ประวัตศิ าสตรห์ ตั ถกรรม นวัตกรรมเพ่ือสืบสานเคร่ืองถ้วยสันกาแพง
โรงเรียนสันกาแพง จังหวัดเชยี งใหม่
พิมพ์คร้งั ท่ี 1
เขยี นเรียบเรยี ง : เยาวชนพลเมอื งโรงเรียนสันกาแพง
บรรณาธิการ : นายตระการ ทนานทอง, นางสาวศิณาทิพย์ ผันแกว้ , นายวรากร สิทธนิ อ้ ย
พิสูจนอ์ ักษร : เยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
ฝา่ ยศิลป์ ออกแบบรปู เลม่ : เยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
จัดพิมพ์และเผยแพร่ : เยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง โครงการเยาวชนพลเมือง
172 หมู่ 7 ตาบลทรายมูล อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชยี งใหม่ 50130
โทรศัพท์ 08 8233 4717
Email : [email protected]
Website : https://1th.me/Y3NDv
ภาพและข้อความท่นี ามาเป็นตัวอยา่ งประกอบในประวตั ศิ าสตรห์ ตั ถกรรม นวตั กรรมเพ่ือสืบสานเครื่องถ้วยสันกาแพงฉบับ
น้ีเป็นไปเพ่ือประโยชน์ในการศึกษาและอนุรักษ์รักษางานหัตถกรรมเครื่องถ้วยสันกาแพงเท่าน้ัน มิใช่เพ่ือแสวงหากาไร
กลมุ่ เยาวชนพลเมอื งสันกาแพงขออภัยที่มิได้ขออนญุ าตอย่างเป็นทางการในการนาส่ือและภาพประกอบมาตีพิมพ์ในครงั้ น้ี
ประวตั ศิ าสตรห์ ตั ถกรรม นวัตกรรมเพ่ือสืบสานเครอื่ งถว้ ยสันกาแพง
โรงเรียนสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่
คานา หนังสือเล่มนี้จัดทำข้ึนเพื่อเป็นส่วนหน่ึงในกำรรวบรวมข้อมูลเก่ียวประวัติศำสตร์
เครื่องถว้ ยสันกำแพงจำกหลำยแหล่งควำมรู้ในรูปแบบใหม่ให้มีควำมน่ำสนใจและเป็นส่วน
หน่ึงในกำรขับเคลอื่ นนวตั กรรมของโครงกำร “ประวัติศำสตร์หัตถกรรม นวัตกรรมเพื่อสืบ
สำนเครื่องถว้ ยสนั กำแพง” มแี รงบันดำลใจในกำรสรำ้ งมำจำกกำรเข้ำร่วมโครงกำรเยำวชน
พลเมืองของสำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนึ้ พื้นฐำน (สพฐ.) รว่ มกับ มูลนิธิกำรศึกษำ
เพื่อสร้ำงพลเมืองไทย (THAI CIVIC EDUCATION FOUNDATION-TCEFOUNDATION)
และภำคีทำงกำรศึกษำหลำย ๆ หน่วยงำน กำรเข้ำร่วมโครงกำรดังกล่ำว มีเป้ำประสงค์ท่ี
จะสร้ำง“พลเมือง 3 แบบ” กล่ำวคือ ประกำรที่หน่ึง “พลเมืองที่มีควำมรับผิดชอบ”
(Personally Responsible Citizen) กำรเคำรพกฎกติกำ ทำตำมหน้ำท่ีที่ตนเอง
รับผิดชอบ ประกำรท่ีสอง “พลเมืองมีส่วนร่วม” (Participatory Citizen) ที่สนใจและมี
ส่วนร่วมในกิจกำรสำธำรณะ ประกำรท่ีสำม “พลเมืองที่มุ่งเน้นควำมเป็นธรรมในสังคม”
(Social Justice-Oriented Citizen) ท่ีตั้งคำถำมต่อโครงสร้ำงของสังคม สนใจ
เร่อื งควำมเทำ่ เทียมและเปน็ ธรรม
หนังสือเล่มนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยควำมกรุณำและควำมอนุเครำะห์ ส่งเสริมจำกจำก
ผู้อำนวยกำรทีปชัย วงษ์วรศรีโรจน์ ผู้อำนวยกำรโรงเรียนสันกำแพง คุณครูตระกำร
ทนำนทอง ครูกลุ่มสำระ สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม โรงเรียนสันกำแพง นำย
ประเวศน์ โปธิตำ นำยกเทศบำลตำบลออนใต้ ปรำชญ์ชำวบ้ำน อำจำรย์อนันต์
พรหมลิขิตศิลป์, แม่พวงพัน กันตีฟอง, แม่บัวเผือ ปัญญำจันทร์, พ่อเจริญ ปัญญำจันทร์,
พ่อเทียบ ปัญญำจันทร์, พระพิชิตสมำหิโต รองเจ้ำอำวำสวัดป่ำตึง และเยำวชน ชำวบ้ำน
ชุมชนตำบลออนใต้ อำเภอสนั กำแพงท่ีได้กรุณำให้ควำมรู้ คำแนะนำ คำปรึกษำ ช่วยเหลือ
ในกำรเกบ็ ขอ้ มูลอำนวยควำมสะดวกต่ำงๆ จนเสร็จสมบูรณ์
คณะผู้จัดทำหวังว่ำ หนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่ำน หรือนักเรียน
นักศึกษำ ท่ีกำลังหำข้อมูลเรื่องนี้อยู่หำกมีข้อแนะนำหรือข้อผิดพลำดประกำรใด ผู้จัดทำ
ขอนอ้ มรบั ไวแ้ ละขออภยั มำ ณ ท่ีน้ดี ้วย
เยาวชนพลเมอื งสันกาแพง
ก โครงกำรเยำวชนพลเมอื งโรงเรียนสนั กำแพง
คานา หนา้ สารบญั
สารบัญ ก
บทนา ข
การกาหนดอายุของแหลง่ เตาเผาสันกาแพง 1
5
-กำรกำหนดอำยขุ องแหลง่ เตำเผำสนั กำแพง 6
- ศิลำจำรึกหมน่ื ดำบเรอื ง 8
- พระพทุ ธรูปสำรดิ ๒ องคแ์ ละจำรึกบนฐำนพระพุทธรูป “พระเจำ้ ฝน” 11
- จำรกึ บนกน้ กระปกุ เคร่ืองเคลอื บในพพิ ธิ ภณั ฑสถำนแหง่ ชำติ เชยี งใหม่ 14
- หลกั ฐำนเกี่ยวกับอำยุเคร่ืองเคลือบสนั กำแพง ในช้นั ดินทำงโบรำณคดี 15
ในเมอื งสโุ ขทยั
- หลกั ฐำนจำกกำรขดุ ตรวจสอบชนั้ ดนิ ทำงโบรำณคดีในวัดสำลกลั ปญ์ ำณ 17
มหันตำรำม
- พระพทุ ธรูปดินเผำผลผลิตเตำสนั กำแพง 18
- บทสรุปกำรกำหนดอำยุของแหล่งเตำเผำสันกำแพง 19
เตาเผา 22
- เตำเผำ 23
- เตำเผำโบรำณทพ่ี บในประเทศไทย 24
- แหลง่ เตำเผำภำคเหนือ 26
- แหล่งเตำเผำสันกำแพง 28
กรรมวิธีการทาเคร่อื งถ้วยสันกาแพง 73
- กรรมวิธกี ำรทำเครอ่ื งถว้ ยสันกำแพง 74
ประเภทเครอื่ งถว้ ยสนั กาแพง 80
- ประเภทเคร่อื งถ้วยสนั กำแพง 81
การตกแต่งเคร่ืองถ้วยสันกาแพง 82
- กำรตกแต่งเคร่ืองถว้ ยสันกำแพง 83
มุมมองของคนในท้องถิ่น 93
บรรณานกุ รม ค
ประวตั ศิ ำสตร์หัตถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สบื สำนเครอ่ื งถว้ ยสันกำแพง ข
บทนำ
1 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
บทนำ
โครงการ “ประวัตศิ าสตรห์ ัตถกรรม นวตั กรรมเพ่ือสืบสานเคร่ืองถ้วยสันกาแพง” มีแรงบันดาล
ใจในการสร้างมาจากการเข้าร่วมโครงการเยาวชนพลเมืองของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้น
พื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ มูลนิธิการศึกษาเพ่ือสร้างพลเมืองไทย (THAI CIVIC EDUCATION
FOUNDATION-TCEFOUNDATION) และภาคีทางการศึกษาหลาย ๆ หน่วยงาน การเข้าร่วมโครงการ
ดังกล่าว มีเป้าประสงค์ท่ีจะสร้าง“พลเมือง 3 แบบ” ท่ีอ้างอิงมาจากหนังสือ What Kind of Citizen? :
Educating Our Children for the Common Good ข อ ง Joel Westheimer (2015) ก ล่ า ว คื อ
ประการท่ีหน่ึง “พลเมืองที่มีความรับผิดชอบ” (Personally Responsible Citizen) การเคารพกฎกติกา
ทาตามหน้าท่ีท่ีตนเองรับผิดชอบ ประการที่สอง “พลเมืองมีส่วนร่วม” (Participatory Citizen) ท่ีสนใจ
และมีส่วนร่วมในกิจการสาธารณะ ประการท่ีสาม “พลเมืองที่มุ่งเน้นความเป็นธรรมในสังคม”
(Social Justice-Oriented Citizen) ที่ตั้งคาถามต่อโครงสร้างของสังคม สนใจเรื่องความเท่าเทียม
และเป็นธรรม โดยผสานความรู้ในการจัดการเรียนการสอนควบคู่เข้าไปด้วย ท้ังแนวคิด หลักการ วิธีการ
จัดการเรียน การสอน ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายคนทางานด้านการศึกษาเพื่อสร้างความ
เปน็ พลเมอื ง ทาใหเ้ กดิ ผลงานในระดับพนื้ ที่ต่างๆ ท้งั การเรียนการสอนในช้ันเรยี น
อน่ึงกลุ่ม “เยาวชนพลเมืองสันกาแพง” โรงเรียนสันกาแพง ที่เข้าร่วมโครงการต้ังแต่ปี
พ.ศ. 2561 เป็นต้นมา ได้มีกระบวนการเรียนรู้และการทางานในท้องถิ่นตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมา โดยได้
จัดทาโครงการต่าง ๆ ที่สนองประโยชน์ เรียนรู้กับชุมชน สร้างนวัตกรรม ความรู้ความเข้าใจใหม่ ๆ เสมอ
มา ในปี พ.ศ. 2563 จึงได้จัดทาโครงการ “ประวัติศาสตร์หัตถกรรม นวัตกรรมเพ่ือสืบสานเครื่องถ้วย
สนั กาแพง” จากการทไ่ี ดศ้ กึ ษากรอบแนวคดิ ของเยาวชนพลเมอื ง ได้แบ่งเยาวชนพลเมืองออกเป็น ๓ แบบ
คือ เยาวชนที่มีส่วนร่วม เยาวชนที่มีความรับผิดชอบและเยาวชนมุ่งเน้นความเป็นธรรมกับสังคม
กลมุ่ เยาวชนพลเมอื งสันกาแพง มีความสนใจทีจ่ ะศึกษาวิถชี วี ติ ภมู ิปัญญาและสิ่งแวดล้อมของคนในชุมชน
ภายในท้องถ่นิ ของตนเอง มสี ่วนรว่ มในการสรา้ งศกั ยภาพในการยกระดบั การรับรู้ ประวัติความเป็นมาของ
ชุมชน ผ่านวัฒ นธรรมด้ าน หัต ถก รรม ท่ีเป็นจุด เด่ นข องข องอาเภ อ สันก าแ พง ก็คือ
“เครือ่ งถ้วยสนั กาแพง”
ท้ังน้ีการศึกษาประวัติความเป็นมาของเครื่องถ้วยสันกาแพงเป็นการศึกษาเก่ียวกับทางด้าน
วัฒนธรรมของคนในอาเภอสันกาแพงในสมัยโบราณ ท่ีมีเอกลักษณ์และลักษณะผลงานที่โดดเด่น สะท้อน
ถึงวิถีชีวิต อตั ลักษณ์ของคนสนั กาแพง ซงึ่ การทาเครอื่ งถว้ ยนี้เปน็ สิ่งทที่ รงคุณค่า สมควรได้รับการรวบรวม
จัดเรียงข้อมูลใหม่ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ก้าวหน้าไปมาก แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ประวัติศาสตร์
การทาเครื่องถ้วยสันกาแพงไม่ได้รับการสนใจมากนัก ทางคณะผู้จัดทาโครงการได้ตระหนักถึงถึง
ความสาคัญของภูมิปัญญาท้องถ่ินดังกล่าว จึงได้มีการศึกษา รวบรวมข้อมูลต่าง ๆนามาเรียบเรียงข้อมูล
ประวตั ศิ าสตรห์ ัตถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สืบสานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 2
และจัดทาเป็นหนังสือ “ประวัติศาสตร์หัตถกรรม นวัตกรรมเพ่ือสืบสานเคร่ืองถ้วยสันกาแพง” ขึ้น
เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เคร่ืองถ้วยสันกาแพง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยให้เด็ก
และเยาวชนรวมถึงคนในท้องถิ่น ตระหนัก เห็นคุณค่าและความสาคัญของประวัติศาสตร์เครื่องถ้วย
สันกาแพง ร่วมกันสืบสาน รักษา องคค์ วามร้อู นั เป็นเอกลกั ษณ์นี้ของท้องถิ่นสนั กาแพง ให้คงอยู่สืบไป
ในโอกาสน้ีทางคณะผู้จัดทาขอขอบคุณข้อมูลความรู้จาก หนังสือเครื่องถ้วยและเตาเผาสันกาแพง
