The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พื้นฐานงานสำรวจ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nongpairat, 2022-11-22 09:49:33

พื้นฐานงานสำรวจ

พื้นฐานงานสำรวจ

ระดับฟองกลมและหวั หมดุ ใหม่ จนกว่าจดุ เป้าของที่มองหมุดใกลเ้ คยี งหัวตะปู หรอื ทีห่ มายบนหัวหมดุ แลว้ จงึ
เหยยี บขากลอ้ งให้แน่น

4) คลายควงยดึ กลอ้ งออกเลก็ น้อย ขยบั เลอื่ นกล้องพร้อมกับมองผ่านท่ีมองหมุด จนกระทั่งจุด
เปา้ ของท่มี องหมุดตรงกับหัวตะปูหรอื ท่หี มายบนหวั หมุด แล้วจงึ ขนั ควงยดึ กล้องใหแ้ นน่

5) ตง้ั ระดบั ฟองยาว จนฟองระดบั อยู่ก่งึ กลางหลอดระดบั ทุกตำแหน่งทีห่ มุนกล้อง
6) มองผา่ นทีม่ องหมุดเพ่ือตรวจสอบวา่ จดุ เปา้ ของทม่ี องหมดุ ยงั คงตรงกบั หัวตะปูหรอื ที่หมาย
หมุดหรือไม่ ถ้าตรงแสดงว่ากล้องตรงหมุดและกล้องไดร้ ะดับแล้วพร้อมทจ่ี ะใช้งานต่อไป
ถ้าจดุ เปา้ ไมต่ รงกบั หัวตะปูหรือทห่ี มายหัวหมุดใหค้ ลายควงยดึ กล้อง ตามข้อ4) จนจุดเปา้ หมายของทีม่ องหมดุ
ตรงกับหวั ตะปูหรือท่ีหมายบนหัวหมุดแล้ว จึงหันควงยึดกล้องให้แนน่ จากนั้นตง้ั ระดับฟองยาวแล้วตรวจสอบใหม่
ตามข้อ 5) และ 6) จนกระทงั้ จดุ เปา้ ของที่มองหมดุ ตรงกบั หวั ตะปูหรือทีห่ มายบนหัวหมุดและกล้องได้ระดับ
การฝึกต้งั กลอ้ งให้ตรงหมดุ น้ี คร้งั แรกจะทำได้ลำบากและใชเ้ วลามาก จะต้องฝึกฝนให้มากเพ่ือเกิดความ
ชำนาญ จนสามารถทำไดใ้ นเวลาอนั รวดเร็ว

3.9 การเลง็ ท่ีหมาย (Sighting)
การเลง็ ท่หี มาย หมายถึง การสอ่ งกล้องใหต้ รงกับตำแหน่งท่ีต้องการเพื่อทำการวดั ค่ามุมหรือเพ่ือหาคา่ อืน่

ใด ในการสอ่ งวดั มุมราบนิยมใชส้ ามขาท้งิ ดงิ่ ให้ตรงกบั หมดุ ท่ีต้องการวัดค่ามุม และเวลาวัดมมุ ใช้สอ่ งท่ีสายดิง่ การ
เล็งท่หี มายจะทำเมื่อตงั้ กลอ้ งตรงหมุดและต้ังระดับกล้องเรียบร้อยแลว้ มขี ั้นตอนดงั น้ี

3.9.1 ตรวจสอบและคลายควงบงั คับทัง้ ทางราบและทางดิ่ง หมุนกลอ้ งส่องไปยังทีโ่ ลง่ หมุนควงปรบั เลนส์
ชอ่ งตามอง จนกระทั่งมองเห็นสายใยของกล้องคมชัดท่ีสดุ

3.9.2 หมนุ กล้องส่องทีห่ มายโดยใช้หมายเล็งของกล้องแบบเลง็ ปืน เมื่อตรงที่หมายแล้วให้ล็อคกล้องไว้
โดยหมนุ ควงบังคบทางราบและบงั คับทางดิ่ง ขณะน้ีกล้องไมส่ ามารถหมนุ หรือกระดกไดโ้ ดยอสิ ระ หากเผลอไป
หมนุ หรือกระดกกล้อง เกลยี วของควงบังคับหรือส่วนประกอบอื่นอาจชำรดุ เสียหาย ตอ่ ไปจะลอ็ คกล้องไม่ได้

3.9.3 หมนุ โฟกัสปรบั ระยะชดั เพอ่ื ให้มองเหน็ ภาพของท่หี มายชัดเจนทีส่ ุด
3.9.4 หมนุ ควงสมั ผสั ทางราบและควงสมั ผสั ทางดงิ่ เพ่ือสา่ ยกล้องใหจ้ ดุ ตัดของสายใยทับกงึ่ กลางทีห่ มาย
ในการวดั มมุ ราบจะใช้สานใยดงิ่ เป็นหลกั และในการวัดมุมด่ิงจะใชส้ ายใยราบเป็นหลัก
3.9.5 ตรวจสอบและจำกดั ภาพเหล่อื ม (Parallax) ภาพเหล่ือมเกิดข้ึนเน่ืองจากภาพของสายใยกล้อง และ
ภาพของท่ีหมายถึงความชัดเจนไมเ่ ท่ากนั การตรวจสอบทำได้โดยการส่ายศรี ษะซา้ ย-ขวา หรอื ผงกศีรษะขน้ึ -ลงใน
ขณะทีต่ ามองหมายผ่านตัวกล้อง ถ้ามีเหลอ่ื มสายใยกล้องกับทห่ี มายจะทับกนั ไม่สนิท หรือเคล่อื นท่ีสวนทางกนั
เชน่ การส่องสายด่งิ สายดงิ่ ของกล้องกับสายดงิ่ ไม่ทับกันสนิท หรือเคลือ่ นทส่ี วนทางกนั การกำจดั ภาพเหลื่อมทำได้
โดยการหมุนปรบั เลนสช์ ่องตามอง และหมนุ ควงปรับระยะชัด จนกระทง่ั เหน็ ภาพของสายใยกลอ้ งและภาพของที่

หมายคมชดั ที่สุด และขณะที่ส่ายศรี ษะภาพของสายใยกล้องและภาพท่ีหมายอย่นู งิ่ หรอื เคลอื่ นท่ีไปทางเดียวกันจะ
ซ้อนกันสนทิ

3.10 การดแู ลรกั ษากล้องวัดมมุ
กล้องวดั มุมเป็นเคร่ืองมือที่มีราคาแพง ให้ความละเอียดถูกต้องในการปฏบิ ตั ิงานสูงแตเ่ ป็นเครื่องมือที่ค่อนข้าง

บอบบาง อาจเกิดการชำรุดเสยี หาย และเกิดความคลาดเคลือ่ นของส่วนประกอบต่างๆได้ง่าย ในการใช้งานจึงต้อง
มกี ารดูแลรักษาทดี่ ี จะทำใหก้ ล้องมีอายุใช้งานยืนนานและปราศจากความคลาดเคล่ือน การดูแลรักษากล้องวัดมุม
มแี นวปฏบิ ตั ดิ ังน้ี

1. การตั้งขากล้องจะต้องเหยียบขาให้แน่น เพื่อป้องกันการลื่นไถลขณะใช้งาน ถ้าขากล้องที่ใช้เป็นแบบ
เลอื่ นเข้า-ออก จะตอ้ งขนั ควงยดึ ขาใหแ้ นน่ พอ

2. การติดต้ังกล้องบนขากล้อง จะต้องขันควงยดึ ขากล้องใหแ้ นน่
3. การตั้งกล้อง พยายามหาที่ตั้งให้ห่างสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อกล้อง เช่นหลีกเลี่ยงการตั้งกล้องบนทาง
เท้าทม่ี ีคนเดินผ่านเป็นจำนวนมาก บนถนนที่มกี ารจราจรหนาแน่น
4. อยา่ ปลอ่ ยกล้องทิง้ ไว้โดยไม่มีคนเฝ้า
5. ขณะปฏิบัติงานใช้กล้องจะต้องการร่มบังแดดให้กล้อง เพราะถ้าตัวกล้องร้อนอาจจะเกิดความ
คลาดเคลื่อนได้
6. ไม่ใช้กล้องขณะที่ฝนตก ถ้าหากเก็บกล้องไม่ทันให้ใช้ถุงคลุมแล้วนำเข้าที่ร่ม ถ้ากล้องถูกน้ำหรือมี
ความชนื้ จะทำให้เกดิ เชื้อรา กล้องอาจเสยี หายได้
7. ขณะส่งกล้องอย่าจับต้องสว่ นที่ไม่ได้ใช้ และระวังอย่าโดนขากล้องเพราะอาจทำให้กล้องเคลือ่ นตัว ทำ
ใหเ้ สียเวลาในการตงั้ กล้องและส่องวัดใหม่
8. ไม่ควรใหผ้ ้ทู ีไ่ ม่เกี่ยวขอ้ ง จับต้องหรอื หมุนกลอ้ งเล่น เพราะอาจทำให้กลอ้ งชำรดุ เสียหายได้
9. หลีกเลี่ยงการตั้งกล้องในที่ฝุ่นมาก ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้และต้องตั้งกล้องเป็นเวลานาน ให้ใช้ถุงพลาสติก
คลุมกลอ้ งไว้ในขณะท่ีไม่ใช้
10. ถ้ามีฝุ่นจับที่เลนส์ให้ใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่นออกให้หมด แล้วใช้ผ้าที่อ่อนนุ่มลูบเบาๆ ถ้าจำเป็นให้ใช้
ปากอังใหเ้ ลนส์มคี วามช้นื กอ่ น
11. การขนย้ายกล้องระหว่างปฏิบัติงาน ให้คลายควงบังคับกล้องแล้วรวบขา แบกกล้องขึ้นบ่าโดยให้ตัว
กลอ้ งอยดู่ ้านหนา้ ใช้แขนข้างหนึ่งจับตวั กลอ้ งไว้ด้วย
12. การขนย้ายกล้องเป็นระยะทางไกล ให้ใส่กล่องแล้วหิ้วไป ถ้าขนย้ายทางรถยนต์ ให้วางกล้องไว้บน
เบาะหรอื ตัก ควรตรวจดสู ายห้ิวและขอ้ ต่อต่าง ๆ วา่ ชำรุดหรอื ไม่ เพราะอาจเกดิ อบุ ัตเิ หตกุ ลอ้ งตกได้

