The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by MOBILIB, 2022-04-02 03:39:24

Final Report (Mobility)

Final Report (Mobility)

1.5 แหล่งที่มีสารสนเทศ
1.สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น Digital Agency

สารสนเทศบุคลากร
แหล่งภายใน นักศึกษาในหลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิตรุ่นที่ 46 และ 47 ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย
ในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยวิธีการทำฟอร์มในการเก็บข้อมูลและนำไปจัดทำเป็นสารสนเทศเพื่อส่งมอบ
แก่องค์กรต่อไป
แหล่งภายนอก ไม่มี เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ภายในองค์การขององค์กร
ที่ได้จัดหาสารสนเทศเพื่อนำไปสร้างกลยุทธ์ต่อไป
สารสนเทศลูกค้า
แหล่งภายใน อาจารย์ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องหาความต้องการเชิงลึก
เพื่อที่จะสามารถนำข้อมูลมาประมวลให้ตอบสนองกับกลุ่มเป้าหมาย
แหล่งภายนอก ไม่มีเนื่องจากกลุ่มเป้าหมายอยู่ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยขอนแก่น
สารสนเทศทางการตลาด
แหล่งภายใน ประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่องพันธกิจและนโยบายในการบริหารและพัฒนา
ในระหว่างปี พ.ศ. 2562 - 2566 และแผนปฏิบัติการประการเก็บข้อมูลจากโรงเรียนเครือข่ายจำปี
งบประมาณ 2564 -2565 ของมหาวิทยาลัย รวมไปถึงจากการสัมภาษณ์กลุ่มลูกค้าองค์กร MoboLib
แหล่งภายนอก ไม่มี เนื่องจากทีมได้จัดหาข้อมูลภายในมหาวิทยาลัยด้วยการสืบค้น รวบรวมข้อมูล
ผ่านทางเว็บไซต์และจากการสัมภาษณ์อาจารย์และบุคลากรในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
2.สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์ CSR
สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย
แหล่งภายใน ไม่มี เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวอยู่ภายนอกขององค์การ ซึ่งทีมได้มีการสืบค้น คัดกรองและ
ประสานงานกับโรงเรียนเครือข่ายเพื่อให้ได้ข้อมูลมา
แหล่งภายนอก กลุ่มเป้าหมายโรงเรียนเครือข่าย จากการสำรวจและคัดเลือกโรงเรียนที่เปิดสอน
หลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัล ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 20 โรงเรียน
สารสนเทศนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
แหล่งภายใน ไม่มี เนื่องจากนักเรียนกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนจากองค์การภายนอก
ทีมต้องติดต่อประสานงานกับโรงเรียนเพื่อขอเก็บข้อมูล
แหล่งภายนอก นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย จากโรงเรียนเครือข่ายจำนวน 20 โรงเรียน ทางทีมได้มี
การติดต่อเพื่อทำการขอเก็บข้อมูลเบื้องต้นจากแบบสำรวจ เช่น โรงเรียน, email, ชั้นปี, เพศ, ช่องทางการ
ติดต่อ, งานอดิเรก, สายงานที่สนใจ และคณะที่สนใจ เป็นต้น
สารสนเทศความต้องการเนื้อหาด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำ
แนวทางการศึกษาต่อ iSchool KKU ของนักเรียน
แหล่งภายใน ไม่มี เนื่องจากทีมได้เก็บข้อมูลนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย จากโรงเรียนเครือข่าย
โดยทีมต้องติดต่อประสานงานกับโรงเรียนเพื่อส่งแบบสำรวจขอเก็บข้อมูล
แหล่งภายนอก นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย จากโรงเรียนเครือข่าย จำนวน 20 โรงเรียน
โดยทำการเก็บข้อมูลจากแบบสำรวจความต้องการเนื้อหาด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์
และความต้องการการแนะนำแนวทางการศึกษาต่อของ iSchool KKU จากนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย

FINAL REPORT 44

1.6 วิธีการจัดหาสารสนเทศ

Retrieve from https://www.pexels.com/ 1. สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น Digital Agency
สารสนเทศบุคลากร ใช้วิธี การสำรวจ (Survey)

ข้อมูลพื้นฐานและความสามารถ รวมไปถึงหลักฐานที่แสดงถึง
ความสามารถของ iStudent รุ่นที่ 46 และ 47 และเมื่อได้
ข้อมูลดังกล่าวแล้วจึงนำมาประมวลผล (Processing of
data) ให้เป็นสารสนเทศโดยแบ่งแยกความสามารถตามกลุ่ม
Digital Agency แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม
Creativity ซึ่งจะเป็นบุคคลที่สามารถปฏิบัติงานในเชิง
กราฟิก/ออกแบบ, ตัดต่อ/ถ่ายทำ, คิด Content และ
การเขียนสคริป และกลุ่ม Communication เป็นบุคคล
ที่สามารถปฏิบัติงานในเชิง การประสานงาน/เจรจาพูดคุย,
พิธีกร (MC) และการพากษ์เสียง อีกทั้งยังแบ่งแยกออก
เป็นกลุ่มที่พร้อมปฏิบัติงาน กลุ่มที่กำลังพัฒนาและกลุ่ม
ที่มีความสนใจ ตามความสามารถของบุคคลแล้วนำมาสรุป
(Conclusion) สังเคราะห์ให้เป็นสารสนเทศเพื่อส่งมอบให้
MobiLib เป็นสารสนเทศที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งาน
แต่ละระดับ รูปแบบแตกต่างออกไปเพื่อให้สามารถนำไป
ใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้สารสนเทศ

2. สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์ CSR Retrieve from https://www.pexels.com/
สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย ใช้วิธีการสำรวจ (Survey)
FINAL REPORT 45
จากการสืบค้นข้อมูลโรงเรียน 100 โรงเรียนในภาคตะวันออก
เฉียงเหนือที่พิจารณาจากคะแนน Admission รับตรง O-
net เพื่อให้ทราบถึงโรงเรียนที่มีการเปิดสอนหลักสูตรเกี่ยวกับ
ดิจิทัล สำรวจข้อมูลนักเรียนจากโรงเรียนเครือข่าย เพื่อให้
ทราบถึงนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในหลักสูตร
สารสนเทศศาสตรบัณฑิต (โครงกการบัณฑิตพันธุ์ใหม่)
iScool KKU และข้อมูลความต้องการเนื้อหาด้านการ
เผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัลคอนเทนต์และแนะนำแนวทาง
การศึกษาต่อ iSchool KKU ของนักเรียนโรงเรียนเครือข่าย
เพื่อให้ทราบถึงความต้องด้านเนื้อหาดิจิทัลคอนเทนต์
เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าวแล้วจึงนำมาประมวลผล (Processing
of data) ให้เป็นสารสนเทศที่ต้องต่อความต้องการและนำมา
สรุป (Conclusion) สังเคราะห์สารสนเทศเพื่อส่งมอบให้
MobiLib แบ่งระดับผู้ใช้งาน

1. Top manager
2. Senior manager
3. First line
แต่ละรูปแบบแตกต่างออกไปเพื่อให้สามาระนำไปใช้ได้
ตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้สารสนเทศ

1.7 ระบบหรือโปรแกรมประยุกต์สำหรับการประมวลสารสนเทศ
1.สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ
์การเป็น Digital Agency
Microsoft Excel ช่วยในการเก็บรวบรวมฐานข้อมูลแบบละเอียด เช่น ข้อมูลส่วนตัว ความคิดเห็น
และสามารถแปรรูปให้กลายเป็นสารสนเทศที่เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น
Google Sheets ช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบออนไลน์ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
ในการทำงานพร้อมกันเป็นทีมและช่วยในการแปรรูปสารสนเทศตามความต้องการนำไปใช้งาน
Google Forms ช่วยในการเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครบถ้วน ตามความต้องการ
ขององค์กร และสรุปผลของการสำรวจได้อย่างรวดเร็ว
2.สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์ CSR
Microsoft Excel ช่วยในการเก็บรวบรวมฐานข้อมูลแบบละเอียด เช่น ข้อมูลส่วนตัว ความต้องการ
สิ่งที่คาดหวัง และยังสามารถแปรรูปให้กลายเป็นสารสนเทศที่เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น
Google Sheets ช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบออนไลน์ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
อีกทั้งง่ายต่อการดึงข้อมูลมาใช้งาน และช่วยในการแปรรูปให้กลายเป็นสารสนเทศที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
Google Doc สามารถจัดทำเอกสารหรือหนังสือเพื่อขออนุญาตการเก็บข้อมูลจากแบบสำรวจ
ออนไลน์ อีกทั้งสามารถสรุปภาครวม และจัดเรียงเอกสารเพื่อส่งมอบให้กับองค์กรได้
ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในเครื่องมือบางประเภทที่อาจทำให้การทำงานไม่สะดวก
Google Forms สามารถจัดทำแบบสำรวจออนไลน์ เก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็น
โปรแกรมที่เข้าถึงง่าย โดยเมื่อมีคำตอบกลับเข้าไปยังแบบฟอร์ม โปรแกรมนั้นจะสรุปผลภาพรวมของ
คำตอบแต่ละข้อได้อย่างรวดเร็ว

Retrieve from https://www.pexels.com/photo/man-in-front-of-his-computer-3059661/

FINAL REPORT 46

1.8 วิเคราะห์ช่องว่างทางสารสนเทศ (Information gap analysis)
โดยการนำข้อมูล-สารสนเทศที่มีอยู่ในระบบปัจจุบัน มาเปรียบเทียบกับข้อมูล-สารสนเทศที่ผู้ใช้

มีความต้องการ เพื่อให้เห็นความแตกต่างหรือช่องว่างซึ่งต้องเติมเต็มโดยการจัดหาจากแหล่งต่าง ๆ
ด้วยวิธีที่ถูกต้อง เหมาะสม และคุ้มค่า ผลการวิเคราะห์แสดงได้ตามตารางที่ 7

FINAL REPORT 47

ตารางที่ 7 วิเคราะห์ช่องว่างทางสารสนเทศ (Information gap analysis) (ต่อ)
FINAL REPORT 48

2. การทำแผนจัดหาสารสนเทศ (Information collection plan)
จากขั้นตอนการตรวจสอบสารสนเทศ ทีมได้จัดทำ แผนจัดหาสารสนเทศ (Information collection plan) โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสำรวจ

โดยการจัดทำแบบสำรวจขึ้น การสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย สืบค้นจากเว็บไซต์และสืบค้าข้อมูลโรงเรียนเป้าหมายในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจาก Fanpage
Facrbook
ของโรงเรียน รวมไปถึงการติดต่อไปยังโรงเรียนเครือข่ายเพื่อขออนุญาตเก็บข้อมูลของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย โดยมีแผนการจัดหาสารสนเทศ ดังนี้

ตารางที่ 8 แผนจัดหาสารสนเทศ (Information collection plan)

FINAL REPORT 49

ตารางที่ 8 แผนจัดหาสารสนเทศ (Information collection plan) (ต่อ)

FINAL REPORT 50

ตารางที่ 8 แผนจัดหาสารสนเทศ (Information collection plan) (ต่อ)

FINAL REPORT 51

ตารางที่ 8 แผนจัดหาสารสนเทศ (Information collection plan) (ต่อ)

FINAL REPORT 52

ตารางที่ 8 แผนจัดหาสารสนเทศ (Information collection plan) (ต่อ)

FINAL REPORT 53

3. การส่งมอบสารสนเทศ (Information Delivery)
เมื่อดำเนินการตามแผนจัดหาสารสนเทศแล้ว ทีมจึงได้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน

และทันสมัยของสารสนเทศที่จะทำการส่งมอบ และได้เข้ารับคำปรึกษาจาก Project Consultant พบว่า
สารสนเทศที่ส่งมาไม่ครบถ้วน ทางทีมจึงได้นำคำแนะนำกลับมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ครบถ้วน
และมีคุณภาพ โดยมีการจัดทำสารสนเทศให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้งานสารสนเทศแต่ละกลุ่ม
คือ Top Manager, Senior Manager และ First Line ก่อนจะทำการส่งมอบสารสนเทศให้กับ
ผู้ใช้สารสนเทศ ซึ่งอยู่ในลักษณะรายงานสรุปผลการจัดหาสารสนเทศโดยมีโครงสร้างคือ บทคัดย่อ/บทสรุป
สำหรับผู้บริหาร นำเสนอภาพรวม ทั้งแง่สาระ และปริมาณ ให้ข้อสังเกต แนะนำการใช้งาน กลั่นกรอง
เลือกสาระสำคัญ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ เน้นให้เด่น (Highlight) จัดกลุ่ม จัดเรียง จัดหมวดหมู่
ให้ใช้งานง่าย นำมาสังเคราะห์สารสนเทศเพื่อส่งมอบให้ MobiLib แปรรูปให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์
ของระดับผู้ใช้สารสนเทศทีมได้แจ้งเตือน (Alerting) ไปยังผู้ใช้โดยตรง คือ

1. Top manager คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กันยารัตน์ เควียเซ่น (iSchool KKU Chair) ทีมได้
แจ้งเตือนผ่านทาง การแจ้งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอกนิกส์ เพื่อให้สามารถใช้งานสารสนเทศได้อย่างทันเวลา
รวมทั้งติดตามผลการได้รับสารสนเทศ และการใช้งานสารสนเทศ เพื่อนำมาปรับปรุงในครั้งต่อไป
โดยอาจรวบรวมข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะของผู้ใช้ จากการสอบถาม สัมภาษณ์

2. Senior manager คือ รองศาสตราจารย์ ดร. วิศปัตย์ ชัยช่วย ประธานคณะกรรมการบริหาร
หลักสูตร และอาจารย์ ดร. สมเพ็ชร จุลลาบุดดี เลขานุการหลักสูตร BiS iSchool KKU ทีมได้แจ้งเตือน
ผ่านทาง การแจ้งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอกนิกส์ เพื่อให้สามารถใช้งานสารสนเทศได้อย่างทันเวลา
รวมทั้งติดตามผลการได้รับสารสนเทศ และการใช้งานสารสนเทศ เพื่อนำมาปรับปรุงในครั้งต่อไป
โดยอาจรวบรวมข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะของผู้ใช้ จากการสอบถาม สัมภาษณ์

