การงานอาชีพ 2

1

นางสาวเรวดี ศรขี าว พนกั งานราชการ

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สุราษฎร์ธานี

ก

รายวิชาการงานอาชพี แผนการจัดการเรยี นรู้
ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 รหสั วชิ า ง21102
จานวน 0.๕ หนว่ ยการเรียน
จานวน 2๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น
ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา ๒๕64

การกาหนดการใช้แผนจดั การเรียนรู้

รายการตรวจสอบและกลน่ั กรองการใชแ้ ผนจัดการเรียนรู้

ความคดิ เห็น ความคดิ เหน็

................................................................................... ...................................................................................
................................................................................... ...................................................................................
................................................................................... ...................................................................................
................................................................................... ...................................................................................

ลงชื่อ................................................. ลงชอ่ื .................................................
(นางสาวพนัชฎา เทวรรณะ) (นางณฐั ิญา คาโส)

หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นการงานอาชพี หวั หนา้ กลุ่มงานวิชาการ

................................................................................... ...................................................................................
................................................................................... ...................................................................................
................................................................................... ...................................................................................
................................................................................... ...................................................................................

ลงช่ือ................................................. ลงชอ่ื .................................................
(นางงามพรรณ ธปิ ัตย์) (นางผกา สามารถ)

รองผ้อู านวยการโรงเรียนพนมศึกษา ผอู้ านวยการโรงเรียนพนมศึกษา

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎรธ์ านี

ข

คำนำ

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชา การงานอาชีพ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ชุดนเ้ี ปน็ สอ่ื การเรยี นรู้ทจ่ี ดั ทาขึ้น เพอ่ื ใช้
เป็นแนวทางในการจดั การเรียนรู้แบบเนน้ ผู้เรียนเป็นศูนยก์ ลาง ตามหลกั การยดึ ผู้เรียนเปน็ ศูนย์กลาง ส่งเสรมิ ให้
ผเู้ รยี นมีส่วนร่วมในกจิ กรรมและกระบวนการในการเรยี นรู้สามารถสร้างองคค์ วามรู้ได้ดว้ ยตนเอง ทัง้ เป็น
รายบุคคลและรายกลมุ่ โดยครูมบี ทบาทหนา้ ท่ี อานวยความสะดวกใหน้ กั เรียนประสบผลสาเรจ็ สนับสนนุ ให้
นกั เรียนมีโอกาสฝกึ ปฏิบตั ิงานทงั้ ในและนอกหอ้ งเรยี น สามารถเชื่อมโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน ๆ ได้
ในเชิงบรู นาการทห่ี ลากหลาย ทาใหน้ ักเรียนได้พฒั นาสมรรถนะทส่ี าคญั และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ตามท่ี
หลักสูตรกาหนด นาไปสกู่ ารอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสันตวิ ธิ ี

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าการงานอาชีพ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เล่มน้ไี ด้จดั ทาขึ้นตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งครอบคลุมสาระการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การดารงชีวติ และครอบครวั การ
อาชีพ ภายในเลม่ น้ีไดเ้ สนอแผนการจดั การเรยี นรู้ตามหนว่ ยการเรยี นรู้ เพ่ือให้ครูนาไปใชใ้ นการจดั การเรียนการ
สอนได้สะดวกยง่ิ ข้ึน แผนการจดั การเรียนรเู้ ล่มนี้ ได้ออกแบบการเรียนรู้ วิธีการสอนหลากหลายรปู แบบ ทาง
คณะผจู้ ัดทาหวงั วา่ จะเป็นประโยชนต์ อ่ การนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจัดการเรยี นรูไ้ ดเ้ หมาะสม กบั สภาพแวดลอ้ ม
ของนกั เรยี นตอ่ ไป

เรวดี ศรีขาว
ครูผู้สอน

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

สำรบัญ ค

เร่ือง หนา้
แผนการจัดการเรยี นรู้ ก
คานา ข
สารบญั ค
วเิ คราะห์หลกั สูตร ง
1
 คาอธิบายรายวชิ า 2
 โครงสรา้ งรายวชิ า
วิเคราะหผ์ เู้ รียน 5
 ตารางวเิ คราะห์ผู้เรยี นดา้ นผลสมั ฤทธิ์ 7
 แบบวเิ คราะห์ผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล/ความถนัด/ความสนใจ 17
การวัดผลประเมินผล
แผนการจัดการเรยี นรู้ 18 - 51
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เกษตรน่ารู้ 52 - 98
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 งานช่างและการซ่อมแซมเส้อื ผ้า 99- 112
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 งานประดิษฐ์ 113 -147
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 อาชพี แหละบุคลกิ ภาพ

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สุราษฎร์ธานี

ง

วิเคราะหห์ ลักสูตร

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี

1

คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน
รายวิชา การงานอาชพี และเทคโนโลยี รหสั วิชา ง21102 กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพ
มธั ยมศกึ ษาปที ่ี1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ชวั่ โมง / ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต

อธิบายหลกั การทาความสะอาดบ้าน อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการทาความสะอาดบา้ น การจดั ตกแตง่ บ้าน การ
รกั ษาบรเิ วณบา้ น การดแู ลรักษาเครือ่ งเรือน ความสาคัญและประโยชนข์ องเสอ้ื ผ้าเคร่อื งแตง่ กาย การเลอื กซ้ือ
เสือ้ ผา้ เทคนิคในการแตง่ ตัว เทคนคิ การเลอื กซอื้ เสื้อผา้ ให้เหมาะสมกับรูปหนา้ และรูปรา่ ง การเลือกซ้ือเสอ้ื ผา้ ให้
เหมาะสมกับบุคลิกภาพและโอกาส เคลด็ ลับเลอื กสเี สอ้ื ผา้ ให้เหมาะกบั ตวั เอง การซักผ้า การซอ่ มแซมและการ
ตกแตง่ เสือ้ ผา้ แหลง่ อาหาร โภชนาการ การเตรียมประกอบ จดั ตกแต่งอาหาร อาหารเพ่ือสุขภาพ การจัดการ
อาหารในครอบครัว รูปแบบธรุ กจิ รับจัดเลยี้ ง การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร การแปรรปู อาหาร การถนอม
อาหาร การออกแบบจดั สวน ความสาคัญของงานชา่ ง วสั ดุอุปกรณง์ านชา่ งพ้นื ฐาน การซ่อมแซมบา้ น เครื่องมอื ท่ี
ใชใ้ นการซ่อมแซมเส้ือผา้ ผลติ ภณั ฑ์จากวสั ดทุ อ้ งถ่ิน คุณค่าของผลติ ภัณฑจ์ ากวัสดทุ ้องถ่ิน ความสาคญั และ
ประโยชนข์ องงานประดิษฐผ์ ลติ ภณั ฑจ์ ากวัสดทุ ้องถน่ิ ความรู้เกย่ี วกับเครอ่ื งมือ อุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงานประดิษฐ์
ผลิตภณั ฑ์จากวัสดุทอ้ งถนิ่ หลกั ในการเลอื กอาชพี ความรูเ้ บื้องต้นเก่ยี วกบั บุคลกิ ภาพ บคุ ลิกภาพกับการเลือก
อาชพี

ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางาน สามารถวิเคราะหต์ ัดสินใจ แก้ปญั หาการทางานไดอ้ ยา่ งมีสม
เหตุผล มจี ิตสานึกในการทางาน ใชท้ รพั ยากรในการปฏิบตั งิ านอยา่ งประหยัด คุม้ คา่ และสามารถรกั ษา
ส่งิ แวดล้อม เพ่ือการดารงชวี ิตและครอบครวั

เขา้ ใจ และมีทักษะทจี่ าเปน็ มีประสบการณ์ เหน็ แนวทางในงานอาชพี ใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือพัฒนา
อาชีพ มคี ุณธรรม และมีเจตคตทิ ีด่ ตี อ่ อาชีพ
รหัสตัวชี้วัด

ง 2.1 ม.4/1 , ม.4/2 , ม.4/3
ง 3.1. ม4/2 , ม.4/4 , ม.4/5, ม.4/8 , ม.4/10 , ม.4/11 , ม.4/13

รวม 10 ตัวชี้วดั

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี

2

โครงสรา้ งการแบง่ เวลารายชัว่ โมงในการจัดการเรยี นรู้

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง

ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

หน่วย ช่อื หนว่ ยการ แผนการจัดการเรยี นรู้ เนือ้ หา เวลา

ท่ี เรียนรู้ (ช่วั โมง)

1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี แผนการจดั การเรียนรู้ - การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร 2

4 ท1ี่ 8การแปรรปู

เกษตรนา่ รู้ ผลผลติ ทางการเกษตร

(จานวน 5 ชวั่ โมง) แผนการจดั การเรียนรู้ - การแปรรปู อาหาร 2

ท1่ี 9การแปรรูป

อาหาร

แผนการจดั การเรยี นรู้ - การถนอมอาหาร 1

ที2่ 04.3 การถนอม

อาหาร

แผนการจัดการเรยี นรู้ - การออกแบบจดั สวน 1

ท2่ี 1การออกแบบจดั

สวน

แผนการจดั การเรยี นรู้ - การจดั สวนถาด 1

ที่22การออกแบบจัด

สวน

ทดสอบกลางภาคเรยี นที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1- 4

2 หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ - ความหมายของงานชา่ ง 2
1
ท่ี 5 23 งานชา่ งพ้นื ฐาน - ความสาคญั ของงานชา่ ง 2
1
งานช่างและการ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ - วัสดุอปุ กรณง์ านช่างพน้ื ฐาน

ซอ่ มแซมเส้ือผ้า 24 วัสดอุ ุปกรณ์งานชา่ ง

(จานวน 5 พื้นฐาน

ชัว่ โมง) แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี - การซ่อมแซมบา้ นของเรา

25การซ่อมแซมบา้ น

ของเรา

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี - ยดื ชวี ติ ให้หน้าบ้าน (ต้)ู

26ยดื ชวี ติ ใหห้ นา้ บา้ น

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สุราษฎร์ธานี

3

(ตู)้

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี - เครื่องมอื ทใี่ ช้ในการซอ่ มแซม 1

27เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการ เสอื้ ผา้

ซ่อมแซมเสือ้ ผา้

3 หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ - ผลติ ภณั ฑ์จากวัสดุท้องถน่ิ 2

ที่ 6 28 ผลติ ภณั ฑ์จากวสั ดุ -ชนิดของวสั ดทุ อ้ งถิ่น

งานประดษิ ฐ์ ทอ้ งถ่ินและชนิดของวัสดุ

(จานวน 6 ทอ้ งถิน่

ชั่วโมง) แผนการจัดการเรียนรู้ - คุณคา่ ของผลติ ภณั ฑจ์ ากวสั ดุ 1

ที่29 คณุ คา่ และ ทอ้ งถ่นิ

ความสาคัญของ - ความสาคญั และประโยชน์ของ

ผลิตภัณฑ์ งานประดษิ ฐ์ผลติ ภัณฑจ์ ากวัสดุ

ทอ้ งถ่นิ

แผนการจดั การเรียนรู้ - หลักการสรา้ งสรรค์งานประดษิ ฐ์ 2

ท่ี30หลักการสรา้ งสรรค์ ผลิตภัณฑจ์ ากวสั ดทุ ้องถนิ่

งานประดษิ ฐแ์ ละความรู้ - ความรู้เกยี่ วกับเครอ่ื งมอื ท่ีใชใ้ น

เกยี่ วกบั เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ใน งานประดษิ ฐ์ผลิตภัณฑจ์ ากวัสดุ

งานประดษิ ฐ์ ทอ้ งถน่ิ

แผนการจดั การเรยี นรู้ - อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นงานช่างและงาน 1

