The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่ม ScQA โรงเรียนปทุมธานี นันทมุนีบำรุง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kul.oom, 2022-07-19 23:19:19

เล่ม ScQA โรงเรียนปทุมธานี นันทมุนีบำรุง

เล่ม ScQA โรงเรียนปทุมธานี นันทมุนีบำรุง

รายงานวธิ ีการและผลการดำเนินงาน
ตามเกณฑร์ างวัลคุณภาพแหง่ สำนักงานคณะกรรมการ

การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน (ScQA)
ประจำปี 2564

โรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรุง”
54 หมู่ 2 ตำบลบางหลวง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวดั ปทุมธานี

รหสั ไปรษณีย์ 12000
สงั กดั สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาปทมุ ธานี

สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน

โครงสร้างการบรหิ ารโรงเรยี นปทมุ ธานี “นนั ทมนุ บี ำรงุ ” ก



คำอภิธานศพั ท์

รูปแบบการบริหารสถานศึกษาโดยใช้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL หมายถึง ระบบการบริหารงาน
ของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมนุ ีบำรุง”ตามบริบทและวัฒนธรรมองคก์ รของโรงเรียน ร่วมกับระบบวงจรคณุ ภาพของ

เดมมิ่ง (Deming Cycle) หรือ PDCA ในการดำเนนิ การของโรงเรียนทีม่ ีการประเมินผลและปรบั ปรุงกระบวนการท่ี
สำคัญของโรงเรียนอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นผลลัพธ์ท่ีเป็นเป้าหมายในการดําเนินการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่
มาตรฐานสากล แสดงดงั ภาพ

โดย PTN MODEL ประกอบไปดว้ ยตัวอกั ษรที่แต่ละตวั มคี วามหมาย ดังนี้
P : Participation หมายถึง การมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและภาค

เครือข่าย เพ่ือเป็นแนวทางในการพิจารณาและร่วมกําหนดทิศทางการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ให้มี
ความหลากหลาย เป็นไปอย่างถ่ีถ้วน รอบคอบ มีการนิเทศ กํากับ ติดตาม อย่างเป็นระบบ ส่งผลให้การ

บริหารเปน็ ไปอยา่ งราบร่นื และมปี ระสทิ ธภิ าพ
T : Technological Innovation หมายถึง การใช้เทคโนโลยีมาพัฒนา ในการบริหารจัดการในการ
ดำเนนิ การต่างๆของโรงเรยี นอยา่ งเป็นระบบ และมีประสทิ ธิภาพ

N : Nice Outcome หมายถึง ผลลัพธ์ที่ดีซึ่งเกิดจากการบริหารจัดการดี ผู้บริหารดี ครูเกิดการจัดการ
เรียนรู้ที่ดี สภาพแวดล้อมที่ดี ส่งผลให้นักเรียนดี และเกิดผลลัพธท์ ี่ดีในทุกด้าน ทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพ

การศึกษาสู่มาตรฐานสากล

สารบัญ คค

ผังโครงสรา้ งองค์กร หนา้
คำอภธิ านศัพท์ ก
สารบญั ข
สารบัญตาราง ค
สารบัญภาพ ง
โครงรา่ งองค์กร จ
หมวด 1 การนําองคก์ ร 1
11
1.1 การนําองค์กรโดยผนู้ าํ ระดับสูง 12
ก. วสิ ัยทัศน์ พนั ธกจิ และค่านิยม 12
ข. การสอ่ื สารและผลการดําเนินการของโรงเรียน 15
16
1.2 การกํากบั ดแู ลองค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคม 16
ก. การกํากับดแู ลโรงเรียน 17
ข. การประพฤติปฏิบตั ติ ามกฎหมายและมีจริยธรรม 20
ค. ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม 21
21
หมวด 2 กลยุทธ์ 21
2.1 การจัดทํากลยุทธ์ 24
ก. กระบวนการจัดทาํ กลยุทธ์ 27
ข. วัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ กลยุทธ์ 27
2.2 การนาํ กลยุทธ์ไปปฏิบตั ิ 29
ก. การจัดทาํ แผนปฏบิ ตั ิการและการถา่ ยทอดสกู่ ารปฏิบัติ 31
ข. การปรับเปลี่ยนแผนปฏบิ ัติการ 31
31
หมวด 3 นกั เรยี นและผู้มสี ว่ นไดเ้ สยี 32
3.1 เสยี งของนักเรยี นและผู้มสี ่วนไดเ้ สีย 34
ก. การรบั ฟังนักเรียนและผ้มู สี ว่ นได้เสยี 34
ข. การประเมนิ ความพงึ พอใจและความผกู พนั ของนกั เรียนและผมู้ สี ่วนไดเ้ สีย 35
3.2 ความผูกพันของนักเรียนและผูม้ ีส่วนได้เสยี
ก. หลักสูตรและการสนับสนนุ นกั เรยี นและผ้มู สี ่วนไดเ้ สยี
ข. การสรา้ งความสัมพนั ธก์ ับนกั เรียนและผู้มีส่วนไดเ้ สีย

หมวด 4 การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ ค
4.1 การวัด การวิเคราะห์ และการปรบั ปรุงผลการดําเนินการของโรงเรียน
หนา้
ก. การวดั ผลการดําเนินการ 37
ข. การวิเคราะห์และทบทวนผลการดําเนินการ 38
ค. การปรับปรุงผลการดําเนินการ 38
40
4.2 การจดั การความรู้ สารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ 41
ก. ความร้ขู ององคก์ ร 42
42
ข. ขอ้ มลู สารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ 43
หมวด 5 บุคลากร 46
47
5.1 สภาพแวดลอ้ มของบคุ ลากร 47
50
ก. ขีดความสามารถและอัตรากาํ ลงั บุคลากร 52
ข. บรรยากาศการทํางานของบคุ ลากร 52
53
5.2 ความผูกพนั ของบคุ ลากร 55
ก. ความผกู พนั และผลการปฏบิ ัตงิ านของบุคลากร 55
ข. การพฒั นาบุคลากรและผู้นํา 55
58
หมวด 6 การปฏบิ ตั กิ าร 58
6.1 กระบวนการทํางาน 59
59
ก. การออกแบบหลกั สูตรและกระบวนการ 59
ข. การจัดการกระบวนการ 62
ค. การจัดการนวัตกรรม 65
65
6.2 ประสทิ ธิผลของการปฏิบัตกิ าร 65
ก. ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลของกระบวนการ 76
79
ข. การจดั การหว่ งโซ่อปุ ทาน 81
ค. การเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภยั และภาวะฉุกเฉนิ 81
หมวด 7 ผลลัพธ์ 84
84
7.1 ผลลพั ธ์ด้านหลกั สูตรและกระบวนการ 89
ก. ผลลพั ธ์ด้านหลกั สูตรและกระบวนการจดั การเรยี นการสอนท่ีมุ่งเนน้ นกั เรยี น 89
91
ข. ผลลัพธด์ า้ นประสิทธผิ ลและกระบวนการทำงาน 91
ค. ผลลพั ธ์ด้านการจัดการหว่ งโซอ่ ปุ ทาน 91
7.2 ผลลพั ธด์ ้านนกั เรียนและผูม้ ีส่วนได้เสยี

ก. ผลลพั ธ์ดา้ นนกั เรยี นผมู้ ีส่วนไดส้ ว่ นเสีย
7.3 ผลลพั ธ์ด้านบคุ ลากร

ก. ผลลัพธ์ด้านบคุ ลากร
7.4 ผลลพั ธด์ ้านการนําองคก์ รและการกาํ กับดูแลองคก์ ร

ก. ผลลพั ธ์ด้านการนำองค์กร การกำกบั ดแู ลโรงเรียน และความรับผิดชอบต่อสังคม

ข. ผลลัพธ์ด้านการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ
7.5 ผลลัพธด์ ้านการเงนิ และตลาด

ก. ผลลพั ธ์ดา้ นการเงนิ และตลาด



สารบญั ตาราง ห4นา้ ง
24
ตารางท่ี 1 จำนวนบคุ ลากรจำแนกตามตำแหน่ง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ เพศ ระดบั การศึกษา และอายุ
ตารางท่ี 2-1 แสดงวตั ถปุ ระสงค์เชิงกลยุทธ์ทส่ี ำคญั ในการบริหารสถานศกึ ษา 25
ตารางที่ 2-2 แสดงกลยทุ ธต์ ัวชีว้ ัดความสำเร็จ และเปา้ หมายความสำเรจ็ ระหวา่ งปีการศกึ ษา 2560 – 2563
ตารางที่ 5-1 แสดงนโยบาย การบรกิ าร สิทธิประโยชนข์ องบุคลากร 51

ตารางที่ 7-1 แสดงรอ้ ยละ คา่ เฉล่ีย และผลของการประเมินองค์ประกอบของหลกั สตู รสถานศึกษา 65

ตารางท่ี 7-2 แสดงรอ้ ยละ ค่าเฉลีย่ และผลของการประเมนิ การนำหลกั สตู รสถานศกึ ษาสกู่ ารจัดการเรียนรู้ 67

ตารางที่ 7–3 ร้อยละของนกั เรยี นทม่ี ีผลการเรยี นผ่านเกณฑต์ ามคา่ เป้าหมาย ปกี ารศึกษา 2562 – 2563 69

ตารางที่ 7–4 ร้อยละของนักเรยี นที่มีผลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงคเ์ ปรียบเทยี บปีการศกึ ษา 71

2562 – 2563 จำแนกตามระดับช้นั

ตารางท่ี 7–5 ร้อยละของนกั เรียนท่มี ผี ลการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ เขียน ระหว่างปกี ารศึกษา 72

2562 – 2563 จำแนกตามระดับชัน้

ตารางที่ 7–6 ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดบั ชาติเปรยี บเทยี บคะแนนผลการทดสอบทางการ 73

ศกึ ษระดับชาตขิ ้ันพน้ื ฐาน (O-NET) นักเรยี นระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ของโรงเรียน

ปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”เปรยี บเทยี บระหว่างปีการศกึ ษา 2562 – 2563

ตารางที่ 7–7 ผลการประเมินคณุ ภาพการศึกษาระดับชาติเปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษา 73

ระดบั ชาติขน้ั พ้นื ฐาน (O-NET) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ของโรงเรยี นปทุมธานี

“นันทมนุ ีบำรุง” เปรยี บเทียบระหว่างปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563

ตารางที่ 7–8 ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ เปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษา 74

ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นกั เรียนระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ย

ระหว่างโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” กับโรงเรียนเทพศิรินทร์คลองสิบสาม ปทุมธานี

ปีการศึกษา 2562 – 2563

ตารางที่ 7–9 ผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาระดับชาติ เปรียบเทยี บคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษา 75

ระดบั ชาตขิ ้นั พื้นฐาน (O-NET) นกั เรยี นระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 เปรียบเทียบคะแนนเฉลย่ี

ระหว่างโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรุง” กบั โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์คลองสบิ สาม ปทุมธานี

ปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563

ตารางท่ี 7–10 ผลการประเมินคุณภาพภายนอก : ผลการประเมิน SAR ภายใต้สถานการณ์ COVID – 19 76

ระดับการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน โรงเรยี นปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ”

ตารางท่ี 7–11 ผลการประเมนิ คุณภาพภายใน ตามมาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนีบำรงุ ” 77

ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

ตารางท่ี 7–12 แสดงค่าร้อยละของจำนวนนักเรยี นท่จี บหลกั สตู รระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนต้น และระดบั ชนั้ 78

มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ปกี ารศกึ ษา 2562 - 2563

ตารางที่ 7–13 แสดงขอ้ มลู การปฏิบัตเิ ตรยี มพร้อมตอ่ ภัยพบิ ัติและภาวะฉุกเฉนิ ช่วงปี 2562 - 2563 78

ตารางที่ 7–14 รอ้ ยละของความสำเรจ็ ในการดำเนนิ โครงการตามกลยทุ ธ์ของโรงเรียน ปีการศกึ ษา 79

2562 – 2653



ตารางที่ 7-15 ระดบั ความพงึ พอใจของนกั เรียนเกีย่ วกับการจัดการศึกษาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา 81

ปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563 82ง
ตารางที่ 7–16 เปรียบเทียบสถติ นิ ักเรียนโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ทีศ่ ึกษาต่อ

ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4

ตารางที่ 7–17 เปรยี บเทียบสถติ ิผูป้ กครองทีเ่ ข้าร่วมการประชุมผปู้ กครอง 83

ตารางท่ี 7-18 แสดงความพึงพอใจของผู้ปกครองท่ีเขา้ รว่ มประชมุ ผปู้ กครองนกั เรยี น ปกี ารศึกษา 83

2562-2563

ตารางที่ 7–19 แสดงจำนวนบคุ ลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” จำแนกตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ 84

ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

ตารางที่ 7–20 แสดงจำนวนบคุ ลากรของโรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมนุ บี ำรงุ ” จำแนกตามวทิ ยฐานะ 85

ปีการศกึ ษา 2562

ตารางที่ 7–21 แสดงจำนวนบคุ ลากรของโรงเรยี นปทมุ ธานี “นนั ทมนุ ีบำรงุ ” จำแนกตามวิทยฐานะ 85

ปีการศกึ ษา 2563

ตารางที่ 7–22 แสดงจำนวนบคุ ลากรของโรงเรยี นปทมุ ธานี “นนั ทมุนีบำรุง” จำแนกตามวุฒกิ ารศึกษา 86

ปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563

ตารางท่ี 7–23 แสดงความพึงพอใจตอ่ บรรยากาศการทำงานของบุคลากรด้านสภาพแวดล้อม ปีการศึกษา 87

2562 – 2563

ตารางที่ 7–24 แสดงความพงึ พอใจต่อนโยบาย และสทิ ธิประโยชน์ ปกี ารศึกษา 2562 – 2563 87

ตารางที่ 7–25 แสดงความพงึ พอใจตอ่ การปฏิบัติงานโรงเรยี นปทุมธานี “นนั ทมนุ ีบำรงุ ” ปีการศกึ ษา 88
2562 – 2563 88

ตารางที่ 7–26 แสดงความจำนวนครทู ่ีเข้ารว่ มพฒั นาในด้านต่างๆ ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

ตารางท่ี 7–27 ค่าเฉล่ีย และร้อยละของการประเมนิ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการของ 89
ผู้บรหิ าร 90

ตารางที่ 7-28 แสดงผลดา้ นการปฏบิ ัติตามกฎระเบียบขอ้ บงั คบั และกฎหมายของทางราชการและกฎหมาย

ตารางที่ 7-29 แสดงผลการประเมนิ คุณภาพภายใน (SAR) ดา้ นอตั ลกั ษณ์ ปกี ารศกึ ษา 2562-2563 90

ตารางท่ี 7–30 แสดงการดำเนนิ โครงการตามแผนปฏิบัติการประจำปี 2562-2563 ท่ีสอดคลอ้ งตามกลยุทธ์ 91

ตารางท่ี 7–31 การจัดสรรงบประมาณเพ่ือการบรหิ ารจดั การศึกษา จำแนกตามกลุม่ บรหิ าร ในปีการศกึ ษา 92
2562 - 2564 92
94
ตารางที่ 7–32 แสดงจำนวนบคุ ลากรของโรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนบี ำรุง” จำแนกตามวฒุ กิ ารศึกษา
ปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563

ตารางท่ี 7–33 แสดงค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของบคุ ลากรและผทู้ ี่เกีย่ วข้องทมี่ ตี ่อการใหบ้ รกิ ารด้านการเงิน

การบญั ชกี ารพสั ดแุ ละการควบคุมภายใน



สารบัญภาพ

โครงสร้างการบริหารโรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนบี ำรุง” หนา้
รปู แบบการบรหิ ารสถานศกึ ษาโดยใชร้ ะบบบริหารคณุ ภาพ PTN MODEL ก
แผนภาพที่ 1-1 แสดงการจัดทำวสิ ยั ทัศน์ พนั ธกิจ เปา้ ประสงคค์ ่านิยมเอกลักษณ์และอัตลกั ษณข์ องโรงเรยี น ข
แผนภาพที่ 1-2 แสดงการประพฤตปิ ฏิบตั อิ ย่างมีจริยธรรมของครแู ละบุคลากร 11
แผนภาพท่ี 2-1 กระบวนการวางแผนกลยุทธโ์ รงเรียนปทมุ ธานี “นันทมนุ ีบำรงุ ” 19
แผนภาพที่ 2-2 กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดกลยทุ ธ์โรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ” 22
แผนภาพที่ 2-3 การจัดทำแผนปฏบิ ตั ิการและการถา่ ยทอดสู่การปฏบิ ตั ิ 23
แผนภาพท่ี 3-1 แสดงการฟงั นักเรยี นและผมู้ สี ่วนได้ส่วนเสยี นักเรยี นและผู้มสี ว่ นได้ส่วนเสีย 27
แผนภาพที่ 3-2 แสดงการฟงั นกั เรยี นและผมู้ สี ่วนได้ส่วนเสียนกั เรียนและผ้มู ีสว่ นได้สว่ นเสีย 31
แผนภาพที่ 4-1 แสดงความสมั พนั ธ์ของระบบงานตามโครงสรา้ งการบรหิ าร และแผนกลยุทธ์ 33
แผนภาพท่ี 4-2 แสดงข้นั ตอนในการดำเนินการสรปุ ทบทวนโครงการ 37
แผนภาพท่ี 4-3 แสดงกระบวนการการจัดการของขอ้ มูลและสารสนเทศ 40
แผนภาพท่ี 5-1 แสดงการดำเนินงานดา้ นบุคลากรโรงเรยี นปทุมธานี”นันทมุนีบำรงุ ” 44
แผนภาพท่ี 5-2 ขีดความสามารถและอัตรากำลังบคุ ลากร 46
แผนภาพท่ี 6-1 การจดั ทำข้อกำหนดท่ีสำคญั ของหลักสตู รและกระบวนการทำงาน 47
แผนภาพที่ 6-2 แสดงแนวคิดในการออกแบบระบบบริหารจัดการโรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนบี ำรุง” 56
แผนภาพที่ 6-3 การจดั การห่วงโซ่อุปทาน 57
แผนภาพท่ี 6-4 แสดงหลกั 4R สำหรับความปลอดภัยของโรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมนุ ีบำรงุ ” 59
แผนภาพท่ี 6-5 แสดงการออกแบบระบบการเตรียมความพรอ้ มตอ่ ภาวะฉกุ เฉินโรงเรียนปทมุ ธานี 62
63
“นันทมุนบี ำรงุ ”
แผนภาพที่ 7–1 แผนภาพแสดงระดับความคิดเหน็ ท่ีมตี ่อการใช้หลักสูตรโรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมนุ ีบำรุง” 68

เปน็ ภาพรวมของครูทง้ั 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนรวมจำนวน 57 คน

แผนภาพที่ 7–2 แผนภาพแสดงระดับระดับความพงึ พอใจของผปู้ กครองนกั เรียนทมี่ ตี ่อการใชห้ ลักสูตร 68
โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ”

แผนภาพท่ี 7–3 รอ้ ยละของนกั เรยี นทีม่ ีผลการเรียนผ่านเกณฑต์ ามคา่ เป้าหมายเปรยี บเทยี บปกี ารศึกษา 70
70
2562 – 2563 จำแนกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ 71
72
แผนภาพท่ี 7–4 ร้อยละของนักเรียนท่ีมผี ลการเรียนผ่านเกณฑ์ตามค่าเปา้ หมายปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563
จำแนกตามระดับช้นั

แผนภาพที่ 7–5 ร้อยละของนกั เรยี นท่มี ีผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์เปรยี บเทยี บปีการศกึ ษา
2562 – 2563 จำแนกตามระดบั ช้นั

แผนภาพท่ี 7–6 รอ้ ยละของนกั เรยี นท่ีมีผลการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน ระหวา่ งปีการศึกษา
2562 – 2563 จำแนกตามระดับชน้ั



แผนภาพท่ี 7–7 เปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษระดบั ชาติขัน้ พ้นื ฐาน (O-NET) นักเรียน 73
ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ของโรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมนุ ีบำรงุ ”เปรียบเทียบระหว่างปี
การศกึ ษา 2562 – 2563 74

แผนภาพที่ 7–8 เปรียบเทยี บคะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษระดับชาติขน้ั พ้ืนฐาน (O-NET) นักเรียน 75
ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ของโรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนบี ำรุง”เปรียบเทียบระหวา่ ง
ปีการศกึ ษา 2562 – 2563 76

แผนภาพท่ี 7–9 เปรยี บเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาตขิ ้ันพ้ืนฐาน (O-NET) นักเรยี น 80
ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เปรยี บเทยี บคะแนนเฉลีย่ ระหว่างโรงเรียนปทมุ ธานี 82
“นนั ทมุนบี ำรงุ ” กับโรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์คลองสิบสาม ปทมุ ธานี ปีการศึกษา 2562 – 2563 83
84
แผนภาพท่ี 7–10 เปรยี บเทยี บคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติขั้นพน้ื ฐาน (O-NET) นักเรยี น 86
ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6 เปรยี บเทยี บคะแนนเฉล่ียระหว่างโรงเรยี นปทุมธานี 86
“นนั ทมนุ ีบำรงุ ” กับ โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์คลองสิบสาม ปทมุ ธานี ปีการศึกษา 92
2562 – 2563 93
93
แผนภาพที่ 7–11 ร้อยละของความสำเรจ็ ในการดำเนนิ โครงการตามกลยทุ ธ์ของโรงเรียน ปกี ารศกึ ษา 94
2562 – 2563 95

แผนภาพท่ี 7–12 รอ้ ยละของนกั เรียนโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
ท่ีศกึ ษาต่อระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4

แผนภาพท่ี 7–13 รอ้ ยละของผู้ปกครองท่ีเขา้ รว่ มประชุมผปู้ กครอง

แผนภาพท่ี 7-14 แสดงจำนวนบุคลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนบี ำรงุ ” จำแนกตามกลุ่มสาระการ
เรียนรู้ ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

แผนภาพท่ี 7–15 แสดงจำนวนบุคลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรงุ ” จำแนกตามจำแนกตาม
วิทยฐานะ ปีการศกึ ษา 2562 – 2563

แผนภาพที่ 7–16 แสดงจำนวนบุคลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ” จำแนกตามวุฒกิ ารศึกษา
ปีการศึกษา 2562 – 2563

แผนภาพที่ 7-17 รอ้ ยละแผนการใช้งบประมาณปีงบประมาณ 2562 - 2563

แผนภาพท่ี 7-18 เปรยี บเทียบงบประมาณท่ีได้รับจัดสรรและงบประมาณทีใ่ ช้ ปงี บประมาณ 2562 – 2564

แผนภาพท่ี 7-19 เปรียบเทียบงบประมาณเงนิ อดุ หนนุ ปีบประมาณ 2562 – 2564

แผนภาพที่ 7-20 แสดงผลการประเมนิ สภาพการดำเนินงานด้านการเงินและบัญชีปกี ารศกึ ษา 2562 - 2564

แผนภาพท่ี 7-21 เปรยี บเทียบจำนวนนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 และช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4
ปีการศึกษา 2562 - 2563

1

โครงร่างองคก์ ร

(Organizational Profile)

1. ลกั ษณะองค์กร (Organizational Description)

โรงเรยี นปทมุ ธาน“ี นันทมุนบี ำรุง” สังกัดสำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาปทุมธานี ตามประวัติ
เคยเป็นโรงเรียนประจำอำเภอบางกะดี จังหวัดปทุมธานี มณฑลอยุธยา เดิมอยู่ในวัดบางหลวงใน สอนถึงชัน้ ม.3
(ป.7) สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศจัดตั้งโรงเรียน วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2476 พระ
ครูนันทมุนี (พระรามัญมุนี) ได้ย้ายโรงเรียนไปสร้างที่วัดบางหลวงนอกก็ยังเปิดสอนถึงม.3 มีนักเรียนที่อยู่
หา่ งไกลมาเรียน การคมนาคมไม่สะดวกตอ้ งเดนิ มาโรงเรียนหรือมาอยู่ทวี่ ดั พ.ศ. 2599 โรงเรียนสามารถเปิดสอน
ไดถ้ งึ ระดบั ม.6 (ม.ศ.3) ขณะนนั้ โรงเรยี นมี เนอื้ ที่ 6 ไร่ 2 งาน ลำดบั ต่อมา พ.ศ. 2507 นายมงคล ธูปกระจ่าง
ครูใหญ่ในขณะน้นั ได้พยายามย้ายโรงเรยี นมาอยู่ท่ีศาลเจ้าป่าสะแกเม่อื ไดร้ ับงบประมาณสรา้ งโรงฝกึ งานก็สร้างบน
ที่ดินของศาลเจ้าก่อน พ.ศ. 2518 เจ้าหน้าที่ของกรมสามัญศึกษา ได้มาตรวจโรงเรียนเห็นว่าสภาพของโรงเรยี น
เก่า และทรุดโทรมมากไมป่ ลอดภัยแก่นักเรียน กรมสามัญศึกษาได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 260,400 บาท ให้
ก่อสร้างอาคารเรียนชั่วคราว 2 หลัง วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2518 ฯพณฯ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
นายกรัฐมนตรีได้มาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารเรียน 216ก พ.ศ. 2521 โรงเรียนเปดิ สอน ม.1 - ม.3
ตามหลักสูตรมธั ยมศกึ ษาตอนต้น พ.ศ.2521 (ซ่ึงเดมิ ใช้หลักสูตร ม.ศ.1-ม.ศ.3) พ.ศ.2534 ได้รับอนุมตั ใิ ห้เปดิ สอน
ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.4 – ม.6) ดังนั้นในปัจจุบนั โรงเรียนจงึ เปดิ สอนระดบั ม.1- ม.6

