การพฒั นาผเู รยี นใหเปน นกั ประดษิ ฐ
จาก...บทเรียนการจดั การเรยี นรู
ของครูผสู รางนักประดษิ ฐ
ประกอบภาพยนตรส ้ัน
สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน
กจ าารกพ…ัฒ บนขปทอารเงผระคกยี ูเ้รอรนผู บียกสู้ ภานรราา้ใจพหงัดนย้เกปนกั าน็ตปรรรนเระ์สดักยี ้ันิษนปฐรรู้์ ะดษิ ฐ์
สำ� นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน
การพัฒนาผู้เรียนใหเ้ ปน็ นักประดษิ ฐ์...จาก
บทเรียนการจดั การเรยี นรขู้ องครผู สู้ ร้างนกั ประดษิ ฐ์
ประกอบภาพยนตรส์ ัน้
100 หน้า
ISBN : 978-616-395-963-8
1 การจดั การเรียนรู้ 2. การพฒั นาคุณลกั ษณะและทักษะนกั ประดิษฐ์
บทเรยี นการจัดการเรียนรขู้ องครผู ู้สร้างนกั ประดษิ ฐ์
ประกอบภาพยนตรส์ น้ั
พมิ พค์ รั้งที่ 1 : จ�ำนวน 500 เล่ม
ผู้จัดพมิ พเ์ ผยแพร่ :
สำ� นักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
319 วงั จนั ทรเ์ กษม ถนนราชด�ำเนินนอก
เขตดุสติ กทม. 10300
Website : http:// inno.obec.go.th
พมิ พท์ ่ี : หจก.เอน็ .เอ.รตั นเทรดดิง้ กรุงเทพมหานคร
คำ� นำ�
สารบญั
คำ� นำ�
บทน�ำ........................................................................................................................... 1
บทที่ 1 แนวทางการจดั การเรยี นรู้เพือ่ พัฒนาคณุ ลกั ษณะและ
3356
ทักษะของนักประดิษฐ.์ .........................................................................
1. นักประดษิ ฐ์ : นยิ าม ความหมาย..........................................................................
2. คณุ ลักษณะและทักษะของผู้เรียนเพื่อก้าวเขา้ สู่ความเป็นนกั ประดษิ ฐ.์ .................
3. การจัดการเรยี นรู้เพอ่ื พัฒนาคณุ ลกั ษณะและทกั ษะของนักประดิษฐ.์ ...................
4. การออกแบบการจดั การเรยี นรอู้ ย่างเป็นระบบ เพ่ือผู้เรียนมคี ณุ ลกั ษณะ
และทกั ษะของนักประดษิ ฐ์.................................................................................. 8
บทท่ี 2
ปบทระเกรยีอนบกภาารพจยดั นกตารรส์เรัน้ ีย..น..ร...้ขู..อ...ง..ค...ร...ผู ...ู้ส...ร..้า..ง..น...ัก...ป...ร...ะ.ด...ษิ...ฐ...์.................. 13
เรอ่ื งท่ี 1 การจดั การเรียนรขู้ องครสู วุ ารี พงศ์ธีระวรรณ และเรือ่ งเลา่
การสร้างสง่ิ ประดิษฐ์ของนกั เรียน เรอื่ ง นวัตกรรมกักเกบ็ นำ�้
เลยี นแบบสับปะรดสี โรงเรียนสุราษฎรพ์ ิทยา....................................... 14
เรอ่ื งที่ 2 การจดั การเรียนรู้ของครูดวงพร สาลีติดและเร่อื งเลา่ การสรา้ ง
สโรง่ิ งปเรรียะนดเษิ บฐญข์ จอมงนราักชเรทู ียศิ นราเรชื่อบงรุ ช.ี .ุด...อ..ปุ...ก..ร...ณ...์ต...ัด..ไ..ม..ห้...น...า..ม............................. 35
เรอื่ งที่ 3 การจัดการเรียนรขู้ องครูช�ำนาญพงษ์ เจรญิ ผล และเรอ่ื งเลา่
กดาดู รซสบั รไ้าขงมสันง่ิ ใปนรอะาดหษิ าฐร์ขโอรงงนเรกั ียเรนียวนังนเอ้รอื่ยง(ถพงุ นกมระยดงคาษว์ ิทไคยโาต).ซ..า..น.................. 53
เรื่องท่ี 4 การจดั การเรียนรขู้ องครปู ระภากร เชียงทอง และเรื่องเลา่
ปกาลรกู สพรืช้าองสตั ง่ิโปนรมะัตดิ โษิ รฐงข์เรอียงนนสักาเมรียเสนนเวริทื่อยงาEล-ยั B.u...g...ห...ุน่...ย..น...ต..์....................... 67
เร่อื งท่ี 5 การจดั การเรียนรขู้ องครูสมไชย กระตา่ ยทอง ครนู ริศรา ซุ่นทรพั ย์
ครสู ภุ กั ดิ์ ภริ มย์แก้ว ครสู ชุ าย วเิ ศษสนิ ธ์ุ และเร่ืองเล่าการสร้าง
ส่งิ ประดษิ ฐข์ องนักเรยี น เร่ืองหนุ่ ยนต์ JIGSAW SMART
EDUCATION โรงเรียนวัดเขาวงั (แสง ช่วงสวุ นชิ )............................... 83
บทท่ี 3
แสลระปุ ทบกั ทษเะรขยี อนงจผดั ู้เรกียานรสเรคู่ ียวนารมู้ เเพปน็ื่อนพกัฒั ปนราะดคษิ ุณฐล.์ ..ัก...ษ...ณ.....ะ..................... 93
1. บทบาทครใู นการจดั การเรียนรู้ เพื่อพฒั นาคณุ ลกั ษณะ
และทักษะของนักประดิษฐ.์ ............................................................................... 94
2. วธิ ีการจัดการเรยี นรเู้ พ่อื พัฒนาคุณลักษณะ และทกั ษะ
ของนักประดิษฐ.์ ................................................................................................. 9956
3. การส่งเสรมิ ให้ผ้เู รียนมีคุณลักษณะและทักษะของนกั ประดษิ ฐ.์ ...........................
บทน�ำ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็น
“พระบิดาแหง่ การประดษิ ฐไ์ ทย” ด้วยทรงสนพระราชหฤทัย ในเรอื่ งการ
ประดิษฐ์ บนพ้ืนฐานการใช้เทคโนโลยีแบบง่าย ๆ ใช้ภูมิปัญญา ใช้วัสดุ
ภายในประเทศ เน้นความงา่ ยต่อการใชง้ าน การซอ่ มบ�ำรงุ และราคาถูก
และเมอื่ วนั ที่ 21 พฤศจกิ ายน 2549 ซง่ึ คณะรฐั มนตรเี หน็ ชอบการทลู เกลา้ ฯ
ถวายพระราชสมญั ญา “พระบดิ าแหง่ การประดษิ ฐไ์ ทย”1 และกำ� หนดให้
วนั ท่ี 2 กมุ ภาพนั ธ์ ของทกุ ปี เปน็ วนั นกั ประดษิ ฐ์ เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รติ และ
เผยแพรพ่ ระเกยี รตคิ ณุ ใหป้ ระชาชน เจรญิ รอยตามเบอื้ งยคุ ลบาท รวมทง้ั
ปลกู ฝงั เสรมิ สรา้ งใหเ้ ยาวชนไทยใหม้ ตี น้ แบบและแรงบนั ดาลใจของความ
เปน็ นกั ประดษิ ฐค์ ดิ คน้ พฒั นาและสง่ เสรมิ นกั ประดษิ ฐ์ ใหร้ ว่ มมอื รว่ มใจใน
การพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม ความเจรญิ และความมนั่ คง ของประเทศชาติ
การส่งเสริมให้ครูในโรงเรียนจัดการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเป็นนัก
ประดิษฐ์ ตามรอยพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย จะต้องจัดการเรียนรู้
พฒั นาทง้ั คณุ ลกั ษณะ และทักษะของนักคดิ สร้างสรรค์ สง่ เสริมใหผ้ ้เู รียน
สนใจในเร่ืองการประดิษฐ์ การจดั โอกาสและประสบการณ์การเรียนรเู้ พ่ือ
ให้เกดิ การค้นพบ วิธกี าร รปู แบบ เครือ่ งมอื การน�ำเทคโนโลยีแบบงา่ ยๆ
มาใช้ การน�ำภูมิปัญญาท่ีมีอยู่มาประยุกต์ใช้ การใช้วัสดุภายในประเทศ
ส่ิงประดษิ ฐ์ทีค่ ดิ ค้นมาต้องใชง้ านง่าย ราคาถกู ใช้ประโยชน์ในการดำ� เนนิ
ชวี ติ ไดจ้ ริงในสังคมสว่ นรวม
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานให้ความส�ำคัญกับ
การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นนักประดิษฐ์ โดยการสนับสนุน
สง่ เสริมใหโ้ รงเรียนจดั พัฒนาผ้เู รยี นให้สามารถผลติ คิดคน้ นวตั กรรม และ
ส่งผลงานเข้าประกวดสิ่งประดิษฐ์ท้ังในเวทีระดับประเทศ และระดับ
1 ศูนยส์ ารสนเทศการวจิ ัย ส�ำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, พระบดิ าแห่งการประดิษฐไ์ ทย, 2 ธันวาคม 2559,
สืบคน้ 20 ตุลาคม 2561 จาก www.tnrr.in.th
นานาชาติมาตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ซึ่งมีครูในหลายโรงเรียนสามารถ
จดั การเรยี นรพู้ ฒั นาคณุ ลกั ษณะ และทกั ษะใหผ้ เู้ รยี นเปน็ นกั ประดษิ ฐแ์ ละ
สามารถผลิตผลงาน จนได้รับรางวัลจากการประกวดในระดับนานาชาติ
และความส�ำเร็จของการจัดการเรียนรู้ของครูเหล่านี้คือประสบการณ์ที่มี
คณุ คา่ ในการพฒั นาผเู้ รยี นจากความสำ� คญั ดงั กลา่ ว สำ� นกั พฒั นานวตั กรรม
การจดั การศกึ ษา หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบดา้ นวจิ ยั และพฒั นานวตั กรรมของ
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จึงได้ศึกษาบทเรียนความ
สำ� เรจ็ ของครแู ละนกั เรยี นทมี่ วี ธิ ปี ฏบิ ตั ทิ ด่ี ี (Best Practices) ครทู ส่ี ามารถ
พัฒนานักเรียนให้เป็นนักประดิษฐ์ รวมท้ังคุณลักษณะและทักษะของ
นักเรียนท่ีจะเป็นนักประดิษฐ์ ประกอบกับการศึกษาทฤษฏี หลักการ
การจัดการเรียนรู้ท่ีเก่ียวข้องเพื่อจัดท�ำเป็นแนวทางให้ครูทุกโรงเรียน
ได้ศึกษาบทเรียนการจัดการเรียนรู้ในการพัฒนาคุณลักษณะและทักษะ
การสรา้ งนกั ประดิษฐ์ เพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพผเู้ รียนให้สามารถผลติ คดิ คน้
ประดิษฐ์นวัตกรรม เตรียมการรองรับความเป็นประทศไทย 4.0 ยุคของ
เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
บทเรียนความส�ำเร็จของครูผู้สร้างนักประดิษฐ์น้ี มีวัตถุประสงค์
เพอื่ เปน็ สอื่ สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจ บทบาทการจดั การเรยี นรใู้ หก้ บั ครรู ะดบั
มธั ยมศกึ ษานำ� ไปประยกุ ตใ์ ชพ้ ฒั นาการจดั การเรยี นรเู้ พอ่ื สรา้ งคณุ ลกั ษณะ
และทกั ษะของผเู้ รยี นสคู่ วามเปน็ นกั ประดษิ ฐ์
2 • การพัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ป็นนกั ประดิษฐ์
บทที่ 1
แนวทางการจดั การเรยี นรู้
เพอ่ื พัฒนาคุณลักษณะและทกั ษะของนักประดิษฐ์
การจดั การเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นาผเู้ รยี นสคู่ วามเปน็ นกั ประดษิ ฐ์ มคี ำ� ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง
ทคี่ วรเข้าใจความหมาย ดังนี้
1. นกั ประดิษฐ์ : นยิ าม ความหมาย
นักประดิษฐ์ (Inventor) หมายถึง ผู้ที่คิดท�ำ จัดทํา สร้างข้ึน แต่งข้ึน2
สร้างสรรค์ส่ิงของตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดจากความตอ้ งการใชง้ านเพ่ืออ�ำนวยความสะดวกสบายตา่ ง ๆ
ในชวี ติ ประจำ� วนั และใชป้ ระโยชน์ของคนในสงั คม บคุ คลผสู้ ร้างสรรคห์ รือค้นพบ
วิธีการ รูปแบบ เครื่องมือ หรือส่ิงอื่นใดที่เป็นส่ิงใหม่เป็นประโยชน์ อาจเรียก
สงิ่ ใหมน่ นั้ วา่ เปน็ สง่ิ ประดษิ ฐ ์
ซ่ึงอาจสามารถน�ำไปต่อยอด
เชิงพาณิชย์เป็นนวัตกรรมได้
นักประดิษฐ์จึงมีคุณลักษณะ
ท่ีชอบคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ เพ่ือ
ตอบสนองความต้องการ
การใช้ประโยชน์อาจท�ำเป็น
อาชีพหรืองานอดิเรก
ภาพท่ี 1 ส่ิงประดิษฐน์ �ำไปต่อยอดเชิงพาณิชย์เป็นนวตั กรรม
ทีม่ า กองพัฒนาและจดั การความรู้องคก์ ร สำ� นักดจิ ิทัล และสารสนเทศ http://tistr.or.th/tisrblog
2 ราชบัณฑิตยสภา, พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2554, สืบค้น 20 พฤษภาคม 2561 จาก
http://www.royin.go.th/dictionary/index.php
การพฒั นาผเู้ รียนใหเ้ ปน็ นักประดษิ ฐ์ • 3
ววิ ฒั นาการความเจรญิ ของมนษุ ยเ์ กดิ จากความฉลาด ความสามารถในการ
ค้นพบ การคิดสร้างสรรคส์ ิง่ ประดิษฐ์ เพอื่ เออ้ื อำ� นวยความสะดวกในการด�ำรงชีวติ
จากอดีตถึงปัจจุบันมีการค้นพบและสร้างสิ่งประดิษฐ์ข้ึนมากมายเปลี่ยนวิถีชีวิต
ของคนในชุมชน และสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เช่น การประดิษฐ์อักษร
เพอ่ื ใช้ในการเขยี นสอื่ สารกนั ทว่ั ประเทศ การมีโทรศพั ท์ทำ� ให้เกิดการเปลีย่ นแปลง
ทางการติดตอ่ ส่อื สาร การประดษิ ฐห์ ลอดไฟฟ้า ท�ำให้ชีวิตสะดวกสบายในยามค่ำ� คืน
การสร้างถนนหนทางเพ่ือการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว การใช้เคร่ืองจักรกล
ในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น การสรา้ งสง่ิ ต่างๆ เพอ่ื อ�ำนวยความสะดวกสบาย
ในการดำ� รงชวี ิต หรอื ทีเ่ ราเรยี กกันวา่ สง่ิ ประดษิ ฐ์ ไมจ่ �ำเปน็ ต้องใชเ้ ทคโนโลยขี ั้นสงู
หรือมรี าคาสงู การใชไ้ มค่ วรยงุ่ ยากซบั ซ้อน แตส่ ิ่งประดษิ ฐ์นนั้ เปน็ การสรา้ งสรรค์
ผลงานท่ีมีคุณค่า สามารถน�ำไปใช้ประโยชน์อ�ำนวยความสะดวกในการด�ำรงชีวิต
ใหค้ นในสงั คม หรือประเทศได้
ส่ิงประดิษฐ์ (Invention) เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นมาทั้งท่ีเกิดจาก
ความต้ังใจ หรือความบังเอิญ โดยมีจุดประสงค์หลักท่ีเกิดจากความต้องการของ
มนษุ ย์เพอื่ ใช้ในการอำ� นวยความสะดวกสบายสำ� หรับผู้ท่สี ร้างส่ิงประดษิ ฐ์ขึ้นมาจะ
เรยี กผนู้ ้ันว่านกั ประดษิ ฐ์ (Inventor)
เขียงพบั ได้ โคมไฟท่มี าพร้อมเงาสวยๆ
ชว่ ยใหก้ ารห่นั ผัก และล้างผกั เปล่ียนห้องพ้นื หลงั เรียบ ๆ
สะดวกข้ึน ใหด้ ูนา่ สนใจข้ึนมาทันที
ภาพท่ี 2 ตวั อยา่ งสง่ิ ประดิษฐท์ ีอ่ ำ� นวยความสะดวกสบายในการด�ำรงชวี ติ
ท่ีมา : 20 ส่ิงประดิษฐใ์ นชีวติ ประจ�ำวนั สดุ เจ๋ง ช่วยชีวิตอนั แสนยากเย็นให้ง่ายขึน้ เป็นกอง!!