(กรมศิลปากรม, 2515), หนังสือเครื่องถ้วยสันกาแพง (ไกรศรี นิมมานเหมินทร์, 2526) ,หนังสือแหล่ง
โบราณคดีประเทศไทย เล่ม 6 (ภาคเหนือ) กรมศิลปากร เอกสารกองโบราณคดีหมายเลข 6 พ.ศ.2534 ,
หนังสือเครื่องป้ันดินเผา สานักพิมพ์คติ 2554, รายงานวิจัยเบ้ืองต้นเครื่องปั้นดินเผาสันกาแพง แหล่ง
เตาเผาวดั เชยี งแสน บ้านปา่ ตึง ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ (ธัญญรัตน์ สังสะ,2548)
ขอขอบพระคณุ พระพชิ ิตสมาหโิ ต (รองเจ้าอาวาสวัดป่าตึง) ,นายประเวศน์ โปธิตา (นายกองค์การบริหาร
ส่วนตาบลออนใต้) , อาจารย์อนันต์ พรหมลิขิตศิลป์ (สวนศิลป์เตาออนใต้) ,นายเทียบ ปัญญาจันทร์ ,
นายเจริญ ปัญญาจันทร์ ,นางบัวเผือ ปัญญาจันทร์ ,นางพวงพัน กันตีฟอง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้
โครงการ “ประวัติศาสตร์หัตถกรรม นวัตกรรมเพ่ือสืบสานเครื่องถ้วยสันกาแพง” สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี
มา ณ โอกาสนี้
เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง 2563
3 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
เยาวชนพลเมืองสนั กาแพง 2563
ประวตั ิศาสตร์หตั ถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สบื สานเครื่องถว้ ยสนั กาแพง 4
กำรกำหนดอำยุ
ของแหลง่ เตำเผำ
สันกำแพง
5 โครงการเยาวชนพลเมืองโรงเรยี นสนั กาแพง
กำรกำหนดอำยุ
ของแหลง่ เตำเผำสันกำแพง
ในอาณาจักรล้านนา ภาคเหนือของประเทศไทยนั้นพระยานครพระรามได้ค้นพบเคร่ืองปั้นดินเผา
ชนิดเคลือบในป่ากาหลง อาเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ต่อมาชาวบ้านและนายไกรศรี
นมิ มานเหมินทร์ ได้ค้นพบที่หมู่บา้ นปา่ ตึง ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ สะท้อนให้เห็น
ว่าเคร่ืองป้ันดินเผาในอาณาจักรล้านนานี้ นอกจากบริเวณดังกล่าวยังพบท่ีบริเวณบ้างโป่งแดง หมู่ท่ี 13
ตาบลแม่คาวโตน อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย อีกแห่งหน่ึง คือ เตาเผาเครื่องถ้วยชามสันทรายและดอย
สันธาตุ โดยในบริเวณหมู่บ้านป่าตึง ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งท่ีมี
ความสาคัญมาก เพราะเคร่ืองป้ันดินเผาที่พบน้ันมีปริมาณมากกว่าท้องท่ีอื่น ๆ มีอาณาเขตกว้างขวางและ
มเี ตาเผาเครือ่ งถ้วยชามอยู่หลายแห่ง กรมศลิ ปากรไดส้ ง่ เจ้าหนา้ ทอี่ อกไปสารวจและขดุ ค้นในระหว่างเดือน
กรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2513 และระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2514
ซ่ึงจากการปฏบิ ตั งิ านคร้ังน้ีไดท้ าการขุดคน้ พบเตาเผาเคร่ืองถ้วยชาม 7 เตา รวมท้ังเคร่ืองป้ันดินเผาต่าง ๆ
อีกเปน็ จานวนมาก (พจน์ เกือ้ กลู , 2515 , เครือ่ งถว้ ยและเตาเผาสันกาแพง : กรมศลิ ปากร , 2515)
ความเป็นไปได้ในการกาหนดอายุสมัยของแหล่งเตาเผาเคร่ืองเคลือบสันกาแพงในขณะน้ีนั้น
ยงั ไม่สามารถอา้ งองิ ผลการกาหนดอายุไดจ้ ากกระบวนการวทิ ยาศาสตร์ เช่น คาร์บอน ๑๔ เทอร์โมลูมิเนส
เซนส์หรือพาเลโอแมก-เนติสซม์ได้ เนื่องจากยังไม่มีการขุดค้นเก็บตัวอย่างจากแหล่งเตาโดยตรงสาหรับ
การศกึ ษาของโครงการโบราณคดปี ระเทศ (ภาคเหนอื ) ระหวา่ งปี พ.ศ.2527-2530 ได้พบแหล่งฐานต่าง ๆ
ท่ีเก่ียวข้องกับแหล่งเตาและเครื่องเคลือบสันกาแพงมากข้ึนซึ่งหลักฐานเหล่าน้ีถือได้ว่าเป็นหลักฐาน
ข้างเคียง (ASSOCIATED EVIDENCES) ท่ีจะช่วยให้สามารถกาหนดช่วงเวลากว้าง ๆ ของการผลิตเคร่ือง
เคลือบสันกาแพงได้อย่างมีเหตุผลด้วย วิธีเทียบเคียง (Relative Dating) บรรดาหลักฐานและ
แนวความคิดในการกาหนดอายุท่ีจะกล่าวต่อไปน้ีไม่ใช่สิ่งใหม่ท้ังหมด หากแต่ได้เคยมีผู้รู้ได้คิดเสนอ
แนวทางไว้บ้างแล้ว (ไกรศรี นิมมานเหมินทร์,2525:และพจน์ เกื้อกูล, 2515 : 18) และในที่นี้ได้นาเอา
หลักฐานได้ค้นพบใหม่มารวมวิเคราะห์แปลความด้วยจากหลักฐานท่ีนายไกรศรีนิมมานเหมินท ร์
และนายพจน์ เกื้อกูล ใช้ประกอบการพิจารณาวิเคราะห์กาหนดอายุสมัยของแหล่งเตาเผาและเครื่อง
เคลอื บสนั กาแพง ประกอบด้วย
1. ศิลาจารึกหมืน่ ดาบเรอื น ( ไกรศรี นมิ มานเหมนิ ทร์ ,เล่มเดียวกนั : 15 )
2. เศษเครื่องถ้วยลายครามสมันราชวงศ์หมงิ ( ไกรศรี นิมมานเหมินทร์ ,เล่มเดียวกนั : 148 )
3. จารกึ บนฐานพระพุทธรูปสาริดทวี่ ดั เชียงแสน ( ไกรศรี นิมมานเหมนิ ทร์ ,เล่มเดยี วกนั : 147 )
ประวัตศิ าสตรห์ ัตถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเครอ่ื งถว้ ยสนั กาแพง 6
นอกจากหลักฐานทั้งสามรายการดังกล่าวแล้วในการขุดค้นศึกษาชั้นเดิมทางโบราณคดีในแหล่งท่ีอยู่
อาศัยสมัยโบราณเมืองเก่าสุโขทัยได้พบหลักฐานที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องเคลือบสันกาแพงด้วย (บวรเวท และ
คณะ 2530 : 72) ในปีพ.ศ.2528 เม่ือทาการศึกษาเครื่องเคลือบที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
เชียงใหม่ซึ่งมีกระปุกเคลือบขนาดเล็กใบหนึ่ง (ป้ายจัดแสดงบอกประวัติว่าเป็นเครื่องเคลือบสันกาแพง นาย
ไกรศรี นิมมานเหมินทร์มอบให้) มีจารึกอักษรไทยล้านนาและตัวเลขท่ีตัวท่ีก้นภาชนะและเมื่อเดือนมกราคม
พ.ศ. 2528 โครงการโบราณคดีประเทศไทย (ภาคเหนือ) ได้ขุดตรวจสอบช้ันเดินทางโบราณคดีในบริเวณวัด
สาลกัลญาณมหันตารามซ่ึงเป็นแหล่งโบราณคดีที่สาคัญในแหล่งเตาเผาและชุมชนสันกาแพง และสารวจพบ
พระพุทธรูปดินเผาเน้ือแกร่งท่ีเป็นผลผลิตของแหล่งเตาเผาสันกาแพงอีกด้วยหลักฐานดังกล่าวท้ังหมดล้วน
เป็นหลักฐานข้างเคียงท่ีนับว่าเป็นปัจจัยสาคัญท่ีจะช่วยให้การกาหนดอายุเครื่องเคลือบสันกาแพงมีความ
เป็นไปไดใ้ กล้เคยี งเปน็ จรงิ มากขึน้ ก่อนทีจ่ ะเสนอทัศนวเิ คราะห์เปรียบเทียบการกาหนดอายุจะขอนารายการ
มาเสนอไว้ประกอบพจิ ารณาเพ่อื ให้การวเิ คราะห์และอ้างองิ มคี วามสมบูรณม์ ากขึ้น
ภาพเตาเผาวัดเชยี งแสน (เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563)
7 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
ศิลำจำรึกหม่นื ดำบเรือน
ศิลาจารึกหลักน้ีเป็นแห่งหินทรายสีชมพูแดง รูปส่ีเหลี่ยมจัตุรัสขนาดกว้างเฉล่ียด้านละ 42
เชนติเมตร สูง 120 เชนตเิ มตร จารึกอักษรไทยล้านนาครบทงั้ สี่ด้าน ส่วนยอดแตกชารดุ เลก็ นอ้ ย
ตามประวัติจารึก พระครูจันทสมานคุณ (ครูบาหล้า จันโท) อายุ 90 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตึง
ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง (พระครูจันทสมานคุณ, สัมภาษณ์, 2528) บอกว่าท่านเป็นผู้พบศิลาจารึก
หลกั นี้ ฝังอยบู่ รเิ วณหนา้ เจดีย์ประธานในวัดสาลกัลญาณมหันตาราม ริมลาน้าแม่ผาแหน ห่างจากหมู่บ้าน
ป่าตึงไปทางทิศตะวันออกประมาณ 1.50 กิโลเมตร ปัจจุบันศิลาจารึกหลักน้ีจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์
เครอ่ื งถว้ ยสนั กาแพงภายในวดั ปา่ ตึง
เน่ืองจากส่วนยอดของศิลาจารึกแตกหายไปบางส่วน ทาให้ตัวอักษรหายไปด้านละ 1-2 บรรทัด
แต่อย่างไรก็ตามขอ้ ความที่เหลืออยู่ยังคงชัดเจนสามารถคัดลอกและถอดความโดยสรุปได้ว่า (ประชุมศิลา
จารึกภาค 5, 2513)
ภาพศลิ าจารกึ หม่ืนดาบเรอื น
(เยาวชนพลเมอื งสันกาแพง, 2563)
ประวตั ิศาสตร์หัตถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สบื สานเครอื่ งถว้ ยสนั กาแพง 8
“เม่ือพระเจ้าศรีสัทธัมมังกูรมหาจักรวรรคิราชาธิราช ได้ขึ้นครองราชย์ในเมืองพิงค์เชียงใหม่ ก็ทรง
โปรดให้มนตรีผู้หน่งึ ช่ือ อติชวญาณบวรสทิ ธิเป็นหมื่นดาบเรอื น”
ในปีจุลศักราช 850 ตวั (พ.ศ.2031-2032) ปีวอกสัมฤทธิศกเดือน 7 ข้ึน 8 ค่า วันกาบสี (พุธ) หม่ืนดาบเรือน
ไดช้ กั ชวนผมู้ จี ติ ศรัทธาทง้ั มวลมชี าวพเู ลา เป็นตน้ มาร่วมกันสรา้ งมหาวิหาร มหาเจดีย์ หอพระไตรปิฎก ปลูก
ไม้มหาโพธิ์ เสร็จแล้วต้ังช่ือว่า สาลกัลป์ญาณมหันตราม พระเจ้าศรีสัทธัมมังกูรพระราชทานขอบเขต
ใหว้ ดั นี้ หม่ืนดาบเรือนอาราธนาพระสงฆ์จากวัดตา่ ง ๆ เชน่ มหาเถรสุนธร วันหมื่นพาย มหาเถรวชิรญาณ วัด
หมน่ื ครีนมหาเถรอนทั ปญั ญโญ และพระสงฆอ์ ีก 9 รปู มาอุปถมั ภ์วัดนี้
ปีจุลศักราช 853 (พ.ศ. 2034-2035) พระเจ้าศรีสัทธัมมังกูรจักรวรรดิราชาธิราช พระราชทานนามีค่า
450,000 เบ้ยี แก่หม่ืนดาบเรือน หม่ืนดาบเรือนก็เอามาถวายวัดสาลกัลญาณมหันตาราวมนี้ โดยอ้างพันญาณ
รงั สี ลา่ มร้อยพรม ล่ามโสมดาบเรือน คนจ้าหมอสะเมธาช่ือ นายแก้วเปน็ พยาน
นอกจากนี้หม่ืนดาบเรือนได้ถวายข้าพระ 25 ครัว รวม 78 คนและแสดงบัญชีค่าก่อสร้างเจดีย์ 14,500 เบี้ย
สรา้ งมหาวิหาร 11,700 เบ้ยี สรา้ งหนงั สือ 20,000เบี้ย ผ้าห่อหนังสือ 1,000 เบ้ีย ค่าหล่อพระพุทธรูป 5 องค์
รวมค่าช่าง 6,000 เบย้ี ค่าครวั ขา้ วัด 20,560 เบ้ีย ถวายเงินเป็นนิจจภัตต์ ปัจจัย 3,000 เบ้ีย เพ่ือเก็บดอกผล
นา่ มาทา่ จงั หนั ถวายพระสงฆ์ 10 สา่ รับ ค่าท่าส่ารับอกี 300 เบ้ีย รวมเปน็ 148,960 เบย้ี
หม่ืนดาบเรือนขอให้บุญท้ังมวลที่กระท่าจงเป็นปัจจัยให้คนได้พบปรารถนาแห่งปัญญาสัพพัญตญาณ และ
สาปแช่งไว้หากผู้ใดเอาไร่นา ข้าพระ ท่ีตนถวายออกไปจากวัดนี้ ขอให้พบภัยพิบัติ ไฟไหม้ในอบายทั้งส่ืออย่า
ใหห้ นพี น้ ..."
