)4(๒0)( คมู่ อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕
(๔๐) คม่มู หอื นาวกั ิทศยกึ าษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
รองคณบดีน้ัน ใหอธิการบดีแต่งต้ังโดยคาแนะนำของคณบดีจากผูมีคุณสมบัติตาม
มาตรา ๒๖ วรรคสอง และใหอธิการบดีมีอานาจถอดถอนรองคณบดีโดยคำแนะนำของ
คณบดี
วาระการดำรงตำแหน่ง และการพนจากตำแหน่งคณบดีใหนำมาตรา ๒๕ วรรคสอง
และวรรคสาม มามใชหบาวงั ิทคับยาโดลัยยเอทนคุโโลนมโลยีราชมงคลกรุงเทพ เป็นสถาบันอุดมศึกษา สังกัดสานักงาน
คณะกกรรามรกรากั รษกาารรอาุดชมกศาึกรษแาทตนาคมณพรบะดรีาใชหบนญั าญมัตาิมตหราาวิท๒ย๘าลัยมเาทใคชโบนโังลคยับีรโาดชมยงอคนลุโลพมุทธศักราช ๒๕๔๘
เมื่อวันเทมี่อ่ ๑ค๙ณบมดกีพรานคจมาก๒ต๕ำแ๔ห๘นง่ เปใ็นหกราอรงรควณมตบัวดขพี อนงจ๓ากวติทำยแาหเขนต่งดคือวยวิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ
วิทยาเมขาตตบรพาิตร๓พ๕ิมุขมในหบาเัณมฆฑิตแวลิทะวยิทายลายั เขตใหพมระีคนณคะรกใตร้รภมากยาใรตป้ชรื่อะมจหำาบวัณิทยฑาิตลวัยิทเทยคาโลนัยโลคยณีระาชหมนงึ่งคล
ประกกรุงอเทบพดวจยดั กคาณรเรบียดนีเกปา็นรสปอรนะใธนารนะดกบัรรอมุดมกศาึกรษแาลหะลกกั รสรตู มรกปารรญิ อญ่นาอตีกรีแจลาะนปวรนิญหญนาึ่งโท หลากหลายสาขาวชิ า
ยึดมั่นจในาอนุดวมนการคณณุ ์แสลมะบปัตรัชิ ญหาลกักาเกรจณัดฑกาแ์ รลศะึกวษิธาีกเาพร่ือไผดลมิตาบัณอฑำิตนนาักจปแฏลิบะหัตินตาอทบ่ี สนวาอรงคะวกาามรตด้อำงรกงาร
ตาแขหองนสง่ ังคแมลโะดยกเาชรื่อพมั่นนวจ่าาเกทตคาโนแหโลนย่งีแขลอะงอการชรีวมศกึกาษราปเปร็นะกจรำะบบณั วฑนกิตาวริทศยึกาษลาัยทต่ีจลาเอปด็นจในนกกาารรเปสรระิมชสุมร้าง
ของมคาตณระฐากนรครุณมกภาาพรปรเะพจื่อเำปบ็นกัณาฑลงั ิตสวาิทคัญยาในลกยั าแรลพะฒั กนาารเศจรัดษรฐะกบิจบแลบะรสิหังคามรงไทายนในบัณฑิตวิทยาลัย ให
เป็นไปตามขอบงั คับของมหาวิทยาลยั
มาตรา ๓๖ ในคณะ ใหมีคณบดีเป็นผูบังคับบัญชาและรับผิดชอบงานของคณะ
และจะใหมีรอง คณบดีตามจานวนที่สภามหาวิทยาลัยกาหนด เพ่อทาหนาที่และรับผิดชอบ
ตามท่คี ณบดีมอบหมายก็ได
คุณสมบัติ การแต่งตั้ง วาระการดำรงตาแหน่ง และการพนจากตาแหน่งของ
คณบดีและรองคณบดี ตามวรรคหน่ึง และการรักษาราชการแทน ใหนามาตรา ๓๔ มาใช
บงั คับโดยอนโุ ลม
มาตรา ๓๗ ในคณะ ใหมีคณะกรรมการประจำคณะ ประกอบดวย คณบดีเป็น
ประธานกรรมการ และ กรรมการอ่นอกี จำนวนหน่ึง
จานวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการไดมา วาระการดารงตาแหน่ง และการ
พนจากตำแหน่ง ของกรรมการ ตลอดจนการประชุมของคณะกรรมการประจำคณะและการ
จัดระบบบรหิ ารงานในคณะใหเปน็ ไปตามขอบงั คบั ของมหาวทิ ยาลยั
มาตรา ๓๘ คณะกรรมการประจำคณะมีอำนาจและหนาที่ ดังนี้
(๑) จัดทาแผนพัฒนาของคณะใหสอดคลองกับนโยบายของมหาวิทยาลยั
ค่มู อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕ )4(๑1) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโล่มู ยอื รีนากั ชศมึกงษคาลก๒ร๕งุ เ๖ทพ๕ (๔๑)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
(๒) พจิ ารณาวางระเบียบและออกขอบังคับภายในคณะตามที่สภามหาวิทยาลัย
มอบหมาย
(๓) พิจารณากำหนดหลักสูตรและรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรสำหรับคณะเพ่อเสนอตอ่
สภามหาวิทยาลยั
(๔) จัดการวัดผล ประเมนิ ผล และควบคุมมาตรฐานการศึกษาของคณะ
(๕) ส่งเสริมงานวิจัย งานบริการวิชาการแก่สังคม งานทะนุบารุงศิลปะและ
วฒั นธรรม และงาน รกั ษาสิง่ แวดลอม
(๖) ใหคาปรกึ ษาและขอแนะนำเกย่ี วกับการดำเนินกจิ การต่างๆ ของคณะ
(๗) แต่งต้ังคณะอนุกรรมการเพ่อดำเนินการอย่างหน่ึงอย่างใดอนั อยู่ในอำนาจและหนาท่ี
ของคณะกรรมการ ประจำคณะ
(๘) ดาเนินการอน่ ใดตามท่สี ภามหาวทิ ยาลยั สภาวิชาการ หรออธิการบดีมอบหมาย
มาตรา ๓๙ ในกรณีที่มีการแบ่งภาควิชาหรอส่วนราชการที่เรียกช่ออย่างอ่นท่ีมี
ฐานะเทียบเท่า ภาควิชาในคณะใหมีหัวหนาภาควิชาหรอหัวหนาส่วนราชการที่เรียกช่อ
อย่างอ่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาเป็นผูบังคับบัญชาและรับผิดชอบงานของภาควิชาหรอ
ส่วนราชการที่เรียกช่ออย่างอ่นท่ีมีฐานะเทยี บเทา่ ภาควิชา
หัวหนาภาควิชา หรอหัวหนาส่วนราชการที่เรียกช่ออย่างอ่นที่มีฐานะเทียบเท่า
ภาควิชาใหอธิการบดี แต่งตั้งจากคณาจารย์ประจำโดยการสรรหาตามขอบังคับของ
มหาวิทยาลัยจากผูมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ คณบดี และใหอธิการบดีมีอำนาจถอดถอน
หัวหนาภาควิชาหรอหัวหนาส่วนราชการที่เรียกช่ออย่างอ่นที่มี ฐานะเทียบเท่าภาควิชาโดย
คำแนะนำของคณบดี
คุณสมบัติ วาระการดารงตำแหน่ง และการพนจากตำแหน่งของหัวหนาภาควิชาหรอ
หัวหนาส่วนราชการที่เรียกช่ออย่างอ่นที่มีฐานะเทียบเท่าภาควิชาตามวรรคสองและการ
รักษาราชการแทนใหนำมาตรา ๓๔ มาใชบังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๔๐ ในสถาบันหรอสานัก ใหมีผูอานวยการสถาบันหรอผูอานวยการสำนัก
เป็นผูบงั คับบัญชา และรบั ผิดชอบงานของสถาบันหรอสานัก แลวแตก่ รณี แ ล ะ จ ะ ให มี ร อ ง
ผูอำนวยการสถาบันหรอรองผูอำนวยการ สำนักตามจำนวนท่ีสภามหาวิทยาลัยกำหนด เพ่อทำ
หนาทแ่ี ละรับผิดชอบตามทผี่ ูอำนวยการสถาบันหรอ ผูอำนวยการสานักมอบหมายกไ็ ด
คุณสมบัติ การแต่งต้ัง วาระการดำรงตำแหน่ง และการพนจากตำแหน่งของ
)4(๒2) ( ค่มู อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕
(๔๒) คม่มู หอื นาวกั ิทศยึกาษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยีราชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
ผอู ำนวยการสถาบันหรอ ผูอำนวยการสำนัก และรองผอู ำนวยการสถาบันหรอรองผอู ำนวยการ
สานกั ตามวรรคหนึ่งและการรักษาราชการ แทน ใหนามาตรา ๓๔ มาใชบังคบั โดยอนุโลม
มาตรา ๔๑ ในสถาบันหรอสำนัก ใหมีคณะกรรมการประจำสถาบันหรอสานัก
แลวแต่กรณี
องค์ประมกหอาบวิทยาจลาัยนเวทนคโนโคลุณยีรสามชบมังตคิ ลกหรลุงัเกทเพกณเฑป็น์แสลถะาวบิธันีกอาุดรมไดศึมกษาา สอังำกนัดาสจานแักลงะาน
หนคาณทะ่ี กรวรามรกะากรการารดอาดุ รมงศตึกษำแาหตานม่งพรแะลราะชกบาญั รพญนัติมจหาากวติทำยแาหลัยนเ่งทขคอโนงโกลรยรีรมาชกมางรคปลระพจุทำธสศถัการบาชันห๒ร๕อ๔๘
สำนเมักื่อตวันลทอ่ีด๑จ๙นกมากรปรารคะมชุม๒ขอ๕ง๔ค๘ณะเกปร็นรกมากรารรวมปตรัวะขจอางส๓ถาวบิทันยหาเรขอตคคณือะวกิทรยรามเกขาตรเทปครนะจิคากสรุางเนทักพฯ
และวิทกยาราเจขดั ตรบะพบิตบรบพริมิหุขามรหงาาเนมใฆนแสลถะาวบิทันยหาเรขอตสพารนะกั นคใรหใเตป้ น็ภไาปยตใตา้ชมื่อขมอหบาวงั ิทคยบั าขลอัยงเทมคหโานวโิทลยยีาราลชยั มงคล
กรงุ เทมพาจตดั รกาาร๔เร๒ียนกใานรกสอรนณใีทนร่ีมะีหดาบั วอิทุดมยศาลกึ ษัยามหีวลิทกั ยสาูตลรปัยรหญิ รญอสาต่วรนีแรลาะชปกราิญรญทา่ีเโรทียหกลชา่อกอหยล่าางยอส่นาขทา่ีมวชิี า
ฐานยะึดเมทั่นียใบนอเทุด่ามคกณาระณ์ใแหลมะปีผรูอัชำญนาวยกการาจรัดวิทกายราศลึกัยษหารเพอ่ือหผัวลหิตนบาัณสฑ่วิตนนรักาปชกฏาิบรัตทิ ต่ีเรอียบกสชน่ออองคยว่าางมอต่น้อทงี่มกาี ร
ฐานขะอเงทสียังคบมเทโ่าดคยณเชื่อะเมป่ันน็ ว่าผเูบทังคคโนับโบลัญยีแชลาะแอลาะชีวรศับึกผษิดาเชปอ็นบกรงะาบนวขนอกงาวริทศึกยษาลาทัยี่จหารเปอ็นสใ่วนนกราารเชสกราิมรสทร้า่ี ง
เรียมกาชตร่อฐอานยค่าณุ งอภ่นาพท่ีมเีฐพา่ือนเปะ็นเกทาียลงับสเาทค่าญั คในณกะารพัฒแนลาวเแศรตษ่กฐรกณิจแี ละแสงัลคะมจไทะยใหมีรองผูอำนวยการ
วิทยาลัยหรอรองหัวหนาส่วนราชการที่เรียกช่ออย่างอ่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะตาม
จำนวนที่สภามหาวิทยาลยั กำหนดเพ่อทำหนาที่และรับผิดชอบตามที่ผูอำนวยการวิทยาลัย
หรอหัวหนาส่วน ราชการท่ีเรียกช่ออย่างอ่นที่มฐี านะเทียบเทา่ คณะมอบหมายก็ได
คุณสมบัติ การแต่งตง้ั วาระการดำรงตำแหน่ง แล ะการพ น จากต ำแห น่ งของ
ผูอำนวยการวิทยาลัย หรอหัวหนาส่วนราชการท่ีเรียกช่ออย่างอ่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ
รวมทงั้ ผูดารงตาแหน่งรองของตำแหน่ง ดงั กลา่ วตามวรรคหนึ่ง และการรักษาราชการแทนให
นาความในมาตรา ๓๔ มาใชบังคับโดยอนโุ ลม
ในกรณีที่มีการแบ่งภาควิชา หรอส่วนราชการท่ีเรียกช่ออย่างอ่นท่ีมีฐานะเทียบเท่า
ภาควชิ าในวทิ ยาลยั ใหนาความในมาตรา ๓๙ มาใชบงั คับโดยอนุโลม
มาตรา ๔๓ ในวทิ ยาลยั หรอส่วนราชการท่ีเรียกช่ออยา่ งอ่นทีม่ ีฐานะเทียบเท่าคณะให
มี คณะกรรมการประจำวิทยาลัยหรอส่วนราชการที่เรียกช่ออย่างอ่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ
แลวแต่กรณี
องคป์ ระกอบ จำนวน คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการไดมา อำนาจและหนาที่
วาระการดำรง ตำแหน่ง และการพนจากตำแหน่งของกรรมการประจาวิทยาลัยหรอส่วน
ราชการท่ีเรียกช่ออย่างอ่นท่ีมีฐานะ เทียบเท่าคณะ ตลอดจนการประชุมของคณะกรรมการ
ประจำวิทยาลยั หรอคณะกรรมการประจำส่วนราชการ ท่ีเรียกช่ออย่างอน่ ทมี่ ีฐานะเทียบเท่า
คมู่ อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕ )4(๑3) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโล่มู ยอื ีรนากั ชศมึกงษคาลก๒ร๕งุ เ๖ทพ๕ (๔๓)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
คณะและการจัดระบบบริหารงานในวิทยาลัยหรอส่วนราชการท่ีเรียกช่อ อย่างอ่นท่ีมีฐานะ
เทียบเทา่ คณะ ใหเป็นไปตามขอบังคับของมหาวิทยาลัย
มาตรา ๔๔ ผูดำรงตำแหน่งอธิการบดี คณบดี ผูอำนวยการ และหัวหนาส่วน
ราชการท่ีเรียกช่ออย่าง อ่น ท่ีมีฐานะเทียบเท่าคณะ จะดารงตำแหน่งดังกล่าวเกินหน่ึง
ตำแหนง่ ในขณะเดียวกันมิได
ผูดารงตาแหน่งตามวรรคหนึ่งจะรักษาราชการแทนตำแหน่งอ่นอีกหน่ึงตาแหน่งก็ได
แต่ตองไมเ่ กนิ หน่ึงรอยแปดสิบวนั
มาตรา ๔๕ เพอ่ ประโยชน์ในการบริหารราชการในวทิ ยาเขต บัณฑิตวทิ ยาลัย คณะ
สถาบัน สำนัก วิทยาลัยและภาควิชาหรอส่วนราชการทเี่ รยี กชอ่ อย่างอ่นที่มีฐานะเทยี บเท่า
คณะหรอภาควิชา อธิการบดี จะมอบอานาจโดยทำเปน็ หนังสอใหผดู ารงตาแหน่งรอง
อธิการบดี คณบดี ผอู านวยการ หวั หนาภาควิชาหรอหัวหนาส่วนราชการท่ีเรียกช่ออย่าง
อ่นท่ีมีฐานะเทียบเท่าคณะหรอภาควิชา ปฏิบัติราชการแทน อธิการบดีเฉพาะในราชการ
ของส่วนราชการนั้นก็ได
ใหผูปฏิบตั ริ าชการแทนตามวรรคหนึ่ง มอี านาจและหนาทต่ี ามทอ่ี ธิการบดกี าหนด
มาตรา ๔๖ ใหผูรักษาราชการแทนตามที่บัญญัติไวในพระราชบัญญัติน้ีมีอานาจและ
หนาท่ี เชน่ เดยี วกบั ผูซึ่งตนแทน
ในกรณีที่กฎหมาย ระเบียบ ขอบังคับ คำสั่ง หรอมติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้งให
ผูดำรงตำแหน่งใดเป็นกรรมการหรอใหมอี านาจและหนาทอ่ี ย่างใด ใหผูรักษาราชการแทน
ทำหนาท่ีกรรมการ หรอมีอานาจ และหนาท่ีเช่นเดียวกับผูดารงตาแหน่งนั้นในระหว่างท่ี
รกั ษาราชการแทนดวย
หมวดั๓
ความรว่ มมือด้านวชิ าการและการใช้ทรพั ยากร
--------------------
มาตรา ๔๗ เพ่อประโยชน์ในความร่วมมอดานวิชาการและการใชทรัพยากรร่วมกัน
ของมหาวิทยาลัยใหมีคณะกรรมการอธิการบดี ประกอบดวย อธิการบดีของมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยรี าชมงคลทกุ แห่งเป็นกรรมการ
ใหกรรมการตามวรรคหน่ึงเลอกกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานกรรมการ และเลอก
)4(๒4) ( คมู่ อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕
(๔๔) คมมู่ หอื นาวกั ิทศยึกาษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยีราชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
กรรมการอกี คนหนึง่ เปน็ เลขานกุ าร
การประชุมของคณะกรรมการอธิการบดี ใหเป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการ
อธิการบดีกาหนด
มาตรา ๔๘ ใหคณะกรรมการอธิการบดีมีอานาจและหนาท่ี ดงั นี้
(๑) เสนมอหนาโวยิทบยาาลยัยแเลทะคแโนผโนลยพีรัฒาชนมางเคกล่ียกวรกุงเับทกพารเจปั็ดนสกถาารบศันึกอษุดามศึกกษาารสรั่งวกมัดมสอาดนักางนาน
วิชาคกณาะรกแรลระมกกาารรกใชารอทุดรมพั ศยึกาษการตรา่วมมพกรนั ะขราอชงบมญั หญาวตั ทิิมหยาาวลิทัยยตา่อลสัยเภทาคมโนหโาลวยิทีรายชามลงัยคแลต่ลพะุทแธศหัก่งราช ๒๕๔๘
เม่ือวัน(๒ที่)๑จ๙ัดใมหกมรีขาอคตมกล๒ง๕ร๔ะห๘ว่าเงปม็นหกาาวรริทวยมาตลัวัยขเอกงย่ี ๓วกวับิทคยวาาเขมตร่วคมือมวอิททยาางเขวติชเาทกคานริคแกลระุงกเาทรพฯ
ใชทวิรทัพยายเาขกตรบพรว่ิตมรพกินัมุขในมกหาารเมปฆฏแิบลัตะิภวาิทรยกาิจเขตโดพยระคนวคามรใเตห้ ็นภชาอยบใตข้ชอื่องมสหภาาวมิทหยาาวลิทัยเยทาคลโัยนแโลตย่ลีระาแชหม่งงคล
กรงุ เทพ(๓จ)ดั จกดัารใเหรียมนีขกอาตรสกอลนงใรนะรหะดวบั่าองมุดมหศาึกวษิทายหาลลกั ัยสูตแรตป่ลระญิ แญหา่งตกรีแับลสะถปารบญิ ันญอาโาทชีหวศลาึกกษหาลทาย้ังสทา่ีเขปา็นวชิ า
ของยรึดัฐมแั่นลในะอเุดอมกกชานรณใ์แนลกะาปรรใัชหญคาวากมารรจ่วัดมกมาอรศดึกาษนาวเิชพา่ือกผาลริตแบลัณะฑกิตานรักศปึกฏษิบาัตติ ่อตดอบานสนวอชิ งาคชวีพาเมฉตพ้อางกะาร
ทางขรอะงดสัับงคปมรญิ โดญยเาชื่อมโดั่นยวค่าเวทาคมโเนหโ็นลชยีแอลบะอขาอชงีวสศภึกาษมาหเปา็วนิทกยระาบลวัยนแกตา่ลระศแึกหษ่งาท่ีจาเป็นในการเสริมสร้าง
มาตรฐ(า๔น)คกุณำภหานพดแเพนื่อวเทปา็นงกใานลกังสาารคแญั สใวนงกหาราพคัฒวานมาเรศ่วรมษมฐกอิจรแะลหะวส่างั คงมมไหทายวิทยาลัยแต่ละแห่งกับ
ชมุ ชน องค์กร เอกชนและองค์กรปกครองสว่ นทองถนิ่
(๕) แต่งต้ังคณะทำงานหรอบุคคลหนึ่งบุคคลใดเพ่อพิจารณาและเสนอความเห็นใน
เร่องหนึ่งเร่องใด หรอเพ่อมอบหมายใหปฏบิ ัติการอย่างหน่ึงอย่างใดอ่นอยู่ในอานาจและ
หนาที่ของคณะกรรมการอธิการบดี
หมวดั๔
ตาแหน่งทางวิชาการ
--------------------
มาตรา ๔๙ คณาจารย์ประจาในมหาวิทยาลัยมีตาแหน่งทางวิชาการ ดังน้ี
(๑) ศาสตราจารย์
(๒) รองศาสตราจารย์
(๓) ผูชว่ ยศาสตราจารย์
(๔) อาจารย์
คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการแต่งตั้งและถอดถอนคณาจารย์ประจำตามวรรค
หนึ่งใหเป็นไปตาม กฎหมายว่าดวยระเบียบขาราชการพลเรอนในสถาบนั อดุ มศึกษา
ค่มู อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕ )4(๑5) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโลมู่ ยอื รีนากั ชศมึกงษคาล๒กร๕งุ เ๖ท๕พ (๔๕)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
ศาสตราจารย์นั้น จะทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ แต่งตั้งโดยคาแนะนำของสภา
มหาวิทยาลัย
มาตรา ๕๐ ศาสตราจารย์พิเศษนั้น จะทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ แต่งตั้งโดย
คำแนะนำของสภา มหาวิทยาลยั จากผูซึ่งมิไดเปน็ คณาจารยป์ ระจาของมหาวิทยาลัย
คุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งศาสตราจารย์พิเศษ ใหเป็นไปตามขอบังคับ
ของมหาวิทยาลยั
มาตรา ๕๑ ศาสตราจารยซ์ ่งึ มคี วามรูความสามารถและความชำนาญเป็นพิเศษ และพ น
จากตำแหน่ง ไปโดยไม่มีความผิด สภามหาวิทยาลัยอาจแต่งต้ังใหเป็นศาสตราจารย์เกียรติ
คุณในสาขาท่ศี าสตราจารย์ผูนั้น มคี วามเชย่ี วชาญเพ่อเป็นเกียรตยิ ศได
คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการแต่งตั้งศาสตราจารย์เกียรติคุณ ใหเป็นไปตาม
ขอบงั คับของ มหาวิทยาลยั
มาตรา ๕๒ สภามหาวิทยาลัยอาจแต่งตั้งผูซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสม และมิได
เป็นคณาจารย์ ประจำของมหาวิทยาลัยเป็นรองศาสตราจารย์พเิ ศษและผูช่วยศาสตราจารย์
พเิ ศษไดโดยคำแนะนำของอธกิ ารบดี
อธิการบดีอาจแต่งต้ังผูมีคุณสมบัติเหมาะสมและมิไดเป็นคณาจารย์ประจาของ
มหาวิทยาลัยเป็น อาจารย์พิเศษโดยคำแนะนำของคณบดี ผูอำนวยการหรอหัวหนาสว่ น
ราชการทเี่ รยี กช่ออยา่ งอน่ ท่ีมีฐานะเทียบเทา่ คณะ แลวแต่กรณี
คุณสมบัติและหลักเกณฑ์ในการแต่งต้ังรองศาสตราจารย์พิเศษ ผูช่วยศาสตราจารย์
พิเศษและอาจารย์ พิเศษตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ใหเป็นไปตามขอบังคับของ
มหาวทิ ยาลัย
ม า ต รา ๕ ๓ ให ผู ด ำ ร ง ต ำ แ ห น ่ง ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ศ า ส ต ร า จ า ร ย ์พ ิเศ ษ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ รองศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์พิเศษ ผูช่วยศาสตราจารย์
และผูช่วยศาสตราจารย์พิเศษ มีสิทธิใชตำแหน่งศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์พิเศษ
ศาสตราจารย์เกยี รติคุณ รองศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์พิเศษ ผูช่วยศาสตราจารย์ หรอ
ผชู ่วยศาสตราจารย์พเิ ศษ แลวแตก่ รณี เป็นคานำหนานามเพอ่ แสดงวิทยฐานะได ตลอดไป
การใชคานาหนานามตามความในวรรคหน่ึง ใหใชอักษรยอ่ ดังนี้
ศาสตราจารย์ ใชอกั ษรย่อ ศ.