13. เมื่อปฏิบัตงิ านเสร็จแลว้ ใหเ้ อาแปรงขนออ่ นปดั ฝุ่นออกจาตวั กล้องใหห้ มด เอาตัวกลอ้ งวางไว้จนคลาย
ความรอ้ นแล้วจึงใสก่ ล่อง

14. การเก็บกลอ้ งในสำนักงานควรเกบ็ ในตโู้ ดยปิดฝากล่องใส่กล้องไว้ด้วย

3.11 การวดั มมุ ราบ
การวัดมุมราบด้วยกลอ้ งวัดมุมมีหลายวธิ ขี ึ้นกับลักษณะของงาน และความละเอียดทีต่ ้องการ เช่น การวดั

มมุ ราบแบบวัดทิศทาง (Direction Method) การวดั มมุ ทบ (Repetition Method) การวดั ภาคของทิศ (Azimuth
Method) และวัดมมุ เห (Deflection Angle) เป็นตน้ ในทีน่ ้ี จะกลา่ วเฉพาะการวัดมมุ ราบแบบวัดทิศทาง และการ
วัดภาคของทิศ เพอ่ื เป็นพ้ืนฐาน ในการศกึ ษาและปฏิบตั งิ านต่อไป

การวัดมุมราบทั่วไปนิยมวัดด้วยกล้องทั้งหน้าซ้ายและหน้าขวา ซึ่งจะได้ ค่ามุมที่ถูกต้อง ดีกว่ากล้องเพียง
หน้าเดียว ทั้งยังเป็นการตรวจสอบความผิดพลาดในการวัดมุม ภายในตัว เพราะค่ามุมที่ได้ จากการวัดด้วยกล้อง
หน้ าซ้ายและหน้าขวา ควรใกล เคียงกัน ถ้าค่าแตกต่าง กันแสดงให้เห็นได้ว่า มีความคลาดเคลื่อนในการวัดมุม
จะต้องทำการวดั ใหม่

3.1.1 การวดั มุมราบแบบ วัดทิศทาง

รูปภาพ แสดงการวดั มุมราบ

ต้องการวดั มุม AOB สมมุตคิ า่ ประมาณ 50’45’40’’ มขี นั้ ตอน การวัดมมุ ดังนี้
1. ตงั้ กลอ้ งวัดมมุ ให ตรงหมุด O และต้ังระดบั กล้อง ต้งั สามขาแขวนด่ิงให้ตรงหมดุ A และห มดุ B
2. เริ่มต้นวัดมุม ด้วยการใช้กล้องหน้าซ้ายส่องที่หมาย A อ่านค่าจานองศาราบเป็นกล้องหน้าซ้ายครั้ง

ที่ 1 หรือ L1 การเริ่มส่องที่หมุด A นี้อาจตั้งค่า 00 ไว้ ที่หมุด A ด้วยก็ ได้ ถ้าตั้งค่า 00 ไว้ที่หมุด A จะช่วยให้
การคํานวณหรือการตรวจสอบค่าททำได้ สะดวกขึ้น ตามตัวอย่างนี้เริ่มตนด้วยการตั้งค่า 00 ไว้ที่มุด A ดั้งนั้นค่า
L1 = 00’00’ 00’’

3. หมุนกล้องส่องที่หมาย B กล้องยังคงเป็นหน้าซ้าย อ่านค่าจานองศาราบสมมุตอ่านค่าได้
L2 = 50’45’20’’

4. กลบั กล้องเป็นหน้าขวาหมนุ กลอ้ งส่องทห่ี มาย A อ่านค่าจานองศาราบสมมุตอา่ นคา่ ได้

R1 = 179’59’00’’

5. หมนุ กล้องส่องทหี่ มาย B กล้องยงั คงเป็นหนา้ ขวา อ่านค่าจานองศาราบจะไดค้ า่ R2 สมมตุ ิ

R2 = 230’45’00’’

6. คํานวณค่ามุมราบซึ่งจะได้ ค่ามุมจากกล้องหน้าซ้าย 1 ค่าและจากกล้องหน้าขวาอีก 1 ค่า นำมาเฉลี่ย

กันจะเป็นค่ามมุ ราบทต่ี ้องการ

1 = L2 – 1

= (50’45’20 - 00’00’00 ) = 50’45’20’’

2 = R2 – R1

= (230’45’00’ - 179’59’00’’ ) = 50’46’00’’

= 50’46’00’’ - 50’45’20

คา่ มุมทต่ี ้องการ = 50’45’40

ในการคํานวณค่ามุมจะต้องเอาค่า L2 หรือ R2 เป็นตัวตั้งเสมอถ้าค า L2 หรือ R1 น้อยกว่าค่า L1

หรอื R1 ให เอา 360 บวกเขา้ กับคา่ L2 หรือ R2 กอ่ นแลว้ จึงนาํ L1 หรือ R1 ไปลบ

อกี นงึ่ คา่ มมุ ท่วี ัดไดโ้ ดย ปรกตจิ ะเปน็ มุมทน่ี ับจากท่หี มายเล็งค รั้งแรก (หมดุ A) เวยี นตามเขม็ นาฬกิ าจน ถึงท่ี

หมายเลง็ ครงั้ ที่สอง (หมุดB)

7. การจดสมดุ สาม ในการวัดมุมราบจะตองมีการจดค่าต่าง ๆ อย่างเปน็ ระบบ ใหถ้ ูกตอ้ งและเป็นระเบียบ

มิฉะนน้ั ถา้ ทำกาวดั มมุ ราบจำนวนมากอาจทำใหส้ ับสนและเกดิ ความผดิ พลาด

ตวั อย่างการจดสมดุ สนามและการคาํ นวณคา่ มมุ มมุ ราบ

ท่ี ทีห่ มาย ค่าที่อ่านได้ มมุ ราบ หมายเหตุ
0’”
ตง้ั กล้อง เล็ง L/R 0 ’ ”
00 50 45 20
A L1 0 00 20
00 50 46 00
O B L 2 50 45 00 50 45 40
A R1 179 59

B R2 230 45

มมุ ราบเฉล่ีย

3.12 การวัดมุมดงิ่
มมุ ดงิ่ (Vertical Angle) คือ คา่ มุมท่ีอยู่ในพน้ื ด่ิง Vertical Plane) โดยนับเนอื่ งจากเสน้ ราบ จึงมีทัง้ มุม

เงย (Elevation Angle) และมุมกม้ (Depression Angle)

ตามปกติแลว้ จานองศาด่ิงของกล้องวดั มมุ แบบธีโอดูดไลท์จะอ่านได้ 00° เมือ่ เลนส์ปากกล้องชีขึ้นด้านบน
ในแนวดิ่ง จะอ่านได้ 90° เมื่อกล้องอย ในแนวราบและเป็นกล้องหน้าซ้าย ถ้ากล้องชี้ลงดานล่างในแนวดิ่งค่าของ
จานองศาดิ่งจะอา่ นได้ 180° เมื่อกล้องเปน็ หน้าขวาและอยู่ในแนวราบ ค่าของจาน องศาดิ่งจะเป็น 270° ดังน้ัน
เมอื่ ทำการวดั มมุ ด่ิง อา่ นคา่ จานองศาดิ่งจากกล้องแลว้ จะตอ้ งนํามาคํานวณหามุมดิ่ง

รูปภาพ แสดงการคาํ นวณคา่ มุมดง่ิ

1. ต้งั กล้องให้ตรงหมดุ และตั้งระดับกล้องให้เรียบร้อย

2 ใช้กลอ้ งหนชยั สอ่ งท่จี ุด A อ่านคา่ มมุ ดง่ิ ไดค้ ่า L = 60°00’00’’

3. กลบั กลอ้ งเป็นกลอ้ งหนขวาสอ่ งทีจ่ ดุ A (ต้องเป็นตำแหน่งเตียวกับท่ีสอ่ งด้วยกล้องหน้าซา้ ยในตอนแรก)

อา่ นคม่ ุมดิง่ ไดค้ า่ R = 300°00’10’’

4. คำนวณหาคมุมดงิ่ ทีต่ ้องการ ดงั นี้

กล้องหนา้ ซ้าย มมุ ด่ิง Vertical Angle L = ( 90°00’00’’ - คา่ มุมทอ่ี ่านได้ )

กล้องหนา้ ขวา มุมดิ่ง Vertical Angle R = ( ค่ามุมที่อ่านได้ - 270°00’00’’ )

ท่ี ทีห่ มาย คา่ ท่อี ่านได้ มมุ ดิ่ง หมายเหตุ

ต้งั กล้อง เลง็ L/R 0 ’ ” + 0 ’ ”

O A L 60 00 00 + 30 00 00
A R 300 00 10 + 30 00 10

มุมราบเฉล่ีย + 30 00 05

ตวั อยา่ งการคำนวณคา่ มุมดิง่ = 90°00’00’’ – 60°00’00’’ = 30°00’00’’
กลอ้ งหนา้ ซ้าย L = 300°00’00’’ – 270°00’00’’ = 30°00’10’’
กล้องหน้าขวา R = 30°00’05’’
คา่ มุมดง่ิ เฉลีย่