ภาพศิลาจารกึ หมน่ื ดาบเรือน ในพพิ ธิ ภัณฑภณั ฑ์วดั ปา่ ตึง
(เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563)
9 โครงการเยาวชนพลเมืองโรงเรยี นสันกาแพง
ภาพข้อความบนศิลาจารกึ หม่นื ดาบเรือนทั้ง 4 ด้าน
(เยาวชนพลเมอื งสันกาแพง, 2563)
ประวัติศาสตรห์ ัตถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สบื สานเครอ่ื งถว้ ยสนั กาแพง 10
พระพุทธรปู สำริด ๒ องค์ และจำรึก
บนฐำนพระพุทธรูป “พระเจำ้ ฝน”
ที่วัดปา่ ตึงมพี ระพทุ ธรปู สาริดขนาดกลางและขนาดใหญ่อย่างละหนึ่งองค์ ซึ่งเคลื่อนย้ายมาจากวัด
สาลกัญาณมหันตาราม (พระครูจันทสมานคุณ,สัมภาษณ์, 2528) เป็นพระพุทธรูปประทับน่ังปางมารวิชัย
ทั้งสององค์ องค์แรกเรียกว่า “พระเจ้าฝน” หรือ “พระเจ้าฝนแสนห่า” ขนาดหน้าตักกว้าง 68.5
เซนติเมตร สูง (จากฐานถึงยอดพระรัศมี) 106.00 เซนติเมตร พุทธลักษณะจัดอยู่ในพระพุทธรูปตระกุล
“สิงห์” ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรฐานเขียงชายจีวร (สังฆาฏิ) พับซ้อนอยู่เหนือ พระถัน ปลายเป็นริ้วแบบ
เขี้ยวตะขาบ พระพักตร์รูปไข่ขมวดพระเกศาใหญ่ รัศมีเป็นต่อมกลม ชายจีวรด้านหลังอยู่ใต้พระโสณี
ที่ขอบฐานเขยี งโดยรอบ มีจารกึ อักษรไทยล้านนา ภาษาไทย ความวา่
“พระเจ้าฝนน้ีหนักแสนทอง เจ้าหมื่นกัลญาณดาบเรือนให้หล่อในเปลิกสัน ไว้ให้คนทั้งหลายไหว้
บุญอันน้ีจะให้เป็นปัจจัย แก่………(ลบเลือน)……….สัพพัญญุตญาณเทอญบุญอันน้ีจาเริญแก่สัตว์ท้ังหลาย
ในอนนั ตวัตร……”และท่ตี รงกงึ่ กลางฐานเขียงดา้ นหน้าตารางส่ีเหลยี่ มจตั ุรัส ภายในตารางจารึกอกั ษรธรรม
ล้านนา ภาษาบาลี เป็นคาถาหัวใจอริยสัจ หรือ จตุราริยสัจกลบท (สายยันต์ ไพรชาญจิตร์ วิเคราะห์,
คงเดช ประพัฒน์ทอง ตรวจแก้ไข) พระพุทธรูป “พระเจ้าฝน” นี้ปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่บนกุฏิ
พระครจู ันทสมานคณุ อดีตเจา้ อาวาสวัดป่าตงึ
จารึกอักษรไทยล้านนา
(เยาวชนพลเมืองสนั กาแพง, 2563)
11 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
“พระเจ้าฝน” หรือ “พระเจา้ ฝนแสนห่า” วัดปา่ ตึง
(เยาวชนพลเมืองสนั กาแพง, 2563)
ประวัติศาสตรห์ ัตถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเครือ่ งถว้ ยสนั กาแพง 12
พระพุทธรูปอีกองค์หน่ึง ปัจจุบันประดิษฐานอยู่บนวิหารหลวงวัดป่าตึงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
ขนาดใหญ่กว่าพระเจ้าฝน หน้าตักกว้าง 115 เซนติเมตร สูง 156 เซนติเมตร พุทธลักษณะประทับ
น่ังขัดสมาธิราบบนฐานเขียงห่มจีวรแบบเฉียงชายจีวรพับพาดพระอังสาซ้ายลงมาจรดพระนาภี ชายจีวร
ด้านหลังอยู่ใต้โสณี พระพักตร์รูปไข่ แต่พระนลาฏค่อนข้างกว้าง ขมวดพระเกศาเล็ก มีขอบไรพระศร
เส้นเลก็ ๆ รศั มีเป็นรูปเปลวและไมม่ จี ารกึ ทีฐ่ าน
พระพุทธรูปปางมารวิชัย วัดป่าตึง (เยาวชนพลเมืองสันกาแพง, 2563)
สาหรับพระพุทธรูป “พระเจ้าฝน” ที่มีจารึกกล่าวถึงหมื่นดาบเรือนให้หล่อเม่ือปีวอก สัมฤทธิศก
(เปลิกสัน) นั้นปีท่ีหล่อตรงกันกับความในศิลาจารึกด้านท่ี 4 บรรทัดท่ี 4-5 ว่ามีค่าหล่อพระพุทธรูป 5 องค์
เป็นเงิน 6,000 เบ้ียด้วง และตามประวัติ พระพุทธรูปก็ถูกเคลื่อนย้ายมาจากวัดสาลกัญาณมหันตาราม
เช่นเดียวกัน จึงเป็นการแน่นอนว่า “พระเจ้าฝน” องค์นี้เป็นพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ในจานวน 5 องค์ ที่หม่ืน
ดาบเรือนใหห้ ลอ่ เมอื่ ปีเปลกิ สัน จลุ ศกั ราช 850 หรือ พ.ศ.2031-2032 แสดงให้เห็นว่าหลักฐานทั้งศิลาจารึก
และพระพทุ ธรูปซ่งึ มอี ายุมากกว่า 400 ปี ที่มอี ยูส่ อดคล้องกนั ทั้งหมด
สว่ นพระพุทธรูปองค์ใหญท่ ีไ่ ม่มจี ารึกนั้น มลี กั ษณะพุทธศลิ ปะแตกตา่ งไปจากพระเจ้าฝน น่าจะมีอายุ
การหล่ออยู่ในช่วงก่อนพระเจ้าฝน คือราว ปลายพุทธศตวรรษที่ 20 ถึงต้น พุทธศตวรรษท่ี 21
(สรุ ศักดิ์ ศรสี าอาง , แลกเปล่ียนความเหน็ เป็นการส่วนตัว ,2529 )
13 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
จำรกึ บนก้นกระปุก เคร่อื งเคลือบ
ในพิพิธภัณฑสถำนแห่งชำติ เชยี งใหม่
กระปุกขนาดเล็กเคลอื บใสผวิ สีเทาอมเหลอื งออ่ นๆ เลขทะเบียน 622/1516 ลักษณะ จารึกท่ีก้นด้าน
นอกเปน็ อกั ษรไทยลา้ นนา มีตวั เลขชดุ หนึ่ง 4 ตวั ประกอบดว้ ย
ซึ่งอาจหมายถึงพระพุทธศักราช 2237 หรือ 2287 (เทิม มีเต็ม : อ่านวิเคราะห์ , 2531)
ก็หมายความว่า การผลติ เครอื่ งเคลือบสนั กาแพง ดาเนนิ มาจนถึงราวกลางพทุ ธศตวรรษที่ 23 นั่นเอง
ภาพจารึกบนกน้ กระปกุ เครอื่ งเคลอื บในพพิ ิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่
(เยาวชนพลเมอื งสันกาแพง, 2563)
ประวตั ิศาสตรห์ ตั ถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สบื สานเคร่ืองถว้ ยสันกาแพง 14
หลกั ฐำนเกีย่ วกบั อำยเุ ครอื่ งเคลอื บสันกำแพง
ในชั้นดนิ ทำงโบรำณคดใี นเมอื งสุโขทัย
เมื่อ พ.ศ. 2524 ในการขุดค้นตรวจสอบช้ันดินทางโบราณคดีบริเวณที่อยู่อาศัยสมัยโบราณ
ในเมืองสุโขทัย ซ่ิงเป็นส่วนหน่ึงของงานศึกษาวิจัยทางโบราณคดีโครงการอุทยานประวัติศาสตร์ (บวรเวท
และคณะ, 2530) หลักฐานจากชั้นดินท่ี 5 และ 3 และช้ันวัฒนธรรมท่ี 1-3 พบเครื่องเคลือบแบบเชลียง
และถ้วยลายครามจีนสมันราชวงศ์หมิง (ราว พ.ศ. 1850-2000) และอ้างอิงผลการกาหนดอายุ
โดยวิธีวทิ ยาศาสตร์ (คารบ์ อน ๑๔) จากหลมุ ขดุ คน้ อื่น ๆ ที่พบหลักฐานแบบเดียวกันมีค่าอายุ 540±50 ปี
( ราว พ.ศ.1900-2000 ) และ 520±60 ปี(ราว พ.ศ.1540-1950) (บวรเวท และคณะ,เล่มเดิม:169)
ค่าอายุดังกล่าวยืนยันได้ว่า ชามเคลือบสันกาแพงท่ีพบในสุโขทัย น่าจะมีอายุทับถมในช้ันดินประมาณ
ปลายพทุ ธศตวรรษที่ 20 –พุทธศตวรรษ 21 (พ.ศ.1950-2000) และนนั่ ก็หมายความว่ากิจกรรมการผลิต
คงจะดาเนนิ มากอ่ นหนา้ นแ้ี ล้ว
รชั สมัยพระเจา้ ตโิ ลกราช กษัตริยล์ ้านนา (พ.ศ.1985-2031) ดงั นัน้ จงึ ไมเ่ ปน็ เรื่องผิดปกติที่
กิจการพัฒนาวิทยาการด้านต่าง ๆ จะดาเนินไปด้วยควาบราบร่ืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจการและวิทยาการ
ผลิตเคร่ืองเคลือบดินเผาก็ย่อมจะมีความเจริญสูงสุดในช่วงระยะเวลาดังกล่าว จากอายุสมัยที่ปรากฏ
ในศิลาจารึกหม่ืนดาบเรือนซ่ึงอยู่ในระหว่างปี พ.ศ. 2031-2034 ก็ยังคงอยู่ในระยะท่ีเมืองเชียงใหม่
เจรญิ รุง่ เรอื งมีอานาจทางการเมืองม่ันคง เชน่ กนั
ข้อคิดสนับสนุนอีกประการหน่ึง คือ พระพุทธรูปสาริดสององค์ท่ีถูกเคล่ือนย้าย
จากวัดสาลกัญาณมหันตาราม ไปประดิษฐาน ณ วัดป่าตึงในปัจจุบันน้ัน เป็นหลักฐานที่บ่งบอกความ
ต่อเนื่องของระยะเวลา กล่าวคือ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ไม่มีจารึกน้ัน มีอายุสมัยเก่ากว่าพระพุทธรูป
“พระเจา้ ฝน” และพบอยใู่ นพน้ื ที่เดียวกนั นั่นกน็ า่ จะหมายถงึ ความสงบของพ้ืนที่ที่ไม่เคยถูกรบกวนจากภัย
สงครามเลย เพราะท้ังศิลาจารึกพระพุทธรูปและโบราณสถานยังคงอยู่ในพ้ืนท่ีเดิมมาจนกระทั่งปัจจุบันน้ี
ในขณะเดียวกันพระพุทธรูปดินเผาท่ีพบในแหล่งเตาก็มีรูปแบบร่วมสมัยกับ “พระเจ้าฝน” อย่างชัดเจน