http://www.catdumb.com/20-invention-that-make you-life-easier-420/
4 • การพัฒนาผู้เรยี นใหเ้ ปน็ นักประดษิ ฐ์
2. คุณลักษณะและทกั ษะของผู้เรียนเพือ่ กา้ วเขา้ ส่คู วามเป็นนักประดษิ ฐ์
ผู้ประดิษฐ์ส่ิงของหรือนักประดิษฐ์ ท่ีคิดสร้างสรรค์จัดท�ำส่ิงต่าง ๆ ท่ีเกิด
จากความตอ้ งการใชง้ านเพอื่ อำ� นวยความสะดวกสบายตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำ� วนั และ
ใช้ประโยชน์ของคนในสังคมนน้ั จะมีคณุ ลกั ษณะและทักษะที่คลา้ ย ๆ กนั สรุปได้
ดังนี้
2.1 สติปัญญาไม่ได้เป็นตัวก�ำหนดความคิดสร้างสรรค์เพราะทุกคนมี
ความคิดสรา้ งสรรคใ์ นแบบของตนเอง
2.2 ทุกคนสามารถเป็นนักประดิษฐ์ได้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายหรือ
เช้อื ชาตใิ ด
2.3 นกั ประดิษฐ์ มคี ณุ ลักษณะ3 และทกั ษะ4 สรุปดังนี้
1) คณุ ลกั ษณะของนักประดษิ ฐ์ ได้แก่ 2) ทักษะของนกั ประดิษฐ์ ได้แก่ ทกั ษะ
(1) มแี รงบันดาลใจ ทางการคิด ทกั ษะการคน้ ควา้ วิจัย และ
(2) กลา้ คิดทำ�ส่งิ ใหม่ ทักษะการทำ�งานเป็นทมี ดงั นี้
(3) มคี วามเพียรพยายามที่จะทำ�งานให้
(1) มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์
บรรลุผลสำ�เร็จ (2) ทักษะการคดิ เช่อื มโยง
(4) เปดิ ใจกว้าง (3) ทกั ษะการแก้ปัญหา
(5) ยอมรบั ความผดิ พลาด (4) ทกั ษะการตัง้ คำ�ถามสามารถระบุ
(6) การมีปฏิสมั พนั ธ์ทางสังคมท่ีดี ปัญหาความตอ้ งการการคน้ พบ
(7) มีจิตสาธารณะ (5) ทกั ษะการสงั เกต
(6) การทดลองความคิดใหมๆ่
(7) ทักษะทางช่าง
(8) การทำ�งานเป็นทมี ความเป็นผนู้ ำ�
และสามารถทำ�งานร่วมกบั ผูอ้ ื่นได้
ตารางท่ี 1 แสดงคุณลกั ษณะและทักษะของนักประดิษฐ์
3 คุณลักษณะหมายถึงเครื่องหมายหรือส่ิงทช่ี ้ีให้เหน็ ความดีหรอื ลกั ษณะประจำ�
4 ทักษะหมายถึง ความช�ำนาญหรือความสามารถในการกระท�ำหรือการปฏิบัติอย่างใดอย่างหน่ึง ซ่ึงอาจเป็น
ทักษะด้านร่างกาย สตปิ ัญญา หรือสังคม ทีเ่ กดิ ขน้ึ จากการฝึกฝน หรือการกระท�ำบอ่ ย ๆ
การพฒั นาผเู้ รียนให้เป็นนักประดษิ ฐ์ • 5
3. การจดั การเรียนรเู้ พือ่ พัฒนาคุณลกั ษณะ และทักษะของผเู้ รยี นสู่
ความเป็นนักประดษิ ฐ์
ครูคือบุคคลส�ำคัญ ผู้ท่ีมีบทบาทในการท�ำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
ท่ีต้องอาศัยท้ังศาสตร์และศิลป์5 ในการจัดการเรียนรู้ การเรียนรู้ที่สมบูรณ์ของ
ผเู้ รยี นแต่ละครงั้ ตามทฤษฏกี ารเรยี นรู้ของบลูม (Bloom’s Taxonomies:1956)6
จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดข้ึน 3 ประการ คือ (1) ด้านความรู้ มีความคิด
ความเข้าใจเกิดขึ้นในสมอง (Cognitive Domain) (2) ด้านจิตใจ ด้านอารมณ์
หรือความรู้สึก (Affective Domain) (3) การเคลื่อนไหวของร่างกาย เพื่อให้
เกิดทักษะ และความช�ำนาญ (Psychomotor Domain) ครูผู้ซ่ึงสามารถจัดการ
เรียนรู้พัฒนาความรู้ คุณลักษณะ และทักษะให้กับนักเรียนจนกระทั่งสามารถคิด
สร้างสิ่งประดิษฐ์จนได้รับรางวัลจากการประกวดผลงานส่ิงประดิษฐ์จากเวที
นานาชาติน้ัน สรุปไดด้ งั นี้
ปรัชญาการจัดการศึกษา : ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child Center) หรือการ
จัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส�ำคัญ คือการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียน
เป็นผู้สร้างความรู้ แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้เน้นผู้เรียน
เปน็ สำ� คญั นจ้ี ะชว่ ยเพม่ิ บทบาทของผเู้ รยี น ภายในหอ้ งเรยี น และลดบทบาท
การบรรยายหนา้ หอ้ งเรยี นลง ซงึ่ ครจู ะปรบั บทบาทจากการบรรยายเปน็ หลกั
เปน็ ผูอ้ �ำนวยความสะดวก โดยจะตอ้ งเตรยี มสภาพ ห้องเรียนและวิธีการ
สอนท่เี ออ้ื ต่อการจดั การเรยี นรู้ที่เน้นผ้เู รียนเปน็ ศูนยก์ ลางนี้
5 ศาสตร์การสอน (Science of Teaching) หมายถึงความรู้เก่ียวกับการเรียนรู้และการสอนที่สังคม
โลกไดส้ ง่ั สมมาตั้งแตอ่ ดตี จวบจนปจั จุบัน
ศิลปะการสอน (Art of Teaching) หมายถึงความรู้และความสามารถในการน�ำจิตวิทยา วิธีการและ
เทคนิคต่าง ๆ ไปใช้ในการสอนเพ่ือช่วยให้การสอนมีความน่าสนใจ สนุก มีชีวิตชีวาและช่วยให้ผู้เรียน
สามารถเรียนรู้ได้งา่ ย สะดวก รวดเรว็ ราบรน่ื และมคี วามสขุ อา้ งองิ จาก ทิศนา แขมณี, ศาสตรก์ ารสอน
องค์ความรู้เพ่ือการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ, กรุงเทพฯ: ส�ำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลัย, 2547.
6 Bloom, B.S. et al., Taxonomy of Educational Objectives, Hanbook : Cognitive Domain,
New York: Devid Mckay Co, Inc,1956.
6 • การพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ป็นนกั ประดิษฐ์
วสิ ัยทัศน์ต่อผูเ้ รียน : ลูกศษิ ย์ทกุ คนมคี วามคิดสรา้ งสรรคใ์ นแบบของตนเอง และ
ทุกคนสามารถเป็นนักประดิษฐ์ได้
วิสยั ทศั นต์ ่อการจัดการเรยี นรู้ : ให้ผเู้ รยี นเลือกประดิษฐส์ ่ิงตา่ ง ๆ ตามที่สนใจ
: เรมิ่ เรียนร้จู ากส่งิ ทงี่ ่าย ใกลต้ ัวแลว้ ขยายสกู่ ารพัฒนาในชมุ ชนท้องถิน่
: ผู้เรียนมีส่วนร่วม (Active learning) ในการจัดการเรียนรู้และลงมือ
ท�ำกิจกรรม (Learning by Doing)
: ในการจดั การเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นาสคู่ วามเปน็ นกั ประดษิ ฐน์ น้ั จดุ เนน้ สำ� คญั
คือการพัฒนาคณุ ลักษณะและทกั ษะของนกั ประดษิ ฐ์ อยา่ งต่อเนือ่ ง
: ครูเป็นที่ปรึกษา (coach) ผู้อ�ำนวยให้เกิดการเรียนรู้ (Learning
Facilitator)
: ครเู ปน็ ทง้ั ผสู้ นบั สนนุ และผใู้ หก้ ำ� ลงั ใจไมใ่ หน้ กั เรยี นละทงิ้ ความพยายาม
ในกรณที ผี่ เู้ รยี นบางกลมุ่ อาจประสบผลสำ� เรจ็ คดิ สง่ิ ประดษิ ฐไ์ ด้ แตบ่ าง
กล่มุ อาจไม่สำ� เร็จ และรว่ มเรยี นรสู้ ร้างสิ่งใหม่ไปพรอ้ ม ๆ กับลูกศิษย์
ทฤษฏีการจดั การเรยี นรู้ : ทฤษฏีในกลุ่มของการสร้างสรรค์ความรู้ด้วยตนเอง
โดยการสร้างสรรค์ช้ินงาน (Constructionism) ความรู้จะเกิดขึ้นและ
สรา้ งขน้ึ โดยผเู้ รยี นเอง กระบวนการการเรยี นรจู้ ะมปี ระสทิ ธภิ าพมากทสี่ ดุ
หากกระบวนการน้ันมคี วามหมายกบั ผเู้ รยี น
วิธีการจัดการเรียนรู้ : การวางแผนการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบมีทฤษฏี
การเรียนรรู้ องรบั
: เตรยี มการจดั การเรยี นรูอ้ ยา่ งเป็นขัน้ ตอน
: ใหผ้ เู้ รยี นเรยี นรจู้ ากการลงมอื ปฏบิ ตั ิ โดยทำ� โครงงาน (Project- based
Instruction) หรอื ในกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
: ต้องใหผ้ ้เู รียนมีความรพู้ ้นื ฐานท่มี ากพอ
: ต้องพัฒนาท้งั คุณลักษณะและทกั ษะของนักประดิษฐ์ และต้องพฒั นา
อย่างต่อเน่ือง อาจเริ่มพัฒนาต้ังแต่ช้ัน ม. 1 ถึง ม.3 ต่อเน่ืองจนถึง
การพัฒนาผูเ้ รยี นใหเ้ ปน็ นักประดิษฐ์ • 7
มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 เช่นการพัฒนาทักษะการคดิ ดว้ ยเทคนิค หมวก 6 ใบ7
การฝกึ ให้นกั เรยี นทำ� งานร่วมกันแบบจิกซอร์ (jigsaw)8
: การประเมนิ เพอ่ื การพฒั นานกั เรยี นในดา้ นความรคู้ ณุ ลกั ษณะ และทกั ษะ
เปน็ ระยะ (formative assesment): การประเมินสรปุ ผล (summative
assessment) จากการรายงาน (report) และการแสดงผลงาน
(Show) การนำ� เสนอผลงาน (Presentation)
ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ : องค์ความรู้ใหม/่ คณุ ลักษณะและทกั ษะของนกั ประดิษฐ์ /
สิ่งประดษิ ฐ์
กระบวนทัศน์ใหม่ในการปฏิรูปการศึกษาสู่ประเทศไทย 4.0 มีเป้าหมาย
เพอื่ ผเู้ รียนหาความรู้ ได้ดว้ ยตนเอง เป็นผ้สู ร้างผลผลิต ส่งิ ประดษิ ฐ์ หรือนวตั กรรม
ดงั นนั้ ครจู งึ จำ� เปน็ ตอ้ งออกแบบกระบวนการจดั การเรยี นรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ โดยเนน้
ผู้เรยี นเปน็ ศูนยก์ ลาง เพ่อื ให้ผเู้ รยี นสามารถสรา้ งความรู้ด้วยตนเอง และสรา้ งสรรค์
ช้ินงานสิง่ ประดษิ ฐ์
4. การออกแบบการจัดการเรียนรู้อยา่ งเป็นระบบ เพื่อผูเ้ รยี น
มีคณุ ลกั ษณะและทกั ษะของนกั ประดิษฐ์
การออกแบบการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนาคุณลักษณะ
และทักษะนักประดิษฐ์ ประกอบด้วย (1) ปัจจัย (inputs) (2). กระบวนการ
(processes) (3) การประเมินและอำ� นวยการ (control) (4) การปรับปรุงแก้ไข
(feedback) และ (5) ผลลพั ธ์ (outputs) ดังภาพท่ี 3 ตอ่ ไปนี้
7 เทคนคิ หมวก 6 ใบ เปน็ เทคนิคการคดิ ของ De Bono (1986) เปน็ ผคู้ ดิ ข้ึน ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นคดิ รอบ
ดา้ น ศกึ ษาวธิ กี ารฝกึ ทกั ษะการคดิ ดว้ ยหมวก 6 ใบเพมิ่ เตมิ ไดใ้ นบทท่ี 2 จากบทเรยี นการจดั การเรยี น
ร้ขู องครูสวุ ารี พงศธ์ รี ะวรรณ เร่อื งนวตั กรรมกกั เก็บน้ำ� เลยี นแบบสับปะรดสี
8 การท�ำงานรว่ มกันแบบจกิ ซอร์ (jigsaw) เป็นการฝึกใหน้ ักเรียนท�ำงานเป็นกลุ่มบนความหลากหลาย
ของสมาชิก ศึกษาการฝึกทักษะการท�ำงานกลุ่มแบบจิกซอร์เพิ่มเติมได้ในบทที่ 2 จากบทเรียนการ
จดั การเรียนรู้ของครสู มไชย กระต่ายทอง เรื่องโครงงานระบบสมองฝงั ตัว
8 • การพัฒนาผู้เรยี นใหเ้ ป็นนักประดิษฐ์
3. การประเมิน
1. ปจจยั
4. ปรับปรุงแกไข
ภาพท่ี 3 องค์ประกอบระบบการจัดการเรียนรู้
การออกแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะและ
ทักษะของนักประดิษฐ์นั้น ให้ความส�ำคัญกับการจัดการที่ต้องจัดให้เป็นระบบ
มีขั้นตอนการท�ำงานสมั พนั ธ์กัน โดยเน้นผู้เรยี นเป็นส�ำคญั การจดั การเรยี นรอู้ ยา่ งเป็น
ระบบท่ีมีความสมบูรณ์จะช่วยให้การจัดการเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ประกอบดว้ ย 5 ด้าน จ�ำนวน 12 องคป์ ระกอบ ดังต่อไปน้ี
4.1 ดา้ นปจั จยั น�ำเข้า (inputs) มี 4 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่
(1) ผู้เรียน ซ่ึงเป็นองค์ประกอบที่ส�ำคัญท่ีสุดครูจะต้องค�ำนึงถึง
ลกั ษณะของผเู้ รยี น ไดแ้ กค่ วามสามารถทางสตปิ ญั ญา อตั ราการเรยี น ลกั ษณะการเรยี น
ประสบการณ์เดมิ
(2) ครเู ปน็ ผู้มบี ทบาทส�ำคญั ตอ้ งเปลย่ี นวิสัยทัศน์ จากผบู้ อกความรู้
เป็นผู้อ�ำนวยการให้เกิดการเรียนรู้ (learning facilitator) ให้ผู้เรียนสร้างความรู้
ดว้ ยตนเอง เปน็ ผอู้ ำ� นวยความสะดวก เสรมิ แรง และสรา้ งแรงบนั ดาลใจ ผจู้ ดั กจิ กรรม
ผ้ปู ระเมิน และผ้สู นับสนนุ สง่ เสรมิ เปน็ ตน้
(3) การตง้ั จดุ ประสงค์ ในการจดั การเรยี นการสอน แตล่ ะครงั้ ครคู วร
ระลึกว่าผเู้ รยี น จะได้คดิ แก้ปัญหาอะไรบา้ ง ทักษะ และคุณลกั ษณะอะไร การเปดิ
โอกาสใหแ้ สดงความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการแกป้ ญั หานนั้ อยา่ งไร และการจะแกป้ ญั หา
หรือคิดสร้างสรรค์สิ่งใดได้จ�ำเป็นจะต้องอาศัยความรู้พื้นฐานเดิมทั้งในด้านข้อมูล
ความคิดรวบยอด และหลักการ อยา่ งเพียงพอ
(4) เนื้อหาสาระ หรือการจัดประสบการณ์ท่ีเป็นสื่อกลางน�ำผู้เรียน
ไปสจู่ ดุ หมายปลายทางท่คี าดหวังไว้
การพัฒนาผูเ้ รียนให้เปน็ นักประดษิ ฐ์ • 9
4.2 ดา้ น กระบวนการจัดการเรยี นรู้ (processes) มี 4 องค์ประกอบ
(1) การเตรียมความพร้อม ว่าจะจัดการเรียนรู้อย่างไร เพ่ือผู้เรียน
มคี วามรู้ ทักษะคณุ ลกั ษณะตามทเี่ ป้าหมายก�ำหนด
(2) การดำ� เนนิ การจดั การเรยี นรโู้ ดยผเู้ รยี นเปน็ ศนู ยก์ ลาง ใหผ้ เู้ รยี น
ใชก้ ระบวนการทางปญั ญา (กระบวนการคดิ ) กระบวนการทางสงั คม (กระบวนการ
กลุ่ม) และให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์และมีส่วนร่วม9 โดยมีรูปแบบการสอนแบบเน้น
โครงการ (Project-Based Instruction) หรอื การเรียนการสอนแบบเนน้ ผลงาน
(Productivity-Based Instruction) หรือบูรณาการรปู แบบการจดั การเรยี นการสอน
แบบต่างๆ โดยเน้นการน�ำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ โดยครูมีบทบาทเป็นผู้อ�ำนวย
ความสะดวก (facilitator) จัดประสบการณ์เรียนรู้ใหผ้ ้เู รียน เรียนรจู้ ากการปฏบิ ัติ
ฝึกทักษะ บม่ เพาะคณุ ลกั ษณะทีด่ ี
(3) การสรา้ งเสรมิ ทกั ษะกระบวนการคดิ กระบวนการกล่มุ
(4) การจดั กจิ กรรมสนบั สนนุ สำ� หรบั นกั เรยี นเรยี นรเู้ รว็ หรอื เรยี นชา้
เรียนไม่ทัน
4.3 ด้าน การประเมนิ และอำ� นวยการ (Control) มี 2 องคป์ ระกอบคอื
(1) การประเมนิ ผลเพอื่ การพฒั นาผเู้ รยี น (Formative Assessment)
เพื่อดูว่าผู้เรียนได้ทักษะและความรู้ที่จ�ำเป็นเหล่านั้น ไปแล้วหรือยัง ผู้เรียนบรรลุ
ตามวัตถุประสงค์ท่ีได้ก�ำหนดไว้ในแต่ละข้ันตอนแล้วหรือยัง และประเมินภาพ
ความสำ� เรจ็ (Summative Assessment) เมอื่ สน้ิ สดุ กระบวนการจดั การเรยี นรู้
(2) อ�ำนวยการเรียนรู้ สง่ เสรมิ ใหก้ ำ� ลงั ใจ และชว่ ยเหลือผเู้ รยี นเป็น
ระยะ ระหว่างทางการเรยี นรู้
4.4 ดา้ น ผลลพั ธ์ ผลผลิต คอื ความรใู้ หม่ คุณลักษณะและทกั ษะของ
นกั ประดษิ ฐ์ และหรอื ส่งิ ประดิษฐ์
4.5 ด้าน ข้อมูลย้อนกลับ การปรับปรุงแก้ไข (Feedback) คือ
การวเิ คราะหข์ ้อมลู คิดวิธกี ารปรับปรุงแก้ไขผลลพั ธ์ ผลผลิต การจัดการเรยี นร้ตู ่อไป
เชน่ ทำ� ไมผเู้ รยี นไมส่ ามารถสรา้ งผลผลติ ได้ ผเู้ รยี นอาจจะยงั มพี นื้ ฐานความรเู้ ดมิ ไม่
9 พิมพันธ์ เตชะคปุ ต์, การเรียนการสอนท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเป็นส�ำคญั : แนวคิด วิธีและเทคนคิ การสอน,
กรุงเทพฯ: สถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ(พว), 2544, 6-9,17.