ศาสตราจารย์พิเศษ ใชอักษรย่อ ศ. (พเิ ศษ)
)4(๒6)( คมู่ อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕
(๔๖) คมมู่ หอื นาวกั ิทศยึกาษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยีราชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ุณ ใชอกั ษรยอ่ ศ. (เกยี รติคณุ )
รองศาสตราจารย์ ใชอักษรย่อ รศ.
รองศาสตราจารย์พเิ ศษ ใชอักษรย่อ รศ. (พเิ ศษ)
ผูชว่ ยศาสตราจารย์ ใชอกั ษรย่อ ผศ.
ผูช่วยศามสหตารวาิทจยาราลยัย์พเิเทศคษโนใโชลอยกัีราษชรมยง่อคลผกศร.ุงเ(ทพพเิ ศษเป)็นสถาบันอุดมศึกษา สังกัดสานักงาน
คณะกรรมการการอดุ มศึกษา ตามพระราชบญั ญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พุทธศักราช ๒๕๔๘
เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๔๘ เป็นการหรมววมดตััว๕ขัอง ๓ วิทยาเขต คือ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ
วิทยาเขตบพิตรพิมุขมหาเมฆปรแิญละญวิทาแยลาเะขเตคพรรื่อะงนหคมราใตย้ วภิทายยฐใตา้ชนื่อะมัหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรุงเทพ จดั การเรียนการสอนในระดับอดุ--ม-ศ--กึ -ษ--า-ห--ล-กั--ส-ตู--ร-ป--รญิ ญาตรีและปรญิ ญาโท หลากหลายสาขาวชิ า
ยึดมั่นใมนาอตุดรมากา๕ร๔ณ์แปลระญิปรญัชาญมาสี กาามรชจน้ั ัดกคารอศึกษาเพ่ือผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ ตอบสนองความต้องการ
ของสังปครมิญโญดยาเเชอื่อกมั่นเรวีย่าเกทวค่าโนดโลุษยฎีแีบลัณะอฑาติชีวศใชึกอษกั าษเปร็นยก่อระดบ.วนการศึกษาที่จาเป็นในการเสริมสร้าง
มาตรฐปานรคิญุณญภาาโพท เเพรีย่ือกเปวน็ ากามลหังสาาบคัณญั ฑในติ กาใรชพอฒั ักนษาเรศยรอ่ษฐกมิจ.และสังคมไทย
ปรญิ ญาตรี เรยี กวา บัณฑติ ใชอกั ษรย่อ บ.
มาตรา ๕๕ มหาวทิ ยาลัยมีอานาจใหปริญญาในสาขาวิชาท่ีมีการสอนใน
มหาวิทยาลยั
การกาหนดใหสาขาวิชาใดมีปริญญาช้ันใด และจะใชอักษรย่อสาหรับสาขาวิชานั้น
อย่างไร ใหตราเป็น พระราชกฤษฎกี า
มาตรา ๕๖ สภามหาวิทยาลัยอาจออกขอบังคับใหผูสาเร็จการศึกษาช้ันปริญญาตรี
ไดรับปรญิ ญา เกียรตนิ ิยมอนั ดับหนง่ึ หรอปริญญาเกยี รตินิยมอนั ดับสองได
มาตรา ๕๗ สภามหาวิทยาลัยอาจออกขอบังคับใหมีประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง
ประกาศนยี บัตร บัณฑติ อนปุ ริญญา และประกาศนียบตั รสาหรับสาขาวิชาใดได ดังนี้
(๑) ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง ออกใหแก่ผูสาเร็จการศึกษาในสาขาวิชาหนึ่ง
สาขาวิชาใด ภายหลงั ทไ่ี ดรบั ปริญญาโทแลว
(๒) ประกาศนียบัตรบัณฑิต ออกใหแก่ผูสำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาหนึ่งสาขาวิชา
ใดภายหลังท่ีไดรับปรญิ ญาตรีแลว
(๓) อนุปริญญาหรอประกาศนียบัตร ออกใหแก่ผูสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรใน
สาขาวชิ าหนึง่ สาขาวชิ าใดก่อนถงึ ขน้ั ไดรบั ปริญญาตรี
คมู่ อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕ )4(๑7) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโล่มู ยอื ีรนากั ชศมึกงษคาลก๒ร๕งุ เ๖ทพ๕ (๔๗)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
(๔) ประกาศนยี บัตร ออกใหแกผ่ ูสำเรจ็ การศึกษาเฉพาะวิชา
มาตรา ๕๘ มหาวิทยาลัยมอี ำนาจใหปริญญากติ ติมศกั ดิ์แก่บุคคลซ่งึ สภามหาวิทยาลัย
เห็นว่า ทรงคุณวุฒิสมควรแก่ปริญญานั้น ๆ แต่จะใหปริญญาดังกล่าวแก่คณาจารย์ประจำ
ผูดารงตำแหน่งต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย นายกสภามหาวทิ ยาลัยหรอกรรมการสภา
มหาวิทยาลัยในขณะที่ดารงตาแหน่งนั้นมิได
ช้ัน สาขาของปริญญากิตติมศักด์ิ และหลักเกณฑ์การใหปริญญากิตติมศักด์ิ ให
เป็นไปตามขอบังคบั ของมหาวิทยาลยั
มาตรา ๕๙ มหาวิทยาลัยอาจกำหนดใหมีครุยวิทยฐานะหรอเข็มวิทยฐานะเป็น
เคร่องหมายแสดงวิทยฐานะของผูไดรับปริญ ญ า ประกาศนีย บัตรบัณ ฑิตชั้นสูง
ประกาศนียบัตรบัณฑิต อนุปริญญาและประกาศนียบัตร และอาจกาหนดใหมีครุยประจา
ตำแหน่งกรรมการสภามหาวทิ ยาลยั หรอคณาจารยข์ องมหาวิทยาลยั ได
การกำหนดลักษณะ ชนิด ประเภท และส่วนประกอบของครุยวิทยฐานะ เข็มวิทย
ฐานะ และครุย ประจำตำแหน่งใหตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งจะใชในโอกาสใด โดยมี
เง่อนไขอย่างใด ใหเป็นไปตามขอบงั คบั ของมหาวิทยาลยั
มาตรา ๖๐ สภามหาวิทยาลัยอาจกาหนดใหมีตรา เคร่องหมาย หรอสัญลักษณ์
ของมหาวิทยาลัย หรอส่วนราชการในมหาวิทยาลัยได โดยทาเป็นขอบังคับของมหาวทิ ยาลัย
และประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สภามหาวิทยาลัยอาจกำหนดใหมีเคร่องแบบ เคร่องหมาย หรอเคร่องแต่งกาย
นกั ศกึ ษาได โดยทำเป็น ขอบังคับของมหาวิทยาลยั และประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หมวดั๖
บทกาหนดโทษ
--------------------
มาตรา ๖๑ ผูใดใชตรา สัญลักษณ์ ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ ครุย
ประจำตำแหน่งเคร่องแบบ เคร่องหมาย หรอเคร่องแต่งกายนักศึกษาของมหาวิทยาลัย โดย
ไม่มีสิทธิที่จะใชหรอแสดงดวยประการใด ๆ วา่ ตนมีตำแหน่ง ปริญญา ประกาศนียบัตร
)4(๒8) ( คมู่ อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕
(๔๘) คมมู่ หอื นาวกั ิทศยึกาษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
บัณฑิตชั้นสงู ประกาศนียบตั รบัณฑติ อนุปริญญา หรอประกาศนยี บัตรของมหาวิทยาลยั โดยที่
ตนไม่มี ถาไดกระทำเพ่อใหบุคคลอ่น เช่อว่าตนมีสทิ ธิที่จะใชหรอมีตำแหน่ง หรอวิทยฐานะ
เชน่ น้นั ตองระวางโทษจำคกุ ไม่เกินหกเดอน หรอปรบั ไมเ่ กนิ หาหมน่ บาท หรอทง้ั จาทงั้ ปรับ
มาตรา ๖๒ ผูใด
(๑) ปลอมมหาหวิทรอยทาลาัยเลเทยี คนโแนบโลบยซีร่ึงาตชรมางคเลคกรรอ่ ุงงเหทมพายเป็นหสรถอาสบัญันลอักุดษมณศึก์ขษอางมสหังกาัดวิทสายนาักลงัยาน
หรอคณสว่ะนกรรรามชกกาารรกาขรอองดุ มมหศึกาษวิทา ยตาามลพัยรไมะรว่ า่าชจบะญั ทญาเัตปิม็นหสาวีใิดทยาหลรัยอเททคาโดนวโลยยวีริธาีใชดมๆงคล พุทธศักราช ๒๕๔๘
เม่ือวัน(๒ท่ี)๑๙ใชตมรการาคเมครอ่๒ง๕ห๔ม๘าย เป็นหกราอรสรัญวมลตักัวษขอณง์ข๓องวมิทหยาาเวขิทตยคาือลัยวิทหยราอเสข่วตนเทรคานชิคกการรุงขเอทงพฯ
มหวาิทวิทยายเาขลตยับปพลิตอรมพิมหุขรมอหซา่งึ เทมฆาเแลลยี ะนวแิทบยบาเขหตรพอระนครใต้ ภายใต้ชื่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรงุ เทพ(๓จ)ดั กใาชรเรยี หนรกอารทสาอในหใปนรระาดกับฏอซุด่ึงมตศรกึ าษาหเคลกัรส่อตูงรหปมราญิ ยญาตหรรีแอลสะัญปรลิญักญษาณโท์ขหอลงามกหหาลวาิทยสยาาขลาัยวชิ า
หรยอึดสม่ว่ันนในรอาุดชมกกาารรณข์แลอะงปมรหัชญาวาทิ กยาราจลัดัยกทาร่ีวศัตึกถษุาหเพรื่ออผสลินิตคบัณาใฑดิตๆนักโปดฏยิบไัตมิ ต่ไอดบรสับนออนงคุญวาามตตจ้อางกการ
มหขาอวิทงสยังาคลมยั โดยเช่ือม่ันว่าเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเป็นกระบวนการศึกษาที่จาเป็นในการเสริมสร้าง
มาตรฐานตคอณุ งรภะาวพางโเทพื่อษเจปำ็นคกกุาลไมังสเ่ กาคินัญหในน่ึงกปารี พหัฒรนอาปเศรรับษไฐมก่เจิกแินลหะนสังึ่งคแมสไนทบยาท หรอทง้ั จำทง้ั ปรับ
ถาผูกระทำความผิดตาม (๑) เป็นผูกระทำความผิดตาม (๒) ดวย ใหลงโทษตาม
(๒) แตก่ ระทงเดยี ว ความผิดตาม (๓) เป็นความผดิ อันยอมความได
บทเฉพาะกาล
-------------------
มาตรา ๖๓ ใหโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิ ภาระผูกพันทั้งปวง
ขาราชการ ลูกจาง อัตรากำลัง เงินงบประมาณ และรายไดของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการไปเป็นของมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคล แต่ละแห่งตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ตามรายการที่รัฐมนตรี
ป ร ะ ก า ศ ก ำ ห น ด โ ด ย ต อ ง ด ำ เน ิน ก า ร ใ ห แ ล ว เ ส ร็จ ภ า ย ใน ห นึ ่ง ร อ ย ยี ่ส ิบ ว ัน น ับ แ ต ่ว ัน ที่
พระราชบัญญัตนิ ใ้ี ชบงั คบั
ให ข า รา ช ก า ร ซึ ่งโอ น ไป ต า ม ว ร ร ค ห นึ ่งเป ็น ข า ร า ช ก า ร พ ล เร อ น ใน
สถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมาย ว่า ดวยระเบียบขาราชการพลเรอนในสถาบันอุดมศึกษา
โดยในระยะเริ่มแรกใหขาราชการดังกลา่ วยงั คงดารง ตาแหน่งและรับเงินเดอน ตลอดจนไดรับ
สิทธิประโยชน์เช่นเดิมต่อไป จนกว่าจะไดรับแต่งต้ังใหดารงตาแหน่ง ตามกฎหมายว่าดวย
ระเบียบขาราชการพลเรอนในสถาบันอดุ มศกึ ษา
คมู่ อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕ )4(๑9) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโลมู่ ยอื รีนากั ชศมึกงษคาลก๒ร๕งุ เ๖ทพ๕ (๔๙)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
มาตรา ๖๔ ใหส่วนราชการท่ีจัดตั้งขึ้นตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการซึ่งตรา
ขึ้นตามขอ ๒๓ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๒๑๖ ลงวันท่ี ๒๙ กันยายน
พ.ศ. ๒๕๑๕ ส่วนราชการท่ีจัดตั้งข้ึนตาม ประกาศกระทรวงศึกษาธิการซ่ึงตราขึ้นตาม
มาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ และส่วนราชการ
ที่จัดต้ังขนึ้ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการซ่ึงตราขึ้นตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติ
ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๓๔ ท่ีมีอยู่ในวันที่พระราชบัญญัติน้ีประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา คงมีอยู่ต่อไป จนกว่าจะมีการออกกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการใน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแต่ละแห่ง ซึง่ ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัตินี้
ทง้ั นี้ ตองไมเ่ กนิ หน่งึ รอยแปดสิบวนั นบั แตว่ ันท่พี ระราชบัญญัตนิ ี้ ใชบังคบั
มาตรา ๖๕ ภายใตบังคับมาตรา ๖๓ และมาตรา ๖๔ ใหมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลตาม มาตรา ๕ ประกอบดวยส่วนราชการ ดงั ตอ่ ไปนี้
(๑) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ประกอบดวย สถาบันเทคโนโลยี
ราชมงคล จังหวัดปทุมธานี และวิทยาเขตปทุมธานี
(๒) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ประกอบดวย วิทยาเขตเทคนิค
กรงุ เทพฯ วทิ ยาเขต บพติ รพิมุขมหาเมฆ และวิทยาเขตพระนครใต
(๓) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ประกอบดวย วิทยาเขตจักรพงษ
ภูวนารถ วทิ ยาเขต อุเทนถวาย วิทยาเขตบางพระ จังหวัดชลบุรี วทิ ยาเขตจันทบุรี และ
คณะเกษตรศาสตร์บางพระ จงั หวัดชลบรุ ี
(๔) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ประกอบดวย วิทยาเขตเทเวศร์
วทิ ยาเขตโชติเวช วิทยาเขตพณิชยการพระนคร วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักด์ิ และวิทยาเขต
พระนครเหนอ
(๕) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ประกอบดวย วิทยาเขตเพาะช่าง
วทิ ยาเขตบพิตรพิมขุ จักรวรรดิ วิทยาเขตศาลายา และวิทยาเขตวงั ไกลกังวล
(๖) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลานนา ประกอบดวย วิทยาเขตภาคพายัพ
จงั หวัดเชียงใหม่ วิทยาเขตนา่ น วิทยาเขตลำปาง วิทยาเขตเชียงราย วิทยาเขตตาก
วิทยาเขตพษิ ณโุ ลก และสถาบันวิจยั และ ฝกึ อบรมการเกษตรลาปาง
(๗) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชยั ประกอบดวย ว ิท ย า เข ต ภ า ค ใต
จังหวัดสงขลา วิทยาเขตนครศรีธรรมราช วิทยาเขตศรีวิชัยจังหวัดนครศรีธรรมราช คณะ
)5(๒0)( คมู่ อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕
(๕๐) คม่มู หอื นาวกั ิทศยึกาษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยีราชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
เกษตรศาสตร์นครศรธี รรมราช และ คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารประมง จงั หวัดตรัง
(๘) มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลสวุ รรณภูมิ ประกอบดวย วิทยาเขตนนทบุรี
วิทยาเขต พระนครศรีอยุธยา วาสุกรี วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา และวิทยาเขต
สุพรรณบุรี
(๙) มหมาวหิทาวยิทายลาลัยัยเเททคคโโนนโโลลยยีราีรชามชงมคลงกครลุงอเทีสพานเปป็นรสถะากบอันบอดุดมวศยึกวษิทา ยสังากเัดขสตาภนัากงคาน
ตะควณันะอกอรรกมเกฉาียรกงาเรหอนดุ มอศึกจษังาหตวาัดมนพรคะรรารชาบชญั สญีมัตาิมหาววิทิทยยาาลเัยขเทตคสโุรนินโลทยีรรา์ ชมวงิทคลยาพเุทขธตศขักรอานชแ๒ก๕่น๔๘
วิทเยมา่ือเขวันตทกี่า๑ฬ๙สินมธกุ์ รวาิทคมยาเ๒ข๕ต๔ส๘กลนเปค็นรกแาลระรสวถมาตบัวขันอวงิจัย๓แวลิทะยฝาึกเขอตบรคมือกวาิทรยเกาษเขตตรเสทกคลนนิคคกรรุงเทพฯ
วิทยาเใขหตสบภพาิตมรหพาิมวุขิทมยหาาลเมยั ฆแตแ่ลละะแวหิท่ยงกาเำขหตนพดรทะนต่ี คั้งขรอใตง้สภำานยักใงตา้ชนื่ออมธหิกาาวริทบยดาีลัยโดเทยคคโวนาโมลเยหีร็นาชชมองบคล
ของกครณงุ เทะพกรจรดั มกกาารรเรกียานรกอาุดรสมอศนกึ ใษนราะดับอุดมศึกษาหลกั สตู รปรญิ ญาตรีและปริญญาโท หลากหลายสาขาวชิ า
ยึดม่ันมในาอตุดรมาการ๖ณ์๖และปใหรัชผญูดาากรางรตจาัดแกาหรนศึก่งษนาาเพยื่อกผสลภิตบาัสณถฑาิตบนักันปฏิบอัตุปิ นตอาบยสกนสอภงคาวสามถตา้อบงันการ
แลขะอกงรสรังมคกมาโรดสยภเชา่ือสมถั่นาวบ่าันเทคขโอนงโลสยถีแาลบะันอาเทชีวคศโึกนษโาลเยป็ีนรากชระมบงวคนลกตาราศมึกพษราะทร่ีจาาชเปบ็นัญในญกาัตริสเสถราิมบสันร้าง
เทคมโานตรโลฐายนีรคาุณชภมางพคลเพพือ่ .ศเป.๒็นก๕า๑ลงั๘สาคอัญยในู่ในกาวรันพทฒั ี่ นพารเะศรราษชฐบกิจัญแญละัตสินังคี้ปมรไะทกยาศในราชกิจจานุเบกษา
ปฏิบัติหนาท่ีนายกสภามหาวิทยาลัย อุปนายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภา
มหาวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแต่ละแห่งตามพระราชบัญญัตินี้ต่อไป
จนกว่าจะไดทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภา
มหาวิทยาลัยผทู รงคุณวุฒิ และมีการเลอกกรรมการสภามหาวิทยาลัยของมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลแต่ละแห่ง แลวแต่กรณี ตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ตองไม่เกินหน่ึง
รอยแปดสิบวนั นับแตว่ นั ท่ีพระราชบัญญตั นิ ใ้ี ชบังคบั
มาตรา ๖๗ ใหผูดารงตาแห น่งอธิการบดี คณ บดี ผูอานวยการสถาบัน
ผูอานวยการสำนัก และ หวั หนาภาควิชาของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตามพระราชบัญญัติ
สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ อยู่ในวันทพ่ี ระราชบัญญัตินี้ประกาศในราช
กจิ จานุเบกษา รักษาการในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งต้ังผูดำรง ตำแหนง่ ดังกล่าวขึ้น
ใหม่ ทงั้ น้ี ตองไมเ่ กนิ หน่ึงรอยแปดสิบวันนับแตว่ ันท่พี ระราชบัญญตั ิน้ีใชบงั คบั
ใหผดู ำรงตำแหน่งรองอธิการบดี รองคณบดี รองผูอำนวยการสถาบัน และรอง
ผูอำนวยการสำนัก ของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตามพระราชบัญ ญัติสถาบัน
เทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ อยู่ในวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
รักษาการในตำแหน่งต่อไปจนกว่าผูดำรงตำแหน่งอธิการบดี คณบดี ผูอำนวยการสถาบันและ
ผูอานวยการสำนกั ตามวรรคหน่ึงจะพนจากตาแหนง่
คมู่ อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕ )5(๑1) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโลมู่ ยอื ีรนากั ชศมกึ งษคาลก๒ร๕งุ เ๖ทพ๕ (๕๑)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
มาตรา ๖๘ การนับวาระการดำรงตำแหน่งของอธิการบดี คณบดี ผูอานวยการ
สถาบัน ผูอานวยการ สานัก และหัวหนาภาควิชา ใหนับวาระการดำรงตาแหน่งตาม
พระราชบัญญตั ินเ้ี ปน็ วาระแรก
มาตรา ๖๙ ใหผูดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการ
ประจำคณะ คณะกรรมการประจำสถาบันและคณะกรรมการประจำสำนกั ของสถาบัน
เทคโนโลยีราชมงคล ตามพระราชบัญญัติ สถาบนั เทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘อยู่ในวันที่
พระราชบัญญัติน้ีประกาศในราชกิจจานุเบกษา คงปฏิบัติ หนาท่ีต่อไปจนกว่าจะไดมี
คณะกรรมการประจำคณะ คณะกรรมการประจำสถาบันและคณะกรรมการประจำ สำนักตาม
พระราชบัญญตั ินี้ ทัง้ นี้ ตองไมเ่ กนิ หน่ึงรอยแปดสิบวันนบั แต่ วนั ที่พระราชบัญญตั นิ ้ีใชบังคบั
มาตรา ๗๐ ใหผดู ารงตาแหน่งผูอานวยการวทิ ยาเขตตามกฎหมายว่าดวยระเบยี บ
ขาราชการครู และประธานกรรมการ และกรรมการบริหารวิทยาเขตของสถาบันเทคโนโลยี
ราชมงคลตามประกาศสถาบัน เทคโนโลยีราชมงคล ลงวันท่ี ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ อยู่ใน
วันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา คงปฏิบัติหนาที่ต่อไปจนกว่าจะมีการ
แต่งตั้งผูดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีประจาวิทยาเขตและคณะกรรมการ ประจำวทิ ยาเขตตาม
พระราชบัญญัตนิ ี้ ทั้งน้ี ตองไม่เกนิ หนึ่งรอยแปดสิบวนั นับแตว่ ันท่ี พระราชบัญญัตนิ ้ีใชบังคับ
เวนแต่กรณียังไม่มีการออกกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการซ่ึงออกโดยอาศัยอำนาจ ตาม
พระราชบัญญตั ินี้
มาตรา ๗๑ ภายใตบังคับมาตรา ๖๗ ในระหว่างที่ยังไม่มีสภาวิชาการตาม
มาตรา ๑๙ ใหมีสภา วิชาการ ประกอบดวย อธิการบดีเป็นประธานสภาวิชาการ รอง
อธิการบดีฝ่ายวิชาการเป็นรองประธานสภา วิชาการ รองอธิการบดี คณบดี และคณาจารย์
ประจำซ่ึงอธิการบดีแต่งต้ังจำนวนหกคนเป็นกรรมการสภา วิชาการ และผูอานวยการสำนกั
บริการทางวิชาการและทดสอบเป็นเลขานุการสภาวิชาการ ทำหนาท่ีสภาวิชาการ ของ
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลแต่ละแห่ง ตามพระราชบัญญตั ิน้ี จนกว่าจะมีการแต่งต้ัง
สภาวิชาการ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแต่ละแห่งตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้
ตองไม่เกนิ หน่ึงรอยแปดสบิ วนั นบั แต่ วันทพ่ี ระราชบัญญัตินี้ใชบงั คบั
มาตรา ๗๒ ภายใตบังคบั มาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗ ในระหว่างที่ยังไม่มีอธิการบดี
เป็น ผูบังคับบัญชาและรับผิดชอบการบรหิ ารงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแต่ละ
แห่งตามมาตรา ๒๔ ใหสภามหาวิทยาลัยแต่งต้ังผูมีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๖ วรรคหน่ึง
)5(๒2) ( คมู่ อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕
(๕๒) คมมู่ หอื นาวกั ิทศยกึ าษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
