บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๓๗ 9u@pDgpAHk gvAk5hฮl^j8:k< 8yO;jKV^hgs(c]h: [yHO[jUof:’lObm gvAk8YkgVnU’ 5Ufg5b$c5|\5hฮ gxyOmuJvyL0yOcmh lA$ki8:isOjk3 gxyOfyJ$m68(t[jk:mhk: xk$oyHOltcs<j’9k3 g,ug]AJkoUo-Ud-hk$ dyXlบj;gxyO@0O lU’g-nUWrฮmYkg;O z^d9u[kmhk: csO’;jK [YJ,u;bl6dy,<mhk: ]A$,kzk3@zF xk$oyHO dYlj:o ,UiIN,bJ$,บho 9k35bJ<06j,0A< [YJ2jkcs}h; โ[email protected] rnHOmuJdy,<g;i WrdY gfbiwrlAณ s<nJofฮfA$-yHO rฮg]AJk g5b$g,nU’wmh o8UiWศuly9(น* Wrwfh miA$czjOrnHO g,nU’oyHOoyJ$xU’ WrdY mkOmUf.sh Vk$;y|,kDrYclO ]nU=k g5b$g,nU’rkikIlu 9YJpb$pbOphU’ vhk3lบj; ฅg,uบ-uHVjk3 rk]ks}A’@]R g-nUdYgfbif6j’fyHO g5b$g0AHk8:jk-Y WrdY mkOmUf.sh rYvbJ<lu’g-nU c]h:0bJ$ 0YOksOu WrkDg,nU’,u@vh
๓๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี pk<g,nJU phk30kDshU’ -A$g-(g,nU’s|;\ TYiIusOk c9DgvAkg,nUrnHO 9k38U[ly[X]yX]bHO]:’clOlyXlYJ m6d_-Uf-hUo g5b$gonHU,Uf0A< gxyOobmkOTy,<cmh dkpk-yoอt@]D lhk$w;h grnJUoyWxk=ญNz^h zญkc0h$0AJ$8tob$ oyHO5hUo [YJ.=j zbF=k9bcmh 8AO@8D-@,3,k c,jgvbH3 9yH$sky gdbFc9j.o@V$sY ik+lb’ห NskญshU’ rYc9j cx}Wxsบo.sh gsyOg’Ak’Uo@]D ly$lb ,kskXsbH: dk3wfhfyJ$ฤ g,nJU[YJ ly$-3k.sh [YJgsyOVjU,V:pisyL ,k8:jk gvAkwxmบ; VjU,V^sbOd}hk 9yH$c9j gsyOs}n[.9h x{rurnHO@]D Wz=y:=hk g,nUsOhkskylbgsyO fUdน @=*[YJ.sh lb]uH2^jdYxkOgsyO 2jkl6 ,k]:os}k3 lbc9D,y:g,Ak’h:o 5k<g[bJ$ rYg0yXfh:p ,kc5<g5b$[kX 8YkoyHO py$8jฮ 9yF9jUoohฮ mkOlAH<l^j;yO grbJOz^h oyDWxk=ญNV^h W9yLljU’zญkmbRpN
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๓๙ .oWrmy3m:ogmb$ V6j’’k<,Iucdh: [YJ.=j vyO=t,jk3Vhk: -oy$go(.o0b( [YJsjUo9yOmk$[AD -kL;y$g;bO-hUo /^’s,^j rk]kg=nHU 8AOg-}Ak=k9b=yJ: oyHOน py$g]AJk,k9^jhฮ 8YkVhk3gs9(@43 W;hcdjgmg;Lmhk: W9yLljU’liPkณ 0yDwfhs}b’s:ogsyO gs(8AO]:’]บh; mYk86I.sh /^’co:น<=yJ: V6ocs}h; gxyOfyJ$9yD9jUoนYH pY2bJO.lj=k3 syHOcs}j; ,yO[YJgsyOljU’V^h [yHO[jUog[AksOyd 8Yk8:i,u [YJs:oskfhk< c,jO;jK 0yDg-AHk.ofhk: l_kgVnU’VAJ< dYfu wzmUosyDdbJ$w,h x^mbH$gVyF[jUooUo ly$,k=yD[บf-YH -uO;kF;บo;b9AD @rO,yDgxyO8Ykl:p lบf,kg]b$ginJUp ]nU;jK g0AHksky0ysyraAFw,h 9ugranUprakFr6j, 8bF;jK 2ky.shglnU]U[]uH myH$fhk:0U[dbO g0yX8u$w-h s:yfwvxk$-OkL gsyOisyL[jUoc0h$ lbpU,fh:pgf+ wzoyHO
๔๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี =k9bmuJ gxyOsO;j3cdh: [YJ,b2hUody:cl$ ‘jk3cs}h; wz;jK 0ys$k3TYiIu sky0y5U’g5b$wfh g,nJU[YJ ]hU,VyH:w;h 9k<czjOrb,RNg,nU’ 4k3r6ho dy:c9j gxyOg;ik lb]jk3g]:o]7H$ @voYH ruJdYmAOm:’c8hO sAOs:pskv6jo cr$gvbH3 wxdYwx[YJwfh 8k8hk$2^jfk3 -Y.sh-yo(bcmh rYVบ,wfhlj:’@lD 8yOsky,h<muJouH wxlhk$lbJ$WxlA$ fUdน @voYHVบ,ouH gxyOfyJ$gVnU=k:8hk sky8k8Uol,6m.sญj Wxdtwx[YJwfh 8k8hk$2^jfk3 ruJcs}h;
ถอดความตามบทบั้น [yHO]7xl^P บั้นลึปสูญ f:’ouH=nJว [6czjOTiIufyHO d6,dk3dYk@VX gdAktdjk3gd3@]X] h บ; lgW,68hkO@8jO8}Bo 8tg8UnJo 86’cdjOgsA” Hk dDkXdฮWdt0yF gl]k goAk4^zk gd}BnJoTtiy” mt]k3,hk” ดวงนี้ชื่อว่า บุแผ่นธรณีดั้น กุมกายก าโฮบ เกาะก่าย เกยโลบเลี้ ยว สเมรุค้านโค่นคลอน คะเคลื่อน คุงแก่นเหง้า กากาบกอยกระจัด เสลา เนาภูผา เกลื่อนธะรังทะลายม้าง สารลึปสูญ นี้ ให้ด าเนินไปในลักษณะว่า “บุแผ่นธรณี ดั้น” อันแปลความว่า บุกฝ่ าแผ่นดิน ดั้นด้นเอากายกุมกอดรัดรวบ เข้าไปเกาะก่ายพาดพิงเขาพระสุเมรุ ด้วยความทยานอยาก จนเขา พระสุเมรุนั้นโยกคลอน ไหวไปถึงโคนต้นเสา เป็นเหตุให้เปลือกท่ี ห้อหุ้มภายนอกเขาพระสุเมรุนั้นกระจัดกระจายออก แผ่นหินท่อียู่ ตามภูเขานั้น พังทลายไป
๔๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี vkoAoM goAkcoXrnHo granUorakFrUa’l,6Wm นg8k8t 8}kF@V\k<pUh’ 0yd ช;K>gs}BnJ, 8uiuws : s :yJo น8t granuUorayJ” rahk : ra^,granHUpc8jgranUp อานนท์ เนาแนบพื้น เฟื อนฟาดฟองสมุทร นาโคคะ คลาดโฮงฮามย้อง จักรวาลเหลื่อม คีรีไหวหวั่น นาคะ เฟื อนฟั่งฟ้ าว ฟูมเฟื้ อยแค่เฟื อย ปลาอานนท์ ผู้ค ้าแผ่นดินแผ่นน ้าเอาไว้ พลิกขยับตัว ท าให้สะเทือนไปทั่วสมุทร เขาพระสุเมรุหวั่นไหวครอบคลุมไปทั่ว จักรวาล จนพญานาคไม่มีท่ีจะอยู่เร่งรุดลอยกระเดน็ ไปเกลือก กลั้วกับพืชพรรณไม้น ้า แลกลมกลืนไปกับซากพืชเหล่านั้น W86ft vhkxuD-7HO -Ykg,ฆgVnU’ฟm ธ b ท 0yOgmk ,y:g,Ak,6, ,nFcl”l^i3NvYHk .llUj’ gVnU’Vk :fhkO mtiy ”ษul6ibgpL pk<mjU’ mบ;]j:’rahk rb,kOgsJ}nB,iyศ,u ครุฑะ อ้าปี กขึ้ น ข าเมฆเฮืองฤทธ์ิ จันโท มัวเมามุม มืดแสงสูรย์อ ้า
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๔๓ ใสส่อง เฮืองฮาวด้าน ทะรังษีสุริเยศ ยามท่อง เทียวล่วงฟ้ า พิมานเหลื่อมรัศมี พญาครุฑ กางปีกแฝงด้ันเข้าไปในเมฆอย่างเรืองฤทธ์ิ ทันใดนั้น พระจันทร์มืดมัว เพราะแสงสลัวจากพระอาทิตย์เริ่มส่อง ใสเรืองรองเปล่งรังษีออกมา เวลาท่องไปมาบนฟากฟ้ า จึงแลเห็น วิมานอันเรืองรองจากรัศมีของพระอาทิตย์ ,b8t lb’ หNl;yo*NphU’ [ig,WxtIA<c,j ,tg]nU’,kXgs}nBJ, cl \cdh : cd :j’Ttiy$ wradY ]6d;7Xws<h glok*mtg,Ak,6f cx :gx}J’gVnU’ sU[cl \l^i3Nrahk มิคะ สิงห์สวรรค์ย้อง บรเมประณมแม่ มะเลืองมาบเหลื่อม แสงแก้วแกว่งธะรัง ไฟก็ ลุกวึบไหม้ เสนาคทะเมามุด แปวเปล่งเฮือง หอบแสงสูรย์ฟ้ า มิคราช (พญาเนื้อ) แลราชสีห์ ในสวรรค์ ตัวประดับ ประดาภาคพื้นพระสุเมรุ ให้งดงามทั่วบริเวณอยู่นั้น เกิดแสงแก้ว กวัดแกว่งไปมาบริเวณพื้ นแผ่นดิน และไฟก็ลุกลามไหม้ สัตว์ เหล่านั้นล้มตายไป เปลวไฟเปล่งประกายลุกลาม รวบไปกับแสง พระอาทิตย์ จนถึงแผ่นฟ้ า