3. First line คือ ทีมปฏิบัติการของ MobiLib (ปี 1-3) ทีมได้แจ้งเตือนผ่านทาง การแจ้งทางกล่อง
ข้อความ การโทรแจ้ง เพื่อให้สามารถใช้งานสารสนเทศได้อย่างทันเวลา รวมทั้งติดตามผลการได้รับ
สารสนเทศ และการใช้งานสารสนเทศ เพื่อนำมาปรับปรุงในครั้งต่อไป โดยอาจรวบรวมข้อคิดเห็น
ข้อเสนอแนะของผู้ใช้ จากการสอบถาม สัมภาษณ์

FINAL REPORT 54

การถอดบทเรียนโครงการ
(Capturing Lessons Learned)

ในการทำโครงการบูรณาการวิจัยกับการปฏิบัติ Capstone project ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์
เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะด้านการจัดหาสารสนเทศและความรู้ซึ่งเป็น 1 ในสมรรถนะหลัก
ของวิชาชีพสารสนเทศเพื่อเป็นบัณฑิตพันธุ์ใหม่ที่สามารถทำงานได้ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมและ
สถานประกอบการตามนโยบายปฏิรูปอุดมศึกษาไทย อีกทั้งเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ในการปฏิบัติงาน
ที่เกี่ยวข้องกับการจัดกาสารสนเทศและความรู้ สามารถบูรณาการความรู้และประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศและการปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี มีทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในโลกสมัยใหม่
มีคุณลักษณะส่วนบุคคลในการปรับตัวและแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
มีความตระหนักรู้และปฏิบัติตนตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ
เนื่องจากทีม Mobility ได้ทำโครงการบูรณาการวิจัยกับการปฏิบัติ Capstone project
ในเรื่อง โครงการจัดหาสารสนเทศสำหรับสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ MobiLib
( I n f o r m a t i o n A c q u i s i t i o n t o s u p p o r t M o b i L i b ’ s s t r a t e g y ) อ ย่ า ง ไ ร ก็ ดี
ตลอดการทำงานระยะเวลา 69 วัน (17 มกราคม - 27 มีนาคม 2565) ทางทีม Mobility
ได้พบปัญหา อุปสรรค และสิ่งที่ได้เรียนรู้มากมาย ซึ่งสามารถถอดบทเรียนจากประสบการณ์
การทำงาน ดังนี้

1.ปัญหา อุปสรรค ข้อจำกัด
1.1 บุคลากร

- ปัญหา
ความไม่เข้าใจงาน เนื่องจากทางทีมยังขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนในการทำงาน ไม่มี
การจัดลำดับความสำคัญของงาน ว่าควรทำอะไรก่อนและหลัง ทำให้ทางทีมดำเนินงานข้ามขั้นตอน
ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาด เนื่องจากแปลงข้อมูลเป็นสารสนเทศไม่เป็นระบบและกระจัดกระจาย
ซึ่งนำไปสู่การระบุสารสนเทศที่ไม่ถูกต้องและไม่ตรงตามความต้องการขององค์กร
ความประมาทและขาดความรอบคอบ ทีมมีความชะล่าใจ เนื่องจากคิดว่าระยะเวลาที่กำหนด
ในการดำเนินงานและระยะเวลาในการส่งงานยาวนาน ทำให้ทีมนิ่งนอนใจและประมาท ส่งผลให้เกิด
ความล่าช้าในการเริ่มต้นการทำงาน และสมาชิกในทีมมีหน้าที่ในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้ง
ทำงานเฉพาะที่ตนเองได้รับมอบหมาย ไม่ยืดหยุ่น เมื่อเสร็จงาน ไม่สำรวจตรวจทานในงานส่วนอื่น ๆ
ที่สมาชิกคนอื่นได้ทำไว้ เมื่อส่งงานถูกตีกลับมาแก้ไขหลายต่อหลายครั้ง ส่งผลให้ส่งงานล่าช้า
ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดใน TOR

- อุปสรรค
อุปสรรคด้านการทำงาน เนื่องจากสถานการณ์โควิด - 19 ทำให้สมาชิกในทีมต้องทำงาน ผ่านทาง
ออนไลน์ ไม่ได้พบหน้าพูดคุยกันโดยตรง ทำให้เกิดการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ทำให้งานออกมาไม่เป็น
ระบบเท่าที่ควร อีกทั้งพบสมาชิกภายในทีมบางคนไม่เข้าร่วมพูดคุย จึงทำให้ประสิทธิภาพของงาน
ออกมาไม่ดีเท่าที่ควรและไม่ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
อุปสรรคด้านการจัดหาข้อมูล ในการจัดหาและสืบค้นข้อมูล มีข้อจำกัดเนื่องจากสารสนเทศที่ทางทีม
ได้รับมอบหมาย เป็นข้อมูลโรงเรียนที่เปิดสอนในหลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัล แต่เนื่องจากสถานการณ์
โควิด-19 ทำให้ไม่สามารถลงพื้นที่โรงเรียนเป้าหมายในการเก็บข้อมูลได้ ทำได้เพียงสืบค้นตามเว็บไซต์
ของโรงเรียน ซึ่งข้อมูลบนเว็บไซต์ของโรงเรียนไม่เป็นปัจจุบัน และข้อมูลความสามารถของนักศึกษา
iSchool KKU รุ่นที่ 46 และ 47 มีการเก็บข้อมูลด้วย Google form ซึ่งมีการกำหนดระยะเวลา
ในการกรอกที่ชัดเจน แต่ทางทีมต้องกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายให้ดำเนินการกรอกข้อมูล เพราะอาจมีการ
ปล่อยปะละเลยและทำให้กำหนดการคลาดเคลื่อนกว่ากำหนด

FINAL REPORT 55

- ข้อจำกัด
การทำงานส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบออนไลน์ สืบเนื่องจากโรคระบาดโควิด-19 จึงปรับใช้เครื่องมือ

Google Docs เพื่อเปิดแชร์เอกสารให้ทำงานร่วมกัน ช่วยกันสืบค้นและรวบรวมข้อมูลผ่านทาง
อินเทอร์เน็ต และสื่อสารในห้องออนไลน์ และมีเพียงสมาชิกส่วนหนึ่งที่อยู่ในระแวกมหาวิทยาลัย จึงมีการ
รวมตัวเข้ามาทำงานร่วมกัน และสมาชิกที่เหลือทำงานผ่านทางออนไลน์ อีกทั้งระยะทางจากบ้านค่อนข้าง
ไกล จึงไม่สามารถเข้ามาทำงานร่วมกับเพื่อนได้ทุกครั้ง ซึ่งเป็นข้อจำกัดในด้านเทคโนโลยี
เนื่องจากในบางครั้งสมาชิกในทีมบางคนก็จะมีปัญหาเรื่องของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรืออุปกรณ์
ที่ไม่พร้อมสำหรับการทำงาน

1.2 การบริหารจัดการ
- ปัญหา

ทางทีมไม่มีการกำหนดแผนการทำงานที่ชัดเจนแก่สมาชิกภายในทีตั้งแต่เริ่มต้นจึงส่งผลให้
กระบวนการในการดำเนินงานไม่เป็นระบบ ทำงานข้ามขั้นตอน เช่น การจัดทำ Draft Final Report
ในหัวข้อต่าง ๆ ที่ไม่มีการวางแผนว่าบุคคลใดเป็นผู้รับผิดชอบ และทำการรวบรวมสารสนเทศ โดยไม่ได้
ปรึกษาที่ปรึกษาของโครงการ จึงทำให้สารสนเทศที่จัดหามาไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของ MobiLib
- อุปสรรค

สมาชิกภายในทีมขาดความพร้อมในการทำงาน เนื่องจากการทำงานอยู่ในรูปแบบออนไลน์
ไม่ได้พบปะพูดคุยกันตามปกติทั่วไป จึงส่งผลให้การจัดการระบบเวลาชีวิตไม่มีประสิทธิภาพ ผัดวัน
ประกันพรุ่ง ไม่มีความกระตือรือร้น และไม่ให้ความสำคัญในภาระงานและขาด passion ในการทำงาน
- ข้อจำกัด

ด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการดำเนินงานที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงเกิดผลกระทบ
ขณะการทำงานหรือติดต่อสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

1.3 เวลา
- ปัญหา

ทีมประสบปัญหาในการจัดหาสารสนเทศที่ล่าช้า เพราะความไม่เข้าใจ ส่งผลให้ทีมไม่สามารถจัดส่ง
Draft Final Report และ Final Report ฉบับสมบูรณ์ ตามกำหนดการใน TOR เดิมได้ ทีมจึง
จำเป็นต้องต้องเจราจาต่อรองกับ MobiLib เรื่องการแก้ไขกำหนดการใน TOR เพื่อขอขยายระยะเวลา
การส่ง Draft Final Report และ Final Report ฉบับสมบูรณ์
- อุปสรรค

การทำงานร่วมกันส่วนใหญ่เป็นไปในรูปแบบออนไลน์ สมาชิกภายในทีมละเลยในการปฏิบัติหน้าที่
ไม่สามารถจัดสรรและบริหารเวลาของตนเองได้ ส่งผลให้ไม่สามารถทำหน้าที่ของตนได้เท่าที่ควร
1.4 โครงสร้าง
- ปัญหา

โครงสร้างของทีมมีการแบ่งหน้าที่หรือประเภทของงานชัดเจน ทำให้สมาชิกในทีมได้ทำงาน
ตามความถนัดนั้น ๆ ของตนเองอย่างเต็มที่แต่ปัญหาที่ตามมาคือ เมื่อมีการแบ่งงานตามความถนัดและให้
อิสระในการทำงานมากเกินไป ส่งผลให้บางภาระงานตกไปอยู่ที่คนกลุ่มเดียว
- อุปสรรค

เนื่องจากทีมมีการจัดวางโครงสร้างเอาไว้อย่างเป็นระบบ ระบุตำแหน่งชัดเจนทำให้สมาชิกในทีมจึง
ไม่ยืดหยุ่นในการทำงาน สมาชิกในทีมยึดติดกับหน้าที่ของตนเองและบางครั้งละเลยจนไม่ให้ความสนใจ
งานเท่าที่ควรและทำเฉพาะส่วนที่ตนได้รับมอบหมาย ซึ่งเป็นผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสมาชิกในทีม

FINAL REPORT 56

2. วิธีการแก้ไขปัญหา อุปสรรค ข้อจำกัดและวิธีการจัดการของ Project Manager (PM)
2.1 บุคลากร

- ปัญหา
ความไม่เข้าใจงาน มีขั้นตอนการจัดการคือ ขอคำปรึกษาจาก Project Consultant เพื่อขอ
คำแนะนำแนวทางในการแก้ปัญหา และนำมากลั่นกรองปรับประยุกต์ใช้กับสมาชิกในทีม และนัดประชุม
ภายในทีมเพื่อหาข้อตกลง พูดคุย แลกเปลี่ยน เพื่อให้มีเป้าหมายที่ตรงกัน โดยมีแหล่งศึกษา
จากรายวิชา IKA และช่องทางออนไลน์ อีกทั้งมีการจัดระบบงาน Action plan ภายในทีม
Mobility เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงาน รู้งาน รู้หน้าที่ และมีรายละเอียดภาระงานที่ชัดเจน
ความประมาทและขาดความรอบคอบ นับเป็นปัญหาหลักเมื่อทางทีมไม่มีการจัดระบบและวางแผน
การทำงาน รวมไปถึงไม่ทำความเข้าใจกับภาระงานที่ได้รับมอบหมาย ย่อมขาดสติและขาดความ
รอบคอบในการทำงาน ซึ่ง Project manager ต้องคอยกระตุ้นสมาชิกในทีม มอบหมายงานและ
พูดคุยกับทุก ๆ ฝ่าย ให้เข้าใจในภาระงาน ดังนั้นจึงมีวิธีการจัดการคือ 1. ศึกษาและทำความเข้าใจ
ของภาระงาน 2. มีการวางแผนงานที่ชัดเจนคือ Action plan พร้อมกับรายละเอียดของงาน
3. คอยกระตุ้นสมาชิกภายในทีมเพื่อให้เป้าหมายที่วางไว้สำเร็จลุล่วง 4. มีการประชุมพูดคุย
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการหาวิธีการที่ทุกฝ่ายเห็นชอบ และนำมาปรับประยุกต์ใช้ภายในทีม

- อุปสรรค
อุปสรรคด้านการทำงาน การแก้ไขปัญหาคือ เมื่อหลังการประชุมเสร็จสิ้นจะมีการสรุปการประชุม
โดยผู้รับผิดชอบคือ Assistant project manager และจัดส่งแก่สมาชิกภายในทีม เพื่อที่สามารถ
กลับมาทบทวนประเด็นที่ตนไม่เข้าใจหรือตกหล่นไป อีกทั้ง Project manager ต้องกระตุ้นสมาชิก
ภายในทีมให้มีความพร้อมในการทำงานอยู่เสมอ ร่วมพูดคุย แสดงความคิดเห็นและปรับเปลี่ยนทักษะ
การสื่อสารในเชิงการใช้คำพูดที่ต้องใช้ศัพท์ที่เข้าใจง่าย พูดไม่วกวน ตรงประเด็น เพื่อประสิทธิภาพ
การสื่อสารที่ดีที่สุด
อุปสรรคด้านการจัดหาข้อมูล มีการแก้ไขปัญหาโดยศึกษาเครื่องมือที่เหมาะสมและสืบค้นหาช่องทาง
ที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น เช่น ใช้เครื่องมือสำรวจ ในรูปแบบ Google forms ที่สามารถกระจายได้
อย่างรวดเร็วในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งใช้การสืบค้นข้อมูล
ในหน้าเว็บไซต์โรงเรียน ที่แสดงรายละเอียดของช่องทางติดต่อ อีกทั้งสืบค้นหาผ่านเครือข่ายนักเรียน
ที่เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนเครือข่ายนั้น ๆ โดยมอบหมายหน้าที่การติดต่อแก่สมาชิกในทีมที่มีทักษะ
การสื่อสาร และข้อมูลความสามารถของนักศึกษา iSchool KKU แก้ปัญหาโดยติดต่อสื่อสารพูด
คุย กระตุ้นและสร้างความเข้าใจแก่กลุ่มเป้าหมาย ให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดหาสารสนเทศของ
องค์กรที่จะส่งผลดีแก่นักศึกษา iSchool KKU ต่อไปในอนาคต