พ.ศ.2537 โรงเรียนปทุมธานี“นันทมุนีบำรุง” ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็น
สถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ระดับมัธยมศึกษาขนาดกลาง พ.ศ. 2538 นักเรียนของโรงเรียนคือ
นางสาวประพาฬรัตน์ คชเสนา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักเรียนรางวัล
พระราชทาน รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ พ.ศ. 2543 นักเรียนของโรงเรียนคือ
นายบรรดิษฐ์ ขาวจัตุรัส นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักเรียนรางวัลพระราชทาน รับ
พระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ พ.ศ. 2544 โรงเรียนได้รับการคดั เลือกให้เป็นโรงเรียนนำ
ร่องเรื่องการปฏิรูปการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นสำคัญของกรมวิชาการ โรงเรียนนำร่องการสืบค้นภูมิปัญญา
ท้องถิ่น ของกรมสามัญศึกษาและโรงเรียนนำร่องการใช้หลักสูตรการศึกษาชั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2545
ของกรมวิชาการ พ.ศ. 2555 โรงเรียนได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ ใหเ้ ป็นสถานศึกษาตน้ แบบโรงเรียนดีใกลบ้ ้านโรงเรียนในฝนั พ.ศ. 2556 โรงเรียนได้รับการ
คัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษาขนาดกลาง
ปัจจุบันโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนบี ำรงุ ” มีเนื้อที่ทั้งหมด 23 ไร่ 3 งาน 43 ตารางวา มีอาคารเรียน 4 หลัง
โรงฝึกงานอุตสาหกรรม-คหกรรม 2 หลัง หอประชุม 1 หลัง โรงอาหาร 1 หลัง โดมอเนกประสงค์ 1 หลัง มี
ห้องเรียน 29 ห้องเรียน ปัจจุบัน โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” บริหารงานโดยผู้อำนวยการสำเนียง ดล
สอาดผู้อำนวยการโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” โทรศัพท์ 025811825 โทรสาร 025815571 เว็บไซต์
www.pathumnun.ac.th สอนระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ถึงระดับมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

2

ก. สภาพแวดล้อมองค์กร (Organizational Environment )
(1) หลกั สตู ร (Product Offerings)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ใช้หลักสูตรสถานศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน

พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) รว่ มกบั หลักสตู รโรงเรียนมาตรฐานสากล (World Class Standard
School) ทำการวิเคราะห์ความตอ้ งการของผู้มสี ว่ นไดส้ ่วนเสยี ผ่านการเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษา
ขน้ั พ้นื ฐาน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ไดห้ ลักสูตรทมี่ คี ุณภาพ ดังน้ี

- ระดับชนั้ มัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 – ม.3) ได้จัดกลุม่ การเรยี นดังตอ่ ไปน้ี
1) ห้องเรียนพเิ ศษวทิ ยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์
2) หอ้ งเรียนทวั่ ไป จะมรี ายวชิ าเลอื กเพม่ิ เติมให้หลากหลายเพ่อื ผู้เรียนได้เลือกเรยี นตามความถนดั ความ
สนใจของตนเอง ดังตอ่ ไปนี้ พละศกึ ษา (ฟุตบอล ฟุตซอล ตะกรอ้ มวยไทย) ศิลปะ (ทัศนศิลป,์ ดนตรี
ไทย, ดนตรีสากล, นาฏศลิ ปไ์ ทย) การงานอาชีพ (งานประดิษฐ์, การเกษตร, อาหาร) เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนได้
ค้นหาศกั ยภาพและความถนัดของตนเอง

- ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ม.4 – ม.6) จดั แผนการเรยี นท่ีเน้นการพัฒนาศกั ยภาพความรู้และทักษะ
ในวชิ าสามญั เฉพาะดา้ นของผู้เรยี น ดงั นี้
1) แผนการเรียนวทิ ยาศาสตร์ – คณติ ศาสตร์
2) แผนการเรียนคณติ ศาสตร์ – อังกฤษ
3) แผนการเรียนภาษาจีน
4) แผนการเรยี นทวั่ ไป
• ความสำคัญเชิงเปรียบเทียบของแต่ละหลักสูตรหรือโปรแกรมการเรียนการสอนที่ส่งผลต่อความสำเร็จ

ของโรงเรียน ปจั จัยสำคัญที่โรงเรียนใช้ในการจัดการเรยี นการสอนเพอื่ ใหน้ กั เรียนจบการศกึ ษาอย่างมีคุณภาพตาม
หลักสูตร โดยใช้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL นำเทคโนโลยีสารสนเทศใช้ในการบรหิ ารจัดการและใช้ใน
การจัดการเรียนการสอน มีการส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพนักเรียนและเสริมสร้างประสบการณ์ตรง
ใหก้ ับนกั เรียน ร่วมกบั ระบบวงจรคุณภาพของเดมมง่ิ (Deming Cycle) หรอื PDCA ใชก้ ารบริหารจดั การแบบมี
ส่วนร่วมโดยบุคลากรในโรงเรียน ดำเนินการและตัดสินใจ มีการสำรวจความต้องการและความพึงพอใจในการ
บริหารจัดการหลักสูตรและนำผลมาใช้ในการพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้มีส่วน
ได้ส่วนเสียผู้ส่งมอบ และชุมชน จัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพส่งเสริมใหค้ รูและบุคลากร
ทางการศึกษาได้พัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของการพัฒนาหลักสูตร
สถานศึกษา

• กลไกที่โรงเรียนใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนจบการศึกษาอยา่ งมคี ุณภาพตามหลักสูตร
คอื โรงเรยี นนำเทคโนโลยีสารสนเทศใช้ในการบริหารจัดการและใช้ในการจัดการเรียนการสอน มีการส่งเสริมการ
เรยี นรู้ สร้างภาคีเครือข่ายโดยโรงเรียนดำเนินการแตง่ ตงั้ คณะทำงาน กำหนดแผนงานเป้าหมาย มกี ารสร้างความ
ร่วมมือและสร้างเครือข่ายร่วมพัฒนา โดยการทำข้อตกลงร่วมกันในการร่วมพัฒนาวางแผนและมีการแลกเปลี่ยน
เรียนรู้กับหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย โครงการส่งเสริมความร่วมมือกับ
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ มหี อ้ งปฎิบตั ิการ
ทุกกล่มุ สาระการเรียนรู้ เพือ่ ใหน้ กั เรียนไดเ้ รยี นรูจ้ ากการปฎิบตั ิจรงิ จัดกจิ กรรมทางด้านวิชาการเพื่อส่งเสริมการ
เรียนร้ใู นทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ จดั ใหน้ กั เรยี นทกุ คนได้เรยี นภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติ เพ่อื ส่งเสริมให้นักเรียน
ใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ มีความพร้อมสำหรับการเป็นประชาคมอาเซียน และ จัดรายวิชาเพิ่มเติม
ส่งเสริมการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศภาษาที่ 3 คอื ภาษาจีน เพื่อเตรยี มตวั เข้าสู่โลกแหง่ การเรียนรู้

3

(2) วิสัยทศั น์ พันธกิจ และคา่ นยิ ม (VISION, MISSION and VALUES)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนานจนก่อให้เกิดวัฒนธรรมของ

องค์กร ซึ่งเป็น ตัวขับเคลื่อนการดำเนนิ งานและส่งผลตอ่ การกำหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม และมีสมรรถนะ
หลกั ของโรงเรยี น ดังน้ี

วสิ ยั ทัศน์ (VISION)
ภายในปี 2563 โรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนบี ำรงุ ” บริหารจัดการศกึ ษาสูม่ าตรฐานสากล พัฒนาผู้เรียนให้
เป็นคนดี มีวินัย มีทักษะชีวิตและอาชีพ โดยบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและใช้สื่อนวัตกรรม
เทคโนโลยี ไดอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพ อนุรักษพ์ ฒั นาสง่ิ แวดลอ้ ม สืบสานศลิ ปวฒั นธรรมไทย ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินและเรียนรู้
วฒั นธรรมเพอ่ื นบา้ นเพอื่ การอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมอย่างมคี วามสขุ

พันธกิจ (MISSION)
1. พัฒนากระบวนการจดั การเรยี นรู้
2. พัฒนาผเู้ รียนด้านวินัย คณุ ธรรม และจริยธรรม
3. พัฒนาดา้ นเทคโนโลยใี นการจดั การเรยี นรู้
4. พัฒนาทักษะชีวติ และทักษะวิชาชพี
5. พฒั นาอาคารสถานทใี่ ห้เอ่อื ตอ่ การเรียนรู้

ค่านยิ ม (VALUES)
ค่านิยมของ โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนบี ำรงุ ” ยดึ ถอื ในค่านิยมและวิธปี ฏิบตั ิรว่ มกนั โดยNUNT โดยมี
ความหมายดงั นี้

N (New Knowledge) เปน็ การรับความรใู้ หม่ พัฒนาให้กา้ วหน้า
U (Understand) เขา้ ใจตวั ตน เข้าถงึ ผู้รับบริการ
N (Nobleness) ความมีคณุ ธรรม
T (technology) ยกระดบั การเรยี นรู้ด้วยเทคโนโลยี

สมรรถนะหลักของโรงเรียน (Core Competencies)
โรงเรยี นปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ” มกี ารบริหารจดั การและการจดั การเรียนการสอนด้วยระบบคณุ ภาพ
เทยี บเคียงมาตรฐานสากล มีสมรรถนะหลกั ดงั นี้
1. มุ่งพัฒนาสง่ิ แวดล้อมภายในสถานศึกษาใหเ้ อ้ือต่อการเรียนรู้
2. สนับสนุนใหบ้ ุคลากรมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม

(3) ลกั ษณะโดยรวมของบุคลากร (WORKFORCE Profile)
• โรงเรยี นปทุมธานี “นนั ทมุนบี ำรุง” มบี ุคลากร ไดแ้ ก่ ผ้นู ำระดบั สงู (ฝ่ายบรหิ าร) ข้าราชการครู

เจา้ หน้าท่ีลูกจา้ งประจำ และลกู จ้างชัว่ คราว (ขอ้ มูลปีการศึกษา 2563: วนั ที่ 10 มถิ นุ ายน 2563 จำแนกตาม
ตำแหนง่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพศ ระดบั การศึกษา และอายุ) ขอ้ มูลแสดงดังตารางท่ี 1

4

เพศ วุฒิการศกึ ษา วิทยฐานะ อาย(ุ ป)ี
ชาย หญิง ป.ตรี ป.โท
ท่ี บริหาร/กลมุ่ สาระ 10 ไม่มี ชำนาญ ชำนาญ 23-35 36-45 46-59
1 ผูอ้ ำนวยการ -1 การ การพเิ ศษ

-- 1 --1

2 รองผู้อำนวยการ 11 - 2- 1 1 11-
2 ภาษาไทย 06 6 -4 2 312
3 คณิตศาสตร์ 14 4 13 2
- 32

4 วิทยาศาสตร์และ 24 6 -4 1 1 411
เทคโนโลยี 231

5 สังคมศึกษา ศาสนาฯ 2 4 5 1 4 2

6 ภาษาตา่ งประเทศ 04 2 22 2 3-1
7 ศิลปะ 12 3 00 2 1 --3

8 สุขศกึ ษา และพลศึกษา 4 0 4 - 3 1- - 4 - -

9 การงานอาชีพ 12 3 -1 2 - 1-2

10 สนบั สนนุ การสอน 02 2 -2 - - 11-
รวม 13 29 35 7 26 16 4 22 9 11

ตารางที่ 1 จำนวนบุคลากรจำแนกตามตำแหน่ง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ เพศ ระดับการศกึ ษา และอายุ

• ปัจจยั ที่สำคัญท่ีทำใหบ้ ุคลากรมุง่ มนั่ ในการทำงานเพ่อื บรรลุวิสยั ทัศน์และพนั ธกิจ โรงเรียนมีการพัฒนา
บุคลากรอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง เน้นการสร้างความเข้าใจแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ปรับเปลี่ยน

กระบวนทัศน์ในการพัฒนางานต่างๆ โดยมีมาตรฐานและตัวชี้วัดเป็นเป้าหมาย การฝึกทักษะการทำงานร่วมกัน
เป็นทีม รูปแบบการพัฒนาบุคลากรจะต้องใช้การนิเทศทั้งแบบกลุ่มและเป็นรายบุคคล มีการศึกษาดูงาน

การฝึกอบรมสัมมนา เพื่อปรับปรุงการพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ โดยใช้ระบบบริหาร
คุณภาพ PTN MODEL

• โรงเรยี นมีการจัดตง้ั คณะกรรมการและสมาคมตา่ งๆ เช่น คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ผ้ปู กครอง

เครือข่ายระดับโรงเรียน ผู้ปกครองเครือข่ายระดับห้องเรียน สมาคมศิษย์เก่าเพื่อสนับสนุนโรงเรียนดูแลสิทธิ
ประโยชนแ์ ละสวสั ดกิ ารของครบู คุ ลากรและนักเรียนของโรงเรยี น

• สิทธิประโยขน์และข้อกำหนดพิเศษด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่สำคัญของบุคลากร โรงเรียน
ปทุมธานี “นันทมุนบี ำรุง” จดั ทำประกันอบุ ตั เิ หตสุ ำหรับนกั เรยี นและบุคลากรของโรงเรยี น นักเรยี นและครูทุกคน
ได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี จัดบริการที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวันและบริการที่จำเป็นต่อการ

ปฏิบัติงาน เช่น น้ำดื่ม น้ำใช้ ร้านสวัสดิการ โรงอาหาร การติดตั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ภายใน
ยานพาหนะ ห้องสมดุ มีการสร้างขวัญกำลงั ใจแกบ่ ุคลากรและครอบครัวในโอกาสต่าง ๆ เชน่ เจบ็ ป่วย การเสียชวี ิต

การอวยพรวันคล้ายวนั เกิด งานมงคลสมรส การมอบเส้อื สูทของโรงเรียน การมอบของขวญั ช่อดอกไม้แสดงความ
ยินดีในวันสำคัญต่างๆ มีการจัดโครงการช่วยเหลือในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 โดย
จดั เป็นตปู้ นั สุขช่วยเหลือบุคลากรและบคุ คลท่ัวไป จดั ครเู วรรกั ษาการณ์และนักการปฏบิ ัตหิ น้าที่ในวันหยดุ ราชการ

และเวรยามรกั ษาการณ์ภายในโรงเรยี น มีระบบกล้องวงจรปิดตามจุดท่ีสำคัญในบริเวณโรงเรียนและหน้าโรงเรียน
จัดให้มีห้องพยาบาล เจ้าหน้าที่พยาบาลและเวชภัณฑ์ที่จำเปน็ เบือ้ งต้น มีนักการและแมบ่ า้ นทำความสะอาดดแู ล

เขตทีร่ ับผดิ ชอบตลอดเวลาราชการและในวนั หยดุ ราชการ

5

(4) สินทรพั ย์ (Assets)
ปัจจุบันโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มีเนื้อที่ทัง้ หมด 23 ไร่ 3 งาน 43 ตารางวา มีอาคารเรยี น 4

หลัง โรงฝกึ งานอุตสาหกรรม – คหกรรม 2 หลัง หอประชุม 1 หลัง โรงอาหาร 1 หลงั โดมอเนกประสงค์ 1 หลัง
มจี ำนวนหอ้ งเรยี นท้ังสิ้น 34 หอ้ งเรยี น หอ้ งเรยี นคอมพิวเตอร์ 2 ห้อง หอ้ งโสตทศั นศึกษา 1 หอ้ ง ห้องสมุด 1 ห้อง
หอ้ งปฏิบตั กิ ารทางวิทยาศาสตร์ 3 หอ้ ง หอ้ งแนะแนวสำหรบั ใหค้ ำปรึกษา 1 ห้อง หอ้ งพิพธิ ภณั ฑ์ ทอ้ งถ่นิ 1 ห้อง
และ หอ้ งดนตรี นาฏศลิ ป์ ศลิ ปะ 4 ห้อง ห้องปฏบิ ตั กิ ารทางภาษาจีนและภาษาองั กฤษห้องปฏิบัติการงานเกษตร
งานช่าง คหกรรม สนามฟุตบอล สนามบาสเกตบอล สนามวอลเลย์บอล สนามตะกร้อ สนามฟุตซอลและห้องน้ำ
สำหรบั ครู นกั เรยี นชาย/หญิง และมรี ะบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอร์เน็ตท่คี รอบคลุมพ้นื ท่ีท้งั โรงเรยี น

โรงเรียนมีนโยบายพัฒนาคุณภาพนักเรียน มีมุมความรู้ในห้องเรียน มุมสืบค้นต่างๆ ทั้งในห้องสมุด
โรงเรียนและในห้องเรียน โรงเรียนให้บริการคอมพิวเตอร์แก่นักเรียนอย่างเพียงพอมีคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ
จำนวน 138 เครื่อง มีคอมพิวเตอร์แบบพกพาจำนวน 8 เครื่อง มีกระดานอัจฉริยะ (active board) จำนวน 2
เครื่อง มีโทรทัศน์จำนวน 37 เครื่อง มีเครื่องฉายภาพ (Projector) และเครื่องฉาย ประจำห้องเรียน/หอ้ งประชมุ
จำนวน 20 เครือ่ ง โรงเรียนมรี ะบบเครอื ข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายโดยมอี ุปกรณ์กระจายสญั ญาณท่ัวโรงเรียนจำนวน
25 จุด เพื่อบริการนักเรียนและครูให้สามารถจัดการเรียนการสอนที่มคี ุณภาพ เพื่อพัฒนาให้นักเรียนมีความเปน็
เลศิ ทางวิชาการ และทกุ ๆ ดา้ น

(5) กฎระเบยี บขอ้ บงั คับ (Regulatory Requirements)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”ได้ดำเนินงานตามข้อบังคับต่างๆ ได้แก่ พระราชบัญญัติการศึกษา

แห่งชาติ พ.ศ.2542 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่3) พ.ศ. 2553 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2553 พระราชกฤษจานเุ บกษา กฎหมายระเบียบข้าราชการครแู ละบุคลากร
ทางการศกึ ษา ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร กฎกระทรวงประกาศระเบยี บบังคบั ต่าง ๆ ดังตอ่ ไปนี้

• กฎระเบียบดา้ นอาชวี อนามยั และความปลอดภยั
- พระราชบญั ญัตโิ รคดต่อ พ.ศ. 2558
- พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2538 และเพม่ิ เติม (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2560
- พระราชบญั ญตั ิส่งเสรมิ และรักษาคณุ ภาพสิง่ แวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2561
- พระราชบญั ญตั ิควบคุมอาหาร (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558
- ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรง่ ความปลอดภัยในที่ทำงานเก่ียวกับสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะทาง
กายภาพ ได้แก่ ความร้อน แสง สี เสยี ง

• ข้อกำหนดด้านมาตรฐานการประสบคณุ ภาพการศกึ ษา
- กฎกระทรวงการประสบคณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2561
- แผนการศึกษาแหง่ ชาติ 20 ปี
- ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรอื่ งให้ใชม้ าตรฐานการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานเพ่ือปรับปรงุ คณุ ภาพ
ภายในสถานศึกษา
- ตวั บง่ ชก้ี ารประเมินคณุ ภาพภายนอกรอบปี (พ.ศ.2559-2563) ของสำนักงานรบั รองมาตรฐาน
และการประเมนิ คุณภาพการศกึ ษา (องคก์ ารมหาชน)

• กฎระเบยี บเกีย่ วกบั หลกั สตู รการจัดการเรียนการสอนและการบรกิ ารเสริมพิเศษ
- หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ” พุทธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางกระทรวงการศึกษา

6

- ค่มู อื การวดั และประเมินผลการเรยี นรตู้ ามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พ.ศ.2551
- คูม่ ือการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน

• กฎระเบียบเกีย่ วกับการปฎิบัตงิ านกระทรวงการศกึ ษา
การบริหารงานวิชาการ
- คู่มือการปฎบิ ัตงิ านวชิ าการ
- คู่มอื การวิเคราะหแ์ ละประเมินผลงาน
การบรหิ ารงานกิจการนักเรียน
- คู่มอื นักเรียน
- กฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนฉบับท่ี 1 พ.ศ.2548 และฉบบั ที่ 2 พ.ศ.2562
การบริหารงานงบประมาณ
- คู่มือปฎิบตั งิ านฝ่ายงบประมาณ
การบรหิ ารงานบุคคล
- ขอ้ บงั คับครุ สุ ภาว่าด้วยใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพ พ.ศ.2559
- ขอ้ บังคบั ครุ สุ ภาว่าดว้ ยการพจิ ารณาการประพฤตจิ รรยาบรรณของวชิ าชีพ กฎ ก.ค.ศ.
วา่ ด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาพ.ศ.2561

• กฎระเบียบขอ้ บงั คบั ดา้ นการเงินและสิ่งแวดลอ้ ม
- ระเบียบว่าดว้ ยการระทรวงการคลงั ว่าด้วยการ การรับเงนิ การจา่ ยเงนิ การเก็บรกั ษาเงินและการนำ
เงนิ ส่งคลงั พ.ศ. 2562
- พระราชกฤษฎีกาการเงินสวัสดิการเก่ียวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ.2553
- พระราชบัญญตั ิว่าด้วยการจดั ซ้อื จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ.2560

ข. ความสมั พนั ธร์ ะดับองคก์ ร (Organizational Relationships)

(1) โครงสร้างองค์กร (Organizational Structure)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” จัดโครงสร้างการบริหารงานตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร

ราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มบริหาร ได้แก่กลุ่มบริหารวิชาการ กลุ่มบริหาร
งบประมาณ กลุม่ บริหารงานบคุ คล กลมุ่ บรหิ ารทวั่ ไป และเพม่ิ เตมิ กลุ่มบรหิ ารกิจการนกั เรยี นสอดคล้องกับระบบ
บริหารคุณภาพ PTN MODEL โรงเรียนกำกับดูแลองค์กรโดยใช้หลักธรรมาภิบาลเป็นหลักสำคัญ และการ
บริหารโดยมุ่งเน้นผลงานเชิงกลยุทธ์ การบริหารงานภายในโรงเรียนต้องเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และ
ข้อบังคับ ในขอบข่ายของงานที่รับผิดชอบ การทำงานโปร่งใสตรวจสอบได้ เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
(Stakeholders) ได้แก่ ผู้ปกครอง นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน สมาคมศิษย์เก่า
โรงเรียน สมาคมผูป้ กครองและครูโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมนุ ีบำรุง” มลู นธิ ิวโิ รจน์-วนั ดี พฤษาชาติ มูลนิธิมงคล-
จงกล ธปู กระจา่ ง มลู นธิ ิ สวิง-อนงค์ วงษด์ นตรี มลู นิธิวบิ ลู ล์-กนกวรรณ จันทร์กระจ่าง และศูนย์วัฒนธรรมอำเภอ
เมือง คณะกรรมกํารเครือขา่ ยผู้ปกครองโรงเรียนปทุมธานี “นันทมนุ ีบำรุง” มีสว่ นในการแสดงความคิดเห็นในการ
ตัดสินใจและการดำเนนิ การภายใต้ระเบยี บและขอ้ บงั คับขององคก์ รและระเบียบขอ้ กำหนดต่าง ๆ ท่ีเกยี่ วข้อง

7

(2) นักเรยี นและผู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี (STUDENTS and STAKEHOLDERS)
โรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมนุ บี ำรุง” มใี นเขตพน้ื ทบ่ี ริการ บรเิ วณอำเภอเมืองปทุมธานปี ระกอบไปด้วย 8

ตำบล ได้แก่ ตำบลบางปรอก ตำบลบ้านฉาง ตำบลบา้ นกลาง ตำบลบางเด่ือ ตำบลบางควู ดั ตำบลบางหลวง ตำบล
บางขะแยง และตำบลบางกะดี และนักเรยี นทั่วไปนอกเหนือเขตพ้นื ที่บรกิ ารอืน่ ๆ ในจังหวดั ปทมุ ธานีและจังหวัด
ขา้ งเคยี งสามารถเข้าศกึ ษาต่อจากการสอบคัดเลือก

นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ได้แก่ กลุ่มนักเรียนที่จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในเขต
พื้นที่บริการ และนักเรียนทั่วไป เข้าศึกษาต่อในหลักสูตร ประกอบด้วยหลักสูตรห้องเรียนทั่วไปตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) หลักสูตรห้องเรียนพิเศษ
วทิ ยาศาสตร์-คณติ ศาสตร์

นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้แก่ กลุ่มนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากนักเรียน
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” เดิมและนักเรียนทั่วไป เข้าศึกษาต่อในหลักสูตร ประกอบด้วยหลักสูตร
ห้องเรียนทั่วไปตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560)
หลักสูตรแผนการเรียนสำหรับห้องเรียนทั่วไป มีแผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์, แผนการเรียน
คณติ ศาสตร์-ภาษาองั กฤษ , แผนการเรียนภาษาจีน และแผนการเรยี นทวั่ ไป

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ที่สำคัญ ประกอบด้วย ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาข้ัน
พืน้ ฐานโรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมนุ ีบำรุง” สมาคมศิษยเ์ ก่า สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนี
บำรุง” มูลนิธวิ ิโรจน์-วันดี พฤษาชาติ มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง มูลนิธิ สวิง-อนงค์ วงษ์ดนตรี มูลนิธิวิบูลล์-
กนกวรรณ จันทร์กระจ่าง และศูนย์วัฒนธรรมอำเภอเมือง คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนปทุมธานี
“นนั ทมุนบี ำรุง”

