The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือ บุแผ่นธรณีดั้น-2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

บุแผ่นธรณีดั้น

หนังสือ บุแผ่นธรณีดั้น-2566

บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๓๗ บั้นบังรหัส บัดนี้ เฮียมจักเชิญเทพา ช่วยญาณยาแคล้ว ปฐพีพื้น ไอย์ศวรรย์แสนทีป จุโลกหล่าง ลวงล ้าช่วยผญา แด่ถ้อน ภายบนไหว้ แถนหลวงเมฆะราช ล ้าลุ่มฟ้ า แสนท้างเทพะคา อันว่า มเหศักด์ิไท้ เทพาแดนทวีป เชิญได้ มาช่วยน้าว ปัญญาค้อมขอดสาร แดถ้อน ขอให้ เล็งญาณยู้ ยอแสงใสส่อง อย่าได้ มีสล่าง หลงพลั้งโพดความ ขอแก่ เทพาพื้น อินทร์พรหมเพียรช่อย กับทั้ง ท้าวส่หีน้า แถนไท้เทพแมน ภูมิภาคพื้น นาโคครุฑนาค ใต้ทะแหล่งหล้า แสนสร้อยสู่สรวง ขอให้ เทพาด้าว แดนดินซูซ่อย แด่แม จิตธะจอดแจ้ง ใจมั่นฮ่อธรรม จงให้ น าเถิงแก้ว กัลยาน้องนาถ เชิญ สิบหกชั้น มหาพรหมพิมานเมฆ มาช่วย คิดใส่สร้อย สารแก้วกาพย์ระเมนทร์ เป็นท่ี อัศจรรย์ล ้า พระทัยเคืองแค้นคั่ง เดนอ คิดเถิง พระธรรมเทศน์ให้ ธะรงไว้แว่นแยง


๑๓๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี จักแปลงสารแก้ว ดวงมณีเทียมโลก ขอแก่ นักปราชญ์เจ้า คะนิงแก้วฮ ่าฮอน หั่นถ่อน สารนี้ชื่อว่า บังระหัสไว้ ปิดกระบวนเบื้อง ชายเซ็งบ่เห็นเลศ เหงาหง่านดิ้น กันเก้อเกิดพิศวง หนักบ่อนหน้า สิยงเย้าผาดผยอง แยงยังดวงมณีศรี วาดกระบวนบังเลี้ยว เจ้าผู้ ปัญญาน้อย บ่สมภูมิกลอนกาพย์ คองว่า เป็นผู้ตื้น ผญาเสี้ยมบ่แหลม สังมา หงา ท่ไว้ ีสลิบเหล่ียมคมเพชร สังบ่ ติคือเหลือม หลอกบังตัวไว้ เป็นดั่ง ท าทานให้ หมายมอดซีวังมิด ไปนั้น ลางเทื่อ เสียเดชซ ้า หมองเกื้อเกือกขี้ตม เทื่อนี้ เฮียมจักลัดเลียบข้อ ไขด่วนโดยพลัน บ่ให้เหลือปัญญา ฮ ่าเพิงพอสะดุ้ง พาทีถ้อย ขนังทรวงเนียระนาด คึดว่า หวานลื่นอ้อย เลยส้มกว่าบักนาว สังบ่ คึดถ่ีถ้วน เสมอเนตรพอโฉม เดนอ บัดนี้ มาได้ก าคอเห็น เหงือกแดงแคมลิ้น สังมา นึกนักแค้น คาอยู่ในคอ แท้น้อ สังบ่ มีพอสอง ซ่อยปองปางแค้น บ่แม่น แนวนามเซื้อ ราชสีห์สิงหราช สังมา นาบซ้างให้ โคม้าตื่นคะโยง


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๓๙ สังบ่ หลิงหาเซื้อ สกุลวงศ์นามซาติ ตนเด้ มาคั่ว ก้มขาบไหว้ คนใบ้ซั่วซาม ใต้ลุ่มฟ้ า มนุษย์โลกลือเพชร ไผผู้หาคนคือ ส่วนสิเซิญขวัญไข้ เห็นแต่เอาสาส์นนี้ ตัดล าทอนง่า เฮียมนี้ เป็นดั่งแก้วอยู่น ้า ในถ ้าส่องบ่เห็น มันหากตกจากข้าง น ้าเพชรก็ยังติด ผิหากเป็นค าดี ซีกซาวกะยังได้ เห็นแต่ ดวงสีหน้า สิหมายดีสันเก่า ว่าฤา ใจหาก ออกนอกฟ้ า ยังมั่นบ่มาย ยอยื่น ดวงดาบกล้า บ่เห็นห่างคมเพชร ผยองเป็นควัน หล่าวลงลามไหม้ เฮียมนี้ เป็นดั่งสุริโยเข้า เขาสเมรุเมินมุ่ง แสงอ่อนเผ่ียง ยามเซ้าไป่ เฮือง ใจเจ็บข้อง ต้องเส่ยีงบริสทุธ์ิ ไผผู้มี ผญาแหลม ฮ ่าคะนิงดูถ่อน ค านี้ เลิ่กและตื้น หวนหั้นหากสิถอง บ่ใช่ เซิงหลอกเหล่น หมางหม่ายความขัด ดังนั้น ก็หาก แพงดวงแสง แง่งอนง าเลี้ยว ยศห่อน ลือเซ็งกล้า ผยองมามีหลีก ไผนั้น เป็นดั่งซ้างปวดบ้า เมาล้มล่วงขอ ไผผู้มีปีกฮู้ บินแอ่นแสวงหา นับว่า เทียวสงสาร บ่หลีกกลายกันได้


๑๔๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี พอแต่ สัญญาให้ แปลงสารเขียนขีด ไว้นั้น บอกว่า นักปราชญ์ผู้ ผญากว้างฮ ่าเพิง หั้นถ้อน อันหนึ่ง เงามณีแก้ว มหานิลดวงประเสริฐ ไผห่อนเอาทองค า เข้าโฮมก็ยินง้อ หินก็หากเป็นหินแท้ ทรายชลแคมท่า ไผหากขัดขืนข้อ ซาวน ้าก็หากฮุน ไม้ก็ยังต่างไม้ แก้วแก่นจันโทน์ สังว่า เอามาเทียม หมู่ขอนลอยน ้า ค าก็หากเป็นค าแท้ ชมพูมณีเทศ ไผห่อน ติดต่อแต้ม ทองแท้เพื่อประสาน ใจหาญ ถือผลาด้าม พิมพ์เดียวบ่ใช้ซ่อง กันนั้น น ้าก็ หากยังต่างน ้า มันเข้าบ่ห่อนแกม ซักให้เห็นเหตุเบื้อง บั้นบ่อนดวงสนิท บอกว่า ปัญญาคน ฮ ่าเพิงแยงไว้ เป็นคนเหล้น หากหลงบ่อนเบาหนัก ลางคน เกลี้ยงแต่ลิ้น แถลงเลี้ยวโลภใน ฮู้ล่ายถ้อย บ่มีอยู่วาจา อนัท่ี ภายในขม เฝื่ อนฮึนลังล้าว ซาติท่ี บอนผุกห้าว หลิงเห็นบ่มีถืก เป็นดั่ง ด้วงบุ่นไม้ ในหั้นส่องบ่เห็น น ้าสมุทรลึกและตื้น กว้างใหญ่เป็นกระแส หย่อนโยนศิลา ก็หยั่งถองเถิงได้ คนชังไว้ ให้ยอแยงปานแว่น แท้เนอ