FINAL REPORT 57

- ข้อจำกัด
ในการทำกิจกรรมหรืองานเป็นเรื่องปกติที่จะมีข้อจำกัดในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในแง่มุมส่วนบุคคล

เช่น ทัศนคติ เวลาส่วนตัว รวมไปถึงเรื่องของสุขภาพ หรือในแง่ของการทำงาน เช่น กฏเกณฑ์ แบบแผน
เวลาที่กำหนดส่งงานในสัญญา TOR หรือในเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน ข้อจำกัดเหล่านี้ส่งผลให้
การทำงานไม่ประสบความสำเร็จหรือเป็นการจำกัดความสามารถในเรื่องนั้น ๆ ในการทำงานร่วมกันในครั้ง
นี้ มีสมาชิกในทีมถึง 11 คน ต่างคนต่างมีข้อจำกัดของตนเอง ในช่วงเวลาการทำงานสมาชิกที่นอนตรง
เวลา ง่วงนอนเร็วหรือคนที่นอนดึก ในบางครั้งจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลา เพื่อให้ส่งทันตามข้อจำกัดของ
เวลา ที่ถูกกำหนดไว้ในสัญญา TOR จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ทีมจึงจำเป็นต้องพูดคุยหารือกันอยู่เสมอ
ทุกคนต้องอ่านและทบทวนงานส่วนของตนเองและสมาชิกในทีม เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและเนื้อหา
ของงานต่อเนื่อง ทำให้สมาชิกสามารถแบ่งกันทำงานในช่วงเวลาที่ตนสะดวกแต่ยังคงประสิทธิภาพของงาน
หรือแม้แต่ในเรื่องของสุขภาพที่ไม่สามารถบังคับได้ หากมีการเจ็บป่วยไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้
การทบทวนและทำความเข้าใจงานในทุกส่วน ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้สมาชิกในทีมสามารถทำงานต่อเนื่อง
ต่อไปได้ รวมไปถึงในแง่ของข้อจำกัดของอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน เครื่องคอมพิวเตอร์ของสมาชิกบางคน
อาจไม่สามารถรองรับกระบวนการทำงานบางอย่างได้ เราจึงจำเป็นต้องมีการยืดหยุ่นหน้าที่การทำงาน
ในส่วนนั้น หรืออาจต้องแก้ปัญหาโดยวิธีการทำเรื่องของยืมคอมพิวเตอร์กับทางคณะฯ อีกทั้งในเรื่อง
ของการจัดระบบโฟลเดอร์งาน ต้องมีการจัดเป็นสัดส่วน แบ่งแยกและระบุชื่อไฟล์งานอย่างชัดเจน
เพื่อในสมาชิกทุกคนเข้าใจและสามารถเข้าถึงงานหรือเอกสารอย่างทั่วถึง

2.2 การบริหารจัดการ
- ปัญหา

Project manager และ Assistant project manager มีบทบาทในการบริหารจัดการ
ภายในทีม ทั้งการวางแผนการทำงานของสมาชิกและอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกในเรื่องต่าง ๆ
อีกทั้งการจัดสรรเวลาและแบ่งหน้าที่ให้สอดคล้องกับความสามารถของแต่ละคน ในการทำงานเป็นทีมนั้น
จำเป็นต้องมีความคิดที่ยืดหยุ่นในทุกมุมมอง รวมไปถึงการสร้างความเข้าใจที่ตรงกันของสมาชิกในทีมและ
ด้านอื่น ๆ เพื่อให้งานประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ คอยกระตุ้นและควบคุมงานภายใต้ข้อจำกัด
ของเวลาที่ถูกกำหนดไว้ในสัญญา TOR แม้กระทั่งการทำงานที่ไม่ทันเวลาเนื่องจากความไม่เข้าใจงานและ
ขาดความรอบคอบของทีม ทำให้การส่ง Inception Report ล่วงเลยกว่ากำหนดการ 5 วัน อีกทั้ง
Interim Report ล่วงเลยกว่ากำหนดการ 2 วัน และในการจัดทำ Draft final Report
มีการคาดการณ์ว่าจะจัดส่งไม่ทันตามกำหนด เนื่องจากสารสนเทศที่ทางทีมจัดหานั้นไม่ครบถ้วนทำให้ทีม
เกิดปัญหาใหญ่ จึงจำเป็นต้องนัดขอคำปรึกษากับ Project Consultant เพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
และได้ข้อสรุปว่าต้องขอนัดเจรจาต่อรองเรื่องการแก้ไขกำหนดการใน TOR เพื่อขอขยายระยะเวลาส่ง
Draft Final Report และ Final Report ฉบับสมบูรณ์ ทางทีมได้ทำการเตรียมความพร้อมศึกษา
หลักการเจรจาต่อรอง กำหนดข้อเสนอที่เป็นประโยชน์แก่อีกฝ่ายและทีมเสียประโยชน์น้อยที่สุด
คือ การจัดทำ Action plan แผนงานที่ชัดเจนพร้อมกับรายละเอียดของงาน ถือว่าประสบความสำเร็จ
ในการเจรจารองต่อและได้ทำการแก้ไขกำหนดการใน TOR เรียบร้อย

FINAL REPORT 58

- อุปสรรค
ในการเริ่มต้น Capstone Project สมาชิกในทีมยังไม่รู้จักพื้นฐานของนิสัย หรือไปถึงความ

สามารถของแต่ละบุคคล จึงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นอุปสรรคในการทำงานอย่างมาก สมาชิกบางคน
ไม่กล้าที่จะพูดคุยหรือออกความคิดเห็นในระหว่างการประชุม รวมไปถึงการแต่งตั้งตำแหน่ง ทีมมีการ
โยกย้ายตำแหน่งอยู่หลายครั้งเพราะความสามารถไม่สอดคล้องกับตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย หลังการเริ่ม
ทำงานสมาชิกในทีมเริ่มคุ้นชิน กล้าที่จะพูดคุยออกความคิดเห็น ทำให้การบริหารจัดการการมอบหมาย
หน้าที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น Project Manager เริ่มมีการวางแผนการทำงานที่เหมาะสมและสอดคล้องกับ
ความสามารถของสมาชิกแต่ละคนมากขึ้น มีการยืดหยุ่นทางความคิดไปตามสถานการณ์ รวมไปถึงการแก้
ปัญหาเฉพาะหน้า ถึงแม้ประสบการณ์น้อย แต่พยายามเรียนรู้และทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถร่วมกับ
Assistant project manager
- ข้อจำกัด

เนื่องจากการทำงานนั้นมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาการส่งมอบงานที่กำหนดไว้ในสัญญา TOR
จึงต้องมีการบริหารจัดการงานส่วนต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ไม่เพียงแต่ข้อจำกัดด้านเวลา ยังมีข้อจำกัด
อีกหลาย ๆ ด้าน เช่น ข้อจำกัดด้านกฏเกณฑ์หรือรูปแบบการทำงาน ข้อจำกัดด้านทรัพยากรที่ใช้ในการ
ทำงาน ข้อจำกัดด้านบุคคล ที่ส่งผลในงานไม่สำเร็จลุล่วง Project Manager ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ
ประเมินสถานการณ์เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหา ที่สำคัญคือกำจัดข้อจำกัดทางด้านอารมณ์ของตนเอง
ในการบริหารจัดการงานทุกส่วน ใช้เหตุผลในการแก้ไขปัญหาหรือการสร้างความเข้าใจตรงกัน
ระหว่างสมาชิกในทีม

2.3 เวลา
วิธีการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค

ทางทีมได้ประสบปัญหาในการจัดหาสารสนเทศที่ล่าช้า ส่งผลให้ทีมไม่สามารถจัดส่ง Draft Final
Report และ Final Report ฉบับสมบูรณ์ ตามกำหนดการเดิมใน TOR ได้ ทีมจึงจำเป็นต้องทำการ
ขอเจรจาต่อรองเพื่อหาข้อตกลงที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย โดยประเด็นในการเจรจา คือ เรื่องการ
แก้ไขกำหนดการใน TOR เพื่อขอขยายระยะเวลาส่ง Draft Final Report และ Final Report
ฉบับสมบูรณ์ของ Capstone Project ทั้งสมาชิกบางคนในทีมยังละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่สามารถ
จัดสรรและบริหารเวลาของตนเองได้ ส่งผลให้ไม่สามารถทำหน้าที่ของตนได้เท่าที่ควร ทางทีมจึงประชุมทีม
พูดคุยปรับความความเข้าใจกับสมาชิกทุกคน โดยมีการวางแผนตามหน้าที่ของแต่ละบุคคลคือ ฝ่ายจัดหา
ข้อมูลรวบรวมข้อมูลคู่ฝ่ายเจรจาให้มากที่สุด และองค์กรที่ทำการศึกษาในการสมถบให้การเจรจาต่อรอง
ราบรื่น และซักซ้อมการเจรจา ซึ่งตัวแทนการเจรจาของทีมคือ Project Manager และ Assistant
project manager ที่มีอำนาจในการตัดสินใจภายในทีม นับเป็นประสบการณ์ในการเจรจาต่อรอง
ถึงแม้จะผิดพลาดในส่วนที่ศึกษาคู่เจรจา และองค์กรไม่ดีเท่าที่ควร จึงทำให้การแลกเปลี่ยนตัวแปรต่างมิติ
ผิดพลาด ไม่เป็นสิ่งที่ตรงกับความต้องการของคู่เจรจา แต่ถึงอย่างไรนับเป็นโชคดีที่คู่เจรจามีการแนะนำ
และมอบแนวทาง ตัวเลือก ที่ง่ายต่อการตัดสินใจในขณะนั้น

FINAL REPORT 59

2.4 โครงสร้าง
วิธีการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค

โครงสร้างของทีมเป็นการทำงานแบบทีม โดยทางทีมได้ประสบปัญหาที่เป็นข้อบกพร่อง
ของโครงสร้างทีม เนื่องจากแบ่งงานให้ทุกคนทำงานตามหน้าที่ที่ตนได้รับมอบหมาย และให้อิสระ
กับการทำงาน จึงมีสมาชิกในทีมบางคนที่ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ มีอิสระในการทำงานจนเกินไป
ไม่มีความกระตือรือร้น ส่งผลให้ส่งงานล่าช้าไม่เป็นไปตามกำหนด ทางทีมจึงได้มีการนัดประชุมกันพูดคุย
เพื่อตักเตือน และมีการปรับเปลี่ยนระบบโครงสร้าง โดยให้ทุกคนยืดหยุ่นในหน้าที่ ให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น
เพื่อให้งานออกมาอย่างมีคุณภาพและสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายของทีม และยังเป็นการเสริมสร้าง
ความสนิทสนมและสานสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีมให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
มีประสิทธิภาพ และลดอคติต่อกัน
3.ความสำเร็จและสิ่งที่ได้เรียนรู้

3.1 ด้านการเรียนรู้ในการปฏิบัติงาน
การเรียนรู้ในการปฏิบัติงาน Capstone Project ในครั้งนี้ ทางทีมได้รับประสบการณ์ใหม่อันมีค่า

ในการได้ลงมือทำงานร่วมกับ MobiLib ครั้งแรก ซึ่งมีความกดดันและท้าทายกับทางทีมเป็นอย่างมาก
จึงต้องทำให้เรียนรู้ที่จะไม่ประมาทในการทำงานแต่ละขั้นตอน ซึ่งทำให้ทีมได้พัฒนาสมรรถนะและทักษะใน
การเรียนรู้ โดยการนำเอาความรู้ ทักษะที่ได้จากชั้นเรียนไปประยุกต์ปรับใช้กับการทำงานในองค์กร
ได้นำสมรรถะทางด้านการวิเคราะห์ การจัดการข้อมูลสารสนเทศ นำแนวคิดทางด้านสารสนเทศมาใช้
ในการระบุความต้องการและการจัดหาสารสนเทศให้ตรงต่อความต้องการขององค์กร อีกทั้งยังช่วย
ต่อยอดสมรรถนะที่ตนมีอยู่ให้เป็นบัณฑิตพันธุ์ใหม่ที่พร้อมทำงานในภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล

3.2 ด้านสติปัญญาและอารมณ์
โดยปกติแล้วการทํางานร่วมกันในกลุ่มคนหมู่มากมักจะเกิดการใช้อารมณ์ในการทํางานด้วยเสมอ

การทํางานครั้งนี้ก็เช่นกัน ในบางครั้งมีการใช้อารมณ์ในการทํางาน ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเจรจา มักจะใช้
อารมณ์มาตัดสินด้วย จึงทําให้การทํางานในช่วงแรกไม่ราบรื่น ส่งผลให้งานออกมาไปไม่ตรงตามเป้าหมาย
ที่วางไว้ ภายในทีมจึงมีการบริหารและละลายพฤติกรรมในการทำงานทุก ๆ ครั้ง เช่น รวมพูดคุยเรื่อง
ทั่วไป มีการเล่นเกมก่อนการเริ่มงาน และเตรียมความพร้อมในการทำงาน โดยพื้นฐานด้านสติปัญญา
ภายในทีม มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยมีการแบ่งตำแหน่งตามความสามารถ และด้านอารมณ์
สมาชิกทุกคนสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี เนื่องจากสมาชิกภายในทีมมีประสบการณ์การทำงานร่วมกันมา
ก่อน จึงทำให้รับรู้ถึงนิสัยพื้นฐานของแต่ละบุคคล มีการวางตัวที่ดี ที่สำคัญมีการพูดคุยอยู่ตลอดเวลา
ในการทำงานทุกครั้ง อีกทั้งต้องหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาทหรือมีปากเสียงระหว่างการทำงานของสมาชิก
ภายในทีม ถึงแม้บางครั้งทางทีมมีความรู้สึกเหนื่อยล้าและย่อท้อ ต่อการแก้ปัญหาและอุปสรรคในการ
ทำงาน เเต่ทางทีมก็มีการให้กำลังใจกันภายในทีมและพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันเกี่ยวกับข้อผิดพลาด
เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปตามเป้าหมายได้อย่างดี
4.การพัฒนาสมรรถนะ

