The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รร.บ้านโคกเที่ยง สถานศึกษาสีขาว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by icepatiphat, 2024-01-16 03:20:03

รร.บ้านโคกเที่ยง สถานศึกษาสีขาว

รร.บ้านโคกเที่ยง สถานศึกษาสีขาว

๑๙๒ ๓.เป้าหมาย - ด้านปริมาณ - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ร้อยละ ๑๐๐ปฏิบัติตนให้ปลอดภัยและห่างไกลยาเสพติด - ห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ร้อยละ ๑๐๐รู้เท่าทันภัยของยาเสพติด - ด้านคุณภาพ - นักเรียน มีจิตสาธารณะรู้จักเสียสละดูแลช่วยเหลือกัน มีภาวการณ์เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดีมีความรู้คู่ คุณธรรม - การมีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือระหว่างบ้านและสถานศึกษา มีผู้ปกครอง และครูประจำชั้น ติดตามพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และร่วมกันแก้ไข ๔. วิธีการดำเนิน การศึกษาความรู้ ด้านโครงงานสุขศึกษา เป็นการส่งเสริม วิธีการดันหาความรู้ การทำงานร่วมกับกลุ่ม เพื่อนและการนำความรู้ที่ได้รับมาสร้างเป็นความรู้ของตนเองและสามารถนำความรู้ที่ได้จากการค้นคว้าไป เผยแพร่ให้กับผู้อื่นโดยผู้จัดทำโครงงาน ได้ดำเนินงานตามขึ้นตอนของกระบวนการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะ การแสวงหาความรู้ เชิงสร้างสรรค์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยมีขั้นตอนในการเรียนรู้ ๔ ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่๑ ขั้นวางแผน ขั้นตอนที่๒ ขั้นเก็บรวมรวมข้อมูล ขั้นตอนที่๓ ขั้นสรุปผลความรู้และสร้างความรู้ ขั้นตอนที่๔ ขั้นนำเสนอความรู้และประเมินผลความรู้ ขั้นตอนที่ ๑ ขั้นวางแผน จากการประชุมกลุ่มเพื่อค้นหาเรื่องที่ต้องการศึกษาเรื่องที่ต้องการรู้ที่เกี่ยวข้องต่อสุขภาพนั้นสมาชิกใน กลุ่มร่วมกันวางแผนในการทำงานแบ่งหน้าที่ออกเป็นหัวข้อแล้วแบ่งกันไปทำจนหัวข้อแต่ละหัวข้อเสร็จสิ้น ขั้นตอนที่ ๒ ขั้นเก็บรวมรวมข้อมูล เก็บรวบรวมข้อมูลจากการที่แบ่งหน้าที่เป็นหัวข้อกลุ่มข้าพเจ้าได้หาข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานที่ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติและรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาจัดทำโครงงาน โดยผู้รับผิดชอบในการหาสาเหตุของการติดยาคือ ด.ช. เทวฤทธิ์ ศรีทานันท์ ผู้รับผิดชอบความรู้เกี่ยวกับสารเสพติดคือ ด.ช.นพฤทธ์ ทุมพร และผู้รับผิดชอบการ ปฏิบัติตนให้เกิดผลดีต่อสังคม อนาคตและครอบครัวคือ ด.ช.ธวัชชัย เรือนเงิน ขั้นตอนที่ ๓ ขั้นสรุปผลความรู้และสร้างความรู้ สรุปผลความรู้และสร้างความรู้ กลุ่มข้าพเจ้าได้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งยาเสพติดนี้ได้สร้างปัญหา มากมายในสังคมไทยทำให้สังคมไทยเสื่อมลงมาก กลุ่มข้าพเจ้าจึงนำความรู้ที่ได้รับมาเผยแพร่ให้นักเรียน บุคลากร ตลอดจนคนในชุมชนได้รู้ถึงโทษและพิษภัยจากยาเสพติด โดยการทำสื่อต่างๆมาเพื่อเตือนให้รู้จักโทษ ของสารเสพติดหรือยาเสพติด เช่น การทำให้เกิดการลักขโมย และยังไม่พอยังทำให้เกิดการฆ่าชิงทรัพย์ เป็น ต้น ขั้นตอนที่ ๔ ขั้นนำเสนอความรู้และประเมินผลงาน แจกเอกสารเผยแพร่ความรู้แก่เพื่อนๆในชั้นเรียน และสร้างแบบทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับปฏิบัติตน ให้ปลอดภัยจากสารเสพติด และแนวทางการป้องกันตัวให้ห่างไกลยาเสพติด


๑๙๓ ๕. ผลการดำเนินงาน จากการที่ผู้จัดทำโครงงาน เรื่อง ห้องเรียนปลอดยาเสพติด โดยผู้จัดทำโครงงานได้ดำเนินการ โดยนำ ผลจากการศึกษามานำเสนอผลงานวิเคราะห์ข้อมูลเป็น ๔ ตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ ๑ การวางแผน จากการประชุมกลุ่มเพื่อค้นหาเรื่องที่ต้องการศึกษาเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ ที่เกี่ยวข้องต่อสุขภาพนั้น สมาชิกในกลุ่มร่วมกันวางแผนเพื่อจะศึกษาค้นคว้าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่สังคมพบกันบ่อยมากก็คือ การติดสาร เสพติดของคนในสังคมไทย กลุ่มข้าพเจ้าจึงเลือกที่จะศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายจิตใจ ของวัยรุ่นชายหญิง เพื่อที่จะทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายจิตใจของวัยรุ่นให้มาก ที่สุด และศึกษาเกี่ยวกับสาเหตุของการติดยาเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่จะกระทำเพื่อมิให้ เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น จากการศึกษาแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการติดสารเสพติด และผลปรากฏ ว่าข้อมูลที่สมาชิกในกลุ่มศึกษามานั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ เป็นต้น ขั้นตอนที่ ๒ เก็บรวบรวมข้อมูล จากการที่แบ่งหน้าที่เป็นหัวข้อ กลุ่มข้าพเจ้าได้หาข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติและรวม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาจัดทำโครงงาน โดยผู้รับผิดชอบแต่ละฝ่ายได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย โดย ผู้รับผิดชอบในการหาสาเหตุของการติดยาคือ ด.ช. เทวฤทธิ์ ศรีทานันท์ ผู้รับผิดชอบความรู้เกี่ยวกับสารเสพ ติดคือ ด.ช.นพฤทธ์ ทุมพร และผู้รับผิดชอบการปฏิบัติตนให้เกิดผลดีต่อสังคม อนาคตและครอบครัวคือ ด.ช. ธวัชชัย เรือนเงิน ขั้นตอนที่ ๓ สรุปผลความรู้และสร้างความรู้ กลุ่มข้าพเจ้าได้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดซึ่งยาเสพติดนี้สร้างปัญหามากมายในสังคมไทยทำให้ สังคมไทยเสื่อมลงมากกลุ่มข้าพเจ้าเลยอยากนำความรู้ที่ได้มาช่วยคนในสังคมไทยโดยการทำสิ่งต่างๆมาเตือน ให้รู้จักโทษของยาเสพติดซึ่งยาเสพติดได้สร้างปัญหามากมายเช่นการทำให้เกิดลักขโมย และยังไม่พอยังเกิดการ ฆ่าชิงทรัพย์ เป็นต้น ขั้นตอนที่ ๔ ขั้นนำเสนอความรู้และประเมินผลความรู้ แจกเอกสารเผยแพร่ความรู้แก่เพื่อนๆในในชั้นเรียน และสร้างแบบทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับปฏิบัติ ตนให้ปลอดภัยจากสารเสพติด และแนวทางการป้องกันตัวให้ห่างไกลยาเสพติด ๖. สรุปผลการดำเนินงานและข้อเสนอแนะ จากการศึกษาค้นคว้าโครงงานเรื่อง ห้องเรียนปลอดยาเสพติด มีผลสรุปการศึกษาค้นคว้าโครงงาน เรื่องนี้ วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า ๑. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ทุกคนมีความรู้เกี่ยวกับสารเสพติด และการติดสารเสพติด ๒. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ทุกคนปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากยาเสพติด ๓. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เผยแพร่ความรู้ในการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยและห่างไกลยา เสพติด