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๔๑ ตีโยกเย้า เอาถ้อยสู่ความ คันว่าฮู้เหตุแล้ว บั้นบ่อนดวงสนิท เอาค าเฮือง ถอดเถิงแถลงถ้อย เป็นท่อีศัจรรย์แท้ สงสารควรหน่าย เป็นดั่งทุคตะบ่าวท้าว ปางนั้นสะแหม่งตาย เมียเล่านอนขอกข้าง กบัเส่ยีวเป็นโจร สองเขือพลอยท าเวร ผูกตีบาท้าว แหนงว่า บ่มีวิสุกรรมท้าว ลงมาผายโผด ปางนั้น ก็ส่วน มรณ์มิ่งเมี้ยน ตายถิ่มจุ่มจม บ่อย่าแหล้ว อินทร์จึงผายโผดให้ พื้นท่กีรรมเวร พระก็ เดินไพรสณฑ์ หมื่นดอยดงขั้น พลอยเล่า เถิงเมืองไท้ นครศรีสัตตะนาค พระได้ ทะรงแผ่นพื้น เมืองนั้นนั่งปอง พระก็ ทานทอดให้ ฮางวัลมากพอแสน ลือซา เถิงเมืองพาราณสี ต่อยิงยินย้อง อ้ายเส่ยีวและเมียข้ีฮ้าย พาลาหลงโลภ เขือก็เดินดุ่งดั้น เถิงเจ้าคว่าขอ พระก็ ทานทอดให้ พออิ่มสองเขือ แล้วจิ่ง จ าน าหนี พรากเมืองมีโอ้ ยามเมื่อ ย้ายจากห้อง ขงเขตเมืองหลวง ธรณีหนา แตกเอาเมื่อพื้น ตายคอบสัปปลับลิ้น ลวงแสนสับส่อ ทุกข์ขอดข้อน เถิงเนื้อมอดจม


๑๔๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี เป็นนิทานธรรมแท้ กายาขันธะโลก สร้างไว้ เพื่อนักปราชญ์ผู้ ผญาแจ้งจ่งคะนิง นั้นถ้อน บ่ใช่ ผิดชาติแท้ คนโคกขโมยมา แม่เอ้ย ตั้งหาก เกิดแต่ในโฮงหอ ราชสิงห์หาญห้อง พอแต่ แปลประเหียนให้ เห็นเงางอนโลก สังสิ มาหาบหิ้ว กายได้ดั่งฤา เมื่อบ่ สังขยาให้ บ่เห็นฮ่อมฮวยระหัส มาคว่า เอาไปเทียว ฮ่อมฮูหินกล้า ตั้งแต่ เห็นหลืบใต้ ปฐพีพื้นโลก ไผชัวช้า เมือหน้าหากสิเห็น ดอกนา โชคบ่ให้ สิลี้อยู่ก็ปานเห็น อย่าสุ มาลวนหลาย สิแตกมัวเมาง้วน ถามเบิ่ง พอเจ็บด้วย มาแถมเถิงบาป ค านั้น ยังค่อย ตัดต่อนน้อย ทานส้มสู่วัน เพิ่นผู้ นักปราชญ์ฮู้ ตรัสส่องผญาทิพย์ ในพระทัยทวนเทิง ฮุ่งงามมณีแก้ว บ่ใช่ อันชะม่ายฮ้าว ขนังเนตรในจิต บ่ห่อนตันทางบก ขาดวังเวินข่อน ฝูงหมู่ พาลาเซื้อ คนเขลาชาติซั่ว นั้นนา ยังเล่ามาตู่ข้อย ค าฮ้ายเหตุโภย ไว้แก่เทเวศท้าว ตรัสส่องสรญาณ จักได้หลิงหวนเห็น เหตุคนลวงเลี้ยว ท าคุณให้ ฝูงแนวนามซั่ว ฮุนแหล้ว


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๔๓ เป็นดั่งตักต่อนน ้า ยอหยิ่นใส่ทราย หั้นแหล้ว มันบ่เห็นส่องฮู้ บั้นบ่อนเบาหนัก ค าควรมี บ่หวนหาด้าม แม่นว่า จักเข้าในด้าว สาขาเฮืองฮ่ม ก็ดี ไผทอนหักกิ่งไม้ ปูเทิ้งเฮ็ดบ่อนนอน สังมาซักเบียดข้อ ขีนวาดเวียนวิตก โพนมักเป็นค าสวย เสียดมาเลิงเรื่อย ลือว่า เจ้าหากจักหักฟดไม้ ตีเฟื อยฟาดพุ่ม คิดว่า อยากให้เสือลอบลี้ ทั้งด้าวจอบกิน เจ็บคีงไข้ หวัดไอปางขนาด เห็นระหัสบ่อนแจ้ง สิยอมด้วยเดช ไผนั่น ซาติท่ี เป็นหน่วยแก้ว บ่มิหย่อนกลัวแสง ง่ายแหล้ว ไผว่า จักหงายธรณี หากจักเถิ่งถองได้ เมื่อบ่ ล้อมฮั้วไว้ ตามแผ่นพิมพ์เมือง ภายพุ้น กลัวแต่เป็นเวรา สิล่ายเลลวนลึ้ง โอน้อ พ่ีกท็นทวงแค้น หนหวยหาอุ่น แพงเอ้ย ไปก็ไปบ่ได้ คาค้างอยู่ดาย ขอให้ขันติแท้ พอเฮียมได้ส่วงโศก คันหากม้มท่นี้ี ไปสร้างสิ่งประสงค์ ดอกนา โอน้อเฮียมนี้เป็นดั่งเฮือซาวค้า หากคาคอนสมุทรใหญ่ ไปกะไปบ่ได้ คาค้างอยู่ดาย พ่ีแหล้ว ฯ


๑๔๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี บุแผ่นธรณีดั้นกุมกายก าโฮบ พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี


เก็บความเป็ นไฮกุ บั้นลึปสูญ ไฮกุ ตะวะงะ บุกฝ่าแผ่นดินดั้น กายก่ายพาดพิงเขาพระสุเมรุ แผ่นหินห่อหุ้มพังทลาย ปลาอานนท์ ค ้าแผ่นดินผืนน ้า พลิกขยับ พระสุเมรุหวั่นไหว นาคเกลือกกลั้วกลมกลืนไม้น ้า ครุฑกางปีกแฝงกลีบเมฆ พระจันทร์มืดมัว แสงสลัวพระอาทิตย์ส่องใสเรืองรอง มิคราชสีห์ ประดับภาคพื้นสุเมรุ แสงแก้วกวัดแกว่งไฟลุกลาม สัตว์ในแสงพระอาทิตย์ บัลลังก์อินทราช หมุนเอนไกวไปมา แสงดาวดึงส์ดับ


๑๔๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ปราสาทรุ่งเรือง ละมลาย เหล่าโลกลุ่มหลงร้อนรุ่มทยานอยาก หันหลังหลบ พบเมฆปกจันทร์ ขุ่นเคือง ลึกลับ ปริศนา หงส์ทอง บินบนเวหาศ เสาะแสวง อาบล้างเมฆฟ้ าเกลือกกลั้ว กามภพ เว้นภวัคภูมิ ขุ่นข้องหมองใจในเรื่องรัก เหน่ียวร้ัง วงโคจร พระจันทร์ นับพื้นโลกภวัคพรหม ค านึงกามสุข หวังวิมานแมน ลมแล้งพัดไปพัดมา ช่องทางทะลุสู่สมุทร นางผู้เพรียบพร้อมเบญจกัลยาณี ใส่กุญแจเอาไว้ ลบมุมเหล่ียมทุกด้าน มืดไหลไปหาสมอง แผ่นฟ้ าสลายพังออกจากกัน