การทำโครงงานบูรณาการวิจัยกับการปฏิบัติ (Capstone project) มุ่งเน้นให้ผู้เรียน
เกิดสมรรถนะ ที่จำเป็นสำหรับการจัดหารสารสนเทศและความรู้ในองค์กร และเพื่อพัฒนาผู้เรียน
ให้มีสมรรถนะดังนี้

FINAL REPORT 60

จากการทำโครงการบูรณาการวิจัยกับการปฏิบัติ Capstone project ในครั้งนี้
ทีมได้รับประสบการณ์และบทเรียนที่สำคัญ ดังนี้

4.1 การประยุกต์ใช้ความรู้
K1 องค์การและการจัดการสมัยใหม่
ทีม Mobility ได้นำความรู้เรื่ององค์การมาประยุกต์ใช้ เพื่อบ่งชี้ลักษณะหรือแนวทางการดำเนินงาน

ของทีมให้เป็นที่รับรู้และเข้าใจร่วมกัน ดังนี้ 1) ทางทีมมีการกำหนดจุดประสงค์และมีเป้าหมายร่วมกัน
คือ การจัดหาและส่งมอบสารสนเทศที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการให้กับ MobiLib เพื่อสนับสนุน
การขับเคลื่อนกลยุทธ์ให้บรรลุเป้าหมาย โดยมีหน้าที่ระบุความต้องการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ และจัดหา
สารสนเทศเชิงกลยุทธ์ส่งมอบให้กับทาง MobiLib 2) ด้านบุคลากร ทางทีมมีบุคลากรที่มีความสามารถ
แตกต่างกัน เช่น ด้านการผลิตสื่อดิจิทัล, ด้านการคิด Content, ด้านการวางแผน เป็นต้น โดยแบ่ง
ออกเป็น 3 ส่วนคือ บุคลากรระดับต้น ได้แก่ Information specialist, Content Editor, Graphic
Designer, Content Creator, Digital Marketer ซึ่งจะคอยปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหรือ
ปฏิบัติงานทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องใช้การวางแผนหรือระดับการตัดสินใจภายในทีม บุคลากรระดับกลาง ได้แก่
Project Coordinator และ Assistant project manager มีหน้าที่คอยกำกับดูแล บริหาร จัดการ
และประสานงานทั้งภายในและภายนอกทีม บุคลากรระดับสูง คือ Project manager มีหน้าที่ควบคุม
และรับผิดชอบในการวางแผน การตัดสินใจ กำหนดเป้าหมายหรือทิศทาง และตรวจสอบผลการปฏิบัติงาน
เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งการจัดแบ่งฝ่ายหรือแบ่งหน้าที่ดังกล่าว สามารถทำให้รูปแบบ
การทำงานไม่กระจัดกระจาย และทำให้กระบวนการทำงานเป็นระบบมากขึ้น 3) โครงสร้างของทีม มีลักษณะ
โครงสร้างแบบทีมงาน (Team-based structure) เป็นรูปแบบขององค์การยุคใหม่ ซึ่งบุคลากรจะมี
อิสระในการปฏิบัติงาน โดยที่ไม่มีหัวหน้าควบคุมการทำงานเพียงผู้เดียว แต่ทุกคนจะได้รับสิทธิและการ
กระจายอำนาจอย่างเท่าเทียมกันในการทำงาน มีรูปแบบการสื่อสารภายในทีมอย่างไม่เป็นทางการ
ทำให้บุคลากรมีความเข้าใจที่ตรงกัน และสามารถร่วมงานกันได้ง่าย

FINAL REPORT 61

K2 ข้อมูล สารสนเทศและความรู้ในองค์การ
ในการทำงานร่วมกับองค์การทีมได้ทราบถึง เหตุการณ์ทางธุรกิจ (Business event) MobiLib

ว่าทาง MobiLib ได้มีการ Rebranding จากโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ (Mobile Library) เพื่อให้
สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่ โดยปรับเป็นวิสาหกิจจำลองประเภท Digital Agency และต้องการบุคลากร
และสารสนเทศที่จะนำมาสร้างกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนองค์การ โดยมีการสร้างความร่วมมือกับโรงเรียน
เครือข่ายเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ เมื่อทางทีมได้ทราบถึงข้อมูลและความต้องการของ MobiLib ทีมจึงได้มี
การระบุความต้องการ (Information Need) และ จัดหาสารสนเทศ (Information Acquisition)
นำไปสู่การจัดทำสารสนเทศที่มีคุณภาพ เพื่อส่งมอบให้กับ MobiLib นำไปสร้างมูลค่าและกลยุทธ์เพื่อขับ
เคลื่อนองค์การต่อไป และจากการทำงานครั้งนี้ทางทีมได้รับความรู้จากการศึกษา ค้นคว้า สอบถาม
และการสัมภาษณ์บุคคล และในระหว่างการทำงาน ทั้งจากในบทเรียนและนอกบทเรียน ได้มีการนำความรู้
ที่ได้รับมาปรับใช้ในการตัดสินใจในการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายงานที่วางไว้

K3 การจัดหาและพัฒนาสารสนเทศ
ในการจัดหาและพัฒนาสารสนเทศ ทีมได้นำหลักการทางสารสนเทศอย่าง ทฤษฎีการจัดการสารสนเทศ

ทางธุรกิจ (Business Information Management : BIM) มาประยุกต์ใช้เพื่อให้ได้รับสารสนเทศที่มี
คุณค่าและเป็นประโยชน์สูงสุดกับองค์การ และ การจัดหาสารสนเทศ (Information Acquisition)
โดยเน้นในการจัดหาทรัพยากรสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น Digital Agency ประกอบด้วย
สารสนเทศบุคลากร คือ บุคลากรที่มีความสามารถ (Competence) สอดคล้องกับการเป็น Digital
Agency ของ MobiLib และสารสนเทศทางการตลาด ทิศทางนโยบายมหาวิทยาลัยขอนแก่น
การสนับสนุนให้ทำดิจิทัลคอนเทนต์ KKU รวมไปถึงสารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การทำ CSR ประกอบด้วย
สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย สารสนเทศนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ MobiLib ได้รับสารสนเทศ
ที่สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้นำไปสร้างกิจกรรมที่มีมูลค่าขององค์กร (Value Chain)
และสืบต่อการดำเนินการขององค์กรให้บรรลุเป้าหมายได้ตามวัตถุประสงค์

K4 ความต้องการของผู้บริโภคเชิงลึก
ทางทีมได้ศึกษาและทำความเข้าใจของผู้บริโภคเชิงลึกโดยประยุกต์ความรู้ทางสารสนเทศ

โดยนำแนวคิดความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก (Consumer Insight) เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าที่มี
ความต้องการใช้บริการ Digital Agency อันเป็นสารสนเทศลูกค้าที่สำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อน
กลยุทธ์ในการเป็น Digital Agency และทำความเข้าใจความต้องการด้านการเผยแพร่ความรู้ด้านดิจิทัล
คอนเทนต์และแนะนำแนวทางการศึกษาต่อ iSchool KKU ของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นสารสนเทศ
ที่สำคัญในการสร้างกิจกรรมที่มีมูลค่าขององค์กร (Value Chain) การกำหนดหาความต้องการ
สารสนเทศ (Identification of Information Needs) มาใช้ในการศึกษาตามวัตถุประสงค์
ข้อที่ 1 คือ เพื่อระบุความต้องการสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ให้กับ MobiLib นำไปสู่ หลักการจัดหาและการจัด
ทำสารสนเทศ (Acquisition and Creation of Information) มาใช้ในการศึกษาตามวัตถุประสงค์
ข้อที่ 2 คือ เพื่อเป็นแนวทางการจัดหาความเข้าใจเชิงลึก และจัดหาสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ ที่มีคุณภาพ
สำหรับสนับสนุนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ของ MobiLib

FINAL REPORT 62

4.2 การพัฒนาทักษะ
S1 วิเคราะห์องค์การและบริบทขององค์การ
การวิเคราะห์องค์กรและบริบทขององค์กร เป็นทักษะที่ทีมได้ฝึกฝนและพัฒนาจากการดำเนิน

โครงการบูรณาการกับการปฏิบัติ (Capstone project) เป็นครั้งแรกโดยในการเริ่มดำเนินงาน
ต้องมีการศึกษาภาพรวมเบื้องต้นขององค์กร ซึ่งทางทีมต้องนำคำสัมภาษณ์ที่ได้จากผู้บริหารองค์กร
มาวิเคราะห์สภาพแวดล้อม การดำเนินงาน เป้าประสงค์ บริบททางธุรกิจ ทีมจึงต้องค้นคว้าความรู้วิธีการ
วิเคราะห์องค์กรและบริบทที่หลากหลายแหล่งความรู้ เพื่อนำมาดำเนินงานควบคู่กับความรู้ในเอกสาร
ประกอบการเรียนวิชา การจัดหาสารสนเทศและความรู้ (Information and Knowledge
Acquisition : IKA) ในเรื่องความหมายของคำว่าองค์การ (Organization) แต่เนื่องจากทางทีมไม่มี
ประสบการณ์ ในการวิเคราะห์บริบทขององค์กร จึงทำให้เกิดข้อผิดพลาดของการดำเนินงาน และพบว่า
การวิเคราะห์ไม่ตรงประเด็น ไม่เข้าใจการวิเคราะห์อย่างแท้จริง เนื่องจากทีมมีความรู้ในการวิเคราะห์
ไม่เพียงพอศึกษา ไม่ถี่ถ้วนและไม่มีความเข้าใจอย่างท่องแท้ จึงต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และสามารถ
ดำเนินการวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง ทำให้มีความเข้าใจหลักการวิเคราะห์ ผลจากการลองผิดลองถูก
หลายครั้ง ทั้งนี้สมาชิกในทีมจึงเกิดการพัฒนาทักษะด้านการวิเคราะห์องค์กรและบริบทขององค์กร
เพิ่มมากกว่าเดิมหลายเท่า

S2 สำรวจและประเมินสารสนเทศ
ทีมได้จัดทำการสำรวจและประเมินสารสนเทศเมื่อมีการแสวงหาหรือจัดทำสารสนเทศประกอบจัดทำ

โครงการบูรณาการกับการปฏิบัติ (Capstone project) ในการแสวงหาสารสนเทศ เมื่อค้นพบแหล่ง
ที่ต้องการจะทำการสำรวจ คือ ตรวจสอบว่าแหล่งสารสนเทศที่ค้นพบมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
เป็นเว็บไซต์ทั่วไปหรือเป็นบทวิจัย มีรายละเอียดในเอกสารครบถ้วนเช่น ชื่อผู้เขียน วันเดือนปีที่จัดทำ
อ้างอิงถึงแหล่งที่มา เป็นต้น จากนั้นทำการประเมินสารสนเทศโดยการ วิเคราะห์ สังเคราะห์สารสนเทศ
ที่ได้มาเพื่อนำมาประกอบการทำ Capstone project ได้อย่างสมบูรณ์ ถือว่าทักษะนี้เป็นทักษะการเรียนรู้
ใหม่ที่ทำให้สมาชิกทุกคนภายในทีมได้ฝึกพัฒนาให้เกิดขึ้นเป็นทักษะที่ติดไปกับตัวที่สามารถนำไปต่อยอด
กับการใช้งานอื่น ๆ ในอนาคตได้

S3 ระบุบ่งชี้สารสนเทศและความรู้ในองค์การ
ระบุบ่งชี้สารสนเทศและความรู้ในองค์การเป็นทักษะที่เริ่มต้นทุกคนสมาชิกในทีมไม่มีทักษะ ทำให้เกิด

การผิดพลาดและลองถูกลองผิดในหลายครั้ง ในการดำเนินโครงการบูรณาการกับการปฏิบัติ (Capstone
project) ทีมต้องระบุระบุสารสนเทศและความรู้ในองค์กรให้ตรงกับความต้องการขององค์กรโดยตรง
โดยเริ่มจากทำการวิเคราะห์ถึงสารสนเทศและความรู้ที่องค์กรมีเพื่อสามารถระบุได้ว่าองค์การมีอะไรบ้าง
และยังขาดอะไร สิ่งที่มีอยู่แล้วจะสามารถเพิ่มเติมหรือต่อยอดในรูปแบบใดได้บ้าง จนถึงตอนนี้ทางทีม
ยังไม่ได้ถือว่ามีความเชี่ยวชาญในทักษะทางด้านระบุบ่งชี้สารสนเทศและความรู้ในองค์การที่ชำนาญ
แต่ถือว่าทีมได้มีการฝึกและพัฒนาทักษะนี้ให้เกิดขึ้นกับตนเอง

S4 กำหนดวิธีการ, ขั้นตอน, กระบวนการจัดหาและพัฒนาสารสนเทศ
ทางทีม Mobility ขาดประสบการณ์และทักษะในการวางแผนการทำงาน ไม่สามารถจัดการบุคลากร

ให้เหมาะสมกับงาน ทำงานข้ามขั้นตอน และไม่มีการจัดลำดับความสำคัญของภาระงาน ซึ่งเป็นเหตุมาจาก
ทางทีมไม่แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ และจัดทำตารางงานอย่างชัดเจน ส่งผลให้การดำเนินงานไม่เป็นระบบกระทั่ง
ทำให้ส่งงานล่าช้ากว่ากำหนด อีกทั้งยังขาดทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล จัดหาและรวบรวมข้อมูล ขาดความรู้
เกี่ยวกับสารสนเทศ ขาดความเข้าใจในวิธีการใช้และพัฒนาสารสนเทศ ส่งผลให้ทางทีมไม่สามารถกำหนด
หรือระบุสารสนเทศ และนำสารสนเทศส่งมอบให้แก่องค์กรได้ถูกต้องตามความต้องการ

FINAL REPORT 63

เมื่่อสามารถสะท้อนถึงปัญหาได้ ทางทีมจึงปรับกระบวนการทำงานใหม่ ในเรื่องการสื่อสารระหว่าง

สมาชิกภายในทีม มีการนัดหมายประชุมเพื่อรายงานความคืบหน้าของงาน จัดวางแผนผังตารางงาน

