บนั ทกึ หลังสอนแผนการสอนท่ี 16
1. ผลการสอนระดบั ชนั้ ม.3
สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรียนรู้
สอนไม่ได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ เนื่องจาก ..................................................................................
2. ผลที่เกิดกบั ผูเ้ รียน
1.) การประเมินผลความร้หู ลังการเรียน โดยใช…้ …………………….....................................พบว่านักเรยี นผา่ นการ
ประเมนิ คิดเป็นร้อยละ...................……. ไมผ่ ่านเกณฑข์ ้นั ตำ่ ทีก่ ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ.................................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................................
2.) การประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการเรยี น โดยใช้…………………...….….........................พบวา่ นักเรียนผ่านการ
ประเมินคดิ เปน็ ร้อยละ.........................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นตำ่ ทก่ี ำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ....................................
ไดแ้ ก่ ...........................................................................................................................................................................
3.) การประเมินด้านคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์การเรยี น โดยใช…้ …………………….............................................พบว่า
นักเรียนผ่านการประเมนิ คดิ เป็นร้อยละ............... ไม่ผ่านเกณฑ์ขน้ั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เป็นร้อยละ......................
ได้แก่ ...........................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอุปสรรค
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนกั เรยี นทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
มีนกั เรยี นทีไ่ ม่สนใจเรียน อ่นื ๆ ………………………………………………………………….
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
ควรนำแผนไปปรับปรงุ เรอ่ื ง ..............................................................................................................
..............................................................................................................................................................
แนวทางแกไ้ ขนักเรียนท่ไี มผ่ า่ นการประเมิน .........................................................................................
..............................................................................................................................................................
ไมม่ ขี ้อเสนอแนะ
ลงช่อื ผสู้ อน
(นางสาวพนัชฎา เทวรรณะ)
วันท่.ี ............/................./...............
ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กล่มุ สาระฯ ความคดิ เหน็ ของหวั หน้าวชิ าการ
1.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี …………………………………………………………………………………………
ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง …………………………………………………………………………………………
2.การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………
ที่เนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง ลงชื่อ................................................
เหมาะสมกับศกั ยภาพทแี่ ตกต่างกันของผู้เรียน (นางณัฐิญา คาโส)
ทยี่ ังไมเ่ น้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ความคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………
นำไปใช้ไดจ้ รงิ ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้ …………………………………………………………………………………………
4.ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ………………………………………………………………………………….………
……………………………………………………………………………………
ลงชือ่ ....................................................... ลงช่อื ................................................
(นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ) (นางผกา สามารถ)
หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนพนมศกึ ษา
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 17
กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง การประมานราคางานปูน จำนวน 6 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง การสำรวจแหล่งวสั ดุและแหลง่ บริการในท้องถ่นิ เวลา 2 ช่ัวโมง
________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 2: การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสิ่งของเคร่ืองใช้หรอื
วิธกี าร ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ย่างมีความคิดสรา้ งสรรค์ เลอื กใช้เทคโนโลยีในทาง
สร้างสรรคต์ ่อชีวติ สงั คมส่ิงแวดลอ้ ม และมีส่วนรว่ ม ในการจดั การเทคโนโลยีทย่ี ั่งยืน
สาระท่ี 3: เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
มาตรฐาน ง 3.1 เขา้ ใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสบื คน้ ข้อมูล การ
เรยี นรู้ การสื่อสาร การแก้ปญั หา การทำงาน และอาชีพอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
ประสิทธผิ ล และมคี ุณธรรม
สาระท่ี 4: การอาชีพ
มาตรฐาน ง 4.1 เขา้ ใจทกั ษะท่จี ำเป็น มปี ระสบการณ์ เหน็ แนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยีเพอื่ พัฒนา
อาชพี มีคุณธรรม และมเี จตคติที่ดีตอ่ อาชีพ
2. ผลการเรยี นรู้
ผลการเรยี นรูท้ ี่ 6 : บอกวธิ คี ิดตน้ ทุน กำไร ทำบัญชีรายรบั รายจ่าย และการตงั้ ราคาบริการได้
ผลการเรียนรูท้ ี่ 7 : มีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม การดำเนนิ ชวี ิตตามปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพยี ง เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ
3. สาระสำคญั
ปนู ซเี มนต์เป็นวัสดเุ ช่ือมประสาน ซึง่ เกิดจากการเผาสว่ นผสมต่างๆอนั ไดแ้ ก่ หนิ ปนู (Limestone) หรือ