๔๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี [k]y$=ahUo wlpkvbOmik+ lo6dpbJ$]YHk lA,gx}nHB’xbJOd :ฯ fk:f7’LN=yHO gm;fk,tg]nU’,Uf 9}A[9jk$rahk rb,kOg9AHk9^[9U’ บาลังซ้อน ไสยาอินทะราช สนุกยิ่งล ้า สมเปลื้ องปิ่ นกวย ดาวดึงส์ชั้น เทวดามะเลืองมอด ตลบต่างฟ้ า พิมานเต้าตูบตอง บัลลังก์ท่บีรรทมของพระอินทราช ดูน่าขา สนุกสนาน เพราะหมุนเอนไกวไปมาจนจะหลุดออก แสงรัศมีเทวดาสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์ท่ีเปล่งปล่ังกด็ับส้ิน สวรรค์ช้ันฟ้าแปรเปล่ียนเป็นอันต่าง จากเดิม วิมานทั้งหมดก็ยุบพังหายไป ]tcsj$sUh’ zklkMgVnU’VAF ]A$mjU’ m3;ob8A< 8y :Jl^i3Ncl: \gs}jo g]3ibO=YHk Wxtly9:Ng,Ak,y:gfnUf WdtlyI% N xbJOraA$ 0yOmtdh6,g,ySd6, ละแห่งห้อง ผาสาทเฮืองฮด ลงท่อง เทียวนิคม คั่วสูรย์แสวงเหล้น
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๔๕ เลยรินซ ้า ประสัตว์เมามัวเดือด กระสัณฐ์ ปิ่ นฟ้ ง จันทะกุ้มเมฆกุม ฯ ทั่วทุกแห่ง ห้องปราสาทอันรุ่งเรืองรินหลั่ง ละมลาย ไป เม่ือลงท่องเท่ียวเลาะเล่นไปตามนิคมหมู่บ้าน ในเวลากลางวัน ก็ยิ่งซ ้าไปพบกับเหล่าสัตว์โลกท่ีลุ่มหลงร้อนรุ่มทยานอยาก จึงรีบ หันหลังหลบ ยังพบพระจันทร์และเมฆท่ปีกคลุมคุ้มเอาไว้ m6dlbJ$ miA$g-(-hU’ VบdVyJ :,Vบ \isyL sA’LNmU’ mjบ;g;sk ly :dWxlA’*Ncl:’gs}ho c] h :0bJ$ ]A$]บ]hk$ l,6@mM@m<vkX ltlj :บ ]hk$g,ySrahk pU’d}ฑ์d}bJo=A< ทุกสิ่ง ทรงเขตข้อง เฮียกฮ่วมเฮียงรหัส หงษ์ทอง เที่ยวเวหา สวกประสงค์แสวงเหล้น แล้วจิ่ง ลงลอยล้าง สมุทโทโทมอาบ สะส่วย ล้างเมฆฟ้ า ยองกลั้วกลิ่นชม ทั่วทุกสิ่ง ทั่วทุกเขต ขุ่นเคืองขัดข้องไปหมด รวมเรียก เป็นความลึกลับ เป็นปริศนาท่ีน่าค้นคว้า กล่าวถึง พญาหงส์ทอง บินเท่ยีวไปบนเวหาอากาศ อย่างรวดเรว็หวังจะเสาะแสวงเล่นสนุก แล้วลงลอยเล่นนา ้ในสมุทร เพ่ือจะอาบล้างเมฆฟ้าท่เีกลือกกล้ัวมา ให้สะอาดน่าชมน่าดมดอมดั่งเดิม
๔๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี m6d=jU’g;yO WrAs<4k*4k34;y* ฤsjUo g8nU’8YkVyd VYJgz3znOcsOho W9kXwx fy:’5oyFgvnHU, lg,i6mU’mบ;mjU’ pk<.f 0yD.W8j 8บ8kFpnHU pบ;shU,sU[Wr0yoWmN ทุกช่องเว้น พรหมภาคภายภวัค ฤๅห่อน เคืองค าฮัก ฮ่อเผยผืนแหน้น ตราบไป ดวงถนัดเอื้ อม สเมรุทองเทียวท่อง ยามใด จักใคร่ คอยคาดยื้อ เยียวห้อมหอบพระจันทร์ ทุกช่องชั้นแห่งกามภพ ยกเว้นพรหมชั้นภวัคภูมิ ไม่มี ชั้นไหน จะไม่มีความขุ่นข้องหมองใจในเรื่องความรัก ต่อจะ ประกาศความหนักแน่นมากเพียงไรก็ตาม ตราบใดท่ียังท่องเท่ยีว วนเวียนตามเขาพระสุเมรุทอง ตามความเคยชินอยู่ ก็ยังจะคอย คาดหวัง เหน่ียวร้ัง ห้อมล้อมวงโคจร ของพระจันทร์อยู่ตราบนั้น vyOc9j .9h@]DrnHO Wrys<4k*4k34;y* ,kouH m6dlYJk VYJkQ8bF .W8j8บ8tob$96h, 87Fg,nJU ,kiy$=aUho wlpkvbOmbik+ xk\ o ฑ O lo6dpbJ$]YHk ]A<gx}nHB’xbJOwd: อันแต่ ใต้โลกพื้น พรหมภาคภายภวัค มานี้
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๔๗ ทุกส ่า ฮ ่าฮ ่าคิด ใคร่คอยคะนิงตุ้ม คึดเมื่อ มารังซ้อน ไสยาอินทิราช ปางนั้น สนุกยิ่งล ้า ลมเปลื้ องปิ่ นไกว ฯ นับตั้งแต่พื้นโลก จนถึงภวัคพรหม ทุกหมู่เหล่ายัง พร ่าคิดค านึงในกามคุณอยู่ยังปรารถนาคิดถึงคราวจะเสวยสุขเป็น บริวารพระอินทร์สนุกอยู่กับทพิยวัตถุเป็นลมเป็นแล้งท่พี ัดไปพัด มาอยู่อย่างนั้น m6dcsj$shU’ 8tob$x}BJ’cx :l,6Wm 8tob’oA’ \$Wศu WrkDWrtmy3[YJ,uwfh 87F.W8j my :3miy$x}bHo pY9k :gx}BnH’cd :j’ gvAkoฑ O ra^kF,hk$ f^9hU’9UdWdtc0 ทุกแห่งห้อง คะนิงปล่องแปวสมุทร คะนิงนงศรี พรากพระทัยบ่มีได้ คึดใคร่ ทวยทรังปลิ้ น ยอตาวเปลื้ องแกว่ง เอานั้น ฟูฟาดม้าง ดูต้องตอกกระแจ ฯ ถึงจะอยู่ทุกแห่งห้องเวหาไหน ยังค านึงช่องทางทะลุสู่ สมุทร ดังค านึงถึงนางผู้เพรียบพร้อมด้วยเบญจกัลยาณีท่ีไม่ สามารถจะให้พรากจากใจไปได้ ยังใคร่คิดว่าพวกแผ่นพื้นดินน ้า อากาศจะกลับพลิกพัง จากการสู้รบด้วยอาวุธคือตาว(ง้าว) ยก เปลื้องซัดไป ลอยกระทบน ้าพังทลาย ดูจะต้องใส่กุญแจเอาไว้
๔๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ]7Xs}ฯ,fhkO w-xjU’cx :isyL ฤ;Kj @m<Wm: y ’-yF ,nF-,U \gs<Bnows<h WsnU0yD my :pWmA$v6h, 0yWd;kฬVบ \Vy :J, gvAkoฑ O d}y: muJ rahkcWxj-: YHk -okOg8AHk8: uJ8 : k ลึบเหลี่ยมด้าน ไขป่ องแปวรหัส ฤๅว่า โทมทรวงขัด มืดขมองเหมือนไหม้ หรือจัก ทวยทรงอุ้ม จักรวาฬเฮียงฮ่วม เอานั้น กลัวที่ ฟ้ าแปร่ขว ้า ขนานเค้าควี่ความ ฯ แล้วลบมุมเหล่ียมทุกด้าน หาทางไขปริศนาลับดูหรือ ว่าจะปล่อยให้ท่วมทับขัดข้องใจ มืดไหลไปหาสมอง เหมือนกับไฟ ไหม้ หรือจะตามไปโอบอุ้มจักรวาลมาร่วมเรียงเคียงไว้ แต่ก็จะกลัว ว่า แผ่นฟ้ าจะท าลายจากท่เีรียงคู่กนัไป ให้สลายพังออกจากกนั ,y:,nFws<h ,hk$czjOryoธd7( d}y[g]AJk g]b3ibO-oy$ 9U[c5<g5b$g9AHk oyXmuJ f:’f^]YHk 9k<,kW9kvoyOgoD ,koฑ O d}y[gs}AJk 8:yogmAJkrahk gVUn’d6h,g,Sd6, มัวมืดไหม้ ม้างแผ่นพันธกึต กลับเล่า เลยรินขนัง ตอบแถมเถิงเต้า นับที่ ดวงดูล ้า ตามมาตราอนันต์เนก มานั้น
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๔๙ กลับเหล่า ควันเท่าฟ้ า เฮืองกุ้มเมฆกุม ฯ ไหม้จนมืดมัว ลบล้างพ้ืนแผ่นท่ียึดเหน่ียวกันไว้แล้ว ค่อยรินหลั่งความคับแค้นขึ้นในใจ แล้วทวีเพิ่มเติมรวมกันเข้า ดู เป็นอันมาก ไม่มีท่ีส้ินสุดไม่มีประมาณ จากน้ันควันกป็รากฏปก คลุมไปทั่วแผ่นฟ้ า .0-,jU,vhk3 s<k3,6j’Wrtw,b9 lb8j3 x6oxU’VyD Vj:,Vบ’Vk:5hkO lA<4kig[nUH’ [ki,ugVnU’VUf dyOcs}j; r:’g]bD]YHk rb]kdhบ;dUj’]Yk wgfh ใจขม่อมอ้าย หมายมุ่งพระไมด์ิมิตร สิค่อย ปุนปองฮัก ฮ่วมเฮียงฮาวถ้าน สมภารเบื้อง บารมีเฮืองฮอด กันแหล้ว พวงเลิกล ้า พิลาเกี้ ยวกล่องล า ได้เด ฯ อย่างไรก็ตาม จิตใจของตัวพ่ียังหมายมุ่งไมตรีจะ ค่อยทุ่มเทความรัก ร่วมเรียงให้เท่าถึงให้จงได้บุญบารมีท่สี่งัสมมา แต่ต้น คงจะส่งผลให้ไปถึงกันได้ ชูช่อยาวลึกเข้าไปข้างใน เบ่งบาน เป็นแก้วทบัทมิเก่ยีวพันลา ต้นให้คงอยู่ได้ csOgdAJkgdnHU gdbFVj:,Vบ’VyD c]h:oyHO wzsjUo -nO-yFg=b$ l:kmf^k3wfh