กำหนดเวลาการจัดส่งอย่างชัดเจน จัดแบ่งตารางงานและหน้าที่การทำงานด้วยการจัดทำ Ation plan

เพื่อให้สามารถกำหนดหน้าที่ให้ตรงกับทักษะความสามารถของสมาชิกในทีมทำงานอย่างเป็น กระบวนการ

และเป็นขั้นตอน ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรม, โครงสร้างอุตสาหกรรม, Organization,

Information Behavior, Information, Identify Need, Acquire Information,

Requirement, Acquisition ในการเสริมสร้างทักษะ ความรู้ และสมรรถนะแก่บุคลากร ให้พร้อมนำ

ข้อมูลที่ได้ไปประยุกต์เป็นสารสนเทศเพื่อสร้างกลยุทธ์ให้กับองค์กร อีกทั้งทางทีมยังได้นัดหมายประชุม

ขอคำปรึกษาจาก Project Consultant โดยรายงานความคืบหน้าก่อนการทำงานในขั้นตอนถัดไป

เพื่อลดความผิดพลาดระหว่างการทำงาน และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

4.3 การเสริมสร้างคุณลักษณะส่วนบุคคล

การดำเนินโครงการบูรณาการกับการปฏิบัติ (Capstone project) ครั้งนี้ คุณลักษณะส่วนบุคคล

ที่ได้รับการเสริมสร้าง ได้แก่

A1 การทำงานร่วมกับผู้อื่น

ในการทำโครงงานบูรณาการกับการปฏิบัติ (Capstone project) ครั้งนี้ได้เสริมสร้างคุณลักษณะ

การกระทำที่สัมพันธ์กับการกระทำของผู้อื่นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นโครงการที่มีสมาชิกภายในทีม

จำนวนมาก ซึ่งมีบุคลิก ค่านิยม ความคิดที่แตกต่างกัน ทุกคนจึงต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวเพื่อให้

การทำงานดำเนินไปในทิศทางที่ดีและเพื่อให้สมาชิกในทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดยไม่

ขัดแย้งกันและเพื่อง่ายต่อการทำงานร่วมกัน จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายสมาชิกในทีมเป็นอย่างมาก ทางทีมจึงได้มี

การประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อที่ได้จะมีวิธีการแก้ไขที่ถูกต้อง เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับ

บุคคลทางทีมได้พูดคุย ปรับความเข้าใจ และทำข้อตกลงภายในทีม ที่ทุกคนรับทราบเเละปฎิบัติร่วมกัน

ไม่ให้เกิดอคติที่ไม่ดีต่อกันและทำให้สมาชิกในทีมมีความคิดไปในทิศทางเดียว มีการพูดคุยและการติดตาม

งานที่ได้รับมอบหมายของเเต่ละบุคคล เพื่อลุล่วงเเละทำให้โครงการสามารถดำเนินต่อไปได้จนเสร็จสมบูรณ์

A2 การบริหารจัดการคน

ทักษะการบริหารจัดการคนเป็นทักษะที่ได้เสริมสร้างในการทำงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากภายในทีม

ประกอบไปด้วยสมาชิก 11 คน จึงต้องมีการวางแผนให้ดีและที่สำคัญต้องให้รัดกุม โดยแบ่งตำแหน่ง

หน้าที่ให้สมาชิกที่ชัดเจนตามความถนัดเเละความต้องการของเเต่ละบุคคลเพื่อการทำงานให้มีประสิทธิภาพ

และประสิทธิผล มีความยืดหยุ่นในการทำงานที่สูง และ PM ต้องสร้างแรงจูงใจในการทำงานของสมาชิก

ในทีมเพื่อรังสรรค์ผลงานให้ออกมาที่ดีที่สุด แม้จะเกิดปัญหาภายในการทำงานจะมีการสนทนาในการหา

ทางออกที่กระทบต่อทีมน้อยที่สุด เพราะความรู้สึกของสมาชิกในทีมสำคัญอย่างมากต่อการทำงานร่วมกัน

ถ้าหากคนหนึ่งไม่พร้อมการทำงานย่อมส่งผลกระทบแก่ส่วนรวมไม่มากก็น้อย ถึงแม้เป็นจุดเล็ก ๆ

แต่ควรได้รับการแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อเป้าประสงค์ที่วางไว้ และบางครั้งสมาชิกในทีมอาจจะเหนื่อยท้อ

หมดกำลังใจ PM ในฐานะคนที่มีสิทธในการตัดสินใจมากที่สุดต้องคอยเติมแรงจูงใจ ปลุกใจให้สมาชิก

ในทีมมีแรงผลักดันในการทำงานต่อเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

A3 ความฉลาดทางอารมณ์

ความฉลาดทางอารมณ์นั้นเป็นทักษะที่ทางทีมได้เสริมสร้างเป็นอย่างมากเนื่องจากการทำงาน

ที่ผ่านมา เกิดปัญหาการทำงานของสมาชิกที่มีการแสดงออกทางความคิดแตกออกเป็นสองฝ่าย ทัศนคติ

และข้อสรุปไม่ตรงกัน รวมไปถึงการมีส่วนร่วมการทำงานที่ไม่ตรงตามความความคาดหวัง ส่งผลให้เกิด

ปัญหาความขัดแย้งภายในทีม ซึ่งการแก้ปัญหาของทางทีมได้นัดประชุมพูดคุยทำความเข้าใจในปัญหาที่

เกิดขึ้น ทำไมถึงเกิดปัญหาเช่นนั้นและทุกคนในทีมต้องปรึกษาหาทางออกที่ดีที่สุดโดยใช้เหตุผลหลาย ๆ

อย่างมาสรุป เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ดีและทุกคนภายในทีมสามารถยอมรับข้อตกลงนั้นได้ โดยเป็นการยอมรับ

ที่ไม่ฝืนต่อเหตุผลต่าง ๆ จากประชุมกันสำหรับการจัดการภายในทีม FINAL REPORT 64

A4 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
การดำเนินโครงการบูรณาการกับการปฏิบัติ (Capstone project) ในครั้งนี้ การคิดอย่างมี

วิจารณญาณเป็นคุณลักษณะที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในการดำเนินงาน และเนื่องจากทีมมีประสบการณ์
การทำงานที่น้อย ไม่รู้วิธีการใช้ตรรกะและเหตุผลในการวิเคราะห์หาข้อสรุปในการทำงาน ส่งผลให้เกิดปัญหา
และข้อผิดพลาดระหว่างการทำงานในเรื่องของการจัดหาสารสนเทศ และไม่ทราบจุดอ่อนในการวางแผนการ
ทำงานของทีมตนเอง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ทีมยังขาดความรู้และความเข้าใจที่มากพอเกี่ยวกับขั้นตอน
ในการทำงาน และไม่ได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ การวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย ยังไม่สามารถทำได้ดีพอ
และจากปัญหาที่เกิดขึ้น ทีมจึงต้องเรียนรู้และนำการคิดอย่างมีวิจารณญาณ การวิเคราะห์ และพิจารณา
ปัญหาและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นภายในทีมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานครั้งต่อไป เพื่อหาแนวทางการแก้ไข
ปัญหาได้อย่างมีระบบ

A5 การเจรจาต่อรอง
การเจรจาเป็นสิ่งสำคัญในการทำ Capstone project ในครั้งนี้ เป็นคุณลักษณะที่สำคัญที่จำเป็น

ต้องใช้ในการทำข้อตกลงกับองค์กรที่ทางทีมไปศึกษาแต่เนื่องจากทีมมีประสบการณ์การเจรจาที่น้อย จึงไม่
สามารถแสดงทักษะนี้ออกมาได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นสมาชิกทุกคนในทีมจึงต้องมีการพัฒนาและเสริมสร้าง
ทักษะนี้อยู่เสมอ ๆ เพราะการทำงานในครั้งนี้เปรียบเสมือนเราเข้าไปทำงานในองค์กรนั้นจริง ๆ จึงต้องมีการ
ติดต่อพูดคุยเจรจาต่อรองกับคณะผู้บริหารหรือผู้ดำเนินงานที่อยู่ในองค์กรนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น ทางทีมมี
การจัดหาสารสนเทศไม่ครบตามความต้องการขององค์กรจึงทำให้ทีมต้องจัดหาสารสนเทศเพิ่มเติมให้ตรง
กับความต้องการนั้น ๆ แต่เนื่องการจัดหาสารสนเทศที่เพิ่มขึ้นระยะเวลาในการทำงานและส่งมอบงานไม่ตรง
ตามที่ระบุไว้ในสัญญา TOR ทางทีมจึงต้องมีการเจรจาต่อรองกับองค์กรเพื่อขยายระยะเวลาการส่งมอบ
โดยทางทางทีมได้เจรจาต่อรองด้วยวิธีการลดช่องว่างทางความคิด ประเมินและค้นหาจุดร่วม ของความ
ต้องการทั้งสองฝ่ายและสร้างข้อเสนอที่ยอมรับ ประสานผลประโยชน์ให้ Win-Win ได้ทั้งสองฝ่าย

A6 ความยืดหยุ่นทางความคิด
ในการทำงานร่วมกันความยืดหยุ่นทางความคิดก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน ซึ่งในการทำงาน

สมาชิกทุกคนได้เสริมสร้างทักษะนี้กันอย่างมากขึ้น เพราะการปรับตัวไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่หลากหลาย เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นไปตามแผนการจัดทำ Capstone
project ที่ทางทีมวางไว้ ในแง่ของปัญหาที่เป็นอุปสรรคกับหลาย ๆ กิจกรรมของผู้คน กล่าวคือ ปัญหา
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมบางอย่างไม่เป็นไปตามแผน ทางทีมจึงจำเป็นต้องแก้
ปัญหาด้วยวิธีการหลายหลายรูปแบบ โดยยังคงประสิทธิภาพของกิจกรรมหรืองานนั้น ๆ ได้ หรือปัญหา
ในเรื่องของการจัดสรรเวลาของสมาชิกในทีมไม่ตรงกัน ทีมจึงจำเป็นต้องหาวิธีมาใช้แก้ไขปัญหาเหล่านี้
แม้จะมีการขัดแย้ง แต่ความยืนหยุ่นทางความคิดของแต่ละคนช่วยให้รับฟังความคิดเห็นและเข้าใจกันและกัน
มากขึ้น หรือแม้กระทั่งการแบ่งหน้าที่ในการทำงานก็สามารถปรับตัวไปตามความถนัดและทักษะของแต่ละคน
โดยไม่ยึดติดกับความคิดและการกระทำเดิม ๆ และกล้าที่จะเสนอความคิดนอกกรอบในการทำงานร่วมกัน

A7 การประเมินและตัดสินใจ
ในการดำเนินงานสมาชิกในทีมยังคงขาดในด้านความรู้และยังอ่อนประสบการณ์ทำให้การประเมินและ

การตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ยังไม่มีกระบวนการประเมินและการตัดสินใจในการเลือกการทำงานทางใด
ทางหนึ่งได้ด้วยตัวเอง ขาดความมั่นใจและเด็ดขาดในการตัดสินใจ ส่งผลให้การวางแผน การจัดการทำงาน
การประสานงาน และการควบคุมทีมไม่ชัดเจน รวมไปถึงการประเมินสารสนเทศที่จะจัดหาและรูปแบบ
สารสนเทศที่ส่งมอบนั้นมีคุณภาพมากพอและตรงต่อความต้องการหรือไม่ ทําให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเกิดความ
ไม่ชัดเจนและมีข้อผิดพลาดอยู่เสมอ

FINAL REPORT 65

ภาคผนวก

สารสนเทศที่จัดหา
สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์การเป็น

Digital Agency

สารสนเทศบุคลากร

จากการสำรวจความสามารถด้าน Digital Agency ของ iStudent รุ่นที่ 46 และ 47
ที่ตรงกับความต้องการของ MobiLib สามารถแบ่งหมวดหมู่ตามขอบเขตความสามารถ ดังต่อไปนี้

กลุ่ม Creativity เช่น กราฟิก/ออกแบบ, ตัดต่อ/ถ่ายทำ, คิด Content และการเขียนสคริป
กลุ่ม Communication เช่น การประสานงาน/เจรจาพูดคุย, พิธีกร (MC) และการพากษ์เสียง

1. สารสนเทศบุคลากรสำหรับ Top Manager
จากการสำรวจความสามารถด้าน Digital Agency

ของ iStudent รุ่นที่ 46 และ 47 ที่ตรงกับความต้องการ
ของ MobiLib จำนวน 110 คน พบว่ามี iStudent
ที่มีความสามารถด้าน Digital Agency ที่ตรงกับความ
ต้องการของ MobiLib จำนวน 42 คน โดยจำแนกเป็นกลุ่ม
Creativity ซึ่งสามารถทำงานในเชิง กราฟิก/ออกแบบ,
ตัดต่อ/ถ่ายทำ, คิด Content และการเขียนสคริป และกลุ่ม
Communication ซึ่งสามารถทำงานในเชิง การประสาน
งาน/เจรจาพูดคุย, พิธีกร (MC) รวมไปถึงการพากษ์เสียง
โดยมี iStudent พร้อมปฏิบัติงานจำนวน 23 คน
และนอกจากนี้เป็นบุคคลที่กำลังพัฒนาความสามารถ
และมีความสนใจที่ซึ่งมีแนวโน้มพร้อมพี่จะพัฒนา
ความสามารถและปฏิบัติงานในอนาคต ซึ่งสารสนเทศเหล่านี้ได้
มาจากการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการตอบแบบสำรวจ
และผ่านการประมวลผลโดยพิจารณาจากผลงานเชิงประจักษ์
แสดงถึงความสามารถด้าน Digital Agency ที่ iStudent
ได้แนบมากับแบบสำรวจบุคคลเหล่านี้สามารถเข้ามาขับเคลื่อน
องค์กรได้อย่างมีคุณภาพและสร้างกิจกรรมที่มีมูลค่า
(Value Chain) ให้แก่องค์กรได้ รวมทั้งเป็นการเตรียม
ความพร้อมในการส่งต่อการดำเนินงานใน MobiLib

