib เพื่อระบุความต้องการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ของ MobiLib
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.กันยารัตน์ เควียเซ่น
ตำแหน่ง iSchool KKU Chair
(P01)
รองศาสตราจารย์ ดร. วิศปัตย์ ชัยช่วย
ตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร
หลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต
(P02)
อาจารย์ ดร. สมเพ็ชร จุลลาบุดดี
ตำแหน่งเลขานุการหลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต
(P03)
FINAL REPORT 18
เครื่องมือ
ที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล
ตารางที่ 1 ตารางแสดงเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล
FINAL REPORT 19
ตารางที่ 1 ตารางแสดงเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล (ต่อ)
FINAL REPORT 20
วิธีการเก็บ
รวบรวมข้อมูล
ตารางที่ 2 ตารางแสดงขั้นตอนวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
FINAL REPORT 21
ตารางที่ 2 ตารางแสดงขั้นตอนวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล (ต่อ)
FINAL REPORT 22
ตารางที่ 2 ตารางแสดงขั้นตอนวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล (ต่อ)
FINAL REPORT 23
ระยะเวลาดำเนินการ
และการส่งมอบงาน
Retrieved from https://pixabay.com/
1.ครั้งที่ 1 ภายใน 7 วัน นับถัดจากวันที่ลงสัญญามอบหมายงาน (วันที่ 17 มกราคม 2565) ผู้รับงาน
จะต้องส่ง Inception report ซึ่งประกอบด้วยบทสรุปผู้บริหาร (Executive Summary), ที่มาและ
ความสำคัญของโครงการ (Pain point), เป้าหมาย, วัตถุประสงค์, การปริทัศน์วรรณกรรม
ที่เกี่ยวข้อง, กรอบแนวคิด วิธีการดำเนินงาน, ขั้นตอนการดำเนินงาน, ระยะเวลา, งบประมาณ, ข้อตกลง
และเงื่อนไขของโครงการ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับพร้อมรายการเอกสารอ้างอิงตามรูปแบบการเขียน
บรรณานุกรม APA 7th edition จำนวน 2 ฉบับ พร้อมไฟล์ดิจิทัล (วันที่ 24 มกราคม 2565)
2.ครั้งที่ 2 ภายใน 21 วัน นับถัดจากวันที่ลงสัญญามอบหมายงาน ผู้รับงานจะต้องส่ง Interim
report ซึ่งประกอบด้วย เนื้อหาในส่วน Inception report ที่แก้ไขแล้ว, การวิเคราะห์องค์การและ
บริบททางธุรกิจ (Organization analysis & Business context), เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวม
ข้อมูล, ผลการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตาม TOR พร้อมรายการเอกสารอ้างอิงตามรูปแบบการ
เขียนบรรณานุกรม APA 7th edition จำนวน 2 ฉบับ พร้อมไฟล์ดิจิทัล (วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565)
3.ครั้งที่ 3 ภายใน 69 วัน นับถัดจากวันที่ลงสัญญามอบหมายงาน ผู้รับงานจะต้องส่ง Draft final
report ซึ่งประกอบด้วย เนื้อหาในส่วน Interim report ที่แก้ไขแล้ว ผลของการดำเนินงานตาม
วัตถุประสงค์และตามขอบเขตของ TOR การถอดบทเรียนโครงการ (Capturing Lessons
Learned) พร้อมรายการเอกสารอ้างอิงตามรูปแบบการเขียนบรรณานุกรม APA 7thedition
จำนวน 2 ฉบับ พร้อมไฟล์ดิจิทัล (วันที่ 27 มีนาคม 2565)
4.ครั้งที่ 4 ภายใน 73 วัน นับถัดจากวันที่ลงสัญญามอบหมายงาน ผู้รับงานจะต้องส่ง Final report
ซึ่งประกอบด้วย เนื้อหาในส่วน Draft final report ที่แก้ไขแล้ว มีการออกแบบอย่างสร้างสรรค์,
มีโครงสร้างของรายงาน (Report) ที่ครบถ้วนคือ ปกหน้า, ปกหลัง, บทสรุปผู้บริหาร (Executive
Summary), รายการอ้างอิง, กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgements), ภาคผนวก ฯลฯ
มีองค์ประกอบด้านเนื้อหาที่ครบถ้วน ถูกต้อง เข้าใจง่าย อาจมีตารางภาพประกอบ ตามความเหมาะสม
แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ส่วนนำ (Introduction), ส่วนเนื้อหา (Content), ส่วนสรุป
(Conclusion) จำนวน 2 ฉบับ พร้อมไฟล์ดิจิทัล (วันที่ 31 มีนาคม 2565)
FINAL REPORT 24
ตารางรายงานระยะเวลาดำเนินงาน
ตารางที่ 3 ตารางรายงานระยะเวลาดำเนินงาน
งบประมาณ
ตารางที่ 4 ตารางแสดงงบประมาณ
FINAL REPORT 25
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะและสมรรถนะ เพื่อเป็นบัณฑิตพันธุ์ใหม่ที่สามารถทำงานได้
ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมและสถานประกอบการ ตามนโยบายปฏิรูปอุดมศึกษาไทย
2.MobiLib ได้รับสารสนเทศที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการ และนำไปใช้ประโยชน์ได้
3.iSchool KKU ได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง WIL อย่างเข้มข้น
Retrieve from https://woboton.com/
ข้อตกลงและเงื่อนไขของโครงการ
1.การเก็บข้อมูลครั้งนี้ มีระยะเวลาการเก็บภายใน 3 สัปดาห์
(นับตั้งแต่วันถัดไปที่มีการทำข้อตกลงกับทางองค์กร)
2.การเข้าไปเก็บข้อมูลแต่ละครั้ง จะมีการแจ้งล่วงหน้าให้ทาง MobiLib ทราบ 1 – 2 วันก่อนเสมอ
3.ในการเก็บข้อมูลดังกล่าว จะมีการเก็บผ่านทาง Social Media ตามขั้นตอนของการได้มาซึ่งข้อมูล
ที่ถูกต้องตามบริบทของสถานที่ด้วยความสมัครใจ
4.การเข้าถึงข้อมูลขององค์กรจะทำการรวบรวมผ่านองค์กรที่กำกับ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีการรวบรวมเพื่อ
การศึกษาเท่านั้น โดยจะไม่มีการเผยแพร่ใด ๆ และนำข้อมูลไปเพื่อสร้างกลยุทธ์ให้แก่องค์กรต่อไป
5. การเปิดเผยข้อมูลขององค์กรจะถูกปกปิดเป็นความลับและจะเผยแพร่เฉพาะในส่วนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ซึ่งได้แก่ ชื่อองค์กร ตำแหน่งที่ตั้ง เป็นต้น
6.สิ่งที่ทางองค์กรจะได้รับจากโครงการนี้คือ สารสนเทศที่ต้องการและสารสนเทศที่มีคุณภาพสำหรับ
สนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ขององค์กร สำหรับการประกอบการตัดสินใจขององค์กร MobiLib
และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปพัฒนาขั้นต่อไปของธุรกิจ
FINAL REPORT 26
การวิเคราะห์องค์การและบริบททางธุรกิจ
(Organization analysis & Business context)
MobiLib
ภูมิหลัง (Background)
MobiLib เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้โครงสร้างการดูแลของ iSchool KKU ซึ่งเป็นโครงการบริการ
วิชาการของสาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยมีรากฐานมาจากโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่หรือ Mobile Library ที่จัดตั้งขึ้นโดยภาควิชา
