The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่ม ScQA โรงเรียนปทุมธานี นันทมุนีบำรุง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kul.oom, 2022-07-19 23:19:19

เล่ม ScQA โรงเรียนปทุมธานี นันทมุนีบำรุง

เล่ม ScQA โรงเรียนปทุมธานี นันทมุนีบำรุง

42

สถาบนั การศกึ ษาตา่ ง ๆ เพือ่ จะไดว้ างแผนการดำเนนิ งานเชงิ เปรยี บเทียบ และพร้อมที่จะพฒั นาใหเ้ ปน็ โรงเรียนชั้นนำ
ของจังหวดั ปทุมธานใี นอนาคต

(3) การปรับปรุงอย่างต่อเนอ่ื งและนวตั กรรม (Continuous Improvement)
โรงเรียนใชว้ งจรคุณภาพ PDCA ในการจัดลำดับความสำคัญของเรอ่ื งที่ต้องนำไปปรบั ปรุงอย่างต่อเนื่อง

โดยใชร้ ะบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL เป็นกลไกในการขบั เคลื่อน เนน้ ใหบ้ คุ ลากรแตล่ ะกลุ่มงานใช้หลักการวงจร
คุณภาพในการดำเนนิ งานโดยแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินกจิ กรรม/โครงการ และมีการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็น
ระบบ ทำให้การทำงาน และการวัดผลความสำเร็จมีความสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน นำผลงานความสำเร็จแต่
ละโครงการ/กจิ กรรม, ผลงานทางวชิ าการ งานวิจัย และข้อมูลสารสนเทศ เผยแพรข่ อ้ มลู ทางเวบ็ ไซต์ของโรงเรียน

นอกจากนี้โรงเรียนได้ดำเนินการบูรณาการข้อมูลด้านเอกสารและข้อมูลข่าวสารสนเทศ ในการ
ปฏิบัติงานเข้ามาเป็นตัววัดความสำเร็จและความก้าวหน้าขององค์กรเมื่อเทียบกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ และ
แผนปฏิบัติการของโรงเรียน ตรวจสอบตัวชี้วัดด้านการเงิน มีการสรุปเพื่อการวางแผนการดำเนินงานทุกภาคเรียน
จากนัน้ สรุปผลการดำเนินการงานโดยรวมของโรงเรียนเปน็ ประจำทกุ ปี

ในส่วนของนวัตกรรมผู้ส่งมอบพันธมิตร และผู้ให้ความร่วมมือ มีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรมให้แก่
โรงเรยี น ผสู้ ง่ มอบพนั ธมติ รและผู้ให้ส่วนร่วมทำให้เกิดนวัตกรรมมีหลกั สูตรและแบบการเรยี นท่ีหลากหลายเกิดความ
รว่ มมอื ทางวชิ าการ และ การพฒั นาดา้ นศกึ ษา นักเรียน และบุคลากร ได้มีการพัฒนาตนเองโดยใหก้ ารสนับสนุนด้าย
วิทยากร งบประมาณและวัสดุอุปกรณ์ การฝึกอบรมประชุม สัมมนา การเข้าร่วมกิจกรรม การศึกษาดูงานทั้งในและ
ตา่ งประเทศ เป็นต้น

4.2 การจัดการความรู้สารสนเทศและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Knowledge Management, Information and
Information Technology)

ก. ความรขู้ ององคก์ ร (Organization Knowledge)
(1) การจัดความรู้ (Knowledge Management)
โรงเรยี นมวี ิธกี ารบรหิ ารจัดการข้อมูลสารสนเทศ และความรขู้ องโรงเรยี นให้มีความแม่นยำ ถูกตอ้ ง และ

เชื่อถือได้โดยกำหนดให้มีงานสารสนเทศของโรงเรียนสังกัดกลุ่มบริหารงานทั่วไป กำหนดให้งานสารสนเทศเป็น
โครงสร้างบังคับที่จะต้องจัดตั้งให้มีในทุกส่วนงานของโรงเรียนเพื่อมีหน้าที่จัดเก็บ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลใน
ฝา่ ยงานของตนเอง และส่งผ่านการประมวลผลไปยังสว่ นงานสารสนเทศของโรงเรียนเพื่อเผยแพร่ตอ่ สาธารณชน และ
เป็นข้อมลู ประกอบการตัดสนิ ใจในเชิงบริหาร การเก็บขอ้ มลู ทุกครัง้ กำหนดให้บันทึกแหล่งท่ีมา วนั ที่เก็บข้อมูลไว้ท้าย
ขอ้ มูล และดำเนินการตรวจสอบขอ้ มูล และองค์ความรขู้ องโรงเรียน จากแหล่งทม่ี าของขอ้ มลู อยู่เสมอทำให้ข้อมูลเป็น
ปัจจุบัน สามารถนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทันทีตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น ข้อมูลด้านผลการเรียนของ
นักเรียน ข้อมูลการเข้าศึกษาต่อ ข้อมูลนักเรียนจากด้านสุขภาพอนามัยจากการตรวจสุขภาพ การจัดเก็บฐานข้อมลู
ประจำตัวนกั เรียนด้วยระบบสารสนเทศนกั เรียน (DMC) เป็นต้น อนึ่งไดส้ รา้ งระบบการรกั ษาความปลอดภยั ของข้อมูล
โดยมีรหัสผ่านสำหรับผู้ดูแลข้อมูลสารสนเทศ มีการจัดเก็บข้อมูลเป็นระบบ เป็นหมวดหมู่ มีระบบรักษาอุปกรณ์
ฮารด์ แวร์ ชอฟแวร์ ให้สามารถทำงานไดค้ ลอ่ งตัว และมีประสิทธิภาพ

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ให้ความสำคัญกับการจัดการความรู้ โดยมีการดำเนินการจัดการ
ความรใู้ นโรงเรยี นโดยใชว้ ธิ ีการดงั น้ี

1. ประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสร้างกระบวนการจัดการความรู้ (KM)ในโรงเรียน ซึ่งเป็นการสร้างความ
ตระหนักให้บคุ ลากรได้เห็นความสำคัญของการบรหิ ารจัดการความรู้ภายในโรงเรียน เพื่อสร้างให้เกิดเป็นองค์กรแหง่
การเรียนรู้ (LO)

2. แต่งต้ังคณะทำงานในการวางแผน ขับเคลื่อน และประเมินผล การจดั การความรูใ้ นโรงเรยี น

43

3. สนับสนุนให้มีการรวบรวมและถ่ายทอดความรู้ของผู้ปฏิบัติงาน โดยผู้บริหาร และครูจัดทำ Best
Practice หรืองานวิจัย เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน เพื่อพัฒนางานในหน้าที่ ที่รับผิดชอบและ เผยแพร่ผลงานแก่
บคุ ลากรในองค์กร และบคุ ลากรภายนอกท่ีเข้ามาศึกษาดงู าน และผ่านทางการประชาสัมพนั ธด์ ้านอื่น ๆ ของโรงเรียน
นอกจากน้ียงั มีการจดั คาบ PLC ในการประชุมกลมุ่ สาระการเรยี นรู้เพอื่ เปิดพ้นื ท่ีใหม้ กี ารแลกเปล่ียนเรยี นรู้ระหว่างครู
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ปรึกษาหารือถึงปัญหาต่าง ๆ ที่พบขณะจัดกิจกรรมการเรียนเรียนการสอน และร่วมกันหา
แนวทางในการแก้ปญั หา

(2) การเรยี นร้รู ะดบั องค์กร (Organization LEARNING)
โรงเรียนดำเนินการเรียนรู้ระดบั องค์กร ตามลำดับขนั้ ตอนดังนี้

1. วิเคราะห์วิสัยทัศน์ และเปา้ หมายการจดั การศึกษาของโรงเรยี นในสว่ นของการจัดการความรู้
2. ระบุองค์ความรูท้ ีต่ ้องการใชเ้ ป็นฐานในการพฒั นาสเู่ ปา้ หมาย
3. กำหนดแหลง่ ความรู้ แสวงหาความรู้โดยการศึกษาต่อ ศกึ ษาดูงาน เข้ารับการอบรม และนำความรู้ที่
ไดถ้ ่ายทอดใหก้ ับบุคลากรในโรงเรยี น และโรงเรยี นใกลเ้ คียง
4. จดั ระบบองค์ความรู้ในรูปแบบเอกสาร เฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ของโรงเรียน
5. นำระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ทันสมัย มาใช้ประโยชน์ในการสร้างการเรียนรู้ให้แก่บุคลากรใน
โรงเรยี น เช่น การนำความรู้ ข้อมูลทีเ่ กี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าท่ี ส่งผ่านชอ่ งทางเวบ็ บอรด์ /เฟซบุก๊ โรงเรยี น ผ่านทาง
กลมุ่ ไลน์ของโรงเรียน ทำให้บคุ ลกรของโรงเรยี นไดร้ บั ความรู้ทร่ี วดเรว็ และถูกต้อง สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการ
ทำงานของตนเอง พฒั นาคุณภาพการจัดการความรู้ให้กบั นกั เรยี น

ข. ขอ้ มลู สารสนเทศ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Data, Information and Information Technology)
(1) คุณภาพของขอ้ มูลและสารสนเทศ (Data, and Information Quality)
โรงเรียนดำเนินการจัดทำระบบสารสนเทศของโรงเรียน โดยอาศัยปัจจัยนำเข้า ได้แก่ ตัวชี้วัดโรงเรียน

มาตรฐานสากล ตัวชี้วัดประกันคุณภาพ สพฐ. ตัวชี้วัด สมศ. ตัวชี้วัดโรงเรียน รายงานผลการปฏิบัติงานของกลุ่ม
บรหิ าร กลมุ่ การะการเรียนรู้ รายงานการปฏบิ ัตงิ านของโรงเรยี น ข้อมูลของโรงเรยี นคู่เทยี บ ผลการสอบต่าง ๆ ได้แก่
ผลการสอบ (O-NET) เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียนมอบหมายให้งานสารสนเทศเป็น
ผู้รับผิดชอบในการกำหนดแนวทางจัดเก็บข้อมูล กำหนดประเภทขอ้ มูล ที่ต้องการจัดเก็บ กำหนดเวลาในการจัดเก็บ
ข้อมูลโดยเลือกข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บ เช่น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมาตรฐานการศึกษาเทียบกับเป้าหมาย และ
ตัวชวี้ ัด ข้อมลู นกั เรียน และผ้มู ีส่วนได้สว่ นเสียขอ้ มูลบคุ ลากร ขอ้ มลู สอ่ื เทคโนโลยที ่ีสนับสนุนการจดั การเรียนการสอน
เม่อื ไดข้ ้อมลู ครบถว้ นแลว้ ทำการประมวลผลขอ้ มูลจัดแบ่ง กลุ่มสารสนเทศตามฝ่ายบริหาร เม่อื ทำการรวบรวมข้อมูล
ได้ตรงกับความต้องการแลว้ บคุ ลากรที่รับผิดชอบตามสายงานและ ดำเนินการวิเคราะห์ และประมวลผลขอ้ มูลด้วยการ
ใช้หลักการทางคณิตศาสตร์เพื่อคำนวณหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ฯลฯ ที่จะนำเสนอผลการ
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยหลายวิธี เช่น ตาราง กราฟ แผ่นภาพ ฯลฯ และนำไปจัดเป็นหมวดหมู่เพื่อสะดวกต่อการจัดเก็บ
และการใช้งานสำหรับข้อมูลที่ยังไม่ถูกต้อง ข้อมูลเก่า งานสารสนเทศจะนำไปเก็บข้อมูลใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้
ข้อมูลที่แม่นยำถูกต้องน่าเชื่อถือและเป็นปัจจุบัน ในส่วนการจัดเก็บข้อมูลนั้นงานสารสนเทศได้จัดเก็บข้อมูลเป็น
2 ลักษณะ คอื

1. จัดเก็บในรูปของเอกสาร แผ่นพบั วารสาร เป็นสารสนเทศทีพ่ ร้อมจะใชง้ าน และเผยแพรต่ ่อ
สาธารณชน

2. จัดเกบ็ ไวใ้ นคอมพิวเตอร์เพอื่ ป้องกนั ไม่ใหข้ ้อมูลท่เี ปน็ ความลบั ถูกเผยแพร่ออกไป

44
(2) ความปลอดภัยของข้อมูลและสารสนเทศ (Data and Information Security)

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” สรา้ งระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และสารสนเทศ ดงั นี้
1. ห้องเก็บข้อมูล เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์) มีห้องสำหรับ
ตดิ ต้งั ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์
2. ปอ้ งกันการเข้าถงึ ขอ้ มูล โดยผรู้ ับผิดชอบจะสร้างชือ่ ผู้ใชง้ าน และรหสั ผา่ นในการเขา้ ใช้งานฐานข้อมูล
ตา่ ง ๆ อีกทงั้ ยังมีการกำหนดสิทธิผทู้ ี่จะเข้าไปแก้ไขระบบคอมพวิ เตอร์ และระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ เพื่อเป็นการ
ป้องกันภัยคุกคามเข้าถึงข้อมูล นอกจากนี้ยังมีการลงระบบป้องกันไวรัสที่มีความน่าเชื่อถือ และมีการปรับปรุงให้
ทันสมยั เพ่อื เปน็ เกราะสรา้ งความปลอดภยั อีกช้ันหนึ่งให้กบั ข้อมูล

-

แผนภาพท่ี 4-3 แสดงกระบวนการการจดั การของขอ้ มูลและสารสนเทศ
(3) ความพรอ้ มใชง้ านของข้อมูลและสารสนเทศ (Data and Information Availability)

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มีวิธีการที่ทำให้ข้อมูลสารสนเทศมีความพร้อมในการใช้งานแบ่งได้
เปน็ 2 ลกั ษณะ คอื ข้อมลู ในรูปแบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology) และขอ้ มูลในรปู แบบเอกสาร

1. ขอ้ มูลในรูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) มีเวบ็ ไซต์
www.pathumnun.ac.th ระบบสารสนเทศออนไลนข์ องโรงเรยี นสำหรบั ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูล เชน่ รายงาน
การปฏิบตั งิ านประจำปีของโรงเรียนผลสัมฤทธิด์ ้านการเรียนของนกั เรยี นผลสำเรจ็ ในการแขง่ ขันทกั ษะต่าง ๆ

2. ข้อมูลในรปู แบบเอกสารมวี ิธกี ารทีท่ ำให้ข้อมูลมีความพร้อมในการใช้งานโดยจัดระบบเอกสารใหเ้ ป็น
หมวดหมูแ่ ยกตามประเภทงานปีทีด่ ำเนินงาน และเกบ็ แยกตามฝา่ ยบริหาร

45

(4) คณุ ลกั ษณะของฮารด์ แวร์และซอฟตแ์ วร์ (Hardware and Software)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมนุ บี ำรุง” มีระบบการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ เพอื่ ให้มคี ุณภาพสงู สุด โดย

มีวางเครือข่ายระบบอินเตอร์เน็ตไร้สายครอบคลุมทั้งโรงเรียนสามารถให้บริการครู และบุคลากรในการพัฒนาการ
เรียนการสอน โรงเรียนสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่มีประสิทธิภาพสามารถใช้จัดการเรียนการสอนได้อย่าง
เหมาะสม และเพียงพอต่อการใช้งานทั้งนักเรียน และครู นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องฉาย
โปรเจคเตอร์ เครื่องขยายเสียงพร้อมไมโครโฟน และสื่อการสอนที่ครูผู้สอนได้จัดทำขึ้นโดยผ่านระบบคอมพิวเตอร์
และอินเทอรเ์ นต็ เพื่อสง่ เสริมในการจดั การเรียนการสอนทกุ ห้องเรยี น เช่น การใชโ้ ปรแกรมพาวเวอร์พอยต์, คลปิ วีดีโอ
การสอน, Google site เป็นต้น ซึ่งสื่อเหล่าน้ี สามารถส่งเสริม และแก้ปัญหา พร้อมทั้งสะท้อนถึงความต้องการของ
นักเรียนได้อย่างดี ซึ่งกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ได้กล่าวมาน้ี โรงเรียนมีวิธีการบริหารจัดการโดยใช้ระบบ
ยืนยันตัวตน (Authentication) เมื่อผู้ใชต้ อ้ งการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต จะตอ้ งทำการลงชือ่ เขา้ ใช้เข้าสู่ระบบอยูเ่ สมอ ซ่ึง
เปน็ การควบคุมการใชอ้ นิ เตอร์เน็ตเพ่อื การเรียนรู้

เมื่ออปุ กรณเ์ กิดการชำรุดเสียหายจากการใชง้ าน ทางโรงเรียนจะมีการจัดหาฮารด์ แวร์ และซอฟต์แวร์ ท่ี
ทันสมัยเพื่อมาทดแทน มีแผนกซ่อมบำรุง และบุคลากรที่พร้อมให้บริการในการซ่อมบำรุงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ตลอดเวลา จัดทำคู่มือการใช้งาน และทะเบียนเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนเผยแพร่ให้ครู
และนักเรียนได้รับทราบเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้งาน ว่าฮาร์ดแวร์ และซอฟแวร์ เหล่านั้น มีความเชื่อถือได้
ปลอดภยั และใชง้ านง่าย

(5) ความพรอ้ มใช้งานในภาวะฉุกเฉิน (Emergency Availability)
ในกรณที รี่ ะบบขัดข้อง หรือเสยี หาย หรอื เกิดภาวะฉกุ เฉินข้ึน เช่น ในกรณีทโ่ี รงเรียนมีปัญหา เร่ืองของไฟฟ้า
ขดั ขอ้ ง ฝา่ ยเทคโนโลยมี ีเครอื่ งสำรองไฟฟ้า เพ่ือให้ระบบ Server สามารถใชง้ านไดต้ ลอดเวลา นอกจากน้ที างโรงเรียน
ไดม้ กี ารจัดเกบ็ ข้อมูลไว้ใน Server หลัก หากขอ้ มูลใน Server หลกั มกี ารสูญหาย และไมส่ ามารถใชง้ านได้ โรงเรียนมี
เครื่อง Server สำรอง เพื่อใช้ในการจัดเก็บ และสำรองข้อมูลที่สำคัญของโรงเรียนไว้ และสามารถนำมาใช้ทดแทน
ข้อมูลใน Server หลักได้ตลอดเวลา มีระบบการป้องกนั ไวรัสคอมพิวเตอร์ที่อาจก่อให้เกิดความเสยี ตอ่ ข้อมูล ส่วนใน
ด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ในกรณีที่ระบบเกิดการเสียหาย ทางโรงเรียนมีระบบในการจัดการ โดยมีแผนกซ่อม
บำรุงและบุคลากรทีพ่ รอ้ มให้บรกิ ารในการซอ่ มบำรงุ อปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตลอดเวลา

46
หมวด 5
บคุ ลากร (Workforce )
โรงเรยี นมีการวิเคราะห์ วางแผน ดำเนินการ และทบทวนดา้ นบุคลากร โดยนำระบบบรหิ ารคุณภาพ PTN
MODEL มาพิจารณา โดยใชว้ งจรคุณภาพ PDCA ดงั แผนภาพที 5-1

แผนภาพท่ี 5-1 แสดงการดำเนินงานด้านบคุ ลากรโรงเรยี นปทุมธานี”นนั ทมุนบี ำรงุ ”

47
5.1 สภาพแวดลอ้ มของบุคลากร (WORKFORCE Environment)

ก. ขดี ความสามารถและอัตรากำลังบุคลากร (WORKFORCE CAPABILITY and CAPACITY)
(1) ขีดความสามารถและอัตรากำลัง (CAPABILITY and CAPACITY) โรงเรียนประเมินขีด

ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ ของบุคลากรที่มี และเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรผ่านการอบรมจากทาง
โรงเรยี น สำนักงานเขตพืน้ ท่ี และหน่วยงานเอกชน โรงเรียนไดใ้ ช้ “ระบบบรหิ ารคุณภาพ PTN MODEL”
(P: Participation) ในการจัดทำแผนอัตรากำลงั ในแต่ละปี โดยใชเ้ กณฑ์อัตรากำลังท่ี สพฐ.กำหนด คำนงึ ถงึ การมีส่วน
ร่วมของทุกฝ่าย และประเมินความต้องการบุคลากรของแต่ละกลุม่ สาระการเรียนรู้และกลุม่ บริหารงานตา่ ง ๆ ในแต่
ละปีการศึกษา พิจารณาแผนการรบั นักเรียน แผนการเรียนที่เปิดสอน การสูญเสียอัตรากำลงั คนใน กรณีต่าง ๆ เพื่อ
วางแผนแก้ไขปัญหาให้มีบุคลากรทดแทน ผู้นำระดับสูงร่วมกนั วิเคราะห์ความต้องการตามความจำเป็นของโรงเรียน
และนำผลการวิเคราะห์การจัดอัตรากำลังของโรงเรียนเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อขอความ
เห็นชอบ และนำเสนอหน่วยงานตน้ สงั กดั
ดังแผนภาพท่ี 5-2

แผนภาพท่ี 5-2 ขดี ความสามารถและอัตรากำลังบุคลากร

48

(2) บุคลากรใหม่ (New WORKFORCE Members)
โรงเรียนมีกระบวนการรักษาบุคลากรใหม่โดยมุ่งเน้นการปฏิบตั ิงานของบุคลากรให้ตรงตามทกั ษะ

สมรรถนะ และความสามารถเพอื่ บรรลตุ ามเป้าหมาย และสมรรถนะหลัก โดยมวี ิธีการดำเนินการดงั น้ี
1. ปฐมนเิ ทศบุคลากรใหมเ่ พื่อสรา้ งความเข้าใจในภารกิจของโรงเรยี น รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับ

สทิ ธปิ ระโยชน์ สวสั ดิการ อนั พงึ มีพงึ ไดจ้ ากการปฏบิ ตั งิ านวิสัยทศั น์ พนั ธกจิ
2. แจง้ และให้สวัสดิการต่าง ๆ เชน่ การเบิกค่าสวัสดิการการประกนั สังคม ประกนั อุบตั ิเหตุ ตรวจ

สุขภาพ และเครื่องอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน สร้างสภาพแวดล้อม และบรรยากาศในการทำ งานให้
บุคลากรใหมม่ ีความพึงพอใจ

3. ส่งเสริมให้บุคลากรใหม่ได้รับการฝึกอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน และให้ศึกษาต่อ เพื่อเพิ่มพูน
ความรู้

1) การบรรจุแตง่ ต้งั บุคลากร (ครผู ู้ช่วย) และบคุ ลากรท่ีย้ายมาใหม่ วธิ ีการดงั น้ี
1.1 บคุ ลากร (ครผู ู้ชว่ ย)
1.1.1 โรงเรยี นสำรวจอตั รากำลงั สาขาวิชาเอกท่ีขาดแคลนและแจ้งไปยงั สำนกั งานการศกึ ษา
มธั ยมศกึ ษา
1.1.2 โรงเรยี นรับการจัดสรร บรรจุ และแตง่ ตง้ั บุคลากรจากการแต่งตัง้ ผู้สอบบรรจแุ ขง่ ขันครูผู้ชว่ ย
1.1.3 โรงเรยี นเสนอรายชื่อคณะกรรมการผ้ทู รงคุณวุฒิไปยังสำนกั งานการศึกษามธั ยมศกึ ษาเพือ่
แตง่ ตงั้ เปน็ คณะกรรมการประเมินความพรอ้ มและพัฒนาอย่างเข้มของครูผู้ชว่ ย
1.1.4 โรงเรียนมอบหมายให้หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้เปน็ ครูพ่เี ลี้ยงเพอ่ื ใหค้ ำปรึกษาแนะนำ
ช่วยเหลอื และดูแล เพ่อื เตรยี มความพร้อมในการประเมินการเตรยี มความพร้อมและพัฒนา
อยา่ งเขม้ ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย
1.1.5 โรงเรยี นมอบหมายงานตามภาระงานในหนา้ ทีต่ รงตามทักษะ สมรรถนะ และความสามารถ
1.1.6 โรงเรียนประเมนิ ความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเขม้ ของครูผชู้ ่วย ตามระยะเวลา 2 ปี