ทำหนาที่รักษาการในตำแหน่งอธิการบดี ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแต่ละแห่งเป็น
การช่ัวคราว จนกว่าจะมีการแต่งตั้งผูดำรงตำแหน่งดังกล่าวข้ึนใหม่ ทงั้ น้ี ตองไม่เกินหนึ่งรอย
แปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติน้ีใชบังคับ เวนแต่มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคล
ธัญบรุ ีใหแต่งตั้งผดู ำรงตำแหน่งอธิการบดีตามมาตรา ๖๗ วรรคหน่ึง เป็นผูรักษาการใน
ตาแหนง่ อธกิ ารบมดหี าวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เป็นสถาบันอุดมศึกษา สังกัดสานักงาน
คณะกรรมมากตารรกาารอ๗ุด๓มศึกใษหาผตูซาึ่งมเปพร็นะศราาชสบตญั ราญจตั าิมรหยา์วิทศยาาสลัตยเรทาคจโนารโลยย์พีริเาศชษมงคลรอพงศุทธาศสักตรราาชจา๒ร๕ย๔์ ๘
รองเมศ่ือาวสันตทร่ี า๑จ๙ารมยก์ พราิเคศมษ ๒ผ๕ูช๔่ว๘ยศเาปส็นตกราารจรวามรตยัว์ ขอผงูช๓่วยวศิทายสาตเขรตาจคาือรวยิท์พยิเาศเขษตเแทลคะนอิคากจรุงาเรทยพ์ ฯ
ปรวะิทจยาาสเขถตาบบพันิตรเพทิมคุขโมนหโาลเมยฆีราแชละมวงิทคยลาเตขตาพมระพนรคะรรใาตช้ ภบาัญยใญตั้ชตื่อิสมถหาาบวัิทนยเทาลคัยโเนทโคลโนยโีรลายชีรมาชงมคงลคล
พ.ศก.ร๒ุงเ๕ท๑พ๘จดั อกายรู่ใเนรวยี นันกทาพี่ รรสะอรนาใชนบระัญดญับอัตุดินมี้ปศรึกะษกาาหศลใกั นสรูตารชปกริจญิ จญาานตุเบรีแกลษะาปรมญิ ีฐญานาโะทเปห็นลาศกาหสลตารยาสจาาขรายวชิ์ า
ศาสยึดตมรั่นาจในาอรุดยม์พกิเาศรษณ์แรลอะงปศราัชสญตารากจาารรจยัด์กราอรงศศึกาษสาเตพร่ือาผจลาิตรบยัณ์พฑิเศิตษนักผปูชฏ่วิบยัตศิ ตาสอบตสรนาจอางครวยา์ มผตูช้อ่วงกยาร
ศาสขตองรสาังจคามรยโ์ดพยิเศเชษ่ือมแ่ันลวะ่าเอทาคจโานรโยลป์ยีแระลจะอามาชหีวาศวึกิทษยาาเลปัย็นตกอ่ระไปบตวนามกาพรรศะึกรษาาชทบ่ีจัญาเญปตั็นินในี้ การเสริมสร้าง
มาตรฐใาหนคผุณูซึภ่งเาปพ็นอเพาื่อจเปารน็ ยกา์พลิเงั ศสาษคขัญอในงสกาถราพบฒั ันนเาทเศครษโนฐกโจิลแยลีระาสชังคมมงไคทยลตามพระราชบัญญัติ
สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ อยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ เป็น
อาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยต่อไป ตามพระราชบัญญัตินี้จนครบกาหนดเวลาท่ีไดรับ
แตง่ ตั้ง
มาตรา ๗๔ ใหผูไดรับประกาศนียบัตรช้ันสูงตามพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยี
ราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นผูไดรบั ประกาศนียบตั รบัณฑติ ตามพระราชบัญญตั นิ ี้
มาตรา ๗๕ ในระหว่างที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ขอบังคับ
ประกาศและระเบียบ เพ่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติน้ีใหนำพระราชกฤษฎีกา
ขอบังคับ ประกาศและระเบียบ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
พ.ศ. ๒๕๑๘ ที่ใชอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษามาใชบังคับ
โดยอนโุ ลม
ในกรณีท่ีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติการ อานาจหนาที่ของผูดำรงตำแหน่ง หรอ
หน่วยงานตา่ ง ๆ ตามท่ีกำหนดไวในบทเฉพาะกาลนี้ ใหรัฐมนตรีเป็นผูมีอานาจตีความและ
วินจิ ฉยั ช้ีขาด
ผูรับสนองพระบรมราชโองการ
วษิ ณุ เครองาม
รองนายกรัฐมนตรี
ค่มู อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕ )5(๑3) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโล่มู ยอื ีรนากั ชศมกึ งษคาล๒กร๕งุ เ๖ท๕พ (๕๓)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติฉบับนี้ คอ โดยที่มาตรา ๓๖
แห่งพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ บัญญัติใหสถานศึกษาของรัฐท่ีจัด
การศึกษาระดับปริญญาเป็นนิติบุคคล เพ่อใหสถานศึกษาของรัฐดำเนินกิจการไดโดยอสิ ระ
สามารถพัฒนาระบบบริหาร และการจัดการที่เป็นของ ตนเอง มีความคล่องตัว มีเสรีภาพทาง
วชิ าการและอยู่ภายใตการกากบั ดูแลของสภาสถานศึกษา ดังนั้น สมควรจัดต้ัง มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคล จำนวน ๙ แห่ง ขึ้นแทนสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เพ่อให
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐดานวิชาชีพและเทคโนโลยีทม่ี ี
วัตถุประสงค์ใหการศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชน้ั สูงที่มุง่ เนนการปฏิบัติ ทำการสอน
ทาการวิจัย ผลิตครูวชิ าชีพ ใหบริการทางวิชาการในดานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ
ทะนุบารุงศิลปะและวัฒนธรรม โดยใหผสู ำเร็จการอาชีวศกึ ษา มีโอกาสในการศึกษาต่อดาน
วชิ าชีพเฉพาะทางระดับปริญญาเป็นหลกั จึงจาเป็นตองตราพระราชบัญญตั ิน้ี
)5(๒4) ( ค่มู อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕
(๕๔) คม่มู หอื นาวกั ิทศยึกาษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
พระราชกฤษฎกา
ว่าด้วยปรญิ ญาในสาขาวิชา อกั ษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวทิ ยฐานะ
และครยุ ประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยราชมงคลกรุงเทพ
พ.ศ. ๒๕๕๑
มหาวิทยาลัย-เท-ค-โน- โ-ล-ยี-รา-ช-ม-งค- ล-ก-ร-ุงเ-ท-พ- -เป-็น-ส-ถาบันอุดมศึกษา สังกัดสานักงาน
คณะกรรมการการอดุ มศึกษา ตามพรภะรมู าิพชบลัญอดญุลัตยิมหเดาชวิทปยา.รล.ัยเทคโนโลยีราชมงคล พุทธศักราช ๒๕๔๘
เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ใ๒ห๕้ไว๔้ ณ๘ วเปนั ็นทก่ ๓าร๐รวธมนั ตวัวาขคอมง ๓พ.วศิท.ย๒าเ๕ข๕ต๑คือ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ
วิทยาเขตบพิตรพิมุขมหาเมฆ แเปละน็ วปิทีทย่า๖เข๓ตพในระรนชั คกราใลต้ปภจั าจยุบใตัน้ชื่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรุงเทพ จดั การเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาหลกั สูตรปรญิ ญาตรีและปรญิ ญาโท หลากหลายสาขาวชิ า
ยึดม่ันในอพุดมรกะาบราณท์แสละมปเดรัช็จญพารกะาปรรจมัดิกนาทรศรึกมษหาาเพภ่ือูมผิพลิตลบอัณดุฑลิตยนเดักปชฏมิบีัพติ รตะอบบสรนมอรงาคชวโาอมงตก้อางกราร
โปรขดอเงกสลังาคมฯ โใดหยปเชรื่อะมกั่นาศว่าวเ่าทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเป็นกระบวนการศึกษาที่จาเป็นในการเสริมสร้าง
มาตรฐานคโุณดภยาทพี่เป็นเพก่อื าเปรน็สกมาคลวงั สรากคาัญหในนกดาปรพรัฒิญนญาเาศใรนษสฐกาจิขแาลวะิชสางั คอมักไทษยรย่อสาหรับสาขาวิชา
ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรงุ เทพ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
กับมาตรา ๕๕ วรรคสอง และมาตรา ๕๙ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยี ราชมงคล พ.ศ. ๒๕๔๘ จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกาข้ึน
ไว ดงั ต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาว่าดวยปริญญาใน
สาขาวิชาอักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่ง
ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ พ.ศ. ๒๕๕๑”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกจิ จานเุ บกษา เป็นตนไป
มาตรา ๓ ใหกาหนดปริญญาในสาขาวิชา และอักษรย่อสาหรับสาขาวิชาของ
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ ดงั น้ี
(๑) สาขาวิชาครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม มีปริญญาสามชนั้ คอ
(ก) เอก เรียกว่า “ครุศาสตรอ์ ตุ สาหกรรมดุษฎีบณั ฑติ ” ใชอกั ษรย่อ
“ค.อ.ด.” และ“ปรชั ญาดษุ ฎีบณั ฑิต” ใชอกั ษรยอ่ “ปร.ด.”
ค่มู อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕ )5(๑5) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโล่มู ยอื รีนากั ชศมึกงษคาล๒กร๕งุ เ๖ท๕พ (๕๕)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
(ข) โท เรยี กวา่ “ครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรมมหาบัณฑิต” ใชอกั ษรยอ่ “ค.อ.ม.”
(ค) ตรี เรยี กวา่ “ครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรมบัณฑติ ” ใชอกั ษรยอ่ “ค.อ.บ.”
(๒) สาขาวชิ าคหกรรมศาสตร์ มปี รญิ ญาสามชน้ั คอ
(ก) เอก เรียกว่า “คหกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “คศ.ด.” และ
“ปรชั ญาดุษฎีบณั ฑิต” ใชอกั ษรยอ่ “ปร.ด.”
(ข) โท เรยี กว่า “คหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต” ใชอกั ษรย่อ “คศ.ม.”
(ค) ตรี เรยี กว่า “คหกรรมศาสตรบณั ฑิต” ใชอักษรยอ่ “คศ.บ.”
(๓) สาขาวิชาเทคโนโลยี มีปริญญาหนึ่งชั้น คอ ตรี เรยี กว่า “เทคโนโลยีบัณฑิต” ใช
อกั ษรยอ่ “ทล.บ.”
(๔) สาขาวิชาบริหารธุรกจิ มปี รญิ ญาสามช้นั คอ
(ก) เอก เรียกว่า “บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “บธ.ด.” และ
“ปรชั ญาดษุ ฎีบณั ฑิต” ใชอกั ษรยอ่ “ปร.ด.”
(ข) โท เรียกว่า “บรหิ ารธุรกิจมหาบัณฑิต” ใชอักษรยอ่ “บธ.ม.”
(ค) ตรี เรยี กวา่ “บรหิ ารธรุ กจิ บัณฑติ ” ใชอกั ษรยอ่ “บธ.บ.”
(๕) สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ มปี รญิ ญาสามชนั้ คอ
(ก) เอก เรียกว่า “วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “วท.ด.” และ
“ปรัชญาดุษฎบี ัณฑิต” ใชอักษรย่อ “ปร.ด.”
(ข) โท เรยี กว่า “วิทยาศาสตรมหาบณั ฑติ ” ใชอกั ษรย่อ “วท.ม.”
(ค) ตรี เรยี กว่า “วิทยาศาสตรบัณฑติ ” ใชอักษรย่อ “วท.บ.”
(๖) สาขาวชิ าวศิ วกรรมศาสตร์ มปี รญิ ญาสามช้นั คอ
(ก) เอก เรียกว่า “วศิ วกรรมศาสตรดุษฎีบณั ฑิต” ใชอกั ษรย่อ “วศ.ด.”
และ “ปรัชญาดษุ ฎบี ัณฑติ ” ใชอกั ษรย่อ “ปร.ด.”
(ข) โท เรยี กวา่ “วิศวกรรมศาสตรมหาบณั ฑติ ” ใชอักษรย่อ “วศ.ม.”
(ค) ตรี เรยี กวา่ “วศิ วกรรมศาสตรบณั ฑติ ” ใชอักษรยอ่ “วศ.บ.”
(๗) สาขาวชิ าศลิ ปศาสตร์ มปี รญิ ญาสามช้นั คอ
(ก) เอก เรียกว่า “ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “ศศ.ด.” และ
“ปรชั ญาดษุ ฎบี ณั ฑิต” ใชอกั ษรยอ่ “ปร.ด.”
(ข) โท เรยี กว่า “ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต” ใชอักษรยอ่ “ศศ.ม.”
)5(๒6)( คมู่ อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕
(๕๖) คมมู่ หอื นาวกั ิทศยึกาษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยีราชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
(ค) ตรี เรียกวา่ “ศิลปศาสตรบณั ฑติ ” ใชอักษรยอ่ “ศศ.บ.”
(๘) สาขาวิชาอตุ สาหกรรมศาสตร์ มปี รญิ ญาสามชน้ั คอ
(ก) เอก เรียกว่า “อุตสาหกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “อส.ด.”
และ “ปรชั ญาดุษฎีบณั ฑิต” ใชอักษรยอ่ “ปร.ด.”
(ข)มหโทาวิทเรยียากลวัยา่ เท“คอโุตนสโลายหีรการชรมมงศคาลสกตรรุงมเทหพาบเัณป็ฑนสติ ถ”าใบชันออักุดษมรศยึกอ่ ษา“อสสังก.มัด.”สานักงาน
คณะกรรมกา(ครก) ารตอรดุ ี มเศรึกยี ษกาวา่ตา“มอพตุ รสะราาหชกบรญั รญมตัศิมาหสาตวริทบยณั าลฑัยิตเท”คโในชโอลักยษีรารชยมอ่ งค“ลอสพ.ุทบธ.”ศักราช ๒๕๔๘
ทง้ั นเม้ี ่ือหวาันกทมี่ ๑ีส๙าขามหกรรอาวคชิมาเ๒อก๕ใ๔ห๘ระบเปชุ ็น่อกสาารขราวหมรตอัววขิชอางเอ๓กวนิท้ันยไาวเใขนตวงคเือลบ็วิทตยอ่ าทเาขยตปเทรคิญนญิคากดรุวงเยทพฯ
วิทยาเมขาตตบรพาิตร๔พิมคุขรมุยหวาิทเมยฆฐแานละะวขิทอยงามเขหตาพวริทะยนาคลรัยใตเท้ ภคาโนยใโตล้ชยื่อีรมาหชามวงิทคยลากลัยรุงเทเทคพโนโลมยีสีราามชมชงั้นคล
ดังตก่อรุงไเปทนพ้ี จดั การเรยี นการสอนในระดบั อดุ มศึกษาหลกั สูตรปรญิ ญาตรีและปรญิ ญาโท หลากหลายสาขาวชิ า
ยึดม่ันในอุดมกา(ร๑ณ)์แลคะรปุยรดัชุษญฎาีบกัณารฑจัดิตกาเปรศ็นึกเษสา้อเพค่ือลผุมลแิตขบนัณยฑาิตวนทักาปดฏวิบยัตผิ ตาอโปบสรน่งสองีขคาววามผต่า้อองกการ
ตลอขอดงสยังาควมคลโมุดยเขเช่าื่อมมสี ่ันารว่ดาเรทอคบโนขโอลบยีแสลาะรอดาตชนีวแศึขกษนาแเปล็นะกสราะรบดวปนลกาายรแศขึกนษาดทงั ี่จตาอ่เปไป็นนใน้ี การเสริมสร้าง
มาตรฐานคุณภาพ (เกพ)ือ่ เปสน็ ากราดลงัรสอาบคญัขใอนบการพพ้นัฒสนาารเศดรทษฐากดิจวแยละผสางั สคัมกไหทลยาดสีเขียว กวาง ๑๐
เซนติเมตร มีแถบทองกวาง ๑ เซนติเมตร ที่ริมท้ังสองขาง เวนระยะห่าง ๒.๓ เซนติเมตร ทั้ง
สองขาง ทาบแถบทองกวาง ๐.๗ เซนติเมตร ตอนกลางสารดมีแถบผามันตามสีประจาคณะ
กวาง ๑.๓ เซนติเมตร และมีตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยทาดวยโลหะสีเงิน สูง ๖ เซนติเมตร
ตดิ บนสารดรอบขอบดานหนาอกทัง้ สองขาง
(ข) สารดตนแขน แบ่งเป็น ๓ ตอน ระยะห่างตอนละ ๑.๕ เซนติเมตร
แต่ละตอนกวาง ๖.๕ เซนติเมตร พ้นสารดทาดวยผาสักหลาดสีเขียว มีแถบทอง กวาง ๑
เซนติเมตร ที่ริมท้ังสองขางตอนกลางสารดมีแถบผามันตามสีประจาคณะ กวาง ๑.๓
เซนตเิ มตร
(ค) สารดปลายแขน พ้นสารดทาดวยผาสักหลาดสีเขียว กวาง ๑๐
เซนติเมตร มีแถบทองกวาง ๑ เซนติเมตร ท่ีริมทั้งสองขาง เวนระยะห่าง ๒.๓ เซนติเมตร ทั้ง
สองขาง ทาบแถบทองกวาง ๐.๗ เซนติเมตร ตอนกลางสารดมีแถบผามันตามสีประจาคณะ
กวาง ๑.๓ เซนตเิ มตร
(๒) ครุยมหาบัณฑิต เช่นเดียวกับครุยดุษฎีบัณฑิต เวนแต่มีสารดตนแขน
๒ ตอน
(๓) ครุยบัณฑิต เชน่ เดยี วกบั ครุยมหาบัณฑติ เวนแตม่ ีสารดตนแขน ๑ ตอน
ค่มู อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕ )5(๑7) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโลมู่ ยอื ีรนากั ชศมกึ งษคาลก๒ร๕งุ เ๖ทพ๕ (๕๗)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
มาตรา ๕ เข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ มีลักษณะเป็น
รูปตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยทาดวยโลหะดุนนูนสีทอง ส่วนพ้นของพระราชลัญจกรและ
ดอกบวั ลงยาสนี า้ เงนิ สว่ นพน้ ของชอ่ มหาวิทยาลยั ลงยาสขี าว สูง ๖ เซนตเิ มตร
มาตรา ๖ ครุยประจาตาแหน่งและเคร่องหมายประกอบครุยประจาตาแหน่งของ
นายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวทิ ยาลัย และคณาจารยม์ หาวิทยาลยั มีดังตอ่ ไปน้ี
(๑) นายกสภามหาวิทยาลัย ครุยเป็นเส้อคลุมแขนยาวทาดวยผาโปร่งสีขาว ผ่า
อกตลอดยาวคลมุ เขา่ มสี ารดรอบขอบ สารดตนแขน และสารดปลายแขน ดังตอ่ ไปนี้
(ก) สารดรอบขอบ พ้นสารดทาดวยผาสักหลาดสีเขียว กวาง ๑๐
เซนติเมตร โดยทาบแถบทอง กวาง ๑ เซนติเมตร จานวน ๖ แถบ บนผาสักหลาดสีเขียว มี
ระยะห่างระหว่างแถบ ๐.๘ เซนติเมตร มีสารดเฉียงโดยพ้นสารดทาดวยผาสักหลาดสีเขียว
กวาง ๑๐ เซนติเมตร วางเฉียง๓๖ องศา ทาบบนสารดรอบขอบบริเวณกลางอกเส้อ มีแถบ
ทอง กวาง ๑ เซนติเมตร ท่ีริมทั้งสองขางแบ่งครึ่งผาสักหลาดสีเขียวท่ีเหลอ ๘ เซนติเมตร
ทาบแถบทอง กวาง ๑ เซนติเมตร บนผาสักหลาดสีเขยี ว ณ จุดแบ่งครง่ึ ขางละ ๑ แถบ รวม ๒
แถบ และใชแถบทอง กวาง ๐.๕ เซนติเมตร ทาบบนผาสกั หลาดสเี ขยี วสว่ นทเ่ี หลอทั้งสองขาง
มตี ราสญั ลักษณ์มหาวิทยาลัย ทาดวยโลหะสีทอง สงู ๖ เซนตเิ มตร ตดิ กลางสารดเฉียงท้ังสอง
ขาง
(ข) สารดตนแขน แบ่งเป็น ๓ ตอน ระยะห่างตอนละ ๒ เซนติเมตร แต่
ละตอนกวาง ๓.๕ เซนติเมตร พ้นสารดทาดวยผาสักหลาดสีเขียว มีแถบทอง กวาง ๑
เซนตเิ มตร ทีร่ ิมทัง้ สองขาง
(ค) สารดปลายแขน แบ่งเป็น ๓ ตอน ระยะห่างตอนละ ๒ เซนติเมตร
แต่ละตอนกวาง ๓.๕ เซนติเมตร พ้นสารดทาดวยผาสักหลาดสีเขียว มีแถบทอง กวาง ๑
เซนติเมตร ที่ริมทั้งสองขางใหมีสายสรอยประกอบครยุ ประจาตาแหนง่ นายกสภามหาวทิ ยาลัย
ทาดวยโลหะสีทองประกอบดวยรูปดอกไมทิพย์ ๙ ดอก มีเกสรเป็นพลอยสีเขียว กึ่งกลาง
สายสรอยประดับตราสญั ลกั ษณม์ หาวทิ ยาลยั ดุนนนู ลงยา ยึดติดกบั ครุยประมาณร่องหัวไหล่
(๒) กรรมการสภามหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับนายกสภามหาวิทยาลัย แต่ไม่มี
สายสรอยประดบั
(๓) คณาจารย์มหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับกรรมการสภามหาวทิ ยาลัย เวนแต่สารด
รอบขอบพ้นสารดทาดวยผาสักหลาดสีเขียว กวาง ๑๐ เซนติเมตร มีแถบทอง กวาง ๑
)5(๒8) ( คมู่ อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕
(๕๘) คมมู่ หอื นาวกั ิทศยกึ าษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
เซนติเมตร ที่ริมท้ังสองขางเวนระยะห่าง ๐.๕ เซนติเมตร ท้ังสองขาง ทาบแถบทอง กวาง ๐.๗
เซนติเมตร เวนระยะห่าง ๐.๕ เซนติเมตร ทั้งสองขาง ทาบแถบทอง กวาง ๑ เซนติเมตร บนผา
สักหลาดสีเขียว ส่วนท่ีเหลอท้ังสองขางมีตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยทาดวยโลหะสีทอง สูง ๖
เซนตเิ มตร ติดบนสารดรอบขอบดานหนาอกทงั้ สองขาง
มาตรา ๗มหาสวีปิทรยะาจลัายคเทณคะโนมโีดลยงั ตีราอ่ ชไปมงนคี้ ลกรุงเทพ เป็นสถาบันอุดมศึกษา สังกัดสานักงาน
คณะกรรมการการอ(๑ุดม) ศคึกณษาะคตรามุศพารสะตรรา์อชุตบสญั าญหตั กิมรหรามวิทยสาีทลับัยเททมิ คแโนดโงลยีราชมงคล พุทธศักราช ๒๕๔๘
เม่ือวันท่ี ๑๙ มกร(๒าค) มคณ๒ะ๕เ๔ทค๘โนเโปล็นยกคี าหรกรวรมรมตศัวขาสอตง ร๓์ วสิทชี ยมาพเขู ต คือ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ
วิทยาเขตบพิตรพิม(๓ุขม) หคาณเมะฆบแรลหิ ะาวริทธยุรากเจิขตพสฟีระ้านครใต้ ภายใต้ชื่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรุงเทพ จดั การเรยี (น๔ก)ารคสณอนะใวนิทรยะดาับศอาดุสมตศรึก์แษลาะหเลทกั คสโตูนรโปลรยญิ ี ญสาเี ตหรลีแอลงะปริญญาโท หลากหลายสาขาวชิ า
ยึดม่ันในอุดมการณ(๕์แ)ละคปณรัชะญวิศาวกการรรจมัดศกาาสรตศึกร์ษาสเเีพล่ืออผดลหิตมบู ัณฑิตนักปฏิบัติ ตอบสนองความต้องการ
ของสังคม โดยเชื่อ(ม๖ั่น)วค่าเณทะคศโนิลโปลศยีแาสลตะอรา์ ชสีวแี ศสึกดษาเป็นกระบวนการศึกษาท่ีจาเป็นในการเสริมสร้าง
มาตรฐานคณุ ภาพ (๗เพ) อ่ื คเปณน็ ะกอาลุตงัสสาาหคกัญรในรมกาสรง่ิ พทัฒอนาสเศีมรว่ ษงฐกิจและสงั คมไทย
มาตรา ๘ ใหมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพจดั ทาครุยวิทยฐานะ
เข็มวิทยฐานะและครุยประจาตาแหนง่ ตามพระราชกฤษฎีกานขี้ ้ึนไวเปน็ ตัวอยา่ ง
มาตรา ๙ ใหรฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาน้ี
ผูรบั สนองพระบรมราชโองการ
สมชาย วงศ์สวสั ด์ิ
(นายสมชาย วงศ์สวัสด)ิ์
นายกรัฐมนตรี
คมู่ อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕ )5(๑9) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโลมู่ ยอื รีนากั ชศมึกงษคาล๒กร๕งุ เ๖ท๕พ (๕๙)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
พระราชกฤษฎกา
ว่าดว้ ยปรญิ ญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา
ครุยวทิ ยฐานะัเข็มวิทยฐานะัและครุยประจาตาแหนง่
ของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยราชมงคลกรงุ เทพั(ฉบับท่ั๒)
พ.ศ.๒๕๕๕
---------------------
ภูมพิ ลอดลุ ยเดชัป.ร.
