พน้ื ฐาน _คาํ_น_าํ ________________
_หล_กั _กา_ร_เรข_า_คณ_ติ_พ_นื้ _ฐา_น______1_
SINUMERIK _หกรล_มกั _กNา_Cร_พน้ื _ฐ_าน_ข_อง_ก_าร_ตงั้_โ_ปร_แ___2_
SINUMERIK 840D sl / 828D _กา_รส_ร_า ง_โป_ร_แก_ร_ม N_C________3_
พนื้ ฐาน _กา_รเ_ปล_ย่ี _น_เค_รอ่ื _งม_อื _________4_
_ออ_ฟ_เซ_ต็ _เค_รอื่ _งม_อื __________5_
คมู อื การโปรแกรม _กา_รเ_คล_อื่ _น_ทขี่ _อ_งส_ป_น เ_ดลิ _______6_
_กา_รค_ว_บค_มุ _กา_ร_ปอ _น_________7_
_กา_รต_งั้ _คา_ร_ปู ท_ร_ง __________8_
_คาํ _ส_ง่ั ก_าร_เค_ล_อ่ื น_ท_่ี _________9_
_กา_รช_ด_เช_ย_รศั _ม_เี ค_รอ่ื _งม_อื ______1_0_
_กา_รด_าํ _เน_นิ _กา_รข_อ_งท_า_งเด_นิ _____1_1_
_กา_รแ_ป_ลง_พ_กิ ดั_(_เฟ_ร_ม)_______1_2_
_เอ_าท_พ _ตุ ฟ_ง _กช_น่ั _เส_ร_มิ _______1_3_
_คาํ _ส_ง่ั เพ_มิ่ _เต_มิ ___________1_4_
_ขอ_ม_ลู อ_ืน่ _ๆ ____________1_5_
_ตา_รา_ง______________1_6_
_ภา_ค_ผน_ว_ก _____________A_
สําหรบั 4.5 SP2
ตัวควบคมุ
SINUMERIK 840D sl / 840DE sl
SINUMERIK 828D
ซอฟตแ วร เวอรช ัน่ ซอฟตแ วร CNC
03/2013
6FC5398-1BP40-3XE1
ขอ มลู ทางกฎหมาย
ระบบหมายเหตคุ าํ เตอื น
คมู อื ฉบบั นม้ี หี มายเหตทุ ่ีคณุ จําเปนตองปฏบิ ัตติ ามเพอื่ ใหเกดิ ความปลอดภยั ตอตวั คุณเอง
รวมถึงปองกันไมใ หเ กิดความเสยี หายกบั ทรพั ยสนิ ในคูม อื ฉบบั นี้
หมายเหตุในสว นทเ่ี กย่ี วขอ งกับความปลอดภัยของตัวคณุ จะระบุโดยใชสัญลักษณเตือนความปลอดภยั
หมายเหตุในสวนท่ีเก่ียวของเฉพาะกบั ความเสียหายตอ ทรัพยส นิ จะไมมีสญั ลักษณเตือนความปลอดภยั
หมายเหตุที่แสดงดานลางนี้จะแบงออกเปน ระดบั ตางๆ ตามความรุนแรงของอนั ตราย
อนั ตราย
หมายถึงจะเกดิ การเสยี ชวี ิตหรือการบาดเจ็บรายแรง หากไมป ฏิบัตติ ามขอควรระวังทเี่ หมาะสม
คาํ เตอื น
หมายถงึ อาจเกดิ การเสียชวี ติ หรือการบาดเจ็บรายแรง หากไมปฏิบัตติ ามขอควรระวังท่เี หมาะสม
ระวงั
หมายถึงอาจเกิดการบาดเจบ็ เลก็ นอ ย หากไมปฏบิ ัตติ ามขอ ควรระวงั ท่เี หมาะสม
หมายเหตุ
หมายถงึ อาจเกิดความเสยี หายตอทรพั ยส ิน หากไมปฏิบตั ติ ามขอ ควรระวงั ทเ่ี หมาะสม
ในกรณีที่มรี ะดับความรุนแรงของอนั ตรายหลายระดับ หมายเหตุคาํ เตอื นจะใชสญั ลกั ษณแสดงระดับอนั ตรายสูงสุด
หมายเหตุคาํ เตอื นพรอมสญั ลักษณเ ตือนความปลอดภยั ทเ่ี กยี่ วขอ งกับการบาดเจบ็ ของบคุ คล
อาจรวมอยดู ว ยกันกบั คาํ เตือนทเี่ กี่ยวของกบั ความเสยี หายตอทรัพยสินดวยเชนกัน
เจา หนา ทท่ี ไี่ ดร บั อนญุ าต
การใชงานผลิตภัณฑ/ ระบบตามที่อธบิ ายไวในเอกสารฉบบั นีจ้ ะตอ งทาํ โดยเจาหนา ทท่ี ไ่ี ดร บั อนญุ าตใหท ํางานดงั กลา วตามท่ีระบุ
ในเอกสารท่เี กย่ี วของเทา นน้ั โดยเฉพาะอยางยิง่ ในสว นของหมายเหตคุ ําเตอื นและคาํ แนะนําดา นความปลอดภยั
เจา หนาทท่ี ี่ไดรบั อนุญาตหมายถึง บุคคลท่ีผา นการฝก อบรมและมปี ระสบการณ
ซ่งึ สามารถระบโุ อกาสเกิดอนั ตรายและสามารถปอ งกนั อนั ตรายท่อี าจเกดิ ขึ้นจากการใชง านผลิตภัณฑ/ ระบบดังกลา ว
การใชง านผลติ ภณั ฑข อง Siemens อยา งถกู ตอ ง
ปฏบิ ตั ติ ามขอกาํ หนดตอ ไปน:ี้
คาํ เตอื น
ใชผลิตภณั ฑ Siemens สาํ หรับการทํางานตามท่รี ะบใุ นแค็ตตาล็อกและในเอกสารทางเทคนคิ ท่เี กี่ยวขอ งเทานน้ั
หากตอ งการใชผลติ ภัณฑแ ละชน้ิ สวนจากผูผลติ อ่ืน ผลิตภณั ฑและช้นิ สว นดงั กลา วจะตอ งไดร ับการแนะนําหรืออนญุ าตจาก
Siemens กอ น การเคลื่อนยา ย การจัดเกบ็ การติดตัง้ การประกอบ การเตรียมการใชง าน การใชง าน
และการบาํ รงุ รกั ษาอยางถกู วิธี คือส่ิงจาํ เปน ที่จะทําใหสามารถใชงานผลติ ภณั ฑไดอยา งปลอดภัยและไมเกิดปญหา
สภาพแวดลอมในการใชงานผลิตภณั ฑจะตองตรงตามทรี่ ะบุในขอ กาํ หนด นอกจากนี้ ยังตอ งปฏิบตั ติ ามขอมลู ตา งๆ
ในเอกสารทเ่ี ก่ยี วขอ งทั้งหมด
เครอื่ งหมายการคา
ชอ่ื ทงั้ หมดท่มี ีเครือ่ งหมาย ® กาํ กบั เปน เครอ่ื งหมายการคาจดทะเบยี นของ Siemens AG เครื่องหมายการคา อื่นๆ
ทใ่ี ชใ นเอกสารฉบบั นีอ้ าจเปน เคร่ืองหมายการคาที่หากบุคคลท่ีสามนําไปใชอาจถอื เปน การละเมิดสิทธ์ขิ องเจา ของเคร่ืองหมายก
ารคาได
คาํ จาํ กดั สทิ ธคิ์ วามรบั ผดิ ชอบ
เราไดต รวจทานเนอ้ื หาขอ มลู ของเอกสารฉบับนี้แลววามีความสอดคลองและถกู ตอ งสําหรบั ฮารด แวรแ ละซอฟตแ วรท เ่ี ก่ียวของ
เนอื่ งจากเราไมส ามารถปองกนั ไมใหเกิดความผดิ พลาดไดอยางสมบูรณ
เราจึงไมส ามารถรับประกันความสอดคลอ งและถกู ตอ งไดท ั้งหมด อยา งไรกต็ าม
ขอ มลู ในเอกสารฉบับนจ้ี ะไดรับการตรวจทานอยางสม่าํ เสมอ และจะมีการแกไขในสวนทจี่ าํ เปน ในฉบับตอไป
Siemens AG หมายเลขสง่ั ซอ้ื : 6FC5398-1BP40-3XE1 Copyright © Siemens AG 1995 - 2013.
Industry Sector Ⓟ 06/2013 ขอมูลทางเทคนิคอาจมกี ารเปล่ียนแปลงได สงวนลขิ สทิ ธิ์
Postfach 48 48
90026 NÜRNBERG
เยอรมัน
คำนำ
เอกสาร SINUMERIK
เอกสาร SINUMERIK มีการจดั เรยี งตามหมวดหมตู อ ไปน:้ี
● เอกสารทวั่ ไป
● เอกสารผใู ช
● เอกสารผูผ ลิต/บรกิ าร
ขอ มลู เพม่ิ เตมิ
คณุ สามารถดขู อ มูลเกย่ี วกบั หัวขอ ตอ ไปน้ีไดท ี่ www.siemens.com/motioncontrol/docu:
● การส่ังซอื้ เอกสาร/ภาพรวมของเอกสาร
● ลิงกอน่ื ๆ สาํ หรบั การดาวนโ หลดเอกสาร
● การใชเอกสารออนไลน (ดแู ละคน หาในคมู อื /ขอมูล)
โปรดสง คาํ ถามเก่ียวกบั เอกสารทางเทคนคิ (เชน คาํ แนะนาํ สาํ หรบั การปรบั ปรงุ การแกไข)
มายังทอี่ ยตู อ ไปน:้ี
[email protected]
My Documentation Manager (MDM)
ในลงิ กตอ ไปน้ี คุณจะพบขอมลู ในการรวบรวมเอกสารเครอ่ื งจกั รเฉพาะสําหรับ OEM
แตละรายการตามเนือ้ หาของ Siemens:
www.siemens.com/mdm
การฝก อบรม
สาํ หรบั ขอ มลู เกยี่ วกบั หลกั สตู รการฝกอบรมตา งๆ โปรดด:ู
● www.siemens.com/sitrain
SITRAIN - การฝกอบรมของ Siemens สําหรบั ผลติ ภัณฑ ระบบ
และโซลชู ่ันในเทคโนโลยีระบบอตั โนมตั ิ
● www.siemens.com/sinutrain
SinuTrain - การฝกอบรมซอฟตแวรส ําหรบั SINUMERIK
พื้นฐาน 3
คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
คํานาํ
คําถามทพ่ี บบอ ย
คณุ สามารถดูคาํ ถามท่พี บบอ ยในหนา ผลติ ภณั ฑและบรกิ าร ในการสนบั สนนุ ผลิตภณั ฑ
http://support.automation.siemens.com
SINUMERIK
คุณสามารถดขู อ มลู เก่ยี วกบั SINUMERIK ในลิงกตอ ไปน:ี้
www.siemens.com/sinumerik
กลมุ เปา หมาย
สง่ิ พิมพน จ้ี ัดทาํ ขึน้ สาํ หรบั :
● โปรแกรมเมอร
● วิศวกรโครงการ
ประโยชนทไี่ ด
ดว ยคูมือการเขยี นโปรแกรม กลมุ เปา หมายจะสามารถพฒั นา เขยี น ทดสอบ
และดบี กั โปรแกรมและยสู เซอรอนิ เตอรเฟสของซอฟตแ วร
ขอบเขตมาตรฐาน
คูมอื การเขยี นโปรแกรมนอ้ี ธิบายการทํางานทไี่ ดจากฟง กช ั่นมาตรฐาน
การเพ่มิ เตมิ หรอื เปล่ียนแปลงที่ทาํ โดยผูผลติ เครอื่ งจักรไดร บั การลงบนั ทกึ โดยผผู ลติ เครอ่ื งจักรดงั กลาว
ฟง กช ่ันอ่ืนๆ ทไ่ี มไดอ ธบิ ายในเอกสารนอ้ี าจสามารถดําเนนิ การไดใ นตวั ควบคมุ อยางไรกต็ าม
เอกสารน้ีไมไดแ สดงถงึ ภาระผกู พันในการจัดหาฟง กช น่ั ดังกลาวพรอ มกบั ตวั ควบคมุ ใหมห รอื เมอื่ มกี ารบาํ
รงุ รกั ษา
นอกจากน้ี เพอื่ ความไมซ บั ซอน เอกสารน้ีจงึ ไมไ ดแสดงขอมลู โดยละเอยี ดเก่ียวกบั ผลติ ภณั ฑทุกประเภท
และไมส ามารถครอบคลมุ การตดิ ตัง้ การทํางาน และการบาํ รุงรกั ษาไดท กุ กรณี
การสนับสนนุ ทางเทคนคิ
คณุ จะพบหมายเลขโทรศัพทของฝา ยสนบั สนนุ ทางเทคนคิ สาํ หรบั ประเทศอน่ื ๆ บนอนิ เทอรเ น็ตไดท ี่
http://www.siemens.com/automation/service&support
พ้ืนฐาน
4 คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
คาํ นาํ
ขอมลู เกยี่ วกบั โครงสรา งและเนอ้ื หา
คูมอื การเขยี นโปรแกรม "พน้ื ฐาน" และ "ขนั้ สงู "
คาํ อธิบายการตงั้ โปรแกรม NC ถูกแบง ออกเปน สองคูมอื ไดแ ก:
1. พนื้ ฐาน
คมู อื การเขียนโปรแกรม "พน้ื ฐาน"
น้จี ดั ทําขึน้ สําหรบั ผคู วบคมุ เครอ่ื งจกั รทม่ี ีทักษะและมคี วามเชยี่ วชาญทเ่ี หมาะสมในการทาํ งานดานกา
รเจาะ การกัด และการกลงึ ในคูมอื นี้มกี ารใชต ัวอยา งการโปรแกรมงา ยๆ
ในการอธบิ ายคาํ สง่ั และสเตทเมนตตางๆ ทมี่ กี ารกําหนดใหส อดคลอ งกบั DIN 66025 ดว ย
2. การวางแผนงาน
คมู อื การเขียนโปรแกรม "ขนั้ สงู "
จัดทาํ ขนึ้ สาํ หรบั ชางเทคนคิ ทม่ี คี วามรดู านการเขยี นโปรแกรมทค่ี รอบคลมุ และลกึ ซงึ้
ดวยขอ ดีของภาษาเขียนโปรแกรมพเิ ศษ ตัวควบคุม SINUMERIK
ทาํ ใหผ ูใ ชส ามารถเขยี นโปรแกรมช้ินงานทซ่ี บั ซอ น (เชน พน้ื ผวิ รปู รางอสิ ระ การประสานแชนเนล
ฯลฯ) และทาํ ใหน ักเทคโนโลยสี ามารถเขยี นโปรแกรมการทํางานท่ซี บั ซอ นไดโ ดยงา ย
ความพรอ มใชง านของอลิ ิเมนตภาษา NC ทอ่ี ธบิ าย
อลิ ิเมนตภ าษา NC ทัง้ หมดทอ่ี ธิบายในคมู อื นมี้ ีพรอ มใชง านสาํ หรบั SINUMERIK 840D sl
คุณสามารถดคู วามพรอ มใชงานสาํ หรบั SINUMERIK 828D ไดใ นตาราง"การทํางาน: มีใหใชใ น
SINUMERIK 828D (หนา 448)" ของ "Auto-Hotspot"
พืน้ ฐาน 5
คมู อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
คาํ นาํ
พน้ื ฐาน
6 คมู อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
สารบญั
คำนำ .......................................................................................................................................................... 3
1 หลกั การเรขาคณติ พนื้ ฐาน........................................................................................................................... 13
1.1 ตำแหนง ชิน้ งาน ..............................................................................................................................13
1.1.1 ระบบพิกัดของชนิ้ งาน ......................................................................................................................13
1.1.2 ระบบพิกัดคารท ีเซยี น.......................................................................................................................14
1.1.3 ระบบพกิ ดั เชงิ ขวั้ ..............................................................................................................................17
1.1.4 ระยะสัมบรู ณ ...................................................................................................................................18
1.1.5 ระยะทีเ่ พมิ่ ขนึ้ ..................................................................................................................................20
1.2 ระนาบการทํางาน ............................................................................................................................22
1.3 จุดศูนยแ ละจดุ อา งองิ .......................................................................................................................23
1.4 ระบบพิกัด.......................................................................................................................................25
1.4.1 ระบบพกิ ัดของเครอื่ งจกั ร (MCS) ......................................................................................................25
1.4.2 ระบบพกิ ัดพืน้ ฐาน (BCS) .................................................................................................................28
1.4.3 ระบบตาํ แหนง ศนู ยพน้ื ฐาน (BZS) .....................................................................................................30
1.4.4 ระบบตาํ แหนง ศนู ยที่ตงั้ คา ได (SZS)..................................................................................................31
1.4.5 ระบบพิกดั ของชิ้นงาน (WCS) ..........................................................................................................32
1.4.6 ระบบพิกดั ตา งๆ มีความสมั พนั ธกนั อยา งไร..........................................................................................32
2 หลกั การพน้ื ฐานของการตงั้ โปรแกรม NC ...................................................................................................... 33
2.1 ชือ่ ของโปรแกรม NC.......................................................................................................................33
2.2 โครงสรา งและเน้ือหาของโปรแกรม NC.............................................................................................35
2.2.1 บล็อกและคอนโพเนนตข องบล็อก......................................................................................................35
2.2.2 กฎเกย่ี วกับบลอ็ ก.............................................................................................................................37
2.2.3 การกาํ หนดคา .................................................................................................................................38
2.2.4 คำอธบิ าย .......................................................................................................................................39