๕๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี lA<8:iwfh lbw];k\x}tx}Bp gxyOฤ c,jO;jK l6frakDrahk m3kOpnHUpjU’8tob$ แหนเก่าเกื้ อ เกิดฮ่วมเฮียงฮัก แล้วนั้น ไผห่อน ขืนขัดเชิง สวาทดูดายได้ สมควรได้ สิไลวางปละปล่อย เป็ นฤๅ แม่นว่า สุดฟากฟ้ า ทยานยื้อย่องคะนิง ฯ ความหวงแหนเกื้อกูลแต่เก่าก่อน จนได้เกิดการร่วม เรียงรักแล้วนั้น ใครเล่าจะขัดขืนความสิเน่หาอยู่คนเดียวได้ เหมาะสมกันแล้ว จะปละปล่อยวาง ละเว้นไปได้อย่างไร แม้ว่าจะ อยู่สุดฟากฟ้ า ก็ทยานไปหา เอื้อมเอามาจนได้ vkdkLd:hk$ l6f-U[0yWd;kO g,moul6f =yJ:9kg9y<pjบ, gs<nBpgs<nBp VYkVk:=ahUomAJ$ [email protected] fbO=nHO=6j,v7O อากาศกว้าง สุดขอบจักรวาฬ เมทนีสุด ชั่วตาเต็มเยี้ยม เหมยเหมือยให้ ฮ าฮาวซ้อนท่ง ผายโผดให้ ดินชื้ นชุ่มอึน ฯ
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๕๑ ฟากฟ้ าแสนกว้างไกลสุดขอบจักรวาล สุดแผ่นดิน สุด ท่ีสายตาจะมองเห็น ยังมีน ้าหมอกนา ้ค้าง ตกรินรดท่วมทับไปท่ัว ท้องท่ีปรารถนาดีท่จีะยังผืนแผ่นดินให้ชุ่มช้ืนอยู่ i6gd_kfhk: cfOwrA$g5nJUo 2^mjk$ w-dkXvhk ]tvU’shkOsnJOsU, @pmbk8hU, lki4ur:’ruJ c,$4^j [bO]j:’]YHk WxtlA$clh:l:[]vU’ รุกโขด้าว แดนไพรพงเถื่อน ยูท่าง ไขกาบอ้า ละอองห้านหื่นหอม โยทิกาค้อม สารภีพวงพี่ แมงภู่ บินล่วงล ้า ประสงค์แส้วสอบละออง ต้นไม้ รุกขชาติ ในแดนดงพงไพรทุกผืนป่ า ต่างพา กันเบิกบานใจ ไขกาบกลีบใบดอกออกบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นเกสร หอมตลบอบอวล ต้นโยทิกา(ดอกคัดเค้า) น้อมกิ่งลงหาต้นสารภี ต้นดอกพวงพ่ีส่งกล่ินหอม เรียกหาให้หมู่แมงภู่มาดมดอม โฉบ เฉ่ียวเก่ยีวเกบ็ละอองเกสรอนัหอมหวาน ruJ-Y 5k<-jk:oUh’ oA$5jk:55oU,Wศu py$8jฮ WmA$8:k<l6- xAJ$=Uoc=<=Uho WsnU;jK py$WxtlA$lhk$ lA<4kOrบ \ruJ
๕๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี -Yc9j ohU’ok%wmh Wrtw,W9b N-Uho-UfVบ, พี่ขอ ถามข่าวน้อง นงค์ถ่าวถนอมศรี ยังค่อย ทรงความสุข ป่ งซอนแซมซ้อน หรือว่า ยังประสงค์สร้าง สมภารเพียงพี่ ขอแต่ น้องนาถไท้ พระไมตร์ิข้อนขอดเฮียม พ่ีจึงขอถามข่าวน้องนวลอนงค์ว่ายังคงมีความสุขอยู่ เรื่อยๆ กับคู่ครองท่เีขาเข้ามาใหม่หรือว่ายังจะร่วมบุญส่ังสมกับพ่ี เพียงคนเดียวเท่าน้ัน หวังแต่ว่า น้องนางน้ัน จะคงมีไมตรีให้พ่ีคน เดียวเท่านั้น @voY lA$ki[6xZkryH: f:’sU,gs3d}bJo ruJgvb3 46,ibOl:jkOclh: cl: \d}yH :d}bJo]tvU’ g0hkz^h ,}klhฮ wrpU,.oxjk Vบ,gvb3 [kOgVnJUcsh$ pk<c]h$s}jo8k3 ฅoY โอนอ สงสารบุปผาพั้ว ดวงหอมเหยกลิ่น พี่เอย ภุมรินสว่านแส้ว แสวงกลั้วกลิ่นละออง ฯ เจ้าผู้ มาลาสร้อย ไพรพยอมในป่ า เฮียมเอย บานเฮื่อแห้ง ยามแล้งหล่นคาย แลนอ ฯ โอหนอ ช่างสงสาร พวงบุบผา ดวงดอกไม้ท่ีส่งกล่ิน หอม ให้ผึ้งภุมรินบินแส่วสับสนเสาะแสวงเกลือกกลั้วกลิ่นละออง
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๕๓ ของเจ้า เจ้าพวงดอกไม้ ไพรพยอมในป่ า ของข้าเอ๋ย เจ้าบาน สะพร่ัง จนเห่ียวแห้ง ในฤดูแล้ง กร็่วง หลุดหล่นไป เช่นน้ัน นYHl,6Wm ,^],kD]AHO ]7XczjOTYiIu ]A<rkOryF rakFraU\Wdt0k3raA$h sA’LN8Ykzhk3 [bO[AOlg,Ub;jK: ly$[YJ gx}nHB’xbJOsOhk ,kruHgrnJU]A< [hk$gfh น ้าสมุทร มูลมากล้น ลึบแผ่นธรณี ลมพานพัด ฟาดฟองกระจายฟ้ ง หงส์ค าผ้าย บินบนเสมอว่าว สังบ่ เปลื้ องปิ่ นหน้า มาพี้เพื่อลม บ้างเด ฯ นา ้ในสมุทรท่เีตม็หล่ังล้นลบพ้ืนแผ่นดิน ลมกพ็านพัด น ้ารุนแรง ตีแผ่น ้าแตกกระจายซัดกระเด็นไป พญาหงส์ทอง ท่ยังี บินเหาะฟากฟ้ าเพียงดังว่า ว่าวอยู่นั้น ไฉนไม่หันหน้าแลเหลียว มา หาลมทางนี้บ้าง ruJ-Y 5k<-jk:ohU’ gonHU.s<j,kiWศu ,gokm:kipy$ mบj’=yO.osyHO Wsn;jK ,gokm:kiohU’ ]A<fugx}nHB’cd:j’ -Ycdj vboMik+V^h Pkณg9nHU’wW9jU’ ruJ5hUo พี่ขอ ถามข่าวน้อง เนื้อใหม่มารศรี
๕๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี มโนทวารยัง เที่ยงซันในหั้น หรือว่า มโนทวารน้อง ลมตีเปลื้ องแกว่ง ขอแก่ อินทราชฮู้ ญาณเตื้ องไตร่ตรอง พี่ถ้อน พ่ีขอถามข่าวน้องนงคราญมารศรีว่าทางในใจของ น้องยังมั่นคงอยู่ หรือไม่ หรือว่า ทางในใจของน้อง ถูกลมพัดกวัด แกว่งเปลื้องออกไปแล้ว ขออ้อนวอนพญาอินทิราช จงรับรู้เป็น พยาน จงใช้ญาณไตรตรองดลให้พ่ีมีความหวังเถิด xU’gpbU g0AHkz^h@l>L=yHO ,skWrs<rบ’4k* dyOoyHO .lUj’ gVnU’VUfrahk rb,kOgpnHU,zYJWrt@p< ปองเยอ เจ้าผู้โสฬสชั้น มหาพรหมเพียงภาค กันนั้น ใสส่อง เฮืองฮอดฟ้ า พิมานเยื้อมผ่อพระโยม ฯ ตั้งจิตปรารถนาไปยังมหาพรหม ๑๖ ชั้นฟ้ า ได้โปรด ส่องแสงสว่าง เรืองรองมายังฟากฟ้ า ให้แลเห็นวิมานระยิบระยับ กลางอากาศเถิด =nJU;jK p6mอ@p*rnHO 4k3gvOydoU’omu wW9rt 9b’Lkmbr3 muJWl:\l:yo*phU’ -3A,s3yJ’ [ki,udyHO wlpkobmMgoyJ$ ,koyHO oyR,nHU ,7OrkDrAHO c5<5hkO5jk3itf^ ชื่อว่า ยุทธโยคพื้น ภายเอนกนองนที
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๕๕ ไตรพะ ติงสาทิพย์ ที่สรวงสวรรค์ย้อง ขยมหยั่ง บารมีกั้น ไสยานิททะเน่ง มานั้น นับมื้ อ มึนพรากพ้น แถมถ้านถ่ายระดู ฯ ชื่อว่าสงคราม ณ แผ่นนา ้เนืองนองไม่มีท่ีสุด สวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ ชื่อว่าเป็นท่ีงดงามในสรวงสวรรค์ข้าอาศัยบารมีท่ี คุ้มครอง เป็นอยู่หลับนอนมา นับวันจะต้องพลัดพราก ยิ่งขึ้น ตาม ฤดูกาลท่เีปล่ียนไป ruJouHgxyOfyJ$ .p[y:-hU’ r}k3lkOlA<Wxt@p* @vh @vRgvAkc,jxhUH’ x6olhU,=jUpcs}, พี่นี้เป็ นดั่ง ใยบัวข้อง พลายสารสมประโยค โอ้ โอบเอาแม่ป้ อง ปุนส้อมซ่อยแหลม ฯ พ่ีน้ีเปรียบดังใยบัว ท่ีเก่ียวรัดรึงช้างพลาย แล้วหาท่ี พึ่งมาโอบกอดปกป้ อง พอจะช่วยแก้ช่วยคลายออกได้ dY[YJ ]6]kRlhk$ =YHkgs}AJkr}คl}k$ ,gokm;kOm6d_N myJ$@V<k:[hk gxyOfyJ$ vy8*uws<h raUorak\granUpxjk 87F.W8j sU[c,joYHk myH$shkvkRqlA$ ก็บ่ ลุลาภสร้าง ซ ้าเหล่าพลอยสลาง มโนทวารทุกข์ ทั่งโฮมฮาวบ้า