๑๙๔ สรุปผลการดำเนินงานศึกษาค้นคว้า จากการที่กลุ่มของข้าพเจ้าได้ศึกษาและมีความรู้และได้ดำเนินการตามโครงการเกี่ยวกับยา เสพติด นี้ผลที่เกิดขึ้นคือทำให้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และนักเรียนโรงเรียนบ้านโคกเที่ยง มีจิต สาธารณะรู้จักเสียสละดูแลช่วยเหลือกัน มีภาวการณ์เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดีมีความรู้คู่คุณธรรม และมีส่วนร่วม ในการดูแลช่วยเหลือระหว่างบ้านและสถานศึกษา มีผู้ปกครอง และครูประจำชั้นติดตามพฤติกรรมที่ไม่พึง ประสงค์และร่วมกันแก้ไข ข้อเสนอแนะ ๑. โรงเรียนควรจัดอบรมให้ความรู้เรื่องโทษของการติดยาเสพติดหรือสารเสพติดเช่น บุหรี่ เหล้า แก่ นักเรียนทุกคนในโรงเรียน หรือมีการบูรณาการกับการเรียนการสอนและกิจกรรมนอกหลักสูตร ๒. โรงเรียนควรประสานงานกับบุคลากรและหน่วยงานในชุมชน เพื่อบูรณาการความรู้เรื่องยาเสพติด ใน กิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน ๓. โรงเรียนควรมีการติดตามประเมินผลการบูรณาการความรู้เรื่องยาเสพติดกับสุขภาพในการเรียนการ สอนและกิจกรรมนอกหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ลงชื่อ............................................ ผู้รับผิดชอบโครงงาน (ด.ช.เทวฤทธิ์ ศรีทานันท์) หัวหน้าชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ความคิดเห็นครูประจำชั้น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ........................................... ครูประจำชั้น (นางนราภรณ์ วังคีรี)


๑๙๕ ภาพประกอบกิจกรรม


๑๙๖


๑๙๗


๑๙๘


๑๙๙ โครงงาน ภัยใกล้ตัว “ สุรา ” ผู้รับผิดชอบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระยะเวลาดำเนินงาน ปีการศึกษา 2566 1. ที่มาและความสำคัญ ในภาวะปัจจุบัน สังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เกิดปัญหายาเสพติด ปัญหาครอบครัว ปัญหา ต่างๆ ที่ตอนนี้สังคมไทยยังแก้ไม่ได้อีกมากมาย และในตอนนี้ปัญหาที่หนักหน่วงเป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่ง ก็คือ การดื่มสุราของคนไทย ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ โดยเฉพาะผู้ที่ดื่มสุรา ก็ยังไม่ให้ความสนใจต่อสิ่ง เหล่านี้ว่าเป็นอันตรายต่อตนเองมากแค่ไหน เป็นการเพิ่มอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น จึงเป็นอีกปัญหาที่สมควร จะได้รับการแก้ไขอย่างยิ่ง บทบาทหน้าที่ต่อเยาวชนไทยให้ไม่ดื่มสุราก็คือควรให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักเรียน ในเรื่องพิษภัยอันเกิดจากการดื่มสุรา ปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้องแก่เด็กนักเรียนในเรื่องพิษภัยอันเกิดจากการดื่ม สุรา ควรหาแนวทางในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติให้ถูกต้องต่อการดื่มสุรา จัดกิจกรรมทั้งในและนอกหลักสูตร เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ และส่งเสริมให้นักเรียนมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้นักเรียนใช้เวลาว่างในทางสร้างสรรค์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนเห็นโทษของการดื่มสุรา เพื่อนักเรียนได้ศึกษาโทษและพิษภัยของการดื่มสุราและสามารถป้องกันตนให้พ้นภัยจากการดื่มสุรา โดยมีการจัดทำข้อมูลในรูปแบบแผนที่ความคิด (Mind Map) พร้อมจัดป้ายนิเทศภายในห้องเรียน 2. จุดประสงค์ 1. เพื่อศึกษาโทษและพิษภัยของสุรา 2. เพื่อศึกษาวิธีการป้องกันตนให้พ้นภัยจากการดื่มสุรา 3. เป้าหมาย 3.1 เชิงปริมาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านโคกเที่ยง จำนวน 16 คน 3.2 เชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านโคกเที่ยงรู้จักโทษและพิษภัยของสุรา และสามารถ ป้องกันตนให้พ้นภัยจากสุรา 4. วิธีดำเนินงาน 4.1 วัสดุอุปกรณ์ 1. คอมพิวเตอร์/อินเทอร์เน็ต 2. แผ่นภาพการศึกษา/หนังสือเรียน 3. กระดาษ โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕๖6 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5