บรรณารักษ์ศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่
ปี 2524 ซึ่งมีอายุยาวนานกว่า 41 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการอ่านและทักษะการเรียนรู้ให้กับ
นักเรียนในชนบทและโรงเรียนเครือข่ายสามารถเรียนรู้ได้เท่าเทียมกับนักเรียนที่อยู่ในเมือง และสามารถเรียนรู้
ด้วยตนเองได้อย่างอิสระ เปรียบเสมือนมีห้องสมุดโลกอยู่รอบตัวไม่จำเป็นต้องเสียเงินและเวลาในการจัดซื้อ
หนังสือและมีภารกิจคือการทำหน้าขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ด้วยการผลิตครูบรรณารักษ์หรือ
บรรณารักษ์ให้กับโรงเรียนและห้องสมุดภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะในอดีตยังขาดแคลนบุคลากร
ในสายอาชีพนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นรวมไปถึง
หน่วยงานจากภายนอกให้มีการสร้างสำนักงานห้องสมุดเคลื่อนที่เพื่อไว้สำหรับเก็บหนังสือและมี
ยานพาหนะสำหรับเดินทางไปทำกิจกรรมตามโรงเรียนเครือข่าย
เป้าประสงค์ (Purpose)
MobiLib เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียนเครือข่ายกับ iSchool
KKU ในการเผยแพร่สารสนเทศและความรู้สู่โรงเรียนเครือข่าย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับ
นักเรียนโรงเรียนในเครือข่ายที่มีความสนใจและมีศักยภาพทางด้านดิจิทัล เช่น Digital Marketing,
Graphic Designer, Youtuber, Content Creator และอื่น ๆ ให้ได้คนที่มีคุณภาพเข้ามาศึกษาต่อ
ใน iSchool KKU อีกทั้งเป็น Sandbox ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาในหลักสูตร BiS ที่มีความสามารถได้
แสดงศักยภาพในการทำงาน เเละเป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์การทำงานจริงควบคู่ไปกับการเรียนรู้
โดยสามารถนำความรู้จากการเรียนและการทำงานจากโครงงานต่าง ๆ ที่นักศึกษาได้ทำงานมาประยุกต์ใช้
ควบคู่ทักษะในการทำงานให้หลากหลายและสามารถปรับตัวให้เข้ากับการทำงาน เพื่อนำไปใช้กับการทำงาน
จริงหลังจากสำเร็จการศึกษาได้
FINAL REPORT 27
ภารกิจ (Function)
1.เป็นวิสาหกิจจำลองประเภท Digital Agency ในลักษณะ Sandbox สำหรับสร้างประสบการณ์
เรียนรู้ให้กับนักศึกษาหลักสูตร BiS ได้ฝึกประสบการณ์การทำงานจริงควบคู่ไปกับการเรียนรู้และพัฒนา
ศักยภาพของตนเองให้มีความรู้ ทักษะ สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ทักษะการทำงานที่สัมพันธ์กับวิชาชีพ
ตามแนวทาง WIL
2.บริการวิชาการเพื่อสังคม (CSR) โดยเฉพาะการเผยแพร่สารสนเทศและความรู้สู่โรงเรียนเครือข่าย
และนักเรียนกลุ่มเป้าหมายจากการนำองค์ความรู้ในหลักสูตรมาสร้างสรรค์กิจกรรมที่มีมูลค่าทั้งในส่วนของ
กิจกรรมหลักและกิจกรรมรองให้มีคุณภาพ ถูกต้อง และทันสมัย มาเผยแพร่ออกสู่สาธารณะชน
โครงสร้าง (Structure)
MobiLib มีโครงสร้างขององค์กรเป็นแบบทีมงาน หรือ Team-Based Organization Structure
มีลักษณะการทำงานเป็นทีม ไม่มีการบังคับบัญชา และทำงานจะแบ่งหน้าที่ตามตำแหน่ง ซึ่งแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่
ในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป หากมีคนที่ทำงานที่ตนเองได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นแล้ว สามารถเข้าไปช่วย
ภาระงานของคนในทีมได้ เพื่อให้การทำงานสำเร็จลุล่วงบรรลุตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะการทำงานเป็นทีม
เป็นการทำงานที่มุ่งเน้นในการร่วมมือและช่วยกันเหลือกันภายในทีม รวมไปถึงประชุมความคิด วิเคราะห์
เพื่อหาวิธีการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน
บุคลากร (People)
MobiLib อยู่ในการบริหารงานภายใต้สาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี รศ.ดร.วิศปัตย์ ชัยช่วย เป็นผู้บริหารและดูแลรับผิดชอบโครงการ ทำหน้าที่ในการ
ขับเคลื่อนโครงการและเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการวางแผนและกลยุทธ์ภายในโครงการ โดยมีนักศึกษา
ในหลักสูตร BiS เป็นผู้ปฏิบัติงานที่ทำหน้าที่ในการดำเนินการสร้างกลยุทธ์สำหรับขับเคลื่อนองค์กร รวมไปถึง
เป็นบุคลากรที่มีศักยภาพและความสามารถในด้านสารสนเทศและดิจิทัล
บริบททางธุรกิจ (Business Context)
การศึกษาในส่วนนี้ทางทีมได้ดำเนินการตามหลักการ SWOT Analysis และ PESTEL Analysis
เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอกของ MobiLib ดังนี้
FINAL REPORT 28
ตารางที่ 5 ตารางแสดงการวิเคราะห์ SWOT Analysis
PESTEL การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก
- ปัจจัยด้านการเมือง (Politics)
การขยายตัวของอินเทอร์เน็ต ทำให้ประชาชนปรับตัวเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็น
ช่องทางที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลด้วยต้นทุนที่ไม่สูง เช่น เว็บไซต์, อีเมล,
สื่อสังคมออนไลน์ (Social media) เป็นต้น โดยการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาช่องทางการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนในด้านการประชาสัมพันธ์ข้อมูล, ด้านการปรึกษาให้คำแนะนำ, รับฟังความคิดเห็น และการร่วมมือ
ปฏิบัติจากประชาชน ส่งผลให้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นข้อมูลส่วนกลางสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลของทาง
ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน ซึ่ง MobiLib ถือเป็นหน่วยงานที่อยู่ในภาคธุรกิจ Digital Agency
ที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลสารสนเทศในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ เพื่อให้เกิดการบูรณาการและการพัฒนาของ
หน่วยงานในอนาคต
FINAL REPORT 29
ในปี พ.ศ.2564 - 2565 นโยบายการจัดการศึกษากระทรวงศึกษาธิการเน้นการปรับปรุง
หลักสูตรให้ทันสมัย โดยมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่มีคุณภาพ มุ่งพัฒนาบุคลากร
ให้มีสมรรถนะทางภาษาและดิจิทัล ปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยดิจิทัล เพื่อให้ตอบโจทย์กับบริบทสังคมไทย
ในปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ, (2564) และในปัจจุบันนักเรียนในระดับมัธยมศึกษามีแนวโน้มการเข้าศึกษาต่อใน