2.2.5 การขา มบลอ็ ก.................................................................................................................................40
3 การสรา งโปรแกรม NC ............................................................................................................................... 43
3.1 ขน้ั ตอนพน้ื ฐาน ...............................................................................................................................43
3.2 อักขระทใ่ี ชได ................................................................................................................................44
3.3 สวนหวั โปรแกรม.............................................................................................................................46
3.4 ตวั อยางโปรแกรม............................................................................................................................47
3.4.1 ตัวอยาง 1: ข้ันตอนแรกของการโปรแกรม .........................................................................................47
3.4.2 ตัวอยาง 2: โปรแกรม NC สําหรับการกลงึ .........................................................................................48
3.4.3 ตวั อยา ง 3: โปรแกรม NC สาํ หรบั การกดั ...........................................................................................49
4 การเปลย่ี นเครอื่ งมอื .................................................................................................................................... 53
4.1 การเปล่ียนแปลงเครอื่ งมอื ท่ีไมต องใชก ารจัดการเครอ่ื งมอื ...................................................................54
4.1.1 การเปลี่ยนเครอ่ื งมอื ดว ยคาํ สง่ั T .......................................................................................................54
4.1.2 การเปลยี่ นเครอ่ื งมอื ดว ย M6 ............................................................................................................55
4.2 การเปล่ยี นแปลงเครอื่ งมอื ท่ีตอ งใชการจัดการเครอื่ งมอื (ตวั เลือก) ........................................................56
พ้ืนฐาน 7
คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
สารบัญ
4.2.1 การเปลี่ยนเครอ่ื งมอื ดว ยคําสง่ั T ดวยการจดั การเคร่อื งมอื ทใี่ ชงานอยู (ตวั เลือก) ................................... 57
4.2.2 การเปลย่ี นเครอ่ื งมอื ดว ย M6 ที่มกี ารจัดการเครอื่ งมอื ทใี่ ชง านอยู (ตัวเลอื ก).......................................... 59
4.3 ลกั ษณะการทาํ งานเมอื่ มกี ารโปรแกรม T ไมถกู ตอง ........................................................................... 60
5 ออฟเซต็ เครอ่ื งมอื ....................................................................................................................................... 61
5.1 ขอ มลู ทวั่ ไปเกยี่ วกับออฟเซต็ เครือ่ งมอื ............................................................................................... 61
5.2 การชดเชยความยาวเครอื่ งมอื .......................................................................................................... 62
5.3 การชดเชยรัศมเี ครอื่ งมอื ................................................................................................................. 63
5.4 หนว ยความจาํ การชดเชยเครอื่ งมอื ................................................................................................... 64
5.5 ประเภทเครอ่ื งมือ............................................................................................................................ 65
5.5.1 ขอ มูลทัว่ ไปเก่ยี วกับชนิดเครอ่ื งมอื .................................................................................................... 65
5.5.2 เครอื่ งมอื กดั ................................................................................................................................... 66
5.5.3 ดอกสวา น ...................................................................................................................................... 68
5.5.4 เครอื่ งมอื เจยี .................................................................................................................................. 69
5.5.5 เครอ่ื งมอื กลงึ ................................................................................................................................. 70
5.5.6 เครอ่ื งมอื พิเศษ............................................................................................................................... 71
5.5.7 กฎการตอ ...................................................................................................................................... 72
5.6 การเรยี กออฟเซ็ตเคร่อื งมอื (D) ........................................................................................................ 73
5.7 การเปลย่ี นแปลงขอมลู ออฟเซต็ เครอ่ื งมอื ........................................................................................... 75
5.8 ออฟเซ็ตเครอ่ื งมอื ที่โปรแกรมได (TOFFL, TOFF, TOFFR) .............................................................. 76
6 การเคลอ่ื นทข่ี องสปน เดลิ ............................................................................................................................. 81
6.1 ความเรว็ รอบสปน เดิล (S), ทิศทางการหมนุ ของสปน เดิล (M3, M4, M5) .............................................. 81
6.2 อตั ราตัด (SVC) ............................................................................................................................. 85
6.3 อัตราตดั คงที่ (G96/G961/G962, G97/G971/G972, G973, LIMS, SCC) ........................................ 92
6.4 ความเรว็ รอบนอกของลอ เจียผวิ คงที่ (GWPSON, GWPSOF) ........................................................... 98
6.5 ขีดจาํ กัดความเรว็ รอบสปนเดิลทส่ี ามารถโปรแกรมได (G25, G26) .................................................... 100
7 การควบคมุ การปอ น.................................................................................................................................. 101
7.1 อัตราปอ น (G93, G94, G95, F, FGROUP, FL, FGREF).............................................................. 101
7.2 เคลอ่ื นท่แี กนตาํ แหนง (POS, POSA, POSP, FA, WAITP, WAITMC) ........................................... 110
7.3 โหมดสปน เดลิ ท่ีมกี ารควบคุมตาํ แหนง (SPCON, SPCOF) .............................................................. 113
7.4 การปรบั ตาํ แหนงสปน เดลิ (SPOS, SPOSA, M19, M70, WAITS) .................................................. 114
7.5 อัตราปอ นสาํ หรบั แกน/สปน เดลิ ตาํ แหนง (FA, FPR, FPRAON, FPRAOF) ...................................... 122
7.6 การโอเวอรไรดอ ตั ราปอ นทโี่ ปรแกรมได (OVR, OVRRAP, OVRA)................................................. 126
7.7 การโอเวอรไรดอ ัตราเรง ทโ่ี ปรแกรมได (ACC) (ตัวเลือก).................................................................. 128
7.8 อัตราปอ นดวยการโอเวอรไรดป ุมหมุน (FD, FDA)........................................................................... 130
7.9 การปรบั อตั ราปอ นใหเหมาะสมสําหรบั สว นทางเดินท่มี ลี กั ษณะโคง (CFTCP, CFC, CFIN).................. 134
7.10 คา อตั ราปอ นหลายคา ในบลอ็ กเดียว (F, ST, SR, FMA, STA, SRA) ................................................ 136
7.11 อัตราปอ นที่ไมใ ชแ บบโมดัล (FB)................................................................................................... 140
7.12 อัตราปอ นตอ ฟน ตัด (G95 FZ)....................................................................................................... 141
พืน้ ฐาน
8 คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
สารบญั
8 การตงั้ คา รปู ทรง....................................................................................................................................... 147
8.1 ออฟเซต็ ศนู ยท ต่ี ้ังคา ได (G54 ถงึ G57, G505 ถงึ G599, G53, G500, SUPA, G153).......................147
8.2 การเลอื กระนาบการทาํ งาน (G17/G18/G19)...................................................................................152
8.3 ขนาด...........................................................................................................................................155
8.3.1 ขนาดสัมบรู ณ (G90, AC) ..............................................................................................................155
8.3.2 ขนาดทเี่ พม่ิ ขน้ึ (G91, IC) ..............................................................................................................158
8.3.3 ขนาดสัมบรู ณและขนาดทีเ่ พิม่ ขึ้นสําหรบั การกลึงและการกัด (G90/G91) ............................................161
8.3.4 ขนาดสมั บรู ณสาํ หรบั แกนหมุน (DC, ACP, ACN)............................................................................162
8.3.5 ขนาดในหนวยน้ิวหรอื เมตรกิ (G70/G700, G71/G710) ...................................................................164
8.3.6 การโปรแกรมรศั ม/ี เสน ผา ศนู ยก ลางเฉพาะแชนเนล (DIAMON, DIAM90, DIAMOF,
DIAMCYCOF) ............................................................................................................................167
8.3.7 การโปรแกรมรศั ม/ี เสน ผา ศนู ยก ลางเฉพาะแกน (DIAMONA, DIAM90A, DIAMOFA,
DIACYCOFA, DIAMCHANA, DIAMCHAN, DAC, DIC, RAC, RIC) ............................................169
8.4 ตำแหนง ชิน้ งานสําหรบั การกลงึ ......................................................................................................173
9 คำสงั่ การเคลอื่ นที ..................................................................................................................................... 175
9.1 ขอ มูลท่วั ไปเกยี่ วกบั คาํ สง่ั การเคลอ่ื นที .............................................................................................175
9.2 คำสงั่ การเคลื่อนทด่ี ว ยระบบพกิ ัดคารทเี ซียน (G0, G1, G2, G3, X..., Y..., Z...)..................................177
9.3 คำสง่ั ในการเคล่อื นทโี่ ดยใชร ะบบพกิ ัดเชงิ ขวั้ ...................................................................................178
9.3.1 จดุ อา งองิ ของระบบพิกดั เชงิ ขว้ั (G110, G111, G112)......................................................................178
9.3.2 คำสงั่ การเคล่ือนที่ดว ยระบบพกิ ดั เชิงขั้ว (G0, G1, G2, G3, AP, RP).................................................180
9.4 การเคลอ่ื นทแี่ บบเร็ว (G0, RTLION, RTLIOF)................................................................................183
9.5 การอนิ เตอรโพเลตในแนวเสน ตรง (G1) ..........................................................................................188
9.6 การอนิ เตอรโ พเลตแนววงกลม ........................................................................................................190
9.6.1 ชนดิ ของการอนิ เตอรโ พเลตแบบวงกลม (G2/G3, ...) ........................................................................190
9.6.2 การอนิ เตอรโ พเลตแบบวงกลมดวยจุดศนู ยกลางและจดุ สนิ้ สุด (G2/G3, X... Y... Z..., I... J... K...) ........194
9.6.3 การอนิ เตอรโ พเลตแบบวงกลมดว ยรศั มีและจุดส้นิ สดุ (G2/G3, X... Y... Z..., CR)................................197
9.6.4 การอนิ เตอรโ พเลตแบบวงกลมดวยมมุ เปดและจดุ ศนู ยก ลาง (G2/G3, X... Y... Z.../ I... J... K..., AR) ....199
9.6.5 การอนิ เตอรโ พเลตแบบวงกลมดว ยระบบพกิ ดั เชิงข้ัว (G2/G3, AP, RP)..............................................201
9.6.6 การอนิ เตอรโพเลตแบบวงกลมดว ยจดุ ระหวา งกลางและจดุ สน้ิ สดุ (CIP, X... Y... Z..., I1... J1...