ดินปนู ขาว ( Marl)กบั ดนิ เหนยี ว ( Clay) หรอื ดินดาน( Shale)ในสัดส่วนที่เหมาะสมเปน็ วัตถุดิบท่ีสำคัญในการ
ผลิต อาจมีการเติมแร่เหล็ก (Iron Ore) หรือยิปซั่ม ( Gypsum) ตามความจำเป็น เพื่อปรับปรุงให้มคี ุณสมบัติ
ตามความต้องการ ปูนซีเมนต์เมื่อผสมกับวัสดุผสมคละจำพวกหินย่อยหรือกรวดกับทรายหยาบ และน้ำใน
สัดส่วนที่พอเหมาะกจ็ ะกลายเปน็ ซีเมนต์เพลสมอรต์ า้ และคอนกรีต ตามวัสดุผสมคละที่ใช้ ซึ่งเมื่อแขง็ ตัวแล้ว
จะมีความแข็งและความทนทานคลา้ ยหิน จึงนยิ มนำไปใช้กนั มากกับงานกอ่ สรา้ งประเภทตา่ งๆ หรอื เมือ่ ผสมกับ
ทรายและปนู ขาว ก็จะกลายเป็นปนู ก่อหรือปนู ฉาบทใี่ ช้กบั งานกอ่ อิฐและฉาบปนู
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
4.1 อธิบายการผลิตวัสดงุ านปนู
4.2 สำรวจแหลง่ วัสดแุ ละแหล่งบริการในทอ้ งถิน่
5.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการคิด
5.2 ความสามารถในการแก้ปญั หา
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.สาระการเรยี นรู้
6.1 กรรมวิธกี ารผลติ ปูนซีเมนต์
6.2 กรรมวธิ ีการผลิตอิฐ
6.3 กระบวนการผลติ ทราย
7. กระบวนกาจดั การเรยี นรู้
7.1 ข้นั สนใจปญั หา (Motivation)
1. ครูเช็คชื่อนักศกึ ษาท่ีเข้าชนั้ เรียนและตรวจระเบียบการแตง่ กาย
2. ครนู ำเข้าสบู่ ทเรียนหนว่ ยท่ี 4 ครง้ั ท่ี 1 โดยครูสุ่มถามผู้เรียนโดยใช้คำถามนำ เชน่
คำถาม “ทอ้ งถน่ิ ของนักเรยี น สามารถหาวสั ดงุ านปูนได้จากทีไ่ หนบ้าง”
7.2 ขน้ั ใหเ้ น้ือหา (Information)
1. ครูบรรยายลกั ษณะการใชง้ านเคร่ืองมอื และอุปกรณเ์ ขียนแบบ จากใบความรทู้ ี่ 4.1 ดงั น้ี
- กรรมวิธกี ารผลิตปนู ซเี มนต์
- กรรมวธิ กี ารผลติ อฐิ
- กระบวนการผลิตทราย
7.3 ข้ันพยายาม (Application)
1. บรรยายกรรมวิธกี ารผลติ ปนู ซีเมนต์
2. บรรยายกรรมวธิ ีการผลติ อฐิ
3. บรรยายกระบวนการผลติ ทราย
7.4 ขัน้ สำเร็จผล (Progress)
1. ครใู หผ้ ู้เรยี นทำแบบฝึกหัดที่ 4.1
2. ใบงานที่ 4.1
8.การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
หลักความ พอประมาณกบั เวลา นักเรยี นสำรวจแหล่งวัสดแุ ละแหล่งบรกิ ารในท้องถิ่นได้ทนั เวลา
พอประมาณ พอประมาณกับสมาชิก นกั เรยี นสามารถแบ่งกลุ่ม เพยี งต่อการรว่ มกันทำงานเปน็ กลุ่ม
พอประมาณกบั สถานที่ โรงฝกึ ปฏบิ ัตงิ านปูน
หลกั มีเหตผุ ล ในการจัดการเรยี นการสอน นกั เรียนสามารถสำรวจแหลง่ วัสดแุ ละแหลง่ บริการในทอ้ งถิ่น
ได้
หลกั การสรา้ ง การจัดการเรียนสอนแตล่ ะครงั้ นกั เรียนเกิดความเข้าใจในการเรยี น เนื้อหา ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
ภูมิค้มุ กนั ในตัวที่ดี ทกุ คนมสี ว่ นร่วมในการเรยี นการสอนได้เป็นอย่างดี
เงือ่ นไขความรู้ นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเรื่องการสำรวจแหล่งวัสดแุ ละแหล่งบริการในทอ้ งถ่นิ ไดเ้ ป็น
อย่างดี
เง่อื นไขคณุ ธรรม นักเรยี นมีความซอื่ สตั ยแ์ ละความรบั ผิดชอบ
9. สอื่ / แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1. ใบความรู้ที่ 4.1 เรื่อง การสำรวจแหลง่ วสั ดแุ ละแหลง่ บริการในทอ้ งถน่ิ
2. แบบฝกึ หัดที่4.1 เรื่อง การสำรวจแหลง่ วสั ดแุ ละแหลง่ บรกิ ารในทอ้ งถิน่
3. ใบงานที่ 4.1 เร่ือง การสำรวจแหลง่ วัสดุและแหลง่ บริการในทอ้ งถ่ิน
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1. หอ้ งสมุด
2. แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
10.การวัดประเมินผล
สงิ่ ท่ตี อ้ งการวดั วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารวัด
1. ความเข้าใจในการสำรวจ 1. สงั เกตจาก 1. แบบทดสอบการสำรวจ ผ่านระดบั ดี
แหลง่ วสั ดแุ ละแหล่งบริการ
แหลง่ วัสดุและแหล่ง การสำรวจแหลง่ ในทอ้ งถิ่น
บรกิ ารในทอ้ งถ่ิน วัสดุและแหลง่
บรกิ ารในท้องถ่ิน
ใบความรทู้ ่ี 4.1
1. กรรมวธิ ีการผลติ ปนู ซเี มนต์
1) กรรมวิธีการผลติ ปนู ซีเมนต์แบบเปียก (Wet Process)
วัตถุดิบหลกั ท่ีใชใ้ นกระบวนการผลิต คอื ดนิ ขาว (Marl) และดนิ เหนยี ว (Clay) สำหรับดนิ ขาว มี
อย่ใู นระดับพื้นดิน หรือใตด้ ิน ตามธรรมชาติ โดยปกติจะมคี วามช้ืนสูง การผลติ เร่ิมจากนำวัตถุดิบทั้งสอง
ชนิดมาผสมกับนำ้ ในบอ่ ตีดนิ (Wash Mill) กวนใหเ้ ขา้ กัน นำไปบดให้ละเอียดในหม้อบดดนิ (Slury Mill)
จนได้น้ำดนิ (Slurry) แล้วกรองเอาเศษหนิ และส่วนที่ไม่ละลายน้ำออก เหลือแต่น้ำดินทีล่ ะลายเข้ากันดี
จากนัน้ นำไปเกบ็ พักไวใ้ นยงุ้ เกบ็ (Silo) เพอื่ ตรวจสอบคุณภาพและปรบั แตง่ ส่วนผสมใหไ้ ด้คณุ ภาพตามที่
กำหนดน้ำดินทม่ี สี ว่ นผสมทถี่ ูกต้องแลว้ จะถูกนำไปรวมกนั ทบี่ ่อกวนดนิ (Slury Basin) เพอ่ื ให้มีปริมาณ
เพียงพอ และกวนใหส้ ว่ นผสมรวมตัวเป็นเนอื้ เดียวกันอกี ครั้งหนงึ่ ก่อนที่จะนำไปเผาในหม้อเผาแบบหมนุ
(Rotary Kiln) ความร้อนในหมอ้ เผาจะทำให้นำ้ ระเหยออกสู่บรรยากาศ เหลอื แตเ่ มด็ ดนิ ซ่ึงเม่อื ใหค้ วาม
รอ้ นตอ่ ไปจนถงึ อุณหภมู ิหน่ึง จะเกดิ ปฏิกริ ยิ าทางเคมีกลายเป็นปูนเมด็ (Clinker) ขั้นตอนการบดปนู เมด็ ให้
กลายเป็นปูนซเี มนต์ ทำโดยนำปนู เมด็ มาผสมกับยิปซมั (Gypsum) แล้วบดให้ละเอียดเป็นผงในหมอ้ บด
ซีเมนต์ (Cement Mill) ความละเอยี ดในการบดและอตั ราส่วนระหวา่ งปนู เมด็ กบั ยิปซมั ต้องเลือกอยา่ ง
เหมาะสม เพือ่ ใหไ้ ด้ปนู ซีเมนต์ที่มคี ุณสมบัติตามท่ีตอ้ งการ จากน้ันจะลำเลียงปนู ซเี มนตไ์ ปเกบ็ ไว้ในยุง้ เกบ็
ปนู ซเี มนตผ์ ง (Cement Silo) เพอ่ื รอการจำหนา่ ยต่อไป
กรรมวิธีการผลติ ปูนซเี มนต์แบบเปียก
การผลิตปูนซีเมนตแ์ บบเปยี กนไ้ี ม่เป็นที่นิยมในปัจจบุ ัน เน่อื งจากต้องใช้เช้อื เพลงิ ปริมาณมาก ใน
การผลติ ปูนเม็ด และยงั มีอตั ราการผลิตต่ำ ซงึ่ ทำใหต้ ้นทุนการผลติ สงู
2) กรรมวธิ ีการผลิตปูนซเี มนตแ์ บบแห้ง (Dry Process)
วตั ถดุ ิบหลักทใ่ี ช้ในกระบวนการผลิตคอื หินปนู (Limestone) ซง่ึ ได้จากการระเบิดหินจากภูเขา
หนิ ปูน แตห่ นิ ปนู ท่ีได้ยงั มีขนาดใหญ่ จึงต้องนำมาลดขนาดโดยเครื่องย่อย (Crusher) เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกับ
กระบวนการผลิตขัน้ ตอ่ ไป วัตถุดบิ อืน่ คือ ดินดาน (Shale) และวัตถดุ ิบปรบั แตง่ คุณสมบัติ (Corrective
Materials) ซึ่งใชเ้ ฉพาะบางตวั เพือ่ ใหไ้ ดส้ ่วนประกอบทางเคมตี ามค่ามาตรฐานทก่ี ำหนด วตั ถดุ ิบอื่น