มหาวิทยาลัยที่ลดลง เนื่องจากนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2565 ที่มุ่งเน้นและสนับสนุนการเพิ่ม
ขีดความสามารถของอาชีวศึกษาเพิ่มมากขึ้น นักเรียนมัธยมส่วนใหญ่จึงมีแนวโน้มการศึกษาต่อระดับ
มหาวิทยาลัยลดลงทำให้อัตราการรับเข้าของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยลดลง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเรียน
มหาวิทลัยที่มากกว่าและระยะเวลาเรียนสูงกว่า กลุ่มเป้าหมายจึงหันไปศึกษาต่อในระดับอาชีวศึกษา
(ครูอัพเดตดอทคอม, 2565)
- ปัจจัยด้านเศรษฐศาสตร์ (Economics)
อัตราการจ้างงานในปัจจุบันนี้มีแนวโน้มลดลงเพราะเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และใน
ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงไปในบางธุรกิจเกิดการยุบตัวลง
ทำให้ผู้ปกครองว่างงานหรือรายได้ลดลง ความสามารถด้านการเงินจึงลดลงไปด้วย เป็นเหตุทำให้
ผู้ปกครองหรือตัวเด็กเองไม่ต้องการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาไม่ต้องการศึกษาต่อในระดับ
มหาวิทยาลัย เพราะผู้ปกครองไม่สามารถส่งเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนได้ จึงทำให้นักเรียนในระดับ
มัธยมศึกษาเสียโอกาสทางการศึกษาในระดับอุดมศึกษาไปและรูปแบบของธุรกิจเกิดการปรับเปลี่ยน
การปฏิบัติงาน โดยได้เริ่มนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างความแตกต่าง
และเพิ่มมูลค่า ดังนั้น MobiLib ได้ปรับเปลี่ยนตามเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันที่สามารถสร้างกิจกรรมที่มี
มูลค่าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การจัดกิจกรรมร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงกับรุ่นพี่
iSchool KKU และ Dek65 ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของ MobiLib ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
ที่ทาง MobiLib ได้จัดทำขึ้น และการฝึกอบรมเครือข่ายแกนนำบุลคลากรที่ขับเคลื่อนองค์กร
เป็นต้น และการนำทักษะองค์ความรู้ด้านดิจิทัลมาใช้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้แบบใหม่และกลุ่มเป้าหมาย
จะได้ความรู้และทักษะที่ตรงกับความต้องการ
- ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม (Social)
อัตราของจำนวนประชากรมีแนวโน้มลดต่ำลง และอัตราการเสียชีวิตของประชากรเพิ่มขึ้นทุกปี
และมีแนวโน้มประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ 66 ล้านคน
(ไทยรัฐ, 2565) จึงคาดว่าแนวโน้มในอนาคตสังคมไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุ (สถาบันอนาคตไทยศึกษา,
2565) และกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นลดต่ำลงอย่างมากและมีการทางเลือกทางอาชีพมากยิ่งขึ้น
ส่งผลให้ MobiLib ต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ในระยะยาวและปรับเปลี่ยนการบริหารงานให้เข้ากับบริบท
ทางสังคมที่ผู้บริโภคได้ใช้เวลากับการบริโภคสื่อและข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ
โซเชียลมีเดียอย่าง “Facebook” ทางทีม Mobility ได้เล็งเห็นถึงพฤติกรรมของผู้คนในปัจจุบัน
ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อที่จะได้เข้าถึงกับกลุ่มเป้าหมายและผู้บริโภค จึงได้จัดตั้ง MobiLib ขึ้นเพื่อเป็น
ช่องทางการเผยแพร่สารสนเทศของมูลข่าวสารและสื่อดิจิทัลคอนเทนต์ที่มีความสะดวกและง่ายต่อ
การเข้าถึงของผู้บริโภคในปัจจุบัน
FINAL REPORT 30
- ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม (Social)
อัตราของจำนวนประชากรมีแนวโน้มลดต่ำลง และอัตราการเสียชีวิตของประชากรเพิ่มขึ้นทุกปี
และมีแนวโน้มประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ 66 ล้านคน
(ไทยรัฐ, 2565) จึงคาดว่าแนวโน้มในอนาคตสังคมไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุ (สถาบันอนาคตไทยศึกษา
, 2565) และกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นลดต่ำลงอย่างมากและมีการทางเลือกทางอาชีพ
มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ MobiLib ต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ในระยะยาวและปรับเปลี่ยนการบริหาร
ให้เข้ากับบริบททางสังคมที่ผู้บริโภคได้ใช้เวลากับการบริโภคสื่อและข้อมูลข่าวสารและความบันเทิง
เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย “Facebook” ทางทีม Mobility ได้เล็งเห็นถึงพฤติกรรมของ
ผู้คนในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อที่จะได้เข้าถึงกับกลุ่มเป้าหมายและผู้บริโภค จึงได้จัดตั้ง
MobiLib ขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการเผยแพร่สารสนเทศของมูลข่าวสารและสื่อดิจิทัลคอนเทนต์
ที่มีความสะดวกและง่ายต่อการเข้าถึงของผู้บริโภคในปัจจุบัน
- ปัจจัยด้านเทคโนโลยี (Technological)
กลุ่มอายุ 15-24 ปี มีการใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุด ร้อยละ 95.5 รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 25-34 ปี
ร้อยละ 92.3 และกลุ่มอายุ 35-49 ปี ร้อยละ 79.1 ส่วนสถานที่ใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย พบว่า
ส่วนใหญ่ใช้ตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเป็นการใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือร้อยละ 90.1 รองลงมาคือ ใช้ที่บ้าน/ที่พัก
อาศัยร้อยละ 65.6 และใช้ที่ทำงาน ร้อยละ 30.9 (เดลินิวส์, 2565) จากการสำรวจพบว่ากลุ่มเป้าหมาย
ของ MobiLib มีการใช้อินเทอร์เน็ตสูงเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัยทำให้ MobiLib
มีบทบาทมากขึ้นในการส่งมอบสารสนเทศให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางออนไลน์
อีกทั้ง covid-19 เป็นตัวเร่งทำให้ต้องผู้บริโภคหันมาเสพสื่อผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
- ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental)
MobiLib เป็นหน่วยงานประเภท Digital Agency ในการดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นการติดต่อ
สื่อสาร ประสานงาน และเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศผ่านช่องทางออนไลน์ จึงไม่ประสบปัญหาหรือได้รับ
ผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อมหรือสภาพอากาศ อีกทั้งองค์กรยังให้ความสำคัญในการส่งเสริมและการ
รักษาสิ่งแวดล้อมตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535
บัญญัติขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาความเสื่อมโทรมของคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13
(ชลบุรี), 2562) ด้วยการตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเห็นคุณค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ
องค์กรและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ปัจจัยด้านกฎหมาย (Legal)
การทำธุรกิจทุกชนิดจำเป็นต้องมีข้อจำกัดทางกฏหมาย และ MobiLib เป็นหน่วยงานประเภท
Digital Agency เพื่อให้การดำเนินงานการบริหารธุรกิจภายในองค์กรให้มีอุปสรรคทางด้านกฏหมาย
น้อยที่สุด จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเรื่องของกฏหมายเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ดังนี้
1. พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562
มาตรการหรือการดำเนินการที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคาม
ทางไซเบอร์ ซึ่งสนับสนุนความปลอดภัยตลอดการดำเนินงานขององค์กร
2. พ.ร.บ.สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2562
ส่งเสริมและกำกับดูแลให้เกิดคุณภาพ มาตรฐาน และจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจหรือ
อุตสาหกรรมดิจิทัล รวมทั้งควบคุมดูแลให้สมาชิกขององค์กรปฏิบัติตามข้อบังคับของสภา
และกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจขององค์กร
FINAL REPORT 31
3. พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562
พระราชบัญญัติว่าด้วย บุคคลจำเป็นต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านทางดิจิทัลได้ โดยมีกลไก
การควบคุมดูแลผู้ประกอบธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ มีความน่าเชื่อถือ
และปลอดภัยกับองค์กร
4. พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
พระราชบัญญัติว่าด้วยองค์กรจำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเพื่อให้มีมาตรการเยียวยาเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากการ
ถูกละเมิดสิทธิ เนื่องจากปัจจุบันการล่วงละเมิดสิทธิทำได้โดยง่าย สะดวก และรวดเร็ว ก่อให้เกิด
ความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่ง MobiLib ขับเคลื่อนกลยุทธ์โดยใช้สารสนเทศดิจิทัล จึงต้อง
ตระหนักถึงเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ประกาศนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นโยบายการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนทุกภาคส่วนให้
เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล ตลอดจนพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไป
ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคงของประเทศ ซึ่ง MobiLib มีหน้าที่ส่วนช่วย
ในการพัฒนาดิจิทัล ที่นำบุคลากรมาเสริมสร้างทักษะและถ่ายทอดผลงานสู่สาธารณะชน
Retrieved from https://www.pexels.com/photo/crop-man-working-on-laptop-7675851/
FINAL REPORT 32
การระบุ
ความต้องการสารสนเทศ
การระบุความต้องการสารสนเทศ
ทีมได้ประยุกต์ใช้แนวทางการระบุความต้องการสารสนเทศ ตามทฤษฎีการกำหนดหาความต้องการ
สารสนเทศ (Identification of information needs) โดยใช้วิธีการหาความต้องการสารสนเทศ
ของ F. J. Devadason & P. Pratap Lingam (1997) มาปรับประยุกต์ใช้ โดยเริ่มจากการศึกษาประเด็น
เรื่องที่ MobiLib สนใจและศึกษาองค์การและสภาพแวดล้อมของ MobiLib เมื่อศึกษา MobiLib
ได้อย่างลึกซึ้งแล้วจึงเริ่มกระบวนการการสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการเพื่อเป็นการบ่งชี้และบันทึกความต้องการ
สารสนเทศของ MobiLib รวมไปถึงการวิเคราะห์และปรับแต่งความต้องการสารสนเทศที่กำหนด ซึ่งทางทีม
ได้ทำการสัมภาษณ์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กันยารัตน์ เควียเซ่น ตำแหน่ง หัวหน้าสาขาวิชาสารสนเทศศาสตร์
(P01) รองศาสตราจารย์ ดร.วิศปัตย์ ชัยช่วย ตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตร BiS
iSchool KKU (P02) และอาจารย์ ดร.สมเพ็ชร จุลลาบุดดี ตำแหน่ง เลขานุการหลักสูตร BiS iSchool
KKU (P03) ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 โดยใช้เครื่องมือการสัมภาษณ์ที่จัดทำขึ้น ทางทีม Mobility
ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 นั่นคือ เพื่อระบุความต้องการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ของ MobiLib
โดยสามารถจำแนกตามปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการใช้สารสนเทศ ดังนี้
ปัจจัยที่เกี่ยวกับองค์การและสภาพแวดล้อม
การศึกษาส่วนนี้ได้มาจากการวิเคราะห์องค์การและบริบทร่วมกับการสัมภาษณ์คณะผู้บริหาร
และผู้ดำเนินงานของ MobiLib ได้ข้อค้นพบสำคัญคือ
- ภูมิหลัง โครงสร้าง วัตถุประสงค์ขององค์การ
ทิศทางของ MobiLib นั้นยังคลุมเครือ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น จากในอดีตที่เคยเป็นโครงการ
บริการวิชาการห้องสมุดเคลื่อนที่ (Mobile library) ปัจจุบันได้ Rebranding มาเป็นบริการวิชาการ
ในรูปแบบใหม่ ที่เปรียบเสมือน Sandbox สำหรับนักศึกษาที่ต้องการฝึกประสบการณ์ในการทำงานจริง
และได้รับค่าตอบแทน ด้วยเหตุนี้ MobiLib จึงพบปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านหน่วยงานและสภาพ
แวดล้อม คือ “ขาดทรัพยากรสารสนเทศที่จะนำไปใช้ในการจัดการข้อมูลเพื่อนำมาสร้างกลยุทธ์สำหรับ
การขับเคลื่อนองค์กร เช่น ความต้องการของตลาด (Demand-Side)” (P02, 1 กุมภาพันธ์ 2565)
- สภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อการทำงาน
หนึ่งในปัญหาสำคัญที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อ
การทำงานของนักศึกษาโดยตรง ทำให้การทำงานหรือจัดกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปได้ยากมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ MobiLIb จึงจำเป็นจะต้องมี Information ที่ใช้ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ “เพื่อนำไปสู่
