The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สอน 4 มีนาคม เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by euanjit2493, 2022-03-04 14:10:55

ขุนช้างขุนแผน

สอน 4 มีนาคม เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน

เสภาเร่ือง
ขนุ ช้างขนุ ตแอผนนขนุ ช้างถวายฎีกา

ผแู้ ต่ง

• บทเสภาเรอ่ื งขนุ ชา้ งขนุ แผน มกี วเี อกหลายท่านรว่ มกนั แต่ง
สนั นษิ ฐานวา่ แต่งตงั้ แต่สมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช
•สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ ทรง
สนั นษิ ฐานวา่
- ตอน ขนุ แผนขน้ึ เรอื นขนุ ชา้ ง และตอน ขนุ แผนพานางวนั ทองหนี
เป็นพระราชนพิ นธพ์ ระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั

ผแู้ ต่ง

- ตอนขนุ ช้างขอนางพิม และ ตอนขนุ ช้างตามนางวนั ทอง
เป็นพระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั
(เมอ่ื ครงั้ ยงั ดารงพระอสิ รยิ ยศเป็นกรมหมน่ื เจษฎาบดนิ ทร)์
- ตอน กาเนิดพลายงาม เป็นสานวนของสนุ ทรภู่
- ตอน ขนุ ช้างถวายฎีกา ไมป่ รากฏนามผแู้ ตง่

กลอนเสภา

•ตอ่ มามกี ารนาเรอื่ ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน

มาแตง่ เป็ นกลอนสภุ าพ ขบั เป็ นเสภา
ใชก้ รบั เป็ นเครอื่ งประกอบจงั หวะ
มที ง้ั หมด ๔๓ ตอน
ตอนทเี่ รยี นนี้ เป็ น ตอนที่ ๓๕

ลกั ษณะคำประพนั ธ ์

• กลอนเสภาเป็ นกลอนสภุ าพ

• เสภาเป็ นกลอนเลา่ เรอื่ งอยา่ งเลา่ นิทาน

•กลอน ๑ บทมี ๔ วรรค

•กลอน ๑ คากลอน มี ๒ วรรค

0000000 00000000

0000000 00000000

กลอน ๑ บท มี ๒ คากลอน

กวีโวหาร

ถ้อยคำ สำนวน หรือลลี ำภำษำท่ีใช้ในกำรแตง่ คำประพนั ธ์
รอ้ ยกรอง อย่ำงมีศลิ ปะและสนุ ทรยี ภำพ ทท่ี ำให้บทร้อยกรอง
งดงำมด้ำนเสียงและควำมหมำย มี ๔ ประเภท

๑. เสาวรจนี

๒. นารปี ราโมทย ์

๓. พโิ รธวาทงั

๔. ศลั ปังคพไิ สย

เสาวรจนี

เสาวรจนี หมายถงึ คาประพนั ธท์ ไี่ พเราะ

• กำรแตง่ บทร้อยกรองให้มีเนือ้ ควำมชมโฉม ชมควำมงำม บุคคล
ชมธรรมชำติ ชมสตั ว์ สิ่งของ หรือสถำนทต่ี ่ำง ๆ
•อำจเปน็ ชมควำมงำมของตวั ละคร ควำมงำมของปรำสำทรำชวงั
ควำมเก่งกลำ้ ของ กษัตรยิ ์ตลอดจนพรรณนำธรรมชำติ
บำ้ นเมอื ง กองทพั ฯลฯ