เหลา่ น้กี ต็ อ้ งผ่านเคร่ืองยอ่ ยเพ่อื ลดขนาดให้เหมาะสมเช่นกนั วัตถดุ ิบท่ีผา่ นการย่อยแล้วจะถูกนำมาเก็บไว้
ทก่ี องเกบ็ วัตถดุ บิ (Storage Yard) จากน้ันกจ็ ะลำเลียงไปยงั หมอ้ บดวตั ถุดนิ (Raw Mill) ต่อไป
กรรมวธิ กี ารผลิตปนู ซีเมนต์แบบแห้ง
หมอ้ บดวตั ถุดิบ (Raw Mill) มีหนา้ ทบี่ ดหนิ ปนู ดินดาน และวัตถดุ บิ ปรบั แตง่ คุณสมบตั ิใหเ้ ป็นผง
ละเอียด ซึง่ เรียกวา่ วตั ถุดิบสำเร็จ (Raw Meal) การควบคุมอัตราส่วนของวัตถดุ ิบ ท่ีป้อนเขา้ สู่หม้อบดวัตถุดิบ
มคี วามสำคญั เน่ืองจากอัตราสว่ นของวตั ถุดบิ ท่ีเหมาะสม จะทำให้วตั ถดุ ิบสำเรจ็ มีคุณสมบัติทางเคมที ี่
เหมาะสมกบั การเผา
หลงั จากผา่ นกระบวนการบดแลว้ จึงส่งวัตถุดิบสำเร็จไปยงั ยุง้ ผสมวัตถุดิบสำเร็จ (Raw Meal
Homogenizing Silo) เพื่อเกบ็ และผสมวัตถดุ ิบสำเร็จให้เป็นเน้อื เดยี วกัน ก่อนสง่ ไปเผาในหม้อเผาแบบหมนุ
(Rotary Kiln) กระบวนการเผาช่วงแรก เป็นชดุ เพิ่มความร้อน (Preheater) จะคอ่ ยๆ เพ่มิ ความรอ้ นใหแ้ ก่
วัตถุดบิ สำเร็จ แล้วสง่ วัตถุดิบสำเร็จไปเผาในหม้อเผา ซึ่งมอี ุณหภมู เิ พิ่มสงู ขึน้ จนถึงประมาณ ๑,๒๐๐ - ๑,๔๐๐
องศาเซลเซียส จะเกิดปฏิกริ ิยาทางเคมีตามลำดับ จนในทสี่ ดุ กลายเปน็ ปูนเม็ด (Clinker) จากนั้นทำใหป้ นู เมด็
เย็นลง แล้วจึงลำเลียงปูนเม็ดไปเกบ็ ไวท้ ี่ยงุ้ เกบ็ เพ่ือรอการบดปูนเม็ดตอ่ ไป สำหรับการบดปูนเม็ดให้กลายเป็น
ปนู ซีเมนตน์ น้ั มขี ัน้ ตอนดงั ท่กี ล่าวมาแล้วในการผลิตแบบเปยี ก
การผลติ ปนู ซีเมนต์แบบแหง้ ไม่ตอ้ งใช้น้ำในการผสมวตั ถดุ บิ ดงั น้ัน จึงประหยัดคา่ ใช้จา่ ยในการผลิต
โดยเฉพาะคา่ เช้ือเพลิง และเป็นท่นี ิยมใช้กนั อยา่ งแพรห่ ลายในปัจจุบัน
2. กรรมวิธกี ารผลติ อิฐ
1) ข้นั การเตรียมดนิ ดินทจ่ี ะใชค้ วรนำมาตากลมไว้ก่อนใช้ 1 – 2 เดอื นจะทำใหด้ ินอ่อนนุ่มและเหนียว
ดยี ิง่ ขึน้ ถ้าเป็นดนิ แขง็ ตอ้ งนำเคร่อื งบดดินกอ่ นนำมาย่ำให้เป็นเน้อื เดยี วกันจากนัน้ ใชแ้ กลบหรอื ขี้เถ้าอยา่ งใด
อย่างหนง่ึ ผสมในอัตราสว่ นไมเ่ กิน25 % เพราะถ้ามากกวา่ นีจ้ ะได้อฐิ เปราะไมแ่ ข็งแรง
2) ข้นั ขนึ้ รปู แผ่นอิฐในขนั้ น้มี วี ธิ กี ารทำอยู่ 2 วธิ ีด้วยกนั คือ
2.1) การทำดว้ ยแรงคนวิธนี ้ีจะตอ้ งมแี ม่พิมพ์ หรือแบบซ่ึงอาจจะทำดว้ ยไมห้ รอื โลหะ เมื่ออดั
ดินลงไปในแบบแลว้ ใช้ไมห้ รือมอื ปาดให้ดา้ นบนเรยี บเสมอ แล้วจึงนำแบบออก (พ้นื ลา่ งจะใช้ขเ้ี ถา้ เพ่อื
ปอ้ งกันอิฐตดิ กับพน้ื ) จากน้ันผงึ่ อฐิ ให้แหง้ หมาดๆ แล้วนำมาตบแต่งใหเ้ รียบรอ้ ยอีกครัง้ หน่งึ แลว้ จึง
นำเขา้ เตาเผาต่อไป
2.2)การทำดว้ ยเคร่ือง วิธนี ี้นำดนิ เหนียวใส่เข้าไปในเครื่องอดั เครื่องจะทำการอดั ดินออกมา
เปน็ แท่งได้ขนาดเท่ากนั ทุกแผน่ มผี ิวเรยี บ นำไปผ่ึงใหแ้ ห้งหมาดและแหง้ ดว้ ยอากาศ แลว้ จึงนำเข้า
เตาเผาตอ่ ไป
3) ข้ันการผงึ่ ใหแ้ หง้ ถา้ นำอิฐทีย่ ังเปียกอยู่เข้าเตาเผาทันที ความช้ืนที่ผิวจะออกเรว็ เกินไป อาจทำให้
อิฐแตกเนอ่ื งจากการหดตัวเรว็ ฉะนั้นจงึ ต้องมกี ารผง่ึ ใหแ้ ห้งหรือแห้งเพียงหมาดๆ แลว้ จงึ นำเข้าเตาเผา
4) ขั้นการเผา นำอิฐท่ีผง่ึ แห้งหมาดเขา้ เตาเผา โดยนำอิฐเขา้ ไปเรียงเปน็ ชน้ั ๆ อิฐทีน่ ำเขา้ เตาเผาครงั้
หนึง่ ๆ ประมาณ 5000 – 10000 ก้อน จากนั้นใช้แกลบคลมุ อฐิ ทั้งหมดให้มิด แกลบทำหนา้ ท่ีเป็นเชื้อเพลิงใน
การเผา ความร้อนจะเพิ่มขึ้นทลี ะน้อยจนถึงความร้อนสงู สดุ และลดตำ่ ลงตามลำดับจนเยน็ ใช้เวลาประมาณ 1
– 2 สปั ดาห์ แลว้ จงึ นำอิฐออกจากเตา
3. กระบวนการผลิตทราย
1) กระบวนการผลติ ทรายแม่น้ำ
ขั้นตอนในการผลิตทรายแมน่ ำ้ โดยท่ัวไปในพื้นท่ีภาคเหนือหรอื แถบลุ่มนำ้ ขนาดใหญ่ เช่น
กำแพงเพชร นครสวรรค์ ประกอบดว้ ย การดดู ทรายขน้ึ มาจากแหลง่ ทราย อนั ได้แก่ แมน่ ำ้ หรอื
บรเิ วณทม่ี ตี ะกอนทรายตกทบั ถม ซง่ึ การดูดทรายแบ่งออกเปน็ 2 ลกั ษณะ คอื การดดู ทรายอยกู่ บั ท่ีใน
กรณที ี่ลำน้ำมพี นื้ ทไ่ี ม่กว้างมากนัก และมปี รมิ าณทรายมากเพยี งพอ รวมทัง้ มีอตั ราการดูดทรายต่ำ
และการดดู ทรายโดยย้ายไปตามลำน้ำในบริเวณพ้ืนทที่ ข่ี ออนญุ าตดูดทราย ซ่ึงสว่ นใหญ่จะมพี นื้ ท่ีกวา้ ง
หรือมคี วามหนาของชั้นทรายน้อย โดยในการดดู ทรายจะใชเ้ รอื ท่ีติดตง้ั เคร่ืองจักรป้ัมดดู นำ้ แบบหอย
โขง่ ตอ่ กับทอ่ ดูดทราย ดูดเอานำ้ และทรายขึ้นมาผ่านเครอ่ื งแยกและดักขนาดทราย ไปยงั เรือบรรทกุ
ทรายท่ีรอรับอยูแ่ ละขนส่งทรายมาข้ึนท่าทรายตามแหลง่ ต่างๆ
2) กระบวนการผลิตทรายบก
มี 2 กระบวนการ คอื แปรรปู ในพนื้ ทีน่ ยิ มใช้เครอ่ื งจกั รแบบเรือดดู แบบสามขา หรอื ท่นุ ลอย
และการขนยา้ ยวัตถุดิบไปอีกท่ีหน่งึ หรือนิยมเรียกวา่ แบบดม๊ั เท โดยกระบวนการหลักจะคล้ายคลงึ กัน
โดยมากผลิตกันในพ้ืนที่ภาคตะวนั ออก และตะวันตก เริ่มจากการเปิดหน้าดินจนถึงชนั้ ทราย โดยใน
ระยะแรกใชร้ ถแบคโฮขดุ ตักหนา้ ดิน และเมอ่ื เปิดพื้นท่ลี ึกลงไปแหล่งทรายจะมีสภาพเป็นแหล่งนำ้ ขัง
เน่อื งจากนำ้ ใต้ดนิ ดังน้นั จึงใช้เครือ่ งที่ติดต้ังเครอ่ื งดดู ทราย โดยใช้ท่อดดู ทรายยน่ื ลงไปดดู ทรายทีพ่ น้ื
บ่อทราย ดดู ทรายที่มีนำ้ ปนไปตามท่อสง่ ผ่านเขา้ เครอื่ งแยกและคัดขนาดทราย แยกกรวดท้งิ รวมทั้ง
ทำความสะอาดก่อนถ่ายลงบ่อทราย ซึ่งสว่ นใหญจ่ ะแยกเป็นกองทรายหยาบ ทรายละเอียด และทราย
ถม สว่ นนำ้ ขุ่นขน้ ที่มากบั ทราย ตลอดจนกรวดและเศษดนิ จะไหลลงทบ่ี ่อพกั ตะกอน โดยระบบนำ้ ใน
บอ่ ทรายส่วนใหญ่จะเป็นระบบปิด กล่าวคอื น้ำที่ผ่านบ่อพกั ตะกอนจะไหลวนลงบ่อทรายอกี ครัง้
ยกเว้นในบางชว่ งทม่ี ีระดบั นำ้ ลกึ มากเกินไปสำหรบั การดูดทราย จะดูดนำ้ ระบายออกจากบ่อทราย
จนถงึ ระดบั ทท่ี ่อดูดทรายสามารถทำงานได้
ใบงานที่ 4.1
คำส่ัง ให้นกั เรียนสำรวจแหล่งวสั ดุและแหลง่ บริการในท้องถนิ่ ของนักเรียน
วสั ดุงานปูน ราคา แหลง่ บรกิ าร
ตวั อย่าง 148 บาท/ถงุ ร้าน ทพี ีวสั ดกุ อ่ สร้าง
ปูนซเี มนต์ ตราอนิ ทรยี ์ สนี ำ้ เงิน
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
การประเมินชน้ิ งาน / ภาระงาน
แบบประเมนิ การปฏบิ ตั งิ าน
ประเดน็ 4 (ดมี าก) ระดับคะแนน / คำอธบิ ายระดับคุณภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมนิ ความ รวม
เขียนถกู ต้อง 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ควรปรับปรุง) สำคัญ