ที่31อุปกรณใ์ นงานชา่ ง ประดิษฐผ์ ลติ ภัณฑจ์ ากวสั ดุทอ้ งถิน่

และงานประดิษฐ์

ผลิตภัณฑจ์ ากวัสดุ

ทอ้ งถน่ิ

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี

4

ตวั ช้วี ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 1

สาระท่ี 1 การดารงชีวิตและครอบครัว

มาตรฐาน ง 1.1 เขา้ ใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะกระบวนการทางาน ทกั ษะ การจดั การ

ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะการทางานร่วมกนั และทกั ษะ การแสวงหาความรู้ มี

คุณธรรม และลกั ษณะนิสยั ในการทางาน มีจิตสานึก ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และ

สิ่งแวดลอ้ ม เพอื่ การดารงชีวิตและครอบครัว

ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง

1. วิเคราะห์ ข้ันตอนการท างานต าม  ข้นั ตอนการทางาน เช่น

กระบวนการทางาน - การใชอ้ ปุ กรณ์อานวยความสะดวก ในการทางานบา้ น

2.ใชก้ ระบวนการกล่มุ ในการทางาน - การจดั และตกแต่งหอ้ ง

ดว้ ยความเสียสละ - การเลือกซ้ือสินคา้ ในร้านคา้ ปลีก คา้ ส่ง

3. ตัดสิ น ใจแก้ปั ญ ห าการท างาน ร้านสะดวกซ้ือ และหา้ งสรรพสินคา้

อยา่ งมีเหตุผลท่ีถกู ตอ้ ง  การทางานโดยใชก้ ระบวนการกล่มุ เช่น

- การเตรียม ประกอบ จดั ตกแต่ง และบริการอาหาร

- การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร

- การประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่ง จากวัสดุใน

ทอ้ งถ่ิน

 การแกป้ ัญหาในการทางาน เช่น

- การจดั สวนในภาชนะ

- การซ่อมแซม วสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือ /เคร่ืองใช้

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี

5

โรงเรยี นพนมศึกษา
ตารางวเิ คราะหผ์ ู้เรียนดา้ นผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น

วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่อื นาไปออกแบบการเรียนรู้ ให้สอดคลอ้ งกบั ความสามารถของนกั เรียน
๒. เพื่อเป็นแนวทางในการแกไ้ ขปญั หาและพัฒนาผู้เรียนด้านผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รายวิชา การงานอาชีพ รหัสวชิ า ง 21102
ภาคเรียนท่ี 2/2564 ช่ือผสู้ อน นางสาวเรวดี ศรีขาว

สรุปผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนพน้ื ฐานทีใ่ ชใ้ นการเรยี นวชิ านี้

ระดับคุณภาพของ GPA ของกลมุ่ จานวนคน รอ้ ยละ
ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน
ต่ากว่า 2.00
ปรับปรุง 2.00 – 2.50
พอใช้ สูงกวา่ 2.50

ดี

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี

6

ผลสัมฤทธ์ิ รอ้ ยละ แนวทางการจดั กจิ กรรม จานวน เครือ่ งมอื /วธิ ีการ
ทางการ เดิม เปา้ หมาย ประเมนิ
เรยี น กจิ กรรมแก้ไขหรอื พฒั นาในแผนการ
เรยี นรู้
ดี
1.กิจกรรมการเรยี นการสอนดาเนิน 1.แบบฝึกหัดท้าย
ปรบั ปรงุ เชน่ เดยี วกับนกั เรยี นกลุ่มอ่นื ๆ ในช้ัน บท
เรียน 2.แบบบันทึก
2.ให้นกั เรียนกลมุ่ น้ีเปน็ ผูด้ าเนินการ รายการเกบ็
เฉลยแบบฝกึ หัดตามสมควร คะแนน
3.ใหน้ ักเรียนกลุม่ น้ีเป็นผูช้ ่วยเหลือ 3.แบบบันทึกหลงั
เพอ่ื นใหเ้ รียน การทาแบบฝึกตา่ ง ๆ สอน
เป็นผู้อธบิ าย ( ผ้ชู ว่ ยครู ) สอนเพ่ือน 4.แผนการจดั การ
กลุ่มอ่อนท่ียงั ไมเ่ ขา้ ใจ เรยี นรู้
3.ใหแ้ บบฝึกพเิ ศษเพม่ิ เติม 5.ชนิ้ งาน
4.ทาชิ้นงานเพ่ิมเติม
1.แบบฝกึ คขู่ นาน
1.กิจกรรมการเรยี นการสอนดาเนนิ 2.แบบบนั ทึกการ
เช่นเดียวกบั นกั เรยี นกลุ่มอนื่ ๆ เพม่ิ เตมิ เกบ็ คะแนน
แบบฝกึ คูข่ นาน 3.แบบบนั ทึกหลัง
2.ใหน้ ักเรียนกลมุ่ น้ีจบั คู่ประกบตัวต่อ การสอน
ตวั กบั นกั เรียนกลุ่มปานกลาง 4.แผนการจดั การ
3.จดั สอนซ่อมเสรมิ ในเน้ือหาทไี่ ม่ผ่าน เรยี นรู้
เกณฑ์การประเมิน หรือยังไมเ่ ขา้ ใจแก่ 5.ช้นิ งาน
นักเรียนกลมุ่ นี้

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สุราษฎร์ธานี

7

แบบวิเคราะหน์ ักเรียนเปน็ รายบคุ คล

เก่ยี วกับความถนดั / ความสนใจ / รายวชิ า การงานอาชพี

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 หอ้ ง ๑

เลขที่ ชอื่ – สกุล ระดบั ความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ
๓๒๑๐

๑ เดก็ ชาย กมลภพ ต้นสวรรค์ 

๒ เดก็ ชาย กฤตมุข ภู่เชย่ี วชาญวทิ ย์ 

๓ เดก็ ชาย จรลั ชยั หลับด้วง 

๔ เดก็ ชาย จักรพฒั น์ ปติ ะมะหะ 

๕ เดก็ ชาย เจตรนิ ทร์ เรณโร 

๖ เด็กชาย ไชยวัฒน์ ชไู ทย 

๗ เด็กชาย ณฐพงษ์ พระจารงค์ 

๘ เด็กชาย ณฐั พร บารุงวงค์ 

๙ เด็กชาย ณฐั วฒุ ิ ศรีเทพ 

๑๐ เด็กชาย ธีรเดช เปรมกลนั่ 

๑๑ เดก็ ชาย นติ ธิ ร ทพิ ยเ์ ดช 

๑๒ เดก็ ชาย ปฏภิ าน ดารสั 

๑๓ เดก็ ชาย ปรเมศวร์ แกว้ ศรี 

๑๔ เดก็ ชาย พงศก์ รณ์ แก้วทมิ บุตตร 

๑๕ เดก็ ชาย พจนช์ ระ ปานชู 

๑๖ เด็กชาย ภสั สกร วงศ์เดช 

๑๗ เด็กชาย ภตู ะวนั แช่มไล่ 

๑๘ เด็กชาย ภูมพิ ัฒน์ ฉิมภักดี 

๑๙ เด็กชาย เมธาพร ขจร 

๒๐ เด็กชาย รตั ภูมิ ชว่ ยศรี 

๒๑ เดก็ ชายวชิ ชากร รามแก้ว 
๒๒ เด็กชายอภิรักษ์ ขวัญเทพ 
23 เดก็ หญิงกรกนก ทพิ ย์พิมล 
24 เดก็ หญิงกนั ตา ศรนี ุย้ 

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สุราษฎรธ์ านี

8

25 เดก็ หญิงกลั ยารตั น์ ปิตะมะหะ 
26 เด็กหญงิ ฐานิตา ครี รี กั ษ์ 
27 เดก็ หญงิ ณัฐณิชา นวลละออง 
28 เดก็ หญิงดวงกมล รักนาควน 
29 เด็กหญิงธิติมา ชนะ 
30 เด็กหญงิ นภสร วราชยั 
31 เดก็ หญิงปณุ ญาพร เจียงพุทซา 
32 เด็กหญิงพชั ริดา ณะเสน 
33 เด็กหญิงภทั รวดี สายเเกว้ 
34 เด็กหญงิ เยาวดี วิเชียร 
35 เดก็ หญิงโศภติ า เพง็ สมมุติ 
36 เดก็ หญงิ สชุ านนั ท์ แสงเดือน 
37 เด็กหญิงสุดารตั น์ รักษา 
38 เด็กหญงิ โสภิดา สังข์คร 
39 เด็กหญงิ อาภาภัทร รัตนชยั 


โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี

9

แบบวิเคราะห์นกั เรียนเปน็ รายบุคคล

เก่ียวกบั ความถนัด / ความสนใจ / รายวชิ า การงานอาชพี

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ห้อง 2

เลขท่ี ชอื่ – สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ
๓๒๑๐

๑ เดก็ ชายกมลเทพ เนตรรงุ่ 

๒ เด็กชายกัณตพิ นั ธ์ สวุ รรณส์ อาด 

๓ เดก็ ชายณรงค์ชยั บญุ ขวัญ 

๔ เด็กชายณฐั พล จนั ทรท์ ิพย์ 

๕ เด็กชายณฐั วุฒิ ลิม่ พกิ ุล 

๖ เด็กชายณฐั วุฒิ ศรประสทิ ธ์ิ 

๗ เดก็ ชายธนกฤต โทแกว้ 

๘ เดก็ ชายธนพงศ์ ศรีสมทรพั ย์ 

๙ เดก็ ชายธนชั พร แสงตาขนุ 

๑๐ เดก็ ชายธรี เกียรติ ศรีรักษา 

๑๑ เด็กชายธรี ภทั ร พรมมาก 

๑๒ เดก็ ชายธีรภทั ร ราชอาไพ 

๑๓ เดก็ ชายนพรตั น์ จันทะวงค์ 

๑๔ เดก็ ชายบรรชา กรณุ า 

๑๕ เดก็ ชายปรเมษฐ์ จรูญรกั ษ์ 

๑๖ เดก็ ชายพิชญะ วเิ ศษสมบัติ 

๑๗ เด็กชายวัชรศักดิ์ สมั พันธ์ 

๑๘ เด็กชายวีรวัฒน์ โสดา 

๑๙ เด็กชายศุภชัย เพชรขุม้ 

๒๐ เดก็ ชายสมพงศ์ จติ ราภิรมย์ 

๒๑ เดก็ ชายสหรฐั แตง่ คูหา 

๒๒ เด็กชายอดเิ ทพ หงษจ์ นั ทร์ 

23 เด็กชายอโนชา ศรีใย 

24 เดก็ ชายอภิชาติ สัมพันธ์ 

25 เดก็ หญิงกัญญาภคั ขาชว่ ย 

26 เด็กหญงิ กัญญาวรี ์ ถาพร 

27 เด็กหญงิ จฑุ ารตั น์ เพชรรตั น์ 

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สุราษฎรธ์ านี

28 เด็กหญงิ ญาณศิ า พฒั นะ 10
29 เดก็ หญิงนนั ทนา ชูมนต์
30 เด็กหญิงบุญสิตา บัวตยุ๋ 
31 เด็กหญงิ ปณศิ า พนั ธ์สวุ รรณ์ 
32 เด็กหญงิ ปรณิ ดา แสงจานงค์ 
33 เด็กหญิงปุณยาพร พษิ นาค 
34 เดก็ หญงิ พัทธนันท์ สขุ เช้อื 
35 เด็กหญิงภาสินี หิรญั เรือง 
36 เดก็ หญิงวนชั พร เกดิ ด้วง 
37 เด็กหญิงวลั ภา ภวู ะกง 
38 เดก็ หญิงศริ ินาถ ศรีใย 
39 เด็กหญิงสริ ิรัฐ ภูหญา้ 
40 เดก็ หญิงสุนษิ า วิเศษโชค 



โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี

11

แบบวเิ คราะหน์ กั เรียนเป็นรายบคุ คล

เกีย่ วกับความถนัด / ความสนใจ / รายวชิ า การงานอาชพี

ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ห้อง 3

เลขท่ี ชอื่ – สกลุ ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ
๓๒๑๐

๑ เดก็ ชายกฤษณะ พุทธศริ ิ 

๒ เดก็ ชายกฤษติกร ชานินวล 

๓ เดก็ ชายกวนิ ท์ จโิ น 

๔ เดก็ ชายจกั รกฤต ไชยสนิ ธ์ุ 

๕ เดก็ ชายจริ เมธ แกว้ สิงขรณ์ 

๖ เดก็ ชายจิรานุวฒั น์ ชูช่วย 

๗ เดก็ ชายณฐั ชนน ชาญเดช 

๘ เด็กชายณฐั ภมู ิ คงวุฒิ 

๙ เด็กชายณฐั ศกั ด์ิ ศรีรกั ษา 

๑๐ เดก็ ชายเตชภณ ศรีนิล 

๑๑ เด็กชายนภัทดสิ ร ยืนยง 

๑๒ เด็กชายนันทพทั ธ์ ครฑุ มาก 

๑๓ เดก็ ชายปวรศิ ฤทธกิ ลุ 

๑๔ เด็กชายผณินธร กองกุล 

๑๕ เด็กชายพงศ์พิพฒั น์ อดุ มศรี 

๑๖ เด็กชายพลกฤต ทองแปน้ 

๑๗ เด็กชายพสั กร ทองสัมฤทธ์ิ 

๑8 เดก็ ชายรพีพล ศรไี ทย 

19 เดก็ ชายรัฐภูมิ ไกรวงศ์ 

20 เดก็ ชายวุฒิพงษ์ วงศ์แฝด 

21 เดก็ ชายสหรัถ เดชะ 

22 เด็กชายสุรจิตร์ พลรบ 

23 เด็กชายอดเิ ทพ ศรรี ักษา 

24 เด็กชายอนันทวุฒิ พว่ งฟู 

25 เด็กหญิงกญั ญาวี ทับเมอื ง 

26 เดก็ หญงิ กันต์กมล มาทัพ 

27 เด็กหญิงเกสรา นพฤทธ์ิ 

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สุราษฎรธ์ านี

28 เด็กหญงิ จนั แกว้ แอบมณี 12
29 เดก็ หญิงณฐั ฐว์ รยี ์ บุญเมือง
30 เดก็ หญิงปริยาภัทร คาสวัสด์ิ 
31 เดก็ หญงิ ปารชิ าติ เถาวร์ าม 
32 เด็กหญิงพรพมิ ล มนิ ทอง 
33 เดก็ หญิงพชั ราภา ทองจนั ทร์ 
34 เด็กหญิงแพรวา รอดโหม้ง 
35 เด็กหญงิ ภัทรวดี อนิ คง 
36 เด็กหญงิ วิดามล พิบูลย์ 
37 เด็กหญิงศิริประภา สมนอ้ ย 
38 เด็กหญงิ โศธิดา โอภาสะ 
39 เดก็ หญิงอาทติ ยา จันทร์พรึก 
40 เด็กหญิงกญั ณกิ าร์ ปลสี นิท 



โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี

13

แบบวเิ คราะหน์ กั เรยี นเป็นรายบคุ คล

เกีย่ วกับความถนดั / ความสนใจ / รายวิชา การงานอาชีพ

ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ห้อง 4

เลขท่ี ชื่อ – สกุล ระดับความถนดั / ความสนใจ หมายเหตุ
๓๒๑๐

๑ เดก็ ชายกฤตภาส สขุ อ่นุ 

๒ เดก็ ชายเกยี รติศกั ด์ิ มงคลนิมติ ร 

๓ เดก็ ชายคารณ พรมมาก 

๔ เด็กชายเจตนพิ ัทธ์ วิชติ 

๕ เดก็ ชายธนพล เจรญิ คณุ 

๖ เด็กชายปกรณ์ ช่วยศรี 

๗ เดก็ ชายปติ ิ หลีดลหมาน 

๘ เด็กชายพงษ์พิพัฒน์ แก้วนมิ ิตร 

๙ เดก็ ชายพรี ภาส ชูประเสรฐิ 

๑๐ เด็กชายรวโี รจน์ รักมาศ 

๑๑ เด็กชายรชั ชานนท์ พหลภักดี 

๑๒ เดก็ ชายสิรดนัย สอนรตั น์ 

๑๓ เดก็ หญิงกมลวรรณ พทิ กั ษเ์ เทน 

๑๔ เด็กหญิงกญั ญาพชั ร แกว้ ดี 

๑๕ เด็กหญงิ เกวลนิ แก้วนพคณุ 

๑๖ เด็กหญงิ จนั ทิมา บญุ กลาง 

๑๗ เดก็ หญิงจีราพรรณ พลภกั ดี 

๑๘ เดก็ หญิงจฬุ าลักษณ์ วเิ ชยี ร 

๑๙ เด็กหญงิ ชนากานต์ แก้วภชู งค์ 

๒๐ เดก็ หญิงชนกิ านต์ ช่วยชนะ 

๒๑ เด็กหญิงชษิตา จติ รอมร 

๒๒ เดก็ หญิงณัฐณิชา สงเคราะห์ 

23 เดก็ หญงิ ธัญพิชชา หวนั ดีน 

24 เด็กหญงิ นชุ นาถ ศรรี ักษา 

25 เดก็ หญงิ เนาวลักษณ์ จนั ทะวงค์ 

26 เดก็ หญงิ บัณฑติ า ชูขาว 

27 เด็กหญิงปุณภา ทองเสน 

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี

14

28 เด็กหญิงพวงเพชร วิจติ ร์ 
29 เด็กหญงิ พัณณช์ ติ า ศรพี ทิ ักษ์ 
30 เด็กหญิงรชั ฎาภรณ์ วงษ์สินธ์ุ 
31 เด็กหญิงวรัณญ์ธร วงศส์ วัสด์ิ 
32 เด็กหญงิ วรศิ รา แกว้ บัวทอง 
33 เดก็ หญงิ ศภุ กานต์ เย็นใจ 
34 เด็กหญิงสวรรยา คาเกดิ 
35 เดก็ หญงิ สุทธิดา พิทกั ษ์ 
36 เด็กหญงิ สวุ ภัทร ครฑุ มาก 
37 เด็กหญงิ อภาวดี สงพฒั น์แกว้ 
38 เดก็ หญิงอรณิ ษติ า แจง้ อักษร 

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี

15

แบบวเิ คราะห์นกั เรยี นเป็นรายบคุ คล

เก่ยี วกบั ความถนดั / ความสนใจ / รายวิชา การงานอาชีพ

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ห้อง 5

เลขที่ ช่อื – สกลุ ระดับความถนดั / ความสนใจ หมายเหตุ
๓๒๑๐

๑ เด็กชายณฐกร แซ่เฮง 

๒ เดก็ ชายณฐั ภูมนิ ทร์ ศรีรักษา 

๓ เดก็ ชายทินภัทร นลิ ทพั 

๔ เด็กชายธนั ฐกรณ์ ชนะแกว้ 

๕ เด็กชายนนทพันธ์ สุลเม็ต 

๖ เด็กชายนฤสรณ์ ศรีสวสั ดิ์ 

๗ เด็กชายปภงั กร รถทิพย์ 

๘ เดก็ ชายปิยะภูมิ คงประสิทธ์ิ 

๙ เด็กชายพงศกร โสขะ 

๑๐ เด็กชายมินคะนาย พมา่ 

๑๑ เดก็ ชายวชริ วิทย์ มขุ ตา 

๑๒ เดก็ ชายอภิมงคล บญุ ทองแก้ว 

๑๓ เดก็ ชายอภิสิทธ์ิ ศรีสวสั ด์ิ 

๑๔ เดก็ หญงิ กรกนก เสนทอง 

๑๕ เดก็ หญิงกญั ญว์ รา ชพู นม 

๑๖ เด็กหญิงกัญญารตั น์ แกว้ นคิ ม 

๑๗ เด็กหญงิ กัญญาวรี ์ สมเพ็ชร 

๑๘ เด็กหญิงขวัญชนก พนั ธุ์สิน 

๑๙ เดก็ หญิงเขมิกา ศรใี ย 

๒๐ เดก็ หญิงจิรชั ญา กินนะศรี 

๒๑ เด็กหญิงณฐั ชยา เพกิ พิน 

๒๒ เดก็ หญิงณชิ กาญจน์ เอยี ดเกลยี้ ง 

23 เดก็ หญิงนัดดา บญุ กลบั 

24 เดก็ หญิงนันฑกานต์ เพชรประสิทธิ์ 

25 เด็กหญงิ นนั ทน์ ภสั เล่อื นสกุล 

26 เด็กหญงิ นนั ทน์ ภัส สุระกา 

27 เด็กหญงิ ปาริฉตั ร ล้มิ วชิ ติ 

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี

16

28 เดก็ หญงิ ป่ินอนงค์ บางคราม 
29 เดก็ หญงิ ปุณยาพร ฤทธกิ นั 
30 เด็กหญงิ พิมภกิ าร์ ศรรี ักษา 
31 เด็กหญงิ ลินลินี จาปี 
32 เด็กหญิงสุธมิ า แก้วทับทมิ 
33 เดก็ หญิงสธุ มิ า แสงจง 
34 เดก็ หญงิ สุมิตา ชเู ชิด 
35 เด็กหญงิ อรุโณทัย ทองสั้น 

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี

17

การวดั ผลประเมนิ ผล
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ / รายวิชา ในแต่ละตวั ชี้วัดชั้นปี ซ่งึ สถานศึกษา
วเิ คราะห์จากมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชวี้ ัด การประเมินสาระการเรียนรู้รายวิชา ใหต้ ัดสินผลการประเมินเป็น
ระดบั ผลการเรยี น ๘ ระดับ ดังนี้
คะแนน ๘๐ – ๑๐๐ ระดบั ผลการเรยี น “๔” หมายถึง ผลการเรียนดีเย่ยี ม
คะแนน ๗๕ – ๗๙ ระดบั ผลการเรยี น “๓.๕” หมายถงึ ผลการเรยี นดมี าก
คะแนน ๗๐ – ๗๔ ระดับผลการเรียน “๓” หมายถึง ผลการเรยี นดี
คะแนน ๖๕ – ๖๙ ระดับผลการเรยี น “๒.๕” หมายถงึ ผลการเรียนค่อนขา้ งดี
คะแนน ๖๐ – ๖๔ ระดบั ผลการเรยี น “๒” หมายถงึ ผลการเรียนปานกลาง
คะแนน ๕๕ – ๕๙ ระดบั ผลการเรียน “๑.๕” หมายถึง ผลการเรียนพอใช้
คะแนน ๕๐ – ๕๔ ระดับผลการเรยี น “๑” หมายถงึ ผลการเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินขั้น
ตา่
คะแนน ๐ - ๔๙ ระดบั ผลการเรยี น “๐” หมายถึง ผลการเรยี นตา่ กวา่ เกณฑก์ ารประเมนิ
ในกรณที ่ไี ม่สามารถให้ระดับผลการเรยี นเป็น ๘ ระดับได้ใหใ้ ชต้ ัวอักษร ระบุเงือ่ นไขของผลการเรยี น
ดังน้ี
“มส” หมายถึง ผเู้ รยี นไมม่ ีสิทธเิ์ ข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เน่ืองจากผู้เรยี นมเี วลาไม่