3.13 การวางแนวทางเส้นตรง
การวางแนวเส้นตรงด้วยกล้องวัดมุม หมายถึง การวางแนวศูนย์กลางการก่อสร้าง ถนนคลอง ทางรถไฟ

แนวท่อ สายสง่ ศกั ดสิ์ ูง ฯลฯ โดยใช้กลอ้ งวัดมมุ เป็นเคร่ืองมอื สว่ นใหญ่มักจะเป็นแนวเส้นตรงทย่ี าว ๆ จึงต้องมีการ
ตอ่ เส้นตรง จากเส้นตรงที่กำหนดให้ โดยสามารถต่อเสน้ ตรงดงั กลา่ วให้มีความยาวตามทต่ี อ้ งการได้ 2 วธิ ดี ังนี้

3.13.1 วิธสี อ่ งหน้าเดียว (Single Centering) ทำได้ 2 แบบ คอื
วธิ สี ่องหน้า

จากรูปภาพ สมมติว่า AB คือเส้นตรงที่กำหนดให้ ต้องการต่อเส้นตรงดังกล่าวออกไปถึงจุด E ทำได้โดย
นำกล้องท่ีต้ังท่จี ดุ A ส่องไปท่จี ดุ B ปิดควงบงั คับทางราบไว้ กระดกกล้องขน้ึ ใหม้ องเลยจุด B ไป สมมติว่ายงั คงเห็น
ไดช้ ดั เจนทส่ี ุด C กำหนดจดุ C ตามเส้นแนวเล็ง ยา้ ยกล้องมาตั้งทจ่ี ดุ B สอ่ งไปยงั จดุ C แลว้ กระดกกล้องข้ึนขณะท่ี
กล่องยังอยู่ในแนว BC สมมติว่าเห็นได้ชัดถึงจุด D กำหนดจุด D ขึ้น แล้วย้ายกล้องเดินหน้าไปเรื่อย ๆ จนกระท่ัง
สามารถไดร้ ะยะทางตามตอ้ งการ
วธิ ีส่องหลัง

วธิ นี ี้สามารถต่อเสน้ ตรงไดย้ าวขน้ึ กว่าวิธสี ่องหน้า ในการต้ังกล่องแตล่ ะครง้ั ซ่ึงทำไดด้ งั นี้

จากรูปภาพ สมมติวา่ AB เป็นเส้นตรงท่ีตอ้ งการต่อแนวยาวออกไป นำกล้องวัดมุมตั้งท่ีจุด B ส่องไปท่ีจุด A
ปดิ ควงบังคบั ทางราบและเปดิ ควงบังคับทางดิ่ง (ตวั กล้องกระดกข้ึนลงในแนวดิ่งได้) กระดกกล้องกลับ ส่องไปที่จุด
C หากกล้องสมบูรณ์ แกนดิ่งจะได้ดิ่งและแกนราบตั้งฉากกับแกนดิ่ง แนวเล็งก็จะตรงกับ AB พอดี แต่หากแกน
กล้องหมุนแล้วไม่อยู่ในระนาบเส้นแนวเล็งก็ผิดไปจากแนว AB กำหนดจุดไว้ แล้วย้ายกล้องมาตั้งที่จุด C ส่อง
กลบั ไปที่ B กระดกกล้องกลับส่องไปทจี่ ุด D แล้วย้ายกล้องไปข้างหน้าอีก (ท่ีจดุ D) ทำในลกั ษณะเดิมจนกว่าจะได้
ระยะตามต้องการ
วธิ สี ่องสองหนา้ (Double Centering)

จากรูปภาพให้ AB เป็นสน้ ตรงที่มีอย่เู ดิม ตอ้ งการต่อไปถึงจดุ E ตงั้ กลอ้ งท่จี ดุ B สอ่ งไปท่ีจุด A ด้วยกล้อง
หน้าซ้าย กระดกกล้องกลับ ทำเหมือนวิธีที่ 2 สมมติว่าได้ C’ แล้วหมุนกลับตามแนวนอน (รอบแกนดิ่ง) มาส่องที่

จุด A อีกครั้งด้วยกล้องหน้าขวา กระดกกล้องกลับไปส่องที่ จุด C สมมติได้ C’ กำหนดจุด C โดยให้ระยะ CC’ =
CC’ หากทำการรังวัดด้วยความระมัดระวัง ค่าความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการส่องกล้องหน้าซ้ายและหน้าขวา
ย่อมมีขนาดเท่ากัน ที่ระยะทางเท่ากัน แต่จะเป็นไปคนละข้าง ดังนั้น หากแบ่งครึ่ง C’C’ ก็จะได้จุด C ซึ่งจะทำให้
BC เป็นเส้นตรงเดียวกันกับ AB ย้ายกล้องมาตั้งที่จุด C ทำในลักษณะเดิม จะได้จุด D และจุด E ตามลำดับ
ความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้โดยทั่วไปของระยะ C’C’ และ D’D’ … .ในระยะ 400 ม. ห่างกันได้ไม่เกิน 3 ซม. ถ้า
ห่างกันเกินกวา่ น้ี ให้ตรวจสอบการทำใหมห่ รือทำการปรบั แกก้ ลอ้ งใหม่

วธิ ีนี้มักจะใชเ้ มอื่ ตอ้ งการความละเอียดสงู เพราะตอ้ งใชเ้ วลาในการวดั มมุ และกำหนดจดุ มากกวา่ วธิ ีแรก

3.14 วิธอี อกฉาก

จาก
รปู ภาพ สมมตวิ าต องการต้องเสน้ ตรง AB ออกไปถึง F มอี าคารขวางอยู่ นำกลอ้ งมาตง้ั ที่ จดุ B สองไป ทจ่ี ุด A ตั้ง
ค่าจานองศารอบ 0 แล้วหมุนกล้องตามเข็มนาฬิกา จนอ่านค่าจานองศาราบได้ เท่ากับ 90 (แนวเล็งจะตั้งฉากกัน
AB) กำหนดจดุ C ตาม แนวเล็งโดยให้ จุด C พน้ จากสง่ิ กีด ขวาง วดั ระยะแลว้ ยา้ ยกล้องมาต้ังทจ่ี ดุ C ส่องกล องไป
ท่จี ดุ B ต้งั คา่ จานองศา ราบ 0 แลว้ เบนทำมุม ฉากกบั แนว CB (แนว C D) กำหนดจดุ D ตามแนวเลง็ โดยให้ CD พ
นสิ่งกีด ขวางแล้ววัดระยะแล้วย้ายกล องไปตั้งที่จุด D แ ะจุด E โดย ทำเหมือนกับที่ตั้งจุด B และจุด C และให
ระยะ DE = BC

ดังนน้ั จุด E กจ็ ะอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันกับ AB และเมอื่ ตง้ั กล้องที่ E สอ่ งไปจดุ D แลว้ ทำมุมเวียนขวา
90° แนวเล็งก็จะต้องเป็นแนวเดียวกับ AB และสามารถต่อได้ ถึงจุด F ตามต องการระยะที่ วัดไม่ได้ คือ BE ก็จะ
ไดเ้ ท่ากับ CD

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ ใบสง่ั งาน

สาขา : ช่างกอ่ สรา้ ง รหัสวชิ า 30106 – 0003 สปั ดาห์ท่ี 1
ชื่อวชิ า : พ้ืนฐานการสำรวจ
งาน : หลักการเบื้องต้นของการสำรวจ

การปฏิบตั กิ ารสปั ดาห์ที่ 1

คำส่งั
1. วาดรูปเครือ่ งมอื ในงานสำรวจ
2. เขียนชื่อและหนา้ ที่ของเครือ่ งมือ

เครอ่ื งมือและอุปกรณ์
1. สมุดงาน
3. ปากกา
4. เคร่อื งมือในงานสำรวจ

ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
1. วาดภาพเครือ่ งมือหน้าชนั้ เรียน
2. ทำการระบุช่อื อปุ กรณ์และหนา้ ทข่ี องอุปกรณ์
3. จัดเกบ็ อปุ กรณ์
4. ทำแบบทดสอบประจำสัปดาห์



แผนการจัดการเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ ใบสง่ั งาน

สาขา : ชา่ งก่อสร้าง รหัสวิชา 30106 – 0003 สัปดาหท์ ่ี 2
ชอื่ วิชา : พน้ื ฐานการสำรวจ
งาน : มาตราสว่ นแผนที่

การปฏบิ ตั ิการสปั ดาห์ท่ี 2

คำสงั่
1. หามาตราส่วนตามทกี่ ำหนด
2. แปลงมาตราส่วนตามท่ีกำหนด

เคร่อื งมอื และอุปกรณ์
1. กระดาษ A4
2. เครื่องคำนวณ
3. แผนที่

ขนั้ ตอนการปฏบิ ัติงาน
1. เลือกใชม้ าตราส่วน
2. หามาตราส่วน
3. ทำแบบทดสอบประจำสปั ดาห์



แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ ใบสง่ั งาน

สาขา : ช่างกอ่ สร้าง รหสั วิชา 30106 – 0003 สัปดาหท์ ี่ 3
ชอื่ วิชา : พน้ื ฐานการสำรวจ
งาน : การนบั ระยะก้าว

การปฏบิ ตั กิ ารสปั ดาหท์ ี่ 3

เครื่องมอื และอุปกรณ์ 1 มว้ น
1. เทปวัดระยะ 2 อัน
2. โพน ( หลักเล็งแนว ) 2 อนั
3. Pin ( หว่ งคะแนน )