๕๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี เป็ นดั่ง อัคคีไหม้ ฟอนฟางเฟื อยป่ า คึดใคร่ หอบแม่น ้า ทั้งห้าอาบสรง ฯ ก็ไม่ได้ด่ังท่ีอยากจะได้มิหน าซ ้ายังต้องพลัดพราก จากส่งิท่สีว่างไสว อนัเป็นสขุทา ให้จิตใจต้องทนทุกข์แทงทวีราวจะ เป็นบ้า เพียงดั่งไฟลุกไหม้ฟอนฟางเศษไม้ในป่ า ใคร่อยากจะโอบ อุ้มเอาแม่น ้าทั้งห้า (คงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู และมหี) มาอาบรด dY[YJ gxyOwxwfh @f3fyJ$,goko7D gWrAkt;jK ,skomumyH$g[P)k 2^jd:’wd}Vhk3 ;jK0yD @v<gvAkoYHk vgok,k]hk$lj:3 rY.sh sk3@lDVhUo -oy$g[nHU’/jk3s}y’ ก็บ่ เป็ นไปได้ โดยดั่งมโนนึก เพราะว่า มหานทีทั้งเบญจา อยู่กวงไกลฮ้าย ว่าจัก โอมเอาน ้า อโนมาล้างส่วย พอให้ หายโศกฮ้อน ขนังเบื้องฝ่ ายหลัง กเ็ป็นไปไม่ได้ตามท่ีใจนึกปรารถนา เพราะว่าปัญจม หานทีอยู่ไกลมากนัก ว่าจะเอาน ้าจากแม่น ้าอโนมามาช าระล้าง พอ ให้หายโศกหายร้อน หายจากความขุ่นข้องคับแค้นใจ ในภายหลัง dy[RdYJ 9yH$g-(w;h shkryO-:[Wrt;yสk vkoAoMN d}nodbOsk$ csj$,yOmtg,Akws<h
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๕๗ wWrroy$gvnHU Vk:g-Ak-บ;8:uJ 87F.W8j ,hk$,6jo,h:3 ,y:-:YHkw-:j-uO กัปป์ ก่อ ตั้งเขตไว้ ห้าพันขวบพระวัสสา อานนท์ กลืนกินหาง แห่งมันทะเมาไหม้ ไพรพนังเอื้ อ ฮาวเขาเขียวควี่ คึดใคร่ ม้างมุ่นม้วย มัวขว ้าไขว่ขีน ฯ ตั้งแต่เกิดก่อกัปป์ นับกัลป์ ตั้งเกณฑ์ไว้ห้าพันพระ วัสสา ปลาอานนท์ก็กลืนกินหางของมันสลดมอดไหม้ป่าไพรท่คีุ้ม ก าบัง ตามราวเขาเขียวก็พังทลายลง อยากจะท าลายให้มอดม้วยไม่ เป็นชิ้นดี ฝืนข้ามไปอย่างสับสนวุ่นวายก าหนดไม่ได้ s}k3lYJkw,h .oxjkvoyO9NoyD sklYJk gxyO-U’sU, cdjO0yOmON[YJ,uwfh 8AOg9y<[hkO 8kg,,ukD skz^h9hU’ ,gokwmhwxj,u หลายส ่าไม้ ในป่ าอนันต์นัก หาส ่า เป็ นของหอม แก่นจันทน์บ่มีได้ คนเต็มบ้าน คาเมมีมาก หาผู้ต้อง มโนไท้ไป่ มี ฯ
๕๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ต้นไม้หลายพรรณหลากชนิด ในป่ ามีจ านวนมากนับ ไม่ได้จะหาพรรณท่ีเป็นไม้หอม อย่างแก่นจันทน์น้ันหาได้ยากนัก คนหลายคนมีอยู่เตม็หมดหมู่บ้าน หาคนท่จีะถูกใจรู้ใจกห็ายากแท้ 8nU8^j 0yOWmN0i7Drahk gxyO8^jl6ibgpk iy$ษu.l ljU’gpnU’py$fhk: iy$ษu=hUo -A<dyOd}k$vkdkL [YJvk) ohk:coR=hUo =A<g]jOd}B,0บ’ คือคู่ จันทร์จรึกฟ้ า เป็ นคู่สุริโย รังษีใส ส่องเยืองยังด้าว รังษีซ้อน ขมกันกลางอากาศ บ่อาจ น้าวแนบซ้อน ชมเหล้นกล่อมเจียง เปรียบเสมือน พระจันทร์โคจรในท้องฟ้ า เป็นคู่พระ อาทิตย์ ต่างฉายรังสีใสส่องไปทั่วแว่นแคว้น ซ้อนทับกันกลาง อากาศ แต่ไม่สามารถจะเหน่ียวโน้มมาแนบชิด เชยชมขับกล่อม เป็นอันเดียวกันได้ Vu m6,z}kshk: sU,@V3VALVj:’ sOk<s}B,dบ; cd<hkOc8j]Yk อันว่า ทุมผลาห้าว หอมโฮยฮสฮ่วง หนามหล่อมเกี้ ยว แกมก้านแค่ล า ฯ
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๕๙ พุ่มพวงดอกผลดูเด่น แผ่กลิ่นหอมโรยรินรดร่วงลงที ละน้อย มีหนามเก่ยีวพันล ากิ่งก้านเข้าเป็นอันเดียวกัน ohk:o:]9hU’ g9AHk97J$sU,s:y] gfbOwd}sOu 0kDWrw,W9b N[YJ,uwfh skDvjk: pbO9}A[=hฮ c=$WxtsบoskmYJ ,bwfh x6oWxบ[ xkOc,j=hk$ lkO9nHU9nJ<f:’ น้าวนวลต้อง เต้าตึ่งหอมหวล เดินไกลหนี จากพระไมตร์ิบ่มีได้ หากอ่าว ยินตลบซ้อย แซงประเหียนหาท่อ มิได้ ปุนเปรียบ ปานแม่ช้าง สารตื้ อตื่มดวง ฯ เหน่ียวเอาส่วนดอกและผล ให้ดูดกหนาสุกหอมหวล อย่าให้ห่างไกลจากไมตรีท่ีปรารถนา หากความคิดถึงเปล่ียนแปร ไปในภายหลัง ไม่มีชาติเชื้อใดจะเปรียบเทียบเท่าได้ เปรียบประดุจ แม่ช้างสารท่สีบืเช้ือสายต่อยอดกันนับพันล้าน 9hU’9nJ<-YH -:kOzjk4^zk gl]k dU’d:oWdt0yF ,6jogsy$gsyOrnHO vbOWmNvYJk 5U’g5b$c0h$ 89b@f3fU,gsL gVy:5h:o ,b.sh VyDrbJ$rบh’ lbgvAk96h,9jU,-:yo ต้องตื่มข้อ ขวานผ่าภูผา
๖๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี เสลา กองกวนกระจัด มุ่นเห็งเห็นพื้น อินทร์อ ่า ถองเถิงแจ้ง คติโดยดอมเหตุ เฮ็วถ้วน มิให้ ฮักพิ่งเพี้ยง สิเอาตุ้มต่อมขวัญ ฯ ต้องเพิ่มเติมข้อนี้ว่า เอาขวานผ่าฟันภูเขา จนหินศิลา แตกกองกระจัดกระจาย พังทลายราบจนเห็นพื้นดิน พระอินทร์ รับรู้ด้วยญาณเห็นแจ้งเหตุความเป็นไปนี้ด้วย รวดเร็วทุกประการ ไม่มีความล าเอียง ยุติธรรมเท่าเทียมกันหมด ในการให้ความ คุ้มครองเป็นท่พี่ึงทางจิตใจ ruJ[YJ .sh8}kFVhk$ gsbOsjk$Wrtw,W9b N,bW9 rYWrtmy3 0yD.W8j8ฮW8U’96h, -Ycdj ๆl^iohk: co<l,UilA<=jฮ โoWmNsky VฮVYJkg[nHU’ l,u=hUiljU’g’Ak 2^jcs}j; พี่บ่ ให้คลาดฮ้าง เหินห่างพระไมตร์ิมิตร พอพระทัย จักใคร่คอยครองตุ้ม ขอแก่ อีสูรน้าว แนมสมรสมซ่อย อินทร์หาก ฮอยฮ ่าเบื้อง สมีซ้อนส่องเงา อยู่แหล้ว พ่ีเอง ก็ไม่ให้แคล้วคลาดร้างรา เหินห่างจากไมตรี มิตร พอใจยินดีจะคอยปกป้ องคุ้มครอง ขออ้อนวอนพระอิศวรให้ เล็งเห็น โน้มน้าวใจน้องนางช่วยบ้าง ฝ่ ายพระอินทร์ก็หากจะคอย ช่วยเหลือ ติดตามอยู่บ้าง
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๖๑ iks^ vบ’9AOg-AHk l^iWrt0yOWmNc5<gs}AJk ,y:,nF d}6h,duRrahk [y$dฑOd}Bj,l,u ราหู เอียงตนเข้า สูนพระจันทร์แถมเหล่า มัวมืด กลุ้มกีบฟ้ า บังกั้นกล่อมสมี ฯ พระราหู กลืนกินพระจันทร์พร้อมเหล่าบริวาร ท าให้ มืดมัวหมดท้องฟ้ า ปิดกั้นก าบังลม l,u gx}nBH’gs}nJB,=hUo Vบ’Vj:,ikษu xtgx}j’ g’Ak’Ykl,u ljU’.l^iws<h vkmb93N mบ;gmb$rahk ikษugVnU’V:j, dyOcs}j; 8 ฑO;jK iks^=Uic=Dg-AHk l^ipNvYHk[YJgVnU’ สมี เปลื้ องเหลื่อมช้อน เฮียงฮ่วมราษี ปะเปล่ง เงาง าสมี ส่องใสสูนไหม้ อาทิตย์ เที่ยวเทิงฟ้ า ราษีเฮืองฮ่วม กันแหล้ว ครั้นว่า ราหูซอนแซกเข้า สูรย์อ ้าบ่เฮือง ฯ ลมพัดเปล้ืองไปมา รวมกบัรัศมีท่เีปล่งเงาครอบงา ลม ส่องแสงจนดับส้ินไป พระอาทิตย์โคจรในท้องฟ้ามีรังสีท่ีเปล่ง ออกมากระทบกัน เมื่อพระราหูแทรกซอนเข้ามา พระอาทิตย์จะดับ แสงไปเหมือนกัน