• ความต้องการความคาดหวังของกลุ่มนักเรียนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่มีความคาดหวังต่อการจัด
หลกั สูตรของโรงเรยี นให้เปน็ ไปตามความต้องการและศักยภาพของนักเรยี น ในระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ เน้น
ให้นักเรยี นค้นพบความถนัดและความตอ้ งการของนักเรยี น และในระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลายเน้นให้ผู้เรียนมี
ทักษะพื้นฐานในการประกอบอาชีพ และการศึกษาต่อ มีหลักสูตรที่ตอบสนองต่อศักยภาพของนักเรียน มีการ
สง่ เสรมิ ทักษะทางภาษาให้สามารถสือ่ สารกับเจ้าของภาษาได้เปน็ อย่างดีมีทกั ษะในการทำงานท่ีดี มีจิตสาธารณะ
และปลอดภัยต่อความเสี่ยงทุกประเภท รวมทั้งการดูแลนักเรียนทั้งระบบพร้อม ๆ กัน การพัฒนานักเรียนตาม
ศักยภาพและความสามารถเฉพาะทาง มีสมรรถนะและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์มีความรู้ และมีส่วนร่วมในการ
พัฒนาชุมชนสังคมและประเทศชาติ ทางโรงเรียนยังจัดช่องทางให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีโอกาสแสดงความ
คิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานของโรงเรียนผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊กแฟนเพจโรงเรียนปทุมธานี
“นันทมุนบี ำรงุ ” เว็บไซตโ์ รงเรียน www.pathumnun.ac.th และไลนโ์ รงเรยี น

(3) ผู้สง่ มอบและพนั ธมติ ร (Suppliers and PARTNERS)
ผู้ส่งมอบ ได้แก่ โรงเรียนประถมศึกษาโรงเรียนขยายโอกาสในเขตพ้ืนและมีนอกเขตที่บริการ ผู้มีส่วนได้

เสีย เช่น ผู้ปกครอง บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ มีบทบาทที่สำคัญต่อการสนับสนุนการจัดทำหลักสูตรที่เหมาะสม
สอดคลอ้ งกับความต้องการ และมสี ว่ นร่วมในการสร้างนวัตกรรมของโรงเรียน สนับสนุนการจดั การเรยี นการสอน

พันธมิตรในประเทศ ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี กลุ่มเคลือข่ายส่งเสริม
ประสิทธภิ าพการศึกษามธั ยมศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์
(ในพระบรมราชูปถมั ภ์) สถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) สถาบันการจัดการปัญญา
ภิวัฒน์ และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น องค์กรชุมชน ลว้ นมีบทบาทสำคญั ต่อการจัดหลักสูตร การจดั อบรม การ
เปน็ วิทยากรพเิ ศษ การร่วมทำข้อตกลงความร่วมมือการพฒั นาวชิ าการของหนว่ ยงาน (MOU) และมสี ่วนร่วมนการ

8

สร้างนวตั กรรมของบคุ ลากร นกั เรียนในโรงเรียน ผ่านการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนและการใหค้ วามร่วมมือใน
เขา้ รับการศึกษาต่อของนักเรยี นทจ่ี บ หลกั สูตร

พันธมิตรในต่างประเทศ ได้แก่ โครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พื้นฐาน กับสถาบันขงจ่ือภายใต้การกำกับจากรัฐบาลจีน มีส่วนร่วมในการจัดทำหลักสูตร ด้านภาษาอังกฤษ
ภาษาจีน การอบรม การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ความสัมพันธ์เพื่อสร้างนวัตกรรมในด้านหลักสูตรการสอน
ภาษาตา่ งประเทศของโรงเรียน

• โรงเรยี นมกี ลไกในการสือ่ สารแบบสองทิศทางกับผูสงมอบ พันธมิตร และผูใหความรวมมือ มกี ารส่ือสาร
กับผู้ส่งมอบผ่านกิจกรรมสำคัญ ๆ ทั้งผู้ส่งมอบและ พันธมิตร ได้ใช้รูปแบบการสื่อสารแบบสองทาง (Two-way
Communication) กับผู้ส่งมอบ พันธมิตรและผู้ให้ ความร่วมมือผ่านหลายช่องทาง เช่น จดหมาย จดหมาย
อิเล็กทรอนิกส์ เฟซบุ๊กแฟนเพจโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”เว็บไซต์โรงเรียน www.pathumnun.ac.th
แผ่นพบั วารสารประชาสัมพันธ์ การรว่ มเจรจา โทรศพั ท์ โทรสาร การศึกษาดูงานและการสอื่ สารผ่านกจิ กรรม เช่น
กิจกรรมเปิดบ้านโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” (Open House) แข่งขันทักษะวิชาการ การแนะแนวเข้า
ศกึ ษาตอ่ และ การนำเสนอผลงานการศกึ ษาคน้ คว้าอสิ ระ (IS)

• ผู้ส่งมอบพันธมิตร และผู้ให้ความร่วมมือ มีส่วนร่วมในการสร้างนวัฒกรรมให้แก่โรงเรียน ผู้ส่งมอบ
พันธมิตรและผู้ให้ส่วนร่วมทำให้เกิดนวัฒกรรมมีหลักสูตรและแบบการเรียนที่หลากหลายเกิดความร่วมมือทาง
วชิ าการ และ การพัฒนาดา้ นศกึ ษา นกั เรยี น และบคุ ลากร ได้มีการพัฒนาตนเองโดยใหก้ ารสนับสนนุ ด้ายวิทยากร
งบประมาณและวัสดุอุปกรณ์ การฝึกอบรมประชุม สัมมนา การเข้าร่วมกิจกรรม การศึกษาดูงานทั้งในและ
ต่างประเทศ เป็นต้น

• ขอกําหนดที่สําคัญของหวงโซอุปทาน (Supply-chain) ของโรงเรียน โรงเรียนใช้ระบบบริหารคุณภาพ
PTN MODEL ร่วมกับ ระบบวงจรคุณภาพของเดมมิ่ง (Deming Cycle) หรือ PDCA เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อ
ความสำเร็จของการ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การบริหารหลักสูตรที่มีความหลากหลาย สอดคล้องกับความ
ต้องการ และศักยภาพของนักเรียน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และมีเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ของโรงเรียน การสร้าง
สมั พันธภาพท่ดี รี ะหว่างโรงเรยี นและพันธมิตร ทำใหโ้ รงเรยี นไดร้ บั ความร่วมมือท่ีดีในหลายรูปแบบทำให้เกิดความ
ร่วมมือทางวิชาการและรว่ มมอื กันพฒั นาคุณภาพการศึกษา คุณภาพผู้เรียน ทั้งการเป็นวิทยากรสอนเสริมพิเศษ
การทดลองฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนักเรียน การสนับสนุนงบประมาณ การศึกษาดูงาน การรับนักเรียนเข้า
ศกึ ษาต่อ เปน็ ตน้

2. สภาวะการขององค์กร (Organizational Situation)
ก. สภาพแวดล้อมการแขง่ ขนั (Competitive environment)
(1) ลำดบั การแขง่ ขนั (Competitive Position)

โรงเรยี นปทมุ ธานี “นนั ทมนุ ีบำรุง” เปน็ โรงเรียนมธั ยมศึกษาขนาดกลางในจงั หวดั ปทุมธานี กลมุ่ สหวิทยา
เขตสัตตบงกช โดยได้กำหนดโรงเรียนคเู่ ทยี บคือ โรงเรยี นเทพศริ นิ ทร์คลองสิบสาม ปทมุ ธานี เน่ืองจากเปน็ โรงเรยี น
ที่มีกระบวนการจัดการเรยี นการสอนตามมาตรฐานสากล เป็นโรงเรียนที่มีขนาดใกล้เคียงกัน ผู้ปกครองให้ความ
ไว้วางใจ ผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติ (O-NET) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในลำดับท่ี 22 ในระดับ
จังหวัด และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในลำดับท่ี 15 ในระดับจังหวัด ปีการศึกษา 2562 ส่วนโรงเรียน
ปทุมธานี “นนั ทมุนบี ำรุง” มีผลการทดสอบการศึกษาระดบั ชาติ (O-NET) ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 อยู่ในลำดับ
ท่ี 21 ในระดับจังหวัด และระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 อยู่ในลำดับที่ 16 ในระดับจังหวัด ดังนั้นโรงเรียนปทุมธานี
“นันทมุนีบำรุง” จึงได้จัดทำโครงการสู่ความเป็นเลิศ เพื่อเร่งพัฒนาศักยภาพนักเรียนให้มีความสามารถในการ
แขง่ ขันสูงข้ึน

9

(2) การเปลี่ยนแปลงความสามารถในการแข่งขนั (competitiveness Changes)
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ โรงเรียนปทุมธานี“นันทมุนีบำรุง” มีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการ
สถานศึกษาอย่างมีระบบและเป็นขั้นตอนโดยใช้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL ร่วมกับวงจรคุณภาพของ
เดมมิ่ง (Deming Cycle) หรือ PDCA มีการการพัฒนาหลักสูตร การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอน
พัฒนาศักยภาพครู พัฒนาสื่อและรูปแบบการจัดการเรียนการสอน การหาเครือข่ายทางการจัดการศึกษา และ
พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการที่ชัดเจน ทำให้บุคลากรในโรงเรียน พันธมิตร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เห็น
เปา้ หมายของการพฒั นาอย่างชัดเจน โดยเกิดความร่วมมือในการพฒั นาความเปน็ เลิศทางวิชาการได้แก่ โครงการ
ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น โครงการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนในทักษะด้านต่าง ๆ ตามความถนัด ลดจำนวน
นักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน และพัฒนาคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนให้สูงขึ้น โรงเรียนดำเนินการให้มีการ
รายงานผลการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื ผลการปฏิบัตงิ านทีป่ ระสบความสำเร็จบนั ทึกข้อมูลลงในขอ้ มูล
สารสนเทศ คดั เลือกผลการดำเนนิ งานดเี ดน่ เพ่ือพัฒนาเปน็ นวตั กรรม นำส่งเปน็ ผลงานนวัตกรรมของโรงเรียนทัง้ ใน
ระดับเขตพื้นท่ีและในระดับประเทศ แลว้ จัดทำเอกสารเผยแพร่ต่อสาธารณชน

(3) แหลง่ ขอ้ มูลเชิงเปรยี บเทยี บ (Comparative Data)
แหล่งข้อมลู เชงิ เปรยี บเทยี บไดม้ าจากผลสมั ฤทธิก์ ารทดสอบทางการศกึ ษาแหง่ ชาตขิ ั้นพ้นื ฐาน (O-NET) ของ
นกั เรียนมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 และ 6 ปกี ารศึกษา 2562 - 2563 รายงานประจำปขี องโรงเรยี นคู่เทียบ ผลการ
ประเมินจากสำนักงานประเมินและรบั รองคณุ ภาพการศึกษา (สมศ.) ผลการแขง่ ขันทกั ษะศิลปหตั ถกรรมนักเรยี น
การแขง่ ขนั ทักษะหน่วยงานภายนอก ความเขม้ แข็งขององคก์ รทีใ่ หก้ ารสนบั สนนุ โดยค่เู ทียบของโรงเรยี น คอื
โรงเรียนเทพศริ ินทรค์ ลองสบิ สาม ปทุมธานี

ข. บริบทเชงิ กลยุทธ์ (Strategic Context)
โรงเรยี นปทุมธาน“ี นนั ทมนุ ีบำรุง” กำหนดความท้าทายในการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาเชิงกลยุทธ์ไว้ ดังน้ี
1. ดา้ นการจัดการหลักสตู ร สง่ เสรมิ การจัดการเรียนร้แู บบบูรณาการทป่ี ลกู ฝงั ความเป็นไทยและวถิ ชี วี ิต
ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอนุรักษ์ สง่ เสรมิ เผยแพร่วฒั นธรรมพนื้ บา้ น ชาวมอญ โดยการปรับ
หลักสตู รเรียนการสอนให้สอดคลอ้ งกับวฒั นธรรมชุมชน และสามารถส่งเข้าแข่งขนั ในระดบั เขตพนื้ ท่ี
ระดับประเทศ ภายในปกี ารศึกษา 2563 เพ่ิมผลการ ทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ (O-NET) ใหส้ ูงขึ้นทุก
รายวชิ า ยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น เฉลีย่ ทุกรายวิชา
2. ดา้ นการปฏบิ ตั กิ าร โรงเรยี นมีการใช้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL รว่ มกบั วงจรคณุ ภาพของ
เดมม่ิง (Deming Cycle) หรอื PDCA มีแผนกลยุทธ์ 4 ปี ในการพัฒนาคณุ ภาพการบรหิ ารงานในโรงเรยี น
3. ดา้ นความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม โรงเรียนและชุมชนรว่ มมอื พัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การศกึ ษา
ส่งเสรมิ การมสี ่วนร่วมของผู้ปกครอง เครือข่ายจากภาครัฐ ภาคเอกชน (MOU) และท้องถ่นิ ในการจัดการศึกษา
และสร้างความเข้มแข็งให้กับโรงเรยี น
4. ดา้ นทรัพยากรบคุ คลของโรงเรยี น มรี ะบบพัฒนาศกั ยภาพบุคลากรใหม้ ีคุณภาพมีความรัก ความ
ผูกพนั และศรัทธาในองคก์ ร

10

ค. ระบบการปรบั ปรงุ ผลการดำเนินงาน (Performance improvement system)
กลไกที่โรงเรียนใช้ในปรับปรุงผลการดำเนินงาน โดยใช้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL ร่วมกับ
วงจรคุณภาพของเดมม่งิ (Deming Cycle) หรอื PDCA เป็นปจั จยั สำคญั ท่มี ีผลต่อ ความสำเรจ็ ดังนี้
1) การจัดทำรายงานประเมินตนเองเพื่อการรบั รองคณุ ภาพ
2) กำรประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยน การปฏิบัติที่ดีระหว่างกลุ่มสาระฯ โดยนำผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขั้นพื้นฐาน (O-NET) ผลการแข่งขันศิลปหัตถกรรม การแข่งขันทักษะ
หน่วยงานภายนอก รวมทั้งมาตรฐาน การศึกษาของโรงเรียน ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาการประเมินจาก
สำนกั งานประเมินและรบั รอง คณุ ภาพการศกึ ษา (สมศ.) และการเปลยี่ นแปลงทางการศกึ ษาของประเทศใช้ในการ
พิจารณาปรบั ปรงุ หลักสูตร การจัดการเรยี นการสอนและการบริหารจัดการ
3) การนำผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ส่งมอบ พันธมิตร ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียถ่ายทอดให้ทุกคนได้
ทราบอย่างทัว่ ถึง และนำมาปรับปรุงระบบการเรยี นการสอน การดูแลช่วยเหลอื นักเรียน การบริหารงบประมาณ
การบรกิ ารทั่วไปและสิ่งท่ีสังคมตอ้ งการ
4) โรงเรยี นมกี ารวางแผนการปฏิบัตงิ านเปน็ แผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการประจำปี มกี ารปฏบิ ัติตามแผนท่ี
กำหนดไว้ กำกับ ติดตามและประเมินผลโดยผู้รับผิดชอบงาน/โครงการ/กิจกรรม มีการประเมินโครงการทุก
โครงการหลังจาก ปฏิบัติเสร็จสิ้นและรายงานผลการดำเนนิ งานตามปฏิทนิ ท่ีกำหนดไว้ มีการประชุมวิเคราะห์ผล
การดำเนนิ งาน และนำมากำหนดแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนในปีตอ่ ไปเพื่อปรับปรุงผลการ
ดำเนนิ งานอย่างต่อเน่อื ง

11
หมวด 1
การนำองคก์ ร (Leadership)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มีการนำองค์กร โดยผู้นำระดับสูงของโรงเรียนได้ใช้การ
บรหิ ารงานแบบมีส่วนร่วม จากคณะครู และบุคลากรทางการศกึ ษาของโรงเรยี น คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพนื้ ฐาน
รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียพิจารณาและให้ความเห็นชอบ ด้วยการประชุมหารือวิเคราะห์สภาพปัจจุบันปัญหาและ
ความต้องการจำเป็น โดยใช้การวิเคราะห์ SWOT เพื่อกำหนดทิศทาง นโยบาย วิสัยทัศน์ ค่านิยมและพันธกิจ
ดำเนินการ ตามวงจรคุณภาพ PDCA มุ่งเน้นพัฒนางานให้ได้มาตรฐานเดียวกันด้วยระบบบริหารคุณภาพ PTN
MODEL ผู้นำระดับสูงมีวิสัยทัศน์ มีภาวะผู้นำ มีความพร้อม และมีความคิดริเริ่มที่เน้นการพัฒนาผู้เรียน โดยใช้
หลักการบริหารแบบมสี ่วนร่วม และ มีการใช้เทคโนโลยีเป็นเคร่ืองมอื ในการทำงาน ทั้งด้านวิชาการ และการจัดการ
เรียนการสอน สามารถบริหารจัดการการศึกษาให้บรรลุเป้าหมายตามท่ีกำหนดไว้ในแผนปฏิบตั ิการ มุ่งส่งเสริม และ
พัฒนาศักยภาพของบุคลากร มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม ให้คำแนะนำ คำปรึกษาทางวิชาการ และเอาใจใส่การจัด
การศึกษาเต็มศักยภาพ และเต็มเวลา สง่ ผลใหน้ กั เรยี น ผปู้ กครอง และผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี พงึ พอใจผลการบริหารการ
จัดการศกึ ษา แสดงดงั แผนภาพท่ี 1-1

แผนภาพท่ี 1-1 แสดงการจดั ทำวสิ ยั ทัศน์ พันธกจิ เป้าประสงค์คา่ นิยมเอกลักษณ์และอตั ลักษณ์ของโรงเรยี น

12

1.1 การนำองค์กรโดยผู้นำระดบั สูง (Senior Leadership)
ก. วสิ ัยทศั น์ พันธกจิ และค่านิยม (Vision, Mission and Values)
(1) วิสัยทศั น์ พนั ธกจิ และคา่ นิยม (Vision, Mission and Values)
ผูน้ ำระดบั สงู ไดก้ ำหนดนโยบายทส่ี อดคลอ้ งกบั นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น

พืน้ ฐาน สำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาปทุมธานี และประชมุ คณะกรรมการระดบั โรงเรียน ซึ่งประกอบดว้ ย
รองผู้อำนวยการทุกฝา่ ย คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ตัวแทน
นักเรยี น เพือ่ ร่วมกนั ระดมความคิดเหน็ วิเคราะหจ์ ดุ ออ่ น จุดแขง็ โอกาสในการพฒั นาโรงเรียน ปญั หาอุปสรรคต่าง ๆ
มีการสำรวจความต้องการของนักเรียน ความคาดหวังของผู้ปกครองท่มี ตี อ่ การบริหารจดั การของโรงเรียน โดยนำผล
การประเมินคุณภาพภายในโดยต้นสังกัด ผลการประเมินคุณภาพภายนอกโดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและ
ประเมนิ คุณภาพการศึกษา (สมศ.) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขน้ั พ้นื ฐาน (O-NET) มาวิเคราะห์จัดทำ
วสิ ยั ทัศน์ พนั ธกจิ เปา้ ประสงค์ คา่ นิยม เอกลกั ษณข์ องโรงเรียน และอตั ลักษณข์ องนักเรยี น ในปกี ารศึกษา 2563 ได้
มนี โยบายให้ทำการทบทวนปรบั กลยทุ ธ์ให้เหมาะสม เนื่องจากมกี ารเปลย่ี นแปลงเกดิ ขน้ึ 3 ประการ ได้แก่ นโยบายใน
การจัดการศึกษา การเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และยุทธศาสตร์ชาติ เมื่อผ่านความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐานแลว้ ซ่ึงวิสัยทัศน์ของโรงเรยี น คือ ภายในปี 2563 โรงเรยี นปทุมธานี “นันทมุนี
บำรุง” บริหารจัดการศึกษาสู่มาตรฐานสากล พัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีวินัย มีทักษะชีวิตและอาชีพ โดยบูรณา
การหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและใชส้ ื่อนวัตกรรมเทคโนโลยีไดอ้ ย่างมคี ุณภาพ อนุรักษ์พัฒนาสิง่ แวดล้อม สืบ
สานศิลปวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมพื้นบ้าน เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข ซึ่ง มี
วัฒนธรรมองคก์ ร คือ “สุภาพอ่อนนอ้ ม ย้มิ ไหว้ทักทายกัน บนพื้นฐานวถิ ไี ทย” เอกลักษณอ์ งค์กร คือ “ไหวส้ วย แต่ง
กายดี วจีไพเราะ” และยึดถือค่านิยม NUNT เพื่อเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติงานตามแผนพัฒนาการศึกษาของ
โรงเรยี นต่อไป

การถ่ายทอดสู่ผู้ปฏิบัติงาน รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ รองผู้อำนวยการกลุ่ม
บริหารงานงบประมาณ แผนงาน และบุคคล และคณะกรรมการแผนงานมีการถ่ายทอดสู่ผู้ปฏิบัตงิ าน โดยแจ้งเปน็
ลายลักษณ์อักษรในการประชุมครู ผู้ปกครอง และนักเรียน เพื่อทราบและถือปฏิบัติ มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์
โรงเรียน รายงานประจำปีของสถานศึกษา จดหมายจากโรงเรยี น หนังสือราชการ วารสารประชาสัมพันธ์ กิจกรรม
หนา้ เสาธง ป้ายไวนลิ ภายในโรงเรียน กลุม่ ไลน์ของฝ่ายและกล่มุ งานตา่ ง ๆ ตลอดจนระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ เปน็ ตน้ เพือ่
ถา่ ยทอดสคู่ ณะครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษาผปู้ ฏิบัติงานในโรงเรยี น ตลอดจนสถานศึกษา หน่วยงาน องค์กร สถาน
ประกอบการ รวมทั้งนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจในวิสัยทัศน์และอัตลักษณ์ของ
โรงเรยี น ตลอดจนปฏิบัตติ นไดถ้ ูกตอ้ งตามระเบยี บ และขอ้ ปฏิบัตขิ องโรงเรยี น

การปฏิบัติตนของผู้นำระดบั สูงที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มีต่ออัตลักษณ์ และวิสัยทัศน์ของ
โรงเรยี น ภายในปี 2563 โรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมนุ บี ำรงุ ” บรหิ ารจัดการศึกษาสู่มาตรฐานสากล พัฒนาผู้เรียนให้
เปน็ คนดี มวี ินยั มีทกั ษะชวี ิตและอาชีพ โดยบูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและใช้สอื่ นวัตกรรมเทคโนโลยี
ได้อย่างมีคุณภาพ อนุรักษพ์ ัฒนาสิ่งแวดล้อม สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินและวัฒนธรรมพื้นบ้าน
เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข มีการบริหารจัดการด้านบุคลากรตามนโยบายสำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพ้ืนฐานในโครงการคืนครูให้นักเรียน โดยการจัดจ้างเจา้ หนา้ ทีส่ ำนักงานต่าง ๆ เช่น เจ้าหน้าที่งานฝา่ ย
งานวิชาการ เจ้าหน้าที่งานธุรการ เจ้าหน้าที่งานการเงิน จัดจ้างแม่บ้าน นักการดูแลเรื่องการจัดสถานท่ี และความ
สะอาดของโรงเรียน จัดจ้างกลุ่มบุคคลควบคุมดูแลเรื่อง การจำหน่ายสินค้า และอาหารในโรงเรียน เพื่อให้ครูและ
บุคลากรทางการศึกษาใช้เวลาในทำกิจกรรมการเรียน การสอน และกิจกรรมส่งเสริมการเรียนการสอนได้เต็มตาม
ศักยภาพ และใชเ้ วลาทป่ี ฏิบตั ิงานอยา่ งคุ้มค่า ส่งผลให้นักเรียนมคี วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ มกี ารสง่ เสริมดา้ นการใช้ส่ือ
และเทคโนโลยี ในการจัดการเรียนการสอนโดยจัดให้มีสมาร์ททีวีในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนครบทุก

13

ห้องเรยี น ห้องปฏบิ ตั ิการ หอ้ งศูนยก์ ารเรยี น หอ้ งประชุมทกุ ห้อง สง่ เสริมศกั ยภาพนกั เรยี นด้านนาฏศิลป์ ดนตรี กีฬา
และศิลปะ ได้แก่ วงโยธวาทิต ดนตรีไทย การละเล่นกลองยาว ศิลปะการวาดภาพ ส่งเสริมให้มีการสร้างอาคารโดม
อเนกประสงค์ ใช้ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางวิชาการ ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาพลานามัย
ลูกเสอื –เนตรนารี การดำเนินกิจกรรมหน้าเสาธง การทำกจิ กรรมท่ีสำคญั ต่าง ๆ ของทางโรงเรียน ตลอดจนส่งเสริม
ให้มีการปรับปรุงอาคารสถานที่ให้สวยงาม และเปน็ แหล่งเรยี นร้แู ก่นักเรียน ปรบั ปรงุ ห้องสุขาให้ใชป้ ระโยชน์ได้สูงสุด
เปน็ ตน้ ผู้นำระดับสงู เป็นแบบอย่างทดี่ ีในดา้ นการอ่านแก่นักเรียน และผ้ใู ตบ้ งั คบั บัญชา เพอ่ื สร้างนักเรียนให้มีนิสยั รัก
การอา่ น รกั การศกึ ษาหาความรจู้ ากแหลง่ เรียนรู้ท้ังภายใน และภายนอกโรงเรยี น เป็นต้นแบบทีด่ ีในการคิดวิเคราะห์
คิดสร้างสรรค์ และเป็นต้นแบบที่ดีในการแก้ปัญหา โดยการสนับสนุน ส่งเสริมให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งให้
นักเรยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการคดิ วิเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สามารถตัดสินใจ และแก้ปญั หาได้ ในดา้ นคุณธรรม เป็น
ตน้ แบบที่ดใี นการครองตน ครองคน และ ครองงาน โดยปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอย่างทีด่ ีดา้ นบคุ ลกิ ภาพ มีสขุ ภาพกายและ
สุขภาพจิตที่ดี เป็นผู้มีกัลยาณมิตรธรรม ได้แก่ เป็นผู้ที่น่าเคารพ มีเมตตา พูดจา มีเหตุผล ให้คำแนะนำอย่าง
กัลยาณมิตร มีอิทธิบาทสี่ และปฏิบัติตนตามหลักพรหมวิหารสี่ เบญจศีล เบญจธรรม ซึ่งเห็นได้จากการประพฤติ
ปฏิบตั ติ นในการดำเนินชวี ติ ประจำวัน นอกจากนี้ ไดเ้ ปน็ ผู้นำในด้านความกตญั ญู ใหค้ วามร่วมมือในกจิ กรรมต่างๆของ
ชุมชน และกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งให้การสนับสนุนกิจการต่าง ๆ
ของโรงเรยี นตลอดมา

