The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟ้า 1-63 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tanappoan511, 2022-05-25 23:25:50

แผนการสอน

แผนรายวิชาการใช้พลังงานไฟฟ้า 1-63 1

Keywords: แผนการสอนวิชาไฟฟ้าประถม

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ า

วชิ าการใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจาวนั 1 พว12010
ระดบั ประถมศึกษา

ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563

การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ระดบั การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551

ดาเนนิ การสอนโดย
.............................................................

ตาแหน่ง..................................

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอ..........................

สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดสพุ รรณบุรี

สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั
สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการ

คานา

แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ า การใชพ้ ลังงานไฟฟาู ในชวี ิตประจาวนั 1 พว12010 ระดบั ประถมศึกษา สาระ
ความรู้พื้นฐาน หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ประจาภาคเรียนที่ 1
ปีการศกึ ษา 2563 จดั ทาขนึ้ เพื่อเปน็ แนวทางในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ประกอบด้วย แนวทางการจัดการเรียนการ
สอนแบบ ONIE MODEL 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การกาหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O :
Orientation) ขั้นตอน ที่ 2 การแสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) ข้ันตอนที่ 3 การ
ปฏิบัติและนาไปประยุกต์ใช้ (I : Implementation) ข้ันตอนที่ 4 การประเมินผล (E : Evaluation) มีเน้ือหาความ
สอดคลอ้ งกบั นโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน. ปีงบประมาณ 2563 และแนวนโยบาย จุดเน้นการ
ปฏิบัติในการจัดการศึกษาเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษานอกระบบแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ในการจัดทาแผนการจัดการ
เรียนการสอนเล่มน้ี ผู้จัดทาได้รวบรวมองค์ความรู้ ทักษะและสภาพปัญหาจากการจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีผ่านมา
เพื่อนามาปรับปรุงเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน มีการจัดการเรียนรู้
ครบตามเนอื้ หา และตวั ช้ีวัดของหลักสตู ร

ขอขอบคุณ ภาคเี ครือข่ายและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ท่ีให้ความรู้ คาแนะนาและให้คาปรึกษาเป็นแนวทาง
ทาให้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาเล่มนี้ จนสาเร็จเป็นรูปเล่มสมบูรณ์ คณะผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
เอกสารเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์สาหรับผู้นาไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพหากพบข้อผิดพลาด
หรือมขี อ้ เสนอแนะประการใด คณะผูจ้ ัดทาขอนอ้ มรับไวแ้ ก้ไข ปรบั ปรุงดว้ ยความขอบคุณย่ิง

คณะผู้จดั ทา

สารบญั หนา้
........................
เรื่อง ........................
คานา .......................
สารบญั .......................
คาอธบิ ายรายวชิ าและรายละเอียดคาอธบิ ายรายวิชา .......................
ตารางวิเคราะห์ยากงา่ ย .......................
ปฏิทินการจดั การเรยี นรู้ (รายสัปดาห)์ .......................
แผนการจดั การเรยี นรู้ (รายภาค) .......................
แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบพบกลุ่ม คร้ังที่ 8 .......................
บนั ทกึ หลังการสอน .......................
แผนการจัดการเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม คร้งั ท่ี 9 .......................
บันทึกหลังการสอน .......................
แผนการจัดการเรียนรูแ้ บบพบกลุ่ม คร้งั ท่ี 17 .......................
บนั ทึกหลงั การสอน .......................
ปฏิทินการเรยี นรูด้ ้วยตนเอง .......................
แผนการจัดการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ครัง้ ที่ 8 .......................
แผนการจดั การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ครงั้ ที่ 9 .......................
แผนการจดั การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ครงั้ ท่ี 17 .......................
บรรณานุกรม
คณะทางาน

คาอธบิ ายรายวชิ าการใชพลังงานไฟฟาในชีวติ ประจาวนั 1 พว12010
จานวน 2 หนวยกิต ระดับประถมศกึ ษา

มาตรฐานการเรียนรูระดับ
มีความรู ความเขาใจ ทักษะและเห็นคุณคาเก่ียวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร เทคโนโลยี ส่ิงมีชีวิต

ระบบนเิ วศ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอม ในทองถ่นิ สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลี่ยนแปลงของ โลกและ
ดาราศาสตร มีจติ วิทยาศาสตรและนาความรูไปใชประโยชนในการดาเนนิ ชีวิต

ศกึ ษาและฝกทกั ษะเก่ียวกบั เร่ืองดงั ตอไปน้ี
1. รจู กั โรงไฟฟา
ความหมายและความสาคญั ของไฟฟา ประวตั ิความเปนมาของไฟฟาในประเทศไทย ประเภทของ ไฟฟา
2. พลังงานไฟฟาของประเทศไทย
สถานการณพลังงานไฟฟาของประเทศไทย หนวยงานท่ีเกี่ยวของดานพลังงานไฟฟาในประเทศไทย
3. อุปกรณไฟฟาและวงจรไฟฟา
4. การประหยดั พลงั งานไฟฟา

การจดั ประสบการณการเรียนรู้
ใหผูเรียน ศกึ ษา คนควา สารวจ ตรวจสอบ ทดลอง จาแนก อธบิ าย อภปิ ราย นาเสนอดวยการจัด

กระบวนการเรียนรูดวยการพบกลุม การสอนเสริม การเรยี นรูดวยตนเอง การรายงาน การศึกษาจากแหลง เรียนรู
ประสบการณตรงโดยใชสถานการณจรงิ ปรากฏการณธรรมชาติ และประสบการณจากผูเรยี น

การวัดและประเมนิ ผล
ประเมนิ จากการสงั เกต การอภิปราย การสัมภาษณ ทักษะปฏิบตั ิ รายงานการทดลอง การมสี วนรวม ใน

กจิ กรรมการเรยี นรู ผลงาน การทดสอบ การประเมิน การนาไปใชประโยชนในชีวิตประจาวนั

คาอธบิ ายรายวชิ าการใชพลังงานไฟฟาในชวี ิตประจาวัน 1 พว12010
จานวน 2 หนวยกิต ระดบั ประถมศึกษา

มาตรฐานการเรียนรูระดับ

มีความรู ความเขาใจ ทักษะและเห็นคุณคาเก่ียวกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร เทคโนโลยี ส่ิงมีชีวิต

ระบบนเิ วศ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอม ในทองถิน่ สาร แรง พลังงาน กระบวนการเปลี่ยนแปลงของ โลกและ

ดาราศาสตร มีจิตวทิ ยาศาสตรและนาความรูไปใชประโยชนในการดาเนินชีวติ

ที่ หัวเร่อื ง ตวั ชีว้ ดั เน้อื หา จานวน

(ชว่ั โมง)

1 ความหมายและ 1. บอกความหมาย 1. ความหมายและความสาคัญของไฟฟาู 4

ความสาคัญของ ของไฟฟาู 2. ประโยชน์ของพลงั งานไฟฟูา
ไฟฟูา
2. บอกประโยชน์ของ 2.1 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลังงาน
ไฟฟาู
พลังงานไฟฟูา 2.1.1 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของ
3. บอกผลกระทบจาก
พลงั งานไฟฟาู ดา้ นคมนาคม
การขาดแคลนพลังงาน 2.1.2 ประโยชน์และผลกระทบของ
ไฟฟาู พลังงานไฟฟาู ด้านอุตสาหกรรม

2.1.3 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของ

พลังงานไฟฟูาด้านเศรษฐกิจ

2.1.4 ประโยชน์และผลกระทบของ
พลงั งานไฟฟูาด้านเกษตรกรรม

2.1.5 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของ

พลงั งานไฟฟาู ด้าน คุณภาพชีวิต
2.1.6 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของ

พลังงานไฟฟูาดา้ นบริการ

2 ประวัตคิ วามเปน็ มา บอกประวตั คิ วาม ประวตั ิความเป็นมาของไฟฟูาในประเทศไทย 3

ของไฟฟาู ใน เป็นมาของไฟฟูาใน

ประเทศไทย ประเทศไทย

3 ประเภทของไฟฟูา บอกประเภทของไฟฟาู 1. ประเภทของไฟฟูา 3

1.1 ไฟฟาู สถติ
1.2 ไฟฟาู กระแส

1.2.1 ไฟฟูากระแสตรง

1.2.2 ไฟฟูากระแสสลบั
2. การกาเนดิ ของไฟฟาู

2.1 ไฟฟูาทเ่ี กิดจากการเสยี ดสขี องวตั ถุ

2.2 ไฟฟูาทเี่ กดิ จากการทาปฏิกริ ยิ าทาง
เคมี

ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เนอื้ หา จานวน

(ช่ัวโมง)

2.3 ไฟฟาู ทเ่ี กดิ จากพลงั งานแสงอาทติ ย์
2.4 ไฟฟาู ทเ่ี กิดจากพลงั งาน

แม่เหลก็ ไฟฟาู

4 สถานการณ์ 1. บอกสดั สว่ นเช้ือเพลงิ 1. สัดส่วนการผลติ ไฟฟูาจากเชื้อเพลิง 15

พลงั งานไฟฟูาของ ทใ่ี ช้ในการผลิตไฟฟูา ประเภทตา่ งๆ
2.การใชไ้ ฟฟูาในแตล่ ะชว่ งเวลาในหนึ่งวนั
ประเทศไทย ของประเทศไทย
3. สภาพปจั จุบนั และแนวโนม้ การใชพ้ ลงั งาน
2. บอกการใชไ้ ฟฟูาใน ไฟฟูา
แตล่ ะช่วงเวลาในหน่ึง

วัน

3. อธิบายสถานการณ์

พลงั งานไฟฟูาของ

ประเทศไทย

5 หน่วยงานท่ี 1. ระบชุ ื่อและสังกดั หนว่ ยงานทเี่ ก่ียวข้องดา้ นพลังงานไฟฟาู ใน 5

เก่ยี วขอ้ งดา้ น ของหนว่ ยงานที่ ประเทศไทย ได้แก่

พลังงานไฟฟูาใน เกี่ยวขอ้ งด้านพลงั งาน 1. คณะกรรมการกากับกิจการพลงั งาน
ประเทศไทย ไฟฟาู ในประเทศไทย (กกพ.)
2. บอกบทบาทหน้าที่ 2. การไฟฟาู ฝุายผลิตแหง่ ประเทศไทย(กฟผ.)
ของหน่วยงานที่ 3. การไฟฟูานครหลวง(กฟน.)
เกยี่ วข้องด้านพลงั งาน
4. การไฟฟูาสว่ นภมู ิภาค(กฟภ.)

ไฟฟูา

6 อปุ กรณ์ไฟฟาู และ 1. บอกชอ่ื และหน้าท่ี 1. อุปกรณ์ไฟฟาู 30

วงจรไฟฟูา ของอปุ กรณ์ไฟฟูา 1.1 สายไฟ
2. อธบิ ายการต่อ 1.2 ฟิวส์
วงจรไฟฟูาแบบต่างๆ 1.3 อุปกรณ์ตดั ตอนหรอื เบรกเกอร์
1.4 สวติ ซ์

1.5 เครื่องตดั ไฟฟาู ร่วั

1.6 เต้ารบั เตา้ เสยี บ

2. วงจรไฟฟูา

2.1 แบบอนุกรม

2.2 แบบขนาน

2.3 แบบผสม

3. สายดินและหลกั ดนิ

3.1 สายดิน

3.2 หลกั ดิน

ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ชี้วดั เนอื้ หา จานวน
(ชวั่ โมง)
7 การประหยัด 1. บอกกลยุทธก์ าร 1. กลยทุ ธก์ ารประหยัดพลังงานไฟฟาู 3 อ.
พลงั งานไฟฟาู 20

ประหยดั พลงั งานไฟฟูา 1.1 กลยุทธ์ อ.1 อุปกรณ์ประหยดั ไฟฟูา
2. จาแนกฉลากเบอร์ 5 1.2 กลยทุ ธ์ อ.2 อาคารประหยัดไฟฟาู
1.3 กลยุทธ์ อ.3 อปุ นสิ ัยประหยัดไฟฟูา
ของแทก้ บั ของ 2. แนวปฏิบตั กิ ารประหยดั พลงั งานไฟฟาู ใน
ลอกเลียนแบบ ครวั เรือน

3. เลือกใช้เคร่ืองใช้ไฟฟู

ได้เหมาะสมกับ

สถานการณ์ทก่ี าหนดให้

4. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้

ประหยดั พลงั งานไฟฟูา

ในครัวเรือน

ตารางวเิ คราะห์เนื้อหาสาระรายวชิ า
หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563
สาระความรูพ้ ้ืนฐาน รายวิชาการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจาวัน 1 พว12010 จานวน 2 หนว่ ยกิต

วิเคราะห์เนื้อหา

ที่ เนอ้ื หา เรยี นรู้ด้วย พบกลุม่ หมายเหตุ
ตนเอง
1 ความหมายและความสาคญั ของไฟฟูา
1.ความหมายของไฟฟาู ✓
1.1 ความหมายและความสาคญั ของไฟฟาู
2. ประโยชนข์ องพลงั งานไฟฟูา ✓
2.1 ประโยชน์และผลกระทบของพลังงานไฟฟูา ✓
2.1.1 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลังงานไฟฟูาดา้ น
คมนาคม
2.1.2 ประโยชน์และผลกระทบของพลังงานไฟฟูาด้าน
อตุ สาหกรรม
2.1.3 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลงั งานไฟฟูาด้าน
เศรษฐกิจ
2.1.4 ประโยชน์และผลกระทบของพลังงานไฟฟาู ด้าน
เกษตรกรรม
2.1.5 ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลงั งานไฟฟูาด้าน
คุณภาพชีวติ
2.1.6 ประโยชน์และผลกระทบของพลงั งานไฟฟูาด้านบริการ
3. ผลกระทบจากการขาดแคลนพลังงานไฟฟูา

2 ประวตั ิความเปน็ มาของไฟฟูาในประเทศไทย
1. ประวัตคิ วามเป็นมาของไฟฟูาในประเทศไทย

ตารางวิเคราะหเ์ นื้อหาสาระรายวชิ า
หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551

ระดับ ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563
สาระ ความรูพ้ ื้นฐาน รายวิชาการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชีวติ ประจาวนั 1 พว12010 จานวน 2 หนว่ ยกิต

วเิ คราะหเ์ นือ้ หา

ท่ี เน้ือหา เรียนร้ดู ้วย พบกล่มุ หมาย
ตนเอง เหตุ
3 ประเภทของไฟฟาู
3.1 ประเภทของไฟฟูา ✓
3.1.1. ไฟฟูาสถิต
3.1.2. ไฟฟาู กระแส ✓
3.1.2.1. ไฟฟูากระแสตรง
3.1.2.2. ไฟฟาู กระแสสลับ ✓
3.2 การกาเนดิ ของไฟฟาู
3.2.1 ไฟฟาู ท่ีเกิดจากการเสียดสีของวตั ถุ ✓
3.2.2 ไฟฟูาทเ่ี กดิ จากการทาปฏกิ ิรยิ าทางเคมี
3.2.3 ไฟฟูาท่ีเกิดจากพลงั งานแสงอาทติ ย์
3.2.4 ไฟฟูาทเ่ี กดิ จากพลังงานแมเ่ หลก็ ไฟฟูา

4 สถานการณ์พลงั งานไฟฟาู ของประเทศไทย
4.1 สัดสว่ นเชอ้ื เพลิงท่ีใชใ้ นการผลิตไฟฟาู ของประเทศไทย
4.1.1 สดั สว่ นการผลิตไฟฟาู จากเชื้อเพลงิ ประเภทต่างๆ
4.2 การใช้ไฟฟาู ในแต่ละชว่ งเวลาในหนึ่งวัน
4.2.1 การใช้ไฟฟูาในแต่ละชว่ งเวลาในหนงึ่ วนั
4.3 สถานการณ์พลังงานไฟฟูาของประเทศไทย
4.3.1 สภาพปจั จุบนั และแนวโนม้ การใช้พลังงานไฟฟูา

5 หนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้องด้านพลังงานไฟฟาู ในประเทศไทย
5.1. ชอ่ื และสังกดั ของหน่วยงานที่เกยี่ วข้องดา้ นพลังงานไฟฟาู ในประเทศ
ไทย
5.1.1. คณะกรรมการกากบั กิจการพลังงาน(กกพ.)
5.1.2. การไฟฟาู ฝุายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)
5.1.3. การไฟฟูานครหลวง(กฟน.)
5.1.4. การไฟฟาู สว่ นภูมิภาค(กฟภ.)
5.2. บทบาทหน้าที่ของหนว่ ยงานทเี่ กีย่ วข้องด้านพลงั งานไฟฟูา

ตารางวเิ คราะหเ์ น้ือหาสาระรายวิชา
หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

ระดับ ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
สาระ ความรพู้ ืน้ ฐาน รายวิชาการใช้พลงั งานไฟฟา้ ในชีวิตประจาวัน 1 พว12010 จานวน 2 หนว่ ยกิต

วิเคราะห์เน้ือหา

ท่ี เนื้อหา เรียนรูด้ ว้ ย พบกลมุ่ หมายเหตุ
ตนเอง
6 อปุ กรณ์ไฟฟาู และวงจรไฟฟูา
6.1 ช่ือและหนา้ ที่ของอุปกรณ์ไฟฟาู ✓
6.1.1 อปุ กรณ์ไฟฟาู
6.1.1.1 สายไฟ ✓
6.1.1.2 ฟิวส์
6.1.1.3 อุปกรณต์ ัดตอนหรอื เบรกเกอร์ ✓
6.1.1.4 สวติ ซ์
6.1.1.5 เคร่ืองตดั ไฟฟาู ร่วั
6.1.1.6 เต้ารับ เตา้ เสียบ
6.2 การตอ่ วงจรไฟฟาู แบบต่างๆ
6.2.1 วงจรไฟฟูา
6.2.1.1 แบบอนกุ รม
6.2.1.2 แบบขนาน
6.2.1.3 แบบผสม
6.2.2 สายดนิ และหลกั ดิน
6.2.2.1 สายดิน
6.2.2.2 หลักดิน

7 การประหยัดพลงั งานไฟฟาู
7.1. กลยุทธก์ ารประหยดั พลงั งานไฟฟูา
7.1.1 กลยทุ ธก์ ารประหยัดพลงั งานไฟฟาู 3 อ.
7.1.1.1 กลยุทธ์ อ.1 อุปกรณป์ ระหยัดไฟฟูา
7.1.1.2 กลยทุ ธ์ อ.2 อาคารประหยดั ไฟฟูา
7.1.1.3 กลยทุ ธ์ อ.3 อปุ นสิ ยั ประหยดั ไฟฟาู
7.1.2 แนวปฏบิ ัตกิ ารประหยดั พลังงานไฟฟูาในครวั เรอื น
7.2 จาแนกฉลากเบอร์ 5 ของแท้กับของลอกเลียนแบบ
7.3 เลอื กใชเ้ คร่ืองใช้ไฟฟูาได้เหมาะสมกบั สถานการณ์ท่ี
กาหนดให้
7.4 ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ประหยัดพลงั งานไฟฟาู ในครัวเรอื น

ปฏทิ นิ การเรียนรนู้ ักศกึ ษา กศน.
หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

ระดับ....ประถมศกึ ษา.......... ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563
กศน. ตาบล................................... กศน. อาเภอ................................ จังหวัดสพุ รรณบุรี

ครัง้ ท่ี ว/ด/ป การจัดการเรยี นร้แู บบพบกลุ่ม การจดั การเรียนรแู้ บบเรียนรดู้ ้วยตนเอง

1 ปฐมนเิ ทศนักศึกษาภาคเรียนที่ 1/2563

2 วิชาทักษะการเรียนรู้ ทร11001 วชิ าทักษะการเรยี นรู้ ทร 11001

เรอ่ื ง การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เร่อื ง การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง

1. ความหมาย ความสาคัญ ของการเรียนรู้ดว้ ย 2. การกาหนดเปาู หมายและ การวางแผนการ

ตนเอง เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง

2. การกาหนดเปูาหมายและ การวางแผนการ 4. เจตคติ/ปจั จัยท่ีทาให้การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ประสบความสาเรจ็ (การเปิดรับโอกาสการเรยี นรู้

3. ทักษะพืน้ ฐานทางการศกึ ษาหาความรู้ ทกั ษะ การคดิ รเิ รมิ่ และเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง การสรา้ ง

การแกป้ ัญหา และเทคนคิ ในการเรียนรู้ดว้ ย แรงจูงใจ การสรา้ งวนิ ยั ในตนเอง การคดิ เชิงบวก

ตนเอง (การอ่าน การฟัง การสังเกต การจา และ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ความรกั ในการเรียน การใฝุรู้

การจดบนั ทกึ ใฝเุ รียน และความรับผดิ ชอบ

4. เจตคติ/ปัจจัยท่ที าให้การเรียนรูด้ ้วยตนเอง วิชาทกั ษะการเรียนรู้ ทร11001
ประสบความสาเร็จ(การเปดิ รับโอกาสการเรียนรู้ เร่ือง การใชแ้ หล่งเรียนรู้
การคดิ รเิ รมิ่ และเรยี นรูด้ ้วยตนเอง การสรา้ ง 1. ความหมาย ความสาคัญของแหล่งเรียนรู้
แรงจงู ใจ การสรา้ งวนิ ยั ในตนเอง การคิดเชิงบวก โดยท่ัวไป (กล่มุ บริการข้อมูล กลมุ่ ศิลปวฒั นธรรม
ความคิดสร้างสรรค์ ความรักในการเรียน การใฝรุ ู้ ประวัติศาสตร์ กล่มุ ข้อมลู ท้องถนิ่ กลุ่มสือ่ กลุ่ม
สนั ทนาการ
ใฝเุ รยี น และความรับผดิ ชอบ

3 วชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ทร11001 วิชาทักษะการเรียนรู้ ทร 11001

เรอ่ื ง การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ เร่ือง การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้

2. การเขา้ ถึงและเลือกใชแ้ หล่งเรยี นรู้ (หอ้ งสมดุ 3. บทบาทหน้าทีแ่ ละการบริการของแหล่งเรยี นรู้

ประชาชนอาเภอของสถานศึกษา และ ศรช. ดา้ นตา่ ง ๆ

3. บทบาทหน้าที่และการบริการของแหล่งเรยี นรู้ 4. กฎ กตกิ า เงื่อนไขตา่ ง ๆ ในการไปขอใช้

ดา้ นตา่ ง ๆ บรกิ ารแหลง่ เรยี นรู้

4. กฎ กตกิ า เง่อื นไขตา่ ง ๆ ในการไปขอใช้

บรกิ ารแหล่งเรียนรู้ วชิ าทักษะการเรียนรู้ ทร11001

5. ทักษะการใช้ข้อมลู สารสนเทศจากห้องสมดุ เรอ่ื งการจดั การเรียนรู้

ประชาชนทีส่ อดคล้องกับความต้องการ ความ 1. ความหมาย ความสาคัญ หลกั การของ

จาเปน็ เพ่อื นาไปใชใ้ นการเรยี นรขู้ องตนเอง การจัดการความรู้

ครง้ั ที่ ว/ด/ป การจดั การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม การจดั การเรยี นรูแ้ บบเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

4 วชิ าทักษะการเรยี นรู้ ทร11001 วชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ทร11001

เรือ่ งการจัดการเรยี นรู้ เร่ืองการจดั การเรยี นรู้

2. กระบวนการจดั การความรู้ (กาหนดเปูาหมาย 3. กระบวนการจัดการความรู้ด้วยตนเอง (ระดับ

การเรยี นร/ู้ ระบคุ วามร/ู้ กาหนดความรูท้ ่ีต้องการ ปัจเจก

ใช้/การแสวงหาความร/ู้ สรปุ องค์ความรู้ 3.7 จัดทาสารสนเทศองค์ความร้ใู นการพัฒนา

ปรับปรุง ดัดแปลงใหเ้ หมาะสมตอ่ การใชง้ าน/ ตนเอง

ประยุกตใ์ ช้ความร้ใู นกิจการงานของตน/

แลกเปลี่ยนความรู/้ รวมกล่มุ ปฏิบตั กิ ารตอ่ ยอด

ความรู้ พฒั นาขอบข่ายความรขู้ องกลุ่ม/ สรุป

องค์ความรู้ของกลุ่ม/จัดทาสารสนเทศ เผยแพร่

ความรู้

3. กระบวนการจดั การความรู้ดว้ ยตนเอง (ระดับ

ปัจเจก

3.1 กาหนดความรหู้ ลักทจี่ าเป็นหรอื สาคัญต่อ

งานหรือกจิ กรรม

3.2 เสาะแสวงหาความรู้

3.3 ประยุกต์ใช้ความรู้

3.4 แลกเปลย่ี นความรู้

3.5 พัฒนาความรู้/ยกระดับความรู/้ ตอ่ ยอด

ความรู้

3.6 สรุปองค์ความรู้

3.7 จัดทาสารสนเทศองค์ความรูใ้ นการพฒั นา

ตนเอง

5 วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001 วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001

เรอ่ื ง กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

และเทคโนโลยี และเทคโนโลยี

กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และ โครงงานวิทยาศาสตร์

เทคโนโลยี 1. การเขียนโครงงาน

1.ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์ 2. การวางแผน และการทาโครงงาน

1.1 ความหมายและความสาคัญของ 3. การนาเสนอโครงงาน

วทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง ส่งิ มีชีวติ และสิ่งแวดล้อม

1.2 กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สิง่ มีชวี ิต

- วิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร์ 5 ขั้น 1. พชื

- ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 13 - ประเภทของพชื

ทกั ษะ - ลกั ษณะภายนอกของส่วนประกอบต่าง ๆ

- เจตคติทางวิทยาศาสตร์ 6 ลักษณะ ของพืช

- จิตวิทยาศาสตร์ - หน้าท่ขี องส่วนประกอบของพืช

ครงั้ ท่ี ว/ด/ป การจัดการเรยี นรูแ้ บบพบกลุ่ม การจัดการเรียนรแู้ บบเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง
- ปจั จัยท่ีจาเปน็ ต่อการดารงชวี ิตของพืช
2. เทคโนโลยี - การขยายพนั ธพ์ุ ชื
- พืชในท้องถน่ิ
2.1 ความหมายและความสาคัญ 3. สตั ว์
- การแบง่ ประเภทของสตั ว์
2.2 เทคโนโลยีกบั ชีวิต - ปจั จยั ที่จาเป็นต่อการเจริญเติบโตของสตั ว์