จึงกล่าวได้ว่าในช่วงตั้งแต่ต้นถึงกลางพุทธศตวรรษ ท่ี 21 (จุลศตวรรษที่ 8-9) น้ันนอกจากการผลิต
เคร่ืองเคลือบดินเผาท่ีเป็นรูปภาชนะ เครื่องใช้สอยแล้ว แหล่งเตาสันกาแพงยังผลิตพระพุทธรูปดินเผา
อีกด้วย อันเป็นการยืนยันว่าการพัฒนากิจการเครื่องเคลือบดินเผาดาเนินควบคู่ไปกับพุทธศาสนาอย่าง
แยกกนั ไม่ออกและอาจกล่าวไดว้ า่ กิจการผลิตเครื่องเคลือบคงไม่เลิกร้างเลิกร้างไปก่อนกลางพุทธศตวรรษ
ที่ 23 เห็นได้จากหลักฐานในรายการที่ 3 จารึกบนก้นกระปุกเคลือบในพิพิธภัณฑสถานฯ เชียงใหม่
ท่ีกล่าวแล้วว่าตัวเลขชุดท่ีสี่ตัวน้ันอาจจะหมายถึง พุทธศักราช 2237-2287 หลักฐานน้ีจะเป็นตัวบอกอายุ
สมยั ระยะท้าย ๆ ของการผลติ เครือ่ งเคลือบสันกาแพงน่ันเอง
15 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
เสน้ เวลาแสดงยุคสมยั ของพระมหากษัตริยข์ องอาณาจกั รล้านนา
(เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563)
ประวตั ิศาสตรห์ ัตถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเครือ่ งถว้ ยสันกาแพง 16
หลกั ฐำนจำกกำรขุดตรวจสอบ
ช้นั ดินทำงโบรำณคดี
ในวดั สำลกัลป์ญำณมหนั ตำรำม
โครงการโบราณคดีประเทศไทย(ภาคเหนอื )ไดด้ าเนินงานขดุ ตรวจสอบชนั้ ดนิ ทางโบราณคดใี นบริเวณ
วดั สาลกลั ป์ญาณมหันตารามเม่ือต้นปี พ.ศ.2528 ( บวรเวท และคณะ, 2528 ) พบว่าในชั้นดินก่อนสร้างวัด
สาลกัลป์ญาณมหันตารามมีเศษเครื่องเคลือบสีเขียวอ่อนของกลุ่มเตาสันกาแพง โดยเฉพาะอย่างย่ิงกลุ่มของ
เตาวดั เชียงแสน (อยหู่ ่างจากหลุมชุดคน้ 500 เมตร )
หลักฐานดังกล่าวช้ีให้เห็นว่ากิจกรรมการผลิตเคร่ืองเคลือบ ท่ีกลุ่มเตาวัดเชียงแสน (วัดสาลกัลป์
ญาณมหนั ตาราม) นนั้ ดาเนนิ มากอ่ นการสร้างวัดนี้ คอื กอ่ นจุลศักราช 850 (พ.ศ. 2031-2032)
ภาพเตาเผาวดั เชยี งแสน (พจน์ เกอ้ื กูล, 2515, เครื่องถว้ ยและเตาเผาสนั กาแพง : กรมศิลปากร , 2515)
17 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
พระพุทธรปู ดนิ เผำผลผลิตเตำสันกำแพง
ในการดาเนินงานจัดสร้างและจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ท้องถ่ินประจาวัดป่าตึงเมื่อต้นปี พ.ศ. 2528
สารวจพบพระพุทธรูปดินเผาไม่เคลือบองค์หน่ึง ทราบจากท่านพระครูจันทสมานคุณและนายคา ตุ่นใจ
ศรัทธาวัดป่าตึงว่า พระพุทธรูปองค์น้ีได้มาจากแหล่งเตาเผาสันกาแพง นั่นเอง ถึงแม้องค์พระพุทธรูป
ดังกล่าวจะมีเฉพาะพระองค์ส่วนบน แต่พุทธลักษณะก็แสดงว่าเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย
พทุ ธศิลปะจดั อยู่ในสกุลเดยี วกบั “พระเจา้ ฝน” และพระพุทธรปู ดินเผาน้ีบางส่วนบิดเบี้ยว ซึ่งเป็นลักษณะ
ของการเผาในที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้สูงเกิน 1,200 เซลเซียส นั่นก็คือ ในเตาเผาน่ันเองหลักฐาน
รายการน้ีช้ีให้เราเห็นถึงความสัมพันธ์ด้านรูปแบบของพระพุทธรูปดินเผาที่ผลิตในแหล่งเตาเผาสันกาแพง
กบั พระพุทธรูปสาริดทหี่ ลอ่ ในพ้นื ทเี่ ดยี วกนั ซงึ่ กน็ ่าจะหมายถงึ ความรว่ มสมัยกนั ดว้ ย
1. แจกันหรือลวด เนอื้ แกร่งคลอ็ บสเี ขยี วนวล ผลติ ภัณฑจ์ ากลุ่มเตาบริเวณวัดปา่ ตึง
2. พระพุทธรูปดินเผา ชารุด พบในแหล่งเตาสันกาแพงอายุราวตันพุทธศตวรรษที่ 20 ปัจจุบัน
แสดงอยใู่ นพพิ ธิ ภัณฑ์วัดป่าตงึ
ภาพพระพทุ ธรปู ดนิ เผาผลผลติ เตาสันกาแพง
(เยาวชนพลเมืองสนั กาแพง, 2563)
ประวตั ิศาสตร์หตั ถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สบื สานเครอ่ื งถว้ ยสนั กาแพง 18
บทสรุปกำรกำหนดอำยุ
ของแหลง่ เตำเผำสันกำแพง
แหลง่ เตาเผาสนั กาแพงผลิตเคร่ืองเคลือบในสมัยราชวงศ์มังรายของอาณาจักรล้านนา เม่ือพิจารณา
หลักฐานและข้ออ้างอิงทั้ง 6 รายการที่พรรณนามาแล้วกล่าวได้ว่า ความเป็นไปได้ในการคาดคะเนอายุ
ของการผลติ เครื่องเคลอื บท่แี หล่งเตาสนั กาแพงและระยะเวลาของการเจรญิ เติบโตของชุมชนลุ่มน้าแม่ออน
ท่ีเกี่ยวเน่ืองโดยตรงกับการผลิตเครื่องเคลือบตามแหล่งเตาต่าง ๆ มีความจริงมากขึ้น กล่าวคือ น่าจะมี
ชุมชนท่ีผลิตเคร่ืองเคลือบมาแล้วตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 19 หรือต้นพุทธศตวรรษที่ 20 เป็นอย่างน้อย
และมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างย่ิงในราวพุทธศตวรรษท่ี 20 จนถึงปลายพุทธศตวรรษท่ี 21 หลังจากน้ัน
ค่อย ๆ ลดความสาคญั ลงและเลิกกิจการไปในทส่ี ดุ อย่างช้าก็น่าจะราวกลางพทุ ธศตวรรษที่ 23
แนวคิดความคิดในการวิเคราะห์กาหนดอายุสมัยและข้อสันนิษฐานน้ีประมวลได้จากหลักฐาน
การกาหนดอายุชั้นดินทางโบราณคดีก่อนการสร้างวัดสาลกัลญาณมหันตาราม (หลักฐานรายการท่ี 5)
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการผลิตเคร่ืองเคลือบสันกาแพงที่กลุ่มตามวัดเชียงแสนแบบเคลือบสีเขียวอ่อนน้ัน
มีมาก่อน พ.ศ. 2031 ปีที่หม่ืนดาบเรือนสร้างวัดสาลกัลญาณมหันตาราม นอกจากน้ีหลักฐานการกาหนด
อายุช้ันดินทางโบราณคดีท่ีเมืองเก่าสุโขทัยหลักฐานรายการที่ 4 ซ่ึงพบชามเคร่ืองของเตาสันกาแพง
ในชั้นดินท่ี 5 และ 3 มีค่าอายุราว พ.ศ. 1863-1463 และพ.ศ. 1903-2003 และในช้ันดินเดียวกันยังพบ
เคร่ืองถ้วยลายครามจีนสมัยราชวงศ์หมิงอายุราว พ.ศ. 1850 - 2000 และเครื่องเคลือบสีเขียวเข้ม
แบบเฉลียงซึ่งมีอายุการผลิตอยู่ระหว่างต้ังแต่พุทธศตวรรษที่ 17 ถึงพุทธศตวรรษท่ี 19 ซ่ึงหมายความว่า
อายุของเครื่องเคลือบสันกาแพงในช้ันดินเมืองเก่าสุโขทัยนั้นก็ควรอยู่ในช่วงเวลาหลังพุทธศตวรรษที่ 18
ลงมาแต่ไม่น่าจะถึงพุทธศตวรรษที่ 20 เพราะค่าชั้นดินในหลุมทดสอบเองจะเป็นตัวกาหนดท่ีดีท่ีสุดว่าอยู่
ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 แล้วค่าอายุของการผลิตเคร่ืองเคลือบแบบเฉลียงก็พบร่วมกันก็คงจะ
หลังพุทธศตวรรษท่ี 18 ลงมาด้วย (อายุสมัยการทับถม) ถ้าคานึงถึงระยะเวลาการผลิตระยะเวลา
การใช้งานจนถึงระยะเวลาท่ีทับถมในชั้นดินมีค่าแปลผันอยู่ระหว่าง 10 - 15 ปีหรือมากกว่านั้นส่วนอายุ
เครือ่ งถว้ ยจีนนน้ั กวา้ งเกนิ ไปจึงไม่จาเปน็ สาหรับ กรณนี ี้เพียงแต่ชใ้ี ห้เหน็ ถงึ การทับถมร่วมสมัยกันเท่านนั้
19 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
ดังน้ันการคาดคะเนอายุสมัยของเครื่องเคลือบสันกาแพงที่พบในเมืองสุโขทัยช่วยให้มองเห็นว่า
การผลิตเครอ่ื งเคลอื บดงั กล่าวคงจะดาเนนิ มากอ่ นหน้าน้ันและในระยะเวลาพทุ ธศตวรรษท่ี 19 - 20 ก็เป็น
ช่วงเวลา ที่มีการส่งออกจาหน่ายตามหัวเมืองใกล้เคียงเป็นที่แพร่หลายแล้วแม้ว่าความในใจศิลาจารึก
หม่ืนดาบเรือนจะไม่ได้กล่าวถึงกิจกรรมการผลิตเคร่ืองเคลือบเลยก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากกิจกรรม
การสร้างวัดสาลกัลป์ญาณมหันตาราม การสร้างมหาวิหาร มหาเจดีย์ หอพระไตรปิฎก หล่อพระพุทธรูป
ห้าองค์และการที่พระเจ้าเชียงใหม่พระราชทานขอบเขตให้กับวัดนี้ด้วยแล้ว แสดงให้เห็นว่าชุมชนลุ่ม
น้าแม่ออนและแหล่งผลิตเครื่องเคลือบสันกาแพงมีความสัมพันธ์ระดับสูงในช่วง พ.ศ. 2031 ถึง 2034
ตรงกับรัชกาลพระยอดเชียงราย (ศจ.รตท แสงมนวิทูร,ชินกาลมาลีปกรณ์ 2517) เพราะโดยสภาพ