ใหไ้ วั้ ณัวันท่ั๖ักรกฎาคมัพ.ศ. ๒๕๕๕
เปน็ ปีทั่ ๖๗ัในรัชกาลปจั จบุ ัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ
โปรดเกลา ฯ ใหประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแกไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าดวยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะและครุยประจาตาแหน่งของ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
อ า ศั ย อ า น า จ ต า ม ค ว า ม ใ น ม า ต ร า ๑ ๘ ๗ ข อ ง รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ แ ห่ ง
ราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๕๕ วรรคสอง แหง่ พระราชบญั ญัติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราช
มงคล พ.ศ.๒๕๔๘ จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎีกาข้ึนไว ดังต่อไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกว่า “พระราชกฤษฎกี าว่าดวยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่ง ของ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๕๕”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจา
นเุ บกษาเปน็ ตนไป
มาตรา ๓ ใหยกเลิกความในมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าดวยปริญญาใน
สาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่ง
ของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ พ.ศ.๒๕๕๑ และใหใชความต่อไปนีแ้ ทน
“มาตรา ๓ ใหกาหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสาหรับสาขาวิชาของ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ ดังตอ่ ไปน้ี
)6(๒0)( คมู่ อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕
(๖๐) คม่มู หอื นาวกั ิทศยกึ าษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
(๑) สาขาวชิ าการบัญชี มปี รญิ ญาสามชนั้ คอ
(ก) เอก เรียกว่า “บัญชีดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “บช.ด.” และ “ปรัชญา
ดษุ ฎบี ณั ฑติ ใชอกั ษรย่อ “ปร.ด.”
(ข) โท เรยี กว่า “บัญชมี หาบัณฑติ ” ใชอักษรย่อ “บช.ม.”
(คม)หตาวริที เยรายี ลกัยวเา่ ทค“บโนญั โลชยีบีรัญาชฑมติ ง”คลใชกอรุงกั เษทรพยอ่ เป“็นบสชถ.บาบ.”ันอุดมศึกษา สังกัดสานักงาน
คณะก(ร๒รม) การสกาาขรอาดุวมชิ ศาึกคษราุศาตสามตพรรอ์ ะุตรสาาชหบญักรญรัตมิมหมาีปวริทญิ ยาญลาัยสเทาคมโชน้นัโลยคีรอาชมงคล พุทธศักราช ๒๕๔๘
เม่ือวันท่ี ๑๙ (กม)กรเาอคกม เร๒ีย๕ก๔วา่๘ “คเปร็นุศกาาสรตรรว์อมุตตสัวาขหอกงร๓รมวดิทษุยฎาเีบขัณต ฑคือิต”วิทใยชาอเกัขษตเรทคนิคกรุงเทพฯ
วิทย“าคเ.ขอต.ดบ.พ”ิตแรพละิมุข“มปหราัชเมญฆาดแลุษะฎวบี ิทัณยาฑเขิตต”พใรชะอนกั คษรใรตย้ ่อภา“ยปใรต.้ชดื่อ.”มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรุงเทพ จดั กา(รขเร)ียโนทกาเรรสียอกนวใา่นร“ะคดรบั ุศอาดุ สมตศึกร์อษตุาหสลากั หสกูตรรรปมรญมิ หญาาบตรณั ีแฑละติ ป”ริญใชญอากัโทษหรยลอ่ากหลายสาขาวชิ า
ยึดม“ั่นคใน.ออ.ุดมม.”การณ์และปรัชญา การจัดการศึกษาเพื่อผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ ตอบสนองความต้องการ
ของสังคม โดย(คเช)่ือตมร่ันี วเร่าียเทกควโ่านโ“ลคยรีแุศลาะสอตารช์อีวุตศึกสษาหาเกปร็นรกมรบะัณบวฑนติ ก”ารใศชึกอษักาษทร่ีจยา่อเป“็นคใน.อก.าบร.เ”สริมสร้าง
มาตรฐ(า๓น)คุณภสาาพขาวเพชิ ือ่าเคปห็นกการลรังมสศาาคสัญตในร์กมาปีรพรฒัญิ นญาาเศสราษมฐชกนั้จิ แคละอสงั คมไทย
(ก) เอก เรียกว่า “คหกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “คศ.ด.” และ
“ปรชั ญาดษุ ฎีบณั ฑติ ” ใชอักษร “ปร.ด.”
(ข) โท เรยี กว่า “คหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “คศ.ม.”
(ค) ตรี เรียกวา่ “คหกรรมศาสตรบณั ฑติ ” ใชอกั ษรยอ่ “คศ.บ.”
(๔) สาขาวิชาเทคโนโลยี มีปริญญาหน่ึงช้ัน คอ ตรี เรียกว่า “เทคโนโลยีบัณฑิต”
ใชอักษรยอ่ “ทล.บ.”
(๕) สาขาวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ มปี ริญญาสามชน้ั คอ
(ก) เอก เรียกว่า “บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “บธ.ด.” และ
“ปรัชญาดุษฎบี ณั ฑติ ” ใชอกั ษรย่อ “ปร.ด.”
(ข) โท เรียกว่า “บรหิ ารธรุ กิจมหาบัณฑิต” ใชอักษรยอ่ “บธ.ม.”
(ค) ตรี เรียกว่า “บรหิ ารธุรกิจบัณฑติ ” ใชอักษรยอ่ “บธ.บ.”
(๖) สาขาวิทยาศาสตร์ มปี รญิ ญาสามชัน้ คอ
(ก) เอก เรียกว่า “วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “วท.ด.” และ
“ปรชั ญาดษุ ฎีบณั ฑติ ” ใชอักษรยอ่ “ปร.ด.”
(ข) โท เรยี กวา่ “วิทยาศาสตรมหาบณั ฑิต” ใชอกั ษรยอ่ “วท.ม.”
(ค) ตรี เรยี กว่า “วิทยาศาสตรบณั ฑติ ” ใชอักษรยอ่ “วท.บ.”
ค่มู อื นกั ศึกษา ๒๕๖๕ )6(๑1) (
มหาวิทยาลยั เทคโนคโล่มู ยอื รีนากั ชศมกึ งษคาล๒กร๕งุ เ๖ท๕พ (๖๑)
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
(๗) สาขาวศิ วกรรมศาสตร์ มีปรญิ ญาสามชั้น คอ
(ก) เอก เรียกว่า “วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “วศ.ด.” และ
“ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “ปร.ด.”
(ข) โท เรยี กวา่ “วศิ วกรรมศาสตรมหาบัณฑิต” ใชอกั ษรยอ่ “วศ.ม.”
(ค) ตรี เรยี กวา่ “วศิ วกรรมศาสตรบณั ฑิต” ใชอกั ษรย่อ “วศ.บ.”
(๘) สาขาวชิ าศลิ ปศาสตร์ มปี รญิ ญาสามชน้ั คอ
(ก) เอก เรียกว่า “ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “ศศ.ด.” และ
“ปรชั ญาดุษฎบี ัณฑติ ” ใชอักษรย่อ “ปร.ด.”
(ข) โท เรียกวา่ “ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ ” ใชอกั ษรยอ่ “ศศ.ม.”
(ค) ตรี เรยี กวา่ “ศิลปศาสตรบณั ฑิต” ใชอักษรยอ่ “ศศ.บ.”
(๙) สาขาวชิ าศกึ ษาศาสตร์ มปี รญิ ญาสามช้ัน คอ
(ก) เอก เรียกว่า “ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “ศษ.ด.” และ
“ปรัชญาดษุ ฎบี ัณฑิต” ใชอักษรย่อ “ปร.ด.”
(ข) โท เรียกวา่ “ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต” ใชอักษรย่อ “ศษ.ม.”
(ค) ตรี เรียกวา่ “ศกึ ษาศาสตรบณั ฑติ ” ใชอกั ษรย่อ “ศษ.บ.”
(๑๐) สาขาวิชาอตุ สาหกรรมศาสตร์ มีปรญิ ญาสามชัน้ คอ
(ก) เอก เรยี กวา่ “อุตสาหกรรมศาสตรดุษฎบี ัณฑติ ” ใชอักษรย่อ “อส.ด.”
และ “ปรชั ญาดุษฎบี ัณฑติ ” ใชอกั ษรย่อ “ปร.ด.”
(ข) โท เรียกว่า “อุตสาหกรรมศาสตรมหาบณั ฑิต” ใชอกั ษรยอ่ “อส.ม.”
(ค) ตรี เรยี กว่า “อุตสาหกรรมศาสตรบณั ฑิต” ใชอักษรยอ่ “อส.บ.”
ท้ังนี้ หากมีสาขาหรอวิชาเอกใหระบุช่อสาขาหรอวิชาเอกน้ันไวในวงเล็บ
ตอ่ ทายปรญิ ญาดวย”
ผูรับสนองพระบรมราชโองการ
ย่ิงลักษณ์ ชนิ วตั ร
(นางสาวย่งิ ลกั ษณ์ ชนิ วตั ร)
นายกรฐั มนตรี
)6(๒2) ( ค่มู อื นกั ศกึ ษา ๒๕๖๕
(๖๒) คม่มู หอื นาวกั ิทศยึกาษลายั ๒เท๕คโ๖นโ๕ลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชกฤษฎีกาฉบับน้ี คอ เน่องจากมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพไดเปิดสอนสาขาวิชาการบัญชีและสาขาวิชาศึกษาศาสตร์เพิ่มขึ้น
สมควรแกไขเพ่ิมเติมการกาหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสาหรับสาขาวิชาของ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เพ่อกาหนดปริญญาในสาขาวิชาและ อักษรย่อ
สาหรับสาขาวชิ าขมอหงาสวิาทขยาาวลชิ ัยาเทดังคกโนลโา่ ลวยจีรึงาจชามเงปคน็ ลตกอรุงงเตทรพาพเรปะ็นราสชถกาบฤันษอฎุดีกมาศนึกี้ ษา สังกัดสานักงาน
คณะกรรมการการอดุ มศึกษา ตามพระราชบญั ญตั ิมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พุทธศักราช ๒๕๔๘
เม่ือวันท่ี ๑๙ มกราคม ๒๕๔๘ เป็นการรวมตัวของ ๓ วิทยาเขต คือ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ
วิทยาเขตบพิตรพิมุขมหาเมฆ และวิทยาเขตพระนครใต้ ภายใต้ชื่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรงุ เทพ จดั การเรยี นการสอนในระดบั อุดมศึกษาหลกั สูตรปรญิ ญาตรีและปรญิ ญาโท หลากหลายสาขาวชิ า
ยึดม่ันในอุดมการณ์และปรัชญา การจัดการศึกษาเพื่อผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ ตอบสนองความต้องการ
ของสังคม โดยเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเป็นกระบวนการศึกษาท่ีจาเป็นในการเสริมสร้าง
มาตรฐานคณุ ภาพ เพอ่ื เป็นกาลังสาคัญในการพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมไทย
คคมู่ ่มูอื อืนนกั กัศศกึ กึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(6(๖๑3๓) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี รี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
หมวดการจดั การศกึ ษา
()๖6(๔๒4))( คคมู่่มู อือื นนกักั ศศึกึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี รี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เป็นสถาบันอุดมศึกษา สังกัดสานักงาน
คณะกรรมการการอดุ มศึกษา ตามพระราชบญั ญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พุทธศักราช ๒๕๔๘
เม่ือวันท่ี ๑๙ มกราคม ๒๕๔๘ เป็นการรวมตัวของ ๓ วิทยาเขต คือ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพฯ
วิทยาเขตบพิตรพิมุขมหาเมฆ และวิทยาเขตพระนครใต้ ภายใต้ชื่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรงุ เทพ จดั การเรียนการสอนในระดับอดุ มศึกษาหลกั สูตรปรญิ ญาตรีและปรญิ ญาโท หลากหลายสาขาวชิ า
ระดบั ปรญิ ญาตรียึดม่ันในอุดมการณ์และปรัชญา การจัดการศึกษาเพื่อผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ ตอบสนองความต้องการ
ของสังคม โดยเชื่อม่ันว่าเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเป็นกระบวนการศึกษาที่จาเป็นในการเสริมสร้าง
มาตรฐานคุณภาพ เพือ่ เปน็ กาลงั สาคัญในการพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมไทย
คค่มู มู่อื อืนนกั กัศศกึ ึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(6(๖๑5๕) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี รี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
ข้อบังคับมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
วา่ ด้วยการศึกษาระดับปริญญาตรี
พ.ศ. ๒๕๕๐
-------------------------------------
ตามที่ได้มีพระราชบัญญัติจัดต้ังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เพื่อให้
การดาเนินการจัดการศึกษาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง
ไปมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ จึงเห็นควรจัดทาข้อบังคับว่าด้วยการศึกษาระดับ
ปรญิ ญาตรขี ึ้น
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. ๒๕๔๘ และมติสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ในการ
ประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๒๖ เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ จึงออกข้อบังคับไว้
ดังต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ขอ้ บังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
ว่าดว้ ยการศกึ ษาระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๐”
ข้อ ๒ ขอ้ บังคบั นี้ให้มีผลใชบ้ ังคับนบั แตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศเปน็ ตน้ ไป
ข้อ ๓ บรรดาความในข้อบังคับ ระเบียบ คาส่ัง หรือประกาศอื่นใดในส่วนที่
กาหนดไวแ้ ลว้ ในขอ้ บังคับน้ี หรือซึง่ ขัดแยง้ กบั ความในข้อบงั คบั น้ีให้ใชค้ วามในข้อบงั คบั นแ้ี ทน
ข้อ ๔ ในข้อบังคบั น้ี
“มหาวทิ ยาลยั ” หมายความว่า มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพ
“สภามหาวิทยาลัย” หมายความว่า สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรุงเทพ
“อธิการบดี” หมายความว่า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรุงเทพ
“คณะ” หมายความวา่ ส่วนราชการระดับคณะหรือส่วนราชการทเี่ รียกช่ือเป็น
อยา่ งอ่ืนแต่มฐี านะเทียบเท่าคณะท่ีมีการจัดการเรยี นการสอน
“คณบดี” หมายความว่า หัวหน้าส่วนราชการระดับคณะ หรือหัวหน้าส่วน
ราชการที่เรียกชือ่ เป็นอย่างอืน่ แต่มีฐานะเทียบเทา่ คณะ ท่มี กี ารจดั การเรียนการสอน
(๖)6(๖๒6))( คคมู่มู่ อือื นนกักั ศศกึกึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
“นักศึกษา” หมายความว่า ผู้ที่เข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรีใน
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ
“คณะกรรมการประจาคณะ” หมายความว่า คณะกรรมการประจาคณะของ
แตล่ ะ คณะในสงั กัดมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
กมเสคทาอณอยี รบนะบศใเยวกขมคหแึกมเนิทึรดณาอทมลื่ษองุตแยมงะะาา่เวรสาาทั่ตนกยภใัฐนัขงเหพ่ใลรใขาาคทนอรหนห้ะตคจม่ีมอง้คทค๑บมวดั แกุดณุโชิณกาพา๙าตดมหายารภิตล่ยกะรกรนารมเะาเมา““““วพชรพแ้ราหกรหียมอภแหื่อณิทมลอรลนาผมถัาาวุขาดุะีใ่์แเวักกั่ึงนนคพหจหคมมใิลทาสหวหื่อวกา้มคหศนระยตู่านเิชรึสก้าหาาป้าปาเรว่รอเษายแท๒ลรภม็นมทเยน”า์ันชคทัยกรา๕าฆไี่ งใญโตะเยียา่ีดคนป๔านทแลานนาค้รรวนห๘รโมคงัละบัาิลวช”ทสึกกพโะมดปายคาานา่ีเวรบัษามีเครรแร”วิโทะปอยยีึกญัจลลหารารย็ุดนคหัดกวยะมษา”ใมามกนชวีกอมชรมเาเาศหบหขากาาาาอ่ืถยาึกรรชตาชตญัม็นมเยึงคษรรศีปมวพิดวหชญคพาววาึกศง่น็ตารอัวหมตัายวฒั ษึคกะาอบหมิมลตาภคษลานนมยกัหมัจววนเกาาาควพผสา่ ข่าาาวเเ้าครราศงตูวลื่ปอกอ่าุหงใวแมอิทรรผ็เนตสงเิษกนชปผทน่ืยหวล้ กภ๓ฐ่ีราาย่วน่พิทตาัภวราญกิลทยวบกะหีม่าวมจิัยอญกี่งมบยัิณาทีฐเแนเหาับทปาใรีากวาลยฑ้าาตนตจจ็คนนกนาะาวภ้ชิตรทโัดกสารเาสะิทนื่ีแอขนาังรี่จาเรกถเลโยมรตคคักทรศัดยลาาะียาหมศปวียึกยรบ์คกปปลไกึากิชฏีเรบษัืนอทรารวัยรชษาิาบญิ เรยาอิทียชะว่ืทอทาัตเุญดมนยิททจรตเ่าิี่มมงาปาีตยก่ียจภักาคีกลโศอ็นาานาใทเาลัยาึกตเเนรบคอกปขเรหษสือสทคยพวาต็นจลอนานคิชร่าุทเณัดใาทนอโแนสงาสธกกนงอคใะลศักองหคาโนกื่ันกาะนนลลรวแัซรรดิดคายใเาาเตยึ่ทสรงนูกแีรสมชสี่ลยคาา่ีมรลรตานชุิงแะนมณ๒้ีคฐอขเมักภสตางกท๕วางบงกรนว่ลาาา๔พคา้าชาิ คมดระะ๘นลฯงราี
ประพฤตติ ลอดจนรับผดิ ชอบดูแลแผนการเรยี นของนักศึกษา
“อาจารย์ผู้สอน” หมายความว่า ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบสอนรายวิชาในระดับ
ปรญิ ญา
ขอ้ ๕ ให้อธิการบดีรักษาการตามข้อบังคับนี้ และมีอานาจวินิจฉัยตีความ
ตลอดจนออกประกาศเพือ่ ให้การปฏิบตั ติ ามข้อบังคบั นเี้ ปน็ ไปด้วยความเรยี บรอ้ ย ทั้งน้ี คาวนิ จิ ฉัย
ให้ถอื เปน็ ทสี่ ุด
หมวดท่ี ๑
การรับเขา้ ศึกษา
ข้อ ๖ ผทู้ ี่จะสมัครเขา้ เป็นนกั ศกึ ษาต้องมีคุณสมบัตแิ ละลักษณะดังนี้
(๑) เป็นผมู้ คี ุณวุฒิการศกึ ษาตามทก่ี าหนดไวใ้ นหลกั สูตร
(๒) ไม่เป็นคนวิกลจรติ หรือโรคตดิ ตอ่ ร้ายแรง โรคที่สังคมรงั เกียจ หรอื โรค
ทจี่ ะเปน็ อปุ สรรคต่อการศกึ ษา
(๓) ไม่เป็นผู้มคี วามประพฤตเิ สอื่ มเสยี อยา่ งรา้ ยแรง
คคมู่ มู่อื อืนนกั กัศศกึ ึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(6(๖๑7๗) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
ข้อ ๗ การคั ดเลือกผู้สมั ครเข้าเป็ น นั กศึกษ าให้ เป็ น ไป ต ามระเบี ยบ
การสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาของมหาวิทยาลัย หรือการคัดเลือกตามวิธีการที่
มหาวิทยาลัยกาหนด