K1...)...........................................................................................................................................203
9.6.7 การอนิ เตอรโ พเลตแบบวงกลมดวยการเปลยี่ นแนวสมั ผสั (CT, X... Y... Z...) .......................................206
9.7 การอนิ เตอรโพเลตแบบเฮลิคอล (G2/G3, TURN) ............................................................................209
9.8 การอนิ เตอรโ พเลตเสน โคง (INVCW, INVCCW) .............................................................................212
9.9 ขอกําหนดเสน ขอบ ........................................................................................................................217
9.9.1 การโปรแกรมขอ กําหนดเสน ขอบรปู ................................................................................................217
9.9.2 ขอ กาํ หนดเสน ขอบรปู : เสน ตรงหนึง่ เสน ...........................................................................................218
9.9.3 ขอ กําหนดเสน ขอบรปู : เสนตรงสองเสน ............................................................................................219
9.9.4 ขอ กาํ หนดเสน ขอบรปู : เสนตรงสามเสน ...........................................................................................223
9.9.5 ขอกาํ หนดเสน ขอบรปู : การโปรแกรมจุดสนิ้ สดุ ดวยมมุ .......................................................................226
9.10 การตัดเกลยี ว ................................................................................................................................227
9.10.1 การตดั เกลยี วแบบระยะนาํ คงท่ี (G33, SF).......................................................................................227
9.10.2 ทางเดนิ เครอื่ งเขา และออกท่โี ปรแกรมไว (DITS, DITE) : .................................................................233
9.10.3 การตัดเกลยี วแบบระยะนําเพม่ิ ขึ้นหรอื ลดลง (G34, G35) ..................................................................235
9.10.4 การรน กลบั อยา งรวดเรว็ ระหวา งการตดั เกลยี ว (LFON, LFOF, DILF, ALF, LFTXT, LFWP,
LFPOS, POLF, POLFMASK, POLFMLIN).................................................................................237
พื้นฐาน 9
คมู อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
สารบัญ
9.11 การตาป ...................................................................................................................................... 241
9.11.1 การตาปโดยไมม ีการชดเชยหวั จบั (G331, G332)........................................................................... 241
9.11.2 กา0รตา ปโดยใชห วั จบั ชดเชย (G63) ............................................................................................. 245
9.12 การลบมุมแบบตัด, การลบมุมแบบมน (CHF, CHR, RND, RNDM, FRC, FRCM)............................. 246
10 การชดเชยรศั มเี ครอ่ื งมอื ........................................................................................................................... 253
10.1 การชดเชยรศั มเี ครอ่ื งมอื (G40, G41, G42, OFFN) ....................................................................... 253
10.2 การเคลอ่ื นเขา หาและการออกจากเสน ขอบรปู (NORM, KONT, KONTC, KONTT) .......................... 263
10.3 การชดเชยที่มมุ ดานนอก (G450, G451, DISC) ............................................................................. 270
10.4 การเขา ใกลแ ละการรน กลบั อยา งนุมนวล......................................................................................... 274
10.4.1 การเคลอื่ นเขาและการรน กลบั (G140 ถงึ G143, G147, G148, G247, G248, G347, G348,
G340, G341, DISR, DISCL, DISRP, FAD, PM, PR) ................................................................. 274
10.4.2 การเคลอื่ นเขาและการรนกลบั ดวยวธิ กี ารรน กลับแบบขยาย (G460, G461, G462) ............................ 285
10.5 การตรวจสอบการชน (CDON, CDOF, CDOF2): .......................................................................... 289
10.6 2D การชดเชยเครอื่ งมอื (CUT2D, CUT2DF) ................................................................................ 292
10.7 รกั ษาคา คงท่กี ารชดเชยรศั มเี ครอ่ื งมอื (CUTCONON, CUTCONOF) .............................................. 295
10.8 เครอ่ื งมอื ที่มีตําแหนง คมตดั เกย่ี วเน่ือง ............................................................................................. 297
11 การดาํ เนนิ การของทางเดนิ ........................................................................................................................ 299
11.1 จดุ หยุดทกี่ ําหนด (G60, G9, G601, G602, G603)......................................................................... 299
11.2 โหมดทางเดินตอ เนอื่ ง (G64, G641, G642, G643, G644, G645, ADIS, ADISPOS)...................... 302
12 การแปลงพกิ ดั (เฟรม) ............................................................................................................................... 313
12.1 เฟรม........................................................................................................................................... 313
12.2 คำสง่ั เฟรม ................................................................................................................................... 314
12.3 ออฟเซ็ตศนู ยทตี่ งั้ โปรแกรมได ....................................................................................................... 318
12.3.1 ออฟเซ็ตศนู ย (TRANS, ATRANS) ............................................................................................... 318
12.3.2 Axial zero offset (G58, G59)...................................................................................................... 322
12.4 การหมนุ ทสี่ ามารถโปรแกรมได (ROT, AROT, RPL)...................................................................... 325
12.5 การหมนุ เฟรมทโ่ี ปรแกรมไดด วยมมุ ตนั (ROTS, AROTS, CROTS) ................................................ 333
12.6 ตวั คูณสเกลท่ีโปรแกรมได (SCALE, ASCALE).............................................................................. 335
12.7 การมิเรอรท ่โี ปรแกรมได (MIRROR, AMIRROR) .......................................................................... 338
12.8 การสรา งเฟรมตามทศิ ทางของเครอื่ งมือ (TOFRAME, TOROT, PAROT):....................................... 344
12.9 ยกเลกิ การเลือกเฟรม (G53, G153, SUPA, G500) ........................................................................ 347
12.10 การยกเลกิ การเลอื กการเคลอ่ื นท่แี บบโอเวอรเลย (DRFOF, CORROF) ............................................ 348
13 เอาทพ ตุ ฟง กช น่ั เสรมิ ................................................................................................................................ 351
13.1 ฟังกช่ัน M ................................................................................................................................... 354
14 คำสงั่ เพม่ิ เตมิ ........................................................................................................................................... 359
14.1 การแสดงขอความ (MSG)............................................................................................................. 359
14.2 การเขยี นสตรงิ ในตวั แปร OPI (WRTPR)....................................................................................... 361
พ้นื ฐาน
10 คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
สารบญั
14.3 ขีดจํากดั พน้ื ทท่ี าํ งาน......................................................................................................................362
14.3.1 ขีดจาํ กัดพ้นื ทที่ าํ งานใน BCS (G25/G26, WALIMON, WALIMOF) ................................................362
14.3.2 ขอจํากดั พืน้ ท่ที ำงานใน WCS/SZS (WALCS0 ... WALCS10)........................................................365
14.4 การเคลอื่ นเขาจุดอา งองิ (G74).......................................................................................................368
14.5 การเคลอ่ื นเขา จดุ คงท่ี (G75)..........................................................................................................369
14.6 เคลอ่ื นที่ไปยงั จดุ หยุดทก่ี ําหนด (FXS, FXST, FXSW).....................................................................373
14.7 เวลาคา งอยขู องเครอ่ื งมือ (G4) .......................................................................................................378
14.8 การหยดุ การเตรียมประมวลผลภายใน .............................................................................................379
15 ขอ มลู อนื่ ๆ................................................................................................................................................ 381
15.1 แกน.............................................................................................................................................381
15.1.1 แกนหลกั /แกนรปู ทรง ....................................................................................................................382
15.1.2 แกนพเิ ศษ ....................................................................................................................................383
15.1.3 สปน เดิลหลกั , สปน เดลิ มาสเตอร .....................................................................................................383
15.1.4 แกนเครอื่ งจักร ..............................................................................................................................384
15.1.5 แกนแชนเนล ................................................................................................................................384
15.1.6 แกนทางเดนิ .................................................................................................................................384
15.1.7 แกนตาํ แหนง ................................................................................................................................384
15.1.8 แกนซงิ โครไนซ ............................................................................................................................385
15.1.9 แกนคาํ สงั่ .....................................................................................................................................386
15.1.10 แกน PLC.....................................................................................................................................386
15.1.11 แกนเชือ่ มโยง ...............................................................................................................................386
15.1.12 แกนเชื่อมโยงนำ ...........................................................................................................................388
15.2 จากคาํ สั่งเคลือ่ นทถ่ี ึงการเคลอื่ นท่ขี องเครอื่ งจกั ร ...............................................................................390
15.3 การคาํ นวณทางเดินเครอื่ งมอื .........................................................................................................390
15.4 แอดเดรส......................................................................................................................................391
15.5 ตวั ระบ.ุ .........................................................................................................................................393
15.6 คาคงที .........................................................................................................................................395
16 ตาราง..................................................................................................................................................... 399
16.1 การทํางาน....................................................................................................................................399
16.2 การทํางาน: มใี หใชใ น SINUMERIK 828D....................................................................................448
16.3 แอดเดรส......................................................................................................................................472
16.3.1 ตัวอกั ษรแอดเดรส .........................................................................................................................472
16.3.2 แอดเดรสคงที ...............................................................................................................................473
16.3.3 แอดเดรสท่ีตง้ั คา ได .......................................................................................................................477
16.4 ฟงั กช่ัน G ....................................................................................................................................483
16.5 ข้นั ตอนทกี่ ําหนดไวล ว งหนา ...........................................................................................................506
16.6 ขัน้ ตอนทีก่ ําหนดไวล ว งหนาในการดาํ เนินการแบบซงิ โครไนซ ..........................................................528
16.7 ฟังกชัน่ ที่กําหนดไวลว งหนา ...........................................................................................................530
16.8 ภาษาปจจบุ นั ทใี่ ชแ สดงในจอ (HMI) ...............................................................................................542
A ภาคผนวก ............................................................................................................................................... 543
A.1 รายการของตวั ยอ..........................................................................................................................543
พน้ื ฐาน 11
คูม ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
สารบัญ
A.2 รายละเอยี ดโดยรวมของเอกสาร ..................................................................................................... 552
อภธิ านศพั ท ............................................................................................................................................. 553
ดชั นี ....................................................................................................................................................... 575
พ้ืนฐาน
12 คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณิตพน้ื ฐาน 1
1.1 ตำแหนง ชน้ิ งาน
1.1.1 ระบบพกิ ดั ของชน้ิ งาน
การท่ีเครอื่ งจกั รหรอื ตัวควบคมุ จะสามารถทาํ งานตามตาํ แหนงท่รี ะบไุ วในโปรแกรม NC
ไดน ้นั จะตอ งมกี ารกําหนดคา ตา งๆ
เหลา นใ้ี นระบบอา งองิ ทสี่ ามารถเปลีย่ นเปน ทศิ ทางการเคลอ่ื นท่ขี องแกนเคร่ืองจักร
จึงมกี ารนําระบบพกิ ดั ท่มี ีแกน X, Y และ Z มาใชเ พอื่ วตั ถุประสงคน ี้
DIN 66217 กําหนดไวว า เครอื่ งจกั รจะตอ งใชระบบพกิ ัดมุมฉาก (คารท ีเซยี น) ตามเข็มนาฬิกา
< =
= ; ; <
r r
: r r : r r
; = < ;
<
=
ระบบพกิ ัดของชน้ิ งานสําหรบั การกลงึ
ระบบพิกัดของชน้ิ งานสําหรบั การกดั
ตําแหนง ศนู ยข องชน้ิ งาน (W) คอื จดุ ตงั้ ตนในระบบพกิ ดั ของชิ้นงาน
ในบางครงั้ เราควรใชหรืออาจมีความจาํ เปน ตอ งระบุตาํ แหนง ทต่ี ดิ ลบ ดงั น้ัน
ตําแหนง ทอ่ี ยทู างซา ยของจุดศนู ยจ งึ ถูกกาํ หนดดว ยเครอ่ื งหมายติดลบ ("-")
พื้นฐาน 13
คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณิตพนื้ ฐาน
1.1 ตําแหนง ชน้ิ งาน
1.1.2 ระบบพกิ ดั คารท เี ซยี น
แกนตางๆ ในระบบพิกัดจะมีการกาํ หนดระยะ ซึ่งชวยใหส ามารถระบทุ ุกจดุ ในระบบพกิ ัดไดอ ยางชัดเจน
รวมถึงตาํ แหนง ของชน้ิ งานทัง้ หมดผา นทศิ ทาง (X, Y และ Z) และคา ตวั เลขสามคา
ทง้ั น้ีตาํ แหนง ศนู ยข องช้ินงานมพี ิกัดเทา กบั X0, Y0 และ Z0 เสมอ
การระบตุ าํ แหนงในรปู ของระบบพิกดั คารท เี ซยี น
เพอื่ ใหเ ขาใจงา ยขึ้น เราจะพจิ ารณาเฉพาะระบบพิกดั ในระนาบเดยี วสาํ หรบั ตัวอยางนี้ นน่ั คอื ระนาบ
X/Y:
<
3
3
; ;
3
3
<
จุด P1 ถงึ P4 มพี ิกัดดงั ตอ ไปน:้ี
ตาํ แหนง พกิ ดั
P1 X100 Y50
P2 X-50 Y100
P3 X-105 Y-115
P4 X70 Y-75
พนื้ ฐาน
14 คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณิตพนื้ ฐาน
1.1 ตําแหนง ชน้ิ งาน
ตวั อยา ง: ตําแหนง ชนิ้ งานสาํ หรบั การกลึง
สาํ หรบั เครอื่ งกลึง ใชเ พียงระนาบเดยี วก็เพยี งพอที่จะระบเุ สน ขอบรปู ได:
;
3
3 3
3
=
จดุ P1 ถึง P4 มีพกิ ดั ดงั ตอ ไปน:ี้
ตาํ แหนง พิกดั
P1 X25 Z-7.5
P2 X40 Z-15
P3 X40 Z-25
P4 X60 Z-35
พน้ื ฐาน 15
คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการเรขาคณิตพน้ื ฐาน
1.1 ตําแหนง ชนิ้ งาน
ตวั อยา ง: ตําแหนง ชนิ้ งานสาํ หรบั การกดั
สาํ หรบั การกดั จะตอ งระบคุ วามลกึ ของการปอ นดว ย น่ันคอื ตองกาํ หนดคา ตัวเลขพิกัดท่ีสาม
(ในกรณนี ค้ี ือ Z) ดว ย
< <
3 3
3 3
3 3
; =
จดุ P1 ถงึ P3 มีพิกัดดังตอ ไปน้ี:
ตาํ แหนง พิกดั
P1 X10 Y45 Z-5
P2 X30 Y60 Z-20
P3 X45 Y20 Z-15
พื้นฐาน
16 คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการเรขาคณิตพ้นื ฐาน
1.1 ตาํ แหนงชน้ิ งาน
1.1.3 ระบบพกิ ดั เชงิ ขว้ั
ระบบพกิ ัดเชิงขัว้ สามารถนาํ มาใชแ ทนระบบพิกดั คารท เี ซยี นในการระบตุ าํ แหนง ชิ้นงานได
ซึ่งมปี ระโยชนเมือ่ กําหนดระยะของชนิ้ งานหรอื สวนของชน้ิ งานเปน รศั มแี ละมมุ
จุดเร่ิมตน ของระยะเรยี กวา "ขัว้ "
การระบตุ าํ แหนงในรูปของระบบพกิ ดั เชงิ ขว้ั
ระบบพิกัดเชิงข้วั ประกอบดวย รศั มเี ชงิ ขวั้ และ มมุ เชงิ ขว้ั
รัศมีเชงิ ขั้วคอื ระยะระหวา งขวั้ และตาํ แหนง
มุมเชิงขั้วคอื มุมระหวางรัศมีเชงิ ขวั้ และแกนนอนของระนาบการทาํ งาน
มุมเชงิ ข้วั ท่เี ปน ลบจะอยูในทิศทางตามเข็มนาฬกิ า
สวนมมุ เชิงขั้วที่เปนบวกจะอยใู นทศิ ทางทวนเข็มนาฬกิ า
ตวั อยา ง
<
3
3
r
r
࠹ࡨ ࡼ࡞
;
จดุ P1 และ P2 สามารถระบโุ ดยอางองิ กับขวั้ ไดดงั น:ี้
ตาํ แหนง ระบบพกิ ดั เชงิ ขว้ั
P1 RP=100 AP=30
P2 RP=60 AP=75
RP: รศั มเี ชงิ ข้วั
AP: มมุ เชิงขัว้
พืน้ ฐาน 17
คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณติ พน้ื ฐาน
1.1 ตําแหนง ชนิ้ งาน
1.1.4 ระยะสมั บรู ณ
การระบตุ าํ แหนงในระยะสัมบรู ณ
เมอ่ื ใชร ะยะสมั บูรณ การระบตุ าํ แหนงทัง้ หมดจะอางองิ จดุ ศนู ยที่ใชไ ดใ นปจ จบุ ัน
เมือ่ นาํ ไปใชกับการเคลอ่ื นทข่ี องเครอื่ งมอื จะหมายถงึ :
ตาํ แหนง ทเ่ี ครอ่ื งมอื จะเคลอ่ื นทไ่ี ป
ตวั อยา ง: การกลงึ
;
3
3 3
3
=
ในระยะสัมบรู ณ จะไดก ารระบตุ าํ แหนง ตอ ไปนี้สาํ หรบั จดุ P1 ถงึ P4:
ตาํ แหนง การระบตุ ําแหนง ในระยะสมั บรู ณ
P1 X25 Z-7.5
P2 X40 Z-15
P3 X40 Z-25
P4 X60 Z-35
พืน้ ฐาน
18 คูม ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณิตพ้นื ฐาน
1.1 ตาํ แหนงชนิ้ งาน
ตวั อยา ง: การกัด
<
3
3
3
;
ในระยะสัมบรู ณ จะไดการระบตุ าํ แหนง ตอ ไปน้สี าํ หรบั จดุ P1 ถงึ P3:
ตาํ แหนง การระบตุ าํ แหนง ในระยะสมั บรู ณ
P1 X20 Y35
P2 X50 Y60
P3 X70 Y20
พนื้ ฐาน 19
คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณิตพ้ืนฐาน
1.1 ตาํ แหนง ชนิ้ งาน
1.1.5 ระยะทเี่ พ่ิมขน้ึ
การระบตุ าํ แหนง ในระยะทเี่ พม่ิ ขน้ึ
ในงานออกแบบการผลติ ระยะมักจะไมไ ดอ างถึงจดุ ศูนย แตอ า งองิ ไปยงั จดุ อืน่ บนชน้ิ งาน
และเพื่อใหไ มตอ งแปลงระยะดงั กลาว จงึ สามารถระบุเปนแบบระยะทีเ่ พ่มิ ข้ึนได
สําหรบั การกาํ หนดระยะดวยวธิ ีน้ี การระบตุ าํ แหนงจะอา งถึงจดุ กอนหนา
เม่อื นําไปใชก บั การเคลอื่ นท่ีของเครอ่ื งมอื จะหมายถึง:
ระยะทเี่ พม่ิ ขน้ึ จะระบรุ ะยะทเี่ ครอ่ื งมอื จะเคลอ่ื นทไี่ ป
ตวั อยา ง: การกลงึ
;
3
3 3
3
=
ในระยะทเ่ี พิม่ ขนึ้ จะไดการระบตุ ําแหนง ตอ ไปนีส้ าํ หรบั จดุ P2 ถงึ P4:
ตาํ แหนง การระบตุ าํ แหนง ในระยะทเี่ พมิ่ ขนึ้ การระบุจะอา งถงึ :
P2 X15 Z-7.5 P1
P3 Z-10 P2
P4 X20 Z-10 P3
หมายเหตุ
ถา DIAMOF หรือ DIAM90 ทาํ งานอยู ระยะท่ีตงั้ ไวใ นระยะทเี่ พิม่ ขึน้ (G91) จะถกู โปรแกรมเปน ระยะรศั มี
พน้ื ฐาน
20 คมู อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณิตพน้ื ฐาน
1.1 ตําแหนงชน้ิ งาน
ตวั อยา ง: การกดั
การระบตุ ําแหนง สาํ หรับจุด P1 ถงึ P3 ในระยะท่เี พิม่ ขน้ึ คอื :
<
3
3
3
;
ในระยะทเี่ พมิ่ ขน้ึ จะไดก ารระบตุ าํ แหนง ตอ ไปนี้สาํ หรบั จดุ P1 ถงึ P3:
ตาํ แหนง การระบตุ ําแหนง ในระยะทเ่ี พม่ิ ขนึ้ การระบุจะอา งถงึ :
P1 X20 Y35 จดุ ศูนย
P2 X30 Y20 P1
P3 X20 Y -35 P2
พ้ืนฐาน 21
คูม อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการเรขาคณิตพนื้ ฐาน
1.2 ระนาบการทํางาน
1.2 ระนาบการทาํ งาน
โปรแกรม NC ตอ งมขี อมลู เก่ยี วกับระนาบทจ่ี ะทํางาน
หนวยควบคมุ จงึ จะสามารถคาํ นวณออฟเซ็ตเครอ่ื งมือท่ีถูกตอ งระหวา งการดาํ เนนิ การของโปรแกรม NC
การกําหนดระนาบการทํางานยงั เก่ยี วขอ งกบั การโปรแกรมทางเดนิ เครอ่ื งมอื เปนเสนโคง บางชนดิ และระบ
บพิกัดเชงิ ข้ัวดว ย
แกนพกิ ัดสองแกนเปนตวั กําหนดระนาบการทํางาน แกนพกิ ัดทสี่ ามจะตัง้ ฉากกบั ระนาบน้ี
และกําหนดทศิ ทางการปอ นของเครอ่ื งมอื (เชน สําหรบั การตัดเฉอื นแบบ 2 มติ ิ)
ระนาบการทาํ งานสาํ หรับการกลงึ /การกัด
< * = <
* ; *
*
* *
= ;
ระนาบการทาํ งานสําหรบั การกลงึ ระนาบการทาํ งานสาํ หรบั การกัด
การโปรแกรมระนาบการทาํ งาน
ระนาบการทํางานกาํ หนดอยใู นโปรแกรม NC ดวยคาํ สงั่ G G17, G18 และ G19 ดังตอ ไปน:ี้
คําสงั่ G ระนาบการทํางาน ทศิ ทางการปอ นเขา คา แกน X คาแกน Y คาแกน Z
G17 X/Y Z X Y Z
G18 Z/X Y Z X Y
G19 Y/Z X Y Z X
พ้ืนฐาน
22 คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการเรขาคณิตพ้นื ฐาน
1.3 จดุ ศนู ยแ ละจดุ อา งองิ
1.3 จุดศนู ยแ ละจุดอา งองิ
บนเครอ่ื ง NC จะมกี ารกาํ หนดจุดศนู ยแ ละจดุ อางองิ ตา งๆ ดงั น:้ี
จดุ ศนู ย จดุ ศูนยข องเครอ่ื งจกั ร
M จุดศูนยข องเครอื่ งจกั รจะกาํ หนดระบบพิกดั ของเคร่ืองจักร (MCS) จดุ อา งอิงอ่นื ๆ
ทั้งหมดจะอา งถึงจุดศูนยของเครอ่ื งจักร
W จุดศนู ยของชนิ้ งาน = จุดศูนยของโปรแกรม
จุดศนู ยข องชนิ้ งานจะกาํ หนดระบบพิกดั ของช้นิ งานทส่ี ัมพันธกบั จุดศนู ยของเครื่องจกั ร
A
จดุ บลอ็ ก
สามารถเปน จดุ เดยี วกับจดุ ศูนยของช้ินงาน (เฉพาะเครอื่ งกลึง)
จดุ อา งองิ จดุ อางองิ
R ตาํ แหนง ทกี่ าํ หนดโดยลูกเบี้ยวเอาตพ ุตและระบบวดั
โดยจะตองทราบระยะถงึ จุดศนู ยของเครือ่ งจักร M
B เพอ่ื ใหส ามารถต้ังคา ตาํ แหนง แกนทจี่ ุดนี้เปน คา นี้ได
T
จุดเริม่ ตน
N สามารถกําหนดไดจ ากโปรแกรม เครอ่ื งมอื การตดั เฉอื นแรกจะเริ่มตน ทีน่ ี่
จดุ อางองิ ตวั จับยึดเคร่ืองมอื
อยบู นตวั จับยึดเคร่อื งมอื เม่ือปอนความยาวเครื่องมือ
ตวั ควบคุมจะคาํ นวณระยะระหวา งปลายเคร่อื งมอื กับจุดอา งองิ ตวั จับยึดเครอื่ งมอื
จุดเปล่ียนเครือ่ งมือ
พ้นื ฐาน 23
คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณิตพนื้ ฐาน 5
1.3 จดุ ศนู ยและจุดอา งองิ 1
จดุ ศูนยแ ละจดุ อา งองิ สาํ หรบั การกลึง %
; $ :=
0
จดุ ศนู ยส าํ หรบั การกดั
<
: :
0 ;
พน้ื ฐาน
24 คมู อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
1.4 หลกั การเรขาคณติ พ้ืนฐาน
1.4 ระบบพิกัด
1.4.1
ระบบพกิ ดั
ระบบพกิ ัดตา งๆ มีความแตกตา งกนั ดังตอไปน:้ี g
● ระบบพิกดั ของเครอ่ื งจกั ร (MCS) (หนา 25) ที่ใชต าํ แหนง ศูนยของเครอื่ ง M
● ระบบพกิ ัดพ้ืนฐาน (BCS) (หนา 28)
● ระบบตําแหนง ศนู ยพ ื้นฐาน (BZS) (หนา 30)
● ระบบตําแหนง ศูนยท ตี่ ้งั คา ได (SZS) (หนา 31)
● ระบบพกิ ัดของชน้ิ งาน (WCS) (หนา 32) พรอ มดว ยตําแหนง ศนู ยข องชน้ิ งาน W
ระบบพกิ ดั ของเครอ่ื งจกั ร (MCS)
ระบบพกิ ดั ของเครอื่ งจักรประกอบดว ยแกนเครอ่ื งจักรทงั้ หมดที่มอี ยู
จุดอา งอิงและเครอ่ื งมือรวมถงึ จดุ เปลยี่ นพาเลท (จุดตรงึ เครอื่ งจักร) จะระบอุ ยูใ นระบบพิกดั ของเครอ่ื งจกั ร
=P <P
0
;P
หากเปน การโปรแกรมในระบบพิกัดของเครอื่ งจักรโดยตรง (อาจใชฟ ง กช น่ั G บางฟงกช น่ั )
แกนของเครอ่ื งจกั รจะใชค า นน้ั โดยไมค าํ นงึ ถงึ การจบั ยดึ ชนิ้ งานทีม่ อี ยู
หมายเหตุ
หากมรี ะบบพิกดั ของเครอ่ื งจักรหลายระบบ (เชน การแปลง 5 แกน)
การแปลงภายในจะถูกนาํ มาใชใ นการแมปคเิ นเมตกิ ของเครอ่ื งจักรในระบบพกิ ัดท่มี ีการโปรแกรมไว
พ้ืนฐาน 25
คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณติ พ้ืนฐาน
1.4 ระบบพิกดั
กฎสามนวิ้
การกําหนดทศิ ทางในระบบพกิ ัดทส่ี มั พนั ธก ับเครอื่ งจักรขึ้นอยกู บั ชนดิ เครอ่ื งจักร
ทิศทางของแกนจะเปนไปตามกฎท่เี รยี กวา "กฎสามนว้ิ " ของมอื ขวา (ตามขอ มูลของ DIN 66217)
ถามองจากดา นหนาของเคร่อื งจักร
น้วิ กลางของมอื ขวาจะชี้ไปยงั ทิศทางตรงขามกบั การปอ นเขาของสปน เดลิ หลกั ดังนน้ั :
● นวิ้ โปงจะชไี้ ปในทิศทาง +X
● นวิ้ ชี้จะชไี้ ปในทิศทาง +Y
● นว้ิ กลางจะช้ีไปในทศิ ทาง +Z
=
<
;
รปู 1-1 "กฎสามน้วิ "
การหมุนรอบแกนพิกดั X, Y และ Z เปน การระบตุ ําแหนง A, B และ C
หากเปนการหมนุ ในทศิ ทางตามเขม็ นาฬิกาเมอื่ ใชท ิศทางดา นบวกของแกนพกิ ัด
ทิศทางการหมนุ จะเปนบวก:
; < = <
ࡴ࠸ࡐࡌ࠾ࡨࡼ ࡀࡩ࠸࠸ࡨࡐ %
$ % & r
ࡴ࠸ࡐࡢࡘࡐ ;
ࡢࡘࡐ ࡚ࡤࡑ ; < = $
&
=
พื้นฐาน
26 คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการเรขาคณิตพนื้ ฐาน
1.4 ระบบพิกัด
ตาํ แหนงของระบบพิกดั ในเครอื่ งจกั รชนดิ ตา งๆ
ตาํ แหนง ของระบบพิกัดทไี่ ดจ าก "กฎสามนิ้ว" อาจมที ศิ ทางทแี่ ตกตางกนั สาํ หรบั เครอ่ื งจักรแตล ะชนดิ
ลองดูตัวอยา งตอ ไปน:้ี
=
<
% < ;
= ;
&
< ; &
& &
= %
%
=
; <
พ้ืนฐาน 27
คมู อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การเรขาคณติ พน้ื ฐาน
1.4 ระบบพิกัด
1.4.2 ระบบพกิ ดั พนื้ ฐาน (BCS)
ระบบพิกดั พ้ืนฐาน (BCS) ประกอบดว ยแกนสามแกนทีต่ งั้ ฉากกัน (แกนรูปทรง) และแกนพิเศษอน่ื ๆ
ซึ่งไมมคี วามเกย่ี วขอ งกนั ในทางเรขาคณติ
เครอ่ื งจกั รทไี่ มม กี ารแปลงคิเนเมตกิ
BCS และ MCS จะตรงกันเสมอเมื่อสามารถแมป BCS กบั MCS โดยไมม กี ารแปลงคเิ นเมตกิ (เชน
การแปลง 5 แกน, TRANSMIT/TRACYL/TRAANG)
สาํ หรบั เครอ่ื งจกั รดังกลา ว แกนเครอื่ งจกั รและแกนรปู ทรงสามารถใชช อ่ื เดยี วกนั ได
<
࡚ࡧࡑࡑࡕ࠸ࡨࡋ࠹ࡤ࠾ࡳ࠻ ;
࡚ࡤࡻ ࠾ࡨ࠸࡚ %&6 ࡋࡐࡰ ࡙࠹ࡿ ࡤ࠾ࡳ࠻࡚ࡤࡻ ࠾࠸ࡨ ࡚
=
รูป 1-2 MCS = BCS ที่ไมม กี ารแปลงคิเนเมติก
พนื้ ฐาน
28 คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการเรขาคณิตพนื้ ฐาน
1.4 ระบบพิกัด
เครอื่ งจกั รทมี่ กี ารแปลงคเิ นเมตกิ
BCS และ MCS จะไมต รงกันเมื่อมกี ารแมป BCS กับ MCS ทีม่ กี ารแปลงคเิ นเมติก (เชน การแปลง 5
แกน, TRANSMIT/TRACYL/TRAANG)
สาํ หรบั เคร่ืองจกั รดงั กลาว แกนเครอื่ งจกั รและแกนรปู ทรงตอ งมชี ่อื ตางกนั
<%&6
࠸ࡩ࡚ࡴࡒ࠾࠻ࡳࡐࡳࡘࡌ࠸
<0&6
= %&6 ;%&6
࡚ࡧࡑࡑࡕ࠸ࡨࡋࡕࡐࡼ ࡇࡩࡐ %&6
; 0&6
= 0&6 ࡚ࡧࡑࡑࡕ࠸ ࡨࡋ࠹ࡤ࠾ࡳ࠻࡚ࡻࡤ ࠾࠸ࡨ ࡚ 0&6
รปู 1-3 การแปลงคเิ นเมติกระหวาง MCS และ BCS
คิเนเมตกิ ของเครอื่ งจกั ร
ช้นิ งานจะถกู โปรแกรมโดยใชระบบพกิ ัดมุมฉากแบบสองหรือสามมิตเิ สมอ (WCS) อยา งไรกต็ าม
ชน้ิ งานดงั กลา วมกั จะถกู โปรแกรมในเครอื่ งจกั รโดยใชแ กนหมุนหรอื แกนเชิงเสนท่ไี มต งั้ ฉากตอ กนั
การแปลงคิเนเมติกใชแสดงพกิ ัดทโ่ี ปรแกรมไวใ นระบบพิกดั ของชนิ้ งาน (ฉาก)
สําหรบั การเคลอ่ื นทข่ี องเครอื่ งจักร
ขอ มลู อา งองิ
คูมอื ฟง กช น่ั , ฟงกชนั่ เสรมิ - M1: การแปลงคเิ นเมติก
คูม อื ฟง กชนั่ , ฟง กช่นั พิเศษ - F2: การแปลงหลายแกน
พ้นื ฐาน 29
คมู อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการเรขาคณติ พืน้ ฐาน
1.4 ระบบพิกัด
1.4.3 ระบบตาํ แหนงศนู ยพ นื้ ฐาน (BZS)
ระบบตําแหนง ศนู ยพ ้ืนฐาน (BZS) คือระบบพิกดั พื้นฐานทม่ี ีออฟเซ็ตพน้ื ฐาน
<
ࡤࡤࡖࡳࡂࡌࡺ ࡕࡼࡐࡇࡩࡐ
<
;
࡚ࡧࡑࡑࡌࡪࡴࡢࡐࡻ࠾ࡰࡐ࡙ࡿࡕࡼࡐࡇࡩࡐ %=6
=
;
࡚ࡧࡑࡑࡕ࠸ ࡨࡋࡕࡼࡐ ࡇࡩࡐ %&6
=
ออฟเซต็ พน้ื ฐาน
ออฟเซ็ตพนื้ ฐานจะระบุการแปลงพิกดั ระหวาง BCS และ BZS
โดยสามารถใชใ นกาํ หนดตาํ แหนง ศนู ยข องหนาตางพาเลท เปนตน
ออฟเซ็ตพ้ืนฐานประกอบดว ย:
● ออฟเซ็ตศนู ยภายนอก
● ออฟเซต็ DRF
● การเคลอื่ นทแี่ บบโอเวอรเ ลย
● เฟรมระบบท่ีเชอื่ มตอ กนั
● เฟรมพนื้ ฐานท่เี ช่ือมตอ กัน
ขอ มูลอา งองิ
คูม อื ฟงกช น่ั , ฟง กช น่ั พนื้ ฐาน - แกน, ระบบพิกดั , เฟรม (K2)
พ้นื ฐาน
30 คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการเรขาคณติ พ้นื ฐาน
1.4 ระบบพกิ ดั
1.4.4 ระบบตาํ แหนง ศนู ยท ตี่ งั้ คา ได (SZS)
ออฟเซต็ ศนู ยท ต่ี ั้งคา ได
"ระบบตําแหนง ศูนยทต่ี ัง้ คา ได" (SZS) ไดม าจากระบบตาํ แหนง ศนู ยพ ้นื ฐาน (BZS)
ไปยังออฟเซ็ตศูนยท ตี่ ง้ั คาได
ออฟเซ็ตศนู ยทต่ี ั้งคา ไดจะถกู เปด ใชง านในโปรแกรม NC ดว ยคาํ สั่ง G G54...G57 และ G505...G599
ดงั น:้ี
<
* *
<
;
= ࡚ࡧࡑࡑࡌࡪࡴࡢࡐࡻ࠾ࡐࡰ ࡙ࡎࡿ ࡻࡌ࠾ࡨࡼ ࠻ࡩࡻ ࡷࡋࡼ
6=6
;
࡚ࡧࡑࡑࡌࡪࡴࡢࡐࡻ࠾ࡰࡐ࡙ࡕࡿ ࡐࡼ ࡇࡩࡐ %=6
=
หากการแปลงพกิ ัดทต่ี งั้ โปรแกรมได (เฟรม) ไมไ ดใชง านอยู "ระบบตาํ แหนงศนู ยที่ตง้ั คา ได"
จะเปน ระบบพิกดั ของชิ้นงาน (WCS)
การแปลงพกิ ดั ทต่ี งั้ โปรแกรมได (เฟรม)
บางคร้ังในโปรแกรม NC อาจจาํ เปนหรอื ควรตองยา ยระบบพกิ ดั ของช้นิ งานที่เลอื กไวในตอนแรก (หรอื
"ระบบตําแหนง ศนู ยทตี่ ้ังคา ได" ) ไปยงั ตาํ แหนง อนื่ และอาจตอ งหมนุ สะทอ น
และ/หรอื ปรบั สเกลตามความจาํ เปน ซงึ่ สามารถดาํ เนนิ การไดโ ดยใชการแปลงพกิ ดั ทต่ี ้งั โปรแกรมได
(เฟรม)
ดูหัวขอ : "การแปลงพิกัด (เฟรม)"
หมายเหตุ
การแปลงพิกดั ท่ีตัง้ โปรแกรมได (เฟรม) มักจะหมายถงึ "ระบบตําแหนง ศนู ยท ต่ี งั้ คาได"
พ้ืนฐาน 31
คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการเรขาคณติ พ้นื ฐาน
1.4 ระบบพกิ ดั
1.4.5 ระบบพกิ ดั ของชน้ิ งาน (WCS)
รูปทรงของชนิ้ งานมกี ารระบุไวใ นระบบพกิ ัดของชนิ้ งาน (WCS) หรอื อาจกลา วไดว าขอ มูลในโปรแกรม
NC จะอา งองิ กบั ระบบพิกดั ของชนิ้ งาน
ระบบพกิ ดั ของชน้ิ งานใชร ะบบพกิ ดั คารท เี ซยี นเสมอ และกาํ หนดสาํ หรบั ชนิ้ งานท่ตี อ งการ
1.4.6 ระบบพกิ ดั ตา งๆ มคี วามสมั พนั ธก นั อยา งไร
ตวั อยา งทแ่ี สดงอยูในรปู ตอ ไปน้ีจะชวยใหเขา ใจถึงความสัมพนั ธระหวางระบบพิกัดตางๆ:
] ࠸ࡩ࡚ࡴࡒ࠾ࡕ࠸ࡋࡨ ࡎࡵࡻ ࡒ࡚ࡴ࠸࡚ࡘࡷࡋࡼ
]
ࡤࡤࡖࡳࡂࡺࡌ࠾ࡩࡐࡎࡻࡌࡨ࠾ࡼ ࠻ࡩࡻ ࡷࡋࡼ
]
]
\\
\\ 6=6 :&6 [ ࡁࡐࡼ ࠾ࡩࡐ
ࡕࡩࡳࡎ
[
* ] ]
\\
0&6 %=6 *
%&6 6=6 :&6 [
[ [
ࡤࡤࡖࡳࡂࡺࡌࡕࡼࡐ ࡇࡩࡐ
[
ࡤࡤࡖࡳࡂࡺࡌ࠾ࡩࡐࡎࡌࡻ ࡨ࠾ࡼ ࠻ࡻࡩࡷࡋࡼ ࡁࡼࡐ ࠾ࡩࡐ
࠸ࡩ࡚ࡴࡒ࠾ࡕ࠸ ࡨࡋࡎࡻࡵࡒ࡚ࡴ࠸࡚ࡘࡷࡋࡼ
① การแปลงคเิ นเมติกไมท ํางาน นน่ั คอื ระบบพกิ ัดของเครอื่ งจักรและระบบพกิ ัดพน้ื ฐานมีคาตรงกนั
② ระบบตาํ แหนงศนู ยพื้นฐาน (BZS) พรอมคา ตําแหนงศูนยของพาเลทท่ีไดจากออฟเซต็ พื้นฐาน
③ "ระบบตําแหนง ศนู ยทตี่ ั้งคาได" (SZS) สําหรับชนิ้ งาน 1 หรอื ช้นิ งาน 2 จะระบุดว ยออฟเซ็ตศูนยทีต่ ง้ั คา ได
G54 หรอื G55
④ ระบบพกิ ดั ของชน้ิ งาน (WCS) ไดจากการแปลงพิกัดทต่ี ัง้ โปรแกรมได
พ้ืนฐาน
32 คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การพนื้ ฐานของการต้งั โปรแกรม NC 2
หมายเหตุ
DIN 66025 คอื แนวทางที่ใชใ นการเขียนโปรแกรม NC
2.1 ช่อื ของโปรแกรม NC
กฎในการต้งั ชอ่ื โปรแกรม
โปรแกรม NC แตละโปรแกรมมีชื่อที่แตกตางกนั
ทงั้ นสี้ ามารถเลอื กช่อื อะไรกไ็ ดร ะหวางที่สรา งโปรแกรมแตต อ งคาํ นึงถงึ เงอ่ื นไขตอไปน:ี้
● ชอ่ื ตอ งมอี กั ขระไมเ กิน 24 ตวั เนอื่ งจากช่ือโปรแกรมจะแสดงเพียง 24 ตัวแรกเทานน้ั ในโปรแกรม
NC
● อกั ขระท่ใี ชไดค อื :
– ตัวอักษร: A...Z, a...z
– ตวั เลข: 0...9
– เครอื่ งหมายขดี ลา ง: _
● อักขระสองตวั แรกตอ งเปน :
– ตวั อักษรสองตวั
หรอื
– เครอ่ื งหมายขดี ลา งและตวั อกั ษร
หากตั้งชอื่ ตามเงอื่ นไขดังกลา วนี้ จะสามารถเรยี กใชโปรแกรม NC
เปน โปรแกรมยอ ยจากโปรแกรมอน่ื ไดด วยการระบุเพยี งแคช อื่ โปรแกรมนั้น อยา งไรกต็ าม
หากชอ่ื โปรแกรมข้นึ ตน ดวยตวั เลข จะสามารถเรยี กโปรแกรมยอ ยผา นคาํ สงั่ CALL ไดเทา นนั้
ตวั อยา ง:
● _MPF100
● SHAFT
● SHAFT_2
พนื้ ฐาน 33
คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการพน้ื ฐานของการตงั้ โปรแกรม NC
2.1 ชอ่ื ของโปรแกรม NC
หมายเหตุ
ใหหลกี เล่ียงการใชช อ่ื โปรแกรมตอ ไปน้เี น่อื งจากเปน ชื่อทอี่ าจซา้ํ กบั แอพพลิเคชน่ั ของ Windows:
• CON, PRN, AUX, NUL
• COM1, COM2, COM3, COM4, COM5, COM6, COM7, COM8, COM9
• LPT1, LPT2, LPT3, LPT4, LPT5, LPT6, LPT7, LPT8, LPT9
สาํ หรบั ขอ จํากดั เพม่ิ เตมิ เก่ียวกบั การตงั้ ชอื่ โปรแกรม ใหดูท่ี "ตัวระบุ (หนา 393)"
ไฟลในรปู แบบเทปกระดาษเจาะรู
ไฟลโปรแกรมทส่ี รา งขนึ้ จากภายนอกท่ีอา นเขามาใน NC ผานอนิ เตอรเ ฟส V.24
ตอ งอยใู นรปู แบบเทปกระดาษเจาะรู
การตงั้ ชื่อไฟลใ นรปู แบบเทปกระดาษเจาะรจู ะตอ งเปน ไปตามกฎเพม่ิ เตมิ ดงั ตอ ไปน:้ี
● ช่ือโปรแกรมตอ งขน้ึ ตนดว ย "%":
%<Name>
● ชอื่ โปรแกรมตอ งมตี วั ระบุในรปู แบบอักขระ 3 ตวั :
%<Name>_xxx
ตวั อยา ง:
● %_N_SHAFT123_MPF
● %Flange3_MPF
หมายเหตุ
ชื่อของไฟลทจี่ ดั เกบ็ อยภู ายในหนว ยความจําของ NC จะขน้ึ ตนดว ย "_N_"
ขอ มูลอา งองิ
สาํ หรบั ขอ มลู เพ่ิมเติมเกย่ี วกับการสง การสรา ง และการบนั ทกึ โปรแกรมชนิ้ งาน ใหด ทู คี่ ูมอื การปฏบิ ตั ิงาน
พ้ืนฐาน
34 คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการพนื้ ฐานของการตงั้ โปรแกรม NC
2.2 โครงสรา งและเนื้อหาของโปรแกรม NC
2.2 โครงสรา งและเนือ้ หาของโปรแกรม NC
2.2.1 บลอ็ กและคอนโพเนนตข องบลอ็ ก
บลอ็ ก
โปรแกรม NC ประกอบดว ยบล็อก NC ตามลาํ ดับ
โดยแตละบลอ็ กจะมีขอ มลู สาํ หรับการดาํ เนนิ การขัน้ ตอนในการตัดเฉอื นชนิ้ งาน
คอมโพเนนตข องบลอ็ ก
บลอ็ ก NC ประกอบดว ยคอมโพเนนตตอ ไปน:้ี
● คําสงั่ ตามทรี่ ะบไุ วใ น DIN 66025
● อลิ ิเมนตภ าษาระดบั สูงของ NC
คาํ สง่ั ตามทรี่ ะบไุ วใน DIN 66025
คาํ สงั่ ตามทรี่ ะบไุ วใ น DIN 66025
ประกอบดว ยอกั ขระแอดเดรสและตวั เลขหรอื ลาํ ดบั เลขที่ใชแ ทนคา เลขคณติ
อกั ขระแอดเดรส (แอดเดรส)
อักขระแอดเดรส (โดยทัว่ ไปคอื ตวั อักษร) จะระบคุ วามหมายของคาํ สง่ั
ตวั อยา ง:
อกั ขระแอดเดรส ความหมาย
G ฟงกช่ัน G (ฟง กช ่นั การจดั เตรยี ม)
X ขอ มูลตาํ แหนง สาํ หรบั แกน X
S ความเรว็ รอบสปน เดิล
ลาํ ดบั เลข
ลาํ ดบั เลขคอื คา ทกี่ ําหนดใหก บั อกั ขระแอดเดรส ลาํ ดบั เลขสามารถมเี ครอ่ื งหมายและจุดทศนยิ มได
เครอ่ื งหมายมกั จะปรากฏอยูระหวางตวั อักษรแอดเดรสและลาํ ดบั เลข โดยไมตองใสเ ครอ่ื งหมายบวก (+)
และเลขศูนยน ําหนา (0)
ࡴࡤࡋࡳࡋ࡚ࡡ
ࡪ ࡨࡋࡑࡳ࠹
ࡴࡤࡋࡳࡋ࡚ࡡ
ࡪ ࡨࡋࡑࡳ࠹
ࡴࡤࡋࡳࡋ࡚ࡡ
ࡪ ࡨࡋࡑࡳ࠹
* ; 6 35
ࡑࡺࡤ࠸
พน้ื ฐาน
คูม อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การพืน้ ฐานของการตงั้ โปรแกรม NC
2.2 โครงสรางและเน้อื หาของโปรแกรม NC
อลิ ิเมนตภาษาระดบั สงู ของ NC
เนอ่ื งจากคาํ ส่ังทีก่ าํ หนดไวต าม DIN 66025
ไมเ พยี งพอสาํ หรบั การโปรแกรมลําดบั การตดั เฉอื นทซี่ ับซอ นในเครอื่ งจกั รสมยั ใหม
จงึ มีการขยายการทาํ งานโดยใชอลิ เิ มนตภ าษาระดบั สูงของ NC
ตัวอยา งของอลิ เิ มนตเหลา น้ี ไดแก:
● คาํ สง่ั ทเี่ ปน ภาษาระดับสูงของ NC
คาํ สง่ั ทเี่ ปนภาษาระดับสงู ของ NC ประกอบดว ยตวั อักษรแอดเดรสหลายตวั
ซง่ึ ตางจากคําสง่ั ทรี่ ะบไุ วใน DIN 66025 เชน
– OVR สําหรบั การโอเวอรไ รดค วามเรว็ รอบ
– SPOS สาํ หรบั การปรบั ตําแหนง สปน เดลิ
● ตัวระบุ (ชอ่ื ทรี่ ะบ)ุ สําหรบั :
– ตวั แปรระบบ
– ตัวแปรท่ีผใู ชก าํ หนด
– โปรแกรมยอ ย
– คําสาํ คญั
– จัมปมารกเกอร
– แมโคร
หมายเหตุ
ตัวระบจุ ะตอ งไมซ ํ้ากนั และไมส ามารถใชกบั ออบเจก็ ตท ่แี ตกตางกัน
● ตัวดําเนนิ การเปรยี บเทยี บ
● ตัวดาํ เนนิ การทางโลจกิ
● ฟงกช่ันเลขคณติ
● โครงสรางการตรวจสอบ
ขอ มลู อา งองิ :
คูมอื การโปรแกรม, การวางแผนงาน - หัวขอ: "การเขียนโปรแกรม NC แบบยดื หยุน"
ประสทิ ธภิ าพของคาํ สัง่
คําสง่ั อาจเปน แบบโมดัลหรอื ไมใ ชแ บบโมดัล:
● แบบโมดลั
คําสง่ั แบบโมดลั จะใชไ ดก บั คา ทต่ี ง้ั โปรแกรม (ในบลอ็ กท้งั หมดตอ ไปน)ี้ จนกวา:
– มกี ารโปรแกรมคา ใหมโ ดยใชค าํ สง่ั เดียวกัน
– มีการโปรแกรมคาํ สง่ั ท่ยี กเลิกผลของคําสัง่ ทใ่ี ชไ ดกอ นหนา น้ี
● ไมใชแบบโมดลั
คําสงั่ ทไี่ มใชแ บบโมดัลจะใชก บั บลอ็ กท่โี ปรแกรมคาํ ส่ังดงั กลา วเทา นั้น
พ้นื ฐาน
36 คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการพ้ืนฐานของการตงั้ โปรแกรม NC
2.2 โครงสรางและเน้อื หาของโปรแกรม NC
จดุ สนิ้ สุดของโปรแกรม
บลอ็ กสดุ ทา ยในลําดบั การดาํ เนินการท่ีมคี ําพเิ ศษทบี่ งบอกวา เปน จดุ สิน้ สดุ ของโปรแกรม: M2, M17 หรือ
M30
2.2.2 กฎเกยี่ วกบั บลอ็ ก
จดุ เร่มิ ตน ของบลอ็ ก
บลอ็ ก NC สามารถระบไุ ดท ีจ่ ดุ เริ่มตน ของบลอ็ กโดยใชเ ลขบลอ็ ก ซึง่ ประกอบดว ยอกั ขระ "N"
และเลขจาํ นวนเตม็ บวก เชน
N40 ...
ลาํ ดบั ของเลขบลอ็ กไมจ าํ เปนตอ งเรยี งกนั อยา งไรกต็ าม
ขอแนะนําใหใ ชเ ลขบลอ็ กทีเ่ รยี งลําดบั จากนอ ยไปหามาก
หมายเหตุ
เลขบล็อกในโปรแกรมตอ งไมซ ้าํ กันเพอื่ ไมใหเกดิ ความสบั สนในการคน หา
จดุ สิน้ สดุ ของบลอ็ ก
บลอ็ กจะสิน้ สดุ ดวยอักขระ LF (LINE FEED = ข้นึ บรรทดั ใหม)
หมายเหตุ
แตไมจาํ เปน ตอ งใสอ ักขระ LF เนือ่ งจากระบบจะสรา งขึ้นโดยอัตโนมัตเิ ม่ือมีการเปลย่ี นบรรทดั
ความยาวบลอ็ ก
บลอ็ กสามารถมีอักขระไดส ูงสดุ 512 ตวั (รวมทัง้ คําอธบิ ายและอกั ขระ LF แสดงจดุ สน้ิ สุดของบลอ็ ก)
หมายเหตุ
โดยปกติ การแสดงบลอ็ กปจ จบุ นั บนหนา จอจะแสดงบลอ็ กสามบลอ็ กท่ีมอี ักขระไมเ กนิ 66
ตวั สาํ หรบั แตล ะบล็อก และจะแสดงคาํ อธิบายดวย ทงั้ นี้ขอ ความแสดงอยใู นหนาตา งขอความแยกตา งหาก
พ้ืนฐาน 37
คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การพื้นฐานของการตง้ั โปรแกรม NC
2.2 โครงสรางและเน้อื หาของโปรแกรม NC
ลาํ ดบั ของคาํ สัง่
เพอ่ื ใหโ ครงสรา งบล็อกมคี วามชดั เจนมากที่สดุ คาํ สงั่ ในบลอ็ กควรไดร บั การจดั เรียงตามลาํ ดับตอ ไปน:้ี
N… G… X… Y… Z… F… S… T… D… M… H…
แอดเดรส ความหมาย
N แอดเดรสของเลขบลอ็ ก
G ฟง กช ่นั เตรียมความพรอม
X,Y,Z ขอ มลู ตําแหนง
F อัตราปอน
S ความเรว็ รอบสปนเดิล
T เคร่อื งมอื
D เลขออฟเซต็ เครื่องมอื
M ฟง กชัน่ เพิ่มเตมิ
H ฟง กช น่ั เสริม
หมายเหตุ
บางแอดเดรสสามารถใชซาํ้ ไดใ นบลอ็ กเดยี วกนั เชน
G…, M…, H…
2.2.3 การกาํ หนดคา
เราสามารถกําหนดคา ใหก บั แอดเดรสได โดยตองเปน ไปตามกฎดังตอ ไปน:ี้
● ตองแทรกเครอ่ื งหมาย "=" ไวร ะหวางแอดเดรสกบั คาในกรณที :่ี
– แอดเดรสมตี วั อกั ษรมากกวา หนึง่ ตวั
– คา มคี าคงทม่ี ากกวา หนงึ่ คา
เครอื่ งหมาย "="
อาจไมจําเปนตอ งใสใ นกรณีทแี่ อดเดรสมตี วั อกั ษรเพยี งตวั เดยี วและคามคี าคงทีเ่ พยี งคา เดยี ว
● ใชเ ครอื่ งหมายได
● อนญุ าตใหใชตวั คนั่ หลังตวั อักษรแอดเดรสได
พน้ื ฐาน
38 คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การพนื้ ฐานของการตงั้ โปรแกรม NC
2.2 โครงสรา งและเนอื้ หาของโปรแกรม NC
ตัวอยา ง: การกาํ หนดคา (10) ใหกบั แอดเดรส X ไมจ าํ เปนตอ งใสเ ครอ่ื งหมาย
X10 "="
X1=10
X=10*(5+SIN(37.5)) การกาํ หนดคา (10) ใหกบั แอดเดรส (X) ที่มตี วั เลขตอทา ย (1)
จําเปน ตอ งใสเ ครอื่ งหมาย "="
การกําหนดคาโดยใชน ิพจนต วั เลข จาํ เปน ตองใสเ ครอื่ งหมาย "="
หมายเหตุ
ตวั เลขตอทายจะตอ งตามดวยอกั ขระพิเศษ "=", "(", "[", ")", "]", ","
หรือตวั ดาํ เนินการตัวใดตวั หนึ่งเสมอเพ่ือแยกความแตกตางระหวา งแอดเดรสท่มี ตี วั เลขตอ ทา ยกบั ตวั อักษ
รแอดเดรสทมี่ คี า
2.2.4 คำอธบิ าย
เพ่อื ใหสามารถเขาใจโปรแกรม NC ไดงา ยขน้ึ เราสามารถเพิ่มคาํ อธบิ ายลงในบลอ็ ก NC ได
คําอธบิ ายจะอยทู ่สี ว นทายของบลอ็ กและแยกออกจากสวนโปรแกรมของบล็อก NC
ดว ยเคร่ืองหมายอฒั ภาค (";")
ตวั อยา ง 1: คําอธบิ าย
; คาํ อธิบายท่ีใชอธิบายบลอ็ ก NC
โคด โปรแกรม
N10 G1 F100 X10 Y20
ตวั อยา ง 2: คาํ อธิบาย
; บริษัท G&S หมายเลขใบสั่งซอื้ 12A71
โคด โปรแกรม ; โปรแกรมนเ้ี ขยี นโดย H. Smith แผนก TV 4 ;เมอ่ื วันท่ี 21 พฤศจกิ ายน
N10
N20 1994
; หวั ขอ หมายเลข 12 ท่เี กบ็ ปม ชนดิ แชน ้ําได TP23A
N50
หมายเหตุ
คําอธบิ ายตางๆ จะถูกจัดเก็บและปรากฏอยใู นการแสดงบลอ็ กปจจบุ นั เม่ือโปรแกรมทาํ งาน
พนื้ ฐาน 39
คมู ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การพน้ื ฐานของการตง้ั โปรแกรม NC
2.2 โครงสรางและเนือ้ หาของโปรแกรม NC
2.2.5 การขา มบลอ็ ก
บลอ็ ก NC ทีจ่ ะไมมกี ารดาํ เนนิ การในแตล ะรอบของโปรแกรม (เชน การใชง านโปรแกรมทดสอบ)
สามารถขา มไปได
การโปรแกรม
บลอ็ กทีจ่ ะขา มจะถกู ทาํ เครอื่ งหมายดว ย "/" ที่ดานหนาเลขบลอ็ ก࠸ࡩ࡚ࡋࡪࡳࡐࡐ ࠸ࡩ࡚ࡵࡒ࡚ࡴ࠸࡚ࡘ
โดยสามารถขามบลอ็ กทอ่ี ยตู ดิ กันหลายๆ บลอ็ กได คาํ สง่ั ในบลอ็ กท่ขี า มจะไมถ กู ดําเนินการ
โปรแกรมจะดาํ เนินการตอ ในบลอ็ กถดั ไปท่ไี มถกู ขาม
ตัวอยา ง:
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
1
โคด โปรแกรม คาํ อธิบาย
N10 ; ดําเนินการ
/N20 … ; ขาม
N30 … ; ดาํ เนนิ การ
/N40 … ; ขา ม
N70 … ; ดําเนินการ
พ้นื ฐาน
40 คมู อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลกั การพนื้ ฐานของการตงั้ โปรแกรม NC
2.2 โครงสรางและเน้อื หาของโปรแกรม NC
ระดบั การขา ม
เราสามารถระบรุ ะดบั การขามบลอ็ กได (สงู สดุ 10) ซึง่ สามารถเรียกใชผ า นอนิ เตอรเ ฟสผูใช
การโปรแกรมสามารถทําไดโดยการใสเ ครอ่ื งหมายทบั แลวตามดว ยหมายเลขระดบั การขา ม
โดยสามารถระบุระดบั การขา มไดเ พียงหนง่ึ ระดับสาํ หรบั แตละบล็อก
ตัวอยา ง:
โคดโปรแกรม คําอธบิ าย
/ ... ; บล็อกถกู ขาม (การขา มระดับที่ 1)
/0 ... ; บล็อกถูกขาม (การขา มระดับที่ 1)
/1 N010... ; บล็อกถกู ขาม (การขามระดบั ที่ 2)
/2 N020... ; บล็อกถูกขาม (การขามระดับท่ี 3)
...
/7 N100... ; บลอ็ กถกู ขาม (การขา มระดับที่ 8)
/8 N080... ; บล็อกถกู ขาม (การขามระดับท่ี 9)
/9 N090... ; บล็อกถูกขาม (การขา มระดบั ที่ 10)
หมายเหตุ
จํานวนระดบั การขามท่สี ามารถใชไดข ้ึนอยกู บั รายการขอ มลู เครอื่ งจกั รสาํ หรบั แสดงผล
หมายเหตุ
นอกจากน้ีสามารถใชร ะบบและตัวแปรของผูใชใ นการขา มอยา งมเี งอื่ นไขเพือ่ ควบคมุ การทาํ งานของโปร
แกรมไดเ ชนกนั
พน้ื ฐาน 41
คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
หลักการพนื้ ฐานของการตง้ั โปรแกรม NC
2.2 โครงสรางและเนือ้ หาของโปรแกรม NC
พน้ื ฐาน
42 คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
การสรา งโปรแกรม NC 3
3.1 ขัน้ ตอนพน้ื ฐาน
ขน้ั ตอน โดยปกตกิ ารโปรแกรมขน้ั ตอนการทาํ งานแตละขั้นตอนในภาษา NC เปน เพียงสว นเลก็ ๆ
ของงานการพฒั นาโปรแกรม NC เทานัน้
การโปรแกรมคาํ สัง่ ท่แี ทจ รงิ ควรเร่ิมตน ดวยการวางแผนและการจดั เตรยี มขน้ั ตอนการทํางาน
ถาคุณสามารถวางแผนลว งหนา เกย่ี วกับการจัดโครงสรา งและการจดั ระเบยี บโปรแกรม NC
ไดอ ยา งถกู ตองแมนยาํ มากเพยี งใด คณุ จะสามารถสรางโปรแกรมที่สมบรู ณ
ซึ่งมคี วามชดั เจนและไมม ีขอ ผดิ พลาดใดๆ ไดอ ยางรวดเรว็ และงา ยดายมากข้ึนเทา นน้ั
การจัดโครงสรา งโปรแกรมทชี่ ดั เจนมปี ระโยชนม ากโดยเฉพาะอยา งยงิ่ เมื่อจะตอ งมกี ารเปลย่ี นแปลงในภ
ายหลงั
เนือ่ งจากแตล ะสว นน้นั ไมเ หมอื นกนั จงึ เปนไปไมไ ดท จี่ ะสรางทกุ โปรแกรมในรปู แบบเดยี วกัน
อยางไรกต็ าม ขั้นตอนตอไปนส้ี ามารถนําไปใชกบั การทํางานโดยสว นใหญไ ด
1. เตรยี มรปู วาดของชน้ิ งาน
– กําหนดจดุ ศูนยข องชน้ิ งาน
– วาดระบบพกิ ดั
– คาํ นวณพกิ ัดทหี่ ายไป
2. กาํ หนดลาํ ดบั การตดั เฉอื น
– เครอื่ งมอื ใดทจี่ ะใชและใชเ มอ่ื ใด รวมถงึ จะใชสําหรบั การตดั เฉอื นเสน ขอบรูปใด
– แตละอิลเิ มนตข องชนิ้ งานมลี าํ ดบั การตัดเฉอื นอยางไร
– อลิ เิ มนตใดทจี่ ะมีการทาํ ซา้ํ (อาจรวมถงึ การหมนุ ดวย) และควรเก็บไวในรทู นี ยอ ย
– มสี ว นของเสน ขอบรปู ในโปรแกรมช้ินงานอนื่ หรอื รทู ีนยอ ยอน่ื ทส่ี ามารถนาํ มาใชก บั ช้ินงานปจ จบุ ั
นไดห รอื ไม
– ออฟเซต็ ศนู ย การหมุน การสะทอ น และการปรบั สเกลทมี่ ปี ระโยชนหรอื จําเปน อยูต รงไหน
(แนวคดิ เกีย่ วกบั เฟรม)
พ้ืนฐาน 43
คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
การสรา งโปรแกรม NC
3.2 อกั ขระทใี่ ชไ ด
3. สรา งแผนการตดั เฉอื น
กาํ หนดการตัดเฉือนทกุ ประเภทแบบทลี ะขนั้ ตอน เชน
– การเคลอ่ื นท่ีเรว็ สาํ หรบั การปรบั ตําแหนง
– การเปลย่ี นเครอื่ งมอื
– กาํ หนดระนาบการตัดเฉอื น
– การรน กลบั สาํ หรับการตรวจสอบ
– เปด/ปดสปน เดลิ , ระบบหลอ เยน็
– เรยี กขอมลู เครอื่ งมอื
– อตั ราปอ น
– การแกไขทางเดนิ เครื่องมอื
– การเคลอ่ื นเขาไปที่เสนขอบรปู
– การรน กลบั จากเสน ขอบรปู
– ฯลฯ
4. แปลขนั้ ตอนการตดั เฉอื นเปน ภาษาโปรแกรม
– เขียนแตละข้ันตอนเปน บลอ็ ก NC หนึง่ บลอ็ ก (หรอื บลอ็ ก NC หลายบลอ็ ก)
5. รวมแตล ะขน้ั ตอนเขา ดว ยกนั เปน โปรแกรม
3.2 อักขระทีใ่ ชไ ด
ในการเขยี นโปรแกรม NC สามารถใชอ กั ขระตอ ไปน:ี้
● ตัวพมิ พใหญ:
A, B, C, D, E, F, G, H, I, J, K, L, M, N,(O),P, Q, R, S, T, U, V, W, X, Y, Z