1.2 บุคลากรท่ยี า้ ยมาใหม่
1.2.1 โรงเรียนสำรวจอัตรากำลงั สาขาวชิ าเอกทข่ี าดแคลนและแจง้ ไปยังสำนักงานการศกึ ษา

มัธยมศึกษา
1.2.2 โรงเรยี นเสนอรายชอ่ื ครทู ่ีประสงค์ย้าย และขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา
1.2.3 โรงเรยี นมอบหมายงานตามภาระงานในหน้าที่ตรงตามทักษะ สมรรถนะ และความสามารถ

2) การสรรหาครอู ัตราจา้ ง มวี ธิ ีการดงั นี้
1. โรงเรียนแตง่ ต้ังคณะกรรมการดำเนินการคดั เลอื กครูอตั ราจา้ ง
2. โรงเรยี นประกาศรับสมคั รครอู ตั ราจ้างตามสาขาวิชาทตี่ อ้ งการ โดยประชาสัมพันธ์ทางเวบ็ ไซต์ของ

โรงเรยี น
3. โรงเรียนดำเนินการคัดเลือกครูอัตราจ้าง ซึ่งมีการกำหนดเครื่องมือการคัดเลือกและเกณฑ์การ

ประเมนิ โดยการทดสอบข้อเขยี น สอบสัมภาษณ์ และสอบสอน เพ่ือคัดเลอื ก
4. โรงเรียนดำเนนิ การจัดทำสัญญาจ้างเปน็ ปงี บประมาณ
5. โรงเรียนมอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้เป็นครูพี่เลี้ยงเพื่อให้คำปรึกษา แนะนำ และ

ช่วยเหลือ
6. โรงเรยี นมอบหมายงานตามภาระงานในหนา้ ที่ตรงตามทักษะ สมรรถนะ และความสามารถ
7. โรงเรียนประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านเม่ือสิน้ ปีงบประมาณ เพ่อื พิจารณาการตอ่ สัญญา

49

(3) ความสำเรจ็ ในงาน (Work Accomplishment)
โรงเรยี นมกี ารจัดโครงสร้าง และบริหารบคุ ลากรเพือ่ ใหก้ ารดำเนินงานบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่

กำหนดไว้ดังน้ี
1. ประชุมวางแผนการทำงานโดยการใช้ข้อมูลเดิมและข้อมูลปัจจุบันจากการประชุมของ

คณะกรรมการมาประกอบการจัดโครงสรา้ งการบริหารของโรงเรียน
2. การจดั โครงสร้าง และบรหิ ารบุคลากร ได้แก่ ฝา่ ยบริหารงานวิชาการ ฝ่ายบรหิ ารงานงบประมาณ

และแผนงาน ฝ่ายบริหารงานบุคคล ฝ่ายบริหารงานทั่วไป และ ฝ่ายบริหารงานกิจการผู้เรียน เพื่อให้บรรลุผลการ
ดำเนินงาน และตอบสนองตอ่ กลยุทธ์ วสิ ัยทัศน์ พันธกิจของโรงเรยี น ได้กำหนดโครงสรา้ งการบริหารตามประกาศเขต
พนื้ ทีก่ ารศกึ ษา ดังน้ี

2.1 มอบหมายงานตามอำนาจหน้าที่อย่างชัดเจน ตามระบบหลักธรรมาภิบาลของโรงเรียน ได้แก่
ผู้อำนวยการมอบอำนาจอนุมตั ิให้ดำเนินการตามระเบยี บต่าง ๆ ตามขั้นบังคับบัญชา ให้รองผู้อำนวยการกำกับดูแล
ตามฝา่ ยบริหารงานท่รี ับผิดชอบ

2.2 มีการกระจายความรับผดิ ชอบงาน โดยบุคลากรแตล่ ะคนมีภาระหน้าที่ดูแลรับผิดชอบงานตาม
ฝ่ายบรหิ ารงานทีถ่ นดั และสามารถทำงานงานตา่ ง ๆ ได้

2.3 มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานในโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ โดยพิจารณาการจาก
บคุ ลากรท่มี ีหน้าที่รับผิดชอบตามฝ่ายบริหารงานและตามความเหมาะสม เชน่ คณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ในโครงการ
และกจิ กรรมของโรงเรียน เปน็ ตน้

3. จัดห้องเรียนที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกเพื่อให้มีการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ
สนบั สนุนส่ือเทคโนโลยี การบริการสัญญาณอินเตอร์เน็ตในโรงเรยี นเพ่ือใหบ้ ุคลากรและนักเรยี นใชใ้ นการสบื คน้ ขอ้ มลู

4. นเิ ทศ กำกับ ติดตาม ประเมินและรายงานผลการดำเนนิ งานอยา่ งเป็นระบบและกัลยาณมิตร ผู้นำ
ระดับสูงและหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้มีการนิเทศการสอนเพื่อทราบถึงบรรยากาศการจัดการเรียนการสอน ให้
คำแนะนำและกำลังใจ เมื่อสิ้นสุดภาคเรียนบุคลากรจะต้องรายงานผลการจัดการเรียนการสอน จัดทำ แผนพัฒนา
ตนเอง (ID Plan) รายงานผลการปฏิบัติงาน (SAR) พร้อมทั้งวิเคราะห์และปรับปรุงเพื่อพัฒนางานในปีต่อไปอย่าง
ต่อเน่ือง

5. การสร้างขวญั และกำลังใจให้แก่บุคลากร ส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรได้พัฒนาตนเองในการเขา้
รับการอบรม ประชุม สัมมนาทางวิชาการ ศึกษาดูงาน สร้างนวัตกรรมที่เกดิ จากการจดั การเรียนรู้ การเป็นวทิ ยากร
เพือ่ เพิ่มพูนความร้แู ละประสบการณ์ในการปฏิบัตงิ านการศึกษาตอ่ ในระดับที่สงู ขน้ึ เพื่อใหบ้ ุคลากรเกิดศักยภาพและ
นำความร้มู าพัฒนางานใหบ้ รรลุตามเปา้ หมาย

(4) การจัดการเปลี่ยนแปลงด้านบุคลากร (WORKFORCE Change Management) โรงเรียนมีวิธีการ
เตรียมบุคลากรให้พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงตามต้องการ ขีดความสามารถ โดยกำหนดแผนการพัฒนาบุคลากร
เพ่ือเตรยี มบุคลากรใหพ้ รอ้ มรบั กบั การเปลีย่ นแปลง ดังนี้

1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรเข้ารับการอบรมและพัฒนาความรู้ ความสามารถตามฝ่ายบริหารงานท่ี
รับผิดชอบ และ มีการติดตามผลการพัฒนาตนเองในแบบรายงานผล และเมื่อเสร็จสิ้นการอบรมจะมีการจัดทำ
รายงาน และขยายผลให้กับบคุ ลากรในฝา่ ยบรหิ ารงาน

2.มอบหมายภาระงานในหน้าที่ให้เหมาะสมกับจำนวนบุคคลในแต่ละฝ่ายบริหารงาน โดยในแต่ฝ่าย
บริหารงานจะมกี ารปฏิบัติงานรว่ มกัน เพ่ือใหก้ ารทำงานราบร่ืน และเม่อื มีการเปล่ียนแปลงจำนวนบุคลากร กลุ่มสาระ
การเรยี นรู้และฝ่ายบรหิ ารงานจะดแู ลในจัดการเรียนการสอนและการทำงาน

50

ข. บรรยากาศการทำงานของบคุ ลากร (WORKFORCE Climate)
(1) สภาพแวดล้อมในการทำงาน (Workplace Environment)

โรงเรียนมงุ่ เนน้ การจัดอาคารสถานท่ี บรรยากาศทำงานให้สะอาด ปลอดภยั เพื่อให้บุคลากรเกิดความมั่นคง
ปลอดภัยทั้งทางรา่ งกาย และจิตใจ เพื่อเอื้ออำนวยต่อระบบการเรียนการสอนและบริการ โดยแต่งต้ังคณะกรรมการ
ฝา่ ยบริหารงานทั่วไป ทำหน้าท่ดี ูแลอาคารสถานที่ และงานอนามยั ดังนี้

1. ดา้ นสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ โรงเรยี นได้ดำเนนิ การดังน้ี
1.1 กำหนดแผนงานการปรับปรุงอาคารสถานทใ่ี หค้ งความสวยงาม แข็งแรง ปลอดภัย และพรอ้ ม

ให้บริการอยเู่ สมอ จัดบรเิ วณรบั ผดิ ชอบทำความสะอาดของแมบ่ ้าน มีหอ้ งนำ้ เพียงพอ สะอาด และถูกสขุ ลกั ษณะ การ
ตดิ ต้งั อปุ กรณด์ บั เพลงิ การตดิ ต้ังกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบรเิ วณอาคารสถานทีต่ ่าง ๆ ของโรงเรียน มีการตรวจสอบดแู ล
อุปกรณ์ เครื่องใชไ้ ฟฟา้ กอ่ นลงมอื ปฏบิ ตั งิ านเพือ่ ป้องกันความผิดพลาดในขณะปฏบิ ตั งิ าน

1.2 จดั กจิ กรรม 5 ส หรือ Big Cleaning Day เพื่อตดิ ตามดูแลสถานทีแ่ ละบริเวณตา่ ง ๆ ของ
โรงเรียนให้มีความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย สวยงาม และชว่ ยเสรมิ สรา้ งบรรยากาศท่ีดีในการทำงานใหแ้ ก่บุคลากร

1.3 จัดบรกิ ารทจ่ี ำเปน็ ในการใช้ชวี ิตประจำวันและบริการท่จี ำเป็นต่อการปฏิบัตงิ าน เช่น นำ้ ดม่ื น้ำ
ใช้ ร้านสวสั ดิการ โรงอาหาร การติดตั้งสัญญาณอินเทอรเ์ นต็ โทรศพั ทภ์ ายใน ยานพาหนะ หอ้ งสมุด

1.4 จัดห้องเรียนท่ีมีเครื่องอำนวยความสะดวกเพื่อให้มีการจัดการเรยี นการสอนอยา่ งมี

ประสิทธิภาพ สนบั สนุนสื่อเทคโนโลยี การบริการสญั ญาณอนิ เตอร์เนต็ ในโรงเรยี นเพ่อื ใหบ้ คุ ลากรและนักเรียนใช้ใน

การสบื คน้ ข้อมูล

2. ดา้ นสภาพแวดลอ้ มทางจิตใจ ความปลอดภัย และสุขภาพอนามัย
2.1 ดำเนินการใหม้ กี ารตรวจสุขภาพประจำปี จัดสถานทีส่ ำหรบั ออกกำลังกาย
2.2 จัดทำประกันอุบตั ิเหตสุ ำหรบั นกั เรียนและบคุ ลากรของโรงเรยี น
2.3 จดั ครูเวรรกั ษาการณ์และนกั การปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ในวันหยดุ ราชการ และเวรยามรกั ษาการณ์

ภายในโรงเรยี น เพ่ือตรวจสอบความเรยี บรอ้ ยบรเิ วณอาคารสถานที่ของโรงเรียนท้ังในวนั เวลาราชการ วันหยดุ ราชการ
ทัง้ กลางวนั และกลางคนื

2.4 สร้างบรรยากาศการทำงานที่อบอุ่น และเปน็ มติ ร ส่งเสรมิ ให้มกี ารแกไ้ ขปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์
รวมถึงการมอบหมายงานใหแ้ ก่บุคลากร เพ่อื กระตุน้ ให้เกดิ ความคิดสร้างสรรคเ์ ชงิ บวก

2.5 สรา้ งขวัญกำลงั ใจแก่บุคลากรและครอบครวั ในโอกาสตา่ ง ๆ เชน่ เจ็บปว่ ย การเสียชีวิต การ
อวยพรวันคลา้ ยวนั เกดิ งานมงคลสมรส การมอบเสื้อสทู ของโรงเรยี น การมอบของขวญั ชอ่ ดอกไม้แสดงความยินดใี น
วนั สำคญั ตา่ ง ๆ

51

(2) นโยบาย และสิทธปิ ระโยชน์ (WORKFORCE Benefits and Policies)
โรงเรยี นวิเคราะหค์ วามต้องการของบคุ ลากร และนำมากำหนดนโยบาย การบรกิ าร และสทิ ธิ

ประโยชน์ใหก้ ับบุคลากรตามขอบข่าย และภาระงานโดยสง่ เสริมให้ทุกฝ่ายบรหิ ารงานให้บริการ และสทิ ธปิ ระโยชน์
ของบคุ ลากร ดงั ตารางท่ี 5-1

ตารางที่ 5-1 แสดงนโยบาย การบรกิ าร สิทธิประโยชน์ของบุคลากร

นโยบาย การบริการ สทิ ธปิ ระโยชน์
1. 1. การจดั การเรยี น การเสริมสร้างขวัญและกำลงั ใจ
2. การสอน - ส่งเสรมิ ใหค้ รเู ปน็ เจ้าของโครงการเพือ่ - มอบเกียรติบตั รรว่ มกับผู้เรยี นท่ีไดร้ บั รางวัล
พฒั นาผเู้ รียน/ตนเอง เพือ่ การแขง่ ขันทกั ษะ - มอบเกียรติบตั รและขวัญกำลังใจจากผล
2. สวัสดิการ วิชาการ การสอบ O-NET
- จัดสรรงบประมาณการจัดซอื้ วสั ดุ ครุภัณฑ์ - จัดเบี้ยเลี้ยงให้กับครแู ละผู้เรียนที่เข้าร่วม
3. ด้านสุขภาพ และติดต้ังสือ่ เทคโนโลยีทุกฝ่าย/กล่มุ สาระ แข่งขัน
4.ด้านบคุ คล การเรียนรู้/งาน -การคัดเลอื กผลงานครูและผเู้ รียนดเี ดน่
- การใหบ้ รกิ ารหอ้ งปฏิบัติการต่าง ๆ - บุคลากรสามารถใช้ส่ือเทคโนโลยีเพื่อการ
5. ด้านครอบครัว เรยี นการสอนไดอ้ ย่างเตม็ ท่ี
- การจดั อาหารว่างในการประชมุ - บุคลากรมสี ถานทีจ่ ัดประชุมย่อย อบรม
- มหี อ้ งน้ำ และน้ำใช้ท่สี ะอาด พัฒนาตนเอง และพกั เวรยามอยา่ งสะดวก
- จัดหอ้ งพักเวรยามทสี่ ะอาด และเหมาะสม - ไดร้ ับการสนบั สนนุ ดา้ นงบประมาณต่าง ๆ
- จัดหอ้ ง/สถานที่รบั ประทานอาหาร ตามความเหมาะสม
- มีเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ อำนวยความสะดวกใหแ้ ก่
ครแู ละบคุ ลากร - การเบกิ ค่ารกั ษาพยาบาล
- จดั หาวิทยากรท่ีปรกึ ษาดา้ นสขุ ภาพ - การใหบ้ ริการของหอ้ งพยาบาล
- จดั สถานทอี่ อกกำลังกาย - การบรกิ ารตรวจสขุ ภาพประจำปี
- การประกนั อุบตั ิเหตุ
- บรกิ ารรถโรงเรยี นและบ้านพักครู - ได้รับการยกย่องชมเชย การมอบช่อดอกไม้
- การบริการติดต่อกบั หนว่ ยงานท่ีเก่ยี วขอ้ ง แสดงความยินดี ในวาระและโอกาสตา่ งๆ
เพอ่ี ขอต่อใบประกอบวิชาชีพ - การเล่อื นเงนิ เดือน
- ส่งเสริมให้บุคลากรมกี ารพัฒนาตนเองสู่ - การเสนอขอรบั เครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์
ตำแหนง่ /วทิ ยฐานะทสี่ ูงขนึ้ ตามระเบียบ - การได้รบั คดั เลือกและอนญุ าตให้ศึกษาต่อ
- สง่ เสริมใหบ้ ลุ ากรไดศ้ ึกษาตอ่ ในระดบั ที่ - ไปศึกษา ดงู านจากหน่วยงานภายนอก
สูงข้ึน - หนงั สอื รับรองตวั บคุ คล เพื่อรบั รองความ
- การเสนอขอพระราชทาน ประพฤติ และรับรองเงนิ เดือน
เคร่อื งราชอิสริยาภรณ์
- จดั ทำเอกสารต่าง ๆ ตามทบี่ ุคลากรรอ้ งขอ - ร่วมกิจกรรมของบุคลากรและครอบครัวใน
- สวสั ดิการคู่สมรส บตุ ร บดิ า มารดา โอกาสต่าง ๆ เช่น เจ็บปว่ ย การเสียชวี ติ การ
อวยพรวันคลา้ ยวนั เกดิ งานมงคลสมรส

52

5.2 ความผูกพนั ของบคุ ลากร (Workforce Engagement)
ก. ความผูกพันและผลการปฏิบตั งิ านของบคุ ลากร (WORKFORCE ENGAGMENT and
PERFORMANCE)
(1) วฒั นธรรมองคก์ ร (Organization Culture)
วัฒนธรรมของโรงเรียน คือ ยิ้มไหว้ ทักทายกัน บุคลากรมีความรัก ความสามัคคี และมีการช่วยเหลือซ่งึ กนั

และกัน การทำงานเป็นทมี มีการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ รับฟังความคิดเห็นและสร้างองค์ความรู้ร่วมกัน และบุคลากรใน
โรงเรยี นบุคลากรที่อาวโุ สกว่าจะถ่ายโอนองค์ความรทู้ ่ีเป็นประโยชน์ในการทำงานให้แก่ร่นุ น้องอย่างเป็นกัลยาณมิตร
บุคลากรทีอ่ าวุโสนอ้ ยกว่าให้ความเคารพ และรบั ฟงั คำแนะนำอย่างเตม็ ใจ เปน็ ตน้ ภายในโรงเรยี นมีการการถ่ายทอด
สารสนเทศ และการส่อื สารของบคุ ลากรหลากหลายชอ่ งทาง เพือ่ ใหเ้ กดิ ความร่วมมอื ในองค์กร ท้ังรปู แบบทางการและ
ไม่เปน็ ทางการ เชน่ การออกคำสง่ั แตง่ ตัง้ การปฏิบัติหนา้ ท่ี บอรด์ ประชาสมั พันธ์ เว็บไซต์ ไลน์ เฟสบกุ๊ เป็นต้น มีการ
นำข้อคิดเห็นต่าง ๆ วิเคราะห์ สรุปเป็นแนวทางในการปฏิบัติร่วมกัน โดยมีการประชุมประจำเดือนเพื่อแลกเปลี่ยน
เรียนรู้และดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ มีการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง และนำไปพัฒนาปรับปรุง
เพื่อใหเ้ กดิ วัฒนธรรมองคก์ รที่ดีปฏบิ ัตติ ่อไปทำใหบ้ ุคลากรทำงานอยา่ งมีความสุข สง่ ผลใหง้ านบรรลผุ ลสำเร็จอย่างมี
ประสิทธภิ าพ

(2) ปัจจัยขับเคลอ่ื นความผูกพนั (Drivers of ENGAGMENT) รอโครงร่าง
ปจั จยั หลักในการขับเคลอ่ื นความผูกพนั ของบุคลากรคอื บุคลากรในโรงเรยี นอยรู่ ว่ มกันฉันทพ์ ีน่ อ้ ง บคุ ลากรมี
ความรัก ความสามัคคี และมีการช่วยเหลอื ซ่ึงกันและกนั ผู้นำระดับสูงและบุคลากร เปน็ แบบอย่างท่ีดใี นการปฏิบตั ิงาน
มกี ารเสริมสรา้ งวฒั นธรรมองคก์ รที่มลี ักษณะเปดิ กว้างทางการส่ือสารและขอ้ มลู ท่เี ปน็ จริง มกี ระบวนการพฒั นาเกิดผล
การดำเนินการที่ดี บคุ ลากรมีความผกู พนั ต่อโรงเรียน และสรา้ งความภาคภมู ใิ จทเ่ี ป็นบคุ ลากรของโรงเรียนโดยการจดั
กจิ กรรมสรา้ งขวัญและกำลงั ใจแกค่ รู บคุ ลากร เชน่ กิจกรรมวันขน้ึ ปใี หม่ การยา้ ยข้าราชการครู งานเกษยี ณอายุ
ราชการ ฯลฯ ส่งผลดีต่อพฤตกิ รรมการทำงาน มีจริยธรรมและความโปร่งใส (Ethics and transparency) การสรา้ ง
ความผูกพันตอ่ โรงเรียน และบคุ ลากรมีความเต็มใจในการทำงานรว่ มกันเป็นคณะ

(3) การประเมินของความผูกพนั (Assessment of ENGEMENT)
โรงเรียนมีวธิ ีการประเมินความผูกพันและความพงึ พอใจของบุคลากร 2 รปู แบบไดแ้ ก่ รูปแบบไม่เป็นทางการ
และรูปแบบทางการ
การประเมินแบบไมเ่ ปน็ ทางการ ได้แกก่ ารสอบถาม การสังเกต ความสม่ำเสมอในการร่วมกิจกรรมตา่ งๆของ
โรงเรียน ความกระตอื รอื ร้นในการปฏิบัติงาน และผลสำเร็จของงานที่ปฏบิ ัติ
การประเมินแบบเป็นทางการ โรงเรียนใช้วิธีการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล การปฏิบัติงานของ
ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาของสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน ภาคเรยี นละ 1 คร้ัง โดยมี
ข้นั ตอนดงั นี้ 1) แต่งต้งั คณะกรรมการประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานประกอบด้วยผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการฯ หัวหน้า
กลุม่ สาระ หวั หนา้ ฝา่ ยบริหารงานและหวั หน้าระดับ 2) คณะกรรมการประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ าน ตามตัวชี้วัดต่อไปน้ี
1) ข้อมลู การลงเวลาปฏบิ ตั งิ าน การขาด ลา ในการประชุมและการมาปฏบิ ตั ิงานในวนั ราชการ 2) ข้อมลู การการอบรม
สมั มนา เปน็ วทิ ยากร และการพัฒนาตนเองในรปู แบบตา่ ง ๆ 3) ผลงานทไ่ี ดร้ บั การจากสง่ ผลงาน และเขา้ รว่ มกจิ กรรม
ต่าง ๆ เช่น รางวัลครูดีไม่มีอบายมุข รางวัลครูดีในดวงใจ รางวัลครูดีเด่น เป็นต้น 4) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ
นกั เรยี น ผลงานทไ่ี ดร้ บั การจากส่งผลงาน และเขา้ ร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ ของนักเรียน

53

(4) การจัดการผลการปฏบิ ัติงาน (PERFORMANCE Management)
โรงเรยี นมรี ะบบการจัดการผลการปฏบิ ัตงิ านของบคุ ลากรที่ก่อใหเ้ กดิ การทำงานท่ใี ห้ผลการดำเนนิ การท่ดี ี
และความผูกพันของบุคลากร ดังนี้ 1) กำหนดเป้าหมายการดำเนินงาน โดยนำหลักเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับการ
ปฏบิ ัตริ าชการ มาพจิ ารณาให้สอดคลอ้ งกับกลยทุ ธ์เป้าหมายและตัวช้วี ัดของโรงเรียน 2) ประเมินประสทิ ธิภาพและ
ประสทิ ธผิ ล การปฏิบตั งิ านของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยพิจารณาใหส้ อดคล้องตามปรมิ าณงาน
และคุณภาพของบุคลากร และให้บุคลากรทราบเมอ่ื ไดข้ ้อสรปุ ผลคะแนน โดยเน้นหลกั การทำงาน ความโปรง่ ใส
ตรวจสอบได้ 3) สง่ เสริมและสนับสนนุ ให้บคุ ลากรพฒั นาตนเอง ดา้ นความรู้ ความสามารถ ทักษะ กระบวน การ
จัดการเรียนการสอน และจัดทำนวตั กรรมทีเ่ กดิ จากการจัดการเรยี นรูจ้ นได้รับรางวัลนวตั กรรมการจัดการเรียนรู้
ออนไลน์ “SESAO 4 Online Teaching Awards” 4) การยกย่องชมเชย ยกย่องเชดิ ชูเกียรตคิ รผู ้ไู ด้รับผลงานจาก
สง่ ผลงาน และเข้ารว่ มกจิ กรรมต่าง ๆ มอบช่อดอกไมแ้ กบ่ ุคลากรท่ีพัฒนาตนเอง ไมว่ ่าจะเปน็ การสำเรจ็ การศึกษา
หรอื การไดเ้ ลอ่ื นวทิ ยฐานะในระดบั ท่สี ูงขน้ึ 5) การให้รางวลั และสง่ิ จูงใจในการปฏิบัตงิ าน มอบเกยี รติบัตรสำหรบั ผมู้ ี
ผลงานดีเด่นในด้านตา่ ง ๆ มอบรางวลั แก่กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ที่มุ่งมนั่ พฒั นาการจัดการเรียนการสอนจนทำให้
นักเรยี นมีผลคะแนนเฉลีย่ การทดสอบระดับชาติสูงขึน้ และมอบรางวัลแกค่ รูทปี่ รึกษาที่ประสานกับผ้ปู กครองและ
ผปู้ กครองเข้ารว่ มการประชุม ครบ 100% 6) แต่งต้งั บุคลากรรุ่นใหม่ที่มคี วามรู้ ความสามารถ ใหเ้ ขา้ รับหนา้ ทีใ่ น
ตำแหนง่ หัวหน้างานต่าง ๆ รว่ มกับบุคลากรรุน่ เดิมทม่ี ีความรู้ ความสามารถ เพอื่ ถา่ ยทอดตำแหนง่ งานทก่ี ำลงั จะขาด
แคลน