ถงึ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นในแตล่ ะรายวชิ า และไมไ่ ด้รบั การผอ่ นผันให้
เข้ารบั การวดั ผลปลายภาคเรยี น
“ร” หมายถึง รอการตดั สินและยงั ตดั สนิ ผลการเรยี นไมไ่ ด้ เนอ่ื งจากผูเ้ รยี นไมม่ ีข้อมลู การ
เรียนรายวิชานั้นครบถ้วน ได้แก่ ไมไ่ ดว้ ัดผลกลางภาคเรยี น/ปลายภาค
เรียน ไมไ่ ด้สง่ งานท่ีมอบหมายใหท้ า ซึง่ งานนั้นเป็นสว่ นหนงึ่ ของการตัดสิน
ผลการเรยี น หรือมีเหตุสุดวสิ ัยที่ทาให้ประเมินผลการเรยี นไม่ได้
การประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์นัน้ ใหร้ ะดบั ผลการ
ประเมนิ เป็น ดเี ยีย่ ม ดี และผา่ น
ดีเยย่ี ม หมายถงึ มีผลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละ เขียนที่มี
คณุ ภาพดเี ลิศอยู่เสมอ
ดี หมายถึง มผี ลงานท่แี สดงถงึ ความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียนทีม่ ี
คุณภาพเปน็ ทีย่ อมรบั
ผ่าน หมายถงึ มีผลงานทแี่ สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี นทมี่ ี
คณุ ภาพเป็นทยี่ อมรับ แต่ยงั มขี ้อบกพรอ่ งบาง ประการ
ไม่ผา่ น หมายถงึ ไมม่ ผี ลงานทแ่ี สดงถงึ ความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น
หรอื ถ้ามีผลงาน ผลงานน้นั ยงั มขี ้อบกพร่องที่ตอ้ งไดร้ ับการปรบั ปรุงแก้ไข
หลายประการ

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวัดสุราษฎร์ธานี

18

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ รหสั วิชา ง 21102
รายวชิ า การงานอาชีพ จานวน 1 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง เกษตรน่ารู้ จานวน 1 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ มที ักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะ
กระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะการทางานรว่ มกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและลกั ษณะนิสัยใน
การทางาน มจี ติ สานกึ ในการใชพ้ ลังงาน และสง่ิ แวดล้อม เพอ่ื การดารงชวี ติ และครอบครวั
ตวั ช้ีวดั ท่ี

ง 1.1 ม.1/1 วิเคราะหข์ นั้ ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน
ง 1.1 ม.1/2 ใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการทางาน ด้วยความเสียสละ
ง 1.1 ม.1/3 ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาการทางานอย่างมเี หตผุ ล
2. สาระสาคญั
การแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร เปน็ การนาผลผลิตจากการปลุกพืชและเลี้ยงสัตว์ มาเปล่ียนสภาพ
ดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ ให้เป็นผลติ ภณั ฑ์ท่ีมรี ปู ร่างทแ่ี ตกต่างไปจากเดิม
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้
1. วธิ กี ารแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร
2. การบรรจุหบี หอ่
3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
1. ทกั ษะกระบวนการทางาน
2. ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหา
3. ทกั ษะการทางานรว่ มกัน
4. ทักษะการแสวงหาความรู้
5. กระบวนการทางานกลมุ่
3.3 ด้านเจตคติ/คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์/คุณธรรมจรยิ ธรรมท่สี อดแทรก
3.3.1 นกั เรียนมีความซ่อื สัตย์
3.3.2 นกั เรียนมีความรบั ผิดชอบ ตรงตอ่ เวลา
3.3.3 นกั เรยี นมีระเบียบวินยั รกั การเรยี นรู้
4. สมรรถนะของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
4.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎรธ์ านี

19

5. สาระการเรียนรู้
1. อธิบายวธิ กี ารแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรได้
2. อธิบายวิธีการบรรจหุ บี ห่อผลติ ภัณฑท์ างการเกษตรได้

6. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมการเรยี นรู้

ขั้นท่ี 1 ระบุคาถาม
1. ครนู ารูปภาพท่ีเกี่ยวกับ การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรหรือนาผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากการเกษตร
เช่น ผักกาดดอง กล้วยตาก ปลาแห้ง ไข่เค็ม มาให้นักเรียนดู เพ่ือกระตุ้นความคิดและความสนใจของนักเรียน
ตัวอยา่ งคาถาม เชน่

ผกั กาดดอง ไข่เคม็

กล้วยตาก ปลาแหง้

- นกั เรียนคนใดเคยรบั ประทาน ผลิตภณั ฑ์แปรรูป ในรูปภาพบา้ ง นักเรียนรู้หรอื ไม่วา่ ผลติ ภณั ฑ์

เหลา่ นน้ั มีวิธีการแปรรูปอยา่ งไร

- นกั เรยี นคดิ วา่ ผลผลติ ทางการเกษตร มวี ิธีการแปรรูปอย่างไรบา้ ง

- ถา้ นักเรียนมีผกั กาดจานวนมากแลว้ รบั ประทานไมท่ ัน นักเรยี นจะทาอย่าไร

ขนั้ ที่ 2 แสวงหาความรู้

1. ครูให้นักเรียนนาคาถาม ท่ีครูได้ตั้งคาถามไว้ มาร่วมกันสนทนาความรู้ โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียน

แสดงความคิดเหน็ ไดอ้ ยา่ งเต็มท่ี

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี

20

2. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้ ในเร่ือง การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร จากหนังสือเรียนรายวิชา
การงานอาชพี ม. 1 หนา้ 82-85 ของบรษิ ัทศูนย์หนังสอื เมอื งไทย จากัด

ขัน้ ที่ 3 สร้างความรู้และสรุปความรู้
1. ครูตั้งคาถามในเรื่องที่เกี่ยวกับ การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้นักเรียนได้วิเคราะห์และ
คน้ คว้าหาคาตอบ และสรุปเป็นความรรู้ ่วมกัน ตัวอยา่ งคาถาม เช่น

- การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร มวี ิธกี ารแปรูปอยา่ งไรบา้ ง
-เพราะเหตใุ ดจึงตอ้ งนาผลผลติ ทางการเกษตรมาแปรรูป
-เพราะเหตุใดจึงต้องมกี ารบรรจหุ ีบหอ่ ผลผลติ ทแี่ ปรรูปมาจากการเกษตร
ขนั้ ท่ี 4 ส่ือสารและนาเสนอ
1. ครสู ุ่มเลือกนักเรยี นท้งั หญงิ -ชาย 2-3 คน ออกมาหน้าช้ันเรยี น เล่าประสบการณ์ในการแปรรปู
ผลผลติ ทางการเกษตร ใหเ้ พอ่ื นๆฟังหนา้ ชั้นเรียน โดยครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนไดแ้ สดงความคิดเหน็ อยา่ งเตม็ ท่ี
2. ครูเพมิ่ เตมิ ความรทู้ ถี่ ูกต้องให้กับนักเรียน และให้นกั เรยี นร่วมกันสรุป ความรใู้ นเรือ่ งทกี่ ารแปรรูป
ผลผลิตทางการเกษตร โดยครเู ขียนสรุปความรู้ไวบ้ นกระดานดา
ขน้ั ท่ี 5 ประเมนิ และบรกิ ารสังคม
1. ครปู ระเมนิ นกั เรียน โดยการตง้ั คาถาม ในเรอ่ื งทเี่ กี่ยวกบั การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร เพอื่
ทดสอบความรู้และความเข้าใจของนกั เรียน เพื่อท่นี ักเรยี นจะได้นาความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประวันได้
ตวั อยา่ งคาถามเช่น
- วธิ ีการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร มีวิธกี ารใดบา้ ง
- การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตรมีความสาคัญอย่างไร
-นกั เรียนเคยแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตรอะไรบา้ ง
-เพราะเหตุใดจงึ ต้องมกี ารบรรจหุ ีบห่อ ผลผลิตทางการเกษตร
-ถ้านกั เรยี นมไี ขเ่ ปด็ จานวนมาก รับประทานไมท่ นั นักเรยี นจะทาอยา่ งไร
7. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข)

หลักความพอประมาณ กาหนดเวลาท่ีใช้เวลาเหมาะสมกับเน้ือหากิจกรรม วัยของผู้เรียน และภาระงานท่ีได้รับ
หลักมเี หตผุ ล มอบหมาย

หลักสรา้ งภมู คิ ุ้มกนั ในตวั ท่ีดี สามารถจัดกจิ กรรมการเรยี นรไู้ ดต้ ามเวลาทีก่ าหนด

เงื่อนไขความรู้ วางแผนเวลาในการทากิจกรรมไว้เกินจริงเล็กน้อย เพื่อป้องกันปัญหาเร่ืองเวลาท่ีอาจจะ
เกิดขึ้นได้ ทาให้ใช้เวลาพอเพียงกับคาบเรียนที่กาหนด ไม่ปล่อยนักเรียนช้า นักเรียนได้
เรยี นรอู้ ยา่ งเตม็ ที่ ครบกิจกรรมท่ีวางแผนไว้

-พื้นฐานความรู้ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้แก่ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
สังคมศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ศิลปะ (ดนตรี) ท่ีใช้ใน
การเรียนรูเ้ ร่ืองทักษะกระบวนการทางาน กระบวนการแก้ปัญหา และหลักการทางานเพื่อ
การดารงชวี ติ
-หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

เง่อื นไขคุณธรรม -ความรว่ มมอื ในการทากจิ กรรม
-ไมเ่ หน็ แกต่ ัว มีน้าใจ เอ้อื อาทร ใหค้ วามชว่ ยเหลือเพื่อนในกลุ่ม

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี

21

-มีความม่งุ ม่นั ในการทางาน
-มีจติ อาสา

เศรษฐกจิ สังคม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม

8. ส่ือการเรียนร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้

1. สื่อสิง่ พมิ พ์ เช่น หนังสอื ทีเ่ ก่ียวกบั การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร

2. เวบ็ ไซน์เกยี่ วกับ การแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร เช่น

- bsc.dip.go.th › category › production2 › qs-agriculturegoods แนวทาง การ แปรรูป ผลผลิต

ทาง การเกษตร - ศูนยบ์ รกิ ารธรุ กิจ .

- sites.google.com › 6-kar-paerrup-phlitphl-thangkar-kestr-baeb-phung

6 การแปรรปู ผลิตผลทางการเกษตรแบบพง่ึ ตนเอง – ชวี ิตมคี า่ เสมอ

- www.facebook.com › qyield › photos › หลกั การแปรรูปผลผลิตทาง...

หลักการแปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร... - Q.Yield Associates Co .

3. รูปภาพท่ีเก่ียวกับ การแปรรูปผลผลติ ทางการเกษตรหรือนาผลิตภณั ฑท์ ่ีแปรรปู จากการเกษตร เช่น

ผักกาดดอง กล้วยตาก ไขเ่ ค็ม ปลาแห้ง

4. สถานที่ เชน่ โรงเรยี น ห้องสมุด

5. บคุ คล เชน่ ครู ผปู้ กครอง เพอ่ื น ผรู้ ู้ สมาชกิ ในชมุ ชน สมาชกิ ในครอบครวั

6. หนงั สือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน การงานอาชพี ม.1 ของบริษทั ศนู ยห์ นังสอื เมอื งไทย จากดั

9. การวัดและการประเมินผล

ประเดน็ การพจิ ารณา วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

ความรู้ (K) - ประเมินผลงานจาก แบบประเมินผลงาน
นกั เรยี นสามารถอธิบายวิธีการ ใบงาน นกั เรียน
ผ่านขนั้ ต่าไม่นอ้ ยกวา่ ร้อย
แปรรูปผลผลติ ทางการเกษตร ละ 60

ได้

ทักษะกระบวนการ (P) - การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการตอบ
นกั เรยี นใชว้ ิธีการบรรจหุ ีบหอ่ - การตอบคาถาม คาถาม
แบบสังเกตพฤติกรรม คะแนนตงั้ แต่ 4-9 ผา่ น
ผลติ ภณั ฑท์ างการเกษตรได้ รายบคุ คล
นักเรียนทีไ่ ด้ระดบั คุณภาพ
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ การสงั เกตพฤตกิ รรม พอใช้ขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น
(A) รายบุคคล
นกั เรยี นเห็นความสาคญั ของ

การบรรจหุ ีบห่อผลิตภณั ฑท์ าง

การเกษตร

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคต์ าม ประเมินคุณลกั ษณะอนั แบบประเมินคุณลกั ษณะ ผา่ นข้นั ตา่ ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ย
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษา พึงประสงคข์ องผ้เู รียน อันพึงประสงคข์ อง ละ 60
ขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ผ้เู รียน
2551

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

22

ดา้ นสมรรถนะสาคัญของ ประเมนิ สมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ
ผเู้ รียน สาคญั ของผเู้ รยี น สาคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคดิ ผ่านข้ันตา่ ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ย
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะ ละ 60
ชีวติ
- ความสามารถในการแกป้ ญั หา
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

ลงชือ่ ..................................................ครูผสู้ อน
(นางสาวเรวดี ศรีขาว)
.........../.............../..................