เสาวรจนี

ทำ้ วทษุ ยันตช์ มควำมงำมของนำงศกุนตลำ

ดผู วิ สนิ วลละอองอ่อน มะลซิ อ้ นดูดำไปหมดสน้ิ

สองเนตรงำมกว่ำมฤคิน นำงน้ีเปนปิน่ โลกำ

งำมโอษฐ์ดังใบไมอ้ อ่ น งำมกรดังลำยเลขำ

งำมรปู เลอสรรขวญั ฟำ้ งำมย่งิ บบุ ผำแบ่งบำน

พระรำชนพิ นธ์เรอื่ ง ศกุนตลำ

เสาวรจนี

กวชี มควำมงดงำมของกรุงกุเรปัน ดำหำ กำหลัง และสิงหัดสำ่ หรี

อันส่ีธำนีรำชฐำน กว้ำงใหญ่ไพศำลนักหนำ

เทเวศร์นฤมติ ดว้ ยฤทธำ สนุกดั่งเมืองฟ้ำสรุ ำลยั

มปี รำสำททั้งสำมตำมฤดู เสด็จอยู่โดยจินดำอชั ฌำสยั

หลงั คำฝำผนังนอกใน แล้วไปดว้ ยโมรำศิลำทอง

ภเู ขำเงินรองฐำนมีมำรแบก ยอดแทรกยอดใหญไ่ ม้สิบสอง

แกว้ ไพฑรู ย์ทำเปน็ ลำยอง บญั ชรช่องชัชวำลบำนบัง

บทละครรำเร่ือง อิเหนำ

เสาวรจนี

กวชี มมา้ สหี มอก มขี วญั พาดหอกแซมขน
มา้ เอยมา้ หมอก อกใหญ่ทานทนตวั ดี
ขนี่ อ้ ยยา่ งยอ่ งอยกู่ บั ที่
หกู ระหนกยกหนา้ ยา่ งยนตร ์ แตเ่ ตน้ ถกู ถมี่ พี ยศ
ขบั ควบพรบิ ไหวไววอ่ ง ดงั หมกึ พรมหม่นมนั มรกต
เยอื้ งเทา้ ยอ่ ทา้ ยเตอื นตี เหยี้ มหา้ วทรหดปื นไฟ
แทไ้ ทยเทยี มเทศลาประสม
สนั ทดั ทที วนเลยี้ วลด ขนุ ชา้ งขนุ แผน

นารปี ราโมทย์

นำรีปรำโมทย์ หมำยถงึ ซง่ึ เป็นทย่ี ินดขี องหญิง
กำรแต่งบทร้อยกรองให้มีเน้ือควำมและท่วงทำนอง

ฝ ำ ก รั ก แ ล ะ แ ส ด ง ค ว ำ ม รั ก ต่ อ น ำ ง อั น เ ป็ น ที่ ต้ อ ง ใ จ
บทโอ้โลม เกี้ยวพำรำสีกำรแสดงควำมรัก รวมถึงบท
สังวำส

พระอภัยมณเี กี้ยวนำงละเวง นารปี ราโมทย์

ถึงมว้ ยดินส้ินฟำ้ มหำสมุทร ไม่ส้นิ สุดควำมรกั สมัครสมำน

แม้เกิดในใตฟ้ ำ้ สธุ ำธำร ขอพบพำนพศิ วำสไม่คลำดคลำ

แมเ้ นอื้ เย็นเป็นหว้ งมหรรณพ พีข่ อพบศรสี วสั ด์ิเปน็ มัจฉำ

แมเ่ ป็นบวั ตวั พ่ีเปน็ ภมุ รำ เชยผกำโกสุมปทมุ ทอง

เจำ้ เป็นถ้ำอำไพขอให้พ่ี เป็นรำชสีหส์ มสู่เปน็ คสู่ อง

จะตดิ ตำมทรำมสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพศิ วำสทกุ ชำตไิ ป

พระอภยั มณี

นารีปราโมทย์

เอยี งอกเทออกอำ้ ง อวดองค์ อรเอย
เมรุชบุ สมทุ รดินลง เลขแต้ม
อำกำศจักจำนผจง จำฤก พอฤๅ
โฉมแมห่ ยำดฟ้ำแยม้ อยรู่ อ้ นฤๅเห็น

(นิรำศนรนิ ทร์)

