The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน วิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ครูนิติยา ไชยศรีสงคราม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Aey Aingaey, 2024-03-19 12:55:19

แผนการสอน วิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ครูนิติยา ไชยศรีสงคราม

แผนการสอน วิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ครูนิติยา ไชยศรีสงคราม

10.1 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนโปรแกรม และการตรวจสอบ ข้อผิดพลาด - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง 10.2 การประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) การเขียนโปรแกรม สั่งให้ตัวละครทำงาน - ตรวจ Activity 2.1 - ตรวจ Activity 2.2 - ตรวจ Activity 2.3 - ตรวจ Activity 2.4 - ตรวจ Activity 2.5 - Activity 2.1 - Activity 2.2 - Activity 2.3 - Activity 2.4 - Activity 2.5 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน กลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 11. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้


11.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน (ชุด แม่บทมาตรฐาน) เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนโปรแกรมและการตรวจสอบข้อผิดพลาด 2) บัตรภาพ เรื่อง กล่องคำสั่งในการเขียนโปรแกรม 11.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต


บัตรภาพ เรื่อง กล่องค าสั่งในการเขียนโปรแกรม


12. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย 13. บันทึกผลหลังการสอน ปัญหา/อุปสรรค มีนักเรียนกลุ่มเด็กพิเศษ LD ที่ยังไม่เข้าใจเนื้อหาในบทเรียนเรื่องการเขียนโปรแกรมสั่งให้ตัวละครทำงาน แนวทางการแก้ไข ครูอธิบายคอยชี้แนะและพาฝึกทำไปพร้อมๆกันกับครู ด้านความรู้ นักเรียนสามารถเขียนโปรแกรมสั่งให้ตัวละครทำงาน ได้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน นักเรียนสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองและคิดเป็นลำดับขั้นตอน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) นักเรียนใช้เทคโนโลยีได้คล่องและแก้ไขปัญหาล่วงหน้าได้ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ( ) ต าแหน่ง .......


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง การตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรม เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม 2. ตัวชี้วัด ป.3/2 เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. พิจารณาโปรแกรมเพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดได้ (K) 2. ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณกับการตรวจสอบข้อผิดพลาดได้ (K) 3. ลงมือแก้ไขชุดคำสั่งของโปรแกรมได้ (P) 4. เห็นประโยชน์ของการตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรม (A) 4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - การเขียนโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับของ คำสั่ง ให้คอมพิวเตอร์ทำงาน - ตัวอย่างโปรแกรม เช่น เขียนโปรแกรมที่สั่งให้ ตัวละครทำงานซ้ำไม่สิ้นสุด - การตรวจหาข้อผิดพลาด ทำได้โดยตรวจสอบ คำสั่งที่แจ้งข้อผิดพลาด หรือหากผลลัพธ์ไม่ เป็นไปตามที่ต้องการให้ตรวจสอบการทำงาน ทีละคำสั่ง - ซอฟต์แวร์หรือสื่อที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น ใช้บัตรคำสั่งแสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา 5. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด


เมื่อเขียนโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพบว่าผลลัพธ์ของโปรแกรมไม่ตรงตามความต้องการ ควรมีการตรวจสอบเพื่อหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม และดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดนั้นให้ถูกต้องซึ่งอาจจะ ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณ ในเรื่องของการแบ่งแยกส่วนของปัญหามาใช้ในการตรวจสอบ ข้อผิดพลาด โดยการแยกคำสั่งออกเป็นคำสั่งย่อย ๆ ทีละคำสั่ง เพื่อให้ทราบข้อผิดพลาดและง่ายต่อการแก้ไขข้อผิดพลาด 6. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทักษะการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - ทักษะการทำงานร่วมกัน 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย รับผิดชอบ 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 8. ค าถามส าคัญ - การตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรมอยู่เป็นประจำจะส่งผลอย่างไร 9. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีการสอนโดยเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning) วิธีการสอนโดยเน้นการเรียนรู้แบบใช้เกม (Games)


1. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“นักเรียนเคยเขียนโปรแกรมที่ได้ผลลัพธ์ ไม่ตรงตำมที่ต้องกำรหรือไม่และนักเรียนมีวิธีกำรแก้ปัญหำอย่ำงไร” (แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น เคยเขียนโปรแกรม ที่ได้ผลลัพธ์ไม่ตรงตามความต้องการ สามารถแก้ปัญหาได้โดยการตรวจสอบโปรแกรมที่ได้ เขียนขึ้นเพื่อหาข้อผิดพลาด และแก้ไขให้ถูกต้อง) 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม เพื่อเล่นเกมจับผิดภาพ โดยมีกติกา ดังนี้ 1) ครูแจกบัตรภาพ เรื่อง เกมจับผิดภาพให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม 2) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเห็นร่วมกันเพื่อหาจุดแตกต่างของภาพ โดยครูกำหนดระยะเวลาการเล่นเกมตามความเหมาะสม และคอยดูแลอย่างใกล้ชิด 3) เมื่อหมดเวลาให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียน 4) ครูผู้สอนและเพื่อนร่วมชั้นเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล 3. ครูอธิบายกับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า“เกมจับผิดภำพเปรียบเสมือนปัญหำที่ จะต้องด ำเนินกำรแก้ไข และไม่ว่ำจะพบปัญหำใดก็ตำม จะต้องมีกำรตรวจสอบว่ำผลลัพธ์ เป็นไปตำมที่ต้องกำรหรือไม่ หำกไม่เป็นไปตำมที่ต้องกำรจะต้องท ำกำรแก้ไขข้อผิดพลำดที่ เกิดขึ้น” 1. นักเรียนสังเกตตัวอย่างที่ 3 การตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมจากสถานการณ์ที่ก้าน ต้องการเขียนโปรแกรมสั่งให้ซอมบี้ไปหาดอกทานตะวันโดยใช้กล่องคำสั่งทำงานในหนังสือ เรียนรายวิชาพื้นฐาน (ชุด แม่บทมาตรฐาน) เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนโปรแกรมและการตรวจสอบข้อผิดพลาด 2. จากนั้นเปิดโอกาสให้นักเรียนตรวจสอบการทำงานจากรูปภาพและกล่องคำสั่งทำงานว่า สามารถสั่งให้ซอมบี้ไปหาดอกทานตะวันได้หรือไม่ 3. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอการตรวจสอบการทำงานบริเวณหน้าชั้นเรียน 4. นักเรียนศึกษา เรื่อง การตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมว่ามีการตรวจสอบการทำงาน ของโปรแกรม การเกิดข้อผิดพลาด และการพิจารณาข้อผิดพลาดจากหนังสือเรียน ขั้นสอน ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำ


5. ครูอธิบายกับนักเรียนว่า“กำรพิจำรณำข้อผิดพลำดให้ง่ำยต่อกำรแก้ไขข้อผิดพลำดนั้น ควร น ำแนวคิดเชิงค ำนวณ เรื่อง แนวคิดกำรแยกย่อย (Decomposition) มำใช้ในกำร ตรวจสอบ ข้อผิดพลำด โดยกำรแบ่งแยกปัญหำที่พบออกเป็นส่วนย่อย ๆ หรือแยกค ำสั่ง ออกเป็นค ำสั่งย่อย ๆ ทีละค ำสั่ง จะท ำให้ทรำบข้อผิดพลำดได้อย่ำงรวดเร็ว และง่ำยต่อกำร แก้ไขข้อผิดพลำด” 6. นักเรียนศึกษาและสังเกตตัวอย่างที่ 4 การตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมโดยใช้ แนวคิดเชิงคำนวณ ถึงสถานการณ์ที่กิ่งต้องการเขียนโปรแกรมสั่งให้นกแดงไปหาหมูเขียว โดยใช้กล่องคำสั่งทำงานจากหนังสือเรียน 7. ครูสุ่มถามคำถามกับนักเรียน 2-3 คน ว่า“จำกตัวอย่ำงนักเรียนคิดว่ำ แนวคิดเชิงค ำนวณมี ประโยชน์อย่ำงไรต่อกำรตรวจสอบกำรท ำงำนของโปรแกรม” (แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น ทำให้พิจารณา ข้อผิดพลาดอย่างเป็นระบบ รวดเร็ว และทำให้ง่ายต่อการแก้ไขข้อผิดพลาด) 8. ให้นักเรียนทำใบงาน 2.2.1 เรื่อง การตรวจสอบข้อผิดพลาดโดยใช้แนวคิดเชิงค านวณ 9. ครูสุ่มนักเรียนออกมาอภิปรายผลการทำใบงานบริเวณหน้าชั้นเรียน 10. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนจากชั่วโมงที่แล้วพอสังเขป 11. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม 12. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเห็นเพื่อทำกิจกรรม Activity 2.6 โดยให้นักเรียนแก้ไข ชุดคำสั่งเดิมที่ไม่สามารถทำให้นกแดงไปหาหมูเขียวได้ โดยเขียนคำสั่งที่ถูกต้องลงในช่องว่าง ของชุดคำสั่งใหม่ และทำกิจกรรม Activity2.7โดยให้นักเรียนแก้ไขชุดคำสั่งที่ไม่สามารถทำ ให้ซอมบี้ไปหาดอกทานตะวันได้ โดยเขียนคำสั่งที่ถูกต้องลงในช่องว่างของชุดคำสั่งใหม่ใน หนังสือเรียน 13. ครูสุ่มนักเรียนออกมาอภิปรายคำสั่งใหม่ที่ได้จากการทำกิจกรรม Activity 2.6 และกิจกรรม Activity 2.7 บริเวณหน้าชั้นเรียน 14. จากนั้นให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนร่วมกันแสดงความคิดร่วมกันของคำสั่งใหม่ได้อย่างอิสระ 15. ครูสุ่มนักเรียน 2-3คน ร่วมกันตอบคำถามสำคัญว่า“กำรตรวจสอบข้อผิดพลำดของโปรแกรม อยู่เป็นประจ ำจะส่งผลอย่ำงไร” (แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น การตรวจสอบ ข้อผิดพลาดอยู่เป็นประจำจะส่งผลให้โปรแกรมที่เขียนไม่เกิดข้อผิดพลาด และได้ผลลัพธ์จาก การเขียนโปรแกรม เป็นไปตามความต้องการ) ชั่วโมงที่ 2


1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และการทำ กิจกรรมกระบวนการกลุ่มของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบความถูกต้องของการทำใบงานที่ 2.2.1 เรื่อง การตรวจสอบข้อผิดพลาดโดย ใช้แนวคิดเชิงคำนวณ 3. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรม Activity ของนักเรียน 4. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมสั่งให้ตัวละครทำงาน และการ ตรวจสอบ ข้อผิดพลาดของโปรแกรม 5. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนโปรแกรมและ การตรวจสอบข้อผิดพลาด หรือทำแบบทดสอบ (Unit Test) ในหนังสือเรียน เพื่อวัดความรู้ที่ นักเรียนได้รับหลังจากผ่านการเรียนรู้ 6. นักเรียนทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การตรวจสอบข้อผิดพลาด และนำมาส่ง ในชั่วโมงถัดไป 10.การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 10.1 การประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) การตรวจสอบ ข้อผิดพลาดโดยใช้ แนวคิดเชิงคำนวณ - ตรวจใบงานที่ 2.2.1 - ใบงานที่ 2.2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การแก้ไขชุดคำสั่ง - ตรวจ Activity 2.6 - ตรวจ Activity 2.7 - Activity 2.6 - Activity 2.7 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) พฤติกรรมการทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน กลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 6) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ขั้นสรุป


รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 10.2 การประเมินหลังเรียน 1)แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียน โปรแกรม และการตรวจสอบ ข้อผิดพลาด - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2)การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การตรวจสอบ ข้อผิดพลาด - ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - แบบประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 11. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน (ชุด แม่บทมาตรฐาน) เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขียนโปรแกรมและการตรวจสอบข้อผิดพลาด 2) ใบงาน 2.2.1 เรื่อง การตรวจสอบข้อผิดพลาดโดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ 3) บัตรภาพ เรื่อง เกมจับผิดภาพ 11.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต


เรื่อง การตรวจสอบข้อผิดพลาดโดยใช้แนวคิดเชิงค านวณ ค าชี้แจง : ให้นักเรียนสังเกตภาพสถานการณ์และชุดคำสั่ง จากนั้นใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพิจารณา หาข้อผิดพลาด และแก้ไขชุดคำสั่งใหม่ให้ถูกต้อง สถานการณ์ : ผึ้งต้องการเก็บน้ าหวานและผลิตน้ าผึ้งโดยใช้กล่องค าสั่งท างาน ดังนี้ ใบงานที่ 2.2.1 X ชุดค าสั่งใหม่ √ ชุดค าสั่งเดิม ใบงานที่ 2.2.1 เฉลย