ขอ้ ๘ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษา จะมีสถานภาพเป็นนักศึกษาเม่ือได้ข้ึน
ทะเบียน และชาระเงินค่าลงทะเบียนเรียน และค่าธรรมเนียมตามประกาศของมหาวิทยาลัย
พร้อมนาส่งหลักฐานเกี่ยวกับการขอข้ึนทะเบียนเป็นนักศึกษาด้วยตนเองตามวัน เวลา และ
สถานที่ทม่ี หาวทิ ยาลัยกาหนด
หากผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาไม่มาข้ึนทะเบียนเป็นนักศึกษาเป็นอัน
หมดสิทธิ์ท่ีจะเข้าเป็นนักศึกษา เว้นแต่จะมีเหตุจาเป็นและได้รับอนุมัติจากอธิการบดีหรือผู้ได้รับ
มอบหมาย
นั ก ศึ ก ษ า ท่ี ข้ึ น ท ะ เบี ย น แ ล้ ว ต้ อ ง ท า บั ต ร ป ร ะ จ า ตั ว นั ก ศึ ก ษ า ข อ ง
มหาวิทยาลยั ทุกคน
หมวดที่ ๒
ระบบการศึกษา
ข้อ ๙ มหาวิทยาลยั จัดระบบการศึกษาตามเกณฑ์ ดังน้ี
(๑) มหาวิทยาลัยจัดการศึกษาโดยการประสานงานดา้ นวิชาการระหว่างคณะ
หรือภาควิชาคณะใดหรือภาควิชาใด ที่มหี นา้ ท่เี ก่ียวกับวชิ าการดา้ นใด ให้จดั การศกึ ษาในวิชาการ
ดา้ นน้ันแกน่ กั ศึกษาทกุ คนท้งั มหาวทิ ยาลยั
(๒) มหาวิทยาลัยจัดการศึกษาภาคการศึกษาปกติโดยใช้ระบบทวิภาค เป็น
หลัก ในปีการศึกษาหนึ่งจะแบ่งออกเป็น ๒ ภาคการศึกษาซึ่งเป็นภาคการศึกษาบังคับ
แบ่งออกเป็นภาคการศึกษาที่หน่ึง และภาคการศึกษาท่ีสอง มีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่าสิบห้า
สัปดาหต์ ่อหนง่ึ ภาคการศึกษา ทั้งน้ีไมร่ วมเวลาสาหรับการสอบด้วย สาหรับวนั เปิดภาคการศึกษา
ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของมหาวิทยาลัย
(๓) มหาวิทยาลัยอาจเปิดภาคการศึกษาฤดูร้อนเพิ่มเป็นภาคการศึกษาท่ีไม่
บังคับ มีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่าเจ็ดสัปดาห์ ทั้งน้ีไม่รวมเวลาสาหรับการสอบด้วย แต่ให้มี
จานวนชว่ั โมงเรยี นของแตล่ ะรายวิชาเทา่ กบั หนงึ่ ภาคการศึกษาปกติ
()๖6(๘๒8)) ( คคมู่่มู อือื นนกักั ศศกึึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยีรีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
(๔) การกาหนดปริมาณการศึกษาของแต่ละรายวิชาให้กาหนดเป็นหน่วยกิต
ตามลกั ษณะการจดั การเรียนการสอน ดังนี้
(ก) รายวชิ าภาคทฤษฎี ใช้เวลาบรรยายหรืออภิปรายปัญหา ๑ ชั่วโมงต่อ
สัปดาห์ ตลอดหน่ึงภาคการศึกษาปกติ หรือจานวนชั่วโมงรวมไม่น้อยกว่า ๑๕ ชั่วโมง ให้นับเป็น
หตใหตหชอ่ลนนน้เภอวึ่ง่ง่วึ หหดลยายคกขวเมมิคทึรดกณหานอนาื่องุตทกยงมิต่ว่วนะเวรสาท่ัานยายก่ึงัฐนังเรโพใกกรภขาคทคนศรนติติตาจม่ีมรอกึ ค๑บคดั งกุดษุณโกพก๙งาดมาาารภิาตยกปรกนรารมเาเมากพชศรหพรกรหยี่ืตอึกณิมรอรนามิษืุอขาดุ์แเวใก่ันพคมกมหาิลท(((าขคงวือ่มปหศิจระ้นย)่าเ))ึสกาปกกปาบัเรกกอเษทร๒ลรต็นมเาานาาัชรคัปยกิ๕ฆยรรใหญมโตเาน็น๔ฝวทนทแลนารารหิชึก๘โามคงัลอืะ้ันลนาสกงโพโะดจคยาภานา่งึวรับๆาีเคแนรรหิโทะาปอนัญจลลงรคนไย็ดุนหวัดงยะามใปาม่วากนชนีกอรร่นเศยฏนบขากาาืาอช้อึกกรรชาชตญัิบหก่ัวษยรรศติีมวพัโญตราพวาึกกศมงรืรอิหมตััฒษึคกวะใงฝกิมลตช่าษลรานนึกิจกัหัวเ้เวกาาคพภวส๔กขาเมเรรศูตวื่ลปอาอร๕ุงใิทรรคผ็านรตรงเษปทยฝลมะ้สกช๓ฐราพิตึหกภนกร่ัวญกิลบะหาววาโาิจัยญมบยัิณทรา่มเแรเทปใางเวงลืยอทฑตรตต็คนนะาที่ใ้ียชิ๓ตรโ่อกสเสชนื่ีแอดนขน๐ังาถ้เลโมตคัภลกวอรลาะหมศปอล–่ืานยบคปไึากคฏางีรัใืนอทร๔วษาฝดิกบิญยอิท๒ช๕วึกาตาัตุญดมยิททรไิา–มงามาชตี่ยศจมคลโศ่ัอวน่าาึกท๓ทลัยึกเเโบ้อษปขเี่ไมหษสทชยดพต็านงลานคั่วก้ปุรทเใาทอใโนโับสวธกกนหมงคศั่ากงหมตคโ้นงกันกาลลอิว๔ตัรรดับิคใายาบาเ่อห๕ยสกีเรสมชหปสส้านารรตชานชัปุ็มนิงมับ๒้อขเ่ัวมักาสหดงท๕เาโงยงปกรวานม๔พคา้าชาิทห็น่ึงง๘นลฯงรา่ี์
(จ) การศึกษาบางรายวิชาท่ีมีลักษณะเฉพาะ มหาวิทยาลัยอาจกาหนด
หนว่ ยกิต โดยใช้หลักเกณฑ์อื่นไดค้ วามเหมาะสม
(๕) นักศึกษาต้องมีเวลาศึกษาในแต่ละรายวิชา ไม่น้อยกว่าร้อยละแปดสิบ
ของเวลาศึกษาตลอดภาคการศึกษา จงึ จะมีสทิ ธ์ิสอบในรายวิชานน้ั กรณีที่เวลาศึกษาไม่ถึงรอ้ ยละ
แปดสิบอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัยจะต้องได้รับอนญุ าตจากอาจารย์ผู้สอนประจารายวิชาน้ันและ
รายงานใหค้ ณบดีทราบ
หมวดท่ี ๓
การลงทะเบียนเรียน
ขอ้ ๑๐ นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนโดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัย
กาหนด ดงั น้ี
(๑) นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนในรายวชิ าที่กาหนด ในแต่ละภาคการศึกษา
ให้เสรจ็ กอ่ นวันเปิดภาคการศกึ ษาน้นั หรือตามระยะเวลาที่มหาวิทยาลยั กาหนด
(๒) การลงทะเบียนเรียนรายวิชาใดต้องได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่
ปรึกษา และเป็นไปตามข้อกาหนดของหลักสูตรและข้อกาหนดของคณะท่ีนักศึกษาสังกัด หาก
ฝ่าฝนื จะถอื ว่าการลงทะเบยี นเรยี นดงั กล่าวเป็นโมฆะ
คคมู่ มู่อื อืนนกั กัศศึกกึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(6(๖๑9๙)()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี รี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
(๓) การลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคการศึกษาปกติ นักศึกษาจะต้อง
ลงทะเบียนเรียนไม่ต่ากว่า ๙ หน่วยกิต แต่ไม่เกิน ๒๒ หน่วยกิต สาหรับภาคการศึกษา
ฤดูรอ้ นลงทะเบียนได้ไม่เกิน ๙ หน่วยกิต ยกเว้นในกรณีที่แผนการเรียนของหลักสตู รไดก้ าหนดไว้
เปน็ อยา่ งอน่ื ใหป้ ฏบิ ตั ิตามแผนการเรยี นท่ีกาหนดไวใ้ นหลักสตู รนั้น
(๔) การลงทะเบยี นเรียนในภาคการศึกษาปกติทม่ี จี านวน หน่วยกิตมากกว่า ๒๒
หน่วยกิต แต่ไม่เกิน ๒๕ หน่วยกิตหรือน้อยกว่า ๙ หน่วยกิต ต้องขออนุมัติคณบดีและได้เพียง
หนึง่ ภาคการศึกษา ยกเวน้ ภาคการศึกษาสดุ ท้ายท่ีนกั ศึกษาจะสาเร็จการศึกษาตามหลกั สตู ร และ
มีหน่วยกิตเหลอื อยู่ไม่เกิน ๒๕ หน่วยกิต หรือน้อยกว่า ๙ หน่วยกิต อาจขออนมุ ัติคณบดีเป็นการ
เฉพาะราย ได้อีกหน่งึ ภาคการศึกษาปกติ
(๕) นกั ศึกษาในรายกรณีเป็นสหกิจศึกษา นักศกึ ษาฝึกงานในสถานประกอบการ
และนักศึกษาฝึกประสบการณ์การสอนในสถานศึกษา อนุญาตให้ลงทะเบียนเรียน ๖ หน่วยกิต
ในภาคการศกึ ษานัน้ ได้
(๖) นักศึกษาท่ีได้ลงทะเบียนเรียนก่อนวันเปิดภาคการศึกษาแล้ว แต่มีประกาศ
ภายหลังว่าพ้นสภาพเน่ืองจากผลการเรยี นในภาคการศกึ ษาก่อน ให้ถือวา่ ผลการลงทะเบียนเรียน
ในภาคการศึกษาถัดมาเป็นโมฆะ ไม่มีผลผูกพันมหาวิทยาลัย และนักศึกษามีสิทธ์ิขอคืนเงินค่า
บารุงการศึกษา ค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนยี มการศึกษาซ่ึงได้ชาระในภาคการศกึ ษาทเี่ ป็นโมฆะ
(๗) สาหรับภาคการศึกษาปกติ หรือภาคการศึกษาฤดูร้อน นักศึกษาต้อง
ลงทะเบียนเรียนและชาระเงินตามระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยกาหนด นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน
และชาระเงินหลังวนั ที่มหาวิทยาลัยกาหนดไว้ จะต้องชาระเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเป็นค่าปรับ
ตามประกาศมหาวทิ ยาลัย
ในภาคการศึกษาปกติหากนักศึกษาไม่ลงทะเบียนเรียนและไม่ชาระเงิน
มหาวิทยาลัยจะถอนชื่อนกั ศกึ ษาผู้นั้นออกจากทะเบยี นนักศึกษา
(๘) ในภาคการศึกษาปกติ หากนักศึกษาไม่ได้ลงทะเบียนเรียน และประสงค์จะ
ขอรักษาสภาพการเป็นนักศึกษาเพือ่ ลาพักการศึกษา หรือการขอปรับค่าระดับ ม.ส. (I) คะแนนให้
ยื่นคาร้องต่อคณบดี เม่ือได้รับอนุมัติแล้วให้นาคาร้องไปย่ืนต่อสานักส่งเสริมวิชาการและงาน
ทะเบียน ภายในสามสิบวันนับจากวันเปิดภาคการศึกษาน้ัน และต้องชาระเงินค่าธรรมเนียมเพ่ือ
รักษาสภาพเป็นนักศึกษาหรือค่าการปรับระดับคะแนน หากไม่ปฏิบัติดังกล่าวมหาวิทยาลัยจะ
ถอนช่ือนักศึกษาผนู้ ัน้ ออกจากทะเบยี นนักศึกษา
(๗)7(๐๒0)) ( คคมู่มู่ อือื นนกักั ศศึกึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยีรีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
(๙) สาหรับภาคการศึกษาฤดูร้อนนักศึกษาจะต้องลงทะเบียนและชาระเงินตาม
ระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยกาหนด หากไม่ปฏิบัติดังกล่าว นักศึกษาไม่มีสิทธิ์เข้าศึกษาและถือว่า
การลงทะเบยี นเรยี นในภาคการศกึ ษาฤดรู อ้ นน้ันเป็นโมฆะ
(๑๐) ให้อธิการบดีมีอานาจอนุมัติให้นักศึกษาผู้ถูกถอนช่ือออกจากทะเบียน
ตกถคนนหือา้า่อกับันหธรงศึง่จระชนหึกายกเมคขวรมยาิทกึดรดณราอษม่ือรงุะตอืวยงมราะเเะวรสเนัะาจท่ันนตกวัฐนเังเยาพเใรียงาลขาคปทนกระินนมมขตาจม่ีมอดิัดเคท๑คบออ้ดัวกุด(ภจุณโก่่ืน๖าพ่ีลถ๙าดม๑าาธารภิูใาตก)ยกนครดกร๑หารถมเ(าเมกวารพทช๗รพนรอกรหนามยี่ือณ่คีิม)อก่ึนงรรนานเกมุา้ขปาุด์รนแศเวชกั่นกักาพงคมมณินีลทึกีื่าอยชรศลวือ่มหศระัยบษอมเี่ทาาเับึกึสกาปปปาเจรอาเมี่อเษษทเ๒ลรสน็ิดมะปาขกนหาัชคาัยก๕มตกฆร้ากจใญทาโตเานาาวืเอ๔ตนาทวแลปาีล่ยามนัรนกิ๘โมคทิังลงะ็นวหลปทสกทเพโะทดยิชปยนานรราี่นวะรับาะีเคแาือระ็ักนิโทะปเักลอเญัจลลเกบภรศบผย็พุดศนัยัดยะาาใียาึกาู้ยีมลึกกมนช่ิมีกอรศยเนษศนาบขษากาีเาาหมใหึกพนรราชเาชตญันารหรษรรศใตีมวัพกักผญสือียหพวาาึกศุองศรกู้นัปนหปมัตวฒัมษึคกะนัึกาน้ัทิิมลตดใิด่ไษลานนรคษนกัดหัถวายเรกาาคศพวสรขาาหเู้กเาาเรรปึศกรตูวื่ปาอเอลถยุแ์งใปิทรอยรษน็ผ็นตงเยัอวรษปท็ยนาวล้กกากิชน๓ฐราจิชพิตรภรรรนาญกิลชปาะบะวณาวใจิัยับื่อญใยบยรมัิดณทเแเดีพจจทปะใะาวทตลยฑกตาาตเิก็คนเนะา้อ้ังศ้วชิไ็กกตรโากสเสคดงนื่ีแลษอขนทวศงัาถก่า้ลโมานัตคักระงลาครเะพหมศปดเเมยบคปะืปนบไึากักฏกีร่ือัืนอทรทวิดสยีษากิาบิญมยอิทชาภนภวราาัตีเุญดภมยิททสหารนาิ มงาาาตค่ีศยอจพตักคลโศยอาากึกนทผุเลศัยึกเเใบปาษรปขลกึเนหษรสท็นาพต็านอษลสศานยคุนทเันใาาอทึกทอวโนสธกักสนงษิชง้ัคงศโักงหศคมสโดนกาันกาาลลึกวัคปยใัรฤร้ีดติคายาดษาเวนยดดส้อกีรสมชรรสาักูราาางรรตาโานชอุ้ไหิงศม๒้อดยขมเมันกแึสก์แงท๕วยา่พงงกรลษวริชใ๔พคา้า้ชานิหกะาา๘นลฯงรา้
ข้อ ๑๒ การลงทะเบียนเรียนในรายวชิ าทม่ี ีวิชาบงั คบั ก่อนมีหลกั เกณฑ์ ดังนี้
(๑) การลงทะเบยี นเรียนรายวิชาหน่งึ วิชาใดที่มีวิชาบงั คับก่อน นักศึกษาจะตอ้ ง
สอบผ่านวิชาบังคับก่อนหากฝ่าฝืนจะถือว่าการลงทะเบียนเรียนรายวิชาน้ันเป็นโมฆะ เว้นแต่จะ
ได้รับอนุมัติจากคณบดีก่อนการลงทะเบียนเรียน และจะต้องเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายของหลักสูตร
ที่จะสาเร็จการศกึ ษาในปกี ารศกึ ษานั้น
(๒) นักศึกษาท่ีลงทะเบียนเรียนรายวิชาต่อเนื่องควบคู่กับรายวิชาบังคับก่อน
หากงดเรียนรายวิชาบังคับก่อน จะต้องงดเรียนรายวิชาต่อเน่ืองคราวเดียวกันด้วย หากไม่งดเรียน
รายวชิ าต่อเน่อื งจะถือว่าการลงทะเบยี นเรยี นรายวิชาต่อเน่ืองนนั้ เป็นโมฆะ
ข้อ ๑๓ มหาวทิ ยาลยั กาหนดหลกั เกณฑ์การลงทะเบียนเรยี นขา้ มสถานศกึ ษา ดังนี้
(๑) นักศึกษาสามารถลงทะเบียนเรียนข้ามสถานศึกษาได้ในแต่ละภาค
การศึกษา หากเป็นการลงทะเบยี นเพอ่ื เพิ่มพูนความรู้ประเภทไมน่ บั หน่วยกิต
(๒) นักศึกษาที่ประสงค์จะลงทะเบียนเรยี นข้ามสถานศึกษาเพ่ือนบั หน่วยกิตใน
หลกั สตู รจะตอ้ งเปน็ ไปตามเง่ือนไข ดังน้ี
(ก) เป็นนกั ศึกษาภาคการศึกษาสดุ ท้ายท่ีจะสาเร็จการศึกษา และรายวิชา
ท่ีจะเรียนไมเ่ ปิดสอนในภาคการศึกษานัน้
คค่มู มู่อื อืนนกั กัศศกึ ึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(7(๗๑1๑) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี รี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
(ข) รายวิชาท่ีจะลงทะเบียนเรียนในสถานศึกษาอ่ืน จะต้องเทียบได้กับ
รายวิชาตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัย การเทียบใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของภาควิชาและคณะเจ้าของ
รายวิชาโดยถือเกณฑ์เน้ือหาและจานวนหนว่ ยกิตเป็นหลัก สว่ นการอนุมตั ิให้ลงทะเบียนเรียนขา้ ม
สถานศกึ ษาใหเ้ ปน็ อานาจของคณบดที ่นี ักศึกษาสงั กดั อยู่
(๓) การเรียนข้ามสถานศึกษา ให้นักศึกษายื่นคาร้องขอเรียนข้ามสถานศึกษา
ต่อคณบดีเพื่อพิจารณาและนักศึกษาชาระเงินตามประกาศที่มหาวิทยาลัยกา หนดไว้ให้
เรียบร้อย หลังจากนั้นจึงไปดาเนินการ ณ สถานศึกษาที่นักศึกษาต้องการลงทะเบียนเรียนข้าม
สถานศึกษา
(๔) กรณีนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาอ่ืนมีความประสงค์จะเรียนข้าม
สถานศึกษาใหป้ ฏิบัตติ ามประกาศมหาวทิ ยาลัย
ข้อ ๑๔ นักศึกษาอาจขอเพม่ิ หรอื ถอนรายวชิ าไดโ้ ดยต้องดาเนินการ ดงั นี้
(๑) การขอเพ่ิมรายวชิ า ต้องกระทาภายในสัปดาห์ที่สองของภาคการศึกษา
ปกติ และภายในสัปดาห์แรกของภาคการศกึ ษาฤดูรอ้ น
(๒) การถอนรายวิชาให้มีผล ดังน้ี
(ก) ถ้าถอนรายวิชาในสัปดาห์ที่สองของภาคการศึกษาปกติ และ
ภายในสัปดาห์แรกของภาคการศึกษาฤดูร้อนรายวิชาน้ันจะไม่ปรากฏในใบแสดงผลการศึกษา
(ข) ถ้าถอนรายวิชาเมื่อพ้นกาหนดสัปดาห์ที่สอง แต่ยังอยู่ภายในสิบ
สองสัปดาห์ของภาคการศึกษาปกติ หรือเมื่อพ้นกาหนดสัปดาห์แรกของภาคการศึกษาฤดูร้อน
แต่ยังอยู่ภายในห้าสัปดาห์แรกของภาคการศึกษาฤดูร้อนจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก
อาจารย์ที่ปรึกษา โดยรายวิชานั้นจะปรากฏในใบแสดงผลการศึกษา ซึ่งจะได้รับคะแนนถอน
รายวิชา หรือ ถ และเมื่อพ้นกาหนดการถอนรายวิชาแล้ว นักศึกษาจะถอนการลงทะเบียน
เฉพาะรายวิชาไม่ได้
(๓) การลงทะเบียนเรียนรายวชิ าเพ่ิมจนมีจานวนหนว่ ยกิต สงู กวา่ หรือการ
ถอนรายวิชาจนเหลอื จานวนหน่วยกิตต่ากว่าท่ีระบุไว้ในข้อ ๑๐ (๔) จะทามิได้หากฝ่าฝืนจะถอื ว่า
การลงทะเบียนเรยี นดงั กลา่ วเปน็ โมฆะ เว้นแตจ่ ะมีเหตผุ ลอันควรและได้รับอนุมตั ิจากคณบดี
()๗7(๒๒2)) ( คคมู่มู่ อือื นนกักั ศศกึกึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยีรีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
หมวดท่ี ๔
การลาของนักศึกษา
ข้อ ๑๕ นักศึกษามสี ิทธิล์ าพักการศึกษาในระหวา่ งการศกึ ษา ดังนี้
(๑) การลาพักการศึกษาเป็นการลาพักท้ังภาคการศึกษา และถ้าได้ลงทะเบียน
นสไเตรกปะอ่อ้ันนิ ดแคงสลบัจใณมขยกวเคนอม้วะคิทึรดณาอบ่ืงรอใไงุตะยมงะหภมเะดวรสแาท่ันกัฐ้่ยนหาปีังเนพใรขาคคกทนวรรนนตจกมเี่่ามาอคถล๑บดั ากงกุดุณโอิกกพร๙ภาฏดมานศรภกิตายกใรกึการาร((นคมเาเม๓๒าพชราพรษรกกใรหีย่ืยอ))ลณิบมาอราน(ามวงุปขกาุดแ์รแเวกชิ่ัทนพคมมก)ศิกลทสนาาวอื่ะมหศาระึตกดยัก่าถเเึสกราปหปติษางบเศูกอขเษท๒ลรผน็รดิมาียึกนอเาัชคัยอืกล๕ตฆปกนษใญลโตเานกอ่๔ณนกทเถแลาาาารราก๘โตมคพังลอฑะียรลนัสกพิหโะดาักศ์นยหานาวรจับรกีเคแึกใรริโทะปอยือนโาญัจลลษืรอยด็ดุนื่นรสัดกยะาใราามยศกนชัีกอปครรเะศรบึกขากาาณาแาดดกึ ารรชาชตญัษรตามษีตรยรศีมวพ้อาญ่หพหวา่อึเกวศงรงขหมัตาฒั์ใิษไชทึคกะต้หปาิกมลตษาลานน่ีห่อรกัหัเ้แวนเทกาาคปพักบสคขาสเ้ีเรี่ไรศูตวื่ป็ใอนณอรดุดงในิทรรผ็นตางเก้ลงษปบทยรลช้ กเา๓งฐราหะพิตดภกรรทญกิลหบะตี ลาาวิจัยะเญบยัิณวุผทราพเแเเทปใา่าทวบลพลยฑื่ตอต็คนงนะคาหียัก้ชิตขรภโกสเสวนนื่ีาแกอขนอังาาถารลโมเาตคักรอคลมรากะรหมศปยนบียกคปจอศไึากฏีรัืนนุาอทญราวึงกษาิบิญรเยอิททปชษวปาาัตศุญดมยิ้ังทรตทาน็ิ ึกหมงาะาต่ียจลหพคลษโศจมอาาาทลลัยรึกาเเาบดพปัขง้อเหฤกษสทใจพักต็นมลนดาานคาุทเกใการูรภทอโนกสธกาับน้องคาศักสงหรคโมนคกันกาัปศลลวีหัรรดกิคายึกดาใาเยสนากีรสมหษชาสราารังรตห้บาานศชุสิงม๒้อขไ์ทันเมัึกกอืสงดท๕าี่งสทงกษรยว้ไ๔พคา้ิาบชาิม่ืึนกา๘นลฯงรา่