นารปี ราโมทย ์

พงศก์ ษตั ริย์ทัศนำนำงเงอื กนอ้ ย ดูแช่มชอ้ ยโฉมเฉลำท้งั เผ้ำผม

ประไพพักตร์ลกั ษณ์ลำ้ ลว้ นขำคม ทงั้ เนอ้ื นมนวลเปล่งออกเต่งทรวง

ขนงเนตรเกศกรออ่ นสะอำด ดังสุรำงค์นำงนำฏในวังหลวง

พระเพลนิ พิศคดิ หมำยเสยี ดำยดวง แลว้ หนักหน่วงนกึ ท่ีจะหนีไป

(พระอภยั มณี : สุนทรภ)ู่

พิโรธวาทงั

พโิ รธวำทงั หมำยถงึ ถ้อยคำทีแ่ สดงควำมโกรธ
กำรแต่งบทร้อยกรองให้มีเน้ือควำมและ ท่วงทำนอง

แสดงควำมโกรธ ตัดพ้อต่อว่ำ เสียดสีเหน็บแนม ประชด
ประชัน หรอื เยำะเย้ย เสยี ดสี

พิโรธวาทงั

พระเจ้ำอชำตศัตรูแสรง้ บริภำษวสั กำรพรำหมณ์ที่ห้ำมพระองค์ยกทัพไปปรำบกษตั ริย์ลิจฉวี

เอออเุ หม่นะมึงชิชำ่ งกระไร

ททุ ำสสถุลฉะนไี้ ฉน กม็ ำเปน็

ศึกบ่ถึงและมงึ กย็ ังมเิ ห็น

จะน้อยจะมำกจะยำกจะเยน็ ประกำรใด

อวดฉลำดและคำดแถลงเพรำะใจ

ขยำดขยน้ั มิทันอะไร กห็ มน่ิ กู

(สำมคั คเี ภทคำฉนั ท์)

พิโรธวาทงั

ขนุ แผนตดั พอ้ นำงพิมวำ่
นจิ จำเจำ้ วนั ทองนอ้ งพอี่ ำ พ่ีจำหน้ำเนื้อน้องได้ทุกแหง่

นิจจำใจชำ่ งกระไรมำแปลกแปลง เอำมือคลำแล้วยงั แคลงอยคู่ ลำ้ ยคลำ้ ย
เจำ้ ลมื นอนซ่อนพุ่มกระทมุ่ ต่ำ เดด็ ใบบอนชอ้ นน้ ำทไ่ี รฝ่ ำ้ ย
พี่เคี้ยวหมำกเจ้ำอยำกพ่ยี ังคำย แขนซำ้ ยคอดแลว้ เพรำะหนนุ นอน

(ขนุ ช้ำงขนุ แผน)

พิโรธวาทงั

ขุนแผนบริภำษนำงวันทอง

เมอ่ื แรกเชอื่ วำ่ เน้ือทบั ทิมแท้ มำแปรเปน็ พลอยหงุ ไปเสยี ได้

กำลวงว่ำหงสใ์ หป้ ลงใจ ด้วยมิได้ดูหงอนแต่ก่อนมำ

คิดวำ่ หงส์เรำจงึ หลงด้วยลำยยอ้ ม ชำ่ งแปลงปลอมทว่ งทีดีนักหนำ

ดงั รักถน่ิ มุจสนิ ท์ไมค่ ลำดคลำ คร้นั ลับตำฝูงหงสก์ ล็ งโคลน

(ขุนชำ้ งขนุ แผน)

สัลลาปงั คพสิ ัย

สลั ลำปังคพสิ ยั หมำยถึง วสิ ัยแห่งกำรรำพัน
กำรแต่งบทร้อยกรองให้มเี นอื้ ควำมและท่วงทำนอง
ครำ่ ครวญ หรือรำพันถงึ บุคคลอันเป็นท่รี กั หรือรำพันถงึ
ควำมทกุ ข์กำยทุกข์ใจ บทโศก ควำมหว่ งหำ อำลยั
อำวรณ์ กำรพลดั พรำกจำกสงิ่ ทรี่ ัก

สลั ลาปังคพิสยั

วำ่ พลำงทำงชมคณำนก โผนผกจับไม้อึงมี่
เบญจวรรณจับวลั ย์ชำลี เหมือนวนั พ่ีไกลสำมสดุ ำมำ
นำงนวลจบั นำงนวลนอน เหมอื นพีแ่ นบนวลสมรจนิ ตะหรำ
จำกพรำกจับจำกจำนรรจำ เหมือนจำกนำงสกำระวำตี

อเิ หนำ

โวหารภาพพจน์

• อปุ มา เปรียบเหมอื น เชน่ ดจุ ดัง รำวกบั
• อุปลกั ษณ์ เปรยี บเป็น เช่น คอื เป็น เทำ่
• สัญลกั ษณ์ ใชส้ ่ิงแทนโดยใหต้ คี วำม
• ปฏิปจุ ฉา คำถำมที่ไมต่ อ้ งกำรคำตอบ
• สัทพจน์ เลียนเสยี งธรรมชำติ

ยอดของกลอนสุภาพ

•กลอนเสภำเรือ่ ง ขนุ ชำ้ งขุนแผน
ซึ่งไดร้ บั กำรยกยอ่ งจำก
วรรณคดีสโมสรว่ำ
เป็นยอดของกลอนสุภาพ
ท่มี คี วำมไพเรำะ ดเี ลศิ
ท้ังเน้อื เรอ่ื งและกระบวนกลอน













ตวั ละคร

พระพจิ ติ ร
นางบษุ บาระ

พลายเพชร

พลายบวั

นายบา้ นแสนคาแมน พระยาสโุ ขทยั + นางเพญ็ จนั ทร์ หม่ืนหาญ

เจา้ เมือง
เชียงใหม่



เรือ่ งยอ่ ขนุ ชา้ งขนุ แผน

•นำงวันทอง มีช่ือเดิมว่ำ พิมพิลำไลย ซ่ึงเป็นเพ่ือนเล่นกับ พลำยแก้ว
และ ขุนชำ้ ง ในตอนเดก็
•เม่ือโตข้ึน นำงพิมได้พบกับ พลำยแก้ว อีกคร้ัง ซึ่งในตอนน้ัน พลำย
แก้ว บวชเณรอยู่ ซึ่งทั้งสองก็แอบรักใคร่ชอบพอกัน เณรแก้วจึงแอบ
สกึ และขึ้นไปหำนำงพมิ บนเรอื น
• ทำงด้ำนขุนช้ำง ซ่ึงมีฐำนะร่ำรวย แต่หน้ำตำอัปลักษณ์ก็หลงรักนำง
พมิ เชน่ กนั จงึ วอนใหน้ ำงเทพทอง (เป็นมำรดำ) ไปสขู่ อนำงพิม

เร่ืองย่อ ขุนชา้ งขนุ แผน

• นำงพิมเกรงว่ำ มำรดำตนจะรับขันหมำกของขุนช้ำง จึงให้
นำงสำยทอง (พ่ีเล้ยี ง) ไปสง่ ข่ำวให้เณรแก้ว รีบชงิ มำสูข่ อกอ่ น
• เณรแก้ว ลำสกิ ขำ และให้นำงทองประศรี มำรดำของตน ไปสู่
ขอนำงพิม ท้งั คจู่ งึ ได้แตง่ งำนกนั
• หลังเข้ำหอได้เพียงสองวัน พลำยแก้วได้รับคำสั่งให้นำทัพไป
รบกับพระเจำ้ เชียงใหม่

เรื่องย่อ ขุนชา้ งขนุ แผน

•นำงพิมตรอมใจด้วยควำมคิดถึงพลำยแก้วจึงล้มป่วยลง และได้เปล่ียน
ชือ่ เปน็ วันทอง
• ขนุ ช้ำงทำทุกอยำ่ งเพ่ือให้นำงพิมใจอ่อนมำเป็นภรรยำตน
• ขนุ ช้ำงหลอกวันทองว่ำ พลำยแก้ว เสียชีวิตในสนำมรบไปแล้ว นำงศรี
ประจัน(แม่ของวันทอง) เกรงว่ำวันทองจะถูกริบเป็นม่ำยหลวง จึง
บังคับให้แต่งงำนกับขุนช้ำง นำงจึงต้องแต่ง แต่วันทอง ยังไม่เช่ือว่ำ
พลำยแก้วตำยแล้ว จึงเฝ้ำรอพลำยแก้ว และขัดขืนยังไม่ยอมเป็น
ภรรยำขนุ ช้ำง

เร่อื งย่อ ขุนชา้ งขุนแผน

•พลำยแก้วชนะศึกกลับมำ ได้รับยศเป็น ขุนแผน และได้รับ
พระรำชทำนนำงลำวทอง มำเปน็ ภรรยำดว้ ย
•เม่ือขุนแผนได้พบกับวันทอง ก็เกิดทะเลำะวิวำทกันว่ำวันทองไป
แต่งงำนใหม่ ส่วนวันทองก็ว่ำขุนแผนนอกใจไปมีภรรยำใหม่ ขุนแผน
โกรธจงึ เข้ำข้ำงลำวทอง และพำลำวทองไปอย่กู ับแม่ทก่ี ำญจนบรุ ี
•นำงวันทองท้ังโกรธแค้นเสียใจ และคิดว่ำขุนแผนหมดรักตนแล้ว จึง
ยอมเปน็ ภรรยำขุนชำ้ ง

เร่อื งยอ่ ขุนชา้ งขุนแผน

•ขนุ แผนยงั คงคิดถงึ วนั ทอง จึงได้แอบไปข้ึนเรอื นขนุ ช้ำง และพบวนั ทองนอนคู่
กับขุนชำ้ ง กโ็ กรธ แตท่ ำอะไรไม่ไดน้ อกจำกดำ่ ประจำนใหอ้ บั อำยและจำกไป
ทำให้ขุนชำ้ งแค้นใจมำก
• ตอ่ มำขนุ ชำ้ งได้โอกำส เมอื่ นำงลำวทองไมส่ บำย ขุนแผนเขำ้ เวรอยู่ เป็นหว่ ง
อยำกกลับไปดูแล จึงฝำกเวรไว้กับขุนชำ้ ง

• ขุนชำ้ งกไ็ ดโ้ อกำสนำควำมไปทูลสมเดจ็ พระพนั วษำ ว่ำขนุ แผนหนเี วร
• สมเดจ็ พระพนั วษำจึงลงโทษด้วยกำรให้ขนุ แผนออกไปตระเวนดำ่ นอยู่ชำยแดน และ
นำตวั ลำวทองมำกกั ไวไ้ มใ่ หท้ งั้ สองพบกัน

เร่อื งยอ่ ขุนชา้ งขุนแผน

•ขุนแผนโกรธแคน้ ขนุ ช้ำง จงึ คิดชงิ ตวั นำงวนั ทอง โดยรวบรวมของวิเศษ ๓
อย่ำง ได้แก่ กุมำรทอง ดำบฟ้ำฟน้ื มำ้ สหี มอก
• จำกนัน้ ขุนแผนจงึ ลอบข้ึนเรือนขนุ ชำ้ งอีกครงั้ ซึ่งได้พบกับนำงแก้วกิรยิ ำ
ธดิ ำสุโขทยั ทบ่ี ิดำนำมำขัดดอกเบ้ียกับขนุ ชำ้ งไว้
•ขนุ แผนแก้วกริ ิยำเป็นภรรยำ จำกน้นั จึงเข้ำไปหำนำงวันทอง แตว่ ันทองไม่
อำจจำกขุนชำ้ งได้ แตเ่ พรำะด้วยควำมรกั ขุนแผน จึงยอมตำมไปอยูก่ บั
ขนุ แผน

เร่อื งยอ่ ขุนชา้ งขุนแผน

• ขนุ ชำ้ งโกรธที่ขุนแผนพำตัวนำงวันทองไป จึงถวำยฎกี ำรอ้ งทกุ ข์ตอ่ สมเด็จ
พระพนั วษำ

• ขุนแผนพำวนั ทองเรร่ อนไปอยู่ตำมป่ำ จนนำงตงั้ ครรภ์ ขนุ แผนสงสำรวนั
ทองท่ีได้รับควำมลำบำกจึงให้พระพจิ ติ รพำไปมอบตวั และกรำบทลู เรือ่ งรำว
ทั้งหมด สมเดจ็ พระพนั วษำจึงตดั สินให้ขุนแผนไดน้ ำงวันทองคืนและขุนชำ้ ง
ถูกปรบั ไหม

•ตอ่ มำขนุ แผนคดิ ถงึ นำงลำวทองจึงขอพระรำชทำนคืน สมเด็จพระพันวษำก
รวิ้ มำก และมรี บั ส่ังใหจ้ ับขุนแผนไปขังคุก

เร่อื งยอ่ ขุนชา้ งขุนแผน

• วนั หน่ึงขุนช้ำงสบโอกำส ให้บ่ำวไพรม่ ำฉดุ นำงวันทองซึ่งกำลงั ไปเย่ียม
ขุนแผน นำงจึงตอ้ งกลับไปอยกู่ ับขุนชำ้ ง และคลอดลูกชอื่ พลำยงำม
•พลำยงำมโตมหี นำ้ ตำคลำ้ ยขุนแผน ขุนช้ำงเมอื่ รู้ว่ำไม่ใชล่ ูกตน จึงลวง
พลำยงำมไปฆ่ำในปำ่ แตไ่ ด้ผพี รำยของขนุ แผนชว่ ยไว้ จงึ รอดมำได้
นำงวันทองจงึ ให้พลำยงำมไปอย่กู ับนำงทองประศรีทีก่ ำญจนบรุ ี
•สว่ นตวั นำงจำต้องอยู่กับขุนชำ้ ง จนเมื่อพลำยงำมโตขึน้ ไดร้ บั รำชกำร
ทำควำมดีควำมชอบ ได้เปน็ จม่ืนไวยวรนำถ

เร่อื งย่อ ขุนชา้ งขุนแผน

•ในงำนแต่งงำนของพลำยงำม ขุนช้ำงและนำงวันทอง มำช่วยงำน ขุนช้ำง
เมำและมเี รอ่ื งกบั พลำยงำม จึงถูกพลำยงำมทำร้ำย
• ขุนช้ำงจึงไปถวำยฎีกำกล่ำวโทษพลำยงำม และได้มีกำรดำน้ำพิสูจน์กัน
ปรำกฏว่ำขุนช้ำงแพ้ และถูกตัดสินประหำรชีวิต แต่นำงวันทองขอให้
พลำยงำม ขอพระรำชทำนอภัยโทษไว้
•พลำยงำมคิดถึงมำรดำ อยำกให้กลับมำอยู่ด้วยกันพร้อมหน้ำ จึงลอบขึ้น
เรือนและพำนำงหนี รุ่งข้ึนก็เกรงว่ำขุนช้ำงจะเอำผิด จึงให้บ่ำวไปส่งควำม
วำ่ ตนปว่ ยหนกั อยำกใหแ้ ม่มำดใู จสกั พัก แล้วจะสง่ คืน



จะกลา่ วถงึ โฉมเจา้ พลายงาม ๑เมอ่ื เป็นความชนะขนุ ชา้ งนนั่
กลบั มาอยู่บา้ นสาราญครนั
พรอ้ มญาตขิ าดอยูแ่ ต่มารดา เกษมสนั ตส์ องสมภริ มยย์ วน
โอว้ า่ แมว่ นั ทองช่างหมองนวล นึกนกึ ตรกึ ตราละหอ้ ยหวน
เออน่เี น้อื เคราะหก์ รรมมานาผดิ ไมส่ มควรเคยี งคู่กบั ขนุ ชา้ ง
ฝ่ายพอ่ มบี ญุ เป็นขนุ นาง น่าอายมติ รหมองใจไมห่ ายหมาง
แต่แมไ่ ปแนบขา้ งคนจญั ไร

รูปร่างวปิ รติ ผดิ กวา่ คน ทรพลอปั รยี ไ์ มด่ ไี ด้ ๒
ทงั้ ใจคอชวั่ โฉดโหดไร้
วนั นน้ั แพก้ ูเมอ่ื ดานา้ ช่างไปหลงรกั ใคร่ไดเ้ป็นดี
แสนแคน้ ดว้ ยมารดายงั ปรานี กก็ ร้วิ ซา้ จะฆ่าใหเ้ป็นผี
แคน้ แมจ่ าจะแกใ้ หห้ ายแคน้ ใหไ้ ปขอชวี ขี นุ ชา้ งไว้
หมายจติ คดิ จะใหม้ นั บรรลยั ไมท่ ดแทนอา้ ยขนุ ชา้ งบา้ งไมไ่ ด้
ไมส่ มใจจาเพาะเคราะหม์ นั ดี

อย่าเลยจะรบั แมก่ ลบั มา ใหอ้ ยู่ดว้ ยบดิ าเกษมศรี

พรากใหพ้ น้ คนอบุ าทวช์ าตอิ ปั รยี ์ ยง่ิ คดิ ก็ยง่ิ มคี วามโกรธา

อดั อดึ ฮดึ ฮดั ดว้ ยขดั ใจ เมอ่ื ไรตะวนั จะลบั หลา้

เขา้ หอ้ งหวนละหอ้ ยคอยเวลา จวนสุรยิ าเล้ยี วลบั เมรไุ กร

เงยี บสตั วจ์ ตั บุ ททวบิ าท ดาวดาษเดอื นสวา่ งกระจ่างไข

นา้ คา้ งตกกระเซน็ เยน็ เยอื กใจ สงดั เสยี งคนใครไมพ่ ูดจา

ไดย้ นิ เสยี งฆอ้ งยา่ ประจาวงั ลอยลมลอ่ งดงั ถงึ เคหา
คะเนนบั ยา่ ยามไดส้ ามครา
[[ทกั กะทนิ ] น. วันชั่วร้าย (ใช้ในตาราหมอดู).

ดูเวลาปลอดหว่ งทกั ทนิ

ฟ้าขาวดาวเด่นดวงสวา่ ง จนั ทรก์ ระจ่างทรงกลดหมดเมฆส้นิ

จงึ เซน่ เหลา้ ขา้ วปลาใหพ้ รายกนิ เสกขม้นิ วา่ นยาเขา้ ทาตวั

ลงยนั ตร์ าชะเอาปะอก หยบิ ยกมงคลข้นึ ใสห่ วั

เป่ามนตรเ์ บ้อื งบนชอ่มุ มวั พรายยวั่ ยวนใจใหไ้ คลคลา

สารวมใจสวดมนตภ์ าวนา. (ส. ปริกรมฺ นฺ; ป. ปรกิ มฺม).

จบั ดาบเคยปราบณรงคร์ บ เสร็จครบบรกิ รรมพระคาถา

ลงจากเรอื นไปมไิ ดช้ า้ รบี มาถงึ บา้ นขนุ ชา้ งพลนั ฯ

๏ เหน็ คนนอนลอ้ มออ้ มเป็นวง ประตูลนั่ มนั่ คงขอบรวั้ กนั้

กองไฟสวา่ งดงั กลางวนั หมายสาคญั ตรงมาหนา้ ประตู
เสอ่ื มหมดอาถรรพท์ ฝ่ี งั อยู่
มนต,์ มนตร์ คำสำหรับสวดเพอื่ เปน็ สริ มิ งคล คำเสกเป่ำท่ีถือวำ่ ศกั ด์ิสิทธิ์

จงึ ร่ายมนตรามหาสะกด

ภตู พรายนายขนุ ชา้ งวางวง่ิ พรู คนผูใ้ นบา้ นกซ็ านเซอะ

ทง้ั ชายหญงิ งว่ งงมลม้ หลบั นอนทบั ควา่ หงายก่ายกนั เปรอะ

จ่ปี ลาคาไฟมนั ไหลเลอะ โงกเงอะงยุ งมไมส่ มประดี

ใชพ้ รายถอดกลอนถอนลม่ิ รอยทม่ิ ถอดหลดุ ไปจากท่ี

ยา่ งเทา้ กา้ วไปในทนั ที มไิ ดม้ ใี ครทกั แต่สกั คน

มแี ต่หลบั เพอ้ มะเมอฝนั ทงั้ ไฟกองป้องกนั ทกุ แหง่ หน

ผูค้ นเงยี บสาเนียงเสยี งแต่กรน มาจนถงึ เรอื นเจา้ ขนุ ชา้ ง

ก. ซดั , หวา่ น, สาดใหก้ ระจายไป,

จดุ เทยี นสะกดขา้ วสารปราย ภตู พรายโดดเรอื นสะเทอื นผาง
ชานเรือนโบราณ ทป่ี ลูกไมด้ อกไว้
ก. ทาใหห้ ลดุ ออกมาดว้ ยคาถาอาคม

สะเดาะดาลบานเปิดหนา้ ต่างกาง ย่างเทา้ กา้ วข้นึ รา้ นดอกไม้

กลอนประตูทท่ี าดว้ ยไมส้ าหรบั ขดั บานประตูอย่างประตูโบสถ์ ดอกไม,้ พวกดอกไม.้ (ป.). ว. อาการทช่ี สู ะพรงั่ อยู่ไหว ๆ

หอมหวนอวลอบบปุ ผาชาติ เบกิ บานกา้ นกลาดก่งิ ไสว

น. ละออง, ละอองเกสร, นวลละอองเกสรดอกไม.้ (ป., ส. เรณุ).

เรณูฟูร่อนขจรใจ ย่างเทา้ กา้ วไปไมโ่ ครมคราม

น. บรวิ ารของผูเ้ป็นใหญ่ สะเดาะกลอนถอนลนั่ ถงึ ชน้ั สาม

ขา้ ไทนอนหลบั ลงทบั กนั

กระจกฉากหลากสลบั วบั แวมวาม อร่ามแสงโคมแกว้ แววจบั ตา

ชั้นทีต่ ง้ั

มา่ นมลู่ ม่ี ฉี ากประจากน้ั อฒั จนั ทรเ์ คร่อื งแกว้ กห็ นกั หนา
ชมพลางย่างเย้อื งชาเลอื งมา เปิดมงุ้ เหน็ หนา้ แมว่ นั ทอง
น่งิ นอนอยู่บนเตยี งเคยี งขนุ ชา้ ง มนั แนบขา้ งกอดกลมประสมสอง
เจบ็ ใจดงั หวั ใจจะพงั พอง ขยบั จอ้ งดาบงา่ อยากฆ่าฟนั
จะใคร่ถบี ขนุ ชา้ งทก่ี ลางตวั นกึ กลวั จะถกู แมว่ นั ทองนนั่
พลางนงั่ ลงนอบนบอภวิ นั ท์ สะอ้นื อน้ั อกแคน้ นา้ ตาคลอ


Click to View FlipBook Version