การเป็นงานบริการวิชาการในรูปแบบ Digital agency ที่ยั่งยืน” (P01, 1 กุมภาพันธ์ 2565)
และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง รวมไปถึงมีบุคลากรผู้มีทักษะในการทำงานดิจิทัลและ
เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ สามารถสร้างงานสร้างรายได้จากกิจกรรมที่มีมูลค่า (Value Chain)
เช่น การสร้างโรงเรียนเครือข่าย การประชาสัมพันธ์หลักสูตรให้เป็นที่รู้จัก เป็นต้น และสามารถเติบโต
ภายใต้การดำเนินงานของ iSchool KKU ได้
FINAL REPORT 33
ปัจจัยที่เกี่ยวกับบุคคลหรือผู้ใช้
การศึกษาส่วนนี้ได้มาจากการสัมภาษณ์คณะผู้บริหารและผู้ดำเนินงานของ MobiLib ได้ข้อค้นพบ
สำคัญคือ
- กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายที่เป็นความต้องการของ MobiLib คือ โรงเรียนเครือข่ายที่เปิดการเรียนการสอน
หลักสูตรที่เกี่ยวกับดิจิทัล โดยเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อการติดต่อ
สร้างเครือข่ายกับโรงเรียน ถือเป็นการประชาสัมพันธ์หลักสูตรให้เป็นที่รู้จัก รวมไปการเตรียมความพร้อม
ให้นักเรียนในโรงเรียนเครือข่ายให้เข้ามาศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในหลักสูตร BiS และอีกหนึ่งกลุ่ม
เป้าหมาย คือ นักศึกษา iSchool KKU รุ่นที่ 46, 47 เพื่อให้ได้นักศึกษาที่มีความพร้อมในการทำงาน
และพัฒนาศักยภาพที่ตนเองมีอยู่ให้เป็นประโยชน์ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งเป็นการเตรียม
ความพร้อมในการส่งต่อการดำเนินงานใน MobiLib จากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย
- วัตถุประสงค์การใช้สารสนเทศ
“ MobiLib ต้องการสร้างเครือข่ายกับโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายและผู้เรียน ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี
ต่อแบรนด์” และจะเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะ ให้นักศึกษาเพิ่มพูนประสบการณ์การเรียนรู้
และมีรายได้ระหว่างเรียน” (P02, 1 กุมภาพันธ์ 2565) โดยการดำเนินงานจะนำเอาสารสนเทศและ
ความรู้ที่ตอบสนองความต้องการ ส่งมอบสู่กลุ่มเป้าหมาย ภายใต้การดำเนินงานของนักศึกษา (P01,
1 กุมภาพันธ์ 2565) ได้กล่าวไว้ว่า “MobiLib สามารถสร้างอาชีพ สร้างภาพลักษณ์ของการเป็น
ผู้ประกอบการให้กับนักศึกษาได้” และยังช่วยส่งเสริมสร้างทักษะ เสริมสร้างความคิดการทำงาน
ในอุตสาหกรรมดิจิทัลในระหว่างเรียน เพื่ออนาคตการทำงานจริงหลังจบการศึกษานักศึกษาในหลักสูตร
จะสามารถทำงานให้กับอุตสาหกรรมดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จากประสบการณ์ที่ได้สั่งสม
จากการเรียนรู้และการทำงานในระหว่างเรียนหลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต (BiS)
- ด้านบุคลากร Retrieve from https://www.canva.com
ด้านทรัพยากรบุคคล MobiLib มุ่งเน้นบุคคลที่มีความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพของตนเอง
(Passion) หรือมีเป้าประสงค์ในการเรียนอย่างชัดเจน และต้องมีทักษะ ความรู้ด้านดิจิทัล เข้าศึกษาใน
หลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต (BiS) เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพและสร้างกลยุทธ์ (Strategy) โดย
นักศึกษาในหลักสูตรจะเป็นทรัพยากรบุคคลที่ดำเนินการขับเคลื่อนองค์กร เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับ
หลักสูตรและทำให้ iSchool KKU เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น จากการนำองค์ความรู้ในหลักสูตรสร้างสรรค์
กิจกรรมที่มีมูลค่าทั้งในส่วนของกิจกรรมหลัก และกิจกรรมรองให้มีคุณภาพ ถูกต้อง และทันสมัย
เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะชน
FINAL REPORT 34
ปัจจัยที่เกี่ยวกับลักษณะของสารสนเทศ
การศึกษาส่วนนี้ได้มาจาก การวิเคราะห์องค์การและบริบทขององค์การ ร่วมกับการสัมภาษณ์
คณะผู้บริหารและผู้ดำเนินงานของ MobiLib ได้ข้อค้นพบสำคัญคือ
- เนื้อหาสารสนเทศ
สารสนเทศมีความสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ขององค์กรตามเป้าหมายที่องค์กรตั้งไว้ โดยองค์กร
สามารถนำคุณลักษณะและสารสนเทศของโรงเรียนเครือข่ายที่เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรที่เกี่ยวกับดิจิทัล
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมไปถึงบริบทของโรงเรียนดังกล่าว และทิศทางการมุ่งเน้นของนักเรียน
ภายในโรงเรียน ซึ่งเป็นสารสนเทศที่สำคัญนำไปใช้สนับสนุนการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ในการสร้างความสัมพันธ์
(Connection) กับกลุ่มเป้าหมายและโรงเรียนเครือข่าย เพื่อให้ได้บุคคลที่มีความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพ
เข้ามาศึกษาในระดับอุดมศึกษาของหลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิตและสารสนเทศที่เกี่ยวกับความสามารถ
ของนักศึกษา iSchool KKU รุ่นที่ 46 และ 47 ซึ่งเป็นสารสนเทศที่สำคัญในการสร้างกิจกรรมที่สร้างมูลค่า
แก่องค์กร (Value Chain) และสืบต่อการดำเนินการขององค์กรต่อไป
- ลักษณะเนื้อหาสารสนเทศ
สารสนเทศที่ทางทีมจัดหาให้ MobiLib มีลักษณะเป็นสารสนเทศที่เกิดการสร้างคุณค่าโดยกระบวนการ
วิเคราะห์และประมวลผลเป็นสารสนเทศที่มีความครบถ้วน ถูกต้องแม่นยำ กระชับและเข้าใจง่าย จากแหล่งที่น่าเชื่อ
ถือและทันสมัย (Information Quality) นั้นจะทำให้ MobiLib สามารถนำไปสร้างกลยุทธ์อย่างเต็ม
ประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นการเพิ่มขีดความสามารถและให้คุณค่าอย่างเต็มประสิทธิภาพแก่องค์กร
รวมไปถึงลดข้อผิดพลาดในการดำเนินงานขององค์กรได้ โดยสารสนเทศที่ไม่ได้ถูกเผยแพร่อย่างทั่วถึงนั้น
จะทำให้สารสนเทศไม่สามารถให้คุณค่าอย่างเต็มประสิทธิภาพ
- แหล่งสารสนเทศที่ใช้และความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งสารสนเทศ
โดยแหล่งที่มาของสารสนเทศที่นำมาใช้ใน MobiLib ได้แก่
วัตถุ (Object) คือ คุณสมบัติของวัตถุแต่ละอย่างทำให้มนุษย์สามารถที่จะแยกแยะความแตกต่าง
ออกจากกันได้ เช่น ชื่อโรงเรียนเป้าหมายที่เปิดสอนในหลักสูตรเกี่ยวกับดิจิทัล ชื่อขององค์กร
เหตุการณ์ (Event) คือ สารสนเทศที่ได้จากเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบัน มีผลสำคัญต่อเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นในอนาคต เช่น การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรส่งผลให้เกิดการ Rebranding ห้องสมุดเคลื่อนที่