10 • การพัฒนาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ นกั ประดิษฐ์
เพยี งพอ การจดั การเรยี นรไู้ มน่ า่ สนใจ สอ่ื การเรยี นไมด่ พี อ ผเู้ รยี นไมม่ คี วามสขุ หรอื
ส่ิงประดิษฐ์ทีส่ ร้างขน้ึ ต้องได้การปรับปรงุ อยา่ งไรถึงน�ำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ เป็นต้น
สรุปแนวทางการออกแบบการจัดการเรียนรู้เพ่ือผู้เรียนมีคุณลักษณะและ
ทักษะของนักประดิษฐ์และสามารถพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ได้ ต้องจัดการเรียนรู้อย่าง
เป็นระบบมี 12 องค์ประกอบ ดงั ภาพท่ี 4 ต่อไปน้ี
ภาพท่ี 4 การออกแบบการจัดการเรยี นรู้เพอ่ื ผู้เรียนมคี ณุ ลักษณะ
และทักษะของนกั ประดิษฐ์10
10 สงัด อุทรานันท์, เทคนิคการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ, กรุงเทพฯ: ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลัย, 2532, ?.
การพัฒนาผ้เู รยี นใหเ้ ป็นนกั ประดิษฐ์ • 11
Learn From The Best,
Create The Inventors
บทที่ 2
บทเรยี นการจดั การเรียนรู้ของครผู ้สู รา้ งนกั ประดษิ ฐ์
ประกอบภาพยนตร์ส้ัน
จากหลกั การการจดั การเรยี นรู้
นำ� ไปสกู่ ารปฏิบตั ิจริง
บ ทเรียนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะและทักษะของ
ผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ นกั ประดษิ ฐต์ อ่ ไปนเี้ ปน็ บทเรยี นจากครทู ม่ี วี ธิ ปี ฏบิ ตั ิ
ท่ีดีในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะ และทักษะของผู้เรียน
จนกระทงั่ ผเู้ รยี นสามารถสรา้ งสง่ิ ประดษิ ฐ์ และไดร้ บั รางวลั จากการประกวด
ในเวทรี ะดับนานาชาติ
วิธกี ารจัดการเรียนรู้ทดี่ ี (Best Practices) ประกอบดว้ ย
P การจดั การเรยี นรูโ้ ดยเน้นให้ผู้เรยี นเปน็ ศูนยก์ ลาง ( Child Center) ให้
ผูเ้ รียนสรา้ งองค์ความร้ดู ว้ ยตนเอง (Constructionism)
P การจัดการเรียนรู้รูปแบบโครงงานเป็นฐาน (Project-Based
Instruction) แบบเน้น ผลงาน (Productivity-Based Instruction) แบบวิจัย
เป็นฐาน (Research-Based Instruction) และบูรณาการรูปแบบการจัดการ
เรยี นรแู้ บบต่าง ๆ โดยเน้นการนำ� ความรู้ ไปประยุกต์ใชไ้ ด้
P การจัดการเรียนรู้อย่างมีหลักการ เป็นระบบมีขั้นตอน โดยพัฒนา
ความรู้ คณุ ลักษณะ และทกั ษะผ่านรายวชิ าตามหลกั สูตร และเรยี นรู้ผา่ นกจิ กรรม
(Activity Based Learning) ภายในและภายนอกห้องเรียน
การพฒั นาผู้เรียนใหเ้ ปน็ นกั ประดิษฐ์ • 13
เรื่องที่ 1 การจัดการเรียนรู้ของครูสุวารี พงศ์ธีระวรรณ
และเรื่องเล่าการสร้างสิ่งประดิษฐ์ของนักเรียน เร่ือง นวัตกรรม
กกั เกบ็ นำ�้ เลยี นแบบสบั ปะรดสีโรงเรยี นสรุ าษฎรพ์ ทิ ยา สำ� นกั งาน
เขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา เขต 1
“จินตนาการ “ถา้ ไมห่ ยุดจนิ ตนาการ
เปล่ยี นโลกได…้ ” ยอ่ มเหน็ แสงสวา่ ง
อย่ปู ลายฟ้าเสมอ”
ภาพยนตรส์ ้นั การจดั การเรยี นรู้และการสรา้ งส่งิ ประดิษฐ์
เรือ่ ง นวตั กรรมกกั เกบ็ น�้ำเลยี นแบบสับปะรดสี
ความเป็นมา
โลกยุคปัจจุบันเป็นที่ยอมรับว่ามีการเปล่ียนแปลงของนวัตกรรมอย่าง
ชัดเจน เกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในทุกวงการ ครอบคลุมวิถีการด�ำเนินชีวิตของ
ประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งเศรษฐกจิ การเมอื งและการศกึ ษา
ระบบการจัดการศึกษาให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้ก้าวทัน
ความเปล่ียนแปลงดังกล่าว ทั้งด้านการจัดระบบบริหาร การพัฒนาบุคลากร
14 • การพฒั นาผ้เู รยี นให้เป็นนกั ประดษิ ฐ์
โดยค�ำนึงถึงคุณภาพผู้เรียน มุ่งเป้าหมายให้ผู้เรียนเป็นนวัตกร การเปลี่ยนแปลง
มีส่วนส�ำคัญและมุ่งมั่นพัฒนาให้สัมฤทธิผลคือ ผู้เรียนเป็นผู้สร้างสิ่งประดิษฐ์
ออกส่สู ังคมโลก
ดังน้ัน จากความส�ำคัญดังกล่าว ครูสุวารี พงษ์ธีระวรรณ จึงได้มีแนวคิด
ในการพัฒนาโครงงานวิทยาศาสตร์ และสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ ให้มีความ
เป็นสากลบนพื้นฐานของความเป็นไทย โดยใช้หลักส�ำคัญคือ การฝึกคิดประดิษฐ์
สร้างตามความสามารถ ตามความสนใจและสอดคล้องกับสภาพจริงในท้องถิ่น
บนฐานคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อแก้ปัญหาท่ีเกิดขึ้น หรือ
พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน โดยใช้โจทย์จากสิ่งใกล้ตัว ใช้วิธีคิดเป็นข้ันตอนของ
นักวิทยาศาสตร์ มีโลกและนวัตกรรมใหม่ๆเป็นเคร่ืองชี้แนะ มีการขับเคล่ือน
ภายใต้ฐานคิดที่ค�ำนึงถึง ความพอเพียง มีเหตุมีผล มีภูมิคุ้มกัน มีความรู้ในการ
สร้างนวัตกรรม และท่ีส�ำคัญคือการมีคุณธรรมในการคิดสร้างนวัตกรรม ผ่าน
กิจกรรม“โครงงานวิทย์ฯ ชิดชาวบ้าน” เพื่อมุ่งเน้นเกิดความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแกป้ ญั หา จากปญั หาจรงิ ทอี่ ยใู่ กลช้ ดิ กบั นกั เรยี น พฒั นาความ
สามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และความสามารถในการใช้
เทคโนโลยอี ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ครสู วุ ารี ครสู อนสาระวทิ ยาศาสตรจ์ งึ ไดจ้ ดั กจิ กรรม
ค่ายโครงงานวิทยาศาสตร์ ดว้ ยการพฒั นาเป็น 3 ค่ายคือ ค่ายแรก คา่ ยเพาะกลา้
ค่ายท่ีสอง ค่ายปลูกกล้า ค่ายที่ 3 ค่ายต่อกล้าให้เติบใหญ่ เพื่อพัฒนานักเรียน
อย่างตอ่ เนื่องจนมีการพัฒนานวตั กรรมท่มี ีคณุ ภาพสู่สังคม
วัตถปุ ระสงค์
1) เพอื่ ใหน้ กั เรียนสามารถสรา้ งนวตั กรรม ตามความสามารถ ตามความ
สนใจและสอดคลอ้ งกับสภาพจริงในท้องถิน่
2) เพ่ือให้นักเรียนสามารถน�ำความรู้ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งไปใชใ้ นการดำ� รงชวี ติ ดแู ลรกั ษาสง่ิ มชี วี ติ อนื่ เฝา้ ระวงั หรอื พฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม
3) เพื่อให้นักเรียนสามารถระบุปัญหาของโครงงาน ด�ำเนินการสร้าง
นวัตกรรม โดยใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และนำ� เสนอข้อมลู ของโครงงาน
ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
การพัฒนาผู้เรียนให้เป็นนกั ประดิษฐ์ • 15
ข้ันตอนการจัดการเรยี นรู้
เพ่ือให้การด�ำเนินงานเกิดประสิทธิผลอย่างมีประสิทธิภาพ ดังน้ันจึงต้อง
วางแผนเป็นขั้นตอนเพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาตั้งแต่กระบวนการคิดข้ันต้นไปจนถึง
ความคดิ ขน้ั สงู ภายใตห้ ลกั คดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยการเรมิ่ ตน้ เตรยี ม
ความพรอ้ มทส่ี �ำคัญของผู้เรียน ใน 5 ด้านสาํ คัญ คอื
1. จัดชุดกิจกรรมให้นักเรียนวางแผนศึกษาค้นคว้า เพ่ือทําความเข้าใจ
เนอ้ื หาแกนหลกั ทางวชิ าการ (mastering core content)
2. จัดชุดกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกการคิดวิเคราะห์วิจารณ์ (thinking
critically) และการแกป้ ญั หาท่ีซบั ซ้อน (solving complex problems)
3. จัดชุดกิจกรรมให้นักเรียนได้ทํางานร่วมกันเป็นกลุ่ม (working
collaboratively)
4. จัดชุดกิจกรรมให้นักเรียนได้ฝึกการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
(communicating effectively) และการเป็นผู้ริเร่ิม (self-directed) และรับ
คาํ วิพากษ์วจิ ารณไ์ ดอ้ ย่างดี (incorporate feedback
โดยมกี รอบการดำ� เนนิ กจิ กรรมภายใตห้ ลกั การทสี่ ำ� คญั คอื การนำ� หลกั ปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง แนวคิดทฤษฎีท่ีสามารถกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความคิด
สร้างสรรค์ น�ำทฤษฎี หมวก 6 ใบและแผนผังมโนทัศน์มาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อ
พฒั นาความสามารถในการคดิ จดั ทำ� แผนการจดั กจิ กรรมเพอื่ พฒั นากระบวนการคดิ
1) สร้างโมเดลการเรียนรู้ SRP. STEM Model โดยเริม่ จดุ ประกายความ
สนใจด้วยบริบทของท้องถ่ิน มีปราชญ์ชาวบ้านเป็นผู้ให้ข้อมูล เพ่ือน�ำมาก�ำหนด
ปญั หาทนี่ กั เรยี นสนใจ นำ� ประเดน็ ปญั หามาปรกึ ษาอาจารยท์ ป่ี รกึ ษา ใชช้ ดุ กจิ กรรม
ระดมความรู้เพอ่ื สรา้ งนวตั กรรม SRP.STEM Model
2) การจัดท�ำชุดกจิ กรรม SRP.STEM Model ทีม่ งุ่ เนน้ ให้โครงงานวิทย์ฯ
ชิดชาวบา้ น และไดน้ ำ� แนวคิดของทฤษฎีหมวก 6 ใบ ของเดอโบโน มาจัดกจิ กรรม
ท�ำให้การคิดเป็นข้ันตอนแบบบันไดเพ่ือให้คิดทีละข้ันด้วยความละเอียดรอบคอบ
และน�ำแผนผังมโนทัศน์มาใช้สร้างมิติด้านเจตคติทางสมอง คือจินตนาการ ความ
ยืดหยุ่น มาเปน็ กรอบด้วยกจิ กรรมชุดกิจกรรม SRP. Model ภายใต้หลักปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
16 • การพัฒนาผูเ้ รียนใหเ้ ป็นนักประดิษฐ์
กรอบการจัดกจิ กรรมเพ่อื สร้างนวตั กรรม
แนวทางของนวัตกร แนวทางของการท�ำกิจกรรม
เศรษฐกจิ SRP.
พอเพยี ง Model
ในการออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับกรอบแนวคิด ได้ออกแบบให้
แต่ละกิจกรรมมีการพัฒนาทักษะ การคิด ท้ังการคิดขั้นต้นและข้ันสูงจ�ำนวน 5
กิจกรรม คือ กิจกรรมวิเคราะห์ปัญหา กิจกรรมสรรหาหลักการ กิจกรรมผสาน
ความคิด กิจกรรมพนิ ิจรอบด้าน กจิ กรรมเชยี่ วชาญการคิด ดังนี้ คือ
การพัฒนาผเู้ รียนใหเ้ ปน็ นกั ประดิษฐ์ • 17
กจิ กรรมท่ี 1 วเิ คราะหป ญหา
กจิ กรรมนมี้ ุง เนน ใหนักเรยี นไดฝกกําหนดปญ หา สามารถรับรสู ถานการณ วเิ คราะหส ถานการณท ี่เกดิ ขึ้น
แมนลเีาํ หมะตกาุผวําิเลหกวคนเิิจรภกคดากจิาระปกยราหญรใระตรมหหมสกทส์านถจิจ่ีถ้ีมา1กาานงุ กรนเกนสรวกานมถเิราใคานณรหนรี้มณนทกาุ่งกั่ีพท์าะเเรนหบเี่รกณียน้เป์ หดินไใญัดน็ขหไดนึ้หน้โดฝดาักังก แยนเกรลใ้ันกาํชยีะหใิจแนกนนผกไำ�กดนรดหิจปรผ้ฝนกญมงัึกรดปทหกรปลาม่ี�ำญัา1นหสคห้ีจานู มะซาดวาเึ่งจปริเรเาค่ิมปถัญกจรรน สหบัาาแถกะราผูสาใหนสหนถปผานากังญมนกัาทากเรหใ่ีรราณชียารถมนณไ์รอดไับ ดงว้ โรหรเิดคูส้ บัายรถปราใาสูญชะนถหแ้ หกาผส านาถนกรแาผณานลงัระก์ณสารา ณแเหลท ตวีเ่ ุอจกยึงิดาขงึน้
จาแมนกลีเาํสหมะถตกาาุผวทวปําน1ิเลหิเลพี่คค.กนารภบราดาคารารเะป่ยูหะะณซหญใบหน็ง่ึตทหเุป์ส ปดกี่ าญถงัําน็จานหหาแนกนั้นาผกสทดในาถนร่ีตใผาณหกอนงั จิงททกแกพ่ีาใ่ี ชกรรบณม้รไ เขหมอไดน็นงหจ้ีโดดาแะงั ปยลเนรใญัะน้ัชมิ่ สใแหจนาผาากเนหกิจแผตใกลังหุระปน้รโสลมดกั านยเคเรห้จีใู ยีชะซตนเึ่งแอุรเไผ่มิปยดนจนา่ ร้ างผแบักมผังใรเีปนหหสู้ ผลนถตังาักาทผุ คเนลใี่รู ชยีกภตมนาัวอาไรดยงทณหรใี่ ตับ์าแ1ปส้รลูสญถว้ถาหจานานงึ กนกแาาำ�ลรรมะณณสาา์ แเหลตวุอจยึงา ง
จากสถจ าาน1ก.กสาถรระณาบน1ท ุปก.กี่ ญาํารรหหะณนบาทดปุ์ทตี่ใญัก่ีหอ ำ�งหหแากนทไ ดข่ีตใ้อหง้ แแลกะไ้ ขสาแเหลตะุ สโาดเยหใตชแุ ผโนดผยังใชปล้แาผคนู ผตังัวปทล่ี า1คู่ ตัวที่ 1
2. ระบุแนวทางทจ่ี ะนาํ มาใชในการแกไข โดยใชแ ผนผงั ปลาคู ตวั ท่ี 2
2. ระ บแุ นวทา2งท. ่จีระะนบําแุ มนาวใชทใ านงกทา่จีรแะกนไ�ำขมาใโชดย้ในใชกแาผรนแผกังไ้ ปขลโาดคยู ใตชวั ้แทผี่ น2ผงั ปลาคู่ ตัวที่ 2
18 • การพัฒนาผูเ้ รียนให้เปน็ นกั ประดษิ ฐ์
15
กจิ กรรมท่ี 2 สรรหาหลักการ กจิ กรรมท่ี 2 สรรหาหลกั การ
เปนก จิ กรรมเทปม่ี ็นงุ กเนิจน กใรหรนมกัทเี่มรุ่ยงี เนนไ้นดกใสิจหกืบ้นรครักนมเแรทียน่ 2นวคสไดรดิ ร้สหืบทาคหฤ้นลษักแฎกนี าหวรคลิดักกทารฤทษาฎงีวหทิ ลยักาศกาสรตทรามงาใชใ นการแก
กอนลงมกอือนสลรงวามิทงเือปนสยนรวากา ัตศงิจนกกาวรสรตัรรตมกมรทรร์มม่ี มุงาเในชน ้ใในหนกกั าเรรยีแนกไป้ดสญั ืบหคนาแกนอ่ วนคิดลงทมฤือษสฎรี หา้ ลงกันกวาตัรทการงรวิทมยาศาสตรม าใชในการแกปญ หา
ที่มีอยูก รก เอมู้ิจนจอ่ื กแทาลรกําวกรนามสวรูแเทสัตมนืบี่กว่อื 3คครทนดิ รข�ำใผมนอกสมเกาดูลาารริมแนสสลทรคืบวาม่ี วคงใอีนา้นหวยมพขัตูก่คฒักอ้ อ่รดินมกรนาลูมิจกแกใแกาหลจิรรลใคว้รหก้วิดมมสรรท ิเูแ่รใรี่ หม่ิ3นม้พวทหคฒั ผล่ี ิดัก3นสกใาานานกรกคาผาหวรรสราคสือมาดิ ครคนรว้าิดาิเงครมนิ่มวรวู จาัตาหมกกลนครักวริดตั กมกาใรหรรมใ้ หเหดมมิ ร่ือความ
เมื่อทาํ การสืบคนขอ มลู แลว ใหพฒั นาการคดิ รเิ รม่ิ หลกั การ หรอื ความรู จากนวัตกรรมเดิม
ที่มอี ยูกอนแลว สูแนวคดิ ในการสรา งนวตั กรรมใหใ หม
การพัฒนาผ้เู รยี นให้เป็นนกั ประดษิ ฐ์ • 19
กิจกรรมท่ี 4 พนิ ิจรอบดา้ น
ปจกสรรรรมคเมจดุ่ือเมดแี น วพกนจิิจกกออัฒวขากุปุปจิจิคนอรรกกสสณิดาดรรรรรเใีมญปรรนแรรเน็มมวคคามลกณนิเเเววื่ะอาคมมจจวรลิิเเมรุดดุคค่ื่ืออตัสงีาแมเเมมรรกขระดดนอาารแีีแาอหนนงะะวรงนนส์ปหมหหนคววขขรัญาิดวปปุปคคออจัตใหญญดิดิุกดดนกาดใใอีีหหกรอนนแแ้อนราาาุปลลกกยพมออระะสาาสใฒัุปุปปรรลลรหรสสรัญกงงสสนม้คาขขรรรรจิหาแงาาทออรรเกานงงลปอี่คคสสนนรววานรรททอัรววตจปุปุนออีีุ่่ปัตัตมกจพกกวาากกสะรทฒัออตัจจรรรเรนนก่ีกจจรรรนม4ดิคพพระะมมาใรขเเใใฒฒััหทพกกจมหห้ึนกัมกกดุิิดดนนนิมมจษ่เจิจิแขขาาดาแแิจะเเลกกนนึ้้ึก่นลลปปรก้วเรรจจววนนรอาขรราา่ือรนนบอ้กกมมพพงคพววดดเเทททิดัฒัฒัตตัรรีัฒ่ีจาแวอ่่ือืีี่่กกนนะน44นลจิงงรรทาาะาททารรททำ�พพลรทมมจ่จ่ีี กัักณงักนิินะะขษษททษญ้อิจิจะะําาํะสารรกกกรณออาาปุารรบบกรคคมดดค่อิิดดอนิดาาววงนนิจิจหาาารรจณณดุ ญญดอาาณณย
มม
ป
วเิ คราะหป ญ หาอุปสรรคทอี่ าจจะเกดิ ขน้ึ จากเร่อื งท่ีจะทาํ
ววิเิเคครราาะะวหหิเคจจ รุดดุ าเเะดดหนนจ์ ขขดุ ออเดงงสส่นิ่งิ่งขททอี่จ่ีจงสะะง่ิทททาํําจ่ี ะทำ�
คราะหจุดเดนของสิง่ ทจี่ ะทาํ ปปรระะโโยยชชนน ขขออดดีี จจดดุุ เเดดนน
ลลงงคคววาาปมมลรงเเะหหคโวนน็็ ยาขขชมออเนงงหกก็นลลขมุมุ อขงกอ ลด่มุ ี จุดเดน
งความเหน็ ของกลุม
เปน กิจกสสร่ิ่งงิรปปมรรทะะมี่ ดดุง ษิิษเเพปปฐฐฒั นนตต นกกาามมจิจิาทกกแแรนรนักรรษววมมคคะททดิดิกมม่ีี่ใใาหหงุุงรพพมมคกฒัฒัดิ ิจสแแนนกงัลลาารเะะททครเเรักักรรมายีียษษทะบบะะหี่ เเกก5รรข าายีียอ รรเงงมชคคกกรรลูิดดิ่ียะะจิิจทสสบบวกกีร่ังังบบชรรเเวคคกกรราบรราามมญราารรวททะะสสกมหหรรี่ี่ าไ55าาขขดรงงออจคนนเเมมชชาววดิ กูลลู ียี่่ยตััตทททกกววกุ่่รีรีรรชชววกรราาบบมมจิ ญญรรกออววรยยกกมมราา าาไไมงงดดรรเเปปมจจคคาานนาดิิดกกเขขชททนั้ัน้ ื่อกุกุตตมกกออโจจิิยนนกกงกรรรรนั
ประดิษฐตาม2แ0นว•คดิ กใาหรพมัฒ นแาลผะเู้ รเียรนียใบหเ้ เปร็นียนงกั รปะรบะดบษิ ฐก์ ารสรา งนวัตกรรมอยางเปน ข้ันตอน
17
กิจกรรมท่ี 5 เช่ียวชาญการคดิ
กร ะจิสงิ่บกปบรระรกดมษิาเปเฐรนปมต สกาน็ามรจิ เกแกา้ชนรงจิ รอ่ืวนมกคมทดิวรโมี่ใัตรหยุง พมมกงฒั ทกรแนรันมี่ลามะทงุ่ เอเกัพรปียษยฒับะ็น่าเกรนภงาียรเางาคปกรทพิดะิจ็นสบกักรังขบรษา่เคกน้ัรงะรามสตารกทะสง่ิอหรา่ี ป5าขนรงอรคนเมชะวดิูลี่ยัตดทสกวษิีร่รชงัวรฐเาบมคญร์ตอวรยกามาาามไงะดรเแปจคหานนดิ กข์ขทวั้นอ้ กุคตมกอิดิจนลู กใทรหรรี่ มมว่มบาแเรชลวื่อมมะโไเยรดงกียจ้ นั บาเกเปรนทียภกุงาพราง
ผลการจดั การเรียนรู้ ปรับปรุงนาํ ไปใช
1. นักเรียนสามารถระบปุ ญ หาของชุมชนทีน่ กั เรยี นมีความสนใจได
ผลการจดั การเรยี นรู้
อยางเหม2า.ะ1นส.ักม เรนียนกั นเํารหยี ลนักคสิดาขมองาปรรถัชญราะเศบรุปษฐญั กิจหพาอขเพอียงงมชามุใชชในนกทาร่ีนออักกเแรบียบนมเลีคือกวใาชวมัสสดุอนุปใกจรไณดได้
3.2น.กั เนรียกั นเสรายี มนารนถแำ� กหป ญลหกั าคทส่ีดิ นขใจอดงว ปยกราชัรทญําโาคเรศงงรานษวฐิทยกฯจิ ชพดิ อชาเวพบยาี นงมไดาอใยชาใ้งนมีปกราะสรทิ อธอภิ ากพแบบ
เลผอื ลสก มั ใฤชท4ว้ไธด.สั3ิข์พนอดั.ฒกั งเุอนงรนายีาุปนชันกกุดเเผกรรยิจียณแกพนรไ์รรสดแมลโาอ้ คะมรยนงาาํา่งเารงสนนถเวหอแิทผมยกลฯาง้ปาะชนัญิดสโชคมหารวงางบาทานนี่สไดดนอ วยใยาจเทงดมคีป้วนริคยะหสกมทิ าวธกรภิ ทา6พ�ำใบโขคอรงงEงdาwนarวdิทDยe์ฯBoชnิดo ชาว
บดเดา้ พาํงัน่ือนเนใ้ี ินชไใกนดากร้อผ4าลรย.เติ ่ารชียงนุดนมกกัโิจคีปเกรรรรงียรงะมานสนนเแ้ีททิผลี่ผธยะาิภนสแิ่งกพาปาพรรรปะแ่ ดรละิษเะฐมทินนาจ�ำงาวเกสิทผยนูทารอศงาคผสุณลตวงรุฒขาิอนแงลโนะคักนรเํารงไียปงนทาโดรนงสเไอรดบีย้อกนับสยนุรา่ าักงษเรมฎียรปี นพรซิทะ่ึงยสสาริทุปแลผธละภิ ไไดดา พ
1. การวิเคราะหค ุณภาพและประสิทธิภาพของชดุ เครอื่ งมือจากผเู ช่ียวชาญ 5 ทานมีคา ดัชนีความ
เช่ือม่ัน IOC เทากับ 1 ในทุกหัวขอของการประเมินซ่ึงอยูในระดับใชไดทุกขอ หลังจากนั้นนําไปทดสอบกับ
กระบวนการสำ� คญั สง่ ผลตอ่ การเป็นนกั ประดษิ ฐ์9น1ัก.เ6ร3ียน/ พ9ก4บ.รว8า5ะนบักซเวึ่งรถียนอื นวกพาาอึงพยรูใอในในรจะใกดนาับรดะรีดสับรทา้่ีดงีมสากง่ิ ป(99ร.ะ6%ด)ษิ แฐลท์ะปไ่ี รดะร้สิทบั ธริภาาพงขวอลั งเชครน่ือะงมเลือมศิ ีคราะEด1/บั E2โล=กคอื
ชนใ้นิ นักงดเราาียนนนกทเารน่ีไรม2อ่ืเรว.ไดีงยผตั ในลชก“กกชราานุดรรรกสดวมิจอําตักเกนนรการินพมรรกบอรากวยรมากัาทผงกี่เเลมกกักสีนิดบ็ัมัยขเสึ้ฤนกนําทก็บำ้�คับธัโญ์ิขนนดอทัก้�ำยงาเรนเงเียลสักลนถเยี ยีรเิตมียนิน่ือ(นPแแไห=ดบบล0นัง.ําบ0บเชร0สุสีดย0กน,บับั ิจทpปกปa่ีไดรiะrะรใรมชtรชโดtดคeุดสรsสกงtีิจ)ง”ี Bากแนรลrรวoะิมทเmมมย่ือีฯผeทลชําlกิดกiาaชารcราเปรวeียบรaนะาเนeทม่ีดินไเีกปปเจวใตชน็า การ
ศกึคตษขิ าองนนวกั เตั รยีกนรพรบมวาในหักมเรใ่ียนนขกอางรโรองเนรยี รุ นกั สุรษาษท์ ฎรรพัพิทยยาากมรคี นวาำ�้ มอพยงึ พา่ องใจมใปีนรระะดับสมทิ ากธทภิ ี่ราอ ยพละโด84ย.4เล2 ยี นแบบ
การพัฒนาผ้เู รยี นใหเ้ ปน็ นกั ประดษิ ฐ์ • 21
ความสามารถในการกักเก็บน้�ำของพืชตามธรรมชาติ ซ่ึงค�ำนึงถึงรูปทรงท่ีสามารถ
กักเก็บน้�ำและดักจับน้�ำของพืช จากการทบทวนเอกสารพบว่า สับปะรดสีพันธุ์
Aechmea aculeatosepala เป็นพืชท่ีสามารถเจริญเติบโตได้และพบในเขต
แห้งแลง้ เนือ่ งจากมโี ครงสรา้ งท่ีเหมาะสมในการกกั เกบ็ น้�ำและดักจบั นำ�้
สบั ปะรดสพี นั ธ์ุ Aechmea aculeatosepala พบวา่ สว่ นดกั จบั นำ�้ ทสี่ ำ� คญั
มหี ลายสว่ น ไดแ้ ก่ แผน่ ใบ ทมี่ ขี อบใบทงั้ สองขา้ งบางกวา่ บรเิ วณกลางใบทำ� ใหแ้ ผน่ ใบ
มลี กั ษณะเปน็ รปู ตวั ยเู หมอื นรางนำ�้ นำ�้ ไหลไปกกั เกบ็ ทแี่ อง่ ระหวา่ งกาบใบ (Rosette)
หนามเลก็ ๆ บรเิ วณรอบใบ บิดเป็นมุม 50 องศากบั ขอบใบ ช่วยดึงน�้ำทอ่ี ยหู่ ่างจาก
ขอบใบในระยะ 2 มิลลิเมตร ใหเ้ ข้ามาในใบได้ ผิวใบดา้ นหนา้ ใบและหลงั ใบชว่ ยให้
นำ้� ไหลลงไปรวมกนั ทรี่ างรบั น้�ำ เน่ืองจากแรงยึดติด (Adhesive force) ระหวา่ งน้ำ�
กบั ผวิ ใบมากกวา่ แรงเชือ่ มแน่น (Cohesive force) ของนำ้� นอกจากน้ี ส่วนกกั เก็บ
น�ำ้ ของสับปะรดสี Aechmea aculeatosepala เกิดจากใบเรียงเหลอ่ื มซ้อนกัน
กาบใบดา้ นลา่ งจะกวา้ งออก ขอบใบบาง มลี กั ษณะเปน็ แอง่ กกั เกบ็ นำ�้ ทรงกรวยตรง
กลางล�ำตน้ และระหว่างซอกใบทกุ ใบก็สามารถเก็บน้�ำได้ ซึง่ สามารถกักเกบ็ นำ้� ได้
มากกว่าภาชนะทรงกรวยท่มี ขี นาดเทา่ กันถงึ 17.28 เปอร์เซน็ ต์
จากขอ้ มูลสับปะรดสพี นั ธุ์ Aechmea aculeatosepala ไดน้ �ำมาเปน็ ต้น
แบบสร้างอุปกรณ์ในการกักเก็บน�้ำ โดยประดิษฐ์จากแผ่นอะลูมิเนียม เนื่องจาก
แผ่นอะลูมิเนียมมีความจุความร้อนน้อย ในช่วงเวลากลางคืนเมื่อไอน้�ำในอากาศ
มากระทบจึงกล่ันตัวเป็นหยดน�้ำได้ง่าย เม่ือน�ำชุดอุปกรณ์นี้ไปใช้จริง โดยติดต้ัง
บนต้นยางพาราซึง่ เป็นพชื เศรษฐกจิ ของประเทศไทย ตน้ ละ 3 ชดุ จำ� นวน 10 ต้น
ต่อสายน้�ำเกลือปักลงในดินห่างจากโคนต้น 1 เมตร พบว่า ความช้ืนในดินท่ีใช้
ชุดอุปกรณ์จะมีค่าสูงกว่าความช้ืนในดินที่ไม่ใช้ชุดอุปกรณ์ และไม่รดน�้ำ 17.65
เปอร์เซน็ ต์ และมีความชน้ื ในดนิ ใกล้เคียงกับการรดน�ำ้ ตามปกติ ซงึ่ น้อยกว่า รดน้ำ�
ปกติ 9.80 เปอรเ์ ซน็ ต์ นอกจากน้ี ตน้ ยางพาราที่ใช้ชดุ อปุ กรณส์ ามารถให้ผลผลิต
สูงกว่าไม่ได้ใช้ชุดอุปกรณ์ 57.50 เปอร์เซ็นต์ ด้วยราคาต้นทุนชุดละ 25 บาท
เมือ่ น�ำไปใช้กบั ตน้ ยางพาราเพียง 6 วัน กจ็ ะคุม้ ราคาทนุ
22 • การพฒั นาผู้เรียนใหเ้ ป็นนักประดิษฐ์