วัตถุประสงค์
1. เพอ่ื หาความยาวช่วงกา้ วของแต่ละบุคคลท่ีทำงานสำรวจ
2. เพอื่ นำระยะช่วงก้าวท่ีได้ไปใช้ในการประมาณระยะทางในการทำงานสำรวจ

ข้นั ตอนการปฏิบตั ิงาน
1. หาแนวทางทีเ่ หมาะสมในการเดิน โดยมีระยะทางประมาณ 50 เมตร เปน็ แนวตรงและไม่มสี ่ิงขีดขวาง
2. ทำการกำหนดจุดเรมิ่ ต้น ทำการวดั ระยะโดยเทปวัดระยะจากจดุ ที่กำหนดออกไป 20 เมตร และ 50

เมตร
3. เม่อื ไดจ้ ดุ ท่รี ะยะท้ัง 2 แล้ว กำหนดแนวระยะนน้ั ไว้
4. เริ่มหาระยะชว่ งก้าวโดยการเดินจากจุดเรมิ่ ต้นไปยังจุดส้ินสดุ ระยะทาง ทำไป – กลับ จำนวน 3 คร้งั
5. หาคา่ รวมจำนวนก้าวของท้ัง ขาไป - ขากลบั และนำมาเฉลย่ี ค่า
6. นำคา่ เฉลย่ี จำนวนก้าวไปหาความยาวของกา้ วเดิน

ข้อควรระวงั
1. การเดนิ ควรกา้ วเปน็ ปกติ
2. การนับกา้ วต้องเป็นแนวตรงและไมม่ ีสิ่งขีดขวาง
3. เทปวัดระยะ ต้องดงึ เป็นแนวตรงไม่หย่อยหรือบดิ เป็นเกลยี ว



แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ ใบส่ังงาน

สาขา : ช่างกอ่ สรา้ ง รหัสวิชา 30106 – 0003 สัปดาหท์ ่ี 4
ช่ือวชิ า : พ้ืนฐานการสำรวจ
งาน : การวัดระยะดว้ ยโซ่ - เทป

การปฏบิ ตั ิการสปั ดาห์ที่ 4

เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ 1 ม้วน
1. เทปวดั ระยะ 2 อัน
2. โพน ( หลักเล็งแนว ) 2 อัน
3. Pin ( ห่วงคะแนน )
4. สหี รือชอลก์

วตั ถุประสงค์
1. เพื่อต้องการให้ใช้เครื่องมือในการวดั ระยะให้เกิดความชำนาญ
2. เพอ่ื นำระยะทีว่ ัดด้วยโซ่ - เทป ไปใชเ้ ปน็ ข้อมูลระยะทางในการทำงานสำรวจ

ขน้ั ตอนการปฏิบัติงาน
1. ใช้หลักเลง็ แนวไปปักที่หวั หมุดและท้ายหมดุ ทีร่ ะยะทางทท่ี ำการวัดระยะไว้
2. ให้คนเล็งแนวอยทู่ จ่ี ุดเริ่มต้นและยืนหา่ งจากหลกั เล็งแนวอย่างน้อยประมาร 0.50 เมตร ถา้ ยืนใกล้การ

เลง็ แนวอาจตลาดเคล่ือน
3. ทำการล่อแนวเล็ง เพื่อหาตำแหน่งทอี่ ยู่แนวแนวเสน้ ตรง โดยใหถ้ อื หว่ งคะแนนลอ่ แนวของระยะทางท่ี

ทำการวัด

ขน้ั ตอนการปฏิบัตงิ าน ( ต่อ )
4. ให้คนเลง็ ดูแนวห่วงคะแนนอยู่ในแนวเส้นตรงกับหลกั เล็งทีป่ ักไว้ ณจุดหวั และทา้ ยของหมดุ
5. คนเลง็ แนวใหส้ ัญญาณมือในการขยบั ห่วงคะแนน ถา้ เป็นพืน้ ทค่ี อนกรตี ใหท้ ำเครือ่ งหมายกำกับไว้
6. ดงึ โซ่ - เทป วดั ระยะใหต้ ึง และให้โซ่ - เทปผ่านหว่ งคะแนนหรอื เครอ่ื งหมายท่ีกำกับไว้ แล้วจดคา่

ระยะทางลงในตาราง
7. เม่อื ตอ้ งการวัดช่วงตอ่ อาจใช้หลักเลง็ แนวเดมิ หรอื ใชห้ ว่ งคะแนนเป็นจดุ เลง็ แนว หรอื กำหนดหลกั เลง็ ปัก

ขนึ้ ใหม่ก็ได้
8. ทำการวดั ระยะต่อเนื่องไปจนถึงจุดสดุ ทา้ ย แลว้ มรวมระยะทางเขา้ ด้วยกันจะไดร้ ะยะทีต่ อ้ งการ

ขอ้ ควรระวัง
1. ขณะเล็งแนวยืนห่างจากไม้เล็งประมาณ 0.50 เมตร
2. โซ่- เทปตอ้ งดึงเปน็ แนวตรงไมห่ ย่อยหรอื บิดเกลยี ว
3. ในขณะทวี่ ัดระยะ ตอ้ งให้ โซ - เทป ผ่านห่วงคะแนนหรือเครอ่ื งหมายทก่ี ำกับไว้
4. ควรใช้ โซ่ - เทปวดั ระยะชุดเดยี วตลอดทงั้ งาน
5. ในกรณีพน้ื ทล่ี าดเอียง ใหย้ กโซ่ - เทป ด้านใดดา้ นหน่งึ ข้ึน เพอื่ ให้เป็นแนวราบ



แผนการจดั การเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ ใบสั่งงาน

สาขา : ช่างก่อสรา้ ง รหัสวิชา 30106 – 0003 สปั ดาห์ท่ี 5
ชอ่ื วชิ า : พนื้ ฐานการสำรวจ
งาน : การเก็บรายละเอียดดว้ ยวิธสี ะกัด

การปฏบิ ัติการสัปดาห์ท่ี 5

เครื่องมอื และอุปกรณ์ 1 ม้วน
1. เทปวดั ระยะ 2 อนั
2. โพน ( หลักเล็งแนว ) 2 อัน
3. พนิ ( หว่ งคะแนน )
4. สหี รอื ชอลก์ 1 อนั
5. วงเวียน 1 อนั
6. ไมบ้ รรทัด

วตั ถุประสงค์
1. เพื่อสำรวจและทำแผนที่แผ่นราบ โดยใช้กับการสำรวจพื้นที่ขนาดเล็ก ภูมิประเทศเป็นที่ราบโล่ง มีสิ่ง

ขีดขวางเพยี งเล็กนอ้ ย โดยวิธีระยะสกัด
2. เพ่อื ใหเ้ กิดความชำนาญในการใช้เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ในงานสำรวจ

ข้ันตอนการปฏิบตั ิงาน
1. สมมติ AB เป็นเส้นฐานมีความยาว 50 เมตร โดยกำหนดเส้นฐานให้อยู่ก่ึงกลางของแนวเส้นทางซึ่งต้อง

เกบ็ รายละเอียด ของต้นไม้ เสาไฟฟา้ อาคาร ตามแนวสองขา้ งทางของเสน้ ฐาน
2. แบ่งเส้น AB ออกเป็นช่วงๆ ช่วงละ 10 เมตร ตามความยาวของเส้นฐาน เพื่อทำหมุดอ้างอิงสำหรับทำ

การโยงเก็บรายละเอียด
3. ทำการเก็บรายละเอียดโดยเป้าหมายจะต้องลากเส้นจากจุดอ้างอิงอย่างน้อย 2 จุด ตัดกันจึงจะได้หมุด

เปา้ หมาย 1 จดุ
4. ตัวอย่าง
เมอ่ื ตอ้ งการเกบ็ รายละเอยี ดของเสาไฟฟ้า ทจ่ี ดุ P ทำได้โดยการวัดระยะจากจุด A ไปยังเสาไฟที่จุด P ให้วัด

บริเวณจุดกึ่งกลางของเสาไฟฟ้า แล้วทำการวัดระยะจากจุด B ไปยังเสาไฟฟ้า ที่จุด P หากถ้าระยะ B ไปยังเสา

ไฟฟา้ ไกลเกนิ ไปอาจจะใช้วัดระยะจากจุดอ้างอิงที่ใกล้ทส่ี ุด ไปยังเสาไฟฟ้าทีจ่ ุด P แทน สว่ นรายละเอียดอื่นๆ ก็
ทำเหมือนกัน

5. จากนนั้ นำข้อมูลไปลงหมายเพอ่ื ทำแผนท่ีต่อไป

การขึน้ รูปแผนท่ี Plotting
1. พิจารณาข้อมูลของรปู แผนที่ท่ีจะเขียนจากมสุดสนาม ( พิจารณารูปภาพ การจดสมุดสนามด้วยวิธีสกัด )

เพือ่ กำหนดขัน้ ตอนและการวางรูปทจ่ี ะเขียนบนกระดาษ
2. กำหนดมาตราส่วนที่จะใช้ ให้ใช้มาตราส่วน 1 : 500 โดยพิจารณาข้อกำหนดของหน่วยงานชนดิ ของงาน

และอนื่ ๆ ตามความเหมาะสม
3. ลากเส้นลงบนกระดาษ ให้มีทิศทางและตำแหน่งที่เหมาะสม ที่มีความยาวตามระยะและมาตราส่วนท่ี

กำหนด
4. ใช้จุดบนเส้นฐานเป็นจุดอ้างอิง ( เป็นจุดศูนย์กลาง ) เพื่อใช้วงเวียนกำหนดควมายาวของระยะสกัดตาม