ข. การพฒั นาบุคลากรและผ้นู ำ (WORKFORCE and Leader Development)
(1) ระบบการเรยี นรู้และการพฒั นา (Learning and Development System)

โรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ” ได้พฒั นาสมรรถนะของผู้นำระดับสูงและบุคลากร โดยใช้ระบบ
บรหิ ารคณุ ภาพ PTN MODEL ดงั นี้

P : Participation 1) สำรวจความต้องการด้านบุคลากรจากกลุ่มสาระการเรียนรู้ กลุ่มบริหารงาน
และร่วมกันวิเคราะห์ความต้องการบุคลากรร่วมกัน 2) สำรวจความต้องการในการพัฒนาศักยภาพและความสามารถ
และส่งเสริมให้บุคลากรเข้าร่วมการอบรม การสัมมนาและนำความรู้ ความสามารถที่ได้รับมาต่อยอด และขยายผล
ให้กบั บุคลากรอื่น ๆ 3) แต่งตั้งคณะกรรมการนิเทศการจัดการเรียนรู้ โดยผู้อำนวยการ รองผ้อู ำนวยการ หัวหน้ากลุ่ม
สาระการเรยี นรู้ และคณะกรรมการสถานศกึ ษาเพ่ือให้คำช้แี นะ และสามารถนำไปปรบั ประยุกตใ์ ช้ได้

T: Technological Innovation 1) มีสภาพแวดล้อม สถานที่สอน สัญญาณอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์
เทคโนโลยี ท่เี หมาะสมตอ่ การจดั การเรียนรู้ 2) สง่ เสรมิ ให้บุคลากรเขา้ รบั การอบรมทีเ่ กี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและและ
นำความรู้ ความสามารถทีไ่ ด้รับมาต่อยอด และขยายผลให้กับบุคลากรอน่ื ๆ 3) สนับสนุนการสรา้ งส่ือ และนวัตกรรม
และการเผยแพร่นวัตกรรมต่าง ๆ

N : Nice Outcome 1) บุคลากรทำงานในสถานที่พร้อมในด้านเทคโนโลยี สื่อ นวัตกรรม การใช้
ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร การจัดการเรียนรู้เทียบเคียงสู่มาตรฐานสากล มุ่งเน้นคุณภาพ ผู้เรียน คุณธรรม
จริยธรรมในการดำเนินงาน การทำวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน และส่งเสริมบุคลากรให้มีการพฒั นาตนเอง ทั้งการอบรม
การศึกษาตอ่ ในระดับทส่ี ูงข้นึ และมรี ะบบการให้ความเคารพผอู้ าวโุ สในสถานศกึ ษา ถา่ ยโอนความรู้และประสบการณ์
ในดา้ นของการทำงานใหก้ ับบุคลากรในสถานศึกษา รวมทง้ั ส่งเสรมิ การใช้ความรู้และทักษะใหมๆ่ ในการปฏิบัติงาน
ปรับปรุงแกไ้ ขและพัฒนางานให้มปี ระสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ครูผู้สอนมีการสร้างและพฒั นาสือ่ นวัตกรรมการ
เรียนรใู้ ห้สอดคล้องเหมาะสมและสามารถพฒั นาศกั ยภาพของผู้เรียน

54

(2) ประสทิ ธผิ ลของการเรยี นรู้และพฒั นา (LEARNING and Development EFFECTIVENESS)
โรงเรียนนำผลการประเมนิ ประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลของบคุ ลากร มาพัฒนาระบบการเรียนรู้

และการพฒั นาของบคุ ลากรอย่างเป็นระบบ ดงั นี้
1. การประเมินตนเอง โรงเรียนกำหนดใหบ้ ุคลากรทกุ คนประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านตนเอง โดย

จัดทำเป็นรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล (SAR :Self Assessment Report) ภาคเรียนละ 1 ครง้ั
2. การประเมินโดยหัวหน้าฝา่ ยบรหิ ารงาน และหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ เพื่อเป็นกำกบั นเิ ทศ

ติดตาม การปฏิบตั หิ น้าทขี่ องบคุ ลากรภายในฝ่ายบริหารงาน โดยการสงั เกตชน้ั เรยี น ประชุม และตรวจบนั ทึกการ
จัดการเรยี นการสอนรายงานสรุปผลการดำเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ

3. การประเมินโดยผู้นำระดับสูง ผู้นำระดับสูงจะประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรเป็น
รายบุคคลโดยพิจารณาจากรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ การนิเทศ กำกับ ติดตาม การเรียนการสอนจากบันทึก
แผนการจดั การเรยี นรู้ และรายงานสรุปผลการดำเนินโครงการกจิ กรรม

4. การประเมินโดยหนว่ ยงานภายนอก ระบบงานประกันคุณภาพการศึกษา ระบบประกันคุณภาพ
ภายในสถานศึกษา และมีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการระดับเขตพื้นท่ี
การศึกษา และจากการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของสำนักงานรับรอง
มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์กรมหาชน) (สมศ.) โรงเรียนใช้การประเมินระบบการเรียนรู้จากการ
ประเมินผลสอบ O-NET และข้อมูลการศกึ ษาตอ่ ในมหาวิทยาลยั ตา่ ง ๆ

(3) ความก้าวหนา้ ในวชิ าชีพ (Career Progression)
โรงเรียนจัดระบบการบริหารความก้าวหนา้ ในวิชาชพี โดยมีวิธีดำเนนิ การดงั น้ี
1. โรงเรยี นสนบั สนุน สง่ เสรมิ ให้บคุ ลากรพัฒนาตนเอง ด้านความรู้ ความสามารถ ทักษะ กระบวน

การจัดการเรียนการสอน และการปฏิบตั ิงานในหน้าท่พี เิ ศษ โดยส่งบุคลากรเขา้ รบั การอบรม สัมมนา ศกึ ษาดงู าน
เพือ่ ใหบ้ คุ ลากรนำความรู้ท่ไี ดร้ บั ไปพัฒนาตนเอง พฒั นาองค์กร และฝ่ายบริหารงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย

2. โรงเรียนดำเนนิ การจัดการอบรมภายในโรงเรียนในหัวขอ้ ทสี่ ง่ เสรมิ ทักษะ กระบวนการจัดการ
เรียนการสอน และการปฏบิ ตั ิงาน โดยเชญิ วิทยากรท่มี คี วามรู้ ความชำนาญในหวั ข้อดังกล่าวมาให้ความรู้ และ
บุคลากรนำความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการอบรมไปประยุกตใ์ ช้

3. โรงเรียนสนบั สนุน สง่ เสริม ให้บุคลากรมีความก้าวหน้าในวิชาชีพการขอมแี ละขอเลื่อนวิทยฐานะ
โดยการแจ้งเส้นทางความก้าวหน้าในสายวิชาชีพ โดยยึดหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดไว้และ
ประชาสัมพันธ์ ใหบ้ คุ ลากรทุกคนไดร้ ับทราบถงึ แนวปฏิบัติ เพอ่ื สรา้ งความเข้าใจร่วมกันในเบื้องต้น และเชิญวิทยากร
มาให้ความรู้ และวิธีการจัดทำผลงานให้แก่บุคลากรทุกคนและยกย่องชมเชย แสดงความยินดีกับบุคลากรที่มี
ความก้าวหนา้ ในวิชาชพี

4. โรงเรียนส่งเสริมให้ข้าราชการครูและบุคลากรที่มีคุณสมบัติการขอพระราชทาน
เคร่อื งราชอิสริยาภรณ์ฯ ดำเนนิ การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ตามชั้นตรา โดยดำเนนิ การขอคัดสำเนา
ทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.ค.ศ. 16) จากสำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 4 และส่งแบบเสนอขอ
พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ตามลำดับ และแสดงความยินดีกับบุคลากรที่ได้รับพระราชทาน
เครื่องราชอิสรยิ าภรณฯ์

5. โรงเรียนมีกระบวนการวางแผนการสืบทอดตำแหน่งของผูน้ ำระดับสูง โดยแต่งตั้งคณะทำงานที่มี
ความรู้ ความสามารถ ตามภาระงาน มีการถ่ายทอดองคค์ วามรู้

55

หมวด 6

การปฏิบัตกิ าร (Operations)

การดำเนินงานของโรงเรียนปทุมธานี“นันทมุนีบำรุง” มีรูปแบบบริหารความเป็นเลิศโดยใช้ระบบบริหาร
คุณภาพ PTN MODELในการกำหนดกระบวนการที่สร้างคุณค่าก่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อการบริหารหลักสูตร
การเรียนรแู้ ละความสำเร็จของนักเรียนโดยการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพอ่ื ให้สนองตอ่ ความตอ้ งการของนกั เรยี น ผู้มีส่วน
ไดส้ ่วนเสียและบรรลุทิศทางการจัดการศึกษาของโรงเรยี นตามวิสัยทศั น์ พนั ธกจิ และเปา้ ประสงค์ ซ่ึงอธิบายไว้ในการ
นำองค์กร มีองค์ประกอบทสี่ ำคัญ อีกประการหนึง่ คือ กระบวนการทำงานและประสิทธิผลของการปฏิบตั งิ าน ซึ่งถือ
ว่าเป็นตัวขับเคลื่อนการดำเนินการของงานภายใต้โครงสร้างการบริหารให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและ
ปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นนวัตกรรมส่งผลให้โรงเรียนประสบความสำเร็จและยั่งยืนแม้ในภาวะ
ฉกุ เฉนิ ดงั รายละเอียดท่ปี รากฏใน 6.1, 6.2 และปรากฏผลลัพธ์ 7.1

6.1 กระบวนการทำงาน (Work Process)

ก. การออกแบบหลกั สตู รและกระบวนการ (Product and Process Design)

(1) ขอ้ กำหนดของหลกั สูตรและกระบวนการ (Product and Process Requirement)

จากรูปแบบการบริหารเพื่อความเป็นเลิศทีย่ ั่งยืนทั้งระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL ซึ่งประกอบด้วย
3 ด้าน คือ ด้านการมีส่วนร่วม ด้านการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนา และด้านผลลัพธ์ที่ดีซึ่งเกิดจากการบริหารจัดการดี
เพือ่ ส่งผลตอ่ คุณภาพนกั เรียน ครู ผูบ้ ริหารและสถานศกึ ษา ระบบบริหารคุณภาพวิชาการที่เก่ียวข้องกับการออกแบบ
หลักสูตร โรงเรียนได้ดำเนินการ โดยเนน้ การมสี ่วนรว่ มของทกุ ฝา่ ย ได้แก่ ฝ่ายบริหาร หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ครู
นักเรียน และผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสียโดยผ่านความเห็นชอบ และกำกับติดตามของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้นื ฐาน
กอ่ นนำหลักสูตร สถานศึกษาไปใชซ้ ึง่ ข้อกำหนดของหลักสูตรสถานศึกษา

56

จากการดำเนินการขอ้ กำหนดของหลักสตู รและกระบวนการดำเนินการสรุปเป็นแผนภาพท่ี 6-1

แผนภาพที่ 6-1 การจัดทำข้อกำหนดทีส่ ำคญั ของหลกั สตู รและกระบวนการทำงาน

57
(2) แนวคิดในการออกแบบ (Design Concepts)
โรงเรียนปทุมธาน“ี นันทมุนีบำรุง” มีแนวคิดในการออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551(ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ได้ศกึ ษาความต้องการของนกั เรียนและผู้ที่มสี ่วนได้
ส่วนเสีย ศึกษาทิศทางนโยบายจุดเนน้ และการจดั การศึกษาตามมาตรฐานสากล และผลการประเมินหลักสูตรในปที ่ี
ผ่านมานำผลการดำเนินงานด้านการพัฒนา หลักสูตรการเรยี นการสอนในปกี ารศึกษาที่ผ่านมาวิเคราะหส์ ถานการณ์
ปัจจุบัน และคาดการณ์แนวโน้มที่จะเป็นไปได้ เพื่อการเตรียมการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ระบบการพัฒนาคุณภาพ
วิชาการ มีความเขม้ แข็งยั่งยืน เช่น การปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมปรับสภาพให้กับนกั เรียนที่เข้ามาเรียนใหม่ในชั้น
มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 และมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 จากทเี่ คยปฏิบัติให้มีความเข้าใจและรู้จกั โรงเรยี นใหม่ในด้านต่างๆ โดยการ
ออกแนะแนวมาปรับประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยใี หม่ เช่น เครอื ขา่ ยสังคมออนไลน์ (Social Network) เชน่ เว็บไซตโ์ รงเรยี น
http://www.pathumnun.ac.th ไลน์ เฟซบุ๊ก ในการทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ในปีการศึกษา 2563 จัดให้มี
กจิ กรรมส่งเสริมการใช้ ภาษาจนี ภาษาอังกฤษ เพ่อื การสอื่ สารในสถานการณจ์ ำลองต่างๆ กบั ครตู ่างชาตเิ จา้ ของภาษา
ในทุกระดบั ชนั้ เชน่ การใช้ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารในชีวติ ประจำวนั เป็นตน้ สรปุ เปน็ แผนภาพท่ี 6 -2 ดังนี้

แผนภาพที่ 6-2 แสดงแนวคดิ ในการออกแบบระบบบริหารจัดการโรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมนุ บี ำรุง”

58

ข. การจดั การกระบวนการ (PROCESS Management)

(1) การนำกระบวนการปฏิบัติ (PROCESS Implementation)

จากแนวคิดและข้อกำหนดของกลุ่มงานตามโครงสร้างการบรหิ ารงานโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”
นำไปสู่การปฏิบัติเพื่อพัฒนาและปรับปรุงระบบบริหารจัดการได้กำหนดตัวชี้วัดในการควบคุมและปรับปรุง
กระบวนการทำงานและคณุ ภาพของหลกั สตู ร ซึ่งแสดงในไว้ในหมวดท่ี 2 แผนภาพ 2-1

(2) กระบวนการสนบั สนนุ (Support Process)

โรงเรียนมีวิธีการในการควบคุมต้นทุนโดยระบบการตรวจสอบภายในของโรงเรียนในการป้องกันไม่ให้เกิด
ความบกพร่องหรือการทำงานซ้ำซ้อนของระบบงานโรงเรียนใช้ระบบการประกันคุณภาพการศึกษารวมทั้งการลด
ต้นทนุ ค่าประกนั ความเสียหายหรอื การลดความสูญเสียมกี ระบวนการดงั นี้

1) ทุกระบบงานมีการจัดทำโครงสร้างการทำงานและคู่มือการปฏิบัติงานกำหนดผู้รับผิดชอบและบทบาท
หน้าท่ี

2) โรงเรียนได้มีการประชุมแจ้งให้บุคลากรในโรงเรียนได้ทราบขอบข่ายงานในแต่ละกลุ่มงานและร่วม
ปรึกษาหารือในการกำหนดขอบข่ายงานที่อาจซ้ำซ้อนเพื่อให้เกิดความชัดเจนรวมถึงการกำหนดขั้น ตอนในการ
ดำเนินงานรว่ มกัน

3) ทุกระบบงานมีการวางแผนการทำงานทีเ่ ป็นระบบมกี ารจดั การด้านอาคารสถานที่และงบประมาณการ
บำรงุ รักษาเครื่องมอื สื่อ วสั ดอุ ปุ กรณใ์ ห้มสี ภาพสมบรู ณ์พรอ้ มใชง้ าน

4) มีขอ้ กำหนดการทำงานทช่ี ัดเจน ในทุกระบบงาน
5) การจัดสรรงบประมาณยึดหลักธรรมาภิบาล

(3) การปรับปรงุ หลกั สตู รและกระบวนการ (Product and PROCESS)

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”มีกระบวนการในการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาได้ดำเนินการโดยมี
คณะกรรมการสถานศึกษาคอยกำกับดูแล พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อนำหลักสูตรลงสู่ระดับชั้นเรียน จะมี
คณะกรรมการกำกับดูแลการใช้หลักสูตร มีการวจิ ยั และตดิ ตามการใช้หลักสูตร โดยกำกับดูแลคณุ ภาพในทุกขัน้ ตอน
และมีการส่งเสรมิ สนับสนุนการพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษาจากทุกฝ่ายทเ่ี กยี่ วข้อง

ค. การจัดการนำวัตกรรม (Innovation Management)

โรงเรียนมีกระบวนการจัดทำแผนกลยุทธ์ของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ที่คำนึงถึงผลของการ
SWOT มากำหนดโอกาสเชิงกลยุทธ์ใน หมวด 2 นำไปสูน่ วตั กรรมระบบบรหิ ารคณุ ภาพ PTN MODEL คณะกรรมการ
ฝ่ายบริหารวิชาการประชุมรว่ มกับหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรแู้ ละครูผู้สอนเพื่อสำรวจปัญหาที่เกิดจากการเรียนการ
สอน โดยการมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นำมาพัฒนาครูโดยการจัดอบรม ส่งเสริม
การสร้างนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาการจัดกิจกรรมการจัดการความรู้ (KM) นำเสนอ
ผลงานที่ปฏิบัติเป็นเลิศด้านการเรียนการสอนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเมินผลและเกิดผลลัพธ์ที่ดีซึ่งเกิดจากการ
บริหารจัดการดี ส่งเสริมพัฒนานวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพขยายผล เผยแพร่ผลงาน และต่อยอดเป็นผลงาน ทาง
วิชาการ กระบวนการสร้างนวัตกรรมดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ 1 ) วิเคราะห์สภาพปัจจุบันปัญหา (SWOT)
2) แต่งต้งั คณะกรรมการดำเนินงาน 3) ประชมุ แลกเปลีย่ นความคิดเห็นเน้นการระดมสมอง 4) วางแผนพัฒนากำหนด
รูปแบบกจิ กรรมเพ่ือแก้ปญั หาดำเนนิ งานลงสู่การปฏิบัติ 5) ประเมินผลระหว่างการดำเนนิ งานปรับปรุงอย่างต่อเน่ือง
และประเมนิ ผลส้นิ สุดการดำเนนิ งาน 6) สรุปผลและนำเสนอผลการดำเนินงานกำหนดเป็นนวัตกรรมขององค์กร

59

6.2 ประสิทธิผลของการปฏิบตั กิ าร (Operational Effectiveness)
ก. ประสิทธภิ าพและประสทิ ธิผลของกระบวนการ (Process Efficiency and Effectiveness)
ในด้านประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการในแต่ละรอบปีการศึกษา จะดำเนินการด้วยความ
รวดเร็วคล่องตัวลำดับความสำคัญก่อนหลังบรรลุเป้าหมายทันเวลา โดยใช้ทรัพยากรด้านต่างๆอย่างคุ้มค่าและเกิด
ประโยชน์สูงสุดปอ้ งกันไมใ่ หเ้ กิดความสูญเปล่าหรือผิดพลาดของการใหบ้ ริการหรอื การทำงานทีซ่ ับซ้อนโดยจัดทำคู่มือ
แนวทางการปฏิบัติงานที่ชัดเจนพร้อมกันนี้ โรงเรียนได้วัดประสิทธิภาพและดูแลนักเรียนให้จบหลักสูตรการศึกษา
เพิ่มข้ึนทุกปีเพอ่ื ลดความสูญเสยี ในดา้ นทรัพยากรของโรงเรียนซึ่งแนวทางในการลดต้นทนุ ค่าใชจ้ ่ายในการดำเนินการ
ในยุคปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วนี้การสื่อสารภายในโรงเรียนใช้ระบบอินเตอร์เน็ตและแอพ
พลิเคชัน ไลน์ บนเว็บและสมาร์ทโฟนช่วยในการปฏิบัติงานในโรงเรียนที่สามารถลดต้นทุนและรวดเร็วเกิดการ
ประหยัดค่าใช้จ่ายของโรงเรียนช่วยในเรื่องการบริหารจัดการและมีเวลามากพอที่จะใช้ทบทวนกลยุทธ์ในการ
ดำเนินงานอื่นๆตอ่ ไปซ่ึงประโยชน์ทีเ่ ห็นได้ชัดอกี ประการ คอื ครแู ละบุคลากรสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ท่ีต้องการได้
ทุกทท่ี ุกเวลาสามารถดูขอ้ มูลย้อนหลงั ได้ เชน่ การมอบหมายงาน แจง้ ข่าวสาร การศึกษาเรียนรู้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
เปน็ ตน้ ซง่ึ จะส่งผลใหก้ ารใช้งบประมาณน้อยกว่าการออกไปประชุมอบรมนอกสถานที่และในกรณที ี่บุคลากรทางการ
ศึกษาไม่สามารถเข้าประชุมหรืออบรมได้ สามารถอบรมผ่านทางเว็บในภายหลังได้ในเวลาทว่ี ่าง ซงึ่ การควบคุมต้นทุน
โรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมนุ ีบำรงุ ” ดำเนินการควบคมุ ตน้ ทนุ เพือ่ ลดค่าใช้จา่ ยลดการใช้ทรพั ยากรโดยมวี ธิ กี ารควบคุม
ต้นทุนโดยรวมของระบบงานทั้งนี้ โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนบี ำรงุ ”มกี ารวางแผนปรับปรุงการลดต้นทุนอย่างเปน็
ระบบโดยรวบรวมและรายละเอียดตา่ งๆที่เป็นต้นทนุ ในกระบวนการผลิต ท้ังต้นทุนคงท่แี ละตน้ ทนุ ผนั แปร เชน่ คา่ จ้าง
ค่าวัตถุดิบ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานกับองคก์ รภาคีเครือข่ายของโรงเรียนในการ
จัดทำโครงการต่างๆ เพื่อควบคุมต้นทุนและลดต้นทุนการผลิตที่ซ้ำซ้อนจัดหาแหล่งทุนภายนอกเพื่อสนับสนุนการ
ดำเนินงานของโรงเรยี น และเพอ่ื พัฒนาคณุ ภาพดา้ นการศึกษาและดา้ นการบรหิ ารจดั การของโรงเรยี นต่อไป

ข. การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply-Chain Management)

โรงเรยี น ดำเนินการจัดการห่วงโซ่อุปทานสรุปเป็นแผนภาพท่ี 6-3 ดงั น้ี

ผสู้ ่งมอบ(Supplier) ผู้ปกครองนักเรียน โรงเรยี นประถมศึกษาใน
เขตและนอกเขตบรกิ าร โรงเรียนมธั ยมศกึ ษาในจงั หวดั และ
ตา่ งจังหวัด หน่วยงานราชการ บริษัทเอกชนต่างๆทีใ่ หก้ าร
สนบั สนนุ การพฒั นาคุณภาพการศึกษา