ภูมิประเทศแล้วไม่เหมาะสมสาหรับการเกษตรและมีท่ีราบแคบ ๆ ไม่สามารถผลิตพืชอาหารเล้ียง
ประชากรได้เพียงพอจนมีส่วนเหลือที่จะนามาสร้างวัดขนาดใหญ่โตได้ดังน้ันความสาคัญของพื้นท่ีก็
ควรอยู่ที่การผลิตเคร่ืองเคลือบอย่างไม่ต้องสงสัยโดยเฉพาะอย่างย่ิงตัวของหมื่นดาบเรือนเองก็น่าจะเป็น
หัวหน้าชุมชนน้ีและในขณะเดียวกันก็เป็นข้าราชการในราชสานักพระเจ้าเชียงใหม่ด้วย จึงทาให้น่าเช่ือถือ
ว่ากิจการผลิตเคร่ืองเคลือบสันกาแพงคงจะอยู่ในราชูปถัมภ์ของพระเจ้าเชียงใหม่ด้วยเช่นกัน เมื่อศึกษา
ความเปน็ ไปได้ทางประวตั ิศาสตร์เราพบวา่ เมอื งเชียงใหม่เป็นทั้งศูนย์กลางอานาจทางการเมือง วิทยาการ
วฒั นธรรมและกิจกรรมทางดา้ นเศรษฐกิจทส่ี าคัญของลา้ นนา
ภาพวดั เชยี งแสน (เยาวชนพลเมอื งสันกาแพง, 2563)
ประวัติศาสตร์หัตถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สืบสานเคร่อื งถว้ ยสันกาแพง 20
บทสรปุ การกาหนดอายุของแหลง่ เตาเผาสันกาแพง
(เยาวชนพลเมอื งสันกาแพง, 2563)
21 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
เตำเผำ
22 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
เตำเผำ
เตาเผาโดยทั่วไปมีการพัฒนามาเป็นลาดับตั้งแต่สมัยแรก ๆ ใช้วิธีก่อไฟเผา ภาชนะบนพ้ืน
กลางแจ้งจนกระทั่งรจู้ ักสรา้ งเตาแบบขุดหลมุ ขุดอุโมงคแ์ ละยังสามารถควบคมุ ความร้อนได้และเม่ือมนุษย์
ไดร้ ับประสบการณ์ความรู้ความสามารถเข้าใจมากขึ้น จึงได้นาอิฐมีคุณภาพทนไฟมาสร้างเตาเผาข้ึนอย่าง
มคี ุณภาพในปัจจุบันน้ี
ภาพวาดบรรพบุรษุ มนุษย์กับกองไฟ
(ไฟในประวตั ิศาสตร์มนุษย์, 2555)
23 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
เตำเผำโบรำณทพี่ บในประเทศไทย
เตาเผาเป็นอุปกรณ์สาคัญอย่างหนึ่งในการผลิตงานเครื่องป้ันดินเผา เตาเผาและผลิตภัณฑ์ท่ีเป็น
ผลติ ผลจากเตาเผาท่ีพบในภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยนี้ จะสังเกตได้ว่ามีคุณลักษณะเป็นแบบเฉพาะของ
ศิลปะในแตล่ ะท้องถ่นิ ไมว่ ่าจะเปน็ เร่ือง โครงสร้างของเตาเผาตลอดจนรูปแบบของภาชนะ เทคนิคการทา
ลวดลายและการเคลือบ ซึ่งส่ิงเหล่าน้ีจะเป็นตัวท่ีสามารถบ่งบอกให้รู้ถึงแหล่งท่ีมาของผลิตภัณฑ์น้ัน ๆ ได้
ว่ามาจากแหลง่ เตาเผาในส่วนใดภาคใดของประเทศไทย
ภาพแสดงทีต่ ง้ั แหล่งเตาเผาโบราณสถาน
อาเภอบ้านกรวด จงั หวัดบุรรี ัมย์
(โบราณสถาน อาเภอบ้านกรวด
จังหวัดบุรีรมั ย์, เวบ็ ไซต์กรมศลิ ปาการ, 2559)
ภาพแสดงทต่ี ้ังแหลง่ เตาเผาโบราณ
อุทยานประวัติศาสตรส์ โุ ขทัย
ตาบลเมืองเก่า อาเภอเมืองสุโขทยั
(โบราณสถานตาบลเมอื งเกา่ อาเภอเมอื งสุโขทยั ,
เวบ็ ไซตก์ รมศลิ ปาการ, 2559)
ประวัติศาสตรห์ ตั ถกรรม นวตั กรรมเพอื่ สบื สานเครอ่ื งถว้ ยสนั กาแพง 24
แผนทแี่ สดงทต่ี ้ังแหล่งเตาเผาโบราณในประเทศไทย
(เยาวชนพลเมืองสันกาแพง, 2564)
25 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
แหล่งเตำเผำภำคเหนอื
ท่ีตง้ั ของเตาเผาส่วนใหญม่ กั อยู่ในบริเวณท่ีราบระหวา่ งภเู ขา ซง่ึ มีลาน้าหรือลาห้วยไหลผ่าน ซ่ึงเป็น
พ้ืนฐานสาคัญท่ีก่อให้เกิดการตั้งเตาเผาของทางภาคเหนือ ซึ่งมีความแตกต่างไปจากแหล่งเตาเผาท่ีพบใน
ภาคอ่ืน ๆ เช่นเดียวกันกับท่ีภาคเหนือนั้นไม่มีแม่น้าสายใหญ่ ทาให้โครงสร้างของเตาเผาในภาคเหนือ
มกั จะเป็นดินธรรมชาติโดยจะทาการขุดเนินดินเข้าไปเป็นเตา จัดระบบเตาเผาเป็นแบบ ระบายความร้อน
แนวนอนหรอื แนวเฉยี งขน้ึ ไปมขี นาดเตายาวประมาณ 3-4 เมตร กว้าง 1.50 - 2.40 เมตร มีปล่องไฟกว้าง
ขนาด 0.20 × 0.75 เมตร โดยเฉล่ียนอกจากน้ียังการค้นพบเตาบางแห่งที่ก่อด้วยอิฐเช่นกัน ซ่ึงเตาอิฐจะมี
รูปแบบท่ัว ๆ ไป คล้ายคลึงกับเตาขุดทุกประการ เช่น เตากอบง และเตาจับป่าบอน อาเภอสันกาแพง
จังหวัดเชียงใหม่ เตาพานและเตาโป่งแดงอาเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยผลิตภัณฑ์เครื่องถ้วยจาก
แหล่งเตาเผาของภาคเหนือจะเป็นภาชนะเคลือบเน้ือแกร่ง มีหลายประเภท เช่น ชาม แจกัน ไห ถ้วย จาน
ตะเกยี ง ครก ตกุ๊ ตารูปสัตว์ ชา้ ง ม้า ววั และรูปบคุ คล เตา้ ปนู ตัวหมากรุก กระเบ้ืองมุงหลังคา ภาชนะส่วน
ใหญ่จะเคลือบดว้ ยสีเขยี วอมเทาหรอื น้าตาลถงึ ดา ทับลงลายขูดขดี รูปดอกไมแ้ ละลายเรขาคณิต นอกจากน้ี
ยังมีการเขียนลายสีดาใต้เคลือบสีขาว เป็นรูปปลา ดอกไม้ คล่ืน เป็นต้น อายุในการผลิตอยู่
ในราวพทุ ธศตวรรษท่ี 20 – 22
ภาพแสดงทต่ี ั้งแหล่งเตาเผาโบราณสถานเตาโบราณบ้านบอ่ สวก
(โบราณสถานจงั หวดั น่าน, เวบ็ ไซตส์ านกั งานการทอ่ งเทีย่ วและกีฬา จงั หวดั น่าน, 2561)
ประวตั ศิ าสตรห์ ัตถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สบื สานเครอื่ งถว้ ยสนั กาแพง 26
แผนทีแ่ สดงท่ตี ง้ั แหล่งเตาเผาโบราณภาคเหนือ
(เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563)
27 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
แหลง่ เตำเผำสันกำแพง
แหล่งเตาเผาสันกาแพง ตั้งอยู่ในหุบเขาตามลาห้วยเล็ก ๆ หลายสาย อันเป็นสาขาของลาน้าผา
แหน และลาน้าออน เขตบ้านป่าตึง ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซากเตาเผาและ
หลักฐาน การผลิตเคร่ืองเคลือบกระจัดกระจายอยู่ในพื้นท่ี 5.00 - 5.5 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันเตาเผา
เครอ่ื งเคลือบกลมุ่ ต่าง ๆ หลายกลุม่ ถกู เปลี่ยนสภาพไปจากเดมิ มากมาย ท้ังท่ีเกิดการเปล่ียนแปลงพังทลาย
ตามธรรมชาติการเปล่ียนแปลงสภาพพื้นท่ีเป็นสวนไร่นาและหมู่บ้าน แต่การเปลี่ยนแปลงท่ีรวดเร็ว และมี
ผลร้ายแรงต่อแหล่งเตามากท่ีสุด เห็นจะได้แก่การลักลอบขุดหาเคร่ืองเคลือบของกลุ่มคนท่ีสะสมวัตถุ
โบราณท่กี ระทากนั มานานหลายทศวรรษแล้ว
การศึกษาครั้งที่สาคัญเกี่ยวกับเร่ืองราวของเคร่ืองเคลือบดินเผาแหล่งเตาสันกาแพง ได้เร่ิมต้น
มาแล้วตั้งแต่ราวปี พ.ศ.2495 โดยนายไกรศรี นิมมานเหมินทร์ เป็นท่านแรกท่ีทาการสารวจและนาเอา
เร่ืองราวของแหล่งเตาแห่งน้ีออกเผยแพร่ในรูปของบทความนาเสนอต่อที่ประชุมสัมมนาโบราณคดีสมัย
สุโขทัย จัดโดยกรมศิลปากร ณ เมืองเก่าสุโขทัย เม่ือเดือนมีนาคม พ.ศ. 2503 จึงทาให้เครื่องเคลือบสัน
กาแพงเป็นทีร่ ้จู กั ในหมนู่ ักวชิ าการ แตก่ ระน้ันก็มผี ู้สนใจเพียงไม่กี่ทา่ นทีเ่ ข้าไปสารวจแหลง่ เตาในเขตป่าเขา
ของตาบลออนใต้
รปู ชาวบ้านออนใต้ในอดตี โดยแม่พวงพัน กันตีฟอง
(เยาวชนพลเมอื งสันกาแพง, 2563)
ประวตั ิศาสตร์หัตถกรรม นวตั กรรมเพอื่ สืบสานเครือ่ งถว้ ยสันกาแพง 28
ในปี พ.ศ. 2513 นายพจน์ เก้ือกูล ภัณฑารักษ์โท (ตาแหน่งในขณะนั้น) และนายมรกต ลออพันธ์
สกุล เจ้าหน้าท่ีศิลปากรที่ 4 เชียงใหม่ ได้ทาการสารวจและขุดศึกษาเตาเผาในเขตบ้านออนใต้
อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ และกรมศิลปากรได้จัดพิมพ์รายงานการศึกษาออกเผยแพร่
เมื่อพ.ศ. 2515
นอกจากนี้นายไกรศรี นิมมานเหมินทร์และคณะเจ้าหน้าที่หน่วยศิลปากรที่ 4 แล้ว ก็ปรากฏว่า
มีนักวิชาการหลายท่านเสนอผลการศึกษาเก่ียวกับเครื่องถ้วยสันกาแพงแต่เป็นที่น่าสังเกตว่าลักษณะของ