(2) การส่งเสริมการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมาย และการประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม

(Promoting Legal and Ethical Behavior)

ผู้นำระดับสูงได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมาย และจริยธรรม
ด้วยการ สื่อสารแนวทางการปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมาย ให้แก่คณะครู และบุคลากรทางการศึกษา ผ่านการประชุม เช่น
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู และบุคลากรทางศึกษา จรรยาบรรณในวิชาชีพครู กฎระเบียบ ประกาศ
ข้อบังคบั ของทางราชการที่โรงเรยี นตอ้ งปฏิบตั ิ ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง คือ สำนกั งานเขตพื้นที่
การศึกษามัธยมศกึ ษาปทุมธานี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตรวจ
เงินแผน่ ดิน สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ เปน็ ตน้ นอกจากนี้
ผู้นำระดับสงู ไดป้ ฏบิ ัตติ นเพอ่ื เปน็ แบบอย่างทดี่ ี โดยการนอ้ มนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ให้แก่คณะครูและ
บุคลากรทางศึกษา ตลอดจนนกั เรียน ผู้ปกครอง และชุมชน ส่วนด้านจริยธรรมฝา่ ยบรหิ ารไดป้ ฏิบัติตนตามหลกั ของ
พรหมวิหารสี่ และเบญจศีล เบญจธรรม โดยจะเหน็ ไดจ้ ากการปฏบิ ัติตนในชวี ติ ประจำวนั ซง่ึ ทกุ คนสามารถยึดถือเป็น
แบบอย่างในการปฏบิ ตั ติ นได้ นอกจากน้ีผ้นู ำระดับสูงยังใชห้ ลักธรรมมาภบิ าลในการบรหิ ารงาน ให้เปน็ ไปตามครรลอง
ธรรม ทำให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ มีความรับผิดชอบในงานของตน โดย
การประเมินผลงานเปน็ ระยะ ๆ และรบั การตรวจสอบเพื่อพฒั นางาน ส่งผลให้คณะครู และบคุ ลากรทางการศึกษา ผ้มู ี
ส่วนได้ส่วนเสยี รวมถงึ บุคคลภายนอกท่ีเกยี่ วขอ้ ง มีความศรัทธา และเช่อื ม่ันในโรงเรยี น ใหค้ วามร่วมมือในการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง

(3) การสรา้ งโรงเรียนท่ปี ระสบความสำเร็จ (Creating a Successful Organization)
การสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดการปรับปรุงผลการดำเนินการ ผู้นำระดับสูงสร้างวัฒนธรรม

การปฏิบัติงานของครู และบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนด้วยการบริหารจัดการโดยใช้หลักการบริหารแบบมีส่วน
ร่วม และ ใช้เทคโนโลยเี ปน็ เครือ่ งมือในการทำงาน ท้ังด้านวิชาการ ดา้ นการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน บุคลากร และการ
จัดการ สามารถบริหารจัดการการศึกษาให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการ โดยใช้ระบบบริหาร
คณุ ภาพ PTN MODEL รว่ มกับการใชว้ งจรคุณภาพ PDCA ซ่ึงนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษา เกิดการเรียนรู้
ทง้ั ในระดับองคก์ ร และระดับบคุ คล ส่งผลให้โรงเรียนมีการพัฒนาอยา่ งต่อเน่อื ง และยงั่ ยืน บรรลุผลตามพันธกิจ และ
วัตถุประสงค์ของแผนกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ โดยจะเห็นได้จากแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ท่ี

14

ผา่ นความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน แผนปฏิบตั กิ ารประจำปีท่ีผู้นำระดับสูง คณะกรรมการ
จัดทำแผนปฏบิ ตั ิการประจำปี และประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน รว่ มประชมุ เพอ่ื ใหค้ ำแนะนำในการ
จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีทุกครั้ง จึงเกิดแผนปฏิบัติการประจำปีที่สอดรับกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยมของ
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” สอดคล้องกับแผนพัฒนาการจัดการศึกษา มีการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรม
และใช้จ่ายเงินตามแผนปฏิบัติการประจำปี มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม และตรวจสอบ รวมถึงการรายงานผลการ
ดำเนนิ งานโครงการ/กจิ กรรมต่าง ๆ ในแผนปฏบิ ัติงานประจำปีอยา่ งต่อเน่ือง

ในส่วนของการสร้างวัฒนธรรมในการปฏิบัติงานของคณะครู และบุคลากรทางการศึกษา
นอกจากคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา จะจัดการเรียนการสอนตามวิชาเอกของตนเองอย่างเต็มเวลา เต็ม
ความสามารถแล้ว ผ้นู ำระดบั สงู สนับสนนุ ให้ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา เลอื กปฏิบัตงิ านตามความถนัด และความ
สนใจ เช่น งานพิเศษตามกลุม่ บรหิ ารงานต่าง ๆ ของโรงเรียน นอกจากน้ีโรงเรยี นไดจ้ ัดกิจกรรมประชุม สัมมนา โดย
เปดิ กว้างใหค้ รู และบคุ ลากรทางการศกึ ษาไดเ้ สนอความคิดเห็น เพ่อื นำมาปรับปรุงและพฒั นาองค์กร มีการนิเทศจาก
หัวหน้ากลุ่มบริหารงาน หัวหน้างาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม และเรียนรู้วัฒนธรรม
องค์กร การให้ขวัญและกำลงั ใจบุคลากรทุกระดับที่มีผลงานดีเด่น และเปน็ ที่ยอมรบั ดว้ ยการแสดงความยนิ ดี ยกย่อง
ชมเชย พิจารณาความดีความชอบ สนับสนุนงบประมาณในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น ส่งเสริมให้เข้ารับการอบรม เพื่อ
พัฒนาความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ในการทำงาน ส่งผลให้ครู และบุคลากรทางการศึกษามีขวัญและ
กำลังใจในการปฏิบัตงิ าน มีความรกั ความผูกพนั ตอ่ โรงเรียน สามารถปฏิบัตงิ านอย่างเปน็ ระบบ และบรรลุผลสำเร็จ
เป็นต้น

สว่ นการสรา้ งบรรยากาศเพอ่ื ให้เกิดการเรยี นรู้ นอกจากมีหอ้ งเรยี น ห้องปฏิบตั ิการ อาคารเรียน
ที่มั่นคง สะอาด และปลอดภัย มีสิ่งอำนวยความสะดวก พอเพียง อยู่ในสภาพใช้การได้ดี มีสภาพแวดล้อมที่
ร่มรื่น เอื้อต่อการเรียนรู้แล้ว ผู้นำระดับสูงจัดให้มีสถานที่ทำงาน ห้องปฏิบัติการ ห้องสำนักงานที่สวยงาม
มีความพร้อมของวัสดุอุปกรณ์ สำนักงานเอื้อต่อการปฏิบตั ิงานของคณะครู และบุคลากร จัดให้มีแหล่งเรียนรู้ภายใน
โรงเรียน เช่น ห้องสมุดที่ให้บริการสอ่ื และเทคโนโลยสี ารสนเทศท่เี อ้อื ให้ผู้เรียนเรยี นร้ดู ้วยตนเอง และหรอื เรียนรู้แบบ
มีส่วนร่วม ห้องศูนย์การเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ นอกจากนี้โรงเรียนได้จัดสรรเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี
ประสทิ ธิภาพทีส่ ามารถใช้จัดการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม และเพียงพอตอ่ การใชง้ านของครูและนักเรียน และ
ยังมอี ุปกรณ์ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เช่น เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ สมาร์ททวี ี เคร่อื งขยายเสียงพร้อมไมโครโฟน รวมถึงสื่อการ
สอนที่ครูผู้สอนได้จัดทำขึ้นโดยผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการจัดการเรยี นการ
สอนทุกหอ้ งเรียน เป็นตน้

ส่วนการพัฒนาและเสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำให้กับคณะครู และบุคลากรทางการศึกษา
โรงเรียนได้สร้างบรรยากาศของความไว้วางใจในการทำงานร่วมกัน และส่งเสริมการทำงานเป็นทีมทั้งในระดับกลุ่ม
สาระการเรยี นรู้ ระดบั ชน้ั และกลุ่มบรหิ ารงานต่าง ๆ โดยเปิดโอกาสให้คณะครู และบุคลากรทางการศกึ ษาได้ฝึกภาวะ
ความเปน็ ผนู้ ำและผู้ตามที่ดี เช่น การปรับเปล่ียนหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ตามวาระทุก 2 ปี หัวหน้าระดบั หัวหน้า
คณะสี ด้วยการกำหนดให้มีวาระที่ชัดเจน คัดเลือกโดยครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และในระดับชั้น การนิเทศสัญจร
การส่งเสริมบุคลากรในโรงเรียนสอบแข่งขนั เพื่อดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา การส่งเสริมคณะครูเข้ารว่ มการ
อบรมการเป็นผ้นู ำ เป็นตน้ ทำใหท้ กุ คนมีโอกาสผลดั เปลี่ยนกนั เป็นผ้นู ำ และผู้ตาม เรยี นรู้การเป็นผู้นำและผู้ตามท่ีดี
การปรับเปลี่ยนหมนุ เวยี นงานเพือ่ ให้เกดิ ความเช่ือมโยงของงานแตล่ ะงานอย่างมีประสิทธิภาพ บุคลากรทางการศึกษา
มองเห็นภาพรวมขององค์กรอย่างชัดเจน นำไปสกู่ ารแก้ไขปัญหาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง รวมทั้งเปน็ การส่งเสริมความกา้ วหน้า
เพอื่ พฒั นาเปน็ ผูน้ ำในอนาคตของโรงเรยี นต่อไป

โรงเรียนมีกระบวนการด้านการประกันคุณภาพภายในและควบคุมความเสี่ยงเกี่ยวกับหลักสูตร
การศึกษา โดยโรงเรยี นดำเนินการประชุม วางแผน และสรุปการใชห้ ลกั สตู ร เพือ่ นำมาปรบั ปรุงหลกั สตู รการศึกษาใน

15

ปีการศึกษาต่อไป รวมทงั้ มีการบริหารความเสีย่ งของระบบการควบคมุ ภายในสถานศกึ ษา โดยดำเนนิ การประเมินผล
การใช้หลักสูตรการศึกษาเป็นประจำทุกปีด้วยกระบวนการแบบมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ประกอบด้วย ผู้นำระดับสูง
คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา ตัวแทนนักเรียน ผู้ปกครองตัวแทนชุมชน และนำผลการประเมินมาใช้ในการ
ปรับปรุงหลกั สตู รการศึกษาด้านโครงสร้างหลกั สตู ร ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการจบหลักสูตร ทั้งนี้เพื่อยกระดับ
ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน

ข. การสอื่ สารและผลการดำเนินการของโรงเรียน (Communication and Organizational

PERFORMANCE)

(1) การสือ่ สาร (Communication)
ผนู้ ำระดับสงู ได้สร้างระบบการส่ือสารอยา่ งตรงไปตรงมาให้เปน็ วัฒนธรรมของโรงเรยี น คณะครูและ

บุคลากรทางการศึกษาทุกคน สามารถแสดงความคิดต่อผู้นำระดับสูงโดยตรงหรือเสนอวิธีการที่จะทำให้การ
ดำเนินการบรรลผุ ลกบั ผู้นำระดับสงู โดยตรงทุกมิตขิ องการสอื่ สารสองทางตงั้ แตร่ ะดบั หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงาน หัวหน้า
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณะกรรมการบริหารโรงเรียน รวมถึงคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยจัดให้มีการ
ประชุมของกลุ่มบริหารงานต่าง ๆ กลุ่มสาระการเรียนรู้ และเปิดโอกาสให้สมาชิกในที่ประชุมแสดงความคิดเห็น
เพื่อให้เกดิ การยอมรับร่วมกัน และหาแนวทางแก้ไขเม่ือเกิดปัญหา รวมทั้งส่งเสริมให้คณะครู บุคลากรทางการศกึ ษา
ทำงานรว่ มกันเปน็ ทมี สำหรับการตดั สินใจที่สำคัญผ้นู ำระดบั สูงมกี ารประชมุ คณะกรรมการบรหิ ารโรงเรียน เพ่อื ร่วม
หารือและตดั สินใจ โดยผ่านความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน จากน้ันจึงส่ือสารถึงคณะครูและ
บุคลากรทางการศึกษาโดยตรงและผ่านกลไกการสื่อสารต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น โทรศัพท์ กลุ่มไลน์ของกลุ่ม
บริหารงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ จดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ (E-mail) ป้ายประกาศหน้าห้องสำนักงาน กิจกรรมเสียง

ตามสาย เป็นต้น
นอกจากนี้โรงเรียนยังได้ดำเนินการในเชิงรุกเพื่อให้รางวัลและยกย่องชมเชยแก่คณะครู และ

บุคลากรทางการศึกษา รวมถึงนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น กลุ่มไลน์ของกลุ่มบริหารงาน เฟซบุ๊ก ประกาศ
หนา้ เวบ็ ไซต์ การประกาศหนา้ เสาธง การปิดประกาศทางป้ายนิเทศ วารสารโรงเรียน โครงการวนั เกียรติยศ การเชิด
ชเู กียรตผิ ูก้ ระทำความดเี พอื่ ยกย่องชมเชยคณะครู และบคุ ลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติตน ปฏิบัตงิ านดี และนักเรยี นที่
เรียนดี มคี ณุ ธรรมและมีความสามารถพิเศษ โครงการพฒั นาบคุ ลากรเพ่ือยกย่องชมเชยคณะครแู ละบุคลากรทางการ
ศึกษาที่ไดร้ บั การเล่ือนวิทยฐานะทสี่ งู ขึ้น หรือผู้ทีผ่ ่านการคัดเลือกให้ดำรงตำแหนง่ ผู้บรหิ ารสถานศึกษา เป็นต้น

(2) การทำให้เกิดการปฏิบัตอิ ยา่ งจรงิ จงั (Focus on Action)
ผู้นำระดับสูงใช้กลไกจากกระบวนการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการเชิงกลยุทธ์ และใช้การบริหาร

จัดการด้วยระบบบริหารคุณภาพ“ PTN MODEL ” และวงจรคุณภาพ PDCA ในการวางแผน การปฏิบัติ การ
ตรวจสอบ หรอื ประเมนิ เพื่อพัฒนา ดังน้นั ผบู้ รหิ ารจงึ ให้ความสำคัญกบั การนิเทศ กำกบั ติดตาม เพื่อมุ่งเน้นผลลัพธ์ท่ี
จะเกดิ ขึน้ กบั นกั เรียนเปน็ สำคญั และใช้เทคนิคการทำงานเป็นทีม โดยจัดใหม้ กี ารประชุมต้ังแตร่ ะดับบรหิ าร ฝ่ายงาน
ต่าง ๆ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ เพือ่ ช้แี จงวัตถปุ ระสงค์ และแนวทางปฏบิ ตั ิงานให้บรรลุจุดประสงค์ รวมทั้งการแสวงหา
วิธีการแกป้ ญั หาร่วมกัน ส่งเสรมิ การใช้เทคโนโลยี ทำใหค้ ณะครูและบุคลากรทางการศึกษาเกดิ การเรยี นรู้ ยอมรับฟัง
ความคดิ เห็นตา่ ง ๆ ของผอู้ ื่น รู้จักใหเ้ กียรตผิ อู้ ื่น เพอื่ บรรลุวิสัยทัศนข์ องโรงเรยี น

ผู้นำระดบั สงู กำหนดนโยบายขององคก์ ร และให้คณะครู และบคุ ลากรทางการศึกษารว่ มกันกำหนด
เป้าหมายและตัวชี้วดั ที่ท้าทาย เพื่อให้บรรลุถึงผลการดำเนินการในระดับสงู กว่าความคาดหวงั ต่อผลการดำเนินการ
โดยออกคำสั่งมอบหมายการปฏิบัติงานแล้วจัดให้มีการประชุมเพื่อชี้แจงหลักการ เหตุผล แนวทางการปฏิบัติงาน
หลังจากนั้นบุคลากรที่เก่ียวข้องกับงานลงมือปฏบิ ัติงาน และติดตามประเมินผล เพื่อให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์
รวมถงึ การปรับปรงุ ผลการดำเนินการ เพ่ือให้บรรลุตามวสิ ยั ทศั น์ของโรงเรียน

16

ผนู้ ำระดับสูงใหค้ วามกระจ่างเก่ียวกับการกำหนดผลการดำเนนิ การให้บรรลุวิสยั ทัศน์ พันธกิจของ
โรงเรยี นแกค่ ณะครู และบุคลากรทางการศึกษาโดยนำเอาขอ้ มูลสารสนเทศมาใช้ มุ่งเน้นการสรา้ งคุณค่ากับนักเรียน
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามหลักสูตรที่มุ่งสร้างคุณภาพของผู้เรียน การวัดและ
ประเมินผลตามสภาพจริงที่สอดคล้องกับมาตรฐาน ตัวชี้วัดของหลักสูตรการศึกษา การส่งเสริมการศึกษา และการ
บริการทางการศึกษา รวมทัง้ กระบวนการนิเทศภายใน กิจกรรมโฮมรมู กจิ กรรมการอบรมนักเรียนในแต่ละระดับช้ัน
การประชุมครู ผู้ปกครอง เป็นต้น จากนั้นนำผลการดำเนินงานตามแผนงาน โครงการ/กิจกรรม เทียบกับเป้าหมาย
ของตัวชี้วดั ในแผนกลยทุ ธร์ วมถึงผลจากการสอบถามความพึงพอใจ เพอื่ ตรวจสอบความพงึ พอใจให้กับนกั เรียน และผู้
มีส่วนได้ส่วนเสยี หรือไม่ มากน้อยเพียงใด มีอะไรทีจ่ ะต้องปรับปรงุ หรือเปลี่ยนแปลง แล้วจึงวางแผนปรับปรงุ แก้ไข
ทั้งในระยะสัน้ และระยะยาว

ผู้นำระดบั สงู ดำเนินการในการทบทวนผลการดำเนินงานตามงาน โครงการ/กิจกรรม โดยรวบรวม
ผลการดำเนนิ การของกล่มุ บริหารงาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ เพื่อนำมาวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส ในการพฒั นา
และภาวะคุกคาม ประชุมเพื่อชีแ้ จงสภาพปัญหาและหาแนวทางร่วมกนั เพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินงาน มีการ
ทบทวนผลการดำเนินงานในภาพรวมของโรงเรียน และนำผลการประเมิน และการทบทวนนี้ มาใช้ในการประเมิน
ความสามารถในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของโรงเรียน โดยนำผลการประเมินการปฏิบัติงาน
และข้อมลู สะท้อนความตอ้ งการ และความคาดหวงั ของนกั เรยี น ผู้ปกครองทีม่ ตี ่อการบริหารจัดการของโรงเรียนมาใช้
ในการปรับปรงุ การบรหิ ารโรงเรียน ใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพด้วยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางการบริหาร

1.2 การกำกบั ดูแลองคก์ รและความรบั ผิดชอบต่อสังคม (Governance and Societal

Responsibilities)

ก. การกำกบั ดแู ลโรงเรยี น (Organization GOVERNANCE)
(1) ระบบการกำกับดแู ลโรงเรียน (GOVERNANCE System)
ผู้นำระดับสูงดำเนินการทบทวนทิศทาง และนโยบายการบริหารอยู่เสมอ จึงทำให้โรงเรียน

ประสบความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญในระบบการกำกับดูแลโรงเรียน ใช้การบริหารจัดการด้วยระบบบริหาร
คุณภาพ PTN MODEL และวงจรคุณภาพ PDCA ด้วยการวางแผนร่วมกัน มีการดำเนินงานอย่างเป็นขั้นตอน มี
การศึกษาขั้นตอน และกระบวนการทำงาน กำหนดวิธีการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้องกับมาตรฐาน
การศึกษา แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียน กำหนดบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจนให้ผู้รับผิดชอบ รวมถึง
ผู้เกี่ยวขอ้ งทุกฝ่ายปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบตามที่ได้กำหนดอย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์
สูงสุด กำหนดการใช้งบประมาณ ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้จ่ายเงินตามแผนปฏิบัติการประจำปี
กำหนดใหม้ กี ารนเิ ทศ กำกบั ติดตาม ตรวจสอบ รวมถึงมีการรายงานผลการดำเนินงาน

ในส่วนของการสรรหาคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนได้ดำเนินการสรรหาตาม
พระราชบญั ญัติระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และกฎกระทรวงทีว่ า่ ด้วยการกำหนดจำนวน
กรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการสรรหา การเลือกประธานกรรมการ และคณะกรรมการ วาระการดำรง
ตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหนง่ ของคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พน้ื ฐาน ดว้ ยการแต่งตัง้ คณะกรรมการดำเนินการ
สรรหา ดว้ ยความโปรง่ ใส สามารถตรวจสอบได้

นอกจากนี้ยังมกี ารตรวจสอบภายใน และภายนอกท่ีเป็นอสิ ระ โดยการตรวจสอบภายใน โรงเรียน
ได้แต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจในการติดตามตรวจสอบ
คณุ ภาพการศกึ ษาระดับสถานศกึ ษา รว่ มกันวางแผนกำหนดภารกิจ และปฏทิ นิ การตดิ ตามตรวจสอบ โดยการติดตาม
ตรวจสอบคุณภาพการศึกษาระดับสถานศกึ ษาที่แสดงผลการบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ เมื่อสิ้นสุดโครงการทุก
ภาคเรียน เพื่อจัดทำรายงานเสนอต่อผู้เกี่ยวข้อง และนำผลการติดตามตรวจสอบไปใช้วางแผนดำเนินงาน ปรับปรุง

17

พัฒนา การบริหารจัดการ และการจดั การเรยี นการสอน ส่วนการตรวจสอบภายนอกจากหน่วยงานตน้ กัด โรงเรียนมี
ประกาศ และแต่งต้งั คณะกรรมการประเมินคุณภาพภายใน อย่างน้อย 3 คน ซง่ึ ประกอบดว้ ยผู้ทรงคณุ วุฒิท่ีได้รับการ
ขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานต้นสังกัดอย่างน้อย 1 คน และดำเนินการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษาปีละ 1
ครง้ั โดยความร่วมมอื จากผู้บรหิ ารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พื้นฐาน ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา
รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย วางแผนและกำหนดกรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายในที่ครอบคลุมมาตรฐาน
การศึกษาของสถานศึกษาทุกมาตรฐาน และทุกตัวบ่งชี้ เพื่อดำเนินการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐาน
การศึกษาโดยใช้วิธีการ และเครื่องมือที่เหมาะสม นอกจากนี้โรงเรียนยังได้รับการประเมินจากสำนักงานรับรอง
มาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา (สมศ.)