1. เนื้อหา ครอบคลุมเนื้อหา 4
อย่างสมบรู ณ์ เขยี นถูกต้อง เขียนผดิ บา้ ง และไม่ เขียนผดิ มาก และ 2
2. การสำรวจ ครอบคลมุ เนอ้ื หา ครอบคลมุ เน้อื หา ให้ข้อมลู น้อย
แหล่งวัสดุ เป็นสว่ นใหญ่
และแหลง่
บริการใน สำรวจแหลง่ วัสดุ สำรวจแหล่งวัสดุ สำรวจแหล่งวสั ดุ สำรวจแหลง่ วัสดุ 3 6
ทอ้ งถ่ิน และแหล่งบริการใน และแหล่งบรกิ ารใน และแหลง่ บริการใน และแหลง่ บรกิ ารใน
ทอ้ งถิ่นไดอ้ ย่าง ท้องถิน่ ไดเ้ หมาะสม ท้องถิน่ มขี อ้ ผดิ บ้าง ท้องถ่นิ มขี ้อผิดมาก
ถกู ตอ้ งและ
เหมาะสม
รวม 5 10
เกณฑก์ ารประเมนิ : นกั เรียนต้องไดค้ ะแนนรวมไมน่ อ้ ยกว่า 60% หรอื 6 คะแนน จึงจะผ่านเกณฑ์
วธิ คี ดิ คะแนน: ค่านำ้ หนักความสำคัญ × ระดับคะแนนทน่ี ักเรียนได้ = คะแนนรวม
แบบบันทกึ การประเมนิ ทกั ษะงานปนู
ลำดับท่ี ประเดน็ / คะแนน ความรู้ ทักษะ การนำไปใช้ คะแนนรวม
44 2 10
1 ช่ือ - สกลุ
2
3 เดก็ ชาย กฤตณฐั แก้วเจริญ
4
5 นาย กฤตเิ ดช ดวงเกดิ
6
7 นาย จกั รภทั ร ฤทธิกุล
8 นาย ฑติ ยพล ชเู พอ่ื น
9 นาย ณัฐพงศ์ สงเคราะห์
10
11 นาย ณัฐวฒุ ิ กลา้ หาญ
12
13 นาย เดชอนันต์ ชูแฉลม้
14
15 นาย ธนาธิป กายะพนั ธ์
16
17 เด็กชาย พงศกร สายร่นื
18 เด็กชาย พงษภัทร ศรีพงค์
19 เดก็ ชาย พลากร กฎไทยสงค์
20 นาย ภัทรพงศ์ สม้ เมอื ง
21 นาย ภาคภมู ิ ดวงแก้ววิเศษ
22 เด็กชาย รฐั ภมู ิ คงใหญ่
23 นาย สทุ ธภิ ัทร ทองดอนยอด
24 เด็กชาย อนศุ กั ด์ิ สังขท์ อง
25 เดก็ ชาย อษั ฎาวธุ ปลอ้ งนิราศ
26 นางสาว กมลวัลย์ สุขนติ ย์
27 เด็กหญิง กรวกิ าร์ เขียมวชั ระ
28 เดก็ หญงิ ขนิษฐา แก่นสาร
29 เดก็ หญิง จันทมิ าพร เจรญิ พร
30 เดก็ หญิง ชญาณี บัวบาน
31 เด็กหญงิ ชนิสรา เทพบรุ ี
32 เดก็ หญิง ณฐั กานต์ ศรีรกั ษา
33 เด็กหญิง ธนัญญา ศรรี ักษา
34 เดก็ หญงิ นิชาภทั ร ชูนุย้
35 นางสาว พชั ราวดี รกั บรรจง
เดก็ หญงิ พมิ พ์พิสชา จัตตามาศ
นางสาว สชุ านาถ ดิษฐอาย
เด็กหญงิ สภุ าวดี ทองสัมฤทธ์ิ
เดก็ หญิง แสงดาว วโิ รจน์
เดก็ หญิง หรญั ญา บญุ ลึก
นางสาว อารยา จินตพัฒน์
เด็กชาย กฤตณัฐ แกว้ เจรญิ
ลงช่อื ...................................... ผู้ประเมนิ
(นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ)
แบบบันทึกการประเมนิ ทกั ษะงานปูน
ลำดบั ท่ี ประเด็น / คะแนน ความรู้ ทกั ษะ การนำไปใช้ คะแนนรวม
44 2 10
1 ชื่อ - สกลุ
2
3 เด็กชาย กัณฑอ์ เนก สารพิ ัฒน์
4
5 นาย ขจรยศ วรภูมิ
6
7 เด็กชาย ขจรยศ เหล่ารอด
8 นาย จริ วฒั น์ อกั ษรทพิ ย์
9 นาย เจตพล สุขอุ่น
10
11 นาย ฐิตวิ ฒั น์ น้ำพุ
12 เดก็ ชาย ณรงคศ์ ักด์ิ รักสขุ
13 เดก็ ชาย ธนวัฒน์ บุญปล้อง
14
15 เด็กชาย นพิ นธ์ ประหารภาพ
16 เดก็ ชาย ปณวัฒน์ ทศราช
17 นาย พงศกร ทองดอนยอด
18 เดก็ ชาย พัชรพล เสนาะกรรณ์
19 นาย ยุทธพงค์ ชา่ งพดู
20 นาย รชั ตพงษ์ มากมูล
21 นาย วรากรณ์ ฉมิ บ้านดอน
22 นาย วรทิ ธิ์ ขลบิ ตรีแก้ว
23 นาย ศักดชิ์ ัย สขุ อนุ่
24 เด็กชาย ศิวกร แก้วคง
25 นาย ศุภณัฐ ทพิ ย์เดช
26 นาย สิรภัทร สวุ รรณรงั ษี
27 นาย อภิชาติ มีเพ็ญ
28 เด็กชาย อาทติ ย์ ปานปรเิ ยศ
29 นางสาว กัญญาณฐั บญุ ชว่ ย
30 เด็กหญิง กลุ ปรยิ า ทดั ดอกไม้
31 เด็กหญงิ เกวลิน ยวนกะเปา
32 นางสาว จตุพร กลับศรี
33 เด็กหญงิ ฐิติมา นกขุ้ม
34 เดก็ หญิง ธนัชพร คงสะอาด
35 เด็กหญิง นันทกิ านต์ ศรวี ารินทร์
เด็กหญิง บวรรตั น์ สมเพช็ ร
นางสาว ภัทรนันท์ ศรชนะ
นางสาว สุตาภัทร พลขัน
เด็กหญิง สภุ ัสสร แซต่ ัน
นางสาว สุภาวดี นาภรณ์
นางสาว อรปรยี า อดุ มศรี
ลงชื่อ ...................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ)
แบบบันทกึ การประเมินทกั ษะงานปนู
ลำดับท่ี ประเด็น / คะแนน ความรู้ ทกั ษะ การนำไปใช้ คะแนนรวม
44 2 10
1 ชือ่ - สกุล
2
3 เด็กชาย กฤษฎา หนดู ว้ ง
4
5 นาย กติ ติภพ เวชรินทร์
6
7 เดก็ ชาย เจษฎาภรณ์ สมคลองศก
8 เด็กชาย ชัยณรงค์ กมุ ลา
9 เดก็ ชาย ชยั วฒั น์ มดี ้วง
10
11 เดก็ ชาย ณฐั ศักด์ิ จันทร์ลเี ลด็
12 นาย ตรงั ค เรืองศรี
13 นาย ทศพร จินดาวงค์
14
15 เดก็ ชาย ธนภทั ร ชาญบำรงุ
16 เดก็ ชาย ธีรศักด์ิ วังฉาย
17 เดก็ ชาย บณั ฑติ บวั แก้ว
18 นาย ปวรศิ ร์ ชชู าติ
19 เด็กชาย ภาณุภักดิ์ พึง่ ผล
20 เด็กชาย ภวู ิศ สงิ ห์ศรีดา
21 นาย รกั ษก์ วี จันทร์เมือง
22 เด็กชาย ศตายุ ชูคงคา
23 นาย สทิ ธเิ ดช ทบั แก้ว
24 นาย สุทธินนั ท์ ศรสี วสั ด์ิ
25 เดก็ ชาย อนันศักดิ์ ภูมิพทิ กั ษ์
26 นาย อนุพงศ์ พัฒนะ
27 นางสาว กัลยา วงศ์สบุ รรณ
28 เด็กหญิง ชญานศิ ทมิ เทศ
29 เดก็ หญิง ฐานิตา ชว่ ยศรี
30 นางสาว ฐิติมา กลุ ทอง
31 นางสาว ณฐั ณิชา รักกะเปา
32 นางสาว ณฐั นนั แถนสมบัติ
33 นางสาว ธนดิ า วจิ ิตร
34 นางสาว ปิยาพทั ร หนมู ี
35 เดก็ หญงิ พิชญาภา มากแกว้
เด็กหญิง ศิรภสั สร คงเพชร
นางสาว ศริ ิรัตน์ รกั ษ์บรรจง
เดก็ หญิง ศริ วิ รรณ รม่ เมอื ง
นางสาว โสรญา สดุ เสงั
นางสาว อมรรัตน์ มากดำ
ลงชอื่ ...................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวพนัชฎา เทวรรณะ)
บนั ทึกหลังสอนแผนการสอนท่ี 17
1. ผลการสอนระดับชน้ั ม.3
สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้
สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนื่องจาก ..................................................................................
2. ผลที่เกดิ กับผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช…้ …………………….....................................พบว่านกั เรียนผา่ นการ
ประเมนิ คดิ เป็นรอ้ ยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ นั้ ตำ่ ที่กำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.................................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................................
2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบวา่ นกั เรยี นผา่ นการ
ประเมินคิดเป็นรอ้ ยละ.........................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................................
ไดแ้ ก่ ...........................................................................................................................................................................