๖๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี vkmb93N mบ;]j:’rahk g’nHU,c’j@r3A,[AO iks^py$ gs}nJB,iy$ษugWศAHk Vu 0yoWmy’gs}nHB [YJ,ugry$cV<8YJk v:ogvฑ 3 vkmb93 [YJc[j$[hk$ gry$c0h$fyJ$Wrt0yOWmN อาทิตย์ เทียวล่วงฟ้ า เงื้ อมแง่โพยมบน ราหูยัง เหลื่อมรังษีเศร้า อันว่า จันทรังเหลื้ อ บ่มีเพ็งแฮมค ่า อวนเอย อาทิตย์ บ่แบ่งบ้าง เพ็งแจ้งดั่งพระจันทร์ ฯ พระอาทิตย์ จะโคจรไปทั่วทุกส่วนแห่งท้องฟ้ า พระ ราหูยังสามารถบังรังสีให้มืดหม่นได้ พระจันทร์เริ่มไม่ส่องแสงเต็ม ดวงตั้งแต่แรมหนึ่งค ่า แต่พระอาทิตย์ไม่แบ่งข้างขึ้ นข้างแรม เหมือนกับพระจันทร์เลย cxFczjOrnHO rWsA<;kL;A$dAL .orA$wr gfnULdtsk3sb:-hUo Vkdบi]hU, 8IkoyOgonU’ouJ ly9(lk,kO,Uf,บho rtw,-yOH-kLc8O แปดแผ่นพื้น พรหมวาสวงกฏ ในพงไพร เดือดกระหายหิวข้อน อาเกียรล้อม คณานันต์เนืองนี่ สัตว์สามานย์มอดเมี้ ยน พระไมตร์ิข้นัขาดแคน
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๖๓ เขาวงกตท่อีาศัยประพฤติพรหมจรรย์ท้งัแปดแผ่นพ้ืน ในป่าพงไพร เดือดร้อนหิวกระหายถึงท่ีสุด เกล่ือนกล่นรายล้อม มากมายจนนับไม่ถ้วน สัตว์ชั้นต ่าล้มตายไป มิตรไมตรีก็คงเหือด หายไม่มีอยู่ py$c9j rtzjk$czh: 9yLljU’lYiPkณ grkTbPkณgpnU’ ljU’mk$mบ;g9AHk oYkly9(g-AHk ouirkOzk3s:jkO mบ;@zL 8AOl*yJ’c8hO oYk-7HO@zLg5b$ ยังแต่ พระผ่างแผ้ว ตรัสส่องสรญาณ โพธิญาณเยือง ส่องทางเทียวเต้า น าสัตว์เข้า นีรพานผายหว่าน เทียวโผด คนสคั่งแค้น น าขึ้ นโผดเถิง ฯ เหลือแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสรู้ ตรวจดูสัตว์โลก ด้วยพระสรญาณ แผ่พระโพธิญาณมาส่องทางมรรควิถีให้สัตว์โลก ได้ท่องเท่ีท่อยวไปด้วยกัน น าเข้าสู่พระนิพพาน โปรดคนยากจน เข็ญใจได้ทั่วเท่าถึงกัน 9yH$c9j dy[X5h:oshk lbX=k9b=kfAD ,kr6ho WrtrYJk gry$[ki,u mบj’Ty,<s<k3s<yHo luJvlA$w-9yH$ Wrtmy3x6ix}6dVบd
๖๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี dY0bJ$ ]6kRwfh Pkณcdh:cdjOTy,< ตั้งแต่ กัปป์ ถ้วนห้า สิบชาติชาดก มาพุ้น พระพ ่า เพ็งบารมี เที่ยงธรรมหมายหมั้น สี่อสงไขยตั้ง พระทัยปุนปลุกเฮียก ก็จิ่ง ลุลาภได้ ญาณแก้วแก่นธรรม ฯ เป็นต้นมาตั้งแต่ กัปป์ท่ีพระพุทธองค์ทรงเสวยชาติ เป็นพระโพธิสัตว์ห้าสิบชาติ ทรงบ าเพ็ญบารมีอย่างมั่นคงในธรรม มุ่งหมายพระโพธิญาณ นับส่ีอสงไขย ปลุกใจให้ต่ืนรู้จนกระท่ัง บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระพุทธเจ้าได้ Wrt0bJ$9yH$ r6mอศkLlUily9:N miA$ฟm อ umบ; @zL8AOkc]h$ นYly9:N-hk< lA$kilk8giL @zL.sh Vบ’cmjOcdh: gd3rบh’rYJk,:] พระจิ่งตั้ง พุทธศาสน์สอนสัตว์ ทรงฤทธีเทียว โผดคนคาแล้ง น าสัตว์ข้าม สงสารสาคเรศ โผดให้ เฮียงแท่นแก้ว เกยเพี้ยงพ ่ามวล ฯ พระพุทธองค์ ทรงตั้งพระพุทธศาสนาสั่งสอนสรรพ สัตว์ทรงพุทธฤทธ์ิเท่ยีวโปรดสัตวนิกรท่จีมอยู่ในกองทุกข์ให้ข้าม
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๖๕ พ้นจากโอฆะสงสาร ได้ใกล้เคียงแท่นแก้วสัพพัญญู รู้ธรรมตาม พระพุทธะโดยทั่วเท่ากันทั้งหมดทั้งมวล /^’lYJklบh’ ly9:s,^jmบ;m6d_N WrtljU’ gpnuU’py$g;I g;mนนY-:hk< Wrtz^h miA$lObm]YHk lYiPkณgpnHU’ljU’ zk3@zL ly9:9YJ9hฮ นY-7HOl^jl;yO8N ฝูงส ่าเสี้ ยง สัตว์หมู่เทียวทุกข์ พระส่อง เยืองยังเวร เวทนาน าขว้าม พระผู้ ทรงสนิทล ้า สรญาณเยื้องส่อง ผายโผด สัตว์ต่อต้อย น าขึ้ นสู่สวรรค์ ฯ สรรพสตัว์ท้งัหลายท้งัส้นิท่ที่องเท่ยวอยู่ในวัฏฏะทุกข์ ี พระพุทธองค์ทรงสอนให้ข้ามพ้นจากเวรกรรมอันเป็นกองทุกข์ ทรงเข้าถึงสัตวโลก ตรัสส่องพระสรญาณตรวจดูเป็นนิตย์ โปรด สรรพสัตว์ต่อเนื่อง ให้ได้ขึ้นสวรรค์ gpnU’8:k<.sh rบ’VU,rYV6j’ 5:k3[kM rYzkLw;h zPkd:hk$VYJkVUo syHO5hUo gmnJUouH 0y.8jgfbOwxdYHk 4^g’bO’k<pbjJ$ muJoyHO [YJvk).=hcdjOcdh: dy]3NphฮpUf=u;y$ เยืองความให้ เพียงฮอมพอฮุ่ง
๖๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ถวายบาท พอผาดไว้ ผญากว้างฮ ่าฮอน หั้นถ้อน เทื่อนี้ จักใคร่เดินไปก ้า ภูเงินงามยิ่ง ที่นั้น บ่อาจใช้แก่นแก้ว กัลย์ย้อยยอดชีวัง ฯ ส่องแสงพระธรรม จวนใกล้เห็นทางสว่าง ให้ได้เดิน ร าพึงพิจารณาบนหนทางแห่งปัญญาอันกว้าง ครั้งนี้ ใคร่จะเดินไป ยังภเูขาสีเงินอันงดงามย่ิง ถึงท่นี้ัน จะไม่อาจใช้แก่นแก้วอันงดงาม เป็นยอดชีวิตได้ p^mjk$ VyVj:,/yhO lA<lbJ’.0xtlA’*N [yOmA< 5:k30k,iu ik+lb$skLshU’ ,umy$ 8^skshU’ g,y$=Uic=OsbJ$ ,umy$ sY=YJrahk ,6’cxhOxjU’]A< ยูท่าง ฮักฮ่วมฝั้น สมสิ่งใจประสงค์ บรรทม ถวายจามรี ราชสิงหาส์ห้อง มีทั้ง คูหาห้อง เม็งชรแซมหิ่ง มีทั้ง หอช่อฟ้ า มุงแป้ นป่ องลม รู้สึกเบิกบานใจเม่ือได้รักร่วมเก่ียวสัมพันธ์สมหวังใน ส่ิงท่ีใจประสงค์ได้นอนอยู่บนขนจามรี ในห้องราชสิงหาส์แห่ง พระราชา อันมีทั้งคูหาห้อง ประดับประดาไปด้วยเตียงเม็งชร มีทั้ง หอช่อฟ้ า ป่ องลมประดับประดางดงาม
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๖๗ ray$gpb @C<lvkLgonHU oA$5jk:lk:Vk< Vบ,gvb3 8YkruJm^] cmX9uO9k$sOhk g=bญsYUJ, W9U’W9kc0h$ 8Yk8fu@f3g]L 8YkruJ m^]cmXrnJO 5:k3w;YJk8tob$ cfj5hUo ฟังเยอ โฉมสะอาดเนื้อ นงค์ถ่าวสาวฮาม เฮียมเอย ค าพี่ทูล แทบตีนตางหน้า เชิญหม่อม ตรองตราแจ้ง ค าคดีโดยเลศ ค าพี่ ทูลแทบพื้น ถวายไว้ฮ ่าคะนิง แด่ถ้อน ฯ ฟังเถิด น้องนางเน้ือนวลอนงค์ของพ่ีเอย ฟังค าพูด ระดับต ่าแทบเท้าต่างหน้าเถิด ขอเชิญพระน้องนางจงไตร่ตรอง พิจารณา ถ้อยค านั้นอันแสดงความรู้สึก อาการท่าที ค าพูดระดับ แทบพื้นนี้ ขอถวายไว้ให้ใคร่ครวญ บ้างเถิด vyOmuJ Ty,<=k9bg=nHU vy8*gpLr@p<pAL dYfu ,b.8j rYrtmy3mA< cmXwzznOcohO Pk<g,nJU fb5u9yH$ g9b<itf^[u.s<j ,koyHO fUdgdL [kOgVnJUgVAHk sOk<]hU,c8j]Yk อันที่ ธรรมชาติเชื้ อ อัคคเยศโพยมยศ ก็ดี มิใคร่ พอพระทัยทม แทบไผผืนแหน้น ยามเมื่อ ดิถีตั้ง เติมระดูปี ใหม่ มานั้น ดอกเกด บานเฮื่อเฮ้า หนามล้อมแค่ล า