ตัวอย่างที่กำหนด ให้ใช้มาตราส่วน 1 : 500 ลากเส้นฐาน AB ควมายาว 50 เมตร หรือ 10 เซนติเมตร บนต้น
รา่ งที่ข้นึ รูปตำแหนง่ เสาไฟฟา้ ทจี่ ุด P

5. ใช้จดุ A เปน็ จุดศูนย์กลาง กางวงเวยี นรสั มี 25 เมตร หรอื 5 เซนติเมตร ขดี สว่ นโค้งของวงกลมไว้
6. ใช้จุด B เปน็ จดุ ศนู ยก์ ลาง กางวงเวยี นรสั มี 30 เมตร หรือ 6 เซนตเิ มตร ขีดสว่ นโคง้ ของวงกลมไว้
7. จุดตัดของส่วนโค้งทั้ง 2 จะเป็นตำแหน่งของเสาไฟฟ้าที่จุด P เขียนรูปสัญลักษณ์ของเสาไฟฟ้าไว้บนต้น
รา่ งแผนที่ และทำรายละเอยี ดทกุ จุดเหมอื นเดมิ จนครบทกุ ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากงานสนาม



แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ ใบสั่งงาน

สาขา : ช่างก่อสรา้ ง สปั ดาหท์ ่ี 6
ชื่อวิชา : พ้ืนฐานการสำรวจ รหัสวิชา 30106 – 0003
งาน : การเกบ็ รายละเอียดดว้ ยวธิ ีวดั ระยะฉาก

การปฏิบัติการสปั ดาห์ที่ 6

เครือ่ งมอื และอุปกรณ์ 1 มว้ น
1. เทปวัดระยะ 2 อนั
2. โพน ( หลักเล็งแนว ) 2 อัน
3. Pin ( ห่วงคะแนน ) 1 อนั
4. กลอ้ งส่องฉาก 1 อัน
5. ไมส้ ามเหล่ยี ม 1 อนั
6. ไม้บรรทดั

วัตถุประสงค์
1. เพ่อื สำรวจและทำแผนท่แี ผ่นราบ โดยใช้กับการสำรวจพนื้ ทีข่ นาดเล็ก ภูมปิ ระเทศเป็นท่รี าบโล่ง มีสงิ่ ขีด

ขวางเพยี งเล็กน้อย โดยวิธรี ะยะฉาก
2. เพ่ือใหเ้ กิดความชำนาญในการใช้เครอ่ื งมือและอุปกรณใ์ นงานสำรวจ

ขน้ั ตอนการปฏิบัติงาน
1. กำหนดเสน้ ฐาน AB ตามแบบที่กำหนดให้ โดยลากเทปวดั ระยะขงึ ตามแนว AB ให้ไดต้ ามแบบท่ี

กำหนดให้
2. ใหเ้ อาไม้เลง็ แนว ปักที่จดุ A เพ่อื ต้องการหาแนว BC ให้ได้ตามแบบท่กี ำหนด
3. ให้ถือเคร่ืองส่องฉาก ท้ิงดิ่งใหต้ รงกับแนวเทป ท่ีจดุ B ให้เครือ่ งส่องฉากอยู่ในแนวระดับสายตาและให้

ปลายดง่ิ สูงห่างจากเทปหมุดประมาณ 0.50 – 1 cm โดยหันหน้าไปทางจดุ A โดยประมาณใหต้ งั้ ฉากกับแนว
BC

4. ใหใ้ ชห้ ลกั เลง็ แนว อกี อนั ปักไวท้ ี่จดุ C โดยประมาณ เม่ือส่องชอ่ งบนหรือช่องล่าง จะเหน็ ไมห้ ลักเล็งแนว
ท่จี ุด C ถ้ามองเห็นทำการขยับไมห้ ลกั เล็งแนว ใหต้ รงกบั แนวเครอ่ื งสอ่ งฉาก

5. เมอ่ื ได้แนวตามท่ีกำหนดให้ใชเ้ ทปวดั ระยะให้ได้ขนาดตามแบบท่ีกำหนดให้ และทำเคร่ืองหมายด้วยชอล์ก
หรือสี วา่ เปน็ เครือ่ งหมายของหมุดใด

6. หลังจากน้ันใหท้ ำตามแบบวิธีเดิม เพ่อื หาจดุ ตา่ งๆ ใหค้ รบตามแบบท่ีกำหนดให้
7. เม่ือปฏิบัติการเสรจ็ ให้รออยู่ทีจ่ ดุ A เพ่ือทำการตรวจสอบ
8. ขอ้ กำหนดในการตรวจสอบ ในการตรวจสอบโดยการวัดระยะโดยให้แตล่ ะหมุดมีคา่ ความผิดพลาด  2
cm
9. ถ้าคา่ ความผิดพลาดเกินให้ทำใหม่

ตารางตรวจสอบการปฏิบตั งิ าน

รายการ 1 2 3 4 5 หมายเหตุ

หมดุ

ค่าตรวจสอบ

ค่าปฏิบตั งิ าน

คา่ ความคลาดเคลื่อน





แผนการจัดการเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ ใบส่ังงาน

สาขา : ช่างกอ่ สร้าง รหัสวิชา 30106 – 0003 สปั ดาห์ท่ี 7
ชื่อวิชา : พน้ื ฐานการสำรวจ
งาน : หลกั การใช้กลอ้ งระดบั

การปฏบิ ัตกิ ารสัปดาห์ที่ 7

เคร่ืองมือและอุปกรณ์ 1 ชุด
1. กลอ้ งระดับพรอ้ มขาตง้ั 1 อนั
2. ไม้วัดระดบั

วัตถปุ ระสงค์
1. ใชง้ านเครือ่ งมอื และอุปกรณ์การตงั้ กล้องระดบั ได้อย่างถูกตอ้ ง
2. ใชง้ านกล้องระดบั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

ขนั้ ตอนการปฏิบัตงิ าน
1. แบง่ กลมุ่ นักศกึ ษากลมุ่ ละ 3 -5 คนหรอื ตามชุดเครอ่ื งมอื ท่มี ี
2. เบิกอุปกรณใ์ นการใชง้ านการตง้ั กลอ้ งระดบั
3. ตง้ั ขากลอ้ งระดับให้ไดร้ ะนาบโดยประมาณ
4. ตดิ ต้งั กล้องระดับเข้ากับขาต้ังกลอ้ งระดบั และหมนุ ควงยึดให้พอตึงมอื
5. ปรบั ระดับกลอ้ งระดับให้ได้แนวระนาบ โดยใชค้ วงปรบั ระดบั ทงั้ 3 ตัว โดยปรบั 2 ตัวในทิศทางเดียวกัน
หมุนเข้าพร้อมกันและออกพร้อมกัน สังเกตฟองกลม หลังจากนั้นปรับควงระดับตัวที่สาม เพื่อให้ฟอง
กลมเข้าไปอยใู่ นเรือนระดบั
6. ส่องหมายเล็งไปท่ีไมร้ ะดบั เพอ่ื หาตำแหน่งโดยประมาณ
7. ปรับความคมชัดดว้ ยควงปรบั ความคมชดั ของภาพ
8. ปรับควงสมั ผัสทางราบเพือ่ ให้สายใยกล้องเข้าไปอ่านคา่ ไม้ระดบั
9. ปรับความคมชดั ของสายใยดว้ ยควงปรับความคมชัดสายใยท่เี ลนสส์ ่องตา
10. อ่านคา่ ไมร้ ะดับ

ข้อควรระวงั
1. ยดึ ตัวกล้องกบั ขาตัง้ กลอ้ งให้แน่นพอตงึ มือ หา้ มแนน่ เกินไปหรอื หลวมเกินไป
2. เหยยี บขาตั้งกล้องทุกครง้ั หากต้ังกลอ้ งท่ีจุดมีดนิ อ่อน
3. ปรบั เสน้ สายใยและภาพให้ชดั ทส่ี ดุ กอ่ นอ่าน เพอ่ื ขจดั ภาพเหล่อื ม

การประเมินผล
1. การปฏิบัติงานสนามของนกั ศกึ ษา
2. จากการรายงานผลการปฏบิ ัติงานในสมุดสนาม

ขอ้ แนะนำ
ควรตง้ั ขาตัง้ กลอ้ งใหไ้ ดร้ ะนาบโดยประมาณ เพอ่ื งา่ ยต่อการปรับควงระดับ



แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ ใบส่ังงาน

สาขา : ชา่ งก่อสรา้ ง สัปดาห์ที่ 8
ชอื่ วชิ า : พืน้ ฐานการสำรวจ รหัสวิชา 30106 – 0003
งาน : การตง้ั ระดับกล้องระดับและอา่ นค่าไมร้ ะดับ

การปฏบิ ัตกิ ารสัปดาห์ที่ 8

เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ 1 ชุด
1. กล้องระดบั พรอ้ มขาต้งั 1 อัน

2. ไม้วดั ระดบั

วตั ถุประสงค์
1. การวดั ระยะทาง
2. วดั ระยะดว้ ยวิธีสเตเดีย (Stadia) ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
3. คำนวณหาระยะดว้ ยวธิ สี เตเดีย (Stadia) ไดอ้ ย่างถูกต้อง

ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิงาน
1. แบง่ กลุ่มนักศกึ ษากลมุ่ ละ 3 -5 คนหรอื ตามชดุ เคร่ืองมอื ท่มี ี
2. เบิกอปุ กรณใ์ นการหาระยะดว้ ยวิธีสเตเดยี (Stadia)
3. ตั้งขากล้องระดับให้ไดร้ ะนาบโดยประมาณ
4. ติดตง้ั กลอ้ งระดบั เข้ากบั ขาตง้ั กลอ้ งระดบั และหมนุ ควงยดึ ใหพ้ อตงึ มอื
5. ปรับระดบั กล้องระดบั ใหไ้ ดแ้ นวระนาบ โดยใชค้ วงปรบั ระดบั ท้งั 3 ตวั โดยปรบั 2 ตวั ในทศิ ทางเดียวกัน
หมุนเข้าพร้อมกันและออกพร้อมกัน สังเกตฟองกลม หลังจากนั้นปรับควงระดับตัวที่สาม เพื่อให้ฟอง
กลมเข้าไปอยใู่ นเรอื นระดับ
6. สอ่ งหมายเลง็ ไปทไ่ี มร้ ะดบั เพ่ือหาตำแหน่งโดยประมาณ
7. ปรับความคมชัดดว้ ยควงปรบั ความคมชัดของภาพ
8. ปรบั ควงสมั ผัสทางราบเพอื่ ให้สายใยกลอ้ งเขา้ ไปอ่านค่าไม้ระดับ
9. ปรบั ความคมชดั ของสายใยดว้ ยควงปรบั ความคมชดั สายใยที่เลนสส์ อ่ งตา
10. อ่านคา่ ไม้ระดับสายใยบน สายใยกลาง และสายใยลา่ ง

11. คำนวณหาระยะทาง

ข้อควรระวงั
1. ยึดตัวกลอ้ งกับขาต้ังกลอ้ งให้แนน่ พอตึงมอื หา้ มแนน่ เกนิ ไปหรือหลวมเกินไป
2. เหยียบขาตั้งกลอ้ งทุกคร้ังหากต้ังกลอ้ งทีจ่ ุดมดี ินออ่ น
3. ปรบั เส้นสายใยและภาพใหช้ ดั ท่สี ดุ กอ่ นอา่ น เพ่ือขจัดภาพเหลือ่ ม
4. อ่านค่าให้แมน่ ยำ

การประเมินผล
1. การปฏิบัติงานสนามของนักศึกษา
2. จากการรายงานผลการปฏบิ ัติงานในสมดุ สนาม

ขอ้ แนะนำ
1. ควรตั้งขาตงั้ กล้องให้ไดร้ ะนาบโดยประมาณ เพื่อง่ายตอ่ การปรับควงระดับควรตรวจสอบเคร่ืองมือก่อน
ใช้งาน



แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ ใบสั่งงาน

สาขา : ชา่ งกอ่ สรา้ ง สัปดาห์ที่ 9
ชอ่ื วชิ า : พ้ืนฐานการสำรวจ รหสั วชิ า 30106 – 0003
งาน : การหาค่าความต่างระดับระหวา่ ง 2 จดุ

การปฏิบัตกิ ารสปั ดาหท์ ่ี 9

เครอื่ งมือและอุปกรณ์ 1 ชดุ
1. กลอ้ งระดับพร้อมขาตง้ั 1 อัน
2. ไม้วัดระดบั 1 อนั
3. หมุดไม/้ Foot Plate 1 อัน
4. ค้อน 1 กระป๋อง
5. สสี เปย์ 1 อัน
6. รม่ กนั แดด

วตั ถุประสงค์
1. การหาคา่ ความตา่ งระดบั ระหวา่ ง 2 จดุ
2. คำนวณหาคา่ ความตา่ งระดับระหว่าง 2 จุด
3. อธิบายค่าความตา่ งระดับระหวา่ ง 2 จดุ

ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน
1. กำหนดจดุ ของงานก่อสรา้ งท่ีตอ้ งการทราบคา่ ระดบั ท้งั 2 จดุ
2. กรณีจดุ ที่ 1 นน้ั มีหมุดและค่าระดบั BM แลว้ สามารถปฏิบัติตามขอ้ ท่ี 3 ได้เลย แต่กรณีทีจ่ ุดท่ี
3. ยงั ไม่ทราบคา่ ระดับ ใหท้ ำการตอกหมุดไม้ในกรณีทเ่ี ป็นพน้ื ดิน หรือตอกตะปูคอนกรตี แลว้ พ่น
4. สใี นกรณที ่ีเป็นพื้นคอนกรีต และกำหนดค่าระดบั ขน้ึ เอง
5. กรณีจุดท่ี 2 ทต่ี อ้ งการทราบคา่ ระดบั เป็นพื้นดนิ ใหท้ ำการตอกหมุดไมล้ งพน้ื ดนิ หรือกรณที ่ีเป็น
6. พ้นื คอนกรีตใช้สสี เปย์ฉีดพ่นกำหนดจดุ ไดโ้ ดยตรงเลย
7. หลักจากทีก่ ำหนดจุด 2 จุดเรียบรอ้ ยแลว้ ใหท้ ำการเลอื กพ้ืนทที่ ่จี ะตั้งกล้องระดับ โดยเลือกจดุ ท่ี
8. อยจู่ ดุ กึง่ กลางระหวา่ งจุด 2 จุด
9. ต้งั ขาตั้งกล้องระดบั ใหไ้ ดร้ ะดบั ด้วยสายตา และยกกลอ้ งระดับล๊อคติดกับขาต้ังกล้องระดับ

10. ปรบั ควงหรือสกรปู รบั ระดบั ของกล้องระดบั ให้ฟองกลมอยู่กึ่งกลาง
11. ต้งั ไม้วดั ระดบั ท่ีจุดท่ี 1 แล้วสอ่ งกลอ้ งระดับไปยงั จดุ ที่ 1 แล้วอ่านคา่ สายใยกลางและบนั ทกึ ค่า

ขอ้ ควรระวัง
1. การต้องกลอ้ งควรเลือกจดุ ทีไ่ มม่ สี งิ่ กรดี ขวาง และพน้ื ดินตอ้ งไมเ่ ป็นดนิ ออ่ น
2. ไมค่ วรเตะขาตัง้ กลอ้ ง ขณะกางขากลอ้ งออก
3. กรณที ่ีตงั้ กลอ้ งบนพนื้ ดนิ ให้เหยยี บขาต้องกล้องทุกครั้ง เพือ่ ป้องกนั การเคลอ่ื นตวั ของขาตง้ั กล้องระดับ
4. ต้องไม้วดั ระดับทกุ ครั้งใหน้ ง่ิ และฟองกลมอยตู่ รงจดุ กง่ึ กลางแล้วค่อยส่องกล้องระดบั
5. วาดสเกตรูปการปฏบิ ัตงิ านคร่าวๆ เพอื่ จดคา่ ระดบั ที่อา่ นได้ กอ่ นนำไปคำนวณตอ่ ไป
6. กรณที ่ีแดดจัด ให้กางร่มใหก้ ล้องระดับทุกครง้ั

การประเมนิ ผล
1. การปฏิบัติงานสนามของนักศึกษา
2. จากการรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านในสมุดสนาม

ขอ้ แนะนำ
1. ควรตงั้ ขาตง้ั กล้องให้ไดร้ ะนาบโดยประมาณ เพ่ืองา่ ยตอ่ การปรับควงระดับควรตรวจสอบเคร่ืองมือก่อน
ใช้งาน



แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ ใบสัง่ งาน

สาขา : ช่างก่อสร้าง สัปดาหท์ ี่ 10
ชอ่ื วิชา : พืน้ ฐานการสำรวจ รหัสวิชา 30106 – 0003
งาน : การทำระดบั แบบวงรอบเปิด

การปฏบิ ัตกิ ารสปั ดาห์ท่ี 10

เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ 1 ชดุ
1. กล้องระดบั พร้อมขาตั้งกล้อง 1 อัน
2. ไมว้ ดั ระดับ 1 อนั
3. ฐานรองไม้วัดระดับ 1 เล่ม
4. สมุดสนาม 1 เครื่อง
5. เครอื่ งคำนวณ

วตั ถุประสงค์
1. ทำระดบั แบบตอ่ เนื่องได้อย่างถูกต้อง
2. บันทกึ ข้อมูลและคำนวณคา่ ระดับได้อยา่ งถกู ต้อง

ข้นั ตอนการปฏิบตั ิงาน
1. ให้นกั ศึกษาแบง่ กลุ่ม 5 - 6 คน หรือตามชดุ เครอื่ งมือทม่ี ี จากนัน้ ทำการเบิกของตามรายการที่กำหนด
2. สร้างหมุดหลักฐานการระดับ (BM.) ชั่วคราวขึ้นเพื่อใช้ในงานนี้โดยเฉพาะ จากนั้นกำหนด ค่าระดับ
ความสูงที่นับเนื่องจากฐานระดับมายังจุดบนพื้นดิน ( Elev.) ขึ้นเพื่อใช้ในงานนี้โดยเฉพาะเช่นกันโดย
คร้ังนี้ กำหนดค่า Elev. เท่ากับ 100.000
3. ตง้ั กล้องระดับจุดท่ี 1 ห่างจาก BM.1 พอสมควร ใหส้ อ่ งเห็นไม้ระดับ (Staff) ท่ีต้ังอยู่บนหมุด BM.1 ได้
อย่างชัดเจน จากนนั้ สอ่ งอา่ นคา่ ไมห้ ลงั (BS.)
4. . กำหนดจุดเชื่อมโยงการตั้งกล้อง (จุด TP.) ห่างจากจุดต้ังกลอ้ งพอสมควร โดยวางฐานรองไมว้ ัดระดบั
ไว้ป้องกันไม่ให้ จุด TP. คลาดเคลื่อนขณะหมุนไม้วัดระดับ จากนั้นส่องอ่านค่าไม้หน้า (FS.) โดยตั้งไม้
ระดบั (Staff) ต้ังอย่บู นฐานรองไมว้ ัดระดับ
5. ทำการย้ายกล้องระดับมาตั้งจุดที่ 2 เว้นระยะห่างจาก จุด TP. พอสมควร ให้ส่องเห็นไม้วัดระดับที่จุด
TP. จากนั้นส่องอ่านค่าไม้หลัง (BS.) โดยให้หมุนไม้วัดระดับจากการอ่านค่าไม้หน้า (FS.) ในข้อ 4. ให้