(Mobile Library) และเกิดเป็น MobiLib
ความสัมพันธ์ (Relations) คือ แหล่งสารสนเทศที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่าง
สิ่งหนึ่งกับอีกสิ่งหนึ่ง เช่น MobiLib กับ โรงเรียนเครือข่าย โดยมีความสัมพันธ์กันคือ MobiLib
สร้างเครือข่ายกับโรงเรียนและนักเรียนกลุ่มเป้าหมายเพื่อรวบรวมนักเรียนที่มีศักยภาพและ Passion
เพื่อสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับองค์กร
สรุปผลที่ได้จากการสัมภาษณ์
จากการสัมภาษณ์คณะผู้บริหารและดำเนินงาน MobiLib ทางทีม Mobility ได้ทราบถึงสถานการณ์
ที่ MobiLib ขาดสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ที่มีคุณภาพสำหรับสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ MobiLib
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ดังนั้นทางทีม Mobility ได้ข้อสรุปและข้อกำหนดถึงความต้องการ MobiLib
นั่นคือ คุณลักษณะและสารสนเทศของโรงเรียนเครือข่ายที่เปิดสอนหลักสูตรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริบทของโรงเรียนเครือข่ายและสารสนเทศที่เกี่ยวกับความสามารถ
ของนักศึกษา iSchool KKU รุ่นที่ 46 และ 47 ซึ่งถือเป็นสารสนเทศที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ที่องค์กรจะสามารถนำไปปรับใช้หรือนำไปเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน MobiLib ในทิศทางที่ดีขึ้นได้
ตามคำกล่าวที่ว่า “Every business is an information business … information is the glue
that holds together the structure of all businesses” (Evans and Wurster, 1997)
FINAL REPORT 35
การจัดหาสารสนเทศ
(Information Acquisition)
การจัดหาสารสนเทศ
จากการศึกษาเรื่อง โครงการจัดหาสารสนเทศสำหรับสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์
ของ MobiLib (Information Acquisition to support MobiLib’s strategy) ซึ่งทางทีม
Mobility ได้นำหลักการทางสารสนเทศไปใช้ในการศึกษาตามวัตถุประสงค์ ได้แก่ การกำหนดหรือระบุ
ความต้องการสารสนเทศ (Identification of Information Needs) โดยเป้าหมายของ
MobiLib นั่นคือ คุณลักษณะและสารสนเทศของโรงเรียนเครือข่ายที่เปิดสอนหลักสูตรที่เกี่ยวกับ
เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสารสนเทศความสามารถของนักศึกษา iSchool
KKU รุ่นที่ 46 และ 47 เพื่อทำให้ MobiLib ขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมีคุณภาพและสร้างกิจกรรม
ที่มีมูลค่า (Value Chain) ให้แก่องค์กรได้ โดยมีเนื้อหาหรือประเด็นความต้องการสารสนเทศ ดังนี้
1. เป้าหมายของ MobiLib
เป้าหมายของ MobiLib คือ สร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียนเครือข่ายกับ iSchool KKU
เพื่อเผยแพร่สารสนเทศและความรู้สู่โรงเรียนเครือข่าย และเป็นสถานฝึกประกอบการ (Sandbox)
แก่นักศึกษาในหลักสูตร BiS ที่มีความสามารถได้ฝึกประสบการณ์การทำงานควบคู่ไปกับการเรียนรู้
โดยมีการจัดหาสารสนเทศดังกล่าวมาสนับสนุนเพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
2. ระบุผู้ใช้หลัก
จากการสัมภาษณ์คณะผู้บริหารดำเนินงาน MobiLib พบว่าคณะผู้บริหารและทีมดำเนินการ
มีความต้องการใช้สารสนเทศดังนี้ สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น Digital Agency ประกอบด้วย
สารสนเทศบุคลากร สารสนเทศลูกค้าและสารสนเทศทางการตลาด รวมไปถึงสารสนเทศสนับสนุน
กลยุทธ์การทำ CSR ประกอบด้วยสารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย สารสนเทศนักเรียนกลุ่มเป้าหมายและ
สารสนเทศความต้องการเนื้อหาด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำแนวทางการศึกษา
ต่อ iSchool KKU ของนักเรียน เพื่อนำไปสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์และสร้างกิจกรรม
ที่สร้างมูลค่า (Value Chain) ภายในองค์กรให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยมีผู้ใช้สารสนเทศ
ทั้งสิ้น 3 ระดับ ได้แก่ Top manager คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กันยารัตน์ เควียเซ่น (iSchool
KKU Chair) ,Senior manager คือ รองศาสตราจารย์ ดร. วิศปัตย์ ชัยช่วย ประธานคณะกรรมการ
บริหารหลักสูตร และอาจารย์ ดร. สมเพ็ชร จุลลาบุดดี เลขานุการหลักสูตร BiS iSchool KKU
,First line คือ ทีมปฏิบัติการของ MobiLib (ปี 1-3)
3. พฤติกรรมและความชอบสารสนเทศของผู้ใช้ MobiLib
โดย MobiLib มีผู้ใช้สารสนเทศทั้งสิ้น 3 ระดับ ซึ่งมีการใช้สารสนเทศที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. Top manager มีความต้องการสารสนเทศที่มีการสรุปผลของการจัดหาเรียบร้อย
ในรูปแบบของบทความสรุป
2. Senior manager ต้องการใช้สารสนเทศที่จำแนกรายละเอียดชัดเจน
และกึ่งโครงสร้างที่เข้าใจง่าย
3. First line ต้องการใช้สารสนเทศที่ละเอียด ครบถ้วน เช่น ข้อมูลความต้องการ ข้อมูลส่วนตัว
FINAL REPORT 36
ดังนั้นพฤติกรรมและสารสนเทศของผู้ใช้งานในองค์กรต้องเป็นสารสนเทศที่ถูกต้อง
ทันสมัย ครบถ้วน และเข้าใจง่าย เพื่อที่สามารถดึงสารสนเทศไปแปรรูปให้ตรงกับความต้องการ
ของกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนเป็นที่ต้องการเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ขององค์กรได้ และต้องครอบคลุม
ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
เมื่อทีมได้ดำเนินการศึกษาความต้องการสารสนเทศเป็นที่เรียบร้อย จึงได้นำผลจากการศึกษานี้
ไปใช้ในกระบวนการจัดหาสารสนเทศ เพื่อระบุว่าได้จัดหาสารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น Digital
Agency และสารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การทำ CSR โดยใช้เทคนิควิธีการการทำแผนรวบรวม
สารสนเทศ (Information collection plan) ที่เป็นการตรวจสอบสารสนเทศ แล้วนำผลที่ได้มา
วิเคราะห์ เรียบเรียง และนำมาจัดทำเป็นแผนการจัดหาสารสนเทศที่มีการระบุประเภท ลักษณะสารสนเทศ
แหล่งสารสนเทศ วิธีการจัดหา และผู้รับผิดชอบการจัดหาสารสนเทศ ตลอดจนการวางแผนส่งมอบ
สารสนเทศที่ตรงกับความต้องการ และพร้อมสำหรับนำไปใช้ในการตัดสินใจ/บริหารเชิงกลยุทธ์ได้อย่าง