๖๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ชื่อว่า ธรรมชาติ แต่เดิมของแถนฟ้ า เทวดา มิใคร่จะ พอใจในภาคพื้นแผ่นดินนัก เมื่อคราวถึงดิถีฤดูปีใหม่ มาแล้ว ดอก เกดเบ่งบานสะพรั่ง มีหนามล้อมเพียงล าต้นเท่านั้น g0AHkz^h [ibl6mอNg=nHU f:’sU,fUdgfnJU Vบ,gv3 l6ydjU, ]Yk]บ[-:yHo c-:o=hUi2^j=Ui เจ้าผู้ บริสุทธ์ิเช้ือ ดวงหอมดอกเดื่อ เฮียมเอย สุกกล่อม ล าเลียบขวั้น แขวนซ้อนอยู่ซอน ฯ เจ้าดอกเด่ือดวงหอมบริสุทธ์ิของพ่ีเอย เจ้าสุกหอม กล่อมทั่วขั้วไปถึงล าต้น ห้อยซ้อนสลับกันอยู่อย่างนั้น lryJ$ryH: r:’ruJlki4u dyoObdkdk: gVnJUwrfA$fhk: 4^,ibOclh: cl:’vU’gvAkdbJO p^mjk$ l6-2^j/yHO c/$dyH:dbJO]vU’ สะพรั่งพั้ว พวงพี่สารภี กรรณิกากาว เฮื่อไพรพงด้าว ภูมรินแส้ว แสวงอองเอากลิ่น ยูท่าง สุขอยู่ฝั้น แฝงกลั้วกลิ่นละออง พุ่มดอกพวงพ่ีดอกสารภีเป็ นพุ่มเป็ นพวง ดอก กรรณิกา เบ่งบานสะพรั่งในป่ าดงพงไพร ให้หมู่ผึ้งภุมริน บินโฉบ
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๖๙ เฉ่ียว เอาละอองกล่ินเกสร อย่างมีความสุขเบิกบานใจ พัวพันอยู่ กับกลิ่นละอองนั้น ,yO,b wfhgfnUสVhUo @m<okL.o-,U’ [YJsjUo ,u-:k$-yL ;kLg=b$k3fyHO Vuวj rbly3g=nHU =k:=AO,o6ส=k9b gVAkouH ,umuJ-hU’ -oy$g[nHU’[AJOdk< มันมิ ได้เดือดฮ้อน โทมนาสในขมอง บ่ห่อน มีขวางขัด วาดเชิงชายดั้น อันว่า พิสัยเชื้ อ ชาวชนมนุษยชาติ เฮานี้ มีที่ข้อง ขนังเบื้องบ่นกาม ฯ ภุมรินเหล่านั้น มันมิได้มีความเดือดร้ อน ทุกข์ โทมมนัสกลัดกลุ้มในสมอง ในจิตใจอะไรเลย ไม่มีสิ่งขวางขัด ลวง เล่ห์เพอุบายใดๆ เหมือนกับธรรมดาวิสัยเดิมของมนุษย์เรานี้ มีแต่ ความขัดข้อง เป็นก าแพงขวางกั้น หมกมุ่นอยู่ในกามคุณ @m,นLVhUo .ogmLWm:’mbr3N VA<,oy$-yL ;KLg=b$k3fyHO .osAOshU’ ,gokm;KOm6dlYJk Wzs}YJkpบj, gsOwfh’jk3fk3 [6gf โทมนาสฮ้อน ในเทศทรวงทิพย์
๗๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ฮมมนังขัด วาดเชิงชายดั้น ในหนห้อง มโนทวารทุกส ่า ไผหล ่าเยี่ยม เห็นได้ง่ายดาย บุเด ฯ โทมนัสทุกข์ร้อนใจ แม้อยู่ในท่ีอันสุขสบาย ร้อนรน จิตใจเกิดกิเลสตัณหาทุกหนห้องแห่งมโนทวาร ใครได้พิจารณาดู ดีๆ จะเห็นชัดเจน 0yOWmN0i7DfyHO ‘บh,c’j@rp<l^’ iks^py$ mjU’mบ;pk<pบj, vkmb9บ N 0Ui0iALrahk Soy$8y}-y9(ฟdษ N iks^ py$pjU’pบj, pk<.sh5nDl^P จันทร์จรึกดั้น เงี้ ยมแง่โพยมสูง ราหูยัง ท่องเทียวยามเยี่ยม อาทิตย์ จรจรดฟ้ า ฆนังคัลขัตตฤกษ์ ราหู ยังย่องเยี่ยม ยามให้ถืกสูญ ฯ พระจันทร์โคจรจาริกไปในฟากฟ้ าอันสูง ราหูก็ยัง เท่ียวติดตามตรวจดูตลอด พระอาทิตย์กจ็รจรดฟ้า ฤดูจรดพระ นังคัลแรกนาขวัญ พระราหูยังติดตามรอจะกลืนกินอยู่อย่างนั้น mbrRt 9:p9jUogs}AHk lbs}A’VjU,mk$87F c]gpb gxyOfyJ$ /AOibOg=b3 c,j=A}Tiy$csh$
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๗๑ mU,0b9 fYkfbOfyHO gfbOzbOc/$-U[ c,jgf g-Akg-nJUo,hk$ m}k3]AH<]jk:]บo ทิพพะ ตวยต่อนเหล้า สิหลงฮ่อมทางคึด แลเยอ เป็ นดั่ง ฝนรินเชย แม่ชลธรังแห้ง ทอมจิต ดินด าดั้น เดินผินแฝงขอบ แม่เด เขาเขื่อนม้าง ทลายล้มล่าวเลียน ฯ รวมถึงเหล่าทิพเทวาด้วย จะหลงทางความคิด เป็นดั่ง ฝนรินเบาๆ เป็นเหตุให้น ้าในแม่น ้าเหือดแห้ง จึงค่อยทนุถนอม ดวงจิต ได้ด าดิน ฝ่าเดินบนดินอันแห้งขอบ ท่เีข่ือนเขาพังทลายล้ม ระเนระนาดอยู่ g[nHU’[bJOc[h -A$-U[8yoอgl,N dA}sA} .odkg, ,nF9:yoTiy$ws<h Ckpk g’Ak’Ykg’nHU, Wrtikษul^Pg,ฆ 0ydD;K}@8jO8hk: cfOhk:gfnJU’s$k3 เบื้องปิ่ นแป้ ขงขอบคันธเสม์ กลหล ในกาเม มืดควันธรังไหม้ ฉายา เงาง าเงื้ อม พระราษีสูญเมฆ จักรวาฬโค่นค้าว แดนด้าวเดื่องหงาย ทางส่วนเล็กๆ มุมเล็กๆ ท่ขีอบเขาคันธมาทน์มีความ โกลาหลวุ่นวาย ในกามคุณ มืดมัวหม่นไหม้ไปทั่วแผ่นพื้น เกิดเงา
๗๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี เงื้อมบังรัศมีดับสูญหายไปในกลีบเมฆ จักรวาลโค่นทลายไปทุก แดนด้าว ;jKlb [6czjOrnHO mยบ;mjU’mYkฟm อ N mpkOg;sk Vj:,Vบ’rt0yOWmNc0h$ fYkfbOfyHO g,gSk-Ykg,ฆ zyO]j:’rahk vb$gvnHU,cmjOvbOWiN ว่าสิ บุแผ่นพื้น เทียวท่องท าฤทธ์ิ ทยานเวหา ฮ่วมเฮียงพระจันทร์แจ้ง ด าดินดั้น เมโฆข าเมฆ ผันล่วงฟ้ า อิงเอื้ อมแท่นอินทร์ ฯ อยากจะบุกฝ่าแผ่นพ้ืน เท่ียวแสดงอิทธิฤทธ์ิทยาน เหินเวหาอากาศ ร่วมเรียงไปกับพระจันทร์ท่ีส่องสว่าง แล้วด าดิน ด้นดั้น ทะลุเข้าไปในเมฆ พลิกแผ่นฟ้ าเบื้องบน หวังเอื้อมบัลลังก์ พระอินทร์ cxFczjOrnHO rWsA<;KL;A$dAฏ .orA$wr gfnUfdtsk3sb:-hUi Ty,<=k9b,hk v+kwo3,IudkR inUsjUo @p<pAL8hk< ฟm อbg9hO5uXzpU’ g,nJ.f แปดแผ่นพื้น พรหมวาสวงกฏ
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๗๓ ในพงไพร เดือดกระหายหิวข้อน ธรรมชาติม้า อาชาไนยมณีกาบ รือห่อน โยมยศคร้าม ฤทธ์ิเตน้ถีบผยอง เมอื่ ใด ฯ แปดแผ่นพ้ืนในเขาวงกตท่ีอยู่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ในพงไพร ต่างพากันทุกข์ร้อนอดอยากหิวกระหายเป็นท่ีสุด ธรรมชาติของม้าอาชาไนย ม้ามณีกาบ มีหรือจะยอมเสื่อมยศเกรง กลัว ต้องแสดงฤทธ์เิต้นถีบกระโดดเหาะไป คราใดคราน้ัน 8yOxtlA$ mjU’mบj;g5b$shU’ fk;f7$lN.9hpjkO pk<.f ,yOdY d:yd[uDrnUgzjOzhk3 zpU’]YHk]j:’Wrdk} ครั้นประสงค์ท่องเที่ยวเถิงห้อง ดาวดึงส์ใต้ย่าน ยามใด มันก็ กวักปี กพือเผ่นผ้าย ผยองล ้าล่วงพระกาฬ ฯ เมื่อประสงค์จะท่องไปยังดาวดึงส์แดนสวรรค์ คราใด มันก็ กวักกางปีกบินเผ่นผ้าย กระโดดคึกคะนองล่วงล ้าจักรวาล .9h]6j,]hk$ ]nUvk=ญNvyOfบ; ouHcs}j; ly9:NlYJk rบ’rบorAR ,U[znOc/$ohU, น;KgxnHU’ cx:-yOg-bO-kL sbOcVj ra^w-:j-hUo g-bOdhUodjU’Tik ใต้ลุ่มล้าง ลืออาชญ์อันเดียว นี้แหล้ว สัตว์ส ่า เพียงเพียรพบ มอบผืนแฝงน้อม
๗๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี นาวาเปลื้ อง แปวขันเขินขาด หินแฮ่ ฟูไขว่ข้อน เขินก้อนก่องธรา ฯ ภายใต้ล่างผืนฟ้ า คือโลกมนุษย์ เคารพนับถือผู้เป็น เจ้าคนเดียว สัตว์ทุกเหล่าต่างพากเพียรเคารพนอบน้อม เรือนาวา เปลื้องจม ทางน ้าไหลวนแห้งขอด หินกรวด ฟูล่องลอยในน ้า จนน ้า แห้งขอดไป vkmb93N ]yX-U[rahk ]A$]6j,g-Aklg,i6 0yOmiy$.l ljU’k<g’Akc0h$ [YJd:yJ [yPญk5hUo W9U’f^skgs( gvAk5hUo g9y<87L g0AHk0bJ$9hkO 9k<-YHmjUo8tob$ syHO5hUo อาทิตย์ ลับขอบฟ้ า ลงลุ่มเสาสเมรุ จันทรังใส ส่องงามเงาแจ้ง บ่กว่า ปัญญาถ้อน ตรองดูหาเหตุ เอาถ้อน เต็มคึด เจ้าจิ่งต้าน ตามข้อท่อนคะนิง หั้นถ้อน พระอาทิตย์ลับขอบฟ้ าหลังเขาพระสุเมรุ พระจันทร์ เรืองรองส่องประกายงดงาม ไม่เทียบเท่าปัญญา จงตรองดูหา สาเหตุเอาเถิด ให้ความคิดเต็ม แล้วจึงพูดตามข้อประเด็นท่ีได้ ตรองคิดดีแล้ว