การศึกษาค้นคว้ากระทาเพียงอาศัยเอกสารและศึกษาตัวอย่างเคร่ืองเคลือบจากพิพิธภัณฑ์หรือที่เป็น
สมบัติของเอกชนไม่ได้ทาการสารวจหรือขุดค้นเพิ่มเติมแต่อย่างใด ดังนั้น ความก้าวหน้าทางการศึกษาจึง
ยังคงวนเวียนอยู่ในภาวะจากัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเร่ืองท่ีเก่ียวกับวิทยาการเผา ผลผลิต เครื่องเคลือบ
การกาหนดอายเุ ตา ยงั ไมก่ ระจา่ งชดั เทา่ ท่ีควร
ใน พ.ศ. 2527 - 2528 โครงการ โบราณคดีในประเทศไทย (ภาคเหนือ) ฝ่ายวิชาการ
กองโบราณคดี-ศิลปากร ดาเนินการสารวจแหล่งเตาเผาและหลักฐานทางโบราณคดีท่ีเกี่ยวเนื่องในพื้นที่
บ้านป่าตึง ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่อีกคร้ัง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลสาหรับ
การศึกษาเรื่องวิทยาการเตาเผา การหาแนวทางการป้องกันการขุดลักลอบทาลายแหล่งเตาเผา
และการสงวนรักษาแหล่งเตาเผาดังกล่าวไว้เป็นแหล่งโบราณคดีของชาติในอนาคตอันใกล้ การดาเนินงาน
คร้ังน้ีได้สารวจแหล่งเตาเผาสันกาแพงในพ้ืนที่ต่าง ๆ รวม 8 กลุ่มเตา คือ บริเวณกลุ่มเตาห้วยป่าไร่
ห้วยบวกปืน ดอนโทน ห้วยปู่แหลม ทุ่งโห้ง ต้นแหน ต้นโจกและบริเวณเหล่าน้อย ในพ้ืนท่ีประมาณ
5 กิโลเมตร ได้พบหลักฐานซากเตาเผา เศษเครื่องป้ันดินเผาจานวนมาก การศึกษาขั้นต้นพบว่าลักษณะ
เตาเผาท้ังหมดท่ีขุดพบเป็นเตาขุดในดิน (inground kiln) ชนิดระบายความร้อนผ่านเฉียงข้ึน
(Cross Draft Type) แต่ละกลุ่มเตาเผาเครื่องเคลือบแตกต่างกันไปจนอาจเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มเตา
เฉพาะงาน (specialized kilns) ผลผลิตของกลุ่มเตาเผาสันกาแพงมีภาชนะสีเขียวอ่อนตระกูลศิลาดล
หยาบ (Coarse celadon Wares) เคร่ืองเคลือบลายสีเขียนสีดาน้าตาลใต้เคลือบใส (Underglaze black
and brawn painted wares) ไหเคลือบสีน้าตาลและไหเคลือบสองสี รวมถึงพระพุทธรูปดินเผา
เนื้อแกรง่ ด้วย
29 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
ภาพเยาวชนพลเมืองสนั กาแพงสารวจแหล่งเตาเผาสันกาแพง
แผนที่แสดงแหลง่ ทีต่ ัง้ เตาเผาอาเภอสันกาแพง จงั หวดั เชยี งใหม่
(เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2564)
ประวตั ิศาสตร์หัตถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 30
แหล่งโบรำณคดี กลมุ่ เตำเผำหว้ ยป่ำไร่
รายละเอียด ขอ้ มลู
ยุคสมัย ประวตั ิศาสตร์ (พุทธศตวรรคที่ 19 – กลางพุทธศตวรรษที่ 23)
สถานท่ตี ั้ง ตาบลออนใต้ อาเภอสนั กาแพง จงั หวัดเชยี งใหม่
รุ้ง 18 องศา 41 ลปิ ดา 30 ฟลิ ิปดา เหนอื
แวง 99 องศา 13 ลปิ ดา 00 ฟิลิปดา ตะวนั ออก
พกิ ัด 47 QNA 234666
แผนทท่ี หาร พมิ พ์คร้งั ท่ี 1-RTSD ลาดับชดุ L 7017 ระแวง 4846 III
มาตราส่วนแผนท่ี 1 : 50,000
ประวตั ิการศึกษา สารวจ
วนั เดือนปี 21 กรกฎาคม 2527
ผูร้ ับผิดชอบ สายันต์ ไพรชาญจติ ร์ และคณะ
เอกสารอา้ งอิง ปีที่ 2527 ฉบับที่ 49
การประกาศข้ึนทะเบียน -
ภาพแหลง่ โบราณคดี กล่มุ เตาเผาหว้ ยปา่ ไร่
(เอกสารกองโบราณคด,ี แหล่งโบราณคดีประเทศไทย เลม่ 6 ภาคเหนอื : กรมศิลปากร , 2534)
31 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
แผนทแ่ี สดงแหลง่ โบราณคดี กลุ่มเตาเผาหว้ ยปา่ ไร่
(เอกสารกองโบราณคดี, แหลง่ โบราณคดปี ระเทศไทย เล่ม6 ภาคเหนือ : กรมศลิ ปากร , 2534)
เส้นทางส่แู หลง่
การเดินทางไปยังแหล่งเตาเผาสามารถขับรถยนต์จากวัดป่าตึงไปยังหมู่บ้านปงและเข้าทางเกวียน
ไปอกี ประมาณ 5.5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณห้วยลาน จากน้ันเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็พบ
แหล่งเตาเผาและบรเิ วณท่มี เี ศษเครอ่ื งเคลอื บกระจัดกระจายท่ัวไปตามลาดเชิงเขารมิ ห้วยป่าไร่
สภาพทั่วไป
แหลง่ เตาเผากลมุ่ ห้วยปา่ ไร่ ตัง้ อยตู่ ามลาดเชงิ เขาติดลาหว้ ยในระดบั ความสงู ตง้ั แต่ 400-420 เมตร
เหนือระดับน้าทะเลปานกลางทางทิศตะวันตกเป็นท่ีราบแคบ ๆ ริมลาห้วยลาน ทางทิศตะวันออก
ทิศเหนอื และทิศใต้ เป็นเนินเขาสูงและภูเขาสูง มปี ่าไม้เบญจพรรณ ประเภทไม้สัก ไม้ก่อ ไม้แดงฯลฯ และ
ป่าไผ่ริมลาห้วย ท่ีริมฝ่ังลาห้วยป่าไร่บางแห่งปรากฏผนังดินท่ีเกิดจากการกัดเซาะของน้า ลักษณะช้ันดิน
เหนียวปนทรายสีเทาขาวอยู่โดยตลอดซึ่งดินเหนียวปนทรายสีเทาขาวน้ีคงจะเป็นวัตถุดิบที่สาคัญ
ในการผลติ เครอื่ งเคลือบบรเิ วณนี้
หลกั ฐาน
1. ซากเตาเผา 5 แห่งพอจะศึกษาได้เพียง 2 แห่งเป็นเตาชนิดระบายความร้อนผ่านตามแนวนอน
มีคนั กันไฟ
2. โบราณวตั ถปุ ระกอบด้วยเคร่อื งเคลือบประเภทชาม จาน และถว้ ยประเภทเซลาดอน 646 ช้ิน
ประวัติศาสตรห์ ัตถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สบื สานเคร่ืองถว้ ยสันกาแพง 32
- ชามหรือจานเคลอื บ เขยี นลายสีน้าตาลใตเ้ คลอื บใส 20 ช้ิน เป็นขอบปาก และกนั ภาชนะ
- เศษเครื่องเคลือบประเภทไห (Jar group) 24 ชิ้นขวดทรงสูงปากแคบ (Bottle group) 2 ช้ิน
เปน็ สว่ นกน้ ภาชนะไมม่ ีการตกแต่งลวดลาย
- ประเภทครก (Mortar) 1 ช้ินเป็นชิ้นส่วนครกขนาดเล็กคร่ึงใบทรงสูง ก้นเป็นฐานหนาตัดตรง
แคบปากกว้างไม่ลึก
- ประเภทอ่างทรงสูงคล้ายกระถาง (Bucket-Shape Group) 4 ชิ้นก้นแคบตัดตรงหรือมีฐาน
เล็กนอ้ ยขอบปากตรง
- อุปกรณป์ ระกอบการเรยี งภาชนะ ในเตาเผาประเภทกลอ่ งดนิ และท่ี 9 ชิ้น
- ตุ้มถ่วงดินเผา 1 ช้ิน ลักษณะเป็นก้อนดินเผารูปทรงถังเบียร์ยาวเจาะรูตลอดตามแนวยาว
เนอ้ื เครอื่ งหินแกร่งมาก
- ชน้ิ ส่วนเครื่องมือหินขัด 1 ช้ิน เป็นแท่งหินทราย ด้านข้างมีรอยฝนลับคล้ายคมน่าจะเป็นหินที่ใช้
กับเคร่ืองมอื หนิ หรอื เครอ่ื งมอื เหล็กมากกว่าตัวขวานหนิ หรอื เคร่ืองมือหนิ ขดั รูปแบบอนื่ ๆ
สาระสาคัญ
1. แหล่งเตาเผากลุ่มห้วย ป่าไร่มีเทคโนโลยีทางการสร้างเตาเผา เคร่ืองเคลือบเฉพาะ
แบบเตาระบายความร้อนผ่านตามแนวนอนโครงสร้างดินเหนียว สร้างบนเนินดินริมฝ่ังน้าในลักษณะ
Bank Kiln หรือ Cave Kiln เป็นสว่ นใหญ่
2. ผลผลิตสาคัญและเป็นลักษณะเฉพาะของกลุ่มเตาเผาห้วยป่าไร่ คือ ชามเคลือบสีเขียวอ่อน
หรือสีเทาอมเขยี วมะกอกอ่อน ๆ ซึ่งพบมากทีส่ ุด
3. เทคนิคการเรียงภาชนะในเตาเผา ส่วนใหญ่ใช้วิธีวางจานหรือชามร้อนปากประกบปาก
และกน้ ซอ้ นกันเรยี งเป็นเถา ๆ โดยมกี ลอ่ งดินหรอื ก๋ีเตย้ี ๆ รองรับขา้ งล่าง
4. ผลผลิตประเภทชามส่วนมากจะบิดเบี้ยวเสียหายทั้งนี้อาจจะเน่ืองมาจากการควบคุมส่วนผสม
เนอ้ื ดนิ ทใ่ี ช้ป้ันและอณุ หภูมขิ ณะเผาไม่ดีพอ
5. ลักษณะสาคัญของชามเคลือบสีเขียวอ่อน หรือสีเทาอมเขียวมะกอกอ่อน ๆ ส่วนใหญ่
จะเคลือบสีเฉพาะผิวด้านใน ผิวด้านนอกเคลือบใสจนเห็นเนื้อดินเผาซ่ึงมีเม็ดทรายและส่ิงสกปรก (Dirts)
ตดิ อยู่ชัดเจน ส่วนมากเปน็ ชามกน้ แบน ปากกว้าง ทรงเต้ยี ไมค่ อ่ ยมกี ารทาลวดลายตกแตง่
33 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
แหล่งโบรำณคดี เตำท่งุ โหง้
รายละเอยี ด ขอ้ มูล
ยุคสมัย ประวัตศิ าสตร์ (พุทธศตวรรษที่ 19 – กลางพุทธศตวรรษท่ี 23)
สถานที่ต้งั ตาบลออนใต้ อาเภอสนั กาแพง จงั หวัดเชยี งใหม่