3.) การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์การเรยี น โดยใช…้ …………………….............................................พบวา่
นักเรียนผา่ นการประเมินคิดเปน็ ร้อยละ............... ไม่ผ่านเกณฑข์ ัน้ ตำ่ ที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ......................
ได้แก่ ...........................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอปุ สรรค
กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
มีนกั เรยี นทไี่ ม่สนใจเรียน อน่ื ๆ ………………………………………………………………….
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เร่ือง ..............................................................................................................
..............................................................................................................................................................
แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นท่ไี ม่ผา่ นการประเมนิ .........................................................................................
..............................................................................................................................................................
ไม่มีขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื ผ้สู อน
(นางสาวพนัชฎา เทวรรณะ)
วันท่.ี ............/................./...............
ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุม่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ วิชาการ
1.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี …………………………………………………………………………………………
ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง …………………………………………………………………………………………
2.การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………
ที่เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ ง ลงชื่อ................................................
เหมาะสมกบั ศักยภาพทแ่ี ตกต่างกันของผเู้ รียน (นางณัฐญิ า คาโส)
ทยี่ ังไมเ่ น้นผู้เรียนเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ความคิดเหน็ ของผูอ้ ำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………
นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ …………………………………………………………………………………………
4.ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ………………………………………………………………………………….………
……………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ....................................................... ลงชือ่ ................................................
(นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ) (นางผกา สามารถ)
หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี ผอู้ ำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18
กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง การประมานราคางานปนู จำนวน 6 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ ง การประมานราคางานปนู เวลา 2 ชว่ั โมง
________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 2: การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 2.1 เขา้ ใจเทคโนโลยแี ละกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสิง่ ของเคร่อื งใชห้ รือ
วิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ยา่ งมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทาง
สรา้ งสรรคต์ ่อชวี ิต สังคมสง่ิ แวดลอ้ ม และมีสว่ นรว่ ม ในการจดั การเทคโนโลยที ีย่ ัง่ ยนื
สาระที่ 3: เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร
มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เหน็ คุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื คน้ ขอ้ มูล การ
เรียนรู้ การสอื่ สาร การแก้ปญั หา การทำงาน และอาชพี อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ประสิทธิผล และมคี ุณธรรม
สาระท่ี 4: การอาชพี
มาตรฐาน ง 4.1 เข้าใจทักษะที่จำเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยีเพอ่ื พฒั นา
อาชีพ มคี ุณธรรม และมีเจตคติท่ีดตี อ่ อาชพี
2. ผลการเรียนรู้
ผลการเรียนรทู้ ่ี 6 : บอกวิธคี ิดตน้ ทุน กำไร ทำบัญชรี ายรับ รายจา่ ย และการตั้งราคาบรกิ ารได้
ผลการเรียนรู้ที่ 7 : มสี ่วนรว่ มในการอนรุ ักษ์ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม การดำเนินชีวิตตามปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพยี ง เหน็ แนวทางในการประกอบอาชีพ
3. สาระสำคัญ
การประมาณราคาการประมาณราคา หมายถึง การคำนวณหาปรมิ าณวัสดุ คา่ แรงและคา่ ดำเนินการ
ท่ีราคาใกล้เคยี งกับคา่ ใช้จ่ายจริงมากท่สี ดุ ในการแยกรายการวัสดุ ค่าแรง ค่าใช้จา่ ยเครือ่ งมอื เครอื่ งจกั ร และ
คา่ ใช้จา่ ยอื่นทเี่ กยี่ วขอ้ งกับงานโดยมผี ลกับตวั แปรตามในด้านระยะเวลาของการทำงาน ดงั น้นั การประมาณ
ราคาจงึ ไม่ใช่ราคาทีแ่ ท้จริง แต่อาจใกล้เคียงกบั ราคาจริง ซ่ึงไม่ควรจะผดิ พลาดไปจากราคาทแี่ ทจ้ รงิ เกินกวา่ 10
%
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4.1 อธิบายการผลิตวัสดุงานปนู
4.2 สำรวจแหล่งวัสดุและแหลง่ บริการในท้องถิน่
5.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการคิด
5.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.สาระการเรียนรู้
6.1 กรรมวิธกี ารผลติ ปนู ซเี มนต์
6.2 กรรมวิธกี ารผลติ อฐิ
6.3 กระบวนการผลติ ทราย
7. กระบวนกาจัดการเรยี นรู้
7.1 ข้นั สนใจปญั หา (Motivation)
1. ครูเช็คชื่อนกั ศึกษาท่ีเข้าช้ันเรียนและตรวจระเบียบการแตง่ กาย
2. ครูนำเข้าสบู่ ทเรียนหนว่ ยที่ 4 ครงั้ ที่ 2 โดยครูสุ่มถามผูเ้ รียนโดยใช้คำถามนำ เช่น
คำถาม “ท้องถิ่นของนักเรยี น สามารถหาวัสดุงานปูนไดจ้ ากทีไ่ หนบ้าง”
7.2 ขน้ั ให้เน้อื หา (Information)
1. ครูบรรยายลกั ษณะการใช้งานเคร่อื งมอื และอปุ กรณเ์ ขยี นแบบ จากใบความรทู้ ี่ 4.2 ดังนี้
- กรรมวิธกี ารผลิตปูนซีเมนต์
- กรรมวิธีการผลิตอิฐ
- กระบวนการผลิตทราย
7.3 ข้ันพยายาม (Application)
1. บรรยายกรรมวิธกี ารผลติ ปนู ซเี มนต์
2. บรรยายกรรมวธิ กี ารผลติ อิฐ
3. บรรยายกระบวนการผลิตทราย
7.4 ขั้นสำเรจ็ ผล (Progress)
1. ครูใหผ้ ู้เรียนทำแบบฝึกหดั ท่ี 4.2
2. ใบงานท่ี 4.2
8.การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