(ข) ได้รับทุนแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างประเทศหรือทุนอื่นใด ซึ่ง
มหาวิทยาลัยเห็นสมควรสนับสนุน
(ค) ประสบอุบัติเหตุ ภยันตราย หรือเจ็บป่วย จนต้องพักรักษาตัวตาม
คาสั่งแพทย์เป็นเวลานานเกินกว่าร้อยละยี่สิบของเวลาศึกษาท้ังหมด โดยมีใบรับรองแพทย์
(ง) มีความจาเป็นส่วนตัว โดยนักศึกษาผู้นั้นได้ศึกษาในมหาวิทยาลัย
มาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งภาคการศึกษา
(๔) ในภาคการศึกษาแรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย
นักศึกษาจะลาพักการศึกษาไม่ได้ เว้นแตจ่ ะไดร้ ับอนมุ ัติจากอธิการบดี เป็นกรณพี ิเศษ
(๕) ในการลาพักการศึกษา นักศึกษาจะลาพักการศึกษาเกินกว่าสองภาค
การศกึ ษาปกติตดิ ต่อกนั ไม่ได้ เว้นแตจ่ ะได้รบั อนมุ ตั จิ ากอธิการบดี เป็นกรณพี ิเศษ
(๖) นักศึกษาจะต้องชาระค่ารักษาสภาพการเป็นนักศึกษาตามประกาศของ
มหาวิทยาลัยทุกภาคการศึกษาที่ได้รับอนุมัติให้ลาพักการศึกษา หากไม่ปฏิบัติจะถูกถอนชื่อออก
จากทะเบียนนักศึกษา ยกเว้นภาคการศึกษาที่นักศึกษาได้ชาระเงินค่าบารุงการศึกษา
ค่าลงทะเบียนเรียน ค่าธรรมเนียมการศึกษา และค่าอ่ืนใดตามประกาศของมหาวิทยาลัย โดย
มหาวทิ ยาลยั จะไม่คืนเงนิ ดังกลา่ วให้ แต่นกั ศึกษาไมต่ อ้ งชาระเงนิ คา่ รักษาสภาพการเปน็ นกั ศกึ ษา
คคมู่ มู่อื อืนนกั กัศศกึ กึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(7(๗๑3๓) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
(๗) การลาพักการศึกษาไม่ว่าด้วยเหตุใดหรือการกลับเข้าศึกษาใหม่หรือการ
ถูกให้พักการศึกษาแล้วแต่กรณี ไม่เป็นเหตุให้ขยายระยะเวลาการศึกษาเกินกว่าสองเท่าของ
แผนการเรียนตามหลักสูตร นับแต่วันข้ึนทะเบียนเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ยกเว้นภาค
การศกึ ษาฤดูร้อน
ขอ้ ๑๖ นักศึกษาที่ป่วยหรือมีเหตุสุดวิสัย ทาให้ไม่สามารถเข้าสอบปลายภาค
ได้ นักศึกษาต้องขอผ่อนผนั การสอบตอ่ อาจารยผ์ ู้สอนรายวชิ าน้ันภายในวันถัดไป หลังจากท่มี กี าร
สอบปลายภาครายวิชาน้ัน เว้นแต่จะมีเหตุอันสมควร คณะกรรมการประจาคณะเป็นผู้พิจารณา
การขอผ่อนผันดังกล่าว โดยอาจอนุมัติให้ได้ระดับคะแนนไม่สมบูรณ์หรอื ม.ส. หรือให้ยกเลิกการ
ลงทะเบียนเรียนรายวิชาน้ันเป็นกรณีพิเศษ โดยให้ได้ระดับคะแนน ถอนรายวิชา หรือ ถ หรือไม่
อนุมตั กิ ารขอผ่อนผัน โดยให้ถือว่าขาดสอบก็ได้
ข้อ ๑๗ นกั ศึกษาอาจลาออกจากการเป็นนักศึกษาได้โดยยนื่ คาร้องขอลาออก
ต่อคณะท่ีนักศึกษาสังกัด และต้องไมม่ หี น้ีสิ้นกับมหาวทิ ยาลัย ท้งั นีต้ ้องไดร้ ับอนมุ ัติจากคณบดี
หมวดที่ ๕
การยา้ ยคณะและการเปลี่ยนสาขาวชิ า
ข้อ ๑๘ นักศึกษาอาจย้ายคณะหรือเปลี่ยนสาขาวิชาได้ตามหลักเกณฑ์ท่ี
มหาวทิ ยาลยั กาหนดดงั นี้
(๑) นกั ศกึ ษาท่ีประสงคจ์ ะย้ายคณะ ต้องได้รับอนมุ ัตจิ ากคณบดีของคณะ
ท่ีนักศึกษาสงั กัด และคณบดขี องคณะทน่ี กั ศึกษาประสงค์จะย้ายเขา้ ศกึ ษา
(๒) นักศกึ ษาทีป่ ระสงค์จะเปล่ียนสาขาวชิ าในคณะ จะกระทาได้ก็ต่อเม่ือ
ได้รบั ความเหน็ ชอบจากคณบดีของคณะทีน่ กั ศกึ ษาสังกัด
หมวดท่ี ๖
การวัดและประเมนิ ผลการศกึ ษา
ขอ้ ๑๙ มหาวิทยาลัยกาหนดหลักเกณฑ์การวัดและประเมินผลการศึกษา ให้
คณะท่ีเปิดสอนในมหาวิทยาลัย จัดการวัดและประเมินผลการศึกษาสาหรับรายวิชาท่ีนักศึกษา
ลงทะเบียนเรียนไว้ในแต่ละภาคการศึกษาหนึ่ง โดยการประเมินผลการศึกษาในแต่ละรายวิชาให้
กาหนดเป็นระดับคะแนน ค่าระดับคะแนนต่อหน่วยกิตและผลการศึกษาตามประกาศของ
มหาวทิ ยาลยั
(๗)7(๔๒4)) ( คคมู่่มู อือื นนกักั ศศึกึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยีรรี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
หมวดท่ี ๗
การพน้ สภาพการเปน็ นักศึกษา
ขอ้ ๒๐ นักศึกษาจะพ้นสภาพการเป็นนกั ศึกษาเม่ือ
(๑) ตาย
สนแอถนตั กาุ่มวศนันัตขวคยเมกึ กมศิทึรดณาอิปขื่ษองุตกึยมง้ึรนะเวรสษาทั่านิญกัฐทนังเทพใารขาคญทนะรเนี่ตเจมด่ีมอเทาค๑บดับมิกุดณุโี กยพ๙าียรดมารภิตบวยกน(((((รกา๖๕๔๓๒รมมเาเมโเาพชรพรอเ)))))ปกรหยี่ืขอณิมอรน็นไพนามา้ ุขลใไาุดม์แเวกดผ้น่ันชนดพคมมาิ่ผลทาว้ร้ลสว้ัอ่ืศกอมหศระ่ายย่าะเภึสกึอกศกานปปาเกยอเษทากึ๒ลษกราเน็มนัะกนพาัชคัรยกษ๕ฆาเใณญโเตเวเาสน๔านนทรแลาลาฑราขี๘โอ่ืยมคงัละาลเ์กสอกพงโะนดรกยานาจางวร็บัจาีเคแรริมโาทะปรอยคัญจลลวกรยหศ็ุดน้ัาดรยดัะาใถามึกกานชบยีกอรผเกู ศวษบขากาาาคหลถึกิรรทชาชตัญาแณษลอรรศีมวพเยญลพวกัานึกกศงระาหมะัตัฒินษึคกชสะลหิปมลตษลกานน่ือูตัยกัหัวรเรกวาาคกรพสขาะืเอเ่ารราตยศตูว่ืปออเุสงใรสิมทรรกาผ็นตงเเอษปทายนิมลป้เก๓งฐวราขพิตผภทรน็ เญกิล้นทบาะลาว่ีนมจิัยญบภยวัิณา่ทตเแเกัหทปิใาขชวาลายฑตศตา็คนนอมะคาา้ชิตกึรวโกสเงสปกนื่ีแอขนิษทแใังาถรลาโมตคัหกราผยลาะะรหมศปต้ ยบนนาคปกศไึากฏีราัลืนัอทกราบึวกษามิบญิัศยยอาิทชษวเาขัตรุขญดกวมยิททาิ้อเอมงาลาาตรี่ยจฤคลโงหศียอาาา๑ทดลัมยึกเเนบทน๐ปูขรเหหษสทตี่ ดพเ้ต็อน(ลาคาน๗คาุทเในาวทมอโยแนส)ธกทิ นงคหศักลงศหทคยโกันกาลละึลกั้งวาัรรดิคาักยไนาลษาเยสดกีรสมสชยั้ีสสาาา้รรรตูตาานชุอิงัมบ๒้อรขหเมักสยงท๕กางนงรกรู่วใ๔พาคา้ัาบชาิันบร๘นลฯงรา
หมวดท่ี ๘
การขอสาเร็จการศึกษา การขอขึ้นทะเบียนบัณฑติ
ขอ้ ๒๑ นักศกึ ษาจะมสี ิทธขิ อสาเรจ็ การศกึ ษาต้องมคี ุณสมบตั ิ ดังนี้
(๑) ต้องศึกษารายวิชาใหค้ รบตามหลกั สตู ร และข้อกาหนดของสาขาวิชานนั้
(๒) มีหน่วยกิตสะสมไม่ต่ากว่าท่ีหลักสูตรกาหนดไว้ และได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ีย
สะสมไม่ตา่ กว่า ๒.๐๐
(๓) เป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นบัณฑิต และไม่มีหนี้สินผูกพันต่อ
มหาวิทยาลยั
(๔) การย่ืนคาร้องขอสาเร็จการศึกษา ต้องย่ืนต่อสานักส่งเสริมวิชาการและงาน
ทะเบียน ทุกภาคการศึกษาที่นักศึกษาคาดว่าจะสาเร็จการศึกษาภายในสามสิบวัน นับแต่วันเปิดภาค
การศึกษานนั้ จนกว่านักศกึ ษาจะสาเร็จการศกึ ษาตามประกาศสภามหาวทิ ยาลยั
(๕) นกั ศึกษาที่ไมด่ าเนินการตาม (๔) จะไมไ่ ด้รับการพิจารณาเสนอช่ือเพื่อรับปริญญา
ในภาคการศกึ ษานั้น และจะตอ้ งชาระค่ารกั ษาสภาพเปน็ นักศกึ ษาทกุ ภาคการศึกษา จนถงึ ภาคการศึกษา
ทน่ี ักศึกษาย่นื คารอ้ งขอสาเรจ็ การศกึ ษา
คคมู่ มู่อื อืนนกั กัศศึกึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(7(๗๑5๕) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี รี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
ข้อ ๒๒ นกั ศกึ ษาท่ีสาเร็จการศกึ ษาตอ้ งขอขน้ึ ทะเบยี นบัณฑิต โดยยื่นคาร้องข้ึนทะเบียน
บัณฑิตต่อสานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน พร้อมชาระเงินค่าข้ึนทะเบียนบัณฑิต ท้ังน้ี
จะต้องดาเนินการตามข้นั ตอนของมหาวิทยาลยั
ขอ้ ๒๓ การเสนอช่ือเพอื่ รบั ปริญญาใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของมหาวทิ ยาลัย
หมวดที่ ๙
ปริญญาเกยี รตนิ ิยมและเหรียญเกยี รตนิ ยิ ม
ข้อ ๒๔ นักศึกษาท่ีจะได้รับการเสนอช่ือเพ่ือรับปริญญาเกียรตินิยมต้องเป็นไปตาม
หลักเกณฑ์ ดังน้ี
(๑) ลงทะเบียนรายวิชาในมหาวิทยาลัยไม่ต่ากว่า ๗๒ หน่วยกิต สาหรับ
หลักสูตร ๒ – ๓ ปีการศึกษา หรือไม่ต่ากว่า ๑๒๐ หน่วยกิต สาหรับหลักสูตร ๔ ปีการศึกษา
หรอื ไม่ตา่ กวา่ ๑๕๐ หน่วยกติ สาหรับหลักสูตร ๕ ปีการศกึ ษา
(๒) สาเร็จการศึกษาภายในระยะเวลาท่ีหลักสูตรกาหนด ทั้งน้ีไม่นับระยะเวลา
ทนี่ กั ศึกษาขอลาพักการศึกษาตามข้อบงั คับน้ี
(๓) ต้องไม่มีผลการศึกษาที่อยู่ในเกณฑ์ข้ันไม่พอใจ หรือ ม.จ. (U) หรือต่ากว่า
ระดบั คะแนนขัน้ พอใชห้ รอื ค (C) ในรายวชิ าใดวิชาหนงึ่
(๔) นักศึกษาผู้สาเร็จการศึกษาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตาม (๑) (๒) และ (๓) ที่
มีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ากว่า ๓.๗๕ จะได้รับการเสนอช่ือเพ่ือรับปริญญาเกียรตินิยม
อนั ดบั ๑
(๕) นักศกึ ษาผู้สาเร็จการศกึ ษาทมี่ ีคุณสมบตั ิครบถว้ นตาม (๑) (๒) และ (๓) ที่
มีคา่ ระดับคะแนนเฉลยี่ ไม่ตา่ กว่า ๓.๕๐ จะได้รับการเสนอชอ่ื เพือ่ รบั ปริญญาเกียรตินยิ มอนั ดับ ๒
(๖) การเสนอชื่อเพื่อรับปริญญาเกียรตินิยม ให้มหาวิทยาลัยนาเสนอต่อสภา
มหาวิทยาลัยในคราวเดยี วกันกบั ท่เี สนอขออนมุ ัติปรญิ ญาประจาภาคการศกึ ษาน้ัน
ข้อ ๒๕ การให้เกียรตินิยมเหรียญทองหรอื เกียรตนิ ิยมเหรยี ญเงิน
(๑) ให้มหาวิทยาลัยจัดให้มีเหรียญเกียรตินิยมแก่ผู้สาเร็จการศึกษา ที่มีผล
การศกึ ษาดเี ด่นโดยแยกเปน็ คณะ
(๒) เกียรตินิยมเหรียญทองให้แก่ผู้สาเร็จการศึกษา ที่ได้ปริญญาเกียรตินิยม
อนั ดบั ๑ ทไ่ี ดค้ า่ ระดบั คะแนนเฉลีย่ สะสมสูงสดุ ในแตล่ ะคณะ
(๗)7(๖๒6)) ( คค่มู่มู อือื นนกักั ศศกึึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยีรีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
(๓) เกียรตินิยมเหรียญเงินให้แก่ผู้สาเร็จการศึกษา ท่ีได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ย
สะสมเป็นที่สอง และจะต้องได้ปริญญาเกียรตินิยมอันดับ ๑ หรือ ๒ ในแต่ละคณะ กรณีผู้สาเร็จ
การศึกษาได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสมสูงสุด แต่ได้ปริญญาเกียรตินิยมอันดับ ๒ ในแต่ละคณะ
ให้เกียรตนิ ิยมเหรยี ญเงนิ
พทกาะิจรเาบศรวเคกึมียณิทณื่อษนยะาวาาดกอันเารขนทรเตุมน่ีม๑บัตกินพ๙าิใกรินตกากรคมมราาพกรรหริปมอาราเุขวาดุีสกวคมเมิทานดมหศรยอียึกศาาวชเษึก๒ลมกื่าอัยษ๕ฆันตเเา๔ทพแกาล๘มคลื่ับอะพโะรทหนวรับเี่เินโทะปสลรเย่ึง็นนหยาคากชีรอรเรบขาาีขยั้งรชตัญอญรมพแญอวงรลเมตันคกะะิมตุลมนียใหัวกหัคตรขารริ้ปอตวอุงใิทธิรนตงเทยิกิญ้ิย๓าพาภญลมราวัยบายิทเเใปทปใดหยต็คนรีนา้ส้ชโะเสานื่อขาจถเโมตนสาลาหันภกยบคาีรัอืนสาอวาคต่อิงทชวกุเ่อดมยิทสามงสายรครลศภาิมลศัยึกเาขึกเวษมทพติษชาหคุทเาาทโาสธสนกควศังุโดาิกทันกลรทัรดิคยยาแ้สากีราชยลาาลรนชุขงะัย๒เมักองเท๕พงงาง๔พคาปนื่อ๘นลฯี
กรงุ เทพ จดั การเรียนการสอนในระดับอดุ มศหกึ มษวาดหทลกัี่ ๑สูต๐รปรญิ ญาตรีและปรญิ ญาโท หลากหลายสาขาวชิ า
ยึดมั่นในอุดมการณ์และปรัชญา การจัดบกาทรเศฉึกพษาาะเพก่ือาผลลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ ตอบสนองความต้องการ
ของสังคมขโอ้ดย๒เช๖่ือม่ันภวา่ ยเทใคตโ้บนังโคลยับีแขล้อะอ๖าช–ีวศ๑ึก๘ษาใเหป้ม็นีผกรละใบชว้บนังกคาับรกศึกับษนาักทศ่ีจึกาเษปา็นทในี่ไดก้ลารงเทสะริมเบสีรย้านง
เรียนมกา่อตนรฐขาอ้ นบคังุณคภับานพี้มีผเลพใือ่ ชเป้บ็นังกคาบั ลโงั ดสยาคอญันใโุ นลกมารพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมไทย
ขอ้ ๒๗ ภายใต้บังคับข้อ ๑๙ ข้อ ๒๔ (๑) (๔) (๕) ไม่ให้มีผลใช้บังคับนักศึกษาที่
เข้าเป็นนักศึกษาก่อนปีการศึกษา ๒๕๕๐ โดยให้นักศึกษาที่เข้าก่อนปีการศึกษา ๒๕๕๐ ใช้
ข้อบังคับสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ว่าด้วยการศึกษาระดับปริญญา พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไข
เพ่ิมเติมข้อบังคับสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ว่าด้วยการศึกษาระดับปริญญา (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๔๕ และ (ฉบับท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๔๗
จนกว่าจะสาเร็จการศกึ ษาโดยอนุโลม
ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๗ เดอื น กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐
(ลงชอื่ ) จรวยพร ธรณินทร์
(นางจรวยพร ธรณินทร์)
ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
นายกสภามหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ
คคมู่ มู่อื อืนนกั กัศศกึ กึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(7๗(๑7๗) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
ระเบยี บสถาบันเทคโนโลยรี าชมงคล
วา่ ด้วยการสอบของนกั ศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี
พ.ศ. ๒๕๓๗
--------------------------
โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบว่าด้วยการสอบของนักศึกษาระดับปริญญาตรีให้
เหมาะสมยงิ่ ข้นึ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๕ (๑) แห่งพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยี
ราชมงคล พ.ศ. ๒๕๑๘ และมติสภาสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลในการประชุม คร้ังท่ี ๓/๒๕๓๗
เมอ่ื วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๓๗ จงึ วางระเบียบไว้ ดงั น้ี
ข้อ ๑ ระเบียบ นี้เรียกว่า “ระเบียบ สถาบันเท คโน โลยีราช มงคล ว่าด้วย
การสอบของนักศึกษาระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๓๗”
ข้อ ๒ ให้ใชร้ ะเบยี บน้ีตั้งแต่วันถดั จากวันประกาศเปน็ ตน้ ไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ว่าด้วยการสอบของนักศึกษาระดับ
ปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๓๐
บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คาส่ัง หรือประกาศอ่ืนใด ในส่วนที่กาหนดไว้แล้วใน
ระเบยี บน้หี รอื ซึง่ ขดั หรือแยง้ กบั ระเบียบน้ีใหใ้ ชร้ ะเบยี บน้แี ทน
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“สถาบัน” หมายความว่า สถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล
“คณะ” หมายความว่า คณะต่าง ๆ ท่จี ดั การสอนระดับปริญญาตรี
“คณบดี” หมายความว่า คณบดขี องคณะต่าง ๆ ทีจ่ ัดสอนระดบั ปรญิ ญาตรี
“คณะกรรมการประจาคณะ” หมายความว่า คณะกรรมการประจาคณะท่ีจัด
สอนระดับปริญญาตรีตามพระราชบัญญัตสิ ถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล
“คณะกรรมการสอบประจาภาคการศึกษา” หมายความว่า ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร
ดาเนนิ การสอบประจาภาคการศึกษาและการสอบระหว่างภาคการศึกษาในคณะนั้น ๆ
“การสอบ” หมายความว่า การสอบประจาภาคการศึกษา หรือการสอบ
ระหว่างภาคการศึกษา
“นักศกึ ษา” หมายความวา่ นักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี
(๗)7(๘๒8)) ( คคมู่มู่ อือื นนกักั ศศึกกึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
ข้อ ๕ ให้มีประกาศของสถาบันเก่ียวกับข้อปฏิบัติของผู้คุมสอบระดับปริญญาตรี และ
ข้อปฏิบตั ิในการสอบของนักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี เพ่อื ใหผ้ ู้คมุ สอบและผู้เข้าสอบถอื ปฏิบัติ
ขอ้ ๖ กาหนดการสอบประจาภาคการศึกษาให้เป็นไปตามประกาศของสถาบัน ซึ่ง
ประกาศใหน้ ักศึกษาทราบลว่ งหนา้
ปหคซึง่ณรนปะึง่ ะจรปขเคมกยวกมะาิทึรดณราอร่ืกภองุตะยมงะเรอวรสาสาท่ันกมัฐนคับงเาพสขขขใรขาคกทนกนดรอ้อ้้อนาตจมาี่มอาง้วหค๑บดัรรกุ๗ด๙๘ายุณโกพร๙ปศาน๙ดมผาับรภิตกึยรกก.อแู้รกก๑ารกกษมะเาเมาาทาพาชรพรารจกานรหายีรื่นอกณิมรสอรรานสาามภุดาขาดุอค์สแเวจกอั่นพหคมามาิบลทณอหาบวคอ่ืมเหศนระยขบนน่าขเะวึสกาปปดาอเา้ินรอิชอเษเท๒ลร็นมงสบทะนงาากัชคัยรก๕ฆนรุคี่ขอหใญาโาตเานา๔นทออยครแยลวาารย๘โง่ามคสคังล่วลาะลวคสกงพโะิชอดงณเชิยนานาณพวภรบัาบีเคแาริอ้โบทะนป่ืออาะญัจเใลลรยยป็ดุดดนนั้คทกัดยะาใภามีทเ็กนชนรีกอกราเปศาบรขากาาีม่าหอาึกค็นรมรชาชตัญอีรานษรรศวีมวพกผนญศาพว้าาิชึกศงาู้รแจึกหามตัทฒัษึาคกระาตจิมลตษลี่สษลดานนร่งกัขหัวเะกอาาคยาาพตสขาอเเรบเรผ์ศูตว่ืปั้อง๑อนงุงใิสู้ทรปรคใผ็นตคงเินษหปทอยคลรณ้กณ๓ฐกรา้ะนพิอตนภรญกิละาะจบะหยาวิจัยกรญกาบยัิณทู่ใลเแเแภรทปในราวลยาฑตรลต็ครนานะยดา้ชิตมรคมะโกสเสคุลนื่ีแอขนกกคังกาถนลโมพตคักราาลวาาะหมศปิรรนยบรบใคปไึากศสฏหีรปัิืนจอทรควษาึกิอบภ้ญิรยขอิทุมชวาษัตบะาุญดมอยิทกทิคาจปมงาางตี่ยจาควาลโศครอราาทลิชคัยมึะกเเสบณปขาเณหีหจษสทอพกต็นะลานานะคบุทาเใกาภทา้อโนหสธกนรทางคแศักงหนเรคโคก่ีพันกาลลลดมวัรกรดิคด้าื่อวยาอาเกยสากีนังรสมกชาสารานารรตาาจารนศชุิงม้ี๒้อรเาขเสมัสึกกสนงท๕รางองกนรษวยี้๔พใคา้าชาิบห์ผอา๘นลฯงราู้้
คณบดีเพอื่ แตง่ ตั้งเปน็ อนกุ รรมการหรือเจ้าหน้าที่ เพอ่ื ดาเนินการในเร่ืองต่อไปนี้
๙.๑.๑ จัดเก็บรวบรวมและตรวจสอบบัญชีรายชื่อนักศึกษาที่มีสิทธิสอบ
ก่อนกาหนดวนั สอบในรายวิชาน้นั ๆ กาหนดสถานท่สี อบ
๙.๑.๒ กาหนดวธิ กี ารจัดพิมพข์ อ้ สอบ
๙.๑.๓ จดั การรบั –สง่ ขอ้ สอบ สมดุ คาตอบ และ/หรอื กระดาษคาตอบ
๙.๑.๔ ทาหน้าท่คี มุ สอบ
๙.๑.๕ สอบสวนและรายงานการทุจรติ ของผเู้ ข้าสอบ
๙.๑.๖ ตดิ ตามและรวบรวมบัญชีประเมินผล แต่ละรายวิชาที่คณะรบั ผิดชอบ
สง่ ใหแ้ ผนกทะเบยี นคณะ เพื่อนาสง่ สานักบริการทางวชิ าการและทดสอบ
๙.๒ ดูแลการสอบให้เป็นไปตามประกาศของสถาบัน เกี่ยวกับข้อปฏิบัติของผู้
คุมสอบระดบั ปรญิ ญาตรแี ละข้อปฏิบตั ใิ นการสอบของนักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี
๙.๓ วินิจฉัยปัญหาต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวกับการสอบ และนาเสนอคณะกรรมการ
ประจาคณะเพอื่ วินจิ ฉัยและดาเนนิ การ
๙.๔ รายงานการปฏิบตั ิงานของผู้คุมสอบ
คค่มู มู่อื อืนนกั กัศศกึ กึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(7๗(๑9๙) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี รี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
๙.๕ ดาเนินการเรื่องอื่นใดท่ีเกี่ยวกับการสอบท่ีคณะกรรมการประจาคณะ
มอบหมาย
ข้อ ๑๐ สิทธิในการเข้าสอบของนักศึกษา ให้เป็นไปตามข้อบังคับของสถาบันว่าด้วย
การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี
ข้อ ๑๑ สถาบันจะไม่ประกาศผลการสอบ และจะไม่ให้ลงทะเบียนเรียนในภาค
การศึกษาถัดไป หรือไม่ออกใบรับรองผลการศึกษาให้แก่นักศึกษาผู้มีหนี้สินติดค้างกับคณะหรือ
สถาบนั จนกวา่ จะได้ชาระหนี้สินให้เปน็ ท่ีเรยี บร้อยแลว้
ข้อ ๑๒ ในกรณีท่ีเกิดการทุจริตในการสอบ ให้คณะกรรมการสอบประจาภาค
การศึกษาทารายงานเสนอให้คณะกรรมการประจาคณะพิจารณาโทษเป็น ๓ สถาน ตาม
ลักษณะของความผิดคอื
๑๒.๑ ใหไ้ ด้ระดับคะแนน ต. หรอื F ในรายวิชาที่ทาการทุจรติ น้นั
๑๒.๒ ให้ได้ระดับคะแนน ต. หรือ F ในรายวิชาท่ีทาการทุจริตน้ันและสั่ง
ยกเลิกการลงทะเบยี นเรยี นทุกรายวิชาในภาคการศึกษานั้น
๑๒.๓ ใหพ้ น้ สภาพการเป็นนกั ศกึ ษา
เมอื่ คณะกรรมการประจาคณะพิจารณาโทษสถานใด ใหค้ ณบดีเป็นผ้ลู งนามใน
คาสั่งกรณีลงโทษตามข้อ ๑๒.๑ และ ๑๒.๒ แล้วเสนอสถาบันเพื่อทราบ กรณีลงโทษตามข้อ
๑๒.๓ ใหเ้ สนอสถาบนั พิจารณาสง่ั การ
ขอ้ ๑๓ ภายใต้บังคับ ข้อ ๕ เพ่ือให้การสอบดาเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมี
ประสิทธภิ าพสถาบันหรอื คณะอาจกาหนดเป็นประกาศอนื่ ๆ ที่ไมข่ ัดต่อระเบยี บนี้
ขอ้ ๑๔ ในกรณีที่มีปัญหาเก่ียวกับการปฏิบัติตามระเบียบน้ี ให้อธิการบดีเป็นผู้
วนิ ิจฉยั ชข้ี าด
ข้อ ๑๕ ให้อธกิ ารบดีเป็นผ้รู ักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๓ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗
(ลงชอ่ื ) โกวิท วรพพิ ัฒน์
(นายโกวิท วรพพิ ฒั น์)
ปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ
นายกสภาสถาบนั เทคโนโลยีราชมงคล
(๘)8(๐๒0))( คค่มูมู่ อือื นนกักั ศศกึกึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยีรรี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
ระเบยี บสถาบันเทคโนโลยรี าชมงคล
วา่ ด้วยการศึกษาลกั ษณะวชิ าเพิ่มเตมิ สาหรบั บัณฑติ
พ.ศ. ๒๕๓๗
คเพว่ือามใเวคหมสิทณื่้อผายะมวู้สากันาเารขรทเรตรถ่ีม๑บ็จโไกดปพก๙ายปริตากทรรรมมาพะศี่เกรหปกิมึกอรา็นอุขาดุษวกคบมมิทาามหศอรยรึกาาะาสเษช๒ลดมมาีพัย-๕ัฆบค-ตเ-๔ปทวแา-ห-๘มครลร-รมพิญโะ-น-ือวีรร-เญิโกทะะ-ปล-ราเยา็น-ยบาร-าตกชีร-ีขยเ-รบขาาอบ-ีแรชตญั-อวร-ลมพญ-น่วา้-งวรดมตั-ญุคะไ-ิมต้วดล-นาห-ัยว้กศคต-ขาก-รึรกรว-อุางใับ-ิทษตงเร-ทยใ-้าศ๓บ-าพลภ-ึกลป-ัากวษั-ยรยิ-ทเษเา-ะทปใย-ลตณก็ค-นากั้-ชอโเสะ-นื่อษข-บถว-โมตณลอิาชหยบาคะาาีรชัืนอเววาพีพิชอิทชว่ิมุตดามยิทเเมงาายพตคลมศาิม่ิลมัยทึกเขเเษี่กตทพใตฎานิมคุทเทหโสกสธนคศัามงาโกหันกราลัรดินยครยาสบักกีราชาาราคบนชุงห๒วัณเมักนท๕างฑงมด๔พคาิตร๘นลฯู้
กรงุ เทพ จดัอกาาศรัยเรอียานนกาาจรสตอานมใมนารตะดรบัาอดุ ๑ม๕ศกึ (ษ๑า)หลแกั ลสะตู ร(ป๙ร)ญิ แญหา่งตพรรีแะลระาปชรญิบญัญาญโทัติสหลถาากบหันลเาทยคสโานขาโวลชิ ยาี
ราชมยงึดคมลั่นใพนอ.ศุด.ม๒ก๕า๑รณ๘์แและลปะรมัชตญิสาภกาาสรถจาัดบกันารเศทึกคษโานเโพลื่อยผีรลาิตชบมัณงฑคิตลนในักปกฏาริบปัตริ ตะอชบุมสคนรอ้ังงทค่ี ว๓าม/๒ต้อ๕ง๓กา๗ร
เมือ่ วขันอทงี่ส๒ังค๖มเมโดษยาเยชน่ือม๒ั่น๕ว่า๓เท๗คจโนึงวโลายงีรแะลเะบอียาบชีวไวศ้ึกดษงั านเี้ป็นกระบวนการศึกษาท่ีจาเป็นในการเสริมสร้าง
มาตรฐานคขณุ อ้ ภ๑าพระเพเบ่อื เียปบ็นกนา้ีเลรงั ียสากควัญ่าใน“กราระพเัฒบนียาบเศสรษถฐากบจิ แันลเะทสงัคคโมนไทโยลยีราชมงคล ว่าด้วย
การศึกษาลักษณะวิชาเพ่มิ เติมสาหรับบณั ฑิต พ.ศ. ๒๕๓๗”
ขอ้ ๒ ระเบียบนี้ใหใ้ ช้บงั คับตั้งแตว่ นั ถดั จากวันประกาศเปน็ ตน้ ไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ว่าด้วยการศึกษาลักษณะ
วิชาเพิ่มเติมสาหรบั บัณฑิต พ.ศ. ๒๕๓๓
บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ คาส่ัง หรือประกาศอื่นใด ในส่วนที่กาหนดไว้แล้วใน
ระเบยี บนี้ หรือซง่ึ ขัดหรอื แย้งกบั ระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนีแ้ ทน
ข้อ ๔ ผู้เข้าศึกษาต้องเป็นผู้สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ซ่ึง
ก.พ.รับรอง
ข้อ ๕ การรับสมัคร
๕.๑ ผู้สมัครจะต้องย่ืนคาร้องขอสมัครโดยตรงท่ีคณะนั้น ๆ ล่วงหน้าไม่น้อย
กวา่ ๖๐ วันกอ่ นวันเปดิ ภาคการศกึ ษาท่ีประสงค์จะเขา้ ศึกษา
๕.๒ หากเป็นนักศึกษาปัจจุบัน ให้สถาบันการศึกษาที่นักศึกษาผู้น้ัน ศึกษา
อยู่ รับรองสถานภาพการเป็นนักศกึ ษาภาคการศึกษาสุดทา้ ย ที่จะสาเร็จการศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี
๕.๓ ใหผ้ ู้สมัครสง่ เอกสารแสดงผลการศึกษาท่ผี ่านมาทง้ั หมดในการสมัคร
๕.๔ ให้คณบดคี ณะนน้ั ๆ พจิ ารณาการรับเข้าศึกษา
คคมู่ มู่อื อืนนกั กัศศึกกึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(8(๘๑1๑) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
ข้อ ๖ การลงทะเบยี นเรียน
๖.๑ นักศึกษาตามระเบยี บนี้มสี ถานภาพการเป็นนกั ศึกษา ๑ ภาคการศกึ ษา
๖.๒ การลงทะเบียนเรียนจะต้องไม่เกินภาคการศึกษาละ ๑๒ หน่วยกิต โดย
ดาเนนิ การเช่นเดียวกบั นักศกึ ษาภาคปกติ
๖.๓ คา่ ลงทะเบียนลักษณะวิชา ให้เรียกเก็บหน่วยกิตละ ๓๐๐ บาท นอกจากนั้น
ให้ปฏิบัติตามระเบียบของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เมื่อรับชาระแล้วจะไม่คืนให้ เว้นแต่จะ
ไดร้ บั อนมุ ัตจิ ากอธกิ ารบดสี ถาบันเทคโนโลยรี าชมงคล
ขอ้ ๗ การขอเอกสารแสดงผลการศึกษา ให้ผู้เข้าศึกษาย่ืนคาร้องต่อสานักบริการทาง
วชิ าการและทดสอบ ซึ่งจะออกให้เป็นระดับคะแนน ก (A) ข (B) ค (C) ง (D) ต (F) และหน่วยกิต
ที่ได้ไมน่ ามาคานวณหาค่าระดับคะแนนเฉล่ยี
ข้อ ๘ ผลการศึกษาตามระเบียบนี้ จะนาไปใช้เพื่อการศึกษาต่อหรือขอรับหรือขอ
เทยี บเทา่ ปรญิ ญาตรี ในสาขาวิชาทเ่ี ปิดสอนในสถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคลไมไ่ ด้
ข้อ ๙ กรณีที่ระเบียบน้ีมิได้กาหนดไว้ ให้เสนออธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
พจิ ารณาอนุมตั ิ
ข้อ ๑๐ ให้อธกิ ารบดสี ถาบนั เทคโนโลยีราชมงคลรักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๓ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗
(ลงช่อื ) โกวิท วรพิพัฒน์
(นายโกวิท วรพิพัฒน)์
ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร
()๘8(๒๒2)) ( คคมู่มู่ อือื นนกักั ศศกึึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยีรีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
ระเบยี บมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ
ว่าด้วยการเทียบโอนผลการเรยี น
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยทมี่เหปา็นวกิทายราสลัมยเคทวครโปนรโลับยปีรราุงชรมะงเคบลียกบรุมงเหทาพวิทเปย็นาลสัยถเาทบคันโอนุดโมลศยึกีรษาาชมสังงกคัดลสการนุ งักเทงาพน
วา่ ด้วคยณกะากรรเทรมยี กบาโรอกนารผอลุดกมาศรึกเษราียนตาใมหพส้ รอะรดาคชลบ้อัญงญกัตับิมบหราิบวิททยขาอลงัยมเทหคาโวนทิ โลยยาีรลายั ชมงคล พุทธศักราช ๒๕๔๘
เมื่อวันที่ ๑อ๙าศัมยกอราานคามจต๒า๕ม๔ค๘วาเมปใ็นนกมารารตวรมาตัว๑ข๗อง(๓๒)วิทแยหา่งเพขตระครือาวชิทบยัญาเขญตัตเทิมคหนาิควกิทรุยงเาทลพัยฯ
เทคโวนิทโยลายเีรขาตชบมพงิตครลพิมพุข.ศมห. า๒เ๕มฆ๔๘แลปะวริทะยกาอเบขตกพับรมะตนิสคภรใาตม้ หภาาวยิทใตย้ชาื่อลมัยหเทาวคิทโนยาโลลัยยเีรทาคชโมนงโลคยลีรการชุงมเทงคพล
ในกากรรปงุ เรทะพชุมจดั คกรารง้ั เทรยีี่ ๓น/ก๒าร๕ส๖อน๔ในเมระ่อื ดวบั นั อทุดี่ม๑ศกึ มษานี หาลคกั มสตู ๒รป๕ร๖ญิ ๔ญาตจรงึ ีแวลาะงปรระญิ เบญยี าบโทไวห้ ลดางั กตห่อลไาปยนส้ีาขาวชิ า
ยึดมั่นในอขุด้อมก๑ารณร ะ์แเลบะี ยปบรัชนญี้ เราี ยกกาวรจ่าัด“กราระศเึบกษี ยาบเพมื่อหผาลวิติ ทบยัณาฑลิตั ยนเักทปคฏโิบนัตโิ ลตยอี รบาสชนมองงคควลากมรตุง้อเงทกาพร
ว่าด้วขยอกงาสรังเคทมียบโดโยอเนชื่ผอมลั่นกาว่ารเเทรียคนโนพโล.ยศีแ. ล๒ะ๕อ๖าช๔ีว”ศึกษาเป็นกระบวนการศึกษาที่จาเป็นในการเสริมสร้าง
มาตรฐานคขุณ้อภ๒าพระเเพบ่ือียเบปนน็ ก้ีใหาลใ้ ชงั ส้บางัคคญั บั ในตกง้ั าแรตพ่ปฒั กี นาารเศศรึกษษฐากจิ ๒แ๕ละ๖ส๔งั คเมปไ็นทตย้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ว่าด้วยการ
เทียบโอนผลการเรียน พ.ศ. ๒๕๕๐
บรรดาระเบียบ ข้อบงั คบั หรือคาสัง่ อน่ื ใด ในสว่ นทก่ี าหนดไว้แลว้ ในระเบียบน้ี หรือ
ซ่ึงขัดแยง้ กบั ระเบียบนี้ ใหใ้ ชร้ ะเบยี บน้แี ทน
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
“มหาวทิ ยาลยั ” หมายความว่า มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ
“สภามหาวิทยาลยั ” หมายความว่า สภามหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
“อธิการบดี” หมายความวา่ อธิการบดมี หาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
“คณะ” หมายความว่า ส่วนราชการระดบั คณะ หรือส่วนราชการอื่นท่ีเรยี กชื่อเป็น
อยา่ งอื่นทมี่ ีฐานะเทยี บเท่าคณะที่มีการจัดการเรียนการสอน
“คณบดี” หมายความว่า หัวหนา้ ส่วนราชการระดบั คณะ หรือหัวหน้าส่วนราชการ
ท่เี รยี กชอื่ อย่างอน่ื ที่มีฐานะเทยี บเทา่ คณะท่ีมกี ารจัดการเรยี นการสอน
“บัณฑิตศึกษา” หมายความว่า การศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรีข้ึนไปของ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ
คค่มู ่มูอื อืนนกั กัศศกึ กึ ษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(8(๘๑3๓) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
“หลักสูตร” หมายความว่า หลักสูตรที่จัดการเรียนการสอนซึ่งสภามหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลกรงุ เทพให้ความเหน็ ชอบ
“หลักสูตรไม่ได้รับปริญญา” หมายความว่า หลักสูตรที่จัดการเรียนการสอนใน
รูปแบบหลกั สูตรระยะสั้น หลกั สูตรระยะยาว หลักสูตรฝึกอบรม หลกั สูตรฝึกอาชพี หรอื หลกั สตู ร
อื่นใดท่ีมีกระบวนการจัดการเรียนการสอน การฝึกอบรมท่ีมีระบบ อาจจัดในช้ันเรียนหรือ
การศึกษาแบบทางไกลผ่านส่ือเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนรู้ด้วยตนเองท่ีมีลักษณะเป็น ชุดวิชา
รายวิชา หรือโมดูลการเรียนรู้ที่มีหลักฐานการแสดงผลการเรียนเป็นใบรับรองประกาศนียบัตร
วฒุ บิ ตั ร สมั ฤทธบิ ัตร อนปุ ริญญา หรอื ลักษณะอ่ืนใด
“คณะกรรมการเทียบโอน” หมายความว่า คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียนที่
ได้รับการแตง่ ตงั้ จากคณบดีให้รับผดิ ชอบในการพิจารณาเทยี บโอนผลการเรียน
“บุคคลเรียนรู้ตลอดชีวิต” หมายความว่า บุคคลในสังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
ราชมงคลกรุงเทพ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยอื่น หรือบุคคลภายนอกที่ข้ึนทะเบียนกับ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เป็นบุคคลเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เป็นนักศึกษาของ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ
“นักศึกษา” หมายความว่า ผู้ที่เข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือระดับ
บัณฑติ ศกึ ษาของมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ
“นักศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิต” หมายความว่า ผู้ที่ข้ึนทะเบียนเป็นนักศึกษาที่เรยี นรู้
ตลอดชวี ิต
“รายวิชา” หมายความว่า รายวิชาของหลักสูตรท่ีเปิดการเรียนการสอนในระดับ
บัณฑิตศึกษา ระดับปริญญาตรี หรือระดับต่ากว่าปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช
มงคลกรงุ เทพ หรอื สถาบันการศกึ ษาอนื่
“ชุดวิชา” หมายความว่า ชุดรายวิชาหรือกลุ่มรายวิชาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเร่ืองใด
เร่ืองหนึ่ง ท่ีให้ความรู้เป็นองค์รวม หรือมีลักษณะเป็นการบูรณาการ โดยแต่ละชุดวิชามีการ
จดั การเรียนการสอนต่อเน่ืองกันเบ็ดเสร็จในระยะเวลาหน่ึงของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
กรุงเทพหรือสถาบนั การศึกษาอื่น
“โมดูลการเรียนรู้” หมายความว่า หน่วยการเรียนรูท้ ่ีมีกระบวนการเรียนการสอน
อย่างเป็นระบบสมบูรณ์แบบ โดยโมดูลการเรียนรู้ต้องระบผุ ลลัพธแ์ ละการวัดและประเมนิ ผลการ
เรยี นรู้แต่ละโมดลู การเรยี นรใู้ หช้ ัดเจน
()๘8(๔๒4)) ( คคมู่่มู อือื นนกักั ศศกึึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี รี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
“ระบบคลังหน่วยกิต” หมายความว่า ระบบและกลไกในการเทียบโอนความรู้
ความสามารถหรือสมรรถนะท่ีได้จากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตาม
อัธยาศัย และจากประสบการณ์บุคคล มาเก็บสะสมไว้ในคลังหน่วยกิตของมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยรี าชมงคลกรุงเทพ