การปกป้องผลประโยชน์ของนักเรียน คณะครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วน
เสีย จากการกำกับดูแลโรงเรียนในทุก ๆ ด้านของผู้นำระดับสูง ส่งผลให้การดำเนินงานของโรงเรียนเป็นไปอย่าง
ถูกต้องตามกฎหมาย และมีการประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม และมีคุณภาพ บรรลุวัตถุประสงค์ตามวิสัยทัศน์
พนั ธกิจท่ีกำหนดไว้อยา่ งมีคณุ ภาพ

(2) การประเมินผลการดำเนินการ (PERFORMANCE Evaluation)
โรงเรียนมีการแต่งตั้งคณะทำงาน และกำหนดบทบาทที่ชัดเจนในการติดตามตรวจสอบคุณภาพ

การศึกษา และนำผลการประเมินคุณภาพการศึกษาเพื่อเป็นข้อมูลในการจัดทำรายงานประจำปีของสถานศึกษา ท่ี
สะท้อนคณุ ภาพผู้เรียนและผลสำเร็จของการบริหารจัดการศึกษา และสะทอ้ นวา่ คณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน
ได้ กำกับ ติดตาม ดูแล และขับเคลื่อนการดำเนนิ งานของสถานศึกษาให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่อยา่ งไร
ซึ่งการประเมนิ คุณภาพการศึกษา จะครอบคลุมตามมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ.2561 ของ
สถานศึกษาจำนวน 3 มาตรฐานตามรูปแบบที่หน่วยงานต้นสังกัดกำหนด โดยผมู้ สี ่วนเกยี่ วข้องกับการพัฒนาคุณภาพ
การศกึ ษาจะเข้ามามีสว่ นรว่ มในการดำเนินงานทุกฝ่าย แลว้ จงึ เสนอรายงานต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
ให้ความเห็นชอบ และเผยแพร่รายงานการประเมินคุณภาพภายในการศึกษาของสถานศึกษาต่อหน่วยงานต้นสังกัด
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสาธารณชน จากนั้นผู้นำระดับสูง นำผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาไปใช้
ประโยชน์ในการปรับปรุงพัฒนาการบริหารงาน ค่าตอบแทนของผู้นำระดับสูง และจัดแผนพัฒนาคุณภาพทาง
การศกึ ษา

นอกจากนี้ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการ ประเมิน
ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผล (ตามหลกั เกณฑ์ท่ีกำหนด) การปฏบิ ตั ิงานแกร่ องผู้อำนวยการสถานศกึ ษา คณะครู และ
บคุ ลากรทางการศึกษาของโรงเรียนอกี ดว้ ย

ข. การประพฤติปฏบิ ัตติ ามกฎหมายอยา่ งมจี ริยธรรม (Legal and ETHICAL BEHAVIOR)
(1) การประพฤติปฏบิ ัตติ ามกฎหมายและระเบียบขอ้ บังคับ (Legal and Regulatory

BEHAVIOR)

โรงเรียนได้จัดทำหลกั สูตรสถานศกึ ษาท่สี อดคลอ้ งกับกบั หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) และหลักสูตรท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี เพิ่มเติมรายวิชาทีเ่ ก่ียวข้องกบั
โครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล มีการประเมินหลักสูตร โดยคณะครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง
และผู้ทม่ี สี ว่ นเกี่ยวขอ้ ง มกี ารรายงานผลการใช้หลกั สตู รปรบั หลักสูตรอยูเ่ สมอ ในดา้ นความเหมาะสม ความเป็นไปได้
ความสามารถ ในการบรรลุตามวตั ถุประสงค์ หลักการและจุดหมาย มกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเพ่ือนำมาวเิ คราะห์ และ
ปรับปรุงแก้ไขหลักสูตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สิ่งแวดล้อม และความต้องการของชุมชน นอกจากนี้ยังจัดหา
เอกสารประกอบหลักสูตรให้ครบเพียงพอต่อความต้องการของคณะครู และบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนและ
ผู้นำระดบั สงู มคี วามกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้เก่ียวกบั หลักสูตร การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนในรปู แบบ
ตา่ ง ๆ ที่สอดคล้องกับบรบิ ทของโรงเรียน เพอ่ื นำมานเิ ทศ หรอื ชีแ้ นะแก่คณะครูและบคุ ลากรทางการศึกษา และจดั หา

18

สื่อและอุปกรณ์ทีจ่ ำเป็น เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้กับคณะครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนจัดกิจกรรมการ
เรียนการสอนไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ

จากการประกาศยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี และวิสยั ทศั นข์ องประเทศ “ไทยแลนด์ 4.0” โรงเรยี นได้
คาดการณล์ ว่ งหนา้ ถงึ ความกังวลของสาธารณะท่มี ตี อ่ หลกั สตู รการจัดการศกึ ษา และบรกิ ารอื่น ๆ เกย่ี วกบั หลกั สูตรที่
สามารถรองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โรงเรียนดำเนินการเปิดรายวิชาเพิ่มเติมในกลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ
ประกอบไปดว้ ย ภาษาอังกฤษ ภาษาจนี วชิ าอาเซยี นศกึ ษาในกลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การเปดิ รายวชิ าที่เน้นทางด้านวิทยาศาสตร์ และ คณิตศาสตร์ โดยมี
แนวทางการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ การให้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพใหม่ที่จะเกิดขึ้นในศตวรรษท่ี 21 โดยผ่าน
กระบวนการแนะแนวของโรงเรียนรวมถึงการสอนนักเรยี นให้เกิดทักษะการเรียนรู้ และมีคุณลักษณะของประชากร
โลกในศตวรรษท่ี 21 คอื ทกั ษะการเรยี นรู้ นวัตกรรม ทกั ษะชีวิตและการทำงาน ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ ส่ือ เทคโนโลยี
มคี ณุ ลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ด้านการทำงาน และด้านศลี ธรรม

ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โรงเรียนใช้กระบวนการสร้างความตระหนักการส่งเสริม
ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม และสร้างจิตสำนึกให้ผู้เรียนรักษ์สิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมของชาติการ
ประกวดแฟชั่นชุดรีไซเคิล โครงการสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียน โครงงานโรงเรียนคุณธรรม และส่งเสริมการทำ
โครงงานการค้นคว้าอิสระในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กิจกรรมละครสร้างสรรค์รักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้คณะครู
และบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตระหนักถึงการใชท้ รพั ยากรอย่างคุ้มค่าและรักษา
สงิ่ แวดลอ้ ม

โรงเรียนมีกระบวนการจัดการที่มีประสิทธิภาพโดยปฏิบัติตามระเบียบข้อกำหนดตามประกาศ
ของสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานอยา่ งเครง่ ครดั เช่น การรบั นกั เรยี นเขา้ ศึกษาต่อในแผนการเรียน ท่ี
เลือกตามความถนัดและความสนใจของนกั เรยี น โดยโรงเรียนจัดการเรยี นการสอนใหส้ อดคลอ้ งกับหลักสตู รแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขัน้ พื้นฐาน และ
สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงในความร่วมมอื เพือ่ พัฒนาครู และเพ่อื
ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และคุณภาพการศึกษา นอกจากนี้โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ยังมีการทำ
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกบั โรงเรียนปทุมวไิ ล เพื่อสร้างเครือข่ายในการแลกเปลี่ยน และพัฒนาครู และนักเรียน
ดา้ นการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์

โรงเรยี นไดค้ าดการณ์ล่วงหนา้ ถงึ ความกังวลของสาธารณะที่มีต่อหลกั สตู ร การจดั การศกึ ษา และ
บรกิ ารอนื่ ๆ ท่ีส่งเสริมการศึกษา ดงั นั้นโรงเรียนจงึ ได้วางโครงสรา้ งหลักสูตรให้เป็นปจั จุบัน และปรับปรุงอย่างตอ่ เน่อื ง
การจัดทำโครงการปลอดผลการเรียน 0 ร มส มผ ประกันการจบหลักสูตร การปรับลดคาบเรียน เพื่อให้นักเรียนมี
เวลาทำกิจกรรมทีเ่ ป็นประโยชน์สาธารณะ มีการบรรจุรายวิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study :
IS) รายวิชาอาเซยี นศกึ ษา ภาษาจีน เข้าไวใ้ นหลกั สตู ร เพ่อื เป็นการปูพืน้ ฐานใหน้ กั เรียนมีความพรอ้ มในการใช้ชีวิตใน
ฐานะประชากรคนหน่ึงของประชาคมอาเซยี นรวมถึงการสอนนักเรยี นโดยยึดเปา้ หมายของการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี 21
คือ การอ่านการเขียน การคำนวณ และความรู้เชิงบูรณาการ และมุ่งให้ผู้เรียนมีทักษะการเรียนรู้ และนวัตกรรม
ทักษะชีวิตและการทำงาน ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ เทคโนโลยี มีคุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ด้านการทำงาน และ
ด้านศีลธรรม นอกจากนี้โรงเรียนได้จัดให้มีรายวิชาสายสามัญ (ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ
และสังคมศึกษา) เป็นรายวิชาเพิ่มเติมให้นักเรียนได้เลือกเรียน ตามความถนัด ความสนใจ และความสามารถของ
ตนเอง

(2) การประพฤติปฏิบัตอิ ย่างมีจริยธรรม (ETHICAL BEHAVIOR)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”กำหนดมาตรการ กระบวนการ ตัวชี้วัด และเป้าประสงค์ในการ

บริหารจัดการในการดำเนินงาน และการให้บริการของโรงเรียน และกำกับดูแลให้บุคลากรทำงานให้ถูกต้องตาม

19
ระเบียบ ข้อบังคบั หลักจริยธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี เช่น การแต่งตัง้ คณะกรรมการในการปฏิบตั ิงานต่าง ๆ ท้ัง
ภายในและภายนอกโรงเรียน การประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองต่อการบริหารงานของโรงเรียน การประเมิน
ความพงึ พอใจของนกั เรยี นต่อการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนของครูหรอื ข้อร้องเรียนของผู้ปกครอง จากการสรุปผล
การการประชมุ ผูป้ กครองในแตล่ ะภาคเรียน เป็นต้น

โรงเรียนมตี ัวชี้วัดที่สำคญั คือ ครูประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นสมาชิกที่ดีของสถานศึกษา
ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการส่งเสริม และกำกับให้บุคลากรทำงานอย่างถูกต้องตามระเบียบ ข้อบังคับ และ ตามหลัก
จริยธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี ครูในการส่งเสริมและกำกับดูแลให้มกี ารประพฤติอย่างมีจริยธรรมภายใต้โครงสร้าง
ระบบการกำกบั ดูแลของโรงเรียนและตลอดท่วั ท้งั โรงเรยี น รวมท้ังการสร้างปฏิสมั พันธ์ทีด่ ดี ว้ ยการเข้ารว่ มประชุม ร่วม
กิจกรรม ประชาสมั พันธ์ และสานสัมพนั ธ์ในทกุ รปู แบบ ทกุ ระดบั เช่น โครงการโรงเรียนคุณธรรม โครงการสนามสอบ
นักธรรม โครงการเยย่ี มบา้ นนักเรยี น เพื่อสร้างความสัมพันธอ์ ันดีกับนักเรียน ผ้มู ีส่วนไดส้ ว่ นเสีย โรงเรียนในเขตพ้ืนที่
บริการ อกี ท้ังสถาบนั อดุ มศึกษา สถานประกอบการ หนว่ ยงานท้ังภาครฐั และเอกชน

โรงเรียนมีวิธีการในกำกับ ดูแล ตามโครงสร้างการบรหิ ารงานของสถานศึกษา และหากมีกรณีที่มี
การกระทำที่ขัดต่อการประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม ผู้นำระดับสูงจะดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติอย่างเป็น
กัลยาณมิตร และตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไข
เพิม่ เติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 รวมถึงระเบียบของสถานศึกษาที่โรงเรียนกำหนด เพ่อื ให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส
และเกดิ ประสิทธภิ าพในการบรหิ ารงานบคุ คล

ผู้นำระดับสูงมีวิธีการในการส่งเสริม และสร้างความม่ันใจว่าปฏิสัมพนั ธ์ทุกด้านของโรงเรียนเป็นไป
อย่างมีจริยธรรม โดยส่งเสริมให้ครู และบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน นักเรียนปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบงั คับ
ของโรงเรยี นมกี ารกำกับติดตามโดยผู้อำนวยการโรงเรยี นรองผู้อำนวยการโรงเรียนหัวหนา้ กลมุ่ สาระ การเรียนรู้อย่าง
สม่ำเสมอ ด้วยระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเพื่อการบริหารองค์กรให้เกิด
ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล เพื่อให้นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียพึงพอใจที่ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค
ยตุ ิธรรม โดยมกี ารจดั กระบวนการดงั แผนภาพที่ 1-2

แผนภาพท่ี 1-2 แสดงการประพฤตปิ ฏบิ ัตอิ ยา่ งมจี รยิ ธรรมของครูและบคุ ลากร

20

ค. ความรับผดิ ชอบต่อสังคม (Societal Responsibilities)
(1) ความผาสุกของสังคม (Societal Well-Being)
โรงเรียนใช้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL ใช้หลักการบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมทำให้

ทราบตามความต้องการของชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาอย่างมี
ประสิทธิภาพ เพื่อความเปน็ เลิศ ครบถ้วนทั้งคุณวฒุ ิและวุฒิภาวะทางอารมณ์ จัดหลักสูตร และกิจกรรมเพื่อส่งเสริม
สนับสนุนให้การดำรงชีวิตประจำวนั เกิดความผาสุก และผลประโยชนข์ องสังคมในวงกว้าง ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี
ซึง่ เกดิ จากการบริหารจดั การดี ผบู้ ริหารดี ครู เกิดการจดั การเรยี นรูท้ ด่ี ี สภาพแวดลอ้ มทีด่ ี ส่งผลให้นกั เรียนดี และเกิด
ผลลัพธ์ที่ดีในทุกด้าน ทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ โดยใช้
แนวคิดตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถงึ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน เช่น กิจกรรมลกู เสือ–เนตรนารี กิจกรรม
ชุมนุม กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ และยงั จัดให้มีโครงการจดั การเรียนการสอนโดยวิทยากรท้องถ่ิน โครงการเย่ยี มบ้าน
นักเรียน โครงการสนามสอบนักธรรม ซึ่งร่วมกับคณะสงฆ์ในจังหวัดปทุมธานี โรงเรียนได้รับความร่วมมือจาก
ผปู้ กครอง นกั เรียน และหน่วยงานราชการอ่ืนในการสนบั สนนุ ทรพั ยากรใหก้ ับโรงเรียน ในการสนับสนนุ สง่ เสรมิ การ
จัดการศึกษา โครงการตักบาตรประจำสัปดาห์ โครงการกีฬาต้านยาสารเสพตดิ เป็นการส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นปลอดภัย
จากสารเสพติด จัดให้มีกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานภายนอกในการดูแลรักษาความปลอดภัยของนักเรียน ดูแล
ส่งิ แวดล้อมรอบโรงเรียน และความปลอดภัยในการเดนิ ทางมาโรงเรียน และเดนิ ทางกลับจากโรงเรียน เปน็ ต้น ส่งผล
ให้โรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมนุ ีบำรงุ ” ไดร้ บั การยอมรับและความไวว้ างใจจากชมุ ชน ในการสง่ บตุ รหลานเขา้ ศึกษาต่อ
ตลอดมา

(2) การสนบั สนุนชมุ ชน (Community Support)
โรงเรียนได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน บริการวิชาการและบริการสังคมในรูปแบบ
ต่างๆ โดยใชห้ ลักการบริหารอย่างมีส่วนร่วม โดยเปดิ โอกาสให้ผู้ปกครองผู้มีส่วนได้สว่ นเสียเข้ามามีสว่ นรว่ ม ในการ
ดูแลนักเรียน การสนับสนุนชุมชนที่โรงเรียนดำเนินการเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกิจกรรมวันสำคัญของชาติ
และวฒั นธรรมไทย ที่หนว่ ยงานต่างๆ และชมุ ชนจัดขนึ้ เพ่ือปลกู ฝงั ค่านิยม ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์กตัญญูต่อพ่อ
แม่ เป็นคนดีมศี ีลธรรม นอกจากน้ีทางโรงเรียนยังได้ดำเนินโครงการกจิ กรรมจิตอาสา กับทางชุมชน และ หน่วยงาน
ต่างๆ เสรมิ สรา้ งเอกลักษณ์ไทยดว้ ยประเพณีและใช้ภาษาไทยให้ถกู ตอ้ ง นอกจากน้ี ยงั ใชก้ ารร่วมแรงร่วมใจจากผู้นำ
ระดับสูง คณะครู และบุคลากรทางการศึกษาในการพัฒนาชุมชนด้านต่าง ๆ เช่น ด้านวิชาการ โดยอนุญาตให้ครูไป
เป็นวิทยากรเพ่ือให้ความรู้แก่ชุมชน โรงเรียนให้บริการด้านอาคารสถานทีแ่ ก่ให้ชุมชนในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของ
ชมุ ชน เป็นอย่างดี
ชุมชนสำคัญของโรงเรียน คือ ชุมชนที่มีเขตพื้นที่อยู่รอบโรงเรียน อันได้แก่ ชุมชนในเขตพื้นที่บริการ ผู้นำ
ระดับสงู และ บคุ ลากรร่วมมือกันในการพัฒนาชมุ ชนน้นั โดยกลุ่มบรหิ ารทั่วไปและกลุ่มบริหารกิจการนกั เรียนเข้าไปมี
ส่วน ร่วมในการเป็นคณะกรรมการชุมชน ร่วมประชุมให้ข้อเสนอแนะการดูแลความเรียบร้อยเพื่อให้เกิดความ
ปลอดภยั และความสงบสุขของสงั คมและชุมชน มสี ่วนร่วมในการเสนอข้อคิดและแนวทางการพฒั นาภูมิทัศน์ โดยรอบ
เขตชุมชนบรเิ วณโรงเรียนให้เกิดความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย ใหก้ ารสนบั สนุนการใช้พน้ื ท่ีของโรงเรยี น ในการ
จัดกจิ กรรมต่าง ๆ ของชมุ ชน การเข้ารว่ มประชุมจัดกิจกรรมเพอื่ สาธารณประโยชน์ เปน็ แหลง่ เรียนรสู้ ำหรับชุมชน ผล
จากการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ด้วยการสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็ง ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ทำให้
โรงเรยี นไดร้ บั ความไว้วางใจเป็นท่ยี อมรับจากชุมชน ดูได้จากจำนวนนักเรยี นท่เี พิ่มมากข้ึน

21

หมวด 2
กลยุทธ์ (Strategy)
2.1 การจดั ทำกลยุทธ์ (Strategy Development)
การจัดการศึกษาเพ่ือให้เกิดคุณภาพกับนักเรียนโรงเรียนปทุมธานี“นันทมุนีบำรุง” โดยใช้ระบบบริหาร
คุณภาพ PTN MODEL เป็นกลไกในการขบั เคลื่อนเพอื่ ให้บรรลุผลมีทศิ ทางการดาํ เนินงานที่ชัดเจนสามารถขับเคลื่อน
กระบวนการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาเพ่ือใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ บริหารจดั การแบบมสี ว่ นร่วม มีการใชเ้ ทคโนโลยีเข้ามา
บริหารนำไปสู่สถานศึกษาทีม่ ีคุณภาพภายใต้วงจรคุณภาพ PDCA รับฟังคิดเห็นจากนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียนด้วย
ความรับผิดชอบของบคุ ลากรภายในสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน ใช้การ SWOT Analysis เป็น
กลไกสำคัญในการกำหนดทิศทางการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาระยะ 4 ปี และแผนระยะสั้น 1 ปี
(แผนปฏิบตั กิ ารประจำปี ) ของโรงเรียน ภายใต้การกํากับดูแลส่งเสรมิ ของหน่วยงานต้นสงั กัด เพื่อให้เกิดประสทิ ธภิ าพ
และเปน็ การยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาของโรงเรยี น อย่างมปี ระสทิ ธิภาพและประสิทธิผลอย่างยั่งยนื

ก. กระบวนการจัดทำกลยทุ ธ์ (Strategy Development PROCESS)
(1) กระบวนการวางแผนกลยุทธ์ (Strategy Planning PROCESS)

โรงเรียนปทุมธานี“นันทมุนีบำรุง”จัดทําแผนกลยุทธ์เพื่อกําหนดทิศทางในการดําเนินงานขององค์กร
ระยะยาวท่ีชัดเจนเป็นแผนงานท่ีมีความยืดหยุ่นสามารถนําไปปฏิบัติได้จริงและประเมินผลได้ เพ่ือสามารถนำไป
ปรับปรุงแผนงานให้ดีขึ้น มีความคล่องตัวทันต่อการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการจัดทำให้
สอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียนมาตรฐานสากลและนโยบายต่าง ๆ ของหนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้องโดยมีการดําเนนิ การ
ดงั นี้

1. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทําแผนกลยุทธ์ ให้แก่คณะผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา
คณะกรรมการทุกฝา่ ยมีส่วนร่วมในการกาํ หนดแผน กลยทุ ธ์ของโรงเรยี น

2. ดําเนินการตามข้ันตอนการจดั ทาํ แผนกลยทุ ธ์ ดงั น้ี
2.1 วิเคราะห์นโยบายโรงเรียนมาตรฐานสากลเช่ือมโยงกับนโยบายในระดับต่าง ๆ ของหน่วยงาน

ทีเ่ กยี่ วขอ้ งและนโยบายของโรงเรียนปทุมธานี“นันทมุนีบำรุง”
2.2 ประเมินสภาวะการของโรงเรยี น โดยการวิเคราะห์ภารกิจและผลผลิตหลัก วิเคราะห์สภาพแวดล้อม

ทั้งภายนอก ภายใน โดยการทํา SWOT Analysis เพื่อค้นหาจดุ แขง็ จุดอ่อน โอกาส อปุ สรรค ทอ่ี าจเป็นปัญหาสําคัญ
ในการดําเนนิ งานและประเมนิ สภาพปจั จบุ นั

2.3 นําข้อมูลที่ได้มากําหนดทิศทางของโรงเรียนเป็นวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ และนํามา กําหนด
กลยุทธ์ของโรงเรียน ว่าโรงเรียนปทุมธานี“นันทมุนีบำรุง จะเป็นอย่างไร จะทําอะไร จะทําได้อยา่ งไร และผู้มีส่วนได้
ส่วนเสียจะไดป้ ระโยชน์อะไร

2.4 นํากลยุทธ์หลักของโรงเรียนมาจัดทํากรอบกลยุทธ์ โดยกําหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์วัดสภาพ
ปัจจุบนั เปา้ หมายระยะ 4 ปี และกำหนดกลยทุ ธ์ริเรม่ิ เพ่ือเชอื่ มโยงสู่แผนปฏบิ ัตกิ ารต่อไป

3. การกำหนดความท้าทายเชิงกลยุทธ์ และความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ กำหนดมาจากการวิเคราะห์จุดแข็ง
จุดอ่อน วิเคราะห์โอกาส-อุปสรรค แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ที่สำคัญของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนี
บำรุง” มี 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการจัดการศึกษา 2) ด้านทรัพยากรบุคลากร 3) ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในวง
กว้าง 4) ด้านปฏิบัติการ

4. การกำหนดกรอบเวลาวางแผนระยะสั้นด้วยการทำแผนปฏิบัติการประจำปีถัดไปให้แล้วเสร็จก่อน
แผนปฏิบัติการประจำปีปัจจุบันจะส้ินสุดล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ส่วนระยะยาวคือการจัดทำแผนกลยุทธ์ 4 ปี

22
มีจัดประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจเน้นการมีส่วนร่วมกับคณะกรรมการแผนงานโรงเรียนและบุคลากรทุกฝ่ายให้
มีการวางแผนดำเนินกิจกรรมของแต่ละโครงการตามแผนปฏิบัติราชการมีความคล่องตัว มีความยืดหยุ่นในการ
ปฏิบัติการ และเปล่ียนแปลงตามระเบียบ ข้อบังคับของการปฏิบตั ิงาน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้สอดคล้องกับกรอบ
เวลาสรุปดังแผนภาพท่ี 2-1 ดงั นี้

แผนภาพท่ี 2-1 กระบวนการวางแผนกลยทุ ธ์โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนีบำรุง”
(2) นวตั กรรม (INNOVATION)

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดทำ SWOT ของโรงเรียน โดยใช้ระบบ
บริหารคุณภาพ PTN MODEL มาใช้ในการจัดการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำผลการวิเคราะห์มากำหนดเป็นกลยุทธ์
( STRATEGY ) โดยมีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก ปัจจัยด้านสังคม วัฒนธรรม ด้านเทคโนโลยี ด้าน
เศรษฐกิจ ด้านการเมือง กฎหมายและนโยบาย ที่เป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ ข้อได้เปรียบของโรงเรียน มาจัดทำเป็น
กลยุทธ์ เช่น ปัจจัยเรื่องสภาพแวดล้อม ทำเลที่ตั้งของโรงเรียน ที่มีหน่วยราชการและองค์กรที่เป็นแหล่งเรียนรู้ มี
สมั พันธภาพทด่ี กี บั หน่วยงานตา่ งๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากสมาคมศษิ ย์เกา่ เครือขา่ ยผู้ปกครองทเ่ี ขม้ แขง็ รวมถึง
ความรว่ มมือร่วมใจขององค์กรภาคเี ครือขา่ ยของโรงเรยี น ทำใหไ้ ด้รับรว่ มมอื ในการพฒั นาการจดั การศึกษาเปน็ อยา่ งดี

23

(3) การวเิ คราะหแ์ ละกำหนดกลยุทธ์ (Strategy Considerations)
โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมนุ บี ำรุง” สำรวจสภาพแวดลอ้ มภายนอกและภายใน (บรบิ ทภายในและภายนอก)

เกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยการใชแ้ บบสอบถามจากผ้เู ก่ียวขอ้ ง และวิเคราะห์ข้อมลู ระบุจดุ แข็ง จดุ ออ่ น โอกาสและ
อปุ สรรค เพ่อื พัฒนาสารสนเทศของโรงเรียน รวมทงั้ การสำรวจความพงึ พอใจทม่ี ีต่อการพฒั นาคุณภาพของโรงเรียน
และนำผลที่ได้จากการวเิ คราะห์ SWOT ไปกำหนดยทุ ธศาสตรโ์ รงเรียน ซง่ึ แสดงกระบวนการวเิ คราะห์และ
กำหนดกลยทุ ธ์ ดงั แผนภาพท่ี 2-2

แผนภาพท่ี 2-2 กระบวนการวเิ คราะห์และกำหนดกลยุทธ์โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนบี ำรงุ ”

โรงเรียนได้ดำเนินการวิเคราะห์และกำหนดกลยุทธ์ของโรงเรียน โดยการทบทวนผลการดำเนินงานในช่วง
ที่ผ่านมา นำผลการประเมินคุณภาพศึกษาภายนอก (สมศ.) ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาและแผน
กลยทุ ธโ์ รงเรยี นทผ่ี ่านมา วเิ คราะหป์ ระเดน็ ที่ประสบความสำเร็จและประเด็นทตี่ ้องปรับปรุงแก้ไข นำผลการวิเคราะห์
มาเปน็ ขอ้ มูลในการวิเคราะห์สภาพปัจจุบนั และปญั หาของโรงเรียน รวบรวมสภาพปญั หาและความต้องการ นำข้อมูล
ที่สำคัญจากงานสารสนเทศของโรงเรียน ข้อมูลที่ได้จากนักเรียน จากครู จากบุคลากรและข้อมูลนโยบาย
จากหน่วยงานทเี่ กี่ยวข้อง มาใช้ประกอบการวิเคราะห์

วิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มภายนอก พจิ ารณาถงึ แนวโน้มของปจั จัยทมี่ อี ิทธิพลต่อความคงอยู่ และการขยายตัว
ของภารกิจของโรงเรียน ทั้งปัจจัยที่เป็นโอกาสและปัจจัยที่เป็นอุปสรรค ที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการ ซึง่ ไม่สามารถ
ควบคุมได้ หรือควบคุมได้ในระยะสั้น ๆ การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”
การวิเคราะห์คู่แข่ง เพื่อทราบลักษณะทั่วไป ยุทธศาสตร์และคาดการณ์ถึงความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง การวิเคราะห์
สภาพแวดล้อมด้านสังคมและวัฒนธรรม (Social-cultural Factors: S) เป็นการวิเคราะห์สภาพกระแสสังคมปัญหา
และความต้องการของชุมชนรอบโรงเรียน เครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา ภาครัฐ ฯลฯ การวิเคราะห์
สภาพแวดล้อมด้านเทคโนโลยี (Technological Factors: T) เป็นการวิเคราะห์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีการบริหาร เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านสื่อ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมด้านเศรษฐกจิ (Economic Factors: E) เป็นการวิเคราะห์สภาพและแนวโน้มเศรษฐกจิ
สภาพเศรษฐกิจของผู้ปกครอง ภาวะทางการเงิน ฯลฯ เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลต่อภาวะทางการเงินของ
ผูป้ กครอง ทำใหไ้ ม่สามารถสนับสนนุ การเรยี นการสอนของนักเรยี นไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ เป็นต้น การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อม
ด้านการเมืองและกฎหมาย (Political and Factors: P) เป็นการวิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
มาตรฐานการศกึ ษา นโยบายรฐั บาล นโยบายกระทรวงศึกษาธกิ าร นโยบายสำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา
ปทมุ ธานี กฎระเบยี บทเ่ี กย่ี วข้องกบั การบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษา

24

(4) ระบบงานและสมรรถนะหลกั ของโรงเรียน (WORK SYSTEMS and CORE COMPETENCIES)
โรงเรยี นมรี ะบบงานจากการแบง่ สายบรหิ ารทช่ี ัดเจนออกเปน็ 5 ฝา่ ย ซงึ่ บริหารจัดการตามโครงสรา้ งการบรหิ ารงาน
ของโรงเรยี น โดยมีกระบวนการ ดงั นี้

สมรรถนะหลักของโรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมนุ บี ำรุง” มดี งั น้ี
1. มุง่ พฒั นาสง่ิ แวดล้อมภายในสถานศึกษาใหเ้ ออื้ ต่อการเรยี นรู้
2. สนับสนุนใหบ้ ุคลากรมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม

ข. วตั ถปุ ระสงค์เชงิ กลยทุ ธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES)
(1) วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ท่ีสำคญั (KEY STRATEGIC OBJECTIVES)

โรงเรยี นกำหนดวตั ถปุ ระสงค์เชิงกลยทุ ธ์ที่สำคัญในการบรหิ ารสถานศึกษา ดงั นี้

ตารางที่ 2-1 แสดงวตั ถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ท่สี ำคัญในการบรหิ ารสถานศึกษา

วตั ถุประสงคเ์ ชิงกลยุทธ์ เป้าประสงค์ กรอบระยะเวลา
2560-2563
1. พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น 1. พัฒนาผู้เรียนมีศักยภาพเป็น
พลเมืองโลกมีลักษณะเป็นเลิศระวัง
นกั เรยี นมผี ลสัมฤทธิ์ทางวชิ าการสงู ข้ึน มที กั ษะชีวติ อาชีพ และสขุ ภาพ ความคิดและรับผิดชอบบนโลกบนพื้น
กายและสขุ ภาพจติ ท่ดี ี ฐานเศรษฐกิจพอเพยี ง

2. พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา 2. ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา
เทียบไดร้ ะดับชาตทิ กุ วิชา
โรงเรยี นมกี ารบริหารจัดทำขอ้ มูลสารสนเทศ ระบบประกันคุณภาพ
ภายใน และระบบการวัดและประเมนิ ผลอยา่ งมคี ุณภาพ 3.โรงเรยี นมีสภาพแวดล้อมแหลง่ เรียนรู้
3. สร้างเสรมิ สงั คมแห่งการเรียนรู้ ศิลปกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา
สะสมในการจัดการเรียนการสอน
โรงเรยี นมรี ะบบดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียน และจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
เพอ่ื ให้ผู้เรียนมีทักษะชวี ิต ทกั ษะอาชพี และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 4. โรงเรียนมีเครือข่ายร่วมพัฒนาที่สุด
จัดการเรียนรแู้ บบเรยี นรวม และจัดกิจกรรมค่ายทักษะชวี ติ และวชิ าการ สถาบันอุดมศึกษา องค์กรอื่น และ
อย่างเปน็ ระบบ เครือข่ายผู้ครองที่เกี่ยวข้องเอกชนใน
4.พัฒนาอัตตลกั ษณ์สถานศกึ ษาให้เดน่ การพัฒนาโรงเรยี น

จดั กิจกรรมอนุรักษ์วฒั นธรรมไทย และวัฒนธรรมประเทศเพื่อนบ้าน 5. บริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพนำ
5. พฒั นาคณุ ภาพสถานศกึ ษา สารสรเทศมาใช้ในการบริหารและ
อาคารสถานท่แี ละแหล่งเรียนร้เู อ้อื ต่อการเรยี นร้อู ย่างหลากหลายและ จัดการเรยี นการสอน
มกี ารบริหารจัดการศึกษาแบบมสี ว่ นรว่ มโดยยึดหลักธรรมาภิบาล

(2) การพิจารณาวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ (STRATEGIC OBJECTIVES Considerations) โรงเรียน
สร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความต้องการที่หลากหลาย โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนกลยุทธ์และ
แผนปฏิบัติการประจำปี ซึ่งประกอบด้วย ฝ่ายบริหารโรงเรียน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้างานต่าง ๆ

คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อพิจารณาวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ กำหนดค่าเป้าหมายรายปี สร้างความ
สมดลุ ระหวา่ งกรอบเวลาระยะสัน้ ระยะยาว เพือ่ ให้เกิดความทา้ ทายและความไดเ้ ปรียบเชิงกลยุทธบ์ นพนื้ ฐานข้อมูลที่

เป็นไปได้ บนพืน้ ฐานของขอ้ มลู สารสนเทศท่มี อี ยู่ และดำเนินโครงการ กจิ กรรม โดยใช้ บุคลากร นวตั กรรม เทคโนโล
ยงบประมาณท่มี อี ยู่มาบริหารจัดการใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดและให้ตอบสนองความตอ้ งการของผู้มี
สว่ นไดส้ ว่ นเสีย โดยใชร้ ะบบบรหิ ารคณุ ภาพ PTN MODEL เป็นกลไกในการขับเคล่ือนเพ่อื ให้บรรลุผล

25

โรงเรียนได้กำหนดกลยุทธต์ วั ชี้วดั ความสำเร็จ และเปา้ หมายความสำเรจ็ ระหวา่ งปกี ารศกึ ษา 2560 – 2563
ดงั ตารางตอ่ ไปนี้

ตารางท่ี 2-2 แสดงกลยุทธต์ ัวชี้วัดความสำเรจ็ และเป้าหมายความสำเรจ็ ระหว่างปีการศกึ ษา 2560 – 2563

ตวั ชวี้ ดั ความสำเร็จปกี ารศกึ ษา 2560-2563

กลยุทธ์ ตัวช้ีวัดความสำเรจ็ ปกี ารศึกษา
2560 2561 2562 2563
1. พฒั นาคุณภาพ
ผูเ้ รยี น 1. นกั เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผ่านการประเมินระดับชาตอิ ยู่ในระดับดีเพ่มิ ขึ้น 3% 3% 3% 3%

2. นักเรียนสามารถเข้าศกึ ษาตอ่ ในระดับอุดม ศกึ ษาในสถาบันของรัฐในอัตราที่ 55% 60% 65% 70%
เพมิ่ ขึ้น 2% 2% 2% 2%

3.นักเรยี นมีการสนทนา และใชภ้ าษาองั กฤษและจนี ไดเ้ พิ่มข้นึ

4. นักเรยี นมีความร้แู ละทักษะทีจ่ ำเปน็ ตามหลักสตู รการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานและจบ 95% 97% 99% 100%
การศึกษาภาคบังคบั

5. นักเรยี นสามารถนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้เปน็ หลักในการดำเนิน 90% 95% 100% 100%

ชีวติ

6. นกั เรยี นเปน็ ตวั แทนรว่ มเข้าแข่งขนั ในระดบั ประเทศ และไดร้ บั รางวัล 10% 10% 10% 10%

7. นักเรียนมีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง ให้เรยี นรู้และพัฒนาตนเอง 80% 85% 90% 90%

อย่างต่อเน่อื ง

8. โรงเรียนมกี ารจดั หลกั สตู รและกระบวนการเรียนการสอนทเี่ น้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญ 100% 100% 100% 100%

9. โรงเรยี นมีการจัดกิจกรรมทหี่ ลากหลายเพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี นอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 100% 100% 100% 100%

10. โรงเรยี นจัดกิจกรรมในการดูแลสุขภาพของนักเรยี น และส่งเสริมใหค้ รแู ละ 80% 90% 100% 100%

นักเรยี นออกกาลงั กาย

1. บรหิ ารจัดการระบบข้อมูลสารสนเทศได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 80% 90% 95% 100%

2. ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษารับการพฒั นาผลงานวชิ าการใหม้ วี ทิ ยฐานะเพิ่มขึ้น 5% 5% 5% 5%

3. ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษามกี ารพฒั นาความรใู้ นสาระทสี่ อนและงานในหน้าท่ี 90% 95% 100% 100%
อยา่ งตอ่ เนอื่ ง

4.มกี ารจดั ทำระบบการวดั และประเมนิ ผลให้สอดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี นรู้ เพอื่ 100% 100% 100% 100%
พัฒนาผู้เรยี นอย่างมคี ุณภาพ 70% 80% 90% 100%
2. พฒั นาคณุ ภาพการ 5.บรหิ ารจดั การส่อื นวัตกรรมเทคโนโลยเี พอื่ การเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งหลากหลายถกู ตอ้ ง
จัดการศึกษา เหมาะสมและเป็นสากล

6.โรงเรยี นจัดการอบรม/ประชุมเพอ่ื พัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษาตามความ 100% 100% 100% 100%
ตอ้ งการอยา่ งต่อเนื่อง

7.มีการจัดทำระบบประกนั คณุ ภาพภายในเพือ่ ประเมนิ คณุ ภาพ 100% 100% 100% 100%

8. มีการจดั การนิเทศภายใน เพอ่ื พัฒนาการเรียนรู้ทกุ กล่มุ สาระวิชา 90% 95% 100% 100%

9.จัดทำแผนการสอน จัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 100% 100% 100% 100%

26

กลยุทธ์ ตวั ช้ีวัดความสำเร็จปีการศึกษา 2560-2563 ปีการศึกษา
ตัวช้วี ดั ความสำเรจ็ 2560 2561 2562 2563
70% 80% 90% 100%
10.มกี ารจดั ทำวิจัยในช้นั เรยี นเพือ่ พัฒนาการเรียนการสอน

3. สร้างเสริมสงั คม 1.โรงเรียนมีระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียนและโรงเรยี นสามารถพฒั นาระบบได้ 80% 85% 90% 100%
แห่งการเรยี นรู้ มาตรฐาน 100% 100% 100% 100%
100% 100% 100% 100%
2.โรงเรยี นจดั กจิ กรรมทสี่ นับสนุนใหน้ กั เรยี นพัฒนาคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ 8 100% 100% 100% 100%
ประการ และ ค่านยิ มหลัก 12 ประการ

3.โรงเรียนจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน เพอื่ ปลูกฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจิตสา
นกึ ในการรักษากฎระเบยี บของโรงเรียน

4. โรงเรียนมีการจดั กิจกรรมค่ายทกั ษะชีวติ และวชิ าการ

5. โรงเรียนจดั กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพม่ิ เวลารทู้ กุ กลมุ่ สาระวชิ า 100% 100% 100% 100%
6.โรงเรยี นไดจ้ ดั การเรียนรู้แบบเรียนรวมทกุ กลุ่มสาระวชิ า 90% 95% 100% 100%

4. พฒั นาอัตตลักษณ์ 1. โรงเรียนจดั กิจกรรมประเพณวี ฒั นธรรมในทอ้ งถ่นิ ให้นักเรยี นไดศ้ กึ ษาและเรียนรู้ 70% 80% 90% 100%
สถานศกึ ษาใหเ้ ด่น 100% 100% 100% 100%
2.โรงเรยี นจัดการเรยี นรู้อาเซียนศกึ ษา

1. โรงเรียนมีโครงสรา้ งและมรี ะบบบรหิ ารจัดการท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพเป็นกลไกในการ 80% 90% 100% 100%
พัฒนาโรงเรียนไดอ้ ยา่ งต่อเน่อื งและมีการติดตาม ตรวจสอบและแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ

2. โรงเรยี นไดร้ บั การสนบั สนุนจากผู้ปกครอง ชมุ ชน และผ้มู สี ว่ นเกยี่ วข้องเพื่อ 80% 85% 90% 100%
ส่งเสริมและพฒั นาการศกึ ษาให้มีประสิทธภิ าพ

5. พัฒนาคุณภาพ 3. โรงเรยี นมคี ณะกรรมการนกั เรยี นที่เป็นตวั แทนนักเรยี นในการพฒั นา และเสนอ 80% 85% 90% 100%
สถานศกึ ษา แนวทางในการพฒั นาโรงเรยี นอย่างตอ่ เนือ่ ง 50% 60% 70% 80%
4. โรงเรียนมีโรงเรยี นเครอื ขา่ ยท้ังในประเทศและต่างประเทศ

5. โรงเรยี นมีการจดั สภาพแวดลอ้ มและแหล่งเรียนรูท้ เ่ี ออ้ื ต่อการเป็นสงั คมแหง่ การ 80% 85% 90% 100%
เรยี นรู้

6.โรงเรยี นจัดกิจกรรมทเี่ กีย่ วกบั การอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและการดูแลแหล่งเรยี นรู้ 80% 85% 90% 100%
ภายในโรงเรยี น

27

2.2 การนำกลยทุ ธ์ไปปฏบิ ตั ิ (Strategy Implementation):
ก. การจัดทำแผนปฏิบัตกิ ารและการถา่ ยทอดส่กู ารปฏบิ ัติ (ACTION PLAN Development and

DEPLOYMENT) มขี ัน้ ตอนตามแผนภาพ ท่ี 2-3 ดังน้ี

แผนภาพท่ี 2-3 การจัดทำแผนปฏบิ ัติการและการถ่ายทอดส่กู ารปฏบิ ัติ

28

(1) การจัดทำแผนปฏิบัติการ (ACTION PLAN Development) โรงเรียนมีการจัดทำแผนปฏิบัติท้ัง
ระยะสั้นระยะยาวและมีความสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ โดยมีการจัดสรรงบประมาณของโรงเรียนตาม
สัดส่วน ดังนี้ วิชาการ : งบประมาณ แผนงานและบุคคล กิจการนักเรียน บริหารทั่วไป : งบจ่ายสำรอง เท่ากับ
60:30:10 การพิจารณางบประมาณให้แต่ละฝ่ายนั้นพิจารณา ตามลำดับความสำคัญของโครงการและกิจกรรมที่
สนองตอบความต้องการ จำเป็นของโรงเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้
ความเห็นชอบ และผู้บริหารอนมุ ัติแผนปฏิบตั ิการแล้วนำแผนมาปฏิบตั ิ มีการนิเทศ กำกับ ติดตามประเมินผลอย่าง
ต่อเนือ่ ง และประเมนิ ผลโครงการ/กิจกรรมเม่อื โครงการสิน้ สุดแต่ละโครงการ และสรุปผลการปฏิบตั งิ านภาคเรียนละ
1 ครั้ง หรือ ยืดหยุ่นตามความเหมาะสม ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือจำเป็นเร่งด่วน สามารถเสนอจัดทำโครงการเพ่ือ
แกป้ ญั หาได้โดยสามารถใชง้ บสำรองจ่ายในการดำเนินการ

(2) การนำแผนปฏิบตั กิ ารไปปฏิบัติ (Action PLAN Implementation)
โรงเรียนได้จัดทำโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ฝ่ายงาน และกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้เสนอนั้นมี
กจิ กรรมทีห่ ลากหลาย เชน่ การจดั ประชุม อบรม สมั มนา ทัศนศกึ ษา การจดั กิจกรรมการประกวดแข่งขัน การเข้าค่าย
การส่งเสริมให้นักเรียนเข้าร่วมแข่งขันความรูค้ วามสามารถด้านต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนบรรลุตาม
เป้าหมายของวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ และกลยุทธ์ของสถานศึกษา โดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายท้ัง
นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และหลังจากที่ได้ดำเนินงานตามโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ ต้องมีการนิเทศ
ติดตาม และประเมินผลทุกครั้งเพื่อการพัฒนาทีด่ ขี นึ้ และการปรับปรงุ แกไ้ ขในคร้ังตอ่ ไป

ในด้านการบรหิ ารจดั การ โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมนุ ีบำรงุ ” ไดด้ ำเนินการตามกรอบและทศิ ทางของ
การจัดการศึกษา ตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกลยุทธ์ของสถานศึกษาที่ได้กำหนดไว้ การปฏิบัติงานตามพันธกิจของ
สถานศกึ ษาเปน็ ไปในทิศทางเดียวกนั ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ การจดั ทำโครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์
พันธกิจ เป้าประสงค์ และกลยุทธ์ของสถานศึกษา และได้รบั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ซงึ่ กล่มุ สาระการเรียนรู้ฝ่ายงานต่าง ๆ ไดเ้ สนอการจัดกิจกรรม/โครงการต่าง ๆ ดงั ปรากฏในแผนปฏิบัติการประจำปี
ของสถานศกึ ษา

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ได้ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการในรูปของคณะกรรมการ
ดำเนินงาน โดยดำเนินงานตามนโยบายของสถานศกึ ษา และหนว่ ยงานบังคบั บัญชา มีการจัดระบบการนเิ ทศ ติดตาม
ประเมินและพัฒนางานอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะ ใช้หลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based
Management) บนพื้นฐานความเป็นกัลยาณมิตร ส่งผลทำให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่เป็นมิตร เอื้ออาทรกับ
ผู้ร่วมงาน และผู้รับบริการ ครูมีคุณภาพ มีขวัญกำลังใจ ทุ่มเท มุ่งมั่นในการปฏิบัติงานอย่างเต็มศกั ยภาพ ทำให้การ
ดำเนินงานตามบทบาท ภารกิจของสถานศึกษาดำเนินไปอย่างมีทิศทาง มีเป้าหมาย และต่อเนื่อง ทำให้โครงการ
บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ และเปา้ หมายทตี่ ั้งไว้ ทำใหเ้ กดิ ผลสำเรจ็ ท่ียั่งยืน

(3) การจัดสรรทรัพยากร (Resource Allocation)

โรงเรียนได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง นักเรียน และหน่วยงานราชการอื่น ๆ ในการสนับสนุน
ทรัพยากรให้กับโรงเรียนในการสนับสนุน ส่งเสริม การจัดการศึกษา มีการบริหารจัดการด้านงบประมาณมีความ
ชัดเจน เน้นความโปรง่ ใส และให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ มีนิเทศ ติดตาม ตรวจสอบการใช้งบประมาณที่
เป็นทรัพยากร และพัสดุ ครุภัณฑ์ รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้าง มีการบริหารงานตามระเบยี บของทางราชการ การจัดหา
ทรพั ยากรมีความโปร่งใส ใชพ้ สั ดุ ครภุ ณั ฑ์ได้อย่างค้มุ ค่า เกิดประโยชน์ และประหยัดให้คณะกรรมการสถานศึกษาได้
เขา้ มามสี ่วนร่วมในการดำเนนิ งาน และรว่ มตรวจสอบ ติดตาม ในรูปของคณะกรรมการ และมีหน่วยงานตน้ สงั กดั คอย
กำกับ นิเทศ ติดตาม และตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือจำเป็นเร่งด่วน สามารถเสนอจัดทำ
โครงการเพื่อแก้ปัญหาได้โดยมีการสรุปงบประจำวัน งบเดือน อย่างสม่ำเสมอ การจัดทำโครงการเป็นไปตาม

29

งบประมาณที่ได้รับการจัดสรร เนื่องจากมีการทำงานที่เป็นระบบคุณภาพ จึงไม่มีความเสี่ยง ทำให้มั่นใจในสภาวะ
การเงนิ ของโรงเรียน

ผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าผู้นำระดับสูงมีภาวะผู้นำ และมี
ความสามารถในการบริหารจัดการได้อย่างมีประสทิ ธิภาพเกิดประสิทธิผล ส่งผลให้การบริหารงานตามบทบาท และ
ภารกิจของสถานศกึ ษามผี ลการดำเนนิ งานบรรลุเป้าหมาย

(4) แผนด้านบคุ ลากร (Workforce Plans)
โรงเรียนได้สำรวจความต้องการบุคลากรแต่ละรายวิชาจากการจัดทำข้อมูลสารสนเทศของบุคลากร

โรงเรยี นได้รบั การจัดสรร บรรจุ และแตง่ ต้ัง บคุ ลากรในตำแหน่งสาขาวิชาเอกของกลุม่ สาระการเรียนรู้ท่ขี าดแคลน มี
การคัดสรรบุคลากรเข้าสู่ภาระงานต่าง ๆ ตามความสมัครใจ ความถนัด ความรู้ความสามารถ มีการนิเทศ ติดตาม
และประเมินผลการทำงาน กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาศกั ยภาพครู และบุคลากรไว้ในแผนกลยุทธร์ ะยะ 4 ปี ของ
โรงเรยี น และกำหนดโครงการพัฒนาบุคลากรไวใ้ นแผนปฏิบัติการประจำปีโดยสมำ่ เสมอเพอื่ พฒั นาศักยภาพตามความ
ต้องการของบุคลากร ใหข้ วญั และกำลงั ใจในการปฏิบัติงานเพอื่ ให้การปฏิบัติงานบรรลุผลสำเร็จตามแผนกลยุทธ์ท่ีได้
กำหนดไว้ โดยโรงเรยี นมีวฒั นธรรมของโรงเรยี น คอื บุคลากรในโรงเรยี นมวี ฒั นธรรมองค์กร ย้ิมไหว้ทกั ทายกัน

(5) ตัววัดผลการดำเนนิ การ (PERFORMANCE MEASURES)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มีการติดตามตรวจสอบ และประเมินผลการ ปฏิบัติงานตาม

แผนปฏิบัติการ โดยใช้เครื่องมือการตรวจสอบที่หลากหลาย และมีคุณภาพ สามารถสรุปผลการดำเนินงานตาม
รายละเอียดท่ีปรากฏในรายงานประจำปีของสถานศึกษา (SAR) และมีการนำผลการประเมินภายนอกของสำนกั งาน
รับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ผลการประเมินกิจกรรม โครงการ ตามแผนปฏิบัติการ
ประจำปีของสถานศึกษาทุกครั้งไปใช้ในการปรับปรุง พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานศึกษามีผลการ
ดำเนนิ งานบรรลเุ ป้าหมาย โดยใชว้ งจรคุณภาพ PDCA ทำให้โรงเรียนมกี ารบริหารงานที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ
มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ได้รับการยอมรับจากผู้ปกครอง นักเรียน ชุมชน สังคม และหน่วยงานราชการ และเอกชน
ตา่ ง ๆ โรงเรยี นได้กำหนดความสำเรจ็ ตัวช้ีวัดของโครงการตามแผนกลยทุ ธ์ในแต่ละปี มกี ารกำหนดค่าเปา้ หมายที่เป็น
ผลลัพธแ์ ละผลผลิต ตดิ ตามและตรวจสอบได้

(6) การคาดการณผ์ ลการดำเนนิ การ (PERFORMANCE PROJECTIONS)
หลังจากการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติในรูปแบบของการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติงานประจำปีแล้ว

โรงเรียนได้กำหนดใหม้ ีคณะกรรมการของแตล่ ะฝา่ ยหมวดงาน ได้มีการกำกับ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล การปฏบิ ตั งิ านตาม
โครงการ กิจกรรม ทำให้ทราบข้อมูลการปฏิบัติงาน สามารถปรับเปลี่ยน ยืดหยุ่น การทำงานตามแผนปฏบิ ัติการได้
เสมอเมือ่ มกี ารเปลย่ี นแปลง หรอื ฉกุ เฉิน กส็ ามารถปรบั เปล่ียนแผนปฏิบัติการให้ยดื หยนุ่ ตามความต้องการจำเป็นได้
โดยมงี บสำรองจ่าย หรืองบอ่ืน ๆ ไดท้ นั ที หากพบปญั หา ขอ้ ดี ข้อเสีย และอปุ สรรค จัดใหม้ กี ารประชมุ เพื่อวิเคราะห์
ปรบั ปรุง เปล่ียนแปลงใหก้ ารดำเนนิ การบรรลุเป้าหมายตอ่ ไป ทางโรงเรียนไดม้ กี ารเปรียบเทยี บกับโรงเรียนคแู่ ข่ง และ
นำผลทีไ่ ด้มาสกู่ ารทำโครงการ กิจกรรม เพิม่ ผลลพั ธ์

ข. กระบวนการปรบั เปลี่ยนแผนปฏบิ ตั กิ าร (ACTION PLAN Modification)
ผู้นำระดับสูง เป็นผู้กำหนดทศิ ทางของแผนปฏบิ ตั ิการประจำปี นโยบาย โดยมีการประชุมวางแผนในทุกเช้า
วันจันทร์ เพอ่ื กำกับตดิ ตามและให้นำขอ้ ปัญหา และนโยบายไปสกู่ ารปฏบิ ัตขิ องท้ัง 5 ฝา่ ยหลกั ของโรงเรียน ได้แก่ ฝ่าย
บรหิ ารงานวิชาการ ฝา่ ยบรหิ ารงานงบประมาณแผนงาน ฝา่ ยบริหารงานบุคคล ฝา่ ยบรหิ ารงานท่วั ไป และฝ่ายบริหาร
กิจการนักเรียน จากนั้นกำหนดให้แต่ละฝ่ายจัดประชุมฝ่ายลงสู่การปฏิบัติตามโครงการ และกิจกรรมที่เป็นไปตาม
แผนปฏิบัติการประจำปีแต่ถ้ามีเหตุจำเป็นฉุกเฉิน หรือสถานการณ์ที่ไม่เอื้อต่อการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ

30

ที่วางไว้ เช่น เกิดกรณีประสบภัยธรรมชาติ หรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองเป็นต้น ทางหน่วย
ท่รี ับผิดชอบกิจกรรม/งาน/โครงการ สามารถปรับเปลี่ยน โดยเสนอขอการเปลย่ี นแปลงพร้อมกับชี้แจงเหตุผลท่ีจำเป็น
ตามขั้นตอน ถูกต้องตามระเบียบ เพื่อนำเสนอให้ผู้นำระดับสูงอนุญาต และขอดำเนินการตามแผนการปฏิบัติการที่
เปลี่ยนแปลงไดท้ ันที ในกรณีที่มีโครงการสำคัญเร่งด่วนที่นอกเหนอื จากในแผนการปฏบิ ัติการหนว่ ยงานที่รับผิดชอบ
สามารถเสนอขออนมุ ัติจากผู้อำนวยการโรงเรยี นเพอ่ื จัดทำกิจกรรมจดั ทำ โครงการไปตามขัน้ ตอนได้เช่นกัน และถ้า
เป็นกจิ กรรมตามนโยบายของรัฐบาล ทจี่ ะมีการออกมาตรการตา่ งๆ สง่ั การใหโ้ รงเรยี นดำเนนิ การนั้นโรงเรียนได้จัดทำ
โครงการหลักของโรงเรยี นไว้รองรับ คือ โครงการตามนโยบายของรัฐ ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ทันเวลา และทำได้
จริงตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจำปี

31
หมวด 3
นักเรียนและผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสีย (Student and Stakeholder)
โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมนุ บี ำรุง” มกี ารรบั ฟงั เสียงของนกั เรยี น ท้งั ในอดีต ปจั จบุ ันและอนาคต ตลอดจนผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสียโดยใช้รูปแบบระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL ขับเคลื่อนการทำงานด้วยกระบวนการตามระบบ
วงจรคุณภาพ PDCA เปน็ การบรหิ ารงานแบบมีส่วนร่วมทม่ี งุ่ เน้นพฒั นางานใหไ้ ด้มาตรฐาน นำไปส่กู ารพฒั นาหลักสูตร
และกระบวนการเรยี นรู้ ตลอดจนการสรา้ งความผกู พันท่มี ตี ่อโรงเรียน
3.1 เสยี งของนักเรียนและผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสยี (VOICE OF THE STUDENT and Stakeholder)
ก. การรบั ฟงั นกั เรยี นและผมู้ สี ว่ นได้ส่วนเสยี (STUDENT and Stakeholder Listening)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ได้จัดโครงสรา้ งการบริหารจัดการศกึ ษาโดยใช้ หลักธรรมาภิบาล และ
การกระจายอำนาจ บนหลักการมสี ว่ นร่วมและการขับเคล่ือนโดยใช้บริหารคุณภาพ “PTN MODEL” มีผู้อำนวยการ
โรงเรียนเป็นผู้นำสูงสุด แบ่งการบริหารงานเป็น 5 ฝ่ายงาน คือ ฝ่ายบริหารงานวิชาการ ฝ่ายบริหารงานงบประมาณ
แผนงาน ฝ่ายบริหารงานบุคคล ฝ่ายบริหารงานทั่วไป และฝ่ายบริหารงานกิจการนักเรียน แต่ละฝ่ายบริหารงาน
แต่งตั้งคณะกรรมการการดำเนินงานหัวหน้างาน/หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ รองผู้อำนวยการเป็นผู้นิเทศ กำกับ
ตดิ ตามงาน และรายงานผลการดำเนนิ งานตอ่ ฝา่ ยบริหารตามตามลำดบั ขน้ั เม่อื มีปัญหาเร่อื งต่าง ๆ ท่เี กดิ จากความพึง
พอใจหรือไม่พึงพอใจ เรื่องจะส่งไปยังฝ่ายบรหิ ารงานที่เกี่ยวข้อง และเป็นผู้ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการของ
ฝ่ายบริหารงานนั้นๆ รวมถึงการวางแผนการป้องกันก่อนเกิดปัญหาในทุกกลุ่มงานนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
(Current STUDENT and Stakeholders) ซงึ่ ดำเนนิ การเปน็ ไปตามแผนภาพที่ 3-1

แผนภาพท่ี 3-1 แสดงการฟังนักเรยี นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนักเรียนและผูม้ ีส่วนได้ส่วนเสีย

32

(1) นกั เรียนในปจั จบุ นั และผมู้ สี ่วนไดส้ ่วนเสีย (Current STUDENT and Stakeholders)
เนื่องจากโรงเรยี นมีนักเรียนอยู่รวมกันทำให้สงั คมมีความคดิ เห็นทีแ่ ตกต่างกันในด้านต่าง ๆ ด้านการจดั การ
เรยี นรู้ การจดั กิจกรรม รวมท้งั การบริหารจัดการอ่ืนๆ ฝ่ายบรหิ ารงานกจิ การนกั เรียนได้จดั ทำระบบสารสนเทศการรับ
ฟังนักเรยี น ผปู้ กครอง และผู้มีสว่ นไดส้ ่วนเสยี อื่น ๆ เพอ่ื ใช้เปน็ ขอ้ มลู สำคัญในการบรหิ าร พฒั นาโรงเรียน การรบั ฟัง
นักเรียนปัจจุบัน การรับฟังทางตรง โดยการตรวจสอบพันธกิจด้านผู้เรียน และจัดทำฐานข้อมูลของนักเรียนปัจจุบัน
โดยแยกตามโครงสร้างประชากร สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ กำหนดกลยุทธ์ วิธีการรับฟังเสียงนักเรียนจากสภา
นักเรียนโดยผ่านการประชุมจากตวั แทนของนกั เรยี นแต่ละห้องเรียน ซึ่งมีการประชุมทุกเดอื นเพื่อชี้แจง กำหนดการ
ติดต่อสื่อสารต่าง ๆ เช่น ทางโทรศัพท์ ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไลน์ อินเตอร์เน็ต เฟซบุ๊ก ติดต่อด้วยวาจา หนังสือ
ราชการ จดหมายจากโรงเรียนการเย่ียมบา้ น ประชุมผปู้ กครอง ประชุมเครอื ขา่ ยผู้ปกครอง มีการวิเคราะห์ข้อมูลโดย
หาประเด็นความต้องการและนำข้อมูลไปปรบั กระบวนการทำงานและให้บริการท่ีสอดคลอ้ งกับพนั ธกิจดา้ นการจัดการ
เรียนรู้ และการจดั การศึกษาของสังคมโลก

(2) การรับฟงั เสยี งของนักเรียนอนาคต และผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย (Potential STUDENT and
Stakeholder)

โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ” มวี ธิ กี ารรับฟงั เสียงของนักเรียนในอนาคตโดยการตรวจสอบพันธกิจด้าน
ผู้เรยี น พฒั นาผูเ้ รยี นให้เตม็ ศักยภาพ ใหม้ ีความเป็นเลิศด้านวชิ าการ ส่มู าตรฐานสากล มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดำรงตน
บนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย จิตใจ มีจิตสาธารณะ เสียสละ และ
รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม นำมากำหนดกล่มุ ผู้เรยี นกลุ่มผู้เกยี่ วข้อง จดั ทำฐานขอ้ มูลของนักเรียนในอนาคต ชนั้ ประถมศึกษา
ปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ ฐานข้อมูลศิษย์เก่าโดยจำแนกตามโครงสร้างประชากร
สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ กำหนดกลยุทธ์ วิธีการรับฟังเสียงนักเรียนจากศิษย์เก่า วิธีการรับฟังความต้องการของ
นักเรียนในอนาคตโดยการติดต่อสื่อสารต่าง ๆ เช่น ทางโทรศัพท์ ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไลน์, อินเตอร์เน็ต, เฟซบุ๊ก
การจัดงานเปิดบ้านวิชาการโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ติดต่อด้วยวาจา หนังสือราชการ จดหมาย ประชุม
ผปู้ กครอง วเิ คราะหป์ ระเด็นความต้องการ พฒั นาขอ้ มลู เพอื่ ปรับกระบวนการทำงาน และการบรกิ ารใหส้ อดคล้องกับ
ความต้องการของนักเรียนในอนาคต เมอ่ื เขา้ มาศกึ ษาตอ่ ในโรงเรยี น

ข. การประเมินความพงึ พอใจและความผูกพนั ของนกั เรยี นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสยี (Determination of
STUDENT and Stakeholders Satisfaction and ENGAGEMENT)

(1) ความพึงพอใจ ความไม่พึงพอใจและความผูกพัน (Satisfaction Dissatisfaction and
ENGAGEMENT)

โรงเรยี นปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ” มีวธิ กี ารในการประเมนิ ความพงึ พอใจ ความไม่พงึ พอใจและความผูกพัน
ของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทำได้โดยช่องทางเดียวกันและประเมินไปพร้อม ๆ กัน ใช้ข้อมูลสารสนเทศ
สนับสนุนการตัดสนิ ใจโดยเลือกใชข้ ้อมูลสารสนเทศที่มีความน่าเช่ือถือ ซึ่งโรงเรยี นพิจารณาจากความถูกต้องแมน่ ยำ
มคี วามสมบูรณ์ครบถว้ น สอดคลอ้ งกบั จุดมงุ่ หมาย มคี วามยืดหยนุ่ ทันตอ่ เหตกุ ารณ์ แลว้ นำมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์
คุณภาพ และองคก์ รอน่ื ทม่ี วี ัตถปุ ระสงค์ บริบทท่ใี กล้เคยี งกัน จัดทำขอ้ มูลนักเรียนในด้านความต้องการ ความคาดหวัง
และความนิยมชมชอบ จำแนกความต้องการเชิงพฤติกรรม เชิงจิตวิทยา ความแตกต่างของวัย อายุ เพศ และจาก
ระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียน โดยโรงเรยี นจดั กิจกรรมอย่างหลากหลายตอ่ เนอ่ื งอย่างสม่ำเสมอ เชน่ กจิ กรรมวนั เพอื่ ลกู
รัก โรงเรียนได้กำหนดระเบียบของโรงเรียนในการดูแลนกั เรียน มีห้องเรียนที่มีสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย ลักษณะเฉพาะ
วัฒนธรรมองค์กรคอื ยิ้มไหว้ทักทายกนั มีเอกลักษณ์ชว่ ยเหลือคนพิการ สืบสานการละเล่นกลองยาว เป็นโรงเรยี นท่ี
ครูผ้สู อนมคี วามรู้ความสามารถ ต้ังใจสอน เป็นกันเอง มีบรกิ ารทางการศึกษาอ่นื ๆ ทหี่ ลากหลายอย่าง เช่น กิจกรรม
วันไหว้ครู กิจกรรมวันเกียรตยิ ศ โครงการแสดงความยนิ ดกี ับนกั เรยี นที่เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โครงการพช่ี ว่ ย

33
น้อง กิจกรรมปฐมนเิ ทศ กิจกรรมปัจฉมิ นิเทศ กิจกรรมกีฬาสี กิจกรรมลูกเสือ มีการแบ่งพื้นที่ในโรงเรียนให้นักเรียน
รับผิดชอบดูแลกจิ กรรมการเย่ียมบา้ น จดั ทำข้อมูลสารสนเทศประชาสมั พนั ธ์โรงเรียน เปดิ เพลงโรงเรียนตอนเชา้ ทกุ วัน
กอ่ นเขา้ แถว พร้อมประเมนิ ความพึงพอใจ จดั ระบบบริการรับฟงั ความตอ้ งการหลากหลายช่องทาง เชน่ โทรศพั ท์ ทาง
โทรศัพท์เคลื่อนที่ ไลน์, อินเตอร์เน็ต, เฟซบุ๊ก ติดต่อด้วยวาจา หนังสือราชการ จดหมาย ประชุมผู้ปกครอง ทาง
มาตรฐานการปฏิบัติงานนำไปกำหนดตัวชี้วัด และประกาศให้นักเรียนทราบ การประเมินความพึงพอใจและความ
ผูกพันของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Determination of STUDENT and Stakeholders Satisfaction and
ENGAGEMENT) ซ่ึงดำเนนิ การเป็นไปตามแผนภาพท่ี 3-2

แผนภาพท่ี 3-2 แสดงการฟังนักเรียนและผ้มู ีส่วนได้สว่ นเสยี นักเรียนและผู้มีส่วนไดส้ ว่ นเสีย

34

(2) ความพงึ พอใจเปรยี บเทยี บกบั คแู่ ข่ง (Satisfaction Relative to Competitors)
โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนีบำรุง” มรี วบรวมข้อมูลและสำรวจความพึงพอใจของนกั เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วน
เสียต่อโรงเรียนคู่เทียบที่มีบริบทและสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกนั ซึ่งข้อมูลสารสนเทศของผลการประเมินความพึง
พอใจได้มาจากผลการทดสอบระดับชาติ O-NET เม่อื ได้ผลการเปรียบเทียบจะนำมาวิเคราะห์ถงึ ปัจจัยต่าง ๆ ท่ีมผี ลต่อ
องค์กรและคู่แข่งจะสามารถปรับจุดอ่อน ส่งเสริมจุดแข็ง สร้างโอกาสการพัฒนาและรับอุปสรรคที่อาจจะเกิดข้นึ กับ
องคก์ ร

3.2 ความผกู พันของนกั เรียนและผ้มู ีส่วนไดส้ ่วนเสีย (Student and Stakeholder Engagement)
โรงเรียนมวี ิธใี นการสรา้ งความผูกพนั กับนักเรยี นเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการ และสร้างความผูกพนั ในด้าน

ต่าง ๆ ดังน้ี
ก. หลักสูตรและการสนับสนุนนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Product Offering STUDENT and

Stakeholder Support)
(1) หลักสตู ร (Product Offering)
โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนีบำรุง”ไดจ้ ดั ต้งั คณะกรรมการจัดทำหลกั สูตร และไดน้ ำขอ้ มูลความต้องการของ

นักเรียนเกี่ยวกับหลักสูตร โดยจำแนกกลุ่มผู้ใช้บริการตามลักษณะภูมิศาสตร์ (จังหวัด) ตามหลักประชากรศาสตร์
ภาษา เพศ เชื้อชาติ ครอบครัว รายได้ การศึกษา อาชีพ ตามหลักจิตวิทยา วิถีการดำเนินชีวิต ความเชื่อ และ
พฤติกรรม จำแนกผู้รับบริการด้านความท้าทายเชิงยุทธศาสตร์ สภาพสังคมเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
ศึกษาข้อมูลการรับนักเรยี น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1, ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เนื่องจากที่ตั้งของโรงเรียน อยู่ในพื้นทีซ่ ึง่ มี
ลักษณะเป็นสังคมกึ่งเมืองกึ่งชนบท มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงมีความได้เปรียบในฐานะเป็นแหล่งที่มีความ
หลากหลายทางด้านอุดมการณ์ วัฒนธรรมชาวมอญ แนวคิด เศรษฐกิจ สังคม และยังสามารถเชือ่ มโยงเครือขา่ ยด้าน
วิชาการกับสถาบันต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ใช้ข้อมูลสารสนเทศ สนับสนุนการ
ตัดสินใจโดยเลอื กใชข้ ้อมลู สารสนเทศท่ีมีความนา่ เชอื่ ถือ ซ่งึ โรงเรียนพิจารณาจากความถูกตอ้ งแม่นยำ มคี วามสมบูรณ์
ครบถ้วน สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย มีความยืดหยุ่น ทันต่อเหตกุ ารณ์ และได้มกี ระบวนการประเมนิ หลกั สตู ร และนำ
ผลทปี่ ระเมนิ มาตอบสนองแล้วนำมาเปรียบเทยี บกับเกณฑ์คุณภาพ และองค์กรอื่นทมี่ ีวัตถุประสงค์ บริบทท่ีใกล้เคียง
กัน โรงเรียนยงั ไดม้ ีการเปดิ หลักสูตรวิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระ (Independent Study : IS) เพือ่ ใหน้ ักเรียนได้รู้ตาม
ความถนดั ของตนเองอีกดว้ ย

(2) การสนบั สนุนนักเรยี นและผู้มสี ่วนได้สว่ นเสยี (STUDENT and Stakeholder Support)
โรงเรียนมีดำเนินการโดยการนำข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับนักเรียนด้านหลักสูตรการจัดการศึกษา

การจัดกจิ กรรมส่งเสริมการเรยี นการสอน เช่น การจดั บูรณาการสาระทอ้ งถิ่นของนักเรียนทงั้ 6 ระดับชั้น ได้ศึกษาวัด
และวฒั นธรรมชาวมอญทอี่ ยู่บริเวณรอบๆ โรงเรยี นแบบบรู ณาการ และภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ มกี ารพฒั นาครูโดยให้อบรม
หลักสูตรต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนอย่างหลากหลาย จนเป็นโรงเรียนที่ผู้ปกครองให้
ความไว้วางใจให้บุตรหลานเข้ามาศึกษาตอ่ สำหรับการส่งต่อนักเรียนเพื่อเข้าศึกษาในระดบั อุดมศึกษานั้น นอกจาก
นักเรียนจะสอบคัดเลือกโดยตรงแล้ว ยังมีโควตาเข้ามหาวิทยาลัยต่าง ๆ ให้กับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี จัดทำ
โครงการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ และการบริหารในระบบ MOU กับมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐ และ
เอกชน ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสินทร์ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี เปน็ ตน้

ผู้นำระดบั สงู ไดว้ างรากฐาน และกำหนดทศิ ทางในการดำเนนิ งานร่วมกับสถาบันการศกึ ษาอนื่ องคก์ ร
ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และภาคเอกชนที่มีความตั้งใจสนับสนุนงานด้านการศึกษา เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ ยน
เรียนรู้และเป็นพนั ธมิตรทางการศึกษา ร่วมกันพัฒนาโรงเรียนสู่ความเป็นเลิศ โดยโรงเรียนวางเป้าหมายสู่ความเป็น

35

เลิศไว้ 4 ด้าน คือ ด้านคณุ ภาพผู้เรียน ดา้ นคุณภาพครูและบุคลากรของโรงเรียน ดา้ นความรว่ มมอื จากชุมชนและผู้มี
ส่วนไดส้ ว่ นเสีย และนำไปสกู่ ารด้านการพฒั นาที่ยง่ั ยนื ในโรงเรียน มีการประชาสมั พันธ์ในการบริการให้กับผู้เกี่ยวข้อง
รับทราบ ส่วนนักเรียนปัจจุบันแจ้งในที่ประชุมผู้ปกครอง นักเรียนในอนาคต ศิษย์เก่า แจ้งในเว็บไซต์โรงเรียน และ
โรงเรยี นยงั มรี ะบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียนและบรหิ ารการจัดการสถานศึกษาทที่ ำงานโดยระบบคอมพิวเตอร์ (Student
Care) ท่สี ามารถช่วยครผู ู้สอน นกั เรียนและผปู้ กครองในการเรยี นการสอนอีกด้วย

(3) การจำแนกนกั เรียน (STUDENT Segmentation)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ใช้สารสนเทศเกี่ยวกับนกั เรียน และหลักสูตรในการจำแนกกลมุ่

นักเรียนออกเป็น 3 กล่มุ โดยนำผลการเรียนของนักเรียนมาวเิ คราะหน์ กั เรยี นรายบุคคล และจัดกล่มุ นกั เรยี นออกเป็น
3 กลุ่ม คือ กลุ่มเก่ง (3.00-4.00) กลุ่มปานกลาง (2.00-2.99) กลุ่มอ่อน (0-1.99) และจัดการเรียนการสอนที่ช่วยให้
กลุ่มเกง่ กลุม่ ปานกลาง กลุ่มออ่ น ไดศ้ กึ ษาอยา่ งเตม็ ศักยภาพโดยครูเปิดโอกาสให้นกั เรียนได้ศึกษาตามความเข้าใจใช้
กระบวนการศกึ ษาค้นควา้ คิดวิเคราะหใ์ หส้ อดคลอ้ งกบั ความสามารถของตนเองนอกจากนัน้ โรงเรียนยังใช้สาระสนเทศ
ของนักเรยี นและผมู้ สี ่วนได้ส่วนเสียมาจัดกิจกรรมปรับปรงุ นกั เรยี นกลมุ่ อ่อนพัฒนาส่งเสริมนกั เรียนเก่งกลุ่มปานกลาง
นักเรียนปกติ ทางโรงเรียนไดม้ ีการพัฒนาและสง่ เสริมนกั เรียน ตามศกั ยภาพและความถนัด โดยการจัดกิจกรรมสอน
เสริมการอา่ นออกเขยี นได้ คา่ ยภาษาไทย คา่ ยคณติ ศาสตร์ ค่ายวิทยาศาสตร์ คา่ ยประวตั ศิ าสตร์ คา่ ยคุณธรรม เปน็ ตน้

ข. การสร้างความสัมพันธ์กับนกั เรียนและผ้มู ีสว่ นได้ส่วนเสยี (Building STUDENT and Stakeholder
Relationships)

(1) การจดั การความสมั พันธ์ (Relationship Management)
โรงเรียนไดจ้ ดั ทำระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรยี นท่อี ยใู่ นพืน้ ที่บริการของโรงเรียน มขี อ้ มลู สารสนเทศของ
นักเรียนที่อยู่ในพื้นที่บริการของโรงเรียน สำรวจความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครองชุมชนได้วางแผนการจัดการ
เรยี นการสอน มเี อกสารสำรวจความต้องการของนักเรียนผ้ปู กครองและได้มกี ารจัดกิจกรรมเปิดบา้ นวิชาการ (Open
House) ให้นกั เรยี นระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ของโรงเรียนในละแวกใกล้เคียง ได้เขา้ ร่วมกจิ กรรมของทางโรงเรียน
ทำให้โรงเรยี นไดม้ ีจำนวนนกั เรียนเขา้ ศึกษาตอ่ ในระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เพิ่มมากข้นึ
ใชก้ ารวางแผนการจัดการเรียนการสอน จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาที่มงุ่ พัฒนาผลสัมฤทธิ์ของนกั เรียนให้เต็ม
ตามศักยภาพ ตอบสนองความต้องการของนักเรียน และทิศทางของโรงเรียน มีการวิเคราะห์มาตรฐานและตัวชี้วัด
โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล หลักสูตรโครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทาง
คณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ จัดการเรยี นการสอนกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ม่งุ พัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะตามกำหนด มี
ขอบขา่ ยรายวิชา และแผนการจัดการเรียนรู้ ทส่ี ามารถพัฒนานักเรยี นใหม้ ีคุณสมบัติตามทกี่ ำหนดจัดสภาพแวดล้อม
บรรยากาศ และบริการแหล่งเรียนรู้ที่เอ้ืออำนวยต่อการเรียนรู้ของนกั เรียนตอบสนองต่อการพัฒนาคุณภาพการจัด
การศึกษาของโรงเรียน มีห้องเรียนคุณภาพ มุมความรู้ บอร์ดความรู้ ห้องสมุดมีชีวิต ห้องสืบค้น และแหล่งเรียนรู้
ภายนอกท่ตี อบสนองต่อการพฒั นาคุณภาพการศึกษา จัดกิจกรรมสรา้ งความสมั พนั ธอ์ ย่างหลากหลายรูปแบบต่อเนื่อง
จัดระบบการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียนแบบรอบด้าน มีกระบวนการดูแลช่วยเหลือนักเรียนท่ีมีแบบแผนข้ันตอนชดั เจน
ดูแลอย่างใกล้ชดิ และต่อเนอื่ ง จัดโครงการเย่ียมบ้านนกั เรียนในทุกระดับช้นั ชุมชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบร่วมตัดสินใจ
และพฒั นานักเรียนจัดบรกิ ารแนะแนวเชงิ รุกที่มุง่ อนาคตและสัมฤทธ์ิผลของนกั เรยี น จัดสอนเสรมิ ความรู้ในวชิ าต่าง ๆ
ใหน้ กั เรียนโดยผู้เช่ียวชาญผู้มีความรู้ท่ีมคี วามสามารถและความถนัดในแต่ละวิชา และเชิญมาแนะแนวความรู้ชีวิตใน
มหาวิทยาลัย พรอ้ มทั้งแนะแนวการศกึ ษาตอ่ และอาชพี นกั เรยี นสว่ นมากศึกษาตอ่ ในมหาวิทยาลัยของรัฐ และเอกชน
และมีสถิติสอบเขา้ เพ่มิ ข้นึ ทุกปี จดั กิจกรรมสร้างความสัมพนั ธก์ ับนกั เรยี น ผู้ปกครอง และชมุ ชนอยา่ งนอ้ ยปีละ 2 ครั้ง
จึงทำให้ผู้ปกครองมีความสัมพันธ์ที่ดีให้ความร่วมมือในการดแู ลนกั เรียน จัดระบบบริการรับฟังข้อเสนอแนะ สำรวจ
ความคิดเห็นของนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนที่มีต่อการดำเนินงานของโรงเรียนมีการประชุมชี้แจงการดำเนินงาน

36

แนวทางพัฒนาของโรงเรียนต่อนักเรยี น ผ้ปู กครอง คณะกรรมการเครือข่ายผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศึกษาข้ัน
พื้นฐานได้แสดงความคิดเห็นและความต้องการในการพัฒนาโรงเรียน มีการประกาศให้นักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วน
เสยี ได้รับทราบ

โรงเรียนได้มกี ารมอบทนุ การศึกษาใหก้ ับนักเรียนที่สนใจศึกษาต่อในระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนปลายโดยการ
คดั จากผลการเรยี นเฉลยี่ สะสมและผลการทดสอบระดับชาติ เพอ่ื ใหเ้ กิดขวัญกำลงั ใจแกน่ ักเรยี นในการศึกษาตอ่