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี

23

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนท่ี 1
1. ผลการสอนระดับชน้ั ม.1

 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรียนรู้
 สอนไมไ่ ดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ เนอ่ื งจาก .............................................................................
8. ผลที่เกิดกบั ผเู้ รียน
1.) การประเมนิ ผลความรู้หลังการเรยี น โดยใช…้ …………………….....................................พบว่านกั เรยี น
ผา่ นการประเมินคดิ เปน็ ร้อยละ................... ไม่ผา่ นเกณฑข์ นั้ ตา่ ท่กี าหนดไว้คดิ เปน็ ร้อยละ...................................
ไดแ้ ก่ .....................................................................................................................................................................
2.) การประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบวา่ นกั เรียน
ผ่านการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ.....................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ ัน้ ต่าทีก่ าหนดไว้คิดเปน็ ร้อยละ.........................
ได้แก่ ......................................................................................................................................................................
3.) การประเมินด้านคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ เรยี น โดย
ใช…้ …………………….............................................พบวา่ นักเรยี นผา่ นการประเมนิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไม่ผ่าน
เกณฑ์ขน้ั ต่าที่กาหนดไวค้ ิดเปน็ รอ้ ยละ.................
ได้แก่ ......................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอปุ สรรค
 กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มีนกั เรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกาหนดเวลา
 มีนกั เรียนท่ไี ม่สนใจเรยี น
 อ่ืน ๆ ................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรุง เร่อื ง ..........................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนักเรยี นทไ่ี มผ่ ่านการประเมิน .....................................................................................
 ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่ือ ผู้สอน
( นางสาวเรวดี ศรขี าว )

วนั ท่.ี ......./.................../.................

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

24

ความคิดเห็นของหวั หน้ากลุม่ สาระฯ ความคิดเห็นของหวั หนา้ วชิ าการ
1.เป็นแผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ …………………………………………………………………………………….
2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ไดน้ าเอากระบวนการเรียนรู้
 ทีเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสาคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง ลงช่ือ................................................
(นางณฐั ิญา คาโส)
เหมาะสมกบั ศักยภาพท่แี ตกต่างกนั ของผู้เรียน
 ทย่ี งั ไมเ่ น้นผูเ้ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นา ความคิดเห็นของผอู้ านวยการโรงเรยี นพนมศกึ ษา
ตอ่ ไป ……………………………………………………………………………………
3.เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………
นาไปใช้ได้จริง  ควรปรับปรงุ กอ่ นนาไปใช้ ……………………………………………………………………………………
4.ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ
…………………………………………………… ลงช่อื ................................................
( นางผกา สามารถ )
ลงชื่อ.......................................................
( นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ ) ผอู้ านวยการโรงเรียนพนมศกึ ษา

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี

25

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ รหัสวชิ า ง 21102
รายวชิ า การงานอาชพี จานวน 1 ช่ัวโมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง เกษตรน่ารู้ จานวน 1 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 2 เร่ือง การแปรรูปอาหาร

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การ ทกั ษะ
กระบวนการแก้ปญั หา ทกั ษะการทางานร่วมกัน และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรมและลกั ษณะนิสัยใน
การทางาน มีจติ สานกึ ในการใชพ้ ลังงาน และสงิ่ แวดลอ้ ม เพ่อื การดารงชวี ิตและครอบครวั
ตัวช้วี ดั ท่ี

ง 1.1 ม.1/1 วเิ คราะหข์ นั้ ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน
ง 1.1 ม.1/2 ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางาน ดว้ ยความเสียสละ
ง 1.1 ม.1/3 ตดั สินใจแก้ปญั หาการทางานอยา่ งมีเหตผุ ล
2. สาระสาคัญ
การแปรรปู อาหาร เปน็ การนาเอาวตั ถดุ ิบซ่ึงไดจ้ ากผลผลติ ไปเปลยี่ นสภาพด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ ให้เป็น
ผลิตภัณฑท์ ี่มรี ูปรา่ ง และลกั ษณะเปลีย่ นแปลงไป โดยผลติ ภัณฑใ์ หมย่ ังคงมคี า่ ของวตั ถดุ บิ ท่นี ามาใช้หรอื อาจให้
คุณค่าทีด่ ีมากกวา่ เดมิ สามารถเกบ็ ผลิตภัณฑท์ ่แี ปรรูปอาหารต่างไว้ได้ยาวนานขึน้ หรือจาหนา่ ยได้ราคาเพ่ิมข้ึน
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้
1. หลกั การแปรรปู อาหาร
2. วธิ กี ารแปรรูปอาหาร
3. ตวั อยา่ งการแปรรูปอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ
3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ
1. ทกั ษะกระบวนการทางาน
2. ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา
3. ทักษะการทางานรว่ มกัน
4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้
5. กระบวนการทางานกลุ่ม
3.3 ด้านเจตคติ/คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค/์ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมทีส่ อดแทรก
1. นกั เรยี นมีความซ่อื สตั ย์
2. นักเรยี นมีความรบั ผิดชอบ ตรงตอ่ เวลา
3. นกั เรยี นมรี ะเบียบวินัย รักการเรยี นรู้
4. สมรรถนะของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส่อื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา
4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี

26

4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้

1. อธบิ ายหลักการแปรรูปอาหารได้
2. บอกวิธกี ารแปรปู อาหารได้
6. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 ระบคุ าถาม
1. ครูนารูปภาพท่ีเกี่ยวกับ การแปรรูปอาหาร หรือนาผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เช่น กล้วยฉาบ กล้วย
เชอ่ื ม ทเุ รยี นกวน มาให้นักเรยี นดู เพอ่ื กระตนุ้ ความคิดและความสนใจของนกั เรียน ตวั อยา่ งคาถาม เช่น

กล้วยฉาบ กลว้ ยเชอ่ื ม

ทเุ รยี นกวน

- นักเรียนคนใดเคยรบั ประทาน ผลิตภณั ฑต์ ามรูปภาพทค่ี รูนามาใหด้ หู รอื ไม่
- นกั เรยี นคิดว่า ผลิตภณั ฑ์ท่ีครนู ามาใหน้ ักเรยี นดู มวี ิธกี ารแปรรปู อย่างไรบา้ ง
ขั้นที่ 2 แสวงหาความรู้
1. ครูให้นักเรียนนาคาถาม ที่ครูได้ต้ังคาถามไว้ มาร่วมกันสนทนาความรู้ โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียน
แสดงความคิดเห็นได้อยา่ งเตม็ ท่ี
2. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้ ในเร่ือง การแปรรูปอาหาร จากหนังสือเรียนรายวิชา การงานอาชีพ ม.
1 หน้า 86-87 ของบรษิ ทั ศนู ย์หนงั สอื เมอื งไทย จากดั

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี

27

3. ครูให้นักเรียนศกึ ษาความรู้เพ่มิ เติมเร่ือง การแปรรูปอาหาร จากสอ่ื วดิ ทิ ัศน์ โดยการสแกนควิ อารโ์ ค๊ด
หน้า 86

ขน้ั ท่ี 3 สรา้ งความรู้และสรุปความรู้

1. ครูตั้งคาถามในเรื่องที่เก่ยี วกบั การแปรรูปอาหาร เพื่อให้นักเรียนได้วิเคราะห์และค้นคว้าหาคาตอบ

และสรุปเปน็ ความร้รู ่วมกนั ตวั อยา่ งคาถาม เช่น

- การแปรรูปอาหารควรคานงึ ถึงหลักการใดบ้าง

-การแปรรปู อาหาร นิยมวิธกี ารใดบา้ ง

-การแปรรปู อาหารดว้ ยวธิ กี าร กวน เหมาะสาหรับอาหารประเภทใด

-การแปรรูปอาหารดว้ ยวิธีการเช่ือม มีวธิ กี ารทาอย่างไร

ขั้นท่ี 4 สือ่ สารและนาเสนอ

1. ครูส่มุ เลือกนักเรียนท้ังหญงิ -ชาย 2-3 คน ออกมาหนา้ ชัน้ เรียน เล่าประสบการณ์ในการแปรรปู

อาหาร หรือการรบั ประทานอาหารท่แี ปรรูป ให้เพอื่ นๆฟังหน้าชนั้ เรยี น โดยครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นไดแ้ สดง

ความคดิ เหน็ อย่างเตม็ ท่ี

2. ครเู พมิ่ เตมิ ความรู้ทถ่ี ูกตอ้ งใหก้ ับนกั เรยี น และใหน้ ักเรยี นรว่ มกันสรปุ ความรใู้ นเร่ืองท่กี ารแปรรูป

อาหาร โดยครูเขียนสรปุ ความรู้ไวบ้ นกระดานดา

ขนั้ ท่ี 5 ประเมินและบรกิ ารสงั คม

1. ครปู ระเมินนักเรียน โดยการตง้ั คาถาม ในเรื่องที่เกีย่ วกับการแปรรปู อาหาร เพอื่ ทดสอบความรูแ้ ละ

ความเข้าใจของนักเรียน เพอ่ื ท่ีนักเรยี นจะไดน้ าความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประวันได้

ตวั อยา่ งคาถามเชน่

- นกั เรยี นมหี ลักการแปรรูปอาหารอยา่ งไรบา้ ง

- กลว้ ยดิบสามารถแปรรปู อาหารดว้ ยวธิ กี ารใดบา้ ง

-ถ้านกั เรยี นมกี ล้วยนา้ หว้าสุก ในปรมิ าณมาก ๆ นักเรยี นจะทาอยา่ งไร

-การแปรรปู อาหารมีประโยชน์อย่างไร

2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคาตอบ

7. การบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข)

หลักความพอประมาณ กาหนดเวลาที่ใช้เวลาเหมาะสมกับเนื้อหากิจกรรม วัยของผู้เรียน และภาระงานที่ได้รับ
มอบหมาย

หลักมเี หตผุ ล สามารถจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ไู ดต้ ามเวลาทก่ี าหนด

วางแผนเวลาในการทากิจกรรมไว้เกินจริงเล็กน้อย เพ่ือป้องกันปัญหาเรื่องเวลาที่อาจจะ

หลกั สรา้ งภมู ิคุ้มกนั ในตวั ท่ดี ี เกิดข้ึนได้ ทาให้ใช้เวลาพอเพียงกับคาบเรียนท่ีกาหนด ไม่ปล่อยนักเรียนช้า นักเรียนได้

เรยี นร้อู ยา่ งเตม็ ที่ ครบกจิ กรรมที่วางแผนไว้

-พ้ืนฐานความรู้ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้แก่ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์

เง่อื นไขความรู้ สังคมศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ศิลปะ (ดนตรี) ท่ีใช้ใน

การเรยี นรเู้ รอ่ื งทักษะกระบวนการทางาน กระบวนการแก้ปัญหา และหลักการทางานเพ่ือ

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี

28

การดารงชีวิต
-หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง

เง่ือนไขคณุ ธรรม -ความรว่ มมือในการทากจิ กรรม
-ไม่เห็นแก่ตวั มีน้าใจ เอ้ืออาทร ใหค้ วามชว่ ยเหลอื เพ่ือนในกลมุ่
-มีความมุ่งมัน่ ในการทางาน
-มจี ิตอาสา

เศรษฐกจิ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม

8. สอื่ การเรียนร้/ู แหล่งการเรยี นรู้

1. สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนงั สอื ที่เกยี่ วกับการแปรรปู อาหาร

2. เวบ็ ไซน์เก่ยี วกบั การแปรรูปอาหาร เช่น

- www.sgethai.com › Uncategorized @th หลกั การแปรรูปอาหาร - Spring Green Evolution –

SGEThai

- www.tech2biz.net › content › การแปรรปู อาหาร การแปรรูปอาหาร | Tech2Biz

- sites.google.com › site › kar-paerrup-xahar การแปรรปู อาหาร (Food Processing) -

Foodprocessing

3. รปู ภาพที่เกี่ยวกับการแปรรปู อาหาร เชน่ กลว้ ยฉาบ กลว้ ยเชื่อม ทุเรยี นกวนมาใหน้ ักเรียนดู

4. สถานท่ี เช่น โรงเรยี น หอ้ งสมุด

5. บคุ คล เชน่ ครู ผู้ปกครอง เพือ่ น ผรู้ ู้ สมาชิกในชมุ ชน สมาชกิ ในครอบครวั

6. หนังสือเรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน การงานอาชพี ม.1 ของบริษัท ศูนยห์ นังสอื เมืองไทย จากดั

9. การวัดและการประเมินผล

ประเดน็ การพิจารณา วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

ความรู้ (K) - ประเมนิ ผลงานจาก แบบประเมินผลงาน ผ่านข้นั ต่าไม่น้อยกวา่ รอ้ ย
นักเรียนสามารถอธิบายหลกั การ ใบงาน นกั เรียน ละ 60

แปรรูปอาหารได้

ทักษะกระบวนการ (P) - การออกมานาเสนอ แบบสงั เกตการตอบ คะแนนตั้งแต่ 4-9 ผ่าน
นักเรยี นใช้บอกวธิ ีการแปรปู - การตอบคาถาม คาถาม
อาหารได้ การสังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรียนท่ีได้ระดบั คณุ ภาพ
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รายบุคคล รายบุคคล พอใชข้ ้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ น
(A)
นกั เรียนเหน็ ความสาคัญของการ

วธิ กี ารแปรูปอาหาร
คณุ ลักษณะอันพึงประสงคต์ าม ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอัน แบบประเมินคุณลักษณะ
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พึงประสงค์ของผู้เรียน อันพึงประสงค์ของ ผ่านข้ันตา่ ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ย
พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ผเู้ รยี น ละ 60
ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ประเมินสมรรถนะ แบบประเมินสมรรถนะ
- ความสามารถในการสอ่ื สาร สาคัญของผู้เรียน สาคญั ของผู้เรียน ผา่ นขน้ั ตา่ ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ย
ละ 60

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี

- ความสามารถในการคดิ 29
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะ
ชวี ิต ลงช่อื ..................................................ครูผูส้ อน
- ความสามารถในการแกป้ ัญหา (นางสาวเรวดี ศรขี าว)
- ความสามารถในการใช้ .........../.............../.................
เทคโนโลยี

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สุราษฎรธ์ านี

30

บนั ทกึ หลังสอนแผนการสอนที่ 2
1. ผลการสอนระดับช้นั ม.1

 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ เนื่องจาก .............................................................................
9. ผลท่ีเกิดกับผู้เรยี น
1.) การประเมนิ ผลความร้หู ลังการเรียน โดยใช…้ …………………….....................................พบว่านักเรียน
ผา่ นการประเมินคิดเปน็ ร้อยละ................... ไม่ผา่ นเกณฑ์ขน้ั ตา่ ท่กี าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ...................................
ไดแ้ ก่ .....................................................................................................................................................................
2.) การประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบวา่ นกั เรยี น
ผ่านการประเมนิ คดิ เป็นรอ้ ยละ.....................……. ไมผ่ า่ นเกณฑข์ ัน้ ตา่ ทก่ี าหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.........................
ได้แก่ ......................................................................................................................................................................
3.) การประเมินดา้ นคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ เรียน โดย
ใช…้ …………………….............................................พบว่านักเรียนผา่ นการประเมินคดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไม่ผ่าน
เกณฑ์ขน้ั ตา่ ทีก่ าหนดไวค้ ิดเป็นร้อยละ.................
ได้แก่ ......................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอุปสรรค
 กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
 มนี กั เรียนทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกาหนดเวลา
 มีนกั เรียนทไ่ี ม่สนใจเรยี น
 อ่ืน ๆ ................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนาแผนไปปรบั ปรงุ เรอื่ ง ..........................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมิน .....................................................................................
 ไมม่ ีข้อเสนอแนะ

ลงช่ือ ผู้สอน
( นางสาวเรวดี ศรีขาว )

วนั ที่......../.................../.................

โรงเรยี นพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎรธ์ านี

31

ความคิดเห็นของหวั หน้ากลมุ่ สาระฯ ความคิดเห็นของหวั หนา้ วิชาการ

1.เปน็ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ……………………………………………………………………………………

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง ……………………………………………………………………………………

2.การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………….

 ทเี่ น้นผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง ลงช่ือ................................................

เหมาะสมกบั ศักยภาพทีแ่ ตกต่างกันของผเู้ รียน (นางณฐั ญิ า คาโส)

 ท่ยี ังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นา ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการโรงเรยี นพนมศกึ ษา

ต่อไป ……………………………………………………………………………………

3.เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………

นาไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ ……………………………………………………………………………………

4.ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ลงชื่อ................................................

……………………………………………………………………………….. ( นางผกา สามารถ )

ลงช่ือ....................................................... ผูอ้ านวยการโรงเรยี นพนมศกึ ษา

( นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ )

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี

32

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รหัสวิชา ง 21102
รายวิชา การงานอาชีพ จานวน 1 ชัว่ โมง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง เกษตรนา่ รู้ จานวน 1 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง การถนอมอาหาร

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้วี ัด
มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ มที ักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การ ทักษะ
กระบวนการแก้ปญั หา ทกั ษะการทางานรว่ มกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรมและลักษณะนิสยั ใน
การทางาน มจี ติ สานึกในการใชพ้ ลังงาน และส่งิ แวดล้อม เพ่อื การดารงชวี ิตและครอบครวั
ตวั ช้ีวดั ท่ี

ง 1.1 ม.1/1 วิเคราะหข์ นั้ ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน
ง 1.1 ม.1/2 ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทางาน ดว้ ยความเสยี สละ
ง 1.1 ม.1/3 ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาการทางานอย่างมีเหตุผล
2. สาระสาคัญ
การถนอมอาหาร เปน็ การเก็บรกั ษาอาหารใหค้ งสภาพเดิมไดน้ านโดยไมบ่ ดู เน่า ไมม่ ีการเปลี่ยนแปลง
กลิ่น สี และรสของอาหาร สง่ ผลทาใหอ้ าหารมีอายุการจดั เกบ็ นานขน้ึ แต่ยังคงคณุ ค่าทางโภชนาการของอาหาร
ไว้ รวมถงึ รกั ษาสภาพคณุ ค่าทางโภชนาการของอาหารใหค้ งเดิมหรอื เปล่ียนแปลงนอ้ ยทส่ี ดุ
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้
1. ความสาคญั ของการถนอมอาหาร
2. หลักการถนอมอาหาร
3. ตวั อยา่ งการถนอมอาหาร
4. ประโยชนข์ องการถนอมอาหาร

3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
1. ทกั ษะกระบวนการทางาน
2. ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา
3. ทักษะการทางานรว่ มกนั
4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้
5. กระบวนการทางานกลุ่ม

3.3 ดา้ นเจตคติ/คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์/คุณธรรมจริยธรรมท่ีสอดแทรก
1. นกั เรยี นมีความซ่อื สตั ย์
2. นักเรียนมคี วามรับผดิ ชอบ ตรงต่อเวลา
3. นกั เรียนมีระเบียบวินยั รกั การเรยี นรู้

4. สมรรถนะของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวัดสุราษฎร์ธานี

33

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้

1. อธบิ ายหลกั การถนอมอาหารได้
2. บอกวิธกี ารถนอมอาหารดว้ ยวิธกี ารต่าง ๆ ได้
6. กระบวนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั ท่ี 1 ระบคุ าถาม
1. ครูนารูปภาพที่เก่ยี วกับ การถนอมอาหาร เช่น ปลาหมึกแห้ง มะขามแชอ่ ิ่ม มะม่วงดอง อาหารทะเล
แช่แขง็ มาให้นกั เรยี นดู เพ่อื กระต้นุ ความคดิ และความสนใจของนักเรยี น ตวั อยา่ งคาถาม เช่น

ปลาหมกึ แห้ง อาหารทะเลแชแ่ ขง็

มะขามแช่อิ่ม มะม่วงดอง

- นักเรยี นคนใดเคยรับประทาน ผลิตภณั ฑอ์ าหารตามรูปภาพท่ีครนู ามาให้ดหู รือไม่

- นกั เรียนคดิ วา่ ผลิตภณั ฑ์ท่ีครนู ามาให้นกั เรยี นดู มวี ธิ ีการถนอมอาหารอยา่ งไรบ้าง

ขัน้ ที่ 2 แสวงหาความรู้

1. ครูให้นักเรียนนาคาถาม ท่ีครูได้ต้ังคาถามไว้ มาร่วมกันสนทนาความรู้ โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียน

แสดงความคดิ เหน็ ไดอ้ ยา่ งเต็มท่ี

2. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้ ในเรือ่ ง การถนอมอาหาร จากหนังสือเรยี นรายวิชา การงานอาชีพ ม. 1

หนา้ 88-93 ของบริษัทศนู ย์หนงั สือเมอื งไทย จากัด

3. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้เพิ่มเติมเร่อื ง การถนอมอาหาร จากสอื่ วิดิทัศน์ โดยการสแกนคิวอาร์โค๊ด

หน้า 88

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี

34

ขัน้ ที่ 3 สรา้ งความรแู้ ละสรปุ ความรู้
1. ครูตั้งคาถามในเร่ืองท่ีเกี่ยวกับ การถนอมอาหาร เพ่ือให้นักเรียนได้วิเคราะห์และค้นคว้าหาคาตอบ
และสรุปเปน็ ความรู้ร่วมกนั ตวั อย่างคาถาม เชน่

- การถนอมอาหารมีความสาคญั อย่างไรบา้ ง
-หลกั การถนอมอาหารมีอะไรบ้าง
-วิธกี ารถนอมอาหาร มอี ะไรบา้ ง
-ประโยชนข์ องการถนอมอาหาร มีอะไรบ้าง
2. ครูและนักเรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบ
ข้ันที่ 4 ส่อื สารและนาเสนอ
1. ครูสุ่มเลือกนกั เรยี นท้งั หญงิ -ชาย 2-3 คน ออกมาหนา้ ชนั้ เรยี น เลา่ ประสบการณใ์ นการแปรรปู
อาหาร หรือการรบั ประทานอาหารทีแ่ ปรรปู ให้เพอ่ื นๆฟงั หน้าชั้นเรยี น โดยครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนไดแ้ สดง
ความคดิ เหน็ อยา่ งเต็มที่
2. ครูเพิ่มเติมความรทู้ ถ่ี ูกต้องให้กับนกั เรียน และใหน้ ักเรียนร่วมกันสรปุ ความรใู้ นเรือ่ งท่กี ารแปรรปู
อาหาร โดยครูเขียนสรุปความรู้ไวบ้ นกระดานดา
ขน้ั ท่ี 5 ประเมินและบริการสังคม
1. ครูประเมินนกั เรียน โดยการต้งั คาถาม ในเรอ่ื งทเ่ี กย่ี วกบั การแปรรปู อาหาร เพอื่ ทดสอบความรแู้ ละ
ความเขา้ ใจของนักเรยี น เพอื่ ทน่ี ักเรยี นจะไดน้ าความรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประวันได้
ตัวอยา่ งคาถามเช่น
- เพราะเหตใุ ดเราจึงตอ้ งถนอมอาหาร
- นักเรียนมีวธิ ีการถนอมอาหารอยา่ งไรบา้ ง
-หลกั การถนอมอาหารมอี ะไรบ้าง
-การถนอมอาหารมปี ระโยชนอ์ ย่างไร
2. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคาตอบ

7. การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (3 หว่ ง 2 เง่ือนไข)

หลักความพอประมาณ กาหนดเวลาที่ใช้เวลาเหมาะสมกับเนื้อหากิจกรรม วัยของผู้เรียน และภาระงานท่ีได้รับ
มอบหมาย

หลักมีเหตุผล สามารถจัดกจิ กรรมการเรียนรูไ้ ด้ตามเวลาทีก่ าหนด

วางแผนเวลาในการทากิจกรรมไว้เกินจริงเล็กน้อย เพ่ือป้องกันปัญหาเร่ืองเวลาที่อาจจะ

หลกั สรา้ งภูมคิ มุ้ กนั ในตัวท่ดี ี เกิดขึ้นได้ ทาให้ใช้เวลาพอเพียงกับคาบเรียนท่ีกาหนด ไม่ปล่อยนักเรียนช้า นักเรียนได้

เรียนร้อู ย่างเต็มที่ ครบกิจกรรมทว่ี างแผนไว้

-พื้นฐานความรู้ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้แก่ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์

เงือ่ นไขความรู้ สังคมศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ศิลปะ (ดนตรี) ที่ใช้ใน
การเรียนรเู้ ร่ืองทักษะกระบวนการทางาน กระบวนการแก้ปัญหา และหลักการทางานเพ่ือ

การดารงชีวิต

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี

35

-หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

เงือ่ นไขคณุ ธรรม -ความร่วมมอื ในการทากิจกรรม
-ไมเ่ หน็ แก่ตัว มีน้าใจ เอือ้ อาทร ให้ความชว่ ยเหลือเพอ่ื นในกลุม่
-มีความมุ่งมน่ั ในการทางาน
-มีจิตอาสา

เศรษฐกจิ สังคม ส่งิ แวดล้อม วฒั นธรรม

8. สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้

1. สอ่ื สง่ิ พิมพ์ เช่น หนังสอื ทเี่ ก่ียวกบั การถนอมอาหาร

2. เว็บไซนเ์ ก่ยี วกับ การถนอมอาหาร เชน่

- puechkaset.com › การถนอมอาหาร การถนอมอาหาร (food preservation) และวธิ ีถนอมอาหาร

| พชื เกษตร .

- signuphowto.blogspot.com › 2012/02 › blog-post_24 วธิ ถี นอมอาหาร – รวมวธิ กี ารตา่ งๆ

- cookpad.com › search › ถนอมอาหาร สตู รถนอมอาหาร: 43 วิธที าอาหาร เมนูอาหารถนอม

อาหารอรอ่ ยง่ายๆท่ี

3. รูปภาพที่เกย่ี วกบั การถนอมอาหาร เชน่ ปลาหมกึ แห้ง มะขามแช่อม่ิ มะมว่ งดอง อาหารทะเลแช่

แข็ง

4. สถานที่ เช่น โรงเรยี น ห้องสมุด หา้ งสรรพสินค้า รา้ นค้าจาหนา่ ยอาหารแปรรปู เช่น ปลาเค็ม ปลา

แห้ง อาหารทะเลแช่แขง็

5. บคุ คล เช่น ครู ผปู้ กครอง เพือ่ น ผรู้ ู้ สมาชกิ ในชมุ ชน สมาชกิ ในครอบครัว

6. หนงั สอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน การงานอาชพี ม.1 ของบริษัท ศูนย์หนงั สอื เมอื งไทย จากดั

9. การวดั และการประเมนิ ผล

ประเดน็ การพจิ ารณา วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

ความรู้ (K) - ประเมินผลงานจาก แบบประเมินผลงาน ผา่ นขน้ั ต่าไมน่ ้อยกว่าร้อย
นักเรยี นสามารถอธบิ าย ใบงาน นักเรียน ละ 60
หลกั การถนอมอาหารได้

ทักษะกระบวนการ (P) - การออกมานาเสนอ แบบสังเกตการตอบ
นกั เรียนใช้วิธีการถนอมอาหาร - การตอบคาถาม คาถาม คะแนนต้งั แต่ 4-9 ผ่าน
ด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ ได้ แบบสังเกตพฤตกิ รรม
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ การสงั เกตพฤติกรรม รายบุคคล นกั เรียนท่ไี ด้ระดับคณุ ภาพ
(A) รายบุคคล พอใช้ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

นกั เรียนเห็นประโยชนข์ องการ

ถนอมอาหาร
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ าม ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษา พงึ ประสงคข์ องผูเ้ รียน อนั พงึ ประสงคข์ อง ผ่านข้นั ตา่ ไม่น้อยกวา่ รอ้ ย
ขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ผ้เู รียน ละ 60
2551

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี

36

ด้านสมรรถนะสาคญั ของ ประเมนิ สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ
ผู้เรียน สาคัญของผู้เรียน สาคญั ของผเู้ รียน
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคดิ ผ่านข้ันต่าไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ย
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะ ละ 60
ชวี ติ
- ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

ลงชอ่ื ..................................................ครผู ูส้ อน
(นางสาวเรวดี ศรีขาว)
.........../.............../..................

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี

37

บันทึกหลงั สอนแผนการสอนท่ี 3
1. ผลการสอนระดับชั้น ม.1

 สอนได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้
 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ เนอ่ื งจาก .............................................................................
10. ผลท่ีเกิดกับผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลังการเรยี น โดยใช…้ …………………….....................................พบวา่ นักเรียน
ผา่ นการประเมินคิดเป็นรอ้ ยละ................... ไมผ่ า่ นเกณฑข์ ้ันตา่ ทีก่ าหนดไวค้ ิดเป็นร้อยละ...................................
ได้แก่ .....................................................................................................................................................................
2.) การประเมินดา้ นทักษะกระบวนการเรยี น โดยใช้…………………...….….........................พบวา่ นักเรยี น
ผ่านการประเมนิ คดิ เป็นรอ้ ยละ.....................……. ไมผ่ ่านเกณฑข์ ัน้ ต่าท่ีกาหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.........................
ได้แก่ ......................................................................................................................................................................
3.) การประเมินด้านคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ เรยี น โดย
ใช…้ …………………….............................................พบวา่ นกั เรียนผ่านการประเมินคดิ เป็นรอ้ ยละ............... ไม่ผา่ น
เกณฑ์ขั้นตา่ ทกี่ าหนดไวค้ ดิ เปน็ รอ้ ยละ.................
ไดแ้ ก่ ......................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอปุ สรรค
 กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ไมเ่ หมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรียนทาใบงาน/ใบกิจกรรมไมท่ ันตามกาหนดเวลา
 มนี ักเรยี นท่ไี มส่ นใจเรยี น
 อ่นื ๆ ................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
 ควรนาแผนไปปรับปรงุ เรื่อง ..........................................................................................................
 แนวทางแก้ไขนกั เรียนท่ีไม่ผ่านการประเมิน .....................................................................................
 ไมม่ ีขอ้ เสนอแนะ

ลงช่ือ ผู้สอน
( นางสาวเรวดี ศรีขาว )

วนั ท่ี......../.................../.................

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สุราษฎรธ์ านี

38

ความคิดเห็นของหวั หน้ากลุม่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหัวหน้าวิชาการ
1.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง …………………………………………………………………………………….
2.การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
 ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง ลงชือ่ ................................................
(นางณฐั ิญา คาโส)
เหมาะสมกับศกั ยภาพท่แี ตกตา่ งกันของผเู้ รียน
 ที่ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นา ความคดิ เหน็ ของผูอ้ านวยการโรงเรยี นพนมศกึ ษา
ตอ่ ไป ……………………………………………………………………………………
3.เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………
นาไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรงุ กอ่ นนาไปใช้ ……………………………………………………………………………………
4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………..……… ลงชอ่ื ................................................
( นางผกา สามารถ )
ลงชอื่ .......................................................
( นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นพนมศึกษา

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎรธ์ านี

39

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รหสั วิชา ง 21102
รายวชิ า การงานอาชีพ จานวน 1 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่ือง เกษตรน่ารู้ จานวน 1 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 เร่อื ง การออกแบบจดั สวน

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทางาน มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทกั ษะ
กระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะการทางานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรมและลักษณะนสิ ัยใน
การทางาน มจี ติ สานึกในการใชพ้ ลงั งาน และสิ่งแวดล้อม เพ่ือการดารงชวี ติ และครอบครวั
ตวั ช้วี ดั ท่ี

ง 1.1 ม.1/1 วิเคราะหข์ นั้ ตอนการทางานตามกระบวนการทางาน
ง 1.1 ม.1/2 ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางาน ด้วยความเสยี สละ
ง 1.1 ม.1/3 ตดั สินใจแกป้ ญั หาการทางานอย่างมีเหตุผล
2. สาระสาคัญ
การออกแบบจัดสวน เป็นการทาให้สวนมคี วามสวยงาม จะตอ้ งมคี วามรพู้ นื้ ฐานในเร่ืองการออกแบบ
การจดั สวนจะต้องมีการดูแลรกั ษาทดี่ ี เพื่อใหส้ วนมคี วามสวยงามและอยู่ไดย้ าวงาน หลกั การออกแบบจึงมีความ
จาเปน็ ต่อการจดั สวนมาก เพราะการออกแบบ การเขยี นแบบ จะทาใหก้ ารจดั สวนทาได้งา่ ยขน้ึ
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้

1. ความหมายของการออกแบบจดั สวน
2. การออกแบบจัดสวน
3. ความสาคัญของการจดั สวน
4. การแบ่งพนื้ ทข่ี องสวนบ้าน
5. การกาหนดรปู ร่างหรือแบบ
3.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
1. ทกั ษะกระบวนการทางาน
2. ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หา
3. ทกั ษะการทางานรว่ มกนั
4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้
5. กระบวนการทางานกลุ่ม
3.3 ด้านเจตคติ/คณุ ลักษณะอันพึงประสงค/์ คุณธรรมจรยิ ธรรมท่ีสอดแทรก
1 นักเรยี นดูแลออกแบบและจดั สวนอย่างสวยงามอย่างสมา่ เสมอ
4. สมรรถนะของผู้เรยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สุราษฎร์ธานี

40

4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้

1. ความหมายของการออกแบบจดั สวน
2. การออกแบบจดั สวน
3. ความสาคญั ของการจดั สวน
4. การแบง่ พ้นื ทข่ี องสวนบา้ น
5. การกาหนดรปู รา่ งหรอื แบบ
6. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่วั โมงที่ 1
ขน้ั ที่ 1 ระบุคาถาม

1. ครูนารูปภาพท่ีเก่ียวกับ การจัดสวนในรูปแบบต่าง ๆ มาให้นักเรียนดู เพื่อกระตุ้นความคิด
และความสนใจของนักเรียน ตวั อย่างคาถาม เช่น

การจัดสวนในรปู แบบตา่ งๆ
- ท่ีบา้ นของนกั เรียนคนใด มีการจัดสวนท่ีสวยงามบา้ ง
- นกั เรยี นคดิ ว่า การออกแบบจัดสวนมีประโยชนอ์ ยา่ งไร
-นักเรียนคนใดเคยจัดสวนบ้าง แลว้ มวี ิธกี ารออกแบบจัดสวนอยา่ งไร
ข้ันที่ 2 แสวงหาความรู้
1. ครูให้นักเรียนนาคาถาม ท่ีครูได้ตั้งคาถามไว้ มาร่วมกันสนทนาความรู้ โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียน
แสดงความคิดเห็นไดอ้ ย่างเต็มที่
2. ครูให้นักเรียนศึกษาความรู้ ในเร่ือง การออกแบบจัดสวน จากหนังสือเรียนรายวิชา การงานอาชีพ
ม. 1 หนา้ 93-96 ของบรษิ ัทศูนยห์ นงั สือเมอื งไทย จากัด

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎรธ์ านี

41

ขั้นท่ี 3 สรา้ งความรู้และสรปุ ความรู้
1. ครูตั้งคาถามในเรื่องท่ีเก่ียวกับ การออกแบบจัดสวน เพื่อให้นักเรียนได้วิเคราะห์และค้นคว้าหา
คาตอบ และสรุปเปน็ ความรู้ร่วมกนั ตวั อยา่ งคาถาม เชน่

- การออกแบบจดั สวนจะตอ้ งมีความรใู้ นด้านใดบา้ ง
-ถ้าใหน้ ักเรียนออกแบบจดั สวน นักเรยี นจะมีหลกั การออกแบบจดั สวนอยา่ งไร
- การออกแบบจัดสวน เพื่อความสวยงาม จะตอ้ งออกแบบจัดสวนอย่างไร
-นักเรยี นมวี ธิ ีการแบ่งพนื้ ท่ใี นการจัดสวนอย่างไรบ้าง
-วธิ ีการถนอมอาหาร มีอะไรบา้ ง
-การออกแบบจัดสวนมีประโยชนอ์ ยา่ งไร
2. ให้นกั เรียนแตล่ ะคนออกแบบจดั สวนตามท่ีตวั ชนื่ ชอบ มาคนละ 1 แบบ
ขั้นที่ 4 สอ่ื สารและนาเสนอ
1. ครสู มุ่ เลอื กนกั เรียนทั้งหญิง-ชาย 2-3 คน ออกมาหนา้ ช้ันเรียน อธิบายความรู้ประกอบการแบบจัด
สวนทต่ี วั เองได้ออกแบบไว้ ให้เพ่อื นๆฟังหน้าชัน้ เรยี น โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียนไดแ้ สดงความคดิ เห็นอยา่ ง
เต็มที่
2. ครเู พิ่มเติมความรู้ท่ถี กู ต้องให้กบั นกั เรยี น และให้นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความรใู้ นเรือ่ งทเ่ี ก่ยี วกบั การ
ออกแบบจัดสวน โดยครเู ขียนสรุปความรู้ไวบ้ นกระดานดา
ข้นั ท่ี 5 ประเมินและบริการสงั คม
1. ครูประเมนิ นักเรยี น โดยการตง้ั คาถาม ในเรอ่ื งท่ีเกย่ี วกบั การออกแบบจดั สวน เพอ่ื ทดสอบความรู้
และความเข้าใจของนักเรียน เพ่อื ทีน่ กั เรยี นจะไดน้ าความรู้ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประวันได้
ตัวอย่างคาถามเชน่
- นกั เรยี นมหี ลักการออกแบบและจัดสวนอยา่ งไรบ้าง
- นักเรียนมีวธิ ีการจดั สวนอยา่ งไรใหส้ วยงาม
-การแบ่งพ้นื ท่ีในการจดั สวนของชาวตะวนั ตก มวี ธิ กี ารแบง่ พนื้ ท่ีอย่างไร
-ถา้ ให้นกั เรยี นจดั สวน นกั เรยี นจะมีวกี ารแบ่งพ้นื ทใี่ นการจดั สวนอยา่ งไร
-ในการออกแบบจดั สวนมีวธิ ีการออกแบบรปู รา่ งในลักษณะรปู แบบใดบ้าง
2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบ
7. การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง (3 ห่วง 2 เงือ่ นไข)

หลกั ความพอประมาณ กาหนดเวลาที่ใช้เวลาเหมาะสมกับเน้ือหากิจกรรม วัยของผู้เรียน และภาระงานท่ีได้รับ
หลักมีเหตผุ ล มอบหมาย

หลักสร้างภมู คิ มุ้ กันในตวั ท่ีดี สามารถจัดกจิ กรรมการเรียนร้ไู ดต้ ามเวลาทกี่ าหนด

เงื่อนไขความรู้ วางแผนเวลาในการทากิจกรรมไว้เกินจริงเล็กน้อย เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องเวลาท่ีอาจจะ
เกิดข้ึนได้ ทาให้ใช้เวลาพอเพียงกับคาบเรียนท่ีกาหนด ไม่ปล่อยนักเรียนช้า นักเรียนได้
เรียนรูอ้ ย่างเตม็ ที่ ครบกิจกรรมทวี่ างแผนไว้

-พื้นฐานความรู้ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้แก่ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
สังคมศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ศิลปะ (ดนตรี) ที่ใช้ใน
การเรียนรเู้ รื่องทักษะกระบวนการทางาน กระบวนการแก้ปัญหา และหลกั การทางานเพ่ือ
การดารงชวี ิต

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวดั สุราษฎร์ธานี

42

-หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

เงื่อนไขคุณธรรม -ความร่วมมือในการทากิจกรรม
-ไม่เห็นแก่ตวั มนี า้ ใจ เออ้ื อาทร ใหค้ วามช่วยเหลือเพื่อนในกลมุ่
-มคี วามมุ่งม่ันในการทางาน
-มีจติ อาสา

เศรษฐกจิ สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม วฒั นธรรม

8. ส่อื การเรยี นร้/ู แหล่งการเรยี นรู้

1. สอื่ ส่งิ พิมพ์ เชน่ หนงั สือทีเ่ ก่ียวกบั การการออกแบบจัดสวน หนงั สือบ้านและสวน

2. เว็บไซน์เกีย่ วกบั การออกแบบจัดสวน เช่น

-www.novabizz.com › CDC › Garden › Garden_Basic ความรู้พน้ื ฐานเกยี่ วกับ การออกแบบจัด

สวน – NovaBiz

- home.kapook.com › การจดั สวน การออกแบบสวน จัดสวนอย่างไรให้สวนสวยและไดป้ ระโยชน์ –

แบบบา้ น

- ข้อควรร้เู กยี่ วกับการ "จดั สวนดว้ ยตวั เอง" - บ้านและสวน – Baanlaesuan

www.baanlaesuan.com › ideas › gardening

-การจัดสวน และ การวางแปลนสวน ที่เหมาะสม พร้อมวธิ ีการเลือกพรรณไม้

www.palangkaset.com › ไม้ดอกไม้ประดับ

- 10. ขัน้ ตอนการออกแบบสวน natres.psu.ac.th › Department › PlantScience › 483-kanya ›

Garden

3. รูปภาพที่เก่ียวกบั การออกแบบจัดสวน

4. สถานที่ เชน่ โรงเรียน ห้องสมุด หา้ งสรรพสนิ คา้ รา้ นค้าจาหน่ายวสั ดอุ ุปกรณ์ในการจัดสวน

5. บคุ คล เช่น ครู ผูป้ กครอง เพอื่ น ผรู้ ู้ สถาปนิกออกแบบและตกแตง่ บ้านและสวน สมาชกิ ในชมุ ชน

สมาชิกในครอบครวั

6. หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน การงานอาชพี ม.1 ของบริษัท ศนู ย์หนงั สือเมอื งไทย จากดั

9. การวัดและการประเมนิ ผล

ประเดน็ การพิจารณา วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน

ความรู้ (K) - ประเมนิ ผลงานจาก แบบประเมินผลงาน ผ่านขนั้ ต่าไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ย
นักเรียนสามารถอธิบายความ ใบงาน นกั เรียน ละ 60
หามายและความสาคัญในการ

ออกแบบจดั สวนได้

ทักษะกระบวนการ (P) - การออกมานาเสนอ - แบบสงั เกตการตอบ
นักเรยี นใชห้ ลักการและวิธกี าร - การตอบคาถาม คาถาม คะแนนต้งั แต่ 4-9 ผา่ น
ออกแบบจัดสวนได้ แบบสังเกตพฤตกิ รรม
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ การสังเกตพฤติกรรม รายบุคคล นกั เรยี นที่ไดร้ ะดบั คุณภาพ
(A) รายบคุ คล พอใชข้ ้ึนไป ถือวา่ ผา่ น

นักเรยี นดแู ลออกแบบและจัด

โรงเรียนพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี

43

สวนอยา่ งสวยงามอยา่ ง

สมา่ เสมอ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตาม ประเมนิ คุณลกั ษณะอัน แบบประเมนิ คุณลักษณะ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษา พงึ ประสงคข์ องผู้เรียน อันพงึ ประสงค์ของ ผ่านข้นั ต่าไมน่ ้อยกว่าร้อย
ขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ผ้เู รยี น ละ 60
2551
ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของ ประเมนิ สมรรถนะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ นขัน้ ต่าไม่น้อยกวา่ รอ้ ย
ผเู้ รยี น สาคญั ของผู้เรยี น สาคัญของผ้เู รยี น ละ 60
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคดิ
- ความสามารถในการใชท้ ักษะ
ชวี ติ
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

ลงชอื่ ..................................................ครผู ู้สอน
(นางสาวเรวดี ศรขี าว)
.........../.............../..................

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี

44

บนั ทกึ หลงั สอนแผนการสอนที่ 4
1. ผลการสอนระดบั ช้นั ม.1

 สอนได้ตามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไมไ่ ดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้ เน่ืองจาก .............................................................................
2. ผลทเ่ี กิดกบั ผ้เู รยี น
1.) การประเมินผลความรู้หลงั การเรยี น โดยใช…้ …………………….....................................พบวา่ นักเรยี น
ผ่านการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ................... ไมผ่ า่ นเกณฑ์ขนั้ ตา่ ทีก่ าหนดไวค้ ดิ เปน็ ร้อยละ...................................
ไดแ้ ก่ .....................................................................................................................................................................
2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรยี น โดยใช้…………………...….….........................พบวา่ นักเรยี น
ผ่านการประเมนิ คดิ เปน็ รอ้ ยละ.....................……. ไมผ่ ่านเกณฑข์ ัน้ ต่าทีก่ าหนดไว้คดิ เปน็ รอ้ ยละ.........................
ได้แก่ ......................................................................................................................................................................
3.) การประเมนิ ด้านคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ เรียน โดย
ใช…้ …………………….............................................พบวา่ นักเรียนผา่ นการประเมินคดิ เป็นร้อยละ............... ไม่ผ่าน
เกณฑข์ ั้นตา่ ที่กาหนดไวค้ ิดเปน็ ร้อยละ.................
ไดแ้ ก่ ......................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกบั เวลา
 มนี ักเรยี นทาใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกาหนดเวลา
 มีนักเรยี นที่ไมส่ นใจเรยี น
 อน่ื ๆ ................................................................................................................................................
4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
 ควรนาแผนไปปรบั ปรงุ เร่อื ง ..........................................................................................................
 แนวทางแกไ้ ขนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมิน .....................................................................................
 ไมม่ ขี อ้ เสนอแนะ

ลงชอื่ ผสู้ อน
( นางสาวเรวดี ศรขี าว )

วันท.่ี ......./.................../.................

โรงเรยี นพนมศึกษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎรธ์ านี

45

ความคิดเห็นของหวั หน้ากลุม่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหัวหน้าวิชาการ
1.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง …………………………………………………………………………………….
2.การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้
 ที่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง ลงชือ่ ................................................
(นางณฐั ญิ า คาโส)
เหมาะสมกับศกั ยภาพท่แี ตกตา่ งกันของผเู้ รียน
 ที่ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นา ความคดิ เหน็ ของผูอ้ านวยการโรงเรยี นพนมศกึ ษา
ตอ่ ไป ……………………………………………………………………………………
3.เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………
นาไปใช้ได้จรงิ  ควรปรับปรงุ กอ่ นนาไปใช้ ……………………………………………………………………………………
4.ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………..……… ลงชอ่ื ................................................
( นางผกา สามารถ )
ลงชอื่ .......................................................
( นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ ) ผอู้ านวยการโรงเรียนพนมศกึ ษา

โรงเรียนพนมศกึ ษา ตาบลพนม อาเภอพนม จังหวัดสุราษฎรธ์ านี