ปัจจัยนำเข้า(Input) กระบวนการผลิต(process) ผลผลิต(Output)
ครแู ละบุคลากร/ ระบบงาน / การเรียนการสอน / ผลผลติ ทสี่ นองความต้องการและความ
เทคโนโลยี สารสนเทศ / มีสว่ นรว่ ม พึงพอใจ ของนกั เรียนและผมู้ สี ่วนได้
นกั เรียน/ผู้มสี ว่ นไดส้ ่วน ในการทำงาน / การจดั การความ ส่วนเสยี / นกั เรยี นจบหลกั สตู ร/คุณภาพ
เสีย/วัสดุอปุ กรณ/์ อาคาร
เส่ียง / การประกันคุณภาพ ของนกั เรียน
สถานที่

ข้อมูลยอ้ นกลับ (feedback) ขอ้ มลู สารสนเทศ
ประโยชนท์ ้ังทางตรงและทางอ้อมในโรงเรียน

แผนภาพที่ 6-3 การจัดการหว่ งโซ่อปุ ทาน

60

ส่วนของปจั จยั นำเข้า (Input) ในท่ีนี้ คือ ครู นักเรียน บุคลากรในโรงเรยี น ผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสีย วัสดุ และ
อปุ กรณ์อาคารและสถานท่ีจัดส่งและส่งมอบวัตถุดิบ คอื ขอ้ มลู นกั เรยี น งบประมาณ นโยบาย ส่อื การเรียน การสอน
สิ่งอำนวยความสะดวก โดยสามารถจัดในรูปแบบเชิงระบบที่ประกอบด้วย ปัจจัยนำเข้า ( input) กระบวนการ
(process) และผลผลิต (output) ทมี่ ปี ฏสิ ัมพนั ธ์โต้ตอบกบั สภาพแวดล้อมท้ังภายนอกและภายใน

ส่วนของกระบวนการ (process) องค์ประกอบของกระบวนการการผลิตที่ก่อให้เกิดผลผลิตที่สนอง
ความต้องการและความพงึ พอใจของนกั เรียน ไดแ้ ก่

1. โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรงุ ”ใช้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL ในการบริหารเพื่อความเปน็
เลิศโดยมกี ารวางแผนซงึ่ เป็นหลักการท่สี ำคัญมาก การวางแผนทดี่ ีจะทำใหง้ านสำเรจ็ เกิดประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล
ซึง่ ในยุคปัจจุบนั เปน็ ยุคของการแข่งขนั สงู จงึ ต้องนำแผนกลยุทธเ์ ปน็ แผนเชิงรุกสำหรับการพฒั นาอย่างต่อเนื่องม่ันคง
และยั่งยืน มีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในที่เป็นจุดแข็ง จุดอ่อน และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็น
โอกาสและอุปสรรค กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกจิ เป้าหมาย ภารกิจ และการคิดเชงิ กลยุทธอ์ ย่างมรี ะบบเชือ่ งโยงข้อมูล
จากการวิเคราะหจ์ ากนนั้ ทำแผนกลยุทธ์ระยะ 4 ปี จากนั้นทำเสนอแผนกลยุทธ์สถานศกึ ษาให้ผู้เกย่ี วข้องทุกส่วนทราบ
และพิจารณาเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันในเป้าหมายและปฏิบัติตามแผนและจัดให้มีการนิเทศกำกับติดตาม
ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั แิ ละดำเนินงานตามแผนมีการทบทวนและปรับปรงุ แผนกลยุทธ์เปน็ ระยะๆจัดทำแผนปฏิบัติการ
ประจำปี จากน้นั นิเทศกำกบั ติดตาม ประเมินผล ปรับปรุงให้สอดคลอ้ งกับการบรหิ าร จดั การเชงิ กลยทุ ธ์

2. โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มีการออกแบบระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL ท่ีทำให้มี
การเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยกำหนดโครงสร้างพันธกิจและจัดกิจกรรมต่างๆที่สอดคล้องประสาน
เชื่อมโยงทั้งระบบส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของบุคลากรโดยแบ่งโครงสร้างการ
บริหารงานเป็น 5 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายงบประมาณและแผนงาน ฝ่ายบุคคล ฝ่ายกิจการนักเรียน และ
ฝ่ายบริหารทั่วไป มีระบบการติดตามและรายงานจากโรงเรียนไปยังหน่วยงานต้นสังกัดการบริหารจัดการศึกษา
ผู้บริหารยึดหลกั การบรหิ ารทม่ี กี ระบวนการปฏบิ ัติงานสอดคลอ้ งกับวงจรคณุ ภาพ PDCA และยดึ หลักธรรมาภิบาล คือ
การมีส่วนร่วมการปฏิบัติตามกฎหมายมคี วามโปรง่ ใส มคี วามรบั ผิดชอบ มคี วามสอดคล้องเสมอภาค มีการบริหารงาน
ทมี่ ปี ระสิทธิภาพ และเกดิ ประสทิ ธิผลบนพืน้ ฐานของความมีเหตผุ ล

3. โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”บริหารภายใต้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL มีการบริหาร
จัดการที่มุง่ เน้นปฏิบตั ิการเรียนการสอนที่ยึดนักเรยี นเปน็ สำคัญ มุ่งเน้นท่ีจะพัฒนาการจัดการกระบวนการเรียนการ
สอนที่กอ่ ให้เกดิ องค์ความรู้ ทกั ษะในตวั นกั เรียนมากท่ีสุดซึ่งจะเป็นคุณลกั ษณะตามความต้องการของโรงเรียนมุ่งเน้น
ความสนใจของนักเรียน ส่งเสริมการเรยี นรู้ของนักเรียนครูมีกิจกรรมการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่
หลากหลายสอดคลอ้ งกบั ความสนใจและวยั ของนักเรียน ครมู ีส่ือ นวัตกรรม เพอ่ื กระตนุ้ ให้นักเรยี นสนใจ สง่ เสรมิ ใหค้ รู
ทำวจิ ยั ในช้ันเรียน มีการจัดประเมนิ และนิเทศการสอนแบบกลั ยาณมิตร

4. ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL โรงเรยี นปทุมธานี “นันทมุนบี ำรงุ ” กำหนดผรู้ ับผิดชอบและจัดทำ
ระบบสารสนเทศให้เป็นหมวดหมู่ถกู ต้องครอบคลุม ทันสมัย และพร้อมนำข้อมูลสารสนเทศไปใชใ้ นการวางแผนการ
จัดการศึกษาที่ครอบคลุมภารกิจด้านการบริหารวิชาการ การบริหารงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการ
บริหารทั่วไปรวมทั้งงานสนับสนุนอื่นๆ โดยมีการจัดการระบบเครือข่ายงานคอมพิวเตอร์เพื่อการค้นคว้าเครือข่าย
อินเตอร์เน็ต งานโสตทัศนศึกษาโดยเกิดจากความร่วมมือของบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและให้บริการข้อมูล
สารสนเทศทเี่ ปน็ ระบบแก่ผตู้ อ้ งการ

5. ด้วยระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ได้รับความร่วมมือจาก
บุคลากรด้วยการทำงานอยา่ งมีสว่ นร่วมมีการจัดยุทธศาสตรใ์ นการจัดการความสมดลุ ของความสัมพันธ์ของบุคคลและ

61

องค์กรอย่างเหมาะสมทำงานรว่ มกันอย่างกัลยาณมิตร เคารพผู้มีอาวุโส ยอมรับซึ่งกนั และกัน สื่อสาร ประสานงาน
แบบสองทาง กำหนดกลยุทธใ์ นการทำงานร่วมกันเพื่อใหส้ อดคล้องไปในทางเดยี วกันและมแี นวทางปฏิบัติรว่ มกันอยา่ ง
มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงสมรรถนะหลักของโรงเรียนมีการบริหารโรงเรียนในรูปของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น
พนื้ ฐานโรงเรยี นปทุมธานี “นนั ทมุนบี ำรงุ ” สมาคมผ้ปู กครองและครูโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรุง” สมาคมศิษย์
เก่า เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียน
ปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ” ตลอดจนนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครเู ข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนา
ด้วยทีมงานที่เข้มแข็งและเปน็ ระบบเป็นสงั คมแห่งการจัดการเรียนรู้ เชงิ คณุ ภาพบนพน้ื ฐานความเปน็ ไทยบนหลักการ
พัฒนาสสู่ ากล

6. ในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ภายใต้ระบบบริหาร
คณุ ภาพ PTN MODEL ได้คำนงึ ถงึ ปัจจัยภายนอกและภายในท่ีส่งผลต่อการบริหารจดั การอย่างรอบคอบโรงเรียนได้มี
การจดั การความเสี่ยงโดยเน้นการบริหารจัดการความเส่ียงในด้านการเรยี นการสอน ดา้ นการเงิน ความม่ันคงทางการ
ศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ซึ่งดำเนินการในลักษณะการป้องกันเป็นกจิ กรรมแฝงที่ดำเนินการอยูใ่ น
กจิ กรรมหลัก และกจิ กรรมสนับสนุนของสถานศึกษา ได้แก่ ระบบงานประกนั คุณภาพการศกึ ษา ระบบดูแลช่วยเหลือ
นักเรียนทม่ี ีประสิทธภิ าพ การควบคุมภาวะโภชนาการ ในความปลอดภัยของครแู ละนักเรยี น การปอ้ งกันอัคคีภัย และ
อุบัตภิ ัย แนวทางการปฏบิ ตั ิและการรกั ษาความปลอดภัยการรายงานอบุ ัติเหตุ เป็นต้น

7. การประกันคุณภาพการศึกษาโรงเรียนมีกระบวนการในการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในของ
สถานศกึ ษาเพื่อเปน็ การตรวจสอบและประเมินคุณภาพการศึกษาโดยกำหนดมาตรการศึกษาของมาตรฐานการศึกษา
โรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมนุ บี ำรุง”จัดประชุมผู้เก่ยี วขอ้ งทุกฝ่ายร่วมกันกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา มี
การวิเคราะห์ มาตรฐานและประเด็นพิจารณา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดและประกาศใช้มาตรฐาน และ
ประเด็นพิจารณา ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของสถานศึกษาโดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษามีการ
ประกาศค่าเป้าหมายแต่ละมาตรฐานและประเด็นพิจารณา ใหก้ ลมุ่ ผู้เก่ยี วข้องรับทราบทวั่ ถงึ ทกุ กลมุ่ เป้าหมาย มีการ
ดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งพัฒนาคุณภาพ ตามมาตรฐานการศึกษาของ
สถานศึกษา โรงเรียนดำเนินการศึกษา วิเคราะห์สภาพปัญหา และความต้องการจำเป็นของสถานศึกษา กำหนดเป็น
วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมายด้านต่างๆ โดยมุ่งเน้นที่คุณภาพนักเรียน ให้ทุกฝ่าย มีส่วนร่วมกำหนดวิธีการ
ดำเนินงานโครงการ/ กจิ กรรม ทุกโครงการ/ กิจกรรมตา่ ง ๆ ตอ้ งสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน

ส่วนของปัจจัยผลผลิต (Output) ภายใต้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL ตามระบบการจดั การห่วง
โซ่อุปทานนั้นผลผลิตที่สนองความต้องการและความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย คือ คุณภาพของ
นักเรียนความงอกงามในตัวนักเรียน การได้รับรางวัล โล่ หรือประกาศนียบัตร นักเรียนได้รับการดูแลช่วยเหลือ มี
สุขภาพดี โดยเนน้ การจัดการเรยี นการสอนทมี่ ีนกั เรียนเป็นสำคญั ครูมมี าตรฐานระบบการวดั และประเมินผลที่ชัดเจน
โดยคำนึงถึงศกั ยภาพหรือความสามารถของนักเรยี นที่มีความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล เพอ่ื พฒั นานกั เรียนให้มีคุณภาพ
ตามมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนและใช้การจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน สนับสนุนและส่งเสริม ดูแลให้
นักเรียน มีความสขุ และพฒั นาคุณภาพชีวิต ทำใหเ้ ปน็ นักเรยี นทม่ี คี ุณภาพทั้งด้านการศึกษา ทกั ษะชีวติ มีคุณลักษณะ
และค่านิยมที่พึงประสงค์ส่วนของข้อมูลย้อนกลับ (เฟซบุ๊ก) ภายใต้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL โรงเรียน
ปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”มีวิธีการรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อให้ข้อมูลย้อนกลับ (เฟซบุ๊ก)
รวมถึงสารสนเทศท่นี ำไปปฏิบัติได้เก่ียวกับกระบวนการพฒั นา หลกั สตู รและบรกิ ารทางการศึกษาท่ีส่งเสรมิ การเรียนรู้
ของนกั เรียนอย่างหลากหลายทาง ไดแ้ ก่ การประเมนิ ผลการใช้หลักสูตร โดยพจิ ารณาจากการสรุปผลสัมฤทธ์ิทางการ
เรยี นในแต่ละปี มีการประเมนิ ผลการดำเนนิ โครงการ/ กจิ กรรมต่าง ๆ จากแบบประเมนิ และกระดานสนทนา โซเชยี ล

62

มีเดีย ต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ของโรงเรียน ไลน์ เฟซบุ๊ก เพื่อรวบรวม และวิเคราะห์ข้อร้องเรียนต่างๆและนำไปสู่การ
ปรบั ปรุงต่อไป

ส่วนของผู้ส่งมอบ (Supplier) ภายใต้ระบบบริหารคุณภาพ PTN MODEL โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนี
บำรุง” มกี ารคดั เลือกผูส้ ่งมอบในดา้ นต่างๆโดยคำนงึ ถงึ ความตอ้ งการของครู บุคลากร นกั เรยี นและผ้มู ีส่วนได้ส่วนเสีย
เป็นหลกั ผู้ส่งมอบต้องมคี ุณสมบัติท่ีครบถว้ นตดิ ตามผลและตรวจสอบได้ โรงเรยี นจะมีการจัดประชมุ เพื่อทำข้อตกลง
และทำความเข้าใจให้มีแนวทางการดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายและความจำเป็นของโรงเรียน มีการกำหนด
ระยะเวลาในการตรวจสอบและประเมินผลในการดำเนนิ งานอย่างชัดเจน หากมีสิ่งที่ตอ้ งปรับปรุงจะมีการแจ้งข้อมลู
ย้อนกลับแก่ผู้ส่งมอบทันที เพื่อให้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างทันท่วงที และหากผลการดำเนินงานไม่มี
ประสิทธิภาพหรือไมเ่ ป็นไปตามข้อตกลงทางโรงเรียนจะมีการยกเลิกและทำการคัดเลือกผู้ส่งมอบที่เหมาะสมรายอนื่
ต่อไป

ค. การเตรียมความพรอ้ มด้านความปลอดภยั และภาวะฉุกเฉนิ (Safety and Emergency
Preparedness)

1. ความปลอดภยั (Safety)

ด้านความปลอดภัยในโรงเรยี น โรงเรียน ภายใต้ระบบบรหิ ารคณุ ภาพ PTN MODEL มีแนวทางการวางแผน
รักษาความปลอดภัย เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชน และเครือข่าย โดยร่วมกันวางแผน
ป้องกัน แก้ไข ควบคุม กำกับ ติดตาม ตรวจสอบประเมินผล และรายงานผลโดยใช้หลัก 4R สำหรับความปลอดภัย
สรปุ เป็นแผนภาพท่ี 6-4 ดงั น้ี

ลด : Reduction พรอ้ ม : Readiness ตอบโต้: Response ฟื้นฟู: Recovery
จัดใหม้ ีการ จัดใหม้ ีการ ให้ร้ถู ึงวิธกี ารตอบโต้ ตรวจสอบ

เตรียมการปอ้ งกัน ฝกึ ความพรอ้ ม เหตฉุ ุกเฉินตา่ งๆ ทำตามแผนทีว่ างไว้

แผนภาพท่ี 6-4 แสดงหลัก 4R สำหรบั ความปลอดภยั ของโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนบี ำรุง”

Reduction การลดความเสี่ยงโดยจัดใหม้ ีการป้องกันเตรยี มการดำเนินการโดยสถานศกึ ษาประชมุ วางแผน
รว่ มมือกบั กบั ผู้ปกครอง ชมุ ชน และเครอื ข่าย

Readiness การเตรียมความพร้อมรบั ฟงั ใหค้ ำแนะนำ ปรึกษาในการจัดทำแผนตอบโต้สถานการณ์ ฉุกเฉิน
โดยให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกับปัญหาและเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในการที่จะหามาตรการป้องกันและลด
ความสูญเสียใหน้ อ้ ยท่ีสุดแก่ชวี ิตและทรพั ย์สิน

Response การตอบต้นเหตุการณ์ฉุกเฉินจัดให้มีการจัดทำแผนฉุกเฉินในการบริหารเหตุการณ์ร้ายต่างๆ
ท่อี าจจะเกดิ ข้นึ

Recovery การฟ้ืนฟูกลบั ส่สู ภาพเดมิ จัดใหม้ ีการประชุมปรึกษาหารอื หาข้อสรุป ขอ้ แกไ้ ข ข้อชีแ้ นะ หากว่า
แผนที่เขียนไม่สามารถที่จะแก้ไขไดห้ ลังจากการฝกึ ซ้อมก็สามารถแก้ไขได้เพื่อทดสอบในการฝึกครั้งต่อไปรวมท้งั การ
แกไ้ ขเหตทุ อ่ี าจจะเกิดขึ้นในอนาคตหลกั การ 4R นี้จะเกิดประสิทธิภาพสงู ตอ้ งได้รบั ความรว่ มมอื จากบุคคลทั้งในและ
นอกสถานศกึ ษาจึงจะทำให้สถานศึกษามคี วามปลอดภัย

63

2. การเตรียมความพร้อมตอ่ ภาวะฉุกเฉิน (Emergency Preparedness) สรุปเปน็ แผนภาพที่ 6-5 ดังนี้

แต่งตงั้ คณะกรรมการรับผิดชอบ

รายงานผลต่อผ้อู ำนวยการ

- วางแผนรับสถานการณ์ – แบง่ หน้าที่รบั ผดิ ชอบ - แผนฉุกเฉนิ สำหรบั สถานศึกษา
- จัดสรรงบประมาณ - จัดหาวัสดุอปุ กรณ์ - งบประมาณและทรัพยากร
- การเตรียมบคุ ลากรและนกั เรียน
ปรับปรุงแกไ้ ข
การแนะนำ/ใหค้ วามร/ู้ ฝกึ อบรม

ไม่ผ่านการประเมนิ

ประเมนิ ผล

ผ่านการประเมนิ

สรปุ ประเมินผลและจดั ทำรายงาน
ผอู้ ำนวยการ รายงานต้นสังกัด

แผนภาพที่ 6-5 แสดงการออกแบบระบบการเตรยี มความพรอ้ มตอ่ ภาวะฉุกเฉนิ โรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมุนบี ำรงุ ”

ภายใต้ระบบบริหารคณุ ภาพ PTN MODEL ในการเตรียมความพรอ้ มเพื่อรบั มอื ต่อภาวะฉกุ เฉนิ และภัยพิบัติ
โรงเรียนมีการให้ความรู้ในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของตัวเองจากโรคไข้เลือดออกมีการฉีดพน่ ยากำจดั
ลูกน้ำยุงลายจากเทศบาลบางหลวง การให้ความรู้และป้องกัน COVIC -19 อุทกภัย อัคคีภัยวาตภัย แผ่นดินไหว
โรคระบาดและโจรภัย มีการทำประกันอุบัติเหตุประจำปี ทั้งนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา มีการกำหนด
มาตรการปอ้ งกนั ดแู ลรกั ษาด้านสุขภาพให้ความสะดวกในการดูแลรกั ษาสุขภาพมีการจัดเวรยามรักษาความปลอดภัย
ทั้งกลางวนั และกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมง มีการจัดกรรมการตรวจเวรยาม เพื่อตรวจสอบความเรยี บร้อยในด้านวสั ดุ
อุปกรณ์ครภุ ัณฑ์ต่างๆ มีการจัดซื้อและจัดหาเครื่องมือป้องกนั ภัย ได้แก่ มีการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัย มีอุปกรณ์
ดับเพลิงทุกอาคารและตรวจสอบประสิทธิภาพเป็นประจำทุกปี มีการตรวจสอบระบบไฟฟ้า อายุการใช้งานและ
อุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นประจำทุกปี มีระบบติดต่อสื่อสาร ที่สะดวก รวดเร็วด้วยระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและระบบ
โทรศัพท์ที่ทั่วถึงและทันต่อเหตุการณ์ซึ่งสอดคล้องกับที่อธิบายในหมวด 4 ในด้านสถานที่ปฏิบัติงานมีการจัดเป็น
สัดส่วนมีบริเวณรั้วรอบขอบชิด มีบ้านพักครูที่อยู่อาศัยมั่นคงและปลอดภัยมีบุคลากรพักอาศัยและปฏิบัติงานอยู่
ตลอดเวลา มีสภาพแวดล้อมที่โปร่งร่มรื่น สวยงาม ปลอดภัย ปราศจากจุดอับอันตราย มีการกำหนดตัวชี้วัดในการ
สำรวจความพึงพอใจต่ออาคารสถานที่และบรรยากาศภายในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอเพื่อนำไปสู่การพัฒนาอาคาร
สถานที่ที่เอื้อต่อการทำงานเป็นประจำมีการตรวจสอบความมั่นคงของอาคารเรียน อาคารประกอบบ้านพักครูเป็น
ประจำทุกปีมีการกำหนดเครื่องหมายจราจรถนนภายในโรงเรียนมีสถานที่จัดเกบ็ ยานพาหนะของบุคคลให้ปลอดภัย
มีการแต่งตั้ง คณะกรรมการดูแลดา้ นต่าง ๆ ดงั น้ี

64

1. คณะกรรมการดูแลความปลอดภยั ในพ้ืนทภี่ ายในและภายนอกอาคาร มหี นา้ ทดี่ ูแลรับผิดชอบการควบคุม
ภายในเพื่อประเมนิ ความเสี่ยงในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบรายงานผลการปฏิบัติงานเป็นประจำทกุ เดอื น

2. คณะกรรมการดำเนินงานในกล่มุ บรหิ าร/กลมุ่ งาน/งาน/กลุ่มสาระการเรียนรู้ มหี นา้ ทดี่ ูแลรับผิดชอบการ
ควบคุมภายใน เพอื่ ประเมินความเส่ยี งในเขตพื้นทรี่ ับผิดชอบรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านเปน็ ประจำทุกเดือน

3. ผู้รับผิดชอบตามมาตรการป้องกันการเกิดภัยในสถานศึกษาและสถานที่ราชการ ทั้งนี้คณะกรรมการ
ประสานงานและการจัดทำรายงานการตรวจสอบความพร้อมของบุคคล อาคาร สถานที่ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะ
ฉุกเฉินและประสานงานกับงานอาคารสถานที่ตลอดเวลา ทั้งนี้จะต้องนำผลการประเมินความเสี่ยงแจ้งให้โรงเรียน
ทราบในทุกภาคเรียนเปน็ ประจำอย่างต่อเนือ่ ง ซ่ึงถอื วา่ เปน็ การป้องกนั ความเสย่ี งที่อาจจะเกิดขน้ึ กับการปฏิบัติงานใน
ทุกๆ ด้าน

65

หมวด 7
ผลลพั ธ์ (RESULTS)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” บริหารสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยใช้หลักการกระจาย
อำนาจใหท้ ุกคนมสี ่วนร่วม เพ่ือปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีสนองตอ่ วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ และเปา้ ประสงค์ขององค์กร ที่มุ่งพัฒนาผูเ้ รยี น
ทุกคนใหเ้ ป็นมนษุ ยท์ ่ีมีความดลุ ท้ังด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มจี ติ สำนกึ ในความเป็นพลเมอื งไทย และเป็นพลโลก
โดยใชร้ ูปแบบการบริหารแบบ PTN Model เพอื่ ใหก้ ารจดั การศกึ ษาของโรงเรยี นมีคุณภาพ เป็นไปตามท่คี าดหวังของ
นักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยผ่านงานประจำตามโครงสร้างการบริหารกิจกรรม/โครงการตามแผนพัฒนา
คุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ระยะ 4 ปี และแผนปฏิบัติการประจำปี ที่มีระบบ
นิเทศ กำกับ ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการดำเนินการอย่างมีประสทิ ธภิ าพ โดยมงุ่ เนน้ ที่ผู้เรยี น ครูและบคุ ลากรทางการ
ศกึ ษา และกระบวนการปฏบิ ตั ิอยา่ งเป็นระบบผลลัพธ์ของการดำเนินการแสดงดังตอ่ ไปน้ี