กสกสอศอาเิิถึากนตลเราษุปร็กศโบมขเวยคกจ็ารดทมึกิันทึรดณาอกิญยื่รอรุงตษยมงอาะเอาวจรสญาท่ัรนุดกาัยฐนนัังเดศพใรมขาาควทิกนหรใึกนหตศจิมชห่ีมสอลษค๑บดัึก““รากุด์อ้ มัุณกโากพื๙คอษตกาดมอีทหสารภิตลร่าาายกนรกี่แูตาลรงะัทงรมเาเมไาพชนรพหรัรดกศกล่ีจรหๆยีื่อณิ่นมนัอึฐบรนักดนารมุขอาุด์แาใ่เวว์ไะษปกั่นพคนมมแวินนลทยายราวื่อมหศ้สลหระกยกะ่าะใเึสกาาปะปิาตลนเาเกอเษหทฝ๒ลรวน็มัก”รรนาาัชคัราลยก๕ฆสสะศใญกับโตเาาน๔ูะตนหทบนแลใาขการสน๘รโมคมงัลบียะอาลสรกพมคโะดารบ”งยานะาวรยบัลหจกีเคแัรตยิโทะปคองััดญัจลนลารระยหห็ุดนวัดกรยะา่ใววสามนากนชมศีกอาริเยชั้ศมนบขาก่วาราาึากกากึ รวรชาชตัญยศยษชษหิรรศต่าีมวพกึกญคพวีาาึพกศลงิตรษรหมวตัอัฒษึคกัะกชขกะาิมลตาาษลานนสั้นอบากัหัมวเทกแาาคูตพรงสสบขาเวเริลรมศวูตวื่รปอูอง่ทสุางใะิทรัหรดฝผ็นตงเมะษปทหทยึลกแเา้ ก๓เุปฐดราี่พไิวตรภบอลรญกิลด็ทิสืนบอะาบวะียจิัย้จญบยัะยิณทปกปเแนเราทปใาวาสลยมราฑรสตกต็คนลนะาิญรมะ้ชิะตกรโยักสเสหศนื่ีแเอหสขนาญงัามถรึลโกมตรคัมกรนลาิืนอะาเหมศษปหยบ่วทคปตหผไึากฏีรนาัืยนอทรียวรลลษาิบทิญ่วยกอิทีบชวักาัตหยีุ่กญดิซมตยิทโทสิ กอมรงาาึ่งาต่ียจูตคลแิืตโอนเหศอาาทปลรัยสฟึบกเใเบนรปข็นเนหาษ้ัสมทณะพดต็นหรลเานคสยงุทเจใะฑารทอโ่ืนอสะะธกุบดับนิตงคศักนงยหสบมคโผกัศนกาลาลไมวุ่งู้คัเรรดิึขคกวายรางหาเลยสใกขีรสษมียชานสังมาารรอตนนาาหนชุริงมา๒้องขทแเมัะกนสขยกงท๕า่ีเบงดงกร่ววอวขา๔พคา้าชาัิบบยิรธ้งา๘นลฯงราี
“การศึกษานอกระบบ” หมายความว่า เป็นการศึกษาท่ีมีความยืดหยุ่นในการ
กาหนดจุดมงุ่ หมาย รปู แบบ วธิ กี ารจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมนิ ผล
ซ่ึงเป็นเงื่อนไขสาคัญของการสาเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสม
สอดคล้องกบั สภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกลมุ่
“การศึกษาตามอัธยาศัย” หมายความว่า เป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วย
ตนเอง ตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์
สังคม สภาพแวดลอ้ ม สือ่ หรือแหลง่ ความรู้อื่น ๆ
“ประสบการณ์บุคคล” หมายความว่า ความสามารถและหรือสมรรถนะของบุคคล
ท่ีสั่งสมไว้จากการศึกษาด้วยตนเอง ประสบการณ์จากการทางาน การฝึกอบรมท่ีสถาน
ประกอบการจัดขึ้น การฝึกอบรมจากการปฏิบัติงาน การฝึกอาชีพ การสัมมนาและการประชุม
เชิงปฏิบตั ิการ
“ผลการเรียน” หมายความว่า ความรู้ ทักษะ และเจตคติท่ีเกิดจากการศึกษาใน
ระบบซ่ึงสามารถแสดงในรปู ของคะแนนผลการเรียนหรือคานวณค่าระดบั คะแนนเฉล่ยี สะสมได้
“ผลลัพธ์การเรียนรู้” หมายความวา่ ความรู้ ทักษะและเจตคตทิ ี่เกิดจากการศกึ ษา
นอกระบบ การศกึ ษาตามอัธยาศยั และประสบการณบ์ ุคคลท่ีส่งั สมไว้ ท่ีเทยี บได้ตามมาตรฐานผล
คคมู่ มู่อื อืนนกั กัศศึกึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(8(๘๑5๕) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
การเรียนรู้ ของแต่ละระดับคุณวุฒิตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ ซึ่ง
สามารถวัดและประเมินได้โดยวิธีการต่าง ๆ ตลอดหลักสูตรเทียบเท่าไม่น้อยกว่ารายวิชาท่ีเปิด
สอนในมหาวิทยาลัย
“การเทียบโอนผลการเรียน” หมายความว่า การนาผลการเรียนรู้ ซ่ึงเป็นความรู้
ทักษะเจตคติ และประสบการณ์ ของผู้เรียนท่ีเกิดจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ
และการศึกษาตามอัธยาศัย การฝึกอบรม หรือจากประสบการณ์ทางาน ท่ีผู้เรียนสะสมไว้นามา
เทียบโอนผลการเรียน ในรูปแบบเดียวหรือต่างรูปแบบ ในมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานอื่น หรือ
การเรยี นด้วยตนเอง มาประเมินเป็นสว่ นหนง่ึ ของการศึกษาตามหลักสูตรของมหาวิทยาลยั
“การเทียบโอนประสบการณ์” หมายความว่า การนาผลลัพธ์การเรียนรูม้ าขอเทียบ
กับเนื้อหาสาระสาคัญของรายวิชาต่าง ๆ ของการเรียนในระบบตามหลักสูตรเพ่ือให้ได้หน่วยกิต
โดยผู้เรียนสามารถแสดงได้ว่า มีความรู้ ทักษะ และเจตคติของตนเอง พร้อมท้ังมีหลักฐานซึ่ง
แสดงว่าผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือผลลัพธ์การเรียนรู้ ที่กาหนดในรายวิชา
หรือชุดวิชาหรือโมดูลการเรียนรู้ของหลักสูตรที่ผู้เรียนศึกษาอยู่หรือประสงค์จะศึกษา ซึ่งควร
ได้รับการประเมินผลการเรียนรู้เพ่ือเทียบโอนประสบการณ์ที่มีเพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
และไม่ต้องศึกษาซ้าในเน้ือหาสาระที่ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะมาก่อนแล้ว ทั้งนี้ การเทียบโอน
ประสบการณ์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การเทียบโอนผลการเรียนระดับปริญญาเข้าสู่การศึกษาใน
ระบบ และข้อแนะนาเกยี่ วกับแนวปฏิบัติท่ดี ใี นการเทยี บโอนผลการเรียนระดบั ปริญญา
ข้อ ๕ ให้อธิการบดีรักษาการตามระเบียบน้ี และมีอานาจวินิจฉัยตีความ ตลอดจน
ออกประกาศเพ่ือให้การปฏบิ ัติตามระเบยี บนี้เป็นไปด้วยความเรยี บร้อย ทั้งนี้ คาวินจิ ฉยั ให้ถือเป็น
ทสี่ ดุ
หมวด ๑
บททั่วไป
ข้อ ๖ ระเบียบน้ีให้ใช้บังคับกับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ระดับปริญญาตรี และ
ระดับต่ากว่าปรญิ ญาตรี
ขอ้ ๗ คณุ สมบัติของผู้มีสทิ ธ์ิขอเทยี บโอนผลการเรียน
()๘8(๖๒6)) ( คคมู่มู่ อือื นนกักั ศศกึึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยีรรี าาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
(๑) ต้องมีคุณสมบัติพืน้ ฐานตามท่ีกาหนดในเกณฑม์ าตรฐานหลักสูตรการศึกษาของ
มหาวิทยาลยั ทีข่ อเทียบโอนผลการเรยี น ดังน้ี
(๑.๑) กรณีขอเทียบโอนผลการเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง
อนุปริญญาและระดับปริญญาตรี ต้องสาเร็จการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับ
สหมกกัาบธัานรยหร่วศมะยรกยเขวคมกึมดศิัทบึรกดณาอื่อษุงตัึกบยงมติบะเวรสาาท่ัษนใกกุคัฐนัรงเนพใราาขาคคะทนรคตรนตจมดี่ลมอศลคอ๑บดัข((ับกุดเ๑๒ังุณึกโนกพร๙้อาดมปหษ))าีปยรภิตยก(รรน๘กผใาาน๑ลรมเาเมญิหาพ่วชแรพู้ขรารก.รหกยีย่ื้อคญล๒ณยิอมู้ตอรนาากมณะุหเขาุด์)าลแเวรกทั่ตินพสคมมตริลทเบอากียวทอ่ืามหศือรระยดด่ราบเขึสกียีหเาปปาเีแณชทาอเษโทบ๒ลรร็นมอตีววียนาัชีคือัยโขก๕ฆินิชต่งบใอญโตเเาอนต๔ทนาทผนแเลาารหทเ้ังท๘โลมคยีังลผะทลคสกร่าี่ขพกบโะดลียยณานืขอาวอราับเกีเคแรบึน้ทิโทะนรปเอะาัญจลลทรเไย่า็ัโดุกนกรัดรยะาปใอีขยามเรกศนชียีกอรรเึ้นบนศรบขากาึานกายี ึกมไโรรชาชตัญผษนปอษรรศตีกมวพลญพใานวาึกศ้อางรหกหเมตัฒัษึคกระงรป้จิมลาตเษลาขนนียทกัาหัรฏวเกาน้ึาคนพนสเขาียเบิเรรรทศูตว่ืปอรอวบุงใตัีิยทรรู้ตะผ็นตนงเโษปิดทยนเล้ลอกไ๓บฐรางัพิตมภรนรอญกิลตียบะ่นาะวดผิจัย่อนญบยัิณท้ดอเแเลชไทปเใาวลยัยปปฑบกีตวต็คนนะาก้ินชิาตต็นรบโกสเสนื่วรีแอขนี้ตนงััาณถเล่าโมตคักร้อรักลาสะหมศปฑียยบงศคปาไึากฏขีรนิัืนึกตอทรมวษาิบึ้นิญษยอิทศคชวซาัตทุญดมายึินทกทงึ่ิ ขมงาะามตี่ยษจคลโดอศเอาาีคทลาบัยึงากเเบุณปขเมีเยหษตสทนพต็นหลสนาน้คอิุทนเใาามทเอโนสงธกกพวนบงคศักเงหาทิคื่โอปกัตันกาลลรวยเัร็รดินสิคาเยกาาาเทยสอกีรสมผช็ลบสีายารดรตู้สัยาสนชุิงบม๒้คอขาเมัะกสแโงท๕ลาเงอสงกรวรล้๔อพคา้าชานิม็จะง๘นลฯงรา
ผลการเรยี นตามหลักสูตรที่กาหนด โดยอาจแต่งต้ังผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลภายนอกมหาวทิ ยาลัย
กไ็ ด้
(๒) คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน มีหน้าที่ดาเนินการเทียบโอนผลการ
เรียนรู้และประเมินความรู้ ทักษะ หรือประสบการณ์ตามแนวปฏิบัติการเทียบโอนผลการเรียน
จากการศึกษา ในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั เข้าสู่ระบบการศกึ ษาใน
ระบบตามประกาศของมหาวทิ ยาลยั
(๓) ให้คณะดาเนินการเทียบโอนผลการเรียนภายในปีการศึกษาแรกที่ข้ึนทะเบียน
เปน็ นักศกึ ษา
กรณี มีเห ตุ ผ ล คว ามจาเป็ น ไม่ส ามารถด าเนิ น การเที ย บ โอน ผล การเรีย น ภ ายใน
กาหนดเวลาตามวรรคหน่ึง ให้อยู่ในดลุ พนิ ิจของคณบดจี ะพิจารณาให้ขอเทยี บโอน
ข้อ ๙ ผู้ขอเทียบโอนผลการเรียนต้องชาระค่าธรรมเนียมการเทียบโอนรายวิชาตาม
ประกาศของมหาวิทยาลยั
ข้อ ๑๐ ใหค้ ณบดีเป็นผอู้ นุมัตกิ ารเทยี บโอนผลการเรียน
คค่มู มู่อื อืนนกั กัศศึกึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(8๘(๑7๗) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
ข้อ ๑๑ แนวปฏิบัติการเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษาในระบบ การศึกษา
นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยเข้าสู่ระบบการศึกษาในระบบ ให้เป็นไปตามประกาศของ
มหาวิทยาลยั
ข้อ ๑๒ แนวทางการดาเนินการพัฒนาและบริหารจัดการหลักสูตรระยะส้ัน เพื่อ
การสะสมหน่วยกติ ในระบบคลังหน่วยกติ ให้เป็นไปตามประกาศของมหาวิทยาลัย
หมวด ๒
การเทียบโอนผลการเรยี นในระบบ
ข้อ ๑๓ หลักเกณฑ์การเทียบโอนผลการเรียน โดยการเทียบรายวิชา ชุดวิชา โมดูล
การเรยี นรู้และโอนหน่วยกติ ระหวา่ งการศกึ ษาในระบบ มีดังนี้
ก. ระดบั ปริญญาตรี
(๑) ให้เทียบโอนรายวิชา ชุดวิชา หรือโมดูลการเรียนรู้ ซึ่งมีเนื้อหาสาระการ
เรียนรู้ และจุดประสงค์ครอบคลุม ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของรายวิชาในสาขาวิชาท่ีนักศึกษาขอ
เทยี บโอน
(๒) รายวิชาหรอื ชดุ วิชา ทจี่ ะนามาเทียบโอนตอ้ งมีระดับคะแนนไม่ตา่ กว่า “ค”
หรือ “C” หรอื แต้มระดับคะแนน ๒.๐๐ หรอื เทยี บเทา่
(๓) โมดูลการเรียนรู้ สามารถเทียบโอนหน่วยกิตเข้าสู่การศึกษาในระบบได้
โดยคณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน
(๔) รายวิชา ชุดวิชา หรือโมดูลการเรียนรู้ท่ีเทียบโอนหน่วยกิตให้ เม่ือรวมกัน
แล้วตอ้ งมจี านวนหน่วยกติ ไม่เกินสามในสขี่ องจานวนหน่วยกิตรวมของหลักสูตรท่ีรับเทยี บโอน
(๕) ในกรณีท่ีมหาวิทยาลัยเปิดหลักสูตรใหม่ จะเทียบโอนนักศึกษาได้ไม่เกิน
กว่าชั้นปี และภาคการศึกษาท่ีได้รับอนุญาตให้มีนักศึกษาเรียนอยู่ตามหลักสูตรท่ีได้รับความ
เหน็ ชอบแล้ว
(๖) ผู้ขอเทียบโอนที่สาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง หรือ
อนุปริญญาหรือปริญญาตรีสามารถเทียบโอนเข้าสู่การศึกษาในระบบได้โดยคณะกรรมการเทียบ
โอนผลการเรียน
()๘8(๘๒8)) ( คค่มู่มู อือื นนกักั ศศึกึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
(๗) นักศึกษาจะต้องใช้เวลาศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่รับโอนอย่างน้อยหน่ึงปี
การศกึ ษา
ข. ระดับบัณฑติ ศึกษา
(๑) ให้เทียบโอนผลการเรียน รายวชิ า ชุดวิชา หรอื โมดูลการเรียนรู้ ซ่งึ มเี นอื้ หา
“คเหสนณขาล้ือร”ักะหะเกมวเยขกคหกมาิทึรดณาอรสร่ืณองุตรยมงะอืเาวมรสาทั่นฑกรัฐนักงเพใ“รขะ์มาคทนารBนตคาจมรี่มอค”๑บตเรดั กุดทณุโอกพร๙าดมหียาฐบรภิตยก((((รรบกาา๓๔๕๒ครมเาเมอืนาพชโรพรล))))กกรหแอยีื่อกณิมมุอราตนนามาุขกกโกาุด์ไรแเว้มกผมรั่นพมคมมาาาเิลทาศรลรดวอื่่นรมรหศรระยะกึี่ายกเูเขลเึสกาอ้ปปาดทเทษนาอเษอกทย๒ลร็นมบัียรียนาารัาชเคักยก๕ฆเทคบกใู้บรญรโตเวานแ๔นเะทาียโียแลโาา่รารอลหแอ๘โบมคงัลนสีะยลนสะกนนพนโะดโานยานาจอหวนรมดบัผีเคแรริโทะุดนปนอใใลัญู้จลลสรนน๓ยป็ดุนผ่วัดกยะาาใาสแม.ลกนชยรีกอมรา๐เศต่ขีะบขากกกาาารา๐กึอร่ลรชาชตสัญเิารตษรรรศีงะมวพถรงญทหพีวยาึรกศรเคงเร่ีหไมัตรรทฒัานษึคะกะ์คดียือิยมลตดีษลยานนร้จกัหัวนเรวเกับบาาคทอพาสชิขาาเเรรกโศกบูตว่ืียปรอยอาุองใิทารรราผบ็นตวคงเนษปรหทยยาล้ิชเกล๓ศฐหรยาทวพิรตภราุมญกิลึกวิอืชน่าบะาวิจัยิษชญชชาบยั่ิณวทเเแเมาุทปดาดุใายวลยชฑตตื่็คนอนววกะาหุด้ชิตรโิชิชกสเริสตนื่ีแรอวขนังาาวาถเืลอโมิชตคักขรทมตลาะชหมศาป้ายบ่ขี้กอคปุดไึากสฏีรัอืนหอทัรงนววษาิู่บกญิมเยอิทรชแิชวทาัาตีุรืญดอมยิลททารยีิะมงโาาใ้ตว่ียศจบมคดลนโศอตาาึทกลโัดยับึรกเเบ้ออษปขเูละหษคสทนงพต็นาดกลานะมคผใุทเใาับานทแอโีนจสลธกรนบงนครศักางหกเคโะกัรนักณนานลลาวบัีรยรดิคารวยไาฑาเยสนบมเกีนรสมชริตสาารร่ตไรตไียานดชศุิงู้ตมม๒้่อาขนเมั้กึกส้อก่เงท๕าโงกงกษรวดงว๔พคา้ิานชาิม่ยาา๘นลฯงราี
ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชา หรือชุดวิชานั้น กระทาได้โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการเทียบ
โอนผลการเรยี น
(๖) นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชา หรือวิทยานิพนธ์ หรือการค้นคว้า
อิสระตามจานวนหนว่ ยกิตทส่ี อดคลอ้ งกับหลักสตู ร
(๗) นักศึกษาจะเทียบโอนรายวิชาเรียน หรือเทียบโอนหน่วยกิตได้ไม่เกินหน่ึง
ในสามของจานวนหน่วยกิตรวมของหลักสูตรที่รับเทียบโอน ท้ังน้ี ไม่นับรวมหน่วยกิตของ
วทิ ยานพิ นธ์และการคน้ ควา้ อสิ ระ
(๘) นักศึกษาจะต้องใช้เวลาศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่รับโอนอย่างน้อยหนึ่งปี
การศกึ ษา
(๙) ในกรณีท่ีมหาวิทยาลัยเปิดหลักสูตรใหม่ จะเทียบโอนนักศึกษาได้ไม่เกิน
กว่าช้ันปี และภาคการศึกษาท่ีได้รับอนุญาตให้มีนักศึกษาเรียนอยู่ตามหลักสูตรที่ได้รับความ
เห็นชอบแลว้
ข้อ ๑๔ ใหม้ กี ารบนั ทกึ การเทยี บโอนผลการเรยี น และการประเมนิ ผล ดังน้ี
ก. ระดบั ปรญิ ญาตรี
คคมู่ ่มูอื อืนนกั กัศศึกึกษษาา ๒๒๕๕๖๖๕๕ )(8(๘๑9๙) ()
มมหหาาววิทิทยยาาลลยั ยั เทเทคคโนโนโลโลยยรี ีราาชชมมงงคคลลกกรรงุ งุเทเทพพ
(๑) รายวิชา ชุดวิชา หรอื โมดลู การเรยี นรู้ที่เทียบโอนผลการเรียนได้จะไม่นามา
คิดค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจาภาค และค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม โดยให้บันทึก “เทียบโอน
ในระบบ” หรือ “Transfer Credits” ไว้ส่วนบนของรายวิชาท่ีเทียบโอนผลการเรียนในใบ
แสดงผลการเรียน
(๒) รายวิชาหรือชุดวิชาที่เทียบโอนให้ หากเป็นหลักสูตรท่ีมีองค์กรวิชาชีพ
ควบคุมและต้องใช้ผลการเรียนย่ืนขอใบประกอบวิชาชีพ ให้เป็นไปตามข้อกาหนดขององค์กร
วิชาชีพ
กรณีองค์กรวิชาชีพกาหนดระดับคะแนนในรายวิชาหรือชุดวิชาที่เทียบโอน ผล
การเรียน เพ่ือนามาคิดค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจาภาค และค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสมให้
บันทึกตัวอักษร “TC” (Transfer Credits) ไว้ส่วนท้ายรายวิชา หรือชุดวิชาท่ีเทียบโอนผลการ
เรียนไดใ้ นใบแสดงผลการเรยี นรายวิชาหรือชุดวิชาทเี่ ทยี บโอนในใบแสดงผลการเรยี น
ข. ระดับบัณฑติ ศกึ ษา
รายวิชา ชุดวิชาหรือโมดูลการเรียนรู้ท่ีเทียบโอนให้ จะไม่นามาคิดค่าระดับ
คะแนนเฉลี่ยประจาภาคและค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม โดยให้บันทึก “เทียบโอนในระบบ”
หรือ “Transfer Credits” ไวส้ ว่ นบนของรายวิชาที่เทียบโอนใหใ้ นใบแสดงผลการเรยี น
ข้อ ๑๕ นักศึกษาท่ีไปศึกษาท่ีสถาบันอุดมศึกษาอื่นในประเทศ หรือต่างประเทศ
ตามโครงการความร่วมมือในการผลิตบัณฑิตร่วมกัน หรือตามโครงการแลกเปล่ียนทางวิชาการ
สามารถนารายวิชาและหน่วยกิตท่ีได้ศึกษามาแล้ว มาเทียบโอนเป็นรายวิชาและหน่วยกิตใน
หลกั สูตรของมหาวทิ ยาลัย โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
(๑) รายวิชาที่นามาเทียบโอนให้บันทึกรายวิชาตามหลักสูตร เป็นคา่ ระดับคะแนน
ก (A) ข+ (B+) ข (B) ค+ (C+) ค (C) ง+ (D+) ง (D) และ ต (F)
(๒) ให้นาผลการศึกษาทุกรายวิชาที่มีผลการเรียนตามข้อ (๑) มาคานวณแต้ม
ระดับคะแนนเฉลีย่ รวมกบั รายวชิ าท่ศี กึ ษาในมหาวิทยาลยั
(๓) นักศึกษาเทียบโอนรายวิชาของคู่สถาบันได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของจานวนหน่วยกิต
รวมของหลกั สตู รทร่ี บั เทียบโอน
(๔) นักศึกษาไมต่ ้องชาระคา่ ธรรมเนยี มการเทียบโอนรายวชิ า