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๔๗ ไหม้มืดมัว ลบพื้น รินหลั่งความคับแค้นคูนทวี ควันปกคลุมทั่วฟ้ า บุญบารมีท่สี่งัสม ชูช่อยาวลึกเบิกเบ่งบาน แก้วทบัทมิเก่ยีวพันล า หวงแหน เกื้อกูลก่อน ใครขัดขืนสิเน่หาอยู่คนเดียวได้ สุดฟากฟ้ า ก็ทยาน เอื้อม ฟากฟ้ ากว้างไกลจักรวาล นา ้หมอกนา ้ค้าง ตกรินรดท่วมท้องท่ี ผืนแผ่นดินชุ่มชื้นอยู่ รุกขชาติแดนดงพงไพร เบิกบานใจ ไขกาบกลีบบานสะพรั่ง แมงภู่เฉ่ียวเก่ยีวเกบ็เกสร น้องนวลอนงค์ สุขกับคู่ครองใหม่ ไมตรีให้พ่ีคนเดียวเท่าน้นไหม ั


๑๔๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี โอหนอ ช่างสงสาร พวงบุบผา ผึ้งภุมรินบินเกลือกกลั้ว เห่ียวแห้ง แล้ง ร่วง หลดุหล่น สมุทรเต็มหลั่งล้นลบดิน ลมพานพัดน ้าแผ่กระจาย หงส์ทองเหาะมิแลลม ทางในใจของน้อง ลมพัดกวัดแกว่งเปลื้องออกไป อินทิราช ดลหวัง จิตปรารถนา ๑๖ ชั้นฟ้ า แสงสว่าง เรืองรองส่องฟากฟ้ า วิมานระยิบระยับกลางอากาศ สงคราม ณ แผ่นน ้าเนืองนอง ดาวดึงส์ข้าอาศัยบารมีคุ้มครอง ฤดูกาลท่เีปล่ียนไป เปรียบใยบัวรัดรึงช้าง พลายหาท่พี่ึงมาโอบกอด พอช่วยคลายออกได้


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๔๙ ไม่ได้ดั่งอยากได้ ไฟลุกไหม้ฟอนฟางในป่ า แม่น ้าทั้งห้าอาบรด เป็นไปไม่ได้ตามใจนึก ปัญจมหานทีอยู่ไกลมากนัก หายโศกหายร้อน หายขุ่นข้องคับแค้นใจ ภายหลัง เกณฑ์กัลป์ห้าพันพระวัสสา ปลาอานนท์กลืนกินหางสับสน ป่ าไพรพังทลายลง ไม้หลายพรรณป่ าคณานับ แก่นจันทน์นั้นหาได้ยากนัก คนรู้ใจหายากแท้ พระจันทร์โคจรคู่พระอาทิตย์ รังสีใสส่องซ้อนทับไปทั่วแว่นแคว้น แนบชิด เชยชมอันเดียวกันไม่ได้ พุ่มพวงดอกผลดูเด่น กลิ่นหอมโรยรินรดร่วงลง หนามเก่ยีวพันล ากิ่งก้านอันเดียวกัน


๑๕๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ดอกผลดกสุกหอมหวล ความคิดถึงเปล่ียนแปรภายหลัง แม่ช้างสารสืบเชื้อสายกันนับพันล้าน ขวานผ่าฟันภูเขา ศิลาแตกกองกระจัดกระจาย พระอินทร์รับรู้เท่าเทียม เหินห่างจากไมตรีมิตร อ้อนวอนพระอิศวรให้เล็งเห็น โน้มน้าวใจน้องนาง พระราหู กลืนกินพระจันทร์ มืดมัวหมดท้องฟ้ า ปิดกั้นก าบังลม ลมพัดเปลื้องไปมา อาทิตย์โคจรรังสีกระทบกัน ราหูแทรกซอนดับแสง ราหูบังรังสีมืดหม่น พระจันทร์ยามแรมหนึ่งค ่า พระอาทิตย์ไม่แบ่ง


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๕๑ เขาวงกตพรหมจรรย์ ป่าพงไพรหิวกระหายถึงท่สีดุ มิตรไมตรีไม่มีอยู่ เหลือแต่พระโพธิญาณ มรรควิถีสตัว์โลกได้ท่องเท่ยวี พระนิพพานทั่วเท่าถึงกัน พระโพธิสัตว์มุ่งหมายพระโพธิญาณ ปลุกใจให้ตื่นรู้ เป็นพระพุทธเจ้าได้ พระพุทธองค์ทรงพุทธฤทธ์ิ โปรดสัตวนิกรจมกองทุกข์ เคียงแท่นแก้วสัพพัญญู ทั้งมวล สรรพสตัว์ท่องเท่ยววัฏฏะทุกข์ ี ข้ามพ้นจากเวรกรรมกองทุกข์ ตรัสส่องพระสรญาณ ส่องแสงพระธรรม จวนสว่าง เดินร าพึงพิจารณาบนหนทางแห่งปัญญาอันกว้าง ภูเขาสีเงินอันงดงามยิ่ง


๑๕๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี นอนอยู่บนขนจามรี คูหาห้อง ประดับเตียงเม็งชร หอช่อฟ้ า ป่ องลม งดงาม ค าพูดระดับต ่าแทบเท้า น้องนางจงไตร่ตรองพิจารณา ขอถวายไว้ให้ใคร่ครวญ เทวดา มิใคร่จะพอใจในภาคพื้น ฤดูปีใหม่ ดอกเกดเบ่งบานสะพรั่ง หนามล้อมเพียงล าต้น ดอกเด่ือหอมบริสทุธ์ิ กล่อมขั้วถึงล าต้น ห้อยซ้อนสลับกัน พวงพ่ีสารภีกรรณิกา สะพรั่งพั้วพุ่มพวงพงไพร ภุมริน เคล้างกลิ่นเกสร ภุมรินจิตใจว่างเปล่า ก าแพงวิสัยเดิมของมนุษย์กั้น หมกมุ่นอยู่ในกามคุณ


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๕๓ โทมนัสทุกข์ แม้อยู่สุขสบาย กิเลสตัณหาทุกหนห้องแห่งมโนทวาร พิจารณาจะเห็นชัดเจน พระอาทิตย์จรจรดฟ้ า ฤดูจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราหูรอจะกลืนกิน ดั่งฝนรินเบาเบา น ้าในแม่น ้าเหือดแห้ง ดวงจิต ด าดิน แห้งขอบ เขื่อนเขาระเนระนาด มุมเล็กๆ ขอบเขาคันธมาทน์ มืดมัวหม่นไหม้ไปทั่วแผ่นพื้น จักรวาลโค่นทลายทุกแดนด้าว บุกแผ่นพื้น เหินฝ่าเวหาศ ด าดินด้นดั้น ทะลุเมฆ พลิกแผ่นฟ้ าเอื้อมบัลลังก์อินทร์ แปดแผ่นพื้นเขาวงกต ทุกข์ร้อนอดอยากหิวกระหาย ม้าอาชาไนย ม้ามณีกาบ มีฤทธ์ิ


๑๕๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ท่องไปยังดาวดึงส์แดนสวรรค์ กวักกางปีกล่วงล ้าจักรวาล โลกมนุษย์ เคารพผู้เป็นเจ้า เรือนาวาเปลื้องจม ทางน ้าไหลวนแห้งขอด หินกรวดฟูในน ้า น ้าแห้งขอด พระอาทิตย์ลับขอบฟ้ า พระจันทร์เรืองรองส่องประกายงดงาม ปัญญา จงตรองดู แล้วจึงพูดตาม หงส์ ไม่หนีเว้นจากสระน ้าใสได้ ดวงแก้วมีฤๅจะช าระความร้อนได้ เกรงจะไกลเหินห่างไมตรีมลายไป เก็บถวายแก่พระยาอินทิราช พอพระทัยแล้วจักใคร่คอยได้เห็นหน้า ขออ้อนวอนเทวดาแก้สาร เชื้อชาติภาษา ปลาอานนท์ หนุนแผ่นดินอยู่ เขาพระสุเมรุโยกเอนสั่นคลอน เกดิมนต์ขลัง อทิธฤิทธ์ิ