ครบถ้วน โดยมีการดำเนินการ 3 กิจกรรมสำคัญ คือ
.( (1) การตรวจสอบสารสนเทศ (2) การทำแผนจัดหาสารสนเทศ (3) การส่งมอบสารสนเทศ
โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. การตรวจสอบสารสนเทศ (Information audit)
1.1 ระบุข้อกำหนดสารสนเทศ (Define information requirements)
1. ภารกิจของ MobiLib ที่ต้องการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ (Strategic information)
คือ การเป็นวิสาหกิจจำลองประเภท Digital Agency ประกอบด้วย
- สารสนเทศบุคลากร
- สารสนเทศลูกค้า
- สารสนเทศทางการตลาด
เพื่อนำมาคัดกรองและวิเคราะห์ เป็นส่วนช่วยการตัดสินใจในการวางแผนการบริหารงานเชิงกลยุทธ์
(Strategic information) ให้องค์กรสามารถวางแผนการดำเนินงาน หรือปรับรูปแบบให้ตรงกับ
ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนระยะยาวในการสร้างกิจกรรมที่มี
มูลค่าหรือพัฒนา ฝึกอบรม ทักษะที่จำเป็นในการผลิตคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
อีกทั้งนโยบายหรือกระแสของการปรับเปลี่ยนเข้าสู่สังคมยุค Digital ในทิศทางใด หรือมีความต้องการ
ของตลาดอย่างไร มีความสอดคล้องในการสร้างแรงจูงใจในการสรรสร้างผลงานและเอื้อต่อ
การดำเนินงานขององค์กรได้
2 ภารกิจของ MobiLib ที่ต้องการสารสนเทศเชิงสนับสนุน (Support information)
คือ การบริการวิชาการเพื่อสังคม (CSR) ประกอบด้วย
- สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย
- สารสนเทศนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
- สารสนเทศความต้องการเนื้อหาด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำ
แนวทางการศึกษาต่อ iSchool KKU ของนักเรียน
จากรากฐานเดิมที่คงอยู่ ของการบริการวิชาการเพื่อสังคม (CSR) ที่ในยุคปัจจุบันต้องปรับเปลี่ยน
รูปแบบให้สอดคล้องกับกระแสโลก และสร้างเครือข่ายกับสถานศึกษาที่ให้ความสนใจในหลักสูตร ดังนั้น
สารสนเทศเชิงสนับสนุน (Support information) ที่สามารถเป็นตัวช่วยตัดสินใจสร้างกิจกรรม
ที่มีมูลค่าให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น ทำให้การบริหาร
งานที่ซึ่งได้มาของบุคคลากรภายในหลักสูตร มีจำนวนเพิ่มขึ้น และมีคุณภาพที่จะสามารถส่งต่อบุคลากร
แก่สังคมได้อย่างมีคุณภาพให้ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล
FINAL REPORT 37
สามารถสรุปข้อกำหนดความต้องการใช้สารสนเทศ (Information use requirements) ได้ผลลัพธ์ตามตารางที่ 6 ดังนี้
FINAL REPORT 38
ตารางที่ 6 (ต่อ)
FINAL REPORT 39
1.2 ผู้ใช้สารสนเทศ
แบ่งระดับผู้ใช้งาน ดังนี้
1. Top manager คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กันยารัตน์ เควียเซ่น
(iSchool KKU Chair) มีพฤติกรรมการใช้งานสารสนเทศที่เข้าใจ
ง่าย กระชับ และมีแหล่งที่มาชัดเจน ที่อยู่ในรูปแบบบทความสรุป
ภาครวมเพื่อสามารถนำไปวางแผนกลยุทธ์การดำเนินงาน
ภายในองค์กร ซึ่งประกอบด้วย
1. สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น Digital Agency
2. สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การทำ CSR
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.กันยารัตน์ เควียเซ่น
รองศาสตราจารย์ 2. Senior manager คือ รองศาสตราจารย์ ดร. วิศปัตย์ ชัยช่วย
ดร. วิศปัตย์ ชัยช่วย ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และอาจารย์ ดร. สมเพ็ชร
จุลลาบุดดี เลขานุการหลักสูตร BiS iSchool KKU ต้องการ
อาจารย์ สารสนเทศนำไปสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ในการดำเนินงาน
ดร. สมเพ็ชร จุลลาบุดดี ขององค์กร ในเชิงโครงงาน การบริหารงานภายในองค์กร
พร้อมทั้งการวางแผนการดำเนินงานให้แก่องค์กร เพื่อส่งต่อโครงการ
ให้แก่ First line ดำเนินงาน ที่อยู่ในรูปแบบสารสนเทศที่เข้าใจง่าย
พร้อมสรุปผลลัพธ์ของสารสนเทศนั้น เช่น แผนภูมิ ตาราง เป็นต้น
3. First line คือ ทีมปฏิบัติการของ MobiLib (ปี 1-3) ที่ต้องการสารสนเทศที่มีรายละเอียด
ครบถ้วน ถูกต้อง เช่น ข้อมูลส่วนตัว ความต้องการเชิงลึก หรือทักษะที่สามารถนำไปต่อยอดได้
เพื่อนำไปวางแผนปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมของบุคคลากรภายในองค์กรได้ ในการสนับสนุน
การขับเคลื่อนกลยุทธ์และสร้างกิจกรรมที่สร้างมูลค่าให้กับ MobiLib
เช่น จัดกิจกรรมการอบรม E-Book
และกิจกรรมเสริมสร้างทักษะการตัดต่อ
หรือ live streaming เป็นต้น
หากไม่มีการดำเนินกิจกรรมจะส่งผล
กระทบต่อ MobiLib ในการดำเนินงาน
ภายในองค์กร และไม่สามารถนำความรู้
หรือทักษะไปต่อยอดให้ตอบโจทย์กับ
ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้
ทีมปฏิบัติการของ MobiLib
FINAL REPORT 40
1.3 สารสนเทศที่ต้องการ
1. สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น Digital Agency ประกอบด้วย
สารสนเทศบุคลากร คือ บุคลากรที่มีความสามารถ (Competence) สอดคล้องกับการเป็น Digital
Agency ของ MobiLib ประกอบด้วย ข้อมูลรหัสนักศึกษา ชื่อ-สกุล ชื่อเล่น ชั้นปี ช่องทางการ
ติดต่อ รวมไปถึงผลงานเชิงประจักษ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถส่วนบุคคล (iStudent profile)
อีกทั้งการจำแนกและจัดกลุ่มตามความสามารถของบุคคล
สารสนเทศลูกค้า คือ สารสนเทศที่บ่งบอกความต้องการที่เกี่ยวกับ Digital Content ของผู้บริโภค
ประกอบด้วย ที่มาของสื่อดิจิทัลคอนเทนต์ได้มาจากการว่าจ้างหรือจัดทำขึ้นเอง, รูปแบบ Digital
Content ที่มักใช้งาน, วัตถุประสงค์ในการนำไปใช้งาน, ความเต็มใจจ่าย (Willingness to Pay:
WTP) ของ Digital Content แต่ละรูปแบบ, ปัญหาและความต้องการในการแก้ปัญหาของผู้บริโภค
ปัญหาและอุปสรรคในการว่าจ้างผลิต Digital Content รวมไปถึงความคาดหวังต่อหน่วยงานที่ผลิต
Digital Content
สารสนเทศทางการตลาด คือ สารสนเทศที่บ่งบอกถึงแนวโน้ม การบริหาร และการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง
กับการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์ของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วยข้อมูล ทิศทางนโยบาย, แบบแผน
ปฏิบัติการประจำปี, พันธกิจและนโยบายในการบริหารและพัฒนา, รวมทั้งปัญหาความขาดแคลน
บุคลากรในการขับเคลื่อนโยบาย
Retrieve from https://www.pexels.com/search/marketing/
2. สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การทำ CSR ประกอบด้วย
สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย คือ ข้อมูลของโรงเรียนเครือข่ายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีสายการ
เรียนในหลักสูตรดิจิทัล ประกอบด้วย ชื่อโรงเรียน, ข้อมูลทั่วไปของโรงเรียน, Facebook Fanpage,
เว็บไซต์โรงเรียน (URL), ชื่อโปรแกรมดิจิทัลที่เปิดสอน, ช่องทางการติดต่อ
สารสนเทศนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย คือ ข้อมูลของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่กำลังศึกษาในระดับชั้น
มัธยมศึกษา หลักสูตรดิจิทัลของโรงเรียนเครือข่าย ที่มีความสนใจในหลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต
iSchool KKU ประกอบด้วย โรงเรียนที่กำลังศึกษา, ข้อมูลเพศ, ระดับชั้นการศึกษา ,ช่องทางการติดต่อ
, สิ่งที่สนใจหรืองานอดิเรก และสายงานที่สนใจหลังจบการศึกษา
สารสนเทศความต้องการเนื้อหาด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำแนวทางการ
ศึกษาต่อ iSchool KKU ของนักเรียน ซึ่ง MobiLib จะต้องเป็น Provider ในสิ่งที่นักเรียนต้องการ
ประกอบด้วยลักษณะประเภทคอนเทนต์ 6 ประเภท ดังนี้ 1. Video Content 2. Album Content
3. Real Time Content 4. Question & Opinion Content 5. Text Quote Content
6. Live Streaming & Meeting Talking Content
FINAL REPORT 41
1.4 ลักษณะของสารสนเทศ
1.สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น Digital Agency
สารสนเทศบุคลากร สารสนเทศความสามารถของ iStudent รุ่นที่ 46 และ 47 โดยจำแนก
เป็นรายบุคคลที่มีความสอดคล้อง กับการเป็น Digital Agency ของ MobiLib โดยแบ่งแยกกลุ่ม
ที่มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน กลุ่มที่กำลังพัฒนา และกลุ่มที่มีความสนใจ และจำแนกเป็น iStudent
รุ่นที่ 46 และรุ่นที่ 47 จำนวนกี่คน และบุคคลที่มีความสามารถสอดคล้องกับการเป็น Digital Agency
ของ MobiLib ที่ผ่านการคัดเลือก เข้าศึกษาต่อในรอบ Portfolio จำนวนกี่คน แบ่งแยกกลุ่มที่มี
ศักยภาพสูงสามารถทำงานในเชิง การตัดต่อ/ถ่ายทำ, กราฟิก/ออกแบบ, พิธีกร (MC), การติดต่อ
ประสานงาน, คิด Content / เขียนสคริป รวมไปถึงการพากษ์เสียง นำมาสังเคราะห์สารสนเทศ
เพื่อส่งมอบให้ MobiLib แปรรูปให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของระดับผู้ใช้สารสนเทศ
สารสนเทศลูกค้า สารสนเทศลูกค้าที่ได้จากการสำรวจผ่านเครืองมือการสำรวจและการสัมภาษณ์
แบบออนไลน์ เกี่ยวกับความต้องการด้าน Digital Content ของผู้บริโภค ประกอบด้วย ที่มาของสื่อ
ดิจิทัลคอนเทนต์, รูปแบบและวัตถุประสงค์ของ Digital Content อีกทั้งความเต็มใจจ่าย
(Willingness to Pay: WTP) ของแต่ละรูปแบบของผู้บริโภค ความต้องการในการแก้ปัญหา
ของผู้บริโภคหรืออุปสรรคในการว่าจ้างผลิต Digital Content ความคาดหวังหรือความคิดเห็น
ของผู้บริโภคนำมาสรุปผลและวิเคราะห์แต่ละประเด็น เพื่อให้ผู้ใช้สารสนเทศได้นำไปประยุกต์ใช้ในการ
วางแผนกลยุทธ์ขององค์กรหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่าย
สารสนเทศทางการตลาด พันธกิจและนโยบายในการบริหารและพัฒนามหาวิทยาลัย และแผนฏิบัติงาน
ประจำปีของมหาวิทยาลัย เป็นรูปแบบนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ทีมีความเกี่ยวข้องกับ Digital Agency
หรือภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลในยุคปัจจุบัน ซึ่งพันธกิจและนโยบายในการบริหารและพัฒนา แบ่งเป้าหมาย
เชิงยุทธศาสตร์ออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ประชาคม ระบบนิเวศ และจิตวิญญาณของมหาวิทยาลัย
และแผนฏิบัติงานประจำปีในการปรับเปลี่ยนองค์กรให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation)
มีกลยุทธ์ 3 อย่างคือ Digital Disruption , Social Concerns และ Private Demand
Retrieve from https://www.pexels.com/search/marketing/
FINAL REPORT 42
Retrieve from https://www.pexels.com/photo/selective-focus-photography-of-child-s-hand-1250452/
2. สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์ CSR
สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เปิดสอนหลักสูตรดิจิทัล เป็นการระบุ
จำนวนโรงเรียนเครือข่ายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจำแนกโรงเรียนออกเป็นตามจังหวัด
ต่าง ๆ และในจังหวัดนั้น ๆ ประกอบไปด้วยโรงเรียนใดบ้าง อยู่ภายใต้สังกัดเขตการศึกษาใด
โรงเรียนดังกล่าวมีหลักสูตรดิจิทัลที่ชื่อหลักสูตรว่าอะไร เปิดสอนเป็นโปรแกรมพิเศษหรือโปรแกรม
ปกติ โดยนำมาประมวลผลให้เป็นสารสนเทศและสรุปออกมาเป็นสารสนเทศของแต่ละโรงเรียน
ในส่วนสารสนเทศที่เป็นตัวเลขหรือจำนวนโรงเรียน จะทำการสรุปออกมาเป็นแผนภูมิวงกลม
กำกับด้วยตัวเลขเปอร์เซ็นต์
สารสนเทศนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย สารสนเทศของนักเรียนที่มีความสนใจที่จะเข้าศึกษาต่อ
ในหลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต iSchool KKU โดยทำการรวบรวมข้อมูลเชิงรุกจากนักเรียน
จากโรงเรียนเครือข่ายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 โรงเรียน แล้วนำข้อมูลนักเรียนที่มีความ
สนใจจำนวน 46 คน จาก 283 คน มาจำแนกออกมาเป็นข้อมูลเบื้องต้นของนักเรียน เช่น โรงเรียน
ระดับชั้นที่กำลังศึกษา ช่องทางการติดต่อ สิ่งที่สนใจ แล้วนำมาสรุปออกมาเป็นตาราง จากนั้น
นำสารสนเทศที่เป็นตัวเลขมาสรุปออกมาเป็นแผนภูมิวงกลมกำกับด้วยตัวเลขเปอร์เซ็นต์
สารสนเทศความต้องการเนื้อหาด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำ
แนวทางการศึกษาต่อ iSchool KKU ของนักเรียน สารสนเทศความต้องการเนื้อหาด้านการ
เผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำแนวทางการศึกษาต่อ ที่นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
อยากจะให้ทาง MobiLib จัดทำออกมาเผยแพร่นั้น ทางทีมได้ทำการสรุปผล ออกมาพบว่า
นักเรียนต้องการให้ทำคอนเทนต์ที่เน้นการถ่ายทอดเรื่องราวด้วยภาพเคลื่อนไหว มีเสียงประกอบ
หรือ Video Content มากที่สุด และนำคอนเทนต์ที่มีอันดับรองลงมาจัดเรียงลำดับ
และแสดงตัวเลขเปอร์เซ็นต์ผ่านแผนภูมิวงกลม
FINAL REPORT 43