๒๐๐ 4. สีเมจิก 5. สีไม้ 6. ดินสอ 7. ยางลบ 8. ไม้บรรทัด 4.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน 1. วางแผนการศึกษาข้อมูล ร่วมกับคุณครู และเพื่อนในห้องเรียน 2. กำหนดหัวข้อที่จะศึกษา และกำหนดสมาชิกที่จะศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับสุรา 3. ค้นคว้าจากแผ่นภาพการศึกษา คอมพิวเตอร์ หรือจากหนังสือห้องสมุด 4. รวบรวมข้อมูล จัดทำเป็นแผนที่ความคิด (Mind Map) ดังที่วางแผนไว้ 5. นำเสนอต่อเพื่อนในชั้นเรียน นำไปเป็นสื่อในห้องเรียนสีขาว และจัดป้ายนิเทศได้ 5. ผลการดำเนินงาน สุรา (อังกฤษ: liquor หรือ spirit) หมายถึง น้ำเมาที่ได้จากการกลั่นสารบางประเภท อาทิ เอทิลแอลกอฮอล์ และเมรัย คือ น้ำเมาที่เกิดจากการหมักหรือแช่ให้เกิดสารบางประเภท เมื่อดื่มแล้วสารนั้นจะ ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง หากดื่มไม่มากอาจรู้สึกผ่อนคลายเนื่องจากสารกดจิตใต้สำนึกที่คอย ควบคุมตนเองทำให้กล้าแสดงออกมากขึ้น แต่เมื่อดื่มมากขึ้นก็จะกดสมองบริเวณอื่น ๆ ทำให้เสียการทรงตัว พูดไม่ชัด จนแม้กระทั่งหมดสติในที่สุด ทั้งสุราและเมรัยเรียกโดยภาษาปากว่า "เหล้า" เหล้ามีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ แม้ว่าในเหล้าชนิดต่าง ๆ ยังมีสารอื่น ๆ ที่ทำให้เกิด เอกลักษณ์ของเหล้าชนิดนั้น ๆ โดยเฉพาะเหล้าที่นำมาหมักดองกับสมุนไพรเพื่อปรุงแต่งสี กลิ่น รสชาติและ สรรพคุณ เช่น เหล้าดองยาของไทย เหล้าเซี่ยงชุนของจีน เหล้าแคมปารี ของอิตาลี เป็นต้น สารปรุงแต่งเหล่านี้ เมื่อดื่มในปริมาณมาก หรือ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจส่งผลอย่างใดอย่างหนึ่งต่อผู้ดื่มได้ แต่เมื่อดื่มในระยะ เฉียบพลัน อาการต่าง ๆ ของผู้ดื่มนับได้ว่าเกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น แอลกอฮอล์เป็นของเหลว ใส ระเหยได้ง่าย ละลายน้ำได้ดี มีกลิ่นเฉพาะตัว และ ติดไฟได้ง่าย แอลกอฮอล์เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ประกอบไปด้วยคาร์บอน ไฮโดรเจน และ ออกซิเจน มีฤทธิ์กดระบบ ประสาทส่วนกลาง ความรุนแรงของการออกฤทธิ์ขึ้นอยู่กับปริมาณของแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในกระแสโลหิต แอลกอฮอล์ที่กินได้ คือแอลกอฮอล์ชนิดเอทิล ส่วนแอลกอฮอล์ชนิดอื่นล้วนกินไม่ได้และเป็นพิษต่อร่างกายมาก ยิ่งไปกว่าเอทิล ถ้าเอาแอลกอฮอล์ชนิดอื่น เช่น เมทิลแอลกอฮอล์มาผสมเป็นเหล้า กินเข้าไปแล้วทำให้ปวดหัว ตาพร่า จนบอด และถึงกับเสียชีวิตได้ เมื่อกินเหล้าเข้าไปผ่านกระเพาะอาหารไปสู่ลำไส้เล็ก แอลกอฮอล์ในเหล้าจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแส โลหิตและกระจายไปทั่วร่างกาย เมื่อกินอาหารมาก่อน แอลกอฮอล์ใช้เวลา 1 ถึง6 ชั่วโมง จึงจะถูกดูดซึมไปถึง ระดับสูงสุดในเลือด แต่ถ้ากินเหล้าในขณะที่ท้องว่าง แอลกอฮอล์ใช้เวลาถูกดูดซึมสู่ ระดับสูงสุดในเลือด เพียง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง แอลกอฮอล์ในร่างกายถูกกำจัดโดยตับเป็นส่วนใหญ่ (95 เปอร์เซ็นต์) ที่เหลือถูกขับ ออกทางลมหายใจ ปัสสาวะ เหงื่อ อุจจาระ น้ำนม และน้ำลาย แอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เกิดการสูญเสียความร้อนจากร่างกาย แอลกอฮอล์ในปริมาณ มากทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารทำให้เกิดอาการอักเสบและเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้ แอลกอฮอล์ยังมี ฤทธิ์ขับปัสสาวะ ผู้ที่กินเหล้าจึงปัสสาวะบ่อย สูญเสียน้ำและรู้สึกกระหายน้ำมากในเวลาต่อมา อีกประการหนึ่ง


๒๐๑ บรรยากาศวงเหล้า ผนวกกับพลังงานที่ได้จากเหล้ามักทำให้ผู้ดื่มไม่รู้สึกอยากอาหาร ดังนั้นผู้ที่กินเหล้าเป็นนิจ จึงอาจขาดสารอาหารได้ ที่สำคัญแอลกอฮอล์ทำให้เกิดความเสียหายที่เนื้อตับ คนกินเหล้าจึงมีโอกาสเป็นตับ อักเสบมากกว่าคนไม่กินและอาจพัฒนาไปถึงขั้นตับวายได้ ประเทศต่าง ๆ ได้วางกฎเกณฑ์สำหรับการผลิต การขาย และการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ตัวอย่างเช่น กฎหมายที่กำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับผู้ที่สามารถบริโภคได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งแตกต่างกันในแต่ ละประเทศ เช่น อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปีสำหรับประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรียและสวิสเซอร์แลนด์, ไม่ต่ำ กว่า 18 ปีในประเทศไทย หรือไม่ต่ำกว่า 21 ปีในสหรัฐอเมริกา จากที่กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุปผลการ ดำเนินงานโครงงานได้ดังนี้ 1. นักเรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานีรู้ถึง โทษภัยของสุรา 2. นักเรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานีมีแนวทางป้องกันตนเองจากสุรา 6. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ 6.1 ปัญหาและอุปสรรค 1. นักเรียนบางคนไม่สนใจกิจกรรม ทำให้ไม่ได้รับความรู้เท่าที่ควร 2. นักเรียนส่วนใหญ่ไม่กล้าแสดงออก ทำให้กิจกรรมไม่สนุก 6.2 ข้อเสนอแนะ 1. ปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้มีความน่าสนใจมากขึ้น 2. หากิจกรรมที่ส่งเสริมการแสดงออกของนักเรียนเพื่อฝึกนักเรียนให้กล้าแสดงออก ลงชื่อ ผู้รับผิดชอบโครงงาน (เด็กชายระพีพัฒน์ หาสุข) ลงชื่อ หัวหน้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (เด็กหญิงวาริน ไชยโกฏิ) ความเห็นของครูที่ปรึกษา/ครูประจำชั้น ลงชื่อ ครูที่ปรึกษา/ครูประจำชั้น (นายณรงค์ศักดิ์ อยู่สุข)


๒๐๒ ภาพประกอบกิจกรรม นักเรียนทำ (Mind Map) เรื่องภัยใกล้ตัว “ สุรา ” นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน


๒๐๓ ผลงานนักเรียน


๒๐๔


๒๐๕ โครงงาน ภัยใกล้ตัว “ บุหรี่ ” ผู้รับผิดชอบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระยะเวลาดำเนินงาน ปีการศึกษา 2566 1. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน ในภาวะปัจจุบัน สังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เกิดปัญหายาเสพติด ปัญหาครอบครัว ปัญหา ต่างๆ ที่ตอนนี้สังคมไทยยังแก้ไม่ได้อีกมากมาย และในตอนนี้ปัญหาที่หนักหน่วงเป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่ง ก็คือ การติดบุหรี่ของคนไทย ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่ ก็ยังไม่ให้ความสนใจต่อ สิ่งเหล่านี้ว่าเป็นอันตรายต่อตนเองมากแค่ไหน เป็นการเพิ่มอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น จึงเป็นอีกปัญหาที่ สมควรจะได้รับการแก้ไขอย่างยิ่ง บทบาทหน้าที่ต่อเยาวชนไทยให้ไม่สูบบุหรี่ก็คือควรให้ความรู้ความเข้าใจแก่ นักเรียนในเรื่องพิษภัยอันเกิดจากบุหรี่ ปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้องแก่เด็กนักเรียนในเรื่องพิษภัยอันเกิดจากการสูบ บุหรี่ ควรหาแนวทางในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติให้ถูกต้องต่อการไม่สูบบุหรี่ จัดกิจกรรมทั้งในและนอก หลักสูตรเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจ และส่งเสริมให้นักเรียนมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้นักเรียนใช้เวลาว่างในทาง สร้างสรรค์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงเรียนเป็นเขตปลอดบุหรี่ เพื่อนักเรียนได้ศึกษาโทษและพิษภัยของบุหรี่และสามารถป้องกันตนให้พ้นภัยจากบุหรี่ได้ควรมีการ จัดทำข้อมูลในรูปแบบแผนที่ความคิด (Mind Map) พร้อมจัดป้ายนิเทศภายในห้องเรียน 2. จุดประสงค์ 1. เพื่อศึกษาโทษและพิษภัยของบุหรี่ 2. เพื่อศึกษาวิธีการป้องกันตนให้พ้นภัยจากบุหรี่ 3. เป้าหมาย 3.1 เชิงปริมาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโคกเที่ยง จำนวน 19 คน 3.2 เชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านโคกเที่ยงรู้จักโทษและพิษภัยของบุหรี่ และสามารถ ป้องกันตนให้พ้นภัยจากบุหรี่ 4. วิธีดำเนินงาน 4.1 วัสดุอุปกรณ์ 1. คอมพิวเตอร์/อินเทอร์เน็ต 2. แผ่นภาพการศึกษา/หนังสือเรียน 3. กระดาษ 4. สีเมจิก โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕๖6 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6


๒๐๖ 5. สีไม้ 6. ดินสอ 7. ยางลบ 8. ไม้บรรทัด 4.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน 1. วางแผนการศึกษาข้อมูล ร่วมกับคุณครู และเพื่อนในห้องเรียน 2. กำหนดหัวข้อที่จะศึกษา และกำหนดสมาชิกที่จะศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับโทษและพิษภัยของ บุหรี่วิธีการป้องกันตนให้พ้นภัยจากบุหรี่ 3. ค้นคว้าจากแผ่นภาพการศึกษา คอมพิวเตอร์ หรือจากหนังสือห้องสมุด 4. รวบรวมข้อมูล จัดทำเป็น แผนที่ความคิด (Mind Map) ดังที่วางแผนไว้ 5. นำเสนอต่อเพื่อนในชั้นเรียน นำไปเป็นสื่อในห้องเรียนสีขาวและจัดป้ายนิเทศได้ 5. ผลการดำเนินงาน พิษจากบุหรี่นั้นเกิดจากส่วนประกอบคือ นิโคติน ( Nicotine ) และทาร์ ( Tar ) ซึ่งเป็นคราบมันข้น เหนียว สีน้ำตาลแก่ เกิดจากการเผาไหม้ของกระดาษและใบยาสูบ จะทำลายถุงลมปอดทำให้เกิดโรคถุงลมโป่ง พอง หอบเหนื่อยง่าย ไอเรื้อรัง และอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งบริเวณเนื้อเยื่อที่สัมผัสกับสารนี้ ขณะสูบบุหรี่ ทาร์ จะตกค้างอยู่ในปอด หลอดลมใหญ่ และหลอดลมเล็ก ประมาณร้อยละ 90 จะขับออกมาพร้อมลมหายใจเพียง ร้อยละ 10 เท่านั้น ดังนั้น ทาร์ จึงเป็นตัวการทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด ซึ่งเป็นโรคที่ทรมานมากก่อนเสียชีวิต ใน บุหรี่ 1 มวน มีทาร์ในปริมาณต่างกันตั้งแต่ 2.0 มิลลิกรัม จนถึง 3.0 มิลลิกรัม แล้วแต่ชนิดของบุหรี่ ส่วนประกอบนี่เป็นเพียงสารส่วนหนึ่งที่อยู่ในบุหรี่ แต่ถ้าจะให้กล่าวไปแล้วสารที่อยู่ในบุหรี่มีมากมายเหลือเกิน ยกตัวอย่างเช่น ก๊าซต่างๆที่มีผลต่อร่างกาย สารจำพวกคาร์ซิโนเจน สารจำพวกโค – คาร์ซิโนเจน และสาร ระคายเคืองต่างๆ นอกจากนี้ควันบุหรี่ยังมีสารอีกไม่น้อยกว่า 20 ชนิด เช่น สารหนู สารฆ่าแมลง ฯลฯ ซึ่งเป็น สารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ทั้งสิ้น ดังนั้นการสูบบุหรี่เป็นการสุดเอาควันพิษต่างๆ เข้าสู่ร่างกายสารที่ได้รับ จะถูกสะสมอยู่ในร่างกายมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆต่อไปนี้ 1. ชนิดของบุหรี่ ซึ่งมีทั้งก้นกรองและไม่มีก้นกรอง ถ้ามีก้นกรองก็สามารถกรองควันจากสารพิษต่างๆ ได้บ้างแต่ไม่มากนัก 2. จำนวนบุหรี่ที่สูบในแต่ละวัน หรือสูบตลอดในช่วงที่ผ่านมา ถ้าสูบมากก็จะมีอันตรายมากขึ้น ตามลำดับ จำนวนสารพิษก็จะสะสมอยู่ในร่างกายเพิ่มมากขึ้น 3. วิธีการสูบ การสูบแบบอัดควันเข้าปอดเต็มที่นั้น จะมีอันตรายมากกว่าการสูบธรรมดา นี่คือองค์ประกอบของบุหรี่ว่ามีอะไรบ้าง ต่อไปคือโทษของบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยสามารถเป็นพิษ ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ บุหรี่จะทำให้หลอดเลือดหดตัวอันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด ความดัน โลหิตสูง โรคมะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง ถ้าผู้สูบบุหรี่เป็นหญิงมีครรภ์จะทำให้แท้งได้ง่ายหรือทารกที่คลอด ออกมาจะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยอันควร เกิดโรคมะเร็ง ในอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มะเร็งที่ปาก ที่ลิ้น ที่กล่องเสียง แต่ที่เป็นมากที่สุดคือ มะเร็งปอด สมาคมโรคมะเร็งแห่ง สหรัฐอเมริกา และกระทรวงสาธารณสุขแห่งสหรัฐอเมริกาได้รายงานผลวิจัย เมื่อ พ.ศ. 2521 ว่าผู้ที่สูบบุหรี่ จัด มีโอกาสตายด้วยโรคมะเร็งมากกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ 20 เท่า เกิดโรคทางเดินหายใจ ผู้สูบบุหรี่จัดมีอาการไอ เรื้อรัง บางครั้งไอถี่มากจนไม่สามารถหลับนอนได้ แต่เมื่อหยุดสูบอาการจะบรรเทาและหายไปในที่สุด