7.1 ผลลพั ธ์ดา้ นหลกั สูตรและกระบวนการ (Product and Process RESULTS)
การดำเนินการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาและกระบวนการจัดการเรยี นการสอน นับได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์
ท่สี ำคัญของโรงเรียน ซง่ึ ดำเนินการปรากฏผลลพั ธ์ ดงั น้ี

ก. ผลลัพธ์ด้านหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นนักเรียน (STUDENT Focused

Product and PROCESS Result)

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ได้พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย ภายใต้กรอบโครงสร้างของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และ
ความต้องการของนกั เรียนและผูม้ สี ่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่อง โดยใชข้ อ้ มูลจากผลการนเิ ทศ ติดตาม และประเมินผล
การใช้หลักสูตรสถานศึกษา โดยผู้ตอบแบบสอบถามประกอบไปด้วย คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหาสถานศึกษา
ผปู้ กครอง ครู และนกั เรียน แบบตดิ ตามและประเมินผลเปน็ แบบประเมนิ คา่ 3 ระดับ มีผลลพั ธด์ งั นี้

ตารางที่ 7-1 แสดงร้อยละ คา่ เฉล่ีย และผลของการประเมินองคป์ ระกอบของหลักสูตรสถานศึกษา

รายการ ร้อยละของการประเมนิ ค่าเฉลีย่ การแปลผล

1. สว่ นนำ 3 21 2.55 มาก
1.1 ความนำ แสดงความเช่อื มโยงระหวา่ งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน 59.09 36.36 4.55 2.58 มาก
พทุ ธศักราช 2551 กรอบหลกั สูตรระดบั ทอ้ งถ่ินจุดเนน้ และความตอ้ งการของ 2.52 มาก
60.23 37.50 2.27 2.53 มาก
โรงเรียน 59.09 34.09 6.82
56.82 39.77 6.82 2.48 มาก
1.2 วสิ ัยทัศน์ แสดงภาพอนาคตทีพ่ งึ ประสงคข์ องผู้เรียนทสี่ อดคลอ้ งกบั วิสัยทศั นข์ อง
หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 อย่างชดั เจน สอดคล้อง 54.55 38.64 6.82

กบั กรอบหลักสูตรระดบั ท้องถ่ินครอบคลมุ สภาพความต้องการของโรงเรียน ชุมชน
ท้องถิ่น มีความชดั เจนสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้

1.3 สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น มคี วามสอดคลอ้ งกับหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้น
พื้นฐานพทุ ธศักราช 2551
1.4 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มีความสอดคล้องกบั หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้
พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สอดคล้องกบั เปา้ หมาย จุดเนน้ กรอบหลกั สตู รระดับ

ท้องถิ่นสอดคลอ้ งกับวสิ ยั ทัศน์ ของโรงเรียน

2. โครงสร้างหลักสตู รสถานศกึ ษา
2.1 โครงสร้างเวลาเรยี น มีการระบเุ วลาเรยี นตลอดหลกั สตู ร จำนวน 8 กลุม่ สาระการ

เรยี นรู้ ทเ่ี ปน็ เวลาเรยี นพน้ื ฐาน และเพิม่ เตมิ จำแนกแต่ละช้ันปอี ย่างชดั เจน ระบุเวลา
การจัดกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นจำแนกแตล่ ะชน้ั ปีอยา่ งชดั เจน เวลาเรียนรวมของ

66

รายการ ร้อยละของการประเมนิ คา่ เฉล่ยี การแปลผล

หลักสตู รสถานศกึ ษาสอดคล้องกบั โครงสรา้ งเวลาเรียนตามหลกั สตู รแกนกลาง 3 21 2.53 มาก
56.82 39.77 3.41
การศึกษาข้นั พน้ื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 2.53 มาก
2.2 โครงสรา้ งหลักสูตร มกี ารระบรุ ายวชิ าพน้ื ฐาน รายวชิ าเพิ่มเตมิ ระบรุ หัสวิชา ชือ่ 57.95 37.50 4.55
2.57 มาก
รายวิชา พรอ้ มท้ังระบุเวลาเรยี น และ/หรือหนว่ ยกิต มีการระบุกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น 62.50 31.82 5.68 2.58 มาก
พร้อมท้ังระบเุ วลาเรียนไว้อย่างถกู ต้อง ชดั เจนรายวชิ าเพมิ่ เตมิ / กิจกรรมเพ่มิ เติมท่ี 61.36 35.23 3.41 2.54 มาก
กำหนดสอดคล้องกบั วิสยั ทศั นจ์ ุดเน้นของโรงเรยี น
3. คำอธิบายรายวชิ า

มกี ารระบุรหัสวชิ า ชือ่ รายวชิ า และชอ่ื กลุ่มสาระการเรียนร้ขู ัน้ ปีทีส่ อน จำนวนเวลา
เรียน และ/หรอื หนว่ ยกติ ไวอ้ ยา่ งถูกตอ้ งชดั เจน การเขียนคำอธบิ ายรายวชิ าได้เขยี น
เปน็ ความเรียงโดยระบุองคค์ วามรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะหรอื เจตคตทิ ่ี
ต้องการและครอบคลมุ ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ระบุรหัสตัวช้ีวดั ในรายวชิ า
พ้นื ฐานและจำนวนรวมของตวั ชี้วดั และระบุผลการเรียนรู้ในรายวชิ าเพ่ิมเติมและ
จำนวนรวมของผลการเรยี นรู้ถูกต้อง มีการกำหนดสาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ สอดแทรก
อยใู่ นคำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐานหรอื รายวิชาเพม่ิ เติม
4. กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น

ในโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาและโครงสร้างหลักสูตรชั้นปีได้ระบุกิจกรรม
และจัดเวลา สอน ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและ
สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนมีการจัดทำโครงสร้างและแนวการจัดกิจกรรม แนว
ทางการวดั และประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นท้งั ๓ กิจกรรมทช่ี ัดเจน

5. เกณฑก์ ารจบการศึกษา

ระบุเวลาเรียน/หน่วยกิต ทั้งรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมตามเกณฑ์
การจบการศึกษาของโรงเรียน ชัดเจนระบุเกณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์
และเขียนไว้อย่างชัดเจนระบุเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้อย่าง
ชัดเจนระบุเกณฑ์การผา่ นกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นไว้อยา่ งชดั เจน

รวม

จากตารางพบวา่ มีผปู้ ระเมินในตอนท่ี 1 องค์ประกอบของหลกั สตู รสถานศกึ ษา จำนวน 88 คน มีผลประเมิน
ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 2.54 รายการที่มีผลการประเมินสูงสุด มี 2 รายการ คือ 1) วิสัยทัศน์ แสดงภาพ

อนาคตที่พึงประสงค์ของผู้เรียนที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 อย่างชัดเจน สอดคล้องกับกรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่นครอบคลุมสภาพความต้องการของโรงเรียน ชุมชน

ท้องถิ่น มีความชัดเจนสามารถปฏบิ ัติได้ และ 2) ระบุเวลาเรยี น/หนว่ ยกิต ทั้งรายวชิ าพืน้ ฐานและรายวชิ าเพ่ิมเติมตาม
เกณฑก์ ารจบการศกึ ษาของโรงเรยี น ชัดเจนระบเุ กณฑ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนไวอ้ ย่างชัดเจนระบุ
เกณฑ์การประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้อย่างชดั เจนระบุเกณฑ์การผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนไว้อยา่ งชัดเจน

ซึ่งมีผลการประเมินอย่ใู นระดบั มาก คา่ เฉลยี่ 2.58

67

ตารางที่ 7-2 แสดงร้อยละ คา่ เฉลย่ี และผลของการประเมินการนำหลกั สูตรสถานศึกษาสกู่ ารจัดการเรยี นรู้

รายการ รอ้ ยละของการประเมิน ค่าเฉลี่ย การแปลผล

321

1. โครงสร้างรายวชิ า

1.1 การจดั กลุ่มมาตรฐานการเรียนรตู้ วั ช้ีวัด จัดกลุ่มมาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ัดทม่ี ี 60.23 36.36 3.41 2.57 มาก

ความสมั พนั ธก์ ันและเวลา ในแตล่ ะหนว่ ยการเรียนรู้ เหมาะสม

1.2 การจัดทำสาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ไดว้ เิ คราะห์แก่นความร้ขู องทกุ ตัวช้วี ัดในแต่ 56.82 37.50 5.68 2.51 มาก

ละหนว่ ยการเรยี นรู้ มาจดั ทำสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด ชัดเจนเหมาะสมและครบทุก
หนว่ ยการเรยี นรู้

1.3 การตัง้ ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ของแตล่ ะหนว่ ยการเรียนรสู้ ะทอ้ นใหเ้ ห็นสาระสำคญั หรอื 52.27 43.18 4.55 2.48 มาก

ประเด็นหลกั ในหน่วยการเรยี นรูน้ ้ันๆ นา่ สนใจเหมาะสมกับวัย ความสนใจ ความสามารถ
ของผเู้ รยี น

1.4 การกำหนดสัดส่วนเวลาเรียน กำหนดสัดสว่ นเวลาเรียนแตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้ 61.36 30.68 4.55 2.53 มาก

เหมาะสมและรวมทุกหน่วยตอ้ งเท่ากบั เวลาเรียนตามหลักสูตร

1.5 การกำหนดสัดสว่ นนำ้ หนกั คะแนน กำหนดสดั สว่ นนำ้ หนกั คะแนนแตล่ ะหน่วยการ 54.55 40.91 4.55 2.57 มาก
เรียนรูเ้ หมาะสมและรวมตลอดป/ี ภาคเรียนเทา่ กบั 100 คะแนน

2. หนว่ ยการเรียนรู้

2.1 การวางแผนจัดทำหนว่ ยการเรียนรู้ มีการวางแผนออกแบบหน่วยการเรียนร้คู รบทุก 62.50 32.95 4.55 2.58 มาก

หนว่ ยการเรียนรู้ และทกุ กล่มุ สาระการเรียนรู้

2.2 การจัดทำหนว่ ยการเรยี นรู้ : การกำหนดเป้าหมาย กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้/ 57.95 37.50 4.55 2.53 มาก

ตัวช้วี ดั สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระการเรยี นรู้ สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคถ์ ูกตอ้ ง เหมาะสมมีความสอดคล้องกัน

2.3 การจดั ทำหนว่ ยการเรียนรู้ : การกำหนดหลกั ฐานการเรยี นรู้ กำหนดชิน้ งาน /ภาระงาน 55.68 35.23 9.09 2.47 มาก
การวดั และประเมินผลสอดคล้องกับตวั ช้วี ัด/มาตรฐานการเรียนรู้

2.4 การจัดทำหนว่ ยการเรียนรู้ : ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ ออกแบบกิจกรรมการ 57.95 31.82 10.23 2.48 มาก
เรียนรู้ ได้สอดคลอ้ งกับตัวช้ีวัด/มาตรฐานและเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ

3. แผนการจดั การเรียนรู้

3.1 เขยี นแผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ครบตามองคป์ ระกอบทส่ี ำคัญทุกหนว่ ยการเรียนรู้ 60.23 34.09 5.68 2.55 มาก

3.2 มกี ารใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาในการจดั กระบวนการเรียนรู้ 60.23 31.82 7.95 2.52 มาก
48.86 43.18 7.95 2.41 มาก
3.3 สอดคล้องจดุ เนน้ สูก่ ารพฒั นานักเรยี น ความสามารถและทักษะของผู้เรยี นศตวรรษท่ี
53.41 37.50 9.09 2.44 มาก
21 (3Rs x8Cs x2Ls)
48.86 44.32 6.82 2.42 มาก
3.4 สอดคลอ้ งการบูรณาการตามพระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 แกไ้ ข 54.55 36.36 9.09 2.45 มาก
เพมิ่ เตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบบั บท่ี 3) พ.ศ. 2553 บูรณาการหลักสูตรโรงเรยี น 54.55 38.64 6.82 2.48 มาก

มาตรฐานสาก (World Class Standard School) บรู ณาการกับหลกั ปรัชญา 2.51 มาก
2.51 มาก
เศรษฐกจิ พอเพยี ง บูรณาการกับประชาคมอาเซียน บรู ณาการกบั คา่ นยิ ม 12 ประการ 2.57 มาก
บูรณาการโรงเรยี นวิถีพทุ ธ บรู ณาการข้ามกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 2.50 มาก
3.5 ใช้กระบวนการวจิ ยั ในชน้ั เรยี นมาใช้ในการจดั กระบวนการเรยี นรูข้ องครู แก้ไขปัญหา
และพัฒนาผู้เรยี น
3.6 การประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ ทกุ แผนกอ่ นการนำไปใชจ้ ริง

3.7 มกี ารนำเอาแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ีปรับปรุงแลว้ ไปใชใ้ นการจัดการเรยี นร้จู ริง

4. พฒั นาหลักสตู รการศกึ ษาอย่างยง่ั ยนื

4.1 มกี ารนเิ ทศการใช้หลกั สูตรสถานศึกษาอยา่ งต่อเนอื่ ง 59.09 32.95 7.95

4.2 มีการประเมนิ การใช้หลักสูตรสถานศกึ ษาอย่างตอ่ เนือ่ ง 57.95 35.23 6.82

4.3 นำผลการประเมินการใช้หลักสูตรสถานศึกษามาวางแผนในการพัฒนาหลักสูตร 62.50 31.82 5.68

สถานศกึ ษาอย่างตอ่ เนอ่ื ง

รวม

68

จากตารางพบว่า มผี ูป้ ระเมนิ ในตอนที่ 2 การนำหลักสตู รสถานศกึ ษาสู่การจัดการเรียนรู้ จำนวน 88 คน มีผล
ประเมินภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 2.50 รายการที่มีผลการประเมินสูงสุด คือ การวางแผนจัดทำหน่วยการ
เรียนรู้ มีการวางแผนออกแบบหน่วยการเรียนรู้ครบทุกหน่วยการเรียนรู้ และทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งมีผลการ
ประเมินอยูใ่ นระดับมาก คา่ เฉลยี่ 2.58

ความคิดเห็นเพิม่ เตมิ
สรปุ ความคิดเห็นเพิม่ เตมิ จากผลการประเมนิ ความคิดเหน็ ของครผู สู้ อน 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้และกจิ กรรม
พฒั นาผู้เรียนที่มีตอ่ การใช้หลักสตู รสถานศึกษา เพอื่ เป็นข้อมลู ในการปรับปรงุ หรอื พฒั นาเพือ่ ให้การเรียนการสอนเกิด
ประสทิ ธภิ าพขน้ึ คือ เปน็ หลกั สตู รที่ดสี อดคล้องกับหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 และ
เหมาะสมกบั ชมุ ชนสภาพแวดล้อมนอกจากนีใ้ นแต่ละปีครผู ้สู อนทกุ คน ควรประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ค่ี รู
สามารถสามารถใช้ในการสอน รวมทัง้ เทคโนโลยี วัสดอุ ุปกรณ์ ห้องเรียนที่สามารถใชส้ อ่ื ในการเรยี นการสอนเพ่มิ ขนึ้

แผนภาพที่ 7–1 แผนภาพแสดงระดับความคดิ เห็นท่ีมีตอ่ การใช้หลกั สูตรโรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนีบำรงุ ”
เปน็ ภาพรวมของครทู ั้ง 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรแู้ ละกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น รวมจำนวน 57 คน

1. วสิ ยั ทศั น์ 4.21 4.39 4.46

2. พันธกจิ 4.16 4.33
3. เปา้ ประสงค์ 4.12
4.37
4. สมรรถนะ
5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 4.30
6. โครงสรา้ งเวลาเรยี นของหลักสูตรสถานศึกษา 4.37

7. คําอธบิ ายรายวชิ า 4.28
8. การจดั การเรียนรูแ้ ละส่งเสริมการเรยี นรู้ 4.30

9. สื่อและแหลง่ เรยี นรู้
10. การวดั และประเมนิ ผล

คา่ เฉล่ียรวม

3.90 4.00 4.10 4.20 4.30 4.40 4.50

จากแผนภาพ พบว่า ผลการประเมินความคิดเห็นของครูผ้สอนที่มีต่อการใช้หลักสูตรโรงเรียนปทุมธานี
“นันทมุนบี ำรงุ ”ในภาพรวมอยูใ่ นระดับดี มีคา่ เฉลยี่ รวม 4.30

แผนภาพท่ี 7–2 แผนภาพแสดงระดับระดบั ความพึงพอใจของผูป้ กครองนกั เรียนท่ีมตี อ่ การใช้หลักสตู ร
โรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนีบำรงุ ”

1. ด้านการบรหิ ารจัดการหลกั สูตร 4.09 4.17 4.25
คา่ เฉลย่ี รวม

4.00 4.05 4.10 4.15 4.20 4.25 4.30

จากแผนภาพ พบว่า ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการใช้หลักสูตร โรงเรียนปทุมธานี
“นนั ทมุนบี ำรุง” ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 – 6 ภาพรวมอยู่ในระดบั ดี มีค่าเฉลี่ยรวม 4.17

นอกจากการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่รับฟังเสียงของนักเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแล้ว โรงเรียน
ปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ยังมีการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับอย่างหลากหลาย ตามศักยภาพ

69

ของผู้เรียน โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางที่ชัดเจน ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มีความพรอ้ มในการก้าวสู่
สังคมคุณภาพ มีความรู้อย่างแท้จริง และมีทักษะในศตวรรษที่ 21 ซึ่งปรากฏผลด้านหลักสูตร และกระบวนการดัง
แผนภาพตอ่ ไปนี้

ตารางที่ 7–3 รอ้ ยละของนกั เรยี นท่มี ีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ตามคา่ เปา้ หมาย ปีการศกึ ษา 2562 – 2563

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ค่าเปา้ หมาย ปกี ารศกึ ษา 2562 ม.5 ม.6 คา่ เฉล่ยี
97.90 99.63 รวม
ภาษาไทย 2.00 ระดบั ช้ัน 89.74 91.58
คณิตศาสตร์ 2.00 92.80 98.71 88.98
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.00 ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 98.05 99.24 90.42
สงั คมศกึ ษา 2.00 63.92 90.63 90.01 91.77 96.32 90.54 86.64
ภาษาต่างประเทศ 2.00 94.00 87.38 93.95 85.85 74.18 89.56 93.78
ศิลปะ 3.00 94.15 74.37 75.91 83.89 96.48 94.54 88.40
สุขศกึ ษาและพละศกึ ษา 3.00 93.01 92.70 91.27 88.38 75.53 73.82 78.18
การงานอาชพี 2.50 89.89 93.69 80.23 79.71 90.13 92.20 89.10
2.31 71.04 82.34 78.94 73.01 77.92
ค่าเฉล่ยี รวม 80.59 88.46 84.50 90.04 86.68
76.12 90.20 74.37 77.50
82.84 87.47 83.65 83.77

ปีการศึกษา 2563

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คา่ เป้าหมาย ระดับช้ัน ค่าเฉล่ยี

ภาษาไทย 2.00 ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 รวม
คณติ ศาสตร์ 2.00
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.00 67.08 86.95 80.22 87.83 96.30 100.00 86.39
สงั คมศกึ ษา 2.00
ภาษาต่างประเทศ 2.00 93.30 90.83 89.80 76.91 94.78 84.06 88.28
ศิลปะ 3.00
สุขศึกษา และพลศึกษา 3.00 92.16 96.63 93.67 86.46 95.76 98.65 93.89
การงานอาชีพ 2.50
2.31 90.49 78.51 92.94 94.12 94.18 100.00 91.71
ค่าเฉล่ียรวม
83.27 86.32 85.05 88.88 88.90 96.43 88.14

81.80 81.11 87.32 97.09 84.97 87.39 86.61

85.02 90.24 91.38 96.02 98.35 100.00 93.50

99.57 94.18 79.93 99.77 93.74 - 93.44

86.59 88.10 87.54 90.89 93.37 95.22 90.25

จากตาราง พบว่า ในภาพรวมนักเรียนที่มีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ตามค่าเป้าหมายที่โรงเรียนกำหนด
ปีการศึกษา 2562 คิดเป็นร้อยละ 86.68 และปีการศึกษา 2563 คิดเป็นร้อยละ 90.25 สรุปได้ว่า นักเรียนโรงเรียน
ปทมุ ธานี “นันทมุนีบำรงุ ” มีผลการเรียนผา่ นเกณฑต์ ามคา่ เปา้ หมายทโ่ี รงเรยี นกำหนดสงู ข้ึน

70

แผนภาพท่ี 7–3 ร้อยละของนักเรยี นทมี่ ีผลการเรยี นผา่ นเกณฑต์ ามคา่ เปา้ หมายเปรยี บเทยี บ
ปีการศึกษา 2562 – 2563 จำแนกตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้

100.00
80.00
60.00
40.00
20.00

0.00

ปีการศกึ ษา 2562
ปีการศกึ ษา 2563

จากขอ้ มลู รอ้ ยละของจำนวนนกั เรียนทีม่ ีผลการเรยี นผ่านเกณฑ์ตามค่าเป้าหมายของโรงเรยี น เม่อื จำแนกตาม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สามารถสรุปได้วา่ นักเรียนโรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมุนีบำรุง” มีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ตามคา่
เป้าหมายของโรงเรียนสงู ขึ้นในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศึกษา
ศาสนา และวฒั นธรรม และภาษาต่างประเทศ ส่วนกลุม่ สาระอืน่ ๆ มลี ดลงเล็กนอ้ ย แตก่ ย็ งั อยใู่ นระดบั ทใ่ี กล้เคียงกนั

แผนภาพที่ 7–4 รอ้ ยละของนกั เรียนท่ีมีผลการเรยี นผ่านเกณฑต์ ามค่าเปา้ หมาย
ปีการศกึ ษา 2562 – 2563 จำแนกตามระดับชนั้

100.00
90.00
80.00
70.00

ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6
ปกี ารศกึ ษา 2562 ปีการศกึ ษา 2563

จากขอ้ มลู ร้อยละของจำนวนนักเรยี นท่มี ผี ลการเรยี นผ่านเกณฑ์ตามคา่ เป้าหมายของโรงเรยี น เมื่อจำแนกตาม

ระดบั ช้ัน สามารถสรุปไดว้ า่ นกั เรยี นโรงเรยี นปทุมธานี “นันทมนุ บี ำรุง” มผี ลการเรยี นผา่ นเกณฑ์ตามค่าเปา้ หมายของ
โรงเรียนสงู ขึน้ ในชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ส่วนระดบั ชนั้ อน่ื ๆ มีลดลงเลก็ นอ้ ย แต่ก็ยังอย่ใู นระดบั ท่ใี กล้เคยี งกัน

71

ตารางที่ 7–4 ร้อยละของนักเรยี นทม่ี ีผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคเ์ ปรยี บเทียบปีการศกึ ษา 2562 – 2563
จำแนกตามระดับช้ัน

ผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์

ระดับช้นั จำนวน จำนวนนกั เรียน(คน)แตล่ ะระดับ จำนวนนกั เรียนท่ี รอ้ ยละของนักเรยี นท่ี
ทง้ั หมด ผา่ นค่าเปา้ หมาย ผา่ นค่าเป้าหมาย
ดเี ย่ยี ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผ่าน (0)
(ระดบั ดขี ้ึนไป) (ระดับดีขึ้นไป)