เรื่อง การตรวจสอบข้อผิดพลาดโดยใช้แนวคิดเชิงค านวณ ค าชี้แจง : ให้นักเรียนสังเกตภาพสถานการณ์และชุดคำสั่ง จากนั้นใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการพิจารณา หาข้อผิดพลาด และแก้ไขชุดคำสั่งใหม่ให้ถูกต้อง สถานการณ์ : ผึ้งต้องการเก็บน้ าหวานและผลิตน้ าผึ้งโดยใช้กล่องค าสั่งท างาน ดังนี้ บัตรภาพ เรื่อง เกมจับผิดภาพ X ชุดค าสั่งใหม่ √ ชุดค าสั่งเดิม X X คำสั่งให้ผึ้งทำซ้ำทั้งหมด 5 ครั้ง คือ เดินไปข้างหน้า เก็บน้ำหวาน หันขวา เดินไปข้างหน้า ผลิตน้ำผึ้ง และหันซ้าย


เฉลย


เรื่อง การตรวจสอบข้อผิดพลาด ค าชี้แจง : ให้นักเรียนแก้ไขชุดคำสั่งเดิมที่ไม่สามารถทำให้ผึ้งผลิตน้ำหวานได้สำเร็จ โดยเขียนคำสั่ง ที่ถูกต้องลงในช่องว่างของชุดคำสั่งใหม่ ชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) ชุดค าสั่งเดิม X ชุดค าสั่งใหม่ √


เรื่อง การตรวจสอบข้อผิดพลาด ค าชี้แจง : ให้นักเรียนแก้ไขชุดคำสั่งเดิมที่ไม่สามารถทำให้ผึ้งผลิตน้ำหวานได้สำเร็จ โดยเขียนคำสั่ง ที่ถูกต้องลงในช่องว่างของชุดคำสั่งใหม่ ชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) ชุดค าสั่งเดิม X ชุดค าสั่งใหม่ √ เฉลย


แบบประเมินการน าเสนอผลงาน ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ความถูกต้องของเนื้อหา 2 ความคิดสร้างสรรค์ 3 วิธีการนำเสนอผลงาน 4 การนำไปใช้ประโยชน์ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./.................... เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานรายบุคคล ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 3 การทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............/................./.................... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แบบสังเกตพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ล าดับที่ ชื่อ–สกุล ของนักเรียน การแสดง ความ คิดเห็น การยอมรับ ฟังคนอื่น การท างาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย ความมี น้ าใจ การมีส่วนร่วม ในการ ปรับปรุง ผลงานกลุ่ม รวม 15 คะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ................/................./.................... เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค าชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ด้าน รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1. รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีปรองดองและเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลักศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แย้ง 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรียน และโรงเรียน ลงชื่อ..................................................ผู้ประเมิน ............/.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 51-60 ดีมาก 41-50 ดี 30-40 พอใช้ ต่ำกว่า 30 ปรับปรุง


แบบประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ว 4.2 ป.3/2 เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของ โปรแกรม รายการ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน (ระดับคุณภาพ) ระดับ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) คุณภาพ 1. การเขียนโปรแกรม สามารถเขียนโปรแกรม ได้อย่างถูกต้องครบทุก ขั้นตอน สามารถเขียนโปรแกรม ได้ดี สามารถเขียนโปรแกรม ได้ค่อนข้างดี ไม่สามารถเขียน โปรแกรมได้ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง 2. การพิจารณาข้อผิดพลาด สามารถพิจารณา ข้อผิดพลาดของชุดคำสั่ง ได้ถูกต้องครบทุก ชุดคำสั่ง สามารถพิจารณา ข้อผิดพลาดของชุดคำสั่ง ได้ดี สามารถพิจารณา ข้อผิดพลาดของชุดคำสั่ง ได้ค่อนข้างดี ไม่สามารถพิจารณา ข้อผิดพลาดของชุดคำสั่ง ได้ 3. การแก้ไขชุดคำสั่ง สามารถแก้ไขชุดคำสั่ง เดิมให้เป็นชุดคำสั่งใหม่ ได้ถูกต้องครบถ้วน สามารถแก้ไขชุดคำสั่ง เดิมให้เป็นชุดคำสั่งใหม่ ได้ดี สามารถแก้ไขชุดคำสั่ง เดิมให้เป็นชุดคำสั่งใหม่ ได้ค่อนข้างดี ไม่สามารถแก้ไขชุดคำสั่ง เดิมให้เป็นชุดคำสั่งใหม่ ได้ 4. ความสมบูรณ์ของผลงาน ผลงานมีความครบถ้วน สมบูรณ์ดีมาก ผลงานมีความครบถ้วน สมบูรณ์ค่อนข้างดี ผลงานมีความครบถ้วน สมบูรณ์ดีเป็นบางส่วน ผลงานมีความครบถ้วน สมบูรณ์น้อย 5. ส่งงานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา ที่กำหนด ส่งภาระงานช้ากว่า กำหนด 1 วัน ส่งภาระงานช้ากว่า กำหนด 2 วัน ส่งภาระงานช้ากว่า กำหนดเกิน 3 วันขึ้นไป เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดีมาก 10-15 ดี 7-9 พอใช้ 1-6 ปรับปรุง


12. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย 13. บันทึกผลหลังการสอน ปัญหา/อุปสรรค มีนักเรียนกลุ่มเด็กพิเศษ LD ที่ยังไม่เข้าใจเนื้อหาในบทเรียนเรื่องการตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรม แนวทางการแก้ไข ครูอธิบายคอยชี้แนะและพาฝึกทำไปพร้อมๆกันกับครู ด้านความรู้ นักเรียนอธิบายการตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน นักเรียนสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองและคิดเป็นลำดับขั้นตอน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) นักเรียนใช้เทคโนโลยีได้คล่องและแก้ไขปัญหาล่วงหน้าได้ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ( ) ต าแหน่ง .......


หน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 2 ชั่วโมง 1.ผังมโนทัศน์ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม 3. ตัวชี้วัด ป.3/3 ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ ป.3/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ต 4. สาระการเรียนรู้


สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ช่วยให้ การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกและรวดเร็ว และ เป็นแหล่งข้อมูลความรู้ที่ช่วยในการเรียนและ การดำรงชีวิต - เว็บเบราว์เซอร์เป็นโปรแกรมสำหรับอ่าน เอกสาร บนเว็บเพจ - การสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ทำได้โดยใช้ เว็บไซต์สำหรับสืบค้น และต้องกำหนดคำค้นที่ เหมาะสมจึงจะได้ข้อมูลตามต้องการ - ข้อมูลความรู้ เช่น วิธีทำอาหาร วิธีพับกระดาษ เป็นรูปต่างๆ ข้อมูลประวัติศาสตร์ชาติไทย(อาจ เป็นความรู้ในวิชาอื่นๆ หรือเรื่องที่เป็นประเด็น ที่สนใจในช่วงเวลานั้น) - การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยควรอยู่ในการ ดูแลของครู หรือผู้ปกครอง - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น ปกป้องข้อมูลส่วนตัว - ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผู้ปกครอง เมื่อ เกิดปัญหาจากการใช้งาน เมื่อพบข้อมูลหรือ บุคคลที่ ทำให้ไม่สบายใจ - การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ต จะทำให้ไม่เกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น เช่น ไม่ใช้คำหยาบ ล้อเลียน ด่าทอ ทำให้ผู้อื่น เสียหายหรือเสียใจ - ข้อดีและข้อเสียในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา


5. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด อินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันและครอบคลุมไปทั่วโลก ทำให้ผู้ใช้งาน สามารถติดต่อสื่อสารได้สะดวกรวดเร็ว รวมทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก ดังนั้น จึงง่ายต่อ การสืบค้นข้อมูลในปัจจุบัน โดยเข้าสู่โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ เช่น กูเกิลโครม ไมโครซอฟต์เอดจ์ หรือ มอซิลลาไฟร์ฟอกซ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ในการจัดเก็บ ประมวลผล แลกเปลี่ยน หรือเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบข้อความ รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอ แต่ความปลอดภัยจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้งานทุกคนจะต้อง คำนึงถึง และมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อตนเอง ความรับผิดชอบต่อผู้อื่น และ ความรับผิดชอบต่อสังคม 6. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - ทักษะการทำงานร่วมกัน 4. ความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยี - ทักษะการสืบค้นข้อมูล - ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี - ทักษะการเลือกใช้เทคโนโลยี 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย รับผิดชอบ 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 8. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ 9. กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ


เรื่องที่ 1 : อินเทอร์เน็ต เวลา 1 ชั่วโมง วิธีการสอนโดยเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning) วิธีการสอนโดยใช้การสาธิต (Demonstration) 1. ครูถามคำถามเพื่อทบทวนความรู้ของนักเรียนว่า“นักเรียนใช้โปรแกรมใดบ้ำงเพื่อเข้ำใช้ งำนอินเทอร์เน็ต” จากนั้นให้นักเรียนทำกิจกรรมกระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกทักษะการคิดก่อนเข้าสู่ บทเรียน (Let’s do) ในหนังสือเรียน 2. ครูอธิบายกับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน 1. ครูเปิดบัตรภาพ เรื่อง โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) เพื่อแนะนำเว็บไซต์ ที่ให้บริการเกี่ยวกับการสืบค้นข้อมูล และให้นักเรียนทำกิจกรรม Activity 3.1 ในหนังสือ เรียน 2. ครูสาธิตวิธีการสืบค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ตรูปแบบ Search Engine ตามขั้นตอนจาก หนังสือเรียน ให้นักเรียนดูเป็นตัวอย่าง และเปิดโอกาสให้นักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนที่ครูสาธิต 3. นักเรียนทำกิจกรรม Activity 3.2 ในหนังสือเรียน 4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม เพื่อร่วมกันคัดเลือกหัวข้อ ที่แต่ละกลุ่มสนใจและส่งตัวแทนออกมานำเสนอหัวข้อบริเวณหน้าชั้นเรียน 5. เปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลอย่างอิสระ และบันทึกข้อมูลในรูปแบบ ผังมโนทัศน์ลงในกระดาษขนาดใหญ่ 6. ครูสุ่มนักเรียน 2- 3 คน เพื่อตอบคำถามสำคัญว่า “หำกปัจจุบันไม่มีอินเทอร์เน็ตนักเรียน คิดว่ำจะส่งผลกระทบอย่ำงไร” 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และการทำ กิจกรรมกระบวนการกลุ่มของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรม Activity ของนักเรียน 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับรูปแบบในการสืบค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต ขั้นตอน ในการสืบค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต การนำข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นมาใช้ประโยชน์ และ ข้อตกลงในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ขั้นน า ขั้นสอน ขั้นสรุป


เรื่องที่ 2 : เทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 1 ชั่วโมง วิธีการสอนโดยเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning) 1. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า “เทคโนโลยีในชีวิตประจ ำวันมีอะไรบ้ำง” และบันทึกคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน 2. จากนั้นนักเรียนและครูร่วมกันพิจารณาคำตอบที่อยู่บนกระดานว่า คำตอบใดถือว่า เกี่ยวข้องกับสารสนเทศ พร้อมอธิบายเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน 1. ครูวาดวงกลมจำนวน 3 วง ลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน ซึ่งประกอบด้วยความรับผิดชอบที่ ต้องตระหนักเกี่ยวกับสิทธิที่พึงมี โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ 2. นักเรียนศึกษา เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย จากหนังสือเรียน 3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม เพื่อร่วมกันวาดผังมโนทัศน์ เกี่ยวกับการปฏิบัติตนเพื่อใช้งานเทคโนโลยีอย่างปลอดภัยทั้ง 3 ระดับ ลงบนกระดาษขนาด ใหญ่ 4. ครูสุ่มนักเรียนร่วมกันบอกข้อดี-ข้อเสียจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยนักเรียน อาจจะสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจมากยิ่งขึ้น 5. ให้นักเรียนทำกิจกรรม Activity 3.3 และทำกิจกรรม Activity 3.4 ในหนังสือเรียน 6. ครูสุ่มนักเรียน 2-3คน ร่วมกันตอบคำถามสำคัญว่า“เพรำะเหตุใดกำรใช้งำนเทคโนโลยี สำรสนเทศบนโลกออนไลน์จึงอำจก่อให้เกิดปัญหำตำมมำ” 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และการทำ กิจกรรมกระบวนการกลุ่มของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรม Activity ของนักเรียน 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และ ข้อดี-ข้อเสียจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ 4. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้งานอินเทอร์เน็ตและ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือทำแบบทดสอบ (Unit Test) ในหนังสือเรียนเพื่อวัดความรู้ที่ นักเรียนได้รับหลังจากผ่านการเรียนรู้ 5. นักเรียนทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี สารสนเทศและนำมาส่งในชั่วโมงถัดไป 10. การวัดและประเมินผล ขั้นนำ ขั้นสอน ขั้นสรุป


รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 10.1 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยี สารสนเทศ - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง 10.2 การประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) การสืบค้นข้อมูล - ตรวจ Activity 3.1 - ตรวจ Activity 3.2 - ตรวจสอบชิ้นงาน - Activity 3.1 - Activity 3.2 - แบบประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ อย่างปลอดภัย - ตรวจ Activity 3.3 - ตรวจ Activity 3.4 - ตรวจสอบชิ้นงาน - Activity 3.3 - Activity 3.4 - แบบประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) พฤติกรรมการทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน กลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 6) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 10.2 การประเมินหลังเรียน 1)แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้ อินเทอร์เน็ต และ เทคโนโลยี สารสนเทศ - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์


รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 2)การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การ ใช้ อินเทอร์เน็ต และ เทคโนโลยีสารสนเทศ - ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - แบบประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 11. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน (ชุด แม่บทมาตรฐาน) เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ 2) บัตรภาพ เรื่อง โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) 3) กระดาษขนาดใหญ่ 11.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต


หน่วยการเรียนรู้ที่3 ค าชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. อินเทอร์เน็ตมีความหมายว่าอย่างไร ก. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันและ ครอบคลุมไปทั่วโลก ข. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันภายใน โรงเรียน ค. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันระหว่าง องค์กร 2. เมื่อต้องการเข้าสู่เว็บไซต์ในเว็บเบราว์เซอร์ ควรระบุที่อยู่ของเว็บไซต์(URL) ในช่องทางใด ก. Adder ข. Add-in ค. Address 3. จากภาพเป็นการสืบค้นข้อมูลในรูปแบบใด ก. Web Browser ข. Search Engine ค. Index Directory 4. การสืบค้นข้อมูลในรูปแบบ Search Engine มีลักษณะอย่างไร ก. การค้นหาข้อมูลในโปรแกรมการค้นหา ข. การสืบค้นข้อมูลโดยระบุคำค้น (Keyword) ค. การสืบค้นข้อมูลโดยเลือกตามหมวดหมู่ที่ได้ ถูกแบ่งไว้ 5. สัญลักษณ์เว็บเบราว์เซอร์ดังกล่าว ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทในข้อใด ก. บริษัท แอปเปิ้ล เซาท์เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ข. บริษัท กูเกิล (ประเทศไทย) จำกัด ค. บริษัท ไมโครซอฟต์ (ประเทศไทย) จำกัด เฉลย 5. จงเรียงลำดับขั้นตอนการสืบค้นข้อมูลโดยใช้ อินเทอร์เน็ตให้ถูกต้อง 1) เข้าใช้งานเว็บไซต์ที่ให้บริการ 2) คลิกเลือกข้อมูลที่ต้องการ 3) เปิดเว็บเบราว์เซอร์ 4) ระบุคำค้น ก. 4 > 2 > 1 > 3 ข. 1 > 4 > 3 > 2 ค. 3 > 1 > 4 > 2 7. บุคคลใดระบุคำค้นได้อย่างเหมาะสม ก. ก้อยค้นหาข้อมูลจากคำที่ใกล้เคียง ข. กล้าค้นหาข้อมูลจากรูปภาพที่ชื่นชอบ ค. แก้วค้นหาข้อมูลจากคำที่กระชับและตรงประเด็น 8. การนำข้อมูลที่ได้สืบค้นมาใช้ประโยชน์ควรทำอย่างไร ก. ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล ข. ประเมินความน่าเชื่อถือของผู้เขียนข้อมูล ค. ประเมินความน่าเชื่อถือของวันที่เผยแพร่ข้อมูล 9. ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่ ไม่พึงประสงค์เมื่อมีการใช้งาน อินเทอร์เน็ต ก. กิ่งไม่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวในอินเทอร์เน็ต ข. กิ๊กใช้อินเทอร์เน็ตโดยกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม ค. แก้มใช้ศัพท์วัยรุ่นในการสื่อสารเพื่อความทันสมัย 10. การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งที่ต้อง ตระหนักและพึงมี ยกเว้น ข้อใด ก. ความรับผิดชอบต่อสังคม ข. ความรับผิดชอบต่อตนเอง ค. ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ค. ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ แบบทดสอบก่อนเรียน 1. ก 2. ค 3. ค 4. ข 5. ก 6. ค 7. ค 8. ก 9. ค 10. ค


หน่วยการเรียนรู้ที่3 ค าชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. เว็บไซต์ในข้อใด ไม่เกี่ยวข้อง กับเว็บไซต์ที่ให้ บริการสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ก. www.bing.com ข. www.google.com ค. www.youtube.com 2. ข้อใดเป็นการสืบค้นข้อมูลแบบ Index Directory ก. ข. ค. 3. ข้อใดเป็นการสืบค้นข้อมูลแบบ Search Engine ก. ข. ค. 4. การสืบค้นข้อมูลโดยระบุคำค้น (Keyword) คือข้อใด ก. Web Browser ข. Search Engine ค. Index Directory 5. ข้อใดเป็นเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ที่พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟต์ ก. ข. ค. เฉลย 6. จงเรียงลำดับขั้นตอนการนำข้อมูลที่ได้จากการ สืบค้นมาใช้ประโยชน์ 1) รวบรวมข้อมูลจากหลากหลายเว็บไซต์ 2) นำเสนอข้อมูล 3) กำหนดหัวข้อและเลือกคำค้น 4) ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล ก. 4 > 2 > 1 > 3 ข. 3 > 4 > 1 > 2 ค. 2 > 4 > 3 > 1 7. บุคคลในข้อใดใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่เหมาะสม ก. กล้าเล่นอินเทอร์เน็ตวันละ 8 ชั่วโมง ข. แก้วใช้ภาษาสุภาพในการสื่อสารกับคุณครู ค. กิ่งไม่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวลงในอินเทอร์เน็ต 8. โป้ปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ถือว่าโป้ตระหนักถึงสิทธิ ในข้อใด ก. ความรับผิดชอบต่อสังคม ข. ความรับผิดชอบต่อตนเอง ค. ความรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมชั้น 9. การเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอลงในอินเทอร์เน็ต ควรตระหนักเกี่ยวกับสิทธิ ที่พึงมียกเว้นข้อใด ก. ความรับผิดชอบต่อสังคม ข. ความรับผิดชอบต่อตนเอง ค. ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ 10. เมื่อต้องการสืบค้นข้อมูลจากหน่วยงานทางการศึกษา ควรเลือกจากเว็บไซต์ที่ลงท้ายด้วยข้อใด ก. .ac.th ข. .go.th ค. .or.th แบบทดสอบหลังเรียน 1. ค 2. ข 3. ค 4. ข 5. ก 6. ข 7. ก 8. ก 9. ค 10. ก


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง อินเทอร์เน็ต เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม 2. ตัวชี้วัด ป.3/3 ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. พิจารณาข้อมูลที่สืบค้นจากอินเทอร์เน็ตได้ถูกต้อง (K) 2. ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้งานอินเทอร์เน็ต (P) 3. สืบค้นข้อมูลและรวบรวมข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตได้อย่างถูกต้อง (P) 4. เห็นประโยชน์ของอินเทอร์เน็ตในการดำรงชีวิตประจำวัน (A) 4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ช่วยให้ การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกและรวดเร็ว และ เป็นแหล่งข้อมูลความรู้ที่ช่วยในการเรียนและการ ดำรงชีวิต - เว็บเบราว์เซอร์เป็นโปรแกรมสำหรับอ่าน เอกสารบนเว็บเพจ - การสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ทำได้โดยใช้ เว็บไซต์สำหรับสืบค้น และต้องกำหนดคำค้นที่ เหมาะสมจึงจะได้ข้อมูลตามต้องการ - ข้อมูลความรู้ เช่น วิธีทำอาหาร วิธีพับกระดาษ เป็นรูปต่างๆ ข้อมูลประวัติศาสตร์ชาติไทย (อาจ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา


สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น เป็นความรู้ในวิชาอื่น ๆ หรือเรื่องที่เป็นประเด็นที่ สนใจในช่วงเวลานั้น) - การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยควรอยู่ใน การดูแลของครู หรือผู้ปกครอง 5. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด อินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันและครอบคลุมไปทั่วโลก ทำให้ผู้ใช้งาน สามารถติดต่อสื่อสารได้สะดวกรวดเร็ว รวมทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก ดังนั้น จึงง่ายต่อ การสืบค้นข้อมูลในปัจจุบัน โดยเข้าสู่โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ เช่น กูเกิลโครม ไมโครซอฟต์เอดจ์ หรือ มอซิลลาไฟร์ฟอกซ์ 6. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - ทักษะการทำงานร่วมกัน 4. ความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยี - ทักษะการสืบค้นข้อมูล - ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย รับผิดชอบ 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 8. ค าถามส าคัญ - หากปัจจุบันไม่มีอินเทอร์เน็ตนักเรียนคิดว่า จะส่งผลกระทบอย่างไร 9. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีการสอนโดยเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning) วิธีการสอนโดยใช้การสาธิต (Demonstration)


1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและ เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อวัดความรู้เดิมของนักเรียนก่อนเข้าสู่กิจกรรม 2. ครูถามคำถามเพื่อทบทวนความรู้ของนักเรียนว่า“นักเรียนใช้โปรแกรมใดบ้ำง เพื่อเข้ำใช้ งำนอินเทอร์เน็ต” (แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น Google Chrome Mozilla Firefox Microsoft Edge) 3. นักเรียนทำกิจกรรมกระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกทักษะการคิดก่อนเข้าสู่บทเรียน (Let’s do) โดยให้ นักเรียนขีดเครื่องหมายถูกหน้าโปรแกรมที่สามารถใช้ในการเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต และกาเครื่องหมายกากบาทหน้าโปรแกรมที่ไม่สามารถใช้ในการเข้าถึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน (ชุด แม่บทมาตรฐาน) เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ จากนั้นครูสุ่มถาม นักเรียนโดยเพื่อนร่วมชั้นเรียนและครูผู้สอนให้ข้อเสนอแนะตามความเหมาะสม 4. ครูอธิบายกับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า“ในกำรด ำเนินชีวิตประจ ำวันมีเทคโนโลยี ถูกพัฒนำขึ้นเพื่อตอบสนองกำรใช้ชีวิตและกำรท ำงำนของสังคม นั่นก็คือ อินเทอร์เน็ต (Internet)ที่ท ำให้เกิดกำรเรียนรู้อย่ำงไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกำรด ำรงชีวิตประจ ำวัน” 1. ครูเปิดบัตรภาพ เรื่อง โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) เพื่อแนะนำเว็บไซต์ ที่ให้บริการเกี่ยวกับการสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ แก่นักเรียน 2. ครูอธิบายกับนักเรียนว่า “กำรสืบค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ตสำมำรถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ กำรสืบค้นในรูปแบบ Index Directory และกำรสืบค้นในรูปแบบ Search Engine” 3. นักเรียนทำกิจกรรม Activity 3.1 โดยให้นักเรียนใช้เว็บไซต์ Search Engine ค้นหา รายชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูล พร้อมวาดหรือติดสัญลักษณ์ของแต่ละเว็บไซต์ และ ขีดเครื่องหมายถูกลงในช่องสี่เหลี่ยมหน้ารูปแบบการสืบค้นข้อมูลที่สามารถค้นหาได้ใน หนังสือเรียน 4. ครูสุ่มนักเรียนออกมาตอบคำถามจากการทำกิจกรรม Activity 3.1 บริเวณหน้าชั้นเรียน 5. ครูสาธิตวิธีการสืบค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ตรูปแบบ Search Engine ตามขั้นตอนจาก หนังสือเรียน ให้นักเรียนดูเป็นตัวอย่าง และเปิดโอกาสให้นักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนที่ครู สาธิตหรือสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตเพื่อขยายความเข้าใจมากยิ่งขึ้นตาม ขั้นตอน ดังนี้ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน า ขั้นสอน


1) เปิดเว็บเบราว์เซอร์ 2) เข้าใช้งานเว็บไซต์ที่ให้บริการสืบค้นข้อมูล 3) ระบุคำค้น 4) คลิกเลือกข้อมูลที่ต้องการ 6. นักเรียนทำกิจกรรม Activity 3.2 โดยให้นักเรียนวิเคราะห์สถานการณ์ที่กำหนดให้ แล้วขีด เครื่องหมายถูกลงในวงกลมหน้าคำค้นที่เหมาะสมกับการสืบค้นข้อมูลมากที่สุด พร้อมบอก เหตุผลในหนังสือเรียน 7. ครูสุ่มนักเรียนออกมาตอบคำถามจากการทำกิจกรรม Activity 3.2 บริเวณหน้าชั้นเรียน 8. ครูอธิบายกับนักเรียนว่า “ข้อมูลที่พบในเว็บไซต์มีหลำกหลำยข้อมูลจำกแหล่งข้อมูลที่ ต่ำงกัน ดังนั้น ผู้ใช้งำนจะต้องเลือกข้อมูลที่สอดคล้องกัน และสัมพันธ์กันเพื่อน ำไปใช้ให้ เกิดประโยชน์ ตำมขั้นตอนทั้ง 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ก ำหนดหัวข้อและเลือกค ำค้น 2) ประเมินควำมน่ำเชื่อถือของข้อมูล 3) รวบรวมข้อมูลจำกหลำกหลำยเว็บไซต์ 4) น ำเสนอข้อมูล” 9. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเห็นร่วมกันเพื่อคัดเลือกหัวข้อที่แต่ละกลุ่มสนใจและ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอหัวข้อบริเวณหน้าชั้นเรียนโดยแต่ละกลุ่มจะต้องไม่ซ้ำกัน 11. เปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลอย่างอิสระ และบันทึกข้อมูลในรูปแบบ ผังมโนทัศน์ลงในกระดาษขนาดใหญ่ 12. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอข้อมูลบริเวณหน้าชั้นเรียน 13. ครูอธิบายกับนักเรียนว่า “กำรเข้ำใช้งำนอินเทอร์เน็ตทั้งในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ผู้ใช้งำนจะต้องปฏิบัติตำมข้อตกลงกำรใช้งำนอินเทอร์เน็ตเพื่อไม่ให้เกิดควำมเสียหำยต่อ ตนเองและผู้อื่น” 14. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน เพื่อตอบคำถามสำคัญว่า “หำกปัจจุบันไม่มีอินเทอร์เน็ตนักเรียนคิด ว่ำจะส่งผลกระทบอย่ำงไร” (แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น การติดต่อสื่อสาร เป็นไปอย่างยากลำบาก การสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ ได้ล่าช้าขึ้น)


1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และการทำ กิจกรรมกระบวนการกลุ่มของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรม Activity ของนักเรียน 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับรูปแบบในการสืบค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต ขั้นตอน ในการสืบค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต การนำข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นมาใช้ประโยชน์ และ ข้อตกลงในการใช้งานอินเทอร์เน็ต 10. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 10.1 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยี สารสนเทศ - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจริง 10.2 การประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) การสืบค้นข้อมูล - ตรวจ Activity 3.1 - ตรวจ Activity 3.2 - ตรวจสอบชิ้นงาน - Activity 3.1 - Activity 3.2 - แบบประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน กลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ขั้นสรุป


11. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน (ชุด แม่บทมาตรฐาน) เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ 2) บัตรภาพ เรื่อง โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) 3) กระดาษขนาดใหญ่ 11.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต


บัตรภาพ เรื่อง โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser)


12. ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย 13. บันทึกผลหลังการสอน ปัญหา/อุปสรรค มีนักเรียนกลุ่มเด็กพิเศษ LD ที่ยังไม่เข้าใจเนื้อหาในบทเรียนเรื่องอินเทอร์เน็ต แนวทางการแก้ไข ครูอธิบายคอยชี้แนะและพาฝึกทำไปพร้อมๆกันกับครู ด้านความรู้ นักเรียนสามารถอธิบายและบอกความหมายของอินเทอร์เน็ตได้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน นักเรียนสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสมและคิดเป็นลำดับขั้นตอน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการทำงาน ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) นักเรียนใช้เทคโนโลยีได้คล่องและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ( ) ต าแหน่ง .......


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม 2. ตัวชี้วัด ป.3/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ต 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. พิจารณาการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยได้ (K) 2. พิจารณาข้อดี-ข้อเสียจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศได้ (K) 3. สร้างชิ้นงานเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยได้ (P) 4. ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้งานอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ (P) 5. เห็นประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ (A) 4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น ปกป้องข้อมูลส่วนตัว - ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผู้ปกครอง เมื่อ เกิดปัญหาจากการใช้งาน เมื่อพบข้อมูลหรือ บุคคลที่ ทำให้ไม่สบายใจ - การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ต จะทำให้ไม่เกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น เช่น ไม่ใช้คำหยาบ ล้อเลียน ด่าทอ ทำให้ผู้อื่น เสียหายหรือเสียใจ - ข้อดีและข้อเสียในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา


5. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ในการจัดเก็บ ประมวลผล แลกเปลี่ยน หรือเผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบข้อความ รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอ แต่ความปลอดภัยจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้งานทุกคนจะต้อง คำนึงถึง และมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อตนเอง ความรับผิดชอบต่อผู้อื่น และความรับผิดชอบต่อสังคม 6. สมรรถนะส าคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - ทักษะการทำงานร่วมกัน 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - ทักษะการเลือกใช้เทคโนโลยี - ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย รับผิดชอบ 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 8. ค าถามส าคัญ - เพราะเหตุใด การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศบนโลกออนไลน์จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา 9. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีการสอนโดยเน้นการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative learning)


1. ครูถามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า “เทคโนโลยีในชีวิตประจ ำวันมีอะไรบ้ำง” (แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องดูดฝุ่น โทรทัศน์) 2. ครูบันทึกคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน 3. ครูอธิบายกับนักเรียนเกี่ยวกับความหมายของสารสนเทศว่า “สำรสนเทศ หมำยถึง ข้อมูล ต่ำง ๆ ที่ได้ผ่ำนกำรเปลี่ยนแปลง ประมวลผล หรือวิเครำะห์ผล สรุปด้วยวิธีกำรต่ำง ๆ ให้ อยู่ในรูปแบบที่มีควำมสัมพันธ์กัน มีควำมหมำย มีคุณค่ำเพิ่มขึ้น และมีวัตถุประสงค์ในกำร ใช้งำน” 4. นักเรียนและครูร่วมกันพิจารณาคำตอบที่อยู่บนกระดานว่า คำตอบใดถือว่าเกี่ยวข้องกับ สารสนเทศ 5. ครูอธิบายกับนักเรียนเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า “เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสำรสนเทศ เรียกว่ำ เทคโนโลยีสำรสนเทศ (Information Technology) ซึ่งเป็นกำรใช้งำนเทคโนโลยีในกำรจัดเก็บ ประมวลผล แลกเปลี่ยน หรือ เผยแพร่ข้อมูลในรูปแบบต่ำง ๆ เช่น ข้อควำม รูปภำพ เสียง หรือวิดีโอ” 1. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีอย่างปลอดภัยว่า“เทคโนโลยี สำรสนเทศ ถูกพัฒนำขึ้นมำเพื่อตอบสนองต่อกำรใช้ในชีวิตประจ ำวันให้สะดวกมำกยิ่งขึ้น และท ำให้เกิดกำรเรียนรู้อย่ำงไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกำรใช้ชีวิตประจ ำวัน ซึ่งในทำง ตรงกันข้ำมกำรใช้งำนเทคโนโลยีสำรสนเทศอำจก่อให้เกิดปัญหำขึ้นได้ จึงต้องใช้งำนอย่ำง ระมัดระวังและใช้งำนอย่ำงมีควำมรับผิดชอบ” 2. ครูวาดวงกลมจำนวน 3 วง ลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน ซึ่งประกอบด้วยความรับผิดชอบที่ ต้องตระหนักเกี่ยวกับสิทธิที่พึงมี โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้ 1) ความรับผิดชอบต่อตนเอง 2) ความรับผิดชอบต่อผู้อื่น 3) ความรับผิดชอบต่อสังคม 3. นักเรียนศึกษา เรื่อง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน (ชุด แม่บทมาตรฐาน) เทคโนโลยี (วิทยาการค านวณ) ป.3 หน่วยการ เรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำ ขั้นสอน