รงุ้ 18 องศา 42 ลปิ ดา 20 ฟลิ ิปดา เหนือ
แวง 99 องศา 12 ลปิ ดา 25 ฟิลิปดา ตะวนั ออก
พกิ ดั กรดิ 47 QNA 218682
แผนท่ที หาร พิมพ์ครงั้ ที่ 1 -PTSD ลาดบั ชดุ L 7017 ระวาง 4846 III
มาตราส่วนแผนท่ี 1 : 50,000
ประวตั ิการศกึ ษา สารวจ
วันเดือนปี 21 กรกฎาคม 2527
ผูร้ ับผิดชอบ สายันต์ โพรชาญจิตร์ และคณะ
เอกสารอา้ งองิ ปที ่ี 2527 ฉบบั ท่ี 50
การประกาศขึน้ ทะเบยี น -
ประวัติศาสตรห์ ตั ถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเครอ่ื งถว้ ยสันกาแพง 34
แผนที่แสดงแหลง่ โบราณคดี เตาทงุ่ โหง้
(เอกสารกองโบราณคดี, แหล่งโบราณคดีประเทศไทย เลม่ 6 ภาคเหนอื : กรมศลิ ปากร , 2534)
เสน้ ทางสู่แหลง่
การเดินทางไปยังแหล่งโบราณคดีนี้ สามารถขับรถยนต์จากบ้านปงไปตามทางเกวียนประมาณ
1.2 กิโลเมตร แลว้ เดนิ เทา้ เข้าไปยังแหล่งเตาเผาประมาณ 300 เมตร
สภาพทว่ั ไป
บริเวณที่ตั้งแหล่งเตาเผาทุ่งโห้งเป็นลาดเนินปลายสุดเชิงดอยทางทิศตะวันออกของหัวยลาน
พ้ืนท่ีท่ัวไปเป็นที่ลาดต่อกับที่ราบแคบ ๆ ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพเป็นไร่อ้อยและพ้ืนท่ีปลูกพืชไร่ต่าง ๆ
แหล่งโบราณคดปี ระกอบด้วยเนินดินที่มีเศษภาชนะเครื่องเคลือบกระจัดกระจายอยู่ท่ัวไปมีพ้ืนที่ประมาณ
20-30 ตารางเมตร ปรากฏหลุมที่เกิดจากการลักลอบขุดหาเครื่องเคลือบทั่วบริเวณ พืชพรรณ
ในแหลง่ โบราณคดีมีเพยี งตน้ ไผแ่ ละพชื หนามบางชนดิ เท่านั้น ไมม่ ไี มย้ นื ต้นใด ๆ เลย
35 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
หลักฐาน
1. ชาม (Bowl group) 138 ชน้ิ แบ่งได้เป็น 4 กลุม่ คอื ชามเคลอื บเผาไฟไมส่ มบูรณ์ชามเคลือบที่บิด
เบ้ียวเสียรูปทรงและหลอมติดกันเสียหายระหว่างการเผาชามเคลือบซลาดอนที่มีรูปทรงไม่บิดเบี้ยว
และชามเคลือบมีสายเขยี นสนี า้ ตาลตา่ ใดเ้ คลือบใส
2. เศษภาชนะเคลือบทรงกระถาง 3 ขนึ้ เป็นสว่ นขอบปากและกัน
3. ฝาภาชนะเคลือบแบบเซลาตอน (Lid) 1 ช้ิน ลักษณะเป็นฝ่าภาชนะประเภทโถ
หรือขอบขนาดใหญ่
4. เศษภาชนะประเภทขวด (Bottle group) 21 ช้ิน ลักษณะปากขวดเป็นแบบปากแคบมากไม่มี
คอขวด สวนบนตัดตรง
5.ประเภทไห 50 ชิ้น ประกอบด้วยแบบไม่เคลือบและเคลือบสีน้าตาล-น้าตาลดา สีเขียวอ่อน
และสีเทาอมเขยี วจาง ๆ
6.ประเภทก๋ีทรงกลมเต้ีย 3 ช้ิน ฐานกลวงกว้าง ลาตัวตรงกลางคอดเข้าจนแคบ ส่วนบนบานออก
เกอื บเท่าฐานล่าง
7. ดินเผาโครงสร้างเตาเผา 3 ก้อน เป็นดินเหนียวปนทรายหยาบและหินบดสีขาวหยาบมาก
ผวิ ด้านในมีน้าเคลือบตดิ อยู่
8. เศษเคร่ืองถ้วย (Blue and White) 1 ช้ิน พบเฉพาะส่วนกัน จากลักษณะเน้ือดิน ลวดลาย
และสที เี่ ขยี นลวดลายทาให้เช่ือว่าอาจจะเป็นเครือ่ งถว้ ยสมัยปจั จุบนั
ประวตั ิศาสตรห์ ตั ถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเคร่อื งถว้ ยสันกาแพง 36
แหลง่ โบรำณคดี เตำเผำห้วยบวกป่ ิน
รายละเอยี ด ขอ้ มลู
ยคุ สมัย ประวัตศิ าสตร์ (พทุ ธศตวรรษที่ 19 –
กลางพทุ ธศตวรรษท่ี 23)
สถานท่ตี ้ัง ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จงั หวดั เชียงใหม่
รุง้ 18 องศา 40 ลปิ ดา 55 ฟลิ ิปดา เหนือ
แวง 99 องศา 12 ลปิ ดา 15 ฟิลิปดา ตะวันออก
พกิ ัดกรีด 47 QNA 215655
แผนท่ที หาร พมิ พ์คร้ังท่ี 1-RTSD ลาดับชุด L 7017 ระวาง 4846 III
มาตราส่วนแผนท่ี 1 : 50,000
ประวตั กิ ารศึกษา สารวจ
วนั เดือนปี 22 กรกฎาคม 2527
ผูร้ ับผดิ ชอบ สายนั ต์ ไพรชาญจติ ร์ และคณะ
เอกสารอา้ งอิง ปที ี่ 2527 ฉบบั ท่ี 51
การประกาศขนึ้ ทะเบียน -
ภาพแหล่งโบราณคดี เตาเผาห้วยบวกปิ่น
(เอกสารกองโบราณคดี, แหลง่ โบราณคดีประเทศไทย เลม่ 6 ภาคเหนอื : กรมศลิ ปากร , 2534)
37 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
แผนทแี่ สดงแหลง่ โบราณคดี เตาเผาหว้ ยบวกปน่ิ
(เอกสารกองโบราณคดี, แหลง่ โบราณคดปี ระเทศไทย เล่ม6 ภาคเหนือ : กรมศลิ ปากร , 2534)
เส้นทางสู่แหลง่
ไม่พบขอ้ มูล
สภาพทว่ั ไป
สภาพของแหลง่ เตาเผาหว้ ยบวกขนึ้ ในปจั จบุ ันไมป่ รากฏซากเตาเผา พอเพียงก้อนดินเหนียวน้ัน ซ่ึง
เป็นผนังของเตาบางส่วน เศษภาชนะดินเผาเคลือบแตกหักกระจัดกระจายทับถมอยู่โดยท่ัวไปอย่าง
หนาแนน่ คลมุ พน้ื ที่ประมาณ 100-200 ตารางเมตร สว่ นใหญ่เปน็ ช้นิ ส่วนทแี่ ตกหกั ขนาดเลก็ และสว่ นทบ่ี ดู
เบยี้ วเสยี รปู ทรงจากการเผาพื้นท่โี ดยท่ัวไปเต็มไปด้วยหลุมลักลอบขุด พืชพรรณท่ีปกคลุมเป็นไม้ยืนต้น ไม่
หนาแนน่ นักผสมกบั ตน้ ไผ่
ประวัตศิ าสตรห์ ัตถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สืบสานเครื่องถว้ ยสันกาแพง 38
แหลง่ โบรำณคดี เตำเผำดอยโทน
รายละเอยี ด ขอ้ มลู
ยุคสมยั ประวัติศาสตร์ (พทุ ธศตวรรษท่ี 16 – กลางพุทธศตวรรษท่ี 2)
สถานทต่ี ัง้ ตาบลออนใต้อาเภอสันกาแพงจังหวัดเชียงใหม่
รุ้ง 18 องศา 41 ลปิ ดา 00 ฟิลปิ ดา เหนือ
แวง 99 องศา 12 ลปิ ดา 21 ฟลิ ิปดา ตะวนั ออก
พกิ ัดกรดี 47 QNA 217657
แผนท่ีทหาร พมิ พค์ ร้งั ที่ 1-RTSD ลาดับชดุ L 7017 ระวาง 4846 I
มาตราส่วนแผนที่ 1 : 50,000
ประวัตกิ ารศกึ ษา สารวจ
วันเดอื นปี 22 กรกฎาคม 2527
ผู้รับผิดชอบ สายันต์ ไพรชาญจิตร์ และคณะ
เอกสารอ้างอิง ปีท่ี 2527 ฉบบั ที่ 52
การประกาศข้ึนทะเบยี น -
ภาพแหล่งโบราณคดเี ตาเผาดอยโทน
(เอกสารกองโบราณคดี, แหล่งโบราณคดีประเทศไทย เล่ม6 ภาคเหนือ : กรมศิลปากร , 2534)
39 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
แผนที่แสดงแหล่งโบราณคดี เตาเผาดอยโทน
(เอกสารกองโบราณคดี, แหล่งโบราณคดปี ระเทศไทย เลม่ 6 ภาคเหนือ : กรมศิลปากร , 2534)
เสน้ ทางสูแ่ หลง่
ไมพ่ บเส้นทาง
สภาพทั่วไป
หลักฐานสภาพของแหล่งเตาเผาดอยโทน ปัจจุบันไม่ปรากฏซากเตาเผาท่ีสามารถศึกษา
รายละเอียดต่าง ๆ ได้ หลักฐานที่ยังเหลือปรากฏ ได้แก่ เศษภาชนะดินเผาชนิดต่าง ๆ ที่เป็นผลผลิตจาก
เตาดอยโทนซ่ึงแตกหักบูดเบี้ยว เสียหายจากขบวนการผลิต กระจายและทับถมอยู่ทั่ว ๆ ไปบนผิวดิน
และในช้ันต้นและยังปรากฏหลุมลักลอบขุดหาเคร่ืองเคลือบโดยทั่วไป ขนาดพ้ืนท่ีท่ีปรากฏเศษเครื่อง
เคลือบและสารวจประมาณ 100 - 200 ตารางเมตร พื้นท่ีโดยท่ัวไปยังปกคลุมไปด้วยไม้ยืนต้นขนาดเล็ก
คอ่ นขา้ งหนาแนน่ และไมเ้ ถาในระดบั พน้ื ผวิ ดิน
หลกั ฐาน
โบราณวัตถุทั้งหมดท่ีได้จากการสารวจ ได้แก่ เศษภาชนะดินเผาชนิดต่าง ๆ ท่ีได้เก็บมาศึกษาโดย
แบ่งแยกออกเป็นกลุ่ม ๆ ตามลักษณะเฉพาะของภาชนะแต่ละประเภท ตามลักษณะการประดับลวดลาย
ตามชนิดของภาชนะดินเผา เป็นต้น เศษภาชนะดินเผาทั้งหมดจานวน 393 ชิ้น สามารถแยกออกได้
เปน็ กลุ่มตา่ ง ๆ ดงั ต่อไปนค้ี ือ
1. เศษภาชนะดินเผาประเภทชามเขียนสีดา - น้าตาลได้เคลือบใส 64 ชิ้น เป็นเครื่องถ้วยเฉพาะ
ของเตาดอยโทน มกี ารเขยี นลายท่ีสว่ นกันด้านในส่วนปากดา้ นใน และเหนือขอบกน้ ด้านนอก
ประวตั ิศาสตรห์ ตั ถกรรม นวตั กรรมเพอื่ สบื สานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 40
2. เศษภาชนะดินเผาประเภทชามประทับลายปลา 41 ชน้ิ ปากกวา้ งเตย้ี ขอบปากพักแบะออกและ
ปากโค้งเข้ากัน เป็นแบบมีขอบฐานเต้ีย ๆ