ปีการศกึ ษา 2562

มธั ยมศึกษาปีที่ 1 194 142 52 0 0 194 100.00

มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 242 166 76 0 0 242 100.00

มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 158 104 54 0 0 158 100.00

มัธยมศึกษาปีที่ 4 90 50 40 0 0 90 100.00

มัธยมศึกษาปีท่ี 5 101 47 54 0 0 101 100.00

มัธยมศึกษาปที ่ี 6 67 37 30 0 0 67 100.00

รวม 852 546 306 0 0 852 100.00

ปกี ารศกึ ษา 2563

มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 170 133 37 0 0 170 100.00

มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 176 142 34 0 0 176 100.00

มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 243 196 47 0 0 243 100.00

มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 110 92 18 0 0 110 100.00

มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 91 65 26 0 0 91 100.00

มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 104 84 20 0 0 104 100.00

รวม 894 712 182 0 0 894 100.00

จากตาราง พบวา่ ในปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563 นกั เรียนโรงเรยี นปทุมธานี “นนั ทมนุ ีบำรงุ ” มผี ลการ
ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คดิ เป็นร้อยละ 100 ทกุ ระดับชั้น

แผนภาพที่ 7–5 รอ้ ยละของนกั เรียนทมี่ ีผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงคเ์ ปรียบเทียบปีการศึกษา
2562 – 2563 จำแนกตามระดบั ช้ั

ปกี ารศึกษา 2562 ดเี ย่ียม (3) ปกี ารศกึ ษา 2562 ดี (2) ปีการศกึ ษา 2563 ดเี ยย่ี ม (3) ปีการศึกษา 2563 ดี (2)

73.20
26.80

78.24
21.76

68.60
31.40

80.68
19.32

65.82
34.18

80.66
19.34

55.56
44.44

83.64
16.36

46.53
53.47

71.43
28.57

55.22
44.78

80.77
19.23

123456

จากแผนภาพ พบวา่ นกั เรียนโรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนีบำรุง”มีผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ในระดบั ดเี ย่ียมมากกว่าระดับดี และได้ระดบั ดเี ยย่ี มสูงข้ึนทุกระดบั ชัน้

72

ตารางท่ี 7–5 รอ้ ยละของนักเรยี นทม่ี ผี ลการประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์ เขยี น ระหว่างปีการศึกษา 2562 – 2563
จำแนกตามระดับช้นั

ผลการประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียน

ระดับช้ัน จำนวน จำนวนนกั เรียน (คน) แตล่ ะระดับคณุ ภาพ จำนวนนกั เรยี นที่ รอ้ ยละของนักเรยี นท่ี
ทง้ั หมด ผ่านคา่ เป้าหมาย ผ่านคา่ เปา้ หมาย
ดเี ยย่ี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน(0)
(ระดับดีขึน้ ไป) (ระดับดีข้ึนไป)

ปีการศกึ ษา 2562

มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 194 154 40 0 0 194 100.00

มัธยมศึกษาปที ี่ 2 242 148 94 0 0 242 100.00

มัธยมศึกษาปีที่ 3 158 127 31 0 0 158 100.00

มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 90 62 28 0 0 90 100.00

มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 101 65 36 0 101 100.00

มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 67 47 18 0 0 65 97.01

รวม 852 603 247 0 0 850 99.77

ปีการศึกษา 2563

มธั ยมศึกษาปีที่ 1 170 135 35 0 0 170 100.00

มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 176 132 44 0 0 176 100.00

มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 243 156 87 0 0 243 100.00

มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 110 84 26 0 0 110 100.00

มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 91 69 22 0 0 91 100.00

มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 104 72 32 0 0 104 100.00

รวม 894 648 246 0 0 894 100.00

จากตาราง พบว่า ในปีการศึกษา 2562 – 2563 นักเรียนโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มีผลการ

ประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน คดิ เป็นร้อยละ 100 ทกุ ระดับช้นั

แผนภาพที่ 7–6 ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ระหว่างปีการศึกษา
2562 – 2563 จำแนกตามระดบั ชั้น

ปกี ารศกึ ษา 2562 ดีเยีย่ ม (3) ปีการศกึ ษา 2562 ดี (2) ปีการศกึ ษา 2563 ดเี ยยี่ ม (3) ปีการศกึ ษา 2563 ดี (2)

79.38
20.62

79.41
20.59

61.16
38.84

75.00
25.00

80.38
19.62

64.20
35.80

68.89
31.11

76.36
23.64

64.36
35.64

75.82
24.18

70.15
26.87

69.23
30.77

123456

จากแผนภาพ พบว่า นกั เรยี นโรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมุนบี ำรงุ ”มผี ลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ในระดับดเี ยี่ยมมากกวา่ ระดับดี และไดร้ ะดับดีเยยี่ มสงู ขนึ้ ในชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1, 2, 4, และ 5

ผลลพั ธข์ องการดำเนินการด้านหลักสตู รและกระบวนการจดั การเรียนการสอน ยงั สะทอ้ นผ่านผลการประเมนิ
คณุ ภาพการศกึ ษาระดับชาตเิ ปรยี บเทยี บคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ นั้ พ้ืนฐาน (O-NET) นักเรียน
ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 และ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศกึ ษา 2562 – 2563 มีผลลัพธ์ดังน้ี

73

ตารางท่ี 7–6 ผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาระดับชาติเปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษา
ระดับชาติข้ันพ้นื ฐาน (O-NET) นกั เรยี นระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมนุ ีบำรุง”

เปรียบเทยี บระหว่างปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563

รายวิชา คะแนนเฉลี่ย O - NET ม.3 รอ้ ยละการพัฒนาระหวา่ งปี
ปกี ารศึกษา 2562 ปกี ารศกึ ษา 2563
ภาษาไทย การศกึ ษา 2562 - 2563
คณิตศาสตร์ 49.28 52.56
วิทยาศาสตร์ 21.79 22.34 3.28
ภาษาองั กฤษ 28.24 26.97 0.55
29.18 30.93 -1.27
คะแนนเฉล่ยี รวม 4 วชิ า 32.12 33.20 1.75
1.08

แผนภาพที่ 7–7 เปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นักเรียนระดับ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”เปรียบเทียบระหว่างปีการศึกษา
2562 – 2563

60.00 49.28 52.56
40.00 21.79 22.34 28.24 26.… 29.18 30.93
20.00

0.00
ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ

ปกี ารศกึ ษา 2562 ปีการศึกษา 2563

จากตารางท่ี 7 – 8 และ แผนภาพที่ 7 – 7 พบวา่ ในปีการศึกษา 2563 คะแนนผลการทดสอบทางการศึกษา
ระดับชาตขิ ้ันพ้ืนฐาน (O-NET) นกั เรยี นระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ของโรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมนุ ีบำรุง” ภาพรวมมี
คะแนนเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2562 คิดเป็นรอ้ ยละ 1.08 และวชิ าท่ีมคี ะแนนสงู ขึ้นมากท่ีสุด คือ วิชาภาษาไทย คิด

เป็นร้อยละ 3.28 รองลงมาวิชาภาษาอังกฤษ คิดเป็นร้อยละ 1.75 และวิชาคณิตศาสตร์ คิดเป็นร้อยละ 0.55
ตามลำดบั

ตารางท่ี 7–7 ผลการประเมินคุณภาพการศกึ ษาระดับชาติเปรยี บเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษา
ระดบั ชาตขิ น้ั พ้นื ฐาน (O-NET) นกั เรยี นระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ของโรงเรียนปทุมธานี

“นนั ทมุนบี ำรงุ ” เปรยี บเทียบระหว่างปีการศกึ ษา 2562 – 2563

รายวิชา คะแนนเฉล่ยี O - NET ม.6 รอ้ ยละการพัฒนาระหว่างปี
ปกี ารศกึ ษา 2562 ปีการศึกษา 2563
ภาษาไทย การศึกษา 2562 - 2563
สังคมศกึ ษา 34.21 34.17 -0.04
คณิตศาสตร์ 31.18 31.55 0.37
วทิ ยาศาสตร์ 21.43 19.39 -2.04
ภาษาองั กฤษ 24.80 25.54
23.22 22.14 0.74
คะแนนเฉลี่ยรวม 5 วิชา 26.97 26.56 -1.08
-0.41

74

แผนภาพที่ 7–8 เปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นักเรียนระดับ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”เปรียบเทียบระหว่างปีการศึกษา

2562 – 2563

40.00 34.2134.17 31.1831.55

30.00 21.4319.39 24.8025.54 23.2222.14
20.00

10.00

0.00
ภาษาไทย สังคมศึกษา คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ

ปกี ารศึกษา 2562 ปกี ารศกึ ษา 2563

จากตารางที่ 7 – 9 และ แผนภาพที่ 7 – 8 พบวา่ ในปกี ารศกึ ษา 2563 คะแนนผลการทดสอบทางการศึกษา
ระดับชาติข้นั พ้นื ฐาน (O-NET) นกั เรยี นระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6 ของโรงเรยี นปทมุ ธานี “นนั ทมุนบี ำรงุ ” ภาพรวมมี
คะแนนเฉลย่ี ต่ำกว่าปกี ารศึกษา 2562 คิดเป็นร้อยละ 0.41 แตห่ ากพิจารณาเป็นรายวิชา พบว่า มคี ะแนนเฉลี่ยสูงขึ้น

จำนวน 2 วิชา และวชิ าที่มีคะแนนสูงขึ้นมากท่สี ดุ คือ วชิ าวิทยาศาสตร์ คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.74 รองลงมาวชิ าสงั คมศกึ ษา
คดิ เปน็ ร้อยละ 0.37 ตามลำดับ

ผลลพั ธ์ของการดำเนินการด้านหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนการสอน ยงั สะท้อนผา่ นผลการประเมิน
คณุ ภาพการศกึ ษาระดบั ชาตเิ ปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติขน้ั พื้นฐาน (O-NET) นักเรยี น
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2562 – 2563 ระหว่างโรงเรียนปทุมธานี

“นันทมนุ บี ำรงุ ” กบั โรงเรยี นเทพศริ ินทร์คลองสิบสาม ปทมุ ธานี มีผลลัพธ์ ดงั นี้

ตารางที่ 7–8 ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ เปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษา
ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เปรียบเทียบคะแนนเฉล่ีย
ระหว่างโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” กับโรงเรียนเทพศิรินทร์คลองสิบสาม ปทุมธานี
ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

คะแนนเฉลีย่ O - NET ม.3

รายวิชา ปีการศกึ ษา 2562 ปกี ารศึกษา 2563

ภาษาไทย ปทุมธานี เทพศริ ินทรค์ ลองสบิ ปทมุ ธานี เทพศิรินทร์คลองสบิ
คณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ "นนั ทมุนบี ำรุง" สาม ปทมุ ธานี "นนั ทมุนบี ำรุง" สาม ปทุมธานี
ภาษาองั กฤษ
49.28 49.13 52.56 45.50
คะแนนเฉลีย่ รวม 4 วชิ า
21.79 22.44 22.34 20.56

28.24 27.62 26.97 25.95

29.18 28.76 30.93 30.44

32.12 31.99 33.20 30.61

75

แผนภาพที่ 7–9 เปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นักเรียนระดับ
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 เปรยี บเทียบคะแนนเฉล่ยี ระหวา่ งโรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมุนีบำรุง” กบั

โรงเรียนเทพศริ ินทร์คลองสิบสาม ปทุมธานี ปีการศึกษา 2562 – 2563

ปกี ารศกึ ษา 2562 ปีการศกึ ษา 2563

60.00 60.00
40.00 40.00
20.00 20.00

0.00 0.00

รร.ปทมุ ธานี "นันทมนุ บี ารุง" รร.ปทุมธานี "นนั ทมนุ ีบารุง"

รร.เทพศริ ินทร์คลองสิบสาม ปทุมธานี รร.เทพศริ ินทร์คลองสิบสาม ปทมุ ธานี

จากผลการประเมินคุณภาพการศกึ ษาระดับชาติเปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ
ขนั้ พ้นื ฐาน (O-NET) ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 พบว่า นกั เรียนโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ”มคี ะแนนเฉลี่ยรวม

สงู กวา่ คะแนนเฉลย่ี รวมของโรงเรียนเทพศริ ินทร์คลองสิบสาม ปทุมธานี ซงึ่ เปน็ โรงเรียนคู่เทียบ ในปกี ารศกึ ษา 2562
สงู กวา่ คดิ เปน็ ร้อยละ 0.13 และในปกี ารศึกษาสูงกว่าคิดเป็นรอ้ ยละ 2.76 นอกจากน้ยี งั พบวา่ ในปีการศกึ ษา 2562 มี

คะแนนเฉลยี่ ในแต่ละรายวิชาสงู กว่าโรงเรยี นคู่เทยี บจำนวน 3 วิชา คือ ภาษาไทย วทิ ยาศาสตร์ และภาษาองั กฤษ คิด
เป็นร้อยละ 75 ของจำนวนรายวิชาที่สอบทั้งหมด และในปีการศึกษา 2563 มีคะแนนเฉลี่ยในแต่ละรายวิชาสูงกว่า
โรงเรียนคูเ่ ทียบเพ่ิมขึ้น มีจำนวน 4 วิชา คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ คิดเป็นร้อยละ

100 ของจำนวนรายวิชาท่สี อบท้ังหมด
จากผลการประเมนิ ข้างต้น แสดงให้เหน็ ว่า ผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาระดบั ชาตเิ ปรียบเทียบคะแนน

ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนปทุมธานี
“นนั ทมนุ ีบำรุง” มีแนวโนม้ ของคะแนนเฉล่ียทเ่ี พ่มิ สงู ข้ึน

ตารางที่ 7–9 ผลการประเมินคณุ ภาพการศึกษาระดบั ชาติ เปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษา

ระดับชาติขั้นพืน้ ฐาน (O-NET) นักเรียนระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 เปรียบเทยี บคะแนนเฉลีย่

ระหวา่ งโรงเรยี นปทมุ ธานี “นนั ทมนุ ีบำรงุ ” กบั โรงเรยี นเทพศริ ินทร์คลองสิบสาม ปทุมธานี

ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

คะแนนเฉลี่ย O - NET ม.6

รายวิชา ปีการศกึ ษา 2562 ปกี ารศกึ ษา 2563

ปทุมธานี เทพศริ นิ ทรค์ ลองสิบ ปทมุ ธานี เทพศริ ินทร์คลองสิบ

"นันทมนุ ีบำรุง" สาม ปทมุ ธานี "นันทมนุ บี ำรงุ " สาม ปทมุ ธานี

ภาษาไทย 34.21 36.60 34.17 37.74

สงั คมศึกษา 31.18 32.68 31.55 32.77

คณติ ศาสตร์ 21.43 18.09 19.39 20.10

วิทยาศาสตร์ 24.80 25.14 25.54 27.94

ภาษาองั กฤษ 23.22 24.14 22.14 24.99

คะแนนเฉลีย่ รวม 5 วชิ า 26.97 27.33 26.56 28.71

76

แผนภาพที่ 7–10 เปรียบเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นักเรียนระดบั
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 เปรยี บเทียบคะแนนเฉล่ยี ระหวา่ งโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนบี ำรงุ ” กบั

โรงเรียนเทพศริ ินทรค์ ลองสิบสาม ปทมุ ธานี ปีการศึกษา 2562 – 2563

ปีการศกึ ษา 2562 ปกี ารศึกษา 2563

40.00 40.00

30.00 30.00
20.00
20.00 10.00
10.00 0.00

0.00

รร.ปทมุ ธานี "นนั ทมุนีบํารงุ " รร.ปทมุ ธานี "นนั ทมนุ ีบํารงุ "

รร.เทพศริ ินทรค์ ลองสิบสาม ปทมุ ธานี รร.เทพศิรนิ ทร์คลองสิบสาม ปทมุ ธานี

จากผลการประเมนิ คุณภาพการศกึ ษาระดับชาติเปรยี บเทียบคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ
ข้ันพนื้ ฐาน (O-NET) ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบวา่ ในปกี ารศึกษา 2562 รายวิชาทมี่ คี ะแนนเฉลี่ยสูงกว่าคะแนน
เฉล่ยี ของโรงเรยี นคเู่ ทยี บ มีจำนวน 1 วิชา คอื วชิ าคณิตศาสตร์ คดิ เป็นร้อยละ 25 ของจำนวนรายวิชาท่ีสอบท้ังหมด

และในปีการศกึ ษา 2563 นักเรียนโรงเรยี นปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มีคะแนนเฉลีย่ ต่ำกว่านักเรียนโรงเรียนเทพศิริ
นทร์คลองสิบสาม ปทุมธานี ที่เป็นโรงเรียนคู่เทียบทุกรายวิชา ซึ่งนำไปสู่การจดั ทำโครงการเพื่อยกระดับผลสัมฤทธ์ิ

ทางการเรียนตอ่ ไป

ข. ผลลัพธด์ า้ นประสทิ ธผิ ลและกระบวนการทำงาน (WORK PROCESS EFFECTIVENESS RESULTS)

(1) ประสทิ ธิผลและประสิทธิภาพของกระบวนการ (Process EFFECTIVENESS and Efficiency)
ผลการดำเนินการของระบบการบรหิ ารวชิ าการและกระบวนการจดั การเรยี นการสอนรวมทง้ั คณุ ภาพ

ของนักเรียนโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” แสดงให้เห็นว่า ผ่านผลการประเมินคุณภาพภายนอก : ผลการ

ประเมนิ SAR ภายใต้สถานการณ์ COVID – 19 ระดับการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน โรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนีบำรงุ ” สังกัด
สำนกั งานการศึกษามธั ยมศึกษาปทมุ ธานี มดี ังน้ี

ตารางที่ 7–10 ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายนอก : ผลการประเมิน SAR ภายใตส้ ถานการณ์ COVID – 19 ระดับ

การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน โรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนบี ำรุง”

มาตรฐาน ตวั ชี้วัด สรปุ ผล ระดบั
ประเมิน คุณภาพ

มาตรฐานท่ี 1 1. มีการระบเุ ป้าหมายคุณภาพของผเู้ รียน 5 ดี

คุณภาพผูเ้ รยี น 2. มีการระบุวิธีพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนอย่างเป็นระบบตามเป้าหมาย

การพฒั นาผเู้ รียน

3. มีผลสมั ฤทธิข์ องผู้เรียนตามเป้าหมายการพัฒนาผู้เรยี น

4. มีการนำผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียนมาพัฒนาผู้เรียนด้าน

ผลสัมฤทธิ์ให้สงู ขนึ้

5. มกี ารนำเสนอผลการประเมินคณุ ภาพของผู้เรียนต่อผ้ทู ่เี กย่ี วข้อง

77

มาตรฐาน ตัวช้วี ัด สรุปผล ระดับ
ประเมิน คุณภาพ

มาตรฐานท่ี 2 1. มกี ารวางแผนการดำเนนิ การในแต่ละปีการศกึ ษา 5 ดี

กระบวนการ 2. มีการนำแผนการดำเนนิ การไปใชด้ ำเนนิ การ
บรหิ ารและการ 3. มีการประเมนิ ผลสมั ฤทธขิ์ องการดำเนนิ การตามแผน
จดั การ 4. มกี ารนำผลการประเมินไปใช้ในการปรบั ปรุงแกไ้ ขในปกี ารศึกษาต่อไป

5. มีการนำเสนอผลการบริหารจัดการของสถานศึกษาให้ผู้มีส่วนได้ส่วน

เสียไดร้ ับทราบ

มาตรฐานท่ี 3 1. มกี ารระบุเป้าหมายคณุ ภาพของผู้เรียน 5 ดี

กระบวนการ 2. มีการระบุวิธีพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนอย่างเป็นระบบตามเป้าหมาย

จดั การเรียนการ การพัฒนาผเู้ รยี น

สอนทเ่ี น้น 3. มผี ลสมั ฤทธิ์ของผ้เู รียนตามเป้าหมายการพัฒนาผเู้ รียน
ผู้เรยี นเป็น 4. มีการนำผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียนมาพัฒนาผู้เรียนด้าน
สำคญั ผลสมั ฤทธ์ิใหส้ งู ขึน้

5. มีการนำเสนอผลการประเมนิ คณุ ภาพของผู้เรยี นตอ่ ผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ ง

จากผลการประเมินคุณภาพภายนอก : ผลการประเมิน SAR ภายใต้สถานการณ์ COVID – 19 ระดับ

การศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” สังกัดสำนักงานการศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี มีผลการ

ประเมนิ ทกุ มาตรฐานอยใู่ นระดบั ดี

ตารางที่ 7–11 ผลการประเมนิ คณุ ภาพภายใน ตามมาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนีบำรงุ ”

ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

ผลการประเมินคุณภาพ

มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา ภายใน

2562 2563

มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพผู้เรียน ดีเลิศ ดเี ลิศ

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการของผู้บริหาร ยอดเยยี่ ม ยอดเย่ยี ม

สถานศกึ ษา

มาตฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น ยอดเยย่ี ม ยอดเยีย่ ม

สำคญั

สรปุ ผลการประเมนิ ในภาพรวม ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม

จากข้อมูลข้างต้น สรุปได้ว่า ผลการดำเนินงานของระบบบริหารวิชาการและกระบวนการจัดการเรียนการ

สอนรวมทงั้ คณุ ภาพของนักเรียนโรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมนุ บี ำรุง” ผ่านเกณฑท์ ่ีกำหนดในระดบั ยอดเยย่ี ม

ผลลัพธ์ด้านประสิทธิผลและประสิทธิภาพของนักเรียนโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” แสดงได้จาก

จำนวนของนกั เรยี นทจ่ี บหลกั สตู รตั้งแตป่ กี ารศึกษา 2562 – 2563 มีดังนี้

78

ตารางท่ี 7–12 แสดงคา่ ร้อยละของจำนวนนกั เรียนท่จี บหลกั สูตรระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และระดับชนั้

มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ปกี ารศึกษา 2562 - 2563

ปีการศกึ ษา 2562 ปกี ารศกึ ษา 2563

หลกั สูตร จำนวน จบ รอ้ ย จำนวน จบ รอ้ ย

นักเรยี น หลักสูตร ละ นักเรยี น หลักสตู ร ละ

หลกั สตู รมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 157 157 100.00 242 242 100.00

หลกั สูตรมธั ยมศึกษาตอนปลาย 67 67 100.00 104 104 100.00

รวม 224 224 100.00 346 346 100.00

จากตาราง พบว่า นักเรียนโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”ที่จบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้นหรือจบ

การศกึ ษาภาคบังคับในระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 และจบหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายหรือจบการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน

ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปกี ารศึกษา 2562 - 2563 คดิ เปน็ ร้อยละ 100

(2) การเตรยี มพรอ้ มตอ่ ภาวะฉุกเฉิน (Emergency Preparedness)

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ได้มีระบบงานและการเตรียมความพร้อมของโรงเรียนเมื่อเกิดภัยพิบัติ

และภาวะฉกุ เฉนิ ซงึ่ ภาวะฉกุ เฉนิ ในโรงเรียนในทีน่ ้ี คือส่งิ ทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ครู นักเรยี น และบุคลากรทางการศึกษาใน

โรงเรียน โรงเรียนจึงได้มีการคาดการณ์และเตรียมหาแนวทางโดยผ่านคณะกรรมการบริหารโรงเรียน โดยพิจารณา

แลว้ มี 4 ด้าน ไดแ้ ก่ ความเส่ียงดา้ นสุขอนามัย ความเส่ยี งด้านความปลอดภยั ความเส่ียงดา้ นภัยพิบัติ และความเส่ียง

ด้านการใช้ อนิ เตอร์เนต็ และเทคโนโลยี และได้มีการสำรวจส่งิ แวดล้อมและวัสดุอุปกรณ์รกั ษาความปลอดภัยให้อยู่ใน

สภาพสมบูรณพ์ ร้อมใช้งานอยู่เสมอ แสดงดงั ตารางต่อไปน้ี

ตารางท่ี 7–13 แสดงขอ้ มูลการปฏิบัติเตรยี มพร้อมต่อภยั พบิ ัติและภาวะฉุกเฉนิ ชว่ งปี 2562 - 2563

การปฏิบัตมิ าตรการป้องกัน เปา้ หมาย(จำนวนครง้ั /ปี)