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๕๕ แม่สาวน้อยบริสทุธ์ิ หญิงนอกขนบคลั่งเสน่หา ชายมาร่วมเรียงเชยชม อ้อนวอนท้าวชมพูจิตตะนาค ใครผู้มีปัญญารู้แจ้งในถ้อยค า ฟังให้มากความ โต้เถียงขัดแย้ง เจ้าผู้มีปัญญามาก ยิ่งคิดมากยิ่งจะเห็นความขัดข้อง ถ้อยค าหมดงดงาม สายแนนกล่อมเก่ยีวไมตรี ตาพันดวงไม่ขัดขวางได้ บุญร่วมประกอบกัน ประดุจพบปราสาทแก้ว ชีวิตมอบถวายให้ไปทุกชาติ สายแนน ณ เมืองฟ้ า อาภรณ์ผ้ามานุ่งห่ม สายน ้าแบ่งกั้นขวางเขต วาสนาคนต้อยต ่า


๑๕๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี เส่ยีงทาย แม่นางธรณีเบื้องล่าง เบื้องบนเทวดา เบื้องขวาเขาพระสุเมรุ เบื้องซ้ายนางเมขลา เขตแดนครุฑและนาค สายตาเฉียบแหลม ลงฤกษ์เจิมน ้าเต้าเมืองฟ้ า คืนค าสาปแช่ง ลวงล่อหลงแปรเปล่ียน นรกหมื่นอสงไขย เถิด มงคล เทวดารักนางฟ้ า ตราบไม่ถึงนิพพาน คู่เคียงไปทุกชาติ ยิ่งรักยิ่งเป็นทุกข์ ไม่ปรารถนาจะรักใครอีก กระจกส่องหน้า ไม่หลอกลวง ในสายตาทิพย์นวลนาง เถิด พ่ีพรากจากน้อง ค านึงหาเป็นอันมาก


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๕๗ ความทุกข์จากพลัดพราก พร ่าเพ้ออยู่หน้ากระจก น ้าอโนมาล้างใจ หมองอยู่ดั่งเดิม ไขปริศนายากแจ่มแจ้ง ไปไม่ถึงเมืองชมพูจิตตนาค จะถึงจุดหมาย บ่ายจีน สีโหหลีกเว้นจากถ ้า เจ็ดวันออกมาล่าเนื้อ แอบซุ่ม มิให้คลาดแคล้ว กามเทพ หรือจะมาขัดขวางความรัก ดาวดึงส์สนุกสนานมากเพียงใด รักเกินเปรียบ บรรลุถึงภวัคพรหม ไร้ถ้อยค าซึมเศร้าขวางกั้น เสมอภวัคพรหม ไม่เว้นขาด ท้าวศรีวิชัย ชาวเมืองขับไล่ บุญน้อยไม่แบ่งใคร ยอมถอย


๑๕๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ทรงศีลพรหมจรรย์ อาวรณ์ในกาม ยากปล่อยวาง ยิงลูกศรใส่เป้ า เคียงคู่ยินดีปราณี เผ่าพันธุ์ในชมพูทวีปโลก ใครจะไกลห่างสักคนเดียว พระโพธิสัตว์ บ าเพ็ญบารมี มุ่งบรรลุพระอนุรุตตร สัมมาสัมโพธิญาณ พระองค์หลีกเว้นตัณหา เสด็จสู่ป่ าบ าเพ็ญสมณธรรม เงื้อมเขา เพิงถ ้า เสดจ็ส่สูถานท่สีงัด พร ่าเพียรภาวนาพระทัยเบิกบาน ตกน ้าคือตัณหา ญาณเสื่อม แนวทางอันคับแคบ กว่าบรรลุญาณยอดแก้ว ส่งิขัดขวางเหน่ียวรั้ง


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๕๙ โอหนอ องค์อินทร์ส่งมา ทุกข์ใจ อาลัยร าพึงหา แก้วมณี ดอกไม้เบ่งบาน นักปราชญ์แกล้งท าเป็นรู้ อาจารย์แปลสนธ์แิปลมูล สระแปดตัวประดับ สระท่อีาศัยของพยัญชนะ พยัญชนะออกเสียงได้ อังคาร ศูนย์เข้าเป็นอ า ชาติเชื้อแห่งบัณฑิต ผู้ราชา ทอดพระเนตรพิจารณา ฟังก่อน คิดใคร่ครวญ นกร่า ร้อง เคียงคู่กนัอยู่ท่ลีับ ผลมะม่วงมีบาดแผล เวหาดูน่ารัก ไร้ขัดข้อง ขวางคา ท่าทางเบิกบานกับการกิน กางปีกบินเชยชม ท้องฟ้ า


๑๖๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ถึงคราวระทมทุกข์ ได้ข่าวยิ่งทุกข์ใจขุ่นแค้น ร าพึงร าพันออดอ้อน คลุ้มคลั่งกามกิเลสตัณหา อกจะแตกหัก เจ็บปวดค้างคา ต่อสู้ หลบลี้ ให้ถึงอยู่ ไม่อยากเชื่อในความเป็นจริง สุดแสนจะพร ่าเพ้อจริงๆ แก่นแก้วกัลยา พร ่าเพ้อเป็นกลอนเล่น เจ้าผู้มีปัญญาอันฝึกฝนดีแล้ว ผูกประเด็นใคร่ครวญ มโหสถโพธสิตัว์ผู้ทรงธรรมบริสทุธ์ิ ไม่มีเศษ ไฟไม่ลามลุกไหม้ป่ า ไม่เร่ง เรือไม่แล่นเร็ว เชื้อชาติราชสีห์ในถ ้า ไม่มีวันอยู่ตามป่ าคา ดอกหนา


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๖๑ บั้นบังรหัส ไฮกุ ตะวะงะ บัดนี้ ข้าฯ จะเชิญเทวดา เมื่อยามต้องแคล้วคลาด ได้โปรดเถิดแถนหลวง เทพมเหศักด์ิทุกแดนทวีป ปัญญาในการเขียนสารให้จบ ได้ข้อผิดพลั้งใจความ เทพยดา อินทร์พรหม แถนไท้ เทพดา เมืองแมน นาค ครุฑ ใต้แหล่งหล้า จิตใจ ข้า ตั้งมั่นในธรรม แก้วกัลยานาง มหาพรหม แต่งเติมกาพย์จับใจ อัศจรรย์ยิ่งนัก จิตใจขัดเคืองคั่งแค้น ยังคิดถึงธรรม แปลงสารประเสริฐประดับโลก นักปราชญ์ ไขปริศนา


๑๖๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี สารนี้ บังรหัส ขบวนการให้ชายผู้แกล้วกล้า งุนงงสงสัย พิศวง ยิ่งอ่าน ยิ่งยุยง แก้วมณี วกวนเวียน จินตนาการ ปัญญาน้อย ไม่สมภูมิกาพย์กลอน ลบเหล่ียมคมเพชรเจียระไน ไม่อ าพรางปิดบังดังงูเหลือม หม่นหมองเกือกกลิ้งโคลนตม ลัดข้อความ พรรณนาด่วน ถ้อยค าก าแพงระเนระนาด หวาน หวานเกินน ้าอ้อย เปรี้ยว เปรี้ยวกว่ามะนาว สายตายก าคอ เหงือกสีแดงอยู่ใกล้กับลิ้น ท าไมไม่มีเพิ่มอีกเป็นสอง ราชสีห์จะมาล้มช้าง ให้โคม้า ตื่น หาเคารพในเผ่าพงศ์วงศ์วาน มัวกราบก้มคนใบ้ใจทรามพรรค์นี้