หลักความ พอประมาณกับเวลา นักเรียนสำรวจแหล่งวสั ดแุ ละแหลง่ บรกิ ารในท้องถนิ่ ได้ทันเวลา
พอประมาณ พอประมาณกับสมาชกิ นักเรยี นสามารถแบง่ กลุ่ม เพียงต่อการรว่ มกนั ทำงานเป็นกลุ่ม
พอประมาณกับสถานที่ โรงฝกึ ปฏิบตั งิ านปูน
หลักมเี หตุผล ในการจัดการเรียนการสอน นักเรยี นสามารถสำรวจแหลง่ วัสดแุ ละแหลง่ บริการในทอ้ งถนิ่
ได้
หลักการสร้าง การจดั การเรียนสอนแต่ละคร้ัง นักเรยี นเกดิ ความเข้าใจในการเรยี น เน้อื หา ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
ภมู คิ มุ้ กันในตวั ท่ีดี ทุกคนมีสว่ นรว่ มในการเรียนการสอนได้เปน็ อยา่ งดี
เง่ือนไขความรู้ นักเรยี นมีความร้คู วามเขา้ ใจเร่ืองการสำรวจแหล่งวสั ดแุ ละแหล่งบริการในทอ้ งถิ่นได้เป็น
อยา่ งดี
เงอ่ื นไขคุณธรรม นกั เรยี นมคี วามซอ่ื สตั ยแ์ ละความรบั ผิดชอบ
9. สื่อ / แหล่งการเรยี นรู้
9.1 ส่อื การเรยี นรู้
1. ใบความรู้ที่ 4.2 เรื่อง การสำรวจแหล่งวัสดุและแหลง่ บริการในท้องถิน่
2. แบบฝกึ หดั ท่ี4.2 เรอื่ ง การสำรวจแหล่งวสั ดแุ ละแหล่งบรกิ ารในท้องถ่ิน
3. ใบงานที่ 4.2 เรือ่ ง การสำรวจแหล่งวัสดแุ ละแหล่งบรกิ ารในท้องถิ่น
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1. ห้องสมดุ
2. แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
10.การวัดประเมนิ ผล
ส่งิ ท่ีตอ้ งการวัด วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารวัด
1. ความเข้าใจในการสำรวจ 1. สังเกตจาก 1. แบบทดสอบการสำรวจ ผา่ นระดบั ดี
แหลง่ วัสดุและแหลง่ บรกิ าร
แหลง่ วสั ดแุ ละแหลง่ การสำรวจแหล่ง ในทอ้ งถิ่น
บรกิ ารในทอ้ งถิ่น วสั ดุและแหลง่
บรกิ ารในทอ้ งถิ่น
ใบความรทู้ ่ี 4.2
1. กรรมวธิ ีการผลติ ปนู ซเี มนต์
1) กรรมวิธีการผลติ ปนู ซีเมนต์แบบเปียก (Wet Process)
วัตถุดิบหลกั ท่ีใชใ้ นกระบวนการผลิต คอื ดนิ ขาว (Marl) และดนิ เหนยี ว (Clay) สำหรับดนิ ขาว มี
อย่ใู นระดับพื้นดิน หรือใตด้ ิน ตามธรรมชาติ โดยปกติจะมคี วามช้ืนสูง การผลติ เร่ิมจากนำวัตถุดิบทั้งสอง
ชนิดมาผสมกับนำ้ ในบอ่ ตีดนิ (Wash Mill) กวนใหเ้ ขา้ กัน นำไปบดให้ละเอียดในหม้อบดดนิ (Slury Mill)
จนได้น้ำดนิ (Slurry) แล้วกรองเอาเศษหนิ และส่วนที่ไม่ละลายน้ำออก เหลือแต่น้ำดินทีล่ ะลายเข้ากันดี
จากนัน้ นำไปเกบ็ พักไวใ้ นยงุ้ เกบ็ (Silo) เพอื่ ตรวจสอบคุณภาพและปรบั แตง่ ส่วนผสมใหไ้ ด้คณุ ภาพตามที่
กำหนดน้ำดินทม่ี สี ว่ นผสมทถี่ ูกต้องแลว้ จะถูกนำไปรวมกนั ทบี่ ่อกวนดนิ (Slury Basin) เพอ่ื ให้มีปริมาณ
เพียงพอ และกวนใหส้ ว่ นผสมรวมตัวเป็นเนอื้ เดียวกันอกี ครั้งหนงึ่ ก่อนที่จะนำไปเผาในหม้อเผาแบบหมนุ
(Rotary Kiln) ความร้อนในหมอ้ เผาจะทำให้นำ้ ระเหยออกสู่บรรยากาศ เหลอื แตเ่ มด็ ดนิ ซ่ึงเม่อื ใหค้ วาม
รอ้ นตอ่ ไปจนถงึ อุณหภมู ิหน่ึง จะเกดิ ปฏิกริ ยิ าทางเคมีกลายเป็นปูนเมด็ (Clinker) ขั้นตอนการบดปนู เมด็ ให้
กลายเป็นปูนซเี มนต์ ทำโดยนำปนู เมด็ มาผสมกับยิปซมั (Gypsum) แล้วบดให้ละเอียดเป็นผงในหมอ้ บด
ซีเมนต์ (Cement Mill) ความละเอยี ดในการบดและอตั ราส่วนระหวา่ งปนู เมด็ กบั ยิปซมั ต้องเลือกอยา่ ง
เหมาะสม เพือ่ ใหไ้ ด้ปนู ซีเมนต์ที่มคี ุณสมบัติตามท่ีตอ้ งการ จากน้ันจะลำเลียงปนู ซเี มนตไ์ ปเกบ็ ไว้ในยุง้ เกบ็
ปนู ซเี มนตผ์ ง (Cement Silo) เพอ่ื รอการจำหนา่ ยต่อไป
กรรมวิธีการผลติ ปูนซเี มนต์แบบเปียก
การผลิตปูนซีเมนตแ์ บบเปยี กนไ้ี ม่เป็นที่นิยมในปัจจบุ ัน เนื่องจากตอ้ งใช้เช้อื เพลงิ ปริมาณมาก ใน
การผลติ ปูนเม็ด และยงั มีอตั ราการผลิตต่ำ ซงึ่ ทำใหต้ ้นทุนการผลติ สูง
2) กรรมวธิ ีการผลิตปูนซเี มนตแ์ บบแห้ง (Dry Process)
วตั ถดุ ิบหลักทใ่ี ช้ในกระบวนการผลิตคอื หินปนู (Limestone) ซ่ึงได้จากการระเบิดหินจากภูเขา
หนิ ปูน แตห่ นิ ปนู ท่ีได้ยงั มีขนาดใหญ่ จึงต้องนำมาลดขนาดโดยเคร่ืองยอ่ ย (Crusher) เพ่อื ใหเ้ หมาะสมกับ
กระบวนการผลิตขัน้ ตอ่ ไป วัตถุดบิ อืน่ คือ ดินดาน (Shale) และวัตถุดิบปรับแตง่ คุณสมบัติ (Corrective
Materials) ซึ่งใชเ้ ฉพาะบางตวั เพือ่ ใหไ้ ดส้ ่วนประกอบทางเคมตี ามค่ามาตรฐานทก่ี ำหนด วตั ถดุ ิบอื่น
เหลา่ น้กี ต็ อ้ งผ่านเคร่ืองยอ่ ยเพ่อื ลดขนาดให้เหมาะสมเช่นกนั วัตถดุ ิบทผ่ี า่ นการยอ่ ยแล้วจะถกู นำมาเก็บไว้
ทก่ี องเกบ็ วัตถดุ บิ (Storage Yard) จากน้ันกจ็ ะลำเลียงไปยงั หมอ้ บดวตั ถุดิน (Raw Mill) ต่อไป
กรรมวธิ กี ารผลิตปนู ซีเมนต์แบบแห้ง
หมอ้ บดวตั ถุดิบ (Raw Mill) มีหนา้ ทบี่ ดหนิ ปนู ดินดาน และวตั ถุดิบ ปรับแตง่ คุณสมบตั ิใหเ้ ป็นผง
ละเอียด ซึง่ เรียกวา่ วตั ถุดิบสำเร็จ (Raw Meal) การควบคุมอัตราส่วนของวตั ถดุ บิ ท่ีป้อนเขา้ สู่หม้อบดวัตถุดิบ
มีความสำคญั เนือ่ งจากอัตราส่วนของวตั ถดุ ิบที่เหมาะสม จะทำให้วตั ถุดิบสำเรจ็ มีคุณสมบตั ิทางเคมีที่
เหมาะสมกบั การเผา
หลงั จากผ่านกระบวนการบดแลว้ จึงส่งวตั ถุดบิ สำเรจ็ ไปยงั ยงุ้ ผสมวัตถดุ ิบสำเรจ็ (Raw Meal
Homogenizing Silo) เพ่อื เก็บและผสมวัตถุดบิ สำเรจ็ ให้เป็นเนอ้ื เดียวกนั ก่อนส่งไปเผาในหมอ้ เผาแบบหมุน
(Rotary Kiln) กระบวนการเผาช่วงแรก เป็นชดุ เพ่ิมความร้อน (Preheater) จะคอ่ ยๆ เพิ่มความร้อนใหแ้ ก่
วตั ถุดบิ สำเรจ็ แล้วส่งวัตถดุ ิบสำเรจ็ ไปเผาในหม้อเผา ซง่ึ มีอุณหภมู เิ พม่ิ สงู ข้นึ จนถงึ ประมาณ ๑,๒๐๐ - ๑,๔๐๐
องศาเซลเซยี ส จะเกดิ ปฏกิ ิรยิ าทางเคมตี ามลำดับ จนในทส่ี ุดกลายเป็นปูนเม็ด (Clinker) จากนนั้ ทำใหป้ นู เมด็
เยน็ ลง แลว้ จึงลำเลยี งปนู เม็ดไปเก็บไวท้ ย่ี งุ้ เก็บ เพื่อรอการบดปนู เม็ดต่อไป สำหรับการบดปูนเม็ดให้กลายเป็น
ปูนซีเมนตน์ นั้ มีขน้ั ตอนดงั ท่ีกล่าวมาแล้วในการผลิตแบบเปยี ก
การผลติ ปูนซีเมนตแ์ บบแหง้ ไมต่ อ้ งใช้น้ำในการผสมวัตถุดิบ ดังนัน้ จงึ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลิต
โดยเฉพาะค่าเชือ้ เพลิง และเปน็ ที่นยิ มใช้กันอยา่ งแพร่หลายในปัจจบุ ัน
2. กรรมวิธกี ารผลติ อฐิ
1) ขนั้ การเตรยี มดนิ ดินท่ีจะใช้ควรนำมาตากลมไว้ก่อนใช้ 1 – 2 เดอื นจะทำให้ดินอ่อนนุ่มและเหนียว
ดียิ่งข้ึน ถ้าเป็นดนิ แข็งตอ้ งนำเครื่องบดดนิ ก่อนนำมาย่ำใหเ้ ปน็ เนอื้ เดยี วกนั จากน้นั ใชแ้ กลบหรอื ข้ีเถ้าอยา่ งใด
อยา่ งหนึ่งผสมในอัตราสว่ นไมเ่ กิน25 % เพราะถ้ามากกวา่ นจี้ ะได้อฐิ เปราะไม่แข็งแรง
2) ขน้ั ขนึ้ รูปแผน่ อิฐในข้นั น้มี ีวธิ ีการทำอยู่ 2 วธิ ีดว้ ยกนั คือ
2.1) การทำดว้ ยแรงคนวิธีนจ้ี ะตอ้ งมแี ม่พมิ พ์ หรือแบบซึง่ อาจจะทำดว้ ยไม้หรือโลหะ เมอื่ อดั
ดนิ ลงไปในแบบแลว้ ใชไ้ มห้ รอื มือปาดให้ด้านบนเรยี บเสมอ แลว้ จึงนำแบบออก (พน้ื ล่างจะใช้ขี้เถา้ เพ่อื
ป้องกันอิฐติดกับพนื้ ) จากนนั้ ผงึ่ อิฐใหแ้ ห้งหมาดๆ แลว้ นำมาตบแต่งใหเ้ รียบรอ้ ยอกี คร้ังหนึง่ แลว้ จึง