ปี 2562 ปี 2563

1. ด้านสขุ อนามยั

1.1 ตรวจสุขภาพนกั เรียนและบคุ ลากรทกุ ปกี ารศกึ ษา 11

1.2 การฉดี พ่นหมอกควนั ป้องกันไข้เลอื ดออก 22

1.3 การตรวจสุขลกั ษณะของอาหารในโรงอาหารจากสำนักงานอาหารและยา 22

1.4 การใชท้ รายอะเบท 30 30

1.5 การจัดบอร์ดประชาสมั พันธเ์ พื่อให้ความรู้ 22

2. ด้านความปลอดภัย

2.1 การตรวจสอบความพรอ้ มและความปลอดภยั ของอปุ กรณต์ า่ งๆ ทุกห้องเรียน 22

2.2 การตดิ ตงั้ อุปกรณ์ดบั เพลิง 11

2.3 การตดิ ต้งั กล้องวงจรปดิ ตามจุดสำคัญและจุดเสีย่ ง 22

2.4 การจัดเวรยามรักษาความปลอดภยั ท้ังกลางวนั และกลางคนื ตลอด 24 ช่ัวโมง ตลอดปีการศึกษา

2.5 การทำประกนั อุบัตเิ หตุ 11

3. ด้านภยั พิบตั ิ

3.1 การอบรมใหค้ วามรู้เกี่ยวกับอุกภัย อัคคภี ยั วาตภยั แผน่ ดนิ ไหว โรคระบาดและโจรกรรม 11

3.2 การอบรมใหค้ วามรแู้ ละป้องกนั COVID - 19 22

4. ดา้ นการใชส้ ่อื อนิ เทอรเ์ นต็ และเทคโนโลยี

4.1 มีแอดมนิ ในการกำกับดแู ลสื่อสงั คมออนไลนข์ องโรงเรยี น 3 คน 36 คน

4.2 มกี ารจัดทำระบบลงทะเบยี นในการใชง้ านอยา่ งเปน็ ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ตลอดปกี ารศึกษา

4.3 มรี ะบบอนิ เทอรเ์ นต็ ควาสมเรว็ สงู และมีระบบโทรศพั ท์ทีท่ วั่ ถึงและทนั ตอ่ เหตุการณ์ ตลอดปกี ารศกึ ษา

79

ค. ผลลัพธด์ ้านการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply-Chain Management RESULTS)
โรงเรียนให้ความสำคญั ตอ่ การนำกลยทุ ธส์ ู่การปฏิบตั เิ พื่อใหเ้ กดิ ผลการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาตาม

เป้าหมาย โดยมีการประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ วิธดี ำเนินงานอยา่ งต่อเนือ่ งสง่ ผลมคี ่าเฉลีย่ รอ้ ยละความสำเเร็จสูงขนึ้

ตารางท่ี 7–14 รอ้ ยละของความสำเรจ็ ในการดำเนินโครงการตามกลยทุ ธ์ของโรงเรยี น ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

รอ้ ยละของความสำเร็จในการดำเนนิ โครงการ

กลยทุ ธ์ ช่ือโครงการ 2562 ค่าเฉลย่ี 2563 ค่าเฉลย่ี
ตามกลยทุ ธ์ ตามกลยทุ ธ์
กลยุทธ์ที่ 1 1. โครงการพัฒนาการจัดการเรยี นรขู้ องกลุม่ สาระ
พฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น 2. โครงการพัฒนาทกั ษะชีวิตและอาชพี 90.98 91.75

92 82

3. โครงการปลูกฝงั วนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม 100 100
12 ประการ

4. โครงการหอ้ งสมดุ มชี ีวติ 100 100

5. โครงการพัฒนาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นของกลุ่มสาระ 91.76 94.92 84 90.72
วิชา

6. โครงการพัฒนาสง่ เสรมิ สุขภาพกาย สขุ ภาพจติ 84.60 78.00

7. โครงการกีฬาต้านภยั ยาเสพตดิ 100 100

8. สง่ เสริมพัฒนาความสามารถพเิ ศษทางดา้ นกฬี า 100 90

กลยทุ ธ์ท่ี 2 1. โครงการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ 92.86 82
พฒั นาคณุ ภาพการจดั 2. โครงการประกันคุณภาพภายใน 89.29
การศกึ ษา 3. โครงการพฒั นาระบบการวัดและประเมนิ ผล 89.20 86

90

4. โครงการพฒั นาสอื่ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา 89.29 90.00

5. โครงการพัฒนาครูและบคุ ลากร 80 81.09 86 88.89
6. โครงการจัดจา้ งบุคลากร สนบั สนนุ การศึกษา 100
84

7. พัฒนาปรับปรงุ หลักสตู ร 89.20 96

8. จดั ทำแผนปฏบิ ตั กิ ารประจำปีงบประมาณ2563 100 90

9. ยกระดับผลสมั ฤทธท์ิ างการทดสอบระดับชาตขิ นั้ 89.29 96
พื้นฐาน (O-NET)

กลยทุ ธ์ที่ 3 1. โครงการพฒั นาระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรียน 100 100
สรา้ งเสริมสังคมแหง่ การ 2. โครงการแนะแนวเพื่อการศกึ ษาต่อ 92.85
3. โครงการสง่ เสริมกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น 100 82
เรียนรู้
100

4.โครงการวนั สำคัญของชาติ ศาสนาพระมหากษัตรยิ ์ 96 92.75 100 95.54

5. โครงการเรียนรวม 96.25 97.25

6. โครงการค่ายทักษะชวี ิตและวชิ าการ 92.75 94.00

กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาอัต 1.โครงการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทย และภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่ 93 100

ลกั ษณส์ ถานศึกษาให้เดน่ 2.โครงการพฒั นาศกั ยภาพคนพกิ าร เครอื ขา่ ยการศึกษาไร้ 57.14 75.07 59.67 79.83
พรมแดน ไทย – ลาว

กลยุทธ์ที่ 5 1. โครงการพฒั นาอาคาร สถานที่ สงิ่ แวดลอ้ ม และ แหล่ง 92.80 100

พัฒนาคณุ ภาพสถานศึกษา เรยี นรู้ 93.70 96.50

2 .โครงการบรหิ ารจดั การศึกษาแบบมสี ว่ นรว่ ม 94.60 93

80

แผนภาพที่ 7–11 ร้อยละของความสำเรจ็ ในการดำเนินโครงการตามกลยุทธข์ องโรงเรียน ปีการศึกษา 2562 – 2563

120
100
80
60
40
20

0
กลยทุ ธท์ ่ี 1 กลยทุ ธท์ ่ี 2 กลยุทธ์ที่ 3 กลยทุ ธ์ที่ 4 กลยุทธท์ ี่ 5
ปีการศกึ ษา 2562 ปีการศึกษา 2563

จากตาราง และแผนภาพ พบว่า ร้อยละของความสำเรจ็ ในการดำเนินโครงการตามกลยทุ ธข์ องโรงเรยี นสงู ขนึ้
ยกเวน้ กลยทุ ธ์ท่ี 1 พฒั นาคุณภาพผ้เู รยี น แตม่ รี ้อยละของความสำเรจ็ ใกล้เคยี งกัน

81

7.2 ผลลพั ธด์ ้านการมุ่งเนน้ นกั เรยี นและผ้มู สี ่วนไดส้ ว่ นเสีย (STUDENT and Stakeholder-Focused
RESULTS)

ก. ผลลัพธด์ ้านนกั เรียนผมู้ ีสว่ นไดส้ ่วนเสยี (STUDENT and Stakeholder-Focused RESULTS)
(1) ความพงึ พอใจของนักเรียนและผูม้ ีส่วนได้สว่ นเสยี (STUDENT Satisfaction)
ระดับความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา โรงเรียนปทุมธานี

“นนั ทมนุ บี ำรงุ ”จากการรบั ฟังความคิดเห็นโดยสอบถามนักเรียนและผู้ปกครองเก่ยี วกบั การจัดการศึกษาตามหลักสูตร
สถานศึกษา เพือ่ เป็นขอ้ มูลในการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรยี น

ตารางท่ี 7-15 ระดบั ความพึงพอใจของนักเรยี นเกยี่ วกบั การจัดการศกึ ษาตามหลักสูตรสถานศึกษา

ปีการศึกษา 2562 – 2563

ที่ รายการ ปีการศกึ ษา 2562 ปกี ารศึกษา 2563
ค่าเฉลย่ี ระดับ ค่าเฉลี่ย ระดบั

1 การจัดสาระการเรียนรู้เพ่ิมเตมิ ใหน้ ักเรยี นได้เลือกเรยี นอย่างหลากหลาย สอดคลอ้ ง 4.61 มากทส่ี ดุ 4.63 มากที่สดุ
กบั ความถนดั และความสนใจของผู้เรียน

2 การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนสอดคล้องกบั เน้ือหาและจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.75 มากทส่ี ดุ 4.60 มากที่สุด

3 การเปิดโอกาสให้นกั เรียนมีส่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.64 มากที่สุด 4.73 มากที่สดุ

4 การใชว้ ธิ กี ารสอนท่หี ลากหลายส่งเสริมและพฒั นาความคิดใหแ้ กน่ กั เรียน 4.75 มากทสี่ ดุ 4.73 มากทส่ี ดุ

5 การใชแ้ หลง่ การเรยี นรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นในชมุ ชนประกอบการเรยี นการสอน 4.56 มากที่สดุ 4.74 มากที่สุด

6 การใชส่ อ่ื ประกอบการเรียนการสอนอยา่ งหลากหลาย 4.49 มากทส่ี ุด 4.61 มากท่ีสดุ

7 การใชส้ อ่ื ประกอบการรเรยี นการสอนอยา่ งเหมาะสมกับจดุ ประสงคเ์ น้ือหาสาระ 4.45 มาก 4.65 มากที่สุด
และกิจกรรมการเรียนรู้

8 การจัดกิจกรรมทีส่ ่งเสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม 4.71 มากทส่ี ดุ 4.74 มากที่สดุ

9 การจัดกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี นให้นักเรยี นอย่าง หลากหลาย เช่น แนะแนว ลกู เสือ 4.85 มากทส่ี ุด 4.70 มากที่สุด
และชมรมต่างๆ

10 การบรกิ ารแนะแนวให้นกั เรยี นพฒั นาตนเองและเต็มตามศักยภาพของผู้เรยี น 4.36 มาก 4.81 มากที่สุด

11 การวดั และการประเมนิ ผลอยา่ งหลากหลาย เชน่ มกี ารทดสอบ การสังเกต การ 4.76 มากทส่ี ุด 4.79 มากที่สุด
ปฏบิ ตั ิ การตรวจผลงาน

12 การวัดและประเมินผลสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.71 มากทส่ี ดุ 4.80 มากทส่ี ดุ

13 การให้นกั เรยี นมสี ่วนรว่ มในการประเมินผล 4.63 มากที่สุด 4.78 มากทส่ี ุด

14 การแนะนำของครูเพ่อื ปรับปรุงผลงานนักเรียน 4.75 มากที่สดุ 4.62 มากทส่ี ุด

15 การจดั บรรยากาศเอ้อื ต่อการเรยี นรู้ท้ังในและนอกห้องเรยี น มคี วามเปน็ กนั แอง 4.65 มากที่สดุ 4.67 มากทส่ี ุด
ระหว่างครกู บั นักเรียน หรอื ระหวา่ งนักเรยี นกบั นักเรยี น

คา่ เฉล่ีย 4.65 มากทสี่ ดุ 4.71 มากท่ีสดุ

จากการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนเกี่ยวกับการจัดการศึกษาตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียน

ปทุมธานี”นันทมุนีบำรุง” ปีการศึกษา 2562 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้

นกั เรยี นอยา่ ง หลากหลาย เชน่ แนะแนว ลกู เสอื และชมรมต่างๆมากทส่ี ุด คา่ เฉลีย่ 4.85 รองลงมาคือ การวัดและการ

ประเมินผลอยา่ งหลากหลาย เช่น มีการทดสอบ การสังเกต การปฏบิ ตั ิ การตรวจผลงาน และ การแนะนำของครูเพื่อ

ปรับปรุงผลงานนักเรียน ค่าเฉลี่ย 4.76 และ 4.75 ตามลำดับ ส่วนในปีการศึกษา 2563 พบว่านักเรียนมีความพึง

พอใจต่อการบริการแนะแนวให้นักเรียนพัฒนาตนเองและเต็มตามศักยภาพของผู้เรียนมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.81

รองลงมา การวัดและประเมินผลสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ และ การวัดและการประเมินผลอย่างหลากหลาย

เชน่ มีการทดสอบ การสงั เกต การปฏิบตั ิ การตรวจผลงานค่าเฉลี่ย 4.80 และ 4.79 ตามลำดบั

82

(2) ความผกู พนั ของนักเรียนและผู้มสี ว่ นได้ส่วนเสยี (STUDENT and Stakeholder ENGAGEMENT)
2.1 ความผูกพันของนักเรียน โรงเรียนปทุมธานี”นันทมุนีบำรุง” ได้พัฒนาศักยภาพนักเรียนให้มี

ภาวะผู้นำ ในรูปแบบการจัดกิจกรรมการอบรม จัดกิจกรรมค่าย เพื่อพัฒนาความรู้ ความคิด ความสามารถในด้าน
ต่างๆ ให้กับนักเรียน ส่วนศิษย์เก่าจะมีกิจกรรมเพื่อสานสัมพนั ธ์กันและสนับสนุนการจัดการศกึ ษาของโรงเรียนอย่าง
ต่อเนื่อง นอกจากนี้ มีนักเรียนทีม่ ีความผูกพันกับโรงเรียน เมื่อนักเรียนเรียนจบหลักสตู รมัธยมศึกษาตอนตน้ มีความ

ประสงคจ์ ะศกึ ษาต่อที่โรงเรยี นเดมิ ในหลกั สูตรชัน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย โดยนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 เดิมมีความ
พงึ พอใจท่จี ะศึกษาตอ่ ในระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ปกี ารศึกษา 2562 – 2563 มรี ายละเอยี ดดังน้ี

ตารางท่ี 7–16 เปรียบเทยี บสถิตินกั เรียนโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมุนีบำรุง” ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ทีศ่ ึกษาต่อ

ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

ปี จำนวน (คน) นักเรียน เขา้ ศกึ ษาต่อ รร.ปทุมธานี “นนั ทมุนบี ำรงุ ”
การศึกษา ม.3
จำนวน (คน) คิดเป็นร้อยละ
ปกี ารศกึ ษาก่อนหน้า

2562 158 83 54.25

2563 164 96 58.54

รวม 415 179 43.13

แผนภาพท่ี 7–12 ร้อยละของนกั เรยี นโรงเรยี นปทุมธานี “นันทมุนีบำรงุ ” ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
ท่ีศกึ ษาตอ่ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

60

58

56

54

52 ปีการศกึ ษา 2563
ปกี ารศกึ ษา 2562

จากตารางและแผนภูมิ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
โรงเรยี นปทุมธานี “นันทมุนบี ำรุง” ในปีการศึกษา 2562 – 2563 มีจำนวนมากข้ึน แสดงให้เหน็ วา่ นกั เรยี นมีความพึง

พอใจ มคี วามผูกพันต่อโรงเรียน
2.2 ความผูกพันกับผู้ปกครอง ในแต่ละปีการศึกษา โรงเรียนได้จัดการประชุมผู้ปกครองนักเรียน

เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับฟังนโยบาย จุดเน้นในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนการสอน และเปิดโอกาสให้

ผู้ปกครองได้แสดงความคิดเห็นเพื่อพัฒนาและปรับปรุงโรงเรียนให้มีคุณภาพการศึกษาที่ดี รวมทั้งเปิดโอกาสให้
ผู้ปกครองได้พบปะและซกั ถามข้อมูลของโรงเรียนและนักเรยี นจากคุณครูประจำช้นั มกี ารจัดตั้งและประชุมเครือข่าย

ผู้ปกครอง ซึ่งทุกปีผู้ปกครองจะให้ความร่วมมือและให้ความสนใจเข้าประชุมเป็นจำนวนมาก และมีผลการประเมนิ
ความพึงพอใจ

83

ตารางท่ี 7–17 เปรียบเทยี บสถติ ิผ้ปู กครองทเ่ี ข้ารว่ มการประชมุ ผู้ปกครอง

การจดั ประชุมผปู้ กครอง ปีการศึกษา ปีการศกึ ษา 2563

จำนวนเตม็ 2562 936
จำนวนผปู้ กครองที่เขา้ ร่วม 880
ร้อยละของผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย 873 94.01
801

91.75

แผนภาพท่ี 7–13 รอ้ ยละของผปู้ กครองทเี่ ขา้ รว่ มประชมุ ผ้ปู กครอง

95
94
93
92
91
90

ปกี ารศกึ ษา 2562 ปกี ารศึกษา 2563

จากตารางและแผนภาพ แสดงให้เหน็ ว่า ร้อยละของผปู้ กครองต้องการมีสว่ นร่วมและแสดงความคดิ เหน็ เพื่อ
พัฒนา และปรบั ปรุงโรงเรียนใหม้ ีคุณภาพการศึกษาทดี่ ี ทำใหเ้ กิดความผูกพันระหวา่ งโรงเรียน และผ้มู สี ่วนได้ส่วนเสีย
โดยผู้ปกครองให้ความสำคญั ในการเข้าประชุมผู้ปกครอง และมีความพึงพอใจร้อยละ 90 ข้ึนไปอยู่ในระดับมากที่สุด

ตารางที่ 7-18 แสดงความพงึ พอใจของผู้ปกครองทีเ่ ขา้ รว่ มประชุมผ้ปู กครองนักเรียน ปีการศึกษา 2562-2563

ผลวเิ คราะห์

ขอ้ ที่ รายการประเมิน ปกี ารศกึ ษา 2562 ปีการศกึ ษา 2563

คา่ เฉลี่ย SD คา่ เฉลยี่ SD

1 สถานที่จัดกิจกรรม 4.65 0.687 4.71 0.671

2 ระยะเวลาของกจิ กรรมในหอประชุม 4.46 0.717 4.81 0.465

3 ระยะเวลาของกิจกรรมพบครูทป่ี รกึ ษา 4.50 0.704 4.78 0.440

4 การตอ้ นรับและการให้คำแนะนำของคณะครู 4.60 0.711 4.97 0.223

5 ประโยชน์ทเ่ี กดิ จากการเขา้ รว่ มประชมุ 4.40 0.767 4.45 0.787

6 การเขา้ ใจและสาระท่ไี ด้รบั จากการประชุม 4.49 0.823 4.37 0.812

7 การสร้างความสมั พันธร์ ะหว่างครแู ละผู้ปกครอง 4.41 0.753 4.52 0.759

8 ท่านได้มีโอกาสแจ้งปัญหาของนักเรียนในความ 4.52 0.703 4.74 0.563

ปกครองของทา่ นเพือ่ หาทางแก้ไขกับครูที่ปรึกษามาก

นอ้ ยเพียงใด

ความคดิ เหน็ โดยรวม 4.51 0.735 4.67 0.645

84

จากตารางพบวา่ ความพึงพอใจของผปู้ กครองทีเ่ ขา้ ร่วมประชุมผูป้ กครองนกั เรยี น ปีการศึกษา 2562 – 2563
อยู่ในระดับที่ มากที่สุด แสดงให้เห็นว่า โรงเรียนมีการสร้างความเขา้ ใจและความผูกพันของนกั เรียน ผู้ปกครองและ
โรงเรียน อยา่ งสมำ่ เสมอ

7.3 ผลลัพธ์ด้านบคุ ลากร (WORKFORCE-Focused RESULT)

ก. ผลลพั ธ์ดา้ นบุคลากร (WORKFORCE-Focused RESULT)
(1) ขดี ความสามารถและอัตรากำลังบคุ ลากร (WORKFORCE CAPABILITY and CAPACCITY)

โรงเรยี นได้ใช้ระบบบรหิ ารคุณภาพ PTN Model ในการจดั ทำแผนอัตรากำลงั ในแต่ละปี โดยสำรวจ
ความต้องการบุคลากรแต่ละรายวิชาจากการจัดทำข้อมูลสารสนเทศของบุคลากร แยกตามวุฒิการศึกษา กลุ่มสาระ
การเรยี นรู้ และวิทยฐานะ ทำให้อตั รากำลงั บุคลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมนุ บี ำรุง” มคี วามเหมาะสมกับการ

ปฏิบัติการสอนของแต่ละกลุม่ สาระการเรียนรู้ ครูทุกคนมีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้
มีวุฒแิ ละสาขาวชิ าที่ตรงกับความต้องการของผูเ้ รียน

ตารางที่ 7–19 แสดงจำนวนบุคลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” จำแนกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้

ปีการศึกษา 2562 – 2563

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ปกี ารศึกษา 2562 รวม ปีการศกึ ษา 2563 รวม
ข้าราชการ ครอู ตั ราจ้าง ข้าราชการ ครูอตั ราจา้ ง

ภาษาไทย 5 - 56 -6

คณิตศาสตร์ 5 1 65 16

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6 2 84 26

ภาษาตา่ งประเทศ 7 3 10 5 3 8

สงั คมศกึ ษา 5 2 76 17

สุขศึกษาและพลศกึ ษา 3 1 4 3 1 4

ศิลปะ 5 - 53 -3
การงานอาชีพ 6 - 66 -6
แนะแนว 1 - 11 -1

แผนภาพที่ 7-14 แสดงจำนวนบคุ ลากรของโรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมนุ บี ำรุง” จำแนกตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้
ปีการศึกษา 2562 – 2563

10 บคุ ลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบารงุ ” จาแนกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้

56 6 7 6 66

5 55 4 55 5

00 11 21 33 33 3
2 1 1 1 0 0 0 0 1010
0
ปีการศึกษา 2562 ข้าราชการ ปีการศกึ ษา 2562 ครอู ัตราจา้ ง

85

ตารางท่ี 7–20 แสดงจำนวนบุคลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนบี ำรงุ ” จำแนกตามวิทยฐานะ
ปีการศกึ ษา 2562

อายุ จำนวนครูในแตล่ ะตำแหนง่ /วทิ ยฐานะ
เฉลีย่
ท่ี กลุ่มสาระการเรียนรู้ อายุราชการเฉล่ยี ครผู ูช้ ว่ ย ครู ครู ครู ครู
คศ.4
1 ผู้บริหาร คศ.1 คศ.2 คศ.3
2 คณิตศาสตร์
3 วทิ ยาศาสตร์ 53 15 0 0 0 1 0
4 ภาษาไทย
5 สังคมศึกษา 32 7 0 4 10 0
6 สุขศกึ ษาและพลศึกษา
7 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 48 19 1 2 2 1 0
8 ภาษาตา่ งประเทศ
9 ศิลปะ 40 11 3 1 3 0 0

10 กิจกรรมแนะแนว 38 11 1 2 1 1 0

30 5 0 3 00 0

54 27 1 0 5 0 0

37 10 2 3 2 0 0

46 22 0 0 4 1 0

42 3 0 1 00 0

ตารางที่ 7–21 แสดงจำนวนบคุ ลากรของโรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนบี ำรุง” จำแนกตามวิทยฐานะ
ปกี ารศกึ ษา 2563

อายุ เพศ จำนวนครใู นแตล่ ะตำแหน่ง/วิทยฐานะ
เฉลีย่ ชาย หญงิ
ท่ี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ครูผ้ชู ว่ ย ครู ครู ครู ครู
คศ.4
1 ผ้บู ริหาร คศ.1 คศ.2 คศ.3
2 คณิตศาสตร์
3 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 42 2 1 0 0 12 0
4 ภาษาไทย
5 สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 30 2 3 1 2 20 0
6 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา
7 การงานอาชพี 40 2 2 2 0 20 0
8 ภาษาตา่ งประเทศ
9 ศิลปะ 39 0 6 3 1 20 0

10 กิจกรรมแนะแนว 42 2 4 0 3 12 0

31 3 0 0 2 10 0

55 3 3 0 1 50 0

40 0 5 1 2 20 0

58 1 2 0 0 21 0

43 0 1 0 1 00 0

86

แผนภาพที่ 7–15 แสดงจำนวนบุคลากรของโรงเรียนปทมุ ธานี “นันทมนุ บี ำรุง” จำแนกตามจำแนกตามวิทยฐานะ
ปีการศกึ ษา 2562 – 2563

จํานวนบุคลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบํารุง” จําแนกตามวิทย
ฐานะ

6
5 ปกี ารศกึ ษา 2562 ครูผชู้ ว่ ย
4
3 ปีการศึกษา 2562 ครู คศ.1

2 ปีการศึกษา 2562 ครู คศ.2
1
0 ปีการศกึ ษา 2562 ครู คศ.3

ปกี ารศึกษา 2562 ครู คศ.4

ปกี ารศึกษา 2563 ครูผู้ช่วย

ปีการศกึ ษา 2563 ครู คศ.1

ตารางท่ี 7–22 แสดงจำนวนบุคลากรของโรงเรียนปทมุ ธานี “นนั ทมุนีบำรุง” จำแนกตามวุฒิการศกึ ษา

ปีการศกึ ษา 2562 – 2563

ปี ป.บณั ฑติ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาโท ปรญิ ญาเอก รวม

การศึกษา

2562 5 39 11 - 55

2563 - 40 10 - 50

แผนภาพท่ี 7–16 แสดงจำนวนบุคลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนบี ำรุง” จำแนกตามวฒุ ิการศึกษา
ปีการศกึ ษา 2562 – 2563

บุคลากรของโรงเรียนปทุมธานี “นันทมนุ ีบารงุ ” จาแนกตามวฒุ ิการศกึ ษา

39 40 55 50

50 11 10 00

ป.บัณฑติ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาโท ปริญญาเอก รวม
ปกี ารศกึ ษา 2562 ปกี ารศกึ ษา 2563

(2) บรรยากาศการทำงานของบุคลากร (WORKFORCE Climate)
2.1 สภาพแวดลอ้ มในการทำงาน

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มุ่งเน้นการจัดอาคารสถานที่ บรรยากาศทำงานให้สะอาด
ปลอดภัย เพื่อให้บุคลากรเกิดความมั่นคงปลอดภัยทั้งทางร่างกาย และจิตใจ เพื่อเอื้ออำนวยต่อระบบการเรียนการ
สอนและผรู้ บั บรกิ าร รวมถึงสร้างความพึงพอใจให้กบั บคุ ลากร

87

ตารางที่ 7–23 แสดงความพงึ พอใจต่อบรรยากาศการทำงานของบคุ ลากรดา้ นสภาพแวดล้อม
ปกี ารศกึ ษา 2562 – 2563

รายการ ปกี ารศึกษา คะแนนเฉลยี่ คิดเปน็ ระดบั ความพงึ
รอ้ ยละ พอใจ
ดำเนินโครงการการพัฒนาอาคาร สถานที่ สง่ิ แวดล้อม และ 2562 2563 4.82
แหลง่ เรียนรู้ 96.40 มากทีส่ ุด
ดำเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติด และ 4.64 5.00 5.00
อบายมุข 4.06 100.00 มากทส่ี ดุ
การตรวจสขุ ภาพประจำปี 5.00 5.00 4.48
ดำเนนิ โครงการการพัฒนาระบบการวัดและประเมนิ ผล 81.020 มาก
4.23 3.90 89.60 มาก
รวม 4.46 4.50 91.80 มากทส่ี ุด

4.59

จากตารางพบว่า บุคลากรมีความพึ่งพอใจต่อการจัดสภาพแวดล้อมในการทำงาน ปีการศึกษา 2562-2563

โดยระดับความพงึ พอใจในปกี ารศึกษา 2562 - 2563 มากท่ีสดุ อยู่ท่ีสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติด และอบายมุข
รองลงมาอยู่ท่ีการพฒั นาอาคาร สถานท่ี สงิ่ แวดลอ้ ม และแหล่งเรยี นรู้

2.2 นโยบาย และสิทธปิ ระโยชน์
ฝ่ายบริหารโรงเรียนวิเคราะห์ความต้องการของบุคลากร และนำมากำหนดนโยบาย การบริการ และ

สิทธิประโยชน์ให้กับบคุ ลากรตามขอบขา่ ยภาระงาน โดยส่งเสริมให้ทุกฝ่ายงานให้บริการเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของ
บคุ ลากร
ตารางที่ แสดงความพึงพอใจบรรยากาศการทำงานของบุคลากรด้านนโยบาย และสิทธิประโยชน์ของบุคลากร

ปีการศึกษา 2562 – 2563

ตารางที่ 7–24 แสดงความพึงพอใจต่อนโยบาย และสิทธปิ ระโยชน์ ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

รายการ ปกี ารศกึ ษา คะแนนเฉลย่ี คดิ เปน็ ระดับความพึง
รอ้ ยละ พอใจ
2562 2563

ดำเนนิ โครงการพัฒนาครแู ละบคุ ลากร 4.00 4.30 4.15 83.00 มาก

ดำเนินโครงการธนาคารโรงเรยี น 3.29 3.90 3.60 71.90 ปานกลาง

บริหารจัดการศึกษาแบบมสี ่วนร่วมฝ่ายบคุ คล 5.00 5.00 5.00 100.00 มากท่ีสุด

บรหิ ารจดั การศกึ ษาแบบมสี ว่ นร่วมฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ 4.46 4.30 4.38 87.60 มาก

พฒั นาทักษะชีวิตและอาชีพ (เปดิ บ้านวิชาการ) 4.60 4.10 4.35 87.00 มาก

การพฒั นาปรับปรงุ หลกั สูตรสถานศกึ ษา 4.46 4.80 4.63 92.60 มากท่สี ุด

รวม 4.35 87.02 มาก

จากตารางพบว่า บุคลากรมีความพึ่งพอใจต่อนโยบาย และสิทธิประโยชน์ ปีการศึกษา 2562-2563 โดย

ระดับความพึงพอใจในปีการศึกษา 2562 - 2563 มากที่สุดอยู่ที่การบริหารจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมฝ่ายบุคคล

รองลงมาอยทู่ ี่การพัฒนาปรับปรุงหลกั สูตรสถานศกึ ษา

(3) การทำใหบ้ ุคลากรมคี วามผูกพนั (WORKFORCE ENGAGMENT)
โรงเรียนมีวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง บุคลากรที่อาวโุ สกว่าจะถ่ายโอนองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์

ในการทำงานให้แก่รุ่นน้องอย่างเป็นกัลยาณมิตร เป็นการสร้างความผูกพันซึ่งกันและกัน รวมถึงให้ทุกคนมีส่วนสง่
เสริมการทำงานร่วมกันเป็นคณะ และสรา้ งความภาคภมู ิใจที่เป็นบุคลากรของโรงเรียนโดยการจดั กจิ กรรมสร้างขวัญ
และกำลงั ใจแกค่ รู และบคุ ลากร

88

ตารางท่ี 7–25 แสดงความพงึ พอใจตอ่ การปฏิบัตงิ านโรงเรยี นปทุมธานี “นันทมนุ บี ำรุง” ปีการศึกษา 2562 – 2563

รายการ ปีการศึกษา คะแนน คดิ เป็น ระดบั ความ
พงึ พอใจ
2562 2563 เฉลย่ี รอ้ ยละ

ดำเนินโครงการส่งเสรมิ อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ 4.65 5.00 4.82 96.50 มากท่สี ดุ

ดำเนนิ โครงการพฒั นาครูและบุคลากร 4.00 4.30 4.15 83.00 มาก

ดำเนินโครงการวันสำคญั ของชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ประจำปี 4.80 5.00 4.90 98.00 มากที่สุด
การศกึ ษา

ดำเนนิ การพฒั นาปรับปรุงหลกั สูตรสถานศึกษา 4.46 4.80 4.65 93.00 มากทส่ี ดุ

รวม 4.63 92.60 มากท่ีสดุ

จากตารางพบว่า บุคลากรมีความพึ่งพอใจต่อการปฏิบัติงานโรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ปี

การศึกษา 2562-2563 โดยระดับความพึงพอใจในปีการศกึ ษา 2562 - 2563 มากที่สดุ อยทู่ ก่ี ารจัดกิจกรรมวันสำคัญ

ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ประจำปีการศึกษา รองลงมาอยู่ท่กี ารส่งเสริมอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมไทยและภูมิปัญญา

ท้องถน่ิ

(4) การพัฒนาบคุ ลากรและผูน้ ำ (WORKFORCE Development)
โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” จัดการเรียนรู้เทียบเคียงสู่มาตรฐานสากล มุ่งเน้นคุณภาพนักเรียนสง่

เสรมิ การทำวจิ ยั เพอ่ื พฒั นานกั เรยี น สง่ เสรมิ บคุ ลากรใหม้ กี ารพฒั นาตนเอง ทั้งการอบรม การศึกษาตอ่ ในระดบั ทสี่ ูงขนึ้
ตารางแสดง จำนวนบุคลากรที่ได้รับการพัฒนาในด้านตา่ ง ๆ ปกี ารศึกษา 2562 – 2563

ตารางท่ี 7–26 แสดงความจำนวนครทู เ่ี ข้าร่วมพฒั นาในด้านต่างๆ ปีการศกึ ษา 2562 – 2563

รายการ ปีการศึกษา คิดเป็น ปีการศึกษา
รอ้ ยละ
2562 2563 2562 2563

ดี ดมี าก ดี ดมี าก

เขา้ ร่วมอบรมตามหลัก เกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กำหนด 52 47 100

การจัดทำวิจัยในชน้ั เรยี น 52 47 100
52 47 100
การจัดทำแผนการพัฒนาตนเอง (ID Plan)

การจดั ทำรายงานการประเมินตนเอง (SAR) 52 47 100

การนิเทศการจัดการเรียนการสอน จากฝ่ายบริหารและ 7 45 6 41
หวั หนา้ กล่มุ สาระ

จากตารางพบวา่ ครูโรงเรยี นปทมุ ธานี “นนั ทมนุ บี ำรงุ ” ไดร้ บั การพฒั นาในดา้ นต่าง ๆ คิดเปน็ รอ้ ยละ 100

89

7.4 ผลลพั ธ์ด้านการนำองค์กรและการกำกบั ดูแลองคก์ ร (Leadership and Governance Results)
ก. ผลลพั ธด์ ้านการนำองคก์ ร การกำกับดแู ลโรงเรียน และความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม (Leadership

Governance and Societal Responsibility RESULTS)
(1) การนำองคก์ ร (Leadership)
จากผลการประเมินตนเอง SAR ในปีการศึกษา 2562 – 2563 ในมาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและ

การจัดการของผู้บริหารสถานศึกษา อยู่ในระดับคุณภาพยอดเยี่ยม ซึ่งปรากฏผลการพัฒนาอย่างเด่นชัด พบว่า
ผู้บริหารมีการวางระบบการนิเทศภายใน การกำกับ ติดตาม ให้กำลังใจ ชื่นชม เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจให้บุคลากร

สามารถทำงานไปในทศิ ทางเดียวกัน โดยมปี ระเดน็ ผลการพัฒนา ดงั นี้
1. โรงเรยี นจดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสังคมทด่ี ีและกระตนุ้ ให้ผ้เู รียนใฝเ่ รยี นร้ทู ว่ั ถึงทุกกลมุ่ เปา้ หมาย

อยู่ในเกณฑ์ ระดับดเี ยย่ี ม

2. โรงเรยี นมกี ารกำหนดเปา้ หมายวิสยั ทัศน์ และพนั ธกจิ ตรงกบั วตั ถปุ ระสงคข์ องแผนการศึกษาชาติ และ
สอดคลอ้ งกบั ความต้องการของชุมชน ท้องถิ่นอย่างชดั เจน อยู่ในเกณฑ์ ดีเย่ยี ม

3. โรงเรยี นพฒั นาครูและบุคลากรให้มีความเชยี่ วชาญทางวิชาชพี มีความรู้ความสามารถและทักษะตาม
มาตรฐานตำแหน่ง อยู่ในเกณฑ์ ดีเยีย่ ม

4. ครูจัดการเรียนรผู้ า่ นกระบวนการคิดและปฏบิ ัติจรงิ และสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตได้ อยู่ในเกณฑ์

ระดบั ดเี ย่ียม
5. ครูและนกั เรียน มกี ารแลกเปลี่ยนเรยี นร้แู ละให้ข้อมูลสะทอ้ นกลบั เพอ่ื พัฒนาและปรบั ปรงุ การจดั การ

เรยี นรู้ อยู่ในเกณฑ์ ระดบั ดเี ยี่ยม
(2) การกำกับดแู ลองคก์ ร (GOVERNANCE)
การประเมนิ คุณภาพภายในและผลการประเมินคุณภาพจากต้นสงั กัด ด้านการกำกับดูแลองค์กร

ตารางท่ี แสดงผลการกำกบั ดแู ลองคก์ รของผู้บรหิ ารมีการปฏบิ ัติงานตามบทบาทหน้าท่ีปีการศกึ ษา 2562-2563
ตารางท่ี 7 – 27 ค่าเฉลี่ย และรอ้ ยละของการประเมนิ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการของผบู้ รหิ าร

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหาและการจดั การของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา

มาตรฐานการศึกษา/ตัวบ่งชี้ ปีการศึกษา 2562 ปีการศกึ ษา 2563
คะแนนเฉล่ยี คิดเป็นรอ้ ยละ คะแนนเฉล่ีย คิดเปน็ รอ้ ยละ

2.1 การมเี ปา้ หมาย วสิ ยั ทศั น์ และพนั ธกจิ ทส่ี ถานศกึ ษา 4.89 97.78 4.87 97.5
4.62 92.5
กำหนดชัดเจน 4.5 90
4.75 95
2.2 มรี ะบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา 4.44 88.89 4.75 95

2.3 ดำเนินงานพัฒนาวชิ าการท่เี น้นคณุ ภาพผูเ้ รียนรอบด้าน 4.33 86.67 4.5 90
ตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา และทกุ กลุ่มเปา้ หมาย 4.7 93.33

2.4 พัฒนาครูและบุคลากรให้มคี วามเชยี่ วชาญทางวิชาชพี 4.78 95.56

2.5 จดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสงั คมที่เออื้ ตอ่ การ 4.67 93.33
จดั การเรียนรู้อย่างมีคณุ ภาพ

2.6 จัดระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบรหิ าร 4.33 86.67
จัดการและการจัดการเรียนรู้

เฉลย่ี คะแนนรวม 4.57 91.48

จากตาราง พบวา่ การกำกบั ดแู ลองค์กรของผูบ้ รหิ ารมีการปฏบิ ตั ิงานตามบทบาทหนา้ ที่ ผู้บริหารมีการปฏบิ ัติ
งานตามบทบาทหนา้ ท่ีอย่างมปี ระสิทธภิ าพ จัดโครงสร้างการบรหิ ารโรงเรยี นตามภาระงานมีความคดิ รเิ ริ่มสร้าง สรรค์

ในการนำรูปแบบการบรหิ ารโรงเรียนสู่สากลมาใช้ในการบริหารจดั การใช้หลักการมสี ่วนรว่ มยดึ ขอ้ มูลสารสนเทศใน

90

การตัดสินใจ การจดั สรรงบประมาณ โครงการตา่ งๆ เป็นไปอย่างมรี ะบบและสอดคล้องกบั วสิ ยั ทัศน์ มผี ลการประเมิน
ปกี ารศกึ ษา 2562 คดิ เปน็ ร้อยละ 91.48 และในปีการศกึ ษา 2563 คิดเป็นร้อยละ 93.33 ซ่ึงมีแนวโนม้ เพ่ิมขนึ้ ในทุกปี

(3) กฎหมายและกฎระเบียบข้อบงั คบั (Law and Regulation)
โรงเรียนดำเนนิ การดา้ นการปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บข้อบังคับและกฎหมายของทางราชการและกฎหมาย

ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ดังปรากฏตามตัวชี้วัดมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน จากการประเมินคุณภาพภายใน
สถานศึกษา

ตารางที่ 7-28 แสดงผลด้านการปฏิบัติตามกฎระเบยี บขอ้ บังคับและกฎหมายของทางราชการและกฎหมาย

มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจัดการของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ปีการศกึ ษา 2562 ปกี ารศึกษา 2563
มาตรฐานการศึกษา/ตัวบง่ ชี้ คะแนน คดิ เปน็
เฉลี่ย ร้อยละ คะแนน คิดเปน็
2.2 มีระบบบรหิ ารจดั การคณุ ภาพของสถานศึกษา เฉล่ยี ร้อยละ
4.44 88.89
4.62 92.5

2.4 พฒั นาครูและบุคลากรใหม้ คี วามเชีย่ วชาญทางวิชาชพี 4.78 95.56 4.75 95
เฉลยี่ คะแนนรวม 4.61 92.23 4.69 93.75

จากตาราง พบว่า การกำกับดูแลองค์กรของผู้บริหารมีการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ มีผลการประเมินปี
การศึกษา 2562 คิดเป็นร้อยละ 92.23 และในปกี ารศกึ ษา 2563 คดิ เปน็ ร้อยละ 93.75 ซึง่ มแี นวโน้มเพมิ่ ขึน้ ในทกุ ปี

(4) จรยิ ธรรม (Ethics)
จากผลการประเมินตนเอง SAR ในปีการศึกษา 2562 – 2563 ในมาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและ

การจดั การของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาพบวา่ ผู้บริหารระดบั สูงได้ใช้กระบวนการการมีส่วนรว่ มเพอ่ื สรา้ งความเข้าใจใน
เรื่องการส่งเสริมให้บุคลากร ภายในโรงเรียนปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรมและใชเ้ ป็นเครือ่ งมอื ในการบริหาร
จดั การ โดยโรงเรียนกำหนดคุณธรรม อัตลกั ษณข์ องโรงเรียนปทุมธานี “นันทมนุ ีบำรงุ ” เพ่ือเป็นแนวทางการปฏิบัติ
ตนเชงิ คุณธรรมแกบ่ คุ ลากรในสถานศึกษา

(5) สังคม (Society)

ตารางที่ 7-29 แสดงผลการประเมินคุณภาพภายใน (SAR) ดา้ นอตั ลักษณ์ ปกี ารศึกษา 2562-2563

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ปกี ารศกึ ษา 2562 ปกี ารศึกษา 2563
มาตรฐานการศึกษา/ตวั บ่งชี้
คะแนน คดิ เปน็ คะแนน คดิ เป็นร้อย
เฉลยี่ ร้อยละ เฉลี่ย ละ

2.1 การมีเป้าหมาย วสิ ยั ทศั น์ และพันธกจิ ทีส่ ถานศึกษากำหนดชดั เจน 4.89 97.78 4.87 97.5

2.2 มีระบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศกึ ษา 4.44 88.89 4.62 92.5
90
2.3 ดำเนนิ งานพัฒนาวชิ าการทีเ่ นน้ คุณภาพผ้เู รียนรอบดา้ น ตามหลักสูตรสถานศึกษา 4.33 86.67 4.5
และทกุ กลมุ่ เป้าหมาย 93.33

เฉล่ยี คะแนนรวม 4.55 91.11 4.66

91

จากตารางพบวา่ การพัฒนาสถานศึกษาให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ ปรัชญา และจุดเนน้ มีผลประเมิน
ในปีการศึกษา 2562 คิดเป็นร้อยละ 91.11 และในปีการศึกษา 2563 คิดเป็นร้อยละ 93.33 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มข้นึ ใน

ทกุ ปี

ข. ผลลพั ธ์ด้านการนำกลยทุ ธ์ไปปฏิบตั ิ (Strategy Implementation RESULTS)

โรงเรยี นได้ดำเนินการตามแผนกลยทุ ธแ์ ละแผนปฏิบตั กิ ารประจำปี เพอ่ื เสรมิ สรา้ งสมรรถนะหลกั ของ โรงเรียนจากนั้น
กลุ่มบริหารงาน กลมุ่ งาน และกลุ่มสาระการเรยี นรู้ท่ีจัดทำแผนปฏิบัติการโดยใช้วงจรคุณภาพ PDCA มีการดำเนินการ
ตามกลยุทธท์ ัง้ หมด 5 กลยุทธ์ ดังนี้

กลยทุ ธท์ ี่ 1 พฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน
กลยุทธ์ท่ี 2 พฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษา

กลยทุ ธ์ที่ 3 เสรมิ สรา้ งสังคมแห่งการเรียนรู้
กลยุทธ์ท่ี 4 พฒั นาอัตตลกั ษณ์สถานศกึ ษาใหเ้ ด่น
กลยุทธท์ ี่ 5 พัฒนาคณุ ภาพสถานศกึ ษา
ผลการดำเนนิ การตามกลยุทธ์ ทง้ั 5 กลยุทธ์ อย่างตอ่ เนอื่ งตามที่วางไว้ตามแผนพัฒนาการศึกษา ใชเ้ คร่อื งมอื
อย่างหลากหลายตามระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ตรวจสอบคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ

การศกึ ษาของโรงเรยี น และสรุปผลรายงานประจำปขี องสถานศึกษา (SAR) ดงั นี้

ตารางท่ี 7–30 แสดงการดำเนินโครงการตามแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี 2562-2563 ที่สอดคล้องตามกลยุทธ์

ตัวชวี้ ัด จำนวน ปีการศึกษา 2562 ปีการศึกษา 2563
โครงการ
เป้าหมาย การดำเนิน เปา้ หมาย การดำเนิน
โครงการ โครงการ

กลยทุ ธท์ ี่ 1 พัฒนาคุณภาพผ้เู รียน 8 70 94.92 75 90.72

กลยุทธท์ ี่ 2 พัฒนาคณุ ภาพการจัดการศึกษา 9 70 81.09 75 88.89

กลยทุ ธท์ ่ี 3 เสริมสรา้ งสงั คมแหง่ การเรยี นรู้ 6 70 92.75 75 95.54

กลยทุ ธ์ที่ 4 พัฒนาอัตตลกั ษณส์ ถานศึกษาใหเ้ ดน่ 2 70 75.07 75 79.83

กลยุทธ์ท่ี 5 พัฒนาคุณภาพสถานศกึ ษา 2 70 93.70 75 96.50

จากตาราง พบวา่ การนำกลยุทธไ์ ปปฏบิ ตั ิ ในปกี ารศึกษา 2562-2563 บรรลุผลตามเป้าหมายทุกโครงการ

7.5 ผลลพั ธด์ า้ นการเงนิ และตลาด (Financial and Market Results)

ก. ผลลัพธ์ดา้ นการเงนิ และตลาด (Financial and Market RESULTS)

(1) ผลการดำเนนิ การด้านการเงนิ (Financial PERFORMANCE)
1.1) ผลของการดำเนินการบริหารจัดการงบประมาณของโรงเรียน บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย มี

การบรหิ ารจัดการงบประมาณ ดำเนนิ การโครงการ กจิ กรรมเพือ่ ขบั เคลอ่ื นการจัดการศึกษาของโรงเรียน ไปสผู่ ลลัพธ์
ที่เป็นเลศิ ตามที่กำหนดไว้ในวิสัยทัศน์อย่างมีประสทิ ธภิ าพและเกิดประสิทธผิ ล สามารถตรวจสอบได้มบี ัญชี/รายงาน
ทางการเงินและงบการเงิน มีแผนปฏิบัติการใชจ้ ่ายเงิน ตามที่ได้รบั จัดสรร มีการระดมทรัพยากร เพื่อการศึกษา มี

ระบบจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สิน มีการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการศึกษาตรงตามจุดเน้น เป้าหมาย
วิสัยทัศน์ของโรงเรียน มีการระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา ที่เหมาะสม เพียงพอเกิดประสิทธิผลแก่

นักเรียน มีการวางแผนพัสดุจัดหา ควบคุม ดูแลรักษาและจำหน่ายพัสดุอย่างเป็นระบบ ตรวจสอบได้มีระบบข้อมูล
และสารสนเทศเพอ่ื จัดทำและจัดหาพัสดุที่เป็นปจั จุบันและสืบคน้ ได้สะดวกรวดเร็ว มีระบบควบคุมภายในหน่วยงาน
ได้แก่ รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ตรวจสอบติดตามและรายงานการใช้งบประมาณ ตรวจสอบติดตาม และ


Click to View FlipBook Version