Retrieve fromhttps://www.pexels.com/photo/person-drawing

FINAL REPORT 66

สารสนเทศบุคลากร

2. สารสนเทศบุคลากรสำหรับ Senior manager
จากจำนวน iStudent รุ่นที่ 46 และ 47 จำนวน 110 คน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก

แบบสำรวจความสามารถ ซึ่งประกอบด้วย ความสนใจ/งานอดิเรก ความสามารถหรือทักษะพิเศษ
และผลงานเชิงประจักษ์ที่แสดงถึงความสามารถด้าน Digital Agency

คนที่มีความสามารถด้าน Digital Agency
ที่ตรงกับความต้องการของ MobiLib

จากจำนวน iStudent รุ่นที่ 46 และ 47
จำนวน 110 คน พบว่า มี iStudent ที่มีความ
สามารถด้าน Digital Agency ที่ตรงกับความ
ต้องการของจำนวน 42 คน คิดเป็น 38%

คนที่มีความสามารถด้านอื่น
แผนภูมิที่ 1 แผนภูมิวงกลมแสดงจำนวน iStudent ที่มีความสามารถที่ตรงกับความต้องการของ MobiLib

iStudent รุ่น 46

จาก iStudent ที่มีความสามารถ
ด้าน Digital Agency ที่ตรงกับความต้องการ
ของ MobiLib จำนวน 42 คน ประกอบด้วย
iStudent รุ่นที่ 46 จำนวน 24 คน
คิดเป็น 58% และ iStudent รุ่นที่ 47
จำนวน 18 คน คิดเป็น 42%

iStudent รุ่น 47 

แผนภูมิที่ 2 แผนภูมิวงกลมแสดงการจำแนกเป็นเป็นรุ่น 46 และ 47

FINAL REPORT 67

สารสนเทศบุคลากร

จาก iStudent ที่มีความสามารถด้าน Digital กลุ่ม Communication กลุ่ม Creativity
Agency ที่ตรงกับความต้องการของ MobiLib
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่ม Creativity แผนภูมิที่ 3 แผนภูมิวงกลมแสดงการจำแนกออกเป็นกลุ่ม
ซึ่งสามารถทำงานในเชิง กราฟิก/ออกแบบ, Creativity และ Communication
ตัดต่อ/ถ่ายทำ คิด Content และการเขียนสคริป
จำนวน 28 คน คิดเป็น 66.67% และกลุ่ม
Communication โดยสามารถทำงานในเชิง
การประสานงาน, เจรจาพูดคุย, พิธีกร (MC)
รวมไปถึงการพากษ์เสียง จำนวน 14 คน
คิดเป็น 33.33%

แผนภูมิที่ 4 แผนภูมิวงกลมแสดงการจำแนก Digital Agency จากความสามารถด้าน Digital Agency ที่ตรง
ตามความสามารถของบุคคล กับความต้องการของ MobiLib แบ่งออกเป็น
2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่ม Creativity จำแนกเป็น
iStudent ที่มีความสามารถในเชิง การทำกราฟิก/
ออกแบบ จำนวน 14 คน คิดเป็น 33.33%
การตัดต่อ/ถ่ายทำจำนวน 12 คน คิดเป็น 28.19%
และการคิด Content /เขียนสคริป จำนวน 2 คน
คิดเป็น 4.76% และในกลุ่ม Communication
จำแนกเป็น iStudent ที่มีความสามารถในเชิง
พิธีกร (MC) จำนวน 11 คน คิดเป็น 26.19%
การติดต่อประสานงาน/เจรจาพูดคุยจำนวน 2 คน
คิดเป็น 4.76% และการพากษ์เสียงจำนวน 1 คน
คิดเป็น 2.38%

จาก iStudent ที่มีความความสามารถ
ด้าน Digital Agency ที่ตรงกันความต้องการ
ของ MobiLib จำนวน 42 คน โดยส่วนใหญ่
จะเป็นบุคคลที่มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน
จำนวน 23 คน คิดเป็น 55% แบ่งเป็นบุคคล
ที่กำลังพัฒนาความสามารถของตนเองอยู่
จำนวน 11 คน คิดเป็น 26% และแบ่งเป็น
บุคคลที่มีความสนใจจำนวน 8 คน คิดเป็น 19%

แผนภูมิที่ 5 แผนภูมิวงกลมแสดงการจำแนกบุคคล
ที่พร้อมปฏิบัติงาน บุคคลที่กำลังพัฒนาและบุคคลที่มีความสนใจ

FINAL REPORT 68

สารสนเทศบุคลากร

3. สารสนเทศบุคลากรสำหรับ First Line
ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับความสามารถด้าน Digital Agency ที่ตรงกับความต้องการ

ของ MobiLib ของ iStudent จำนวน 42 คน โดยจำแนกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ดังนี้
1. กลุ่ม Creativity
- กราฟิก/ออกแบบ จำนวน 14 คน
- ตัดต่อ/ถ่ายทำ จำนวน 12 คน
- คิด Content และการเขียนสคริป จำนวน 2 คน
2. กลุ่ม Communication
- พิธีกร (MC) จำนวน 11 คน
- พากษ์เสียง จำนวน 1 คน
- การติดต่อประสานงาน/การเจรจา จำนวน 2 คน

ข้อมูลรายละเอียดของ iStudent ที่มีสามารถทำงานในเชิง กราฟิก/ออกแบบ จำนวน 14 คน

FINAL REPORT 69

สารสนเทศบุคลากร

ข้อมูลรายละเอียดของ iStudent ที่มีสามารถทำงานในเชิง ตัดต่อ/ถ่ายทำ จำนวน 12 คน



ข้อมูลรายละเอียดของ iStudent ที่มีสามารถทำงานในเชิง พิธีกร (MC) จำนวน 11 คน

FINAL REPORT 70

สารสนเทศบุคลากร

ข้อมูลรายละเอียดของ iStudent ที่มีสามารถทำงานในเชิง คิด Content/เขียนสคริป จำนวน 2 คน
ข้อมูลรายละเอียดของ iStudent ที่มีสามารถทำงานในเชิง ติดต่อประสานงาน/เจรจา จำนวน 2 คน
ข้อมูลรายละเอียดของ iStudent ที่มีสามารถทำงานในเชิง พากษ์เสียง จำนวน 1 คน



FINAL REPORT 71

สารสนเทศลูกค้า

ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล 2 วิธี เพื่อสำรวจและสอบถามความต้องการผู้บริโภคเชิงลึก
ตามแนวคิดความเข้าใจผู้บริโภคเชิงลึก (Consumer Insight) ดังนี้

- การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือสำรวจในรูปแบบ Google Form โดยมีกลุ่มเป้าหมาย
คือ อาจารย์ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 21 คน
- การสอบถามหรือสัมภาษณ์กลุ่มผู้บริโภคโดยตรง โดยมีผู้ให้สัมภาษณ์ คือ อาจารย์ภายในมหาวิทยาลัย
ขอนแก่น จำนวน 3 คน (รหัสผู้ให้สัมภาษณ์ P001, P002 และ P003)

1. สารสนเทศลูกค้าสำหรับ Top Manager
โดยภาพรวมทั้งจากการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือและการสัมภาษณ์ มีแนวโน้มความเห็น

ตรงกันว่าปัจจุบัน Digital Content เข้ามามีบทบาทอย่างมากในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะทางด้าน
การจัดการเรียนการสอน มักมีการนำ Digital Content เข้ามาเสริมสร้างการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น P001
(16 มีนาคม 2565) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเรียนในห้องเรียนตลอด เพราะมีการปรับ
เปลี่ยนมาใช้ในรูปแบบออนไลน์ ใช้โซเชียลมีเดียมาใช้เพื่อสื่อสาร” ส่วนในด้านของความต้องการด้าน
Digital Content นั้น มีผู้ตอบแบบสำรวจต้องการและเห็นด้วยว่ารูปแบบ Digital Content
ที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากที่สุด คือ รูปแบบวิดีโอ รองลงมาคือ รูปแบบสไลด์นำเสนอ (Power
point, Google slide, Keynote, canva และอื่นๆ) รูปแบบสื่อประชาสัมพันธ์ (Poster,
Multimedia, Review) และรูปแบบ E-book เนื่องจาก คลิปวิดิโอจะเห็นภาพและเข้าใจชัดเจน
มากที่สุดหรือรูปแบบ Infographic ก็ทำให้การประชาสัมพันธ์น่าสนใจและเข้าใจง่ายมากขึ้น ส่วนรูปแบบ
Power point นั้นค่อนข้างมีประสิทธิภาพต่ำ เพราะส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอตัวอักษร ไม่น่าดึงดูดใจ
(P002, 17 มีนาคม 2565) และในส่วนของ Digital Conten ส่วนใหญ่จะจัดทำขึ้นเอง อาจมีการ
ว่าจ้างทำในบางครั้งและหากเป็นการว่าจ้างนั้นจะเป็นการจ้างกับ Teaching Assistant หรือ TA
ส่วนตัว มากกว่าว่าจ้างกับแหล่งภายนอกหรือภายในมหาวิทยาลัย ในแง่ของปัญหาในการว่าจ้างทำ
Digital Content คือ การสื่อสารในการอธิบายงานที่เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ทำให้ได้งานที่ออกมา
ไม่ตรงกับความต้องการและงานที่มอบหมายอาจจะเกินความสามารถหรือศักยภาพ ซึ่งอาจารย์ต้องคอย
ช่วยเหลือ ชี้แนะ ช่วยเพิ่มเติมบางส่วนให้สมบูรณ์มากขึ้น (P003, 16 มีนาคม 2565)

จากข้อเสนอแนะเพิ่มเติมนั้น สรุปได้ว่า ผู้บริโภคต้องการหน่วยงานที่ผลิต Digital Content
ให้ครอบคลุมทุกคณะและสาขาวิชา เพราะปัจจุบันหน่วยงานประเภทนี้ยังมีจำนวนน้อยและไม่เพียงพอ
ต่อความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งภายในหน่วยงาน ควรมีตำแหน่ง Account Executive (AE)
ที่สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ทุกศาสตร์ เพื่อเป็นคนกลางในการสื่อสารระหว่างลูกค้าและผู้ผลิตสื่อให้งาน
ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด

FINAL REPORT 72

สารสนเทศลูกค้า

2. สารสนเทศลูกค้าสำหรับ Senior manager
จากการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือการสำรวจ พบว่า จากจำนวนอาจารย์ผู้ตอบแบบสำรวจ

21 คน ส่วนใหญ่จัดทำ Digital Content เพื่อประกอบการจัดการจัดการเรียนการสอนด้วยตนเอง
จำนวน 16 คน คิดเป็น 66.67% ว่าจ้างทำ จำนวน 3 คน คิดเป็น 14.3% และทั้งจัดทำขึ้นด้วยตนเอง
และว่าจ้างทำ จำนวน 4 คน คิดเป็น 19% อีกทั้งหากเป็นกรณีว่าจ้างทำ ส่วนใหญ่จะจ้าง Teaching
Assistant (TA) ส่วนตัว

แผนภูมิที่ 6 แผนภูมิวงกลมแสดงการนำ จากผู้ตอบแบบสำรวจความต้องการด้าน
Digital Content ไปใช้ประกอบการสอน Digital Content จำนวน 21 คน พบว่า
มีจำนวน 16 คน คิดเป็น 76.2% ที่ใช้
Digital Content ในการประกอบการสอน
ในรายวิชาของหลักสูตรปริญญา (Degree)
รองลงมาคือ ใช้ประกอบการสอนในหลักสูตร
Non degree (Life long Education)
จำนวน 4 คน คิดเป็น 19% และสุดท้าย
คือ ใช้ประกอบการสอนในหลักสูตรฝึกอบรม
(Training Course) จำนวน 1 คน
คิดเป็น 4.8% ซึ่งน้อยที่สุด

แผนภูมิที่ 7 แผนภูมิแท่งแสดงความต้องการบริการด้าน Digital Content

จากการสำรวจความต้องการบริการประเภท Digital Content พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจต้องการ
การบริการด้านการถ่ายทำ ตัดต่อวิดิโอ มากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย 34.5 รองลงมาการจัดทำ E-book 22.25
มีค่าเฉลี่ย จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ (Poster, Multimedia, Review) มีค่าเฉลี่ย 21.5 การออกแบบจัดทำ
สไลด์ประกอบการสอน มีค่าเฉลี่ย 20.75 การจัด Live streaming มีค่าเฉลี่ย 14 และสุดท้ายคือการจัดทำ
Podcast มีค่าเฉลี่ย 13 ซึ่งน้อยที่สุด

FINAL REPORT 73

สารสนเทศลูกค้า

แผนภูมิที่ 8 แผนภูมิแท่งแสดงปัญหาและความต้องการแก้ไขปัญหาที่ผู้ตอบแบบสำรวจเคยพบเจอ

จากการสำรวจปัญหาที่เกี่ยวกับ Digital Content และความต้องการในการแก้ปัญหาดังกล่าว
โดยแบบสำรวจข้อนี้สามารถตอบได้มากกว่า 1 ข้อ (21 คน เท่ากับ 100%) พบว่า ปัญหาที่พบและมีความ
ต้องการอยากให้แก้ไขมากที่สุด คือ ไม่มีเวลาในการจัดทำสื่อจึงต้องการผู้ช่วยในการทำสื่อ และทักษะในการ
จัดทำสื่อไม่เพียงพอ ต้องการให้สื่อออกมาสวยงานและสร้างสรรค์ คิดเป็น 85.7% รองลงมาคือปัญหา
ใช้เวลาในการจัดทำสื่อนาน ต้องการทำให้เร็วขึ้น คิดเป็น 71.4% และปัญหาสื่อที่จัดทำขึ้นนั้นไม่น่าสนใจ
ต้องการให้มีความน่าสนใจและทันสมัยมากขึ้น คิดเป็น 61.9% สุดท้ายคือปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์
และขาดผู้ช่วย ต้องการผู้ช่วยที่มีอุปกรณ์พร้อมในการทำสื่อ คิดเป็น 52.4% ซึ่งเป็นปัญหาที่พบน้อยที่สุด