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๗๕ =k9bmuJ sA’LNsjUosyOsOug;yHO [k$lt.lUj wgh WxdU[ Vบ’cmOcdh: dkOVhUosjUolb5Uo gmnjJU.f dy:c9j gfbOwd}Vhk$ 8YkWrw,]k3sjk$ 87F.8j Vบ’WxdU[cdh: m]Uo5hฮ5Uf-,U’ ชาติที่ หงส์ห่อนหันหนีเว้น บางสระใสส่อง ได้เด ประกอบ เฮียงแทนแก้ว การฮ้อนห่อนสิถอน เทื่อใด กลัวแต่ เดินไกลฮ้าง ค าพระไมตร์ิมลายห่าง คึดใคร่ เฮียงประกอบแก้ว ทลอนถ้อยถอดขมอง ฯ ธรรมชาติของหงส์ ไม่หันหนี เว้นจากสระน ้าใสได้ ประกอบงดงามเป็นดวงแก้ว มีฤๅจะช าระความร้อนได้ เกรงจะไกล เหินห่างไมตรีมลายไป ใคร่จะเรียงประกอบแก้ว เผื่อบังเอิญถ้อย ค าพูดจะถอดถอนจากสมองไปได้ 8YkouH w;hcdjd}oMbik+g0AHk pyH$-,U,WmA$87L rYWrmy3 0y.8j8ฮgsyOsOhk -Ycdj gmg;KxhU’ [6ilkOlA<=jฮ Vบ’5hUo -Y.sh g5b$muJ=yHO =A<gdnHUdjU,l<u ค านี้ ไว้แก่อินทิราชเจ้า ยั้งขม่อมทรงคึด พอพระทัย จักใคร่คอยเห็นหน้า ขอแก่ เทโวป้ อง ปุนสารสมซ่อย เฮียงถ้อน ขอให้ เถิงที่ชั้น ชมเกื้ อกล่อมสมี ฯ
๗๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ค านี้ เก็บถวายแก่พระยาอินทิราช ให้ทรงคิดพิจารณา พอพระทัยแล้วจักใคร่คอยได้เห็นหน้า ขออ้อนวอนเทวดาได้โปรด แก้ไขสารช่วยด้วยเถิด ขอให้ได้เข้าถึงได้ชมสมปรารถนา =k9bmuJ 4Lkg=nHU vkoAoMน<น* goAkgoj$ ryoอg,ฆdบh; lg,i8hkO@8jO8Uo -Yx6icx}’ p:’pk$sOhk 4Lk[h:’[kL ,Ao(ik+9hU’ W97$wfhgrnJUฟm อ u ชาติที่ ภาษาเชื้ อ อานนท์นามนาค เนาเน่ง พันธเมฆเกี้ ยว สเมรุค้านโคล่นคลอน ขอปุนแปลง ยวงยางหน้า ภาษาบ้วงบาศ มนตะราชต้อง ตรึงได้เพื่อฤทธี ฯ ธรรมดา เชื้อชาติภาษา ปลาอานนท์นั้น นอนหนุน แผ่นดินอยู่ ขยับตัวให้เขาพระสุเมรุโยกเอนสั่นคลอนไปพัวพัน เก่ียวกลุ่มเมฆ ขอได้สร้างพัฒนาในด้านภาษา ความคิด ให้เกิด มนต์ขลัง เพ่ือเป็นอทิธฤิทธ์ิ WศulvkLohฮ น<sOYJsญb’gd rY.0yD .8j8U’=k3=Uho l6fg,nJU ,u=k3=hUo g=3WxlA<Vบ’Vj:, pk<.f p6Advhk$ gvAkohU,sOบ;Wศu ศรีสอาดน้อย นามหน่อหญิงเก
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๗๗ พอใจจัก ใคร่ครองชายซ้อน สุดเมื่อ มีชายซ้อน เชยประสมเฮียงฮ่วม ยามใด ยุยกอ้าง เอาน้อมเหนี่ยวศรี แม่สาวน้อยบริสุทธ์ิขึ้นชื่อว่าหญิงนอกขนบผู้คลั่ง เสน่หา พอใจจะคบชู้สู่ชาย เมื่อชายมาร่วมเรียงเชยชมสมสู่ คราใด ก็จะเป็นใจร่วมรักกับเจ้า ครานั้น rkirYJk ;Uil:’=yHO =A<r^0b9(น* -Y0A$ =^=jฮนh: cfOg0AHkcoRlA< ruJ5hUo wz^h ,uzญkc0h$ 8YkW8U’87FVYJk f^5hUo 2jkray$ grnJUo,kD-YH w-9hkO9nJ<c5< oyHO5hUo พารพร ่า วอนสรวงซั้น ชมพูจิตตะนาค ขอจ่ง ชูช่วยน้าว แดนเจ้าแนบสม พี่ถ้อน ไผผู้ มีผญาแจ้ง ค าครองคึดฮ ่า ดูถ้อน อย่าฟัง เพื่อนมากข้อ ไขต้านตื่มแถม นั้นถ้อน พรั่งพร้อมอ้อนวอนท้าวชมพูจิตตะนาคแห่งเมือง สรวง ขอจงช่วยโน้มน้าวใจของเจ้าให้มีใจแนบสมกบัพ่ีเถิด ใครผู้มี ปัญญารู้แจ้งในถ้อยค าได้พิจารณาไตร่ตรองดูเถิด อย่าได้ฟังคนอื่น ให้มากความ โต้เถียงขัดแย้งให้มาก
๗๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี 0บ,c9j WrAs<cr$lhUp lA<rk:[YJg9nHU’9YJ cVj$87F =YHkcVj$gsyO[Ujo-hU’ dUoohU’V6j’fk3 เจียมแต่ พรหมแพงสร้อย สมพราวบ่เตื้ องต่อ แฮ่งคึด ซ ้าแฮ่งเห็นบ่อนข้อง กลอนน้องฮุ่งดาย เกรงแต่ว่าเจ้าผู้มีปัญญามาก ผู้เหมาะสมจะไม่ตั้งใจ คิดต่อ ยิ่งคิดมากยิ่งจะเห็นความขัดข้อง ความไพเราะในถ้อยค าคง จะหมดความงดงาม c9j;jK coOdUj,/yHO c/$Vj:,Wrw,,b9( 87F;jK ryOf:’9k wxj-nO-yfwfh coOนYdบh; dyO]A$ฟn9jk$ wgfh [6PWxdU[cdh: dyoc]h:sjUo-nO wfhฤ แต่ว่า แนนกล่อมฝั้น แฝงฮ่วมพระไมตร์ิมิตร คึดว่า พันดวงตา ไป่ ขืนขัดได้ แนนน าเกี้ ยว กันลงฤๅต่าง ได้เด บุญประกอบแก้ว กันแล้วห่อนขืน ได้ฤๅ แต่ว่า สายแนนยังกล่อมเก่ียวร่วมไมตรีอยู่คิดว่าตา พันดวงแห่งพระอินทร์ คงจะไม่ขัดขวางได้ สายแนนจะน าเกี้ยว กันลงเป็ นอันต่างได้หรือ เมื่อมีบุญร่วมประกอบกันแล้ว จะขืน ขัดขวางได้อย่างไร
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๗๙ co<mYJ ,A<g-(-hU’ -oy’muJmiA$m6d g,nJU.f 0yD.8j x6oxU’rAX Wxบ[x6ixk’cdh: l]t=u;y$w’hb g;O5:k3m6d=k9b ]6f=y:J,บho g,narahkVj:,lcoO cfjgob แนมท่อ ม้มเขตข้อง ขนังที่ทรงทุกข์ เมื่อใด จักใคร่ ปุนปองพบ เปรียบปุนปรางค์แก้ว สละชีวังไว้ เวนถวายทุกชาติ ลุดชั่วเมี้ ยน เมือฟ้ าฮ่วมชะแนน แด่เนอฯ เม่ือใดท่ีพ้นเขตแห่งความขัดข้องท่ีทา ให้ทุกข์ทรมาน เมื่อนั้น จักใคร่ได้ดั่งใจหวัง ประดุจได้พบปราสาทแก้ว ยอมสละ ชีวิตมอบถวายให้ไปทุกชาติ เมื่อตายจากไป ก็จะไปร่วมสายแนน กัน ณ เมืองฟ้ า 87Fg,nJU pk<โ’gvUnH, znO4UiIN@m<xuJ ;yOoyHO นYHc[j$ -yHOg-(w;h WxlA’*N=hUo=yJ:,Ui ruJcs}j; mbrRt f: \lobMsOhk @C<’k<WrโoMs|YJ 5:k3[kMrYkFw;h rบ’rnHOrjk$9uO cfjgob คึดเมื่อ ยามอิงเอื้ อม ผืนภรณ์โทมปี่ วันนั้น น ้าแบ่ง ขั้นเขตไว้ ประสงค์ซ้อนชั่วมรณ์ ทิพพะ ดวงสนิทหน้า โฉมงามพระอินทร์หล่อ ถวายบาทพอผาดไว้ เพียงพื้นพ่างตีน แด่เนอ
๘๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี คิดถึง เมื่อคราเอื้อมเอาอาภรณ์ผ้ามานุ่งห่ม วันนั้น สายน ้ามาแบ่งกั้นขวางเขตไว้ จึงได้เพียงปรารถนาจะร่วมเรียงเคียง ซ้อนตราบจะตายจากกัน โอ้เจ้าผู้งดงามมาจากแถนอินทร์ฟ้ า พ่ีได้ แต่เพียงปรารถนาตามวาสนาคนต้อยต ่า 8YkouH gly$lบj’w;h น$น%TYiIu myH$4k3[AO gmrfk0Ykc0h$ 4k3-:kw;h [ig,Wrc,j 4k3=hk3w;h น\ohฮg,-|k ค านี้ เส็งเสี่ยงไว้ นางนาถธรณี ทั้งภายบน เทพดาจ าแจ้ง ภายขวาไว้ บรเมพระแม่ ภายซ้ายไว้ นางน้อยเมขลา ค านี้ เก็บไว้เส่ียงทายกับแม่นางธรณีในเบ้ืองล่าง เบื้องบนไว้กับเทวดาได้รับรู้ เบื้องขวาไว้กับเขาพระสุเมรุ เบื้องซ้าย ไว้กับนางเมขลา @lrYJk Wl:y’=yHO ,sk86I86fน* Pบh,]YJkg[nHU’ 9k=hk3g=nUfco< cfjgob c]h:07J$ xA$WxlbmอbN9yH$ 8yIFu]A$ฟdLN VhUoVUfrahk WrโoMczh:zYJgsyO