๒๐๗ นอกจากนี้ทาร์ในควันบุหรี่จะสะสมอยู่ในปอด วันละเล็กวันละน้อย จนในที่สุดถุงลมปอดโป่งพองจนไม่ สามารถหดตัวกลับได้ มีผลทำให้ปอดไม่สามารถแรกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนได้มากเท่าเดิมจึงทำให้หายใจขัด หอบ และหากเป็นเรื้อรังอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ง่ายเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังพบว่าการสูบบุหรี่ทำให้ เป็นโรคอื่นได้อีกหลายอย่าง เช่น โรคกระเพาะอาหารเป็นแผล โรคความดันเลือดสูง โรคตับแข็ง โรคปริทนต์ โรคโพรงกระดูกอักเสบเป็นต้นและยังส่งผลต่อบุคลิกภาพของผู้สูบบุหรี่ จากที่กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุปผล การดำเนินงานโครงงานได้ดังนี้ 1. ทราบโทษและพิษภัยของบุหรี่และวิธีการป้องกันตนให้พ้นภัยจากบุหรี่ 2. แผนที่ความคิด (Mind Map) ใช้เป็นสื่อในห้องเรียนสีขาวและจัดป้ายนิเทศได้ 6. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ 6.1 ปัญหาและอุปสรรค 1. นักเรียนบางคนไม่สนใจกิจกรรม ทำให้ไม่ได้รับความรู้เท่าที่ควร 2. นักเรียนส่วนใหญ่ไม่กล้าแสดงออก ทำให้กิจกรรมไม่สนุก 6.2 ข้อเสนอแนะ 1. ปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้มีความน่าสนใจมากขึ้น 2. หากิจกรรมที่ส่งเสริมการแสดงออกของนักเรียนเพื่อฝึกนักเรียนให้กล้าแสดงออก ลงชื่อ ผู้รับผิดชอบโครงงาน (เด็กหญิงพิชามญชุ์ นนท์ศิริ) ลงชื่อ หัวหน้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (เด็กชายศุภชัย อักษร) ความเห็นของครูที่ปรึกษา/ครูประจำชั้น ลงชื่อ ครูที่ปรึกษา/ครูประจำชั้น (นายจารุกิตติ์ นรไสย)


๒๐๘ ภาพประกอบกิจกรรม นักเรียนทำ (Mind Map) เรื่องภัยใกล้ตัว “ บุหรี่ ” นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน


๒๐๙ ผลงานนักเรียนในห้องเรียน


๒๑๐


๒๑๑


๒๑๒


๒๑๓ โครงงาน เรื่อง : บุหรี่ไฟฟ้าภัยอันตรายยอดนิยมของคนยุคใหม่ ผู้รับผิดชอบโครงงาน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ระยะเวลาดำเนินการ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ๑.ที่มาและความสำคัญ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาใช้ในการสูบแทนบุหรี่แบบปกติ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจาก วัยรุ่นในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง อันเนื่องมาจากมีหลายกลิ่น หลายรสชาติ สามารถเข้าถึงได้ง่าย วัยรุ่นหรือบุคคล ที่มีชื่อเสียงบางท่านมีการสูบในที่สาธารณะหรือมีการเผยแพร่ผ่านทางช่องออนไลน์ต่าง ๆ จึงทำให้เกิดกระแส และการเลียนแบบจากวัยรุ่นหรือเยาวชนเป็นอย่างมากและผู้สูบหลายท่านยังมีความคิดเห็นว่ามีความปลอดภัย กว่าการสูบบุหรี่แบบปกติ ในปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้ามีการระบาดและได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นและบุคคลในทุกช่วงวัยเป็นอย่าง มาก ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะได้มีการประกาศว่าบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นของผิดกฎหมายแต่ก็ยังมีการลักลอบซื้อขาย กันอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน อีกทั้งคุณหมอและผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ท่านก็ได้อออกมาเตือนถึงภัยหรือโทษ ของบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีอันตรายที่มากกว่าบุหรี่ปกติอันเนื่องมาจากไอของบุหรี่ไฟฟ้ามีอนุภาคที่เล็กมากกว่าบุหรี่ แบบปกติ นั้นจะทำให้ไอของบุหรี่ไฟฟ้าสามารถูกสูดเข้าไปในปอดได้ลึกกว่า ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่าง รวดเร็วและยากที่ร่างกายจะขับออกมาได้ผ่านทางกลกลธรรมชาติของร่างกาย ซึ่งการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจนำมาสู่ การติดสารหรือยาเสพติดอื่น ๆ ได้ จากสาเหตุข้างต้นจึงได้มีแนวคิดในการจัดทำโครงการบุหรี่ไฟฟ้าภัยอันตรายยอดนิยมของคนยุคใหม่ ขึ้น เพื่อให้นักเรียนทราบถึงความเป็นมาและตระหนึกถึงภัยหรือโทษของบุหรี่ไฟฟ้า นักเรียนมีความกล้าที่จะ ปฏิเสธ ไม่ยุ่ง ไม่ลอง ไม่ข้องเกี่ยวกับสารและยาเสพติดทุกชนิด นักเรียนร่วมกันรณรงค์เกี่ยวกับโทษของสาร และยาเสพติดภายในโรงเรียน ๒.วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงภัยหรือโทษของบุหรี่ไฟฟ้า ๒. เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกในห้องเรียนกล้าที่จะปฏิเสธ หลีกเลี่ยงสารและยาเสพติดทุกชนิด ๓.เป้าหมาย - ด้านปริมาณ - นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ร้อยละ ๑๐๐ รู้เท่าทันภัยหรือโทษของสารและยาเสพติด - นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ร้อยละ ๑๐๐ ปฏิบัติตนให้ปลอดภัยและห่างไกลสารและยาเสพติด - ด้านคุณภาพ - นักเรียน มีจิตสาธารณะรู้จักเสียสละดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีภาวการณ์ในการเป็น ผู้นำและผู้ตามที่ดี มีความรู้คู่คุณธรรม โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑


๒๑๔ - การมีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือระหว่างบ้านและสถานศึกษา มีผู้ปกครองและครูประจำชั้น ติดตามพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และร่วมกันในการแก้ไข ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑. นักเรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมา ภัยหรือโทษของบุหรี่ไฟฟ้า ๒. นักเรียนกล้าที่จะปฏิเสธ หลีกเลี่ยงสารและยาเสพติดทุกชนิด ๓. นักเรียนทราบหลักการและรูปแบบในการจัดทำโครงงาน ๔.วิธีดำเนินการ โครงงานบุหรี่ไฟฟ้าภัยอันตรายยอดนิยมของวัยรุ่นยุคใหม่จัดทำขึ้นเพื่อให้สมาชิกในห้องเรียนตระหนัก ถึงภัยหรือโทษของบุหรี่ไฟฟ้ากล้าที่จะปฏิเสธ หลีกเลี่ยงสารและยาเสพติดทุกชนิดโดยมีวิธีการดำเนินการดังนี้ 4.1 วัสดุอุปกรณ์ 1. คอมพิวเตอร์/อินเทอร์เน็ต 2. แผ่นภาพการศึกษา/หนังสือเรียน 3. กระดาษ 4. สีเมจิก 5. สีไม้ 6. ดินสอ 7. ยางลบ 8. ไม้บรรทัด 4. 2 ขั้นตอนการดำเนินงาน ๑. ประชุมชี้แจงและแบ่งงานให้สมาชิกทุกคนในห้องเรียนรับผิดชอบ ๒. สมาชิกทุกคนในห้องเรียนช่วยกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ๓. สมาชิกในห้องเรียนร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ๔. สมาชิกในห้องเรียนแต่ละจัดทำแผนผังความคิดของตนเอง ๕. สมาชิกในห้องเรียนร่วมกันคิดวิธีในการปฏิเสธ หรือไม่ข้องเกี่ยวกับสารและยาเสพติด ๖. สมาชิกในห้องเรียนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาและค้นหาข้อมูลร่วมกันจัดบอร์ดรณรงค์โทษ ของสารและเสพติด ๕. ผลการดำเนินการ โครงงานบุหรี่ไฟฟ้าภัยอันตรายยอดนิยมของวัยรุ่นยุคใหม่จัดทำขึ้นเพื่อให้สมาชิกในห้องเรียน ตระหนักถึงภัยหรือโทษของบุหรี่ไฟฟ้ากล้าที่จะปฏิเสธ หลีกเลี่ยงสารและยาเสพติดทุกชนิดโดยมีผลการ ดำเนินการดังนี้ ๕.๑ ผลการพัฒนาด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า จากการทำกิจกรรมในการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิด เขียนแผนผัง ความคิดและจัดบอร์ด ทำให้ผู้เรียนมีความรู้เข้าใจ ตระหนักถึงภัยหรือโทษของบุหรี่ไฟฟ้า ๕.๒ ผลการดำเนินกิจกรรมในการร่วมกันคิดวิธีในการปฏิเสธ หรือไม่ข้องเกี่ยวกับสารและยาเสพติด