3. อปุ กรณ์วทิ ยาศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ พว11001
เร่อื ง สงิ่ มีชีวิตและส่ิงแวดล้อม
3.1 ประเภท ระบบนเิ วศ
1. ความเปน็ อยขู่ องส่งิ มชี ีวิตในทอ้ งถน่ิ
3.2 วิธีใชอ้ ปุ กรณ์ - แหล่งที่อยู่อาศัย
- ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตกับสงิ่ มชี ีวติ
โครงงานวิทยาศาสตร์ - ความสมั พนั ธ์ของกลุ่มส่ิงมีชีวติ กับ
สภาพแวดลอ้ ม
1. ประเภทของโครงงาน 2. ความสัมพันธ์ระหวา่ งสภาพแวดลอ้ มกบั การ
ดารงชีวติ ของสงิ่ มีชวี ติ
2. การเลือกหวั ข้อโครงงาน - สภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมของสิง่ มีชวี ติ ในแต่
ละแหลง่ ที่อยู่
เรื่อง สง่ิ มีชีวิตและสิ่งแวดล้อม - ความสามารถในการปรับตัวให้เขา้ กบั
สง่ิ แวดล้อม
ส่งิ มีชวี ติ ทรพั ยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ ม และการ
อนุรักษ์
- ลักษณะและการจดั กลมุ่ ของสงิ่ มีชวี ิต 1. ทรพั ยากรธรรมชาติ
- ความหมายและประเภท
6 วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001 - การใชท้ รัพยากรธรรมชาติในท้องถน่ิ
เร่อื ง สง่ิ มีชีวติ และส่ิงแวดล้อม - ผลกระทบจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาตใิ น
สงิ่ มีชวี ิต ท้องถ่นิ
1. สตั ว์ - การดูแลรกั ษา
- โครงสร้างและหน้าทีข่ องอวยั วะของสตั ว์ 2. สิ่งแวดลอ้ ม
- การขยายพนั ธสุ์ ตั ว์ - การเปลย่ี นแปลงสงิ่ แวดล้อมในทอ้ งถิน่
ระบบนเิ วศ - การปูองกนั และแกไ้ ขปญั หาสงิ่ แวดล้อมใน
1. ห่วงโซ่อาหาร
- ความสัมพนั ธ์ของส่งิ มีชวี ิตในห่วงโซอ่ าหาร
- การถ่ายทอดพลงั งานจากผูผ้ ลิตสผู่ ูบ้ ริโภค
ทรพั ยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ ม และการ
อนรุ กั ษ์
1 สงิ่ แวดล้อม
- ความหมายและประเภท

ครง้ั ที่ ว/ด/ป การจัดการเรียนรู้แบบพบกลุ่ม การจดั การเรียนรแู้ บบเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

ทอ้ งถ่นิ
- สภาวะโลกรอ้ นสาเหตุและผลกระทบ
การปูองกนั และแก้ไขปัญหาโลกร้อน
ปรากฏการณท์ างธรรมชาติ
1. การรายงานสภาพอากาศของท้องถน่ิ
2.การเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
- เมฆ
- หมอก
- น้าค้าง
- ฝน
- ลกู เห็บ
- กรณศี ึกษาน้าคา้ งแข็ง สาเหตแุ ละผลกระทบ

7 วิชาเศรษฐกิจพอเพียง ทช11001 วิชาเศรษฐกจิ พอเพียง ทช11001

เร่อื ง ครอบครวั พอเพียง เรื่อง ความพอเพียง

ประวัตคิ วามเป็นมา ความหมาย แนวคดิ 2. การดาเนนิ ชีวิตตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

หลักการ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. รายรับ – รายจา่ ยของตนเองและครอบครัว

1. แนวทางในการนาปรชั ญาของเศรษฐกิจ 4. การวางแผนการจดั ทาการวางแผนการใชจ้ ่าย

พอเพยี งไปประยุกต์ใช้ในวถิ ชี ีวิตของตนเองและ บนั ทึกรายรบั – รายจ่ายของตนองและครอบครวั

ครอบครัว 5. การลดรายจา่ ย เพิ่มรายได้จากกรณตี ่าง ๆ

6. หลกั ในการให้คาแนะนา สมาชิกในครอบครัว เช่น

เห็นคุณค่าของการนาเอาหลกั เศรษฐกจิ พอพียง -การประหยดั อดออม

ไปใช้ในการดาเนินชีวิต -การใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์

-การปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ผลิตและผู้บรโิ ภค

8 วิชาการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชวี ติ ประจาวัน 1 วชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชีวติ ประจาวนั 1

พว12010 พว12010

เรื่องความหมายและ ความสาคัญของไฟฟ้า เร่ืองประเภทของไฟฟา้

1. ความหมาย และความสาคัญของไฟฟาู 1. ประเภทของไฟฟูา

2. ประโยชน์และผลกระทบของ พลังงานไฟฟาู 1.1 ไฟฟูาสถติ

2.1 ประโยชนแ์ ละผลกระทบ ของพลงั งานไฟฟูา 1.2 ไฟฟูากระแส

ด้าน คมนาคม 1.2.1 ไฟฟูากระแสตรง

2.2 ประโยชน์และผลกระทบ ของพลงั งานไฟฟาู 1.2.2 ไฟฟาู กระแสสลับ

ดา้ น อุตสาหกรรม 2. การกาเนิดของไฟฟูา

2.3 ประโยชน์และผลกระทบ ของพลงั งานไฟฟาู 2.1 ไฟฟูาท่ีเกดิ จากการเสียดสี ของวตั ถุ

ดา้ น เศรษฐกจิ 2.2 ไฟฟาู ท่เี กิดจากการทาปฏิกริ ยิ าทางเคมี

2.4 ประโยชน์และผลกระทบ ของพลังงานไฟฟาู 2.3 ไฟฟาู ทเ่ี กดิ จากพลงั งาน แสงอาทติ ย์

ด้าน เกษตรกรรม 2.4 ไฟฟาู ท่ีเกิดจากพลังงานแมเ่ หลก็ ไฟฟาู

2.5 ประโยชนแ์ ละผลกระทบ ของพลังงานไฟฟาู เรื่องหนว่ ยงานที่เก่ยี วข้องด้านพลังงานไฟฟา้

ครงั้ ที่ ว/ด/ป การจัดการเรยี นรแู้ บบพบกลุ่ม การจดั การเรยี นรู้แบบเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

ดา้ นคณุ ภาพชวี ิต ในประเทศไทย

2.6 ประโยชน์และผลกระทบของ หนว่ ยงานที่เกยี่ วข้องด้าน ไฟฟูาในประเทศไทย

พลงั งานไฟฟูาดา้ นบริการ ได้แก่ ประเทศไทย

3.ผลกระทบจากการขาดแคลนพลงั งานไฟฟา้ 1. คณะกรรมการกากบั กิจการ

เรื่องประวตั ิความเปน็ มาของไฟฟา้ ใน 2. การไฟฟูาฝาุ ยผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

ประเทศไทย 3. การไฟฟาู นครหลวง (กฟน.)

ประวัติความเปน็ มาของไฟฟูาใน 4. การไฟฟาู ส่วนภมู ิภาค (กฟภ.)

ไฟฟูาในประเทศไทย

9 วิชาการใช้พลังงานไฟฟ้าในชวี ิตประจาวัน 1 วชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในชวี ิตประจาวนั 1

พว12010 พว12010

เรื่องสถานการณ์พลงั งาน เร่ืองอุปกรณไ์ ฟฟา้ และวงจรไฟฟา้

1. สดั ส่วนการผลติ ไฟฟูาจาก ไฟฟูาของประเทศ 1. อุปกรณ์ไฟฟาู

ไทย การผลิตไฟฟาู ของประเทศไทย เชื้อเพลิง 1.1 สายไฟ

ประเภทต่าง ๆ 1.2 ฟิวส์ แบบตา่ ง ๆ

2. การใชไ้ ฟฟูาในแตล่ ะช่วงเวลาในหนึ่งวัน 1.3 อปุ กรณ์ตัดตอนหรือเบรกเกอร์

3. สภาพปัจจบุ นั และแนวโน้มการใช้พลงั งาน

ไฟฟูา

10 วิชาสพุ รรณบ้านฉนั 1 สค13111 วิชาสุพรรณบ้านฉัน 1 สค13111

เรอื่ งวัฒนธรรม ประเพณขี องจังหวัดสุพรรณบรุ ี เร่อื งประวตั จิ ังหวัดสุพรรณบุรี

1. วัฒนธรรม ประเพณีของจังหวัดสุพรรณบรุ ี 1. ภมู ิศาสตร์ของจังหวัดสุพรรณบุรี

1.1 ภาษาทอ้ งถ่ิน สภาพภมู ศิ าสตรข์ องจังหวัดสุพรรณบุรี

- ภาษาถิ่นสุพรรณบุรี 2. ประวตั ศิ าสตรจ์ ังหวดั สุพรรณบุรี

- ภาษากะเหร่ียง ประวตั ิความเปน็ มาของจังหวัดสุพรรณบรุ ี

- ภาษาลาวโซง่ ตั้งแตอ่ ดีตถึงปจั จุบัน

- ภาษาลาวเวียง 3. เศรษฐกจิ สงั คมของจังหวดั สุพรรณบุรี

1.2 การแต่งกายพื้นบ้านของแตล่ ะท้องถน่ิ 1. ด้านการประกอบอาชีพ

- ชุดไทยทรงดา/ลาวโซง่ 2. ดา้ นการศึกษา

- ชดุ กะเหร่ียง 3. ด้านศาสนา

- ชุดลาวเวยี ง 4. เขตการปกครองของจังหวดั สุพรรณบรุ ี

1.3 ประเพณีทสี่ าคญั ของท้องถน่ิ เรอื่ งวัฒนธรรม ประเพณีของจงั หวดั สุพรรณบรุ ี

2. การสืบทอดวัฒนธรรม ประเพณี (กรณี

ตวั อย่าง)

3. บุคคลสาคัญที่มสี ว่ นร่วมในการสืบสาน

วัฒนธรรม ประเพณี ในจังหวัดสพุ รรณบุรี

3.1 ดา้ นศาสนา

3.2 ด้านการเมือง

ครง้ั ท่ี ว/ด/ป การจัดการเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม การจัดการเรยี นรู้แบบเรียนรดู้ ้วยตนเอง

การปกครอง
3.3 ดา้ นวชิ าการ
3.4 ด้านศิลปิน

4. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 11 ประการของ
คนดศี รสี พุ รรณ

1) รกั ษาความสะอาดรา่ งกาย
บ้านเรือน และชุมชน
2) มีจติ สานึกรว่ มกันอนรุ ักษ์ส่ิงแวดล้อม
3) มวี ถิ ปี ระชาธิปไตย
4) เป็นผปู้ ระหยดั อดออม และนิยมไทย
5) ปฏบิ ตั ิตามหลกั เบญจศีล เบญจธรรม หรือ
หลักธรรมของศาสนาอืน่ ที่เดก็ และเยาวชน
นบั ถือ
6) เปน็ ผมู้ ีมารยาทแบบไทย
7) มวี นิ ัยจราจร
8) เป็นคนตรงต่อเวลา
9) ปฏิบัติตนในการเข้าแถวเรยี งลาดบั กอ่ น-
หลัง ในการรับบรกิ ารต่าง ๆ
10) ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบและข้อบังคับของ
โรงเรียนและกล่มุ โดยเครง่ ครัด
11) ไม่พัวพนั ยาเสพตดิ

วชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ทร11001
เรือ่ ง การวิจัยอย่างง่าย
1. วิจยั คอื อะไร ทาไมต้องรเู้ ร่ืองการวจิ ัย
(ความหมายและความสาคญั ของการวจิ ัย
1.1 ความหมายของการวิจัย

1.2 ความสาคญั และประโยชน์ของการวจิ ยั

11 วชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ทร11001 วชิ าทกั ษะการเรยี นรู้ ทร11001

เรอ่ื ง การวิจยั อยา่ งงา่ ย เรือ่ ง การวิจยั อย่างงา่ ย

2. ทาวิจัยอยา่ งไร 3. เขียนอยา่ งไร ใหค้ นอา่ นเข้าใจ (การเขยี น

(กระบวนการและขั้นตอนการวิจยั ) รายงานการวิจยั อย่างงา่ ย)

2.1 คาถามทีต่ ้องการคาตอบคอื อะไร 3.1 ความเปน็ มา/ความสาคัญของเรื่องทท่ี าวิจัย

ปญั หาทต่ี อ้ งการทราบจากการวจิ ยั คอื อะไร (การ 3.2 วตั ถปุ ระสงค์การวิจัย

ระบปุ ญั หาการวจิ ัย) 3.3 ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั จากการวิจยั

2.2 คาดเดาคาตอบวา่ อย่างไร 3.4 เอกสารทเี่ กีย่ วข้อง

กาหนดแนวคาตอบเบื้องต้น (สมมติฐาน) 3.5 วธิ ีดาเนนิ การวิจยั

ครง้ั ท่ี ว/ด/ป การจัดการเรียนรูแ้ บบพบกลุ่ม การจดั การเรยี นรู้แบบเรียนรดู้ ้วยตนเอง

2.3 วิธีการหาคาตอบทต่ี ้องการร/ู้ แหลง่ 3.6 การวเิ คราะหข์ ้อมูล

คาตอบ/การรวบรวมคาตอบ(การเกบ็ รวบรวม 3.7 สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ

ขอ้ มลู /เครื่องมอื การวจิ ัย) 3.8 เอกสารอา้ งองิ

2.4 ตอบคาถามท่ีสงสัยวา่ อย่างไร

(การวเิ คราะห์ข้อมูล/สรุปผลการวิจยั )

3. เขียนอยา่ งไร ให้คนอา่ นเข้าใจ (การเขยี น

รายงานการวจิ ัยอย่างง่าย)

3.1 ความเป็นมา/ความสาคัญของเรื่องท่ีทาวิจยั

3.2 วตั ถปุ ระสงค์การวิจยั

3.3 ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการวจิ ยั

3.4 เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง

3.5 วิธีดาเนนิ การวจิ ัย

3.6 การวเิ คราะห์ข้อมลู

3.7 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ

3.8 เอกสารอ้างอิง

12 วชิ าทักษะการเรยี นรู้ ทร11001 วชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ทร11001

เรือ่ งทกั ษะการเรยี นรแู้ ละศกั ยภาพหลกั ของ เรอ่ื งทกั ษะการเรียนรู้และศกั ยภาพหลักของ

พนื้ ที่ในการพฒั นาอาชพี พืน้ ทีใ่ นการพัฒนาอาชีพ

1.ความหมาย ความสาคญั ของศักยภาพหลักใน 2.การวเิ คราะห์ศกั ยภาพหลักของพนื้ ท่ใี นการ

การพฒั นาอาชีพ พัฒนาอาชีพ

2.การวเิ คราะห์ศักยภาพหลักของพน้ื ที่ในการ 2.1 ศักยภาพของทรัพยากรธรรมชาตใิ นแต่ละ

พฒั นาอาชีพ พื้นท่ี

2.1 ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตล่ ะ 2.2 ศักยภาพของพ้ืนทต่ี ามลักษณะภมู ิอากาศ

พ้ืนที่ 2.3 ศักยภาพของภูมปิ ระเทศ และทาเลทตี่ ั้ง

2.2 ศักยภาพของพนื้ ทตี่ ามลักษณะภูมิอากาศ ของแตล่ ะพ้นื ที่

2.3 ศกั ยภาพของภมู ิประเทศ และทาเลทต่ี ้ัง 2.4 ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี

ของแตล่ ะพ้นื ที่ และวถิ ชี ีวติ ของแตล่ ะพื้นที่

2.4 ศักยภาพของศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณี 3.ตัวอยา่ งอาชีพทส่ี อดคล้องกับศกั ยภาพหลักของ

และวถิ ชี ีวติ ของแตล่ ะพ้ืนที่ พื้นท่ี คือ

3.ตัวอยา่ งอาชีพทส่ี อดคล้องกับศกั ยภาพหลักของ 3.1 กลมุ่ อาชพี ด้านเกษตรกรรม

พ้นื ท่ี คือ 3.2 กลมุ่ อาชีพดา้ นอตุ สาหกรรม

3.1 กลมุ่ อาชีพดา้ นเกษตรกรรม 3.3 กลุ่มอาชพี ดา้ นพาณชิ ยกรรม

3.2 กลมุ่ อาชพี ด้านอุตสาหกรรม 3.4 กลุ่มอาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์

3.3 กลมุ่ อาชพี ด้านพาณิชยกรรม 3.5 กลมุ่ อาชีพด้านบริหารจัดการ และการ

3.4 กลุ่มอาชพี ดา้ นความคิดสรา้ งสรรค์ บรกิ าร

3.5 กลมุ่ อาชพี ด้านบรหิ ารจัดการ และการ

บรกิ าร

ครง้ั ที่ ว/ด/ป การจดั การเรยี นรแู้ บบพบกลุ่ม การจัดการเรยี นรแู้ บบเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

เรอื่ ง การคดิ เปน็
1. ความเชือ่ พนื้ ฐานทางการศึกษาผู้ใหญ/่
การศกึ ษานอกระบบ 5 ประการ
1.1 คนทุกคนมีความแตกต่างกนั แตท่ ุกคน
ตอ้ งการความสขุ ความสขุ ของแต่ละคนจึง
แตกต่างกนั
1.2 ความสุขของคนจะเกดิ ขึ้นก็ต่อเม่ือมกี าร
ปรบั ตวั เองและส่ิงแวดล้อมให้เขา้ หากนั อย่างผสม
กลมกลืนจนเกิดความพอดี
1.3 สภาวะแวดล้อมในสังคมเปล่ยี นแปลงอยู่
ตลอดเวลา จึงทาให้เกดิ ปญั หา เกดิ ความทุกข์
ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจอยตู่ ลอด
1.4 เมอ่ื เกิดปัญหาหรือเกิดทกุ ข์กต็ อ้ งหาวธิ ี
แกป้ ญั หา ซึ่งการแก้ปัญหาทีเ่ หมาะสมต้องมี
ขอ้ มูลประกอบการคดิ การตัดสินใจ อยา่ งน้อย 3
ประการ คือ ข้อมูลดา้ นวิชาการ ขอ้ มลู ดา้ น
ตนเอง ข้อมลู ด้านสังคม สงิ่ แวดล้อม
1.5 เมื่อได้ใช้วธิ แี กป้ ัญหาด้วยการวิเคราะห์
ข้อมูลและไตร่ตรองขอ้ มูลอยา่ งรอบคอบ ทง้ั 3
ดา้ น จนมคี วามพอใจแล้วก็พร้อมท่จี ะรับผดิ ชอบ
การตดั สนิ ใจทีเ่ กดิ ความพอดี ความสมดุลระหวา่ ง
ชีวิตกบั ธรรมชาติอยา่ งสนั ตสิ ุข
2. ปรัชญาคิดเปน็
2.1 ความหมาย

2.2 ความสาคญั
2.3 คาท่เี กีย่ วข้อง

13 วชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ทร11001 วิชาทกั ษะการเรียนรู้ ทร11001

เรื่อง การคิดเปน็ เรื่อง การคิดเป็น

2.4 การเชอ่ื มโยงความเช่ือพื้นฐานทางการศึกษา 3. กระบวนการและขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาอยา่ ง

ผู้ใหญ่/การศึกษานอกระบบ กับปรชั ญาคิดเปน็ คนคิดเป็น

3. กระบวนการและขัน้ ตอนการแกป้ ญั หาอยา่ ง 3.1 ทกุ ข/์ ปัญหาท่ีปรากฏ

คนคิดเปน็ 3.2 ศกึ ษาสาเหตุของทุกข์ ปัญหา โดยการ

3.1 ทุกข์/ปญั หาที่ปรากฏ วเิ คราะหข์ ้อมูลทีเ่ กี่ยวข้อง ท้งั ขอ้ มูลวิชาการ

3.2 ศึกษาสาเหตุของทุกข์ ปัญหา โดยการ ขอ้ มลู ตนเอง และข้อมลู ทางสังคม ส่งิ แวดลอ้ ม

วิเคราะหข์ ้อมูลท่เี ก่ยี วขอ้ ง ทงั้ ขอ้ มูลวิชาการ ใหร้ ู้ลักษณะเบ้ืองต้นของขอ้ มูลท้งั 3 ประการ

ข้อมลู ตนเอง และข้อมูลทางสังคม ส่ิงแวดล้อม และเปรียบเทียบความแตกต่างของข้อมลู ตา่ ง ๆ

ให้รลู้ กั ษณะเบ้ืองต้นของขอ้ มูลท้ัง 3 ประการ อย่างง่าย ๆ ได้

ครง้ั ท่ี ว/ด/ป การจดั การเรยี นรูแ้ บบพบกลุ่ม การจัดการเรียนรแู้ บบเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

และเปรียบเทียบความแตกต่างของขอ้ มูล ต่าง ๆ 3.3 กาหนดทางเลือกในการดับทุกข/์ ปัญหา

อยา่ งงา่ ย ๆ ได้ และเลอื กแนวทางท่เี หมาะสม

3.3 กาหนดทางเลือกในการดับทุกข/์ ปัญหา 3.4 ดาเนินการแก้ปญั หาเพ่ือการดับทกุ ข์

และเลอื กแนวทางท่ีเหมาะสม 3.5 ประเมนิ ผลการดาเนินงาน หากมีผลเปน็ ท่ี

3.4 ดาเนนิ การแกป้ ญั หาเพื่อการดับทุกข์ พอใจก็จะเกดิ สันติสขุ ถ้ายงั ไมพ่ อใจก็จะ

3.5 ประเมินผลการดาเนนิ งาน หากมผี ลเป็นท่ี ยอ้ นกลับไปพิจารณาสาเหตทุ ุกข์หรือปัญหาใหม่

พอใจกจ็ ะเกดิ สันติสุข ถ้ายังไม่พอใจกจ็ ะ และแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างพอเพยี งจนพอใจ

ย้อนกลบั ไปพิจารณาสาเหตทุ ุกข์หรือปัญหาใหม่ กบั การตดั สนิ ใจของตนเอง

และแสวงหาข้อมูลเพ่มิ เตมิ อย่างพอเพยี งจนพอใจ

กบั การตัดสินใจของตนเอง

4. กรณตี ัวอย่างท่ีหลากหลายเพอื่ ฝึกทักษะการ

คิดเป็นด้วยกระบวนการแกป้ ัญหาอย่างคนคดิ

เป็น

14 วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001 วิชาวิทยาศาสตร์ พว11001
เร่อื ง สารเพอ่ื ชวี ิต เร่อื ง สารเพ่อื ชวี ิต
สารและสมบตั ิของสาร สารและสมบัติของสาร
1. ความหมายและความสาคัญ 1. สมบัติทว่ั ไปของสาร
2. สมบตั ิท่วั ไปของสาร 2. ปจั จัยทมี่ ีผลตอ่ การเปล่ียนสถานะของสาร
3. สถานะของสาร การแยกสาร
4. การจัดเรยี งอนุภาคของสาร 1. การแยกสาร
- การกรองแบบ ตา่ ง ๆ
- การกล่นั
- การระเหย
- การตกตะกอน
- การตกผลกึ
- การกลั่นลาดบั ส่วน
- การระเหิดหรอื การระเหยแห้ง
- โครมาโตกราฟี
2. การแยกสารทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน
สารในชวี ติ ประจาวนั
1. สมบัตขิ องสารที่ใช้ในชีวติ ประจาวัน
2. การเข้าสรู่ า่ งกายของสาร
3. ประเภทของสารที่พบในชีวติ ประจาวัน

ครัง้ ท่ี ว/ด/ป การจดั การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม การจดั การเรยี นรแู้ บบเรียนรดู้ ้วยตนเอง

15 วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001 วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001

เร่ือง แรงและพลังงานเพอ่ื ชีวติ เร่อื ง สารเพ่อื ชีวิต

แรงและการเคลอ่ื นท่ีของแรง สารในชวี ิตประจาวัน

1. ความหมาย หนว่ ย และประเภทของแรง 1 สาร และผลิตภัณฑข์ องสารที่ใชใ้ น

2. ความดัน ชวี ติ ประจาวัน

- ความหมาย - สารทาความสะอาด

- ความดันของของเหลว - สารทางการเกษตร

3. แรงเสียดทาน - ยารกั ษาโรค

- ความหมาย ประโยชน์และโทษของแรงเสียด - สารปรงุ แต่ง และสารปนเปื้อน

ทาน - ผลิตภณั ฑเ์ สริมความงาม

- การนาแรงเสียดทานไปใช้ในชวี ิตประจาวัน 2 ผลกระทบทเี่ กิดจากการใช้สารตอ่ ชีวิตและ

ส่ิงแวดลอ้ ม

3 การเลือกซื้อ และการเลือกใช้สาร

เร่อื ง แรงและพลังงานเพอ่ื ชีวิต(9)

แรงและการเคล่ือนท่ีของแรง

1. ผลของแรงที่กระทาตอ่ วตั ถุ และประโยชน์ของ

แรง

2. แรงดึงดดู ของโลกความหมาย ประโยชน์และ

โทษของแรงดึงดูดของโลกดงั และอันตรายทีเ่ กิด

จากเสยี ง

16 วิชาวิทยาศาสตร์ พว11001 วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001

เรื่อง อาชีพชา่ งไฟฟา้ เร่อื ง แรงและพลังงานเพ่ือชีวิต

1 การเดินสายไฟฟาู อยา่ งงา่ ย พลังงานในชวี ิตประจาวนั และการอนุรกั ษ์

2 กฎของโอหม์ พลงั งาน

เรอ่ื ง ดาราศาสตรเ์ พือ่ ชีวติ ความสัมพนั ธ์ 1. พลงั งาน และประเภทของพลังงานที่ใช้ใน

ระหวา่ ง ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ ชีวิตประจาวนั

1. การเกดิ ฤดูกาล 2. พลังงานไฟฟาู

2. การเกดิ ลมบก ลมทะเล - แหลง่ กาเนิด

- การเปลี่ยนรูป

- ไฟฟาู ในบ้านวงจรไฟฟาู อย่างงา่ ย

- ความปลอดภยั ในการใช้ไฟฟาู ในครัวเรือน

- การประหยัดและอนรุ กั ษ์พลงั งานไฟฟูา

3. พลังงานแสง

- แหล่งกาเนดิ แสง

- สมบัติของแสง

- ปรากฏการณ์ธรรมชาติของแสง

คร้งั ที่ ว/ด/ป การจดั การเรยี นร้แู บบพบกลุ่ม การจัดการเรียนรู้แบบเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง

4. พลังงานเสยี ง
- การเกดิ และสมบัติของเสยี ง
- ความดงั และอนั ตรายทเี่ กิดจากเสียง
เรอ่ื ง อาชีพชา่ งไฟฟา้
1. ประเภทของไฟฟูา
2. วัสดุอปุ กรณ์เคร่ืองมือช่างไฟฟูา
3. วัสดอุ ปุ กรณ์ท่ใี ช้ในวงจรไฟฟาู การต่อ
วงจรไฟฟูาอยา่ งง่าย
6. การใช้เครอ่ื งใชไ้ ฟฟูอยา่ งง่าย
7. ความปลอดภยั และอบุ ตั เิ หตจุ ากอาชีพช่าง
ไฟฟาู
8. การบรหิ ารจัดการ และการบรกิ าร
9. โครงงานวิทยาศาสตร์สู่อาชพี
10. คาศพั ท์ทางไฟฟูา
เรือ่ ง ดาราศาสตร์เพอ่ื ชวี ติ ความสัมพนั ธ์
ระหวา่ ง ดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์
1. การเกิดกลางวัน กลางคนื
2. การเกิดข้างขึ้น ขา้ งแรม
3. การเกิดสุรยิ ุปราคา และจันทรุปราคา

17 วชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในชีวิตประจาวัน 1 วชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในชวี ติ ประจาวัน 1

พว12010 พว12010

เรอ่ื งอุปกรณไ์ ฟฟ้าและวงจรไฟฟา้ เร่อื งอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟา้

2. วงจรไฟฟูา 1.อปุ กรณไ์ ฟฟ้า

2.1 แบบอนกุ รม 1.1 สวติ ซ์

2.2 แบบขนาน 1.2 เครือ่ งตดั ไฟฟาู รวั่

23 แบบผสม 1.3 เตา้ รับ เต้าเสยี บ

3. สายดนิ และหลักดนิ เรอ่ื งการประหยดั พลังงานไฟฟา้

3.1 สายดนิ 1.กลยุทธ์การประหยัดไฟฟาู 3อ.

3.2 หลกั ดิน 1.1 กลยทุ ธ์ อ1. อุปกรณป์ ระหยัดไฟฟูา

1.2 กลยทุ ธ์ อ2. อาคารประหยัดไฟฟาู

1.3 กลยทุ ธ์ อ3. อุปนิสยั ประหยัดไฟฟูา

2. แนวปฏบิ ตั ิการประหยัดพลังงานไฟฟ้าใน

ครอบครัว

3.จาแนกฉลากเบอร์ 5 ของแท้กับของ

ลอกเลยี นแบบ

4.เลอื กใช้เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ได้เหมาะสมกับ

สถานการณท์ ่ีกาหนดให้

ครัง้ ที่ ว/ด/ป การจัดการเรยี นร้แู บบพบกลุ่ม การจดั การเรยี นร้แู บบเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

5.ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ประหยดั พลงั งานไฟฟ้าใน

ครวั เรือน

18 วชิ าสพุ รรณบา้ นฉนั 1 สค13111 วิชาสุพรรณบา้ นฉัน 1 สค13111

เรอ่ื ง การประกอบอาชพี ในจังหวัดสุพรรณบรุ ี เร่ือง การประกอบอาชีพในจังหวดั สุพรรณบุรี

1. ความหมาย ความสาคัญในการประกอบอาชพี 3. อาชพี หลักในจังหวัดสพุ รรณบุรี

1.1 ความหมายของอาชีพ 3.1 ดา้ นเกษตรกรรม

1.2 ความสาคัญของอาชีพ 3.1.1 การปลกู พชื

2. ลกั ษณะของงานอาชีพ 3.1.2 การเลีย้ งสตั ว์

2.1 อาชพี รบั จา้ ง 3.2 ด้านศลิ ปหัตถกรรม

2.2 อาชพี อสิ ระ 3.3 ด้านอตุ สาหกรรม

4. คุณธรรม จรยิ ธรรมในการประกอบอาชีพ

4.1 คณุ ธรรมในการทางาน

4.2 จริยธรรมในการทางาน

เร่ือง แหลง่ ท่องเทย่ี วจังหวดั สพุ รรณบรุ ี

1. ประเภทของแหลง่ ท่องเทยี่ ว

1.1 แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วเชงิ นิเวศ

1.2 แหล่งทอ่ งเทีย่ วทางศิลปะวทิ ยาการ

1.3 แหล่งท่องเทย่ี ว

ทางประวัติศาสตร์

1.4 แหลง่ ท่องเที่ยว

ทางธรรมชาติ

1.5 แหล่งทอ่ งเที่ยวเพื่อนันทนาการ

1.6 แหลง่ ท่องเทย่ี วทางวฒั นธรรม

1.7 แหล่งท่องเทย่ี ว

เชิงสขุ ภาพนา้ พรุ ้อนธรรมชาติ

1.8 แหล่งทอ่ งเท่ียวประเภทชายหาด

1.9 แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วประเภทน้าตก

1.10 แหล่งท่องเทยี่ วทางธรรมชาตปิ ระเภทถา้

1.11 แหล่งท่องเทีย่ ว

ทางธรรมชาตปิ ระเภทเกาะ

1.12 แหล่งทอ่ งเทยี่ วทางธรรมชาติประเภท

แกง่

19 วิชาสพุ รรณบา้ นฉนั 1 สค13111

เรอ่ื ง แหลง่ ท่องเทยี่ วจังหวดั สพุ รรณบรุ ี

2. สถานทที่ อ่ งเทย่ี วท่สี าคัญในจังหวดั สพุ รรณบรุ ี

2.1 ประวัติความเปน็ มา

2.2 ทต่ี ัง้ /การเดนิ ทาง

20 สอบปลายภาคเรยี นท่ี 1/2563

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรรู้ ายวชิ า (รายภาค)
หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
ระดับ.......ประถมศกึ ษา............... ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 จานวน...80.... ชวั่ โมง
กศน. ตาบล................................... กศน. อาเภอ................................ จังหวัดสพุ รรณบุรี

คร้งั ที่ วนั /เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วิธกี าร ผู้รบั ผิดชอบ หมาย
เหตุ

1 ปฐมนิเทศนกั ศกึ ษาภาคเรียนท่ี
1/2563

2 การจัดการเรียนรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลุ่ม/การเรียนรู้ ครู กศน

วิชาทักษะการเรียนรู้ ทร ดว้ ยตนเอง .ตาบล/

11001 ศรช.

เร่อื ง การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

1. ความหมาย ความสาคัญ

ของการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง

2. การกาหนดเปูาหมายและ

การวางแผนการเรยี นรู้ดว้ ย

ตนเอง

3. ทักษะพืน้ ฐานทางการศึกษา

หาความรู้ ทกั ษะการแก้ปญั หา

และเทคนิคในการเรียนรดู้ ้วย

ตนเอง (การอา่ น การฟัง การ

สังเกต การจา และการจด

บันทกึ

4. เจตคต/ิ ปัจจยั ที่ทาให้การ

เรยี นร้ดู ้วยตนเองประสบ

ความสาเร็จ(การเปิดรับโอกาส

การเรยี นรู้ การคิดริเริ่มและ

เรียนร้ดู ว้ ยตนเอง การสรา้ ง

แรงจงู ใจ การสร้างวินัยใน

ตนเอง การคดิ เชงิ บวก

ความคดิ สร้างสรรค์ ความรกั ใน

การเรยี น การใฝุรู้ใฝเุ รียน และ

ความรบั ผิดชอบ

การจัดการเรยี นรูแ้ บบเรียนรู้

ดว้ ยตนเอง

วชิ าทกั ษะการเรียนรู้

ทร 11001

เรื่อง การเรียนรู้ด้วยตนเอง

คร้งั ที่ วัน/เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วธิ กี าร ผูร้ ับผิดชอบ หมาย
เหตุ

4. เจตคติ/ปจั จยั ทที่ าให้การ

เรียนรู้ด้วยตนเองประสบ

ความสาเร็จ(การเปิดรบั โอกาส

การเรียนรู้ การคิดรเิ ริ่มและ

เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การสร้าง

แรงจูงใจ การสรา้ งวินยั ใน

ตนเอง การคดิ เชิงบวกความคิด

สรา้ งสรรค์ ความรกั ในการ

เรยี น การใฝุรู้ใฝเุ รียน และ

ความรับผดิ ชอบ

เร่ือง การใช้แหลง่ เรยี นรู้

1. ความหมาย ความสาคัญ

ของแหล่งเรยี นร้โู ดยท่วั ไป

(กลุ่มบริการข้อมูล กลุม่

ศลิ ปวัฒนธรรมประวตั ิศาสตร์

กลุ่มขอ้ มลู ท้องถนิ่ กลุ่มสอื่

กลุม่ สันทนาการ

3 การจัดการเรียนรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลมุ่ /การเรียนรู้ ครู กศน

วชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง .ตาบล/

ทร11001 ศรช.

เรอ่ื ง การใชแ้ หลง่ เรียนรู้

2. การเขา้ ถึงและเลือกใชแ้ หล่ง

เรยี นรู้ (หอ้ งสมดุ ประชาชน

อาเภอของสถานศึกษา และ

ศรช.

3. บทบาทหน้าทแี่ ละการ

บริการของแหลง่ เรียนรู้ดา้ นต่าง



4. กฎ กตกิ า เง่ือนไขต่าง ๆ ใน

การไปขอใช้บริการแหล่ง

เรียนรู้

5. ทกั ษะการใชข้ ้อมูล

สารสนเทศจากห้องสมุด

ประชาชนท่สี อดคล้องกับความ

ตอ้ งการ ความจาเป็น

เพ่ือนาไปใช้ในการเรยี นรู้ของ

ตนเอง

คร้งั ท่ี วัน/เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานท่ี วิธีการ ผู้รับผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

การจัดการเรียนรแู้ บบเรยี นรู้

ดว้ ยตนเอง

วชิ าทกั ษะการเรยี นรู้

ทร 11001

เรอื่ ง การใชแ้ หล่งเรยี นรู้

3. บทบาทหน้าทีแ่ ละการ

บริการของแหล่งเรียนรูด้ า้ นต่าง



4. กฎ กตกิ า เง่ือนไขต่าง ๆ ใน

การไปขอใช้บริการแหล่ง

เรียนรู้

เร่อื งการจัดการเรยี นรู้

1.ความหมาย ความสาคญั

หลกั การของการจัดการ

ความรู้

4 การจดั การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลมุ่ /การเรยี นรู้ ครู กศน

วิชาทักษะการเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง .ตาบล/

ทร11001 ศรช.

เร่อื งการจัดการเรียนรู้

2. กระบวนการจดั การความรู้

(กาหนดเปูาหมายการเรียนร/ู้

ระบคุ วามร/ู้ กาหนดความรู้ท่ี

ตอ้ งการใช/้ การแสวงหา

ความร้/ู สรปุ องค์ความรู้

ปรบั ปรงุ ดัดแปลงใหเ้ หมาะสม

ต่อการใชง้ าน/ ประยกุ ต์ใช้

ความรู้ในกิจการงานของตน/

แลกเปลี่ยนความร/ู้ รวมกล่มุ

ปฏบิ ตั ิการตอ่ ยอดความรู้

พฒั นาขอบขา่ ยความรขู้ อง

กล่มุ / สรปุ องค์ความรขู้ อง

กลุม่ /จัดทาสารสนเทศ

เผยแพร่ความรู้

3. กระบวนการจัดการความรู้

ด้วยตนเอง (ระดับปจั เจก

3.1 กาหนดความร้หู ลกั ที่

จาเปน็ หรือสาคัญต่องานหรือ

คร้งั ท่ี วนั /เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานท่ี วิธีการ ผ้รู บั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

กิจกรรม
3.2 เสาะแสวงหาความรู้
3.3 ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้
3.4 แลกเปล่ียนความรู้
3.5 พัฒนาความรู้/ยกระดบั
ความร/ู้ ต่อยอดความรู้
3.6 สรุปองค์ความรู้
3.7 จดั ทาสารสนเทศองค์
ความรู้ในการพฒั นาตนเอง
การจดั การเรียนรู้แบบเรยี นรู้
ดว้ ยตนเอง
วชิ าทกั ษะการเรยี นรู้
ทร11001
เรื่องการจัดการเรยี นรู้
3. กระบวนการจัดการความรู้
ดว้ ยตนเอง (ระดับปัจเจก
3.7 จัดทาสารสนเทศองค์
ความรู้ในการพัฒนาตนเอง

5 การจดั การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม
วิชาวิทยาศาสตร์ พว11001
เรือ่ ง กระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
1.1 กระบวนการทาง
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
1.ธรรมชาตขิ องวทิ ยาศาสตร์
1.1 ความหมายและ
ความสาคัญของวทิ ยาศาสตร์
1.2 กระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์
- วิธีการทางวิทยาศาสตร์ 5
ขน้ั
- ทักษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ 13ทักษะ
- เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์
6 ลักษณะ
- จิตวทิ ยาศาสตร์

ครั้งท่ี วัน/เดือน/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีการ ผู้รับผิดชอบ หมาย
เหตุ

2. เทคโนโลยี
2.1 ความหมายและ
ความสาคัญ
2.2 เทคโนโลยีกับชวี ิต
3. อุปกรณว์ ิทยาศาสตร์
3.1 ประเภท
3.2 วธิ ใี ช้อปุ กรณ์
โครงงานวิทยาศาสตร์
1. ประเภทของโครงงาน
2. การเลอื กหัวข้อโครงงาน
เรอื่ ง สงิ่ มชี ีวิตและสงิ่ แวดล้อม
ส่ิงมีชวี ิต
- ลกั ษณะและการจัดกลมุ่ ของ
ส่งิ มชี ีวติ
การจัดการเรียนรแู้ บบเรียนรู้
ดว้ ยตนเอง
วิชาวิทยาศาสตร์ พว11001
เรือ่ ง กระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
โครงงานวทิ ยาศาสตร์
1. การเขยี นโครงงาน
2. การวางแผน และการทา
โครงงาน
3. การนาเสนอโครงงาน
เรื่อง สง่ิ มชี วี ติ และส่งิ แวดล้อม
สิง่ มีชวี ิต
1. พืช
- ประเภทของพืช
- ลักษณะภายนอกของ
สว่ นประกอบต่าง ๆ ของพชื
- หน้าทขี่ องส่วนประกอบของ
พชื
- ปจั จัยท่ีจาเป็นต่อการ
ดารงชีวิตของพชื
- การขยายพันธพุ์ ชื
- พืชในท้องถ่นิ
3. สตั ว์

ครงั้ ท่ี วัน/เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วธิ กี าร ผรู้ บั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

- การแบ่งประเภทของสตั ว์
- ปัจจัยท่ีจาเป็นต่อการ
เจริญเตบิ โตของสัตว์

6 การจดั การเรยี นรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกล่มุ /การเรยี นรู้ ครู กศน

วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001 ด้วยตนเอง .ตาบล/

เร่อื ง สิ่งมีชีวติ และสิ่งแวดล้อม ศรช.

สิง่ มีชวี ติ

1. สัตว์

- โครงสรา้ งและหน้าท่ขี อง

อวัยวะของสตั ว์

- การขยายพนั ธส์ุ ตั ว์

ระบบนเิ วศ

1. หว่ งโซอ่ าหาร

- ความสัมพันธ์ของส่งิ มชี ีวิต

ในหว่ งโซอ่ าหาร

- การถ่ายทอดพลงั งานจาก

ผผู้ ลิตสูผ่ ู้บรโิ ภค

ทรัพยากรธรรมชาติ

สิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์

1 ส่ิงแวดล้อม

- ความหมายและประเภท

การจดั การเรยี นรแู้ บบเรียนรู้

ด้วยตนเอง

วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001

เรอ่ื ง สงิ่ มชี วี ติ และสิง่ แวดล้อม

ระบบนิเวศ

1. ความเปน็ อย่ขู องสง่ิ มชี วี ติ ใน

ทอ้ งถ่นิ

- แหล่งทอ่ี ยู่อาศยั

- ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มีชวี ติ

กับสงิ่ มชี ีวิต

- ความสัมพันธ์ของกลุ่ม

สิง่ มชี วี ติ กบั สภาพแวดล้อม

2. ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง

สภาพแวดลอ้ มกบั การ

ดารงชวี ติ ของสง่ิ มชี ีวิต

คร้งั ท่ี วนั /เดือน/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีการ ผ้รู บั ผิดชอบ หมาย
เหตุ

- สภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม
ของสงิ่ มชี ีวิตในแตล่ ะแหล่งท่ีอยู่
- ความสามารถในการปรับตวั
ใหเ้ ข้ากับส่งิ แวดลอ้ ม
ทรพั ยากรธรรมชาติ
สง่ิ แวดล้อม และการอนรุ กั ษ์
1. ทรพั ยากรธรรมชาติ
- ความหมายและประเภท
- การใชท้ รัพยากรธรรมชาติ
ในท้องถ่ิน
- ผลกระทบจากการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น
- การดแู ลรกั ษา
2. สิง่ แวดล้อม
- การเปลีย่ นแปลง
ส่ิงแวดล้อมในท้องถิ่น
- การปอู งกนั และแกไ้ ขปัญหา
ส่ิงแวดลอ้ มในท้องถิ่น
- สภาวะโลกรอ้ นสาเหตุและ
ผลกระทบการปอู งกนั และ
แก้ไขปญั หาโลกร้อน
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
1. การรายงานสภาพอากาศ
ของทอ้ งถิ่น
2.การเกดิ ปรากฏการณ์ทาง
ธรรมชาติ
- เมฆ
- หมอก
- น้าคา้ ง
- ฝน
- ลกู เห็บ
- กรณีศึกษาน้าค้างแข็ง สาเหตุ
และผลกระทบ

7 การจัดการเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลุ่ม/การเรยี นรู้ ครู กศน

คร้งั ท่ี วนั /เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วิธกี าร ผ้รู บั ผิดชอบ หมาย
เหตุ

วิชาเศรษฐกจิ พอเพียง ด้วยตนเอง .ตาบล/

ทช11001 ศรช.

เร่อื ง ครอบครวั พอเพยี ง

การจดั การเรยี นรแู้ บบเรยี นรู้

ด้วยตนเอง

วิชาเศรษฐกิจพอเพียง ทช

11001

เรอ่ื ง ความพอเพยี ง

8 การจดั การเรยี นรูแ้ บบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกล่มุ /การเรียนรู้ ครู กศน

วิชาการใช้พลังงานไฟฟา้ ใน ด้วยตนเอง .ตาบล/

ชีวิตประจาวนั 1 พว12010 ศรช.

เรือ่ งความหมายและ

ความสาคญั ของไฟฟา้

1. ความหมาย และความสาคัญ

ของไฟฟูา

2. ประโยชนแ์ ละผลกระทบ

ของ พลังงานไฟฟาู

2.1 ประโยชนแ์ ละผลกระทบ

ของพลังงานไฟฟูาด้าน

คมนาคม

2.2 ประโยชนแ์ ละผลกระทบ

ของพลังงานไฟฟูาด้าน

อตุ สาหกรรม

2.3 ประโยชน์และผลกระทบ

ของพลงั งานไฟฟาู ดา้ น

เศรษฐกจิ

2.4 ประโยชนแ์ ละผลกระทบ

ของพลังงานไฟฟาู ดา้ น

เกษตรกรรม

2.5 ประโยชน์และผลกระทบ

ของพลงั งานไฟฟาู ดา้ นคณุ ภาพ

ชีวติ

2.6 ประโยชน์และผลกระทบ

ของ

พลงั งานไฟฟูาด้านบริการ

3.ผลกระทบจากการขาด

แคลนพลงั งานไฟฟา้

คร้งั ท่ี วนั /เดือน/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วิธีการ ผรู้ บั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

เรอื่ งประวัตคิ วามเป็นมาของ

ไฟฟา้ ใน

ประเทศไทย

ประวตั ิความเป็นมาของไฟฟาู

ใน

ไฟฟาู ในประเทศไทย

การจัดการเรียนรแู้ บบเรยี นรู้

ด้วยตนเอง

วชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าใน

ชวี ิตประจาวนั 1 พว12010

เร่ืองประเภทของไฟฟ้า

1. ประเภทของไฟฟูา

1.1 ไฟฟูาสถิต

1.2 ไฟฟูากระแส

1.2.1 ไฟฟาู กระแสตรง

1.2.2 ไฟฟาู กระแสสลับ

2. การกาเนดิ ของไฟฟูา

2.1 ไฟฟูาทเ่ี กดิ จากการเสียดสี

ของวัตถุ

2.2 ไฟฟูาทเ่ี กิดจากการทา

ปฏิกริ ิยาทางเคมี

2.3 ไฟฟาู ทเ่ี กดิ จากพลงั งาน

แสงอาทิตย์

2.4 ไฟฟาู ท่ีเกิดจากพลังงาน

แมเ่ หล็กไฟฟาู

เรื่องหนว่ ยงานที่เก่ยี วข้องด้าน

พลังงานไฟฟา้ ในประเทศไทย

หน่วยงานท่เี กยี่ วข้องด้าน

ไฟฟาู ในประเทศไทย ไดแ้ ก่

ประเทศไทย

1. คณะกรรมการกากบั กจิ การ

2. การไฟฟูาฝาุ ยผลิตแหง่

ประเทศไทย (กฟผ.)

3. การไฟฟูานครหลวง (กฟน.)

4. การไฟฟาู ส่วนภมู ิภาค

(กฟภ.)

9 การจดั การเรยี นรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลมุ่ /การเรียนรู้ ครู กศน

ครง้ั ท่ี วัน/เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วิธกี าร ผู้รบั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

วิชาการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ใน ดว้ ยตนเอง .ตาบล/

ชวี ติ ประจาวัน 1 พว12010 ศรช.

เรื่องสถานการณ์พลงั งาน

1. สัดส่วนการผลิตไฟฟูาจาก

ไฟฟูาของประเทศไทย การผลติ

ไฟฟาู ของประเทศไทย

เชอื้ เพลงิ ประเภทต่าง ๆ

2. การใชไ้ ฟฟาู ในแต่ละ

ช่วงเวลาในหนงึ่ วัน

3. สภาพปัจจุบันและแนวโน้ม

การใช้พลงั งานไฟฟูา

การจัดการเรยี นรู้แบบเรยี นรู้

ด้วยตนเอง

วิชาการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าใน

ชวี ติ ประจาวนั 1 พว12010

เรอื่ งอปุ กรณ์ไฟฟา้ และ

วงจรไฟฟ้า

1. อปุ กรณ์ไฟฟาู

1.1 สายไฟ

1.2 ฟวิ ส์ แบบตา่ ง ๆ

1.3 อุปกรณ์ตัดตอนหรือเบรก

เกอร์

10 กจิ กรรมการเรียนการสอน/ กศน.ตาบล พบกลมุ่ /การเรยี นรู้ ครู กศน

สอบกลางภาค ด้วยตนเอง .ตาบล/

การจดั การเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม ศรช.

วชิ าสุพรรณบา้ นฉนั 1

สค13111

เร่อื งวัฒนธรรม ประเพณีของ

จังหวัดสุพรรณบรุ ี

การจดั การเรยี นรู้แบบเรยี นรู้

ด้วยตนเอง

วชิ าสพุ รรณบา้ นฉัน 1 สค

13111

เรือ่ งประวัตจิ งั หวดั สุพรรณบรุ ี

วิชาทกั ษะการเรียนรู้ ทร

11001

เร่อื งการวจิ ยั อยา่ งงา่ ย

ครง้ั ที่ วนั /เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีการ ผูร้ ับผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

1. วิจยั คืออะไร ทาไมต้องรู้

เรอ่ื งการวจิ ัย (ความหมายและ

ความสาคัญของการวิจัย

1.1 ความหมายของการวจิ ัย

1.2 ความสาคญั และ

ประโยชนข์ องการวจิ ัย

11 การจดั การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลมุ่ /การเรยี นรู้ ครู กศน

วิชาทกั ษะการเรียนรู้ ทร ดว้ ยตนเอง .ตาบล/

11001 ศรช.

เรือ่ งการวิจยั อยา่ งงา่ ย

2. ทาวิจัยอย่างไร

(กระบวนการและขั้นตอนการ

วจิ ยั )

2.1 คาถามท่ีต้องการคาตอบ

คอื อะไร

ปญั หาทต่ี อ้ งการทราบจากการ

วิจัยคืออะไร (การระบปุ ัญหา

การวิจยั )

2.2 คาดเดาคาตอบว่าอยา่ งไร

กาหนดแนวคาตอบเบื้องต้น

(สมมติฐาน)

2.3 วิธกี ารหาคาตอบท่ี

ต้องการร/ู้ แหลง่ คาตอบ/การ

รวบรวมคาตอบ(การเกบ็

รวบรวมขอ้ มลู /เครื่องมือการ

วิจยั )

2.4 ตอบคาถามทีส่ งสัยว่า

อยา่ งไร

(การวเิ คราะห์ข้อมลู /สรปุ

ผลการวิจัย)

3. เขียนอย่างไร ให้คนอา่ น

เข้าใจ (การเขียนรายงานการ

วจิ ัยอยา่ งงา่ ย)

3.1 ความเป็นมา/ความสาคัญ

ของเร่ืองท่ีทาวิจยั

3.2 วตั ถปุ ระสงค์การวจิ ัย

3.3 ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการ

ครง้ั ที่ วนั /เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี วิธีการ ผู้รบั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

วจิ ยั
3.4 เอกสารทเี่ กยี่ วข้อง
3.5 วธิ ดี าเนินการวิจัย
3.6 การวเิ คราะห์ข้อมูล

3.7 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ
3.8 เอกสารอา้ งองิ
การจดั การเรียนรแู้ บบเรียนรู้
ด้วยตนเอง
วชิ าทกั ษะการเรยี นรู้
ทร11001
เร่ืองการวิจัยอยา่ งงา่ ย
3. เขียนอยา่ งไร ให้คนอา่ น
เขา้ ใจ (การเขียนรายงานการ
วิจัยอยา่ งง่าย)
3.1 ความเป็นมา/ความสาคัญ
ของเรื่องท่ีทาวจิ ยั
3.2 วัตถปุ ระสงคก์ ารวิจยั
3.3 ประโยชน์ที่ได้รบั จากการ
วจิ ัย
3.4 เอกสารท่ีเกีย่ วข้อง
3.5 วธิ ีดาเนินการวิจยั
3.6 การวเิ คราะห์ข้อมูล
3.7 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ
3.8 เอกสารอ้างอิง

12 การจดั การเรยี นรแู้ บบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกล่มุ /การเรยี นรู้ ครู กศน

วชิ าทกั ษะการเรยี นรู้ ด้วยตนเอง .ตาบล/

ทร11001 ศรช.

เรือ่ งทกั ษะการเรียนรู้และ

ศกั ยภาพหลกั ของพื้นที่ในการ

พฒั นาอาชพี

1.ความหมาย ความสาคัญของ

ครั้งท่ี วัน/เดือน/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีการ ผูร้ บั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

ศักยภาพหลกั ในการพฒั นา
อาชีพ
2.การวิเคราะห์ศักยภาพหลัก
ของพน้ื ทใี่ นการพัฒนาอาชีพ
2.1 ศักยภาพของ
ทรพั ยากรธรรมชาติในแตล่ ะ
พืน้ ท่ี
2.2 ศักยภาพของพน้ื ทตี่ าม
ลักษณะภมู ิอากาศ
2.3 ศกั ยภาพของภูมิประเทศ
และทาเลทต่ี ั้งของแตล่ ะพน้ื ที่
2.4 ศกั ยภาพของศลิ ปะ
วัฒนธรรม ประเพณี และวิถี
ชีวิตของแต่ละพน้ื ที่
3.ตวั อยา่ งอาชีพท่สี อดคลอ้ งกับ
ศักยภาพหลกั ของพน้ื ท่ี คอื
3.1 กลมุ่ อาชีพด้าน
เกษตรกรรม
3.2 กลมุ่ อาชพี ดา้ น
อตุ สาหกรรม
3.3 กลุ่มอาชพี ดา้ นพาณชิ ยก
รรม
3.4 กล่มุ อาชพี ด้านความคิด
สรา้ งสรรค์
3.5 กลมุ่ อาชพี ดา้ นบรหิ าร
จัดการ และการบรกิ าร

การจัดการเรยี นรู้แบบเรยี นรู้
ดว้ ยตนเอง
วิชาทักษะการเรยี นรู้
ทร11001
เร่อื งทักษะการเรยี นรแู้ ละ
ศักยภาพหลักของพืน้ ทใี่ นการ
พฒั นาอาชพี
2.การวเิ คราะห์ศกั ยภาพหลัก
ของพ้นื ทีใ่ นการพฒั นาอาชีพ

ครั้งท่ี วัน/เดือน/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วธิ กี าร ผรู้ ับผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

2.1 ศักยภาพของ
ทรพั ยากรธรรมชาติในแต่ละ
พนื้ ที่
2.2 ศกั ยภาพของพน้ื ที่ตาม
ลกั ษณะภมู อิ ากาศ
2.3 ศักยภาพของภูมปิ ระเทศ
และทาเลที่ตั้งของแต่ละพื้นท่ี
2.4 ศกั ยภาพของศิลปะ
วฒั นธรรม ประเพณี และวิถี
ชวี ิตของแต่ละพน้ื ที่
3.ตวั อย่างอาชีพท่ีสอดคลอ้ งกับ
ศกั ยภาพหลักของพน้ื ท่ี คือ
3.1 กลุ่มอาชีพด้าน
เกษตรกรรม
3.2 กลุ่มอาชีพดา้ น
อตุ สาหกรรม
3.3 กลมุ่ อาชีพดา้ นพาณชิ ยก
รรม
3.4 กลุ่มอาชีพดา้ นความคิด
สรา้ งสรรค์
3.5 กล่มุ อาชีพดา้ นบริหาร
จัดการ และการบริการ

เรื่อง การคิดเป็น
1. ความเชอื่ พ้นื ฐานทาง
การศึกษาผใู้ หญ/่ การศึกษา
นอกระบบ 5 ประการ
1.1 คนทุกคนมีความ
แตกต่างกัน แตท่ ุกคนต้องการ
ความสขุ ความสขุ ของแตล่ ะคน
จึงแตกตา่ งกนั
1.2 ความสุขของคนจะ
เกดิ ข้นึ ก็ตอ่ เมื่อมกี ารปรบั ตัว

คร้งั ที่ วัน/เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วธิ กี าร ผ้รู บั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

เองและสิ่งแวดล้อมใหเ้ ข้าหากัน

อยา่ งผสมกลมกลืนจนเกิด

ความพอดี

1.3 สภาวะแวดลอ้ มในสังคม

เปล่ยี นแปลงอยูต่ ลอดเวลา จึง

ทาให้เกดิ ปัญหา เกิดความทุกข์

ความไม่สบายกาย ไมส่ บายใจ

อยู่ตลอด

1.4 เม่อื เกดิ ปญั หาหรือเกดิ

ทกุ ข์ก็ต้องหาวธิ ีแก้ปัญหา ซ่ึง

การแก้ปัญหาที่เหมาะสมต้องมี

ข้อมลู ประกอบการคิด การ

ตัดสนิ ใจ อย่างน้อย 3 ประการ

คือ ข้อมูลด้านวชิ าการ ข้อมลู

ดา้ นตนเอง ข้อมลู ด้านสงั คม

ส่ิงแวดล้อม

1.5 เมือ่ ไดใ้ ช้วธิ แี กป้ ัญหาด้วย

การวิเคราะห์ขอ้ มลู และ

ไตรต่ รองข้อมูลอย่างรอบคอบ

ทง้ั 3 ดา้ น จนมคี วามพอใจ

แลว้ ก็พรอ้ มท่ีจะรับผดิ ชอบการ

ตดั สนิ ใจท่เี กิดความพอดี ความ

สมดุลระหวา่ งชวี ิตกบั ธรรมชาติ

อย่างสนั ติสขุ

2. ปรัชญาคิดเป็น

2.1 ความหมาย

2.2 ความสาคญั

2.3 คาทีเ่ กย่ี วข้อง

13 การจดั การเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกล่มุ /การเรยี นรู้ ครู กศน

วชิ าทักษะการเรียนรู้ ด้วยตนเอง .ตาบล/

ทร11001 ศรช.

2.4 การเชือ่ มโยงความเชอื่

พนื้ ฐานทางการศึกษาผใู้ หญ่/

การศกึ ษานอกระบบ กับ

ปรชั ญาคดิ เปน็

3. กระบวนการและขัน้ ตอน

การแก้ปัญหาอย่างคนคิดเป็น

ครั้งท่ี วัน/เดือน/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีการ ผู้รบั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

3.1 ทุกข์/ปญั หาที่ปรากฏ
3.2 ศกึ ษาสาเหตุของทุกข์
ปัญหา โดยการวเิ คราะห์ข้อมูล
ทเี่ กยี่ วข้อง ทง้ั ข้อมลู วิชาการ
ขอ้ มูลตนเอง และข้อมลู ทาง
สังคม ส่งิ แวดล้อม ใหร้ ู้ลักษณะ
เบ้อื งต้นของข้อมลู ท้งั 3
ประการ และเปรยี บเทียบ
ความแตกต่างของข้อมูล ต่าง ๆ
อยา่ งง่าย ๆ ได้
3.3 กาหนดทางเลือกในการ
ดบั ทกุ ข์/ปัญหา และเลือก
แนวทางท่เี หมาะสม
3.4 ดาเนนิ การแก้ปัญหาเพ่ือ
การดับทุกข์
3.5 ประเมนิ ผลการ
ดาเนนิ งาน หากมผี ลเปน็ ที่
พอใจก็จะเกิดสนั ติสุข ถ้ายงั ไม่
พอใจกจ็ ะย้อนกลับไปพจิ ารณา
สาเหตทุ ุกขห์ รือปัญหาใหมแ่ ละ
แสวงหาขอ้ มลู เพ่มิ เติมอย่าง
พอเพยี งจนพอใจกับการ
ตดั สนิ ใจของตนเอง
4. กรณตี ัวอยา่ งทห่ี ลากหลาย
เพอ่ื ฝึกทักษะการคิดเปน็ ดว้ ย
กระบวนการแก้ปัญหาอยา่ งคน
คิดเปน็
การจดั การเรยี นรแู้ บบเรียนรู้
ด้วยตนเอง
วชิ าทกั ษะการเรียนรู้
ทร11001
เรื่อง การคดิ เปน็
3. กระบวนการและขั้นตอน
การแก้ปัญหาอย่างคนคิดเปน็
3.1 ทกุ ข/์ ปญั หาท่ีปรากฏ
3.2 ศกึ ษาสาเหตุของทุกข์
ปญั หา โดยการวิเคราะห์ข้อมูล

ครง้ั ท่ี วัน/เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานท่ี วิธีการ ผูร้ ับผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

ทเ่ี กี่ยวข้อง ทัง้ ข้อมูลวิชาการ
ขอ้ มูลตนเอง และข้อมูลทาง
สังคม ส่ิงแวดลอ้ ม ให้รู้ลักษณะ
เบื้องตน้ ของข้อมูลทงั้ 3
ประการ และเปรียบเทยี บ
ความแตกต่างของข้อมลู ต่าง ๆ
อย่างงา่ ย ๆ ได้
3.3 กาหนดทางเลอื กในการ
ดับทกุ ข/์ ปัญหา และเลือก
แนวทางท่ีเหมาะสม
3.4 ดาเนินการแกป้ ญั หาเพ่ือ
การดบั ทุกข์
3.5 ประเมนิ ผลการ
ดาเนินงาน หากมีผลเป็นท่ี
พอใจกจ็ ะเกิดสนั ตสิ ขุ ถ้ายังไม่
พอใจกจ็ ะย้อนกลบั ไปพจิ ารณา
สาเหตุทกุ ขห์ รือปญั หาใหมแ่ ละ
แสวงหาขอ้ มลู เพ่มิ เติมอย่าง
พอเพียงจนพอใจกับการ
ตดั สินใจของตนเอง

14 การจดั การเรยี นรแู้ บบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกล่มุ /การเรยี นรู้ ครู กศน

วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001 ด้วยตนเอง .ตาบล/

เร่อื ง สารเพ่อื ชวี ิต ศรช.

สารและสมบตั ขิ องสาร

1. ความหมายและความสาคัญ

2. สมบตั ทิ ่ัวไปของสาร

3. สถานะของสาร

4. การจดั เรียงอนภุ าคของสาร

การจดั การเรยี นรูแ้ บบเรยี นรู้

ดว้ ยตนเอง

วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001

เรอื่ ง สารเพอื่ ชวี ติ

สารและสมบตั ิของสาร

1. สมบัตทิ วั่ ไปของสาร

ครง้ั ที่ วนั /เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วิธีการ ผรู้ ับผิดชอบ หมาย
เหตุ

2. ปัจจัยที่มผี ลต่อการเปลยี่ น
สถานะของสาร
การแยกสาร
1. การแยกสาร
- การกรองแบบ ตา่ ง ๆ
- การกลนั่
- การระเหย
- การตกตะกอน
- การตกผลกึ
- การกลั่นลาดับสว่ น
- การระเหิดหรอื การระเหย
แห้ง
- โครมาโตกราฟี
2. การแยกสารทใ่ี ชใ้ น
ชวี ิตประจาวัน
สารในชีวิตประจาวัน
1. สมบัติของสารท่ีใช้ใน
ชวี ติ ประจาวัน
2. การเข้าสรู่ ่างกายของสาร
3. ประเภทของสารทีพ่ บใน
ชวี ิตประจาวนั

15 การจดั การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลุ่ม/การเรยี นรู้ ครู กศน

วชิ าวิทยาศาสตร์ พว11001 ดว้ ยตนเอง .ตาบล/

เรื่อง แรงและพลังงานเพื่อชวี ติ ศรช.

แรงและการเคลือ่ นท่ขี องแรง

1. ความหมาย หนว่ ย และ

ประเภทของแรง

2. ความดัน

- ความหมาย

- ความดันของของเหลว

3. แรงเสียดทาน

- ความหมาย ประโยชน์และ

โทษของแรงเสยี ดทาน

- การนาแรงเสยี ดทานไปใช้ใน

ชวี ติ ประจาวัน

การจดั การเรยี นรแู้ บบเรยี นรู้

ครง้ั ที่ วัน/เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีการ ผู้รับผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

ด้วยตนเอง
วิชาวิทยาศาสตร์ พว11001
เรอื่ ง สารเพ่อื ชีวิต
สารในชวี ติ ประจาวัน
1 สาร และผลิตภัณฑข์ องสารที่
ใช้ในชวี ติ ประจาวัน
- สารทาความสะอาด
- สารทางการเกษตร
- ยารกั ษาโรค
- สารปรุงแต่ง และสาร
ปนเป้อื น
- ผลติ ภณั ฑ์เสรมิ ความงาม
2 ผลกระทบท่ีเกดิ จากการใช้
สารตอ่ ชวี ิตและสงิ่ แวดล้อม
3 การเลือกซอื้ และการเลือกใช้
สาร
เรือ่ ง แรงและพลงั งานเพื่อชีวติ

แรงและการเคลอ่ื นทขี่ องแรง
1. ผลของแรงท่ีกระทาต่อวตั ถุ
และประโยชน์ของแรง
2. แรงดงึ ดูดของโลก
ความหมาย ประโยชนแ์ ละโทษ
ของแรงดงึ ดดู ของโลก
ดงั และอันตรายที่เกดิ จากเสยี ง

16 การจดั การเรยี นรูแ้ บบพบกลุ่ม
วิชาวิทยาศาสตร์ พว11001
เรื่อง อาชีพช่างไฟฟูา
1 การเดนิ สายไฟฟาู อย่างง่าย
2 กฎของโอหม์
เรอื่ ง ดาราศาสตรเ์ พ่ือชีวติ
ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง ดวง
อาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์
1. การเกดิ ฤดูกาล
2. การเกดิ ลมบก ลมทะเล

ครั้งท่ี วัน/เดือน/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานท่ี วธิ กี าร ผ้รู บั ผิดชอบ หมาย
เหตุ

การจดั การเรียนรูแ้ บบเรียนรู้
ดว้ ยตนเอง
วิชาวิทยาศาสตร์ พว11001
เรื่อง แรงและพลงั งานเพื่อชีวติ
พลงั งานในชวี ติ ประจาวัน
และการอนรุ ักษ์พลังงาน
1. พลังงาน และประเภทของ
พลงั งานท่ีใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
2. พลงั งานไฟฟาู
- แหล่งกาเนดิ
- การเปลี่ยนรปู
- ไฟฟาู ในบ้านวงจรไฟฟาู
อย่างง่าย
- ความปลอดภัยในการใช้
ไฟฟาู ในครัวเรือน
- การประหยดั และอนรุ ักษ์
พลังงานไฟฟาู
3. พลังงานแสง
- แหล่งกาเนดิ แสง
- สมบตั ขิ องแสง
- ปรากฏการณธ์ รรมชาติของ
แสง
4. พลงั งานเสียง
- การเกิด และสมบัติของ
เสียง
- ความดัง และอนั ตรายท่ีเกิด
จากเสียง
เรอ่ื ง อาชีพช่างไฟฟูา
1. ประเภทของไฟฟูา
2. วัสดุอปุ กรณ์เครื่องมือชา่ ง
ไฟฟูา
3. วสั ดอุ ุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ น
วงจรไฟฟูา การต่อวงจรไฟฟูา
อย่างง่าย
6. การใช้เคร่อื งใช้ไฟฟูอย่าง
ง่าย
7. ความปลอดภยั และ

ครง้ั ที่ วนั /เดอื น/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานท่ี วิธีการ ผ้รู บั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

อบุ ัติเหตจุ ากอาชีพช่างไฟฟูา
8. การบรหิ ารจัดการ และการ
บรกิ าร
9. โครงงานวิทยาศาสตรส์ ู่
อาชพี
10. คาศพั ท์ทางไฟฟาู
เร่อื ง ดาราศาสตร์เพ่ือชีวติ
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง ดวง
อาทิตย์ โลก และดวงจันทร์
1. การเกดิ กลางวัน กลางคนื
2. การเกิดขา้ งข้นึ ขา้ งแรม
3. การเกิดสรุ ยิ ุปราคา และ
จันทรปุ ราคา

17 การจัดการเรยี นรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลมุ่ /การเรียนรู้ ครู กศน

วชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าใน ด้วยตนเอง .ตาบล/

ชีวิตประจาวนั 1 พว12010 ศรช.

เร่ืองอุปกรณ์ไฟฟ้าและ

วงจรไฟฟ้า

2. วงจรไฟฟาู

2.1 แบบอนุกรม

2.2 แบบขนาน

23 แบบผสม

3. สายดนิ และหลักดิน

3.1 สายดนิ

3.2 หลักดิน

การจดั การเรยี นรแู้ บบเรยี นรู้

ดว้ ยตนเอง

วิชาการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ใน

ชีวิตประจาวัน 1 พว12010

เร่ืองอปุ กรณไ์ ฟฟ้าและ

วงจรไฟฟ้า

ครง้ั ที่ วนั /เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วิธีการ ผูร้ บั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

1.อปุ กรณไ์ ฟฟา้

1.1 สวิตซ์

1.2 เคร่อื งตดั ไฟฟาู รัว่

1.3 เต้ารบั เตา้ เสยี บ

เรอื่ งการประหยัดพลังงาน

ไฟฟ้า

1.กลยุทธก์ ารประหยดั ไฟฟาู 3

อ.

1.1 กลยทุ ธ์ อ1. อปุ กรณ์

ประหยดั ไฟฟูา

1.2 กลยุทธ์ อ2. อาคาร

ประหยัดไฟฟูา

1.3 กลยุทธ์ อ3. อุปนสิ ยั

ประหยัดไฟฟูา

2. แนวปฏบิ ตั กิ ารประหยัด

พลังงานไฟฟา้ ในครอบครวั

3.จาแนกฉลากเบอร์ 5 ของ

แท้กบั ของลอกเลียนแบบ

4.เลอื กใช้เคร่อื งใช้ไฟฟา้ ได้

เหมาะสมกบั สถานการณท์ ี่

กาหนดให้

5.ปฎบิ ัติตนเปน็ ผปู้ ระหยดั

พลังงานไฟฟา้ ในครวั เรือน

18 การจดั การเรยี นรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลุ่ม/การเรยี นรู้ ครู กศน

วชิ าสุพรรณบ้านฉัน 1 สค ดว้ ยตนเอง .ตาบล/

13111 ศรช.

เรอื่ ง การประกอบอาชีพใน

จังหวัดสุพรรณบรุ ี

1. ความหมาย ความสาคัญใน

การประกอบอาชพี

1.1 ความหมายของอาชีพ

1.2 ความสาคญั ของอาชีพ

2. ลกั ษณะของงานอาชีพ

2.1 อาชีพรบั จ้าง

2.2 อาชีพอสิ ระ

การจดั การเรยี นรแู้ บบเรียนรู้

ครั้งท่ี วัน/เดือน/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี วธิ ีการ ผรู้ บั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

ดว้ ยตนเอง
วชิ าสพุ รรณบา้ นฉัน 1
สค13111
เรื่อง การประกอบอาชพี ใน
จังหวดั สพุ รรณบุรี
3. อาชีพหลกั ในจังหวัด
สพุ รรณบุรี

3.1 ดา้ นเกษตรกรรม
3.1.1 การปลูกพชื
3.1.2 การเล้ียงสตั ว์

3.2 ดา้ นศลิ ปหัตถกรรม
3.3 ด้านอุตสาหกรรม
4. คณุ ธรรม จริยธรรมในการ
ประกอบอาชีพ
4.1 คณุ ธรรมในการทางาน
4.2 จริยธรรมในการทางาน
เรือ่ ง แหล่งท่องเทย่ี วจังหวดั
สพุ รรณบุรี
1. ประเภทของแหล่งท่องเทีย่ ว
1.1 แหลง่ ท่องเที่ยวเชงิ นิเวศ
1.2 แหลง่ ทอ่ งเที่ยวทาง
ศลิ ปะวทิ ยาการ
1.3 แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว
ทางประวตั ศิ าสตร์
1.4 แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว
ทางธรรมชาติ
1.5 แหลง่ ท่องเทีย่ วเพื่อ
นันทนาการ
1.6 แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วทาง
วฒั นธรรม
1.7 แหล่งทอ่ งเทย่ี ว
เชิงสุขภาพนา้ พรุ ้อนธรรมชาติ
1.8 แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วประเภท
ชายหาด
1.9 แหลง่ ทอ่ งเท่ียวประเภท
น้าตก
1.10 แหล่งท่องเทย่ี ว

ครง้ั ที่ วัน/เดือน/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วิธีการ ผรู้ บั ผดิ ชอบ หมาย
เหตุ

ทางธรรมชาติประเภทถ้า

1.11 แหลง่ ท่องเที่ยว

ทางธรรมชาติประเภทเกาะ

1.12 แหล่งท่องเที่ยวทาง

ธรรมชาตปิ ระเภทแกง่

19 การจัดการเรยี นรู้แบบพบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลุ่ม/การเรียนรู้ ครู กศน

วิชาสพุ รรณบา้ นฉัน 1 ด้วยตนเอง .ตาบล/

สค13111 ศรช.

เรอ่ื ง แหลง่ ท่องเท่ยี วจงั หวดั

สุพรรณบรุ ี

20 สอบปลายภาคเรยี นท่ี 1/2563

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในชีวติ ประจาวนั 1 พว12010
ระดบั ประถมศึกษา จานวน 2 หนว่ ยกิต
ครงั้ ท่ี 8 จานวน 6 ชัว่ โมง

แบบ พบกลุม่ จานวน 6 ชวั่ โมง
เร่ือง 1.ความหมายและความสาคัญของไฟฟูา

2.ประวตั คิ วามเป็นมาของไฟฟาู ในประเทศไทย

ตัวชวี้ ดั 1. บอกความหมายของไฟฟา
2. บอกประโยชนของพลังงานไฟฟา
3. บอกผลกระทบจากการขาดแคลนพลงั งานไฟฟา
4. บอกประวัติความเปนมาของไฟฟาในประเทศไทย

เนอื้ หา 1. ความหมาย และความสาคัญของไฟฟา
2. ประโยชนและผลกระทบของพลังงานไฟฟา
2.1 ประโยชนและผลกระทบของพลงั งานไฟฟาดานคมนาคม
2.2 ประโยชนและผลกระทบของพลงั งานไฟฟาดานอตุ สาหกรรม
2.3 ประโยชนและผลกระทบของพลงั งานไฟฟาดานเศรษฐกจิ
2.4 ประโยชนและผลกระทบของพลังงานไฟฟาดานเกษตรกรรม
2.5 ประโยชนและผลกระทบของพลงั งานไฟฟาดานคุณภาพชวี ติ
2.6 ประโยชนและผลกระทบของพลงั งานไฟฟาดานบริการ
3. ประวัติความเปนมาของไฟฟาในประเทศไทย

ขน้ั ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้
ขนั้ ที่ 1 การกาหนดสภาพปญั หา

ครูทักทายผู้เรียน พูดคุยสนทนาเกี่ยวกับความหมาย และความสาคัญของไฟฟูา ประโยชนและผลกระทบ
ของพลังงานไฟฟาดานคมนาคม ดานอุตสาหกรรม ดานเศรษฐกิจ ดานเกษตรกรรม ดานคุณภาพชีวิต ดานบริการ
การดาเนนิ ชีวติ ในสังคมปัจจบุ ันน้ี ซ่งึ เป็นสิง่ ทสี่ าคญั ของการดาเนนิ ชีวิตประจาวนั ในพืน้ ทปี่ ระสบปญั หาด้านใดบ้าง

ข้ันท่ี 2 การแสวงหาข้อมูลและการเรียนรู้
1. ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าจากใบความรู้ และสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ต ความหมาย และ

ความสาคญั ของไฟฟา
2. ครูอธิบายประโยชน์และผลกระทบของพลังงานไฟฟูาด้านต่างๆ จากน้ันให้ผู้เรียนนาความรู้ท่ีได้รับจัดทา

แผนผังความคิดลงในกระดาษบรูฟท์ แล้วนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
3. ผเู้ รียนค้นคว้าประวัตคิ วามเป็นมาของไฟฟาู ในประเทศไทย

ขั้นท่ี 3 การปฏิบตั ิและการนาไปประยกุ ตใ์ ช้
1. ครแู ละผูเ้ รียนรว่ มกันสรุปความหมาย และความสาคัญของไฟฟา
2. ผู้เรียนทาใบงานเรอื่ งความหมาย และความสาคญั ของไฟฟาู
3. ผู้เรียนทาใบงานและแบบทดสอบย่อย

ข้ันที่ 4 การประเมินผล
1. ใบงาน
2. แบบทดสอบยอ่ ย

สอ่ื
1. หนังสอื เรยี นรายวชิ าการใช้พลังงานไฟฟาู ในชวี ิตประจาวัน 1
2. อินเตอรเ์ น็ต
3. ใบความรู้
4. แผนผงั ความคดิ

การวดั ผลละประเมินผล
1. ใบงาน
2. แบบทดสอบย่อย

ใบความรู้ คร้ังท่ี....8......
วิชา การใชพลังงานไฟฟาในชีวิตประจาวนั 1 พว12010 ระดับประถมศึกษา
เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของไฟฟา
ไฟฟาู เป็นสิ่งจาเป็นต่อการดาเนนิ ชีวิตของมนุษยใ์ นปัจจบุ นั และเปน็ ตวั แปรสาคญั ในการพฒั นาเศรษฐกิจ การ
เพมิ่ ผลผลติ ท้งั เกษตรกรรมและอตุ สาหกรรมที่ทนั สมัย การกระจายรายได้และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันใน
ดา้ นการผลิต และการขายสินคา้ ซ่ึงเปน็ เปาู หมายสาคญั ในการพัฒนาเศรษฐกิจ ในเรื่องท่ี 1 ประกอบด้วย 2 ตอน คอื
ตอนท่ี 1 ความหมาย และความสาคัญของไฟฟาู ตอนท่ี 2 ประโยชน์และผลกระทบของพลังงานไฟฟูา
ตอนที่ 1 ความหมาย และความสาคัญของไฟฟาู
ราชบณั ฑติ ยสถานได้ให้ความหมาย ของคาวา่ “ไฟฟาู ” ไว้ว่า “พลังงานรูปหนงึ่ ซึ่งเก่ียวขอ้ งกับการแยกตวั
ออกมา หรือการเคลื่อนที่ของอิเลก็ ตรอน หรือโปรตอน หรืออนุภาคอน่ื ท่ีมีสมบัติแสดงอานาจคล้ายคลงึ กับอเิ ล็กตรอน
หรือโปรตอน ใชป้ ระโยชนก์ ่อใหเ้ กดิ พลังงานอืน่ เชน่ ความรอ้ น แสงสว่าง การเคลื่อนท่ี เป็นตน้ ”

ภาพการไหลของอเิ ลก็ ตรอนในวงจรไฟฟา้
ไฟฟาู เป็นพลังงานชนดิ หนึ่งทมี่ นุษย์นามาใชป้ ระโยชนไ์ ดห้ ลายอย่าง นอกจากจะให้
แสงสว่างเวลาค่าคนื แลว้ ยังทาให้เกดิ ความร้อนเพือ่ ใชใ้ นการหงุ ต้ม รีดผา้ ทาใหเ้ กิดการหมุนของ
มอเตอร์ เช่น เครอ่ื งดูดฝนุ เครือ่ งปนั่ นา้ ผลไม้ เครอ่ื งทาความเยน็ เปน็ ตน้ ไฟฟูาจึงมคี วามสาคัญ
และจาเปน็ ต่อการดารงชวี ติ
ตอนท่ี 2 ประโยชน์และผลกระทบของพลงั งานไฟฟาู
พลังงานไฟฟาู เป็นปัจจัยทีส่ าคญั อยา่ งมากตอ่ การพฒั นาประเทศในด้านตา่ ง ๆ ได้แกด่ า้ นคมนาคม ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ น
อตุ สาหกรรม ด้านเกษตรกรรม ดา้ นบรกิ าร และด้านคุณภาพชวี ติ การใชพ้ ลังงานไฟฟูามีแนวโน้มเพิ่มข้นึ ทกุ ปตี าม
อัตราการเพ่ิมจานวนประชากรและความเจรญิ เตบิ โตทางด้านเศรษฐกจิ พลังงานไฟฟาู ถูกนามาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง
ๆ ซ่งึ จากสถติ ิการใชพ้ ลังงานไฟฟูาแยกตามสาขาเศรษฐกิจ ในปี พ.ศ. 2554 พบวา่ สาขาอุตสาหกรรมเป็นสาขาท่ีมี
การใช้พลังงานไฟฟาู มากท่ีสุด คิดเป็นรอ้ ยละ 45.2 ของการใช้พลงั งานไฟฟาู ทงั้ ประเทศ ส่วนสาขาอ่ืน ๆ ดงั แสดง ใน
ภาพ

แผนภูมิแสดงการใช้พลังงานไฟฟูาแยกตามสาขาเศรษฐกจิ ปี พ.ศ. 2558
1. ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลังงานไฟฟูาดา้ นคมนาคม
ประโยชน์

พลังงานไฟฟูาใช้ในการขบั เคลอื่ นพาหนะทาให้การเดินทางมคี วามสะดวก รวดเร็วปลอดภยั
และบริการผูโ้ ดยสารได้มากขึ้น อีกทัง้ ไม่ก่อใหเ้ กิดมลพษิ ทางอากาศ

ภาพรถไฟฟูา (BTS) ทใี่ ชใ้ นกรุงเทพมหานคร

ภาพสญั ญาณไฟจราจรทางอากาศ


Click to View FlipBook Version