คุณลกั ษณะและทกั ษะทีพ่ บของนกั เรียนท่จี ะกา้ ว
เขา้ สู่ความเป็นนักประดิษฐ์
1) นักเรียนมีแรงบันดาลใจอยากเป็นนักประดิษฐ์
เหมือนรุ่นพี่ ท�ำโครงงานสิ่งประดิษฐ์ที่มีความเป็นสากล
บนพ้นื ฐานของความเป็นไทย
2) มีจิตสาธารณะต้องการช่วยสังคมโครงงานของ
นักเรียนสามารถนำ� ไปแก้ปัญหาของชุมชนได้
3) มีทักษะการตั้งค�ำถามสามารถระบุปัญหาความ
ต้องการการค้นพบ มีทักษะการสังเกต การคิดเชื่อมโยง
เลยี นแบบธรรมชาติ การค้นคว้าวจิ ัย การทำ� งานเป็นทมี นำ� ไป
สู่การสรา้ งสรรคส์ ิ่งประดษิ ฐ์
ปจั จยั ที่ทำ� ใหป้ ระสบความสำ� เร็จ
ความพรอ้ มของผ้เู รียน ในด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และ
นักเรยี น เทคโนโลยี ด้านประสบการณ์ของผู้ประดิษฐ์ ท่ีได้เริ่มพัฒนา
ตนเองตง้ั แตอ่ ยู่ในระดบั ชน้ั ม.1
ความพรอ้ มดา้ นการสนบั สนนุ จากฝา่ ยบรหิ ารทใี่ หค้ วามสะดวก
ในการอนมุ ตั โิ ครงการโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ใหก้ ารดแู ล สรา้ งขวญั
ผูบ้ รหิ าร และกำ� ลงั ใจให้แก่ครูและนกั เรียน
การสนบั สนุนจากหนว่ ยงานภายนอก และภาคเอกชน ที่ให้การ
ดแู ลเรอื่ งเงนิ ทนุ ในการจดั ทำ� โครงงาน คอื สำ� นกั งานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) สสวท. ภาคสังคมในจังหวัด
หภนาว่ยยนงอากน สุราษฎรธ์ านี และมแี หล่งเรียนรู้ แหลง่ ค้นควา้ ทมี่ ีความพร้อม
ใหน้ กั เรยี นไดค้ น้ หาความรู้ คอื สวนยางพารา สวนพฤกษศาสตร์
ของโรงเรยี น มหาวิทยาลยั
การพัฒนาผเู้ รยี นให้เป็นนกั ประดษิ ฐ์ • 23
ข้อคิด…
ในการประดษิ ฐช์ น้ิ งานดงั กลา่ ว นกั เรยี นกลมุ่ นมี้ รี ะบบการทำ� งานทช่ี ดั เจน
เป็นข้ันตอน คือ ศึกษาสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวใช้ทักษะการสังเกต สอบถาม มองหา
ปัญหาจากส่ิงทไี่ ดศ้ กึ ษา แลว้ รว่ มกันระดมความคดิ วา่ จะแก้ปญั หานัน้ ๆ ไดอ้ ย่างไร
หลังจากน้ันนักเรียนได้ท�ำการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล น�ำข้อมูลมาร่วมกันอภิปราย
รว่ มกนั วางแผนการดำ� เนนิ การ รา่ งออกแบบสดุ ทา้ ยของชน้ิ งานวา่ จะออกมาอยา่ งไร
จดั เตรยี มว่าจะใชอ้ ุปกรณ์อะไรบ้าง จะตอ้ งใชเ้ งินทุนเท่าไร แล้ววางแผนด�ำเนินการ
ปรึกษาครูท่ีปรึกษาทุกข้ันตอน ลงมือตรวจสอบคุณภาพของช้ินงาน ทดสอบและ
ทดลองใช้ปรับปรุงแก้ไขส่วนท่ีบกพร่อง ซ่ึงเป็นการท�ำงานภายใต้หลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง คอื มคี วามพอประมาณ ในการเลอื กใชว้ สั ดทุ มี่ รี าคาตน้ ทนุ ตำ�่ เพอ่ื
ใหเ้ หมาะแกช่ าวสวนยาง มเี หตผุ ลเชงิ วทิ ยาศาสตรใ์ นการเลยี นแบบสบั ปะรดสี และ
การเลอื กใช้อะลมู เิ นยี มในการสร้างชิ้นงาน มกี ารพจิ ารณาไตรต่ รองและใคร่ครวญ
ก่อนลงมอื จึงเป็นภูมิค้มุ กันทด่ี ี น�ำไปใช้จริง เมื่อเกดิ ผลดแี ลว้ จึงเผยแพร่ผลงาน
ในกระบวนการศกึ ษานน้ี กั เรยี นทำ� ตามขน้ั ตอนของ SRP. Model ทนี่ กั เรยี นไดเ้ รยี น
รมู้ าก่อนหน้าการลงมือปฏบิ ตั ิจรงิ
24 • การพฒั นาผูเ้ รียนใหเ้ ปน็ นักประดิษฐ์
เรื่องเล่าการสร้างส่ิงประดิษฐ์ของนักเรียน เรื่องนวัตกรรม
กักเก็บน้�ำเลียนแบบสับปะรดสี โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี รางวลั ชนะเลศิ ในการประกวด
นวัตกรรมอนุรักษ์น้�ำในระดับโลก 2016 “The Winner
Of Stockholm Junior Water Prize 2016” จากเจ้าชาย
Carl Philip ณ กรงุ สตอกโฮลม์ ประเทศสวเี ดน
จนิ ตนาการเปลยี่ นโลกได้ ถา้ เราไมห่ ยดุ คดิ ไมห่ ยดุ
จินตนาการ ย่อมได้เห็นแสงสว่างอยู่ปลายฟ้าเสมอ น่ีคือ
สญั ญาใจของเพอ่ื นรกั 3 คน น.ส.สรุ ยี พ์ ร ตรเี พชรประภา (ขวญั )
นางสาวกาญจนา คมกลา้ (ฝา้ ย) นางสาวธดิ ารตั น์ เพยี รจดั (ตนู )
ท้ัง 3 คน เขา้ ร่วมชมุ นุมโครงงานวิทยาศาสตร์ของโรงเรยี น
และเรม่ิ ทำ� โครงงานวทิ ยาศาสตรต์ งั้ แตช่ นั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
น.ส.สุรีย์พร ตรเี พชรประภา และพัฒนาความคิดการสร้างสิ่งประดิษฐ์เรื่อยๆ มาจนจบ
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 การคิดผลงานส่ิงประดิษฐ์ จะคิดโจทย์
ปญั หางา่ ยๆ ใกลๆ้ ตวั จากความตอ้ งการแกป้ ญั หาใหช้ มุ ชน
ผลงานชิ้นแรกเกิดจากการพัฒนาคุณภาพของเชือกกล้วย
ให้เหนียว และคิดพัฒนาต่อยอดเป็นการปรับปรุงคุณภาพ
ของเสื่อกระจูด จนกระท่ัง เป็นเส่ือกระจูดนอนสบาย
นางสาวกาญจนา คมกลา้ พร้อมรับผู้ป่วยนอนติดเตียงท่ีมีปัญหาแผลกดทับ ผลงาน
สิ่งประดิษฐ์เพื่อผู้ป่วย เพื่อช่วยสังคม ชุมชน เป็นสิ่ง
ทพ่ี วกเราภมู ิใจ และชุมชน สังคม ก็ภาคภมู ิใจในพวกเรา
ส�ำหรับส่ิงประดิษฐ์เรื่องนวัตกรรมกักเก็บน�้ำ
เลยี นแบบสบั ปะรดสี เกดิ ขน้ึ จาก การมาเขา้ คา่ ยทำ� โครงงาน
ช่วงปิดภาคเรียน ท�ำให้เราพบหัวข้อในการท�ำโครงงาน
นางสาวธิดารตั น์ เพยี รจัด พวกเราสังเกตเห็นว่าในช่วงปิดภาคเรียนท่ีไม่มีใครมารดน้�ำ
การพฒั นาผู้เรยี นให้เปน็ นักประดษิ ฐ์ • 25
ต้นไม้ แต่เจ้าต้นสับปะรดสีในสวนหย่อม
ไม่เหี่ยวเฉา แถมมีน�้ำขังอยู่กลางล�ำต้นด้วย
เราเริม่ สนใจ เอ๊ะ! ทำ� ไมจึงเปน็ เช่นนนั้
พวกเราเรม่ิ เชอื่ มโยงสอู่ าชพี เกษตรกร
ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนไทย โดยเฉพาะใน
จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี พวกเราจงึ ระดมความคดิ
สมองของพวกเรากำ� ลงั เชอื่ มตอ่ จกิ ซอรเ์ ลก็ ๆ
ใหเ้ ปน็ สเกลใหญ่ ตน้ สบั ปะรดสนี มี้ พี ฒั นาการ
อย่างไรจึงสามารถด�ำรงชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางความแห้งแล้ง พวกเราเร่ิมสนใจ
และค้นหา เราเข้าไปในโลกกว้าง เข้าไปค้นหาทางอินเตอร์เน็ต เราคิดจะจับ
ละอองนำ้� เลก็ ๆ ในอากาศแลว้ รวบรวมใหเ้ ปน็ หยดนำ�้ กอ่ นไหลลงสทู่ กี่ กั เกบ็ บทเรยี น
ของสบั ปะรดสี เร่มิ เชอื่ มโยง เราประชมุ หารอื กนั
สบั ปะรดสี จะชว่ ยใหส้ วนยางพาราของบา้ นของเราชมุ่ ชนื้ ในฤดแู ลง้ ไดไ้ หม?
เราจะเอาจุดเด่นของเจ้าสับปะรดสีน้ีมาเช่ือมโยงกับสวนยางพาราของเรา
ไดอ้ ย่างไร?
วันนี้แต่ละคนต่างก็มีแต่ค�ำถาม เราสามคนจึงต้องรีบไปหาครูที่ปรึกษา
ครชู มเราว่า “พวกเธอชา่ งเกง่ จงั สามารถระบุปญั หาไดช้ ัดและทกุ ปัญหาก็รอค�ำตอบ
จริง ๆ” แต่ “ครูก็ไม่รู้ค�ำตอบเหมือนกัน และอยากรู้เหมือน ๆ กับเธอนี่แหละ
แล้วเราจะท�ำอยา่ งไรถงึ จะร้คู �ำตอบ”
ขวัญบอกว่า “เราต้องค้นคว้าเพิ่มเตมิ คะ่ ” ฝ้ายบอกวา่ “เราตอ้ งทดลอง
หาค�ำตอบค่ะ” ตูนบอกว่า “เราต้องวางแผนดี ๆ ค่ะ” แล้วเราทั้งสามคน
กเ็ รม่ิ วางแผนดำ� เนนิ การ โดยมตี น้ ยางพาราทร่ี อสง่ิ ประดษิ ฐข์ องเราไปชว่ ยเหลอื อยู่
เมื่อมีแต่ข้อสงสัยอย่างนี้ก็ต้องศึกษาค้นคว้าตามแบบท่ีครูเคยสอน
พวกเราเอาไว้ ส่งิ ทพี่ วกเราคิดไมใ่ ช่ความเพอ้ ฝนั ในที่สุด การคน้ หาของพวกเราก็ได้
ค้นพบนักประดิษฐ์ผู้ย่ิงใหญ่ของโลกผู้ได้รับสมัญญานามว่า “พระบิดาแห่ง
นักประดิษฐ์ไทย” คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซ่ึงทรง
ได้รับการทูลเกล้าถวายรางวัล Global leader Award จากองค์การทรัพย์สิน
ทางปัญญาโลกและทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับ
26 • การพัฒนาผูเ้ รียนให้เป็นนกั ประดิษฐ์
ขวัญบอกวา “เราตองคนควาเพ่ิมเติมคะ” ฝายบอกวา “เราตองทดลองหาคําตอบคะ” ตูนบอกวา “
เราตองวางแผนดี ๆ คะ” แลวเราทั้งสามคนก็เร่ิมวางแผนดําเนินการ มีตนยางพาราสวนของตูนที่รอสิ่งประดิษฐ
ของเราไปชวยเหลอื อยู
เม่ือมีแตขอสงสัยอยางนี้ก็ตองศึกษาคนควาตามแบบท่ีครูเคยสอนพวกเราเอาไว ส่ิงที่พวกเราคิดไมใช
ครบแารวิดงกาาวมขแัลทวพเอหพัสูGล่องงอโดlนเหลoฝกักรุ กbนลปูพลaทใวรนl่ีไ้าระดงทนุถดรรี่สlิษวับeัุชดเฐaาทชกกdไยูลท่นาาeเรยรกrลคา”ตลทนงาาคAหถว่ี ขือwวาัล9า่ขาaพนยยrอรdจรง้ีไะาพนับคบจงวลวาาหวกักลทอาเมอนรสนมาง้ีอมคคกคเกกด็วเไิดดสาา็จไคมรดอ่ืพททนครล้ท่ีดรพิดะัพ�ำูรสทบเจแยง่ีดนับาสพมูสักอินสับปียพนทนสรูหาระนัขวจงะดภขปะอิษรอูญมทงฐงาิพญผพพำ�ชลูยาวใวอดโิ่งกหลดใก�ำเหก้เุลรเรกแญายรัสลทิดเขาดะ้ังใอกทชทสนงาาร้ังโซกงรมลส่ึงเกคาคปทาผนรนวรมูไเดงพบดรคไริ่ัมกรดแะันบกรจนมสับรเับหระ่นมกาจัญ่ิมหาการแญกมษงทลชัาตรอูลัดนะระเกิยกากพจมพลโลอ่ดวาารหาัน่ถะงยพอวลชตใารงวชัดคัวยะง้
รัชกาเลปท็น่ี 9หจยับดหนมอ้ำ� กไไดด้ทซรึง่งมเปีพร็นะหรานชึ่งดใํานรัสโใคนรกางรกดาักรจพับหรมะอรกาโชดยดใ�ำชวรัสิ ดุรูพรุน เชน ตาขายไนลอน เส่ือลําแพน
จะทาํ ใหเกดิ การควบแนน และกลนั่ ตวั เปน หยดนาํ้ ได ซ่งึ เปนหนง่ึ ในโครงการพระราชดําริ
2
ใภภในนาาหหพพลทลทวว่ี ่ีง2ง2ร-ร-3ัช3ชั กกา“า“ลกลกทาทาี่รร9่ี ดด9ณกัักณจจพบัับพรหหะรมมตะออําตกหกำโ�นหโดดักนยยภใักชใพู ภชว ิงูพสัว้ คดัสงิ ฯคุรดพูจ์ฯุร.รูพจนุเชร.”นุียเชง”ใียหงมให ม่
และมคี นหลายคนที่สามารถจบั ไอน�ำ้ ในอากาศใหม้ าอยู่ในรปู หยดนำ�้ และ
กักเกบ็ เอามาใชไ้ ด้ ถ้าเชน่ น้ันสับปะรดสกี น็ า่ จะน�ำมาสร้างเป็นนวัตกรรมทก่ี กั เก็บ
น�้ำได้เชน่ กนั ขวญั ฝา้ ย ตูน ไดใ้ ช้เวลาเขา้ สบื คน้ ข้อมลู อย่างจริงจงั พบว่าปจั จุบัน
มีวธิ กี ารกกั เก็บน�ำ้ โดยลอกเลยี นแบบธรรมชาติ หลายรูปแบบด้วยกนั เช่น Warka
Water นวตั กรรมกกั เกบ็ นำ้� สะอาดในเอธโิ อเปยี และทวปี แอฟรกิ า ทส่ี รา้ งขนึ้ เพอ่ื ใช้
ประโยชน์ในการรวบรวมไอน�้ำ ซ่ึงเลียนแบบจากต้นไม้ท้องถ่ินช่ือ Warka
ในเอธิโอเปีย โครงสร้างทำ� จาก ก้าน Juncus หรอื ไม้ไผ่ทอกันเป็นรปู กรอบแจกนั
ภายในมีวัสดุตาข่ายพลาสติกท่ีท�ำจากเส้นใยไนลอนและพอลิโพรไพลีน ท�ำหน้าท่ี
เปน็ อโุ มงคส์ ำ� หรบั การรวมตวั ของนำ้� ในแตล่ ะวนั หยดนำ้� จะไหลไปตามตาขา่ ยลงไป
ในอ่างท่ีฐานหอคอย โดยการเก็บเก่ียวไอน้�ำในบรรยากาศ จะท�ำให้ได้น�้ำดื่ม
อยา่ งนอ้ ย 25 แกลลอน Warka Water สามารถทำ� ให้ชมุ ชนทอี่ ยู่ห่างไกลได้พัฒนา
คุณภาพชีวิต นอกจากน้ันยังมีนวัตกรรมกักเก็บน�้ำ นวัตกรรมต้นไม้กระหายน�้ำ
ออกแบบส�ำหรับการใช้งานในทะเลทราย ในเขตร้อนของแอฟริกาและอเมริกาท่ีมี
อณุ หภมู แิ ตกตา่ งระหวา่ งกลางวนั กบั กลางคนื เปน็ อปุ กรณท์ มี่ รี ปู ทรงตน้ ไมข้ นาดใหญ่
สามารถดูดซับความช้ืนจากอากาศ และออกแบบพ้ืนผิวท่ีพับและขยายตัวของ
การพัฒนาผู้เรียนใหเ้ ปน็ นักประดษิ ฐ์ • 27
หลังคาน�ำอนุภาคของน้�ำสู่ส่วนกลางของล�ำต้น และเครื่องดักหมอก เพ่ือน�ำมาใช้
ประโยชนท์ างการเกษตร
ขวัญไดบ้ อกกับเพ่ือน ๆ วา่ “ตอนนเี้ รามีก�ำลังใจขึ้นเป็นกองแลว้ นะ มีคน
คิดแบบเราและทำ� ได้จรงิ แลว้ ด้วย ทส่ี �ำคญั มันมปี ระโยชน์ตอ่ ผคู้ นมาก ๆ เลย”
ฝ้ายบอกว่า “การค้นคว้าครั้งน้ี ท�ำให้เรารู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก
ทไี่ ดร้ วู้ า่ พอ่ หลวงของเรา ทรงสนพระทยั ในเรอ่ื งการจบั หมอกเชน่ เดยี วกนั เราจะเดนิ
ตามรอยเทา้ พอ่ ไมย่ อ่ ทอ้ มองความสำ� เรจ็ และผลประโยชนท์ จี่ ะเกดิ ขนึ้ กบั ผอู้ น่ื เปน็
ท่ีต้ัง ที่ส�ำคัญเหนือสิ่งอ่ืนใดคือฉันจะเป็นนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ให้เหมือนพระองค์
ท่านให้ได”้ ตนู และขวญั กบ็ อกว่า “เราสองคนก็คดิ เช่นนัน้ เหมือนกนั ” เมอ่ื ทุกคน
พรอ้ มใจทจี่ ะเดนิ ตามรอยเทา้ พอ่ ดงั นน้ั ความมน่ั คงหนกั แนน่ จรงิ จงั และมเี ปา้ หมาย
ชัดเจน กเ็ กิดขึน้ ตามมา
พลงั ทีเ่ ริ่มถดถอย พลิกฟ้ืนขน้ึ มาใหม่ ทัง้ สามคนเรม่ิ ต้นงานใหม่ด้วยความ
ทมุ่ เท ครบู อกเราวา่ “ถ้าจะเดินตามรอยเทา้ พอ่ อยา่ ลืมท่พี อ่ สอน พอ่ หลวงบอกว่า
จะท�ำการท�ำงานใดต้องค�ำนึงถึงหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ มีความพอประมาณ
มเี หตมุ ีผล มภี มู ิคุม้ กนั ภายใตค้ วามรู้ และคณุ ธรรม ปรัชญานี้จะท�ำให้เราทำ� งาน
ไดส้ ำ� เรจ็ เพราะเรามองรอบดา้ น” และครกู ย็ งั บอกดว้ ยวา่ “สง่ิ สำ� คญั ทเี่ ราจะขาดไมไ่ ด้
คือความเพียรพยายาม เฉกเช่น พระมหาชนก” ครูยังย�้ำเตือนว่า “ตอนน้ีเราทั้ง
สามคนไดย้ ดึ หลกั คดิ ตามแบบพอ่ หลวงเปน็ หางเสอื ใชบ้ งั คบั เรอื ของเราใหแ้ ลน่ ไปสู่
เปา้ หมายใหไ้ ด้ ดงั น้นั อย่าได้ยอ่ ท้อ”
เราท้งั สามคนสนใจเก่ียวกับการกกั เกบ็ น้�ำของสับปะรดสีพนั ธุ์ Aechmea
aculeatosepela เนอื่ งจากพบว่าสบั ปะรดสชี นดิ นีเ้ ปน็ พชื ทีส่ ามารถเจรญิ เติบโต
ได้และพบในเขตแห้งแล้ง มีโครงสร้างท่ีเหมาะสมในการกักเก็บน�้ำและดักจับน้�ำ
เราจึงมีแนวคิดสร้างอุปกรณ์ในการกักเก็บน�้ำ โดยเลียนแบบสับปะรดสีวงศ์
Bromeliaceae
พวกเราจงึ ไดเ้ รม่ิ ศกึ ษาโครงสรา้ งของสบั ปะรดสอี ยา่ งจรงิ จงั ไดส้ มั ผสั ในสง่ิ
ทไ่ี มเ่ คยสมั ผสั ไดร้ จู้ รงิ ในสง่ิ ทไี่ มเ่ คยรจู้ รงิ ความลมุ่ ลกึ ละเอยี ดรอบคอบในการศกึ ษา
ท�ำให้ได้พบเห็นโครงสร้างท่ีมีความแตกต่างจากพืชโดยท่ัวไป ได้ศึกษาและ
28 • การพฒั นาผู้เรียนใหเ้ ป็นนกั ประดษิ ฐ์
รถู้ งึ เหตทุ สี่ บั ปะรดสสี ามารถดกั จบั ละอองนำ�้ ในอากาศและกกั เกบ็ หยดนำ�้ ไดเ้ พราะ
สภาพพ้ืนผิวใบที่เป็นมันวาว ท�ำให้หยดน�้ำไม่ยึดเกาะ และไหลรวมกันเป็นหยด
รูปร่างของใบที่เป็นแบบรางรับน้�ำ ท�ำให้น้�ำรวมกันเป็นหยดใหญ่ไหลลงมารวมกัน
ในรางได้ และตรงกลางของกาบใบจะซอ้ นกนั เปน็ แอง่ ขอบของกาบใบจะประกบแนน่
ทำ� ใหน้ ำ้� ถกู กกั เกบ็ ไหลไปไหนไมไ่ ด้ จงึ เปน็ เสมอื นบอ่ ทรี่ อรบั นำ�้ จากรางใบ สว่ นขอบใบ
จะมหี นามทจี่ ะเกย่ี วหยดนำ้� ทก่ี ระเซน็ อยนู่ อกผวิ ใบใหม้ ารวมกนั ในรางรบั นำ้� ของใบ
โครงสรา้ งมหศั จรรยน์ เ่ี องทที่ ำ� ใหส้ บั ปะรดสชี นดิ นสี้ ามารถดำ� รงชวี ติ อยใู่ นทะเลทราย
และเขตแหง้ แล้งได้ เมอ่ื เรียนรกู้ ารปรับโครงสรา้ งของสบั ปะรดสีได้เปน็ อยา่ งดแี ล้ว
กถ็ งึ เวลาลงมือสรา้ งนวตั กรรมกนั
จะเห็นได้ว่าก่อนจะตัดสินใจลงมือสร้างนวัตกรรมก็ต้องเรียนรู้มากมาย
เมอ่ื รวู้ า่ จะสรา้ งให้มรี ูปอยา่ งไรดแี ล้ว คราวนก้ี ม็ าติดตรงทีว่ า่ แล้วจะเอาวสั ดใุ ดมา
สร้างรูปทรงสบั ปะรดสี ฝา้ ยเร่มิ ตงั้ คำ� ถามใหแ้ กก่ ลุ่มได้คิด
“เราจะเอาวสั ดอุ ะไรมาสรา้ งดลี ะ่ ” ทำ� ใหท้ ง้ั กลมุ่ ตอ้ งพบปญั หาใหญ่ ทตี่ อ้ ง
ครนุ่ คิด
แลว้ ตูนกเ็ ป็นคนได้คำ� ตอบ “รู้แล้ว รู้แล้ว เราใชส้ งั กะสีดกี วา่ เพราะเราเคย
สังเกตท่ีคอกววั ทส่ี วนของเรา ซ่ึงมุงด้วยหลังคาสังกะสี ตอนกลางคืนจะมหี ยดนำ้�
เตม็ ไปหมดเลย ตอนเช้าจะเหน็ หยดนำ้� ตกลงมาท่ีชายคาดว้ ย”
ขวัญดีใจ อุทานเสียงหลงว่า “ใช่เลย เราเคยเรียนในวิชาฟิสิกส์ โลหะ
ทมี่ ีความจคุ วามรอ้ นนอ้ ย
จะคายความร้อนเร็ว จึงท�ำให้เย็นกว่าส่ิงรอบข้าง ท�ำให้ไอน้�ำที่มาปะทะ
จับตัวเป็นหยดน้�ำ จึงพบว่า มีหยดน�้ำบน
หลังคาสงั กะสีในเวลากลางคืน”
ตนู ดใี จ “งน้ั เราไปหาสงั กะสมี าทำ� รปู
ทรงโครงสร้างสับปะรดสีกนั เถอะ”
ฝ้ายถามด้วยความสงสัย “สังกะสี
ดที สี่ ดุ ใชไ่ หม ทจ่ี ะเปน็ วสั ดทุ เี่ ราจะเลอื กใชก้ นั ”
ท้งั สามเร่ิมไม่แนใ่ จ จงึ เขา้ ไปสืบค้น
การพัฒนาผู้เรยี นให้เป็นนักประดิษฐ์ • 29
ข้อมูล และสอบถามอาจารย์ท่ีปรึกษา แล้วก็พบว่า วัสดุท่ีดีที่สุดท่ีควรเลือกใช้
เนื่องจากมีความจุความร้อนน้อยกว่าสังกะสี และจะท�ำให้เกิดหยดน�้ำได้ดีกว่า
คอื อะลมู เิ นยี ม ซง่ึ มรี าคาไม่สงู เกนิ ไป
เม่ือได้รูปทรง และวัสดุ เรียบร้อยแล้ว ทั้งสามก็ลงมือท�ำ ทันที เร่ิมน�ำ
แผ่นอลูมิเนียมมาตัดให้มีรูปร่างเหมือนใบสับปะรดสี แล้วประกอบเข้าด้วยกัน
ทดสอบ และแก้ไขหลายคร้งั จากหลาย ๆ รูปแบบท่พี วกเราคดิ ข้ึนมา
ภาพท่ี 5 แผน่ อลูมเิ นยี มมาตดั ให้เป็นรปู ร่างเหมือนสบั ปะรดสี
ทั้งสามคนเรม่ิ ทดสอบประสทิ ธิภาพของช้ินงาน เอาช้ินวสั ดุ มาวางเหนอื
น�ำ้ เยน็ เปรียบเทียบกบั วสั ดุชนดิ อื่น ทุกคนต่างยิ้มดว้ ยความยินดี วสั ดทุ ่ีใช้นี้เกิดผลดี
ดังท่ีวางแผนเอาไว้ จึงช่วยกันประกอบช้ินงานเป็นต้นสับปะรดสี แล้วเอาไปวาง
ใต้ต้นไม้ เฝ้าสังเกตหยดน้�ำกันท้ังคืน จะเกิดหยดน้�ำข้ึนได้จริงไหม คือค�ำถาม
ท่ีทั้งสามคนอยากได้ค�ำตอบ ต่อสายน�้ำเกลือจากแอ่งตรงกลางของต้นสับปะรดสี
จำ� ลอง เพอื่ ลงไปเกบ็ ในหลอดทดลองขนาดเลก็ เพอ่ื วดั ปรมิ าณ ทดสอบกนั หลายครงั้
แลว้ นำ� กลับมาแก้ไขขอ้ บกพรอ่ ง ทำ� ซำ้� แล้วซำ้� เล่าจนพอใจ
ในที่สุดก็ได้นวัตกรรมกักเก็บน้�ำเลียนแบบสับปะรดสีตามจุดมุ่งหมาย
แต่จะน�ำไปใช้ได้จริงไหม คือ สิ่งท่ีสงสัย แล้วทุกคน ก็ตกลงกันน�ำไปทดสอบจริง
ท่ีสวนยางพาราของตูน ในที่สุดนวัตกรรมน้ีก็สามารถสร้างความช้ืนให้แก่ดิน
ในสวนยางพาราได้
จากข้อมูลสับปะรดสีพันธุ์ Aechmea aculeatosepala ได้น�ำมาเป็น
ตน้ แบบสร้างอุปกรณใ์ นการกกั เกบ็ น�ำ้ โดยประดษิ ฐจ์ ากแผน่ อะลูมเิ นยี ม เนอื่ งจาก
แผ่นอะลูมิเนียมมีความจุความร้อนน้อย ในช่วงเวลากลางคืนเม่ือไอน�้ำในอากาศ
มากระทบจึงกลั่นตัวเป็นหยดน้�ำได้ง่าย เมื่อน�ำชุดอุปกรณ์น้ีไปใช้จริง โดยติดตั้ง
30 • การพฒั นาผ้เู รียนใหเ้ ป็นนกั ประดษิ ฐ์
บนดินใต้ต้นยางพาราซ่ึงเป็นพืชเศรษฐกิจ ภาพท่ี 6 ทดสอบสิง่ ประดิษฐโ์ ดยวางไว้
ของประเทศไทย ต้นละ 3 ชุด พบว่า ใต้ตน้ ไม้
ความชน้ื ในดนิ ทใี่ ชช้ ดุ อปุ กรณจ์ ะมคี า่ สงู กวา่ ภาพท่ี 7 การพัฒนาปรบั ปรุงสิง่ ประดษิ ฐ์
ความชืน้ ในดินทไี่ มใ่ ช้ชดุ อปุ กรณ์ นอกจากนี้
ต้นยางพาราท่ีใช้ชุดอุปกรณ์สามารถให้
ผลผลิตสูงกว่าไม่ได้ใช้ชุดอุปกรณ์ 57.50
เปอรเ์ ซน็ ต์ ดว้ ยราคาตน้ ทุนชุดละ 25 บาท
แล้วในท่ีสุดเร่ืองง่าย ๆ ของเรา
ก็เอาชนะใจกรรมการได้ในการแข่งขัน
Thailand Junior Water Prize เราได้รบั
รางวัลชนะเลิศ ได้เป็นตัวแทนของ
ประเทศไทยไปแข่งขันท่ีประเทศสวีเดน
ครงั้ นเ้ี ราปลาบปลมื้ ยินดีมาก
ภาพที่ 8-12 บรรยากาศการ
ประกวดผลงานส่งิ ประดษิ ฐ์
และการรบั มอบรางวัลจาก
การประกวดส่ิงประดษิ ฐ์
การพัฒนาผู้เรียนใหเ้ ปน็ นักประดิษฐ์ • 31
ถึงวันแข่งขัน มีคณะกรรมการ และผู้คนเข้ามาชมนิทรรศการของเรา
ทั้งสามคนน�ำเสนอกันเต็มท่ี เม่ือถึงวันประกาศรางวัลรู้สึกต่ืนเต้นมาก วันน้ี
เราแต่งกายชุดไทยที่มีผู้เอื้อเฟื้อจัดให้เรา ทุกคนจัดเต็มเพื่อให้ชุดไทยดูสง่างาม
ในงานน้ี ถึงเวลาประกาศผลก็เฝ้าลุ้นว่าประเทศไหนจะได้รางวัล เพราะในงานนี้
มเี พียง 2 รางวัลเทา่ นั้น เมือ่ เวลาระทึกใจมาถงึ คือ ประกาศรางวัล The Winner
ทกุ คนตั้งใจฟังมาก แล้วเขาก็เล่าให้ฟังถึงความน่าสนใจของเร่อื งท่ีได้รบั รางวัลในครั้งนี้
โดยไมไ่ ด้บอกช่ือรางวัล และชือ่ ประเทศ
ขวัญฟังที่เขาเล่าในงาน แล้วหันไปบอกเพ่ือน ๆ ว่า “ที่เขาพูดตอนน้ี
คล้าย ๆ ผลงานของเรานะ” ตนู กบั ฝ้ายกบ็ อกว่า ใช่ มนั เหมือนจะเป็นผลงานของ
เรา และในท่ีสุดเขาก็ประกาศชื่อโครงงานและชื่อประเทศ ทั้งสามคนดีใจมาก ๆ
เพอ่ื น ๆ ชาวตา่ งชาตทิ กุ คนเขา้ มาแสดงความยนิ ดี และทงั้ สามคนกร็ บี วงิ่ ขน้ึ บนเวที
ด้วยความตื่นเต้นจนเห็นได้ชัด เพราะรางวัลท่ีได้รับน้ีรับจากพระหัตถ์ของเจ้าชาย
คาร์ล ฟิลิป ผู้ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าชายท่ีหล่อติดอันดับหน่ึงในสามของโลก
คืนน้ีเป็นคืนท่ีดีที่สุดในชีวิตของพวกเราคืนหนึ่ง เพราะได้รับเกียรติจากเจ้าชาย
ทรงฉายพระรูปรว่ มด้วยและได้เขา้ เฝ้าเปน็ การสว่ นพระองค์ นกั ขา่ วต่างมารมุ ลอ้ ม
กวา่ จะไดก้ ลบั ท่ีพักเราก็พูดภาษาอังกฤษกนั จนเมือ่ ยมอื
เช้าวันใหม่เราถูกรุมล้อมด้วยนักข่าว เราพูดรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เร่ืองบ้าง
ตามระดับความลึกของภาษาท่ีเขาถามมา ตกเย็นเราได้โอกาสท่ีดีกว่าประเทศอ่ืน
น่ันคอื ไดเ้ ข้าเฝ้าและถวายชอ่ ดอกไม้ให้กับคงิ และควนี แหง่ สวีเดน
เรามาไกลมากกว่าท่ีเราคิดไว้ และเราก็ท�ำได้จริงตามความฝัน เมื่อมุ่งมั่น
ฝันก็เป็นจริง เราก้มลงกราบขอบพระคุณครูท้ังสองท่าน เราติดตามข่าว
ในประเทศไทย พบว่า เปน็ ท่ีตน่ื เต้นของคนท้ังประเทศ ข่าวท่ีเป็นข่าวของพวกเรา
มีคนเขา้ ชมจำ� นวนมาก
32 • การพฒั นาผู้เรยี นใหเ้ ปน็ นกั ประดษิ ฐ์
ทั้งหมดน้ีคือ การเดินทางสู่ความส�ำเร็จของนักเรียนสามคนท่ีค่อย ๆ
งอกงาม มีกระบวนการคิดกระบวนการทำ� งานท่ีมตี น้ แบบ มกี ระบวนการกลมุ่ ที่ดี
สมาชิกทกุ คนมีบทบาท มีส่วนร่วม และท่ีส�ำคัญไม่หยุดตามฝัน สง่ิ ทีท่ ้ังสามคนนีม้ ี
คือ ความประทบั ใจ ท่ที ำ� ให้เขาต่ืนขนึ้ มาดว้ ยพลังแหง่ หวั ใจท่ีจะทำ� มนั และท�ำดว้ ย
“หัวใจของพระมหาชนก” เพียรพยายามจนประสบความส�ำเร็จ จึงเป็นอีกหน่ึง
บทเรียนท่ีควรค่าแกก่ ารเป็นตน้ แบบทด่ี งี ามให้กับหลาย ๆ คน
การพฒั นาผู้เรยี นให้เปน็ นกั ประดษิ ฐ์ • 33
วเิ คราะหบ์ ทเรียน
เมื่อท่านได้ศึกษาบทเรียนเร่ืองนวัตกรรมกักเก็บน้�ำเลียนแบบสับปะรดสี
แล้ว โปรดสะท้อนบทเรียนโดยตอบค�ำถามตอ่ ไปนี้
1. ครจู ัดการเรียนรู้โดยผเู้ รียนเป็นศูนย์กลางอย่างไร
................................................................................................................................
................................................................................................................................
2. ครอู อกแบบการจดั การเรียนรู้อย่างเปน็ ระบบอย่างไรบ้าง
................................................................................................................................
................................................................................................................................
3. ทักษะที่ครูตอ้ งฝกึ ให้ผู้เรยี นเพื่อเปน็ นักประดิษฐ์ มีอะไรบ้าง
................................................................................................................................
................................................................................................................................
4. คณุ ลกั ษณะของนกั ประดิษฐ์จากบทเรยี นนีค้ ืออะไร
................................................................................................................................
................................................................................................................................
5. ผู้เรียน เรียนรผู้ า่ นการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม (Activity Base Learning) และทำ� ให้
ผู้เรยี นสามารถสรา้ งองค์ความรูด้ ว้ ยตนเอง อยา่ งไรบา้ ง
................................................................................................................................
................................................................................................................................
6. ครูเป็นที่ปรึกษา (coach) ผู้อ�ำนวยให้เกิดการเรียนรู้ (Learning Facilitator)
เปน็ ผสู้ นับสนุนผใู้ หก้ ำ� ลงั ใจ (cheer up) ใหผ้ ้เู รยี นคดิ ส่งิ ประดษิ ฐ์ไดอ้ ย่างไรบา้ ง
................................................................................................................................
................................................................................................................................
7. ทา่ นจะประยกุ ตบ์ ทเรยี นเรอ่ื งนไ้ี ปใชเ้ ปน็ แนวทางในการจดั การเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นา
ทักษะและคณุ ลักษณะ นกั ประดษิ ฐ์ใหก้ บั ผเู้ รียนของท่านอยา่ งไร
................................................................................................................................
................................................................................................................................
34 • การพฒั นาผเู้ รียนให้เปน็ นกั ประดษิ ฐ์
เร่อื งท่ี 2 การจัดการเรยี นรขู้ องครดู วงพร สาลีตดิ และเรอ่ื ง
เลา่ การสรา้ งสง่ิ ประดษิ ฐข์ องนกั เรยี นเรอื่ ง ชดุ อปุ กรณต์ ดั ไมห้ นาม
โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มธั ยมศึกษา เขต 8
“สง่ิ ประดิษฐ์ที่ดี
ต้องตอบโจทยป์ ญั หาได”้
“การท�ำสิ่งประดิษฐ์ไมย่ าก
แตต่ ้องวางแผนการทำ� งานดี ๆ”
ภาพยนตร์สั้น การจัดการเรียนรแู้ ละการสร้างสงิ่ ประดิษฐ์
เรอื่ ง ชุดอปุ กรณต์ ัดไมห้ นาม
ความเปน็ มา
โรงเรยี นเบญจมราชูทิศ ราชบรุ ี เป็นโรงเรยี นมธั ยมศึกษาขนาดใหญ่พเิ ศษ
และเป็นโรงเรียนเครือข่ายโรงเรียนในราชการที่ 6 ประจ�ำจังหวัดราชบุรี สังกัด
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เป็นโรงเรียน
ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจ้าอย่หู ัว รชั กาลที่ 6 ไดเ้ สด็จฯ มาทรงประกอบ
การพฒั นาผเู้ รียนให้เป็นนกั ประดษิ ฐ์ • 35
พิธีเปิดและพระราชทานนามว่า “เบญจมราชูทิศ” แปลว่า อุทิศแด่พระราชา
องค์ท่ี 5 ต้ังอยู่เลขท่ี 96 ถนนมนตรีสุริยวงศ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี
เปิดทำ� การสอนตงั้ แตร่ ะดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1-6
จังหวัดราชบุรีเป็นศูนย์กลางในด้านอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร
เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผักผลไม้เศรษฐกิจนานาชนิด มีศูนย์กลางตลาดผักผลไม้
ในภูมิภาค โดยเป็นหน่ึงในตลาดกลางสินค้าการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหน่ึง
ของประเทศไทย ประชากรส่วนใหญจ่ ะประกอบอาชีพทางดา้ นเกษตรกรรม ท�ำไร่
ท�ำสวน ครูดวงพร สาลีติดจึงเกิดแรงบันดาลใจในการที่จะน�ำทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ท่ีได้จัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนมาใช้ ให้เกิดประโยชน์
ให้นักเรียนได้คิดประดิษฐ์วัสดุอุปกรณ์ที่สามารถน�ำมาใช้ประโยชน์ทางด้าน
การเกษตรกรรม
ดังน้ันจึงให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยให้ศึกษา
ปญั หาทสี่ นใจ วางแผน คิดค้น ออกแบบส่งิ ประดษิ ฐใ์ หม่ ๆ ท่จี ะสามารถช่วยเหลอื
เกษตรกรของราชบุรีด้านความสะดวก ความปลอดภัยในด้านการประกอบ
อาชีพเกษตรกรรม ซ่ึงนักเรียนได้ไปศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูลสิ่งประดิษฐ์
ที่สนใจและน�ำมาเสนอ เพื่อด�ำเนินการออกแบบและประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ที่สนใจ
ต่อไป
วัตถปุ ระสงค์
1. เพ่อื ให้นกั เรยี นมคี วามรู้ ประสบการณ์ ความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์
2. เพอื่ ประดษิ ฐอ์ ปุ กรณท์ สี่ ามารถชว่ ยเหลอื เกษตรกรในดา้ นความสะดวก
และความปลอดภยั
3. เพื่อพฒั นาการเรยี นรแู้ ละใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์
การจดั การเรยี นรู้
การจัดการเรียนรูใ้ นการจดั ทำ� สิ่งประดษิ ฐ์ชุดอุปกรณ์ตดั ไมห้ นาม (Thorn
flower & spiny plant cutting set) ใชก้ ระบวนการจดั การเรียนรู้แบบ PDCAS
เพอ่ื ให้การจัดการเรยี นรู้เปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์ สามารถสรปุ เปน็ แผนผงั ขัน้ ตอน
การจัดกระบวนการสรา้ งส่ิงประดิษฐ์ ดังน้ี
36 • การพัฒนาผู้เรียนใหเ้ ป็นนกั ประดษิ ฐ์
ข้นั วางแผน(Plan) ระดมความคดิ วิเคราะหปญหา สํารวจสภาพปญ หาของทองถน่ิ ของจังหวดั
ข้นั ดาํ เนินการ (Do) ราชบรุ ี ซึ่งประชากรสว นใหญจ ะประกอบอาชีพเกษตรกร จะตองมกี ารตัดกิง่
การเกบ็ เกีย่ ว การดูแลรกั ษา เพ่ือใหผ ลผลติ ทางดานการเกษตรมีคุณภาพและมี
ขั้นประเมินผล ความปลอดภัยในขณะทํางาน ครูและนักเรยี นรวมกันวางแผนการดําเนินงาน
1. ศกึ ษาขอมูลและวธิ กี ารดําเนินการ
(Check) 2. นําขอมลู มาวิเคราะหความเปน ไปไดในการจัดทําอุปกรณส ิง่ ประดิษฐ
3. เตรยี มวัสดุ อุปกรณ เพอื่ นาํ มาประกอบเปนช้นิ งาน
ไม่ผ่าน 4. ประกอบอุปกรณส่งิ ประดษิ ฐ
5. นําอุปกรณส ิง่ ประดิษฐม าทดลองใช
ผ่าน 6. นําอปุ กรณส่งิ ประดิษฐไปเผยแพรสชู ุมชน
ขั้นปรบั ปรุงและพฒั นา นําผลการประเมินความพึงพอใจมาปรับปรงุ /พฒั นาชิ้นงานใหม ปี ระสิทธิภาพมาก
(Action) ขึน้
นําอุปกรณส่งิ ประดิษฐไ ปเผยแพรมกี ารประเมนิ
ข้นั เผยแพรผลงาน ความพงึ พอใจของผูใช
(Share) การสง ชิ้นงานสง่ิ ประดิษฐช ดุ อุปกรณต ัดไมหนาม (Thorn Flower & spiny plant
cutting set)เขา ประกวดในระดับชาติ และระดับนานาชาติจนไดรับรางวัลรางวัล
เหรียญทอง และรางวัลคะแนนรวมสงู สุดดานอาหารและการเกษตร จากการ
ประกวดเวทีนานาชาติ International Exhibition For Young Invertors
2017 ณ เมืองนาโกยา ประเทศญ่ีปุน
แผนผงั ท่ี 1 ขั้นตอนการจัดการเรียนรแู้ บบ PDCAS
แผนผงั ท่ี 1 ขนั้ ตอนการจดั การเรียนรแู บบ PDCAS
ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้
1. ครูให้ความรู้เก่ียวกับทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แก่นักเรียน
กลุ่มเป้าหมายในชั้นเรียน ซึ่งเป็นหัวข้อหนึ่งในบทเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ช้ัน
มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
การพฒั นาผ้เู รียนให้เปน็ นกั ประดิษฐ์ • 37
2. ฝึกให้นักเรียนน�ำทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ โดยให้
นักเรียนแบ่งกลุ่มๆละ 5-6 คน โดยในกลุ่มจะมีนักเรียน เก่ง กลาง อ่อน
คละกัน และให้นักเรียนทุกคนในแต่ละกลุ่มไปค้นหาปัญหาที่กลุ่มตนเองสนใจ
โดยครูให้แนวทางว่า “ปัญหาที่นักเรียนจะศึกษาควรเป็นปัญหาเกี่ยวกับ
สภาพแวดล้อมทอ่ี ยภู่ ายในจงั หวดั หรือชมุ ชนท่ีนักเรียนอาศยั อยู่”
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มน�ำเสนอปัญหาของแต่ละคนในกลุ่ม แล้ว
คัดเลือกปัญหา โดยครูให้แนวทางในการคัดเลือกปัญหาของแต่ละกลุ่มว่า
ตอ้ งสามารถท�ำไดจ้ ริงและเกิดประโยชน์
4. ใหน้ กั เรยี นน�ำปญั หามาฝกึ ใชท้ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดย
ใหน้ ักเรียนฝึกตั้งวัตถปุ ระสงคข์ องการแกป้ ัญหา ฝึกตงั้ สมมติฐาน ระบุวสั ดุอปุ กรณ์
ทจี่ ะใช้ ใหน้ กั เรยี นออกแบบการทดลอง ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั จิ รงิ โดยมคี รู ผปู้ กครอง
คอยให้ค�ำแนะน�ำ
5. ให้นักเรยี นนำ� ชน้ิ งานทไี่ ด้ไปทดลองใชใ้ นสถานการณ์จรงิ
6. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มน�ำชิ้นงานของตนเองมาน�ำเสนอให้ครูและเพ่ือน
ในช้ันเรยี น
7. ครูคัดเลือกชิ้นงานเพื่อส่งนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขัน โดยครูศึกษาหา
ข้อมลู เกณฑ์ รายการการแขง่ ขนั บนเวทีตา่ ง ๆ เพ่ือนำ� มาพิจารณาคดั เลือกชิน้ งาน
นักเรยี น
8. ครแู ละผปู้ กครองชว่ ยกนั ฝกึ ซอ้ มนกั เรยี นชว่ งหลงั เลกิ เรยี น วนั หยดุ เสาร-์
อาทิตย์ โดยการน�ำชน้ิ งานมาทดลองใชจ้ ริงและฝึกการน�ำเสนอ เพอ่ื ปรับปรงุ และ
พฒั นาชิ้นงานตอ่ ไป
9. นกั เรยี นนำ� ชน้ิ งานไปเผยแพร่ โดยใหเ้ กษตรกรทปี่ ลกู พชื ในชมุ ชนนำ� ไป
ทดลองใช้จรงิ
10. ส�ำรวจความพงึ พอใจในการใช้งาน
11. สง่ นกั เรยี นเข้าแข่งขนั
38 • การพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ป็นนักประดษิ ฐ์
ผลจากการจดั การเรียนรู้ นักเรียนสามารถสรา้ งสงิ่ ประดษิ ฐ์
หลายช้นิ งาน ดังน้ี
เครื่องให้อาหารปลายี่สก เคร่ืองรดน้�ำ อุปกรณ์ให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ
อุปกรณร์ ดน�ำ้ ตน้ ไมอ้ ตั โนมตั ิ
เครอ่ื งแยกนำ้� สะอาด เครอ่ื งปอกผลไม้ อปุ กรณ์ตดั ไมห้ นาม เคร่อื งลา้ งผัก
รองเทา้ ปลอดภัย ไม้เท้าวิเศษ
เครอ่ื งกรองน้ำ� เครื่องผ่อนแรงการเปิดถังแกส๊ อปุ กรณแ์ ยกเหรียญ ตูอ้ บ
พลังงานแสงอาทติ ย์
ส่ิงประดิษฐ์ ชุดอุปกรณ์ตัดไม้หนาม เกิดข้ึนเพราะต้องการแก้ปัญหาให้
เกษตรกรผู้ท�ำสวนชะอม การป้องกันการถูกหนามต�ำมือ นักเรียนทั้งสองคน คือ
กชั บงกช หมอทรพั ย์ และลลนา ศรีสงคราม จงึ ชว่ ยกันคดิ วา่ ควรมอี ุปกรณ์อะไร
ชว่ ยในการเดด็ รดู ชะอม ไมใ่ หห้ นามตำ� มอื ได้ นกั เรยี นทงั้ สองคนมาปรกึ ษาอาจารย์
ดวงพร ครผู สู้ อนวทิ ยาศาสตร์ ครูจึงใหน้ ักเรียนทั้งสองคนไปวางแผนการด�ำเนินงานต่อ
โดยมคี รเู ปน็ ทปี่ รกึ ษา ใหค้ ำ� แนะนำ� การแกป้ ญั หา และยนิ ดใี หค้ วามชว่ ยเหลอื ในทกุ เรอ่ื ง
นักเรียนทั้งสองคนช่วยกันคิดและวางแผนการด�ำเนินงาน เม่ือมาถึงข้ันตอน
การออกแบบอปุ กรณต์ ดั กงิ่ ชะอมนกั เรยี นจำ� ไดว้ า่ สวนชะอมหนา้ บา้ นสงู เหนอื ศรี ษะ
อปุ กรณต์ อ้ งยาว จะไดไ้ มต่ อ้ งโนม้ กง่ิ และเพอ่ื ปอ้ งกนั การถกู หนามตำ� มอื สว่ นอปุ กรณ์
เด็ดรดู ตอ้ งติดอยู่ด้วยกนั แมจ้ ะมหี น้าทต่ี ่างกันเพือ่ สะดวก ในการใช้งาน
นักเรียนทั้งสองคนใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการออกแบบ ส่วนการจัดท�ำ
ชดุ อปุ กรณต์ น้ แบบ นกั เรยี นไดป้ รกึ ษาคณุ พอ่ เพราะคณุ พอ่ มคี วามรเู้ ชงิ ชา่ ง อปุ กรณ์
ตัดรุ่นแรกไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ประเมินจากการให้คุณปู่เหน่งซึ่งเป็นคุณปู่ของ
กัชบงกชทดลองใช้ เพราะยาวไม่สะดวกในการใช้งาน นักเรียนต้องกลับไปคิด
แก้ปัญหาใหม่ จึงได้รุ่นท่ีสอง ส่วนอุปกรณ์เด็ดรูดไม่ต้องแก้ไขเพราะใช้งานได้ดี
อปุ กรณต์ ดั ออกแบบโดยอาศยั หลกั การทำ� งานแบบกรรไกรตดั ซกิ าร์ (cigar cutter)
ส่วนอุปกรณ์เด็ดรูดอาศัยหลักการท�ำงานของกรรไกรแบบเชือกกระตุก (belt
cutter) เมื่อจัดท�ำชุดอุปกรณ์ต้นแบบเสร็จ น�ำไปทดลองใช้ไม่มีปัญหาต้องแก้ไข
จึงด�ำเนินการขั้นต่อไปคือจัดท�ำช้ินงานจริง ซ่ึงต้องพึ่งมืออาชีพ ตลอดระยะเวลา
การพัฒนาผู้เรยี นใหเ้ ปน็ นกั ประดษิ ฐ์ • 39
อุปกรณ์ตดั ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร เ มื่ อ นั ก เรี ย น