3. เศษภาชนะดินเผาประเภทชามเคลือบสีเดียว 274 ช้ิน ปากและก้นกว้างสูงปานกลาง ปากผาย
ออก ขอบปากม้วนออกเล็กน้อย บางช้ินขอบปากทาหมักแบบลูกคลื่นด้วย ก้นมีขอบฐานเตี้ย ๆ รูปทรง
ของชามแบบน้ีเป็นทรงที่มมี ากทสี่ ุด
4. เศษภาชนะดินเผาประเภทไห 4 ช้ิน เนื้อเครื่องหินแกร่ง เศษไหเหล่านี้คงจะไม่ได้เป็นผลผลิต
ของเตาดอยโทน
5. ก๋ี 10 ชน้ิ เน้ือดนิ หยาบมากจนถึงคอ่ นขา้ งละเอียด มีส่วนผสมของเม็ดทรายและหินบดมาก เนื้อ
เคร่อื งหินแกรง่ สเี ทาและสีนา้ ตาลแดง
สาระสาคญั
1. ผลผลติ ซงึ่ เป็นลักษณะเฉพาะของเตาดอยโทน ไดแ้ ก่ ชามเขียนสีดา-นา้ ตาลไดเ้ คลือบใส มีขนาด
ใหญ่ปากและกันกว้าง เตี้ย มีขอบปากหักแบะออก ส่วนขอบปากเขียนลายวงกลมซ้อนกันหลายวง และ
ลายจุดระหว่างวงกลม หรือเขียนลายก้านขด มีลายเส้นโค้งลูกคล่ืน ก้นภาชนะเขียนลายวงกลมซ้อนกัน
หลายวง มีลายจุดระหว่างวงกลม ภายในวงกลมเขียนลายปลาหรือลายพันธ์ุพฤกษา ด้านนอกเหนือขอบ
กน้ เขยี นลายวงกลมซ้อนกนั หลายวนสาหรับภาชนะบานขนึ้
2. ชามประเภทเคลือบสีเดียว มีลักษณะการเคลือบท่ีเป็นแบบเฉพาะของเตาดอยโทนอีกแบบหนึ่ง
ได้แก่ การเคลือบผิวด้านนอกบางมาก ใสจนเห็นเนื้อดินเผา มีสีของเน้ือดินปรากฏออกมาเป็นคราบสี
น้าตาลแดง
3. เตาเผาดอยโทนผลิตชามประทับลายปลาเหมือนกับเตาเผาหว้ ยบวกปิ่นบ้างเล็กนอ้ ย
4. เทคนิคการเรียงภาชนะในเตาเผาใช้ก๋ี ผสมกับการเรียงแบบใช้ปากซ้อนปากและก้นซ้อนก้น
ลกั ษณะของก๋ีมี 2 แบบ คือแบบทรงคลา้ ยขาบาตรและแบบทรงกลมเตี้ย ๆ คล้ายหมอ้ อบ หรอื กลอ่ งดิน
5. มผี ลผลิตชามขนาดเล็ก ทรงเตี้ยขนาดตะคัน หรอื ผางประทีปจานวนหนึง่
6. ชามเคลือบสีเดียว มีสีเคลือบที่เรียกโดยท่ัวไปว่า “เซลาดอน” (Celadon) คือเคลือบสีเขียว
เขยี วเทา จนถงึ เขยี วออกเหลือง และเคลือบด้านในหนากว่าด้านนอก
41 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
แหล่งโบรำณคดี กลุ่มเตำเผำหว้ ยปู่แหลม
รายละเอยี ด ข้อมูล
ยุคสมยั ประวัติศาสตร์ (พุทธศตวรรษท่ี 19 – กลางพุทธศตวรรษที่ 23)
สถานที่ตง้ั ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จงั หวัดเชยี งใหม่
รงุ้ 18 องศา 41 ลิปดา 09 ฟลิ ิปดา เหนือ
แวง 99 องศา 12 ลิปดา 10 ฟิลิปดา ตะวนั ออก
พิกดั กริด 47 QNA 213659
แผนท่ีทหาร พิมพค์ ร้งั ที่ 1-RTSD ลาดับชุด L 7017 ระวาง 4846 III
มาตราส่วนแผนที่ 1 : 50,000
ประวัติการศกึ ษา สารวจ
วนั เดอื นปี 22 กรกฎาคม 2527
ผรู้ ับผิดชอบ สายันต์ ไพรชาญจติ ร์ และคณะ
เอกสารอา้ งอิง ปที ่ี 2527 ฉบับที่ 53
การประกาศขนึ้ ทะเบียน -
ภาพแหลง่ โบราณคดกี ลุ่มเตาเผาหว้ ยปแู่ หลม
(เอกสารกองโบราณคดี, แหล่งโบราณคดีประเทศไทย เลม่ 6 ภาคเหนอื : กรมศิลปากร , 2534)
ประวตั ิศาสตรห์ ตั ถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สืบสานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 42
แผนทแ่ี สดงแหล่งโบราณคดี กลุ่มเตาเผาห้วยป่แู หลม
(เอกสารกองโบราณคดี, แหลง่ โบราณคดปี ระเทศไทย เล่ม6 ภาคเหนอื : กรมศลิ ปากร , 2534)
เส้นทางสูแ่ หลง่
การเดินทางไปยังแหลง่ โบราณคดนี ้ี ขบั รถยนต์จากบา้ นปงเข้าไปตามทางเกวียนระยะทางประมาณ
5.5 กิโลเมตร แล้วเดินทางไปทางทิศตะวันตกประมาณ 0.8 กิโลเมตร ก็จะพบแหล่งเตาเผากลุ่มห้วยปู่
แหลมอยตู่ ามริมล่าห้วยและที่ลาดหา่ งจากรมิ ลาห้วยประมาณ 100 - 200 เมตร
สภาพทวั่ ไป
แหล่งเตาเผาห้วยปู่แหลมตั้งอยู่ตามลาดเนินริมลาห้วยปู่แหลมทั้ง 2 ฝั่ง แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ทางฝั่ง
ทิศตะวันออก ในระดับความสูงของพื้นที่ประมาณ400 - 420 เมตร เหนือระดับน้าทะเลปานกลางสภาพ
พ้ืนที่บริเวณแหล่งเตามีเศษภาชนะเครื่องเคลือบกระจัดกระจายอยู่เป็นกลุ่ม ๆ ประมาณ 4 - 5 กลุ่ม บาง
แห่งพบร่องรอยซากเตาเผาด้วยลักษณะโครงสร้างเตาเป็นดินเหนียวเหมือนกับแหล่งใกล้เคียง แต่ถูกขุด
ทาลายลงเกือบท้งั หมดรอบ ๆ บริเวณเปน็ ป่าไผ่ ไมย้ ืนต้นเหลืออยู่น้อย พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกเปลี่ยนสภาพเป็น
ไร่ออ้ ยเกือบหมดแลว้
43 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
หลกั ฐาน
จากการสารวจแหล่งเตาเผาห้วยปู่แหลม ได้พบเศษภาชนะดินเผาเศษเคร่ืองเคลือบแบบต่าง ๆ
จานวน 519 ชน้ิ คอื
1. ชาม 483 ช้ิน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือชามเคลือบสีเดียวในกลุ่ม เซลาดอน และชามเคลือบมี
ลายเขยี นสดี า - สีน้าตาลใตเ้ คลอื บใสการ เขียนลายมี 2 ลักษณะ คือเขียนลายปลาตรงกลางชาม หรือข้าง
ชาม ดา้ นใน และเขยี นลายพันธุพ์ ฤกษาตรงกลางชาม
2. เศษภาชนะทรงกระถาง 7 ชน้ิ เคลือบสีเขยี วมะกอกอมเทาผิวมนั ลักษณะคลา้ ยกับทพี่ บในแหล่ง
เตาหว้ ยป่าไร่ และทุ่งโหง้
3. ฝาภาชนะ (Lid) เคลอื บแบบเซลาดอน จานวน 3 ช้ิน
4. ตะคันดินเผาขนาดเล็ก 1 ช้ิน ฐานชารุด ก้นแคบมาก เคลือบอุ่นสีเทาอมเขียวมะกอก
ผวิ มนั ด้านนอก เคลือบใสผวิ ด้านใน
5. เศษภาชนะประเภทขวด 2 ชิน้ เคลือบผวิ ด้าน สเี ทาเข้ม ลักษณะรูปทรงเป็นแบบเดียวกับขวดท่ี
พบในแหลง่ เตาเผาห้วยป่าไร่และท่งุ โห้ง
6. ประเภทไห 21 ช้ิน เคลือบสีน้าตาล-สีน้าตาลเข้ม เคลือบสีเขียวอมเทาจาง ๆ และเคลือบ
ประเภทเขียนลายสดี า-น้าตาลใต้ เคลอื บใส ผสมลายขูดขดี
7. ก๋ีรองภาชนะ 2 ช้ิน ชิ้นแรกรูปทรงแบบกล่องดิน ก้นเจาะเป็นค่อนข้างกว้างอีกช้ินหนึ่งเป็น
รปู ทรงฐานบาตร
8. กอ้ นดินเผารปู คลา้ ยบราลี 1 ชน้ิ
สาระสาคัญ
1. ลักษณะโครงสร้างเตาเผาในกลุ่มห้วยปู่แหลม เป็นเตาแบบระบายความร้อนผ่าน โครงสร้างดิน
เหนียว สรา้ งอยู่ตามเนนิ ดินและลาดเนนิ รมิ ฝั่งลาห้วย
2. ผลผลิตท่ีสาคัญของแหล่งเตาเผาห้วยปู่แหลม คือชามเคลือบแบบเซลาตอน ชามเคลือบเขียน
ลายได้เคลือบรปู ปลา รปู พันธุพ์ ฤกษา และลายอืน่ ๆ
3. มผี ลผลติ ชนิดพิเศษซ่งึ ยงั ไมเ่ คยพบในแหลง่ อ่นื ๆ คือ ไหเขียนลายสีดา - นา้ ตาลใต้เคลอื บ
4. การเรียงภาชนะในเตาเผาใช้ก๋ีเตี้ย ๆ รองช้ันล่างสุด และวางเรียงชามช้อนปากประกบปาก
ก้นซอ้ นกน้ เช่นเดียวกบั เตาอน่ื ๆ ในบรเิ วณใกล้เคียง
ประวัติศาสตรห์ ัตถกรรม นวตั กรรมเพอื่ สบื สานเคร่ืองถว้ ยสันกาแพง 44
แหลง่ โบรำณคดี
บรเิ วณอำ่ งเก็บน้ำแมผ่ ำแหน
รายละเอียด ข้อมูล
ยคุ สมัย ก่อนประวัติศาสตร์
สถานทีต่ ัง้ เขตอา่ งเก็บนา้ แมผ่ าแหน หมทู่ ี่ 7 ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง
รุ้ง 18 องศา 42 ลิปดา 50 ฟลิ ิปดา เหนอื
แวง 99 องศา 14 ลปิ ดา 40 ฟลิ ิปดา ตะวนั ออก
พกิ ดั กรดี 47 QNA 257691
แผนที่ทหาร พมิ พค์ รงั้ ที่ 1-RTSD ลาดับชุด L 7017 ระวาง 4846
มาตราสว่ นแผนที่ 1 : 50,000
ประวัตกิ ารศกึ ษา สารวจ
วนั เดือนปี 10 พฤศจกิ ายน 2527
ผูร้ บั ผิดชอบ พาสขุ ดิษยเดชและคณะ
เอกสารอา้ งอิง ปที ี่ 2527 ฉบับท่ี 2
การประกาศขนึ้ ทะเบียน -
ภาพแหล่งโบราณคดีบริเวณอา่ งเก็บน้าแม่ผาแหน
(เอกสารกองโบราณคดี, แหล่งโบราณคดีประเทศไทย เลม่ 6 ภาคเหนือ : กรมศิลปากร , 2534)
45 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง