The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานสรุปผลการขับเคลื่อน ตาม พ.ร.บ.พื้นนวัตกรรม พ.ศ. 2562 ของจังหวัดพื้นที่นวัตกรรม 8 จังหวัด ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณของ สป.ศธ (สำนักบูรณาการกิจการการศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sunny700, 2020-09-21 22:14:23

รายงานสรุปผลการดำเนินงานโครงการพัฒนารแบบการศึกษาโดยใช้รูปแบบพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

รายงานสรุปผลการขับเคลื่อน ตาม พ.ร.บ.พื้นนวัตกรรม พ.ศ. 2562 ของจังหวัดพื้นที่นวัตกรรม 8 จังหวัด ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณของ สป.ศธ (สำนักบูรณาการกิจการการศึกษา

Keywords: พื้นที่นวัตกรรม,พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.2562,สุริยา หมาดทิ้ง

97

การขับเคล่ือนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
จังหวัดยะลา

สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดยะลำ ร่วมกำหนดยุทธศำสตร์กำรขับเคล่ือนพื้นท่ีนวัตกรรม
กำรศกึ ษำจังหวัดยะลำกับภำคีเครือข่ำยและผมู้ ีส่วนเกี่ยวข้อง โดยได้ยกร่ำงแผน โดยสรุปดงั น้ี

แผนพัฒนาพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดยะลา ปีการศึกษา 2564-2565

วิสัยทัศน์

นวตั กรรมการศกึ ษามุ่งสกู่ ารเปล่ียนแปลงการจดั การศกึ ษาเพือ่ พลเมืองรนุ่ ใหม่จงั หวดั ยะลา

พันธกิจ

1. ส่งเสริมกำรคิดค้นและพัฒนำนวัตกรรมกำรศึกษำและกำรเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์
ทำงกำรศึกษำของผ้เู รียน รวมท้ังเพอื่ ดำเนินกำรให้มีกำรขยำยผลไปใช้ในสถำนศึกษำข้ันพ้ืนฐำนอื่น

2. ส่งเสรมิ กำรลดควำมเหลื่อมลำ้ ในกำรศึกษำ
3. ส่งเสริมกำรกระจำยอำนำจและให้อิสระแก่หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ และสถำนศึกษำนำ
ร่องในพ้นื ที่นวตั กรรมกำรศึกษำเพ่อื เพิ่มควำมคล่องตัวในกำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำให้มีคุณภำพและ
ประสทิ ธภิ ำพย่งิ ข้ึน
4. ส่งเสริมกำรสร้ำงและพัฒนำกลไกในกำรจัดกำรศึกษำร่วมกันระหว่ำงภำครัฐ องค์กร
ปกครองสว่ นท้องถ่นิ ภำคเอกชน และภำคประชำสังคมในพน้ื ที่นวตั กรรมกำรศึกษำ

เป้าประสงค์

1. หน่วยงำนทำงกำรศึกษำและสถำนศึกษำมีนวัตกรรมกำรศึกษำและกำรเรียนรู้เพื่อ
ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรศึกษำของผเู้ รียน และมีกำรขยำยผลไปใชใ้ นสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำนอืน่

2. ไมม่ เี ด็กตกหลน่ ในเขตบริกำรของสถำนศึกษำ
3. หน่วยงำนทำงกำรศึกษำและสถำนศึกษำมีข้อเสนอยกเว้นกำรเข้ำร่วมกิจกรรม/ โครงกำร
ที่ไม่ส่งผลต่อคุณภำพกำรศึกษำ
4. มีกลไกในกำรจดั กำรศกึ ษำรว่ มกันระหว่ำงภำครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภำคเอกชน
และภำคประชำสังคม

98

ยุทธศาสตร์

1. ส่งเสรมิ สนบั สนนุ สถำนศึกษำนำร่องให้เปน็ สถำนศึกษำต้นแบบ
2. สง่ เสรมิ สนับสนนุ หนว่ ยงำนทำงกำรศึกษำในกำรส่งเสรมิ สถำนศึกษำนำร่อง
3. สร้ำงภำคีเครือข่ำยควำมร่วมมือของหน่วยงำนทำงกำรศึกษำและสถำนศึกษำนำร่องใน
กำรจัดกำรศึกษำ

แนวทางในการพัฒนา

1. ประสำนควำมรว่ มมือจำกทุกภำคส่วน ผู้รับผดิ ชอบโครงกำรจำกทุกสังกัด
2. ตดิ ตำมกำรดำเนินงำน นเิ ทศติดตำมสถำนศึกษำนำร่องเป็นระยะ
สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดยะลำ จะเสนอร่ำงแผนข้ำงต้นเพื่อขอควำมเห็นชอบจำก
คณะกรรมกำรขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดยะลำ เพื่อใช้ในกำรขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรม
กำรศึกษำปี พ.ศ. 2564 - 2565

สร้างการรับรู้และเชิญชวนให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดมาเป็น
โรงเรียนนาร่องในโครงการพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา

1. รับสมัครโรงเรยี นเข้ำโครงกำรพื้นท่นี วตั กรรม
2. ประชุมช้ีแจงสร้ำงควำมเข้ำใจกำรดำเนินกำรของสถำนศึกษำ พระรำชบัญญัติพ้ืนท่ี
นวตั กรรมกำรศึกษำ พ.ศ. 2562 (14 สงิ หำคม 2562 หอ้ งประชุมกังสดำล โรงแรมยะลำแกรนด์พำเลซ)

3. กิจกรรมกำรอบรมเชิงปฏิบัติกำรกำรปรับหลักสูตรสถำนศึกษำ ไปปรับใช้กับกำร
จัดกำรศึกษำในสถำนศึกษำนำร่องให้เหมำะสมกับพื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ
ปรับหลักสูตรสถำนศึกษำ ไปปรับใช้กับกำรจัดกำรศึกษำในสถำนศึกษำนำร่องให้เหมำะสมกับพื้นท่ี
นวตั กรรมกำรศกึ ษำ และเพื่อคดิ ค้นและพัฒนำนวัตกรรมกำรศึกษำและกำรเรียนรู้ เพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ิ
ทำงกำรศึกษำของผู้เรียน ระหว่ำงวันท่ี 14 - 15 กุมภำพันธ์ 2563 ณ ห้องประชุมบำลำ-ฮำลำ สพป.ยะลำ
เขต 3 โดยผู้เข้ำอบรมประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบโครงกำร ผู้บริหำรโรงเรียน ครูวิชำกำร โรงเรียนนำร่อง
โครงกำรพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำ จำนวน 21 โรงเรียน สพป.ยะลำ เขต 2 - 3 สช.จ.ยะลำ วันท่ี 24 - 25

99

มิถนุ ำยน 2563 ณ ห้องประชมุ บหุ งำรำยำ สพป.ยะลำ เขต 1 ผูเ้ ขำ้ อบรมประกอบดว้ ย ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงกำร
ผบู้ รหิ ำรโรงเรียน ครูวิชำกำร โรงเรียนนำร่องโครงกำรพื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำ จำนวน 9 โรงเรียน สังกัด
สพป.ยะลำ เขต 1

4. ตำมคำสั่งกระทรวงศึกษำธิกำรท่ี สพฐ.161/2562 เร่ือง แต่งต้ังคณะกรรมกำรขับเคลื่อน
พ้ืนท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดชำยแดนภำคใต้ ศูนย์ประสำนงำนและบริหำรกำรศึกษำจังหวัดชำยแดน
ภำคใต้ ในฐำนะกรรมกำรและเลขำนุกำรคณะกรรมกำรขับเคลื่อนพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัด
ชำยแดนภำคใต้ จัดประชุมคณะกรรมกำรขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดชำยแดนภำคใต้ ครั้ง
ท่ี 1/2563 ณ ห้องประชุมพญำตำนี ช้ัน 4 ศำลำกลำงจังหวัดปัตตำนี อำเภอเมืองปัตตำนี จังหวัดปัตตำนี
เพ่ือขับเคลื่อนกำรดำเนินงำนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม ตำมท่ี
กระทรวงศึกษำธิกำรได้กำหนดใหท้ ุกภำคส่วนมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรศึกษำ ลดควำมเหล่ือมล้ำ รวมท้ังได้
จัดต้ังพื้นที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดชำยแดนภำคใต้ข้ึน เพื่อให้เกิดรูปแบบกำรบริหำรจัดกำรใหม่
ทำงกำรศึกษำในระดับพื้นที่ เพิ่มศักยภำพนักเรียนและครู ตลอดจนสถำนศึกษำให้มีคุณภำพ สำมำรถดูแล
และพัฒนำทักษะของนักเรียนในพื้นที่จังหวัดปัตตำนี ยะลำ และนรำธิวำส ให้เหมำะสมกับกำรพัฒนำ
ทักษะในศตวรรษท่ี 21 โดยมีนำยพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดปัตตำนี เป็นประธำนกำร
ประชุม ตำมหนังสอื สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ท่ี ศธ 04288/ว33 เร่ือง กำรจัดต้ังพื้นที่
นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดชำยแดนภำคใต้ คณะกรรมกำรขับเคล่ือนพื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัด
ชำยแดนภำคใต้ ไดป้ ฏบิ ัตหิ นำ้ ทคี่ ณะกรรมกำรขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัด ได้พิจำรณำและ
ใหค้ วำมเห็นชอบแผนกำรดำเนนิ งำนกิจกรรมโครงกำรพัฒนำระบบกำรศึกษำโดยใช้รูปแบบพ้ืนท่ีนวัตกรรม
กำรศึกษำ ประจำปงี บประมำณ พ.ศ.2563 เมื่อวันที่ 24 สงิ หำคม 2563

100

5. สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดยะลำได้ฐำนะกรรมกำรและเลขำนุกำรคณะอนุกรรมกำร
ขับเคล่ือนพ้ืนท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดยะลำ จัดประชุมคณะอนุกรรมกำรขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรม
กำรศึกษำจังหวัดยะลำ ในวันที่ 25 ส.ค. 63 ณ ห้องประชุมกังสดำล โรงแรมยะลำแกรนด์พำเลซ อำเภอ
เมือง จังหวัดยะลำ โดยมีกลุ่มเป้ำหมำยคือ คณะอนุกรรมกำรขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัด
ยะลำ และคณะทำงำนรวมถึงผู้ท่ีเกี่ยวข้อง ได้กำหนดกำรขับเคล่ือนโครงกำรพัฒนำระบบกำรศึกษำโดยใช้
รูปแบบพ้ืนทน่ี วัตกรรมกำรศึกษำ ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2563

กิจกรรมท่ีกาลังดาเนินการ (ข้อมูล ณ วันท่ี 4 กันยายน 2563)

1. กิจกรรมจัดประชุมสร้ำงกำรรับรู้ สร้ำงควำมตระหนักโครงกำรพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำ
ระหว่ำงวันที่ 13 - 15 ก.ย. 63 ณ ห้องประชุม โรงแรมเฟรนด์ลีเทล อำเภอหำดใหญ่ จังหวัดสงขลำ
โดยมีกลุ่มเป้ำหมำยคือ ผู้บริหำรโรงเรียนนำร่องพื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำ ครูวิชำกำร ครูผู้รับผิดชอบ
โครงกำรฯ ศึกษำนิเทศก/์ นักวิชำกำร และคณะทำงำน ตลอดจนผูเ้ กี่ยวข้อง

2. สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดยะลำ ให้หน่วยงำนต้นสังกัดท่ีร่วมโครงกำรฯ เสนอแผนกำร
ดำเนินกำรเพ่ือพัฒนำบุคลำกรในโรงเรียนนำร่องพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำดำเนินกำรในเดือนกันยำยน
โดย

สานักงานการศึกษาเอกชนจงั หวัดยะลา นาเสนอ
“อบรมเชิงปฏิบตั ิกำรโรงเรียนนำร่องพ้ืนทน่ี วัตกรรมกำรศึกษำ”

สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษายะลา เขต 3 นาเสนอ
“คำ่ ยกำรเรียนรู้วิทยำกำรคำนวณ (coding) สำหรบั กำรเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี 21”

3. กิจกรรมศึกษำดูงำนหน่วยงำน/โรงเรียนนำร่อง ในพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำที่ประสบ
ควำมสำเร็จ ในวันท่ี 24 - 26 ก.ย. 2563 ณ จังหวัดสตูล โดยมีกลุ่มเป้ำหมำยคือ ผู้รับผิดชอบและ
คณะทำงำน โครงกำรพัฒนำระบบกำรศึกษำโดยใช้รูปแบบพน้ื ท่ีนวตั กรรมกำรศึกษำ

จังหวัด
นราธิวาส

102

การขับเคล่ือนพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
จังหวัดนราธิวาส

วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส คือ “นวัตกรรม การศึกษา
สร้างความเสมอภาค สู่พลเมืองรุ่นใหมใ่ นยุคดิจทิ ลั ”

กิจกรรมการดาเนินงาน

1. สร้างความตระหนักรู้และเขา้ ใจเกยี่ วกับแนวคิดพน้ื ทน่ี วตั กรรมการศึกษา
สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดนรำธิวำส นำคณะกรรมกำรศึกษำธิกำรจังหวัด

นรำธิวำส ผู้บริหำรหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ครูและศึกษำนิเทศก์
เข้ำร่วมประชุมเชิงปฏิบัติกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจเก่ียวกับพ้ืนท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำ
จัดโดยศูนย์ประสำนงำนและบริหำร
กำรศึกษำจังหวัดชำยแดนภำคใต้
เมื่อวันที่ 6 – 7 กุมภำพันธ์ 2562
ณ โรงแรมซี เอส ปัตตำนี อำเภอ
เ มื อ ง ปั ต ต ำ นี จั งหวั ดปั ตตำนี
ซ่ึงผู้เข้ำร่วมประชุมมีควำมรู้ควำม
เข้ำใจถึงแนวทำงกำรพัฒนำพื้นที่
นวัตกรรมกำรศึกษำ และได้วิเครำะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อกำรยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ
ของจงั หวัดนรำธิวำส และจังหวัดชำยแดนภำคใต้

103

2. คัดเลอื กสถานศกึ ษาเพ่ือนาร่องพื้นท่นี วตั กรรมการศกึ ษาระดับจงั หวดั
สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดนรำธิวำส ดำเนินกำรคัดเลือกสถำนศึกษำนำร่อง

พนื้ ทีน่ วตั กรรมกำรศกึ ษำระดับจงั หวดั นรำธิวำส ดังน้ี

(1) กำหนดหลักเกณฑ์กำรคัดเลือกสถำนศึกษำเพื่อนำร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรม
กำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส โดยให้สถำนศึกษำที่มีควำมพร้อมและสมัครใจที่จะเป็น
สถำนศกึ ษำนำรอ่ งพนื้ ทน่ี วัตกรรมกำรศกึ ษำจงั หวัดนรำธวิ ำส

(2) แจ้งหน่วยงำนทำงกำรศึกษำคัดเลือกสถำนศึกษำนำร่องพ้ืนที่นวัตกรรม
กำรศกึ ษำ

(3) หน่วยงำนทำงกำรศึกษำแจ้งรำยชื่อสถำนศึกษำนำร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรม
กำรศกึ ษำแกส่ ำนกั งำนศึกษำธกิ ำรจังหวดั นรำธวิ ำส รวมทัง้ สนิ้ 23 แหง่

3. การวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ และสภาพปัญหาที่เป็นปัจจัย
กระทบ

สำนักงำนศึกษำธิกำรจงั หวดั นรำธิวำส ได้จดั ประชมุ เชิงปฏิบตั ิกำรวเิ ครำะห์ผล
กำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำติ (O – NET) และกำหนดแนวทำงกำรยกระดับ
ผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรศกึ ษำของจังหวดั นรำธิวำส มีวัตถปุ ระสงคเ์ พือ่ ทรำบผลกำรทดสอบทำง

กำรศึกษำระดับชำติ (O – NET) ที่มีผลต่อ
ก ำ ร พั ฒ น ำ คุ ณ ภ ำ พ ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ข อ ง
สถำนศึกษำในจังหวัดนรำธิวำส และ
ทรำบปัญหำและปัจจัยที่มีผลกระทบ
ต่อกำรพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ จัด
ขึ้นเมื่อวันท่ี 4 เมษำยน 2562 ณ
หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริ
รำ ช ส มบั ติ ค รบ 6 0 ปี สพป.
นรำธิวำส เขต 1 อำเภอเมืองนรำธิวำส
จังหวัดนรำธิวำส ซ่ึงกำรจัดประชุมเชิง

ปฏิบัติกำรคร้ังนี้ สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด
นรำธิวำส โดยกลุ่มนิเทศ ติดตำมและประเมินผลได้บูรณำกำรร่วมกับโครงกำร
Coaching Teams เพือ่ ยกระดับคุณภำพกำรศึกษำ เนื่องจำกกลุ่มเป้ำหมำยบำงส่วนเป็น
สถำนศึกษำที่นำร่องพื้นที่นวัตกรรมกำรศึกษำ จำนวน 23 แห่ง จำกสถำนศึกษำท่ีเข้ำ
ร่วมโครงกำรจำนวน 53 แห่ง ผู้เข้ำร่วมครั้งนี้ ได้แก่ ศึกษำนิเทศก์จำกหน่วยงำนทำง

104

กำรศกึ ษำ ผบู้ ริหำรสถำนศึกษำ ครูทำหน้ำท่ีฝ่ำยวิชำกำร และครูผู้สอนในสถำนศึกษำที่
เขำ้ รว่ มโครงกำร ซงึ่ มีผลกำรดำเนนิ กำรดงั นี้

(1) ผบู้ ริหำรสถำนศึกษำ ครูทำหน้ำทฝี่ ำ่ ยวชิ ำกำร และครูผู้สอนมีควำมเข้ำใจ
ด้ำนกำรวเิ ครำะหผ์ ลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดบั ชำติ (O – NET)

(2) ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ครูทำหน้ำท่ีฝ่ำยวิชำกำรและครูผู้สอนทรำบถึง
ปญั หำและปจั จยั ทม่ี ีผลกระทบตอ่ ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี นของผู้เรียน

(3) ผบู้ ริหำรสถำนศึกษำ ครูทำหน้ำท่ีฝ่ำยวิชำกำรและครูผู้สอนมีควำมรู้ควำม
เข้ำใจในกำรนำผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำติ (O – NET) ไปใช้ในกำรพัฒนำ

กำรจัดกำรเรยี นรู้

4. วเิ คราะห์สภาพบริบทของพื้นทีใ่ นจงั หวัดนราธิวาสในการพัฒนาสู่พนื้ ท่นี วัตกรรมการศึกษา
สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัด

นรำธิวำส ได้ดำเนินกำรจัดกิจกรรมประชุม
เชิงปฏิบัติกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้
ที่ เ ห ม ำ ะ ส ม กั บ บ ริ บ ท ข อ ง พ้ื น ที่ ส ำ ห รั บ
สถำนศึกษำในจังหวัดนรำธิวำส โดย
บูรณำกำรกับโครงกำร TFE : Teams For
Education เนื่องจำกโครงกำรดังกล่ำว
มี แ น ว ท ำ ง ก ำ ร ด ำ เ นิ น ก ำ ร แ ล ะ วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ เ ดี ย ว กั น กั บ พ้ื น ที่ น วั ต ก ร ร ม ก ำ ร ศึ ก ษ ำ
ซ่ึงจัดข้ึนเม่ือวันท่ี 29 – 30 พฤษภำคม 2562 ณ ห้องประชุมผกำกรอง วิทยำลัยชุมชน
นรำธิวำส อำเภอเมืองนรำธิวำส จังหวัดนรำธิวำส มีวัตถุประสงค์เพ่ือวิเครำะห์สภำพ
บริบทของพ้ืนที่ ค้นหำบริบทท่ีเหมำะสมกับกำรพัฒนำนวัตกรรมกำรศึกษำ และกำหนด
แนวทำง กำรพัฒนำโรงเรยี นพื้นท่นี วัตกรรมกำรศกึ ษำจงั หวดั นรำธิวำส กลุ่มเป้ำหมำยกำร
ประชุมคร้ังนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหำรสถำนศึกษำและครูผู้สอนในสถำนศึกษำท่ีเข้ำร่วม
โครงกำร TFE : Teams For Education จำนวน 5 แห่ง และผู้บริหำรสถำนศึกษำ
และครูผู้สอนในสถำนศึกษำนำร่องพื้นที่นวัตกรรมกำรศึกษำจำนวน 23 แห่ง
รวมทั้งส้ิน 96 คน ทั้งน้ี มีคณะอำจำรย์จำกมหำวิทยำลัยทักษิณท่ีได้รับแต่งตั้งให้เป็น
คณะกรรมกำรด้ำนวิชำกำรของพ้ืนท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส มำให้ควำมรู้และ
เปน็ พเ่ี ลีย้ งดำ้ นกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรยี นรู้ทเี่ หมำะสมกับบริบทของพนื้ ที่

105

และคณะศึกษำนิเทศก์จำกหน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ครูผู้สอนที่ได้รับแต่งต้ังเป็น
คณะทำงำนกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ตำมโครงกำร TFE : Teams For Education
เป็นพี่เลี้ยงในกำรคำแนะนำและช่วยเหลือกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ ซึ่งมีผลกำร
ดำเนินกำรดังนี้

1) ผู้บริหำรสถำนศึกษำและครูผู้สอนสำมำรถวิเครำะห์และนำเสนอสภำพ
บริบทของพื้นทไ่ี ด้

2) ผู้บริหำรสถำนศึกษำและครูผู้สอนสำมำรถค้นหำบริบทท่ีเหมำะสมกับ
กำรพัฒนำนวัตกรรมกำรศกึ ษำได้

3) ผู้บริหำรสถำนศึกษำและครูผู้สอนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจและสำมำรถ
กำหนดแนวทำงกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเหมำะสมกับบริบทของพ้ืนท่ีได้ จำก
กำรจัดประชุมเชิงปฏิบัติกำรครั้งนี้ ทำให้มีสถำนศึกษำท่ีเข้ำร่วมโครงกำร TFE : Teams
For Education มีควำมสมัครใจเข้ำร่วม
เ ป็ น ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ น ำ ร่ อ ง พื้ น ที่ น วั ต ก ร ร ม
กำรศึกษำ อีกจำนวน 5 แห่ง ดังนั้น จังหวัด
น ร ำ ธิ ว ำ ส มี ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ น ำ ร่ อ ง พ้ื น ที่
นวัตกรรมกำรศึกษำท้ังสนิ้ จำนวน 28 แห่ง

5. สถานศึกษานาร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส จานวน 28 แห่ง
นาเสนอแนวทาง/รูปแบบการพฒั นาการจัด การเรียนรูท้ ่เี หมาะสมกบั บริบทของพน้ื ท่ี

เพื่อติดตำมควำมก้ำวหน้ำของกำรพัฒนำ กำรจัดกำรเรียนรู้ที่เหมำะสมกับ
บริบทของพื้นทท่ี ี่สถำนศกึ ษำพัฒนำขึน้ ซึง่ คณะทำงำนพจิ ำรณำถงึ ควำมเหมำะสมของแนว
ทำงกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ และกิจกรรมกำรจัดกำร
เรยี นรู้

6. จัดประชุมถอดบทเรียนการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่
สาหรับสถานศึกษาในจงั หวดั นราธวิ าส

สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดนรำธิวำส ได้จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ
เผยแพร่ผลกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เหมำะสมกับบริบทของพื้นท่ี สำหรับสถำนศึกษำ
ที่เข้ำร่วมโครงกำร เพื่อขยำยผลกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ให้แก่สถำนศึกษำท่ีสนใจและ
ร่วมเป็นเครือข่ำยต่อกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เหมำะสมกับบริบทของพื้นที่
โดยจัดประชุมถอดบทเรียนกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเหมำะสมกับบริบทของ

106

พื้นที่ สำหรับสถำนศึกษำในจังหวัดนรำธิวำส วันที่ 8 ตุลำคม 2562 ณ ห้องประชุม
โรงเรียนนรำสิกขำลัย อำเภอเมืองนรำธิวำส จังหวัดนรำธิวำส ซ่ึงสำนักงำนศึกษำธิกำร
จังหวัดนรำธิวำสได้จัดกิจกรรมกำรถอดบทเรียนกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เหมำะสม
กับบรบิ ทของพ้ืนท่ี และกำหนดกำรถอดบทเรียนบุคคล 2 กลมุ่ คือ

กลุม่ ท่ี 1 ครผู ู้สอน โดยกำหนดคำถำม ดงั นี้
1. เปำ้ หมำยในกำรจดั กำรเรยี นรู้
2. กิจกรรมในกำรจดั กำรเรียนรู้
3. ตัวชว้ี ัดเป้ำหมำยในกำรจัดกำรเรยี นรู้
4. ผลลพั ธใ์ นกำรจดั กำรเรียนรู้
5. ประสบกำรณ์ในกำรจดั กำรเรียนรู้
6. กำรปรบั ปรุงกำรจดั กำรเรียนรู้

กลมุ่ ท่ี 2 นักเรยี น ได้กำหนดคำถำม ดังนี้
1. ให้นักเรียนทำแผนท่ีกำรเรียนรู้ เช่น พ้ืนท่ีท่ีนักเรียนลงไปเรียนรู้ มีที่

ไหนบ้ำง ไปเจอกับใคร นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้ำง เรื่องอะไรบ้ำง และนักเรียนทำ
อย่ำงไรบ้ำง จงึ จะไดค้ วำมรู้นนั้ มำ

2. ให้นักเรียนทำแผนภำพ
ควำมคิด เช่น นักเรียนชอบวิธีกำร
เขียนในข้อ 1 หรือไม่ ทำไมถึงชอบ
เพรำะอะไร วิธีกำรเรียนแบบน้ีทำให้
นักเรียนเก่งข้ึนหรือไม่หรือได้พัฒนำ
ทักษะด้ำนใดเพิ่มข้ึนบ้ำง เช่น กำรพูด
อ่ำน เขียน ฟัง หรือด้ำนอ่ืนๆ และ
นักเรยี นไดแ้ งค่ ิดอะไรบ้ำงนักเรียนรู้จัก
และเห็นคุณค่ำอะไรบ้ำงในชุมชน
ร้สู กึ หวงแหนท้องถ่นิ ชมุ ชนเพม่ิ ขน้ึ หรอื ไม่
3. ให้นักเรียนออกแบบห้องเรียนในจินตนำกำร โดยนำควำมรู้จำกข้อ
1 – 2 มำบูรณำกำรออกแบบกำรเรียนรู้กำรจัดกิจกรรมถอดบทเรียนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี
เหมำะสมกับบริบทของพื้นที่ครั้งนี้ มีอำจำรย์จำกคณะมนุษยศำสตร์และสังคมศำสตร์
มหำวทิ ยำลัยทักษณิ เปน็ วิทยำกร จำนวน 3 คนประกอบด้วย
1) รองศำสตรำจำรย์ ดร. พรพนั ธ์ุ เขมคุณำศัย อำจำรย์สำขำภำษำไทย
2) อำจำรย์ปริยำกรณ์ ชแู ก้ว อำจำรย์สำขำภำษำไทย

107

3) อำจำรย์ ดร. นวิทย์ เอมเอก อำจำรย์สำขำกำรจดั กำรทรพั ยำกรมนษุ ย์
กิจกรรมกำรถอดบทเรยี น แบง่ เป็น 2 ห้อง แยกจำกกนั ระหว่ำงครูและนักเรียน
โดยประเด็นในกำรถอดบทเรียนห้องครูเป็นกำรให้ครูสะท้อนเกี่ยวกับเป้ำหมำย วิธีกำร/
กระบวนกำร/ขั้นตอนของกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีเหมำะสมกับบริบทของพื้นท่ีของแต่ละ
โรงเรียนรวมทงั้ ประโยชน์ และข้อจำกัดในกำรดำเนินกำร ส่วนห้องนักเรียน มีกิจกรรมให้
นักเรียนทำแผนท่ีกำรเรียนรู้เพ่ือสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน ให้นักเรียนทำ
แผนภำพควำมคิดสรุปผลกำรเรียนรู้ และให้นักเรียนลองออกแบบห้องเรียนในจินตนำกำร
สำหรับส่วนหนึ่งของผลจำกกำรจัดกิจกรรมถอดบทเรียนครั้งนี้ ขอนำเสนอบำงโรงเรียน
ได้แก่ 1) โรงเรียนบ้ำนสะโล 2) โรงเรียนบ้ำนตือมำยู 3) โรงเรียนบ้ำนสุไหงโก-ลก และ
4) โรงเรยี นบำ้ นตำโงะ ดังน้ี