๒๑๕ จากการทำกิจกรรมในการร่วมกันคิดวิธีในการปฏิเสธ หรือไม่ข้องเกี่ยวกับสารและยาเสพติด ทำให้ ผู้เรียนได้เสนอความคิดเห็นและวิธีการในการกล้าที่จะปฏิเสธและไม่ข้องเกี่ยวกับสารหรือยาเสพติด ผู้เรียนเกิด ทัศนคติที่ถูกต้องและรู้ว่าสารและยาเสพติดต่าง ๆ นั้นให้โทษกับผู้ที่เสพและส่งผลร้ายต่อตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ ๖. สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ โครงงานบุหรี่ไฟฟ้าภัยอันตรายยอดนิยมของวัยรุ่นยุคใหม่จัดทำขึ้นเพื่อให้สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึง ภัยหรือโทษของบุหรี่ไฟฟ้ากล้าที่จะปฏิเสธ หลีกเลี่ยงสารและยาเสพติดทุกชนิดโดยสรุปผลการดำเนินการ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะดังนี้ สรุปผล จากการดำเนินโครงงานสรุปผลได้ว่า ๑. สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงภัยหรือโทษของบุหรี่ไฟฟ้า ๒. สมาชิกในห้องเรียนกล้าที่จะปฏิเสธ หลีกเลี่ยงสารและยาเสพติดทุกชนิด อภิปรายผล โครงงานบุหรี่ไฟฟ้าภัยอันตรายยอดนิยมของวัยรุ่นยุคใหม่ทำให้ผู้เรียนมีความรู้เข้าใจ ตระหนักถึงภัย หรือโทษของบุหรี่ไฟฟ้า สารและยาเสพติดทุกชนิด อีกทั้งผู้เรียนยังมีความกล้าที่จะปฏิเสธและไม่ข้องเกี่ยวกับ สารหรือยาเสพติดส่งผลให้ผู้เรียนเกิดทัศนคติที่ถูกต้องและรู้ว่าสารและยาเสพติดต่าง ๆ นั้นให้โทษกับผู้ที่เสพ และส่งผลร้ายต่อตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ ข้อเสนอแนะ ๑. โรงเรียนควรจัดอบรมหรือกิจกรรมให้ความรู้เรื่องโทษของบุหรี่ไฟฟ้า แก่นักเรียนทุกคนในโรงเรียน หรือมีการบูรณาการเข้ากับรายวิชาต่าง ๆ ๒. โรงเรียนควรมีการประสานงานกับบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานต่าง ๆ ในชุมชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการเข้ามาให้ความรู้ในเรื่องโทษของบุหรี่ไฟฟ้าหรือจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียน ๓. โรงเรียนควรมีการเข้มงวดในการตรวจหาสารเสพติดหรือมีการตรวจเช็คว่านักเรียนมีการนำบุหรี่ ไฟฟ้า บุหรี่แบบปกติ สารหรือยาเสพติดมาโรงเรียนหรือไม่อย่างสม่ำเสมอ


๒๑๖ ลงชื่อ................................................ผู้รับผิดชอบโครงงาน (เด็กหญิงสุชาดา ยอดน้ำคำ) หัวหน้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ความคิดเห็นครูประจำชั้น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ…………………………………………..ครูประจำชั้น (นายสุพัฒน์ นามโย) ความคิดเห็นครูประจำชั้น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ................................................ครูประจำชั้น (นายปฏิพัทธ์ จันทร์พวง)


๒๑๗ ภาพประกอบกิจกรรม นักเรียนร่วมกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า นักเรียนร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น


๒๑๘ นักเรียนทำแผนผังความคิด นักเรียนร่วมกันจัดบอร์ด


๒๑๙ ผลงานนักเรียน


๒๒๐


๒๒๑


๒๒๒


๒๒๓ โครงงาน โครงงานห้องเรียนปลอดบุหรี่ ผู้รับผิดชอบ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ระยะเวลาดำเนินงาน ปีการศึกษา 2566 1. ที่มาและความสำคัญ บุหรี่และแอลกอฮอล์ คือ สิ่งเสพติดที่เป็นจุดเริ่มต้นของยาเสพติดร้ายแรงอื่น ๆ และเป็นชนวนชักนำ ให้เยาวชนก้าวสู่พฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ โดยงานวิจัยของ เอแบคโพลล์ ในปี 2548 พบความสัมพันธ์ของการ สูบบุหรี่ของนักเรียนนักศึกษากับพฤติกรรมเสี่ยงหลากหลายลักษณะ ได้แก่ ใช้ยาเสพติดอื่นที่ไม่ใช่บุหรี่ มากกว่า เยาวชนปกติ 16 เท่า รวมทั้ง ดื่มเหล้ามากกว่า 3.5 เท่า เที่ยวกลางคืนมากกว่า 3.2 เท่า เคยมีเพศสัมพันธ์ มากกว่า 3.7 เท่า เล่นการพนัน มากกว่า 3.3 เท่า ข้อค้นพบนี้ทำให้สังคมไทยหันมามองปัญหาการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชนด้วยมุมมอง ใหม่ว่า การป้องกันเยาวชนไม่ให้สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการปกป้องพวกเขาจากการตกเป็น ทาสบุหรี่และแอลกอฮอล์ไปอีกยาวนาน รวมถึงหลีกเลี่ยงอันตรายจากโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่และ การดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยิ่งลดจำนวนเยาวชนไม่ให้สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ได้มากเท่าใด ก็จะยิ่งลด จำนวนเยาวชนที่จะติดยาเสพติดได้มากเป็นเงาตามไปพร้อมกันด้วย จากเหตุผลดังกล่าวได้มีแนวคิดในการจัดทำโครงงานโรงเรียนปลอดบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจของสมาชิกในห้องเรียน เพื่อสนับสนุนให้เกิดโรงเรียนปลอดบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความตระหนักต่อความสำคัญของการทำให้โรงเรียนปลอด บุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข รวมทั้งมีศักยภาพ และความกระตือรือร้นในการจัดกิจกรรมรณรงค์และ สนับสนุนให้โรงเรียนเป็นเขตปลอดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการทำ กิจกรรมตามความสนใจของตนเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด กิจกรรมสำคัญคือ การศึกษาพิษภัยและโทษของ บุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข การสรุปและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยและโทษบุหรี่ แอลกอฮอล์และ อบายมุข การทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความสนใจของสมาชิกในห้องเรียน 2. จุดประสงค์ 1. เพื่อป้องกันและลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด 2. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีจิตสำนึกร่วมกันในการดูแลเฝ้าระวังไม่ให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด และอบายมุข เกิดกำลังใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ สุรา และยาเสพติด 3. เพื่อส่งเสริมการรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕๖6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒


๒๒๔ 3. เป้าหมาย 3.1 เชิงปริมาณ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านโคกเที่ยง จำนวน 19 คน 3.2 เชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านโคกเที่ยงรู้จักพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข ตลอดจนสารเสพติดทุกชนิด 4. วิธีดำเนินงาน 4.1 วัสดุอุปกรณ์ 1. คอมพิวเตอร์/อินเทอร์เน็ต 2. แผ่นภาพการศึกษา/หนังสือเรียน 3. กระดาษ 4. สีเมจิก 5. สีไม้ 6. ดินสอ 7. ยางลบ 8. ไม้บรรทัด 4.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน 1. การวาดภาพสารเสพติดให้โทษ 2. การจัดนิทรรศการ 3. ป้ายนิเทศ ติดตามมุมต่างๆ 4. การรณรงค์เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า 5. จัดทำสื่อเพื่อเผยแพร่เสียงตามสาย 6. ทำแผนผังพิษภัยของบุหรี่และแอลกอฮอล์และอบายมุข 5. ผลการดำเนินงาน โครงงานห้องเรียนปลอดบุหรี่ จัดทำขึ้น เพื่อให้สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข ตลอดจนสารเสพติดทุกชนิด และเพื่อส่งเสริมให้สมาชิกในห้องเรียนได้ทำกิจกรรม สร้างสรรค์ตามความสนใจและห่างไกลยาเสพติด โดยสรุปผลการดำเนินการ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ดังนี้ ๕.๑ ผลการพัฒนาด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพิษภัยบุหรี่ สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข ๕.๒ ผลการดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจและห่างไกลยาเสพติด สมาชิกในห้องเรียนได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจและห่างไกลยาเสพติด ได้แก่ กิจกรรม วาดภาพ จัดบอร์ด


๒๒๕ ๖. สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ โครงงานห้องเรียนปลอดบุหรี่จัดทำขึ้นเพื่อให้สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข ตลอดจนสารเสพติดทุกชนิดโดยสรุปผลการดำเนินการ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ดังนี้ สรุปผล จากการดำเนินโครงงานสรุปผลได้ว่า 1. สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข 2. สมาชิกในห้องเรียนได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจและห่างไกลยาเสพติด ได้แก่ กิจกรรม วาดภาพ จัดบอร์ด อภิปรายผล จากการดำเนินงานโครงงาน ทำให้ทราบว่าในห้องเรียนปลอดบุหรี่ ข้อเสนอแนะ จากการดำเนินงานโครงงาน ในครั้งต่อไปควรจะระดับดีเด่น 1. โรงเรียนควรจัดอบรมให้ความรู้เรื่องโทษของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุขแก่นักเรียนทุกคนใน โรงเรียน หรือมีการบูรณาการกับการเรียนการสอนและกิจกรรมนอกหลักสูตร 2. โรงเรียนควรประสานงานกับบุคลากรและหน่วยงานในชุมชน เพื่อบูรณาการความรู้เรื่องบุหรี่กับ สุขภาพในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน 3. โรงเรียนควรมีการติดตามประเมินผลการบูรณาการความรู้เรื่องบุหรี่กับสุขภาพในการเรียนการ สอนและกิจกรรมนอกหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ลงชื่อ................................................ผู้รับผิดชอบโครงงาน (เด็กหญิงบุญญาพร วิลามาตย์) หัวหน้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ความคิดเห็นครูประจำชั้น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ…………………………………………..ครูประจำชั้น (นายพงศ์สวัสดิ์ จารีรักษ์)


๒๒๖ ภาพประกอบกิจกรรม การทำงานกลุ่มห้องเรียนปลอดสารเสพติดและการเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน


๒๒๗ ผลงานกิจกรรมวาดภาพสารเสพติด กิจกรรมสร้างแผนผังความคิดโทษของบุหรี่ ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์


๒๒๘ ผลงานกิจกรรมวาดภาพสารเสพติด กิจกรรมสร้างแผนผังความคิดโทษของบุหรี่ ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์


๒๒๙ การจัดบอร์ดหน้าห้องเรียนและในห้องเรียน


๒๓๐ โครงงาน ห้องเรียนปลอดบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ ตามความสนใจของสมาชิกในห้องเรียน ผู้รับผิดชอบ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ระยะเวลาดำเนินงาน ปีการศึกษา 2566 1. ที่มาและความสำคัญ บุหรี่และแอลกอฮอล์ คือสิ่งเสพติดที่เป็นจุดเริ่มต้นของยาเสพติดร้ายแรงอื่นๆ และเป็นชนวนชักนำ ให้เยาวชนก้าวสู่พฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ โดยงานวิจัยของ เอแบคโพลล์ ในปี 2548 พบความสัมพันธ์ของการสูบ บุหรี่ของนักเรียนนักศึกษากับพฤติกรรมเสี่ยงหลากหลายลักษณะ ได้แก่ ใช้ยาเสพติดอื่นที่ไม่ใช่บุหรี่ มากกว่า เยาวชนปกติ ๑๖ เท่า รวมทั้ง ดื่มเหล้ามากกว่า ๓.๕ เท่า เที่ยวกลางคืนมากกว่า ๓.๒ เท่า เคยมีเพศสัมพันธ์ มากกว่า ๓.๗ เท่า เล่นการพนัน มากกว่า ๓.๓ เท่า ข้อค้นพบนี้ทำให้สังคมไทยหันมามองปัญหาการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ของเยาวชนด้วยมุมมอง ใหม่ว่า การป้องกันเยาวชนไม่ให้สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการปกป้องพวกเขาจากการตกเป็น ทาสบุหรี่และแอลกอฮอล์ไปอีกยาวนาน รวมถึงหลีกเลี่ยงอันตรายจากโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่และ การดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยิ่งลดจำนวนเยาวชนไม่ให้สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ได้มากเท่าใด ก็จะยิ่งลด จำนวนเยาวชนที่จะติดยาเสพติดได้มากเป็นเงาตามไปพร้อมกันด้วย จากเหตุผลดังกล่าวได้มีแนวคิดในการจัดทำโครงงานโรงเรียนปลอดบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจของสมาชิกในห้องเรียน เพื่อสนับสนุนให้เกิดโรงเรียนปลอดบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความตระหนักต่อความสำคัญของการทำให้โรงเรียนปลอด บุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข รวมทั้งมีศักยภาพ และความกระตือรือร้นในการจัดกิจกรรมรณรงค์และ สนับสนุนให้โรงเรียนเป็นเขตปลอดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยการทำ กิจกรรมตามความสนใจของตนเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด กิจกรรมสำคัญคือ การศึกษาพิษภัยและโทษของ บุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข การสรุปและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยและโทษบุหรี่ แอลกอฮอล์และ อบายมุข การทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความสนใจของสมาชิกในห้องเรียน 2. จุดประสงค์ ๑. เพื่อให้สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข ๒. เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกในห้องเรียนได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจและห่างไกลยาเสพติด 3. เป้าหมาย 3.1 เชิงปริมาณ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 20 คน 3.2 เชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านโคกเที่ยงรู้จักพิษภัยของของบุหรี่ แอลกอฮอล์ และอบายมุข โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕๖6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓


๒๓๑ 4. วิธีดำเนินงาน 4.1 วัสดุอุปกรณ์ 1. คอมพิวเตอร์/อินเทอร์เน็ต 2. แผ่นภาพการศึกษา/หนังสือเรียน 3. กระดาษ 4. สีเมจิก 5. สีไม้ 6. ดินสอ 7. ยางลบ 8. ไม้บรรทัด 4.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน 1. ประชุมชี้แจงและแบ่งงานให้สมาชิกทุกคนในห้องเรียนรับผิดชอบ 2. สมาชิกทุกคนในห้องเรียนช่วยกันค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโทษของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข 3. นำข้อมูลที่สมาชิกในห้องเรียนแต่ละคนค้นหามาสรุปและจัดทำเป็นสื่อเพื่อนำไปเผยแพร่ 4. นำสื่อที่จัดทำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน 5. สำรวจกิจกรรมที่สมาชิกทุกคนในห้องเรียนสนใจ 6. แบ่งกลุ่มสมาชิกในห้องเรียนตามกิจกรรมที่ตนเองสนใจ 7. จัดตั้งชุมนุมตามกิจกรรมที่ตนเองสนใจ 8. สมาชิกในชุมนุมช่วยกันวางแผนทำกิจกรรมต่าง ๆ 9. สมาชิกในชุมนุมปฏิบัติกิจกรรมตามที่วางแผนไว้ 10. สมาชิกในชุมนุมช่วยกันสรุปผลการทำกิจกรรมในชุมนุมของตนเอง 5. ผลการดำเนินงาน โครงงานโรงเรียนปลอดบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจ ของสมาชิกในห้องเรียน จัดทำขึ้น เพื่อให้สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และ อบายมุข และเพื่อส่งเสริมให้สมาชิกในห้องเรียนได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจและห่างไกลยาเสพติด โดยมีผลการดำเนินการ ดังนี้ 4.1ผลการพัฒนาด้านความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด จากการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจของสมาชิกในห้องเรียนทำให้ผู้เรียนมีความรู้ความ เข้าใจเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข 4.2 ผลการเนินกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจของสมาชิกในห้องเรียน จากการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจของสมาชิกในห้องเรียน ทำให้ให้ผู้เรียนได้แสดงออกซึ่ง ความสามารถในกิจกรรมที่ตนถนัดและชื่นชม เป็นการสนองความต้องการให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองเต็ม ศักยภาพเป็นการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการยอมรับและเห็นคุณค่าในสุนทรียภาพของศิลปะ ดนตรี และการกีฬา และช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของเยาวชนให้ห่างไกลยา เสพติด


๒๓๒ ๖. สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ โครงงานโรงเรียนปลอดบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข โดยใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจ ของสมาชิกในห้องเรียน จัดทำขึ้น เพื่อให้สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และ อบายมุข และเพื่อส่งเสริมให้สมาชิกในห้องเรียนได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจและห่างไกลยาเสพติด โดยสรุปผลการดำเนินการ อภิปรายผลและข้อเสนอแนะดังนี้ สรุปผล จากการดำเนินโครงงานสรุปผลได้ว่า 1. สมาชิกในห้องเรียนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุข 2. สมาชิกในห้องเรียนได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจและห่างไกลยาเสพติด อภิปรายผล จากการดำเนินงานโครงงานทำให้ทราบว่า โครงงานกิจกรรมสร้างสรรค์ตามความสนใจของสมาชิกใน ห้องเรียนทำให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุขอีกทั้งผู้เรียนยังได้ แสดงออกซึ่งความสามารถในกิจกรรมที่ตนถนัดและชื่นชม เป็นการสนองความต้องการให้ผู้เรียนได้พัฒนา ตนเองเต็มศักยภาพ เป็นการพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการยอมรับและเห็นคุณค่าในสุนทรียภาพของศิลปะ ดนตรี และการกีฬาและช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของเยาวชนให้ห่างไกลยา เสพติด ข้อเสนอแนะ 1. โรงเรียนควรจัดอบรมให้ความรู้เรื่องโทษของบุหรี่ แอลกอฮอล์และอบายมุขแก่นักเรียนทุกคนใน โรงเรียน หรือมีการบูรณาการกับการเรียนการสอนและกิจกรรมนอกหลักสูตร 2. โรงเรียนควรประสานงานกับบุคลากรและหน่วยงานในชุมชน เพื่อบูรณาการความรู้เรื่องบุหรี่กับ สุขภาพในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน 3. โรงเรียนควรมีการติดตามประเมินผลการบูรณาการความรู้เรื่องบุหรี่กับสุขภาพในการเรียนการ สอนและกิจกรรมนอกหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ลงชื่อ................................................ผู้รับผิดชอบโครงงาน (นางสาวบงกชกร กล้าหาญ) หัวหน้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ความคิดเห็นครูประจำชั้น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ…………………………………………..ครูประจำชั้น (นางสาวณัฐนิชา แดงชาติ)


๒๓๓ ภาพประกอบกิจกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรคันไร่ ให้ความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ / บุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จาก รพ.สต. คันไร่ มาให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด


๒๓๔ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้าร่วมโครงการ


๒๓๕ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการร่วมอภิปรายความรู้เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ นักเรียนร่วมกันศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ และยาเสพติด


๒๓๖ นักเรียนร่วมกันศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ และยาเสพติด นักเรียนร่วมกันศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับโทษของบุหรี่ และยาเสพติด


๒๓๗ ผลงานนักเรียน


๒๓๘ ผลงานนักเรียน


๒๓๙ ผลงานนักเรียน


๒๔๐ บทที่ 5 ภาพรางวัล ผลงานดีเด่น ด้านบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า แอลกอฮอล์ ยาเสพติดและอบายมุข ตามที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินงานป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โดยได้ดำเนินงานสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้นักเรียน นักศึกษาไม่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น โรงเรียนบ้านโคกเที่ยง ตระหนักถึงพิษ ภัยของยาเสพติด และได้เข้าร่วมดำเนินงานสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดยได้พยายามจัด กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้นักเรียนได้ร่วมกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และห่างไกลจากยาเสพติด ซึ่ง ผลจากการดำเนินงานประจำปีการศึกษา ๒๕๖6 ส่งผลให้โรงเรียนได้รับรางวัลและมีผลงานดีเด่นต่างๆ อย่าง ต่อเนื่อง ดังปรากฏในภาพ ผลงานสถานศึกษา


๒๔๑


Click to View FlipBook Version