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๖๓ ใต้แผ่นฟ้ ากล้าแกร่ง เอาสาส์นจารเชิญขวัญ กิ่งไม้ แก้วอยู่ในน ้า เพชร พังยังเป็นเพชร ทองค าเศษซีกหลอมรวมกันได้ จิตใจไกลออกนอกฟ้ า มั่นคง ไม่หลุด ยกเอาดาบดวงกล้าแกร่ง กวัดแกว่งไฟลามไหม้ ลับเขาพระเมรุ อรุณแสงหาเรืองรอง หมองใจ เส่ยีงซ่อนบริสทุธ์ิ ปัญญาเฉียบแหลม จงใคร่ครวญ ค านี้มีความหมายลึกและตื้น ก่อเกิดขัดแย้งบาดหมาง ซ่อนง าสิ่งล ้าค่า ยศเลื่องลือ ช้างตกมัน ยากจะสยบด้วยขอ ปีกปัญญาบินแสวงหารู้เห็น ท่องเท่ยีวสงัสารวัฏ ยากจะหลุดพ้น


๑๖๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี สัญญา ความจ าได้หมายรู้ แปลงสารเขียนอธิบาย ปัญญากว้างไตร่ตรองมองเห็น เงาแห่งแก้วมณี ไม่มีใครจะขัดขืนธรรมชาติได้ หินทรายย่อมจมน ้า ไม้ ต่างไม้ ไม้แก่นจันทน์ ขอนไม้ท่ลีอยนา ้ไม่ได้ทองคา แท้ชมพูนุท แร่อื่นไม่แต่งแต้มผสาน ใจกล้าหาญ อุปกรณ์แม่พิมพ์ดี น ้าก็ยังคงเป็นน ้า ปัญญาคนคิดพิจารณาเข้าไว้ มัวเมาเล่นมาก ดีแต่ค าพูด ภายในเต็มตัณหาริษยา พูดจาเป็น ไม่มีสัจจะ ขมขื่นตอแหล บอนและบุกท่กีา ลังแก่ตวั ด้วงท่กีา ลังเจาะไม้มองไม่เห็น


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๖๕ น ้าสมุทรกว้างใหญ่ไปตามกระแส หย่อนโยนหินหยั่งลึกตื้น ส่องกระจกเงา ใจคน ทองค าอันเรืองรอง ถอดรหัสถ้อยค าอัศจรรย์ สังสารวัฏควรแหนงหน่าย ทารุณกรรมชายผู้ตกยาก หากไม่วิสุกรรมเทพ โปรด ตายอย่างน่าอนาถ ตามเวรตามกรรม เดินดงเข้าป่ าเขาล าเนาไพร ครองนครศรีสัตตะนาค ทรัพย์สินรางวัลนับแสน เลื่องลือถึงเมืองพาราณสี ภรรยาเก่าเพื่อนชู้ขอรับทาน พระราชทานตามแต่พอดี หนีพ้นเขตนครหลวง ธรณีสูบสู่อเวจี


๑๖๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ตายเพราะค าพูดกลับกลอก ทรมานทวีท้ายตายจมธรณี นิทานธรรมกายขันธโลก ค านึงคิด คนยากท่ปีลอมมา เกิดในโฮงหอต าหนัก ความจริงของโลก เวียนวนตามซอกหลืบหิน นรกใต้ปฐพีพื้นโลก คนช่ัวช้าเท่าน้นัท่จีะเหน็ภายหน้า โชคชะตาไม่ช่วย หลบลี้อยู่ก็มองเห็น เศษวิบากกรรม ตัดรอนทีละน้อย ปัญญาอันเป็นทิพย์ แก้วมณี ไม่ใช่ทางตันบนบก ไม่ใช่วังนา ้ท่แีห้งขอด หมู่คนพาลว่าร้ายเกิดเหตุเภทภัย องค์อินทร์เทเวศ ส่องญาณ คนลวงหลอกคนพาล ตักน ้าเทใส่ทราย ฉันนั้น


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๖๗ ชั่วมองไม่เห็นดี เข้าไปใต้ร่มไม้ชายคา ไร้ปัญญาหักกิ่งไม้ปูนอน พูดจาโพนทนาดูดี เสียดสีเข้ามาเรื่อยๆ ฟาดพุ่มไม้ กับดักของเสือ ป่ วยเป็นหวัดเป็นไอ แก้ว ไม่กลัวต่อแสง พลิกแผ่นดินไม่ล้อมรั้ว ตกต ่า โอหนอ ข้าฯ คาค้างอยู่อย่างนี้ ขอให้มีขันติธรรม พอให้ข้าฯ หายโศก พ้นจากนี้ ภาวนา เรือสินค้า คาค้างกลางมหาสมุทร จะไปก็ไปไม่ได้ คาค้างอยู่อย่างนี้๚๛


๑๖๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี โอมอ่านภาษาศิลป์ โบยบินว่างเปล่าอิสระ ค้างคิดพรรณนา ไฮกุ ตะวะงะ


ค ำศัพท์ ก กรรณิกำ น. ช่อฟ้ า ฝักบัว เครื่องประดับหู (กรรณิการ์)น. ชื่อไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง กลีบขาว ดอกหอม ใบคาย ก้านดอกสีแสด กระจัดกระจำย ว. เร่ียราด ไม่เป็นระเบียบ กระแจ น. กุญแจ ลูกดาล ลิ่ม ไล ประตูหน้าต่าง กระบวน น. ท่าที ชั้นเชิง ว. คล้าย เหมือน กระสัณฐ์ ก. คนึง คิดผูกพันอยู่ มีใจจดจ่ออยู่ กระแส น. สายน ้า แส้ตีม้า แส้หวายส าหรับตีม้า กระหำย ก. อยากเป็นก าลัง กล่วม ก. ครอบ คร่อม ปิด บัง คุ้มครอง ปกป้ อง โก่ง โค้ง กลหล ว. อื้ออึง เอิกเกริก วุ่นวาย กล่อง น. ภาชนะท่สีานด้วยไม้ไผ่มีฝาปิด รูปกลม ปากกว้าง ก้นสอบ มีตีน เช่น กล่องข้าว น. ตุ้มชนิด สานด้วยไม้ไผ่ส าหรับดักปลา ว. สุกใส สว่าง งาม ก. กริยาการจับปลาเล็ก ๆ อย่างหนึ่ง ก. กระอัก เช่น กระอักเลือด เรียก ก่องเลือด ว. ค้ิวท่มีีลักษณะโก่งหรือโค้ง เรียกค้ิวก่อง


๑๗๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี กล่อม ก. ท าให้เพลิดเพลินด้วยการขับร้อง ก. ประสานเสียดนตรีให้กลมกลืน ก. บ ารุง ส่งเสริม ควบเข้าด้วยกัน กลั้น ก. อด ทน สกดใจ ว. เล็ก แคระ กลั้ว ก. คลุกคลี คบหา ผสม ปน กลมกลืน กลิ้ ง ก. พลิก หมุน กลุ้ม ก. ปิด บัง เสกคาถาบังตา เรียก กล่อมกลุ้ม ห้อมล้อม ปกคลุม กวงไกล ว. ไกล ไกลมาก กวน ก. คนให้เข้ากัน กวัก น. เครื่องมือกรอด้ายกรอไหม นกชนิดหนึ่ง ก. โบกมือ โบกหรือสะบัดมือเพื่อสั่งลา หรือเรียกให้มาหา กอง น. พวก หมู่เหล่า ส่งิของท่วีางรวมกนั ก่อง ว. สุกใส สว่าง งาม ก. กริยาการจับปลาเล็ก ๆ อย่างหนึ่ง ก. กระอัก เช่น กระอักเลือด เรียก ก่องเลือด ว. ค้ิวท่มีีลักษณะโก่งหรือโค้ง เรียกค้ิวก่อง กอย ก. ผสม กั้น ก. ปิด บัง กัน ก. ห้าม กั้น ปิด บัง กัปป์ น. ระยะอันยาวนานแสนนาน