นำเข้าเตาเผาต่อไป
2.2)การทำด้วยเครือ่ ง วธิ ีนี้นำดนิ เหนยี วใส่เขา้ ไปในเครอ่ื งอดั เคร่อื งจะทำการอัดดินออกมา
เปน็ แท่งไดข้ นาดเท่ากันทุกแผน่ มผี วิ เรยี บ นำไปผึ่งให้แหง้ หมาดและแหง้ ด้วยอากาศ แลว้ จึงนำเข้า
เตาเผาต่อไป
3) ขัน้ การผึ่งให้แห้ง ถ้านำอิฐท่ียังเปยี กอยเู่ ข้าเตาเผาทนั ที ความชน้ื ท่ีผิวจะออกเร็วเกนิ ไป อาจทำให้
อิฐแตกเนอื่ งจากการหดตวั เร็ว ฉะนั้นจึงตอ้ งมีการผึง่ ใหแ้ หง้ หรือแหง้ เพยี งหมาดๆ แลว้ จงึ นำเข้าเตาเผา
4) ขั้นการเผา นำอิฐท่ีผึ่งแห้งหมาดเขา้ เตาเผา โดยนำอิฐเขา้ ไปเรียงเป็นชั้นๆ อฐิ ท่ีนำเข้าเตาเผาครั้ง
หนึง่ ๆ ประมาณ 5000 – 10000 กอ้ น จากนัน้ ใช้แกลบคลุมอิฐทงั้ หมดใหม้ ดิ แกลบทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงใน
การเผา ความร้อนจะเพมิ่ ขึ้นทลี ะนอ้ ยจนถงึ ความรอ้ นสงู สดุ และลดต่ำลงตามลำดับจนเยน็ ใช้เวลาประมาณ 1
– 2 สปั ดาห์ แลว้ จงึ นำอฐิ ออกจากเตา
3. กระบวนการผลติ ทราย
1) กระบวนการผลติ ทรายแมน่ ้ำ
ข้นั ตอนในการผลติ ทรายแมน่ ้ำโดยท่วั ไปในพ้นื ทภี่ าคเหนอื หรือแถบลมุ่ นำ้ ขนาดใหญ่ เชน่
กำแพงเพชร นครสวรรค์ ประกอบด้วย การดดู ทรายขน้ึ มาจากแหล่งทราย อนั ไดแ้ ก่ แมน่ ำ้ หรอื
บรเิ วณทม่ี ีตะกอนทรายตกทบั ถม ซง่ึ การดดู ทรายแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ การดูดทรายอยกู่ บั ท่ีใน
กรณที ี่ลำน้ำมพี ้ืนท่ไี มก่ วา้ งมากนกั และมปี ริมาณทรายมากเพียงพอ รวมท้ังมีอัตราการดดู ทรายตำ่
และการดดู ทรายโดยย้ายไปตามลำนำ้ ในบริเวณพื้นท่ีที่ขออนญุ าตดดู ทราย ซง่ึ สว่ นใหญจ่ ะมพี ืน้ ทก่ี วา้ ง
หรือมคี วามหนาของช้นั ทรายน้อย โดยในการดูดทรายจะใช้เรอื ที่ติดตั้งเครือ่ งจักรป้ัมดูดน้ำแบบหอย
โขง่ ตอ่ กับทอ่ ดดู ทราย ดูดเอานำ้ และทรายขน้ึ มาผ่านเครอ่ื งแยกและดกั ขนาดทราย ไปยังเรือบรรทุก
ทรายท่ีรอรบั อยู่และขนส่งทรายมาขนึ้ ทา่ ทรายตามแหล่งต่างๆ
2) กระบวนการผลิตทรายบก
มี 2 กระบวนการ คอื แปรรปู ในพื้นทีน่ ยิ มใชเ้ ครอื่ งจกั รแบบเรือดูด แบบสามขา หรอื ท่นุ ลอย
และการขนย้ายวัตถุดบิ ไปอีกท่หี นึง่ หรอื นิยมเรียกว่าแบบดมั๊ เท โดยกระบวนการหลกั จะคล้ายคลงึ กัน
โดยมากผลิตกนั ในพนื้ ที่ภาคตะวันออก และตะวนั ตก เรมิ่ จากการเปิดหน้าดินจนถงึ ช้ันทราย โดยใน
ระยะแรกใชร้ ถแบคโฮขดุ ตักหน้าดิน และเมอ่ื เปดิ พื้นทล่ี กึ ลงไปแหลง่ ทรายจะมสี ภาพเป็นแหลง่ น้ำขัง
เน่อื งจากน้ำใต้ดิน ดงั นน้ั จึงใช้เครือ่ งที่ตดิ ต้ังเครอื่ งดูดทราย โดยใช้ทอ่ ดดู ทรายย่ืนลงไปดูดทรายทีพ่ ืน้
บ่อทราย ดดู ทรายทมี่ นี ำ้ ปนไปตามทอ่ ส่งผา่ นเขา้ เคร่ืองแยกและคัดขนาดทราย แยกกรวดทิ้ง รวมทั้ง
ทำความสะอาดก่อนถา่ ยลงบอ่ ทราย ซึง่ ส่วนใหญจ่ ะแยกเป็นกองทรายหยาบ ทรายละเอยี ด และทราย
ถม สว่ นนำ้ ขุ่นข้นทม่ี ากับทราย ตลอดจนกรวดและเศษดนิ จะไหลลงท่ีบอ่ พกั ตะกอน โดยระบบน้ำใน
บอ่ ทรายส่วนใหญจ่ ะเป็นระบบปดิ กล่าวคอื น้ำท่ีผ่านบอ่ พักตะกอนจะไหลวนลงบอ่ ทรายอกี ครงั้
ยกเว้นในบางชว่ งทมี่ รี ะดับน้ำลึกมากเกินไปสำหรบั การดดู ทราย จะดดู น้ำระบายออกจากบ่อทราย
จนถงึ ระดบั ทที่ ่อดดู ทรายสามารถทำงานได้
ใบงานที่ 4.2
คำส่ัง ให้นกั เรียนสำรวจแหล่งวสั ดุและแหลง่ บริการในท้องถนิ่ ของนักเรียน
วสั ดุงานปูน ราคา แหลง่ บรกิ าร
ตวั อย่าง 148 บาท/ถงุ ร้าน ทพี ีวสั ดกุ อ่ สร้าง
ปูนซเี มนต์ ตราอนิ ทรยี ์ สนี ำ้ เงิน
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………… ………………………………………………
การประเมินชน้ิ งาน / ภาระงาน
แบบประเมนิ การปฏบิ ตั งิ าน
ประเดน็ 4 (ดมี าก) ระดับคะแนน / คำอธบิ ายระดับคุณภาพ น้ำหนกั คะแนน
การประเมนิ ความ รวม
เขียนถกู ต้อง 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ควรปรับปรุง) สำคัญ
1. เนื้อหา ครอบคลุมเนื้อหา 4
อย่างสมบรู ณ์ เขยี นถูกต้อง เขียนผดิ บา้ ง และไม่ เขียนผดิ มาก และ 2
2. การสำรวจ ครอบคลมุ เนอ้ื หา ครอบคลมุ เน้อื หา ให้ข้อมลู น้อย
แหล่งวัสดุ เป็นสว่ นใหญ่
และแหลง่
บริการใน สำรวจแหลง่ วัสดุ สำรวจแหล่งวัสดุ สำรวจแหล่งวสั ดุ สำรวจแหลง่ วัสดุ 3 6
ทอ้ งถ่ิน และแหล่งบริการใน และแหล่งบรกิ ารใน และแหลง่ บริการใน และแหลง่ บรกิ ารใน
ทอ้ งถิ่นไดอ้ ย่าง ท้องถิน่ ไดเ้ หมาะสม ท้องถิน่ มขี อ้ ผดิ บ้าง ท้องถ่นิ มขี ้อผิดมาก
ถกู ตอ้ งและ
เหมาะสม
รวม 5 10
เกณฑก์ ารประเมนิ : นกั เรียนต้องไดค้ ะแนนรวมไมน่ อ้ ยกว่า 60% หรอื 6 คะแนน จึงจะผ่านเกณฑ์
วธิ คี ดิ คะแนน: ค่านำ้ หนักความสำคัญ × ระดับคะแนนทน่ี ักเรียนได้ = คะแนนรวม
แบบบันทกึ การประเมนิ ทกั ษะงานปนู
ลำดับท่ี ประเดน็ / คะแนน ความรู้ ทักษะ การนำไปใช้ คะแนนรวม
44 2 10
1 ช่ือ - สกลุ
2
3 เดก็ ชาย กฤตณฐั แก้วเจริญ
4
5 นาย กฤตเิ ดช ดวงเกดิ
6
7 นาย จกั รภทั ร ฤทธิกุล
8 นาย ฑติ ยพล ชเู พอ่ื น
9 นาย ณัฐพงศ์ สงเคราะห์
10
11 นาย ณัฐวฒุ ิ กลา้ หาญ
12
13 นาย เดชอนันต์ ชูแฉลม้
14
15 นาย ธนาธิป กายะพนั ธ์
16
17 เด็กชาย พงศกร สายร่นื
18 เด็กชาย พงษภัทร ศรีพงค์
19 เดก็ ชาย พลากร กฎไทยสงค์
20 นาย ภัทรพงศ์ สม้ เมอื ง
21 นาย ภาคภมู ิ ดวงแก้ววิเศษ
22 เด็กชาย รฐั ภมู ิ คงใหญ่
23 นาย สทุ ธภิ ัทร ทองดอนยอด
24 เด็กชาย อนศุ กั ด์ิ สังขท์ อง
25 เดก็ ชาย อษั ฎาวธุ ปลอ้ งนิราศ
26 นางสาว กมลวัลย์ สุขนติ ย์
27 เด็กหญิง กรวกิ าร์ เขียมวชั ระ
28 เดก็ หญงิ ขนิษฐา แก่นสาร
29 เดก็ หญิง จันทมิ าพร เจรญิ พร
30 เดก็ หญิง ชญาณี บัวบาน
31 เด็กหญงิ ชนิสรา เทพบรุ ี
32 เดก็ หญิง ณฐั กานต์ ศรีรกั ษา
33 เด็กหญิง ธนัญญา ศรรี ักษา
34 เดก็ หญงิ นิชาภทั ร ชูนุย้
35 นางสาว พชั ราวดี รกั บรรจง
เดก็ หญงิ พมิ พ์พิสชา จัตตามาศ
นางสาว สชุ านาถ ดิษฐอาย
เด็กหญงิ สภุ าวดี ทองสัมฤทธ์ิ
เดก็ หญิง แสงดาว วโิ รจน์
เดก็ หญิง หรญั ญา บญุ ลึก
นางสาว อารยา จินตพัฒน์
เด็กชาย กฤตณัฐ แกว้ เจรญิ
ลงช่อื ...................................... ผู้ประเมนิ
(นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ)
แบบบันทึกการประเมนิ ทกั ษะงานปูน
ลำดบั ท่ี ประเด็น / คะแนน ความรู้ ทกั ษะ การนำไปใช้ คะแนนรวม
44 2 10
1 ชื่อ - สกลุ
2
3 เด็กชาย กัณฑอ์ เนก สารพิ ัฒน์
4
5 นาย ขจรยศ วรภูมิ
6
7 เด็กชาย ขจรยศ เหล่ารอด
8 นาย จริ วฒั น์ อกั ษรทพิ ย์
9 นาย เจตพล สุขอุ่น
10
11 นาย ฐิตวิ ฒั น์ น้ำพุ
12 เดก็ ชาย ณรงคศ์ ักด์ิ รักสขุ
13 เดก็ ชาย ธนวัฒน์ บุญปล้อง
14
15 เด็กชาย นพิ นธ์ ประหารภาพ
16 เดก็ ชาย ปณวัฒน์ ทศราช
17 นาย พงศกร ทองดอนยอด
18 เดก็ ชาย พัชรพล เสนาะกรรณ์
19 นาย ยุทธพงค์ ชา่ งพดู
20 นาย รชั ตพงษ์ มากมูล
21 นาย วรากรณ์ ฉมิ บ้านดอน