1. โรงเรยี นบำ้ นสะโล
เป้ำหมำยให้นักเรียนสร้ำง
ช้ินงำนจำกแหล่งเรียนรู้ ใช้กิจกรรม active
learning ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติ ข้ันตอน
ดำเนินกำร เริ่มด้วยกำรประชุมครู หำรือถึง
ควำมต้องกำรจำเป็น ได้ประเด็นพัฒนำกำร
อ่ำน/กำรเขียน แต่คิดว่ำเด็กขำดทักษะกำร
เขียนมำกกวำ่ จึงพัฒนำทักษะกำรเขยี นก่อน
ได้วำงแผนให้เด็กไปใช้แหล่งเรียนรู้คือน้ำตก
สถำนีรถไฟ และต้นลองกอง 200 ปี โดยกำรให้เด็กสำรวจเส้นทำง แล้วศึกษำจำกวิทยำกร
พื้นท่ี ฝึกเขียนจำกชุดฝึก 6 ชุด แล้วนำไปสู่กำรเขียนเชิงสร้ำงสรรค์ ครูกำหนดชิ้นงำนให้
นักเรียน อำทิ เขียนลงบรรจุภัณฑ์ต่ำงๆ เขียนลงเสื้อท่ีระลึกจำกน้ำตก กระเป๋ำผ้ำรถไฟ
จำกกำรจัดกิจกรรมดังกล่ำว ทำให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ กล้ำแสดงออก คิด
วิเครำะห์ ส่วนครูได้ประสบกำรณ์กำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้น active learning มำกข้ึน ส่วน
ข้อจำกัดของกำรจัดกิจกรรมนี้คือ เรื่องเวลำ งบประมำณ และนักเรียนยังไม่ได้ฝึกทักษะ
ได้มำกเทำ่ ที่มงุ่ หวงั
2. โรงเรียนบำ้ นตือมำยู

โรงเรียนต้องกำรให้นักเรียนที่จบชั้น ม.3 ได้เข้ำเรียนสำยอำชีพ
และได้มีอำชีพท่ีต้องกำร สำหรับกำรจัดกำรเรียนกำรสอนได้พำนักเรียนไปทัศนศึกษำ
โรงเรยี นชำวนำ เพอ่ื ใหเ้ ห็นควำมสำคัญของอำชพี และเปน็ กำรสำรวจอำชีพในชุมชนไปด้วย
ส่ิงที่เด็กได้เห็นอำชีพในชุมชน อำทิ กำรทำกล้วยฉำบ ฟำร์มตัวอย่ำง กรีดยำง ทำลูกชิ้น
ขณะนี้ครูจัดกิจกรรมได้เพียงข้ันสำรวจอำชีพ เน่ืองจำกเวลำไม่เอื้ออำนวย ส่ิงที่สังเกตเห็น

108

คือ เด็กมีควำมกระตือรือร้นในกำรเรียนรู้ และได้ควำมรู้จำกปรำชญ์ชำวบ้ำน ส่วนครูได้
เรยี นรสู้ ง่ิ ตำ่ งๆ ไปพร้อมเด็ก ข้อจำกัดในกำรจัดกิจกรรมคือ เวลำท่ีใช้ในกำรจัดกิจกรรมไม่
ตอ่ เนอื่ ง งบประมำณไมเ่ พยี งพอ และยังมีควำมร่วมมือไมม่ ำกนกั จำกผ้ปู กครองและชุมชน

3. โรงเรยี นบ้ำนสุไหงโก-ลก
โรงเรียนมีเป้ำหมำยใหน้ ักเรียนเปน็ ผู้ประกอบกำร โดยใชจ้ ุดเด่นของชุมชน
ในเรื่องกำรค้ำชำยแดนระหว่ำงประเทศ จะเน้นกำรส่งเสริมควำมรู้ (knowledge)
คุณธรรม (moral) และทักษะ (skill) ครูจัดกำรเรียนรู้แบบ active learning ในกำร

จัดกำรเรียนรู้แต่ละช้ันเรียน จะมีจุดเน้น
เฉพำะทีแ่ ตกต่ำงกัน สำหรับนักเรียนช้ัน ป.5
เด็กได้เรียน ส่ีสหำยชวนชิม คือ กล้วยฉำบ
มันฉำบ เผือกฉำบ และฟักทองฉำบ จำกสิ่ง
ที่เรียนนำมำสู่สำระวิชำ ทั้ง 8 กลุ่มสำระ
เ ช่ น ภ ำ ษ ำ ไ ท ย -ทั ก ษ ะ ก ำ ร เ ขี ย น ,
วิทยำศำสตร์-สำรละลำย, สังคมศึกษำ-
ผู้ผลิตผู้ประกอบกำร, กอท.-แปรรูป ทำป้ำย
สินค้ำ, ภำษำอังกฤษ-พูดสื่อสำร แสดงขั้นตอน, คณิตศำสตร์-เปรียบเทียบรำคำ สำรวจ
ตลำด บัญชีรำยรับรำยจ่ำย คิดต้นทุน ทำให้เด็กได้ผลกำรเรียนรู้ตำมท่ีคำดหวัง ส่วน
ข้อจำกัดเป็นเร่ืองของเวลำ งบประมำณ ภำระงำนครู และกำรสอบเรียนต่อของนักเรียนทำ
ใหล้ งมอื ปฏิบัติไดไ้ มม่ ำกนกั ส่ิงดีที่พบ คอื เป็นหลักสตู รที่สอดคลอ้ งพื้นท่ี ได้วัดผลแนวใหม่
ผปู้ กครองสนับสนุน และหนว่ ยงำนทเ่ี กี่ยวข้องมสี ่วนร่วมกบั โรงเรยี น
4. โรงเรยี นบ้ำนตำโงะ
โรงเรียนมีเป้ำหมำยเพ่ือพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขียน ครูสอนแบบ active
learning ไดเ้ รยี นรู้ ปฏิบตั ิ และสรำ้ งสรรค์ กำรดำเนินกำรได้สร้ำงควำมตระหนักก่อน โดย
จัดทำเป็นนโยบำยของโรงเรียน มีกำรอบรมครู พำเด็กเรียนรู้ให้จดจำคำศัพท์ แบ่งกลุ่ม
4 คน ให้เด็กนำคำท่ีรู้มำแต่งประโยค และนำมำทำเป็นเรื่องรำว เขียนเรียงควำม
สร้ำงรปู ภำพ ทำเป็นนิทำน หรือหนังสือส่งเสริม
กำรอ่ำน สิ่งดีท่ีพบคือ เด็กภูมิใจในหนังสือ
ส่งเสริมกำรอ่ำน เด็กให้ควำมสำคัญและให้
ควำมสนใจ เด็กรักและภูมิใจในทอ้ งถิน่ สำมำรถ
แก้ปัญหำกำรอ่ำนกำรเขียนได้ ส่วนข้อจำกัด
แม้จะส่งเสริมกำรอ่ำนภำษำไทย แต่เด็กยังใช้

109

ภำษำถ่ิน กิจกรรมกำรอ่ำนยังไม่บูรณำกำรสำระวิชำอื่นนัก กำรนิเทศของผู้บริหำรยังไม่
ท่ัวถึง และยงั มีอุปสรรคเรอ่ื งเวลำและงบประมำณ

7. จัดกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนาเสนอผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่
เหมาะสมกับพ้ืนท่ี สาหรับสถานศึกษาในจังหวัดนราธิวาส วันท่ี 9 ตุลาคม 2562
ณ โรงเรยี นบ้านมะนงั กาหยี อาเภอเมืองนราธวิ าส จงั หวัดนราธวิ าส

สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดนรำธิวำส ได้จัดกิจกรรมกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้
และนำเสนอผลกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เหมำะสมกับพ้ืนที่ สำหรับสถำนศึกษำใน
จังหวัดนรำธิวำส โดยบูรณำกำรกับพื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส ในงำน

“เปิดพ้ืนท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำสู่กำรพัฒนำเด็ก
และเยำวชนอย่ำงยั่งยืน” ซ่ึงมีโรงเรียนใน
โครงกำร TFE : Teams For Education และ
โรงเรียนนำร่องในพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำ
จงั หวัดนรำธิวำส ร่วมกันจัดนิทรรศกำรนำเสนอ
ผลงำนของครูและนักเรียนที่จัดกำรเรียนรู้ด้วย
รูปแบบ/แนวทำงกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ที่
เหมำะสมกับบริบทของสถำนศึกษำ เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ของ
ก ำ ร พั ฒ น ำ ก ำ ร จั ด ก ำ ร เ รี ย น รู้ ที่ ป ร ะ ส บ ค ว ำ ม ส ำ เ ร็ จ รู ป แ บ บ ข อ ง ก ำ ร จั ด ง ำ น ค ร้ั ง น้ี
คือ ตลำดนัดวิชำกำรของนักเรียน โดยมีกำรเสวนำทำงวิชำกำรระหว่ำงอำจำรย์พ่ีเล้ียง
ครูผู้สอนและผู้บริหำร เก่ียวกับผลกำรดำเนินกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เหมำะสมกับ
บริบทของพื้นท่ี และให้นักเรียนนำเสนอขำยควำมรู้เกี่ยวกับส่ิงที่ได้เรียนรู้มำด้วยกำรจัด
เรียนรู้ท่ีเหมำะสมกับบริบทของพื้นท่ีและผลผลิตท่ีได้จำกกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้สนใจเข้ำ
เรียนรู้เพ่ิมเติมในบูธของกำรจัดนิทรรศกำร ผู้เข้ำร่วมงำนในครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหำรจำก
หน่วยงำนทำงกำรศึกษำ ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ครูผู้สอน และนักเรียนในจังหวัดชำยแดน
ภำคใต้ และผู้มีเกียรติเข้ำร่วมงำนจำกสำนักงำนพัฒนำนวัตกรรมกำรศึกษำ (สพฐ.)
ศูนย์ประสำนงำนและบริหำรกำรศึกษำจังหวัดชำยแดนภำคใต้ (ศปบ.จชต.) สำนักงำน
ศึกษำธิกำรภำค 7 และหน่วยงำนภำครัฐ ภำคประชำสังคม และภำคเอกชนในจังหวัด
นรำธิวำส รวมผู้เข้ำร่วมงำนท้ังสิ้น 350 คน ผลสำเร็จของงำนในครั้งน้ี คือ ผู้บริหำร ครู
นักเรียนและผู้ร่วมงำนมีควำมสนใจในกำรจัดนิทรรศกำรครั้งน้ี แลกเปล่ียนเรียนรู้ในกำรจัด
กำรเรียนรู้โดยใช้บริบทของพื้นท่ีมำเป็นฐำน ที่สำมำรถยกระดับกำรเรียนรู้ของผู้เรียนได้
อยำ่ งดียงิ่ ทั้งน้ี ขอใหม้ กี ำรดำเนนิ งำนจัดกิจกรรมแลกเปลีย่ นเรียนรอู้ กี ในครำวต่อไป

110

8. ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคล่ือนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส
เมอื่ วนั ท่ี 19 มีนาคม 2563 ณ ห้องประชุมบุหงาตันหยง สานักงานศึกษาธิการจังหวัด
นราธิวาส

เม่ือวันที่ 19 มีนำคม 2563 คณะอนุกรรมกำรขับเคลื่อนพื้นท่ีนวัตกรรม
กำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส ได้ประชุมครั้งที่ 1/2563 โดยมีนำยเอกรัฐ หลีเส็น
ผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดนรำธิวำสเป็นประธำน ณ ห้องบุหงำตันหยง ชั้น 2 สำนักงำน
ศึกษำธิกำรจังหวัดนรำธิวำส อำเภอเมืองนรำธิวำส จังหวัดนรำธิวำส เพื่อจัดต้ังพื้นที่
นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำสให้เห็นเป็นรูปธรรมและเป็นไปตำม พรบ.พื้นที่
นวัตกรรมกำรศึกษำ พ.ศ.2562 และตำมท่ีสำนักงำนกฤษฎีกำ (คณะพิเศษ) ตอบข้อ
หำรือของ สพฐ. เก่ียวกับคำจำกัดควำมของ “จังหวัดชำยแดนภำคใต้” หมำยถึง
จังหวัดปัตตำนี จังหวัดยะลำและจังหวัดนรำธิวำส ซึ่งกำรดำเนินกำรขับเคล่ือนพื้นที่
นวัตกรรมกำรศึกษำสำมำรถดำเนินกำรแยกเป็นรำยจังหวัดได้ โดยในกำรประชุมครั้งน้ี
คณะอนุกรรมกำรขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส มีควำมเห็น ดังนี้

- คณะกรรมกำรขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส
ให้พิจำรณำจำกรำยช่ือท่ีมำจำกคณะอนุกรรมกำรขับเคล่ือนพื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำ
จังหวัดนรำธิวำส ตำมประกำศคณะกรรมกำรขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัด
ชำยแดนภำคใต้ ประกำศ ณ วันที่ วันท่ี 23 ธันวำคม พ.ศ.2562 เป็นลำดับแรก
และให้แก้ไขลำดับท่ี 11 ผู้กำกับกำรตำรวจตระเวนชำยแดนที่ 44 เน่ืองจำกไม่เป็นไป
ตำมท่ี พรบ.พื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำ พ.ศ. 2562 กำหนด และลำดับที่ 20 – 21
ให้เป็นเพียงผู้ช่วยเลขำนุกำร เน่ืองจำกเป็นศึกษำนิเทศก์ที่รับผิดชอบกำรดำเนินงำน
พ้ืนท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำ ดังน้ัน ทำให้จำนวนคณะกรรมกำรไม่ครบอีก 3 ท่ำน
คณะอนุกรรมกำรจึงลงควำมเห็นว่ำเห็นควรเพ่ิม อธิกำรบดีมหำวิทยำลัยนรำธิวำส
รำชนครินทร์ และเห็นควรให้แต่งต้ังเป็นรองประธำนกรรมกำร เน่ืองจำกควรมี
มหำวิทยำลัยในพื้นท่ีนรำธิวำสเข้ำมำร่วมวำงแผนและพัฒนำพื้นที่นวัตกรรมกำรศึกษำ
และเพ่ิมผู้อำนวยกำรสำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย

111

จังหวัดนรำธิวำส และประธำนสถำบันกำรศึกษำอำชีวศึกษำจังหวัดนรำธิวำส
เพือ่ แลกเปลย่ี นเรยี นรแู้ ละสง่ เสรมิ ดำ้ นกำรจัดกำรเรียนรู้ทำงด้ำนทักษะอำชีพและด้ำนกำร
เรียนรู้ท่ีส่งเสริมคุณภำพชีวิต ซึ่งจะทำให้มองเห็นภำพกำรทำงำนท่ีบูรณำกำรทุกภำคส่วน
และพฒั นำกำรศึกษำทกุ ระดับช้นั อยำ่ งทั่วถึง

- จัดให้มีคณะอนุกรรมกำรและคณะทำงำนพื้นที่นวัตกรรมกำรศึกษำ
จังหวัดนรำธิวำส เพื่อทำหน้ำท่ีสนับสนุน ส่งเสริมกำรพัฒนำทำงด้ำนวิชำกำร
กำกับ ติดตำมและประเมินผลระดับพ้ืนท่ี
ให้เป็นไปตำมยุทธศำสตร์ แผนพัฒนำ
เ ป้ ำ ห ม ำ ย แ ล ะ แ น ว ท ำ ง ที่ ก ำ ห น ด
โ ด ย ก ำ ห น ด ใ ห้ มี ค ณ ะ อ ำ จ ำ ร ย์ จ ำ ก
มหำวิทยำลัยในพ้ืนที่ พ้ืนท่ีใกล้เคียง
และคณะอำจำรย์ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเป็นพี่
เลี้ยงด้ำนกำรพัฒนำหลักสูตรและกำร
จัดกำรเรียนรู้ของสถำนศึกษำนำร่องท้ังน้ี
ให้มีคณะอนุกรรมกำรระดับพื้นท่ีแต่ละหน่วยงำนทำงกำรศึกษำเพื่อดำเนินกำรขับเคลื่อน
พื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำระดับพื้นที่ ให้เป็นไปตำม พรบ.พื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำ พ.ศ.
2563

- กำหนด
แนวทำงกำรขับเคลื่อนพ้ืนที่
นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัด
นรำธิวำส ให้เป็นในทิศทำง
เดยี วกัน โดยให้คณะทำงำน
ร ะ ด ม ค ว ำ ม คิ ด ก ำ ห น ด
รูปแบบกำรขับเคลื่อนพ้ืนท่ี
นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัด
นรำธิวำส พัฒนำกำรจัด
ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ใ ห้ มี ค ว ำ ม
เชื่ อ มโ ย ง กั บ วั ฒ นธ ร ร ม
วิชำชีพและคุณธรรมให้เห็น
ถึง “ควำมเป็นนรำธิวำส”
แ ล ะ เ ป็ น เ อ ก ลั ก ษ ณ์
อัตลกั ษณ์ของนรำธวิ ำส

112

9. ประชุมคณะทางานพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาสเพ่ือกาหนดแนว
ท า ง ก า ร พั ฒ น า พ้ื น ที่ น วั ต ก ร ร ม ก า ร ศึ ก ษ า จั ง ห วั ด น ร า ธิ ว า ส เ มื่ อ วั น ท่ี
15 มิถุนายน 2563 ณ ห้องประชุมใบไม้สีทอง สานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด
นราธิวาส

คณะอนุกรรมกำรขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส
ได้แต่งตั้งคณะทำงำนพื้นที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส ตำมประกำศ
คณะอนุกรรมกำรขับเคล่ือนพื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส ประกำศ ณ วันท่ี
15 มิถุนำยน พ.ศ.2563 โดยเชิญคณะอำจำรย์จำกมหำวิทยำลัยซึ่งเป็นผู้เช่ียวชำญด้ำน
กำรพัฒนำกำรศึกษำมำเป็นคณะทำงำนภำควิชำกำรกำรประชุมคณะทำงำนขับเคลื่อน
พื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส มีมติปรับปรุงแนวทำงกำรขับเคล่ือนพื้นที่
นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส โดยให้เพิ่มเติมรำยละเอียดบทบำท หน้ำที่ของแต่
ละส่วนใหช้ ัดเจน

10. ประชุมคณะทางานพ้ืนทนี่ วตั กรรมการศึกษาจังหวัดนราธวิ าสและผูเ้ ชย่ี วชาญ เพ่ือ
พิจารณาร่างแนวทางการพัฒนาพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส เม่ือวันท่ี
24 มิถุนายน 2563 ณ ห้องประชุมใบไม้สีทอง สานักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด
นราธวิ าส

กำรประชมุ คณะทำงำนพ้ืนทน่ี วตั กรรมกำรศกึ ษำจังหวัดนรำธิวำส มีมติกำหนด
รำ่ งแนวทำงกำรพฒั นำ กำรจัดกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำนำร่องพน้ื ท่นี วัตกรรมกำรศกึ ษำ
ทีเ่ หมำะสมกบั บริบทของพืน้ ที่

113

11. ประชุมคณะทางานพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อกาหนดแนวทางการพัฒนาระบบ
สารสนเทศของพน้ื ท่ีนวัตกรรมการศกึ ษาจงั หวดั นราธิวาส เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563
ณ ห้องประชุมบหุ งารายา สานกั งานศึกษาธิการจังหวดั นราธวิ าส

(1) สร้ำงกำรรบั รู้ นโยบำยพืน้ ทีน่ วตั กรรม ในภำพรวม
(2) จัดทำฐำนข้อมูลทำงกำรศึกษำของพื้นท่ีนวัตกรรม และแนวทำงกำร
พฒั นำเชื่อมตอ่ ขอ้ มลู สำรสนเทศทำงกำรศึกษำ
(3) พัฒนำทักษะด้ำนกำรพัฒนำระบบสำรสนเทศ วำงแผนทำงกำรพัฒนำ
สำรสนเทศร่วมกนั
(4) สร้ำงควำมเข้ำใจมำตรฐำนข้อมูลสำรสนเทศที่สอดคล้องกับมำตรฐำนของ
กระทรวงศกึ ษำธิกำร

12. ประชุมคณะทางานพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส เพ่ือจัดทา (ร่าง)
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส เม่ือวันที่
3-5 กรกฎาคม 2563 ณ ห้องประชุมคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
อาเภอเมืองสงขลา จงั หวัดสงขลา

คณะทำงำนพื้นท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส ได้ดำเนินกำรจัดทำ
(ร่ำง) แผนยุทธศำสตร์กำรพัฒนำพื้นที่นวัตกรรมกำรศึกษำจังหวัดนรำธิวำส โดยกำหนด
วสิ ัยทศั น์ พนั ธกจิ เปำ้ หมำยหลัก ยทุ ธศำสตรแ์ ละตัวช้ีวัดของยทุ ธศำสตร์

114

13. ส่งเสริม สนับสนุนหน่วยงานทางการศึกษาในการให้ความช่วยเหลือและติดตาม
สถานศกึ ษานาร่องเพือ่ ให้จดั การเรียนการสอนท่มี คี ณุ ภาพและเกิดการพัฒนานวัตกรรม
การศึกษา โดยมีหน่วยงานทางการศึกษาท่ีมีสถานศึกษานาร่องพื้นท่ีนวัตกรรม
การศึกษาจานวน 6 หน่วยงาน

สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดนรำธิวำส ได้ส่งเสริม สนับสนุนหน่วยงำนทำง
กำรศกึ ษำในกำรให้ควำมชว่ ยเหลือและติดตำมสถำนศึกษำนำร่อง เพื่อให้จัดกำรเรียนกำร
สอนที่มีคุณภำพและเกิดกำรพัฒนำนวัตกรรมกำรศึกษำ โดยสนับสนุนงบประมำณด้ำน
กำรนิเทศ ติดตำมสถำนศึกษำนำร่องพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำด้ำนกำรพัฒนำนวัตกรรม
กำรศกึ ษำทเ่ี หมำะสมกบั บริบทของสถำนศกึ ษำ จำนวน 6 หน่วยงำนๆ ละ 16,400 บำท

14. เสริมสร้างและเตรียมความพร้อมให้สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานในพ้ืนที่นวัตกรรม
ก า ร ศึ ก ษ า ใ น ก า ร เ ป็ น ส ถ า น ศึ ก ษ า น า ร่ อ ง ห รื อ ใ น ก า ร น า น วั ต ก ร ร ม ก า ร ศึ ก ษ า
ไปใช้ในการจัดการศึกษา โดยมสี ถานศึกษานาร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจานวน 28
แหง่

สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดนรำธิวำส ได้ส่งเสริม สนับสนุนสถำนศึกษำ
นำร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำนำนวัตกรรมกำรศึกษำไปใช้ในกำรจัดกำรศึกษำ
โ ด ยสนับ สนุนงบ ประ มำณ ในก ำร จัด กิ จก ร รมสถ ำ นศึก ษ ำล ะ 1,0 00 บำ ท
เพื่อให้สถำนศึกษำสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจแก่ครูและบุคลำกร ทำงกำรศึกษำในกำร
นำนวัตกรรมกำรศึกษำไปใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรของ
สถำนศึกษำทพ่ี ัฒนำขึ้นและเหมำะสมกับบรบิ ทของสถำนศึกษำ

15. เพ่ิมขีดความสามารถให้แก่หน่วยงานทางการศึกษาในพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษา
เ พื่ อ ท า ก า ร พั ฒ น า น วั ต ก ร ร ม ก า ร ศึ ก ษ า ห รื อ น า น วั ต ก ร ร ม ก า ร ศึ ก ษ า
ไปใช้ โดยมีหน่วยงานทางการศึกษาที่มีสถานศึกษานาร่องพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา
จานวน 6 แหง่

สำนักงำนศึกษำธิกำรจังหวัดนรำธิวำส ส่งเสริม สนับสนุนงบประมำณเพ่ือ
เพิ่มขีดควำมสำมำรถให้แก่หน่วยงำนทำงกำรศึกษำในพ้ืนท่ีนวัตกรรมกำรศึกษำ
ดำเนนิ กำรขับเคลื่อนพ้ืนที่นวัตกรรมกำรศึกษำและกำรพัฒนำนวัตกรรมกำรศึกษำ โดยคิด
เป็นสัดสว่ นตำมจำนวนสถำนศกึ ษำๆ ละ 4,000 บำท รวมเป็นเงนิ 116,000 บำท

115

สรปุ กจิ กรรมการขับเคลอื่ นทีต่ อบสนองภารกจิ ตาม พ.ร.บ.พื้นทน่ี วัตกรรม

ท่ี รายการ สตูล ระยอง ศรีสะเกษ

1. จดั ประชุมคณะกรรมการขบั เคลื่อนพืน้ ทนี่ วตั   
กรรมและอนุกรรมการฯ (มาตรา 22, 23)  
2. กาหนดยุทธศาสตร์และแผนการดาเนินงานเพื่อ  
ขับเคลื่อนพน้ื ทน่ี วัตกรรมการศกึ ษา (ม.20 (1)) 
 
3. ประสานใหห้ นว่ ยงานทางการศกึ ษา องค์กร
ปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน หนว่ ยงานอนื่ ของรัฐและ  
เอกชน ดาเนินการร่วมกันเพ่ือขบั เคลื่อนพืน้ ท่ี 
นวัตกรรมการศึกษาตามยทุ ธศาสตรแ์ ละแผนการ
ดาเนินงานตาม (ม.20 (2))
4. ประสานใหห้ นว่ ยงานทีม่ ีความเช่ียวชาญเฉพาะให้
การสนบั สนนุ ทางเทคนิคในการจัดทาส่ือการสอน
จดั การเรยี นรูใ้ นรปู แบบใหม่ พัฒนาบุคลากร
จดั ระบบการประเมินและวัดผล และการอน่ื ท่ี 

จาเปน็ สาหรบั พัฒนานวัตกรรมการศึกษาในพนื้ ที่
นวตั กรรมการศึกษา (ม.20 (3))
5. นาหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานตาม
กฎหมายวา่ ด้วยการศึกษาแห่งชาติ ไปปรบั ใชก้ บั
การจัดการศกึ ษาในสถานศึกษานารอ่ งให้ 

เหมาะสมกบั พืน้ ทน่ี วตั กรรมการศกึ ษา (ม.20 (4))

มการศึกษา พ.ศ. 2562 ของจงั หวัดพืน้ ท่นี วตั กรรมการศกึ ษา

ษ เชยี งใหม่ กาญจนบรุ ี ปัตตานี ยะลา นราธวิ าส หมายเหตุ
   
   
   

  - 

   

ท่ี รายการ สตูล ระยอง ศรสี ะเกษ

6. ส่งเสริมการพฒั นาคณุ ภาพและศักยภาพของครู   
และบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา นา  - 
รอ่ งอย่างตอ่ เน่ือง เพอ่ื ให้สามารถจัดการเรยี นการ   
สอนได้อย่างมีคุณภาพและเหมาะสมกบั สภาพใน   
พน้ื ทนี่ วัตกรรมการศึกษา (ม.20 (5)) -  -
 - -
7. จัดให้มีการออกแบบการทดสอบผู้เรียนเพ่ือวดั
ผลสมั ฤทธท์ิ างการศกึ ษาในพ้ืนทนี่ วตั กรรม
การศกึ ษา (ม.20 (6))

8. ส่งเสริม สนับสนุน ใหค้ วามชว่ ยเหลือ และตดิ ตาม
สถานศกึ ษานาร่องเพ่ือใหจ้ ดั การเรียนการสอนท่ีมี
คุณภาพและเกิดการพัฒนานวัตกรรมการศึกษา
(ม.20 (7)

9. เสริมสร้างและเตรยี มความพรอ้ มให้สถานศกึ ษา
ขั้นพนื้ ฐานในพนื้ ท่นี วตั กรรมการศกึ ษาในการเปน็
สถานศึกษานาร่องหรอื ในการนานวตั กรรม
การศึกษาไปใชใ้ นการจดั การศกึ ษา (ม.20 (8)

10. เพิ่มขีดความสามารถให้แก่หน่วยงานทาง
การศกึ ษาในพนื้ ทีน่ วัตกรรมการศึกษาเพ่ือทาการ
พฒั นานวตั กรรมการศึกษาหรือนานวตั กรรม
การศกึ ษาไปใช้ (ม.20 (9)

11. จดั ให้มกี ารประเมนิ ผลการจดั การศึกษาของ
สถานศกึ ษานารอ่ ง (ม.20 (10))

ษ เชยี งใหม่ กาญจนบุรี ปัตตานี ยะลา นราธิวาส หมายเหตุ
   
  -- -
  -
 - -
  -- -
  -- -

117

ท่ี รายการ สตูล ระยอง ศรีสะเกษ

12. แต่งต้งั คณะอนกุ รรมการเพอื่ ทาการแทนหรือ   
ปฏบิ ัติงานตามที่คณะกรรมการขบั เคลือ่ น  - -
มอบหมาย (ม.20 (11)) - - -
-  
13. รายงานผลสัมฤทธิท์ างการศึกษารวมทัง้ ปญั หา - - 
และอปุ สรรคในพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาต่อ -  
คณะกรรมการนโยบาย (ม.20 (12)

14. จดั ใหม้ รี ะบบขอ้ มูลตามมาตรฐานท่ี
คณะกรรมการนโยบายกาหนด (ม.24 (1)

15. ศึกษาและวเิ คราะหแ์ นวทางการจัดการศึกษาของ
สถานศึกษานารอ่ งในพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา
(ม.24 (1)

16. จัดใหม้ ีการวิเคราะห์และวจิ ัยเกย่ี วกบั การพฒั นา
นวตั กรรมการศึกษาในพนื้ ท่ีนวตั กรรมการศึกษา
(ม.24 (2)

17. จัดทารายงานการดาเนินงานของคณะกรรมการ
ขบั เคล่ือนเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการศึกษาธิการ
จงั หวัด (ม.24 (3)

ษ เชยี งใหม่ กาญจนบรุ ี ปัตตานี ยะลา นราธิวาส หมายเหตุ

 - -- -

 - -- -

 - --

  - -

  - -

 - -- -

ส่วนที่ 3

สรุปผลการดาเนินงาน

119

1.การสร้างการรับรู้

การขบั เคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ประจาปีงบประมาณ 2563 ของจังหวัดนาร่องพื้นที่
นวัตกรรมการศึกษา 8 จังหวัด ได้ดาเนินการสร้างการรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขับเคล่ือนพื้นท่ี
นวัตกรรมการศึกษาให้แก่หน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษานาร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและผู้มี
สว่ นเกี่ยวขอ้ ง ดังน้ี

1.1 จังหวัดระยองดาเนินการสร้างการรับรู้และปณิธานการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรม
การศึกษาในสถานศึกษา โดยจัดประชุมเชิงปฏิบัติการปฐมนิเทศและสร้างการรับรู้ในกระบวนการ
ขับเคลื่อนพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ณ โรงแรมโกลเด้นซิตี้
เพ่ือสร้างการรับรู้และมโนทัศน์ทางการศึกษาให้กับผู้บริหารสถานศึกษานาร่อง กิจกรรมหลัก
ประกอบด้วย 1) การสร้างการรับรู้ในหลักการ ที่มา แนวคิด และกระบวนการดาเนินงานขับเคล่ือนพ้ืนท่ี
นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง และ 2) การแลกเปล่ียนประสบการณ์ และแสดงปณิธานการพัฒนา
สถานศึกษานาร่องจังหวัดระยองสู่ระดับสากล เพ่ือพัฒนารูปแบบบริหารจัดการการศึกษา โดยส่งเสริมให้
ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามุ่งสู่การพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนให้เหมาะกับศักยภาพของ
ผู้เรยี นตามบรบิ ทพน้ื ที่และความต้องการของชุมชน

1.2 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างและเตรียม
ความพรอ้ มในสถานศึกษานาร่องพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสร้างความตระหนักความ
เข้มแข็ง ผู้บริหารโรงเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนนาร่อง รุ่นที่ 1 มีความพร้อมในการ
เป็นโรงเรยี นแกนนาขับเคลื่อนการพัฒนาสถานศึกษานาร่องพ้ืนทน่ี วัตกรรมการศึกษา รุ่น 2

1.3 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี จัดประชุมเชิงปฏิบัติการช้ีแจง สร้างการรับรู้
พื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดกาญจนบุรีให้กับโรงเรียนนาร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัด
กาญจนบุรี ท้ัง 41 โรงเรียน รวม 250 คน ณ โรงแรมราชศุภมิตร อาเภอเมืองกาญจนบุรี โดยมี
วัตถุประสงค์เพ่ือสร้างการรับรู้ ความเข้าใจพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาให้กับโรงเรียนนาร่องทุกโรงเรียน
รวม 41 โรงเรยี น

1.4 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจในการ
ขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรม โดยมีวิทยากรให้การบรรยาย พรบ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ให้แก่
บุคลากรในสานักงานศึกษาธิการจังหวัด เป็นเวลา 1 วัน และสร้างการรับรู้ให้แก่ ผู้บริหาร ผู้แทนครู
ผ้แู ทนกรรมการสถานศึกษา ผู้แทนนักเรียน โรงเรยี นนารอ่ งทุกโรงเรยี น จานวน 32 โรงเรียน

1.5 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดยะลา ประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจการดาเนินการของ
สถานศึกษา พระราชบัญญัติพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 แก่สถานศึกษานาร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรม
การศกึ ษา

1.6 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส นาคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส
ผู้บรหิ ารหนว่ ยงานทางการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและศึกษานิเทศก์ เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ
สร้างความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษา จัดโดยศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษา
จังหวัดชายแดนภาคใต้ เม่ือวันท่ี 6 - 7 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมมีความรู้ความเข้าใจ

120

ถึงแนวทางการพัฒนาพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา และได้วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการยกระดับ
คุณภาพการศึกษาของจังหวดั นราธวิ าส และจังหวดั ชายแดนภาคใต้

2.การคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมการศึกษาและการเรียนรู้เพื่อ
ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียน

จังหวัดนาร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา 8 จังหวัด ได้ดาเนินการเก่ียวกับการคิดค้นและ
พัฒนานวัตกรรมการศึกษาและการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียน ซึ่งมีผลการ
ดาเนนิ งาน ดงั นี้

2.1 คณะกรรมการขับเคล่ือนพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องใน
พื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล ดาเนินการส่งเสริมพัฒนานวัตกรรมการศึกษาของสถานศึกษานา
ร่องพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยโครงงานฐานวิจัย
14 ข้นั ตอน

2.2 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดระยอง พัฒนาสถานศึกษานาร่องพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา
โดยใช้แนวคิดหลักของการดาเนินงานวิจัยพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยองอยู่บนหลักการของ
พัฒนาการเปลี่ยนแปลงโรงเรียนทั้งระบบ (Whole School Transforming) เพื่อยกระดับคุณภาพการจัด
การศึกษาเข้าสู่การสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ให้กับผู้เรียน และได้ส่งเสริม สนับสนุน
สถานศึกษานาร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาพัฒนานวัตกรรมการศึกษา จานวน 21 แห่ง ซ่ึงพัฒนาตาม
แนวคิดหลักของสถานศึกษา ใช้บริบทเชิงพ้ืนท่ี (School Concept) และกรอบหลักสูตร RAYONG
MACRO หลักสูตรสถานศกึ ษา

2.3 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ส่งเสริม สนับสนุนสถานศึกษานาร่องพื้นที่
นวัตกรรมพัฒนานวัตกรรมการศึกษา จานวน 71 แห่ง ซึ่งมีนวัตกรรมการศึกษาที่แบ่งจาแนกไปตาม
ประเภทของการพฒั นาดังน้ี

นวัตกรรม โรงเรยี นนาร่อง
ปีท่ี 2

1. นวัตกรรมจิตศึกษา การเรียนรูแ้ บบบูรณาการ โดยใช้ปญั หาเป็นฐาน PBL และ PLC 17

2. นวัตกรรมการจัดการเรียนรโู้ ดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain Based Learning) 17

3. นวตั กรรมมอนเตสซอรี (Montessori) 5

4. นวัตกรรมการเรียนรู้แบบองค์รวม 9

5. นวตั กรรมการศึกษาช้ันเรียน (Lesson Study) และวิธีการแบบเปิด (Open 3

Approach)

6. นวัตกรรมเพาะพนั ธ์ปัญญา 3

7. นวัตกรรมโครงการ/โครงงาน (Project Approach) 12

8. นวตั กรรมการเรียนรูบ้ ูรณาการวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์และเทคโนโลยี (SMT) 9

รวม 71

121

2.4 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ดาเนินการกิจกรรมเกี่ยวกับการพัฒนานวัตกรรม
ดงั นี้

2.4.1 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ได้จัดกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้และ
เผยแพร่ผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับบริบทของพ้ืนที่ สาหรับสถานศึกษาท่ีเข้าร่วม
โครงการ เพ่ือขยายผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้แก่สถานศึกษาที่สนใจและร่วมเป็นเครือข่ายต่อการ
พัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ วันท่ี 8 ตุลาคม 2562 โดยกาหนดการถอด
บทเรียนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มครูและกลุ่มนักเรียน ประเด็นในการถอดบทเรียนห้องครูเป็นการให้
ครสู ะทอ้ นเกี่ยวกับเป้าหมาย วิธีการ/กระบวนการ/ข้ันตอนของการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของ
พ้ืนที่ของแต่ละโรงเรียนรวมท้ังประโยชน์ และข้อจากัดในการดาเนินการ ส่วนห้องนักเรียน มีกิจกรรมให้
นักเรียนทาแผนท่ีการเรียนรู้เพื่อสะท้อนส่ิงท่ีได้เรียนรู้นอกห้องเรียน ให้นักเรียนทาแผนภาพความคิด
สรุปผลการเรียนรู้ และให้นกั เรยี นลองออกแบบห้องเรยี นในจินตนาการ

2.4.2 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ได้จัดกิจกรรมการแลกเปล่ียนเรียนรู้และ
นาเสนอผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพ้ืนที่ สาหรับสถานศึกษาในจังหวัดนราธิวาส โดย
บูรณาการกับพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส ในงาน “เปิดพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาสู่การ
พัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน” เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 ณ โรงเรียนบ้านมะนังกาหยี อาเภอเมือง
นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โรงเรียนนาร่องในพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส ร่วมกันจัด
นิทรรศการนาเสนอผลงานของครูและนักเรียนที่จัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ/แนวทางการพัฒนาการจัดการ
เรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้ของการ
พัฒนาการจัดการเรียนรู้ท่ีประสบความสาเร็จ ซึ่งผลสาเร็จของงานในครั้งน้ี คือ ผู้บริหาร ครู นักเรียนและ
ผรู้ ่วมงานมีความสนใจในการจัดนิทรรศการครั้งนี้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการจัด การเรียนรู้โดยใช้บริบทของ
พ้ืนท่ีมาเป็นฐาน ที่สามารถยกระดับการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างดียิ่ง ท้ังน้ี ขอให้มีการดาเนินงานจัด
กจิ กรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้อีกในคราวต่อไป

2.5 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ได้รับร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานี ศึกษานิเทศก์จากสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา เทศบาลเมืองปัตตานี และเจ้าหน้าที่
ท่ีเกี่ยวข้อง ร่วมกันวางแผนพัฒนาพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดปัตตานี โดยใช้รูปแบบการขับเคล่ือน
พื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดปัตตานี การพัฒนาโรงเรียนนวัตกรรมต้นแบบแบบองค์รวม (Innovative
School Model) หรือรูปแบบ (ISM) และได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการโรงเรียนนาร่อง 32 โรงเรียนในการ
กาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมายระยะ 3 ปี และกาหนดแนวทางการขับเคล่ือนนวัตกรรมภายใน
โรงเรยี น พร้อมท้งั รว่ มรบั ฟงั จากนาเสนอวิสัยสู่เป้าหมายท่ียั่งยืนจากผู้แทนโรงเรียน อีกท้ังได้จัดทาเว็บไซต์
สาหรบั โรงเรียนนาร่องพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดปัตตานี เพ่ือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและการ
นาเสนอกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งระดบั จงั หวดั และระดบั โรงเรียน

122

3.ลดความเหลื่อมลาในการศึกษา

การขับเคล่ือนพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาของจังหวัดนาร่องพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา
8 จงั หวัดเกีย่ วกบั การลดความเหลื่อมล้าในการศึกษา มผี ลการดาเนินการดังน้ี

สานักงานศึกษาธิการจังหวัดระยอง ดาเนินการจัดพัฒนาผู้บริหาร ครู และผู้เรียน
โดยผ่านชุดการเรียนรู้ต่าง ๆ ประกอบด้วย “DOE กับระบบนิเวศการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21" “ผลลัพธ์
การเรียนรู้สู่วิสัยทัศน์ของโรงเรียน” “ผู้บริหารระบบนิเวศการศึกษา” นักสืบนิเวศ (Ecosystem) และ
นิเวศภาวนา (Nature Quest) และผ่านการพัฒนาพ้ืนที่การเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ที่สร้างสรรค์
(Learning Space -Learning Vision) การพัฒนาระบบการจัดการเรียนรู้แบบสร้างฉันทะการเรียนรู้ของ
ผู้เรียน (Constructive & Active Learning) และการพัฒนาหลักสูตรและแผนการเรียนการสอนฐาน
สมรรถนะ (Competency-Based Curriculum)

สานักงานศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการใช้หลักสูตร
การจัดการเรียนรู้ และการจัดการชั้นเรียน “หลักสูตร การวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 / 2560 เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอน และการจัดการชั้นเรียน
ของครสู ่คู ณุ ภาพผูเ้ รียน” โดยมกี ลมุ่ เป้าหมาย คือโรงเรียนนาร่องพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา จังหวัดปัตตานี
จานวน 32 โรง ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน ครูสอนสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ รวมโรงละ 9 คน
รวม 288 คน ระยะเวลา 4 วัน โดยดาเนนิ การในห้วงเวลาวันเสาร์และอาทิตย์

4.กระจายอานาจและให้อิสระแก่หน่วยงานทางการศึกษา
และสถานศึกษานาร่องในพืนที่นวัตกรรมการศึกษา

การขับเคลื่อนพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาด้านการกระจายอานาจและให้อิสระแก่หน่วยงาน
ทางการศึกษาและสถานศึกษานาร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาของจังหวัดนาร่องพ้ืนท่ีนวัตกรรม
การศึกษา 8 จังหวดั มีผลการดาเนนิ การดังนี้

4.1 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดระยอง ได้ส่งเสริม สนับสนุนงบประมาณแก่สถานศึกษานา
ร่องพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา เพ่ือดาเนินการขับเคลื่อนสถานศึกษาให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติพื้นที่
นวตั กรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 แห่งละ 40,000 บาท

4.2 สานักงานศึกษาธิการจงั หวดั นราธิวาส ดาเนนิ กจิ กรรมดังนี้
4.2.1 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ได้ส่งเสริม สนับสนุนหน่วยงานทาง

การศึกษาในการให้ความช่วยเหลือและติดตามสถานศึกษานาร่อง เพ่ือให้จัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ
และเกิดการพัฒนานวัตกรรมการศึกษา โดยสนับสนุนงบประมาณด้านการนิเทศ ติดตามสถานศึกษานา
ร่องพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาด้านการพัฒนานวัตกรรมการศึกษาท่ีเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา
จานวน 6 หนว่ ยงาน หนว่ ยงานละ 16,400 บาท

4.2.2 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ได้ส่งเสริม สนับสนุนสถานศึกษานาร่อง
พนื้ ทนี่ วตั กรรมการศกึ ษานานวตั กรรมการศึกษาไปใช้ในการจัดการศึกษา โดยสนับสนุนงบประมาณในการ

123

จัดกิจกรรมสถานศึกษาละ 1,000 บาท เพื่อให้สถานศึกษาสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ครูและบุคลากร
ทางการศึกษาในการนานวัตกรรมการศึกษาไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรของ
สถานศกึ ษาทีพ่ ัฒนาข้ึนและเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา

4.2.3 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ส่งเสริม สนับสนุนงบประมาณเพื่อเพิ่มขีด
ความสามารถให้แก่หน่วยงานทางการศึกษาในพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา ดาเนินการขับเคล่ือนพ้ืนที่
นวัตกรรมการศึกษาและการพัฒนานวัตกรรมการศึกษา โดยคิดเป็นสัดส่วนตามจานวนสถานศึกษา ๆ ละ
4,000 บาท รวมเปน็ เงิน 116,000 บาท

4.3 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ได้ส่งเสริม สนับสนุนงบประมาณแก่สถานศึกษา
นาร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เพ่ือดาเนินการขับเคลื่อนสถานศึกษาให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ
พนื้ ทนี่ วตั กรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 โรงเรียนละ 15,000 ถึง 20,000 บาท

5.สร้างและพัฒนากลไกในการจัดการศึกษาร่วมกันระหว่างภาครัฐ
องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
ในพืนท่ีนวัตกรรมการศึกษา

การขับเคล่ือนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาด้านการสร้างและพัฒนากลไกในการจัดการศึกษา
ร่วมกันระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในพ้ืนที่นวัตกรรม
การศึกษาของจงั หวัดนาร่องพืน้ ทน่ี วัตกรรมการศึกษา 8 จงั หวดั มีผลการดาเนนิ การดังน้ี

5.1 สานกั งานศกึ ษาธิการจงั หวดั สตูล ดาเนนิ กิจกรรมดงั น้ี
5.1.1 การขับเคล่ือนพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล กาหนดให้มีการประชุม

คณะกรรมการขับเคล่ือนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพ่ือกาหนด
แผนการขับเคล่ือนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศึกษา ประกอบด้วย สถานศึกษานาร่องพ้ืนที่
นวัตกรรมการศึกษา สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล สานักงานศึกษาธิการจังหวัดสตูล
ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสตูล มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลยั และคณะอนุกรรมการฝ่ายดจิ ิตอลแพลตฟอร์ม

5.1.2 การขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล ได้รับความร่วมมือจากหลาย
ภาคส่วน เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา สานักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ กลุ่ม
เยาวชน YEC กลุ่มเครือข่ายธุรกิจ BIZ Club จังหวัดสตูล ร่วมกาหนดแผนการขับเคลื่อนพ้ืนท่ีนวัตกรรม
การศกึ ษาจังหวัดสตลู โดยกาหนดกิจกรรมทด่ี าเนินการในปีงบประมาณ 2563 ดังนี้

(1) การจัดประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนพื้นท่ี
นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูล

(2) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ อบรม หรือ สัมมนา เพื่อพัฒนาครูและบุคลากรท่ี
เกี่ยวข้อง ให้มีศักยภาพในเร่ืองโครงงานฐานวิจัย, หลักสูตรฐานสมรรถนะ, ระบบ Digital Platform และ
อน่ื ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา

124

(3) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ สัมมนา หรือจ่ายเป็นค่าใช้สอยอื่น ๆ เพื่อให้ได้
ข้อเสนอตามเจตนารมณแ์ ละวตั ถุประสงค์ของการจดั ต้ังพืน้ ท่ีนวัตกรรมการศึกษา

(4) ขับเคล่ือนภารกิจ บริหารงาน และติดตามการขับเคลื่อนพื้นท่ีนวัตกรรม
โดยความร่วมมือจากหลายภาคสว่ นในพ้ืนที่ ภาคและในสว่ นกลาง

5.2 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดระยอง ได้จัดประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ
ขับเคลื่อนพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง เพ่ือพิจารณาให้ความเห็นชอบอนุมัติหลักสูตร
สถานศึกษานาร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา สถานศึกษานาร่องพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา แผนปฏิบัติการ
ขับเคล่ือนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 และแผนการดาเนินงาน
โครงการพัฒนาระบบการศึกษาโดยใช้รูปแบบพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
การแก้ไขเพ่ิมเติมคาสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. 1281/2561 เร่ือง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคล่ือน
พ้ืนทน่ี วตั กรรมการศกึ ษาจงั หวดั ระยอง การแก้ไขเพ่ิมเติมประกาศคณะกรรมการขับเคล่ือนพ้ืนท่ีนวัตกรรม
การศึกษาจังหวัดระยอง เร่ือง แต่งต้ังคณะอนุกรรมการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง และ
ข้อเสนอปลดล็อคจากวงสนทนาแลกเปลี่ยนของสถานศึกษานาร่องกับ คณะกรรมาธิการการศึกษา
วฒุ ิสภา และคณะอนุกรรมาธกิ ารพจิ ารณาการศึกษา

5.3 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี จัดประชุมปฏิบัติการโรงเรียนในโครงการพื้นท่ี
นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี ณ โรงแรมราชศุภมิตร จังหวัดกาญจนบุรี ผู้เข้าร่วมประชุม
ประกอบดว้ ยภาคสว่ นต่าง ๆ ทัง้ ภาคราชการและภาคีเครือข่ายประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อ
กาหนดแนวทางการดาเนินงานร่วมกัน ตลอดจนเสนอแนะให้ข้อแนะนาในการนาไปปรับใช้ให้เข้ากับ
บริบทของแต่ละพ้ืนท่ี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันของผู้เกี่ยวข้องและบุคลากรในพ้ืนที่
สะทอ้ นผลการปฏิบัติจริงเติมเต็มแผนการดาเนินงาน ปรับระบบกลไกการมีส่วนร่วมหรือการจัดการศึกษา
รว่ มกันของภาคสว่ นต่าง ๆ ในพ้ืนท่ี

5.4 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ได้จัดประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนพื้นท่ี
นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส เม่ือวันที่ 19 มีนาคม 2563 เพื่อจัดตั้งพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา
จงั หวัดนราธิวาสให้เห็นเป็นรูปธรรมและเป็นไปตาม พรบ.พื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 และตามที่
สานักงานกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ตอบข้อหารือของ สพฐ. โดยมีความเห็นให้เสนอรายช่ือคณะกรรมการ
ขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส จัดให้มีคณะอนุกรรมการและคณะทางานพื้นที่
นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดนราธิวาส และกาหนดแนวทางการขับเคล่ือนพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัด
นราธิวาส

5.5 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ได้จัดประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนพื้นท่ี
นวัตกรรมการศึกษาทั้ง 3 จังหวัด โดยศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ศปบ. จชต.) เพ่ือพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโรงเรียนพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษา การพิจารณาเห็นขอบโรงเรียน สมัครใหม่ปี
การศกึ ษา 2563 ของจังหวดั ปตั ตานี

ส่วนท่ี 4

ปัญหา ข้อเสนอแนะ
และปัจจัยแห่งความสาเร็จ

126

ปัญหา

จังหวัด 1. ความไมต่ ่อเน่ืองอันเน่ืองมาจากการผลดั เปล่ียนบุคลากรตามเงือนไขของระบบราชการ
สตลู 2. การประสานงานเชื่อมโยงบูรณาการคณะอนุกรรมการทั้ง 4 ฝ่าย ยงั เกดิ ขึ้นน้อย

3. การแลกเปล่ียนพูดคุยปรึกษาหารือระหว่างสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษากับสานักงาน
ศึกษาธิการจังหวัดเพ่ืออานวยความสะดวก ส่งเสริมสนับสนุนการนิเทศลงให้คาแนะนา
ปรกึ ษาหารอื ในเชงิ กลั ยาณมิตรยังเกิดข้ึนน้อย

4. การขาดพ่ีเลีย้ ง/ผ้เู ชี่ยวชาญในพ้ืนท่ี ในการจัดทาหลักสูตรฐานสมรรถนะ
5. ระยะเวลาในการดาเนนิ งานตามโครงการฯ คอ่ นข้างจากัด
6. การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID 19) ส่งผลต่อการจัดกิจกรรม
ในโครงการฯ
7. การมีข้อจากัดในการใช้อานาจบริหารจัดการของสถานศึกษาเน่ืองจากไม่เป็นนิติบุคคล
อยา่ งแทจ้ รงิ
8. การขอข้อมูลต่าง ๆ จากหน่วยงานส่วนกลาง/หน่วยงานราชการอ่ืน ค่อนข้างซ้าซ้อน
สรา้ งภาระเพิ่มใหก้ ับสถานศึกษา
จังหวัด 1. สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทาให้การจัดอบรมถูกเล่ือนออกไปเป็น
ระยอง ระยะเวลา 2-3 เดือน ทาให้การจัดอบรมมีข้อจากัดหลายด้าน เช่น ระยะเวลาในการอบรม
น้อยลง ภารกิจของทางโรงเรียน หน่วยงานทางการศึกษาท่ีทยอยจัดในช่วงท่ีสถานการณ์การ
แพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้น มีมาก โรงเรียนต้องเปิดทาการสอนชดเชย และครูต้องจัดการ
เรียนการสอนทุกวนั ไม่เว้นวนั หยดุ ราชการ และตรงกบั กาหนดการอบรม
2. กาลังคนไม่เพียงพอ สานักงานศึกษาธิการจังหวัดระยองได้ดาเนินการขับเคล่ือนพื้นท่ี
นวัตกรรมการศึกษาผ่านกลุ่มงานที่เก่ียวข้องหลัก 4 กลุ่มงาน ด้วยกัน ประกอบด้วย กลุ่ม
อานวยการ กลุ่มนโยบายและแผน กลุ่มพัฒนาการจัดการศึกษาและกลุ่มนิเทศ ติดตามและ
ประเมินผลการศึกษา ซึ่งลักษณะการดาเนินงานจะบูรณากาการทางานร่วมกัน และเน่ืองจาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เจ้าหน้าแต่ละกลุ่มมีภาระความรับผิดชอบหลาย
โครงการ เจ้าหน้าท่ีมีจานวนน้อย ประกอบกับกิจกรรมในโครงการมีหลายกิจกรรม ทาให้ไม่
สามารถดาเนินการได้ครบถว้ นทุกกิจกรรม
3. ขาดการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชน ด้วยได้ดาเนินการจัดทา MOU
พิธีลงนามความร่วมมือภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
จังหวดั ระยอง ณ โรงเรียนกาเนดิ วิทย์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ในคราวพิธีลงนามความร่วมมือภาคี
เครือข่ายขับเคล่ือนยุทธศาสตร์และพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง ณ โรงเรียนกาเนิด
วทิ ย์ อ.วังจนั ทร์ จ.ระยอง แตย่ ังไมไ่ ด้ขบั เคลื่อน เพ่ือสรา้ งกลไก การสนับสนนุ จากภาคเอกชน

127

จังหวัด 1. พ่เี ลี้ยง (Mentor) มีภารกิจงานมาก บางคนมีปัญหาเร่ืองสุขภาพ ทาให้ไม่สามารถพัฒนา
ศ รี ส ะ บุคลากรให้เสร็จส้ินได้ก่อนการเปิดเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 และการลงพื้นที่
เกษ เย่ยี มนเิ ทศหอ้ งเรียนที่โรงเรียนก็อาจขาดความต่อเน่ือง

2. ศึกษานิเทศก์ ต้องปฏิบัติงานกับพี่เล้ียง (Mentor) ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้มีคาส่ัง ท่ี
1933/2562 เรื่อง แต่งต้ังผู้นิเทศและร่วมพัฒนานวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ปี
การศึกษา 2562 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ
นวัตกรรมท่ีต้องนิเทศและพัฒนา ควรต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองด้วยวิธีการที่
หลากหลาย และศึกษานิเทศก์กต็ ้องพัฒนาตนเองด้วย

3. นวัตกรรมมอนเตสซอรี (Montessori) จานวน 3 โรงเรียน จากทั้งหมด
5 โรงเรียน ดาเนินการพัฒนาบุคลากรแต่เฉพาะในระดับการศึกษาปฐมวัย ส่วนระดับประถม
ศกึ ษา และระดับมัธยมศึกษา ครูและนักเรียนยังไม่ได้รับการพัฒนา ควรพิจารณาหาทางพัฒนา
บุคลากรทกุ ระดับ

4. นวัตกรรมโครงงาน (Project Approach) ซึ่งโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะ
เกษ ดาเนินการขยายผลในปีการศึกษา 2562 จานวน 14 โรงเรียน ยังไม่ได้รับการสนับสนุน
งบประมาณในการพัฒนาจากหน่วยงาน หรือองค์กรใด โรงเรียนต้องช่วยตัวเอง ซ่ึงมหาวิทยาลัย
ราชภฏั ศรีสะเกษก็สนับสนุนได้เพียงบางส่วน ยงั ไม่เพยี งพอ ควรหาทางให้การสนับสนนุ ต่อไป

5. ผู้บริหารสถานศึกษา และครู ในโรงเรียนนาร่องการดาเนินงานพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา
จังหวัดศรีสะเกษ 49 โรง บางส่วนยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และความมั่นใจในการดาเนินงาน
เกิดความสงสัยเกี่ยวกับพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ เช่น โรงเรียนนาร่องฯ
แตกต่างจากโรงเรียนอื่น ๆ อย่างไร โรงเรียนนาร่องฯ ดีกว่าโรงเรียนอ่ืน ๆ ท่ัวไปอย่างไร
บทบาทหน้าที่ของโรงเรียนควรเป็นอย่างไร ใช้นวัตกรรมในการพัฒนานักเรียนนอกเหนือจากที่
โรงเรยี นเลือกได้หรือไม่อย่างไร เป็นตน้

6. โรงเรียนยังขาดการสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อจัดหาวัสดุอุปกรณ์ หรือผลิตสื่อ
เพอ่ื พัฒนานวัตกรรมการศึกษาท่ีใช้อยู่อย่างเพียงพอ

7. การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และส่วนราชการในจังหวัด เพ่ือสนับสนุนการ
ขบั เคลื่อนพนื้ ทว่ี ัตกรรมการศึกษาจังหวดั ศรีสะเกษ ยงั มีนอ้ ยหรือไมม่ ี

8. การกระจายอานาจและใหอ้ ิสระ (ปลดล็อก) แก่หน่วยงานทางการศึกษา และโรงเรียนนา
ร่องการดาเนินงานพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดศรีสะเกษยังไม่มีการดาเนินการใด ๆ ควร
พิจารณาดาเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 โดย
เร่งดว่ นต่อไป
จังหวัด 1. ระยะเวลาดาเนินการไม่เพียงพอ เนอ่ื งจากสถานการณ์โควิด-19
เ ชี ย ง 2. ความรว่ มมือจากหน่วยงานการศึกษาและหนว่ ยงานอื่นในจังหวัดเชียงใหม่
ใหม่

128

จังหวัด 1. การไม่เข้าใจการดาเนินงานท่ีแท้จริงของผู้บริหารโรงเรียน บุคลากรทางการศึกษาของ
ก า ญ จ โรงเรียน ไม่เข้าใจว่าโรงเรียนจะดาเนินกิจกรรมได้อย่างไร เพราะโรงเรียนชินกับการส่ังให้
นบรุ ี ดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ดังน้ันโรงเรียนก็จะรอให้สานักงานเขตพ้ืนท่ีหรือสานักงานศึกษาธิการ

จังหวดั สั่งให้ดาเนนิ กจิ กรรมต่าง ๆ
2. โรงเรียนรองบประมาณในการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ซ่ึงได้มีการชี้แจงแล้วว่าการ

ดาเนินงานของโรงเรียนจะไม่มีการจัดสรรงบประมาณเพ่ิมเติมให้แต่อย่างใด โรงเรียนจะต้องใช้
บริบทต่าง ๆ ท่ีโรงเรียนสามารถดาเนินการได้ภายใต้ขอบเขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัด
กาญจนบุรไี ปดาเนินการไดเ้ อง

3. โรงเรยี นยงั ไมเ่ คยชนิ กับการดาเนินกิจกรรมที่โรงเรียนจะต้องคิดเอง ทาเอง กลัวว่าจะทา
ไม่ได้ ทาไม่ถูกต้องไม่สาสามารถดาเนินต่อไปได้ ก็ไม่กล้าท่ีจะดาเนินกิจกรรมต่อไป โรงเรียนไม่
กล้าท่ีจะปรับหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนของตนเอง ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแนวทางการ
ดาเนินงานของโรงเรียน

4. โรงเรียนยังรอว่าจังหวัดจะต้องหาภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ผู้เช่ียวชาญ มาให้
โรงเรียน โดยบางครั้งโรงเรียนมองข้ามภูมิปัญญาท้องถิ่นปราชญ์ชาวบ้านที่อยู่ในท้องถิ่นของ
ตนเองไป ทาใหข้ าดโอกาสในการพัฒนาความก้าวหน้าในการพฒั นาโรงเรยี นของตนเองไป

5. โรงเรียนมองคาว่าพื้นท่ีนวัตกรรมเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องของเทคโนโลยี ทาให้โรงเรียน
ไม่ได้สารวจบริบทของโรงเรียนตนเองว่าเดิมมีอยู่อย่างไร บางส่ิงควรจะนามาต่อยอดให้เป็น
นวัตกรรม หรอื นวตั กรรมเดิม ๆ ท่ีโรงเรียนมอี ยู่ก็สามารถนามาพฒั นาต่อยอดได้เชน่ กัน

6. โรงเรียนบางโรงเรียนยังมองพ้ืนที่นวัตกรรมเป็นกิจกรรม ๆ หน่ึง โรงเรียนจึงมอบหมาย
ครูผู้รบั ผิดชอบกันกลุ่มใดกลุ่มหน่ึงเป็นผู้รับผิดชอบและเป็นผู้ดาเนินกิจกรรมทั้งหมด แทนที่จะ
ให้บคุ ลากรทุกคนได้ร่วมกันดาเนินกิจกรรมทั้งหมดร่วมกัน ทาให้การพัฒนาเป็นไปได้ด้วยความ
ยากลาบากและจะไม่ประสบผลสาเร็จในทสี่ ุด
จังหวัด 1. การขับเคลื่อนโครงการเป็นไปด้วยความล่าช้า อาจเนื่องจากความไม่เข้า
ปัตตานี ใจใน พรบ. พ้นื ทีน่ วตั กรรมการศึกษา พ.ศ. 2562

2. ไม่มีผู้ให้ความแนะนา ชี้แนะ เพ่ือการวางแผนในการขับเคล่ือนโครงการ และไม่มีความ
ชดั เจนในการบรหิ ารบริหารโครงการ
จังหวัด 1. การจดั สรรงบประมาณ โดยสานักงานศึกษาธิการจังหวัดได้รับงบประมาณจากสานักงาน
ยะลา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาได้รับงบประมาณจากสานักงาน
คณะกรรมการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ทาใหเ้ กดิ กจิ กรรมที่ซา้ ซ้อน

2. บางกิจกรรมต้องใช้เวลานานในการดาเนินการ เช่น การปรับหลักสูตรสถานศึกษาให้
เหมาะสมกับพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา หากเร่งดาเนินการจะทาให้ครูไม่ทุ่มเทกับการสอน

3. ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือโรคโควิด-19 ทาให้สถานศึกษาต้องเร่ง
ดาเนินการและทุ่มเทในการจัดการเรียนการสอนจนดาเนินการโครงการพ้ืนท่ีนวัตกรรม
การศกึ ษาได้ไม่เต็มที่

129

จังหวัด 1. คว ามไม่ เข้ าใ จเร่ื องข้ อกฎ หมา ยใน พรบ. พ้ื นที่ น วั ตกรรมการศึ กษ า
นราธิว พ.ศ. 2562
าส 2. ความล่าชา้ การติดตอ่ ประสานงานกบั หน่วยงานทางการศกึ ษาสถานศึกษา

3. สถานศึกษานาร่องบางแห่ง เมื่อเปล่ียนผู้บริหารสถานศึกษาทาให้การขับเคลื่อนพื้นที่
นวตั กรรมการศึกษาหยุดชะงัก

ข้อเสนอแนะ

จังหวดั สตูล เพ่ือให้เป็นไปตามเจตจานงของ พ.ร.บ.พ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.2562
จังหวัดระยอง ต้องปรับกรอบคิดติดยึด (mindset) ของบุคลากรภาคราชการจากกรอบความคิด
การทางานแบบงานประจา (Routine) เป็นการทางานเชิงพ้ืนที่ (Area base)เน้น
การบูรณาการทุกภาคส่วน ลดบทบาทการใช้อานาจเชิงโครงสร้าง Top down
มาเป็นการกระจายอานาจที่เน้นความร่วมมือและสร้างการเรียนรู้ร่วมกับคนใน
พืน้ ท่ี

ระดับสถานศกึ ษา
1. การใช้งบประมาณของสถานศึกษานาร่องยังขาดความคล่องตัว ควรมอบ
อานาจโรงเรียนในการจัดซ้ือจัดจ้างเองได้ หรือ ให้มีเจ้าหน้าที่ด้านธุรการการเงิน
ไว้ที่เขตพื้นที่ เพ่ือช่วยเหลือโรงเรียนท่ีต้องทาเอกสารการเงิน ขอให้รัฐ แบ่ง
รายได้จากภาษีอากร ประมาณ 3-5 เปอร์เซ็นต์ จัดต้ังเป็นกองทุนขับเคลื่อน
การศึกษาพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยอง นามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษา แก้ไขระเบียบของสถานประกอบการในเขตพื้นท่ีบริการการให้การ
สนับสนนุ ควรมีกองทนุ สาหรับเด็กแต่ละกลุ่ม
ระดบั หน่วยงานทางการศึกษา
1. การประสานงานระหว่างหน่วยงานท่ีมีความแตกต่างในด้านวัฒนธรรม
การทางาน และบุคลากรในหน่วยงายทางการศึกษายังขาดการรับรู้เกี่ยวกับการ
ขับเคล่ือนพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา และยังขาดความร่วมมือเป็นบางส่วน ด้วย
ภาระงานของหน่วยงานท่ีเกินกาลังของบุคลากรท่ีมีอยู่ในปัจจุบัน ควรกาหนด
แนวทางการดาเนินงาน บทบาท หน้าท่ี และอานาจให้ชัดเจน หรือมีหน่วยงานพ่ี
เลยี้ งท่คี อยให้คาแนะนา
2. ผู้บริหารสถานศกึ ษาบางส่วนในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษายังขาด
ความตระหนกั รู้ เกย่ี วกบั พน้ื ท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยองจึงไม่เกิดศรัทธา
เนื่องจากยังไม่เห็นผลลัพธ์ท่ีเกิดข้ึนจากการขับเคล่ือนพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา
จงั หวัดระยองท่ีชัดเจน สว่ นกลางควรมกี ารสร้างความรู้ ความเข้าใจ และมีการส่ัง
การจากส่วนกลาง

130

จงั หวัดเชยี งใหม่ 3. จดั ให้มรี ะบบการทางานที่มีรูปธรรมและมีความชัดเจนมากย่ิงขึ้น กาหนด
จงั หวัดกาญจนบุรี บทบาทของหน่วยงาน หรือบุคคลท่ีเก่ียวข้องให้มีความชัดเจน โดยการจัดทา
โครงสร้างการทางาน สร้างเครือข่ายในรูปแบบของคณะอนุกรรมการส่วนต่าง ๆ
จังหวดั ปตั ตานี และสร้างการรับรรู้ ่วมกัน

4. จดั ทาสารสนเทศ เพอ่ื การพฒั นาสถานศึกษานาร่อง เป็นฐานข้อมูลท่ีใช้ใน
การวางแผน ออกแบบการพัฒนาในระดับจังหวัด โดยความร่วมมือระหว่าง
สถานศกึ ษานาร่องและหนว่ ยงานทางการศึกษา

5. ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามามีส่วน
ร่วมในการพัฒนาพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา โดยการจัดทาข้อตกลงร่วมกัน
(MOU)

ขยายผลการพัฒนาการบริหารจัดการศึกษารูปแบบใหม่ที่สามารถขับเคลื่อน
ยุทธศาสตร์การศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ระดับอาเภอด้วยความร่วมมือของประชา
รัฐอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล และมีนวัตกรรมการบริหารจัด
การศึกษาท้ังงานด้านวิชาการ การบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไป ที่
นาไปสู่การพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนตามบริบทของพ้ืนท่ี และความต้องการ
ให้ครบทุกโรงและในจังหวดั เชียงใหม่

การมีภาคีในการร่วมกันขับเคล่ือน เพราะในปีท่ีผ่านมา จังหวัดกาญจนบุรี
ไม่มีภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยกันขับเคลื่อนแต่อย่างใด ทาให้การ
ขับเคล่ือนเป็นไปได้น้อยมาก หรือไม่สามารถดาเนินการให้เป็นไปตาม
วัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาได้ ดังนั้น พื้นที่จึง
จาเป็นจะต้องหาภาคีเครือข่ายในการร่วมมือกันเพื่อขับเคล่ือน ในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2563 สานักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประสานความร่วมมือกับ
ภาคีเครือข่าย อันไดแ้ ก่

1. มหาวิทยาลยั ราชภัฏกาญจนบรุ ี
2. มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร
3. มหาวทิ ยาลัยมหิดล
4. สสวท.
ในภาคีเครอื ข่ายที่ได้ประสานและมีแนวโน้มในการร่วมมือกันเพื่อขับเคล่ือน
ในปีต่อไป นอกจากจะมีภาคีเครือข่ายเดิมแล้ว ยังมีภาคีเครือข่ายท่ีคาดว่าจะเข้า
มามีส่วนร่วมด้วยช่วยกันอีก เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต
กาแพงแสน มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ กลุ่ม SCG และ กลุ่ม ปตท. เป็นต้น
ซึ่งหากเป็นไปตามที่ได้ประสานงานกันไว้ก็น่าจะทาให้กระบวนการขับเคล่ือน
เปน็ ไปไดด้ ว้ ยดีมากขึน้

ควรสร้างการรับรู้โดยการประชุมชี้แจงให้แก่ผู้รับผิดชอบโครงการ
เพือ่ เปน็ แนวทางในการขบั เคล่ือนโครงการ

131

จงั หวดั ยะลา ควรชี้แจงข้ันตอนการดาเนินงาน การใช้จ่ายงบประมาณตามหลักเกณฑ์ที่
ถกู ตอ้ งตามระเบียบราชการให้แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการพื้นท่ีนวัตกรรม
การศึกษา

แนวทางในการพัฒนา

จงั หวัดสตูล 1. ประสานความร่วมมือ ทุกภาคส่วนในพ้ืนที่ร่วมวางแผนขับเคล่ือนพื้นที่
จังหวดั ระยอง นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสตูลและร่วมลงมือปฏิบัติอย่างแท้จริง ผ่านกลไก
คณะกรรมการฯ อนกุ รรมการฯ

2. สร้างเครือข่ายความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอก/สถาบันอุดมศึกษา/
ผู้เช่ียวชาญ เพือ่ เป็นพี่เล้ียงและให้คาแนะนาในการดาเนินการ

3. เร่งให้มีการออกหลักเกณฑ์ แนวทาง และแก้ไขปลดล็อค ให้เป็นไปตาม
พ.ร.บ.พนื้ ทีน่ วัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 กาหนด

4. เชอื่ มโยงระบบฐานข้อมูลด้านการศึกษาให้เป็นระบบเดียว ไม่ให้เกิดความ
ซา้ ซ้อนและเป็นภาระเพ่ิมให้กับสถานศึกษา

1. ควรเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับพ้ืนที่ โดยการสร้างความร่วมมือกับ
หนว่ ยงานภายนอกและหน่วยงานภาคเอกชนใหม้ ากข้ึน

2. ควรเร่งพัฒนาการจัดการศึกษาให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง โดยการนาผล
การดาเนินงานของปีงบประมาณท่ีผ่านมาวิเคราะห์ผล และแสวงหาแนว
ทางเลือก ปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป

3. ควรจัดทาโครงสรา้ ง กลไก การทางานท่ีมีความหลากหลาย เช่ือมโยง และ
มีความคล่องตัว โดยการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการในส่วนของวิชาการ บุคลากร
งบประมาณ ฯลฯ

ปัจจัยแห่งความสาเร็จ

จังหวดั ระยอง จุดเดน่
1. พื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดระยองมีคณะกรรมการและคณะทางาน
หลายคณะ มีความคล่องตัวและยืดหยุ่น ทาให้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน
ภาครัฐเป็นอย่างดี เชน่ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา องค์การบริหารส่วนจังหวัด
ระยอง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง และ
สถาบันอาศรมศิลป์ท่ีรวมขับเคลื่อนให้การจัดการศึกษาในจังหวัดระยองมีความ
เชอื่ มโยง และมปี ระสทิ ธิภาพ

132

จงั หวัดกาญจนบุรี 2. กลไกการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในจังหวัดระยองมีความพร้อมในด้าน
การจัดการศึกษา เป็นทุนเดิม สถานศึกษามีการพัฒนาทั้งภายในและภายนอก มี
ผลักดันจากความต้องการในการเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษาและคนในชุมชนท่ี
ตระหนักในความสาคัญของการเปลี่ยนแปลงการศึกษาให้สามารถตอบโจทย์ของ
คนจังหวดั ระยอง

3. จังหวัดระยองมีกรอบหลักสูตร RAYONG MACRO ที่ครอบคลุมแนวคิด
และความต้องการของคนจังหวัดระยอง ซึ่งได้นามาเป็นฐานในการสร้างชุมชน
แห่งการเรียนรู้ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในโรงเรียน โดยทุกสถานศึกษานาร่องทุก
แห่งมีแนวคดิ หลกั ในการพัฒนาคุณภาพของผเู้ รียน (School Concept)

4. พ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษามีสถาบันอาศรมศิลป์ สถาบันจัดการเรียนรู้
อย่างเป็นองค์รวมเพื่อรับใช้สังคมในฐานะผู้วิจัยโครงการวิจัยปฏิบัติการเพื่อ
พัฒนาต้นแบบพื้นที่นวัตกรรมการจัดการศึกษาระดับจังหวัด ด้วยกระบวนการ
เปลี่ยนแปลงโรงเรียนทั้งระบบ : กรณีศึกษาจังหวัดระยอง เป็นพี่เล้ียงและมี
คณะทางาน สามารถสนับสนุนการพัฒนาพื้นท่ีนวัตกรรมโดยกระบวนการอย่าง
เป็นระบบ

1. การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และการยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ภาคประชาสังคม ในการส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาการศึกษาในลักษณะ
ต่าง ๆ อยา่ งกว้างขวาง มงุ่ เน้นท่ีการจัดระบบการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพ โปร่งใส
ตรวจสอบได้ และมุง่ เน้นการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนในทุกระดับ

2. การสร้างความเข้าใจในเป้าหมายและประเด็นยุทธศาสตร์การดาเนินงาน
ของพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี (พ.ศ. 2562-2568) ให้
ผู้ปฏบิ ตั ิงาน สามารถขบั เคล่อื น พื้นที่นวัตกรรมสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ
มีการบริหารจัดการ ท่ีเชื่อมโยงยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนาให้บรรลุ
เป้าหมาย วิสัยทัศน์ของการจัดการศึกษา มีคณะกรรมการกากับดูแลแต่ละ
ประเด็นยุทธศาสตร์ ให้เกิดการนาไปปฏิบัติ โดยมีระบบงบประมาณเป็นกลไก
สนับสนุนให้บรรลผุ ลอย่างเป็นรปู ธรรม

3. การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการจัดการศึกษา ซ่ึงเดิมรัฐเป็นผู้จัดมา
เป็น การจัดโดยทุกภาคส่วนของสังคม ที่มุ่งการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียม
และทั่วถึง (Inclusive Education) ตลอดจนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
สาหรับทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable
Development Goals)

133

จังหวดั ปัตตานี 4. การจัดให้พ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเสมือนแผน
จังหวดั ยะลา งบประมาณด้านการจัดการศึกษาของจังหวัด ระบบการจัดสรรงบประมาณ
ประจาปีให้ยึดแผนงาน โครงการ และเป้าหมายการพัฒนาท่ีกาหนดไว้ในพื้นที่
นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี เป็นหลักในการพิจารณา เพื่อให้การ
ดาเนินงาน พัฒนาการศึกษาเป็นไปในทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาผู้เรียนแต่
ละช่วงวัย และการพัฒนากาลังคน ตามความต้องการของตลาดงานและประเทศ
เพื่อการจัดการศึกษาบรรลุผลตามประเด็นยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัดในช่วงเวลาที่
กาหนด

5. การปรับระบบการบริหารจัดการศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพ โดยปรับ
โครงสร้างการบริหารงาน ให้มีความชัดเจนในด้านบทบาทหน้าท่ี การกระจาย
อานาจ การตัดสินใจจาก ส่วนกลางสู่ระดับพ้ืนที่นวัตกรรมการศึกษา รวมท้ังการ
ปรับระบบการบริหารงานวิชาการ งบประมาณ และการบริหารงานบุคคลพร้อม
ทั้งการบริหารจัดการเชิงนโยบาย กฎหมาย ระเบียบ แนวทางในการปฏิบัติงาน
ในแต่ละระดับ ให้ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาในสถานศึกษาให้เป็นไป
อย่างมีคุณภาพ ผู้เรียนได้รับบริการการศึกษาท่ีมีมาตรฐานอย่างเสมอภาคและ
เท่าเทยี ม

6. การสร้างระบบข้อมูลและสารสนเทศท่ีบูรณาการและเช่ือมโยงกับระบบ
การประกันคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอกผ่านระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศ และการรายงานต่อสาธารณชน จะเป็นกลไกในการสร้าง
การรับรขู้ องผ้จู ดั การศกึ ษาและผู้เรียน เพ่ือการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหาร
จัดการ และความรับผิดชอบต่อผู้เรียน ผ่านระบบการกากับ ตรวจสอบ ติดตาม
และประเมินผล การขับเคล่ือนพ้ืนท่ีนวัตกรรมการศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี ให้
ประสบความสาเร็จ

7. การพัฒนาศักยภาพ ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีองค์
ความรู้และทักษะในการสร้างและพัฒนานวัตกรรม โดยใช้กระบวนการวิจัย
เปน็ ฐาน

1. บุคลากร ท่ีเป็นหน่วยงานหลักและหน่วยงานร่วม มีความเข้มแข็ง ให้
ความร่วมมือเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะขับเคลื่อนโรงเรียนนาร่องพ้ืนที่
นวัตกรรมได้อย่างต่อเน่ือง

2. โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ มีความพร้อมท่ีจะขับเคล่ือนนวัตกรรม เช่น
ผู้บริหาร ครูและบุคลากร ใช้ความเป็นปฏิสัมพันธ์ส่วนตัวเช่ือมต่อกับหน่วยงาน
หรือมหาวิทยาลัย เพื่อการให้เป็นพี่เลี้ยงหรือวิทยากรให้ความรู้ ชุมชน ให้ความ
ร่วมมอื เปน็ อย่างดี

1. ประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ผู้รับผิดชอบโครงการจาก
ทกุ สงั กัด

2. ติดตามการดาเนินงาน นิเทศตดิ ตามสถานศึกษานาร่องเป็นระยะ

134

ภาคผนวก

135

ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียนนาร่องพื้นท่ีนวัตกรรมการศึกษา จังหวัดส

ท่ี โรงเรยี น สังกัด
1 อนบุ าลสตลู สพฐ.
สพป. สพม. สศส. สช. อปท. นกั
11

2 บา้ นเขาจีน 1

3 วดั หน้าเมอื ง 1

4 บา้ นทางงอ 1

5 บ้านควนเก 1

6 บ้านโกตา 1

7 บ้านบอ่ เจ็ดลกู 1

8 บา้ นหว้ ยน้าด้า 1

ตูล

จานวน นวัตกรรม ปีท่ี
กเรยี น ครู เข้าร่วม

1,561 64 การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วจิ ัย 14 ขั้นตอน

294 18 การจดั การเรียนรดู้ ว้ ยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วจิ ยั 14 ขั้นตอน

98 6 การจัดการเรียนรู้ดว้ ยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วจิ ัย 14 ขน้ั ตอน

122 11 การจัดการเรยี นรู้ด้วยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วจิ ัย 14 ข้ันตอน

229 12 การจัดการเรียนรดู้ ้วยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วจิ ยั 14 ขน้ั ตอน

126 9 การจัดการเรียนรดู้ ว้ ยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วิจัย 14 ขัน้ ตอน

100 8 การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วจิ ยั 14 ข้ันตอน

157 10 การจดั การเรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วิจยั 14 ขน้ั ตอน

136

ท่ี โรงเรียน สังกัด
9 อนบุ าลมะนงั สพฐ.
สพป. สพม. สศส. สช. อปท. นัก
1

10 บา้ นทุง่ สภากาชาดอปุ ถมั ภ์ 1
2550

รวม 10 0 0 0 0 3

จานวน นวัตกรรม ปที ่ี
กเรยี น ครู เขา้ รว่ ม

397 21 การจัดการเรียนรู้ดว้ ยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วิจัย 14 ขั้นตอน

104 9 การจดั การเรยี นรู้ด้วยกระบวนการโครงงานฐาน 2561

วจิ ัย 14 ขัน้ ตอน

3,188 168

137

ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียนนาร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จังหวัดระ

ท่ี โรงเรยี น สังกดั
สพฐ.
1 ชุมชนบรษิ ัทนา้ ตาล สพป. สพม. สศส. สช. อปท. นัก
ตะวันออก 1

2 บ้านหมอมุ่ย 1

3 นคิ มสร้างตนเองจงั หวดั 1
ระยอง 8 1

4 วดั บา้ นเก่า

5 บ้านพยนู 1
6 วดั ตาขัน 1

ะยอง

จานวน นวตั กรรม ปที ี่
กเรยี น ครู เข้ารว่ ม

500 18 N.T.O Start Up Career 2562

123 9 ขนมไทยท้องถิ่น Local Thai Dessert เพ่ือการ 2562

เรยี นรกู้ ารสรา้ งอาชีพสรา้ งรายได้ระหว่างเรียน

845 38 NK8 water for life 2562

81 6 Various History of Culture and food : ความ 2562
หลากหลายทางดา้ นวัฒนธรรมและอาหาร
พ้ืนบ้าน

155 9 พัฒนาสมรรถนะผูเ้ รียนผ่านองคค์ วามรดู้ ้าน 2562
วิทยาศาสตร์ทางทะเล

204 10 1. การพัฒนาสู่การเป็นนวตั กร ผ่านกิจกรรม 2562
Alternative maker
2. การพฒั นาหน่วยบรู นาการ Rayong MARCO
3. การพัฒนาหนว่ ยบรู ณาการ "ตาขนั เสยี ดาย
แดด"

138

ท่ี โรงเรียน สังกดั
7 บ้านท่าเสา สพฐ.
สพป. สพม. สศส. สช. อปท. นกั
1

8 วัดท่าเรอื 1

9 บ้านมาบตอง 1
10 บา้ นสมานมติ ร 1

11 บา้ นคลองบางบ่อ 1

12 บา้ นท่าล้าบดิ 1
13 วดั ถนนกะเพรา 1

14 บา้ นน้ากร่อย 1

จานวน นวัตกรรม ปีท่ี
กเรียน ครู เข้าร่วม

131 8 จดั การศึกษาอยา่ งมีคุณภาพตามมาตรฐาน บน 2562

พ้นื ฐานความเปน็ ไทย มุง่ เน้นการพัฒนาคุณภาพ

ผู้เรียนสูท่ ักษะในศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็น นัก

เศรษฐกจิ ชีวภาพ รักษ์สิ่งแวดล้อม น้อมน้า

ศาสตร์พระราชา

664 30 Creative Innovation & Business : สร้างสรรค์ 2562

นวตั กรรมงานอาชีพเชิงธรุ กิจ

191 10 - 2562

77 6 "เกษตรกรเชงิ นิเวศรุ่นใหม่ (Smart Eco- 2562

farmer)"

95 6 Creative Multicultural School โรงเรียนพหุ 2562

วัฒนธรรมสร้างสรรค์

161 8 "โรงเรยี นเกษตรศิลป์ (Art agriculture)" 2562

124 9 โรงเรยี นสร้างสรรคน์ วัตกรน้อยสสู่ ากล 2562

(Creative Glocal Innovator School)

101 7 สร้างนักจัดการพลังงานสะอาดสู่การรักษาสมดลุ 2562

ธรรมชาติ (Bannamgroi School Create

Clean Energy Manager to Maintain Natural

Balance)


Click to View FlipBook Version