● ตัวพิมพเ ล็ก:
a, b, c, d, e, f, g, h, i, j, k, l, m, n, o, p, q, r, s, t, u, v, w, x, y, z
● ตวั เลข:
0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9
● อักขระพเิ ศษ:
ดตู ารางดา นลา ง
อกั ขระพเิ ศษ ความหมาย
% อกั ขระเริ่มตน โปรแกรม (ใชก ับการเขยี นโปรแกรมบน PC ภายนอกเทาน้นั )
( เพื่อใสวงเล็บใหกบั พารามเิ ตอรหรอื นพิ จน
) เพ่อื ใสว งเลบ็ ใหกับพารามเิ ตอรห รอื นพิ จน
[ เพือ่ ใสวงเลบ็ ใหกบั แอดเดรสหรอื ดชั นี
] เพ่อื ใสว งเล็บใหกบั แอดเดรสหรอื ดัชนี
พนื้ ฐาน
44 คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
อกั ขระพเิ ศษ การสรา งโปรแกรม NC
< 3.2 อักขระทใ่ี ชได
>
: ความหมาย
= นอ ยกวา
/ มากกวา
* บล็อกหลกั , เครือ่ งหมายส้ินสดุ , ตวั ดําเนินการเชื่อมตอ
+ การกําหนดคา , สวนของสมการ
- การหาร, การปดการทํางานของบล็อก
" การคูณ
' การบวก
$ การลบ, เคร่ืองหมายลบ
s_ เคร่อื งหมายอญั ประกาศคู, ตัวระบุสําหรับสตริงอกั ขระ
? เคร่อื งหมายอัญประกาศเดย่ี ว, ตวั ระบุสําหรับคาตวั เลขพิเศษ: เลขฐานสิบหก, ไบนารี
! ตัวระบุตวั แปรระบบ
. เครื่องหมายขดี ลาง, สําหรบั ตวั อกั ษร
, สํารองไว
; สาํ รองไว
& จุดทศนยิ ม
LF จลุ ภาค, ตวั ค่ันพารามเิ ตอร
อกั ขระแท็บ เริม่ คาํ อธิบาย
ชอ งวาง จัดรูปแบบอักขระ, ใหผลเหมือนกับอกั ขระชองวา ง
จดุ ส้ินสดุ ของบลอ็ ก
ตวั คนั่
ตวั คนั่ (ชอ งวาง)
หมายเหตุ
ควรแยกความแตกตางระหวา งตัวอกั ษร "O" และตัวเลข "0" ใหดี
หมายเหตุ
ตวั พิมพใ หญแ ละตวั พมิ พเล็กของอกั ขระถอื วา ไมต างกัน (ยกเวน : การเรียกเคร่ืองมอื )
หมายเหตุ
โปรแกรมจะมองอกั ขระพเิ ศษทไ่ี มส ามารถพมิ พไ ดเปน ชองวา ง
พ้นื ฐาน 45
คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
การสรา งโปรแกรม NC
3.3 สวนหวั โปรแกรม
3.3 สว นหวั โปรแกรม
บลอ็ ก NC
ที่วางไวหนาบลอ็ กการเคลอ่ื นทีจ่ รงิ สาํ หรบั การตัดเฉอื นเสนขอบรปู ชน้ิ งานจะเรียกวา สวนหวั โปรแกรม
สวนหวั โปรแกรมประกอบดวยขอ มูล/คําสงั่ เก่ยี วกบั :
● การเปลีย่ นเครอ่ื งมอื
● ออฟเซต็ เครอ่ื งมอื
● การเคลอ่ื นทีข่ องสปน เดิล
● การควบคมุ อัตราปอ น
● การต้งั คา รปู ทรง (ออฟเซต็ ศนู ย, การเลอื กระนาบการทํางาน)
สวนหวั โปรแกรมสาํ หรับการกลงึ
ตัวอยา งตอ ไปนีแ้ สดงโครงสรา งทวั่ ไปของสว นหวั โปรแกรม NC สาํ หรบั การกลงึ :
โคด โปรแกรม คําอธิบาย
N10 G0 G153 X200 Z500 T0 D0
N20 T5 ; รน ตัวจบั ยึดเคร่ืองมือกลบั กอนท่จี ะมกี ารหมนุ ปอ มมีด
N30 D1
N40 G96 S300 LIMS=3000 M4 M8 ; เปล่ยี นเปนเคร่ืองมือ 5
N50 DIAMON ; เปด ใชงานบนั ทกึ ขอมูลคมตดั ของเคร่ืองมอื
N60 G54 G18 G0 X82 Z0.2
; อัตราการตัดคงที่ (Vc) = 300 ม./นาที, การจํากัดความเร็ว
... = 3000 รอบตอนาที, ทิศทางการหมนุ ทวนเข็มนาฬกิ า,
เปดระบบหลอเยน็
; แกน X จะถกู โปรแกรมในแนวเสนผาศูนยก ลาง
; เรียกขอมลู ออฟเซ็ตศูนยและระนาบการทํางาน,
เคลอ่ื นเขาตําแหนงเริม่ ตน
สว นหวั โปรแกรมสาํ หรบั การกัด
ตัวอยา งตอ ไปนีแ้ สดงโครงสรา งทว่ั ไปของสว นหวั โปรแกรม NC สาํ หรบั การกดั :
โคดโปรแกรม คาํ อธบิ าย
N10 T="SF12" ; ทางเลอื ก: T123
N20 M6 ; ส่ังเปลยี่ นเคร่ืองมือ
N30 D1 ; เปด ใชง านบันทึกขอมูลคมตัดของเครื่องมอื
N40 G54 G17 ; ออฟเซต็ ศนู ยและระนาบการทาํ งาน
N50 G0 X0 Y0 Z2 S2000 M3 M8 ; เคลอื่ นเขา ไปทช่ี ้ินงาน, เปดสปน เดิลและระบบหลอ เย็น
...
หากใชท ศิ ทางเครอื่ งมือ/การแปลงพิกัด ควรลบการแปลงใดๆ ที่ยงั คงทํางานอยูเ มอื่ เรม่ิ ตน โปรแกรม:
โคด โปรแกรม คาํ อธบิ าย
N10 CYCLE800() ; การรีเซ็ตระนาบหมุน
N20 TRAFOOF ; การรีเซต็ TRAORI, TRANSMIT, TRACYL, ...
...
พน้ื ฐาน
46 คูมือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
การสรา งโปรแกรม NC
3.4 ตวั อยา งโปรแกรม
3.4 ตวั อยา งโปรแกรม
3.4.1 ตัวอยา ง 1: ขน้ั ตอนแรกของการโปรแกรม
ขน้ั ตอน ตวั อยา งโปรแกรม 1 จะใชเ พอื่ ดําเนนิ การและทดสอบขนั้ ตอนแรกของการโปรแกรมบน NC
1. สรา งโปรแกรมชิน้ งานใหม (ชอื่ )
2. แกไ ขโปรแกรมชน้ิ งาน
3. เลือกโปรแกรมชิ้นงาน
4. เปด ใชง านบลอ็ กเดี่ยว
5. เรม่ิ โปรแกรมชนิ้ งาน
ขอ มลู อา งองิ :
คมู อื การปฏบิ ัตงิ านสาํ หรบั ยสู เซอรอ นิ เตอรเ ฟสทีม่ อี ยู
หมายเหตุ
เพ่อื ใหโ ปรแกรมสามารถทาํ งานบนเครอ่ื งจักรได จะตอ งมกี ารตัง้ คา ขอ มูลเคร่อื งจักรทีเ่ หมาะสม
(→ ผผู ลิตเครอื่ งจกั ร!)
หมายเหตุ
การเตือนจะทาํ งานในระหวา งการตรวจสอบโปรแกรม โดยตอ งรเี ซต็ การเตอื นเหลา นก้ี อ น
ตวั อยา งโปรแกรม 1 คําอธิบาย
โคด โปรแกรม ; ขอ ความ "THIS IS MY NC PROGRAM"
N10 MSG("THIS IS MY NC PROGRAM") จะปรากฏในบรรทดั การเตอื น
N20 F200 S900 T1 D2 M3 ; อตั ราปอน, สปนเดลิ , เคร่ืองมอื ,
ออฟเซ็ตเคร่ืองมือ, สปนเดิลตามเข็มนาฬิกา
N30 G0 X100 Y100
N40 G1 X150 ; ตาํ แหนงการเคลื่อนเขา ดวยการเคลือ่ นทเ่ี ร็ว
; เคล่ือนท่เี ปนสีเ่ หลี่ยมตามอัตราปอ น,
N50 Y120
N60 X100 เสนตรงในแนวแกน X
N70 Y100 ; เสน ตรงในแนวแกน Y
N80 G0 X0 Y0 ; เสนตรงในแนวแกน X
N100 M30
; เสนตรงในแนวแกน Y
; การรนกลบั ดวยการเคลื่อนท่ีเร็ว
; จดุ สิน้ สดุ ของบลอ็ ก
พืน้ ฐาน 47
คูม อื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
การสรา งโปรแกรม NC
3.4 ตวั อยา งโปรแกรม
3.4.2 ตัวอยาง 2: โปรแกรม NC สาํ หรบั การกลงึ
ตวั อยา งโปรแกรม 2 ใชสาํ หรบั การตดั เฉอื นช้นิ งานบนเครอื่ งกลงึ
ซงึ่ ประกอบดว ยการโปรแกรมรศั มแี ละการชดเชยรศั มเี ครอื่ งมอื
หมายเหตุ
เพอ่ื ใหโ ปรแกรมสามารถทาํ งานบนเครอ่ื งจกั รได จะตอ งมีการตัง้ คา ขอ มูลเครือ่ งจกั รทเี่ หมาะสม
(→ ผผู ลติ เครอื่ งจักร!)
การวาดระยะของชน้ิ งาน r ;
5
5 5
5 5
=
รปู 3-1 มุมมองดานบน
พื้นฐาน
48 คูม ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
ตวั อยา งโปรแกรม 2 การสรา งโปรแกรม NC
3.4 ตวั อยา งโปรแกรม
โคดโปรแกรม
N5 G0 G53 X280 Z380 D0 คําอธบิ าย
N10 TRANS X0 Z250 ; จุดเร่ิมตน
N15 LIMS=4000 ; ออฟเซ็ตศูนย
N20 G96 S250 M3 ; ขดี จํากัดความเรว็ (G96)
N25 G90 T1 D1 M8 ; เลอื กอัตราการตดั คงที่
N30 G0 G42 X-1.5 Z1 ; เลือกเครือ่ งมอื และออฟเซต็
N35 G1 X0 Z0 F0.25 ; ตง้ั คา เคร่ืองมือโดยมกี ารชดเชยรัศมเี ครอ่ื งมือ
N40 G3 X16 Z-4 I0 K-10
N45 G1 Z-12 ; รศั มีเลย้ี ว 10
N50 G2 X22 Z-15 CR=3
N55 G1 X24 ; รัศมีเลย้ี ว 3
N60 G3 X30 Z-18 I0 K-3
N65 G1 Z-20 ; รศั มีเลี้ยว 3
N70 X35 Z-40
N75 Z-57 ; รศั มีเลี้ยว 3
N80 G2 X41 Z-60 CR=3
N85 G1 X46 ; ยกเลกิ การเลือกการชดเชยรัศมเี ครอ่ื งมือและตาํ แหนง การเปลีย่ นเคร่อื ง
N90 X52 Z-63 มอื เขา
N95 G0 G40 G97 X100 Z50 M9
; เรียกเครือ่ งมอื และเลอื กออฟเซต็
N100 T2 D2 ; เลอื กอตั ราการตดั คงท่ี
N105 G96 S210 M3 ; ต้ังคาเครื่องมอื โดยมกี ารชดเชยรศั มีเครือ่ งมือ
N110 G0 G42 X50 Z-60 M8 ; เสน ผาศนู ยก ลางการเล้ียว 50
N115 G1 Z-70 F0.12 ; รศั มเี ลีย้ ว 8
N120 G2 X50 Z-80 I6.245 K-5 ; รน เคร่ืองมือกลับและยกเลิกการเลือกการชดเชยรศั มเี ครื่องมอื
N125 G0 G40 X100 Z50 M9 ; ตาํ แหนงการเปลี่ยนเครื่องมอื เขา
N130 G0 G53 X280 Z380 D0 M5 ; จุดสน้ิ สดุ ของโปรแกรม
N135 M30
3.4.3 ตวั อยา ง 3: โปรแกรม NC สาํ หรบั การกดั
ตัวอยา งโปรแกรม 3 ใชส าํ หรบั การตดั เฉอื นชิน้ งานบนเครอื่ งกดั แนวตงั้
ซ่งึ ประกอบดว ยการกดั ผวิ และกัดขาง รวมทงั้ การเจาะ
หมายเหตุ
เพ่อื ใหโ ปรแกรมสามารถทาํ งานบนเครอ่ื งจักรได จะตอ งมีการต้ังคาขอ มูลเครื่องจักรทีเ่ หมาะสม
(→ ผูผลิตเคร่ืองจกั ร!)
พ้ืนฐาน 49
คูมอื การโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1
การสรา งโปรแกรม NC
3.4 ตัวอยา งโปรแกรม
การวาดระยะของชิ้นงาน
ෘ ෘ
รูป 3-2 มุมมองดานขาง
5 [ r
r
5
รูป 3-3 มุมมองดา นบน
ตวั อยา งโปรแกรม 3
คําอธิบาย
โคดโปรแกรม ; การเลอื กเครื่องมือชอ่ื PF60 ไวลวงหนา
N10 T="PF60" ; โหลดเครื่องมือเขา ในสปนเดิล
N20 M6 ; ความเรว็ , ทิศทางการหมุน,
N30 S2000 M3 M8
พนื้ ฐาน
50 คูม ือการโปรแกรม, 03/2013, 6FC5398-1BP40-3XE1