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๗๑ กัลย์ น. นางงาม นางสาวน้อย ว. ดี งาม กำง ก. ถ่าง เหยียด ก้ำน น. ส่วนของต้นไม้ท่ตี่อจากลา ต้นหรือก่งิ น. ทาง กระดูกกลางของใบไม้ เช่นก้านตาล กำบ น. เปลือกหุ้มชั้นนอก น. จา นวนนับปีท่ี๑ ของจุลศักราช กำม น. ความปรารถนา ความใคร่ ความชอบใจ กำย ว. เลยไป ผ่านไป ก่ำย ก. ทอด พาด คัด ลอก เช่น ก่ายหนังสือ ว. การไปโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง ก ้ำ น. เบื้อง ข้าง ทิศ ฝ่าย กีบ น. ส่งิท่มีีลักษณะบาง เช่น กบี ฟ้า กุม ก. กอดรัด กุ้ม ว. สั้น ก. ห้อมล้อม ก. พอ คุ้ม ถึง เผื่อ ปิด บัง เก ว. ไม่ยอมปฏิบัติตามระเบียบ, เกะกะ เกเร เกย น. เฉลียง ท่สีา หรับข้ึนลงราชยานเจ้านาย เกลื่อน ก. มาก หลาย เก้อ ว. เขิน ขวยใจ เกิ่ง ว. เท่า เสมอ เหมือน เกี้ ยว ก. ผูกพัน รัดรึง เกื้ อ ก. อุดหนุน เกื้อกูล เกือก ก. กลั้ว คลุก เคล้า


๑๗๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี เกื้ อกล่อม ก. พูดชักชวนให้เห็นดีเห็นชอบ แก่นแก้ว น. คนท่เีป็นดวงใจของบ้านเมือง แก่นเหง้ำ น. เนื้อแท้ แกม ว. ปน ระคน คละ แก้ว น. ส่งิท่มีีคุณค่า แกว่ง ก. ไกวไปมา (แกว่งไกว) ไกว ก. แกว่ง ข ขงขอบ น. เขต แดน ถ่ิน สถานท่ี ขนัง ก. ผูกพัน เก่ยีวพัน คับแค้น เจบ็แสบ ขังในใจ ขนำน ก. แล่นเรียงคู่กันไป ขม ก. ขึงเคียด ไม่ชอบใจ น. รสอย่างหนึ่ง ขมอง น. มันสมอง จิตใจ ขม่อม น. ส่วนของศีรษะท่กีระโหลกงอกมาบรรจบกนั ขยม น. ข้า บ่าว ขวบ น. รอบระยะเวลาหนึ่งๆ ก. จวบ ถึง สบ ขวัญ น. ส่งิท่นี่ารักทนุถนอม น. จิต ใจ กา ลังใจ ขวั้น น. ขั้น ข้ัวท่ตี่อจากผลถึงก่งิ ขวำงขัด ว. ไม่เจริญ จัญไร ขว้ำม, ขว ้ำ ก. ข้าม ข้อ น. ปัญหาท่ตี้ังข้ึน ส่งิท่นีา มาต่อกนั ขอก น. ริม ข้าง ขอบ


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๗๓ ข้อง ก. เก่ยีวข้อง ผูกพัน น. เคร่ืองจักสานไว้ใส่ปลา ขอด ว. หมดก าลัง วอด เกือบแห้ง ก. ผูกพัน เก่ยีวข้อง ขอไปตาม ข้อน ว. จวน ใกล้ ก. ตก ถึง คับขัน วุ่นวาย ขอบ ก. บอก เล่า กรอบ ว. แห้ง ขัด ก. คัด ติดขัด ไม่สะดวก ขำบไหว้ ก. กราบ ข ำเมฆ ก. แฝง ดั้น ดั้นไปในเมฆ ขีน ก. ขืน ฝืน ขัด ขัดขืน เขิน ว. แห้ง งวด ขาด เขียว น. สี ชื่อภูเขาสูง ก. ไปมาอย่างรีบร้อน เขือ ส. หมายถึงบุคคลท่เีราพูดด้วย ไข ก. บอก กล่าว เปิด ไขว่ ว. ก าหนดไม่ได้ นับจ านวนไม่ถูก ล้มระเนระนาด ก.นั่งพาดขา (ไขว่ห้าง) ค คร้ำม ก. กลัว เกรง ขยาด คลอน ว. โยก โคลง ไหว คลำด ก. พลาด ผิด คว่ำขอ ก. ค้น เสาะหา แสวงหา ควำมขัด น. คนวิวาททุ่มเถียงกัน ควี่ ก. คล่ีบาน ผลิสยาย


๑๗๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี คอก น. ท่ขีัง ก.ส่นัคลอน เขย่า คอน น. ก่งิไม้ท่นีกหรือไก่จับ ร่องนา ้ลึก ท่นีา ้ตก ก. การใช้ไม้คานหาบของ คอบ ว. ด้วยเหตุ เพราะ เผื่อ ก. บอกเล่า เก่ยีวข้อง ผูกพัน วนเวียน ได้รับผล กลับมา คิดถึง ค้อม ว. งอ เตี้ย ก. น้อมลง ก้มลง ค่อย ว. ท าโดยไม่รีบร้อน เรื่อยๆ ไม่หยุด คอยครอง ก. รอ ท่า คะคลำด ก. คลาด ปราศจาก คะเคลื่อน ก. เคลื่อน ย้าย คะนิง ก. คะนึง คิดถึง ร าพึง คะโยง ก. เต้นสูง กระโดดสูง คัณฑี น. น ้าเต้า อธบิายความท่ยีากให้ง่าย คันธเสม์ ว. กลิ่นหอม คับแคบ ว. อึดอัด แออัด คั่ว ก. ช าแหละ คำ, ค้ำง ก. ติด ขัด ท าไม่เสร็จ คำด น. คราว ครั้ง โอกาส ก. ก าหนด นัดหมาย ประดับ ตกแต่ง เตรียมการ จัดการ ถึงเวลา คำย น. เครื่องบูชาคุณ ว.ระคายเคือง ก.ท าให้หลุด ค้ำย น. ค่าย ว. ทั้งหมด ก. บ่าย ชาย


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๗๕ ค ่ำ น. เวลาค ่า การนับวันทางจันทรคติ คึด ก. นึก คิด ระลึก คึดฮ ่ำ ก. ระลึกถึงเสมอ คุง ว. ถึง จด ตลอด เค้ำ น. เริ่มต้น ทีแรก เคือง ก. ขุ่นข้อง หมองใจ แค้นคั่ง ว. ติดขัด แน่นใจ คับใจ แคม น. ขอบ ข้าง ริม ว. ใกล้ ชิด แคล้ว ว. พลาด ผิด พลั้ง โค่น ก. ล้ม ใคร่ ก. อยาก ใฝ่ ประสงค์ ฆ ฆนังคัลขัตตฤกษ์ น. พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ง ง้วน น. ละอองดอกไม้ท่ผี้ึงกล่ันเป็นนา ้หวาน น. ของเบื่อเมา ง ำ ก. ปก ปิด ครอบง า งอน ก. โป่ งยื่นออกมา เงำงอน น. เงาท่ทีอดยาวออกมา เงำง ำ น. เงาท่ทีอดปกครอบไว้ เงื้ อม น. ชายตลิ่ง ก. ชะโงกออกมา แง่ น. ส่วนท่เีป็นเหล่ียม เป็นสนัมุมย่ืนออกมา