หันไปในทิศทางที่กล้องส่องอ่านค่าไม้หลัง (BS.) โดยไม่ให้ จุด TP.1 คลาดเคลื่อนจะตำแหน่งเดิม
เดด็ ขาด
6. กำหนดจุดเชอื่ มโยงการต้ังกล้องจุดที่ 2 (จุด TP.2) โดยใหป้ ฏบิ ตั ิ เชน่ เดยี วกับข้อที่ 4
7. ทำการยา้ ยกล้องระดับมาต้ังจดุ ท่ี 3 หลงั จากน้นั ปฏบิ ัตดิ ังข้อท่ี 5
8. ให้ปฏบิ ตั ใิ นลักษณะน้ีไปจนกวา่ จะสอ่ งกล้องเหน็ หมุด BM.2 เพ่อื หาคา่ ความสูงต่อไป
9. ตรวจสอบขอ้ มลู คำนวณคา่ ระดับ ใหถ้ ูกตอ้ งเรียบร้อย

BS. FS BS. FS BS. FS BS. FS
BM.1 จุดที่2 TP. จุดท่ี3 TP.
Elev. 100.000 จดุ ท่ี1 T จดุ ท4่ี BM.2
Elev. ?

ตารางการจดบันทกึ (แบบ Collimation)

STA. BS. HI. FS. Elev. Remarks

ข้อควรระวัง
1. ปรบั เส้นสายใยและภาพให้ชัดทส่ี ุดกอ่ นอ่าน เพื่อขจัดภาพเหลือ่ ม
2. จุด TP จะตอ้ งไม่เคลอื่ นทข่ี ณะอ่านท้ังคา่ ไมร้ ะดับหน้าและไมร้ ะดบั หลงั
3. ระวงั การอา่ นผิดเส้นสายใย
4. การบันทึกขอ้ มลู ตอ้ งซัดเจนถูกต้อง

การประเมินผล
1. การปฏบิ ตั ิงานสนามของนักศึกษา
2. จากการรายงานผลการปฏิบัติงานในสมดุ สนาม

ขอ้ แนะนำ
1. การกำหนดจดุ TP ควรเป็นจดุ ทส่ี ามารถมองเหน็ ไดง้ ่าย และไม่กีดขวาง
2. การต้งั กล้องแต่ละครัง้ ควรประมาณใหก้ ล้องอยู่กึ่งกลางระหว่างไม้ระดับหลงั (BS) และไมร้ ะดับ
หนา้ (FS)



แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ ใบส่ังงาน

สาขา : ชา่ งกอ่ สร้าง สัปดาห์ท่ี 11
ชอื่ วิชา : พน้ื ฐานการสำรวจ รหัสวิชา 30106 – 0003
งาน : การทำระดบั แบบวงรอบปิด

การปฏบิ ัตกิ ารสปั ดาห์ท่ี 11

เครอื่ งมอื และอุปกรณ์ 1 ชดุ
1. กลอ้ งระดับพรอ้ มขาตง้ั กล้อง 1 อนั
2. ไมว้ ดั ระดับ 1 อนั
3. ฐานรองไมว้ ัดระดับ 1 เล่ม
4. สมุดสนาม 1 เคร่อื ง
5. เคร่ืองคำนวณ

วตั ถุประสงค์
1. ทำระดบั แบบไป-กลบั เป็นแบบบรรจบหมุดเดิมไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
2. บันทึกข้อมลู และคำนวณค่รู ะดบั ได้อยา่ งถูกต้อง

ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน
1. แบ่งกลุม่ นักศกึ ษากลุ่มละ 3 -5 คนหรอื ตามชดุ เคร่ืองมือที่มี
2. กำหนดจุดทเี่ ปน็ หมดุ ระดบั หลักฐาน BM 1 และจุดBM 2 ท่มี ีคา่ ระดบั ทถ่ี ูกตอ้ ง สามารถตรวจสอบได้
3. ตั้งกล้องระดับที่ จุดที่ 1 ห่างจากจุด BM 1 ประมาณ 30 - 50 เมตร ขึ้นอยู่กับกำลังขยายของกล้อง
สภาพพ้นื ท่ี และทศั นวสิ ัยในการมองเห็น ปรบั ระดับกล้องให้เรยี บร้อย
4. ตัง้ ไม้วัดระดบั ทจี่ ดุ BM 1 ส่องกล้องอ่านคา่ ไม้วดั ระดับบันทกึ เปน็ คู่ไมร้ ะดับหลงั (BS)
5. ย้ายไม้วัดระดับไปตามทศิ ทางการเดินระดับกำหนดจุด TP1 ให้มีระยะห่างจากกลอ้ งใกล้เคียงกับระยะ
จากกล้องไปยังจุด BM 1 วางไม้วัดระดับที่จุด TP1 ส่องกล้องอ่านค่าจากไม้วัดระดับ บันทึกเป็นค่าไม้
ระดับหนา้ (FS)
6. ย้ายกล้องไปตงั้ ท่ี จุดท่ี 2 สอ่ งกลับไปท่ีจุด TP1 บนั ทึกเปน็ คู่ไมร้ ะดบั หลัง (BS)

7. ย้ายไม้วัดระดับไปตามทิศทางการเดินระดับกำหนดจุด TP2 ให้มีระยะห่างจากกล้องใกล้เคียงกับระยะ
จากกล้องไปยงั จดุ TP1 วางไม้วัดระดบั ท่ีจุด TP2 ส่องกลอ้ งอ่านค่าจากไม้วัดระดับ บันทึกเป็นไม้ระดับ
หน้า (FS)

8. ปฏิบตั เิ ชน่ นไ้ี ปเรอ่ื ย ๆ จนถงึ จดุ BM 2 แลว้ เดนิ เปน็ วงรอบปดิ กลับไปบรรจบหมดุ ท่ี BM 1
9. ตรวจสอบข้อมลู คำนวณครู่ ะดับ หาค่คู ลาดเคลอ่ื นในการทำงาน

ตารางบนั ทกึ ขอ้ มูลการทำระดับแบบ Collimation

STA BS HI FS Elev. Remarks

ข้อควรระวัง
1. ปรบั เสน้ สายใยและภาพใหช้ ัดทสี่ ุดก่อนอา่ น เพ่ือขจัดภาพเหลอื่ ม
2. จดุ TP จะต้องไม่เคลือ่ นท่ขี ณะอา่ นท้งั ค่าไมร้ ะดับหนา้ และไม้ระดบั หลัง
3. ระวงั การอา่ นผดิ เส้นสายใย
4. การบันทกึ ข้อมูลต้องซดั เจนถกู ตอ้ ง

การประเมินผล
1. การปฏบิ ัตงิ านสนามของนักศกึ ษา
2. จากการรายงานผลการปฏิบตั ิงานในสมดุ สนาม

ข้อแนะนำ
1. การกำหนดจุด TP ควรเป็นจดุ ทีส่ ามารถมองเหน็ ไดง้ ่าย และไมก่ ีดขวางการจราจ
2. การตง้ั กลอ้ งแต่ละครง้ั ควรประมาณให้กล้องอยู่กง่ึ กลางระหว่างไมร้ ะดับหลงั (BS) และไมร้ ะดับ
หนา้ (FS)



แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ ใบสัง่ งาน

สาขา : ชา่ งก่อสร้าง สปั ดาห์ที่ 12
ชื่อวิชา : พ้ืนฐานการสำรวจ รหสั วิชา 30106 – 0003
งาน : การทำระดบั แบบวงรอบปดิ เขา้ ชั้นงาน

การปฏบิ ัติการสปั ดาห์ที่ 12

เครื่องมือและอุปกรณ์ 1 ชดุ
1. กลอ้ งระดับพร้อมขาตั้งกลอ้ ง 1 อัน
2. ไม้วัดระดับ 1 อนั
3. ฐานรองไม้วัดระดบั 1 เลม่
4. สมุดสนาม 1 เครือ่ ง
5. เครอ่ื งคำนวณ

วัตถุประสงค์
1. ทำระดับแบบไป-กลบั เป็นแบบบรรจบหมุดเดิมไดอ้ ย่างถกู ต้อง
2. คำนวณขั้นงาระดบั ไดอ้ ย่างถกู ต้อง
3. บนั ทึกขอ้ มูลและคำนวณคู่ระดบั ได้อยา่ งถูกต้อง

ข้ันตอนการปฏิบตั ิงาน
1. แบ่งกลุ่มนกั ศกึ ษากลมุ่ ละ 3 -5 คนหรือตามชุดเครือ่ งมือที่มี
2. กำหนดจุดทเ่ี ปน็ หมดุ ระดับหลักฐาน BM 1 และจดุ BM 2 ที่มีคา่ ระดับท่ีถกู ต้อง สามารถตรวจสอบได้
3. ตั้งกล้องระดับที่ จุดที่ 1 ห่างจากจุด BM 1 ประมาณ 30 - 50 เมตร ขึ้นอยู่กับกำลังขยายของกล้อง
สภาพพ้ืนที่ และทัศนวิสยั ในการมองเหน็ ปรับระดบั กลอ้ งให้เรียบร้อย
4. ตัง้ ไม้วดั ระดบั ท่ีจุด BM 1 สอ่ งกลอ้ งอ่านค่าไมว้ ัดระดบั บันทกึ เปน็ คูไ่ ม้ระดับหลงั (BS)
5. ย้ายไม้วัดระดับไปตามทิศทางการเดินระดับกำหนดจุด TP1 ให้มีระยะห่างจากกล้องใกล้เคียงกับระยะ
จากกล้องไปยังจุด BM 1 วางไม้วัดระดับที่จุด TP1 ส่องกล้องอ่านค่าจากไม้วัดระดับ บันทึกเป็นค่าไม้
ระดบั หน้า (FS)
6. ย้ายกลอ้ งไปต้งั ที่ จุดท่ี 2 ส่องกลับไปทจ่ี ดุ TP1 บันทกึ เปน็ คไู่ มร้ ะดับหลัง (BS)