4. ครูสุ่มนักเรียนออกมาอธิบายความหมายเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีอย่างปลอดภัย ทั้ง 3 ระดับ บริเวณหน้าชั้นเรียน 5. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-6 คน หรือตามความเหมาะสม 6. จากนั้นให้นักเรียนระดมความคิดเห็นร่วมกันเพื่อวาดผังมโนทัศน์เกี่ยวกับการปฏิบัติตนเพื่อใช้ งานเทคโนโลยีอย่างปลอดภัยทั้ง 3 ระดับ ลงบนกระดาษขนาดใหญ่พร้อมตกแต่งให้สวยงาม 7. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานบริเวณหน้าชั้นเรียน 8. ครูอธิบายกับนักเรียนว่า“ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ำมำมีบทบำทในชีวิตประจ ำวันหลำย รูปแบบ เช่น เป็นแหล่งค้นหำควำมรู้ สร้ำงควำมบันเทิง ช่วยในกำรท ำงำน ตลอดจนกำร ค้ำขำยบนโลกออนไลน์ หรืออ ำนวยควำมสะดวกในด้ำนต่ำง ๆ แต่หำกใช้งำนไม่เหมำะสมก็ อำจจะก่อให้เกิดปัญหำตำมมำได้เช่นกัน” 9. ครูสุ่มนักเรียนร่วมกันบอกข้อดี-ข้อเสียจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยนักเรียน อาจจะสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจมากยิ่งขึ้น 10. ให้นักเรียนทำกิจกรรม Activity 3.3 โดยให้นักเรียนขีดเครื่องหมายถูกในสถานการณ์ที่เป็น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและกาเครื่องหมายกากบาทในสถานการณ์ที่เป็น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไม่ปลอดภัยลงในวงกลมพร้อมบอกเหตุผล และทำ กิจกรรม Activity 3.4 โดยให้นักเรียนวิเคราะห์สถานการณ์ที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามลงใน หนังสือเรียน 11. ครูสุ่มนักเรียนออกมาตอบคำถามจากการทำกิจกรรม Activity บริเวณหน้าชั้นเรียน 12. ครูสุ่มนักเรียน 2-3คน ร่วมกันตอบคำถามสำคัญว่า“เพรำะเหตุใดกำรใช้งำนเทคโนโลยี สำรสนเทศบนโลกออนไลน์จึงอำจก่อให้เกิดปัญหำตำมมำ” (แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้สอน เช่น เนื่องจากการใช้งาน อินเทอร์เน็ตเป็นการเชื่อมต่อและครอบคลุมกันไปทั่วโลก อีกทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศใน ชีวิตประจำวันยังเข้ามามีบทบาทหลาย ๆ ด้าน และทุกเพศทุกวัย ดังนั้น จึงอาจก่อให้เกิด ปัญหาตามมาได้) 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม ความสนใจในการเรียน และการทำ กิจกรรมกระบวนการกลุ่มของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรม Activity ของนักเรียน 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และ ข้อดี-ข้อเสียจากการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ 4. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้งานอินเทอร์เน็ตและ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือทำแบบทดสอบ (Unit Test) ในหนังสือเรียน เพื่อวัดความรู้ที่ นักเรียนได้รับหลังจากผ่านการเรียนรู้ ขั้นสรุป


5. นักเรียนทำชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี สารสนเทศและนำมาส่งในชั่วโมงถัดไป 10. การวัดและประเมินผล รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 10.1 การประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ อย่างปลอดภัย - ตรวจ Activity 3.3 - ตรวจ Activity 3.4 - ตรวจสอบชิ้นงาน - Activity 3.3 - Activity 3.4 - แบบประเมินชิ้นงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน - แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3) พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทำงาน กลุ่ม - สังเกตพฤติกรรม การทำงาน กลุ่ม - แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - สังเกตความมีวินัย ความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น ในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 10.2 การประเมินหลังเรียน 1)แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ต และ เทคโนโลยี สารสนเทศ - ตรวจแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลังเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2)การประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การ ใช้ อินเทอร์เน็ต - ตรวจชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - แบบประเมินชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน และ เทคโนโลยีสารสนเทศ 11. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 11.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน (ชุด แม่บทมาตรฐาน) เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ 2) กระดาษขนาดใหญ่ 11.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องคอมพิวเตอร์ 2) อินเทอร์เน็ต


เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ ค าชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามให้ถูกต้อง สถานการณ์ : ขณะที่เด็กชายดนัยเล่นอินเทอร์เน็ตจึงไปพบข้อความให้ลงทะเบียนลุ้นรับของรางวัล เด็กชายดนัยจึงกดลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ หมายเลขบัตรประชาชน ชื่อ – นามสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน วัน/เดือน/ปีเกิด และเบอร์โทรศัพท์ลงไปในระบบเพื่อลุ้น รับของรางวัล จงตอบค าถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. เด็กชายดนัยใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยหรือไม่ อย่างไร 2. เด็กชายดนัยควรปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสม ชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) คุณคือผู้โชคดี ลุ้นรับของรางวัล ลงทะเบียน


เรื่อง การใช้อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีสารสนเทศ ค าชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามให้ถูกต้อง สถานการณ์ : ขณะที่เด็กชายดนัยเล่นอินเทอร์เน็ตจึงไปพบข้อความให้ลงทะเบียนลุ้นรับของรางวัล เด็กชายดนัยจึงกดลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ หมายเลขบัตรประชาชน ชื่อ – นามสกุล ที่อยู่ปัจจุบัน วัน/เดือน/ปีเกิด และเบอร์โทรศัพท์ลงไปในระบบเพื่อลุ้น รับของรางวัล จงตอบค าถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1.เด็กชายดนัยใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยหรือไม่ อย่างไร เด็กชายดนัยใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไม่ปลอดภัย เนื่องจากขาดความรับผิดชอบต่อตนเอง โดยการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวลงในอินเทอร์เน็ต 2.เด็กชายดนัยควรปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสม ไม่กรอกข้อมูลส่วนตัวของตนเองลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ที่หลอกลวงและเชื่อถือไม่ไดจึง ควรปกปิดข้อมูลส่วนตัวของตนเองเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ชิ้นงาน/ภาระงาน(รวบยอด) เฉลย คุณคือผู้โชคดี ลุ้นรับของรางวัล ลงทะเบียน


Click to View FlipBook Version