22 นาย วรทิ ธิ์ ขลบิ ตรีแก้ว
23 นาย ศักดชิ์ ัย สขุ อนุ่
24 เด็กชาย ศิวกร แก้วคง
25 นาย ศุภณัฐ ทพิ ย์เดช
26 นาย สิรภัทร สวุ รรณรงั ษี
27 นาย อภิชาติ มีเพ็ญ
28 เด็กชาย อาทติ ย์ ปานปรเิ ยศ
29 นางสาว กัญญาณฐั บญุ ชว่ ย
30 เด็กหญิง กลุ ปรยิ า ทดั ดอกไม้
31 เด็กหญงิ เกวลิน ยวนกะเปา
32 นางสาว จตุพร กลับศรี
33 เด็กหญงิ ฐิติมา นกขุ้ม
34 เดก็ หญิง ธนัชพร คงสะอาด
35 เด็กหญิง นันทกิ านต์ ศรวี ารินทร์
เด็กหญิง บวรรตั น์ สมเพช็ ร
นางสาว ภัทรนันท์ ศรชนะ
นางสาว สุตาภัทร พลขัน
เด็กหญิง สภุ ัสสร แซต่ ัน
นางสาว สุภาวดี นาภรณ์
นางสาว อรปรยี า อดุ มศรี
ลงชื่อ ...................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ)
แบบบันทกึ การประเมินทกั ษะงานปนู
ลำดับท่ี ประเด็น / คะแนน ความรู้ ทกั ษะ การนำไปใช้ คะแนนรวม
44 2 10
1 ชือ่ - สกุล
2
3 เด็กชาย กฤษฎา หนดู ว้ ง
4
5 นาย กติ ติภพ เวชรินทร์
6
7 เดก็ ชาย เจษฎาภรณ์ สมคลองศก
8 เด็กชาย ชัยณรงค์ กมุ ลา
9 เดก็ ชาย ชยั วฒั น์ มดี ้วง
10
11 เดก็ ชาย ณฐั ศักด์ิ จันทร์ลเี ลด็
12 นาย ตรงั ค เรืองศรี
13 นาย ทศพร จินดาวงค์
14
15 เดก็ ชาย ธนภทั ร ชาญบำรงุ
16 เดก็ ชาย ธีรศักด์ิ วังฉาย
17 เดก็ ชาย บณั ฑติ บวั แก้ว
18 นาย ปวรศิ ร์ ชชู าติ
19 เด็กชาย ภาณุภักดิ์ พึง่ ผล
20 เด็กชาย ภวู ิศ สงิ ห์ศรีดา
21 นาย รกั ษก์ วี จันทร์เมือง
22 เด็กชาย ศตายุ ชูคงคา
23 นาย สทิ ธเิ ดช ทบั แก้ว
24 นาย สุทธินนั ท์ ศรสี วสั ด์ิ
25 เดก็ ชาย อนันศักดิ์ ภูมิพทิ กั ษ์
26 นาย อนุพงศ์ พัฒนะ
27 นางสาว กัลยา วงศ์สบุ รรณ
28 เด็กหญิง ชญานศิ ทมิ เทศ
29 เดก็ หญิง ฐานิตา ชว่ ยศรี
30 นางสาว ฐิติมา กลุ ทอง
31 นางสาว ณฐั ณิชา รักกะเปา
32 นางสาว ณฐั นนั แถนสมบัติ
33 นางสาว ธนดิ า วจิ ิตร
34 นางสาว ปิยาพทั ร หนมู ี
35 เดก็ หญงิ พิชญาภา มากแกว้
เด็กหญิง ศิรภสั สร คงเพชร
นางสาว ศริ ิรัตน์ รกั ษ์บรรจง
เดก็ หญิง ศริ วิ รรณ รม่ เมอื ง
นางสาว โสรญา สดุ เสงั
นางสาว อมรรัตน์ มากดำ
ลงชอื่ ...................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวพนัชฎา เทวรรณะ)
บนั ทึกหลังสอนแผนการสอนท่ี 18
1. ผลการสอนระดับชน้ั ม.3
สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้
สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนื่องจาก ..................................................................................
2. ผลที่เกดิ กับผู้เรียน
1.) การประเมินผลความรหู้ ลงั การเรียน โดยใช…้ …………………….....................................พบว่านกั เรียนผา่ นการ
ประเมนิ คดิ เป็นรอ้ ยละ...................……. ไม่ผ่านเกณฑข์ นั้ ตำ่ ที่กำหนดไว้คดิ เป็นร้อยละ.................................
ได้แก่ ..........................................................................................................................................................................
2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………...….….........................พบวา่ นกั เรยี นผา่ นการ
ประเมินคิดเป็นรอ้ ยละ.........................……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................................
ไดแ้ ก่ ...........................................................................................................................................................................
3.) การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์การเรยี น โดยใช…้ …………………….............................................พบวา่
นักเรียนผา่ นการประเมินคิดเปน็ ร้อยละ............... ไม่ผ่านเกณฑข์ ัน้ ตำ่ ที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ......................
ได้แก่ ...........................................................................................................................................................................
3. ปัญหาและอปุ สรรค
กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา
มีนกั เรยี นทไี่ ม่สนใจเรียน อน่ื ๆ ………………………………………………………………….
4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เร่ือง ..............................................................................................................
..............................................................................................................................................................
แนวทางแกไ้ ขนักเรยี นท่ไี ม่ผา่ นการประเมนิ .........................................................................................
..............................................................................................................................................................
ไม่มีขอ้ เสนอแนะ
ลงช่อื ผ้สู อน
(นางสาวพนัชฎา เทวรรณะ)
วันท่.ี ............/................./...............
ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุม่ สาระฯ ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ วิชาการ
1.เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี …………………………………………………………………………………………
ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง …………………………………………………………………………………………
2.การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………
ที่เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนได้อยา่ ง ลงชื่อ................................................
เหมาะสมกบั ศักยภาพทแ่ี ตกต่างกันของผเู้ รียน (นางณัฐญิ า คาโส)
ทยี่ ังไมเ่ น้นผู้เรียนเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ความคิดเหน็ ของผูอ้ ำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
3.เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………
นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ …………………………………………………………………………………………
4.ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ………………………………………………………………………………….………
……………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ....................................................... ลงชือ่ ................................................
(นางสาวพนชั ฎา เทวรรณะ) (นางผกา สามารถ)
หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี ผอู้ ำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา