แผนทีแ่ สดงแหล่งโบราณคดี บริเวณอา่ งเก็บนา้ แม่ผาแหน
(เอกสารกองโบราณคดี, แหล่งโบราณคดปี ระเทศไทย เล่ม6 ภาคเหนอื : กรมศิลปากร , 2534)
เส้นทางสแู่ หล่ง
ที่ต้ังอ่างเก็บน้าแม่ผาแหนตามโครงการพระราชดาริ อยู่ห่างจากหมู่บ้านป่าตึง (วัดป่าตึง) ไปทาง
ทศิ ตะวนั ออกตามถนนลกู รงั ประมาณ 3 กิโลเมตร
สภาพท่วั ไป
เป็นบริเวณท่ีลาห้วย 2 - 3 สายไหลจากเทือกเขาดอยผาแหนดอยป่าตึง มาบรรจบกับลาน้าผา
แหน กลายเป็นแหลง่ นา้ ขนาดใหญ่พ้ืนท่ีโดยรอบเป็นภูเขา ทางตะวันตกของลาน้าแม่ผาแหนติดดอยป่าตึง
ทางตะวันออกติดภูเขาค่อนข้างลาด มีป่าไม้เบญจพรรณท่ัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเป็นท่ีราบแคบ ๆ
รมิ ลานา้ ปัจจุบันปลกู ข้าว และยาสบู สูงจากระดบั น้าทะเลปานกลางประมาณ 400-420 เมตร
หลกั ฐาน
พบเครื่องมอื หิน จานวน 23 ชนิ้ ได้แก่
1. เครอื่ งมอื หนิ กะเทาะหรือโกลนหิน ทาไม่เสรจ็ 3 ชิ้น
2. เครอื่ งมือหนิ กะเทาะรูปกลม (Disc-Shape) 1 ชิ้น
3. สะเก็ดหนิ 13 ชิ้น
4. ขวานหินขดั ไมม่ ีบ่า 4 ชิ้น
5. ชน้ิ ส่วนเครอื่ งมือท่ีแตกหกั 2 ช้นิ
ประวตั ศิ าสตร์หตั ถกรรม นวตั กรรมเพอื่ สืบสานเคร่อื งถว้ ยสันกาแพง 46
สาระสาคัญ
เครื่องมือหินท่ีพบใช้วัสดุในเขตภูเขาสูงลุ่มน้าแม่ทา ลุ่มน้าแม่ผาแหนทาจากหินอัคนี หินแปร หิน
เชิร์ท และคาลซิโดนี เครื่องมือส่วนใหญ่ได้รับการขัดฝนและมีร่องรอยการใช้งาน จากหลักฐานดังกล่าว
แสดงให้เห็นลักษณะวัฒนธรรมและเทคโนโลยี การทาเครื่องมือหินของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ในยุค
กสิกรรมเริ่มแรกหรือยุคหนิ ใหมซ่ ึ่งกาหนดอายไุ ด้ประมาณ 2,500-3,000 ปีมาแลว้
แหลง่ โบรำณคดี กลุ่มเตำเผำต้นแหน
รายละเอยี ด ขอ้ มูล
ยุคสมยั ประวัติศาสตร์ (พทุ ธศตวรรษที่ 19 –
กลางพุทธศตวรรษที่ 23)
สถานท่ตี งั้ หมู่ท่ี 8 ตาบลออนใต้ อาเภอสนั กาแพง จังหวัดเชยี งใหม่
รุง้ 18 องศา 41 ลปิ ดา 40 ฟลิ ปิ ดา เหนอื
แวง 99 องศา 12 ลิปดา 35 ฟิลิปดา ตะวันออก
พกิ ัดกรีด 47 QNA 222667
แผนทที่ หาร พมิ พ์ครงั้ ท่ี 1-RTSD ลาดบั ชดุ L 7017 ระวาง 4846
มาตราส่วนแผนที่ 1 : 50,000
ประวตั ิการศึกษา สารวจ
วนั เดอื นปี 24 พฤศจกิ ายน 2527
ผูร้ บั ผดิ ชอบ พาสขุ ดิษยเดช และคณะ
เอกสารอ้างอิง ปีที่ 2527 ฉบบั ที่ 3
การประกาศข้ึนทะเบียน -
47 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
แผนท่แี สดงแหล่งโบราณคดี กลุ่มเตาเผาต้นแหน
(เอกสารกองโบราณคดี, แหลง่ โบราณคดปี ระเทศไทย เลม่ 6 ภาคเหนือ : กรมศลิ ปากร , 2534)
เส้นทางสูแ่ หลง่
การเดินทางโปยังแหล่งโบราณคดี สามารถขับรถยนต์จากหมู่บ้าน ป่าตึงไปตามทางเกวียน
ประมาณ 2.5 กิโลเมตร แล้วเดินเท้าเขา้ ไปยงั แหล่งเตาเผาประมาณ 100 เมตร
สภาพทว่ั ไป
บรเิ วณทต่ี ้ังแหล่งเผาต้นแหน เปน็ ลาดเนินปลายสดุ เชงิ ดอยปา่ ตึงทางทศิ ทางทิศตะวนั ออกของห้วย
ลาน พื้นที่ทั่วไปเป็นที่ลาดต่อกับที่ราบแคบๆ ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพเป็นไร่ยาสูบ และพื้นท่ีปลูกพืชไร่ต่างๆ
แหล่งโบราณคดีประกอบด้วยซากเตาเผาท่ีขุดทาลาย มีเศษภาชนะเคร่ืองกระจัดกระจายอยู่ท่ัวไป พื้นท่ี
ประมาณ 10 - 20 ตารางเมตร ปรากฏหลุมท่ีเกิดจากการลักลอบขุดหาเคร่ืองเคลือบท่ัวบริเวณพืชพรรณ
ในแหล่งโบราณคดมี ีต้นไม้ยนื ต้นเล็กนอ้ ยมีพืชล้มลุกบางชนดิ สภาพเป็นป่าละเมาะคอ่ นขา้ งโปร่ง
หลกั ฐาน
จากการสารวจแหลง่ เตาเผาตน้ แหน ได้พบเศษภาชนะดินเผา เครื่องเคลือบ และโบราณวัตถุอื่น ๆ
จานวน 153 ชนิ้ คือ
1. ชามเคลือบเผาไมส่ มบูรณ์ 26 ช้นิ สเี หลืองแดงถงึ สแี ดงจาง ๆ เคลอื บเผาไม่สุกยังมีลักษณะเป็น
สขี าวทบึ
ประวัติศาสตร์หตั ถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สืบสานเคร่ืองถว้ ยสนั กาแพง 48
2. ชามเคลือบที่บิดเบ้ียวเสียรูปทรงและหลอมติดกัน เสียหาย ระหว่างการเผา 10 ชิ้น ส่วนใหญ่
เป็นชามเคลอื บแบบเซลาดอน
3. ชามเคลือบเซลาดอนท่มี ีรูปทรงไม่บดิ เบ้ียว 105 ชนิ้
4. ชามเคลือบมีลายเขียนสีดา-น้าตาลใต้เคลือบใส 8 ช้ิน ส่วนใหญ่ เขียนลายตรงปาก เป็นลายลูก
คลืน่ ในกรอบของเสน้ ขนานและประดับลวดลายในลูกคล่ืนน้ัน นอกจากนั้นมีรูปปลา และตกแต่งเป็นลาย
จุด ๆ ไขป่ ลา
5. เศษภาชนะดินเผาประเภทไห 1 ช้ิน มีเฉพาะส่วนก้น เคลือบผิวทั้งด้านนอกและด้านใน
สีนา้ ตาลแดงยกเวน้ สว่ นก้น
6. เศษภาชนะดินเผาประเภทครก 1 ชิ้น เป็นช้ินส่วนของครกขนาดเล็กครึ่งใบทรงสูง
กน้ ไม่สมบรู ณ์ เคลือบบาง ๆ ดา้ นนอก
7. กี๋ 1 ช้ิน ลักษณะเป็นแท่งกลวงกลมคล้ายขาบาตร ปลายทั้ง 2 บานออก ท่ีก้นเจาะรูขนาดใหญ่
เนอื้ เครอ่ื งหนิ ไม่เคลือบ
8. ดินเผาโครงสร้างเตาเผา 1 ก้อน เป็นดินเหนียวปนทรายหยาบ และเม็ดหินสีขาวหยาบมาก
ผิวบางสว่ นมนี ้าเคลือบติดอยหู่ นา 1 - 2 เซนตเิ มตร
49 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
แหล่งโบรำณคดี เตำต้นโจ๊ก
รายละเอยี ด ขอ้ มลู
ยุคสมัย ประวตั ศิ าสตร์ (พุทธศตวรรษท่ี 19 – กลางพุทธศตวรรษที่ 23)
สถานทต่ี ั้ง หมทู่ ่ี 8 ตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง จงั หวัดเชยี งใหม่
รุ้ง 18 องศา 41 ลปิ ดา 13 ฟลิ ิปดา เหนือ
แวง 99 องศา 12 ลปิ ดา 30 ฟิลิปดา ตะวนั ออก
พิกดั กรดิ 47 QNA 219661
แผนทีท่ หาร พิมพค์ รง้ั ที่ 1-RTSD ลาดบั ชดุ L 7017 ระวาง 4846 III
มาตราสว่ นแผนที่ 1 : 50,000
ประวัตกิ ารศกึ ษา สารวจ
วันเดือนปี 24 พฤศจิกายน 2527
ผู้รับผิดชอบ พาสขุ ดิษยเดช และคณะ
เอกสารอ้างอิง ปที ่ี 2527 ฉบบั ที่ 4
การประกาศขึ้นทะเบยี น -
ภาพแหล่งโบราณคดเี ตาตน้ โจก๊
(เอกสารกองโบราณคดี, แหล่งโบราณคดีประเทศไทย เลม่ 6 ภาคเหนอื : กรมศิลปากร , 2534)
ประวตั ิศาสตร์หตั ถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 50
แผนที่แสดงแหลง่ โบราณคดี เตาต้นโจ๊ก
(เอกสารกองโบราณคดี, แหล่งโบราณคดปี ระเทศไทย เล่ม6 ภาคเหนือ : กรมศิลปากร , 2534)
เส้นทางสู่แหล่ง
การเดินทางไปยังแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ สามารถขับรถยนต์จาก หมู่บ้านป่าตึงไปตามทางเกวียน
ประมาณ 4 กโิ ลเมตร แลว้ เดินทาง เท้าเข้าไปยังแหลง่ เตาเผาประมาณ 10 เมตร
สภาพท่ัวไป
บริเวณที่ต้ังแหล่งเตาเผาต้นโจ๊ก เป็นลาดเนินปลายสุดเชิงดอยป่าตึง ทางทิศตะวันออกของห้วย
ลานพื้นท่ีท่ัวไปเป็นท่ีสาดต่อกับที่ราบแคบ ๆ ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพเป็นไร่ยาสูบ ไร่อ้อยและเป็นพื้นที่ปลูก
พืชไร่ต่าง ๆ แหล่งโบราณคดีประกอบด้วยเนินดินท่ีมีเศษภาชนะเคร่ืองเคลือบกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
ปะปนกับดินโครงสร้างเตาเผามีพ้ืนท่ีประมาณ 10 ตารางเมตร มีร่องรอยที่เกิดจากการลักลอบขุดหา
เครื่องเคลอื บทวั่ บริเวณ พืชพรรณในแหล่งโบราณคดีมตี ้นไมย้ ืนตน้ ประเภทตน้ สกั ต้นตึง ฯลฯ ค่อนข้างทึบ
พชื ล้มลุกบางชนิดประปราย เช่น หญา้ สานเส่อื
หลกั ฐาน
ในการสารวจไม่พบซากเตาเผา (Kilns) ที่มีโครงสร้างสมบูรณ์พอที่จะศึกษาขนาดโครงสร้างและ
รูปแบบได้เลย พบแต่เพียงเศษภาชนะดิน เผากระจัดกระจายอยู่เป็นกลุ่ม ๆ ดินโครงสร้างเตาเผาเคร่ือง
เคลอื บ และโบราณวตั ถุอ่นื ๆ จานวนทัง้ สนิ้ 184 ชิ้น ไดแ้ ก่
1. ชามท่ีไม่เสียรปู ทรง 74 ช้ิน
51 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
2. ชามเคลือบเผาไฟไม่สมบูรณ์ 9 ช้ิน เนื้อดินเผาเป็นเน้ือเคร่ืองดิน ค่อนข้างแกร่ง สีเหลืองแกม
แดง สนี า้ ตาลออ่ น
3. เศษภาชนะท่ีไม่สามารถจาแนกรูปทรงเดิมได้ว่าเป็นรูปแบบใด 35 ช้ิน ส่วนใหญ่เป็นช้ินส่วน
ปาก ตัว และก้นท่ีแตกชารดุ
4. แบบเขยี นสดี า-นา้ ตาลใต้เคลอื บใส 52 ชน้ิ ส่วนใหญเ่ ป็นรูปลายดอกไม้วงกลม ปลา และตกแต่ง
เปน็ จุด ๆ
5. แบบตกแต่งลายขูด 8 ช้ิน ลายขูดเปน็ รอยหยักแบบลูกคลืน่ คร่งึ วงกลมและลายซิกแซก็
6. ก๋ี 4 ชิ้น รูปทรงเป็นท่อกลวงคล้ายฐานบาตร ฐานล่างกว้างลาตัวตรงกลางคอดเข้าจนแคบ
สว่ นบนบานออกเกือบเทา่ ฐานล่าง
7. ดินโครงสร้างเตาเผา 2 ก้อน เป็นดินเหนียวปนทรายหยาบและหินบดสีเทาหยาบ มีน้าเคลือบ
ติดอยู่หนาประมาณ 1-3 เซนตเิ มตร
สาระสาคญั
1. ผลผลิตซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเตาต้นโจ๊ก มีชามหรือจาน เคลือบสีเขียวอ่อน สีเทาอมเขียว
มะกอกจาง ๆ ส่วนมากเปน็ ชามหรือจานทีม่ ีกน้ กวา้ ง ปากกว้าง คอ่ นข้างเต้ีย
2. เทคนิคในการเรียงภาชนะเวลาเผาใช้กี๋ที่มีรูปร่างคล้ายขาบาตรรองภาชนะ นอกจากน้ียังใช้
วิธีการเรียงแบบปากซ้อนปากก้นซ้อนกน้
3. การเคลือบผิวภาชนะจะเคลือบแบบสีเดียว โดยน้าเคลือบด้านในจะหนา (เคลือบใส) ด้านนอก
เคลอื บบางมากจนมองเหน็ เน้ือดินเผา และนา้ เคลือบจะมรี านเลก็ ๆ
4. ลักษณะของก๋ีท่ีพบเป็นกี๋ท่ีมีรูปทรงคล้ายขาบาตร ต้านส่วนก้นมีเม็ดทรายหยาบสีขาวเกาะติด
หนา 0.3 เซนตเิ มตร สนั นิษฐานว่าพื้นเตาเผาทีแ่ หลง่ เตาตน้ โจ๊กน้ีเป็นทรายหยาบ
ประวตั ศิ าสตร์หัตถกรรม นวตั กรรมเพอื่ สบื สานเครื่องถว้ ยสนั กาแพง 52
แหล่งโบรำณคดี
วดั สำลกลั ญำณมหันตำรำม
(วัดเชยี งแสน)
รายละเอยี ด ขอ้ มูล
ยุคสมัย ประวตั ศิ าสตร์
สถานท่ตี ั้ง หม่ทู ี่ 7 บ้านปา่ ตึง ตาบลออนใต้ อาเภอสนั กาแพง จังหวัดเชยี งใหม่
รุ้ง 18 องศา 41 ลปิ ดา 25 ฟลิ ปิ ดา เหนอื
แวง 99 องศา 12 ลปิ ดา 30 ฟิลปิ ดา ตะวนั ออก
พิกัดกรดี 47 QNA 244697
แผนทท่ี หาร พมิ พ์ครั้งท่ี 1-RTSD ลาดบั ชุด L 7017 ระวาง 4846 III
มาตราส่วนแผนที่ 1 : 50,000
ประวตั กิ ารศกึ ษา สารวจและขดุ หลมุ มดสอบ
วันเดือนปี 9-16 ธนั วาคม 2527
ผู้รบั ผดิ ชอบ บวรเวท รุ่งรุจี และคณะ
เอกสารอ้างอิง ปีที่ 2528 ฉบบั ท่ี 6
การประกาศขนึ้ ทะเบยี น -
53 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
แผนทแ่ี สดงแหลง่ โบราณคดี วัดสาลกัลญาณมหนั ตาราม (วดั เชียงแสน)
(เอกสารกองโบราณคด,ี แหล่งโบราณคดปี ระเทศไทย เล่ม6 ภาคเหนือ : กรมศลิ ปากร , 2534)
เสน้ ทางสแู่ หลง่
วัดสาลกัลญาณมหันตาราม อยู่ห่างจากตัวอาเภอสันกาแพงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ
10 กิโลเมตร มีถนนสาดยางไปตาบลออนใต้ อาเภอสันกาแพง และจังหวัดเชียงใหม่ พาดผ่านทางเข้า
หมู่บ้านป่าดึง ซึ่งเป็นถนนลูกรังตัว วัดสาลภัสญาณมหันดารามศรัยวัดเชียงแสนน้ีอยู่ห่างจากวัดป่าตึงไป
ทางทศิ ตะวันออกอกี ประมาณ 1.5 กโิ ลเมตร โดยตั้งอยู่ริมนา้ แม่ผาแหน
สภาพทั่วไป
วัดสาลกัลญาณมหนั ตาราม (วัดเชยี งแสน) ต้ังอยู่ริมน้าแม่ผาแหนโดย มีถนนลูกรังตัดผ่านทางด้าน
ทิศใต้และทิศตะวันตก แต่เดิมเป็นวัดร้างและต่อมาได้รับการปรับปรุงตัวอาคาร ศาสนสถาน รวมท้ังการ
ก่อสร้างเพ่ิมเติมในปี พ.ศ. 2475 และมีพระภิกษุมาจาพรรษาอยู่ แต่ในปัจจุบันถูกปล่อยให้เป็นวัดร้างอีก
คร้ัง คงมีการทาบุญประจาปีท่ีวัดน้ีปีละครั้งเท่านั้นภายในบริเวณวัดยังคงปรากฏร่องรอยของกองวัสดุ
ก่อสร้าง พวกอิฐกระเบื้อง และทรายอยู่เป็นแห่ง ๆ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ข้ึนอยู่เป็นแนวท้ังต้นตาลและต้น
มะม่วง หลุมขุดค้นอยู่บริเวณด้านทิศใต้ของศาลาหมายเลข 7 ห่างออกมาประมาณ 9 เมตร
มตี น้ มะม่วงขนาดใหญล่ ้อมรอบ มีวชั พชื ประเภทต้นหญา้ ข้นึ คลมุ ดินอยู่ทั่วไป
ประวตั ิศาสตรห์ ัตถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สืบสานเครือ่ งถว้ ยสันกาแพง 54
หลักฐาน
ผลจากการขุดค้นหลุมทดสอนภายในวัดสาลกัลป์ญาณมหันตารามแล้วได้พบหลักฐานโบราณวัตถุ
ดังน้ี
1. กระเบื้องดินเผา ลักษณะเป็นรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า ปลายขอเกี่ยวน้าตาลแดงและสีขาวนวล
เนือ้ ดนิ ค่อนขา้ งหยาบ
2. อฐิ
3. เศษภาชนะดินเผา 187 ชิ้น พบท้ังเนื้อเคร่ืองดิน เนื้อเคร่ืองดินเคลือบ เนื้อเคร่ืองหิน
และเนือ้ เครือ่ งหนิ เคลือบ
4. เคร่ืองถ้วยจีน 1 ช้ิน เป็นส่วนขอบปาก เนื้อดินสีขาวบางมากเคลือบใส เขียนลายใต้เคลือบ
สีน้าเงิน
5. เศษปนู ขาว ผสมจากหินปนู และยางไม้ น่าจะเป็นวัตถุดิบท่ีใช้ในการก่อสร้างโบราณสถานตั้งแต่
เริ่มแรกมาจนถงึ ยุคการปรับปรงุ ในปี พ.ศ. 2475
6. เศษหนิ ประเภทหินปนู และหนิ ควอร์ตไซต์ มหี นิ กรวด แมน่ า้ ปะปนอยบู่ า้ ง
55 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
เตำเผำเครือ่ งถว้ ยชำมกอ่ บง
บริเวณท่ขี ดุ คน้ สภาพทั่ว ๆ ไปเป็นพ้ืนที่ราบติดกับเนินเขามีเนื้อที่ประมาณ 5 x 7 ตารางเมตร พบ
เศษเคร่ืองปั้นดินเผาชนิดเคลือบบนผิวดินท่ัวไปอันเป็นผลสืบเน่ืองมาจากการขุดค้นของชาวบ้านมาเป็น
เวลาหลายปีแล้ว ก่อนจะเริ่มงานชุดค้นได้แผ้วถวงบริเวณเน้ือดังกล่าวให้โล่งเตียน ขุดทดสอบในพ้ืนที่
2 x 4 ตารางเมตร โดยเริม่ งานขดุ จากพืน้ ทีร่ าบเขา้ เนินดิน เมอื่ ขุดถึงระดับลึก 0.75 เมตร พบผนังเตาส่วน
หน่ึงซ่ึงยังคงสภาพดีอยู่ เข้าใจว่าเวลาเผาเครื่องถ้วยชามสมัยนั้นใช้ทรายเป็นพ้ืนฐาน เพ่ือวางถ้วยชามและ
เครื่องป้ันดินเผาชนิดต่าง ๆ ป้องกันไม่ให้ล้ม บางส่วนของเตาเช่นตอนหน้าได้ถูกทาลายไปแล้ว
แต่ยังคงมีแนวให้เห็นพอท่ีจะทราบลักษณะโครงสร้างของเตาได้ เม่ือขุดแต่งโดยรอบเสร็จแล้วจะเห็น
รูปลักษณะของเตาได้อย่างชัดเจน พ้ืนฐานของเตาเข้าใจว่าคงจะก่อสร้างในดินเอียงจากพื้นราบประมาณ
18 องศา ลึกจากผิวดิน 1.40 เมตร เม่ือดูตามผังแล้วจะเห็นว่าลักษณะของเตาก่อสร้างเป็นรูปกลมยาว
เหมือนรูปไข่ ส่วนยาวสุดจากปล่องไฟถึงด้านหน้าเตา 3.60 เมตร ส่วนกว้างท่ีสุด 1.55 เมตร ผนังของเตา
ก่อสร้างด้วยอิฐเผาไฟช้ันเดียว ขนาดอิฐกว้าง 0.8 เมตร ยาว 0.15 เมตร หนา 0.6 เมตร ลักษณะของอิฐ
เปน็ ดนิ เหนียวปนทราย เมือ่ เผาแลว้ คุณภาพไม่ค่อยดี แตกหกั ง่าย ฉะนัน้ จะเห็นได้วา่ อิฐที่ใช้ในการก่อสร้าง
ผนังเตาไม่ค่อยเป็นก้อนสมบูรณ์ ส่วนมากแตกหักหมด ผนังของเตาทั้งด้านนอกและด้านในใช้ดินทราย
ละเอียดผสมน้าเคลือบชนิดเดียวกับใช้เคลือบถ้วยชามโบกเพื่อช่วยยึดผนังเตาให้มีความม่ันคงแข็งแรง
ย่ิงขึ้น ส่วนมากจะแลเห็นรอยนิ้วมือซึ่งใช้ตกแต่งได้อย่างชัดเจน โครงสร้างของผนังเตาก่อเป็นรูปโค้งแบบ
ประทุนเรือสูงจากระดับฐานเตาประมาณ 1.40 เมตรด้านหน้าของเตาแบ่งออกเป็นสองตอน คือท่ีใส่ไฟ
และที่วางถ้วยชามซ่ึงก่อเป็นกาแพงอิฐสูง 0.38 เมตร ลักษณะเหมือนกับอิฐท่ีใช้ก่อผนังเตา แต่ขนาดใหญ่
กวา่ คือ กว้าง 0.14 เมตร ยาว 0.17 เมตร หนา 0.4 เมตร ตอนหน้าท่ีใช้ใส่ไฟถูกทาลายไป แล้วแต่จะเห็น
รูปรา่ งลกั ษณะสมบูรณ์ ไดอ้ กี แห่งหนง่ึ ซึง่ พบในบริเวณใกล้ ๆ กัน
ประวัตศิ าสตร์หัตถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สืบสานเคร่ืองถว้ ยสันกาแพง 56
ภาพเตาเผาเคร่อื งถ้วยชามก่อบง
(เอกสารกองโบราณคดี, แหลง่ โบราณคดปี ระเทศไทย เลม่ 6 ภาคเหนือ : กรมศิลปากร , 2534)
57 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
เตำเผำเครอื่ งถว้ ยชำมจัมป่ำบอน
ทาการสารวจบริเวณเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามจัมป่าบอนซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวาง เมื่อพบเนินดินซ่ึง
เข้าใจว่าคงจะเป็นทาเลท่ีตั้งของเตาก็เร่ิมงานขุดค้นเป็นหลุมสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Trench) จานวน 1 หลุม
ขนาดพ้ืนท่ี 2 x 4 ตารางเมตร เมื่อขุดถึงระดับ 0.60 เมตร พบส่วนหนึ่งของผนังเตาระดับลึก 1.36 เมตร
พบพ้ืนฐานของเตา เม่ือขุดแต่งโดยรอบเสร็จแล้ว จะเห็นโครงสร้างของเตาอย่างชัดเจน พื้นฐานของเตา
กอ่ สรา้ งในดนิ เอียงจากพ้ืนราบประมาณ 8 องศา ตามลักษณะของพ้ืนท่ี ผังของเตา มีลักษณะกลม ยาว รี
เหมอื นรูปไข่ ผนังของเตาก่อสรา้ งด้วย อิฐขนาดเดียวกัน วตั ถทุ ี่ใช้โบกผนังเตาทง้ั ด้านนอกและ ดา้ นในเป็น
ดินและทรายละเอียดผสมน้าเคลือบชนดิ เดียวกัน ส่วนยาวสุดของเตาจากปล่องไฟถึงด้านหน้า 3.60 เมตร
สว่ นทก่ี ว้างท่สี ุด1.45 เมตร ประตูใสไ่ ฟยังมรี ปู ลักษณะสมบูรณ์ทกุ ประการขนาดกวา้ ง 0.43 เมตร สูง 0.53
เมตร บริเวณที่ใส่ไฟจากประตูถึงที่ค่ันไฟ กว้าง 0.56 เมตรที่คั่นไฟมีลักษณะแตกต่างไปจากเผาเตาเครื่อง
ถ้วยชามก่อบง กล่าวคือก่อสร้างด้วยดินเหนียวโบกด้วยดินและทรายละเอียดผสมน้าเคลือบเช่นเดียวกับ
ผนังเตาขนาดหนา 0.23 เมตร สูง 0.35 เมตร ยาว 1.16 เมตร บริเวณพื้นที่เตาท่ีวางเคร่ืองปั้นดินเผามี
ลักษณะเป็นดินทรายระดับลึก 0.20 เมตรเพื่อป้องกันมิให้ถ้วยชามล้มในระยะท่ีทาการเผา ผนังของเตา
ด้านบนชารุดเน่ืองจากถูกเปิดออกเมื่อเผาเสร็จแล้ว ความสูงจากพื้นฐานเตาถึงผนังด้านบนประมาณ
1.40 เมตร คอคอดปลอ่ งไฟกว้าง 0.55 เมตรเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 0.23 เมตร
ประวัตศิ าสตร์หัตถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สบื สานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 58
ภาพเตาเผาเครื่องถ้วยชามจัมป่าบอน
(พจน์ เกือ้ กลู , 2515, เคร่ืองถว้ ยและเตาเผาสนั กาแพง : กรมศิลปากร , 2515)
ภาพเตาเผาเครอ่ื งถ้วยชามจัมป่าบอน
(พจน์ เกอื้ กลู , 2515, เครื่องถ้วยและเตาเผาสนั กาแพง : กรมศิลปากร , 2515)
59 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
เตำเผำเครอ่ื งถว้ ยชำมตน้ แหน (1)
เตาเผาเคร่ืองถ้วยชามแหน (1) อยู่ในบริเวณเชิงเขา ห้วยป่าไร่ห่างจากหมู่ บ้านป่าตึงประมาณ
4 กโิ ลเมตร สภาพทว่ั ไปเปน็ พน้ื ทีเ่ ชิงลาดตดิ กบั ชายเขา มีลห้วยป่าไร่ ไหลผ่านทางด้านหน้าของเตาลงสู่ลา
ห้วยแม่ลาน บริเวณเตามีลักษณะ เป็นเนินดินระดับสูงจากพ้ืนราบประมาณ 1.60 เมตร มีเน้ือที่ประมาณ
21x27 ตารางเมตร เมือ่ สารวจพบแลว้ จงึ เริ่มงานขดุ หลมุ ขนาดพนื้ ท่ี 3x2 ตารางเมตร โดยเร่ิมขุดจากพื้นท่ี
เชิงลาดเข้าหาเนนิ ดิน พบเศษเคร่ืองปัน้ ดนิ เผาชนดิ เคลอื บอุ่นสีขาวเหลืองแบบเคลอื บใส ชนิดธรรมดาแบบ
เรียบ ๆ และมีลวดลายด้วย เข้าใจว่าเป็นทางด้านหน้าของเตา เม่ือพูดถึงระดับลึก 0.35 เมตรจากผิวดิน
ปรากฏว่าพบผนังเตาก่อด้วยดินดิบ และพบที่ค่ันไฟ เม่ือขุดถึงระดับ 0.45 เมตร พบส่วนท่ีเป็นด้านหน้า
ของเตาต่อจากนั้นก็ขยายแนวขุดไปทางด้านทิศ ตะวันออก 0.80 เมตร พบพ้ืนฐานตอนหน้าของเตาเข้า
หาเนนิ ดิน เมอ่ื ขดุ แต่งเสรจ็ แลว้ ก็พบโครงสรา้ งของเตาได้ อย่างชัดเจนขนาดพื้นฐานของ ยาวจากด้านหน้า
ถึงปล่องไฟ 2.28 เมตร ส่วนท่ีกว้างที่สุด 1.26 เมตร เตาก่อสร้างเป็นพื้นลาดไปตามพื้นท่ีเอียงประมาณ 4
และกอ่ ตดิ เป็นพ้นื ราบกับทีก่ นั ไป ที่ค่นั ไฟมีส่วนยาวทางตอนบน 1.04 เมตร ผนังก่อด้วยดินดิบเป็นรูปโค้ง
วัตถุที่ใช้สร้างเป็นพ้ืนฐานเตาและที่กันไฟน้ันมีดินดิบและทรายละเอียดผสม ประตูใส่ไฟตอน หน้าชารุด
ประมาณได้ว่ามีส่วนกว้าง 0.40 เมตร ส่วนสูง 0.25เมตร พื้นที่ของฐาน เตาส่วนยาวจากปล่องไฟ 1.63
เมตร สว่ นกวา้ งทส่ี ดุ 1.26 เมตร ส่วนสงู จากพนื้ ฐานเตาถงึ ผนังตอนบนประมาณ 0.70เมตร พืน้ ทแี่ บบทรง
กลมรูปไข่ผนังของเตาก่อสร้างด้วยดินผสมทรายละเอียดโดยก่อเป็นผนังรอบพ้ืนฐานเตาเป็น รูปโค้งแบบ
ประทุนเรอื นับว่าเปน็ การสรา้ งเตาในดนิ แบบเดียวกับแหล่งอื่น ๆ ผนังตอนบนของ เตามีสภาพไม่สมบูรณ์
ท้ังน้ีเกิดจากการลาเลียงเคร่ืองปั้นดินเผาออกจากเตาเมื่อเผาเสร็จ แล้ว จะแลเห็นผนังท่ีก่อเป็น รูปโค้งได้
อย่างชัดเจน ผนังมีความหนา 0.13 เมตร ปล่องไฟของเตามีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.20 เมตร ระดับเอียงจาก
พ้ืนราบประมาณ 60 เตาเผาเคร่ืองถ้วยชามต้นแหน (1) ดังได้กล่าวมานี้เป็นการสร้างเตาในดินเหมือนกับ
แหลง่ อน่ื ๆ สภาพโครงสร้างของเตามีขนาดเล็กมากคงจะใช้เผาเครื่องถ้วยชามได้เป็นจานวนน้อย บริเวณ
พน้ื ทด่ี ังกลา่ วนอ้ี ยู่ในเขตหว้ ยปา่ ไรซ่ ่งึ อยูใ่ นพน้ื ทเี่ ดยี วกนั กบั ลาหว้ ยแม่ลาน เราพอจะสันนิษฐานได้ว่าสภาพ
โครงสร้างของเตาในแบบนี้มีลักษณะแบบ เดียวกันหมด ในท่ีหนึ่งๆ จะมีเตาอยู่เป็นลักษณะกลุ่มอยู่
หลายเตา ทาเลท่ีตั้งของเตามี สภาพเหมาะสมทุกประการกล่าวคืออยู่ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ คือดินขาว
บริเวณริมฝง่ั หว้ ยแม่ลาน
ประวัติศาสตร์หัตถกรรม นวตั กรรมเพอื่ สืบสานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 60
ซ่ึงใช้เป็นส่วนผสมในการป้ันเคร่ืองป้ันดินเผา ต้นมะก่อตาหมูซึ่งใช้ทาน้าเคลือบ และแหล่งน้าท่ี
เป็นปจั จัยสาคัญ สภาพโครงสร้างของเตาเผาเครื่องถ้วยชามต้นแหน (1) ดังได้กล่าวมานี้เม่ือเปรียบเทียบ
กับเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามกอบงและจัมป่าบอน แล้วจะเห็นได้ว่าเทคนิคการสร้างบางอย่าง
และขนาดของเตาผิดกัน ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับภาพพ้ืนท่ีและส่ิงแวดล้อม เคร่ืองปั้นดินเผาที่ผลิตข้ึนก็มี
ลักษณะแตกต่างกัน กล่าวคือ เตาเผาเครื่องถ้วยชามกอบงและ จัมป่าบอน ส่วนมากจะใช้เผา
เคร่ืองป้ันดินเผาประเภทกระออมชนิดใหญ่และชนิดกลางรวมทั้งขนาดเล็กด้วย ส่วนเตาเผาเครื่องถ้วย
ชามต้นแหน (1) น้ันส่วนมากใช้เผาเครื่องถ้วยชาม ชนิดกลางและเล็กมีทั้งแบบเคลือบธรรมดา และ
เคลอื บแบบท่ีมลี วดลายเขยี นด้วยสดี นิ แดง
เตำเผำเคร่ืองถ้วยชำมต้นแหน (2)
ห่างจากพื้นฐานของเตาเผาเครื่องถ้วยชามต้นแหน (1) ไปทางทิศเหนือ 2.76 เมตร ได้สารวจ
ค้นพบเศษดินดิบซ่ึงเป็นส่วนหนึ่งของผนังเตาและเศษเครื่องป้ัน ดินเผาชนิดเคลือบอยู่บนผิวดิน เร่ิมงาน
ขุดทดสอบในพื้นที่ 4.50 X 1.50 ตารางเมตร โดยเริ่มจากพ้ืนท่ีเชิงลาดเข้าหาเนินดิน เมื่อขุดถึงระดับลึก
0.74 เมตรจากผิวดิน พบ ส่วนท่ีเป็นตอนหน้าของเตา เม่ือขุดขยายแนวเข้าหาเนินดินก็พบที่ค่ันไฟ
พน้ื ฐานทีเ่ ป็น ด้านหน้าของเตาและผนงั เตา เม่อื ขดุ แตง่ เสรจ็ แล้วก็จะเหน็ สภาพโครงสร้างของเตาได้อย่าง
ชัดเจนผงั ของเตาเป็นรูปทรงกลมยาวรี ขนาดยาวจากปล่องไฟถึงด้านหน้าของเตา 3.25 เมตร ส่วนท่ีกว้าง
ที่สุด 1.37 เมตร ทางด้านหน้าสดุ ของเตาถึงทีค่ ัน่ ไฟยาว 0.60 เมตร ทใี่ ส่ไฟถูกทาลายเป็นบางตอนแต่ยังมี
ร่องรอยให้เห็นส่วนกว้างขนาด 1.54 เมตร ส่วนสูงของประตูใส่ไฟก็คงจะขนาดไล่เลี่ยกัน ท่ีคั่นไฟสูงจาก
พื้นฐานด้านหน้าของเตา 0.56 เมตร พื้นฐานของเตาก่อเป็นพ้ืนราบติดกับท่ีคั่นไฟเอียงไปจากพ้ืนราบ
ประมาณ 6 ลึกจากผิวดิน 0.40 เมตร ผนังด้านบนของเตาชารุด ความสูงจากพ้ืนฐานเตาถึงผนังด้าน บน
ประมาณ 0.70เมตร นับว่ามีพ้ืนท่ีสาหรับบรรจุเครื่องป้ันดินเผาได้อย่างพอเพียงปล่อง ไฟอยู่ห่างจากคอ
คอด 0.35 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.15 เมตร และก่อเอียงทามุมกับพ้ืนราบประมาณ 60 เตาเผาเครื่อง
ถ้วยชามต้นแหน (2) ดังกล่าวมาน้ีใช้เผาเคร่ืองถ้วยชามแบบเดียวกับเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามต้นแหน (1)
สภาพโครงสรา้ งของเตาเม่อื เปรียบ เทียบกันแล้วจะเห็นว่าใช้วิธีการสร้างแบบเดียวกัน รวมทั้งการใช้วัตถุ
ในการก่อสรา้ ง แบบเดียวกนั แตข่ นาดของเตาสรา้ งผิดกนั ฝมี อื ในการกอ่ สรา้ งเตาไม่คอ่ ยจะประณตี นัก
61 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
ภาพเตาเผาเครอ่ื งถว้ ยชามต้นแหน ( 1 )
(พจน์ เกอ้ื กลู , 2515, เคร่อื งถว้ ยและเตาเผาสนั กาแพง : กรมศิลปากร , 2515)
ภาพเตาเผาเครือ่ งถ้วยชามต้นแหน (2)
(พจน์ เกื้อกลู , 2515, เครือ่ งถว้ ยและเตาเผาสนั กาแพง : กรมศิลปากร , 2515)
ประวัตศิ าสตรห์ ัตถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สืบสานเครื่องถว้ ยสันกาแพง 62
เตำเผำเครือ่ งถว้ ยชำมตน้ โจก้
บริเวณเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามต้นโจ้กอยู่ติดกับลาห้วยป่าไร่ใกล้กับเชิงเขา ที่เป็นท่ีเชิงลาดปกคลุม
ไปด้วยต้นไร่และพันธุ์ไม้ชนิดอ่ืน ๆ อยู่ห่างจากเตาเผาเคร่ืองล้า ชามต้นแหน (1) ประมาณ 42.00 เมตร
บริเวณดังกล่าวน้ีได้สารวจพบผนังด้านบน ของเตาและปล่องไฟโผล่พ้นดินออกมา ซึ่งจะแลเห็นได้อย่าง
ชัดเจน ระดับสูง 0.40 เมตรจากพ้ืนราบ ด้านหน้าของเตาหันไปทางทิศตะวันออก ตามพื้นท่ีเชิงลาดลงสู่
ลาห้วยป่าไร่เร่ิมงานขุดหลุมทดสอบในพ้ืนท่ี 4.00X2.00 ตารางเมตร เม่ือขุดระดับลึก0.58 เมตร จากผิว
ดินกพ็ บพื้นฐานทางด้านหนา้ ของเตาและประตูใส่ไฟ ไดข้ ยายแนวขดุ ตามพนื้ ท่ีจน กระทั่งถึงปล่องไฟ เม่ือ
ขุดแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เห็นสภาพโครงสร้างของเตาได้อย่างชัดเจน ขนาดยาวจากปล่องไฟถึง
ดา้ นหนา้ ของเตา 3.70 เมตร ส่วนกว้าง1.60 เมตร ประตูใส่ไฟขนาดกว้าง 1.65เมตร สูง 0.50 เมตร จาก
ป ร ะ ตู ใ ส่ ไ ฟ ถึ ง ที่ ค่ั น ไ ฟ ย า ว 1.00 เ ม ต ร ท่ี คั่ น ไ ฟ สู ง จ า ก พ้ื น ฐ า น ด้ า น ห น้ า ข อ ง เ ต า
0.28 เมตร ฐานของเตาจากที่ คันไฟถึงปล่องไฟยาว 2.25 เมตร ก่อเอียงทามุมกับพ้ืนราบประมาณ 10
องศา พืน้ ฐานของ เตาระดบั สงู ถึงผนงั ตอนบน 0.75 เมตร นับว่ามีพ้ืนที่กว้างขวางเพียงพอสาหรับการเผา
เคร่ืองถว้ ยชามแต่ละครัง้ ปล่องไฟสรา้ งด้วยดินดิบเป็นรูปทรงกลมขนาดกว้าง 0.75 เมตรยาว 0.75 เมตร
มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.15 เมตร ก่อเอียงทามุมกับพื้นราบประมาณ 60 องศา ขนาดส่วนหนาของผนังเตา
0.20 เมตร สร้างด้วยดินดิบเช่นกัน เตาเผาเครื่องถ้วยชามต้นโจ้กดังกล่าวมาน้ีใช้วัตถุและเทคนิค
ในการก่อสร้างเช่นเดียวกับเตา ในแหล่งอ่ืน ๆ เตาแห่งน้ีคงจะใช้เผาเคร่ืองถ้วยชามหลายครั้ง เพราะ
สงั เกตเหน็ วา่ ผนงั เตามีการซ่อมแซมหลายครั้ง เตาเผาเครื่องถ้วยชามต้นโจ้กน้ีใช้เผาเครื่องถ้วยชามหลาย
ขนาดมที ั้งลวดลายแบบปลาค่ทู ่กี ้นชาม และลวดลายชนิดอื่น ๆ ที่เขียนด้วยดินแดง แบบเดียวกัน รวมทั้ง
เครื่องถ้วยชามชนิดเคลือบแบบไม่มลี วดลายซ่ึงมขี นาดตา่ ง ๆ กนั
63 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
ภาพเตาเผาเครอื่ งถว้ ยชามตน้ โจ้ก
(พจน์ เก้ือกลู , 2515, เครอื่ งถ้วยและเตาเผาสนั กาแพง : กรมศลิ ปากร , 2515)
ภาพเตาเผาเครื่องถว้ ยชามตน้ โจ้ก
(พจน์ เกื้อกูล, 2515, เครอ่ื งถ้วยและเตาเผาสนั กาแพง : กรมศิลปากร , 2515)
ประวัติศาสตรห์ ัตถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สบื สานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 64
เตำเผำเครือ่ งถ้วยชำมดงดำ
เตาเผาเครื่องถ้วยชามองดาตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาติดกับ ลาห้วยป่าไร่ ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ดงดา
สภาพของเตายังมีร่องรอยให้ปรากฏเห็นได้ชัด เช่นปล่องไฟและ แนวผนังของเตา ซ่ึงก่อสร้างด้วยดินดิบ
เตาเผาเคร่อื งถ้วยชามองอยหู่ ่างจากเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามต้นแหน (1) ประมาณ 63.00 เมตร เม่ือสารวจ
พบแล้วจึงเร่ิมงานขุดหาโครงสร้างของเตาต่อไป ก่อนจะเริ่มงานขุดค้นได้แผ้วถางบริเวณเนินดินซ่ึงเป็น
ท่ีต้ัง ของเตา ต่อจากน้ัน ได้วัดระยะแนวขุดโดยเร่ิมงานจากพ้ืนท่ีเชิงลาดเข้าหาเนินดินในพ้ืนท่ี
4.00X2.00 ตารางเมตร เร่ิมงานขดุ ทางด้านหน้าของเตาในพื้นที่ 2.00x1.50 ตารางเมตร เมื่อขุดถึงระดับ
0.20 เมตรจากผิวดินพบเศษช้ินส่วนของผนังเตาบางแห่ง ซึ่งถูกทาลาย โดยธรรมชาติ เม่ือขุดลึกลงไปถึง
ระดับ 0.35 เมตร พบพืน้ ฐานทางด้านหนา้ ของเตา ได้ขยายแนวขุดต่อไปจนถึงปล่องไฟ เม่ือขุดแต่งเสร็จ
แล้วเห็นสภาพโครงสร้างของเตาได้อย่างชัดเจน ผนังของเตาก่อสร้างด้วยดินดิบผสมทรายละเอียด ส่วน
ยาวจากปล่องไฟถึงด้านหน้าของเตา 3.15 เมตร ประตูใส่ไฟทาเป็นโพรงกว้าง 0.38 เมตร ขนาดสูง
ประมาณ 0.38 เมตร พ้ืนที่ใส่ไฟมีขนาดยาวจากด้านหน้าถึงท่ีคั่นไฟ 0.38 เมตร ส่วนกว้าง
0.40 เมตร ทคี่ ่นั ไฟสูงจากพืน้ ฐานด้านหน้าของเตา 0.45 เมตร ฐานของเตาก่อเป็นพื้นลาดไปตามพื้นท่ีติด
กับที่ค่ันไฟเอียงทามุมกับพื้นราบประมาณ 8 องศา มีพื้นท่ีส่วนยาวจากที่ค่ันไฟ ถึงปล่องไฟ 1.85 เมตร
ส่วนกว้าง 1.17 เมตร สว่ นสงู จากพื้นฐานเตาถึงผนังส่วนบนประมาณ 0.70 เมตร นับว่ามีพ้ืนที่กว้างขวาง
เพียงพอสาหรับการเผาเครื่องป้ันดินเผาแต่ละครั้ง ผนังด้านบนถูกธรรมชาติทาลาย เกือบหมด ปล่องไฟ
ยังคงมีสภาพเกือบสมบูรณ์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตอนบน 0.50 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางตอนล่าง 0.20
เมตร กอ่ เอยี งทามมุ กับพ้ืนราบประมาณ 35 องศา
65 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
ภาพเตาเผาเครื่องถว้ ยชามดงดา
(พจน์ เก้อื กลู , 2515, เครือ่ งถว้ ยและเตาเผาสันกาแพง : กรมศิลปากร , 2515)
ประวตั ิศาสตร์หัตถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สบื สานเครื่องถว้ ยสันกาแพง 66
เตำเผำเคร่ืองถว้ ยชำมวดั เชยี งแสน
เตาเผาเคร่ืองถ้วยชามวัดเชียงแสนนี้ได้สารวจและขุดค้นพบอยู่ใต้เนินดิน ซ่ึงอยู่ในบริเวณเชิงเขา
ห้วยน้าบ่อวัด ห่างจากวัดเชียงแสน (สาลกัลญาณมหันตาราม) ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 170 เมตร
วัดเชยี งแสนดงั กล่าวนี้เป็นโบราณสถานที่มีความสาคัญอย่างยิ่งในสมัยโบราณ อาณาเขตของวัดต้ังอยู่บน
ทรี่ าบลมุ่
ทางดา้ นทศิ เหนือ จดลาหว้ ยแม่ผาแหน
ทางด้านทศิ ตะวนั ออก จดชายทุง่ นาและลาห้วย ซ่งึ เบอ้ื งหลงั มีขนุ เขา
ม่อนจง้ิ (นางเมาะ) ก้นั อยู่
ทางด้านทิศใต้ จดเชงิ เขานา้ บอ่ วัด
ทางดา้ นทศิ ตะวนั ตก เปน็ พื้นท่รี าบชายเขา
ห่างจากวัดเชียงแสนประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่ีอยู่อาศัยของชาวบ้านป่าตึง ภายในเขต
ของวัดมโี บราณสถานทส่ี าคัญแหง่ หนึ่ง คือ “องค์เจดีย์” ซ่ึงต่อมาภายหลังได้ถูกดัดแปลงแก้ไขเสียจนไม่รู้
ว่าโครงสรา้ งของเดิมจะเป็นเช่นไร สิง่ สาคัญย่งิ กค็ อื “ศลิ าจารึก” ท่พี บในบริเวณเขตวัด ขณะนี้ชาวบ้านได้
ย้ายมาเก็บรักษาไว้ที่วัดป่าตึง ข้อความท่ีปรากฏในศิลาจารึกนับว่ามีความสาคัญต่อประวัติศาสตร์ และ
โบราณคดีในแถบน้ี ข้อความดังกลา่ วนั้นคอื
“เมอ่ื พระเจ้าศิรสิ ัทธัมมงั กรู มหาจักรวรรดริ าชาธริ าช ได้ข้ึนเสวยราชย์เปน็ กษัตรยิ ์เชยี งใหม่ ได้ทรง
โปรดฯ ให้ราชมนตรีนายหน่ึง ชื่อ เจ้าอติชวญาณบวรสิทธิ เป็นหม่ืนดาบเรือน ในปีวอกสัมฤทธิศก
(เปลิกสัน) จุลศักราช 850 เดือน 6 ข้ึน 8 ค่า วันพุธหม่ืนดาบเรือนได้มีจิตศรัทธาชักชวนบรรดาทายก
ทายิกาทั้งหลายเป็นต้นว่า ชาวพูเลามาประชุมกัน เพื่อสร้างพระวิหาร พระเจดีย์ และหอพระไตรปิฎก
เมื่อเสร็จแล้วขนานนามวัดที่สร้างนี้ว่า “สาลกัลญาณมหันตาราม” ฝ่ายกษัตริย์เชียงใหม่ก็พระราชทาน
ทดี่ ินให้เปน็ วสิ งุ คามสีมา หมื่นดาบเรือนจึงได้อาราธนาพระมหาเถร เช่น พระมหาเถรสุนทร วัดหมื่นพาย
พระมหาเถรชิรวโพธิ วัดหม่ืนครืน พร้อมทั้งพระภิกษุอ่ืนๆ อีก 9 รูป มาเป็นผู้อุปถัมภ์วัดน้ีในจุลศักราช
853กษัตริย์เชียงใหม่ได้พระราชทานนามีค่า 540,000 เบ้ีย แก่หม่ืนดาบเรือน หมื่นดาบเรือนได้นามา
ถวายไว้กับวัดนี้ โดยอ้างพันญาณรังสี ล่ามร้อยพรหม ล่ามโสมดาบเรือน และบุคคลอ่ืนๆ อีกหลายคน
เป็นพยานรู้เห็นด้วยกับการถวายนานี้ไว้แก่วัดสาลกัลญาณมหันตาราม นอกจากน้ีหม่ืนดาบเรือนได้ซ้ือ
ทาสถวายเปน็ เลขวดั จานวน 25 ครัว มีจานวน 78 คน และได้มบี ัญชีคา่ กอ่ สรา้ งในวดั ดงั ตอ่ ไป
67 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
- สร้างเจดยี ์สิน้ เงนิ 14,600 เบ้ีย
- สรา้ งวิหาร 11,700 เบ้ีย
- สร้างหอพระไตรปิฎก 11,000 เบี้ย
- สร้างพระคมั ภรี ์ 20,000 เบย้ี
- ทาผา้ หอ่ คัมภีร์ 1,000 เบย้ี
- ค่าหลอ่ พระพุทธรปู 5 องค์ 6,000 เบย้ี
- ถวายเงนิ อีก 3,000 เบีย้
เพื่อต้ังเป็นมูลนิธิหาดอกผลใช้จ่ายเป็นค่าจังหัน 10 สารับ และหมื่นดาบเรือนได้สาปแช่งไว้ว่า
“ถ้าผใู้ ดเอาทรพั ย์สนิ ของวัดดังกลา่ วออกไปจากวัดนแี้ ล้ว ขอใหไ้ ฟไหม้ในอบายทง้ั 4 อย่าใหพ้ ้น”
ข้อความในศิลาจารึกดังกล่าวนี้ คัดจากบทความเร่ืองเคร่ืองถ้วยสันกาแพง ของนายไกรศรี
นิมมานเหมินทร์ แสดงทเ่ี ตาทุเรียง จงั หวัดสโุ ขทยั พ.ศ.2503 หน้าที่ 145-146 ข้อความในศิลาจารึกแสดง
ให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของชุมชนในยุคน้ัน คือระหว่างปี จ.ศ.853 (พ.ศ.2034) ในรัชกาลของพระยอด
เชียงราย ซึ่งเป็นปีท่ีเริ่มสร้างวัดเชียงแสน ในบริเวณถ่ินนั้นเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวพูเลา ซึ่งคงจะทา
อุตสาหกรรมเครอื่ งป้นั ดนิ เผาเปน็ ล่าเป็นสนั เพราะบรเิ วณพ้นื ที่อันกว้างขวางไดค้ น้ พบเศษเครื่องป้ันดินเผา
ชนิดเคลือบเป็นจานวนมากในระยะท่ีสารวจ เช่น บริเวณท้องท่ีวัดเชียงแสน ริมฝั่งลาห้วยแม่ผาแหน
เชิงเขาห้วยน้าบ่อวัดบริเวณเชิงเขาทุ่งกว้าง “จัมป่าบอน” ตลอดจนถึงลาห้วยแม่ลานและหุบเขาดอยโทน
ชาวพูเลาต้ังบ้านอยู่ในบริเวณท้องท่ีดังกล่าวมาน้ี วัดเชียงแสน (สาลกัลญาณมหันตาราม) คงจะเป็น
ศนู ย์กลางในด้านพระพุทธศาสนาทมี่ ีความสาคัญต่อชุมชนในแถบนัน้
เตาเผาเคร่ืองถ้วยชามวัดเชียงแสนอยู่ใกล้กับศาสนสถานท่ีสาคัญ เม่ือสารวจพบแหล่งเตาเผา แล้ว
ก็เริ่มดาเนินงานขุดค้นตามหลักวิชาการบริเวณเนินดิน ปรากฏว่ามีเศษเครื่องปั้นดินเผาชนิดเคลือบ และ
แบบธรรมดา มีทั้งลวดลาย ท่ีเขียนด้วยสีดินแดงต่างๆ และแบบเรียบๆ ตลอดจนเศษช้ินส่วนของเตา
เกลื่อนอยู่ในบริเวณนั้น ทั้งน้ีเกิดจากการมีบุคคล กลุ่มหน่ึงซ่ึงพยายามขุดหาเครื่องปั้นถ้วยชาม และใน
โอกาสเดียวกันก็คงจะขุดหาสภาพโครงสร้างของเตาด้วย ทาให้พื้นท่ีดังกล่าวเป็นหลุมเป็นบ่อเต็มไปหมด
ก่อนจะเริม่ งานขดุ ค้นไดว้ างผังแนวขุดในบริเวณพื้นท่เี ดียวกันในพื้นท่ี 6.5*2.5 ตารางเมตร โดยเร่ิมงานขุด
จากพ้ืนที่เชิงลาดเข้าหาเนินดินในพ้ืนท่ี 3*2.5 ตารางเมตร ลึก 0.4 เมตร พบส่วนท่ีเป็นตอนหน้าของเตา
ต่อจากน้นั ก็ขุดแต่งโดยรอบทางดา้ นหนา้ ของเตา หรือบริเวณที่ใส่ไฟนั้นได้ขุดแต่งอย่างระมัดระวังเพ่ือเก็บ
ชน้ิ สว่ นของถา่ นไฟ เพอื่ ใช้ในการคานวณหาอายโุ ดยกรรมวธิ ที างวิทยาศาสตร์
ประวัติศาสตร์หตั ถกรรม นวตั กรรมเพอื่ สืบสานเคร่ืองถว้ ยสันกาแพง 68
เมื่อขุดถึงระดับ 0.65 เมตร จากผิวดินพบส่วนผนังของเตา ระดับลึก 1.45 เมตร พบพื้นฐานของ
เตา โครงสร้างของเตา มีลักษณะดังน้ี ตามรูปแปลน ส่วนยาวจากปล่องไฟถึงด้านหน้าสุด 3.4 เมตร
สว่ นกว้าง 0.93 เมตร ระยะจากประตใู สไ่ ฟถึงท่คี ่ันไฟกว้าง 0.5 เมตร ที่ค่ันไฟยาว 1.7 เมตร พ้ืนท่ีบริเวณ
ฐานเตาจากที่คั่นไฟถึงปล่องไฟยาว 2.1 เมตร นับว่ามีพื้นท่ีกว้างขวางเพียงพอสาหรับการเผา
เคร่ืองปั้นดินเผาแต่ละครั้ง ทางด้านท่ีค่ันไฟสูงจากพื้นฐานท่ีใส่ไฟ 0.58 เมตร ผนังด้านบนของเตาอยู่ลึก
จากผิวดิน 0.65 เมตร พ้ืนฐานของเตาก่อเอียงไปตามพื้นท่ีเชิงลาดประมาณ 1 เมตร ส่วนสูงจากฐานเตา
ถึงผนังด้านบนประมาณ 0.8 เมตร ปล่องไฟสูงจากพ้ืน 1.12 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.35 เมตร
ดา้ นข้างของปล่องไฟมรี เู ลก็ ๆ อีกแห่งหนึง่ เสน้ ผ่านศูนย์กลาง 0.2 เมตร ใชส้ าหรับเป็นที่ระบายความร้อน
ทางด้านหน้าของเตา หรือประตูใส่ไฟชารุด ขนาดกว้างประมาณ 0.5 เมตร สูงประมาณ
0.5 เมตร เตาเผาเครื่องถ้วยชามวัดเชียงแสนดังกล่าวนี้ เมื่อขุดแต่งเสร็จแล้ว ได้มุงหลังคาชั่วคราวกันฝน
เพ่ือรักษาสภาพโครงสร้างของเตาให้อยู่ได้นาน ต่อไปอาจจะเป็นแหล่งสาคัญในด้านวิชาการ
และเป็นแหล่งทัศนศึกษาพักผ่อนหย่อนใจ เพราะเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามอยู่ใกล้กับโบราณสถานที่สาคัญ
คือ วัดเชียงแสน (สาลกัลญาณมหันตาราม)
เตาเผาเครอ่ื งถ้วยชามวัดเชียงแสนดังกลา่ วมานี้มีสภาพโครงสร้างที่แปลกไปจากเตาอื่นๆ ที่ค้นพบ
โครงสร้างของเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามวัดเชียงแสนมีลักษณะสมบูรณ์กว่า มีส่วนกว้างและยาวกว่าเตาอื่นๆ
ลักษณะของปล่องไฟก็สร้างผิดกัน กล่าวคือ มีลักษณะคล้ายแบบเตาเผาเครื่องถ้วยชามที่พบในบริเวณ
หมู่บ้านเกาะน้อย ตาบลเกาะน้อย อาเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย อายุของเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามวัด
เชียงแสนน้ี ต้องรอฟังผลการหาอายุโดยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์จากถ่านไฟ ซึ่งค้นพบบริเวณหน้าเตา
ส่วนเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามแหล่งอื่นน้ันอยู่ถัดออกไปทุกระยะ เช่น เตาเผาเครื่องถ้วยชามจัมป่าบอน
(หนองน้าที่มีต้นบอนขึ้น) ซึ่งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านปง (หนองน้าใหญ่) เมื่อก่อนนี้เป็นบริเวณบึงใหญ่ เป็น
แหลง่ ทอ่ี ดุ มสมบรู ณแ์ ห่งหนง่ึ หา่ งออกไปกเ็ ปน็ เตาเผาเครื่องถ้วยชามต้นแหน เตาต้นโจ๊ก และเตาดงดา ใน
บริเวณห้วยป่าไร่ ซ่ึงติดต่อกับพื้นที่ลาห้วยแม่ลาน ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบต่างๆ ท่ีใช้ในการปั้น
เคร่ืองป้ันดินเผา คือ แหล่งดินและแหล่งหิน นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยพันธ์ุไม้มะก่อตาหมู ซึ่งใช้ทาน้า
เคลอื บเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามแหล่งต่างๆ ท่ีกล่าวมานี้ มีสภาพโครงสร้างขนาดย่อมกว่าเตาเผาเคร่ืองถ้วย
ชามวัดเชียงแสน ฝีมือในการสร้างเตาไม่ค่อยประณีตนัก ซ่ึงคงจะได้แบบอย่างการสร้างเตาจากวัดเชียง
แสนอีกทอดหน่ึง วัสดุท่ีใช้ในการสร้างเตามีส่วนคล้าย กล่าวคือ ใช้ดินดิบเป็นส่วนใหญ่ มีการใช้อิฐ
ก่อสร้างสองแหง่ คอื เตากอบง และจมั ป่าบอน
69 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
การสร้างเตาเผาเคร่ืองถ้วยชามน้ันเป็นการสร้างแบบเตาในดินท้ังหมด ก่อนจะสร้างเตานายช่าง
จะต้องสารวจดูทาเลท่ีเหมาะ แล้วขุดเป็นรูปแปลนของเตา ระดับลึกจากผิวดินโดยเฉล่ียประมาณ
0.5 เมตร ต่อจากน้ันก็สร้างพื้นฐานของเตา และผนังเตาโดยรอบด้วยดินดิบ การท่ีสร้างเตาในดินก็เพ่ือ
ป้องกันเตาระเบิดในขณะที่ใช้ความร้อนสูงในการเผาเคร่ืองถ้วยชาม ปล่องไฟของทุกๆ เตาคงจะก่อสร้าง
ด้วยดินดิบ สูงจากผิวดินโดยเฉล่ียประมาณ 1.5 เมตร ท้ังน้ีเพื่อให้เคร่ืองป้ันดินเผาได้รับความร้อนอย่าง
เพียงพอ ในระยะเวลาต่อมาปล่องไฟ ซึ่งสร้างด้วยดินดิบได้ถูกธรรมชาติทาลายลง จากการค้นพบเพียง
ร่องรอยของปล่องไฟเท่านั้น เมื่อช่างได้ทาการก่อสร้างเตาเผาเครื่องถ้วยชามเสร็จแล้วจะต้องปล่อยท้ิงไว้
ให้แหง้ เสยี กอ่ นจงึ จะใช้เผาได้ ผนงั ดา้ นในของเตาเผาเครื่องถ้วยชามทุกแห่งจะปรากฏว่ามีน้าเคลือบติดอยู่
คงจะเกิดจากข้ีเถ้าในขณะท่ีใช้ไฟเผาไปเกาะติดอยู่ เมื่อใช้เตาเผาหลายคร้ังก็จะกลายเป็นน้าเคลือบ
เตาเผาเครื่องถ้วยชามแต่ละแห่งจะใช้เผาเคร่ืองถ้วยชามหลายครั้ง เพราะปรากฏว่าผนังเตาบางตอนมี
ความหนามาก เมื่อเผาแต่ละครั้งจะต้องซ่อมผนังเตาให้แข็งแรงอีกประการหน่ึง การลาเลียง
เครื่องป้ันดินเผาออกจากเตาเมื่อทาการเผาเสร็จแล้ว ใช้วิธีการเปิดผนังด้านบน เพราะทางด้านหน้า
ของเตา หรอื ประตูใส่ไฟมีลกั ษณะแคบมาก จากการสารวจจะพบเหน็ ว่าผนงั ด้านบนของเตาชารดุ หมด
นอกจากเตาดังกล่าวแลว้ ยังไดข้ ดุ เตาในตาบลเดียวกนั อีก คอื เตาต้นมว่ ง เตาบากควายนอก เตากู่
เตาขอนแดง เตาดอยโทน เตาต้นขี้เหล็ก เตาต้นน้าฮาก เตาป่าตึง เตาป่าเหียงยง เตาต้นหม่ืนหมัน
เตาบวกปิน เตาเหล่านอ้ ย เตาบวกแทง้ และเตาหว้ ยแมล่ าน
ภาพเตาเผาเครื่องถ้วยชามวัดเชยี งแสน
(พจน์ เกื้อกูล, 2515, เครอ่ื งถ้วยและเตาเผาสันกาแพง : กรมศิลปากร , 2515)
ประวตั ศิ าสตร์หตั ถกรรม นวตั กรรมเพอื่ สบื สานเครอ่ื งถว้ ยสันกาแพง 70
ภาพเตาเผาเครอื่ งถว้ ยชามวดั เชยี งแสน
(พจน์ เก้อื กลู , 2515, เครอื่ งถว้ ยและเตาเผาสันกาแพง : กรมศลิ ปากร , 2515)
71 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
ภาพเตาเผาเครอื่ งถ้วยชามวัดเชียงแสน
(เยาวชนพลเมอื งสันกาแพง, 2563)
ประวตั ศิ าสตร์หตั ถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 72
กรรมวิธี
กำรทำเครื่องถ้วย
สันกำแพง
73 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
กรรมวธิ ีกำรทำเคร่ืองถ้วยสันกำแพง
จากการรวบรวมข้อมูล เร่ืองกรรมวิธีการปั้นเคร่ืองปั้นดินเผา การเคลือบและการเผา ของเคร่ืองถ้วยสัน
กาแพง ไดข้ ้อมลู ว่าการปัน้ เครื่องป้ันดินเผาและการเผาเคลือบนนั้ มิใชเ่ ป็นงานที่ง่ายนัก จากการสารวจค้นพบแหล่งเตา
ต่าง ๆ ในบริเวณท้องท่ีหมู่บ้านป่าตึงดังกล่าวมาแล้วน้ัน แต่ละแห่งจะปรากฏว่ามีเศษเคร่ืองป้ันดินเผากระจัดกระจาย
อยเู่ ปน็ จานวนมาก ท้ังน้ีเกิดจากการทชี่ มุ ชนสมัยนั้นไดท้ ดลองเผา ซงึ่ กว่าจะประสบความสาเร็จก็ต้องใช้ความพยายาม
และใช้เวลานาน ตั้งแต่เริ่มป่ันจนกระท่ังเผา แบบเคลือบเสร็จเรียบร้อย การเผาย่อมจะต้องส้ินเปลืองเช้ือเพลิงเป็น
จานวนมากบางคร้ังอาจจะประสบผลล้มเหลวเนื่องจากความร้อนไม่เพียงพอ จากการสารวจได้ค้นพบ
เศษเคร่ืองป้ันดินเผา ชนิดเคลือบไม่สุก และแตกหักเป็นจานวนมากในบริเวณใกล้กับเตาเผา บางครั้งก็ยังไม่ทันจะ
นาเข้าสู่เตาเผาก็เกิดการชารุดเสียก่อนเม่ือได้ค้นคว้าสิ่งเหล่าน้ีในระยะท่ีทาการสารวจและขุดค้นได้พบหลักฐานมาก
พอทจี่ ะทราบถึงกรรมวธิ ีในการปัน้ เครอ่ื งปัน้ ดนิ เผา การเคลอื บและวิธกี ารเผาดังต่อไปนี้
แหลง่ วัตถดุ ิบทีใ่ ชป้ ้นั เครอ่ื งป้นั ดินเผา
แหลง่ วัตถุดบิ ท่ีสาคัญกค็ อื ดนิ ในบรเิ วณริมฝั่งหว้ ยแมน่ า้ ลานและแมผ่ าแหน และดินเหนยี วในบริเวณทุ่งนาและ
หินประเภทต่าง ๆตามเชิงเขา จากการวิเคราะห์ดูเคร่ืองป้ันดินเผาท่ีพบในบริเวณน้ันจะปรากฏว่ามีส่วนผสมของวัตถุ
หลายชนิดดังได้กล่าวมาน้ี บริเวณเชิงเขากับท่ีต้ังของเตาด้วยพันธ์ไม้มะก่อตาหมู่ซ่ึงใช้ในการทาน้าเคลือบ นับว่าเป็น
พันธ์ุไม้พิเศษที่ไม่ต้องผสมกับเน้ือไม้อื่น ๆ ในการทาน้าเคลือบ ทาเลท่ีตั้งของเตาอยู่ในท่ีท่ีเหมาะสม
กับแหล่งวัตถดุ บิ
ภาพบริเวณริมห้วยแม่ลาน ซึง่ มีดินเหมาะในการทาเครอื่ งปน้ั ดินเผา
อ.สันกาแพง จ.เชียงใหม่
(พจน์ เกอื้ กลู , 2515, เครื่องถว้ ยและเตาเผาสนั กาแพง : กรมศลิ ปากร , 2515)
74 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
ภาพบริเวณริมหว้ ยแม่ลาน ซงึ่ มดี ินเหมาะในการทาเคร่อื งปน้ั ดินเผา
อ.สนั กาแพง จ.เชยี งใหม่
(พจน์ เกือ้ กลู , 2515, เครอ่ื งถว้ ยและเตาเผาสนั กาแพง : กรมศิลปากร , 2515)
การปัน้ เคร่ืองปนั้ ดนิ เผาและอุปกรณท์ ่ีใช้ในการปน้ั
กอ่ นท่จี ะเริ่มป้ันเครอื่ งปั้นดินเผาชนิดต่าง ๆ น้ันจะต้องมีการตระเตรียมดินท่ีใช้ป้ันเสียก่อนจากการวิเคราะห์ดู
เน้ือเคร่ืองป้ันดินเผาที่สารวจจะพบว่ามีส่วนผสมเหล่าน้ีคือ ดินริมฝ่ังห้วยแม่ลาน ดินเหนียวหินบดชนิดต่าง ๆ
แกลบเผาไฟป่น เป็นตน้ เมอื่ ผสมดินได้ท่แี ล้วก็เร่มิ งานในซ่งึ มี รปู แบบมากมายหลากหลายชนิด เช่นเครื่องถ้วยชามชนิด
ใหญ่ กลาง และเล็ก กระปุกชนิดต่าง ๆ กระออมประเภทต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากเป็นของท่ีใช้ประจาวัน นอกจากนั้นก็ยังมี
เครื่องป้ันดินเผาชนิดเล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโดยเฉลี่ยประมาณ 0.05 เมตร ตลอดจนรูปป้ันสัตว์ประเภทลอยตัว
อุปกรณ์ที่ใช้ในการป้ันนั้นสันนิษฐานว่าชุมชนในสมัยนั้นรู้จักใช้แป้นหมุนแล้ว เพราะจะสังเกตเห็นได้จากก้นเคร่ืองถ้วย
และรูปแบบของเครื่องป้ันดินเผา การใช้แป้นหมุนนี้จะต้องอาศัยความชานาญเป็นพิเศษ เพราะต้องใช้มือ
ประคับประคองรปู แบบของเครื่องป้ันดินเผาชนิดต่าง ๆ ส่วนเคร่ืองปั้นดินเผาชนิดเล็กตลอดจนรูปสัตว์ประเภทลอยตัว
ต่าง ๆ กค็ งจะปน้ั ด้วยมือ
การตากเครอ่ื งปัน้ ดินเผาหรอื ผ่ึงลมให้แห้ง
เมื่อปั้นเคร่ืองป้ันดินเผาประเภทต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะต้องพึ่งแดดหรือตากลมให้แห้งเสียก่อน
จากการสารวจและขุดค้นก็เคยพบเคร่ืองปั้นดินเผาประเภทนี้ การผึ่งแดดหรือตากลมนี้ต้องอาศัยเวลานาน
เพอื่ ใหเ้ ครื่องปัน้ ดินเผาแหง้ สนทิ
การเขยี นลวดลายแบบตา่ ง ๆด้วยลวดลายสีแดง
หลังจากการพ่ึงแดดฝั่งลมให้แห้งสนิทแล้ว งานในขั้นตอนต่อไปก็เป็นงานเขียนลวดลายเคร่ืองถ้วยประเภท
ต่าง ๆ สีท่ีใช้เขียนน้ันเป็นสีดินแดง โดยนามาร่อนให้ละเอียดแบบผงแป้ง ใช้ผสมน้าให้ข้น การใช้สีดินแดงดังกล่าวน้ี
มนุษย์เรารู้จักใช้มาต้ังแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์แล้ว การเขียนสีดังกล่าวน้ีใช้ไม้หรือมือแบบพู่กันเขียนเป็นลวดลาย
ต่าง ๆ เชน่ ลายปลาคทู่ ก่ี ้นชาม ลายพฤกษชาตแิ ละดอกไม้ รวมท้งั รูปกลมและอื่น ๆ หลักฐานท่ีค้นพบในระยะที่ทาการ
สารวจและขดุ คน้ ก็คือเศษชน้ิ สว่ นเครื่องปั้นดนิ เผาเขียนด้วยสดี ินแดงทีย่ งั มไิ ด้เผาไฟ ซ่ึงมีอยู่เป็นจานวนมาก เข้าใจว่าคง
จะเกิดการชารดุ ก่อนทจี่ ะนาเข้าเตาเผา
75 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
การเผาเครอื่ งปน้ั ดนิ เผาครั้งท่ี 1
เม่อื เขียนลวดลายต่าง ๆ ดว้ ยสดี นิ แดงเสร็จแล้ว งานขนั้ ตอ่ ไปก็คือการลาเลียงเข้าสู่เตาเผา การเผาคร้ัง แรกน้ี
อ า จ จ ะ ใ ช้ ค ว า ม ร้ อ น น้ อ ย เ พี ย ง เ พื่ อ ต้ อ ง ก า ร ใ ห้ สี ดิ น แ ด ง เ ป ลี่ ย น ส ภ า พ แ ล ะ ติ ด แ น่ น กั บ เ ค ร่ื อ ง ปั้ น ดิ น เ ผ า
จากการสารวจและขุดค้นได้พบเศษเครื่องป้ันดินเผาลักษณะนี้เป็นจานวนมาก คงจะเกิดการชารุดเสียหายในขณะที่
ลาเลยี งออกจากเตา
การเตรยี มนา้ เคลือบและสเี คลือบ
ชุมชนสมัยนั้นคงใช้ต้นมะก่อตาหมูในการทาน้าเคลือบ วิธีการก็คงจะใช้แบบเดียวกับสมัยปัจจุบัน กล่าวคือ
นาเอาต้นไม้ชนิดน้ีมาเผาไฟแล้วใช้ขี้เถ้าผสมกับน้าให้ข้นพอดี เม่ือเผาเคร่ืองป้ันดินเผาตามวิธีการ ข้อ 5 เสร็จแล้ว
งานข้ึนต่อไปก็เป็นงานเคลือบ โดยการนาเคร่ืองป้ันดินเผาจุ่มลงไปในน้าเคลือบท่ีเตรียมไว้ หลังจากนั้นก็นาไปผ่ึงแดด
ใหส้ นทิ การสารวจและขดุ คน้ ไดพ้ บหลักฐานคอื เศษช้ินส่วนเคร่ืองปั้นดนิ เผาชนดิ เคลือบท่ียังมไิ ด้เผาไฟ
การเผาเครอื่ งปั้นดนิ เผาครั้งสุดท้าย
หลังจากที่ได้ทาการเคลือบเคร่ืองป้ันดินเผาตามวิธีการข้อ 6 แล้ว ต่อจากน้ีก็เป็นการลาเลียงเข้าสู่เตาเผาซ่ึง
นับว่าเป็นข้ันตอนสุดท้ายท่ีค่อนข้างจะยาก การเผาในครั้งน้ีจะต้องใช้ความร้อนสูงเพ่ือท่ีจะเปลี่ยนสภาพน้าเคลือบขุ่น
ให้กลายเป็นใส การเผาครั้งสุดท้ายน้ีส่วนมากจะประสบผลล้มเหลว ประการแรกเนื่องจากความร้อนไม่พอทาให้น้า
เคลือบไม่เปล่ียนสภาพ การวางเคร่ืองปั้นดินเผาภายในเตาจะต้องใช้ทรายเป็นพื้นฐานเพื่อป้องกันมิให้ล้มจากการ
สารวจได้ค้นพบเคร่ืองป้ันดินเผาชนิดเคลือบขุ่น เน่ืองจากความร้อนไม่พอและเคร่ืองปั้นดินเผาท่ีติดกันเป็นกลุ่ม
เนอ่ื งจากการล้มทับกันในระยะท่ีใช้ความร้อนสูงเผา การวางเครื่องป้ันดินเผาภายในเตาเท่าที่ค้นพบนั้นใช้วางแบบก้น
วางซ้อนกันและปางวางซอ้ นปาก โดยใช้วัตถุชนิดหน่ึงเป็นส่ือกลางเพ่ือป้องกันมิให้น้าเคลือบติดกัน แต่ปรากฏว่ายังไม่
พบสาเร็จเท่าทค่ี วร เพราะจากการสารวจพบเครอื่ งป้ันดินเผาตดิ กนั เป็นกลมุ่ บางแหง่ ปากถว้ ยชามตดิ กันและก้นติดกัน
ก็มี เม่อื เผาเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ลาเลียงเคร่ืองป้ันดินเผาออกจากเตา โดยวิธีเปิดผนังด้านบนขอบเตา จะสังเกตเห็นได้
ว่ า ส ภ า พ โ ค ร ง า ร้ า ง ข อ ง เ ต า ท่ี ค้ น พ บ ผ นั ง ด้ า น บ น จ ะ ช า รุ ด เ มื่ อ จ ะ เ ผ า ใ ห ม่ ก็ ใ ช้ วิ ธี ซ่ อ ม เ ต า เ ก่ า
ใหเ้ รยี บรอ้ ยโดยปิดผนังดา้ นบน
สแกนเพื่อเข้าเวบ็ ไซตพ์ พิ ิธภัณฑ์ 360 องศา
ภาพเตาเผาเทคโนโลยเี ตาเผาเครอ่ื งถว้ ยสันกาแพง วัดป่าตึง
(เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563)
ประวัตศิ าสตรห์ ตั ถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สืบสานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 76
ภาพฝาหมอ้ โบราณ วัดป่าตึง ภาพจานโบราณ วดั ปา่ ตงึ
(เยาวชนพลเมืองสนั กาแพง, 2563) (เยาวชนพลเมืองสันกาแพง, 2563)
ภาพชามเคลอื บสเี ขียว วดั ปา่ ตึง ภาพชามเคลือบไม่สมบรู ณ์ เผาไฟแรงตา่ กว่าปกติ วดั ป่าตงึ
(เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563) (เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563)
ชามเคลอื บสีเขียวออ่ น วัดป่าตึง
(เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563)
77 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
ไห วดั ป่าตึง
(เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563)
ก๋หี รือฐานรองภาชนะ วัดปา่ ตงึ จานเขียนลายสดี าใต้เคลอื บเขียนลายปลาคู่ วัดปา่ ตึง
(เยาวชนพลเมอื งสนั กาแพง, 2563) (เยาวชนพลเมืองสนั กาแพง, 2563)
แจกนั วัดปา่ ตงึ
(เยาวชนพลเมืองสันกาแพง, 2563)
ชามเคลอื บสีเขียวอ่อน เผาเสยี จากไฟแรงสงู วดั ปา่ ตงึ
(เยาวชนพลเมืองสันกาแพง, 2563)
ประวตั ิศาสตร์หตั ถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สบื สานเครื่องถว้ ยสันกาแพง 78
ขวานขัดหนิ วดั ป่าตึง ขวานขัดหิน วดั ป่าตงึ
(เยาวชนพลเมืองสนั กาแพง, 2563) (เยาวชนพลเมืองสนั กาแพง, 2563)
เศษภาชนะเขยี นลายสดี าใต้เคลือบ, ชามลายคราม, กุณฑเี คลอื บสีเขียวออ่ น วดั ปา่ ตึง
(เยาวชนพลเมืองสันกาแพง, 2563)
ประวัติศาสตร์หัตถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเครอ่ื งถว้ ยสันกาแพง 79
ประเภทเครื่องถ้วย
สันกำแพง
80 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
ประเภทเครอ่ื งถ้วยสันกำแพง
ในขณะทีป่ ฏิบตั ิงานการสารวจและขดุ คน้ เตาเผาเครื่องถ้วยชามแหลง่ ต่าง ๆ ในบริเวณหมู่บ้านป่าตึง
นั้น ได้ค้นพบเคร่ืองป้ันดินเผาชนิดเคลือบเป็นจานวนมาก ซึ่งมีหลายประเภทได้แก่ เคร่ืองถ้วยชามขนาด
ใหญ่ กลาง และเล็ก กระปุกชนิดใหญ่ กลาง และเล็ก ไหประเภทต่าง ๆ รวมท้ังเคร่ืองป้ันดินเผาขนาดเล็ก
และรูปสัตว์ประเภทลอยตัวต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งชนิดเคลือบแบบลวดลายเขียนด้วยสีดินแดงและแบบเคลือบ
ธรรมดาสเี คลือบจะมสี เี ขยี วซง่ึ คงใชต้ ้นมะก่อตาหมูชนิดแก่ทาน้าเคลือบ ชนิดเคลือบสีเหลืองอ่อนแกมเขียว
จะใช้ ต้นมะก่อชนิดอ่อนทาน้าเคลือบ เคร่ืองเคลือบจากแหล่งเตาสันกาแพงโดยทั่วไปเป็นภาชนะหลาย
รปู แบบ ไดแ้ ก่ ชาม จาน ถ้วย พาน ขวดหรอื แจกนั ขวดหรอื ไหปากแคบ สามารถแบ่งประเภทออกเปน็ ดังนี้
ชาม จาน ถว้ ย และพาน (Bowl Plate Group) แบ่งออกเปน็ 8 แบบ
1. เปน็ ชามหรอื จานก้นกวา้ ง ปากกว้าง คอ้ นขา้ งเตีย้ ลักษณะก้นมีขอบฐานเตี้ยๆ เกือบเป็นก้นแบน
ลักษณะปากหัก แบะออก มีสน้ ทีร่ ิมขอบปากสว่ นใหญท่ าแบบเรียบ มีปางส่วนท่ีปาดเว้าเป็นคลื่นตื้นๆ แบบ
ขอบปากหยกั
2. เป็นชาม หรือจาน ขอบปากไม่หักแบะออก แต่เป็นลักษณะผายบานออก ปลายโค้งลง
ทางดา้ นนอก
3. เปน็ ชาม หรือจาน แบบก้นกว้าง ปากกวา้ ง ปากผายออก ขอบปากตรงมน ก้นเรียนไมม่ ีขอบฐาน
4. ชามก้นกว้าง ปากกว้าง ค่อนข้างสูง ขอบปากผายบานออก ส่วนริมขอบม้วนออกเล็กน้อยมีทั้ง
ขอบเรยี บ และหยักเล็กน้อย ลกั ษณะก้นแบน มขี อบฐานเตีย้ ๆ
5. เป็นชาม หรือจาน ก้นกว้าง ปากกว้าง เต้ีย ปากผายออก ขอบปากค่อนข้างหนา และตัดเฉียง
กน้ มขี อบฐานสูงพอสมควร
6. ชามก้นค่อนข้างแคบ ปากกว้าง ทรงสูง ปากผายบานออก ขอบปากบาน ก้นมีขอบฐานสูง
พอสมควร
7. ชามทรงสูงคล้ายพาน ก้นค่อนข้างกว้าง ปากกว้าง ขอบปากผายบานออก ฐานก้นสูง
ปลายขอบบานออก
8. ชามก้นแคบมาก ปากกวา้ ง ขอบปากบานออก ทรงสงู คล้ายถ้วย กน้ มฐี านค่อนข้างสูง
ไห (Jar Group)
มีท้ังประเภทเนื้อแกร่ง และเนื้ออ่อนลักษณะเป็นไหทรงสูง ก้นเรียบแบนค่อนข้างแคบ ลาตัวป่อง
และกว้างมากที่สุดตรงบริเวณไหล่ คอส้ันแคบ ปากบานออก ขอบปากม้วนออก และบางคร้ังเป็นร่องท่ี
ด้านบนหรือขอบปากตรง อีกแบบหนึ่งเป็นไหแบบพิเศษมีขอบปาก 2 ชั้น เรียกว่า ไหน้าผ้ึง ส่วนใหญ่ไม่มี
ลวดลายประดับ แต่ก็มีบางใบทาลวดลายกดประทับบนไหล่ ติดแปะหูเล็กๆ หรือเขียนลายสีดา-น้าตาลใต้
เคลอื บ แต่พบน้อย
1. ไหข นาดกลาง เนื้อแกร่งเคลือบสีเขียว และมีข อบปาก สองชั้น เน้ือแ กร่งมาก
เคลือบสีนา้ ตาลเข้ม
2. ไหทรงสูง เน้ือแกรง่ เคลอื บสองสี ส่วนตัวเคลอื บสีน้าตาล คอและขอบปากเคลือบสเี ขียวนวล
3. ไหทรงสงู ขนาดใหญ่เคลือบสองสี ตัวไหเคลอื บสีน้าตาล คอและขอบปากเคลอื บสเี ขยี วนวล
81 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
กำรตกแต่งเครอ่ื งถว้ ย
สันกำแพง
82 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
กำรตกแตง่ เครอ่ื งถ้วยสันกำแพง
เครอื่ งเคลือบ
1. เคลือบสเี ขียว (Celadon Wares)
ส่วนใหญ่เคลือบสีเขียวอ่อน สีเขียวนวล สีเขียวแกมน้าตาล ในภาชนะประเภทชาม และ
จานมักทาลวดลายขดู -ขีด ใต้เคลือบเป็นรูปวงกลม ลายลูกคล่ืน ปาดแต่งผนังด้านข้างชามด้านในเป็นลอน
คล่ืนเป็นแนวต้ัง นอกจากนั้นมีลายประทับเป็นจุด ๆ ลายดอกจันทน์ รูปคล้ายดาว พบได้ท่ัวไป
แต่ชามกลุ่มหนึ่งพบในกลมุ่ เตาบริเวณห้วยบวกปีน มีลายประทับรูปปลา 2 ตัวตรงกลางชาม และเคลือบสี
น้าตาลแกมเขียว สีเหลอื งแกมนา้ ตาล ซงึ่ ไม่พบบริเวณอ่ืน ๆ ส่วนภาชนะประเภทไห กระปุก ขวด ตะเกียง
ส่วนมากไม่ทาลวดลายก่อนเคลือบ แต่ก็พบบ้างที่มีลายปั้นแปะเป็นตุ่มแหลมรอบส่วนไหล่ของไห
ขนาดกลาง
2. เขยี วศิลาดล (Celadon)
เขยี วศิลาดล หมายถึง หินสีเขียว ซึ่งเป็นของขึ้นช่ือในอาเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ "ศิลาดล"
เป็นเคร่ืองป้ันดินเผาชนิดหน่ึง ที่ใช้ความร้อนสูงในการเผา นามาเคลือบด้วยขี้เถ้าไม้ ผสมดินหน้านา ก่อน
นาไปตกแต่งให้สวยงามเพ่ิมข้ึน จากนั้นนาไปเผาในอุณหภูมิความร้อนท่ีสูงประมาณ 1,260 -1,300 องศา
เซลเซยี ส เพอื่ ให้เกดิ การแตกลายงา มลี ักษณะเป็นเคลอื บใสสีเขียวหยกสามารถมองทะลุไปถึงเน้ือดินที่ปั้น
ได้ ซงึ่ เป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะของศิลาดลเท่านั้น
ลักษณะเด่นของศิลาดล คือ มีสีเขียวหยก มีรอยแตกลายงา เป็นผลิตภัณฑ์ท่ีทาด้วยมือ เผาด้วย
ความรอ้ นสูง ไมม่ สี ารเคมีเจอื ปน และสามารถใชเ้ ป็นของตกแต่งบ้านหรอื ใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้
3. เคลือบสนี ้าตาล (Brown Glazed Wares)
ส่วนมากเป็นภาชนะประเภทไหขนาดต่าง ๆ ประปุกขนาดเล็กขวดหรือไหปากแคบ ไหน้าผ้ึง (มี
ขอบปาก 2 ชั้น) ตะคนั หรือผางประทีปตะเกียง
4. เคลือบ 2 สี (Bi-Chrome Glazed Wares)
พบในภาชนะประเภทไหขนาดใหญ่ มีการทาลวดลายพิเศษ ท่ีขอบปากและคอมักเคลือบสีเขียว
อ่อน สีเขยี วนวล ในขณะท่ีตงั้ แตส่ ่วนไหลล่ งไปจรดก้นเคลือบสนี า้ ตาล
5. เขียนลายสดี า - นา้ ตาลใต้เคลือบ (Underglazed Painted Wares)
เป็นผลิตภณั ฑท์ พ่ี บรองมาจากประเภทเคลือบสีเขียว โดยเฉพาะในภาชนะรูปแบบชาม และจานมี
การเขียนลวดลายตกแตง่ มากกว่ารปู แบบอืน่ ๆ
83 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
ลวดลายเขียนสีที่เป็นลักษณะเฉพาะของชาม และจานจากแหล่งเตาสันกาแพง คือ ลายปลาคู่
เขียนกลับหางอยู่ตรงกลางชาม หรือจาน นอกจากน้ียังมีลายพฤกษบุพผา ลายประดิษฐ์แบบนามธรรม
ต่าง ๆ เช่น ลายวงกลมซ้อนกันหลายวง ลายก้านขดระหว่างเส้นขนาน ซึ่งลายก้านขดมักเขียนไว้บริเวณ
ขอบปากชาม โดยรอบการเขียนลวดลายมีท้ังด้านในและด้านนอกชาม บางคร้ังก็มีการเขียนลวดลายรูป
สตั วแ์ ละคนบนภาชนะประเภทไห พบในแหลง่ เตาบรเิ วณห้วยปู่แหลม
เครื่องเคลือบประเภทมีลายเขียนสีดา-น้าตาลใต้เคลือบพบมากในแหล่งเตาบริเวณดอยโตน
ท้งุ โห้ง ห้วยปแู่ หลม ต้นแหน ต้นโจ้ก เหล่านอ้ ย และวัดเชยี งแสน
ลวดลายของเครอื่ งถว้ ยสันกาแพง
1. ลวดลายแบบปลาคแู่ ละชนดิ ปลารอบขา้ ง
ลวดลายดงั กล่าวนจี้ ะพบอยใู่ นกน้ เคร่อื งถ้วย ซ่ึงส่วนมากพบในบรเิ วณห้วยป่าไร่ ห้วยแม่ลาน บวก
แท้ง ดอยโทน และที่วัดเชียงแสน เคร่ืองถ้วยที่มีลายแบบปลาคู่น้ี นายไกรศรี นิมมานเหมินทร์ ได้ให้
ข้อคิดเห็นว่า สืบเน่ืองมาจากเคร่ืองหมาย “อิน” และ “หยัง” ของจีน เป็นเครื่องหมายของการเร่ิมต้น
ชีวิต ซ่ึงถือกันว่าเป็นศิริมงคลและคุ้มครองมนุษย์จากส่ิงช่ัวร้ายท้ังปวงได้ผู้เขียนเคยสอบถามชาวจีนท่ีมี
ความรู้ในเรื่องน้ีได้ความว่า ลักษณะเคร่ืองหมายปลาคู่เป็นหลักปรัชญาของชาวจีนในสมัยโบราณ
หมายถึงส่ิงที่เป็นของคู่กันทุกอย่างในจักรวาล เช่น ความมืดกับสว่าง ความดีกับความช่ัว เพศคู่ เป็นต้น
ซึ่งเป็นหลักและกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ระหว่างลายปลาคู่นั้นจะมีลวดลายแบบวงกลม อาจจะเป็น
เครอื่ งหมายแสดง ฮก (วาสนา) ลก (ความบริบูรณด์ ว้ ยโภคสมบตั แิ ละบรวิ ารสมบตั ิ) ซว่ิ (ความยั่งยืน) โดย
ใช้รูปพระอาทิตย์และพระจันทรเ์ ป็นเครื่องหมายสว่ นเครอ่ื งถ้วยชามทีม่ ีเครื่องหมายปลารอบข้างนั้นคงจะ
มคี วามหมายคลา้ ยคลงึ กนั
2. ลวดลายแบบวงกลม
เครื่องถ้วยชามชนิดเคลือบที่มีลวดลายแบบวงกลมนั้นมีอยู่หลายประเภท เช่น ประเภทวงกลม
ใหญ่ล้อมรอบวงกลมเล็ก 8 วง ส่วนมากพบในบริเวณแหล่งเตาลาห้วยป่าไร่ ห้วยแม่ลาน บวกแท้ง ดอย
โทน และวัดเชยี งแสน
3. ลวดลายแบบพฤกษชาติและบุปผาชนิดตา่ ง ๆ
เคร่ืองถ้วยชามแบบลวดลายท่ีมีเครื่องหมายเป็นพฤกษชาติและบุบผาชาติต่าง ๆ มีอยู่หลาย
ประเภทจัดว่าเป็นเครื่องถ้วยท่ีสวยงามประเภทหน่ึง ส่วนมากจะพบในบริเวณแหล่งเตาลาห้วยป่าไร่
หว้ ยแม่ลาน บวกแท้ง เหลา่ น้อย หมืน่ หมนั และดอยโทน
4. ลวดลายแบบรปู สัตว์
เคร่ืองถ้วยแบบลวดลายที่เป็นรูปสัตว์นี้ ได้ค้นพบเคร่ืองถ้วยที่เป็นรูปนกในบริเวณแหล่งเตาห้วย
แมล่ านซ่งึ มอี ยเู่ ปน็ จานวนน้อย
ประวัตศิ าสตรห์ ตั ถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สืบสานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 84
จำนเคลอื บสีเขียว จำนเคลอื บสีเขยี ว
ตวั จำนเซำะรอ่ ง เตำสันกำแพง ตัวจำนเซำะร่อง เตำสันกำแพง
ของพิพิธภัณฑจ์ อหน์ ชอว์ ของพิพิธภณั ฑ์จอห์น ชอว์
จำนเคลอื บสีเขียว จำนเคลือบสีเขียว
เขยี นลำยสีดำรูปปลำคใู่ ตเ้ คลือบ เขียนลำยสีดำใตเ้ คลอื บ
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
หมายเหตุ : ภาพจากหนงั สือ เครื่องป้นั ดินเผา สานกั พิมพค์ ติ เพอื่ ใช้ประโยชน์ทางการศกึ ษา
85 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
จำนเคลอื บสีเขียว จำนเคลอื บสีเขยี วเข้ม
เขยี นลำยสีดำรปู ปลำคูใ่ ต้เคลือบ มีลำยพิมพ์รปู ปลำใตเ้ คลือบ
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
ของพิพิธภณั ฑ์จอห์น ชอว์ ของพิพิธภณั ฑจ์ อหน์ ชอว์
จำนเคลอื บสีเขียว จำนเคลอื บสีเขยี วเข้ม
เขียนลำยสีดำใต้เคลอื บ มลี ำยพิมพ์รปู ปลำใต้เคลือบ
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
ของพิพิธภณั ฑจ์ อหน์ ชอว์ ของพิพิธภณั ฑจ์ อห์น ชอว์
หมายเหตุ : ภาพจากหนังสือ เครือ่ งปัน้ ดินเผา สานักพิมพ์คติ เพื่อใช้ประโยชนท์ างการศึกษา
ประวตั ศิ าสตร์หตั ถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สืบสานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 86
จำนเคลือบสีเขยี ว จำนเคลอื บสีเขียว
เขียนลำยสีดำใต้เคลอื บ เขียนลำยสีดำใตเ้ คลอื บ
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
ของพิพิธภณั ฑจ์ อหน์ ชอว์ ของพิพิธภณั ฑ์จอห์น ชอว์
ชำมเคลือบสีเขยี ว ชำมเคลือบสีเขยี ว
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
ของพิพิธภณั ฑ์จอห์น ชอว์
หมายเหตุ : ภาพจากหนงั สือ เครอื่ งป้ันดินเผา สานักพมิ พค์ ติ เพือ่ ใชป้ ระโยชน์ทางการศกึ ษา
87 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
จำนเคลือบสีเขียว แจกนั เคลอื บสีเขยี ว
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
แจกันเคลือบสีเขียว โถเคลอื บสีเขยี ว
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
หมายเหตุ : ภาพจากหนงั สอื เครื่องป้นั ดินเผา สานักพิมพ์คติ เพ่อื ใช้ประโยชน์ทางการศึกษา
ประวตั ศิ าสตร์หตั ถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สืบสานเคร่อื งถว้ ยสันกาแพง 88
โถเคลือบสีเขยี ว ไหเคลอื บสีเขียว
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
ไหเคลือบสีเขียว ไหเคลอื บสีเขียว
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
ของพิพิธภณั ฑจ์ อหน์ ชอว์
หมายเหตุ : ภาพจากหนงั สอื เคร่อื งป้นั ดินเผา สานักพิมพ์คติ เพื่อใช้ประโยชนท์ างการศึกษา
89 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
ไหเคลือบสองสี ไหเคลือบสองสี
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
ของพิพิธภณั ฑจ์ อหน์ ชอว์
ไหเคลือบสีเขียว ไหเคลือบสีน้ำตำล
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
ของพิพิธภัณฑ์จอหน์ ชอว์
ของพิพิธภณั ฑ์จอห์น ชอว์
หมายเหตุ : ภาพจากหนังสอื เครอื่ งป้นั ดินเผา สานกั พิมพค์ ติ เพอ่ื ใชป้ ระโยชนท์ างการศึกษา
ประวัตศิ าสตร์หตั ถกรรม นวัตกรรมเพอื่ สบื สานเครื่องถว้ ยสนั กาแพง 90
ตะคันดินเผำเคลอื บ
เตำสันกำแพง
หมายเหตุ : ภาพจากหนังสอื เครื่องปั้นดนิ เผา สานักพมิ พค์ ติ เพื่อใช้ประโยชนท์ างการศึกษา
91 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสันกาแพง
ไหขนำดเล็กเคลอื บสีนำ้ ตำล ภำชนะเคลือบสีน้ำตำล
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
ตกุ๊ ตำรูปสัตวเ์ คลอื บ ตุ๊กตำรปู สัตวเ์ คลือบ
เตำสันกำแพง เตำสันกำแพง
หมายเหตุ : ภาพจากหนังสือ เครอ่ื งปนั้ ดนิ เผา สานกั พมิ พค์ ติ เพือ่ ใช้ประโยชนท์ างการศึกษา
ประวัตศิ าสตรห์ ัตถกรรม นวตั กรรมเพอ่ื สบื สานเคร่อื งถว้ ยสนั กาแพง 92
มมุ มองของคน
ในท้องถน่ิ
93 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง
มุมมองของคนในทอ้ งถ่ิน
อำจำรยอ์ นนั ต์ พรหมลขิ ติ ศิลป์ สงั เกตไดจ้ ากชื่อสถานทที่ พี่ ่อเปน็ เจ้าของอยู่
คือ “สวนศิลป์เตาออนใต้ พ่อต้ังใจจะฟื้นฟูเตาเผา
ผกู้ อ่ ตัง้ สวนศิลป์เตาออนใต้ ให้ เห มือ น หรื อค ล้า ย กั บ เต าเ ผ าใ นโ บร า ณ
เมื่อ700-800 ปีก่อน ซ่ึงสมัยนั้นก็มีป้ันถ้วยขาย
ท่ัวอาณาจักร ซ่ึงเตาเผามีอยู่ในออนใต้มีประมาณ
300 กว่าเตาเผาเป็นจานวนที่เยอะมาก ๆ และมี
ช่วงระยะเวลาทาเคร่ืองป้ันดินเผาอยู่ 300 กว่าปี
เหมือนกัน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงพม่ามายึด
ครองลา้ นนาและตง้ั แตน่ ัน้ มาเครอื่ งถ้วยสันกาแพงก็
เป็นสมบัติที่ล้าค่ามาก ๆ เนื่องจากเคร่ืองถ้วยมี
ความโดดเด่นทางด้านศิลปะคือ การทาดินเผา
ก า ร ท า เ ค ร่ื อ ง เ ค ลื อ บ ก า ร เ ผ า เ ค รื่ อ ง ถ้ ว ย
และการเขียนลวดลาย แสดงถึงความสวยงาม
และความโดดเด่น
ซึ่งส่ิงเหล่าน้ีแสดงให้เห็นถึงความล้าค่าใน
เชิงวัฒนธรรมและศิลปะท่ีคนบรรพบุรุษท่ีทาไว้
และถ้าถามว่าทาไมมันถึงมาอยู่ท่ีออนใต้ เพราะ
แหล่งกาเนิดมันอยู่ท่ีออนใต้ พ่อก็เลยต้ังช่ือเตาว่า
“เตาออนใต้” เพ่ือที่จะมาฟื้นฟูที่มันหายไป จริง ๆ
พ่อสามารถฟ้ืนฟูมาได้บ้างแล้ว แต่ว่าในอนาคต
ต่อไปอยากท่ีจะมีพิพิธภัณฑ์เตาเผาของล้านนา
อยากท่ีรักษาและเพิ่มเติมให้มันครบองค์ประกอบ
ในท้องถ่ินของเรา ฉะนั้นเครื่องถ้วยสันกาแพงท่ีมี
การขุดแล้วไปจาหน่าย มีราคาค่อนข้างสูง และมี
อยู่ในพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งในเชียงใหม่ ซึ่งของที่
อยู่ตามท้องถิ่นกเ็ หลืออยู่ไม่มาก จึงมีการผลิตขึ้นมา
ใหม่เพ่ือที่จะอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้มาเห็น ได้มา
รู้จัก และต้องขอบคุณคณะครูและนักเรียนเยาชน
พลเมอื งท่มี าชว่ ยกันฟืน้ ฟเู ครอ่ื งถว้ ยสนั กาแพง
ประวัตศิ าสตรห์ ตั ถกรรม นวัตกรรมเพอ่ื สืบสานเครอ่ื งถว้ ยสนั กาแพง 94
ส่งิ ที่อยากจะฝากไวน้ กั เรียนเยาวชนพลเมอื งท่มี าชว่ ยกนั
ฟ้นื ฟเู ครื่องถว้ ยสันกาแพง
คือ “อยากให้เยาวชนหรือว่าคนรุ่นหลัง
ไม่ว่าจะเป็นคนในท้องถิ่นหรือไม่ ให้รับรู้ไว้ว่าที่
สันกาแพงน้ีโดยเฉพาะตาบลออนใต้ มีสิ่งท่ีล้าค่า
อยู่เรื่องของเตาเผา และอยากจะในรู้ว่าในอดีต
บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก
อยากจะให้กลับมาคิดว่าทาไมมันถึงหายไป ส่ิงที่
สาคัญที่สุดคืออยากจะให้ทุกคนได้รับรู้ว่ามันมีส่ิง
ทล่ี า้ คา่ อยใู่ นออนใต้”
95 โครงการเยาวชนพลเมอื งโรงเรยี นสนั กาแพง