๑๗๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี จ จร ก. ไป เท่ยีวไป จรด ก. จด จรึก ก. จาริก เดินไป โคจรไป จวน ว. เกือบ ใกล้ จอด ว. ระลึก คิดถึง ก.พักชั่วคราว หยุด จอบ ก. แอบ ลอบ คอย ลอบลัก จั้ง น. ท่พี่ึง ท่อีาศัย เจ้านาย สามีพระเจ้าแผ่นดิน จันทน์ น. ชื่อพรรณไม้มีกลิ่นหอม จันทร์, จันทรัง น. ดวงเดือน พระจันทร์ จับจ่อง ก. จับ ดึง เหน่ียว ร้ัง จำมรี น. เนื้อทรายชนิดหนึ่งมีขนละเอียดหางยาวพู่ จ ้ำ ก. จุ่ม จิ้ม เสียบ แทง เซ่น บูชา จ ำแจ้ง ว. จนสว่าง จิ่ง สัน. จึง จึ่ง จริง จุ่มจม ก. จม ตกลงไป เจียง น. เดือนแรกของปี ช้าง (ส่วย) ลูกหน้าไม้ เจียม ก. เคารพ ย าเกรง ระวัง รักษา ว. แต่ ตั้งแต่ เจียมปำง น. เจ้าหอสูง เจ้าหอค า เจียมปำงน้อย น. นางกษัตริย์ ฉ โฉม น. รูปร่าง ทรวดทรง


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๗๗ โฉมสะอำด น. รูปร่างงดงาม ช ชมพูมณีเทศ น. ชมพูทวีป ช่วงใช้ ก. รับใช้ ชะแนน น. เตียงส าหรับผัวเมียนอน เตียงคู่ ชะม่ำย ก. เดินกรีดกราย ผ่านไปมาหลายๆ ครั้ง ชัก ก. ลาก ดึง บันดาลให้เป็นไป ชั่ว น. ระยะ เวลา คราว ครั้ง ว. เลว ทราม ช้ำงสำร น. ชื่อพรรณไม้ชนิดหนึ่ง ชำยเซ็ง น. ชายท่เีก่งกล้า ชุ่มอึน ว. เปียกชุ่ม ชื้นแฉะ ชูช่วยน้ำว ก. ช่วย อุดหนุน ค ้าจุน เชย ก. สัมผัสเบาๆ กระทบ ถูก เชิง น. ตีน ท่วงที อุบาย เชื้ อ น. เช้ือสาย ส่งิท่สีบืต่อกนั เชือด ก. ปาด แล่ เถือ ซ ซ้น ก. ซ่อน บัง ซอน ก. เหน็บ แซม สอด ซ้อน แทรก แซง ซ้อน ก. ทับกัน ซ้อย ว. ทีหลัง สุดท้าย ขาวผ่อง ไพเราะ อ่อนหวาน ซ่อยปอง ก. ช่วยเหลือ ส่งเสริม


๑๗๘ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ซักเบียด ก. เบียดเสียด ซัน ก. ตั้งตรง ซีกซำว น. น ้าคร าใต้ถุนเรือน ซูซ่อย ก. ช่วยเหลือ แซง น. เชื้อสาย เหล่ากอ ทะลาย แซม ว. แทรก ปน ญ ญำณ น. ความรู้ ปัญญา ด ดวง ว. ยอด จอม ดอม ว. ด้วย โดย ตาม ดั้น ก. บุก ดั้น ด้น เหาะ บิน ดั้ว ว. สูง งาม สง่า อวบ ด้ำม น. คันส าหรับถือ ว. กะ ประมาณ ขนาด ว. เสมอ เหมือน ดำย ก. เปล่า เสียเปล่า ด้ำว น. เขต แดน แว่นแคว้น ดำวดึงส์ น. ช่ือสวรรค์ช้ันท่ี๒ ด ำดั้น ก. มุดเข้าไป ดิถี น. วันตามจันทรคติ ดิ้ น ก. สะบัด แกว่งไกว ดุ่งดั้น ก. เดินตรงไปอย่างรวดเร็ว


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๗๙ ดูดำย ก. มองเฉย เดื่องหงำย ก. กระเดื่อง เดือด ก. ร้อนรน กระวนกระวาย แดนด้ำว น. เขต แขวง แว่นแคว้น ทาง โดยดอม ก. ท าตาม โดยดั่ง ว. เหมือน คือ ต ตรองตรำ ก. คิดทบทวน เลือก คัด ตรัสส่อง ว. แจ้ง สว่าง ชัดเจน ตรัสรู้ ตรำบ น. ข้าง ฝ่าย ฟาก ริม ว. ตลอด ตราบเท่า ตรึง ก. ผูก มัด ท าให้แน่น ตลบ ว. ย้อนกลับ เปล่ียนแปร ตวย บ. ด้วย โดย ตาม ตวยค ำ น. ขันหมาก ตอก น. ข้าวตอก ไม้ตอก มีดตอก ก. ต า ตอง ก. กรอง ต้อง ก. ถูก กระทบ สิง ประสบ พบ เห็น อยากได้ ต่อต้อย ก. ตามไปช้าๆ ต่อน น. ชิ้น ตอบ ว. ยุบ แก้มยุบ เรียก แก้มตอบ ก.โต้ แก้ ตำง ว. แทน ต้ำน ก. พูด เจรจา


๑๘๐ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ตึ่ง ว. เต่ง เต็ม ตึง เติบโต ตื้ น ว. ไม่ลึก ตื่ม ก. เพิ่ม เติม แถม ตื้ อ น. มาตราวัดโบราณ เท่ากับ พันล้าน ว. ทึบ ตุ้ม ก. คุ้มครอง ปกครอง ตู่ ก. กล่าวอ้างหรือหาเรื่องใส่คนอื่น ตูบ น. กระท่อม ว.ลู่ลง เต้ำ ก. รวม ประชุม เตื้ อง ก. ไหว ติง เตื้ องต่อ ก. มุ่งหวัง ตั้งใจ ใต้ลุ่ม ว. ข้างล่าง ถ ถนอม ก. ระวัง รักษา สงวน คุ้มครอง ถนัด ก. สันทัด ช านาญ ว. ยิ่ง เกิน ถ้วน ว. ครบ ถอง ก. กระทุ้งด้วยศอก ถึง ไม่หยุด เรียก บ่ถอง ถองเถิง ก. ถึง ถูก ถอด ก. เอาออก ฉุดขึ้น ดึงขึ้น ถ้อน ว. เป็นค าลงท้ายซึ่งผู้พูดต้องการให้เป็นเช่นนั้น ถ้ำน น. ชั้น ถาน ถ่ำย ก. เปล่ียน แก้ไข ถ่ำว ว. รุ่น หนุ่ม เช่น สาวถ่าว