ท้ังสองคนรายงานให้ครูดวงพร
รุ่นที่ 1 มุ่งเน้นการตัด ทราบตลอด ในการประดษิ ฐอ์ ปุ กรณน์ ้ี
บริเวณสูงๆ แต่เกษตรกร ผู้ปกครองนักเรียนซึ่งเป็นคุณพ่อ
ไมพ่ ึงพอใจ เพระขาดความ ของกัชบงกช มีญาติพี่น้องเป็น
คลอ่ งตัวในการใชง้ าน อาจารยอ์ ยทู่ วี่ ทิ ยาลยั เทคนคิ ราชบรุ ี
แผนกช่างเชื่อม จึงเป็นโอกาสท่ี
รนุ่ ท่ี 2 มงุ่ เนน้ ความกระชบั
ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
ท�ำด้วยท่อ PVC และใบ ท�ำให้นักเรียนทั้งสองคนได้อุปกรณ์
มดี cutter ตัวจริงที่ตรงตามความต้องการและ
รุ่นท่ี 3 ทุกช้ินส่วนของ ใช้เวลาไม่นาน วัสดุที่ใช้เป็น
อปุ กรณเ์ ปน็ สเตนเลสทง้ั หมด สแตนเลสเพ่ือป้องกันการเกิดสนิม
ไม่เป็นสนิมการยึดติดใช้วิธี และใช้การเช่ือมประสาน ไม่ได้ใช้
การเชื่อมประสาน ใบมีดท่ี ก า ว อ ย ่ า ง ชุ ด อุ ป ก ร ณ ์ ต ้ น แ บ บ
ใชเ้ ปน็ cigar cutter ท่ีผู้ปกครองท�ำให้ราคาต้นทุนของ
อุปกรณ์รดู อุปกรณต์ ดั 300 บาท ส่วนอปุ กรณ์
เด็ดรดู ราคา 45 บาท
รนุ่ ท่ี 1 ตัวหว่ งใชท้ อ่ PVC , ตัวแหนบและตัวรดี คุณลักษณะที่พบของผู้เรียน
เป็นเหล็ก มีโอกาสเป็นสนิม การยึดติดใช้กาว ท่ีจะเป็นนกั ประดษิ ฐ์ จากการ
เป็นส่วนใหญ่
สงั เกตนกั เรยี นทจี่ ะคดิ สง่ิ ประดษิ ฐไ์ ด้
รนุ่ ที่ 2 นกั เรยี นจะมคี ณุ ลกั ษณะ และทกั ษะ
ทกุ ชน้ิ สว่ นของอปุ กรณเ์ ปน็ ดังน้ี
สเตนเลสท้ังหมด ไม่เป็น กลา้ คดิ ทำ� สงิ่ ใหม่ๆ ทดลอง
สนิม การยึดติดใช้วิธีการ ความคดิ สามารถยอมรบั ความผดิ พลาด
เชื่อมประสาน ใช้ได้ทั้งผู้ และมคี วามเพยี รพยายามทจี่ ะทำ� งาน
ถนดั ซา้ ยและขวา ให้ส�ำเร็จ มีทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ และ ทักษะ
การคดิ
40 • การพัฒนาผูเ้ รียนให้เป็นนกั ประดษิ ฐ์
นกั เรยี นทคี่ ดิ สงิ่ ประดษิ ฐไ์ ด้ จะเกดิ ความภาคภมู ใิ จ สนใจเรยี นรกู้ ระบวนการ
คิดสิ่งประดิษฐ์ และกล้าคิดท�ำส่ิงประดิษฐ์เพ่ือใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือเกษตรกร
ให้ได้รับความสะดวกและความปลอดภัย ในขณะเดียวกันนักเรียนได้รับค�ำช่ืนชม
มีความภาคภูมิใจ ชุดอุปกรณ์ตัดไม้หนามนี้ ได้รับรางวัลจากการประกวด
สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ระดับประเทศ ท่ีส�ำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการ
ศึกษา ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานจัดข้ึน และได้รับคัดเลือกให้
ไปประกวดยังประเทศญ่ีปุ่น ได้รางวัลเหรียญทอง และรางวัลคะแนนรวมสูงสุด
ด้านอาหารและการเกษตร จากการประกวดเวทีนานาชาติ International
Exhibition For Young Inventors 2017 ณ เมืองนาโกยา ประเทศญ่ปี นุ่ ด้วย
เมื่อได้รับรางวัลแล้ว โรงเรียนได้จัดนิทรรศการเผยแพร่ผลงานให้คณะครูและ
นักเรยี นของโรงเรยี นเบญจมราชูทศิ ราชบุรี นอกจากนี้ การคิดสิ่งประดิษฐ์นส้ี ง่ ผลให้
คณะกรรมการประเมินนักเรียนรางวัลพระราชทาน ชื่นชมและประเมินให้ได้รับ
รางวลั นักเรยี นพระราชทานระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประจ�ำปีการศึกษา 2560
ปัจจยั ทท่ี ำ� ใหป้ ระสบความสำ� เรจ็
ครู ครใู หค้ วามรเู้ กยี่ วกบั ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรก์ บั นกั เรยี น
กลุ่มเป้าหมาย ในช้ันเรยี น
นักเรยี น นักเรียนชว่ ยกนั คดิ และวางแผนการด�ำเนนิ งาน
ผูป้ กครอง ผู้ปกครองให้การสนับสนุนในการประดิษฐ์อุปกรณ์ท่ีตรงตามความ
ต้องการและใช้เวลาไม่นาน
ขอ้ คดิ …
เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมมีน้อยแต่นักเรียนก็มีความมานะพยายาม
อยา่ งเต็มท่ี และอุปกรณท์ ่ใี ช้ประดิษฐ์บางชนดิ ราคาค่อนข้างสูง
การสร้างสงิ่ ประดษิ ฐท์ างวิทยาศาสตร์ ควรมผี มู้ ีความรู้ ผูเ้ ชย่ี วชาญให้มากข้ึน
และมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ได้ช้ินงานท่ีมากขึ้น และมีประสิทธิภาพสามารถ
ส่งเขา้ แขง่ ขันได้อย่างตอ่ เนอ่ื ง
การพฒั นาผเู้ รียนใหเ้ ปน็ นกั ประดิษฐ์ • 41
เรื่องเล่าการสร้างส่ิงประดิษฐ์ของนักเรียน เร่ือง ชุดอุปกรณ์
ตัดไม้หนาม (Thorn flower & spiny plant cutting set)
โรงเรยี นเบญจมราชทู ิศ อ�ำเภอเมอื ง จงั หวัดราชบุรี
รางวัลที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง และรางวัลคะแนนรวมสูงสุด
ด้านอาหารและการเกษตร จากการประกวดเวทีนานาชาติ
International Exhibition For Young Inventors 2017
ณ เมอื งนาโกยา ประเทศญี่ปนุ่
เดก็ หญิงกัชบงกช หมอทรัพย์ เดก็ หญิงลลนา ศรีสงคราม
ผลงานสงิ่ ประดษิ ฐท์ างวทิ ยาศาสตร์
“ชุดอปุ กรณต์ ดั ไม้หนาม” Thorn flower &
spiny plant cutting set จัดท�ำขึ้นเพอ่ื ตัด
เก็บพืชท่ีมีหนาม ได้แก่ ชะอม กุหลาบ
ภาพท่ี 1 ชุดอปุ กรณต์ ัดไมห้ นาม โปย๊ เซยี น ปอ้ งกนั ไมใ่ หห้ นามตำ� มอื โดยเฉพาะ
ชะอม นอกจากจะมีอุปกรณ์ในการตัดเก็บแล้วยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการเด็ดรูด
ซ่ึงมี 2 ชิ้น ส�ำหรับผู้ถนัดมือซ้ายหรือมือขวาให้เลือกใช้ ความจริงอุปกรณ์ชุดน้ี
ในการแข่งขันคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนประเทศได้น�ำไปใช้กับชะอมอย่างเดียว
จงึ ใช้ชือ่ วา่ “ชะอม...จบิ๊ จบ๊ิ ” เมือ่ ได้รับเลือกเป็นตวั แทนประเทศจ�ำเปน็ ตอ้ งปรบั
ให้เข้ากับบริบทของประเทศญี่ปุ่นจึงปรับเน้ือหาการน�ำเสนอและเปล่ียนช่ือ
ส่ิงประดษิ ฐใ์ หม่เป็นชุดอุปกรณต์ ัดไม้หนาม
42 • การพัฒนาผเู้ รยี นให้เปน็ นักประดิษฐ์
ใบเตย หรอื กัชบงกช หมอทรพั ย์ นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 สาวน้อย
ผมู้ ปี ระสบการณก์ ารจดั ทำ� สง่ิ ประดษิ ฐว์ ทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตรห์ ลายชน้ิ ตงั้ แต่
สมัยเรียนอยู่ช้ันประถมศึกษา ด้วยความเป็นเด็กช่างสังเกต ช่างสงสัย และชอบ
จินตนาการ จึงมักได้รับการคัดเลือกจากอาจารย์ให้ลงแข่งขันในเวทีส่ิงประดิษฐ์
หลายเวที และเคยผา่ นการแข่งขันเวทสี ่งิ ประดษิ ฐใ์ นระดบั นานาชาติมาแล้ว มีไหวพริบ
ในการแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ สำ� หรบั แรงจงู ใจของใบเตยในการเขา้ รว่ มแขง่ ขนั ในครงั้
นี้คือ ประเทศญ่ีปุ่นเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน เพราะประเทศญ่ีปุ่นเป็น
ประเทศท่ีริเริ่มจัดการแข่งขันส่ิงประดิษฐ์วิทยาศาสตร์เวที IEYI ใคร ๆ ก็ทราบว่า
ประเทศญ่ีป่นุ มกั มีความคดิ แนวคดิ ทนี่ า่ สนใจในเรื่องสง่ิ ประดษิ ฐม์ าโดยตลอด
“ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะประดิษฐ์อะไรดี แต่เราต้องหาสมาชิกทีมก่อน”
ใบเตยคดิ
“เลอื กใครดนี ะ” ใบเตยใชเ้ วลา 2-3 วันในการชักชวนเพอ่ื นร่วมหอ้ งเข้าทมี
แต่ผู้ท่ีตอบตกลงคือ หัวหน้าห้องคนเก่ง ดีกรี 4.00 ทุกเทอม เธอชื่อ นานา
หรือ ลลนา ศรสี งคราม เธอเปน็ เดก็ สาวผ้มู คี วามมุ่งมน่ั ตัง้ ใจ แม้ขาดประสบการณ์
ในการท�ำส่ิงประดิษฐ์ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของใบเตย ส�ำหรับอาจารย์ที่ปรึกษาทีม
คงไม่พ้นอาจารย์ดวงพร สาลตี ิด เพราะอาจารยม์ ีประสบการณ์เป็นอย่างดี เมือ่ ปที แี่ ลว้
อาจารยแ์ ละใบเตยไดเ้ ขา้ รว่ มแขง่ สง่ิ ประดษิ ฐว์ ทิ ยาศาสตรง์ าน Asian Young Inventors
Exhibition (AYIE) 2016 ทีป่ ระเทศมาเลเซีย
หลังจากตกลงร่วมทีมกัน สองสาวใบเตยและนานาก็มักจะปรึกษาหารือ
เรอื่ งสง่ิ ประดษิ ฐท์ จ่ี ะจดั ทำ� อยหู่ ลายสปั ดาห์ จนกระทงั่ วนั หนง่ึ ขณะทใี่ บเตยไปเยย่ี ม
คุณปู่และเห็นบริเวณหน้าบ้านคุณปู่มีสวนชะอมท่ีงามมาก ต้นสูงเกือบ 2 เมตร
ใบเตยเห็นคุณปู่เหน่ง เกษตรกรเจ้าของสวนชะอม ซึ่งสนิทสนมคุ้นเคยกับคน
ในครอบครวั ใบเตยเป็นอย่างดีกำ� ลงั เก็บชะอมโดยใชก้ รรไกรตัดกิ่งไม้ และต้องสวม
ถุงมอื เพอ่ื ปอ้ งกันหนามชะอม ทันใดนน้ั ใบเตยก็นกึ ออกแล้ววา่ เธอกบั นานาจะทำ�
สงิ่ ประดษิ ฐอ์ ะไรเข้าแขง่ ขัน
ในกระบวนการการจัดท�ำส่ิงประดิษฐ์ มักเริ่มจากมีปัญหาที่เราต้องการ
แก้ไขโดยน�ำสง่ิ ประดษิ ฐท์ ีไ่ ดม้ าใช้ จากน้นั วางแผนรวมถงึ การออกแบบสิง่ ประดิษฐ์
การจัดทำ� สงิ่ ประดิษฐ์ การประเมินผลโดยการทดลองนำ� ไปใช้จรงิ ถา้ ยังไมส่ ามารถ
การพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ นักประดิษฐ์ • 43
แกป้ ญั หาไดด้ ี ต้องมาปรบั แก้ส่ิงประดิษฐ์น้ันใหมเ่ พือ่ ใหส้ มบูรณ์ทสี่ ดุ และแน่นอน
ใบเตยก็น�ำแนวคิดนีม้ าใช้ในการจัดท�ำสิง่ ประดิษฐข์ องเธอ
ใบเตยบอกนานาว่า ตอนนี้เธอต้องการแก้ปัญหาให้เกษตรกรผู้ท�ำสวน
ชะอม เพือ่ ปอ้ งกันการถกู หนามตำ� มือ นานาเห็นดว้ ยและเสนอใบเตยวา่ เราควรมี
อุปกรณ์ช่วยในการเด็ดรูดชะอมด้วย เพราะการเด็ดรูดก็ท�ำให้หนามท่ิมต�ำมือได้
ใบเตยพยักหน้ารับ ทั้งสองชวนกันไปหาอาจารย์ดวงพรเพ่ือแจ้งให้ทราบ อาจารย์
ดวงพรรับทราบและบอกให้นักเรียนท้ังสองคนไปวางแผนการด�ำเนินงานต่อ
อาจารย์ดวงพรให้ก�ำลังใจนานาในฐานะนักประดิษฐ์หน้าใหม่ และเปิดโอกาสให้
ท้งั คู่ปรกึ ษาปญั หาและยินดีให้ความช่วยเหลอื ในทุกเร่อื ง
ใบเตยและนานาต่างช่วยกันคิดและวางแผนการด�ำเนินงาน เมื่อมาถึง
ขน้ั ตอนการออกแบบอปุ กรณต์ ดั กง่ิ ชะอมใบเตยจำ� ไดว้ า่ สวนชะอมหนา้ บา้ นสงู เหนอื
ศีรษะ อุปกรณ์ต้องยาว จะได้ไม่ต้องโน้มกิ่งเพื่อป้องกันการถูกหนามต�ำมือ ส่วน
อุปกรณเ์ ดด็ รดู ตอ้ งตดิ อยู่ด้วยกันแม้จะมีหนา้ ทตี่ า่ งกนั เพ่อื สะดวกในการใช้งาน
ทั้งสองใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการออกแบบ ส่วนการจัดท�ำชุดอุปกรณ์
ต้นแบบ ใบเตยตอ้ งปรกึ ษาคณุ พอ่ เพราะคุณพ่อมคี วามรู้เชิงช่างอยบู่ า้ ง อปุ กรณ์ตดั
รนุ่ แรกไมส่ ามารถตอบโจทยไ์ ด้ ประเมนิ จากการใหค้ ณุ ปเู่ หนง่ ทดลองใช้ เพราะยาว
ไม่สะดวกในการใช้งาน ใบเตยต้องกลับไปคิดแก้ปัญหาใหม่ จึงได้รุ่นที่สอง ส่วน
อปุ กรณเ์ ดด็ รดู ไมต่ อ้ งแกไ้ ขเพราะใชง้ านไดด้ ี ใบเตยบอกวา่ อปุ กรณต์ ดั ออกแบบโดย
อาศัยหลกั การท�ำงานของ cigar cutter สว่ นอปุ กรณเ์ ด็ดรูดอาศัยหลักการท�ำงาน
ของ belt cutter เมอื่ จดั ทำ� ชดุ อปุ กรณต์ น้ แบบเสรจ็ นำ� ไปทดลองใชไ้ มม่ ปี ญั หาตอ้ ง
แกไ้ ข ขน้ั ตอ่ ไปคอื จดั ทำ� ชนิ้ งานจรงิ ซง่ึ ตอ้ งพง่ึ มอื อาชพี ตลอดระยะเวลาการดำ� เนนิ
การสองคนรายงานให้อาจารย์ดวงพรทราบตลอด อาจารย์ดวงพรได้แต่ย�้ำเร่ือง
ส�ำคัญอกี เรื่องทีบ่ างคร้งั ใบเตยก็มกั มองขา้ มไป
44 • การพฒั นาผู้เรยี นใหเ้ ป็นนกั ประดษิ ฐ์
“เมื่ออุปกรณ์เสร็จ อย่าลืมเก็บข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานนะคะ
เพ่ือสร้างความน่าเชื่อถือ การประเมินผลที่ดีไม่ควรใช้ความรู้สึก” อาจารย์ดวงพร
แนะน�ำสองสาว
คุณพ่อพาใบเตยไปพบพี่วิทย์ เป็นอาจารย์อยู่ท่ีวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี
แผนกชา่ งเชอ่ื ม จงึ เปน็ โอกาสเหมาะทท่ี ำ� ใหใ้ บเตยและนานาไดอ้ ปุ กรณต์ วั จรงิ ทตี่ รง
ตามความตอ้ งการและใชเ้ วลาไมน่ าน วสั ดทุ ใ่ี ชเ้ ปน็ สเตนเลสเพอื่ ปอ้ งกนั การเกดิ สนมิ
และใช้การเชื่อมประสาน ไม่ได้ใช้กาวอย่างชุดอุปกรณ์ต้นแบบที่คุณพ่อท�ำให้
ราคาต้นทุนของอปุ กรณต์ ัด 300 บาท สว่ นอปุ กรณ์เด็ดรูดราคา 45 บาท
อปุ กรณต์ ดั
รนุ่ ที่ 1 มงุ่ เน้นการตัดบรเิ วณสูงๆ ร่นุ ที่ 2 มุ่งเน้นความกระชบั ใช้ รุ่นท่ี 3 ทุกชน้ิ สว่ นของอุปกรณ์
แตเ่ กษตรกรไมพ่ ึงพอใจ เพราะ งานงา่ ย พกพาสะดวก ท�ำด้วย เปน็ สเตนเลสทัง้ หมด ไมเ่ ป็นสนมิ
ขาดความคล่องตัวในการใช้งาน ท่อ พีวซี ี และใบมีดคัตเตอร์ การยดึ ตดิ ใชว้ ธิ ีการเช่อื มประสาน
ใบมดี ท่ีใช้เป็นแบบกรรไกรตดั
ซกิ าร์ (cigar cutter)
อุปกรณเ์ ด็ดรดู
รุน่ ท่ี 1 ตวั หว่ งใช้ท่อ พวี ีซี , ตวั แหนบและ รุ่นที่ 2 ทุกชน้ิ ส่วนของอปุ กรณเ์ ป็นสเตนเลส
ตวั รดี เปน็ เหล็ก มโี อกาสเป็นสนิม การยดึ ท้ังหมด ไม่เปน็ สนิม การยดึ ติดใชว้ ธิ ีการเชอื่ ม
ติดใชก้ าวเปน็ สว่ นใหญ่ ประสาน ใช้ไดท้ งั้ ผ้ถู นัดซ้ายและขวา
ภาพที่ 2 การพัฒนาชดุ อปุ กรณ์
การพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ นกั ประดษิ ฐ์ • 45