7. ย้ายไม้วัดระดับไปตามทศิ ทางการเดินระดับกำหนดจุด TP2 ให้มีระยะห่างจากกลอ้ งใกลเ้ คียงกับระยะ
จากกลอ้ งไปยังจุด TP1 วางไม้วัดระดับท่ีจุด TP2 ส่องกลอ้ งอา่ นค่าจากไม้วัดระดับ บันทึกเป็นไม้ระดับ
หน้า (FS)

8. ปฏบิ ัตเิ ช่นนไ้ี ปเรอื่ ย ๆ จนถงึ จดุ BM 2 แลว้ เดินเปน็ วงรอบปิดกลบั ไปบรรจบหมุดท่ี BM 1
9. ตรวจสอบข้อมลู คำนวณครู่ ะดับ หาคู่คลาดเคล่ือนในการทำงาน
10. คำนวณชนั้ งานระดบั แต่ชนั้ ละงาน

ตารางบันทกึ ข้อมูลการทำระดบั แบบ Collimation

STA BS HI FS Elev. Remarks

ขอ้ ควรระวงั
1. ปรับเส้นสายใยและภาพให้ชดั ทส่ี ดุ ก่อนอา่ น เพอ่ื ขจัดภาพเหล่ือม
2. จุด TP จะตอ้ งไม่เคล่อื นท่ีขณะอ่านทัง้ ค่าไมร้ ะดับหน้าและไม้ระดบั หลงั
3. ระวงั การอา่ นผิดเสน้ สายใย
4. การบันทกึ ข้อมลู ตอ้ งซดั เจนถกู ต้อง

การประเมินผล
1. การปฏิบตั งิ านสนามของนกั ศึกษา
2. จากการรายงานผลการปฏิบตั ิงานในสมุดสนาม
3. ตรวจสอบค่าคลาดเคล่อื นในการทำระดบั จะต้องไม่มากกว่า ±12 √k มม.

ขอ้ แนะนำ
1. การกำหนดจดุ TP ควรเป็นจดุ ทส่ี ามารถมองเห็นได้งา่ ย และไมก่ ีดขวางการจราจ
2. การตั้งกล้องแต่ละครั้งควรประมาณให้กล้องอยู่กึ่งกลางระหว่างไม้ระดับหลัง (BS) และไม้ระดับหน้า
(FS)



แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ ใบสั่งงาน

สาขา : ช่างกอ่ สร้าง รหัสวชิ า 30106 – 0003 สปั ดาห์ท่ี 13
ช่อื วชิ า : พ้ืนฐานการสำรวจ
งาน : การต้งั ระดบั กลอ้ งวดั มุม

การปฏิบตั กิ ารสปั ดาห์ที่ 13

เคร่อื งมือและอุปกรณ์
1. กล้องวัดมมุ 1 เครื่อง
2. สามขาต้งั กล้อง 1 อัน
3. หมดุ 1 อนั
4. ค้อน 1 ดา้ ม

วัตถุประสงค์
1. เพอ่ื ใช้กล้องวัดมุมเป็นเคร่ืองมือในการสำรวจและปฏิบตั ิงานเป็นหลกั
2. เพ่อื สามารถใช้กล้องวัดมมุ ได้อยา่ งชำนาญ
3. เพอ่ื นำข้อมูลในการสำรวจด้วยกลอ้ งวดั มุม ไปทำขอ้ มลู ในการเขยี นแผนท่ีและแผนผงั ต่างๆและการ
สำรวจเพ่ือกำหนดแนวกอ่ สร้าง
4. เพื่อตั้งกลอ้ งวัดมมุ ให้ไดร้ ะดบั ก่อนทำงาน

ขน้ั ตอนการปฏบิ ัติงาน (การต้ังระดบั กล้องวดั มุม)
1. ตั้งขาตัง้ กล้องโดยให้ฐานของกล้องสงู ประมาณระดับอกของผูส้ ่อง ขยบั ขากล้องเพ่ือให้ฐานของกล้องได้

ระดบั ประมาณสายตา แลว้ นำกลอ้ งวางบนบานแลว้ ยดึ กล้องให้แนน่ พอสมควร
2. หมุนหลอดระดบั ให้ขนานกับควงต้งั ระดบั คู่ที่ 1

3.ถ้าฟองระดับอยู่ดา้ นซ้ายให้หมุนควง 1 และ 2 เข้าพร้อมกนั ฟองระดับจะเคล่ือนมาทางขาวมอื ปรับฟอง
ระดับให้อยกู่ ่งึ กลาง

4. หมุนกลอ้ งตามเขม็ นาฬิกาต้ังฉากกับควงคู่แรก แลว้ ปรับควงคูท่ ี่ 3 ถา้ หมนุ ตามเขม็ นาฬิกาฟองระดับจะ
เคล่ือนขนึ้ ถ้าหมุนทวนฟองระดับจะเคล่อื นลง

5. หมุนกลอ้ งไปอีก 90 องศา หลอดระดบั จะอยู่ในตำแหนง่ ตรงกนั ขา้ มกบั คู่แรก ถ้าระดับอยใู่ นขดี ยาวแสดง
วา่ ไดแ้ ลว้ ถา้ ไม่อย่ใู นขีดควรตั้งระดับซำ้ อีกรอบ

6. เม่อื มขี ้องสงสยั ควรรีบถาม

ขน้ั ตอนการปฏิบัตงิ าน (การต้ังกลอ้ งวดั มมุ ให้ตรงหมดุ )
1. ปรับควงตั้งระดับ ให้อย่ใู นขดี ทีไ่ ด้ระดับเท่ากนั
2. ตัง้ กลอ้ งให้คล่อมบนหวั หมุด พยายามให้ฐานของขากล้อง อยู๋ในแนวระดับมากทสี่ ุดและให้ฟองกลมหรอื

กากบาทในชอ่ งของหมุดของกล้องใกล้หมดุ มากทส่ี ุด
3. ตัง้ ระดบั ฟองกลมโดยใช้วิธเี ล่อื นขาตงั้ กล้องขน้ึ ลง เพ่ือให้ฟองกลมไดร้ ะดบั ซ่งึ วิธีนจี้ ะอยตู่ รงหมุดเดิมท่ีตง้ั

ไวใ้ นขั้นตอนที่ 2 หรือถา้ เลือ่ น ก็เลอื่ นออกจากหมดุ เพยี งเลก็ นอ้ ย
4. ตงั้ กลอ้ งให้ได้ระดบั โดยการปรับที่ควงต้งั ระดบั
5.ตรวจสอบในชอ่ งหวั หมุดอีกครั้งวา่ แนวกล้อง ตรงหมดุ หรือไม่ ถ้าไมต่ รงให้คลายสกรูท่ียึดระหว่างกลอ้ งกบั

ฐานกลอ้ ง แลว้ เลอื่ นให้แนวตรงหมดุ โดยมองผ่านช่องหัวหมดุ

ตวั อย่าง การมองผา่ นช่องส่องหมดุ เพ่ือใหไ้ ด้แนวหมุด

หมายเหตุ
กลอ้ งวัดมุมบางชนดิ ช่องส่องหวั หมุดอาจมีรปู แบบแต่งต่างกัน แตว่ ิธีการปฏบิ ตั งิ านตามข้ันตอนเหมือนเดมิ

ตารางบนั ทกึ เวลาการต้งั ระดับกลอ้ งวัดมุม
โครงงาน...........................................................................................................................งานที.่ .............................
สถานท.่ี ............................................................................กลมุ่ ย่อย.....................วนั ท.ี่ ...........................................
ผู้สำรวจ..................................................................................................................... ..............................................

ลำดับ เวลาเร่ิม เวลาเสร็จ คะแนน

เกณฑ์การให้คะแนน
ไม่เกิน 5.00 นาที 10 คะแนน
5.01 - 7.00 นาที 8 คะแนน
7.01 - 10.00 นาที 6 คะแนน
เกิน 10.00 นาที 0 คะแนน



แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ ใบส่งั งาน

สาขา : ชา่ งก่อสร้าง สัปดาหท์ ่ี 14
ชื่อวิชา : พ้ืนฐานการสำรวจ รหัสวชิ า 30106 – 0003
งาน : การวดั มุมราบแบบวดั ทิศทาง

การปฏิบตั กิ ารสัปดาห์ที่ 14

เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ 1 เครือ่ ง
1. กลอ้ งวดั มมุ 1 อนั
2. ขาตั้งกลอ้ ง 1 อนั
3. หมดุ 1 ด้าม
4. ค้อน

วัตถปุ ระสงค์
1. เพอื่ ใชก้ ล้องวดั มมุ เป็นเครื่องมือในการสำรวจและปฏบิ ัติงานเป็นหลัก
2. เพือ่ สามารถใชก้ ล้องวดั มุมได้อย่างชำนาญ
3. เพื่อนำข้อมูลในการสำรวจดว้ ยกล้องวัดมมุ ไปทำข้อมลู ในการเขยี นแผนที่และแผนผังต่าง ๆ และการ

สำรวจเพอื่ กำหนดแนวก่อสร้าง

ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิงาน


Click to View FlipBook Version