แผนภูมิที่ 9 แผนภูมิวงกลมแสดงความต้องการ
การคิดค่าบริการของ Digital Content

แผนภูมิที่ 9 แผนภูมิวงกลมแสดงความต้องการความ

จากการสำรวจกรณีกาตร้อว่งากจา้ารงกทารำคิดผู้คต่าอบรบิกแาบรขบอสงอDบiถgiาtมalมีCคoวnามteตn้อt งการ
ในรูปแบบหรือลักษณะการคิดค่าบริการของ Digital Content พบว่า
ส่วนใหญ่ต้องการรูปแบบค่าบริการเป็นการจ้างเป็นรายชิ้นงานคิดเป็น 57.1%
รองลงมาคือต้องการรูปแบบค่าบริการเป็นการจ้างแบบเหมา คิดเป็น 38.1%
และรูปแบบค่าบริการเป็นการจ้างแบบรายเดือน คิดเป็น 4.8% ตามลำดับ

FINAL REPORT 74

สารสนเทศลูกค้า

นอกจากนี้จากการสำรวจความเต็มใจจ่าย (Willingness to Pay: WTP) ให้แก่ผู้ผลิต
Digital Content ในรูปแบบต่าง ๆ เฉลี่ยต่อ 1 ชิ้นงาน ดังกราฟต่อไปนี้

กราฟที่ 1 กราฟเชิงเส้นแสดงความเต็มใจจ่ายให้แก่ผู้ผลิต Digital Content

จากกราฟแสดงความเต็มใจจ่ายให้แก่ผู้ผลิต Digital Content ส่วนใหญ่ผู้บริโภคเต็มใจจ่าย
ในรูปแบบวิดีโอ ราคาเฉลี่ย 3,500 บาท/ชิ้นงาน และรูปแบบไฟล์เอกสาร (PDF, Words, etc.)
ราคาเฉลี่ย 1,000 บาท/ชิ้นงาน รูปแบบสไลด์ (Power point, Google slide, Keynote, canva
etc.) ราคาเฉลี่ย 1,500 บาท/ชิ้นงาน รูปแบบ Live streaming ราคาเฉลี่ย 4,500 บาท/ชิ้นงาน
และรูปแบบ E-book ราคาเฉลี่ย 4,000 บาท/ชิ้นงาน

นอกจากนี้ จากการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ พบว่า เทรนด์และกระแสสังคม
ในปัจจุบัน มีผลทำให้ผู้คนสนใจสื่อประเภทภาพเคลื่อนไหวมากขึ้น เช่น Youtube หรือ Tiktok
มากกว่าสื่อที่มีตัวหนังสืออย่างเดียว อาจารย์ผู้สอนต้องปรับเปลี่ยนและทำ Content ในการสอนใหม่
ซึ่ง Digital Contect ถือว่าเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพมากอีกทั้งตอบโจทย์กับสถานการณ์
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 ในปัจจุบัน (P003, 16 มีนาคม 2565) อีกทั้งผู้บริโภคส่วน
ใหญ่จะคาดหวังว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ Digital Agency ภายในมหาวิทยาลัยที่จะเกิดขึ้น
ในอนาคตนั้นต้องมีศักยภาพเพียงพอ ทำงานตรงตามความต้องการ ส่งมอบงานตรงเวลาและผู้จัดทำ
ต้องมีความคิดสร้างสรรค์และกล้าที่จะเสนอแนะไอเดียต่อผู้ว่าจ้างและทั้งผู้ว่าจ้างและผู้จัดจ้างต้องรู้จัก
วิธีเจรจาต่อรองในสิ่งที่ต้องการและค่าตอบแทน ทั้งผู้จัดทำและผู้ว่าจ้างที่ต้องตรวจสอบ
การใช้ลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ตามมาในภายหลัง

FINAL REPORT 75

สารสนเทศลูกค้า

3. สารสนเทศสำหรับ First Line
ข้อมูลรายละเอียดอาจารย์ที่สนใจใช้บริการ Digital Agency แน่นอนหากมีหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย

ขอนแก่น จำนวน 12 คน

FINAL REPORT 76

สารสนเทศลูกค้า

ข้อมูลรายละเอียดอาจารย์ที่สนใจอาจจะใช้บริการ Digital Agency หากมีหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 9 คน

FINAL REPORT 77

สารสนเทศทางการตลาด

1. สารสนเทศทางการตลาดสำหรับ Top Manager
จากแผนฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2564 - 2565 พันธกิจและนโยบายในการบริหารและพัฒนา

ระหว่างปี พ.ศ. 2562 - 2566 มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่า ทิศทางการของ Digital Technology
ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ปรับเปลี่ยนองค์กรให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation)
ด้วยกลไกผ่านกลยุทธ์ 3 อย่างคือ Digital Disruption , Social Concerns, Private Demand
เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าประสงค์คือ

1. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้พร้อมต่อการใช้งานทั้งโปรแกรมและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
(Highly effective internet connection)

2.พัฒนาความทันสมัย ก้าวทันเทคโนโลยี (Tech-savvy Work and Living Places)

อีกทั้งต้องการให้สื่อการเรียนการสอนปรับเปลี่ยนรูปแบบไปจากเดิมกลายเป็นดิจิทัลคอนเทนต์เพิ่มมาก
ยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดจากทางมหาวิทยาลัยได้สนับสนุนให้มีหน่วยงานผลิตสื่อการเรียนออนไลน์
(Online learning production house) และสถานที่ผลิตสื่อที่ศูนย์นวัตกรรมการเรียนการสอน นั่นคือ
Production House ที่พร้อมด้วยอุปกรณ์ในการผลิตสื่อการเรียน การสอนทำให้เกิดแรงผลักดันพัฒนา
องค์ความรู้เชิงลึกในด้านของ Digital Technology ล้วนเป็นทิศทางสู่ดิจิทัลคอนเทนต์การพัฒนาด้านสื่อ
การเรียนการสอนให้มีความทันสมัยและก้าวทันเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้องค์กร MobiLib
ต้องพัฒนาในด้านดิจิทัลคอนเทนต์ พัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมสามารถผลิตสื่อที่ใช้งานได้จริง
เพื่อส่งต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายหรือส่งต่อเพื่อสร้างเครือข่ายได้เพิ่มเติม อีกทั้งจากการสัมภาษณ์กลุ่มลูกค้า
ขององค์กร MobiLib พบว่าภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีองค์กรหรือบุคลากรที่สามารถผลิตสื่อดิจิทัล
คอนเทนต์ไม่เพียงพอต่อความต้องการเมื่อเทียบกับจำนวนของคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยและมี Content
creators ที่ขาดทักษะและประสบการณ์ในด้านการวิเคราะห์ สังเคราะห์สารสนเทศจำนวนไม่น้อย

Retrieve from ttps://www.canva.com/

FINAL REPORT 78

สารสนเทศทางการตลาด

2. สารสนเทศทางการตลาดสำหรับ Senior manager
ทิศทางการของ Digital Technology ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ปรับเปลี่ยนองค์กร

ให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมรูปแบบการเป็นมหาวิทยาลัย
ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ มีการให้ความสำคัญกับ Digital Technology เพิ่มมากขึ้น

ทิศทางและนโยบาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1. แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ 2564 ในหัวข้อ เสาหลักที่ 2 Ecological ด้านการรักษาระบบ
นิเวศ ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 8 ปรับเปลี่ยนองค์กรให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation)
โดยมีกลไกผ่านกลยุทธ์ 3 อย่างคือ Digital Disruption , Social Concerns, Private Demand

กลยุทธ์ที่ 1

การพัฒนาและวิจัยเชิงลึกด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ในการต่อยอดด้านการเรียนการสอน การบริการวิชาการ และพัฒนานวัตกรรม

เพื่อนำไปใช้ประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ โดนเฉพาะด้าน AI, Machine learning, Big data
Analytic, Digital Marketing เป็นต้น

กลยุทธ์ที่ 2

การบ่มเพาะภายในเพื่อส่งเสริมใหเกิดนวัตกรรมทางดิจิทัล จากองค์ความรู้
หน่วยงานและบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย (Internal Startup)

ผลักดันให้เกิด New business model ภายใต้การส่งเสริมของมหาวิทยาลัยเพื่อให้สามารถเติบโต
และประสบความสำเร็จ

กลยุทธ์ที่ 3

การประสานกับหน่วยงานภายนอก (Cooperative Venture) ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
สร้างนวัตกรรมด้านดิจิทัลรองรับการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน และการทำธุรกิจ

ในรูปแบบของการร่วมโครงการ การร่วมทุน หรือมหาวิทยาลัยลงทุนเอง

กลยุทธ์ที่ 4

การพัฒนาระบบการทำงานและการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
เพื่อให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลง

จากสังคมภายนอกได้เป็นอย่างดี

FINAL REPORT 79

สารสนเทศทางการตลาด

ทิศทางและนโยบาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2. แผนปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2565 ในหัวข้อ เสาหลักที่ 2 Ecological ด้านการรักษาระบบ
นิเวศ ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 8 ปรับเปลี่ยนองค์กรให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation)
โดยมีกลไกผ่านกลยุทธ์ 3 อย่างคือ Digital Disruption , Social Concerns, Private Demand

กลยุทธ์ที่ 1

การบริการเชิงลึกด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
ทางด้าน AI, Machine learning, Big data Analytic, Digital Marketing ฯลฯ

เพื่อให้เกิด องค์ความรู้ในการต่อยอดด้านการเรียนการสอน การบริการวิชาการ และพัฒนาวัตกรรม
เพื่อนำไปใช้ประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ

กลยุทธ์ที่ 2

สร้างระบบนิเวศด้านการสร้างนวัตกรรมดิจิทัล
โดยการประสานกับหน่วยงานภายนอก (Cooperative Venture) ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน

เพื่อสร้างนวัตกรรมด้านดิจิทัล รองรับการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน และการทำธุรกิจในรูปแบบ
ของการร่วมโครงการ การร่วมทุน หรือมหาวิทยาลัยลงทุนเอง

กลยุทธ์ที่ 3

การพัฒนาระบบการทำงานและเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
เพื่อให้กระบวนการทำงานในมหาวิทยาลัยเป็นการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูง

รองรับการเปลี่ยนแปลงจากสังคมภายนอกได้เป็นอย่างดี

Retrieve from ttps://www.canva.com/

FINAL REPORT 80

สารสนเทศทางการตลาด

ทิศทางและนโยบาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น
3. พันธกิจและนโยบายในการบริหารและพัฒนามหาวิทยาลัย ในระหว่างปี พ.ศ. 2562 - 2566
โดยมุ่งพัฒนาประชาคมของมหาวิทยาลัยให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะดิจิทัล ดังนี้

1. ด้านประชาคมของมหาวิทยาลัย
ส่งเสริมความรู้ความสามารถในการใช้และพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในทุกภาคธุรกิจ

ตามภาระหน้าที่และความรับผิดชอบและก้าวสู่ระดับสากลอย่างต่อเนื่อง
ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการของสังคม
(Quality Graduates)
จัดการเรียนการสอนด้วยกระบวนการที่มุ่งส่งเสริมและปลูกฝังทักษะยุคใหม่
(Active Learning and Coaching)
ส่งเสริมและพัฒนาทักษะคณาจารย์และบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ
ทางเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy and Skills)
ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร ให้สามารถตอบสนองต่อการพัฒนามหาวิทยาลัย
ไปสู่ความเป็นเลิศระดับสากล (Qualified Personnel)
พัฒนาความรู้และทักษะในการทำงานอยู่เสมอ (Continuous Upskills)

Retrieve from ttps://www.canva.com/

2. ด้านระบบนิเวศของมหาวิทยาลัย
การอำนวยความสะดวกของสถานที่และอุปกรณ์การเรียนที่ทันสมัยเข้าถึง

อินเทอร์เน็ตได้ดีและเหมาะสมกับการเรียนรู้มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยดิจิทัล”
พัฒนาความทันสมัยก้าวทันเทคโนโลยี
(Tech-savvy Work and Living Places)
พัฒนาสถานที่และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี (Good Workplace)
พัฒนาระบบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตประสิทธิภาพสูง
(Highly Effective Internet Connection)

Retrieve from ttps://www.canva.com/

FINAL REPORT 81

สารสนเทศทางการตลาด

ทิศทางและนโยบาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น

3. ด้านการปลูกฝังจิตวิญญาณความเป็นมหาวิทยาลัย
ปลูกฝังการยึดมั่นในคุณธรรม ด้วยหลักการ

และวิธีการเปิดเผย โปร่งใส และเป็นธรรม
บริหารด้วยหลักธรรมาธิบาล และสร้างสันติสุข
(Good Governance and peace)
เสริมสร้างความสมานฉันท์ ความร่วมมือ ร่วมแรง
และร่วมใจ (Collaboration/Coordination)
ปลูกฝังแนวคิดการอุทิศเพื่อชุมชนและสังคม
(Mindset of Social Devotion)

จากแผนฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2564 - 2565 พันธกิจและนโยบายในการบริหารและพัฒนา
ระหว่างปี พ.ศ. 2562 - 2566 มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีกลไกในการพัฒนาองค์ความรู้เชิงลึกในด้านของ
Digital Technology ล้วนเป็นทิศทางสู่ดิจิทัลคอนเทนต์การพัฒนาทางด้านสื่อการเรียนการสอน
เพื่อพัฒนาความทันสมัยและก้าวทันเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้องค์กร MobiLib ต้องพัฒนา
ในด้านดิจิทัลคอนเทนต์ พัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อมสามารถผลิตสื่อที่ใช้งานได้จริงเพื่อส่งต่อ
ไปยังกลุ่มเป้าหมายหรือส่งต่อเพื่อสร้างเครือข่ายได้เพิ่มเติม

FINAL REPORT 82

สารสนเทศทางการตลาด

3. สารสนเทศทางการตลาดสำหรับ First Line
จากข้อมูลพันธกิจและนโยบายในการบริหารและพัฒนามหาวิทยาลัย เชิงยุทธศาสตร์ที่มีความ