โรงเรียนได้มีการจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ กิจกรรมวันปฐมนิเทศ กิจกรรมประดับตราสัญลักษณ์โรงเรียน
เพ่ือให้เกิดความสัมพันธร์ ะหว่างนักเรยี นด้วยกนั

(2) การจดั การกับข้อรอ้ งเรยี น (Complaint Management)
โรงเรยี นมีแนวปฏิบัตใิ นการจัดการกบั ขอ้ รอ้ งเรียน อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้นักเรียนเกิดความเช่อื มนั่
และเสรมิ สรา้ งความพึงพอใจ และความผกู พนั ดงั นี้

1. กำหนดแนวทางการรับข้อรอ้ งเรยี น ขอ้ สงสยั ทางโทรศัพท์ ทางเวบ็ บอร์ด ทางไปรษณยี ์
อิเล็กทรอนิกส์ ทางเฟซบุ๊ก ทางจดหมาย และรบั ทราบทางวาจา

2. ประชุมปรกึ ษาหารือวิเคราะหข์ ้อร้องเรยี น
3. จำแนกขอ้ รอ้ งเรียน
4. ประชุมเพือ่ หาแนวทางในการสร้างมาตรฐานการปฏบิ ัติ
5. กรณที ี่ข้อรอ้ งเรยี นต้องแกไ้ ข ไดศ้ กึ ษากฎระเบยี บของโรงเรียนให้ชดั เจน
6. กำหนดระยะเวลาตอบกลบั ให้แก่ผรู้ ้องเรยี น
7. สร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงาน และกำหนดการดำเนินงาน โดยประกาศให้นักเรียนและ
ผู้มีส่วนได้สว่ นเสยี ทราบ

37
หมวด 4
การวดั การวเิ คราะห์ และการจัดการความรู้
(Measurement, Analysis and Knowledge Management)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ได้นำระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL เข้ามามีส่วนร่วมใน
การบริหารของโรงเรียนเพื่อให้บรรลุทิศทางการบรหิ ารงานตาม (วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์) ซึ่งอยู่ภายใต้
งานตามโครงสร้างการบริหารสำหรบั แผนกลยทุ ธ์โรงเรียนได้อธิบายไวใ้ นข้อที่ 2.1 และ2.2 ทั้งงานภายใต้โครงสร้าง
การบริหาร และกิจกรรม/โครงการภายใต้แผนกลยุทธ์ของโรงเรยี นท่ีกำหนดไว้ในแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาระยะ
4 ปี (พ.ศ. 2560 – 2563) โดยมีการนำข้อมลู สารสนเทศที่ผ่านการวิเคราะห์ ซึ่งโรงเรยี นได้ดำเนินการตามแผนภาพ
ท่ี 4-1

แผนภาพท่ี 4-1 แสดงความสัมพนั ธข์ องระบบงานตามโครงสรา้ งการบรหิ าร และแผนกลยุทธ์

38

4.1 การวัด การวิเคราะห์ และการปรับปรงุ ผลกำ-รดำเนนิ การของโรงเรียน (Measurement, Analysis and
Improvement of Organization Performance)

ก. การวัดผลการดำเนนิ การ (PERFORMANCE MEASUREMENT)
(1) ตวั วดั ผลการดำเนินการ (PERFORMANCE MEASURE)
โรงเรยี นให้ความสำคญั กบั ข้อมูลสารสนเทศ เพอ่ื ใชเ้ ป็นพื้นฐานในการกำหนดนโยบาย การวินิจฉัยส่ังการ

การแก้ปัญหา และการพัฒนา รวมถึงการกำหนดพันธกิจ และกลยุทธ์ของโรงเรียนเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของ
สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป สนองความต้องการของนักเรียน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน
โดยกำหนดเป็นนโยบายของโรงเรียน กำหนดให้มีงานสารสนเทศของโรงเรียนสังกัดกลุ่มบริหารงานทั่วไป และ
กำหนดให้งานสารสนเทศเป็นโครงสร้างบังคับที่จะต้องจัดตั้งให้มีในทุกส่วนงานของโรงเรียนเพื่อมีหน้าที่จัดเก็บ
วิเคราะห์ สงั เคราะห์ขอ้ มูลในฝา่ ยงานของตนเอง และส่งผ่านการประมวลผลไปยังส่วนงานสารสนเทศของโรงเรยี นเพื่อ
เผยแพรต่ อ่ สาธารณชน นอกจากขอ้ มลู สารสนเทศท่ไี ด้จากการประมวลผลของฝ่ายงานต่าง ๆ แล้วผู้บรหิ ารยงั เน้นการ
มีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการบริหารของโรงเรียนเสนอข้อมูลทั้งการรายงานด้วยวาจา การแสดงความ
คิดเห็นเพิ่มเติม รวมถึงการสังเกตการณ์ของฝ่ายบริหาร นำข้อมูลทุกมิติมาประมวลผลเป็นสารสนเทศประกอบการ
ตดั สนิ ใจของฝา่ ยบรหิ าร

โรงเรียนให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงาน และการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์เป็นหลัก
ข้อมูลสารสนเทศที่ได้จากการดำเนินการจะต้องตอบสนองตัวชี้วัดตามแผนเชิงกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติงานของ
โรงเรียน ผู้นำระดับสูงของโรงเรียนเป็นผู้กำหนด และทบทวนตัวชี้วัดร่วมกับบุคลากรของโรงเรียนมีคณะกรรมการ
ติดตาม สรุป และประเมินผลงาน เมื่อสิ้นสุดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อให้ข้อเสนอแนะ
การปรับปรุง และการเพมิ่ ศักยภาพตามแผนการปฏบิ ตั ิงานประจำปี และแผนกลยุทธข์ องโรงเรียน

ผู้นำระดับสูงใช้ข้อมลู สารสนเทศเป็นฐานในการวางแผนการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ เพื่อกำหนดทศิ
ทางการทำงานของบุคลากร ใหม้ คี วามสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกนั เพ่อื ตอบสนองความต้องการของผู้เรยี น ชุมชน
และสงั คม และบรรลุตามวัตถปุ ระสงคข์ องแผนกลยุทธ์ และแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปีที่ไดก้ ำหนดไว้

ข้อมูลสารสนเทศ และตัวชี้วัดความสำเร็จการดำเนินงานวัดจากผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ผู้นำระดับสูง
หัวหน้างานฝ่ายต่าง ๆ ได้ร่วมกันกำหนดตัววัดผลการดำเนินงานของโรงเรียน ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผลการ
ทดสอบระดับชาติของนกั เรียน จำนวนผลงานวิชาการของครู ความคิดเห็นชุมชนเครือข่าย จำนวนโครงการกจิ กรรม
สถิติผู้เยี่ยมชม เป็นต้น และมีการจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลในการสรุปรายงานประจำปี และเผยแพร่ทางเว็บไซต์
www.pathumnun.ac.th จดหมายข่าว มีการเก็บข้อมูลเพื่อติดตามผลภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพื่อจะได้นำข้อมูล
ยอ้ นกลบั มาพจิ ารณา วางแผนการดำเนินงานตามแผนปฏบิ ัตงิ านประจำปีตอ่ ไป

โรงเรียนใช้หลักการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม (School - Based management) ควบคู่กับหลัก
ธรรมาภิบาล (Good Governance) โดยใช้ “ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL ” เป็นกลไกในการขับเคลื่อน
เนน้ การปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบที่เก่ียวข้อง ยดึ ม่นั ในความดงี าม มีความโปรง่ ใส รบั ผิดชอบตอ่ นักเรียน และผู้มีส่วนได้
ส่วนเสีย เน้นความคุ้มค่า และความประหยัดของทรัพยากรการบริหารในการจัดสรรงบประมาณประจำปีตาม
งบประมาณเงินรายได้ งบประมาณแผ่นดิน การกำหนดกิจกรรม โครงการ ตามแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับ
ยุทธศาสตร์ พันธกิจ จุดเน้นของโรงเรียน โดยมีหัวหน้างานแผนงานโรงเรียน เจ้าหน้าที่การเงินเป็นผู้ควบคุม มีการ
จดั ทำรายงานเงนิ คงเหลือประจำวันรายงานตอ่ คณะผบู้ ริหาร และรายงานต่อตน้ สงั กัดทกุ 1 เดอื น มีการนิเทศติดตาม
ผลการดำเนินการเป็นระยะ จัดระบบควบคุมความเส่ียง ตามกฎข้อบังคับของหน่วยงานต้นสังกัด ส่วนรายรับท่ีไดม้ า
จากการจัดกิจกรรม การบริจาค การให้บริการทางวิชาการ การให้บริการด้านอาคารสถานที่จากแหล่งทุนภายนอก
สะสมอย่ใู นบญั ชีรายไดส้ ถานศึกษา

39

(2) ขอ้ มลู เชิงเปรียบเทียบ (Comparative Data)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ใช้ข้อมูลสารสนเทศ สนับสนุนการตัดสินใจโดยเลือกใช้ข้อมูล

สารสนเทศที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งโรงเรียนพิจารณาจากความถกู ต้องแม่นยำ มีความสมบูรณ์ครบถ้วน สอดคล้องกบั
จุดม่งุ หมาย มีความยดื หย่นุ ทันตอ่ เหตกุ ารณ์ แลว้ นำมาเปรยี บเทียบกบั เกณฑ์คุณภาพ และองคก์ รอืน่ ท่มี ีวตั ถุประสงค์
บรบิ ททีใ่ กลเ้ คียงกนั นำผลจากการศกึ ษาสภาพแวดล้อมภายในและภายนอก (SWOT Analysis) รายงานประจำปขี อง
สถานศกึ ษา (SAR) และรายงานการประเมนิ คุณภาพภายนอกสถานศกึ ษา ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน (สมศ.) รวมถึง
ผลการทดสอบระดบั ชาติของทกุ ระดับชัน้ มาสนับสนุนการตัดสนิ ใจในระดบั ปฏิบัติการ และระดับกลยุทธ์ เช่น การใช้
ข้อมูลสรุปผลการประเมินคุณภาพภายนอก และภายใน มากำหนดการวางแผนปฏิบัติการประจำปีของโรงเรียนซึ่ง
สง่ ผลใหผ้ ลการประเมินคุณภาพภายนอก และภายในของโรงเรียนในแต่ละรอบการประเมินนั้นอยู่ในระดับดีขึ้นอย่าง
ต่อเนอ่ื ง นอกจากนโี้ รงเรียนยังใชข้ ้อมูลเทียบเคียงกับโรงเรียนเทพศิรนิ ทร์คลองสิบสาม ปทุมธานี ซ่ึงเป็นโรงเรียนท่ีมี
บริบทใกล้เคยี งกนั และยังเปน็ โรงเรียนท่อี ยู่ในโครงการโรงเรยี นมาตรฐานสากลในจงั หวัดปทุมธานี มกี ารใช้ข้อมูลเชิง
เปรียบเทยี บเพ่อื สนับสนนุ การตัดสนิ ใจในระดับปฏิบตั ิการ และระดบั กลยทุ ธ์ท่สี ำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ให้บรรลุเป้าหมายทั้ง 5 ด้านคือ 1) ด้านคุณภาพผู้เรียน ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการสูงขึ้น มีทักษะชีวิต อาชีพ
และสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี 2) ด้านคุณภาพการจัดการศึกษา โรงเรียนมีการบริหารจัดทำข้อมูลสารสนเทศ
ระบบประกันคุณภาพภายใน และระบบการวัดและประเมนิ ผลอย่างมีคุณภาพ 3) ด้านการสร้างเสริมสังคมแห่งการ
เรยี นรู้ โรงเรียนมีระบบดูแลชว่ ยเหลอื นักเรยี น (Student Care) และจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะ
ชีวิต ทักษะอาชีพและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จัดการเรียนรู้แบบเรียนรวม และจัดกิจกรรมค่ายทักษะชีวิตและ
วิชาการอย่างเป็นระบบ 4) ด้านการพัฒนาอัตตลักษณ์สถานศึกษา จัดกิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
และวัฒนธรรมประเทศเพื่อนบ้าน 5) ด้านการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา อาคารสถานที่ และแหล่งเรียนรู้ให้เอื้อตอ่
การเรยี นร้แู ละมกี ารบรหิ ารจัดการศึกษาแบบมสี ่วนร่วมโดยยดึ หลักธรรมาภิบาล

(3) ข้อมลู นักเรียนและผ้มู ีสว่ นได้ส่วนเสยี (STUDENT and STAKEHOLDER Data)
โรงเรียนได้กำหนดใหม้ กี ารจัดระบบข้อมูล สารสนเทศทเี่ ก่ียวเน่อื งกบั ผู้เรียน ผปู้ กครองนักเรียนไว้ทั้งใน

รูปแบบเอกสาร เช่น การกรอกทะเบียนประวัติประจำตัวนักเรียนทุกคน ซึ่งโรงเรียนกำหนดข้อมูลที่ต้องกรอกให้
ครบถ้วน ครอบคลุมข้อมูลทตี่ ้องการมาใช้ในการบรหิ ารจดั การ มกี ารปรบั ปรุงขอ้ มูลทกุ ปีการศึกษา เพื่อให้ได้ข้อมูลที่
เปน็ ปจั จบุ ัน การจัดทำสมุดรายงานประจำตวั ผู้เรียน การจัดทำสมดุ บันทึกสขุ ภาพ นอกจากน้ยี ังมียังจัดเกบ็ ในลักษณะ
ฐานข้อมูล ในระบบสารสนเทศนักเรียน (DMC) ไว้ เพื่อให้บุคลากรทุกกลุ่มงานที่เก่ียวข้องเข้าไปปรับปรุงขอ้ มูลหรือ
นำขอ้ มลู ออกมาใชไ้ ด้ ซึ่งข้อมูลสารสนเทศท้งั หมดจะมีบุคลากรทม่ี คี วามชำนาญเปน็ ผู้ดูแลระบบ เพ่ือป้องกันมิให้ข้อมูล
สารสนเทศทีส่ ำคัญถูกทำลาย แก้ไข หรอื เปล่ยี นแปลงไป

สำหรับข้อมูลด้านความเห็นของผู้ปกครองและชุมชนนั้น โรงเรียนได้ดำเนินการระดมความคิดเห็น
ผู้ปกครองและชุมชน จากการประชุมผู้ปกครองและผู้ปกครองเครือข่าย, ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและบริหาร
สถานศึกษาแบบออนไลน์ (Student care), การเปิดรับความคิดเห็นทางเว็บไซต์, เฟซบุ๊กโรงเรียน รวมไปถึงการ
โทรศัพทส์ ายตรงถงึ ฝ่ายบรหิ ารของโรงเรียน

ทั้งน้ีข้อมูลที่ได้จากช่องทางต่าง ๆ โรงเรียนจะนำมาประมวลผล และจัดทำเป็นสารสนเทศ แจ้งให้
บคุ ลากรท่เี กย่ี วข้องไดร้ ับทราบและนำไปเปน็ พ้ืนฐานในการพฒั นางาน และวางแผนบริหารจดั การตอ่ ไป

(4) ความคลอ่ งตวั ของการวัดผล (Measurement Agility)
โรงเรียนมีการวัดผลการดำเนินงานใช้หลักวงจรคุณภาพ PDCA ท่ีสอดคล้องกับกลยุทธ์ พันธกิจ และ

วิสัยทัศน์โรงเรียน ผู้นำระดับสูงและหัวหน้างานมีการติดตามประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของผู้ปฏิบัติงานโดยใช้
กระบวนการนิเทศภายใน กำหนดเกณฑ์ และเครื่องมือวัดในการจัดเก็บข้อมลู ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของโรงเรียน

40

เน้นการประเมินที่เชื่อมโยงทุกระดับตัง้ แต่ระดับปฏิบัตกิ ารจนถงึ ระดับกลยุทธ์ของโรงเรียน พัฒนาระบบการจัดเกบ็
ข้อมูลให้มีความถูกตอ้ ง รวดเร็ว แม่นยำและสร้างระบบสารสนเทศที่สนบั สนุนการรายงานผลอย่างรวดเร็ว เพื่อใช้ใน
การบริหารจัดการแผนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง และสภาพการดำเนินงานของโรงเรียนได้ทันท่วงที
ส่งผลใหเ้ กิดความย่งั ยืนของการบริหารงานในโรงเรียน และทำใหโ้ รงเรยี นไดแ้ นวปฏบิ ตั ทิ ดี่ ี

ข. การวิเคราะห์และทบทวนผลการดำเนนิ การ (PERFORMANCE ANALYSIS and Review)
โรงเรียนได้ทบทวนการดำเนินการ และขีดความสามารถของโรงเรียนภาคเรียนละ 1 ครั้งเพื่อตรวจสอบ

ประสิทธิภาพในเชิงบริหาร สามารถตอบสนองวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ของโรงเรียนมากน้อยเพียงใด และมี
ประเด็นเร่งด่วนใดที่จะต้องดำเนนิ การเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหน่วยเหนือหรือสภาพบริบทแวดล้อมโรงเรียนท่ี
เปลีย่ นไป โดยมขี ้นั ตอนในการดำเนินการดงั น้ี

ขั้นตอนท่ี 1 การรวบรวมข้อมูล ดำเนินการรวบรวมขอ้ มูล จากผลการดำเนินงานตามโครงการที่ผ่านมา
จากรายงานผลการประเมนิ คุณภาพภายใน (SAR) และผลการประเมินภายนอกของสำนักงานรับรองมาตรฐาน และ
ประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ผลการประเมินโครงการ ผลการประเมินความพึงพอใจของบุคลากรในโรงเรียน
ความคิดเห็นของผู้ปกครอง สถิติและความคิดเห็นผู้เข้ามาเยี่ยมชม สมุดเซ็นเยี่ยม และผลการประเมินโครงการ/
กิจกรรมประจำปี

ขั้นตอนที่ 2 ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล นำข้อมูลและความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่าง ๆ มาสรุปประเด็นที่
เกี่ยวข้องกับการบริหารโรงเรียนในกลุ่มงาน ฝ่ายต่าง ๆ และวิเคราะห์ประเดน็ ขอ้ มูลที่เกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ พันธกจิ
เปา้ ประสงค์ และกลยทุ ธ์ของโรงเรียน

ขั้นตอนที่ 3 ประชุมคณะกรรมการแผนงานโรงเรียน ซึ่งประกอบด้วยฝ่ายบริหาร หัวหน้าฝ่าย หัวหน้า
งาน และหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อระดมพลังสมอง ทบทวน แกไ้ ข ปรับปรุง เสนอแนวทางแกไ้ ข โดยพิจารณา
จากข้อมูลสารสนเทศที่ไดจ้ ากการรวบรวม เทียบเคียงกับเกณฑม์ าตรฐานการศึกษาของโรงเรียน ทั้งน้ีมีการพิจารณา
ร่วมกับสภาพบริบทแวดล้อมของโรงเรียนที่เปลี่ยนแปลงไป โรงเรียนปรับเปลี่ยนวิธีการ กลยุทธ์ เป้าประสงค์ของ
โรงเรยี นให้สอดคลอ้ งกบั ขอ้ บงั คับ นโยบายและมติขององค์คณะกรรมการแผนงานของโรงเรยี น

ขั้นตอนที่ 4 นำเสนอผลการทบทวน ต่อที่ประชุมในระดับโรงเรียนเพื่อขอรับความคิดเห็นเพิ่มเติม
นำเสนอคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานเพอื่ ใหค้ วามเห็นชอบนำสู่การปฏบิ ัติ ดงั แผนภาพที่ 4-2

แผนภาพท่ี 4-2 แสดงขั้นตอนในการดำเนนิ การสรุปทบทวนโครงการ

41

การดำเนนิ การทบทวนผลการดำเนินงานตามขั้นตอนดงั กล่าวข้างตน้ โรงเรยี นปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรุง”
ใช้ในการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา การปรับปรุงแนวปฏิบัติด้านงบประมาณ การเงิน และพัสดุ รวมถึงการ
ปรับปรงุ กฎระเบียบ และแนวปฏิบตั ิท่ีใชก้ บั ครู บุคลากร และนักเรียน เปน็ ต้น

โรงเรียนประเมนิ ผลความสำเรจ็ ของการดำเนินการโดยใช้เครื่องมอื วัดผลความสำเร็จการดำเนินงานตาม
แผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการประจำปี จากผลการประเมินภาระงานของบุคลากร ตามระบบประกันคุณภาพ
โดยกำหนดเป้าหมายความสำเร็จตามตัวชี้วัดของโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียนใช้การประชุมบุคลากรประจำเดือน
เพอ่ื นิเทศกำกบั ตดิ ตาม และกำหนดทิศทางการบริหารงานของโรงเรียนไปสู่เป้าหมาย โดยเฉพาะการดำเนินงานตาม
วัตถุประสงคข์ องกลยทุ ธข์ องโรงเรียน

ฝ่ายบริหารของโรงเรียนทำหน้าที่ในการกระตุ้น เสริมแรง สร้างความตระหนัก นิเทศแนะนำการ
ดำเนินงานของบุคลากรเพื่อให้บรรลุความสำเร็จตามตัวชี้วัดแต่ละกลุ่มงานและเกณฑ์โดยรวมของโรงเรียนตาม
แผนการปฏิบัติงาน โดยบุคลากรต้องเพิ่มศักยภาพของตนเองตามแผนการพัฒนาบุคลากรของโรงเรียนโดยวิธี
การศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานของโรงเรียนคู่เปรียบเทียบหรือโรงเรียนที่ประสบ
ความสำเรจ็ เฉพาะด้านในการเพ่ิมขีดความสามารถ ศกั ยภาพ เพอื่ จะได้ปฏบิ ตั งิ านให้สอดคลอ้ งกบั กลยุทธ์ ทศิ ทางการ
ดำเนินงานตามแผนปฏิบตั ิการไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ และบรรลเุ ป้าหมายของโรงเรยี น

ค. การปรับปรงุ ผลการดำเนินการ (Performance Improvement)
(1) การแลกเปลยี่ นเรียนรวู้ ธิ ีการปฏิบัติทเ่ี ปน็ เลิศ (Best Practices)
ผู้นำระดับสูง หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ และบุคลากร นำข้อมูลจาก

การทบทวน วิเคราะห์ผลการดำเนนิ งาน และแผนการปรับปรงุ มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพอื่ กำหนดการวางแผนการ
ดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายตามแผนกลยุทธ์ของโรงเรียนโดยใช้กระบวนการของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
(PLC : Professional Learning Community) ผ่านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น Google meet, Zoom,
Microsoft Teams เป็นตน้

จากกระบวนการของชุมชนแห่งการเรียนรูท้ างวิชาชีพ (PLC) สู่การต่อยอดเป็นวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ
(Best Practices) ซง่ึ ในปี พ.ศ. 2562 – 2563 โรงเรียนไดส้ นับสนนุ และส่งเสริมให้ทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้จัดทำ Best
Practices เพื่อยกระดับคุณภาพทางการศกึ ษาและการเรยี นรู้ทั้งระบบให้มปี ระสิทธิภาพที่สูงขึน้ มีความทันสมัย ทัน
ตอ่ เหตุการณ์และความเปลยี่ นแปลงของสงั คมเพ่อื พัฒนาและยกระดบั ผลการเรยี นของผูเ้ รียนให้สูงขึ้น

ผู้บริหารได้วางรากฐาน และกำหนดทิศทางในการดำเนินงานร่วมกบั สถาบันการศึกษาอื่น องค์กรที่มีความ
เชยี่ วชาญเฉพาะทาง และภาคเอกชนท่มี คี วามตั้งใจสนบั สนุนงานด้านการศกึ ษา เพอื่ ร่วมกนั แลกเปล่ยี นเรียนรแู้ ละเปน็
พนั ธมิตรทางการศกึ ษา รว่ มกนั พัฒนาโรงเรยี นส่คู วามเปน็ เลศิ โดยโรงเรยี นวางเปา้ หมายสู่ความเป็นเลิศไว้ 5 ดา้ น คือ
ด้านคณุ ภาพผู้เรยี น ด้านคุณภาพการจดั การศึกษา ด้านการสรา้ งเสรมิ สงั คมแหง่ การเรียนรู้ ดา้ นการพัฒนาอัตตลักษณ์
สถานศกึ ษา และด้านการพฒั นาคุณภาพสถานศกึ ษา ซึง่ จะนำไปสกู่ ารดา้ นการพัฒนาที่ยั่งยนื ของโรงเรยี นตอ่ ไป

(2) ผลการดำเนนิ งานในอนาคต (Future PERFORMANCE)
โรงเรียนวางแผนในอนาคตเกย่ี วกับการดำเนนิ งานจากการวิเคราะห์ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาสู่การ

ปรับปรุงผลการดำเนนิ งานตามแผนกลยุทธ์ของโรงเรยี นในอนาคต โดยหวั หน้างาน หวั หนา้ ฝา่ ย หัวหนา้ กลุ่มสาระการ
เรยี นรู้ไดถ้ ่ายทอดความรไู้ ปสูผ่ ู้ปฏิบัตกิ ารแต่ละกล่มุ งาน เพอ่ื ดำเนินการใหส้ อดคล้องไปในแนวทางเดียวกันตามภารกิจ
แผนกลยุทธข์ องโรงเรียน ท้ัง 5 กลมุ่ งาน ไดแ้ ก่ ฝ่ายบริหารวิชาการ ฝ่ายบริหารงบประมาณและแผนงาน ฝ่ายบริหาร
บุคคล ฝ่ายบรหิ ารงานทว่ั ไป และฝา่ ยบรหิ ารงานกจิ การนักเรยี น

ปัจจุบันโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มีการกำหนดนโยบายแผนการดำเนินงานเชิงเปรียบเทียบ
และการแข่งขันกับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4 และจัดทำ MOU กับ


Click to View FlipBook Version