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๘๑ โสพ ่า สรวงชั้น มหาคุณครุฑนาค เยี้ยมหล ่าเบื้อง ตาซ้ายเชือดแนม แด่เนอ แล้วจิ่ง ปลงประสิทธ์ิต้งั คัณฑีลงฤกษ์ ฮ้อนฮอดฟ้ า พระอินทร์แผ้วผ่อเห็น ฯ กล่าวไปถึง เขตแดนแห่งครุฑและนาค ต่างจ้องมองดู ด้วยสายตาเฉียบแหลม แล้วจึงตั้งความส าเร็จ ลงฤกษ์เจิมน ้าเต้า เดือดร้อนไปถึงเมืองฟ้ า พระอินทร์เล็งส่องมองเห็น wzskD ;K$l[A%]บh; ]:’cxgxUnH’wxj wxoyHO .shmบj; ]A$=j:’.=h .os<YHs<nJovlA$-N syHO5hUo ไผหาก วางสบถเลี้ ยว ลวงแปรเปลื้ องไปล่ ไปนั้น ให้เที่ยว ลงช่วงใช้ ในหม้อหมื่นอสงข์ หั้นถ้อน หากว่า ใครสาปแช่งกลับคืนใส่ตนเอง ลวงล่อให้หลง แปรเปล่ียนไป ขอให้ลงไปชดใช้กรรมในนรกหม่ืนอสงไขย เถิด dY0bJ$ @V<,bJ$s<yHo l,UicmXmบ,VAL x6ifyJ$ 0บ,xk$VyD Vj:,rkน$rahk W9kXwx myOg5b$=yHO ouirkOrAHOdbgdL g,nJU.f -Y.shwfh =A<=Uhom6d=k9bwx ก็จิ่ง โฮมมิ่งหมั้น สมรแทบเทียมฮส ปุนดั่ง เจียมปางฮัก ฮ่วมพานางฟ้ า
๘๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ตราบไป ทันเถิงชั้น นีรพานพ้นกิเลส เมื่อใด ขอให้ได้ ชมช้อนทุกชาติไป กจ็ึงรวบรวมส่ิงท่เีป็นมงคลหมายหม้ัน นางผู้เป็นท่รีัก ได้ใกล้ชิดพ่ีเปรียบปานเทวดาท่รี่วมรักกับนางฟ้า ตราบใดท่ยีังไม่ เข้าถึงนิพพานพ้นกิเลส ขอให้ได้เป็นคู่เคียงไปทุกชาติ c9j;jK VyVy:J,/yHO l,UipbJ$py$m6d_ ruJcs}j; ruJ[YJ x6ixU’Vy Vj:,wz/nOcohO py$mYJ cr$Wrv:yooUh’ .oWm:y’xkOc;jO 0b$cs}j; [YJg[yJ$ shU’sOulบh; ]y:’gs}ho]jk38Yk fUdน แต่ว่า ฮักฮ่วมฝั้น สมรยิ่งยังทุกข์ พี่แหล้ว พี่บ่ ปุนปองฮัก ฮ่วมไผฝื นแน้น ยังท่อ แพงพระอวนน้อง ในทรวงปานแว่น จริงแล้ว บ่เบ่ง ห้องหนีเสี้ ยว ลวงเหล้นล่ายค า ดอกนา แต่ว่า การได้ร่วมเรียงเคียงคู่รักกันกับน้องนาง ยิ่งรัก ย่ิงเป็นทุกข์พ่ีจึงไม่ปรารถนาจะรักใครอีก ยังรักยังหวงน้องนางใน ทรวง ราวกับกระจกส่องหน้า ไม่ได้คุยโวโอ้อวด พูดปดหลอกลวง ดอกหนา -Ycdj mbrRtl,UigpnHUo liPkณpALzYJ s}b’5hUo oyXc9j rUprkyohU’ 8ob$@vhvjk:g5b$ ,kDc]h:
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๘๓ ขอแก่ ทิพพะสมรเยื้อน สรญาณยศผ่อ หลิงถ้อน นับแต่ พลอยพรากน้อง คะนิงโอ้อ่าวเถิง มากแล้ว ขอเพียงให้ทพิย์นวลนาง ได้โปรดเหน็พ่ีในสายตาเถิด นับแต่พ่ีพรากจากน้อง พ่ีคา นึงรา พึงหาเป็นอนัมาก m6d_muJ ryFWxdU[cdh: @vhvjk:8ob$sk 8ob$oA$Wศu V6j’s63gsyOsOhk g0yX0b( .oWm:y’csOyHo 8ob$น$.oc;jO c,jO;jK clOlbJ$นYH v@o,k]hk$dYgs}AJks,U’ ทุกข์ที่ พลัดประกอบแก้ว โอ้อ่าวคะนิงหา คะนิงนงค์ศรี ฮุ่งหุยเห็นหน้า เจ็บจิต ในทรวงแหน้น คะนิงนางในแว่น แม่นว่า แสนสิ่งน ้า อะโนมาล้างก็เหล่าหมอง ความทุกข์จากการพลัดพราก ได้แต่อาลัยร าพึงหา น้องนาง อยากจะเห็นหน้านาง เจ็บจิตแน่นใจ พร ่าเพ้ออยู่หน้า กระจก แม้ว่า จะเอานา ้จากแม่นา ้อโนมา มาล้างใจพ่ีกย็ังหมองอยู่ ดั่งเดิม vyOmuJ 8Yk-บo-YH w-gxyJ$cx:isyL f:’ouH gxyOmuJ -nO-yFmk$ gpmtznOgz3vhk py$wxj 5U’g5b$rnHO =6,r^0b9(น*
๘๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี phkOc9j -yO[YJ5nD-YH g;mhk3c[j$0uO [6gf อันที่ ค าเขียนข้อ ไขเปล่งแปวรหัส ดวงนี้ เป็ นที่ ขืนขัดทาง เยทธะผืนเผยอ้า ยังไป่ ถองเถิงพื้น ชุมพูจิตตนาค ย้านแต่ ขันบ่ถืกข้อ เวท้ายแบ่งจีน บุเด ฯ ข้อความปริศนาน้ีเป็นการยากมากท่ีจะไขปริศนาให้ แจ่มแจ้งได้ ยังไม่ไปถึงเมืองชมพูจิตตนาคเลย ก็กลัวแต่ว่า จะไข ปริศนาไม่ถูกข้อ จะถึงจุดหมายอยู่แล้ว สุดท้ายหันเหไปทางอื่น wz;jK 8^skshU’ lu@slbg;yHOs}ud gxyOฤ g0yF;yO dY0bJ$s}b’]YJkpบh, 8IkgonHUc9j]tpk< sky2^j c5<5oU,gonHU ;บoi;y$;A$8U[ ,bwfh 8t8}kFc8}h; wd}Vhk$Vj:,glOjsN ไผว่า คูหาห้อง สีโหสิเว้นหลีก เป็ นฤๅ เจ็ดวัน ก็จิ่งหลิงล ่าเยี้ยม คณาเนื้อแต่ละยาม หากอยู่ แถมถนอมเนื้อ เวียนระวังวงคอบ มิได้ คะคลาดแคล้ว ไกลฮ้างฮ่วมเสนห์ ใครว่า สีโหจะหลีกเว้นไกลจากถ ้า เจ็ดวันผ่านไปแล้ว จึงจะออกมาล่าเนื้อครั้งหนึ่ง แอบซุ่มระวังอย่างรอบคอบ หามาได้ แล้ว มิให้คลาดแคล้วจากไป
บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๘๕ ryoอ=k9bgdnHU dk<gmRVบ,VAL ฤsjUo s}A’s}Bf-yL -kLglOsNgl,Uywfh c,jO;jK fk;f7$=yHO g,Un’l;yOlo6ypbJ$ dYfk3 py$wx x6ixบ[cdh: Vk<dbH$dUj,0บ’ ruJcs}h; พันธชาติเกื้อ กามเทพเฮียมฮส ฤๅห่อน หลงหลอดขัด ขาดเสนห์เสมอได้ แม่นว่า ดาวดึงส์ชั้น เมืองสวรรค์สนุกยิ่ง ก็ดาย ยังไป ปุนเปรียบแก้ว ฮามกลิ้ งกล่อมเจียง พี่แหล้ว เทพเจ้าแห่งความรักความผูกพันอย่างกามเทพ มี หรือจะมาขัดขวางความรักความสิเนหาได้ แม้ว่าสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จะมีความสุขสนุกสนานมากเพียงใด ก็ตาม ยังเปรียบเทียบกับ ความรักของพ่ีไม่ได้ W9kXwx ]6csj$shU’ =yHO=nJUWrAs<4;y* g,nJU.f ฤsjUo -uO8Yk,u ,bmอt,kdk$dyHO c,j<0y pY9AO-7HO rบ’WrAs<4k34k* 4;y*r6ho ฤsjUo -uOkFg;hO ;K$w;h=yJ:,UiIM]N ,kycs}j; ตราบไป ลุแห่งห้อง ชั้นชื่อพรหมภวัค เมื่อใด ฤๅห่อน ขีนค ามี มิทธะมากางกั้น แม่นจัก ยอตนขึ้ น เพียงพรหมภายภาคภวัคพุ้น ฤๅห่อน ขีนขาดเว้น วางได้ชั่วมรณ์ มากแหล้ว
๘๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี เม่ือใดท่บีรรลุถึงภวัคพรหม จะไม่มีถ้อยคา แห่งความ ซึมเศร้ามาขวางกั้นได้ ตอนนี้ แม้จักยกยอตนเสมอภวัคพรหม ก็ไม่ เว้นขาดได้จนกว่าจะตาย gxyOfyJ$ Wศu;b=y3g=nHU =k:g,nU’x6ixJฮ xk$oyHO [6Ec[j$z^h pk<ohฮsO7J’5ฮ เป็ นดั่ง ศรีวิชัยเชื้ อ ชาวเมืองปุนปล่อย ปางนั้น บุญแบ่งผู้ ยามน้อยหนึ่งถอย ฯ เป็นด่ังท้าวศรีวิชัย ท่ีถูกชาวเมืองขับไล่เพราะมีบุญ น้อยจนไม่สามารถแบ่งใครได้ จึงต้องยอมถอย Wrz^h miA$cmjOlhk$ WrAs<gmLrบ’ศu| Wศu;y3 ;Uidkg, ,U[g;Ok$wsh miA$ศUiV^h VAJ<cfFfU,v^[ l6fmuJlbdyHO dtly ณwfhfyJ$WxlA$ พระผู้ ทรงแท่นสร้าง พรหมเทศเพียงศีล ศรีวัย วอนกาเม มอบเวรวางไห้ ทรงศรฮู้ ฮ่มแดดอมฮูป สุดที่สิกลั้น กระสัณฐ์ได้ดั่งประสงค์ ฯ