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๘๑ ถี่ถ้วน ว. คิดรอบคอบ ถีน น. เขตแดน สถานท่ี ถีบ ก. รีบเร่ง ตั้งความปรารถนาไว้สูง ถืกสูญ ก. สัมผัสความว่างเปล่า หมดสิ้น เถิง ก. ถึง เถื่อน น. ป่าท่รีก แถนหลวง น. พระอินทร์ เทวดา ผีฟ้ า แถม ก. เพิ่ม เติม ท ทม น. ท่ลีุ่ม (ทาม) เสยีงดังอย่างน้ัน ทมทมเสยีง ทยำน ก. เผ่น โผน โจน ทรง ก. มี กริยา ท่าทาง ทะรง ก็ว่า ทรวง น. ใจ หัวใจ ทวง ก็ว่า ทรัง น. แผ่นดิน พื้นดิน แผ่นฟ้ า อากาศ ทลอน ว. บังเอิญ ทลำย ก. ท าลาย พัง แตก กระจาย ทวย บ. ด้วย โดย ตาม น. หมู่ เหล่า พวก ทวยทอด ก. ขว้าง ทิ้ง ทวำย ก. ทาย ถาม จับ พัด โบก ขับข่ีอุ้ม กอด ทา ลูบไล้ น. เนื้อทราย ท่อ ว. เท่า เสมอ เหมือน ท่อง ก. ไปมา เล่า บ่น


๑๘๒ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ทอน ก. คืนให้ เพิ่ม เติม ทอม ก. ทะนุถนอม ทะเมำ ว. เศร้า สลด ทะ ใช้น าหน้าค าอื่นให้ไพเราะ ทิพพะ น. สวรรค์ ชั้นฟ้ า เทวโลก ทีป น. เขต แดน ทวีป ทุกข์ ก. ความยาก ความล าบาก ความจน ทุกส ่ำ ว. ถ้วน ครบ เท่ากัน ทุคตะบ่ำวท้ำว ว. ชายผู้ยากจน เข็ญใจ ทุม น. หมู่ไม้ (ทุ่ม) ก. เนืองนอง เต็มล้น ท่วม พัด ทูล ก. บอก กล่าว เทเวศท้ำว น. เทวดาผู้เป็นใหญ่ ฝน เทศ น. บ้านเมือง ท้องถิ่น ประเทศ ว. ต่างบ้าน ต่างเมือง ต่างประเทศ เทิง ว. บน เหนือ สูง ทั้ง ทั่ว เทิ้ ง ก. อิง พิง เที่ยง น. กึ่งเวลากลางวันกลางคืน ว. ตรง แน่นอน เทียว ก. เดินไปมา เทื่อ ว. ครั้ง คราว หน แท่น น. ท่นี่ัง แท่นแก้ว น. ท่นี่ังเจ้านาย แทบ ว. ใกล้


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๘๓ โทม ก. ห่ม จับ ทับ ถม กั้น ปิด โทมนำส น. ความเศร้าโศก ความเสียใจ ไท้ น. ผู้เป็นใหญ่ ผู้เป็นหัวหน้า ธ ธรณี น. แผ่นดิน โลก ธรัง, ธะรัง น. แผ่นดิน พื้นดิน แผ่นฟ้ า อากาศ แผ่นน ้า ธรำ น. แผ่นดิน แผ่นน ้า ธะรง ก. ทรง ปกครอง น นงค์ น. นาง นางงาม นงศรี น. หญิงสวยงามในลักษณะเบญจกัลยาณี นวล ว. อ่อน นุ่มนิ่ม น. สีขาวปนเหลือง นอง ก. เจิ่ง ล้น เต็ม น้องนำถ น. นางผู้เป็นท่รีัก น้อม ก. โน้ม โอน อ่อน นำคะ น. งูใหญ่มีหงอน ช้าง ผู้ประเสิฐ นำโค น. นาคตัวผู้ นำงนำถ น. นางผู้เป็นท่พี่ึง นำบ ก. ตลาดให้กลัว หนีบไว้ทั้งสองข้าง น้ำว ก. เหน่ียว โน้ม ดึง นิคม น. หมู่บ้านใหญ่ นิททะเน่ง ก. นอน นอนหลับ


๑๘๔ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี นีรพำน น. นิพพาน เน่ง ว. ตรง นิ่ง ก. นอน เนำ ก. อยู่ เย็บให้ติดกัน เนียระนำด ว. เงียบ ไม่มีเสียง เนืองนี่ ว. เสมอๆ บ่อยๆ แนน น. คู่ครอง แนบ ก. แอบชิด แอบเคียง แนม ก. มองตาม มองดู บ บรเม ว. ย่ิง ท่สีดุ น. ชื่อเขาพระสุเมรุอีกชื่อหนึ่ง บรรทม ก. นอน บริสุทธ์ิ ว. แท้ ไม่มีอะไรเจือปน บ้วงบำศ น. บ่วง บ่อน น. สถานท่ีเช่น บ่อนนอน บัง น. บาง ล าห้วย ล าคลอง ก. ปิด บังกั้น ก. ปิดกั้น ปิดบัง บั้น น. บท บั้น บั้นบ่อน น. บทท่ตี้ัง บำน ก.เผยออก คล่ีออก บำรมี น. คุณงามความดีท่บีา เพญ็ บำลัง น. ท่ปีระทบั บินบน ก. ไปในอากาศด้วยก าลังปีก


บุแผ่นธรณีด้ันกุมกายก าโฮบ | ๑๘๕ บุ ก. ลุย ฝ่าไป โผล่ขึ้น เผา สุม กรุ บุ่น ว. ตุ้ย ยุ้ย ก. เจาะ ไซ บุปผำ น. ดอกไม้ เบ่ง ก. ตะเบ็ง ดันออก พองขึ้น เบญจำ ว. ห้า เบื้อง น. ข้าง ฝ่าย ทิศ ทาง ใบ้ ว. พูดไม่เป็นภาษา กืก ก็ว่า ป ป่ ง ก. งอก ผลิ ปฐพี น. แผ่นดิน ประณม ก. กราบไหว้น้อมไหว้ ประถม ว. ล าดับแรก เบื้องต้น ประโยค น. คา พูดหรือข้อความท่บีริบูรณ์ตอนหน่ึง ประสงค์ น. ความต้องการ ความมุ่งหมาย ประสิทธ์ิ น. ความส าเร็จ ก.ท าให้ส าเร็จ ประเหียน น. นกกระแดดเด้า ว. เปรียบเทียบ ปรำงค์แก้ว น. ปราสาทท่มีียอดแหลม ปรำณี น. ผู้มีชีวิต คน ก.เอ็นดูด้วยความสงสาร ปลง ก. วางลง ปล่อง น. ช่องทะลุ ปละปล่อย ก. ละ ทิ้ง สละ ปลิ้ น ก. กลับข้างในออกนอก กลับข้างนอกเข้าใน


๑๘๖ | พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี ปลุก ก. ท าให้ตื่นจากหลับ ปอง ก. ต้องการ มุ่งหวัง ปรารถนา ป่ อง น. ไม้มีโกน มนต์ท่ทีา ให้จา อะไรได้ง่าย ป้ อง ก. ต้อน ขับไล่ ป่ ำคำ น. ป่ าหญ้าคา ปำง น. คราว ครั้ง ปำน ว. คล้าย เสมอ เหมือน ปิ่ น ก. หมุน ผินกลับมองดู ปี ก น. ข้าง ฝ่าย ปุน ว. เปรียบ ประดุจ ดัง เสมอ เหมือน ก. แต่งตั้ง แก้ไข ด่า แช่ง ทูล แถลง ติด ต้องการ ปรารถนา มองดู เปล่ียนแปลง ยักย้าย หล่อ หลอม น. คราว ครั้ง เมื่อ ปุนปอง ก. ต้องการ ปรารถนา ปุนเปรียบ ว. เปรียบ ประดุจ ดัง เสมอ เหมือน เปลื้ อง ก. ปลด ปล่อย ทิ้ง เอาออก แป้ ว. ลักษณะส่งิของท่เีลก็ แปร ก. เปล่ียน แตก ทา ลาย ชนะ แปร่ขว ้ำ ก. ท าลาย แปลสนธ์ิ ก. ถ่ายความหมาย ขยายความ แปว น. เปลว รูท่ลีมเข้าออก ช่อง ทาง


Click to View FlipBook Version