เกี่ยวข้องกับ Digital Agency หรือภาคอุตสาหกรรมดิจิทัลในยุคปัจจุบัน แบ่งเป้าหมายออกเป็น
3 ด้าน ได้แก่ ประชาคม ระบบนิเวศ และจิตวิญญาณ และแผนฏิบัติงานประจำปีเพื่อปรับเปลี่ยนองค์กร
ให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) มีกลยุทธ์ 3 อย่างคือ Digital Disruption ,
Social Concerns และ Private Demand โดยมีภารกิจเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
ให้พร้อมต่อการใช้งานทั้งโปรแกรมและโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Highly effective
internet connection) และพัฒนาความทันสมัย ก้าวทันเทคโนโลยี (Tech-savvy Work and
Living Places)

แนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และการบริหารการเปลี่ยนแปลง
ด้านบุคลากร มีการสร้างบุคลากรที่มีองค์ความรู้ด้าน Digital Technology ที่อยู่ในระดับ
ที่สามารถทำวิจัย และพัฒนาออกมาเป็นนวัตกรรมที่สามารถใช้งานได้ จากการศึกษา และสร้าง
เครือข่ายเพิ่มเติม ร่วมกับการดึงตัวบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญสูงเพื่อมาร่วมกันพัฒนา
รวมไปถึงจัดกิจกรรม ที่มีมูลค่าโดยจัดอบรมบุคลากร เพื่อเสริมสร้างความรู้และพัฒนาทักษะ
การจัดหา วิเคราะห์สารสนเทศ
ด้านโครงสร้างหน่วยงานและการบริหารจัดการ มีการยกระดับสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ
เป็น ICT Research Center และร่วมมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์ และศูนย์นวัตกรรม
เพื่อพัฒนานวัตกรรมด้าน Digital Technology ที่ตอบสนองความต้องการของสังคม
และภาคธุรกิจ
ด้านสิ่งสนับสนุน มีการปรับเปลี่ยนระเบียบและกลไกที่ส่งเสริมให้เกิด Start up ในรูปแบบที่ทันสมัย

แนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และบริหารการเปลี่ยนแปลงในด้านของบุคลากรและด้าน

โครงสร้างหน่วยงานและการบริหารจัดการ โดยฝ่ายพัฒนามหาวิทยาลัยดิจิทัลสนับสนุนให้มีหน่วยงาน

ผลิตสื่อการเรียนออนไลน์ (Online learning production house) ซึ่งต้องประกอบไปด้วย

อุปกรณ์ในการผลิตสื่อที่มีคุณภาพและมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบ

จากการสัมภาษณ์กลุ่มลูกค้าขององค์กร MobiLib พบว่าภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีองค์กร

หรือบุคลากรที่สามารถผลิตสื่อดิจิทัลคอนเทนต์ไม่เพียงพอต่อความต้องการเมื่อเทียบกับจำนวน

ของคณาจารย์ในมหาวิทยาลัย และมี Content creators ที่ยังขาดทักษะและประสบการณ์ในด้าน

การวิเคราะห์สังเคราะห์สารสนเทศอยู่จำนวนไม่น้อย FINAL REPORT 83

สารสนเทศที่จัดหา
สารสนเทศสนับสนุนกลยุทธ์ CSR

สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย

1. สารสนเทศสำหรับ Top Manager
จากการสำรวจโรงเรียนเครือข่ายที่เปิดสอนหลักสูตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีและดิจิทัล

ภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากกลุ่มตัวอย่าง 100 โรงเรียนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พบว่ามีโรงเรียนจำนวน 20 โรงเรียนที่เปิดสอนในหลักสูตรเทคโนโลยีและดิจิทัล ประกอบด้วย

1. โรงเรียนนารีนุกูล
- ห้องเรียนอัจฉริยภาพด้านคอมพิวเตอร์ด้านคอมพิวเตอร์และนวัตกรรมดิจิทัล (Excellence

Computer Programme : ECP)
2. โรงเรียนเดชอุดม
- ห้องเรียนปกติ วิทยาศาสตร์ - คอมพิวเตอร์
3. โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนเตรียมวิทยาการคอมพิวเตอร์
- ห้องเรียนปกติ แผนการเตรียมมนุษยศาสตร์
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนเตรียมนิเทศศาสตร์
4. โรงเรียนมัธยมตระการพืชผล
- ห้องเรียนปกติ แผนวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์
- ห้องเรียนปกติ แผนภาษาไทย สังคม และเทคโนโลยี
5. โรงเรียนลือคำหาญวารินชำราบ
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คอมพิวเตอร์
6. โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คอมพิวเตอร์
7. โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด
- ห้องเรียนปกติ วิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ (คอมพิวเตอร์)

FINAL REPORT 84

สารสนเทศโรงเรียนเครือข่าย

8. โรงเรียนโพนทองพัฒนาวิทยา
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คอมพิวเตอร์ (เปิดสอนปีการศึกษา 2565 เป็นปี

แรก)
9. โรงเรียนเลยพิทยาคม
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนศิลป์ - ดนตรี ทัศนศิลป์ และเทคโนโลยี
10. โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเลย
- ห้องเรียนปกติ (มีรายวิชาเพิ่มเติม การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์)
11. โรงเรียนอนุกูลนารี
- โครงการห้องเรียนพิเศษ วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science : CS)
- ห้องเรียนปกติ วิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ - คอมพิวเตอร์
12. โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล
- โครงการห้องเรียนพิเศษ วิทยาการคอมพิวเตอร์ (CS)
13. โรงเรียนมุกดาหาร
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนวิทย์ - คณิต (วิชาเพิ่มเติม ICT)
14. โรงเรียนยโสธรพิทยาคม
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนศิลป์-เทคโนโลยี
15. โรงเรียนอำนาจเจริญ
- ห้องเรียนพิเศษคอมพิวเตอร์ (ICTP)
16. โรงเรียนภัทรบพิตร
- ห้องเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ (วิทย์-คอม)
17. โรงเรียนขุขันธ์
- แผนการเรียนโปรแกรมเมอร์ (Programmer)
18. โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนศิลป์ - เทคโนโลยี
19. โรงเรียนน้ำพองศึกษา
- ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คอมพิวเตอร์
20. โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา
- แผนการเรียนคณิต - อังกฤษ สาขาเทคโนโลยีและการออกแบบสื่อ

Retrieved from https://www.canva.com/

FINAL REPORT 85

2. สารสนเทศสำหรับ Senior Manager

จากการจัดหาสารสนเทศโรงเรียนเครือข่ายที่เปิดสอนหลักสูตรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล
ภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถสรุปได้ดังนี้

โรงเรียนที่เปิดสอนหลักสูตรที่เกี่ยวกับ
เทคโนโลยีดิจิทัลภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จ า ก ก ลุ่ม ตัว อ ย่า ง 1 0 0 โ ร ง เ รี ย น
ใ น ภ า ค ต ะ วัน อ อ ก เ ฉีย ง เ ห นื อ ที่ พิ จ า ร ณ า
จ า ก ค ะ แ น น A d m i s s i o n , รั บ ต ร ง
O - n e t เ ฉ ลี่ย ข อ ง โ ร ง เ รี ย น พ บ ว่ า
มี 2 0 โ ร ง เ รีย น ที่เ ปิด ส อ น ใ น ห ลั ก สู ต ร
เ ท ค โ น โ ล ยีดิจิทัล คิด เ ป็ น 2 0 %

โรงเรียนที่ไม่มีหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับ
เทคโนโลยีดิจิทัลภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แผนภูมิที่ 10 แผนภูมิวงกลมแสดงโรงเรียนที่เปิดสอน อุบลราชธานี
หลักสูตรดิจิทัลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยเอ็ด

กาฬสินธุ์ เลย
สกลนคร
มุกดาหาร
ยโสธร
อำนาจเจริญ
บุรีรัมย์
ศรีสะเกษ
นครราชสีมา
หนองบัวลำภู
ขอนแก่น




แบ่งออกเป็น แผนภูมิที่ 11 จังหวัดที่มีโรงเรียนที่เปิดสอนในหลักสูตรเทคโนโลยี
ดิจิทัลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จังหวัดอุบลราชธานี 5 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนนารีนุกูล, โรงเรียนเดชอุดม

, โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี, โรงเรียนมัธยมตระการพืชผล, โรงเรียนลือคำหาญวารินชำราบ

จังหวัดร้อยเอ็ด 3 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย,

โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด, โรงเรียนโพนทองพัฒนาวิทยา

จังหวัดเลย 2 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเลย, โรงเรียนเลยพิทยาคม

จังหวัดกาฬสินธุ์ 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนอนุกูลนารี

จังหวัดสกลนคร 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล

จังหวัดมุกดาหาร 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนมุกดาหาร

จังหวัดยโสธร 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนยโสธรพิทยาคม

จังหวัดอำนาจเจริญ 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนอำนาจเจริญ

จังหวัดบุรีรัมย์ 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนภัทรบพิตร

จังหวัดศรีสะเกษ 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนขุขันธ์

จังหวัดนครราชสีมา 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา

จังหวัดหนองบัวลำภู 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร

จังหวัดขอนแก่น 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย โรงเรียนน้ำพองศึกษา FINAL REPORT 86

ห้องเรียนพิเศษ

ห้องเรียนปกติ

แผนภูมิที่ 12 ห้องเรียนของโรงเรียนที่เปิดสอน จากทั้งหมด 20 โรงเรียน พบว่ามีหลักสูตร
หลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปิดสอนทั้งหมด
21 โปรแกรม โดยมีห้องเรียนพิเศษ 4 ห้องเรียน
คิดเป็น 19% และห้องเรียนปกติ 17 ห้องเรียน
คิดเป็น 81%

โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน 10%
โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

แผนภูมิที่ 13 แสดงสังกัดของโรงเรียนที่เปิดสอน
ในหลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จากทั้งหมด 20 โรงเรียนที่เปิดสอนในหลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัล
แบ่งออกเป็นโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
จำนวน 18 โรงเรียน คิดเป็น 90% และโรงเรียนที่อยู่สังกัดสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาเอกชน จำนวน 2 โรงเรียน คิดเป็น 10%

3. สารสนเทศสำหรับ First Line
จากการจัดหาสารสนเทศโรงเรียนเครือข่ายที่เปิดสอนหลักสูตรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล

ภายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถสรุปได้ดังนี้

มีจำนวน 20 โรงเรียน จาก 100 โรงเรียนที่มีคุณภาพดีที่สุดในภาคอีสาน พิจารณาจากการวัดผล
Admission โควตารับตรง โอลิมปิกวิชาการ คะแนนการสอบ O-net แบ่งออกเป็น

จังหวัดอุบลราชธานี 5 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 25 ประกอบไปด้วย
โรงเรียนนารีนุกูล, โรงเรียนเดชอุดม, โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี, โรงเรียนมัธยมตระการพืชผล
, โรงเรียนลือคำหาญวารินชำราบ

จังหวัดร้อยเอ็ด 3 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 15 ประกอบไปด้วย
โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย, โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด, โรงเรียนโพนทองพัฒนาวิทยา

จังหวัดเลย 2 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 10 ประกอบไปด้วย
โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยเลย, โรงเรียนเลยพิทยาคม

FINAL REPORT 87

จังหวัดละ 1 โรงเรียน ประกอบไปด้วย

จังหวัดกาฬสินธุ์ โรงเรียนอนุกูลนารี ร้อยละ 5
ร้อยละ 5
จังหวัดมุกดาหาร โรงเรียนมุกดาหาร ร้อยละ 5
ร้อยละ 5
จังหวัดสกลนคร โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล ร้อยละ 5
ร้อยละ 5
จังหวัดบุรีรัมย์ โรงเรียนภัทรบพิตร ร้อยละ 5
ร้อยละ 5
จังหวัดยโสธร โรงเรียนยโสธรพิทยาคม ร้อยละ 5
ร้อยละ 5
จังหวัดอำนาจเจริญ โรงเรียนอำนาจเจริญ

จังหวัดศรีสะเกษ โรงเรียนขุขันธ์

จังหวัดขอนแก่น โรงเรียนน้ำพองศึกษา

จังหวัดนครราชสีมา โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา

จังหวัดหนองบัวลำภู โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร

FINAL REPORT 88

โรงเรียนเดชอุดม



ห้องเรียนปกติ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คอมพิวเตอร์




ที่ตั้ง : 377 หมู่ที่ 19 บ้านชัยอุดม ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี 34160
3,610
จำนวนนักเรียน : ขนาดใหญ่พิเศษ
งานประชาสัมพันธ์โรงเรียนเดชอุดม
ขนาดโรงเรียน : http://www.detudom.ac.th
045361180
Facebook Fanpage : [email protected]
สพม. อุบลราชธานี-อำนาจเจริญ
เว็บไซต์ (URL) โรงเรียน :

โทรศัพท์ :

Email :

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา :

วิสัยทัศน์

พันธกิจ “โรงเรียนเดชอุดม จัดการศึกษา มุ่งพัฒนาผู้เรียน
เป็นเลิศทางวิชาการ ประสานชุมชนดำรงตนมีระเบียบวินัย
ใส่ใจสิ่งแวดล้อมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

สู่มาตรฐานสากล”

1. ส่งเสริมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีศักยภาพในด้านจัดกระบวนการเรียนการสอน
โดยเน้นผู้เรียนสำคัญที่สุด
2. พัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ รักษ์ความเป็นไทย สู่ความเป็นพลโลก
และมีวิถีชีวิตตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
3. พัฒนาผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ ภาษา เทคโนโลยี ศิลปะ ดนตรี
กีฬาด้วยความเสมอภาคและทั่วถึง
4. พัฒนาอาคาร สถานที่ แหล่งเรียนรู้ ห้องปฏิบัติการ จัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อมร่มรื่น สวยงาม
เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียนและให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ
5. บริหารจัดการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลด้วยระบบคุณภาพ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคีเครือข่าย
เพื่อพัฒนาการศึกษาให้ก้าวหน้าสู่มาตรฐานสากล

เป้าประสงค์

1. ผู้เรียนทุกคนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานและสามารถพัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศและพลโลก
2. ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างหลากหลาย
และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. โรงเรียนเปิดโอกาสให้ชุมชนและองค์กรท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
4. โรงเรียนมีสภาพแวดล้อม ร่มรื่น สวยงาม เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียน

FINAL REPORT 90


Click to View FlipBook Version